97
98
99
100
101
102
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 20 103
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 พันธะเคมี เวลา 21 ช่ัวโมง
เร่ือง แรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ เวลา 3 ชว่ั โมง
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
ผ้สู อน นางสาวสุภารัตน์ เฉลียวดี
สาระเคมี
1. เขา้ ใจโครงสร้างอะตอม การจดั เรยี งธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตุ พันธะเคมแี ละสมบตั ิของสาร
แก๊สและสมบตั ิของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรียแ์ ละพอลิเมอร์ รวมทง้ั การนำความรไู้ ปใช้
ประโยชน์
ผลการเรยี นรู้
18. ระบชุ นิดของแรงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ และเปรยี บเทยี บจุดหลอมเหลว จดุ เดอื ด
และการละลายนำ้ ของสารโคเวเลนต์
19. สืบค้นขอ้ มลู และอธิบายสมบัตขิ องสารโคเวเลนตโ์ ครงรา่ งตาขา่ ยชนดิ ต่าง ๆ
สาระสำคัญ
แรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกลุ มีผลตอ่ จุดหลอมเหลว จุดเดือด และการละลายน้ำของสาร โดยสาร
โคเวเลนต์จะมีจุดหลอมเหลวและจุดเดอื ดต่ำ และไมล่ ะลายน้ำ
สาระการเรียนรู้
โมเลกุลโคเวเลนตม์ ที ้ังโมเลกลุ มีข้ัว และไม่มีข้ัว สภาพข้ัวของโมเลกลุ โคเวเลนต์เป็นผลรวมปริมาณเวกเตอร์
สภาพขัว้ ของแตล่ ะพันธะตามรปู รา่ งโมเลกุล
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลซึง่ อาจเป็นแรงลอนดอน แรงดึงดูดระหว่างขั้ว และพันธะไฮโดรเจนมีผลตอ่
จุดหลอมเหลว จุดเดือด และการละลายน้ำของสาร นอกจากนี้ สารโคเวเลนต์ส่วนใหญ่ยังมี จุดหลอมเหลวและ
จดุ เดือดต่ำกว่าสารประกอบไอออนิกเน่ืองจากแรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งโมเลกุล มคี า่ นอ้ ยกว่าพนั ธะไอออนกิ
สารโคเวเลนต์ส่วนใหญ่มีจุดหลอมเหลวและจุดเดือดต่ำ และไม่ละลายในน้ำ สำหรับสารโคเวเลนต์ที่
ละลายน้ำมีทั้งแตกตัวและไม่แตกตัวเป็นไอออน สารละลายที่ได้จากสารที่ไม่แตกตัวเป็นไอออนจะ ไม่นำไฟฟ้า
เรียกว่า สารละลายนอนอิเล็กโทรไลต์ ส่วนสารละลายที่ได้จากสารที่แตกตัวเป็นไอออนจะนำไฟฟ้า เรียกว่า
สารละลายอเิ ล็กโทรไลต์ สารละลายของสารประกอบคลอไรดแ์ ละออกไซดจ์ ะมีสมบตั ิเป็นกรด
104
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายสมบัติของสารโคเวเลนต์โครงร่างตาขา่ ยชนดิ ตา่ ง ๆ (K)
2. ระบุชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ และเปรยี บเทียบจดุ หลอมเหลว จุดเดือด
และการละลายนำ้ ของสารโคเวเลนต์ (P)
3. มคี วามใฝร่ ู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน และทำงานรว่ มกบั ผูอ้ นื่ ได้ (A)
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ข้ันกระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดังน้ี
1) นกั เรยี นคิดวา่ สารโคเวเลนตแ์ ต่ละชนิดจะมจี ดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวตา่ งกันหรอื ไม่
(แนวตอบ : พจิ ารณาคำตอบของนักเรยี น โดยอยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน โดยมีแนวตอบ คอื
สารโคเวเลนตแ์ ตล่ ะชนดิ จะมีจดุ เดือดและจุดหลอมเหลวแตกตา่ งต่างกนั )
2) จดุ เดือดและจุดหลอมเหลวของสารโคเวเลนต์ข้ึนอย่กู บั สิง่ ใด
