ผลของการจัดการเรียนรู้สืบเสาะแบบ 5E ร่วมกับเกม เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ขั้นสูง เรื่อง งานและพลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

95

• พลงั งานศักยโ์ น้มถว่ งเปน็ พลงั งานของวัตถุท่ีอยู่ภายใต้สนามโน้มถ่วง ซึ่งจะมีค่ามากหรือน้อยข้ึนอยู่
กบั มวลและความสูงของวัตถุจากระดบั อา้ งอิง

• พลังงานจลน์เป็นพลังงานที่มีอยู่ในวัตถุที่กาลังเคลื่อนท่ี ซึ่งจะมีค่ามากหรือน้อยข้ึนอยู่กับมวลและ
อัตราเรว็ ของวตั ถุ

8.3.2 เชื่อมโยงไปสู่เร่ืองที่ 2 กฎการอนรุ กั ษ์พลงั งาน โดยต้ังคาถามเพ่อื ใหน้ ักเรียนรว่ มกันอภปิ ราย ซ่ึง
นกั เรยี นสามารถตอบคาถามตามความเขา้ ใจของตนเองโดยครยู ังไม่เฉลยคาตอบดงั น้ี

ตัวอยา่ งคาถาม: การดาเนนิ ชวี ิตประจาวันของเราเก่ียวข้องกับการใช้พลงั งานตลอดเวลา พลังงานที่ใช้
ไปสามารถสรา้ งขึ้นใหม่ สญู หายไป หรอื มวี นั หมดหรือไม่ อย่างไร

ตัวอย่างคาถาม: พลงั งานมีหลายแบบ พลงั งานแบบหน่งึ สามารถเปลยี่ นเป็นพลงั งานอ่ืน ๆ ได้หรือไม่อย่างไร
9. สือ่ การเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรู้

9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
9.1.1หนงั สือเรียนรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 2
9. 1.2 สไลดก์ ารสอนเรอื่ ง งานและกาลงั
9. 1.3 สไลดก์ ารสอนเรอ่ื ง เครื่องกลอยา่ งง่าย
9. 1.4 สไลด์การสอนเรอ่ื งพลงั งานศักย์โนม้ ถ่วง และพลังงานจลน์
9. 1.5 วงลอ้ เสีย่ งงาน/วงลอ้ เสี่ยงโชค จาก https://wheelofnames.com/th/
9. 1.6 เกม ทาอยา่ งไรถงึ จะเกดิ งาน จากเวบ็ ไซต์ Baamboozle
9. 1.7 เกม Bingo Bing เคร่ืองกล
9. 1.8 เกม Skill Sci (Kahoot)
9. 1.9 ใบงานท่ี 5.1 การคานวณหางาน
9. 1.10 ใบกจิ กรรมที่ 5.2 เครื่องกลอยา่ งงา่ ยทางานอยา่ งไร
9. 1.11 ใบกิจกรรมท่ี 5.3 พลงั งานศกั ยโ์ น้มถว่ งของวัตถุข้ึนอยกู่ ับอะไรบา้ ง
9.1.12 ใบกิจกรรมท่ี 5.4 พลังงานจลน์ของวัตถุขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

9.2 แหลง่ เรยี นรู้
9.2.1 พืน้ เอียง: https://www.youtube.com/watch?v=VjNjaortgOg
9.2.2 คาน: https://www.youtube.com/watch?v=3J8YQV0noag
9.2.3 รอก: https://www.youtube.com/watch?v=Ki0YIgCA8XI
9.2.4 ล้อและเพลา: https://www.youtube.com/watch?v=weFsa6lxIYk
9.2.5 พลงั งานศกั ย์โนม้ ถว่ งของวัตถขุ นึ้ อยู่กับอะไรบ้าง:
https://www.youtube.com/watch?v=P4LU3TvxnDk&t=23s
9.2.6 พลงั งานจลน์ของวตั ถุขึ้นอยูก่ บั อะไรบ้าง:
https://www.youtube.com/watch?v=KGmpxFFAsuA

10. การวัดผลและการประเมินผลการเรยี นรู้

การประเมนิ ผล(ด้าน) วธิ กี ารวัด
(จุดประสงค์การเรียนร)ู้

1.ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (K) 1. สงั เกตจากการตอบคาถามในชน้ั เรียน

1.1 บอกความหมายของงานในทาง 2. เลม่ เกม ทาอย่างไรถงึ จะเกดิ งาน จาก

วิทยาศาสตรไ์ ด้ เว็บไซต์ Baamboozle

1.2 วิเคราะห์การเกดิ งานจากสถานการณ 3. ตรวจจากใบงานที่ 5.1 การคานวณหางาน

ที่กาหนดให้ได้ 4. จากการเล่นเกม Bingo Bing เคร่อื งกล

1.3 อธบิ ายหลักการทางานของ 5. ตรวจจากใบกิจกรรมที่ 5.2 เคร่อื งกลอย่าง

เคร่อื งกลอย่างงา่ ยได้ ง่ายทางานอย่างไร

1.4 บอกความหมายของพลงั งาน 6. ตรวจจากใบกิจกรรมท่ี 5.3 พลงั งานศักย์

ศักย์โนม้ ถว่ งและพลงั งานจลน์ได้ โน้มถว่ งของวัตถขุ ึ้นอยกู่ ับอะไรบา้ ง

1.5 บอกปจั จัยที่ส่งผลตอ่ พลังงาน 7. ตรวจจากใบกจิ กรรมท่ี 5.4 พลังงานจลน์

พลงั งานศกั ย์โนม้ ถว่ งและพลงั งานจลนไ์ ด้ ของวัตถุข้นึ อยกู่ บั อะไรบา้ ง

8. เลน่ เกม Skill Sci (Kahoot)

96

เครือ่ งมือการวัด เกณฑ์การประเมนิ

1. ชดุ คาถาม 1. ตอบคาถามไดร้ ้อยละ 60 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

2. เกม ทาอย่างไรถงึ จะเกดิ งาน จาก 2. ตอบคาถามถกู ร้อยละ 60 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

เวบ็ ไซต์ Baamboozle 3. ตอบคาถามถกู ร้อยละ 60 ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

3. ใบงานท่ี 5.1 การคานวณหางาน 4. ตอบคาถามถกู รอ้ ยละ 60 ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

4. เกม Bingo Bing เครอื่ งกล 5. ตอบคาถามถกู ร้อยละ 80 ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

5. ใบกิจกรรมท่ี 5.2 เครอ่ื งกลอยา่ ง 6.ตอบคาถามถูกรอ้ ยละ 80 ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

ง่ายทางานอยา่ งไร 7.ตอบคาถามถูกร้อยละ 80 ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

6.ใบงานที่ 5.3 พลังงานศกั ย์โนม้ ถ่วง 8.ตอบคาถามถูกร้อยละ 60 ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

ของวัตถขุ ้ึนอยู่กบั อะไรบ้าง

7. ใบกิจกรรมท่ี 5.4 พลงั งานจลน์ของ

วัตถขุ น้ึ อยกู่ ับอะไรบ้าง

8. เกม Skill Sci (Kahoot)

การประเมนิ ผล(ด้าน) วิธีการวดั
(จุดประสงค์การเรยี นร)ู้

2. ด้านทกั ษะพิสัย (P) 1. สังเกตจากการตอบคาถามในช้ันเรยี น

2.1 ทักษะการคานวณงานโดยใชสมการ W =2. เลม่ เกม ทาอยา่ งไรถึงจะเกดิ งาน จากเวบ็ ไซต

Fs Baamboozle

และคานวณกาลงั จากสมการ P=W/t ได้ 3. ใบงานท่ี 5.1 การคานวณหางาน

2.2 ทกั ษะการตัง้ สมมติฐาน 4. ตรวจจากใบกิจกรรมท่ี 5.2 เคร่ืองกลอย่าง

2.3 ทกั ษะการกาหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร ง่ายทางานอย่างไร

2.4 ทกั ษะการกาหนดและควบคุมตัวแปร 5. ตรวจจากใบกจิ กรรมท่ี 5.3 พลังงาน

2.5 ทกั ษะการทดลอง ศกั ยโ์ น้มถว่ งของวตั ถขุ ึ้นอยกู่ บั อะไรบ้าง

2.6 ทกั ษะการตีความหมายข้อมูลและลง 6.ตรวจจากใบกิจกรรมท่ี 5.4 พลังงานจลน์ของ

ขอ้ สรปุ วัตถขุ ึน้ อยกู่ ับอะไรบ้าง

7. เล่นเกม Skill Sci (Kahoot)

3. ด้านจิตพสิ ัย (A) 1.สงั เกตจากการตอบคาถามในชนั้ เรียน

3.1 มคี วามตระหนักถึงการใชป้ ระโยชน 2.สังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน

ของเคร่อื งกลในชวี ิตประจาวัน

3.2 ใฝร่ ู้ มวี ินยั ต้ังใจเรียนและรว่ มทา

กิจกรรมในชน้ั เรียน

97
ต่อ

เครอื่ งมือการวดั เกณฑก์ ารประเมิน

1. ชุดคาถาม 1. ตอบคาถามได้ร้อยละ 60 ถือว่าผ่านเกณฑ์

ต์ 2. เกม ทาอย่างไรถงึ จะเกิดงาน จากเวบ็ ไซต์ 2.ตอบคาถามถกู รอ้ ยละ 60 ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

