The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มหลักสูตรปฐมวัย 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pimyodying, 2022-09-14 03:44:06

เล่มหลักสูตรปฐมวัย 2565

เล่มหลักสูตรปฐมวัย 2565

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดน้อย

พุทธศกั ราช ๒๕๖๕

ประกาศโรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ นอ้ ย
เรอ่ื ง ให้ใช้หลกั สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แกด้ นอ้ ย

พุทธศักราช ๒๕๖๕

*************************************

เพื่อให้การบรหิ ารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพสอดคล้องกบั
พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม หมวด ๔ มาตรา ๒๙ ทีก่ ำหนดให้สถานศึกษาขั้น
พื้นฐาน มีหน้าที่จัดทำสาระของหลักสูตรเพื่อความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองที่ดีของชาติการดำรงชีวิต และการ
ประกอบอาชีพตลอดจนเพื่อการศึกษาต่อ ในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพของปัญหาในชุมชนและสังคมและประเทศชาติ
สอดคล้องกับพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๒ หมวด ๓ การบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
มาตรา ๒0(๔) , มาตรา ๒๕

อาศัยตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๒ หมวด ๓ มาตรา ๒๕ , มาตรา ๒๖การ
บริหารพื้นทนี่ วัตกรรมการศึกษา และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าดว้ ยคณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู ร
และงานวชิ าการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ.๒๕๔๔

ทั้งนี้ หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช ๒๕๖๕ ได้รับความเห็นชอบ
จากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2565 จึงประกาศให้ใช้หลักสตู รสถานศึกษา
ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ น้อย พุทธศักราช ๒๕๖๕ ต้งั แตบ่ ัดนเ้ี ปน็ ตน้ ไป

ประกาศ ณ วนั ท่ี 18 เดือน เมษายน พ.ศ. 2565

ลงชื่อ ลงช่ือ
( นายเสถียร ธะนันต์ )
(นายณรงค์ ลมุ มา)
ประธานกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั แมแ่ กด้ น้อย

หลักสตู รสถานศกึ ษาระดบั ปฐมวยั ฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ นอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 หน้า ก

คำนำ

กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งที่ สพฐ. ๑๒๒๓ /๒๕๖๐ เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช
๒๕๖๐ แทนหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๔๖ เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อให้สถานศึกษ า
หรือสถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด นำหลักสูตรไปใช้โดยให้ปรับปรุงให้เหมาะสมกับเด็กและสภาพท้องถิ่น
โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย จัดการศึกษาปฐมวัย โดยยึดนโยบายการพัฒนาการศึกษาปฐมวัยและหลักสูตรการศึกษา
ปฐมวัยของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรอบ ทิศทางในการพัฒนาการจัดการศึกษามาอย่างจริงจังและต่อเน่ือง ดังนั้น
จากคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. ๑๒๒๓/๒๕๖๐ โรงเรียนจึงแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำ หลักสูตรสถานศึกษา
ปฐมวัย ฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช ๒๕๖๕ ขึ้นเพื่อดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
ปฐมวัย ให้มีคุณภาพและมาตรฐานตามจุดหมายหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และสอดคล้องกับ
อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ที่กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการด้าน
ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เป็นคนดี มีวินัย มีสำนึกความเป็นไทย มีความรับผิดชอบต่อตนเอง
ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติในอนาคต โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงด้าน
เศรษฐกิจ สังคม และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรวมถึงสภาพและความต้องการของท้องถิ่น เพื่อให้เป็น
หลักสูตรที่มีความเหมาะสมกับเป้าหมายการพัฒนาเด็กปฐมวัยสอดคล้องและทันต่อสภาพการเปลี่ยนแปล งได้อย่าง
แทจ้ รงิ

โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ขอขอบคุณ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาปฐมวัย
ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการสถานศึกษา คณะผ้บู รหิ ารโรงเรยี น ครปู ฐมวัย ตวั แทนผูป้ กครอง ตวั แทนชุมชน ตลอดจน
บุคลกรทกุ คนทม่ี ีส่วนรว่ มในการจัดทำหลกั สูตรสถานศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะโรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช
๒๕๖5 ใหม้ ีความเหมาะสมต่อการนำไปใชจ้ ัดการศกึ ษาปฐมวัยต่อไป

ฝ่ายการศึกษาระดับปฐมวัย
โรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ นอ้ ย

หลักสตู รสถานศึกษาระดับปฐมวยั ฐานสมรรถนะโรงเรียนวดั แมแ่ กด้ น้อย พทุ ธศักราช 2565 หนา้ ข

สารบญั หน้า

เรื่อง ข
คำนำ......................................................................................................................
สารบัญ.................................................................................................................. ง
ประกาศใชห้ ลักสูตรสถานศึกษาระดบั ปฐมวัย ฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย จ
พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕................................................................................................ 1
ความนำ................................................................................................................. 1
ปรัชญาการศกึ ษาหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐......................... 1
วิสยั ทัศน์การศึกษาหลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศักราช ๒๕๖๐......................
หลักการการศกึ ษาหลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐....................... 2
ปรชั ญาการศกึ ษา หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวัย ฐานสมรรถนะ
โรงเรียนวดั แม่แกด้ น้อย พทุ ธศกั ราช 2565........................................................ 2
วิสัยทัศน์การศึกษา หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ
โรงเรยี นวดั แม่แก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565………………………………………....….…. 2
พันธกิจการศึกษา หลกั สตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ฐานสมรรถนะ
โรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ นอ้ ย พทุ ธศักราช 2565………………………………………..………. 3
เป้าหมายการศึกษา หลกั สูตรสถานศึกษาการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ
โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565........................................................ 3
จดุ หมายการศึกษา หลักสตู รสถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย ฐานสมรรถนะ ๓
โรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดน้อย พทุ ธศักราช 2565........................................................ ๓
เอกลักษณ์…………………………………………………………………………………………………. ๔
อัตลักษณ…์ ……………………………………………………………………………………………….. 6
สมรรถนะของเดก็ ปฐมวยั โรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ นอ้ ย………………………………………….
มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์........................................................................ ๑3
ตารางวิเคราะห์สมรรถนะ สาระการเรียนรู้รายปี ระดบั ปฐมวัย 1๔
โรงเรียนวัดแม่แกด้ น้อย………………………………………………………………………………. ๑๕
แนวคดิ การจดั การศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อย............................ 1๖
1๗
การจดั เวลาเรียน……………………………………………………………………………………….. 2๙
- โครงสรา้ งเวลาเรยี นระดบั ปฐมวยั ……………………………………………………..
- ตารางกำหนดหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ ภาคเรยี นที่ ๑…………………….. หนา้ ข
- ตารางกำหนดหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ ภาคเรยี นท่ี ๒..........................

