The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

X07-20-ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานวิเศษสูตร 2561-12-19 Print

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Vorawat Suthon, 2021-10-07 06:29:18

X07-20-ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานวิเศษสูตร 2561-12-19 Print

X07-20-ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสัปตพุทธปูรวปณิธานวิเศษสูตร 2561-12-19 Print

พ ร ะ ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ต ถ า ค ต ๗ พ ร ะ อ ง ค

藥師琉璃光七佛本願功德經

ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ไ ว ฑู ร ย ป ร ะ ภ า สั ป ต พุ ท ธ ปู ร ว ป ณิ ธ า น วิ เ ศ ษ สู ต ร

大唐三藏沙門義淨於佛光內寺譯
( อ า ร ย - ส ป ต - ต ถ า ค ต - ปู ร ว - ป ณิ ธ า น - วิ เ ศ ษ - วิ สู ต ร - น า ม - ม ห า ย า น - สู ต ร )

ปาฐกถาธรรมพิเศษ เร่ือง พระไภษัชยคุรุพุทธเจา
กํา เ นิ ด พ ร ะ พุ ท ธ รู ป ก ร่ิ ง

ส รŒ าง ถวา ย โดย

คณุ พอ แตแต แซอ วง 黄俤俤 Huang Di Di + คุณแม ฉวิ เอี้ยง แซเ อียะ 葉秋燕 Ye Qiu Yan
คุณปู อวงเต็กอ่ี 黄德挹 Huang De Yi + คุณยา ผางอาโหมย 彭亜妹 Peng A Mei

คุณตา เอียะฮิ่งล่ือ 葉興吕 Ye Xing Lv + คุณยาย เตอื้ งเจียหลาง 張芝蘭 Zhang Zhi Lan

น า ย ว ร ว ร ร ธ น ช่� น โ ช ค สั น ต

พรอ มทัง้ ลูกหลานเหลน

คาํ อุ ทิ ศส‹วน บุ ญกุศ ล

ขอนอมบญุ กศุ ลคร้งั นีถ้ วายพระสยามเทวาธิราช
พระมหากษตั รยิ ไ ทยทุกๆพระองค
ขอนอมถวายกุศลผลบญุ นี้

เปน พทุ ธบชู าแดพ ระพทุ ธเจาทกุ ๆพระองค
พรอมท้ังพระปจเจกพทุ ธเจาทกุ ๆพระองค
ถวายเปน ธรรมบชู า แดค าํ สอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ
ถวายเปน สงั ฆบชู า แดพระอริยเจาท้งั หลาย
พรอ มทงั้ บิดามารดา ครบู าอาจารย พรหมและเทวดา
เจากรรมนายเวร สัมภเวสี ท้ังหลายท้ังปวง
ขอทานทงั้ หลายโปรดอนุโมทนาและอโหสิกรรม
และขอใหข าพเจา ทั้งหลายไดเ ขา ถงึ ซึง่ พระนิพพานดวยเทอญ



พ ร ะ ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ต ถ า ค ต ๗ พ ร ะ อ ง ค

藥師琉璃光七佛本願功德經

大唐三藏沙門義淨於佛光內寺譯

ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ไ ว ฑู ร ย ป ร ะ ภ า สั ป ต พุ ท ธ ปู ร ว ป ณิ ธ า น วิ เ ศ ษ สู ต ร

( อ า ร ย - ส ป ต - ต ถ า ค ต - ปู ร ว - ป ณิ ธ า น - วิ เ ศ ษ - วิ สู ต ร - น า ม - ม ห า ย า น - สู ต ร )

ก ถ า มุ ข

藥師琉璃光七佛本願功德經

ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ไ ว ฑู ร ย ป ร ะ ภ า สั ป ต พุ ท ธ ปู ร ว ป ณิ ธ า น วิ เ ศ ษ สู ต ร

( อ า ร ย - ส ป ต - ต ถ า ค ต - ปู ร ว - ป ณิ ธ า น - วิ เ ศ ษ - วิ สู ต ร - น า ม - ม ห า ย า น - สู ต ร )

วรรคแรก 卷上

藥師琉璃光七佛本願功德經

ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ไ ว ฑู ร ย ป ร ะ ภ า สั ป ต พุ ท ธ ปู ร ว ป ณิ ธ า น วิ เ ศ ษ สู ต ร

( อ า ร ย - ส ป ต - ต ถ า ค ต - ปู ร ว - ป ณิ ธ า น - วิ เ ศ ษ - วิ สู ต ร - น า ม - ม ห า ย า น - สู ต ร )

ว ร ร ค ห ลั ง 卷 下

ปาฐกถาธรรมพิเศษ เร่ือง พระไภษัชยคุรุพุทธเจา

โดย พระวิศวภัทร เซี่ยเกี๊ยก

กาํ เนิดพระพุทธรูปกริ่ง

โดย เสถียร โพธินันทะ



藥師琉璃光七佛本願功德經

大唐三藏沙門義淨於佛光內寺譯

ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ไ ว ฑู ร ย ป ร ะ ภ า สั ป ต พุ ท ธ ปู ร ว ป ณิ ธ า น วิ เ ศ ษ สู ต ร

( อ า ร ย - ส ป ต - ต ถ า ค ต - ปู ร ว - ป ณิ ธ า น - วิ เ ศ ษ - วิ สู ต ร - น า ม - ม ห า ย า น - สู ต ร )
กถามุข

ไภษัชยครุ ุไวฑรู ยประภาสปั ตพทุ ธปรู วปณิธานวิเศษสตู รน้ี พระมหาสมณะอจี้ งิ แหง ราชวงศถ งั ไดแ ปลจาก
ภาษาสันสกฤตสูภาษาจีนในปพุทธศักราช ๑๒๕๐ โดยกลาวถึงพระพุทธเจาท่ีมีมหาปณิธานในลักษณะ
คลายคลึงกันจํานวน ๗ พระองค และยังมีพระชนมชีพอยูแมนในปจจุบัน แตทวาประทับอยูในโลกธาตุอ่ืนๆ
ดานบูรพาทศิ กลาวถึงพุทธประวตั ิมหาปณิธาน และอานสิ งสแหง การกราบไหวบชู า การเอยพระนามหรือเพียง
การนอ มใจระลึกถึงพระพุทธเจาท้งั ๗ พระองคน ้ัน

พระสตู รปกรณนี้ เปน ทแี่ พรห ลายมากในประเทศที่ศรทั ธาในพระพทุ ธธรรมมหายาน เชน จนี ญปี่ ุน ธิเบต
เนปาล บางแหง จะใหพทุ ธศาสนกิ ชนไดล บู คลําพระพุทธปฏมิ าของพระไภษชั ยครุ ตุ รงสว นทต่ี นเองเจบ็ ปวด ดว ย
ความเชอื่ ทว่ี าจะไดหายจากการเจบ็ ปวดบริเวณนัน้

พระไภษชั ยคุรุพุทธเจา จีนเรียก “เอยี๊ ะ ซอื ยู ไล” มีพระนามเต็มวา พระไภษชั ยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต
เจา อันมีความหมายดังนี้ ไภษัชยคุรุ แปลวา พระผูเปนบรมครูแหงโอสถรักษาโรค สวนคําวา ไวฑูรยประภา
ตถาคต แปลวา พระตถาคตเจา ผมู แี สงรัศมสี นี ํ้าเงินดจุ รัตนไวฑูรย ซึ่งจะสงั เกตไดจากภาพวาดศลิ ปะธเิ บตท่ีวาด
พระวรกายสีนํ้าเงินเขม พระหัตถซายทรงบาตร พระหัตถขวาทรงตนยาสมุนไพร (ถามาทางจีนจะทรงถือเห็ด
หลินจือ เพราะเชื่อวาเปนเห็ดอายุวัฒนะของเซียน) ซ่ึงตนยาท่ีทรงถือไวน้ัน มีช่ือวา “อคทะ” เปนคําคุณศัพท
ในความหมายวา แข็งแรง สุขภาพดี ถาใชเปนคํานาม แปลวา ยาบําบัดโรค หรือชื่อยาที่บําบัดแกพิษได หรือ
ผลไมชนิดหนึ่งคลา ยผลสมอเรียกวา อรุระ

พระไภษัชยคุรุพุทธเจา เปนพระพุทธเจาแหงการรักษาพยาบาล เปนพระพุทธเจาแหงสรรพโอสถทั้งปวง
ทรงรักษาโรคภัยของสรรพสัตวทุกชนิด รวมท้ังโรคอันเปนบอเกิดแหงวัฏสงสาร คืออวิชชาดวย ฉะน้ันพระองค
จึงทรงเปนที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนมาก อันพึงสังเกตไดจากอุโบสถในอารามใหญๆ นิยมประดิษฐาน
พระปฏิมาของพระไภษัชยคุรุพุทธเจา ไวทางเบื้องซายของพระศรีศากยมหามุนีพุทธเจา และมีพระอมิตาภะ
พุทธเจาประดิษฐานไวทางเบื้องขวา อันมีความหมายวา พระอมิตาภะพุทธเจาทรงมีโลกธาตุนามวา “สุขาวดี”
ที่ต้ังอยูทางทิศตะวันตกของโลกแหงน้ี และพระไภษัชยคุรุพุทธเจา ก็ทรงมีโลกธาตุของพระองคนามวา “ศุทธิ
ไวฑูรย” (浄琉璃世界) หรือ “ไวฑูรยประภาส” (琉璃浄光世界) หรือ “ปูรณจันทระ” (滿月世界) อยูตรง
ขา มคอื ทางทิศตะวนั ออกของโลกน้เี ชนกนั

พระพุทธเจาผูประเสริฐท้ัง ๗ พระองคในพระสตู รนี้ ไดประกาศมหาปณิธานไวหลากหลาย รวมทั้งหมดมี
๔๔ ประการ แตก็มีพุทธประสงคเพื่ออนุเคราะหสรรพสัตวที่ยากจนขนแคน อดอยากหิวโหย ทุกขทรมานดวย
โรคราย และความพิกลพิการทั้งปวง คือมุงดับทุกขท่ีชาติปจจุบันกอนแลวจึงไปเกิดในพุทธเกษตรน้ันๆดุจกัน
หากผูอา นแลว ไดพิจารณาตาม ดว ยมีเมตตาจิตเปน ท่ตี ้ัง ก็จะซาบซึง้ ในพระมหาเมตตา มหากรุณาธิคุณของพระ

1

อรหันตสัมมาสัมพุทธเจาทุกพระองคเปนอยางดี เนื่องดวยแตละพระองคทรงมีพระทัยละเอียดออนคัมภีรภาพ
เปนที่สุด ดังพระมหาปณิธานท่ีวา จะขจัดทุกขจากอากาศท่ีหนาวและรอน โรคภัยไขเจ็บทั้งทางกายและใจ
ตั้งแตเจาพระราชาจนถึงกระยาจกผูเข็ญใจ รวมทั้งสรรพสัตวท้ัง ๖ ภูมิ คือ เทวดาภูมิ มนุษยภูมิ เดรัจฉานภูมิ
เปรตภูมิ อสุรภูมิ นรกภูมิ และสัตวในคติ ๘ อันมีเทพ นาค ยักษ คนธรรพ อสุร ครุฑ กินนร และมโหราค เปน
ตน

แมวา จะเปน ทุกขต างประเภทกนั กค็ งไมมีผใู ดดปรารถนาแนนอน เชนวาผทู อ่ี ยใู นสภาวะอม่ิ (สขุ ) ก็จะไม
รูซ้ึงถึงสภาวะหิว (ทุกข) ของอีกบุคคลหนึ่งในขณะน้ันไดเลย ถึงแมวาเขาจะเคยประสบมาแลวก็ตาม กลาวให
ละเอียดลงไป หากผูท่ีประสบภาวะอากาศรอนหรือเพียงอบอาว (ทุกข) ก็ปรารถนาในอากาศหนาวหรือเพียง
เย็นสบาย (สุข) แตบางคนประสบภาวะอากาศหนาวหรือเพียงเย็นสบายแตกลับเปนทุกข กลับปรารถนาใน
อากาศรอนหรืออบอาววาเปนสุขเชนน้ี ท่ีแสดงใหเห็นวาผูท่ีดํารงฐานะที่ตางกันดวยประการท้ังปวง ยอมมิอาจ
หรือยากท่ีจะไดรับรูถึงสภาวะทุกขของผูอ่ืนได ดวยเพราะความสุขและทุกขของแตละบุคคลรับรูไดเฉพาะใจ
แหง ตนเทานนั้

หากวาเราอานโดยไมพิจารณา ก็จะไมทราบถึงมหาเมตตาที่พระพุทธเจาท้ังหลายทรงมีตอสรรพสัตวท้ัง
ปวงได ฉะนั้นมหาปณิธานประการตางๆนี้ จึงเสมือนเมล็ดแหงโพธิจิตท่ีจะเจริญงอกงามได ในจิตของผูที่
พิจารณาธรรมโดยธรรมเทานั้น ทําใหเกิดจิตเมตตากรุณาเห็นอกเห็นใจตอกัน ซึ่งถือเปนธรรมที่สําคัญอยาง
ย่ิงยวดในพระพุทธศาสนา เปรียบกับบอน้ําเย็นในทะเลทรายที่รอนแรง และนํ้าเย็นในบอน้ีก็หาไดยากยิ่งใน
สังคมยุคปจ จุบัน

ในพระสูตรยังกลาวอีกวา หากสรรพสัตวใดที่ภาวนาพระนามและพระธารณีของพระพุทธเจาท้ัง ๗
พระองคน้ี ดวยความเปนที่สุดแหงใจโดยสมํ่าเสมอ จะเปนผูท่ีปราศจากโรคาพาธทั้งกายและใจ พนจากความ
พิกลพิการ โรครายท่ีมีอยูก็จะไดรับการรักษาเยียวยาใหหายจนส้ิน ฯลฯ เมื่อวายชีพแลวหากปรารถนาไปอุบัติ
ยังพุทธเกษตรแหง ใดของพระพทุ ธเจาทั้ง ๗ พระองคน้ี ก็จะไดสมปรารถนา โดยไดดาํ รงฐานะเปนพระโพธสิ ัตว
และบาํ เพญ็ บารมจี นเต็มเปย มบรบิ ูรณ เพอื่ ตรัสรูพระอนุตรสัมมาสัมโพธญิ าณในกาลอนาคต กลาวคือไดไ ปอุบัติ
ยังสมัยพระพุทธกาล (คือสมัยท่ีพระพุทธเจายังทรงพระชนมชีพอยู) ของพระพุทธเจาพระองคอื่นๆ ในโลกธาตุ
อ่ืนๆ ดังเชนมนุษยที่เกิดเม่ือ ๒๕๐๐ กวาปกอน ท่ีประเทศอินเดียในสหาโลกธาตุ (ชื่อเฉพาะของโลกที่เราอยูนี้
แปลวา โลกธาตุที่เต็มไปดวยความสูงต่ํา ความทุกขท่ีจําตองอดทน) แหงน้ี แลวไดฟงธรรมพระศากยมหามุนี
พทุ ธเจาจนหลดุ พน

วตั รปฏิบตั ขิ องมหายานนกิ าย ยามใกลร งุ เมือ่ เหลา พุทธบรษิ ัทลงอโุ บสถทาํ วัตร ก็จะสาธยาย พระศรู างคม
ธารณี สรรเสริญพระคุณอันประเสริฐแหงพระศากยมหามุนีพุทธเจา และระลึกถึงพระคุณของเหลาเทพธรรม
บาลที่บําราบมารพระศาสนาพรอมพิทักษรักษาพระศาสนาและผูที่มั่นในศีลบริสุทธ์ิ เม่ือยามเย็นก็สาธยาย
พระอมิตาภะพุทธสูตร สรรเสริญพระคุณอันประเสริฐแหงพระอมิตาภะพุทธเจา เพ่ืออธิษฐานจิตใหสรรพสัตว
สรรพวิญญาณ และตนเองไดไปอุบัติ ณ สุขาวดีพุทธเกษตรในภพหนา เม่ือถึงยามค่ําคืนก็สาธยาย พระไภษัชย
คุรุอภิเษกมนตรา หรือพระพุทธนามในการทักษิณาวัตร เพ่ือสรรเสริญพระคุณอันประเสริฐแหงพระไภษัชยคุรุ

2

พุทธเจา เพ่ือขออายุสิริวัฒนาและสุขภาพพลานามัยท่ีสมบูรณแข็งแรง เพื่อจักไดเปนกําลังในการปฏิบัติธรรม
และชวยเหลอื เพื่อนมนุษยท ่ีทุกขยากในโลกธาตแุ หง น้ี พระมหาปณิธานของพระพุทธเจาทง้ั ปวง ถือเปน อุปายะ
ท่ีแยบคายย่ิงนัก เพราะเหตุนี้กระมัง จึงไดอัญเชิญพระโลกนาถเจาทั้ง ๓ พระองคมาประดิษฐานไวในอุโบสถ
หลงั เดยี วกนั อยางเชน วดั เทพพทุ ธาราม ในประเทศไทย เปนตน

มหายานิกชนจะสาธยาย อุตรเคราะหนิรภัยจิรายุวัฒนาวิเศษสูตร ภาษาจีนแตจ๋ิววา ปก เตา เซียว ไจ
เอียง ซิ่ว เม่ียว เกง (北斗消災廷壽妙經)และธารณีของพระไภษัชยคุรุพุทธเจา ในยามคํ่าคืนของทุกวันที่ ๑
และ ๑๕ ตามจันทรคติ อันถือเปนวันธรรมสวนะของชาวพุทธมหายาน และในมงคลพิธีทั้งปวง พระสูตรนี้
กลา วถงึ พระพุทธเจา แหง ทศิ ตะวนั ออกท้งั ๗ พระองคว า ทรงนิรมาณกาย (อวตาร) เปน เทพ ๗ พระองค พรอม
ดวยพระโพธิสัตวเบ้ืองทิศตะวันตกอีก ๒ พระองค รวมเปน ๙ พระองค บางตํารากลาววาคือเทพแหงนพ
เคราะห มีพระสุริยะ พระจันทร พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัส พระศุกร พระเสาร และพระโพธิสัตวอีก ๒
พระองค ก็นิรมาณกายเปนพระราหูและพระเกตุ ตามลาํ ดบั ซ่งึ อนโุ ลมเขากบั ธาตุทั้ง ๕ คอื ทอง ไม นา้ํ ไฟ ดิน
ซ่ึงเปนธาตุตนกําเนิดสรรพส่ิงในจักรวาล โดยมีนัยยะวาบรรดาสรรพส่ิงก็ลวนอยูในการควบคุมของนพเคราะห
เทวราชนี้

บางตํารากลา ววา นพเคราะหเทวราช หาใชนิรมาณกายของพระพุทธเจาและพระโพธสิ ัตวท้ัง ๙ พระองค
น้ีไม แตคือเทพท่ีประจําดาวในกลุมดาวทางทิศเหนือ ท่ีมีอยู ๗ ดวง รวมกับดาวพระแทรกอีก 2 ดวง คือ ดาว
พระราหู และดาวพระเกตุ โดยถือเอานัยยะตามพระสูตรในภาษาจีนที่วา “ปก เตา”(北斗) ที่แปลวา “ดาว
เหนือ” เทาน้ัน หาไดมีความหมายครอบคลุมไปถึงดาวนพเคราะหไม ซ่ึงนามของบรรดาเทพเจาที่เปนนิรมาณ
กายนี้ ก็คอื เทพโบราณของฝายลัทธิเตาทง้ั สิ้น ผูท เี่ คยไดสาธยายพระสูตรดังกลาวก็จะทราบดี ซงึ่ ยงั หาขอสรุปท่ี
แนช ัดไมไดวา คือดาวเหนือหรอื นพเคราะห…

ยงั มพี ระมหาโพธิสตวอ ัครสาวก ๒ พระองคของพระไภษชั ยคุรุพทุ ธเจา นามวา พระสรุ ิยประภาโพธิสัตว (
日光遍照) และพระจันทรประภาโพธิสัตว (月光遍照) บางก็วาคือ สุริยเทพและจันทรเทพ ซึ่งตามพระธรรม
คัมภีรฝายมหายานไมมีขอมูลใดยืนยันวา พระโพธิสัตวท้ัง ๒ น้ี คือเทพพระอาทิตยและเทพพระจันทร แต
สาธชุ นก็เลอื กเอาวนั สมภพของพระอาทิตยแ ละพระจนั ทรต ามคติลัทธิเตามาบชู าพระโพธสิ ัตว ๒ องคน ี้ดว ย อีก
ยังมีมหายักษเสนาบดีอีก ๑๒ ตน ที่เล่ือมใสพระพุทธเจาท้ัง ๗ พระองคนี้ โดยไดประกาศสัจจะตอเบื้องพระ
พักตรแหงพระพุทธศรีศากยมหามุนี วาจะปกปกรักษาพุทธศาสนิกชนที่ตั้งม่ันในศีลธรรม มีความกตัญูและ
ศรัทธาในพระพุทธเจา ทง้ั ๗ พระองคนี้ ใหร ม เย็นรอดพน จากภยันตรายทงั้ ปวง และจะชวยดลบนั ดาลใหสมหวัง
ในส่งิ ท่ปี รารถนา มหายกั ษเสนาบดีทงั้ ๑๒ ตนน้ี เปรียบดง่ั จักรราศีหรอื นกั ษตั รทงั้ ๑๒ ของมนุษยอนั มี ชวด ฉลู
ขาล ฯลฯ เปนตน มาตรวาผูที่มีศรัทธาตอพระพุทธเจาท้ัง ๗ พระองคก็จะรอดพนจากอันตรายท้ังปวงได
ตลอดเวลา เพราะการอารกั ขาของมหายกั ษเ สนาบดีทัง้ ๑๒ ตน

ดังนั้น สาธุชนจึงนิยมสาธยาย จารึก คัดลอกพระนาม ธารณี พระสูตร หรือวาด ปน หลอพระปฏิมาของ
พระพุทธเจาท้ังหลายนี้ประดิษฐานไวในสถานที่ตางๆ เพื่อวาพระพุทธบารมีและอํานาจแหงมหายักษเสนาบดี
ทั้ง ๑๒ ตน จะมาสถิตอยูในสถานท่ีน้ันๆ ตามอรรถะในพระสูตรท่ีวา หากมีพระนาม ธารณี พระสูตร หรือพระ

3

ปฏิมาของพระองคสถิตอยูหรือปรากฏอยู ณ แหงใด การเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ โรคาพาธรายแรง อาถรรพชั่ว
รายทั้งปวงก็จะส้ินไปจากแหงนั้น จึงถือเปนพระพุทธนามอันศักดสิทธและยอดแหงมงคล ทั้งยังเปนที่มาหน่ึง
เดียวของการสรางพระกร่ิงของไทย ซ่ึงมีตนกําเนิดจากพระสูตรมหายาน สังเกตจากคาถาบูชาพระกร่ิง (ภาษา
บาลี) เปนบทเดียวกับธารณีที่ปรากฏในพระสูตร (ภาษาสันสกฤต) น้ี แตมาในปจจุบันการจัดสรางพระกร่ิงก็
คงไวแตธารณีหรือคาถาบูชาที่ทําใหเราพอทราบไดวา เปนพระไภษัชยคุรุพุทธเจา นอกเหนือจากคุณสมบัติที่
นิยมนําพระกริ่งลงแชน้ําแลวภาวนาคาภาพระไภษัชยคุรุ เพื่อทําเปนน้ําพระพุทธมนตในการรักษาโรคภัยและ
ความเปนสิริมงคล

เราจะสังเกตไดวา พระพุทธบารมีแหงพระไภษัชยคุรุพุทธเจาทรงเปนที่ประจักษมาแตโบราณกาลแลว
ตามหนังสือลัทธิของเพ่ือน ของเสถียรโกเศศ-นาคประทีป กลาวา “ในพงศาวดารเขมร กลาววา พระเจาชัยวร
มันที่ ๗ (พ.ศ.๑๗๒๔ ถึง ๑๗๔๔) กษัตริยกัมพูชาทรงสรางโรงพยาบาลทั่วไปในอาณาจักร เพ่ือถวายเปนพุทธ
บูชาแดพระไภษัชยคุรุพุทธเจา เพื่อประโยชนแกคนเจ็บปวย ไมเลือกช้ันวรรณะ โรงพยาบาลเหลานี้เรียกวา
อโรคยาศาลา (มีจํานวน ๑๒๖ แหง ทั่วพระราชอาณาจกั ร)” และจากศิลาจารกึ อโรคยาศาลาบันทึกไววา “โรคท่ี
เบียดเบียนรางกายของประชาชนนั้น กลับกลายเปนโรคทางใจ ถึงแมวาทุกขน้ันจะใชเปนของตนเอง แตความ
ทกุ ขของราษฎรเปรยี บเหมือนทกุ ขของผูปกครอง”

โดยทผี่ านมานัน้ มกี ารกลาวถงึ พระไภษชั ยคุรพุ ุทธเจาเพยี งพระองคเดียว โดยจะหาพระพุทธประวตั กิ แ็ ทบ
ไมมี ครั้นจะกลาวถึงพระพุทธเจาอีก ๖ พระองคพรอมพระพุทธประวัติก็ยากยิ่งนัก โดยในพระสูตรน้ีกลาววา
การจะไดเกิดมาเปนมนุษยน้ันแสนยาก เม่ือเกิดมาแลวไดเล่ือมใสในพระรัตนตรัยน้ันย่ิงยาก แตการไดพบพระ
ตถาคตเจาทั้ง ๗ พระองคนี้ยังยากยิ่งกวา ขาพเจาจึงหวังวาผูมีธรรมท้ังปวงจะไดเลือกเฟนเอาประโยชนอยาง
สุดกาํ ลงั

พระสูตรนไ้ี ดต ีพิมพ ๒ ครัง้ คือ พิมพนอมเกลาฯถวายเปนพระราชกศุ ลแด สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เม่ือวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๔ และ พิมพนอมเกลาฯถวายเปนพระกุศลแดส มเด็จพระเจา พ่ี
นางเธอ เจาฟากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร เมื่อวันท่ี ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ซ่ึงไดรับพระ
กรุณาโปรดเกลาฯพระราชทานพระฉายาลักษณจาก ๒ พระองค อัญเชิญมาตีพิมพในเลมและโปรดใหเขาเฝาฯ
เพอ่ื ถวายหนงั สอื นี้ดวยทกุ คร้ัง โดยมคี ณะศึกษา ปฏบิ ตั ิ เผยแผธ รรม หมื่นคุณธรรมสถาน เปนผดู ําเนนิ การพมิ พ

ขอต้ังจิตอธิษฐาน เอยอางตอพระพุทธบารมีคุณแหงพระตถาคตเจาผูประเสริฐ และอํานาจแหงกุศลใน
การเผยแผพระธรรมนี้ในภาคภาษาไทยและภาษาจีน จงสงผลอันวิเศษไปใหกวางขวางโดยไมมีประมาณ ให
โลกธาตุแหงนี้และใหสยามประเทศสันติสุขรมเย็น อุดมสมบูรณ ฝนฟาตกตองตามฤดูกาล สมเด็จพระบรม
บพิตรและพระบรมวงศานุวงศผูทรงพระคุณอันประเสริฐทรงพระเกษมสราญ พระชนมายุย่ิงยืนนาน
ประชาราษฎรท้งั หญงิ ชายท้ังใกลไกล ไดพ น จากความยากจนขน แคน และใหโรครายทเี่ บียดเบียนกายและใจได
ส้ินไป ไดเพียบพรอมดวยสัตบุรุษท่ีย่ิงดวยคุณธรรมดีงาม ไรสิ่งอันช่ัวรายรุมเราทั้งมวล ใหโลกธาตุแหงนี้ มีคุณ
ประดุจดินแดนพุทธเกษตรแหงพระตถาคตเจาผูประเสริฐทั้ง ๗ พระองคน้ีทุกประการ และขอต้ังจิตไปอุบัติยัง
พทุ ธเกษตรแหง พระไภษัชยครุ สุ ปั ตตถาคตน้ันดว ย.

