คานา
หม่บู า้ น คือ โครงสรา้ งทางการปกครองของไทยทเ่ี ลก็ ทสี่ ุด และสาคัญ
ที่สุด ดังท่ีหลายฝุายเห็นตรงกันว่าหมู่บ้าน คือ “จุดแตกหัก” ของการแก้ไข
ปัญหาและการพัฒนาในทุกมิติ หากวันน้ีเราสามารถทาให้ทุกหมู่บ้านใน
ประเทศไทยของเรา ที่มีอยู่กว่า 75,000 หมู่บ้าน เข้มแข็ง และพึ่งพาตนเอง
ได้แล้ว ประเทศไทยของเราก็จะมีรากฐานที่แข็งแกร่ง และเป็นพลังท่ีสาคัญ
ในการแก้ไขปัญหาและพฒั นาประเทศในทุกมิติ
เพ่ือทาให้หมู่บ้านมีกลไกหลักสาคัญ ทาหน้าท่ีบริหารจัดการหมู่บ้าน
ให้เกิดเอกภาพและเข้มแข็ง กรมการปกครองจึงได้ปรับปรุงแก้ไข
พระราชบญั ญตั ิลักษณะปกครองท้องท่ี พระพุทธศกั ราช 2457 แกไ้ ขเพ่ิมเติม
(ฉบับที่ 11) พ.ศ.2551 มาตรา 28 ตรี เกยี่ วกับโครงสรา้ ง และอานาจหน้าท่ีของ
คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) ให้มีโครงสร้างที่ประกอบด้วยตัวแทนจาก
ทุกภาคส่วนในหมู่บ้านและกาหนดให้มีอานาจหน้าที่ ท่ีชัดเจน โดยมี
เปาู หมายให้ กม. ทาหนา้ ท่ีเป็นองค์กรหลักรับผิดชอบบูรณาการขับเคล่ือน
งาน โครงการ/กิจกรรมของ ทุกภาคส่วนในหมู่บ้าน ทั้งนี้ เพ่ือทาให้การ
บริหารจัดการของหมู่บ้านมีเอกภาพ ลดความซ้าซ้อน ซึ่งจะส่งผลให้
ประหยัดทัง้ เวลาและงบประมาณ
คู่มือฉบับน้ี จัดทาข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือประชาสัมพันธ์และ
เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท อานาจหน้าท่ีของ กม. เพื่อให้
กม. และประชาชนท่ัวไปได้ศึกษา โดยมีเน้ือหาสาระและรูปแบบการนาเสนอ
ท่ีเข้าใจง่าย ท้ังน้ี กรมการปกครองหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือฉบับนี้จะเป็น
ประโยชนต์ ่อการปฏบิ ตั ิหน้าท่ีของ กม. และผสู้ นใจต่อไป
ส่วนพฒั นาและส่งเสรมิ การบริหารงานทอ้ งท่ี
สานกั บรหิ ารการปกครองท้องท่ี กรมการปกครอง
มกราคม 2557
1“ประเทศตอ้ งมีรัฐบาล หมูบ่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผน่ ดนิ ”
สารบัญ
หน้า
บทท่ี 1 ใครเปน็ ใครในหมู่บ้าน 3
บทท่ี 2 ผใู้ หญบ่ า้ นมหี นา้ ที่ทาอะไรบา้ ง 5
บทที่ 3 กม. คือใครและมีหนา้ ทอ่ี ย่างไร 10
บทที่ 4 สงิ่ ท่ี กม. ต้องปฏบิ ตั ิ 19
บทที่ 5 ทาไม กม. ต้องบูรณาการจัดทา “แผนพฒั นาหมู่บา้ น” 21
บทท่ี 6 การสรา้ งแรงจูงใจในการปฏบิ ตั งิ าน 31
บทท่ี 7 สรปุ บทเรียนความสาเร็จของบา้ นหนองกลางดง 42
หมู่ที่ 7 ตาบลศลิ าลอย อาเภอสามร้อยยอด
จังหวดั ประจวบครี ีขันธ์
บทที่ 8 กองทุนกลางพฒั นาหมู่บา้ น 50
บทท่ี 9 การประนีประนอมขอ้ พพิ าทโดย 57
คณะกรรมการหมู่บ้าน
บทท่ี 10 บทสรุป 66
2“ประเทศต้องมรี ัฐบาล หมู่บ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู า้ น รากฐานของแผ่นดนิ ”
บทท่ี 1
ใครเป็นใครในหมู่บ้าน
ก่อนท่ีจะไปเรียนรู้ถึงการปกครองในระดับหมู่บ้านซึ่งถือว่าเป็น
รากฐานที่สาคัญของประเทศ เรามาเรียนรู้ก่อนว่าประเทศไทยของเรานั้นมี
การจัดการปกครองออกเป็นแบบใดบ้าง ประเทศไทยของเรานั้นแบ่ง
การปกครองออกเป็น
ราชการบริหารส่วนกลาง คอื กระทรวง ทบวง กรม
ราชการบรหิ ารสว่ นภูมภิ าค คือ จงั หวัด อาเภอ
ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น คือ กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั (อบจ.) เทศบาล (มที งั้ เทศบาลตาบล เทศบาลเมือง
และเทศบาลนคร) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล (อบต.)
การปกครองท้องที่ คือ อาเภอ ก่ิงอาเภอ ตาบล หม่บู ้าน
(ทกุ วนั น้ี (ปี พ.ศ. 2556) กง่ิ อาเภอไดย้ กฐานะเปน็ อาเภอหมดแล้ว)
ราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น จัดต้ังข้ึน
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ส่วน อาเภอ ก่ิงอาเภอ
ตาบล และหมู่บา้ น น้ัน จัดตั้งข้ึนตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี
ซึ่งตราข้ึนในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ (ร.5)
เรียกว่าพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457
และพระองคท์ ่านได้ทรงริเร่มิ ใหม้ ีตาแหนง่ กานนั ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ปกครอง
หมู่บา้ นคร้งั แรก ทอ่ี าเภอบางปะอิน จงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา
ในการตั้งหมู่บ้านมหี ลกั เกณฑ์ ดงั นี้
ตามพระราชบญั ญตั ิลกั ษณะปกครองทอ้ งที่ มปี ระชากรราว
200 คน มบี า้ นไมต่ า่ กว่า 5 บ้าน
3“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หม่บู า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บ้าน รากฐานของแผ่นดนิ ”
ตามมติคณะรัฐมนตรี แบง่ ออกเป็น 2 กรณี คอื
1. กรณชี ุมชนหนาแนน่ กอ่ นแยกตอ้ งมีประชากรไมน่ ้อย
กว่า 1,200 คน หรอื มบี า้ นไม่น้อยกว่า 240 บ้าน
แยกแลว้ ตอ้ งมีประชากรไมน่ ้อยกว่า 600 คน มบี ้าน
ไม่นอ้ ยกวา่ 120 บา้ น
2. กรณีชมุ ชนห่างไกล
ก่อนแยกตอ้ งมปี ระชากรไม่น้อยกว่า 600 คน
หรอื มบี า้ นไมน่ อ้ ยกวา่ 120 บ้าน
แยกแล้วต้องมปี ระชากรไม่น้อยกวา่ 200 คน
มบี ้านไม่น้อยกว่า 40 บา้ น
หากเปรียบประเทศเปน็ ตน้ ไม้ ส่ ว น บ น เ ป รี ย บ เ ป็ น
กระทรวง ทบวง กรม
ล า ต้ น เ ป รี ย บ เ ป็ น
จังหวัด อาเภอและ
องค์กรปกครองส่วน
ท้องถน่ิ
รากเปรียบเป็น
ตาบล หม่บู ้าน
คาถาม - ถ้าจะบารงุ รักษาตน้ ไม้ต้นนใี้ หเ้ จรญิ งอกงาม
ออกดอกออกผล จะตอ้ งบารงุ ทส่ี ่วนใด ?
4“ประเทศต้องมรี ฐั บาล หมู่บ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บ้าน รากฐานของแผน่ ดนิ ”
สว่ นการต้ังตาบลมหี ลักเกณฑ์ ดังน้ี
ตามพระราชบญั ญตั ลิ ักษณะปกครองท้องท่ี มหี มูบ่ า้ นราว
20 หมู่บา้ น
ตามมตคิ ณะรฐั มนตรี แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
1. กรณีชุมชนหนาแน่นต้องมีประชากรไม่น้อยกว่า 4,800 คน
หรอื มีหมู่บา้ นไม่น้อยกวา่ 8 หมบู่ า้ น
2. กรณชี มุ ชนห่างไกลต้องมีประชากรไม่น้อยกว่า 3,600 คน
หรือมหี มบู่ า้ นไม่นอ้ ยกวา่ 6 หมูบ่ ้าน หา่ งจากตาบลเดมิ 6 กม.
โครงสรา้ งการปกครองของหมู่บ้านแตล่ ะหมู่บ้าน ประกอบด้วย
1. ผใู้ หญ่บา้ น 1 คน
2. ผชู้ ว่ ยผูใ้ หญบ่ า้ นฝาุ ยปกครอง 2 คน
3. ผู้ชว่ ยผู้ใหญ่บ้านฝาุ ยรกั ษาความสงบ (มเี ฉพาะบางหมบู่ า้ น)
บทท่ี 2 ผใู้ หญบ่ า้ นมหี น้าทอ่ี ยา่ งไร
หลายคนอาจจะเคยมีคาถามว่า ผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่อย่างไร ทาไม
เม่ือมีองค์การบริหารส่วนตาบลแล้ว ยังคงต้องมีผู้ใหญ่บ้านอยู่อีก ในเม่ือ
พื้นที่ทางานทับซ้อนกัน บางหน่วยงาน รวมถึงนักวิชาการบางท่าน ถึงกับ
เสนอให้ยุบเลิกตาแหน่งกานัน ผ้ใู หญบ่ ้านฯ ไปเลยก็มี ท่ีเป็นแบบนี้ก็เพราะ
กฎหมายได้กาหนด อานาจ หน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน และอานาจหน้าที่ของ
องค์การบริหารส่วนตาบลไว้อย่างชัดเจน โดยล่าสุดยังได้มีการแก้ไข
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบบั ที่ 11) พ.ศ. 2551 ให้ผู้ใหญ่บา้ นอยู่ในตาแหน่งจนอายุครบ 60 ปี และ
(ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2552 ห้ามยุบเลิกตาแหน่งกานัน ผู้ใหญ่บ้านฯ นั่นเป็น
การบ่งบอกว่า กานัน ผู้ใหญ่บ้านฯ มีความจาเป็นและสาคัญต่อการดูแล
5“ประเทศตอ้ งมีรัฐบาล หมบู่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู า้ น รากฐานของแผน่ ดิน”
“บาบดั ทกุ ข์ บารุงสุข” ให้แก่พ่ีน้องประชาชนในระดับตาบล และหมู่บ้าน
ซ่งึ ถอื เป็นรากฐานทสี่ าคัญของประทศ
เพ่ือให้มองเห็นภาพอานาจหน้าท่ีระหว่างกานัน ผู้ใหญ่บ้าน กับหน้าที่
ของ อบต. ใหช้ ดั เจนยิง่ ขนึ้ จึงขอนาหน้าทข่ี องทงั้ สององค์กร มาให้ศกึ ษา ดังนี้
หนา้ ท่ขี องผู้ใหญ่บ้าน
1) อานวยความเป็นธรรมและดูแลรักษาความสงบเรียบรอ้ ย
และความปลอดภัยใหแ้ กร่ าษฎรในหมบู่ ้าน
2) สรา้ งความสมานฉันทแ์ ละความสามคั คีให้เกิดขน้ึ ในหมบู่ า้ น
รวมทง้ั ส่งเสรมิ วฒั นธรรมและประเพณีในท้องที่
3) ประสานหรอื อานวยความสะดวกแกร่ าษฎรในหมบู่ ้านใน
การตดิ ต่อหรอื รับบรกิ ารกบั ส่วนราชการ หน่วยงานของรฐั หรือองคก์ ร
ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ
4) รับฟังปญั หาและนาความเดอื ดร้อน ทกุ ขส์ ุขและความ
ตอ้ งการทจี่ าเป็นของราษฎรในหมบู่ ้าน แจ้งตอ่ ส่วนราชการ หนว่ ยงาน
ของรฐั องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น หรือองคก์ รอน่ื ทเ่ี กย่ี วข้อง เพ่ือให้
การแกไ้ ขหรอื ชว่ ยเหลือ
5) ให้การสนบั สนนุ ส่งเสรมิ และอานวยความสะดวกในการ
ปฏบิ ตั หิ น้าทหี่ รอื การให้บรกิ ารของส่วนราชการ หนว่ ยงานของรัฐ
หรือองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน
6) ควบคมุ ดูแลราษฎรในหม่บู า้ นใหป้ ฏบิ ัติให้เปน็ ไปตาม
กฎหมาย หรือระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยกระทาตนใหเ้ ป็น
ตวั อย่างแก่ราษฎร
6“ประเทศตอ้ งมีรฐั บาล หมู่บ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ า้ น รากฐานของแผน่ ดนิ ”
หน้าทข่ี องผใู้ หญบ่ า้ น
7) อบรมหรือชแ้ี จงใหร้ าษฎรมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจใน ขอ้ ราชการ
กฎหมายหรือระเบยี บแบบแผนของทางราชการ ในการน้ี สามารถ
เรียกราษฎรมาประชมุ ไดต้ ามสมควร
8) แจง้ ให้ราษฎรใหค้ วามช่วยเหลอื ในกจิ การสาธารณประโยชน์
เพอื่ บาบดั ปัดปอู งภยันตรายสาธารณะอันมมี าโดยฉกุ เฉนิ รวมตลอดทั้ง
การช่วยเหลอื บรรเทาทกุ ขแ์ กผ่ ปู้ ระสบภัย
9) จดั ใหม้ ีการประชุมราษฎรและคณะกรรมการหมบู่ า้ น
เป็นประจา อย่างนอ้ ยเดอื นละ 1 ครัง้
10) ปฏิบตั ิตามคาส่งั ของกานนั หรือทางราชการและรายงาน
เหตกุ ารณท์ ไี่ มป่ กติ ซ่ึงเกดิ ข้นึ ในหมบู่ า้ นให้กานนั ทราบ พรอ้ มท้งั รายงาน
ตอ่ นายอาเภอด้วย
11) ปฏิบัติตามภารกจิ หรอื งานอื่นตามกฎหมายหรือระเบยี บแบบ
แผนของทางราชการ หรอื ตามที่กระทรวง ทบวง กรม และหนว่ ยงานอื่น
ของรฐั ผู้ว่าราชการจังหวัด หรอื นายอาเภอมอบหมาย
นอกจากผูใ้ หญบ่ ้านจะมหี นา้ ทท่ี ง้ั 11 ข้อ ขา้ งต้นแลว้
กฎหมายยังกาหนดใหผ้ ใู้ หญบ่ า้ นมีหนา้ ที่และอานาจในการท่ีเกี่ยวดว้ ย
ความอาญา ดว้ ยดังตอ่ ไปนี้
ข้อ 1 เมอ่ื ทราบข่าววา่ มีการกระทาผิดกฎหมายเกดิ ขน้ึ หรือ
สงสัยวา่ ไดเ้ กดิ ขนึ้ ในหมูบ่ า้ นของตน ตอ้ งแจ้งความต่อ “กานนั ”
นายตาบลให้ทราบ
ข้อ 2 เมอ่ื ทราบข่าววา่ มกี ารกระทาผิดกฎหมายเกิดข้นึ หรือ
สงสยั ว่าได้เกดิ ขน้ึ ใน หมบู่ า้ นทใี่ กล้เคยี ง ตอ้ งแจง้ ความตอ่ ผใู้ หญบ่ ้าน
หมบู่ ้านนน้ั ให้ทราบ
ข้อ 3 เมอ่ื ตรวจพบของกลางทีผ่ ู้ท่กี ระทาผิดกฎหมายมอี ยกู่ ด็ ี
หรอื สิ่งของที่สงสัยว่าได้มาโดยการกระทาผดิ กฎหมาย
7“ประเทศตอ้ งมีรฐั บาล หมู่บ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ า้ น รากฐานของแผ่นดนิ ”
หนา้ ทขี่ องผใู้ หญบ่ า้ น
หรือเปน็ สิ่งของสาหรบั ใช้ในการกระทาผิดกฎหมายกด็ ใี หจ้ บั สง่ิ ของนนั้ ไว้
และรีบนาส่งตอ่ กานนั นายตาบล
ข้อ 4 เม่อื ปรากฏวา่ ผใู้ ดกาลังกระทาผดิ กฎหมายก็ดี หรือ
มีเหตคุ วรสงสยั ว่าเปน็ ผทู้ ไ่ี ดก้ ระทาผดิ กฎหมายก็ดี ให้จบั ตัวผนู้ น้ั ไว้
และรีบนาส่งต่อกานนั นายตาบล
ข้อ 5 ถ้ามีหมายหรอื มคี าสง่ั ตามหน้าที่ราชการ ให้จบั ผใู้ ดใน
หมบู่ ้านน้ัน เป็นหนา้ ท่ีของผู้ใหญบ่ า้ นทีจ่ ะจบั ผนู้ ัน้ และรบี สง่ ตอ่
กานัน หรอื กรมการอาเภอตามสมควร
ข้อ 6 เมอ่ื เจา้ พนกั งานผมู้ ีหนา้ ท่ีออกหมายส่ังใหค้ น้ หรือใหย้ ดึ
ผใู้ หญบ่ า้ นต้องจดั การใหเ้ ปน็ ไปตามหมาย
หนา้ ท่ีของ อบต.