หลกั สตู รสถานศึกษาระดบั ปฐมวยั ฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แกด้ น้อย พุทธศักราช 2565

สารบญั (ต่อ)

เรอ่ื ง หนา้
สาระการเรียนรู้…………………………………………………………………………………………. ๒๑
23
- ประสบการณ์สำคญั ……………………………………………………………………….. 2๖
- สาระทคี่ วรเรยี นรู้…………………………………………………………………………… 2๗
- คำอธบิ ายการวเิ คราะหส์ าระการเรยี นรู้................................................... 3๖
การจดั ประสบการณ์............................................................................................. 5๔
การจัดสภาพแวดล้อม สื่อ และแหลง่ เรยี นรู้……………………………………………….. 5๔
- การจดั สภาพแวดลอ้ ม……………………………………………………………………. ๕๘
- ส่อื สง่ เสรมิ พัฒนาการ…………………………………………………………………….. 6๔
- แหล่งการเรียนรู้…………………………………………………............................... 6๕
การประเมินพัฒนาการ……………………………………………………………………………. 6๗
การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ระดับการศกึ ษาปฐมวัย……….………….. 6๗
- บทบาทหน้าท่ีของผู้เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการหลกั สตู ร. …………….. 7๐
- การพฒั นาผูส้ อน และบุคลากรปฐมวยั …………………………………………….. 7๑
- การสนับสนุนงบประมาณ และทรพั ยากร…………………………………………. ๗๔
การจดั การศกึ ษาระดับปฐมวัย (เดก็ อายุ 4-6 ปี)สำหรับกลมุ่ เป้าหมายเฉพาะ 76
- ลักษณะการจัดการศึกษาสําหรบั กลมุ เปาหมายเฉพาะ………………………..
- หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยและการจดั การศึกษาสําหรับกลมุ เปาหมาย 76
77
เฉพาะ………………………………………………………………………………………….. 80
- แนวทางการดูแลและใหการศึกษาสําหรบั กลุมเป้าหมายเฉพาะ…………… 83
การเชอ่ื มต่อของการศกึ ษาปฐมวยั กับระดบั ประถมศึกษาปที ่ี ๑……….…………..
ภาพผนวก.………………………………………………......................................................

หลกั สตู รสถานศกึ ษาระดับปฐมวยั ฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ ค

ความนำ

หลักสูตรสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย ฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช ๒๕๖๕
สำหรับเด็กอายุ ๔ - ๖ ปี ฉบับนี้ จัดทำขึ้นสำหรับผู้ที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบอบรมเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กอายุ ๔ - ๖ ปี
ในสถานศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยได้มีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาเด็ก สามารถนําปรัชญาการศึกษา
ปฐมวัย และหลักการของหลักสูตรลงสู่การปฏิบัติ บรรลุผลตามจุดหมายของหลักสูตรท่ีต้องการให้เด็กอายุ ๔ - ๖ ปี
ไดพ้ ฒั นาทกุ ดา้ นอย่างสมดลุ ทงั้ ดา้ นร่างกาย ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา

เด็กอายุ ๔ - ๖ ปี เป็นวัยที่ร่างกายและสมองของเด็กกําลังเจริญเติบโต เด็กต้องการความรัก ความเอาใจใส่
และการดูแลอย่างใกล้ชิด เดก็ วยั น้มี โี อกาสเรียนรู้ จากการใช้ประสาทสัมผัสทัง้ ห้า ไดส้ าํ รวจ เล่น ทดลอง ค้นพบด้วย
ตนเอง ไดม้ ีโอกาสคดิ แก้ปัญหา เลือก ตัดสินใจ ใช้ภาษาสือ่ ความหมาย คดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ และอยู่รว่ มกับผู้อื่นอย่างมี
ความสุข ผู้ที่รับผิดชอบจึงมีหนา้ ท่ีในการอบรมเล้ียงดูและจัดประสบการณ์ให้เด็กได้พัฒนา เตม็ ตามศักยภาพ ส่งเสริม
ให้เด็กสงั เกต สาํ รวจ สรา้ งสรรค และยง่ิ เด็กมีความกระตือรือร้นที่ทำให้เดก็ เกิดการเรยี นรู้ ผู้รับผดิ ชอบจึงต้องส่งเสริม
สนับสนุน ให้ความรัก ความเข้าใจ ความเอาใจใส่เด็กวัยน้ีเป็นพิเศษ เพราะจะเป็นพื้นฐานที่ช่วยเตรียมพรอมให้เด็ก
ประสบความสำเร็จในการเรียนและในชีวิตของเด็กต่อไป การนําหลักสูตร สู่การปฏิบัติของสถานศึกษาหรือสถาน
พฒั นาเดก็ ปฐมวัยแตล่ ะแหง่ จึงมคี วามสำคญั อยา่ งยิง่ ต่อการพฒั นาเด็ก และถือเป็นหน้าทขี่ ้องบุคลากรท่ีเกี่ยวของทุก
ฝ่ายจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจในเอกสาร หลักสูตรสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย ฐานสมรรถนะโรงเรียน
วัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ สำหรบั เดก็ อายุ ๔ - ๖ ปี ฉบับนี้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาระดบั ปฐมวยั ฐานสมรรถนะโรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 หน้า ง

ปรชั ญาการศึกษา

หลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐

การศึกษาปฐมวัยเป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง ๖ ปี บริบูรณ์ อย่างเป็นองค์รวมบนพื้นฐานการ
อบรมเลย้ี งดูและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ท่ีสนองต่อธรรมชาติและพฒั นาการตามวยั ของเด็กแต่ละคนให้เต็ม
ตามศักยภาพภายใต้บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรักความเอื้ออาทร และความเข้าใจ
ของทุกคนเพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เกิดคุณค่าต่อตนเอง
ครอบครวั สงั คม และประเทศชาติ

วิสัยทศั นก์ ารศกึ ษา

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยมุ่งพัฒนาเด็กทุกคนให้ได้รับการพัฒนาด้านร่างกายอารมณ์ จิตใจ สังคม
และสติปัญญาอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่องได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีความสุขและเหมาะสม
ตามวัยมีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคนดี มีวินัยและสำนึกความเปน็
ไทย โดยความร่วมมอื ระหว่างสถานศกึ ษา พอ่ แม่ ครอบครวั ชุมชนและทุกฝา่ ยท่เี กย่ี วข้องกับการพฒั นาเดก็

หลกั การการศกึ ษา

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐

เด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับการอบรมเลี้ยงดูและส่งเสริมพัฒนาการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
ตลอดจนได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเหมาะสมด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพ่อแม่ เด็กกับ
ผู้สอนเด็กกับผู้เลี้ยงดูหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการอบรมเลี้ยงดู การพัฒนา และให้การศึกษาแก่เด็กปฐมวัยเพื่อให้
เด็กมีโอกาสพัฒนาตนเองตามลำดับขั้นของพัฒนาการทุกด้าน อย่างเป็นองค์รวม มีคุณภาพและเต็มตาม
ศักยภาพโดยมีหลักการดังน้ี

๑. สง่ เสรมิ กระบวนการเรยี นรแู้ ละพฒั นาการที่ครอบคลมุ เด็กปฐมวยั ทุกคน
๒. ยึดหลักการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาที่เน้นเด็กเป็นสำคัญโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่าง
บคุ คลและวถิ ชี วี ิตของเดก็ ตามบริบทของชมุ ชน สังคมและวฒั นธรรมไทย
๓.ยึดพัฒนาการและการพัฒนาเด็กโดยองค์รวมผ่านการเล่นอย่างมีความหมายและมีกิจกรรมท่ี
หลากหลาย ไดล้ งมือกระทำในสภาพแวดลอ้ มท่ีเอื้อต่อการเรยี นรู้ เหมาะสมกับวยั และมกี ารพกั ผ่อนทีเ่ พยี งพอ
๔. จดั ประสบการณก์ ารเรียนร้ใู ห้เด็กมีทกั ษะชวี ิตและสามารถปฏิบัติตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง เปน็ คนดี มีวนิ ัย และมคี วามสขุ
๕. สร้างความรู้ความเข้าใจและประสานความร่วมมือในการพัฒนาเด็กระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่
ครอบครัวชุมชน และทกุ ฝา่ ยท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การพัฒนาเด็กปฐมวัย
โรงเรียนวัดแมแ่ กด้ น้อย ดำเนินการจดั การศึกษาระดับปฐมวยั สำหรับเด็กอายุ ๔- ๖ ปี โดยโรงเรียนได้
กำหนด ปรัชญาการศึกษา วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย จุดหมาย เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของโรงเรียนอัน
เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ และส่งเสรมิ ให้เดก็ รู้จกั ตนเอง มีชวี ิตอยู่ในโรงเรยี น ชุมชน และสังคมอยา่ งมคี วามสุข ดังนี้

หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 หนา้ ๑

ปรชั ญาการศึกษา

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565

โรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ น้อยจัดการพฒั นาเด็กอายุ ๔- ๖ ปี มงุ่ พฒั นาเดก็ ปฐมวยั อยา่ งเปน็ องคร์ วม ส่งเสริม
ใหเ้ ดก็ มพี ฒั นาการครบท้ัง 4 ด้าน พฒั นาให้เด็กคิดเป็น ทำเปน็ วางแผนเป็น แก้ปญั หาเป็น เนน้ ให้เด็กได้ลงมือ
ทำอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เด็กมีสมรรถนะและทักษะชีวิตท่ีเหมาะสมกับวยั ปลูกฝังให้เดก็ เปน็ คนดี มีคุณธรรม
พร้อมทัง้ รู้จกั น้อมนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อยา่ งเหมาะสมกบั วัยตามบริบทของตน และอยู่รว่ มกับ
ผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการรอบด้านอย่าง
สมดุลเต็มศักยภาพ

วสิ ยั ทัศนก์ ารศกึ ษา

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แกด้ นอ้ ย พทุ ธศักราช 2565

โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย มุ่งพัฒนาให้เด็กมีสมรรถนะ 7 ด้าน มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ
สังคม และสตปิ ัญญา เหมาะสมตามวัยและเต็มศักยภาพ เน้นการเรียนรู้อย่างมีความสุข สร้างสรรคผ์ ลงานโดยใช้
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผ่านกิจกรรมบูรณาการอย่างหลากหลาย เด็กมีทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสาร ทักษะการคิด
แบบบูรณาการ (STEAM) มีมารยาทงาม รกั ความสามัคคี มเี หตผุ ล และอย่อู ยา่ งพอเพยี ง ภายใต้การมีส่วนร่วม
ของทุกภาคส่วน

พนั ธกิจการศึกษา

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565

๑. พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน ส่งเสริมสมรรถนะท่ี
เหมาะสมตามช่วงวัย พัฒนาทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสาร ทักษะการคิดแบบบูรณาการ (STEAM) และการ
สร้างสรรค์ อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี
ความสุข

๒. จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสุภาพมีมารยาทการไหว้ มีความสามัคคี มีความรับผิดชอบตอ่
การทำงานในกลุ่มจนสำเร็จ มีเหตุผล และยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ภายใต้วัฒนธรรม
ประเพณที อ้ งถิน่ และชมุ ชน และนอ้ มนำหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการดำเนินชวี ิต

๓. พฒั นาครแู ละบคุ ลากรใหม้ ีประสิทธิภาพในการจัดประสบการณ์การเรยี นรูท้ ีเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ
๔. สง่ เสริมสนับสนนุ การจัดสภาพแวดล้อม สอ่ื เทคโนโลยี และแหล่งเรยี นรู้ทเี่ อื้อต่อการเรยี นรูข้ องเด็ก
๕. ส่งเสริมให้ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาระดับ
ปฐมวัยของโรงเรียน

หลักสตู รการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ ๒

เปา้ หมายการศกึ ษา

หลกั สูตรการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565

๑. เดก็ ปฐมวยั ทุกคนมีพัฒนาการด้านรา่ งกาย อารมณ์-จิตใจ สงั คม และสตปิ ัญญา มที ักษะชวี ติ ทกั ษะ
การสื่อสาร ทักษะการคิดแบบบูรณาการ (STEAM) และการสร้างสรรค์ ตามมาตรฐานและคุณลักษณะที่
พึงประสงคข์ องเด็กปฐมวัย

๒. เด็กปฐมวัยทุกคนมีความสุภาพมีมารยาทการไหว้ มีความสามัคคี มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน
ในกลุ่มจนสำเร็จ มีเหตุผล และยอมรับความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ปฏิบัติตนที่เหมาะสมตาม
วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น และชุมชน สามารถน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนิน
ชวี ิต

๓. ครูและบุคลากรทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจและสามารถจัดประสบการณ์ที่มีคุณภาพ บูรณาการ
กิจกรรมอย่างหลากหลายไดเ้ หมาะสมกบั วยั ของเดก็

๔. ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยของ
โรงเรียน

๕. มสี ภาพแวดล้อม สื่อ เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ที่เอ้ือต่อการส่งเสริมพฒั นาการเด็กปฐมวัย อย่าง
ปลอดภัย เพียงพอ และเหมาะสมกับวยั ของเด็ก

จุดหมายการศึกษา

หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แกด้ นอ้ ย พทุ ธศักราช 2565

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั มุ่งให้เดก็ มีพฒั นาการตามวยั เต็มตามศักยภาพ และเม่อื มคี วามพร้อมในการ
เรียนร้ตู ่อไป จงึ กำหนดจุดหมายเพื่อให้เกิดกับเด็กเม่ือเดก็ จบการศึกษาระดับปฐมวยั ดงั นี้

1. มีร่างกายเจรญิ เติบโตตามวัย แข็งแรง และมสี ุขนสิ ัยท่ดี ี
2. มสี ุขภาพจิตดี มสี ุนทรียภาพ มีคุณธรรม จรยิ ธรรมและจิตใจท่ีดีงาม
3. มีทกั ษะชวี ิตและปฏิบัติตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มวี นิ ัย และอยู่รว่ มกับผู้อืน่ ได้
อยา่ งมีความสุข
5. มที ักษะการคดิ การใช้ภาษาสื่อสาร และการแสวงหาความรไู้ ดเ้ หมาะสมกับวัย
6. เด็กมสี มรรถนะครบทัง้ 7 ด๎านเหมาะสมกบั พัฒนาการตามวัย

เอกลกั ษณ์

“ รกั ษ์ความเปน็ ไทย ใฝก่ ารเรยี นรู้ เปน็ อยู่อย่างพอเพยี ง ”

อตั ลักษณ์ หนา้ ๓

“มารยาทงาม รกั ความสามัคค”ี

หลกั สูตรการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565

การศึกษาระดบั ปฐมวัยได้ดำเนินการใช้นวตั กรรมการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน
คอื “ MAEKADNOI Model ” โดยเน้นให้เด็กมีคุณธรรม (Moral) นั่นคอื มีความสภุ าพ และมคี วามสามัคคี
ซง่ึ เป็นคุณธรรมท่ีปรากฏอยู่ในคณุ ธรรม 8 ประการทเ่ี ดก็ ปฐมวยั ควรมี ความสภุ าพในที่ หมายถึง มีมารยาทการ
ไหว้ สว่ นความสามัคคีในท่ีนี้ หมายถึง มีความรบั ผดิ ชอบต่อการทำงานในกลุ่มจนสำเร็จ ความมเี หตผุ ล ยอมรับ

ความแตกตา่ งหลากหลายทางความคดิ จนเป็นพฤติกรรมทแี่ สดงถึงความเปน็ ตวั ตนที่เหมาะสมตามวยั ของเดก็

สมรรถนะของเดก็ ปฐมวยั โรงเรยี นวดั แม่แกด้ น้อย

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 มุ่งเน้นให้เด็ก
เกดิ สมรรถนะ 7 ดา้ น ดังน้ี

