พิมพค์ รัง้ ท่ี 1 จำนวน 1,000 เล่ม
ทีป่ รึกษำ อจลบญุ อธิบดกี รมสง่ เสริมคณุ ภาพส่ิงแวดลอ้ ม
นายสุรชัย ณ สายบรุ ี รองอธบิ ดกี รมส่งเสริมคณุ ภาพสิ่งแวดล้อม
นางภาวินี วราทร ผูอ้ านวยการสานกั ส่งเสรมิ การมสี ว่ นร่วมของประชาชน
นางสาวพรพมิ ล
คณะผูจ้ ดั ทำ ประชาเกษม ผเู้ ช่ียวชาญเฉพาะด้านสง่ เสรมิ การมีสว่ นร่วมของประชาชน
นางวรวรรณ ภู่ประเสรฐิ วศิ วกรชานาญการพิเศษ
นางสาวอัจฉรา ชยั ศริ ถิ าวรกุล นกั วิชาการสงิ่ แวดล้อมชานาญการ
นางสาวรจุ ิรา
คณะทำงำน เสนาวงษ์
นายพเิ ศษ ศลิ ป์มณีพันธ์
นางสาวอรนชุ จนั ทรภา
นายคมสันต์ สุธาพจน์
นางสาวอารรี ัตน์ สาเภาพล
นางสาวกัญญาวรี ์ มงั คลาด
นางสาวกลั ยรตั น์ ศลิ ป์มณีพันธ์
นางสาวสรนิ ทิพย์
ออกแบบ กนิ บุญ
นางสาวนติ ยา
ดำเนนิ กำรโดย
สำนักส่งเสริมกำรมสี ว่ นรว่ มของประชำชน กรมส่งเสรมิ คณุ ภำพสิง่ แวดล้อม
49 ซอย 30 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
บรษิ ัท แกรนด์เทค จำกัด
290/266 ซอยลาดพร้าว 84 แขวงวังทองหลาง เขตวงั ทองหลาง กรงุ เทพฯ 10310
สงวนลิขสิทธ์ิตามพระราชบญั ญัติลิขสิทธ์ิ พ.ศ. 2561
คำนำ
ในการประชมุ สมัชชาสหประชาชาติ ครงั้ ที่ 70 ประเทศไทยและประเทศสมาชิกสหประชาชาติรวม 193 ประเทศ ร่วมลงนาม
รับรอง “วาระการพัฒนาท่ีย่ังยืน ค.ศ. 2030” ซึ่งเป็นกรอบการพัฒนาของโลกเพื่อร่วมกันบรรลุการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจและ
ส่งิ แวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยไม่ท้ิงใครไว้ข้างหลัง ในขณะที่ประเทศไทย ได้กาหนดวิสัยทัศน์ในช่วงของยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580)
ไว้ว่า “ประเทศไทย มคี วามมั่นคง มั่งคงั่ ยั่งยนื เป็นประเทศพฒั นาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ขับเคล่ือน
ผา่ น 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งการส่งเสริมการผลิต การบริโภค และการบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหน่ึงของแนวทางพัฒนาและ
ขับเคล่ือนประเทศในยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ี
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นบทบาทของประเทศไทยในการร่วมขับเคลื่อน SDG วาระการพัฒนาท่ียั่งยืน ในเป้าหมายท่ี 12 สร้าง
หลกั ประกนั ให้มรี ูปแบบการผลติ และการบริโภคที่ย่ังยืนดว้ ย
กรมส่งเสริมคณุ ภาพส่งิ แวดล้อม ไดด้ าเนินงานโครงการส่งเสริมโรงแรมท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม (Green Hotel) ตั้งแต่ปี 2556
เปน็ ต้นมา เพอ่ื ส่งเสริมศักยภาพสถานประกอบการให้เกิดการใช้ทรัพยากรพลังงานอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการจัดการ
สิ่งแวดล้อมที่ดี และเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ พร้อมขยายจานวนเครือข่ายสถานประกอบการ ในการบริการให้เป็นมิตรกับ
สง่ิ แวดล้อมมากขึ้น อนั จะทาใหเ้ กดิ การพฒั นาและสง่ เสริมการท่องเท่ียวของประเทศอย่างยัง่ ยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพื่อ
รองรบั การจัดซ้อื จดั จ้างสินค้าและบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมของหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนเตรียมความพร้อมสู่การประเมินมาตรฐาน
สง่ิ แวดลอ้ มในระดับสากล จากการดาเนินการท่ีผ่านมา พบว่า โรงแรมท่ีเข้าร่วมโครงการล้วนมีการบริการท่ีได้คานึงถึงสิ่งแวดล้อม และ
มีศักยภาพในการพัฒนาให้มีการบริหารจัดการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมได้ตามเกณฑ์และมาตรฐานที่กาหนด นอกจากนี้ ยังให้ตัวอย่าง
การจัดการที่ดีที่สามารถถอดเป็นบทเรียนแนวทางปฏิบัติที่ดี เกิดตัวอย่างหรือต้นแบบใหม่ ๆ ต่อยอดจากองค์ความรู้และแนวทางจาก
เกณฑ์ท่กี รมสง่ เสริมคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมดาเนนิ การ
กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม ได้รวบรวม ประมวล เรียบเรียง แนวทางปฏิบัติที่ดี หรือ Best Practice ที่ได้จาก Green Hotel
นามาจัดทาเปน็ ตวั อย่างแนวทางปฏิบตั ทิ ี่ดเี ล่มนี้ เพอ่ื เผยแพร่ประชาสัมพันธ์สกู่ ารประยุกต์ ขยายผล และต่อยอดในการจัดการโรงแรมที่
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสร้างการท่องเท่ียวแบบ New Normal และเป็นส่วนหน่ึงของการพัฒนาและขับเคล่ือนตาม BCG Economy
Model ซึ่งประเทศไทยได้ประกาศเปน็ วาระแหง่ ชาติ โดยเฉพาะในดา้ นการท่องเที่ยว ท่ีร่วมสร้างความ “อยู่ดี” คือ การได้เข้าพักในท่ีพัก
ท่ไี ด้มาตรฐาน สะอาด มีสงิ่ แวดล้อมที่ดี พรอมทัง้ มีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ ตามแนวทาง Happy Model กรมส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อม
หวังเป็นอย่างย่ิงว่า เอกสารน้ีจะมีส่วนในการสร้างสรรค์แนวคิดและแนวทางให้โรงแรมพัฒนาและยกระดับสู่การบริการท่ีเป็นมิตรกับ
ส่ิงแวดลอ้ ม และมีส่วนร่วมขับเคลื่อนสงั คมที่มีการเตบิ โตอยา่ งยัง่ ยืน
คณะผูจ้ ดั ทา
กรกฎาคม 2564
สำรบัญ หนา้
1
1 กำรพฒั นำทย่ี ัง่ ยืนและกำรผลิตและกำรบรโิ ภคที่ย่งั ยนื 1
1.1 การพฒั นาท่ียงั่ ยืน : เปา้ หมายรว่ มของประชาคมโลก 2
1.2 ประเทศไทยกบั การขับเคล่ือนการผลิตและการบรโิ ภคทย่ี ั่งยนื 4
1.3 Green Hotel : การขบั เคลอ่ื นดว้ ย BCG เพ่อื สง่ เสรมิ การผลติ และการบริโภคอย่างย่งั ยนื 6
1.4 การปรบั ตวั สู่โรงแรมทเ่ี ปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ มหลงั สถานการณ์ COVID-19
8
2 Green Hotel : โรงแรมที่เปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดล้อม 8
2.1 การดาเนนิ งาน Green Hotel ของกรมส่งเสรมิ คณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ ม 9
2.2 เกณฑ์โรงแรมทเี่ ป็นมติ รกับสิง่ แวดล้อม (Green Hotel)
14
3 กำรกำหนดนโยบำย เป้ำหมำย และกำรพัฒนำสู่ Green Hotel 14
3.1 “นโยบายสิง่ แวดลอ้ ม คือ...???” 14
3.2 เราควรกาหนดนโยบายส่ิงแวดลอ้ มอย่างไร? 15
3.3 เราจะเผยแพร่นโยบายสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งไร 15
3.4 หลักการของนโยบายสงิ่ แวดลอ้ มท่ดี ี 17
3.5 Green Team กลไกเชิงรุกในการจัดการสู่ Green Hotel 17
3.6 การพัฒนาบุคลากร 18
3.7 การรณรงคป์ ระชาสมั พนั ธ์
19
4 กำรจัดซอ้ื จดั จำ้ งที่เปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม Green Procurement
21
5 กำรอนุรักษ์ทรพั ยำกรนำ้
24
6 กำรบำบัดนำ้ เสียทม่ี ีประสทิ ธภิ ำพ
29
7 กำรจดั กำรขยะ
สำรบญั หนา้
34
8 กำรจดั กำรดำ้ นพลงั งำนในโรงแรม 34
8.1 การออกแบบท่ีพึ่งพาธรรมชาติ 35
8.2 แนวทางการจดั การพลังงานในภาพรวม 37
8.3 ระบบปรับอากาศ 39
8.4 การจดั การไฟสอ่ งสว่าง 41
8.5 การทาความรอ้ น 42
8.6 การประหยัดไฟจากตเู้ ย็น 43
8.7 มาตรการเสรมิ ในการจัดการพลงั งาน 44
8.8 มาตรการอนุรักษ์พลงั งานในระบบไฟฟา้ แสงสว่าง 45
8.9 เทคนคิ การควบคมุ แสงสว่างเพือ่ การประหยดั พลังงาน
49
9 กำรจัดกำรดำ้ นคุณภำพอำกำศและระดับเสียงในโรงแรม 49
9.1 การป้องกันกล่ิน ควนั และฝุ่นละอองในโรงแรม 51
9.2 การจัดการเพื่อป้องกนั เสียงรบกวนในโรงแรม 52
9.3 การออกแบบเพือ่ ป้องกันเสียงรบกวนในโรงแรม
53
10 กำรจัดกำรด้ำนอำชวี อนำมัย และควำมปลอดภยั 53
10.1 การจัดการสารเคมีอนั ตราย 54
10.2 การจัดการเชื้อแบคทีเรยี ชนดิ ลีจโิ อเนลลา (Legionella) 55
10.3 การควบคมุ สัตว์และแมลงพาหะนาโรค 55
10.4 การจัดการสุขาภิบาลอาหาร อาหารปลอดภยั และนา้ ดม่ื น้าใช้ 55
10.5 การจัดการอนามัยสิง่ แวดลอ้ มในสถานที่สง่ เสรมิ สขุ ภาพ 56
10.6 ความพร้อมในการปอ้ งกนั และระงบั อัคคภี ยั 58
10.7 ระบบตรวจป้องกันและรักษาความปลอดภยั ทมี่ ีประสิทธภิ าพ
1
1.
การพฒั นาทย่ี ัง่ ยนื และการผลติ และการบรโิ ภคที่ยงั่ ยืน
1.1 การพัฒนาท่ียัง่ ยืน : เป้าหมายร่วมของประชาคมโลก
การประชมุ สมชั ชาสหประชาชาติ ครงั้ ที่ 70 เมอื่ วนั ท่ี 25 กันยายน 2558 ณ สานักงานใหญ่สหประชาชาติ ประเทศ
ไทยและประเทศสมาชิกรวม 193 ประเทศ ร่วมลงนามรับรอง “วาระการพัฒนาท่ีย่ังยืน ค.ศ. 2030” (2030 Agenda for
Sustainable Development) ซ่ึงเป็นกรอบการพัฒนาของโลกเพื่อร่วมกันบรรลุการพัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และส่ิงแวดล้อม
อย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง องค์การสหประชาชาติได้ประกาศใช้ “เป้าหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน” (Sustainable
Development Goals : SDGs) เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกในปี ค.ศ. 2330 ต่อจากเป้าหมายการพัฒนา
แห่งสหสั วรรษ (Millennium Development Goals : MDGs) ทส่ี ้ินสดุ ลง
พัฒนาการของการท่องเทีย่ วทีย่ ่งั ยนื สูเ่ ศรษฐกจิ สเี ขยี ว
แนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนคานึงถึง “ผลกระทบของการพัฒนา
ต่อคนรุ่นอนาคต ซึ่งการพัฒนาท่ีย่ังยืน เป็นการพัฒนาท่ีตอบสนองต่อ
ความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน โดยไม่ทาให้คนรุ่นอนาคตต้องเสีย
โอกาสในการตอบสนองความต้องการ” เพื่อให้แนวคิดดังกล่าว
มีความเปน็ รปู ธรรมและนาไปสกู่ ารขับเคล่ือนจรงิ จึงไดเ้ กดิ ข้นึ แนวคดิ “เศรษฐกจิ สีเขยี ว” หรอื Green Economy การพฒั นา
หรือสร้างมูลค่าทางเศรษฐกจิ ทม่ี ีการรักษาระบบธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ องค์กรการท่องเท่ียวโลก (UNWTO)
และโปรแกรมเพ่ือส่ิงแวดล้อมของสหประชาชาติ (UNEP) ได้กาหนดนิยามของ “การพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ว่าเป็น
การพัฒนาที่ให้ความสาคัญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อมท้ังในปัจจุบันและอนาคต โดยเน้นตาม
ความต้องการของนักท่องเท่ียว อุตสาหกรรม ส่ิงแวดล้อม และชุมชนหรือเจ้าของพ้ืนท่ี โดยครอบคลุมทุกประเภทของ
การทอ่ งเท่ยี ว ทั้งการทอ่ งเที่ยวกระแสหลักและการทอ่ งเที่ยวทางเลือกต่าง ๆ”
2
1.2 ประเทศไทยกบั การขบั เคลอ่ื นการผลิตและการบรโิ ภคทย่ี ่ังยนื
ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580) กาหนดวิสัยทัศน์ “ประเทศไทย มีความมั่นคง มั่งค่ัง ย่ังยืน” ประกอบด้วย
6 ยทุ ธศาสตร์ โดยใน ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีสาระสาคัญเก่ียวกับภาคบริการ ที่กาหนดให้มี
การขยายฐานการบรกิ ารใหม้ คี วามหลากหลาย มีความเปน็ เลิศและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการยกระดับบริการท่ีเป็นฐาน
รายได้เดิม เช่น การท่องเที่ยว และพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการให้บริการสุขภาพ ธุรกิจบริการด้านการเงิน และ
ธุรกจิ บริการที่มีศกั ยภาพอืน่ ๆ เป็นต้น ส่วนใน ยทุ ธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม
มเี ป้าหมายเพื่อเรง่ อนรุ ักษฟ์ น้ื ฟูและสรา้ งความมน่ั คงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ และมีความม่ันคงด้านน้า รวมท้ังมีความสามารถ
ในการปอ้ งกนั ผลกระทบและปรับตวั ต่อการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศและภัยพิบัติธรรมชาติ และพัฒนามุ่งสู่การเป็นสังคม
สเี ขียว มีกรอบแนวทางดาเนนิ การที่เกีย่ วขอ้ งกบั การสง่ เสรมิ การบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือ การพัฒนาและใช้พลังงาน
ทเ่ี ปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชงิ นเิ วศและเมืองท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม การร่วมลดปัญหาโลกร้อน
และปรับตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์และนโยบายการคลังเพ่ือ
สิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ้ ม ไดร้ บั มอบหมายให้ขบั เคล่ือนการดาเนินงาน
ตามเป้าหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืนซ่ึงสอดคล้องกับการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ชาติใน 4 เป้าหมาย
รวมทั้ง เป้าหมายที่ 12 สร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ซึ่ง
โครงการสิง่ แวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP, 2011) ได้ให้คานิยามและหลักการพ้ืนฐานไว้ว่า
“การผลติ และการบริโภคทีย่ ัง่ ยนื หมายถงึ การดาเนินการแบบองค์รวมในทุก ๆ ด้าน เพ่ือลด
ผลกระทบ ทางลบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตและการบริโภค ควบคู่ไปกับ
การส่งเสรมิ คณุ ภาพชวี ิตของประชาชนทกุ คน”
ประเทศไทย มนี โยบายและแผนทสี่ าคญั เกย่ี วกับการผลติ และการบรโิ ภคอยา่ งย่ังยนื ประกอบด้วย
นโยบายและแผนการสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 วสิ ัยทัศน์ “ประเทศไทย
มีฐานทรัพยากรธรรมชาติท่ีสมดุลและยั่งยืน และเป็นสังคมท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” มีสาระสาคัญที่เก่ียวข้องกับการพัฒนา