1. หนา้ ที่ทต่ี อ้ งทา มีดงั นี้
1.1 จดั ใหม้ แี ละบารงุ รักษาทางนา้ และทางบก
1.2 รกั ษาความสะอาดของถนน ทางน้า ทางเดนิ และทีส่ าธารณะ
รวมท้งั กาจดั มูลฝอยและสงิ่ ปฏิกลู
1.3 ปูองกันโรคและระงบั โรคตดิ ตอ่
1.4 ปูองกนั และบรรเทาสาธารณภยั
1.5 สง่ เสรมิ การศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
1.6 สง่ เสรมิ การพฒั นาสตรี เดก็ เยาวชน ผสู้ ูงอายุ และผู้พกิ าร
1.7 คุ้มครอง ดแู ล และบารงุ รกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
1.8 บารงุ รกั ษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน และ
วัฒนธรรมอนั ดขี องท้องถน่ิ
1.9 ปฏิบัตหิ น้าที่อื่นตามท่ที างราชการมอบหมายโดยจดั สรร
งบประมาณหรอื บคุ ลากรใหต้ ามความจาเปน็ และสมควร
8“ประเทศต้องมรี ัฐบาล หมบู่ า้ นตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผน่ ดนิ ”
หนา้ ทข่ี อง อบต.
2. หนา้ ทที่ ่อี าจจะทาได้ มีดังนี้
2.1 ให้มนี ้าเพ่อื การอุปโภค บริโภค และการเกษตร
2.2 ใหม้ แี ละบารงุ การไฟฟาู หรือแสงสว่างโดยวธิ อี นื่
2.3 ให้มแี ละบารุงรักษาทางระบายนา้
2.4 ให้มีและบารงุ สถานทีป่ ระชมุ การกีฬา การพกั ผ่อนหย่อนใจ และ
สวนสาธารณะ
2.5 ใหม้ แี ละสง่ เสริมกลมุ่ เกษตรกรและกจิ การสหกรณ์
2.6 สง่ เสริมให้มอี ตุ สาหกรรมในครอบครวั
2.7 บารงุ และสง่ เสริมการประกอบอาชพี ของราษฎร
2.8 การคุม้ ครองดูแลและรกั ษาทรพั ยส์ ินอนั เปน็ สาธารณสมบตั ิของ
แผ่นดนิ
2.9 หาผลประโยชน์จากทรัพยส์ นิ ขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล
2.10 ให้มตี ลาด ทา่ เทยี บเรือ และท่าข้าม
2.11 กจิ การเกีย่ วกับการพาณชิ ย์
2.12 การทอ่ งเท่ยี ว
2.13 การผังเมือง
ความแตกต่างระหวา่ งหน้าที่ของผใู้ หญ่บ้าน กับหน้าท่ีของ อบต.
ผู้ใหญบ่ า้ น อบต. ประชาชน
อานวยความเป็นธรรม พัฒนา อยู่เยน็ เปน็ สขุ
เปน็ พนกั งานฝาุ ย หารายได้
ปกครอง หรอื ตารวจ
เปน็ เจา้ หนา้ ที่ของรฐั
ผู้ชว่ ยนายอาเภอ
9“ประเทศต้องมรี ฐั บาล หมบู่ า้ นตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ ้าน รากฐานของแผน่ ดิน”
สรุป แม้พ้ืนท่ีรบั ผิดชอบของกานนั ผูใ้ หญ่บ้านฯ และ อบต. จะเป็นพืน้ ที่
ทบั ซ้อนกนั แตก่ ฎหมายกาหนดให้มหี นา้ ทแี่ ตกต่างกันอยา่ งชัดเจน และท้งั สอง
องคก์ รตอ้ งทางานรว่ มกันจนมหี ลายคนกล่าวว่า กานนั ผใู้ หญบ่ า้ น คอื “พ่อ”
อบต. คอื “แม”่ ทีต่ ้องดูแลลกู ๆ คือพน่ี อ้ งประชาชนในพนื้ ท่ีให้ “อยเู่ ย็นเป็นสุข”
(แลว้ ถา้ มแี ม่ไม่มพี อ่ หรือมพี อ่ ไมม่ ีแม่ หรอื พอ่ แม่ทะเลาะกนั บ้านนน้ั จะเปน็ อยา่ งไร)
บทท่ี 3 กม. คอื ใคร และมีหน้าทีอ่ ยา่ งไร
นอกจากกฎหมายจะกาหนดให้ในหมู่บ้านมีผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วย
ผู้ใหญ่บ้าน ทาหน้าที่ “บาบัดทุกข์ บารุงสุข” ให้แก่พ่ีน้องประชาชนใน
หมู่บ้านตามหน้าที่ที่กฎหมายกาหนดข้างต้นซ่ึงมีอยู่มากมายแล้ว เพ่ือให้
การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านมีประสิทธิภาพมากข้ึนกฎหมายจึงได้
กาหนดให้มีคณะกรรมการหมู่บ้าน หรือ กม. เป็นผู้เสนอแนะและ
ให้คาปรึกษาผู้ใหญ่บ้านในการปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย ดังน้ัน จึงถือได้ว่า กม.
เกิดข้นึ มาพร้อมๆ กบั กานัน ผใู้ หญบ่ า้ น ฯลฯ
เร่มิ แรกกฎหมายกาหนดให้ กม. ประกอบดว้ ย ผู้ใหญ่บ้าน เป็นประธาน
ผู้ชว่ ยผใู้ หญ่บา้ น เป็นกรรมการ และกรรมการผูท้ รงคุณวุฒิอีกไม่น้อยกว่า
2 คน แต่ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้เสนอให้มี
การแก้ไขพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี พระพุทธศักราช 2457
แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 เก่ียวกับโครงสร้างและอานาจหน้าท่ี
ของคณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) โดยยึดหลัก “การบูรณาการคน และ
บูรณาการงานในหมู่บ้าน” ทาหน้าที่บริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาและ
พัฒนาหมู่บ้านเปรียบเสมือนเป็น “คณะรัฐมนตรีของหมู่บ้าน ”
ให้เกิดเอกภาพ และก่อประโยชน์สูงสุดต่อพ่ีน้องประชาชน ดังคาขวัญท่ีว่า
“ประเทศต้องมีรัฐบาล หมูบ่ ้านต้องมี กม.”
10“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หมบู่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผน่ ดิน”
โครงสรา้ งของ กม.
โดยตาแหนง่ โดยการเลือก
ผู้ใหญ่บ้าน ประธาน กม. ผทู้ รงคุณวฒุ ิทปี่ ระชาชน
ผู้ช่วยผู้ใหญบ่ า้ น ในหมู่บ้านเลือก หมู่บ้าน
สมาชกิ สภาองคก์ รปกครอง ละอย่างน้อย 2 คน แต่ไม่
เกนิ 10 คน
สว่ นท้องถน่ิ ทมี่ ีภูมลิ าเนา
ในหมบู่ ้าน (ส.อบต. สท. สจ.) สรุป ในแต่ละหมู่บ้านจะมี
ผนู้ า หรือผแู้ ทนกล่มุ กม. อยา่ งน้อย หม่บู า้ นละ
องคก์ ร ในหมบู่ ้าน 12 คน
กม. โดยตาแหน่ง หมายถึง ใครก็ตามท่ีดารงตาแหน่งข้างต้น
ในหม่บู ้านหรอื อาศยั อยใู่ นหมู่บ้านให้ถือว่าเป็น กม. ยกตัวอย่างเช่น น้าฉุย
เป็นผู้ใหญ่บ้าน ดังน้ัน น้าฉุย จึงเป็นประธาน กม. น้าเฉย เป็นผู้ช่วย
ผู้ใหญ่บ้าน น้าเฉยก็เป็น กม. ลุงฉิ่งเป็น ส.อบต. ลุงฉิ่งก็เป็น กม. น้าฉับ
เป็น สจ. นา้ ฉบั กเ็ ปน็ กม. น้าฉา่ เป็นประธานกลุ่มแม่บ้าน น้าฉ่าก็เป็น กม.
พ่ีเฉลยเป็นหวั หน้าคุ้มสันติสุข พเ่ี ฉลยกเ็ ป็น กม. เป็นตน้
11“ประเทศตอ้ งมีรฐั บาล หมบู่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บ้าน รากฐานของแผ่นดิน”
ท้ังนี้ กม. โดยตาแหน่งจะมหี มู่บา้ นละมากน้อยแค่ไหนเพียงไรนั้น
ก็ข้ึนอยวู่ ่าในหมูบ่ ้านนั้นๆ มีการแบ่งคุ้ม หรือมีกลุ่มต่างๆ มากน้อยเพียงใด
ถ้ามีการแบ่งคุ้มมาก หรือว่ามีกลุ่มต่างๆ มากๆ หมู่บ้านน้ันก็จะมี กม.
โดยตาแหนง่ มาก แต่ถา้ มีนอ้ ยหมู่บา้ นนน้ั ก็จะมี กม. โดยตาแหนง่ น้อย
ส่วน กม. ผู้ทรงคุณวุฒิน้ันกฎหมายกาหนดให้ประชาชนผู้มีสิทธิ
เลือกผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านเลือกกันเองเป็น กม. ผู้ทรงคุณวุฒิ ส่วนจานวน
จะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่ท่ีประชาชนในหมู่บ้านจะเป็นผู้กาหนดตามความ
เหมาะสมของหม่บู ้าน แตท่ ั้งนต้ี ้องไมน่ ้อยกวา่ 2 คน แต่ไม่เกนิ 10 คน แต่วาระ
ของ กม. ผูท้ รงคณุ วุฒจิ ะมแี ตกต่างจาก กม. โดยตาแหนง่ เนื่องจากกฎหมาย
กาหนดให้ กม. ผทู้ รงคุณวุฒิมวี าระ 4 ปี นับจากวันที่นายอาเภอได้มีประกาศ
แตง่ ตงั้ ดงั นั้น ทกุ ๆ 4 ปี หมบู่ ้านจะต้องมกี ารเลือก กม. ผู้ทรงคณุ วฒุ ิกนั ใหม่
ดังนั้น เม่ือรวม กม. ทั้งมาจากการเป็นโดยตาแหน่งและการเป็น
โดยการเลือกในแต่ละหมู่บ้านแล้วจะมี กม. อย่างน้อย 12 คน โดยประมาณ
มากท่ีสุดเท่าท่ีสารวจได้ในปัจจุบัน คือ 59 คน คือ ที่บ้านหนองกลางดง
หมู่ที่ 7 ตาบลศลิ าลอย อาเภอสามรอ้ ยยอด จงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์
นายโชคชัย ล้ิมประดษิ ฐ์
ผญ. บ้านหนองกลางดง
หมบู่ า้ นตน้ แบบ กม.
12“ประเทศตอ้ งมรี ัฐบาล หมู่บา้ นตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ ้าน รากฐานของแผ่นดนิ ”
ส่วนบทบาทและหนา้ ที่ของ กม. น้นั ตามเจตนารมณข์ องกฎหมาย
และระเบียบท่ีเกี่ยวข้องเน้นให้ “ทางานเป็นทีม” โดยให้ กม. เป็นผู้ช่วย
เหลอื ผใู้ หญบ่ ้านในการปฏิบัติหนา้ ทีซ่ ่ึงมีอยู่มากมาย ดงั นี้
6.บรหิ ารจดั การ 1. ช่วยเหลอื 2. ปฏิบัตติ าม
กจิ กรรมในหมูบ่ ้าน แนะนา ให้ ระเบียบกฎหมาย
ร่วมกับทกุ ภาคส่วน คาปรกึ ษา
3. ทางานตามที่
5. บูรณาการจดั ทา หกนม้าท.ี่ นายอาเภอ
“แผนพฒั นา มอบหมาย
หมบู่ ้าน” 4. ทางานตามที่
ผูใ้ หญ่บา้ น
ร้องขอ
เม่ือพูดถึงหน้าท่ีของ กม. ข้างต้นแล้ว อาจมี กม. หรือประชาชน
หลายคนยังไม่เข้าใจหรือมองภาพยังไม่ชัด ดังนั้น จึงขออธิบายเพ่ือขยาย
ความเพม่ิ เตมิ ดงั นี้
1. การช่วยเหลือ แนะนา และให้คาปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน ก็คือ
การให้ความช่วยเหลอื ผ้ใู หญบ่ า้ นในการปฏบิ ัตหิ น้าที่ตามท่กี ฎหมายกาหนด
อานาจหน้าที่ไว้ท้ังการอานวยความเป็นธรรม การปฏิบัติหน้าท่ีในฐานะ
เป็นพนักงานฝุายปกครองหรือตารวจ และการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็น
เจ้าหน้าท่ีของรัฐรวมทง้ั การเปน็ ผ้ชู ่วยนายอาเภอของผใู้ หญบ่ า้ น
13“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หมู่บ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ า้ น รากฐานของแผ่นดิน”
2. การปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย คือ การปฏิบัติหน้าท่ี
ตามท่ีได้มีระเบียบ หรือกฎหมาย ให้อานาจไว้ เช่น การประนีประนอม
ข้อพพิ าทในหม่บู ้าน เปน็ ต้น
3. การทางานตามท่ีนายอาเภอมอบหมาย คือ ในบางคร้ัง
นายอาเภออาจมภี ารกิจหรือมีความจาเป็นต้องได้รับความร่วมมือจาก กม.
