The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชิ้นงานการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kotchakonkunbuala, 2023-02-07 19:26:17

ชิ้นงานการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

ชิ้นงานการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์

94 ผลลัพธ์ 5.4 การนำรูปภาพจากภายนอกเข้ามาใช้งานในโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 นอกจากการใช้เครื่องมือวาดภาพสำหรับสร้างภาพประกอบต่าง ๆ ในสื่อสิ่งพิมพ์แล้วโปรแกรมอโดบี ยินดีไซน ซีเอส 6 ยังสามารถให้ผู้ใช้นำรูปภาพจากภายนอกโปรแกรมเข้ามาเพื่อใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ดังขั้นตอนต่อไปนี้ 1. คลิกเลือกคำสั่งไฟล์ > เพลส (File > Place) 2. ปรากฏหน้าต่างเพลสขึ้นมา 3. เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์รูปภาพที่ต้องการ 4. เลือกไฟล์รูปภาพที่ต้องการ 5. คลิกปุ่มโอเพ่น (Open) เรียกไฟล์รูปภาพที่ต้องการ 6. ปรากฏผลลัพธ์


95 ผลลัพธ์ สรุปสาระสำคัญ ภาพประกอบในสื่อสิ่งพิมพ์ช่วยทำให้ผู้อ่านสื่อสิ่งพิมพ์สามารถมองเห็นภาพและทำให้เกิดความ เข้าใจ ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลาตีความหรือทำความเข้าใจ การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป สามารถทําได้ ทั้งการวาดภาพและการแทรกรูปภาพจากภายนอก การวาดภาพ เป็นภาพในลักษณะรูปร่าง และรูปทรงต่าง ๆ ในรูปแบบของเส้นพาธ ทั้งแบบเส้นตรงและเส้นโค้ง การใช้เครื่องมือในการสร้าง ได้แก่ เครื่องมือไลนทูล (Line Tool) เครื่องมือเรคแทงเกิลทูล (Rectangle Tool) เครื่องมืออิลิพซทูล (Ellipse Tool) พอลลิกอนทูล (Polygon Tool) เครื่องมือเพนทูล (Pen Tool) และเพนเซิลทูส (Pencil Tool) นอกจากการ วาดภาพแล้วผู้ใช้ โปรแกรมสามารถนำภาพจากภายนอกเข้ามาใช้งานในโปรแกรมได้ ได้แก่ ไฟล์รูปภาพที่ สร้างจากโปรแกรม กราฟิกต่าง ๆ หรือภาพที่นำมาจากระบบอินเทอร์เน็ต การใช้เครื่องมือในการวาดภาพรูปร่าง และรูปทรงต่าง ๆ หรือการนำไฟล์จากภายนอกเข้ามาใช้ใน โปรแกรมต่างก็ช่วยให้การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ทำได้ง่ายและสะดวกในการทำงานมากขึ้น เส้น สี รูปภาพ


96 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 5 ภาพประกอบสื่อสิ่งพิมพ์ คำสั่ง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของภาพประกอบสื่อสิ่งพิมพ์ ก. ใช้สร้างความเข้าใจ ข. ใช้สร้างความแตกต่าง ค. ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิง ง. ใช้ตกแต่งหน้าสิ่งพิมพ์ 2. ข้อใดไม่ใช่ภาพประกอบสื่อสิ่งพิมพ์ ก. ภาพวาดในหนังสือ ข. ภาพกราฟิกบนโปสเตอร์ ค. ภาพถ่ายที่อยู่ในอัลบั้มรูป ง. ภาพตามจินตนาการที่รอการจัดพิมพ์ 3. เมื่อต้องการเลือกไฟล์ประเภทบิตแมปมาประกอบงานพิมพ์ควรเลือกใช้ไฟล์ภาพในข้อใด ก. บีเอ็มพี (BMP), ทิฟ (TIF) ข. อีพีเอส (EPS), เอไอ (AI) ค. เอฟแอลเอ (FLA), ทิฟ (TIF) ง. เอสดับเบิลยูเอฟ (SWF), อีพีเอส (EPS) 4. เมื่อต้องการใช้ภาพประกอบสื่อสิ่งพิมพ์ที่ให้ความรู้เหมือนจริงและสร้างสรรค์ควรเลือกใช้ภาพชนิดใด ก. ภาพถ่าย ข. ภาพวาด ค. ภาพพิมพ์ ง. ภาพลายเส้น 5. ข้อใดอธิบายคำสั่งที่ใช้ในการสร้างรูปดาวได้ถูกต้อง ก. คำสั่งสตาร์เซตทิง (Star Setting) กำหนดมุมรูปดาว ข. คำสั่งสตาร์เซต (Star Set) กำหนดแฉกของรูปดาว ค. คำสั่งสตาร์อินเซต (Star Inset) กำหนดรูปแบบรูปดาว ง. คำสั่งสตาร์ออฟไซด์ (Star of Side) กำหนด้านของรูปดาว 6. การเลือกเครื่องมือที่ใช้วาดเส้นตรงเป็นรูปทรงตายตัวข้อใดเหมาะสมที่สุด


97 ก. เครื่องมือไลน์ทูล (Line Tool) ข. เครื่องมือเพนทูล (Pen Tool) ค. เครื่องมือเพนเซิลทูล (Pencil Tool) ง. เครื่องมืออิลิพซทูล (Ellipse Tool) 7. การปรับเส้นโค้งให้เป็นเส้นตรงด้วยเครื่องมือเพนทูล (Pen Tool) สามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องมือใด ก. เครื่องมือวาดเส้น ข. เครื่องมือลบจุด ค. เครื่องมือเพิ่มจุด ง. เครื่องมือเปลี่ยนแขน 8. การแทรกรูปภาพจากภายนอกเข้ามาในโปรแกรมข้อใดเรียงลำดับขั้นตอนได้ถูกต้อง ก. ไฟล์ > อินเสิร์ต (File > Insert) ข. ไฟล์ > เพลส (File > Place) ค. ไฟล์ > อิมพอร์ต (File > Import) ง. ไฟล์ > พิคเจอร์ (File > Picture) 9. สถานะเมาส์ในข้อใด แสดงถึงการใช้ต่อเส้นพาธเส้นเดิม ก. ข. ค. ง. 10. ข้อใดเป็นการใช้งานเครื่องมือ Smooth Tool ที่ถูกต้อง ก. ปรังแต่งเส้นให้โค้งเรียบ ข. ปรับเส้นให้ตรง ค. ลบเส้นที่ไม่ต้องการออก ง. ต่อเส้นพาธให้ยาวมากขึ้น เฉลย 1.ข 2.ง 3.ก 4.ก 5.ค 6.ก 7.ค 8.ข 9.ง 10.ก


98 หน่วยที่ 6 สีในสื่อสิ่งพิมพ์ หัวข้อเรื่อง (Topics) 6.1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสี 6.2 ทฤษฎีสี 6.3 หลักการประยุกต์ใช้สีให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการออกแบบ 6.4 ระบบสี 6.5 โหมด ในโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 6.6 การใส่สีวัตถุ 6.7 การใส่สีด้วยเครื่องมืออายดร็อปเพอร์ทูล 6.8 การระบายสีแบบไล่โทน 6.9 การสร้างภาพโปร่งแสง สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับสีในสื่อสิ่งพิมพ์ 2. ออกแบบสีในสื่อสิ่งพิมพ์ตามแบบที่กำาหนด จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objective) จุดประสงค์ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นของสี ทฤษฎีสี การใช้สีกับงานออกแบบ ระบบสี โหมดสี การใส่วัตถุ การใส่สีรูปภาพด้วยเครื่องมืออายคร็อปเพอร์ทูล การระบายสีแบบไล่โทนและการ สร้างภาพโปร่งแสง จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสีได้ 2. อธิบายหลักการใช้สีในงานออกแบบและนำหลักการต่าง ๆ ของสีไปใช้ในงานออกแบบได้ 3. อธิบายเกี่ยวกับระบบสีได้