(แนวตอบ : พิจารณาคำตอบของนักเรยี น โดยอยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน โดยมแี นวตอบ คือ
แรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งโมเลกลุ )
ขั้นสำรวจค้นหา (Exploration)
1.ครูอธิบายให้ความรู้เกี่ยวกับแรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ โดยใชส้ ่อื ICT ประเภท
PowerPoint เร่อื ง พนั ธะโคเวเลนต์ โดยการให้ความรดู้ งั น้ี
1.1 แรงแวนเดอรว์ าลส์
1.2 แรงดงึ ดูดระหวา่ งข้วั
1.3 พนั ธะไฮโดรเจน
2. ครูยกตวั อยา่ งจุดเดอื ดและจุดหลอมเหลวของแกส๊ เฉอ่ื ยและสารโคเวเลนตบ์ างชนดิ จากนน้ั นำนักเรียน
อภปิ รายเกีย่ วกบั แรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งโมเลกุล เพอ่ื ใหไ้ ดข้ ้อสรปุ ดังน้ี
• จุดเดอื ดและจดุ หลอมเหลวของสารมีความสัมพนั ธ์โดยตรงกับแรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งโมเลกุล
• แรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งโมเลกลุ มีข้วั จะมีค่าสงู กวา่ แรงยึดเหนยี่ วระหว่างโมเลกุลไม่มีขั้ว
• แรงยึดเหนยี่ วระหวา่ งโมเลกุลของแกส๊ เฉ่อื ยและสารโคเวเลนตไ์ มม่ ขี ้ัวจะมีค่าต่ำ
105
ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
1. ครตู ั้งคำถามใหน้ ักเรยี นรว่ มกันอภิปรายเรื่อง แรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ เช่น
1) สารโคเวเลนตท์ กี่ ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ F2, HCl H2O H2S CO2 และ CH3COOH มีแรงยึดเหนีย่ ว
ระหว่างโมเลกลุ เป็นแรงชนิดใด
(แนวตอบ: F2 และ CO2 มีแรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งโมเลกุลเป็นแรงลอนดอน
HCl และ H2S มแี รงยดึ เหน่ียวระหว่างโมเลกุลเป็นแรงดงึ ดูดระหวา่ งขว้ั
H2O และ CH3COOH มแี รงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเปน็ พันธะไฮโดรเจน)
2) จงเรยี งลำดับจุดเดือดของสารตอ่ ไปนี้ NH3 CH4 PH3 จากสงู ไปต่ำ
(แนวตอบ : จดุ เดอื ดของ NH3 > PH3 > CH4)
ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
1. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึดหัดที่ 18 เรอ่ื ง แรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกลุ โคเวเลนต์
2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 7- 8 คน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ
สารโคเวเลนต์โครงร่างตาข่ายในประเด็นเกี่ยวกับโครงสร้าง สมบัติ และการนำไปใช้ประโยชน์ของสารโคเวเลนต์
โครงรา่ งตาขา่ ยแลว้ นำเสนอขอ้ มูลในรปู แบบต่าง ๆ
ข้ันประเมินผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม และการรว่ มกนั ทำผลงาน
2. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝึกหดั
3. ครวู ัดและประเมินผลจากช้นิ งานทน่ี ักเรียนไดส้ ร้างขึ้นจากขัน้ ขยายความเขา้ ใจ
สอ่ื /อุปกรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้
1. PowerPoint เร่อื ง พนั ธะโคเวเลนต์
2. แบบจำลองสามมิติหรอื ภาพประกอบตวั อยา่ งโครงสรา้ งของสารโคเวเลนตโ์ ครงรา่ งตาขา่ ย
3. แบบฝึดหดั ที่ 18 เรอ่ื ง แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์
106
การวดั และการประเมนิ ผล หลักฐานการเรยี นรู้ วิธีการวดั เครอื่ งมอื วดั
รายการวดั และประเมิน
