The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สัมมนาวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ครั้งที่ 1- ก้าวแรกแห่งคลังทรัพยากร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

สัมมนาวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ครั้งที่ 1- ก้าวแรกแห่งคลังทรัพยากร

สัมมนาวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ครั้งที่ 1- ก้าวแรกแห่งคลังทรัพยากร

การสัมมนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑ์ธรรมชาตวิ ทิ ยา คร้ังที่ 1:

เร่ือง
ก้าวแรกแห่งคลงั ทรัพยากร

วนั ที่ 24-25 กันยายน พ.ศ. 2563
ณ องคก์ ารพิพธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จงั หวดั ปทุมธานี

PROOFSสมั มนาวชิ าการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

คำ� กล่าวเปิ ด
โครงการสมั มนาทางวชิ าการ
“สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร”

คุณสุวรงค์ วงษ์ศิริ
รองผอู้ ำ� นวยการ องคก์ ารพิพธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)

วนั พฤหสั บดีท่ี 24 กนั ยายน 2563 เวลา 9.30 – 10.15 น.
ณ ลานกิจกรรมหนา้ หอ้ งการแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ พพิ ิธภณั ฑพ์ ระรามเกา้

เรียน ท่านผบู้ ริหาร ผทู้ รงคุณวฒุ ิและผเู้ ขา้ ร่วมงานสมั มนาวชิ าการทุกท่าน
ผมรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยนิ ดีอยา่ งยง่ิ ท่ีไดม้ าเป็นประธานพธิ ีเปิ ด โครงการสมั มนาทางวชิ าการ “สัมมนา
วชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑ์ธรรมชาตวิ ทิ ยา คร้ังที่ 1 : ก้าวแรกแห่งคลงั ทรัพยากร” ในวนั น้ี
ปัจจบุ นั ถอื ไดว้ า่ ประเดน็ เร่ืองของการสูญเสียทรพั ยากรธรรมชาติการเส่ือมโทรมของระบบนิเวศท้งั ดา้ นโครงสรา้ ง
และหนา้ ท่ีตลอดจนการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นหวั ขอ้ ที่นกั วทิ ยาศาสตร์ทว่ั โลกใหค้ วามสำ� คญั มากใน
การทจ่ี ะดแู ลรกั ษาระบบนิเวศตา่ ง ๆ ทว่ั โลกใหค้ งอยอู่ ยา่ งยง่ั ยนื เน่ืองจากของการเปลย่ี นแปลงตามธรรมชาตภิ ายในระบบ
นิเวศมกี ารเปลยี่ นแปลงอยา่ งชา้ ๆโดยอาจตอ้ งใชเ้วลาเป็นสิบหรือรอ้ ยปี จงึ จะสามารถพสิ ูจนไ์ ดถ้ งึ การเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ข้นึ
องคก์ ารพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) มีภารกิจหลกั ในการส่งเสริมและสร้างความตระหนกั รู้ดา้ น
วทิ ยาศาสตร์ธรรมชาติใหก้ บั สงั คมไทย โดยเร่ิมต้งั แตก่ ารศึกษาวจิ ยั เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู องคค์ วามรู้ทางธรรมชาติวทิ ยา
วสั ดุตวั อยา่ งทางธรรมชาติ นำ� ไปสู่งานใหบ้ ริการขอ้ มลู ความรู้โดยการเอาขอ้ มลู องคค์ วามรู้ไปเผยแพร่สู่สาธารณะ ใน
รูปแบบนิทรรศการกจิ กรรมการเรียนรู้ และในรูปแบบส่ือตา่ งๆเพอ่ื ประโยชนใ์ นการสรา้ งความตระหนกั รูใ้ นการอนุรกั ษ์
ทรพั ยากรธรรมชาตขิ องคนไทย และกอ่ ใหเ้ กดิ จติ สำ� นึกในการอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตขิ องคนไทย อนั จะชว่ ยลดอตั รา
การสูญเสียทรพั ยากรธรรมชาติ
การสมั มนาทางวชิ าการทางธรรมชาตวิ ทิ ยา เป็นอกี วธิ ีการหน่ึงในการ เผยแพร่องคค์ วามรูท้ างธรรมชาตวิ ทิ ยา โดย
ผเู้ขา้ ร่วมสมั มนาท้งั นกั วจิ ยั นิสิตนกั ศกึ ษาประชาชนทม่ี ขี อ้ มลู องคค์ วามรูไ้ ดน้ ำ� มาเผยแพร่ พบปะแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ความรู้
และเป็นการชว่ ยเสริมทกั ษะใหแ้ กผ่ ปู้ ฏบิ ตั งิ านทางธรรมชาติตลอดจนเป็นการสรา้ งเครือขา่ ยความร่วมมอื ท้งั ระหวา่ งบคุ คล
และหน่วยงาน โดยจดั การนำ� เสนอผลงานเกยี่ วขอ้ งกบั งานวจิ ยั ทางอนุกรมวธิ าน ความหลากหลายทางชีวภาพ นิเวศวทิ ยา
การหยดุ ยง้ั การสูญเสียความหลากหลายทางชวี ภาพ การจดั การองคค์ วามรูช้ มุ ชนทอ้ งถน่ิ ดา้ นการอนุรกั ษท์ รพั ยากร และอน่ื
ๆทเ่ี กยี่ วขอ้ งผลงานทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั งานจดั เกบ็ รกั ษาวตั ถตุ วั อยา่ งทางธรรมชาตวิ ทิ ยาเพอ่ื งานพพิ ธิ ภณั ฑ์งานนิทรรศการและ
งานเผยแพร่ขอ้ มลู และองคค์ วามรูท้ างธรรมชาตวิ ทิ ยา และผลงานทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั งานสื่อสารทางวทิ ยาศาสตร์ดา้ นธรรมชาติ
การส่ือความหมายธรรมชาติ การส่ือสารหรือกจิ กรรมสรา้ งความตระหนกั ในการอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ
ในนามองคก์ ารพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ ขอขอบคุณผเู้ ขา้ ร่วมงานสมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติ
วิทยาคร้ังท่ี 1 : กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากรทุกท่านที่ใหค้ วามสนใจร่วมนำ� เสนอผลงานและแลกเปล่ียนขอ้ คิดเห็นที่
เป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาเครือข่ายต่อไป และขอใชโ้ อกาสน้ี อวยพรใหท้ ุกท่านไดร้ ับประโยชนด์ งั ท่ีต้งั ใจ และขอ
ใหก้ ารสมั มนาทางวชิ าการคร้ังน้ีดำ� เนินไปดว้ ยความราบร่ืน ประสบความสำ� เร็จ และบรรลุเป้าหมายที่กำ� หนดไวท้ ุก
ประการ
ขอบคุณครับ

สมั มนาวชิ าการพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

คำ� กล่าวรายงาน
โครงการสมั มนาทางวชิ าการ
“สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร”
นายภาณุมาศ จนั ทร์สุวรรณ
ผอู้ ำ� นวยการกองวชิ าการธรรมชาติ รักษาการแทนผอู้ ำ� นวยการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา
วนั พฤหสั บดีที่ 24 กนั ยายน 2563 เวลา 9.30 – 10.15 น.
ณ ลานกิจกรรมหนา้ หอ้ งการแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ พพิ ิธภณั ฑพ์ ระรามเกา้

เรียน รองผอู้ ำ� นวยการองคก์ ารพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ
กระผม นายภานุมาศ จนั ทร์สุวรรณ ผอู้ ำ� นวยการกองวิชาการธรรมชาติวิทยา รักษาการแทนผอู้ ำ� นวยการ
พิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา ขอขอบพระคุณ นายสุวรงค์ วงษศ์ ิริ รองผอู้ ำ� นวยการองคก์ ารพพิ ิธภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่ง
ชาติ เป็นอยา่ งสูงท่ีใหเ้ กียรติมาเป็นประธานในพธิ ีเปิ ดการสมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรก
แห่งคลงั ทรัพยากร ในวนั น้ี
การสมั มนาวชิ าการพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร เป็นการร่วมมือกนั ของ
องคก์ รดา้ นพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยาท้งั ส่วนราชการ และภาคเอกชน ช่วยกนั ผลกั ดนั ใหเ้ กิดสมั มนาในคร้ังน้ี ถือเป็น
กา้ วแรกท่ีสำ� คญั ต่องานดา้ นพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวิทยา ในปัจจุบนั ประเดน็ เร่ืองของการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ
การเสื่อมโทรมของระบบนิเวศ ตลอดจนการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นหวั ขอ้ ที่ทวั่ โลกใหค้ วามสำ� คญั
มาก และทว่ั โลกต่างร่วมมือกนั เพื่อยบั ย้งั การสูญเสียทรัพยากรเหล่าน้ี งานทางพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวิทยา ก็เป็ นอีก
งานหน่ึงที่เก่ียวขอ้ งกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ อนั ประกอบดว้ ย งานศึกษาวิจยั เก็บรวบรวมวตั ถุตวั อยา่ ง
รวบรวมองคค์ วามรู้ และการสื่อสารเผยแพร่องคค์ วามรู้ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ธรรมชาติ จึงมีความจำ� เป็ นอย่างย่ิงที่ตอ้ ง
จดั การสมั มนาทางวิชาการเพ่ือใหเ้ กิดการพบปะแลกเปล่ียนประสบการณ์ในงานดา้ นพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวิทยาและ
สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ใหบ้ รรลุถึงเป้าหมายเดียวกนั คือการพฒั นางานพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา ใหเ้ ป็นแหล่ง
เรียนรู้ทางดา้ นธรรมชาติวทิ ยาของประชาชนทุกคน อนั จะส่งผลใหเ้ กิดความตระหนกั สร้างจิตสำ� นึกในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ และใหเ้ กิดการใชท้ รัพยากรธรรมชาติอยา่ งยง่ั ยนื สืบไป ท้งั น้ีในการจดั งานสมั มนาทางวิชาการ
คร้ังน้ีไดร้ ับความสนใจจากหลายภาคส่วนร่วมนำ� เสนอผลงานจำ� นวน 39 เร่ือง
ขอบคุณครับ
PROOFS

สมั มนาวชิ าการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

สารบญั

ผลงานวจิ ยั หน้า

• การจดั การองคค์ วามรู้การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดในชุมชนทอ้ งถิ่นเกาะเกร็ด อำ� เภอปากเกร็ด
จงั หวดั นนทบุรี ..................................................................................................................................................... 1

• การใชข้ อ้ มลู เชิงพ้นื ท่ีเพอื่ การวเิ คราะหศ์ กั ยภาพในการอนุรกั ษม์ วนแมลงดาหายากชนิด
Lethocerus patruelis (Hemiptera: Belostomatidae) จากปัจจยั มลภาวะทางแสงระดบั ทอ้ งถิน่ ..................................13

• การติดตามประชากรของกิ้งก่าเขาเลก็ (Acanthosaura lepidogaster) ในป่ าดิบเขาบริเวณพ้นื ที่
สงวนชีวมณฑล แม่สา-คอกมา้ จงั หวดั เชียงใหม่ ................................................................................................ 19

• ความหลากหลายชนิดและการปรากฏของดว้ งมูลสตั วใ์ นพ้นื ที่ป่ ารุ่นสอง อุทยานแห่งชาติ
เขาใหญ่ จงั หวดั นครราชสีมา .............................................................................................................................. 31

• การเรียนรู้โดยยดึ หลกั สมรรถนะผา่ นสื่อออนไลนด์ ว้ ยเวบ็ ไซตฐ์ านขอ้ มูลระบบเปิ ด
เพ่ือการอนุรักษช์ นิดพนั ธุ์โดยใชส้ ารสนเทศภูมิศาสตร์ ...................................................................................... 41

• การระบุเพศนกปรอดภูเขา (Ixos mcclellandii) ดว้ ยขนนกโดยใชอ้ ณูชีววทิ ยาเทคนิค ........................................ 47
• การทดสอบวสั ดุบรรจุภณั ฑแ์ ละจดั แสดงตวั อยา่ งทางธรรมชาติวทิ ยา ............................................................... 57
• รายงานแรกของชนิดพนั ธุ์ต่างถิ่นรุกราน Podocerus brasiliensis (Dana, 1853)

(Amphipoda, Podoceridae) บริเวณโหนหอย บา้ นบากนั จงั หวดั กระบี่ และบริเวณบา้ นบุโบย
จงั หวดั สตูล.......................................................................................................................................................... 67
• การอนุรักษแ์ หล่งซากดึกดำ� พรรพป์ ะการัง และพฒั นารูปแบบการท่องเที่ยวเชิงธรณีวทิ ยา
ในจงั หวดั สระแกว้ .............................................................................................................................................. 73
PROOFS

สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร,1-11
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories,1-11.

การจดั การองค์ความรู้การอนุรักษ์สมุนไพรมะหาดในชุมชนท้องถนิ่ เกาะเกร็ด
อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี

The Management of Knowledge of Conservation of Mahad Herb In Koh Kred Community,
Pak Kred District, Nonthaburi Province

ยุพนิ พพิ ฒั น์พวงทอง* Yupin Pipatphuangthong*

คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สวนดุสิต 295 ถนนราชสีมา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
Faculty of Humanities and Social Sciences Suan Dusit University, 295 Rachasima Road, Dusit, Bangkoko 10300

*Corresponding author. E-mail: [email protected]

รับเร่ือง: 1 ตุลาคม 2563 รับลงพิมพ:์ 28 ตุลาคม 2563
PROOFS
บทคดั ย่อ

งานวจิ ยั ฉบบั น้ีมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ศึกษาการจดั การองคค์ วามรู้การอนุรักษส์ มนุ ไพรมะหาดของชุมชนเกาะเกร็ด ตำ� บล
เกาะเกร็ด อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี โดยมีระยะเวลาการวจิ ยั ต้งั แต่ตุลาคม พ.ศ. 2561 ถึงกนั ยายน พ.ศ. 2562 มี
ประชากรคือชาวชุมชนเกาะเกร็ดหมู่ 1 และ 7 ปากเกร็ด นนทบุรี เกบ็ ขอ้ มูลจากกลุ่มตวั อยา่ ง คือ ชาวบา้ นผใู้ หข้ อ้ มูล
หลกั และนกั ท่องเที่ยวท่ีเขา้ ร่วมกิจกรรม จำ� นวน 40 คน ระเบียบวธิ ีวจิ ยั ท่ีใช้ คือ การสืบคน้ ขอ้ มูลจากเอกสารปฐมภูมิ
ทุติยภูมิ การสมั ภาษณ์ การสงั เกตแบบมีส่วนร่วม ปัญหาของชุมชนคือ การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาด เน่ืองจากมะหาด
ไดล้ ดจำ� นวนลงและอาจสูญพนั ธุ์ไปไดใ้ นอนาคต จึงส่งผลให้ชาวบา้ นจดั การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดดว้ ยการจดั
กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ให้นกั ท่องเที่ยวเดินชมการสาธิตการผลิตสบู่และสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม รวม
ท้งั เพื่อศึกษาสภาพและปัญหา กระบวนการเคร่ืองมือ และปัจจยั ท่ีสนบั สนุนการจดั การองคค์ วามรู้ดา้ นการอนุรักษ์
สมุนไพรมะหาดในชุมชน

ผลการวจิ ยั พบวา่ กลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนหมู่ 1 มีความรู้เนน้ หนกั ในดา้ นการผลิตสมนุ ไพรเพอื่ สุขภาพและความงาม มีเป้า
หมายเพ่ือใชค้ วามรู้ในการประกอบอาชีพ การดูแลสุขภาพผวิ พรรณแบบพ่ึงตนเอง การพฒั นากลุ่ม เป็นแหล่งเรียนรู้
สมนุ ไพรเพอื่ สุขภาพและความงาม เป็นศนู ยก์ ลางในการถา่ ยทอดเผยแพร่และแลกเปล่ียนเรียนรู้ของชาวบา้ นท้งั ภายใน
และภายนอกชุมชน ปัญหาที่พบในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ คือการรวบรวมจดั เก็บความรู้ที่เป็นระบบเพื่อสืบทอดให้
ลูกหลาน การสนบั สนุนจากหน่วยงานอยา่ งต่อเนื่อง ดา้ นกระบวนการจดั การองคค์ วามรู้ ไดแ้ ก่ การวิเคราะห์ความ
ตอ้ งการความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้ใหม่ การรวบรวมจดั เก็บความรู้ การเผยแพร่และถ่ายทอดความรู้ การ
ประยกุ ตใ์ ชอ้ งคค์ วามรู้โดยมีปัจจยั สนบั สนุน ไดแ้ ก่ ผนู้ ำ� กลุม่ การมีส่วนร่วม ความกระตือรือร้น การเปิ ดใจ วฒั นธรรม
ภายในชุมชน เครือข่ายสนบั สนุนจากหน่วยงานต่างๆ และการไดร้ ับการยกยอ่ งใหร้ างวลั ผลจากการท่องเที่ยวที่มีต่อ
ผคู้ นในสงั คม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดลอ้ ม

การจดั การองคค์ วามรู้โดยการจดั กิจกรรมการอนุรักษม์ ะหาดเชิงสร้างสรรคเ์ ป็นการทอ่ งเที่ยวแนวใหมซ่ ่ึงมีจุดประสงค์

PROOFS2 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories
ในการแลกเปล่ียนและเรียนรู้การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดซ่ึงกนั และกนั ช่วยใหช้ าวบา้ นตระหนกั ในคุณคา่ ของชุมชน
และยงั ช่วยใหน้ กั ท่องเที่ยวไดพ้ ฒั นาความสามารถในการสร้างสรรคผ์ ลงานดว้ ยตนเอง ประสบการณ์ท่ีไดจ้ ากการ
เรียนรู้สามารถนำ� ไปใชใ้ นชีวิตได้ ชาวบา้ นจะมีการจดั ต้งั เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่ 1 สร้างอาชีพและสร้างรายได้
ใหก้ บั กลุ่ม
ค�ำสำ� คัญ การจดั การองคค์ วามรู้ การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาด กิจกรรมเชิงอนุรักษ์

ABSTRACT
The purpose of this research was to study the management of knowledge of conservation of Mahad herb (Lakoocha)
in Koh Kred community, Pak Kred district, Nonthaburi province. This research began from August 2019 to July
2020. The population was the villagers in Koh Kred community Moo 1 and 7 Pak Kred, Nonthaburi. The group of
sample was 40 villagers who gave the important information and tourists who participated in the activity. It was
qualitative research by document analysis, interview and participative observation the conservation of herb was
the problem of community. The villagers also found that Mahad herb will reduce and disappear in the future. As a
result, they decided to organize the conservation of Lakoocha herb by making herbal soap and herb for health and
beauty as its main conservative and creative activity. In Herbee herbal house, the tourists will walk around hours
and see the demonstration of making herbal soap and herb for health and beauty. Moreover, the purposes were three
subjects: to study the state and problems of knowledge management of conservation of herb, to examine process
and tools and to study the supporting factors concerning knowledge management
It was found that herbal group of Kho Kred Moo 1 had knowledge focusing on the transformation of organic herbal
product, aiming at using knowledge for career advancement, self-health maintenance, group development and all
cycle learning. Furthermore, it is the center of knowledge, distributing, transferring and exchange for internal and
external community. The treats and problems of knowledge sharing: lacking systematic knowledge collecting and
support. The knowledge management process was compounded of analysis knowledge need, knowledge creation and
acquisition, knowledge embodiment, knowledge distribution and transfer, knowledge utilization based on supporting
factors such as group leader, participation, enthusiasm, open-minded, internal community culture, network, support
and reward and the effect of tourism towards villagers, economy, and environment in the community.
Mahad creative conservation is a new direction of conservation in nowadays. The purpose of natural and creative
conservation is to exchange and learn the Mahad conservation of each other. This helps people to aware of their
community values. This also helps tourists to develop their potential and creativity by participating in activity of
conserving by doing. Thus, this experience can be adapted to naturists themselves way of life. Moreover, they have
conserving corporation. The villagers created Herbal Group Moo 1 in order to get the profession and gain their salary.
KEYWORDS: knowledge management, conservation of Mahad herb, conservative activity

สมั มนาวชิ าการพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 3

คำ� น�ำ PROOFS การยกยอ่ งดา้ นการบริหารจดั การดา้ นผลิตและจำ� หน่าย
สมนุ ไพรเพอ่ื สุขภาพและความงาม (ทไ่ี มใ่ ชอ่ าหารและยา)
กระแสของสมุนไพรมะหาดเริ่ มต้นข้ ึนเมื่อประมาณ รับสอนการทำ� น้ำ� ยาอเนกประสงค์ บริการนวดหนา้ ดว้ ย
พ.ศ. 2554 ในช่วงน้ันเกาะเกร็ดประสบภาวะน้ำ� ท่วม สมุนไพร แช่เทา้ ดว้ ยเกลือสะปาและสมุนไพรเพ่ือคลาย
ใหญ่ทำ� ให้ตน้ มะหาดซ่ึงเป็ นพืชสมุนไพรพ้ืนบา้ นของ เสน้ และมีหน่วยงานและองคก์ รต่างๆ เขา้ มาท่องเที่ยวดู
ตำ� บลเกาะเกร็ด อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี จมน้ำ� งานการการแปรรูปสมนุ ไพรอยา่ งตอ่ เน่ือง
ทำ� ใหส้ มุนไพรมะหาดเริ่มลดจำ� นวนลง ทำ� ใหช้ าวบา้ น ผวู้ จิ ยั จึงมีแนวคิดที่จะศึกษากลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนน้ีท่ีมีการ
ดำ� รงชีวิตแบบพอเพียง ชาวบา้ นหันมาเพาะขยายพนั ธุ์ ดำ� เนินการบริหารจดั การท่ีดีในการจดั การองคค์ วามรู้อนั
มะหาดไวข้ าย ใชภ้ ูมิปัญญาท่ีไดร้ ับการถ่ายทอดมาจาก เป็ นเครื่องมือในการฟ้ื นฟูอนุรักษส์ มุนไพรของชุมชน
บรรพบุรุษ และมีการใชส้ มุนไพรมะหาดท่ีมีอยนู่ ำ� มาใช้ โดยนำ� องคค์ วามรู้ท่ีมีอยู่เดิมมาผสมผสานปรับเปล่ียน
ใหเ้ กิดประโยชน์ ในการดำ� เนินชีวติ เร่ือยมา ใหเ้ ขา้ กบั ปัจจุบนั เป็นองคค์ วามรู้ใหม่ มีการแลกเปลี่ยน
ในปี พ.ศ. 2557 นางพชั รพร หะสิตะเวชไดเ้ ขา้ อบรม องคค์ วามรู้อยา่ งต่อเนื่องสม่ำ� เสมอ ส่งผลให้ความรู้ได้
หลกั สูตรการพฒั นาศกั ยภาพการบริหารจดั การวสิ าหกิจ เผยแพร่ขยายและถ่ายทอดออกไปสู่ภายนอกประกอบ
ชุมชน ระหวา่ งวนั ท่ี 28 เมษายนจนถึงวนั ที่ 1 พฤษภาคม กบั การจดั การอนุรักษส์ มุนไพรดว้ ยการจดั กิจกรรมเชิง
พ.ศ. 2557 และไดร้ ับวฒุ ิบตั รหลงั จบการอบรมจากกรม สร้างสรรค์ ใหน้ กั ท่องเท่ียวเดินชมการผลิตสมุนไพรเพอ่ื
ส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ต่อมาได้ สุขภาพและความงาม อบรมการทำ� น้ำ� ยาอเนกประสงค์
รวบรวมสมาชิกกลุ่มสตรีจำ� นวนสิบกวา่ คนจดั ต้งั เป็ นก อบรมนวดหนา้ ดว้ ยสมุนไพร อบรมการแช่เทา้ ดว้ ยเกลือ
ลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่ 1 105/2 หมู่ 1ตำ� บลเกาะเกร็ด สะปาและสมุนไพรเพ่อื คลายเสน้
อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี 11120 จดทะเบียนกลุ่ม
ท่ีกรมพฒั นาธุรกิจการคา้ และไดร้ ับความช่วยเหลือและ วตั ถุประสงค์
การสนบั สนุนจากกองทุนพฒั นาบทบาทสตรี ตำ� บลเกาะ
เกร็ด มีนางพชั รพร หะสิตะเวชดำ� รงตำ� แหน่งประธาน 1. ศึกษาสภาพและปัญหาการจดั การองค์ความรู้ด้าน
กลุ่มวสิ าหกิจชุมชนหมู่ 1 ตำ� บลเกาะเกร็ด นางสาวสุคน การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดในชุมชนเกาะเกร็ด อำ� เภอ
ทิพย์แดงเฟื อง เป็นผชู้ ่วยประชาสมั พนั ธ์ และนางสาวภคั ปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี
จิรา รื่นเอม เป็นสมาชิกรวมท้งั คนอ่ืนๆ 2. ศึกษากระบวนการและเครื่องมือการจดั การองคค์ วาม
การกอ่ ต้งั กลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนหมู่ 1 ตำ� บลเกาะเกร็ด ส่งผล รู้ดา้ นการอนุรักษส์ มุนไพรมะหาด
ใหช้ ีวติ ความเป็นอยขู่ องสมาชิกดีข้นึ มรี ายไดท้ ม่ี นั่ คงและ 3. ศึกษาปัจจยั ท่ีสนบั สนุนการจดั การองคค์ วามรู้ดา้ นการ
สามารถพ่งึ พาตนเองได้จากการพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ืองส่งผล อนุรักษส์ มุนไพรมะหาด
ใหผ้ ลิตภณั ฑส์ บู่สมุนไพรของกลุม่ ไดร้ ับการคดั สรรเป็น 4. ศึกษาผลกระทบจากการจดั การองคค์ วามรู้ดา้ นการ
ผลิตภณั ฑ์ ระดบั สี่ดาว ประเภทสมุนไพรท่ีไม่ใช่อาหาร อนุรักษส์ มุนไพรมะหาดท่ีมีต่อผคู้ นในชุมชน เศรษฐกิจ
ตามโครงการคดั สรรสุดยอดหน่ึงตำ� บล หน่ึงผลิตภณั ฑ์ และส่ิงแวดลอ้ มในชุมชน
(One Product Champion) ของเกาะเกร็ดในปี พ.ศ. 2555
และเป็ นการเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพรของเกาะเกร็ด อุปกรณ์ และวธิ ีการ
รวบรวมความรู้เกี่ยวกบั การแปรรูปสมุนไพร ส่งผลให้
ผลิตภณั ฑส์ มนุ ไพรของกลมุ่ มีช่ือเสียงเป็นท่ีรู้จกั ปัจจบุ นั 1. พืน้ ทแี่ ละระยะเวลาการดำ� เนินการวจิ ยั
เป็ นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่ 1 ตำ� บลเกาะเกร็ด ที่ไดร้ ับ พ้ืนที่ดำ� เนินการวิจยั คือ ชุมชนเกาะเกร็ดหมู่ 1 และ 7
อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี ระยะเวลาต้งั แต่ตุลาคม