99 4. อธิบายการเลือกใช้โหมดสีในการทํางานได้ 5. เลือกใช้โหมดสีในการทำงานด้วยโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 ได้ 6. อธิบายการใช้เครื่องมือในการเติมสีและเลือกใช้เครื่องมือในการเติมสีให้กับวัตถุได้ 7. เติมสีให้กับวัตถุด้วยคัลเลอร์พิกเกอร์ กล่องเครื่องมือพาเนลคัลเลอร์และพาเนลสวอตเซสได้ 8. เติมสีวัตถุด้วยการใช้เครื่องมืออายดรอพเพอร์ได้ 9. ระบายสีแบบไล่โทนให้วัตถุด้วยพาเนลเกรเดียนต์และเครื่องมือ เกรเดียนต์สวอตซ์ทูลได้ 10. อธิบายการสร้างภาพโปร่งแสงด้วยพาเนลเอฟเฟ็กต์ได้ 11. สร้างภาพโปร่งแสงด้วยพาเนลเอฟเฟ็กต์ได้ 12. มีเจตคติที่ดีตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการตรงต่อเวลา ตั้งใจทำงาน รอบคอบ มี วินัย และปรับปรุงแก้ไขเมื่อผิดพลาด เนื้อหาสาระ (Content) โลกถูกจรรโลงและแต่งแต้มด้วยสีสันที่หลากหลาย ทั้งสีสันตามธรรมชาติ และสีที่มนุษย์รังสรรค์ขึ้น หากโลกนี้ไม่มีสีหรือมนุษย์ไม่สามารถรับรู้เกี่ยวกับสีได้ สิ่งนั้นอาจเป็นความบกพร่องที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เพราะสีมีความสำคัญต่อวัฏจักรแห่งโลก และเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตมนุษย์จนแยกกันไม่ออก มนุษย์ได้ ตระหนัก แล้วว่าสีนั้นส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ จินตนาการ การสื่อความหมาย และความสุข สำราญใจใน ชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าสีมีอิทธิพลต่อมนุษย์เป็นอย่างมาก และมนุษย์ก็ใช้ ประโยชน์จากสีอย่าง อเนกอนันต์ในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด 6.1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสี 6.1.1 ความหมายของสี สีเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่น่ามหัศจรรย์ สีมีอยู่ในแสงแดด เป็นคลื่นแสงชนิดหนึ่งจะ ปรากฎให้ เห็น เมื่อแสงแดดส่องผ่านละอองน้ำในอากาศและเกิดการหักเหเกิดเป็นแถบสีต่าง ๆ 7 สี เรียง ติดกัน เรียกแถบ สีที่เรียงติดกันนี้ว่า สเปกตรัม ลักษณะเป็นสีรุ้งที่เห็นในท้องฟ้า คือ สีม่วง สีม่วงน้ำเงิน สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง แต่ละสีมีความถี่ของคลื่นแสงไม่เท่ากัน สีแดงมีความถี่ต่ำที่สุด และมีช่วงคลื่นยาวที่สุด คลื่นแสง จะมีความถี่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จากสีแดงไปสีส้ม จนถึงสีม่วงที่มีความถี่สูงสุด คลื่นแสงที่มีความต่ำกว่าสีแดงหรือสูง กว่าสีม่วงยังมีอยู่อีกมากมาย เช่น แสงอินฟราเรดที่มีความถี่ต่ำกว่า แดง หรือแสงอัลตราไวโอเลตที่มีความถี่สูง กว่าม่วง แต่ตาของมนุษย์ไม่อาจรับความถี่ขนาดนั้น เป็นต้น สี (Color) ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง ลักษณะของแสงที่ ปรากฏแก่ สายตาให้เห็นเป็นสีขาว สีดำ สีแดง สีเขียว เช่น สีทาบ้าน สีย้อมผ้า เป็นต้น


100 สีในทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง คลื่นแสงหรือความเข้มของแสงที่สายตาสามารถมองเห็น สีในทางศิลปะสี หมายถึง ทัศนธาตุอย่างหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของงานศิลปะ และใช้ในการ สร้างงานศิลปะโดยจะทำให้ผลงานมีความสวยงาม ช่วยสร้างบรรยากาศ มีความสมจริง เด่นชัดและ น่าสนใจ มากขึ้น (ทัศนธาตุ หมายถึง ส่วนประกอบของศิลปะที่มองเห็นได้ ประกอบด้วย จุด เส้น รูปร่างรูปทรง น้ำหนัก อ่อน-แก่) ศิลปะการใช้สี 6.1.2 ความสําคัญของสี สีเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งทางด้านงานศิลปะ มีอิทธิพลต่อความรู้สึก อารมณ์ และ จิตใจได้ มากกว่าองค์ประกอบอื่น ๆ ในชีวิตของมนุษย์มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสีต่าง ๆ อย่างแยกไม่ออก โดยสามารถ นำสีไปใช้ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ใช้ในการจำแนกสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เห็นชัดเจน 2. ใช้ในการจัดองค์ประกอบสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม กลมกลืน เช่น การแต่งกาย การจัด ตกแต่งบ้าน เป็นต้น 3. ใช้ในการจัดกลุ่ม จัดพวกด้วยการใช้สีต่าง ๆ เช่น สีเครื่องแบบต่าง ๆ สีของกลุ่มคณะ เป็นต้น 4. ใช้ในการสื่อความหมาย เป็นสัญลักษณ์ หรือใช้บอกเล่าเรื่องราว 5. ใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อให้เกิดความสวยงาม สร้างบรรยากาศสมจริง และความน่าสนใจ 6. เป็นองค์ประกอบในการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ของมนุษย์ 6.1.3 ประเภทของสี


101 สีมีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา สีที่ปรากฏอยู่ในโลกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. สีที่เกิดในธรรมชาติมีอยู่ 2 ชนิด คือ ปริซึม เป็นต้น (1) สีที่เป็นแสง (Spectrum) คือ สีที่เกิดจากการหักเหของแสง เช่น สีรุ้ง สีจากแท่งแก้ว สีที่เป็นแสง (2) สีที่อยู่ในวัตถุ หรือเนื้อสี (Pigment) คือ สีที่มีอยู่ในวัตถุธรรมชาติทั่วไป เช่น สีของพืช สัตว์ หรือ แร่ธาตุต่าง ๆ เป็นต้น สีที่เป็นวัตถุธรรมชาติ 2. สีที่มนุษย์สร้างขึ้น สีที่ได้จากการสังเคราะห์ เพื่อใช้ประโยชน์ในงานต่าง ๆ ได้แก่ งานศิลปะ อุตสาหกรรม การพาณิชย์ และในชีวิตประจำวัน โดยสังเคราะห์จากวัสดุธรรมชาติและจากสารเคมี ที่เรียกว่า สี วิทยาศาสตร์ ซึ่งสีที่ได้จากการสังเคราะห์สามารถนำมาผสมกันให้เกิดเป็นสีต่างๆ ได้ อีกมากมาย


102 สีที่มนุษย์สร้างขึ้น 6.1.4 ประโยชน์ของสี 1. ภาพสีทำให้เกิดความน่าสนใจมากกว่าภาพขาวดำ 2. สีช่วยทำให้ภาพมีลักษณะเสมือนจริง 3. สีทำให้ผู้ดูรู้สึกเกิดอารมณ์ร่วมกับงาน นักออกแบบจึงมักใช้สีเพื่อทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกตามที่ตน ต้องการ 4. สีทำให้เกิดความเข้าใจ และสามารถจดจำภาพได้มากกว่างานขาวดำ 5. สีทำให้เกิดความประทับใจแก่ผู้ดู 6.2 ทฤษฎีสี ในสมัยเริ่มแรก มนุษย์รู้จักใช้สีเพียงไม่กี่สี สีเหล่านั้นได้มาจากพืช สัตว์ ดิน แร่ธาตุต่าง ๆ เป็นสีที่พบ ทั่วไปในธรรมชาติ ต่อมาเมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการมากขึ้น สีจึงได้ถูกนำมาใช้กันอย่างกว้างขวางจากเดิม ที่เคยใช้สี เพียงไม่กี่สีเป็นสีตามธรรมชาติ ได้นำมาซึ่งการประดิษฐ์ คิดค้น และผลิตสีใหม่ ๆ ออกมาเป็น จำนวนมากทำให้ เกิดการสร้างสรรค์ความงามอย่างไม่มีขีดจำกัด 6.2.1 ความหมายของทฤษฎีสี ทฤษฎีสี (Theory of Colour) หมายถึง ลักษณะการกระทบต่อสายตาให้เห็นเป็นสีมีผลถึง จิตวิทยา คือมีอำนาจให้เกิดความเข้มของแสงที่กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึก การที่ได้เห็นสีด้วยสายตา สายตาก็จะส่ง ความรู้สึกไปยังสมอง ทำให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ ตามอิทธิพลของสี อย่างเช่น สดชื่น ร้อน หนาว ตื่นเต้น เศร้า เป็นต้น สีมีความหมายอย่างมาก เพราะศิลปินต้องการใช้สีเป็นสื่อสร้างความประทับใจ ในผลงานของศิลปะและ