๑. ความสามารถในการเคลื่อนไหวและสุขภาวะทางกาย เน้นให้เด็กเคลื่อนไหวและทรงตัวโดยใช้
กล้ามเนื้อใหญ่ การเคลื่อนไหวโดยใช้กล้ามเนื้อเล็กและประสาทสัมผัสกับการเคลื่อนไหว รวมถึงสุขภาวะทาง
กายด้านโภชนาการ สมรรถภาพทางกาย ความปลอดภัย และการช่วยเหลือและดูแลตนเอง อันประกอบด้วย
สมรรถนะสว่ นยอ่ ย ดังนี้

1.1 การเคลื่อนไหวและการทรงตัวโดยใช้กล้ามเนื้อใหญ่ เด็กสามารถแสดงความแข็งแรง และ
ประสานการทำงานของกล้ามเนอื้ ใหญ่ตามลำดับอายุ

1.2 การเคล่ือนไหวโดยใช้กล้ามเนื้อเล็ก เด็กสามารถแสดงความแข็งแรงและประสานการทำงาน
ของกลา้ มเน้ือเล็ก ไดต้ ามลำดบั อายุ

1.3 ประสาทสัมผสั กบั การเคลือ่ นไหว เด็กสามารถใชป้ ระสาทสัมผสั ต่างๆ เช่น การเห็น ไดย้ นิ กาย
สัมผสั และอิริยาบถ ในการเคลือ่ นไหวได้ตามลำดบั อายุ

1.4 โภชนาการ เด็กรบั ประทานอาหารหลายๆ ชนิดทม่ี ปี ระโยชนแ์ ละปลอดภยั ไดต้ ามลำดับยุ
1.5 สมรรถภาพทางกาย เด็กแสดงความแข็งแรง และความทนทานของร่างกาย ไดต้ ามลำดับอายุ
1.6 ความปลอดภัย เดก็ สามารถแสดงออกว่ามีความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ความปลอดภยั ได้ตามลำดับอายุ
1.7 การช่วยเหลือและดแู ลตนเอง เด็กสามารถช่วยและพึ่งตนเองได้ในกิจวัตรของตนตามลำดับอายุ
๒. พัฒนาการด้านสังคม เน้นให้เด็กมีการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนเด็ก
พฤติกรรมการปรับตัวทางสังคม และการเห็นคุณค่าของความแตกต่าง อันประกอบด้วยสมรรถนะส่วนย่อย
ดังนี้
2.1 การมปี ฏิสัมพันธก์ ับผใู้ หญ่ เดก็ สามารถแสดงทกั ษะในการมปี ฏสิ มั พันธก์ ับผใู้ หญ่ได้ตามลำดบั อายุ
2.2 การมปี ฏสิ มั พันธ์กบั เพ่อื นเด็ก เด็กแสดงทักษะทางสังคมเชงิ บวกกบั เพอ่ื นด้วยกนั ไดต้ ามลำดบั อายุ
2.3 พฤตกิ รรมการปรับตัวทางสงั คม เด็กแสดงความตระหนักรวู้ า่ พฤตกิ รรมมีผลกระทบต่อบุคคล
และส่งิ แวดลอ้ มไดต้ ามลำดับอายุ
2.4 การเหน็ คณุ ค่าของความเหมือนและความแตกตา่ ง เดก็ ตระหนักรู้ เหน็ คุณคา่ และยอมรับนับ
ถอื ในความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลได้ตามลำดบั อายุ
๓. พัฒนาการด้านอารมณ์ เน้นให้เด็กมีความคิดเกี่ยวกับตนเอง การควบคุมอารมณ์ตนเองและ
สมรรถนะของตนเอง อันประกอบด้วยสมรรถนะสว่ นยอ่ ย ดงั นี้
3.1 ความคดิ เกี่ยวกบั ตนเอง เด็กสามารถรบั รู้เก่ยี วกบั ตนเอง ไดต้ ามลำดับอายุ
3.2 การควบคุมอารมณ์ตนเอง เด็กเขา้ ใจและปฏบิ ตั ิตนตามกฎระเบียบ และกิจวตั รไดต้ ามลำดบั อายุ
3.3 สมรรถนะของตนเอง เดก็ เช้ือมั่นในความสามารถของตนเอง ไดต้ ามลำดับอายุ

หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 หนา้ ๔

๔. พัฒนาการด้านการคิดและสติปัญญา เน้นให้เด็กมีความจำ การสร้างหรือพัฒนาความคิด
ตรรกวิทยา และความมีเหตุผล การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ความตั้งใจจดจ่อ การคิดด้านคณิตศาสตร์ ความ
เข้าใจปรากฏการณ์ และวิธีแสวงหาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมรอบตัว มลภาวะ
และการรักษาสง่ิ แวดลอ้ ม และความเขา้ ใจเกยี่ วกบั คุณเชิงเศรษฐกิจ อันประกอบดว้ ยสมรรถนะส่วนยอ่ ย ดงั นี้

4.1 ความจำ เดก็ สามารถแสดงการจำเบ้อื งตน้ ไดต้ ามลำดับอายุ
4.2 การสร้างหรือพัฒนาความคิด (ที่เป็นการคิดเบื้องต้น) เด็กสามารถแสดงความคิดพื้นฐาน เช่น
ในเรื่องเกี่ยวกับเวลา ช่องว่าง (space) ตำแหน่งแหล่งที่ คุณลักษณะ ฯลฯ รวมทั้งการจัดกลุ่มสิ่งต่างๆที่อยู่
แวดลอ้ มไดต้ ามลำดบั อายุ
4.3 ตรรกวิทยา และความมีเหตุผล เด็กแสดงความสามารถเข้าใจเกี่ยวกับเหตุและผล
ไดต้ ามลำดับอายุ
4.4 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ในส่วนของการคิดอย่างมีวิจารณญาณจะกล่าวถึงความสามารถ
ในการเปรียบเทียบ และความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.5 ความตั้งใจจดจ่อ เด็กสามารถจดจ่อกบั การทำกิจกรรมด้วยความตง้ั ใจได้ตามลำดบั อายุ
4.5 การคดิ ด้านคณิตศาสตร์ เดก็ สามารถอา่ นตัวเลขนับเลข และรูจ้ ำนวน ไดต้ ามลำดบั อายุ
4.6 ความเข้าใจปรากฏการณ์ และวิธีการแสวงหาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ในส่วนของความ
เขา้ ใจปรากฏการณ์ และวิธกี ารแสวงหาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ จะกลา่ วถงึ ส่ิงแวดล้อมที่มชี วี ติ และไม่มชี วี ติ
4.7 ความเข้าใจเก่ยี วกับสงั คมรอบตวั เก่ียวกับสงั คมรอบตัวจะกล่าวถึงครอบครัว และชมุ ชน และสังคม
4.8 มลภาวะ และการรักษาสิ่งแวดล้อม เด็กแสดงพฤติกรรมรักษาสิ่งแวดล้อมและหลีกเลี่ยง
มลภาวะได้ตามลำดับอายุ
4.9 ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ เด็กแสดงออกถึงความตระนึกรู้เกี่ยวกับคุณค่าเชิง
เศรษฐกิจของสิง่ ตา่ งๆ ไดต้ ามลำดับอายุ
๕. พัฒนาการดา้ นภาษา เน้นให้เด็ก มีการเข้าใจและการใช้ภาษา การสื่อสารความหมาย รวมถึงการ
อา่ น และการเขียน อันประกอบด้วยสมรรถนะส่วนยอ่ ย ดังนี้
5.1 การเข้าใจและการใช้ภาษา เด็กสามารถรับรู้ เข้าใจ และใช้คำศัพท์ได้ตามลำดับอายุ รวมถึง
เด็กแสดงพฒั นาการการใชไ้ วยากรณ์ และการเรียงคำให้เป็นประโยค ไดต้ ามลำดับอายุ
5.2 การสื่อความหมาย เด็กสามารถรับรู้และใช้ภาษาพูดสื่อความหมายได้ตรงตามความต้องการ
ของตนได้ตามลำดับอายุ รวมถึงเด็กสามารถสื่อความหมายอย่างมีประสิทธิภาพด้วยสีหน้า ท่าทางและ
สัญลกั ษณ์ ไดต้ ามลำดบั อายุ
5.3 การอ่านและการเขียน เด็กสามารถอ่านออกเสียงพยัญชนะ สระ และคำง่ายๆ ได้ตามลำดับ
อายุ รวมถึงเดก็ สามารถเขยี นตวั อกั ษร ตัวเลข และคำง่ายๆได้ ตามลำดับอายุ
๖. พัฒนาการด้านจริยธรรม เน้นการมีวินัยในตนเอง มีความสุภาพ มีความสามัคคี และการพัฒนา
เกีย่ วกับความรู้ผิดชอบช่วั ดี อันประกอบดว้ ยสมรรถนะสว่ นยอ่ ย ดังนี้
6.1 การมวี ินัยในตนเอง เดก็ สามารถแสดงพฤตกิ รรมควบคุมตนเองได้ตามลำดับอายุ
6.2 การพัฒนาเกี่ยวกับความรู้ผิดชอบชั่วดี เด็กสามารถแสดงพฤติกรรมสะท้อนความเข้าใจ
เกย่ี วกบั การกระทำใดถูกหรอื ผดิ ได้ตามลำดบั อายุ
6.3 การพฒั นาเก่ียวกับความสุภาพ เด็กมีมารยาทในการไหว้
6.4 การพฒั นาเกยี่ วกบั ความสามัคคี เดก็ มคี วามรับผดิ ชอบต่อการทำงานในกลุ่มจนสำเร็จ ความ