1. อธิบายสมบตั ิของสารโคเว 1. กจิ กรรมสบื คน้ ข้อมูล 1. การนำเสนอจาก 1. แบบประเมินการ
เลนต์โครงร่างตาข่ายชนดิ ตา่ ง ๆ เก่ียวกับสารโคเวเลนต์ กจิ กรรมสืบคน้ ข้อมลู นำเสนอผลงาน
(K) โครงรา่ งตาขา่ ย เกยี่ วกับสารโคเวเลนต์
โครงรา่ งตาข่าย 1. แบบสงั เกตการตอบ
2. ระบุชนิดของแรงยึดเหนี่ยว 1. คำตอบของนักเรียน 1. การถามคำถามใน คำถาม
หอ้ งเรียน 2. แบบประเมิน
ระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และ 2. ตรวจแบบฝึดหดั ที่ 18 แบบฝึกหดั /ใบงาน/
ชิน้ งาน
เปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จุด 2. แบบฝึดหดั ที่ 18 เร่อื ง เรอ่ื ง แรงยึดเหนี่ยว
1. แบบประเมิน
เดือด และการละลายน้ำของสาร แรงยึดเหนี่ยวระหวา่ ง ระหวา่ งโมเลกลุ โคเว คณุ ลกั ษณะทพี่ ึง
ประสงค์
โคเวเลนต์ (P) โมเลกุลโคเวเลนต์ เลนต์
3. มคี วามใฝ่รู้ มงุ่ มั่นในการ 1. แบบประเมิน 1. สังเกตพฤติกรรมของ
ทำงาน และทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืนได้ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ นกั เรยี น
(A)
เกณฑ์การประเมนิ ผล จุดประสงค์ (K) สมรรถนะสำคญั (P) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
รายการ ผา่ นเกณฑ์ 70% ข้นึ ไป ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
107
108
แบบฝกึ หดั ท่ี 18
เร่ือง แรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์
คำชแี้ จง : จงระบุแรงยึดเหน่ยี วระหวา่ งโมเลกลุ ของสารโคเวเลนตต์ ่อไปน้ี
สารโคเวเลนต์ แรงยึดเหนยี่ วระหว่างโมเลกลุ
C2H4 แรงลอนดอน แรงดึงดดู ระหวา่ งขวั้ พันธะไฮโดรเจน
HF
HCN …………………………………… …………………………………… ……………………………………
CH2Cl2
SiH4 …………………………………… …………………………………… ……………………………………
H2SO4
O2 …………………………………… …………………………………… ……………………………………
PCl5
OF2 …………………………………… …………………………………… ……………………………………
CH2O
NH3 …………………………………… …………………………………… ……………………………………
NCl3
CHCl3 …………………………………… …………………………………… ……………………………………
BF3
N2 …………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
…………………………………… …………………………………… ……………………………………
เฉลย 109
แบบฝกึ หดั ท่ี 18
เรื่อง แรงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์
คำชี้แจง : จงระบุแรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกลุ ของสารโคเวเลนต์ต่อไปน้ี
สารโคเวเลนต์ แรงลอนดอน แรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุล
✓ แรงดึงดูดระหวา่ งขวั้ พันธะไฮโดรเจน
C2H4
HF ✓ ✓
HCN ✓ ✓
CH2Cl2 ✓ ✓
SiH4
H2SO4 ✓ ✓
O2 ✓
PCl5 ✓
OF2 ✓
CH2O
NH3 ✓
NCl3 ✓
CHCl3 ✓
BF3
N2
110
111
112
113
114
115
116
117
118
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 21 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4
เวลา 21 ช่วั โมง
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 3 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 พันธะเคมี
เรอ่ื ง พนั ธะโลหะ ผู้สอน นางสาวสุภารัตน์ เฉลียวดี
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
สาระเคมี
1. เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจดั เรยี งธาตุในตารางธาตุ สมบตั ิของธาตุ พนั ธะเคมีและสมบตั ขิ องสาร