และส่งเสริมการบริการที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมอยู่ในนโยบายที่ 2 สร้างการเติบโตท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพ่ือความมั่งคั่งและ
ย่งั ยืน ซ่ึงกาหนดเป้าประสงค์ให้ประชาชนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยต่อสุขภาพบนฐานการเติบโตทาง
เศรษฐกิจทเ่ี ปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม
3
แผนขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคท่ียั่งยืน พ.ศ. 2560 - 2580 วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยบรรลุการผลิตและ
การบริโภคท่ีย่ังยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยดาเนินการภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
ขับเคลอื่ นอยา่ งบูรณาการดว้ ยนวัตกรรม ทง้ั ทางสังคมและทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในปี พ.ศ. 2580” มีเป้าหมาย
ปรับเปล่ียนสังคมไทยอย่างต่อเน่ือง เพ่ือมุ่งสู่สังคมท่ีมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และสมดุลกับ
ฐานทรัพยากรของประเทศ โดยน้อมนาหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ และเสริมสร้างความแข็งแกร่ง
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรม
วาระแห่งชาติ : “BCG Economy” คือ โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นแนวคิดการนาวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างย่ังยืนให้กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curves) ซึ่งต่างจาก
ระบบเศรษฐกจิ แบบด้งั เดิม ที่เน้นการใชท้ รัพยากร การผลติ และการสรา้ งของเสยี (Linear Economy) รัฐบาลให้ความสาคัญ
กับการเรง่ รดั พฒั นาประเทศด้วยการใช้โมเดลทางเศรษฐกิจใหมท่ ่ีเรียกว่า “BCG” ซึ่งเป็นการพัฒนา 3 เศรษฐกิจ คือ เศรษฐกิจ
ชวี ภาพ (Bio Economy) มุ่งเน้นการใช้ทรพั ยากรชีวภาพเพื่อสร้างมลู คา่ เพ่ิม โดยเนน้ การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เศรษฐกิจ
หมุนเวยี น (Circular Economy) คานงึ ถงึ การใชท้ รพั ยากรอย่างคุ้มคา่ หมนุ เวียนใชป้ ระโยชนให้มากที่สุด และเศรษฐกิจสีเขียว
(Green Economy) ซ่ึงเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจสงั คมทค่ี านงึ ถงึ สงิ่ แวดล้อมและความย่ังยืน ปรับเปลี่ยนไปสู่อาศัย “จุดแข็งของ
ประเทศ” พร้อมกับการผนกึ กาลงั ภายใตแ้ นวคดิ “รวมไทยสรา้ งชาติ”
การพัฒนาภาคทอ่ งเทยี่ วดว้ ย BCG Economy Model มงุ่ เน้นการเตบิ โตของภาคท่องเที่ยวอย่างย่ังยืน คือ เกิดการใช้
ทรพั ยากรอย่างคุ้มคา่ มีการสรา้ งมูลค่าเพมิ่ และคานึงผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อมและสังคมมากข้นึ โดยมีเปา้ หมาย คอื ลดความ
เหล่ือมล้า และมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง ด้วยการกาหนดกลุ่มการท่องเที่ยว เป้าหมายในการพัฒนาการท่องเท่ียวเชิง
การแพทย์และสุขภาพ (Medical & Wellness Tourism) ซึ่งเป็น
กลุ่มทีส่ ร้างให้เกิดมูลคา่ เพม่ิ สงู โดยมีแนวทางคือ โมเดลอารมณ์ดี
มีความสุข หรือ Happy Model ซึ่งประกอบด้วย “กินดี” คือ
การไดร้ บั ประทานอาหารสะอาด มีประโยชนต่อสุขภาพ ปลอด
สารพิษ และเปน็ อาหารทองถิ่นท่ีคัดสรรจากชุมชน “อยู่ดี” คือ
การได้เข้าพักในท่ีพักที่ได้มาตรฐาน สะอาด มีส่ิงแวดล้อมที่ดี
มีสิ่งอานวยความสะดวก รวมถึง Wi-Fi พรอมท้ังมีกิจกรรม
ส่งเสริมสุขภาพ และ “ออกกาลังกายดี” คือ การได้เข้าร่วม
กจิ กรรมกีฬาและสนั ทนาการตา่ ง ๆ และ “แบง่ ปันสง่ิ ดี ๆ” คือ
การได้แบ่งปันความรู แนะนาสงิ่ ดี ๆ ทากจิ กรรมรว่ มกับท้องถ่ิน
เรยี นรู ประสบการณ์จากปราชญ์ชาวบ้าน
4
1.3 Green Hotel : การขบั เคลอื่ นดว้ ย BCG เพ่ือส่งเสรมิ การผลติ และการบริโภคอย่างยงั่ ยืน
กรมสง่ เสริมคณุ ภาพสิง่ แวดล้อม เลง็ เหน็ ถึงความสาคัญของการจัดการส่ิงแวดล้อมที่ดีของสถานประกอบการที่พัก
โดยเฉพาะกลมุ่ โรงแรม ซงึ่ มกี ารใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร เกดิ น้าเสียและขยะ จากการอานวยความสะดวกและใหบ้ ริการแก่ลูกค้า
ในปริมาณค่อนข้างมาก จึงได้ดาเนินโครงการส่งเสริมโรงแรมท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม (Green Hotel) ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2556
เป็นตน้ มา เพ่ือสง่ เสรมิ ศกั ยภาพสถานประกอบการใหเ้ กิดการใชท้ รพั ยากรพลังงานอยา่ งคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมี
การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี และเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการ และยังสามารถพัฒนาและขับเคล่ือนสู่วิถีการทองเที่ยวตาม
แนวทาง Happy Model สร้างการ “อยู่ดี” คือ การได้เข้าพักในท่ีพักที่ได้มาตรฐาน สะอาด มีส่ิงแวดล้อมท่ีดี พร้อมทั้ง
มกี ิจกรรมส่งเสริมสขุ ภาพ สอดคลอ้ งตามแนวทางของ BCG Economy Model
โรงแรม : หนง่ึ ในเทรนดก์ ารท่องเท่ียวท่ีเปน็ มติ รกับสงิ่ แวดลอ้ ม
โรงแรมเปน็ องคป์ ระกอบหนึง่ ในธุรกจิ อตุ สาหกรรมการท่องเที่ยว การเจริญเติบโตของกิจการด้านท่ีพัก ส่งผลให้เกิด
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโรงแรมส่งผลใหเ้ กิดรายไดแ้ ละการจ้างงาน เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น
ผทู้ ่ีเป็นแรงงานในธรุ กิจทอ่ งเทยี่ ว และธุรกิจอน่ื ทีเ่ กี่ยวเนื่อง ทั้งนี้ นอกจากการจ่ายค่าที่พักและบริการอ่ืน ๆ จากนักท่องเท่ียว
แล้ว ยงั ช่วยใหม้ กี ารจบั จา่ ยใช้สอยในด้านอ่ืน ๆ ตามมาอีกดว้ ย เชน่ การบรกิ ารจดั การนาเท่ียว การขนส่ง การขายของที่ระลึก
เป็นต้น ส่งผลให้อาชีพที่เกี่ยวกับการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการต่าง ๆ
ของนักท่องเที่ยว ในขณะที่ผลทางสังคม โรงแรมก่อให้เกิดประโยชน์จากการกระจายรายได้และการจ้างงานให้กับคนในชุมชน
ย่อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน จากการสร้างและกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยวหรือ
สถานท่ีสาคัญอยู่ใกลเ้ คยี งจะสามารถดึงดูดให้นักท่องเท่ียวสนใจเดินทางมาเยี่ยมชม ทาให้คนในชุมชนมีรายได้มากข้ึน ช่วยปัญหา
การวา่ งงานและการอพยพแรงงานจากท้องถ่ินเข้าสู่เมอื งใหญไ่ ดอ้ กี ทางหน่ึงดว้ ย
โรงแรมที่มีการบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม นอกจากการเป็นส่วนหน่ึงท่ีสาคัญในธุรกิจแล้ว ยังเป็นส่วนหน่ึงใน
การสร้างสังคมทมี่ กี ารบริการและการบริโภคที่เปน็ มติ รกับสิ่งแวดล้อม ที่สาคัญเน่ืองจากกระแสการพัฒนาที่ยั่งยืน ทาให้โรงแรม
ที่เปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดลอ้ มเป็นส่วนหน่ึงในความต้องการของนักท่องเที่ยวท่ีสนใจในการรักษาสภาพแวดล้อมจากการท่องเท่ียว
ข้อมลู การสารวจขอ้ พิจารณาในการเลอื กจองโรงแรมที่พกั ผ่าน AAA.com (ค.ศ. 2016) พบวา่ นอกจากความคุ้มค่าในการเข้าพัก
เป็นปจั จัยแรกสุด รองลงมาคอื ความสะดวกสบายและความดึงดูดใจ การให้บริการอาหารเช้า และการให้บริการ Free Wi-Fi
แตส่ ่งิ ท่ีนา่ สนใจคือ “การมโี ปรแกรมการใช้บรกิ ารทเี่ ปน็ มติ รกับส่ิงแวดลอ้ มในโรงแรม” เป็นปัจจัยในการคัดเลือกในลาดับที่ 5
มสี ัดส่วนถงึ รอ้ ยละ 44
5
ข้อมูลจากการสารวจโดย Taxi2Airport.com ในปี
ค.ศ. 2019 จากกลมุ่ คนอังกฤษท่ีจองทัวร์ต่างประเทศจานวน
1,468 คน ที่แสดงข้อมูลความสนใจในด้าน “การบริการท่ี
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการท่องเที่ยว” มีความใส่ใจ
สู ง สุ ด ใ น ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว ด้ ว ย ก า ร เ ดิ น ท า ง ท่ี เ ป็ น มิ ต ร กั บ
ส่ิงแวดล้อม ร้อยละ 78 และการใช้กระเป๋าท่ีเป็นมิตรกับ
สิ่งแวดล้อม ร้อยละ 75 ส่วนปัจจัยพิจารณาอื่น ๆ ท่ีเป็นท่ี
สนใจในการท่องเที่ยว ท่ีมีสัดส่วนการให้ความสาคัญ
ลดหลั่นกันลงมาตามลาดับ คือ การขนของเท่าท่ีจาเป็น
ร้อยละ 71 การประหยัดพลังงานไฟฟ้า ร้อยละ 66 การใช้
ขวดน้าหมุนเวียน ร้อยละ 63 การซื้อผลิตภัณฑ์อาหารใน
ท้องถิ่น ร้อยละ 59 การเติมผลิตภัณฑ์ในห้องน้าตาม
การร้องขอ ร้อยละ 54 การจากัดการใช้พลาสติกแบบใช้
ครั้งเดียว ร้อยละ 50 การอาบน้าด้วยฝักบัวแทนอ่างอาบน้า
ร้อยละ 47 มีการจัดการขยะท่ีดี ร้อยละ 42 ลดการเปล่ียน
ผ้าเชด็ ตัวและผ้าปทู ีน่ อน ร้อยละ 33 ซ้อื สินค้าและผลิตภัณฑ์
ในท้องถิ่น ร้อยละ 24 การคืนแผนท่ีและข้อมูลการท่องเที่ยว
เม่ือใช้แล้ว ร้อยละ 20 และการเช่ารถท่ีใช้ไฟฟ้า ร้อยละ 9
ซึ่งแสดงถึงกิจกรรมการท่องเท่ียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ที่นักทอ่ งเทย่ี วใหค้ วามสนใจ การสารวจชุดเดียวกัน ยังเสนอ
ข้อมูลความต้องการ “โรงแรมที่มีการบริการท่ีเป็นมิตรกับ
สิ่งแวดล้อม” ผู้จองที่พักมีความสนใจการเลือกท่ีพักที่มี
การประหยดั พลังงานไฟฟา้ ร้อยละ 82 มกี ารใช้บรรจุภัณฑ์
แบบเติมในห้องน้า ร้อยละ 70 มีการจัดถังขยะที่เอ้ือต่อ
การแยกขยะ ร้อยละ 67 การติดต้ังหลอดไฟโคมแบบประหยัด
พลังงาน ร้อยละ 64 การใช้กระดาษชาระแบบ Recycle
ร้อยละ 59 การใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้า ร้อยละ 55 ลด
การเปลี่ยนผา้ เช็ดตัวและผ้าปูที่นอน ร้อยละ 48 และการใช้
ผลติ ภณั ฑอ์ าหารในทอ้ งถิน่ รอ้ ยละ 31
6
1.4 การปรบั ตวั สู่โรงแรมทีเ่ ปน็ มิตรกับสง่ิ แวดล้อมหลังสถานการณ์ COVID-19
การท่องเที่ยวและโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมย่ิงมีความสาคัญมากยิ่งขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา-19 หรอื COVID-19 ทกี่ ารเดนิ ทางทว่ั โลกชะงักงันอยา่ งสน้ิ เชงิ แมแ้ ตใ่ นแต่ละประเทศ ซึ่งรวมถึงการเดินทางเพ่ือ
การท่องเท่ียวด้วย ผลกระทบจึงเกิดขึ้นกับโรงแรมด้วยเช่นกัน จากข้อมูลของศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเท่ียว กระทรวง
การท่องเที่ยวและกีฬา ในปี พ.ศ. 2563 มจี านวนนกั ท่องเท่ยี วต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพียง 6.7 ล้านคน ทั้งจานวนและ
รายได้หดตัวร้อยละ 83 โดย UNWTO คาดว่า การเดินทางท่องเท่ียวระหว่างประเทศทั่วโลก จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
ในปี 2566 เป็นอยา่ งเรว็ ทส่ี ดุ แต่ก็ยงั ไม่สามารถฟื้นตวั กลบั เข้าสรู่ ะดับปกตไิ ดเ้ ชน่ เดมิ
ศนู ย์วจิ ยั กรุงศรีอยุธยาได้เสนอ Megatrend ที่มีอิทธิพลต่อการท่องเท่ียวว่า
COVID-19 ส่งผลกระทบต่อปัจจัย 4 ด้าน ประกอบด้วย (1) การเปลี่ยนแปลง
ทางด้านประชากรและสังคม (2) การปรับการท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์รายบุคคล
(3) การนาเทคโนโลยีมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดาเนินธุรกิจและระบบควบคุม
อัตโนมัติ และ (4) สุขภาพและความสะอาดมาอันดับหนึ่ง โดยในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับ
โรงแรม คือ ประเดน็ สขุ ภาพและอนามัยมาอนั ดับหน่ึง (Health and hygiene) โดย
เสนอวา่ ธุรกิจทอ่ งเทีย่ วและโรงแรมในอนาคตจะให้ความสาคัญกับความปลอดภัย
ด้านสุขภาพและอนามัยมากขึ้น เน่ืองจากหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19
นักท่องเท่ียวจะให้ความสาคัญเพิ่มขึ้นกับนโยบายด้านสาธารณสุขของจุดหมาย
ปลายทางและการจัดการสขุ ภาพอนามยั ของสถานทที่ อ่ งเที่ยว
ข้อมูลจาก thebangkokinsight.com ได้วิเคราะห์การฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 ว่า การท่องเท่ียวในประเทศจะ
กลับมาก่อน ส่วนระหว่างประเทศค่อย ๆ ฟื้นตัว โดยนักท่องเท่ียวไทยเป็นกลุ่มลูกค้าหลักมาช่วยเพิ่มอัตราการจองห้องพัก
โดยตรงใหก้ ับโรงแรม สว่ นใหญจ่ ะจองผา่ นแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ต่าง ๆ ข้อมูลจาก Changing Traveller Report เสนอว่า
นักท่องเที่ยวชาวไทยเกือบ 60 % ระบุว่า ผลจากสถานการณ์โควิด-19 ทาให้วางแผนการจองท่ีพักภายในประเทศล่วงหน้า
เพียงไม่กี่วัน หรือไม่กี่สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง ซ่ึงคาดว่าจะเป็นเทรนด์ท่ีนิยมต่อเน่ืองในหมู่นักท่องเที่ยว นอกจากน้ี
นักท่องเท่ียวยังมีความต้องการเพ่ิมขึ้นในการยกเลิก/แก้ไขการจองที่พักท่ีมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพ่ือความอุ่นใจสาหรับ
นักท่องเท่ียวท่ีมีความรอบคอบในการวางแผนการท่องเที่ยว จะเห็นว่า วิกฤตท่ีเกิดข้ึนทาให้ธุรกิจโรงแรมท่ัวโลกต้องปรับ
แนวทางการทาธรุ กจิ คร้งั ใหญแ่ บบทไ่ี มเ่ คยเกิดขนึ้ มากอ่ น
7
ในที่สุดแลว้ เมอ่ื นกั ทอ่ งเทย่ี วสามารถกลบั มาทอ่ งเที่ยวได้อีกคร้ัง จะมีนักท่องเท่ียวจานวนมากที่จะมองหาการท่องเท่ียว
ทเ่ี ป็นมิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม “การทอ่ งเท่ยี วแบบยงั่ ยนื จะกลายมาเปน็ ปัจจัยสาคัญของนักท่องเทย่ี วชาวไทยและชาวต่างชาติ”
ข้อมูลจาก Agoda ระบุว่า 78 % ของคนไทย ต้องการที่จะท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยสถานท่ีท่องเที่ยวยอดนิยมยังคงเป็น