มีเหตผุ ล ยอมรบั ความแตกต่างหลากหลายทางความคดิ

หลักสตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พทุ ธศักราช 2565 หนา้ ๕

๗. พัฒนาการด้านการสร้างสรรค์ คือภาวะที่เด็กมีความคิดที่ไม่จำกัดอยู่ที่แบบใดแบบหนึ่ง มี
ความคิดที่หลากหลาย คิดอย่างละเอียดรอบคอบ มีความคิดที่ต่างไปจากเดิม มีการปรับแนวความคิด กล้าคิด
กล้าแสดงออก มีการแสดงออกในความคิดในเรื่องเดียวกัน ที่มีคำตอบมากกกว่าหนึ่ง และความคิดที่มีนั้นเป็น
ความคิดที่มีรายละเอียดครบถ้วนสามารถผสมผสานจนเกิดความคิดใหม่ๆ เรื่องใหม่ๆ และสิ่งใหม่ๆ เน้นให้เดก็
ในดา้ นศลิ ปะการแสดง และทัศนศิลป์ อันประกอบดว้ ยสมรรถนะส่วนย่อย ดงั นี้

7.1 ศิลปะการแสดง เด็กสามารถแสดงพฤติกรรมทางดนตรีและการเต้นตามดนตรีได้ตามลำดับ
อายุ รวมถงึ ศลิ ปะการละคร เดก็ สามารถแสดงพฤตกิ รรมทางศลิ ปะการละครได้ตามลำดบั อายุ

7.2 ทศั นศลิ ป์ เดก็ สามารถแสดงพฤติกรรมด้านการวาด การปน้ั และการประดษิ ฐ์ ได้ตามลำดบั อายุ

มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์
หลกั สตู รสถานศกึ ษาระดับการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแมแ่ กด้ น้อย พุทธศักราช 2565
กำหนดมาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์จำนวน ๑๒ มาตรฐาน ประกอบด้วย
๑.พัฒนาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐานคือ

มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั และมีสุขนสิ ัยท่ดี ี
มาตรฐานท่ี ๒ กลา้ มเน้ือใหญแ่ ละกล้ามเน้ือเลก็ แข็งแรงใชไ้ ด้อย่างคลอ่ งแคลว่ และประสานสัมพันธ์กัน
๒.พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ประกอบดว้ ย ๓ มาตรฐานคือ
มาตรฐานท่ี ๓ มสี ขุ ภาพจิตดีและมคี วามสขุ
มาตรฐานท่ี ๔ ช่นื ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลือ่ นไหว
มาตรฐานท่ี ๕ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม
๓.พฒั นาการด้านสงั คม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐานคอื
มาตรฐานท่ี ๖ มที ักษะชวี ิตและปฏบิ ัตติ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเปน็ ไทย
มาตรฐานท่ี ๘ อยูร่ ว่ มกบั ผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของสงั คมใน
ระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข
๔.พัฒนาการดา้ นสตปิ ัญญา ประกอบดว้ ย ๔ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาส่ือสารไดเ้ หมาะสมกับวัย
มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เป็นพน้ื ฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี ๑๑ มีจินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
มาตรฐานที่ ๑๒ มเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรยี นรูแ้ ละมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกับวยั

ตวั บง่ ชี้
ตัวบง่ ช้เี ป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กท่ีมีความสัมพนั ธส์ อดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์

สภาพทพ่ี งึ ประสงค์
สภาพท่ีพงึ ประสงคเ์ ป็นพฤติกรรมหรอื ความสามารถตามวัยท่ีคาดหวังใหเ้ ด็กเกิด บนพนื้ ฐานพฒั นาการ

ตามวัยหรือความสามารถตามธรรมชาติในแต่ละระดับอายุเพื่อนำไปใช้ในการกำหนดสาระเรียนรู้ใน การจัด
ประสบการณ์ กิจกรรมและประเมินพัฒนาการเด็กโดยมีรายละเอียดของมาตรฐาน มาตรฐานคุณลักษณะที่
พงึ ประสงค์ ตวั บ่งช้ี และสภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ดังนี้

หลักสตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ ๖

มาตรฐานท่ี ๑ ร่างกายเจรญิ เตบิ โตตามวัยเด็กมีสขุ นิสัยท่ดี ี

ตัวบ่งช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๑.๑ มีนำ้ หนักและสว่ นสูง ๑.๑.๑ น้ำหนักและส่วนสงู ตาม ๑.๑.๑ น้ำหนกั และสว่ นสงู ตามเกณฑ์

ตามเกณฑ์ เกณฑ์ของกรมอนามัย ของกรมอนามัย

๑.๒ มสี ขุ ภาพอนามัย สุข ๑.๒.๑ รับประทานอาหารท่ีมี ๑.๒.๑ รบั ประทานอาหารที่มปี ระโยชน์

นิสยั ทด่ี ี ประโยชน์และด่ืมน้ำสะอาดด้วย ได้หลายชนดิ และด่มื น้ำสะอาดได้ด้วย

ตนเอง ตนเอง

๑.๒.๒ ลา้ งมือก่อนรับประทาน ๑.๒.๒ ลา้ งมือก่อนรับประทานอาหาร

อาหารและหลงั จากใช้ห้องนำ้ ห้อง และหลังจากใชห้ ้องนำ้ ห้องส้วมด้วย

ส้วมด้วยตนเอง ตนเอง

๑.๒.๓ นอนพักผ่อนเปน็ เวลา ๑.๒.๓ นอนพักผ่อนเป็นเวลา

๑.๒.๔ ออกกำลงั กายเปน็ เวลา ๑.๒.๔ ออกกำลงั กายเป็นเวลา

๑.๓ รกั ษาความปลอดภยั ๑.๓.๑ เล่นและทำกิจกรรมอย่าง ๑.๓.๑ เล่นและทำกจิ กรรมและปฏบิ ัติ