103 สะท้อนความประทับใจนั้นให้เกิดแก่ผู้ดู มนุษย์เกี่ยวข้องกับสีต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวนั้น ล้วนแต่มีสีสันแตกต่างกันมากมาย 6.2.2 แสงสีกับการมองเห็น สีที่เรามองเห็นสามารถเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมของสี และสภาพของแสง โดยในที่ที่มี แสงสว่าง จัด ๆ สีจะดูอ่อนหรือจืดจางลง แต่ถ้าเป็นในที่ที่มีแสงสว่างน้อยลง สีที่เรามองเห็นก็จะเข้มขึ้น และ ในที่ไม่มีแสง สว่างเลยเราก็จะมองเห็นสีต่าง ๆ เป็นสีดำ ถึงแม้จะมีความเข้มของแสงเหมือนกัน แต่ถ้ามี สภาพแวดล้อมของสี ที่แตกต่างกัน เช่น สีแสดที่อยู่บนพื้นสีดำจะดูอ่อนกว่าสีแสดที่อยู่บนพื้นสีขาว และสีที่ อยู่บนพื้นสีที่ต่างกันจะดู มีความเข้มต่างกัน สีที่อยู่บนพื้นสีเข้มจะมองเห็นเด่นชัดกว่าสีที่อยู่บนพื้นสีสว่าง เป็นต้น 6.3 หลักการประยุกต์ใช้สีให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการออกแบบ ในงานออกแบบหรือการจัดภาพ หากผู้ใช้รู้จักใช้สีให้มีสภาพโดยรวมเป็นวรรณะร้อนหรือวรรณะเย็น ก็ จะสามารถควบคุมและสร้างสรรค์ภาพให้เกิดความประสานกลมกลืนงดงามได้ง่ายขึ้น เพราะสีมีอิทธิพล ต่อมวล ปริมาตร และช่องว่างสีมีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดความกลมกลืนหรือขัดแย้งได้ สีสามารถขับเน้นให้ให้ เกิดจุดเด่น และการรวมกันให้เกิดเป็นหน่วยเดียวกันได้ ผู้ใช้สีต้องนำหลักการต่าง ๆ ของสีไปกับเป้าหมายใน งานเพราะสีมี ผลต่อการออกแบบ คือเมื่อต้องนำหลักการต่าง ๆ ของสีไปประยุกต์ใช้สีให้สอดคล้องกับ เป้าหมายของการ ออกแบบ มีผลต่อการออกแบบ ดังนี้ 6.3.1 สร้างความรู้สึก สีจะให้ความรู้สึกต่อผู้พบเห็นที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และภูมิหลังของแต่ ละคน สี บางสีสามารถรักษาบำบัดโรคจิตบางชนิดได้ การใช้สีภายใน หรือภายนอกอาคาร จะมีผลต่อการ สัมผัสและ สร้างบรรยากาศได้ 6.3.2 สร้างความน่าสนใจ สีมีอิทธิพลต่องานศิลปะการออกแบบ สีช่วยสร้างความประทับใจ และความน่าสนใจเป็น อันดับแรกที่ พบเห็น 6.3.3 สีบอกสัญลักษณ์ของวัตถุ ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ หรือภูมิหลัง เช่น สีแดง สัญลักษณ์ของไฟ หรืออันตราย สีเขียว สัญลักษณ์ แทนพืช หรือความปลอดภัย เป็นต้น 6.3.4 สีช่วยให้เกิดการรับรู้ และจดจำ งานศิลปะการออกแบบต้องการให้ผู้พบเห็นเกิดการจดจำ ในรูปแบบ และผลงาน หรือเกิด ความ ประทับใจ การใช้สีจะต้องสะดุดตา และมีเอกภาพ


104 6.3.5 สีช่วยให้เกิดทัศนวิสัยที่ดีเมื่อนำมาใช้งานร่วมกันดังนี้ 1. สีอ่อนตัดกับสีแก่ 2. สีอ่อนตัดกับสีสดใส 3. สีอุ่นตัดกับสีเย็น 4. สีที่ตัดกันเองอยู่แล้วตามปกติ ได้แก่ (1) สีดำบนพื้นเหลือง (2) สีเหลืองบนพื้นดำ (3) สีแดงบนพื้นขาว (4) สีเหลืองบนพื้นนำเงิน (5) สีส้มบนพื้นน้ำตาล (6) สีชมพูบนพื้นดำcc 6.4 ระบบสี การใช้สีกับงานกราฟิกในคอมพิวเตอร์ มีรายละเอียดหลายอย่างที่เป็นลักษณะเฉพาะ ระบบสีของ คอมพิวเตอร์ (Color Model) จะเกี่ยวข้องกับการแสดงผลแสงที่แสดงบนจอคอมพิวเตอร์ โดยมีลักษณะการ แสดงผล คือถ้าไม่มีแสดงผลสีใดเลย บนจอภาพจะแสดงเป็นสีดำ หากสีทุกสีแสดงผลพร้อมกัน จะเห็นสีบน จอภาพเป็นสีขาว ส่วนสีอื่น ๆ เกิดจากการแสดงสีหลาย ๆ สี แต่มีค่าแตกต่างกัน สีที่ใช้ในงานด้านกราฟิกทั่วไป มี 4 ระบบ คือ 6.4.1 ระบบสีอาร์จีบี (RGB = Read, Green, Blue) ระบบสีอาร์จีบีเป็นระบบสีของแสง ซึ่งเกิดจากการหักเหของแสงผ่านแท่งแก้วปริซึมจะเกิดแถบสีที่ เรียกว่า สีรุ้ง (Spectrum) ซึ่งแยกสีตามที่สายตามองเห็นได้ 7 สี คือ แดง แสด เหลือง เขียว น้ำเงิน ความ ม่วง ซึ่งเป็นพลังงานอยู่ในรูปของรังสีที่มีช่วงคลื่นที่สายตาสามารถมองเห็นได้ แสงสีม่วงมีความถี่คลื่นสูง ที่สุด คลื่น แสงที่มีความถี่สูงกว่าแสงสีม่วง เรียกว่า อัลตราไวโอเลต (Ultra Violet) คลื่นแสงสีแดงมีความถี่ คลื่นต่ำที่สุด คลื่นแสงที่ต่ำกว่าแสงสีแดงเรียกว่า อินฟราเรด (Infrared) คลื่นแสงที่มีความถี่สูงกว่าสีม่วง และต่ำกว่าสีแดงนั้น สายตาของมนุษย์ไม่สามารถรับได้ และเมื่อศึกษาดูแล้ว แสงสีทั้งหมดเกิดจากแสง สี 3 สี คือ สีแดง (Red) สีน้ำ เงิน (Blue) และสีเขียว (Green) ทั้งสามสีถือเป็นแม่สีของแสง เมื่อนำมาฉาย รวมกันจะทำให้เกิดสีใหม่อีก 3 สี คือ สีแดง สีฟ้า และสีเหลือง ซึ่งถ้าฉายแสงสีทั้งหมดรวมกันจะได้แสง สีขาว จากคุณสมบัติของแสงนี้ได้นำมาใช้ ประโยชน์ทั่วไปในการฉายภาพยนตร์ การบันทึกภาพวิดีโอ ภาพโทรทัศน์ การสร้างภาพเพื่อการนำเสนอทาง จอคอมพิวเตอร์ และการจัดแสงสีในการแสดง