แกส๊ และสมบตั ขิ องแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมท้งั การนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชน์
ผลการเรียนรู้
20. อธบิ ายการเกดิ พนั ธะโลหะและสมบัตขิ องโลหะ
21. เปรียบเทยี บสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์ และโลหะ สบื ค้นข้อมูลและ
นำเสนอตวั อยา่ งการใชป้ ระโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะได้อยา่ งเหมาะสม
สาระสำคัญ
พันธะโลหะเกิดจากเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนของทุกอะตอมของโลหะเคลื่อนท่อี ย่างอิสระไปทั่วทัง้ โลหะและเกิด
แรงยึดเหนี่ยวกับโปรตอนในนิวเคลียสทุกทิศทาง โลหะส่วนใหญ่เป็นของแข็ง ผิวมันวาว จุดหลอมเหลวและจุด
เดือดสูง นำไฟฟ้าและความรอ้ นได้ดี
สารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ มีสมบัติเฉพาะตัวบางประการที่แตกต่างกัน จึงนำมาใช้
ประโยชนใ์ นดา้ นตา่ ง ๆ ได้ตามความเหมาะสม
สาระการเรียนรู้
พันธะโลหะเกิดจากเวเลนซ์อิเล็กตรอนของทุกอะตอมของโลหะเคลื่อนที่อย่างอิสระไปทั่วทั้งโลหะ และ
เกิดแรงยึดเหนี่ยวกับโปรตอนในนิวเคลียสทุกทิศทาง โลหะส่วนใหญ่เป็นของแข็ง มีผิวมันวาว สามารถตีเป็นแผ่น
หรอื ดงึ เปน็ เส้นได้ นำความรอ้ นและนำไฟฟ้าได้ดี มีจุดหลอมเหลวและจุดเดอื ดสูง
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถอธิบายการเกดิ และสมบัติของพันธะโลหะได้(K)
2. เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะได้ (P)
3. มคี วามใฝ่รู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน และทำงานรว่ มกับผู้อืน่ ได้ (A)
119
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครตู ัง้ คำถามจากตารางธาตุ เพื่อนำเขา้ สู่บทเรยี นเก่ยี วกับพนั ธะโลหะ โดยการตัง้ คำถามกระตุ้นความ
สนใจ ดังนี้
1) พนั ธะโลหะเปน็ พันธะระหว่างธาตุท่มี ีสมบัตใิ ด
(แนวตอบ : พิจารณาคำตอบของนกั เรียน โดยอยูใ่ นดุลยพินิจของครผู ูส้ อน โดยมีแนวตอบ คอื
พนั ธะโลหะเป็นพนั ธะระหวา่ งธาตทุ ม่ี ีค่าอเิ ลก็ โทรเนกาติวิตตี ่ำ)
2) นกั เรียนคิดวา่ ธาตหุ รอื สารประกอบที่เกดิ จากพนั ธะโลหะควรมสี มบตั ิอยา่ งไร
(แนวตอบ : พิจารณาคำตอบของนกั เรียน โดยอยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน โดยมแี นวตอบ เชน่
จุดเดอื ดและจุดหลอมเหลวสูง นำความรอ้ นและนำไฟฟา้ ไดด้ ี สะทอ้ นแสงได้ เคาะแลว้ มีเสียงกงั วาน เป็นตน้ )
2. ครชู ้ีแจงจดุ ประสงค์ในการเรยี นวนั น้ี (พนั ธะโลหะ)
ข้นั สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. ครูอธิบายใหค้ วามร้เู ก่ียวกับการเกิดพันธะโลหะและสมบตั ขิ องพนั ธะโลหะ โดยใช้ส่อื ICT ประเภท
PowerPoint เรอื่ ง พันธะโลหะ โดยการให้ความร้ดู ังนี้
1.1 การเกดิ พันธะโลหะ
1.2 สมบัตขิ องพันธะโลหะ
1.3 เปรยี บเทียบสมบัตสิ ารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์ และโลหะ
2. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนกลุ่มออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น จากนั้นครูตั้งคำถามในนกั เรียน
ร่วมกันอภิปราย ดังน้ี
1) อะตอมของอโลหะสามารถเกดิ พนั ธะโลหะได้หรอื ไม่ ลักษณะใด (แนวตอบ : อะตอมของอโลหะไม่