4 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

พ.ศ. 2561 ถึงกนั ยายน พ.ศ. 2562 รวมเวลาท้งั สิ้น 12 ใหญ่ สูง 30-40 เมตร ทรงพมุ่ กวา้ ง ใบดกหนาร่มร่ืน กิ่ง
เดือน อ่อนมีขนสีน้ำ� ตาลปกคลุม เปลือกตน้ สีน้ำ� ตาลอมดำ� ตน้
2. ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง คือ ท่ีมีอายมุ ากจะตกสะเกด็ เป็นแผน่ ๆ ดอกมะหาดออกตาม
ประชากร คือ ชุมชนเกาะเกร็ดหมู่ 1 และ 7 ปากเกร็ด ซอกก่ิง มีสีขาวอมเหลืองเป็นช่อส้นั ๆ เลก็ ๆ แยกเพศอยู่
นนทบุรี ตำ� บลเกาะเกร็ด อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี ในตน้ เดียวกนั มะหาดออกดอกเดือนมีนาคมถึงเดือน
กลุ่มตวั อยา่ ง ผใู้ หข้ อ้ มูลหลกั (Key Informant) คือ ชาว มิถุนายน ติดผลปลายเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม
บา้ นและนกั ท่องเที่ยวที่เขา้ ร่วมกิจกรรมชุมชน 40 คน ผลดิบสีเขียว ทรงกลมรี ผิวขรุขระ ผลสุกมีสีเหลืองอม
3. เครื่องมือที่ใชใ้ นการวจิ ยั แดงมีรสเปร้ียวอมหวาน (สมิทธิชยั , 2563)
แบบสัมภาษณ์ชาวบา้ นในชุมชนและนกั ท่องเท่ียว และ ประโยชนข์ องมะหาด แกน่ สมนุ ไพรมะหาดใชเ้ ป็นยาถา่ ย
บนั ทึกภาคสนามของนกั วจิ ยั ท่ีไดร้ ับรู้ระหวา่ งการสงั เกต พยาธิตวั ตืด พยาธิไสเ้ ดือน นำ� แก่นมะหาดมาสบั เป็นชิ้น
การสังเกต ไดแ้ ก่ กิจกรรมการอนุรักษ์ พฤติกรรมและ เลก็ ๆ ตม้ ใหเ้ ดือด ชอ้ นฟองออก กรองดว้ ยผา้ ขาวบาง รอ
ปฏิกิริยาท่ีเกิดข้ึน เวลา บุคคล สภาพแวดลอ้ ม ใหส้ ะเด็ดน้ำ� นำ� ไปยา่ งไฟอ่อนๆ จะไดก้ อ้ นผงสีเหลือง
4. การออกแบบการวจิ ยั และการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เรียกวา่ “บวกหาด” บดบวกหาดเป็นผง ปริมาณ 3-4 ชอ้ น
การออกแบบการวิจยั และการเก็บรวบรวมขอ้ มูล การ ชา ผสมน้ำ� ตม้ สุก ปล่อยใหเ้ ยน็ เติมมะหาด 2-3 หยด ด่ืม
วจิ ยั น้ีเป็นการศึกษาการอนุรักษท์ รัพยากรทอ้ งถ่ินชุมชน ก่อนอาหารเชา้ ตามดว้ ยดีเกลือ ถา่ ยพยาธิไดด้ ี หา้ มด่ืมกบั
หลายประการ ปัญหาและแนวทางแกไ้ ข ดงั น้ันผูว้ ิจยั น้ำ� ร้อน เพราะจำ� ทำ� ให้คลื่นไส้อาเจียน นอกจากน้ีแก่น
จึงออกแบบการวิจยั เชิงคุณภาพ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล มะหาดใชท้ ำ� ลูกโปงลาง ทำ� ให้เสียงใสทุม้ ดงั กระวาน
ทำ� ไดโ้ ดยใชว้ ธิ ีการสงั เกตจากการเขา้ ไปในชุมชนท่ีศึกษา ไพเราะเสนาะหู (สมิทธิชยั , 2563)
ประกอบกบั การสนทนาพดู คยุ และสมั ภาษณ์อยา่ งไมเ่ ป็น PROOFS
ทางการ

5. การวเิ คราะห์และแปรผลขอ้ มูล

การวเิ คราะห์ขอ้ มูลวจิ ยั เชิงคุณภาพ คือ ขอ้ มูลที่รวบรวม Figure 1. Lakoocha and Honey Herbal Soap.
ไดใ้ ชว้ ธิ ีการวเิ คราะห์เน้ือหา (Content Analysis) โดยนำ� ผลทางเภสัชกรรม สารสกัดจากแก่นมะหาดมีสารอ
ขอ้ มูลมาจำ� แนกและสรุปประเดน็ ใหเ้ ป็นหมวดหมู่ และ อสสิเรสเวอร์ทารอล (Oxyresvertarol) ยบั ย้งั การสร้าง
การวเิ คราะห์นำ� เสนอตามวตั ถุประสงคก์ ารวจิ ยั แต่ละขอ้ เอนไซมไ์ ทโรสิเนส (Tyrosinase) ลดการสร้างสารเม
ลามิน ลดความเขม้ ของเซลลเ์ ม็ดสีใตผ้ ิวหนงั ทำ� ให้ผิว
ผลการศึกษา ขาว ผงมะหาดใชท้ ำ� ยาขดั หนา้ ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ� (สมิ
ทธิชยั , 2563) ใชท้ ำ� สบู่มะหาดผสมน้ำ� ผ้ึง (Lakoocha
1. สภาพและความตอ้ งการปัญหาการจดั การองคค์ วาม & Honey Herbal Soap) มีสรรพคุณทำ� ใหผ้ ิวหนา้ เนียน
รู้ดา้ นการอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดในชุมชนเกาะเกร็ด สวยอ่อนเยาว์ มะหาดผสมน้ำ� ผ้ึงช่วยลดการอกั เสบ ลด
อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี
ผลการวิจยั พบว่า มะหาด (Lakoocha) พืชสมุนไพรที่
ชุมชนเกาะเกร็ดอนุรักษไ์ ว้ เป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดกลางถึง

สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 5

สิว และเพิ่มความนุ่มนวลชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า แก่น หน่ึงผลิตภณั ฑ์ (One Product Champion) ของเกาะเกร็ด
มะหาดช่วยทำ� ให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ทบั ทิมช่วย ในปี พ.ศ. 2555 และเป็นการเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพร
ต่อตา้ นอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอยใหเ้ ลือนจางลง กระชบั รู ของเกาะเกร็ด รวบรวมความรู้เก่ียวกบั การผลิตสมุนไพร
ขมุ ขน ส่วนผสมสำ� คญั คือ น้ำ� ผ้ึง แก่นมะหาด วา่ นหาง ส่งผลให้ผลิตภณั ฑส์ มุนไพรเพ่ือสุขภาพและความงาม
จระเข้ ทบั ทิม และสมุนไพรอื่น ๆ 8 ชนิด (แคทรียา ไฉ ของกลุ่มมีชื่อเสียงเป็นท่ีรู้จกั ปัจจุบนั เป็นกลุ่มวิสาหกิจ
ยากุล. เจา้ ของสมุนไพรบา้ นยา่ สาเกาะเกร็ด 77/3 หมู่ 1 ชุมชนหมู่ 1 ตำ� บลเกาะเกร็ด ท่ีไดร้ ับการยกยอ่ งดา้ นการ
ตำ� บลเกาะเกร็ด อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี 11120. บริหารจดั การดา้ นสมุนไพรเพ่ือสุขภาพและความงาม
สมั ภาษณ์) (Figure 1) และมีหน่วยงานและองคก์ รต่างๆ เขา้ มาท่องเท่ียวดูงาน
นอกจากน้ีใชท้ ำ� สบสู่ มนุ ไพรมะหาดผสมมะขาม (Lakoo- สมุนไพรเพอ่ื สุขภาพและความงามอยา่ งต่อเนื่อง
cha & Tamaring Herbal Soap) ทำ� ใหผ้ วิ กายสะอาด ขาว จะเห็นได้ว่ากลุ่มตระหนักถึงสรรพคุณที่ได้รับจาก
เนียน กระจ่างใส สรรพคุณ ดว้ ยคุณสมบตั ิจากมะหาด สมุนไพรท่ีส่งผลดีต่อสุขภาพและความงามของคนใน
มะขาม และมะเฟื อง ผสมกนั ทำ� ใหผ้ วิ กายสดช่ืน เนียน ชุมชน จึงมีแนวคิดที่จะน�ำองค์ความรู้ด้านสมุนไพร
เรียบอ่อนเยาว์ ขจดั ส่ิงสกปรก และปรับสีผวิ ใหก้ ระจ่าง เพื่อสุขภาพและความงามซ่ึงเป็ นภูมิปัญญาด้งั เดิมของ
ใสย่ิงข้ึน ช่วยลดผดผ่ืนคนั แก้อาการผ่ืนแดง ภูมิแพ้ ชุมชนมาใช้ประโยชน์ และใช้ในการประกอบอาชีพ
ขจดั จุดด่างดำ� กระชบั รูขมุ ขน ผิวละเอียดนุ่มนวล ตาม ประกอบกบั หน่วยงานต่างๆ สนบั สนุนใหเ้ กิดการก่อต้งั
ธรรมชาติ ส่วนประกอบส�ำคญั แก่นมะหาด มะขาม กลุ่มข้ึน มีการใหค้ วามรู้ต่างๆ สนบั สนุนงบประมาณใน
มะเฟื อง ตำ� ลึง บวั บก และสมุนไพรอ่ืน ๆ (แคทรียา ไฉ การดำ� เนินงาน มีเป้าหมายในการดำ� เนินงาน คือ การนำ�
ยากุล. เจา้ ของสมุนไพรบา้ นยา่ สาเกาะเกร็ด 77/3 หมู่ 1 องคค์ วามรู้ดา้ นสมุนไพรมาใชเ้ พ่ือการประกอบอาชีพ
ตำ� บลเกาะเกร็ด อำ� เภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี 11120. ผลิตและจำ� หน่ายสมุนไพรเพ่ือสุขภาพและความงาม (ท่ี
สมั ภาษณ์) (Figure 2) ไม่ใช่อาหารและยา) รับสอนการทำ� น้ำ� ยาอเนกประสงค์
PROOFS บริการนวดหนา้ ดว้ ยสมนุ ไพร แช่เทา้ ดว้ ยเกลือสะปาและ
สมุนไพรเพ่ือคลายเส้น ผลิตผลิตภณั ฑท์ ี่มีคุณภาพ เพ่ือ
ดูแลสุขภาพและความงามแบบพ่ึงพาตนเอง มีเป้าหมาย
ในการคืนองคค์ วามรู้สู่สังคม ให้ความรู้ดา้ นสมุนไพร
คงอยคู่ ู่เกาะเกร็ด

Figure 2. Lakoocha and Tamaring Herbal Soap. ส่วนสมาชิกกลุ่มไดผ้ ่านกระบวนการเรียนรู้มาตลอด
การก่อต้งั กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่ 1 ตำ� บลเกาะเกร็ด เป็นระยะเวลา 7 ปี เกิดความเชี่ยวชาญในการดำ� เนินงาน
ส่งผลให้ชีวิตความเป็ นอยู่ของสมาชิกดีข้ึน มีรายไดท้ ่ี ปัจจุบนั กลุ่มเป็ นแหล่งเรียนรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพและ
มน่ั คงและสามารถพ่ึงพาตนเองได้ จากการพฒั นาอยา่ ง ความงามของชุมชน นบั วา่ เป็นแหลง่ เรียนรู้ดา้ นสมนุ ไพร
ต่อเน่ืองส่งผลใหผ้ ลิตภณั ฑส์ บู่สมุนไพรของกล่มไดร้ ับ ของเกาะเกร็ด และเป็นศูนยก์ ลางในการถ่ายทอดเผยแพร่
การคดั สรรเป็นผลิตภณั ฑ์ ระดบั สี่ดาว ประเภทสมุนไพร องคค์ วามรู้ดา้ นสมุนไพรเพอ่ื สุขภาพและความงามใหแ้ ก่
ที่ไม่ใช่อาหาร ตามโครงการคดั สรรสุดยอดหน่ึงตำ� บล คนในชุมชนและคนอ่ืนนอกชุมชนที่สนใจ
อยา่ งไรกต็ ามกลุ่มกย็ งั มีปัญหาและอุปสรรคที่สำ� คญั คือ
การรวบรวมจดั เกบ็ องคค์ วามรู้และสืบทอดความรู้ต่อให้
เยาวชนรุ่นต่อไป มีการแปลงองคค์ วามรู้ท่ีฝังลึกใหอ้ อก

6 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

มาในรูปแบบองคค์ วามรู้ที่ชดั เจนใหม้ ากพอและจดั เก็บ PROOFSองคค์ วามรู้ใหม่ ผา่ นการเรียนรู้และปฏิบตั ิงาน สนทนา
ใหเ้ ป็ นระบบมากกวา่ เดิม ในประเด็นน้ีผไู้ หข้ อ้ มูลหลกั แลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั เพ่ือนบา้ น ลองผดิ ลองถูกจนไดว้ ธิ ี
ไดช้ ้ีให้เห็นว่า ปัญหาดา้ นการรวบรวมและจดั เก็บองค์ การดำ� เนินการที่เหมาะสม
ความรู้ให้มีการสืบทอดต่อไปยงั รุ่นลูกหลานเป็ นเรื่อง 2.3 กระบวนการรวบรวมจดั เกบ็ องคค์ วามรู้ที่ชดั เจน
สำ� คญั ของกลุ่มท่ีจะตอ้ งเร่งดำ� เนินการ โดยกล่าววา่ “องค์ ชาวบา้ นมีกระบวนการรวบรวมขอ้ มูลจดั ทำ� เป็นคูม่ ือการ
ความรู้ท่ีหลากหลายท่ีไมม่ ีการจดบนั ทึก ตอ่ ไปตอ้ งมีการ ดำ� เนินงาน สมุดจดบนั ทึก รายงานการศึกษาคน้ ควา้ สาร
บนั ทึกและมีการถอดความรู้น้นั นิพนธ์ วทิ ยานิพนธ์ของนกั ศึกษาที่เขา้ มาทำ� วจิ ยั เพ่ือการ
2. กระบวนการและเครื่องมือการจดั การองค์ความรู้ของ เรียนรู้ เทปบนั ทึกรายการสารคดีโทรทศั น์ ชาวบา้ นได้
ชุมชน จดั เกบ็ รวบรวมไวท้ ี่แหล่งเรียนรู้ของชุมชน
2.1 กระบวนการวเิ คราะห์ความตอ้ งการองคค์ วามรู้ 2.4 กระบวนการเผยแพร่และถ่ายทอดองคค์ วามรู้
พบว่าต้งั แต่มีการก่อต้งั กลุ่มจนถึงปัจจุบนั ชาวบา้ นมี ชาวบา้ นมีการเผยแพร่และถ่ายทอดองคค์ วามรู้ 1) ภายใน
ความตอ้ งการองคค์ วามรู้ดา้ นการพฒั นาผลิตภณั ฑช์ ุมชน ครอบครัวจากคนรุ่นหน่ึงไปยงั คนอีกรุ่นหน่ึง การสาธิต
ไดแ้ ก่ การจดั การสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงามที่มี สอนงาน สนทนาพดู คุยกนั 2) เผยแพร่และถ่ายทอดให้
คุณภาพ วธิ ีจดั จำ� หน่ายสินคา้ นอกจากน้ีชาวบา้ นตอ้ งการ เพอื่ นบา้ นผา่ นการสนทนาพดู คุยกนั ในชีวติ ประจำ� วนั 3)
องค์ความรู้ที่เกี่ยวกบั บทบาทและภารกิจที่สนับสนุน เผยแพร่และถ่ายทอดใหก้ บั คนนอกชุมชนท่ีสนใจ ไดแ้ ก่
การเป็นแหล่งเรียนรู้ดา้ นสมุนไพรเพ่ือสุขภาพและความ นกั ศึกษาฝึ กงานจากสถานศึกษาต่างๆ ใชเ้ ครื่องมือสอน
งาม รับสอนการทำ� น้ำ� ยาอเนกประสงค์ บริการนวดหนา้ เลา่ เรื่องบรรยายเป็นพเี่ ล้ียงจดั เวทีอบรมแลกเปลี่ยนความ
ดว้ ยสมุนไพร แช่เทา้ ดว้ ยเกลือสะปาและสมุนไพรเพื่อ รู้ 4) การเผยแพร่และถ่ายทอดองคค์ วามรู้โดยบนั ทึกใน
คลายเส้น ทกั ษะการเป็นวทิ ยากรบรรยายถ่ายทอดความ รูปแบบที่ชดั เจน ไดแ้ ก่ นกั ศึกษาฝึ กงานจดบนั ทึกความ
รู้ โดยใชก้ ารอบรมเป็ นเครื่องมือในการวิเคราะห์ความ รู้ในคู่มือปฏิบตั ิงาน บนั ทึกปัจจยั การผลิต เขียนบทความ
ตอ้ งการองคค์ วามรู้ ท้งั การอบรมภายในกลุ่มและอบรม ถ่ายทำ� คลิปวิดีโอในเวบ็ ไซต์ยูทูป (Youtube) รายการ
ร่วมกบั เจา้ หนา้ ท่ีจากหน่วยงานต่างๆ ท่ีเขา้ มาสนบั สนุน โทรทศั น์ 5) ถ่ายทอดผ่านส่ือส่ิงพิมพ์ หนังสือพิมพ์
เพ่ือวิเคราะห์องคค์ วามรู้ท่ียงั ไม่มีและมีความจำ� เป็ นต่อ โทรศพั ท์ อินเตอร์เน็ต เวป็ ไซต์ แฟนเพจ ไลน์ ไอจี
การดำ� เนินงาน 2.5 กระบวนการประยกุ ตใ์ ชอ้ งคค์ วามรู้
2.2 กระบวนการสร้างและแสวงหาความรู้ใหม่ ชาวบ้านมีการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ 1) เพื่อพฒั นา
ชาวบา้ นในชุมชนมีความรู้พ้ืนฐานในเรื่องของสมุนไพร ตน ประกอบอาชีพ ดูแลสุขภาพผิวพรรณของตนเอง
เป็นความรู้ท่ีไดร้ ับการถา่ ยทอดมาจากบรรพบรุ ุษ อยา่ งไร และสมาชิกในครอบครัว 2) เพ่ือพฒั นากลุ่มของตนเอง
ก็ตามองค์ความรู้เดิมยงั ไม่เพียงพอ ฉะน้ันชาวบ้าน สมาชิกในกลุ่มน�ำองค์ความรู้มาพัฒนาสร้างสรรค์
จึงแสวงหาความรู้ท่ีจำ� เป็ นจากที่ต่างๆ ท้งั ภายในและ ผลิตภณั ฑ์ชุมชน อีกท้งั ยงั นำ� องค์ความรู้มาใช้ในการ
ภายนอกชุมชน สอบถามปราชญช์ ุมชน ใชว้ ธิ ีเขา้ ร่วมฟัง ดำ� เนินการเพื่อเป็ นแหล่งเรียนรู้ด้านสมุนไพร ใช้แก้
การบรรยายแนะนำ� จากวทิ ยากรของหน่วยงานตา่ งๆ ท่ีเขา้ ปัญหาต่างๆ ของกลุ่ม
มาใหค้ วามรู้ภายในชุมชน บา้ งกไ็ ปดูงานนอกชุมชนตาม
สถาบนั การศึกษาต่างๆ บา้ งกค็ น้ ควา้ จากหนงั สือ เอกสาร
ตำ� รับตำ� รา บทความ บา้ งกศ็ ึกษาจากรายการสารคดีที่แพร่
ภาพทางโทรทศั น์ วทิ ยุ ผสมผสานองคค์ วามรู้เดิมเขา้ กบั

สมั มนาวชิ าการพพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 7

3. ปัจจยั ทสี่ นับสนุนให้คนในชุมชนเกดิ กระบวนการ PROOFS ที่สอง วฒั นธรรมการเรียนรู้ สมาชิกกลมุ่ มกี ารแลกเปลย่ี น
จดั การองค์ความรู้ เรียนรู้กนั อยา่ งสม่ำ� เสมอต้งั แต่มีการก่อต้งั กลุ่ม ท้งั การ
3.1 ผนู้ ำ� กลุ่ม มี 1 คน คือ เรียนรู้ดว้ ยตนเอง และการเรียนรู้จากผอู้ ื่น
ประธาน ที่ปรึกษาของกลุ่มซ่ึงเป็ นผกู้ ่อต้งั กลุ่มคือ นาง 3.6 เครือข่ายชุมชน
พชั รพร หะสิตะเวช ไดร้ วบรวมสมาชิกกลุ่มสตรีจำ� นวน กลุ่มต่างๆ เขา้ มาร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้ ศึกษาดูงานเพื่อ
สิบกวา่ คนจดั ต้งั เป็นกลุม่ วสิ าหกิจชุมชนหมู่ 1 ตำ� บลเกาะ เป็ นตน้ แบบในการนำ� กลบั ไปพฒั นาชุมชนของตนเอง
เกร็ดและเป็นผชู้ กั ชวนใหค้ นในชุมชนนำ� ภูมิปัญญาดา้ น และยงั เป็ นเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง
สมุนไพรของชุมชนกลบั มาฟ้ื นฟแู ละใชใ้ นการประกอบ กลมุ่ ในฐานการเรียนรู้ภมู ิปัญญาเพอื่ ถา่ ยทอดและเผยแพร่
อาชีพ สมาชิกกลุ่มและผูค้ นในชุมชนให้ความเคารพ ความรู้ในโครงการต่าง ๆ
ศรัทธา เป็ นผูม้ ีบทบาทส�ำคญั ในการวางรากฐานของ 3.7 การสนบั สนุนจากหน่วยงานภายนอก
กลุ่ม มีความสามารถในดา้ นการแปรรูปสมุนไพร รวม การก่อต้งั กลุ่มวสิ าหกิจประสบความสำ� เร็จ ส่วนหน่ึงมา
ท้งั ประชาสมั พนั ธ์กลุ่มใหเ้ ป็นที่รู้จกั มีบทบาทเป็นผนู้ ำ� จากการสนบั สนุนของหน่วยงานซ่ึงเขา้ มาใหค้ ำ� แนะนำ�
3.2 การมีส่วนร่วม ใหค้ วามรู้และคอยช่วยเหลือในดา้ นต่างๆ ท้งั องคก์ รภาค
สมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างท่ีจดั ข้ึน เช่น การ รัฐและเอกชน
ประชุมวางแผน การแปรรูปสมุนไพร การจดั กิจกรรม 3.8 การไดร้ ับการยกยอ่ งใหร้ างวลั
ทอ่ งเท่ียวการออกร้านในงานโอทอป ส่งผลใหก้ ารจดั การ กลมุ่ ไดร้ ับคดั สรรใหเ้ ป็นผลิตภณั ฑส์ ุดยอดโอทอประดบั
องค์ความรู้ในดา้ นสมุนไพรสามารถขบั เคลื่อนไปได้ ส่ีดาวของเกาะเกร็ด การไดร้ ับรางวลั เป็ นการกระตุน้
อยา่ งมีประสิทธิภาพ ให้ชาวบ้านเกิดความภาคภูมิใจ ส่งผลให้เกิดความ
3.3 ความกระตือรือร้น กระตือรือร้นในการพฒั นาองคค์ วามรู้ใหเ้ พมิ่ มากข้ึน เพอื่
ชาวบา้ นมีความมุ่งมน่ั ท่ีจะพฒั นาตนเอง และพฒั นากลุ่ม เสริมสร้างความเขม้ แขง็ ของชุมชน
ให้เขม้ แข็ง มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ สนใจ 4. ผลกระทบจากการจดั การองคค์ วามรู้ดา้ นการอนุรักษ์
แสวงหาความรู้ใหม่ๆ อยเู่ สมอ สมุนไพรมะหาดที่มีต่อผคู้ นในชุมชน เศรษฐกิจ และส่ิง
3.4 การเปิ ดใจ แวดลอ้ มในชุมชน ผลการวจิ ยั พบวา่

ชาวบ้านเปิ ดใจท่ีจะเรี ยนรู้ มีความกล้าหาญที่จะ 4.1 ผลกระทบจากการจดั การองคค์ วามรู้ในการอนุรักษ์
เปลี่ยนแปลงตนเอง พร้อมกบั เปิ ดใจให้ความรู้กบั ผูอ้ ่ืน สมุนไพรท่ีมีต่อชาวบา้ นในทอ้ งถิ่น ชาวบา้ นไดเ้ รียนรู้
ไม่ห่วงวชิ า ทำ� ใหก้ ารถ่ายทอดแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบ และมีประสบการณ์เกี่ยวกบั กระบวนการและข้นั ตอน
ผลสำ� เร็จ การวิเคราะห์ปัญหาและการระบุเหตุของปัญหาอย่าง
3.5 วฒั นธรรมภายในชุมชน เป็ นระบบและครอบคลุมทุกดา้ นดว้ ยตนเอง อีกท้งั ชาว
วฒั นธรรมภายในชุมชนแบง่ เป็นสองลกั ษณะคอื ลกั ษณะ บา้ นผลิตสินคา้ ออกมาแลว้ ก็สามารถนำ� ผลิตภณั ฑ์มา
แรก วฒั นธรรมความไวเ้ น้ือเชื่อใจกนั ชาวบา้ นส่วนใหญ่ วางขายที่ร้านคา้ ของชุมชนได้นอกจากน้ีเดก็ และเยาวชน
เป็นเครือญาติกนั จึงมีความไวเ้ น้ือเชื่อใจกนั สูง สามารถ ในชุมชนใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ เรียนรู้วิชาการ
พดู คุยสนทนาถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความรู้กนั ได้ ลกั ษณะ แปรรูปสมุนไพรและหารายได้เสริมเพ่ือเป็ นทุนการ
ศึกษา ชาวบา้ นมีความสามคั คีผา่ นการพดู คุยแลกเปล่ียน

