ID PLANแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล
ปีการศกึ ษา 2565
นายกฤตเมธ สกุลรกั ษ์
ตาแหน่ง ครูผู้ช่วย
โรงเรยี นบ้านคอ้
สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสรุ นิ ทร์ เขต 2
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชพี
(Individual Development Plan-ID Plan)
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา
โดย
นายกฤตเมธ สกุลรกั ษ์
ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย
โรงเรียนบา้ นค้อ
สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสุรนิ ทร์ เขต ๒
กระทรวงศึกษาธกิ าร
1
แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล
(Individual Development Plan: ID-Plan)
สว่ นที่ ๑ ขอ้ มูลผู้จัดทา
ช่อื นายกฤตเมธ สกุลรกั ษ์ อายุ ๒๔ ปี
ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย อายกุ ารทางาน ๘ เดอื น ระยะเวลาดารงตาแหนง่ ปัจจบุ ัน ๘ เดอื น
วุฒิการศกึ ษา ครศุ าสตรบัณฑฺต (คบ.) สาขา สังคมศึกษา
สถาบัน มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร
เลขที่ ๐๐๘๘๕ เงินเดอื น ๑๕,๘๐๐ บาท วิทยฐานะ -
เร่มิ ปฏิบตั งิ าน ในโรงเรียนบา้ นค้อ ในวนั ท่ี ๒๙ ตลุ าคมปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงปจั จบุ นั
รวมเปน็ เวลา ๘ เดอื น
โรงเรียน บ้านคอ้ สังกดั สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสุรินทร์ เขต ๒
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ท่อี ยู่ท่ีสามารถตดิ ตอ่ ได้ บา้ นเลขท่ี ๑๐๗ หมู่ ๑ ตาบล โนน อาเภอ โนนนารายณ์ จงั หวัด สรุ ินทร์
รหสั ไปษณยี ์ ๓๒๑๓๐
โทรศพั ท์มอื ถอื ๐๙๙๑๑๒๐๔๔๔ Email : [email protected]
งานในหนา้ ที่ ทรี่ ับผดิ ชอบ
ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓
๑. ปฏบิ หิ น้าท่ีครูประจาชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ มกี ารสอน ดงั นี้
๑.๑ วชิ า คณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ จานวน ๔ ช่ัวโมง/สัปดาห์
๑.๒ วิชา ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ จานวน ๔ ชว่ั โมง/สัปดาห์
๑.๓ วชิ า ภาษาองั กฤษ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ จานวน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์
๑.๔ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ จานวน ๒ ช่วั โมง/สัปดาห์
๑.๕ วิชา สงั คมศึกษา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ จานวน ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์
๑.๖ วชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ จานวน ๑ ชว่ั โมง/สปั ดาห์
๑.๗ วิชา ศิลปะ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ จานวน ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์
๑.๘ วชิ า การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔ จานวน ๑ ชวั่ โมง/สปั ดาห์
๑.๙ วิชา วิทยาการคานวณ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ จานวน ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์
๑.๑๐ วิชา สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ จานวน ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์
๑.๑๑ วิชา ภาษาองั กฤษอา่ นขเขียน๔ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ จานวน ๒ ชัว่ โมง/สปั ดาห์
๒. กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้
๒.๑ กจิ กรรมแนะแนว ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔จานวน ๑ ช่วั โมง/สัปดาห์
๒.๒ กิจกรรมลกู เสอื - เนตรนารี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จานวน ๑ ช่วั โมง/สปั ดาห์
๒.๓ กิจกรรมชมุ นมุ จานวน ๑ ชว่ั โมง/สปั ดาห์
2
๓. อน่ื ๆ
๓.๑ กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพ่ิมเวลารู้ จานวน ๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์
๓.๒ กิจกรรมชุมนมุ /บาเพ็ญประโยชน์ จานวน ๑ ช่ัวโมง/สัปดาห์
๓.๓ กิจกรรมสวดมนต์ จานวน ๑ ชัว่ โมง/สัปดาห์
รวมงานสอน จานวน ๓๐ ชัว่ โมง/สปั ดาห์
งานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายเปน็ งานพเิ ศษ ดงั นี้
กล่มุ งานวชิ าการ
- ปฏบิ ตั ิหนา้ ทก่ี ารสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาษาตา่ งประเทศ วทิ ยาศาสตร์ ภาษาไทย
สุขศกึ ษาและพลศึกษา สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม การงานอาชพี และเทคโนโลยี ศิลปะ
- ปฏิบัติหน้าทอี่ น่ื ๆ ท่ไี ด้รับมอบหมายจากสถานศึกษา โดยใหก้ ารสนบั สนนุ และชว่ ยเหลือ
กลมุ่ งานงบประมาณ
- หน้าทีอ่ ื่น ๆ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย โดยใหก้ ารสนบั สนนุ และช่วยเหลือและปฏิบัตหิ นา้ ทอ่ี นื่ ๆ
ตามทีไ่ ด้รบั มอบหมายจากผบู้ ังคับบญั ชา
กล่มุ งานบุคคล
- ปฏิบัตหิ น้าที่รบั ฝากเงนิ ของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔
- ครูเวรรกั ษาการณป์ ระจาสถานที่ราชการตามท่ีได้รบั มอบหมาย
- ปฏิบัตหิ น้าที่ครปู ระจาช้นั /ครทู ีป่ รกึ ษาชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔
- หนา้ ทอี่ น่ื ๆ ท่ไี ดร้ บั มอบหมายโดยให้การสนบั สนนุ และช่วยเหลอื ในสถานศกึ ษา
กลมุ่ บรหิ ารงานทัว่ ไป
- กากบั ดูแลนกั เรยี นในที่ปรกึ ษาและรบั ผิดชอบเขตพน้ื ท่ีทาความสะอาดในแตล่ ะวัน
- ปฏิบัตหิ น้าท่ีจัดเตรียมอาคารสถานที่ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ ภายในสถานศึกษา
- หน้าทอ่ี ่นื ๆ ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย โดยใหก้ ารสนบั สนุน ชว่ ยเหลอื และปฏบิ ัติหนา้ ทอี่ ื่น ๆ ตามที่ไดร้ ับ
มอบหมายภายในสถานศึกษา
ผลงานท่เี กดิ จากการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ในตาแหน่งปจั จบุ ัน
๑. ผลท่ีเกดิ จากการจัดการเรยี นรู้
๑.๑ ร่วมกับคณะครจู ดั ทาหลกั สูตรสถานศกึ ษา วเิ คราะหห์ ลกั สตู ร จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ในกลุ่ม
สาระการเรียนรกู้ ลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรมและนาแผนการจัดการเรียนร้ไู ปใชใ้ นการจัด
ประสบการณ์การเรยี นรู้ให้กบั นักเรียน
๑.๒ ครูมกี ารวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้อยา่ งเป็นระบบมกี ารจัดการเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ
โดยใชส้ ่ือที่หลากหลายเน้นกระบวนการคดิ ของผูเ้ รยี น
๑.๓ มีการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ตามสภาพจรงิ โดยใชเ้ ครอื่ งมอื อยา่ งหลากหลายและนาผลไปใช้ใน
การพฒั นาผเู้ รยี น
3
๑.๔ มกี ารจัดทาส่ือการสอนทหี่ ลากหลาย มีความทันสมยั ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรใู้ ห้กับ
นกั เรียน โดยรว่ มกบั คณะครูจัดทาหลักสูตรสถานศกึ ษาระดบั มัธยมศึกษา วเิ คราะหห์ ลกั สูตร จัดทาแผนการจดั การ
เรียนรู้ และนาแผนการจดั การเรยี นรูไ้ ปใช้ในการจัดการเรียนการสอนใหก้ ับนกั เรียน
๒. ผลที่เกดิ จากการพฒั นาวิชาการ
๒.๑ มกี ารจดั หาพัฒนา ประยุกตใ์ ชส้ ือ่ นวัตกรรมในการจัดการเรยี นรู้ สามารถนาไปใช้ไดผ้ ลดี
๒.๒ การใช้ความคิดเชิงระบบในการพัฒนางานอยา่ งครบวงจร และมปี ระสทิ ธภิ าพอย่างตอ่ เน่อื ง
๒.๓ การนาความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาระบบการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธภิ าพสอดคลอ้ ง
กับความต้องการของผเู้ รียน
๒.๔ การสง่ เสริมการคดิ ทเี่ นน้ ผลคุณภาพของผ้เู รยี นเป็นสาคัญ
๒.๕ การนาวธิ ีการวิจัยและพฒั นามาแกป้ ัญหา พรอ้ มทง้ั พัฒนางานอย่างครบวงจร
๒.๖ ผลที่เกดิ จากการพฒั นาตนเองทางด้านวิชาการ ส่งผลให้นกั เรียนได้รับการพัฒนาดา้ นคุณธรรม
จริยธรรมความมวี ินัยในตนเอง
๓. ผลท่ีเกดิ กบั ผู้เรยี น
๓.๑ นักเรียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงคต์ ามสถานศกึ ษากาหนด
๓.๒ นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นที่สูงข้นึ ผ่านเกณฑก์ าหนดของโรงเรยี นบา้ นโคกยาว
๓.๓ นกั เรยี นไดร้ ับการพฒั นาทนั ตอ่ ความก้าวหน้าทางวิชาการและการเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยีท่ที ยั
สมยั อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
๓.๔ นกั เรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ทั้ง ๘ ประการ ตามเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลที่สถานศึกษา
กาหนด
๔. ผลที่เกิดกับสถานศึกษา
๔.๑ สถานศึกษาไดร้ ับการสนบั สนุนจากผ้ปู กครอง ชุมนมุ หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ
๔.๒ มีบรรยากาศท้งั ในและนอกหอ้ งเรยี นท่ีเอ้อื ต่อการเรียนรู้ของครูและผเู้ รียนเปน็ สาคญั
๔.๓ เปน็ แหลง่ เรียนรูข้ องสถานศกึ ษาหรือหน่วยงานต่างๆ
๔.๔ การนิเทศตดิ ตามผลการปฏบิ ตั ิงานของครูทาใหก้ ารปฏิบัติงานมีความสมบรู ณ์ และเป็นไปตามเวลาท่ี
กาหนด
๔.๕ มรี ะบบการทางานเปน็ ทีมมากขึ้น
๔.๖ มแี นวปฏบิ ัติดา้ นเอกสาร หลักฐานทางการศึกษาทถี่ ูกตอ้ ง
