คู่มือการใช้เครื่องประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1-3

45

แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคดิ (การคดิ เปน็ ระบบ)
สาหรบั ครูประเมนิ นักเรียน ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3

คาชแี้ จง ให้ครูพิจารณารายการประเมนิ แลว้ ใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ทตี่ รงกับพฤตกิ รรมของนักเรียน
ผลการประเมนิ
ขอ้ ท่ี รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่

1. นักเรียนสามารถบอกสาเหตุของปญั หาท่ีเห็นไดช้ ัดเจนของเหตุการณใ์ น
ชวี ิตประจาวนั ได้
2. นกั เรียนสามารถบอกความสัมพันธ์ของสาเหตุและปัญหาทเี่ หน็ ได้ชัดเจน
ของเหตุการณ์ในชีวติ ประจาวันได้
3. นักเรยี นสามารถบอกผลทีเ่ กิดขน้ึ ของเหตุการณใ์ นชีวิตประจาวันได้

4. นักเรยี นสามารถเชื่อมโยงความสมั พนั ธ์เชิงเหตุและผลของเหตกุ ารณ์ใน
ชวี ิตประจาวนั ได้
รวม

เกณฑก์ ารประเมนิ
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มีความสามารถ ในระดับ ดีเยย่ี ม
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มีความสามารถ ในระดบั ดี
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มีความสามารถ ในระดับ พอใช้
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1 มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรุง
หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างต้น ให้อยูใ่ นระดับ ปรับปรุง

สรปุ ผลการประเมนิ ความสามารถในการคิด (การคิดเป็นระบบ)
นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยีย่ ม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดับ ปรับปรุง ได้ 1 คะแนน

วิธีการใชแ้ บบประเมินพฤติกรรมสาหรับครปู ระเมนิ นักเรยี นความสามารถในการคดิ จดั ทาไว้ 3 ฉบบั คอื ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
1) แบบประเมินพฤตกิ รรมความสามารถในการคดิ (การคิดอย่างสรา้ งสรรค)์ สาหรบั ครูประเมนิ นักเรยี น
2) แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด (การคิดอย่างมีวิจารณญาณ) สาหรับครู

ประเมินนกั เรียน
3) แบบประเมนิ พฤติกรรมความสามารถในการคิด (การคดิ เปน็ ระบบ) สาหรบั ครปู ระเมินนักเรียน
เคร่ืองมือประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด สาหรับครูประเมินนักเรียน ระดับ

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 - 3 เป็นเคร่ืองมือที่ประเมินแยกแต่ละด้านของความสามารถในการคิด ในการประเมิน
ให้ครูพิจารณารายการประเมิน ซ่ึงเร่ิมจากระดับ ปรับปรุง จนถึงระดับ ดีเย่ียม ให้ครูผู้ประเมิน ใส่เคร่ืองหมาย
 ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ท่ีตรงกับพฤติกรรมของนักเรียนครบทุกรายการประเมิน และนาผลการประเมิน
มาแปลผลตามเกณฑ์การประเมินระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ ระดับดี ระดับดีเย่ียม และนาผลการประเมิน
ในแตล่ ะด้านมาสรปุ ในภาพรวม ดงั น้ี

คมู่ อื การใชเ้ คร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน 45
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

46

แบบสรปุ การประเมนิ พฤติกรรมความสามารถในการคดิ
สาหรับครปู ระเมินนกั เรียน ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3

ความสามารถในการคิด / คะแนน คะแนนรวม
ดา้ นการคิดอยา่ ง ดา้ นการคดิ อยา่ ง ด้านการคิด (12 คะแนน)
เลขท่ี ชื่อ – สกุล สรา้ งสรรค์ มวี ิจารณญาณ เป็นระบบ ผลการประเมิน

(4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน)

1
2
3
4
5

นาคะแนนที่ได้ไปแปลผลการประเมินตามเกณฑ์ ดังน้ี
ได้ 10 – 12 คะแนน มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ดีเยยี่ ม
ได้ 7 – 9 คะแนน มีผลการประเมิน อยู่ในระดบั ดี
ได้ 4 – 6 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดับ พอใช้
ได้ 1 – 3 คะแนน มีผลการประเมนิ อยู่ในระดับ ปรบั ปรงุ

ในกรณี ผลการประเมิน ไม่ตรงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างต้น ให้อยใู่ นระดบั ปรบั ปรงุ
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถในการคดิ
ในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีระดับ
ความสามารถทเี่ พ่ิมสูงขนึ้ จากระดบั เดิม

แบบประเมนิ พฤติกรรมความสามารถในการคดิ (การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์)
สาหรับนักเรยี นประเมินตนเอง ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3

คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นพจิ ารณารายการประเมิน แลว้ ใส่เครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ ง ใช่ หรอื ไมใ่ ช่ ทต่ี รงกบั
พฤติกรรมของตนเอง
ผลการประเมิน
ขอ้ ที่ รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่

1. ฉันสามารถผลิตชิ้นงานโดยอาศยั ต้นแบบ และบอกรายละเอียด
ของช้นิ งานได้
2. ฉนั สามารถผลติ ชนิ้ งานที่แตกต่างจากต้นแบบหรอื ตามจนิ ตนาการภายใต้
เงื่อนไขงา่ ย ๆ ได้
3. ฉันสามารถสรา้ งช้นิ งานโดยดัดแปลงจากสงิ่ ท่ีมีอยู่ หรือนาสงิ่ อน่ื มา
ทดแทนส่งิ ที่ขาด และมีการตรวจสอบชนิ้ งานเบื้องต้นได้
4. ฉันสามารถสร้างชิ้นงานดว้ ยการผสมผสานจากแนวคิดทห่ี ลากหลายและ
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ดัดแปลงจากสิง่ ที่มอี ยู่ หรือนาสิ่งอืน่ มาทดแทนสิง่ ทขี่ าด และมกี าร
ตรวจสอบชิ้นงานเบอื้ งตน้ ได้
รวม

46 คู่มอื การใชเ้ ครือ่ งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

47

เกณฑ์การประเมิน
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มีความสามารถ ในระดบั ดีเยี่ยม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มคี วามสามารถ ในระดบั ดี
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มีความสามารถ ในระดับ พอใช้
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1 มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรงุ
หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑก์ ารประเมนิ ข้างต้น ใหอ้ ยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ

สรุปผลการประเมินความสามารถในการคิด (การคดิ อยา่ งสร้างสรรค์)
นักเรียนอยู่ในระดับ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดบั ดเี ยีย่ ม ได้ 4 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดบั ปรับปรุง ได้ 1 คะแนน

แบบประเมนิ พฤติกรรมความสามารถในการคิด (การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ)
สาหรับนักเรยี นประเมนิ ตนเอง ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 – 3

คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนพิจารณารายการประเมนิ แล้วใสเ่ ครื่องหมาย ลงในชอ่ ง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่ตรงกับ
พฤติกรรมของตนเอง
ผลการประเมนิ
ข้อที่ รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่

1. ฉนั สามารถบอกขอ้ มูลเก่ยี วกับเหตกุ ารณใ์ นชีวติ ประจาวันได้

2. ฉนั สามารถเลอื กหลักฐานสนับสนนุ ข้อมลู เกยี่ วกับเหตกุ ารณ์ใน
ชีวติ ประจาวนั ได้
3. ฉนั สามารถอธบิ ายข้อมูลเพิ่มเติมจากหลักฐานที่เลือกเพื่อสนบั สนุนข้อมูล
เกี่ยวกบั เหตุการณในชวี ิตประจาวนั ได้
4. ฉันสามารถบอกข้อดีข้อเสียของหลักฐานทเี่ ลือกเพ่อื สนับสนนุ เก่ยี วกบั
เหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจาวนั
รวม

เกณฑ์การประเมิน
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มีความสามารถ ในระดบั ดเี ยย่ี ม
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มคี วามสามารถ ในระดบั ดี
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มีความสามารถ ในระดับ พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1 มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรุง
หมายเหตุ ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑก์ ารประเมินข้างต้น ใหอ้ ยใู่ นระดบั ปรบั ปรงุ

สรปุ ผลการประเมินความสามารถในการคดิ (การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ)
นกั เรยี นอยใู่ นระดับ ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยีย่ ม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ระดับ พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดบั ปรบั ปรงุ ได้ 1 คะแนน

คมู่ อื การใช้เครือ่ งมือประเมินสมรรถนะส�ำคญั ของผูเ้ รียน 47
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

48

แบบประเมนิ พฤติกรรมความสามารถในการคดิ (การคดิ เป็นระบบ)
สาหรับนักเรียนประเมนิ ตนเอง ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3

คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนพิจารณารายการประเมนิ แล้วใสเ่ คร่อื งหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ทตี่ รงกับ
พฤติกรรมของตนเอง
ผลการประเมนิ
ข้อท่ี รายการประเมนิ ใช่ ไม่ใช่

1. ฉนั สามารถบอกสาเหตุของปัญหาท่ีเห็นได้ชัดเจนของเหตุการณ์ในชีวิตประจาวนั ได้

2. ฉนั สามารถบอกความสมั พันธ์ของสาเหตุและปัญหาทเี่ ห็นไดช้ ัดเจนของ
เหตกุ ารณใ์ นชวี ติ ประจาวนั ได้
3. ฉนั สามารถบอกผลที่เกิดขน้ึ ของเหตุการณ์ในชวี ติ ประจาวันได้

4. ฉนั สามารถเชือ่ มโยงความสัมพนั ธ์เชงิ เหตุและผลของเหตุการณใ์ น
ชีวติ ประจาวันได้
รวม

เกณฑก์ ารประเมนิ
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มคี วามสามารถ ในระดับ ดีเยยี่ ม
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มคี วามสามารถ ในระดับ ดี
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มคี วามสามารถ ในระดับ พอใช้
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1 มคี วามสามารถ ในระดับ ปรับปรุง
หมายเหตุ ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ขา้ งตน้ ใหอ้ ย่ใู นระดบั ปรบั ปรงุ

สรปุ ผลการประเมนิ ความสามารถในการคิด (การคิดเปน็ ระบบ)
นักเรยี นอย่ใู นระดบั ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยย่ี ม ได้ 4 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดบั ปรับปรงุ ได้ 1 คะแนน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 วิธกี ารใชแ้ บบประเมินพฤติกรรมสาหรับนักเรียนประเมินตนเอง จดั ทาไว้ 3 ฉบับ คอื
1) แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด (การคิดอย่างสร้างสรรค์) สาหรับนักเรียน

ประเมินตนเอง
2) แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด (การคิดอย่างมีวิจารณญาณ) สาหรับนักเรียน

ประเมนิ ตนเอง
3) แบบประเมนิ พฤติกรรมความสามารถในการคดิ (การคดิ เปน็ ระบบ) สาหรับนักเรียนประเมินตนเอง
เคร่ืองมือประเมินพฤติกรรมความสามารถในการคิด สาหรับนักเรียนประเมินตนเอง ระดับ

ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 เป็นเครื่องมือท่ีประเมินแยกแต่ละด้านของความสามารถในการคิด
ในการประเมินให้นักเรียนพิจารณารายการประเมิน ซ่ึงเริ่มจากระดับปรับปรุง จนถึงระดับดีเยี่ยม
ให้นักเรียนประเมินตนเอง โดยใส่เครื่องหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรือ ไม่ใช่ ที่ตรงกับพฤติกรรมของตนเอง
ครบทุกรายการประเมิน และนาผลการประเมินมาแปลผล ระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ ระดับดี ระดับดีเย่ียม
และนาผลการประเมนิ ในแตล่ ะด้านมาสรปุ ในภาพรวม ดงั น้ี

48 คูม่ ือการใช้เคร่อื งมือประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผ้เู รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

49

แบบสรปุ การประเมินพฤตกิ รรมความสามารถในการคิด
สาหรับนกั เรยี นประเมินตนเอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3

สมรรถนะความสามารถในการคดิ / คะแนน คะแนนรวม
ดา้ นการคิดอย่าง ด้านการคดิ อยา่ ง ดา้ นการคดิ (12 คะแนน)
เลขที่ ชือ่ – สกุล สรา้ งสรรค์ มีวิจารณญาณ เปน็ ระบบ ผลการประเมิน

(4 คะแนน) (4 คะแนน) (4 คะแนน)

1
2
3
4
5

เกณฑก์ ารประเมิน
ได้ 10 – 12 คะแนน มีผลการประเมิน อยู่ในระดบั ดเี ย่ียม
ได้ 7 – 9 คะแนน มีผลการประเมิน อยู่ในระดับ ดี
ได้ 4 – 6 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดับ พอใช้
ได้ 1 – 3 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดับ ปรับปรงุ
ในกรณี ผลการประเมนิ ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างตน้ ใหอ้ ยูใ่ นระดบั ปรับปรุง
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีที่ผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถ

ในการคดิ ในแตล่ ะด้านอยู่ในปรับปรุง ระดบั พอใช้ หรือระดบั ดี ครคู วรหาแนวทางการพัฒนานักเรยี นให้มีระดับ
ความสามารถทีเ่ พม่ิ สูงขึน้ จากระดับเดิม

แบบประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน

ชื่อผลงาน/ชน้ิ งาน ............................................................................................................................. ...................
ชอ่ื ผู้รับการประเมิน .................................................................... ชัน้ ประถมศึกษาปที .่ี ................เลขที.่ ...............
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ช่อื ผู้ประเมิน .........................................................................................................................................................