8 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

ความรู้ซ่ึงกนั และกนั มีความสามารถในดา้ นการบริหาร PROOFSข้ึนชื่อ ดึงดูดใหน้ กั ท่องเที่ยวท่ีมาเยอื นทอ้ งถ่ินเกาะเกร็ด
จดั การ สะทอ้ นใหเ้ ห็นภาพความเขม็ แขง็ ของชุมชนพ่ึง อยากซ้ือกลบั บา้ น นอกจากน้ีชาวบา้ นยงั ช่วยกนั หาช่อง
ตนเอง ดว้ ยการระดมความคิดเห็น ร่วมกนั คิด ร่วมกนั ทางจดั จำ� หน่ายสินคา้ เช่น ตามตลาดทวั่ ไป ส่งผลใหช้ าว
ตดั สินใจ ร่วมกนั แกไ้ ขปัญหาที่เกิดข้ึนในชุมชน อาศยั บา้ นมีรายไดท้ ่ีต่อเน่ือง ชาวบา้ นมีองคค์ วามรู้การจดั การ
หลกั ประชาธิปไตยเป็นแกนกลาง แลว้ ยดึ หลกั การมีส่วน ที่มีประสิทธิภาพ ทำ� ใหย้ กระดบั คุณภาพชีวิตใหด้ ีข้ึน มี
ร่วมของชาวบา้ นมาเป็นจุดแขง็ ต่อยอดการบริหารตนเอง รายไดเ้ พ่ิมข้ึนอย่างยง่ั ยืน นอกจากน้ี เพื่อแกไ้ ขปัญหา
ในพ้ืนท่ี ที่ชาวบา้ นไม่มีหนา้ ร้านขายสินคา้ ประจำ� จึงไดค้ ิดช่อง
ผลกระทบจากการจัดการองค์ความรู้ในการอนุรักษ์ ทางการจดั จำ� หน่ายสินคา้ ทางโทรศพั ทแ์ ละทางออนไลน์
สมุนไพรที่มีต่อนกั ท่องเท่ียวจะไดส้ ัมผสั กบั ธรรมชาติ จนประสบความสำ� เร็จ
ท้องถิ่นที่เป็ นเอกลกั ษณ์ของชุมชน ผ่านการเขา้ ร่วม 4.3 ผลกระทบจากการจดั การองคค์ วามรู้ในการอนุรักษ์
กิจกรรมเรียนรู้อย่างไม่เป็ นทางการ ชาวบา้ นมีความ สมุนไพรท่ีมีต่อส่ิงแวดลอ้ ม
กระตื อรื อร้ นท่ี จะถ่ายทอดประสบการณ์ แก่ นักท่อง ชาวบา้ นเลือกผลิตภณั ฑ์จากธรรมชาติ เพื่อลดการปน
เที่ยวในบรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็ นกันเอง นักท่อง เป้ื อนของสารเคมีจากสารซักลา้ ง ซ่ึงเป็ นการลดความ
เท่ียวรู้สึกสนุกสนานมีโอกาสได้ลงมือปฏิบตั ิทำ� จริง เขม้ ขน้ ของสารปนเป้ื อนในน้ำ� ทิ้งชุมชน สอดคลอ้ งและ
และไดม้ ีปฏิสัมพนั ธ์กบั ชาวบา้ น กิจกรรมสร้างสรรค์ สมั พนั ธ์กบั การพฒั นาชุมชนท่ีเป็นมิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม
ประสบการณ์จดั ข้ึนเป็ นแบบกลุ่มท่ีบา้ นและสถานที่
ทำ� งานของชาวบา้ น นกั ท่องเท่ียวไดม้ ีโอกาสสังเกตว่า วจิ ารณ์
ชาวบา้ นมีความเป็นอยอู่ ยา่ งไร นกั ท่องเท่ียวไดม้ ีโอกาส
คน้ หาความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรคภ์ ายในตวั เอง การถา่ ยทอด 1. สภาพปัญหาและแนวทางแกไ้ ขในการจดั องคค์ วามรู้
องคค์ วามรู้มลี กั ษณะไดท้ ดลองเรียนและไดใ้ กลช้ ิดกบั คน การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดในชุมชนเกาะเกร็ด อำ� เภอ
ทอ้ งถ่ินมากข้ึน นกั ท่องเที่ยวไดม้ ีโอกาสพูดคุยสนทนา ปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี ผลการวิจยั พบวา่ การท่ีกลุ่ม
กบั ชาวบา้ นในเร่ืองอ่ืนๆ เป็นความเพลิดเพลินนอกเหนือ วิสาหกิจชุมชนหมู่ 1 ตำ� บลเกาะเกร็ด มีชื่อเสียงและได้
จากกิจกรรมที่ลงมือปฏิบตั ิและเป็นการอนุรักษท์ ่ีมีความ รับการยอมรับ สมาชิกกลมุ่ สามารถพ่งึ ตนเองไดม้ าตลอด
ยงั่ ยนื เพราะใชส้ ถานที่ที่มีอยแู่ ลว้ คือ สวนหรือบา้ นของ ระยะเวลา 7 ปี แสดงใหเ้ ห็นวา่ การบริหารจดั การประสบ
ชาวบา้ นในชุมชน ความสำ� เร็จ รวมถึงมีการจดั องคค์ วามรู้ท่ีดี ดงั ที่วิจารณ์
4.2 ผลกระทบจากการจดั การองคค์ วามรู้ในการอนุรักษ์ พานิช ไดเ้ ขยี นไวว้ า่ หวั ใจสำ� คญั ของการจดั การองคค์ วาม
สมุนไพรที่มีต่อเศรษฐกิจ ชาวบา้ นในชุมชนมีการรวม รู้ ตอ้ งมีการลงมือปฏิบตั ิ มีการจดั การองคค์ วามรู้ผา่ นการ
ตวั กนั จดั ต้งั เป็นกลุ่มวสิ าหกิจชุมชนหมู่ 1 เป็นการสร้าง ใชง้ านจริง เป็นการแลกเปล่ียนองคค์ วามรู้ของชาวบา้ น
งาน สร้างเงิน ทำ� ให้ชุมชนมีอาชีพหลกั และมีรายได้ ในชุมชน โดยคำ� นึงถึงความเป็ นอยทู่ ี่ดีของชาวบา้ นใน
จุนเจือครอบครัวเดือนละหมื่นกวา่ บาท ความใส่ใจในทกุ ชุมชน (วจิ ารณ์, 2548)
รายละเอียด ประกอบกบั การคิดคน้ ผลิตภณั ฑใ์ หม้ ีความ ผลที่ได้จากการจัดการความรู้ของชุมชน เกิดระบบ
หลากหลาย ยกระดบั ผลิตภณั ฑช์ ุมชุมชนให้มีความน่า เศรษฐกิจแบบพอเพียง มุ่งเนน้ ความเขม้ แขง็ ของชุมชน
สนใจ และการออกแบบบรรจุภณั ฑใ์ ห้มีความทนั สมยั และมีการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื (สุภาพร, 2548)
การบริการ รวมท้งั การใชว้ สั ดุบรรจุภณั ฑ์ทำ� ให้สินคา้ จะเห็นได้ว่ากลุ่มตระหนักถึงสรรพคุณท่ีได้รับจาก
ชุมชนได้รับการคดั สรรให้เป็ นสุดยอดโอทอปส่ีดาว สมุนไพรที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของคนในชุมชน จึงมี
(One Product Champion) และกลายเป็ นสินคา้ ที่ระลึก แนวคดิ ท่ีจะนำ� องคค์ วามรู้ดา้ นสมนุ ไพรซ่ึงเป็นภมู ิปัญญา

สมั มนาวชิ าการพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 9

ด้งั เดิมของชุมชนมาใชป้ ระโยชน์ และใชใ้ นการประกอบ PROOFS ช่องทางตา่ งๆ ท้งั ส่ือสิ่งพมิ พ์อนิ เตอร์เนต็ ทำ� ใหอ้ งคค์ วาม
อาชีพ ประกอบกบั หน่วยงานต่างๆ สนับสนุนให้เกิด รู้ดา้ นการอนุรักษส์ มุนไพรแพร่กระจายเป็นวงกวา้ งอยา่ ง
การก่อต้งั กลุ่มข้ึน มีการให้ความรู้ต่างๆ สนบั สนุนงบ ทว่ั ถึง สอดคลอ้ งกบั ผลงานวจิ ยั ของ ธิดารัตน์ (2556) พบ
ประมาณในการดำ� เนินงาน และเป็นตลาดในการแปรรูป วา่ ชุมชนมีการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ใหก้ บั ผคู้ นท้งั ภายใน
วตั ถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ มีเป้าหมายในการดำ� เนิน และภายนอกชุมชน ด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ บรรยาย
งาน คือ การนำ� องคค์ วามรู้ดา้ นการอนุรักษส์ มุนไพรมา สาธิต ทดลอง สนทนาแลกเปลี่ยน พร้อมท้งั เผยแพร่องค์
ใชเ้ พอื่ การประกอบอาชีพผลิตผลิตภณั ฑท์ ี่มีคุณภาพ เพอ่ื ความรู้ผา่ นช่องทางส่ือสารต่าง ๆ โทรทศั น์ หนงั สือพมิ พ์
ดูแลสุขภาพแบบพ่ึงพาตนเอง มีเป้าหมายในการคืนองค์ อินเตอร์เน็ต
ความรู้สู่สังคม ใหค้ วามรู้ดา้ นการการแปรรูปสมุนไพร 3. ปัจจยั สำ� คญั ในการสนบั สนุนกระบวนการจดั การองค์
คงอยคู่ ู่เกาะเกร็ด ความรู้ของชุมชนเกาะเกร็ด คือ
ส่วนสมาชิกกลุ่มไดผ้ ่านกระบวนการเรียนรู้มาตลอด ผนู้ ำ� กลุ่มเป็นที่เคารพรัก ศรัทธา และสร้างความเช่ือมน่ั
เป็นระยะเวลา 7 ปี เกิดความเช่ียวชาญในการดำ� เนินงาน ใหก้ บั สมาชิกกลุ่ม สมาชิกมีส่วนร่วมในการทำ� กิจกรรม
ปัจจุบนั กลุ่มเป็ นแหล่งเรียนรู้การแปรรูปสมุนไพรของ ตา่ ง ๆ มีความกระตือรือร้น เปิ ดใจยอมรับสิ่งใหมๆ่ ส่งผล
ชุมชน นับว่าเป็ นแหล่งเรียนรู้ดา้ นสมุนไพรของเกาะ ใหก้ ารจดั การองคค์ วามรู้สามารถขบั เคลื่อนไปไดอ้ ยา่ งมี
เกร็ด และเป็ นศูนยก์ ลางในการถ่ายทอดเผยแพร่องค์ ประสิทธิภาพสอดคลอ้ งกบั แนวความคิดของวจิ ารณ์ พา
ความรู้ดา้ นสมุนไพรใหแ้ ก่คนในชุมชนและคนอื่นนอก นิชที่กล่าวว่า ปัจจยั สำ� คญั ที่สุดต่อความสำ� เร็จของการ
ชุมชนที่สนใจ จดั องคค์ วามรู้ คือ ผนู้ ำ� ซ่ึงตอ้ งเห็นความสำ� คญั ของการ
อยา่ งไรกต็ ามกลุ่มกย็ งั มีปัญหาและอุปสรรคท่ีสำ� คญั คือ จดั การองคค์ วามรู้และใหก้ ารสนบั สนุนอยา่ งจริงจงั และ
ขาดการรวบรวมจดั เก็บองคค์ วามรู้และสืบทอด มีการ ต่อเน่ือง (วจิ ารณ์, 2548)
แปลงองคค์ วามรู้ที่ฝังลึกใหอ้ อกมาในรูปแบบองคค์ วาม รวมท้งั ผลงานวิจยั ของธงชยั พาบุ นริชา มหาพรหม
รู้ที่ชัดเจนไม่มากและการจดั เก็บยงั ไม่เป็ นระบบ ใน พบวา่ ผนู้ ำ� และสมาชิกในกลุ่มเป็ นปัจจยั ท่ีทำ� ใหเ้ กิดการ
ประเดน็ น้ีผไู้ หข้ อ้ มูลหลกั ไดช้ ้ีใหเ้ ห็นวา่ ปัญหาดา้ นการ จดั การความรู้ (ธงชยั , 2552; นริชา, 2553)
รวบรวมและจดั เกบ็ องคค์ วามรู้เป็นเร่ืองสำ� คญั ของกลุ่ม อีกท้งั จกั รวาล (2555) ไดก้ ล่าวว่า การสนบั สนุนจาก
ท่ีจะตอ้ งเร่งดำ� เนินการ โดยกล่าววา่ “องคค์ วามรู้ที่หลาก หน่วยงานต่าง ๆ กเ็ ป็นปัจจยั ที่สำ� คญั สำ� หรับการจดั การ
หลายท่ีไม่มีการจดบนั ทึก ต่อไปตอ้ งมีการบนั ทึกและมี องคค์ วามรู้เช่นเดียวกนั
การถอดความรู้น้นั ”

2 กระบวนการจดั การองคค์ วามรู้ของชุมชน ท้ังหน่วยงานที่เข้ามาสนับสนุนให้เกิดการเรี ยนรู้
จากการศึกษาพบวา่ กระบวนการที่มีความยอดเยยี่ มและ และหน่วยงานที่เขา้ มาสนับสนุนในด้านงบประมาณ
มีวธิ ีการปฏิบตั ิท่ีดี คือ กระบวนการเผยแพร่และถ่ายทอด สนบั สนุนในดา้ นงบประมาณเพอ่ื จดั สร้างเป็นแหลง่ เรียน
องคค์ วามรู้ มีการใชเ้ ครื่องมือและวธิ ีการเผยแพร่ที่หลาก รู้ อาจกล่าวไดว้ า่ กลุ่มคงไม่สามารถประสบความสำ� เร็จ
หลาย ไดแ้ ก่ การสาธิต การสอนงาน สนทนาพูดคุยกนั ไดห้ ากขาดการสนบั สนุนจากหน่วยงานเหล่าน้ี (สถาบนั
เล่าเร่ือง บรรยาย เป็ นพี่เล้ียง จดั เวทีอบรมแลกเปลี่ยน ส่ิงแวดลอ้ มไทย, 2551)
ความรู้ เพื่อให้องค์ความรู้ไดแ้ พร่หลายอย่างทว่ั ถึงท้งั
ภายในและภายนอกชุมชน นอกจากน้ียงั มีการเผยแพร่ สรุป
และถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ในรูปแบบท่ีชดั เจน เผยแพร่ผา่ น
การฟ้ื นฟกู ารจดั การองคค์ วามรู้ดา้ นการอนุรักษส์ มนุ ไพร
น้นั ตอ้ งมีการจดั กิจกรรมการอนุรักษท์ รัพยากรสมุนไพร

10 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

ใหน้ กั ท่องเท่ียวไดเ้ ดินชมการผลิตสมุนไพรเพ่ือสุขภาพ PROOFSตวั เอง การถ่ายทอดองคค์ วามรู้มีลกั ษณะไดท้ ดลองเรียน
และความงาม เข้าร่วมกิจกรรมอบรมการท�ำน้�ำยา และไดใ้ กลช้ ิดกบั คนทอ้ งถิ่นมากข้ึน นักท่องเที่ยวได้
อเนกประสงค์ กิจกรรมอบรมนวดหน้าดว้ ยสมุนไพร มีโอกาสพูดคุยสนทนากบั ชาวบา้ นในเรื่องอ่ืนๆ เป็ น
กิจกรรมอบรมการแช่เทา้ ดว้ ยเกลือสะปาและสมุนไพร ความเพลิดเพลินนอกเหนือจากกิจกรรมที่ลงมือปฏิบตั ิ
เพ่ือคลายเส้น ถือเป็ นปัจจยั ส�ำคญั อย่างยิ่งในการสร้าง และเป็ นการอนุรักษส์ มุนไพรท่ีมีความยง่ั ยืนเพราะใช้
ความเขม้ แข็งให้แก่ชุมชน ในการจัดการดูแลชุมชน สถานท่ีที่มีอยแู่ ลว้ คือ สวน โรงงาน หรือบา้ นของชาว
กระบวนการสร้างสรรคเ์ ร่ิมจากการมีการบริหารจดั การ บา้ นในชุมชน
ท่ีดี มีการกำ� หนดแผนงาน เป้าหมายของกิจกรรมการ
อนุรักษส์ มุนไพรที่ชดั เจน รวมท้งั มีการปฏิบตั ิตามแผน ข้อเสนอแนะ
งานและการประเมินผลงาน โดยกิจกรรมต่าง ๆ เหล่าน้ี
ควรเนน้ การมีส่วนร่วมท้งั ระหวา่ งชาวบา้ นในชุมชนและ 1. ข้อเสนอแนะในการน�ำผลการวจิ ยั ไปใช้
นกั ท่องเท่ียวที่มาเขา้ ร่วมกิจกรรมการอนุรักษส์ มุนไพร 1.1 ชาวบา้ นควรแปลงองคค์ วามรู้ที่มีอยใู่ ห้ออกมาเป็ น
โดยมุ่งหวงั ใหเ้ กิดการเรียนรู้ การอนุรักษส์ มุนไพรโดย ความรู้ที่ชัดเจนท้งั ในดา้ นสมุนไพรมะหาด และสูตร
ชุมชน การมีส่วนร่วม การตดั สินใจของชาวบ้านใน ผลิตภณั ฑช์ ุมชน โดยบนั ทึกไวเ้ ป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ส่ือ
ชุมชน ในเชิงการเรียนรู้ การทดลอง และประสบการณ์ ต่างๆ เกบ็ ไวไ้ ม่ใหส้ ูญหายและสามารถเผยแพร่สู่รุ่นลูก
ที่ชุมชนไดร้ ับ ชุมชนมีโอกาสใชส้ ิทธ์ิความเป็นเจา้ ของ หลานต่อไป
พ้ืนท่ีกำ� หนดทิศทางการจดั การอนุรักษ์สมุนไพรดว้ ย 1.2 ชาวบา้ นควรจดั เก็บองคค์ วามรู้ให้อยใู่ นรูปหนงั ส่ือ
ตนเอง กำ� หนดและจำ� กดั จำ� นวนนักท่องเท่ียวที่เขา้ มา ส่ิงพิมพ์ ภาพถ่ายให้อยู่รวมกนั ในจุดเดียวกนั และจดั
ในชุมชน และท่ีสำ� คญั สามารถสร้างสรรคก์ ิจกรรมการ ระบบใหส้ ืบคน้ ไดง้ ่ายเพื่อนำ� ผลการวิจยั ไปใชถ้ ่ายทอด
อนุรักษ์สมุนไพรดว้ ยตนเองและเป็ นเครื่องมือในการ แก่นกั ท่องเท่ียวท่ีมาเยย่ี มเยอื นชุมชนเกาะเกร็ด
รักษาความสมดุลระหวา่ งการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึนจาก 2. ข้อเสนอแนะในการวจิ ยั คร้ังต่อไป
การอนุรักษใ์ นชุมชน 2.1 ในการวจิ ยั คร้ังต่อไปควรมีการศึกษาแนวทางในการ
ชาวบา้ นซ่ึงเป็นชาวไทย มีวฒั นธรรม มีจิตใจเอ้ือเฟ้ื อต่อ จดั ระบบความรู้ของกลุ่มเพ่ือให้ไดแ้ นวทางในการจดั
เพอื่ นการอนุรักษท์ รัพยากรสมนุ ไพรสมยั ใหมเ่ นน้ การนำ� ระบบความรู้ที่เป็นระบบไดม้ าตรฐาน
เสนอการจดั กิจกรรมการอนุรักษท์ รัพยากรสมุนไพรเชิง 2.2 ควรทำ� วิจัยการพฒั นาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิง
สร้างสรรค์ นกั ท่องเที่ยวจะไดส้ ัมผสั กบั ธรรมชาติทอ้ ง อนุรักษใ์ หเ้ ชื่อมโยงกบั เสน้ ทางท่องเที่ยวหลกั
ถิ่นที่เป็ นเอกลกั ษณ์ของชุมชนตนเอง ผ่านการเขา้ ร่วม 2.3 ควรทำ� วิจยั การพฒั นาต่อยอดดว้ ยการนำ� ความรู้ดา้ น
กิจกรรมเรียนรู้อย่างไม่เป็ นทางการ ชาวบา้ นมีความ การอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดเชิงสร้างสรรคโ์ ดยชาวเกาะ
กระตื อรื อร้ นท่ี จะถ่ายทอดประสบการณ์ แก่ นักท่อง เกร็ดมาสร้างถอดบทเรียนส�ำหรับใช้อบรมมคั คุเทศก์
เท่ียวผูเ้ ขา้ อบรมในบรรยากาศท่ีผ่อนคลายเป็ นกนั เอง ในโรงเรียนบนเกาะ เช่น โรงเรียนวดั ปรมยั ยิกาวาส
นกั ท่องเที่ยวสนุกสนานมีโอกาสไดล้ งมือปฏิบตั ิทำ� จริง โรงเรียนวดั ศาลากลุ ในการอนุรักษส์ มุนไพรมะหาดเชิง
และไดม้ ีปฏิสัมพนั ธ์กบั ชาวบา้ น กิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างสรรค์ เมื่อเวลามีนกั ท่องเท่ียวมาเท่ียวชมการชุมชน
ประสบการณ์จดั ข้ึนเป็นแบบกลุ่มเลก็ หรือแบบตวั ต่อตวั ซ่ึงเกิดจากการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ระหวา่ งชาวเกาะเกร็ด
ท่ีบา้ นหรือสถานท่ีทำ� งานของชาวบา้ น นกั ทอ่ งเท่ียวจะได้ เจา้ บา้ น และนกั ท่องเท่ียวเชิงอนุรักษผ์ มู้ าเยอื น เป็นการ
มีโอกาสสงั เกตวา่ ชาวบา้ นมีความเป็นอยอู่ ยา่ งไร นกั ท่อง สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กบั หนุ่มสาวชาวเกาะเกร็ดจะ
เท่ียวไดม้ ีโอกาสคน้ หาความคิดริเร่ิมสร้างสรรคภ์ ายใน

สมั มนาวชิ าการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 11

ไดส้ ามารถทำ� งานอยกู่ บั บา้ นได้ โดยไม่ตอ้ งโยกยา้ ยถ่ิน นริชา มหาพรหม. 2553. การจดั การความรู้กองทนุ ชุมชน
ไปทำ� งานที่อื่น และยงั สามารถใหค้ วามรู้แก่นกั ท่องเที่ยว และธุรกิจชุมชนของหมู่บ้านจ�ำรุง อ�ำเภอแกลง
จากแดนไกลที่มาเยย่ี มเยอื นชุมชนเกาะเกร็ด จังหวัดระยอง. วิทยานิพนธ์สังคมสงเคราะห์
ศาสตร์. กรุงเทพฯ: บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั
คำ� นิยม ธรรมศาสตร์.

ขอขอบคณุ มหาวทิ ยาลยั สวนดสุ ิตทส่ี นบั สนุนทนุ วจิ ยั เพอ่ื วจิ ารณ์ พานิช. 2548. ภาวะผู้น�ำกบั KM. สืบคน้ เม่ือ 12
พฒั นาการเรียนรู้ ประจำ� ปี งบประมาณ 2563 เมษายน 2563, จากhttps://www.gotoknow.org/
posts/4644.
เอกสารและสิ่งอ้างองิ

แคทรียา ไฉยากลุ . 2562. เจา้ ของสมุนไพรบา้ นยา่ สาเกาะ PROOFS สถาบนั ส่ิงแวดลอ้ มไทย. 2551. โครงการการจดั การความ
เกร็ด 77/3 หมู่ 1 ตำ� บลเกาะเกร็ด อำ� เภอปากเกร็ด รู้เพื่อขบั เคลื่อนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาคณุ ค่าความ
จงั หวดั นนทบุรี 11120. สมั ภาษณ์. หลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น.
นนทบุรี: สถาบนั ส่ิงแวดลอ้ มไทย.
จกั รวาล จนั ทร์หลา้ . 2555. การจดั การภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน
ในการทำ� ขา้ วฮางของกลุ่มผลิตขา้ วฮางเทศบาล สุภาพร เตวฒุ ิธนกลุ . 2548. ภูมิปัญญาไทย: ความรู้เพื่อ
ปลาโหล, วารสารการบริหารท้องถนิ่ . 5(1): 25–37. สืบสานอาชีท้องถิ่น: กรณีศึกษากลุ่มอาชีพสตรี
ท�ำผ้าปาเต๊ะ บ้านคลองประสงค์ อ�ำเภอเมือง
ธงชยั พาบุ. 2552. การจัดการความรู้ธุรกจิ สุดยอดหนึ่ง จังหวัดกระบ่ี. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตร์มหา
ต�ำบลหน่ึงผลิตภัณฑ์. ดุษฎีนิพนธ์ (สารสนเทศ บณั ฑิต. กรุงเทพฯ: บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั
ศึกษา) ขอนแก่น: บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์.
ขอนแก่น.
สมิทธิชยั สุกปลงั่ . 2563. ภูมปิ ัญญาไทย มะหาด ต้นไม้
ธิดารัตน์ ศิริ รัตน์. 2556. การจัดการความรู้ของ แห่งครีมฟอกขาว. สืบคน้ เมื่อ 27 มกราคม 2563,
ครูภูมิปัญญาเพ่ือส่ งเสริมการเรียนรู้ตลอด จาก https://www.technologychaoban.com.
ชีวิตของชุมชนในเขตภาคใต้. วิทยานิพนธ์คุรุ
ศาสตร์. กรุงเทพฯ: บณั ฑิตวิทยาลยั จุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั .



สมั มนาวชิ าการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร, 13-18
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories, 13-18.

การใช้ข้อมลู เชิงพืน้ ทเ่ี พื่อการวเิ คราะห์ศักยภาพในการอนุรักษ์มวนแมลงดาหายากชนดิ
Lethocerus patruelis (Hemiptera: Belostomatidae) จากปัจจยั มลภาวะทางแสงระดบั ท้องถน่ิ

Spatial Data Application for Analyzing Conservation Potential of a Rare Water Bug Species,
Lethocerus patruelis (Hemiptera: Belostomatidae) Effected by Local Light Pollution

ณฐั วุฒิ สารีอนิ ทร์1 Nattawut Sareein1
ชิตชล ผลารักษ์1, 2 Chitchol Phalaraksh1, 2
วาทติ โคกทอง1, 2*
Watit Khokthong1, 2*

1สาขาวทิ ยาศาสตร์สิ่งแวดลอ้ ม คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ถนนหว้ ยแกว้ ตำ� บลสุเทพ อำ� เภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ 50200
1Environmental Science Research Center, Faculty of Science, Chiang Mai University, Chiang Mai, Thailand 50200

2ภาควชิ าชีววทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ถนนหว้ ยแกว้ ตำ� บลสุเทพ อำ� เภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ 50200
2Department of Biology, Faculty of Science, Chiang Mai University, Chiang Mai, Thailand 50200
*Corresponding author. E-mail: [email protected]
PROOFS
รับเร่ือง: 15 ตุลาคม 2563 รับลงพิมพ:์ 9 พฤศจิกายน 2563

บทคดั ย่อ

ปัจจุบนั การใช้ขอ้ มูลเชิงพ้ืนท่ีจากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (จีไอเอส) กำ� ลงั เป็ นท่ีนิยมเพื่อการอนุรักษ์
ส่ิงแวดลอ้ ม ในการศึกษาน้ีไดน้ ำ� วธิ ี Distance to nearest neighbor มาใชก้ บั มวนแมลงดานา Lethocerus patruelis (Stål,
1855) ซ่ึงหายาก และกำ� ลงั ถูกคุกคามดว้ ยมลภาวะทางแสง จนอาจเกิดการสูญพนั ธุใ์ นระดบั ทอ้ งถ่ินได้ จากการสำ� รวจ
ในไทยระหวา่ งปี 2561–2563 พบ L. patruelis เพยี ง 2 จุดศึกษา คือใน จงั หวดั เชียงราย และ จงั หวดั สุราษฎร์ธานี โดยพบ
วา่ ถิ่นที่อยอู่ าศยั ของ L. patruelis ท่ีเชียงรายจะอยใู่ กลก้ บั มลภาวะแสงมากกวา่ ในขณะที่พ้ืนที่ศึกษาของสุราษฎร์ธานี
มีปริมาณของแหล่งมลภาวะแสงระดบั ทอ้ งถ่ินท่ีมากกวา่ จากผลการศึกษาเบ้ืองตน้ น้ี มีความเป็นไปไดท้ ี่จะบ่งช้ีภาวะ
เสี่ยงต่อการสูญพนั ธุ์ของ L. patruelis ได้

คำ� ส�ำคญั ชนิดหายาก แมลงดานา การอนุรักษแ์ หล่งอาศยั

ABSTRACT

The use of spatial data from geographic information system (GIS) becomes popular for environmental study and con-
servation. This study conducted a GIS method; distance to nearest neighbor with a rare water bug species, Lethocerus
patruelis (Stål, 1855), which is a threatened species due to the light pollution that may cause their local extinction.
Based on our survey in Thailand during 2018–2020, L. patruelis was found in only 2 provinces, i.e., Chiang Rai
and Surat Thani. The habitat of L. patruelis in Chiang Rai is closer to the light pollution sources than that in Surat
Thani, whereas the quantification of light pollution sources in Surat Thani is greater than that in Chiang Rai. This
preliminary study shows the possibility to identify the risk of species extinction from our method.