๔.๗ การพัฒนางานมรี ะบบท่ีถูกต้องและครบวงจร
จากการที่สถานศึกษามีการวางแผนปฏบิ ัติราชการในการพัฒนา มีเป้าหมาย มีทิศทางในการดาเนินงานเพอื่
พฒั นาสถานศึกษา นกั เรยี น โดยมีการจัดกิจกรรม โครงการต่างๆอย่างเปน็ รปู ธรรม
ซง่ึ นกั เรียนและครูมีสว่ นร่วมในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ทาให้ผลการดาเนนิ งานเป็นทีย่ อมรับของผปู้ กครอง ชุมชน
ท้องถน่ิ
๕. ผลทเ่ี กิดกบั ชมุ ชน
๕.๑ ครู ผ้บู รหิ าร และผ้ปู กครองมกี ารประชุมในทกุ ภาคเรียนของปีการศกึ ษา
๕.๒ ครู และผู้บรหิ ารรว่ มกจิ กรรมวันสาคัญในชมุ ชนอยา่ งสม่าเสมอตอ่ เนอ่ื ง
4
๕.๓ โรงเรยี นให้บรกิ ารแหล่งเรียนรู้แก่ชมุ ชนในด้านตา่ งๆ รวมทั้งสง่ เสริม สนบั สนนุ ให้ชุมชนมคี วาม
เข้มแขง็
๕.๔ ชุมชนให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมตา่ งๆ ของโรงเรียนด้วยดี
สถานศึกษามีสว่ นร่วมกับชุมชนในกจิ กรรมตา่ งๆ ตลอดปกี ารศกึ ษา โดยเฉพาะกจิ กรรมทีเ่ ก่ียวกบั วัฒนธรรม
ประเพณี และพธิ กี รรมทางศาสนา เชน่ ประเพณแี ห่เทียนเข้าพรรษา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ และ
การทอดผา้ ป่า เปน็ ต้น
ตารางที่ ๑ รายละเอยี ดการพฒั นาตนเอง (ตงั้ เปา้ หมายไว้ดงั นี)้
ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา วิธีการ / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวล
พัฒ
สมรรถนะหลกั - จดั กิจกรรมการเรียนร้ทู ่เี น้นผเู้ รียน ตลอดปีก
๑ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ เปน็ สาคญั ตลอดปีก
- จดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ เ่ี นน้ ให้
๑.๑ ความสามารถในการ ผู้เรยี นได้ลงมือปฏิบตั ิจรงิ
วางแผนการปฏิบตั งิ าน - จดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใช้ส่อื
๑.๒ ความสามารถในการ นวตั กรรมท่นี า่ สนใจทัง้ ทาง
ปฏิบตั งิ าน เทคโนโลยแี ละแหล่งเรียนรู้
๑.๓ ผลการปฏบิ ัติงาน
- ได้ให้บริการทางวิชาการแก่ครู
๒ การบริการทด่ี ี และบุคลากรทางการศึกษาท้ังใน
โรงเรียนและนอกโรงเรียนเพ่ือเป็น
การเผยแพร่ผลงานวิชาการ
5
ลาในการ หน่วยงานท่ีเปน็ ผูด้ าเนนิ การ ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ
ฒนา พฒั นา
การศึกษา - โรงเรียนค้อ - ผูเ้ รียนให้สนใจ ตั้งใจ มีความ
- สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา
กระตอื รือร้นทจี่ ะเรยี นรู้ มผี ลสัมฤทธ์ิ
ทางการเรียนทีด่ ขี ้นึ มที ักษะในการ
ปฏบิ ัติกิจกรรมตามศกั ยภาพของแตล่ ะ
บคุ คล
การศกึ ษา - โรงเรยี นคอ้ เกดิ ผลดตี อ่ เพอื่ นร่วมงานในโรงเรียน
และต่างโรงเรียน เพือ่ นามาพฒั นาการ
เรยี นการสอน
ท่ี สมรรถนะท่จี ะพฒั นา วิธกี าร / รูปแบบการพฒั นา ระยะเวล
พัฒ
๓ การพัฒนาตนเอง - เขา้ รับการอบรม สัมมนาท่ี
ตลอดปีก
๓.๑ ความสามารถในการ หน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานอ่ืนๆ
วเิ คราะห์ตนเอง จัดข้นึ
๓.๒ ความสามารถในการใช้ - ศกึ ษาดงู านโรงเรยี นต้นแบบ
ภาษาไทยเพ่อื การส่ือสาร บุคลากรต้นแบบเพื่อนามาพัฒนา
๓.๓ ความสามารถในการใช้ ตนเอง
ภาษาอังกฤษเพอ่ื การ - แลกเปล่ียนเรียนรกู้ บั บุคลากร
แสวงหาความรู้ - เข้ารับการอบรม สัมมนาที่
๓.๔ ความสามารถในการ หนว่ ยงานตน้ สงั กัด หน่วยงานอน่ื ๆ
ติดตามความเคลื่อนไหวทาง จัดข้นึ
วชิ าการและวิชาชพี - ศกึ ษาดูงานโรงเรยี นต้นแบบ
๓.๔ ความสามารถในการ บุคลากรตน้ แบบเพอ่ื นามาพฒั นา
ประมวลความรแู้ ละการนา ตนเอง
ความรูไ้ ปใช้ - แลกเปล่ียนเรียนรู้กบั บคุ ลากรใน
๓.๕ ศกึ ษาตอ่ ในระดับ โรงเรยี น
ปริญญาโท - ศกึ ษาเอกสาร ผลงานทางวชิ าการ
จากตารา วารสาร
- สบื คน้ ความร้ทู างอนิ เตอรเ์ น็ต
6
ลาในการ หนว่ ยงานท่เี ป็นผ้ดู าเนนิ การ ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รับ
ฒนา พฒั นา
ตนเองเป็นผู้มคี ณุ ภาพ ได้รบั การ
การศกึ ษา - โรงเรยี นค้อ พัฒนาไปในทิศทางทด่ี ขี ้นึ ส่งผลและ
เกดิ ประโยชนต์ ่อผูเ้ รยี น โรงเรยี น
ท่ี สมรรถนะทีจ่ ะพฒั นา วธิ กี าร / รปู แบบการพฒั นา
๔ การทางานเป็นทีม - ร่วมกิจกรรมท่ีเนน้ การทางานเป็นทมี
๔.๑ ความสามารถในการวางแผนเพ่อื การ - ยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของเพ่ือน
ปฏบิ ัตงิ านเป็นทมี ร่วมงาน โดยรจู้ กั การเปน็ ผู้ให้และผรู้ บั
๔.๒ ความสามารถในการปฏิบตั ิงาน ดี
รว่ มกัน - มีความสามคั คีในหมู่คณะ
สมรรถนะประจาสายงาน - เขา้ รับการอบรม สัมมนา ศกึ ษาดูงาน
๕ การจัดการเรียนรู้ ศึกษาเอกสารเกี่ยวกบั หลักสูตร การ
๕.๑ ความสามารถในการสรา้ งและพัฒนา ออกแบบการเรยี นรู้ การเขียนแผนการ
หลักสตู ร จดั ประสบการณ์ การวัดผลประเมินผล
๕.๒ ความสามารถในเนื้อ เพอื่ พฒั นาตนเอง
สาระทีส่ อน
๕.๓ ความสามารถในการจดั
กระบวนการเรยี นรู้ท่ีเน้น
ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ
๕.๔ ความสามารถในการใช้
และพฒั นานวตั กรรมเทคโน
โลยีสารสนเทศเพ่ือจัดการเรียนรู้
7
ระยะเวลาในการ หนว่ ยงานท่เี ปน็ ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะไดร้ บั
พัฒนา ผู้ดาเนนิ การพัฒนา เกิดความสามัคคีในหม่คู ณะ
ม ตลอดปกี ารศกึ ษา สง่ ผลให้การดาเนินงานต่างๆ
- โรงเรียนคอ้ บรรลผุ ลสาเรจ็ ตลอดจนการมี
บที่ - สานกั งานเขตพื้นที่ ความสุขในการปฏิบตั งิ าน
การศึกษา
ตนเองมีความสามารถในการจดั
น ตลอดปกี ารศกึ ษา - โรงเรียนค้อ กจิ กรรมการเรียนรู้ โดยมี
- สานักงานเขตพืน้ ท่ี ความรูเ้ รอ่ื งการเขยี นแผนการ
จดั ประสบการณ์ การวัดผล
ร การศึกษา ประเมินผล ตลอดจนการผลิต
สือ่ การใช้สือ่ ประเภท ICT
ล สง่ ผลต่อการจัดกิจกรรมใหก้ ับ
ผู้เรียนอยา่ งสูงสดุ
ระยะ
ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา วธิ กี าร / รปู แบบการพฒั นา
๕ ๕.๕ ความสามารถในการวัด - เข้ารบั การอบรมเกย่ี วกับการผลติ ส่ือ การ ตลอด
และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ใชส้ ่อื ประเภท ICT ท่ีหน่วยงานจดั ขน้ึ ทุกๆ
คร้ัง
๖ การพฒั นาผูเ้ รียน - จัดกิจกรรมส่งเสรมิ ปลกู ฝงั คุณธรรม ตลอด
๖.๑ การปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรมทดี่ งี ามให้กับผเู้ รยี นอยูเ่ สมอโดย
จริยธรรมแก่ผเู้ รยี น การอบรมหน้าเสาธง กจิ กรรมโฮมรมู
๖.๒ การสง่ เสรมิ กจิ กรรม กจิ กรรมสุดสัปดาห์การเล่านทิ านสง่ เสรมิ
ความคดิ วิเคราะห์ผู้เรียน คณุ ธรรม
๖.๓ การส่งเสรมิ ทกั ษะและ - สง่ เสริมผูเ้ รยี นตามความถนัด ความสา่ มา
กระบวนการ รถแต่ละบุคคล
๗ การบรหิ ารจดั การช้ันเรยี น - จดั บรรยากาศในช้ันเรียนให้เออ้ื ตอ่ การ ตลอด
เรียนรู้
- จัดมุมประสบการณต์ า่ งๆเพ่ือให้เป็น
แหล่งเรยี นรู้
- จดั ป้ายนิเทศเพ่ือเป็นข้อมลู ข่าวสาร
สาหรับการเรยี นรู้
8
ะเวลาในการ หนว่ ยงานท่ีเป็น ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ
พัฒนา ผ้ดู าเนินการพัฒนา
ดปกี ารศึกษา - โรงเรยี นค้อ ตนเองมคี วามสามารถในการจัดกจิ กรรม
- สานักงานเขตพื้นท่ี การเรียนรู้
การศึกษา
ผเู้ รยี นมีคุณธรรม จริยธรรมและคณุ ลักษณะ
ดปกี ารศกึ ษา - โรงเรยี นคอ้ ท่พี ึงประสงค์ มที กั ษะชีวิต เป็นที่ยอมรับ
- สานกั งานเขตพ้นื ที่ ของสงั คม
การศกึ ษา
ดปกี ารศึกษา - โรงเรยี นค้อ หอ้ งเรยี นมีบรรยากาศทเ่ี อื้อต่อการเรียนรู้
ผ้เู รยี นมีความสุขในการเรียนรู้ ครูมขี อ้ มูล
ตา่ งๆอยา่ งเป็นปัจจุบนั ที่สามารถเปน็
แบบอยา่ งได้
ระยะ
ท่ี สมรรถนะทีจ่ ะพัฒนา วิธกี าร / รปู แบบการพัฒนา
๘ การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ - เขา้ รับการอบรม พัฒนาการจดั ตลอดป
และการวจิ ยั ในชั้นเรียน กจิ กรรมการเรียนรู้ จัดทาสื่อการเรยี นรู้
๘.๑ ความสามารถในการ
เพื่อพัฒนาคณุ ภาพของครูและผู้เรียน
วิเคราะห์
๘.๒ ความสามารถในการ - ศึกษาเอกสาร ตาราในการจดั ทา
สังเคราะห์
เอกสารทางวิชาการ
๘.๓ ความสามารถในการ
เขยี นเอกสารทางวชิ าการ - ศึกษาผลงานตัวอย่างในการทาผลงาน
๘.๓ ความสามารถในการ ทางวิชาการ
วจิ ยั
- ดาเนนิ การวิจัยในชั้นเรยี นเพ่ือแกป้ ญั หา
ตลอดจนพัฒนาผู้เรียน
๙ การสร้างความร่วมมือกับ - ดาเนนิ การประชุมผปู้ กครอง / ตลอดป
ชมุ ชน กรรมการสถานศึกษาเพือ่ ช้ีแจงนโยบาย
๙.๑ ความสามารถในการนา แนวทางการจัดกิจกรรมของสถานศึกษา
ชมุ ชนมามีสว่ นรว่ มใน - ขอความร่วมมอื จากชมุ ชนบางโอกาส
กิจกรรมของสถานศกึ ษา - เขา้ ร่วมกจิ กรรมของชุมชนทกุ ๆครง้ั ท้งั
๙.๒ ความสามารถในการเขา้ งานประเพณีและกจิ กรรมท่เี ป็น
ร่วมกิจกรรมของชุมชน ประโยชน์
9
ะเวลาในการ หนว่ ยงานท่เี ป็น ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ
พฒั นา ผู้ดาเนินการพัฒนา
ปีการศกึ ษา - โรงเรยี นค้อ - ครมู คี วามรคู้ วามสามารถในการเขียน
- สานักงานเขตพ้นื ที่
การศึกษา ผลงานทางวิชาการและวิจัยในชัน้ เรยี น
แบบงา่ ยได้
- ผูเ้ รยี นได้รับการแก้ปญั หาที่ถกู วิธีโดย
ครทู าการวิจัยในช้ันเรยี น
- ครูมีการทาวจิ ยั ในช้นั เรยี นอย่าง
ต่อเน่อื ง
ปกี ารศึกษา - โรงเรยี นค้อ - ชุมชนให้ความร่วมมอื ในกิจกรรม
ตา่ งๆท่สี ถานศกึ ษาจดั ขนึ้ อยา่ งเตม็ ใจ