ประเดน็ การพจิ ารณา คะแนน
1. ความคิดสรา้ งสรรคใ์ นการสร้างชน้ิ งาน 4321

2. การนาเสนอรายละเอยี ดของชนิ้ งาน

3. ความสาคญั และประโยชนข์ องชิน้ งาน

คะแนนรวม
คะแนนรวมท้ังหมด

สรปุ ระดบั ความสามารถ : ......................................................................................................................... ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3

คมู่ ือการใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผูเ้ รยี น 49
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

50

เกณฑ์การใหค้ ะแนนตวั อย่างแบบประเมินผลงาน/ช้นิ งาน
1. ประเดน็ พจิ ารณา : ความคิดสรา้ งสรรค์ในการสรา้ งผลงาน/ชน้ิ งาน
คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
4 สรา้ งผลงาน/ชิน้ งาน ด้วยวธิ กี ารท่ีซบั ซ้อน โดยการผสมผสานจากแนวคดิ ทห่ี ลากหลาย
3 สร้างผลงาน/ชิ้นงาน ด้วยวธิ ีการที่ซับซอ้ น โดยดัดแปลงจากสิ่งที่มีอยู่
2 สร้างผลงาน/ชิ้นงาน ด้วยวธิ กี ารอยา่ งงา่ ย โดยแตกตา่ งจากต้นแบบ
1 สรา้ งผลงาน/ชิ้นงาน ด้วยวิธีการอย่างงา่ ยโดยอาศัยต้นแบบ
2. ประเดน็ พจิ ารณา : การนาเสนอรายละเอียดของผลงาน/ชิน้ งาน
คะแนน เกณฑ์การประเมิน
4 นาเสนอรายละเอียดของผลงาน/ชิน้ งาน ได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม สอดคล้องกบั
กระบวนการคดิ
3 นาเสนอรายละเอียดของผลงาน/ช้นิ งาน ได้อย่างชัดเจน โดยสอดคล้องกับกระบวนการคดิ
2 นาเสนอรายละเอยี ดของผลงาน/ชิน้ งาน ได้อย่างชดั เจน
1 นาเสนอรายละเอยี ดของผลงาน/ช้ินงาน ได้เพียงบางสว่ น
3. ประเด็นพิจารณา : ความสาคัญ และประโยชนข์ องผลงาน/ชิน้ งาน
คะแนน เกณฑ์การประเมนิ
4 นาผลงาน/ชิน้ งานไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน
3 บอกประโยชนข์ องผลงาน/ช้ินงาน และสามารถนาไปใช้งานไดห้ ลายดา้ น
2 บอกประโยชนข์ องผลงาน/ชิ้นงาน และสามารถนาไปใช้งานได้
1 บอกความสาคัญและประโยชน์ของผลงาน/ชิน้ งานได้

วิธีการใช้แบบประเมินผลงาน/ชิ้นงาน ครูผู้สอนประเมินผลงาน/ชิ้นงาน ใน 3 ประเด็น คือ
1) ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงาน/ช้ินงาน 2) การนาเสนอรายละเอียดของผลงาน/ช้ินงาน และ
3) ความสาคัญ และประโยชนข์ องผลงาน/ช้ินงาน ในการดาเนินการประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน ครผู ูส้ อนนาผลงาน
นักเรียนมาประเมินตามเกณฑ์ให้คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนที่ได้จากการประเมิน 3 ประเด็น มารวม
คะแนน และแปลผลระดบั ความสามารถในการคิด ไดด้ ังนี้

ได้ 10 – 12 คะแนน มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดเี ยย่ี ม
ได้ 7 – 9 คะแนน มผี ลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ดี
ได้ 4 – 6 คะแนน มีผลการประเมิน อยู่ในระดับ พอใช้
ได้ 1 – 3 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดับ ปรบั ปรุง
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณที ี่ผลการประเมนิ พบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถในการคิด
ในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียน ให้มีระดับ
ความสามารถทีเ่ พิ่มสูงข้ึนจากระดบั เดมิ

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 50 คูม่ ือการใชเ้ ครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

51

2.3 เคควรา่ือมงสมาือมปาระถเใมนนิ กคาวราแมกสป้ าัญมหาราถในการแกป้ ญั หา

กรอบโครงสรา้ งเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ดา้ นความสามารถในการแกป้ ญั หา

นยิ ามสมรรถนะสาคญั ตวั ชว้ี ดั ลกั ษณะเคร่ืองมอื
ความสามารถในการแก้ปัญหา ตงั้ คาถามได้ครอบคลุมประเด็นปัญหา - แบบทดสอบเชิง
คือความสามารถในการระบุปัญหา เพ่ือระบุปัญหาอย่างง่ายเก่ียวกับชุมชน สถานการณ์
และสาเหตุของปัญหาท่ียากและ หรือท้องถิ่นได้ รวบรวมข้อมูลและแนวคิด - แบบประเมนิ
ซับซ้อนและมีผลกระทบต่อสังคม ท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหาโดยคานึงถึงความ พฤติกรรมสาหรับครู
เสนอวิธีการระบุสาเหตุของปัญหาและ เหมาะสม ออกแบบวิธีการหรือทางเลือก ประเมนิ นกั เรียน
ประเมินผลกระทบของปัญหาโดยใช้ ในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งระบุข้อดีและ - แบบประเมิน
วิธีการท่ีเหมาะสม วิเคราะห์ปัญหาท่ี ข้อเสียของวิธีการหรือทางเลือกและ พฤติกรรมสาหรบั
ซับซ้อนออกเป็นปัญหาย่อย ๆ ดาเนนิ การแกป้ ัญหา นกั เรียนประเมิน
ออกแบบ วิธีการแก้ปัญหา เสนอ ตนเอง
ทางเลือกในการแก้ปัญหาโดยมีเกณฑ์ - แบบประเมนิ ผลงาน/
สาหรับเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม ชิ้นงาน
วางแผนการปฏิบัติเพ่ือแก้ปัญหาและ - แบบสัมภาษณ์
ใช้ ก ร ะ บ ว น ก า ร ติ ด ต า ม แ ผ น ก า ร
แก้ปญั หาเพอ่ื การตัดสินใจได้

เครอื่ งมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ดา้ นความสามารถในการแกป้ ัญหา
จากกรอบโครงสร้างเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการแก้ปัญหา
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 – 3 สามารถนามาสร้างเครอื่ งมอื ประเมนิ แบบต่าง ๆ ไดด้ ังน้ี

 แบบทดสอบเชงิ สถานการณ์
 แบบประเมินพฤติกรรมสาหรับครูประเมนิ นักเรยี น
 แบบประเมนิ พฤตกิ รรมสาหรับนกั เรียนประเมนิ ตนเอง
 แบบประเมินผลงาน/ชิน้ งาน
 แบบสัมภาษณ์

คมู่ อื การใชเ้ คร่ืองมือประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผ้เู รียน 51 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

52

แบบทดสอบเชิงสถานการณ์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3

ช่ือ ...........................................................................................................ชั้น......... ..........เลขที่...........................
โรงเรียน ..............................................................................................................................................................
คาช้ีแจง กาหนดสถานการณ์ให้นักเรียนทาพวงมาลัยให้ได้ยาวที่สุดจากวัสดุท่ีกาหนดให้ ในเวลา 10 นาที

โดยครนู าตวั อย่างรปู ภาพพวงมาลยั ทห่ี ลากหลายให้นกั เรียนดู และนกั เรียนลงมือปฏิบตั ทิ าพวงมาลัย
วัสดุ/อปุ กรณ์

1. กระดาษ A4 จานวน 4 แผน่
2. ไม้บรรทัด
3. เทปใส /กาว
4. สายวดั

จากสถานการณ์ ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี
1. ส่ิงท่ีนักเรยี นจะต้องทาคอื อะไร
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. นักเรียนมีการวางแผนในการทางานอย่างไร
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. นกั เรยี นเลือกรูปแบบการทาพวงมาลัยเพอ่ื ให้ไดย้ าวท่สี ุด พรอ้ มให้เหตุผลประกอบ
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบเชงิ สถานการณ์

สมรรถนะ 4 คะแนน 3 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 คะแนน 1 คะแนน
ความสามารถใน (ดเี ยยี่ ม) (ปรบั ปรุง)
การแกป้ ญั หา ตั้งคาถามเพ่อื ระบุ (ด)ี (พอใช)้ บอกปญั หาอยา่ งง่าย
ปญั หาทีไ่ ม่ซับซอ้ นได้ ตงั้ คาถามไดค้ รอบคลุม ตงั้ คาถาม 1-2 คาถาม รวบรวมขอ้ มลู และ
อยา่ งรวดเร็วและ ประเด็นปัญหา เพอ่ื ระบุ เพ่อื ระบปุ ญั หาอย่าง แนวคดิ ที่เกย่ี วข้องกบั
ครอบคลมุ วิเคราะห์ ปญั หาอยา่ งง่ายเกย่ี วกบั งา่ ย รวบรวมข้อมูล ปัญหา เสนอวิธีการ
และจัดลาดบั สาเหตขุ อง ชมุ ชนหรอื ทอ้ งถน่ิ ได้ และแนวคิดท่ี แก้ปญั หา และ
ปญั หา โดยคานึงถงึ รวบรวมข้อมลู และ เก่ียวขอ้ งกบั ปัญหา ดาเนินการแกป้ ญั หา
ความเหมาะสม รวบรวม แนวคิดที่เกย่ี วขอ้ งกบั เสนอวิธกี ารหรือ
ขอ้ มูลและแนวคดิ ที่ ปญั หาโดยคานึงถงึ ความ ทางเลือกในการ
เก่ยี วขอ้ งกบั ปญั หาที่มี เหมาะสม ออกแบบ แก้ปญั หา และ
ผลกระทบต่อสงั คม วิธีการหรือทางเลือกใน ดาเนนิ การแก้ปญั หา
ออกแบบวิธกี ารหรอื การแก้ปญั หา พรอ้ มทง้ั
เสนอทางเลือกท่เี ปน็ ไป ระบุข้อดีและข้อเสยี ของ
ไดใ้ นการแก้ปญั หา วิธีการหรอื ทางเลือก
พร้อมทง้ั ระบุข้อดีและ และดาเนนิ การ
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 ขอ้ เสยี ของวิธีการหรือ แก้ปัญหา
ทางเลือกและดาเนินการ
แก้ปัญหาไดห้ ลายวิธี

52 คมู่ อื การใชเ้ ครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

53

วธิ กี ารใชแ้ บบทดสอบเชิงสถานการณ์
แบบทดสอบเชิงสถานการณ์ เป็นแบบทดสอบท่กี าหนดสถานการณ์ ให้นักเรยี นตอบคาถาม 4 ข้อ

แต่ละคาถามตามองคป์ ระกอบ สมรรถนะความสามารถในการแก้ปัญหา ดงั นี้
1. การวเิ คราะหป์ ัญหา
2. การวางแผนในการแก้ปัญหา
3. การดาเนินการแกป้ ัญหา
4. การตรวจสอบและสรุปผลที่เกิดจากการแก้ปญั หา
เม่ือนักเรียนตอบคาถามท้ัง 4 ข้อ เรียบร้อยแล้ว ให้ครูผู้สอน ดาเนินการตรวจให้คะแนนนักเรียน

ตามเกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะความสามารถในการแก้ปญั หา (การวิเคราะห์ปัญหา วางแผนในการแกป้ ัญหา
ดาเนินการแก้ปัญหา ตรวจสอบและสรุปผลที่เกิดจากการแก้ปัญหา) ให้รวมคะแนนทั้งหมดและนาคะแนนท่ีได้
ลงในแบบบนั ทึกคะแนน โดยใส่เคร่อื งหมาย  ลงในชอ่ ง มี หรอื ไม่มี ที่ตรงกบั พฤตกิ รรมของนักเรยี น

แบบบันทกึ คะแนนแบบทดสอบเชงิ สถานการณ์
ความสามารถในการแก้ปัญหา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 3

คะแนนพฤติกรรม การตรวจสอบ
และสรุปผลที่ คะแนนรวม
เลขที่ ช่ือ – สกุล การวิเคราะห์ การวางแผน การ เกิดจากการ (4 คะแนน) ผลการ
ปัญหา ในการ ดาเนนิ การ แกป้ ญั หา ประเมนิ
แกป้ ญั หา แก้ปญั หา

1 มี ไม่มี มี ไมม่ ี มี ไมม่ ี มี ไมม่ ี

2
3
4
5

ถา้ นกั เรยี น มี การแสดงพฤตกิ รรมตามแบบบนั ทกึ คะแนน ได้ 1 คะแนน หรอื ถา้ นักเรยี น ไม่มี ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
การแสดงพฤตกิ รรม ได้ 0 คะแนน

นาคะแนนทไ่ี ดไ้ ปแปลผลการประเมนิ ตามเกณฑ์ ดังนี้
ได้ 4 คะแนน มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีเยี่ยม
ได้ 3 คะแนน มีผลการประเมิน อยใู่ นระดบั ดี
ได้ 2 คะแนน มีผลการประเมนิ อยู่ในระดบั พอใช้
ได้ 1 คะแนน มผี ลการประเมิน อย่ใู นระดบั ปรับปรุง

ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีที่ผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับ ความสามารถ
ในการแกป้ ัญหา อย่ใู นระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนใหม้ ีระดับ
ความสามารถที่เพ่ิมสงู ขน้ึ จากระดับเดิม

คมู่ ือการใช้เครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผ้เู รยี น 53
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

54

แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการแก้ปัญหา
สาหรบั ครูประเมนิ นกั เรยี น ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3