สถานที่ท่องเที่ยวทะเล รวมถึงสถานท่ีท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ในขณะที่ Booking.com สารวจนักเดินทางกว่า 20,000 คน
จาก 28 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ผลสารวจคาดการณ์แนวโนม้ ว่า นักเดินทางชาวไทยเปน็ หนึ่งในนักเดินทางที่มอง
โลกในแง่ดี ต้องการเดินทางท่องเที่ยวท่ีมีมาตรฐานความปลอดภัยดี ซึ่งอุตสาหกรรม
การทอ่ งเท่ียวจะต้องปรับตัวให้ทันกับความต้องการท่ีเปลี่ยนไปของนักเดินทาง นอกจากน้ี
คนไทยยังเช่ือมั่นในเทคโนโลยีมากที่สุดในบรรดานักเดินทางท่ัวโลก โดย 81 % ยอมรับ
ว่าเทคโนโลยีมีส่วนสาคัญในการควบคุมความเสี่ยงด้านสุขอนามัยระหว่างการเดินทาง
ทอ่ งเทยี่ ว และเลอื กปฏบิ ัตติ ามหลกั เกณฑด์ า้ นความปลอดภัยทางสุขภาพ โดยนักท่องเที่ยว
ชาวไทย 86 % ยอมให้ตรวจสุขภาพเมื่อเดินทางถึงที่พัก อีก 87 % ยอมสวมหน้ากาก
อนามัยในที่สาธารณะ และ 86 % เลือกจองเฉพาะที่พัก ท่ีระบุข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการ
ด้านสขุ ภาพและอนามัยไว้อย่างชดั เจน
การท่องเท่ยี วแหง่ ประเทศไทย (ททท.) รายงานโดย www.p ptvhd36.com พบว่ามี 4 ปัจจัยสาคัญท่องเที่ยวใน
วิถีใหม่ “BEST” หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข พฤติกรรมแบบ “BEST” เป็นตัวเปลี่ยน
พฤติกรรมในการเดินทางของนักท่องเท่ียว พฤติกรรมที่ 1 คือ B-Booking (in advance) วางแผนล่วงหน้าและจองก่อน
ลว่ งหนา้ ได้แก่ การจดั สรรคนร่วมคณะเดินทาง วนั เวลาและค่าใชจ้ ่าย และอยู่ภายใต้การจากัดจานวนและเงื่อนไขการบริหาร
พ้ืนทีแ่ บบเวน้ ระยะห่าง พฤติกรรมท่ี 2 คือ E–Environment หรือการท่องเท่ียวแบบใส่ใจรับผิดชอบต่อสังคมและส่ิงแวดล้อม
เพอื่ แกป้ ัญหาจากการท่องเท่ียวทีก่ ่อใหเ้ กดิ มลภาวะ อนุรักษ์รักษาธรรมชาติให้ดียิ่งขึ้น พฤติกรรมที่ 3 คือ S-Safety (Come
first) ให้ความสาคัญกบั ความปลอดภยั มากข้ึน เพอื่ ใหส้ ามารถป้องกันตัวเองและช่วยป้องกันไมใ่ ห้ไวรัสโควิด-19 แพร่กระจาย
สคู่ นอนื่ โดยนกั ทอ่ งเท่ยี วจะใหค้ วามระมดั ระวงั สุขภาพ และสวมใส่หนา้ กากอนามัย รวมไปถงึ การใหค้ วามสาคัญกบั การลา้ งมอื
หรือใช้เจลล้างมือ และการกาหนดระยะห่าง และ พฤติกรรมท่ี 4 คือ T-Technology (enhanced tourist experiences)
หรอื เทคโนโลยสี ร้างความม่นั ใจและเสริมสรา้ งประสบการณท์ อ่ งเทย่ี วทมี่ คี ณุ ค่า ตอ่ ไปเทคโนโลยีดิจิทัลจะมีความจาเป็นสาหรับ
การท่องเท่ียว พร้อมกันน้ี การสร้างมาตรฐานเพื่อให้ความม่ันใจกับนักท่องเท่ียวด้วยมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand
Safety & Health Administration) เพ่ือสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับนักท่องเท่ียวหรือผู้มาใช้บริการ ก็ถือเป็นอีกหน่ึง
ปจั จัยสาคัญทผ่ี ปู้ ระกอบการพงึ ทา เพือ่ สร้างความม่ันใจใหก้ ับนกั ท่องเท่ียว
8
2.
Green Hotel : โรงแรมท่เี ป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อม
2.1 การดาเนนิ งาน Green Hotel ของกรมส่งเสริมคุณภาพสง่ิ แวดล้อม
แนวทางเลือกสู่การท่องเท่ียววิถีใหม่ จะหันมาให้ความสนใจใน
การใช้บริการ “Green Hotel : โรงแรมท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
ท่ีสอดคล้องกับแนวคิดใหม่ คือ “โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ย่ังยืน BCG”
ที่จะเน้นการขับเคล่ือนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และ
เศรษฐกิจสีเขียว สร้างความม่ันคง ม่ังค่ัง และย่ังยืน ต่อระบบเศรษฐกิจใน
ระยะยาว จากแนวคิดดังกล่าว เป็นอีกหน่ึงทางเลือกใหม่ท่ีน่าสนใจสาหรับภาคการท่องเท่ียว โดยพบว่ามีธุรกิจโรงแรมหรือ
โฮมสเตย์ท่ีพัก ชูประเด็นเพื่อส่ิงแวดล้อม ใช้จุดขายเชิงอนุรักษ์ และความย่ังยืน ซ่ึงได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยว
ปัจจุบันการขยายตัวของผู้บริโภคท่ีใส่ใจส่ิงแวดล้อม กระตุ้นให้การท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ (Ecotourism หรือ Green Travel)
ขยายตัวตามไปด้วย ดงั นั้น กิจการโรงแรมซึง่ ตอ้ งใช้ทรัพยากรจานวนมาก จึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องให้ความสาคัญต่อส่ิงแวดล้อม
นอกจากเป็นการช่วยดแู ลโลกแลว้ ยังตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของลกู คา้ ซึง่ ได้ปรบั เปลี่ยนพฤติกรรมการใชช้ ีวติ ที่เปน็ มิตรต่อ
สง่ิ แวดล้อมมากขน้ึ ขณะเดียวกันกจิ การที่ใหค้ วามใส่ใจตอ่ สิ่งแวดล้อมยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับองค์กรน้ัน ๆ รวมท้ังสร้าง
ความรูส้ กึ ทดี่ แี ก่ลกู คา้ ซง่ึ เป็นส่วนสาคัญของการดาเนนิ กิจการภายใตห้ ลักจริยธรรมและการจดั การทีด่ โี ดยรับผิดชอบต่อสังคม
หรอื CSR : Corporate Social Responsibility
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ริเริ่มโครงการส่งเสริมโรงแรมท่ี
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Hotel) ต้ังแต่ปี 2556 เป็นต้นมา และดาเนินโครงการมาอย่างต่อเน่ือง มีเป้าหมายเพ่ือ
ส่งเสริมศักยภาพสถานประกอบการ ให้เกิดการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ มีการจัดการ
ส่งิ แวดล้อมทด่ี ี ยกระดับมาตรฐานการบรกิ าร พรอ้ มขยายจานวนเครือขา่ ยโรงแรมทเ่ี ปน็ มติ รกับส่งิ แวดล้อมมากข้นึ เพ่อื รองรบั
มาตรการการจัดซ้ือจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานภาครัฐ และการบริโภคท่ีเป็นมิตรกับ
ส่งิ แวดล้อม ตลอดจนเพื่อเตรยี มความพรอ้ มสกู่ ารประเมินมาตรฐานสิง่ แวดล้อมในระดับสากล อันจะทาให้เกิดการพัฒนาและ
ส่งเสรมิ การทอ่ งเท่ียวของประเทศอย่างยั่งยนื และลดการปล่อยกา๊ ซเรือนกระจกต่อไป
9
2.2 เกณฑ์โรงแรมที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม (Green Hotel)
เกณฑโ์ รงแรมทเ่ี ป็นมติ รกับสิ่งแวดลอ้ ม มี 7 หมวด ประกอบด้วย
หมวดที่ 1 นโยบายด้านการบริการทเ่ี ปน็ มติ รกบั ส่ิงแวดล้อม : หมายถึง หลักการหรือวิธีปฏิบัติท่ีสถานประกอบการ
ใช้เป็นแนวทางในการดาเนินงานด้านการบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม เช่น การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม
การจัดการส่ิงแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน การมีส่วนร่วมกับท้องถ่ินและชุมชน เป็นต้น โดยผู้บริหาร และพนักงานร่วม
ดาเนินการให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายทีก่ าหนดไว้
หมวดที่ 2 การพฒั นาบุคลากร : หมายถงึ วิธกี ารหรือกระบวนการ หรอื กิจกรรมต่าง ๆ ที่ดาเนินการเพื่อเพิ่มพูนให้
บุคลากรในสถานประกอบการ เกิดความรู้ ความสามารถ และทักษะในการทางานด้านการบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เช่น การจัดซ้ือจัดจ้างที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม การจัดการส่ิงแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน การมีส่วนร่วมกับท้องถ่ินและ
ชุมชน เป็นต้น เพ่ือเสรมิ สร้างเจตคติทดี่ ใี นการปฏบิ ัตงิ านและใหม้ ีการดาเนินงานบรรลเุ ป้าหมายท่ีวางไว้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
หมวดท่ี 3 การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ : หมายถึงการส่ือสารข้อมูล และข่าวสารด้านการบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เช่น การจัดซ้ือจัดจา้ งท่เี ป็นมิตรกบั สิง่ แวดล้อม การจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม การอนุรักษ์พลังงาน การมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นและชุมชน
เป็นต้น ไปสกู่ ลุม่ เปา้ หมาย (ผบู้ รหิ าร พนกั งาน และผใู้ ช้บริการ) เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดี ความร่วมมือและสนับสนุนจาก
กลมุ่ เปา้ หมาย และเพอื่ เสรมิ สรา้ งภาพลักษณ์ท่ีดีของสถานประกอบการ
หมวดที่ 4 การจัดซื้อจัดจ้างท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม : หมายถึง การจัดซ้ือหรือจัดจ้างผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ซ่ึงคานึงถึงความเหมาะสมด้านคุณภาพ ราคา ระยะทาง การสง่ มอบสินค้าหรือบริการตามที่กาหนด และการลดผลกระทบต่อ
ส่ิงแวดลอ้ ม โดยพิจารณาตลอดท้งั วัฏจกั รชีวติ ของผลิตภณั ฑ์การจดั ซอื้ จัดจ้างสเี ขยี ว
หมวดท่ี 5 การจัดการส่ิงแวดล้อมและพลังงาน : หมายถึง การดาเนินงานใด ๆ ที่สามารถใช้ทรัพยากรได้แบบย่ังยืน
หรอื มกี ารกาจดั ของเสยี และมลพิษให้หมดไป หรือเส่ือมสภาพไป หรือไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบ เช่น การลด
การใชน้ า้ การอนรุ ักษ์พลังงาน การจัดการพื้นที่สเี ขยี ว การบาบัดน้าเสีย การลดและกาจัดขยะ การป้องกนั มลภาวะทางอากาศ
และเสยี ง อาชีวอนามัยและความปลอดภยั
หมวดที่ 6 การมีส่วนร่วมกับท้องถ่ินและชุมชน : หมายถึง การมีส่วนร่วมของสถานประกอบการกับท้องถิ่นและ
ชุมชนในพ้ืนที่ทีส่ ถานประกอบการตง้ั อยู่ ท้งั การรว่ มรับรู้ รว่ มคิด รว่ มดาเนนิ การ ในกิจกรรมด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ้ ม เช่น การอนรุ กั ษ์และฟน้ื ฟทู รัพยากรธรรมชาติ การรักษาส่ิงแวดล้อม และการสร้างคุณค่าด้านประวัติศาสตร์
ทอ้ งถ่นิ หรอื ศิลปวฒั นธรรม หรอื เอกลกั ษณ์ของทอ้ งถนิ่ เป็นต้น
หมวดที่ 7 การประเมินประสิทธิภาพเพื่อการปรับปรุง (เฉพาะสาหรับสถานประกอบการที่ได้รับการประเมิน
ระดับ G-Gold และตอ้ งการต่ออายกุ ารรบั รอง) ดาเนนิ งานดา้ นการให้บริการที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมเพื่อนาข้อมูลดังกล่าว
ไปปรบั ปรงุ การดาเนนิ งาน
10
เกณฑ์โรงแรมทเ่ี ปน็ มติ รกับสิง่ แวดล้อม ประกอบด้วย 18 ประเดน็ 46 ตัวชีว้ ดั ดังนี้
ประเดน็ ตัวช้วี ดั
หมวดท่ี 1 นโยบายดา้ นการบริการท่ีเป็นมติ รกบั สิ่งแวดล้อม
1.1 การกาหนดนโยบาย 1.1.1 มีนโยบายและเป้าหมายดา้ นการบรกิ ารทเ่ี ป็นมติ รกับส่งิ แวดลอ้ ม
1.1.2 มีนโยบายและเปา้ หมายด้านการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน
1.2 คณะทางานและแผน 1.2.1 มีการแตง่ ตง้ั ผบู้ ริหารรับผิดชอบการบรกิ ารท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม
การดาเนินงาน 1.2.2 มีการแต่งตงั้ คณะทางานดา้ นสิง่ แวดล้อม “Green Team” และมีการกาหนดความรับผิดชอบของแต่ละ
แผนกเพ่อื รองรับการบริการที่เปน็ มติ รกับส่งิ แวดล้อม
1.2.3 ความถ่กี ารประชุมของคณะทางานด้านสิ่งแวดล้อมเพ่ือกาหนดทิศทางกิจกรรม แผนงาน และการติดตาม
ความกา้ วหนา้ ในการดาเนนิ งานอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
หมวดที่ 2 การพัฒนาบุคลากร
2.1 การฝึกอบรม 2.1.1 มีการจัดอบรมใหก้ บั พนักงาน และหรือส่งพนักงานไปอบรมเรื่องการบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมใน
สถานประกอบการประเภทโรงแรม
2.2.2 รอ้ ยละของพนักงานท่ีไดร้ บั การอบรมเมอ่ื เทียบกบั จานวนพนักงานท้งั หมดภายใน 1 ปี ที่ผ่านมา
2.2 การศึกษาดงู าน 2.2.1 มีการศึกษาดูงานให้กับคณะทางานด้านสิ่งแวดล้อม “Green Team” เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมและ
การอนุรกั ษพ์ ลังงาน
2.2.2 ร้อยละของคณะทางานดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม “Green Team” ท่ีได้รับการศึกษาดูงาน ภายใน 1 ปี ท่ผี ่านมา
หมวดที่ 3 การณรงค์ประชาสมั พันธ์
3.1 การรณรงค์ประชาสมั พนั ธ์ 3.1.1 มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการจัดการส่ิงแวดล้อมและการอนุรักษ์
แกพ่ นักงาน พลงั งานกับพนักงานในรอบปที ีผ่ ่านมา
3.1.2 มีการจัดกจิ กรรมรณรงค์ เพ่ือสร้างการมีส่วนร่วมในการจัดการส่ิงแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงานกับพนักงาน
ในรอบปีทผ่ี า่ นมา
3.2 การรณรงค์ 3.2.1 มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และสร้างความตระหนักเก่ียวกับการจัดการส่ิงแวดล้อมและการอนุรักษ์
ประชาสัมพันธ์ พลังงานของโรงแรมผ่านโปสเตอร์ แผ่นพับ การ์ดหรือสติ๊กเกอร์ในห้องพัก กระดาษเอกสาร หรือ
แกผ่ ู้ใชบ้ รกิ ารท่วั ไป นทิ รรศการ
3.2.2 มกี ารจัดกจิ กรรมรณรงคเ์ พอื่ สรา้ งการมีสว่ นรว่ มในการจัดการสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงานให้แก่
ผใู้ ชบ้ ริการ
11
ประเดน็ ตัวชว้ี ดั
หมวดที่ 4 การจดั ซ้ือจดั จ้างทีเ่ ป็นมิตรกับส่ิงแวดลอ้ ม
4.1 การเลอื กใชผ้ ลิตภัณฑ์ที่ 4.1.1 รอ้ ยละของสนิ ค้าและบริการท่ีเปน็ มิตรกบั สงิ่ แวดล้อมท่ีใชใ้ นโรงแรม
เปน็ มิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม 4.1.2 ร้อยละของผลิตภัณฑ์หรือวัสดุท่ีหาได้ในท้องถิ่นหรือในจังหวัดท่ีสถานประกอบการตั้งอยู่ แบ่งเป็น ข้าว
หรอื วสั ดุท้องถิ่น อาหารสด อาหารแหง้ ผัก และผลไม้ทมี่ กี ารใชใ้ นโรงแรม
4.2 การจดั ซอ้ื จัดจา้ ง 4.2.2 มกี ารรายงานข้อมูลการจดั ซอื้ จดั จ้างสินค้าและบรกิ ารท่ีเป็นมิตรกบั สง่ิ แวดล้อมตอ่ ผู้บริหารของโรงแรม
