96
บรรณานุกรม
กลุม่ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขน้ั พ้นื ฐาน. (2555). แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาทักษะการคิด ตามหลักสตู ร
แกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั
มัธยมศกึ ษา ฉบบั ปรับปรงุ . พมิ พ์คร้ังท่ี 2. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพช์ มุ ชนสหกรณ์การเกษตรแห่ง
ประเทศไทย จำกัด.
นงลกั ษณ์ สุวรรณพินจิ และปรีชา สุวรรณพนิ ิจ. (2556). จุลชีววิทยาทัว่ ไป. พิมพค์ ร้ังที่ 6. กรุงเทพฯ:
สำนกั พมิ พ์แห่ง จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.
บรษิ ทั แม็กเอ็ดดเู คช่นั จำกดั . (2556). คู่มอื ครแู หง่ ศตวรรษท่ี 21 ชวี วิทยา ม. 4-6. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัท
โกลดเ์ พาเวอร์ พริ้นติ้ง จำกัด.
รสริน พลวฒั น์. (2554). ค่มู อื ประกอบสื่อการสอนวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ระดบั มัธยมศกึ ษา
ตอนปลาย วิชาชวี วิทยา เรื่อง อาณาจกั รโพรทสิ ตา. กรุงเทพฯ: คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
.. (2554). คู่มือประกอบสื่อการสอนวทิ ยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
วชิ าชีววิทยา เรื่อง อาณาจกั รมอเนอรา. กรงุ เทพฯ: คณะวทิ ยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย.
สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2554). คมู่ ือครูรายวิชา
เพ่มิ เติม ชวี วทิ ยา เล่ม 5 กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรช์ นั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6. กรงุ เทพฯ:
โรงพมิ พส์ กสค.
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2554). หนงั สือเรียนสาระ
การเรียนรายวิชาเพิม่ เติม ชีววิทยา เลม่ 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรช์ นั้ มัธยมศึกษา ปีท่ี
4-6. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สกสค.
สมาน แกว้ ไวยทุ ธ. (2537). 100 จดุ เนน้ ชีววิทยา ม.4-5-6. กรุงเทพฯ: สำนักพมิ พ์ บริษัทไฮเอด็ พบั ลิชชง่ิ
จำกัด.
Barnes. (1998). The Diversity of Living Organisms. Blackwell Publishing, University of
Cambridge Cambridge UK.
Eisenkraft,A (2003). Expanding the 5E model : A proposed 7E emphasizes Transferring of
Learning and the importance of eliciting prior understanding. The Science Teacher,
70(6) : 56-59.
97
ภาคผ ก
98
แบบทดสอบหลังเรียน วิชาชีววิทยา เรือ่ งอาณา กั รของสงิ่ มีชีวติ
ชนั มธั ยมศกษาปีที่ 6 าคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกษา 2560
……………………………………………………………………………………………………….