คาช้แี จง ใหค้ รพู จิ ารณารายการประเมิน แลว้ ใสเ่ คร่ืองหมาย  ลงในช่อง ใช่ หรอื ไมใ่ ช่ ทตี่ รงกับพฤติกรรม
ของนักเรียน
ผลการประเมิน
ขอ้ ท่ี รายการประเมิน ใช่ ไมใ่ ช่

1. นกั เรียนสามารถบอกปัญหาอยา่ งง่าย รวบรวมขอ้ มูลทเ่ี กยี่ วข้องกับ
ปญั หาได้
2. นกั เรยี นสามารถตั้งคาถามเพอ่ื ระบุปญั หาอย่างง่าย เสนอวิธีการแก้ปญั หา
และดาเนนิ การแก้ปัญหาได้
3. นักเรียนสามารถตั้งคาถามได้ครอบคลุมประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน
หรือท้องถิ่น พร้อมท้ังระบุข้อดีและข้อเสียของวิธีการแก้ปัญหา และ
ดาเนนิ การแก้ปญั หาได้
4. นักเรียนสามารถตง้ั คาถามได้ครอบคลมุ ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม
วิเคราะห์ และจัดลาดับสาเหตุของปัญหา ออกแบบวิธีการในการสร้าง
ชิ้นงาน พรอ้ มท้ังระบุข้อดแี ละขอ้ เสียของวธิ กี ารแก้ปัญหา และดาเนินการ
แกป้ ญั หาได้หลายวธิ ี
รวม

เกณฑ์การประเมิน มคี วามสามารถ ในระดบั ดีเย่ียม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มีความสามารถ ในระดับ ดี
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มคี วามสามารถ ในระดบั พอใช้
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรุง
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1

หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ขา้ งต้น ให้อยู่ในระดับ ปรับปรุง

สรปุ ผลการประเมินความสามารถในการแกป้ ัญหา
นกั เรยี นอยู่ในระดบั ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดเี ยยี่ ม ได้ 4 คะแนน
ระดบั ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดบั ปรบั ปรงุ ได้ 1 คะแนน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 54 คู่มอื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

55

แบบประเมินพฤติกรรมความสามารถในการแกป้ ญั หา
สาหรบั นกั เรียนประเมนิ ตนเอง ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 3

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นพจิ ารณารายการประเมนิ แลว้ ใส่เคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ ง ใช่ หรอื ไม่ใช่ ทีต่ รงกบั พฤตกิ รรม
ของตนเอง
ผลการประเมิน
ขอ้ ที่ รายการประเมนิ ใช่ ไม่ใช่

1. ข้าพเจา้ สามารถบอกปญั หาอย่างง่าย รวบรวมข้อมลู ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั
ปัญหาได้
2. ขา้ พเจา้ สามารถตงั้ คาถามเพื่อระบปุ ญั หาอยา่ งง่าย เสนอวิธกี ารแกป้ ัญหา
และดาเนินการแก้ปัญหาได้
3. ขา้ พเจา้ สามารถตงั้ คาถามได้ครอบคลมุ ประเดน็ ปญั หาทีเ่ กิดขนึ้ ในชมุ ชน
หรือท้องถิ่น พร้อมทง้ั ระบุข้อดแี ละข้อเสียของวิธีการแกป้ ัญหา และ
ดาเนินการแกป้ ญั หาได้
4. ข้าพเจา้ สามารถตงั้ คาถามได้ครอบคลุมประเดน็ ปัญหาที่เกิดขึน้ ในสังคม
วเิ คราะห์ และจดั ลาดบั สาเหตขุ องปัญหา ออกแบบวิธีการพร้อมท้งั ระบุ
ข้อดีและข้อเสียของวิธกี ารแก้ปญั หา และดาเนนิ การแก้ปัญหาไดห้ ลายวิธี
รวม

เกณฑ์การประเมนิ มีความสามารถ ในระดบั ดีเยยี่ ม
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, ,34, 4 มีความสามารถ ในระดบั ดี
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22, 3, 3 มีความสามารถ ในระดบั พอใช้
เลือกตอบใช่ ในข้อ 1,,22 มคี วามสามารถ ในระดับ ปรับปรุง
เลอื กตอบใช่ ในข้อ 1

หมายเหตุ ถ้าไมต่ รงตามเกณฑก์ ารประเมนิ ขา้ งต้น ให้อยู่ในระดบั ปรับปรุง

สรปุ ผลการประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา
นกั เรยี นอยใู่ นระดบั ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดีเย่ยี ม ได้ 4 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 3 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 2 คะแนน
ระดบั ปรบั ปรุง ได้ 1 คะแนน

คูม่ ือการใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน 55 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

56

แบบประเมินผลงาน/ช้นิ งาน

ช่อื ผลงาน/ชิ้นงาน ................................................................................................................................................
ช่อื ผูร้ ับการประเมิน .................................................................... ชั้นประถมศกึ ษาปที .่ี ................เลขท.่ี ...............
โรงเรียน ................................................................................................................................................................
ช่อื ผูป้ ระเมิน .........................................................................................................................................................

ประเด็นการพิจารณา คะแนน
4321
1. กระบวนการหาวธิ กี ารเพอ่ื แกป้ ัญหา
2. กระบวนการสร้างช้นิ งานเพ่อื แกป้ ญั หา
3. ความคดิ สร้างสรรคใ์ นการสรา้ งชนิ้ งาน
4. การนาเสนอรายละเอยี ดของช้ินงาน
5. ความสาคญั และประโยชนข์ องชนิ้ งาน

คะแนนรวม
คะแนนรวมท้งั หมด

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 สรปุ ระดับความสามารถ : ......................................................................
เกณฑก์ ารให้คะแนนตวั อยา่ งแบบประเมนิ ผลงาน/ชนิ้ งาน
1. ประเดน็ พิจารณา : กระบวนการหาวิธกี ารเพ่ือแก้ปัญหา

ระดบั เกณฑก์ ารประเมิน
4 ใชก้ ระบวนการในการแก้ปญั หาไดเ้ หมาะสมกับการสร้างผลงาน/ชนิ้ งาน และสอดคล้องกับ
สถานการณ์ อย่างมเี หตุผล
3 ใช้กระบวนการในการแกป้ ญั หาไดเ้ หมาะสมกับการสร้างผลงาน/ชิน้ งาน และสอดคล้องกบั
สถานการณ์
2 ใชก้ ระบวนการในการแกป้ ญั หาได้ตรงกับการสรา้ งผลงาน/ช้ินงาน
1 ใชก้ ระบวนการในการแก้ปญั หา

2. ประเดน็ พจิ ารณา : กระบวนการสรา้ งผลงาน/ช้ินงาน เพื่อแกป้ ัญหา
ระดบั เกณฑก์ ารประเมนิ
4 มีการวางแผน วิเคราะห์ ออกแบบ สร้างผลงาน/ชิ้นงาน ตรงตามแบบท่กี าหนด
และสอดคลอ้ งกับสถานการณ์ปญั หา
3 มกี ารวางแผน วิเคราะห์ ออกแบบ และสร้างผลงาน/ชิ้นงาน ตรงตามแบบท่ีกาหนด
2 มกี ารวางแผน วเิ คราะห์ ออกแบบ แต่สร้างผลงาน/ชิ้นงาน ไมต่ รงตามแบบที่กาหนด
1 สร้างผลงาน/ช้นิ งาน โดยไม่มีการออกแบบ

56 คมู่ ือการใชเ้ คร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

57 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3

3. ประเดน็ พจิ ารณา : ความคิดสร้างสรรคใ์ นการสร้างผลงาน/ช้นิ งาน
ระดับ เกณฑก์ ารประเมนิ
4 สร้างผลงาน/ชน้ิ งาน ดว้ ยวิธกี ารที่ซับซอ้ น โดยการผสมผสานจากแนวคิดทห่ี ลากหลาย
3 สรา้ งผลงาน/ช้นิ งาน ด้วยวธิ กี ารท่ซี ับซ้อน โดยดัดแปลงจากสง่ิ ทีม่ ีอยู่
2 สรา้ งผลงาน/ชนิ้ งาน ด้วยวิธกี ารอยา่ งง่าย โดยแตกต่างจากต้นแบบ
1 สรา้ งผลงาน/ชนิ้ งาน ดว้ ยวิธกี ารอยา่ งง่าย โดยอาศัยตน้ แบบ

4. ประเด็นพจิ ารณา : การนาเสนอรายละเอยี ดของผลงาน/ช้ินงาน
ระดับ เกณฑก์ ารประเมนิ
4 นาเสนอรายละเอยี ดของผลงาน/ชิน้ งาน ไดอ้ ย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับ
กระบวนการคดิ และกระบวนการสร้างผลงาน/ช้นิ งาน เพ่ือแก้ปัญหา
3 นาเสนอรายละเอียดของผลงาน/ช้ินงาน ได้อยา่ งชดั เจน โดยสอดคลอ้ งกับกระบวนการคิด
แกป้ ญั หา
2 นาเสนอรายละเอียดของผลงาน/ชน้ิ งาน ไดอ้ ย่างชัดเจน
1 นาเสนอรายละเอยี ดของผลงาน/ช้นิ งาน ไดเ้ พียงบางส่วน

5. ประเด็นพิจารณา : ความสาคญั และประโยชนข์ องผลงาน/ชน้ิ งาน
ระดับ เกณฑก์ ารประเมนิ
4 นาผลงาน/ช้นิ งาน ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ และสามารถแกป้ ัญหาท่ีเกดิ ขนึ้ ไดจ้ รงิ อยา่ งเปน็
รูปธรรม
3 บอกประโยชน์ของผลงาน/ชิ้นงาน และสามารถนาไปใช้งานไดห้ ลายด้าน
2 บอกประโยชน์ของผลงาน/ชน้ิ งาน และสามารถนาไปใชง้ านได้
1 บอกความสาคญั และประโยชน์ของผลงาน/ชิ้นงานได้

วิธกี ารใช้แบบประเมนิ ผลงาน/ชิ้นงาน ครูผ้สู อนประเมนิ ผลงาน/ชนิ้ งาน ใน 5 ประเดน็ คอื
1) กระบวนการหาวิธีการเพ่ือแก้ปัญหา 2) กระบวนการสร้างผลงาน/ชิ้นงาน เพื่อแก้ปัญหา

3) ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงาน/ชิ้นงาน 4) การนาเสนอรายละเอียดของผลงาน/ชิ้นงาน และ
5) คคววาามมสสา�ำคคัญัญ แแลละะปปรระะโโยยชชนน์ข์ อขงอผงลผงลางนาน/ช/้ินชิ้นงางนานในใกนากราดราดเ�ำนเินินกากราปรประรเะมเมินินผผลลงางนาน/ช/ชิ้น้ินสงาน ครูผู้สอนน�ำา
ผลงานนักเรียนมาประเมินตามเกณฑ์ให้คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนท่ีได้จากการประเมิน 5 ประเด็น
มารวมคะแนน และแปลผลระดบั ความสามารถในการแกป้ ัญหา ไดด้ ังน้ี

ได้ 16 – 20 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดบั ดเี ย่ยี ม
ได้ 11 – 15 คะแนน มผี ลการประเมิน อยใู่ นระดบั ดี
ได้ 6 – 10 คะแนน มีผลการประเมิน อยู่ในระดบั พอใช้
ได้ 1 – 5 คะแนน มผี ลการประเมิน อยู่ในระดบั ปรับปรงุ
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถ
ในการแก้ปัญหา อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีระดับ
ความสามารถท่ีเพิ่มสูงขน้ึ จากระดบั เดิม

คมู่ อื การใชเ้ ครื่องมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น 57
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

58

แบบสัมภาษณ์ความสามารถในการแกป้ ญั หา
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1 – 3

แบบสัมภาษณ์ เรื่อง....................................................................................................................... ........................
ช่อื ผู้สัมภาษณ์ ..........................................................วัน/เดอื น/ปี ทสี่ ัมภาษณ์......................................................
เวลา .......................................................................... สถานท่ี .............................................................................
ช่อื ผู้รับการสมั ภาษณ์ / กลุ่ม.................................................... ชั้นประถมศึกษาปีที่..................เลขที.่ .................
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
สถานการณ์อย่างงา่ ยในชีวติ ประจาวัน

หมบู่ า้ นแหง่ หน่งึ เกิดเหตกุ ารณ์น้าทว่ มบ้าน ทาให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สนิ เงนิ ทองของชาวบา้ น

ประเดน็ สมั ภาษณเ์ กย่ี วกบั สถานการณ์
1. นกั เรียนคิดว่าเกิดปัญหาอะไรบา้ ง
2. นักเรียนมีวิธกี ารรวบรวมข้อมูลทีเ่ กี่ยวข้องกับปญั หาได้อย่างไร
3. นกั เรียนจะเสนอวธิ กี ารแก้ปัญหา และดาเนินการแก้ปญั หาได้อยา่ งไร
4. ถา้ เหตุการณน์ เ้ี กดิ ขึ้นในชมุ ชนของนักเรียนจะมวี ิธกี ารแก้ปญั หาอยา่ งไร
5. ใหน้ กั เรยี นระบขุ ้อดีและข้อเสยี ของวธิ ีการแกป้ ัญหา
6. ใหน้ ักเรียนระบุสาเหตขุ องปัญหาจากสถานการณ์
7. นักเรยี นสามารถจัดลาดับสาเหตขุ องปัญหาทเ่ี กดิ ข้นึ ได้อย่างไร

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 เกณฑก์ ารประเมินแบบสัมภาษณ์ มีความสามารถ ในระดับ ดีเย่ียม
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, ,34,,45, 65, ,76ได, ้7 ได้ มีความสามารถ ในระดบั ดี
ตอบคาถามขอ้ 1,,22, 3, ,34,,45,ไ5ด้ ได้ มีความสามารถ ในระดับ พอใช้
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, 3ไดไ้ด้ มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรงุ
ตอบคาถามขอ้ 1,,22ไไดด้ ้

