คมู่ ือการใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551
(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
สำ� นกั ทดสอบทางการศึกษา
ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
คู่มอื การใชเ้ ครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผูเ้ รียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551
(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
ปที ีพ่ มิ พ์ พ.ศ. 2565
จำ� นวนพิมพ์ 500 เล่ม
จดั ท�ำโดย สำ� นักทดสอบทางการศกึ ษา
สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
พิมพท์ ี่ หา้ งหนุ้ สว่ นจำ� กดั โรงพมิ พอ์ ักษรไทย (น.ส.พ.ฟ้าเมอื งไทย)
85-91 ซอยจรัญสนทิ วงศ์ 40 ถนนจรัญสนิทวงศ์
แขวงบางย่ขี ัน เขตบางพลดั กรุงเทพมหานคร 10700
โทร. 0-2424-4557 โทรสาร 0-2433-2858
ก1
ค�ำานา�ำ
คู่มือการใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) จดั ทาขนึ้ โดยมีวัตถุประสงคเ์ พ่ือให้ครผู ูส้ อนมีความรู้
ความเข้าใจ เก่ียวกับเครื่องมือวัดและประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน และเพ่ือให้ครูผู้สอนนาไปใช้เป็น
แนวทางสาหรับการวัดและประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 ซ่ึงได้กาหนดไว้ในลักษณะของความสามารถ 5 ประการ ได้แก่ ความสามารถในการส่ือสาร
ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถ
ในการใชเ้ ทคโนโลยี
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยสานักทดสอบทางการศึกษาได้นากรอบนิยาม
ตัวชว้ี ดั สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนทั้ง 5 ประการ ข้างตน้ มาดาเนินการพัฒนาเป็นเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผู้เรียนตามหลักวิชาการ เพ่ือให้หน่วยงาน ผู้สอน ผู้เรียนและผู้เก่ียวข้องทุกฝ่าย ได้มีตัวอย่างเครื่องมือประเมิน
และสามารถนาไประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียน ให้เกิดสมรรถนะสาคัญได้ตามเป้าหมายของหลักสูตร
โดยดาเนินการพัฒนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะของผู้เรียน ท้ัง 5 ประการออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 ช่วงท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 ช่วงที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 และช่วงท่ี 4
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 – 6 และจัดทาเป็นคู่มือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนเพ่ืออานวยความสะดวก
ให้กับผู้ใช้เคร่ืองมือ สามารถศึกษารายละเอียดของเครื่องมือประเมินแต่ละสมรรถนะ ซึ่งมีเคร่ืองมือประเมิน
ที่หลากหลาย ได้แก่ แบบทดสอบ แบบวัดเชิงสถานการณ์ แบบประเมินแบบมาตรประมาณค่า แบบประเมินผลงาน/
ช้ินงาน แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นต้น ซึ่งผู้เก่ียวข้องสามารถเลือกเคร่ืองมือประเมินไปใช้ประเมินผู้เรียน
ได้ตามช่วงเวลาท่ีเหมาะสม คู่มือน้ีได้แสดงกรอบโครงสร้างเคร่ืองมือ คาแนะนาการใช้เคร่ืองมือ วิธีการใช้
เคร่ืองมือประเมิน เกณฑ์การประเมิน และแบบสรุปผลการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน เพ่ืออานวย
ความสะดวกให้กับผใู้ ช้เครอ่ื งมือ สามารถใช้เครอื่ งมือได้อย่างมีประสิทธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธิผลสูงสดุ
สานักทดสอบทางการศึกษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือการใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผู้เรียนเล่มนี้ จะอานวยความสะดวกให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สถานศึกษา หน่วยงานอ่ืน
ที่เกี่ยวข้อง ศึกษานิเทศก์ ผู้สอน ผู้เรียน และผู้เก่ียวข้องทุกฝ่าย ได้สร้างความเข้าใจและสามารถใช้เคร่ืองมือ
ประเมินนี้ในการกระตุ้นและพัฒนาผู้เรียน และตัดสินผลการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ได้ตามเจตนารมณ์
ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ในท่ีสุด การจัดสร้าง
เครื่องมือประเมินและคู่มือการใช้เครื่องมือเล่มน้ีสาเร็จได้ ด้วยความอนุเคราะห์และความร่วมมืออย่างดีย่ิง
จากคณะทางานทุกทา่ น ซ่ึงต้องขอบคณุ เป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้
สานกั ทดสอบทางการศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน
ข2
สสาารรบบญั ัญ
เนือ้ หา หน้า
คานา ก
ตอนท่ี 1 บทนา 1
1.1 หลักการและเหตผุ ล 1
1.2 วัตถุประสงค์ 1
1.3 แนวคดิ การสร้างเครอื่ งมือประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 2
1.4 แนวทางการใช้เครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 4
1.5 บทบาทของผูใ้ ชเ้ คร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5
1.6 การนาผลการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นไปใช้ 5
ตอนที่ 2 กรอบโครงสร้างและเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3 6
2.1 เคร่อื งมือประเมนิ ความสามารถในการสอ่ื สาร 6
2.2 เครื่องมือประเมินความสามารถในการคดิ 40
2.3 เครือ่ งมือประเมินความสามารถในการแก้ปญั หา 51
2.4 เคร่อื งมือประเมนิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 59
2.5 เครอ่ื งมือประเมนิ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 66
บรรณานกุ รม 80
ภาคผนวก 81
- รายชื่อคณะทางาน 832
1
ตตออนนที่ 1
บบททน�ำา
1.1 หลกั การและเหตผุ ล ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) มุ่งพัฒนา
ผู้เรียนทุกคนให้เป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งทางด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทย
และพลโลกทีด่ ี ตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ัดทก่ี าหนดข้นึ โดยมจี ุดมุง่ หมายเพ่อื พฒั นาผู้เรียนใหเ้ ปน็ คนดี
มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ ซึ่งจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในข้อ 2 ท่ีมุ่งให้เกิดกับผู้เรียนเมื่อจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐานกล่าวว่า
“มีความรู้อันเป็นสากลและมีความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต”
ดังน้ัน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน ฉบับนี้ ซึ่งกาหนดสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนที่หลักสูตร
ต้องพัฒนาให้เกิดข้ึนกับผู้เรียนในลักษณะความสามารถไว้ 5 ประการ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถ
ในการใชเ้ ทคโนโลยี
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนทั้ง 5 ประการดังกล่าว เป็นส่วนท่ีผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาให้เกิดข้ึน
ภายในตนเองเพื่อให้รู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึ้นท้ังภายนอกและภายในตนเอง เรียนรู้และเติบโต ภาคภูมิใจ
ในความเป็นไทย ใชช้ ีวติ อย่างเห็นคุณคา่ และสรา้ งสรรค์การทางาน รวมท้งั เข้าใจความหลากหลายในสังคม
สานกั ทดสอบทางการศึกษา เป็นหน่วยงานท่ีมีพนั ธกิจหลักในการสนับสนุนเครื่องมือและประเมินผล
ทางการศึกษาท่ีมีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพ่ือให้บริการแก่เขตพ้ืนที่การศึกษาและสถานศึกษา ซึ่งมีอานาจ
หน้าที่ในการบริการเครื่องมือและประเมินคุณภาพการศึกษาท่ีมีมาตรฐาน และระบบคลังเครื่องมือ
ในการประเมินคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นท่ีการศึกษา ท้ังด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ และสมรรถนะของผู้เรียน รวมทั้งให้บริการเครื่องมือแก่หน่วยงานต่าง ๆ กากับติดตาม
และตรวจสอบความรู้ความสามารถพ้ืนฐาน ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะ
ของผู้เรียนระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพื่อการนาผลไปใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนของครู
และการเรียนรู้ของผู้เรียน จึงได้จัดทาคู่มือการใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) แบ่งเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 ช่วงที่ 2 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 – 6 ช่วงท่ี 3 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 – 3 และช่วงท่ี 4
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการสร้างความรู้ ความเข้าใจ แก่ครูและผู้เก่ียวข้องให้สามารถ
นาเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนไปใช้พัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพให้เกิดประสิทธิผล
สงู สุดตอ่ ไป
1.2 วตั ถุประสงค์
1) เพื่อให้ครูผู้สอนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเคร่ืองมือวัดและประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 – 3
2) เพ่ือให้ครูผู้สอนนาไปใช้เป็นแนวทางสาหรับการวัดและประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3
คมู่ ือการใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรียน 1
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 2
1.3 แนวคดิ การสรา้ งเครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
การสร้างเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) จะนาเสนอเน้ือหาโดยเร่ิมจากความหมาย
ของสมรรถนะ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
การวัดและประเมินสมรรถนะผู้เรียน และการสร้างและพัฒนาเครื่องมือสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ตามลาดบั ดังน้ี
1.3.1 ความหมายของสมรรถนะ
สมรรถนะ หมายถงึ บุคลิกลกั ษณะทซี่ ่อนอยู่ภายในปจั เจกบุคคล ซึ่งผลกั ดันใหบ้ ุคคลนั้นสามารถสร้าง
ผลการปฏิบัติงานที่ดีหรือปฏิบัติงานที่ได้รับผิดชอบได้ตามเกณฑ์ท่ีกาหนด โดยความหมายในบริบทของผู้เรียน
สมรรถนะ หมายถึง คุณลักษณะเชิงพฤติกรรมท่ีมีผลมาจากความรู้ ทักษะความสามารถและคุณลักษณะอื่น ๆ
ท่ีทาให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้หรือปฏิบัติงานหรือสร้างผลงานได้โดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมช้ันเรียน (สานักทดสอบ
ทางการศึกษา, 2555 : 1) สอดคล้องกับท่ีราชบัณฑิตยสภา (2564 : 129) ได้ให้ความหมายของคาว่า สมรรถนะ
หมายถึง ความสามารถที่แสดงออกทางพฤติกรรมและการกร ะทาในการปฏิบัติตนและปฏิบัติงาน
ให้ประสบความสาเร็จ โดยประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะต่าง ๆ ที่ตนมีให้เหมาะสมสอดคล้อง
กับบรบิ ทของสังคมและวัฒนธรรมในสถานการณท์ ี่หลากหลาย
สาหรับสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน หมายถึง ระดับของความสามารถของพฤติกรรมแต่ละบุคคล
ที่แสดงออกถึงความรู้ ทักษะ และเจตคติ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
ซ่ึงประกอบด้วย ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถ
ในการใช้ทักษะชีวิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (พรพิชิต ทิทา , 2561 : 7) สอดคล้องกับ
กันต์กนิษฐ์ ชลสีมัธยา (2562 : 5) ท่กี ล่าวว่า สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น หมายถึง ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ
คุณลักษณะท่ีผู้เรียนทุกคนมีและใช้ได้อย่างเหมาะสมเพื่อผลักดันให้ผลการปฏิบัตงิ านมีประสิทธิภาพบรรลุตาม
เป้าหมายโดยสมรรถนะที่สาคัญของผู้เรียนระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551
ดังน้ัน อาจสรุปได้ว่า สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน หมายถึง ระดับความสามารถพฤติกรรมของผู้เรียน
ที่มาจากทักษะ ความรู้ และเจตคติท้ังด้านการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้ทักษะชีวิตและการใช้
เทคโนโลยี
1.3.2 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานการเรียนรู้ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกาหนดน้ัน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิด
สมรรถนะสาคญั ในลกั ษณะของความสามารถ 5 ประการ ดังนี้ (กระทรวงศกึ ษาธิการ, 2551 : 6 - 7)
1) ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
และประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทงั้ การเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหา
ความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล และความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้
วธิ กี ารสอื่ สารทม่ี ีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบทม่ี ตี อ่ ตนเองและสงั คม
2) ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ
เพือ่ การตดั สินใจเกย่ี วกบั ตนเอง และสงั คมได้อย่างเหมาะสม
2 คูม่ อื การใช้เคร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
3 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
3) ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญ
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์
และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปญั หา และมกี ารตัดสนิ ใจทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบทเี่ กดิ ขึน้ ต่อตนเอง สงั คมและส่งิ แวดล้อม
4) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ
อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียง
พฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ท่สี ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื
5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร
การทางาน การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ งเหมาะสม และมีคุณธรรม
1.3.3 การวดั และประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
การวัดและประเมินสมรรถนะสาคัญผู้เรียน เป็นการดาเนินการท่ีมุ่งวัดสมรรถนะอันเป็นองค์รวม
ของความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณลักษณะต่าง ๆ ไม่ควรใช้เวลามากกับการสอบวัดตามตัวช้ีวัดจานวนมาก
เป็นการวัดจากพฤติกรรมการกระทาการปฏิบัติที่แสดงออกถึงความสามารถในการใช้ความรู้ ทักษะ เจตคติ
และคุณลักษณะต่าง ๆ ตามเกณฑ์การปฏิบัติ (Performance Criteria) ท่ีกาหนดเป็นการวัดอิงเกณฑ์ มิใช่อิงกลุ่ม
และมีหลักฐานการปฏิบัติ (Evidence) ใช้ตรวจสอบได้ การวัดและประเมินผลสมรรถนะนี้เน้นการใช้
การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) จากสิ่งที่ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงและความก้าวหน้า
ในการปฏิบตั งิ าน เชน่ การประเมินจากการปฏบิ ัติ (Performance Assessment) หรือการประเมนิ โดยใช้แฟ้ม
สะสมผลงาน (Portfolio Assessment) รวมถึงการประเมินตนเอง (Self-Assessment) และการประเมิน
โดยเพ่ือน (Peer Assessment) การวัดและประเมินผลที่ใช้สถานการณ์เป็นฐาน เพ่ือให้บริบทการวัด
และประเมินตรงตามสภาพจริง การประเมินไปตามลาดับข้ันของสมรรถนะที่กาหนด หากไม่ผ่านการประเมิน
จะต้องไดร้ ับการพัฒนาและประเมินอีกคร้ังจนกระท่ังผ่านการประเมิน จึงจะกา้ วไปสู่ข้นั ต่อไป ส่วนการรายงานผล
เป็นการให้ข้อมูลพัฒนาการและความสามารถของผู้เรียนรายบุคคลตามเกณฑ์ที่กาหนดในแต่ละระดับช้ัน
(สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ, 2562 : 25) สอดคล้องกับสานักวิชาการ
และมาตรฐานการศึกษา (2554 : 91) ท่กี ลา่ ววา่ การประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนควรใช้วิธีการประเมิน
ที่เน้นการปฏิบตั ิ และบรู ณาการอยูใ่ นกระบวนการเรียนการสอนไม่ควรแยกประเมนิ ต่างหาก
ดังนั้น สานักทดสอบทางการศึกษา ในฐานะท่ีมีบทบาทในการสร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินท่ีได้
มาตรฐาน จึงได้ดาเนนิ การจัดทาเครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นและคู่มอื การใช้เคร่ืองมือประเมิน
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) เพื่อเปน็ แนวทางใหค้ รูและบคุ ลากรทางการศึกษาตลอดจนผูส้ นใจไดน้ าไปใช้ต่อไป
1.3.4 ข้ันตอนการสร้างและพฒั นาเครือ่ งมือประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
การสร้างและพัฒนาเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ดาเนินการโดยคณะทางาน
ท่ีได้รับการแต่งตั้งประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูผู้สอน อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ
และผู้เชี่ยวชาญของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพื่อช่วยพิจารณาในการสร้างเครื่องมือ
และแก้ไขตรวจสอบความถูกต้องตามหลักการของการสร้าง และพัฒนาเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน โดยมีขน้ั ตอนดังรายละเอยี ดต่อไปน้ี
คูม่ ือการใชเ้ ครือ่ งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น 3
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
4
1) ศึกษาทฤษฎี หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) และทฤษฎีท่ีเกย่ี วขอ้ งกับสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี นเพ่ือกาหนดกรอบโครงสรา้ งเคร่ืองมือประเมิน
2) วิเคราะห์กรอบโครงสร้างเคร่ืองมือสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน โดยนาความรู้จากการศึกษา
ทฤษฎแี ละหลกั สูตรมากาหนดกรอบโครงสร้างเครอื่ งมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
3) สร้างเคร่ืองมือประเมิน โดยแต่งต้ังคณะทางานสร้างเคร่ืองมือประเมิน ประกอบด้วย ผู้อานวยการ
สถานศึกษา รองผู้อานวยการสถานศึกษา อาจารย์มหาวิทยาลัย ศึกษานิเทศก์ ครูและนักวิชาการ สร้างเครื่องมือ
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามกรอบโครงสร้างที่กาหนด และเปดิ โอกาสให้ผทู้ มี่ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี แสดงความคิดเหน็
4) หาคุณภาพด้านความเที่ยงตรงเชิงเน้ือหา โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบความเท่ียงตรง
เชิงเนื้อหาของเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญ ผ่านกระบวนการวิพากษ์และปรับปรุงแก้ไขเพ่ือให้ได้
เคร่ืองมือทมี่ คี ณุ ภาพ
5) ปรับปรุงเคร่ืองมือ โดยแต่งตั้งคณะทางานเพื่อบรรณาธิการกิจปรับปรุงแก้ไข เครื่องมือประเมิน
ตามความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ จนได้เครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียนทง้ั 5 สมรรถนะ ท่ีมรี ปู แบบของเคร่ืองมอื ประเมนิ ทหี่ ลากหลายทุกระดับชนั้
6) จัดฉบับและจัดทาคู่มือ โดยแต่งตั้งคณะทางานจัดฉบับและจัดทาคู่มือการใช้เครื่องมือประเมิน
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนแต่ละช่วง ได้แก่ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 – 6
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 และช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 – 6
ศกึ ษษาาทฤฤษฎีแลละหหลลักกั สสูตูตรร
วิเคราะหหก์ ์กรรออบบโโคครรงงสสรรา้ า้ งง
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 สร้างเครือ่ งงมอื ปปรระเมมนิิน
หหาาคคณุ ุณภภาาพพดด้าา้ นนคคววาามมเเทที่ยยี่ งงตตรรงงเเชชิงงิ เเนนื้อื้อหหาา
ปปรรับบั ปปรรงุงุ เเคครร่ืออ่ื งงมมอืือ
จจัดดั ฉฉบบับบั เเคครรอ่ื อ่ื งงมมืออื ปปรระะเเมมนินิ แแลละะจจัดัดททาำ� คค่มู มู่ ืออื
แผนภาพแสดงขน้ั ตอนการสร้างและพัฒนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
ข้อจากดั ในการสร้างและพัฒนาเครื่องมือ เนอ่ื งจากการสร้างและพัฒนาเคร่ืองมือดาเนนิ การในช่วง
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชือ้ ไวรัสโคโรนา - 2019 จึงไมส่ ามารถนาเครื่องมอื ไปทดลองใช้กบั ผ้เู รยี นได้
1.4 แนวทางการใชเ้ ครอื่ งมือประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
การนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนท่ีพัฒนาข้ึนไปใช้นั้น ครูผู้สอนสามารถนาไปใช้
ในการจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนได้ โดยมีแนวทางการ
ดาเนนิ การดังนี้
1) ศกึ ษา วิเคราะห์ หลกั สตู ร เปา้ หมาย การจัดการเรียนการสอน และสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น
4 คูม่ อื การใช้เคร่ืองมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผูเ้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
5 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
2) ศึกษาคู่มือการใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน เครื่องมือท่ีใช้ในประเมินเกณฑ์
การให้คะแนนและตัดสนิ ผลการประเมนิ ในแตล่ ะสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน
3) เลอื กใชเ้ คร่อื งมอื ทีส่ อดคลอ้ งกับเปา้ หมายในการพฒั นาผ้เู รยี นในแต่ละด้านให้เหมาะสม
4) นาเครอื่ งมือประเมินสมรรถนะสาคัญไปใช้ในการวัดและประเมินผลผู้เรียนตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
5) นาผลการวัดและประเมินไปพัฒนา ปรับปรุง แก้ไข ซ่อมเสริมผู้เรียน ให้มีระดับความสามารถ
ของสมรรถนะที่เพม่ิ ขึน้
1.5 บทบาทใขนอกงาผรใู้ นชา้เคเครร่อื ือ่ งงมมอื อื ปปรระะเมเมินนิ สสมมรรรถถนนะะสสำ� าคคัญญั ขขอองงผผูเ้ รเู้ รียียนนไปใช้
บทบาทของผู้ใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพ้ืนฐาน อาจแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา และระดับสถานศึกษา ซึ่งในแต่ละ
ระดับมีบทบาทในการนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี นไปใช้ ดังน้ี
1) ระดับสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เป็นหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่สนับสนุน ส่งเสริม
อานวยความสะดวก ให้คาปรึกษา และคาแนะนาแก่สถานศึกษาในการนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผเู้ รียนไปใช้เพ่ือเป็นแนวทางการวดั และประเมนิ ผลในชั้นเรยี น ดงั น้ี
- สื่อสาร สร้างความเข้าใจ ให้กับสถานศึกษาเกี่ยวกับคู่มือและเครื่องมือประเมินสมรรถนะ
สาคญั ของผู้เรยี น
- ประชุม ชี้แจง และวางแผนกับคณะทีมงานเพื่อนาเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผู้เรยี นไปใช้
- เผยแพรค่ ู่มอื และเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นแกส่ ถานศึกษาและผสู้ นใจทว่ั ไป
- ให้คาปรึกษา และคาแนะนาเก่ียวกับการใช้เคร่ืองมือเพ่ือพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน
ทุกระดับชนั้
- นิเทศ กากับ ติดตามการจัดการเรียนรู้และการนาเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผเู้ รียนไปใช้ประเมนิ ผเู้ รียน
2) ระดับสถานศึกษา มีหน้าท่ีหลักในการจัดการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผู้เรียน
ซึ่งมบี ทบาทในการนาเครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นไปใช้ ดังน้ี
- บริหารจดั การใหค้ รูนาเครือ่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนไปใชใ้ นการพัฒนาผ้เู รียน
- เปิดโอกาสให้ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนคิดจากการนาเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะ
สาคญั ของผเู้ รียนไปใช้ เพือ่ การพฒั นาและยกระดับคณุ ภาพสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
- จดั กิจกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยเลือกใช้เคร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนที่เหมาะสม
กับพฤตกิ รรมการเรียนรแู้ ละเป้าหมายการพฒั นาผเู้ รยี น
- พัฒนาและต่อยอดความสามารถของผู้เรียน ด้วยการสร้างเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผู้เรียนตามแนวทางที่กาหนดให้
- ส่งเสริมให้นักเรียนเลือกใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของตนเอง และประเมินเพื่อน
ตามความเหมาะสมของกจิ กรรมการเรียนรู้
1.6 การนาำ� ผลการประเมินไสปมใรชร้ ถนะส�ำคัญของผู้เรยี นไปใช้
การนาผลการประเมินไปใชส้ ามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 แนวทาง ดังน้ี
1) ใช้เป็นข้อมูล ในการปรับปรุงและพัฒนาสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนให้บรรลุสมรรถนะสาคัญ
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
2) ใช้ในการประเมนิ และตัดสนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
คูม่ ือการใช้เคร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผูเ้ รยี น 5
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
6
ตอนนทท่ี ี่22
กรอกบรอโบคโรคงรสงรสา้ รงา้ แงแลละะเคเครร่ืออื่ งงมมือือประะเเมมินนิ สสมมรรรถถนนะสะาสคำ� ญัคัญขอขงอผงู้เรผยี เู้ รนียน
ชนั้ ปรระะถถมมศศกึ กึ ษษาปาปีทที่ 1่ี 1–-3
การพัฒนาเคร่ืองมอื ประเมินสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 สานักทดสอบทางการศึกษา
ได้ดาเนินการวิเคราะห์กรอบโครงสร้างเพ่ือกาหนดตัวชี้วัดและสร้างเครื่องมือประเมินพร้อมกาหนดเกณฑ์
การประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ทั้ง 5 ประการ ไดแ้ ก่ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
2.1 คเวคารม่อื สงมามือาปรรถะใเนมกินาครวสาอ่ื มสสาารมารถในการส่ือสาร
กรอบโครงสร้างเครือ่ งมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ด้านความสามารถในการสอ่ื สาร
นยิ ามสมรรถนะสาคัญ ตัวช้ีวัด ลักษณะเครื่องมอื
ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถ 1. มีความสามารถในการรับสาร - แบบทดสอบ
ในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา อย่างมีสติ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ - แบบประเมนิ
ถ่ายทอดความคดิ ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก ดว้ ยการฟัง การดู และการอ่าน การปฏิบตั ิ
และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล 2. ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ความ
ข่าวสาร และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ เข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ
ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการ ทัศนะของตนเองด้วยการพูดและ
เจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความขัดแย้ง การเขยี น
ต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสาร 3. เลือกใช้กลวิธีในการส่ือสาร
ด้วยหลักเหตุผล และความถูกต้อง ตลอดจน อย่างเหมาะสมโดยคานึงถึงความ
การเลือกใช้วิธีการสื่อสารท่ีมีประสิทธิภาพ รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อบรรลุ
โดยคานึงถึงผลกระทบทีม่ ีตอ่ ตนเองและสงั คม วตั ถปุ ระสงคใ์ นการสอื่ สาร
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 เครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ด้านความสามารถในการสื่อสาร
จากกรอบโครงสร้างเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการสื่อสาร
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 สามารถนามาสรา้ งเครื่องมือประเมนิ แบ่งออกเปน็ 5 ด้าน ไดแ้ ก่ ทักษะการฟงั และดู
ทักษะการพูด ทักษะการอ่าน ทักษะการเขียน และกลวิธีการสื่อสาร โดยมีเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน ดา้ นความสามารถในการสอื่ สาร ดังน้ี
แบบทดสอบ ประกอบด้วย แบบทดสอบเลือกตอบ แบบทดสอบจับคู่ แบบทดสอบ
เขียนตอบสนั้
แบบประเมินการปฏิบัติ ประกอบด้วย แบบประเมินการพูด แบบประเมินการอ่าน
แบบประเมนิ การเขียน
6 คู่มอื การใชเ้ ครือ่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
7
แบบทดสอบการฟงั และดู ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3 (ชุดที่ 1)
คาช้ีแจง แบบทดสอบฉบบั นี้แบง่ เปน็ 3 ตอน
ตอนท่ี 1 ทักษะการดู
คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนนาตัวอักษรใต้รูปภาพมาเขียนใสห่ น้าข้อทมี่ ีความสัมพันธก์ ับคาที่กาหนดให้ 1 คา ต่อ 1 ภาพ
(ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน)
กขคง
จฉชซ
ฌญ ข 6. ขวา้ งบอล ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ฌ 7. คลาน
ค 1. นัง่ จ 8. ด่มื นา้
ก 2. กระโดด ช 9. ใหข้ อง
ฉ 3. วิ่ง ซ 10. นอน
ญ 4. ปนี ตน้ ไม้
ง 5. เตะบอล ระดบั คณุ ภาพ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี
ตอบถูกข้อละ 1 คะแนน
ตอบผิดหรือไม่เขียนตอบได้ 0 คะแนน พอใช้
เกณฑ์ตัดสินระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ
คะแนน
8 – 10
5–7
0–4
คูม่ อื การใชเ้ คร่ืองมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น 7
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
8
ตอนที่ 2 ทักษะการฟงั
คาช้ีแจง ครอู า่ นเร่อื งต่อไปนี้ใหน้ ักเรียนฟัง 2 รอบ จากนน้ั อา่ นคาถามให้นักเรยี นเขียนตอบ โดยให้เวลา