หมวดที่ 5 การจดั การส่ิงแวดล้อมและพลงั งาน
5.1 การจดั การน้า 5.1.1 มกี ารดาเนินกจิ กรรมการลดการใชน้ ้าสาหรับผใู้ ช้บริการและพนักงาน
5.1.2 มีการใช้อุปกรณ์ประหยัดน้า หรือการจัดการน้าในบริเวณต่าง ๆ ท่ีมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับ
สถานประกอบการ
5.1.3 มีการนาน้าที่ผ่านการใช้แล้ว หรือน้าที่ผ่านการบาบัดฟ้ืนฟูคุณภาพแล้วมาใช้ประโยชน์ ที่เหมาะสมและ
ปลอดภัยเพอื่ ลดการใชน้ ้า
5.1.4 มีการรายงานข้อมูลสถิติการใช้น้าหรือค่าใช้จ่ายท่ีเป็นระบบ เพ่ือประโยชน์ในการติดตามการใช้น้าหรือ
การอนุรักษ์นา้ ต่อผู้บรหิ าร
5.1.5 มีการกาหนดเปา้ หมายการลดการใช้น้าและปฏิบัติได้ตามเป้าหมายทีต่ ง้ั ไว้
5.2 การจัดการนา้ เสยี 5.2.1 มีการจดั การเศษอาหาร น้ามัน และไขมนั กอ่ นเข้าสู่ระบบบาบัดน้าเสยี อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
5.2.2 มรี ะบบบาบดั นา้ เสยี หรือวธิ กี ารจดั การนา้ เสยี ทเ่ี หมาะสม
5.3 การจัดการขยะ 5.3.1 มีการดาเนินการเพ่ือลดการเกิดขยะ (reduce) สาหรับผู้ใช้บริการ พนักงาน และบริษัทคู่ค้า ซ่ึงจัดหา
สินคา้ และบริการให้กบั โรงแรม
5.3.2 มกี ารใชซ้ ้า (reuse) สาหรบั ผใู้ ชบ้ ริการและพนักงานในโรงแรม
5.3.3 มกี ารคดั แยกเพื่อนากลบั ไปใช้ใหม่ สาหรับผูใ้ ชบ้ รกิ ารและพนักงาน
5.3.4 มรี ะบบรวบรวมและสง่ ขยะกาจดั อย่างเหมาะสม
5.3.5 มกี ารรายงานข้อมลู และสถิตดิ ้านการจดั การขยะต่อผ้บู ริหาร
5.3.6 รอ้ ยละของปรมิ าณขยะทนี่ ากลบั มาใช้ประโยชน์
5.4 การจดั การพลงั งาน 5.4.1 มีกจิ กรรมการลดการใชพ้ ลังงานในสถานประกอบการ
5.4.2 มกี ารใช้เทคโนโลยหี รืออปุ กรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานในบริเวณต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพและ
เหมาะสมกับสถานประกอบการ
12
ประเด็น ตัวชว้ี ดั
5.4.3 มีการประหยดั พลังงานของผเู้ ขา้ ใช้บริการหรือพนกั งานในการเดินทาง
5.4.4 มีการรายงานข้อมลู และสถติ กิ ารใชพ้ ลงั งานหรอื คา่ ใช้จ่ายดา้ นพลงั งานเพ่ือการติดตามการใช้หรือการลด
ใช้พลงั งานต่อผบู้ ริหาร
5.4.5 มกี ารกาหนดเป้าหมายลดการใช้พลงั งานและปฏบิ ตั ิได้ตามเป้าหมายท่ตี ้ังไว้
5.5 การจัดการอากาศ 5.5.1 มกี ารจดั การพนื้ ท่ีเพ่ือปอ้ งกนั เสียงรบกวนสู่ภายนอก
และเสยี ง 5.5.2 มกี ารป้องกนั กลิน่ ควนั และฝุ่นละออง
5.6 อาชวี อนามัยและ 5.6.1 มีการจดั การอาชวี อนามยั และความปลอดภัย
ความปลอดภยั
5.7 การจัดการพนื้ ท่ีสีเขยี ว 5.7.1 สัดส่วนของพื้นท่ีว่างหรือพ้นื ท่ีที่ไม่มอี าคารปกคลุมตอ่ พืน้ ทโี่ รงแรม
และภมู ิทัศน์ 5.7.2 สัดสว่ นของพื้นทีส่ เี ขยี วต่อพ้ืนทโ่ี รงแรม
5.7.3 มกี ารปลกู ไม้ทอ้ งถ่ินและมีการใช้ประโยชน์ในการตกแต่งพ้ืนที่โรงแรม หรือมีการขยายกล้าไม้เพ่ือเพาะปลูก
ในโรงแรม
หมวดท่ี 6 การมสี ว่ นร่วมกบั ท้องถ่ินและชุมชน
6.1 การมีสว่ นร่วมกบั ทอ้ งถนิ่ 6.1.1 ร้อยละของพนักงานที่มีภูมิลาเนาในจังหวัด หรือมีการย้ายทะเบียนบ้านเข้าภายในองค์กรปกครองส่วน
และชุมชน ทอ้ งถ่ินทีโ่ รงแรมตง้ั อยู่
6.1.2 ความถี่ในการมีส่วนร่วมและสนับสนุนกิจกรรมของท้องถ่ินและชุมชนด้านการรักษาส่ิงแวดล้อม หรือ
อนุรกั ษแ์ ละฟน้ื ฟทู รพั ยากรธรรมชาติ
6.1.3 ความถ่ีในการมีส่วนร่วมและสนับสนุนกิจกรรมของท้องถ่ินและชุมชนด้านประวัติศาสตร์ ประเพณี
ศิลปวฒั นธรรม เอกลักษณข์ องท้องถ่ิน
6.1.4 มกี ารใช้และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ใช้และของที่ระลึกท่ีเป็นของพื้นเมืองหรือหาได้ในท้องถิ่น แต่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์
จากปา่ หรือทะเล
หมวดท่ี 7 การประเมินประสทิ ธิภาพเพื่อการปรบั ปรงุ
(เฉพาะสถานประกอบการที่ได้รับการประเมินระดับ G-Gold และตอ้ งการต่ออายุการรับรอง)
7.1 การสารวจความพึงพอใจ 7.1.1 มีการสารวจความพึงพอใจต่อการให้บริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมและนาผลการสารวจไปปรับปรุง
การดาเนินงาน (*บังคับ)
7.2 การประเมินการระบายกา๊ ซ 7.2.1 มกี ารประเมนิ การระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเทา่ (*บงั คับ)
คารบ์ อนไดออกไซด์เทียบเท่า
13
การแบง่ ระดบั ผลการประเมนิ แบง่ ออกเป็น 3 ระดบั ตามชว่ งช้นั คะแนน ดงั น้ี
1) ระดับทอง รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป
2) 2) ระดบั เงนิ รอ้ ยละ 70-79
ร้อยละ 60-69
3) ระดับทองแดง
14
3.
การกาหนดนโยบาย เป้าหมาย และการพฒั นาสู่ Green Hotel
3.1 “นโยบายสงิ่ แวดล้อม คือ...???”
นโยบายส่ิงแวดล้อม (Environmental Policy) คือ แถลงการณ์ของ
โรงแรมแสดงถึงความตงั้ ใจ มุ่งมั่น และหลักการในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมท่ีดี
นโยบายจึงเป็นกรอบสาหรับการดาเนินการของโรงแรม และเป็นกลไกสาคัญใน
การขับเคล่ือนในการปฏิบัติและปรับปรุงระบบการจัดการส่ิงแวดล้อมของโรงแรม
เพอ่ื การปฏิบัตติ ามกฎหมายและปรับปรุงการจดั การส่งิ แวดลอ้ มใหด้ ีข้นึ เรอ่ื ย ๆ
3.2 เราควรกาหนดนโยบายส่งิ แวดล้อมอย่างไร?
ผู้บริหารระดับสูง ควรเป็นผู้กาหนดนโยบายส่ิงแวดล้อมของโรงแรม
หรือให้ทิศทางแล้วมอบหมายให้คณะทางานจัดทา (ร่าง) นโยบายและเสนอให้
พิจารณากาหนดนโยบายส่ิงแวดล้อม สาระของนโยบายส่ิงแวดล้อมควรพิจารณา
อย่างรอบคอบ เนือ่ งจากแตล่ ะโรงแรมมีเป้าหมายและปรัชญาในการดาเนินงาน
แตกต่างกัน โดยนโยบายจะต้องนาสู่การปฏิบัติได้ มีความเฉพาะเจาะจง และ
เป็นที่ประทับใจของลูกค้าหรือผู้เก่ียวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนหรือคู่แข่ง
ทางธุรกิจ นโยบายสิ่งแวดล้อมควรมีพื้นฐานจากการทบทวนสถานะเบ้ืองต้น
ด้านส่ิงแวดล้อม นโยบายจะไม่มีความหมายเลย หากไม่แสดงความมุ่งม่ันใน
การดาเนินงานทีจ่ ะปรับปรงุ และพฒั นาสิ่งแวดล้อม
15
เอกสารนโยบายส่ิงแวดล้อม แสดงถึงความมุ่งม่ันของโรงแรม
มักเป็นวิสัยทัศน์ของโรงแรมมากกว่านโยบาย ซึ่งในวิสัยทัศน์จะรวมถึง
การกาหนดวัตถุประสงค์ทางด้านสิ่งแวดล้อมไว้ด้วย โดยมากเอกสาร
นโยบายสิง่ แวดลอ้ มจะถูกระบไุ ว้ในคู่มอื สิง่ แวดลอ้ ม ซงึ่ เป็นเอกสารระดับ
สูงสุดของโรงแรม อย่างไรก็ตาม การเผยแพร่นโยบายโดยส่วนใหญ่
โรงแรมจะติดประกาศนโยบายไวท้ ี่ต่าง ๆ ในโรงแรมดว้ ย
3.3 เราจะเผยแพร่นโยบายสิ่งแวดลอ้ มอย่างไร
การเผยแพร่ภายในโรงแรม : ต้องทาความเข้าใจนโยบายสิ่งแวดล้อม
ให้แก่พนักงานทุกคน ทุกระดับ รวมทั้งผู้รับเหมาท่ีเข้ามาทางานในพ้ืนที่ของ
โรงแรมด้วย แล้วให้นานโยบายไปปฏิบัติอย่างจริงจัง สม่าเสมอ เพ่ือให้พนักงานรู้
วิธีการดาเนินงานที่ถูกต้องตามนโยบายดังกล่าว รู้ว่ากิจกรรมที่ตนทานั้น ส่งผล
กระทบอะไรต่อส่ิงแวดล้อมบ้าง และมีแนวทางในการดาเนินการเพื่อควบคุม
ปัญหาสง่ิ แวดล้อมนน้ั อย่างไร โดยอาจจดั ทาเป็นคมู่ ือพนกั งาน การอบรมพนักงาน
หรือการติดประกาศ เปน็ ต้น
การเผยแพร่สู่สาธารณะ : นโยบายส่ิงแวดล้อมสามารถเปิดเผยต่อสาธารณชน โดยอาจทาเป็นเอกสาร ข่าวสาร หรือ
หนังสอื พมิ พ์ และการเผยแพร่ดว้ ยชอ่ งทางและสอ่ื ต่าง ๆ ต่อชุมชนโดยรอบ อาจจัดทาป้ายขนาดใหญ่หรือส่งเอกสารเผยแพร่อ่ืน ๆ
กไ็ ด้ โดยเนน้ ใหค้ วามสาคญั กบั ผทู้ เี่ ก่ียวข้องกับโรงแรม
3.4 หลักการของนโยบายส่ิงแวดลอ้ มที่ดี
ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูงของโรงแรม ซึ่งอาจแสดงได้โดยการแถลงหรือลงนามของผู้บริหาร
รวมทั้งความมุง่ มั่นในการปฏิบตั ใิ หเ้ กดิ ผลเป็นรูปธรรมตามนโยบายทเี่ กิดข้ึน
มกี ารปรบั ปรุงหรือพัฒนาการจดั การสงิ่ แวดล้อมตามระยะเวลาท่เี หมาะสม
เผยแพรน่ โยบายส่ิงแวดล้อมสสู่ าธารณชนภายนอก
ไดร้ บั การทบทวนให้ทนั สมยั อยู่เสมอ และตอ้ งได้รบั การตรวจสอบว่ายงั มกี ารปฏิบัติอยา่ งสม่าเสมอ
16
นโยบายสิง่ แวดล้อมท่ีดี ควรจัดทาเป็นลายลักษณ์อักษร มีการลงนามโดยผู้บริหารระดับสูงสุด รวมท้ังลงวัน เดือน ปี
ท่มี ผี ลบงั คับใชด้ ว้ ย และครอบคลุมประเด็นดังตอ่ ไปนี้
เหมาะสมกบั ลักษณะ ขนาด และผลกระทบดา้ นสิ่งแวดล้อมอันเกดิ จากกจิ กรรมหรือบรกิ ารของโรงแรม
แสดงความมงุ่ มัน่ ทจี่ ะจดั การดา้ นส่ิงแวดล้อมของโรงแรม การป้องกันและบาบัดมลภาวะ การใช้ประโยชน์จาก
ของเสยี การใชท้ รัพยากรและพลงั งานทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพ
แสดงถงึ ความม่งุ มั่นตอ่ การปฏิบตั ติ ามกฎหมาย และข้อบังคับ รวมถงึ ขอ้ กาหนดตา่ ง ๆ
เปน็ แนวทางทใี่ ชใ้ นการกาหนดและทบทวน วตั ถปุ ระสงค์และเปา้ หมายดา้ นสง่ิ แวดล้อม
มกี ารบนั ทกึ ไว้ และนาไปสือ่ สารต่อพนักงานทกุ คน
เปดิ เผยต่อสาธารณชน เช่น ปิดประกาศไว้ในหอ้ งโถง และมแี จกถา้ มผี ูข้ อดู
สาหรับ Green Hotel แล้ว นโยบายด้านการบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม หมายถึง หลักการหรือวิธีปฏิบัติท่ี
สถานประกอบการใช้เป็นแนวทางในการดาเนินงานด้านการบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยผู้บริหารและพนักงานร่วม
ดาเนินการให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายท่กี าหนดไว้ ที่สาคญั ควรประกอบด้วย “นโยบายด้านการบริการที่เป็นมิตรกับ
สิ่งแวดล้อม” และ “นโยบายด้านการอนรุ กั ษ์พลงั งาน" โดยในนโยบายแต่ละด้าน ควรกาหนดท้ังเป้าหมายและกาหนดเวลา
ในการดาเนินงานตามเป้าหมายด้วย และยังรวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม การจัดการส่ิงแวดล้อม และ
การมสี ว่ นรว่ มกบั ทอ้ งถนิ่ และชมุ ชน
17
3.5 Green Team กลไกเชิงรุกในการจัดการสู่ Green Hotel
การขับเคลื่อนโรงแรมสู่ Green Hotel นอกเหนือจากการมีนโยบายและ
เป้าหมายท่ีมุ่งมั่นในการบริการท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อมแล้ว กลไกการขับเคล่ือนท่ี
สาคัญท่ีจะนานโยบายและเปา้ หมายท่ีกาหนดไว้ ไปสู่การปฏิบัติจริง และส่งผลให้เกิดขึ้น
อย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้กลไกของกลุ่มคณะทางานเชิงรุกในรูปแบบของคณะทางาน
ขบั เคลอื่ นโรงแรมสู่ Green Hotel หรืออาจเรยี กวา่ “Green Team”
Green Team จะมีความเข้มแข็ง พิจารณาได้จากความมุ่งม่ันของโรงแรม
ท่ีให้ความสาคัญกับการสนับสนุน ผลักดัน เพ่ือขับเคลื่อนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและ
เปา้ หมายไปสกู่ ารปฏิบตั ไิ ดช้ ดั เจนและต่อเน่อื ง โดยมีผู้บริหารของโรงแรมร่วมรับผิดชอบ
หรือเปน็ ผู้กากับการทางานของ Green team และมีการกาหนดความรับผิดชอบของแต่ละแผนกเพื่อรองรับการบริการท่ีเป็นมิตร
กบั ส่ิงแวดลอ้ ม รวมถึงควบคุมให้ Green Team มีการประชุมเพ่ือกาหนดทิศทางกิจกรรม แผนงานและการติดตามความก้าวหน้า
การดาเนนิ งานอยา่ งต่อเนือ่ ง
3.6 การพัฒนาบุคลากร
Green Hotel ควรมีการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ ความเข้าใจการจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
ในรูปแบบต่าง ๆ ดังน้ี
การสง่ Green Team และพนกั งาน เข้ารว่ มการอบรม สัมมนา ซึ่งจดั โดยหนว่ ยงานภายนอก หรือโรงแรมในเครอื
จัดอบรมภายในสาหรับ Green Team และพนักงาน โดยอาจเชิญวิทยากรจากหน่วยงานภายนอก หรือวิทยากร
ภายในโรงแรมเอง
จดั กิจกรรมการศึกษา/ดูงานให้กับคณะทางานดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม “Green Team”
ควรเน้นให้ความสาคัญกับการพัฒนาด้านการบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์พลังงาน และอ่ืน ๆ
ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับการบรหิ ารจดั การส่งิ แวดล้อมโรงแรม
ควรมีการจดั ทาแผนการพัฒนาบุคลากรท่ีชัดเจน และต่อเนื่อง รวมท้ังมีเป้าหมายในการกระจายโอกาสการพัฒนา
บุคลากรให้ครอบคลมุ พนกั งานของโรงแรมให้มากที่สุด
18
3.7 การรณรงคป์ ระชาสัมพนั ธ์
Green Hotel ควรมีการส่ือสารข้อมูลและข่าวสารด้านการบริการ
ท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และสร้างความตระหนัก
เก่ียวกับการจัดการส่ิงแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงานสู่กลุ่มเป้าหมาย ท้ัง
ผู้บริหาร พนักงาน และผู้ใช้บริการ เพ่ือเสริมสร้างความเข้าใจอันดี ความร่วมมือ
และสนับสนุนจากกลุ่มเป้าหมาย และเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของ
สถานประกอบการ รวมท้ังจัดให้มีกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม
ในการจดั การสงิ่ แวดล้อมและอนรุ ักษ์พลงั งาน ท้ังกับพนักงานและผู้ใช้บริการ
รูปแบบและช่องทางการประชาสัมพันธ์สาหรับพนักงาน เช่น โปสเตอร์ แผ่นพับ จดหมายเวียน เสียงตามสาย
จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ นิทรรศการ การจัดการประชุมกลุ่ม ไลน์กลุ่ม วารสาร/จดหมายข่าว เป็นต้น สาหรับกลุ่มผู้ใช้บริการ
ทั่วไป สามารถประชาสัมพันธ์และรณรงค์/ขอความร่วมมือเก่ียวกับการบริการที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ผ่านโปสเตอร์ แผ่นพับ
การ์ด หรือสตกิ๊ เกอรใ์ นหอ้ งพกั กระดาษเอกสาร หรอื นิทรรศการ เปน็ ต้น
19
4.