Baamboozle 3.ตอบคาถามถูกรอ้ ยละ 60 ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

3. ตรวจจากใบงานที่ 5.1 การคานวณหางาน 4.ตอบคาถามถูกรอ้ ยละ 80 ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

4. ใบกจิ กรรมที่ 5.2 เคร่ืองกลอยา่ งงา่ ยทางาน 5.ตอบคาถามถูกร้อยละ 80 ถือว่าผา่ นเกณฑ์

อย่างไร 6.ตอบคาถามถกู รอ้ ยละ 80 ถือว่าผ่านเกณฑ์

5. ใบกิจกรรมที่ 5.3 พลงั งานศกั ย์โนม้ ถ่วงของ 7.ตอบคาถามถูกรอ้ ยละ 60 ถือว่าผา่ นเกณฑ์

วตั ถขุ ้นึ อยูก่ ับอะไรบ้าง

ง 6. ใบกจิ กรรมที่ 5.4 พลงั งานจลน์ของวตั ถุขน้ึ อยู่

กับอะไรบา้ ง

7. เกม Skill Sci (Kahoot)

1. ชดุ คาถาม 1. ตอบคาถามไดร้ ้อยละ 60 ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

2. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 2. ผ่านเกณฑ์ในระดบั คุณภาพดี

(คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค)์

98

11. ความคิดเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้

.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ..........................................................
(นายหมูส่ า ผิดไรงาม)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

12. ความคิดเหน็ ผู้ชว่ ยผอู้ านวยการฝ่ายบริหารวชิ าการ

องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรู้..........................................................................................................
มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้สอดคล้อง....................................................................................
สาระสาคญั ครอบคลุมชดั เจน..........................................................................................................................
สาระการเรียนรูม้ คี วามถกู ต้องตามหลกั วชิ าการ..............................................................................................
จุดประสงค์การเรยี นรูม้ ีความชดั เจนครอบคลุม 3 ด้าน..................................................................................
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น.............................................................................................................................
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์..............................................................................................................................
ระบุภาระงาน/ชิ้นงาน.....................................................................................................................................
กิจกรรมการเรียนรู้เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั .........................................................................................................
สอ่ื และอปุ กรณก์ ารเรียนรู้...............................................................................................................................
การวดั และการประเมนิ ตามจุดประสงคก์ ารเรียนร้.ู .........................................................................................
บนั ทึกหลงั สอน................................................................................................................................................
เสนอสง่ แผนการจัดการเรียนรู้ตามขน้ั ตอนระบบงาน......................................................................................

ลงชือ่
(นายอับดลรอศกั ดิ์ มณโี สะ๊ )

รองผูอ้ านวยการกลุม่ บริหารงานวิชาการ

13. ความคิดเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน
 อนุญาตใหใ้ ชจ้ ดั การเรยี นการสอนได้

 ควรปรบั ปรุง คือ....................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงชื่อ
( นายสริ วฒุ ิ ยนุ ุ้ย )

ผอู้ านวยการโรงเรียนกาแพงวิทยา

99

14. บนั ทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1

14.1 ผลการจัดการเรยี นรู้(ตามจดุ ประสงค)์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

14.2. แนวทางแก้ปญั หานกั เรียนทไี่ มผ่ า่ นตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรหู้ รอื จุดประสงค์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ..........................................................

(นางศริ าพร สนั หลี)

ครูผูส้ อน

วนั ที่ เดือน พ.ศ

แบบประเมินใบงานท่ี 5.1 การคานวณหางาน 100
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2/2
วิชาวิทยาศาสตร์ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน

คาช้ีแจง: ครปู ระเมินจากการตอบคาถามชองนกั เรยี น แล้วบนั ทกึ ระดับของคะแนนตรงตามข้อ

รายการประเมินเกม ผลการประเมิน

้ขอที่ 1 (1 คะแนน) รวม
้ขอที่ 2 (1 คะแนน)
เลขท่ี ช่ือ นามสกลุ ้ขอที่ 3 (1 คะแนน) 20 ผา่ น ไม่ผา่ น
้ขอที่ 4 (1 คะแนน) คะแนน
้ขอที่ 5 (1 คะแนน)
้ขอท่ี 6 (5 คะแนน)
้ขอที่ 7 (5 คะแนน)
้ขอที่ 8 (5 คะแนน)

ตอบคำถำมถูกร้อยละ 60 ถอื วำ่ ผำ่ นเกณฑ์

ลงชอ่ื .....................................................................
(นำงศริ ำพร สันหลี)
ผู้สอน
วนั ท.่ี ........เดอื น.....................พ.ศ. ...........

แบบประเมินการเลน่ เกม 101
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/2
วิชาวทิ ยาศาสตร์ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 งานและพลงั งาน

คาชี้แจง: ครปู ระเมินจากการเล่นเกมของนกั เรยี น แล้วบนั ทกึ ระดับของคะแนนตรงกบั ชนดิ เกมนน้ั ๆ

รายการประเมินเกม ผลการประเมิน

เลขที่ ช่ือ นามสกลุ เกม ทาอย่างไร ึถงจะเ ิกดงาน จากเว็บไซ ์ต รวม
Baamboozle ผา่ น ไม่ผา่ น

เกม Bingo Bing เครื่องกล
เกม Skill Sci (Kahoot)

10 10 10 30

ตอบคำถำมถูกร้อยละ 80 ถือวำ่ ผ่ำนเกณฑ์

ลงช่อื .......................................................................
(นำงศริ ำพร สนั หลี)
ผู้สอน

วันท.่ี ........เดอื น.....................พ.ศ. ...........

102

แบบประเมินการนาเสนอใบกจิ กรรมที่ 5.2 เครื่องกลอยา่ งง่ายทางานอยา่ งไร

วชิ าวิทยาศาสตร์ 4 เร่ือง งานและพลงั งาน ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/......

กลมุ่ ท่ี ...............ช่ือกลมุ่ .............................................................................................................

คาชี้แจง: ครปู ระเมนิ จากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมของนกั เรยี น แล้วบนั ทกึ ระดับของคะแนนตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น

รายการประเมินทกั ษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ข้ันสงู ผลการประเมิน

เลขท่ี ทักษะการงสมม ิตฐาน รวม
ทักษะการกาหนด ินยามเ ิชงป ิฏ ับ ิตการ ผา่ น ไม่ผา่ น
ทักษะการกาหนดและควบ ุคม ัตวแปร
ทักษะการทดลอง
ทักษะการ ีตความหมาย ้ขอมูลและลง ้ขอสรุป

5 5 5 5 5 25

ตอบคำถำมถูกร้อยละ 80 ถอื วำ่ ผ่ำนเกณฑ์

ลงชื่อ.......................................................................
(นำงศริ ำพร สันหลี)
ผ้สู อน

วนั ท.่ี ........เดอื น.....................พ.ศ. ...........

103

แบบประเมินการนาเสนอใบกจิ กรรมที่ 5.3 พลงั งานศกั ยโ์ นม้ ถว่ งของวัตถขุ ึ้นอยกู่ บั อะไรบา้ ง

วชิ าวิทยาศาสตร์ 4 เร่ือง งานและพลงั งาน ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2/......

กลมุ่ ที่ ...............ช่ือกลมุ่ .............................................................................................................

คาชี้แจง: ครปู ระเมนิ จากการปฏิบตั ิกจิ กรรมของนกั เรยี น แล้วบนั ทกึ ระดับของคะแนนตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น

รายการประเมินทกั ษะกระบวนการวทิ ยาศาสตร์ข้ันสงู ผลการประเมิน

เลขท่ี ทักษะการงสมม ิตฐาน รวม
ทักษะการกาหนด ินยามเ ิชงป ิฏ ับ ิตการ ผา่ น ไม่ผา่ น
ทักษะการกาหนดและควบ ุคม ัตวแปร
ทักษะการทดลอง
ทักษะการ ีตความหมาย ้ขอมูลและลง ้ขอสรุป

5 5 5 5 5 25

ตอบคำถำมถูกร้อยละ 80 ถือว่ำผ่ำนเกณฑ์

ลงชอ่ื .......................................................................
(นำงศริ ำพร สนั หลี)
ผู้สอน

วนั ท.ี่ ........เดอื น.....................พ.ศ. ...........

104

แบบประเมินการนาเสนอใบกจิ กรรมที่ 5.4 พลงั งานจลน์ของวตั ถขุ ึ้นอยกู่ บั อะไรบา้ ง

วชิ าวิทยาศาสตร์ 4 เรื่อง งานและพลงั งาน ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2/......

กลมุ่ ท่ี ...............ชื่อกลมุ่ .............................................................................................................

คาช้ีแจง: ครปู ระเมินจากการปฏิบตั ิกจิ กรรมของนกั เรยี น แล้วบนั ทกึ ระดับของคะแนนตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น

รายการประเมินทกั ษะกระบวนการวทิ ยาศาสตร์ขั้นสงู ผลการประเมิน

เลขท่ี ทักษะการงสมม ิตฐาน รวม
ทักษะการกาหนด ินยามเ ิชงป ิฏ ับ ิตการ ผา่ น ไม่ผา่ น
ทักษะการกาหนดและควบ ุคม ัตวแปร
ทักษะการทดลอง
ทักษะการ ีตความหมาย ้ขอมูลและลง ้ขอสรุป

5 5 5 5 5 25

ตอบคำถำมถูกร้อยละ 80 ถอื ว่ำผำ่ นเกณฑ์

ลงชือ่ .......................................................................
(นำงศริ ำพร สนั หลี)
ผูส้ อน

วันท.่ี ........เดอื น.....................พ.ศ. ...........

