39
๒.๑๐ สง่ เสริมให้ผู้เรยี นปฏิบตั ติ นให้ถกู ต้องเหมาะสมกับคา่ นิยม
ที่ดงี าม
๒.๑๑ ดแู ลนักเรียนทกุ คนอยา่ งทั่วถงึ ทันเหตกุ ารณ์
๓. สมรรถนะการบริหารจัดการชนั้ เรยี น
๓.๑ จดั สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรยี นท่ีเอือ้ ต่อ
การเรียนรู้
๓.๒ ส่งเสริมการมีปฏสิ ัมพนั ธ์ท่ดี ีระหวา่ งครูกับผเู้ รยี นและผู้เรยี น
กบั ผ้เู รยี น
๓.๓ ตรวจสอบสิง่ อานวยความสะดวกในห้องเรยี นให้พรอ้ มใช้
และปลอดภยั
๓.๑ จัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นทีเ่ อื้อตอ่ การ
เรยี นรู้
๓.๒ ส่งเสรมิ การมีปฏิสมั พันธท์ ีด่ ีระหว่างครูกบั ผูเ้ รียนและผเู้ รียน
กบั ผ้เู รียน
๓.๓ ตรวจสอบส่งิ อานวยความสะดวกในหอ้ งเรียนใหพ้ ร้อมใช้และ
ปลอดภัย
๓.๔ จดั ทาขอ้ มูลสารสนเทศของนกั เรียนเป็นรายบคุ คลและ
เอกสารประจาชั้นเรียนครบถ้วนเป็นปัจจบุ นั
๓.๕ นาขอ้ มลู สารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาผเู้ รยี นไดอ้ ย่างเตม็
ศักยภาพ
๓.๖ ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการกาหนดกฎ กตกิ า ข้อตกลงในชั้น
เรียน
๓.๗ แก้ปัญหา/พัฒนานกั เรียนดา้ นระเบียบวนิ ัยโดยการสรา้ งวนิ ยั
เชิงบวกในชนั้ เรียน
๓.๘ ประเมิน การกากับดแู ลช้ันเรยี น และนาผลการประเมนิ ไปใช้
ในการปรับปรงุ และพฒั นา
๔. สมรรถนะการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และการวิจัยเพื่อพัฒนา
ผู้เรยี น
๔.๑ สารวจปัญหาเก่ียวกับนกั เรียนที่เกดิ ขึ้นในชัน้ เรียนเพื่อ
วางแผนการวจิ ัยเพ่ือพัฒนาผู้เรยี น
๔.๒ วเิ คราะหส์ าเหตุของปญั หาเกีย่ วกับนักเรยี นทเ่ี กดิ ขนึ้ ในช้ัน
เรียนเพื่อกาหนดทางเลือกในการแก้ไขปญั หาระบุสภาพปจั จุบนั
๔.๓ รวบรวม จาแนกและจดั กล่มุ ของสภาพปญั หา แนวคิดทฤษฏี
และวิธีการแก้ปัญหาเพอ่ื สะดวกตอ่ การนาไปใช้
๔.๔ มีการประมวลผลหรอื สรปุ ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีเปน็ ประโยชน์
ตอ่ การแกไ้ ขปัญหาในชัน้ เรยี นโดยใชข้ ้อมลู รอบด้าน
40
ระดับการปฏบิ ตั ิ
รายการสมรรถนะและพฤติกรรม นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก
กลาง ท่สี ดุ
ที่สดุ
๔.๕ มกี ารวิเคราะห์จดุ เดน่ จดุ ด้อย อุปสรรคและโอกาส
ความสาเรจ็ ของการวจิ ยั เพื่อแก้ปญั หาที่เกิดขึ้นในชัน้ เรียน
๔.๖ จัดทาแผนการวจิ ยั และดาเนินกระบวนการวจิ ยั อยา่ งเป็น
ระบบตามแผนดาเนนิ การวิจัยทก่ี าหนดไว้
๔.๗ ตรวจสอบความถกู ต้องและความน่าเช่อื ถอื ของผลการวิจัย
อยา่ งเปน็ ระบบ
๔.๘ มกี ารนาผลการวจิ ยั ไปประยกุ ตใ์ ช้ในกรณศี ึกษาอ่ืนๆ ทม่ี ี
บรบิ ทของปญั หาทค่ี ลา้ ยคลงึ กัน
๔.๙ นาขอ้ มูลนักเรยี นไปใช้ชว่ ยเหลือ/พัฒนาผ้เู รียนทัง้ ดา้ นการ
เรยี นรแู้ ละปรบั พฤตกิ รรมเป็นรายบคุ คล
๔.๑๐ จดั กจิ กรรเพ่ือป้องกันแกไ้ ขปญั หาและสง่ เสรมิ พัฒนาผเู้ รยี น
ใหแ้ กน่ ักเรียนอยา่ งทวั่ ถงึ
๕. สมรรถนะภาวะผนู้ าครู