KEYWORDS: Rare species, water bug, habitat conservation, light pollution, Geographic Information Systems (GIS)

14 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

คำ� น�ำ PROOFSspecies) และสิ่งมีชีวิตที่ใกลก้ ารสูญพนั ธุ์ (Endangered
species) และในบางที่ไม่มีการพบแมลงดานาอีกเลยใน
ปัจจุบันการใช้ข้อมูลเชิงพ้ืนท่ีจากระบบสารสนเทศ รอบ 20 ปี (Ministry of Environment of Korea, 2009;
ทางภูมิศาสตร์ (จีไอเอส) กำ� ลงั เป็ นที่นิยมในการนำ� มา Yoon et al., 2010; Polhemus and Polhemus, 2013; Min-
ประยกุ ตใ์ ชเ้ พ่ือการอนุรักษท์ างส่ิงแวดลอ้ ม เน่ืองจากมี istry of the Environment of Japan, 2015)
ความหลากหลายของขอ้ มูลต้งั แต่ระดบั ทอ้ งถิ่น (local ขณะที่ในประเทศไทย ท้งั ๆ ท่ีมีมวนแมลงดานากระจาย
scale) ไปจนถึงระดบั ประเทศ ระดบั ภูมิภาค และระดบั ตวั อยถู่ ึง 2 ชนิด คือ L. indicus (Lepeletier and Serville,
โลก (national, regional, and global scales) ขอ้ ดีของ 1825) และ L. patruelis กลบั ไม่มีรายงานสถานภาพทาง
การใชข้ อ้ มูลเชิงพ้ืนท่ีจากระบบดงั กล่าวมีความรวดเร็ว ดา้ นการอนุรักษ์ ท่ามกลางปัญหามลภาวะทางแสงไฟ
ท่ีจะสามารถปรับใชข้ อ้ มูล อาทิ การแสดงถึงปริมาณ ประดิษฐแ์ ละถ่ินที่อยอู่ าศยั ที่เสื่อมโทรม โดยเฉพาะมวน
มลภาวะท่ีเพ่ิมข้ึนจนเป็ นสาเหตุของการคุกคามต่อส่ิง แมลงดานาชนิด L. patruelis ซ่ึงหายากในประเทศไทย
มีชีวิตหลายชนิด ซ่ึงขอ้ มูลจากระบบสารสนเทศทาง ในการศึกษาคร้ังน้ี จึงได้น�ำวิธี Distance to nearest
ภูมิศาสตร์น้ี มกั ใชค้ วบคู่ไปกบั ขอ้ มูลภาคสนามซ่ึงมีขอ้ neighbor ซ่ึงเป็ นเครื่องมือท่ีใช้วดั ระยะห่างระหว่าง
จำ� กดั กล่าวคือ อาจตอ้ งใชเ้ วลานานในการเก็บรวบรวม แต่ละจุดศูนยก์ ลางท่ีใกลก้ นั (Sainin and Alfred, 2010)
ขอ้ มูลอยา่ งสมบูรณ์ (Jung & Kalko, 2010; Mazor, et al., สามารถเปรียบเทียบความใกลก้ นั ระหวา่ งถ่ินท่ีอยอู่ าศยั
2013; Cabrera-Cruz et al., 2018) ดงั น้นั การใชข้ อ้ มูลเชิง ของ L. patruelis กบั จุดกำ� เนิดแสงประดิษฐท์ ่ีมีความเขม้
พ้ืนที่จากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (จีไอเอส) ใน แสงตา่ งกนั ในแตล่ ะพ้นื ที่ได้ประกอบขอ้ มลู ดา้ นประเภท
เบ้ืองตน้ จึงอาจสามารถประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า และปริมาณแสงประดิษฐจ์ ากแผนที่ดาวเทียม เพอ่ื นำ� ไปสู่
เพ่ือการอนุรักษไ์ ด้ การบง่ ช้ีภาวะเส่ียงตอ่ การสูญพนั ธุใ์ นระดบั ทอ้ งถน่ิ ตอ่ ไป
Lethocerus patruelis (Stål, 1855) เป็นมวนน้ำ� จืด รู้จกั
กนั ในชื่อ มวนแมลงดานา อยใู่ นอนั ดบั Hemiptera วงศ์ อปุ กรณ์ และวธิ ีการ
Belostomatidae วงศย์ อ่ ย Lethocerinae ซ่ึงมวนในวงศน์ ้ี
ถกู จดั วา่ เป็นแมลงน้ำ� ท่ีมีขนาดใหญท่ ่ีสุดในโลก บางชนิด การส�ำรวจแมลงดานา
มีความยาวลำ� ตวั ถึง 11 ซม. (Tran et al., 2015) จดั อยใู่ น ทำ� การส�ำรวจและบนั ทึกพิกดั สถานที่พบแมลงดานา
กลุ่มแมลงน้ำ� ท่ีเป็ นผูล้ ่าท่ีสำ� คญั ในระบบนิเวศน้ำ� จืด มี ท้งั หมด 15 สถานีศึกษาครอบคลุมท้งั ประเทศ (Figure
การกระจายตวั ต้งั แต่แถบยโุ รปมาจนถึงเอเชียตะวนั ออก 1) ท้งั ในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน–ตุลาคม) และในฤดูแลง้
เฉียงใต้ อาทิ พบท่ี Myitkyina รัฐคะฉ่ิน ทางตอนเหนือ (พฤศจิกายน–มีนาคม) อยา่ งนอ้ ยฤดูละ 1 คร้ัง ระหวา่ งปี
ของประเทศเมียนมาร์ (Menke, 1963) และถูกพบคร้ัง พ.ศ. 2561–2563 โดยสำ� รวจในบริเวณที่มีการพบเห็นมา
แรกในประเทศไทย (New record in Thailand) เมื่อปี พ.ศ. ก่อนซ่ึงทราบจากการสมั ภาษณ์ชุมชนบริเวณน้นั จากน้นั
2562 (Sareein et al., 2019) นอกจากน้ี เป็นที่ทราบกนั ดี ทำ� การสำ� รวจดว้ ยวธิ ี Hand net ในแหล่งน้ำ� น่ิงและแหล่ง
วา่ มวนแมลงดานามีพฤติกรรมบินเขา้ หาแสงไฟประดิษฐ์ น้ำ� ที่ไหลช้าในตอนกลางวนั โดยใช้สวิงส�ำรวจแมลง
ในเวลากลางคืน (Yoon et al., 2010; Polhemus and Po- ดานาตามพืชน้ำ� หรือพ้ืนทอ้ งน้ำ� ท่ีมีเศษตะกอนใบไม้
helmus, 2013; Tran et al., 2015) ปัจจุบนั มวนแมลงดา ทบั ถมอยู่ และในตอนกลางคืนใชก้ บั ดกั แสงไฟประดิษฐ์
นาชนิดต่าง ๆ ท่ีมีการกระจายตวั ในแถบเอเชียไดถ้ ูกระบุ Black light (18 watts) วางใกลก้ บั บริเวณแหล่งน้ำ� ท่ีมกั
สถานภาพทางดา้ นการอนุรักษไ์ ปแลว้ อาทิ อยใู่ นระดบั มีการพบแมลงดานา โดยทำ� การปักเสาสูงประมาณ 4 ม.
ส่ิงมีชีวติ ที่เกือบอยใู่ นข่ายใกลก้ ารสูญพนั ธุ์ (Vulnerable ดา้ นล่างมีภาชนะใส่น้ำ� รองรับแมลงดานาท่ีบินมาติดกบั
species) อยใู่ นระดบั ส่ิงมีชีวิตที่ถูกคุกคาม (Threatened ดกั เมื่อไดต้ วั อยา่ งแมลงดานา ทำ� การระบุชนิดตามหลกั

สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 15

อนุกรมวธิ าน อา้ งอิง Tran et al. (2015) พร้อมถ่ายภาพ arcgis.com/en/) จากน้นั สร้างแผนที่โดยซอฟทแ์ วร์ดงั
ลกั ษณะทางกายภาพของแมลงดานา ตวั อยา่ งบางส่วน กล่าว และทำ� การเปรียบเทียบขอ้ มูลประเภทและปริมาณ
เกบ็ รักษาดว้ ยแอลกอฮอล์ 95% เพือ่ การศึกษาดา้ นอื่น ๆ แสงโดยยดึ หลกั Distance to nearest neighbor เพ่ือบ่งช้ี
ในโอกาสต่อไป ภาวะเส่ียงต่อการสูญพนั ธุ์

แผนทแ่ี สงประดษิ ฐ์ ผล และวจิ ารณ์

ทำ� การดาวน์โหลดแผนท่ีแสงประดิษฐ์จาก National PROOFS จากผลการสำ� รวจท้งั 15 สถานีศึกษาทวั่ ประเทศ (Figure
Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA), 1) พบ L. indicus ท้งั หมด 120 ตวั ใน 13 สถานีศึกษา
National Centers for Environmental Information (ยกเวน้ สถานีศึกษาในจังหวดั นครปฐมและจังหวดั
(NCEI) ไดท้ ่ี https://www.ngdc.noaa.gov/eog/viirs/ ราชบรุ ี) และพบ L. patruelis ท้งั หมด 20 ตวั เพยี ง 2 สถานี
download_dnb_composites.html ซ่ึงขอ้ มูลจากแผนท่ี ศึกษาเท่าน้นั โดยพบที่สถานีศึกษาในจงั หวดั เชียงราย
ครอบคลุมระยะเวลาที่ทำ� การสำ� รวจแมลงดานา แผนที่ และจงั หวดั สุราษฎร์ธานี โดยใชล้ กั ษณะทางกายภาพ
ประเภทน้ีเป็ นผลิตภณั ฑจ์ ากดาวเทียมประเภท Visible ภายนอกของแมลงดานาที่แตกต่างกนั อย่างเห็นไดช้ ดั
Infrared Imaging Radiometer Suite, Day/Night Band กล่าวคือ แถบสีอ่อนดา้ นบนของอกปลอ้ งแรก (light
(VIIRS DNB) โดยสามารถเลือกใชข้ อ้ มูลในช่วงเวลา stripes on the pronotum) ซ่ึงแถบของ L. patruelis จะ
ท่ีทำ� การสำ� รวจแมลงดานาไดใ้ นแบบรายวนั รายเดือน แคบกวา่ ของ L. indicus ซ่ึงผลจากการสำ� รวจคร้ังน้ี ยนื ยนั
และรายปี และถือว่าเป็ นผลิตภณั ฑท์ ี่มีความละเอียดสูง วา่ มวนแมลงดานาชนิด L. patruelis พบเจอไดย้ ากกวา่
กล่าวคือ 1 พิกเซลของภาพแผนที่เทียบเท่าขนาด 0.742 ชนิด L. indicus ท่ีมกั ถูกใชเ้ ป็นวตั ถุดิบในการประกอบ
ตร.กม. ซ่ึงเพียงพอต่อการนำ� มาใชใ้ นการระบุประเภท อาหาร เป็นแมลงกินได้ (Hanboonsong et al., 2013) ซ่ึง
ของแสงประดิษฐใ์ นบริเวณพ้นื ที่ศกึ ษา สำ� หรับขนาดของ ในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ พบวา่ L. indicus มีการ
พ้ืนที่ท่ีสำ� รวจประเภทและปริมาณแสงประดิษฐ์ ไดใ้ ช้ กระจายตวั ครอบคลุมเขตน้ี (Tran et al., 2015) ในขณะท่ี
นิยามพ้ืนที่ที่ควรสำ� รวจแสงประดิษฐว์ า่ อาจเกิดการสูญ L. patruelis พบวา่ มีการกระจายตวั ในเขตเมียนมาร์และ
พนั ธุ์ระดบั ทอ้ งถ่ินของมวนแมลงดานาไดท้ ี่รัศมี 25 กม. ไทยเท่าน้นั (Menke, 1963; Sareein et al., 2019)
รอบ ๆ ถ่ินที่อยู่อาศยั (Ho et al., 2009) และส�ำหรับ จากผลการวเิ คราะหป์ ริมาณของแหลง่ มลภาวะแสงระดบั
ประเภทของแสงประดิษฐ์ในแต่ละพิกเซลน้ัน ได้ ทอ้ งถิ่น หรือจุดกำ� เนิดแสงประดิษฐโ์ ดยยดึ หลกั Distance
ประยกุ ตจ์ ากการทบทวนเอกสารท่ีมีการศึกษาก่อนหนา้ to nearest neighbor พบวา่ ในรัศมี 25 กม. ของถ่ินท่ีอยู่
น้ี ซ่ึงแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ไดแ้ ก่ Dark, Light, Active อาศยั ของแมลงดานาชนิด L. patruelis ท่ีจงั หวดั เชียงราย
light, และ Build-up area light (Cao and Bai, 2014; Ma, มีจุดกำ� เนิดแสงประดิษฐป์ ระเภท Active light ซ่ึงไดแ้ ก่
2018) ซ่ึงในการศึกษาคร้ังน้ี ไดค้ ดั เลือกแสงประดิษฐ์ ไฟถนน แสงไฟที่มาจากชุมชน และเมือง อยู่ 49 พิกเซล
ท่ีมีความเขม้ แสงในระดบั Active light และ Build-up และประเภท Build-up area light ซ่ึงไดแ้ ก่ไฟจากอาคาร
area light มาวิเคราะห์ผลร่วมกบั พิกดั ถิ่นที่อยอู่ าศยั ของ จากส่ิงปลูกสร้างโดยตรง อยู่ 26 พิกเซล และหากจำ� กดั
แมลงดานา รัศมีใหแ้ คบลง คือ ในรัศมี 5 กม. พบวา่ มี Active light
การวเิ คราะห์ข้อมูล อยู่ถึง 15 พิกเซล (คิดเป็ นราว 30% ของ Active light
ทำ� การระบุจุดพิกดั ของถิ่นท่ีอยู่อาศยั แมลงดานาชนิด ท้งั หมด) และ Build-up area light อยถู่ ึง 12 พิกเซล (คิด
L. patruelis ในแผนท่ีแสงประดิษฐ์โดยใชซ้ อฟท์แวร์ เป็นราว 46% ของ Built-up area light ท้งั หมด) ดงั แสดง
ArcGIS (v10.4, ESRI, California, USA, https://desktop. ใน Figure 2 และ Table 1

16 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

Figure 1. Satellite-based artificial light at night (ALAN)PROOFS Figure 2. Satellite-based artificial light at night (ALAN)
map of Thailand and the giant water bug (Lethoce- map of Chiang Rai (Left) and Surat Thani (Right) sam-
rus indicus and Lethocerus patruelis) sampling sites. pling sites presenting the intensity of ALAN each pixel
Abbreviations: NN = Nan; PY = Payao; CR = Chiang within 25-km radius of the giant water bug (Lethocerus
Rai; CM = Chiang Mai; LP = Lamphun; TK = Tak; indicus and Lethocerus patruelis) habitats. The different
NW = Nakhon Sawan; KJ = Kanjanaburi; NT = Nakhon colors of pixels indicate type of ALAN, i.e., dark grey =
Pathom; RB = Ratchaburi; SR = Surat Thani; KR = Nak- dark areas, pale grey = light areas, orange = active light
hon Ratchasima; SRT = Surin; UB = Ubon Ratchathani; areas, and yellow = build-up area light (Cao and Bai,
and KS = Kalasin. 2014; Ma, 2018).
ในขณะท่ีสถานีศึกษาของสุราษฎร์ธานี พบวา่ มีปริมาณ
ของแหล่งมลภาวะแสงระดบั ทอ้ งถ่ิน หรือจุดกำ� เนิดแสง
ประดิษฐท์ ่ีมากกวา่ จงั หวดั เชียงราย กล่าวคือ ในรัศมี 25
กม. ของถิ่นที่อยอู่ าศยั ของแมลงดานาชนิด L. patruelis
พบวา่ มีจุดกำ� เนิดแสงประดิษฐป์ ระเภท Active light อยู่
ถึง 75 พิกเซล และประเภท Build-up area light อยถู่ ึง
50 พิกเซล และหากจำ� กดั รัศมีใหแ้ คบลง คือ ในรัศมี 5
กม. พบวา่ มี Active light อยู่ 4 พิกเซล (คิดเป็นราว 5%
ของ Active light ท้งั หมด) และ Build-up area light อยู่
ถึง 5 พิกเซล (คิดเป็นราว 10% ของ Build-up area light

Table 1. Type of artificial light at night (ALAN), the intensity of ALAN (nW/cm2/sr), and the amount of ALAN
(pixels) each Lethocerus patruelis sampling site.

Type of artificial light at night Intensity of artificial light at Amount of artificial light at night (pixels)
(ALAN) night
(nW/cm2/sr) Chiang Rai Surat Thani
sampling site sampling site

1.Dark area 0 – 0.99 2,072 1,843

2. light 1 – 2.99 249 427

3. Active light 3 – 4.75 49 75

4. Build-up area light 4.76 – 16 26 50

สมั มนาวชิ าการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 17

ท้งั หมด) ดงั แสดงใน Figure 2 และ Table 1 PROOFS ดงั น้นั การใชข้ อ้ มูลเชิงพ้ืนท่ีเพ่ือการวิเคราะห์ศกั ยภาพ
จากผลการศึกษาเบ้ืองตน้ น้ี สรุปไดว้ า่ ถิ่นที่อยอู่ าศยั ของ ในการอนุรักษม์ วนแมลงดาหายากชนิด L. patruelis จึง
มวนแมลงดานาชนิด L. patruelis ท่ีจงั หวดั เชียงรายจะอยู่ มีความเป็นไปไดท้ ่ีจะใชว้ ธิ ี Distance to nearest neighbor
ใกลก้ บั มลภาวะแสงมากกวา่ ในขณะที่ถิ่นที่อยอู่ าศยั ของ มาบ่งช้ีภาวะเส่ียงต่อการสูญพนั ธุ์ของ L. patruelis ได้
มวนแมลงดานาชนิด L. patruelis ท่ีจงั หวดั สุราษฎร์ธานี
พบว่ามีปริมาณของแหล่งมลภาวะแสงระดบั ทอ้ งถิ่นท่ี คำ� นิยม
มากกว่า ซ่ึงการที่มวนแมลงดานามีถ่ินท่ีอยอู่ าศยั ที่ใกล้
กบั มลภาวะทางแสงที่มีความเขม้ สูง มีความเป็ นไปได้ บางส่วนของผลงานวิจัยฉบับน้ีได้รับการสนับสนุน
สูงท่ีมวนแมลงดานาจะไดร้ ับผลกระทบในแง่ลบ ท้งั ทาง เงินทุนจากศูนยค์ วามเป็ นเลิศดา้ นความหลากหลายทาง
ตรงและทางออ้ ม ดงั ในงานศึกษาของ Ho et al. (2009) ชีวภาพ ส�ำนกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รหัส
ที่รายงานวา่ การปรากฏของแหล่งมลภาวะทางแสงใกล้ โครงการ BDC-PG2-160010)
กบั ถิ่นที่อยอู่ าศยั ของแมลงดานา จะส่งผลใหก้ ารปรากฏ
ของแมลงดานาในถ่ินที่อยู่อาศยั ลดน้อยลง สอดคลอ้ ง เอกสารและส่ิงอ้างองิ
กบั การศึกษาหลาย ๆ งานก่อนหนา้ น้ีที่รายงานวา่ มวน
แมลงดานา เป็นแมลงที่มีความอ่อนไหวต่อมลภาวะทาง Cabrera-Cruz, S.A., J.A. Smolinsky and J.J. Buler. 2018.
แสง และมกั ไดร้ ับผลกระทบในแง่ลบอยา่ งรุนแรงจาก Light pollution is greatest within migration pas-
แสงประดิษฐ์ อาทิ การเพ่ิมโอกาสแก่ผูล้ ่าที่เห็นเหย่ือ sage areas for nocturnally-migrating birds around
ไดช้ ดั เจนข้ึน และภาวการณ์ขาดความช้ืนของร่างกาย the world. Scientific Reports 8: 3261.
อนั เนื่องมาจากไม่สามารถบินออกจากรัศมีของแสงไฟ
ประดิษฐไ์ ด้เป็นตน้ (Ono, 1995; Yoon et al., 2010; Tran Cao, C. and Y. Bai. 2014. Quantitative analysis of VIIRS
et al., 2015; Ohba, 2018) นอกจากกลุ่มแมลงดานาแลว้ DNB nightlight point source for light power esti-
การปรากฏของแสงประดิษฐห์ รือมลภาวะทางแสง ยงั มี mation and stability monitoring. Remote Sensing
ผลกระทบแงล่ บกบั สิ่งมีชีวติ อนื่ ๆ อาทิ ส่งผลใหค้ วามชุก 6: 11915–11935.
ของแมลงน้ำ� และแมลงบนบกหลาย ๆ ชนิดลดลง (Perkin
et al., 2014), ส่งผลใหก้ ารทำ� รังของเตา่ ทะเลใกลช้ ายหาด Ho, C., H. Kim and J.G. Kim. 2009. Landscape analysis
ลดลง (Mazor et al., 2013), และส่งผลใหน้ กอพยพเกิด of the effects of artificial lighting around wetland
ความสับสนในเส้นทางอพยพมากข้ึน (Cabrera-Cruz habitats on the giant water bug Lethocerus deyrol-
et al., 2018) เป็นตน้ อยา่ งไรกต็ าม การศึกษาคร้ังน้ี ยงั lei in Jeju Island. Journal of Ecology and Field
เป็ นการศึกษาในเบ้ืองตน้ จำ� เป็ นที่จะตอ้ งส�ำรวจถิ่นท่ี Biology 32(2): 83–86.
อยู่อาศยั ของมวนแมลงดานาชนิด L. patruelis ต่อไป
ในอนาคต เพื่อเพ่ิมจำ� นวนจุดศึกษาให้งานวิจยั มีความ Jung, K. and E.K.V. Kalko. 2010. Where forest meets
สมบูรณ์มากข้ึน รวมถึงการเก็บซ้ำ� ในจุดที่มีความใกล้ urbanization: foraging plasticity of aerial insec-
เมืองขนาดใหญ่ เช่น จงั หวดั นครปฐมและราชบุรี ท่ีไม่ tivorous bats in an anthropogenically altered
พบแมลงดานาในการศึกษาคร้ังน้ี ซ่ึงอาจเป็นเพราะการ environment. Journal of Mammalogy 91(1):
สำ� รวจถี่นอ้ ยเกินไป หรือสำ� รวจในฤดูกาลที่ไมเ่ หมาะสม 144–153.

Ma,T.2018.Anestimateofthepixel-levelconnectionbetween
Visible Infrared Imaging Radiometer Suite Day/Night
Band (VIIRS DNB) nighttime light and land features
across China. Remote Sensing 10(5): 723.

18 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

Mazor, T., N. Levin, H.P. Possinghama, Y. Levy, D. PROOFS terrestrial insects. Freshwatwer Biology 59:
Rocchini, A.J. Richardson and S. Kark. 2013. Can 368–377.
satellite-based night lights be used for conserva- Polhemus, D.A. and J.T. Polhemus. 2013. Guide to the
tion? The case of nesting sea turtles in the Medi- aquatic Heteroptera of Singapore and Peninsular
terranean. Biological Conservation 159: 63–72. Malaysia. X. Infraorder Nepomorpha-families
Belostomatidae and Nepidae. The Raffles Bul-
Menke, A.S. 1963. An overlooked Old World species letin of Zoology 61(1): 25–45.
of Lethocerus (Hemiptera: Belostomatidae). Sainin, M.S. and R. Alfred. 2010. Nearest neighbour
Journal of the Kansas Entomological Society distance matrix classification. ADMA'10: Pro-
36: 258–259. ceedings of the 6th international conference
on Advanced data mining and applications,
Ministry of the Environment of Japan. 2015. Threat- Part I: 114–124.
ened Wildlife of Japan. Red Data Book 2014 Sareein, N., J.H. Kang, S.W. Jung, C. Phalaraksh and
Insecta. Environment Agency of Japan, Tokyo Y.J. Bae. 2019. Taxonomic review and distribu-
(In Japanese). tion of giant water bugs (Hemiptera: Belostoma-
tidae: Lethocerinae) in the Palearctic, Oriental
Ministry of the Environment of Korea. 2009. Korean and Australian regions. Entomological Research
red data book and invasive species in Korea. 49: 462–473.
Gyeonggi-do. Tran, A.D., C.M. Yang and L. Cheng. 2015. Water
bugs of Singapore and Peninsular Malaysia.
Ohba, S. 2018. Ecology of giant water bugs (Hemiptera: Lee Kong Chian Natural History Museum, Sin-
Heteroptera: Belostomatidae). Entomological gapore.
Science: 10.1111/ens.12334. Yoon, T.J., D.G. Kim, S.Y. Kim, S.I. Jo and Y.J Bae.
2010. Light-attraction flight of the giant water
Ono, Y. 1995. Influence of high pressure mercury-va- bug, Lethocerus deyrolli (Hemiptera: Belostoma-
pour lamps on some insects, with special refer- tidae), an endangered wetland insect in East Asia.
ence to the oriental giant water bug, Lethocerus Aquatic Insects 32(3): 195–203.
deyrollei and hark moths, Phingidae, Lepidoptera.
Artes Liberales 57: 155–166 (In Japanese with
English Abstract).

Perkin, E.K., F. Hölker and K. Tockner. 2014. The
effects of artificial lighting on adult aquatic and

สมั มนาวชิ าการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร, 19-30
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories,19-30.

การตดิ ตามประชากรของกงิ้ ก่าเขาเลก็ (Acanthosaura lepidogaster) ในป่ าดบิ เขา
บริเวณพืน้ ทส่ี งวนชีวมณฑล แม่สา-คอกม้า จงั หวดั เชียงใหม่

Population Monitoring of Cuvier’s Spiny Lizard (Acanthosaura lepidogaster) in Hill evergreen
Forest, Mae Sa-Kog Ma Biosphere Reserve, Chiang Mai Province

เบญจวรรณ มอี ำ� นาจ1 PROOFS Benchawan Meeamnart1
บงกชรัตน์ ภทั รมนัส1 Bongkochrat Pattaramanas1
วมิ ลมาศ นุ้ยภกั ด2ี
ยอดชาย ช่วยเงนิ 3 Wimonmart Nuipakdee2
กติ พิ งศ์ ต้งั กจิ 4 Yodchaiy Chuaynkern3
ชาคริต ณ ตะกวั่ ทุ่ง5
ประทปี ด้วงแค1* Kitipong Tangkit4
Chakrit Na Takuathung5

Prateep Duengkae1*

1หน่วยวจิ ยั ดา้ นจีโนมิกส์สตั วป์ ่ า ภาควชิ าชีววทิ ยาป่ าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ 10900
1Special Research Unit for Wildlife Genomics, Department of Forest Biology, Faculty of Forestry, Kasetsart University, Bangkok 10900

2 พ้ืนท่ีสงวนชีวมณฑลแม่สา-คอกมา้ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ - ปุย อำ� เภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ 50200
2Mea Sa-Kog Ma Biosphere Reserve, Doi Suthep Pui National Park, Chiang Mai Thailand 50200
3ภาควชิ าชีววทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น อำ� เภอเมือง จงั หวดั ขอนแก่น 40002
3Department of Biology, Faculty of Science, Khon Kaen University, Khon Kaen Thailand 40002
4ภาควชิ าวนผลิตภณั ฑ์ คณะวนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ 10900
4Department of Forest Products, Faculty of Forestry, Kasetsart University, Bangkok 10900
5ภาควชิ าวศิ วกรรมป่ าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ 10900
5Department of Forest Engineering, Faculty of Forestry, Kasetsart University, Bangkok 10900
*Corresponding author. E-mail: [email protected]

รับเรื่อง: 1 ตุลาคม 2563 รับลงพิมพ:์ 28 ตุลาคม 2563

บทคดั ย่อ

การติดตามประชากรของกิ้งก่าเขาเลก็ ในป่ าดิบเขาบริเวณพ้นื ท่ีสงวนชีวมณฑล แม่สา-คอกมา้ จงั หวดั เชียงใหม่ เกบ็
ขอ้ มูล 10 เดือน โดยวธิ ีวางหลุมดกั สตั วแ์ ละเดินสำ� รวจโดยตรง ซ่ึงสำ� รวจตอนกลางวนั และตอนกลางคืน เพ่ือศึกษา
ประชากรและลกั ษณะทางสณั ฐานบางประการ พบกิ้งก่าเขาเลก็ ท้งั หมด 426 คร้ัง จำ� แนกเป็นรายตวั ได้ 333 ตวั เป็น
กิ้งก่าตวั เตม็ วยั 180 ตวั แบ่งเป็นเพศผู้ 69 ตวั เป็นเพศเมีย 111 ตวั และตวั ไม่เตม็ วยั 153 ตวั แบ่งเป็นเพศผู้ 90 ตวั และ
เพศเมีย 63 ตวั เมื่อเปรียบเทียบลกั ษณะสณั ฐานดว้ ยสถิติแบบ t- test พบกิ้งก่าเขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศเมียมีค่าเฉลี่ยท้งั 6
ลกั ษณะมากกวา่ กิ้งก่าตวั เตม็ วยั เพศผอู้ ยา่ งมีนยั สำ� คญั ทางสถิติ (p < 0.05) เม่ือวเิ คราะห์ขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรม Capture
คำ� นวณจำ� นวนประชากรได้ 738±60.96 ตวั และมีความหนาแน่นเท่ากบั 46 ตวั ต่อเฮกแตร์

คำ� ส�ำคญั ป่ าดิบเขา กิ้งก่าเขาเลก็ การติดตาม ประชากร

20 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

ABSTRACT

Population monitoring of Cuvier’s spiny lizard in hill evergreen forest, Mae Sa-Kog Ma Biosphere Reserve, Chi-
ang Mai Province was conducted for 10 months. Pitfall traps and direct observation were used for the field survey
throughout day and night. The aims of this study were to examine the population and some morphological characters
of Cuvier’s spiny lizard. Three hundred and thirty-three individuals were found from 426 observations. Of these,
180 individuals were adult (111 males and 69 females) with 153 juveniles (90 males and 63 females). Comparison
of 6 morphological characters using t-test showed that adult females had a significant larger body than adult males
(p < 0.05). Population of Cuvier’s spiny lizard in this study area, calculated using the Capture program, was 738±61
individuals. Therefore, the population density was 46 individuals/ha.