เกณฑ์การประเม
กิจกรรมท่ี 5.2 เคร่ืองกลอยา่ งงา่ ยทางานไดอ้ ย่างไร, กิจกรรมที่ 5.3 พลังงานศกั ย์โนม้ ถ่ว

วชิ าวิทยาศาสตร์ เร่ือง งานและพลังงาน ชัน้ มธั

รายการประเมิน 5 สามารถตง้ั สม
แสดงความส
1.ทกั ษะการ สามารถตงั้ สมมติฐานไดส้ อดคล้องกับปัญหา
ตั้งสมมติฐาน และแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลได้
อยา่ งชดั เจน

2.ทกั ษะการกาหนด สามารถกาหนดนิยามเชิงปฏบิ ตั ิการท่ีเกย่ี วขอ้ ง สามารถกาห
นิยามเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร
ได้อย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน อยา่ งถูกตอ้ ง

3.ทกั ษะการกาหนดและ สามารถระบตุ ัวแปรต้น ตวั แปรตาม และ สามารถระบ
ตวั แปรควบคมุ ได้ถกู ตอ้ ง ครบถว้ น ควบคุมได้ถกู
ควบคมุ ตัวแปร

4.ทกั ษะการทดลอง สามารถออกแบบการทดลองสอดคลอ้ งกับ สามารถออก
สมมติฐาน มีการควบคุมตวั แปรทงั้ หมด สมมตฐิ าน ม
5.ทักษะการ บนั ทึกขอ้ มลู โดยใช้ตารางหรือวิธกี ารอื่น ขอ้ มลู โดยมกี
ตีความหมายและลง จัดระเบยี บข้อมลู มีการระบชุ นิดหรือหน่วย ส่วนใหญ่ แล
ข้อสรปุ ของขอ้ มลู ท่ีบันทึกทงั้ หมด สว่ นใหญ่

สามารถวเิ คราะห์ข้อมลู โดยอาศัยผลทไ่ี ดจ้ าก สามารถวเิ คร
การทากิจกรรม และความรู้ท่ีเกย่ี วขอ้ ง ทากิจกรรม แ
ท้ังหมด สอดคลอ้ งกับการสรปุ ผล เปน็ ส่วนใหญ

105

มินการปฏิบตั กิ จิ กรรม
วงของวัตถุข้ึนอย่กู บั อะไรบ้าง และกิจกรรมท่ี 5.4 พลังงานจลนข์ องวตั ถขุ ึ้นอยกู่ ับอะไรบ้าง
ธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

ระดบั คะแนน
31
มมติฐานได้สอดคล้องกับปญั หา แต่ ไม่สามารถตง้ั สมมติฐานได้สอดคลอ้ งกับปัญหา และ
สมั พันธ์ระหว่างเหตุและผลไม่ได้ชดั เจน แสดงความสมั พันธร์ ะหว่างเหตุและผลไมไ่ ด้

หนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัติการท่ีเกี่ยวข้องได้ ไม่สามารถกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารทเี่ ก่ียวข้องได้
ง อย่างถูกตอ้ ง

บุตัวแปรต้น ตวั แปรตาม และตวั แปร ไมส่ ามารถระบตุ ัวแปรต้น ตวั แปรตาม และตวั แปร

กตอ้ ง แตไ่ ม่ครบถว้ น ควบคุมได้

กแบบการทดลองสอดคล้องกบั ไม่สามารถออกแบบการทดลองสอดคล้องกับ
มกี ารควบคมุ ตัวแปรส่วนใหญ่ บันทกึ สมมติฐาน ไม่มีการควบคุมตวั แปร บันทกึ ขอ้ มูลโดย
การใช้ตารางหรอื วธิ ีการอน่ื จัดระเบยี บ มีการใช้ตารางหรอื วธิ ีการอืน่ ในการจัดระเบียบขอ้ มลู
ละมกี ารระบุชนดิ หรือหน่วยของขอ้ มูล บางสว่ น และมกี ารระบชุ นิดหรือหนว่ ยของขอ้ มลู
บางสว่ น
ราะหข์ ้อมลู โดยอาศยั ผลทีไ่ ดจ้ ากการ
และความร้ทู ่ีเกีย่ วขอ้ ง ไม่สามารถวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยอาศยั ผลท่ไี ด้จากการ
ญ่ สอดคล้องกบั การสรุปผล ทากจิ กรรม และความรู้ที่เก่ยี วขอ้ ง
บางส่วน สอดคล้องกับการสรุปผลบางสว่ น

106

แบบประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คล (ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น)
วชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ รอ่ื ง งานและพลังงาน

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
คาช้ีแจง: ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นระหวำ่ งเรยี น แลว้ บนั ทกึ คะแนนใหต้ รงกบั ระดบั คะแนนของพฤตกิ รรม

เลขที่ ช่ือ สกลุ การสื่อสาร ระดบั คณุ ภาพ สรุปผลการ
การ ิคด ประเมิน

การใ ้ชเทคโนโลยี
รวม

3 3 3 9 ดี พอใช้ ปรับปรุง ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น

เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพ สรปุ ผลการประเมิน
7-9 อย่ใู นระดับดี ผา่ น ระดับคุณภาพดแี ละพอใช้
4-6 อยูใ่ นระดบั พอใช้ ไม่ผ่าน ระดบั คณุ ภาพปรับปรุง
0-3 อยใู่ นระดบั ปรับปรงุ
ลงชือ่ .............................................ผู้ประเมนิ
(นางศิราพร สนั หลี)

............../......................../................

107

เกณฑ์การประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คล (ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน)
วชิ าวทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง งานและพลงั งาน

ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

พฤติกรรม ระดับคะแนน

ความสามารถ 32 1
ในการสอ่ื สาร
สามารถถ่ายทอดความรู้ สามารถทอดความรู้ ไม่สามารถถา่ ยทอด
ความสามารถ ความคิด ความเขา้ ใจ ความคดิ ความเข้าใจ ความรู้ ความคดิ ความ
ในการคิด จากเรอ่ื งทีเ่ รียนโดยใช้ จากเร่ืองทเ่ี รยี นได้ เขา้ ใจ จากเรื่องที่เรยี น
ภาษาอยา่ งเหมาะสม
ความสามารถใน
การใชเ้ ทคโนโลยี สามารถตอบคาถามและ สามารถตอบคาถามและ ไม่สามารถตอบคาถามและ
แสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเหน็ อยา่ ง ความคดิ เห็นอยา่ ง
อยา่ งมีเหตุผลจากเร่อื งท่ี มีเหตผุ ลจากเร่อื งท่ีเรียนได้ มเี หตผุ ลจากเรื่องที่เรยี นได้
เรียนไดค้ รบถว้ น

สามารถเขา้ เรยี น เลน่ เกม สามารถเข้าเรยี นในระบบ ไม่สามารถเข้าเรยี น เล่นเกม

ในระบบออนไลนไ์ ด้ และ ออนไลน์และสามารถสืบคน้ ในระบบออนไลนไ์ ด้ และ
สามารถสบื ค้นข้อมูลจาก ข้อมูลจากสื่อออนไลนไ์ ด้ สามารถสืบค้นข้อมลู จากสอื่
สอื่ ออนไลน์ได้
ออนไลนไ์ ด้

108

แบบประเมินพฤติกรรมรายบคุ คล (ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์)
วชิ าวทิ ยาศาสตรเ์ รอ่ื ง งานและพลังงาน

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564
คาช้ีแจง: ใหค้ รผู สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นระหวำ่ งเรียน แลว้ บนั ทกึ คะแนนใหต้ รงกบั ระดบั คะแนนของพฤตกิ รรม

เลข ช่ือ สกลุ มีวิ ันย ระดบั คณุ ภาพ สรปุ ผลการ
ที่ ใ ่ฝเรียนรู้ ประเมิน
มุ่งมั่นในการทางาน

รวม

3 3 3 9 ดี พอใช้ ปรับปรุง ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น

เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพ สรุปผลการประเมิน
5-6 อยู่ในระดบั ดี ผา่ น ระดับคุณภาพดี
3-4 อยใู่ นระดบั พอใช้ ไมผ่ า่ น ระดับพอใช้และคณุ ภาพปรับปรงุ
0-2 อยู่ในระดับปรับปรงุ
ลงชอ่ื .............................................ผู้ประเมนิ
(นางศริ าพร สนั หลี)

............../......................../................