๕.๑ เห็นคณุ ค่าให้ความสาคัญในความคิดเหน็ หรอื ผลงานและให้
เกยี รติผู้อื่น
๕.๒ กระตุ้นจูงใจ ปรบั เปลย่ี นความคดิ และการกระทาของผอู้ ืน่
ใหม้ คี วามผกู พนั และมุ่งมน่ั ตอ่ เปา้ หมายในการทางานรว่ มกนั
๕.๓ มีปฏิสัมพันธ์ในการสนทนาอยา่ งสร้างสรรค์กบั ผ้อู ่นื โดยมงุ่ เน้น
ไปการเรยี นรู้ และการพฒั นาวชิ าชพี
๕.๔ มที กั ษะการฟงั การพดู และการตง้ั คาถามเปิดใจกว้าง
ยดื หยนุ่ ยอมรบั ทศั นะท่หี ลากหลายของผู้อ่ืนเพอื่ เป็นแนวทาง
ใหม่ๆ ในการปฏิบัตงิ าน
๕.๕ ให้ความสนใจตอ่ สถานการณต์ ่าง ๆ ทเี่ ปน็ ปจั จุบนั โดยมกี าร
วางแผนอย่างมีวิสยั ทศั น์ซ่ึงเช่อื มโยงกบั วิสยั ทศั น์ เปา้ หมายและ
พันธกิจของโรงเรียน
๕.๖ ริเรม่ิ การปฏิบัติท่ีนาไปส่กู ารเปลี่ยนแปลงและพฒั นนวตั กรรม
๕.๗ กระตนุ้ ผู้อน่ื ให้มีการเรียนรู้และความรว่ มมือกันในวงกว้างเพ่ือ
พฒั นาผู้เรยี น สถานศึกษา และวชิ าชพี
๕.๘ ปฏิบัตงิ านร่วมกบั ผ้อู ื่นภายใตร้ ะบบ/ข้ันตอนท่เี ปลีย่ นแปลง
ไปจากเดิมได้
41
ระดับการปฏบิ ัติ
รายการสมรรถนะและพฤตกิ รรม น้อย น้อย ปาน มาก มาก
ทีส่ ดุ กลาง ที่สดุ
๕.๙ สนับสนนุ ความคดิ รเิ รมิ่ ซง่ึ เกดิ จากการพิจารณาไตรต่ รองของ
เพ่อื นรว่ มงาน และมีสว่ นรว่ มในการพฒั นานวัตกรรมต่างๆ
๕.๑๐ ใชเ้ ทคนคิ วิธกี ารหลากหลายในการตรวจสอบประเมินการ
ปฏิบัติงานของตนเองและผลการดาเนินงานสถานศกึ ษา
๖. สมรรถนะการสร้างความสัมพันธแ์ ละความร่วมมือกับชุมชนเพ่อื การจัดการเรียนรู้
๖.๑ มีปฏิสมั พนั ธ์ทีด่ กี ับผูป้ กครองและชมุ ชนในการตดิ ตอ่ สื่อสาร
เพอ่ื การจัดการเรยี นรู้
๖.๒ ประสานงานกบั ผ้ปู กครองและชุมชนให้เข้ามามสี ว่ นร่วม
ในการจดั การเรียนรู้อยา่ งต่อเนือ่ งตลอดปกี ารศึกษา
๖.๓ เปดิ โอกาสให้ผมู้ ีสว่ นเกย่ี วข้องเขา้ ร่วมวางแผนการจัด
กิจกรรมการเรียนรใู้ นระดบั ช้นั เรยี น
๖.๔ เปดิ โอกาสให้ผู้ปกครองและชมุ ชนเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
เกยี่ วกับการจัดการเรยี นการสอนในสถานศึกษา
๖.๕ สรา้ งเครือขา่ ยความรว่ มมอื ระหวา่ งครู ผู้ปกครอง ชมุ ชนและ
องค์กรอน่ื ๆ ทงั้ ภาครฐั และเอกชนในการแลกเปล่ียนข้อมูล
สารสนเทศเพ่อื การจดั การเรียนรู้
๖.๖ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ีใหป้ ราชญ์ชาวบ้านหรือภมู ิปัญญา
ในท้องถนิ่ เขา้ มามสี ว่ นรว่ ม
๖.๗ มกี ารเปดิ โอกาสใหผ้ มู้ ีสว่ นได้สว่ นเสียของสถานศกึ ษาเขา้ มา
มีสว่ นร่วมในการประเมินผลการจดั การศึกษา
๖.๘ มีการเสนอผลการจดั การเรยี นร้ตู ่อฝา่ ยต่าง ๆ ของชมุ ชน
เพื่อแลกเปลย่ี นเรียนรแู้ ละแก้ไขปญั หารว่ มกันในทุกภาคเรยี น
ลงชอ่ื .................................................. ผ้ปู ระเมิน
(นายสมนึก วงษอ์ ินทร์)
ผอู้ านวยการโรงเรียน
42
แนวทางการประเมนิ การใหค้ ะแนนและการแปลผลการประเมินสมรรถนะครู
๑. การประเมินตามแนวทางนี้ใช้แบบประเมินสมรรถนะสาหรับครูผู้สอนทาการประเมินสมรรถนะในการ