- ชมุ ชนมคี วามพึงพอใจในกิจกรรมท่ี
ผู้เรียน และสถานศกึ ษาจัดขึน้
ท่ี สมรรถนะทีจ่ ะพัฒนา ระยะเวลา
วิธีการ / รูปแบบการพัฒนา
๑๐ วินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม - เขา้ รับการอบรมพฒั นาดา้ น ตลอดปีการ
และจรรยาบรรณวิชาชีพ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมอย่างน้อยปีละ
๑๐.๑ การมวี นิ ยั ๑ คร้ัง
๑๐.๒ การประพฤตปิ ฏิบตั ิ - ประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นในการดารงชวี ิต
ตนเป็นแบบอย่างที่ดี โดยยดึ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ
๑๐.๓ การดารงชีวติ อย่าง พอเพียง
เหมาะสม - ประพฤตปิ ฏิบตั ติ นในวิชาชีพโดย
๑๐.๔ ความรกั และศรัทธา รักและศรทั ธาในวชิ าชพี ของตนเอง
ในวชิ าชพี ความรบั ผิดชอบใน โดยมีวนิ ัยในตนเอง
วชิ าชพี
10
าในการพัฒนา หนว่ ยงานท่เี ป็นผู้ดาเนนิ การ ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะได้รบั
พัฒนา
รศกึ ษา - โรงเรยี นคอ้ ตนเองเปน็ ผ้ทู ี่มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม
มีวนิ ัย มคี วามรบั ผิดชอบ มี
ความกา้ วหนา้ ในวิชาชพี ท่ีสงู
ย่งิ ๆข้ึน
ตารางท่ี ๒ สรปุ แผนพัฒนาตนเอง
ท่ี สมรรถนะทจี่ ะ วิธกี าร / รปู แบบการพัฒนา
พัฒนา
๑ การจดั การเรยี นรู้ - เข้ารับการอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน ศกึ ษาเอกสาร
เกีย่ วกบั หลกั สตู ร การออกแบบการเรยี นรู้ การเขียน
แผนการจดั ประสบการณ์ การวัดผลประเมินผลเพ่ือพฒั นา
ตนเอง
- เขา้ รับการอบรมเก่ียวกับการผลติ สื่อ การใช้สอ่ื ประเภท
ICT ทหี่ น่วยงานจัดขึ้นทกุ ๆครง้ั
๒ การพฒั นาผู้เรียน - จัดกิจกรรมส่งเสริม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมท่ีดีงาม
ให้กับผู้เรียนอยู่เสมอโดยการอบรมหน้าเสาธง กิจกรรม
โฮมรมู
- สง่ เสริมผู้เรียนตามความถนดั ความสามารถ โดยเนน้
กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรยี นเป็นสาคญั
11
ระยะเวลาในการ หน่วยงานที่เป็น ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะไดร้ บั
พฒั นา ผู้ดาเนนิ การ
พัฒนา ตนเองมีความสามารถในการจดั กิจกรรมการ
เรยี นรู้ โดยมีความรูเ้ ร่อื งการเขียนแผนการจัด
ตลอดปีการศกึ ษา - โรงเรยี นคอ้ ประสบการณ์ การวัดผลประเมนิ ผล ตลอดจน
- สานกั งานเขต การผลติ ส่อื การใช้สื่อ ประเภท ICT สง่ ผลตอ่
พื้นท่กี ารศึกษา การจดั กจิ กรรมใหก้ ับผู้เรียนอย่างสงู สุด
ตลอดปกี ารศึกษา - โรงเรยี นคอ้ ผเู้ รียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลักษณะท่ี
พึงประสงค์ มที กั ษะชวี ติ เป็นที่ยอมรับของ
สังคม
ท่ี สมรรถนะที่จะ วธิ ีการ / รูปแบบการพฒั นา
พัฒนา
๓ การบรหิ ารจัดการ - จัดบรรยากาศในช้ันเรยี นใหเ้ อือ้ ต่อการเรยี นรู้
ชน้ั เรียน - จดั มมุ ประสบการณต์ ่างๆเพือ่ ใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรู้
- จัดปา้ ยนิเทศเพอ่ื เปน็ ขอ้ มลู ขา่ วสารสาหรับการเรยี นรู้
- จดั ทาเอกสารงานธรุ การในชนั้ เรยี นใหเ้ ปน็ ปัจจุบนั
- จัดระบบการดูแลช่วยเหลือผเู้ รยี นและนาขอ้ มลู ไปใช้ใน
การพฒั นาผ้เู รียน
๔ การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ - จดั กิจกรรมการเรียนรู้ทเี่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ
- จดั กิจกรรมการเรียนรทู้ เ่ี นน้ ใหผ้ เู้ รยี นได้ปฏบิ ัติจริง
- จัดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้ส่อื นวัตกรรมทน่ี า่ สนใจ
ทัง้ ทางเทคโนโลยแี ละแหล่งเรยี นรู้
๕ การพัฒนาตนเอง - เข้ารบั การอบรม สมั มนาทห่ี น่วยงานตน้ สังกดั
หนว่ ยงานอ่ืนๆจดั ขนึ้
- ศกึ ษาดงู านโรงเรยี นตน้ แบบ บคุ ลากรต้นแบบเพ่ือ
นามาพัฒนาตนเอง
แลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั บคุ ลากรในโรงเรยี น
- ศึกษาเอกสาร ผลงานทางวชิ าการจากตารา วารสาร
- ศกึ ษาตอ่ ระดบั ปรญิ ญาโท
12
ระยะเวลาในการ หน่วยงานทเ่ี ปน็ ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั
พฒั นา ผดู้ าเนนิ การ
หอ้ งเรยี นมบี รรยากาศท่ีเออื้ ต่อการเรยี นรู้
พัฒนา ผู้เรยี นมีความสุขในการเรยี นรู้ ครมู ขี ้อมลู ต่างๆ
อย่างเป็นปจั จบุ นั ที่สามารถเปน็ แบบอย่างได้
ตลอดปีการศกึ ษา - โรงเรียนค้อ
ตลอดปีการศึกษา - โรงเรียนคอ้ ผเู้ รียนให้สนใจ ตง้ั ใจ มีความกระตือรือร้นท่ีจะ
- สานักงานเขต เรยี นรู้ มีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นทด่ี ีขึน้ มี
พื้นทีก่ ารศกึ ษา ทักษะในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตามศกั ยภาพของ
แตล่ ะบุคคล
ตลอดปกี ารศกึ ษา - โรงเรียนค้อ
- สานักงานเขต ตนเองเปน็ ผู้มคี ุณภาพ ได้รบั การพฒั นาไปใน
พืน้ ทกี่ ารศึกษา ทศิ ทางทีด่ ขี ึน้ ส่งผลและเกิดประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี น
โรงเรียน
ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะ วธิ ีการ / รปู แบบการพัฒนา
พัฒนา
๖ การวเิ คราะห์ - เข้ารับการอบรม พัฒนาการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
สงั เคราะหแ์ ละ จดั ทาสื่อการเรยี นรู้ เพื่อพัฒนาคณุ ภาพของครูและผ้เู รยี น
การวจิ ัยในชั้น - ศึกษาเอกสาร ตาราในการจัดทาเอกสารทางวชิ าการ
เรยี น - ศกึ ษาผลงานตวั อยา่ งในการทาผลงานทางวชิ าการ
- ดาเนินการวจิ ยั ในชน้ั เรยี นเพื่อแกป้ ัญหาตลอดจนพฒั นา
ผูเ้ รยี น
๗ การทางานเป็นทมี - รว่ มกิจกรรมที่เนน้ การทางานเปน็ ทมี
- ยอมรับฟงั ความคิดเห็นของเพอ่ื นรว่ มงาน โดยรจู้ กั การ
เป็นผ้ใู ห้และผู้รับทด่ี ี
- มคี วามสามคั คใี นหม่คู ณะ
๘ วนิ ยั คุณธรรม - เขา้ รับการอบรมพฒั นาด้านคุณธรรม จริยธรรมอยา่ งนอ้ ย
จริยธรรมและ ปีละ ๑ คร้งั
จรรยาบรรณ - ประพฤตปิ ฏิบัติตนในการดารงชีวิตโดยยึดหลกั ปรชั ญา
วิชาชพี เศรษฐกิจพอเพียง
- ประพฤตปิ ฏิบตั ติ นในวิชาชพี โดยรกั และศรัทธาในวชิ าชพี
ของตนเอง โดยมวี ินยั ในตนเอง
13
ระยะเวลาใน หน่วยงานท่เี ปน็ ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รบั
การพฒั นา ผดู้ าเนินการพัฒนา
- ครูมีความรคู้ วามสามารถในการเขียน
ตลอดปี - โรงเรียนคอ้ ผลงานทางวชิ าการและวิจยั ในชน้ั เรยี นแบบ
การศกึ ษา - สานกั งานเขตพน้ื ที่ ง่ายไดผ้ เู้ รยี นไดร้ บั การแก้ปัญหาทถ่ี กู วิธีโดย
การศกึ ษา ครทู าการวิจัยในชน้ั เรยี น
- ครมู กี ารทาวิจยั ในชนั้ เรียนอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
ตลอดปี - โรงเรียนคอ้
การศึกษา - เกดิ ความสามคั คใี นหมคู่ ณะ ส่งผลใหก้ าร
ดาเนนิ งานต่างๆบรรลผุ ลสาเรจ็ ตลอดจน
ตลอดปี - โรงเรยี นค้อ การมีความสุขในการปฏิบัติงาน
การศึกษา - สานักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษา - ตนเองเป็นผู้ทม่ี ีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีวินัย
มีความรับผดิ ชอบ มีความก้าวหน้าใน
วิชาชีพท่ีสูงยง่ิ ๆข้นึ
ท่ี สมรรถนะท่จี ะ วธิ ีการ / รปู แบบการพัฒนา ระ
พัฒนา พฒั
- ได้ให้บรกิ ารทางวิชาการแกค่ รูและบุคลากรทางการ ตล
๙ การบริการทีด่ ี ศกึ ษาทั้งในโรงเรยี นและนอกโรงเรยี นเพ่อื เปน็ การ
เผยแพร่ผลงานวชิ าการ ตล
๑๐ การสรา้ งความ - ดาเนินการประชมุ ผู้ปกครอง/กรรมการสถานศกึ ษา
ร่วมมือกับชุมชน เพ่ือชี้แจงนโยบาย แนวทางการจัดกจิ กรรมของ
สถานศึกษา
- ขอความร่วมมือจากชุมชนบางโอกาส
- เข้ารว่ มกิจกรรมของชุมชนทกุ ๆคร้งั ทัง้ งานประเพณี
และกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์
ความคดิ เหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรียน.................................................................................
.............................................................................................................................................
14
ะยะเวลาในการ หนว่ ยงานท่เี ปน็
ฒนา ผู้ดาเนนิ การพฒั นา ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รบั
ลอดปกี ารศกึ ษา - โรงเรียนคอ้ เกดิ ผลดีตอ่ เพื่อนร่วมงานในโรงเรยี นและ
ลอดปีการศกึ ษา - โรงเรียนคอ้ ต่างโรงเรยี น เพอื่ นามาพฒั นาการเรยี นการ
สอน
- ชมุ ชนให้ความร่วมมอื ในกิจกรรมต่างๆที่
สถานศกึ ษาจดั ขน้ึ อยา่ งเตม็ ใจ
- ชมุ ชนมคี วามพงึ พอใจในกจิ กรรมท่ี
ผเู้ รียน และสถานศกึ ษาจดั ขนึ้
ลงช่อื ........................................................
(นายกฤตเมธ สกลุ รกั ษ์)
ผู้จัดทาแผนพฒั นาตนเอง
..........................................................................................................................
...........................................................................................................................
ลงช่อื ……………………………………………….
(นายกสมนกึ วงษ์อินทร์)
ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรยี น
15
ผลการประเมินสมรรถนะครู สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน
ชอื่ นายกฤตเมธ สกุลรักษ์ ตาแหน่ง.........ครูผูช้ ่วย..............