การจัดซือ้ จดั จ้างทีเ่ ป็นมติ รกบั สิ่งแวดลอ้ ม Green Procurement
การจัดซื้อจัดจ้างท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ การจัดซ้ือจัดจ้างสีเขียว หมายถึง การจัดซ้ือหรือจัดจ้างผลิตภัณฑ์
หรอื บริการ ซง่ึ คานึงถึงความเหมาะสมด้านคุณภาพ ราคา ระยะทาง การส่งมอบสินค้าหรือบริการตามท่ีกาหนด และการลด
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยพจิ ารณาตลอดทง้ั วฏั จกั รชีวติ ของผลิตภัณฑ์
สาหรับ Green Hotel การจดั ซอื้ จดั จา้ งที่เปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม สามารถทาได้โดย
การเลือกใชส้ ินคา้ และผลติ ภณั ฑใ์ นโรงแรมที่เปน็ มิตรกบั ส่งิ แวดล้อม
การเลือกใช้บริการที่มกี ารดาเนนิ การแบบเปน็ มติ รกบั สง่ิ แวดล้อม
การเลือกใช้สนิ คา้ และผลิตภณั ฑ์ทท่ี าจากวสั ดุในทอ้ งถ่ิน เชน่ ข้าว อาหารสด อาหารแห้ง ผัก และผลไม้ที่มีการใช้
ในโรงแรม
โดยแหลง่ ขอ้ มูลของสนิ ค้าที่ผ่านการรบั รองจากหน่วยงานและมฉี ลากรับรองแสดงบนบรรจุภัณฑ์ ตัวอย่างฉลากและ
เว็บไซตเ์ พอื่ สบื คน้ รายการสินค้า ดงั นี้ ฉลากลดคาร์บอน
http://www.tei.or.th/carbonredu
ฉลากเขียว ctionlabel/rule.html
http://www.tei.or.th/greenlabel/th_index.html
เว็บไซต์ ตะกร้าเขียว ฉลากลดโลกร้อน
http://ptech.pcd.go.th/gp/ http://thaicarbonlabel.tgo.or.th/
reduction_approval/
ฉลากประหยดั ไฟเบอร์ 5 reduction_approval.pnc
http://labelno5.egat.co.th/new58/
20
การจัดซ้อื จดั จา้ งท่ีเปน็ มิตรกบั ส่ิงแวดล้อม มีเป้าหมายส่งเสริมให้โรงแรมเลือกใช้สนิ ค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีในท้องถ่ิน
เพื่อสนับสนุนชุมชน/ร้านค้าในพ้ืนท่ี หรือการผลิตข้ึนภายในโรงแรม รวมท้ังเพื่อสนับสนุนให้มีการลดการขนส่ง/เดินทางด้วย
ระยะทางไกล เปน็ การประหยัดน้ามันเชื้อเพลงิ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ท้ังนี้ เพื่อสามารถทบทวนการดาเนินงาน
และการนามาเพอื่ ปรับแผนการจดั ซือ้ โรงแรมจงึ ควรมีการรายงานข้อมูลการจัดซ้ือจัดจ้างสินค้าและบริการท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ต่อผบู้ ริหารของโรงแรม และผูบ้ ริหาร/ผู้มีอานาจก็ควรได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลการจัดซ้ือจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตร
กับส่ิงแวดล้อม เช่น เอกสารการส่ังซ้ือ รายงานการจัดซ้ือ หรอื ข้อมูลการนาเสนอในการประชมุ ของโรงแรม เปน็ ต้น นอกจากนี้
อาจจดั ทาค่มู ือการจัดซอื้ จัดจ้างที่มกี ารระบเุ ง่อื นไขให้เลอื กสรร/จัดซอ้ื สินคา้ และบรกิ ารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวทาง
ปฏบิ ัตขิ องฝา่ ยจัดซือ้ และสาหรบั สร้างความรคู้ วามเขา้ ใจของพนกั งานโดยทวั่ ไป
ตวั อยา่ งผลติ ภณั ลฑำ์ทดม่ี ักับมีการใชใ้ นโรงแรม รำยกำร สัญลกั ษณ์ รูปสินคำ้
1 นำ้ กะทิ ชำวเกำะ
2 นำ้ ตำลทรำยแดง ตรำมิตรผล 1 กก.
3 นำ้ ตำลทรำยขำว ตรำมิตรผล 1 กก.
4 กลอ่ งชำนออ้ ย
5 ถงุ รกั ษโ์ ลก
21
5.
การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรน้า
นา้ คอื ชีวิต... การอนุรกั ษน์ ้า คือ หนึง่ ในภารกิจ Green Hotel
การบริการของโรงแรม มีหัวใจสาคัญท่ีความสุข สะดวก สบาย ของผู้ใช้บริการ และหน่ึงในการบริการท่ีสาคัญ คือ
การมนี า้ ใช้ท่ีเพยี งพอ แตใ่ นบทบาทของ Green Hotel ซึ่งมีการใชน้ า้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า อันจะส่งผลให้ลดปริมาณการใช้น้า
ทาให้ปริมาณน้าเสียท่ีไปบาบัดลดลง การลดใช้น้าจึงเป็นภารกิจที่ท้าทายของการให้บริการ โดยกิจกรรมอนุรักษ์น้า การใช้น้าอย่าง
มีประสทิ ธิภาพสูก่ ารเป็น Green Hotel ไดแ้ ก่
โรงแรมควรมีการดาเนินกิจกรรมการลดการใช้น้าสาหรับ
ผู้ใชบ้ รกิ ารและพนกั งาน
มกี ารใชอ้ ุปกรณป์ ระหยดั น้า หรือการจัดการน้าในบริเวณต่าง ๆ
ทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพและเหมาะสม
มีการนาน้าที่ผ่านการใช้แล้ว หรือน้าท่ีผ่านการบาบัดฟ้ืนฟู
คณุ ภาพแล้วมาใชป้ ระโยชน์ที่เหมาะสมและปลอดภัยเพื่อลด รณรงค์ใช้ผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอนซ้า เพ่ือลดการใช้น้าและ
สารเคมีในการซกั ลา้ ง
การใช้นา้
มีการรายงานข้อมูลสถิติการใช้น้าหรือค่าใช้จ่ายที่เป็น ก๊อกนา้ ที่มนี า้ หยดตลอดเวลา จะสญู เสียนา้
ระบบ เพื่อประโยชน์ในการติดตามการใช้น้าหรือ ถึง 1,500 ลติ รต่อเดอื น กีอกน้าท่ีปดิ ไม่สนิท มีนา้ ไหล
การอนุรกั ษน์ ้าต่อผบู้ ริหาร เปน็ สายตลอดเวลาจะสูญเสยี นา้ ไมน่ ้อย
กวา่ 10,000 ลิตรต่อเดือน
มีการกาหนดเป้าหมายการลดการใช้น้าและปฏิบัติได้ ชกั โครกท่ลี ูกลอยปิดไมส่ นิท มนี ้าไหลลงโถส้วม
ตามเปา้ หมายทตี่ ัง้ ไว้ ตลอดเวลา จะสญู เสียนา้ มากกว่า 30,000 ลิตรต่อ
เดอื น
22
มาตรการอนุรกั ษน์ ้าในโรงแรม
“ห้องพกั และบรกิ าร”
ประชาสมั พันธ์ และเชิญชวนให้ผู้เข้าพกั ใช้ผา้ ขนหนูและผา้ ปเู ตยี งซ้า
มกี าร์ด สติกเกอรร์ ณรงค์ การประหยัดนา้ ในหอ้ งพกั
“ห้องครัว”
หลีกเลย่ี งการล้างระบบนา้ ล้น
ใสภ่ าชนะในเครอ่ื งลา้ งจานให้เตม็ ความสามารถของเครอ่ื ง เพื่อลดจานวนคร้ังทีใ่ ช้
“โรงซกั รีด”
แยกผ้าท่จี ะซกั ตามความสกปรก เพอื่ ให้มกี ารใชป้ ริมาณนา้ ที่เหมาะสม
ใช้เครอ่ื งซกั ผา้ ให้เตม็ ความสามารถของเคร่ืองและใช้โปรแกรมประหยดั น้า
ตรวจเชค็ ระบบท่อและอปุ กรณเ์ พอื่ ปอ้ งกันการรว่ั ไหลของนา้
“สวน”
เลอื กพชื ทเ่ี หมาะสมกับสภาพอากาศ และตอ้ งการนา้ น้อย
รดนา้ ต้นไมต้ อนเช้าตรู่ หรอื กลางคนื เพ่อื ลดการระเหยของนา้ แทนที่น้าในโถชกั โครกด้วยขวดบรรจนุ า้
ตดิ ตัง้ สปรงิ เกอรต์ งั้ เวลาเปดิ -ปิดน้าอัตโนมัติ หรอื ระบบน้าหยดใหน้ า้ ท่ีราก ขนาด 600 cc ชว่ ยลดปริมาณการใชน้ า้
ใช้นา้ ทีเ่ หลือจากกิจกรรมอื่น เช่น น้าล้างผกั -ผลไม้จากครวั มารดต้นไม้ 600 cc. ตอ่ การกด 1 ครั้ง
มีระบบรวบรวมน้าฝนและนากลับมาใช้ใหม่
มาตรการอ่ืน ๆ
ตรวจสอบการร่ัวไหล โดยปิดป๊มั นา้ และกอ๊ กน้าทั้งหมด หากมิเตอร์น้ายังหมุนอยู่ แสดงว่ามีน้าร่ัว ให้ตรวจหาจุดร่ัว
และทาการซอ่ มแซม
ติดตง้ั มเิ ตอร์นา้ ยอ่ ย เพ่อื ตดิ ตาม ตรวจสอบปรมิ าณการใชน้ า้ สาหรบั พน้ื ที่หรือกจิ กรรมที่มกี ารใชน้ า้ มาก
ใช้ระบบถังพักสารองน้า แทนการใช้เครื่องสบู น้า โดยตรงจากทอ่ และตรวจสอบอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 ครง้ั
รณรงคส์ รา้ งจติ สานกึ ในการประหยดั นา้ อยา่ งจรงิ จังและตอ่ เน่ือง หรอื ใหค้ วามรู้ / อบรมพนกั งาน เป็นตน้
23
เลือกอุปกรณ์ และสขุ ภัณฑป์ ระหยัดนา้ ติดตั้งก๊อกประหยดั และสขุ ภณั ฑ์
ตรวจสอบระบบทอ่ และจดบันทกึ ข้อมลู การใชน้ า้ เปน็ ประจาทกุ วัน มีการนานา้ ทีไ่ หลออกมาจากเคร่ืองปรบั อากาศ มาให้ลกู คา้ ใช้ลา้ ง
เทา้ กอ่ นเข้าหอ้ งพัก เม่ือลกู คา้ กลับมาจากการเดนิ เที่ยวชายหาด
๑๕๐,๐๐๐ บาท/ปี (ภาพจากโรงแรมดุสิตธานี กรงุ เทพฯ)
ใช้ระบบตงั้ เวลาอตั โนมตั ใิ นการรดนา้ ตน้ ไม้ โดยต้ังเวลาเปิดในชว่ งเชา้ สระว่ายนา้ ใชร้ ะบบเกลือ ดตี อ่ สุขภาพผู้ใชบ้ รกิ าร
หรอื เย็น และลดการใช้สารคลอรีน
24
6.