ของตนเองและผู้อื่น ปลอดภัยด้วยตนเอง ต่อผอู้ น่ื อย่างปลอดภยั

มาตรฐานท่ี ๒ กล้ามเนือ้ ใหญแ่ ละกลา้ มเนอื้ เล็กแข็งแรงใชไ้ ดอ้ ย่างคล่องแคล่วและประสานสัมพันธ์กนั

ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๒.๑ เคลื่อนไหว ๒.๑.๑ เดนิ ต่อเท้าไปขา้ งหน้าเป็นเสน้ ตรง ๒.๑.๑ เดินตอ่ เทา้ ถอยหลังเป็นเสน้ ตรงได้

รา่ งกายอยา่ ง ได้โดยไมต่ ้องกางแขน โดยไม่ตอ้ งกางเกง

คลอ่ งแคลว่ ประสาน ๒.๑.๒ กระโดดขาเดียวอย่กู บั ทไ่ี ดโ้ ดยไม่ ๒.๑.๒ กระโดดขาเดียว ไปขา้ งหนา้ ได้
สัมพนั ธแ์ ละทรงตัว เสียการทรงตวั
ได้ อย่างต่อเน่อื งโดยไมเ่ สยี การทรงตวั

๒.๑.๓ วิ่งหลบหลกี สิง่ กดี ขวางได้ ๒.๑.๓ ว่งิ หลบหลีกสิ่งกดี ขวางไดอ้ ย่าง

คล่องแคล่ว

** ๒.๑.๔ รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองข้าง ๒.๑.๔ รับลกู บอลที่กระดอนขึ้นจากพืน้ ได้
๒.๑.๕ แตะลกู บอลไปข้างหน้าใหเ้ ข้าชอ่ ง ๒.๑.๕ แตะลกู บอลไปข้างหน้าใหเ้ ข้าช่อง

** ท่ีกำหนดได้ในระยะห่าง ๒ เมตร ทก่ี ำหนดไดใ้ นระยะห่าง ๓ เมตร

๒.๑.6 วงิ่ ตอ่ เนื่องได้ในระยะทาง ๒๐๐ - ๒.๑.6 วง่ิ ตอ่ เนอ่ื งได้ในระยะทาง ๔๐๐ -

๓๐๐ เมตร ๕๐๐ เมตร

หมายเหตุ : เครอ่ื งหมาย ( ** ) หมายถึง สภาพท่ีพงึ ประสงคท์ ี่โรงเรยี นเพ่ิมเติม
เครอ่ื งหมาย ขดี เสน้ ใต้ (____) หมายถึง จุดเน้นทเี่ ป็นอตั ลกั ษณ์

หลักสตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดนอ้ ย พทุ ธศักราช 2565 หน้า ๗

มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนอื้ ใหญแ่ ละกล้ามเน้ือเล็กแข็งแรงใชไ้ ดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และประสานสัมพันธ์กนั

ตัวบ่งช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๒.๒ ใชม้ อื -ตา ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั กระดาษตามแนว ๒.๒.๑ ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนวเสน้

ประสานสมั พันธ์กัน เส้นตรงได้ โค้งได้

๒.๒.๒ เขยี นรปู สเี่ หลี่ยมตามแบบได้อย่างมี ๒.๒.๒ เขยี นรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้อยา่ ง

มุมชดั เจน มมี มุ ชัดเจน

๒.๒.๓ ร้อยวสั ดุทม่ี รี ขู นาดเสน้ ผา่ นศนู ย์ ๐.๕ ๒.๒.๓ ร้อยวัสดุทมี่ ีรขู นาดเสน้ ผา่ นศูนย์กลาง

ซม.ได้ ๐.๒๕ ซม.ได้
** ๒.๒.๔ วาดรูปคนที่มสี ว่ นประกอบห้าส่วน ๒.๒.๔ วาดรูปคนทมี่ สี ว่ นประกอบหกสว่ น

๒.๒.๕ พับกระดาษเป็นรูปรา่ งพนื้ ฐาน 2 ๒.๒.๕ พบั กระดาษเป็นรูปรา่ งพนื้ ฐาน 3
** ขัน้ ตอน ขน้ั ตอน

๒.๒.6 ยน่ื มือรบั น้ำครง่ึ แก้วแล้วสง่ ต่อให้ ๒.๒.6 เดนิ ส่งนำ้ ครึ่งแกว้ ใหเ้ พื่อนโดยไม่หก
** เพ่ือนได้โดยไม่หก ในระยะทาง 3 เมตร

มาตรฐานท่ี ๓ มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสุข

ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๓.๑ แสดงออกทาง ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ ความรสู้ ึกไดต้ าม ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ ความรสู้ กึ ได้

อารมณ์อยา่ งเหมาะสม สถานการณ์ สอดคล้องกบั สถานการณ์อย่างเหมาะสม

๓.๒ มคี วามรู้สึกทีด่ ี ๓.๒.๑ กลา้ พูดกล้าแสดงออกอยา่ ง ๓.๒.๑ กลา้ พูดกล้าแสดงออกอย่าง

ตอ่ ตนเองและผ้อู ่ืน เหมาะสมบางสถานการณ์ เหมาะสมตามสถานการณ์

๓.๒.๒ แสดงความพอใจในผลงานและ ๓.๒.๒ แสดงความพอใจในผลงานและ

ความสามารถของตนเองและผอู้ ่ืน (ยอมรับ ความสามารถของตนเองและผอู้ ่ืน (ยอมรบั

ความแตกตา่ งหลากหลายทางความคิด) ความแตกตา่ งหลากหลายทางความคิด

มาตรฐานท่ี ๔ ชืน่ ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลือ่ นไหว

ตัวบ่งช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๔.๑ สนใจและมี ๔.๑.๑ สนใจและมคี วามสขุ และ ๔.๑.๑ สนใจและมีความสุขและ

ความสขุ และ แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ แสดงออกผา่ นงานศิลปะ

แสดงออกผา่ นงาน ๔.๑.๒ สนใจ มีความสขุ และแสดงออก ๔.๑.๒ สนใจ มคี วามสุขและแสดงออก

ศลิ ปะ ดนตรแี ละ ผ่านเสยี งเพลง ดนตรี ผา่ นเสียงเพลง ดนตรี

การเคล่อื นไหว ๔.๑.๓ สนใจ มีความสุขและแสดง ๔.๑.๓ สนใจ มคี วามสุขและแสดง

ท่าทาง/เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จงั หวะ ทา่ ทาง/เคลื่อนไหวประกอบเพลง จังหวะ

และ ดนตรี และ ดนตรี

หมายเหตุ : เครอ่ื งหมาย ( ** ) หมายถงึ สภาพที่พึงประสงคท์ ี่โรงเรยี นเพิ่มเติม

เคร่ืองหมาย ขีดเส้นใต้ (____) หมายถงึ จุดเน้นทเี่ ปน็ อตั ลักษณ์

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 หนา้ ๘

มาตรฐานที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจที่ดงี าม

ตัวบง่ ช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๕.๑ ซ่อื สัตย์ สุจริต ๕.๑.๑ ขออนญุ าตหรือรอคอยเมื่อ ๕.๑.๑ ขออนุญาตหรอื รอคอยเมอ่ื