โรงเรยี น บ้านค้อ สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา ประถมศกึ ษา สุรนิ ทร์ เขต ๒
สมรรถนะ คะแนนเฉลีย่ ระดับคณุ ภาพ
สมรรถนะหลัก (Core Competency)
๑. การมุ่งผลสัมฤทธใ์ิ นการปฏิบัตงิ าน
๒. การบริการท่ีดี
๓. การพฒั นาตนเอง
๔. การทางานเป็นทมี
๕. จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency)
๑. การบริหารจดั การหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้
๒. การพัฒนาผ้เู รียน
๓. การบริหารจดั การชน้ั เรียน
๔. การวิเคราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวจิ ัยเพ่ือพฒั นาผูเ้ รยี น
๕. ภาวะผ้นู าครู
๖. การสร้างความสมั พนั ธ์และความรว่ มมอื กบั ชุมชน
สรุปผล จานวน...........สมรรถนะ
สมรรถนะระดบั คณุ ภาพสูง จานวน...........สมรรถนะ
สมรรถนะระดบั คุณภาพปานกลาง
สมรรถนะระดับคุณภาพควรปรบั ปรุง จานวน...........สมรรถนะ
16
แบบประเมนิ สมรรถนะครผู ู้สอน
สงั กัดสานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา สุรินทร์ เขต ๒
ชือ่ นายกฤตเมธ สกลุ รักษ์ ตาแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย
โรงเรียน บ้านค้อ สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา ประถมศึกษาสรุ นิ ทร์ เขต ๒
ผปู้ ระเมนิ ตนเอง
เพือ่ นครูผ้สู อน
ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
คาชแ้ี จง
๑. แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับน้ีสาหรับให้ครูผู้สอนทาการประเมินสภาพการปฏิบัติงาน
ของตนเอง เพื่อนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจริง เพ่ือเป็นข้อมูลพ้ืนฐานใน
การพัฒนาคุณภาพการปฏบิ ัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้รบั รองผลการประเมนิ
อกี คร้ังหนง่ึ
๒. แบบประเมนิ สมรรถนะฉบับน้ี แบง่ ออกเป็น ๒ ตอน
ตอนท่ี ๑ ข้อมูลเก่ียวกบั ครูผูส้ อน
ตอนที่ ๒ การประเมินสมรรถนะของครูผู้สอน ประกอบดว้ ยสมรรถนะหลกั ๕ สมรรถนะ
และสมรรถนะประจาสายงาน ๖ สมรรถนะ
๓. ใหผ้ ปู้ ระเมินอา่ นรายการคาถามในแต่ละสมรรถนะให้ดกี อ่ นทจี่ ะทาการประเมินสมรรถนะ
การปฏิบตั ิงาน
๔. วิธีการประเมินสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ าน ให้ท่านทาเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งสภาพการปฏิบตั ิงานในแต่
ละรายการคาถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จริง
ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ผ้รู บั การประเมิน
๑. เพศ ชาย หญิง
๒. ตาแหนง่ ปจั จุบนั ของผ้รู ับการประเมนิ
ครผู ชู้ ่วย ครู คศ. ๑ ครู คศ. ๒
ครู คศ. ๕
ครู คศ. ๓ ครู คศ. ๔
๓. ระดับการศึกษาสูงสุด
ต่ากวา่ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปรญิ ญาเอก
๔. อายรุ าชการ ............... เดอื น
๕. กล่มุ สาระการเรียนรทู้ ี่ถนัดหรือเชี่ยวชาญ คอื คณติ ศาสตร์
17
ตอนท่ี ๒ การประเมนิ สมรรถนะในการปฏิบัติงานของครูผูส้ อน (ผู้รบั การประเมนิ )
ใหท้ ่านพิจารณาสภาพการดาเนนิ งานในแต่ละประเด็นย่อยในแต่ละสมรรถนะของผูร้ บั การประเมินแล้วทา
เครอื่ งหมาย ลงในชอ่ งสภาพการปฏบิ ัตงิ านของครูผสู้ อนในประเดน็ ยอ่ ยของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเป็น
จริง
๑. สมรรถนะหลกั (Core Competency)
ระดับการปฏิบตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก
ท่สี ุด กลาง ทสี่ ุด
๑. สมรรถนะการมุ่งผลสัมฤทธใิ์ นการปฏบิ ตั งิ าน
๑.๑ วเิ คราะห์ภารกิจงานเพอ่ื วางแผนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
๑.๒ กาหนดเปา้ หมายในการปฏิบตั ิงานทุกภาคเรียน
๑.๓ กาหนดแผนการปฏบิ ตั ิงานอยา่ งเป็นขัน้ ตอน
๑.๔ ใฝเ่ รยี นรเู้ กีย่ วกับการจดั การเรียนรู้
๑.๕ รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ในการพัฒนาการจดั การเรยี นรู้
๑.๖ แสวงหาความรู้ท่เี กย่ี วกบั วชิ าชพี ใหม่ ๆ เพื่อการพัฒนาตนเอง
๑.๗ ประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านของตนเอง
๑.๘ ใช้ผลการประเมินในการปฏิบตั งิ านมาใชป้ รับปรุง/พฒั นา
การทางานใหด้ ียง่ิ ขน้ึ
๑.๙ พฒั นาการปฏบิ ัติงานเพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของผ้เู รียน
ผปู้ กครอง และชมุ ชน
๒. สมรรถนะการบริการท่ีดี
๒.๑ ใหบ้ ริการดว้ ยความยิ้มแย้มใจใส่ เหน็ อกเหน็ ใจผ้มู ารับบริการ
๒.๒ ใหบ้ ริการอย่างรวดเรว็ ทนั ใจ ไม่ลา่ ชา้
๒.๓ ใหบ้ รกิ ารอย่างมคี วามเคารพยกยอ่ ง ออ่ นน้อมให้เกียรติ
ผ้รู บั บริการ
๒.๔ ใหบ้ ริการดว้ ยความมุ่งม่นั ตงั้ ใจและเตม็ อกเต็มใจ
๒.๕ แกป้ ัญหาให้กบั นักเรยี น และผ้ปู กครองหรอื ผู้มาขอรบั บรกิ าร
๒.๖ ให้บรกิ ารโดยยดึ ความต้องการของผู้รบั บรกิ ารเปน็ หลกั
๒.๗ ใหบ้ รกิ ารเกนิ ความคาดหวงั แม้ต้องใชเ้ วลาหรอื ความพยามยาม
อย่างมาก
๓. สมรรถนะการพัฒนาตนเอง
๓.๑ ศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้ ม่งุ ม่นั และแสวงหาโอกาสพฒั นาตนเอง
ดว้ ยวิธีท่ีหลากหลาย
18
ระดบั การปฏิบตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ทีส่ ดุ กลาง ทส่ี ดุ
๓.๒ วเิ คราะหจ์ ุดแขง็ และจดุ อ่อนเก่ียวกับการจดั การเรียนรูข้ อง
ตนเองอย่างต่อเนื่อง
๓.๓ ศกึ ษา ค้นคว้าหาองคค์ วามรู้ใหม่ ๆ ทางวิชาการเพ่ือพฒั นา
ตนเองและวชิ าชีพ
๓.๔ แลกเปลี่ยนเรยี นร้กู บั ผ้อู ่นื เพอ่ื การพฒั นาตนเองทุกคร้ังที่มี
โอกาส
๓.๕ เข้ารับการอบรมเพอ่ื พฒั นาตนเองจากหนว่ ยงานต่างๆ อยา่ ง
ต่อเนอ่ื ง
๓.๖ ให้คาปรกึ ษา แนะนา นเิ ทศ และถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์
ทางวิชาชพี แกผ่ ้อู ื่น
๓.๗ มีการสร้างเครอื ขา่ ยการเรยี นรู้เพือ่ การพฒั นาตนเองท้งั ในและ
นอกสถานศึกษา
๔. สมรรถนะการทางานเป็นทมี
๔.๑ สร้างสัมพันธภาพทด่ี ใี นการทางานร่วมกับผู้อื่น
๔.๒ ทางานร่วมกับผู้อนื่ ตามบทบาทหนา้ ที่ทไี่ ด้รับมอบหมาย
๔.๓ ชว่ ยเหลอื เพือ่ นรว่ มงานเพอ่ื สู่เป้าหมายความสาเร็จรว่ มกัน
๔.๔ ใหเ้ กยี รติ ยกย่องชมเชย ใหก้ าลงั ใจแก่เพื่อนร่วมงานในโอกาส
ที่เหมาะสม
๔.๕ มีทักษะในการทางานร่วมกับบุคคล/กลุ่มบุคคลไดอ้ ยา่ งมีประ
สิทธิภาพท้งั ภายในและภายนอกสถานศกึ ษาและในทกุ สถานการณ์
๔.๖ แสดงบทบาทผนู้ าหรอื ผู้ตามในการทางานรว่ มกบั ผ้อู ่ืนได้
เหมาะสมในทุกโอกาส
๔.๗ แลกเปลย่ี น/รับฟงั ความคิดเหน็ และประสบการณภ์ ายใน
ทมี งาน
๔.๘ รว่ มกบั เพอื่ นรว่ มงานในการสรา้ งวฒั นธรรมการทางานเป็นทีม
ให้เกิดขึน้ ในสถานศกึ ษา
๕. สมรรถนะจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู
๕.๑ ยดึ มนั่ ในอุดมการณ์ของวิชาชีพ ปกปอ้ งเกยี รติและศกั ดิ์ศรี
ของวิชาชีพ
19
ระดับการปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก
ท่สี ุด กลาง ทีส่ ุด
๕.๒ เสียสละ อทุ ศิ ตนเพอ่ื ประโยชนต์ ่อวชิ าชพี และเป็นสมาชิกที่ดี
ขององค์กรวชิ าชีพ
๕.๓ ยกยอ่ ง ชื่นชมบุคคลท่ปี ระสบความสาเรจ็ ในวชิ าชีพ
๕.๔ ซอ่ื สัตย์ตอ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใชจ้ ่ายและใช้
ทรพั ยากรอย่างประหยดั
๕.๕ ปฏบิ ัติตนตามกฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ และขนบธรรมเนยี ม
ประเพณี
๕.๖ ปฏิบตั ติ นและดาเนนิ ชวี ติ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งได้เหมาะสมกบั สถานะของตน
๕.๗ รกั ษาสทิ ธปิ ระโยชน์ของตนเอง และไมล่ ะเมิดสิทธิของผู้อ่นื
๕.๘ เอ้อื เฟ้ือเผือ่ แผ่ ช่วยเหลอื และไมเ่ บยี ดเบียนผอู้ ื่น
๕.๙ มีความเป็นกัลยาณมิตรตอ่ ผเู้ รียนเพอ่ื นร่วมงานและผูร้ ับบริการ
๕.๑๐ ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั การครองตน ครองคน ครองงาน เพื่อให้
การปฏิบัติงานบรรลผุ ลสาเรจ็
๒. สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency)
ระดบั การปฏิบัติ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ที่สุด กลาง ที่สดุ
๑. สมรรถนะการบริหารจัดการหลกั สูตรและการจัดการเรยี น
๑.๑ ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู้อยา่ งหลากหลายสอดคล้องกับ
วยั ความตอ้ งการของผ้เู รียน ชุมชน
๑.๒ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดกจิ กรรมและ
การประเมนิ ผลการเรียนรู้
๑.๓ ใชร้ ูปแบบ/เทคนิควิธีการสอนอยา่ งหลากหลายเพ่ือใหผ้ ู้เรียน
พัฒนาเตม็ ตามศักยภาพ
๑.๔ จัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ป่ี ลูกฝัง/ส่งเสริมคุณลักษณะอันพงึ
ประสงคแ์ ละสมรรถนะของผเู้ รียน
๑.๕ ใชห้ ลกั จติ วิทยาในการจดั การเรียนรู้ให้ผู้เรยี นเรยี นรู้อย่างมี
ความสุขและพัฒนาเต็มศักยภาพ
๑.๖ ใชแ้ หล่งเรยี นรูแ้ ละภูมปิ ัญญาท้องถิ่นในชุมชนในการจดั การ
เรียนรู้
20
ระดับการปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ทสี่ ุด กลาง ทส่ี ุด