การบาบดั นา้ เสียทมี่ ปี ระสิทธภิ าพ
น้าเสียของโรงแรมเกิดจากกิจกรรม และแหล่งต่าง ๆ ได้แก่ (1) ห้องพักจากการอาบน้าและการชักโครก (2) โรงซักผ้า
จากการซักทาความสะอาดเส้ือผ้า และเครื่องนอนต่าง ๆ (3) โรงครัวและห้องอาหาร จากการเตรียมและการประกอบอาหาร
การล้างทาความสะอาดภาชนะต่าง ๆ (4) ห้องจัดประชุม ห้องจัดเล้ียง (5) ห้องฟิตเนส สปา สระว่ายน้า และ (6) สานักงาน
อาคารซ่อมบารงุ เปน็ ต้น
น้าเสียท่ีเกิดจากกิจกรรมของโรงแรมจะมีปริมาณและความสกปรกสูงกว่าน้าเสียจากครัวเรือนโดยท่ัวไป จึงควรมี
การบาบดั นา้ เสยี อย่างเหมาะสมกอ่ นปลอ่ ยทงิ้ ออกส่สู ิง่ แวดล้อม
การบาบัดน้าเสียขั้นต้นของโรงแรม เพ่ือจัดการเศษอาหาร น้ามันและไขมันจากห้องครัวและห้องอาหารก่อนเข้าสู่
ระบบบาบัดน้าเสีย ทาได้โดยติดต้ังตะแกรง และบ่อดักไขมัน เพ่ือดักเศษอาหาร และไขมันออกจากน้าเสียก่อนไหลสู่ระบบ
บาบัดน้าเสีย โดยควรทาการตักและทาความสะอาดเศษอาหารออกจากตะแกรงดักขยะทุกวัน และตักไขมันออกจากบ่อดัก
ไขมันอย่างสม่าเสมอ โดยสังเกตความหนาของช้ันไขมันลอย และเพิ่มความถี่การตักไขมันไปกาจัด เพ่ือป้องกันการเป็นแหล่ง
อาหารของหนูและแมลง และลดการอดุ ตันของไขมนั ในรางระบายนา้ และระบบทอ่ สาหรับไขมันที่ตกั ได้ควรมีการจัดการอย่าง
เหมาะสม เช่น ตกั ใสถ่ ุงพลาสติกสง่ ใหเ้ ทศบาลนาไปกาจัด โดยต้องมัดถุงให้แน่นและป้องกันการแตก หากหกบนถนนระหว่าง
การขนสง่ จะทาใหถ้ นนลน่ื และสกปรก หรือนาไขมนั ไปหมกั ทาปุ๋ย
สาหรบั Green Hotel ควรมีระบบบาบัดน้าเสีย หรือวิธีการจัดการน้าเสียที่เหมาะสมต่อขนาดและกิจกรรมของโรงแรม
มกี ารเดนิ ระบบให้สามารถบาบัดนา้ เสียไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ โดยตรวจสอบ ปรับปรุง ซ่อมบารุงระบบบาบัดน้าเสียให้สามารถใช้
งานได้ดี และมีประสทิ ธิภาพอย่เู สมอ อีกท้ังมีการตรวจสอบลักษณะน้าทงิ้ ใหอ้ ยใู่ นเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกาหนด
การบาบดั ขั้นต้นเพ่ือลดความสกปรกของน้าเสียท่ีเข้าสู่ระบบบาบัดน้าเสียการลดความสกปรกของน้าเสียที่เข้าสู่
ระบบ ทาไดโ้ ดย
ทาความสะอาดบริเวณต่าง ๆ โดยกวาดฝุ่นละอองและเศษผงต่าง ๆ ก่อนการใช้น้าทาความสะอาด เพื่อลด
ปรมิ าณน้าท่ีใชแ้ ละลดการปนเป้ือนของน้าท้งิ
25
กาจดั เศษอาหารและไขมันก่อนการล้างภาชนะ
ล้างวัตถุดิบและภาชนะทใี่ ชแ้ ลว้ ในอ่างบรรจนุ ้า แทนการลา้ งดว้ ยการเปิดใช้น้าจากหัวกอ๊ กโดยตรง
ตดิ ต้งั ตะแกรงดักขยะทท่ี ่อระบายน้า
ตดิ ตัง้ ตะแกรงกรองเศษอาหาร และถังดกั ไขมนั ท่ีมีประสิทธิภาพสาหรับโรงครวั และห้องอาหาร
ตกั ไขมันในถงั ดักไขมนั ไปกาจดั อยา่ งเหมาะสมทกุ สัปดาห์
ใช้ผลิตภัณฑ์ทาความสะอาดท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม เช่น น้าจุลินทรีย์ ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว ผลิตภัณฑ์จาก
ธรรมชาตแิ ทนสารเคมีทีเ่ ป็นอันตราย
“ตะแกรงดักขยะ” (Screen) ใช้ดักของแข็งแขวนลอยขนาดใหญ่ในน้าเสีย มี 2 แบบ คือ “แบบหยาบ” เป็น
เหล็กเส้นเต็มรางระบายเพ่ือดักวัตถุชินใหญ่ ๆ ท่ีปนมากับน้าเสียออก ได้แก่ เศษไม้ถุงพลาสติก กระดาษ และอื่น ๆ และ
“แบบละเอียด” มชี ่องเปิดขนาดเล็ก (2-6 มม.) ใชส้ า้ หรบั ดักเศษสารแขวนลอยที่มีขนาดเล็กเพ่ือมิให้ตกตะกอนในบ่อบ้าบัดน้าเสีย
ตะแกรงจะดักของแข็งออกจากน้าเสียได้ประมาณร้อยละ 5-15 ช่วยป้องกันปัญหาการอุดตันของเครื่องสูบน้า ส่วนวัสดุต่าง ๆ
ที่ตดิ หน้าตะแกรงจะตอ้ งกา้ จัดออกทุกวัน โดยนา้ ไปก้าจัดรวมกบั ขยะตอ่ ไป
“บ่อดักไขมนั ” ใช้บ้าบดั เบอื งตน้ ส้าหรบั นา้ เสยี จากครวั หรือห้องอาหาร ซึ่งมีนา้ มันและไขมันสูงมาก หากไมก่ า้ จดั ออก
จะทา้ ให้ทอ่ ระบายน้าอุดตัน การใช้บ่อดักไขมันจะสามารถกาจัดไขมันได้มากกว่าร้อยละ 60 บ่อดักไขมันมีทังแบบส้าเร็จรูป
หรอื สามารถสร้างเองได้ โดยใชว้ งขอบซีเมนต์หรือถังซีเมนต์ หินขัด โดยจะต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอท่ีจะกักน้าเสียไว้ระยะหน่ึง
เพ่ือให้ไขมนั และน้ามัน มีโอกาสลอยตัวและสะสมบนผิวน้า ซึ่งจะต้องตักออกไปก้าจัดทุกวัน เช่น ใส่ถุงพลาสติกทิงฝากรถขยะ
น้าไปตากแหง้ หรือหมกั ทา้ ปยุ๋
26
การจัดการเศษอาหารน้ามันและไขมัน ก่อนเข้าสู่
ระบบบาบัดน้าเสีย และนาไปกาจัดอย่างถูกต้อง รวมถึงมี
ระบบบาบดั น้าเสยี ที่เหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพ ตลอดจน
มีการตรวจสอบคุณภาพน้าทิ้งได้ตามเกณฑ์มาตรฐานท่ี
กฎหมายกาหนด
ตดิ ตงั้ บ่อดักไขมนั และทาความสะอาดสม่าเสมอ
การเปรยี บเทียบประสทิ ธิภาพการบาบดั ของแต่ละหนว่ ยกระบวนการของระบบบาบดั นา้ เสยี
ประสทิ ธิภาพการบาบัด (รอ้ ยละ)
หน่วยกระบวนการการบาบดั บีโอดี ซโี อดี สาร ฟอสฟอรสั อนิ ทรยี ใ์ น แอมโมเนีย
แขวนลอย ทั้งหมด ไนโตรเจน ไนโตรเจน
น้อยมาก
ตะแกรง นอ้ ยมาก นอ้ ยมาก น้อยมาก น้อยมาก น้อยมาก นอ้ ยมาก
8 - 15
ถงั ดักไขมัน 30 - 60 30 - 60 50 - 65 น้อยมาก นอ้ ยมาก 8 - 14
นอ้ ยมาก
ระบบแอคทิเวทเต็ดสลัดจ์ 80 - 95 80 - 85 80 - 90 10 - 25 15 – 50
ระบบอาร์บซี ี 80 - 85 80 - 85 80 - 85 10 - 24 15 - 49
การฆา่ เชื้อโรค นอ้ ยมาก น้อยมาก นอ้ ยมาก นอ้ ยมาก นอ้ ยมาก
ทม่ี า : Metcalf & Eddy, 1991 อา้ งใน คู่มอื การจดั การน้าเสยี จากอาคารประเภทโรงแรม, กรมควบคุมมลพษิ (2559)
การตรวจสอบคณุ ภาพนา้ ท้ิงท่ผี า่ นการบาบดั ของโรงแรม
โรงแรมจัดเปน็ อาคารท่เี ปน็ แหลง่ กาเนิดมลพษิ ตามกฎหมาย ซึ่งประกอบดว้ ย 2 ประเภท ไดแ้ ก่
ประเภท ก : โรงแรมทีม่ จี านวนห้องสาหรับใช้เป็นห้องพักรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือกลุ่มของอาคารตั้งแต่
200 ห้องข้ึนไป
ประเภท ข : โรงแรมท่ีมีจานวนห้องสาหรับใช้เป็นห้องพักรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือกลุ่มของอาคารต้ังแต่
60 ห้อง แต่ไม่ถึง 200 หอ้ ง
27
โดยกฎหมายกาหนดให้โรงแรมทง้ั สองประเภท ต้องบาบัดน้าเสียให้ได้ตามมาตรฐานน้าทิ้งก่อนระบายออกภายนอก
โรงแรม ซึ่งเม่ือผ่านระบบบาบัดน้าเสียของโรงแรมแล้ว ก่อนปล่อยระบายออกสู่ภายนอกโรงแรม จะต้องมีผลการวิเคราะห์
คุณภาพน้าท้ิงได้ตามค่ามาตรฐานควบคุมการระบายน้าท้ิงจากโรงแรม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอ้ ม เรื่อง กาหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายนา้ ทิง้ จากอาคารบางประเภทและบางขนาด พ.ศ. 2548 ดงั น้ี
ค่ามาตรฐานควบคมุ การระบายนา้ ทิ้งจากโรงแรม แบง่ ตามประเภทของโรงแรม
เกณฑ์กาหนดสูงสดุ ตาม
ดัชนีคุณภาพนา้ หนว่ ย ประเภทมาตรฐานควบคมุ การระบายน้าทงิ้
ประเภท ก. ประเภท ข.
1. ค่าความเป็นกรดดา่ ง (pH) 5-9 5-9
2. บีโอดี (BOD) มก./ล. ไมเ่ กนิ 20 ไมเ่ กนิ 30
3. ปริมาณของแข็ง
- คา่ สารแขวนลอย มก./ล. ไม่เกนิ 30 ไมเ่ กนิ 40
- ค่าตะกอนหนกั มก./ล. ไมเ่ กนิ 0.5 ไม่เกิน 0.5
- คา่ สารทลี่ ะลายไดท้ ั้งหมด (TDS) มก./ล. ไม่เกนิ 500* ไม่เกนิ 500*
4. ซัลไฟด์ (sulfide) มก./ล. ไม่เกิน 1.0 ไม่เกนิ 1.0
5. ทีเคเอน็ (TKN) มก./ล. ไม่เกนิ 35 ไม่เกนิ 35
6. น้ามันและไขมนั มก./ล. ไม่เกิน 20 ไม่เกิน 20
หมายเหตุ: * เปน็ ค่าทีเ่ พม่ิ ปริมาณสารละลายในน้าใชต้ ามปกติ
ท่มี า: ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม เร่อื ง กาหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายนา้ ท้ิงจากอาคารบางประเภทและบางขนาด
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบบั ประกาศทัว่ ไป เล่มท่ี 122 ตอนที่ 125 ง ลงวนั ท่ี 25 ธันวาคม 2548
ทง้ั นี้ ในบางพื้นทที่ ่ีโรงแรมตั้งอยู่ ซึ่งองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินมรี ะบบรวบรวมและระบบบาบดั นา้ เสียรวมให้บรกิ าร
อาจมกี ารกาหนดค่าคณุ ภาพน้าท้งิ ของโรงแรมกอ่ นปล่อยเข้าสู่ระบบบาบดั รวมเป็นเกณฑ์เฉพาะได้ เน่ืองจากมีระบบบาบัดรวม
รองรับอีกข้ันตอนหน่ึง และอาจมีการเก็บค่าบริการบาบัดน้าเสียโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินน้ัน กรณีนี้จะจัดเป็นกรณีท่ี
น้าเสยี ของโรงแรมไดถ้ ูกรวบรวมนาไปบาบัดอยา่ งเหมาะสม โดยไมไ่ ดร้ ะบายทิ้งลงแหล่งน้าสาธารณะและก่อให้เกิดผลกระทบ
ต่อสิง่ แวดล้อมโดยตรง
28
การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้าเสยี ของโรงแรม
แมว้ า่ ระบบบาบดั นา้ เสียทโ่ี รงแรมตดิ ต้ัง จะสามารถบาบัดน้าเสียได้ตามเกณฑ์มาตรฐานและตามที่กฎหมายกาหนด
แล้ว โรงแรมยงั ควรมีแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพในการจัดการนา้ เสยี ของโรงแรมดว้ ย อาทเิ ช่น
มกี ารใชป้ ระโยชน์จากระบบบาบดั น้าเสีย เช่น ตะกอน หรือ การผลิตก๊าซชีวภาพ กรณีเป็นระบบบาบัดน้าเสีย
แบบชีวภาพ ซง่ึ จะมตี ะกอนจลุ ินทรีย์สว่ นเกินและต้องกาจดั ทิ้ง หากนาตะกอนไปใช้ประโยชน์เป็นสารปรับปรุง
ดิน จะช่วยลดปรมิ าณของเสียที่ทิง้ ไปได้
เพ่ิมระบบอัตโนมัติชว่ ยให้การทางานของระบบเป็นไปอยา่ งตอ่ เนื่อง ทาให้ระบบไดป้ ระสิทธิภาพสูง
ปรับปรุงข้อจากัดในการปฏิบัติงาน เช่น ไม่วางส่ิงกีดขวางระบบ ทาให้สามารถเข้าถึงระบบหรืออุปกรณ์ และ
งา่ ยตอ่ การดแู ลและบารุงรกั ษา
บารุงรกั ษาอุปกรณใ์ หอ้ ย่ใู นสภาพดพี ร้อมใช้งาน
ท้ายท่ีสุด เพ่ือให้การจัดการน้าเสียเป็นไปอย่างย่ังยืน โรงแรมควรนาข้อมูล
การทางานของระบบบาบัดน้าเสีย และผลการดาเนินงานมาทบทวนและวิเคราะห์เพ่ือ
ปรับปรุงกระบวนการดาเนินการ โดยควรมีแผนงาน กระบวนการทางาน และข้ันตอน
บารุงรักษาระบบบาบดั ทช่ี ัดเจน มกี ารบนั ทกึ การปฏิบัติงาน หากมีความผิดปกติหรือปัญหา
เกี่ยวกับระบบบาบัด หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ จะได้มีข้อมูลหรือสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีและ
สอดคล้องกับกฎกระทรวง “กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ การเก็บสถิติ และข้อมูลการจัดทา
บันทึกรายละเอยี ด และรายงานสรุปการทางานของระบบบาบดั นา้ เสีย พ.ศ. 2555”
มรี ะบบบาบัดนา้ เสยี ทเี่ หมาะสม
และมปี ระสทิ ธภิ าพ
29
7.
