The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตัวชี้วัดต้องรู้และควรรู้-หลักสูตรฯ-2551-สำหรับสถานการณ์-Covid-19

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sophin29, 2021-11-05 10:22:05

ตัวชี้วัดต้องรู้และควรรู้-หลักสูตรฯ-2551-สำหรับสถานการณ์-Covid-19

ตัวชี้วัดต้องรู้และควรรู้-หลักสูตรฯ-2551-สำหรับสถานการณ์-Covid-19

๒๙๗

ชัน้ ท่ี รหัสตัวช้ีวัด ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.3 2๖ ศ 3.1 ป.3/5 บอกประโยชนข์ องกำรแสดงนำฏศลิ ป์  กำรบรู ณำกำรนำฏศลิ ปก์ บั สำระ 
กำรเรียนรอู้ น่ื ๆ
ในชีวติ ประจำวัน 
 กำรแสดงนำฏศลิ ป์พื้นบำ้ นหรือท้องถน่ิ 
2๗ ศ 3.2 ป.3/1 เลำ่ กำรแสดงนำฏศลิ ป์ทเ่ี คยเห็น ของตน
๑๒ ๑๗
ในท้องถน่ิ  ที่มำของกำรแสดงนำฏศลิ ป์

2๘ ศ 3.2 ป.3/2 ระบุสิ่งที่เป็นลกั ษณะเด่นและ
เอกลักษณ์ของกำรแสดงนำฏศิลป์

๒๙ ศ 3.2 ป.3/3 อธิบำยควำมสำคัญของกำรแสดง
นำฏศลิ ป์

รวม ๒๙ ตวั ช้ีวดั

สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๘

ชัน้ ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.๔ 1 ศ ๑.๑ ป.๔/๑ เปรียบเทียบรูปลักษณะของรปู ร่ำง  เสน้ สี รูปรำ่ ง รปู ทรง พืน้ ผวิ และพืน้ ทวี่ ่ำง 

รูปทรง ในธรรมชำติ สง่ิ แวดลอ้ ม และ ในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อมและงำนทัศนศิลป์

งำนทศั นศลิ ป์

2 ศ ๑.๑ ป.๔/๓ จำแนกทัศนธำตุของสิง่ ต่ำง ๆ 
ในธรรมชำติ ส่งิ แวดล้อม
และงำนทัศนศลิ ป์ โดยเนน้ เรื่องเส้น  อิทธิพลของสี กำรเลือกใช้สีวรรณะอุ่น 
สี รูปรำ่ ง รูปทรงพื้นผวิ และพ้ืนท่ีวำ่ ง และวรรณะเย็นเพ่ือถ่ำยทอดอำรมณ์ 
ควำมรู้สึก ผ่ำนกำรวำดภำพถ่ำยทอด
3 ศ ๑.๑ ป.๔/๒ อภิปรำยเกีย่ วกบั อทิ ธิพลของ ควำมรสู้ ึกและจินตนำกำร
สีวรรณะอนุ่ และสีวรรณะเยน็
ท่ีมีต่ออำรมณข์ องมนุษย์  กำรใช้วสั ดุ อุปกรณ์ในกำรวำดภำพ 
และกำรสร้ำงงำนพิมพ์ภำพ 
4 ศ ๑.๑ ป.๔/๗ วำดภำพระบำยสี โดยใช้สีวรรณะอุ่น
และสีวรรณะเยน็ ถ่ำยทอดควำมร้สู ึก  กำรใช้วัสดุ อปุ กรณ์ในกำรวำดภำพ 
และจินตนำกำร ระบำยสี 

5 ศ ๑.๑ ป.๔/๙ เลอื กใช้วรรณะสีเพ่ือถ่ำยทอดอำรมณ์  กำรจัดระยะควำมลึก น้ำหนัก 
ควำมรูส้ กึ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ และแสงเงำในกำรวำดภำพ

6 ศ ๑.๑ ป.๔/๔ มที ักษะพ้ืนฐำนในกำรใช้วัสดุ อปุ กรณ์  ควำมเหมอื นและควำมแตกตำ่ ง
สร้ำงสรรคง์ ำนพมิ พภ์ ำพ ในงำนทัศนศิลป์ ควำมคิด ควำมร้สู กึ
ท่ถี ่ำยทอดในงำนทัศนศิลป์
7 ศ ๑.๑ ป.๔/๕ มที กั ษะพืน้ ฐำนในกำรใช้วสั ดุ อปุ กรณ์
สรำ้ งสรรคง์ ำนวำดภำพระบำยสี  งำนทศั นศลิ ป์ในวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่

8 ศ ๑.๑ ป.๔/๖ บรรยำยลกั ษณะของภำพโดยเนน้  งำนทัศนศลิ ป์จำกวฒั นธรรมต่ำง ๆ 
เร่อื งกำรจัดระยะ ควำมลึก น้ำหนัก 
และแสงเงำในภำพ  โครงสรำ้ งของบทเพลง
- ควำมหมำยของประโยคเพลง
9 ศ ๑.๑ ป.๔/๘ เปรยี บเทยี บควำมคิดควำมรู้สึก - กำรแบง่ ประโยคเพลง
ทถี่ ำ่ ยทอดผ่ำนงำนทัศนศิลป์
ของตนเองและบุคคลอืน่

10 ศ ๑.๒ ป.๔/๑ ระบุ และอภิปรำยเกยี่ วกบั
งำนทัศนศิลป์ ในเหตกุ ำรณ์
และงำนเฉลมิ ฉลองของวัฒนธรรม
ในทอ้ งถนิ่

11 ศ ๑.๒ ป.๔/๒ บรรยำยเก่ยี วกบั งำนทัศนศิลป์
ที่มำจำกวฒั นธรรมตำ่ ง ๆ

12 ศ 2.1 ป.4/1 บอกประโยคเพลงอย่ำงงำ่ ย

สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๒๙๙

ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วัด ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
 ประเภทของเครื่องดนตรี 
ป.4 13 ศ 2.1 ป.4/2 จำแนกประเภทของเครื่องดนตรี  เสยี งของเครอื่ งดนตรีแต่ละประเภท
 กำรเคล่ือนท่ขี ้นึ - ลงของทำนอง 
ที่ใช้ในเพลงทีฟ่ งั  รปู แบบจังหวะของทำนองจังหวะ
 รปู แบบจังหวะ
14 ศ 2.1 ป.4/3 ระบุทศิ ทำงกำรเคลอื่ นทข่ี ึ้น – ลงง่ำย ๆ

ของทำนอง รูปแบบจังหวะ และ

ควำมเรว็ ของจังหวะในเพลงที่ฟัง

15 ศ 2.1 ป.4/4 อำ่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสำกล  ควำมชำ้ - เรว็ ของจังหวะ 

 เครอื่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี
- กญุ แจประจำหลัก
- บรรทัดห้ำเสน้
- โน้ตและเคร่อื งหมำยหยุด
- เสน้ ก้นั ห้อง

16 ศ 2.1 ป.4/5 รอ้ งเพลงโดยใชช้ ว่ งเสียงท่เี หมำะสม  โครงสร้ำงโน้ตเพลงไทย 
กบั ตนเอง - กำรแบง่ ห้อง
- กำรแบ่งจงั หวะ 
17 ศ 2.1 ป.4/6 ใชแ้ ละเก็บเครื่องดนตรีอยำ่ งถูกตอ้ ง 
และปลอดภัย  กำรขับร้องเพลงในบันไดเสยี ง 
ทเี่ หมำะสมกบั ตนเอง
18 ศ 2.1 ป.4/7 ระบวุ ำ่ ดนตรีสำมำรถใชใ้ นกำรสอื่ 
เร่ืองรำว  กำรใชแ้ ละกำรดแู ลรกั ษำเครื่องดนตรี
ของตน
19 ศ 2.2 ป.4/1 บอกแหลง่ ทม่ี ำและควำมสัมพันธ์
ของวถิ ชี วี ติ ไทย ทสี่ ะทอ้ นในดนตรี  ควำมหมำยของเน้ือหำในบทเพลง
และเพลงทอ้ งถิ่น
 ควำมสมั พนั ธข์ องวิถีชวี ติ กบั ผลงำนดนตรี
20 ศ 2.2 ป.4/2 ระบุควำมสำคัญในกำรอนรุ ักษส์ ง่ เสรมิ
วัฒนธรรมทำงดนตรี - เนือ้ หำเรอ่ื งรำวในบทเพลงกบั วถิ ชี ีวติ

21 ศ 3.1 ป.4/1 ระบทุ กั ษะพื้นฐำนทำงนำฏศลิ ป์ - โอกำสในกำรบรรเลงดนตรี 
และกำรละครท่ีใช้ส่ือควำมหมำยและ  กำรอนุรักษ์วฒั นธรรมทำงดนตรี
อำรมณ์
- ควำมสำคัญและควำมจำเปน็
22 ศ 3.1 ป.4/2 ใช้ภำษำท่ำและนำฏยศพั ท์
หรือศพั ทท์ ำงกำรละครง่ำย ๆ ในกำรอนุรักษ์
ในกำรถำ่ ยทอดเรื่องรำว
- แนวทำงในกำรอนรุ ักษ์
23 ศ 3.1 ป.4/3 แสดงกำรเคล่ือนไหวในจังหวะตำ่ ง ๆ
ตำมควำมคดิ ของตน  หลกั และวธิ กี ำรปฏบิ ัตนิ ำฏศลิ ป์ 

- ภำษำทำ่

- นำฏยศพั ท์

 กำรใช้ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์ 

ประกอบเพลงปลุกใจและเพลงพระรำชนิพนธ์

 กำรใช้ศัพท์ทำงกำรละคร

ในกำรถ่ำยทอดเรื่องรำว

 กำรประดิษฐ์ทำ่ ทำงหรอื ท่ำรำ

ประกอบจังหวะพน้ื เมือง

สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๐

ชั้น ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้
ป.4 24 ศ 3.1 ป.4/4 แสดงนำฏศลิ ปเ์ ป็นคูแ่ ละหมู่ 
 กำรแสดงนำฏศิลป์ ประเภทคู่และหมู่
25 ศ 3.1 ป.4/5 เล่ำสิง่ ทชี่ ื่นชอบในกำรแสดง - รำวงมำตรฐำน 
โดยเน้นจดุ สำคญั ของเรื่อง - ระบำ
26 ศ 3.2 ป.4/1 และลกั ษณะเดน่ ของตัวละคร 
27 ศ 3.2 ป.4/4 อธิบำยประวตั ิควำมเป็นมำของ  กำรเล่ำเรอ่ื ง 
28 ศ 3.2 ป.4/2 นำฏศลิ ป์ หรือชุดกำรแสดงอย่ำงงำ่ ย ๆ - จดุ สำคญั
ระบุเหตผุ ลทค่ี วรรกั ษำและสืบทอด - ลกั ษณะเด่นของตัวละคร
29 ศ 3.2 ป.4/3 กำรแสดงนำฏศลิ ป์
เปรียบเทยี บกำรแสดงนำฏศลิ ป์  ควำมเป็นมำของนำฏศลิ ป์ กำรละเล่น
กับกำรแสดงที่มำจำกวัฒนธรรมอน่ื ของหลวง และที่มำของชดุ กำรแสดง
- คุณคำ่ ของนำฏศลิ ปไ์ ทย
อธบิ ำยควำมสำคัญของกำรแสดง
ควำมเคำรพในกำรเรยี นและกำรแสดง  กำรชมกำรแสดง 
นำฏศลิ ป์
- เปรยี บเทียบกำรนำฏศิลป์ กับกำรแสดง
รวม ๒๙ ตวั ชวี้ ดั
วฒั นธรรมอื่น

 ควำมเปน็ มำของนำฏศลิ ป์ 

- กำรทำควำมเคำรพก่อนเรยี น

และก่อนแสดงนำฏศิลป์

๑๕ ๑๔

สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๑

ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
 จงั หวะ ตำแหน่งของสงิ่ ต่ำง ๆ 
ป.๕ 1 ศ ๑.๑ ป.๕/๑ บรรยำยเกี่ยวกับจงั หวะ ตำแหน่ง
ในสิ่งแวดล้อมและงำนทัศนศิลป์ 
ของสงิ่ ตำ่ ง ๆ ทป่ี รำกฏในสง่ิ แวดล้อม
 ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งงำนทัศนศลิ ป์
และงำนทัศนศิลป์

2 ศ ๑.๑ ป.๕/๒ เปรียบเทยี บควำมแตกตำ่ งระหว่ำง

งำนทศั นศลิ ป์ ท่ีสร้ำงสรรค์ดว้ ยวัสดุ

อุปกรณ์และวธิ ีกำรท่ีต่ำงกนั

3 ศ ๑.๑ ป.๕/๓ วำดภำพ โดยใชเ้ ทคนิคของแสงเงำ  แสงเงำ นำ้ หนัก และวรรณะสี 

น้ำหนกั และวรรณะสี

4 ศ ๑.๑ ป.๕/๔ สร้ำงสรรคง์ ำนปน้ั จำกดนิ น้ำมัน  กำรสรำ้ งงำนปนั้ เพื่อถำ่ ยทอดจนิ ตนำกำร 
ดว้ ยกำรใชด้ ินน้ำมนั หรอื ดนิ เหนียว
หรอื ดนิ เหนียว โดยเน้นกำรถำ่ ยทอด

จินตนำกำร

5 ศ ๑.๑ ป.๕/๕ สร้ำงสรรค์งำนพมิ พภ์ ำพ โดยเน้น  กำรจัดภำพในงำนพิมพ์ภำพ 

กำรจัดวำงตำแหน่งของสิ่งตำ่ ง ๆ

ในภำพ

6 ศ ๑.๑ ป.๕/๖ ระบปุ ญั หำในกำรจัดองคป์ ระกอบศิลป์  กำรจัดองคป์ ระกอบศิลป์และ 
กำรสอื่ ควำมหมำยในงำนทัศนศิลป์
และกำรสื่อควำมหมำยในงำนทศั นศิลป์

ของตนเอง และบอกวธิ กี ำรปรบั ปรงุ งำน

ใหด้ ีข้นึ

7 ศ ๑.๑ ป.๕/๗ บรรยำยประโยชนแ์ ละคุณค่ำ  ประโยชน์และคุณค่ำของงำนทัศนศลิ ป์ 

ของงำนทัศนศลิ ป์ที่มผี ลต่อชีวิต

ของคนในสังคม

8 ศ ๑.๒ ป.๕/๑ ระบุ และบรรยำยเกีย่ วกับ  ลักษณะรปู แบบของงำนทัศนศิลป์ 

ลักษณะรปู แบบของงำนทศั นศิลป์

ในแหล่งเรยี นรู้หรือนิทรรศกำรศิลปะ

9 ศ ๑.๒ ป.๕/๒ อภิปรำยเกีย่ วกบั งำนทัศนศลิ ป์  งำนทัศนศิลป์ทส่ี ะทอ้ นวัฒนธรรม 
และภมู ิปญั ญำในท้องถิ่น
ทีส่ ะท้อนวัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญำ

ในท้องถิ่น

10 ศ 2.1 ป.5/1 ระบุองค์ประกอบดนตรใี นเพลง  กำรสื่ออำรมณ์ของบทเพลง 

ทีใ่ ช้ในกำรสอ่ื อำรมณ์ ด้วยองคป์ ระกอบดนตรี

- จงั หวะกับอำรมณ์ของบทเพลง

- ทำนองกบั อำรมณ์ของบทเพลง

11 ศ 2.1 ป.5/2 จำแนกลกั ษณะของเสยี งขับร้องและ  ลกั ษณะของเสียงนักร้องกลุ่มต่ำง ๆ 
เครือ่ งดนตรีทอี่ ยู่ในวงดนตรีประเภท
ตำ่ ง ๆ  ลกั ษณะเสยี งของวงดนตรีประเภทต่ำง ๆ

12 ศ 2.1 ป.5/3 อำ่ น เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสำกล  เครอื่ งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี 
๕ ระดับเสียง บนั ไดเสียง ๕ เสียง Pentatonic scale
โนต้ เพลงในบนั ไดเสียง ๕ เสียง
Pentatonic scale

สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๒

ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.5 13 ศ 2.1 ป.5/4 ใชเ้ ครือ่ งดนตรบี รรเลงจังหวะ  กำรบรรเลงเคร่ืองประกอบจังหวะ 
และทำนอง  กำรบรรเลงเครื่องดำเนนิ ทำนอง

14 ศ 2.1 ป.5/5 ร้องเพลงไทยหรือเพลงสำกล  กำรรอ้ งเพลงไทยในอัตรำจังหวะสองชัน้ 

หรอื เพลงไทยสำกลท่เี หมำะสมกบั วยั  กำรร้องเพลงสำกล หรือไทยสำกล

 กำรรอ้ งเพลงประสำนเสียงแบบ

Canon Round

15 ศ 2.1 ป.5/6 ด้นสดงำ่ ย ๆ โดยใชป้ ระโยคเพลงแบบ  กำรสร้ำงสรรคป์ ระโยคเพลงถำม - ตอบ 
ถำม - ตอบ

16 ศ 2.1 ป.5/7 ใชด้ นตรรี ่วมกับกจิ กรรม  กำรบรรเลงดนตรีประกอบกิจกรรม 
ในกำรแสดงออกตำมจินตนำกำร นำฏศลิ ป์

 กำรสรำ้ งสรรคเ์ สียงประกอบกำรเลำ่ เรอ่ื ง

17 ศ 2.2 ป.5/1 อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงดนตรี  ดนตรกี ับงำนประเพณี 

กับประเพณใี นวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ - บทเพลงในงำนประเพณใี นท้องถน่ิ