หมายเหตุ ถา้ ไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมนิ ข้างต้น ให้อย่ใู นระดับ ปรับปรุง

58 คู่มอื การใชเ้ คร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผูเ้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

59

วธิ ีการใชแ้ บบสมั ภาษณ์
ให้ครูสัมภาษณ์ผู้เรียน ตามประเด็นสัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ จานวน 7 ข้อและสรุปผล
ตามเกณฑ์การประเมนิ ดงั น้ี
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, ,34,, 45, 65, ,76ได, ้7 ได้ มคี วามสามารถ ในระดับ ดีเยี่ยม
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, ,34,, 45,ไ5ด้ ได้ มคี วามสามารถ ในระดบั ดี
ตอบคาถามข้อ 1,,22, 3, 3ไดไ้ด้ มีความสามารถ ในระดับ พอใช้
ตอบคาถามข้อ 1,,22ไไดด้ ้ มคี วามสามารถ ในระดบั ปรับปรงุ
และถ้าไมต่ รงตามเกณฑ์การประเมินขา้ งต้น ให้อยู่ในระดบั ปรบั ปรุง
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีที่ผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถ
ในการแก้ปัญหา อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนานกั เรียนให้มีระดบั
ความสามารถท่เี พม่ิ สูงข้ึนจากระดบั เดิม

22.4.4คเวคารมื่อสงามมือาปรรถะใเนมกนิ าครวใชาม้ทสักาษมะาชรีวถติ ในการใช้ทกั ษะชีวิต

กรอบโครงสรา้ งเคร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ดา้ นความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

นิยามสมรรถนะสาคญั ตวั ชวี้ ดั ลกั ษณะเคร่ืองมือ
ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 1. นากระบวนการเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย - แบบประเมินสาหรบั
เป็นความสามารถในการนากระบวนการ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั นกั เรยี นประเมินตนเอง
ต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน 2. เรยี นรู้ดว้ ยตนเองอยา่ งต่อเนอ่ื ง และ - แบบประเมินสาหรบั
การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่าง มีเป้าหมาย ครูประเมนิ นักเรยี น
ต่อเน่ือง การทางาน และการอยู่ร่วมกัน 3. ทางานและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่าง
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ์ มคี วามสขุ
อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา 4. จัดการกับปัญหาและความขัดแย้ง
และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง 5. ปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงทาง
ของสังคม และสภาพแวดล้อมและ สังคมและสภาพแวดลอ้ ม
การรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึง 6. หลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่
ประสงค์ ที่ส่งผลกระทบต่อตนเอง สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน
และผ้อู ืน่

เครือ่ งมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ด้านความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
จากกรอบโครงสร้างเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใช้

ทกั ษะชีวติ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 สามารถนามาสร้างเครอื่ งมอื ประเมินได้ ดังน้ี
 แบบประเมนิ สาหรับนกั เรียนประเมินตนเอง
 แบบประเมนิ สาหรับครูประเมนิ นักเรยี น

คู่มือการใช้เคร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รียน 59
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

60

แบบประเมนิ ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ สาหรับนักเรยี นประเมินตนเอง
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 – 3

คาชแี้ จง
เครอ่ื งมือที่ใช้ในการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ฉบับนแ้ี บง่ ออกเป็น 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปของนกั เรยี น
ตอนที่ 2 รายการประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ประกอบไปดว้ ย 6 ตวั ชี้วดั
2.1 นากระบวนการเรียนรู้ทห่ี ลากหลาย ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั
2.2 เรียนรดู้ ว้ ยตนเองอย่างต่อเนื่อง และมเี ป้าหมาย
2.3 ทางานและอยู่รว่ มกนั ในสังคมอย่างมีความสุข
2.4 จดั การกับปัญหาและความขัดแย้งในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
2.5 ปรับตัวตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางสังคมและสภาพแวดลอ้ ม
2.6 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื
โดยพจิ ารณาวา่ นกั เรียนแสดงพฤติกรรมตามรายการประเมินท่กี าหนดไวห้ รอื ไม่
ถ้านักเรียนแสดงพฤติกรรมท่ีกาหนดไว้ ให้ทาเครื่องหมาย  ลงในช่องปฏบิ ัติ
ถา้ นกั เรียนไม่แสดงพฤตกิ รรมทีก่ าหนดไว้ ให้ทาเคร่ืองหมาย  ลงในช่องไมป่ ฏิบัติ
**************************************************

ตอนที่ 1 ข้อมูลท่ัวไปของนกั เรยี น
ชื่อ–สกุล .......................................................................................ระดับชนั้ ...........ห้อง........เลขที่......................
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ตอนที่ 2 รายการประเมนิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

ขอ้ ที่ รายการประเมิน การประเมิน
ตัวช้ีวัดท่ี 1 นากระบวนการเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
1 นักเรียนสามารถจดั การตนเองในการทากจิ วตั รประจาวันใหส้ าเร็จ (1) (0)
2 นักเรยี นเลือกกจิ กรรมตามความถนัด หรอื เหมาะสมกบั ตนเอง
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 3 นักเรยี นสามารถควบคมุ ตนเองให้ทางานทไี่ ด้รับมอบหมายไดส้ าเร็จ
4 นักเรียนแลกเปล่ียนเรยี นรแู้ ละแสดงความคิดเห็นร่วมกับเพื่อน ๆ

เพอ่ื ทางานใหส้ าเรจ็
5 นักเรยี นมีการวางแผนการทางานรว่ มกับเพื่อนไดอ้ ย่างหลากหลาย
ตัวช้วี ดั ที่ 2 เรยี นรู้ดว้ ยตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง และมเี ปา้ หมาย
6 นกั เรียนบอกความสามารถทีโ่ ดดเดน่ เป็นพิเศษของตนเองได้
7 เมื่อต้องทากิจกรรมที่ตนเองไม่ถนดั นักเรยี นขอความชว่ ยเหลอื จากผอู้ ่ืน

เพอื่ ทากิจกรรมให้สาเรจ็
8 นักเรยี นนาข้อดีของตนเองมาใชท้ างานท่ีไดร้ บั มอบหมายจนสาเรจ็
9 นักเรยี นพยายามฝกึ ฝนในสิง่ ทีต่ นเองชอบและสนใจเป็นประจา
10 นักเรยี นสามารถสืบค้นข้อมูลท่สี นใจหรือได้รบั มอบหมายด้วยตนเอง

60 คมู่ ือการใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

61

ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ การประเมนิ

ตวั ชวี้ ดั ที่ 3 ทางานและอยู่ร่วมกันในสงั คมอย่างมีความสุข ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
(1) (0)

11 นกั เรียนทางานร่วมกับเพื่อนตามข้อตกลงของสมาชิกในกลุ่ม
12 นกั เรยี นทางานร่วมกบั สมาชกิ ในกลมุ่ ตามขั้นตอนทีก่ าหนดไว้
13 นกั เรยี นสามารถบอกเป้าหมายและมสี ่วนร่วมสนับสนุน ช่วยเหลอื ในการ
ทางานของกลุ่ม
14 นกั เรยี นพูดและเขียนแสดงความคิดเห็นต่อเพื่อนอย่างระมัดระวัง
15 นกั เรยี นให้ความชว่ ยเหลอื เพื่อนเมื่อเหน็ วา่ เขาต้องการความชว่ ยเหลือ
หรอื เดอื ดร้อน
ตวั ชี้วดั ที่ 4 จดั การกับปญั หาและความขัดแย้งในสถานการณต์ า่ ง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
16 นักเรียนสามารถควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมของตนเองได้
เมอื่ มีเหตุการณ์ทีก่ ระตนุ้ ใหเ้ กิดความรสู้ กึ หรอื อารมณ์
17 นักเรียนสามารถแยกแยะสง่ิ ท่ีถกู และผดิ หรือควรทาและไม่ควรทาได้
18 นกั เรียนมคี วามอดทน อดกล้ัน เมือ่ เจอกบั เหตุการณท์ ่ีไม่พึงพอใจใน
ชีวติ ประจาวัน
19 นกั เรยี นใชค้ าพูดท่ีไพเราะเพื่อแกป้ ัญหาความขัดแย้งกบั เพอ่ื น
20 นกั เรียนร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหรือความขัดแย้งกบั เพื่อนอย่างมีเหตุผล
ตวั ชี้วดั ท่ี 5 ปรับตวั ต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคมและสภาพแวดลอ้ ม
21 นักเรียนสามารถรับรู้ขอ้ มลู ข่าวสารทเ่ี กี่ยวข้องกับตนเอง และเพอื่ นรว่ มชน้ั เรยี น
22 นักเรยี นมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมของช้นั เรียนและโรงเรยี น
23 นกั เรียนตดั สินใจเลือกทางเลือก ทเ่ี หมาะสมในการปฏบิ ตั ิกิจวตั ร
ประจาวัน เพอ่ื ให้ทันต่อเหตกุ ารณ์ หรือเวลาทกี่ าหนด
24 นักเรยี นมวี ิธีการปรับตวั ให้เขา้ กบั สภาพอากาศในแตล่ ะวันได้อย่างเหมาะสม
25 นักเรยี นสามารถปรบั ตวั เข้ากับเพื่อนร่วมชัน้ เรียนได้
ตวั ช้ีวัดที่ 6 หลกี เลีย่ งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่
26 นักเรียนปฏบิ ัตติ นตามบทบาทหน้าทข่ี องตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม
27 นกั เรียนใช้ของส่วนรวมอยา่ งระมัดระวงั โดยไมท่ าใหข้ องเสยี หาย
28 นักเรียนไมเ่ ข้าไปยงุ่ เกยี่ วกับเหตุการณท์ ี่อาจจะทาใหเ้ กิดอันตราย
29 นกั เรียนไม่กลน่ั แกลง้ เพื่อน ทั้งทางร่างกายและวาจา
30 นกั เรียนไม่เลยี นแบบการกระทาท่ีไมด่ ีของเพอื่ น
คะแนนรวม

สรปุ คะแนนร้อยละ คะแนนท่ีได้ x 100 = ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
30 …………………………….

ลงชอ่ื ..................................................ผู้ประเมนิ
(.....................................................................)

คูม่ อื การใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมนิ สมรรถนะส�ำคญั ของผเู้ รยี น 61
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

62

สรปุ ผลการประเมินความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

นกั เรียนอยใู่ นระดบั  ดเี ยยี่ ม  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ

บนั ทกึ เพิม่ เติม (สาหรบั ครูผู้สอน)

จุดเด่นของนักเรยี นคือ .........................................................................................................................................

จุดทคี่ วรพฒั นาของนักเรยี นคือ ............................................................................................................................

ลงชอ่ื ...................................................................
(.....................................................................)
ครูผูส้ อน

แบบประเมนิ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ สาหรับครูประเมนิ นกั เรียน
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 – 3

คาชแี้ จง
เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ฉบบั นี้ แบ่งออกเปน็ 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมูลทวั่ ไปของนักเรยี น
ตอนท่ี 2 รายการประเมนิ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ ประกอบไปด้วย 6 ตัวชีว้ ดั
2.1 นากระบวนการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั
2.2 เรียนรดู้ ว้ ยตนเองอย่างต่อเนอ่ื ง และมเี ป้าหมาย
2.3 ทางานและอยู่ร่วมกันในสังคมอยา่ งมีความสขุ
2.4 จัดการกบั ปญั หาและความขดั แยง้ ในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
2.5 ปรับตัวตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม
2.6 หลีกเลีย่ งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทีส่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่นื
โดยพจิ ารณาวา่ นักเรียนแสดงพฤติกรรมตามรายการประเมินทกี่ าหนดไวห้ รอื ไม่
ถา้ นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมที่กาหนดไว้ ให้ทาเคร่ืองหมาย  ลงในช่องปฏบิ ตั ิ
ถ้านกั เรยี นไม่แสดงพฤตกิ รรมท่กี าหนดไว้ ให้ทาเครื่องหมาย  ลงในช่องไม่ปฏิบตั ิ
**************************************************

ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปของนกั เรียน
ชื่อ–สกุล .......................................................................................ระดับช้นั ...........ห้อง........เลขท.่ี .....................
โรงเรียน ............................................................................................................................. ...................................
ตอนท่ี 2 รายการประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ การประเมนิ
ตวั ชี้วดั ที่ 1 นากระบวนการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั
ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
1 นักเรียนสามารถจัดการตนเองในการทากจิ วัตรประจาวนั ใหส้ าเร็จ (1) (0)
2 นักเรยี นเลอื กกิจกรรมตามความถนดั หรอื เหมาะสมกับตนเอง
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 3 นักเรยี นสามารถควบคมุ ตนเองใหท้ างานท่ไี ดร้ บั มอบหมายได้สาเร็จ

62 คมู่ อื การใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผู้เรียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