ขอ้ ละ 1 นาที (ข้อละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
นิดากาลังเรียนอยู่ในช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 / วันหนึ่งหลังเลิกเรียน / ขณะท่ีกาลังเดินกลับบ้าน /
นิดาเจอลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ ที่น่าสงสาร / ซึ่งมีคนนามาทิ้งไว้หน้าวัด / สุนัขตัวนั้นกาลังจะเดินข้ามถนนด้วย
ท่าทางหิวโหย / นิดาจึงรีบเข้าไปอุ้มสุนัขตัวนั้น / “ใครนะใจร้ายจัง นาลูกหมาท่ีน่ารักมาท้ิงไว้ตรงน้ีได้” /
นิดาอุ้มสุนัขกลับบ้าน / และขออนุญาตแม่ / “แม่คะหนูขอเลี้ยงเจ้าหมาน้อยตัวนี้ไว้ได้ไหมคะ” /
“ได้สิลกู รกั แม่ดีใจที่หนชู ่วยชวี ิตมันไว้”
คาถาม
1. นิดาเหน็ อะไรตอนกาลังกลับบา้ น
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. สนุ ัขถกู นามาท้งิ ไว้ที่ไหน
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. นิดาทาอยา่ งไรกบั สุนัข
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. จากเรอ่ื งที่อ่านนิดามนี ิสัยอย่างไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. นกั เรียนร้สู กึ อยา่ งไรกับการกระทาของนิดา
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวคาตอบ
1. สุนขั / ลกู สุนขั / หมา / ลูกหมา
2. หน้าวดั
3. นิดาอุ้มสุนขั กลบั บา้ น / นิดาอุ้มสุนขั กลับไปเลยี้ ง / นิดาอมุ้ สุนขั
4. เมตตากรุณา / ใจดี / มีน้าใจ / รกั สตั ว์
5. ดใี จ / ประทับใจ / มีความสุข / เหน็ ด้วยกับสงิ่ ทนี่ ดิ าทา
เกณฑ์การให้คะแนน ได้ 2 คะแนน
ตอบถูกและเขียนสะกดคาถูกตอ้ ง ได้ 1 คะแนน
ตอบถูกแต่เขยี นสะกดคาไม่ถูกตอ้ ง ได้ 0 คะแนน
ตอบผิดหรือไมเ่ ขียนตอบ
เกณฑ์ตดั สินระดบั คณุ ภาพ
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 คะแนน ระดับคณุ ภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรบั ปรุง
8 คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
9
ตอนท่ี 3 ทกั ษะการฟัง
3.1 คาช้ีแจง ครูอ่านเร่ืองต่อไปนี้ให้นักเรียนฟัง 2 รอบ จากน้ันอ่านคาถามให้นักเรียนเขียนตอบ โดยให้เวลา
ขอ้ ละ 1 นาที (ขอ้ ละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
ดาไปทะเล / ในทะเลมีปูมปี ลา / นา้ ทะเลสดใสสฟี ้า / กลางทะเลมีเรือใบ /
เด็กเกเรว่ิงไลต่ ีปู / ปทู ะเลรีบหนีลงรู / เดก็ เกเรหัวเราะชอบใจ
คาถาม
1. ในเนือ้ เรอ่ื งมีสัตวช์ นิดใดบ้าง
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ดาไปท่ีไหน
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เดก็ เกเรร้สู กึ อย่างไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ที่กลางทะเลมีอะไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. เดก็ เกเรทาอะไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวคาตอบ
1. ปู ปลา
2. ทะเล
3. รู้สกึ ชอบใจ/สนุก
4. เรือใบ
5. ว่ิงไล่ตีปู
เกณฑ์การให้คะแนน ได้ 2 คะแนน
ตอบถูกและเขียนสะกดคาถูกตอ้ ง ได้ 1 คะแนน
ตอบถูกแต่เขียนสะกดคาไมถ่ ูกตอ้ ง ได้ 0 คะแนน
ตอบผิดหรือไม่เขยี นตอบ
เกณฑต์ ดั สินระดบั คณุ ภาพ
คะแนน ระดับคณุ ภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรับปรงุ
ค่มู ือการใช้เครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น 9 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
10
3.2 คาช้ีแจง ครูอ่านเร่ืองต่อไปน้ีให้นักเรียนฟัง 2 รอบ จากน้ันอ่านคาถามให้นักเรียนเขียนตอบโดยให้เวลา
ขอ้ ละ 1 นาที (ข้อละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
ฉันอาศยั อย่บู นต้นไม้ / ฉันมหี ลากหลายสีสดใส / เขียวบ้าง / แดงบา้ ง / ฉันมีปีกและหางสวยงาม
/ ฉันบินได้ / ฉนั สามารถพูดเลียนแบบคนได้ / ฉันกนิ เมลด็ พชื เป็นอาหาร
คาถาม
1. ฉนั คอื ตัวอะไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ฉนั อาศยั อยูท่ ใี่ ด
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ฉันกินอะไรเป็นอาหาร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ฉนั มสี ีอะไรบ้าง
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ฉันสามารถทาอะไรได้
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวคาตอบ
1. นกแก้ว
2. บนตน้ ไม้
3. เมลด็ พชื
4. เขยี ว แดง
5. พูดเลียนแบบคนได้
เกณฑ์การให้คะแนน ได้ 2 คะแนน
ตอบถูกและเขยี นสะกดคาถูกตอ้ ง ได้ 1 คะแนน
ตอบถูกแตเ่ ขียนสะกดคาไมถ่ ูกต้อง ได้ 0 คะแนน
ตอบผดิ หรอื ไมเ่ ขียนตอบ
เกณฑต์ ดั สนิ ระดบั คุณภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรบั ปรงุ
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 10 คูม่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
11
เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพการประเมนิ ผลรวมแบบทดสอบทกั ษะการฟังและดู
คะแนน ระดับคุณภาพ
31 – 40 ดเี ยยี่ ม
21 – 30 ดี
11 – 20 พอใช้
0 – 10 ปรับปรุง
การแปลผลคะแนนทกั ษะการฟงั และดู
ระดบั คุณภาพ คาอธิบาย
ดเี ยย่ี ม ฟังแลว้ บอกประเดน็ สาคญั หรือวัตถุประสงค์ได้
ดี ฟงั แลว้ บอกข้อมลู และแสดงความรูส้ ึกได้
พอใช้ ฟังแล้วตอบคาถาม และบอกความรูส้ กึ ได้
ปรับปรงุ ฟงั แลว้ บอกหรอื ระบไุ ดว้ ่าคอื อะไร
แบบสรปุ การประเมนิ การฟังและดู ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3
วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือใช้เป็นเคร่ืองมือในการประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นดา้ นความสามารถในการสื่อสาร
โดยประเมนิ จากพฤติกรรมการฟงั และดู
คาชี้แจง ให้ผูป้ ระเมนิ ให้คะแนนแบบทดสอบแตล่ ะตอน และทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งทผ่ี ู้เรียน
มรี ะดบั คุณภาพที่สอดคลอ้ งกับเกณฑ์การประเมินการฟังและดู
ผปู้ ระเมิน นกั เรียนประเมินตนเอง ครู
เพ่อื นนักเรียน ผู้ปกครอง
ผูป้ ระเมนิ ช่ือ..................................................................นามสกลุ .........................................................................
เลขท่ี ชือ่ -สกลุ คะแนนที่ไดจ้ ากการทา ดีเยย่ี ม ระดบั คณุ ภาพ หมายเหตุ
แบบทดสอบ
ดี พอใช้ ปรับปรุง
ตอนท่ี 1 ตอนท่ี 2 ตอนท่ี 3 รวมคะแนน
1 (10) (10) (20) (40)
2
3
4
… ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ค่มู ือการใช้เครอื่ งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผ้เู รียน 11
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
12
วธิ กี ารใช้เคร่ืองมือ
จากเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการสื่อสาร เป็นแบบทดสอบ
ประกอบด้วย แบบทดสอบการฟังและดู มี 3 ตอน คือ ตอนท่ี 1 ทักษะการดู (จบั คู่) ตอนที่ 2 - 3 ทักษะการฟัง
(เขียนตอบส้นั )
การใช้เคร่ืองมือวัดและประเมินผลข้างต้น สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัดการ
เรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผู้เรยี น ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้เครื่องมือประเมินแบบทดสอบตอนที่ 1 – 3 ควรอยู่ในระดับพอใช้
ข้ึนไป และการประเมินผลรวมแบบทดสอบทักษะการฟังและดูและการแปลผลคะแนน ควรมีระดับคุณภาพ
อยู่ในระดบั ดี ขนึ้ ไป
แบบทดสอบการฟังและดู ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 3 (ชุดที่ 2)
คาชี้แจง แบบทดสอบฉบับน้ีแบง่ เปน็ 3 ตอน
ตอนที่ 1 ทักษะการฟังและดู
คาชี้แจง ครอู ่านคาต่อไปนใี้ หน้ กั เรยี นฟงั คาละ 2 ครัง้ (ข้อละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน)
1. รุ้ง 2. ดวงอาทติ ย์
3. ดวงจันทร์ 4. ตน้ ไม้
5. ภเู ขา 6. แมน่ า้
7. น้าตก 8. บา้ น
9. ดวงดาว 10. กอ้ นเมฆ
เฉลย
2 10 3
59 8
71 4
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 6
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ตอบถูกข้อละ 1 คะแนน
ตอบผดิ หรอื ไม่เขียนตอบได้ 0 คะแนน
12 ค่มู อื การใช้เครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
13
เกณฑ์ตดั สนิ ระดบั คณุ ภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรบั ปรงุ
ตอนที่ 2 ทกั ษะการฟัง
คาชแี้ จง ครอู ่านเร่อื งต่อไปนี้ใหน้ กั เรียนฟงั 2 รอบ จากนน้ั อ่านคาถามใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบ
โดยใหเ้ วลาขอ้ ละ 1 นาที (ข้อละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
นิดากาลังเรียนอยู่ในช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 / วันหนึ่งหลังเลิกเรียน / ขณะที่กาลังเดินกลับบ้าน /
นิดาเจอลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ ท่ีน่าสงสาร / ซึ่งมีคนนามาทิ้งไว้หน้าวัด / สุนัขตัวน้ันกาลังจะเดินข้ามถนนด้วย
ท่าทางหิวโหย / นิดาจึงรีบเข้าไปอุ้มสุนัขตัวนั้น / “ใครนะใจร้ายจัง นาลูกหมาท่ีน่ารักมาทิ้งไว้ตรงนี้ได้” /
นิดาอุ้มสุนัขกลับบ้าน / และขออนุญาตแม่ / “แม่คะหนูขอเลี้ยงเจ้าหมาน้อยตัวน้ีไว้ได้ไหมคะ” /
“ไดส้ ลิ กู รกั แมด่ ีใจทหี่ นชู ่วยชวี ติ มนั ไว้”
คาถาม สนุ ัข สกุ ร
1. นดิ าเหน็ อะไรตอนกาลงั กลับบ้าน หน้าโรงเรยี น หน้าวดั
2. สนุ ขั ถกู นามาทิง้ ไว้ท่ีไหน พาสนุ ัขขา้ มถนน นาสุนขั ไปเลยี้ ง
3. นดิ าทาอย่างไรกับสุนัข มีเมตตา ขยัน
4. จากเรอื่ งท่ีอ่านนิดามีนิสัยอย่างไร สงสารสุนขั ดใี จทสี่ นุ ัขถกู ทิ้งไว้
5. นักเรียนรูส้ ึกอยา่ งไรกับเหตกุ ารณท์ ่เี กิดขน้ึ
เฉลย สกุ ร
1. สุนัข หน้าวดั
2. หน้าโรงเรียน นาสุนขั ไปเลยี้ ง
3. พาสุนขั ขา้ มถนน ขยัน
4. มีเมตตา ดีใจทีส่ ุนัขถูกทิ้งไว้
5. สงสารสุนขั
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับคณุ ภาพ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตอบถูกข้อละ 2 คะแนน ดี
ตอบผิดหรือไม่ตอบได้ 0 คะแนน
พอใช้
เกณฑ์ตัดสินระดับคณุ ภาพ ปรับปรงุ
คะแนน
8 – 10
4–6
0–2
คู่มอื การใช้เครื่องมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น 13
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
14
ตอนท่ี 3 ทกั ษะการฟงั
3.1 คาชแี้ จง ครูอ่านเรือ่ งต่อไปน้ใี ห้นกั เรยี นฟัง 2 รอบ จากนน้ั อ่านคาถามให้นกั เรียนเขียนตอบ
โดยให้เวลาข้อละ 1 นาที (ข้อละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
ดาไปทะเล / ในทะเลมปี มู ีปลา / น้าทะเลสดใสสีฟ้า / กลางทะเลมเี รือใบ /
เดก็ เกเรวง่ิ ไล่ตปี ู / ปทู ะเลรบี หนีลงรู / เด็กเกเรหวั เราะชอบใจ
คาถาม
1. ในเนอ้ื เรอื่ งมสี ัตว์ชนดิ ใดบ้าง
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ดาไปท่ไี หน
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เด็กเกเรรูส้ กึ อย่างไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ทกี่ ลางทะเลมีอะไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. เด็กเกเรทาอะไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวคาตอบ
1. ปู ปลา
2. ทะเล
3. รสู้ ึกชอบใจ/สนุก
4. เรอื ใบ
5. ว่งิ ไลต่ ีปู
เกณฑก์ ารให้คะแนน ได้ 2 คะแนน
ตอบถูกและเขยี นสะกดคาถกู ตอ้ ง ได้ 1 คะแนน
ตอบถูกแตเ่ ขียนสะกดคาไม่ถูกตอ้ ง ได้ 0 คะแนน
ตอบผิดหรอื ไมเ่ ขียนตอบ
เกณฑ์ตัดสินระดบั คุณภาพ
คะแนน ระดับคณุ ภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรับปรุง
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 14 ค่มู ือการใช้เครือ่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผ้เู รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
15
3.2 คาชแี้ จง ครูอ่านเรื่องต่อไปนี้ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ จากนนั้ อ่านคาถามให้นักเรียนเขียนตอบ
โดยใหเ้ วลาข้อละ 1 นาที (ขอ้ ละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
ฉันอาศยั อยบู่ นต้นไม้ / ฉนั มหี ลากหลายสสี ดใส / เขียวบ้าง / แดงบา้ ง / ฉนั มีปีกและหางสวยงาม
/ ฉันบนิ ได้ / ฉนั สามารถพูดเลยี นแบบคนได้ / ฉันกนิ เมลด็ พชื เป็นอาหาร
คาถาม
1. ฉนั คือตัวอะไร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ฉนั อาศยั อยู่ทใ่ี ด
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ฉนั กนิ อะไรเป็นอาหาร
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ฉนั มสี อี ะไรบา้ ง
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. ฉนั สามารถทาอะไรได้
ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวคาตอบ
1. นกแก้ว
2. บนตน้ ไม้
3. เมลด็ พชื
4. เขยี ว แดง
5. พูดเลียนแบบคนได้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ได้ 2 คะแนน
ตอบถูกและเขยี นสะกดคาถูกตอ้ ง ได้ 1 คะแนน
ตอบถูกแต่เขยี นสะกดคาไมถ่ ูกตอ้ ง ได้ 0 คะแนน
ตอบผิดหรอื ไมเ่ ขียนตอบ
เกณฑต์ ัดสินระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ
คะแนน ดี
8 – 10
5–7 พอใช้
0–4 ปรับปรงุ
เกณฑต์ ดั สินระดับคณุ ภาพการประเมินผลรวมแบบทดสอบทักษะการฟังและดู
คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
31 – 40 ดเี ยยี่ ม
21 – 30 ดี ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
11 – 20 พอใช้
0 – 10 ปรบั ปรงุ
คู่มอื การใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผ้เู รยี น 15
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
16
การแปลผลคะแนนทักษะการฟังและดู คาอธบิ าย
ระดบั คุณภาพ
ดเี ยย่ี ม ฟงั แลว้ บอกประเดน็ สาคญั หรือวัตถปุ ระสงคไ์ ด้
ดี ฟงั แล้วบอกข้อมลู และแสดงความรู้สึกได้
พอใช้ ฟงั แล้วตอบคาถาม และบอกความรูส้ กึ ได้
ปรบั ปรงุ ฟงั แลว้ บอกหรือระบุได้ว่าคืออะไร
แบบสรุปการประเมนิ การฟังและดู ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3
วัตถุประสงค์ เพื่อใชเ้ ป็นเครื่องมือในการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการสื่อสาร
โดยประเมนิ จากพฤติกรรมการฟังและดู
คาช้แี จง ให้ผู้ประเมนิ ให้คะแนนแบบทดสอบแต่ละตอน และทาเครื่องหมาย ในช่องท่ผี ้เู รียน
มีระดับคุณภาพทส่ี อดคลอ้ งกับเกณฑ์การประเมินการฟังและดู
ผ้ปู ระเมนิ นักเรยี นประเมนิ ตนเอง ครู
เพ่อื นนักเรยี น ผู้ปกครอง
ผปู้ ระเมิน ช่อื ..................................................................นามสกุล................................................ .........................