KEYWORDS: Hill evergreen forest, Cuvier's spiny lizard, monitoring, population

คำ� น�ำ PROOFSเป็ นพ้ืนท่ีท่ีมีระบบนิเวศอันสมบูรณ์และเป็ นแหล่ง
ทรัพยากรชีวภาพที่ควรอนุรักษ์ ประกอบดว้ ยพรรณพืช
กิ้งก่าเป็ นสัตวเ์ ล้ือยคลานที่มีความสำ� คญั ต่อระบบนิเวศ และสตั วม์ ากมาย โดยเฉพาะสตั วเ์ ล้ือยคลานซ่ึงยงั มีการ
ท้งั บทบาทในรูปแบบของห่วงโซ่อาหารและเป็ นตวั ให้ความสนใจท่ีจะศึกษาไม่มากนกั เมื่อเทียบกบั แมลง
ดชั นีช้ีวดั ถึงความอุดมสมบูรณ์ของสภาพพ้ืนท่ี ซ่ึงถือ หรือนก (ปิ ยวรรณ และคณะ, 2560) การศึกษาเพอื่ ใหไ้ ด้
เป็ นผูบ้ ริโภคทำ� หน้าท่ีคอยควบคุมปริมาณของสัตว์ มาซ่ึงขอ้ มูลพ้ืนฐานมีความสำ� คญั จำ� เป็ นสำ� หรับการนำ�
จำ� พวกแมลงและสตั วข์ าปลอ้ งในธรรมชาติใหเ้ กิดความ องค์ความรู้ท่ีได้มาใช้ประโยชน์ในการวางแผนการ
สมดุลและมีปริมาณไม่มากหรือนอ้ ยเกินไป ในปัจจุบนั จดั การและการอนุรักษ์ ดงั น้นั ในคร้ังน้ีจึงทำ� การศึกษา
สัตวเ์ ล้ือยคลานวงศก์ ิ้งก่า (Family Agamidae) ทวั่ โลก ขอ้ มลู ประชากรของกิ้งก่าเขาเลก็ ในพ้นื ท่ีสงวนชีวมณฑล
ถูกจดั จำ� แนกไว้ 58 สกุล 480 ชนิด โดยพบในไทย 11 แม่สา-คอกมา้ และทำ� การเปรียบเทียบกบั ขอ้ มูลในอดีต
สกุล 41 ชนิด (ปิ ยวรรรณ และคณะ, 2560) บางชนิด เพอ่ื นำ� มาเป็นแนวทางในการอนุรักษส์ ตั วเ์ ล้ือยคลานชนิด
สามารถพบเห็นไดท้ ว่ั ทุกภูมิภาคของประเทศไทย บาง น้ีในพ้นื ท่ีศึกษาและพ้ืนท่ีใกลเ้ คียงต่อไป
ชนิดสามารถพบเห็นไดเ้ ฉพาะพ้ืนที่ มีความจำ� เพาะต่อ
ปัจจยั ทางกายภาพหรือสภาพแวดลอ้ มที่เอ้ืออำ� นวยและ วตั ถุประสงค์
จำ� กดั ต่อการดำ� รงชีวิต จึงควรอนุรักษไ์ วเ้ พ่ือรักษาความ
หลากหลายทางชีวภาพ โดยกิ้งก่าเขาเล็กมีถ่ินอาศยั ใน 1. เพ่ือศึกษาประชากรของกิ้งก่าเขาเล็ก บริเวณพ้ืนท่ี
บริเวณภูเขาสูงท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ มีการแพร่กระจาย สงวนชีวมลฑล แม่สา-คอกมา้ จงั หวดั เชียงใหม่
ของกิ้งก่าเขาเลก็ พบในประเทศไทย จีนตอนใต้พม่า ลาว 2. เพ่ือศึกษาลักษณะสัณฐานบางประการของกิ้งก่า
กมั พชู า และเวยี ดนาม สำ� หรับประเทศไทยมีการรายงาน เขาเลก็ บริเวณพ้นื ที่สงวนชีวมลฑล แมส่ า-คอกมา้ จงั หวดั
การพบเพยี งไม่กี่แห่งเท่าน้นั และไดร้ ับการจดั สถานภาพ เชียงใหม่
ให้เป็ นสัตวป์ ่ าคุม้ ครองตามพระราชบญั ญตั ิสงวนและ
คุม้ ครองสตั วป์ ่ า อปุ กรณ์ และวธิ ีการ
พ้ืนที่สงวนชีวมณฑลแม่สา-คอกมา้ เป็ นพ้ืนที่สงวนชีว
มณฑลแห่งท่ี 2 ของประเทศไทย จดั ต้งั เมื่อปี พ.ศ. 2520 สถานทแี่ ละระยะเวลาการทำ� วจิ ยั
ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จงั หวดั เชียงใหม่ ทำ� การศึกษาในป่ าดิบเขาบริเวณพ้นื ท่ีสงวนชีวมณฑล แม่
สา-คอกมา้ จงั หวดั เชียงใหม่ ต้งั อยใู่ นเขตภูเขา มีความ
สูงจากระดบั น้ำ� ทะเลปานกลางระหว่าง 1,260 - 1,540

สมั มนาวชิ าการพพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 21

PROOFS
Figure 1. Mea Sa-Kog Ma Biosphere Reserve, Doi Suthep Pui National Park, Chiang Mai Thailand.

เมตร ยอดเขาสูงสุดอยทู่ ่ีสนั กู่ ความลาดชนั ของพ้นื ที่เฉล่ีย ใชผ้ า้ พลาสติกขนาด 150x20 ซม. ขึงกบั เสาไมไ้ ผ่เป็ น
ร้อยละ 40 (สามคั คี, 2540) โดยใชร้ ะยะเวลาเก็บขอ้ มูล แนวกนั ทางเดินใหส้ ตั วต์ กลงสู่หลมุ โดยทำ� การเกบ็ ขอ้ มลู
ท้งั หมด 10 เดือน ต้งั แต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม เดือนละคร้งั คร้ังละ 3 วนั เม่ือหมดระยะเวลาการศึกษาใน
ปี พ.ศ.2560 และในช่วงเดือน มกราคม, เดือนเมษายน, แต่ละคร้ังจะทำ� การปิ ดฝาถงั เพื่อป้องกนั ไม่ใหส้ ัตวช์ นิด
เดือนกรกฎาคม, เดือนสิงหาคม, เดือนกนั ยายน และเดือน ใดตกลงไปในหลุมดกั สตั ว์ (Figure 2)
ตุลาคม ปี พ.ศ.2561 โดยทำ� การเก็บขอ้ มูลเดือนละคร้ัง
คร้ังละ 3 วนั 2 คืน

วธิ ีการเกบ็ ข้อมูล

การศึกษาคร้ังน้ีไดท้ ำ� การเก็บขอ้ มูล ต่อเนื่องจากการ Figure 2. Pitfall traps (A) Open pitfall trap (B) Close
ศึกษาก่อนหน้าของบงกชรัตน์ (2560) ดว้ ยวิธีการเก็บ pitfall trap (C) and Lizard fall into pitfall trap (D).
ขอ้ มูล 2 รูปแบบ ดงั ต่อไปน้ี
1. การส�ำรวจด้วยวธิ ีวางหลมุ ดกั สัตว์ (Pitfall traps)
ใชก้ ารวางกบั ดกั หลุม (Pitfall traps) ในตำ� แหน่งเดิม
จากที่เคยใชใ้ นการศึกษาของ ยวุ ดี (2557) ดว้ ยการใชถ้ งั
พลาสติกแบบมีฝาขนาด 30x30 ซม. วางในระยะห่างจาก
กนั 50 เมตร ท้งั หมด 49 หลุมในเส้นสำ� รวจ 7 เส้นทาง

22 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

2. การเดนิ ส�ำรวจโดยตรง (Direct observation) จนถึงรูทวาร

การเดินสำ� รวจในพ้นื ท่ีศึกษา แบง่ ออกเป็นการเดินสำ� รวจ AGL (axilla-groin length) คือ ความยาวลำ� ตวั จากโคนระ
ช่วงเวลากลางวนั และกลางคืน ในช่วงกลางวนั ทำ� การเดิน ยางคข์ าหนา้ ถึงขาหลงั
สำ� รวจพร้อมตรวจสอบหลมุ ดกั สตั ว์ต้งั แตเ่ วลา 08.00น.– T (tail) คือ ความยาววดั จากรูทวารจนถึงปลายหาง
12.00น. และการเดินส�ำรวจช่วงเวลากลางคืน ทำ� การ HW (head width) คือ ความกวา้ งของหวั กะโหลก
ส�ำรวจต้งั แต่เวลา 20.00–22.00น. แบ่งเส้นทางส�ำรวจ W (weight) คือ น้ำ� หนกั
ออกเป็น 4 เสน้ ทาง ไดแ้ ก่ บริเวณทางเทา้ บริเวณป่ ากลว้ ย
บริเวณริมลำ� หว้ ย และบริเวณฝายวดั น้ำ� (weir) (Figure 3)

Figure 3. Direct observation (A, D) Were found obser- PROOFSFigure 4. Some Morphology of Cuvier’s spiny lizard;
vation (B, E) and Catch a lizard in bag (C, F). Snout-forelimb length (A) Snout-vent length (B) Axil-
จาการส�ำรวจท้ังสองวิธีหากพบกิ้งก่า ให้น�ำใส่ถุง la-groin length(C) Tail (D) Head width (E) and weight (F).
พลาสติก และจบั พกิ ดั ภูมิศาสตร์ (GPS) ในจุดท่ีพบกิ้งก่า
และทำ� การจดบนั ทึก พิกดั GPS วนั ที่ และเวลาท่ีพบ ใส่ การทำ� เคร่ืองหมายระบุตวั กงิ้ ก่า
กระดาษขนาดเล็กและนำ� ใส่ในถุงพลาสติกท่ีใส่กิ้งก่า ประชากรสัตวแ์ ต่ละชนิดมีการเจริญพนั ธุ์ในระยะเวลา
ไว้ เพื่อนำ� ไปวดั ลกั ษณะสัณฐานวิทยาบางประการของ และช่วงอายไุ ม่เท่ากนั (Jessica et al., 2015) หลงั จาก
กิ้งก่า จดบนั ทึกขอ้ มูล และทำ� เคร่ืองหมายระบุตวั ก่อนนำ� ทำ� การศึกษาลกั ษณะสัณฐาน สามารถแบ่งช่วงอายขุ อง
ไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในบริเวณที่ถูกจบั มา เม่ือสำ� รวจ กิ้งก่าโดยใชข้ อ้ มูลการวดั ความยาวจากปลายปากจนถึง
ครบตามระยะเวลาที่กำ� หนด ในวนั สุดทา้ ยที่ทำ� การศึกษา รูทวาร (snout-vent length, SVL) บงกชรัตน์ (2560)
ทำ� การปิ ดฝาถงั พลาสติกหลุมดกั สัตวท์ ุกหลุมก่อนกลบั แบ่งช่วงอายุออกไดเ้ ป็ นตวั เต็มวยั (SVL > 65 mm.)
ออกจากแปลงถาวร และตวั ไม่เตม็ วยั (SVL ≤ 65 mm.) ซ่ึงจะใชว้ ธิ ีการทำ�
การวดั ลกั ษณะสัณฐานบางประการ เครื่องหมายแตกต่างกนั ไดแ้ ก่ การฝังไมโครชิฟและการ
ศึกษาลกั ษณะสัณฐานของกิ้งก่าโดยใช้Vernier Cali- สกั ดว้ ยสี (Figure 5) หลงั จากการวดั ลกั ษณะสณั ฐานเสร็จ
perและเคร่ืองชง่ั น้ำ� หนัก วดั หน่วยเป็ นมิลลิเมตรและ แลว้ ตามลำ� ดบั
กรัม ตามลำ� ดบั (Figure 4) โดยบนั ทึกขอ้ มูลของลกั ษณะ วธิ ีการฝังไมโครชิป (กงิ้ ก่าตวั เตม็ วยั )
ดงั ต่อไปน้ี ใชเ้ คร่ืองอ่านไมโครชิฟตรวจสอบว่ามีไมโครชิฟถูกฝัง
SFL (snout-forelimb length) คือ ความยาวจากปลายจมูก อยใู่ นตวั กิ้งก่าแลว้ หรือไม่ ถา้ พบว่ามีการฝังไมโครชิฟ
จนถึงคอ อยแู่ ลว้ ใหท้ ำ� การจดบนั ทึกขอ้ มูลการจบั ซ้ำ� และหมายเลข
SVL (snout-vent length) คือ ความยาวจากปลายจมูก ไมโครชิฟลงบนแบบฟอร์มเกบ็ ขอ้ มลู ก่อนปลอ่ ยคนื หาก

สมั มนาวชิ าการพพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 23

ไม่พบว่ามีการติดต้งั ไมโครชิฟ ให้ทำ� การติดต้งั ไมโคร คขู่ าหนา้ และหลงั รวม 4 ตำ� แหน่ง ซ่ึงสีและตำ� แหน่งของสี
ชิฟดว้ ยอุปกรณ์ติดต้งั ที่ผา่ นการฆ่าเช้ือแลว้ โดยไมโคร จากการสกั ในกิ้งก่าแต่ละตวั จะแตกต่างกนั เพอ่ื แปลรหสั
ชิฟที่นำ� มาฝังในตวั กิ้งก่าแต่ละชิ้นตอ้ งถูกตรวจสอบดว้ ย สีแลว้ จะสามารถระบุตวั กิ้งก่าได้ จากน้นั จึงทำ� การปล่อย
เคร่ืองอา่ นไมโครชิฟกอ่ นวา่ สามารถทำ� งานไดป้ กติ โดยมี คืนในบริเวณท่ีถูกจบั มา
ตำ� แหน่งการฝังไมโครชิฟอยบู่ ริเวณดา้ นทอ้ งของระยางค์
ขาหลงั ขา้ งขวาและทำ� การตรวจสอบไมโครชิฟดว้ ยเคร่ือง วธิ ีการวเิ คราะห์ข้อมูล

อ่านอีกคร้ังก่อนปล่อยคืนในบริเวณที่จบั มา วิเคราะห์ความหนาแน่นของประชากรของกิ้งก่า ใน
พ้ืนท่ีศึกษาคำ� นวณโดยใชส้ ูตรของ Karanth and Nichols
วธิ ีการสักด้วยสี (กงิ้ ก่าตวั ไม่เตม็ วยั ) (1998) ดงั น้ี

ตรวจสอบการทำ� เครื่องหมายดว้ ยการใชไ้ ฟฉายยวู ีส่อง
บริเวณดา้ นทอ้ งของกิ้งก่าตวั ไม่เตม็ วยั ถา้ พบการสกั ดว้ ย
สีอยู่แลว้ ให้บนั ทึกขอ้ มูลการจบั ซ้�ำและขอ้ มูลรหัสสีท่ี D = !
"#$%

แปลแลว้ ลงบนแบบฟอร์มบนั ทึกขอ้ มูล เหขาม็ กฉไีดมอ่พโินบดซยกูลาินร
สกั ดว้ ยสี ใหเ้ ตรียมอุปกรณ์การสกั ไดแ้ ก่
ที่ฆ่าเช้ือแลว้ ขนาด 0.3 มม. พร้อมหวั เขม็ ขนาด 12 มม.PROOFS D ===ทโ ดคขขี่ไยวนนด าาาจ้ มดดาหพปกน?รืนกNADะาทาแช===รี4ทนาปข?งกัขค่นหนรรวนะทมาาาเด4ีดจมมดบัทปหพินไี4พรน้ืนดะบหา้ทชสแรา่ีทตัืนอกว้งัข่นร์หนทมาจี่ ดดบัปทไรี่พดะชห้บารสกือรตั ขทวน4ีไ์ ดาจด้ าปกรกะารชปากระรเมิน
และสีต่าง ๆ ที่ใชใ้ นการสกั ซ่ึงเกิดจากการผสม Visible N
A

implant elastomer tag (VIE TAGs) ทำ� การสกั ดว้ ยการ
ฉีดสีความยาวประมาณ 4 มม. บริเวณใตท้ อ้ งของระยางค์

Student’s t test = &'%(&') = ความแตกต่างระหวา่ งค่าเฉล1ียท5งั สอง
*.$.!"## ค่าความคลาดเคลื1อนของความแตกต่าง

Figure 5. Marking on Cuvier’s Spiny Lizard; Microchip embedding (A, B) and Visible Implant Tags (C, D).

24 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

ทำ� การวเิ คราะห์โดยใชโ้ ปรแกรม Capture เลือกใชโ้ มเดล ไม่เตม็ วยั ท้งั หมด 153 ตวั แบ่งเป็นเพศผู้ 90 ตวั และเพศ
สมการความผนั แปรดา้ นเวลา (The Time Variation เมีย 63 ตวั (Figure 6)
(Schnabel) Model, Mt) ในการคำ� นวณตามสมมติฐาน
สัตวแ์ ต่ละตวั ในประชากรมีโอกาสของการถูกจบั เท่าๆ จากการเทียบขอ้ มูลช่วงฤดูผสมพนั ธุ์วางไข่ในระหว่าง
กนั สำ� หรับในแต่ละโอกาสการเก็บตวั อยา่ ง (sampling เดือน กรกฎาคมถึงตุลาคม และช่วงนอกฤดูผสมพนั ธุ์
occasion) แต่ค่าโอกาสของการถูกจบั มีความผนั แปรใน วางไข่ ในเดือน มกราคมและเมษายน ในปี พ.ศ. 2561
แต่ละเวลาที่มีการเกบ็ ตวั อยา่ ง พบวา่ จำ� นวนกิ้งก่าท่ีจบั ไดใ้ นแต่ละช่วงที่ทำ� การสำ� รวจ
พบจำ� นวนกิ้งก่ามากนอ้ ยแตกต่างกนั ซ่ึงในฤดูผสมพนั ธุ์
การคำ� นวณสดั ส่วนเพศ และโครงสร้างช้นั อายุ (Sex ratio วางไขพ่ บกิง้ กา่ จำ� นวน 200 ตวั ในขณะที่ช่วงนอกฤดผู สม
and age structure) พนั ธุ์วางไข่ พบกิ้งก่าจำ� นวน 38 ตวั จึงกล่าวไดว้ ่าช่วง
เวลาเป็ นปัจจยั หน่ึงท่ีส่งผลต่อการสำ� รวจพบประชากร
โดยน�ำค่าขนาดประชากรท่ีได้มาคำ� นวณหาสัดส่วน กิ้งก่าเขาเลก็ โดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพนั ธุว์ างไขท่ ่ีสามารถ
จำ� นวนตวั ระหวา่ งเพศผู้ กบั เพศเมียท้งั หมดที่ไดจ้ ากการ พบเห็นกิ้งก่าไดง้ า่ ยเน่ืองจากพฤติกรรมสตั วเ์ ปล่ียนแปลง
ศึกษา และคำ� นวณหาสัดส่วนระหวา่ งเพศผู้ กบั เพศเมีย ไปตามสภาพแวดลอ้ ม และปัจจยั ต่อการดำ� รงชีวิต จึง
ท่ีพบในแต่ละเดือนโดยคิดเป็ นเปDอ=รD"์เซ=#!็น$"%ร#!้อ$ย%ละ ทำ� ให้เกิดความแตกต่างของขนาดประชากรเม่ือทำ� การ
PROOFS
การเปรียบเทียบความแตกต่างของลกั ษณะทางสัณฐาน เปรียบเทียบระหวา่ งฤดูกาล
โดpใรยโชeะดnหก้ ยdาวeรา่nDANทงtเ===ดtพ-DANtสคขขeศวนนอs===ขtาาาบคขขอมตดดทวนนหงาพปากมาาาน?รืนมดดงิ้งสะาหทพปสกแชูต4ีทน?รืนนถ่าาร?ะงกาัท่นิตขแหชร4ีทิโนาอทม?งดกั่นงี4ดจหรยบัทWทมกไ4ีพ4ีดจาดiบบัlทรห้lสiไใี4พaรดชตัืบmอห้ว้ขสI์รnSนตัือdeวาขeaด์ plนปyeารnGดะdปoชeรsาnsะกteชรatาทn(ก1ี4ไdร9ดทD0จ้ 4ีไ8eาดก)-จ้กากรกปจผปาราลรระกะปจเมโเรามิปนะกนิเรกมขแินานกรปราดมรปะCรเมAะินชPาขTกนUราRดEปรไะดชค้ า่ากขรนโาดดยปกราะรชวาิเคกรราโะดหย์
เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของลกั ษณะทางสณั ฐาน 6 ลกั ษณะ เฉล่ียของกิ้งก่าเขาเลก็ ดงั Table 1 แสดงขนาดประชากร
โดยเฉล่ียท่ีระดบั ความเช่ือมน่ั 95% พบว่าพ้ืนท่ีศึกษา
StudSetnutd’esnttt’esst test = * & '.=$%.*(!&'."$&%#'.)#(! "&#'=)#ค ค่าว=คาวมคาคแม่าวตคากวลมาตแมด่าตคงเครกลละตา1ืหอด่างนเวครา่ขละงอื1หอคงน่าวคเา่ขฉวงอลาคมงี1ย่าคแทเฉวต5งั ลากสมี1ยตอแท่างต5งงั กสตอ่างง ประชากรกิ้งก่าเขาเลก็ โดยเฉล่ียจำ� นวน 738±60.96 ตวั

จากการวเิ คราะหย์ งั พบวา่ ในพ้นื ท่ีศึกษามีขนาดประชากร
ระหวา่ งกิ้งก่าตวั เตม็ วยั เพศผแู้ ละเมียที่ความเช่ือมน่ั 95% กิ้งก่าเขาเลก็ ต่ำ� สุดท่ี 635 ตวั และสูงสุด 875 ตวั
และวิเคราะห์ความแปรปรวนของน้ำ� หนกั โดยเฉล่ียของ
กิ้งก่าเขาเล็กตวั เต็มวยั เพศผูแ้ ละเมียในแต่ละเดือนดว้ ย Table 1. Calculate total population from Capture Program.
ANOVA โดยใชโ้ ปรแกรม R ในการคำ� นวณ
Number of Calculate total population from
ผล และวจิ ารณ์ Cuvier's Capture Program

ประชากร spiny lizard Means±SE 95% confidence interval
(individual) Lower Upper

ผลจากการสำ� รวจพบกิ้งก่าเขาเลก็ ท้งั หมด 333 ตวั จาก 333 738±60.96 635 875
การสำ� รวจพบกิง้ กา่ 426 คร้ัง พบจำ� นวนมากที่สุดในเดือน
กนั ยายน พ.ศ. 2560 จำ� นวน 72 ตวั และพบจำ� นวนนอ้ ย ความหนาแน่น
ที่สุดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 จำ� นวน 8 ตวั (Figure
7) เป็ นกิ้งก่าตวั เตม็ วยั 180 ตวั แบ่งเป็ นเพศผตู้ วั เตม็ วยั ประชากรกิ้งก่าเขาเล็กในพ้ืนที่ศึกษาซ่ึงเป็ นแปลง
69 ตวั และเพศเมียตวั เตม็ วยั 111 ตวั และกิ้งก่าเขาเลก็ ตวั ศึกษาถาวรขนาด 16 เฮกแตร์จากการวิเคราะห์เท่ากบั
738±60.96 ตวั ดงั น้นั ความหนาแน่นของกิ้งก่าเขาเลก็ จึง
เท่ากบั 46.13±3.81 ตวั ต่อเฮกเเตร์

สมั มนาวชิ าการพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 25

PROOFS
Figure 6. Total Cuvier’s Spiny Lizard 333 individual; Adult males (Blue) Adult females (Orange) Juvenile males
(Gray) and Juvenile females (Yellow).