- บทบำทของดนตรใี นแตล่ ะประเพณี

18 ศ 2.2 ป.5/2 อธิบำยคณุ ค่ำของดนตรีทีม่ ำจำก  คุณค่ำของดนตรจี ำกแหลง่ วัฒนธรรม 
วัฒนธรรมทีต่ ่ำงกนั - คุณคำ่ ทำงสงั คม

- คุณคำ่ ทำงประวัติศำสตร์

19 ศ 3.1 ป.5/1 บรรยำยองคป์ ระกอบนำฏศิลป์  องคป์ ระกอบของนำฏศลิ ป์ 

- จังหวะ

- ทำนอง

- คำร้อง

- ภำษำทำ่

- นำฏยศพั ท์

- อปุ กรณ์

20 ศ 3.1 ป.5/2 แสดงท่ำทำงประกอบเพลง  กำรประดิษฐ์ท่ำทำงประกอบเพลง 
หรอื เร่อื งรำวตำมควำมคิดของตน หรือท่ำทำงประกอบเรื่องรำว

21 ศ 3.1 ป.5/3 แสดงนำฏศิลป์ โดยเนน้ กำรใช้  กำรแสดงนำฏศิลป์ 
ภำษำทำ่ และนำฏยศัพท์ในกำรสือ่ - ระบำ
ควำมหมำยและกำรแสดงออก - ฟ้อน

- รำวงมำตรฐำน

22 ศ 3.1 ป.5/4 มสี ว่ นรว่ มในกลมุ่ กบั กำรเขียน  องค์ประกอบของละคร 
เคำ้ โครงเรือ่ งหรอื บทละครสนั้ ๆ - กำรเลือกและเขียนเค้ำโครงเรือ่ ง

- บทละครสนั้ ๆ

23 ศ 3.1 ป.5/5 เปรียบเทยี บกำรแสดงนำฏศลิ ปช์ ุดต่ำง ๆ  ท่ีมำของกำรแสดงนำฏศลิ ปช์ ุดต่ำง ๆ 

นำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์พ้ืนเมือง กำรละเล่น

ของหลวง กำรแสดงโขน และละคร

สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชนั้ ที่ รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๓๐๓
ตอ้ งรู้ ควรรู้
ป.5 24 ศ 3.1 ป.5/6 บอกประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั จำก  หลกั กำรชมกำรแสดง
 กำรถำ่ ยทอดควำมรู้สึกและคุณคำ่ 
กำรชมกำรแสดง
ของกำรแสดงนำฏศิลป์ โขน ละคร 
25 ศ 3.2 ป.5/1 เปรียบเทียบกำรแสดงประเภทตำ่ ง ๆ 
ของไทยในแตล่ ะท้องถน่ิ  กำรแสดงนำฏศิลปป์ ระเภทต่ำง ๆ
๑3 ๑3
26 ศ 3.2 ป.5/2 ระบหุ รอื แสดงนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์
พื้นบำ้ นทส่ี ะท้อนถึงวัฒนธรรม
และประเพณี

รวม ๒๖ ตวั ชวี้ ดั

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๔

ช้ัน ที่ รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
ป.๖ 1 ศ ๑.๑ ป.๖/๑ ระบสุ ีค่ตู รงข้ำม และอภิปรำยเก่ยี วกับ
กำรใช้สคี ู่ตรงข้ำมในกำรถ่ำยทอด  กำรสร้ำงสรรคง์ ำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้ 
2 ศ ๑.๑ ป.๖/๒ ควำมคิดและอำรมณ์
3 ศ ๑.๑ ป.๖/๖ อธบิ ำยหลักกำรจัดขนำดสัดส่วน วงสธี รรมชำติ สีคู่ตรงข้ำม หลกั กำรจัดขนำด
ควำมสมดลุ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศลิ ป์ สัดสว่ น และควำมสมดุล
4 ศ ๑.๑ ป.๖/๓ สรำ้ งสรรคง์ ำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้ 
สคี ู่ตรงข้ำมหลักกำรจดั ขนำดสดั ส่วน
5 ศ ๑.๑ ป.๖/๔ และควำมสมดลุ 
6 ศ ๑.๑ ป.๖/๕ สร้ำงงำนทศั นศลิ ป์จำกรปู แบบ ๒ มติ ิ
7 ศ ๑.๑ ป.๖/๗ เป็น๓ มิติ โดยใช้หลกั กำรของแสงเงำ  งำนทศั นศลิ ป์รูปแบบ ๒ มิติ และ ๓ มติ ิ 
และน้ำหนัก
8 ศ ๑.๒ ป.๖/๑ สร้ำงสรรคง์ ำนป้ันโดยใชห้ ลกั กำรเพิ่ม  กำรใชห้ ลกั กำรเพิม่ และลดในกำร 
9 ศ ๑.๒ ป.๖/๒ และลด สร้ำงสรรค์งำนป้ัน 
สร้ำงสรรค์งำนทัศนศิลป์โดยใช้ 
10 ศ ๑.๒ ป.๖/๓ หลกั กำรของรูปและพน้ื ที่วำ่ ง  รปู และพน้ื ทวี่ ่ำงในงำนทัศนศิลป์
สรำ้ งงำนทัศนศิลป์เปน็ แผนภำพ
11 ศ 2.1 ป.6/1 แผนผัง และภำพประกอบ  กำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์เปน็ แผนภำพ
12 ศ 2.1 ป.6/2 เพ่อื ถ่ำยทอดควำมคิดหรือเร่ืองรำว แผนผัง และภำพประกอบ
เกี่ยวกบั เหตุกำรณต์ ่ำง ๆ
13 ศ 2.1 ป.6/3 บรรยำยบทบำทของงำนทศั นศิลป์  บทบำทของงำนทศั นศิลปใ์ นชีวติ และ 
ทสี่ ะท้อนชีวติ และสังคม สังคม 
14 ศ 2.1 ป.6/4 อภิปรำยเกยี่ วกบั อทิ ธพิ ลของควำมเชื่อ
ควำมศรัทธำในศำสนำท่มี ผี ลตอ่ งำน  อทิ ธพิ ลของศำสนำและวฒั นธรรม
ทัศนศลิ ป์ในท้องถนิ่ ทีม่ ีตอ่ กำรสร้ำงงำนทศั นศลิ ปใ์ นท้องถ่ิน
ระบุและบรรยำยอิทธิพลทำงวัฒนธรรม
ในท้องถ่ินที่มผี ลต่อกำรสร้ำงงำน 
ทัศนศลิ ป์ของบุคคล
บรรยำยเพลงที่ฟัง โดยอำศัย  องค์ประกอบดนตรแี ละศัพท์สังคีต 
องคป์ ระกอบดนตรี และศัพท์สงั คีต
จำแนกประเภท และบทบำทหนำ้ ที่  เครอ่ื งดนตรีไทยแตล่ ะภำค 
เครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรี
ท่มี ำจำกวฒั นธรรมตำ่ ง ๆ  บทบำทและหน้ำท่ขี องเครือ่ งดนตรี
อ่ำน เขียนโน้ตไทย และโนต้ สำกล  ประเภทของเครื่องดนตรสี ำกล
ทำนองง่ำย ๆ 
 เครอ่ื งหมำยและสญั ลักษณ์ทำงดนตรี
ใช้เคร่อื งดนตรีบรรเลงประกอบ กำร  โน้ตบทเพลงไทย อตั รำจงั หวะสองชัน้
ร้องเพลง ดน้ สด ท่ีมีจังหวะ  โน้ตบทเพลงสำกลในบันไดเสียง C Major
และทำนองง่ำย ๆ 
 กำรร้องเพลงประกอบดนตรี
 กำรสรำ้ งสรรค์รูปแบบจังหวะและทำนอง
ด้วยเครอ่ื งดนตรี

สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๕

ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.6 15 ศ 2.1 ป.6/5 บรรยำยควำมรสู้ ึกที่มตี ่อดนตรี  กำรบรรยำยควำมรู้สกึ และแสดง 

16 ศ 2.1 ป.6/6 แสดงควำมคิดเห็นเกย่ี วกับทำนอง ควำมคิดเห็นท่ีมีต่อบทเพลง 
- เนื้อหำในบทเพลง
จงั หวะ กำรประสำนเสยี ง และ - องค์ประกอบในบทเพลง

คุณภำพเสยี งของเพลงที่ฟงั - คณุ ภำพเสยี งในบทเพลง

17 ศ 2.2 ป.6/1 อธบิ ำยเรอ่ื งรำวของดนตรไี ทย  ดนตรีไทยในประวัติศำสตร์ 
- ดนตรีในเหตุกำรณส์ ำคัญ
ในประวตั ศิ ำสตร์

18 ศ 2.2 ป.6/2 จำแนกดนตรที ี่มำจำกยุคสมยั ท่ีต่ำงกนั ทำงประวัติศำสตร์ 
- ดนตรใี นยุคสมัยตำ่ ง ๆ
19 ศ 2.2 ป.6/3 อภิปรำยอทิ ธิพลของวฒั นธรรม 

ต่อดนตรใี นทอ้ งถน่ิ

20 ศ 3.1 ป.6/1 สร้ำงสรรคก์ ำรเคล่ือนไหวและกำรแสดง  กำรประดิษฐท์ ำ่ ทำงประกอบเพลงปลกุ ใจ 

โดยเนน้ กำรถำ่ ยทอดลีลำ หรอื อำรมณ์ หรอื เพลงพนื้ เมืองหรือท้องถิ่น เน้นลลี ำ

หรืออำรมณ์

21 ศ 3.1 ป.6/2 ออกแบบเคร่อื งแต่งกำย หรืออปุ กรณ์  กำรออกแบบสร้ำงสรรค์ 
- เครือ่ งแต่งกำย
ประกอบกำรแสดงอย่ำงงำ่ ย ๆ - อปุ กรณ์ ฉำกประกอบกำรแสดง

22 ศ 3.1 ป.6/3 แสดงนำฏศิลปแ์ ละละครง่ำย ๆ  กำรแสดงนำฏศิลป์และกำรแสดงละคร 
- รำวงมำตรฐำน
- ระบำ
- ฟอ้ น
- ละครสร้ำงสรรค์

23 ศ 3.1 ป.6/4 บรรยำยควำมรู้สึกของตนเอง  บทบำทและหน้ำที่ในงำนนำฏศิลป์ 

ทม่ี ตี อ่ งำนนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร และกำรละคร

อย่ำงสรำ้ งสรรค์  หลกั กำรชมกำรแสดง

24 ศ 3.1 ป.6/5 แสดงควำมคดิ เห็นในกำรชมกำรแสดง - กำรวเิ ครำะห์ 

- ควำมรู้สกึ ชืน่ ชม

25 ศ 3.1 ป.6/6 อธิบำยควำมสัมพันธ์ระหว่ำงนำฏศิลป์  องคป์ ระกอบทำงนำฏศิลปแ์ ละกำรละคร 

และกำรละครกับส่ิงทป่ี ระสบ

ในชวี ิตประจำวัน

26 ศ 3.2 ป.6/1 อธิบำยสิ่งท่ีมีควำมสำคัญต่อกำรแสดง  ควำมหมำย ควำมเป็นมำ ควำมสำคญั 

นำฏศิลป์และละคร ของนำฏศิลป์ โขน ละคร และบุคคลสำคัญ

ทำงนำฏศิลป์และกำรละคร

27 ศ 3.2 ป.6/2 ระบปุ ระโยชน์ท่ไี ดร้ ับจำกกำรแสดง  กำรแสดงนำฏศิลปแ์ ละละคร ในวันสำคัญ 

หรือกำรชมกำรแสดงนำฏศลิ ป์ ของโรงเรยี น

และละคร

รวม ๒๗ ตวั ช้วี ัด ๑7 ๑0

สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๖

ชนั้ ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้
ม.๑ 1 ศ ๑.๑ ม.๑/๑ บรรยำยควำมแตกตำ่ งและ 
ควำมคล้ำยคลงึ กันของงำนทัศนศิลป์  เอกภำพ ควำมกลมกลนื ควำมสมดลุ
2 ศ ๑.๑ ม.๑/๒ และส่ิงแวดล้อมโดยใชค้ วำมรู้ ควำมแตกตำ่ งและควำมคลำ้ ยคลึงกัน 
3 ศ ๑.๑ ม.๑/๔ เร่ืองทัศนธำตุ ของทัศนธำตุในงำนทัศนศลิ ป์
ระบุ และบรรยำยหลักกำรออกแบบ หลักกำรออกแบบและสิง่ แวดล้อม
4 ศ ๑.๑ ม.๑/๓ งำนทศั นศลิ ป์ โดยเน้นควำมเป็นเอกภำพ โดยสำมำรถสร้ำงงำนโดยสอื่ ถึงเรอ่ื งรำว
5 ศ ๑.๑ ม.๑/๕ ควำมกลมกลนื และควำมสมดลุ
6 ศ ๑.๑ ม.๑/๖ รวบรวมงำนปั้นหรือสอื่ ผสมมำสรำ้ ง 
7 ศ ๑.๒ ม.๑/๑ เปน็ เรื่องรำว ๓ มิติ โดยเนน้
ควำมเปน็ เอกภำพ ควำมกลมกลืน  หลกั กำรวำดภำพแสดงทัศนียภำพ 
8 ศ ๑.๒ ม.๑/๒ และกำรส่ือถึงเรื่องรำวของงำน 
9 ศ ๑.๒ ม.๑/๓ วำดภำพทัศนียภำพแสดงใหเ้ ห็น  กำรออกแบบรูปภำพ สญั ลกั ษณ์
10 ศ 2.1 ม.1/1 ระยะไกลใกล้ เปน็ ๓ มิติ หรอื งำนกรำฟกิ 
ออกแบบรูปภำพ สัญลักษณ์
11 ศ 2.1 ม.1/2 หรอื กรำฟกิ อ่นื ๆ ในกำรนำเสนอ  กำรประเมนิ งำนทัศนศิลป์
ควำมคิดและข้อมลู
ประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ และบรรยำยถึง  ลักษณะ รปู แบบงำนทศั นศิลป์ของท้องถ่ิน 
วธิ ีกำรปรบั ปรงุ งำนของตนเองและ และของชำติตำมวฒั นธรรมไทยและสำกล
ผ้อู น่ื โดยใช้เกณฑท์ ีก่ ำหนดให้
ระบแุ ละบรรยำยเก่ยี วกับลักษณะ 
รปู แบบงำนทัศนศิลป์ของชำติ 
และของท้องถ่นิ ตนเองจำกอดีตจนถงึ
ปจั จุบนั  เครอื่ งหมำยและสัญลักษณ์ทำงดนตรี 
ระบุและเปรียบเทียบงำนทศั นศิลป์ - โนต้ บทเพลงไทย อตั รำจังหวะสองช้ัน 
ของภำคตำ่ ง ๆ ในประเทศไทย - โน้ตสำกล ในกุญแจซอลและฟำ
เปรยี บเทยี บควำมแตกตำ่ ง ในบนั ไดเสียง C Major
ของจดุ ประสงค์ในกำรสร้ำงสรรค์งำน
ทศั นศลิ ปข์ องวฒั นธรรมไทยและสำกล  เสยี งร้องและเสยี งของเครื่องดนตรี
อำ่ น เขียน ร้องโน้ตไทยและโน้ตสำกล ในบทเพลงจำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ
- วธิ กี ำรขบั รอ้ ง
เปรียบเทยี บเสยี งรอ้ งและเสยี งของ - เครือ่ งดนตรีทีใ่ ช้
เครอื่ งดนตรีทมี่ ำจำกวฒั นธรรม
ทต่ี ำ่ งกนั

สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๗

ช้ัน ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
ม.๑ 12 ศ 2.1 ม.1/3 รอ้ งเพลงและใชเ้ ครื่องดนตรบี รรเลง
ประกอบกำรร้องเพลง  กำรร้องและกำรบรรเลงเครื่องดนตรี 
13 ศ 2.1 ม.1/4 ดว้ ยบทเพลงทห่ี ลำกหลำยรูปแบบ
14 ศ 2.1 ม.1/5 ประกอบกำรร้อง
15 ศ 2.1 ม.1/6 จดั ประเภทของวงดนตรีไทยและ
16 ศ 2.1 ม.1/7 วงดนตรีท่ีมำจำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - บทเพลงไทยแบบแผนอัตรำจังหวะ ๒ ช้ัน
17 ศ 2.1 ม.1/8
18 ศ 2.1 ม.1/9 แสดงควำมคิดเห็นทม่ี ีต่ออำรมณ์ - บทเพลงประสำนเสียง ๒ แนว
19 ศ 2.2 ม.1/1 ของบทเพลงที่มีควำมเรว็ ของจงั หวะ
20 ศ 2.2 ม.1/2 และควำมดัง - เบำแตกตำ่ งกัน - บทเพลงประกอบกำรแสดง
21 ศ 3.1 ม.1/1 เปรียบเทียบอำรมณ์ ควำมรูส้ ึก
ในกำรฟังดนตรีแต่ละประเภท  วงดนตรีพน้ื เมือง 
22 ศ 3.1 ม.1/2 นำเสนอตัวอยำ่ งเพลงที่ตนเองชื่นชอบ
และอภิปรำยลกั ษณะเดน่ ท่ที ำใหง้ ำนนน้ั  วงดนตรไี ทย
นำ่ ชน่ื ชม
ใชเ้ กณฑ์สำหรบั ประเมนิ คณุ ภำพ  วงดนตรีสำกล
งำนดนตรหี รอื เพลงท่ีฟงั
ใช้และบำรงุ รักษำเครื่องดนตรี  กำรถ่ำยทอดอำรมณข์ องบทเพลง 
อย่ำงระมดั ระวังและรบั ผิดชอบ
อธิบำยบทบำทควำมสัมพนั ธแ์ ละ - จงั หวะกับอำรมณ์เพลง
อิทธิพลของดนตรีที่มตี ่อสังคมไทย
- ควำมดงั - เบำกับอำรมณ์เพลง
ระบุควำมหลำกหลำย
ขององค์ประกอบดนตรี - ควำมแตกตำ่ งของอำรมณเ์ พลง 
ในวฒั นธรรมต่ำงกัน
อธิบำยอิทธิพลของนักแสดงช่อื ดัง  กำรนำเสนอบทเพลงทต่ี นสนใจ 
ที่มีผลตอ่ กำรโน้มน้ำวอำรมณ์
หรือควำมคิดของผูช้ ม  กำรประเมนิ คุณภำพของบทเพลง

