The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kusawitree, 2023-03-24 15:32:40

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ด้วยชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

รายงานกิจกรรม 5E ด้วย PLC

10. บันทึกหลังสอน วันที่…13…. เดือน…มีนาคม.……พ.ศ .2566 ผลการสอน นักเรียนให้ความสนใจและมีความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนมากขึ้น มีบรรยากาศที่ดีในการจัดการเรียน การสอน ซึ่งส่งผลให้นักเรียนและครูมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นักเรียนสามารถอธิบายส่วนประกอบของ อากาศได้และความสำคัญของอากาศต่อสิ่งมีชีวิตและทดลองเพื่อหาองค์ประกอบของอากาศ ฝึกให้นักเรียน รับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ดีมากขึ้น รวมทั้งมีเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ที่ดีขึ้น ปัญหา/อุปสรรค นักเรียนไม่สามารถจดจำเนื้อหาที่เรียนได้ เพราะเป็นเนื้อหาที่ค่อนข้างยาก ครูจึงได้ร่วมท ำชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ ทำงวิชำชีพ (PLC) ร่วมกับครูในกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายในโรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ให้เน้นการจำในลักษณะ ของความเข้าใจ หรือการจำอย่างมีความหมาย จำอย่างมีความคิดความเข้าใจ ในเนื้อหาที่ได้เรียนจากเอกสารการสอน การอ่านเอกสารการสอนให้จำได้สามารถปฏิบัติได้ดังนี้ 1.อ่านส่วนนำของเนื้อหา 2.จัดระบบของเนื้อหา 3.เชื่อมโยงความรู้เดิม 4.จดบันทึก 5.อ่านส่วนสรุป 6.ทวนซ้ำขณะอ่าน 7.ทดสอบตนเอง 8.หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน ลงชื่อ………………………..…………………… ผู้สอน ( นางสาวณัชนรี ลิ้มโอชากุล )


บัตรคำ


ใบงานที่ 5.1 เรื่อง อากาศมีสมบัติอย่างไร คำสั่ง : ให้นักเรียนทำกิจกรรมต่อไปนี้สังเกตและบันทึกผล การทำกิจกรรม สิ่งที่สังเกตได้ 1. นำกระดาษเยื่อติดที่ก้นแก้วด้านในด้วยเทปใส แล้วคว่ำแก้วพลาสติกใสกดลงไปตรง ๆ ในอ่างใส่ น้ำ จากนั้นเอียงแก้วเล็กน้อยโดยไม่ให้ปากแก้ว พ้นผิวน้ำ 2. เป่าลูกโป่ง สมบัติของอากาศ มีอะไรบ้าง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................


ใบงานที่ 5.1 เฉลย เรื่อง อากาศมีสมบัติอย่างไร คำสั่ง : ให้นักเรียนทำกิจกรรมต่อไปนี้สังเกตและบันทึกผล การทำกิจกรรม สิ่งที่สังเกตได้ 1. นำกระดาษเยื่อติดที่ก้นแก้วด้านในด้วยเทปใส แล้วคว่ำแก้วพลาสติกใสกดลงไปตรง ๆ ในอ่างใส่ น้ำ จากนั้นเอียงแก้วเล็กน้อยโดยไม่ให้ปากแก้ว พ้นผิวน้ำ 2. เป่าลูกโป่ง สมบัติของอากาศมีอะไรบ้าง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................


ใบงานที่ 5.2 เรื่อง ส่วนประกอบและความสำคัญของอากาศ ให้นักเรียนเติมลงในช่องว่างที่กำหนด ให้นักเรียนตอบคำถามดังต่อไปนี้ แก๊ส........................................................ มีสัดส่วนในอากาศ ...................% แก๊ส........................................................ มีสัดส่วนในอากาศ ...................% แก๊ส........................................................ มีสัดส่วนในอากาศ ...................% แก๊สอื่น ๆ มีสัดส่วนในอากาศ 0.96% 1. แก๊สไนโตรเจนมีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย ............................................................................................................................. ........................................... ....................................................................................................................................................................... 2. แก๊สออกซิเจนมีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย ............................................................................................................................. ........................................... ............................................................................................................................. .......................................... 3. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย ............................................................................................................................. .......................................... .......................................................................................................................................................................


เฉลย ใบงานที่ 5.2 เรื่อง ส่วนประกอบและความสำคัญของอากาศ ให้นักเรียนเติมลงในช่องว่างที่กำหนด ให้นักเรียนตอบคำถามดังต่อไปนี้ แก๊สไนโตรเจน (N) มีสัดส่วนในอากาศ 78% แก๊สออกซิเจน (O) มีสัดส่วนในอากาศ 21% แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) มีสัดส่วนในอากาศ 0.04% แก๊สอื่น ๆ มีสัดส่วนในอากาศ 0.96% 1. แก๊สไนโตรเจนมีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย ช่วยเจือจางแก๊สออกซิเจนในอากาศให้มีปริมาณเหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต 2. แก๊สออกซิเจนมีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย ใช้ในการหายใจของสิ่งมีชีวิต 3. แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มีความสำคัญอย่างไร จงอธิบาย ใช้ในกระบวนการสร้างอาหารของพืช


แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ เวลาเรียน 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 การรวบรวมข้อมูล เวลาเรียน 3 ชั่วโมง สอนโดย นางสาวิตรี ผกามาศ วันที่สอน...................................................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ป.4/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 บอกขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลได้(K) 2.2 วางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูลตามความสนใจได้(P) 2.3 ใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผลข้อมูลได้(P) 2.4 บอกความสำคัญและประโยชน์ของข้อมูลและสารสนเทศที่มีต่อการเรียนและชีวิตประจำวันได้(A) 3. สาระการเรียนรู้ 1. การรวบรวมข้อมูล ทำได้โดยกำหนดหัวข้อ ที่ต้องการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบันทึก 2. การประมวลผลอย่างง่าย เช่น เปรียบเทียบ จัดกลุ่ม เรียงลำดับ การหาผลรวม 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


12 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5.1 ใฝ่เรียนรู้ 5.2 มุ่งมั่นในการทำงาน 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วิทยาการ คำนวณ) โดยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกับบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การนำเสนอข้อมูล และสารสนเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) 1) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลโดยตอบคำถามต่อไปนี้ “นักเรียนบอกวิธีการรวบรวมข้อมูลที่รู้จักหรือเคยพบเห็นว่ามีวิธีใดบ้าง” ตัวอย่างคำตอบ “การจดบันทึกใส่กระดาษ วาดภาพ ภาพถ่าย บันทึกลงในอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์” “นักเรียนสามารถรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ได้จากแหล่งใดบ้าง” ตัวอย่างคำตอบ “หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต ห้องสมุด สอบถามจากผู้รู้” 2) ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้และทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 2 การนำเสนอข้อมูลและ สารสนเทศ โดยเป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ 3) ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน โดยคละผู้เรียนในกลุ่มให้มีความแตกต่างกัน ในด้านสติปัญญา ความถนัดและภูมิหลัง 4) ครูแนะนำวิธีการทำงานกลุ่มและบทบาทของสมาชิกในกลุ่ม ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 5) ครูแนะนำ บทเรียนออนไลน์ เรื่อง การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ 6) นักเรียนศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล จากใบความรู้ที่ 1.1 ขั้นตอนการรวบรวม ข้อมูล และคลิปวีดีโอ เรื่อง การประมวลผลข้อมูลอย่างง่าย จากบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การนำเสนอข้อมูล และสารสนเทศ ด้วยตนเอง 7) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้ศึกษามา โดยตอบคำถามต่อไปนี้ “จากข้อมูลที่นักเรียนศึกษามา การรวบรวมข้อมูลมีขั้นตอนอย่างไร” ตัวอย่างคำตอบ “1.กำหนดหัวข้อ 2.เตรียมอุปกรณ์ 3.สำรวจและเก็บข้อมูล 4. ประมวลผล ข้อมูล 5.วิเคราะห์ผล 6.การนำเสนอข้อมูล”


13 “เพราะเหตุใดจึงควรเลือกหัวข้อตามความสนใจ” ตัวอย่างคำตอบ “ช่วยให้การทำงานมีความสุข เป็นเรื่องที่อยากรู้ เห็นแนวทางในการเก็บ รวบรวมข้อมูล” “หากไม่กำหนดขอบเขตของการเก็บรวบรวมข้อมูลจะเกิดผลอย่างไร” ตัวอย่างคำตอบ “อาจต้องเก็บข้อมูลจำนวนมาก เสียเวลา ข้อมูลที่ได้ไม่ตรงตามความ ต้องการในการนำไปแก้ปัญหา” “หากนักเรียนต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพในชุมชน สามารถเก็บข้อมูลจาก แหล่งใด” ตัวอย่างคำตอบ “สังเกตคนในชุมชน สัมภาษณ์ผู้ใหญ่บ้าน สอบถามจากเจ้าหน้าที่เทศบาล ตำบลที่นักเรียนอยู่” “การเก็บรวบรวมข้อมูลมีความสำคัญและประโยชน์ต่อการเรียนและชีวิตประจำวันอย่างไร” ตัวอย่างคำตอบ “นำไปเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการแก้ปัญหา นำข้อมูลไปให้ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อออกแบบวีการแก้ปัญหา เป็นต้น” “ทำไมต้องมีการนำเสนอข้อมูล” ตัวอย่างคำตอบ “เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ที่สนใจ หรือเผยแพร่ความรู้” ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 8) นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนแผนภาพลำดับเหตุการณ์เกี่ยวกับใจความสำคัญ และรายละเอียด ของเรื่องที่ศึกษา โดยครูอธิบายการเขียนแผนภาพลำดับเหตุการณ์ เป็นการจัดลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้น จนจบ หรือเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดก่อนไปถึงเหตุการณ์สุดท้าย โดยครูผู้สอนเตรียมกระดาษ ปากกา และ ดินสอสีในการเขียนแผนภาพลำดับเหตุการณ์ไว้ให้ ซึ่งในระหว่างการทำกิจกรรมครูเป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ ตรวจสอบความถูกต้อง และสังเกตกระบวนการทำงานกลุ่ม 9) นักเรียนตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน กลุ่มละ 3 นาทีและร่วมกันแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับผลงานของเพื่อนในแต่ละกลุ่ม 10) ครูมอบหมายภาระงานก่อนหมดชั่วโมง ให้นักเรียนทบทวนความรู้จากบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ และทำกิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ที่ 1.1 เรื่อง ขั้นตอน การรวบรวมข้อมูล และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ การวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทำกิจกรรมฝึกทักษะที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนและเก็บข้อมูล ในชั่วโมงถัดไป ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 11) ครูทบทวนความรู้เดิมจากชั่วโมงที่ผ่านมา และซักถามนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่มอบหมาย ให้ศึกษาโดยตอบคำถามต่อไปนี้