การจัดการขยะ
การจัดการขยะ สาหรับโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้หลักการพ้ืนฐาน คือ “3R” ได้แก่ การลดใช้
(Reduce) การใชซ้ ้า (Reuse) และการนากลบั ไปใชใ้ หม่ (Recycle)
Reduce คือ การลดใช้เพอ่ื ลดปรมิ าณขยะ ตัวอยา่ งท่ี Green Hotel มกี ารดาเนนิ การ เช่น
บริการน้าดื่มด้วยขวดแก้วแทนขวดพลาสติกในห้องพัก เพ่ือลดขยะขวดพลาสติก จัดมุม
เคร่ืองดื่มและอาหารวางเพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมตักเอง เพื่อลดขยะอาหารที่ไม่ทาน
งดใช้โฟม ลดใช้ภาชนะแบบใช้คร้ังเดียวทิ้ง (Single Use) หรือเลือกใช้ภาชนะธรรมชาติ
ยอ่ ยสลายงา่ ย เช่น ใบตอง ถ้วยใบไม้ หลอดเยอ่ื ไม้ไผ่ เปน็ ตน้
การใชแ้ อปพลิเคชนั โหลดหนังสือพิมพ์-แมกกาซีน เพอ่ื ใชถ้ ุงผา้ เพอ่ื ใสผ่ ้าทสี่ ่งซกั จากห้องพกั แทนการใส่ถุงพลาสตกิ
ลดกระดาษหนังสือพมิ พ์และลดปริมาณขยะของโรงแรม ท่ใี ช้แล้วท้งิ
ภาพจาก : เดอะราชา ภูเกต็ ภาพจาก : วีรนั ดา รีสอร์ต หวั หนิ
30
Reuse หรือ การใช้ซ้า เช่น ใช้ตะกรา้ ใส่ผา้ หรือถงุ ผ้าใสผ่ า้ ทจ่ี ะส่งซักแทนถุงพลาสติก หรือบริจาคสิ่งของที่
โรงแรมไม่ใช้แล้ว แต่ยังใช้งานได้ดีให้แก่พนักงาน ชุมชนโดยรอบ หรือองค์กรการกุศลต่าง ๆ หรือเลือกใช้
ผลิตภณั ฑ์ทสี่ ามารถเติมใหมไ่ ด้
การผลติ และให้บริการน้าด่ืมขวดแกว้ ลดปริมาณขวดพลาสติก Single Use
ภาพจาก : เดอะราชา ภเู กต็
ผลิตนา้ ดมื่ ขวดแกว้
ไมโครโฟนในหอ้ งประชุมสัมมนา ใช้ขวด Refill แทนขวดพลาสตกิ
ใชแ้ บตแบบชาร์จซ้าได้
ลดถงุ พลาสติกโดยใชถ้ งุ ผา้ ครอบแก้ว
และใชน้ า้ ขวดแก้วแทนขวดพลาสตกิ
ใช้ผา้ แทนกระดาษทชิ ชู่
31
Recycle หรือ ใช้หมดแล้วนากลบั มาใช้ใหม่ มีการคดั แยกขยะตามประเภท ขวดแก้ว ขวดพลาสติก ขยะสด
ขยะอันตราย โดยขวดแก้ว ขวดพลาสติก สามารถนาไปขายได้ ส่วนขยะสด สามารถนาไปทาปุ๋ยหมักได้
ทางด้านขยะอันตรายรอการกาจดั อย่างเหมาะสมต่อไป
การคัดแยกขยะ ตามประเภทขยะ
ถงั ขยะแบบแยกประเภทในหอ้ งพัก
เก็บเศษลูกแม๊กไปบริจาคให้ รพ. การจาหนา่ ยนา้ มันใช้แลว้ ของห้องครวั
เพื่อนาไปผลติ นา้ มันไบโอดีเซล
ขยะในทะเลถอื เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก มีการคาดการณ์ว่าปี 2050 ขยะพลาสติกใน ขอความรว่ มมอื กบั ลกู คา้ ตักอาหารแตพ่ อดี
ทะเลจะมีน้าหนักมากกว่าปลาทั้งโลกรวมกัน! โดยขยะมากกว่า 80% มาจากบนบก!! โดยรายงานปรมิ าณอาหารท่ีทานเหลอื ในแตล่ ะวัน
20% มาจากกิจกรรมทางทะเลถังขยะรูปปลาตัวน้ีมีชื่อว่า "Goby The Fish"
ทีโ่ รงแรมริมทะเลหลายโรงแรมทัว่ โลกปง๊ิ ไอเดียข้ึนมา อย่างในอินเดีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
และไทย เพื่อสะท้อนปัญหาขยะบนชายหาดท่ีจะไหลลงสู่ทะเล ปลาอ้าปากกินขยะ
รมิ หาดนี้ยงั จูงใจ และสรา้ งจิตสานึกใหผ้ ู้คนชว่ ยกันทิง้ ขยะใหถ้ ูกท่ีถกู ทางอกี ดว้ ย
32
ที่มา : กรมสง่ เสรมิ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม (2564)
33
ทมี่ า : กรมส่งเสรมิ คุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม (2564)
34
8.
การจดั การดา้ นพลงั งานในโรงแรม
โรงแรม เปน็ หน่วยธุรกิจที่มีการใช้พลังงานจานวนมาก ซ่ึงเป็นค่าใช้จ่าย
และต้นทุนสาคัญของการให้บริการ หากโรงแรมให้ความสาคัญกับการอนุรักษ์
พลังงาน การใช้พลังงานทีม่ ีประสิทธภิ าพ ตง้ั แตก่ ารกาหนดแนวคดิ การออกแบบ
การก่อสร้างแบบประหยัดพลังงาน และการใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและ
อนุรักษ์พลังงาน จะทาให้ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเพิ่มรายได้ เอื้อต่อ
การจัดการและการบรกิ ารทเี่ ปน็ มติ รกบั สิ่งแวดลอ้ มดว้ ย
8.1 การออกแบบทีพ่ ่ึงพาธรรมชาติ
การออกแบบให้พน้ื ท่ีบรกิ ารสามารถพ่งึ พาธรรมชาติได้ ในขณะที่ลักษณะการจัดการบริการและคุณภาพการบริการ
ยังอยู่ในมาตรฐานหรือความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ยังช่วยให้การอนุรักษ์พลังงานและรูปแบบการบริการมีคุณค่าย่ิงข้ึน
รวมท้ังยังเป็นเทรนด์การออกแบบ รวมถึงความคาดหวังของผู้ใช้บริการท่ีต้องการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และ
การอนุรักษ์พลังงาน เช่น การออกแบบส่วนบริการส่วนกลาง ส่วนต้อนรับ (Lobby) ส่วนทางเดินเชื่อมอาคาร หรือทางเดิน
สู่ห้องพัก รวมท้ังบริเวณส่วนบริการอาหาร ที่เป็นลักษณะเปิดโล่ง มีการออกแบบให้ใช้แสงสว่างและการถ่ายเทอากาศตาม
ธรรมชาติ รวมทัง้ การออกแบบห้องพักให้มีลกั ษณะของการพึง่ พงิ ธรรมชาติดังกลา่ ว ก็มีส่วนชว่ ยในการอนุรกั ษ์พลังงานได้
ออกแบบอาคารในทิศทางโครงสร้าง ออกแบบพืน้ ท่ีแบบเปิดโลง่ ใชผ้ ้าม่านกนั ความรอ้ นภายในห้องพกั
บังแสงแดดท่สี อ่ งมายงั อาคาร เพ่อื ลด โดยไม่ใชเ้ ครอื่ งปรับอากาศ
ความร้อนจากภายนอกเขา้ สูอ่ าคาร และลดใชอ้ ุปกรณส์ ่องสวา่ ง
35
8.2 แนวทางการจัดการพลงั งานในภาพรวม
การใช้พลังงานในโรงแรมนน้ั จะขึน้ อยู่กบั กาลังไฟฟ้าและชัว่ โมงการใช้งาน หากต้องการลดต้นทุนจากการใช้พลังงาน
อยา่ งคุ้มค่าและมีประสทิ ธิภาพ สามารถดาเนนิ การลดสว่ นใดสว่ นหน่งึ หรือทัง้ 2 ส่วน โดยสามารถทาไดโ้ ดย
ลดกาลังไฟฟ้าของเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าลง เชน่ การปรบั เปลี่ยนอุปกรณท์ ่ีมีประสิทธิภาพมากขนึ้ การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
ทม่ี ฉี ลากประหยัดพลงั งาน หรือ ฉลากเบอร์ 5 การใช้เคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าที่มขี นาดเหมาะสมกับการใช้งาน เป็นตน้
การลดชั่วโมงการทางาน เช่น การปิดเมอื่ ไม่ใช้ การบารุงรักษา การทาความสะอาด การลดการรั่วไหลตา่ ง ๆ
แนวทางเพ่ิมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน หรือการลดต้นทุนใช้พลังงาน จะขึ้นกับแต่ละพื้นท่ีและแต่ละช่วงเวลา
สาหรบั Green Hotel มแี นวทางในการดาเนินงานไดด้ งั น้ี
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องไฟฟ้าท่ีมีฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงาน เบอร์ 5 ประหยัดพลังงานได้
ร้อยละ 25-35 ซงึ่ เปน็ ไปตามเกณฑ์ประสทิ ธิภาพของแตล่ ะผลิตภณั ฑ์
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องไฟฟ้าที่มีฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงาน (เบอร์ 5 ★★★) โดยดาวท่ี
เพม่ิ ข้นึ แตล่ ะดวงจะประหยัดพลังงานไดเ้ พ่ิมขน้ึ จากระดับประสิทธภิ าพพลังงาน เบอร์ 5 เดมิ ถึงรอ้ ยละ 5–10
มีการใชพ้ ลงั งานทางเลือก เพื่อลดการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า
วางแผนการใชพ้ ลังงานเพ่อื ลดต้นทุนค่าใช้ไฟฟ้า โดยหลีกเล่ียงการใช้พลังงานช่วง On Peak (09.00-22.00 น.
ของวันจันทร์-วันศุกร์) เพ่ือลดค่าพลังไฟฟ้า (Demand Charge) โดยค่าพลังงานไฟฟ้า (Energy Charge)
ในช่วง Off Peak และคา่ ใช้ไฟฟ้าจะถูกกวา่ ช่วง On Peak กว่าร้อยละ 40 เช่น
- หลีกเล่ียงการใช้อุปกรณ์หรือเคร่ืองจักร ที่ใช้พลังงานสูงในช่วง On Peak เช่น ทยอยเปิดเคร่ืองปรับอากาศ
ของห้องสัมมนา/ห้องประชุม โดยเปิดห่างกัน 10-15 นาที หรือไม่ทาการซักรีดผ้าของห้องซักรีด (Laundry)
ในช่วงที่มีการใช้ห้องประชุมเพื่อป้องกันการกระชากของไฟจากการเปิดอุปกรณ์พร้อม ๆ กัน ทาให้ค่าการใช้
ไฟสูงข้ึนในช่วงดังกล่าว
- ปรบั เปลยี่ นการใช้งานอปุ กรณไ์ ฟฟ้าใหอ้ ยู่ในช่วง Off Peak เช่น ทาการซกั รดี ในช่วงกลางคืน
- วางแผนและทากิจกรรมที่ไม่ต้องทาเป็นประจาทุกวัน หรือสามารถวางแผนจัดสรรเวลาได้ เพ่ือให้มีการใช้
พลังงานในวนั เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการอยา่ งเต็มท่ี แทนวันทางานปกติ เนื่องจากค่าพลังงานไฟฟ้าของ
วันเสาร์-อาทิตย์และวนั หยดุ ราชการจะถูกกว่าวันปกตใิ นช่วง On Peak
36
ใช้อปุ กรณ์ไฟฟา้ ที่มฉี ลากประสทิ ธภิ าพพลงั งานสงู
37
8.3 ระบบปรบั อากาศ
การติดตั้งและใช้งานระบบปรับอากาศต้องคานึง เกณฑ์ประสทิ ธิภาพเคร่ืองปรบั อากาศขนาดเลก็ (Split type)
ถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น เลือกเครื่องปรับอากาศท่ีมีขนาดทา และเครื่องทานา้ เย็นสาหรับระบบปรับอากาศ (Chiller)
ความเย็นเหมาะสมกับภาระการทาความเย็น และมี
ประสิทธภิ าพสูงหรือเป็นร่นุ ประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นตน้
สาหรบั การใชง้ านระบบปรับอากาศท่ีมีประสิทธิภาพ
มีแนวทาง ดงั น้ี
ตั้งอุณหภูมิห้องพักที่ 25-26 °C เพราะ
อุณหภูมทิ ี่ลดลง 1 °C ต้องใช้พลังงานเพิ่มข้ึน
ประมาณรอ้ ยละ 10
ติดต้ังคอนเดนเซอร์ในท่ีร่ม อากาศถ่ายเท
สะดวก ให้ระบายความร้อนได้ดี ประหยัด
พลงั งานได้รอ้ ยละ 15-20
ลดการกระจายความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่
ภายในห้อง โดยติดตั้งม่านบังแดด หรือปลูก
ต้นไม้ด้านนอกสามารถลดความร้อนท่ีไหล
ผ่านกระจกลงได้ 15- 75% ทาให้สามารถ
ลดการใชพ้ ลงั งานของเคร่อื งปรบั อากาศ
ทาความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับ
อากาศทกุ 3-4 สัปดาห์ จะช่วยประหยัดพลังงานได้รอ้ ยละ 5
ควบคมุ และป้องกนั ความเย็นรว่ั ไหลออกจากพน้ื ที่ หอ้ งพกั หรอื อาคาร สามารถประหยดั พลงั งานได้รอ้ ยละ 5
การตดิ ต้ังพดั ลมเสริมและเปิดพัดลมในห้องพักขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ จะทาให้แอร์ทางานน้อยลง 2-3 °C
ประหยดั พลังงานไดร้ อ้ ยละ 20
38
ติดต้งั อุปกรณ์ตดั การทางานของเครื่องปรับอากาศเมอ่ื มีการเปดิ ประตรู ะเบียงห้องพัก เพ่ือป้องกันการเปิดประตู
ระเบยี งห้องพกั ค้างไว้ ทาใหค้ วามเย็นของห้องพกั รวั่ ไหลออกส่ภู ายนอก และทาให้เครอื่ งปรบั อากาศทางานหนัก
ประหยดั พลังงานได้ร้อยละ 5
ติดต้ังพัดลมเบอร์ 5 ในห้องพัก เพ่ือเป็นทางเลือกของผู้พัก เน่ืองจากการใช้พลังงานไฟฟ้าของพัดลมน้อยกว่า
เครอื่ งปรับอากาศมาก
ส่งเสริมกจิ กรรมทล่ี ดการใชเ้ ครอ่ื งปรับอากาศโดยการปิดเคร่ืองปรับอากาศ ขนาด 1 ตัน (12,000 บีทียู) 1 ชั่วโมง
ประหยดั พลังงานได้ 21 หน่วยตอ่ เดือน
ควบคุมและป้องกันความเย็นร่ัวไหลออกจากพ้ืนท่ี ห้องพักหรืออาคาร เช่น ติดต้ังประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติที่ประตู
ทางเข้า-ออก ของโรงแรม หรือติดต้ังประตูบานสวิงของห้องประชุม/สัมมนา การปิดช่องว่างด้านล่างของประตู
หอ้ งพกั ดว้ ยคิ้วกันแมลง
ปรบั ลดพ้ืนที่ปรับอากาศเพ่อื ลดคา่ ใชจ้ ่ายดา้ นพลังงาน เพิ่มการถ่ายเทอากาศและรักษาส่ิงแวดล้อม เช่น ห้องอาหาร
พ้นื ทส่ี ว่ นต้อนรับ หรอื ห้องออกกาลังกาย เปน็ ต้น
ใช้ผ้าห่มแบบบาง กรณีท่ีใช้ผ้าห่มแบบหนา (ผ้านวม) แขกผู้เข้าพักจะทาการปรับความแรงลมเพ่ิมข้ึน หรือปรับลด
อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ทาให้ใช้พลังงานเพ่ิมข้ึน โดยควรใช้ผ้าห่มขนาดบางคลุมเตียง และแยกเก็บผ้านวมไว้ใน
ตเู้ ส้ือผ้า
ระบบควบคมุ การทางานของเครอื่ งปรบั อากาศเปน็ ระบบ VRF กาหนดและปรับตง้ั อณุ หภูมิ ระบบปรับอากาศใชร้ ะบบ Inverter
ซ่งึ สามารถควบคุม สังเกตการณ์ และปดิ ระบบได้จากส่วนกลาง เคร่ืองปรับอากาศ ไมต่ ่ากวา่ 25 °C ประหยดั พลงั งาน