จึงจะทาให้การทางานนั้นประสบความสาเร็จนายอาเภอก็จะมอบหมายให้
กม. ชว่ ยเหลือทางานน้ันๆ เช่น การเฝูาระวังและปูองกันโรคที่แพร่ระบาด
การเฝูาระวังเยาวชนกลุ่มเส่ยี งเพ่ือไมใ่ หไ้ ปยุง่ เกีย่ วกบั ยาเสพตดิ การสารวจ
ข้อมูลตา่ งๆ ในหม่บู า้ น เปน็ ตน้
4. การทางานตามท่ีผู้ใหญ่บ้านร้องขอ คือ ในบางคร้ัง
ผู้ ใ ห ญ่ บ้ า น อ า จ จ ะ มี ง า น อื่ น ที่ จ ะ ต้ อ ง ท า น อ ก เ ห นื อ จ า ก ที่ ก า ห น ด ไ ว้ ใ น
ระเบียบ กฎหมายและไม่สามารถที่จะทางานนั้นๆ คนเดียวได้จึงต้องร้อง
ขอให้ กม. ช่วยเหลือ เช่น การสารวจข้อมูลท่ีต้องเข้าถึงทุกครัวเรือน
การขอรับบริจาคในงานบุญประเพณีหรืองานประจาปีของหมบู่ ้าน เปน็ ต้น
5. การบูรณาการจัดทาแผนพัฒนาหมู่บ้าน จะแบ่งออกเป็น
2 กรณี ดงั น้ี
5.1 ในกรณีท่ีหมู่บ้านน้ันมีแผนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นแผนที่เกิดจาก
การสนับสนุนของหน่วยงานใดท่ีได้ทาขึ้นในหมู่บ้านไม่ว่าจะเรียกว่าแผนชุมชน
แผนชีวิตชุมชน หรือแผนชุมชนพ่ึงตนเอง หรือเรียกช่ืออย่างอื่น กม. ก็จะมีหน้าท่ี
ประชุมปรึกษาหารือกันเพ่ือรวบรวมแผนทุกแผนให้เป็นแผนเดียวกันเรียกว่า
“แผนพัฒนาหมบู่ ้าน”
5.2 กรณที ่ีหมบู่ ้านนนั้ ๆ ยังไม่มีแผนใดๆ เลย กม.ก็จะมีหน้าที่
ร่วมกับประชาชนในหมู่บ้านบูรณาการจัดทา “แผนพัฒนาหมู่บ้าน”
ขึ้นใหม่
14“ประเทศต้องมีรัฐบาล หมบู่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผน่ ดิน”
6. การบริหารจัดการกิจกรรมในหมู่บ้านร่วมกับองค์กรอื่น
ทุกภาคส่วน ภารกิจข้อน้ีเป็นภารกิจสาคัญเนื่องจากตามเจตนารมณ์ของ
กฎหมายน้ันมุ่งให้ กม. เป็นกลไกหลักในหมู่บ้านเปรียบเสมือนเป็น
“คณะรฐั มนตรีของหมู่บ้าน” ดังนั้น ไม่ว่าหน่วยงานหรือองค์กรใดก็ตามท่ี
มีภารกิจ หรอื โครงการ กิจกรรมใดๆ ทีจ่ ะตอ้ งทาในหมู่บ้าน จะต้องประสาน
ผ่าน กม. แล้ว กม. จะต้องรับผิดชอบดาเนินการหรือร่วมรับผิดชอบ
ดาเนินการกับหนว่ ยงานหรือองค์กรนัน้ ๆ
นอกจาก กม. จะมีหน้าท่ีตามกฎหมาย (มาตรา 28 ตรี แห่ง
พระราชบัญญตั ลิ ักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 แก้ไขเพ่ิมเติม
(ฉบับที่ 11) พ.ศ.2551 ท้ัง 6 ข้อ ข้างต้นแล้ว ระเบียบกระทรวงมหาดไทย
ว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์การเป็นกรรมการหม่บู ้าน การปฏิบัติหน้าท่ีและการประชุม
ของคณะกรรมการหมู่บ้าน พ.ศ. 2551 ยังกาหนดให้ กม. แบ่งออกเป็น
คณะทางานดา้ นต่างๆ เพื่อใหก้ ารปฏบิ ัตหิ นา้ ทมี่ ปี ระสิทธิภาพย่ิงขึ้นด้วย ดังนี้
“คณะทางานดา้ นตา่ งๆ ของ กม.”
15“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หมูบ่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผ่นดิน”
หนา้ ที่ของคณะทางาน
1. ดา้ นอานวยการ มหี นา้ ที่ ดงั นี้
1.1 งานธุรการ การจัดเกบ็ เอกสารต่างๆ ของหม่บู ้าน
1.2 การจดั ประชมุ เชน่ การประชุม กม. การประชุมหมบู่ า้ นฯ
1.3 การรับจ่ายและเก็บรักษาเงนิ และทรัพยส์ ินของหมบู่ า้ น
1.4 การประชาสัมพนั ธ์ข่าวสารสรา้ งความเขา้ ใจกับประชาชน
1.5 การประสานงานและตดิ ตามการทางานของคณะทางาน
ด้านต่างๆ ทัง้ 7 คณะ
1.6 การจัดทารายงานผลการ
ดาเนินการของคณะทางานในรอบปี
วา่ มีผลงานในเรอื่ งใดบ้าง
1.7 งานอืน่ ๆ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
2. ด้านการปกครองและรักษาความ
สงบเรียบรอ้ ย มหี นา้ ท่ี ดงั น้ี
2.1 การส่งเสริมให้ประชาชนมี
ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร ป ก ค ร อ ง ร ะ บ อ บ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเปน็ ประมุข
2.2 การสง่ เสรมิ อุดมการณ์และวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย ดังนี้
ยึดหลกั กฎหมาย ความมเี หตุผล และสันติวธิ ี
ปฏิบัติตามเสียงขา้ งมาก รับฟังเสียงขา้ งน้อย
มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมทางการเมอื งและสังคม
เสยี สละและรบั ผดิ ชอบต่อสว่ นรวม
16“ประเทศตอ้ งมีรัฐบาล หมูบ่ ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู า้ น รากฐานของแผ่นดิน”
2.3 การส่งเสรมิ ดูแลให้ประชาชนปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบียบ และ
ขอ้ บังคับของหม่บู า้ น
2.4 การสร้างความเปน็ ธรรมและประนปี ระนอมข้อพพิ าท
2.5 การตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อย และการปูองกันและ
แก้ไขปัญหายาเสพตดิ ภายในหม่บู ้าน
2.6 การคมุ้ ครองดแู ลรักษาทรพั ย์สินอนั เป็นสาธารณประโยชน์ของ
หมบู่ า้ น เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง ปาุ ชมุ ชน เป็นตน้
2.7 การปูองกันบรรเทาสาธารณภัยและภยันตรายของหมู่บ้าน ท้ัง
ภัยท่เี กดิ จากธรรมชาติ เช่น พายุ โคลนถล่ม น้าท่วมฯ และภัยจากการกระทา
ของมนุษย์ เช่น โจรปลน้ ลักทรัพย์ การก่อความไมส่ งบ เปน็ ต้น
3. ด้านแผนพฒั นาหมูบ่ า้ น
มีหนา้ ที่ ดังน้ี
3.1 การบูรณาการ
จดั ทาแผนพัฒนาหมบู่ ้าน
3.2 การประสานจัดทา
โ ค ร ง ก า ร เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร พั ฒ น า
หมู่บ้านร่วมกับคณะทางานด้าน
ต่างๆ เพื่อดาเนินการหรือขอรับ
การสนับสนุนงบประมาณจาก
หน่วยงานอ่ืนๆ เชน่ ภาครัฐ เอกชน และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ
3.3 การรวบรวมและจัดทาข้อมูลตา่ งๆ ของหมบู่ า้ น
3.4 การตดิ ตามผลการดาเนนิ งานตามแผนพฒั นาหมบู่ า้ น
17“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หมูบ่ ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บ้าน รากฐานของแผน่ ดิน”
4. ดา้ นสง่ เสริมเศรษฐกจิ มหี นา้ ท่ี ดงั นี้
4.1 การส่งเสริมการดาเนนิ การตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงของ
ประชาชนในหม่บู า้ น
4.2 การพัฒนาและส่งเสริมการ
ประกอบอาชีพ การผลติ และการตลาดเพื่อ
เสรมิ สรา้ งรายได้ให้แก่ประชาชนในหมบู่ า้ น
4.3 งานอื่นๆ ที่ไดร้ ับมอบหมาย
5. ด้านสังคม สง่ิ แวดลอ้ มและสาธารณสขุ มหี นา้ ที่ ดังนี้
5.1 การพฒั นาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สงู อายุ และผู้พิการ รวมถึง
การจัดสวสั ดิการต่างๆ ของหม่บู า้ น
5.2 การสงเคราะหผ์ ู้ยากจนทไี่ มส่ ามารถช่วยตนเองได้
5.3 การสง่ เสริมการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม
5.4 การสาธารณสุข
6. ด้านการศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม มหี นา้ ท่ี ดงั น้ี
การส่งเสริมการศึกษา ศาสนา การบารุงรักษาศิลปวัฒนธรรม
จารีตประเพณี และภมู ิปญั ญาของหมบู่ ้าน หรอื งานอืน่ ๆ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
7. ด้านอ่ืนๆ ตามความเหมาะสมของสภาพภูมิสังคมของแต่ละพื้นท่ีว่า
สมควรจะจะต้ังคณะทางานเพ่ิมเติมจาก 6 คณะข้างต้นหรือไม่ เช่น
ด้านการพัฒนาการเกษตร ด้านเยาวชน ด้านการพัฒนาการเมือง
และการอานวยความเป็นธรรม เป็นตน้
นอกจากนั้นกระทรวงมหาดไทยยงั เสนอคณะรฐั มนตรีใหม้ มี ตเิ ห็นชอบ
ในหลักการแนวทางปฏบิ ัติการขบั เคลื่อนการดาเนินงานของ กม. ให้เป็นรูปธรรม
และคณะรัฐมนตรีได้มมี ติเหน็ ชอบแลว้ เม่อื วนั ท่ี 21 กรกฎาคม 2552
18“ประเทศต้องมีรฐั บาล หมูบ่ า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ า้ น รากฐานของแผน่ ดนิ ”
บทท่ี 4 สิ่งที่ กม. ต้องปฏิบัติ
เม่ือระเบียบกระทรวงมหาดไทยกาหนดให้แบ่ง กม. ออกเป็น
คณะทางานด้านต่างๆ แล้ว ก่อนที่คณะทางานแต่ละด้านจะทางานตามท่ี
ไดร้ ับมอบหมายกจ็ ะต้องมกี ารประชุมเพอื่ ปรกึ ษาหารอื แนวทางการทางาน
ในแตล่ ะเร่อื งว่าควรจะเปน็ อย่างไรเพอ่ื ระดมสมองและหาทางออกร่วมกัน
ก่อนที่จะลงมือทางาน กล่าวคือต้อง “ร่วมกันคิด แล้วแยกกันทา”
โดยแต่ละตาแหน่งควรแสดงบทบาท ดังน้ี
ผู้ใหญ่บ้าน (ประธาน กม. หรอื นายกรฐั มนตรขี องหมบู่ า้ น)
1) เป็นผู้นาการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) และเป็นแบบอย่าง
ท่ดี ใี หแ้ กป่ ระชาชนในหมบู่ ้าน
2) ศึกษากฎหมายและระเบียบ
ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั อานาจหน้าท่ีของ กม. ให้
เข้าใจอย่างถ่องแท้ และติดตามข้อมูล
ขา่ วสารอย่างใกล้ชิดเพ่ือให้รู้เท่าทันการ
เปล่ียนแปลง
3) ประชุม กม. สม่าเสมออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อแจ้งข้อ
ราชการและหารอื แนวทางการแก้ไขปญั หาและพัฒนาหมู่บา้ น
4) มอบหมายงาน กระจายความรับผิดชอบ ให้คณะทางานแต่ละ
ด้านตามความรู้ ความสามารถ สิ่งสาคัญต้องเน้นการทางานเป็นทีม
ไม่ควรเป็นพระเอกคนเดยี วเหมอื นในอดีต
5) สรา้ งเครอื ขา่ ยและแสวงหาความร่วมมือกับทุกภาคสว่ น
6) ติดตามผลงานตามท่ีได้มอบหมายว่าเป็นอย่างไร ต้องปรับปรุง
เพมิ่ เตมิ สว่ นใดหรือไม่
19“ประเทศตอ้ งมรี ัฐบาล หม่บู ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผ่นดิน”
7) ประเมินผลงานตามท่ีได้มอบหมายว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่
เพียงไร สมควรจะมอบหมายงานน้ันๆ ให้ทาต่อหรือไม่ ถ้าไม่ ควร
สบั เปลยี่ นหมนุ เวยี นหนา้ ทใี่ ห้เหมาะสม
8) ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผปู้ ระสานงานทด่ี ี
กรรมการหมู่บา้ น (คณะรฐั มนตรีของหมบู่ ้าน)
1) ศึกษาทาความเขา้ ใจบทบาทอานาจหนา้ ทข่ี อง กม. ตามกฎหมาย
และระเบียบท่ีเก่ียวข้องให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงหน้าท่ีที่
ได้รบั มอบหมายและข้อมูลที่เก่ียวขอ้ ง
2) ร่วมประชุม กม. อย่างสม่าเสมอเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ
นาเสนอปญั หาความตอ้ งการของหมู่บ้าน
3) ปฏิบัติหน้าท่ีตามที่ได้รับมอบหมายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
หากมีปัญหาอุปสรรค
ต้องแจ้งประธาน กม.