ตอ้ งการส่งิ ของของผอู้ ืน่ เมอ่ื มีผู้ ต้องการส่ิงของของผอู้ ่ืนด้วยตนเอง

ชีแ้ นะ

๕.๒ มคี วามเมตตา กรณุ า ๕.๒.๑ แสดงความรักเพอ่ื นและมี ๕.๒.๑ แสดงความรกั เพ่ือนและมี

มีนำ้ ใจและช่วยเหลือ เมตตาสัตวเ์ ล้ยี ง เมตตาสัตว์เลย้ี ง

แบง่ ปัน ๕.๒.๒ ช่วยเหลือและแบ่งปนั ผอู้ ่นื ได้ ๕.๒.๒ ช่วยเหลอื และแบ่งปนั ผอู้ ื่นได้

เม่ือมีผชู้ ี้แนะ ดว้ ยตนเอง

๕.๓ มคี วามเห็นอกเหน็ ใจ ๕.๓.๑ แสดงสหี น้าหรอื ทา่ ทางรบั รู้ ๕.๓.๑ แสดงสหี น้าหรอื ท่าทางรบั รู้

ผู้อ่นื ความร้สู ึกผู้อนื่ ความรสู้ กึ ผอู้ ืน่ อยา่ งสอดคลอ้ งกบ

สถานการณ์

๕.๔ มีความรบั ผิดชอบ ๕.๔.๑ ทำงานท่ีได้รับมอบหมายจน ๕.๔.๑ ทำงานท่ไี ด้รบั มอบหมายจน

สำเรจ็ เมอื่ มผี ูช้ ้ีแนะ ทง้ั งานเดี่ยวและ สำเร็จดว้ ยตนเอง ทัง้ งานเดี่ยว และงาน

งานกลมุ่ (ความสามคั ค)ี กล่มุ (ความสามัคคี)

มาตรฐานท่ี ๖ มที ักษะชีวติ และปฏบิ ัติตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ตัวบง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๖.๑ ชว่ ยเหลือตนเองใน ๖.๑.๑ แต่งตัวดว้ ยตนเอง ๖.๑.๑ แตง่ ตัวด้วยตนเองไดอ้ ยา่ ง

การปฏบิ ตั กิ จิ วตั ร คลอ่ งแคลว่

ประจำวนั ๖.๑.๒ รบั ประทานอาหารด้วย ๖.๑.๒ รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง

ตนเอง อยา่ งถูกวิธี

๖.๑.๓ ใชห้ อ้ งน้ำห้องสว้ มดว้ ย ๖.๑.๓ ใช้และทำความสะอาดหลังใช้

ตนเอง หอ้ งน้ำหอ้ งสว้ มด้วยตนเอง
** ๖.๑.๔ แปรงฟนั ไดด้ ้วยตนเอง ๖.๑.๔ แปรงฟันได้ดว้ ยตนเองอย่างถูก

วธิ ี

๖.๒ มีวนิ ยั ในตนอง ๖.๒.๑ เก็บของเลน่ ของใช้เข้าที่ดว้ ย ๖.๒.๑ เกบ็ ของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่อี ยา่ ง

ตนเอง เรียบร้อยดว้ ยตนเอง

๖.๒.๒ เขา้ แถวตาลำดบั กอ่ นหลงั ได้ ๖.๒.๒ เข้าแถวตาลำดับก่อนหลังได้

ด้วยตนเอง ด้วยตนเอง

๖.๓ ประหยดั และ ๖.๓.๑ ใชส้ ิ่งของเคร่ืองใช้อยา่ ง ๖.๓.๑ ใชส้ ่ิงของเคร่ืองใช้อยา่ ง

พอเพียง ประหยัดและพอเพียงเมอ่ื มีผู้ชี้แนะ ประหยัดและพอเพยี งดว้ ยตนเอง

หมายเหตุ : เครื่องหมาย ( ** ) หมายถงึ สภาพที่พึงประสงค์ท่ีโรงเรยี นเพมิ่ เติม
เครอื่ งหมาย ขีดเสน้ ใต้ (____) หมายถึง จุดเน้นที่เป็นอัตลกั ษณ์

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 หนา้ ๙

มาตรฐานท่ี ๗ รกั ธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม และความเปน็ ไทย

ตวั บ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๗.๑ ดูแลรักษาธรรมชาติ ๗.๑.๑มสี ่วนรว่ มในการดูแลรักษา ๗.๑.๑มีสว่ นรว่ มในการดแู ลรักษา

และส่ิงแวดล้อม ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มเมื่อมีผู้ชแ้ี นะ ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มด้วยตนเอง

๗.๑.๒ทิ้งขยะไดถ้ ูกที่ ๗.๑.๒ท้ิงขยะได้ถูกที่

๗.๒ มมี ารยาทตาม ๗.๒.๑ ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทย ๗.๒.๑ ปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทยได้

วฒั นธรรมไทยและรัก ได้ด้วยตนเอง (มารยาทการไหว้) ตามกาลเทศะ (มารยาทการไหว้)

ความเป็นไทย ๗.๒.๒ กลา่ วคำขอบคุณและขอโทษ ๗.๒.๒ กลา่ วคำขอบคุณและขอโทษ

ด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง

๗.๒.๓ หยดุ เม่ือไดย้ ินเพลงชาติไทย ๗.๒.๓ ยืนตรงและรว่ มรอ้ งเพลงชาติ

และเพลงสรรเสรญิ พระบารมี ไทยและเพลงสรรเสริญพระมารมี

มาตรฐานท่ี ๘ อยูร่ ว่ มกบั ผูอ้ ่ืนได้อย่างมีความสุขและปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของสงั คมใน

ระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข

ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๘.๑ ยอมรบั ความเหมือน ๘.๑.๑ เล่นและทำกจิ กรรมรว่ มกบั ๘.๑.๑ เลน่ และทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก

และความแตกต่าง กลุ่มเด็กท่ีแตกต่างไปจากตน ทีแ่ ตกตา่ งไปจากตน

ระหวา่ งบคุ คล

๘.๒ มีปฏสิ มั พันธ์ทดี่ กี ับ ๘.๒.๑ เล่นหรือทำงานรว่ มกับเพ่ือน ๘.๒.๑ เล่นหรือทำงานร่วมกับเพ่ือน

ผอู้ ่ืน เป็นกลุม่ อย่างมีเป้าหมาย

๘.๒.๒ ยมิ้ หรอื ทักทายหรอื พูดคยุ กบั ๘.๒.๒ ยิม้ หรือทักทายหรือพูดคยุ กับ

ผ้ใู หญแ่ ละบคุ คลท่คี นุ้ เคยได้ด้วย ผใู้ หญแ่ ละบุคคลที่คุน้ เคยได้เหมาะสม

ตนเอง กบั สถานการณ์

๘.๓ ปฏิบตั ิตนเบอื้ งตน้ ใน ๘.๓.๑มสี ่วนรว่ มสรา้ งขอ้ ตกลงและ ๘.๓.๑มีส่วนรว่ มสร้างข้อตกลงและ

การเป็นสมาชิกทด่ี ขี อง ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงเม่ือมผี ้ชู แ้ี นะ ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงด้วยตนเอง

สังคม ๘.๓.๒ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้นำและผ้ตู ามท่ี ๘.๓.๒ปฏบิ ัติตนเป็นผ้นู ำและผู้ตามได้

ดีไดด้ ้วยตนเอง (ความสามัคคี เหมาะสมกับสถานการณ์ (ความ

ยอมรับความแตกต่างหลากหลาย สามัคคี ยอมรบั ความแตกต่าง

ทางความคิด) หลากหลายทางความคดิ )