4

นม สปฺตนํ สมยฺ กสฺ พํ ทุ ธฺ านํ
วศิ วภทั ร มณปี ทมเกตุ
เยาวชนดีเดน แหงชาติ สาขาคุณธรรมและจริยธรรม ป ๒๕๔๕

藥師琉璃光七佛本願功德經

ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ไ ว ฑู ร ย ป ร ะ ภ า สั ป ต พุ ท ธ ปู ร ว ป ณิ ธ า น วิ เ ศ ษ สู ต ร

( อ า ร ย - ส ป ต - ต ถ า ค ต - ปู ร ว - ป ณิ ธ า น - วิ เ ศ ษ - วิ สู ต ร - น า ม - ม ห า ย า น - สู ต ร )
พระมหาสมณะอ้จี ิง ตรีปฎกธราจารยชาวจนี แปลจากสนั สกฤตพากยส จู นี พากย ในสมัยราชวงศถัง ประเทศจีน
พระวิศวภัทร เซยี เกี๊ยก (沙門聖傑) แหงวัดเทพพุทธาราม แปลจากจนี พากยสไู ทยพากย เมื่อพระพุทธายุกาล
ลว งแลว ๒๕๔๔ ป

วรรคแรก 卷上

如是我聞。一時。薄伽梵遊化諸國。至廣嚴城。在樂音樹下。與大苾芻眾八千人俱。菩薩摩訶薩
。三萬六千。其名曰。曼殊室利菩薩.觀自在菩薩.慈氏菩薩.善現菩薩.大慧菩薩.明慧菩薩
.山峯菩薩.辯峯菩薩.持妙高峯菩薩.不空超越菩薩.徹妙音菩薩.常思惟菩薩.執金剛菩薩
。如是等諸大菩薩而為上首。

ดั่งที่ขาพเจาไดสดับมา สมัยหนึ่งสมเด็จพระภควันต เสด็จจาริกยังนครตางๆ จนถึงมหานครไวสาลี แลว
ประทับอยูภายใตรมเงาพฤกษา*๑ พรอมดวยภิกษุหมูใหญ ๘,๐๐๐ รูป พระโพธิสัตวมหาสัตว ๓๖,๐๐๐
พระองค มีพระมัญชศุ รีโพธิสัตว ๑ พระอวโลกิเตศวรโพธิสตั ว ๑ พระเมตไตรยโพธิสัตว ๑ พระสุภูติโพธิสัตว ๑
พระมหาปรัชญาโพธิสัตว ๑ พระวิทยาปรัชญาโพธิสัตว ๑ พระคิริกูฏโพธิสัตว ๑ พระปรติภานกูฏโพธิสัตว ๑
พระสเุ มรธุ ารณกี ูฏโพธิสัตว ๑ พระอโมฆสมตกิ กมะโพธิสัตว ๑ พระสุขุมาลศัพทะโพธิสตั ว ๑ พระนิตยมจนิ ตนา
โพธิสัตว ๑ พระวัชรปาณโี พธิสัตว ๑ เปนตน พระมหาโพธิสัตวท ง้ั หลายน้ีซงึ่ เปนผนู ํา
*๑ คือ ตนไมชนิดหน่ึง ท่ีเวลาลมพัดใบไมกระทบกันเกิดเสียงไพเราะเหมือนเสียงดนตรี แตไมปรากฎแนชัดวา
คือตน ไมช นิดใด

及諸國王大臣。婆羅門。居士。天龍八部。人非人等。無量大眾。恭敬圍遶。而為說法。初中後
善。文義巧妙。純一圓滿。清淨鮮白梵行之相。示教利喜。皆令具足微妙行願。趣大菩提。

บรรดากษัตริย มหาอํามาตย พราหมณ บัณฑิตผูมากดวยปญญา เทพ นาค สัตวในคติ ๘ (ยักษ คนธรรพ
อสูร ครุฑ กินนร มโหราค) มนุษยและอมนุษยจํานวนมหาศาลประมาณมิได ตางหอมลอมอยูดวยความเคารพ
เล่ือมใสในการแสดงพระเทศนาท่ีประเสริฐท้ังเบื้องตน ทามกลาง และเบ้ืองปลาย งดงามท้ังอรรถะและอักษร
ลวนแลวสมบูรณและบริสุทธ์ิประดุจลักษณะแหงพรหมจรรย (สะอาดไรราคินเวนจากราคะ) อันแสดงข้ึนเพื่อ
ประโยชนสุขของสรรพสัตว ยังใหสมบูรณพรอมซึ่งจริยาสมาจารและปณิธานอันประเสริฐแลวยังใหยินดีในมหา
โพธิญาณ

爾時曼殊室利法王子菩薩摩訶薩。承佛威神。從座而起。偏袒右肩。右膝著地。合掌恭敬而白佛
言。世尊。今有無量人天大眾。為聽法故。皆已雲集。

สมัยนัน้ พระมญั ชศุ รีธรรมราชกมุ ารโพธสิ ัตวม หาสตั ว ดว ยอาศยั พทุ ธานุภาพจงึ ลกุ ขน้ึ จากอาสนะ แลว ลด
ผาเฉวียงบา ขวานอมกายลงคุกเขาเบ้ืองขวาจรดพน้ื ประคองหัตถถ วายอญั ชุลี แลว กราบทลู พระพุทธองคว า ขา

5

แตพระผูมีพระภาคเจา บัดนี้มนุษยและเทพจํานวนประมาณมิได อันนับเปนมหาชนหมูใหญ ดวยเหตุที่จักสดับ
ธรรมจงึ มารวมกันอยเู นอื งแนนเชน น้ี

惟佛世尊。從初發意。乃至於今。所有無量塵沙數劫。諸佛剎土。無不知見。

มีเพียงพระพทุ ธโลกนาถเทา นั้น ทนี่ บั แตท รงบงั เกดิ โพธิจิตมาจนถึงปจ จบุ ัน เปนเวลาประมาณกลั ปมไิ ดดั่ง
ปรมาณูแหง ธลุ ี บรรดาโลกธาตุของพระพุทธเจา ท้ังปวงนนั้ ไรซ ่งึ พุทธเกษตรแหง ใดท่พี ระองคม ริ ูจัก

願為我等及未來世像法眾生。慈悲演說諸佛名號。本願功德。國土莊嚴。善巧方便差別之相。令
諸聞者業障消除。乃至菩提。得不退轉。

เพ่ือขาพระองคและสรรพสัตวที่อยูในสมัยท่ีพระธรรมเส่ือมสูญเบ้ืองอนาคต ขอพระองคเมตตากรุณา
โปรดประทานพระเทศนาแสดงพระนาม กุศลของมูลปณิธาน โลกธาตุที่อลังการและอุปายโกศลที่มีลักษณะ
ตางๆกันของพระพุทธเจาทั้งหลาย ยังใหผูไดสดับทั้งปวงมีวิบากกรรมส้ินไปตราบถึงพระโพธิญาณ ไดบรรลุถึง
ความไมเ ส่ือมถอยดวยเถิด พระเจา ขา

爾時世尊讚曼殊室利菩薩言。善哉善哉。曼殊室利。汝以大悲。愍念無量業障有情。種種疾病。
憂悲苦惱。得安樂故。勸請我說諸佛名號。本願功德。國土莊嚴。此由如來威神之力。令發斯問
。汝今諦聽。極善思惟。當為汝說。

ในเวลานั้น พระผูมีพระภาคเจาทรงสรรเสริญพระมัญชุศรีโพธิสัตววา ดีแลวๆ มัญชุศรี เธออาศัยมหา
กรุณา เวทนาสงสารนึกถึงสรรพสัตวผูมีวิบากกรรมนับประมาณมิได เหตุจักยังให (หมูสัตว) ผูมีโรคาพาธ เศรา
โศก วิตกกังวลประเภทตางๆ ไดบรรลุถึงความผาสุก จึงอาราธนาใหตถาคตแสดงพระนาม มหาปณิธาน กุศล
โลกธาตุ อลังการของพระพุทธเจาท้ังหลาย ท้ังน้ีดวยฤทธานุภาพของตถาคต ท่ีบันดาลใหเกิดการปุจฉาน้ีขึ้น
เธอท้ังหลายจงไดสดับฟงแลจงพิจารณาไตรต รองดว ยดีอยา งที่สุดเถดิ ตถาคตจักแสดงแกเธอในบดั นี้.

曼殊室利言。惟願為說。我等樂聞。

พระมัญชุศรโี พธสิ ัตวทูลวา ขอพระองคท รงแสดงเถดิ ขาพระองคท ้ังหลายยนิ ดสี ดับย่ิงแลว พระเจา ขา

佛告曼殊室利。東方去此。過四殑伽河沙佛土。有世界名曰光勝。佛號善名稱吉祥王如來。應正
等覺。明行圓滿。善逝。世間解。無上丈夫。調御士。天人師。佛。世尊。有無量億眾不退菩薩
之所圍遶。安住七寶勝妙莊嚴師子之座。現在說法。

มพี ุทธดํารสั กับพระมญั ชศุ รโี พธิสัตววา นบั จากโลกธาตุแหง น้ีไปเบ้อื งบูรพาทศิ ผา นพุทธเกษตรนบั จํานวน
ไดเทา กบั เมด็ ทรายในคงคานที 4 สายรวมกนั ยังมโี ลกธาตุนามวา “ชยะประภา” มพี ระพุทธเจาพระนามวา “สุ
ปริกรี ติตนามศรตี ถาคต” ไดตรสั รเู องโดยชอบ สมบรู ณพ รอ มดวยวิชชาและจรณะ เสด็จแลว ดว ยดี รแู จงในโลก
ยอดเยย่ี มหาผูมาเสมอเหมือนมไิ ด เปนผูฝก บุรุษที่ควรฝก เปน บรมศาสดาของเทวดาและมนษุ ยท ั้งหลาย เปน ผรู ู
ผูต่ืน ผูเบิกบาน และเปนที่พ่ึงของโลก พระองคมีโพธิสัตวผูไมถอยกลับจํานวนมากมายประมาณโกฏิมิได
แวดลอมอยู ประทับอยเู หนอื สงิ หนาทบัลลังกที่วจิ ิตราลังการอนั ประดับแลว ดวยรตั นมณี ๗ ประการ ในเวลาน้ีก็
ยังทรงแสดงพระสทั ธรรมอยู (ยงั ทรงพระชนมชพี )

曼殊室利。彼佛國土。清淨嚴飾。縱廣正等百千踰繕那。以贍部金而為其地。平正柔軟。氣如天
香。無諸惡趣。及女人名。亦無瓦礫沙石棘刺。寶樹行列。花果滋繁。多有浴池。皆以金銀真珠
雜寶而為砌飾。

ดูกอ นมัญชศุ รี พทุ ธโลกธาตุแหง นั้นสะอาดบรสิ ุทธ์ิ ตกแตง อยา งย่งิ ใหญแลว แมจกั กวางขวางราบเรยี บนับ
รอยนับพันโยชน*๒ ก็มีทองคําเปนพ้ืนธรณิน ราบเรียบเสมอกัน นุมนิ่ม สายลมก็หอมหวนดุจสุคนธทิพย
ปราศจากอบายภมู ิทั้งหลายและนามของสตรีเพศ*๓ ไรเศษกระเบื้อง กรวด ทราย หิน หลุม บอ เนินและขวาก

6

หนาม มีรัตนพฤกษอยูตามมรรคางอกงามผลิดอกผลมากมาย มีสระโบกขรณีหลายแหงท่ีลวนอาศัยทอง เงิน
ไขม ุก แกวมณี ชนิดตา งๆ ตกแตง ทข่ี น้ั บันได

*๒ ระยะทาง ๑ โยชน ประมาณ ๙ ไมล

*๓ปราศจากนามของสตรี มีความหมายวา ภาวะที่เปนหนึ่งเดียว เสมอภาคเทาเทียมกัน ไมแตกตางกัน ไม
แบงแยก

曼殊室利。彼國菩薩。皆於七寶蓮花化生。是故淨信善男子善女人。皆當願生彼佛國土。

มัญชุศรี โพธิสัตวในโลกธาตุแหงนั้น ลวนแตอุบัติขึ้นจากดอกบัวรัตนะ ๗ ประการ ดวยเหตุนี้ กุลบุตร
กุลธดิ าท่มี ศี รัทธาบริสทุ ธิ์ พงึ มปี ณิธานไปอุบตั ยิ ังพุทธเกษตรแหง น้ันเถิด

曼殊室利。彼佛如來應正等覺。從初發心。行菩薩道時。發八大願云何為八。

มัญชุศรี พระพุทธตถาคตผูต รสั รูเ องโดยชอบพระองคน น้ั เม่ือปฐมสมัยทท่ี รงเรมิ่ บังเกดิ โพธจิ ติ บําเพ็ญโพธิ
สตั วมรรคอยนู ั้น ไดประกาศมหาปณิธานไว ๘ ประการ อัน ๘ ประการน้นั มเี ชนไรเลา

第一大願。願我來世得無上菩提時。若有眾生。為諸病苦。逼切其身。熱病諸瘧。蠱道厭魅。起
屍鬼等之所惱害。若能至心稱我名者。由是力故。所有病苦。悉皆消滅。乃至證得無上菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๑ เมอื่ เรามาอบุ ตั ิยังโลกและบรรลอุ นุตรสมั มาสัมโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่
รางกายถูกรุมเราทุกขเวทนาดวยโรครายตางๆ โรคไขตัวรอน ไขจับสั่น หรือถูกเภทภัยไสยเวทย อาถรรพจาก
ภูตผี หากสามารถสรรเสริญนามของเราดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้ทุกขจากโรคก็จักดับส้ิน
ไปตราบไดบ รรลุพระอนุตรสมั มาสัมโพธิญาณ

第二大願。願我來世得菩提時。若有眾生。盲聾瘖瘂。白癩瘨狂。眾病所困。若能至心稱我名者
。由是力故。諸根具足。眾病消滅。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๒ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่
ยากลาํ บากเพราะเนตรบอด โสตหนวก เปนใบ โรคเรือ้ น วกิ ลจริตและโรคตา งๆ หากสามารถสรรเสรญิ นามของ
เราดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ีอายตนะท้ังหลายจะสมบูรณ สรรพโรคาจักดับส้ินตราบถึง
พระโพธญิ าณ

第三大願。願我來世得菩提時。若有眾生。為貪瞋癡之所纏逼。造無間罪。及諸惡行。誹謗正法
。不修眾善。當墮地獄。受諸苦痛。若能至心稱我名者。由是力故。令無間罪。及諸業障。悉皆
消滅。無有眾生墮惡趣者。常受人天殊勝安樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๓ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่ถูกผูกมัด
ดวยโลภะ โทสะ โมหะ กออนันตริยกรรมและความช่ัวท้ังปวง กลาวรายพระสัทธรรม ไมประกอบกุศลกรรม
ตางๆ ยอมตกสูนรกภูมิรับทุกขทรมานทั้งปวง หากสามารถสรรเสริญนามของเราดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวย
อํานาจแหงเหตนุ ้ีจักยังใหอนันตริยกรรมและวิบากกรรมท้ังปวงดับสิ้นไป จะไมมีสรรพสัตวตกสูอบายภมู อิ กี จัก
ไดเสวยสขุ อนั ประณตี วเิ ศษของเทพยชนตราบถึงพระโพธญิ าณ

第四大願。願我來世得菩提時。若有眾生。少乏衣食。瓔珞臥具。財貨珍寶。香花伎樂。若能至
心稱我名者。由是力故。所乏資生。皆得充足。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๔ เม่ือเรามาอุบัตยิ งั โลกและบรรลพุ ระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวท ่ีขาดแคลน
เคร่ืองนุงหม อาหาร เคร่ืองประดับ เสนาสนะ (เครื่องนอน) ทรัพยสินสมบัติของมีคา ของหอม ดอกไม เครื่อง

7

ดนตรี หากสามารถสรรเสริญนามของเราดว ยท่ีสดุ แหงใจแลว ไซร ดวยอํานาจแหงเหตนุ เี้ ครอ่ื งใชตางๆจะเกิดขึ้น
อยางบริบรู ณต ราบถึงพระโพธญิ าณ

第五大願。願我來世得菩提時。若有眾生。或被枷鎖繫縛其身。及以鞭撻。受諸苦惱。若能至心
稱我名者。由是力故。所有苦惱。皆得解脫。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๕ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวท่ีกายถูก
พันธนาการดวยข่ือคา โซตรวน และถูกโบยตีดวยแส ไดรับความทุกขทรมานนานัปการ หากสามารถสรรเสริญ
นามของเราดว ยทส่ี ดุ แหงใจแลวไซร ดว ยอํานาจแหงเหตนุ ้ีจะยงั ใหหลุดพน จากความทุกขทรมานทั้งหลายท่ีมีอยู
ตราบถึงพระโพธิญาณ

第六大願。願我來世得菩提時。若有眾生。於險難處。為諸惡獸。熊羆師子。虎豹豺狼。蚖蛇蝮
蠍之所侵惱。欲斷其命。發聲大叫。受此苦時。若能至心稱我名者。由是力故。所有恐怖。皆得
解脫。諸惡獸等悉起慈心。常得安樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๖ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวสัญจรไปใน
ท่ีทุรกันดารอันตราย ถูกสัตวรายตางๆ หมี สิงโต พยัคฆราย สุนัขปา อสรพิษ แมงปอง มุงเขาทํารายหมายให
ส้ินชีวิต สงเสียงรองกึกกอง ขณะท่ีรับทุกขนี้ หากสามารถสรรเสริญนามของเราดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวย
อาํ นาจแหง เหตนุ ีก้ ็จะหลดุ พนจากความกลัวเกรงทั้งปวง เหลาสตั วร า ยตางเกิดเมตตาจิต มีความผาสุกอยูเปน นิจ
ตราบถึงพระโพธิญาณ

第七大願。願我來世得菩提時。若有眾生。鬪諍言訟。因生憂惱。若能至心。稱我名者。由是力
故。鬪訟解散。慈心相向。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๗ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวตองคดี
พิพาท เปนเหตุใหวุนวาย เศราหมอง หากสามารถสรรเสริญนามของเราดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจ
แหงเหตนุ คี้ ดีความจะคลค่ี ลาย มเี มตตาจิตตอ กนั ตราบถึงพระโพธญิ าณ

第八大願。願我來世得菩提時。若有眾生。入於江海。遭大惡風。吹其船舫。無有洲渚而作歸依
。極生憂怖。若能至心稱我名者。由是力故。皆得隨心至安隱處。受諸快樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๘ เม่อื เรามาอุบัตยิ งั โลกและบรรลพุ ระโพธิญาณแลว หากมสี รรพสตั วทเี่ ขา ไปสูชล
ธารมหาสมุทร แลวเกิดมีมหาพายุราย พัดพานาวาน้ันไปยังที่ไรเกาะฝงใหพึ่งพิงอาศัย วิตกหวาดกลัวเปนที่สุด
หากสามารถสรรเสริญนามของเราดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้ก็จะพบพานสถานที่สงบสุข
ดงั่ ใจ ไดร ับความสขุ โสมนัสตราบถึงพระโพธิญาณ

曼殊室利。是謂彼佛如來。應正等覺。行菩薩道時。所發八種微妙大願。又彼世尊。從初發心。
常以定力成就眾生。供養諸佛。嚴淨佛土。菩薩眷屬。悉皆圓滿。此之福德不可思議。一切聲聞
。及諸獨覺。縱經多劫。說不能盡。唯除如來。補處菩薩。

ดูกอนมัญชุศรี คราเมื่อสมัยที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธะพระองคน้ันทรงบําเพ็ญโพธิสัตวจริยาอยูนั้น
พระองคไดประกาศมหาปณิธานอันประเสริฐทั้ง ๘ ประการนี้ อีกพระโลกนาถเจาองคน้ัน นับแตท่ีทรงบังเกิด
โพธจิ ติ กอ็ าศยั กาํ ลังแหง สมาธิยังประโยชนแกส รรพสัตว สักการะปวงพระพุทธะ ชําระพุทธเกษตรใหอ ลงั การอยู
เปนนิจ โพธิสัตวบริษัทก็ลวนแตเปนผูสมบูรณในบุญกุศลท่ีเปนอจินไตย บรรดาพระสาวกและเหลาพระปจเจก
โพธิ แมน ผานเวลาไปหลายกลั ปก ม็ ิอาจกลาวไดส น้ิ เวนแตพระตถาคตและเอกชาตปิ ฏพิ ันธโพธสิ ตั วเทา นั้น*๔

8

*๔ คือ พระมหาโพธิสัตวท่ีเก่ียวขอ งกับการเกิด เพ่ือสั่งสมบารมีอีกชาติเดยี ว ก็จักไดสําเร็จพระพุทธภูมิในทนั ที
เชน พระเมตไตรยโพธสิ ัตวเปนตน

曼殊室利。若有淨信男子女人。若王大臣長者居士。心悕福德。斷諸煩惱。稱彼佛名。讀斯經典
。於彼如來。至心尊重。恭敬供養。所有一切罪惡業障。及諸病苦。悉皆消滅。諸有願求。無不
隨意。得不退轉。乃至菩提。

มัญชุศรี หากมีชายหญิง หากพระราชา มหาอํามาตย คฤหบดี บัณฑิตผูทรงปญญา ผูมีศรัทธาบริสุทธ์ิ
หวังสําเร็จในบุญกุศล ปหานกิเลสเศราหมองทั้งปวง ไดสรรเสริญพระนาม สาธยายพระสูตรของพระพุทธเจา
พระองคน้ัน (พระสุปริกีรติตนามศรีตถาคต) มีความเลื่อมใสเคารพสักการะพระตถาคตพระองคน้ันดวยที่สุด
แหงใจแลวไซร บาปอกุศลวิบากกรรมและโรคภัยทั้งปวงท่ีมีจักดับส้ินไป บรรดาสิ่งท่ีปรารถนาจะสําเร็จดั่งใจ
แลว บรรลุถงึ ความมิถอยกลบั ตราบถงึ พระโพธญิ าณ

復次曼殊室利。東方去此。過五殑伽河沙佛土。有世界名曰妙寶。佛號寶月智嚴光音自在王如來
。應正等覺。有無量億菩薩圍繞。現在說法。皆演大乘微妙深義

ดูกอนมัญชุศรี นับจากโลกธาตุแหงนี้ไปเบ้ืองบูรพาทิศ ผานพุทธเกษตรนับจํานวนไดเทากับเม็ดทรายใน
คงคานทีจํานวน ๕ สายรวมกัน ยังมีโลกธาตุแหงหนึ่งนามวา “สุรัตนะ” มีพระโลกนาถเจาพระนามวา
“รัตนศิขินตถาคต” ไดตรัสรูเองแลวโดยชอบ มีโพธิสัตวจํานวนประมาณโกฏิมิไดแวดลอมอยู แมนขณะน้ี
พระองคก็ยังทรงประทานพระธรรมเทศนาอยู อันลวนแตเปนอรรถะท่ีลึกซึ้งแยบคายของมหายาน (ยังทรงมี
พระชนมช พี )

曼殊室利。彼佛如來。從初發心行菩薩道時。發八大願。云何為八。

มัญชุศรี พระพุทธตถาคตเจาพระองคนั้น นับแตสมัยที่เริ่มบังเกิดโพธิจิตบําเพ็ญโพธิสัตวมรรคอยูนั้น ได
ทรงประกาศมหาปณิธานไว ๘ ประการ อนั ๘ ประการน้ันมเี ชน ไรเลา

第一大願。願我來世得菩提時。若有眾生。為營農業。及商賈事。令心擾亂。廢修菩提殊勝善法
。於生死中。不能出離。各各備受無邊苦惱。若能至心稱我名者。由是力故。衣服飲食資生之具
。金銀珍寶。隨願充足。所有善根。皆得增長。亦不捨離菩提之心。諸惡道苦。咸蒙解脫。乃至
菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๑ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวท่ีมุงแต
ประกอบกสิกรรมและการคา ยังจิตใจใหสับสนวุนวาย ละทิ้งการบําเพ็ญกุศลธรรมอันเปนแนวทางแหงโพธิ
(การรูแจง) เปนผูอยูทามกลางสังสารวัฏมิอาจถอยหางได ลวนเตรียมรับทุกขทรมานที่ไรขอบเขตท้ังส้ิน หาก
สามารถสรรเสริญนามของเราดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้ เครื่องนุงหม เคร่ืองด่ืมกิน
เคร่ืองใช ทองเงินรัตนมณี จักเกิดขึ้นตามความปรารถนาโดยสมบูรณ กุศลมูลท่ีมีจักเพ่ิมพูนย่ิงข้ึน จักมิเผิกเฉย
และออกหางจากโพธจิ ติ *๕ ไดห ลุดพน จากทุกขข องอบายภูมติ ราบถงึ พระโพธญิ าณ

*๕ จิตอันมงุ ตอ การตรัสรู เพอื่ ประโยชนข องเวไนยสตั ว, จติ ของโพธสิ ตั ว

第二大願。願我來世得菩提時。於十方界。所有眾生。若為寒熱飢渴逼身。受大苦惱。若能至心
稱我名者。由是力故。先世罪業。悉皆消滅。捨諸苦惱。受人天樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๒ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว บรรดาสรรพสัตวท่ีมีอยูใน
โลกธาตุท้ังทศทิศ หากถูกความหนาวรอน หิวกระหายบีบค้ันเสียดแทงรางกาย ใหไดรับทุกขทรมานอยางใหญ

9

หลวง หากสามารถสรรเสริญนามของเราดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ี บาปกรรมในอดีตลวน
ดับส้ินไป จะสละท้งิ ทุกขท รมานทัง้ ปวง แลว เสวยทิพยสุขของเทพตราบถงึ พระโพธิญาณ

第三大願。願我來世得菩提時。於十方界。若有女人。貪婬煩惱。常覆其心。相續有娠。深可厭
惡。臨當產時。受大苦惱。若我名字。暫經其耳。或復稱念。由是力故。眾苦皆除。捨此身已。
常為男子。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๓ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว ในโลกธาตุท้ังทศทิศ หากมี
สตรีใดมักมากในกามตัณหาเปนเคร่ืองเศราหมองครอบงําจิตอยูเปนนิจ เมื่อต้ังครรภก็รังเกียจชิงชังเปนหนัก
หนา แมยามคลอดก็รับทุกขเวทนาอยางใหญหลวง หากนามแหงเราไดไปสดับถึงโสตของนางในช่ัวขณะหน่ึง
หรอื ไดสรรเสริญระลึกถึงแลวไซร ดว ยอาํ นาจแหง เหตนุ ้ี ทกุ ขทรมานท้ังหลายยอ มหมดส้ิน จะวางเฉยกับสังขาร
รา งกายนี้ และจะมีกายแหง บุรษุ อยเู ปนนจิ ตราบถึงพระโพธิญาณ

第四大願。願我來世得菩提時。若有眾生。或與父母。兄弟姊妹。妻子眷屬。及諸親友。行險難
處。為賊所侵。受諸苦惱。暫聞我名。或復稱念。由是力故。解脫眾難。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๔ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวหรือพรอม
ดวยบิดามารดา พ่ีชายนองชาย พ่ีสาวนองสาว บุตรหลานพงษพันธุ และบรรดาญาตมิ ิตรไดส ัญจรไปในเสน ทาง
อันตรายแลวถูกปลนชิงทําราย ไดรับทุกขทรมานทั้งปวง หากไดสดับนามของเราในช่ัวขณะหน่ึง หรือได
สรรเสริญระลกึ ถึงแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตนุ ้ี จะยงั ใหห ลดุ พนจากอันตรายตา งๆตราบถงึ พระโพธญิ าณ

第五大願。願我來世得菩提時。若有眾生。行於闇夜。作諸事業。被惡鬼神之所惱亂。極生憂苦
。暫聞我名。或復稱念。由是力故從闇遇明。諸惡鬼神。起慈悲意。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๕ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวสัญจรใน
ยามราตรีเพื่อกระทํากิจท้ังปวง ถูกผีรายรบกวนเปนทุกขอยางท่ีสุด หากไดสดับฟงนามของเราในช่ัวขณะหนึ่ง
หรือไดสรรเสริญระลึกถึงแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้จากความมืดมิดจะพบกับความสวาง บรรดาปศาจราย
จะเกิดเมตตากรณุ าจิตตราบถงึ พระโพธญิ าณ

第六大願。願我來世得菩提時。若有眾生。行鄙惡事。不信三寶。智慧尠少。不修善法。根力覺
道。念定總持。皆不修習。若能至心稱我名者。由是力故。智慧漸增。三十七品。悉皆修學。深
信三寶。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๖ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวดําเนินใน
ปฏิปทาท่ีสามานย มิศรัทธาพระรัตนตรัย มีปญญาญาณนอยนิด มิบําเพ็ญกุศลธรรม อินทรียพละ โพธิมรรค
สมาธิ ธารณลี ว นแตม ิปฏิบตั บิ าํ เพญ็ หากสามารถสรรเสรญิ นามของเราดว ยทส่ี ุดแหงใจแลวไซร ดว ยอํานาจแหง
เหตุนี้ สติปญญาจะคอยๆเพ่ิมพูน โพธิปกขิยธรรมท้ัง ๓๗ ประการจะไดศึกษาบําเพ็ญท้ังสิ้น มีศรัทธาลึกซึ้งตอ
พระรตั นตรยั ตราบถึงพระโพธญิ าณ

第七大願。願我來世得菩提時。若有眾生。意樂鄙劣。於二乘道。修行而住。棄背無上勝妙菩提
。若能至心稱我名者。捨二乘見。於無上覺。得不退轉。乃至菩提。

มหาปณธิ านประการที่ ๗ เมอื่ เรามาอุบตั ิยงั โลกและบรรลพุ ระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสตั วที่ยนิ ดีอยูใน
ความต่ําตอยต้ังอยูและประพฤติในทวิยาน*๖ ละทิ้งพระอนุตรสัมโพธิมรรค*๗ หากสามารถสรรเสริญนามของ
เราดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ีจะวางเฉยในทิฐิแหงทวิยานแลวไมเส่ือมถอยจากพระอนุตร
สัมโพธติ ราบถึงพระโพธิญาณ

10

*๖ ทวิยาน คอื ยานท้งั ๒ หมายถงึ ปจเจกยาน และสาวกยาน

*๗ คือทอดท้งิ โพธญิ าณ เพื่อสําเร็จเปนพระพทุ ธเจา

第八大願。願我來世得菩提時。若有眾生。見劫將盡。火欲起時。生大憂怖。苦惱悲泣。由彼前
身惡業力故。受斯眾苦。無所歸依。若能至心稱我名者。所有憂苦。悉皆消滅。受清涼樂。從此
命終。於我佛土。蓮華化生。常修善法。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๘ เม่ือเรามาอบุ ัตยิ งั โลกและบรรลุพระโพธญิ าณแลว หากมีสรรพสตั วทีไ่ ดเ ห็นการ
อวสานของกัลป เม่ือเพลิงบรรลัยกัลปจักประทุขึ้น จะเกิดความหวาดหว่ันพรั่นพรึง ทุกขเวทนารํ่าไหเปนหนัก
หนา ดวยอํานาจแหง อกศุ ลกรรมในอดีตของผูน ั้น ใหไ ดรบั ทุกขทั้งปวงน้นั อยางไรท พ่ี ่งึ พิง หากสามารถสรรเสริญ
นามของเราดวยความเปนท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ี ความทุกข ปริเวทนาทั้งหมดท่ีมีจะดับส้ิน
ไป ไดรับความสุขรม เย็น เมื่อสิน้ จากชีพน้จี ะอุบตั ิท่ีปทมชาติในพุทธเกษตรของเรา ไดบ ําเพญ็ กุศลธรรมไปตราบ
ถงึ พระโพธญิ าณ

曼殊室利。是為彼佛如來。應正等覺。行菩薩道時。所發八種微妙大願。又彼如來所居佛土。廣
博嚴淨。地平如掌。天妙香樹而為行列。天花遍覆。天樂常鳴。天妙鈴鐸。隨處懸布。天寶莊嚴
師子之座。天寶砌飾諸妙浴池。其地柔軟。無諸瓦礫。亦無女人。及諸煩惱。皆是不退諸菩薩眾
。蓮花化生。若起念時。飲食衣服。及諸資具。隨意現前。是故名為妙寶世界。