ใช้นำฏยศัพท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร - คณุ ภำพด้ำนเนื้อหำ
ในกำรแสดง
- คณุ ภำพด้ำนเสยี ง 

- คุณภำพดำ้ นองคป์ ระกอบดนตรี

 กำรใช้และบำรุงรักษำเคร่ืองดนตรีของตน 

 บทบำทและอิทธพิ ลของดนตรี 
- บทบำทดนตรีในสังคม 
- อิทธิพลของดนตรใี นสังคม

 องคป์ ระกอบของดนตรี
ในแต่ละวฒั นธรรม

 กำรปฏิบตั ขิ องผแู้ สดงและผู้ชม 

 ประวตั นิ ักแสดงทีช่ ่นื ชอบ

 กำรพฒั นำรปู แบบของกำรแสดง

 อทิ ธิพลของนักแสดงที่มีผลตอ่ พฤติกรรม

ของผชู้ ม

 นำฏยศพั ท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร 

ในกำรแสดง

 ภำษำท่ำ และกำรตบี ท

 ท่ำทำงเคลอื่ นไหวทแ่ี สดงส่ือทำงอำรมณ์

 ระบำเบ็ดเตลด็

 รำวงมำตรฐำน

สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๘

ช้นั ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้
ม.1 23 ศ 3.1 ม.1/3 แสดงนำฏศลิ ป์และละคร  รปู แบบกำรแสดงนำฏศิลป์ 
ในรูปแบบงำ่ ย ๆ
24 ศ 3.1 ม.1/4 - นำฏศลิ ป์ โขน ละคร 
ใชท้ ักษะกำรทำงำนเปน็ กลุ่ม - นำฏศลิ ป์พนื้ บ้ำน
25 ศ 3.1 ม.1/5 ในกระบวนกำรผลิตกำรแสดง - นำฏศลิ ปน์ ำนำชำติ 
 บทบำทและหนำ้ ท่ขี องฝำ่ ยตำ่ ง ๆ
26 ศ 3.2 ม.1/1 ใช้เกณฑ์งำ่ ย ๆ ทกี่ ำหนดให้ ในกำรจัดกำรแสดง 
27 ศ 3.2 ม.1/2 ในกำรพิจำรณำคุณภำพกำรแสดงทชี่ ม  กำรสรำ้ งสรรค์กิจกรรมกำรแสดงที่สนใจ 
โดยเน้นเร่ืองกำรใชเ้ สียง กำรแสดงทำ่ โดยแบ่งฝำ่ ยและหน้ำที่ใหช้ ดั เจน 15 12
และกำรเคลื่อนไหว  หลักในกำรชมกำรแสดง
ระบปุ ัจจัยทมี่ ีผลต่อกำรเปลี่ยนแปลง
ของนำฏศลิ ป์ นำฏศลิ ป์พนื้ บำ้ น  ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อกำรเปล่ียนแปลง
ละครไทย และละครพนื้ บ้ำน ของนำฏศิลป์ นำฏศิลป์พ้นื บ้ำน
บรรยำยประเภทของละครไทย ละครไทย และละครพืน้ บ้ำน
ในแต่ละยคุ สมัย
 ประเภทของละครไทยในแตล่ ะยุคสมัย
รวม ๒๗ ตัวชวี้ ดั

สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๐๙

ชัน้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
ม.๒ 1 ศ ๑.๑ ม.๒/๑ อภปิ รำยเก่ียวกับทศั นธำตุในด้ำนรปู แบบ 
และแนวคดิ ของงำนทัศนศิลป์ทีเ่ ลอื กมำ  รูปแบบของทัศนธำตุและแนวคิด
2 ศ ๑.๑ ม.๒/๒ ในงำนทศั นศิลป์ 
บรรยำยเกีย่ วกับควำมเหมอื นและ
3 ศ ๑.๑ ม.๒/๓ ควำมแตกต่ำงของรปู แบบกำรใช้วสั ดุ  ควำมเหมือนและควำมแตกต่ำง 
4 ศ ๑.๑ ม.๒/๔ อุปกรณ์ในงำนทัศนศลิ ป์ของศิลปิน ของรูปแบบกำรใชว้ ัสดุ อุปกรณ์
5 ศ 1.1 ม.2/5 ในงำนทศั นศิลป์ของศลิ ปิน
6 ศ ๑.๑ ม.๒/๖ วำดภำพด้วยเทคนคิ ที่หลำกหลำย
7 ศ ๑.๑ ม.๒/๗ ในกำรสื่อควำมหมำยและเร่ืองรำวต่ำง ๆ  เทคนคิ ในกำรวำดภำพส่ือควำมหมำย
สรำ้ งเกณฑ์ในกำรประเมนิ และวจิ ำรณ์
8 ศ ๑.๒ ม.๒/๑ งำนทัศนศลิ ป์  กำรพัฒนำผลงำนทัศนศิลปแ์ ละ 
นำผลกำรวิจำรณ์ไปปรับปรงุ แก้ไขและ กำรประเมนิ และวิจำรณ์งำนทัศนศลิ ป์ 
9 ศ ๑.๒ ม.๒/๒ พัฒนำงำน
วำดภำพแสดงบคุ ลิกลกั ษณะ - กำรจดั ทำแฟ้มสะสมงำนทัศนศิลป์
10 ศ ๑.๒ ม.๒/๓ ของตวั ละคร
 กำรวำดภำพถำ่ ยทอดบคุ ลกิ ลักษณะ 
11 ศ 2.1 ม.2/1 บรรยำยวิธกี ำรใชง้ ำนทัศนศลิ ป์ ของตัวละคร 
12 ศ 2.1 ม.2/2 ในกำรโฆษณำเพ่ือโน้มนำ้ วใจ
และนำเสนอตัวอย่ำงประกอบ  งำนทศั นศลิ ป์ในกำรโฆษณำ
13 ศ 2.1 ม.2/3 ระบุและบรรยำยเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ตำ่ ง ๆ ที่สะท้อนถึงงำนทัศนศิลป์  ทัศนศิลปแ์ ละงำนออกแบบในวฒั นธรรมไทย 
ในปัจจุบนั และสำกลในงำนทศั นศลิ ป์ในแต่ละยคุ สมัย
บรรยำยถงึ กำรเปล่ียนแปลงของงำน
ทัศนศิลปข์ องไทยในแต่ละยุคสมัย 
โดยเน้นถงึ แนวคิดและเน้ือหำของงำน
เปรยี บเทียบแนวคดิ ในกำรออกแบบ 
งำนทศั นศิลป์ทมี่ ำจำกวัฒนธรรมไทย
และสำกล  องคป์ ระกอบของดนตรจี ำกแหล่ง 
เปรียบเทียบกำรใช้องค์ประกอบดนตรี วัฒนธรรมตำ่ ง ๆ 
ทมี่ ำจำกวัฒนธรรมตำ่ งกนั
 เครอ่ื งหมำยและสัญลักษณท์ ำงดนตรี 
อำ่ น เขียนร้องโนต้ ไทยและโน้ตสำกล - โน้ตจำกเพลงไทยอัตรำจงั หวะสองชน้ั
ท่มี เี ครื่องหมำยแปลงเสยี ง - โน้ตสำกล (เครอ่ื งหมำยแปลงเสยี ง)

ระบุปัจจยั สำคัญท่ีมีอิทธพิ ล  ปัจจัยในกำรสรำ้ งสรรค์บทเพลง
ต่อกำรสร้ำงสรรค์งำนดนตรี - จินตนำกำรในกำรสร้ำงสรรค์บทเพลง
- กำรถ่ำยทอดเรื่องรำวควำมคิด
ในบทเพลง

สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๐

ช้นั ท่ี รหสั ตัวชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
ม.2 14 ศ 2.1 ม.2/4 รอ้ งเพลง และเลน่ ดนตรเี ดย่ี วและรวมวง 
 เทคนคิ กำรรอ้ งและบรรเลงดนตรี 
15 ศ 2.1 ม.2/5 บรรยำยอำรมณข์ องเพลง - กำรรอ้ งและบรรเลงเด่ียว
16 ศ 2.1 ม.2/6 และควำมรสู้ ึกที่มีต่อบทเพลงทฟี่ ัง - กำรรอ้ งและบรรเลงเปน็ วง 
ประเมินพฒั นำกำรทักษะทำงดนตรี
17 ศ 2.1 ม.2/7 ของตนเองหลงั จำกกำรฝึกปฏิบัติ  กำรบรรยำยอำรมณแ์ ละควำมรู้สกึ 
18 ศ 2.2 ม.2/1 ในบทเพลง
19 ศ 2.2 ม.2/2 ระบงุ ำนอำชีพต่ำง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องกบั
ดนตรแี ละบทบำทของดนตรี  กำรประเมินควำมสำมำรถทำงดนตรี
20 ศ 3.1 ม.2/1 ในธุรกจิ บนั เทงิ - ควำมถูกต้องในกำรบรรเลง
บรรยำยบทบำท และอิทธพิ ลของดนตรี - ควำมแมน่ ยำในกำรอ่ำนเครื่องหมำย
21 ศ 3.1 ม.2/2 ในวฒั นธรรมของประเทศต่ำง ๆ และสัญลักษณ์
22 ศ 3.1 ม.2/3 บรรยำยอิทธิพลของวัฒนธรรม - กำรควบคมุ คุณภำพเสียงในกำรรอ้ ง
23 ศ 3.1 ม.2/4 และเหตกุ ำรณ์ในประวัตศิ ำสตร์ และบรรเลง
ท่ีมตี อ่ รูปแบบของดนตรี
ในประเทศไทย  อำชีพทำงด้ำนดนตรี

อธิบำยกำรบรู ณำกำรศิลปะแขนงอ่ืน ๆ  บทบำทของดนตรีในธรุ กจิ บนั เทงิ
กบั กำรแสดง
 ดนตรีในวฒั นธรรมตำ่ งประเทศ 
สรำ้ งสรรค์กำรแสดงโดยใช้
องคป์ ระกอบนำฏศิลปแ์ ละกำรละคร - บทบำทของดนตรีในวฒั นธรรมต่ำง ๆ 

วเิ ครำะห์กำรแสดงของตนเอง - อทิ ธพิ ลของดนตรีในวัฒนธรรมต่ำง ๆ
และผ้อู ืน่ โดยใช้นำฏยศพั ท์
หรอื ศพั ท์ทำงกำรละครทเี่ หมำะสม  เหตุกำรณป์ ระวัตศิ ำสตรก์ ับกำรเปล่ยี นแปลง
เสนอขอ้ คดิ เหน็ ในกำรปรบั ปรุง
กำรแสดง ทำงดนตรีในประเทศไทย

- กำรเปลย่ี นแปลงทำงกำรเมือง

กบั งำนดนตรี

- กำรเปลี่ยนแปลงทำงเทคโนโลยี

กับงำนดนตรี

 ศิลปะแขนงอน่ื ๆ กับกำรแสดง 

- แสง สี เสยี ง

- ฉำก

- เครือ่ งแตง่ กำย

- อุปกรณ์

 หลักและวิธกี ำรสร้ำงสรรค์กำรแสดง 

โดยใช้องค์ประกอบนำฏศลิ ป์

และกำรละคร

 หลักและวธิ ีกำรวิเครำะห์กำรแสดง 

 วธิ กี ำรวิเครำะห์ วจิ ำรณ์กำรแสดง

นำฏศิลป์ โขน และกำรละคร



สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๑

ช้ัน ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ม.2 24 ศ 3.1 ม.2/5 เชื่อมโยงกำรเรียนรู้ระหว่ำงนำฏศิลป์  ควำมสัมพนั ธ์ของนำฏศลิ ปห์ รือกำรละคร 

และกำรละครกับสำระกำรเรียนรู้อนื่ ๆ กับสำระกำรเรียนรูอ้ น่ื ๆ

25 ศ 3.2 ม.2/1 เปรียบเทยี บลักษณะเฉพำะ  นำฏศิลปพ์ ้นื เมือง 

ของกำรแสดงนำฏศลิ ป์ - ควำมหมำย

จำกวัฒนธรรมต่ำง ๆ - ทมี่ ำ

- วัฒนธรรม

- ลกั ษณะเฉพำะ

26 ศ 3.2 ม.2/2 ระบหุ รอื แสดงนำฏศลิ ป์  รูปแบบกำรแสดงประเภทตำ่ ง ๆ 
นำฏศิลปพ์ ื้นบำ้ น ละครไทย
ละครพน้ื บ้ำน หรอื มหรสพอ่ืน - นำฏศลิ ป์
ทเ่ี คยนยิ มกันในอดตี
- นำฏศลิ ป์พื้นเมอื ง
27 ศ 3.2 ม.2/3 อธบิ ำยอิทธิพลของวฒั นธรรม
ทม่ี ีผลต่อเน้ือหำของละคร - ละครไทย
รวม ๒๗ ตัวชว้ี ัด
- ละครพ้ืนบำ้ น

 กำรละครสมยั ตำ่ ง ๆ 

๑๗ ๑๐

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๒

ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ม.๓ 1 ศ ๑.๑ ม.๓/๑ บรรยำยส่ิงแวดลอ้ มและงำนทศั นศลิ ป์  วิธกี ำรใชท้ ัศนธำตุ หลกั กำรออกแบบ
ท่ีเลอื กมำ โดยใชค้ วำมรู้เร่ืองทัศนธำตุ ในสง่ิ แวดลอ้ มและงำนทัศนศิลป์ 

และหลักกำรออกแบบ

2 ศ ๑.๑ ม.๓/๓ วิเครำะหแ์ ละบรรยำยวิธกี ำรใช้

ทศั นธำตุ และหลกั กำรออกแบบ
ในกำรสรำ้ งงำนทัศนศิลป์ของตนเอง
ให้มคี ุณภำพ

3 ศ ๑.๑ ม.๓/๗ สร้ำงสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ 
ส่ือควำมหมำยเป็นเร่ืองรำว

โดยประยุกตใ์ ชท้ ัศนธำตุ
และหลกั กำรออกแบบ

4 ศ ๑.๑ ม.๓/๒ ระบุและบรรยำยเทคนิค วิธกี ำร  เทคนิค วิธกี ำรของศลิ ปินในกำรสรำ้ งงำน 
ของศิลปินในกำรสร้ำงงำนทัศนศลิ ป์
ทัศนศลิ ป์

5 ศ ๑.๑ ม.๓/๔ มที ักษะในกำรสร้ำงงำนทศั นศิลป์  ทกั ษะกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์ 

อย่ำงน้อย ๓ ประเภท

6 ศ ๑.๑ ม.๓/๕ มีทักษะในกำรผสมผสำนวัสดตุ ่ำง ๆ  กำรใชห้ ลกั กำรออกแบบในกำรสรำ้ งงำน 
สอ่ื ผสม
ในกำรสรำ้ งงำนทัศนศิลปโ์ ดยใช้
หลักกำรออกแบบ

7 ศ ๑.๑ ม.๓/๖ สร้ำงงำนทศั นศิลป์ ทงั้ ๒ มิติ  กำรสร้ำงงำนทัศนศิลปแ์ บบ ๒ มติ ิ 
และ ๓ มติ ิ เพ่ือถำ่ ยทอดประสบกำรณ์ และ ๓ มิติ เพ่ือถำ่ ยทอดประสบกำรณ์ 
และจินตนำกำร และจนิ ตนำกำร

8 ศ ๑.๑ ม.๓/๘ วิเครำะหแ์ ละอภิปรำยรปู แบบ เนอื้ หำ  กำรวิเครำะหร์ ปู แบบ เน้อื หำ และคณุ คำ่
และคณุ ค่ำในงำนทศั นศลิ ป์ของตนเอง ในงำนทัศนศลิ ป์
และผอู้ ื่น หรือของศิลปนิ

9 ศ ๑.๑ ม.๓/๙ สรำ้ งสรรค์งำนทศั นศลิ ป์  กำรใชเ้ ทคนิค วิธกี ำรท่ีหลำกหลำย 
เพอื่ บรรยำยเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ สรำ้ งงำนทศั นศลิ ปเ์ พ่ือสื่อควำมหมำย

โดยใช้เทคนิคท่ีหลำกหลำย

10 ศ ๑.๑ ม.๓/๑๐ ระบุอำชีพท่เี กยี่ วข้องกบั  กำรประกอบอำชพี ทำงทัศนศิลป์ 

งำนทัศนศิลป์และทักษะทจ่ี ำเปน็
ในกำรประกอบอำชีพนน้ั ๆ

11 ศ ๑.๑ ม.๓/๑๑ เลอื กงำนทศั นศิลป์โดยใช้เกณฑ์  กำรจดั นทิ รรศกำร 
ทกี่ ำหนดข้ึนอย่ำงเหมำะสม
และนำไปจัดนิทรรศกำร

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๓

ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
ม.3 12 ศ ๑.๒ ม.๓/๑ ศึกษำและอภิปรำยเกี่ยวกบั
งำนทศั นศลิ ป์ ทีส่ ะท้อนคุณค่ำ  งำนทัศนศลิ ปต์ ำมวฒั นธรรมในแตล่ ะยุคสมัย 
13 ศ ๑.๒ ม.๓/๒ ของวฒั นธรรม
14 ศ 2.1 ม.3/1 เปรียบเทยี บควำมแตกต่ำง ของไทยและสำกล
ของงำนทศั นศิลป์ในแต่ละยุคสมัยของ
15 ศ 2.1 ม.3/2 วฒั นธรรมไทยและสำกล 
16 ศ 2.1 ม.3/3 เปรียบเทยี บองคป์ ระกอบทใ่ี ช้
17 ศ 2.1 ม.3/4 ในงำนดนตรีและงำนศิลปะอ่ืน  กำรเปรียบเทียบองค์ประกอบในงำนศิลปะ 