เลขที่ ชอื่ -สกลุ คะแนนที่ได้จากการทา ดเี ยี่ยม ระดับคณุ ภาพ หมายเหตุ
แบบทดสอบ
ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
ตอนที่ 1 ตอนท่ี 2 ตอนท่ี 3 รวมคะแนน
1 (10) (10) (20) (40)
2
3
...
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 วิธกี ารใช้เครอื่ งมือ
จากเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการส่ือสาร เป็นแบบทดสอบ
ประกอบด้วย แบบทดสอบการฟังและดู มี 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 ทักษะการดู (จบั ค)ู่ ตอนที่ 2 - 3 ทกั ษะการฟัง
(เลือกตอบและเขยี นตอบส้นั )
การใช้เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผลข้างต้น สามารถใชใ้ นการประเมินระหวา่ งเรียน และหลังการจัดการ
เรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 - 3
การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้เคร่ืองมือประเมินแบบทดสอบตอนท่ี 1 – 3 ควรอยู่ในระดับพอใช้
ข้ึนไป และการประเมินผลรวมแบบทดสอบทักษะการฟังและดูและการแปลผลคะแนน ควรมีระดับคุณภาพ
อยู่ในระดับดี ขนึ้ ไป
16 คมู่ ือการใชเ้ ครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผูเ้ รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
17
แบบประเมนิ การพดู ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 – 3
คาชี้แจง แบบประเมินฉบบั นแี้ บ่งเปน็ 3 ตอน
ตอนที่ 1 ทกั ษะการพดู
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนบอกวา่ ภาพทีน่ กั เรียนเหน็ สัมพนั ธ์กับกล่มุ ใด (ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน)
เฉลย กลุ่มทีก่ าหนดให้
สัตว์ เครอ่ื งเขียน อุปกรณ์ทาความสะอาด ผลไม้ ผัก
1. 2. รปู แตงกวา 3.
เครอ่ื งเขียน ผัก ผลไม้
4. รปู ไม้กวาด 5. รปู ดินสอ 6. รปู นก
อุปกรณ์ทาความสะอาด เครื่องเขยี น 9. สัตว์
รูปองนุ่ รปู ลิง ผัก
7. 8.
สตั ว์
ผลไม้
10. รูปแปรงขัด
ห้องนา้
อุปกรณ์ทาความสะอาด ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
นักเรียนบอกกลมุ่ แต่ละภาพถูกต้องได้ 1 คะแนน
บอกผิดได้ 0 คะแนน
ค่มู อื การใช้เครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน 17
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
18
เกณฑ์ตดั สินระดบั คณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ
คะแนน ดี
8 – 10
5–7 พอใช้
0–4 ปรบั ปรุง
ตอนที่ 2 ทักษะการพูด
คาชี้แจง ให้นักเรยี นศึกษาข้อมูลจากตารางแล้วตอบคาถาม (ขอ้ ละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
ตารางแสดงจานวนนักเรยี นของโรงเรียนบา้ นหนองสมบรู ณ์
ช้ัน ชาย (คน) หญิง (คน) รวมทั้งหมด (คน)
ป.1 45 47 92
ป.2 36 37 73
ป.3 43 43 86
ป.4 47 51 98
ป.5 37 38 75
ป.6 45 43 88
รวม 253 259 512
คาถาม
1. โรงเรียนบ้านหนองสมบรู ณ์มีจานวนนกั เรียนท้ังหมดกี่คน
2. นกั เรยี นช้นั ใดทม่ี ีจานวนนักเรยี นชายมากกว่านกั เรียนหญงิ
3. นกั เรยี นชน้ั ใดมีจานวนนักเรียนหญงิ นอ้ ยทส่ี ุด
4. นกั เรียนชั้นใดมีจานวนนกั เรยี นชายและนักเรยี นหญิงเทา่ กัน
5. โรงเรียนนม้ี นี ักเรยี นชายหรือนกั เรียนหญิงมากกว่ากัน
เฉลย
1. 512 คน
2. ช้นั ป.6
3. ชนั้ ป.2
4. ช้นั ป.3
5. นกั เรยี นหญงิ
เกณฑก์ ารให้คะแนน
นักเรยี นตอบคาถามจากขอ้ มูลตามตารางถูกต้อง ได้ 2 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน
เกณฑ์ตัดสนิ ระดับคณุ ภาพ
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 คะแนน ระดับคณุ ภาพ
8 – 10 ดี
4–6
0–2 พอใช้
ปรับปรงุ
18 คมู่ ือการใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผูเ้ รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
ตอนที่ 3 ทักษะการพูด 19
คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นพูดอธิบายจากประเด็นทีค่ รูกาหนด
ข้อ 1 ให้นกั เรยี นพดู เกี่ยวกบั การมาโรงเรียนในประเด็นต่อไปน้ี (6 คะแนน) คะแนน
2
1.1 บอกประโยชนข์ องการมาโรงเรยี น 2
1.2 เพราะเหตุใดนักเรยี นจงึ ต้องมาโรงเรียน 2
1.3 ถา้ ไม่มาโรงเรยี น จะเกิดผลเสยี อย่างไรกับนกั เรยี น คะแนน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 2
2
แนวคาตอบ 2
1.1 ไดเ้ รยี นหนังสอื / ได้ความรู้ / ได้เลน่ กบั เพ่ือน / ไดเ้ จอครู / ไดท้ านอาหารอร่อย ๆ 2
1.2 พ่อแมบ่ งั คับ / อยากมาโรงเรยี น / อา่ นหนังสือออก / อยบู่ ้านแล้วเหงา
1.3 โง่ / อ่านหนังสอื ไม่ออก / ไม่มเี พือ่ น / สอบตก / พ่อแม่ตี โดนดา่ คะแนน
ข้อ 2 ใหน้ ักเรียนพดู เกี่ยวกับการใชเ้ วลาวา่ งในประเด็นต่อไปน้ี (8 คะแนน) 2
2
1.1 บอกข้อดีของการใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 2
1.2 ยกตวั อยา่ งกิจกรรมทีท่ า
1.3 บอกเหตุผลทีเ่ ลือกทากจิ กรรมนี้ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
1.4 บอกข้อเสียของการทากจิ กรรมที่เลือกมากเกินไป
เกณฑ์การให้คะแนน
แนวคาตอบ
1.1 สนุกสนานเพลิดเพลนิ / ไดเ้ ล่นกบั เพื่อน / มรี ายได้ / ฝึกสมาธิ / ไดพ้ ักผ่อน /
1.2 ดูโทรทัศน์ / เลน่ กีฬา / เล่นดนตรี / อ่านหนังสอื / ช่วยแม่ทางาน / ชว่ ยแม่ขายของ
1.3 ดูเหตผุ ลให้สมั พนั ธ์กับกจิ กรรมทตี่ อบในข้อ 1.2
1.4 ดูเหตุผลให้สมั พนั ธ์กับกจิ กรรมทตี่ อบในข้อ 1.2
ขอ้ 3 ใหน้ ักเรียนพูดในประเด็นท่ีกาหนดเก่ียวกบั อาหารท่ตี นเองชอบ (6 คะแนน)
1.1 บอกประโยชนข์ องอาหารทีน่ ักเรียนเลอื ก
1.2 บอกเหตุผลท่เี ลือกอาหารชนิดนี้
1.3 อธิบายลักษณะหรือส่วนประกอบของอาหารชนิดนี้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
รายการประเมิน
1. คาตอบสัมพนั ธก์ ับอาหารท่ีนกั เรียนตอบ เช่น ดีต่อสุขภาพ มีวติ ามนิ
2. คาตอบสัมพันธ์กบั อาหารที่นกั เรยี นตอบ เชน่ รสชาตอิ รอ่ ย ราคาถูก
3. คาตอบสมั พนั ธ์กบั อาหารที่นักเรียนตอบ เชน่ ไกท่ อด ประกอบดว้ ย ไก่ แป้ง น้าจ้มิ
* ทง้ั นีแ้ นวคาตอบนอกเหนอื จากน้ใี ห้อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครผู ูส้ อน
คมู่ อื การใชเ้ คร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผ้เู รยี น 19
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
20
เกณฑ์ตัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ
คะแนน ระดับคุณภาพ
16 – 20 ดี
10 – 14
0–8 พอใช้
ปรับปรุง
เกณฑ์ตัดสินระดับคุณภาพการประเมนิ ผลรวมแบบทดสอบทักษะการพดู
คะแนน ระดบั คุณภาพ
31 – 40 ดีเย่ียม
21 – 30 ดี
11 – 20 พอใช้
0 – 10 ปรับปรุง
การแปลผลคะแนนทักษะการพดู
ระดบั คุณภาพ คาอธบิ าย
ดีเย่ยี ม พูดส่อื สารกับบคุ คลท่มี คี วามแตกต่างจากตนเอง เพื่อสื่อสาระทเี่ ปน็ ประโยชน์
ตอ่ ตนเองได้อย่างเหมาะสม
ดี พดู อธบิ ายเหตผุ ล แสดงขอ้ มลู ประกอบเลือกใช้คาท่สี อ่ื ความชดั เจน และใช้
ภาษาอย่างเหมาะสม
พอใช้ พดู แสดงความรูส้ ึกและบอกความแตกต่าง ประโยชน์และโทษได้
ปรบั ปรุง พดู ระบุประเภทและความแตกตา่ งได้
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 20 คูม่ ือการใช้เครื่องมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผูเ้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
21
แบบสรปุ การประเมินการพูด ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 – 3
วตั ถุประสงค์ เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี นด้านความสามารถในการสื่อสาร
โดยประเมนิ จากพฤติกรรมการพูด
คาชีแ้ จง ใหผ้ ปู้ ระเมินให้คะแนนแบบทดสอบแต่ละตอน และทาเครอื่ งหมาย ในช่องทีผ่ ้เู รยี น
มรี ะดับคุณภาพทีส่ อดคล้องกับเกณฑ์การประเมนิ การพูด
ผู้ประเมนิ นักเรยี นประเมินตนเอง ครู
เพ่ือนนักเรียน ผู้ปกครอง
ผู้ประเมิน ชื่อ..................................................................นามสกลุ .........................................................................