14 “นักเรียนคิดว่า เรื่องที่น่าสนใจและควรนำมากำหนดเป็นหัวข้อในการเก็บรวบรวมข้อมูล ครั้งนี้ มีเรื่องอะไรบ้าง เพราะเหตุใดจึงเลือกเรื่องนั้น” ตัวอย่างคำตอบ “1. ความชื่นชอบผลไม้ของนักเรียน เพื่อนำข้อมูลไปให้แม่ค้าในโรงเรียน นำมาจัดจำหน่าย 2. ความต้องด้านอุปกรณ์กีฬา เพื่อนำข้อมูลให้โรงเรียนจัดซื้อมาบริการนักเรียน เป็นต้น” 12) นักเรียนร่วมระดมความคิดและกำหนดหัวข้อในกลุ่มของตนเอง ปฏิบัติกิจกรรมฝึกทักษะที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีครูคอยให้คำแนะนำ 13) นักเรียนเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง และร่วมกันประมวลผลข้อมูลและสรุป ชั่วโมงที่ 3 ขั้นที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 14) ครูสอบถามปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตามกิจกรรมฝึกทักษะที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูล โดยให้แต่ละกลุ่มนำเสนอและบอกวิธีการแก้ปัญหา พร้อมทั้งกล่าว ชมเชยความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียน 15) นักเรียนตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน และร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ผลงานของเพื่อนในแต่ละกลุ่ม 16) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลและเชื่อมโยงแนวคิด ในการประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ โดยตอบคำถามต่อไปนี้ “จากการเรียนรู้ เรื่อง การเก็บรวมรวบข้อมูล นักเรียนได้รับประโยชน์ต่อการเรียนและ ชีวิตประจำวันอะไรบ้าง” ตัวอย่างคำตอบ “1. นำข้อมูลที่ได้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง 2. ใช้ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจหรือมี ทางเลือกในการแก้ปัญหา 3. การทำงานง่ายและสำเร็จเพราะมีการวางแผน” “ถ้านักเรียนคิดว่า ปัญหาใดในชีวิตประจำวันของนักเรียนในขณะนี้ ควรได้รับการแก้ไข และใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เรียนมา ไปใช้ในการแก้ปัญหา” ตัวอย่างคำตอบ “1. การไม่ทำการบ้าน 2. การทิ้งขยะในโรงเรียน 3. การมาโรงเรียนสาย 4. การขาดเรียนบ่อยๆ 5. การติดเชื้อโควิด เป็นต้น” 17) ครูมอบหมายภาระงานก่อนหมดชั่วโมง ให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ การใช้ซอฟต์แวร์ เพื่อการนำเสนอข้อมูล จากบทเรียนออนไลน์ เรื่อง การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ 7. สื่อและแหล่งเรียนรู้ บทเรียนออนไลน์ เรื่อง การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ 7.1 ทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 2 การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ 7.2 ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล


15 7.3 คลิปวีดีโอ เรื่อง การประมวลผลข้อมูลอย่างง่าย 7.4 กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจที่ 1.1 เรื่อง ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล 7.5 กิจกรรมฝึกทักษะที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูล 8. การวัดและประเมินผล สิ่งที่วัด วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. ความสามารถใน การคิดวิเคราะห์ - สังเกตจากการร่วมตอบ คำถาม - แบบประเมิน เฉลี่ยอยู่ในระดับดี ขึ้นไป คือ ผ่านเกณฑ์ 2. ด้านความรู้ (K) - ทดสอบ - แบบทดสอบ คะแนนผลสัมฤทธิ์ผ่าน เกณฑ์ร้อยละ 80 3. ด้านทักษะ/ กระบวนการ (P) - สังเกตการทำงาน - ประเมินภาระงานและ การนำเสนอ - แบบสังเกต - แบบประเมินภาระงาน และการนำเสนอ เฉลี่ยอยู่ในระดับดีขึ้นไป คือ ผ่านเกณฑ์ 4. ด้านเจตคติ คุณลักษณะฯ สมรรถนะ (A) สังเกตพฤติกรรม การทำงานแสดงความ คิดเห็น แบบสังเกต เฉลี่ยอยู่ในระดับดี ขึ้นไป คือ ผ่านเกณฑ์


16 9. บันทึกผลหลังการสอน ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถบอกขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลได้ ผลการประเมินด้านความรู้ ความเข้าใจ เฉลี่ย 10.87 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90.56 ผ่านเกณฑ์การประเมิน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 100 2. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนสามารถวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูลตามความสนใจ เก็บ รวบรวมข้อมูล นำเสนอผลการดำเนินงานได้ ผลการประเมินด้านทักษะกระบวนการ เฉลี่ย 10.80 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 90.00 อยู่ในระดับ คุณภาพ ดีมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน 10 กลุ่ม คิดเป็นร้อยละ 100 3. ด้านเจตคติ คุณลักษณะฯ นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็น ร่วมตอบคำถาม คำตอบของ นักเรียนแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ การนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในรายวิชา อื่นๆ รวมทั้งในชีวิตประจำวันได้ ผลการประเมินด้านเจตคติ คุณลักษณะฯ คิดเป็นร้อยละ 100.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีมาก ผ่านเกณฑ์การประเมิน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ลงชื่อ……………………………………………… (นางสาวิตรี ผกามาศ) ครูผู้สอน


17 ทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 2 การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ https://shorturl.asia/k0Ogy คำชี้แจง : ให้นักเรียนกาเครื่องหมายกากบาท () ทับตัวอักษร ก ข ค หรือ ง ลงหน้าข้อคำตอบที่ถูกที่สุด 1. ข้อใดเป็นแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ ก. ดูการ์ตูนเรื่องเณรน้อยเจ้าปัญญา ข. อ่านหนังสือในห้องสมุด ค. ถามคุณครูเรื่องการบ้าน ง. ฟังข่าวจากวิทยุ 2. ข้อใดเป็นแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ ก. ถามคุณครูเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ ข. ให้เพื่อนสอนวิธีใช้คอมพิวเตอร์ ค. ให้คุณพ่อพาไปเรียนวิธีใช้คอมพิวเตอร์ ง. อ่านงานวิจัยเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์ 3. หากนักเรียนต้องการรวบรวมข้อมูลประเพณี ในท้องถิ่น ควรรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีใด ก. การทำแบบสำรวจหรือแบบสอบถาม ข. การสัมภาษณ์ปราชญ์ชาวบ้าน ค. การฟังวิทยุ ง. การสังเกต 4. การเก็บรวบรวมข้อมูลวิธีการใดที่นักเรียนจะ ได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด ก. การฟังคำบอกเล่า ข. การดูวิดีโอ ค. การลงมือปฏิบัติจริง ง. การอ่านจากหนังสือ 5. เครื่องมือใดเหมาะสมในการทำแบบสอบถาม ก. Google sheet ข. Microsoft excel ค. Google form ง. Microsoft word 6. เครื่องมือใดไม่เหมาะสมในการนำมา ประมวลผลข้อมูล ก. Google sheet ข. Microsoft excel ค. Google form ง. Microsoft word 7. ข้อใดเรียงลำดับขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลได้ ถูกต้อง ก. กำหนดหัวข้อ→เก็บรวบรวมข้อมูล →กำหนดเครื่องมือ→ประมวลผลข้อมูล →วิเคราะห์ข้อมูล→นำเสนอข้อมูล ข. วิเคราะห์ข้อมูล→กำหนดหัวข้อ →กำหนดเครื่องมือ→เก็บรวบรวมข้อมูล →ประมวลผลข้อมูล→นำเสนอข้อมูล ค. กำหนดหัวข้อ→กำหนดเครื่องมือ →เก็บรวบรวมข้อมูล→ประมวลผลข้อมูล →วิเคราะห์ข้อมูล→นำเสนอข้อมูล ง. กำหนดหัวข้อ→กำหนดเครื่องมือ →เก็บรวบรวมข้อมูล→วิเคราะห์ข้อมูล →ประมวลผลข้อมูล→นำเสนอข้อมูล 8. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูล ก. เป็นการสื่อสารระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง ข. การนำเสนอที่ดีต้องมีผู้ฟังมากกว่า 10 คน ค. สื่อประสม คือ การนำสื่อหลาย ๆ ประเภทมารวมกัน ง. โปรเจคเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นใน การนำเสนอข้อมูล 9. ข้อใดกล่าวถึงการประมวลผลได้ถูกต้อง ก. กราฟแสดงยอดขายสินค้าประจำวัน ข. การจัดเก็บข้อมูลไว้ใน google drive ค. การแสดงภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ ง. การเรียงลำดับชื่อนักเรียนตามตัวอักษร 10.ฟังก์ชันใดใช้หาผลรวมตั้งแต่เซลล์ A1-A10 ก. =MIN(A1:A10) ข. =MAX(A1:A10) ค. =SUM(A1:A10) ง. =AVERAGE(A1:A10)