Figure 7. Number of Cuvier's spiny lizards in 10 months (individual).
โดยในการเก็บขอ้ มูลพบว่ากิ้งก่าเขาเล็กมีการเคล่ือนท่ี 225 เมตร เพื่อใหค้ ลอบคลุมถึงระยะการเคล่ือนที่ จะได้
เป็นระยะทางไกลท่ีสุด 225 เมตร จึงไดเ้ พิ่มขนาดแปลง พ้นื ที่เป็น 39 เฮกแตร์ ดงั น้นั ความหนาแน่นของกิ้งก่าเขา
ให้มีมากข้ึนโดยเพ่ิมระยะดา้ นกวา้ งและยาวอีกดา้ นละ เลก็ ในพ้ืนที่เท่ากบั 18.92±1.56 ตวั ต่อเฮกเเตร์

26 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

สัดส่ วนระหว่างเพศ ช้นั อายกุ บั การศึกษาในคร้ังน้ีอาจเน่ืองมาจากพ้นื ที่ศึกษา
มีสภาพพ้ืนที่ถ่ินท่ีอยู่อาศยั ที่แตกต่างกนั การประเมิน
จากการสำ� รวจพบกิ้งก่าท้งั หมด 333 ตวั เป็นกิ้งก่า เพศ โครงสร้างประชากรที่ไดจ้ ึงแตกต่างกนั กอปรกบั ความ
ผู้ 159 ตวั และเพศเมีย 174 ตวั นำ� มาคำ� นวณหาสดั ส่วน อุดมสมบูรณ์ ความทนทานต่อสภาพแวดลอ้ ม สตั วผ์ ลู้ ่า
ระหว่างเพศผูต้ ่อเพศเมียเท่ากบั 1:1.1 แสดงให้เห็นว่า และรูปแบบการสืบพนั ธุ์ที่แตกต่างกนั ก็อาจส่งผลต่อ
สัดส่วนของเพศผูแ้ ละเพศเมียมีขนาดใกลเ้ คียงกนั จาก จำ� นวนประชากรตวั เตม็ วยั และตวั ไม่เตม็ วยั
สดั ส่วนระหวา่ งเพศท่ีได้ เม่ือนำ� มาหาร้อยละจากจำ� นวน
คร้ังท่ีพบในแต่ละเดือนพบวา่ กิ้งก่าเขาเลก็ ในแต่ละช่วง ลกั ษณะทางสัณฐานบางประการ
เดือนมีสัดส่วนระหว่างกิ้งก่าเพศผูแ้ ละเพศเมียแตกต่าง
กนั ซ่ึงในเดือนสิงหาคมและกนั ยายนของท้งั สองปี มี จากการวิเคราะห์ขอ้ มูลพบวา่ ลกั ษณะทางสัณฐานวิทยา
สัดส่วนระหวา่ งเพศใกลเ้ คียงกนั แต่ในเดือนกรกฎาคม ของกิ้งก่าเขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศเมียท้งั 6 ลกั ษณะ มีคา่ เฉล่ีย
และตุลาคมของท้งั สองปี มีสัดส่วนระหว่างเพศท่ีแตก มากกวา่ กิ้งก่าเขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศผอู้ ยา่ งมีนยั สำ� คญั ทาง
ต่างกนั โดยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 พบกิ้งก่าเพศเมีย สถิติ (p<0.05) ดงั Table 2
มากกวา่ เพศผู้ และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 พบกิ้งก่า ความแตกต่างของน�ำ้ หนักกงิ้ ก่าเขาเลก็
PROOFSเพศผมู้ ากกวา่ เพศเมีย
จากการคำ� นวณหาค่าเฉล่ียของน้ำ� หนกั กิ้งก่าไดค้ ่าเฉลี่ย
จากการคำ� นวณพบว่าโครงสร้างช้นั อายกุ ิ้งก่าตวั เต็มวยั ของน้ำ� หนักเพศผูเ้ ท่ากบั 11.79±0.48 กรัม และเพศ
มีความหนาแน่นมากกว่าตวั ไม่เตม็ วยั ซ่ึงไม่สอดคลอ้ ง เมียเท่ากบั 20.25±0.82 กรัม จึงนำ� มาวิเคราะห์ความ
กบั งานวจิ ยั ของ Bennett and Gorman (1979) ไดท้ ำ� การ แปรปรวนของน้ำ� หนกั กิ้งก่าเขาเล็กตวั เต็มวยั เพศผูแ้ ละ
ศึกษาประชากรกิ้งก่าในบริเวณเกาะโบแนเรอซ่ึงเป็นเกาะ เมีย จากค่าเฉลี่ยของน้ำ� หนกั เพศเดียวกนั ระหว่างเดือน
ในเขตร้อนของประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเมินประชากร พบวา่ ค่า F-ratio เท่ากบั 0.06 ซ่ึงมีค่ามากกวา่ ค่า F วกิ ฤต
และโครงสร้างช้นั อายทุ ้งั หมด 3 ชนิด พบกิ้งก่าตวั เตม็ วยั ท่ี 0.05 (Table 3)
เพียง 19% จากจำ� นวนกิ้งก่าท้งั หมดท่ีพบ ซ่ึงการรายงาน
ผลการศึกษาระบุว่า ประชากรของกิ้งก่าในเกาะโบแน เม่ือน�ำน้�ำหนักเฉล่ียของกิ้งก่าเขาเล็กตวั เต็มวยั เพศผู้
เรอซ่ึงเป็นเกาะในเขตร้อน มีความหนาแน่นสูงมากกวา่ และเมียในแต่ละเดือนมาเปรียบเทียบกนั พบว่า เดือน
เพราะมีความอุดมสมบูรณ์มากกวา่ กิ้งก่าท่ีอาศยั อยแู่ ผน่ กรกฎาคม สิงหาคม กนั ยายน และตุลาคม พ.ศ. 2560 ร่วม
ดินใหญแ่ ละเขตเมือง ดงั น้นั ความแตกตา่ งของโครงสร้าง กบั เดือนเมษายน กรกฎาคม สิงหาคม และตุลาคม พ.ศ.
2561 กิ้งก่าเขาเล็กเพศเมียมีน้ำ� หนกั เฉลี่ยมากกว่าเพศผู้
Table 2. Some Morphological characteristics of Cuvier’s Spiny Lizard between male and female.

Morphological characters Mean±SE

males (N = 200) females (N = 226)

1.SFL 19.23±0.27 21.81±0.33

2.SVL 62.88±0.84 73.23±1.15

3.TAIL 87.57±5.29 96.20±1.43

4.AGL 36.43±0.55 43.40±0.78

5.HW 14.33±0.21 16.11±0.22

6.W 11.79±0.48 20.25±0.82

สมั มนาวชิ าการพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 27

อยา่ งชดั เจน ตรงกนั ขา้ มกบั เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 น้ำ� PROOFS tion) โดยใชร้ ะยะเวลาเกบ็ ขอ้ มูลท้งั หมด 10 เดือน ต้งั แต่
หนกั เฉล่ียของกิ้งก่าเขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศเมียนอ้ ยกวา่ เพศ เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2560 และในช่วง
ผสู้ อดคลอ้ งกบั สมมตฐิ านรองทวี่ า่ น้ำ� หนกั เฉลย่ี ของกิง้ กา่ เดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม สิงหาคม กนั ยายน และ
เขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศผแู้ ละเมยี มอี ยา่ งนอ้ ยหน่ึงเดือนทแ่ี ตก ตุลาคม ปี พ.ศ. 2561
ตา่ งจากเดือนอน่ื ๆ นอกจากน้ีน้ำ� หนกั ของกิ้งก่าเขาเลก็ ตวั พบกิ้งก่าเขาเลก็ ท้งั หมด 426 คร้ัง จำ� แนกเป็นรายตวั ได้
เตม็ วยั เพศเมยี มคี วามสมั พนั ธก์ บั ช่วงผสมพนั ธุว์ างไขโ่ ดย 333 ตวั เป็นกิ้งก่าตวั เตม็ วยั 180 ตวั แบ่งเป็นเพศผู้ 69 ตวั
มีน้ำ� หนกั เพิ่มข้ึนอยา่ งเห็นไดช้ ดั ในช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นเพศเมีย 111 ตวั และตวั ไมเ่ ตม็ วยั 153 ตวั แบง่ เป็นเพศ
ถึงตลุ าคมของทกุ ปี ท่ีทำ� การศกึ ษา ซ่ึงแตกตา่ งจากน้ำ� หนกั ผู้ 90 ตวั และเพศเมีย 63 ตวั คำ� นวณความหนาแน่นของ
ของเพศผทู้ ี่มีค่าเฉล่ียใกลเ้ คียงกนั ในทุกเดือน กิ้งก่าเขาเลก็ ได้ 46 ตวั ต่อเฮกเเตร์ เม่ือคำ� นวณกบั พ้ืนที่
การศึกษาลกั ษณะสัณฐานบางประการของกิ้งก่าเขาเลก็ ศึกษาท้งั หมดแลว้ คิดเป็น 1,798 ตวั ต่อ 39 เฮกแตร์ และมี
คร้ังน้ี พบวา่ SFL, SVL, AGL, HW และ W ของกิ้งก่า อตั ราส่วนระหวา่ งเพศผตู้ ่อเพศเมียเท่ากบั 1 : 1.1
เขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศเมียมีค่าเฉล่ียมากกว่าเพศผู้ อยา่ งมี กิ้งก่าเขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศเมียมีค่าเฉล่ียของลกั ษณะทาง
นยั สำ� คญั ทางสถิติ (p < 0.05) สอดคลอ้ งกบั การศึกษา สณั ฐานท้งั 6 ลกั ษณะ มากกวา่ ตวั เตม็ วยั เพศผอู้ ยา่ งมีนยั
ของ Li Ma et al. (2018) บางประการ ซ่ึงไดท้ ำ� การศึกษา สำ� คญั ทางสถิติ (p<0.05) เมื่อวเิ คราะห์ ANOVA เปรียบ
ลกั ษณะสณั ฐานบางประการของจิ้งเหลนภเู ขาในตอนใต้ เทียบน้ำ� หนกั เฉลยี่ ของกิง้ กา่ ในเพศเดียวกนั ในแตล่ ะเดือน
ของประเทศจีน พบวา่ ค่าเฉลี่ย SVL ของจิ้งเหลนเพศผู้ พบวา่ น้ำ� หนกั เฉลี่ยของกิ้งก่าแต่ละเพศอยา่ งนอ้ ย 1 เดือน
และเมียไมแ่ ตกตา่ งกนั อยา่ งมีนยั สำ� คญั ในขณะท่ีลกั ษณะ จะแตกตา่ งจากเดือนอื่น อยา่ งไรกต็ ามกิ้งก่าเขาเลก็ ตวั เตม็
สัณฐานอื่นของจิ้งเหลนเพศเมียมีขนาดใหญ่กว่าเพศผู้ วยั เพศเมียจะมีน้ำ� หนกั เฉลี่ยมากกวา่ เพศผู้ยกเวน้ ในเดือน
เห็นไดว้ า่ ลกั ษณะสณั ฐานของกิ้งก่าและจิ้งเหลนมีปัจจยั มกราคม พ.ศ. 2561 พบวา่ กิ้งกา่ เขาเลก็ ตวั เตม็ วยั เพศผมู้ ีน้ำ�
ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การสืบพนั ธุ์ระหวา่ งเพศ ซ่ึงเป็ นไปไดว้ า่ หนกั เฉล่ียมากกวา่ เพศเมีย
ขนาดลกั ษณะสัณฐานเหล่าน้ีมีการเชื่อมโยงโดยตรงกบั
การสืบพนั ธุ์วางไข่ในกิ้งก่าเพศเมีย คำ� นิยม

สรุป ขอขอบคุณโครงการมนุษยแ์ ละชีวมณฑล พ้นื ที่สงวนชีว
มณฑลแม่สา-คอกมา้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตวป์ ่ าและ
จากการศึกษาการติดตามประชากร ของกิ้งก่าเขาเลก็ (Ac- พนั ธุพ์ ชื ที่สนบั สนุนทุนในการทำ� วจิ ยั คร้ังน้ี อทุ ยานแห่ง
anthosaura lepidogaster) ในป่ าดิบเขาบริเวณพ้ืนที่สงวน ชาติดอยสุเทพ-ปุย จงั หวดั เชียงใหม่ ที่อนุญาตใหเ้ ขา้ ใช้
ชีวมณฑลแมส่ า-คอกมา้ จงั หวดั เชียงใหม่ โดยวธิ ีวางหลมุ พ้นื ที่ ตลอดจนเจา้ หนา้ ที่ และผทู้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ งทุกท่าน
ดกั สตั ว์(pitfall) และ เดินสำ� รวจโดยตรง (direct observa- ท่ีคอยช่วยเหลือในการเกบ็ ขอ้ มูล

Table 3. Analysis of Variance (ANOVA) weight of Cuvier’s Spiny Lizard.

Df Sum of square Mean of square F-value Pr (>F)

1 12.67 12.67 4.82 0.06

Male Residuals 8 21.05 2.63

28 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

เอกสารและส่ิงอ้างองิ PROOFS คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,
กรุงเทพมหานคร.
เกษม จนั ทร์แกว้ นิพนธ์ ต้งั ธรรม สามคั คี บุณยะวฒั น์ บงกชรัตน์ ภทั รมนสั . 2560. ประชากรและการเคลื่อนที่
ชุมพล งามผ่องใส และนิวตั ิ เรืองพานิช. 2524. ของกงิ้ ก่าเขาเลก็ (Acanthosaura epidogaster) ใน
การวิจัยเก่ียวกับการจัดการลุ่มน�้ำบนภูเขา. ภาค ป่ าดบิ เขาบริเวณพืน้ ทสี่ งวนชีวมณฑลแม่สา-ห้วย
วิชาอนุรักษว์ ิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลยั คอกม้า จงั หวดั เชียงใหม่. โครงงานระดบั ปริญญา
เกษตรศาสตร์, กรุงเทพมหานคร. ตรี มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.
บษุ บง กาญจนสาขา อมั พรพมิ ล ประยรู กนกอร ทองใหญ่
จารุจินต์ นภีตะภฎั . 2530. สัตว์ป่ าในบริเวณอุทยาน เผด็จ บุณขาว และครินทร์ หิรัญไกรลาส. 2554.
แห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย. การวิจัยลุ่มน้�ำห้วย คู่มือการส�ำรวจความหลากหลายสัตว์ป่ า. สำ� นกั
คอกมา้ . ภาควิชาอนุรักษว์ ิทยา. คณะวนศาสตร์, วิจยั การอนุรักษป์ ่ าไมแ้ ละพนั ธุ์พืช กรมอุทยาน
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. สตั วป์ ่ าและพนั ธุ์พืช, กรุงเทพมหานคร.
ประทีป ดว้ งแค. 2558. รายงานการวจิ ยั การตดิ ตามความ
จารุจินต์ นภีตะภฏั ธญั ญา จน่ั อาจ และยอดชาย ช่วยเงิน. หลากหลายทางชีวภาพต่อการเปล่ียนแปลงภูมิ
2544. รายช่ือสัตว์สะเทินน�้ำสะเทินบกและสัตว์ อากาศในเขตสงวนชี วมณฑลห้ วยคอกม้ าและ
เลื้อยคลานในประเทศไทย. พิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติ พื้นที่ใกล้เคียงของระบบนิเวศภูเขาดอยสุเทพ -
วิทยาและองค์การพิพิธภณั ฑ์วิทยาศาสตร์แห่ง ปุย จงั หวดั เชียงใหม่. มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์,
ชาติ, กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร.
ปิ ยวรรณ นิยมวนั ไพรวลั ย์ ศรีสม และปริญญา ภวงั คะ
ชาตรี ช่วยประสิทธ์ิ. 2540. คำ� กล่าวรายงาน. หนา้ 5-6. นนั ทน.์ 2560. โครงการวจิ ยั นิเวศวทิ ยาป่ าไมร้ ะยะ
ในรายงานการประชุมวชิ าการ:การอนุรักษ์ความ ยาว: สัตว์เลือ้ ยคลานห้วยขาแข้ง.สำ� นกั พิมพภ์ าพ
หลากหลายทางชีวภาพในพื้นท่ีสงวนชีวมณฑล. พมิ พ,์ กรุงเทพมหานคร.
สำ� นกั นโยบายและแผนส่ิงแวดลอ้ ม กองประสาน ภูริภทั ร หุวะนนั ทน์. 2548. พืชสงวนชีวมณฑล. แหล่ง
การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ท่ีมา:chmthai.onep.go.th., 16 มีนาคม 2561.
กลุ่มงาน ทรัพยากรชีวภาพ, กรุงเทพมหานคร.

ดอกรัก มารอด และอุทิศ กฎุ อินทร์. 2552. นิเวศวทิ ยาป่ า
ไม้. คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์,
กรุงเทพมหานคร.

ธวชั ชยั สนั ติสุข. 2555 ป่ าของประเทศไทย. กรมอุทยาน ยอดชาย ช่วยเงิน และจนั ทร์ทิพย์ ช่วยเงิน. 2555. บญั ชี
แห่งชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พชื , กรุงเทพมหานคร. รายช่ือสัตวเ์ ล้ือยคลานในประเทศไทย. วารสาร
สัตว์ป่ าเมืองไทย 19(1): 75–162.
ธญั ญา จน่ั อาจ ปิ ยทิพย์ปิ ยพนั ธ์ พนั ทิพา พฒั นแกว้ เพชร
มโนปวิตร และเมธี หยกอุบล. 2548. คู่มือการ ยวุ ดี พลพิทกั ษ.์ 2557. อาหารของสัตว์สะเทนิ น�ำ้ สะเทนิ
จ�ำแนกสัตว์ป่ า เพ่ืองานป้องกัน และปราบปราม บกบริเวณป่ าดิบเขา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ
การลกั ลอบค้าสัตว์ป่ า. สำ� นกั พิมพก์ รีนแมคพาย, –ปุย จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท,
นนทบุรี. มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร.

นริศ ภูมิภาคพนั ธ์. 2543. การจัดการสัตว์ป่ า. เอกสาร วิณีพารถ พนั ธุ์วฒุ ิ. 2542. สัตว์ถ่ินเดยี วในประเทศไทย.
ประกอบการเรี ยน, ภาควิชาชีววิทยาป่ าไม้ ส�ำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ .

สมั มนาวชิ าการพพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 29

กรุงเทพมหานคร. PROOFS ual recognition techniques for Amphibians and
วีรยทุ ธ์ เลาหะจินดา. 2552. วิทยาสัตว์เลื้อยคลาน และ Reptiles. Herpetological Circular No.35. Society
for the Study of Amphibians and Reptiles, Salt
สัตว์สะเทนิ นำ�้ สะเทนิ บก. สำ� นกั พมิ พม์ หาวทิ ยาลยั Lake City, UT.
เกษตรศาสตร์. กรุงเทพมหานคร. Germano, D.J. and D.F. Williams. 1992. Gambelia
สามคั คี บุณยะวฒั น์. 2540. พ้ืนท่ีสงวนชีวมณฑลแม่ sila (blunt-nosed leopard lizard): Reproduction.
สา – หว้ ยคอกมา้ . หนา้ 26 – 35. ในรายงานการ Herpetol. Rev. 23(4): 117–118.
ประชุมวชิ าการ:การอนุรักษ์ความหลากหลายทาง IUCN. 2010. The IUCN Red List of Threatened Spe-
ชีวภาพในพื้นที่สงวนชีวมณฑล. สำ� นกั นโยบาย cies 2010. IUCN Red List. Downloaded from
และแผนสิ่งแวดลอ้ ม กองประสานการจดั การ http://dx.doi.org on 2 May 2018.
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม กลุ่มงาน Li, M., P.E.I. Jianchi, C. Zhou, Y. Du, X. JI and W. Shen.
ทรัพยากรชีวภาพ, กรุงเทพมหานคร. 2018. Sexual dimorphism, female reproductive
ส�ำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ. 2559. characteristics and egg incubation in an oviparous
Reptiles of Thailand. พิมพค์ ร้ังที่ 1. สำ� นกั งาน forest skink (Sphenomorphus incognitus) from
พฒั นาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ(องคก์ ารมหาชน), South China. Asian Herpetological Research
กรุงเทพมหานคร. 9(2): 119–128.
องค์การสวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิ ริ กิ ต์ ิ. R Development Core Team. 2015. R: A Language
2554. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิ and Environment for Statistical Computing.
ต์ิ เล่ม 4. โอ.เอส.พริ้นติ้ง เฮาส์, กรุงเทพมหานคร. R Foundation for Statistical Computing, Vi-
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย. 2553. แผนแม่บทการ enna,Austria: R Foundation for Statistical Com-
ปฏิบัติงานอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย พ.ศ. puting. http://www.R-project.org/.
2554-2558. ส�ำนักบริหารพ้ืนที่อนุรักษ์ท่ี 16, Stapley, J., M. Garcia, and R.M. Adrews. 2015. Long-
เชียงใหม่. term data reveal a population decline of the trop-
Anderson, S.H. 2002. Managing Our Wildlife Re- ical lizard Anolis apletophallus, and a negative
sources. 4 ed. Pearson Education, Inc., New Affect of El Nino years on population growth rate.
Jersey. PLoS ONE 10(2): e0115450.
Bennett, A.F. and G.C. Gorman. 1979. Population den- The Wildlife Ethics Committee. 2013. Use of Micro-
sity and energetics of lizards on a tropical island. chips for Marking Wildlife Policy.
Oecologia 42: 339–358. UNESCO. 2012. Ecological sciences for sustainable
Chan-ard, T., J.W.K. Parr and J. Nabhitabhata. 2015. A development. Downloaded from http://www.
Field Guide to the Reptiles of Thailand. New unesco.org/new/en/natural-sciences/environment/
York: Oxford University Press. ecological-sciences/biosphere-reserves on 19
Ferner, J.W., 2007. A Review of marking and individ- August 2018.

30 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

White, G.C., D.R. Anderson, K.P. Burnham and D.L. Williams, L. 1965. Vegetation of Southeast Asia
Otis. 1982. Capture-Recapture and Removal studies of forest types. Washington, D.C.: Dept.
Methods for Sampling Closed Population. 1 Agri, Agricultural Research
ed. Los Alamos Natl. Lab. Publ., New Mexico.
Wu, Y., J.A. Ramos, X. Qiu, R.A. Peters, Y. Qi. 2017.
Wikimedia Commons. 2013. Acanthosaura lepidogas- Female–female aggression functions in mate
ter distribution. IUCN Red List of threatened defence in an Asian agamid lizard. Animal
Secies, secies assessors and the authors of the Behaviour 135: 215–222.
spatial data.

PROOFS

สมั มนาวชิ าการพิพธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร, 31-40
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories, 31-40.

ความหลากหลายชนิดและการปรากฏของด้วงมูลสัตว์ในพืน้ ทปี่ ่ ารุ่นสอง
อทุ ยานแห่งชาตเิ ขาใหญ่ จงั หวดั นครราชสีมา

Species Diversity and Occurrence of Dung Beetle in Secondary Forest
at Khoa Yai National Park, Nakhon Ratchasima, Province

อสิ ราพงษ์ วรผาบ1* Itsarapong Voraphab1*
ศศิธร หาสิน2 Sasitorn Hasin2
วลพี รรณ พมิ พ์ภกั ด์1ิ
วฒั นภูมิ กนั แสง1 Waleephan Pimphak1
Wattanapum Kansaeng1

1กลุ่มงานวจิ ยั กีฏวทิ ยาและจุลชีววทิ ยาป่ าไม้ สำ� นกั วจิ ยั การอนุรักษณ์ป่ าไมแ้ ละพนั ธุ์พืช
กรมอุทยานแห่งชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พชื กรุงเทพมหานคร. 10900

1Forest Entomology and Microbiology Research Group, Forest and Plant Conservation Research Office, Department of National Parks, Wildlife, and
Plant Conservation, Bangkok 10900

2สาขาวชิ านวตั กรรมการจดั การสิ่งแวดลอ้ ม วทิ ยาลยั นวตั กรรมการจดั การ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์
จงั หวดั ปทุมธานี 13180

2Innovation of Environmental Management, College of Innovative Management, Valaya Alongkorn
Rajabhat University under Royal Patronage, Khlong Nueng, Khlong Luang, Pathum Thani 13180

*Corresponding author. E-mail: [email protected]
PROOFS
รับเรื่อง: 14 ตุลาคม 2563 รับลงพมิ พ:์ 13 พฤศจิกายน 2563

บทคดั ย่อ

การศึกษาความหลากชนิดและการปรากฏของดว้ งมลู สตั วเ์ ป็นอีกวธิ ีหน่ึงที่ใชใ้ นการติดตามการฟ้ืนตวั ของป่ า นอกจาก
น้ีมีการรายงานวา่ ความหลากชนิดและสงั คมของดว้ งมลู สตั วท์ ี่อาศยั อยใู่ นพ้นื ที่ป่ าเขตร้อนสามารถนำ� มาใชป้ ระเมินตอ่
การเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มในระบบนิเวศป่ าไมแ้ ละบ่งบอกการเขา้ มาใชป้ ระโยชนใ์ นพ้นื ที่ป่ าของสตั วป์ ่ าไดอ้ ีก
ดว้ ย ดว้ ยเหตุน้ีการศึกษาคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ศึกษาความหลากหลายชนิดและการปรากฏของดว้ งมูลสตั วใ์ นพ้ืนท่ี
ป่ ารุ่นสองท่ีกำ� ลงั ฟ้ื นตวั ในพ้นื ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จงั หวดั นครราชสีมา โดยใชก้ บั ดกั หลุมตกร่วมกบั การใชม้ ูล
สุกรสดเป็นเหยอ่ื ล่อ ท้งั หมด 15 กบั ดกั วางตามเสน้ ทางศึกษาธรรมชาติ โดยแต่ละกบั ดกั มีระยะห่างจากกนั 50 เมตร
การสำ� รวจแบ่งเป็น 3 ฤดูกาล คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน

ผลการศึกษาพบดว้ งมูลสตั วท์ ้งั หมด 43 ชนิด 8 สกลุ และพบวา่ จำ� นวนชนิดของดว้ งมูลสตั วใ์ นฤดูหนาวพบนอ้ ยกวา่
ฤไดดเู้ฝปน็นแ3ลกะฤลดุ่มูรค้อือนกอลยุ่มา่ งทม่ีพีนบยั กสาำ� รคปญั รยาง่ิกทฏานงอ้สยถมิตีจิ (ำ� Fน2ว,42น=มา1ก9ท.6่ีส7:ุดp2<6 0.001) สามารถแบ่งการปรากฏตวั ของดว้ งมูลสตั ว์
ชนิด (60.41%) รองลงมาคือกลุ่มท่ีพบไดป้ านกลาง
10 ชนิด (23.26%) และกลุ่มที่พบไดบ้ ่อย 7 ชนิด (16.28%) การศึกษาคร้ังน้ีจะเป็นขอ้ มูลในการวางแผนจดั การพ้นื ท่ี
ป่ าเสื่อมสภาพ รวมท้งั การวางแผนอนุรักษค์ วามหลากหลายทางชีวภาพของดว้ งมูลสัตวใ์ นพ้ืนที่ป่ าเส่ือมสภาพ ซ่ึง

32 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

ปัจจุบนั ในประเทศไทยยงั มีขอ้ มูลจากการศึกษาความหลากชนิดและการปรากฏของดว้ งมูลสตั วน์ อ้ ย จึงจำ� เป็นตอ้ งมี
การศึกษาและเกบ็ ขอ้ มูลอยา่ งต่อเน่ือง

ค�ำสำ� คญั ดว้ งมูลสตั ว์ แมลงป่ าไม้ ป่ าเสื่อมสภาพ พ้นื ท่ีอนุรักษ์

ABSTRACT

The study on species diversity and occurrence of dung beetles is one of the methodologies to monitor forest recov-
ery. Moreover, species diversity and community of dung beetle inhabiting tropical forests can be used to assess
changes in forest ecosystems and indicate the use of forest areas by the wildlife. Therefore, the aim of this study was
to study on species diversity and seasonal occurrence of dung beetles in the secondary forest at Khao Yai National
Park, NaKhon Ratchasima Province. Dung beetle collection was done by pitfall traps using pig feces as a food bait.
Fifteen traps were set along the nature study trail in secondary forest. Each trap is 50 meters apart from each other.
The surveys were conducted in three seasons, winter, summer and rainy season.
PROOFS
The results showed that there were 8 genera, containing 43 species of dung beetles. Number of dung beetle species
in the winter was significantly lboewceartethgaonrizraeidniyntaondthsrueemgmroeur psse:asthoenslo. w(Fe2s,4t2 = 19.67: P < 0.001). Frequency of oc-
currence of dung beetles could frequency of occurrence containing 26
species (60.41%), the moderate frequency of occurrence containing 10 species (23.26%), and the highest frequency
of occurrence containing 7 species (16.28%). The result of this study can be applied to the management plan for
conservation of dung beetles in the forest degradation areas. In addition, further data collection on species diver-
sity and occurrence of dung beetles in Thailand beside from this study is still required in Thailand for biodiversity
monitoring and conservation plan.