เลขท่ี ชื่อ-สกลุ คะแนนท่ไี ด้จากการทา ดีเยยี่ ม ระดับคณุ ภาพ หมายเหตุ
แบบทดสอบ
ดี พอใช้ ปรับปรุง
ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 รวมคะแนน
1 (10) (10) (20) (40)
2
3
4
…
วธิ ีการใช้เครื่องมือ
จากเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการสื่อสาร เป็นแบบทดสอบ
ประกอบดว้ ย แบบทดสอบการพูด มี 3 ตอน
การใช้เคร่ืองมือวัดและประเมินผลข้างต้น สามารถใช้ในการประเมินระหวา่ งเรียน และหลังการจัดการ
เรียนรู้ เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผเู้ รียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3
การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้เครื่องมือประเมินแบบทดสอบตอนท่ี 1 – 3 ควรอยู่ในระดับพอใช้
ขน้ึ ไป และการประเมนิ ผลรวมแบบทดสอบทักษะการพูดและการแปลผลคะแนน ควรมรี ะดับคุณภาพอยู่ในระดับดี
ขึ้นไป
คู่มือการใชเ้ คร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น 21 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
22
แบบทดสอบการอา่ น ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3
คาชี้แจง แบบทดสอบฉบับนี้แบ่งเป็น 3 ตอน
ตอนที่ 1 ทักษะการอา่ น
คาชแี้ จง ให้นักเรียนอ่านสะกดคาที่ตรงกับรูปภาพท่ีกาหนดให้ (ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน)
123 4
8
567
9 10
แนวคาตอบ มอ – อะ – มะ
1. มะละกอ อ่านวา่ ลอ – อะ – ละ
กอ – ออ – กอ
2. เรือใบ อา่ นว่า รอ – เอือ – เรือ
3. นาฬิกา อา่ นว่า บอ – ไอ – ใบ
นอ – อา – นา
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 4. กระเปา๋ อ่านวา่ ลอ – อิ – ลิ
5. จาน อา่ นว่า กอ – อา – กา
6. ดินสอ อ่านวา่ กอ – รอ – อะ – กระ
7. กางเกง อ่านว่า ปอ – เอา – เปา – ไมจ้ ัตวา – เปา๋
8. หวั เราะ อ่านว่า จอ – อา – นอ – จาน
ดอ – อิ – นอ – ดนิ
สอ – ออ – สอ
กอ – อา – งอ – กาง
กอ – เอ – งอ – เกง
หอ – อัว – หวั
รอ – เอาะ – เราะ
22 คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
23
9. ทะเล อา่ นว่า ทอ – อะ – ทะ
10. ภเู ขา อา่ นว่า ลอ – เอ – เล
พอ – อู – พู
ขอ – เอา – เขา
หมายเหตุ การแจกคาอาจแตกต่างจากตวั อยา่ ง ขึน้ อยู่กบั แนวทางท่คี รูใชส้ อนนกั เรยี น
เกณฑ์การให้คะแนน ระดบั คุณภาพ
ตอบถูกได้ข้อละ 1 คะแนน ดี
ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน
พอใช้
เกณฑต์ ัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง
คะแนน
8 – 10
5–7
0–4
ตอนที่ 2 ทักษะการอา่ น
คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนอ่านข้อความแลว้ ตอบคาถาม ข้อ 1 – 5 (ขอ้ ละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
เดก็ หญิงน้ามักจะชว่ ยเหลือผู้อื่น จงึ ไดร้ บั คาชมเชยจากคุณครอู ยูเ่ สมอ นา้ เชอ่ื วา่ ทาดีย่อมได้รับผลดี
เธอจึงตั้งใจทาความดตี ่อไป
1. ข้อความขา้ งต้นตรงกบั ความรสู้ กึ ในภาพใด
1) 2) 3)
2. ถ้านกั เรียนปฏิบตั ิตนแบบเดก็ หญิงน้าจะเกิดผลอยา่ งไร
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
1) ทาให้เปน็ คนซ่อื สัตย์
2) ทาให้ไดร้ ับการยกยอ่ งจากผูอ้ น่ื
3) ทาใหเ้ ป็นคนท่มี ีความรบั ผิดชอบ
ค่มู อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผูเ้ รียน 23
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
24
3. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกับนสิ ัยของเด็กหญงิ นา้
1) ชว่ ยพอ่ แม่ทางาน
2) อาบน้าแปรงฟนั
3) รบั ประทานอาหารที่มีประโยชน์
4. ข้อใดแสดงลักษณะนสิ ยั ของเด็กหญิงน้า
1) มนี ้าใจ
2) กตัญญู
3) รบั ผดิ ชอบ
5. ข้อใดสอดคล้องกับความเชอื่ ของเดก็ หญงิ น้าที่วา่ ทาดยี อ่ มได้รบั ผลดี
1) เก่ง อา่ นหนังสือทุกวันจึงมีผลการเรยี นดี
2) ปอ๋ ง ให้อาหารสุนขั เนื่องจากแม่ส่งั ไว้
3) โปง้ ป่นั จกั รยานพาน้องไปโรงเรียน
เฉลย
ข้อ 1 ตอบ 2) ข้อ 2 ตอบ 2) ข้อ 3 ตอบ 1) ขอ้ 4 ตอบ 1) ข้อ 5 ตอบ 1)
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั คุณภาพ
ตอบถูกได้ 2 คะแนน ดี
ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน
พอใช้
เกณฑ์ตดั สนิ ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ
คะแนน
8 – 10
4–6
0–2
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 24 คมู่ อื การใช้เครือ่ งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผูเ้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
25
ตอนท่ี 3 ทกั ษะการอา่ น
คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนอ่านข้อความแลว้ ตอบคาถาม (ขอ้ ละ 2 คะแนน รวม 20 คะแนน)
อ่านข้อความแลว้ ตอบคาถาม ข้อ 1 – 5
สัตว์ทะเลจานวนมากล้มตายเพราะกินขยะพลาสติก แสดงให้เห็นถึงปัญหาขยะพลาสติกท่ีส่งผล
ต่อส่ิงมีชีวิต สาเหตุส่วนใหญ่มาจากมนุษย์ขาดความรู้ในการจัดการกับขยะ คือ การคัดแยกขยะ โดยการแยก
ประเภทของขยะ เช่น ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย ขยะอินทรีย์ ขยะท่ัวไป รวมท้ังการนาขยะมาใช้ซ้า วิธีการ
แก้ปญั หาที่ง่ายทีส่ ุด คอื ครอบครวั และโรงเรยี นต้องใหค้ วามรทู้ ี่ถกู ตอ้ งในเรอื่ งการจดั การกับขยะในชวี ิตประจาวัน
1. ขยะพลาสติกส่งผลต่อสตั ว์ทะเลอย่างไร
ตอบ ............................................................................................................................. ....................................
2. อะไรเป็นสาเหตขุ องปัญหาขยะพลาสติก
ตอบ ............................................................................................................................. ....................................
3. วธิ ีการใดบ้างทเ่ี ป็นการจัดการขยะท่ีเหมาะสม
ตอบ .............................................................................................................................. ...................................
4. ครอบครวั และโรงเรียนมสี ่วนร่วมในการแกป้ ัญหาขยะพลาสตกิ อย่างไร
ตอบ ...................................................................................................................................................... ...........
5. ยกตวั อยา่ งการแยกประเภทขยะ
ตอบ .................................................................................................................................................................
เฉลย/แนวคาตอบ
1. สตั ว์ทะเลล้มตาย
2. คน / มนุษย์
3. การคดั แยกขยะ หรือ การนาขยะมาใช้ซา้
4. ให้ความรทู้ ี่ถูกต้องในเรื่องการจัดการกับขยะในชีวติ ประจาวัน
5. ขยะรไี ซเคลิ / ขยะอันตราย / ขยะอนิ ทรยี ์ / ขยะทวั่ ไป
เกณฑก์ ารให้คะแนน ได้ 2 คะแนน
ตอบถูกและเขียนสะกดคาถกู ตอ้ ง ได้ 1 คะแนน
ตอบถูกแต่เขียนสะกดคาไม่ถูกต้อง ได้ 0 คะแนน
ตอบผดิ หรอื ไม่เขียนตอบ
คูม่ ือการใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รียน 25 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
26
อ่านข้อความแล้วตอบคาถาม ขอ้ 6 – 10
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีการทานา ทาไร่เป็นส่วนใหญ่ บางพื้นท่ีจะทานาตลอดปี
แบ่งเป็นนาปี และนาปรัง ในอดีตเราใช้แรงงานคนและสัตว์ในการทางาน ทาให้เหน่ือยล้าและได้ผลผลิตน้อย
แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีอย่างเช่น เครื่องจักร มาช่วยในการทานา ไม่ว่าจะเป็นการไถ การหว่าน หรือแม้กระทั่ง
การเกบ็ เก่ียว ทาใหท้ ุ่นแรงไปไดม้ าก ทั้งนี้เทคโนโลยเี หลา่ น้ัน ทาให้มขี อ้ เสยี คอื มคี า่ ใชจ้ า่ ยที่สูงขนึ้
6. บอกประเภทของนาท่ีทามีอะไรบ้าง (ตอบ 2 คาตอบ)
ตอบ 1) ............................................................................................................................. ...............................
2) ............................................................................................................................................................
7. ในอดตี ใชว้ ิธกี ารใดในการทานา
ตอบ ............................................................................................................................. ....................................
8. ขอ้ ดขี องการใชเ้ ทคโนโลยีมาช่วยในการทานาคอื อะไร
ตอบ .................................................................................................................................................................
9. เครื่องจกั รสามารถช่วยการทานาได้อย่างไรบา้ ง (ตอบ 2 คาตอบ)
ตอบ 1) ............................................................................................................................. ...............................
2) ............................................................................................................................................................
10. การนาเทคโนโลยีมาใช้สง่ ผลเสยี อย่างไร
ตอบ ............................................................................................................................. ....................................
เฉลย/แนวคาตอบ
6. นาปี และ นาปรัง
7. การใชแ้ รงงานคนและสัตว์
8. ทุ่นแรง / ประหยดั เวลา
9. การไถ / การหว่าน / การเกบ็ เก่ยี ว
10. ทาให้มีค่าใชจ้ า่ ยเพิ่มขึน้
เกณฑ์การให้คะแนน ได้ 2 คะแนน
ตอบถูกและเขยี นสะกดคาถกู ต้อง ได้ 1 คะแนน
ตอบถูกแตเ่ ขยี นสะกดคาไม่ถูกต้อง ได้ 0 คะแนน
ตอบผดิ หรือไมเ่ ขียนตอบ
เกณฑ์ตดั สินระดับคุณภาพ
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
15 – 20 ดี
9 – 14
0–8 พอใช้
ปรบั ปรงุ
26 คมู่ ือการใช้เคร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
27
เกณฑต์ ดั สนิ ระดับคุณภาพการประเมินผลรวมแบบทดสอบทกั ษะการอา่ น
คะแนน ระดับคุณภาพ
31 – 40 ดีเย่ยี ม
21 – 30 ดี
11 – 20 พอใช้
0 – 10 ปรบั ปรุง
การแปลผลคะแนนความสามารถการพดู อธบิ าย
ระดบั คุณภาพ คาอธิบาย
ดีเย่ียม อ่านแลว้ บอกประเดน็ สาคญั หรอื วัตถุประสงค์ และอธิบายความรสู้ ึกได้
ดี อ่านแล้วบอกข้อมลู และแสดงความร้สู กึ ได้
พอใช้ อ่านแลว้ ตอบคาถาม และบอกความร้สู ึกได้
ปรับปรงุ อา่ นแลว้ บอกหรอื ระบไุ ด้วา่ คืออะไร
แบบสรุปการประเมนิ การอา่ น ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1-3
วตั ถุประสงค์ เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนดา้ นความสามารถในการส่ือสาร
คาช้ีแจง โดยประเมินจากพฤติกรรมการอ่าน
ผู้ประเมิน ให้ผู้ประเมินให้คะแนนแบบทดสอบแต่ละตอน และทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งทีผ่ ู้เรียน
มรี ะดับคุณภาพท่สี อดคล้องกับเกณฑ์การประเมนิ การอ่าน
นกั เรียนประเมินตนเอง ครู
เพอื่ นนักเรียน ผ้ปู กครอง
ผ้ปู ระเมนิ ชื่อ..............................................................นามสกุล.........................................................................