109

เกณฑก์ ารประเมินพฤตกิ รรมรายบคุ คล
(ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์)

วชิ าวิทยาศาสตร์ เรือ่ ง เครื่องกลอย่างง่าย
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

พฤติกรรม 3 ระดบั คะแนน 1
มีวินยั
สามารถปฏิบัตติ ามกฏ 2 ไม่สามารถปฏิบตั ิตามกฏ
ใฝ่เรียนรู้ ระเบียบ และมจี ิตสานกึ ใน ระเบียบ และมีจติ สานึก
ตวั เองได้อยา่ งครบถ้วน สามารถปฏิบตั ติ ามกฏ ในตัวเอง
ระเบยี บ และมีจิตสานึกใน ไม่มีสวนรว่ มในการทา
แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่ง ตัวเอง กจิ กรรม
การเรียนร้ตู ่างๆ และมสี ว่ นร่วมใน มสี วนร่วมในการทากจิ กรรมมี
การทากิจกรรมมคี วามรบั ผิดชอบ ความรบั ผิดชอบตอ่ งานทไ่ี ด้รับ
ตอ่ งานที่ได้รบั มอบหมาย มอบหมาย

มงุ่ มั่นในการ ผลงานมีความเรียบรอ้ ย ผลงานมีความเรียบร้อย ผลงานไม่มีความเรียบรอ้ ย
ทางาน ไมส่ ง่ ตามเวลาท่ีกาหนด
และถกู ต้องครบถ้วน เสรจ็ ตรงต่อ และถกู ต้อง

เวลาทก่ี าหนด

110

ภาคผนวก

1. สไลดก์ ารสอนเรื่อง งานและกาลงั
2. สไลด์การสอนเรือ่ ง เคร่อื งกลอยา่ งงา่ ย
3. สไลด์การสอนเรอ่ื งพลังงานศักยโ์ น้มถว่ ง และพลงั งานจลน์
4. ใบงานท่ี 5.1 การคานวณหางาน
5 เกม ทาอย่างไรถงึ จะเกดิ งาน จากเว็บไซต์ Baamboozle
6. เกม Bingo Bing เคร่อื งกล
7. เกม Skill Sci (Kahoot)

111

สไลดก์ ารสอน (PDF) ใบงานท่ี 5.1 การคานวณหางาน

เกม ทาอย่างไรถงึ จะเกดิ งาน
จากเวบ็ ไซต์ Baamboozle https://www.baamboozle.com/

112

เกม Bingo Bing เคร่อื งกล, เกม Let’s play “Energy Game”

เกม Skill Sci (Kahoot)

113

ภาคผนวก ค
เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูล

1. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เรื่องงานและพลังงาน
2. แบบวัดทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ขั้นสูง
3. แบบสอบถามความพงึ พอใจทม่ี ีตอ่ การจัดการเรียนรู้สืบเสาะ 5E รว่ มกับเกม

แบบทดสอบเร่อื งงานและพลังงาน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 งานและพลงั งาน
รายวชิ าวิทยาศาสตร์ 3 (ว22102) นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
ขอ้ สอบอตั นัย จานวน 20 ข้อ
รวม 20 คะแนน ระยะเวลา 30 นาที
1. ขอ้ ใดไมเ่ กดิ งานทางวทิ ยาศาสตร์
7. บอลมวล 5 และ 10 กิโลกรมั ตกอย่างอิสระจากท่ีสูง
ก.เเบกกลอ่ งไม้เดนิ ขึ้นบนั ได 10 และ 5 เมตร ตามลาดบั จงเลอื กขอ้ ความท่ีถกู ต้อง

ข.ยกสมดุ ไว้บนตู้ ก.บอลทงั้ สองจะตกถงึ พื้นพร้อมกนั
ข.บอลท้งั สองมีพลงั งานจลนแ์ ละพลังงานศกั ย์
ค.ถือกระเปา๋ เดินผา่ นทางม้าลาย เทา่ กันที่ ระดับความสงู เดยี วกัน
ค.บอลทง้ั สองมีความเร็วสดุ ท้ายเท่ากนั
ง.ตกั นา้ จากบ่อ ง. บอลท้งั สองมีความเรง่ เทา่ กัน
8. งานในข้อใดมีคา่ เปน็ ศูนย์
2. พลังงานจลน์คืออะไร ก.ทิศของแรงและแนวการเคล่ือนทต่ี รงข้ามกัน
ข.ทศิ ของแรงและแนวการเคล่อื นท่ีตัง้ ฉากกัน
ก.พลังงานของวตั ถทุ กี่ าลังหยดุ น่ิง ค.ทศิ ของแรงและแนวการเคลื่อนท่ีทามมุ กัน
ง.ทศิ ของแรงและแนวการเคล่อื นทีม่ ที ศิ เดียวกนั
ข.พลังงานของวตั ถทุ ่กี าลงั จะเคลือ่ นที่ 9. วัตถใุ นขอ้ ใดมีค่าพลังงานจลนส์ ูงสดุ
ก.มอเตอรไ์ ซคม์ วล 300 kg ขับด้วยความเรว็ 80
ค.พลงั งานของวตั ถทุ ่ีกาลงั เคล่ือนท่ี km/hr
ข.รถอแี ตน๋ มวล 800 kg ขับด้วยความเร็ว 30
ง.พลังงานของวตั ถทุ กี่ าลงั ตกจากที่สงู km/hr
ค.ก้อนหินมวล 1200 kg กล้งิ ลงจากภูเขาดว้ ย
3. น้าหวานถือของมวล 10 กโิ ลกรัม นั่งอยบู่ น ความเรว็ 25 km/hr
ง.ลูกกระสนุ ปืนใหญม่ วล 2 kg ถูกยิงออกจากปนื
รถบรรทุกซ่งึ แลน่ ไปบนถนนราบไดร้ ะยะทาง 50 ใหญด่ ้วย ความเร็ว 1500 km/hr
10. จากภาพข้างต้นข้อใดถกู ตอ้ ง
เมตรนา้ หวานจะทางานได้กี่จลู
ก.กาลงั ปนี หนา้ ผาทาใหเ้ กิดพลังงานศักยย์ ืดหย่นุ
ก.0 จลู ข.60 จลู ข.กาลังปีนหนา้ ผาทาใหเ้ กิดพลงั งานศักยโ์ นม้ ถ่วง
ค.หยุดปนี หน้าผาทาให้เกดิ พลงั งานศักย์โนม้ ถว่ ง
ค.500 จลู ง.5 จลู ง.หยดุ ปีนหน้าผาทาใหเ้ กดิ พลงั งานศกั ยย์ ืดหยุ่น

4. เมื่อขว้างวัตถุข้นึ ไปในแนวด่ิง เม่ือถงึ จุดสงู สดุ

ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง

ก.พลงั งานจลน์เป็นศนู ย์

ข.พลงั งานศกั ยเ์ ปน็ ศูนย์

ค.อตั ราเร่งเป็นศูนย์

ง.พลังงานศักย์ค่อย ๆ ลดลง

5. ในการยกกล่องมวล 100 กโิ ลกรัม จากพ้นื โดย

ใช้กาลัง 1 กิโลวตั ต์ เปน็ เวลา 10 วนิ าที กลอ่ งนนั้

จะข้ึนไปได้สงู จากพนื้ กีเ่ มตร

ก.0.1 ข.1.0

ค.10 ง.20

6. ออกแรง F ในแนวขนานกับพนื้ กระทาบนวตั ถุหนัก

20 นวิ ตนั ให้เคลอ่ื นท่ีดว้ ยความเร็วคงท่ีเปน็ ระยะทาง

10 เมตร บนพ้นื ระดบั ซึ่งมแี รงเสยี ดทาน 4 นวิ ตัน จง

หางานของแรง F

ก.20 จลู ข.40 จลู

ค.80 จูล ง.240 จูล

แบบทดสอบเร่อื งงานและพลังงาน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 งานและพลังงาน
รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 3 (ว22102) นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2
ข้อสอบอตั นยั จานวน 20 ข้อ
รวม 20 คะแนน ระยะเวลา 30 นาที
11. ขอ้ ใดเปน็ ประโยชน์ของแรงโน้มถว่ ง
ก.การใชป้ ่นั จั่นตอกเสาเขม็ 17. การใช้สมอเรอื เปน็ การใช้หลักการของเครอ่ื งผ่อน
ข.การเล่นไม้ลืน่ หรือกระดานลนื่ แรงชนดิ ใด
ค.การผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลงั นา้
ง.ถูกทุกขอ้ ก.พื้นเอียง
ข.ลอ้ และเพลา
12. จากภาพเป็นการใช้ความรเู้ ร่อื งใด ค.สกรู
ก.รอกเด่ียวตายตวั ง.รอก
ข.รอกเด่ียวเคลอ่ื นที่ 18. รอกเปน็ เครือ่ งกลทชี่ ว่ ยอานวยความสะดวก หรอื
ค.ล้อและเพลา ชว่ ยผอ่ นแรงในการทางาน แบ่งเป็นกี่ประเภท
ง.สกรู ก.2 ประเภท
ข.3 ประเภท
13. สมการของงาน คอื ข้อใด ค.4 ประเภท
ก.P=F*S ง.5 ประเภท
ข.P=W/t 19. การใช้มดี ขวาน จัดเป็นเครอ่ื งกลอย่างงา่ ยชนดิ ใด
ค.W=F/S ก.รอก
ง.W=F*S ข.คาน
ค.ล่ิม
14. สมการของกาลัง คอื ข้อใด ง.ล้อและเพล
ก.P=F*S 20. ถา้ ต้องการให้เคร่ืองกลดังภาพผ่อนแรงมากขึ้นทา
ข.P=W/t อยา่ งไร
ค.W=F/S
ง.W=F*S

15. อปุ กรณ์ในภาพใช้หลกั การเคร่ืองกลอย่างงา่ ยชนดิ ใด

ก.รอก ข.คาน ก.เพมิ่ ขนาดของเพลา
ค.ลม่ิ ง.ลอ้ และเพลา ข.เพิ่มขนาดของลอ้
16. การใชเ้ สยี มงัดดนิ เปน็ การใชห้ ลักการของเคร่อื ง ค.เพ่ิมความยาวของเชอื ก
ผ่อนแรงชนดิ ใด ง.ลดความยาวของเชือก
ก.รอก ข.คาน
ค.ลิ่ม ง.ล้อและเพลา