18 ใบความรู้ที่ 1.1 เรื่อง ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล https://shorturl.asia/GdKel


19 กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจที่ 1.1 เรื่อง ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล https://shorturl.asia/g3eq8 คำชี้แจง : ให้นักเรียนจับคู่คำศัพท์กับข้อความให้มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กัน (12 คะแนน) กำหนดหัวข้อ เตรียมอุปกรณ์ สำรวจและเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล วิเคราะห์ผล การนำเสนอข้อมูล 1. ดาราสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการห้อง คอมพิวเตอร์ 2. ฟุ้งฟิ้งใช้โปรแกรม Microsoft Excel เพื่อสร้างแผนภูมิแท่ง แสดงความพึงพอใจที่มีต่อการให้บริการห้องคอมพิวเตอร์ 3. มาเรียจัดบอร์ดแสดงผลงาน โครงงานอาชีพ การทำน้ำพริก 4. มาริโอสนใจเก็บข้อมูล เรื่อง การทิ้งขยะในโรงเรียน เพื่อหา แนวทางในการแก้ปัญหาขยะในโรงเรียน 5. มะลิและสมาชิกในกลุ่มเดินสัมภาษณ์ผู้ปกครอง เกี่ยวกับความ ต้องการในด้านการพัฒนานักเรียน 6. อนันต์นำข้อมูลความชื่นชอบผลไม้ของนักเรียนโรงเรียนบ้านท่า ไม้ลายมาเปรียบเทียบ และตัดสินใจซื้อผลไม้ชนิดใดมาขาย เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุน


20 กิจกรรมฝึกทักษะที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูล คำชี้แจง : ให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างและวางแผนการเก็บรวบรวมข้อมูลในเรื่องที่ตนเองสนใจ ขั้นตอนการเก็บ รวบรวมข้อมูล รายละเอียด กำหนดหัวข้อ เรื่อง : เตรียมอุปกรณ์ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง : สำรวจและเก็บข้อมูล วิธีการ : กลุ่มตัวอย่าง : จำนวน : ประมวลผลข้อมูล สถิติที่ใช้: โปรแกรมที่ใช้: วิเคราะห์ผล วิธีการ : แนวทางการตัดสินใจเลือกข้อมูล : การนำเสนอข้อมูล วิธีการ โปรแกรม สมาชิกในกลุ่ม


21 แบบสำรวจ...................................................................................................... ของนักเรียนชั้น................................................................................. รายการ ผลการสำรวจ ผลรวม อันดับ


22 ตัวอย่าง ขั้นตอนการเก็บ รวบรวมข้อมูล รายละเอียด กำหนดหัวข้อ เรื่อง : แบบสำรวจความชื่นชอบผลไม้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย เตรียมอุปกรณ์ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง : 1. ดินสอ/ปากกา 2. แบบสำรวจข้อมูล 3. เครื่องคิดเลข สำรวจและเก็บข้อมูล วิธีการ : สอบถาม กลุ่มตัวอย่าง : นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน : 75 คน ประมวลผลข้อมูล สถิติที่ใช้: ผลรวม จัดลำดับ โปรแกรมที่ใช้: - วิเคราะห์ผล วิธีการ : เปรียบเทียบ แนวทางการตัดสินใจเลือกข้อมูล : เลือกอันดับที่ 1-3 การนำเสนอข้อมูล วิธีการ : นำเสนอด้วยสไลน์ โปรแกรม : Microsoft PowerPoint สมาชิกในกลุ่ม 1. 2. 3. 4.


23 แบบสำรวจความชื่นชอบผลไม้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่4-6 โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย รายการ ผลการสำรวจ ผลรวม อันดับ แตงโม //// //// //// // 17 2 มะม่วง //// //// //// //// //// //// 29 1 ชมพู่ //// //// 10 4 ฝรั่ง //// //// / 11 3 แคลตาลูป /// 3 5 แอปเปิ้ล /// 3 5 มะละกอ 0 7 กล้วย 0 7 ส้ม // 2 6


24 การวิเคราะห์ข้อมูล 1. ผลไม้ชนิดใดที่มีนักเรียนชอบมากที่สุด มะม่วง จำนวน 29 คน 2. ผลไม้ชนิดใดที่มีนักเรียนชอบน้อยที่สุด มะละกอและกล้วย จำนวน 0 คน 3. แนวทางการตัดสินใจเลือกข้อมูล : เลือกอันดับที่ 1-3 3.1 มะม่วง 3.2 แตงโม 3.3 ฝรั่ง


25 บันทึกคะแนนแบบทดสอบ หน่วยที่ 2 การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ที่ ชื่อ - สกุล คะแนน ความ ก้าวหน้า ผลการ ก่อนเรียน หลังเรียน ประเมิน 1 เด็กชายกฤษณะ กุยุคำ 2 2 เด็กชายณัฐพร ข้ามสมุทร 1 3 เด็กชายธนิสร สืบรอง 2 4 เด็กชายธีรภัทร รักธรรม 2 5 เด็กชายทิพย์ธาดา ไชยมหาแก้ว 2 6 เด็กชายปพนพัทธ์ ชมะวรรณ์ 2 7 เด็กชายปรเมศวร์ โสมกุล 3 8 เด็กชายพิษณุ สันโดษ 2 9 เด็กชายพีรพัฒน์ เพ็งโคนา 3 10 เด็กชายภานุพงษ์ ศรีนวล 3 11 เด็กชายวีรกร พรมโยธา 1 12 เด็กชายสราวุฒิ อักษรเกตุ 2 13 เด็กชายสิทธิชัย คำเจริญ 3 14 เด็กชายหัสดี สังข์นิมิตร 2 15 เด็กชายอาทิตย์ วรังอาจ 4 16 เด็กชายอนุวัตร ชำนินอก 3 17 เด็กชายอดิเทพ ศรีพรม 3 18 เด็กชายจตุรภัทร สุกกรี 4 19 เด็กหญิงนภัสสรณ์ พรมโยธา 4 20 เด็กหญิงชไมพร สมตัน 4 21 เด็กหญิงอณัชญา เชื้อดี 3 22 เด็กหญิงศุภรดา สถิตย์สร 2 23 เด็กหญิงศิรินทิพย์ เรืองจันทร์ 3 24 เด็กหญิงวริทธิ์ณัณ เหลือเหลื่อม 3 25 เด็กหญิงวรวรัญณ์ เหลือเหลื่อม 3 26 เด็กหญิงมนัสนันท์ ไทยประดิษฐ์ 3 27 เด็กชายพฤทินัน เถียรสุข 2 28 เด็กชายปัญญากร ศรีสงคราม 2 29 เด็กหญิงปนัดดา เลื่องลือไกร 1 30 เด็กหญิงณัฎฐณิชา ชัยชนะ 4 เฉลี่ย 2.60 ร้อยละ 26.00


26 บันทึกคะแนน กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจที่ 1.1 เรื่อง ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล ที่ ชื่อ - สกุล คะแนน (12) ร้อยละ ผลการ ประเมิน หมายเหตุ 1 เด็กชายกฤษณะ กุยุคำ 10 83.33 ผ่าน 2 เด็กชายณัฐพร ข้ามสมุทร 10 83.33 ผ่าน 3 เด็กชายธนิสร สืบรอง 11 91.67 ผ่าน 4 เด็กชายธีรภัทร รักธรรม 10 83.33 ผ่าน 5 เด็กชายทิพย์ธาดา ไชยมหาแก้ว 11 91.67 ผ่าน 6 เด็กชายปพนพัทธ์ ชมะวรรณ์ 11 91.67 ผ่าน 7 เด็กชายปรเมศวร์ โสมกุล 11 91.67 ผ่าน 8 เด็กชายพิษณุ สันโดษ 10 83.33 ผ่าน 9 เด็กชายพีรพัฒน์ เพ็งโคนา 12 100.00 ผ่าน 10 เด็กชายภานุพงษ์ ศรีนวล 11 91.67 ผ่าน 11 เด็กชายวีรกร พรมโยธา 10 83.33 ผ่าน 12 เด็กชายสราวุฒิ อักษรเกตุ 10 83.33 ผ่าน 13 เด็กชายสิทธิชัย คำเจริญ 12 100.00 ผ่าน 14 เด็กชายหัสดี สังข์นิมิตร 11 91.67 ผ่าน 15 เด็กชายอาทิตย์ วรังอาจ 12 100.00 ผ่าน 16 เด็กชายอนุวัตร ชำนินอก 12 100.00 ผ่าน 17 เด็กชายอดิเทพ ศรีพรม 12 100.00 ผ่าน 18 เด็กชายจตุรภัทร สุกกรี 10 83.33 ผ่าน 19 เด็กหญิงนภัสสรณ์ พรมโยธา 11 91.67 ผ่าน 20 เด็กหญิงชไมพร สมตัน 12 100.00 ผ่าน 21 เด็กหญิงอณัชญา เชื้อดี 11 91.67 ผ่าน 22 เด็กหญิงศุภรดา สถิตย์สร 11 91.67 ผ่าน 23 เด็กหญิงศิรินทิพย์ เรืองจันทร์ 10 83.33 ผ่าน 24 เด็กหญิงวริทธิ์ณัณ เหลือเหลื่อม 10 83.33 ผ่าน 25 เด็กหญิงวรวรัญณ์ เหลือเหลื่อม 11 91.67 ผ่าน 26 เด็กหญิงมนัสนันท์ ไทยประดิษฐ์ 10 83.33 ผ่าน 27 เด็กชายพฤทินัน เถียรสุข 12 100.00 ผ่าน 28 เด็กชายปัญญากร ศรีสงคราม 10 83.33 ผ่าน 29 เด็กหญิงปนัดดา เลื่องลือไกร 10 83.33 ผ่าน 30 เด็กหญิงณัฎฐณิชา ชัยชนะ 12 100.00 ผ่าน เฉลี่ย 10.87 90.56 ร้อยละ 90.56 90.56