เลขท่ี ช่อื -สกลุ คะแนนทไี่ ด้จากการทา ดเี ย่ยี ม ระดบั คณุ ภาพ หมายเหตุ
แบบทดสอบ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
ตอนท่ี 1 ตอนที่ 2 ตอนท่ี 3 รวมคะแนน
1 (10) (10) (20) (40)
2
3
4
… ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
คู่มือการใช้เคร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผูเ้ รยี น 27
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
28
วธิ กี ารใชเ้ ครื่องมือ
จากเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการส่ือสาร เป็นแบบทดสอบ
ประกอบดว้ ย แบบทดสอบการอา่ น มี 3 ตอน
การใช้เครอื่ งมือวดั และประเมนิ ผลข้างตน้ สามารถใชใ้ นการประเมินระหว่างเรียน และหลังการจัดการ
เรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผเู้ รียน ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใชเ้ ครื่องมือประเมินแบบทดสอบตอนท่ี 1 – 3 ควรอยู่ในระดับพอใช้ ข้ึนไป
และการประเมินผลรวมแบบทดสอบทักษะการอ่านและการแปลผลคะแนน ควรมรี ะดับคุณภาพอยู่ในระดบั ดี ขน้ึ ไป
แบบทดสอบการเขยี น ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3
คาช้ีแจง แบบทดสอบฉบับนีแ้ บง่ เป็น 3 ตอน
ตอนที่ 1 ทกั ษะการเขียน
คาช้แี จง ใหน้ ักเรยี นเขียนคาให้ตรงกบั รูปภาพท่กี าหนดให้ (ขอ้ ละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน)
1. _________(_แ_ม_ว_) _________6. ________(_เต_ยี_ง_)__________
2. ________(_แ_ต_ง_โม__) ________7. _______(_ก_ร_ะ_ต_่า_ย_________
)
3. _________(_เส_้อื__) _________8. ________(ป_ร_ะ_ต_ู)__________
4. _________(เ_ก_า้ _อ_้ี)_________9. _______(_ท_ุเ_ร_ีย_น_)_________
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 5. ________(_ป_า_ก_ก_า_)_______10. ________(_บ_ัน_ไ_ด_)_________
28 คมู่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผู้เรยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
29
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดับคณุ ภาพ
ตอบถูก ได้ 1 คะแนน ดี
ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน
พอใช้
เกณฑ์ตดั สินระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ
คะแนน
8 – 10
5–7
0–4
ตอนที่ 2 ทักษะการเขียน
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเขียนประโยคจากภาพ โดยนาคาที่กาหนดใหม้ าเรียงให้เปน็ ประโยคที่ถูกต้องและ
สอดคล้องกับภาพ (ข้อละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
เด็ก ขยะ
1. ใน ________________(_เด_็ก_ท__ิ้ง_ข_ย_ะ_ใน__ถ_ัง)___________________
ถงั ทิ้ง
หนังสอื การต์ ูน _______________(ห__น_ูด_ีอ_่า_น_ห_น_งั_ส_ือ_ก__าร_์ต__นู _)_______________
2. หนดู ี ________________(แ_ม__เ่ ล_า่ _น_ทิ_า_น__ให_ล้__กู _ฟ_ัง_)________________
อา่ น _______________(_ใบ_ห__ม_่อ_น_ช_่ว_ย_แ_ม_่ต__าก__ผ_้า_) _______________
นิทาน ฟงั
3. ให้ ลกู
เล่า
แม่ ใบหม่อน
ผา้ แม่
4. ชว่ ย
ธงชาติ _____________(น__กั _เร_ีย_น_เ_ข_า้ _แ_ถ_ว_เ_ค_า_ร_พ_ธ_ง_ช_า_ต_ิ)_____________ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตาก เข้าแถว
นกั เรียน
5. เคารพ
คมู่ อื การใชเ้ ครื่องมือประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รยี น 29
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 30
เขยี นประโยคได้ถกู ต้องตามหลักการใชภ้ าษาไทย และสื่อความหมายไดต้ รงตามรปู ภาพ
เขยี นประโยคไมถ่ ูกตอ้ งตามหลักการใชภ้ าษาไทย แต่ส่ือความหมายได้ตรงตามรปู ภาพ ได้ 2 คะแนน
เขยี นประโยคไมถ่ ูกต้องตามหลกั การใชภ้ าษาไทย และไม่สอื่ ความหมายได้ตรงตามรปู ภาพ ได้ 1 คะแนน
ได้ 0 คะแนน
เกณฑต์ ัดสนิ ระดบั คุณภาพ ระดับคุณภาพ
คะแนน ดี
8 – 10
5–7 พอใช้
0–4 ปรับปรุง
ตอนที่ 3 ทกั ษะการเขยี น
3.1 คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเตมิ คาแสดงความรูส้ ึกในประโยคพรอ้ มทั้งเขยี นเหตุผลสนบั สนุน
(ขอ้ ละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
1. สมชายรูส้ กึ __(โ_ก_ร_ธ_)__ เพราะโดน _______(แ_ซ_ง_ค_วิ_)__________
2. คุณลุงรู้สึก _(_เห__น_อ่ื _ย_)_ เพราะ ________(_ท_า_งา_น__ห_น_ัก_)_____
3. โปง้ รู้สึก __(เ_ส_ยี _ใ_จ_)__ เพราะ _______(ส_อ_บ_ต__ก_) _________
4. ปกุ๊ ป๊ิกรู้สกึ _(เ_จ_็บ__/_เ_จ_บ็ _ป_ว_ด_)_ เพราะ____โ_ด_น_ม__ีด_บ_า_ด__________
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 30 คู่มือการใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผูเ้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
31
5. เด็ก ๆ รู้สกึ (_ส_น_ุก_ส_น_า_น__) เพราะ _(_ได__เ้ ล_่น_ส_า_ด_น__า้ _/__ส_งก__รา_น__ต_์)_
เกณฑก์ ารให้คะแนน ได้ 2 คะแนน
เมอื่ เขียนแสดงความร้สู ึกและใหเ้ หตุผลได้ถูกตอ้ งและสมั พันธก์ บั รปู ภาพ ได้ 1 คะแนน
เมอ่ื เขยี นแสดงความรสู้ ึกหรอื ใหเ้ หตุผลได้ถูกต้องอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ ได้ 0 คะแนน
เมื่อเขยี นไม่ถูกต้องและไม่สัมพนั ธ์กบั รูปภาพ
เกณฑต์ ดั สนิ ระดับคุณภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรบั ปรงุ
3.2 คาช้แี จง ให้นักเรียนเขยี นประโยคใหส้ ัมพันธก์ บั รูปภาพ (ข้อละ 2 คะแนน รวม 10 คะแนน)
1. ___________(_น_ัก_เ_รีย__น_ก_า_ล_งั _เต_ะ_ฟ__ตุ _บ_อ_ล_ใ_น_ส_น_า_ม_)___________
2. ________________(พ_ว_ก_เ_ร_า_ก_า_ล_ัง_เล_น่__ช_งิ _ช_้า_) _______________
3. _______________(_เ_ด_็ก_ห_ญ_ิง_ก_า_ล_งั_ร_อ้ _ง_เ_พ_ล_ง_)_______________
4. ________________(_เ_ด_็ก_ก_า_ล_งั _ร_ด_น_้า_ต_น้ _ไ_ม_้)________________ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
คมู่ อื การใชเ้ ครื่องมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รียน 31
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
32
5. _________________(เ_ด_ก็ _ก_า_ล_งั_ก_ว_า_ด_บ_า้_น_)_________________
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ได้ 2 คะแนน
เมือ่ เขยี นประโยคไดถ้ ูกตอ้ งและสมั พันธก์ ับรูปภาพ ได้ 1 คะแนน
เม่อื เขยี นประโยคไดถ้ ูกตอ้ งและสมั พันธก์ ับรูปภาพ แตม่ ีการเขยี นสะกดคาไมถ่ ูกตอ้ ง ได้ 0 คะแนน
เมอ่ื เขียนประโยคไมถ่ ูกต้องและไมส่ ัมพันธก์ บั รูปภาพ
เกณฑ์ตัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ
คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรบั ปรงุ
เกณฑ์ตดั สนิ ระดับคุณภาพการประเมินผลรวมแบบทดสอบทักษะการเขียน
คะแนน ระดบั คุณภาพ
31 – 40 ดีเย่ียม
21 – 30 ดี
11 – 20 พอใช้
0 – 10 ปรับปรุง
การแปลผลคะแนนทกั ษะการเขยี น
ระดับคณุ ภาพ คาอธิบาย
ดเี ยี่ยม นกั เรียนเขยี นตอบเป็นประโยคที่ส่อื ความหมายไดต้ รงประเดน็ ตาม
วัตถุประสงค์
ดี นกั เรยี นเขียนตอบเป็นประโยคท่ีสื่อความหมายได้ พร้อมแสดงความรูส้ กึ ท่ีมี
รายละเอยี ดสนบั สนนุ
พอใช้ นกั เรยี นเขยี นประโยคที่สามารถสือ่ ความหมายและแสดงความรสู้ ึกได้
เหมาะสม ตรงตามส่ือทกี่ าหนด
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ปรบั ปรงุ นักเรยี นเขียนตอบเปน็ คาที่สัมพนั ธ์กบั สื่อทก่ี าหนด
32 คมู่ ือการใช้เครื่องมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผ้เู รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
33
แบบสรุปการประเมนิ การเขียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 3
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นด้านความสามารถในการส่ือสาร
คาช้ีแจง โดยประเมินจากการเขยี น
ผู้ประเมนิ ให้ผู้ประเมนิ ให้คะแนนแบบทดสอบแตล่ ะตอน และทาเครื่องหมาย ในช่องทผี่ ู้เรียน
มรี ะดบั คุณภาพทส่ี อดคลอ้ งกับเกณฑ์การประเมินการเขยี น
นักเรยี นประเมนิ ตนเอง ครู
เพื่อนนักเรยี น ผ้ปู กครอง
ผ้ปู ระเมิน ชื่อ..............................................................นามสกุล.................................................... .....................
เลขท่ี ชื่อ-สกลุ คะแนนที่ได้จากการทา ดเี ยย่ี ม ระดับคุณภาพ หมายเหตุ
แบบทดสอบ
ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
ตอนที่ 1 ตอนท่ี 2 ตอนท่ี 3 รวมคะแนน
1 (10) (10) (20) (40)
2
3
4
…
วิธีการใชเ้ ครื่องมือ
จากเครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ด้านความสามารถในการสื่อสาร เปน็ แบบทดสอบ
ประกอบด้วย แบบทดสอบการเขยี น มี 3 ตอน (เขียนตอบสน้ั )
การใชเ้ คร่ืองมือวดั และประเมนิ ผลข้างตน้ สามารถใช้ในการประเมินระหวา่ งเรียน และหลงั การจัดการ
เรียนรู้ เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผเู้ รียน ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3
การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้เคร่ืองมือประเมินแบบทดสอบตอนท่ี 1 – 3 ควรอยใู่ นระดับพอใช้ ข้ึนไป
และการประเมินผลรวมแบบทดสอบทักษะการเขียนและการแปลผลคะแนน ควรมีระดับคุณภาพอยู่ในระดบั ดี
ข้นึ ไป
ค่มู ือการใชเ้ ครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรียน 33 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
แแแบบบบบบทททดดดสสสอออชชบบบน้ััน้ แแแปปลลลรระะะะแแแถถบบบมมบบบศศึกึกปปปษษรรระะะาาเเเปปมมมีทีทนินนิิ ่ี่ี กกก11ลลล––วววธิธธิิ33ีกกกีี าาารรรสสสื่่ื่ือออสสสาาารรร 3344
34
คตคคคตคตาอาอาอาาชชชชชนนน้แี้แีีแ้ี้แี้แทททจจจจจี่ีี่่ 111งงงงง 11กกกใใใแแแหหหาาาบบบคคน้้นน้รรรบบบาาปปปักัักกทททตตรรรเเเรรรดดดะะะ่ออ่ ยีียียเเเสสสมมมนนน11อออินิินนนนนบบบภภกกกาาาาาลลลตตตพพวววัวัวัวิธธิธิอออ((ขขีกีกกีััักกก้้ออาาาษษษรรรลลรรรสสสะะใใใอื่อ่ือ่ืตตต11สสส้ภ้้ภภาาาาาาคครรรพพพะะแแแแแสสสชบนนบบญัญัญั น้ันนง่ง่ง่ ลลลอออปกักักั รรอออรษษษววกกกะมมณณณเเเถปปป์ม์มม์11มน็น็น็ าาา00ศเเเ333กึขขขคคษียยีียะะตตตนนนแแาอออปใใในนนนนสสสทีนนห่ห่ห่ ี่))นนน1า้้า้า–ขขขอ้ออ้้3ททที่่ี่ีมมมคีีคีควววาาามมมสสสัััมมมพพพนััันนธธธ์ก์ก์กััับบบคคคาาาททท่ีก่ีกีก่ าาาหหหนนนดดดใใใหหห้้้
คาช้แี จง 1 คา ต่อ 1 ภาพ (ข้อละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน)
กก ขข คค งง
กขคง
จจ ฉฉ ชช ซซ
จฉชซ
เเเเเเกกกกกกณณณณณณฑฑฑฑฑฑก์์์์ต์ตกกต์ ตตตตตาาาััดดัดอออออรรรสสสบบบบบใใใินินินจชงกฉงชกงฉจกฉจชถผถผถผหหหฌฌฌรรรูููดกิิดกิดก้คค้้คะะะไไไไไะะะดดดดดดดดแแแ้้้ขขข้้บบัับั 111นนน444222333000555อ้้้ออคคค...........นนนลลลคคคณณุุณุรรรหหหรรเเเหหะะะลลละะะะะาา้้า้คคค888ยยยอ้้อ้อภภภ00555ี้ีย้ย้ยีวววแแแนนนะะะ111ดดุุดุงงงาาาังัังงววว–––นนนอออแแแนนน––––รรรพพพขขขคคคนนนาาานนน้าา้้าถถถ111ววว47747ะะะหหหนนน000ไไไาาาแแแฟฟฟาาานนนรรรนนน ญญ ซซคคฌฌญขญขขซคญ 1199988866677700...........ทททหหหหหหหสสาาา้า้า้้าา้า้้าัญัญงงงมมมมมมมหหหญญถถถทททเเเขขขนนนาา่า่า่าง้ิ้ิงิง้ ้้าา้าีไีไณณีไยยยขขขฟฟฟรรรยยยจจปูปูปูะะะรราาจจรร
0–4 ญ ฌ 10. สัญญาณจราจร
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 รรระะะดดดปปับัับบพพพรรบับัคคคอออดดดุุุณณณปปใใใีีี ชชชรรภภภ้้้งงุุ าาาพพพ
ปรับปรุง
34 คูม่ ือการใชเ้ ครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผูเ้ รียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
3355
ตตตคคอออาาชชนนน้แีี้แทททจจ่่่ีีี 222งง 11ใใใแแแหหหบบบขข้น้นน้ ้้ออบบบักักกั คคทททเเเววรรรดดดาายีีียยสสสมมนนนอออนนนตตบบบาาาอ่่อตตต11วััววั อออภภััักกกาาษษษพพรรรใใใ((ตตตขข้ภภ้้ภ้ออลลาาาพพพะะสสส11ญัญััญคคลลละะัักกกั แแษษษนนณณณนน์ม์ม์มรราาาววเเเขขขมมียยีีย11นนน00ใใใสสสคค่หห่ห่ ะะนนนแแ้า้าา้นนขขขนนออ้้อ้ ))ททที่ีี่่มมมคคีีคี วววาาามมมสสสัััมมมพพพัันนันธธธก์ก์์กััับบบขขขออ้้้อคคควววาาามมมททท่กกีี่ก่ี าาาหหหนนนดดดใใใหหห3้้้ 5
คาชี้แจง 1 ข้อความ ตอ่ 1 ภาพ (ข้อละ 1 คะแนน รวม 10 คะแนน)
กก ขข คค งง
กข คง
ชช ซซ
จจ ฉฉ ชซ
จฉ ญฌขคญฌชชคขญคขช 91919868668777...00...... ..ปปปสคคสคสงงงรรดดดฐฐฐาาาวววะะมมมใใใหหหรรรชชชววอออพพพรรรัังงโ้โ้โ้ ยยยับับับยยยทททออู่ใูใู่่ใผผผาาาันันรรรนนนบบบูพ้พู้พู้ศศศตตคคคาาาิิกกัพพัพักิรรวววลลลาาาาาทททาาารรรยยมมม์์ม์มดดดือือือแแููแูถถถลลลืืือออขขขออองงงผผผูใู้้ใใู้ หหหญญญ่่่
ฌ 10. ระวงั อนั ตราย
ฌฌ ญญ
ฉงกจจกงซจฉกซงฉ 11122233345445.......... หหหหหหหขขสสสา้้าา้า้า้าา้าา้ฌา้้ มมมมมหหหมมมมใใใถถรรรนนนลลลชชชับบับันนงงงาาา้แ้แแ้ เเเสสสทททนนลลลตตตัตตัตับบ้ิงิง้ิง้น่่น่นรรรขขขวววรรนนน์เเ์เ์ยยยิเิเลลลา้า้้าววะะะีย้ย้ีีย้ณณรรรงงงีไไไีี นนเเเซซซขขขี้ี้ เเเ้้าา้าคคคมมมลิลลิิ าาา ญ รรระะะดดดปปับบัับพพพรรัับบคคคอออดดดุณุณุณปปใใใีีี ชชชรรภภภุ้้้งุงาาาพพพ
เเเเเเกกกกกกณณณณณณซฑฑฑฑฑฑ์ต์์์กก์ตก์ตตตตตตาาาััดดัด5อออออรรรสสส.บบบบบใใใขินินนิผถผถผถหหห้ารรรูููิดกิดิกดก้ค้้คคมะะะไไไไไะะะถดดดดดดดดแแแน้้้ขขข้้บับัับนนน000นอ้อ้้อคคคนนนลลลบคคคณณุุณุ ะะะะะรคคค888ภภภ00555ิเแแแะะะ111วาาา–––นนนแแแณ––––พพพคคคนนนนนน111น74477ะะะนนน000ี้แแแนนนนนน ปรับปรุง
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
0–4
ค่มู อื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รียน 35
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
36 36
ะแบบประเมนิ กาต3ร.พอ1นดู แทบ่ี 3บทแดบสบอทบดสอบและแบบประเมนิ การพดู
บรรยายภาพโดยคใชาค้ชาี้แทจ่ีกงาหใหนน้ดักคเรวยีามนยเขายีวนปบระรมรยาณายภ5าบพรโรดทยดัใช(ค้ 1า0ทคี่กะาแหนนนด)ความยาวประมาณ 5 บรรทดั (10 คะแนน)
นาน ครอบครัว วนั หยดุ สพวักนผส่อตั นว์ คสวนาุกมสสนุขานเตา่ครอยรีบาคฟรัวช้าวงนั หไอยศดุ กรพีมักผ่อน ความสุข เตา่ ยีราฟ ช้าง ไอศกรมี
ข..........ยี ..........น...............บ..........ร..........ร..........ย..........า..........ย..........ภ...............า..........พ..........เ..........ก...............(..........ณ.....1.........................0ฑ..............................ก์ค....................า.....ะ...............ร.....แ.....ร..........ใ..........าน.....ห..........ย..........น.....้ค.....ก...............).....าะ...............ร.....แ...............ป..........น..........ร...............น.....ะ...............เ.....ก.....ม...............า......นิ..............ร...............ค.....เ..........ข.....ะ...............แ.....ยี................น.........น...............น..........บ.........................ร....................ร....................ย....................า....................ย....................ภ....................4......า....................พ............................................(..........1.........................0...................................ค....................ะ....................แ.........................น3.........................น.........................)............................................................................................................................................ค..........2ะ..........แ..........น..........น.....................................................................................1...................................................................................................................0......................................................................