ดูกอนมัญชุศรี พระพุทธตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะพระองคน้ัน เม่ือคราที่ประพฤติองคในโพธิสัตวจริ
ยามรรคอยูน้ัน ไดประกาศมหาปณิธานอันประเสริฐไว ๘ ประการเชนนี้ พระตถาคตเจาพระองคน้นั ประทับอยู
ในพุทธเกษตร อนั กวา งใหญไ พศาลอลังการและบริสุทธ์ิ พืน้ ธรณนิ ก็ราบเรียบดง่ั ฝามอื พฤกษาทิพยสงกลิ่นหอม
อันนารื่นรมยอยูตามมรรคา ทิพยมาลีปกคลุมอยูท่ัวไป ทิพยดุริยางคก็บรรเลงอยูเปนนิตย มีกระด่ิงทองอันเปน
ทพิ ยแ ขวนระยาตามรายทาง มีรตั นสิงหนาทบลั ลังกท่ีเปนทิพยแ ละอลังการ บันไดและกําแพงแหงสระโบกขรณี
ทั้งปวงก็ตกแตงดวยทิพยรัตนะ พื้นดินแหงนั้นมีความนุมปราศจากเศษกรวด กระเบ้ืองทั้งปวง ไรสตรีเพศและ
ความเศราหมองทั้งปวง (หมูชนในแดนน้ัน) ลวนเปนหมูโพธิสัตวที่ไมเส่ือมถอย เปนผูอุบัติจากปทุมชาติทั้งสิ้น
หากระลกึ ถงึ เครือ่ งดมื่ เคย้ี ว อาภรณแ ละเครอื่ งใชท งั้ ปวงเมื่อใด ก็จะปรากฏข้นึ เบอื้ งหนาดั่งใจทกุ ประการ เหตุนี้
จงึ มีสมญานามวา “สุรัตนโลกธาตุ”

曼殊室利。若有淨信男子女人。國王王子。大臣輔相。中宮婇女。晝夜六時。慇重至心。恭敬供
養彼佛世尊。及稱名號。并造形像。香花音樂。燒香末香塗香。而為奉獻。清淨嚴潔。於七日中
。持八戒齋。於諸眾生。起慈悲意。願生彼土。彼佛世尊。及諸菩薩。護念是人。一切罪業。悉
皆消滅。無上菩提。得不退轉。於貪恚癡。漸得微薄。無諸病苦。增益壽命。隨有悕求。悉皆如
意。鬪諍怨家。咸生歡喜。捨此身已。往彼剎土。蓮花化生。當生之時。念定總持。悉皆明了。

มัญชุศรี หากมีชาย หญิง พระราชา ราชบุตร มหาอํามาตย ขุนนาง สนมนางในที่มีศรัทธาบริสุทธิ์ ตลอด
ทิวาราตรี ๖ เวลาไดถวายความเคารพบูชาพระพุทธโลกนาถเจาพระองคนั้นและสรรเสริญพระนามดวยความ
จริงใจม่ันเปนท่ีสุด จัดสรางปฏิมาขึ้นแลวบูชาดวยของหอม ดอกไม ดนตรีสังคีต เผาเครื่องหอม ผงหอม เครื่อง
ทาหอมถวายเปนพทุ ธสักการะ ชําระมณฑลสถานสะอาดบริสุทธิ์ใน ๗ ทิวาก็สมาทานอุโบสถศีลบริสุทธิ์ เกิดจติ
เมตตากรุณาตอสรรพสัตวท้ังหลาย แลวตั้งปณิธานไปอุบัติยังพุทธเกษตรแหงน้ันพระพุทธโลกนาถเจาพระองค
น้ัน (พระรัตนจันทรปรัชญาประภาศัพทศวรราชาตถาคต) และบรรดาโพธิสัตวจักตามระลึกปกปองผูน้ี
บาปกรรมทั้งหลายจักดับสิ้น ไดบรรลุถึงความไมเส่ือมถอยจากพระอนุตรสัมโพธิญาณ โลภะ โทสะ โมหะจะ

11

คอยๆเบาบางลง ปราศจากโรคาทกุ ขทงั้ ปวง มีอายุขยั ยืนนาน ส่ิงที่ปรารถนาจกั สําเรจ็ ด่ังมโนรถทุกประการ คดี
ความอรศิ ตั รูจักเกดิ โสมนสั ยินดี (ไมเคืองแคน) เมอื่ ละสังขารนแ้ี ลว จักไปอบุ ัติทปี่ ทมุ ชาติในโลกธาตุแหงน้ัน เวลา
ที่ถือกําเนิดบรรดาสมาธิธารณตี างจกั รูแจง ทั้งสิน้

曼殊室利。如是當知。彼佛名號。無量功德。若得聞者。所願皆成。

มัญชุศรี เธอพึงรูเถิดวา พระนามของพระพุทธเจาพระองคน้ันมีกุศลประมาณมิได หากไดสดับแลว
ปณธิ านจักสาํ เร็จทุกประการ

復次曼殊室利。東方去此過六殑伽河沙佛土。有世界名曰圓滿香積。佛號金色寶光妙行成就如來
應正等覺。有無量億萬菩薩圍遶現在說法。

ดูกอนมัญชุศรี นับจากโลกธาตุแหงนี้ไปเบื้องบูรพาทิศ ผานพุทธเกษตรนับจํานวนไดเทากับเม็ดทรายใน
คงคานทีจํานวน ๖ สายรวมกัน ยังมีโลกธาตุแหงหนึง่ นามวา “ปริบูรณคันธาลยะ” มีพระสัพพัญูเจาพระนาม
วา “สุวรรณภัทรวิมลรัตนประภาสตถาคต” ไดตรัสรูเองแลวโดยชอบ มีโพธิสัตวจํานวนหมื่นโกฏิอันประมาณ
มิไดแวดลอมอยู แมน ขณะนพี้ ระองคก ็ยังทรงประทานพระธรรมเทศนาอยู

曼殊室利。彼佛如來。從初發心。行菩薩道時。發四大願。云何為四。

มัญชุศรี พระพุทธโลกนาถเจาพระองคน้ัน นับแตสมัยท่ีทรงเร่ิมบังเกิดโพธิจิตบําเพ็ญจริยาวัตรเปน
โพธิสัตวอ ยนู ัน้ ไดป ระกาศมหาปณธิ านไว ๔ ประการ อนั ๔ ประการน้นั มเี ชนไรเลา

第一大願。願我來世得菩提時。若有眾生。造作種種屠害之業。斷諸生命。由斯惡業。受地獄苦
。設得為人。短壽多病。或遭水火刀毒所傷。當受死苦。若聞我名。至心稱念。由是力故。所有
惡業。悉皆消滅。無病長壽。不遭橫死。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๑ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่กระทํา
กรรมโดยเปน เพชฌฆาตผปู หารชีวติ ทั้งปวง ดวยอกุศลกรรมนี้ยังใหรบั ทุกขในนรกภูมิ แมนจักเปน มนุษยจะเปน
ผูมีอายุส้ันมากดวยโรค หรือไดรับอันตรายจากนํ้า ไฟ อาวุธ ยาพิษ มรณะดวยความทุกขทรมาน หากไดสดับ
นามของเราแลวสรรเสริญระลึกถึงดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ี บาปกรรมท้ังหลายท่ีมีจักดับ
สิน้ ปราศจากโรค มอี ายขุ ยั ยาวนาน มิตอ งมรณะกอ นเวลาอนั ควรตราบถึงพระโพธิญาณ

第二大願。願我來世得菩提時。若有眾生。作諸惡業。盜他財物。當墮惡趣。設得為人。生貧窮
家。乏少衣食。常受諸苦。若聞我名。至心稱念。由是力故。所有惡業。悉皆消滅。衣服飲食。
無所乏少。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๒ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวกระทํา
อกุศลกรรมท้ังปวง ลักขโมยทรัพยสินผูอ่ืน ยอมตกทุคติภูมิ หากกําเนิดเปนมนุษยจะเกิดในครอบครัวยากจน
อัตคัดขาดแคลนเครื่องนุงหม อาหาร ไดรับทุกขท้ังปวงอยูเปนนิจ หากไดสดับนามของเราและสรรเสริญระลึก
ถึงดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้ อกุศลกรรมท่ีมีจักดับสิ้น อาภรณ เครื่องด่ืมเค้ียวจักไมขาด
แคลนตราบถงึ พระโพธิญาณ

第三大願。願我來世得菩提時。若有眾生。更相凌慢。共為讐隙。若聞我名。至心稱念。由是力
故。各起慈心。猶如父母。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๓ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่ขมเหง
ผอู ื่น เปนปรปก ษต อ กัน หากไดส ดบั นามของเราและสรรเสริญระลึกถึงดว ยท่ีสดุ แหงใจแลวไซร ดว ยอํานาจแหง
เหตุนจ้ี ะเกิดเมตตาจิตตอ กนั ดุจเปน บดิ ามารดาที่อาทรตอ บตุ รตราบถึงพระโพธิญาณ

12

第四大願。願我來世得菩提時。若有眾生。貪欲瞋恚愚癡所纏。若出家在家。男女七眾。毀犯如
來所制學處。造諸惡業。當墮地獄。受諸苦報。若聞我名。至心稱念。由是力故。所有惡業。悉
皆消滅。斷諸煩惱。敬奉尸羅。於身語心。善能防護。永不退轉。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๔ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวถูกโลภะ
โทสะ โมหะ ผูกมัดอยู แมนไดสละเรือนหรือครองเรืองทั้งชายหญิงตลอดถึงพุทธบริษัท*๘ ไดกลาวราย ลวง
ละเมิดพระวินัยของพระตถาคต สรางอกุศลกรรมทั้งปวงยอมไปสูนรกภูมิรับทุกขวิบากท้ังปวง หากไดสดับนาม
ของเราและสรรเสริญระลึกถงึ ดว ยท่ีสดุ แหง ใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตนุ ี้ อกศุ ลกรรมทม่ี ีอยจู ักดบั สิ้น ปหาน
กิเลสเศราหมองท้ังปวงแลวปฏิบัติศีลโดยเคารพ รักษากาย วาจา ใจไดเปนอยางดี ไมเสื่อมถอยตราบถึงพระ
โพธิญาณ

*๘ ภิกษุ ภิกษณุ ี สกิ ขมานา สามเณร สามเณรี อุบาสก อบุ าสกิ า

曼殊室利。是為彼佛如來。應正等覺。行菩薩道時。所發四種微妙大願。

มัญชุศรี พระพุทธตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะพระองคน้ัน เม่ือกาลท่ีทรงบําเพ็ญโพธิสัตวมรรคนี้ ได
อธษิ ฐานปณิธานอันประเสรฐิ ๔ ประการ เชน น้แี ล

曼殊室利。又彼如來所居佛土。廣博嚴淨。地平如掌。皆以寶成。常有香氣。如妙栴檀。復以香
樹而為行列。天妙珠瓔。摩尼等寶。處處垂下。多有浴池。天寶嚴飾。香水盈滿。眾德皆具。於
其四邊。懸妙繒綵。街衢八道。隨處莊嚴。所有眾生。無諸煩惱。及憂悲苦。亦無女人。多是住
地諸菩薩眾。勝妙音樂。不鼓自鳴。演說大乘。微妙深法。若有眾生。聞此音者。得不退轉無上
菩提。

มัญชุศรี พระตถาคตเจาพระองคนน้ั ประทับอยูในพุทธเกษตรท่ีมีความกวางใหญไ พศาล อลังการ บริสุทธิ์
ย่ิงนัก พื้นพสุธาก็ราบเรียบดุจฝามือ ลวนสําเร็จดวยแกวมณี มีสายลมหอมดุจแกนจันทนโชยอยูเปนนิจ ยังมีสุ
คันธพฤกษาอยูตามรายทาง เกยูระ มณี รัตนชาติ อันเปนทิพยก็โปรยปรายลงมายังทุกสถาน มีสระโบกขรณี
หลายแหงตบแตงดวยทิพยรัตนะ นํ้ามีกล่ินหอมก็เต็มเปยมและสมบูรณซึ่งคุณท้ังปวง ท้ัง ๔ ดานมีแพรไหมที่
ประณีตหอยระยาอยู ถนนมี ๘ สายลวนกวางใหญอลังการ เวไนยสัตวที่มีในโลกธาตุน้ัน ปราศจากความเศรา
หมองและความทุกขโศกท้ังมวล อีกไมมีสตรีเพศ มีจํานวนมากเปนโพธิสัตวท่ีดํารงโพธิสัตวภูมิ เสียงดนตรีก็
ประโคมไพเราะจับใจโดยบรรเลงขึ้นเอง ท้งั ยงั แสดงมหายานธรรมท่คี ัมภีรภาพแยบคาย หากมสี รรพสัตวไดสดบั
เสยี งน้ี ยอ มเปนผมู เิ สอ่ื มถอยจากพระอนุตรสัมโพธญิ าณ

曼殊室利。彼佛如來。由昔願力。善巧方便。成就佛土。圓滿莊嚴。坐菩提座。作如是念。於未
來世。若有眾生。為貪瞋癡之所纏繞。眾病所逼。怨家得便。或時橫死。復由惡業。墮地獄中。
受大劇苦。彼佛見此苦惱眾生。為除業障。說此神呪。令彼受持。於現世中。得大利益。遠離眾
苦。住菩提故。即說呪曰。

มัญชุศรี ดวยกําลังของพระปณิธานเม่ือกาลกอน พระอุปายโกศลของพระพุทธตถาคตเจาพระองคน้ันจึง
สําเร็จเปนพุทธเกษตร คราเมื่อไดประทับอยูเหนือโพธิบัลลังกอันสมบูรณอลังการแลว (ตรัสรู) ทรงระลึกเชนน้ี
วา ในอนาคตหากมีสรรพสัตวท่ีมีโลภะ โทสะ โมหะ ผูกมัด มีบรรดาโรครายเสียดแทง ถูกศัตรูมุงราย บางครา
ตองมรณะกอนเวลาอันควร อีกเหตุเพราะอกุศลกรรมยังใหตกนรกภูมิรับทุกขทรมานแสนสาหัส เมื่อ
พระพุทธเจาพระองคน้ันไดพิจารณาเห็นสรรพสัตวที่ทุกขทรมานนี้ เพ่ือขจัดกรรมวิบากจึงตรัสมหาศักดามนตร
ยังใหสรรพสัตวเหลาน้ันที่จดจําไวได ในปจจุบันชาตจิ ักไดบรรลุประโยชนยิ่งใหญ ไกลจากทุกขท ั้งมวล ตั้งมั่นใน
โพธิ(ความรแู จง)เปนเหตุ แลวจงึ ตรสั ธารณคี าถาดง่ั นี้

13

呾姪他悉[日*弟]悉[日*弟] 蘇悉[日*弟] 謨折儞木剎儞 目帝毘目帝菴末麗毘末麗 忙揭例呬囒若
揭鞞曷喇呾娜 揭鞞 薩婆頞他婆但儞 鉢囉摩頞他 娑但儞末捺細 莫訶末捺細 頞步帝頞室步帝 毘
多婆曳 蘇跋泥(去) 跋羅蚶摩 瞿俠佉 跋囉蚶摩柱俠帝 薩婆頞剃數 阿鉢囉匝帝薩跋呾囉 阿鉢[
口*剎]底喝帝 折覩殺 瑟[木*致]勃陀俱胝 婆俠帝納摩娑婆 呾他揭多喃 莎訶

ตทยฺ ถา สิทฺธิ สทิ ธฺ ิ สุสิทฺธิ โมจนิ โมกษฺ ณิ มุกฺเต พิมกุ ฺเต อมเล พิมเล มํ คลฺเย หริ นฺย ครฺเภ รตนฺ ครเฺ ภ สรวฺ
อรถฺ สาธนิ พรมาอรถฺ สาธนิ มนเส มหามนเส อทฺภุเต อตฺยทภฺ ุ เต ภตี ภยสุวรเฺ ณ พรฺ หมโฆเษ พฺรหฺมาธฺยุเษเต สรฺว
อรฺเถษุอปราชิเต สรฺว ตรฺ อปฺรตหิ เต จต:ุ ษษฺฐิ พทุ ธฺ โกฏิ ภาษิเต นม: สรฺว ตถาคตา นามฺ สฺวาหา*๙

*๙ คาํ อา นอยูทา ยเอกสาร

爾時世尊。說此大力大明呪時。眾中所有諸大菩薩。四大天王。釋梵王等讚言。善哉善哉。大悲
世尊。能說如是過去如來大力神呪。為欲饒益無量眾生。竭煩惱海。登涅槃岸。除去疾病。所願
皆滿。

ในสมัยน้ัน เมื่อพระศากยมุนีโลกนาถเจาตรัสมหาวิทยามนตรอันยิ่งดวยอานุภาพนี้ บรรดาผูที่อยูใน
ธรรมสภาทั้งหมด มีมหาโพธิสัตว จตุมหาเทวราช ทาวสักรินทร มหาพรหมราชา ตางกลาวสรรเสริญวา สาธุ
สาธุ พระมหากรณุ าโลกนาถเจา สามารถแสดงธารณีมนตร อนั ย่งิ ดว ยพละของพระตถาคตเจาในอดีตเชนนี้ เพ่ือ
ยังประโยชนแกสรรพสัตวไมมีประมาณ ยังกิเลสสาครใหเหือดแหง ลุถึงฝงพระนิรวาณ กําจัดโรคาพาธ ยัง
ปณิธานไดสมมโนรถทุกประการ

佛告大眾。若有淨信男子女人。國王王子。大臣輔相。中宮婇女。情悕福德。於此神呪起敬信心
。若讀若誦。若為他人演說其義。於諸含識。起大悲心。晝夜六時。香華燈燭。殷重供養。清淨
澡浴。持八戒齋。至誠念誦。所有極重無邊業障。悉皆消滅。於現身中。離諸煩惱。命欲終時。
諸佛護念。即於彼國蓮花化生。

พระบรมศาสดาศรีศากยมุนี ทรงมีรับสั่งกับมหาชนที่น้ันวา หากมีชายหญิง พระราชา ราชกุมาร ขุนนาง
อํามาตย สนมนางในผูมีศรัทธาบริสุทธปรารถนากุศลบารมี พึงมีจิตคารวะเลื่อมใสมหาศักดามนตรน้ี หากอาน
ทอง หากสวดสาธยาย หากไดสดับผูอื่นกลาวแสดง พึงเกิดมหากรุณาจิตตอสรรพสตั ว ตลอดทิวาราตรี ๖ เวลา
ถวายบูชาดวยของหอม ดอกไม ดวงประทีป ชําระกายใหสะอาด สมาทานอุโบสถศีลบริสุทธิ์ ภาวนาสาธยาย
ธารณีดวยความจรงิ ใจเปน ท่ีสดุ วิบากกรรมนอ ยใหญท่ีมีอยูไรข อบเขตประมาณจะดับส้นิ ไป ในปจ จบุ นั ชาติยอม
ไกลจากกิเลสท้ังปวง เม่ือกาลท่ีชาตะดับสิ้นพระพุทธเจาท้ังปวงจักระลึกปกปอง ยังใหไปอุบัตทิ ่ปี ทมชาติใน
โลกธาตแุ หงนน้ั *๑๐

๑๐ ตามศพั ทคือ การอุบัตขิ ึน้ ในดอกบัว (蓮花化生 ) เชนเดียวกับการเกิดขึน้ ของเทวดา พรหม เปรต คอื
เติบโตเปนวิญูชนทันที ไมตองอาศัยอยูในครรภแลวคอยๆเจริญเติบโตแบบมนุษย และสัตวที่เกิดโดยครรภ
หรือไข

復次曼殊室利。東方去此。過七殑伽河沙佛土。有世界名曰無憂。佛號無憂最勝吉祥如來。應正
等覺。今現在彼為眾說法。又彼如來所居佛土。廣博嚴淨。地平如掌。皆以寶成。細滑柔軟。常
有香氣。無憂苦聲。離諸煩惱。亦無惡趣。及女人名。處處皆有金砌浴池。香水盈滿。寶樹行列
。花果滋茂。勝妙音樂。不鼓自鳴。譬如西方極樂世界。無量壽國功德莊嚴。

ดูกอนมัญชุศรี นับจากโลกธาตุแหงนี้ไปเบื้องบูรพาทิศ ผานพุทธเกษตรนับจํานวนไดเทากับเม็ดทรายใน
คงคานที ๗ สายรวมกัน ยังมีโลกธาตุแหงหนึ่งนามวา “อโศกา” มีพระธรรมราชาพระนามวา “อโศโกตตมศรี
ตถาคต” ไดตรัสรูเองโดยชอบ แมนบัดน้ีก็ยังประทานพระธรรมเทศนาแกหมูชนเหลาน้ันอยู พระตถาคตเจา

14

พระองคนั้นประทับอยูในพุทธเกษตรท่ีมีความกวางใหญไ พศาล อลังการ บริสุทธิ์ย่ิงนัก พ้ืนพสุธาก็ราบเรียบดุจ
ฝา มือ อนั ลว นสาํ เรจ็ ดว ยแกวมณี มีความละเอยี ดออ นนมุ และมีกลิน่ หอมอยูเนอื งนติ ย ปราศจากเสียงของความ
ทุกขโ ศกครํา่ ครวญ ไกลจากเครื่องเศราหมองคือกิเลสทงั้ ปวง ทงั้ ปราศจากอบายภมู แิ ละนามของสตรี ทกุ แหง มี
สระโบกขรณีกอสรางดวยอิฐทองคํา มีนํ้าท่ีสงกล่ินหอมแลเต็มเปยม รัตนพฤกษชาติเรียงรายอยูตามทาง ดอก
และผลผลิสะพรั่งอยูท่ัวไป เสียงดนตรีก็ประโคมไพเราะจับใจโดยบรรเลงข้ึนเอง มีกุศลและอลังการ ครุวนา
สขุ าวดีโลกธาตุแหง พระอมิตายสุ พุทธเจา น่ันเทียว

曼殊室利。彼佛世尊。行菩薩道時。發四大願。云何為四。

มัญชุศรี พระพุทธโลกนาถพระองคน้ัน เม่ือสมัยที่บําเพ็ญจริยาในโพธิสัตวมรรคนั้น ไดประกาศมหา
ปณธิ านไว ๔ ประการ อัน ๔ ประการน้นั มเี ชนไรเลา

第一大願。願我來世得菩提時。若有眾生。常為憂苦之所纏逼。若聞我名。至心稱念。由是力故
。所有憂悲。及諸苦惱。悉皆消滅。長壽安隱。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๑ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวท่ีถูกผูกมัด
รุมเราดวยทุกขโศกอยูเปนนิจ หากไดสดับนามของเราและสรรเสริญระลึกถึงดวยความเปนที่สุดแหงใจแลวไซร
ดวยอํานาจแหงเหตนุ ้ีความโศกเศราระทมใจและความทุกขทรมานท้ังปวงจักดับสิ้น มีอายุขัยวัฒนาผาสุกตราบ
ถงึ พระโพธิญาณ

第二大願。願我來世得菩提時。若有眾生。造諸惡業。生在無間黑闇之處。大地獄中。受諸苦惱
。由彼前身。聞我名字。我於爾時身出光明。照受苦者。由是力故。彼見光時。所有業障悉皆消
滅。解脫眾苦。生人天中。隨意受樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๒ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวท่ีกระทํา
อกุศลกรรมทั้งปวงตองไปอุบัติยังอเวจีท่ีมืดมน รับทุกขทรมานนานัปการท่ีมหานรกแหงน้ัน เหตุที่ในอดีตชาติ
เคยสดับนามของเรา เม่ือน้ันเราจะเปลงรัศมีประภาสจากกายไปยังสัตวท่ีไดรับทุกขเวทนา ดวยอํานาจแหงเหตุ
นี้เม่ือไดเห็นแสงประภาส วิบากกรรมท่ีมีจะดับส้ิน แลวหลุดพนจากทุกขท้ังปวง ไปอุบัติเปนทิพยชนเสวยสุข
สราญดั่งใจหมายตราบถงึ พระโพธญิ าณ

第三大願。願我來世得菩提時。若有眾生。造諸惡業。殺盜邪婬。於其現身。受刀杖苦。當墮惡
趣。設得人身。短壽多病。生貧賤家。衣服飲食悉皆乏少。常受寒熱飢渴等苦。身無光色。所感
眷屬。皆不賢良。若聞我名。至心稱念。由是力故。隨所願求。飲食衣服悉皆充足。如彼諸天。
身光可愛。得善眷屬。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๓ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวกระทํา
อกุศลกรรมทั้งปวง ฆาสัตว ลักขโมย ประพฤติผิดในกาม ในชาติปจจุบันยอมไดรับทุกขจากศาสตราวุธและจัก
ตกสูทุคติภูมิ หากเปนมนุษยจะมีอายุสั้นมากดวยโรค ถือกําเนิดในครอบครัวท่ีอัตคัดยากจน ขาดแคลน
เครื่องนุงหม เครื่องด่ืมเคี้ยว ไดรับทุกขจากความหนาวและรอน อดอยากหิวกระหายอยูเปนนิจ รางกาย
หมนหมองปราศจากราศี ในวงศตระกลู ไรซ่ึงนักปราชญผูทรงปญญาและคุณธรรม หากไดสดับนามของเราและ
สรรเสริญระลึกถึงดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ี ทุกสิ่งท่ีมาดหมายจะสมดั่งหวัง อาหาร
เครอ่ื งนงุ หมจะบริบรู ณเ พยี บพรอ ม มกี ายทสี่ งานารักดจุ เทพทัง้ หลาย มตี ระกลู ท่ดี ีตราบถึงพระโพธิญาณ

第四大願。願我來世得菩提時。若有眾生。常為藥叉諸惡鬼神之所嬈亂。奪其精氣。受諸苦惱。
若聞我名。至心稱念。由是力故。諸藥叉等悉皆退散。各起慈心。解脫眾苦。乃至菩提。

15

มหาปณิธานประการท่ี ๔ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวท่ีถูกยักษ
ภูตผีทั้งปวงยั่วยวนจนถูกฉุดคราดวงวิญญาณ ไดรับทุกขทรมานตางๆ หากไดสดับนามของเราและสรรเสริญ
ระลึกถงึ ดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดว ยอาํ นาจแหง เหตุนีบ้ รรดายกั ษจะถอยแตกออกไปตางเกดิ เมตตาจิต ไดหลดุ
พน ทกุ ขท ั้งปวงตราบถงึ พระโพธญิ าณ

曼殊室利。是為彼佛如來。應正等覺。所發四種微妙大願。若有眾生。聞彼佛名。晝夜六時。稱
名禮敬。至心供養。於眾生處。起慈悲心。業障消滅。解脫憂苦。無病長壽。得宿命智。於彼佛
土。蓮花化生。常為諸天之所衛護。

มัญชุศรี พระพุทธตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะพระองคนั้น ไดประกาศมหาปณิธานอันประเสริฐ ๔
ประการเชนน้ี หากมีสรรพสัตวที่ไดส ดับยลยินพุทธนามนั้น (พระอโศกาวิชยศิริตถาคต) แลวสรรเสริญพระนาม
เคารพบูชาดว ยความเปนท่สี ุดแหงใจวันละ ๖ เวลาแลว ไซร พึงมจี ิตเมตตากรุณาตอสรรพสัตว ยังใหว ิบากกรรม
ดับสิน้ หลุดพน จากความทกุ ขโ ศก ปราศจากโรค มอี ายุสิริวัฒนา บรรลบุ ุพเพนิวาสานุสสตญิ าณ*๑๑ ไดอ บุ ัติยัง
ปทมชาตใิ นพุทธเกษตรแหงนน้ั มหี มูเทพยดาคอยอารักษอ ยเู ปน นิจ

*๑๑ ฤทธิ์ ๖ ประการ มี ๑)อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได ๒)ทิพยจักษุ ตาทิพย ๓)ทิพยโสต หูทิพย ๔)เจโตปริยญาณ
ญาณท่ีกําหนดรูใจผูอ่ืนได ๕) บุพเพนิวาสานุสสติญาณ การระลึกชาติได และ ๖)อาสวักขยญาณ ญาณท่ีทําให
ส้ินอาสวะ (ขอ ๖ นี้มีเฉพาะพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา) หาขอแรกเปนโลกียอภิญญา ขอทายเปนโลกุต
ตระ

曼殊室利。稱彼佛名。能生如是無量福業。而彼佛土。願力莊嚴。殊勝功德。聲聞獨覺。所不能
知。唯除如來應正等覺。

มัญชุศรี หากสรรเสริญพระพุทธนามน้ันแลว สามารถกอเกิดกุศลกรรมประมาณมิไดปานฉะน้ี อันพุทธ
เกษตร กําลังปณิธานที่ยิ่งใหญ กุศลบารมีที่วิเศษ บรรดาพระสาวก พระปจเจกโพธิมิอาจลวงรูได เวนแตพระ
ตถาคตเจา ผตู รสั รูเองโดยชอบเทาน้นั

復次曼殊室利。東方去此。過八殑伽河沙佛土。有世界名曰法幢。佛號法海雷音如來。應正等覺
。今現說法。

ดูกอนมัญชุศรี นับจากโลกธาตุแหงน้ีไปเบ้ืองบูรพาทิศ ผานพุทธเกษตรนับจํานวนไดเทากับเม็ดทรายใน
คงคานที ๘ สายรวมกัน ยังมีโลกธาตุแหงหน่ึงวา “ธรรมธวัช” มีพระสุคตเจาพระนามวา “ธรรมกีรติสาครโฆษ
ตถาคต” ไดต รสั รเู องโดยชอบ ยังทรงแสดงพระธรรมเทศนาแมนบัดน้ี

曼殊室利。彼佛世尊。所居國土。清淨無穢。其地平正。頗梨所成。常有光明。香氣芬馥。以帝
青寶而為城郭。有八街道。砌以金銀。樓閣殿堂。飛甍戶牖。欄楯莊飾。皆眾寶成。天香寶樹。
隨處行列。於其枝上。拄以天繒。復有寶鈴。處處垂下。微風吹動。出妙音聲。演暢無常、苦、
空、無我。眾生聞者。捨離欲纏。習氣漸除。證甚深定。天妙香花。繽紛而下。於其四面。有八
浴池。底布金沙。香水彌滿。

มัญชุศรี พระพุทธโลกนาถเจาพระองคน ั้น ประทับอยูในโลกธาตุอันบรสิ ุทธิ์ มิแปดเปอ นดวยมลทนิ ท้งั ปวง
พื้นปฐพีก็ราบเรียบสําเร็จดวยแกวกระจก ฉายแสงรังสีและมีกล่ินหอมอบอวลอยูเปนนิตย มีแกวมรกตเปน
กําแพงช้ันนอก มมี รรคา ๘ สาย กอ สรา งดวยทองและเงิน หอ อาคาร วหิ าร สถานทต่ี า งๆ และองคป ระกอบทุก
สวนของอาคารลวนสําเร็จแลวดวยแกวมณีท้ังส้ิน รัตนพฤกษสงกล่ินหอมเรียงอยูรายทาง บนก่ิงกานน่ันเลาก็
แขวนระยาดวยแพรไหม ยังมีกระด่ิงรัตนะรวงลงมาในทุกๆแหง เม่ือสายลมพัดผานเพียงเล็กนอยก็เกิดเสียงอนั