ท ร า บ เ พ่ื อ ห า แ น ว
ทางแก้ไข
4 ) ใ ห ้ค ว า ม
ร่วมมือกับทุกภาคส่วน
ที่ มี โ ค ร ง ก า ร ห รื อ
กิจกรรมมาดาเนินงาน
ในหมบู่ า้ น
5) เสนอปญั หาของหม่บู า้ นพรอ้ มแนวทางแก้ไขต่อที่ประชมุ กม.
6) มีจติ สาธารณะ ทางานเพ่อื หมู่บ้าน
20“ประเทศต้องมีรฐั บาล หมู่บา้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ า้ น รากฐานของแผ่นดนิ ”
บทที่ 5 ทาไม กม. ตอ้ งบรู ณาการจดั ทา“แผนพัฒนาหมู่บ้าน”
เดิมทีการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนใน
ระดับหมู่บ้านนั้นอาจกล่าวได้ว่า ภาครัฐจะเป็นผู้ริเร่ิมและดาเนินการ
ท้งั หมด ส่วนประชาชนในระดับหมู่บา้ นซง่ึ เปน็ รากฐานที่สาคัญของประเทศ
และเปน็ ผู้ที่ประสบปัญหาจะมีโอกาสได้เขา้ มามีส่วนร่วมน้อยมาก แต่เม่ือมี
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 78 (2) กาหนดให้
รัฐต้องจดั ระบบการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถ่ิน
ให้มีขอบเขตอานาจหน้าท่ี และความรับผิดชอบที่ชัดเจนเหมาะสมแก่การ
พัฒนาประเทศและสนับสนุนให้จังหวัดมีแผนและงบประมาณ เพ่ือพัฒนา
จงั หวดั เพอ่ื ประโยชน์ของประชาชนในพื้นท่ี ประกอบกับพระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2550 มาตรา 53/1 กาหนดให้
จังหวัดจัดทาแผนพัฒนาจังหวัดให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมในระดับชาติ และความต้องการของประชาชนใน
ท้องถนิ่ ในจังหวดั
นัน่ กห็ มายความว่า นบั จากปี 2550 เป็นต้นมา จังหวัดสามารถขอ
จัดตั้งงบประมาณเพื่อนามาแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดได้ โดยการ
จัดทาแผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดท่ีครอบคลุมทุกมิติและแผนของ
จงั หวดั จะตอ้ ง
มีความสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศ นโยบายของ
รัฐบาล และความต้องการของประชาชนในท้องถ่ิน รวมท้ัง
ความต้องการและศักยภาพของประชาชน ความพร้อมของ
ภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชนในจังหวัด
ประสานและสร้างการมีส่วนร่วม พร้อมเปิดโอกาสให้ทุก
ภาคส่วนได้เข้ามาร่วมในการกาหนดยุทธศาสตร์ การจัดทา
21“ประเทศต้องมรี ฐั บาล หมบู่ า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ า้ น รากฐานของแผ่นดนิ ”
แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเพื่อให้เกิดความเห็นพ้อง
ต้องกันในยุทธศาสตร์ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และร่วม
รบั ผดิ ชอบตอ่ การบริหารงานจงั หวดั แบบบรู ณาการ
บูรณาการต้ังแต่กระบวนการวางแผน กระบวนการกาหนด
ยุทธศาสตร์ การบริหารตามแผนและยุทธศาสตร์ รวมไปถึง
การบรู ณาการระหว่างแผนงานและแผนงบประมาณ การบูรณาการ
ระหว่างภาครฐั ภาคท้องถิ่น และภาครฐั กับภาคธุรกจิ เอกชน
การท่ีจังหวัดจะทราบข้อมูลปัญหา ความต้องการและศักยภาพ
ของประชาชนภายในจังหวัดได้ก็ต้องอาศัยกลไกในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน
เป็นผ้สู ะทอ้ นขอ้ มูลดังกล่าวให้จังหวัดในรูปแบบของแผนงาน/โครงการ
ดังนั้น ก่อนจะได้มาซึ่งแผนงาน/โครงการที่เป็นปัญหาความ
ต้องการของหมู่บ้าน ประชาชนในหมู่บ้านก็จะต้องมีการสารวจข้อมูลของ
ตนเอง ครัวเรือน และหมู่บ้านก่อน เม่ือทราบข้อมูลทั้งหมด แล้วก็จะต้อง
นามาวิเคราะห์ สังเคราะห์ จัดลาดับความสาคัญของปัญหาแล้วทาเป็น
“แผนพัฒนาหมู่บ้าน” ซ่ึงกฎหมาย
กาหนดให้ กม. เป็นกลไกหลักในการ
บูรณาการจัดทาในหมู่บ้าน เพราะผู้
ท่ีเป็น กม. คือ คนของหมู่บ้านท่ีรู้
ข้อมูล รู้ปัญหา รู้ความต้องการของ
ประชาชนในหมบู่ า้ นดกี ว่าคนอ่นื ทอ่ี ยู่
นอกหมบู่ า้ น
ทาไมตอ้ งเรยี กว่า “บูรณาการจัดทาแผนพฒั นาหมูบ่ ้าน”
ดงั ทไ่ี ด้กลา่ วไวแ้ ตต่ น้ แลว้ ว่า ในอดตี มหี ลายหนว่ ยงานได้เข้าไปส่งเสรมิ
สนบั สนุนใหห้ มบู่ า้ นจัดทาแผนชมุ ชน เชน่ กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) องค์กร
ปกครองสว่ นท้องถ่นิ (อบต. เทศบาล อบจ.) ในพนื้ ที่ สานกั งานคณะกรรมการ
22“ประเทศตอ้ งมีรฐั บาล หมูบ่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผน่ ดนิ ”
กองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร (ธกส.) ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เครือข่ายแผนแม่บท
ชุมชนพึ่งตนเอง 4 ภาค เป็นต้น ซ่ึงในบางหมู่บ้านอาจจะมีหน่วยงานลงไป
สนบั สนนุ ใหจ้ ัดทาแผนชมุ ชนมากกว่า 1 หนว่ ยงาน แล้วกจ็ ะทาให้หมบู่ า้ นนนั้ ๆ
มีแผนฯ มากกว่า 1 แผน ซ่ึงแผนดังกล่าวอาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกด้าน
และไม่มกี ารประสานและเช่ือมโยงเข้ากับแผนฯ อื่นๆ จึงส่งผลทาให้ปัญหา
บางปัญหาของหมู่บ้านยังไม่ได้รับการแก้ไข ประชาชนในหมู่บ้านเกิดความ
เบือ่ หนา่ ยและไม่เห็นความสาคญั ของการจดั ทาแผนฯ
ดังนน้ั เพ่อื แกไ้ ขปญั หาดังกล่าวและเพ่อื สร้างเอกภาพในการจัดทา
แผนฯ ลดปัญหาความซ้าซ้อน จึงได้มีการกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ
ลักษณะปกครองท้องที่ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 11) พ.ศ. 2551 ให้ กม.
เป็นกลไกทท่ี าหนา้ ท่ี “บรู ณาการจดั ทาแผนพัฒนาหมบู่ า้ น”
“การบรู ณาการจดั ทาแผนพัฒนาหมูบ่ า้ น” ทาอย่างไร
ก่อนอื่น กม. ต้องสารวจดูว่า ในหมู่บ้านของเราน้ันมีแผนฯ หรือไม่
ไม่ว่าจะเรียกแผนอะไร เช่น แผน
ชุมชน แผนชีวิตชุมชนพ่ึงตนเอง ฯลฯ
ถ้าพบว่ามีก็จะต้องดูต่อไปว่า มี
ท้ังหมดก่ีแผน แต่ถ้าสารวจดูแล้ว
พบว่าในหมู่บ้านของเราไม่มีแผนใดๆ
เลยก็ต้องเร่งเก็บข้อมูลไว้เพื่อจัดทา
แผนฯ โดยมแี นวทาง ดงั นี้
กรณีท่ีไม่มีแผนใดๆ
ในหมูบ่ า้ นเลย ให้ กม. บรู ณาการจัดทา “แผนพัฒนาหมบู่ า้ น” ข้ึนใหม่ให้
ครอบคลมุ ทกุ ด้าน
กรณีมีแผนแล้ว แต่ข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน ก็ให้ กม. ไปทบทวน
และปรับปรุงแผนให้เป็น “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” ท่ีครอบคลุมทุกด้านและเป็น
ปัจจุบนั
23“ประเทศต้องมีรฐั บาล หมู่บ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผ่นดิน”
กรณมี แี ผนมากกวา่ 1 แผน ก็ให้ กม. รวบรวมแผนทุกแผนให้
เป็นแผนเดียวเรียกว่า “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” โดยการประชุมปรึกษาหารือ
ร่วมกันวา่ โครงการ/กิจกรรมที่ปรากฏในแต่ละแผนยังเป็นปัญหาความต้องการ
ของหมบู่ า้ นหรือไม่ ถ้าใช่กใ็ ห้คงไว้ ถ้าไม่ใช่ก็ตัดออก ถ้าเหมือนกันมากกว่าหนึ่ง
ก็รวมเปน็ หนง่ึ
ขั้นตอนการ “บรู ณาการจดั ทาแผนพฒั นาหมู่บ้าน” ต้องทาอย่างไร ?
ขัน้ ตอนการบรู ณาการจัดทาแผนพฒั นาหมบู่ ้านประกอบด้วย 8 ข้ันตอน ดงั น้ี
1. การจดั เกบ็ 2. การเตรียมการ 3. การประชมุ 4. การจัดทา
ข้อมูล ประชมุ หมบู่ า้ น หม่บู ้าน แผนพัฒนาหมู่บ้าน
8. การทบทวน 7. การตรวจสอบ 6. การประสาน 5. การใหค้ วาม
ปรับปรงุ แผนฯ และติดตามผล และการใช้แผนฯ เหน็ ชอบและ
รับรองแผนฯ
1. การจัดเกบ็ ขอ้ มลู ครวั เรือน ขอ้ มูลหมบู่ ้าน มขี ้นั ตอน ดงั นี้
1.1 ข้อมูลครัวเรือน กม. ออกแบบการจัดเก็บข้อมูลและมอบหมายให้
หัวหน้าคุ้มบ้าน หัวหน้ากลุ่มบ้าน หรือเขตบ้านแล้วแต่กรณี เป็นผู้รับผิดชอบ
จัดเก็บข้อมูลครัวเรือนในคุ้ม กลุ่ม หรือเขตท่ีรับผิดชอบ โดยข้อมูล
ครัวเรือนอาจประกอบด้วยข้อมูลรายรับ รายจ่าย หน้ีสิน เครื่องใช้ไฟฟูา
พาหนะ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ปุวยเป็นต้น ทั้งนี้ ข้อมูลครัวเรือน กม.
สามารถกาหนดเพ่ิมเตมิ ไดต้ ามความเหมาะสม
1.2 ข้อมลู หมูบ่ ้าน กม. ออกแบบการจัดเก็บข้อมูลหมบู่ า้ น โดย
(1) รวบรวมจากขอ้ มลู ครัวเรือน
(2) จัดเกบ็ ขอ้ มลู อนื่ ๆ ของหมบู่ า้ น เชน่ ถนน ปาุ ทส่ี าธารณประโยชน์
ท่ีประชาชนใชร้ ว่ มกนั คลอง หนอง บงึ ศาสนสถาน ฯลฯ
24“ประเทศต้องมรี ฐั บาล หมูบ่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บ้าน รากฐานของแผน่ ดนิ ”
2. การเตรียมการประชมุ หม่บู า้ น
เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว กม. มีหน้าท่ีสรุป รวบรวม และวิเคราะห์
ในเบ้ืองต้นก่อนจัดร่างแผนพัฒนาหมู่บ้าน นาเสนอในที่ประชุมหมู่บ้าน
ในขั้นตอนการเตรยี มการประชมุ หมูบ่ ้าน กม. มหี น้าที่ดงั นี้
2.1 กาหนดวัน เวลา และสถานที่จัดเวทีการประชาคม รูปแบบ การ
จดั การประชมุ และระเบียบวาระลาดบั การนาเสนอ
2.2 แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เพื่อนา
แผนงาน/โครงการร่วมบรู ณาการ
2.3 แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพื้นที่ล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 7 วัน เพ่ือ
เข้าร่วมกระบวนการเรียนร/ู้ สนับสนนุ การจัดการประชุมและกระบวนการจัดทา
“แผนพัฒนาหมูบ่ า้ น” รว่ มกบั หมู่บา้ น
2.4 แจ้งอาเภอล่วงหน้าไม่น้อย
กว่า 7 วัน เพื่อมอบหมายทีมตาบล
ร่ วมเป็ นพ่ี เลี้ ยงใ น ก า ร ป ร ะ ชุ ม
ประชาคมร่วมกับหมูบ่ า้ น
2.5 แจ้งผู้แทนครัวเรือนไม่น้อย
กว่าก่ึงหนึ่งของจานวนครัวเรือน
ทั้งหมดที่มีอยู่ในหมู่บ้านล่วงหน้าไม่
น้อยกวา่ 3 วัน เพื่อเข้าร่วมประชมุ
2.6 คณะทางานด้านจัดทา “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” จัดทาร่าง
“แผนพัฒนาหมู่บา้ น” เพ่อื เตรียมเสนอตอ่ ท่ปี ระชมุ ฯ
3. การประชุมหมู่บ้าน
กม. มบี ทบาทในการดาเนินการ ดังน้ี
3.1 การลงทะเบยี นผ้เู ข้าร่วมประชุมหมูบ่ า้ นไว้เปน็ หลกั ฐานว่ามีตัวแทน
ครัวเรือนเข้าประชมุ ตามเกณฑ์ทกี่ าหนด
25“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หมู่บ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ า้ น รากฐานของแผน่ ดนิ ”
3.2 ดาเนินการประชุมทบทวนปรับปรุง “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” โดย กม.