คำชแี ง 1. แบบทดสอบมจี ำนวน 40 ขอ้ คะแนนเต็ม 40 คะแนน
2. ให้เลอื กคำตอบที่ถูกต้องที่สดุ เพียงคำตอบเดยี ว
1) สงิ่ มชี ีวิตในอาณาจักรใด เปน็ เซลล์แบบ โพรคารโิ อตทั้งหมด
ก. Monera ข. Monera, Protista ค. Monera, Protista, Fungi ง. Protista, Fungi
ดู าพแลว้ ตอบคำถามข้อ 2 - 3
A
2) แบคทีเรยี ทใี่ ช้ในการผลิตนมเปรยี้ ว มีรปู ร่างตามข้อใด
ก. A ข. B
D ค. C ง. D
C
B
3) โรคฉีห่ นู เกิดจากแบคทเี รียกลุม่ ใด ค. C ง. D
ก. A ข. B
4) แบคทีเรยี กล่มุ ใดท่ใี ชท้ ำยาปฏชิ ีวนะ
ก. Lactobacillus sp. ข. Streptomyces sp. ค. Bacillus sp. ง. Cyanobacteria
5) ลกั ษณะใดทไ่ี มใ่ ช่ ลกั ษณะของเซลล์แบคทเี รีย
1. มสี ารพันธกุ รรมลอยอยู่ในไซโทพลาสซมึ 2. มรี ปู รา่ งหลายแบบ เช่น กลม ทอ่ น เกลียว
3. มีผนังเซลล์และเย่อื หมุ้ นวิ เคลยี ส 4. สามารถทนกับสภาพแวดลอ้ มท่รี ุนแรงได้ทุกชนิด
ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 3 และ 4 ง. 1 และ 4
6) ขอ้ ใดกลา่ วผิด เกีย่ วกบั แบคทีเรียแกรมบวก
ก. ย้อมตดิ สมี ว่ งของคริสตัลไวโอเลต ข. สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงคล้ายพชื
ง. สามารถสร้างเอนโดสปอรไ์ ด้
ค. สามารถผลติ กรดแลกติกได้
99
7) จากภาพ เปน็ โพรทิสตข์ องสาเหตใุ ด
ก. การติดเชอ้ื ในช่องคลอด ข. โรคเหงาหลับ
ค. ปรสติ ในสำไสค้ น ง. ปรากฎการณ์ขีป้ ลาวาฬ
าพประกอบขอ้ 7
8) ข้อใดไม่ใช่ ไซยาโนแบคทีเรีย
ก. ง. แหนแดง ข. นอสตอก ค. ออสซลิ ลาทอเรยี ง. แอนาบนี า
ง. 1 และ 4
9) ลักษณะใดที่ไม่ใช่ ลกั ษณะของโพรทสิ ต์ ง. พลาสโมเดยี ม
1. มีลกั ษณะเปน็ เซลล์โพรคารโิ อต 2. มกี ารสืบพนั ธ์ไุ ด้หลายแบบ
3. โครงสร้างส่วนใหญ่มเี ย่อื หุ้ม 4. มีการพฒั นาของเซลล์ไปเป็นเนอื้ เยื่อ
ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 3 และ 4
10) ชาวนาเล้ียงแหนแดงในนาข้าวเพื่อประโยชนด์ า้ นใด
ก. เพิม่ ออกซิเจนในน้ำ ข. กำจัดเพล้ียเจาะต้นขา้ ว
ค. ตรึงไนโตรเจนใหต้ ้นขา้ ว ง. ตรงึ ไนโตรเจนจากน้ำสูบ่ รรยากาศ
11) การระบาดของไข้มาลาเลีย ซงึ่ เกดิ จากยุงก้นปล่องเปน็ พาหะของโพรทสิ ตช์ นดิ ใด
ก. พารามเี ซียม ข. ไตรโคนมิ ฟา ค. ทริปพาโนโซมา
12) จากภาพ A เป็นโครงสรา้ งใดของ Equisetum
ก. ไรโซม ข. สโตรบลิ ัส