16

ไพเราะเสนาะโสต บรรยายอนิจจัง ทุกขัง ศูนยตา อนัตตา สรรพสัตวที่ไดส ดบั แลว จะวางเฉยและออกหางจาก
กามสังโยชนไดจนเคยชิน แลวคอยๆกาํ จัดจนบรรลุสมาธิท่ีคัมภีรภาพ ทิพยมาลีอันหอมหวนรวงหลนจากฟา ทัง้
๔ มมุ เมือง มสี ระโบกขรณี ๘ แหง กนสระปลู าดดวยทรายทอง วารกี ห็ อมกลิ่นสุคนธแ ละเต็มเปย มบริบรู ณ

曼殊室利。於彼佛土。無諸惡趣。亦無女人。蓮花化生。無復煩惱。彼佛如來。行菩薩道時。發
四大願。云何為四。

มัญชุศรี พุทธเกษตรแหงน้ัน ปราศจากทุคติภูมิทั้งปวงท้ังไรซ่ึงสตรี เปนผูเกิดจากปทุมมาศ มิเกิดกิเลส
เศราหมองข้ึนอีก พระพุทธตถาคตเจาพระองคนั้น สมัยท่ีดําเนินจริยามรรคแหงโพธิสัตวอยูน้ัน ไดประกาศมหา
ปณิธานไว ๔ ประการ อัน ๔ ประการนัน้ มเี ชนไรเลา

第一大願。願我來世得菩提時。若有眾生。生邪見家。於佛法僧。不生淨信。遠離無上菩提之心
。若聞我名。至心稱念。由是力故。無明邪慧。日夜消滅。於三寶所。深生正信。不復退轉。乃
至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๑ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวท่ีเกิดใน
ตระกูลมิจฉาทิฐิ มิเกิดบริสุทธิศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ ไกลจากพระอนุตตรสัมโพธิจิต หาก
ไดสดับนามของเรา ไดสรรเสริญระลึกถึงดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้ อวิชชาความรูท่ีผิดจะ
ดบั สิ้นไปในชั่วทวิ าราตรี เกดิ ศรทั ธาทีถ่ ูกตอ งลึกซ้ึงตอ พระรัตนตรัย ไมเส่ือมถอยอีกตราบถึงพระโพธิญาณ

第二大願。願我來世得菩提時。若有眾生。生在邊地。由近惡友。造眾罪業。不修善品。三寶名
字。曾不經耳。命終之後。墮三惡趣。彼諸眾生。暫聞我名。由是力故。業障消除。遇善知識。
不墮惡趣。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๒ เมื่อเรามาอบุ ตั ิยงั โลกและบรรลพุ ระโพธญิ าณแลว หากมีสรรพสตั วถ ือกาํ เนิดยัง
ชายแดนหางไกล (จากความเจริญของพระสัทธรรม) ดวยเหตุที่ใกลชิดมิตรชั่ว จึงสรางอกุศลทั้งปวง มิบําเพ็ญ
กุศล แมนามพระรัตนตรัยก็มิเคยสดับ เม่ือส้ินชนมแลวจึงตกสูอบายภูมิ ๓ สรรพสัตวเหลาน้ันหากไดสดับนาม
ของเราแมนช่ัวขณะ ดวยอํานาจแหงเหตุน้ี วิบากกรรมจะดับสิ้น ไดพบกัลยาณมิตร มิตกสูอบายภูมิตราบถึง
พระโพธิญาณ

第三大願。願我來世得菩提時。若有眾生。衣服飲食。臥具醫藥。資生所須。悉皆乏少。由此因
緣。生大憂苦。為求覓故。造眾惡業。若聞我名。至心稱念。由是力故。有所乏少。隨念皆得。
乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๓ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวขาดแคลน
เคร่ืองนุงหม เคร่ืองดื่มเคี้ยว เสนาสนะ โอสถรักษาโรคอันจําเปน ดวยเหตุปจจัยน้ี ยังใหเปนทุกขทรมานแสน
สาหัส ดวยเหตุท่ีขาดแคลนและตองการน้ี ยังใหกระทําความช่ัวท้ังปวง หากไดสดับนามของเราและสรรเสริญ
ระลึกถึงดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ี ทุกสิ่งท่ีขาดแคลนจะบังเกิดมีตามความปรารถนาทุก
ประการตราบถึงพระโพธญิ าณ

第四大願。願我來世得菩提時。若有眾生。由先惡業。共相鬪諍。作不饒益。弓箭刀杖。互為傷
損。若聞我名。至心稱念。由是力故。各起慈心。不相損害。不善之念。尚自不生。況於前人。
欲斷其命。常行喜捨。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๔ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่เพราะมี
บาปกรรมแตอดีต จึงวิวาทตอ กัน กระทาํ ส่งิ มเิ ปนประโยชน ดัง่ ลูกศรคนั ธนดู าบมีดทต่ี อสูกนั หากสดบั นามของ
เราและสรรเสรญิ ระลึกถึงดวยท่ีสดุ แหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหง เหตนุ ้ี ทุกฝายจักเกิดเมตตาจติ มปิ ระทุษราย

17

ตอกัน ความคิดอกุศลจักมิเกิดข้ึนโดยตนเองอยางแนแท แลวจักประสาใดกับบุคคลกอนท่ีหมายจักปหารชีวิต
จักมีมฑุ ิตาและอุเบกขาตราบถึงพระโพธญิ าณ

曼殊室利。是為彼佛如來。應正等覺。行菩薩道時。所發四種微妙大願。若有淨信男子女人。聞
彼佛名。至心禮敬。慇懃供養。受持念誦。業障消滅。得不退轉菩提之心。具宿命智。所生之處
。常得見佛。無病長壽。命終之後。生彼國中。衣服飲食資生之具。隨念皆至。無所乏少。

มัญชุศรี นี้คือพระพุทธตถาคตอรหัสนสัมมาสัมพุทธะพระองคนั้น เม่ือครั้งที่ทรงประพฤติโพธิสัตวจริยา
มรรคอยูนัน้ ไดประกาศมหาปณธิ านอันประเสรฐิ ไว ๔ ประการ ดงั นี้

หากมีชายหญิงที่มีศรัทธาบริสุทธ์ิ ไดสดับพระนามของพระพุทธเจาพระองคน้ัน แลวถวายความเคารพ
บูชาดวยความจริงใจเปนที่สุด จดจําสาธยาย วิบากกรรมจักดับส้ิน บรรลุถึงความไมเส่ือมถอยจากโพธิจิต
สมบูรณในบุพเพนิวาสานุสสติญาณ ทุกสถานที่ถือกําเนิดยอมไดพบพระพุทธเจาอยูเปน นิจ เปนผูปราศจากโรค
มีอายุยืนนาน เมื่อส้ินชีพลงแลวจักไดอุบัติในโลกธาตุแหงน้ัน อาภรณ อาหาร เครื่องใชจําเปนตอชีพก็จักบรรลุ
ตามมโนระลึก มิขาดแคลนเลย

曼殊室利。彼佛世尊。具足如是無量功德。是故眾生。常當憶念。勿令忘失。

มัญชุศรี พระพุทธโลกนาถเจาพระองคน้ัน สมบูรณพรอมดวยกุศลบารมีธรรม ไมมีประมาณ เหตุน้ีสรรพ
สัตวพ งึ มีจติ ระลกึ ถึงพระองคโ ดยนิจศีล อยา ไดว บิ ัตลิ ืมเลอื น

復次曼殊室利。東方去此。過九殑伽河沙佛土。有世界名曰。善住寶海。佛號法海勝慧遊戲神通
如來。應正等覺。現在說法。

ดูกอนมัญชุศรี นับจากโลกธาตุแหงน้ีไปเบ้ืองบูรพาทิศ ผานพุทธเกษตรนับจํานวนไดเทากับเม็ดทรายใน
คงคานที ๙ สายรวมกนั ยังมโี ลกธาตแุ หง หน่ึงนามวา “สถติ รัตนสาคร” มีพระโลกเชษฐพ ระนามวา “อภฌิ าราช
ตถาคต” ไดตรสั รเู องโดยชอบ ในขณะนีก้ ําลงั ประทานพระธรรมเทศนา (ทรงพระชนมชีพ)

曼殊室利。彼佛如來。行菩薩道時。發四大願。云何為四。
มัญชุศรี พระพุทธโลกนาถเจาพระองคนั้น เม่ือคราที่ประพฤติโพธิสัตวมรรคอยูนั้น ไดประกาศมหา

ปณธิ านไว ๔ ประการ อัน ๔ ประการนั้นมีเชนไรเลา

第一大願。願我來世得菩提時。若有眾生。造眾惡業。種植耕耘。損諸生命。或復興易。欺誑他
人。戰陣兵戈。常為殺害。若聞我名。至心稱念。由是力故。資生之具。不假營求。隨心滿足。
常修眾善。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๑ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่สราง
บรรดาอกุศลกรรม ปลูกกลาไถนาแผวถางพ้ืนดิน เบียดเบียนชีวิตสัตวทั้งหลาย หรือดูหมิ่น ขมเหง ฉอโกง
หลอกลวงผูอนื่ จนเปนสงครามรบพุงฆาฟน อยูเปน นิจ หากสดับนามของเราและสรรเสรญิ ระลึกถึงดว ยทสี่ ุดแหง
ใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุน้ี เคร่ืองใชจําเปนจะเกิดขึ้น มิตองใชเลหอุบาย สมบูรณตามใจปรารถนา จะ
บําเพญ็ กุศลตางๆเปนนจิ ตราบถงึ พระโพธญิ าณ

第二大願。願我來世得菩提時。若有眾生。造十惡業。殺生等罪。由此因緣。當墮地獄。若聞我
名。至心稱念。於十善道。皆得成就。不墮惡趣。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๒ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่กอ
อกศุ ลกรรมบถ ๑๐ มีปาณาตบิ าตเปน ตน ดวยเหตุปจ จยั น้จี ึงตกสนู รกภูมิ หากไดสดบั นามของเราและสรรเสริญ
ระลึกถงึ ดวยที่สดุ แหง ใจแลวไซร ยอ มสําเรจ็ ในกศุ ลกรรมบถทง้ั ๑๐ มติ กอบายภูมิตราบถงึ พระโพธิญาณ

18

第三大願。願我來世得菩提時。若有眾生。不得自在。繫屬於他。或被禁繫杻械枷鎖鞭杖苦楚。
乃至極刑。若聞我名。至心稱念。由是力故。所有厄難。皆得解脫。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๓ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวที่มิเปน
อิสระ ถูกพันธนาการจองจําโดยผูอ่ืน ดวยโซตรวน ข่ือ คา และเครื่องทรมานตางๆ จนถึงตองโทษประหารชวี ติ
หากไดสดับนามของเราและสรรเสริญระลึกถึงดวยที่สุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้ จะหลุดพนจาก
ภยนั ตรายทง้ั ปวงตราบถงึ พระโพธญิ าณ

第四大願。願我來世得菩提時。若有眾生。造眾惡業。不信三寶。隨虛妄見。棄背正理。愛樂邪
徒。謗毀佛經。言非聖說。外道典籍。恭敬受持。自作教人。俱生迷惑。當墮地獄。無有出期。
設得為人。生八難處。遠離正道。盲無慧目。如是之人。若聞我名。至心稱念。由是力故。臨命
終時。正念現前。解脫眾難。常生中國。受勝妙樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๔ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวกอ
อกุศลกรรมตางๆ มิเชื่อถือพระรัตนตรัย คลอยตามความเห็นผิดลวงหลอก ละทิ้งความถูกตอง พอใจลัทธิมาร
กลาวรายพระพุทธสูตร บิดเบือนคําสอนพระอริยเจา เคารพบูชาตําราของเดียรถีร ท้ังเคารพจดจําไว ตนเองได
ประพฤติและสั่งสอนผูอื่นจึงลุมหลงเห็นผิดไปดวยกัน พึงตกสูนิรยภูมิไรกําหนดกาลหลุดพน หากกําเนิดเปน
มนุษย จะเกิดในสถานทีม่ ีภัย ๘ ประการ*๑๒ หางไกลจากสมั มามรรค เปนผมู ดื บอดปราศจากญาณจกั ษุ บคุ คล
เชนน้ี หากไดสดับนามของเราและสรรเสริญระลึกถึงดวยท่ีสุดแหงใจแลวไซร ดวยอํานาจแหงเหตุนี้ เมื่อกาล
มรณะมาถึงจะเกิดมีสัมมาสติ หลุดพนจากภัยพิบัติท้ังปวง ไปอุบัติในพุทธเกษตร เสวยความสุขเกษมอันวิเศษ
ยอดเย่ยี มตราบถึงพระโพธิญาณ

*๑๒ อขณะ ๘ คือ สัตว ๘ ประเภทที่ยากจะไดพบพระพุทธเจา หรือไดฟงธรรมของพระองคมี ๑.สัตวนรก ๒.
สัตวด ิรจั ฉาน ๓.เปรต ๔.เทวดาทมี่ ีอายยุ ืน ๕.คนท่เี กดิ ในปจจันตประเทศ ๖.คนพกิ าร ๗.พวกมิจฉาทิฏฐิ ๘.สมัย
ท่วี า งจากพระพทุ ธเจา

曼殊室利。是為彼佛如來。應正等覺。行菩薩道時。所發四種微妙大願。

มัญชุศรี พระพุทธตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะพระองคน้ัน เม่ือปฐมสมัยท่ีทรงดําเนินจริยามรรคแหง
โพธิสัตวอ ยูน ัน้ ไดป ระกาศมหาปณิธานอนั ประเสริฐไว ๔ ประการเชนน้ี

曼殊室利。彼佛國土。功德莊嚴。與上妙寶如來世界。等無有異。

มญั ชศุ รี พุทธเกษตรแหงน้ัน มีคุณาลงั การเสมือนโลกธาตุของพระรตั นสมั ภวะตถาคตเจาไมตา งกนั เลย

復次曼殊室利。東方去此。過十殑伽河沙佛土。有世界名淨琉璃。佛號藥師琉璃光如來。應正等
覺。

ดูกอนมัญชุศรี นับจากโลกธาตุแหงนี้ไปเบื้องบูรพาทิศ ผานพุทธเกษตรนับจํานวนไดเทากับเม็ดทรายใน
คงคานที ๑๐ สายรวมกัน ยังมีโลกธาตุแหงหนึ่งนามวา “ศุทธิไวฑูรย” มีพระผูมีพระภาคเจาพระนามวา
“ไภษัชยคุรไุ วฑรู ยประภาตถาคต” ซ่ึงไดตรสั รเู องโดยชอบ

曼殊室利。彼佛世尊。從初發心。行菩薩道時。發十二大願。云何十二。

มัญชุศรี พระผูมีพระภาคเจาพระองคน้ัน ในสมัยที่ยังเสวยพระชาติเปนโพธิสัตวอยู ไดประกาศมหา
ปณิธานไว ๑๒ ประการ อัน ๑๒ ประการนั้นมเี ชนไรเลา

第一大願。願我來世得菩提時。自身光明照無邊界。三十二相。八十隨好。莊嚴其身。令諸有情
。如我無異。

19

มหาปณธิ านประการที่ ๑ เมื่อเรามาอบุ ตั ิยงั โลกและบรรลพุ ระโพธิญาณแลว กายแหงเราจกั มรี ศั มสี วา งไป
ในโลกธาตุท้ังปวงไมมีขอบเขต มีทวัตติงสะมหาบุรุษลักษณะ ๓๒ ประการ อสีตยานุพยัญชนลักษณะ ๘๐
ประการเปนอลงั การแหง กาย ยังใหสรรพสัตวท ้งั ปวงเสมอเหมอื นเราโดยมิแตกตาง

第二大願。願我來世得菩提時。身如琉璃。內外清徹。光明廣大。遍滿諸方。焰網莊嚴。過於日
月。鐵圍中間幽冥之處。互得相見。或於此界。闇夜遊行。斯等眾生見我光明。悉蒙開曉。隨作
眾事。

มหาปณิธานประการท่ี ๒ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว กายของเราจักดุจรัตน
ไวฑูรย วิมลใสท้ังภายในและภายนอก มรี ศั มสี วางไสวมหาศาล เปลง ฉายไปในทศิ ทงั้ ปวง อลังการดว ยเปลวอัคคี
รุงเรืองกวาสุริยันจันทรา นิรยภูมิท่ีอยูภายในโลหบรรพตจะไดเห็นเหตุการณน้ี อีกในโลกธาตุแหงนี้ผูดําเนิน
เท่ียวไปในความมืดมนอันธการ สรรพสัตวเหลานั้นเมื่อไดยลประภาสแหงเรา ความโงเขลาท่ีปดิ บังอยูจักถูก
เปดออกแลว กระทาํ สง่ิ ทงั้ ปวงไดตามประสงค

第三大願。願我來世得菩提時。以無量無邊智慧方便。令諸有情。所受用物。皆得無盡。

มหาปณิธานประการท่ี ๓ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว ดวยอุบายโกศลแหงปญญา
ญาณอันหาประมาณแลหาขอบเขตมไิ ด จกั ยงั ใหสรรพสตั วท้งั ปวงไดถ งึ พรอ มในเครอื่ งใชทัง้ ปวงมิหมดสนิ้

第四大願。願我來世得菩提時。若諸有情。行邪道者。悉令遊履菩提正路。若行聲聞獨覺乘者。
亦令安住大乘法中。

มหาปณิธานประการที่ ๔ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสรรพสัตวประพฤติ
มจิ ฉามรรคจักยังใหสูโพธสิ มั มามรรค หากประพฤตใิ นสาวกยานหรอื ปจเจกโพธิยาน กจ็ ักยังใหต ั้งอยใู นมหาพุทธ
ยานธรรม

第五大願。願我來世得菩提時。若諸有情。於我法中修行梵行。一切皆令得不缺戒。善防三業。
無有毀犯墮惡趣者。設有毀犯。聞我名已。專念受持。至心發露。還得清淨。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๕ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากสรรพสัตวทั้งหลาย
บําเพ็ญพรหมจรรยในธรรมแหงเรา ยอมมิตองลวงละเมิดในศีลท้ังปวง จักรักษากรรมท้ัง ๓ ไดเปนอยางดี*๑๓
ไรซึ่งผลู วงละเมดิ แลวตกอบายภมู ิ แมนไดล ว งละเมดิ แลว ไดส ดับนามของเรา ต้งั จติ จดจาํ ภาวนาดว ยที่สุดแหงใจ
แลวไซร ยอมคนื สูบรสิ ุทธภิ าวะตราบถึงพระโพธญิ าณ
*๑๓ ประโยคนี้ในพระสูตรช่ือ 藥師琉璃光如來本願功德經 ของ 玄奘大師 (พระเสวียนจางมหาเถระ)
แปลวา 三聚戒 คือ ตรีวิธานิศีล คือศีล ๓ ประเภท มี ๑)สํวรศีล ศีลคือการสํารวมระวัง ๒)กุศล ธรฺม สํคฺราหก
ศีล ศีลที่ประพฤติเพื่อสงเคราะหแกกุศลธรรม ๓)สตฺตฺวารฺถ กฺริยา ศีล ศีลที่ประพฤติเพื่อประโยชนแกสัตว
ทง้ั หลาย แตฉบบั นีแ้ ปลวา 防三業 แปลวา ปองกันรกั ษากรรมท้ัง ๓ คอื กายกรรม วจกี รรม มโนกรรม

第六大願。願我來世得菩提時。若諸有情。諸根不具。醜陋頑痹。聾盲瘖瘂。攣躄背僂。白癩瘨
狂。種種病苦之所纏逼。若聞我名。至心稱念。皆得端嚴。眾病除愈。

มหาปณิธานประการที่ ๖ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากสรรพสัตวมีอินทรียท้ัง
ปวงมิสมบูรณ รางกายอัปลักษณ เนตรบอด โสตหนวก โอษฐใบ นิ้วมือเทางอหงิก หลังคอมโกงงอ เปนโรค
กุษฐัง*๑๔ สติวิปลาสมิสมประดี มีโรคาทุกขนานารุมเราเสียดแทงอยู หากไดสดับนามของเราและสรรเสริญ
ระลึกถึงดวยทส่ี ุดแหง ใจ จกั บรรลศุ ภุ ลกั ษณะท่งี ดงาม สรรพโรคามลายสน้ิ
*๑๔ คอื โรคเรอื้ น

20

第七大願。願我來世得菩提時。若諸有情。貧窮困苦。無有歸趣。眾病所逼。無藥無醫。暫聞我
名。眾病消散。眷屬增盛。資財無乏。身心安樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๗ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากสรรพสัตวท้ังหลาย
ยากจนขนแคนลําบากแสนเข็ญ ไรท่ีพึ่งพิงอาศัย มีโรคท้ังปวงรุมเรา ไรโอสถบําบัดโรค ไรแพทยผูรักษา เม่ือได
สดับนามของเราแลวเพียงชั่วขณะ สรรพโรคาจักดับสิ้นวงศตระกูลรุงเรือง โภคทรัพยมิขาดแคลน กายแลใจ
ผาสุกตราบถงึ พระโพธญิ าณ

第八大願。願我來世得菩提時。若有女人為女眾苦之所逼切。極生厭離。願捨女身。若聞我名。
至心稱念。即於現身。轉成男子。具丈夫相。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๘ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากมีสตรีถูกความทุกขทั้ง
ปวงของความเปนหญิงรุมเรา เบ่ือหนายเปนท่ีสุด ปรารถนาสละกายของสตรี หากไดสดับนามของเราแลว
สรรเสริญระลกึ ถึงดวยที่สุดแหง ใจ กายนีจ้ ักแปรเปล่ียนกลายเปนบุรุษ สมบูรณด วยลกั ษณะของชายชาตรีตราบ
ถงึ พระโพธิญาณ

第九大願。願我來世得菩提時。令諸有情。出魔羂網。復有種種邪見之徒。皆當攝受。令生正見
。漸令修習諸菩薩行。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๙ เมอื่ เรามาอุบตั ิยงั โลกและบรรลพุ ระโพธิญาณแลว จักยังใหส รรพสัตวท้ังปวงได
ออกจากมารชาละ ยังมพี ลพรรคของมิจฉาทิฐนิ านาประการ ซ่งึ จักสงเคราะหไวทั้งสิน้ ยังใหเกิดสมั มาทิฐิ คอยๆ
ไดศ กึ ษาบาํ เพ็ญโพธสิ ัตวจรยิ าทงั้ ปวงตราบถงึ พระโพธิญาณ

第十大願。願我來世得菩提時。若諸有情。王法所拘。幽禁牢獄。枷鎖鞭撻。乃至極刑。復有眾
多苦楚之事。逼切憂惱。無暫樂時。若聞我名。以我福德威神力故。皆得解脫一切憂苦。乃至菩
提。

มหาปณิธานประการที่ ๑๐ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากสรรพสัตวท้ังหลาย
ตองราชอาญา ถูกจองจําในกรงขัง พันธนาการดวยโซตรวน ถูกโบยตีจนถึงประหารชีวิต ยังมีเรื่องราวอันเปน
ทุกขมากมายที่บีบคั้นใหทุกขโศก ไรซ่ึงความสุขเพียงชั่วครู หากไดสดับนามของเรา ดวยเหตุแหงอํานาจ
คุณธรรมบารมีของเรา จักยงั ใหห ลุดพนจากความทุกขโศกท้งั ปวงตราบถงึ พระโพธญิ าณ

第十一大願。願我來世得菩提時。若諸有情。飢火所惱。為求食故。造諸惡業。若聞我名。至心
稱念。我當先以上妙飲食。隨意飽滿。後以法味。令住勝樂。乃至菩提。

มหาปณิธานประการที่ ๑๑ เม่ือเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากสรรพสัตวท้ังหลาย
ทุกขทรมานจากทุพภิกขภัย (ขาวยากหมากแพง) เหตุที่ตองการอาหารจึงกระทําความชั่วท้ังปวง หากไดสดับ
นามของเราแลวสรรเสริญระลึกถึงดวยท่ีสุดแหงใจ เราจักยังใหอ่ิมเอมในโภชนารสเลิศตามจิตปรารถนากอน
แลวใชธ รรมรสยังใหตั้งอยูในบรมสขุ ในภายหลงั ตราบถึงพระโพธิญาณ

第十二大願。願我來世得菩提時。若諸有情。身無衣服。蚊虻寒熱之所逼惱。若聞我名。至心稱
念。隨其所好。即得種種上妙衣服。寶莊嚴具。伎樂香華。皆令滿足。離諸苦惱。乃至菩提。

มหาปณิธานประการท่ี ๑๒ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว หากสรรพสัตวท้ังหลาย
กายปราศจากอาภรณ ไดรับทุกขจากแมลงยุงและความหนาวรอน หากไดสดับนามของเราแลว สรรเสริญระลึก
ถึงดวยท่ีสุดแหงใจ จักไดรับอาภรณที่ดีเลิศ เครื่องประดับรัตนะ เคร่ืองดนตรี ของหอม ดอกไมนานาชนิดอยาง
บริบูรณ ไกลจากทกุ ขเศรา หมองท้งั ปวงตราบถึงพระโพธญิ าณ

曼殊室利。是為藥師琉璃光如來。應正等覺。行菩薩道時。所發十二微妙上願。

21

ดูกอนมัญชุศรี พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต ผูเปนพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะ ในสมัยท่ีทรง
บําเพญ็ จรยิ าเสวยพระชาติเปนโพธิสตั วอ ยูนั้น ไดประกาศมหาปณิธานอันประเสรฐิ ทัง้ ๑๒ ประการ ดงั น้ีแล
จบ พระไภษัชยคุรไุ วฑรู ยประภาสปั ตพุทธปูรวปณธิ านวเิ ศษสตู ร ปฐมวรรค.

คาํ อา นพระคาถาบทท่ี ๑
ตัทยะถา สิทธิ สิทธิ สุสิทธิ โมจะนิ โมกษะณิ มุกเต พิมุกเต อะมะเล พิมะเล มัม คัลเย หิรันยะ คัลเภ
รัตนะ คัลเภ สะรวะ อัลถะสาธะนิ พรัมาอัลถะสาธะนิ มะนะ เส มหามะนะเส อัทภุเต อัตยัทภุ เต ภีตะภะยะ
สุวรเณ พรัหมะโฆเษ พรัหมาธยุเษเต สะรวะ อัลเถษุอะปะราชิเต สะรวะ ตะระอัประติหะเต จตุษษะฐิ พุทธะ
โกฏิ ภาษิเต นม: สะรวะ ตะถาคะตา นามะ สะวาหา.