18 ศ 2.1 ม.3/5 รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรีเดีย่ วและรวมวง - กำรใชอ้ งคป์ ระกอบในกำรสร้ำงสรรค์
โดยเนน้ เทคนคิ กำรรอ้ ง กำรเล่น
19 ศ 2.1 ม.3/6 กำรแสดงออก และคุณภำพเสียง งำนดนตรแี ละศิลปะแขนงอื่น
แตง่ เพลงสน้ั ๆ จังหวะง่ำย ๆ
- เทคนิคทีใ่ ชใ้ นกำรสร้ำงสรรค์งำนดนตรี
อธิบำยเหตุผลในกำรเลือกใช้
องค์ประกอบดนตรใี นกำรสร้ำงสรรค์ และศลิ ปะแขนงอนื่
งำนดนตรขี องตนเอง
 เทคนคิ และกำรแสดงออกในกำรขบั ร้อง 
เปรยี บเทียบควำมแตกตำ่ งระหว่ำง
งำนดนตรขี องตนเองและผู้อ่ืน และบรรเลงดนตรีเด่ยี วและรวมวง

อธบิ ำยเก่ียวกับอิทธิพลของดนตรี  อัตรำจังหวะ ๒ และ ๔ 
ท่มี ตี อ่ บุคคลและสงั คม ๔๔

 กำรประพนั ธ์เพลงในอัตรำจังหวะ

๒ และ ๔
๔๔

 กำรเลือกใช้องคป์ ระกอบในกำรสรำ้ งสรรค์ 

บทเพลง

- กำรเลอื กจังหวะเพื่อสรำ้ งสรรค์

บทเพลง

- กำรเรยี บเรียงทำนองเพลง

 กำรเปรยี บเทียบควำมแตกต่ำง 

ของบทเพลง

- สำเนยี ง

- อตั รำจังหวะ

- รูปแบบบทเพลง

- กำรประสำนเสียง

- เครอื่ งดนตรีทบี่ รรเลง

 อิทธพิ ลของดนตรี 

- อทิ ธพิ ลของดนตรตี ่อบุคคล

- อิทธิพลของดนตรีตอ่ สังคม

สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๔

ช้ัน ท่ี รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ม.๓ 20 ศ 2.1 ม.3/7 นำเสนอหรอื จดั กำรแสดงดนตรี  กำรจดั กำรแสดงดนตรใี นวำระตำ่ ง ๆ 
- กำรเลือกวงดนตรี
ท่ีเหมำะสมโดยกำรบูรณำกำร

กบั สำระกำรเรียนรอู้ ื่นในกลุ่มศิลปะ - กำรเลือกบทเพลง

- กำรเลอื กและจัดเตรยี มสถำนที่

- กำรเตรียมบคุ ลำกร

- กำรเตรยี มอปุ กรณเ์ ครื่องมือ

- กำรจัดรำยกำรแสดง

21 ศ 2.2 ม.3/1 บรรยำยววิ ฒั นำกำรของดนตรี  ประวตั ิดนตรีไทยยุคสมัยต่ำง ๆ 
แต่ละยคุ สมยั
 ประวัติดนตรตี ะวันตกยุคสมัยต่ำง ๆ
22 ศ 2.2 ม.3/2 อภิปรำยลักษณะเด่นที่ทำให้
งำนดนตรนี ัน้ ไดร้ ับกำรยอมรับ  ปจั จยั ทีท่ ำให้งำนดนตรไี ดร้ บั กำรยอมรับ 

23 ศ 3.1 ม.3/1 ระบโุ ครงสร้ำงของบทละคร  องค์ประกอบของบทละคร 
โดยใช้ศพั ท์ทำงกำรละคร - โครงเรอ่ื ง
- ตวั ละครและกำรวำงลกั ษณะนสิ ัย 
24 ศ 3.1 ม.3/2 ใชน้ ำฏยศพั ท์หรือศัพท์ทำงกำรละคร ของตวั ละคร 
ทเ่ี หมำะสม บรรยำยเปรียบเทียบกำร - ควำมคิดหรือแก่นของเรื่อง 
แสดงอำกปั กิริยำของผู้คน - บทสนทนำ
ในชีวติ ประจำวนั และในกำรแสดง
 ภำษำท่ำหรือภำษำทำงนำฏศิลป์
25 ศ 3.1 ม.3/4 มที กั ษะในกำรแปลควำม - ภำษำทำ่ ท่ีมำจำกธรรมชำติ
และกำรสื่อสำรผ่ำนกำรแสดง - ภำษำท่ำที่มำจำกกำรประดิษฐ์

26 ศ 3.1 ม.3/3 มีทกั ษะในกำรใช้ควำมคดิ  กำรประดิษฐ์ทำ่ รำและท่ำทำง
ในกำรพฒั นำรปู แบบกำรแสดง ประกอบกำรแสดง
- ควำมหมำย
- ควำมเป็นมำ
- ท่ำทำงที่ใชใ้ นกำรประดษิ ฐ์ท่ำรำ

 รูปแบบกำรแสดง
- กำรแสดงเป็นหมู่
- กำรแสดงเดีย่ ว
- กำรแสดงละคร
- กำรแสดงเป็นชดุ เป็นตอน

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

ชน้ั ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๓๑๕
ต้องรู้ ควรรู้
ม.๓ 27 ศ 3.1 ม.3/5 วจิ ำรณ์เปรียบเทยี บงำนนำฏศิลป์  องคป์ ระกอบนำฏศิลป์ 
ท่ีมคี วำมแตกตำ่ งกัน โดยใช้ควำมรู้ - จังหวะทำนอง
เรื่ององคป์ ระกอบนำฏศลิ ป์ - กำรเคลื่อนไหว 

- อำรมณ์และควำมรู้สึก 

- ภำษำทำ่ นำฎยศพั ท์ 

- รูปแบบของกำรแสดง ๑๙ ๑๓

- กำรแตง่ กำย

28 ศ 3.1 ม.3/6 รว่ มจัดงำนกำรแสดงในบทบำทหนำ้ ที่  วิธีกำรเลอื กกำรแสดง
ตำ่ ง ๆ - ประเภทของงำน

- ข้ันตอน

- ประโยชนแ์ ละคณุ คำ่ ของกำรแสดง

29 ศ 3.1 ม.3/7 นำเสนอแนวคิดจำกเนื้อเร่ือง  ละครกับชวี ิต

ของกำรแสดงท่สี ำมำรถนำไปปรับใช้

ในชีวิตประจำวนั

30 ศ 3.2 ม.3/1 ออกแบบ และสร้ำงสรรค์อุปกรณ์  กำรออกแบบและสร้ำงสรรค์อุปกรณ์
และเคร่ืองแตง่ กำย เพอ่ื แสดงนำฏศลิ ป์ และเครื่องแตง่ กำยเพือ่ กำรแสดง
และละครที่มำจำกวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ นำฏศลิ ป์

31 ศ 3.2 ม.3/2 อธิบำยควำมสำคัญและบทบำท  ควำมสำคญั และบทบำทของนำฏศลิ ป์
ของนำฏศลิ ป์และกำรละคร และกำรละครในชวี ิตประจำวัน

ในชวี ติ ประจำวนั

32 ศ 3.2 ม.3/3 แสดงควำมคดิ เห็นในกำรอนุรักษ์  กำรอนุรักษน์ ำฏศลิ ป์

รวม ๓๒ ตัวช้วี ัด

สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๖

ชั้น ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.๔-๖ 1 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๑ วิเครำะหก์ ำรใช้ทศั นธำตุ  ทศั นธำตแุ ละหลักกำรออกแบบ 
และหลักกำรออกแบบในกำรสื่อ

ควำมหมำยในรปู แบบต่ำง ๆ

2 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๒ บรรยำยจดุ ประสงค์และเนื้อหำ  ศพั ท์ทำงทัศนศลิ ป์ 

ของงำนทศั นศิลป์ โดยใชศ้ ัพท์

ทำงทศั นศลิ ป์

3 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๓ วเิ ครำะห์กำรเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์  วสั ดุ อปุ กรณ์ และเทคนิคของศลิ ปนิ 
และเทคนคิ ของศลิ ปนิ ในกำรแสดงออก ในกำรแสดงออกทำงทัศนศลิ ป์
ทำงทศั นศิลป์

4 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๔ มที กั ษะและเทคนคิ ในกำรใชว้ สั ดุ  เทคนิค วัสดุ อุปกรณ์ กระบวนกำร 

อปุ กรณ์ และกระบวนกำรท่สี ูงขน้ึ ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศิลป์

ในกำรสรำ้ งงำนทศั นศิลป์

5 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๕ สรำ้ งสรรค์งำนทศั นศลิ ป์ดว้ ยเทคโนโลยี  หลกั กำรออกแบบและกำรจดั 

ต่ำง ๆ โดยเน้นหลักกำรออกแบบและ องคป์ ระกอบศลิ ปด์ ว้ ยเทคโนโลยี
กำรจัดองค์ประกอบศลิ ป์

6 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๖ ออกแบบงำนทศั นศิลปไ์ ด้เหมำะกับ  กำรออกแบบงำนทัศนศลิ ป์ 
โอกำสและสถำนท่ี

7 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๗ วิเครำะหแ์ ละอธบิ ำยจดุ มุ่งหมำย  จุดมุง่ หมำยของศลิ ปินในกำรเลอื กใช้ 

ของศลิ ปนิ ในกำรเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ วัสดุ อุปกรณ์ เทคนิค และเน้ือหำ
เทคนิค และเน้อื หำ เพื่อสร้ำงสรรค์
งำนทศั นศลิ ป์ ในกำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์

8 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๘ ประเมินและวจิ ำรณ์งำนทัศนศิลป์  ทฤษฎีกำรวิจำรณ์ศิลปะ 
โดยใช้ทฤษฎกี ำรวิจำรณ์ศิลปะ

9 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๙ จดั กลุม่ งำนทัศนศิลป์เพ่อื สะท้อน  กำรจัดทำแฟม้ สะสมงำนทศั นศิลป์ 
พฒั นำกำรและควำมก้ำวหน้ำ

ของตนเอง

10 ศ ๑.๑ ม.๔-๖/๑๐ สร้ำงสรรคง์ ำนทัศนศิลปไ์ ทย สำกล  กำรสร้ำงงำนทัศนศิลป์จำกแนวคดิ 
โดยศึกษำจำกแนวคดิ และวธิ กี ำร
และวธิ กี ำรของศิลปนิ
สร้ำงงำนของศิลปนิ ที่ตนชืน่ ชอบ

11 ศ ๑.๑ ม.๔ - ๖/๑๑ วำดภำพระบำยสีเปน็ ภำพล้อเลียน  กำรวำดภำพล้อเลยี นหรือภำพกำร์ตูน 

หรือภำพกำร์ตนู เพ่ือแสดงควำมคดิ เห็น

เกีย่ วกับสภำพสังคมในปัจจุบัน

12 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๑ วเิ ครำะห์ และเปรียบเทยี บ  งำนทศั นศลิ ปร์ ูปแบบตะวันออก 

งำนทศั นศิลป์ในรปู แบบตะวนั ออก และตะวนั ตก

และรูปแบบตะวนั ตก

สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๗

ชัน้ ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ม.๔-๖ 13 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๒ ระบุงำนทัศนศิลปข์ องศลิ ปิน  งำนทัศนศิลป์ของศลิ ปินที่มชี ือ่ เสียง 

ท่มี ชี ื่อเสียง และบรรยำยผลตอบรบั

ของสังคม

14 ศ ๑.๒ ม.๔ - ๖/๓ อภิปรำยเก่ยี วกับอทิ ธิพลของ  อิทธิพลของวัฒนธรรมระหวำ่ งประเทศ 
ทม่ี ผี ลต่องำนทัศนศิลป์
วฒั นธรรมระหว่ำงประเทศ

ทีม่ ีผลตอ่ งำนทศั นศิลป์ในสังคม

15 ศ ๒.1 ม.4 -6/1 เปรียบเทียบรปู แบบของบทเพลง  กำรจัดวงดนตรี 

และวงดนตรีแต่ละประเภท - กำรใช้เครือ่ งดนตรใี นวงดนตรี 

ประเภทตำ่ ง ๆ

- บทเพลงทีบ่ รรเลงโดยวงดนตรี

ประเภทตำ่ ง ๆ

16 ศ ๒.1 ม.4 - 6/2 จำแนกประเภทและรูปแบบ  ประเภทของวงดนตรี 
ของวงดนตรีท้ังไทยและสำกล
- ประเภทของวงดนตรีไทย
17 ศ ๒.1 ม.4 - 6/3 อธิบำยเหตผุ ลที่คนต่ำงวฒั นธรรม
สร้ำงสรรคง์ ำนดนตรีแตกต่ำงกนั - ประเภทของวงดนตรสี ำกล

 ปจั จยั ในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนดนตรี 

ในแตล่ ะวัฒนธรรม

- ควำมเชื่อกบั กำรสร้ำงสรรคง์ ำนดนตรี

- ศำสนำกับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี

- วถิ ชี ีวติ กับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี

- เทคโนโลยกี ับกำรสรำ้ งสรรค์งำนดนตรี

18 ศ ๒.1 ม.4 -6/4 อำ่ น เขียน โน้ตดนตรไี ทยและสำกล  เครื่องหมำยและสัญลักษณ์ทำงดนตรี
ในอตั รำจงั หวะตำ่ ง ๆ
- เคร่ืองหมำยกำหนดอตั รำจงั หวะ
19 ศ ๒.1 ม.4 -6/5 รอ้ งเพลง หรือเลน่ ดนตรเี ด่ยี วและรวมวง
โดยเน้นเทคนิคกำรแสดงออกและ - เครอ่ื งหมำยกำหนดบนั ไดเสียง
คุณภำพของกำรแสดง
 โนต้ บทเพลงไทยอัตรำจังหวะ ๒ ชัน้
20 ศ ๒.1 ม.4 - 6/6 สรำ้ งเกณฑ์สำหรบั ประเมินคุณภำพ
กำรประพนั ธ์และกำรเลน่ ดนตรี และ ๓ ชน้ั
ของตนเองและผู้อ่นื ได้อย่ำงเหมำะสม
 เทคนิค และกำรถำ่ ยทอดอำรมณ์เพลง 
21 ศ ๒.1 ม.4 - 6/7 เปรียบเทยี บอำรมณ์และควำมรสู้ ึก
ท่ไี ดร้ บั จำกงำนดนตรีท่ีมำจำก ดว้ ยกำรร้องบรรเลงเครอ่ื งดนตรีเด่ยี ว
วัฒนธรรมต่ำงกนั
และรวมวง

 เกณฑ์ในกำรประเมินผลงำนดนตรี 

- คุณภำพของผลงำนทำงดนตรี

- คณุ ค่ำของผลงำนทำงดนตรี

 กำรถ่ำยทอดอำรมณ์ ควำมร้สู ึก

ของงำนดนตรจี ำกแต่ละวฒั นธรรม

สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๘

ชนั้ ที่ รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.๔-๖ 22 ศ ๒.1 ม.4 - 6/8 นำดนตรไี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงำนอน่ื ๆ  ดนตรกี บั กำรผ่อนคลำย
 ดนตรีกบั กำรพฒั นำมนุษย์ 
23 ศ 2.2 ม.4 - 6/1 วิเครำะห์รปู แบบของดนตรีไทย 
และดนตรีสำกลในยุคสมยั ตำ่ ง ๆ  ดนตรกี บั กำรประชำสมั พนั ธ์ 
 ดนตรีกบั กำรบำบัดรกั ษำ
24 ศ 2.2 ม.4 - 6/2 วเิ ครำะห์สถำนะทำงสังคมของนกั ดนตรี 
ในวัฒนธรรมต่ำง ๆ  ดนตรีกบั ธุรกจิ 
 ดนตรกี ับกำรศึกษำ 
25 ศ 2.2 ม.4 - 6/3 เปรยี บเทยี บลกั ษณะเดน่ ของดนตรี
ในวัฒนธรรมตำ่ ง ๆ  รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีไทย
แต่ละยคุ สมยั
26 ศ 2.2 ม.4 - 6/4 อธิบำยบทบำทของดนตรี
ในกำรสะท้อนแนวควำมคิดและ  รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีสำกล
คำ่ นยิ มที่เปล่ยี นไปของคนในสังคม แตล่ ะยุคสมยั

27 ศ 2.2 ม.4 - 6/5 นำเสนอแนวทำงในกำรส่งเสริมและ  ประวัติสังคีตกวี
อนุรกั ษ์ดนตรใี นฐำนะมรดกของชำติ
 ลกั ษณะเดน่ ของดนตรี
28 ศ 3.1 ม.4 - 6/1 มที กั ษะในกำรแสดงหลำกหลำยรปู แบบ ในแตล่ ะวฒั นธรรม
- เคร่อื งดนตรี
- วงดนตรี
- ภำษำ เนือ้ ร้อง
- สำเนยี ง
- องคป์ ระกอบบทเพลง

 บทบำทดนตรีในกำรสะท้อนสังคม
- คำ่ นิยมของสังคมในผลงำนดนตรี
- ควำมเชอื่ ของสงั คมในงำนดนตรี

 แนวทำงและวิธีกำรในกำรสง่ เสริม
อนุรักษ์ดนตรีไทย

 รปู แบบของกำรแสดง
- ระบำ รำ ฟ้อน โขน
- กำรแสดงพนื้ เมอื งภำคต่ำง ๆ
- กำรละครไทย
- กำรละครสำกล

สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๑๙

ชั้น ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.๔-๖ 29 ศ 3.1 ม.4 - 6/2 สรำ้ งสรรคล์ ะครสัน้ ในรูปแบบท่ีชน่ื ชอบ  ละครสรำ้ งสรรค์ 

- ควำมเปน็ มำ

- องคป์ ระกอบของละครสร้ำงสรรค์

- ละครพูด

 ละครโศกนำฏกรรม

 ละครสขุ นำฏกรรม

 ละครแนวเหมือนจรงิ

 ละครแนวไมเ่ หมือนจริง

30 ศ 3.1 ม.4 - 6/3 ใช้ควำมคดิ รเิ ร่มิ ในกำรแสดงนำฏศิลป์  กำรประดิษฐ์ท่ำรำท่ีเปน็ คแู่ ละหมู่ 
เปน็ คแู่ ละหมู่
- ควำมหมำย

- ประวตั คิ วำมเปน็ มำ

- ทำ่ ทำงท่ใี ช้ในกำรประดษิ ฐท์ ่ำรำ

- เพลงท่ใี ช้

31 ศ 3.1 ม.4 - 6/4 วิจำรณก์ ำรแสดงตำมหลักนำฏศลิ ป์  หลักกำรสร้ำงสรรคแ์ ละกำรวจิ ำรณ์ 
และกำรละคร
 หลักกำรชมกำรแสดงนำฏศลิ ป์

และละคร

32 ศ 3.1 ม.4 - 6/5 วิเครำะหแ์ ก่นของกำรแสดงนำฏศลิ ป์  ประวัตคิ วำมเปน็ มำของนำฏศลิ ป์ 
และกำรละครทต่ี ้องกำรสื่อควำมหมำย และกำรละคร
ในกำรแสดง
- ววิ ัฒนำกำร

- ควำมงำมและคุณค่ำ

33 ศ 3.1 ม.4 - 6/6 บรรยำยและวเิ ครำะหอ์ ิทธิพล  เทคนคิ กำรจดั กำรแสดง 

ของเครื่องแตง่ กำย แสง สี เสียง - แสง สี เสยี ง

ฉำก อปุ กรณ์ และสถำนท่ีท่ีมีผลต่อ - ฉำก
กำรแสดง
- อุปกรณ์

- สถำนท่ี

- เครื่องแต่งกำย

34 ศ 3.1 ม.4 - 6/7 พฒั นำและใช้เกณฑก์ ำรประเมนิ  กำรประเมินคณุ ภำพของกำรแสดง 
ในกำรประเมนิ กำรแสดง
- คณุ ภำพดำ้ นกำรแสดง

- คุณภำพองค์ประกอบกำรแสดง

35 ศ 3.1 ม.4 - 6/8 วเิ ครำะหท์ ่ำทำงและกำรเคล่ือนไหว  กำรสรำ้ งสรรค์ผลงำน 

ของผู้คนในชวี ติ ประจำวันและนำมำ - กำรจัดกำรแสดงในวนั สำคัญ
ประยกุ ต์ใชใ้ นกำรแสดง ของโรงเรยี น

36 ศ 3.2 ม.4 - 6/1 เปรยี บเทยี บกำรนำกำรแสดง  กำรแสดงนำฏศิลป์ในโอกำสตำ่ ง ๆ 

ไปใชใ้ นโอกำสตำ่ ง ๆ

37 ศ 3.2 ม.4 - 6/2 อภปิ รำยบทบำทของบุคคลสำคญั  บคุ คลสำคัญในวงกำรนำฏศิลป์ 
ในวงกำรนำฏศลิ ปแ์ ละกำรละคร
ของประเทศไทยในยุคสมยั ต่ำง ๆ และกำรละครของไทยในยุคสมัยต่ำง ๆ

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

๓๒๐

ช้ัน ที่ รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.๔-๖ 38 ศ 3.2 ม.4 - 6/3 บรรยำยววิ ัฒนำกำรของนำฏศิลป์  ววิ ัฒนำกำรของนำฏศลิ ป์ 

และกำรละครไทย ตั้งแต่อดีตจนถงึ และกำรละครไทยต้ังแตอ่ ดีต
ปจั จุบนั
จนถึงปจั จุบัน

39 ศ 3.2 ม.4 - 6/4 นำเสนอแนวคิดในกำรอนรุ กั ษ์  กำรอนรุ ักษน์ ำฏศิลป์ ภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ 
นำฏศิลปไ์ ทย

รวม ๓๙ ตัวช้ีวัด ๒๗ ๑๒

รวมท้ังหมด ๒๗9 ตัวชวี้ ดั 157 122

สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

321

สรุปตัวชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

ชัน้ ตวั ช้วี ัดท้ังหมด ตอ้ งรู้ ควรรู้ หมายเหตุ
ป.๑ 3 2 1
ป.๒ 3 2 1
ป.๓ 3 3 0
ป.๔ 5 2 3
ป.๕ 6 3 3
ป.๖ 5 4 1
ม.๑ 6 2 4
ม.๒ 6 3 3
ม.๓ 6 4 2
ม.๔ - ๖ 11 4 7
รวม 54 29 25

ข้อมูล ณ วันท่ี 15 สิงหำคม 2559

ยกเลกิ มำตรฐำนกำรเรยี นรูแ้ ละตัวช้ีวัดสำระที่ 2 และสำระท่ี 3 คงเหลอื 2 สำระ คือ สำระที่ 1 กำรดำเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสำระท่ี 4 กำรอำชพี
และเปลย่ี นช่ือสำระท่ี 4 กำรอำชีพ เปน็ สำระท่ี 2 กำรอำชีพ

ตำมคำสั่ง สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวันที่ 3 พฤษภำคม 2561

สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

322

ตวั ช้ีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

การดารงชวี ิต ประกอบดว้ ย งานบา้ น งานเกษตร งานช่าง งานประดษิ ฐ์ งานธุรกิจ และงานอื่น ๆ แต่ไมไ่ ดก้ าหนดให้
จัดการเรยี นรูค้ รบท้ัง ๕ งาน เปน็ การเปดิ โอกาสให้เลือกตามความเหมาะสม ในท่ีน้ีเปน็ เพียงตวั อย่างของงาน
เท่านั้น

ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.๑ ๑ ง ๑.๑ ป.๑/๑ บอกวธิ ีการทางานเพ่ือช่วยเหลือ  ทักษะการทางานอย่างกระตอื รือรน้ 

ตนเอง ตรงเวลา และปลอดภยั เพอ่ื ชว่ ยเหลือตนเอง

2 ง ๑.๑ ป.๑/๒ ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครือ่ งมือ โดยใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเครอื่ งมอื งา่ ย ๆ 
ง่าย ๆ ในการทางานอย่างปลอดภัย ในการดารงชีวติ โดยฝึกปฏบิ ตั ิผ่านงาน
เช่น

- รดน้าตน้ ไม้

3 ง ๑.๑ ป.๑/๓ ทางานเพื่อช่วยเหลอื ตนเอง - ประดษิ ฐ์ของเลน่ จากวสั ดใุ นทอ้ งถนิ่ 
อยา่ งกระตือรอื รน้ และตรงเวลา - ใช้อปุ กรณ์ในการรบั ประทานอาหาร
- จัดเกบ็ อุปกรณก์ ารเรยี นและของใช้

ส่วนตัว

- ดแู ลตนเองในการแตง่ กาย

รวม 3 ตัวช้ีวัด 21

ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ัดสาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชีพ
และเปล่ยี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ

ตามคาสง่ั สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561

สาหรับการจดั การเรียนรู้ ปีการศกึ ษา 2564 ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

323

ชั้น ที่ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.๒ ๑ ง ๑.๑ ป.๒/๑ บอกวิธกี ารและประโยชน์  ทักษะการใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ 

การทางานเพื่อชว่ ยเหลือตนเอง เพื่อช่วยเหลือตนเองและครอบครวั

และครอบครวั เพื่อสร้างลักษณะนิสัยดา้ นความประหยัด

2 ง ๑.๑ ป.๒/๒ ใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ และเครือ่ งมือ ปลอดภยั และสะอาด โดยฝกึ ปฏบิ ตั ิ 
ในการทางานอยา่ งเหมาะสม ผา่ นงาน เช่น 
กับงานและประหยัด - ปลูกและดูแลผกั สวนครัว
- ประดษิ ฐ์ของเล่น หรอื ของใชส้ ว่ นตัว
3 ง ๑.๑ ป.๒/๓ ทางานเพื่อชว่ ยเหลอื ตนเองและ
ครอบครัวอยา่ งปลอดภัย จากวัสดุเหลอื ใช้
- ชว่ ยครอบครวั เตรียมประกอบอาหาร

และจัดโต๊ะอาหาร

- แยกประเภทอุปกรณก์ ารเรียนและ

ของใชส้ ว่ นตัว

รวม 3 ตัวชว้ี ัด 21

ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้วี ดั สาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลือ 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระท่ี 4 การอาชีพ
และเปลี่ยนชอื่ สาระที่ 4 การอาชพี เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ

ตามคาส่ัง สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวันท่ี 3 พฤษภาคม 2561

สาหรบั การจดั การเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

324

ช้ัน ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้
ป.๓ ๑ ง ๑.๑ ป.๓/๑ 
อธบิ ายวธิ ีการและประโยชน์  ทักษะการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมือ 
2 ง ๑.๑ ป.๓/๒ 
3 ง ๑.๑ ป.๓/๓ การทางาน เพ่ือช่วยเหลอื ตนเอง ให้ตรงกบั ลักษณะงานอยา่ งเป็นขน้ั ตอน
3-
ครอบครัว และส่วนรวม เพอื่ ช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และ

ใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ สว่ นรวม โดยคานึงถึงความสะอาด
ตรงกับลักษณะงาน รอบคอบ และอนุรักษส์ งิ่ แวดล้อม
โดยฝึกปฏบิ ตั ิผ่านงาน เชน่
ทางานอย่างเป็นข้นั ตอน - ปลูกและดแู ลไมด้ อกไม้ประดับ
ตามกระบวนการทางาน - บารงุ รักษาหรือซ่อมแซมของเลน่
ด้วยความสะอาด ความรอบคอบ
และอนุรักษส์ ่งิ แวดล้อม หรือของใช้ในครอบครวั และสว่ นรวม
- ประดษิ ฐข์ องใช้โดยใชว้ สั ดุในท้องถนิ่

ในโอกาสตา่ ง ๆ

- ดูแล ทาความสะอาด และตกแต่ง

ห้องเรียนให้สวยงาม

- เตรียมอุปกรณเ์ คร่ืองใช้ให้ตรงกับ

ลักษณะงาน

รวม 3 ตัวช้ีวัด

ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั สาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครวั และสาระท่ี 4 การอาชพี
และเปลย่ี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ

ตามคาสั่ง สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561

สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณ์แพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

325

ชน้ั ท่ี รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.๔ ๑ ง ๑.๑ ป.๔/๑ อธบิ ายเหตผุ ลในการทางาน  ทกั ษะการทางานตามข้ันตอนเพ่ือใหบ้ รรลุ 

ให้บรรลุเปา้ หมาย เปา้ หมาย โดยคานึงถึงการใช้พลงั งานและ

2 ง ๑.๑ ป.๔/๒ ทางานบรรลุเป้าหมายทวี่ างไว้ ทรพั ยากรอย่างประหยดั คุ้มค่า 
อยา่ งเป็นขนั้ ตอนด้วยความขยัน โดยฝกึ ปฏบิ ัตผิ า่ นงาน เชน่ 
อดทน รบั ผดิ ชอบ และซ่อื สัตย์ - จดั ตูเ้ สอ้ื ผา้ โตะ๊ เขยี นหนงั สือ

3 ง ๑.๑ ป.๔/๓ ปฏบิ ัติตนอย่างมีมารยาท และกระเป๋านักเรียน
ในการทางาน - ขยายพันธุพ์ ชื
- ประดิษฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากวสั ดุ

4 ง ๑.๑ ป.๔/๔ ใชพ้ ลงั งานและทรัพยากร ธรรมชาติในทอ้ งถิน่ 
ในการทางานอย่างประหยัด - ทาบัญชรี ับ-จา่ ยสว่ นตัว
และค้มุ ค่า  มารยาทในการทางานกลุม่ เชน่
- เปน็ ผ้นู า ผ้ตู าม

- เคารพข้อตกลงรว่ มกนั

- รับผิดชอบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย

 คณุ ลกั ษณะการทางาน เช่น ขยนั อดทน

รับผดิ ชอบ และซื่อสัตย์

5 ง 2.๑ ป.๔/๑ อธบิ ายความหมายและ  ความหมายและความสาคัญของอาชีพ 

ความสาคญั ของอาชีพ

รวม 5 ตัวช้ีวดั 23

ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชี้วดั สาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนินชีวิตและครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี
และเปลีย่ นชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ

ตามคาสัง่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ที่ 3 พฤษภาคม 2561

สาหรับการจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

326

ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.๕ ๑ ง ๑.๑ ป.๕/๑ อธิบายเหตผุ ลในการทางาน  ทักษะการจัดการโดยทางานตามขัน้ ตอน 

แต่ละขนั้ ตอนถูกต้อง อย่างเป็นระบบ เป็นเหตุเป็นผล สร้างสรรค์

ตามกระบวนการทางาน ประณตี และมจี ติ สานกึ ในการใช้พลงั งาน

2 ง ๑.๑ ป.๕/๒ ใช้ทกั ษะการจัดการในการทางาน และทรัพยากรอย่างประหยัดและค้มุ คา่ 

อยา่ งเป็นระบบ ประณตี เพอ่ื ใหท้ างานสาเรจ็ ตามเป้าหมายอยา่ งมี

และมีความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธภิ าพ โดยฝึกปฏบิ ัตผิ ่านงาน เชน่

3 ง ๑.๑ ป.๕/๓ ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งมีมารยาท - ซอ่ มแซม ซัก ตาก เก็บ รดี พบั เส้อื ผา้ 

ในการทางานกับสมาชิก - วางแผนการจัดจาหนา่ ยผลผลติ

ในครอบครวั ทางการเกษตร หรืองานประดษิ ฐ์

4 ง ๑.๑ ป.๕/๔ มจี ิตสานึกในการใชพ้ ลงั งาน - จัดเกบ็ ขอ้ มูลรายรบั -รายจ่าย 
และทรัพยากรอย่างประหยัด และทาบัญชีครัวเรือน

และคุ้มค่า - ออกแบบผลติ ภัณฑ์จากวัสดเุ หลอื ใช้

ทีม่ อี ยู่ในท้องถ่นิ

 การทางานกับสมาชิกในครอบครวั อย่างมี

มารยาท เชน่ การพูดจาสุภาพ การใช้ของ

รว่ มกัน การแบ่งปัน

5 ง 2.๑ ป.๕/๑ สารวจข้อมูลที่เกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ  สารวจขอ้ มูลและระบุความแตกตา่ งของ 

ในชมุ ชน อาชีพในชมุ ชนในเรื่อง ลักษณะงาน

ประเภทกจิ การ คา่ ตอบแทน เชน่ 
6 ง 2.๑ ป.๕/๒ ระบคุ วามแตกต่างของอาชีพ - ค้าขาย

- เกษตรกรรม

- รบั จา้ ง

- รบั ราชการ พนกั งานของรัฐ

รวม 6 ตัวช้ีวัด 33

ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนินชีวิตและครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชีพ
และเปลยี่ นชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชีพ เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ

ตามคาสงั่ สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวันท่ี 3 พฤษภาคม 2561

สาหรบั การจัดการเรียนรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

327

ช้นั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.๖ ๑ ง ๑.๑ ป.๖/๑ อภปิ รายแนวทางในการทางาน  วางแผนและปรับปรุงการทางาน 

และปรับปรงุ การทางาน แต่ละขน้ั ตอน โดยใช้ทกั ษะการจดั การ

แตล่ ะขน้ั ตอน และการทางานรว่ มกนั ขณะปฏิบตั ิงาน

และเม่ือทางานสาเร็จแล้ว โดยฝึกปฏิบัติ

ผ่านงาน เช่น

- ปลูกผกั เลี้ยงปลาสวยงาม

ประกอบอาหาร ประดษิ ฐ์ของเล่น

2 ง ๑.๑ ป.๖/๒ ใช้ทกั ษะการจดั การในการทางาน ของใช้ ของตกแตง่ เพ่อื การจัดจาหน่าย 
3 ง ๑.๑ ป.๖/๓ และมีทักษะการทางานร่วมกัน โดยเลอื กตามบรบิ ทของสถานศกึ ษา
- ทาบญั ชรี ายรับ – รายจา่ ย 
ปฏิบตั ติ นอยา่ งมีมารยาท  ทางานกบั สมาชิกในครอบครัวและผู้อน่ื
ในการทางานกับครอบครวั อย่างมีมารยาท เช่น พูดจาสุภาพ ใชข้ อง
และผู้อนื่ ร่วมกนั แบง่ ปนั การให้สิทธิผ์ ทู้ ี่มาก่อน

และรอคอยตามลาดบั

4 ง 2.๑ ป.๖/๑ สารวจตนเองเพ่ือวางแผน  การสารวจตนเอง เพื่อวางแผนในการ 

ในการเลือกอาชีพ เลือกอาชีพโดยคานึงถึงคุณธรรม ความรู้

ความสามารถ ความสนใจ และ

5 ง 2.๑ ป.๖/๒ ระบุความรู้ความสามารถ และ บคุ ลิกภาพท่สี ัมพนั ธก์ ับอาชพี 
คุณธรรมทสี่ มั พันธ์กับอาชีพ ท่ีสนใจ
ทีส่ นใจ  คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี เชน่
- ความซ่อื สัตย์