4 1. เน้ือหา 3 2 มคี รบท1้งั 4 มี 3 0 มี 2 มี 1 ไมป่ รากฏ
มคี รบทงั้ 4 1.1มใี จ3ความเหมาะสมมี 2 มอีง1ค์ประกอบ องไคมป์่ ระากอฏบ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ
องค์ประกอบ1.2อมงคี ์ปวารมะตกอ่ เบน่อื งองคป์ ระกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ทงั้ 4 ข้อ
1.3 มคี วามสอดคลอ้ งกบั ภาพ ทงั้ 4 ขอ้
าพ 1.4 ไมว่ กวน
2. การใชค้ าที่กาหนด ใช้คำ�าที่ ใชค้ าท่ีกาหนด ใช้คาท่กี าหนด ใช้คาท่ีกาหนด
ใช้คาท่ี ใช้คาท่กี าหนด ใช้คาทกี่ าหนด ก�ำาใหช้คนาดท8่ีก-าหนด5-7 คา 3-4 คา 0-2 คา
กาหนด 8- 5-7 คา 3-4 คา 81-001-0ค2าคา
3. การ1เ0ขียคนาสะกดคา
สะกดคาผิด สะกดคาผิด สะกดคาผิด
สะกดคาผดิ สะกดคาผดิ สะกดคาผดิ ตั้งแต่ 1-2 คา ต้ังแต่ 3-4 คา ตัง้ แต่ 5 คา
ตงั้ แต่ 1-2 คา ตงั้ แต่ 3-4 คา ต้ังแต่ 5 คา ขึน้ ไป ขนึ้ ไป ขึ้นไป
4. ความยาวของเน้อื หขาึ้นไป ข้ึนไป ขึน้ ไป เขยี นไดค้ รบ เขยี นไมค่ รบ
เขียนไดค้ รบ เขียนไม่ครบ 5 บรรทัด 5 บรรทัด
5 บรรทดั 5 บรรทดั
เกณฑ์ตดั สินระดบั คุณภาพ
พ ค850ะ–แ––น147น0ระดปับพรับคอดุณปใี ชรภ้งุ าพ ระดบั คณุ ภาพ
นน ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ดี
10
7 พอใช้
4 ปรับปรงุ
36 คมู่ อื การใช้เครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผ้เู รยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
37
3.2 แบบประเมินการพูด
คาชี้แจง ให้นกั เรียนพูดเชญิ ชวน เช่น การประหยดั นา้ -ไฟ การสวมหนา้ กากอนามยั การเกบ็ ออม เปน็ ต้น
ใชเ้ วลาในการพูดไม่เกนิ 3 นาที โดยครูแจ้งเกณฑก์ ารให้คะแนนการพดู กบั นักเรียน ดงั ต่อไปนี้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู (10 คะแนน)
รายการประเมนิ คะแนน
1. การนาเสนอเนอ้ื หา 4321 0
มคี รบทั้ง 4 มี 3 มี 2 มี 1 ไมป่ รากฏ
1.1 ใจความเหมาะสม องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ
1.2 มีความตอ่ เนอ่ื ง ทั้ง 4 ข้อ
1.3 มีความสอดคลอ้ งกับหัวขอ้
1.4 บอกประโยชนแ์ ละโทษของ มีครบทั้ง 3 มี 2 มี 1 ไมป่ รากฏ
องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ
เรื่องทนี่ าเสนอ
2. การใช้ภาษา ทงั้ 3 ขอ้
2.1 การออกเสยี งถกู ต้องตาม มีครบทงั้ 3 มี 1-2 ไมป่ รากฏ
อกั ขรวธิ ี องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ
ทั้ง 3 ข้อ
2.2 พูดเป็นธรรมชาติ
2.3 ใช้ภาษาเหมาะสม ใชเ้ วลาพูด ใชเ้ วลาพูดตา่
3. บคุ ลกิ ภาพ ครบ 2-3 กว่า 2 นาที
3.1 น้าเสียง นาที
3.2 ความมัน่ ใจ
3.3 ทา่ ทางประกอบ
4. เวลา
เกณฑต์ ดั สนิ ระดับคุณภาพ
คะแนน ระดบั คุณภาพ
8 – 10 ดี
5–7
0–4 พอใช้
ปรับปรุง
เกณฑ์ตัดสินระดบั คุณภาพการประเมินผลรวมแบบทดสอบ/แบบประเมนิ กลวธิ กี ารสอื่ สาร
คะแนน ระดับคณุ ภาพ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
31 – 40 ดเี ยย่ี ม
21 – 30 ดี
11 – 20 พอใช้
0 – 10 ปรับปรงุ
คู่มอื การใชเ้ ครื่องมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รยี น 37
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
38
การแปลผลคะแนนกลวิธกี ารสอ่ื สาร
ระดบั คณุ ภาพ คาอธิบาย
สื่อสารง่าย ๆ อย่างมีจุดมุ่งหมาย โดยเลือกใช้ส่ือหลากหลายและเหมาะสม
ดเี ยี่ยม เพ่ือให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง คานึงถึงผลกระทบของสื่อท่ีมีต่อตนเองใน
ระยะยาว
สื่อสารเรื่องราวใกล้ตัวโดยใช้ภาษา ภาพ เสียง ท่าทาง การแสดงออกทาง
ดี ศิลปะอย่างงา่ ย ๆ พร้อมทง้ั คานงึ ถงึ ประโยชน์ โทษ ทเี่ หมาะสมกับบุคคล และ
กาลเทศะ
พอใช้ สื่อสารโดยใชภ้ าพ เสียง คาพูด ท่าทางสัญลักษณ์ ได้หลากหลาย พรอ้ มท้ัง
คานงึ ถึงประโยชนแ์ ละโทษ และเหมาะสมกบั บุคคล
ปรับปรงุ สือ่ สารโดยใช้ภาพ เสยี ง คาพูด ทา่ ทางสญั ลักษณ์ใกล้ตัวได้
แบบสรุปการประเมินกลวิธกี ารสื่อสาร ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อใช้เป็นเคร่ืองมือในการประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการส่ือสาร
โดยประเมนิ จากพฤตกิ รรมการใช้กลวิธีการส่อื สาร
คาชแ้ี จง ให้ผ้ปู ระเมนิ ให้คะแนนแบบทดสอบแต่ละตอน และทาเคร่ืองหมาย ในชอ่ งทผี่ เู้ รยี น
มีระดับคุณภาพที่สอดคลอ้ งกับเกณฑ์การประเมนิ กลวิธีการสอ่ื สาร
ผ้ปู ระเมิน นักเรยี นประเมินตนเอง ครู
เพื่อนนักเรยี น ผู้ปกครอง
ผปู้ ระเมนิ ช่ือ..............................................................นามสกลุ ............................................................................
เลขที่ ช่อื -สกลุ คะแนนที่ไดจ้ ากการทดสอบ ดเี ยีย่ ม ระดับคุณภาพ หมายเหตุ
และการประเมนิ การพูด
ดี พอใช้ ปรับปรุง
ตอนท่ี 1 ตอนท่ี 2 ตอนท่ี 3 รวมคะแนน
1 (10) (10) (20) (40)
2
3
4
…
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 38 คูม่ ือการใช้เครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
39
วิธีการใช้เคร่ืองมือ
จากเครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการสื่อสาร เปน็ แบบทดสอบ
ประกอบด้วย แบบทดสอบกลวิธีการสื่อสาร มี 3 ตอน คือ ตอนท่ี 1 – 2 (จับคู่) ตอนที่ 3.1 (ตอบอิสระ)
และแบบประเมนิ กลวธิ ีการสอื่ สาร มี 1 ตอน คือ ตอนที่ 3.2 (การพดู )
การใช้เครอ่ื งมือวัดและประเมินผลข้างตน้ สามารถใชใ้ นการประเมินระหวา่ งเรียน และหลงั การจัดการ
เรียนรู้ เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะสาคัญ
ของผ้เู รียน ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3
การพฒั นาผู้เรียนด้วยการใช้เคร่ืองมือประเมินแบบทดสอบตอนที่ 1 – 3 ควรอยใู่ นระดับพอใช้ ข้ึนไป
และการประเมินผลรวมแบบทดสอบ/แบบประเมินกลวิธีการสื่อสาร และการแปลผลคะแนน ควรมีระดับ
คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี ข้นึ ไป
เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ดา้ นความสามารถในการสื่อสาร
ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
เครื่องมือแต่ละเคร่ืองมือมีการกาหนดเกณฑ์การให้คะแนนและแปลผลคะแนนที่สอดคล้อง
และเหมาะสมกับวิธกี ารวดั พฤตกิ รรม โดยกาหนดการแปลผลคะแนนของเครื่องมือแตล่ ะเคร่ืองมือเป็น 3 ระดับ
ไดแ้ ก่ ระดับดี ระดบั พอใช้ และระดับปรบั ปรุง ซ่งึ การแปลผลคะแนนดังกลา่ วใช้ในการตัดสินระหว่างเรียน
สาหรับเกณฑ์การตัดสินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนได้กาหนดเกณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับระดับ
ความสามารถท้ัง 4 ระดบั ไดแ้ ก่ ระดบั ดีเย่ียม ระดับดี ระดับพอใช้ และระดับปรับปรงุ โดยครผู ้สู อนสามารถนา
เครื่องมือท้ังหมดของแต่ละด้าน ดังปรากฏมาแล้วข้างต้น ซ่ึงประกอบด้วย ทักษะการฟัง ทักษะการพูด ทักษะ
การอ่าน ทักษะการเขียน และกลวิธีการส่ือสาร มาใช้ในการตัดสินสมรรถนะช่วงช้ัน โดยมีผลรวมคะแนน
ทงั้ 5 ด้าน (200 คะแนน) ซ่ึงมรี ายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้
ด้านท่ี 1 ทกั ษะการฟังและดู คะแนนเต็ม 40 คะแนน
ดา้ นท่ี 2 ทักษะการพูด คะแนนเตม็ 40 คะแนน
ด้านท่ี 3 ทกั ษะการอ่าน คะแนนเต็ม 40 คะแนน
ด้านที่ 4 ทกั ษะการเขยี น คะแนนเต็ม 40 คะแนน
ดา้ นท่ี 5 กลวธิ กี ารสอ่ื สาร คะแนนเตม็ 40 คะแนน
เกณฑ์ตัดสินระดบั คุณภาพการประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ดา้ นความสามารถในการสื่อสาร
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
151 – 200 ดีเย่ยี ม
101 – 150 ดี
51 – 100 พอใช้
ปรับปรงุ
0 – 50
คู่มอื การใชเ้ ครือ่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน 39 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
40
2.22.2เคครวอ่ื างมสอื าปมราะรเมถินในคกวาารมคสิดามารถในการคิด
กรอบโครงสรา้ งเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ด้านความสามารถในการคดิ
นิยามสมรรถนะสาคญั องค์ประกอบ / ตัวช้ีวดั ลกั ษณะเคร่ืองมือ
ความสามารถในการคิด การคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ - แบบทดสอบเชิง
เป็นความสามารถในการคิด สร้างชิ้นงานหรือเสนอวิธีการเพ่ือแก้ปัญหา สถานการณ์
วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ อย่างง่ายและไม่ซับซ้อน โดยดัดแปลงจากส่ิงท่ีมีอยู่ - แบบประเมิน
การคิดอย่างสร้างสรรค์ หรือนาสิ่งอื่นมาทดแทนส่ิงที่ขาด บอกรายละเอียด พฤติกรรมสาหรบั
การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของงานหรือความคิด และมีการตรวจสอบช้ินงาน ครูประเมนิ นักเรยี น
และการคิดเป็นระบบ เพื่อนา เบื้องต้นได้ - แบบประเมิน
ไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ พฤติกรรมสาหรบั
สารสนเทศเพ่ือการตัดสินใจ บอกความเข้าใจของตนเองเก่ียวกับสถานการณ์ นักเรียนประเมิน
เก่ียวกับตนเอง และสังคม ในชีวิตประจาวันและตัดสินใจเลือกหลักฐาน ตนเอง
ไดอ้ ย่างเหมาะสม เชิงประจักษ์ พร้อมแสดงการแปลความหมาย - แบบประเมนิ
ข้อมลู เพ่ือสนับสนนุ ความเขา้ ใจของตนเอง ผลงาน/ชิ้นงาน
การคดิ เป็นระบบ
ระบุปัจจัยท่ีเก่ียวข้องท่ีเห็นได้ชัดเจนในระบบ
หรือสถานการณ์ใน ชีวิตประจาวัน โดยสามารถ
ระบุความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ และสามารถ
บอกผลลัพธข์ องระบบหรอื สถานการณ์ได้
เคร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ดา้ นความสามารถในการคิด
จากกรอบโครงสร้างเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการคิด
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 สามารถนามาสรา้ งเคร่ืองมอื ประเมนิ แบบต่าง ๆ ไดด้ งั น้ี
แบบทดสอบเชิงสถานการณ์
แบบประเมนิ พฤติกรรมสาหรับครูประเมนิ นักเรยี น
แบบประเมินพฤติกรรมสาหรับนักเรยี นประเมนิ ตนเอง
แบบประเมินผลงาน/ชนิ้ งาน
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 40 คมู่ ือการใชเ้ คร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
41
แบบทดสอบเชิงสถานการณ์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 – 3
ชื่อ ...........................................................................................................ชน้ั ......... ..........เลขที่...........................