ค. สปอแรงจโิ อฟอร์ ง. ซอรสั A
าพประกอบข้อ 12
13) แกมโี ทไฟตค์ ลา้ ยใบแผ่นบาง ภายในเซลล์มหี ยดนำ้ มัน เปน็ ลกั ษณะของพืชชนิดใด
ก. ลิเวอร์เวิรท์ ข. ฮอร์นเวริ ์ท ค. มอส ง. เฟิน
ง. โคน
14) พชื กลุ่มไม่มที ่อลำเลียง มีโครงสรา้ งทำหน้าที่คลา้ ยราก เรียกวา่ อะไร
ก. ไรซอยด์ ข. ไรโซม ค. ซอรัส
100
15) เราจะพบ สปอร์โรไฟต์อาศัยอยู่บนแกมโี ทไฟตเ์ สมอ ของพืชกลุม่ ใด
ก. เฟิน ข. มอส ค. ปรง ง. หวายทะนอย
16) พชื ชนดิ ใดเปน็ กลุม่ เดยี วกบั เฟิน
ก. สามร้อยยอด หางสงิ ห์ ข. กระเทยี มน้ำ ตนี ตุ๊กแก
ค. หญ้าถอดปล้อง หวายทะนอย ง. ย่านลิเภา ปรง
17) พืชชนดิ ใดทำให้เกิดเชอ้ื เพลงิ ท่เี รยี กวา่ พีท
ก. เฟนิ ข. ปรง ค. ขา้ วตอกฤาษี ง. ฮอรน์ เวริ ท์
18) พืชชนดิ ใดจดั อยู่ในไฟลมั กิงโกไฟตา
ก. ปรง ข. เฟนิ ค. สน ง. แปะกว๊ ย
19) พชื เมลด็ เปลือยกลุ่มใดอยู่ในไฟลัมเดยี วกัน
ก. แปะก๊วย ปรง ข. สนสองใบ พญาไม้
ค. สนสามใบ มะเม่ือย ง. ผกั เหลยี ง ปรงเขา
20) ซอรัส จะพบในพชื ต่อไปนี้ ยกเว้นขอ้ ใด
ก. ชายผ้าสดี า ข. แหนแดง ค. จอกหูหนู ง. หวายทะนอย
21) พืชใดอยู่ในกลุ่มไมด้ อกทั้งหมด
ก. สรอ้ ยสกุ รม บอน แหน ผักแว่น ข.สาหรา่ ยหางกระรอก สาหร่ายขา้ วเหนยี ว จอก ตะไคร้
ค.สรอ้ ยสีดา ชายผ้าสีดา กระเข้าสดี า พลู ง.หญา้ รังไก่ หญา้ ถอดปล้อง หญา้ แพรก หญา้ นกสีชมพู
A B 22) ไฮฟา คือข้อใด ข. B ค. C ง. D
ก. A
D
C
23) ทำหนา้ ที่สรา้ งสปอร์คือ ข้อใด
ก. A ข. B ค. C ง. D
ค. สร้างเสน้ ใย ง. สงั เคราะห์ด้วยแสง
24) ฟรุตติงบอดี ทำหนา้ ทใี่ ดต่อไปนี้
ก. สรา้ งสปอร์ ข. ดดู สารอาหาร
101
25) ฟังไ ที่อยู่ในไฟลัมแอสโคไมโคตา
ก. ราดำ ราบนขนมปงั ข. ทรัพเฟิล โมเรล ค. ราสนิม ราเขมา่ ดำ ง. เหด็ โคน เหด็ นางรม
26) ฟงั ไจที่อย่รู ว่ มกันแบบภาวะพึง่ พากับรากพชื เพ่ือเพิม่ ความสามารถการดดู สารอาหารจากดนิ คือฟังไจกลมุ่ ใด
ก. เห็ดฟาง ข. รานำ้ คา้ ง ค. ไมคอร์ไรซา ง. ราแดง
ดู าพแลว้ ตอบคำถามข้อ27
12 34 5
27) ไม่มเี น้ือเย่อื แท้จรงิ ลำตวั มีช่องกลวง มีโครงสรา้ งค้ำจนุ แทรกอยใู่ นตัว เป็นลกั ษณะของสงิ่ มีชีวิตใด
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4
28) สง่ิ มีชวี ติ ใดมสี มมาตรแบบรศั มี
ก. ปะการงั ไฮดรา ข. เตา่ ดาวทะเล ค. ฟองน้ำ วาฬ ง. หมึก คน