นาเสนอร่าง “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” ที่ได้จัดทาขึ้นเพื่อให้ท่ีประชุม
พิจารณา โดยที่ประชุมฯ อาจมีมติเห็นชอบหรือมีการเพิ่มเติมข้อมูลท่ีสาคัญ
และจาเปน็ หรือตัดทอนส่วนท่ไี มจ่ าเปน็ ออกตามมตทิ ป่ี ระชมุ ฯ
3.3 จัดหมวดหมู่ข้อมูล แผนงาน/
โครงการ/กิจกรรม ท้ังน้ี ทุกโครงการ
กิ จกรรมท่ี ระบุ ตามแผนฯ จะต้ อง
สอดคล้องกับข้อมูลท่ีแท้จริงที่ได้จากการ
จัดเก็บในขั้นตอนท่ี 1 เพ่ือนาไปสู่การ
แก้ ไขปั ญ หาท่ี มี ประสิ ทธิ ภาพและ
ประสทิ ธผิ ล โดยแบ่งออกเป็น 5 ดา้ น คอื
3.3.1 ด้านเศรษฐกิจ เช่น โครงการ/กิจกรรมท่ีสามารถเพ่ิมรายได้
ลดรายจ่ าย การใช้ปรั ชญาเศรษฐกิ จพอเพี ยงในการด าเนิ นชี วิ ต
การประกอบอาชพี เสริมหลงั ฤดเู ก็บเกี่ยว การส่งเสริมและพัฒนาการประกอบ
อาชีพหลกั ไม่ว่าจะเป็นทางด้านฝมี ือ แรงงาน การเกษตร คา้ ขาย เป็นตน้
3.3.2 ด้านสังคมและคุณภาพชีวติ เชน่ โครงการ/กิจกรรมที่เก่ียวกับ
การเปลี่ยนค่านิยมท่ีไม่ถูกต้อง เช่น การใช้จ่ายฟุมเฟือย พ่ึงพาคนอื่น
มากกว่าตนเอง การจัดสวัสดิการของหมู่บ้าน การก่อสร้างหรือซ่อมแซม
โครงสรา้ งพืน้ ฐานตา่ ง ๆ ของหมบู่ า้ น เป็นต้น
3.3.3 ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ/
กจิ กรรมเกี่ยวกับการเตรียมการปูองกันและบรรเทาสาธารณภัย การปลูก
ปุาทดแทน การคัดแยกและจัดการขยะ เป็นต้น
3.3.4 ด้านความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย เช่น โครงการ/
กจิ กรรมเก่ียวกบั การปอู งกันและแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ การตัง้ เวรยามรักษาความ
ปลอดภัยหมู่บ้าน การเฝูาระวังกลุ่มเส่ียงต่าง ๆ การหาข่าว การสร้างเครือข่าย
แลกเปลยี่ นข้อมูลกับหมูบ่ า้ นขา้ งเคียง เป็นตน้
26“ประเทศตอ้ งมรี ัฐบาล หมู่บา้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผน่ ดิน”
3.3.5 ด้านการบริหารจัดการ เช่น โครงการ/กิจกรรมเก่ียวกับ
การสร้างกฎกติกาของหมู่บ้าน การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร
การตรวจสอบและตดิ ตามผลการดาเนินงานต่างๆ ของหมู่บ้าน เป็นต้น
3.4 หลังจากที่ประชุมหมู่บ้านได้เสนอโครงการ/กิจกรรมและมีการจัด
หมวดหมู่ของโครงการ/กิจกรรม ออกเป็น 5 ด้านแล้ว ให้ กม. เสนอให้ท่ี
ประชุมหมู่บ้านจัดลาดับความสาคัญของโครงการ/กิจกรรมในแต่ละด้าน ทุก
โครงการ/กิจกรรมว่าแต่ละโครงการ/กิจกรรมมีความสาคัญมากน้อยอย่างไร
โดยอาจมีการใหค้ ะแนนแล้วเรียงลาดับจากโครงการ/กิจกรรมที่มีความสาคัญ
มากท่ีสุด ไปหาโครงการ/กจิ กรรมท่ีมคี วามสาคญั นอ้ ยทส่ี ดุ ให้ครบทุกด้าน
3.5 เม่ือจัดเรียงลาดับความสาคัญของโครงการ/กิจกรรม ในทุก ๆ ด้าน
เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ ใหท้ ่ีประชมุ ฯ ร่วมกนั พิจารณาว่า
1) โครงการ/กิจกรรมใดบา้ ง ทหี่ มูบ่ า้ นสามารถดาเนนิ การไดเ้ อง (ทาเอง)
2) โครงการ/กิจกรรมใดบ้างท่ีหมู่บา้ นต้องร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก(ทาร่วม)
3) โครงการ/กิจกรรมใดบ้าง ทห่ี มู่บา้ นต้องมอบหมายใหห้ น่วยงาน
ภายนอกดาเนนิ การ เพราะเกนิ ขีดความสามารถของหมู่บา้ น (ทาขอ)
3.6 เมื่อได้มีการจัดเรียงลาดับความสาคัญและพิจารณาแนวทางการ
ดาเนินการของแต่ละโครงการ/กิจกรรมแล้ว ให้ กม. ขอให้ท่ีประชุมฯ
ลงมตวิ ่าจะเห็นชอบตามท่ีได้มีการเรียงลาดับความสาคัญและแนวทางการ
ดาเนินการท่ีกาหนดหรือไม่ ทั้งน้ี หากท่ีประชุมฯ ยังไม่สามารถลงมติได้
เน่ืองจากยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องใด กม. ต้องจัดให้การประชุมฯ ใหม่ เพ่ือ
รว่ มกนั พิจารณาจนไดข้ ้อยุติ
3.7 เม่ือพิจารณาจนได้ข้อยุติแล้ว กม. ต้องจัดทาบันทึกผลการประชุมฯ
ไว้เป็นหลกั ฐาน
4. การจัดทา “แผนพฒั นาหมบู่ ้าน”
หลังจากประชุมหมู่บ้านตามขั้นตอนที่ 3 และได้ข้อสรุปแล้ว คณะทางาน
ด้านจดั ทา “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” จะทาหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากการประชุม
27“ประเทศตอ้ งมรี ัฐบาล หม่บู า้ นตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บ้าน รากฐานของแผ่นดนิ ”
หมู่บา้ นไปจัดทา “ร่างแผนพัฒนาหม่บู ้าน” เปน็ รูปเล่มเพื่อเสนอที่ประชุม กม.
ใหค้ วามเห็นชอบและรับรองเป็น “แผนพัฒนาหมบู่ า้ น”
ทง้ั นี้ “ร่างแผนพฒั นาหมู่บ้าน” ต้องประกอบดว้ ย
- โครงการ/กิจกรรมท่หี มู่บา้ นดาเนนิ การเอง (ทาเอง)
- โครงการ/กจิ กรรมที่หมบู่ า้ นร่วมกบั หนว่ ยงาน/องค์กรอน่ื ดาเนนิ การ (ทารว่ ม)
- โครงการ/กิจกรรมที่หมู่บ้านมอบหมายให้หน่วยงานภายนอกดาเนินการ
เพราะเกนิ ขดี ความสามารถของหมู่บา้ น (ทาขอ)
5. การให้ความเหน็ ชอบ และรับรองแผนพฒั นาหมบู่ า้ น
เม่ื อคณะท างานด้ านการจั ดท าแผนพั ฒนาหมู่ บ้ านได้ ปรั บปรุ งร่ าง
แผนพัฒนาหมู่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เรียกประชุมหมู่บ้านให้ร่วมกัน
พิจารณารา่ งแผนฯ อีกครงั้ เพอ่ื ใหค้ วามเหน็ ชอบแผนฯ ทั้งนี้ การประชุมฯ ต้องมี
ตัวแทนครัวเรือน ๆ ละ 1 คน เข้าร่วมประชุมฯ จานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ
ครวั เรอื นทัง้ หมดที่อาศยั อยูจ่ ริงภายในหมบู่ ้าน
5.1 ถ้าท่ีประชุมฯ เห็นชอบ ให้ผู้ใหญ่บ้านในฐานะประธาน กม. ลงนาม
รับรองและประกาศใช้เปน็ “แผนพฒั นาหมู่บ้าน”
5.2 ถ้าที่ประชุมฯ มีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมให้
คณะทางานฯ แก้ไขเพิ่มเติมตามมติท่ีประชุมฯ แล้ว
ให้ผู้ใหญ่บ้านในฐานะประธาน กม. ลงนามรับรอง
และประกาศใชเ้ ปน็ “แผนพฒั นาหมู่บา้ น”
6. การประสานและการใช้ “แผนพฒั นาหมู่บา้ น”
คณะทางานดา้ นแผนพัฒนาหมู่บ้านสาเนาเอกสารแผนพัฒนาหมู่บ้านฉบับ
สมบรู ณ์ที่ผ้ใู หญ่บา้ นในฐานะประธาน กม. ลงนามรบั รองแล้ว เพื่อ
6.1 จดั เก็บ “แผนพฒั นาหมู่บา้ น” ไวใ้ ช้ประโยชนใ์ นการปูองกัน แก้ไข
ปัญหาและพัฒนาหมู่บ้าน (โครงการ/กิจกรรมท่ีทาเองได้ให้ กม. และประชาชน
รว่ มกันทา เช่น การดูแลถนนหนทางในหมู่บ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย การทา
บัญชีรบั - จา่ ย การดแู ลสุขภาพ เปน็ ต้น)
28“ประเทศตอ้ งมีรฐั บาล หมบู่ า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู ้าน รากฐานของแผ่นดนิ ”
6.2 จัดส่ง “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(องค์การบริหารส่วนจังหวัด/เทศบาลตาบล/องค์การบริหารส่วนตาบล) เพ่ือเป็น
ข้อมูลในการจัดทาแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินดังกล่าว (โครงการ/
กจิ กรรมทีเ่ กินขดี ความสามารถของหมบู่ ้าน หรอื ตอ้ งร่วมกับหมู่บา้ นดาเนินการ เช่น
การฝึกอบรมอาชีพ การกอ่ สร้างถนน การขุดลอกห้วยหนองคคู ลอง เปน็ ต้น
6.3 จัดส่ง “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” ให้คณะอนุกรรมการระดับอาเภอ
(อ.ก.อ.) เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทาแผนยุทธศาสตร์พัฒนาอาเภอ และแผน
ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด (โครงการ/กิจกรรมที่เกินขีดความสามารถของ
หมบู่ า้ น หรอื ต้องร่วมกับหมบู่ า้ นดาเนนิ การ) เชน่ โครงการขนาดใหญ่ทีต่ อ้ งขอ
ใชง้ บประมาณหลายลา้ นบาทและประชาชนได้รบั ประโยชนจ์ านวนมาก เปน็ ต้น
6.4 จัดส่ง “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานท่ี
เกี่ยวข้องเพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทาแผนพัฒนาของส่วนราชการ หรือ
หน่วยงานดังกล่าว เช่น เกษตร สาธารณสุข ตารวจ ทหาร เป็นต้น
(โครงการ/กิจกรรมที่เกินขีดความสามารถของหมู่บ้าน หรือต้องร่วมกับ
หมูบ่ ้านดาเนินการ)
6.5 จัดส่งให้องค์กรเอกชน หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง (ถ้ามี) เพื่อ
ประสานและบูรณาการแผน (โครงการ/กิจกรรมท่ีเกินขีดความสามารถของ
หมู่บ้าน หรือต้องร่วมกับหน่วยงานอ่ืนดาเนินการ) เช่น การอนุรักษ์ปุา
ชุมชนของหมบู่ า้ นอาจส่งให้หน่วยงานที่มีกิจกรรม CSR (Corporate Social
Responsibility) เกีย่ วกบั การฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม เชน่
บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) เปน็ ตน้
7. การตรวจสอบและการติดตามการดาเนินการตาม
“แผนพัฒนาหมบู่ ้าน”
คณะกรรมการหมู่บ้านและประชาชนในหมู่บ้าน มีหน้าท่ีตรวจสอบและ
ติดตามการดาเนินการตาม “แผนพัฒนาหมู่บา้ น” ดงั น้ี
29“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หม่บู ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู ้าน รากฐานของแผน่ ดนิ ”
7.1 ตรวจสอบการดาเนินการตามแผนงาน/โครงการในเขตหมู่บ้านให้มี
ความโปร่งใสมปี ระสทิ ธภิ าพและก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ สว่ นรวมหรือไมอ่ ยา่ งไร
7.2 ตรวจสอบผลกระทบที่เกิดจากการดาเนนิ การตามแผนงาน/โครงการ
ภายในหมู่บ้านและร่วมกันหาแนวทางแก้ไข หรือแจ้งหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องช่วย
แกไ้ ขปญั หา
7.3 ติดตามเร่งรัดการดาเนินการตามแผนงาน/โครงการ ของ
หน่วยงาน ทเ่ี ก่ียวขอ้ งหรือผรู้ บั ผิดชอบโครงการ
7.4 ตรวจสอบแผนงาน/โครงการ และระดมสรรพกาลังภายใน
หมู่บ้านเพ่ือดาเนินการตามแผนงาน/โครงการท่ีหมู่บ้านมีศักยภาพสามารถ
ดาเนนิ การได้
7.5 รายงานผลการดาเนนิ การตามแผนงาน/โครงการทีด่ าเนินการแล้ว
เสร็จต่อที่ประชุมหมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน อาเภอ และหน่วยงานที่
เก่ียวข้อง เพ่ือประชาสัมพันธ์การดาเนินงานของหมู่บ้านให้รับทราบอย่าง
แพร่หลาย
8. การทบทวนปรบั ปรงุ “แผนพัฒนาหมู่บ้าน”
หมู่บ้านต้องทบทวนหรือปรับปรุง“แผนพัฒนาหมู่บ้าน” ตาม
ข้ันตอนที่ 1 - 6 อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้ “แผนพัฒนาหมู่บ้าน” เป็น
ปัจจุบันสามารถใช้เป็นแนวทางการปูองกัน แก้ไขปัญหา และพัฒนาหมู่บ้าน
ภายใต้สถานการณ์ ที่มีการเปล่ียนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่ิงสาคัญ