แบบทดสอบวดั ทกั ษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ขั้นสงู 116
รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ 3 (ว22102)
ขอ้ สอบอตั นยั จานวน 5 ข้อ เรอื่ งงานและพลงั งาน
นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2

รวม 25คะแนน

คาชีแ้ จง : จงตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ งจากสถานการณท์ ีก่ าหนดให้
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เมื่อกาหนดสถานการณ์มาให้ นกั เรียนสามารถใช้ทกั ษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ใน
การหาคาตอบได้
พฤติกรรมชี้วัด การตัง้ สมมติฐาน การกาหนดนิยามเชิงปฏิบตั กิ าร การกาหนดและควบคมุ ตวั แปร การทดลอง
การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ
คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนหาคาตอบของสถานการณ์หรือปัญหาท่ีกาหนดให้ต่อไปน้ี เริม่ จากขัน้ ตอน การตัง้ สมมติฐาน การ
กาหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัตกิ าร การกาหนดและควบคมุ ตัวแปร การทดลอง การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป โดย
เขยี นคาตอบลงในช่องว่างตามหัวข้อที่ กาหนดให้
สถานการณ์/ปัญหา ขอ้ ท่ี 1 (5 คะแนน)

เด็กชายวีเตรยี มการทดลองในการศึกษาการทางานของเครือ่ งกลอยา่ งง่าย คือ รอก โดยเดก็ ชายวีจะต้องเตรียมอุปกรณ์
การทดลองดงั นี้ 1.รอก 2 แบบคือ รอกเดี่ยวเคล่ือนท่ี และรอกเดี่ยวตายตัว 2.ถุงทราย 3.เคร่ืองชั่งสปริง โดยทาการออกแรงดึง
เครอื่ งชง่ั สปริงในแนวด่ิงให้ถุงทรายเคล่ือนท่ีด้วยความเร็วคงท่ีเป็นระยะทาง 0.2 เมตร โดยใช้รอกแบบท่ี 1 ซึ่งแขวนกับเพดาน
และออกแรงดงึ เครอื่ งชั่งสปริงในแนวดิง่ ใหถ้ งุ ทรายเคลื่อนที่ดว้ ยความเร็วคงทีเ่ ปน็ ระยะทาง 0.2 เมตร โดยใช้รอกแบบท่ี 2 ซ่ึงผูก
กบั ถุงทราย แลว้ อา่ นคา่ ของแรงจากเครอื่ งชง่ั สปริงพร้อมวดั ระยะทางที่เคร่ืองชง่ั สปรงิ ยดื ออกได้ คานวณงาน และเปรียบเทียบแรง
และงานเม่ือใช้รอกดึงถุงทรายท้ัง 2 แบบ เพื่อให้สามารถสรุปได้ว่า แรงที่ใช้และงานท่ีทาในการดึงถุงทรายแตกต่างกันหรือไม่
อยา่ งไร

117

1. จากสถานการณ์ของปญั หานี้สามารถตงั้ สมมติฐานของการทดลองไดอ้ ย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………

2. จากสถานการณ์ของปญั หานน้ี ักเรียนสามารถกาหนดนิยามเชิงปฏบิ ัติการได้ อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ งานหมายถงึ ................................................................…………………………………………………………………………………
....................................................................................................................…………………………………………………………….
....................................................................................................................…………………………………………………………….
3. จากสถานการณ์ของปญั หานี้สามารถกาหนดและควบคุมตวั แปรได้ดงั น้ี (1 คะแนน)
ตอบ ตัวแปรอสิ ระหรอื ตัวแปรต้น คือ ......................................................…………………………………………………………

ตัวแปรตาม คือ ..........................................................................………………………………………………………………
ตวั แปรควบคุม คือ ......................................................................……………………………………………………………
4. จากสถานการณ์ของปญั หานี้สามารถออกแบบการทดลองได้อยา่ งไร (1 คะแนน)
4.1 วัสดแุ ละอปุ กรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
ตอบ ............................................................................................…………………………………………………………………………….
....................................................................................................................……………………………………………………………….
4.2 บนั ทกึ ผลการทดลอง ได้ดงั น้ี (นกั เรยี นคานวณหางาน)
ตอบ สูตรการคานวณหางาน …………………………………………………………………………………………………………………………

5. จากผลการทดลอง สามารถตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ ได้อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………

118

จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เมอ่ื กาหนดสถานการณ์มาให้ นักเรียนสามารถใช้ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ใน
การหาคาตอบได้
พฤตกิ รรมชวี้ ัด การตงั้ สมมติฐาน การกาหนดนิยามเชิงปฏิบตั ิการ การกาหนดและควบคมุ ตัวแปร การทดลอง
การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนหาคาตอบของสถานการณ์หรือปัญหาที่กาหนดให้ต่อไปนี้ เรม่ิ จากข้นั ตอน การตั้งสมมติฐาน การ
กาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ การกาหนดและควบคุมตวั แปร การทดลอง การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ โดย
เขียนคาตอบลงในช่องว่างตามหวั ข้อท่ี กาหนดให้
สถานการณ์/ปัญหา ขอ้ ท่ี 2 (5 คะแนน)

เด็กหญิงนา้ หวานตรียมการทดลองในการศึกษาการทางานของเคร่ืองกลอย่างง่าย คือ พ้ืนเอียง โดยเด็กหญิงน้าหวาน
จะต้องเตรียมอุปกรณ์การทดลอง โดยออกแรงดึงรถทดลองให้สูงข้ึนจากพื้นในแนวด่ิงด้วยความเร็วคงที่เป็นระยะทาง 20
เซนติเมตร อ่านค่าของแรงจากเครือ่ งช่งั สปรงิ ยดื ออกได้ จากนั้นออกแรงดงึ รถทดลองไปบนพื้นเอยี งโดยไม้กระดานสูงจากพื้นเป็น
ระยะทาง 20 เซนตเิ มตร ดว้ ยความเร็วคงทเ่ี ปน็ ระยะทาง 40 เซนตเิ มตร แลว้ อ่านค่าของแรงจากเครื่องช่ังยืดออกได้ คานวณงาน
และเปรียบเทยี บแรงและงานเนอื่ งจากแรงทีใ่ ช้ดึงรถทดลองในแนวดิ่งและบนพืน้ เอียง เพ่ือให้สามารถสรปุ ได้วา่ แรงท่ีใช้และงานที่
ทาในการดงึ รถทดลองแตล่ ะกรณแี ตกตา่ งกันหรือไม่ อยา่ งไร

1. จากสถานการณ์ของปญั หานส้ี ามารถต้ังสมมตฐิ านของการทดลองไดอ้ ย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………
2. จากสถานการณ์ของปัญหานน้ี กั เรียนสามารถกาหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบัติการได้ อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ งานหมายถงึ ................................................................……………………………………………………………………..............
....................................................................................................................…………………………………………………………….
3. จากสถานการณ์ของปญั หาน้ีสามารถกาหนดและควบคุมตวั แปรได้ดังน้ี (1 คะแนน)
ตอบ ตัวแปรอิสระหรือตัวแปรต้น คือ ......................................................…………………………………………………………

119

ตัวแปรตาม คือ ..........................................................................………………………………………………………………
ตัวแปรควบคุม คอื ......................................................................……………………………………………………………
4. จากสถานการณ์ของปญั หานีส้ ามารถออกแบบการทดลองได้อยา่ งไร (1 คะแนน)
4.1 วสั ดแุ ละอุปกรณ์ท่ีใช้ในการทดลอง
ตอบ ............................................................................................…………………………………………………………………………….
....................................................................................................................……………………………………………………………….
4.2 บนั ทกึ ผลการทดลอง ได้ดงั นี้ (นักเรียนคานวณหางาน)
ตอบ สูตรการคานวณหางาน ……………………………………………………………………………….....…………………………………………
5. จากผลการทดลอง สามารถตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุปได้อย่างไร(1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………
จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เมือ่ กาหนดสถานการณ์มาให้ นักเรยี นสามารถใช้ทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ใน
การหาคาตอบได้
พฤติกรรมชี้วดั การตง้ั สมมติฐาน การกาหนดนิยามเชิงปฏิบัตกิ าร การกาหนดและควบคุมตวั แปร การทดลอง
การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ
คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นหาคาตอบของสถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนดให้ต่อไปน้ี เร่ิมจากขัน้ ตอน การตั้งสมมตฐิ าน การ
กาหนดนยิ ามเชิงปฏิบัตกิ าร การกาหนดและควบคมุ ตวั แปร การทดลอง การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรุป โดย
เขยี นคาตอบลงในช่องว่างตามหัวข้อที่ กาหนดให้
สถานการณ์/ปัญหา ข้อท่ี 3 (5 คะแนน)