63

ขอ้ ที่ รายการประเมิน การประเมนิ

ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏิบตั ิ
(1) (0)
4 นักเรยี นแลกเปลีย่ นเรยี นรู้และแสดงความคิดเห็นรว่ มกับเพ่ือน ๆ
เพื่อทางานใหส้ าเร็จ
5 นักเรียนมีการวางแผนการทางานรว่ มกับเพื่อนไดอ้ ย่างหลากหลาย
ตวั ชี้วัดที่ 2 เรียนรู้ด้วยตนเองอยา่ งตอ่ เนื่อง และมีเป้าหมาย
6 นกั เรยี นบอกความสามารถทโี่ ดดเดน่ เป็นพิเศษของตนเองได้
7 เมอ่ื ต้องทากิจกรรมท่ีตนเองไม่ถนดั นักเรียนขอความชว่ ยเหลือจากผอู้ นื่
เพือ่ ทากิจกรรมใหส้ าเร็จ
8 นกั เรยี นนาข้อดขี องตนเองมาใชท้ างานท่ีได้รบั มอบหมายจนสาเร็จ
9 นักเรยี นพยายามฝกึ ฝนในสิ่งทตี่ นเองชอบและสนใจเป็นประจา
10 นกั เรยี นสามารถสบื คน้ ข้อมลู ทสี่ นใจหรือได้รับมอบหมายด้วยตนเอง
ตัวช้วี ดั ที่ 3 ทางานและอยู่ร่วมกนั ในสงั คมอย่างมีความสุข
11 นักเรียนทางานรว่ มกับเพื่อนตามขอ้ ตกลงของสมาชิกในกลุ่ม
12 นักเรยี นทางานรว่ มกับสมาชิกในกลุม่ ตามขน้ั ตอนท่กี าหนดไว้
13 นักเรียนสามารถบอกเป้าหมายและมสี ว่ นร่วมสนบั สนนุ ช่วยเหลอื ในการ
ทางานของกลมุ่
14 นักเรียนพูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นต่อเพื่อนอย่างระมัดระวงั
15 นกั เรยี นให้ความชว่ ยเหลอื เพื่อนเมื่อเห็นวา่ เขาต้องการความช่วยเหลอื
หรือเดอื ดร้อน
ตัวชี้วัดท่ี 4 จดั การกบั ปัญหาและความขัดแย้งในสถานการณต์ า่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
16 นักเรียนสามารถควบคุมอารมณ์ ความร้สู กึ และพฤติกรรมของตนเองได้
เมอ่ื มเี หตุการณ์ทก่ี ระตนุ้ ให้เกิดความรสู้ กึ หรอื อารมณ์
17 นักเรยี นสามารถแยกแยะส่งิ ท่ีถูกและผดิ หรอื ควรทาและไม่ควรทาได้
18 นกั เรยี นมคี วามอดทน อดกลั้น เม่ือเจอกบั เหตุการณท์ ี่ไม่พึงพอใจใน
ชวี ิตประจาวัน
19 นักเรียนใชค้ าพดู ท่ีไพเราะเพอ่ื แก้ปญั หาความขดั แย้งกับเพอ่ื น
20 นกั เรียนร่วมกนั เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหรือความขดั แย้งกับเพื่อนอยา่ งมีเหตผุ ล
ตัวชว้ี ดั ท่ี 5 ปรับตวั ต่อการเปลย่ี นแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม
21 นกั เรียนสามารถรบั รู้ขอ้ มลู ข่าวสารท่เี กีย่ วขอ้ งกบั ตนเอง และเพ่ือนร่วม
ชัน้ เรียน
22 นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมของช้นั เรยี นและโรงเรียน
23 นกั เรียนตดั สนิ ใจเลือกทางเลือก ที่เหมาะสมในการปฏิบัติกิจวตั ร
ประจาวนั เพอ่ื ให้ทนั ต่อเหตุการณ์ หรอื เวลาท่กี าหนด
24 นักเรียนมวี ธิ ีการปรับตัวใหเ้ ข้ากบั สภาพอากาศในแตล่ ะวนั ได้อยา่ ง ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
เหมาะสม
25 นักเรียนสามารถปรบั ตัวเข้ากับเพ่ือนรว่ มชัน้ เรยี นได้

คู่มอื การใช้เครือ่ งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น 63
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

64

ข้อที่ รายการประเมนิ การประเมนิ
ตวั ชวี้ ัดท่ี 6 หลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ท่สี ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่นื
26 นกั เรียนปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหน้าที่ของตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ปฏิบัติ ไมป่ ฏบิ ัติ
27 นกั เรียนใช้ของสว่ นรวมอย่างระมดั ระวงั โดยไม่ทาใหข้ องเสียหาย (1) (0)
28 นกั เรียนไม่เข้าไปยงุ่ เกยี่ วกับเหตกุ ารณ์ที่อาจจะทาให้เกิดอันตราย
29 นกั เรยี นไม่กลัน่ แกล้งเพื่อน ท้ังทางรา่ งกายและวาจา
30 นกั เรียนไม่เลยี นแบบการกระทาที่ไม่ดีของเพอ่ื น

คะแนนรวม

สรุปคะแนนรอ้ ยละ คะแนนท่ีได้ x 100 =
30 …………………

ลงช่อื ...........................................................ครูผสู้ อน
(...........................................................)

สรุปผลการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

นกั เรยี นอยู่ในระดับ  ดเี ยย่ี ม  ดี  พอใช้  ปรับปรงุ

บันทึกเพมิ่ เติม (สาหรบั ครผู ู้สอน)

จดุ เด่นของนักเรียนคือ .........................................................................................................................................

จุดทคี่ วรพัฒนาของนักเรยี นคือ ............................................................................................................................

ลงช่อื ...................................................................
(..................................................................)
ครูผสู้ อน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 วิธีการใชเ้ ครอื่ งมือ
เคร่ืองมอื ประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 คอื แบบประเมิน

ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต สาหรับนักเรียนประเมินตนเอง และครูประเมินนักเรียน ซ่ึงมีวิธีการนา
เครื่องมอื ไปใช้ ดงั นี้

 ก่อนการประเมนิ
1) ครูศกึ ษาคมู่ อื การประเมินความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
2) ครวู างแผนการใชเ้ คร่อื งมือ ดังน้ี
2.1) กาหนดวตั ถปุ ระสงค์การประเมิน เช่น ประเมนิ เพอื่ การพัฒนา (Formative Assessment)

และประเมนิ เพือ่ ตัดสนิ (Summative Assessment)
2.2) กาหนดช่วงเวลาการประเมินให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เช่น ก่อนเรียน ระหว่างเรียน

หลังเรยี น หรอื ต้นปีการศกึ ษา กลางปีการศกึ ษา ปลายปีการศกึ ษา

64 คู่มือการใชเ้ คร่ืองมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

65

 ระหว่างการประเมิน
1) ครนู าแบบประเมินไปใช้ประเมนิ นกั เรียนตามแผนที่กาหนดไว้
2) ครูอาจใช้วิธีการอื่นร่วมกับการสังเกตพฤติกรรม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์ เช่น

การสมั ภาษณ์ การสอบถาม การเลา่ เรือ่ ง การใชค้ าถาม เป็นตน้
3) ครูและนกั เรยี นควรบนั ทกึ ข้อมลู และตอบขอ้ มูลตามความเปน็ จรงิ

 หลังการประเมนิ
1) ครสู รปุ และแปลผลการประเมินตามเกณฑก์ ารตดั สนิ ระดับคณุ ภาพ
2) ครบู นั ทกึ ข้อมลู เพ่ิมเตมิ เกี่ยวกบั จดุ เด่นและจดุ ควรพฒั นาของนักเรยี น
3) ครูแจ้งผลการประเมินความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตให้นักเรียน ผู้ปกครอง

และผมู้ สี ่วนเกี่ยวขอ้ งทราบ เพื่อนาผลการประเมนิ ไปใช้พฒั นาคุณภาพนกั เรียนต่อไป

เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ดา้ นความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 – 3

แบบประเมินนี้ เป็นการประเมินท่ีมุ่งใช้รูปแบบของการประเมินจากหลายแหล่ง (Multi-rater
Approach) และการประเมินด้วยวิธีการที่หลากหลาย (Multimethod) โดยให้นักเรียนแต่ละคนทาการ
ประเมินตนเอง และครูทาการประเมินนกั เรยี นอกี ครั้งหนงึ่

การวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินที่ได้จากแหล่งประเมินต่าง ๆ ในแต่ละรายการประเมินจะมี
คะแนน 0 และ 1 โดยนาผลการประเมินแต่ละรายการมาคานวณหาค่าคะแนนรวม และคานวณเป็นร้อยละ
ของคะแนน จากนัน้ นาค่าร้อยละของคะแนนจากแหลง่ การประเมนิ ของนักเรียนประเมนิ ตนเอง และครปู ระเมิน
นักเรียน มาหาค่าเฉลี่ย (Mean) แล้วมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์การตัดสิน เพ่ือแปลผลเป็นระดับคุณภาพ
ซ่ึงมีระดบั คุณภาพดงั ต่อไปน้ี

เกณฑ์การตัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ
มีคะแนนต้งั แตร่ ้อยละ 75 ขน้ึ ไป ดเี ยยี่ ม
มีคะแนนอยรู่ ะหว่างรอ้ ยละ 50 – 74 ดี
มคี ะแนนอยรู่ ะหวา่ งร้อยละ 25 - 49 พอใช้
ปรบั ปรงุ
มีคะแนนตา่ กวา่ ร้อยละ 25

คมู่ อื การใช้เครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผู้เรียน 65 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

66

22.5.5คเวคารมอ่ื สงมามือาปรรถะใเนมกินาครวใาชม้เทสคามโนาโรลถยใีนการใช้เทคโนโลยี
กรอบโครงสร้าชงเวี คติ รื่องมือประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

นิยามสมรรถนะสาคญั ตวั ชวี้ ดั ลกั ษณะเครื่องมือ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. เลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนา 1. แบบทดสอบ
คือ ความสามารถในการเลือกและใช้ ตนเองและสงั คม 2. แบบประเมนิ ผลงาน/
เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ 2. มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ชน้ิ งาน
ก ร ะ บ ว น ก า ร ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยี เ พ่ื อ 3. แบบสงั เกตพฤติกรรม
การพัฒนาตนเองและสังคมในด้าน
การเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน
การแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ถูกต้อง
เหมาะสมและมคี ุณธรรม

เครื่องมอื ประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
จากกรอบโครงสร้างเครื่องมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 สามารถนามาสร้างเครื่องมือประเมินตามตัวชี้วัดทั้ง 2 ด้าน
ได้แก่ 1) เลือกและใช้เทคโนโลยเี พื่อพัฒนาตนเอง ประกอบดว้ ย การเลือกและใช้เทคโนโลยีในการเรยี นรู้อย่าง
สร้างสรรค์และมีคุณธรรม เลือกและใช้เทคโนโลยี ในการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์และมีคุณธรรม เลือกและใช้
เทคโนโลยีในการทางานและนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์และมีคุณธรรม เลือกและใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหา
อย่างสร้างสรรค์ และมีคุณธรรม และ 2) มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ประกอบด้วย กาหนดปัญหา
หรือ ความต้องการรวบรวมข้อมูล ออกแบบและปฏิบัติและการประเมินผล เคร่ืองมือที่ใช้ในการประเมิน
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มดี งั นี้

 แบบทดสอบ
 แบบประเมนิ ผลงาน/ชิ้นงาน
 แบบสังเกตพฤติกรรม

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 66 คู่มอื การใชเ้ ครื่องมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผู้เรียน
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

67

แบบทดสอบวัดความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 – 3

คาชแ้ี จง แบบทดสอบฉบบั นม้ี ี 7 ข้อ คะแนนเตม็ 20 คะแนน ใช้เวลา 30 นาที มี 2 ตอน ดงั นี้
ตอนที่ 1 แบบเลอื กตอบ
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่สี ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว จานวน 6 ข้อ (ข้อ 1 –6)

(ข้อละ 2.5 คะแนน รวม 15 คะแนน)
1.

บอลอดั วดิ ีโอการเลม่ เกมเปน็ เวลา 2 ชวั่ โมง 45 นาที และตอ้ งการเผยแพร่บนอนิ เทอรเ์ น็ต

จากข้อมูล บอลควรเลือกช่องทางใดในการเผยแพร่วดิ ีโอ จงึ จะสามารถเผยแพร่วิดีโอได้ครบถ้วนสมบรู ณ์
1) 3)

2) 4)

เฉลย3) ถูก เพราะ (YouTube) เป็นชอ่ งทางที่อนญุ าตให้เผยแพรว่ ิดโี อไดไ้ มเ่ กนิ 720 นาที

หรือ 12 ชั่วโมง ดังนนั้ การทีบ่ อลต้องการเผยแพรว่ ดิ โี อบนอินเทอร์เนต็ เปน็ เวลา
2 ชัว่ โมง 45 นาที ซง่ึ มคี วามยาวเกนิ 2 ชั่วโมง แต่ไมเ่ กนิ 12 ชว่ั โมง
ดังนนั้ จึงถกู ต้อง
ตัวลวง
1) ผิด เพราะ เปน็ ช่องทางที่อนุญาตใหเ้ ผยแพรว่ ิดีโอได้ไมเ่ กิน 120 นาที หรือ 2 ชวั่ โมง

2) ผิด เพราะ (TikTok) เป็นชอ่ งทางที่อนุญาตให้เผยแพร่วิดโี อได้ไม่เกนิ 3 นาที

4) ผดิ เพราะ (Instagram) เป็นชอ่ งทางทอี่ นญุ าตใหเ้ ผยแพร่วิดโี อได้ไมเ่ กิน 1 นาที

คู่มอื การใช้เครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน 67 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

68

2.
ในคาบเรยี นวิชาคอมพิวเตอร์ นกั เรียน 4 คน ได้อธิบายขน้ั ตอนการเพ่มิ รูปตา่ ง ๆ ในโปรแกรม word
ดงั นี้

แกว้ ฝน ตา้ ออม

เพมิ่ รูปช้าง เพม่ิ รูปส่ีเหลีย่ ม เพ่มิ รูปลูกศร เพิม่ รูปวงกลม
ทีบ่ ันทกึ ไว้ ที่กาหนดขนาดเอง ทบี่ นั ทึกไว้ ทกี่ าหนดขนาดเอง
โดยดาเนินการ โดยดาเนนิ การ โดยดาเนนิ การ โดยดาเนินการ