โรงเรยี น ..............................................................................................................................................................
กาหนดสถานการณ์ให้นักเรียนทาพวงมาลัยให้ได้ยาวท่ีสุดจากวัสดุที่กาหนดให้ ในเวลา 10 นาที
โดยครูนาตัวอยา่ งรูปภาพพวงมาลัยที่หลากหลายให้นักเรยี นดู และนกั เรยี นลงมอื ปฏิบตั ทิ าพวงมาลัย
วสั ดุ/อุปกรณ์
1. กระดาษ A4 จานวน 4 แผน่
2. ไม้บรรทัด
3. เทปใส /กาว
4. สายวดั
จากสถานการณ์ ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปนี้
1. ส่งิ ท่นี กั เรยี นจะต้องทาคอื อะไร
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. นักเรยี นมกี ารวางแผนในการทางานอย่างไร
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. นกั เรียนเลือกรปู แบบการทาพวงมาลยั เพ่อื ให้ได้ยาวที่สดุ พร้อมให้เหตุผลประกอบ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบเชิงสถานการณ์
ความสามารถ ระดบั คณุ ภาพ 2 คะแนน
ในการคดิ 4 คะแนน 3 คะแนน 1 คะแนน
ขอ้ 1 (ระดับ ดเี ยี่ยม) (ระดับ ด)ี (ระดบั พอใช)้ (ระดับ ปรับปรงุ )
การคดิ สร้างชนิ้ งานหรือเสนอ สร้างชน้ิ งานหรือเสนอ เสนอคาตอบไดห้ ลาย เสนอความคดิ อิสระ
วิธีการเพือ่ แก้ปญั หา วิธีการเพ่อื แก้ปัญหา ประเภทและหลาย คิดคลอ่ งแคลว่
อยา่ งสรา้ งสรรค์ อย่างงา่ ยและไม่ซับซ้อน อย่างง่ายและไมซ่ บั ซ้อน ทิศทางจากส่ิงของ คิดหลากหลาย
ด้วยการผสมผสาน โดยดดั แปลงจากส่งิ ทม่ี ีอยู่ หรือสถานการณใ์ น ได้บ้าง ผลิตผลงาน
จากแนวคดิ ทห่ี ลากหลาย หรือนาสิ่งอ่ืนมาทดแทน ชวี ติ ประจาวนั โดยทงี่ านนัน้ ยงั
และดดั แปลงจากส่ิงทม่ี ีอยู่ ส่ิงทข่ี าด บอกรายละเอียด ผลติ ชน้ิ งานทแี่ ตกต่าง อาศัยต้นแบบ
หรือนาสิ่งอนื่ มาทดแทน ของงานหรอื ความคิด จากต้นแบบหรือตาม บอกรายละเอยี ด
ส่ิงทีข่ าด บอกรายละเอยี ด และมีการตรวจสอบ จนิ ตนาการภายใต้ ของงานหรอื
ของงาน หรอื ความคดิ ชิ้นงานเบอื้ งต้นได้ เงือ่ นไขง่าย ๆ ได้ ความคิดได้
และมกี ารตรวจสอบช้ินงาน
เบ้ืองตน้ ได้
คมู่ ือการใช้เครอื่ งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รยี น 41 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
42
ความสามารถ ระดบั คุณภาพ
ในการคิด 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
(ระดับ ดเี ยี่ยม) (ระดบั ดี) (ระดับ พอใช้) (ระดบั ปรับปรงุ )
ขอ้ 2 ระบุความเข้าใจที่ บอกความเข้าใจของ บอกความเข้าใจของ บอกความเข้าใจของ
การคดิ หลากหลายจาก ตนเองเกี่ยวกับ ตนเองเกีย่ วกบั ตนเองเก่ียวกบั
อยา่ งมีวจิ ารณญาณ สถานการณ์ที่ไมซ่ ับซ้อน สถานการณ์ใน สถานการณ์ใน สถานการณ์ใน
และตดั สนิ ใจเลือกคาตอบ ชีวิตประจาวัน ชวี ติ ประจาวันและ ชวี ิตประจาวันพรอ้ ม
เพยี งคากลา่ วอ้างเดยี ว และตดั สนิ ใจเลอื ก ตดั สนิ ใจเลือก ระบุเหตุผล
(ข้อมูล หลกั ฐาน เหตุผล หลักฐานเชงิ ประจักษ์ หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์
คาอธบิ าย) รวมทงั้ พร้อมแสดงการแปล เพื่อสนบั สนนุ ความ
ประเมนิ ความเหมาะสม ความหมายข้อมลู เขา้ ใจของตนเอง
ของคากลา่ วอา้ งพร้อม เพื่อสนบั สนนุ ความ
แสดงการแปลความหมาย เข้าใจของตนเอง
ข้อมลู และหลกั ฐานเชิง
ประจักษ์
ขอ้ 3 ระบุปัจจยั ท่ีเกยี่ วขอ้ งที่ ระบปุ จั จยั ทเ่ี ก่ียวข้องที่ ระบุปัจจยั ที่เก่ียวขอ้ ง ระบปุ จั จยั ที่
การคิด เหน็ ไดช้ ดั เจน และปัจจยั เห็นได้ชดั เจนในระบบ ท่ีเห็นได้ชดั เจนใน เกย่ี วขอ้ งที่เห็นได้
เป็นระบบ อน่ื ๆ ท่เี ก่ยี วข้อง ใน หรอื สถานการณใ์ น ระบบหรือสถานการณ์ ชัดเจนในระบบหรือ
ระบบหรอื สถานการณ์ ชีวติ ประจาวัน ในชวี ติ ประจาวัน สถาน
เชอื่ มโยงจดั หมวดหมู่ หรอื โดยสามารถระบุ โดยสามารถระบุ การณ์ทไี่ มซ่ ับซ้อน
กาหนดตวั แปร และ ความสมั พนั ธ์ของปจั จยั ความสัมพนั ธ์ของ แตไ่ มส่ ามารถระบุ
วเิ คราะหค์ วามสัมพันธ์เชิง ต่าง ๆ และสามารถบอก ปจั จยั ต่าง ๆ ได้ ความสมั พันธ์ของ
เหตแุ ละผล ผลลพั ธข์ องระบบหรอื ปจั จยั ตา่ ง ๆ ได้
สถานการณ์ได้
วิธีการใชแ้ บบทดสอบเชิงสถานการณ์
แบบทดสอบเชิงสถานการณ์ เป็นแบบทดสอบที่กาหนดสถานการณ์ ให้นักเรียนตอบคาถาม 3 ข้อ
แตล่ ะคาถามตามองคป์ ระกอบ สมรรถนะความสามารถในการคิด ดังน้ี
ข้อ 1 การคิดอย่างสรา้ งสรรค์
ขอ้ 2 การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ
ขอ้ 3 การคิดเปน็ ระบบ
เมื่อนักเรียนตอบคาถามทั้ง 3 ข้อเรียบร้อยแล้ว ให้ครูผู้สอน ดาเนินการตรวจให้คะแนนนักเรียน
ตามเกณฑ์การประเมิน สมรรถนะของแต่ละด้าน (การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิด
เป็นระบบ) ให้รวมคะแนนทั้งหมดและนาคะแนนท่ีได้ลงในแบบบนั ทึกคะแนน
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 42 ค่มู อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
43
แบบบนั ทึกคะแนนแบบทดสอบเชงิ สถานการณ์
ความสามารถในการคดิ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 3
ความสามารถในการคดิ / คะแนน คะแนนรวม
ดา้ นการคิดอยา่ ง ด้านการคดิ อย่าง ดา้ นการคดิ (12 คะแนน)
เลขที่ ช่ือ – สกลุ สรา้ งสรรค์ มวี จิ ารณญาณ เป็นระบบ ผลการประเมิน
(4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน)
1
2
3
4
5
นาคะแนนท่ไี ด้ไปแปลผลการประเมินตามเกณฑ์ ดังน้ี
ได้ 10 – 12 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม
ได้ 7 – 9 คะแนน มีผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ดี
ได้ 4 – 6 คะแนน มผี ลการประเมิน อยู่ในระดบั พอใช้
ได้ 1 – 3 คะแนน มีผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถในการคิด
ในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีระดับ
ความสามารถทีเ่ พม่ิ สงู ขึ้นจากระดับเดิม
แบบประเมนิ พฤติกรรมของผ้เู รยี นความสามารถในการคิด (การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์)
สาหรบั ครูประเมนิ นักเรยี น ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3
คาชี้แจง ให้ครพู ิจารณารายการประเมิน แลว้ ใส่เครือ่ งหมาย ลงในช่อง ใช่ หรอื ไมใ่ ช่ ท่ตี รงกับพฤติกรรม
ของนักเรยี น
ผลการประเมิน
ข้อท่ี รายการประเมนิ ใช่ ไม่ใช่
1. นกั เรียนสามารถผลิตช้ินงานโดยอาศัยต้นแบบ และบอกรายละเอยี ด
ของชน้ิ งานได้
2. นกั เรยี นสามารถผลิตชิ้นงานที่แตกตา่ งจากตน้ แบบหรือตามจนิ ตนาการ
ภายใตเ้ งือ่ นไขง่าย ๆ ได้
3. นักเรยี นสามารถสรา้ งช้ินงานโดยดดั แปลงจากสง่ิ ที่มีอยู่ หรือนาส่งิ อ่ืนมา
ทดแทนสง่ิ ท่ีขาด และมกี ารตรวจสอบชิ้นงานเบอ้ื งตน้ ได้
4. นักเรยี นสามารถสรา้ งช้นิ งานดว้ ยการผสมผสานจากแนวคิดทห่ี ลากหลาย
และดดั แปลงจากส่งิ ท่ีมอี ยู่ หรอื นาสงิ่ อ่ืนมาทดแทนสิ่งที่ขาด และมกี าร ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตรวจสอบชิน้ งานเบือ้ งต้นได้
รวม
คูม่ อื การใชเ้ ครอื่ งมือประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน 43
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
44
เกณฑ์การประเมนิ
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มคี วามสามารถ ในระดบั ดเี ยย่ี ม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มคี วามสามารถ ในระดบั ดี
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มคี วามสามารถ ในระดับ พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1 มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรุง
หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑก์ ารประเมินข้างตน้ ใหอ้ ยู่ในระดบั ปรับปรุง
สรุปผลการประเมนิ ความสามารถในการคดิ (การคิดอย่างสร้างสรรค)์
นกั เรียนอยใู่ นระดับ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยี่ยม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรับปรงุ ได้ 1 คะแนน
แบบประเมินพฤติกรรมของผเู้ รยี นความสามารถในการคิด (การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ)
สาหรับครูประเมินนกั เรยี น ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
คาชีแ้ จง ใหค้ รูพจิ ารณารายการประเมิน แลว้ ใสเ่ ครื่องหมาย ลงในช่อง ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ ทตี่ รงกับพฤติกรรมของนกั เรียน
ผลการประเมิน
ขอ้ ท่ี รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่
1. นกั เรยี นสามารถบอกข้อมูลเก่ียวกบั เหตกุ ารณ์ในชีวติ ประจาวนั ได้
2. นกั เรยี นสามารถเลือกหลกั ฐานสนับสนนุ ขอ้ มูลเก่ียวกับเหตุการณ์ใน
ชวี ติ ประจาวนั ได้
3. นักเรียนสามารถอธิบายข้อมูลเพ่ิมเติมจากหลักฐานที่เลอื กเพื่อสนบั สนนุ
ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เหตุการณใ์ นชีวิตประจาวันได้
4. นักเรยี นสามารถบอกขอ้ ดีข้อเสียของหลักฐานที่เลือกเพื่อสนับสนุน
เกี่ยวกบั เหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจาวัน
รวม
เกณฑ์การประเมนิ มคี วามสามารถ ในระดับ ดีเยย่ี ม
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มคี วามสามารถ ในระดับ ดี
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มคี วามสามารถ ในระดับ พอใช้
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1 มคี วามสามารถ ในระดับ ปรับปรุง
หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างต้น ให้อย่ใู นระดบั ปรบั ปรงุ
สรุปผลการประเมนิ ความสามารถในการคิด (การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ)
นกั เรียนอยู่ในระดบั ..................................................... ได้ .............. คะแนน
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ระดบั ดเี ย่ยี ม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
ระดับ พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรบั ปรุง ได้ 1 คะแนน
44 คู่มือการใชเ้ ครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)