藥師琉璃光七佛本願功德經

大唐三藏法師義淨於佛光內寺譯

ไ ภ ษั ช ย คุ รุ ไ ว ฑู ร ย ป ร ะ ภ า สั ป ต พุ ท ธ ปู ร ว ป ณิ ธ า น วิ เ ศ ษ สู ต ร

( อ า ร ย - ส ป ต - ต ถ า ค ต - ปู ร ว - ป ณิ ธ า น - วิ เ ศ ษ - วิ สู ต ร - น า ม - ม ห า ย า น - สู ต ร )
พระมหาสมณะอีจ้ งิ ตรีปฎ กธราจารยช าวจีน แปลจากสนั สกฤตพากยสจู ีนพากย ในสมัยราชวงศถ ัง ประเทศจนี

พระวิศวภัทร เซยี เกี๊ยก (沙門聖傑) แหงวัดเทพพุทธาราม แปลจากจีนพากยสูไทยพากย เมื่อพระพุทธา
ยุกาลลว งแลว ๒๕๔๔ ป

วรรคหลงั 卷下

爾時佛告曼殊室利。彼藥師琉璃光如來行菩薩道時所發大願及彼佛土功德莊嚴。我於一劫若過一
劫說不能盡。然彼佛土純一清淨。無諸欲染亦無女人及三惡趣苦惱之聲。以淨琉璃而為其地。城
闕宮殿及諸廊宇軒窓羅網皆七寶成。亦如西方極樂世界功德莊嚴。於彼國中有二菩薩。一名日光
遍照。二名月光遍照。於彼無量菩薩眾中而為上首。能持彼佛正法寶藏。是故曼殊室利。若有淨
信男子女人。應當願生彼佛世界。

สมยั นัน้ พระศากยมุนีสัมมาสัมพทุ ธเจา ทรงมพี ทุ ธดํารัสตอพระมญั ชุศรีโพธสิ ัตววา มหาปณิธานและคุณา
ลังการแหงพุทธเกษตร ของพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตพระองคนั้น เมื่อสมัยท่ีทรงประพฤติโพธิ
สัตวปฏิปทา แมนตถาคต (พระศากยมุนีพุทธเจา) จะพรรณนาไปตลอดหนึ่งกัลปหรือลวงกัลปหนึ่งไป ก็มิอาจ
พรรณนาไดห มดส้ิน ดนิ แดนพุทธเกษตรแหงนั้นบริสุทธย ิ่งนกั ปราศจากกามาสวะท้งั ปวง อกี ปราศจากสตรีเพศ
และเสียงแหงความทุกขของอบายภูมิสาม มีรัตนไวฑูรยบริสุทธิ์เปนพื้นปฐพี ปราสาท ราชมณเฑียร วิหาร ชาล
มาลา ราชรถ กส็ าํ เร็จดวยสปั ตรตั นะทั้งสิ้น ซึ่งมีองคคณุ อนั อลงั การย่ิงใหญแลวดจุ สขุ าวดีโลกธาตุเบ้อื งทิศาดาน
ตะวันตก ในศุทธิไวฑูรยพุทธเกษตรแหงน้ัน มีโพธิสัตวมหาสัตว ๒ องค นามวา สุริยะประภา ๑ และ จันทร
ประภา ๑ โพธสิ ตั วมหาสัตวท ้งั สองนแี้ ล เปน ประธานในหมูโพธสิ ัตวจ าํ นวนมากมายเหลือคณานับ สามารถธํารง
ไวซ่ึงธรรมปฎกอันประเสริฐของพระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้น (ไภษัชยคุรุไวฑูรประภาตถาคต) เหตุน้ีแหละ
มญั ชศุ รี หากชายหญงิ มีศรัทธาอันบริสทุ ธิ์ดีแลว ก็พึงปรารถนาไปอบุ ัตยิ งั พทุ ธเกษตรแหง นน้ั เถิด

復次曼殊室利。若有眾生。不識善惡。惟懷貪惜不知惠施及施果報。愚癡少智無有信心。多畜珍
財勤勞守護。見乞者來心生不喜。設不獲已行惠施時。如割身肉深生悋惜。復有無量慳貪有情積
集資財。然於自身尚不能用。況當供給父母妻子奴婢僕使及來乞者。彼諸有情從此命終。生餓鬼
中或傍生趣。由昔人間曾聞藥師琉璃光如來名故。雖在惡趣還得憶念彼如來名。即於彼沒生在人

22

中。得宿命智念畏惡趣苦不樂欲樂。好行惠施讚歎施者。所有財物無慳悋心。慚次尚能以頭目手
足血肉身分施來求者。況餘財物。

ดูกอน มัญชุศรี หากมีสรรพสัตวที่ไมเขาใจกุศลและอกุศล มีเพียงความละโมบและตระหน่ี มิรูจักการ
บริจาคทานและผลแหงการบริจาคทาน เปนผเู ขลานอยดวยปญญาอยู ปราศจากจิตศรัทธา ไดส ั่งสมทรพั ยสินมี
คา และขวนขวายรกั ษาดวยความเหน่ือยยาก เม่อื พบผขู อจติ ใจก็มยิ นิ ดี แมนมิไดบริจาคทานกเ็ สมอื นวาถกู เฉือน
มังสะออกจากราง มีความเสียดายเปนท่ีสุด ยังมีผูมากดวยอภิชฌาความละโมบ ตระหน่ีถ่ีเหนียวไมมีประมาณ
ไดสั่งสมทรัพยสมบัติไวแมตนเองก็มิยอมใชสอย แลวจักประสาใดกับการเล้ียงดูบิดามารดา ภริยา บุตร ทาส
ทาสี (ทาสผูหญิง ) บริษัทบริวารและผูยากไรอีกเลา หมูสัตวเหลาน้ันเม่ือชีพนี้ดับส้ินแลว ยอมไปเกิดอยูในภูมิ
ของเปรตหรือเดรัจฉาน แตดวยเมื่อตอนอยูในภูมิมนุษย เคยไดสดับพระนามพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา
ตถาคตเจา แลวเปนเหตุ แมวา ขณะทอ่ี ยูในอบายภูมกิ ็จักหวนระลึกถึงพระนามของพระตถาคตเจา น้ันไดอีก แลว
จึงหายจากสถานท่ีแหงนั้นแลวมาเกิดเปนมนุษยอีกครั้ง ไดบรรลุปุพเพนิวาสานุสติญาณ*๑ เกิดความเกรงกลัว
ในทุกขของอบายภูมิ มิยินดีในกามสุขอีก จะทําดีประพฤติทานและโมทนากับผูบริจาคทานอ่ืนๆ บรรดา
ทรัพยสินทั้งปวงจิตก็มิตระหนี่หวงแหนเอาไว จนคอยๆสามารถสละแมศีรษะ ดวงตา มือเทา เลือด เนื้อ และ
รางกายออกเปน ทานแกผ มู าขอได แลว จักประสาใดกบั ทรพั ยส่งิ ของอน่ื ๆเลา

*๑ ญาณระลึกชาตหิ นหลังได , หนึ่งในอภญิ ญา ๖ ของพระพุทธศาสนา มี๑)อิทธิวธิ แี สดงฤทธ์ไิ ด๒)ทิพยจักษุตา
ทพิ ย๓ )ทิพยโสต หทู ิพย๔ )เจโตปรยิ ญาณ ญาณท่กี ําหนดรใู จผูอ ื่นได ๕) บุพเพนิวาสานสุ สติญาณ การระลึกชาติ
แตหนหลังได และ ๖)อาสวักขยญาณ ญาณท่ีทําใหส้ินอาสวะ (ขอ ๖ น้ีมีเฉพาะพระอริยบุคคลใน
พระพุทธศาสนา) หา ขอแรกเปน โลกียอภญิ ญา ขอ ทา ยเปนโลกตุ ตระ

復次曼殊室利。若復有人。歸依世尊受諸學處。而破壞戒威儀及壞正見。諸有持戒正見不求多聞
。於佛所說契經深義不能解了。雖有多聞而懷憍慢。由慢心故自是非他。嫌謗正法為魔伴黨。如
是愚人自行邪見。復令無量百千俱胝有情墮大險坑。此諸有情墮於地獄傍生鬼趣。若曾聞此藥師
琉璃光如來名號。由彼如來本願威力。於地獄中憶佛名號。從彼命盡還生人間。正見精進意樂調
善。捨俗出家。於佛法中受持學處無有毀犯。正見多聞解甚深義。離於憍慢不謗正法不為魔伴。
漸次修行諸菩薩行。乃至菩提。

มัญชุศรี หากยังมีบุคคลที่ยึดพระผูมีพระภาคเปนสรณะ สมาทานสิกขาบททั้งปวง แลวละเมิดศีลสังวร
หรือเส่ือมจากสัมมาทิฏฐิ บรรดาศีลสมาทานและสัมมาทิฏฐิก็มิใฝจักศึกษา พุทธโอวาท พระสูตร อรรถธรรมที่
ลึกซ้ึงก็มิสามารถเขาใจไดถองแท ฤๅแมจะศึกษามากก็แฝงดวยความมานะถือตัว ดวยมานะจิตเปนเหตุ ตนเอง
หาใชผอู น่ื ไมทีเ่ ปน ผูทาํ ลายพระสัทธรรม เปน มิตรกับหมมู าร โมหบรุ ุษน้ตี นเองไดดําเนินซ่งึ มิจฉาทฏิ ฐิ แลว ยังให
สรรพสัตวจํานวนรอยพันโกฏิประมาณมิไดตกสูบอมหาภัย สัตวเหลานี้ผูตกสูนรกภูมิ เดรัจฉานภูมิ เปรตภูมิ
หากเคยไดสดับพระนามพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจา ดวยอานุภาพแหงมูลปณิธานของพระตถาคต
เจาพระองคนนั้ แมอยูในนรกภูมิกจ็ ักระลึกถึงพระพุทธนามได เมื่อชพี ดบั สิ้นจากทแ่ี หงน้ันแลวจกั หวนมาเกิดยัง
มนุษยภูมิ เปนผูมีสัมมาทิฏฐิ พากเพียร ใจเปนสุข ควรแกการงาน สละโลกียวิสัยแลวออกบวช ธํารงสิกขาบท
อยใู นพระธรรมวินัยดว ยมิลวงละเมดิ มสี ัมมาทฏิ ฐิ พหูสูต แจม แจงในอรรถทล่ี ึกซ้ึง ไกลจากมานะ มิทําลายพระ
ธรรม มิเปน สหายของมาร แลว คอยๆบําเพ็ญโพธสิ ตั วจริยาท้ังปวงจนถงึ พระโพธิญาณ

復次曼殊室利。若諸有情慳貪嫉妬造諸惡業自讚毀他。命終當墮三惡趣中。無量千歲受諸劇苦。
從彼終已來生人間。或作牛馬駝驢之屬。恒被鞭撻飢渴纏心。身常負重困苦疲極。若得為人生居

23

下賤。奴婢僕使被他驅役恒不自在。由昔人中曾聞藥師琉璃光如來名號。彼善根力今復憶念至心
歸依。以佛神力眾苦解脫。諸根聰利智慧多聞。恒求勝法常遇善友。永斷魔羂破無明[穀-禾+卵]
。竭煩惱河。解脫一切生老病死憂悲苦惱。乃至菩提。

มัญชุศรี หากหมูสัตวท้ังหลายมีความตระหน่ีถ่ีเหนียว ละโมบ อิจฉาริษยา กระทํากรรมชั่วท้ังปวง ยกตน
เหยียดทาน เมื่อส้ินชีพแลวจักตกสูอบายภูมิสาม (นรกภูมิ เปตรภูมิ เดรัจฉานภูมิ) รับทุกขทรมานแสนสาหัส
นานัปการเปนเวลาประมาณมิได เมื่อสิ้นอายุขัยจากที่นั้นแลวก็มาเกิดในโลกมนุษย บางปฏิสนธิเปนวัว มา ฬอ
ลา ถูกโบยตีดวยแส หิวกระหายเหนื่อยยาก กายตองแบกสัมภาระที่หนักเปนทุกขทรมานยิ่งนัก หากไดเปน
มนุษย กจ็ ะเกดิ ในครอบครัวอัตคัดขดั สน ตาํ่ ตอ ย เปนทาสทาสี ถกู ขมเหง มเิ ปน อสิ ระ หากเคยไดส ดับพระนาม
ของพระผูมีพระภาคไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเม่ือครั้งเปนมนุษย ดวยอํานาจแหงกุศลมูลน้ันจะยังให
ระลึกถึงพระองคและนอมเปนที่พึ่งดวยความเปนที่สุดแหงใจอีกครั้งหนึ่ง ดวยพุทธานุภาพยังใหหลุดพนจาก
ทุกขท้ังปวง มีปญญาญาณเฉลียวฉลาดและพหูสูต จะปรารถนาวิชยธรรม และไดพบกัลยาณมิตรอยูเปนนิจศลี
ยังชาละแหงมารใหขาดส้ิน ทําลายเปลือกแหงอวิชชา ยังกิเลสสาครใหเหือดแหง หลุดพนจากความเกิด ความ
แก ความมีโรค ความตาย ความโศก ความคร่าํ ครวญ ความทุกขและโทมนัสตราบถึงพระโพธญิ าณ

復次曼殊室利。若諸有情。好憙乖離更相鬪訟惱亂自他。以身語意造諸惡業。展轉常為不饒益事
。互相謀害告召山林樹塚等神殺諸眾生取其血肉祭祀藥叉羅剎神等。書怨人名或作形像。以惡呪
術而呪詛之。厭魅蠱道呪起死屍。令斷彼命及壞其身。是諸有情若得聞此藥師琉璃光如來名號。
彼諸惡緣悉不能害。一切展轉皆起慈悲。利益安樂無損惱意及嫌恨心。於自所有常生喜足。

มัญชุศรี หากหมูสัตวชอบกอวิวาทะ คดีความ จนเปนท่ีเดือนรอนแกตนเองและผูอ่ืน ใชกาย วาจา ใจ
กระทาํ อกศุ ลกรรมทง้ั ปวง แลวยง่ิ กอกิจอนั มิเกดิ ประโยชนเปนอันมาก มุงรา ยตอกนั โดยการเรยี กภตู แิ หง ขุนเขา
พนาวาส ฆาสัตวท้ังปวงเพ่ือเอาเลือด เนื้อ มาสังเวยยักษารากษสเหลาน้ัน จารึกชื่อแลสรางรูปของศัตรูแลว
บริกรรมดวยเวทยมนตรชั่วราย ใชคุณไสยปลุกซากศพ หมายผลาญชีวิตของศัตรูใหขาดส้ินฤๅทํารายรางกายผู
น้ัน หมูสัตวทั้งหลายนี้ หากเคยไดสดับพระนามพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตน้ีแลว อกุศลปจจัยท้ังปวง
จกั มิอาจทําอนั ตราย สรรพส่งิ ทง้ั ปวงจักเกดิ เมตตากรุณา เกดิ เปนประโยชน ผาสกุ ปราศจากจติ เบียดเบยี นและ
ใจที่รงั เกียจโกรธเคอื ง ตนเองน้นั เลา กจ็ กั เกิดมีความเกษมอยูเปน นิจ

復次曼殊室利。若有四眾苾芻苾芻尼近事男近事女及餘淨信男子女人。若能受持八支齋戒。或經
一年或復三月。受持學處。以此善根願生西方極樂世界見無量壽佛。若聞藥師琉璃光如來名號。
臨命終時有八菩薩。乘神通來示其去處。即於彼界種種雜色眾寶花中自然化生。或有因此生於天
上。雖生天中而昔善根亦不窮盡。不復更生諸餘惡趣。天上壽盡還生人間。或為輪王統攝四洲。
威德自在勸化無量百千有情。於十善道令其修習。或生剎帝利婆羅門居士貴族。多饒財寶倉庫盈
溢。形相端嚴眷屬隆盛。聰明智慧勇健盛猛有大身力。若是女人得聞藥師琉璃光如來名號。至心
受持。於後不復更受女身。

มัญชุศรี หากมีบริษัทส่ีคือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา และชายหญิงอื่นๆ ผูมีศรัทธาบริสุทธ์ิ หาก
สามารถสมาทานอุโบสถศีล บางเปนเวลาหน่ึงป บางสามเดือนโดยธํารงไวซึ่งสิกขาบทอยู แลวอาศัยกุศลมูลนี้
ปรารถนาไปอุบัติยังสุขาวดีโลกธาตุ เบ้ืองประจิมทิศเพื่อเฝาพระอมิตายุสพุทธเจา*๒ หากไดสดับพระนามพระ
ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต คราเม่ือจะถึงกาลมรณะจักมีมหาโพธิสัตวแปดองค (คือ พระมัญชุศรีโพธิสัตว
๑ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว ๑ พระมหาสถามปราปตโพธิสัตว ๑ พระอักษยมติโพธิสัตว ๑ พระทานรัตนศรี
โพธิสัตว ๑ พระไภษัชยราชาโพธิสัตว ๑ พระไภษัชยสมุทคตโพธิสัตว ๑ พระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว ๑)

24

บันดาลดวยอิทธาภิสังขารมานําผูนั้นไปอุบัติแบบโอปปาติกะ ยังดอกบัวรัตนะหลากวรรณะในโลกธาตุแหงนั้น
บางก็มีเหตุใหอุบัติยังสวรรค แมจักอุบัติยังเทวโลกกุศลมูลเมื่อกาลกอนก็ยังมิหมดส้ิน ทําใหมิตองไปอุบัติใน
อบายภูมิอื่นๆท้ังปวง เมื่อส้ินอายุขัยบนเทวโลกก็หวนมากําเนิดยังมนุษยภูมิ บางกําเนิดเปนพระเจาจักรพรรดิ
ปกครองทวีปท้ังสี่ มีเดชานุภาพเปนอิสระนอมนําสรรพชีวิตจํานวนรอยพันไมมีประมาณใหประพฤติอยูในกุศล
สิบประการ*๓ บางกําเนิดเปนกษัตริย พราหมณ บัณฑิตผูมีตระกูลสูง มีโภคทรัพยธนสารสมบัติมหาศาล มี
รูปลักษณสงางาม มีโครตรุงเรือง มีปญญาญาณเฉลียวฉลาด องอาจแข็งแรงมีกายที่มีกําลังมาก หากอิสตรีที่ได
สดับพระนามพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจา แลวจดจําไวดวยความเปนท่ีสุดแหงใจ จากน้ันจักมิตองมี
กายแหง สตรอี ีก
*๒ คือพระพุทธเจาที่มีอายุขัยไมมีประมาณ อีกพระนามหน่ึงของพระอมิตาภะพุทธเจา ผูเปนนายกแหงสุขาวดี
โลกธาตุ ทางทิศตะวันตก

復次曼殊室利。彼藥師琉璃光如來得菩提時。由本願力觀諸有情。遇眾病苦瘦瘧乾消黃熱等病。
或被厭魅蠱道所中。或復短命或時橫死。欲令是等病苦消除所求願滿。

มัญชุศรี พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคตเจาพระองคน้ัน เมื่อสมัยท่ีทรงปรมาภิเษกแกสัมโพธิญาณ
แลว ดวยกาํ ลงั ของมูลปณิธานเมื่อกาลกอน จงึ พจิ ารณาสรรพสัตวทงั้ ปวง แลวทรงพบทุกขโรคนานปั การ ความ
ซูบผอม ทุพพลภาพ นิ้วมือนิ้วเทางอหงิกเปนไขตัวรอนและโรคตางๆ บางตองอาถรรพคุณไสยตางๆ บางมีอายุ
ส้ัน บางก็มรณะกอนเวลาอันควร จึงมีพระประสงคยังทุกขโรคเหลาน้ีใหสิ้นไปและยังความปรารถนาทั้งปวงให
สมบรู ณ (เพือ่ จะยังปณธิ านของพระองคใ หสําเร็จบริบรู ณ)

時彼世尊入三摩地。名曰滅除一切眾生苦惱。既入定已。於肉髻中出大光明。光中演說大陀羅尼
呪曰。

เมื่อน้ัน พระผูมีพระภาคพระองคน้ัน (พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต) ทรงเขาสมาธิชื่อ สรวสัตว
ทุกขภนิ ทนา*๔ เม่อื เขาสมาธิแลว ในบดั ดล พระพทุ ธอุษณยี * ๕ กเ็ ปลงมหารศั มี สวา งไสว ในทามกลางประภาส
อันเรอื งรองนั้นจึงแสดงธารณีวา…
*๔ คือ สมาธิท่ีทาํ ลายความทุกขข องสรรพสัตว
*๕ หรือ อุณหิสในบาลี หมายถึงกรอบหนาพระพักตร, กอนพระมังสะหนาพระเศียร ซึ่งเปนอาการหน่ึงใน
อาการ ๓๒ ของพระพุทธเจา โดยมากทําเปนเปลวเพลิง แสดงถึงพระปญญาอันรุงโรจน ประติมากรรมฝาย
มหายาน บางแหงทาํ เปน กอ นพระมงั สะงอกข้นึ มาเหนอื พระนลาตขน้ึ ไปเลก็ นอย

南謨薄伽伐帝 鞞殺社窶嚕 薜琉璃鉢喇婆 曷囉闍也 呾他揭多也 阿囉喝帝 三藐三勃陀也呾姪他
唵 鞞殺逝鞞殺逝 鞞殺社三沒揭帝 莎訶。

นโม ภาควเต ไภษชฺเย คุรุ ไพฑูรฺยปรฺภ ราชาย ตถาคตาย อรฺหเต สมฺยกฺสํพุทฺธาย ตทฺยถา โอม ไภษชฺเย
ไภษชเฺ ย มหาไภษชเฺ ย ราชา สมทุ ฺคเต สวฺ าหา (๒)

爾時光中說此呪已。大地震動放大光明。一切眾生病苦皆除受安隱樂。

ครั้งนั้น เมื่อแสดงธารณีนี้ทามกลางรัศมีประภาสแลว พ้ืนมหาพสุธาก็กัมปนาทสั่นไหว บังเกิดเปนมหา
รัศมรี งุ เรอื งไปท่ัว ยังใหโ รคาพาธของหมสู ัตวท ้ังปวงไดสูญส้นิ ไดร บั ความผาสกุ สวสั ดที ่วั กัน

曼殊室利。若見男子女人有病苦者。應當一心為彼病人清淨澡漱或食或藥或無蟲水呪一百八遍與
彼服食。所有病苦悉皆消滅。若有所求指心念誦。皆得如意無病延年。命終之後生彼世界。得不
退轉。乃至菩提。

25

มัญชุศรี หากพบชายหญิงผูมที ุกขจ ากโรค พึงมีเอกจิตชําระกายของผูปวยไขใหสะอาด นําอาหาร ยาและ
น้ําที่ปราศจากส่ิงสกปรก มาบริกรรมดวยธารณีนี้ ๑๐๘ จบ แลวใหด่ืมกิน ทุกขจากโรคที่มีก็จะดับสน้ิ ไป หากมี
ส่ิงที่ปรารถนาแลวไซรจงต้ังจิตภาวนาสาธยาย ก็จักบรรลุสมดั่งใจ ปราศจากโรคและมีอายุวัฒนา หลังจากสิ้น
อายุขัยแลว จะบังเกิดยัง (ศทุ ธิไวฑูรย) โลกธาตแุ หงนั้น มิเสอ่ื มถอยตราบถงึ พระโพธิญาณ

是故曼殊室利若有男子女人。於彼藥師琉璃光如來。至心慇重恭敬供養者。常持此呪勿令廢忘

เหตุนี้ มัญชุศรี หากมีชายหญิงใดๆ ท่ีมีความเคารพเลื่อมใส สักการะตอพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา
ตถาคตเจาพระองคนนั้ ดว ยความเปนทสี่ ดุ แหงใจ กพ็ ึงยดึ ม่นั ในธารณีน้ี อยา ใหลมื เลอื นเสยี หายเถดิ

復次曼殊室利。若有淨信男子女人。得聞如上七佛如來應正等覺所有名號。聞已誦持晨嚼齒木澡
漱清淨。以諸香花末香燒香塗香。作眾伎樂供養形像。於此經典若自書若教人書一心受持聽聞其
義。於彼法師應修供養。一切所有資身之具。悉皆施與勿令乏少。如是便蒙諸佛護念所求願滿。
乃至菩提。

มัญชุศรี หากมีชายหญิงท่ีมีศรัทธาบริสุทธิ์ ไดสดับพระนามของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจาทั้งเจ็ด
พระองคเ บื้องตน เมื่อไดยนิ แลว ก็สาธยาย ในยามเชา ไดเคี้ยวไมสฟี น*๖ ชาํ ระกายใหสะอาด แลว ใชดอกไมหอม
ผงหอม เผาเครื่องหอม เคร่อื งทาหอม บรรเลงสังคตี ดนตรีตางๆ สักการะตอ พระพทุ ธปฏมิ า อันพระธรรมสูตรน้ี
หากตนเองคัดลอก หากสอนใหผูอ่ืนคัดลอก ไดมีเอกจิตจดจําเอาไว นอมรับสดับฟงซึ่งอรรถะ แลวถวายกัปปย
ภัณฑแกพระธรรมาจารยผูสอนธรรมน้ัน คือสิ่งท้ังปวงที่จําเปนตอกาย ถวายเปนทานโดยมิใหทานขาดแคลน
ดังนี้ ก็จักยงิ่ ไดรับการคุมครองจากพระพทุ ธเจาทัง้ ปวง ส่ิงที่ปรารถนายอมสมบรู ณตราบจนถงึ พระโพธิญาณ

*๖ สมยั โบราณจะเค้ยี วกง่ิ ขอยใหล ะเอยี ดแลวทาํ ความสะอาดฟน

爾時曼殊室利童子白佛言。世尊。我於末法之時。誓以種種方便。令諸淨信男子女人得聞七佛如
來名號。乃至睡中亦以佛名令其覺悟。世尊若於此經受持讀誦。或復為他演說開示。若自書若教
人書恭敬尊重以種種華香塗香末香燒香華鬘瓔珞幡蓋伎樂而為供養。以五色繒綵而裹[袌-包+矢]
之。灑掃淨處置高座上。

สมัยน้ัน พระมัญชุศรีกุมารภูตะทูลพระพุทธองควา ขาแตพระผูมีพระภาคเจา ในเบื้องปลายแหงธรรม
สมัย ขาพระองคจะใชอุปายะนานาประการยังใหชายหญิงผูมีศรัทธาบริสุทธ์ิ ไดยินพระนามของพระพุทธ
ตถาคตเจาท้งั เจด็ พระองค แมใ นขณะนทิ ราอยกู จ็ ะนําพระพุทธนามยังใหเขามีสติรูสึกตัว ขาแตพ ระผูมีพระภาค
หากไดจดจํา อานทองสาธยายซึ่งพระธรรมสูตรนี้ ฤๅยังไดกลาวแสดงแกผอู ่ืน หากคัดลอกดวยตนเอง หากสอน
ใหผูอื่นคัดลอก แลวนํามาลีมีกลิ่นหอม เครื่องทาหอม ผงหอม เผาเคร่ืองหอม พวงมาลา สรอยเกยูระ ธวัชแล
ฉัตร เครื่องดนตรีถวายสักการะดวยความเคารพเล่ือมใส บรรจุในหอผาแพรเบญจรงค ปดกวาดสถานที่ให
สะอาดและบนอาสนะทีย่ กสูง

是時四大天王與其眷屬。及與無量百千天眾。皆詣其所供養守護。世尊若此經寶流行之處及受持
者。以彼七佛如來本願功德及聞名號威神之力。當知是處無復橫死。亦復不為諸惡鬼神奪其精氣
。設已奪者還得如故身心安樂。

เวลานั้น มหาเทวราชทั้งส่ีและบรรดาเทพนิกรผูติดตามจํานวนรอยพันประมาณมิได ก็จะมาเฝาเพ่ือ
สักการบูชาและอภบิ าลอยูในสถานที่น้ัน ขาแตพระผูมีพระภาคเจา หากพระสูตรอันมีคาปานรัตนะนี้ ไดเผยแผ
ไปยังสถานที่ใดและมีผูจดจําไวซ่ึงมูลปณิธาน กุศล และไดสดับอานุภาพแหงพระนามของพระตถาคตทั้งเจ็ด

26

พระองคนี้ พึงทราบไดวาสถานที่แหงน้ันจักไมมีอกาลมรณะอีกตอไป*๗ ทั้งมิตองถูกปศาจรายชวงชงิ ดวงจติ อีก
ผทู ถี่ ูกชงิ ดวงจิตไปแลว ก็จกั หวนคืนมาไดผาสกุ ท้ังกายใจ

佛告曼殊室利。如是如是如汝所說。曼殊室利若有淨信男子女人。欲供養彼七如來者。應先敬造
七佛形像。安在清淨上妙之座散花燒香以諸幢幡莊嚴其處。七日七夜受八戒齋食清淨食。澡浴身
體著新淨衣。心無垢濁亦無恚害。於諸有情常起利樂慈悲喜捨平等之心。鼓樂絃歌稱讚功德右繞
佛像。念彼如來所有本願。讀誦此經思惟其義。演說開示。隨其所願。求長壽得長壽。求富饒得
富饒。求官位得官位。求男女得男女。一切皆遂。

พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั กับพระมัญชุศรีวา เปนเชน น้นั ๆ ดั่งทเี่ ธอไดกลา วแลว มัญชศุ รี หากมีชายหญิงผูมี
ศรัทธาบริสุทธ์ิ ปรารถนาจะสกั การะพระตถาคตเจาท้ังเจ็ดพระองคนั้น พึงสรางพระปฏิมาของพระผูมีพระภาค
เจาข้ึนเจ็ดองคกอน แลวประดิษฐานบนอาสนะท่ีบริสุทธ์ิ เกล่ียบุปผชาติ เผาเคร่ืองหอมแลประดับมณฑลสถาน
ใหอลังการดวยธวัชฉัตรธงตางๆ ในเจ็ดทิวาราตรีไดสมาทานอุโบสถศีลบริโภคอาหารท่ีพึงงดเวน บริโภคอาหาร
ที่บริสุทธิ์*๘ ชําระกาย สวมอาภรณใหมสะอาด มีจิตไมแปดเปอนเศราหมอง และไมโกรธพยาบาท มีจิตเมตตา
กรุณา มุทิตา อุเบกขาเสมอกันเพ่ือเปนประโยชนแกหมูสัตวทั้งหลายอยูเปนนิจ บรรเลงดนตรีดีดสีสรรเสริญ
พระพุทธคุณและประทักษิณาวัตร (เวียนขวา) พระพุทธปฏิมา แลว นอมระลึกถงึ มูลปณิธานของพระตถาคตเจา
เหลา นั้น อา นทองพระธรรมสตู รนแี้ ลไตรต รองซึง่ อรรถะแลวแสดงอรรถาธิบายแลว ไซร เมื่อปรารถนาส่งิ ใดยอม
ไดต ามสิง่ นั้น ปรารถนาอายสุ ิรวิ ัฒนาไดอายุสิริวัฒนา ปรารถนาความรํา่ รวยจะไดรํ่ารวย ปรารถนายศศกั ดิ์จะได
ยศศกั ดิ์ ปรารถนาชายหญงิ จะไดชายหญงิ สมประสงคทกุ ประการ

*๗ อกาลมรณะ คอื ตายราย, ตายโหง, ตายกอ นเวลาท่ีสมควร

*๘ 齋食 คือ อาหารท่ีพงึ งดเวน หรืออาหารเจ, 清淨食 คอื อาหารท่บี รสิ ทุ ธ์ิ ไมม เี ลอื ดเนื้อ

若復有人忽為惡夢見諸惡相。或怪鳥來集。或於其家百怪出現。此人若以上妙資具。恭敬供養彼
諸佛者。惡夢惡相諸不吉祥。悉皆隱沒不能為患。或有水火刀毒懸崖險道惡象師子虎狼熊羆蛇蠍
蜈蚣如是等怖。若能至心憶念彼佛恭敬供養。一切怖畏皆得解脫。若他國侵擾盜賊反亂。憶念恭
敬彼如來者。所有怨敵悉皆退散。

หากมีผูนิมิตราย ฤๅไดพบลักษณะรายตางๆ บางมีปกษีวิปริตรวมกลุมกัน บางในเคหสถานน้ันเกิดเรื่อง
แปลกประหลาด บุคคลนี้หากนําเครื่องบูชาท่ีประณีตในเบ้ืองตนน้ัน นอมสักการะตอพระพุทธเจาทั้งหลายน้ัน
แลว นมิ ิตรา ยลกั ษณะรายแลส่ิงอัปมงคลตางๆ จะเลือนหายไปสิ้นมอิ าจบันดาลโทษภัยได บางมคี วามหวาดกลัว
ภัยจากนํ้า ไฟ อุทกภัย ศัตราวุธ ยาพิษ อาถรรพ ชางดุ สิงโต เสือ สุนัขปา หมี งูพิษ แมลงปอง สัตวเลื้อยคลาน
แมลงพิษเปน ตน หากสามารถมนสิการถึงพระพุทธเจาเหลานน้ั และนอบนอมบูชาดว ยความเปนที่สุดแหงใจแลว
ไซร ยอมหลุดพนจากความหวั่นเกรงทั้งปวง หากประเทศอ่ืนๆมารุกรานปลนชิง แลวไดมนสิการนอบนอมตอ
พระพทุ ธเจา เหลา น้นั หมปู จจามิตรจกั ถอยรนไปทง้ั สน้ิ

復次曼殊室利若有淨信男子女人等。乃至盡形。不事餘天。惟當一心歸佛法僧受持禁戒。若五戒
十戒菩薩四百戒苾芻二百五十戒苾芻尼五百戒。於諸戒中或有毀犯怖墮惡趣。若能專念彼佛名號
恭敬供養者。必定不生三惡趣中。或有女人臨當產時受於極苦。若能至心稱名禮讚恭敬供養七佛
如來眾苦皆除。所生之子顏貌端正見者歡喜。利根聰明少病安樂。無有非人奪其精氣。

มัญชุศรี หากมีชายหญิงผูมีศรัทธาบริสุทธ์ิท้ังหลาย ตราบจนส้ินสังขารก็มิไดของเก่ียวกับเทพเจาอื่นใด มี
เอกจิตถือสรณะแตพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ สมาทานม่ันในศีลปาฏิโมกข แมนศีล ๕ ศีล ๑๐ โพธิสัตวศีล
๔๐๐ ภกิ ษุศลี ๒๕๐*๙ ภิกษุณีศลี ๕๐๐ ก็ตง้ั อยใู นศีลทัง้ ปวงเชนนี้ บางไดละเมิดแลว หวนั่ เกรงจักตกสูอ บายภูมิ