105 ระบบสีอาร์บี 6.4.2 ระบบสีซีเอ็มวายเค (CMYK = Cyan, Magenta, Yellow, Black) ระบบสีซีเอ็มวายเคเป็นระบบสีชนิดที่เป็นวัตถุ คือ สีแดง เหลือง น้ำเงิน แต่ไม่ใช่สีน้ำเงินที่เป็น แม่มี วัตถุธาตุ แม่สีในระบบซีเอ็มวายเคเกิดจากการผสมของแม่สีของแสง คือ แสงสีน้ำเงิน + แสงสีเขียว - สีฟ้า แสงสีน้ำเงิน + แสงสีแดง = สีแดงอมม่วง แสงสีแดง + แสงสีเขียว = สีเหลือง ฟ้า สีแดงอมม่วง และสีเหลือง นำมาใช้ในระบบการพิมพ์ และมีการเพิ่มเติมสีดำเข้าไป เพื่อให้มีน้ำหนัก เข้มขึ้น เมื่อรวมสีดำ (Black = K) เข้าไปจึงมีสี่สี โดยทั่วไปจึงเรียกระบบการพิมพ์นี้ว่าระบบ การพิมพ์สี่สี ซึ่งเป็น การพิมพ์ภาพในระบบที่ทันสมัยที่สุดและได้ภาพใกล้เคียงกับภาพถ่ายมากที่สุด โดยทำ การพิมพ์ทีละสีจากสี เหลือง สีแดง สีน้ำเงิน และสีดำ ถ้าลองใช้แว่นขยายส่องดู ผลงานพิมพ์ชนิดนี้ จะพบว่า เกิดจากจุดสีเล็ก ๆ สี่สี อยู่เต็ม การที่สายตามองเห็นภาพมีสีต่าง ๆ ได้นั้น นอกจากสี่สีเกิดจากการผสมของ เม็ดสีเหล่านี้ในปริมาณต่าง ๆ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของปริมาณเม็ดสี ซึ่งกำหนดเป็น 10-20-30-40-50-60- 70-80-90 จนถึง 100 เปอร์เซ็นต์ 6.4.3 ระบบสีเอชเอสบี (HSB = Hue Saturation Brightness) ระบบสีเอชเอสบีเป็นระบบสีพื้นฐานใน การมองเห็นสีด้วยของสายตามนุษย์ ประกอบด้วยลักษณะของ สี 3 ลักษณะ ได้แก่ ฮิว (Hue) แซตวเรชัน (Saturation) และไบรต์เนส (Brightness) ระบบสีเอชเอสบี


106 1. ฮิว (Hue) คือ สีต่าง ๆ ที่สะท้อนมาจากวัตถุแล้วเข้าสู่สายตา ทำให้สามารถมองเห็นวัตถุ เป็นสีต่าง ๆ ได้ ซึ่งแต่ละสีจะแตกต่างกันตามความยาวของคลื่นแสงที่มากระทบวัตถุและสะท้อนกลับที่ สายตา ฮิวถูกวัด โดยตำแหน่งการแสดงสีบนมาตรฐานวงล้อสี (Standard Color Wheel) จะถูกแทนด้วย องศา 0 ถึง 360 องศา แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเรียกการแสดงนั้น ๆ เป็นชื่อของสี เช่น สีเขียว สีแดง สีน้ำเงิน เป็นต้น 2. แซตทิวเรชัน (Saturation) คือ ความสดของสี โดยค่าความสดของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง 100 ถ้า กำหนดแซตทิวเรชั่นที่ 0 สีจะมีความสดน้อย แต่ถ้ากำหนดที่ 100 สีจะมีความสดมาก ถ้าถูกวัดโดย ตำแหน่งบน มาตรฐานวงล้อสี ค่าแซตทิวเรชันจะเพิ่มขึ้นจากจุดกึ่งกลางจนถึงเส้นขอบ โดยค่าที่เส้นขอบจะมี สีที่ชัดเจนและ อิ่มตัวที่สุด 3. ไบรต์เนส (Brightness) คือ ระดับความสว่างของสี โดยค่าความสว่างของสีจะเริ่มที่ 0 ถึง 100 ถ้า กำหนดที่ 0 ความสว่างจะน้อยซึ่งจะเป็นสีดำ แต่ถ้ากำหนดที่ 100 สีจะมีความสว่างมากที่สุด ยิ่งมีค่า ไบรต์เน สมากจะทำให้สีนั้นสว่างมากขึ้น เช่น การเพิ่มปริมาณสีดำเข้าไปในสีนั้นให้ดูเข้มขึ้น ได้แก่ การทำสีแดง อิฐ เมื่อ เติมดำลงไปในสีแดงจะเกิดความเข้มของสีเป็นสีแดงอิฐ เป็นต้น 6.4.4 ระบบสีแอลเอบี (LAB) ระบบสีแอลเอบีเป็นค่าสีที่กำหนดขึ้นโดยซีไอดี (CIE = Commission Internationale de TEclairage) ให้เป็นสีมาตรฐานกลางของการวัดสีทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุกสีในอาร์จีบี (RGB) และซีเอ็ม วายเค (CMYK) และ ใช้ได้กับสีที่เกิดจากอุปกรณ์ทุกอย่าง เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ เป็นต้น ส่วนประกอบของโหมดสี ได้แก่ ระบบสีแอลเอบี


107 6.5 โหมดไมโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 การใช้โหมดสีในโปแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 มีจำนวน 3 โหมด ได้แก่ โหมดสีอาร์จีบี (RGB) โหมสี ซีเอ็มวายเค (CMYK) และโหมดสีแอลเอบี (Lab) 6.5.1 โหมดสีอาร์จีบี (RGB) โหมดสีอาร์จีบี มีการกำหนดค่าความเข้มของสี 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน ที่มาผสมกัน ทำให้ เกิดสีต่างๆ บนจอคอมพิวเตอร์มากถึง 16.7 ล้านสี ซึ่งใกล้เคียงกับที่สายตาสามารถมองเห็นได้ ปกติ สีที่ได้จาก การผสมนี้จะขึ้นอยู่กับความเข้มของสี โดยถ้าสีมีความเข้มมาก เมื่อนำมาผสมกันจะทำให้ เกิดเป็นสีขาว เรียก ระบบสีนี้ว่าการผสมสีแบบบวก (Additive) ภาพที่อยู่ในโหมดอาร์จีบี จะเป็น การซ้อนสีหลัก 3 ชั้น สามารถมอง ทะลุผ่าน 3 สีจนกลายเป็นภาพ 6.5.2 โหมดสีซีเอ็มวายเค (CMYK) โหมดสีซีเอ็มวายเค มีการกำหนดค่าสีจากเปอร์เซ็นต์ความเข้มของสีมาสผมกัน 4 สี คือ สีฟ้า สีบานเย็น สีเหลือง และสีดำ หรือสีขาว เป็นระบบสีที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ที่พิมพ์ออกทางกระดาษหรือ วัสดุผิวเรียบอื่น ๆ การ นำสีมาผสมกันจะเกิดเป็นสีดำ แต่จะไม่ดำสนิท เนื่องจากหมึกพิมพ์มีความไม่บริสุทธิ์ จึงเป็นการผสมสีแบบลบ (Subtractive) 6.5.3 โหมดแอลเอบี (Lab) การใช้โหมดแอลเอบี (Lab) มีค่า 3 ค่าที่ผู้ใช้ต้องกําหนดคือ ค่าความสว่าง (L) ส่วนประกอบ ที่แสดง การไล่สีจากสีเขียวไปถึงสีแดง (a) และส่วนประกอบที่แสดงการไล่สีจากสีน้ำเงินไปถึงสีเหลือง (b) 6.5.4 การเปลี่ยนโหมดสีของวัตถุ การเปลี่ยนการทำงานของโหมดสี ผู้ใช้สามารถทำการเปลี่ยนได้ด้วยการใช้พาเนลคัลเลอร์ (Panel Color) ดังขั้นตอนต่อไปนี้ 1. คลิกเลือกพาเนลคัลเลอร์ 2. คลิกเลือกสัญลักษณ์ 3. เลือกโหมดสีที่ต้องการ ได้แก่ แอลเอบี (LAB) ซีเอ็มวายเค (CMYK) และอาร์จีบี (RGB) การเปลี่ยนนโหมดสีของวัตถุ


108 6.6 การใส่สีวัตถุ เมื่อผู้ใช้สร้างวัตถุได้ตามต้องการแล้ว การเพิ่มสีสันให้วัตถุมีความสวยงาม สามารถใส่สีพื้น (Fill) และสี เส้น (Stroke) ด้วยคัลเลอร์ฟิกเกอร์ (Color Picker) จากกล่องเครื่องมือ พาเนลคัลเลอร์ (Panel Color) และ พาเนลสวอตเซส (Panel Swatches) 6.6.1 การใส่สีวัตถุจากกล่องเครื่องมือ การใส่สีวัตถุจากกล่องเครื่องมือ ประกอบด้วย การใสสีพื้นและสีเส้น การใส่สีให้กับวัตถุ การใส่สีให้กับตัวอักษร การกำหนดเพียงสีเดียวลงในพื้นที่หรือเส้นขอบของวัตถุ การไล่โทนสีให้กับพื้นที่หรือเส้นขอบวัตถุ ไม่มีการใส่สีลงในพื้นที่ หรือเส้นขอบวัตถุ กล่องเครื่องมือ 6.6.2 การใส่วัตถุจากคัลเลอร์พิกเกอร์ (Color Picker) 1. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี 2. คลิกเลือกสีพื้นและสีเส้นจากกล่องเครื่องมือ เลือกสีพื้นและสีเส้นจากกล่องเครื่องมือ