จากข้อมลู นกั เรยี นทั้งหมดในขอ้ ใดอธิบายการเพ่ิมรูปต่าง ๆ ได้ถูกต้อง
1) แก้ว และ ฝน
2) ฝน และ ตา้
3) ต้า และ ออม
4) ออม และ แกว้

เฉลย
4) ถกู เพราะ ขั้นตอนการเพม่ิ รปู ทบ่ี ันทึกไว้ คอื
1. เลอื กรายการ “แทรก”

2. เลือกเคร่ืองมือ “รปู ภาพ”
3. เลอื กรูปทต่ี ้องการ
ซง่ึ แกว้ อธบิ ายได้ถูกต้อง
ข้ันตอนการเพมิ่ รปู ที่กาหนดขนาดเอง คือ
1. เลือกรายการ “แทรก”
2. เลอื กเคร่ืองมือ “รูปภาพ”
3. เลือกรูปท่ีต้องการ
ซง่ึ ออมอธบิ ายได้ถูกต้อง
ดงั นั้น แกว้ และ ออม จงึ ถูกต้อง

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 68 ค่มู อื การใช้เคร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

69

ตัวลวง
1) ผดิ เพราะ แก้ว อธบิ ายถกู ตอ้ ง
แตฝ่ นอธิบายวา่
ขน้ั ตอนเพมิ่ รูปส่เี หล่ียมท่ีกาหนดขนาดเอง คือ
1. เลือกรายการ “แทรก”
2. เลือกเครื่องมือ “รปู ภาพ”
3. เลอื กรปู ทต่ี ้องการ
ซงึ่ ไมถ่ กู ต้อง
แก้ว และ ฝน จงึ ไมถ่ ูกต้อง
2) ผิด เพราะ ฝน อธบิ ายไมถ่ ูกต้อง และ
ต้าอธบิ ายวา่
ข้ันตอนการเพมิ่ รปู ที่บนั ทึกไว้ คอื
1. เลอื กรายการ “แทรก”
2. เลอื กเคร่ืองมือ “รปู ภาพ”
3. เลือกรปู ทต่ี ้องการ
ฝน และ ต้า จงึ ไมถ่ ูกต้อง
4) ผดิ เพราะ ต้า อธบิ ายไมถ่ กู ตอ้ ง แต่ ออม อธบิ ายถูกตอ้ ง
ตา้ และ ออม จงึ ไม่ถูกต้อง

3.
บอสพิมพข์ ้อความตามท่ีครบู อก ได้ดังน้ี
นกั เรยี นควรนสวมหน้ากากอนามยั

จากข้อมูล ถ้า (เคอเซอร)์ วางอยู่ท่ีตาแหนง่ ข้างตน้ บอสต้องกดปุ่มใดบนคบี อรด์ เพ่ือลบตัว น
1) (Backspace)
2) (Control)
3) (Enter)
4) (Delete)

คู่มอื การใชเ้ ครอื่ งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน 69 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

70

เฉลย
4) ถกู เพราะ (Delete) เป็นปมุ่ ทีใ่ ชล้ บข้อความด้านหลงั (เคอเซอร์)

ซง่ึ น อยดู่ า้ นหลัง จงึ ตอ้ งใช้ปุม่ (Delete) ในการลบ
ดงั นั้น (Delete) จงึ ถูกต้อง

ตวั ลวง

1) ผิด เพราะ (Backspace) เปน็ ปมุ่ ทีใ่ ช้ลบขอ้ ความด้านหนา้ (เคอเซอร์)

(Backspace) จึงไมถ่ ูกต้อง

2) ผดิ เพราะ (Control) เปน็ ปมุ่ ทใ่ี ช้คู่กับปมุ่ อ่นื ในการทาคาส่งั อย่างรวดเรว็

(Control)จึงไม่ถูกตอ้ ง3) ผิด เพราะ (Enter) เป็นปุ่มท่ี
ใชใ้ นการข้ึนบรรทัดใหม่

(Enter) เปน็ ปุม่ ทใ่ี ชใ้ นการขน้ึ บรรทัดใหม่ จงึ ไม่ถูกตอ้ ง

4.
พจิ ารณาบทความ ต่อไปนี้
กลีบกุหลาบ อุดมด้วยวิตามิน แคลเซียม และแร่ธาตุต่าง ๆ ท่ีจาเป็นต่อร่างกาย เม่ือสัมผัส

กับกลีบกุหลาบสด สามารถฆ่าเช้ือแบคทีเรียตายภายใน 5 นาทีส่วนกุหลาบแห้ง เม่ือนามาป่นให้เป็นผง
ผสมกบั น้าผ้งึ ใชท้ าภายในชอ่ งปากจะรกั ษาอาการอักเสบในช่องปาก
แกป้ ัญหาของเหงือกและฟันได้

จากข้อมูล ถ้านักเรยี นต้องการค้นหาขอ้ มลู ตามบทความขา้ งต้นจากอนิ เตอร์เน็ตตอ้ งใชข้ ้อความใดในการค้นหา
จงึ จะได้ขอ้ มลู อยา่ งรวดเรว็ ท่ีสุด

1) กหุ ลาบ
2) กลบี กุหลาบ
3) แปรงฟันดว้ ยกลบี กหุ ลาบ
4) ประโยชนข์ องกลบี กุหลาบ

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 70 คมู่ อื การใช้เคร่ืองมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผูเ้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

71

เฉลย
4) ถูก เพราะ การสบื คน้ ดว้ ยข้อความทต่ี รงกบั ความตอ้ งการใช้ข้อมูลจะทาใหไ้ ด้ขอ้ มูล
ทร่ี วดเร็ว ชดั เจนได้งา่ ย ซ่ึงตา่ งกบั การใชข้ อ้ มูลเพียงบางส่วนในการสืบค้น
จะใชเ้ วลาการสืบค้นหลายขั้นตอนจงึ จะไดข้ ้อมลู ครบถ้วน
ดังนั้น ประโยชน์ของกลบี กหุ ลาบ จึงถูกต้อง

ตัวลวง
1), 2) และ 3) ผิด เพราะ การใช้ขอ้ มลู เพยี งบางสว่ นในการสืบคน้ จะใช้เวลา
การสบื คน้ หลายข้ันตอนจงึ จะไดข้ อ้ มลู ครบถ้วน
ซง่ึ การสืบค้นดว้ ยคาวา่ กุหลาบ, กลบี กหุ ลาบ, แปรงฟนั ดว้ ยกลบี กุหลาบ
จงึ ไม่ถูกต้อง

5.
ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาแถบเครื่องมือ ต่อไปน้ี

ง

กค

ข ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3

จากข้อมูล ถา้ นกั เรยี นตอ้ งการนาเสนอข้อมูล นกั เรยี นต้องใชเ้ ครอ่ื งมือทตี่ าแหน่งในขอ้ ใด
1) ก
2) ข
3) ค
4) ง

เฉลย
3) ถูก เพราะ ตาแหนง่ ก คอื เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการสรา้ งตาราง
ตาแหนง่ ข คอื เครื่องมือทใี่ ช้ในการเพิม่ รูปภาพ
ตาแหน่ง ค คือเครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการสรา้ งแผนภมู ินาเสนอ
ตาแหน่ง ง คือเครื่องมือท่ีใช้ในการสร้างรูปร่างต่าง ๆ ซึ่ง ถ้าต้องการนาเสนอข้อมูล
นกั เรียนตอ้ งใชเ้ ครื่องมอื ทต่ี าแหน่ง ค ดงั นน้ั ค จึงถกู ต้อง

คู่มอื การใช้เคร่อื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รยี น 71
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

72

ตัวลวง
1) ผิด เพราะ ตาแหน่ง ก คอื เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการสร้างตาราง ก จึงไมถ่ ูกต้อง
2) ผิด เพราะ ตาแหนง่ ข คอื เครอื่ งมือท่ีใช้ในการเพิ่มรปู ภาพ ข จึงไม่ถูกตอ้ ง
4) ผิด เพราะ ตาแหนง่ ง คือเครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการสรา้ งรูปรา่ งตา่ ง ๆ ง จึงไมถ่ กู ตอ้ ง

6.
แทนต้องการสืบคน้ ข้อมูลเพ่ือให้ได้ข้อมลู ดงั ภาพ

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 จากขอ้ มูล การคน้ หาขอ้ มูลของแทนทาได้ตามข้อใด
1) เข้า www.youtube.com กดคน้ หา คาว่า แจ้งเตือนพายฤุ ดูรอ้ น
2) เข้า www.facebook.com กดค้นหา คาวา่ แจ้งเตอื นพายุฤดรู ้อน
3) เขา้ www.hotmail.com กดคน้ หา คาว่า แจ้งเตอื นพายฤุ ดูร้อน
4) เข้า www.google.com กดค้นหา คาว่า แจง้ เตือนพายฤุ ดูรอ้ น

เฉลย
4) ถูก เพราะ www.google.com เป็นเวบ็ ไซตท์ ีใ่ ช้สบื คน้ เกี่ยวกับข้อมลู ต่างๆ
ทมี่ คี วามรวดเร็ว ชัดเจน และความหลากหลายของขอ้ มลู
ดังนั้น เข้า www.google.com กดค้นหา คาว่า แจ้งเตือนพายุฤดูร้อน จึงถกู ตอ้ ง

ตัวลวง
1) ผดิ เพราะ www.youtube.com เปน็ เวบ็ ไซตท์ ่ใี ช้สบื คน้ เกี่ยวกับเพลง วดิ โี อ
หรือการบนั ทึกภาพ เคลื่อนไหวตา่ งๆ
www.youtube.com จงึ ไม่ถูกตอ้ ง

72 คมู่ ือการใช้เคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)

73

2) ผิด เพราะ www.facebook.com เปน็ เวบ็ ไซตท์ ี่ใช้สืบค้นเก่ียวกบั การหาเพื่อน การขายของ
การโฆษณา หรอื การเผยแพร่ข้อความ สถานะ ส่งิ ท่สี นใจ
www.facebook.com จึงไมถ่ ูกตอ้ ง

3) ผดิ เพราะ www.hotmail.com เปน็ เว็บไซต์ทใ่ี ช้เก่ียวกับการสอื่ สาร
ทางจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์การรับส่งข้อมลู
www.hotmail.com ไมถ่ กู ตอ้ ง

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนข้อ 1 – 6
ตอบถูกข้อละ 2.5 คะแนน
ตอบผดิ หรอื ไม่เขียนตอบได้ 0 คะแนน

ตอนท่ี 2 แบบเขยี นตอบ
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนคิดหาคาตอบท่ีถูกต้อง แล้วเขยี นตอบลงในกระดาษคาตอบจานวน 1 ข้อ (ข้อ 7)

(ข้อละ 5 คะแนน รวม 5 คะแนน)
7.

ให้นกั เรียนพจิ ารณาแถบเคร่ืองมอื ต่อไปนี้

หมายเลข 2

หมายเลข 1 หมายเลข 3

จากข้อมูล ถ้านกั เรยี นต้องการสรา้ งรปู สามเหลี่ยม รปู วงกลม และ รูปสี่เหล่ยี ม นักเรยี นต้องใช้ เครื่องมือ
หมายเลขใดในการสรา้ งรูปดงั กลา่ ว เพราะเหตุใด

ตอบ ............................................................................................................................. ...............................
เฉลย หมายเลข 2 เพราะ รปู ร่างใช้ในการสร้างรปู สามเหลย่ี ม รูปวงกลม และ รูปสเี่ หลีย่ ม
แนวคดิ เครื่องมอื ในการสร้างรูปเรขาคณิตแบบต่าง ๆ คอื “รูปรา่ ง”

คู่มือการใช้เคร่อื งมอื ประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผู้เรยี น 73 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

74

เกณฑ์การให้คะแนน คะแนนครงึ่ หน่งึ ไมไ่ ด้คะแนน
คะแนนเต็ม (2.5 คะแนน) (0 คะแนน)
(5 คะแนน) เมอ่ื ระบุ หมายเลข 2 หรือ ให้ เม่อื ระบุหมายเลขอื่นท่ี
เหตุผลทเี่ กย่ี วกับการสรา้ งรปู ไม่ใชห่ มายเลข 2 และ
เมอ่ื ระบุ หมายเลข 2 พร้อมให้เหตผุ ล เรขาคณิต โดยการใชเ้ ครื่องมือ หรือให้เหตุผลไม่ถกู ต้อง
เก่ียวกับการสรา้ งรูปสามเหลย่ี ม รปู วงกลม รปู ร่างไดถ้ ูกต้อง
รูปสี่เหล่ียม /รปู เรขาคณิต โดยการใช้
เคร่อื งมือ รปู ร่าง ไดถ้ ูกต้อง
แนวคาตอบ
- หมายเลข 2 เพราะ รปู รา่ งใช้ในการสร้าง
รูปสามเหลย่ี ม รปู วงกลม และ รูปส่ีเหล่ียม
- 2 เพราะ เคร่ืองมือรูปรา่ งใชใ้ นการสรา้ ง
รปู เรขาคณิต
ฯลฯ

เกณฑต์ ัดสินระดบั คุณภาพการทาแบบทดสอบ ระดบั คณุ ภาพ
คะแนน ดี
16 – 20
11 – 15 พอใช้
0 – 10 ปรับปรุง

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คะแนน ระดบั คุณภาพ
16 – 20 ดเี ย่ียม
11 – 15 ดี
6 – 10 พอใช้
0 – 5 ปรบั ปรุง

การแปลผลคะแนน ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คาอธบิ าย
ระดบั พฤติกรรม
เลือกและใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม เพื่อลดขั้นตอนและเวลาในการ ทางาน และ
ดีเยยี่ ม นาเสนอผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ด้วยตนเอง อย่างถูกต้อง แปลกใหม่

น่าสนใจ และไม่ทาใหผ้ ู้อนื่ เดือดร้อน

ดี เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีท่ี เหมาะสมเพื่อลดขนั้ ตอน และเวลาในการทางาน และ
นาเสนอผลงานไดด้ ว้ ยตนเอง อยา่ งถูกต้อง และไม่ทาใหผ้ อู้ ื่นเดอื ดร้อน

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 พอใช้ ใชเ้ ทคโนโลยที ีเ่ หมาะสมเพ่ือ ลดขั้นตอนและเวลาในการ ทางาน และนาเสนอ
ผลงานไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งถูกต้อง

ปรับปรุง ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื ลดข้ัน ตอนและเวลาในการ ทางาน นาเสนอผลงานได้
โดยมผี แู้ นะนาหรือ ควบคุม

74 คมู่ ือการใชเ้ ครอ่ื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

75

แบบประเมินผลงาน/ชิน้ งาน

ช่อื ผลงาน/ชนิ้ งาน ............................................................................................................................. ...................
ช่ือผูร้ ับการประเมิน ................................................................. ช้นั ประถมศกึ ษาปีท.่ี ................ เลขท.่ี ...............
โรงเรยี น ................................................................................................................................................................
ชื่อผู้ประเมนิ .........................................................................................................................................................