- ความขยนั อดทน

- ความยตุ ธิ รรม

- ความรบั ผิดชอบ

รวม 5 ตัวชว้ี ัด 41

ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คือ สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชพี
และเปลย่ี นชอื่ สาระที่ 4 การอาชพี เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ

ตามคาสงั่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561

สาหรับการจัดการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

328

ชั้น ท่ี รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ม.๑ ๑ ง ๑.๑ ม.๑/๑ วเิ คราะห์ขน้ั ตอนการทางาน  ทักษะกระบวนการทางานและการทางาน 

ตามกระบวนการทางาน รว่ มกนั (กาหนดบทบาทหน้าทส่ี มาชกิ กลุ่ม

กาหนดเปา้ หมาย วางแผน แบง่ งาน

2 ง ๑.๑ ม.๑/๒ ใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทางาน ตามความสามารถ ปฏบิ ตั ิตามบทบาท 

ดว้ ยความเสยี สละ หนา้ ท่ี ประเมินผล และปรับปรงุ งาน)

3 ง ๑.๑ ม.๑/๓ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาการทางาน ภายใต้ความเสยี สละและการตัดสนิ ใจ 
แกป้ ัญหาอยา่ งมเี หตผุ ล ตามขนั้ ตอน
อยา่ งมีเหตผุ ล
การทางาน โดยฝึกปฏบิ ัติผ่านงาน เชน่

- เตรยี ม ประกอบ จัด ตกแต่ง และ

บรกิ ารอาหาร

- แปรรปู ผลผลิตทางการเกษตร

- ประดิษฐ์ของใช้ ของตกแตง่ จากวัสดุ

ในท้องถิน่

4 ง 2.๑ ม.๑/๑ อธิบายแนวทางการเลือกอาชีพ  แนวทางการเลอื กอาชีพ หรอื การสร้าง 
อาชพี โดยคานงึ ถึงคุณธรรม จรยิ ธรรม 

5 ง 2.๑ ม.๑/๒ มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการประกอบอาชพี เจตคติทีด่ ตี ่อการประกอบอาชพี เช่น
เห็นความสาคัญของอาชีพสจุ ริต และ

6 ง 2.๑ ม.1/๓ เห็นความสาคัญของการสร้าง อาชีพในชุมชน
อาชพี

รวม 6 ตัวช้วี ัด 24

ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัดสาระท่ี 2 และสาระที่ 3 คงเหลอื 2 สาระ คือ สาระที่ 1 การดาเนนิ ชีวิตและครอบครัว และสาระที่ 4 การอาชีพ
และเปล่ียนชอ่ื สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระที่ 2 การอาชีพ

ตามคาสงั่ สพฐ. ท่ี 921/2561 ลงวนั ที่ 3 พฤษภาคม 2561

สาหรบั การจัดการเรยี นรู้ ปีการศกึ ษา 2564 ภายใตส้ ถานการณแ์ พร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

329

ชน้ั ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ม.๒ ๑ ง ๑.๑ ม.๒/๑ ใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้  ทักษะการแสวงหาความรู้ (การศึกษา 

เพ่ือพัฒนาการทางาน ค้นควา้ รวบรวม สังเกต สารวจ และ

บันทกึ ) และทักษะกระบวนการแก้ปญั หา

2 ง ๑.๑ ม.๒/๒ ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา โดยมจี ติ สานกึ ในการทางานและใช้ 

ในการทางาน ทรพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่

3 ง ๑.๑ ม.๒/๓ มีจิตสานึกในการทางานและใช้ เพ่ือใชใ้ นการพฒั นาการทางาน 

ทรัพยากรในการปฏบิ ตั ิงาน ฝึกปฏิบตั ผิ า่ นงาน หรือโครงงานอาชพี
เชน่
อยา่ งประหยดั และคุ้มค่า
- งานชา่ ง (งานไม้ งานช่างยนต์ งานไฟฟา้

และงานอ่ืน ๆ)

- งานบา้ น (อาหาร เส้อื ผา้ การดแู ลบา้ น

- งานประดิษฐ์

- งานเกษตร

- งานธุรกิจ (ออกแบบบรรจภุ ัณฑ์

ตราสัญลักษณ์ ประชาสมั พนั ธ์)

หมายเหตุ ควรส่งเสรมิ เอกลกั ษณไ์ ทย

ตามความเหมาะสม

4 ง 2.๑ ม.๒/๑ อธบิ ายการเสริมสร้าง  การเตรียมตัวเข้าสู่อาชพี โดยการเสริมสร้าง 

ประสบการณ์อาชพี ประสบการณ์อาชพี และทักษะพน้ื ฐาน

ทจี่ าเป็นสาหรบั การประกอบอาชีพทส่ี นใจ

5 ง 2.๑ ม.๒/๒ ระบุการเตรียมตวั เข้าสู่อาชีพ  ทกั ษะและประสบการณท์ จ่ี าเป็น 

ในการประกอบอาชีพ เช่น

- ทกั ษะกระบวนการทางาน

- ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา

6 ง 2.๑ ม.๒/๓ มที ักษะพน้ื ฐานท่ีจาเป็น - ทักษะการทางานร่วมกัน 

สาหรับการประกอบอาชพี - ทักษะการแสวงหาความรู้

ท่สี นใจ - ทักษะการจดั การ

รวม 6 ตัวช้วี ัด 33

ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ัดสาระที่ 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คือ สาระที่ 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี
และเปลย่ี นชอ่ื สาระที่ 4 การอาชีพ เป็นสาระท่ี 2 การอาชีพ

ตามคาสั่ง สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561

สาหรบั การจัดการเรียนรู้ ปกี ารศกึ ษา 2564 ภายใต้สถานการณแ์ พรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

330

ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ม.๓ ๑ ง ๑.๑ ม.๓/๑ อภปิ รายข้ันตอนการทางาน  ข้นั ตอนการทางานท่ีมปี ระสิทธิภาพ 

ทีม่ ีประสิทธิภาพ โดยใช้ทกั ษะการทางานรว่ มกันอยา่ งมี

คณุ ธรรม และใช้ทกั ษะการจดั การท่ีคานึงถงึ

การประหยดั พลังงาน ทรัพยากร และ

ส่งิ แวดลอ้ ม โดยฝึกปฏบิ ัติผ่านงาน เชน่

2 ง ๑.๑ ม.๓/๒ ใชท้ กั ษะในการทางานร่วมกนั - งานชา่ ง (งานไม้ งานชา่ งยนต์ งานไฟฟ้า 
อยา่ งมีคุณธรรม
และงานอืน่ ๆ)
3 ง ๑.๑ ม.๓/๓ อภปิ รายการทางาน
โดยใชท้ ักษะการจดั การ - งานบา้ น (อาหาร เสื้อผา้ การดแู ลบ้าน) 
เพือ่ การประหยดั พลังงาน
ทรัพยากร และสง่ิ แวดลอ้ ม - งานประดษิ ฐ์

- งานเกษตร

- งานธุรกจิ (การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์

การจัดจาหนา่ ย)

4 ง 2.๑ ม.๓/๑ อภิปรายการหางาน  วิเคราะห์แนวทางการหางานเพื่อเข้าสู่อาชีพ 
2
ดว้ ยวธิ ีทห่ี ลากหลาย ด้วยวิธกี ารทหี่ ลากหลายและประเมิน

5 ง 2.๑ ม.๓/๒ วเิ คราะห์แนวทางเข้าสอู่ าชีพ ทางเลอื กในการประกอบอาชีพ 

(แนวทางการประเมิน รูปแบบการประเมิน

6 ง 2.๑ ม.๓/๓ ประเมินทางเลือก เกณฑ์การประเมนิ ) ท่ีสอดคล้องกบั

ในการประกอบอาชีพ ความรู้ ความถนัด ความสนใจ และ

ที่สอดคล้องกับความรู้ บุคลิกภาพของตนเอง

ความถนัดและความสนใจ 

ของตนเอง

รวม 6 ตัวช้วี ัด 4

ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลือ 2 สาระ คอื สาระท่ี 1 การดาเนนิ ชีวติ และครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชพี
และเปลย่ี นชอื่ สาระท่ี 4 การอาชพี เปน็ สาระที่ 2 การอาชีพ

ตามคาส่งั สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2561

สาหรับการจดั การเรยี นรู้ ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

331

ชนั้ ที่ รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้
ม.๔-๖ ๑ ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๑ อธบิ ายวธิ กี ารทางาน  วธิ กี ารทางานอยา่ งมีคณุ ธรรม และ 
เพ่ือการดารงชวี ิต มลี ักษณะนิสยั การทางาน โดยใช้
2 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๒ สรา้ งผลงานอย่างมีความคิด ทักษะการจัดการในการทางาน ทักษะ 
สร้างสรรค์และมีทกั ษะ กระบวนการแกป้ ญั หาในการทางาน
การทางานร่วมกัน ทกั ษะในการแสวงหาความรู้
3 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๓ มีทักษะการจดั การในการทางาน เพอื่ การดารงชวี ิต และสร้างผลงาน 
อย่างมีความคดิ สร้างสรรค์
4 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๔ มีทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา (ความคิดริเร่ิม ความคล่องในการคิด 
ในการทางาน ความยดื หยนุ่ ในการคิด และความคดิ
5 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๕ มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้ ละเอยี ดลออ) คานงึ ถึงการใชพ้ ลังงาน 
ทรพั ยากรและส่ิงแวดล้อมอย่างค้มุ ค่า
เพ่ือการดารงชีวิต ย่ังยืน โดยฝึกปฏบิ ัตผิ ่านงานหรอื 
6 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๖ มคี ุณธรรมและลกั ษณะนิสัย โครงงานอาชีพ เชน่ 
- งานชา่ ง (งานไม้ งานไฟฟา้ ช่างยนต์
ในการทางาน
7 ง ๑.๑ ม.๔ - ๖/๗ ใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร หรืองานอื่น)
- งานบ้าน (อาหาร เส้ือผา้ การดแู ลบา้ น)
ในการทางานอย่างค้มุ ค่า - งานประดิษฐ์
และยัง่ ยนื เพื่อการอนรุ ักษ์ - งานเกษตร
ส่งิ แวดล้อม

- งานธรุ กจิ (การตลาด การจัดการ
การโรงแรม การทอ่ งเทยี่ ว)
8 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/๑ อภปิ รายแนวทางสอู่ าชีพทส่ี นใจ  แนวทางเขา้ สูอ่ าชีพ 
- ขอบเขตลกั ษณะงานของแตล่ ะกลุ่มอาชพี
9 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/2 เลือกและใช้เทคโนโลยี - คุณลกั ษณะเฉพาะของอาชีพ 
อยา่ งเหมาะสมกับอาชีพ - ลักษณะความม่ันคงและ
ความกา้ วหนา้ ของอาชพี
10 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/3 มีประสบการณใ์ นอาชพี ท่ีถนัด - การเตรียมตัวเข้าสโู่ ลกอาชีพ 
และสนใจ (การพัฒนาบุคลิกภาพ การทาแฟม้
สะสมผลงาน การเตรียมทกั ษะ
11 ง 2.๑ ม.๔ - ๖/๔ มคี ุณลกั ษณะทีด่ ตี ่ออาชีพ ภาษาท่ีจาเปน็ ของอาชพี ทสี่ นใจ
การใช้เทคโนโลยที ่ีเหมาะกับอาชีพ)
- จาลองสถานการณ์อาชีพหรอื
กจิ กรรมอาชีพท่ีสนใจ
 คณุ ลักษณะท่ีดีของผูป้ ระกอบอาชีพ
- ความรบั ผิดชอบ 

- ซอื่ สัตย์
- ขยัน
- อดทน
- ตรงเวลา
รวม 11 ตัวชี้วดั 47
รวมท้ังหมด 54 ตัวชวี้ ดั 29 25

ยกเลกิ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัดสาระท่ี 2 และสาระท่ี 3 คงเหลอื 2 สาระ คอื สาระที่ 1 การดาเนินชีวติ และครอบครวั และสาระที่ 4 การอาชพี
และเปล่ยี นชอื่ สาระท่ี 4 การอาชีพ เป็นสาระที่ 2 การอาชีพ

ตามคาสง่ั สพฐ. ที่ 921/2561 ลงวนั ท่ี 3 พฤษภาคม 2561

สาหรับการจดั การเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา 2564 ภายใตส้ ถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-19)

332

สรุปตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

ช้นั ตวั ชวี้ ดั ทั้งหมด ต้องรู้ ควรรู้ หมายเหตุ
ป.๑ 16 9 7
ป.๒ 16 ๙ 7
ป.๓ 18 13 5
ป.๔ 20 17 3
ป.๕ 20 19 1
ป.๖ 20 19 1
ม.๑ 20 19 1
ม.๒ 21 19 2
ม.๓ 21 19 2
ม.๔ - ๖ 21 17 4
รวม 193 1๖๐ 33

ข้อมลู ณ วนั ท่ี 15 สิงหำคม 2559

สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

333

ตัวชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางต้องรู้และควรรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ช้ัน ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.1 1 ต 1.1 ป.1/1 ปฏิบตั ติ ำมคำสั่งงำ่ ย ๆ ที่ฟัง  คำสั่งทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น Stand up./ 

Sit down./Listen./Repeat./Quiet!/

Stop! etc.

2 ต 1.1 ป.1/2 ระบตุ ัวอักษรและเสียง อ่ำนออกเสียง  ตัวอักษร (letter names) เสียงตวั อักษร 

และสะกดคำง่ำยๆ ถูกต้อง (letter sounds) และสระ (vowel sounds)

ตำมหลักกำรอ่ำน และกำรสะกดคำ

 หลักกำรอ่ำนออกเสียง เช่น

- กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำ

3 ต 1.1 ป.1/3 เลือกภำพตรงตำมควำมหมำยของคำ  คำ กลุ่มคำ และควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง 

และกลมุ่ คำที่ฟงั ครอบครวั โรงเรียน ส่งิ แวดล้อมใกลต้ วั

อำหำร เครือ่ งดมื่ และนันทนำกำร

ภำยในวงคำศัพทป์ ระมำณ ๑๕๐ - ๒๐๐ คำ

(คำศัพท์ทีเ่ ป็นรูปธรรม)

4 ต 1.1 ป.1/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังเรื่องใกล้ตวั  บทอำ่ นเกี่ยวกับเรือ่ งใกล้ตัวหรือนิทำน 

ทีม่ ภี ำพประกอบ

 ประโยคคำถำมและคำตอบ

- Yes/No Question เชน่

Is it a/an..?

Yes, it is./

No, it is not. etc.

- Wh-Question เช่น

What is it? It is a/an... etc.

5 ต 1.2 ป.1/1 พูดโต้ตอบดว้ ยคำสน้ั ๆ ง่ำย ๆ  บทสนทนำทใ่ี ชใ้ นกำรทกั ทำย กล่ำวลำ 

ในกำรสอื่ สำรระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ข้อควำม

ตำมแบบที่ฟัง ทีใ่ ชแ้ นะนำตนเอง เช่น Hi/Hello/

Good morning/Good afternoon/

Good evening/I am…/Goodbye./

Bye./Thank you./I am sorry.

How are you?/I am fine. etc.

6 ต 1.2 ป.1/2 ใชค้ ำส่งั งำ่ ย ๆ ตำมแบบท่ีฟงั  คำส่ังท่ีใช้ในหอ้ งเรียน 

7 ต 1.2 ป.1/3 บอกควำมต้องกำรง่ำย ๆ ของตนเอง  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทีใ่ ช้ 

ตำมแบบที่ฟงั บอกควำมต้องกำร เชน่

I want…/Please,… etc.

สำหรบั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

334

ช้ัน ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.1 8 ต 1.2 ป.1/4 พดู ขอและให้ข้อมลู ง่ำย ๆ เก่ียวกับ  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยค 

ตนเองตำมแบบท่ีฟงั ท่ใี ชข้ อและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เชน่

What’s your name?/My name is…/

I am… etc.

9 ต 1.3 ป.1/1 พดู ให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง  คำและประโยคทใ่ี ช้ในกำรพูดใหข้ ้อมูล 

และเร่ืองใกล้ตวั เกย่ี วกับตนเอง บุคคลใกล้ตัว และเรอ่ื ง

ใกลต้ ัว เช่น บอกชอื่ อำยุ รูปร่ำง ส่วนสูง

สิ่งตำ่ ง ๆ จำนวน ๑ - ๒๐ สี ขนำด

ตำแหน่งของส่ิงของ

10 ต 2.1 ป.1/1 พดู และทำท่ำประกอบ  วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เช่น 

ตำมวัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ กำรใช้สีหนำ้ ทำ่ ทำงประกอบกำรพดู

ขณะแนะนำตนเอง กำรสมั ผัสมอื

กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำรตอบรับ

หรอื ปฏเิ สธ

11 ต 2.1 ป.1/2 บอกช่ือและคำศพั ท์เก่ยี วกับ  คำศัพท์เกีย่ วกับเทศกำลสำคัญของ 

เทศกำลสำคญั ของเจ้ำของภำษำ เจ้ำของภำษำ เชน่ วนั ครสิ ตม์ ำส

วันขนึ้ ปใี หม่

12 ต 2.1 ป.1/3 เข้ำรว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและ  กจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น 

วัฒนธรรมท่ีเหมำะกับวัย กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง กำรเล่ำนทิ ำน

ประกอบท่ำทำง วนั ครสิ ต์มำส วนั ขน้ึ ปใี หม่

13 ต 2.2 ป.1/1 ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของ  ตัวอักษรและเสียงตวั อักษรของ 

ภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย

14 ต 3.1 ป.1/1 บอกคำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสำระ  คำศัพท์ท่เี กยี่ วขอ้ งกับกลมุ่ สำระ 

กำรเรยี นรู้อนื่ กำรเรียนรู้อน่ื

15 ต 4.1 ป.1/1 ฟัง/พูดในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ  กำรใช้ภำษำในกำรฟงั /พูดในสถำนกำรณ์ 

ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียน งำ่ ย ๆ ท่ีเกดิ ขึน้ ในห้องเรียน

16 ต 4.2 ป.1/1 ใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศเพอ่ื รวบรวม  กำรใช้ภำษำตำ่ งประเทศในกำรรวบรวม 

คำศัพท์ทเี่ ก่ยี วข้องใกลต้ ัว คำศัพทท์ ่เี ก่ยี วข้องใกล้ตวั จำกสอื่ ตำ่ ง ๆ

รวม 16 ตัวชี้วัด 97

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

335

ชัน้ ที่ รหัสตัวชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.2 1 ต 1.1 ป.2/1 ปฏบิ ัติตำมคำส่งั และคำขอร้อง  คำสง่ั และคำขอร้องทใ่ี ช้ในห้องเรยี น 

งำ่ ย ๆ ท่ีฟัง - คำส่ัง เช่น Show me a/an.../

Open your book..