27 แบบประเมิน กิจกรรมฝึกทักษะที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มที่ เกณฑ์การประเมิน รวม คะแนน ระดับ คุณภาพ ผลการ ระบุเรื่อง ประเมิน การจำแนกแยกแยะ ข้อมูลและหา ความสัมพันธ์ของ ข้อมูล การเปรียบเทียบ เพื่อจัดระบบ ข้อมูล การ นำเสนอ 1 3 3 2 3 11 ดีมาก ผ่าน 2 3 3 3 3 12 ดีมาก ผ่าน 3 2 3 2 3 10 ดีมาก ผ่าน 4 3 3 3 3 12 ดีมาก ผ่าน 5 3 3 2 3 11 ดีมาก ผ่าน 6 3 3 3 3 12 ดีมาก ผ่าน 7 3 3 3 3 12 ดีมาก ผ่าน 8 3 3 2 3 11 ดีมาก ผ่าน 9 3 3 3 3 12 ดีมาก ผ่าน 10 3 3 3 3 12 ดีมาก ผ่าน เฉลี่ย 11.50 ดีมาก ร้อยละ 95.83 ดีมาก ระดับคุณภาพ คะแนน 10-12 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7-9 หมายถึง ดี คะแนน 4-6 หมายถึง ผ่าน คะแนน 1-3 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การผ่านการประเมิน ระดับคุณภาพ ดี ขึ้นไป


28 เกณฑ์การประเมิน กิจกรรมฝึกทักษะที่ 1.1 เรื่อง การวางแผนและเก็บรวบรวมข้อมูล รายการประเมิน 3 2 1 การวางแผน สามารถวางแผนการทำงานโดยบันทึกข้อมูล จากการระดมความคิดเห็น สอดคล้องกับ ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล ได้ครบทุกขั้นตอน ดังนี้ 1.กำหนดหัวข้อ 2.เตรียมอุปกรณ์ 3.สำรวจและเก็บข้อมูล 4.ประมวลผลข้อมูล 5.วิเคราะห์ผล 6.การนำเสนอข้อมูล สามารถวางแผนการ ทำงานโดยบันทึก ข้อมูลจากการระดม ความคิดเห็น สอดคล้องกับขั้นตอน การรวบรวมข้อมูล ได้ 4-6 ขั้นตอน สามารถวางแผนการ ทำงานโดยบันทึก ข้อมูลจากการระดม ความคิดเห็น สอดคล้องกับ ขั้นตอนการรวบรวม ข้อมูล ได้ 1-3 ขั้นตอน การเก็บข้อมูล สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครบ ตามประเด็นดังนี้ 1. ออกแบบเครื่องมือในการเก็บข้อมูลได้ สอดคล้องกับหัวข้อที่กำหนด 2. เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ครบถ้วน 3. สรุปข้อมูลได้ถูกต้อง สามารถเก็บข้อมูลได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เพียง 2 ประเด็น สามารถเก็บข้อมูล ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เพียง 1 ประเด็น การนำเสนอ สามารถนำเสนอข้อมูลจากการปฏิบัติกิจกรรม ครบตามประเด็นดังนี้ 1. นำเสนอข้อมูลได้ตามลำดับขั้นตอนการเก็บ รวบรวมข้อมูล 2. ผู้นำเสนอมีบุคลิกที่ดี แต่งกายเรียบร้อย ท่าทางการพูด น้ำเสียงแววตา สีหน้า แสดงออกถึงความมั่นใจ สดใส และ กระตือรือร้น 3. ตอบข้อซักถามได้ทุกประเด็นและมีความ กระจ่างชัด สามารถนำเสนอข้อมูล จากการปฏิบัติ กิจกรรม ได้ 2 ประเด็น สามารถนำเสนอ ข้อมูลจากการ ปฏิบัติกิจกรรม ได้ 1 ประเด็น การทำงานเป็น กลุ่ม สามารถทำงานเป็นกลุ่มได้อย่างมี ประสิทธิภาพตามประเด็น ดังนี้ 1. กำหนดบทบาทหน้าที่ในการทำงาน 2. มีส่วนร่วมในทุกๆ ขั้นตอนการทำงาน 3. มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ สามารถทำงานเป็น กลุ่มได้อย่างมี ประสิทธิภาพเพียง 2 ประเด็น สามารถทำงานเป็น กลุ่มได้อย่างมี ประสิทธิภาพเพียง 1 ประเด็น


376 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (ว 23102) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้เรื่อง ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ใน ระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทาง ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. ตัวชี้วัด ว 1.1 ม.3/2 อธิบายรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบต่าง ๆในแหล่งที่อยู่ เดียวกันที่ได้จากการสำรวจ 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด 1) สิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาวะพึ่งพากัน ภาวะอิงอาศัย ภาวะ เหยื่อกับผู้ล่า ภาวะปรสิต 2) สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งที่อยู่เดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน เรียกว่า ประชากร 3) กลุ่มสิ่งมีชีวิตประกอบด้วยประชากรของสิ่งมีชีวิตหลาย ๆชนิด อาศัยอยู่ร่วมกันในแหล่งที่อยู่เดียวกัน 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันที่อยู่ร่วมกันแบบต่าง ๆ ได้ 2. นักเรียนใช้ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล โดยนำข้อมูลที่ได้จากการสังเกตสิ่งมีชีวิตมาเชื่อมโยง เพื่ออธิบาย เกี่ยวกับรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต 3. นักเรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ 5. สาระการเรียนรู้ สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อยู่ร่วมกันในระบบนิเวศจะมีปฏิสัมพันธ์กันในลักษณะต่าง ๆ สิ่งมีชีวิตบางชนิดได้ ประโยชน์ บางชนิดเสียประโยชน์ และบางชนิดไม่ได้และไม่เสียประโยชน์ การที่สิ่งมีชีวิตสองชนิดมาอยู่ร่วมกัน โดยต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์เรียกรูปแบบความสัมพันธ์นี้ว่า ภาวะพึ่งพากัน (mutualism) เช่น ปลาการ์ตูนกับ ดอกไม้ทะเล โดยปลาการ์ตูนใช้ดอกไม้ทะเลเป็นที่อยู่อาศัย หลบภัย และวางไข่ ส่วนดอกไม้ทะเลอาศัยปลา การ์ตูนล่อสัตว์น้ำชนิดอื่นให้เข้ามาใกล้ดอกไม้ทะเล เพื่อดอกไม้ทะเลจะได้จับสัตว์น้ำนั้น ๆ เป็นอาหาร หรือกรณี