คาชี้แจ้ง ครูถามนักเรียน เรื่องการปกป้องข้อมูลส่วนตัว นักเรียนมีวิธีการอย่างไรบ้าง ตัวอย่าง ช่ือและ
นามสกุล ชื่อคุณพ่อและแม่ หมายเลขโทรศัพท์คุณแม่ คุณพ่อ วันเดือนปีเกิด รหัสผ่าน การเช็คอิน
สถานทตี่ า่ ง และการโพสรูปตา่ ง ๆ ฯลฯ แล้วตอบคาถามตามใบงานทีก่ าหนด

ประเด็นการพจิ ารณา คะแนน
1. การปกป้องข้อมูลสว่ นตัว 321

2. การวิเคราะหส์ ถานการณ์
ทีเ่ ป็นการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอย่าง คะแนนรวม
ปลอดภัย คะแนนรวมทั้งหมด

สรุประดบั ความสามารถ : ......................................................................

เกณฑก์ ารให้คะแนนตวั อยา่ งแบบประเมนิ ผลงาน/ชน้ิ งาน
1. ประเด็นพิจารณา : การปกปอ้ งข้อมลู ส่วนตวั
คะแนน เกณฑ์การประเมิน
3 สามารถปกป้องขอ้ มลู สว่ นตวั ได้ดว้ ยตนเอง
2 สามารถปกป้องขอ้ มลู ส่วนตวั ได้โดยการชแ้ี นะของครูหรอื ผู้อนื่
1 ไมส่ ามารถปกป้องข้อมูลสว่ นตัวได้ ถึงแมจ้ ะได้รับคาแนะนาจากครูหรอื ผู้อ่นื

2. ประเดน็ พิจารณา : การวเิ คราะห์สถานการณ์ เกณฑก์ ารประเมิน
คะแนน
3 สามารถวเิ คราะห์สถานการณ์ท่เี ปน็ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ได้
ดว้ ยตนเอง
2 สามารถวิเคราะหส์ ถานการณ์ทเ่ี ปน็ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยได้
โดยการชแ้ี นะของครหู รือผูอ้ ่ืน
1 ไมส่ ามารถวิเคราะห์สถานการณ์ท่ีเปน็ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยได้
ถึงแม้จะได้รับคาแนะนาจากครหู รือผอู้ นื่ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3

คูม่ ือการใช้เครือ่ งมือประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รยี น 75
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

76

วิธกี ารใชแ้ บบประเมนิ ผลงาน/ชน้ิ งาน
ครผู สู้ อนประเมินผลงาน/ชน้ิ งาน ใน 2 ประเด็น คอื 1) การปกปอ้ งข้อมูลส่วนตัว และ 2) การวิเคราะห์
สถานการณ์ ในการดาเนินการประเมินผลงาน/ช้ินงาน ครูผู้สอนนาผลงานนักเรียนมาประเมินตามเกณฑ์ให้
คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนท่ีได้จากการประเมิน 2 ประเด็น มารวมคะแนน และแปลผลระดับ
ความสามารถในการคิด ได้ดังนี้
ได้ 6 คะแนน มีผลการประเมินอย่ใู นระดับ ดีเยีย่ ม
ได้ 4 – 5 คะแนน มผี ลการประเมินอยใู่ นระดับ ดี
ได้ 2 - 3 คะแนน มผี ลการประเมินอยู่ในระดบั พอใช้
ได้ 0 – 1 คะแนน มีผลการประเมินอยใู่ นระดบั ปรับปรุง
ครูสรุปผลการประเมินดังกล่าว กรณีท่ีผลการประเมินพบว่า นักเรียนมีระดับความสามารถ
ในการใช้เทคโนโลยีในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหาแนวทางการพัฒนา
นกั เรียนให้มรี ะดบั ความสามารถทีเ่ พม่ิ สูงข้ึนจากระดบั เดมิ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น ดา้ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3

ชื่อผูร้ ับการสงั เกต .................................................................... ชนั้ ประถมศึกษาปที .่ี ................ เลขท่.ี ...............
โรงเรียน ................................................................................................................................................................
ชื่อผ้สู งั เกต ............................................................................................................................................................
คาชี้แจง ให้พจิ ารณารายการประเมนิ แลว้ ใส่เครื่องหมาย  ลงในชอ่ ง ดี (3) พอใช้ (2) หรือ ปรับปรงุ (1)
ทต่ี รงกบั พฤติกรรมของนักเรยี น
ผลการประเมิน
รายการประเมิน/พฤติกรรม ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)

1. สามารถออกแบบ วางแผน การทางานได้
2. มคี วามต้ังใจในการทางาน
3. ทางานได้ถกู ต้องตามขัน้ ตอนท่ีได้ออกแบบ วางแผนไว้
4. มีความรับผิดชอบทางานจนสาเรจ็
5. สามารถใชแ้ ละจัดเก็บอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ ในการทาผลงานได้
ถกู ต้อง โดยคานึงถึงความปลอดภัยตอ่ ตนเองและผู้อื่น
6. สามารถทางานรว่ มกับผูอ้ ่ืนได้
7. ผลงานมีความหลากหลายและแปลกใหม่
8. สามารถอธิบายกระบวนการออกแบบและการทางานได้
9. สามารถบอกถงึ ความรสู้ กึ ที่มีต่อผลงานของตนเอง
10. สามารถบอกวิธกี ารปรับปรุงผลงานของตนเองได้
11. มีความช่นื ชมในผลงานของตนเองและผู้อนื่
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 12. เก็บผลงานได้อยา่ งเป็นระเบยี บ
รวม

76 คูม่ อื การใช้เคร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผเู้ รยี น
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

77

วิธีการใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรม
ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมการสร้าง ใช้ และรู้เท่าทันวิทยาการและเทคโนโลยี 2 ประเด็น คือ

1) การสรา้ งช้นิ งานและเครือ่ งมือเพื่อขยายความสามารถของตนเองในการเล่น ทางาน และใช้ชวี ิตอยา่ งสะดวก
2) ใช้สิ่งของรอบตัวได้ถูกต้องตามหน้าที่ใช้สอย ในการดาเนินการสังเกตพฤติกรรมครูผู้สอนนาผลงานนักเรียน
มาประเมินตามเกณฑ์ให้คะแนน ในแต่ละประเด็น นาคะแนนท่ีได้จากการประเมิน 2 ประเด็น มารวมคะแนน
และแปลผลระดบั ความสามารถในการคดิ ไดด้ ังนี้

ได้ 28 – 36 คะแนน มผี ลการประเมินอยู่ในระดบั ดเี ย่ยี ม
ได้ 19 – 27 คะแนน มีผลการประเมินอยู่ในระดับ ดี
ได้ 10 – 18 คะแนน มผี ลการประเมินอย่ใู นระดับ พอใช้
ได้ 1 – 9 คะแนน มผี ลการประเมินอยู่ในระดบั ปรบั ปรุง
ครูสรุปผลการสังเกตพฤติกรรมดังกล่าว กรณีท่ีผลการสังเกตพฤติกรรมพบว่า นักเรียนมีระดับ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ในแต่ละด้าน อยู่ในระดับปรับปรุง ระดับพอใช้ หรือระดับดี ครูควรหา
แนวทางการพัฒนานักเรียนให้มีระดับความสามารถที่เพิม่ สงู ขนึ้ จากระดับเดิม

สรุปผลการประเมินความสามารถในการแก้ปญั หา
นกั เรียนอย่ใู นระดบั ..................................................... ได้ .............. คะแนน
ระดับ ดีเยี่ยม ได้ 28 – 36 คะแนน
ระดับ ดี ได้ 19 – 27 คะแนน
ระดบั พอใช้ ได้ 10 – 18 คะแนน
ระดับ ปรับปรงุ ได้ 1 – 9 คะแนน

เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ดา้ นความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คะแนน ระดับคุณภาพ
51 – 62 ดีเย่ยี ม
34 – 50 ดี
17 – 33 พอใช้
0 – 16 ปรบั ปรงุ

การแปลผลคะแนน ดา้ นความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

ระดับพฤติกรรม คาอธบิ าย

ดเี ยย่ี ม เลือกและใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม เพื่อลดข้ันตอนและเวลาในการ ทางาน และ ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
นาเสนอผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่ืนได้ด้วยตนเอง อย่างถูกต้อง แปลกใหม่
ดี นา่ สนใจ และไมท่ าให้ผอู้ ืน่ เดอื ดรอ้ น
พอใช้ เลือกและใช้เทคโนโลยีที่ เหมาะสมเพ่ือลดขั้นตอน และเวลาในการทางาน และ
ปรับปรุง นาเสนอผลงานได้ด้วยตนเอง อย่างถกู ตอ้ ง และไม่ทาให้ผู้อน่ื เดอื ดร้อน
ใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมเพ่ือ ลดขั้นตอนและเวลาในการ ทางาน และนาเสนอ
ผลงานไดด้ ว้ ยตนเองอย่างถกู ต้อง
ใช้เทคโนโลยเี พ่อื ลดขน้ั ตอนและเวลาในการ ทางาน นาเสนอผลงานได้
โดยมีผู้แนะนาหรอื ควบคมุ

คมู่ อื การใช้เคร่อื งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รยี น 77
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

78

แบบสรปุ การประเมินความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3

วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ใช้เป็นเคร่ืองมือในการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนด้านความสามารถในการใช้
คาชี้แจง เทคโนโลยี โดยประเมนิ จากการประเมินท้ังหมด
ผู้ประเมนิ ให้ผูป้ ระเมนิ ให้คะแนนแบบทดสอบแตล่ ะตอน และทาเครือ่ งหมาย  ในชอ่ งท่ีผู้เรียน
มีระดับคุณภาพทส่ี อดคล้องกับเกณฑ์การประเมนิ การฟังและดู
 นักเรียนประเมนิ ตนเอง
 เพอ่ื นนักเรยี น
 ครู
 ผปู้ กครอง

ผู้ประเมนิ ชอ่ื ..............................................................นามสกุล.................................................... .....................

คะแนนที่ได้ ระดบั คณุ ภาพ หมายเหตุ
จากการประเมิน

เลขที่ ชื่อ-สกลุ แบบทดสอบ
แบบ

ประเมินผล
งาน/ช้ินงาน
แบบสังเกต
พฤติกรรม

รวมคะแนน
ีดเ ่ียยม

ีด
พอใช้
ปรับปรุง

ั้ชนประถม ึศกษา ีป ีท่ 1 - 3 (20) (6) (36) (62)
1
2
3
4
...