Don’t talk in class. etc.

- คำขอรอ้ ง เช่น Please come here./

Come here, please.

Don’t make a loud noise, please./

Please don’t make a loud noise. etc.

2 ต 1.1 ป.2/2 ระบุตัวอักษรและเสียง  ตัวอกั ษร เสยี งตวั อักษรและสระ กำรสะกดคำ 
อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ
และอำ่ นประโยคงำ่ ย ๆ ถูกตอ้ ง และประโยค
ตำมหลักกำรอำ่ น
 หลักกำรอำ่ นออกเสยี ง เชน่

- กำรออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยัญชนะ

ท้ำยคำ

- กำรออกเสียงเนน้ หนัก-เบำในคำ

3 ต 1.1 ป.2/3 เลือกภำพตรงตำมควำมหมำย  คำ กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว (simple sentence) 
ของคำ กลุ่มคำ และประโยคท่ีฟัง
และควำมหมำยเกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว

โรงเรียน ส่ิงแวดล้อมใกลต้ ัว อำหำร เครอื่ งด่ืม

และนันทนำกำร เปน็ วงคำศัพทส์ ะสมประมำณ

๒๕๐ - ๓๐๐ คำ (คำศัพทท์ ่ีเปน็ รูปธรรม)

4 ต 1.1 ป.2/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังประโยค  ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำนท่ีมภี ำพประกอบ 
บทสนทนำ หรือนิทำนงำ่ ย ๆ
ท่มี ภี ำพประกอบ  ประโยคคำถำมและคำตอบ

- Yes/No Question เชน่

Is this/that a/an..?

Yes, it is./No, it isn’t. etc.

- Wh-Question เชน่

What is this/that/it?

This/that/It is a/an…

How many…?

There is/are…

Where is the…?

It is in/on/under… etc.

สำหรบั กำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

336

ชั้น ที่ รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.2 5 ต 1.2 ป.2/1 พูดโตต้ อบดว้ ยคำส้นั ๆ งำ่ ย ๆ  บทสนทนำท่ใี ชใ้ นกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ 

ในกำรส่อื สำรระหวำ่ งบคุ คล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ควำมท่ใี ช้
ตำมแบบที่ฟงั แนะนำตนเอง เช่น Hi/Hello/Good morning/
Good afternoon/Good evening/
How are you?/I am fine. /I am…/
Goodbye./Bye./Thank you./I am sorry.
etc.

6 ต 1.2 ป.2/2 ใช้คำส่งั และคำขอรอ้ งง่ำย ๆ  คำส่ังและคำขอร้องทีใ่ ช้ในห้องเรยี น 

ตำมแบบท่ีฟงั

7 ต 1.2 ป.2/3 บอกควำมตอ้ งกำรง่ำย ๆ  คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ีใชบ้ อก 

ของตนเองตำมแบบทฟี่ งั ควำมตอ้ งกำร เชน่ I want…/Please,… etc.

8 ต 1.2 ป.2/4 พูดขอและให้ข้อมูลง่ำย ๆ  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทีใ่ ชข้ อ 
เก่ียวกับตนเองตำมแบบท่ีฟงั และใหข้ ้อมลู เก่ียวกับตนเอง เช่น What’s
your name?/My name is…/I am… etc.

9 ต 1.3 ป.2/1 พูดให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง  คำและประโยคทใี่ ชใ้ นกำรพูดให้ข้อมูลเก่ยี วกับ 
และเร่ืองใกลต้ วั ตนเอง บคุ คลใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตวั เชน่
บอกชื่อ อำยุ รูปร่ำง สว่ นสงู ส่ิงตำ่ ง ๆ
จำนวน ๑ - ๓๐ สี ขนำด ตำแหนง่ ของสิ่งของ

10 ต 2.1 ป.2/1 พดู และทำทำ่ ประกอบ  วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เชน่ กำรใช้สหี น้ำ 

ตำมวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ ท่ำทำงประกอบกำรพดู ขณะแนะนำตนเอง
กำรสมั ผัสมอื กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำร
ตอบรบั หรือปฏิเสธ

11 ต 2.1 ป.2/2 บอกช่อื และคำศัพทเ์ ก่ยี วกับ  คำศัพทเ์ ก่ียวกบั เทศกำลสำคญั ของเจ้ำของภำษำ 

เทศกำลสำคญั ของเจำ้ ของภำษำ เช่น วันคริสต์มำส วันข้นึ ปีใหม่

12 ต 2.1 ป.2/3 เขำ้ ร่วมกจิ กรรมทำงภำษำ  กจิ กรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่ 

และวฒั นธรรมทเี่ หมำะกบั วัย กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนิทำน
ประกอบท่ำทำง วันคริสตม์ ำส วันข้ึนปีใหม่

13 ต 2.2 ป.2/1 ระบุตวั อักษรและเสยี งตวั อกั ษร  ตัวอักษรและเสยี งตัวอักษรของ 

ของภำษำตำ่ งประเทศและ ภำษำตำ่ งประเทศและภำษำไทย
ภำษำไทย

14 ต 3.1 ป.2/1 บอกคำศัพท์ทเี่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสำระ  คำศัพทท์ ีเ่ กยี่ วข้องกับกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อ่นื 
กำรเรียนรู้อ่ืน

15 ต 4.1 ป.2/1 ฟงั /พูดในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณ์ง่ำย ๆ 
ทเ่ี กิดขนึ้ ในหอ้ งเรียน ท่เี กดิ ข้ึนในหอ้ งเรยี น

16 ต 4.2 ป.2/1 ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศเพอื่ รวบรวม  กำรใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ 

คำศัพท์ที่เก่ียวข้องใกล้ตวั ที่เก่ียวข้องใกลต้ ัวจำกสอ่ื ตำ่ ง ๆ

รวม 16 ตัวชวี้ ดั 97

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

337

ชน้ั ที่ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.3 1 ต 1.1 ป.3/1 ปฏบิ ตั ิตำมคำสัง่ และคำขอร้อง  คำสง่ั และคำขอร้องท่ใี ชใ้ นห้องเรยี น 

ทีฟ่ งั หรืออ่ำน - คำสั่ง เชน่ Give me a/an.../Draw and

color the picture./Put a/an…in/on/

under a/an…/Don’t eat in class. etc.

- คำขอรอ้ ง เช่น Please take a queue./

Take a queue, please./Don’t make

a loud noise, please./Please don’t

make a loud noise./Can you help

me, please? etc.

2 ต 1.1 ป.3/2 อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ  คำ กลุ่มคำ ประโยคเดย่ี ว และบทพดู เข้ำจังหวะ 

อ่ำนกลมุ่ คำ ประโยค และบทพูด และกำรสะกดคำ

เข้ำจงั หวะ (chant) ง่ำย ๆ  หลักกำรอ่ำนออกเสยี ง เช่น

ถกู ต้องตำมหลักกำรอำ่ น - กำรออกเสยี งพยญั ชนะต้นคำและพยัญชนะ

ทำ้ ยคำ

- กำรออกเสยี งเนน้ หนกั -เบำในคำและกล่มุ คำ

3 ต 1.1 ป.3/3 เลอื ก/ระบุภำพหรือสัญลกั ษณ์  กลุม่ คำ ประโยคเดี่ยว สญั ลักษณ์ และควำมหมำย 

ตรงตำมควำมหมำยของกลุ่มคำ เกีย่ วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน

และประโยคทีฟ่ ัง ส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตวั อำหำร เครื่องดืม่

และนันทนำกำร เปน็ วงคำศัพท์สะสมประมำณ

๓๕๐ - ๔๕๐ คำ (คำศัพทท์ เี่ ปน็ รปู ธรรม)

4 ต 1.1 ป.3/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังหรืออ่ำน  ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำนที่มีภำพประกอบ 

ประโยค บทสนทนำ หรือนิทำน  ประโยคคำถำมและคำตอบ

งำ่ ย ๆ - Yes/No Question เช่น

Is/Are/Can…?

Yes,…is/are/can./

No,…isn’t/aren’t/can’t. etc.

- Wh-Question เช่น

What is this/that/it?

This/that/It is a/an…

How many…?

There is/are…

Where is/are…?

It is in/on/under…

They are

etc.

สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

338

ชัน้ ท่ี รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.3 5 ต 1.2 ป.3/1 พูดโตต้ อบด้วยคำสน้ั ๆ งำ่ ย ๆ  บทสนทนำที่ใช้ในกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ 

ในกำรส่ือสำรระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ควำม

ตำมแบบท่ีฟงั ทใ่ี ชแ้ นะนำตนเอง เชน่ Hi/Hello/

Good morning /Good afternoon/

Good evening/I am sorry. How are you?

I’m fine. Thank you. And you?/

Nice to see you./Nice to see you too./

Goodbye./Bye./See you soon/later./

Thanks./Thank you./Thank you very

much./You’re welcome. etc.

6 ต 1.2 ป.3/2 ใช้คำสั่งและคำขอรอ้ งงำ่ ย ๆ  คำสั่งและคำขอร้องที่ใชใ้ นห้องเรียน 

ตำมแบบที่ฟัง

7 ต 1.2 ป.3/3 บอกควำมต้องกำรง่ำย ๆ  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ีใชบ้ อก 

ของตนเองตำมแบบท่ีฟัง ควำมต้องกำร เชน่ Please,…/May I go out?/

May I come in? etc.

8 ต 1.2 ป.3/4 พูดขอและให้ข้อมลู ง่ำย ๆ เกี่ยวกบั  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคที่ใชข้ อ 

ตนเองและเพื่อนตำมแบบท่ีฟัง และให้ข้อมลู เกย่ี วกับตนเองและเพ่ือน เช่น

What’s your name? My name is…

What time is it? It is one o’clock.

What is this? It is a/an…

How many…are there?

There is a/an…/ There are…

Who is…? He /She is… etc.

9 ต 1.2 ป.3/5 บอกควำมรสู้ กึ ของตนเองเกีย่ วกบั  คำและประโยคทใ่ี ชแ้ สดงควำมรู้สึก เช่น ดใี จ 

สิง่ ต่ำง ๆ ใกลต้ ัว หรือกจิ กรรมตำ่ ง ๆ เสียใจ ชอบ ไมช่ อบ เช่น Yeah!/Great!/

ตำมแบบท่ีฟงั Cool!/I’m happy./I like cats./

I don’t like snakes. etc.

10 ต 1.3 ป.3/1 พูดให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง  คำและประโยคท่ีใช้ในกำรพูดใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับ 

และเรื่องใกล้ตัว ตนเอง บคุ คลใกล้ตัว และเรื่องใกล้ตวั เชน่

บอกชื่อ อำยุ รปู รำ่ ง ส่วนสงู ส่งิ ตำ่ ง ๆ

จำนวน ๑ - ๕๐ สี ขนำด ตำแหนง่ ของส่ิงของ

สำหรับกำรจดั กำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

339

ช้ัน ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.3 11 ต 1.3 ป.3/2 จัดหมวดหม่คู ำตำมประเภทของ  คำ กล่มุ คำท่ีมคี วำมหมำยเก่ยี วกับบุคคล สัตว์ 

บคุ คล สัตว์ และสง่ิ ของตำมท่ีฟงั และส่งิ ของ เชน่ กำรระบุ/เช่ือมโยง

หรืออ่ำน ควำมสมั พันธข์ องภำพกับคำหรือกล่มุ คำ

โดยใชภ้ ำพ แผนภูมิ แผนภำพ แผนผงั

12 ต 2.1 ป.3/1 พดู และทำทำ่ ประกอบตำมมำรยำท  มำรยำทสังคม/วฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ 

สังคม/วัฒนธรรมของเจำ้ ของภำษำ เช่น กำรขอบคุณ ขอโทษ กำรใช้สีหนำ้ ท่ำทำง

ประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผสั มือ

กำรโบกมือ กำรแสดงอำกำรตอบรับหรือปฏิเสธ

13 ต 2.1 ป.3/2 บอกชื่อและคำศัพท์ง่ำย ๆ เกี่ยวกับ  คำศพั ทเ์ กย่ี วกบั เทศกำล/วันสำคญั /งำนฉลอง 

เทศกำล/วันสำคัญ/งำนฉลอง และ และชวี ิตควำมเปน็ อยู่ของเจ้ำของภำษำ

ชวี ติ ควำมเปน็ อยู่ของเจำ้ ของภำษำ เชน่ วันครสิ ตม์ ำส วนั ขึ้นปีใหม่ เคร่อื งแต่งกำย

อำหำร เครื่องด่ืม

14 ต 2.1 ป.3/3 เขำ้ รว่ มกจิ กรรมทำงภำษำ  กิจกรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่ 

และวฒั นธรรมทเ่ี หมำะกับวยั กำรเลน่ เกม กำรรอ้ งเพลง กำรเล่ำนทิ ำน

ประกอบทำ่ ทำง วนั คริสตม์ ำส วนั ขึ้นปใี หม่

15 ต 2.2 ป.3/1 บอกควำมแตกตำ่ งของเสยี งตวั อกั ษร  ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อกั ษร คำ กลุ่มคำ 

คำ กลมุ่ คำ และประโยคง่ำย ๆ และประโยคของภำษำตำ่ งประเทศ

ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย และภำษำไทย

16 ต 3.1 ป.3/1 บอกคำศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องกับกลุ่มสำระ  คำศัพทท์ เี่ กี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้อนื่ 

กำรเรยี นรอู้ นื่

17 ต 4.1 ป.3/1 ฟงั /พูดในสถำนกำรณ์ง่ำย ๆ  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟัง/พูดในสถำนกำรณง์ ่ำย ๆ 

ท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน ทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรยี น

18 ต 4.2 ป.3/1 ใช้ภำษำตำ่ งประเทศเพ่ือรวบรวม  กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ 

คำศัพทท์ เ่ี ก่ยี วขอ้ งใกล้ตัว ที่เกีย่ วข้องใกล้ตัวจำกส่ือต่ำง ๆ

รวม 18 ตัวช้ีวดั 13 5

สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

340

ชั้น ท่ี รหัสตัวชี้วดั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตอ้ งรู้ ควรรู้

ป.4 1 ต 1.1 ป.4/1 ปฏบิ ตั ิตำมคำส่งั คำขอร้อง และ  คำสงั่ และคำขอร้องทใ่ี ช้ในหอ้ งเรียน 

คำแนะนำ (instructions) งำ่ ย ๆ และคำแนะนำในกำรเล่นเกม กำรวำดภำพ

ทฟี่ งั หรืออ่ำน หรอื กำรทำอำหำรและเครื่องดม่ื

- คำสั่ง เชน่ Look at the…/here/over

there./Say it again./Read and draw./

Put a/an…in/on/under a/an…/

Don’t go over there. etc.

- คำขอร้อง เช่น Please take a queue./

Take a queue, please./Can you help

me, please? etc.

- คำแนะนำ เช่น You should read

everyday./Think before you speak./

- คำศพั ทท์ ่ีใช้ในกำรเล่นเกม Start./

My turn./Your turn./Roll the dice./

Count the number./Finish./

- คำบอกลำดับขน้ั ตอน First,... Second,…

Then,… Finally,... etc.

2 ต 1.1 ป.4/2 อำ่ นออกเสียงคำ สะกดคำ  คำ กลมุ่ คำ ประโยค ข้อควำม บทพดู เข้ำจังหวะ 

อ่ำนกลมุ่ คำ ประโยค ขอ้ ควำมงำ่ ย ๆ และกำรสะกดคำ

และบทพดู เข้ำจังหวะถกู ตอ้ ง  กำรใชพ้ จนำนกุ รม

ตำมหลกั กำรอ่ำน  หลกั กำรอ่ำนออกเสียง เชน่

- กำรออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะ

ทำ้ ยคำ

- กำรออกเสียงเนน้ หนัก-เบำ ในคำและกลุ่มคำ

- กำรออกเสียงตำมระดับเสียงสูง-ต่ำในประโยค

3 ต 1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบุภำพหรือสัญลักษณ์  กลมุ่ คำ ประโยคเด่ยี ว สัญลกั ษณ์ เคร่ืองหมำย 

หรอื เครอื่ งหมำยตรงตำมควำมหมำย และควำมหมำยเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั

ของประโยคและข้อควำมสน้ั ๆ โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อำหำร เคร่อื งด่ืม

ทฟ่ี ังหรืออ่ำน เวลำวำ่ งและนันทนำกำร สุขภำพและสวสั ดิกำร

กำรซื้อ-ขำย และลมฟำ้ อำกำศ เปน็ วงคำศัพท์

สะสมประมำณ ๕๕๐ - ๗๐๐ คำ

(คำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมและนำมธรรม)

สำหรบั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

341

ชั้น ที่ รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.4 4 ต 1.1 ป.4/4 ตอบคำถำมจำกกำรฟังและอ่ำน  ประโยค บทสนทนำ นิทำนท่ีมภี ำพประกอบ 

ประโยค บทสนทนำ และนทิ ำน คำถำมเก่ียวกับใจควำมสำคญั ของเรื่อง เชน่

ง่ำย ๆ ใคร ทำอะไร ท่ีไหน

- Yes/No Question เชน่

Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./

No,…isn’t/aren’t/can’t.