377 ของไลเคน ที่เป็นการอยู่ร่วมกันของราและสาหร่าย โดยราจะได้รับสารอาหารจกสาหร่าย ส่วนสาหร่ายก็จะได้รับ ความชื้นจากรา การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งได้รับประโยชน์ ส่วนอีกชนิดหนึ่งไม่ได้และไม่เสีย ประโยชน์ เรียกรูปแบบความสัมพันธ์นี้ว่า ภาวะอิงอาศัย (commensalism) ตัวอย่างเช่น ปลาเหาฉลามกับ ปลาฉลาม โดยปลาเหาฉลามได้ประโยชน์จากเศษอาหารที่ปลาฉลามกิน ส่วนปลาฉลามไม่ได้ประโยชน์จากปลา เหาฉลามแต่ก็ไม่เสียประโยชน์แต่อย่างใด หรือกรณีของกล้วยไม้ป่าที่เกาะอยู่บนลำตันของตันไม้ใหญ่ โดย กล้วยไม้ป่าได้รับความชื้นและที่อยู่อาศัยจากต้นไม้ใหญ่ ส่วนต้นไม้ใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์จากกล้วยไม้ป่าแต่ก็ไม่ เสียประโยชน์เช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมกันในลักษณะที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งได้ประโยชน์ แต่อีกชนิดหนึ่ง เสียประโยชน์ โดยสิ่งมีชีวิตที่ได้ประโยชน์ เรียกว่า ปรสิต (parasite) ต้องอาศัยอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่เสียประโยชน์ เรียกว่า ผู้ถูกอาศัย (host) ซึ่งส่วนมากสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ถูกอาศัยจะไม่เสียชีวิตในทันที รูปแบบความสัมพันธ์นี้ เรียกว่า ภาวะปรสิต (parasitism) ตัวอย่างเช่น เห็บบนตัวสุนัข โดยเห็บเป็นปรสิตได้ประโยชน์จกการกินเลือด ของสุนัขเป็นอาหาร ส่วนสุนัขเป็นผู้ถูกอาศัยเสียประโยชน์จากการสูญเสียเลือดและอาจติดเชื้อโรคที่มาจากเห็บ หรือในกรณีของกาฝากที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ กาฝากเป็นปรสิตใช้รากเจาะลำตันของตันไม้เพื่อดูดน้ำและอาหาร ส่วนตันไม้เป็นผู้ถูกอาศัยเสียประโยชน์ โดยจะถูกแย่งน้ำและอาหาร สิ่งมีชีวิตบางชนิดที่อยู่ในแหล่งที่อยู่เดียวกันจะมีการกินกันเป็นอาหาร ซึ่งฝ่ายหนึ่งจะได้ประโยชน์ ฝ่าย หนึ่งจะเสียประโยชน์ เรียกรูปแบบความสัมพันธ์นี้ว่า การล่าเหยื่อ (predation) โดยสิ่งมีชีวิตที่ได้ประโยชน์จาก การกินสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหารเรียกว่า ผู้ล่า (predator) ส่วนสิ่งมีชีวิตที่เสียประโยชน์จากการถูกกินเป็นอาหาร และเสียชีวิตลงเรียกว่า เหยื่อ (prey) เช่น สิงโตกัดควายป่า งูกับกบ โดยสิงโตและงูเป็นผู้ล่า ส่วนควายป่าและ กบเป็นเหยื่อ ในธรรมชาติเมื่อผู้ล่าเพิ่มจำนวนมากขึ้นจะทำให้เหยื่อซึ่งเป็นอาหารมีจำนวนลดลง หากผู้ล่ากินเหยื่อ ชนิดเดียวเป็นอาหารจะส่งผลให้ผู้ล่าขาดแคลนอาหารและเกิดการแข่งขันเพื่อแย่งอาหาระหว่างผู้ล่าด้วยกันเอง ทำให้ผู้ล่ามีจำนวนลดลง ดังนั้นจำนวนของผู้ล่าและเหยื่อในระบบนิเวศหนึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้เกิด ความสมดุลของจำนนประชากรทั้งผู้ล่าและเหยื่อ ดังภาพ ซึ่งเป็นกราฟแสดงความสัมพันธ์ของจำนวนประชากร แมวปาลิงซ์กับกระต่ายป่า โดยแมวป่าลิงซ์เป็นผู้ล่า ส่วนกระต่ายป่าเป็นเหยื่อ ภาพแสดง กราฟแสดงความสัมพันธ์ของจำนวนประชากรแมวปาลิงซ์กับกระต่ายป่า


378 จากภาพ จะเห็นได้ว่า ประชากรของแมวป่าลิงซ์มีความสัมพันธ์กับประชากรกระต่ายป่า เมื่อกระต่ายป่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นแมวป่าลิงซ์ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นตามไปด้วย เพราะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ ในทางตรงกันข้าม เมื่อจำนวนกระต่ายป่าลดลงก็จะส่งผลให้จำนวนประชากรของแมวป่าลิงซ์ลดลงตามไปด้วย เพราะขาดแคลน อาหาร นอกจากนี้หากเกิดภาวะแห้งแล้งเป็นเวลานานหรือเกิดภัยพิบัติอื่น ๆ เช่น ไฟป่า น้ำท่วม ที่ทำให้จำนวน ประขากรพืชของกระต่ายป่าลดลง อาจส่งผลให้จำนวนประชากรของกระต่ายป่าและแมวป่าลิงซ์ลดลงอย่าง รวดเร็วเช่นกัน 6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) 6.1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) (1) ครูนำเสนอบัตรภาพจำนวน 2 ภาพ แล้วให้นักเรียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ดังนี้ - ภาพที่ 1 แสดงผีเสื้อตอมดอกไม้ (ผีเสื้อกำลังช่วยผสมเกสรดอกไม้ ส่วนดอกไม้ให้ น้ำหวานเป็นอาหารแก่ผีเสื้อ) - ภาพที่ 2 แสดงไลเคนเกาะบนต้นไม้ (ไลเคนเป็นสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด อาศัยร่วมกัน ระหว่าง ราและสาหร่าย ซึ่งจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ ต้องอยู่ร่วมกัน) 6.2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (2) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายถึงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในแต่ละรูปแบบและ เตรียมการนำเสนอ ตามหัวข้อ โดยการจับฉลากเลือกหัวข้อดังนี้ - ภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน (protocooperation) - ภาวะพึ่งพากัน (mutualism) - ภาวะเกื้อกูลหรืออิงอาศัย (commensalism) - ภาวะล่าเหยื่อ (predation) - ภาวะปรสิต (parasitism) - ภาวะแข่งขัน (competition) 6.3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (1) ครูให้ตัวแทนแต่ละกลุ่ม ออกมานำเสนอสรุปรูปแบบความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในแต่ละ ความสัมพันธ์ ให้เวลากลุ่มละ 5 นาที 6.4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) (1) ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันแบบภาวะเป็นกลาง เป็นความสัมพันธ์ของ สิ่งมีชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อาศัยในระบบนิเวศเดียวกัน จึงไม่มีฝ่ายใดได้รับหรือเสียประโยชน์ เช่น ไส้เดือนกับ เสือ ผีเสื้อกับลิง มดกับผึ้ง เป็นต้น 6.5 ตรวจสอบผล (Evaluation) (1) นักเรียนทำแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต เพื่อวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในแต่ละภาพที่โจทย์กำหนด


379 7. สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 7.1 วัสดุอุปกรณ์: อุปกรณ์เครื่องเขียนและกระดาษนำเสนอ 7.2 แผนภาพ: แสดงผีเสื้อตอมดอกไม้ และไลเคนเกาะบนต้นไม้ 7.3 แบบฝึกหัด: แบบฝึกหัดทบทวนเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต 7.4 แหล่งเรียนรู้: หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 2 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 8. การวัดและการประเมิน ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ที่ใช้ในการประเมิน 1. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ สิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันที่อยู่ ร่วมกันแบบต่าง ๆ (ด้านความรู้: K) - ตรวจการทำแบบฝึกหัด ทบทวนเรื่อง ความ สัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต - แบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง ความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวิต - ได้ไม่น้อยกว่า 2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่าผ่าน การประเมินด้านความรู้ 2. การใช้ทักษะการลงความเห็น จากข้อมูล เพื่ออธิบายเกี่ยวกับ รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่าง สิ่งมีชีวิต (ด้านกระบวนการ: P) - ตรวจจากการนำเสนอ ข้อมูลรูปแบบ ความสัมพันธ์ของ สิ่งมีชีวิต เป็นรายกลุ่ม - แบบประเมินทักษะ การสื่อความหมาย ข้อมูล - ได้ไม่น้อยกว่า 2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่าผ่าน การประเมิน ด้านกระบวนการ 3. ให้ความร่วมมือในการ ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ (ด้านเจตคติ: A) - สังเกตความร่วมมือ ในการทำกิจกรรมของ นักเรียน - เกณฑ์การประเมิน ความ ร่วมมือในการทำ กิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ของนักเรียน - ได้ไม่น้อยกว่า2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่า ผ่านการประเมิน ด้านเจตคติ 8.1 เกณฑ์การประเมินผลนักเรียน เกณฑ์การประเมิน (Rubrics Score) ประเด็นการประเมิน ค่าน้ำหนัก คะแนน แนวทางการให้คะแนน การให้คะแนนตอบ แบบฝึกหัดทบทวน 3 ตอบคำถามในแบบฝึกหัดทบทวน ถูกต้อง จำนวน 7-9 ข้อ 2 ตอบคำถามในแบบฝึกหัดทบทวน ถูกต้อง จำนวน 4-6 ข้อ 1 ตอบคำถามในแบบฝึกหัดทบทวน ถูกต้อง จำนวน 1-3 ข้อหรือไม่ถูกต้อง การให้คะแนนการ นำเสนอข้อมูลรายกลุ่ม 3 ผลงานมีรูปแบบน่าสนใจ มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนด นำเสนอได้ ชัดเจน เข้าใจได้ง่าย 2 ผลงานมีรูปแบบน่าสนใจ แต่มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนดน้อย นำเสนอได้ชัดเจน 1 ผลงานมีรูปแบบไม่น่าสนใจ มีความสัมพันธ์กับหัวข้อที่กำหนดน้อย


380 ประเด็นการประเมิน ค่าน้ำหนัก คะแนน แนวทางการให้คะแนน การให้คะแนนความ ร่วมมือในการทำ กิจกรรมร่วมกับผู้อื่น 3 ให้ความร่วมมือในทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นตลอดทั้งคาบเรียน ไม่ก่อความ วุ่นวายหรือปัญหาที่รบกวนการเรียนของผู้อื่น เช่น พูดเสียงดังโวยวาย ลุก เดินไปมา หรือชวนผู้อื่นคุยเล่น ขณะครูทำการสอน 2 ให้ความร่วมมือในทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นเป็นบางครั้งในคาบเรียน และ ก่อความวุ่นวายหรือปัญหาที่รบกวนการเรียนของผู้อื่น เช่น พูดเสียงดัง โวยวาย ลุกเดินไปมา หรือชวนผู้อื่นคุยเล่น ขณะครูสอน 1 ไม่ให้ความร่วมมือในทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น ทำให้เกิดความวุ่นวายหรือ ปัญหาที่รบกวนการเรียนของผู้อื่น เช่น พูดเสียงดังโวยวาย ลุกเดินไปมา หรือ ชวนผู้อื่นคุยเล่น ขณะครูทำการสอน ระดับคุณภาพ คะแนนรวมเฉลี่ย 7.00 - 9.00 หมายถึง ดีมาก คะแนนรวมเฉลี่ย 4.00 - 6.00 หมายถึง ดี คะแนนรวมเฉลี่ย 1.00 - 3.00 หมายถึง พอใช้ 9. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารโรงเรียนหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……….……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ........................................................... (นายมโน บำรุง) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย


381 10. บันทึกหลังสอน วันที่…13…. เดือน…มีนาคม.……พ.ศ .2566 ผลการสอน นักเรียนให้ความสนใจและมีความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียนมากขึ้น มีบรรยากาศที่ดีในการจัดการเรียนการ สอน ซึ่งส่งผลให้นักเรียนและครูมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน นักเรียนวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตต่างชนิด กันที่อยู่ร่วมกันแบบต่าง ๆ ได้ และนักเรียนใช้ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล การสืบค้นข้อมูลโดยนำข้อมูล ที่ได้จากการสังเกตสิ่งมีชีวิตมาเชื่อมโยงกัน เพื่ออธิบายเกี่ยวกับรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตได้ และ นักเรียนได้ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ดีมากขึ้น รวมทั้งมีเจตคติต่อวิทยาศาสตร์ที่ดีขึ้น ปัญหา/อุปสรรค นักเรียนไม่สามารถจดจำเนื้อหาที่เรียนได้ เพราะเป็นเนื้อหาที่ค่อนข้างยาก ครูจึงได้ร่วมท ำชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ทำง วิชำชีพ (PLC) ร่วมกับครูในกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายในโรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ให้เน้นการจำในลักษณะ ของความเข้าใจ หรือการจำอย่างมีความหมาย จำอย่างมีความคิดความเข้าใจ ในเนื้อหาที่ได้เรียนจากเอกสารการสอน การอ่านเอกสารการสอนให้จำได้สามารถปฏิบัติได้ดังนี้ 1.อ่านส่วนนำของเนื้อหา 2.จัดระบบของเนื้อหา 3.เชื่อมโยงความรู้เดิม 4.จดบันทึก 5.อ่านส่วนสรุป 6.ทวนซ้ำขณะอ่าน 7.ทดสอบตนเอง 8.หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน ลงชื่อ………………………..…………………… ผู้สอน ( นางสาวนิโลบล ชัยชนะ )


382 แบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต ชื่อ-นามสกุล............................................................................ชั้น...............................เลขที่.............. โจทย์: ให้นักเรียนเลือกคำที่เป็นรูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต เติมลงไปใต้ภาพที่มีความหมาย ตรงกันมากที่สุด เพียง 1 รูปแบบเท่านั้น Protocooperation Mutualism Commensalism Parasitism Competition Predation - - ภาพที่ 1: .......................... ภาพที่ 2: .......................... ภาพที่ 3: .............................. - - - ภาพที่ 4: .......................... ภาพที่ 5: .......................... ภาพที่ 6: .......................... - - ภาพที่ 7: .......................... ภาพที่ 8: .......................... ภาพที่ 9: ..........................


383 เฉลยใบงานเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต ชื่อ-นามสกุล............................................................................ชั้น...............................เลขที่.............. โจทย์: ให้นักเรียนเลือกคำที่เป็นรูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต เติมลงไปใต้ภาพที่มีความหมาย ตรงกันมากที่สุด เพียง 1 รูปแบบเท่านั้น - Protocooperation Mutualism Commensalism Parasitism Competition Predation ภาพที่ 1: Mutualism ภาพที่ 2: commensalism ภาพที่ 3: Protocooperation - - - ภาพที่ 4: Parasitism ภาพที่ 5: Predation ภาพที่ 6: Competition - - ภาพที่ 7: Mutualism ภาพที่ 8: Commensalism ภาพที่ 9: Parasitism


ภาคผนวก ค ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน


บันทึกคะแนนแบบทดสอบ หน่วยที่ 4 การนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ วิทยาการคำนวณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 ที่ ชื่อ - สกุล คะแนน ความ ก้าวหน้า ผลการ ก่อนเรียน หลังเรียน ประเมิน 1 เด็กชายกฤษณะ กุยุคำ 2 8 6 ผ่าน 2 เด็กชายณัฐพร ข้ามสมุทร 1 8 7 ผ่าน 3 เด็กชายธนิสร สืบรอง 2 8 6 ผ่าน 4 เด็กชายธีรภัทร รักธรรม 2 8 6 ผ่าน 5 เด็กชายทิพย์ธาดา ไชยมหาแก้ว 2 8 6 ผ่าน 6 เด็กชายปพนพัทธ์ ชมะวรรณ์ 2 8 6 ผ่าน 7 เด็กชายปรเมศวร์ โสมกุล 3 9 6 ผ่าน 8 เด็กชายพิษณุ สันโดษ 2 8 6 ผ่าน 9 เด็กชายพีรพัฒน์ เพ็งโคนา 3 9 6 ผ่าน 10 เด็กชายภานุพงษ์ ศรีนวล 3 8 5 ผ่าน 11 เด็กชายวีรกร พรมโยธา 1 8 7 ผ่าน 12 เด็กชายสราวุฒิ อักษรเกตุ 2 8 6 ผ่าน 13 เด็กชายสิทธิชัย คำเจริญ 3 9 6 ผ่าน 14 เด็กชายหัสดี สังข์นิมิตร 2 8 6 ผ่าน 15 เด็กชายอาทิตย์ วรังอาจ 4 10 6 ผ่าน 16 เด็กชายอนุวัตร ชำนินอก 3 9 6 ผ่าน 17 เด็กชายอดิเทพ ศรีพรม 3 8 5 ผ่าน 18 เด็กชายจตุรภัทร สุกกรี 4 8 4 ผ่าน 19 เด็กหญิงนภัสสรณ์ พรมโยธา 4 9 5 ผ่าน 20 เด็กหญิงชไมพร สมตัน 4 9 5 ผ่าน 21 เด็กหญิงอณัชญา เชื้อดี 3 9 6 ผ่าน 22 เด็กหญิงศุภรดา สถิตย์สร 2 8 6 ผ่าน 23 เด็กหญิงศิรินทิพย์ เรืองจันทร์ 3 9 6 ผ่าน 24 เด็กหญิงวริทธิ์ณัณ เหลือเหลื่อม 3 8 5 ผ่าน 25 เด็กหญิงวรวรัญณ์ เหลือเหลื่อม 3 9 6 ผ่าน 26 เด็กหญิงมนัสนันท์ ไทยประดิษฐ์ 3 9 6 ผ่าน 27 เด็กชายพฤทินัน เถียรสุข 2 8 6 ผ่าน 28 เด็กชายปัญญากร ศรีสงคราม 2 8 6 ผ่าน 29 เด็กหญิงปนัดดา เลื่องลือไกร 1 8 7 ผ่าน 30 เด็กหญิงณัฎฐณิชา ชัยชนะ 4 9 5 ผ่าน เฉลี่ย 2.60 8.43 ร้อยละ 26.00 84.33


ภาคผนวก ง บันทึกการจัดกิจกรรม PLC


บันทึกการจัดกิจกรรม PLC โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2565 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ด้วยชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่ กิจกรรม วันที่ เวลา 1 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขับเคลื่อน PLC ร่วมวางแผนการจัดกิจกรรม plc กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 8 มกราคม 2566 3 ชม. 2 ค้นหาปัญหา หาสาเหตุ กำหนดประเด็นปัญหา และเลือกวิธีที่นำมาใช้ แก้ปัญหา ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ 8 มกราคม 2566 3 ชม. 3 จัดทำและขออนุมัติกิจกรรมจากผู้อำนวยการ พร้อมทั้งบันทึกข้อความ จัดตั้งกลุ่ม plc กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 9 มกราคม 2566 1 ชม. 4 สร้างเครื่องมือเพื่อกำกับ ติดตาม นิเทศ และประเมินผลการขับเคลื่อน กระบวนการ PLC สู่สถานศึกษา 11 มกราคม 2566 2 ชม. 5 สะท้อนผลการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบประเมิน แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อนำผลการประเมินไปปรับปรุงแก้ไข 17 มกราคม 2566 1 ชม. 6 สะท้อนผลการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบประเมิน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขจากครั้งที่ผ่านมา 24 มกราคม 2566 1 ชม. 7 สะท้อนผลหลังจากการผ่านการนิเทศติดตาม การจัดการเรียนรู้ครั้งที่1 17 กุมภาพันธ์2566 1 ชม. 8 สะท้อนผลหลังจากการผ่านการนิเทศติดตาม การจัดการเรียนรู้ครั้งที่2 24 กุมภาพันธ์2566 1 ชม. 9 สะท้อนผลหลังจากการผ่านการนิเทศ ติดตาม การจัดการเรียนรู้ ครั้งที่ 3 3 มีนาคม 2566 1 ชม. 10 สะท้อนผลการจัดกิจกรรมและร่วมสรุปเพื่อจัดทำรายงาน 10 มีนาคม 2566 2 ชม. รวมจำนวนชั่วโมง 16 ชม.