วิธีการใชเ้ คร่อื งมือ
จากเคร่ืองมือประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

เป็นแบบทดสอบ ประกอบด้วย การเลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเองและสังคม และมีทักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยีแบบทดสอบ มี 3 รูปแบบ คอื แบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลงาน/ชิ้นงาน และแบบ
สงั เกตพฤตกิ รรม

การใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลข้างต้น สามารถใช้ในการประเมินระหว่างเรียน และหลังการ
จัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และระดับความสามารถของผู้เรียน ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะ
สาคัญของผูเ้ รยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3

การพัฒนาผู้เรียนด้วยการใช้เคร่ืองมือประเมินแบบทดสอบรูปแบบที่ 1 – 2 ควรอยู่ใน
ระดับพอใช้ ขึ้นไป และการประเมินผลรวมแบบทดสอบทั้ง 3 รูปแบบ และการแปลผลคะแนน ควรมีระดับ
คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี ขึน้ ไป

78 คูม่ ือการใช้เครื่องมอื ประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผู้เรยี น
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)

79

เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ด้านความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3

เคร่ืองมือแต่ละเครื่องมือมีการกาหนดเกณฑ์การให้คะแนนและแปลผลคะแนนท่ีสอดคล้อง
และเหมาะสมกับวธิ ีการวัดพฤตกิ รรม โดยกาหนดการแปลผลคะแนนของเคร่ืองมือแต่ละเครื่องมือเปน็ 3 ระดับ
ได้แก่ ระดบั ดี ระดบั พอใช้ และระดบั ปรับปรุง ซึ่งการแปลผลคะแนนดงั กล่าวใช้ในการตัดสนิ ระหวา่ งเรยี น
สาหรับเกณฑ์การตัดสินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนได้กาหนดเกณฑ์เพื่อให้ส อดคล้องกับระดับ
ความสามารถทงั้ 4 ระดับ ไดแ้ ก่ ระดับปรบั ปรงุ ระดบั พอใช้ ระดับดี และระดบั ดีเย่ยี ม โดยครูผสู้ อนสามารถนา
เครื่องมือทั้งหมดของแต่ละด้าน ประกอบด้วย เลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตนเองและสังคม
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี มาใช้ในการตัดสินสมรรถนะช่วงช้ัน โดยมีผลรวมคะแนนทั้ง 3 รูปแบบ
(62 คะแนน) ซ่งึ มรี ายละเอียดดังต่อไปนี้
1. แบบทดสอบ คะแนนเต็ม 20 คะแนน
2. แบบประเมินผลงาน/ชนิ้ งาน คะแนนเต็ม 6 คะแนน
3. แบบสังเกตพฤตกิ รรม คะแนนเต็ม 36 คะแนน

เกณฑก์ ารตดั สนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 3

คะแนน ระดบั คณุ ภาพ
51 – 62 ดีเยย่ี ม
34 – 50 ดี
17 – 33 พอใช้
0 – 16 ปรับปรงุ

คู่มือการใชเ้ ครอ่ื งมือประเมนิ สมรรถนะสำ� คญั ของผูเ้ รียน 79 ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)

80

บรรณานุกรม

กระทรวงศึกษาธิการ. ((22555511)).. หหลลักักสสูตูตรรแแกกนนกกลลาางงกกาารรศศึกึกษษาาขขั้น้ันพพื้น้ืนฐฐาานนพพ.ศุท.ธ2ศ5ัก5ร1าช. ก2ร5ุงเ5ท1พ. ฯกร:ุงโเรทงพฯิมพ:์
โรคงรุ พสุ ิมภพาล์คาุรดสุ พภราา้ ลวา.ดพรา้ ว.
กันต์กนิษฐ์ ชลสีมัธยา. (2562). ความคาดหวังของผู้ปกครองท่ีมีต่อสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน โรงเรียน

ศรีราชา สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 18. หลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต
สาขาการบริหารการศกึ ษา, มหาวทิ ยาลัยบูรพา.
พรพิชิต ทิทา. (2561). การพัฒนาแนวทางการส่งเสริมสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา.
สาขาวิจัยและประเมินผลระดบั ปริญญาการศกึ ษามหาบณั ฑติ , มหาวทิ ยาลัยสารคาม.
สานักงานราชบัณฑิตยสภา. (2564). พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิตยสภา. พิมพ์ครั้งท่ี 2.
กรุงเทพฯ : บรษิ ัท ธนาเพรส จากดั .
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนระดับ
การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน. กรุงเทพฯ : 21 เซ็นจรู ่ี.
สานักทดสอบทางการศึกษา. (2555). ค่มู อื ประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สานักงาน
พระพทุ ธศาสนาแห่งชาต.ิ
สานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา, สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (2554).
แนวปฏบิ ัตกิ ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนรตู้ ามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551.
พมิ พค์ รง้ั ท่ี 3. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั .

้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 80 คู่มือการใช้เคร่อื งมือประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รยี น
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

ภาคผนวก



82

รายช่อื คณะผูจ้ ัดทา

1. ทีป่ รกึ ษา
1) นายอมั พร พนิ ะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
2) นางเกศทิพย์ ศภุ วานิช รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน
3) นายวษิ ณุ ทรัพยส์ มบัติ ผูอ้ านวยการสานกั ทดสอบทางการศึกษา
4) นางลาใย สนั่นรมั ย์ ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นการพัฒนาเคร่ืองมือวัดผล
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน
5) นายชนาธิป ท้ยุ แป ผู้อานวยการกล่มุ ประเมินคุณภาพการศึกษา
2. คณะทางานจัดทาคู่มือการใช้เครือ่ งมือประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี นระดบั การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ประกอบดว้ ย
2.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
1) นายไชยวฒั น์ อารีโรจน์ ครูชานาญการ โรงเรียนวิสุทธรังษี
สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษากาญจนบรุ ี
2) นายพฤทธณัฏฐิ์ พรมรัตน์ ครชู านาญการ โรงเรยี นราชวินิตมธั ยม
สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร เขต 1
3) นายสรุ พงษ์ กล่าบตุ ร ครู โรงเรยี นวชั รวิทยา
สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษากาแพงเพชร
2.2 ความสามารถในการคิด
1) นางสุรีรตั น์ โชตวิ ิชาศิริกลุ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นอนุบาลหนองบวั (เทพวทิ ยาคม)
สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 3
2) นางรจนา เทยี นจนั ทร์ ศกึ ษานเิ ทศกช์ านาญการพเิ ศษ
สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวัดสระแก้ว
3) นางสาวสภุ าวดี คานาดี ศกึ ษานิเทศกช์ านาญการ
สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1
2.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
1) นายจรูญ ดวงจรสั ครูชานาญการพิเศษ โรงเรียนอินทรบ์ รุ ี
สานกั งานเขตพน้ื การศกึ ษามัธยมศกึ ษาสิงห์บรุ ี อ่างทอง
2) นายดนุพล คาพา ครูชานาญการ โรงเรยี นบ้านนาซ่าว
สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเลย เขต 1
3) นายเกรยี งศกั ดิ์ โชติวิชาศิริกุล ครู โรงเรยี นอนบุ าลหนองบวั (เทพวิทยาคม)
สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 3
2.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
1) นายยทุ ธกรณ์ กอ่ ศิลป์ ครูชานาญการ โรงเรยี นรอ้ ยเอด็ วิทยาลัย ้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษารอ้ ยเอด็
2) นางสาวสรุ างคณา ธรรมพทิ กั ษ์ ครูชานาญการ โรงเรียนควนขนุน
สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษาพัทลุง

คมู่ ือการใชเ้ ครอ่ื งมอื ประเมินสมรรถนะส�ำคัญของผูเ้ รียน 83
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)

3) นายธนวุฒิ มากเจรญิ ครู โรงเรียนสารกิ า 83
สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครนายก
34) นายธนนิธวิภุฒัทริ ์ มสรา้อกยเจเชริญือ้ ดี ครู โรงเรียนสวชาริ ิกธรารมสาธิต
สานักงาานนเขเขตตพพ้นื ื้นทที่กี่การาศรึกศษึกาษมาธั ปยรมะศถึกมษศากึ รษงุ าเทนพคมรหนานยคกร เขต 2
54) นายวนรธิ าิภวัทธุ ร์ วสดรอ้วี รยวเิทชื้อยด์ ี คนรกั ูวโชิรงาเกราียรนศวึกชษริ าธชรารนมาสญาธกติ ารพเิ ศษ
สานักงทาดนสเขอตบพทืน้ าทงี่กาารรศศึกึกษษามาธั ยมศกึ ษากรุงเทพมหานคร เขต 2
2.5 ค5ว)านมาสยาวมราารวถุธในการใชวด้เทีวครวโนทิ ยโล์ ยี นักวชิ าการศกึ ษาชานาญการพเิ ศษ
1) นายบรรฑรู ณ์ สิงห์ดี สศากึ นษกัาทนดิเทสศอกบช์ ทาานงากญารกศาึกรษา
2.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท
12) นายบเจรษรฎฑารู ณ์ กสงิอ้ หงสด์ าี คร ศกึ ษานิเทศก์ชานาญการ
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชเชัยียนงาใทหม่ เขต 3
32) นางยกเจิตษตฎิมา กเนอ้ ตงรสพาคุกรกณะ คศึกรูชษาานนาเิ ญทศกกา์ชรพานิเศาษญกโรางรเรยี นเกาะพะงนั ศึกษา
สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาปมัธรยะถมมศศกึ ึกษษาสาเุรชาียษงฎใหรธ์มา่ นเขี ชตุม3พร
43) นาางงสกาิตวอตุไิมราวรรณ พเนลู ตทรรพัพกุ ยก์ ณะ ครูชโารนงเารญียกนาเกรพาะิเศพษะงโันรศงเึกรษยี านเกาะพะงันศึกษา
สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศึกษาสรุ าษฎรธ์ านี ชุมพร
54) นางสาวอนุไวรววรรรณณ ศพรลู ีสทวรัสพั ดยิ์ ์ ครู โรงเรยี นเวกัดาเะนพนิ ะพงรนั ะศกึ ษา
สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาปมธัรยะถมมศศึกกึษษาสารุ ะาษยอฎงรธ์ เขานตี ช1มุ พร
65) นวา่ งทส่ี าร.วตน.ญวว.ณรริชณาภัชรศรสีพวรสั หดมิ์ รตั น์ ครูผโ้ชูร่วงเยรยีโรนงวเัดรยีเนนนิ บพ้ารนะบวั ขาว (วันครู 2500)
สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษากระายฬอสงนิ เธข์ุ เตขต1 3
3. ผู้รับผ6ิด)ชวอา่ บที่โรค.ตร.งญก.ณาริชาภชั ร พรหมรตั น์ ครูผ้ชู ่วย โรงเรยี นบา้ นบัวขาว (วนั ครู 2500)
1) นางสาวบงั อร กมลวัฒนา สผาู้อนากั นงวายนกเขารตกพลืน้ มุ่ ทพี่กฒั ารนศาึกเคษราอ่ื ปงรมะอื ถแมลศะกึ บษรากิ กาารฬกาสรนิ ทธด์ุ เสขอตบ3
3. ผรู้ บั ผดิ 2ช)อนบาโยคจรนั งทกรา์ร สกลุ วงศ์ไพบลู ย์ นกั วชิ าการศึกษาชานาญการพเิ ศษ

31)) นนาางงสสาาววพบังศิ อมรยั โกถมชลัยวคัฒานา นผอู้ักาวนิชาวกยากราศรึกกษลุ่มาชพาัฒนนาญาเกคารรื่อพงมเิ ศอื ษและบรกิ ารการทดสอบ
42)) นนาางยฉจนันั ททนร์า สสกกุลุลววงงศศ์ไไ์ พพบบูลูลยย์์ นนกัักววิชชิ าากกาารรศศึกกึ ษษาาชชาานนาาญญกกาารรพพิเเิ ศศษษ
53)) นนาายงสวารวาพวุธิศมัย โวถดชวี ัยรควิทาย์ นนกัักววชิชิ าากกาารรศศึกึกษษาาชชาานนาาญญกกาารรพพเิเิ ศศษษ
64)) นนาายงฉวันิททยานา สบกัวภลุ วางรศงั ษไ์ พี บลู ย์ นนกักั ววชิชิ าากกาารรศศึกึกษษาาชชาานนาาญญกกาารรพิเศษ
75)) นนาายยวเฉรลาิมวธุเกียรติ ทวดอีวงรจวนุ ทิ ย์ นนักักววิชิชาากกาารรศศกึึกษษาาชปาฏนิบาัตญกิ กาารรพิเศษ
68)) นนาางยสวาิทวยวชัารินทร์ บพัวนั ภธาุ์เภรงัาษี นนัักกววชิชิ าากกาารรศศึกกึ ษษาาชปาฏนบิ าัตญกิ กาารร
97)) นนาางยสเาฉวลสมิ ภุ เกานียิตรตย์ิ ชทาอญงจนนุ อก นผู้ชกั ว่วยชิ นากกั าวรชิ ศาึกกษาราปฏิบัติการ
810) )นนาางสงสาาวววเัชพรชนิ รทนิ รท์ ร์พโนั บธกุ์เภคาา นผู้ชักว่วยิชนากักาวริชศาึกกษาราปฏบิ ัตกิ าร
191) )นนาางสงสาาววสคภุ ทั าลนยีิตาย์ แชลาญบัวนอก ผผชู้ชู้ ว่่วยยนนักกั ววชชิิ าากกาารร
1120)) นนาางงสสาาววภเพาชพริมนิ ลทร์เมโธบีกกติ คตากิ ลุ ผผูู้้ชชว่่วยยนนักักววชิชิ าากกาารร
4. บรรณา1ธ1กิ) านรากงสิจาวคทั ลยี า แลบวั ผชู้ ่วยนกั วิชาการ
12) )นนาายงวสษิาวณภุาพิมล เทมรธพั ีกยิตส์ ตมกิ บลุ ัติ ผผูชู้้อว่ายนนวยักกวชิาราสกาานรักทดสอบทางการศึกษา
4. บผูอ้รรอณกแา2312บธ))))กิบนนนนาปาาาารงยงงกกสสสวิจาาาษิ วววณพบบุังังศิ ออมรรยั ทโกกถมมรชพัลลยั ววยคัฒฒั์สามนนบาาัติ นผผูู้้ออักาาวนนชิ าววกยยากกราาศรรกึกสษาลนุม่าักชพาทัฒนดนาสญาอเกคบารทรือ่ าพงงมิเกศือาษแรศลึกะษบาริการการทดสอบ
้ชันประถม ึศกษา ีปที่ 1 - 3 5. 3น)างนสาางวสคาทัวพลยีศิ ามัย แโถลชบยั ัวคา ผอู้ านวยการกลมุ่ พฒั นาเครื่องมือและบรกิ ารการทดสอบ
ผนชู้ักว่ ยชิ นากั าวริชศากึ ษาราชานาญการพเิ ศษ
5. ผู้ออกแบบปก
นางสาวคัทลียา แลบวั ผ้ชู ่วยนักวชิ าการ

84 คมู่ ือการใช้เคร่อื งมือประเมินสมรรถนะสำ� คัญของผเู้ รียน
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)