ปฏิบัติงานตามสภาพจริง เพื่อจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของครูผู้สอน และนาผลการประเมินไปใช้ในการ
กาหนดกรอบการพฒั นาสมรรถนะครใู ห้มีประสทิ ธิภาพและเกดิ ประสิทธผิ ลสงู สดุ ตอ่ การพฒั นาผูเ้ รียน
สถานศึกษาและวชิ าชีพ ผู้ใชแ้ บบประเมินสมรรถนะครู ดังน้ี
๑.๑ ครูผสู้ อน : ประเมินตนเอง
๑.๒ เพื่อนครูผูส้ อนในสถานศึกษาเดียวกนั : ประเมนิ ครูผสู้ อน
๑.๓ ผู้บริหารสถานศกึ ษา : ประเมินครูผ้สู อน
๒. การใหค้ ะแนนการประเมินสมรรถนะครู
๒.๑ การให้คะแนนในแตล่ ะข้อรายการจะมรี ะดบั คุณภาพของสภาพการปฏิบตั ิงาน ๕ ระดับ ได้แก่
ปฏบิ ตั ิน้อยท่สี ดุ ปฏบิ ัตนิ อ้ ย ปฏบิ ัตปิ านกลาง ปฏิบัตมิ าก และปฏิบตั ิมากท่ีสุด โดยกาหนดค่าคะแนนเป็น ๑, ๒, ๓, ๔
และ ๕ ตามลาดับ
๒.๒ การตดั สนิ ผลในแต่ละสมรรถนะ ให้ทาการคานวณหาคะแนนเฉลี่ยรายสมรรถนะ และท้งั ฉบบั
ของครูเปน็ รายบคุ คล โดยนับจานวนความถข่ี องระดบั การปฏบิ ตั ิ แลว้ นาจานวนความถที่ ไ่ี ด้นับไดท้ ั้งหมดมาคานวณหา
คะแนนรวม โดยการนาจานวนความถ่ใี นแต่ละระดับการปฏิบัติมาคณู คะแนนในแต่ละระดบั คุณภาพการปฏิบตั ิงาน
ดังน้ี คอื ปฏบิ ัตนิ ้อยท่ีสุด คุณด้วย ๑ ปฏิบัตนิ อ้ ย คณู ดว้ ย ๒ ปานกลาง คูณด้วย ๓ ปฏบิ ัตมิ าก คูณดว้ ย ๔ และปฏิบัติ
มากท่สี ดุ คณู ดว้ ย ๕ แลว้ นาคะแนนมารวมกัน จากนนั้ นาคะแนนรวมทไี่ ด้คานวณหาคะแนนเฉลยี่
๓. การแปลผลการประเมินสมรรถนะครู เป็นการนาคะแนนเฉลี่ยมาเปรยี บเทยี บกบั เกณฑก์ ารแปลผลท่ี
กาหนดไว้ โดยกาหนดเกณฑจ์ ากผลการวิเคราะหค์ า่ เฉลีย่ (x) สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ของข้อมูลทเ่ี ก็บรวบรวม
ไดท้ งั้ หมดดงั นี้
คา่ คะแนนเฉลย่ี ระดับคณุ ภาพ
มากกวา่ ค่าเฉลีย่ รวม + S.D. รวม ดี
ระหวา่ ง ค่าเฉล่ีย รวม ± S.D. รวม พอใช้
น้อยกวา่ คา่ เฉล่ีย รวม - S.D. รวม
ปรบั ปรงุ
การใหค้ ะแนนและแปลผลการประเมินสมรรถนะ
คา่ คะแนนเฉลยี่ ระดบั คณุ ภาพ
๔.๐๑ – ๕.๐๐ สงู
๓.๐๑ – ๔.๐๐ ปานกลาง
ต้ังแต่ ๓.๐๐ ลงมา ควรปรับปรุง
๔. การนาเสนอผลการประเมนิ สมรรถนะครู การนาเสนอผลการประเมินให้นาคะแนนเฉล่ีย และระดับ
คุณภาพในแต่ละสมรรถนะมากรอกลงในแบบสรุปผลการประเมินสมรรถนะของครูผู้สอนในตอนท้ายของแบบประเมนิ
แลว้ จงึ รายงานผลการประเมนิ ใหผ้ ู้บริหารหรือหน่วยงานท่ีเก่ยี วขอ้ งนาไปเปน็ แนวทางในการพฒั นาสมรรถนะครตู อ่ ไป
43
สว่ นที่ ๒ ความตอ้ งการในการพัฒนา
๑. หลักสตู รที่ต้องการพัฒนา : หลักสูตรอบรมปญั ญาประดิษฐ์ (AI Educaton)
เหตุผลที่ต้องการพฒั นาในหลกั สตู รน้ี
๑. เพือ่ ให้มีความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั การจัดการเรียนรเู้ ชงิ รุก
๒. เพอื่ ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การจัดการเรยี นรู้แบบกระบวนการคิดย่างเป็นระบบสอดคล้องไทย
แลนด์ ๔.๐