แบบบันทึกกิจกรรม PLC ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2565 ครั้งที่ 1 วันที่ .... 8 มกราคม 2566............. สถานที่ โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย เวลา 9.00 น. – 12.00 น. เป็นเวลาจำนวน 3 ชั่วโมง เรื่อง ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการขับเคลื่อน PLC ร่วมวางแผนการจัดกิจกรรม plc กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ 3 คน ประเด็นปัญหาที่พบ ครูขาดความรู้ความเข้าใจในหลักการในหลักการและกระบวนการของชุมชนแห่งการ เรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) สาเหตุของปัญหา องค์กรของเรายังขาดขั้นตอนและแนวทางการจัดกิจกรรม plcที่มีขั้นตอนที่ชัดเจน และมีประสิทธิภาพ ความรู้/หลักการที่นำไปใช้/แนวทางในการแก้ไขปัญหา องค์การจำเป็นต้องพิจารณาและมีการเตรียมการรองรับความเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ผู้บริหารควรให้ ความสำคัญของการวางแผนและเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆบรรลุ วัตถุประสงค์อันเป็นเป้าหมายหลักขององค์การร่วมกัน ความหมายของการวางแผน การวางแผน ( Planning ) เป็นกระบวนการกำหนดวัตถุประสงค์สิ่งที่จะต้องกระทำเพื่อที่จะทำให้ บรรลุถึงวัตถุประสงค์ที่กำหนด การวางแผนผังเป็นกาตัดสินใจล่วงหน้าเกี่ยวกับงาน ที่จะทำในอนาคตเป็นกาคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจก่อนลงมือกระทำ เป็นการมุ่งป้องกัน ปัญหามากกว่าการ คอยแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าการวางแผนเป็นการเชื่อมโยงจากปัจจุบันที่เป็นอยู่ไปสู่จุดมุ่งหมายที่ ต้องการวางแผน จึงเป็นกระบวนการในการคิด วิเคราะห์ เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พิจารณาถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องกาให้เกิดขึ้นทั้งนี้จะต้องมีการคิดพิจารณาถึงรายละเอียดของสิ่งที่ต้องทำพร้อม กับการระบุผลสำเร็จต่าง ๆ ที่ต้องการ ซึ่งจะนำไปสู่วัตถุประสงค์ตามที่ได้ตั้งไว้


สรุปได้ว่า การวางแผนเป็นกระบวนการมองภาพการดำเนินงานขององค์การในอนาคตว่า What : จะทำอะไร Why : ทำไปทำไม How : มีวิธีการขั้นตอนอย่างไร When : งานนั้นจะเริ่มต้นเมื่อไรและสิ้นสุดเมื่อไร Resources : ต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้างและวัตถุดิบจะได้มาอย่างไร By Whom : ใครเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละฝ่าย Expected Output : ผลที่องค์การคาดหวังว่าจะได้รับ Evaiuation : การวัดและประเมินผลขององค์การทำด้วยวิธีการใด ประโยชน์ของการวางแผน การวางแผนที่ดีจะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จขององค์การและการบริหารงานดังนี้ 1. เป็นเกณฑ์การควบคุม การวางแผนจะช่วยให้ผู้บริหารได้กำหนดหน้าที่ควบคุมขึ้น ทั้งนี้เพราะ การวางแผนและควบคุมเป็นกิจกรรมที่ต้องดำเนินการคู่แข่งถ้าไม่มีการวางแผนก็ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ การควบคุมเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในแผน ดังนั้นแผนจึงเป็นตัวกำมาตรฐานของ การควบคุมซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน 2. บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้การวางแผนจะมีการกำหนดวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายที่องค์กรต้องการ เป็นจุดเริ่มต้นเป็นงานขั้นแรกถ้าการกำหนดเป้าหมายนั้นมีความชัดเจนก็จะช่วยให้การบริหารจัดการแผนบรรลุ จุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ 3. ลดความไม่แน่นอน การวางแผนเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ในอนาคตการวางแผนที่มี ประสิทธิภาพนั้นต้องมาจากพื้นฐานข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นแล้วทำการวิเคราะห์คาดคะเนเหตุการณ์ ในอนาคตซึ่งอาจจะเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของ องค์การความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ 4. ประหยัด การวางแผนที่ดีจะช่วยให้มีวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้งานส่วนย่อยต่าง ๆ มีการประสานสัมพันธ์กันดีกิจกรรมที่ดำเนินการมีความต่อเนื่องกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการใช้ทัพยากรที่มีอยู่ให้ ได้ประโยชน์ออย่างเต็มที่และคุ้มค่า เป็นการลดต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่ซ้ำซ้อน 5. พัฒนาการแข่งขัน กางวางแผนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเพราะ การวางแผนจะเกี่ยวข้องกับการขยายขออบข่ายการทำงานการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานให้ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 6. ทำให้เกิดประสานงานที่ดีการวางแผนได้สร้างความมั่นใจในการที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กร ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดวางไว้มุ่งไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันและเป็นลดความซ้ำซ้อนในงานของแต่ละฝ่าย หรือ แต่ละหน่วยงานย่อยขององค์การ


7. พัฒนาแรงจูงใจ การวางแผนที่ดีจะเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงความร่วมแรงร่วมใจ ในการทำงานของกลุ่ม ผู้บริหารในองค์การและยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นในกลุ่มของพนักงานที่ทราบอย่างชัดเจนว่าองค์การ คาดหวังอะไร 8. ส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ กางวางแผนเป็นพื้นฐานด้านการตัดสินใจเป็นสิ่งที่ช่วยให้ เกิดแนวความคิดใหม่ ๆ และความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากการวางแผนจะต้องมีการระดมสมองจากคณะ ผู้ทำงาน ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ นำมาใช้ประโยชน์แก่องค์การข้อจำกัดของการวางแผน 9. ช่วยให้การติดตามและประเมินผลงานขององค์การ เป็นไปได้อย่างเป็นระบบง่ายต่อการปฏิบัติและ กระทำได้ตลอดช่วงการทำงาน กิจกรรมที่ทำ ร่วมวางแผนการจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning ommunity: PLC) ทำให้ได้ข้อสรุปเป็นขั้นตอนการจัดกิจกรรม ดังนี้ 1. การรวมกลุ่ม PLC รวมกลุ่มครูที่มีปัญหา/ความต้องการเดียวกัน เช่น ครูกลุ่มสาระเดียวกันครู ที่สอนในระดับชั้นเดียวกัน เป็นต้น 2. ค้นหาปัญหา ความต้องการ 2.1 ร่วมกันเสนอปัญหา/ความต้องการ 2.2 จัดกลุ่มปัญหา 2.3 จัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วน 2.4 เลือกปัญหาเพียง 1 ปัญหา โดยการพิจารณาร่วมกัน 3. ร่วมกันหาแนวทางในการแก้ปัญหา 3.1 เรื่องเล่าเร้าพลัง/บอกเล่าประสบการณ์ที่แก้ปัญหาได้สำเร็จ 3.2 ค้นหาตัวอย่าง/รูปแบบที่ประสบความสำเร็จ 4. ร่วมตัดสินใจเลือกรูปแบบ/วิธีการ/นวัตกรรมในการแก้ปัญหา 4.1 ออกแบบกิจกรรมการแก้ปัญหา 4.2 ออกแบบกิจกรรมตามวิธีการ/นวัตกรรมที่กลุ่มเลือก 5. แลกเปลี่ยนเสนอแนะ นำเสนอกิจกรรมการแก้ปัญหา ให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีประสบการณ์ให้ข้อเสนอแนะ 6. นำสู่การปฏิบัติ/สังเกตการณ์สอน ...6.1 นำกิจกรรมไปใช้ในการแก้ปัญหา ...6.2 ผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมสังเกตในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น การเยี่ยมชั้นเรียนสังเกต การสอน เป็นต้น


7.สะท้อนผล ...7.1 สรุปการนำรูปแบบ/วิธีการ ในการนำไปแก้ปัญหา ...7.2 อภิปรายผลการแก้ปัญหา เสนอแนะแนวทางในการพัฒนา ผลที่ได้จากกิจกรรม 1. ผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย มีแนวทางการจัดกิจกรรมชุมชน แห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ที่เป็นขั้นตอนที่ชัดเจนและสามารถ นำไปใช้ได้อย่างมีคุณภาพ 2. มีบรรยากาศที่ดีในการจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) การนำผลที่ได้ไปใช้ สามารถนำวิธีการจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ไปใช้ได้กับการร่วมกันแก้ปัญหา พัฒนา วางมาตรการ ปรับปรุงแก้ไขในเรื่องต่าง ๆ ในสถานศึกษาได้ ที่เข้าร่วมวง PLC ในครั้งนี้ ลำดับ ชื่อ บทบาท ลงชื่อ 1 นางสาวณัชนรี ลิ้มโอชากุล ครูผู้สอน 2 นางสาวิตรี ผกามาศ ผู้เชี่ยวชาญ 3 นางสาวนิโลบล ชัยชนะ หัวหน้ากลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงชื่อ................................ ...................ผู้บันทึก (นางสาวนิโลบล ชัยชนะ) ตำแหน่ง ครู วันที่ 8 มกราคม 2566 ลงชื่อ...................................................ผู้บริหาร (นายมโน บำรุง) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย วันที่ 9 มกราคม 2566


ภาพการทำกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC)