27

หากสามารถตั้งใจภาวนาพระนามของพระพุทธเจาเหลาน้ี ไดถวายความเคารพสักการะ ยอมมิตองกําเนิดใน
อบายภูมิทั้งสามอยางแนนอน บางมีสตรีใดที่รับทุกขเวทนาในการคลอดบุตรเปนอยางยิ่ง หากสามารถ
สรรเสริญพระนาม นมัสการ นอบนอม สักการะพระพุทธตถาคตเจาทั้งเจ็ดพระองคดวยความเปนที่สุดแหงใจ
แลวไซร สรรพทุกขทั้งหลายจะดับไปสิ้น บุตรที่กําเนิดจะมีลักษณะมงคลเปนที่ยินดีแกบุคคลที่พบเห็น มี
ปฏภิ าณเฉลยี วฉลาด มีโรคนอ ยและผาสุก ไมม ีอมนษุ ยใดมาชวงชงิ ดวงจติ ไปได

*๙ ภิกษุศีลของมหายานมี ๒๕๐ ขอ จําแนกเปนปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิตย ๒ นิสสัคคียปาจิตตีย ๓๐
ปาจติ ตีย ๙๐ (เถรวาทมี ๙๒) ปาฏเิ ทศนยี  ๔ เสขยิ ะ ๑๐๐ (เถรวาทมี ๗๕) และอธิกรณส มถะ ๗

爾時世尊告阿難言。如我稱揚彼七如來名號功德此是諸佛甚深境界。難可了知汝勿生疑。

สมัยนั้น พระโลกนาถเจามีพุทธดํารัสตอพระอานนทวา ตามที่ตถาคตไดสรรเสริญกุศลแหงพระนามของ
พระตถาคตเจาทั้งเจ็ดพระองคนั้น อันเปนวิสัยท่ีคัมภีรภาพของพระพุทธะ อันยากแกการเขาใจ เธอจงอยาได
สงสัยเลย

阿難白言。世尊我於如來所說契經深義不生疑惑。所以者何。一切如來身語意業皆無虛妄。

พระอานนททูลวา ขาแตพระผูมีพระภาคเจา ขาพเจาปราศจากซึ่งวิจิกิจฉาเคลือบแคลงในอรรถะที่แยบ
คายของพระธรรมสูตรที่พระตถาคตตรัสไวดีแลว ดวยเหตุไฉนน่ันฤๅ เพราะพระตถาคตมีกายกรรม วจีกรรม
มโนกรรมทมี่ ลิ วงหลอก

世尊此日月輪可令墮落。妙高山王可使傾動。諸佛所言終無有異。世尊然有眾生信根不具。聞說
諸佛甚深境界作是思惟。云何但念七佛名號。便獲爾所功德勝利。由此不信便生誹謗。彼於長夜
失大利樂墮諸惡趣。

พระผมู ีพระภาคเจา อันดวงสุริยาแลจันทราน้อี าจยังใหตกลงได สุเมรรุ าชสิงขรกอ็ าจยังใหสนั่ คลอนได แต
พระพุทธวจนะท้ังหลายนั้นที่สุดแลวก็มิเปนอื่น พระผูมีพระภาคเจา ยังมีหมูสัตวท่ีมีศรัทธาพีชะมิสมบูรณ เมื่อ
ไดสดับฟงพุทธวิสัยอันแยบคายยิ่งนี้แลวยอมเกิดมนสิการวา เพียงการระลึกถงึ พระนามของพระพุทธเจาทั้งเจด็
พระองค จักไดร บั อานิสงคอ นั ประเสริฐไดเชยี วหรือ ดวยความมศิ รทั ธานี้จงึ กลาวใหราย ผนู น้ั ในราตรีท่ียาวนาน
ยอ มวบิ ัติจากประโยชนส ขุ มหาศาล*๑๐ แลวตกสูอ บายภูมทิ ้ังปวง

*๑๐ ประโยคน้ีเปรียบไดวา สังสารวัฏนี้ คือยามคํ่าคืนที่มืดมิด จะมีก็แตแสงสวางแหงดวงจันทร คือพระพุทธ
ธรรมที่สองแสงนําทาง

佛告阿難。彼諸有情若得耳聞諸佛名號。墮惡趣者無有是處。唯除定業不可轉者。

พระพุทธองคตรัสแกพระอานนทวา หมูสัตวเหลานั้นหากไดสดับพระนามของพระพุทธเจาทั้งหลาย แลว
ยังตกสูอ บายภมู ิยอมเปนไปมิไดใ นสถานน้ี เวน แตผ ูมกี รรมอนั มอิ าจเปลี่ยนแปลงได*๑๑

*๑๑ 定業 คือ viniscita-karman หมายถึง ผูทํากรรมใดยอมไดรับวิบากน้ัน เปนที่แนนอน , ปรินิรวาณ
มหายานสูตร สิงหนาทวรรค 《涅槃經·師子吼品》說:กลาววา "พึงทราบเถิดวา เม่ือทํากรรมแลวจักตอง
ไดรับผลแนนอน และไดรับผลไมแนนอน หรือมีกรรมหนักอาจทําใหเบา หรือมีกรรมเบาอาจทําใหหนัก” 「當
知作業有定得果,不定得果,或有重業可得作輕,或有輕業可得作重。」ก ล า ว อี ก ว า “ เ ห ตุ ท่ี
ประพฤตธิ รรม กรรมหนกั ทแ่ี นน อน อาจเปล่ียนวบิ ากใหเบา และกรรมที่ไมแ นนอนกจ็ ักมิสงผล 又說,「修習
道故,決定重業可使輕受,不定之業非生報受。」, อุปาสกศีลสูตร กรรมวรรค《優婆塞戒經·業品

28

》說:กลาววา “ดวยเหตุเพราะกําลังของจิตอันเปนกุศลและปญญาญาณเปนเหตุปจจัย ใหอกุศลวิบาก
เปล่ียนเปนเบาได” 「善心智慧因緣力故,惡果定者亦可轉輕。」กลาวอีกวา “มีการบําเพ็ญกาย ศีล จติ
ปญญา ยอมทราบแนชัดวาความดีและชั่วยอมมีผล บุคคลน้ีจึงสามารถเปล่ียนกรรมหนักเปนเบา ผูกรรมเบาจึง
หมดวิบาก หากพบกับผเู ปนนาบญุ สมาคมกับกลั ยาณมิตร บําเพ็ญกศุ ลธรรม ผนู ้ียอมเปล่ยี นกรรมหนกั เมื่อชาติ
กอนใหรับผลที่เบาในชาติน้ีได 又說:「如有修身修戒修心修慧,定知善惡當有果報,是人能轉重業
為輕,輕者不受。若遭福田,遇善知識,修道修善,是人能轉後世重罪現世輕受。」, ส มั น ต ภั ท ร
โพธิสัตวธรรมจริยาธยานสูตร《觀普賢菩薩行法經》說:กลาววา “บรรดาวิบาก(ทั้งดี-ช่ัว)ท่ีดุจหวงสาคร
ลวนเกิดแตสัญญาท่ีมิจริงแท หากจักขมากรรมสํานึกผิด พึงต้ังกายตรงแลวระลึกถึงสัจจะลักษณะ วาบาปทั้ง
ปวงดุจนํ้าคาง(ท่ีตั้งอยูไมนานแคยามเชา เม่ือตองแสงแดดก็จะระเหยไป) ท่ีดวงอาทิตยคือปญญาสามารถกาํ จัด
ใหส้ินได” 「一切業障海,皆從妄想生;若欲懺悔者,端坐念實相;眾罪如霜露,慧日能消除。」
สรุป คอื ผูทีม่ ิรูจ ักแกไ ขความผดิ หรือผทู ีข่ อโอกาสขมากรรมแลว ทาํ ผิดอกี พระพทุ ธองคก ็มอิ าจชวยได

阿難。此是諸佛甚深境界難可信解。汝能信受。當知皆是如來威力。

อานนท พุทธวิสัยท่ีคัมภีรภาพของพระพุทธะท้ังปวงอันยากแกการนอมใจศรัทธานี้ เธอสามารถนอม
ศรทั ธาได พงึ ทราบเถดิ วาลว นคือกาํ ลังแหง พระตถาคต

阿難。一切聲聞及獨覺等皆不能知唯除一生補處菩薩。

อานนท บรรดาพระสาวกและพระปจเจกโพธิทั้งปวงลวนมสิ ามารถเขาใจ เวน แตเอกชาตปิ ฏพิ ันธโพธิสัตว
เทา นั้น*๑๒

*๑๒ เอกชาติปฏิพันธโพธิสัตว คือ พระโพธิสัตวที่เก่ียวเนื่องกับการเกิดอีกเพียงชาติเดียว ก็จะตรัสรูพระ
โพธญิ าณเปนพระสัมมาสัมพทุ ธเจา

阿難。人身難得。於三寶中信敬尊重亦難可得。得聞七佛如來名號復難於是。

อานนท การมีสังขารของมนุษยนั้นยาก แลการจักมีศรัทธาเลื่อมใสตอพระรัตนตรัยก็ยากย่ิง แตการได
สดับพระนามของพระพุทธตถาคตเจาท้ังเจ็ดน้ียงิ่ ยากกวา ประการเหลาน้ี

阿難。彼諸如來無量菩薩行。無量巧方便。無量廣大願如是行願善巧方便。我若一劫若過一劫說
不能盡。

อานนท โพธิสัตวจริยาอันไมมีประมาณ พระอุปายะอันไมมีประมาณ มหาปณิธานที่ไพบูลยอันไมมี
ประมาณของพระตถาคตเจาทั้งหลายน้ัน อันพระจริยาวัตร ปณิธาน และอุปายโกศลเหลานี้ หากตถาคตจัก
กลาวแสดงไปตลอดกลั ปห นง่ึ หรอื ลว งอีกกลั ปหนึ่งกม็ อิ าจพรรณนาไดสน้ิ เลย

爾時眾中有一菩薩摩訶薩。名曰救脫。即從座起偏袒右肩。右膝著地。合掌向佛白言。世尊。於
後末世像法起時。若有眾生為諸病苦之所逼惱。身形羸瘦不能飲食。喉脣乾燥目視皆暗死相現前
。父母親屬朋友知識啼泣圍繞。身臥本處見彼琰魔法王之使引其神識將至王所。然諸有情有俱生
神。隨其所作善惡之業悉皆記錄授與彼王。王即依法問其所作。隨彼罪福而處斷之。是時病人親
屬知識。若能為彼歸依諸佛。種種莊嚴如法供養。而彼神識或經七日或二七日乃至七七日。如從
夢覺復本精神。皆自憶知善不善業所得果報。由自證見業報不虛。乃至命難亦不造惡。是故淨信
男子女人。皆應受持七佛名號隨力所能恭敬供養。

สมัยนั้น ในธรรมสันนิบาตมีพระโพธิสัตวมหาสัตวองคหน่ึงนามวา “วิมุตติ” ไดลุกขึ้นจากอาสนะ แลวลด
ผาเฉวียงบาขวา คุกเขาขวาจรดผืนดิน ถวายวันทนาเฉพาะพระพุทธองคแลวทูลวา ขาแตพระผูมีพระภาคเจา

29

จากน้ีไปชวงปลายของโลกเมื่อพระธรรมเส่ือมสูญนั้น หากมีสรรพสัตวท่ีทุกขเพราะโรคทั้งปวงเสียดแทงรุมเรา
สงั ขารซูบผอม มิอาจดม่ื กนิ อาหาร ปากและลําคอเหอื ดแหง มองเหน็ แตความมืดมดิ อันเปนมรณาลกั ษณะที่มา
ปรากฏยังเบื้องหนา ผเู ปนบิดา มารดา ญาติมติ รสหายจักราํ่ ใหอยโู ดยรอบ กายทน่ี อนอยทู ี่นนั้ จักแลเหน็ ทูตแหง
ยมธรรมราชมานําพาเจตภตู ิไปยังที่ประทับของยมราชา อันบรรดาหมสู ตั วทง้ั หลายที่มจี ิตวิญญาณเกิดขึ้นพรอม
แลว กรรมกุศลและอกุศลที่กระทําทั้งปวงจะถูกบันทึกไวโดยยมราชท้ังส้นิ ยมราชจักซักถามบุคคลผูน้ันตามกฎ
แลวตัดสินไปตามบาปและบุญของผูน้ัน เวลานั้นหากญาติมิตรของผูปวยน้ัน สามารถนอมเอาพระพุทธเจาท้ัง
ปวงเปนที่พ่ึงแทนผูนั้น ไดสักการบูชาอยางอลังการตามวิธีแลวไซร เจตภูติของผูนั้นแล บางผานไปเจ็ดวัน ยี่สิบ
เจ็ดวัน จนถึงส่ีสิบเกาวัน ก็จักหวนกลับมาสูดวงจิตวิญญาณอีกประดุจไดต่ืนจากความฝน แลวจักตระหนักรูใน
วิบากผลของกศุ ลและอกศุ ลเฉพาะตน ดว ยตนเองไดย ลเปนทป่ี ระจกั ษมาแลววากรรมวบิ ากนั้นมิไดเปนสง่ิ โปปด
แมนจะมีภัยถึงชีวิตก็จักมิกระทําชั่ว เหตุนี้แหละชายหญิงผูมีศรัทธาท่ีบริสุทธิ์ พึงจดจําพระพุทธนามทั้งเจ็ดน้ี
แลว นอมสักการะสดุ แตก าํ ลังสามารถเถดิ

爾時具壽阿難。問救脫菩薩曰。善男子。恭敬供養彼七如來。其法云何。救脫菩薩言。大德。若
有病人及餘災厄欲令脫者。當為其人七日七夜持八戒齋。應以飲食及餘資具隨其所有供佛及僧晝
夜六時恭敬禮拜七佛如來讀誦此經四十九遍然四十九燈造彼如來形像七軀一一像前各置七燈其七
燈狀圓若車輪乃至四十九夜光明不絕造雜綵幡四十九首并一長幡四十九尺放四十九生。如是即能
離災厄難。不為諸橫惡鬼所持。

ครัง้ น้ัน พระอานนทเถรเจาไดถ ามพระวมิ ุตติโพธิสตั ววา ดกู อน กลุ บตุ ร เราควรจะประดับธงทิวฉัตร และ
ดวงประทปี ตอ อายุ เพ่อื ถวายสกั การบชู าตอพระตถาคตเจา ทงั้ เจ็ดพระองคน ัน้ อยา งไรฤๅหนอ

พระวิมุตติโพธิสัตวตอบวา ทานผูเจริญ หากมีผูปวยไขและผูมีเภทภัยอื่นๆ ตองการพนจากทุกข จงใหผู
น้ันสมาทานอุโบสถศีลเปนเวลาเจ็ดทิวาราตรี พึงถวายภัตตาหารและเคร่ืองไทยทานอื่นๆตามกําลังแด
พระพุทธเจาและสงฆ ตลอดทั้งกลางวันกลางคืนหกเวลาก็ถวายความเคารพพระพุทธตถาคตทั้งเจ็ดพระองค
อานทองสาธยายพระธรรมสูตรนี้สี่สิบเกาจบ จุดประทีปส่ีสิบเกาดวง สรางพระตถาคตปฏิมาข้ึนเจ็ดองค เบ้ือง
หนาของปฏิมาหนึ่งๆ ตั้งประทีปเจ็ดดวงแตละดวงน้ันกลมโตเทากงลอเกวียน เปนเวลาส่ีสิบเกาคืนมิใหดับแสง
ลง ประดิษฐธงทิวหลากสีสี่สิบเกาผืน จากยอดยาวส่ีสิบเกาเชียะ*๑๓ ปลอยสัตวส่ีสิบเกาชีวิต เชนน้ีจึงสามารถ
ไกลจากเภทภัย มถิ ูกภตู มิ รณะกระทาํ ได

*๑๓ เทากับ 1 ฟตุ หรอื 1 ไมบรรทดั

大德阿難。是為供養如來法式。若有於此七佛之中隨其一佛稱名供養者。皆得如是無量功德所求
願滿。何況盡能具足供養。

พระคุณเจาอานนท น่ีคือวิธีสักการพระตถาคตเจา หากไดสักการะสรรเสริญพระพทุ ธเจาหน่ึงพระองคใด
ก็ตามในเจ็ดพระองคนี้ ยอมมีอานิสงสไมมีประมาณเชนน้ีทุกส่ิงจะสมดั่งปณิธาน ประสาใดกับการสักการะทุก
พระองคอ ยา งสมบูรณ

復次大德阿難。若剎帝利灌頂王等災難起時。所謂人眾疾疫難。他國侵逼難。自界叛逆難。星宿
變怪難。日月薄蝕難。非時風雨難。過時不雨難。彼剎帝利灌頂王等。爾時當於一切有情起慈悲
心放大恩赦脫諸幽厄苦惱眾生如前法式供養諸佛。由此善根及彼如來本願力故。令其國界即得安
隱。風雨順時穀稼成熟。國內眾生無病安樂。又無暴惡藥叉等神共相惱亂。一切惡相悉皆隱沒。
而剎帝利灌頂王等。皆得增益壽命色力無病自在。

30

พระคุณเจาอานนท หากกษัตริย พระราชาใดเมื่อคราวประสบเภทภัย อันมีภัยจากราษฎรประสบโรค
ระบาด ภัยจากเมอื งอน่ื รุกราน ภยั จากในชาตเิ ปนกบฏ ภยั จากนกั ษตั รประหลาดไป ภัยจากสรุ ิยจันทรคราส ภยั
จากลมฝนไมตองตามกาล ภัยจากความแหงแลง คร้ังนั้นกษัตริยพระราชานั้นพึงเกิดจติ เมตตากรุณาตอหมูส ัตว
ท้ังปวง และประทานอภัยโทษแกหมูสัตวท่ีถูกคุมขังที่ทุกขทรมาน ดุจวิธีเบ้ืองตนเพ่ือถวายเปนสักการะตอ
พระพุทธเจาท้ังปวง ดวยกุศลมูลนี้และกําลังแหงมูลปณิธานของพระตถาคตเจาเหลาน้ัน จะยังใหประเทศนั้น
บรรลุถึงความผาสุก ลมฝนตองตามฤดู ธัญญาหารอุดมสมบูรณ ราษฎรในชาติเปนสุขเพราะไรโรคภัย อีกจะ
ปราศจากยักษใจบาปและเทวดารายที่ทําความทุกขรอน อัปมงคลลักษณะทั้งหลายจะเลือนหายไปสิ้น อีก
กษตั ริยพ ระราชานนั้ จะมชี นมายสุ ิรวิ ฒั นา มีพลานามัยปราศจากโรคาพาธ

大德阿難。若帝后妃主儲君王子大臣輔相宮中婇女百官黎庶為病所苦及餘厄難。亦應敬造七佛形
像讀誦此經然燈造幡放諸生命至誠供養燒香散花。即得病苦銷除解脫眾難。

พระคุณเจาอานนท หากมเหสี ชายา รัชทายาท ราชบุตร มหาอํามาตย มุขมนตรี สนมนางใน ขาราช
บริพารและพสกนิกรที่เปนทุกขจากโรคและเภทภัยอ่ืนๆ ก็พึงสรางพระพุทธปฏิมาขึ้นเจ็ดองคดวยความเคารพ
สาธยายพระสตู รน้ี จดุ ประทปี ประดษิ ฐธ งทิว ปลอ ยชีวติ สตั วทงั้ หลาย สกั การะดว ยความจริงใจ เผาเครอ่ื งหอม
และเกล่ียบบุ ผาบชู า ทกุ ขโรคก็จกั ดับสน้ิ ไปและพนจากเภทภยั ทัง้ ปวง

爾時具壽阿難。問救脫菩薩言。善男子。云何已盡之命而可增益。救脫菩薩言。大德。仁豈不聞
如來說有九橫死耶。由是世尊為說呪藥隨事救療。然燈造幡修諸福業。以修福故得延壽命。阿難
問言。九橫云何。

คร้ังน้ัน พระอานนทเถรเจาไดถามพระวิมุตติโพธิสัตววา กุลบุตร จักทําเชนไรใหอายุขัยท่ีส้ินแลวยืดยาว
ไปอีก

พระวิมุตติโพธิสัตวตอบวา พระคุณเจา ทานมิเคยสดับพระตถาคตตรัสถึงอกาลมรณะเกาประการดอก
หรือ ดวยพระผูมีพระภาคเจาทรงแสดงมนตรอันเปนโอสถรักษาโรคเพ่ือเยียวยานี้ ใหจุดประทีปประดิษฐธงทิว
บําเพญ็ กุศลกรรมทงั้ ปวง ดว ยอาศยั เหตุที่ไดบําเพ็ญกศุ ลเชนนี้ยอมยงั ใหม ีอายุยนื

พระอานนทถามวา อกาลมรณะเกา ประการนัน้ เปน เชนใดหนอ

救脫菩薩言。一者若諸有情得病雖輕。然無醫藥及看病者。設復遇醫不授其藥。實不應死而便橫
死。又信世間邪魔外道妖孽之師妄說禍福便生恐動心不自正。卜問吉凶殺諸眾生求神解奏呼召魍
魎請福祈恩欲冀延年。終不能得。愚迷倒見遂令橫死。入於地獄無有出期。

พระวมิ ุตติโพธิสัตว กลาววา ประการที่ ๑ หากหมูสัตวทปี่ วยไขแมเ ลก็ นอย แตปราศจากแพทย โอสถและ
การพยาบาล ฤๅไดรับการรักษาแตรับยามิตองกับโรค ท่ีแทยังมิพึงมรณะ แตก็ตองมรณะกอนเวลาอันควร บาง
เปนผูเลื่อมใสมิจฉามาร เดียรถีรและครูผีเวทยมนตรในโลกวาเปนอาจารย เมื่อไดยินคําลวงวามีเคราะหมีโชค
ยิ่งเกิดจิตวิตกหวั่นไหวมิตั้งอยูดวยตนเองได เส่ียงทายไถถามฤกษยามดีราย ฆาชีวิตสัตวอ่ืนๆ สังเวยภูติพราย
เพื่อขอความโชคดีและชีวิตที่ยืนยาว ท่ีสุดแลวยอมมิอาจไดรับ เพราะลุมหลงงมงาย มีทิฐิวิปลาสจึงไดมรณะ
กอนเวลาอันควร และเขาสนู รกไรโ อกาสออกมาได

二者橫為王法之所誅戮。三者畋獵嬉戲耽婬嗜酒放逸無度。橫為非人奪其精氣。四者橫為火焚。
五者橫為水溺。六者橫為種種惡獸所噉。七者橫墮山崖。八者橫為毒藥厭禱呪詛起屍鬼等之所中
害。九者飢渴所困不得飲食而便橫死。是為如來略說橫死有此九種。其餘復有無量諸橫。難可具
說。

31

ประการท่ี ๒ มรณะดว ยตองราชอาญาประหารชีวิต
ประการท่ี ๓ ผูลาสัตว มัวเมาในกามและสุรา ประมาทมิอาจฉุดชวยได จึงตองมรณะเพราะอมนุษยมาฉุดครา
ดวงวิญญาณ
ประการที่ ๔ มรณะดวยเพลงิ เผาผลาญ
ประการที่ ๕ มรณะดวยจมชลชาติ*๑๔
ประการท่ี ๖ มรณะดวยสตั วรายตา งๆ กัดกนิ
ประการที่ ๗ มรณะดวยพลัดตกจากภูผา
ประการที่ ๘ มรณะดว ยตอ งโอสถพิษ ยาเบื่อ เวทยมนตรและภยั จากการปลุกภูตผ*ี ๑๕
ประการท่ี ๙ ผูหิวกระหายดว ยเพราะอดอยาก มิไดด่มื กินอาหารจนมรณะ
น้ีคือการมรณะกอนเวลาอันควร ที่พระตถาคตเจาทรงแสดงไวโดยสังเขปเกาประการ ซึ่งยังมีมรณะประเภท
ตางๆอกี หาจาํ นวนมไิ ด อันจะกลา วใหครบถว นไดยาก
*๑๔ คอื นํา้
*๑๕ ในขอนี้มีความหมาย ๒ นัยยะ คือ ๑)ผูท่ีตองมรณะดวยการถูกผูอื่นกระทํา และ ๒)ผูท่ีปลุกภูติผีเปนผู
มรณะเสียเอง

復次阿難。彼琰魔王簿錄世間所有名藉。若諸有情不孝五逆毀辱三寶。壞君臣法破於禁戒。琰魔
法王隨罪輕重考而罰之。是故我今勸諸有情。然燈造幡放生修福。令度苦厄不遭眾難。

พระคุณเจา อานนท ยมราชผูบ ันทึกบญั ชรี ายชือ่ ของสัตวโลกทั้งหลาย หากมหี มูสัตวทอี่ กตญั ูไมร คู ณุ กอ
อนันตริยกรรมหา ประการ ดูหมิ่นทําลายพระรัตนตรัย ละเมิดกฎหมายท่ีกษตั ริยและขุนนางกําหนดไว ยมธรรม
ราชาจะตัดสินโทษานุโทษตามกรรมหนักเบา

เหตุนี้ ขาพเจา(พระวิมุตติโพธิสัตว) จึงขอใหสรรพสัตวหม่ันบูชาดวยดวงประทีป ชวาลา แขวนธงบูชา
ปลอยชีวติ สตั ว กระทาํ ความดี จะยังใหขามพน ทุกขภยั มิตอ งประสบกับภยันตราย

爾時眾中有十二藥叉大將。俱在會坐其名曰。

宮毘羅大將 跋折羅大將

迷企羅大將 頞儞羅大將

末儞羅大將 娑儞羅大將

因陀羅大將 波夷羅大將

薄呼羅大將 真達羅大將

朱社羅大將 毘羯羅大將

ลําดับนั้น ทามกลางธรรมสภา มีมหายักษเสนาบดีสิบสองตน ไดน่ังอยูในท่ีแหงนั้นมีนามวา กุมภีระ ๑

วัชระ ๑ มิหิระ ๑ อัณฑิระ ๑ อนิละ ๑ ศัณฑิละ ๑ อินทระ ๑ ปชระ ๑ มโหรคะ ๑ กินนระ ๑ จตุระ ๑ วิกรา

ละ ๑

此十二藥叉大將。一一各有七千藥叉以為眷屬同時舉聲白佛言。世尊。我等今者蒙佛威力得聞七
佛如來名號。於諸惡趣無復怖畏。

มหายักษเสนาบดีท้ังสิบสองตนน้ี แตละตนตางมียักษบริวารเจ็ดพันตน ครานั้น มหายักษเสนาบดีกับท้ัง
บริวาร ไดกราบทูลพระพุทธบรมศาสดาวา ขา แตพ ระผูมพี ระภาคเจา บดั น้ีขาพระองคทง้ั หลายเพราะไดพ ุทธานุ
ภาพยังใหไ ดส ดบั พระนามของพระตถาคตเจา ทั้งเจ็ดพระองค จึงไมต อ งหวั่นเกรงอบายภูมิอกี ตอ ไป

32

我等相率皆同一心。乃至盡形歸佛法僧。誓當荷負一切有情。為作義利饒益安樂。隨於何處城邑
聚落空閑林中。若有此經流布讀誦。或復受持七佛名號恭敬供養者。我等眷屬衛護是人令脫眾難
。所有願求悉令滿足。或有疾厄求度脫者。亦應讀誦此經。以五色縷結我名字。得如願已然後解
結。

ขา พระองคล วนมีเอกจิตเสมอกันวา ตราบจนถึงซ่ึงความตายจะขอยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆเปนท่ี
พึ่ง ขอประกาศวาจะแบกรับสรรพสัตวท้ังหลายไว เพื่อยังคุณประโยชนความผาสุก ไมวาแหงใดในสถานคาม
นิคมชนบทราชธานีฤๅบรรพตวนาสณฑปาชัฏ หากมีพระสูตรน้ีไดเผยแผไปถึง มีการอานทองสาธยาย ฤๅยังมีผู
จดจําพระนามของพระพุทธเจาท้ังเจ็ดพระองคนี้ ไดถวายสักการะดวยความเคารพ ขาพระองคและบริวารจะ
ตามปกปองรักษาผูน้ันใหพนจากอันตรายทั้งปวง ความปรารถนาที่มีก็จักยังใหสมบูรณ ฤๅตองการหลุดพนจาก
โรคและภัยทีม่ ี กจ็ งสาธยายพระธรรมสูตรนี้ แลว ใชด ายเบญจรงคผูกเปน อักษรช่อื ของขาพระองค เมื่อสาํ เร็จด่ัง
ปณิธานแลว จึงคลายปมนนั้ ออก

爾時世尊。讚諸藥叉大將言。善哉善哉大藥叉將。汝等念報七佛如來恩德者。常應如是利益安樂
一切有情。

สมัยน้ัน พระผูมีพระภาคเจาไดตรัสอนุโมทนาเหลามหายักษเสนาบดีทั้งหลายวา สาธๆุ มหายกั ษเ สนาบดี
พวกเธอระลกึ จกั ตอบแทนพระคุณของพระพุทธเจาทงั้ เจด็ พระองค ก็พงึ ยังประโยชนแ ละความสขุ แกหมูสัตวท้ัง
ปวงเชน น้ีเถดิ

爾時會中有多天眾智慧尠少。作如是念。云何過是殑伽河沙諸佛世界現在如來。暫聞名者。便獲
無邊殊勝功德。

คร้ังนั้น ในธรรมสันนิบาตมีเทพนิกรจํานวนมากท่ีมีปญญาญาณนอยนิด มีมนสิการเชนนี้วา การไดสดับ
พระนามของพระตถาคตเจาทป่ี ระทับอยูใ นปจจบุ นั ขามลว งพทุ ธเกษตรทงั้ หลายไปเทากับเม็ดทรายในคงคานที
เพยี งชั่วขณะ จักไดเ สวยกศุ ลอนั วเิ ศษไรขอบเขตเชยี วหรอื

爾時釋迦牟尼如來。知諸天眾心之所念。即入警召一切如來甚深妙定。纔入定已。一切三千大千
世界六種震動。雨天妙花及天香末。彼七如來見是相已。各從其國來至索訶世界。與釋迦如來共
相問訊。