109 3. ปรากฏหน้าต่างคัลเลอร์ฟิกเกอร์ 4. คลิกเพื่อกำหนดค่าสี หรือเลื่อนสไลด์เพื่อเลือกโทนสี 5. เลือกกำหนดค่าสีสำหรับสิ่งพิมพ์ หรือกำหนดค่าสีสำหรับเว็บไซต์ 6. แสดงโทนสีที่เลือก 7. คลิกตกลงเพื่อเลือกใช้สีตามที่กำหนดค่า หน้าต่างคัลเลอร์พิกเกอร์ 8. จะได้วัตถุมีสีตามที่กำหนด จะได้วัตถุมีสีตามที่กำหนด 6.6.3 การใส่สีวัตถุจากพาเนลคัลเลอร์ (Panel Color) 1. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี จะได้วัตถุมีสีตามที่กำหนด


110 2. คลิกเลือกพาเนลคัลเลอร์ เลือกพาเนลคัลเลอร์ 3. กำหนดสีพื้นและสีเส้นจากกล่องเครื่องมือ กำหนดสีพื้นและสีเส้นจากกล่องเครื่องมือ 4. เลื่อนแถบสไลด์เพื่อผสมสี 5. คลิกเลือกสีที่ต้องการ เลือกสีที่ต้องการ 6. วัตถุจะมีสีตามที่กำหนดค่าไว้ วัตถุจะมีสีตามที่กำหนดค่าไว้


111 6.6.4 การใส่สีวัตถุจากพาเนลสวอตเซส (Panel Swatches) 1. การเพิ่มสีเข้าไปในพาเนลสวอตเซส (1) คลิกเลือกสีจากพาเนลคัลเลอร์ เลือกสีจากพาเนลคัลเลอร์ (2) คลิกเลือกที่สวอตเชส (3) คลิกเมาส์ที่ เพื่อเพิ่มสีในพาเนล (4) สีใหม่จะเพิ่มในพาเนลสวอตเซส สีใหม่จะเพิ่มในพาเนลสวอตเชส 2. การลบสีออกจากพาเนลสวอตเชส (1) คลิกเลือกพาเนลสวอตเซส เลือกสีที่ต้องการลบ เลือกสีที่ต้องการจะลบ


112 (2) ลากสีที่ต้องการลบมาที่ ลากสีที่ต้องการจะลบมาที่ (3) สีที่ต้องการลบจะหายไปจากสวอตเชส 3. การใส่สีให้กับวัตถุด้วยพาเนลสวอตเซส (1) คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี เลือกวัตถุที่ต้องการใส่สี (2) คลิกเลือกที่พาเนลสวอตเซส (3) คลิกเลือกสีที่ต้องการ เลือกสีที่ต้องการ


113 (4) วัตถุจะมีสีตามที่กำหนด วัตถุจะมีสีตามที่กำหนด 6.7 การใส่สีด้วยเครื่องมืออายดร็อปเพอร์ทูล เครื่องมือที่ใช้ในการระบายสีวัตถุ โดยใช้วิธีการดึงสีของวัตถุอื่นมาใส่ในวัตถุที่เลือก ด้วยเครื่องมือ อายดร็อปเพอร์ทูล (Eyedropper Tool) สามารถทำได้ดังนี้ 1. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการระบายสี เลือกวัตถุที่ต้องการระบายสี 2. คลิกเลือกเครื่องมืออายดร็อปเพอร์ทูล เลือกเครื่องมืออายดร็อปเพอร์ทูล


114 3. เปิดไฟล์ภาพเพื่อใช้เป็นสี่ต้นแบบ และคลิกเลือกสีจากภาพต้นแบบ เลือกสีจากภาพต้นฉบับ 4. คลิกวัตถุเพื่อระบายสี วัตถุจะมีสีเดียวกับสีต้นฉบับ วัตถุจะมีสีเดียวกับต้นฉบับ 6.8 การระบายสีแบบไล่โทน การระบายสีแบบไล่โทนสี (Gradient) จากสีหนึ่งไปอีกสีหนึ่ง ผู้ใช้สามารถกำหนดสีแต่ละช่วงและมุม ของการไล่โทนสีโดยใช้งานคู่กันระหว่างพาเนลเกรเดียนต์ (Gradient Panel) และเครื่องมือเกรเดียนต์ สวอตช์ ทูล (Gradient Swatch Tool) Limi 1. การไล่โทนสีให้กับวัตถุ การเรียกใช้พาเนลเกรเดียนต์ได้ด้วยคำสั่ง วินโดว์ (Window) > เกรเดียนต์ (Gradient) พาเนลเกร เดียนต์ มีส่วนประกอบดังรูปที่ 6.44 ส่วนประกอบของพาเนลเกรเดียนต์ ก าหนดค่ามุม เอียงของการ ไล่สี ลักษณะการไล่ ตัวอย่าง สี การไล่สี แสดงต าแหน่งจุดสี สลับทิศทางการไล่ จุดระหว่างสี สองสี จุดสีแต่ ละจุด


115 2. การเพิ่มจุดสี การเพิ่มจุดสีในพาเนลเกรเดียนต์สามารถทำได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 ให้คลิกเพิ่มจุดสี โดยกดคลิกเพิ่มจุดสีบนแถบเพิ่มจุดสี เพิ่มจุดสีบนแถบเพิ่มจุดสี วิธีที่ 2 ให้คลิกเลือกสีจากสวอตเซส โดย (1) คลิกเลือกพาเนลสวอตเซส เลือกสีที่ต้องการในพาเนลสวอตเชส เลือกสีที่ต้องการในพาเนลสวอตเซส (2) ลากสีที่เลือกวางบริเวณแถบเพิ่มจุดสีในพาเนลเกรเดียนต์ ลากสีที่เลือกวางบริเวณแถบเพิ่มจุดสีในพาเนลเกรเดียนต์


116 (3) จุดสีใหม่จะเพิ่มเข้ามา จุดสีใหม่จะเพิ่มเข้ามา 3. การลบจุดสี เมื่อต้องการลบจุดสีบางจุด สามารถทำได้ดังนี้ (1) คลิกจุดสีบนแถบเพิ่มจุดสี คลิกจุดสีบนแถบเพิ่มจุดสี (2) ลากจุดสีออกมา จุดสีจะถูกลบหายไป ลากจุดสีออกมา จุดสีจะถูกลบหายไป 4. การไล่โทนสีให้กับวัตถุด้วยพาเนลเกรเดียนต์ (Panel Gradient) การกำหนดไล่โทนสีให้กับวัตถุ มีขั้นตอนการทำดังนี้


117 (1) คลิกเลือกวัตถุ เลือกวัตถุ (2) กำหนดสีพื้นแบบไล่สีจากกล่องเครื่องมือ กำหนดสีพื้นแบบไล่สีจากกล่องเครื่องมือ (3) ปรากฏพาเนลเกรเดียนต์ คลิกเลือกลักษณะการไล่สี เลือกลักษณะการไล่สี (4) คลิกจุดสีเพื่อกำหนดสีและคลิกเลือกสีที่ต้องการ เลือกสีที่ต้องการ


118 (5) ปราฏการไล่โทนสีบนวัตถุที่เลือก ปรากฏการไล่โทนสีบนวัตถุที่เลือก 5. การไล่โทนสีให้กับวัตถุด้วยเครื่องมือเกรเดียนต์สวอตช์ทูล (Gradient Swatch Tool) การไล่โทนสีด้วยเครื่องมือเกรเดียนต์สวอตช์ทูล เป็นการกำหนดทิศทาง การกระจายตัวของการไล่ โทน สี มีขั้นตอนการทำดังนี้ (1) คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการไล่โทนสี เลือกวัตถุที่ต้องการไล่โทนสี (2) คลิกเลือกเครื่องมือเกรเดียนต์สวอตช์ทูล (3) คลิกลากเมาส์บนวัตถุเพื่อเปลี่ยนจุดศูนย์กลางและการกระจายตัวของสีใหม่ (4) สีของวัตถุมีลักษณะแบบไล่โทนสีตามค่าที่กำหนด สีของวัตถุมีลักษณะแบบไล่โทนสีตามค่าที่กำหนด