29) ข้อใดจัดเปน็ Flat worm
ก. หมึกยกั ษ์ ข. หอยทาก ค. แมงกะพรุน ง. พยาธิตวั ตืด
30) ข้อใดเปน็ สัตว์ไฟลมั เดยี วกันกบั ปลิงน้ำจดื
ก. ทากทะเล ข. ปลิงทะเล ค. ไสเ้ ดือนดิน ง. พยาธไิ สเ้ ดือน
31) ขอ้ ใดไมจ่ ดั เป็นปลากระดูกแขง็
ก. ฉลาม ข. นลิ ค. การ์ตนู ง. ช่อน
32) มีโนโตคอร์ดยาวตลอดลำตวั และมีตลอดชวี ติ มีช่องเหงือกท่ีคอหอย มีหาง เปน็ ลักษณะของสงิ่ มชี วี ติ ใด
ก. ปลาปากกลม ข. แอมฟิออกซสั ค. เพรียงหัวหอม ง. แลมเพรย์
33) ข้อใดเป็นสัตวเ์ ลือดอุ่นเช่นเดียวกบั คน
ก. ปลา ข. งูดนิ ค. นก ง. กบ
34) อาร์คอี อพเทรกิ ซ์ เปน็ สตั วใ์ นคลาสเดียวกบั ส่งิ มชี ีวติ ใด
ก. ปลาปอด ข. ตนุ่ ปากเป็ด ค. ซาลามานเดอร์ ง. นกเจ้าฟา้ สิรนิ ธร
35) สัตวช์ นดิ ใดอยูใ่ นคลาสเดียวกันกับ
ไดโนเสาร์
ก. จ้งิ เหลน ข. ซาลามานเดอร์ ค. คางคก ง. งดู นิ
36) จากภาพ A คือโครงสร้างใดของไวรสั 102
A
ก. protein coat ข. DNA
ค. capsid ง. virion
37) ข้อใดกล่าวผดิ เกยี่ วกับลกั ษณะของไวรัส
ก. ไวรัสจดั เป็นสิง่ มีชีวติ เซลล์เดยี ว
ข. ไวรอิ อน (Virion) เป็นอนภุ าคทีส่ มบรู ณ์ของไวรสั
ค. ไวรัสประกอบด้วยโมเลกลุ ของกรดนวิ คลีอิก DNA หรอื RNA ชนิดใดชนิดหนงึ่ เท่านน้ั
ง. มีเปลอื กหุ้มเป็นโปรตีน เรียกวา่ เเคปซิด (capsid)
38) ข้อใดกล่าวผดิ เกีย่ วกบั การจำลองตัวของไวรสั
ก. เม่ืออยู่ภายนอกเซลล์ ไวรัสมีสภาพเพียงสงิ่ มชี ีวิตเซลเ์ ดียวทไ่ี มม่ ีพษิ สง
ข. เมอ่ื ไวรัสเขา้ สู่เซลล์ เปลือกหุ้มไวรัสถกู ย่อยโดยเอนไซม์ของเซลล์
ค. การจำลองตัวเองของไวรัสทำใหไ้ ด้เปน็ ไวรสั อนุภาคใหมเ่ กิดขนึ้
ง. ไวรัสท่เี กดิ ข้ึนใหม่อาจทำลายเซลล์เจา้ บ้านหรอื ไม่ทำใหเ้ กิดอนั ตรายเเก่เซลลเ์ จ้าบ้านกไ็ ด้
39) ข้อใดคือไวรัสทใี่ ชแ้ บคทีเรยี เป็น host
ก. Viroid ข. bacteroid
ค. bacteriophage ง. sporozoa
40) ข้อใดไม่ใช่โรคท่ีเกดิ จากเช้อื ไวรัส
ก. พิษสนุ ัขบา้ ข. โปลโิ อ
ค. งสู วดั ง. ฉห่ี นู
103
ประวัติ ู้ ดั ทำ
ชือ่ - สกุล : นางนชุ นี ทองดีนอก
ตำแหนง่ : ครู
วทิ ยฐานะ : ครชู ำนาญการพิเศษ
ที่ทำงาน : โรงเรียนเทศบาลวดั กลาง
เทศบาลนครขอนแก่น
จังหวดั ขอนแก่น
กรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถน่ิ กระทรวงมหาดไทย