สมัยน้ัน พระบรมศาสดาศากยมุนีตถาคตเจา ทรงทราบความระลึกแหงจิตของเทพเหลานั้น จึงทรง
เขาสมาธิท่ีคัมภีรภาพวิเศษเพ่ืออัญเชิญพระตถาคตเจาท้ังหลาย ครั้นเม่ือเจริญสมาธิแลวในบัดน้ันตรีสหัส
มหาสหัสโลกธาตุ*๑๖ อันมีโลกานุโลกตางๆไดสะทานสะเทือนดวยลักษณะหกประการ*๑๗ ดอกไมสวรรคอัน
วิจิตรและของหอมอันเปนทิพยก็โปรยปรายลงจากฟากฟาดุจสายฝน พระตถาคตเจาทั้งเจ็ดพระองคน้ันได
ทอดพระเนตรเห็นลักษณะดังนี้แลว จึงเสด็จออกจากโลกธาตุของพระองคมายังสหาโลกธาตุ แลวตางก็มีพุทธ
ปฏิสันถารตอ กนั พรอ มดวยพระศากยตถาคต

*๑๖ ใน จุลนิกสูตร พระพุทธองคทรงกลาวกับพระอานนทวา จากระยะใกลสุดที่ดวงอาทิตยและดวงจันทรจะ
หมุนเวียนตามจักรราศีและสองสวางดวยแสงเรืองโอภาส จนถึงชวงหนึ่งพันจักรวาล ยังมีดวงจันทรหนึ่งพันดวง
ดวงอาทิตยหน่ึงพันดวง หนึ่งพันพระสุเมรุมหาสิงขร หน่ึงพันชมพูทวีป หนึ่งพันอมรโคยานทวีป หน่ึงพันอุตรกรุ ุ
ทวีป หน่ึงพันบุพพวิเทหทวีป สี่พันมหาสมุทร หน่ึงพันจาตุมหาราช หน่ึงพันดาวดึงสพิภพ หน่ึงพันยามาหวง
สวรรคหนงึ่ พนั สวรรคชน้ั ดุสิต หน่งึ พนั นมิ มานนรดี หน่ึงพันปรนมิ มิตวสวตแี ละหน่ึงพันหวงพิภพของของเหลานี้

33

แหละ อานนท เรียกวาระบบสหัสสโลกธาตุในชั้นปฐม ระบบที่ใหญกวาท่ีกลาวมานี้หน่ึงพัน เรียกวา สหัสส
โลกธาตุชน้ั มธั ยม ระบบท่ีใหญก วาน้หี น่งึ พนั เทา เรยี กวา ตรีสหัสสมหาโลกธาตุ

*๑๗ ๑.ทศิ ตะวันออกจม ตะวนั ตกนนู ๒.ทิศตะวันตกจม ตะวนั ออกนนู ๓.ทิศใตจม ทศิ เหนอื นนู ๔.ทิศเหนือจม
ทิศใตนูน ๕.รอบๆจม กลางนนู ๖.กลางจม รอบๆนนู

時佛世尊由其先世本願力故。各各自於天寶莊嚴師子座上隨處安坐。諸菩薩眾天龍八部人非人等
。國王王子中宮妃主。并諸大臣婆羅門長者居士。前後圍遶而為說法。

เวลาน้ัน ดวยกาํ ลงั แหงมลู ปณธิ านเมื่ออดีตชาตขิ องพระผูมพี ระภาคเจาทั้งหลายเปนเหตุ บนั ดาลใหแ ตล ะ
พระองคทรงมีสิงหนาทบัลลังกที่อลังการดวยทิพยรัตนะเกิดข้ึนเอง แลวทรงขึ้นประทับน่ังบนอาสนะนั้น
ประกอบไปดวยเหลาโพธิสัตว เทพ นาค สัตวในคติแปด มนุษยและอมนุษย พระราชา ราชบุตร สนมนางใน
พรอมดวยมหาอํามาตย พราหมณ คฤหบดี บัณฑิตท้ังปวงท่ีหอมลอมอยทู ้ังเบ้ืองหนาแลเบ้ืองหลัง ดั่งการแสดง
พระธรรมเทศนา

時諸天眾見彼如來皆已雲集。生大希有疑惑便除。時諸大眾歎未曾有。同聲讚言。善哉善哉釋迦
如來。饒益我等為除疑念。令彼如來皆至於此。

เมื่อบรรดาเทวบริษัท ไดแลเห็นพระตถาคตเจาเสด็จมาประชุมกันอยูแลว เกิดเปนส่ิงอันหาไดยากยิ่งเปน
ท่ีสุด ความสงสัยไดถูกกําจัดไปเสียสิ้น ครั้งนั้นบรรดามหาชนตางอุทานวา สิ่งนี้มิเคยเกิดข้ึนมากอนๆ ตางเปลง
เปนเสียงเดียวกันวา สาธุๆ พระศากยตถาคต เพ่ือจักทรงยังประโยชนแกพวกเราจึงไดกําจัดความสงสัยใหส้ิน
ยงั ใหพระตถาคตเจา เหลาน้นั เสด็จมายังทีน่ ้ี

時諸大眾各隨自力。以妙香華及眾瓔珞諸天伎樂供養如來。右遶七匝合掌禮敬讚言。希有希有。
諸佛如來甚深境界不可思議。由先願力善巧方便。共現如是奇異之相。爾時大眾各各發願。願諸
眾生皆得如是如來勝定。

บัดน้นั มหาชนท้งั หลายตางดวยกาํ ลงั สามารถแหง ตน ไดใชบุปผาชาตกิ ลิ่นหอมที่วจิ ิตรงดงามและสรอ ยเก
ยูระตางๆ หมูเทวดาก็บรรเลงทิพยดนตรีนอมถวายเปนพุทธบูชา แลวทักษิณาวัตรเจ็ดรอบ ประณตกรถวาย
อภวิ นั ท แลวพรรณนาวา หาไดยากยิ่งนกั ๆ พทุ ธวสิ ยั ของพระตถาคตท้งั หลายคัมภรี ภาพเปนอจนิ ไตย ดวยกาํ ลงั
ของปณิธานเม่ือครั้งกอนและพระอุปายะ ทําใหเกิดลักษณะอันนาอัศจรรยเห็นปานน้ี เมื่อนั้น มหาชนท้ังปวง
ตา งอธิษฐานวา ขอใหส รรพสตั วทั้งหลายจงไดสาํ เรจ็ ถึงสมาธอิ นั วเิ ศษด่ังพระตถาคตเจา เถิด

爾時曼殊室利。即從座起合掌恭敬。遶佛七匝禮雙足已。白言世尊。善哉善哉。如來定力不可思
議。由本願力方便善巧成就眾生。惟願為說大力神呪。能令來世薄福眾生病惱所纏日月星辰所有
厄難疫病怨惡及行險道遭諸恐怖為作歸依令得安隱。彼諸眾生於此神呪。若自書教人書。受持讀
誦廣為他說。常蒙諸佛之所護念。佛自現身令願滿足不墮惡趣亦無橫死。

สมัยนัน้ พระมัญชุศรไี ดล กุ ข้นึ จากอาสนะ ถวายอญั ชลุ ีนมัสการ แลวประทักษณิ พระผูมีพระภาคทั้งหลาย
เจ็ดรอบ อภวิ าทแทบเบื้องพระพุทธยุคลบาท แลวทูลวา สาธุๆ กําลังแหงสมาธิของพระตถาคตเจาเปนอจินไตย
ดว ยกาํ ลังแหงมูลปณธิ าน พระอุปายโกศลที่สาํ เร็จแกสรรพสัตว ขอพระองคต รัสมนตรอ ันย่ิงดวยพลานุภาพเถิด
จกั สามารถยังใหส รรพสตั วในอนาคตท่ดี อยกศุ ล ผมู ีทกุ ขโรคผกู มัด ผมู ภี ยั จากอํานาจของดวงอาทิตย ดวงจันทร
ดวงดาว ผเู ปน โรคระบาด ผูอ าฆาต และผูสัญจรในทางอันตรายและพบความหวาดกลัวทั้งปวง ไดนอ มเปนที่พึ่ง
ยังใหผาสุก เพ่ือสรรพสัตวเหลาน้ันหากไดเขียนมนตรน้ีเองหรือสอนผูอ่ืนใหเขียน ฤๅไดจดจําอานทอง ประกาศ

34

แกผูอ่ืนอยางกวางขวางแลว ไซร ยอมเปนผูไดรับความคุมครองจากพระพุทธเจาท้ังปวง พระพุทธะจักทรงแสดง
พระวรกายยังใหป ณิธานไดส มบรู ณ มติ กสอู บายภูมแิ ละมิตอ งมรณะกอนเวลาอนั ควร ดวยเถิดพระเจาขา

時諸如來讚曼殊室利言。善哉善哉。此是我等威神之力。令汝勸請哀愍眾生離諸苦難。為說神呪
。汝應諦聽善思念之。我當為說。

เม่ือนั้น พระตถาคตเจาทั้งหลายทรงสรรเสริญพระมัญชุศรีวา สาธุๆ น้ีคืออานุภาพของเราทั้งหลาย ที่
บันดาลใหเธออาราธนาดวยความเวทนาสงสารสรรพสัตว ใหไกลหางจากทุกขภัยทั้งปวงดวยการแสดงธารณี
มนตร เธอพงึ ตัง้ ใจสดบั ฟง และตรกึ ตรองโดยดเี ถดิ ตถาคตจกั กลาวแสดง

曼殊室利。有大神呪名曰如來定力琉璃光。若有男子女人。書寫讀誦恭敬供養。於諸含識起大悲
心。所有願求皆得滿足。諸佛現身而為護念。離眾障惱當生佛國。

ดูกอนมัญชุศรี มีมหาฤทธามนตรช่ือ ตถาคตสมาธิพลไวฑูรยปรภาส หากมีชายหญิงที่คัดลอก อานทอง
นอมสักการบูชา พงึ เกดิ มหากรุณาจิตตอ สรรพสัตวผมู ีปราณ*๑๘ ทงั้ หลาย บรรดาปณิธานที่มงุ หมายจะบริบูรณ
พระพุทธเจาท้ังหลายจะปรากฏพระกายเพื่อคุมครอง ยังใหไกลจากอุปสรรคสิ่งเศราหมองแลไดอุบัติในพุทธ
โลกธาตุ

*๑๘ หมายถงึ สัตวทง้ั หลาย

時七如來以一音聲。即說呪曰。

เมือ่ นัน้ พระตถาคตเจาท้ังเจด็ พระองค ไดต รัสมนตรด ว ยพระสรุ เสียงเดียวกัน (พรอ มกนั ) ดังนี้

但姪他 具謎具謎謦尼謎膩呬(上) 末底末底 馺[多*頁]怛他揭多三摩地頞提瑟恥帝 頞帝末帝波例
波跛輸但儞 薩婆波跛那世也 勃睇勃圖 唱答謎隖謎矩謎 佛鐸器怛羅 鉢里輸但儞曇謎昵曇謎 謎
嚕謎嚕 謎嚧尸朅囇薩婆哥羅 蜜栗覩(丁臾) 尼婆[口*賴]儞 勃提蘇勃睇 佛陀陀頞提瑟侘泥娜曷[
口*洛]叉覩謎 薩婆提婆 三謎頞三謎三曼捼(奴和)漢囒覩謎薩婆佛陀菩提薩埵 苫謎苫謎 鉢喇苦
謎曼 覩謎 薩婆伊底隝波達婆薩婆毘何大也 薩婆薩埵難者[目*甫][口*闌]泥[目*甫][口*闌]泥(
去)[目*甫][口*闌]也謎 薩婆阿舍 薜琉璃也 鉢唎底婆細 薩婆波跛 著楊羯囇莎訶

ตทฺยถา ฆุเม ฆุเม อิเม นิ มิ หิ มติ มติ สปฺต ตถาคต สมาธฺยธิษฺฐิเต อเต มเต ปาเล ปาป โศธนิ สรฺวาปาป
นาศย มม พุทฺเธ พุทฺโธ ตตฺ เม อเุ ม กเุ ม พทุ ธฺ กฺเษตร ปริโศธนิ ธเมนิ ธเม เมรุ เมรุ เมรศุ ิขเร สรฺวาอกาลมฤตยุ นิ
ปารณิ พุทฺเธ สุพุทฺเธ พุทฺธอธิษฺฐาน รกฺษนฺตุ เม สรฺวาเทวสเม อสเม สมนฺราหรนฺตุ เม สรฺวาพุทฺธโพธิสตฺว ศเม
ศเม ปรศมนฺ ตุ เม สรฺวาอิตยุ ปตฺรวพยาตย: ปูรเณ ปูรณิ ปรยเม สรฺวาอศาย ไพฑูรฺยปรติภาเส สรฺ วาปาป กฺศ
ยทฺกริ สวฺ าหา (๓)

爾時七佛說此呪時。光明普照大地震動。種種神變一時俱現。時諸大眾見此事已。各各隨力以天
香花塗香末香奉上彼佛。咸唱善哉右遶七匝。

สมัยนั้น เม่ือขณะที่พระพุทธเจาทั้งเจ็ดพระองคตรัสมนตรอยูนั้น ก็เกิดรัศมีสวางไสวไปทั่ว มหาปฐพีก็
ส่ันสะเทือน ปาฏิหาริยนานาประการก็ปรากฏอยูขณะหนึ่ง บรรดามหาชนเมื่อเห็นเหตุการณนี้แลว ตางก็นํา
ดอกไมทิพย เคร่ืองทาหอม ผงหอม สักการะตอพระพทุ ธเจาเหลานนั้ รวมกันเปลงวจีวา สาธุๆ แลวประทักษิณ
เจด็ รอบ

彼佛世尊同聲唱言。汝等一切人天大眾。應如是知。若有善男子善女人若王王子妃后大臣寮庶之
類。若於此呪受持讀誦聽聞演說。以妙香花供養經卷著新淨衣在清淨處持八戒齋。於諸含識常生
慈愍。如是供養得無量福。若復有人有所祈願。應當造此七佛形像可於靜處以諸香華懸繒幡蓋。
上妙飲食及諸伎樂而為供養。并復供養菩薩諸天。在佛像前端坐誦呪。於七日中持八戒齋。誦滿
一千八遍。彼諸如來及諸菩薩悉皆護念。執金剛菩薩并諸釋梵四天王等。亦來擁衛此人。所有五

35

無間罪一切業障。悉皆消滅。無病延年亦無橫死及諸疾疫。他方賊盜欲來侵境。鬪諍戰陣言訟讐
隙飢儉旱澇。如是等怖一切皆除。共起慈心猶如父母。有所願求無不遂意。

พระพุทธโลกนาถท้ังเจ็ดพระองคนั้น ไดตรัสเปนพระสุรเสียงเดียวกันวา เธอทั้งหลาย มนุษยและเทวดา
ทัง้ หลาย พึงทราบไวด ังนี้ หากมีกลุ บุตรกลุ ธดิ า หากพระราชา ราชบุตร ราชินี สนมนางใน มหาอํามาตย ขาราช
บริพารตางๆ หากจดจํา อานทอง สดับฟง กลาวแสดงซ่ึงมนตรนี้ แลวนําของหอม ดอกไมท่ีประณีตสักการะ
พระธรรมปกรณนี้ สวมอาภรณที่สะอาด อาศัยในสถานที่บริสุทธ์ิ สมาทานอุโบสถศีล และเกิดเมตตากรุณาตอ
สัตวผูมีปราณทั้งหลายอยูเปนนิจ การสักการะเชนนี้จักมีอานิสงคไมมีประมาณ หากผูใดมีสิ่งท่ีปรารถนา พึง
สรางพระปฏิมาของพระพุทธเจาท้ังเจ็ดพระองคนี้ แลวประดิษฐานไวในที่สงบ นําดอกไมหอม ธงฉัตรแพร
ภตั ตาหาร และเครือ่ งดนตรที ัง้ ปวงมาสักการะ พรอ มท้งั บชู าตอโพธสิ ัตวแ ละเทพท้ังปวงแลวนั่งลงสาธยายมนตร
นี้ที่พระแทนปฏิมานนั้ ในเจ็ดวันไดส มาทานอุโบสถศลี สาธยายมนตรถวนหนึ่งพันแปดรอยจบแลว พระตถาคต
เจาและโพธิสัตวทั้งหลายจักระลกึ คุมครอง วชั รปาณีโพธิสัตวกับทาวอินทรา พรหม จตเุ ทวราช ก็จะมาอารักขา
บุคคลผูนั้น อนันตริยกรรมหาประการและวิบากกรรมทั้งปวงที่มียอมดับส้ินไป เปนผูปราศจากโรคาพาธ มีอายุ
สิริวัฒนา มิตองมรณะกอนเวลาอันควรและมิเปนโรคระบาดทั้งหลาย ปลอดภัยจากผูรายมาแยงชิง ปราศจาก
คดีพิพาท ความอดอยากตรากตรํา ความหว่ันกลัวเชนนี้ที่จะส้ินไป ตางเกิดจิตเมตตาด่ังบิดามารดา มีความ
ปรารถนาใดจกั สําเรจ็ ด่งั มโนรถทกุ ประการ

爾時執金剛菩薩。釋梵四天王。從座而起合掌恭敬。禮釋迦牟尼佛足白言。世尊。我等大眾皆已
得聞諸佛本願殊勝功德。及見諸佛慈悲至此令我眾生親承供養。

คร้ังนั้น พระวัชรปาณีโพธิสัตว อินทร พรหม จตุเทวราช ไดลุกขึ้นจากอาสนะ ประนมกรนมัสการแทบ
เบื้องพระพุทธบาทของพระศากยมุนีพุทธเจา แลวทูลวา ขาแตพระผูมีพระภาคเจา ขาพระองคทั้งหลายตางได
สดับอานิสงคอันประเสริฐแหงมูลปณิธานของพระพุทธเจาทั้งปวงแลว และไดเห็นพระพุทธเจาทั้งหลายที่ทรง
พระเมตตากรณุ าเสดจ็ มายังท่แี หง นี้ ยังใหข าพระองคและหมสู ตั วไดถวายสักการะใกลชิด

世尊。若於其處有此經典及七佛名陀羅尼法。流通供養乃至書寫。我等悉皆承佛威力。即往其處
擁護於彼。國王大臣。城邑聚落。男子女人勿令眾苦及諸疾病之所惱亂。常得安隱財食豐足。我
等即是報諸佛恩。

ขาแตพ ระผูมพี ระภาคเจา หากสถานแหง ใดมีพระธรรมสูตรนี้ และพระนามธารณขี องพระพุทธเจาท้ังเจ็ด
พระองคน้ี มีการสักการะจนถึงคัดลอกอยางถวนทั่วแลวไซร ขาพระองคท้ังหลายจักอาศัยพุทธานุภาพไปยัง
สถานท่ีน้ันเพื่ออารักขาพระราชา มหาอํามาตย ราชธานีแลชนบท ยังใหชายหญิงมิตองเศราหมองเพราะทุกข
และโรคระบาดท้ังปวง จักผาสุกทรัพยและโภชนาหารจักอุดมอยูเปนนิจ ขาพระองคทั้งหลายจักขอถวายแทน
พระคุณแหง พระพุทธเจา ทง้ั ปวงเชน นี้พระเจา ขา

世尊我等親於佛前自立要誓。若有淨信男子女人。憶念我者應誦此呪。即說呪曰。

ขาแตพระผูมีพระภาคเจา ขาพระองคท้ังหลายขอตั้งปฏิญาณยังเบ้ืองพระพักตรของพระองควา หากมี
ชายหญิงท่ีมศี รทั ธาบริสทุ ธ์ิ ไดร ะลกึ ถึงขาพระองคพึงสาธยายมนตรน้ี แลวแสดงมนตรว า...

但姪他 惡寠莫寠 呾羅寠 麼麼寠具曬 訶呼(去) 醯(去) 末囉末囉末囉 緊樹曬布曬 莎訶

ตทยฺ ถา อฆุมฆุ ตรฆุ มมฆุ ฆุเร หหุเร มรฺ มฺร มรฺ มฺร ชุ ชเุ ร ชุเร สวฺ าหา (๔)

36

若有淨信男子女人國王王子大臣輔相中宮婇女。誦七佛名及此神呪。讀誦書寫恭敬供養。現世皆
得無病長壽。離眾苦惱不墮三途。得不退轉乃至菩提。彼諸佛土隨意受生。常見諸佛得宿命智。
念定總持無不具足。若患鬼瘧等病。當書此呪繫之肘後。病若差已置清淨處。

หากมชี ายหญงิ พระราชา ราชบตุ ร มหาอาํ มาตย ขนุ นาง สนมนางในที่มศี รัทธาบริสุทธ์ิ สาธยายพระนาม
ของพระพุทธเจาทั้งเจ็ดพระองคและมนตรน้ี ไดอานทองคัดลอกนอมสักการะแลวไซร ในปจจุบันชาติน้ีจะ
ปราศจากโรคมีอายุยืนยาว ไกลจากความทุกขทรมานทั้งปวง มิตกสูอ บายภมู สิ าม มเิ สอื่ มถอยยอ นกลบั ตราบถึง
พระโพธญิ าณ ในพุทธเกษตรท้งั หลายเหลา น้ันยอมไปอบุ ัติไดต ามใจปรารถนา ไดพบพระพทุ ธเจา อยูเปนนจิ และ
บรรลุบุพเพนิวาสานุสสติญาณ สมบูรณในสมาธิและธารณี หากมีภูตผีกอโรคภัย พึงจารึกมนตรน้ีผูกไวหลัง
ขอ ศอก เม่ือโรคทุเลาแลว จึงถอดไวใ นทีบ่ ริสุทธ์ิ

爾時執金剛菩薩。詣七佛所右遶三匝各申禮敬白言。世尊。惟願慈悲護念於我。我今為欲饒益未
來男子女人持是經者。我更為說陀羅尼呪。

คราน้ัน พระวัชรปาณีโพธิสัตว ไดเฝาพระพุทธเจาท้ังเจ็ดพระองค แลวทักษิณาวัตรสามรอบ ถวายความ
เคารพแลวทูลวา ขาแตพระผูม ีพระภาคเจา ขอพระองคเ มตตากรุณาคุมครองขาพระองค ขาพระองคปรารถนา
จะยงั ประโยชนแ กห ญงิ ชายในอนาคตทีธ่ ํารงไวซ งึ่ พระสตู รน้ี โดยการแสดงธารณมี นตร

時彼七佛讚執金剛言。善哉善哉執金剛。我加護汝可說神呪。為護未來持經之人令無眾惱所求滿
足。時執金剛菩薩。即說呪曰。

เม่อื น้ัน พระพทุ ธเจาท้ังเจ็ดพระองคทรงสรรเสรญิ พระวัชรปาณีวา สาธๆุ วชั รปาณี ตถาคตจะยิ่งคุม ครอง
เธอใหแสดงมนตร เพ่ือคุมครองผูที่ธํารงพระธรรมสูตรนี้ในอนาคต ยังใหปราศจากความทุกขโศกท้ังปวงและได
สมบูรณในปณธิ าน บดั นน้ั พระวัชรปาณโี พธสิ ตั วจึงแสดงมนตรดงั น้.ี ..

南麼馺多喃 三藐三佛陀喃 南麼薩婆跋折囉達囉喃呾姪他 唵跋折曬 跋折曬 莫訶跋折曬 跋折囉
波捨 陀[口*賴]儞三麼三麼 三曼[多*頁] 阿鉢[口*賴]底喝多 跋折曬 苫麼苫麼 鉢囉苫曼覩謎 薩
婆毘阿大也 矩嚕矩嚕 薩婆羯麼 阿伐[口*賴]拏儞叉也 三麼也末奴三末囉簿伽畔跋折囉波儞薩婆
舍謎鉢哩 脯[口*賴]也 莎訶

นม สปตฺ นํ สมยฺ กสฺ ํ พุทธฺ านํ นม สรวฺ พชฺรธรนํ ตทยฺ ถา โอม พชเฺ ร พชฺเร มหาพชเฺ ร พชรฺ ปาศธาณิ สม สม
สมนต อปรตหิ ต พชเฺ ร ศม ศม ปรศมนตุ สรวฺ พยฺ าธย กรุ ุ กรุ ุ สรฺวกรฺมณิ สมยมนุมฺมร ภควาน พชรฺ ปาณิ สรฺวอศ
เม เมปริปรู ย สวฺ าหา (๕)

世尊。若復有人持七佛名。憶念彼佛本願功德。并持此呪讀誦演說。我令彼人所願滿足無所乏少
。若欲見我問善惡者。應當書寫此經造七佛像并執金剛菩薩像皆於像身安佛舍利於此像前如上所
說種種供養禮拜旋繞。於眾生處起慈悲心受八戒齋日別三時澡浴清淨三時衣別從白月八日至十五
日每日誦呪一百八遍心無散亂。我於夢中即自現身共為言說。隨所求者皆令滿足。

ขาแตพระผูมีพระภาคเจา หากมีบุคคลยึดมั่นพระนามของพระพุทธเจาทั้งเจ็ดพระองคนี้ มีจิตตามระลึก
ถงึ กศุ ลแหงมลู ปณธิ านของพระพุทธเจา เหลานั้น ท้งั ยึดมน่ั ในมนตรน ี้ อา นทองและกลาวแสดง ขา พระองคจ ะยัง
ปณิธานของผูน้ันใหสมบูรณมิบกพรอง หากตองการพบขาพระองคเพื่อถามสิ่งกุศลและอกุศล พึงคัดลอกพระ
สูตรนี้ สรางพุทธปฏิมาข้ึนเจ็ดองคและรูปของขาพระองค (พระวัชรปาณีโพธิสัตว) ใหประดิษฐานพระพุทธ
สารีริกธาตุอยูเบ้ืองหนาพระปฏิมาเหลานี้ แลวบูชาดวยเคร่ืองสักการะ นมัสการ ประทักษิณนานาประการ
ตามท่ีกลาวแลวเบ้ืองตน แลวมีจิตเมตตากรุณาตอ หมูสัตวในสถานที่น้ัน สมาทานอุโบสถศลี ในหน่ึงวันแบงเปน
สามเวลา ชําระกายใหสะอาดสามเวลา เปล่ียนอาภรณทุกคร้ัง ต้ังแตวันท่ีแปดถึงวันท่ีสิบหาของทุกเดือน (ตาม

37

จันทรคติจีน) ทุกวันก็สาธยายมนตรหนึ่งรอยแปดจบ ดวยจิตท่ีไมซดั สาย ขาพระองคจะปรากฏกายในความฝน
ของเขาและรวมสนทนา ยังใหสิง่ ท่ีประสงคส าํ เรจ็ สมบูรณ

時大會中有諸菩薩皆悉唱言。善哉善哉執金剛。陀羅尼不可思議實為善說。時七如來作如是語。
我等護汝所說神呪。為欲饒益一切眾生皆得安樂所求願滿。不令此呪隱沒於世。

เมื่อน้ัน ในมหาธรรมสันนิบาตมีหมูพระโพธิสัตวท้ังปวงตา งเปลงวาจาวา สาธุๆ ทานวัชรปาณีธารณีนี้เปน
อจินไตย ทานกลา วแสดงโดยดีแลว พระตถาคตเจา ท้ังเจด็ พระองคตรัสเชนนี้วา ตถาคตทงั้ หลายคุมครองเธอให
แสดงมนตรนี้ เพ่ือปรารถนายังประโยชนแกสรรพสัตวท้ังหลายใหลวนผาสุกแลสมบูรณในปณิธาน มิพึงยังให
มนตรน้สี ูญหายไปจากโลก

爾時七佛。告諸菩薩釋梵四天王曰。我今以此神呪付屬汝等。并此經卷於未來世後五百歲法欲滅
時。汝等皆應護持是經。此經威力利益甚多。能除眾罪善願皆遂。勿於薄福眾生誹謗正法毀賢聖
者。授與斯經令法速滅。

กาลนั้น พระพุทธเจาทง้ั เจด็ พระองคทรงมพี ุทธดาํ รัสแกพระโพธสิ ัตว ทา วอนิ ทราธริ าช พรหม จตุเทวราช
วา ตถาคตขอมอบมนตรนี้แกพวกเธอพรอมกับพระสูตรปกรณนี้ ในอนาคตกาลอีกหารอยปพระสัทธรรมจะ
เส่ือมลง เธอท้ังหลายพึงธํารงรักษาพระสูตรนี้ พระสูตรน้ีมีอานุภาพยังประโยชนไดเปนอันมาก สามารถขจัด
บาปท้ังปวง ยังปณิธานท่ีดีงามใหสําเร็จพรอม อยาใหสรรพสัตวที่ดอยวาสนา ผูกลาวรายบิดเบือนพระสัทธรรม
ผูทํารายพระอริยบุคคล ใหไดร บั ถายทอดพระสูตรน้ี จะยงั ใหพ ระสัทธรรมดบั สิน้ เร็วขึ้น

爾時東方七佛世尊。見此大眾所作已辦機緣滿足無復疑心。各還本土於其座上忽然不現。

สมัยน้ัน พระพุทธโลกนาถเจาแหงบูรพาทิศท้ังเจ็ดพระองค ทรงเห็นวาไดรวมกุศลปจจัยตอมหาชน
สมบูรณแลว ไรซ ึ่งผมู ีจติ เคลอื บแคลงอกี ตา งเสดจ็ นิวัติกลับสโู ลกธาตขุ องพระองค ในขณะเดยี วก็ทรงอนั ตรธาน
ไปจากพทุ ธบลั ลงั กท นั ที

爾時具壽阿難陀。即從座起禮佛雙足。右膝著地合掌恭敬。而白佛言。世尊。當何名此經我等云
何受持。

บัดน้ัน พระอานนทเถรเจาลุกขึ้นจากอาสนะ ถวายอภิวันทเบื้องบาทยุคลของพระพุทธองค คุกเขาขวา
จรดพื้น ประนมกรแลวทูลวา ขาแตพระผูมีพระภาคเจา พระธรรมน้ีมีนามวากระไร หมูขาพระองคจะจดจําไว
เชน ไรพระเจาขา

佛告阿難陀。此經名為七佛如來應正等覺本願功德殊勝莊嚴。亦名曼殊室利所問。亦名藥師瑠璃
光如來本願功德。亦名執金剛菩薩發願要期。亦名淨除一切業障。亦名所有願求皆得圓滿。亦名
十二大將發願護持。如是名字汝當奉持。