119 6.9 การสร้างภาพโปร่งแสง การสร้างภาพโปร่งแสง (Opacity) เป็นการทําให้ภาพหรือวัตถุที่ซ้อนกันอยู่มีความโปร่งแสง ใสเหมือน กระจก สามารถมองผ่านเห็นทะลุถึงภาพหรือวัตถุที่อยู่ด้านหลัง สามารถทำได้ดังนี้ การสร้างภาพโปร่งแสงด้วย พาเนลเอฟเฟ็กต์ 1. คลิกเลือกวัตถุ เลือกวัตถุ 2. คลิกเลือกพาเนลเอฟเฟ็กต์ (Panel Effects) 3. กำหนดค่าความโปร่งแสงของวัตถุ กำหนดค่าความโปร่งแสงของวัตถุ 4. ผลลัพธ์จะได้ภาพโปร่งแสงที่สามารถมองเห็นภาพด้านหลัง ผลลัพธ์


120 สรุปสาระสำคัญ สีเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นคลื่นแสงชนิดหนึ่งที่ปรากฏให้เห็น สีแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ สีที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ และสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ความแตกต่างกันของสีทำให้ผู้พบเห็นมีความรู้สึกและ อารมณ์ที่แตกต่างกัน เช่น สีแดงจะให้ความรู้สึกอบอุ่น ร้อนแรง สีเขียว ให้ความรู้สึกร่มเย็น ความปลอดภัย สี น้ำเงิน ให้ความรู้สึกสุขุม หนักแน่น เป็นต้น การใช้สีกับงานกราฟิกในคอมพิวเตอร์ จะเป็นลักษณะเฉพาะระบบสีของคอมพิวเตอร์ จะเกี่ยวข้อง กับ การแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์ สีที่ใช้งานด้านกราฟิกมี 4 ระบบ ได้แก่ ระบบสีอาร์บี เป็นระบบสีของ แสง ระบบสีซีเอ็มวายเค เป็นระบบสีชนิดที่เป็นวัตถุ ระบบสีเอชเอสบี เป็นระบบสีแบบการมองเห็นของ สายตา มนุษย์ และระบบสีแอลเอบี เป็นระบบสีที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์ ทุกอย่าง เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ เป็น ต้น


121 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 6 สีในสื่อสิ่งพิมพ์ คำสั่งให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ข้อใดให้คำจำกัดความของสีได้ชัดเจนที่สุด ก. สีมีความไวกว่าแสง ข. สีคือลักษณะหนึ่งของแสง ค. สีคือลักษณะของสิ่งที่อยู่ในอากาศ ง. สีเกิดขึ้นจากการรวมตัวของฝุ่นละอองในอากาศ 2. ระบบสีใดเป็นระบบสีแบบการมองเห็นของสายตามนุษย์ ก. ระบบอาร์จีบี (RGB) ข. ระบบสีแอลเอบี (LAB) ค. ระบบสีเอชเอสบี (HSB) ง. ระบบสีซีเอ็มวายเค (CMYK) 3. การเปลี่ยนโหมดสีของวัตถุ ผู้ใช้โปรแกรมควรเลือกใช้พาเนลใด ก. คัลเลอร์ (Color) ข. พิกเกอร์ (Picker) ค. สวอตเชส (Swatches) ง. เกรเดียนต์ (Gradient) 4. ภาพเครื่องมือชนิดนี้ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานอย่างไร ก. กำหนดไม่ให้มีสีพื้น ข. กำหนดให้มีสีพื้นเพียงสีเดียว ค. กำหนดการไล่โทนสีให้กับสีพื้น ง. กำหนดการใส่สีให้กับตัวอักษรและวัตถุ 5. จากภาพเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานในลักษณะใด ก. ใช้ในการไล่ระดับสี ข. เป็นการลดสีในพาเนล ค. ปรับพื้นวัตถุให้เป็นสีขาว ง. เป็นการเพิ่มสีในพาเนล 6. เครื่องมือเกรเดียนต์สวอตช์ทูล (Gradient Swatch Tool) ใช้ในการไล่โทนสีอย่างไร ก. กำหนดตำแหน่งสี ข. กำหนดแนวทางการระบายสี


122 ค. กำหนดทิศทางการกระจายตัวของสี ง. กำหนดการใช้แม่สีในส่วนต่าง ๆ ของวัตถุ 7. ระบบสีอาร์จีบี ประกอบด้วยสีใดบ้าง ก. สีแดง สีเทา สีน้ำเงิน ข. สีแดง สีเขียว สีดำ ค. สีแดง สีฟ้า สีดำ ง. สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน 8. ค่าไบรทเนส (Brightness) เป็นการกำหนดค่าสีในข้อใด ก. ระดับความสดของสี ข. ระดับความสว่างของสี ค. ระดับการสะท้อนสีจากวัตถุ ง. ระดับความเข้มของสี 9. พาเนลในข้อใดใช้ในการเปลี่ยนโหมดสี ก. Panel Picture ข. Panel Swatches ค. Panel Gradient ง. Panel Color 10. ข้อใดแสดงคำสั่งการสร้างภาพโปร่งแสงจากคำสั่งหลักได้ถูกต้อง ก. Layout > Select > Opacity ข. Layout > Effects > Opacity ค. Object > Select > Opacity ง. Object > Effects > Opacity เฉลย 1.ข 2.ค 3.ก 4.ค 5.ง 6.ค 7.ง 8.ข 9.ง 10.ง


123 หน่วยที่ 7 การทํางานกับวัตถุ หัวข้อเรื่อง (Topics) 7.1 การเลือกวัตถุ 7.2 การเคลื่อนย้ายวัตถุ 7.3 การปรับขนาดวัตถุ 7.6 การคัดลอกวัตถุดิบ 7.6 การบิดรูปทรงวัตถุ 7.7 การพลิกกลับด้านวัตถุ 7.8 การล็อกวัตถุ 7.9 การมาสก์วัตถุ 7.10 การรวมกลุ่มวัตถุ 7.11 การจัดลำดับการซ้อนวัตถุ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) ทำงานกับวัตถุด้วยโปรแกรมผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objective) จุดประสงค์ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการเลือกวัตถุ การเคลื่อนย้ายวัตถุ การปรับขนาดวัตถุ การ คัดลอกวัตถุ การหมุนวัตถุ การปิดรูปทรงวัตถุ การพลิกกลับด้านวัตถุ การล็อกวัตถุ การมาสกวัตถุ การรวมกลุ่ม วัตถุ และการจัดลำดับการซ้อนวัตถุ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายวิธีการปรับแต่งวัตถุได้ 2. ปรับแต่งวัตถุตามที่กำหนดได้ 3. เรียงลำดับการซ้อนของวัตถุตามที่กำหนดได้ 4. มีเจตคติที่ดีตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการตรงต่อเวลา มีความรอบคอบและความ รับผิดชอบ


124 เนื้อหาสาระ (Content) การทำงานกับวัตถุในโปรแกรมอโดบี อินดีไซน์ ซีเอส 6 เป็นการทำงานพื้นฐาน ที่จำเป็นใน การจัดการ ไฟล์งาน เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ ที่แสดงบนอาร์ตบอร์ดล้วนเป็นวัตถุทั้งสิ้น การทํางาน เกี่ยวกับวัตถุสามารถ ทําได้หลายวิธี ได้แก่ การสร้างวัตถุ การเลือกวัตถุ การย้าย การปรับขนาด การคัดลอก การหมุน การกลับภาพ การบิด การคร็อป การล็อกวัตถุ การรวมกลุ่มวัตถุ การจัดลำดับ การซ้อนวัตถุ การมาสก์วัตถุและการจัดเรียง วัตถุ 7.1 การเลือกวัตถุ การทำงานกับวัตถุที่มีหลาย ๆ ชิ้นในหน้าอาร์ตบอร์ด ผู้ใช้ต้องทำการเลือกเจาะจงวัตถุแบบเลือกวัตถุ เพียงชิ้นเดียว หรือวัตถุหลายชิ้นในการใช้งาน วิธีการเลือกวัตถุสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 7.1.1 การเลือกวัตถุเดียว การเลือกวัตถุเพียงชิ้นเดียวที่ต้องการ สามารถทำได้ดังขั้นตอนต่อไปนี้ 1. คลิกเลือกเครื่องมือเล็กชันทูล (Selection Tool) เลือกเครื่องมือเล็กชั่นทูล 2. คลิกเมาส์เลือกวัตถุที่ต้องการ 3. ปรากฏแฮนเดิล (Handle) บริเวณวัตถุที่เลือก