๑.๗ ใชส้ อ่ื นวัตกรรม และเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกับ
เน้อื หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้
๑.๘ ใชเ้ ทคโนโลยีคอมพวิ เตอรใ์ นการผลิตส่อื /นวัตกรรมทใ่ี ชใ้ น
การเรยี นรู้
๑.๙ ออกแบบวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกับ
เนื้อหาและกจิ กรรมการเรยี นรู้
๑.๑๐ สร้างและนาเครือ่ งมอื วัดและประเมินผลไปใช้อยา่ งถูกต้อง
เหมาะสม
๑.๑๑ วดั และประเมินผลผู้เรยี นตามสภาพจริง
๑.๑๒ นาผลการประเมนิ การเรยี นรมู้ าใช้ในการพัฒนาการจัดการ
เรียนรู้
๒. สมรรถนะการพฒั นาผเู้ รียน
๒.๑ สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมแก่ผูเ้ รียนในการจัดการเรยี นรู้
ในชนั้ เรียน
๒.๒ จดั กจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมให้แกผ่ ู้เรยี นโดยให้
ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในการวางแผนกจิ กรรม
๒.๓ จดั ทาโครงการ/กิจกรรมทสี่ ง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมให้แก่
ผ้เู รียน
๒.๔ จดั กจิ กรรมเพ่ือพฒั นาผ้เู รยี นด้านการดูแลตนเอง มีทักษะใน
การเรยี นรู้ การทางาน การอยู่ร่วมกันในสงั คม และรู้เทา่ ทนั
การเปลี่ยนแปลง
๒.๕ สอดแทรกความเปน็ ประชาธิปไตย ความภูมิใจในความเปน็
ไทยให้แกผ่ ูเ้ รยี นในการจัดการเรียนรู้
๒.๖ จดั ทาโครงการ/กิจกรรมที่ส่งเสรมิ ความเป็นประชาธิปไตย
ความภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย
๒.๗ ใหผ้ ู้ปกครองมีสว่ นรว่ มในการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี น
รายบุคคล
๒.๘ นาข้อมลู นักเรียนไปใชช้ ว่ ยเหลือ/พฒั นาผู้เรียนทัง้ ดา้ นการ
เรียนรแู้ ละปรบั พฤตกิ รรมเปน็ รายบุคคล
๒.๙ จดั กจิ กรรมเพือ่ ป้องกนั แกไ้ ขปญั หาและส่งเสริมพัฒนาผู้เรียน
ให้แกน่ กั เรยี นอยา่ งทัว่ ถึง
๒.๑๐ ส่งเสริมให้ผู้เรยี นปฏบิ ตั ติ นให้ถูกตอ้ งเหมาะสมกับค่านยิ ม
ที่ดีงาม
21
ระดับการปฏบิ ัติ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ที่สดุ กลาง ที่สดุ
๒.๑๑ ดูแลนักเรียนทุกคนอย่างท่ัวถงึ ทันเหตุการณ์
๒.๑๒ส่งเสริมการมปี ฏิสมั พันธท์ ่ดี ีระหวา่ งครูกบั ผูเ้ รยี นและผู้เรยี น
กบั ผ้เู รียน
๒.๑๓ตรวจสอบสงิ่ อานวยความสะดวกในห้องเรยี นใหพ้ ร้อมใช้
และปลอดภัย
๓. สมรรถนะการบริหารจัดการชนั้ เรยี น
๓.๑ จดั สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นทีเ่ ออ้ื ต่อการ
เรยี นรู้
๓.๒ ส่งเสริมการมีปฏิสัมพนั ธ์ท่ดี รี ะหว่างครกู บั ผเู้ รยี นและผู้เรยี น
กบั ผเู้ รียน
๓.๓ ตรวจสอบส่งิ อานวยความสะดวกในห้องเรยี นใหพ้ ร้อมใชแ้ ละ
ปลอดภยั
๓.๔ จัดทาขอ้ มลู สารสนเทศของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คลและ
เอกสารประจาชั้นเรียนครบถว้ นเป็นปัจจบุ นั
๓.๕ นาข้อมูลสารสนเทศไปใชใ้ นการพัฒนาผู้เรียนไดอ้ ย่างเตม็
ศกั ยภาพ
๓.๖ ใหผ้ ูเ้ รียนมสี ่วนร่วมในการกาหนดกฎ กตกิ า ขอ้ ตกลงในชนั้
เรียน
๓.๗ แกป้ ัญหา/พฒั นานักเรยี นด้านระเบยี บวินัยโดยการสรา้ งวินยั
เชิงบวกในชัน้ เรียน
๓.๘ ประเมิน การกากบั ดูแลช้นั เรียน และนาผลการประเมนิ ไปใช้
ในการปรับปรุงและพัฒนา
๔. สมรรถนะการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และการวิจยั เพ่ือพฒั นา
ผ้เู รียน
๔.๑ สารวจปญั หาเก่ียวกบั นักเรยี นทีเ่ กดิ ขึ้นในชนั้ เรยี นเพ่ือ
วางแผนการวจิ ยั เพอื่ พฒั นาผู้เรยี น
๔.๒ วิเคราะหส์ าเหตขุ องปญั หาเกยี่ วกับนกั เรยี นท่ีเกิดขนึ้ ในช้นั
เรยี นเพ่ือกาหนดทางเลอื กในการแก้ไขปญั หาระบุสภาพปจั จุบนั
22
ระดับการปฏิบตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก
๓. สมรรถนะการบรหิ ารจัดการช้นั เรยี น ทสี่ ดุ กลาง ทส่ี ดุ
๓.๑ จัดสภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นที่เอ้อื ต่อการ
เรยี นรู้
๓.๒ สง่ เสริมการมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ท่ดี รี ะหวา่ งครกู บั ผเู้ รียนและผ้เู รียน
กบั ผู้เรียน
๓.๓ ตรวจสอบสง่ิ อานวยความสะดวกในห้องเรยี นให้พรอ้ มใช้และ
ปลอดภยั
๓.๔ จัดทาขอ้ มูลสารสนเทศของนักเรียนเปน็ รายบุคคลและ
เอกสารประจาชนั้ เรยี นครบถ้วนเป็นปัจจบุ ัน
๓.๕ นาขอ้ มูลสารสนเทศไปใชใ้ นการพฒั นาผูเ้ รียนได้อยา่ งเตม็
ศักยภาพ
๓.๖ ให้ผู้เรียนมสี ว่ นร่วมในการกาหนดกฎ กตกิ า ข้อตกลงในชั้น
เรยี น
๓.๗ แกป้ ัญหา/พัฒนานักเรียนดา้ นระเบยี บวนิ ยั โดยการสร้างวินยั
เชงิ บวกในชัน้ เรียน
๓.๘ ประเมนิ การกากบั ดูแลชน้ั เรียน และนาผลการประเมนิ ไปใช้
ในการปรับปรงุ และพฒั นา
๔. สมรรถนะการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และการวิจัยเพื่อพัฒนาผเู้ รยี น
๔.๑ สารวจปัญหาเกย่ี วกับนกั เรยี นทเี่ กดิ ข้ึนในช้นั เรียนเพอื่
วางแผนการวิจัยเพือ่ พัฒนาผูเ้ รียน
๔.๒ วิเคราะหส์ าเหตุของปัญหาเกย่ี วกับนกั เรยี นท่เี กดิ ข้นึ ในชนั้
เรียนเพอื่ กาหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปญั หาระบุสภาพปจั จุบนั
๔.๓ รวบรวม จาแนกและจดั กลุ่มของสภาพปญั หา แนวคดิ ทฤษฏี
และวธิ ีการแก้ปัญหาเพื่อสะดวกตอ่ การนาไปใช้
๔.๔ มีการประมวลผลหรอื สรปุ ข้อมูลสารสนเทศท่ีเปน็ ประโยชน์
ตอ่ การแก้ไขปัญหาในชัน้ เรียนโดยใช้ข้อมลู รอบดา้ น
๔.๕ มกี ารวเิ คราะหจ์ ดุ เดน่ จดุ ด้อย อุปสรรคและโอกาส
ความสาเรจ็ ของการวจิ ยั เพอ่ื แกป้ ญั หาท่เี กดิ ข้นึ ในช้ันเรียน
๔.๖ จัดทาแผนการวิจยั และดาเนินกระบวนการวจิ ัยอยา่ งเปน็
ระบบตามแผนดาเนนิ การวิจยั ท่ีกาหนดไว้
23
ระดับการปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ที่สุด กลาง ท่สี ุด
๔.๗ ตรวจสอบความถูกตอ้ งและความนา่ เชอ่ื ถือของผลการวิจยั
อยา่ งเป็นระบบ
๔.๘ มกี ารนาผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในกรณีศึกษาอ่ืนๆ ทม่ี ี
บริบทของปญั หาที่คล้ายคลงึ กนั
๔.๙ นาขอ้ มูลนกั เรยี นไปใช้ชว่ ยเหลือ/พัฒนาผู้เรียนทง้ั ดา้ นการ
เรยี นร้แู ละปรบั พฤตกิ รรมเปน็ รายบคุ คล
๔.๑๐ จดั กจิ กรรเพอื่ ป้องกนั แกไ้ ขปัญหาและส่งเสรมิ พฒั นาผูเ้ รยี น
ใหแ้ ก่นักเรยี นอย่างทว่ั ถึง
๕. สมรรถนะภาวะผนู้ าครู
๕.๑ เห็นคณุ ค่าให้ความสาคญั ในความคิดเหน็ หรือผลงานและให้
เกียรตผิ ู้อืน่
๕.๒ กระตุ้นจูงใจ ปรบั เปล่ยี นความคิดและการกระทาของผอู้ ื่น
ให้มคี วามผูกพนั และม่งุ มนั่ ตอ่ เปา้ หมายในการทางานร่วมกัน
๕.๓ มีปฏิสัมพันธใ์ นการสนทนาอยา่ งสร้างสรรคก์ ับผอู้ น่ื โดยม่งุ เน้น
ไปการเรียนรู้ และการพฒั นาวิชาชีพ
๕.๔ มีทักษะการฟงั การพูด และการต้งั คาถามเปิดใจกว้าง
ยดื หยุน่ ยอมรบั ทศั นะทห่ี ลากหลายของผ้อู ื่นเพ่อื เปน็ แนวทาง
ใหม่ๆ ในการปฏิบตั งิ าน
๕.๕ ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี ป็นปัจจบุ ันโดยมกี าร
วางแผนอย่างมีวสิ ยั ทศั นซ์ ่งึ เชอ่ื มโยงกบั วิสยั ทศั น์ เป้าหมายและ
พนั ธกจิ ของโรงเรยี น
๕.๖ ริเร่ิมการปฏบิ ตั ิทีน่ าไปส่กู ารเปล่ยี นแปลงและพัฒนนวตั กรรม
๕.๗ กระตนุ้ ผ้อู ่ืนใหม้ ีการเรยี นร้แู ละความร่วมมอื กันในวงกว้างเพ่ือ
พัฒนาผู้เรียน สถานศกึ ษา และวิชาชพี
๕.๘ ปฏิบัตงิ านรว่ มกบั ผู้อน่ื ภายใต้ระบบ/ขน้ั ตอนทีเ่ ปลยี่ นแปลง
ไปจากเดมิ ได้
๕.๙ สนับสนนุ ความคิดรเิ ร่มิ ซง่ึ เกดิ จากการพิจารณาไตรต่ รองของ
เพอื่ นรว่ มงาน และมีสว่ นรว่ มในการพฒั นานวัตกรรมตา่ งๆ
24
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ทส่ี ดุ กลาง ทส่ี ดุ
๕.๙ สนับสนนุ ความคดิ ริเริม่ ซง่ึ เกิดจากการพจิ ารณาไตรต่ รองของ
เพอ่ื นรว่ มงาน และมีสว่ นรว่ มในการพัฒนานวตั กรรมต่างๆ
๕.๑๐ ใช้เทคนคิ วธิ กี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมนิ การ
ปฏิบตั งิ านของตนเองและผลการดาเนนิ งานสถานศกึ ษา
๕.๑๑ กาหนดเป้าหมายและมาตรฐานการเรยี นรทู้ ่ที า้ ทายความ
สามารถของตนเองตามสภาพจริงและปฏบิ ัตใิ ห้บรรลผุ ลสาเรจ็ ได้
๕.๑๒ ยอมรับขอ้ มลู ป้อนกลับเกย่ี วกับความคาดหวงั ด้านการ
เรียนรู้ของผู้เรียนจากผปู้ กครอง
๖. สมรรถนะการสร้างความสัมพนั ธ์และความร่วมมอื กับชุมชนเพ่อื การจัดการเรยี นรู้
๖.๑ มีปฏสิ ัมพันธ์ทด่ี กี บั ผปู้ กครองและชุมชนในการตดิ ต่อสอื่ สาร
เพ่ือการจัดการเรียนรู้
๖.๒ ประสานงานกบั ผปู้ กครองและชมุ ชนให้เข้ามามสี ว่ นรว่ ม
ในการจัดการเรยี นรูอ้ ยา่ งต่อเนือ่ งตลอดปีการศกึ ษา
๖.๓ เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนเก่ยี วข้องเข้ารว่ มวางแผนการจัด
กจิ กรรมการเรยี นรใู้ นระดับช้นั เรียน
๖.๔ เปิดโอกาสใหผ้ ู้ปกครองและชมุ ชนเข้ามาแลกเปลีย่ นเรยี นรู้
เกี่ยวกบั การจัดการเรยี นการสอนในสถานศกึ ษา
๖.๕ สรา้ งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างครู ผ้ปู กครอง ชมุ ชนและ