Do/Does/Can/Is/Are...?

Yes/No… etc.

- Wh-Question เชน่

Who is/are…? He/She is…/They are…

What…?/Where…? It is …/They are…

What...doing? …is/am/are… etc.

- Or-Question เชน่

Is this/it a/an…...or a/an…?

It is a/an… etc.

5 ต 1.2 ป.4/1 พูด/เขียนโต้ตอบในกำรส่อื สำร  บทสนทนำทใี่ ช้ในกำรทกั ทำย กลำ่ วลำ 

ระหว่ำงบุคคล ขอบคุณ ขอโทษ กำรพูดแทรกอยำ่ งสภุ ำพ

ประโยค/ข้อควำมที่ใช้แนะนำตนเอง เพื่อน

และบุคคลใกลต้ วั และสำนวนกำรตอบรับ

เชน่ Hi/Hello/Good morning/

Good afternoon/Good evening/I am sorry./

How are you?/I’m fine. Thank you.

And you?/Hello. I am…/Hello,…I am…

This is my sister. Her name is…

Hello,…/Nice to see you.

Nice to see you too./Goodbye./Bye./

See you soon/later./Thanks./

Thank you./Thank you very much./

You’re welcome./It’s O.K. etc.

6 ต 1.2 ป.4/2 ใช้คำสงั่ คำขอร้อง และคำขออนุญำต  คำสงั่ คำขอรอ้ ง และคำขออนุญำต 

งำ่ ย ๆ ทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น

7 ต 1.2 ป.4/3 พูด/เขยี นแสดงควำมต้องกำร  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทใ่ี ช้ 

ของตนเอง และขอควำมชว่ ยเหลือ แสดงควำมต้องกำรและขอควำมชว่ ยเหลือ

ในสถำนกำรณง์ ำ่ ย ๆ ในสถำนกำรณต์ ่ำง ๆ เช่น I want …/

Please…/May…?/I need your help./

Please help me./Help me! etc.

สำหรับกำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

342

ชนั้ ท่ี รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.4 8 ต 1.2 ป.4/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมูล  คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคทใ่ี ช้ขอ 

เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื นและครอบครัว และใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั ตนเอง สง่ิ ใกลต้ ัว เพอื่ น

และครอบครัว เช่น

What’s your name? My name is…

What time is it? It is one o’clock.

What is this? It is a/an…

How many…are there?

There is a/an…/ There are…

Where is the ….? It is in/on/under… etc.

9 ต 1.2 ป.4/5 พูดแสดงควำมรู้สกึ ของตนเอง  คำและประโยคที่ใช้แสดงควำมรสู้ กึ เชน่ ดใี จ 

เกี่ยวกบั เร่ืองต่ำง ๆ ใกล้ตวั และ เสยี ใจ ชอบ ไมช่ อบ รัก ไม่รัก เช่น

กจิ กรรมต่ำง ๆ ตำมแบบที่ฟัง I/You/We/They like…/He/She likes…

I/You/We/They love…/He/She loves…

I/You/We/They don’t like/love/feel…

He/She doesn’t like/love/feel…

I/You/We/They feel… etc.

10 ต 1.3 ป.4/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง  ประโยคและข้อควำมท่ีใช้ในกำรพูดให้ขอ้ มลู 

และเรื่องใกล้ตัว เก่ียวกบั ตนเอง บคุ คล สตั ว์ และเร่อื งใกลต้ ัว

เชน่ ช่ือ อำยุ รปู ร่ำง สี ขนำด รูปทรง สิง่ ต่ำง ๆ

จำนวน ๑ - ๑๐๐ วัน เดือน ปี ฤดกู ำล

ตำแหน่งของสิง่ ต่ำง ๆ

 เคร่ืองหมำยวรรคตอน

11 ต 1.3 ป.4/2 พูด/วำดภำพแสดงควำมสัมพันธ์  คำ กล่มุ คำทีม่ คี วำมหมำยสัมพนั ธ์กบั ส่ิงตำ่ ง ๆ 

ของส่งิ ต่ำง ๆ ใกล้ตวั ตำมทฟี่ ัง ใกลต้ ัว เช่น กำรระบุ/เชอื่ มโยงควำมสัมพันธ์

หรอื อำ่ น ของภำพกบั คำ หรอื กลุ่มคำ โดยใช้ภำพ

แผนภมู ิ แผนภำพ แผนผงั

12 ต 1.3 ป.4/3 พูดแสดงควำมคิดเห็นง่ำย ๆ  ประโยคท่ีใช้ในกำรแสดงควำมคดิ เห็นเก่ยี วกับ 

เกี่ยวกับเรอื่ งตำ่ ง ๆ ใกลต้ ัว เรื่องต่ำง ๆ ใกล้ตัว

13 ต 2.1 ป.4/1 พูดและทำทำ่ ประกอบอย่ำงสุภำพ  มำรยำทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ 

ตำมมำรยำทสังคมและวัฒนธรรม เชน่ กำรขอบคณุ ขอโทษ กำรใชส้ ีหน้ำท่ำทำง

ของเจำ้ ของภำษำ ประกอบกำรพูดขณะแนะนำตนเอง กำรสัมผสั มือ

กำรโบกมือ กำรแสดงควำมรู้สกึ ชอบ/ไมช่ อบ

กำรแสดงอำกำรตอบรบั หรือปฏิเสธ

สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

343

ชนั้ ท่ี รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.4 14 ต 2.1 ป.4/2 ตอบคำถำมเกี่ยวกบั เทศกำล/  คำศพั ทแ์ ละข้อมลู เกยี่ วกับเทศกำล/วนั สำคัญ/ 

วันสำคญั /งำนฉลอง และ งำนฉลอง และชวี ิตควำมเป็นอยขู่ องเจ้ำของภำษำ

ชวี ติ ควำมเปน็ อยงู่ ำ่ ย ๆ เชน่ วนั ครสิ ตม์ ำส วันขึน้ ปใี หม่ เครอ่ื งแต่งกำย

ของเจ้ำของภำษำ ฤดกู ำล อำหำร เคร่ืองดม่ื

15 ต 2.1 ป.4/3 เข้ำร่วมกจิ กรรมทำงภำษำ  กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น 

และวัฒนธรรมท่ีเหมำะกบั วยั กำรเล่นเกม กำรร้องเพลง กำรเลำ่ นทิ ำน

ประกอบท่ำทำง วนั คริสต์มำส วนั ขน้ึ ปใี หม่

16 ต 2.2 ป.4/1 บอกควำมแตกต่ำงของเสยี งตวั อกั ษร  ควำมแตกตำ่ งของเสียงตวั อักษร คำ กลุ่มคำ 

คำ กลมุ่ คำ ประโยค และข้อควำม และประโยคของภำษำตำ่ งประเทศ

ของภำษำต่ำงประเทศและภำษำไทย และภำษำไทย

17 ต 2.2 ป.4/2 บอกควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำง  ควำมเหมือน/ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งเทศกำล 

ระหว่ำงเทศกำลและงำนฉลอง และงำนฉลองตำมวฒั นธรรมของเจ้ำของภำษำ

ตำมวฒั นธรรมของเจำ้ ของภำษำ กบั ของไทย

กบั ของไทย

18 ต 3.1 ป.4/1 ค้นคว้ำ รวบรวมคำศัพทท์ เ่ี ก่ียวขอ้ ง  กำรคน้ คว้ำ กำรรวบรวม และกำรนำเสนอ 

กับกลมุ่ สำระกำรเรียนร้อู ื่นและ คำศัพทท์ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสำระกำรเรียนรู้อ่นื

นำเสนอดว้ ยกำรพดู /กำรเขยี น

19 ต 4.1 ป.4/1 ฟังและพดู /อำ่ นในสถำนกำรณ์  กำรใชภ้ ำษำในกำรฟังและพดู /อ่ำน 

ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรยี นและ ในสถำนกำรณ์ทีเ่ กิดขึ้นในห้องเรียน

สถำนศกึ ษำ และสถำนศึกษำ

20 ต 4.2 ป.4/1 ใชภ้ ำษำต่ำงประเทศในกำรสืบคน้  กำรใชภ้ ำษำตำ่ งประเทศในกำรสบื คน้ 

และรวบรวมข้อมลู ต่ำง ๆ และกำรรวบรวมข้อมลู ตำ่ ง ๆ

รวม 20 ตัวชี้วดั 17 3

สำหรับกำรจดั กำรเรียนรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

344

ชั้น ท่ี รหัสตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.5 1 ต 1.1 ป.5/1 ปฏิบัติตำมคำส่ัง คำขอร้อง และ  คำส่งั และคำขอรอ้ งทีใ่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น ภำษำท่ำทำง 

คำแนะนำง่ำย ๆ ที่ฟังและอำ่ น และคำแนะนำในกำรเล่นเกม กำรวำดภำพ

หรือกำรทำอำหำรและเคร่ืองดม่ื

- คำสั่ง เช่น Look at the…/here/over

there./Say it again./Read and draw./

Put a/an…in/on/under a/an…/

Don’t go over there. etc.

- คำขอร้อง เชน่ Please take a queue./

Take a queue, please./

Can/Could you help me, please? etc.

- คำแนะนำ เชน่ You should read

everyday./Think before you speak./

- คำศพั ทท์ ่ีใชใ้ นกำรเลน่ เกม Start./

My turn./Your turn./Roll the dice./

Count the number./Finish./

- คำบอกลำดบั ข้นั ตอน First,... Second,…

Next,…Then,… Finally,... etc.

2 ต 1.1 ป.5/2 อ่ำนออกเสยี งประโยค ข้อควำม  ประโยค ขอ้ ควำม และบทกลอน 

และบทกลอนสั้น ๆ ถกู ต้อง  กำรใช้พจนำนกุ รม

ตำมหลกั กำรอ่ำน  หลกั กำรอำ่ นออกเสียง เช่น

- กำรออกเสยี งพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะ

ทำ้ ยคำ

- กำรออกเสียงเน้นหนัก-เบำในคำและกลมุ่ คำ

- กำรออกเสียงตำมระดบั เสียงสูง-ตำ่

ในประโยค

- กำรออกเสียงเชื่อมโยง (linking sound)

ในขอ้ ควำม

- กำรออกเสยี งบทกลอนตำมจงั หวะ

3 ต 1.1 ป.5/3 ระบุ/วำดภำพ สัญลักษณ์ หรอื  กลุม่ คำ ประโยคผสม ข้อควำม สญั ลกั ษณ์ 

เคร่ืองหมำยตรงตำมควำมหมำย เครอ่ื งหมำย และควำมหมำยเก่ียวกบั ตนเอง

ของประโยคและข้อควำมส้ัน ๆ ครอบครวั โรงเรียน สิง่ แวดลอ้ ม อำหำร

ท่ฟี ังหรืออ่ำน เคร่ืองดื่ม เวลำวำ่ งและนนั ทนำกำร สุขภำพ

และสวัสดิกำร กำรซ้ือ-ขำย และลมฟำ้ อำกำศ

เปน็ วงคำศัพท์สะสมประมำณ ๗๕๐ - ๙๕๐ คำ

(คำศัพท์ทเี่ ป็นรปู ธรรมและนำมธรรม)

สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

345

ชน้ั ท่ี รหัสตัวชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.5 4 ต 1.1 ป.5/4 บอกใจควำมสำคญั และตอบคำถำม  ประโยค บทสนทนำ นิทำน หรือเรอ่ื งส้ัน ๆ 
จำกกำรฟังและอำ่ นบทสนทนำ คำถำมเกย่ี วกับใจควำมสำคัญของเรื่อง เชน่
และนิทำนงำ่ ย ๆหรือเร่ืองสัน้ ๆ ใคร ทำอะไร ทไ่ี หน เมื่อไร
- Yes/No Question เช่น
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t.
Do/Does/Can/Is/Are...?
Yes/No… etc.
- Wh-Question เชน่
Who is/are…?
He/She is…/They are…
What…?/Where…?
It is …/They are…
What...doing? ...is/am/are… etc.
- Or-Question เชน่
Is this/it a/an...or a/an…?
It is a/an… etc.

5 ต 1.2 ป.5/1 พูด/เขยี นโต้ตอบในกำรสื่อสำร  บทสนทนำที่ใช้ในกำรทักทำย กลำ่ วลำ ขอบคณุ 
ระหวำ่ งบุคคล ขอโทษ ชมเชย กำรพดู แทรกอยำ่ งสภุ ำพ
ประโยค/ข้อควำมทใี่ ชแ้ นะนำตนเอง เพ่ือน
และบุคคลใกลต้ วั และสำนวนกำรตอบรับ
เช่น Hi/Hello/Good morning /Good
afternoon/Good evening/I am sorry./
How are you?/I’m fine. Thank you.
And you?/ Hello. I am…/ Hello,…I am…
This is my sister. Her name is… /
Hello,…/Nice to see you. Nice to see
you too./Goodbye./Bye./See you
soon/later./Good/Very good./Thanks./
Thank you./Thank you very much./
You’re welcome./It’s O.K. etc.

6 ต 1.2 ป.5/2 ใช้คำสัง่ คำขอรอ้ ง คำขออนุญำต  คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญำต คำแนะนำ 
และให้คำแนะนำงำ่ ย ๆ ทมี่ ี ๑ - ๒ ขั้นตอน

7 ต 1.2 ป.5/3 พูด/เขียนแสดงควำมต้องกำร  คำศพั ท์ สำนวนภำษำ และประโยคท่ใี ชบ้ อก 
ขอควำมชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ควำมตอ้ งกำร ขอควำมชว่ ยเหลือ ตอบรับและ
ปฏิเสธกำรให้ควำมช่วยเหลือ ปฏเิ สธกำรใหค้ วำมช่วยเหลอื เชน่ Please…/
ในสถำนกำรณ์ง่ำย ๆ May…?/I need…/Help me!/Can/Could…?/
Yes,.../No,… etc.

สำหรับกำรจัดกำรเรยี นรู้ ปกี ำรศกึ ษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณแ์ พร่ระบำดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)

346

ชน้ั ที่ รหัสตวั ชี้วัด ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ต้องรู้ ควรรู้

ป.5 8 ต 1.2 ป.5/4 พูด/เขียนเพอื่ ขอและให้ข้อมลู  คำศัพท์ สำนวนภำษำ และประโยคทีใ่ ชข้ อ 

เก่ยี วกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เพือ่ น ครอบครัว

และเรือ่ งใกล้ตวั และเรอ่ื งใกลต้ ัว เช่น

What do you do? I’m a/an…

What is she/he? She/He is a/an (อำชีพ)

How old/tall…? I am…

Is/Are/Can…or…? …is/are/can…

Is/Are…going to…or…?

…is/are going to… etc.

9 ต 1.2 ป.5/5 พดู /เขยี นแสดงควำมรูส้ ึกของตนเอง  คำและประโยคท่ใี ช้แสดงควำมรูส้ ึกและกำรให้ 

เก่ยี วกับเรอื่ งต่ำง ๆ ใกล้ตัว เหตผุ ล เชน่ ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสยี ใจ มีควำมสขุ

และกจิ กรรมต่ำง ๆ พรอ้ มท้ัง เศร้ำ หวิ รสชำติ เช่น

ใหเ้ หตผุ ลส้ัน ๆ ประกอบ I’m…/He/She/It is…/You/We/They are…

I/You/We/They like…/He /She likes…

because…

I/You/We/They love…/He /She loves…

because…

I/You/We/They don’t like/love/feel…

because…

He /She doesn’t like/love/feel…

because…

I/You/We/They feel…because… etc.

10 ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง  ประโยคและข้อควำมที่ใช้ในกำรใหข้ ้อมลู 

และเรอ่ื งใกลต้ ัว เกย่ี วกับบุคคล สัตว์ สถำนท่ี และกจิ กรรมต่ำง ๆ

เชน่ ขอ้ มูลสว่ นบุคคล เรื่องตำ่ ง ๆ ใกล้ตัว

จำนวน ๑ - ๕๐๐ ลำดบั ท่ี วนั เดอื น ปี ฤดกู ำล

เวลำ สภำพดนิ ฟำ้ อำกำศ อำรมณ์ ควำมรู้สึก สี

ขนำด รปู ทรง ตำแหน่งของสงิ่ ตำ่ ง ๆ

 เครือ่ งหมำยวรรคตอน

11 ต 1.3 ป.5/2 เขียนภำพ แผนผัง และแผนภมู ิ  คำ กลุ่มคำ ประโยคที่แสดงข้อมลู 

แสดงข้อมลู ต่ำง ๆ ตำมที่ฟัง และควำมหมำยของเรอ่ื งต่ำง ๆ

หรอื อำ่ น ภำพ แผนผงั แผนภูมิ ตำรำง

12 ต 1.3 ป.5/3 พดู แสดงควำมคดิ เห็นเกย่ี วกบั  ประโยคทใ่ี ช้ในกำรพูดแสดงควำมคิดเหน็ 

เร่ืองตำ่ ง ๆ ใกล้ตัว เกีย่ วกบั กิจกรรมหรือเร่ืองต่ำง ๆ ใกล้ตัว

สำหรบั กำรจัดกำรเรียนรู้ ปีกำรศึกษำ 2564 ภำยใตส้ ถำนกำรณ์แพรร่ ะบำดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนำ ๒๐๑๙ (Covid-19)


Click to View FlipBook Version