เดก็ หญิงเจนน่ีเตรียมการทดลองในการศกึ ษาการทางานของพลังงานจลน์ โดยเด็กหญิงเจนนี่จะต้องเตรยี มอปุ กรณ์การทดลองดังน้ี
1.รถทดลอง 2.แทง่ เหล็ก 3.กล่องกระดาษ 4.ไมก้ ระดานเรยี บ 5.ขาตงั้ โดยทาการทดลองใช้ไม้กระดานทาเปน็ พื้นเอียง ด้านหนงึ่ ใหม้ คี วามสูง
30 เซนตเิ มตร วางกลอ่ งเปา้ หมายไว้ปลายพนื้ เอียงระยะทาง 3 เมตร ปลอ่ ยรถทดลองแบบที่ 1 คือไม่ใสม่ วล และแบบท่ี 2 เพิ่มมวลของรถ
ทดลองโดยใชแ้ ทง่ เหล็ก ใหเ้ คลอื่ นไปตามพื้นเอียงพร้อมๆกัน โดยใหร้ ถทดลองทงั้ สองชนกบั กล่องเปา้ หมาย ผลสรปุ วา่ เม่ือปลอ่ ยรถทดลองทมี่ ี
อัตราเร็วเท่ากันแตม่ มี วลต่างกนั เข้าชนกบั วัตถุเป้าหมาย รถทดลองทมี่ มี วลมากกวา่ จะทาให้วัตถเุ คลื่อนที่ออกจากตาแหนง่ เดิมได้ไกลกว่า
แสดงวา่ รถทดลองท่มี ีมวลมากกว่าจะมีพลังงานมากกว่า

1. จากสถานการณ์ของปญั หานส้ี ามารถตั้งสมมตฐิ านของการทดลองไดอ้ ย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………
2. จากสถานการณ์ของปญั หาน้ีนกั เรียนสามารถกาหนดนยิ ามเชิงปฏบิ ัตกิ ารได้ อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ พลงั งานจลน์หมายถงึ ................................................................……………………………………………………………………
....................................................................................................................…………………………………………………………….
....................................................................................................................…………………………………………………………….

120

3. จากสถานการณ์ของปญั หานี้สามารถกาหนดและควบคุมตัวแปรได้ดงั น้ี (1 คะแนน)
ตอบ ตัวแปรอสิ ระหรอื ตัวแปรต้น คือ ......................................................…………………………………………………………

ตวั แปรตาม คอื ..........................................................................………………………………………………………………
ตวั แปรควบคุม คอื ......................................................................……………………………………………………………
4. จากสถานการณ์ของปญั หานส้ี ามารถออกแบบการทดลองได้อยา่ งไร (1 คะแนน)
4.1 วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
ตอบ ............................................................................................…………………………………………………………………………….
....................................................................................................................……………………………………………………………….
4.2 สง่ิ ท่ีนักเรียนควรบนั ทกึ ผลของการทดลอง มอี ะไรบา้ ง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………...........................................
5. จากผลการทดลอง สามารถตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ ได้อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เม่ือกาหนดสถานการณ์มาให้ นักเรยี นสามารถใช้ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ใน
การหาคาตอบได้
พฤติกรรมชีว้ ัด การตัง้ สมมติฐาน การกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ การกาหนดและควบคมุ ตัวแปร การทดลอง
การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นหาคาตอบของสถานการณ์หรอื ปัญหาทก่ี าหนดให้ต่อไปน้ี เร่ิมจากขัน้ ตอน การตั้งสมมตฐิ าน การ
กาหนดนิยามเชิงปฏิบตั ิการ การกาหนดและควบคมุ ตวั แปร การทดลอง การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ โดย
เขียนคาตอบลงในช่องว่างตามหวั ข้อท่ี กาหนดให้
สถานการณ์/ปัญหา ข้อที่ 4 (5 คะแนน)

เด็กชายธีร์เตรียมการทดลองในการศึกษาการทางานของพลังงานศักย์โน้มถ่วง โดยเด็กชายธีร์ทาการทดลองใช้
ฟุตบอลบอล 2 ลูกมีมวลเท่ากัน กาลังจะถูกปล่อยทค่ี วามสูงตา่ งกนั คอื ลูกท่ี 1 ปล่อยที่ความสูง 1 เมตร และลูกท่ี 2 ปล่อยที่
ความสงู 2 เมตร ผลสรุปว่ากอ่ นการปลอ่ ยลูกบอล 2 ลูกพรอ้ มกนั ท่ตี าแหน่งต่างกัน ค่าพลังงานศักย์โน้มถ่วงของฟุตบอลลูก
ที่ 2 มีคา่ มากกว่าฟุตบอลลูกท่ี 1

1. จากสถานการณ์ของปญั หาน้ีสามารถตง้ั สมมติฐานของการทดลองไดอ้ ย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………
2. จากสถานการณ์ของปัญหานน้ี ักเรียนสามารถกาหนดนยิ ามเชิงปฏบิ ัตกิ ารได้ อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ พลงั งานศักยโ์ นม้ ถว่ ง หมายถงึ ...................................................................…………….………………………………………
....................................................................................................................…………………………………………………………….
....................................................................................................................…………………………………………………………….

121

3. จากสถานการณ์ของปญั หานีส้ ามารถกาหนดและควบคมุ ตวั แปรได้ดังนี้ (1 คะแนน)
ตอบ ตวั แปรอสิ ระหรือตัวแปรต้น คือ ......................................................…………………………………………………………

ตวั แปรตาม คือ ..........................................................................………………………………………………………………
ตัวแปรควบคมุ คอื ......................................................................……………………………………………………………
4. จากสถานการณ์ของปญั หาน้สี ามารถออกแบบการทดลองได้อยา่ งไร (1 คะแนน)
4.1 วสั ดแุ ละอุปกรณ์ท่ีใช้ในการทดลอง
ตอบ ............................................................................................…………………………………………………………………………….
....................................................................................................................……………………………………………………………….
4.2 สง่ิ ทน่ี กั เรยี นควรบนั ทกึ ผลของการทดลอง มีอะไรบ้าง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………...........................................
5. จากผลการทดลอง สามารถตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรุปได้อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………
จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เมอื่ กาหนดสถานการณ์มาให้ นกั เรียนสามารถใช้ทกั ษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ใน
การหาคาตอบได้
พฤตกิ รรมช้ีวดั การตั้งสมมติฐาน การกาหนดนยิ ามเชงิ ปฏิบตั กิ าร การกาหนดและควบคมุ ตัวแปร การทดลอง
การตคี วามหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นหาคาตอบของสถานการณ์หรอื ปัญหาท่ีกาหนดให้ต่อไปนี้ เร่ิมจากขัน้ ตอน การต้งั สมมติฐาน การ
กาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร การกาหนดและควบคุมตัวแปร การทดลอง การตีความหมายข้อมูลและการลงข้อสรปุ โดย
เขียนคาตอบลงในช่องว่างตามหัวข้อท่ี กาหนดให้
สถานการณ์/ปัญหา ข้อท่ี 5 (5 คะแนน)

อลิสกบั อลนั เดนิ ทางไปยังเกาะพพี ี โดยใช้เรอื เปน็ ยานพหานะ อลิสนั่งเรอื A ซงึ่ เพลามีรัศมเี ปน็ 0.5 เมตร
และอลันนัง่ เรอื B ทมี่ ีเพลารัศมีเป็น 1 เมตร เม่อื เรือท้ังสองลาเทยี บทา่ เรอื พรอ้ มกนั อาลันสังเกต การออกแรงของคน
กวา้ นสมอเรอื ของเรอื A และเรอื B มีคา่ แตกต่างกนั (ความยาวของเชือกมคี ่าเทา่ กับ 2 เมตร)

1. จากสถานการณ์ของปญั หาน้สี ามารถตัง้ สมมตฐิ านของการทดลองไดอ้ ย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………
2. จากสถานการณ์ของปัญหานีน้ กั เรียนสามารถกาหนดนิยามเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารได้ อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ ลอ้ และเพลา หมายถึง ...............................................................……………………………………………………………………
....................................................................................................................…………………………………………………………….
....................................................................................................................…………………………………………………………….

122

3. จากสถานการณ์ของปญั หานีส้ ามารถกาหนดและควบคมุ ตัวแปรได้ดังนี้ (1 คะแนน)
ตอบ ตวั แปรอสิ ระหรอื ตัวแปรต้น คอื ......................................................…………………………………………………………

ตัวแปรตาม คือ ..........................................................................………………………………………………………………
ตัวแปรควบคุม คอื ......................................................................……………………………………………………………
4. จากสถานการณ์ของปญั หานี้สามารถออกแบบการทดลองได้อยา่ งไร (1 คะแนน)
4.1 วัสดแุ ละอุปกรณ์ท่ีใช้ในการทดลอง
ตอบ ............................................................................................…………………………………………………………………………….
....................................................................................................................……………………………………………………………….
4.2 ส่งิ ท่นี กั เรยี นควรบันทึกผลของการทดลอง มีอะไรบา้ ง
ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………...........................................
5. จากผลการทดลอง สามารถตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ ได้อย่างไร (1 คะแนน)
ตอบ...............................................................................................................................................................................…
.............................................................................................................……………………………………………………………………
.............................................................................................................……………………………………………………………………

เกณฑ์การประเมนิ การใหค้ ะแนนแบบทดสอบวัดทักษะกร
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท

รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
1.ทักษะการตัง้ สมมติฐาน
2.ทกั ษะการกาหนดนิยามเชิงปฏบิ ัตกิ าร 1
3.ทกั ษะการกาหนดและควบคมุ ตัวแปร
4.ทกั ษะการทดลอง สามารถตง้ั สมมตฐิ านไดส้ อดคล้องกับปญั หา แล
ความสมั พันธร์ ะหวา่ งเหตุและผลได้อย่างชดั เจน
5.ทกั ษะการตคี วามหมายและลงข้อสรุป
สามารถกาหนดนิยามเชิงปฏบิ ัตกิ ารที่เกีย่ วข้องไ
ถกู ต้อง ครบถ้วน
สามารถระบตุ วั แปรตน้ ตัวแปรตาม และ
ตวั แปรควบคมุ ไดถ้ ูกตอ้ ง ครบถว้ น
สามารถอธบิ ายวิธีการทดลองและออกแบบการท
สอดคลอ้ งกบั สมมตฐิ าน มีการระบอุ ปุ กรณก์ ารท
ครบถ้วน
สามารถวเิ คราะห์ข้อมูลโดยอาศัยผลที่ได้จากการ
กจิ กรรม และความรทู้ ี่เกีย่ วข้อง
ทัง้ หมด สอดคล้องกบั การสรปุ ผล

123

ระบวนการวิทยาศาสตรข์ นั้ สูง เรอ่ื งงานและพลงั งาน
ที่ 2 ปีการศึกษา 2564

ละแสดง 0
ได้อยา่ ง ไม่สามารถต้งั สมมติฐานได้สอดคล้องกบั ปญั หา และแสดง
ความสมั พันธ์ระหวา่ งเหตุและผลไมไ่ ด้

ไม่สามารถกาหนดนิยามเชิงปฏิบัตกิ ารทเี่ กี่ยวข้องได้อย่างถกู ต้อง

ไม่สามารถระบตุ ัวแปรต้น ตวั แปรตาม และตัวแปรควบคมุ ได้

ทดลอง ไม่สามารถออกแบบการทดลองสอดคล้องกับสมมติฐาน และไม่
ทดลองอยา่ ง สามารถระบอุ ุปกรณก์ ารทดลองได้

รทา ไม่สามารถวิเคราะห์ขอ้ มลู โดยอาศยั ผลทีไ่ ดจ้ ากการทากจิ กรรม
และความรทู้ เี่ กยี่ วขอ้ ง
บางสว่ น สอดคล้องกับการสรุปผลบางส่วน

124

แบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรยี นทม่ี ตี ่อการจดั การเรยี นรสู้ ืบเสาะแบบ 5E รว่ มกบั เกม
เพอื่ พฒั นาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรข์ ั้นสูง

คาชแี้ จง กรณุ าเขยี นเครือ่ งหมาย ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั ความพงึ พอใจของนักเรียนที่มตี อ่ การจัดการเรียนรู้
สบื เสาะแบบ 5E รว่ มกบั เกม เพ่ือพฒั นาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ น้ั สงู

เกณฑก์ ารประเมิน ความพงึ พอใจในระดับมากท่สี ดุ
5 หมายถึง ความพงึ พอใจในระดบั ดีมาก
4 หมายถงึ ความพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง
ความพงึ พอใจในระดับน้อย
3 หมายถงึ
2 หมายถึง ความพงึ พอใจในระดบั ปรับปรงุ

1 หมายถึง

รายการประเมิน ระดับความพึงพอใจ
54321
1. ดา้ นผสู้ อน
1.1 ผู้สอนมีการเตรยี มการสอนล่วงหนา้

1.2 ผูส้ อนมีความเปน็ กันเองให้คาแนะนาและรบั ฟังความคิดเห็น

1.3 ผสู้ อนมีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ชว่ ยใหเ้ กดิ การ
เรียนร้ใู นเนื้อหาวชิ า

1.4 ผูส้ อนมีความรอบรู้ ทนั ตอ่ การเปล่ียนแปลงทางวทิ ยาการ

1.5 ผู้สอนมคี วามร้ใู นเนอ้ื หาวชิ าท่ีสอนเป็นอย่างดี

2. ด้านการจัดการเรียนรู้

2.1 การจัดการเรยี นรูส้ อดคล้องกับจดุ ประสงค์และเนอ้ื หาสาระ

2.2 การจดั การเรยี นรู้ใชว้ ธิ ีการสอนหลากหลายเหมาะสมกับ
เนอ้ื หาวชิ าทเ่ี รียน

2.3 การจดั การเรียนรเู้ นน้ ใหน้ กั เรยี นมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม ได้คดิ
วิเคราะห์ และปฏิบัตกิ ิจกรรม

2.4 มกี ารใช้สอ่ื และเทคโนโลยหี รอื นวตั กรรมในการสอน
เพอื่ สง่ เสรมิ การเรียนรู้ให้แกน่ กั เรียนอย่างเหมาะสม

125

รายการประเมิน 5 ระดบั ความพึงพอใจ 1
432
2.5 การจดั การเรียนรูช้ ่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนร้ดู ้วยตนเอง

2.6 การจดั การเรยี นร้สู ามารถนาไปปฏิบัติไดจ้ ริง

2.7 ผู้สอนเปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถาม และแสดงความคิดเห็น

2.8 การจดั การเรียนรูม้ ีความนา่ สนใจ และทนั สมัย

2.9 นกั เรียนกลา้ แสดงออกและมีสว่ นร่วมในการทากจิ กรรมกลุ่ม

2.10 มกี ารส่งเสริมให้นกั เรียนไดท้ างานรว่ มกับผอู้ น่ื

3. ดา้ นการใช้ เกมวทิ ยาศาสตร์
3.1 เกมมคี วามน่าสนใจ
3.2 ความสะดวกในการใช้งานเกม
3.3 เกมชว่ ยพัฒนาทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรข์ ั้นสูงให้

นักเรยี นเพิ่มขึ้น
3.4 เกมช่วยให้นักเรยี นเรยี นร้วู ิทยาศาสตรเ์ พม่ิ ขึ้น
3.5 นกั เรียนมีความสนุกสนานในการเลน่ เกม

4. ด้านการวัดและการประเมินผล
4.1 มกี ารวดั และประเมนิ ผลที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
4.2 ใชว้ ธิ ีการวัดและการประเมนิ ผลทห่ี ลากหลาย
4.3 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนมีความชัดเจนและยุตธิ รรม
4.4 นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการประเมินผลการเรียน

ขอ้ เสนอแนะ

..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................

126

ภาคผนวก ง
คุณภาพของเครือ่ งมือวิจยั

127

ค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้

ตารางท่ี 11 คา่ ความเหมาะสมของแผนการจดั การเรยี นรู้

รายการประเมินประเด็นความเหมาะสม ผลการประเมินของผเู้ ช่ียวชาญ ̅
คนที่ 1 คนที่ 2 คนท่ี 3
1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 5.00 0.00
1.1 มคี วามถกู ต้องเหมาะสมกบั ตัวชี้วดั 55 5 4.67 0.58
1.2 มีความชดั เจน 54 5 4.33 0.58
1.3 ความเป็นไปไดใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 44 5 4.67
เฉล่ีย
55 5 5.00 0.00
2. สาระสาคัญ 5.00 0.00
2.1 มีความถูกตอ้ ง 55 5 5.00 0.00
2.2 กระชบั 55 5 5.00
2.3 เปน็ ไปตามจดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ นหลักสูตร
เฉลย่ี 55 5 5.00 0.00
55 5 5.00 0.00
3. สาระการเรยี นรู้ 5.00
3.1 เปน็ ไปตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ในหลักสูตร 45 5
3.2 กาหนดเนื้อหามคี วามเหมาะสมกับวลาทีเ่ รียน 54 5 4.67 0.58
45 5 4.67 0.58
เฉล่ยี 4.67 0.58
4. เนอื้ หา 55 5 4.67

4.1 เนื้อหา ภาษา มีความถกู ต้อง 55 5 5.00 0.00
4.2 เป็นไปตามตวั ชวี้ ดั 5.00 0.00
4.3 เน้ือหามคี วามเหมาะสมกับวลาทเี่ รยี น 44 3 3.67 0.58
4.67 0.58
เฉลย่ี 54 5 4.67 0.58
55 4 4.60
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1 เรียงลาดับกจิ กรรมไดเ้ หมาะสมตามขั้นตอนการ

จดั การเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรูร้ ว่ มกบั เกม
5.2 กจิ กรรมการเรยี นรู้เหมาะสมกบั นกั เรียน
5.3 ใหผ้ ้เู รียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ขน้ั สูงและการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง
5.4 เร้าความสนใจ ให้ผู้เรยี นกระตอื รอื ร้นที่จะเรียนรู้
5.5 ผู้เรยี นมสี ว่ นร่วมในการจดั กิจกรรม

เฉล่ีย

128

(ตอ่ ) ตารางที่ 11 ค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรยี นรู้

รายการประเมนิ ประเด็นความเหมาะสม ผลการประเมนิ ของผู้เช่ียวชาญ ̅
คนที่ 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3
6. สอ่ื อปุ กรณ์และแหล่งการเรียนรู้ 4.33 0.58
6.1 เหมาะสมกับผู้เรยี น 44 5 5.00 0.00
6.2 เหมาะสมกับเนอ้ื หาและกิจกรรม 55 5 5.00 0.00
6.3 เรา้ ความสนใจต่อผู้เรยี น 55 5 4.78
เฉล่ีย
55 5 5.00 0.00
7. การวดั และประเมินผล 54 5 4.67 0.58
7.1 ครอบคลุมสาระการเรยี นรู้ 45 5 4.67 0.58
7.2 ใช้เครอ่ื งมอื ทเ่ี หมาะสม 55 5 5.00 0.00
7.3 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมคี วามหลากหลาย 4.83
7.4 สามารถวัดและประเมินผลส่ิงทีร่ ะบุไวไ้ ด้ 4.77 0.09
เฉลี่ย
เฉลี่ยทั้งหมด