องค์กรอนื่ ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
สารสนเทศเพือ่ การจดั การเรียนรู้
๖.๖ จดั กิจกรรมการเรียนรู้ทใ่ี ห้ปราชญ์ชาวบ้านหรอื ภูมปิ ัญญา
ในทอ้ งถน่ิ เขา้ มามสี ่วนร่วม
๖.๗ มกี ารเปดิ โอกาสใหผ้ มู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียของสถานศึกษาเข้ามา
มสี ่วนรว่ มในการประเมนิ ผลการจัดการศึกษา
๖.๘ มกี ารเสนอผลการจัดการเรียนรตู้ ่อฝา่ ยต่าง ๆ ของชุมชน
เพอ่ื แลกเปลย่ี นเรียนรแู้ ละแก้ไขปญั หารว่ มกันในทุกภาคเรียน
ลงชอื่ .................................................. ผปู้ ระเมิน
(นายกฤตเมธ สกุลรักษ์)
ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย
25
แบบประเมินสมรรถนะครูผูส้ อน
สังกัดสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา สรุ นิ ทร์ เขต ๒
ช่ือ ตาแหน่ง ครู คศ.๓
โรงเรยี น บา้ นค้อ สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา ประถมศกึ ษาสรุ ินทร์ เขต ๒
ผปู้ ระเมนิ ตนเอง
เพื่อนครูผู้สอน
ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา
คาช้แี จง
๑. แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับน้ีสาหรับให้ครูผู้สอนทาการประเมินสภาพการปฏิบัติงาน
ของตนเอง เพ่ือนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจริง เพื่อเป็นข้อมูลพ้ืนฐานใน
การพัฒนาคุณภาพการปฏบิ ัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้รบั รองผลการประเมนิ
อีกครงั้ หนง่ึ
๒. แบบประเมนิ สมรรถนะฉบับนี้ แบ่งออกเปน็ ๒ ตอน
ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู เกี่ยวกับครผู ้สู อน
ตอนท่ี ๒ การประเมินสมรรถนะของครูผสู้ อน ประกอบด้วยสมรรถนะหลัก ๕ สมรรถนะ
และสมรรถนะประจาสายงาน ๖ สมรรถนะ
๓. ให้ผู้ประเมนิ อา่ นรายการคาถามในแตล่ ะสมรรถนะใหด้ ีก่อนท่ีจะทาการประเมินสมรรถนะ
การปฏิบัติงาน
๔. วิธกี ารประเมนิ สมรรถนะในการปฏิบตั งิ าน ให้ทา่ นทาเครอื่ งหมาย ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานในแต่
ละรายการคาถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเป็นจริง
ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลเกย่ี วกับผูร้ บั การประเมนิ
๑. เพศ ชาย หญงิ
๒. ตาแหนง่ ปจั จุบันของผ้รู ับการประเมิน
ครูผู้ช่วย ครู คศ. ๑ ครู คศ. ๒
ครู คศ. ๓ ครู คศ. ๔ ครู คศ. ๕
26
ตอนที่ ๒ การประเมินสมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ านของครผู ู้สอน (ผู้รบั การประเมิน)
ให้ท่านพจิ ารณาสภาพการดาเนินงานในแต่ละประเด็นยอ่ ยในแตล่ ะสมรรถนะของผูร้ ับการประเมินแล้วทาเคร่อื งหมาย
ลงในช่องสภาพการปฏิบัติงานของครผู สู้ อนในประเดน็ ยอ่ ยของแตล่ ะสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จรงิ
๑. สมรรถนะหลัก (Core Competency)
ระดบั การปฏิบตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ทส่ี ุด กลาง ทส่ี ดุ
๑. สมรรถนะการมุ่งผลสัมฤทธใิ์ นการปฏบิ ัตงิ าน
๑.๑ วเิ คราะหภ์ ารกจิ งานเพื่อวางแผนการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ
๑.๒ กาหนดเป้าหมายในการปฏบิ ตั ิงานทุกภาคเรียน
๑.๓ กาหนดแผนการปฏิบัติงานอย่างเป็นขน้ั ตอน
๑.๔ ใฝเ่ รยี นรเู้ กย่ี วกับการจัดการเรียนรู้
๑.๕ ริเรม่ิ สรา้ งสรรคใ์ นการพฒั นาการจดั การเรียนรู้
๑.๖ แสวงหาความร้ทู ี่เกี่ยวกบั วิชาชีพใหม่ ๆ เพอ่ื การพัฒนาตนเอง
๑.๗ ประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานของตนเอง
๑.๘ ใชผ้ ลการประเมนิ ในการปฏบิ ตั งิ านมาใช้ปรบั ปรุง/พฒั นา
การทางานให้ดียงิ่ ขน้ึ
๑.๙ พฒั นาการปฏิบัติงานเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของผู้เรียน
ผปู้ กครอง และชุมชน
๒. สมรรถนะการบริการท่ีดี
๒.๑ ใหบ้ รกิ ารด้วยความย้มิ แย้มใจใส่ เหน็ อกเห็นใจผมู้ ารับบรกิ าร
๒.๒ ใหบ้ รกิ ารอยา่ งรวดเรว็ ทนั ใจ ไม่ล่าช้า
๒.๓ ให้บรกิ ารอย่างมีความเคารพยกย่อง อ่อนนอ้ มให้เกียรติ
ผูร้ ับบริการ
๒.๔ ใหบ้ รกิ ารดว้ ยความมงุ่ ม่นั ตง้ั ใจและเตม็ อกเต็มใจ
๒.๕ แก้ปญั หาใหก้ บั นกั เรียน และผปู้ กครองหรือผูม้ าขอรบั บรกิ าร
๒.๖ ใหบ้ ริการโดยยึดความต้องการของผ้รู บั บริการเป็นหลัก
๒.๗ ใหบ้ ริการเกินความคาดหวัง แม้ตอ้ งใชเ้ วลาหรือความพยามยาม
อยา่ งมาก
27
ระดบั การปฏิบัติ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก
๓. สมรรถนะการพฒั นาตนเอง ทสี่ ุด กลาง ทีส่ ุด
๓.๑ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ มงุ่ มัน่ และแสวงหาโอกาสพัฒนาตนเอง
ดว้ ยวิธีท่ีหลากหลาย
๓.๒ วิเคราะหจ์ ดุ แขง็ และจดุ อ่อนเกยี่ วกบั การจัดการเรยี นรขู้ อง
ตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๓.๓ ศึกษา คน้ คว้าหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ทางวชิ าการเพ่อื พัฒนา
ตนเองและวชิ าชีพ
๓.๔ แลกเปลีย่ นเรียนรู้กับผู้อ่นื เพื่อการพฒั นาตนเองทุกครง้ั ที่มี
โอกาส
๓.๕ เขา้ รับการอบรมเพอื่ พัฒนาตนเองจากหนว่ ยงานต่างๆ อย่าง
ต่อเน่ือง
๓.๖ ให้คาปรึกษา แนะนา นเิ ทศ และถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณ์
ทางวชิ าชพี แก่ผ้อู น่ื
๓.๗ มกี ารสร้างเครอื ข่ายการเรยี นรู้เพอื่ การพฒั นาตนเองทั้งในและ
นอกสถานศึกษา
๔. สมรรถนะการทางานเป็นทมี
๔.๑ สรา้ งสมั พนั ธภาพทีด่ ใี นการทางานรว่ มกบั ผู้อื่น
๔.๒ ทางานรว่ มกบั ผูอ้ ื่นตามบทบาทหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย
๔.๓ ชว่ ยเหลือเพ่อื นร่วมงานเพือ่ สู่เปา้ หมายความสาเร็จรว่ มกัน
๔.๔ ใหเ้ กียรติ ยกยอ่ งชมเชย ใหก้ าลงั ใจแกเ่ พอ่ื นร่วมงานในโอกาส
ทีเ่ หมาะสม
๔.๕ มีทักษะในการทางานร่วมกบั บุคคล/กลมุ่ บุคคลไดอ้ ย่างมีประ
สทิ ธิภาพทั้งภายในและภายนอกสถานศกึ ษาและในทุกสถานการณ์
๔.๖ แสดงบทบาทผ้นู าหรอื ผตู้ ามในการทางานร่วมกบั ผู้อื่นได้
เหมาะสมในทุกโอกาส
๔.๗ แลกเปลี่ยน/รบั ฟังความคดิ เห็นและประสบการณภ์ ายใน
ทีมงาน
28
ระดับการปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ทสี่ ดุ กลาง ทสี่ ดุ
๔.๘ รว่ มกบั เพ่อื นรว่ มงานในการสร้างวัฒนธรรมการทางานเป็นทีม
ใหเ้ กิดข้ึนในสถานศึกษา
๕. สมรรถนะจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี ครู
๕.๑ ยดึ มัน่ ในอุดมการณข์ องวชิ าชพี ปกป้องเกยี รติและศกั ด์ิศรี
ของวชิ าชพี
๕.๒ เสียสละ อุทิศตนเพอ่ื ประโยชน์ตอ่ วชิ าชพี และเปน็ สมาชิกท่ีดี
ขององคก์ รวิชาชีพ
๕.๓ ยกยอ่ ง ชน่ื ชมบุคคลทปี่ ระสบความสาเร็จในวิชาชีพ
๕.๔ ซอ่ื สัตยต์ อ่ ตนเอง ตรงตอ่ เวลา วางแผนการใชจ้ า่ ยและใช้
ทรัพยากรอย่างประหยดั
๕.๕ ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบยี บ ข้อบังคับ และขนบธรรมเนียม
ประเพณี
๕.๖ ปฏบิ ัตติ นและดาเนินชวี ิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งไดเ้ หมาะสมกับสถานะของตน
๕.๗ รักษาสทิ ธิประโยชนข์ องตนเอง และไม่ละเมิดสิทธขิ องผอู้ ่ืน
๕.๘ เออื้ เฟือ้ เผือ่ แผ่ ช่วยเหลอื และไมเ่ บียดเบียนผู้อื่น
๕.๙ มคี วามเปน็ กัลยาณมติ รต่อผู้เรียนเพื่อนรว่ มงานและผรู้ บั บริการ
๕.๑๐ ปฏิบัตติ นตามหลกั การครองตน ครองคน ครองงาน เพื่อให้
การปฏบิ ัตงิ านบรรลผุ ลสาเรจ็
29
๒. สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency)
ระดับการปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ท่สี ดุ กลาง ท่ีสดุ
๑. สมรรถนะการบริหารจัดการหลักสูตรและการจดั การเรยี นรู้
๑.๑ ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรอู้ ยา่ งหลากหลายสอดคล้องกบั
วัย ความต้องการของผเู้ รยี น ชมุ ชน
๑.๒ เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการกาหนดกิจกรรมและ
การประเมินผลการเรยี นรู้
๑.๓ ใชร้ ูปแบบ/เทคนิควิธกี ารสอนอยา่ งหลากหลายเพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี น
พฒั นาเต็มตามศักยภาพ
๑.๔ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ทีป่ ลูกฝัง/สง่ เสริมคุณลักษณะอันพงึ
ประสงค์และสมรรถนะของผู้เรยี น
๑.๕ ใช้หลกั จติ วิทยาในการจัดการเรยี นร้ใู หผ้ ู้เรียนเรยี นรอู้ ย่างมี
ความสขุ และพฒั นาเต็มศกั ยภาพ
๑.๖ ใชแ้ หล่งเรียนรูแ้ ละภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ในชมุ ชนในการจดั การ
เรยี นรู้
๑.๗ ใชส้ ือ่ นวัตกรรม และเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกับ
เนือ้ หาและกจิ กรรมการเรยี นรู้
๑.๘ ใชเ้ ทคโนโลยีคอมพวิ เตอรใ์ นการผลิตสื่อ/นวัตกรรมทใ่ี ชใ้ น
การเรยี นรู้
๑.๙ ออกแบบวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลหลากหลายเหมาะสมกับ
เนื้อหาและกิจกรรมการเรยี นรู้
30
ระดับการปฏิบัติ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก
ท่ีสุด กลาง ที่สดุ
๑.๑๐ สรา้ งและนาเคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผลไปใชอ้ ยา่ งถกู ต้อง
เหมาะสม
๑.๑๑ วดั และประเมนิ ผลผูเ้ รยี นตามสภาพจริง
๑.๑๒ นาผลการประเมินการเรียนรูม้ าใช้ในการพฒั นาการจัดการ
เรยี นรู้
๒. สมรรถนะการพฒั นาผ้เู รยี น
๒.๑ สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรมแกผ่ ้เู รยี นในการจัดการเรยี นรู้
ในชั้นเรียน
๒.๒ จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรมใหแ้ ก่ผู้เรียนโดยให้
ผู้เรียนมีสว่ นร่วมในการวางแผนกิจกรรม
๒.๓ จดั ทาโครงการ/กิจกรรมท่ีส่งเสริมคณุ ธรรมจริยธรรมให้แก่
ผเู้ รยี น
๒.๔ จัดกจิ กรรมเพือ่ พฒั นาผเู้ รียนด้านการดูแลตนเอง มที กั ษะใน
การเรียนรู้ การทางาน การอยู่ร่วมกนั ในสังคม และรูเ้ ทา่ ทัน
การเปล่ียนแปลง
๒.๕ สอดแทรกความเปน็ ประชาธิปไตย ความภมู ิใจในความเป็น
ไทยให้แกผ่ ู้เรยี นในการจัดการเรียนรู้
๒.๖ จัดทาโครงการ/กิจกรรมท่สี ่งเสรมิ ความเปน็ ประชาธปิ ไตย
ความภาคภมู ิใจในความเป็นไทย
๒.๗ ให้ผ้ปู กครองมสี ่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
รายบุคคล
๒.๘ นาข้อมลู นักเรียนไปใชช้ ว่ ยเหลือ/พฒั นาผเู้ รยี นทง้ั ดา้ นการ
เรียนรู้และปรับพฤติกรรมเป็นรายบุคคล
๒.๙ จดั กจิ กรรมเพือ่ ปอ้ งกันแกไ้ ขปัญหาและส่งเสรมิ พฒั นาผเู้ รียน
ใหแ้ กน่ กั เรียนอยา่ งท่ัวถึง
๒.๑๐ สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนปฏบิ ตั ติ นใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมกับค่านิยม
ท่ีดีงาม
๒.๑๑ ดแู ลนกั เรยี นทุกคนอยา่ งทั่วถึง ทนั เหตกุ ารณ์
๓. สมรรถนะการบริหารจัดการชัน้ เรยี น
๓.๑ จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรียนที่เอ้ือต่อ
การเรียนรู้
๓.๒ ส่งเสริมการมีปฏิสัมพนั ธท์ ่ดี รี ะหว่างครกู ับผูเ้ รยี นและผเู้ รยี น
กบั ผเู้ รียน
31
ระดับการปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก
กลาง ทสี่ ดุ
ท่สี ดุ
๓. สมรรถนะการบริหารจัดการชั้นเรียน
๓.๑ จดั สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นทเ่ี อื้อตอ่
การเรียนรู้
๓.๒ ส่งเสริมการมปี ฏิสัมพันธ์ที่ดรี ะหวา่ งครกู บั ผู้เรยี นและผ้เู รยี น
กบั ผู้เรียน
๓.๓ ตรวจสอบสง่ิ อานวยความสะดวกในห้องเรยี นให้พรอ้ มใช้
และปลอดภัย
๓.๑ จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรยี นทีเ่ อ้อื ต่อการ
เรยี นรู้
๓.๒ สง่ เสรมิ การมีปฏสิ มั พันธ์ท่ดี ีระหวา่ งครกู ับผู้เรียนและผู้เรยี น
กับผู้เรียน
๓.๓ ตรวจสอบส่งิ อานวยความสะดวกในห้องเรยี นใหพ้ รอ้ มใช้และ
ปลอดภัย
๓.๔ จดั ทาข้อมลู สารสนเทศของนักเรยี นเป็นรายบุคคลและ
เอกสารประจาชั้นเรียนครบถว้ นเปน็ ปัจจุบัน
๓.๕ นาข้อมูลสารสนเทศไปใชใ้ นการพัฒนาผู้เรียนไดอ้ ยา่ งเต็ม
ศักยภาพ
๓.๖ ใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการกาหนดกฎ กติกา ข้อตกลงในชนั้
เรียน
๓.๗ แก้ปัญหา/พฒั นานักเรยี นด้านระเบยี บวนิ ยั โดยการสรา้ งวินยั
เชิงบวกในชน้ั เรยี น
๓.๘ ประเมิน การกากบั ดูแลช้นั เรียน และนาผลการประเมินไปใช้
ในการปรบั ปรุงและพัฒนา
๔. สมรรถนะการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และการวิจัยเพ่ือพฒั นาผู้เรยี น
๔.๑ สารวจปัญหาเกยี่ วกับนกั เรยี นทีเ่ กิดขึ้นในชนั้ เรยี นเพื่อ
วางแผนการวจิ ัยเพอื่ พฒั นาผูเ้ รียน
๔.๒ วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาเกี่ยวกับนักเรียนท่ีเกิดขน้ึ ในชนั้
เรียนเพอ่ื กาหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปญั หาระบสุ ภาพปัจจุบนั
32
ระดบั การปฏิบตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ทีส่ ุด กลาง ทส่ี ดุ
๔.๓ รวบรวม จาแนกและจัดกลมุ่ ของสภาพปัญหา แนวคดิ ทฤษฏี
และวธิ กี ารแกป้ ัญหาเพื่อสะดวกตอ่ การนาไปใช้
๔.๔ มกี ารประมวลผลหรอื สรุปข้อมูลสารสนเทศที่เปน็ ประโยชน์
ตอ่ การแก้ไขปญั หาในชน้ั เรียนโดยใชข้ อ้ มลู รอบด้าน
๔.๕ มกี ารวิเคราะห์จดุ เดน่ จุดด้อย อุปสรรคและโอกาส
ความสาเร็จของการวิจัยเพอื่ แกป้ ญั หาที่เกดิ ขึน้ ในช้ันเรยี น
๔.๖ จัดทาแผนการวจิ ยั และดาเนนิ กระบวนการวจิ ัยอย่างเป็น
ระบบตามแผนดาเนินการวจิ ยั ทีก่ าหนดไว้
๔.๗ ตรวจสอบความถูกตอ้ งและความนา่ เชอื่ ถอื ของผลการวิจยั
อยา่ งเปน็ ระบบ
๔.๘ มีการนาผลการวจิ ยั ไปประยุกตใ์ ช้ในกรณีศกึ ษาอื่นๆ ท่ีมี
บริบทของปัญหาที่คล้ายคลงึ กัน
๔.๙ นาขอ้ มลู นกั เรียนไปใชช้ ่วยเหลอื /พัฒนาผู้เรียนทง้ั ดา้ นการ
เรยี นรแู้ ละปรับพฤตกิ รรมเป็นรายบุคคล
๔.๑๐ จดั กิจกรรเพอ่ื ปอ้ งกันแกไ้ ขปัญหาและสง่ เสรมิ พฒั นาผู้เรยี น
ใหแ้ กน่ ักเรียนอย่างทว่ั ถึง
๕. สมรรถนะภาวะผู้นาครู
๕.๑ เห็นคณุ ค่าให้ความสาคัญในความคิดเห็นหรอื ผลงานและให้
เกยี รตผิ อู้ ืน่
๕.๒ กระตุ้นจงู ใจ ปรบั เปลีย่ นความคิดและการกระทาของผูอ้ ืน่
ใหม้ คี วามผูกพนั และมุง่ ม่นั ต่อเปา้ หมายในการทางานร่วมกนั
๕.๓ มปี ฏิสมั พันธ์ในการสนทนาอยา่ งสรา้ งสรรค์กบั ผอู้ น่ื โดยมุ่งเน้น
ไปการเรยี นรู้ และการพัฒนาวชิ าชพี
๕.๔ มีทักษะการฟงั การพูด และการตั้งคาถามเปิดใจกว้าง
ยืดหยุน่ ยอมรับทศั นะทห่ี ลากหลายของผู้อ่ืนเพื่อเปน็ แนวทาง
ใหมๆ่ ในการปฏบิ ัติงาน
๕.๕ ใหค้ วามสนใจตอ่ สถานการณต์ ่าง ๆ ทเ่ี ป็นปจั จบุ นั โดยมีการ
วางแผนอยา่ งมวี สิ ยั ทศั น์ซึ่งเช่ือมโยงกับวิสัยทัศน์ เป้าหมายและ
พันธกิจของโรงเรยี น
๕.๖ รเิ ริ่มการปฏบิ ัติที่นาไปสู่การเปลีย่ นแปลงและพัฒนนวัตกรรม
๕.๗ กระตนุ้ ผอู้ น่ื ใหม้ ีการเรียนรแู้ ละความร่วมมือกันในวงกว้างเพอื่
พัฒนาผูเ้ รยี น สถานศกึ ษา และวชิ าชพี
33
ระดบั การปฏิบัติ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก
ที่สดุ กลาง ท่ีสดุ
๕.๘ ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกับผอู้ ืน่ ภายใตร้ ะบบ/ขัน้ ตอนที่เปล่ยี นแปลง
ไปจากเดิมได้
๕.๙ สนับสนนุ ความคิดริเริ่มซง่ึ เกดิ จากการพิจารณาไตรต่ รองของ
เพ่อื นรว่ มงาน และมสี ่วนรว่ มในการพัฒนานวตั กรรมต่างๆ
๕.๑๐ ใช้เทคนคิ วธิ กี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมนิ การ
ปฏิบัตงิ านของตนเองและผลการดาเนินงานสถานศึกษา
๕.๑๑ กาหนดเป้าหมายและมาตรฐานการเรยี นรทู้ ท่ี ้าทายความ
สามารถของตนเองตามสภาพจรงิ และปฏิบตั ใิ หบ้ รรลุผลสาเร็จได้
๖. สมรรถนะการสรา้ งความสัมพนั ธ์และความร่วมมือกบั ชุมชนเพ่อื การจัดการเรยี นรู้
๖.๑ มีปฏิสัมพันธ์ท่ดี ีกับผู้ปกครองและชมุ ชนในการตดิ ตอ่ ส่อื สาร
เพื่อการจดั การเรียนรู้
๖.๒ ประสานงานกบั ผูป้ กครองและชุมชนใหเ้ ข้ามามสี ่วนร่วม
ในการจัดการเรยี นรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดปีการศกึ ษา
๖.๓ เปดิ โอกาสใหผ้ ู้มีสว่ นเกี่ยวขอ้ งเขา้ ร่วมวางแผนการจัด
กจิ กรรมการเรยี นร้ใู นระดับชนั้ เรยี น
๖.๔ เปิดโอกาสใหผ้ ู้ปกครองและชมุ ชนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรยี นรู้
เกยี่ วกบั การจัดการเรียนการสอนในสถานศกึ ษา
๖.๕ สรา้ งเครอื ขา่ ยความร่วมมอื ระหวา่ งครู ผปู้ กครอง ชุมชนและ
องคก์ รอ่นื ๆ ท้ังภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูล
สารสนเทศเพอ่ื การจัดการเรยี นรู้
๖.๖ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ใี ห้ปราชญช์ าวบ้านหรอื ภูมปิ ัญญา
ในท้องถ่นิ เข้ามามสี ว่ นรว่ ม
๖.๗ มกี ารเปดิ โอกาสให้ผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสียของสถานศึกษาเขา้ มา
มีส่วนรว่ มในการประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา
๖.๘ มีการเสนอผลการจัดการเรียนรู้ต่อฝ่ายต่าง ๆ ของชุมชน
เพอื่ แลกเปลีย่ นเรยี นร้แู ละแก้ไขปัญหาร่วมกนั ในทกุ ภาคเรียน
ลงชื่อ .................................................. ผูป้ ระเมิน
()
ตาแหน่ง ครู คศ.๓
34
แบบประเมนิ สมรรถนะครผู ู้สอน
สังกดั สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษา สรุ นิ ทร์ เขต ๒
ชื่อ นายสมนึก วงษอ์ นิ ทร์ ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
โรงเรยี น บา้ นค้อ สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา ประถมศึกษา สุรินทร์ เขต ๒
ผ้ปู ระเมนิ ตนเอง
เพ่อื นครผู ้สู อน
ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
คาช้ีแจง
๑. แบบประเมินสมรรถนะในการปฏิบัติงานฉบับน้ีสาหรับให้ครูผู้สอนทาการประเมินสภาพการปฏิบัติงาน
ของตนเอง เพ่ือนครูผู้สอน และผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมประเมินตามสภาพความเป็นจรงิ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานใน
การพัฒนาคุณภาพการปฏบิ ัติงานของครูผู้สอนในแต่ละคน โดยจะมีผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้รบั รองผลการประเมิน