สามารถเกิดพนั ธะโลหะได้ เนื่องจากอโลหะสญู เสยี อิเลก็ ตรอนไดย้ าก)
2) อะตอมของโลหะมีการดึงดูดกันในลักษณะใด (แนวตอบ : อะตอมของโลหะจะเกิดการยึดเหนี่ยว
ระหวา่ งไอออนบวกกับเวเลนซ์อเิ ล็กตรอนทเ่ี คลือ่ นทอี่ ยา่ งอสิ ระท่วั ทุกตำแหน่งภายในกอ้ นโลหะ)
3) จุดเดือดและจุดหลอมเหลวของธาตุที่เกิดพันธะโลหะมีแนวโน้มลักษณะใด เพราะเหตุใดจึงเป็น
เช่นนน้ั (แนวตอบ : ธาตุท่ีเกดิ พนั ธะโลหะจะมจี ดุ เดือดและจุดหลอมเหลวสงู เนื่องจากพนั ธะโลหะเกิด
จากแรงดึงดูดทางไฟฟ้าระหว่างไอออนบวกกับอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่อย่างอิสระ ซ่ึงยึดเหนี่ยวกันแน่นมากพันธะ
โลหะจึงแขง็ แรงมาก)
120
4) เพราะเหตุใดโลหะจึงมผี วิ มันวาว (แนวตอบ : เนือ่ งจากกลุม่ อเิ ลก็ ตรอนเคลอ่ื นทอ่ี ย่างอิสระไป
กระทบกับแสงทเี่ ป็นคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ โลหะจึงรบั และกระจายแสงออกมา ทำให้ผิวของโลหะเกดิ การสะทอ้ นแสง
ไดด้ ี จงึ เหน็ ผวิ ของโลหะเปน็ มนั วาว)
ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
1. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ เก่ยี วกับการเกิดพันธะโลหะและสมบัติของพันธะโลหะ ดงั น้ี
การเกิดพนั ธะโลหะ เปน็ พนั ธะทเ่ี กิดในอะตอมของโลหะกับโลหะ เกดิ จากใช้เวเลนซอ์ ิเล็กตรอนร่วมกันทั่วทั้งก้อน
โลหะ หรอื อาจกล่าวได้วา่ เกิดจากแรงยึดเหน่ยี วระหวา่ งไอออนบวกท่ีเรยี งชดิ กนั (นิวเคลียส) กบั ไอออนลบท่วี งิ่ อยู่
โดยรอบอะตอม
- พันธะโลหะแข็งแรง > พนั ธะไอออนิก > พนั ธะโคเวเลนต์
- ความแขง็ แรงของพันธะโลหะขึ้นอยกู่ บั จาํ นวนเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอน และประจุของไอออนบวกของโลหะ
2. สมบตั ิของโลหะ มดี ังนี้
- นําไฟฟ้าไดด้ ี เพราะอเิ ล็กตรอน (เวเลนซอ์ เิ ล็กตรอน) เคล่ือนท่ไี ด้อยา่ งอิสระท่ัวทง้ั กอ้ น
- นาํ ความร้อนไดด้ ี เพราะเมื่อใหค้ วามร้อนแกโ่ ลหะ เวเลนซอ์ ิเล็กตรอนจะมพี ลงั งานสูงข้ึนจงึ เคลื่อนท่ี
ได้เร็วขึ้น เม่ือเกิดการชนกนั จะเกิดการถ่ายโอนพลงั งานบางส่วนใหแ้ ก่กัน และถา่ ยโอนต่อเนื่องกนั ท่วั ทง้ั กอ้ นโลหะ
- จดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวสูง เพราะเวเลนซอ์ เิ ล็กตรอนยึดเหนยี่ วกบั อะตอมท้งั หมดไวด้ ว้ ยกนั
การเดือดหรอื การหลอมเหลวจงึ ต้องใชพ้ ลังงานสงู
- ผิวมันวาว เพราะอิเลก็ ตรอนเคล่อื นที่ได้อยา่ งอสิ ระ เมอ่ื กระทบแสง อิเลก็ ตรอนเหลา่ น้ันจะรับและ
ปล่อยคลืน่ แสงออกมา
- เคาะแลว้ มเี สยี งดงั กงั วาน เนื่องจากไอออนบวกอยชู่ ดิ กันมาก เม่อื เคาะจงึ ส่งแรงสนั่ สะเทือนไปถึงกัน
อยา่ งรวดเรว็ ทำให้เกิดเป็นเสยี งดงั กงั วานออกมา
- รดี เป็นแผ่นบาง ๆ ได้ เพราะอะตอมโลหะเปน็ การผลกั ช้ันของอะตอมของโลหะเลือ่ นไถลออกไป
จากตาํ แหน่งเดิม ทําให้แผน่ โลหะยาวออกไปและบางลง แตล่ ะอะตอมของโลหะในตาํ แหน่งใหมไ่ ม่หลดุ ออกจากกนั
เพราะมกี ลุ่มเวเลนซอ์ เิ ล็กตรอนยึดอนภุ าคเหล่านน้ั ไว้
ขน้ั ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
1. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ท่ี 19 เร่อื ง พันธะโลหะ
2. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาสมบตั ิของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ โลหะและ