๓. เพอ่ื ให้มคี วามร้คู วามเข้าใจเกยี่ วกบั การนาสอื่ เทคโนโลยีมาใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน
๔. เพ่ือสามารถบูรณาการเทคนิคการจัดการเรียนร้เู ชิงรุก การจดั การเรียนรู้ โดยการนาสอื่ และเทคโนโลยีมา
ใช้ในการจดั การเรยี นการสอนนกั เรียนไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดประสทิ ธผิ ล
สิง่ ทคี่ าดหวังจากการพฒั นาในหลกั สูตรนี้
ตอ้ งการพัฒนาในหลกั สตู รนี้เพื่อให้มคี วามร้คู วามเข้าใจวิธสี อน หรอื เทคนคิ การสอนเกย่ี วกับการจัดการเรยี นรู้
เชิงรุก การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ นามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับ
เนื้อหาสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาตอนต้นและการนาสื่อเทคโนโลยี ส่ือการสอนมา
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรียนการสอนนักเรียนไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพและเกิดประสทิ ธผิ ล
สามารถนาความร้จู ากหลักสูตรไปพฒั นาการสอน ดังนี้
๑. นาความรู้และทกั ษะท่ีได้รับการพัฒนาระหว่างการฝึกอบรมไปประยุกตใ์ ชก้ ารปฎบิ ัติงานจรงิ ใน
หอ้ งเรียนของตนเอง
๒. นาไปขยายผลให้กบั ครูผ้สู อนกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื ๆ
๒. หลักสูตรที่ตอ้ งการพัฒนา : การเพม่ิ ศักยภาพการจัดการเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
เหตผุ ลทีต่ อ้ งการพฒั นาในหลักสตู รน้ี
๑. เพอ่ื ให้มีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการเรยี นการสอนในศตวรรษที่ ๒๑
๒. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การวธิ ีการสอนทเ่ี น้นพัฒนาทกั ษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ ๒๑
๓. เพือ่ ใหน้ กั เรียนมที ักษะในการเรียนร้ทู ส่ี าคญั คือ ๓R๘C
สงิ่ ท่คี าดหวังจากการพัฒนาในหลักสูตรน้ี
ตอ้ งการพฒั นาในหลักสตู รนี้เพื่อให้มีความรู้ด้านการจดั การเรียนการสอนในศตวรรษท่ี ๒๑ เพ่ือเน้นทกั ษะการ
เรยี นรู้ของผู้เรียน ใหม้ ีทักษะท่ีสาคญั คอื ๓R๘C ซงึ่ ทักษะทีไ่ ดก้ ล่าวมาเป็นส่ิงที่จาเป็นสาหรับนกั เรียนในยุคการเรยี นรู้
แห่งศตวรรษท่ี ๒๑ เป็นอยา่ งมาก ซ่งึ มีความแตกต่างจากการเรียนร้ใู นสมยั กอ่ นทาให้การเรียนร้ขู องนักเรยี นใน
ศตวรรษท่ี ๒๑ มีคุณภาพมากยง่ิ ข้นึ และจะทาให้นักเรียนพัฒนาและทักษะการเรยี นรู้สู่เป้าหมายการเรยี นรู้
สามารถนาความรจู้ ากหลักสตู รไปพัฒนาการสอน ดงั น้ี
๑. นาความรแู้ ละทกั ษะที่ได้รบั การพฒั นาระหว่างการฝกึ อบรมไปประยุกต์ใช้การปฎิบตั งิ านจรงิ ใน
ห้องเรียนและรายวิชาของตนเองท่รี ับผดิ ชอบ
๒. นาไปขยายผลให้กบั ครผู สู้ อนกลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ นื่ ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งในสถานศกึ ษา
ID PLANแผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล
ปกี ารศึกษา 2565