พระพุทธองคตรัสแกพระอานนทวา พระธรรมสูตรนี้นามวา อลังการกุศลอันวิเศษ แหงมูลปณิธานของ
พระสัมมาสมั พทุ ธะเจ็ดพระองค ๑ หรอื การปุจฉาของพระมัญชุศรี ๑ หรอื กุศลของมลู ปณิธานของพระไภษัชย
คุรุไวฑูรยประภาตถาคต ๑ หรือ การประกาศปณิธานท่ีสําคัญของพระวัชรปาณีโพธิสัตว ๑ หรือ การชําระ
วิบากกรรมท้ังปวงใหบริสุทธ์ิ ๑ หรือ การบรรลุบริบูรณซ่ึงปณิธานท้ังปวง ๑ หรือ การประกาศปณิธานวาจัก
ธํารงรกั ษาของมหายักษเสนาบดีสบิ สองตน ๑ เธอพงึ รับปฏิบตั ดิ วยนามเชน น้ีเถิด

時薄伽梵說是經已。諸大菩薩及聲聞眾。天龍藥叉健闥婆阿蘇羅揭路茶緊那羅莫呼洛伽人非人等
。一切大眾聞佛所說。皆大歡喜信受奉行。

38

เม่อื สมเด็จพระภควันตไดต รัสพระสทั ธรรมน้จี บลง บรรดาพระมหาโพธสิ ัตวและคณะพระสาวก เทพ นาค
ยักษ คนธรรพ อสูร ครุฑ กินนร มโหราค มนุษยแลอมนุษยทุกหมูเหลา อันเปนมหาชนาชนหมูใหญท่ีไดสดับ
พระพทุ ธภาษติ แลว ก็พากนั โสมนัสชนื่ ชมยง่ิ นักแลว นอ มรับไปปฏิบัติสนองพทุ โธวาทโดยทัว่ กนั .
จบ.. ไภษชั ยคุรไุ วฑรู ยประภาสัปตพทุ ธปรู วปณิธานวเิ ศษสตู ร

คาํ อา นพระคาถาบทท่ี ๒
นโม ภาควเต ไภษัชเย คุรุ ไพฑูรยะประภา ราชายะ ตถาคตายะ อระหะเต สัมยักสัมพุทธายะ ตัทยะถา
โอม ไภษัชเย ไภษชั เย มหาไภษชั เย ราชา สมทุ คะเต สวาหา. (๒)
คาํ อา นพระคาถาบทท่ี ๓
ตัทยัถา ฆุเม ฆุเม อิเม นิ มิ หิ มติ มติ สัปต ตะถาคะตะ สมาธะยะธิษฐิเต อเต มเต ปาเล ปาปม โศธะนิ
สระวาปาปม นาศะยะ มะมะ พุทเธ พุทโธ ตัตะเม อุเม กุเม พุทธะ กเษตะระ ปริโศธะนิ ธะเมนิ ธะเม เมรุ เมรุ
เมรศุ ิขะเร สระวาอะกาละมฤตยุ นปิ าระณิ พุทเธ สพุ ทุ เธ พทุ ธะอธิษฐานะ รักษันตุ เม สระวาเทวะสะเม อะสะ
เม สมันราหะรันตุ เม สระวาพุทธะโพธิ สัตวะ ศเม ศเม ปะระศะมันตุ เม สระวาอิตะยุ ปตระวะพยาตะยะ ปูร
เณ ปรู ณิ ปะระยะเม สระวาอะศายะ ไพฑูรยะปรตภิ าเส สระวาปาปม กศั ะ ยทั กะริ สวาหา. (๓)
คําอานพระคาถาบทที่ ๔
ตทั ยะถา อะฆุ มะฆุ ตะระฆุ มะมะฆุ ฆเุ ร หะหุเร มะระ มะระ มะระ มะระ ชุ ชเุ ร ชุเร สวาหา.
คําอา นพระคาถาบทท่ี ๕
นะมะ สัปตะนัม สัมยักฺสัม พุทธานัม นะมะ สระวะ พะชะระธะระนัม ตัทยะถา โอม พัชเร พัชเร มหา
พัชเร พัชระ ปาศะธาณิ สะมะ สะมะ สมันตะ อะปรติหะตะ พัชเร ศะมะ ศะมะ ปะระศะมะนะตุ สระวัพยาธะ
ยะ กุรุ กุรุ สระวะกัมมะณิ สะมะยะ มะนุมะ มะระ ภะคะวานะ พัชระปาณิ สระวะอัศเม เมปริปูระยะ สวาหา.
(๕)

ปาฐกถาธรริเศษ เรื่อง พระไภษัชยคุรุพุทธเจา

โดย พระวศิ วภัทร เซ่ยี เกย๊ี ก
ณ สมาคมสมาพนั ธ เต็กกา แหง ประเทศไทย วนั ท่ี ๒๒ มนี าคม ๒๕๕๒

เจริญพร สาธุชนทุกทาน วันน้ีถือเปนวันมงคลอยางย่ิง เพราะเปนวันที่คนหลายคนจะมี
ความสุข เหมือนกับการไดมีชีวิตใหม มีชีวิตที่ดีข้ึน จึงทําใหมีความสุขยิ่งขึ้น เพราะชีวิตความเปน อยู
มคี วามปกตสิ ขุ ยงิ่ ข้ึน ความทุกขทางกายเมือ่ ลดลง ความทกุ ขท างใจจึงลดลงไปดวยการเสียสละกาํ ลงั
กาย กําลังปญญา กําลังทรัพย ในการชวยเหลือผูขาดแขนขาของทานท้ังหลายในครั้งน้ี สอดคลอง
ตามความตั้งใจ หรือมหาปณิธานของพระพุทธเจาองคหน่ึง ของพระพุทธศาสนาฝายมหายาน ออก
เสียงอยางสันสกฤตวา พระไภษัชยคุรุพทุ ธเจา พระนามเต็มวา พระไภษัชยคุรไุ วฑูรยประภาตถาคต
ญี่ปุนเรียก “ยากูชิ” ธิเบตเรียก “ซังเกแมงลา” อังกฤษวา “เมคดิซีน บุดดา” ทานที่มีสวนรวม
ทัง้ หลายจึงช่ือวา เปน “โพธิสัตวทีก่ าํ ลังบําเพญ็ บารมี ผเู ดินตามรอยพระบาทพระไภษัชยครุ ุพทุ ธเจา ”

39

หากจะกลาวถึงพระนามของพระพุทธเจาองคนี้ ชาวพุทธฝา ยเถรวาทอาจจะไมคุน หรือไมร จู กั
แตท่ีจริงพระพทุ ธเจาองคนี้ เปนที่รูจักกันมาแสนนานในชื่อวา “พระกริ่ง” ที่ในพระหัตถขวาทรงถอื
หมอ ยาสมนุ ไพร หรอื บาตร อนั มีความหมายคอื การรกั ษาโรคภัยของสตั วท งั้ ปวง ทัง้ โรคภายนอกคอื
รางกาย และโรคภายในคอื จติ ใจ คําวา “สตั วท้ังปวง” รวมไปถงึ สตั วผูย ังไมบรรลถุ ึงความเปนพทุ ธะ
ตามคําสอนของมหายานแลว สัตวทั้งหลายลว นแตมศี ักยภาพ บรรลุพุทธภมู ิสงู สุดได ดงั นน้ั ผูทบ่ี รรลุ
มรรคผลภูมติ างๆ ที่ไมใ ชพุทธภูมิ และผยู ังไมบ รรลุมรรคผลใดๆเลย กไ็ ดช ่อื วา สรรพสตั ว ทั้งสน้ิ

มหายานแบงภูมติ างๆไว ๑๐ ภูมิ เรยี กอกี อีกอยางวา ธรรมธาตุทงั้ ๑๐ คอื ๑.พุทธะ-ผหู ลุดพน
ดวยบารมีตางๆที่ส่ังสมมาดวยตนเอง เปนผูสอนผูอื่นใหรูตาม หลุดพนตาม ๒.โพธิสัตว-ผูมุงสูความ
เปนพุทธะ ๓.ปจเจก-ผูถึงความหลุดพนเฉพาะตนคนเดียว ๔.สาวก-ผูหลุดพนดวยการฟง ๕,มนุษย-
สัตวประเสริฐ คือมีโอกาสพัฒนาตนสูงขึ้นไปถึงพุทธะได และสามารถตกต่ําถึงเดรัจฉานหรือนรกได
๖.เทวดา-ผเู สวยสขุ ทีป่ ระณตี เปรียบเหมือนคนร่าํ รวย มียศศักดิใ์ นโลก ๗.อสุร-ผมู ักโกรธ) ๘.นรก-ผู
มกี รรมช่วั หนัก และไกลจากกรรมดี ๙.เปรต-ผมู กั โลภ ๑๐.เดรจั ฉาน-ผมู ักหลง ไมมีปญญา

ดังที่เราจะไดกลาว ถึงปณิธานขอสําคัญขอหน่ึง ท่ีวา พระไภษัชยคุรุพุทธเจาจะส่ังสอนใหสัตว
ท้ังหลาย ที่เปนสาวกยาน ปจเจกยาน และสัตวท้ังปวง ไดหันมาบําเพ็ญจริยาเปนโพธิสัตว ไดสําเร็จ
ผลสงู สดุ ตามทศี่ กั ยภาพของตน มคี ือการสาํ เร็จเปน พระพทุ ธเจา

พระสูตรฝายมหายานท่ีกลาวถงึ พุทธประวัติ พระปณิธาน และอานิสงคใ นการปฏิบัติบชู าพระ
ไภษัชยคุรุพุทธเจา นัน้ คอื ไภษชั ยครุ ุไวฑูรยประภาตถาคตปรู วปณิธานสตู ร หรอื 藥師琉璃光如來
本願功德經 ในท่ีน้ี จะกลาวถึง มหาปณิธานที่ย่ิงใหญ ๑๒ ขอ ท่ีเปนหัวใจของพระสตู รน้ี และเปน
สิ่งท่ีพระองคตั้งพระทัย จะทําใหสรรพสัตว เมื่อไดตรัสรูเปนพระสัมมาสัมพุทธเจาแลว ถึงจุดนี้ ขอ
อธบิ ายถงึ การโปรดสตั วข องมหายานอกี ๓ ประการ คอื

๑.พระพทุ ธเจา ทต่ี ้ังพระทัยวา เมอื่ พระองคต รัสรูแลว จึงจะยังใหความตัง้ ใจ หรอื ปณิธานตา งๆ
ท่ีเคยอธิษฐานไวใหสาํ เร็จ เรียกวา การโปรดสัตวแบบพระราชา การโปรดสัตวแบบน้ีจะใหผลแกห มู
สตั วมาก มีอานิสงคม าก มกี าํ ลังมาก เหมือนการชว ยเหลอื ของพระราชา แตก ารเขาถึงพระราชา นั้น
ก็ไมง า ยเชนกัน พระไภษัชยครุ ุพุทธเจา พระอมิตาภะพุทธเจา ก็อยูในประเภทนี้

๒.การต้ังใจวา จะหลุดพนไปพรอมๆกับสรรพสัตว เรียกวา เปนกัลยาณมิตร ของหมูสัตว
เรียกวา การโปรดสัตวแ บบนายเรือ คือ ถึงฝงพรอ มกัน

๓.การตั้งใจวา ใหหมูสัตวขามฝงไปจนหมดกอน แลวจึงตามไปเปนคนสุดทาย เรียกวา การ
โปรดสัตวแบบคนเล้ียงแกะ คือใหแกะตัวสุดทายขามฝงไปกอน แลวตนจึงเดินปดทายไป พระกษิติ

40

ครรภอยูในประเภทนี้ คือ ทานมีปณิธานวา ตราบใดที่ยังมสี ัตวหลงเหลอื ในนรกแมเพียงหน่ึงเดียว ก็
จะไมขอเขา สูพุทธภูมิ

ไภษัชยคุรุสูตรนี้ กลาววา พระบรมศาสดาศากยมุนี ทรงแสดงธรรมนี้ท่ีเมืองไวสาลี ประเทศ
อินเดีย โดยในสมัยน้ัน พระมัญชุศรีโพธิสัตว ซ่ึงเปนโพธิสัตวแหงปญญา และเปนประธานหมู
โพธิสัตวท้ังปวง ไดทูลอาราธนาพระพุทธองควา ในอนาคต หากสัตวโลก เปนทุกขเพราะมีโรค มี
อันตรายตางๆเบียดเบียน ใหอายขุ ัยสั้น เปนทกุ ขเพราะรางกาย และจิตใจ จะมพี ระพุทธเจา พระองค
ใดหรอื ไม ที่หากไดสักการะแลว จะมีอานสิ งคม าก ดับทุกขภ ัยเหลาน้ันได

พระพุทธองคมีพระกรุณาตรัสตอบวา “ในทิศตะวันออกของโลกท่ีเราอยูนี้ หางออกไปเทากับ
เม็ดทรายของแมน้ําคงคา ๑๐ สายรวมกัน มีอีกโลกหนึ่ง ชื่อ ศุทธิไวฑูรย และมีพระพุทธเจาอีกองค
หนึ่ง พระนามวา ไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา เปนผูตรัสรูชอบโดยพระองคเอง เปนผูรู ผูต่ืน ผูเบิกบาน
ผูสมบูรณดวยวิชชาและจรณะ คือ สมบูรณทั้งคุณธรรมภายนอกภายใน เปนครูของเทวดาและ
มนุษยท้ังปวง ขณะน้ีก็ยังมีพระชนมชีพอยู มีพระโพธิสัตว พระสาวก จํานวนมากมายมหาศาล เกิน
การนับคํานวณหอมลอมอยู คือ เปรียบเทียบเม็ดทราย ๑ เม็ด คือ โลกธาตุ ๑ แหง และมี
พระพุทธเจาประทับ ๑ องค เราตองนบั เม็ดทรายในแมนํ้าคงคา ๑ สาย แลว คูณ ๑๐ จึงจะทราบถึง
จาํ นวนโลกของพระไภษชั ยครุ ุพุทธเจา ทห่ี า งจากโลกของเรา

จึงทราบไดวา พระองคทรงอยูหางไกลจากโลกแหงนี้เหลือเกิน ดังน้ัน การไดยินพระนาม การ
ไดรับรูถึงพระจริยาวัตร พระมหาปณธิ าน หรือความต้ังพระทัยท่ยี งิ่ ใหญ ของพระไภษชั ยครุ ุพุทธเจา
ของพวกเราในคร้ังนี้ จึงนับเปนกุศลมหาศาล ในพระสูตรยังกลาวอีกวา เรื่องราวของพระไภษัชยครุ ุ
พุทธเจาน้ี บรรดาพระปจเจกพทุ ธะ พระสาวก และพระโพธสิ ตั วท่ีบําเพ็ญบารมียังไมเ กือบเทียบเทา
พระพุทธเจา ก็มิอาจจะกลาวแสดง หรือลวงรูถึงพระปณิธาน และอานิสงคตางๆของพระไภษัชยครุ ุ
พทุ ธเจา ได

พวกเราท้ังหลาย เพราะไดพระกรุณาของพระศากยมุนีพุทธเจา ตรัสแสดงเรื่องราวของพระ
ไภษัชยคุรุพทุ ธเจา เมอื่ คร้ังพุทธกาล ทําใหบัดนี้เรามีโอกาสไดร ูจัก และมีโอกาสไดยนิ พระนาม จึงถือ
เปนการปลูกฝงกุศลมูลที่ยิ่งใหญและหาไดยากในครั้งนี้ คติเรื่องพุทธเกษตรนี้ ชาวไทยหรือชาวเถร
วาทอาจไมคุนเคย อันดับแรก เราตองทําความเขาใจวา ภายนอกโลกแหงน้ี ยังมีสุริยจักรวาล นอก
ระบบสุริยจักรวาล ยังมีจักรภพ หรืออวกาศ อันไมมีที่สิ้นสุด และภายในอวกาศน้ันยังมีอีกหลายๆ
ระบบสุริยจักรวาล ซ่ึงแตละระบบสุริยะนั้น มีดวงอาทิตยเปนแกนกลาง ๑ ดวง และมีดาวเคราะห
เปนบริวารมากบางนอยบา ง เหมอื นระบบสุรยิ ะทเ่ี ราอาศยั อยนู ้ี ท่ีมีสงิ่ มีชวี ติ อาศัยอยู

41

และในจุลนิกสูตรของฝายเถรวาท พระศากยมุนีพุทธเจาก็ตรัสกับพระอานนทวา “ระบบการ
เรียกโลกตางๆในจักรวาลแบบหนึง่ วา สหัสโลกธาตุ คือ ระบบที่มีโลกธาตุหน่ึงพนั แหง เขาสุเมรุหนึ่ง
พันลูก ทวีปส่ีพันทวีป และตรัสถึงระบบโลกธาตุแบบใหญที่สุด คือ ตรีสหัสมหาสหัสโลกธาตุ ซ่ึงใน
โลกธาตุเหลานั้น ลวนแตมีพระพุทธเจาประทับอยูทั้งสิ้น อีกประการหน่ึง บางคร้ังเราอาจไม
จําเปนตองเอามโนทัศนของตนเอง มาทําความเขาใจเรื่องพุทธเกษตร ท่ีอยูนอกเหนือกาลเวลาและ
สถานท่ี และที่สําคัญพุทธเกษตรอื่นๆน้ัน อาจมีอยูจริง มากกวาโลกที่เราอยูแหงนี้ก็ได ในดานตรง
ขา ม หากพุทธเกษตรอ่ืนๆไมม จี รงิ กไ็ มผดิ เพราะความมอี ยจู รงิ ของโลกนกี้ ็ไมมีอยจู ริงเชน กนั

เพราะโลกท่ีเราเห็น ท่ีเราอาศัย ลวนเกิดขึ้นเพราะเหตุปจจัยของธาตุ ๔ ขันธ ๕ และอ่ืนๆ
ประกอบกัน แลวเราก็ดําเนินไปดวยอวิชชา มองเห็นและเขาใจไปวา เปนตัวตน แลวไปยึดม่นั ถอื ม่ัน
เปนสัตว บุคคล ตวั ตน เราเขา จงึ เกิดเปนสงั สารวัฏไมจบสิน้ ขอ นี้เราจึงกลา วไดวา โลกน้ไี มใชไ มม อี ยู
แตม ีอยูดวยความไมมีอยูจรงิ หรอื อยดู ว ยความไมจรงิ ตา งหาก

ซึ่งเราไมอาจปฏิเสธวา โลกน้ีและสิ่งตางๆในโลกนี้ไมมีอยูจริง แตทวาความมีอยูจริงของโลกนี้
เปนความจริงแบบสมมุติเทานน้ั เชน การเรียกโตะ เกาอี้ ความเปนหญิงชาย ตรงกันขาม ความจริง
แบบปรมัตถ ทุกส่ิงในโลกและโลกแหงนี้ รวมถึงโลกอ่ืนๆ ก็ลวนไมมีอยูจริง เพราะ การเรียกโตะ
เกาอ้ี ความเปนหญิงชายน้ัน เปนการสมมุติชื่อ สมมุติบทบาทขึ้นทั้งส้ิน ในวัชรปรัชญาปารมิตาสูตร
ยังกลาววา แมคําวา โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต โพธิสัตว พุทธะ ก็ลวนเปนสมมุติบญั ญัติ
ทั้งสน้ิ มิใชสญุ ญตาภาวะอยางแทจรงิ

คําวา ไมมีอยูจริงนี้ ไมใชการปฏิเสธการมีอยูของดานสมมุติ แตการไมมีอยูของปรมัตถน้ัน คอื
การมีก็ไมใช การไมมีก็ไมเ ชิง เพราะพนจากคาํ บัญญตั ิวา มี หรือไมมี ดังนั้น พุทธเกษตร โลกธาตุทั้ง
ปวง จึงเปนสภาวะตถตา คือเปนไปอยูเชนน้ันเอง ไมเพิ่มขึ้น หรือไมลดลง จึงไมสะอาดและไม
สกปรก ไมเกิดและไมดับ ดวยเหตุผลเชนนี้ ผูท่ีมีทิฐิยึดม่ันถือมั่นอยู จึงไมอาจมองเห็นพุทธเกษตร
อ่นื ๆได

พระไภษัชยคุรพุ ุทธเจา ทรงมีความตั้งพระทัยทย่ี ิ่งใหญ ๑๒ ประการ ในขณะที่ยังบําเพญ็ เพียร
เปน พระโพธิสัตวอ ยู วาเมื่อไดต รสั รูเปน พระพทุ ธเจา แลว จะชว ยเหลอื สรรพสัตวเ ชน น้ี

มหาปณิธานประการท่ี-๑ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว กายแหงเราจักมี
รัศมีสวางไปในโลกธาตุทั้งปวงไมมีขอบเขต มีทวัตติงสะมหาบุรุษลักษณะ ๓๒ ประการ อสีตยานุพ
ยัญชนลักษณะ ๘๐ ประการ เปนอลังการแหงกายยังใหสรรพสัตวท้ังปวงเสมอเหมือนเราโดยมิ
แตกตา ง

42

ความหมายคือ พระองคมีพุทธประสงค จะชวยใหสัตวโลกเหมือนพระองค คือ มีลักษณะมหา
บุรุษ ๓๒ ประการ และอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ น่ันหมายถึง ใหสัตวท้ังหลายไดบรรลุพุทธภูมิ
สองแสงสวางไปไมมีประมาณในโลกธาตุทั้งปวง เปนการแสดงวา เราทั้งหลายสามารถบรรลุเปน
พระพุทธเจา ได ดว ยความพากเพยี ร ปณธิ าน โพธิจิต และอํานาจของพระไภษัชยครุ พุ ทุ ธเจา การทํา
สมาธินอมจิตถึงพระไภษัชยคุรุพุทธเจา แบบสํานักวัชรยานน้ัน จะตองสรางบริกรรมนิมิตวา ตนเอง
เปนพระไภษัชยครุ ุพทุ ธเจา มีลักษณะมหาบุรุษ มีรัศมีสวา งไสวออกมาจากกายของตน แลวแผไปยงั
สัตวท่ีตกทุกขไดยากทั้งปวง เพ่ือปลดเปลื้องทุกขตางๆ แมแตแพทยผูทําการรักษาพยาบาล ก็ยังมี
การสรางนิมิตวา ตนเองเปนพระไภษัชยคุรุพุทธเจา รักษาโรคใหผูปวยดวยความกรุณา อยางไมมี
ประมาณ

ขอน้ี คือการเจริญโพธิจิต มีความปรารถนาดี ใหสัตวท้ังหลายไดพนทุกข และไดตรัสรูเปน
พระพทุ ธเจา เหมือนกนั แสดงถึงความเสมอภาค ระหวางพระพุทธะและสรรพสตั ว

มหาปณธิ านประการที่-๒ เมือ่ เรามาอุบตั ิยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว กายของเราจักดุจ
รัตนไวฑูรย วิมลใสท้ังภายในและภายนอก มีรัศมีสวางไสวมหาศาล เปลงฉายไปในทิศทั้งปวง
อลังการดวยเปลวอคั คีรงุ เรอื งกวา สุรยิ ันจันทรา นิรยภูมทิ อี่ ยภู ายในโลหบรรพตจะไดเ ห็นเหตุการณนี้
อีกในโลกธาตุแหงน้ีผูดําเนินเท่ียวไปในความมืดมนอันธการ สรรพสัตวเหลานั้นเมื่อไดยลประภาส
แหงเรา ความโงเ ขลาทปี่ ดบงั อยูจกั ถูกเปด ออก แลวกระทาํ ส่งิ ทัง้ ปวงไดตามประสงค

ทรงมีกายที่สวางใส และสะอาดท้ังภายในภายนอก มีรัศมีไมมีประมาณ การมีคุณธรรมที่
สะอาดบริสุทธิ์ทคือการกระทําท่ีแสดงออกมา เรียกวา จรณะ และมีคุณธรรมที่ประเสริฐอยูภายใน
เรยี กวา วชิ ชา คือความรู พระปญญา พระอุปายะ พระบารมีตางๆท่ีแผไ ปทั่วยงั ความสวา งใหเกิดข้ึน
ได ยิ่งกวาแสงของดวงอาทิตยและดวงจันทร หมายถึงแสงสวางของดวงอาทิตยดวงจันทรน ั้น หากมี
เมฆหรือวัตถุทึบแสงใดๆบดบัดแสงไว แสงก็ไมอาจสองผานได แตพระรัศมีของพระไภษัชยคุรุพุทธ
เจา สองผานไดถึงแดนนรกท่ีมดื มิด เปรียบเหมือนมนุษยที่มีความเห็นผิด โงเขลา ผูมีบาปหนัก หาก
ไดเห็นพระรศั มนี ้ี หรือไดยินพระนามแลว ความโงเขลาจะถูกเปด ออก เหมือนแสงอาทติ ยกําจดั ความ
มืดมน เพ่อื ใหม ีโอกาสทาํ ส่งิ ที่ดีงามทง้ั ปวง และทานจะชวยเหลือหมูส ัตวต ลอดกลางวนั และกลางคืน

ขอนี้เปนการเปดทัศนคติที่ถูกตอง วาสัตวโลกลวนแตสามารถบรรลเุ ปนพระพุทธเจาได เพราะ
ความเขาใจผิดท่ีไดฟงคําสอน หรือคํากลาวที่วา การบําเพ็ญเพ่ือสําเร็จเปนพระพุทธเจาน้ันยาก
เปนไปไดยาก หรือไดฟงคํากลาวใหเสื่อมถอยกําลังใจจากพุทธภูมิ จึงทําใหพลาดจากความเปน
พระพุทธเจา แลวเหตใุ ดถึงจะตอ งเปนพระพุทธเจา ในเมื่อสภาวะของการหลุดพน ไมตางกัน

43

ตอบวา แมสภาวะของวิมุตติ หรือการหลุดพนไมตางกัน แตวิสัย หรือความสามารถตางกัน
พระพุทธเจาเปนพระสัพพัญูคือ รูแจงสรรพส่ิง สั่งสอนธรรมแกพระอรหันต และหมูสัตวไดไมมี
ประมาณ ดังนั้น การตรัสรูเปนพระพทุ ธเจาจึงสามารถยงั ประโยชนแ กหมูสัตว ไดมากกวาการสาํ เรจ็
มรรคผลขน้ั อื่นๆ

บรรดาโพธสิ ตั วท งั้ หลาย แมบ างชาตจิ ะเกิดเปน เดรัจฉาน กเ็ ปนเดรจั ฉานแตส ังขาร แตจติ ใจยัง
ประเสริฐ มีปญญา กรุณา เมตตา มากกวามนุษยบางคนเสียอีก และสัตวอื่นๆในปา อันเราศึกษาได
จากพระชาดก เชน บางชาติทานเกิดเปนนกตัวเล็กๆ แตเอากายของตนเองไปจุมนํ้าจนชุม แลวบิน
มาสลัดขนเพื่อจะดับไฟปา ชวยเหลือชีวิตสัตวทั้งปวง เปนตน ดังน้ัน การเกิดของโพธิสัตว ไมใชเกิด
เพื่อใชกรรม แตเกิดเพ่ือสรางบารมี สังสารวัฏแหงนี้ เปนกองบุญใหญที่หมูพระโพธิสัตวหมายจะมา
เกิดเพื่อสรางบารมี ผมู ีโพธิจิตยง่ิ แลว จะมีแตส มัครใจมาเกิดในสังสารวัฏ เพื่ออนุเคราะหห มูสตั ว มา
เกิดเปน กัลยาณมิตรของหมสู ัตว เราทา นทั้งหลายก็สามารถเลอื กไดใ นปจ จบุ นั วา เราเกิดมาเพื่ออะไร
จนมีคํากลาวหนึ่งในมหายานวา "พระโพธิสัตวเปนผูหมายมุงพุทธภูมิยิ่งนัก แตกลับหันหลังใหพุทธ
ภูมิ แลวมุงหนาสูสังสารวัฏ" เพราะพระโพธิสัตวไมไดเห็นกายสังขาร หรือภพภูมิที่เกิดวาสําคัญ
เพราะสังขารน้ัน เปนเคร่ืองครองใหทาํ ประโยชน เพื่อส่ังสมบารมี หาประสบการณตางหาก เปนผูมี
จริตอัธยาศัยยิ่งใหญ ที่สั่งสมมานานประมาณชาติภพไมไดมาแลว เรียกวามี “มหาจิต” ดังนั้น หาก
เราทั้งหลาย ยังเกรงกลัวการเกิดเปนสัตวเดรัจฉาน หรือปรารถนาเปนเทวดา น้ันหมายความวา ยัง
เปนผูละความสุขเฉพาะตนไมไ ด ท้ังน้ี บรรดาโพธิสัตวจ งึ ตอ งอาศยั พทุ ธพละเปน ท่พี ึง่ ใหไ มเ สอ่ื มถอย
จากโพธิจิต กรณีการประพฤติตามจริยาของพระไภษัชยคุรุพุทธเจา ก็เชนเดียวกันนี้ คือขอพึ่งพุทธา
นภุ าพของพระไภษชั ยคุรพุ ุทธเจา

มหาปณิธานประการท่ี-๓ เมื่อเรามาอุบัติยังโลกและบรรลุพระโพธิญาณแลว ดวยอุบายโกศล
แหงปญญาญาณ อันหาประมาณแลหาขอบเขตมิได จักยังใหสรรพสัตวท้ังปวง ไดถึงพรอมใน
เคร่ืองใชทง้ั ปวงมหิ มดสิ้น

ขอ น้ี คือการสนองความตองการของสตั วโ ลกทางกาย เราอาจสงสยั วาทา นจะชว ยเราไดอยา งไร
หากเราตองการมีเงินมากๆ ไดรถคันใหม ไดบานหลังโตๆ ในสายตาของผูท่ีเห็นแตประโยชนของ
ตนเอง ก็จะเขา ใจวา พระองคมปี ณิธาน เพ่ือตอบสนองความตอ งการของตนเอง ผทู ีส่ วดมนต ภาวนา
แลว อธษิ ฐานขอใหถกู หวยกอ็ ยูในขายน้ี แตสาํ หรับผทู ีม่ ีปญญา มศี ลี ยอ มจะบาํ เพญ็ ศลี เจรญิ ปญญา
ถวายเปนพุทธบูชาตอพระไภษัชยคุรุพุทธเจา เมื่อกุศลจากการทําความดีถวายพระองค สุขปติยอม
เกดิ ท่ีจิตภายในของผูน น้ั เอง ดังนนั้ ความปรารถนาทางกาย หรอื สขุ ภายนอกจึงคอ ยๆไดร ับการบาํ บดั
ความอยาก ความตอ งการจงึ มปี รมิ าณทีล่ ดนอยลง เปน ผูร จู กั พอ ผูรจู ักพอจงึ เปน ผรู าํ่ รวยท่ีสดุ

44


Click to View FlipBook Version