ทำการเปรียบเทียบสมบัติสารประกอบดงั กล่าวลงในกระดาษชาร์ท แล้วออกมานำเสนอผลการสบื ค้นหนา้ ช้นั เรียน
ขั้นประเมินผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม และการรว่ มกันทำผลงาน
2. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด
3. ครวู ัดและประเมินผลจากชิ้นงานท่ีนกั เรียนไดส้ ร้างข้นึ จากข้นั ขยายความเข้าใจ
121
สอ่ื /อุปกรณ์/แหลง่ การเรียนรู้
1. PowerPoint เร่อื ง พนั ธะโลหะ
2. แหลง่ การเรียนรู้สารสนเทศ
3. แบบฝกึ หัดที่ 19 เร่อื ง พันธะโลหะ
4. กระดาษชาร์ท
การวดั และการประเมินผล หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือวดั
รายการวัดและประเมนิ
1. นกั เรียนสามารถอธิบายการ 1. คำตอบของนกั เรยี น 1. การถามคำถามใน 1. แบบสงั เกตการตอบ
เกิดและสมบัตขิ องพนั ธะโลหะได้ ห้องเรียน คำถาม
(K) 2. แบบฝึกหัดที่ 19 เรือ่ ง 2. ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 19 2. แบบประเมิน
พนั ธะโลหะ เร่ือง พนั ธะโลหะ
แบบฝกึ หดั /ใบงาน/
ช้นิ งาน
2. เปรยี บเทยี บสมบตั บิ างประการ 1. กระดาษชาร์ท เร่อื ง 1. ตรวจกระดาษชารท์ 1. แบบประเมิน
ของสารประกอบไอออนิก สาร สมบตั ขิ องสารประกอบไอ เรอ่ื ง สมบตั ขิ อง แบบฝึกหัด/ใบงาน/
โคเวเลนต์ และโลหะได้ (P) ออนกิ สารโคเวเลนต์ และ สารประกอบไอออนกิ สาร ช้นิ งาน
โลหะ โคเวเลนต์ และโลหะ
3. มคี วามใฝ่รู้ ม่งุ มนั่ ในการ 1. พฤตกิ รรมของนกั เรยี น 1. สงั เกตพฤตกิ รรมของ 1. แบบประเมนิ
คณุ ลกั ษณะที่พึง
ทำงาน และทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้ นักเรียน ประสงค์
(A)
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล จดุ ประสงค์ (K) สมรรถนะสำคญั (P) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
รายการ ผา่ นเกณฑ์ 70% ขึ้นไป ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
เกณฑ์การประเมินผล
122
123
แบบฝึกหดั ที่ 19
เร่อื ง พนั ธะโลหะ
คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ติ ามคำส่งั ต่อไปนี้
ตอนที่ 1 ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. จงอธบิ ายการเกดิ พันธะโลหะ
………………………….………………………….………………………….………………………….………………………….…………………
………………………….………………………….………………………….………………………….………………………….…………………
………………………….………………………….………………………….………………………….………………………….…………………
2. พนั ธะโลหะมสี มบัติบางประการเหมอื นกบั สารประกอบประเภทใด
………………………….………………………….………………………….………………………….………………………….…………………
3. จงยกตัวอยา่ งสมบัตเิ ฉพาะตวั ของโลหะมา 4 ข้อ
………………………….………………………….………………………….………………………….………………………….…………………
………………………….………………………….………………………….………………………….………………………….…………………
4. ธาตใุ ดท่ีสามารถเกดิ พนั ธะโลหะได้
………………………….………………………….………………………….………………………….………………………….…………………
ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาว่าธาตุทีก่ ำหนดให้ สามารถเกิดพนั ธะโลหะได้หรอื ไม่ โดยทำเครือ่ งหมาย ✓ ลงใน
ช่องว่างใหถ้ ูกต้อง
ธาตุ ผลการพิจารณา ธาตุ ผลการพจิ ารณา
เกดิ พันธะโลหะ ไมเ่ กดิ พนั ธะโลหะ เกิดพนั ธะโลหะ ไมเ่ กดิ พันธะโลหะ
Na …………………………. …………………………. P …………………………. ………………………….