แบบบันทึกกิจกรรม PLC ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2565 ครั้งที่ 2 วันที่ .... 8 มกราคม 2566............. สถานที่ โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย เวลา 13.00 น. – 16.00 น. เป็นเวลาจำนวน 3 ชั่วโมง เรื่อง ค้นหาปัญหา หาสาเหตุ กำหนดประเด็นปัญหา และเลือกวิธีที่นำมาใช้แก้ปัญหา ออกแบบแผนการจัดการ เรียนรู้ สมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ 3 คน ประเด็นปัญหาที่พบ 1.นักเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ไม่ดีเท่าที่ควร 2.นักเรียนขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ สาเหตุของปัญหา 1..นักเรียนขาดการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง โดยใช้กระบวนการคิดอย่างเป็นระบบทำให้มี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ไม่ดีเท่าที่ควร 2.นักเรียนได้รับการฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์น้อยเกินไป ความรู้/หลักการที่นำไปใช้/แนวทางในการแก้ไขปัญหา การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้5 ขั้นตอน (The 5 E’s of Inquiry-Based Learning) เป็นรูปแบบ ของการเรียนรู้รูปแบบหนึ่ง ที่เน้นให้นักเรียนมีประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้ โดยการแสวงหาและศึกษา ค้นคว้า เพื่อสร้างองค์ความรู้ของตนเอง โดยใช้กระบวนการทางวิทยศาสตร์ซึ่งมีครูผู้สอนคอยอำนวยการและ สนับสนุน ทำให้ผู้เรียนสามารถค้นพบความรู้หรือแนวทางแก้ปัญหาได้ตัวเอง และสามารถนํามาใช้ใน ชีวิตประจําวัน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้นําความรู้ หลักการ แนวคิดหรือทฤษฎีทาง วิทยาศาสตร์ไปเชื่อมโยงกับประเด็นปัญหาที่ผู้เรียนสนใจศึกษา ค้นคว้า และลงมือปฏิบัติ ด้วยตนเอง ตาม


ความสามารถและความถนัดของตนเองอย่างเป็นอิสระ ทำให้การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้5 ขั้นตอนนี้นับ ได้ว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กิจกรรมที่ทำ การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้นั้น เป็นรูปแบบการเรียนที่พานักเรียนไปสู่การพิจารณาข้อโต้แย้งและ ข้อสงสัยต่างๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดประเด็นคําถามที่ต้องการสํารวจตรวจสอบ และจะเป็นกระบวนการเช่นนี้ ต่อเนื่องกันไปเรื่อย ๆ จนเรียกได้ว่าเป็น วัฏจักรการสืบเสาะ (Inquiry cycle) ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเกิดการ เรียนรู้และมีทักษะในการหาความรู้ตามหลักวิทยาศาสตร์ซึ่งการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ทั้ง 5 ขั้นตอนนั้น มีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้ 1.การสร้างความสนใจ (Engagement) ขั้นนี้เป็นของการนำเข้าสู่บทเรียนหรือนำเข้าสู่เรื่องที่อยู่ในความสนใจที่เกิดจากข้อสงสัย โดยครูผู้สอน จะต้องกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสนใจใคร่รู้ เพื่อนำเข้าสู่บทเรียนหรือเนื้อหาใหม่ๆ ซึ่งความสนใจใคร่รู้นั้น อาจมาจากความสนใจของนักเรียนเอง การอภิปรายกลุ่ม หรือจากการนำเสนอของครูผู้สอนก็ได้แต่จะต้องเป็น เรื่องที่นักเรียนยอมรับโดยไม่มีการบังคับหลังจากนั้น เมื่อได้ข้อคำถามที่น่าสนใจแล้ว ครูผู้สอนต้องกระตุ้นให้ นักเรียนร่วมกัน กำหนดขอบเขตและแจกแจงรายละเอียดของเรื่องที่จะศึกษาให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดย ใช้การรับรู้จากประสบการณ์เดิม รวมกับการศึกษาเพิ่มเติมจากจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความ เข้าใจในประเด็นที่จะศึกษา และมีแนวทางในการสำรวจตรวจสอบมากยิ่งขึ้น 2.การสํารวจและค้นหา (Exploration) ทําความเข้าใจในประเด็นหรือคําถามที่สนใจศึกษาอย่างถ่องแท้แล้ว ครูผู้สอนจะเปิดโอกาสให้นักเรียน ดำเนินการศึกษาค้นคว้า โดยการรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การสำรวจ การสืบค้นจากเอกสารต่าง ๆ การทดลอง และการจำลองสถานการณ์ เป็นต้น เพื่อตรวจสอบสมมุติฐานและให้ได้ข้อมูลอย่างเพียงพอที่จะ นำไปใช้ในการอธิบายและสรุป 3.การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) เมื่อได้ข้อมูลอย่างเพียงพอแล้ว ครูผู้สอนจะต้องให้นักเรียนนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และแปลผล เพื่อ สรุปผลและนําเสนอผลที่ได้ในรูปต่างๆเช่น การบรรยายสรุป การสร้างแบบจําลองการวาดภาพ หรือการสรุป เป็นตารางหรือกราฟ ซึ่งผลสรุปที่ได้นั้น จะต้องสามารถอ้างอิงความรู้ มีความสมเหตุสมผล และมีหลักฐานที่ เชื่อถือได้ 4.การขยายความรู้(Elaboration) เป็นขั้นของการนําความรู้ที่ได้จากขั้นก่อนหน้านี้ มาเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือใช้อธิบายถึง สถานการณ์หรือเหตุการณ์เกี่ยวข้อง โดยครูผู้สอนอาจจัดกิจกรรมและให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้น ๆ


เช่น ตั้งคำถามจากการศึกษาเพื่อให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้เข้ากับประสบการณ์หรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น 5..การประเมินผล (Evaluation) เป็นขั้นของการประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการต่าง ๆ เช่น การทำข้อสอบ การทำรายงานสรุป หรือการให้นักเรียนประเมินตัวเอง เป็นต้น เพื่อตรวจสอบนักเรียนว่ามีความรู้ที่ถูกต้องมากน้อยเพียงไรจากการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ดังกล่าว ครูผู้สอนจะต้องเปิดโอกาสให้นักเรียน วิเคระห์วิจารณ์และคิดพิจารณา ความรู้ที่ได้ให้รอบคอบ โดยมีครูผู้สอนช่วยตรวจสอบและปรับปรุงความรู้ที่นักเรียนได้รับนั้นให้ถูกต้อง เหมาะสมและสอดคล้องกับความรู้เดิมของนักเรียนมากยิ่งขึ้น และนำนักเรียนไปสู่คำถามที่ต้องการการสำรวจ ตรวจสอบต่อไปอย่างต่อเนื่อง ผลที่ได้จากกิจกรรม แผนงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ Lesson study การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหา ความรู้แบบ 5E ด้วยชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่เข้าร่วมวง PLC ในครั้งนี้ ลำดับ ชื่อ บทบาท ลงชื่อ 1 นางสาวณัชนรี ลิ้มโอชากุล ครูผู้สอน 2 นางสาวิตรี ผกามาศ ผู้เชี่ยวชาญ 3 นางสาวนิโลบล ชัยชนะ หัวหน้ากลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงชื่อ....................... ............................ผู้บันทึก (นางสาวนิโลบล ชัยชนะ) ตำแหน่ง ครู วันที่ 13 มกราคม 2566 ลงชื่อ................... ................................ผู้บริหาร (นายมโน บำรุง) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย วันที่ 14 มกราคม 2566


ภาพการทำกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC)


แบบบันทึกกิจกรรม PLC ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1 ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2565 ครั้งที่ 3 วันที่ .... 9 มกราคม 2566............. สถานที่ โรงเรียนบ้านท่าไม้ลาย เวลา 14.30 น. – 16.30 น. เป็นเวลาจำนวน 1 ชั่วโมง เรื่อง จัดทำและขออนุมัติกิจกรรมจากผู้อำนวยการ พร้อมทั้งบันทึกข้อความจัดตั้งกลุ่ม plc กลุ่มสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ 4 คน ประเด็นปัญหาที่พบ การวางแผนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ สาเหตุของปัญหา กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังขาดขั้นตอนและแนวทางการจัดกิจกรรม plc ที่มี ขั้นตอนที่ชัดเจน และมีประสิทธิภาพ ความรู้/หลักการที่นำไปใช้/แนวทางในการแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้จากยุคศตวรรษที่ 20 ที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้ที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ เป็นผู้เชี่ยวชาญในเชิงทฤษฏีและเมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 จุดมุ่งหมายในการเรียนรู้ได้เปลี่ยนแปลงไปจากการ เรียนเพียงแค่รู้หรือเป็นผู้ที่มีความรู้ แต่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนนั้นนำความรู้ที่มีไปใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง (Real-world) สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนรู้ Active Learning จึงมีความสำคัญเป็น อย่างยิ่งที่ผู้สอนต้องมีความเข้าใจและสามารถนำแนวคิด Active Learning มาปรับประยุกต์ใช้ในห้องเรียน ของตนได้อย่างถูกต้องเชี่ยวชาญเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะในยุคศตวรรษที่ 21 บทบาทของอาจารย์ผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางของ Active Learning โดยจัดให้ ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอน กิจกรรมต้องสะท้อนความต้องการในการพัฒนาผู้เรียนและเน้นการ นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงของผู้เรียน 1) สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบที่ส่งเสริม ให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน 2) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นพลวัต ส่งเสริม ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมทั้งกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้3) จัดสภาพการ เรียนรู้แบบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือในกลุ่มผู้เรียน 4) จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้ โอกาสผู้เรียนได้รับวิธีการสอนที่หลากหลาย 5) วางแผนเกี่ยวกับเวลาในจัดการเรียนการสอนอย่างชัดเจน ทั้ง


Click to View FlipBook Version