อกี ครั้งหนงึ่
๒. แบบประเมนิ สมรรถนะฉบบั น้ี แบ่งออกเปน็ ๒ ตอน
ตอนท่ี ๑ ข้อมลู เก่ยี วกบั ครูผ้สู อน
ตอนที่ ๒ การประเมินสมรรถนะของครูผู้สอน ประกอบด้วยสมรรถนะหลัก ๕ สมรรถนะ
และสมรรถนะประจาสายงาน ๖ สมรรถนะ
๓. ให้ผ้ปู ระเมินอา่ นรายการคาถามในแต่ละสมรรถนะใหด้ กี ่อนที่จะทาการประเมินสมรรถนะ
การปฏบิ ัตงิ าน
๔. วิธกี ารประเมนิ สมรรถนะในการปฏบิ ตั งิ าน ให้ท่านทาเครื่องหมาย ลงในชอ่ งสภาพการปฏิบตั ิงานในแต่
ละรายการคาถามของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเป็นจริง
ตอนที่ ๑ ข้อมูลเกยี่ วกับผรู้ ับการประเมนิ
๑. เพศ ชาย หญิง
๒. ตาแหน่งปัจจบุ ันของผรู้ ับการประเมิน
ครูผชู้ ว่ ย ครู คศ. ๑ ครู คศ. ๒
ครู คศ. ๓ ครู คศ. ๔ ครู คศ. ๕
๓. ระดับการศึกษาสูงสุด
ตา่ กวา่ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท ปรญิ ญาเอก
๔. อายรุ าชการ ................ เดอื น
๕. กล่มุ สาระการเรยี นรูท้ ี่ถนัดหรอื เช่ยี วชาญ คือ คณิตศาสตร์
35
ตอนที่ ๒ การประเมินสมรรถนะในการปฏิบัตงิ านของครูผสู้ อน (ผูร้ บั การประเมิน)
ให้ทา่ นพิจารณาสภาพการดาเนินงานในแตล่ ะประเด็นยอ่ ยในแต่ละสมรรถนะของผูร้ บั การประเมนิ แล้วทาเคร่อื งหมาย
ลงในชอ่ งสภาพการปฏบิ ัติงานของครูผู้สอนในประเดน็ ย่อยของแต่ละสมรรถนะตามสภาพความเปน็ จริง
๑. สมรรถนะหลกั (Core Competency)
ระดบั การปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ท่ีสดุ กลาง ท่สี ุด
๑. สมรรถนะการมุ่งผลสมั ฤทธ์ิในการปฏบิ ัตงิ าน
๑.๑ วิเคราะหภ์ ารกจิ งานเพอ่ื วางแผนการแกป้ ญั หาอย่างเป็นระบบ
๑.๒ กาหนดเป้าหมายในการปฏบิ ัตงิ านทุกภาคเรยี น
๑.๓ กาหนดแผนการปฏิบตั ิงานอย่างเป็นขนั้ ตอน
๑.๔ ใฝ่เรยี นร้เู ก่ียวกบั การจดั การเรยี นรู้
๑.๕ รเิ ร่มิ สร้างสรรค์ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้
๑.๖ แสวงหาความรทู้ ีเ่ กย่ี วกับวิชาชีพใหม่ ๆ เพือ่ การพัฒนาตนเอง
๑.๗ ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของตนเอง
๑.๘ ใช้ผลการประเมนิ ในการปฏิบัติงานมาใชป้ รับปรุง/พฒั นา
การทางานใหด้ ีย่งิ ขึน้
๑.๙ พฒั นาการปฏิบัติงานเพือ่ ตอบสนองความต้องการของผู้เรยี น
ผปู้ กครอง และชุมชน
๒. สมรรถนะการบริการท่ีดี
๒.๑ ใหบ้ รกิ ารดว้ ยความยิ้มแยม้ ใจใส่ เหน็ อกเห็นใจผู้มารับบริการ
๒.๒ ใหบ้ ริการอย่างรวดเร็ว ทันใจ ไมล่ ่าช้า
๒.๓ ให้บรกิ ารอย่างมคี วามเคารพยกยอ่ ง อ่อนน้อมให้เกยี รติ
ผ้รู ับบริการ
๒.๔ ใหบ้ ริการดว้ ยความมุ่งมน่ั ต้งั ใจและเต็มอกเต็มใจ
๒.๕ แก้ปญั หาใหก้ ับนกั เรียน และผูป้ กครองหรอื ผมู้ าขอรบั บรกิ าร
๒.๖ ใหบ้ รกิ ารโดยยดึ ความตอ้ งการของผรู้ บั บริการเป็นหลัก
๒.๗ ให้บริการเกนิ ความคาดหวงั แม้ตอ้ งใชเ้ วลาหรือความพยามยาม
อยา่ งมาก
36
ระดบั การปฏิบัติ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก
ที่สุด กลาง ท่สี ดุ
๓.๑ ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ มงุ่ มนั่ และแสวงหาโอกาสพัฒนาตนเอง
ดว้ ยวธิ ที หี่ ลากหลาย
๓.๒ วิเคราะห์จดุ แขง็ และจุดอ่อนเก่ียวกบั การจดั การเรยี นรขู้ อง
ตนเองอย่างตอ่ เน่ือง
๓.๓ ศกึ ษา ค้นคว้าหาองค์ความรู้ใหม่ ๆ ทางวชิ าการเพ่อื พฒั นา
ตนเองและวิชาชพี
๓.๔ แลกเปลี่ยนเรียนร้กู ับผู้อื่นเพ่ือการพัฒนาตนเองทกุ ครั้งท่มี ี
โอกาส
๓.๕ เขา้ รบั การอบรมเพือ่ พฒั นาตนเองจากหน่วยงานตา่ งๆ อยา่ ง
ต่อเนื่อง
๓.๖ ใหค้ าปรึกษา แนะนา นเิ ทศ และถา่ ยทอดความรู้ ประสบการณ์
ทางวิชาชพี แก่ผ้อู น่ื
๓.๗ มกี ารสรา้ งเครือข่ายการเรียนร้เู พือ่ การพฒั นาตนเองทั้งในและ
นอกสถานศึกษา
๔. สมรรถนะการทางานเป็นทมี
๔.๑ สรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ใี นการทางานรว่ มกบั ผ้อู ่ืน
๔.๒ ทางานรว่ มกบั ผู้อน่ื ตามบทบาทหน้าท่ีทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
๔.๓ ชว่ ยเหลือเพอื่ นรว่ มงานเพอ่ื ส่เู ปา้ หมายความสาเรจ็ รว่ มกัน
๔.๔ ใหเ้ กียรติ ยกยอ่ งชมเชย ใหก้ าลงั ใจแกเ่ พื่อนร่วมงานในโอกาส
ท่ีเหมาะสม
๔.๕ มที ักษะในการทางานรว่ มกับบุคคล/กลมุ่ บุคคลไดอ้ ย่างมีประ
สิทธิภาพท้งั ภายในและภายนอกสถานศกึ ษาและในทกุ สถานการณ์
๔.๖ แสดงบทบาทผ้นู าหรือผตู้ ามในการทางานรว่ มกบั ผ้อู ่ืนได้
เหมาะสมในทุกโอกาส
๔.๗ แลกเปล่ียน/รบั ฟังความคดิ เหน็ และประสบการณ์ภายใน
ทีมงาน
๔.๘ ร่วมกบั เพ่ือนร่วมงานในการสร้างวฒั นธรรมการทางานเป็นทมี
ให้เกิดขน้ึ ในสถานศกึ ษา
37
ระดบั การปฏิบตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก
ทส่ี ดุ กลาง ท่ีสดุ
๕. สมรรถนะจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี ครู
๕.๑ ยึดม่ันในอดุ มการณ์ของวชิ าชีพ ปกปอ้ งเกียรตแิ ละศักดิ์ศรี
ของวิชาชีพ
๕.๒ เสยี สละ อุทศิ ตนเพื่อประโยชน์ตอ่ วชิ าชพี และเปน็ สมาชิกที่ดี
ขององค์กรวชิ าชีพ
๕.๓ ยกยอ่ ง ช่ืนชมบุคคลทป่ี ระสบความสาเรจ็ ในวิชาชีพ
๕.๔ ซือ่ สัตยต์ อ่ ตนเอง ตรงต่อเวลา วางแผนการใช้จ่ายและใช้
ทรัพยากรอยา่ งประหยัด
๕.๕ ปฏบิ ัติตนตามกฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ และขนบธรรมเนยี ม
ประเพณี
๕.๖ ปฏบิ ัตติ นและดาเนนิ ชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งไดเ้ หมาะสมกับสถานะของตน
๕.๗ รกั ษาสทิ ธิประโยชนข์ องตนเอง และไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผูอ้ ่ืน
๕.๘ เออื้ เฟ้ือเผ่อื แผ่ ช่วยเหลอื และไมเ่ บยี ดเบียนผู้อื่น
๕.๙ มคี วามเป็นกัลยาณมติ รต่อผเู้ รยี นเพอื่ นรว่ มงานและผูร้ บั บรกิ าร
๕.๑๐ ปฏบิ ัตติ นตามหลกั การครองตน ครองคน ครองงาน เพ่อื ให้
การปฏบิ ตั ิงานบรรลผุ ลสาเร็จ
๒. สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency)
ระดับการปฏิบตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก
ที่สุด กลาง ที่สุด
๑. สมรรถนะการบรหิ ารจัดการหลักสูตรและการจัดการเรยี นรู้
๑.๑ ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรอู้ ย่างหลากหลายสอดคลอ้ งกับ
วัย ความตอ้ งการของผเู้ รยี น ชมุ ชน
๑.๒ เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนมสี ่วนร่วมในการกาหนดกจิ กรรมและ
การประเมินผลการเรียนรู้
๑.๓ ใช้รูปแบบ/เทคนิควิธีการสอนอย่างหลากหลายเพ่ือให้ผเู้ รยี น
พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ
๑.๔ จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทีป่ ลูกฝัง/ส่งเสริมคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์และสมรรถนะของผู้เรียน
๑.๕ ใชห้ ลักจติ วทิ ยาในการจดั การเรียนรใู้ หผ้ ู้เรียนเรียนรู้อย่างมี
ความสุขและพัฒนาเตม็ ศักยภาพ
38
ระดบั การปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก
ที่สุด กลาง ที่สุด
๑.๖ ใช้แหลง่ เรยี นรูแ้ ละภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ินในชุมชนในการจดั การ
เรียนรู้
๑.๗ ใช้ส่อื นวัตกรรม และเทคโนโลยหี ลากหลายและเหมาะสมกับ
เน้อื หาและกจิ กรรมการเรียนรู้
๑.๘ ใชเ้ ทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ในการผลติ สื่อ/นวัตกรรมทีใ่ ช้ใน
การเรยี นรู้
๑.๙ ออกแบบวิธีการวดั และประเมินผลหลากหลายเหมาะสมกับ
เนื้อหาและกจิ กรรมการเรียนรู้
๑.๑๐ สรา้ งและนาเครื่องมือวดั และประเมนิ ผลไปใชอ้ ยา่ งถูกต้อง
เหมาะสม
๑.๑๑ วัดและประเมนิ ผลผูเ้ รียนตามสภาพจรงิ
๑.๑๒ นาผลการประเมนิ การเรียนรูม้ าใช้ในการพัฒนาการจัดการ
เรยี นรู้
๒. สมรรถนะการพัฒนาผเู้ รยี น
๒.๑ สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมแก่ผเู้ รียนในการจัดการเรยี นรู้
ในชั้นเรยี น
๒.๒ จดั กิจกรรมสง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมให้แกผ่ เู้ รยี นโดยให้
ผเู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนกิจกรรม
๒.๓ จดั ทาโครงการ/กิจกรรมท่ีส่งเสรมิ คุณธรรมจริยธรรมให้แก่
ผเู้ รยี น
๒.๔ จดั กิจกรรมเพอ่ื พฒั นาผู้เรยี นด้านการดแู ลตนเอง มีทักษะใน
การเรียนรู้ การทางาน การอยรู่ ว่ มกันในสงั คม และรูเ้ ท่าทัน
การเปล่ยี นแปลง
๒.๕ สอดแทรกความเป็นประชาธิปไตย ความภมู ิใจในความเปน็
ไทยใหแ้ กผ่ ูเ้ รยี นในการจดั การเรียนรู้
๒.๖ จดั ทาโครงการ/กจิ กรรมที่สง่ เสรมิ ความเป็นประชาธิปไตย
ความภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย
๒.๗ ใหผ้ ปู้ กครองมีสว่ นรว่ มในการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน
รายบคุ คล
๒.๘ นาข้อมลู นักเรียนไปใชช้ ่วยเหลือ/พฒั นาผ้เู รียนทั้งด้านการ
เรียนร้แู ละปรับพฤตกิ รรมเป็นรายบคุ คล
๒.๙ จดั กจิ กรรมเพ่ือปอ้ งกนั แกไ้ ขปญั หาและส่งเสริมพัฒนาผเู้ รยี น
ใหแ้ กน่ กั เรียนอยา่ งทว่ั ถงึ