125 ปรากฏแฮนเดิลบริเวณวัตถุที่เลือก 7.1.2 การเลือกวัตถุหลายวัตถุ 1. คลิกเลือกวัตถุครั้งละวัตถุ (1) คลิกเลือกเครื่องมือซีเล็กชันทูล เลือกเครื่องมือเล็กชันทูล (2) คลิกเลือกวัตถุชิ้นแรก เลือกวัตถุชิ้นแรก (3) กดปุ่มซิฟต์ (Shift) แล้วคลิกเลือกวัตถุชิ้นต่อไปที่ต้องการเลือกจะปรากฏแฮนเดิลบริเวณวัตถุ ทั้งหมดที่ถูกเลือก


126 ปรากฏแฮนเดิลบริเวณวัตถุทั้งหมดที่ถูกเลือก 2. คลิกลากเมาส์เลือกพื้นที่ของวัตถุ (1) คลิกเลือกเครื่องมือซีเล็กชันทูล เลือกเครื่องมือซีเล็กชันทูล (2) คลิกลากเมาส์เพื่อเลือกพื้นที่ในบริเวณวัตถุที่ต้องการเลือก เลือกพื้นที่ในบริเวณวัตถุที่ต้องการเลือก


127 (3) ปรากฏแฮนเดิลบริเวณวัตถุทั้งหมดที่ถูกเลือก ปรากฏแฮนเดิลบริเวณวัตถุทั้งหมดที่ถูกเลือก 7.2 การเคลื่อนย้ายวัตถุ วัตถุที่อยู่บนอาร์ตบอร์ดสามารถทำการเคลื่อนย้ายไปในตำแหน่งต่าง ๆ ได้หลายวิธี ได้แก่ กาใช้ปุ่ม ลูกศรบนคีย์บอร์ด การใช้เมาส์คลิกลาก และการย้ายจากคอนโทรลพาเนล 7.2.1 การใช้ปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ด การใช้ปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดเพื่อเคลื่อนย้ายวัตถุเพียงเล็กน้อย สามารถทำได้ดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือเล็กชันทูล เครื่องมือเล็กชันทูล 2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการเคลื่อนย้ายและกดปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดในทิศทางที่ต้องการ เคลื่อนย้าย


128 คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการเคลื่อนย้าย 3. วัตถุจะเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการ วัตถุจะเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการ 7.2.2 การใช้เมาส์คลิกลากย้ายวัตถุ การเคลื่อนย้ายวัตถุด้วยการใช้เมาส์ในการคลิกย้าย มีขั้นตอนดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือซีเล็กชันทูล เครื่องมือเล็กชันทูล 2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการเคลื่อนย้าย


129 คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการเคลื่อนย้าย 3. ลากเมาส์ไปวางในตำแหน่งที่ต้องการ วัตถุจะเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการ วัตถุจะเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการ 7.3 การปรับขนาดวัตถุ การปรับขนาดวัตถุสามารถปรับให้มีขนาดเล็กลงหรือปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นได้ มีวิธีในการปรับขนาดวัตถุ 2 วิธี ได้แก่ 7.3.1 การใช้เมาส์ปรับขนาดวัตถุ 1. คลิกเมาส์ที่ซีเล็กชันทูล จะปรากฏแฮนเดิล รอบวัตถุที่จะเคลื่อนย้าย เครื่องมือซีเล็กชันทูล 2. คลิกที่สัญลักษณ์ ตัวชี้เมาส์จะเปลี่ยนเป็น เพื่อปรับขนาดวัตถุ


130 คลิกที่สัญลักษณ์ เพื่อปรับขนาดวัตถุ 3. เมื่อปล่อยเมาส์จะได้วัตถุที่มีขนาดตามที่ต้องการ ได้วัตถุที่มีขนาดตามที่ต้องการ 7.3.2 ปรับขนาดวัตถุจากคอนโทรลพาเนล การใช้คอนโทรลพาเนลเพื่อปรับขนาดวัตถุ และทำการปรับขนาดของวัตถุที่มีความแน่นอน โดยการ ระบุความกว้าง (W) และความสูง (H) สามารถทำได้ดังนี้ 1. คลิกเลือกเครื่องมือเล็กชันทูล เครื่องมือซีเล็กชันทูล 2. คลิกเลือกวัตถุ


131 เลือกวัตถุ 3. คลิกเมาส์เลือกจุดอ้างอิง (Proxy) บนคอนโทรลพาเนล เลือกจุดอ้างอิง (Proxy) บนคอนโทรลพาเนล 4. ระบุค่าความกว้างและความสูงของวัตถุ ระบุค่าความกว้างและความสูงของวัตถุ 5. วัตถุที่ได้จะมีขนาดความกว้างและความสูงตามที่กำหนดค่าไว้ วัตถุจะมีขนาดความกว้างและความสูงตามที่กำหนดค่า 7.4 การคัดลอกวัตถุ การสร้างวัตถุที่เหมือนกับวัตถุชิ้นเดิม สามารถสร้างได้ด้วยการใช้คำสั่งก๊อปปี (Copy) เพื่อคัดลอก วัตถุ และใช้คำสั่งเพสต์ (Paste) ในการวางวัตถุที่คัดลอกมา มีขั้นตอนการทำดังนี้ 1. ใช้คำสั่งที่เล็กชันทูล เพื่อคลิกเลือกวัตถุ


132 เครื่องมือซีเล็กชันทูล 2. คลิกวัตถุที่ต้องการคัดลอก คลิกเลือกคำสั่งเอทดิท > ก๊อปปี้ (Edit > Copy) หรือกดปุ่ม คอนโทรล +ซี (Ctrl+C) บนคีย์บอร์ด คลิกวัตถุที่ต้องการคัดลอก คลิกเลือกคำสั่งก๊อปปี้ 3. เลือกคำสั่งเอทดิท > เพสต์ (Edit > Paste) หรือกดปุ่ม คอนโทรล + พี (Ctrl+P) บนคีย์บอร์ด 4 ปรากฏวัตถุที่ได้จากการคัดลอก ปรากฏวัตถุที่ได้จากการคัดลอก 7.5 การหมุนวัตถุ การนำวัตถุมาใช้งาน สามารถปรับหมุนวัตถุให้ไปในทิศทาง หรือองศาที่ต้องการได้ มีวิธีการทำ 2 วิธี คือ การใช้เครื่องมือโรเทตทูล และการใช้คอนโทรลพาเนล มีขั้นตอนวิธีการทำดังนี้


133 7.5.1 การหมุนวัตถุโดยใช้โรเทตทูล (Rotate Tool) การหมุนวัตถุโดยใช้เครื่องมือโรเทตทูล จากกล่องเครื่องมือ เป็นการหมุนวัตถุจากการคลิกเลือกจุดหมุน แล้วใช้เมาส์ปรับองศาของวัตถุตามต้องการ ดังนี้ 1. คลิกเลือกคำสั่งที่เล็กชันทูล เครื่องมือซีเล็กซันทูล 2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการหมุน คลิกเลือกวัตถุ 3. คลิกเลือกเครื่องมือโรเทตทูลจากกล่องเครื่องมือเพื่อหมุนวัตถุ คลิกเลือกเครื่องมือโรเทตทูล 4. คลิกเมาส์กำหนดจุดหมุนวางจุดหมุนบริเวณที่ต้องการลากเมาส์เพื่อหมุนวัตถุในตำแหน่งที่ต้องการ 5. ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้คำสั่งหมุนวัตถุ


134 ผลลัพธ์จากการใช้คำสั่งหมุนวัตถุ 7.5.2 การหมุนวัตถุโดยใช้คอนโทรลพาเนล การหมุนวัตถุโดยใช้คอนโทรสพาเนล เป็นการหมุนวัตถุด้วยการระบุค่าแน่นอน ทำได้ดังนี้ 1. คลิกเลือกเครื่องมือเล็กชันทูล เครื่องมือซีเล็กชันทูล 2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการหมุน คลิกเลือกวัตถุ 3. คลิกเลือก บนคอนโทรลพาเนล คลิกเลือก บนคอนโทรลพาเนล 4. วัตถุหมุนตามองศาที่กำหนด


135 วัตถุหมุนตามองศาที่กำหนด 5. วัตถุจะถูกหมุนตามที่ต้องการ วัตถุจะถูกหมุนตามที่ต้องการ 7.6 การบิดรูปทรงวัตถุ การบิดรูปทรงวัตถุเพื่อให้เอียงไปทางซ้าย หรือเอียงไปทางขวา สามารถกำหนดองศาของมุมที่บิด เอียง ภาพได้จากการใช้เครื่องมือ เชียร์ทูล (Shear Tool) และคอนโทรลพาเนล ดังนี้ 7.6.1 การบิดโดยใช้เครื่องมือเชียร์ทูล 1. คลิกเลือกเครื่องมือเล็กชันทูล เครื่องมือเล็กชันทูล