ต้องดาเนินการให้แล้วเสร็จทัน
ตามปฏิทินการจัดทาแผนพัฒนา
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในพน้ื ที่ เพื่อให้การประสานแผน
ของหมู่บ้านและแผนขององค์กร
ปกครองสว่ นท้องถน่ิ เป็นไปอย่าง
มปี ระสิทธิภาพ
30“ประเทศต้องมรี ฐั บาล หมู่บ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู า้ น รากฐานของแผ่นดิน”
บทท่ี 6 การสร้างแรงจงู ใจในการปฏิบัตงิ าน
ในปงี บประมาณ 2556 กรมการปกครองได้มอบหมายให้ทุกจังหวัด
แบ่งระดับหมู่บ้าน ตามผลการปฏิบัติงานของ กม. ออกเป็น 3 ระดับ คือ
ระดับดเี ด่น หรอื ระดับ A ระดับดี หรือระดบั B และระดับเริ่มสร้างผลงาน
หรือระดับ C โดยมผี ลการดาเนินงาน ดังนี้
- หมบู่ า้ นทม่ี ผี ลงานการปฏบิ ตั ิงาน กม. ดเี ด่น (A) จานวน 25,619 หมู่บา้ น
- หมบู่ ้านที่มผี ลงานการปฏบิ ัตงิ าน กม. ดี (B) จานวน 31,223 หมู่บา้ น
- หมบู่ ้านทมี่ ผี ลงานการปฏบิ ัตงิ าน กม. เรม่ิ สรา้ งผลงาน (C)
จานวน 2,964 หมบู่ ้าน
ในปีงบประมาณ 2556 กรมการปกครอง ได้จัดประกวดหมู่บ้านท่ี
มีผลงานการปฏิบัติงานของ กม. ดีเด่น (A) ทั้งในระดับอาเภอและระดับ
จังหวดั ขนึ้ โดยมรี างวลั ดงั นี้
ระดบั อาเภอ
- รางวัลชนะเลิศ จานวน 877 รางวัล
- รางวลั รองชนะเลศิ จานวน 877 รางวัล
ระดบั จังหวดั
- รางวัลชนะเลศิ จานวน 93 รางวัล
- รางวัลรองชนะเลิศ อนั ดบั ท่ี 1 จานวน 93 รางวัล
- รางวัลรองชนะเลศิ อันดบั ที่ 2 จานวน 93 รางวัล
31“ประเทศต้องมีรฐั บาล หมู่บ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผน่ ดิน”
ข้อมูลหมูบ่ า้ นท่ีชนะเลศิ การประกวดตามโครงการฯ ในระดับจงั หวัด มดี ังน้ี
ที่ จงั หวดั หมู่บา้ น
1 กระบี่ บา้ นร่าหมาด หมูท่ ่ี 2 ตาบลเกาะกลาง อาเภอเกาะลนั ตา
2 กาญจนบุรี บา้ นหนองปลงิ หมู่ที่ 7 ตาบลดอนแสลบ อาเภอหว้ ยกระเจา
3 กาฬสินธุ์ บ้านคาเมย หมทู่ ่ี 5 ตาบลนาบอน อาเภอคามว่ ง
4 กาฬสนิ ธุ์ บ้านดอนหนั หมทู่ ี่ 13 ตาบลโพนงาม อาเภอกมลาไสย
5 กาแพงเพชร บา้ นมอสงู หมูท่ ี่ 1 ตาบลวังทอง อาเภอเมอื งกาแพงเพชร
6 ขอนแก่น บ้านโสกจาน หมทู่ ่ี 3 ตาบลในเมอื ง อาเภอบ้านไผ่
7 ขอนแก่น บ้านดอนหนั หมทู่ ่ี 3 ตาบลใหมน่ าเพยี ง อาเภอแวงใหญ่
8 จนั ทบรุ ี บา้ นกลาง หมทู่ ่ี 2 ตาบลบางสระเกา้ อาเภอแหลมสิงห์
9 ฉะเชงิ เทรา
10 ชลบรุ ี บ้านแพรกชมุ รุม หมู่ที่ 13 ตาบลบางเตย อาเภอเมอื งฉะเชงิ เทรา
11 ชัยนาท
12 ชยั ภมู ิ บ้านหนองพยอม หมู่ที่ 1 ตาบลหนองบอนแดง อาเภอบา้ นบึง
13 ชัยภมู ิ บ้านหวั ยาง หมทู่ ี่ 5 ตาบลทา่ ฉนวน อาเภอมโนรมย์
14 ชมุ พร
15 เชยี งราย บา้ นหนองบวั นอ้ ย หมทู่ ี่ 4 ตาบลโสกปลาดกุ อาเภอหนองบัวระเหว
16 เชียงราย
17 เชยี งใหม่ บา้ นเดือ่ หมูท่ ่ี 1 ตาบลบา้ นเด่ือ อาเภอเกษตรสมบรู ณ์
18 เชียงใหม่ บา้ นวังชา้ ง หมู่ที่ 4 ตาบลชุมโค อาเภอปะทิว
19 ตรัง บา้ นคา่ ยเจรญิ หมูท่ ่ี 5 ตาบลเวยี งเหนอื อาเภอเวยี งชยั
20 ตราด บ้านสนั ปเู ลย หมูท่ ่ี 4 ตาบลบัวสลี อาเภอแม่ลาว
21 ตาก บ้านโปงกวาว หม่ทู ่ี 3 ตาบลสะเมงิ เหนอื อาเภอสะเมงิ
22 นครนายก บา้ นปางกอง หมู่ที่ 6 ตาบลห้วยแกว้ อาเภอแม่ออน
23 นครปฐม บา้ นลาขนุน หมทู่ ี่ 8 ตาบลนาชมุ เหด็ อาเภอยา่ นตาขาว
24 นครพนม บ้านตรอกแซง หมูท่ ่ี 4 ตาบลทา่ พรกิ อาเภอเมอื งตราด
บา้ นสองแคว หมทู่ ี่ 4 ตาบลยกกระบัตร อาเภอสามเงา
บ้านวังตมู หม่ทู ่ี 1 ตาบลเขาพระ อาเภอเมอื งนครนายก
บา้ นศาลายา หมทู่ ี่ 5 ตาบลศาลายา อาเภอพทุ ธมณฑล
บา้ นเนินนา้ คา หมทู่ ี่ 10 ตาบลโคกหินแฮ่ อาเภอเรณนู คร
32“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หมู่บา้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผน่ ดิน”
ที่ จงั หวัด หมู่บ้าน
25 นครราชสมี า บ้านมะเกลือ หม่ทู ่ี 3 ตาบลมะคา่ อาเภอโนนไทย
26 นครราชสมี า บา้ นหนองตะลุมปุกฺ หมู่ท่ี 3 ตาบลหนองไม้ไผ่ อาเภอหนองบญุ มาก
27 นครศรีธรรมราช บ้านคลองรา หมทู่ ่ี 6 ตาบลถา้ พรรณรา อาเภอถา้ พรรณรา
28 นครศรธี รรมราช บ้านเนินอนิ ทรแ์ กว้ หมู่ที่ 3 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด
29 นครสวรรค์ บา้ นบอ่ พลบั หมู่ที่ 3 ตาบลเนนิ กวา้ ว อาเภอโกรกพระ
30 นนทบรุ ี บ้านบางรักนอ้ ย หมทู่ ่ี 3 ตาบลบางรักน้อย อาเภอเมืองนนทบรุ ี
31 นราธิวาส บ้านใหญ่ หมทู่ ี่ 12 ตาบลสุไหงปาดี อาเภอสไุ หงปาดี
32 นา่ น บา้ นร้อง หม่ทู ี่ 4 ตาบลปัว อาเภอปวั จงั หวดั นา่ น
33 บึงกาฬ บา้ นกาแพงเพชร หมู่ท่ี 5 ตาบลโนนสมบูรณ์ อาเภอเมอื งบงึ กาฬ
34 บุรีรมั ย์ บ้านโนนศิลา หมทู่ ่ี 3 ตาบลถลงุ เหลก็ อาเภอเมอื งบุรีรมั ย์
35 บุรีรมั ย์ บา้ นเจริญสขุ หมู่ที่ 12 ตาบลเจริญสุข อาเภอเฉลมิ พระเกยี รติ
36 ปทมุ ธานี บา้ นคลองรงั สิต หม่ทู ่ี 5 ตาบลหลกั หก อาเภอเมอื งปทมุ ธานี
37 ประจวบคีรีขนั ธ์ บา้ นไร่เกา่ หมทู่ ี่ 3 ตาบลไร่เก่า อาเภอสามรอ้ ยยอด
38 ปราจนี บรุ ี บ้านดงตาแทน หมู่ที่ 4 ตาบลดงพระราม อาเภอเมืองปราจนี บรุ ี
39 ปัตตานี บ้านรามง หมทู่ ่ี 1 ตาบลปุยดุ อาเภอเมอื งปตั ตานี
40 พระนครศรีอยุธยา บ้านคลองญป่ี นุ เหนอื หมทู่ ี่ 3 ตาบลหลกั ชยั อาเภอลาดบวั หลวง
41 พระนครศรอี ยธุ ยา บา้ นแจง้ หมทู่ ่ี 3 ตาบลหนั สัง อาเภอบางปะหนั
42 พะเยา บา้ นดงอนิ ตา หมทู่ ี่ 6 ตาบลบ้านเหล่า อาเภอแมใ่ จ
43 พงั งา บา้ นทงุ่ มะเดอื่ หมทู่ ่ี 8 ตาบลครุ ะ อาเภอคุระบรุ ี
44 พัทลุง บ้านสายกลาง หมู่ที่ 9 ตาบลหนองธง อาเภอปุาบอน
45 พจิ ติ ร บา้ นดงปาุ คา หมทู่ ่ี 8 ตาบลดงกลาง อาเภอเมอื งพจิ ติ ร
46 พษิ ณโุ ลก บา้ นตะโม่ หมทู่ ่ี 5 ตาบลบางระกา อาเภอบางระกา
47 เพชรบรุ ี บา้ นเขาลกู ช้าง หมทู่ ่ี 6 ตาบลทา่ ไม้รวก อาเภอท่ายาง
48 เพชรบรู ณ์ บา้ นร่มโพธ-ิ์ ร่มไทร หมทู่ ่ี 10 ตาบลหนองแมน่ า อาเภอเขาคอ้
49 แพร่ บา้ นปงท่าข้าม หมทู่ ่ี 1 ตาบลบา้ นปง อาเภอสงู เมน่
33“ประเทศต้องมรี ฐั บาล หมูบ่ ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผน่ ดิน”
ที่ จังหวัด หมบู่ า้ น
50 ภูเก็ต บ้านดอน หม่ทู ่ี 4 ตาบลเทพกระษตั รี อาเภอถลาง
51 มหาสารคาม บา้ นดงนอ้ ย หมู่ที่ 4 ตาบลพระธาตุ อาเภอนาดนู
52 มกุ ดาหาร บา้ นเหลา่ ปาุ เปูดใหม่ หมูท่ ี่ 16 ตาบลนาโสก อาเภอเมืองมกุ ดาหาร
53 แม่ฮอ่ งสอน บา้ นเมืองพรา้ ว หมู่ท่ี 1 ตาบลเวยี งใต้ อาเภอปาย
54 ยโสธร บ้านยางน้อย หมู่ที่ 3 ตาบลบึงแก อาเภอมหาชนะชยั
55 ยะลา บ้านพร่อน หมู่ท่ี 1 ตาบลพร่อน อาเภอเมอื งยะลา
56 รอ้ ยเอด็ บา้ นปอภาร หมทู่ ่ี 12 ตาบลปอภาร อาเภอเมอื งร้อยเอด็
57 ร้อยเอ็ด บ้านเมืองน้อย หม่ทู ี่ 12 ตาบลเมอื งน้อย อาเภอธวชั บรุ ี
58 ระนอง บ้านละออง หมูท่ ่ี 1 ตาบลราชกรดู อาเภอเมืองระนอง
59 ระยอง บา้ นจารงุ หมทู่ ่ี 7 ตาบลเนินฆอ้ อาเภอแกลง
60 ราชบรุ ี บา้ นบางโตนด หมู่ท่ี 4 ตาบลบางโตนด อาเภอโพธาราม
61 ลพบุรี บา้ นเขาขวาง หมูท่ ่ี 8 ตาบลโคกสลุง อาเภอพฒั นานคิ ม
62 ลาปาง บ้านท่าส้มปอุ ย หม่ทู ี่ 1 ตาบลทุง่ ฝาย อาเภอเมอื งลาปาง
63 ลาพนู บ้านดอนมลู หมทู่ ่ี 8 ตาบลบ้านปวง อาเภอทงุ่ หัวชา้ ง
64 เลย บ้านผาเจริญ หมทู่ ่ี 4 ตาบลทา่ สะอาด อาเภอนาด้วง
65 ศรสี ะเกษ บา้ นทงุ่ ระวี หมทู่ ี่ 12 ตาบลสะพุง อาเภอศรีรตั นะ
66 ศรีสะเกษ บ้านหัวดง หมทู่ ี่ 2 ตาบลหนองหมี อาเภอราษไี ศล
67 สกลนคร บ้านดอนตาล หมู่ที่ 11 ตาบลพงั โคน อาเภอพังโคน
68 สกลนคร บา้ นพนั นา หมทู่ ี่ 1 ตาบลพนั นา อาเภอสว่างแดนดิน
69 สงขลา บ้านคูวาออก หมู่ที่ 4 ตาบลบ้านขาว อาเภอระโนด
70 สงขลา บ้านโพธต์ิ ก หมู่ที่ 3 ตาบลท่าโพธิ์ อาเภอสะเดา
71 สตูล บา้ นควนโดน หม่ทู ่ี 1 ตาบลควนโดน อาเภอควนโดน
72 สมุทรปราการ บา้ นคลองบางขวางบน หมทู่ ่ี 3 ตาบลบางโฉลง อาเภอบางพลี
73 สมุทรสงคราม บ้านคลองววั หมทู่ ี่ 5 ตาบลเหมอื งใหม่ อาเภออมั พวา
74 สมุทรสาคร บา้ นโตล้ ้ง หมทู่ ่ี 2 ตาบลสวนหลวง อาเภอกระทมุ่ แบน
34“ประเทศตอ้ งมีรัฐบาล หมู่บ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผน่ ดนิ ”
ท่ี จังหวัด หม่บู ้าน
75 สระแกว้ บา้ นใหมไ่ ทรทองหมทู่ ่ี 5ตาบลบ้านใหม่หนองไทรอาเภออรัญประเทศ
76 สระบรุ ี บ้านเขาโปรง่ แรง้ หมทู่ ี่ 3 ตาบลโคกแย้ อาเภอหนองแค
77 สิงห์บรุ ี บ้านดอนตะโหนด หมทู่ ่ี 7 ตาบลโพทะเล อาเภอคา่ ยบางระจนั
78 สุโขทัย บา้ นหนองตะแบกใต้ หมทู่ ่ี 15 ตาบลไกรใน อาเภอกงไกรลาศ
79 สพุ รรณบรุ ี บ้านโนน หมู่ที่ 10 ตาบลดอนคา อาเภออู่ทอง
80 สุราษฎรธ์ านี บา้ นชอ่ งอินทนิล หมูท่ ี่ 10 ตาบลตะกุกเหนือ อาเภอวิภาวดี
81 สรุ าษฎร์ธานี บา้ นคลองเกาะ หมทู่ ่ี 7 ตาบลทา่ ขนอน อาเภอครี ีรัฐนิคม
82 สุรินทร์ บา้ นสวาท หมู่ที่ 4 ตาบลสาเภาลูน อาเภอบัวเชด
83 สุรินทร์ บา้ นหนองบัว หมทู่ ี่ 14 ตาบลกระโพ อาเภอทา่ ตูม
84 หนองคาย บ้านหนองแวง หมูท่ ่ี 7 ตาบลนา้ โมง อาเภอทา่ บอ่
85 หนองบัวลาภู บา้ นทุ่งสวา่ ง หมทู่ ี่ 6 ตาบลโนนขมน้ิ อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู
86 อา่ งทอง บา้ นบางแมว หมู่ที่ 1 ตาบลชยั ฤทธ์ิ อาเภอไชโย
87 อานาจเจริญ บ้านเปอื ย หมู่ท่ี 1 ตาบลเปอื ย อาเภอลอื อานาจ
88 อดุ รธานี บ้านโนนงาม หมู่ท่ี 11 ตาบลนาคา อาเภอบา้ นดงุ
89 อุดรธานี บ้านเพิม่ หมูท่ ่ี 7 ตาบลนาแค อาเภอนายูง
90 อตุ รดติ ถ์ บ้านสวน หมทู่ ี่ 5 ตาบลแสนตอ อาเภอน้าปาด
91 อทุ ัยธานี บา้ นห้วยหนามตะเข้ หมทู่ ี่ 10 ตาบลบา้ นไร่ อาเภอบา้ นไร่
92 อุบลราชธานี บ้านดอนหมู หม่ทู ่ี 10 ตาบลขามเป้ีย อาเภอตระการพชื ผล
93 อบุ ลราชธานี บา้ นพงสวา่ ง หมทู่ ่ี 7 ตาบลโนนผึ้ง อาเภอวารนิ ชาราบ
นอกจากน้ัน ยังได้ดาเนินการตามโครงการสัมมนาต่อยอดการ
ประกวดผลงานของ กม. ดีเด่น (รวมพลคนพันธุ์ A) ประจาปี 2556 โดย
นาตัวแทน กม. จากหมู่บ้านท่ีชนะเลิศจากการประกวดฯ ในระดับจังหวัดจาก
ทุกจังหวัด หมู่บ้านละ 6 คน รวม 558 คน เดินทางมาศึกษาดูงานและ
แลกเปลี่ยนเรยี นรเู้ พอื่ เปดิ โลกทัศนใ์ หมๆ่ และสร้างแรงจงู ใจในการปฏิบัติงาน
ใหแ้ ก่ กม.