KEYWORDS: Dung beetles, forest insect, forest degradation, protected area

คำ� น�ำ อุทยานแห่งชาติ, มปป.) ระบบนิเวศท่ีแตกต่างกนั เป็นตวั
กำ� หนดความหลากหลายทางชีวภาพ ในระบบนิเวศป่ ารุ่น
อทุ ยานแห่งชาตเิ ขาใหญเ่ ป็นอทุ ยานแห่งชาตแิ ห่งแรกของ สอง (Secondary forest) ท่ีกำ� ลงั ฟ้ื นฟูสามารถเพิ่มความ
ประเทศไทย และเป็นส่วนหน่ึงของผนื ป่ าดงพญาเยน็ -เขา หลากหลายทางชีวภาพไดอ้ ยา่ งรวมดเร็ว เมื่อเทียบกบั ป่ าท่ี
ใหญ่ พ้นื ที่มีความอดุ มสมบรู ณ์และความหลากหลายทาง มีความสมบูรณ์พบวา่ คลา้ ยคลึงกนั (Davies et al., 2020)
ชีวภาพสูงจนไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็ นมรดกโลกทาง แต่อย่างไรก็ตามการฟ้ื นฟูความอุดมสมบูรณ์ของป่ า
ธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีพ้ืนที่ครอบคลุม รุ่นสองยงั ตอ้ งอาศยั ปัจจยั อื่นร่วมดว้ ย เช่น ขนาดและ
ท้งั หมด 4 จงั หวดั คือ จังหวดั นครนายก ปราจีนบุรี โครงสร้างของพ้ืนท่ีป่ า (Yamada et al., 2012) ปัจจุบนั
สระบุรี และจงั หวดั นครราชสีมา มีระบบนิเวศท่ีแตก การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ดัชนีความหลากหลายชนิด
ต่างกนั ไปตามพ้ืนที่สามารถแบ่งประเภทป่ าไมเ้ ป็ น 6 ของแมลงเป็นดชั นีช้ีวดั ความอุดมสมบรณ์ของป่ าไมใ้ น
ประเภท คือ ป่ าดิบเขา (Hill Evergreen Forest) ป่ าดิบ ประเทศไทยยงั มีนอ้ ยมากเมื่อเทียบกบั การศึกษาในระบบ
ช้ืน (Moist Evergreen Forest) ป่ าดิบแลง้ (Dry Evergreen นิเวศเกษตร มีแมลงหลายชนิดที่สามารถใชเ้ ป็นดชั นีช้ีวดั
Forest) ป่ าเต็งรัง (Declduous Dipterocarp Forest) ป่ า ความสมบูรณ์และการฟ้ื นตวั ของป่ าไดด้ ี เช่น มด ปลวก
เบญจพรรณ (Mixed Deciduous Forest) และทุ่งหญา้ แมลงน้ำ� กลุ่ม EPT ประกอบดว้ ยแมลงชีปะขาว (Ephem-
และป่ ารุ่นสอง (Savanna and Secondary Forest) (สำ� นกั

สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 33

eroptera) แมลงเกาะหิน (Plecoptera) และแมลงหนอน ดว้ งมูลสตั ว์โดยใชว้ ธิ ีการวางกบั ดกั หลุมตก (Bait pitfall
ปลอกน้ำ� (Trichoptera) เป็นตน้ trap) ร่วมกบั การใชม้ ลู สุกรสดเป็นเหยอื่ ลอ่ กำ� หนดใหใ้ ช้
มูลสุกรสดจำ� นวน 100 กรัม/กบั ดกั ในแต่ละฤดูกาลวาง
ดว้ งมลู สตั วเ์ ป็นแมลงอีกชนิดหน่ึงท่ีมีบทบาทในการเป็น กบั ดกั 15 กบั ดกั แต่ละกบั ดกั มีระยะห่างกนั 50 เมตร วาง
ดชั นีช้ีวดั ความสมบูรณ์ในระบบนิเวศป่ าไม้ เน่ืองจาก กบั ดกั เป็นระยะเวลา 48 ชวั่ โมง หลงั จากน้นั เกบ็ ตวั อยา่ ง
ดว้ งมูลสตั วเ์ ป็นแมลงที่ตอ้ งอาศยั มูลของสตั วเ์ ป็นแหล่ง ดว้ งมูลสตั วท์ ่ีไดใ้ นแต่ละกบั ดกั ลา้ งทำ� ความสะอาด และ
อาหารและที่อยู่อาศยั ดว้ งมูลสัตวแ์ ต่ละชนิด มีความ เก็บรักษาตวั อยา่ งดว้ ยแอลกอฮอล์ 95% เพื่อนำ� ตวั อยา่ ง
เฉพาะเจาะจงกบั มูลของสตั วแ์ ตกต่างกนั ไป บางชนิดใช้ ที่ไดก้ ลบั มาจดั รูปร่างในหอ้ งปฏิบตั ิการ และจดั จำ� แนก
มูลของสัตวก์ ินพืชเป็ นอาหาร บางชนิดใชม้ ูลของสัตว์ ชนิด บนั ทึกชนิด และนบั จำ� นวนของดว้ งมูลสตั วท์ ี่ไดใ้ น
กินเน้ือเป็ นอาหาร หรือบางชนิดใชท้ ้งั มูลของสัตวก์ ิน แต่ละกบั ดกั เพ่ือนำ� ไปวเิ คราะห์ขอ้ มูลทางสถิติ
พืชและกินเน้ือเป็ นอาหาร ดงั น้นั ความหลากหลายของ
ดว้ งมลู สตั วใ์ นระบบนิเวศป่ าไมจ้ ึงเป็นตวั บง่ ช้ีความความ การวเิ คราะห์ข้อมูล
หลากหลายชนิดของสตั วป์ ่ าชนิดอ่ืนได้ นอกจากอาหาร
แลว้ ปัจจยั ดา้ นสภาพแวดลอ้ ม เช่น อุณหภูมิ ปริมาณน้ำ� 1. หาคา่ การปรากฏตวั ของดว้ งมูลสตั ว์(Occurrence) เพอ่ื
ฝน ยงั เป็นตวั กำ� หนดความหลากหลายชนิด และจำ� นวน นำ� มาแบ่งระดบั การพบ ออกเป็น 3 ระดบั คือ ระดบั การ
ประชากรของดว้ งมูลสตั ว์ (ยพุ า, 2552) โดยความหลาก พบบ่อย พบปานกลาง และพบนอ้ ย เปรียบเทียบจำ� นวน
หลายของดว้ งมูลสัตวจ์ ะพบมากท่ีสุดเร่ิมจากตน้ ฤดูฝน ชนิดดว้ งมูลสัตวโ์ ดยพิจารณาจากความถ่ีในการปรากฏ
แลว้ เม่ือเวลาผา่ นไปจะคอ่ ย ๆ ลดลง (Novais et al., 2016) ของดว้ งมูลสตั วใ์ นแต่ละคร้ังสำ� รวจ ดว้ ยสูตร
PROOFS
ใเสขดปนงอัำ�็ นนคพงส้นญััด้ืน่วกว้ขทนางอี่ปรมห่งาศูลนปอึก่ส่ึนงาษรใัตุราุ่นนักควกสษวใ์ านาอต์ รมงป่อวหท่ไาาล่ีปงกราแุ่นำ� กผลสหนงั อลฟจง้ืาดนั ยคกฟชรา้นูแังรลนิดพ้ะแีจก้ืนนละาทะรำช� ่ีปฤปข้ีใ่ ดาอ้รหเูกามส้เกาหูล่ือลฏ็ทนมป(่ีไโครเปทดวากไอ้ราปฏมมร์เซ็นตกพพร)์ าะรบบ=ปดบปรบัา่อากกนฏจยาา(กํ รเนปลจปอวาาํรรน์งนเซา็นคกวตนรฏพพรพ)์=ังะค==บ=บบไดทบปนรบัด=Lี่อาพอ้ังกนแจ้ยยทาบากํรกนลีLสจปด่วาาํรานงํนว้ารคกว74งนรฏว00ม=ังค===จ–ไทูลเรด6ปท=ีLพังสแ้ท9บ=องักีLสตัด่หเราํวป้วร์7เ4นงมซวท00์อมอ้ จ–ดูลเ็ยน=รงั6ปทสก9์หเ=องัตวตัซหเรา่ปวม์์เม็นขซท4์อดด0็น==รงัึนต์หเเตซป์ไม์็นขอปด=ึนรต์เx์ไซป็น1xต01์ 000
พบนอ้ ย = นอ้ ยกวา่ 40 เปอร์เซ็นต์
วตั ถุประสงค์

เพื่อศึกษาความหลากหลายชนิดและฤดูกาลปรากฏของ 2. วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของคา่ เฉล่ียจำ� นวนชนิดดว้ งมลู
ด้วงมูลสัตวใ์ นพ้ืนท่ีป่ ารุ่นสองท่ีกำ� ลงั ฟ้ื นตวั ในพ้ืนท่ี สัตวท์ ่ีจบั ไดจ้ ากกบั ดกั ระหวา่ งฤดูกาลโดยการวิเคราะห์
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จงั หวดั นครราชสีมา โดยนำ� ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และ
องคค์ วามรู้ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาไปใชใ้ นการวางแผนจดั การ วเิ คราะห์ความแปรปรวนเมื่อวดั ซ้ำ� (Repeated measures
พ้นื ท่ีป่ าอนุรักษ์ และสตั วป์ ่ าต่อไป ANOVA) โดยใชก้ ารวิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่ดว้ ย
วธิ ี LSD ในโปรแกรมคำ� นวณสำ� เร็จรูป SPSS version 18
อุปกรณ์ และวธิ ีการ
ผลการศึกษา
ดำ� เนินการสำ� รวจและเกบ็ ตวั อยา่ งในป่ ารุ่นที่สองท่ีกำ� ลงั
ฟ้ื นตวั บริเวณหน่วยพิทกั ษผ์ ากระดาษ อุทยานแห่งชาติ การศึกษาฤดูกาลปรากฏตวั ของดว้ งมูลสตั วใ์ นป่ ารุ่นสอง
เขาใหญ่ กำ� หนดการสำ� รวจ 3 คร้ัง แบง่ ตามฤดูกาล คือ ฤดู อทุ ยานแห่งชาตเิ ขาใหญ่ โดยการตดิ ต้งั กบั ดกั หลมุ ตกร่วม
หนาว (ธนั วาคม 2561) ฤดูร้อน (มีนาคม 2562) และฤดูฝน กบั การใชม้ ูลสุกรเป็นเหยอ่ื ล่อ แบ่งตามฤดูกาล ๆ ละ 1
(กรกฎาคม 2562) รวบรวมขอ้ มูลความหลากหลายของ คร้งั เร่ิมจากฤดหู นาว (เดอื นธนั วาคม 2561) ฤดรู อ้ น (เดอื น

34 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

Finger 1. A. The temperature and B. percentage of rainfall (December 2018 – December 2019).

มนี าคม 2562) และฤดฝู น (เดอื นกรกฎาคม 2562) (Figure PROOFSพบบอ่ ย 6 ชนิด (26%) คอื O. taurinus, O. luridipennis, S.
1) พบดว้ งมลู สตั วท์ ้งั หมด 2,595 ตวั จำ� แนกเป็น 8 สกลุ 43 thoracicus chaiyaphumensis, T. setosus, Onthophagus sp.
ชนิด (Table 1) สามารถแบง่ การปรากฏตวั ของดว้ งมลู สตั ว์ 18 และ S. thoracicus ชนิดทพ่ี บประชากรมากทสี่ ุดในฤดู
ไดเ้ ป็น 3 กลมุ่ คอื กลมุ่ ทพี่ บการปรากฏนอ้ ยมจี ำ� นวนมาก รอ้ น คอื O. ludipennis จำ� นวน 176 ตวั
ทส่ี ุด26ชนิด(60.41%)รองลงมาคอื กลมุ่ ทพี่ บไดป้ านกลาง ฤดฝู น (rainy season) พบดว้ งมลู สตั วท์ ้งั หมด 1276 ตวั 31
10 ชนิด (23.26%) และกลมุ่ ทพี่ บบอ่ ย 7 ชนิด (16.28%) เมอ่ื ชนิดแบง่ ตามการปรากฏได้3ระดบั ระดบั พบนอ้ ย21ชนิด
แยกการปรากฏตวั ของชนิดในแต่ละฤดูสามารแบ่งการ (67.74%) คอื O. kleinei, Onthophagus sp. 6, S. dickinsoni,
ปรากฏได้ดงั น้ี Onthophagus sp. 18, Caccobius sp. 2, Onthophagus sp. 11,
ฤดหู นาว (winter season) พบดว้ งมลู สตั วท์ ้งั หมด 237 ตวั Onthophagus sp. 17, O. diabolicus, Onthophagus sp. 4,
13 ชนิด เมอื่ แบง่ ตามคา่ การปรากกฎได้3 ระดบั ดงั น้ี ระดบั Onthophagus sp. 19, Copris sp. 1, O. maniti, O. proletarius,
พบนอ้ ย9ชนิด(69.23%)คอื Tibiodrepanussetosus,Copris Onthophagus sp. 5, Onthophagus sp. 9, Onthophagus sp. 10,
reflexus, O. kleinei, O. luridipennis, C. carinicus, Copris sp. Onthophagus sp. 12, Onthophagus sp. 13, Onthophagus sp.
1, Eodrepanus sp. 1, O. mongkhoni, และ Synapsis dickin- 14,Onthophagussp.16และO.trituberระดบั พบปานกลาง
soni ระดบั พบปานกลาง 3 ชนิด (23.07%) คอื Onthophagus 4 ชนิด (12.90%) คอื Onthophagus sp. 15, O. mongkhoni,
taurinus,O.gracilipesและS.thoracicusและระดบั พบบอ่ ย O. rutilans และ Onthophagus sp. 8, ระดบั พบบอ่ ย 6 ชนิด
1 ชนิด (7.69%) คอื Sisyphus thoracicus chaiyaphumensis (19.53%) คอื O. taurinus, S. thoracicus, Caccobius sp. 1, S.
ชนิดทพี่ บประชากรมากทส่ี ุด คอื O. taurinus จำ� นวน 75 ตวั thoracicus chaiyaphumensis, T. setosus, Onthophagus sp. 11
ฤดรู อ้ น(summerseason)พบดว้ งท้งั หมด1,082ตวั 23ชนิด ชนดิ ทพี่ บจำ� นวนประชากรมากทสี่ ุดในฤดฝู นคอื Caccobius
แบง่ ตามการปรากฏได้3 ระดบั ดงั น้ีระดบั พบนอ้ ย 14 ชนิด sp. 1 จำ� นวน 340 ตวั
(60%) คอื Eodrepanus sp. 1, O. mongkhoni, O. rutilans, เม่ือนำ� มาหาคา่ ความสมั พนั ธข์ องฤดูกาลปรากฏเชิงพ้ืนที่
Caccobius sp. 2, Onthophagus sp. 1, Onthophagus sp. 11, บริเวณป่ ารุ่นสองในแต่ละฤดูกาลโดยใชแ้ ผนภาพเวน
Eodrepanus sp. 2, Onthophagus sp. 4, Catharsius molossus, ไดอะแกรม (Fig. 2) พบวา่ มกี ลมุ่ ทมี่ คี า่ การปรากฏในระดบั
O. gracilipes, O. itonoborui, Onthophagus sp. 3, Onthopha- พบบอ่ ยซ่ึงสามารถพบไดท้ กุ ฤดกู าล 7 ชนิด คอื O. kleinei,
gussp.7 และS.dickinsoniระดบั พบปานกลาง3ชนิด(3%) O. mongkhoni, O. taurinus, S. thoracicus, S. thoracicus
คอื Caccobius sp. 1, O. kleinei และ O. crassicollis ระดบั chaiyaphumensis, S. dickinsoni, และ T. setosus (Fig. 4)

สมั มนาวชิ าการพพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 35

Table 1. Diversity and number of individuals of Dung beetle, and value of frequency of occurrence (FO%) in each
season in Secondary forest, Khao Yai National Park (December 2018 (winter season), March (summer season) and
July 2019 (rainy season)).

Species PROOFSNumber of )%Seasons (FO Rainy
individuals Winter Summer 86.67
Caccobius sp. 1 66.67 20
Caccobius sp. 2 359 0
Catharsius molossus 19 0 20 0
Copris carinicus 20 6.67 0
Copris reflexus 1 6.67 0 0
Copris sp. 1 9 20 0 6.67
Eodrepanus sp. 1 9 6.67 0 0
Eodrepanus sp. 2 8 6.67 33.33 0
Onthophagus crassicollis 20 13.33 0
Onthophagus diabolicus 22 0 40 13.33
Onthophagus gracilipes 20 0 0
Onthophagus itonoborui 104 60 6.67 0
Onthophagus kleinei 10 6.67 33.33
Onthophagus luridipennis 66 20 53.33 0
Onthophagus maniti 182 20 93.33 6.67
Onthophagus mongkhoni 10 0 53.33
Onthophagus proletarius 37 6.67 33.33 6.67
Onthophagus rutilans 10 0 53.33
Onthophagus sp. 1 34 0 33.33 0
Onthophagus sp. 2 40 20 20
Onthophagus sp. 3 50 0 0
Onthophagus sp. 4 10 6.67 13.33
Onthophagus sp. 5 40 13.33 6.67
Onthophagus sp. 6 10 0 33.33
Onthophagus sp. 7 23 0 0 0.00
Onthophagus sp. 8 20 6.67 46.67
15 0 0

36 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories
Table 1. (Continued).

Species Number of )%Seasons (FO Rainy
individuals Winter Summer

Onthophagus sp. 9 PROOFS 10 0 6.67
Onthophagus sp. 10 10 0 6.67
Onthophagus sp. 11 54 0 20 80
Onthophagus sp. 12 10 0 6.67
Onthophagus sp. 13 20 0 6.67
Onthophagus sp. 14 10 0 6.67
Onthophagus sp. 15 94 0 0 60
Onthophagus sp. 16 10 0 6.67
Onthophagus sp. 17 30 0 20
Onthophagus sp. 18 128 0 86.67 26.67
Onthophagus sp. 19 20 0 13.33
Onthophagus taurinus 420 40 100 100
Onthophagus trituber 10 0 6.67
Sisyphus thoracicus 367 66.67 86.67 93.33
Sisyphus thoracicus chaiyaphumensis 230 73.33 93.33 86.67
Synapsis dickinsoni 8 6.67 6.67 33.33
Tibiodrepanus setosus 367 26.67 93.33 86.67

ชนิดท่ีมีการปรากฏร่วมกนั ระหวา่ งฤดูหนาวกบั ฤดูร้อน chaiyaphumensis, S. dickinsoni และ T. setosus เมื่อ
พบ 10 ชนิด คือ Eodrepanus sp. 1, O. gracilipes, O. พิจารณาถึงการปรากฏตวั ของดว้ งมูลสัตวแ์ ต่ละชนิด
kleinei, O. luridipennis, O. mongkhoni, O. taurinus, S. พบวา่ ดว้ งมูลสตั วช์ นิด O. taurinus เป็นชนิดท่ีมีจำ� นวน
thoracicus, S. thoracicus chaiyaphumensis, Synapsis ประชากรมากท่ีสุดในการศึกษาคร้ังน้ีพบท้งั หมด 420 ตวั
dickinsoni และ Tibiodrepanus setosus ชนิดท่ีมีการ เม่ือนำ� ขอ้ มูลการปรากฏตวั ของดว้ งมูลสตั วใ์ นป่ ารุ่นสอง
ปรากฏร่วมกนั ในฤดูร้อนกบั ฤดูฝนพบ 13 ชนิด คือ Cac- ท้งั 3 ฤดูกาล มาเปรียบเทียบกนั โดย การวเิ คราะห์ความ
cobius sp. 1, Caccobius sp. 2, O. kleinei, O. mongkhoni, แตกต่างของค่าเฉล่ียจำ� นวนชนิดดว้ งมูลสัตวร์ ะหว่าง
O. rutilans, O. taurinus, Onthophagus sp. 4, Onthoph- ฤดูกาลดว้ ยการวเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-
agus sp. 11, Onthophagus sp. 18 และ S. thoracicus, way ANOVA) และวิเคราะห์ความแปรปรวนเมื่อวดั ซ้ำ�
S. thoracicus chaiyaphumensis, S. dickinsoni และ T. (Repeated measures ANOVA) พบวา่ ในฤดหู นาวมจี ำ� นวน
setosus และชนิดท่ีมีการปรากฏร่วมกนั ระหว่างฤดูฝน ชนิดของดว้ งมลู สตั วน์ อ้ ยกวา่ ฤดรู ้อนและฤดฝู นอยา่ งมนี ยั
กบั ฤดูหนาวมี 8 ชนิด คือ Copris sp. 1, O. kleinei, O. สำ� คญั ทางสถติ ิ (F2,42 = 19.67: P < 0.001) (Figure 3)
mongkhoni, O. taurinus, S. thoracicus, S. thoracicus

สมั มนาวชิ าการพพิ ิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังท่ี 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 37

วจิ ารณ์ ที่ศึกษาความหลากหลายและการปรากฏในฤดูกาลของ
ดว้ งมูลสัตวบ์ ริเวณทุ่งหญา้ ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
การศึกษาความหลากหลายชนิดและฤดูการปรากฏของ พบวา่ ในฤดูฝนมีจำ� นวนชนิดและจำ� นวนประชากรของ
ดว้ งมูลสัตวใ์ นป่ ารุ่นสอง พบดว้ งมูลสัตวท์ ้งั หมด 43 ดว้ งมูลสตั วม์ ากกวา่ ฤดูหนาวและฤดูร้อน และการศึกษา
ชนิด มีเพียง 7 ชนิดที่พบการปรากฏตวั ในทุกฤดูกาล คือ ของ ยพุ า (2554) ศึกษาความหลากหลายชนิดของดว้ ง
O mongkhoni, O. kleinei, O. taurinus, S. thoracicus, มูลสัตวใ์ นพ้ืนที่ปกปักอนุรักษพ์ นั ธุกรรมเข่ือนสิรินธร
S. thoracicus chaiyaphumensis, S. dickinsoni และ T. จงั หวดั อุบลราชธานี พบว่าฤดูกาลมีความสัมพนั ธ์กบั
setosus และพบว่าฤดูฝนมีจำ� นวนชนิดมากท่ีสุดถึง 31 ความหลากหลายชนิดของดว้ งมูลสัตว์ โดยพบปริมาณ
ชนิด ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ อิสราพงษ์ (2563)

PROOFS
Figure 2. The Venn diagram showing relationships between the number of species of dung beetles among different
seasons.

Figure 3. TMean (±SE) of dung beetle’s species in the different seasons. Different lowercase letters indicate sig-
nificant differences among groups (p < 0.001).

PROOFS38 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories
Figure 4. A. Onthophagus mongkhoni, B. Onthophagus kleinei, C. Onthophagus taurinus, D. Sisyphus thoracicus,
E. Sisyphus thoracicus chaiyaphumensis, F. Synapsis dickinsoni and G. Tibiodrepanus setosus.

สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 39

และชนิดของดว้ งมูลสัตวใ์ นฤดูฝนมากกว่าช่วงฤดูแลง้ PROOFS ฟ้ื นฟูป่ ารุ่นสองเพื่อเป็ นแนวทางในการวางแผนจดั การ
เม่ือนำ� ค่าการปรากฏตวั ในแต่ละฤดูกาล มาจดั แสดงใน พ้ืนท่ีป่ ารุ่นสองในอนาคต อยา่ งไรก็ตามการศึกษาดว้ ง
รู ปแบบแผนภูมิเวนไดอะแกรมพบว่าการเพ่ิมข้ ึนของ มลู สตั วใ์ นคร้ังน้ีเป็นเพยี งขอ้ มลู จากพ้นื ท่ีแห่งเดียว ขอ้ มลู
จำ� นวนชนิดเร่ิมจากช่วงฤดูร้อนและเพิ่มมากท่ีสุดในฤดู ท่ีไดอ้ าจไม่เพียงพอต่อการนำ� ไปใชว้ างแผนเพ่ือจดั การ
ฝนแลว้ เร่ิมลดลงเมื่อเขา้ สู่ฤดูหนาว สอดคลอ้ งกบั การ พ้ืนท่ีอื่นที่มีความแตกต่างกนั ตามสภาพภูมิประเทศ จึงมี
ศึกษาของ Novais et al. (2016) ท่ีพบวา่ ช่วงตน้ ฤดูฝนเป็น ความจำ� เป็นตอ้ งศึกษาในพ้นื ท่ีอ่ืนต่อไป
ตวั กำ� หนดการเขา้ สู่ระยะตวั เตม็ วยั ของดว้ งมูลสตั วห์ ลาย
ชนิด ดงั น้นั ความหลากหลายชนิดของดว้ งมลู สตั วจ์ ะเพม่ิ คำ� นิยม
ข้ึนตามระยะเวลาในช่วงฤดูฝนและจะลดลงเม่ือเวลาผา่ น
ไป ซ่ึงต่างจากการศึกษาของ Boonrotpong et al. (2004) ขอบคุณทุนวิจยั จากส่วนความหลากหลายทางชีวภาพ
ไดศ้ ึกษาสดั ส่วนชนิดของดว้ งมูลสตั วใ์ นป่ าสมบูรณ์และ สำ� นกั วจิ ยั การอนุรักษป์ ่ าไมแ้ ละพนั ธุพ์ ชื กรมอทุ ยานแห่ง
ป่ าท่ีถูกรบกวนบริเวณเขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ าโตนงาชา้ ง ชาติ สตั วป์ ่ า และพนั ธุ์พืช ขอบคุณ ผศ. ดร.สุขสวสั ด์ิ พล
พบวา่ จำ� นวนชนิดและจำ� นวนประชากรของดว้ งมูลสตั ว์ พนิ ิจ ช่วยในการจำ� แนกตวั อยา่ งดว้ งมูลสตั ว์ ขอบคุณเจา้
ในฤดูแลง้ มากกวา่ ฤดูฝน แต่จำ� นวนชนิดของดว้ งมูลสตั ว์ หนา้ ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ช่วยอำ� นวยความสะดวก
ไม่มีความแตกต่างกนั ทางสถิติ และการศึกษาของ Pri- ในการเขา้ พ้ืนที่เก็บตวั อยา่ ง และขอบคุณบุคลากรฝ่ าย
awandiputra et al. (2020) ท่ีทำ� การศึกษารวบรวมดว้ งมูล วจิ ยั กีฏวทิ ยาที่ช่วยในการออกพ้นื ที่เกบ็ ตวั อยา่ งตลอดจน
สตั วใ์ นป่ าที่ราบต่ำ� ของประเทศอินโดนีเซียพบวา่ ฤดูแลง้ คดั แยกและจดั การตวั อยา่ ง
พบดว้ งมูลสตั วม์ ากกวา่ ฤดูฝน อยา่ งไรกต็ ามรายงานส่วน
ใหญ่ต่างช้ีไปในทางเดียวกนั วา่ ฤดูกาลและสภาพของป่ า เอกสารและสิ่งอ้างองิ
ไมเ้ ป็นตวั กำ� หนดจำ� นวนชนิดและจำ� นวนประชากรของ
ดว้ งมูลสตั ว์ อุณหภูมิที่เพ่มิ ข้ึนทุก ๆ 1˚C มีผลต่อการเพม่ิ ยพุ า หาญบุญทรง. 2554. ความหลากหลายทางชีวภาพ
ของดว้ งมูลสตั ว์ (Cassenote et al., 2019) ของด้วงมูลสัตว์ในพืน้ ทเ่ี ขื่อนสิรินธร. ขอนแก่น.
ในอนาคตคาดการวา่ พ้ืนท่ีป่ ารุ่นสองจะมีจำ� นวนเพ่ิมข้ึน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น. แหล่ง
จากการกำ� หนดนโยบายป่ าไมแ้ ห่งชาติ พ.ศ. 2562 โดย ที่มา: URL: http://doi.nrct.go.th//ListDoi/ listDe-
กำ� หนดให้มีพ้ืนที่ป่ าทว่ั ประเทศอยา่ งนอ้ ยในอตั ราร้อย tail?Resolve_DOI=10.14457/KKU.res.2011.74
ละ 40 ของพ้นื ที่ประเทศ แบง่ เป็นพ้นื ที่ป่ าเพอ่ื การอนุรักษ์ สืบคน้ เม่ือ วนั ท่ี 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2563
ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 25 และป่ าเศรษฐกิจและป่ าชุมชนร้อย
ละ 15 ของพ้ืนที่ประเทศ (สำ� นกั งานพฒั นารัฐบาลดิจิทลั สำ� นกั อุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสตั วป์ ่ า และ
(องคก์ ารมหาชน), 2563) เม่ือป่ ารุ่นสองมีจำ� นวนเพิม่ ข้ึน พนั ธุ์พืช. มปป. อุทยานแห่งชาตเิ ขาใหญ่. แหล่ง
เป็นไปไดว้ า่ ความหลากหลายของดว้ งมูลสตั วจ์ ะเพิม่ ข้ึน ท่ีมา: URL: http://park.dnp.go.th/visitor/nation-
ตาม จากรายงานของ Davies et al. (2020) ในป่ ารุ่นสอง parkshow.php?PTA_CODE=1001 สืบคน้ เมื่อ วนั
พบชนิด ของดว้ งมลู สตั วค์ ลา้ ยคลึงกนั กบั ดงั่ เดิมท่ีมีความ ท่ี 5 กมุ ภาพนั ธ์ 2563
สมบูรณ์มากกวา่ ในทุ่งหญา้ อีกท้งั ในป่ ารุ่นสองยงั มีการ
เพิ่มข้ึนของจำ� นวนชนิดดว้ งมูลสัตวอ์ ย่างรวดเร็ว จาก สำ� นกั งานพฒั นารัฐบาลดิจิทลั (องคก์ ารมหาชน). 2563.
ขอ้ มูลน้ีชีใหเ้ ห็นถึงความสำ� คญั และความจำ� เป็นของการ นโยบายป่ าไม้แห่งชาต.ิ แหล่งที่มา: URL: https://
www.dga.or.th/upload/download/file_27cda8f-
c3bf06f83ce61942ab47ac98e.pdf. สืบคน้ เมื่อวนั
ที่ 28 กนั ยายน 2563

อิสราพงษ์ วรผาบ. 2563. ความหลากหลายและการ

40 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

ปรากฏในฤดูกาลของดว้ งมูลสตั ว์ บริเวณทุ่งหญา้ Novais, S.M.A., L.A. Evangelista, R. Reis-Junior and
ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จงั หวดั นครราชสีมา. F.S. Neves. 2016. How Does Dung Beetle (Co-
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ คร้ังท่ี 5 ณ วทิ ยาลยั leoptera: Scarabaeidae) Diversity Vary Along a
นวตั กรรมการจดั การ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ไลย Rainy Season in a Tropical Dry Forest?. Insect
อลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ จงั หวดั ปทุมธานี Science 16(1): 1–6.
วนั ท่ี 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563. หนา้ 1067–1075.
Boonrotpong, S., S. Sotthibandhu and C. Pholpunthin. Priawandiputra, W., Y. Tsuji, K.A. Widayati. and B.
2004. Species Composition of Dung Beetles in the Suryobroto. 2020. Dung beetle assemblages in
Primary and Secondary Forests at Ton Nga Chang lowland forests of Pangandaran Nature Reserve,
Wildlife Sanctuary. ScienceAsia 30: 59–65. West Java, Indonesia. Biodiversitas 21(2):
497–504.