ในสานักงานและพนื้ ทีส่ ่วนกลาง
39
8.4 การจดั การไฟสอ่ งสว่าง
ระบบไฟฟ้าแสงสว่างของโรงแรมนั้น ไม่เพียงแต่ออกแบบให้มีปริมาณแสงสว่างที่เพียงพอกับพื้นท่ีเท่าน้ัน ยังต้อง
คานงึ ถึงแนวความคิดในการออกแบบและสถาปัตยกรรมของโรงแรมน้ัน แต่ละพื้นที่หรือแต่ละห้องของโรงแรมไม่ต้องการแสงสว่าง
มากตามมาตรฐานการคานวณทัว่ ไป เช่น ห้องอาหาร หรอื ส่วนต้อนรบั ตอ้ งการแสงเพียงให้สถานท่ีดหู รหู รา มสี ไตล์ ซงึ่ กลางวัน
และกลางคนื อาจจะตอ้ งการแสงทไี่ มเ่ หมือนกนั จึงสามารถนาระบบควบคมุ แสงมาใช้งานได้
การลดการใช้พลังงานของระบบไฟฟ้าแสงสว่าง คือ
การประหยัดไฟฟ้าท่ีใช้กับหลอดไฟให้ได้มากท่ีสุด แต่ยังคง
ความสว่างเพียงพอกับการใช้งาน แนวทางการออกแบบระบบ
ไฟฟ้าแสงสว่าง ได้แก่ การเลือกใช้หลอดไฟที่มีประสิทธิภาพสูง
หรือหลอด LED และการใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติในเวลา
กลางวัน ด้วยเทคนิคการติดต้ังสวิตซ์เปิด-ปิดแบบแยกสาหรับ
พื้นท่ตี ามแนวกรอบอาคารด้านทมี่ ีแสงสวา่ งจากภายนอก เป็นตน้
สาหรับการใชไ้ ฟฟา้ สอ่ งสวา่ งท่ีมีประสทิ ธิภาพ มีแนวทางดังน้ี
เปลยี่ นใชห้ ลอดไฟทีม่ ีประสิทธิภาพสูง
เปลี่ยนใช้หลอดคอมแพคแทนหลอดไส้ ประหยัดพลงั งานไดร้ อ้ ยละ 78.3
เปลย่ี นใชห้ ลอด LED แทนหลอดคอมแพค ประหยัดพลังงานได้ร้อยละ 38
เปลยี่ นใชห้ ลอด LED แทนหลอดไส้ ประหยดั พลงั งานได้รอ้ ยละ 86.6
เลือกใช้โคมประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยเพ่ิมความสว่างของแสง ซึ่งจะสามารถลดการใช้
หลอดไฟลงครึ่งหน่ึง ประหยดั พลงั งานได้ร้อยละ 50
ติดต้ังอุปกรณ์ตรวจจับความเคล่ือนไหว (Motion Sensor) ในพ้ืนที่สาธารณะ เช่น ห้องน้า
บริเวณห้องประชมุ /ห้องสมั มนา ห้องน้าบริเวณห้องแต่งตวั พนกั งาน บรเิ วณทางเดนิ ทางหนีไฟ
หรือไฟในตเู้ สอื้ ผ้า เพือ่ ควบคมุ การเปิดไฟฟา้ แสงสวา่ งเมอ่ื มผี ใู้ ช้งานเท่าน้นั
40
ตดิ ตั้งอุปกรณ์ตงั้ เวลา (Timer) เพ่ือควบคุมการเปิด-ปิดไฟแสงสว่างโดยอัตโนมัติในบริเวณต่าง ๆ ของโรงแรม
เช่น ร้ัว ทางเดิน สวน เพอื่ ลดชว่ั โมงการเปดิ ไฟคา้ งไว้กรณพี นกั งานลืมปดิ ไฟ ทั้งน้ี ควรปรบั เวลาการเปิด-ปิดไฟ
แสงสวา่ งใหเ้ หมาะสมกับฤดกู าล เชน่ ช่วงเชา้ ของฤดรู ้อนจะสวา่ งเรว็ กว่าและช่วงเยน็ จะมืดชา้ กวา่ ฤดหู นาว
ออกแบบให้มีการใช้แสงสว่างจากธรรมชาติเพ่อื ลดการใชไ้ ฟฟา้ ส่องสว่าง
ทาความสะอาดหลอดไฟและโคมไฟอย่างสม่าเสมอ เนื่องจากฝุ่นท่ีเกาะหลอดไฟและโคมไฟจะทาให้แสงสว่าง
ลดน้อยลง ทาให้ต้องเปดิ ไฟเพม่ิ มากขึน้
การติดตงั้ สวติ ซแ์ บบกระตุกจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวและสะดวกในการปิดไฟ ซงึ่ ชว่ ยลดการใชไ้ ฟส่องสว่าง
การจัดการเพอื่ ลดใช้พลังงาน เชน่ การปรับต้ังอุณหภูมเิ ครื่องปรบั อากาศ ไม่ต่ากวา่ 25 องศาเซลเซียส ท้ังใน Once-through Boiler
ส่วนของสานักงาน หอ้ งพัก ตดิ ต้งั ระบบ key card, ระบบ control panel, ระบบคอมพิวเตอร์ ควบคุมการใช้ หมอ้ ไอน้าประสทิ ธิภาพสงู
ไฟฟา้ ในหอ้ งพัก
ใช้โคมท่มี ีประสิทธภิ าพสงู การใช้ Switch ตัดต่อระบบปรับ เปลีย่ นระบบควบคมุ แสง การนาลมเย็นจากการระบายทิ้ง
(ตดิ Reflextor) อากาศกับประตูระเบียงหอ้ งพกั
เมื่อประตูเปิด เคร่อื งปรบั อากาศ สวา่ งจาก Dimmer มาเป็น ของระบบผลติ นา้ ร้อนดว้ ย Heat
จะตดั การทางาน
Switch On-Off แทน Pump มาใชท้ ่ีหอ้ งอาหารพนกั งาน
41
8.5 การทาความร้อน
ระบบหมอ้ ต้มนา้ รอ้ น : หม้อต้มน้าร้อน หรอื หม้อไอนา้ (Boiler) พิจารณาจากค่าประสิทธิภาพข้ันต่าของอุปกรณ์ด้วยวิธี
เปรียบเทียบพลังงานจากน้าร้อนหรือไอน้า ที่ผลิตได้กับพลังงานของเช้ือเพลิงท่ีให้กับหม้อไอน้า สาหรับการใช้ไฟฟ้าส่องสว่างที่มี
ประสทิ ธิภาพ มแี นวทางดังน้ี
เปล่ียนใช้ปั๊มความร้อน (Heat Pump) แทนหม้อต้มน้า คา่ สมั ประสทิ ธส์ิ มรรถนะขัน้ ตา่ ของ
หรือหม้อไอน้าท่ีใช้เช้ือเพลิงหรือไฟฟ้า เพ่ือผลิตน้าร้อนที่อุณหภูมิ หม้อตม้ นา้ รอ้ นหรอื หม้อไอน้า (Boiler)
ประมาณ 50-60 °C โดยปั๊มความร้อนมีศักยภาพในการประหยัด
พลังงานไดม้ ากกว่ารอ้ ยละ 60
ปรับลดอุณหภูมิน้าร้อนของระบบปั๊มความร้อน ในช่วง
ฤดูร้อน (เดิม 60 °C เป็น 50 °C) เนื่องจากในช่วงฤดูร้อนลูกค้ามี
ความต้องการอาบน้าท่ีไม่อุ่นมากนัก ซ่ึงจะทาให้ประหยัดพลังงานได้
รอ้ ยละ 15-20
ใช้ระบบถังน้าร้อนที่แลกเปลี่ยนความร้อนจากเคร่ือง
ปรับอากาศ หรือ Heat Recovery Water Heater ซ่ึงไม่ใช้พลังงาน
ไฟฟ้าในการต้มน้าร้อน สามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการใช้เคร่ือง ค่าสมั ประสิทธสิ์ มรรถนะขั้นตา่ ของ
ทาน้าอนุ่ และลดการใชไ้ ฟฟ้าของเครือ่ งปรบั อากาศประมาณ 5-10 % เครอ่ื งผลิตนา้ รอ้ นแบบฮตี ปมั๊ (Heat pump)
ตดิ ต้ังระบบผลิตน้าร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar
Corrector) ทดแทนระบบต้มน้าร้อนจากไฟฟ้า น้ามันดีเซลน้ามันเตา
หรอื แกส๊ LPG
การนาความเย็นจากระบบป๊ัมความร้อน ไปใช้ในงาน
ปรับอากาศห้องครัว ห้องเคร่ืองจักร หรือใช้ในห้องของพนักงานที่อยู่
ใกล้เคียง เช่น ห้องช่าง ห้อง CCTV เพื่อทดแทนการใช้งานเคร่ืองปรับ
อากาศเดิม
รณรงค์ใหพ้ นักงานเดนิ ขึน้ -ลงบนั ไดแทนการใชล้ ิฟต์
42
Heat Pump ใชแ้ ทนหมอ้ ต้มนา้ หรือหมอ้ ไอน้าสาหรบั ทาน้ารอ้ น อณุ หภูมิ 50-60 องศาเซลเซียส โดยใชพ้ ลงั งานจากไฟฟา้
8.6 การประหยดั ไฟจากตูเ้ ย็น
ตง้ั ตู้เย็นในบริเวณที่มอี ากาศถ่ายเทสะดวก ด้านหลังและด้านข้างห่างจากผนังอย่างน้อย 15 ซม. เพ่ือให้การระบาย
ความร้อนดีข้ึน ประหยัดพลงั งานได้ถงึ รอ้ ยละ 39
ตงั้ /ควบคมุ อุณหภูมขิ องตเู้ ย็นใหเ้ หมาะสม โดยประมาณ 3-6 °C การตงั้ อณุ หภูมิต่ากวา่ ทีก่ าหนด 1 °C จะทาให้
ใชพ้ ลังงานเพิม่ ขึ้นร้อยละ 25
การเปล่ยี นตู้เยน็ ใหม่ กรณีใช้งานมานานกวา่ 10 ปี จะประหยดั พลังงานได้ร้อยละ 30 เนื่องจากการพัฒนาของ
เทคโนโลยที ีใ่ หม่ ทนั สมยั และชว่ ยประหยดั พลังงานมากขึ้น
ปดิ และปลดปลัก๊ ต้เู ย็น กรณีไม่มีผเู้ ข้าพักมากกว่า 1 อาทิตย์
ไม่ตงั้ ตเู้ ย็นบรเิ วณที่มแี สงแดดสอ่ งถงึ หรือใกลแ้ หล่งความร้อนอ่นื ๆ จะทาใหใ้ ช้พลงั งานเพิม่ ขนึ้
43
8.7 มาตรการเสรมิ ในการจดั การพลงั งาน
นอกจากการเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการใช้พลังงาน หรือการลดต้นทุนใช้พลังงานแล้ว การจัดการด้านพลังงานในโรงแรม
สาหรบั Green Hotel ควรประกอบด้วย
มีกิจกรรมรณรงค์การลดใช้พลังงานในสถานประกอบการทั้งกลุ่ม
พนักงาน และผ้ใู ช้บริการ
มีการใช้เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานใน
บรเิ วณตา่ ง ๆ ทีม่ ีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสถานประกอบการ
จัดให้มีรถรับส่งสาหรับผู้เข้าพัก/พนักงาน จากภายนอกโรงแรมเพ่ือ
ลดการใชพ้ ลงั งานในการเดินทาง
มกี ารใช้พลังงานทดแทนในการเดินทางเพื่อลดมลภาวะ และผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อมภายในโรงแรม โดยจัดให้
มรี ถจกั รยานหรือพาหนะทใี่ ชพ้ ลังงานทดแทน เพอ่ื ให้บริการแกผ่ ้ใู ชบ้ ริการ/พนักงาน
มีการจัดเกบ็ ข้อมลู สถติ กิ ารใช้พลงั งาน คา่ ใช้จ่ายด้านพลังงาน หรือการบรหิ ารจัดการท่ีเปน็ ระบบ เพ่อื ใช้ประโยชน์
ในการติดตามการใช้ หรอื ลดใชพ้ ลงั งาน
การเกบ็ ข้อมลู สถิติการใช้
พลงั งาน ค่าใชจ้ า่ ยดา้ นพลังงาน
เพือ่ ใช้ประโยชนใ์ นการตดิ ตาม
การใช้ หรอื ลดใชพ้ ลงั งาน
ตรวจเช็คเครอื่ งปรบั อากาศเป็นประจา เพื่อตรวจสอบว่าเคร่ืองปรบั อากาศทางานปกตหิ รอื ไม่ และเป็นแนวทาง
ในการอนุรกั ษ์พลงั งานตอ่ ไป
ทาความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุก ๆ เดอื น
ตดิ ต้ังฉนวนบเุ พดาน
ตรวจสอบห้องพักเป็นประจาเพื่อลดการสูญเสยี ความเย็นตามจุดรัว่ ต่าง ๆ
ตดิ ต้งั กระจก 2 ช้นั เพื่อลดความรอ้ นจากภายนอก
การเปิดหอ้ งและระบบไฟฟา้ ในหอ้ งพกั ดว้ ยคยี ก์ าร์ด โดย
จะตัดไฟอตั โนมตั เิ มอื่ ดึงออก
44
ตดิ ต้ังเครื่องควบคุมการจ่ายลม เพื่อชว่ ยในการควบคมุ อุณหภมู ใิ ห้เหมาะสม
ติดตั้งม่านก้ันแสงอาทติ ยส์ าหรับกระจกหน้าต่าง เพือ่ ลดความร้อนจากภายนอก
ติดตง้ั แผ่นสะท้อนความรอ้ นจากแสงอาทิตย์
เลือกใช้เครอ่ื งทาความเยน็ ประสิทธิภาพสูง
ปลกู ตน้ ไม้รอบ ๆ อาคารโรงแรม
ระบบปรบั อากาศจะทางานไดเ้ ต็มประสทิ ธิภาพตอ้ งอาศัยการระบายความร้อน
ท่ีดี ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ระบายความร้อนออกจากระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ คือ ตู้เย็นระบบแอมโมเนยี ไม่มี
หอระบายความร้อน (Cooling Tower) ดังนั้น ควรบารุงรักษาหอระบายความร้อน คอมเพรสเซอร์ ชว่ ยประหยัด
พลงั งานและไม่ผลติ กา๊ ซเรอื นกระจก
ให้สามารถระบายความร้อนไดเ้ ตม็ ประสิทธิภาพ
8.8 มาตรการอนรุ กั ษพ์ ลงั งานในระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
เกบ็ ข้อมลู ระบบแสงสว่างเพอื่ ตรวจสอบการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้
หมัน่ ทาความสะอาดหลอดไฟและโคมไฟอย่เู สมอ เพราะฝุ่นละอองที่เกาะหลอดไฟ
และโคมไฟจะทาให้แสงสวา่ งลดนอ้ ยลง
ใช้แสงธรรมชาติในเวลากลางวนั (Day Light) ใหเ้ กดิ ประโยชน์มากที่สดุ
ลดการใช้ความสว่างท่ีเกินความจาเป็นโดยการตัดวงจรหลอดบริเวณที่แสงสว่าง
มากเกนิ ไป หรี่ความสว่างของแสงสาหรับหลอดไฟที่ปรบั ระดบั แสงสว่างได้ หรือปิด
ไฟในสว่ นที่ไมใ่ ชง้ าน
เลอื กวิธใี หแ้ สงสวา่ งและระดับความสวา่ งทต่ี รงกบั ความตอ้ งการของแต่ละพ้ืนที่
เลือกใชโ้ คมไฟท่ชี ว่ ยเพิม่ ความสวา่ ง
ติดตง้ั Photo Sensor ซงึ่ จะตรวจวดั ระดบั แสงแล้วส่งสญั ญาณไปควบคมุ การหรี่แสงของหลอดไฟ
ใช้อุปกรณ์ตรวจจบั การเคลอ่ื นไหวเพื่อเปดิ - ปิดไฟฟ้าแสงสว่าง โดยติดต้ังอุปกรณ์จับการเคลื่อนไหวชนิดอัลตร้า
โซนกิ หรอื ชนดิ พาสซฟี อนิ ฟราเรด
เลือกใช้หลอดไฟและอุปกรณร์ ว่ มทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู
45
ปิดตกึ ในสว่ นทีไ่ ม่มีลูกค้ามาใชบ้ ริการ ปดิ ระบบน้าตกในวนั จนั ทร์ - ศุกร์ ปดิ ลฟิ ท์ 1 ตวั จาก 2 ตัว กรณมี ลี ูกค้ามาใช้บรกิ ารนอ้ ย
8.9 เทคนคิ การควบคุมแสงสว่างเพือ่ การประหยัดพลังงาน
การควบคุมแสงสว่างเพื่อการประหยัดพลังงานจาเป็นต้องใช้อุปกรณ์ท่ีควบคุมแสงสว่าง ซ่ึงประกอบด้วยอุปกรณ์
ตรวจจับสัญญาณ (Sensor) ชุดควบคุม (Light Controller) และอุปกรณ์แสงสว่างโดยมีหลักการทางาน คือ ชุดควบคุมรับ
สัญญาณจากอุปกรณ์ตรวจจับ เช่น อุปกรณ์ตั้งเวลา (Timer) อุปกรณ์ตรวจจับการเคล่ือนไหว (Presence Detector) และ
อุปกรณ์ตรวจวัดระดับแสงสว่าง (Photocell) เป็นต้น แล้วนามาประมวลผลและส่งสัญญาณไปควบคุมการเปิด - ปิด หรือ
หรี่แสงอปุ กรณ์แสงสว่าง
มกี ารใช้ระบบไฟแสงสวา่ งอตั โนมัติ เพ่ือควบคมุ การเปดิ
และปิดแสงสว่างตามเวลาทต่ี อ้ งการ
ใช้ระบบต้งั เวลาปดิ -เปดิ มรี ะบบหร่ไี ฟเพอ่ื ประหยดั พลังงาน
กับไฟรวั้ รอบ ๆ โรงแรม ในกรณีท่ีไม่ต้องการแสงสว่างมาก
(Dimmer)