35“ประเทศต้องมีรัฐบาล หมูบ่ า้ นตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผน่ ดิน”
นายอภิชาติ เทยี วพานิช รองอธบิ ดีกรมการปกครอง
เป็นประธานในพิธเี ปดิ การสมั มนาฯ
ทัศนศกึ ษาดงู าน ณ รฐั สภา
36“ประเทศตอ้ งมรี ฐั บาล หมู่บ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู า้ น รากฐานของแผ่นดิน”
ทัศนศกึ ษาดูงาน ณ ศูนย์เรยี นรู้ต้นแบบ
ทัศนศกึ ษาดูงาน ณ บรษิ ทั เอกชนชั้นนา
37“ประเทศต้องมรี ัฐบาล หมบู่ า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ า้ น รากฐานของแผน่ ดนิ ”
ตวั แทน กม. รับโลร่ างวัลจากทา่ นรองอธบิ ดกี รมการปกครอง
(นายอภิชาติ เทยี วพานิช)
กิจกรรมประกวดมสิ เตอร์ (Mister) กม. และ มสิ (Miss) กม.
38“ประเทศต้องมีรัฐบาล หมบู่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผ่นดิน”
งานเลยี้ งแสดงความยนิ ดกี บั ผไู้ ด้รบั รางวัล
กจิ กรรมร่วมสนกุ กับไผ่ พงศธร และรว่ มรอ้ งเพลง กม.รอรัก
39“ประเทศต้องมีรฐั บาล หมู่บา้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผ่นดนิ ”
เพลง กม. รอรกั
คารอ้ ง/ทานอง : สลา คณุ วฒุ ิ
เรยี บเรยี ง : ธีระพงษ์ ศกั ด์ิแก้ว
ขับร้อง : ไผ่ พงศธร
(หมู่) กรรมการหมบู่ ้าน เรียกสนั้ ๆ กค็ ือ กม.
งานทีท่ าทกุ ขอ้ จดุ หมายทร่ี อก็คือชาวบ้าน
ไม่มีสงั กัดไมม่ คี า่ ตอบแทน งานหนักยากแสนแตใ่ จมงุ่ ม่ัน
ประเทศต้องมีรฐั บาล หมบู่ ้านก็ตอ้ งมี กม.
(..ดนตร.ี .)
A1. ไม่มดี าวบนบา่ แตศ่ รทั ธามีเตม็ หวั ใจ
ดแู ลทุกข์สขุ ของชาวบ้าน ไดร้ ว่ มทางานกบั พอ่ ผู้ใหญ่
หมบู่ า้ นคอื พื้นฐานประเทศไทย ตอ้ งกา้ วตอ่ ไปด้วยแรงใจของเรา
A2. หลอมพลงั สร้างถิน่ ปลกุ แผน่ ดนิ ถน่ิ ผนื ลาเนา
ผู้ใหญ่ดันชาวบ้านกเ็ อาดว้ ย ไปไดส้ วยในทกุ ๆ กา้ ว
หมู่บ้านเราดแู ลดว้ ยคนของเรา จะหนกั หรือเบาเราก็ดแู ลกนั
* กรรมการหม่บู ้าน เรยี กสัน้ ๆ กค็ อื กม.
งานที่ทาทกุ ขอ้ จดุ หมายทีร่ อกค็ ือชาวบ้าน
ไม่มีสังกดั ไมม่ คี ่าตอบแทน งานหนักยากแสนแต่ใจมงุ่ มัน่
ประเทศต้องมีรฐั บาล หม่บู ้านก็ตอ้ งมี กม.
A3. ขอแคเ่ ธอร้จู ัก ใหใ้ จรักมีแรงกพ็ อ
คนแรกท่เี ธอไดพ้ บหนา้ เมอ่ื เจอปญั หากค็ อื กม.
อยากได้ใจทท่ี ุม่ เทเพียงพอ รว่ มทีม กม. หมูบ่ า้ นเราทกุ วัน
(ซา้ *,*)
-------------------------
40“ประเทศต้องมีรฐั บาล หม่บู า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ ้าน รากฐานของแผ่นดิน”
บทประพันธ์ ที่กรรมการหมู่บ้านได้ประพันธ์เป็นกลอนเก้า
(กลบท กบเต้นสลักเพชร) ท่ีสะท้อนบทบาท อานาจ หน้าท่ีของ กม.
(โครงการต่อยอดขยายผลการประกวดหมู่บ้านท่ี กม. มีผลการปฏิบัติงาน
ดี (B) ปีงบประมาณ 2554) ดงั น้ี
เจ็ดสบิ ห้า จงั หวดั คัดดเี ดน่
ไดเ้ ลือกเฟนู เป็นทหี่ นงึ่ พงึ สนอง
นโยบาย หลายดา้ น การปกครอง
เปน็ ต้นแบบ นาร่อง ของชมุ ชน
ทกุ ท้องท่ี ท่วั ไทย ให้เดนิ หน้า
อย่าชักชา้ พัฒนา พาเกิดผล
แตล่ ะบา้ น เรง่ ประสาน ผ่านตาบล
เร่งแกไ้ ข ความจน ให้พน้ ไป
กรรมการ หมูบ่ ้าน ท่วั ประเทศ
แต่ละเขต ชว่ ยสังเกต ความโปร่งใส
งบประมาณ ทุกโครงการ ท่ีหวา่ นไป
ตรงสเปก หรือไม่ ให้ตรวจที
กรรมการ หมบู่ า้ น ทางานหนัก
จิตอาสา เป็นหลกั มศี กั ดศ์ิ รี
คา่ ตอบแทน ถึงแม้น จะไมม่ ี
ก็จะขอ ทาดี เพ่ือแผน่ ดนิ
นายสายยุทธ โปธติ า
กรรมการหมบู่ ้าน บ้านปุาตงึ
หมทู่ ี่ 7 ตาบลออนใต้
อาเภอสันกาแพง จงั หวัดเชยี งใหม่
41“ประเทศตอ้ งมรี ัฐบาล หมบู่ า้ นตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู า้ น รากฐานของแผน่ ดิน”
บทท่ี 7 สรุปบทเรียนความสาเร็จของบ้านหนองกลางดง
บ้านหนองกลางดง หมู่ท่ี 7 ตาบลศิลาลอย อาเภอสามร้อยยอด
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหมู่บ้านเข้มแข็งที่มีการบริหารจัดการหมู่บ้าน
ในรูปแบบ “สภาผู้นาหมู่บ้าน” หรือ “คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.)”
ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพมีรูปธรรมความสาเร็จ และรางวัลเป็นเคร่ืองยืนยัน
มากมาย และการบริหารจัดการของบ้านหนองกลางดงน้ี ถือเป็นต้นแบบ
ของ กม. รปู แบบใหม่ตามทไี่ ด้มกี ารปรบั ปรงุ แก้ไขกฎหมายลักษณะปกครอง
ท้องท่ี ท่ีเกี่ยวข้องกับโครงสรา้ งและอานาจหนา้ ท่ขี อง กม. ในปจั จุบัน
ในห้วงท่ีผ่านมามีคณะศึกษาดูงานจากท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน
ภาคประชาสังคมเดินทางไปศึกษาดูงานที่บ้านหนองกลางดงมากมาย
ผู้ใหญ่โชคชัยฯ เคยเล่าว่า คณะดูงานท่ีเป็นกลุ่มของประชาชนหรือกลุ่ม
อาชีพจากหลายๆ หมู่บ้านที่เดินทางมาดูงานแล้ว เห็นว่าผู้ใหญ่โชคชัยฯ
ทาได้ดี แต่ไม่สามารถนาแนวคิดและวิธีการทางานของผู้ใหญ่ฯ ไปทา
ที่หมู่บ้านของตนเองได้เพราะผู้ใหญ่บ้านไม่เอาด้วย ในขณะเดียวกัน
คณะดูงานที่เป็นผู้นา เช่น
กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย
ผู้ ใ ห ญ่ บ้ า น ส ม า ชิ ก ส ภ า
องค์การบริหารส่วนตาบล
ท่ีได้เดินทางมาศึกษาดูงานก็
บอกวา่ ผู้ใหญโ่ ชคชยั ฯ ทาได้ดี
แต่นาไปใช้ท่ีหมู่บ้านเขาไม่ได้
เพราะประชาชนไมเ่ อาดว้ ย
ผใู้ หญ่โชคชัย ลมิ้ ประดษิ ฐ์
42“ประเทศตอ้ งมีรฐั บาล หม่บู ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหม่บู ้าน รากฐานของแผน่ ดนิ ”
ดังนั้น กรมการปกครองจึงได้สรุปบทเรียนความสาเร็จเก่ียวกับ
แนวคิดและวิธีการทางานของผู้ใหญ่โชคชัยฯ มาเพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษา และ
หาคาตอบร่วมกันว่า การทาให้หมู่บ้านซึ่งเป็นรากฐานที่สาคัญของ
ประเทศเกิดความเข้มแข็งน้ัน ควรจะเป็นหน้าท่ีของใคร? และต้องเร่ิมต้น
ท่ใี คร? กนั แน่
ประเดน็ รายละเอียด
1. ความเป็นมา - ผู้ใหญ่โชคชัยฯ เร่ิมเข้ารับตาแหน่งผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่ปี 2539 ถึง
ปจั จบุ ันได้รบั ค่าตอบแทนต้งั แต่ 800 บาท ถงึ 8,000 บาท
- จากเดิมบ้านหนองกลางดงเป็นหมู่บ้านท่ีเกือบล่มสลายมีปัญหา
ต่างๆ มากมาย ทั้งผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติด บ่อนการพนัน
ความแตกแยก โจรขโมย ไม่เคยมีการประชุมชาวบ้าน
ชาวบ้านเห็นปัญหาของตนเองเป็นปัญหาของราชการต้อง
ให้ ผ้มู อี านาจมาแก้ไขให้
- หลังจากเข้ารับตาแหน่งผู้ใหญ่บ้านได้ใช้ปัญหาเป็นประเด็น
สร้างความร่วมมือจากประชาชนโดยชี้ให้ประชาชนเห็นปัญหา
เปน็ หน้าทขี่ องประชาชนต้องร่วมกันแกไ้ ข
- ยดึ หลกั อปรหิ านยิ ธรรมในการทางาน โดยตลอด 15 ปี ที่ผ่าน
มาประชุมเปน็ ประจาทกุ เดอื นไม่เคยขาด
- เนอ้ื หาการประชมุ เน้นให้ชาวบ้านเห็นปัญหาของหมู่บ้านเป็น
ปัญหา ของเรา (ไม่ใช่ปัญหาของเขา (ราชการหรือผู้มีอานาจ)
เพราะไม่นานเขาก็ยา้ ยท้ิงเราใหจ้ มอยูก่ ับปัญหา)
- ทาให้เกิดการสารวจสาเหตุของปัญหา การกาหนดกติกา
ในการอย่รู ่วมกนั
- ภายใน 3 ปี สามารถจัดการปัญหาเก่าๆ ทั้งหลายได้หมด
ประชาชนเชอื่ มน่ั วางใจในฝมี ือ
43“ประเทศตอ้ งมรี ัฐบาล หมบู่ า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผน่ ดิน”
ประเด็น รายละเอียด
2. การสรา้ ง
ทีมงาน จาก - ตลอด 3 ปที ีผ่ า่ นไปผู้ใหญโ่ ชคชัยฯ ได้ทางานอยู่คนเดียว รู้สึกว่า
ผนู้ าเดย่ี วเป็น ตนเองเป็นอัศวินแต่สุดเหนื่อย และเกิดคาถามว่าถ้าไม่มีเรา
ผนู้ าทีม และ เขาจะทาไดไ้ หมแล้วหมูบ่ ้านจะเปน็ อยา่ งไร
การทางาน
- ต่อมาได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานท่ีตาบลไม้เรียง อาเภอ
ฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เห็นความสาเร็จของตาบลไม้เรียง
ที่มี นา้ ประยงค์ รณรงค์ เป็นแกนหลักนาการพฒั นา
- เกิดแนวความคิดอยากให้หมู่บ้านของตนเองเป็นเหมือนตาบล
ไม้เรียง ดังนั้น จึงนาแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้ในหมู่บ้าน
หนองกลางดง
- ปี 2542 ปรับโครงสร้าง กม. ของบ้านหนองกลางดง ซ่ึงเป็น
หมู่บ้าน อพป. ให้เป็นแบบสภาผู้นา ซ่ึงถือเป็นต้นแบบของ
กม. รูปแบบใหม่
- หลักคิด คือ การรวมคนดีคนเก่งในหมู่บ้านมาเป็นทีมงาน
โดยมีการแบ่งงานกันทา ด้วยการรวมกันคิดแล้วแยกกันทา
ร่วมกนั รบั รู้และบรู ณาการเชื่อมโยงงานทุกงานในหมูบ่ า้ น
- วิธีการ คือ การแบ่งคนในหมู่บ้านออกเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่ม
ชาวสวน กลุ่มชาวไร่ กลุ่มชาวนา กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มเยาวชน
เป็นต้น ซึง่ บา้ นหนองกลางดงสามารถแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ได้ทั้งหมด
14 กลุ่ม
- จากนั้นจึงมอบให้แต่ละกลุ่มเลือกตัวแทน ท่ีเป็นคนดี คนเก่ง
ที่มีคุณสมบตั ิ 3 ประการ คือ ฉลาด มีจิตสาธารณะ และพูด
เป็น มากลุ่มละ 4 คน รวมได้ตัวแทนกลุ่มในหมู่บ้าน 56 คน
รวมกับผู้นาท้องที่และผู้นาท้องถิ่น กล่าวคือ ผู้ใหญ่บ้าน
1 คน และ ส.อบต. 2 คน รวมเป็น 59 คน เรียกว่าสภาผู้นา
บา้ นหนองกลางดง หรอื คณะกรรมการหม่บู า้ น (กม)
44“ประเทศตอ้ งมีรัฐบาล หม่บู า้ นตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บา้ น รากฐานของแผ่นดนิ ”
ประเดน็ รายละเอยี ด
2. การสร้าง - จากผู้นาเดี่ยวที่ผู้ใหญ่บ้านเป็นอัศวินคนเดียว จึงกลายเป็น
ทมี งาน จาก ผู้นาทีมที่มคี นช่วยคดิ ช่วยทางานจากทุกกลุ่มในหมบู่ ้าน
ผนู้ าเดี่ยวเป็น
ผนู้ าทีม และ - มีการแจกแจงงานและมอบภารกิจให้ลูกทีมช่วยทา พูดให้
การทางาน(ตอ่ ) น้อยลง มอบให้ทีมงานพูดและแสดงความสามารถให้ มาก
ข้ึน และกากับติดตามอยู่ห่างๆ เร่ิมจากเรื่องเล็กๆ ไปหา
เรื่องใหญๆ่
- ทุกโครงการ กิจกรรม หรือภารกิจของหน่วยงานใดๆ ที่จะ
ดาเนินการในหมู่บ้านต้องนาเข้าหารือในที่ประชุม กม.