Cassenote, S., P.Gd. Silva, R.A.D. Mare and A. Paladini. Kishimoto-Yamada, K., F. Hyodo, F., Matsuoka, M.,
2019. Seasonality of dung beetles (Coleoptera: Hashimoto, Y., Kon, M., Ochi, Teruo., Yamane,
Scarabaeinae) in Atlantic Forest sites with dif- S., Ishii, R. and Itioka, T. (2013). Effects of
ferent levels of disturbance in southern Brazil. remnant primary forests on ant and dung beetle
Iheringia, Série Zoologia 109: e2019035. species diversity in a secondary forest in Sarawak,
Malaysia. Journal of Insect Conservation 17:
Davies, R.W., D.P. Edwar and A.F. Edwards. 2020. 591–605.
Secondary tropical forests recover dung beetle
functional diversity and trait composition. Ani-
mal Conservation 23(5): 617–627.
PROOFS

สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร, 41-46
The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories, 41-46.

การเรียนรู้โดยยดึ หลกั สมรรถนะผ่านส่ือออนไลน์ด้วยเวบ็ ไซต์ฐานข้อมูลระบบเปิ ด
เพ่ือการอนุรักษ์ชนิดพนั ธ์ุโดยใช้สารสนเทศภูมศิ าสตร์

Online Competency-based Learning with an Open-source Website for Species Conservation using
Geographic Information System

วาทติ โคกทอง1, 2 Watit Khokthong1, 2
ณฐั วุฒิ สารีอนิ ทร์1* Nattawut Sareein1*

1สาขาวทิ ยาศาสตร์ส่ิงแวดลอ้ ม คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ถนนหว้ ยแกว้ ตำ� บลสุเทพ อำ� เภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ 50200
1Environmental Science Research Center, Faculty of Science, Chiang Mai University, Chiang Mai, Thailand 50200

2ภาควชิ าชีววทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ถนนหว้ ยแกว้ ตำ� บลสุเทพ อำ� เภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ 50200
2Department of Biology, Faculty of Science, Chiang Mai University, Chiang Mai, Thailand 50200
*Corresponding author. E-mail: [email protected]
PROOFS
รับเรื่อง: 15 ตุลาคม 2563 รับลงพิมพ:์ 14 ธนั วาคม 2563

บทคดั ย่อ

การศกึ ษาเพอ่ื อนรุ กั ษธ์ รรมชาตสิ ามารถผนวกความรูท้ างส่ิงแวดลอ้ มทปี่ ระยกุ ตก์ บั วธิ ีการสอนโดยยดึ หลกั สมรรถนะของผเู้รียน
ผา่ นระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ (จไี อเอส)ซ่ึงปัจจบุ นั มแี อพพลเิ คชนั และขอ้ มลู จไี อเอสบนแพลต็ ฟอรม์ ตา่ งๆในการเรียนรูด้ า้ น
กระจายตวั ของชนิดพนั ธุ์ผเู้รียนควรมคี วามเขา้ ใจและใชเ้คร่ืองมอื เพอ่ื วเิ คราะหข์ อ้ มลู ได้โดยเฉพาะเครื่องมอื สรา้ งการมองเหน็
ดว้ ยภาพแบบออนไลนซ์ ่ึงแผนทแ่ี ละขอ้ มลู ภาพจะชว่ ยอธิบายการกระจายตวั ของส่ิงมชี ีวติ แทนการบรรยายในช้นั เรียน ผวู้ จิ ยั
จงึ มงุ่ เนน้ การเผยแพร่สื่อการสอนผา่ นจไี อเอสผา่ นออนไลนเ์ วบ็ ไซต์ https://mol.org จงึ ทำ� ใหผ้ เู้รียนสามารถสืบคน้ ชนิดพนั ธุ์
สถานภาพของชนิดพชื และสตั วด์ ว้ ยการปฏบิ ตั จิ ริงโดยผลลพั ธจ์ ะเชอ่ื มโยงกบั ฐานขอ้ มลู ของบญั ชแี ดงไอยซู ีเอน็ และวกิ พิ เี ดยี
สารานุกรมเสรี ดว้ ยวธิ ีการเหลา่ น้ีผเู้รียนจะสามารถประยกุ ตค์ วามรูท้ างชวี วทิ ยากบั การใชฐ้ านขอ้ มลู จไี อเอสอยา่ งเป็นระบบ

คำ� สำ� คญั สารสนเทศภมู ศิ าสตร์ การกระจายตวั ของชนิดพนั ธุ์ การเรียนรูผ้ า่ นสื่อออนไลน์

ABSTRACT

The teaching strategies for nature conservation study can be combined with applied environmental principles and geographic
information systems (GIS) in order to improve the competency of learners. Nowadays, GIS data are added inside applications
and on various platforms. Generally, learners should understand species distribution and they are able to use tools for data
analysis. In particular, online visualization tools are media, which explain the distribution of organisms. We, therefore, focus on
teaching the GIS-online based website for competency teaching via https://mol.org. In this way, learners could learn by doing
the flora and fauna species and searching current status, and the results were linked to the database of the IUCN Red List and
Wikipedia encyclopedia. With the online-based learning and using the GIS platform, learners will be able to apply biological
knowledge with utilizations of GIS databases systematically.

KEYWORDS: Geographic information system, species distribution, online-based learning

42 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

คำ� น�ำ PROOFSปัจจุบนั มีการหยิบยกการเรียนรู้โดยยึดหลกั สมรรถนะ
ซ่ึงผู้เรี ยนสามารถการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะ
การกระจายตวั ของส่ิงมีชีวิตในเชิงพ้ืนที่เป็ นหน่ึงใน ต่าง ๆ ในการแกป้ ัญหาและยงั มีการแสดงออกถึงความ
หัวขอ้ การเรียนรู้ท่ีส�ำคญั ของการศึกษาทางนิเวศวิทยา สามารถ ผลลพั ธ์จากการเรียนรู้โดยยึดหลกั สมรรถนะ
และวิวฒั นาการ ความรู้ทวั่ ไปของกระจายตวั ของสิ่งมี จึงสมควรจดั เป็ นหน่ึงในวตั ถุประสงคข์ องการเรียนรู้ใน
ชีวติ บนโลกจะสามารถบูรณาการไดอ้ ยา่ งหลากหลายใน ยุคปัจจุบนั เพราะเป็ นตวั ช้ีวดั ระดบั ความสามารถในการ
หลายแขนง ยกตวั อยา่ ง เช่น ในเชิงการสร้างแผนท่ี และ ดำ� เนินชีวิตและยงั ช่วยยกระดบั คุณภาพชีวิต (เฉลิมชยั ,
การรวมรวบขอ้ มูลของระบบฐานขอ้ มูล อีกท้งั การศึกษา 2562) ท้งั น้ีรูปแบบการเรียนรู้แบบสมรรถนะควรมีการ
การกระจายตวั ของส่ิงมีชีวติ จะส่งผลดีต่อวธิ ีการอนุรักษ์ ถ่ายทอดทกั ษะ เจตคติ และช้ีนำ� คุณลกั ษณะต่าง ๆ ท่ี
ทรัพยากรบนโลกใบน้ี จึงมีกรอบแนวคิดและโครงสร้าง ผูเ้ รียนสามารถพฒั นาจากการเรียนรู้ได้ และจำ� เป็ น
พ้ืนฐานดา้ นระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศที่จดั เกบ็ ขอ้ มูล อย่างย่ิงที่ผูเ้ รียนจะตอ้ งมีการแสดงความสามารถออก
แบบออนไลน์สาธารณะหรือ ระบบเปิ ด โดยผูใ้ ชง้ าน มาในเชิงการนำ� ความรู้ ทกั ษะ เจตคติ และคุณลกั ษณะ
สามารถเขา้ ถึงระบบขอ้ มูลและพฒั นาคุณภาพขอ้ มูลใน ต่าง ๆ ท่ีมาจากการศึกษาไปใชแ้ กป้ ัญหาในสถานการณ์
ระบบควบคู่กนั ไปได้ ปัจจุบนั มีเวบ็ ไซตอ์ อนไลน์ที่ขอ้ ง ต่าง ๆ จนประสบความส�ำเร็จในระดบั ใดระดบั หน่ึง
เกี่ยวกบั การศึกษาดา้ นการกระจายตวั ของส่ิงมีชีวติ ในเชิง ตามกรอบเเนวคิดของ ทิศนา และคณะ (2562) มีหลกั
พ้ืนท่ี คือ Map of Life (Jetz et al., 2012) การจดั การเรียนรู้โดยยดึ หลกั สมรรถนะ 4 ประการ ดงั น้ี
การพฒั นาสื่อการเรียนรู้มีผลอย่างมากต่อคุณภาพการ ประการแรก คือ การมุ่งเน้นการพฒั นาความสามารถ
สอนทางชีววทิ ยา ในปัจจุบนั มีการจดั การเรียนการสอน ของผเู้ รียนในดา้ นความรู้ ทกั ษะ เจตคติ และคุณลกั ษณะ
ท่ีใช้ส่ือเป็ นตวั ถ่ายทอดความรู้ เพ่ือเสริมสร้างทกั ษะ ประการท่ีสอง คอื เนน้ การปฏิบตั ิและลดเวลาเรียนเอ้อื ให้
และระบบการวิเคราะห์ อีกท้งั เป็ นการฝึ กให้ผูเ้ รียนได้ ผเู้ รียนมีเวลาเรียนรู้เน้ือหาที่จาํ เป็นในระดบั ลึก ประการ
ใชเ้ หตุผล ปัจจุบนั อาจเกิดปัญหาดา้ นการเลือกใชส้ ่ือการ ท่ีสาม คือ ผูเ้ รียนมีโอกาสได้ฝึ กฝนการใช้ความรู้ใน
เรียนรู้ในวชิ าชีววทิ ยาและสิ่งแวดลอ้ ม ยกตวั อยา่ งเช่น ส่ือ สถานการณ์ตา่ ง ๆ และประการที่ส่ี คือ การใหข้ อ้ มลู ป้อน
ไม่สามารถช่วยถ่ายทอดเน้ือหาเม่ือเปรียบเทียบกบั การ กลบั แก่ผเู้ รียนเพ่อื การปรับปรุงพฒั นา
สอนจริงของครูผสู้ อนโดยสมบูรณ์ ดงั น้นั ส่ือการเรียนรู้ การศึกษาน้ีจึงมุ่งเน้นให้ผูเ้ รียนมีทกั ษะในการใช้ฐาน
จึงควรไดร้ ับการปรับปรุงสำ� หรับการศึกษาแขนงน้ี ยก ขอ้ มลู ระบบเปิ ดของสิ่งมีชีวติ ที่ตนสนใจผนวกเขา้ กบั การ
ตวั อยา่ งเช่น การใชเ้ ทคโนโลยีท่ีปรากฏอยบู่ นเวบ็ ไซต์ วิเคราะห์ร่วมกบั หลกั การทางชีววิทยา เช่น รูปแบบการ
ในการสอนและการคน้ ควา้ เพม่ิ เติมจากผเู้ รียน ซ่ึงสื่อการ กระจายตวั ของสิ่งมีชีวิต สถานะทางการอนุรักษช์ นิด
เรียนรู้ที่เหมาะสมในยคุ ปัจจุบนั และเป็ นการกระตุน้ ให้ พนั ธุแ์ ละพฤตกิ รรมของส่ิงมชี ีวติ ดว้ ยการใชข้ อ้ มลู เครื่อง
ผูม้ ีเกิดความสนใจในห้องเรียนไดแ้ ก่ ส่ือออนไลน์ ซ่ึง มือ และเวบ็ ไซตใ์ นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
ส่ือออนไลน์ยงั เป็นส่ือการเรียนรู้ที่ทนั สมยั เม่ือเทียบกบั
การเรียนการสอนในหอ้ งเรียน (Biel and Brame, 2016) อปุ กรณ์ และวธิ ีการ
ในทิศทางเดียวกนั คือ เม่ือเสร็จสิ้นการเรียนรู้ผ่านสื่อ
ออนไลน์จึงควรมีตวั ช้ีวดั ความส�ำเร็จของการจดั การ การศึกษาคร้ังน้ีเป็ นการศึกษาตามแนวทางการจดั การ
ศึกษาในรูปแบบน้ี โดยอาจมีการประเมินผลท่ีวดั จาก เรียนการสอนที่เนน้ สื่อออนไลน์ ซ่ึงจดั ทำ� โดย Map of
ประสิทธิผลกบั ผเู้ รียน รวมถึงการนำ� ความรู้จากการเรียน Life, Yale University ผใู้ ชง้ านสามารถเขา้ ถงึ Map of Life
ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำ� วนั ซ่ึงเป็ นการประเมินวดั ผล ผา่ นอินเตอร์เนต็ ท่ีเวบ็ ไซต์ https://mol.org/ นอกจากน้ียงั
ของผลลพั ธ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมกบั บริบทการศึกษา มีทางเลือกอื่น ๆ สำ� หรับการดาวโหลดแอฟลิเคชน่ั ของ

สมั มนาวชิ าการพพิ ธิ ภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 43

Table 1. Structures of the designed course based on online learning using geographic information system (GIS).

Structures Information
• focus on using a web-based GIS teaching
1. Objectives with Map of Life interface (https://mol.org).
Students can search information of both flora
and fauna species and their status
• integrate student’s knowledge in Biology
with systematic databases, and connect
data with IUCN Red Lists and Wikipedia
encyclopedia

2. Duration Three hours in laboratory class plus with self-
studying for 6 days

3. Material • Map of Life (https://mol.org)
• Instruction
PROOFS
4. Method • Explanatory teaching
5. Evaluation • Practical teaching
6. Criteria • Searching data and do the report
The report form that can be added some
results from self-studying after the laboratory
session
• very good = students are able to present the
results from self-studying. They can perform
learning competency by using tools such
as computational software according to the
teaching material and doing the report.
• good = students are able to search
information following the class instruction,
and they can present the results from self-
studying in the report form.
• low (failed) = no report submission and
students are not able to follow the class
instruction within self-study duration.

7. Outcomes • Utilizations of GIS databases relating to
biological study
• Enhanced competency by teaching

Map of Life จาก Google Play Store และ App Store โดย พกิ ดั ท่ีพบสิ่งมีชีวติ (Jetz et al., 2012) เพอ่ื ไปใชป้ ระโยชน์
ขอ้ มูลการกระจายตวั ของสิ่งมีชีวิตจะเชื่อมโยงกบั ฐาน และประยกุ ตใ์ ชง้ านกบั ซอฟตแ์ วร์อ่ืน ๆ เช่น QGIS, Arc-
ขอ้ มลู ของบญั ชีแดงไอยซู ีเอน็ และวกิ ิพเี ดียสารานุกรมเสรี GIS เป็ นตน้ ผูว้ ิจยั มีการออกแบบองคป์ ระกอบในการ
ท้งั น้ีผใู้ ชง้ านสามารถนำ� ออก (Export) ชุดขอ้ มูล เช่น จุด การเรียนรู้ทางชีววทิ ยาที่ใช้ Map of Life ควบคไู่ ปกบั การ

44 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

เรียนการสอนในภาคปฏิบตั ิการในวชิ าพฤติกรรม (รหสั ผูเ้ รียนจำ� นวน 1 คน ที่สามารถใชข้ อ้ มูลพิกดั การกระจาย
วิชา 202481) ของภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ตัว ข อ ง ส่ิ ง มี ชี วิ ต ท่ี ต น ส น ใ จ น�ำ ไ ป ส ร้ า ง แ ผ น ที่ ก า ร
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ดงั Table 1 กระจายตวั ดว้ ยตนเองในจีไอเอสซอฟตแ์ วร์ คือ QGIS
(Figure 1 และ Table 2)
ผล และวจิ ารณ์ ผูว้ ิจยั เล็งเห็นว่าผูเ้ รียนทุกคนมีทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มูล
ทางชีววทิ ยาผา่ นเวป็ ไซตไ์ ดด้ ี โดยเฉพาะดา้ นการกระจาย
ผูเ้ รียนทุกคนเขา้ ใจหลกั การจากการบรรยายหน้าช้ัน ตวั ของชนิดพนั ธ์และสถานะการอนุรักษ์ ซ่ึงในปัจจุบนั
และลงมือปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง ท้งั น้ีผเู้ รียนทุกคนสามารถ นิยมใชเ้ วป็ ไซตพ์ ้นื ฐานทมี่ ขี อ้ มลู ของจไี อเอสในการศกึ ษา
คิด พิจารณาขอ้ มูลท่ีสืบคน้ มาไดเ้ พื่อการวิเคราะห์และ หลากหลายสาขาวชิ า ผสู้ อนจึงควรเลือกใชห้ มวดหมขู่ อง
ประเมินขอ้ มูลด้วยเหตุผลตามหลกั การทางชีววิทยา ขอ้ มลู ทเี่ หมาะสมกบั เน้ือหาการเรียนรู้ ยกตวั อยา่ งเชน่ พกิ ดั
พร้อมกบั ไดแ้ สดงศกั ยภาพของตนเองผา่ นผลการศึกษา การพบสิ่งมชี วี ติ ในขอบเขตพน้ื ทที่ สี่ นใจท้งั น้ีการประยกุ ต์
ในใบรายงานของวิชาดว้ ยการยกเหตุผลประกอบการ ใชข้ อ้ มลู ดงั กลา่ วกบั วธิ ีการสอนโดยยดึ หลกั สมรรถนะควร
อธิบายอย่างเพียงพอ (Figure 2) และผูเ้ รียนทุกคนได้ จะใชเ้ คร่ืองมือเพอ่ื วเิ คราะห์ขอ้ มูลเพม่ิ เติม เพอ่ื เพม่ิ ความ
ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินผลตาม Table 1 และผวู้ จิ ยั พบวา่ มี
PROOFS

Figure 1. Example of Great Hornbill (Buceros bicornis) distribution in Asia presented by a student in the class. Data
of species distribution was derived from https://mol.org and plotted coordinates of the distribution in QGIS software.
The conservation status and the picture of Great Hornbill were modified from Bird Life International (2018).

สมั มนาวชิ าการพิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวทิ ยา คร้ังที่ 1: กา้ วแรกแห่งคลงั ทรัพยากร 45

Table 2. Evaluating criteria extending from the criteria in Table 1.

Levels of competency Number of Students’ competencies
very good students integrate data from class material with
(Total = 4) map production in QGIS software and
1 present results in the report by showing
maps overlaid with Google Satellite.

good 3 learn ways to present their interested
low (failed) species and present species distribution
map in the report by drawing the map
from online website.

0-

เขา้ ใจในรูปแบบการกระจายตวั ของส่ิงมีชีวติ โดยเฉพาะ PROOFS นายกิตติภพ ชยั กิตติพร นกั ศึกษาภาควชิ าชีววทิ ยา คณะ
เครื่องมอื บนเวบ็ ไซตห์ รือซอฟตแ์ วร์ตา่ ง ๆ เช่น QGIS เพอ่ื วทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ที่ช่วยหาขอ้ มูลดา้ น
เพิ่มมุมมองการมองเห็นดว้ ยภาพและยงั ช่วยอธิบายการ การศึกษาโดยยดึ หลกั สมรรถนะ
กระจายตวั ของส่ิงมชี ีวติ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ภาควชิ าชีววทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
ผวู้ จิ ยั เลง็ เหน็ วา่ วธิ ีการเรียนรูผ้ า่ นส่ือออนไลนด์ งั กลา่ วไมม่ ี สนับสนุ นค่ าใช้จ่ ายในการเข้าร่ วมสัมมนาวิชาการ
คา่ ใชจ้ า่ ยในการเรียนรู้ เพราะเป็นฐานขอ้ มลู ระบบเปิ ดเสรี พิพิธภณั ฑธ์ รรมชาติวิทยา คร้ังที่ 1 : กา้ วแรกแห่งคลงั
จงึ เป็นการประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยในการเรียนการสอนและการ ทรัพยากร ณ องคก์ ารพิพิธภณั ฑว์ ิทยาศาสตร์แห่งชาติ
สืบคน้ ขอ้ มลู ดว้ ยตนเองยงั เพม่ิ โอกาสฝึกฝนการใชค้ วามรู้ (อพวช.) จงั หวดั ปทุมธานี
ในสถานการณ์อ่ืน ๆ อีกท้งั สื่อการเรียนรู้ผา่ นเวบ็ ไซตจ์ ะ
ช่วยเนน้ การปฏิบตั ิและลดเวลาเรียน นอกจากน้ี ผพู้ ฒั นา เอกสารและส่ิงอ้างองิ
ระบบ Map of Life ไดอ้ ำ� นวยความสะดวกในการบนั ทึก
ขอ้ มลู ใหม่ และเปิ ดโอกาสใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถแกไ้ ขปรับปรุง Biel, R. and C.J. Brame. 2016. Traditional Versus Online
ขอ้ มูลเดิม จึงเป็ นการพฒั นาระบบฐานขอ้ มูลจีไอเอส Biology Courses: Connecting Course Design and
อยา่ งตอ่ เนื่องและมกี ารส่งตอ่ ขอ้ มลู ไปยงั ผใู้ ชง้ านอยา่ งเป็น Student Learning in an Online Setting. Journal
ระบบ ซ่ึงถอื เป็นหนทางการพฒั นาเทคโนโลยที ี่สมบรู ณ์ of Microbiology & Biology Education 17(3).
DOI: 10.1128/jmbe.v17i3.1157
คำ� นิยม
Bird Life International. 2018. Buceros bicornis. The
ผวู้ จิ ยั ขอขอบพระคุณ ผศ.ดร.นนั ทิยา อจั จิมารังสี อาจารย์ IUCN Red List of Threatened Species 2018.
ประจำ� วิชาพฤติกรรม (202481) ภาควิชาชีววิทยา คณะ https://dx.doi.org/10.2305/IUCN.UK.2018-2.
วทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ท่ีกรุณาจดั สรรตาราง RLTS.T22682453A131870948.en
การสอนภาคปฏิบตั ิการโดยยึดหลกั สมรรถนะผ่านส่ือ
ออนไลนด์ ว้ ยเวบ็ ไซตฐ์ านขอ้ มูลระบบเปิ ด Jetz, W., J.M. McPherson and R.P. Guralnick. 2012.
นางสาวณิชกานต์ นนั ต๊ะ ตวั แทนนกั ศึกษาท่ีอนุญาตให้ Integrating Biodiversity Distribution Knowledge:
เผยแพร่ขอ้ มูลจากใบรายงานปฏิบตั ิการ Toward a Global Map of Life. Trends in Ecolo-
gy and Evolution 27: 151–159. DOI:10.1016/j.
tree.2011.09.007

46 The 1st Symposium of the Natural History Museum: Initial Steps For Conserving Natural Rosource Depositories

เฉลิมชยั พนั ธ์เลิศ. 2562. พฒั นาการหลกั สูตรและการ ง่าย ๆ ฉบับประชาชน และเข้าใจหลักสูตรฐาน
จดั การเรียนการสอน: จากอดีตสู่ยคุ เปลี่ยนผา่ นสู่ สมรรถนะอย่างง่าย ๆ ฉบับบริหาร และบุคลากร
หลกั สูตรฐานสมรรถนะ (Competency). รายการ ทางการศึกษา. กลุ่มมาตรฐานการศึกษา สํานกั
ผลงานสื่อ ส่ิงพมิ พ์ ประชาสัมพนั ธ์และเผยแพร่ มาตรฐานการศึกษาและพฒั นาการเรียนรู้ สํา
กรอบสมรรถนะผู้เรียนระดับการศึกษาข้ันพื้น นกั งานเลขาธิการสภาการศึกษา. พิมพค์ ร้ังท่ี 1.
ฐาน. https://www.thaiedreform.org/wp-content/ กรุงเทพมหานคร.
uploads/2019/08/Core_competency_09.pdf

ทิศนา แขมมณี พมิ พนั ธ์ เดชะคุปต์ บงั อร เสรีรัตน์ เฉลิม
ชัย พนั ธ์เลิศ กุณฑลี บริรักษ์สันติกุล สุทธิดา
ธาดา นิติ และคณะ. 2562. เข้าใจสมรรถนะอย่าง

PROOFS


Click to View FlipBook Version