129

คา่ ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ระหวา่ งข้อคาถามกบั นยิ ามทตี่ ้องวดั ของ
แบบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ ั้นสงู

ตารางท่ี 12 คา่ ดชั นคี วามสอดคลอ้ ง (IOC) ของแบบวดั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ข้นั สูง

ข้อสอบขอ้ ท่ี คนที่ 1 ผู้เช่ยี วชาญ คนท่ี 3 ∑ ผลสรุป
คนที่ 2
3 1.00 ผ่าน
1111 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
2111 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
3111 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผ่าน
4111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
5111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
6111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
7111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
8111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
9111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
10 1 1 1 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผา่ น
11 1 1 1 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
12 1 1 1 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
13 1 1 1 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
14 1 1 1 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผ่าน
15 1 1 1 3 1.00 ผ่าน

16 1 1 1

17 1 1 1

18 1 1 1

19 1 1 1

20 1 1 1

21 1 1 1

22 1 1 1

23 1 1 1

24 1 1 1

25 1 1 1

26 1 1 1

27 1 1 1

28 1 1 1

29 1 1 1

30 1 1 1

130

ค่าดัชนีความสอดคลอ้ ง (IOC) ระหว่างขอ้ สอบกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ตารางที่ 13 ค่าดชั นคี วามสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง งานและพลงั งาน

ข้อสอบขอ้ ท่ี คนท่ี 1 ผ้เู ชี่ยวชาญ คนท่ี 3 ∑ ผลสรุป
คนที่ 2
3 1.00 ผา่ น
1111 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
2111 2 0.67 ผ่าน
2 0.67 ผา่ น
3111 3 1.00 ผา่ น
-1 -0.33 ไมผ่ ่าน
4011 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผา่ น
5110 3 1.00 ผ่าน
2 0.67 ผ่าน
6111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
7 -1 0 0 1 0.33 ไมผ่ า่ น
3 1.00 ผ่าน
8111 2 0.67 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
9111 3 1.00 ผา่ น
2 0.67 ผา่ น
10 1 1 1 3 1.00 ผา่ น
1 0.33 ไมผ่ า่ น
11 1 1 0 3 1.00 ผา่ น
2 0.67 ผา่ น
12 1 1 1 3 1.00 ผ่าน
2 0.67 ผ่าน
13 1 1 1

14 0 0 1

15 1 1 1

16 1 0 1

17 1 1 1

18 1 1 1

19 1 1 0

20 1 1 1

21 1 0 0

22 1 1 1

23 0 1 1

24 1 1 1

25 1 1 0

131

ค่าดชั นีความสอดคลอ้ ง (IOC) ระหว่างขอ้ คาถามกับนยิ ามทีต่ ้องวดั แบบสอบถามความพงึ พอใจ
ที่มตี ่อการจดั การเรียนรู้แบบสบื เสาะ 5E ร่วมกับเกม

ตารางท่ี 14 คา่ ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบ สอบถามความพงึ พอใจ ต่อการจดั การเรียนรู้ แบบสบื เสาะ
5E รว่ มกับเกม

ข้อสอบขอ้ ที่ คนที่ 1 ผู้เชย่ี วชาญ คนท่ี 3 ∑ ผลสรปุ
คนที่ 2
3 1.00 ผา่ น
1111 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผ่าน
2111 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
3111 2 0.67 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
4111 3 1.00 ผ่าน
2 0.67 ผ่าน
5111 3 1.00 ผ่าน
2 0.67 ผา่ น
6101 3 1.00 ผ่าน
3 1.00 ผ่าน
7111 2 0.67 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
8111 3 1.00 ผา่ น
1 0.33 ผา่ น
9110 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
10 1 1 1 2 0.67 ผา่ น
3 1.00 ผ่าน
11 0 1 1 3 1.00 ผา่ น
3 1.00 ผา่ น
12 1 1 1 2 0.67 ผา่ น

13 1 1 1

14 0 1 1

15 1 1 1

16 1 1 1

17 1 0 0

18 1 1 1

19 1 1 1

20 1 1 0

21 1 1 1

22 1 1 1

23 1 1 1

24 1 0 1

132

ตารางท่ี 15 ค่าความยากงา่ ย (p) ค่าอานาจจาแนก (r) และค่าความเชื่อม่ันของแบบวัดทกั ษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ขัน้ สูง

ขอ้ ท่ี คา่ ความยากงา่ ย (p) คา่ อานาจจาแนก (r) ผลพิจารณา

1 0.74 0.42 คัดไว้

2 0.76 0.37 คดั ไว้

3 0.74 0.21 คดั ไว้

4 0.74 -0.11 ตัดทง้ิ

5 0.71 -0.05 ตดั ทิ้ง

6 0.71 0.37 คัดไว้

7 0.71 0.37 คัดไว้

8 0.58 0.21 คัดไว้

9 0.47 -0.21 ตดั ทิ้ง

10 0.45 -0.26 ตดั ทิ้ง

11 0.63 0.21 คดั ไว้

12 0.71 0.37 คดั ไว้

13 0.42 0.21 คดั ไว้

14 0.68 0.21 คดั ไว้

15 0.63 0.32 คดั ไว้

16 0.68 0.42 คดั ไว้

17 0.71 0.37 คัดไว้

18 0.68 0.32 คดั ไว้

19 0.74 0.32 คดั ไว้

20 0.74 0.32 คดั ไว้

21 0.58 0.63 คัดไว้

22 0.68 0.21 คดั ไว้

23 0.79 -0.11 ตดั ทง้ิ

24 0.58 0.21 คดั ไว้

25 0.74 0.32 คดั ไว้

26 0.58 0.21 คดั ไว้

27 0.53 0.21 คัดไว้

28 0.74 0.32 คัดไว้

29 0.58 0.21 คดั ไว้

30 0.58 0.63 คดั ไว้

133

ตารางท่ี 16 คา่ ความยากงา่ ย (p) คา่ อานาจจาแนก (r) ของแบบทดสอบประทว้ งสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น
วทิ ยาศาสตร์เร่อื งงานและพลังงาน

ข้อท่ี คา่ ความยากงา่ ย (p) ค่าอานาจจาแนก (r) ผลพจิ ารณา

1 0.76 0.37 คัดไว้

2 0.53 0.32 คดั ไว้

3 0.47 0.32 คัดไว้

4 0.68 0.21 คัดไว้

5 0.68 0.21 คัดไว้

6 0.71 0.26 คัดไว้

7 0.58 0.42 คัดไว้

8 0.76 0.37 คัดไว้

9 0.76 0.37 คัดไว้

10 0.55 0.26 คดั ไว้

11 0.76 0.05 ตดั ทิ้ง

12 0.50 0.89 คดั ไว้

13 0.50 0.89 คดั ไว้

14 0.89 0.11 ตดั ทิง้

15 0.29 0.47 คดั ไว้

16 0.84 0.13 ตดั ทิ้ง

17 0.45 0.58 คัดไว้

18 0.42 0.11 ตัดทิ้ง

19 0.53 0.63 คดั ไว้

20 0.71 -0.05 ตัดทง้ิ

21 0.76 0.37 คัดไว้

22 0.53 0.74 คัดไว้

23 0.55 0.26 คัดไว้

24 0.47 0.84 คดั ไว้

25 0.74 0.32 คัดไว้

134

ภาคผนวก จ
ภาพแสดงการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

135

ขัน้ ที่ 1 ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement)
ขัน้ ที่ 2 สารวจและค้นหา (Exploration)
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation)

136

137

ข้ันที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration)

138

ขั้นท่ี 5 ประเมิน (Evaluation)

139

140

ประวัติผู้วจิ ยั

ชื่อ - ช่ือสกลุ นางศริ าพร สนั หลี

วนั เดือน ปเี กิด 13 มิถนุ ายน 2520

สถานที่เกิด จังหวัดสตูล

สถานท่ีอยู่ปจั จุบนั 108 หม่ทู ่ี 6 ตาบลกาแพง อาเภอละงู จังหวัด สตูล

รหัสไปรษณีย์ 91110

ตาแหนง่ หนา้ ที่การงานปจั จบุ ัน ครชู านาญการ ระดับ คศ. 3 ขั้น 41,060 บาท

สถานทที่ างานปัจจบุ ัน โรงเรยี นกาแพงวทิ ยา ตาบลกาแพง อาเภอละงู จังหวดั สตูล

สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาสงขลา สตลู

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2533 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6 จากโรงเรียนบา้ นป่าฝาง

พ.ศ. 2536 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 จากโรงเรยี นดารุลมาอาเรฟ

พ.ศ. 2539 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 จากโรงเรียนกาแพงวิทยา

พ.ศ. 2543 ครุศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตรท์ ั่วไป

จากสถาบนั ราชภฏั สงขลา จังหวดั สงขลา

พ.ศ. 2555 การศกึ ษามหาบัณฑติ สาขาการบริหารการศึกษา

จากมหาวทิ ยาลัยทกั ษิณ จังหวัดสงขลา