136 2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการบิด เลือกวัตถุ 3. คลิกเลือกเครื่องมือเชียร์ทูลจากกล่องเครื่องมือ 4. กำหนดจุดยึดที่วัตถุ เพื่อบิดวัตถุให้บิดเอียงไปทางซ้าย (องศาเป็นมุมลบ) หรือบิดเอียงไปทางขวา (องศาเป็นมุมบวก) กำหนดจุดยึดที่วัตถุ เพื่อบิดวัตถุ 5. บิดวัตถุตามต้องการ บิดวัตถุตามต้องการ 6. ผลลัพธ์จะได้วัตถุที่บิดไปตามองศาที่ต้องการ ผลลัพธ์


137 7.6.2 การบิดโดยใช้เครื่องมือคอนโทรลพาเนล 1. คลิกเลือกเครื่องมือซีเล็กชันทูล 2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการบิด เลือกวัตถุที่ต้องการบิด 3. คลิกเลือกจุดยึดการบิดบนคอนโทรลพาเนล 4. กำหนดค่าการบิดให้บิดเอียงไปทางซ้าย (องศาเป็นมุมลบ) หรือบิดเอียงไปทางขวา (องศาเป็นมุม บวก) ไม่มีค่าการบิดกำหนดเป็น 0 5. ผลลัพธ์จะได้วัตถุที่บิดไปตามองศาที่ต้องการ ผลลัพธ์จะได้วัตถุที่บิดไปตามองศาที่ต้องการ 7.7 การพลิกกลับด้านวัตถุ การพลิกกลับด้านวัตถุเป็นการสร้างภาพในลักษณะเหมือนกับการสะท้อนในกระจก ในการพลิกกลับ สามารถปรับได้ทั้งแนวนอน และแนวตั้ง ในคอนโทรลพาเนล ดังนี้ 1.คลิกเลือกเครื่องมือเล็กชันทูล เครื่องมือซีเล็กชันทูล


138 2. คลิกเลือกวัตถุที่ต้องการกลับด้าน เลือกวัตถุที่ต้องการกลับด้าน 3.คลิกเมาส์ที่จุดยึดสำหรับพลิกวัตถุ คลิกเลือกเครื่องมือฟลิป ฮอร์ริซอนทอล (Flip Horizontal) ใน การพลิกกลับในแนวนอน 4. หากต้องการพลิกกลับในแนวตั้ง ให้คลิกเลือกเครื่องมือฟลิป เวอร์ทิคอล (Flip Vertical) เครื่องมือฟลิป ฮอร์ริซอนทอล และ เครื่องมือฟลิป เวอร์ทิคอล 5. วัตถุจะถูกพลิกกลับด้านตามต้องการ วัตถุจะถูกพลิกกลับด้าน 7.8 การล็อกวัตถุ เมื่อมีการจัดวางวัตถุในตำแหน่งที่เหมาะสม และไม่ต้องการเคลื่อนย้ายหรือปรับขนาดวัตถุ หรือลบ วัตถุนั้น สามารถทำได้ด้วยการล็อกวัตถุชิ้นนั้นด้วยคำสั่งล็อกโพซิชัน (Lock Position) มีขั้นตอนการทำดังนี้ 1. คลิกเครื่องมือซีเล็กชันทูล และคลิกเลือกวัตถุที่ต้องการล็อก เครื่องมือซีเล็กชันทูล


139 2. เลือกคำสั่งอ๊อบเจ็กต์ - ล็อกโพซิชัน (Object > Lock Position) เลือกคำสั่งล็อกโพซิชัน 3. วัตถุที่เลือกไว้จะถูกล็อก ไม่สามารถแก้ไข เคลื่อนย้าย หรือลบได้ วัตถุที่เลือกไว้จะถูกล็อก 7.9 การมาสก์วัตถุ การมาสก์วัตถุ คือการกำหนดบริเวณให้กับวัตถุ วัตถุจะแสดงอยู่ในขอบเขตของเฟรม ที่กำหนดเท่านั้น โดยรูปแบบของเฟรมมี 3 รูปแบบ คือ รูปวงกลมหรือวงรี (Ellipse Tool) รูปสี่เหลี่ยม (Rectangle Tool) และ รูปหลายเหลี่ยม (Polygon Tool) จากกล่องเครื่องมือ มีขั้นตอนดังนี้ 1. เลือกรูปภาพที่ต้องการมาสก์ สิ่ง 2. คลิกเลือกเครื่องมือสร้างเฟรมตามรูปแบบที่ต้องการ ในที่นี้ให้เลือกเฟรมเป็นแบบวงกลม 3. วาดวงกลมในบริเวณภาพเฉพาะที่ต้องการมาสก์ วาดวงกลมในบริเวณภาพเฉพาะที่ต้องการมาสก์ 4. คลิกเลือกภาพ และคลิกเลือกคำสั่งเอดิท > ก๊อปปี้ (Edit > Copy)


140 เลือกคำสั่งก๊อปปี้ 5. คลิกเลือกวงกลมที่อยู่บนภาพ แล้วเลือกคำสั่งเอดิท > เพสต์ อินทู (Edit > Paste Into) เลือกคำสั่งเพสต์ อินทู 6. ภาพในบริเวณที่มาสก์จะปรากฏในวงกลม และคลิกลากวงกลมออกจากพื้นที่รูปภาพ ลากวงกลมออกจากพื้นที่รูปภาพเดิม 7. ผลลัพธ์ที่ได้ปรากฏรูปภาพในรูปวงกลม ผลลัพธ์


141 7.10 การรวมกลุ่มวัตถุ การรวมกลุ่มวัตถุเป็นการจัดวัตถุที่มีหลายชิ้นมารวมกลุ่มให้เป็นวัตถุชิ้นเดียว เมื่อทำการย้าย ตำแหน่ง หรือลบวัตถุ จะสามารถทำได้พร้อมกัน 7.10.1 การรวมกลุ่มวัตถุด้วยวิธีการลากเมาส์ 1. เตรียมวัตถุที่ต้องการจัดกลุ่ม วัตถุที่ต้องการจัดกลุ่ม 2. คลิกลากเมาส์เพื่อเลือกวัตถุทั้งหมดที่ต้องการรวมกลุ่ม เลือกวัตถุทั้งหมด 3. วัตถุจะรวมกลุ่มเป็นชิ้นเดียว วัตถุจะรวมกลุ่มเป็นชิ้นเดียว 7.10.2 การรวมกลุ่มวัตถุด้วยคำสั่งออบเจ็กต์ 1.เตรียมวัตถุที่ต้องการจัดกลุ่ม วัตถุที่ต้องการจัดกลุ่ม 2. เลือกวัตถุที่ต้องการจัดกลุ่ม 3. คลิกเลือกคำสั่งออบเจ็กต์ > กรุ๊ป (Object > Group)


142 เลือกคำสั่งกรุ๊ป 4. วัตถุจะรวมกลุ่มเป็นชิ้นเดียว ผลลัพธ์ 7.11 การจัดลำาดับการซ้อนวัตถุ การจัดลำดับการซ้อนของวัตถุ เพื่อจัดเรียงวัตถุในการซ้อน ว่าต้องการให้ชิ้นใดอยู่บนสุด ชิ้นใดอยู่ ล่างสุด ซึ่งทำได้ด้วยคำสั่งออบเจ็กต์ > อาร์เรนจ์ (Object > Arrange) มีรูปแบบการจัดลำดับการซ้อนของ วัตถุ ดังนี้ 7.11.1 การจัดลำดับการซ้อนวัตถุขึ้นมา 1 ระดับ 1. เลือกวัตถุที่อยู่ล่างสุด เลือกวัตถุที่อยู่ล่างสุด 2. คลิกเลือกคำสั่งออบเจ็กต์ > อาร์เรนจ์ > ฟอร์เวิร์ด (Object > Arrange > Forward)


143 เลือกคำสั่งฟอร์เวิร์ด 3. วัตถุจะเลื่อนขึ้นมา 1 ระดับ วัตถุจะเลื่อนขึ้นมา 1 ระดับ 7.11.2 การจัดลำดับการซ้อนวัตถุขึ้นมาอยู่บนสุด 1. เลือกวัตถุที่อยู่ล่างสุด 2. คลิกคำสั่งออบเจ็กต์ > อาร์เรนจ์ > บริงทฟรอนท์ (Object > Arrange > Bring to Front) คลิกคำสั่งบริงทฟรอนท์ 3. วัตถุจะเลื่อนขึ้นมาบนสุด


Click to View FlipBook Version