เพอื่ พจิ ารณาในเบ้อื งต้น แล้วนาเข้าที่ประชุมชาวบ้านเพื่อร่วม
รับรู้และตัดสนิ ใจร่วมกัน
- การตดั สินใจทาในเรื่องใดๆ ต้องฟังเสยี งประชาชนกอ่ นเสมอ
เพราะหากมปี ัญหาใดๆ เกดิ ขน้ึ ในภายหลังจะไม่มีการโทษใครคน
ใดคนหนึ่งเพราะไดพ้ จิ ารณาและตัดสนิ ใจร่วมกันแลว้
- การประชุมประจาเดือนจะกาหนดเป็นวันอาทิตย์เพราะเป็น
วันหยุดราชการและประชาชนท่ีมีอาชีพรับจ้างทั่วไปก็หยุดงาน
และใช้เสียงตามสายถ่ายทอดการประชุมฯ ให้ประชาชนใน
หมบู่ า้ นได้รับฟงั ดว้ ยเพราะคนทมี่ ารว่ มประชมุ เพยี งหลักรอ้ ย
แต่ประชาชนในหมู่บ้านมีเปน็ หลักพัน เพ่ือให้ทุกคนในหมู่บ้าน
ไดร้ ับรู้ไปพร้อมๆ กนั
- การประชมุ ในแต่ละเดอื นจะกาหนดเปน็ 2 วาระ เป็นภาคเชา้ และภาคบา่ ย
- ภาคเชา้ เปน็ การประชมุ ของสภาผู้นา (กม.) เพื่อร่างแนว
ทางการแกไ้ ขปญั หาและพฒั นาหม่บู ้าน
- ภาคบา่ ยเปน็ การประชมุ ชาวบา้ นเพื่อทบทวนร่างที่สภาผนู้ า
จัดทาขน้ึ วา่ จะเห็นดว้ ยหรอื ไมห่ รอื จะปรบั ลดเพิม่ เติมใน
ประเด็นใด
45“ประเทศต้องมีรัฐบาล หมู่บา้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมู่บ้าน รากฐานของแผ่นดิน”
ประเดน็ รายละเอียด
2. การสร้าง
ทมี งาน จาก - การแก้ไขปัญหาภายในหมู่บา้ นในบางเร่อื งต้องบรู ณาการกบั
ผ้นู าเดย่ี วเป็น ภาคราชการโดยผู้ใหญบ่ ้านทาหนา้ ทีป่ ระสานงานกบั สว่ น
ผูน้ าทีม และ ราชการ ภายใตห้ ลกั คดิ คือ การใชร้ าชการเปน็ เคร่อื งมือของ
การทางาน(ต่อ) หมู่บา้ น ไมใ่ ชใ่ หห้ มบู่ ้านเป็นเครือ่ งมอื ใหร้ าชการ
3. การจัดทา - ผลท่ีได้ ประชาชนในหมู่บ้านเกิดการรับรู้ร่วมกัน มีการ
แผนชุมชน ตดั สนิ ใจร่วมกนั ภายใต้กติกาที่ร่วมกันกาหนดข้ึน ก่อให้เกิด
หรอื จิตสานึกรักและหวงแหนร่วมกัน มีการเปล่ียนพฤติกรรมการ
แผนพัฒนา ดาเนนิ ชวี ติ ถอื เปน็ การสร้างประชาธิปไตยในระดับฐานราก
หมู่บา้ น ประชาชนมีความสุข เพราะมีเวทีที่เปิดโอกาสให้เข้ามาร่วมคิด
รว่ มตดั สนิ ใจ และร่วมลงมอื ทา
- ปี 2544 สภาผู้นา หรือ กม. บ้านหนองกลางดง เร่ิมเป็น
เจ้าภาพ ใน ก าร จัด ท าแผ น ชุม ชน พ่ึ ง ต น เอง (มิ ใช่พึ่ ง
งบประมาณ)
- โดยการจัดเก็บข้อมูลทีห่ มูบ่ า้ นอยากรู้ทัง้ ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัย และ
กาหนดเป็นแบบสอบถาม รวม 28 ข้อ เพ่ือนาข้อมูลท่ีได้มา
วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และหาคาตอบรว่ มกันวา่ จะแกไ้ ขปญั หา
กันอย่างไรและงานใดควรทาเอง งานใดควรทาร่วม และงานใด
ควรทาขอ
- จากการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวพบว่าบ้านหนองกลางดงซ่ึงเป็น
หมู่บ้านเล็กๆ มีประชากรประมาณ 1 พันคน มีหน้ีสินรวมกัน
กว่า 14 ล้านบาท
- จากข้อมูลดังกล่าวจึงนามาสู่การร่วมกันทาแผนลดปลดหน้ี
กอ่ ใหเ้ กดิ รา้ นค้าชมุ ชน ปั้มนา้ มันชุมชน โรงสีข้าวชุมชน กลุ่ม
ออมทรพั ย์ และอาชพี เสริมอ่ืนๆ ไมน่ านกส็ ามารถแกป้ ัญหา
หนสี้ นิ ของชาวบา้ นได้
46“ประเทศต้องมีรัฐบาล หมบู่ า้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ า้ น รากฐานของแผ่นดนิ ”
ประเดน็ รายละเอียด
3. การจดั ทา
แผนชมุ ชน - ก่อให้เกิดกิจกรรมสนองแผนท้ัง 3 ด้าน คือ ทาเอง ทาร่วม
หรอื และทาขอและนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ
แผนพฒั นา
หมู่บ้าน - มกี ารทบทวนแผนฯ ทกุ ปีโดยการเกบ็ ขอ้ มูลใหมใ่ นโจทย์เก่าเพื่อ
(ตอ่ ) นาขอ้ มลู มาปรบั ปรุงแผนและปรบั แก้กจิ กรรมรายปี
4. การจดั ตัง้ - ตัวอย่างกิจกรรมที่ทาเอง เช่น การจัดการขยะของหมู่บ้าน
กองทุนกลาง ที่บ้านหนองกลางดงจะไม่มีถังขยะหน้าบ้านเพราะแต่ละบ้านจะ
พัฒนาหมบู่ า้ น จัดการขยะได้ด้วยตนเองโดยการคัดแยกขยะเพื่อขายทาปุย
ฝงั กลบ
- ตัวอย่างกิจกรรมที่ทาร่วม เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด
การพนัน โดยต้ังกติการ่วมกันว่าให้แต่ละบ้านเฝ้าระวังบ้าน
ซ้ายและบ้านขวาว่า มีการค้ายา เสพยา เล่นการพนัน
หรือไม่ ถ้ามีให้ แจ้งผู้ใหญ่บ้านแล้วผู้ใหญ่บ้านประสาน
หน่วยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ งมาจดั การ
- ตัวอย่างกิจกรรมที่ทาขอ เช่น โครงสร้างพ้ืนฐานใหญ่ๆ เช่น
ถนน ไฟฟาู ประปา เปน็ ตน้
- บ้านหนองกลางดงได้จัดตั้งกองทุนรวมของหมู่บ้าน หรือ
กองทุนกลางพัฒนาหมู่บ้านข้ึน ต้ังแต่ปี 2544 มีเงินหมุนเวียน
มากกวา่ ปลี ะ 2 แสนบาท
- สาเหตุเกิดจากเมื่อไฟฟูาสาธารณะ ประปา ใช้การไม่ได้แล้ว
ประชาชนเดือดร้อนระหว่างรอให้หน่วยงานท่ีรับผิดชอบมาแก้ไข
จึงมีการประชุมสภาผู้นา (กม.) เพื่อหาแนวทางแก้ไข และ
มีมตริ ว่ มกนั ให้ต้งั กองทุนรวมของหมบู่ า้ นขึน้
- โดยการขอแบ่งกาไรจากกองทุนต่างๆ ในหมู่บ้านกองทุนละ
20% มาสมทบเป็นกองทุนกลางพัฒนาหมู่บ้าน เพื่อใช้ในการ
แก้ไขปัญหาและพัฒนาหมู่บ้าน เช่น การจัดกิจกรรมต่างๆ
ของหมบู่ า้ น การซ่อมบารงุ ส่งิ ของสาธารณะประโยชน์ของ
47“ประเทศต้องมรี ฐั บาล หมบู่ ้านต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมบู่ ้าน รากฐานของแผ่นดนิ ”
ประเด็น รายละเอยี ด
4. การจดั ตงั้
กองทนุ กลาง หมบู่ า้ น ค่าพาหนะของ กม. เม่ือต้องเดินทางไปร่วมประชุม
พัฒนาหมบู่ า้ น กับหน่วยอื่นนอกหมู่บ้าน ยกเว้นไม่จ่ายค่าพาหนะ คือ
(ต่อ) ผ้ใู หญบ่ า้ น ผ้ชู ่วย ผญบ. และ ส.อบต. เพราะมีค่าตอบแทนแลว้
- ก่อนจ่ายค่าพาหนะต้องให้ผู้ที่เดินทางไปร่วมประชุมสัมมนาฯ
5. การขยายผล พูดตอ่ ที่ประชุมก่อนวา่ ไปร่วมประชุมฯ สัมมนาฯ มาแล้วได้
แนวคิดให้แก่ อะไรมาบ้าง หากไม่พูดหรือพูดไม่ได้จะไม่จ่ายค่าพาหนะ
หมู่บา้ นอนื่ ๆ เพราะต้องการฝึกใหช้ าวบา้ นพดู เปน็ สอื่ สารกบั ผู้อนื่ ได้
- ในปี 2548 หมู่บ้านสามารถนาเงินจากกองทุนฯ ไปซ้ือท่ีดิน
5 ไร่ เพอ่ื ทาเปน็ ทีส่ าธารณประโยชน์ของหมู่บ้านเพราะบ้าน
หนองกลางดงไม่มีที่สาธารณประโยชน์ (โดยให้ อบต.เป็นผู้
คูส่ ัญญาซ้อื ขายและสลักหลังว่า เพ่ือใช้เป็นท่ีสาธารณประโยชน์
ของบา้ นหนองกลางดง)
- นับจากที่ผู้ใหญ่โชคชัยฯ เข้ามารับตาแหน่งจนถึงปัจจุบันหมู่บ้าน
หนองกลางดง ได้รับรางวัลต่างๆ จากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน
และภาคประชาสังคมมากมาย รวมกว่า 30 รางวัล
- การขยายผลแนวคิดและวิธีการทางานผู้ใหญ่โชคชัยฯ ใช้วิธี
ป่าล้อมเมืองโดยการขยายแนวคิดให้แก่คณะศึกษาดูงานฯ
จากหน่วยงานและองคก์ รต่างๆ ที่เดินทางมาศึกษาดงู าน
ที่บา้ นหนองกลางดง
- จากปี 2539 จนถงึ ปจั จุบันมีคณะศึกษาดูงานเดินทางมาศึกษาดู
งานท่ีหมู่บ้านหนองกลางดงมากกว่า 2,000 คณะ โดยหมู่บ้านคิด
ค่าลงทะเบียน ดูงานคณะละ 2,000 บาท โดย 1,000 บาท
นาเขา้ กองทุนกลางของหมบู่ า้ น อกี 1,000 บาท เป็นค่าตอบแทน
วทิ ยากร ค่าจดั สถานทีต่ ้อนรับ
- นอกจากนั้น ผู้ใหญ่โชคชัยฯ ยังได้รับแต่งตั้งให้ร่วมเป็น
กรรมการในคณะกรรมการต่างๆ ทั้งในระดับจังหวัด
กระทรวง และระดับประเทศ เชน่ เปน็ กรรมการบริหารแผน
48“ประเทศตอ้ งมีรฐั บาล หมู่บา้ นต้องมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ า้ น รากฐานของแผน่ ดนิ ”
ประเด็น รายละเอยี ด
5. การขยายผล ของสานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
แนวคิดใหแ้ ก่ กรรมการสภาผู้นาชุมชนเข้มแข็งแห่งชาติ กรรมการวัฒนธรรม
หมบู่ ้านอนื่ ๆ แห่งชาติ กรรมการปูองกันและปราบปรามการฟอกเงินแห่งชาติ
(ตอ่ ) เปน็ ต้น
6.ข้อเสนอแนะ
ปัจจัยแหง่ ในทัศนะของผใู้ หญโ่ ชคชัย ล้มิ ประดิษฐ์ เห็นว่าการขับเคล่ือน
ความสาเรจ็ ใน การดาเนินงานของ กม. จะประสบผลสาเร็จได้น้ันต้อง
การขบั เคล่ือน ประกอบดว้ ยปจั จัยต่างๆ ดงั น้ี
กม. - ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเป็นผู้นาทางความคิด หากติกาการอยู่
ร่วมกัน โดยใช้ราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องมือ
ในการแกไ้ ขปัญหาและพัฒนาหมบู่ า้ น
- ผู้บัง คับ บัญชาทั้ง ใน ร ะดั บ จัง ห วัด แ ละอาเภ อ ต้อ ง ใ ห้
ความสาคัญ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาท่ีอยู่ใกล้ชิดกับกานัน
ผู้ใหญบ่ า้ น ฯลฯ และกานนั ผใู้ หญ่บา้ นฯลฯ เชอ่ื ฟงั มากทสี่ ดุ
- กรมการปกครองต้องให้ความรู้แก่กานัน ผู้ใหญ่บ้านให้มาก
ขึ้น เพราะท่ีผ่านมาให้เงินค่าตอบแทนเพิ่มแต่ไม่ค่อยให้ความรู้
เพ่ิมเตมิ
- เงิน เป็นปัจจัยสาคัญเร่ืองรองลงมา เพราะบางครั้งเงินทาให้
จิตสาธารณะของประชาชนหายไป และหมู่บ้านก็สามารถ
แสวงหาเงินมาใชใ้ นการบริหารจดั การหม่บู า้ นในเบอ้ื งตน้
49“ประเทศตอ้ งมรี ัฐบาล หม่บู ้านตอ้ งมี กม.” “คณะกรรมการหมูบ่ ้าน รากฐานของแผน่ ดนิ ”