Li …………………………. …………………………. Ca …………………………. ………………………….
N …………………………. …………………………. C …………………………. ………………………….
Mg …………………………. …………………………. Ba …………………………. ………………………….
Cl …………………………. …………………………. Kr …………………………. ………………………….
Al …………………………. …………………………. Cu …………………………. ………………………….
O …………………………. …………………………. Ni …………………………. ………………………….
Co …………………………. …………………………. Zn …………………………. ………………………….
F …………………………. …………………………. Ne …………………………. ………………………….
K …………………………. …………………………. Fe …………………………. ………………………….
แบบฝกึ หดั ท่ี 19 124
เรอ่ื ง พนั ธะโลหะ เฉลย
คำช้แี จง : ให้นักเรยี นปฏิบตั ติ ามคำส่งั ตอ่ ไปน้ี
ตอนที่ 1 ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. จงอธบิ ายการเกิดพันธะโลหะ
อะตอมของโลหะมีค่าพลังงานไอออไนเซชันต่ำ จึงสามารถสูญเสียเวเลนซ์อเิ ล็กตรอนได้ง่าย ทำให้กลายเป็น
ไอออนบวก โดยเวเลนซ์อิเล็กตรอนที่หลุดออกจะเคลื่อนที่อย่างอิสระทั่วทั้งก้อนโลหะ เกิดแรงยึดเหนี่ยว
ระหว่างไอออนบวกกบั เวเลนซ์อเิ ล็กตรอนอิสระ
2. พันธะโลหะมสี มบัติบางประการเหมือนกับสารประกอบประเภทใด
สารประกอบไอออนกิ
3. จงยกตวั อยา่ งสมบตั เิ ฉพาะตัวของโลหะมา 4 ขอ้
1) จดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวสูง 2) นำไฟฟ้าและนำความรอ้ นได้ดี
3) ตเี ปน็ แผ่นและดงึ เปน็ เส้นได้ 4) สะทอ้ นแสงไดด้ ี
4. ธาตใุ ดท่ีสามารถเกิดพนั ธะโลหะได้
ธาตหุ มู่ 1A – 3A
ตอนที่ 2 ให้นกั เรียนพจิ ารณาว่าธาตทุ ี่กำหนดให้ สามารถเกดิ พันธะโลหะได้หรือไม่ โดยทำเคร่อื งหมาย ✓ ลงใน
ชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง
ธาตุ ผลการพิจารณา ธาตุ ผลการพิจารณา
เกดิ พันธะโลหะ ไมเ่ กิดพันธะโลหะ เกิดพันธะโลหะ ไมเ่ กิดพันธะโลหะ
Na ✓ P ✓
Li ✓ Ca ✓
N ✓C ✓
Mg ✓ Ba ✓
Cl ✓ Kr ✓
Al ✓ Cu ✓
O ✓ Ni ✓
Co ✓ Zn ✓
F ✓ Ne ✓
K✓ Fe ✓
125
126
127
128
129
130
131
132