๘.๓.๓ประนีประนอมแกไ้ ขปัญหา ๘.๓.๓ประนปี ระนอมแกไ้ ขปัญหาโดย

โดยปราศจากการใช้ความรนุ แรงเมอื่ มีผู้ ปราศจากการใช้ความรุนแรงด้วย

ชีแ้ นะ (ความสามัคคี มีเหตผุ ล) ตนเอง (ความสามคั คี มเี หตผุ ล)

หมายเหตุ : เครือ่ งหมาย ( ** ) หมายถงึ สภาพที่พึงประสงค์ทโ่ี รงเรยี นเพ่ิมเตมิ
เครื่องหมาย ขีดเส้นใต้ (____) หมายถึง จุดเนน้ ทเ่ี ป็นอตั ลกั ษณ์

หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ ๑๐

มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาส่ือสารไดเ้ หมาะสมกับวัย

ตัวบง่ ชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๙.๑ สนทนาโตต้ อบและเลา่ ๙.๑.๑ ฟงั ผอู้ น่ื พูดจนจบและสนทนา ๙.๑.๑ ฟงั ผอู้ ่ืนพูดจนจบและสนทนา

เรื่องใหผ้ ู้อื่นเข้าใจ โต้ตอบสอดคล้องกับเรื่องท่ีฟงั โตต้ อบอยา่ งตอ่ เน่ืองเช่ือมโยงกบั เรื่องทีฟ่ งั

๙.๑.๒ เลา่ เรอ่ื งเป็นประโยคอยา่ ง ๙.๑.๒ เลา่ เป็นเรื่องราวตอ่ เน่อื งได้

ต่อเนือ่ ง

๙.๒ อ่าน เขยี นภาพ และ ๙.๒.๑ อา่ นภาพ สัญลักษณ์ คำ ๙.๒.๑ อ่านภาพ สัญลักษณ์ คำ ดว้ ยการ

สญั ลกั ษณไ์ ด้ พรอ้ มทัง้ ช้ี หรอื กวาดตามองข้อความ ช้ี หรือกวาดตามองจดุ เรมิ่ ตน้ และจุดจบ

ตามบรรทัด ของข้อความ

๙.๒.๒ เขยี นคลา้ ยตัวอกั ษร ๙.๒.๒ เขยี นช่ือของตนเอง ตามแบบ

เขยี นขอ้ ความดว้ ยวิธีทีค่ ดิ ข้นึ เอง

มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ทเี่ ปน็ พืน้ ฐานในการเรยี นรู้

ตวั บ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๑๐.๑ มีความสามารถใน ๑๐.๑.๑ บอกลกั ษณะและ ๑๐.๑.๑ บอกลกั ษณะ ส่วนประกอบ

การคดิ รวบยอด สว่ นประกอบของส่งิ ของตา่ งๆจาก การเปล่ยี นแปลง หรอื ความสัมพันธ์

การสังเกตโดยใชป้ ระสาทสมั ผัส ของสิง่ ของต่างๆจากการสังเกตโดยใช้

ประสาทสัมผัส

๑๐.๑.๒ จับคู่และเปรยี บเทยี บความ ๑๐.๑.๒ จบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บความ

แตกตา่ งหรือความเหมอื นของสง่ิ แตกตา่ งหรือความเหมอื นของสิ่งต่างๆ

ต่างๆโดยใชล้ กั ษณะทสี่ งั เกตพบ โดยใชล้ ักษณะท่สี งั เกตพบสองลักษณะ

เพยี งลักษณะเดยี ว ขึน้ ไป

๑๐.๑.๓ จำแนกและจดั กลมุ่ ส่ิงตา่ งๆ ๑๐.๑.๓ จำแนกและจัดกลุ่มส่ิงตา่ งๆ

โดยใช้อย่างนอ้ ยหนึง่ ลักษณะเป็น โดยใชต้ ้ังแตส่ องลักษณะขึน้ ไปเป็น

เกณฑ์ เกณฑ์

๑๐.๑.๔ เรียงลำดบั สิง่ ของหรือ ๑๐.๑.๔ เรียงลำดับส่ิงของหรือ

เหตุการณ์อย่างน้อย ๔ ลำดับ เหตกุ ารณ์อย่างน้อย ๕ ลำดบั

๑๐.๒ มคี วามสามารถใน ๑๐.๒.๑ ระบสุ าเหตหุ รือผลที่เกิดข้ึน ๑๐.๒.๑อธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผล

การคิดเชงิ เหตผุ ล ในเหตกุ ารณ์หรือ การกระทำเม่ือมีผู้ ที่เกดิ ข้นึ ในเหตกุ ารณ์หรอื การกระทำ

ช้ีแนะ ด้วยตนเอง

๑๐.๒.๒ คาดเดา หรอื คาดคะเนสง่ิ ที่ ๑๐.๒.๒คาดคะเนสง่ิ ท่อี าจจะเกิดข้นึ

อาจจะเกดิ ขนึ้ หรือมีสว่ นรว่ มในการ และมสี ว่ นร่วมในการลงความเหน็ จาก

ลงความเห็นจากขอ้ มูล ข้อมูลอย่างมีเหตุผล

หมายเหตุ : เครอ่ื งหมาย ( ** ) หมายถึง สภาพที่พึงประสงค์ท่ีโรงเรียนเพม่ิ เติม
เคร่ืองหมาย ขดี เส้นใต้ (____) หมายถึง จดุ เน้นท่ีเปน็ อตั ลักษณ์

หลักสูตรการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 หนา้ ๑๑

ตวั บง่ ชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์

๑๐.๓ มคี วามสามารถใน อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี
การคดิ แกป้ ัญหาและ
ตดั สินใจ ๑๐.๓.๑ ตดั สนิ ใจในเร่ืองงา่ ยๆและ ๑๐.๓.๑ ตดั สินใจในเรือ่ งงา่ ยๆและ

เร่มิ เรียนร้ผู ลที่เกดิ ข้ึน ยอมรบั ผลทีเ่ กิดขน้ึ

๑๐.๓.๒ ระบุปญั หา และแก้ปัญหา ๑๐.๓.๒ ระบปุ ญั หาสร้างทางเลอื กและ

โดยลองผิดลองถูก เลอื กวธิ ีแก้ปญั หา

มาตรฐานท่ี ๑๑ มีจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์

ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๑๑.๑ เล่น/ทำงานศลิ ปะ ๑๑.๑.๑ สร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือ ๑๑.๑.๑ สร้างผลงานศิลปะเพื่อส่อื สาร

ตามจนิ ตนาการและ ส่ือสารความคิด ความรู้สกึ ของ ความคดิ ความรูส้ ึกของตนเองโดยมี

ความคิดสรา้ งสรรค์ ตนเองโดยมีการดดั แปลงและแปลก การดดั แปลงและแปลกใหม่จากเดมิ

ใหมจ่ ากเดิมหรือมรี ายละเอียด และมีรายละเอยี ดเพิ่มข้ึน

เพม่ิ ขน้ึ

๑๑.๒ แสดงท่าทาง/ ๑๑.๒.๑ เคล่อื นไหวทา่ ทางเพ่ือ ๑๑.๒.๑ เคล่อื นไหวทา่ ทางเพื่อสอื่ สาร

เคล่อื นไหวตาม ส่อื สารความคิดความรูส้ ึกของตนเอง ความคดิ ความรู้สึกของตนเองอยา่ ง

จนิ ตนาการอย่าง อยา่ งหลากหลายหรือแปลกใหม่ หลากหลายและแปลกใหม่

สรา้ งสรรค์

มาตรฐานที่ ๑๒ มเี จตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกบั วัย

ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์

อายุ ๔- ๕ ปี อายุ ๕-๖ ปี

๑๒.๑ มเี จตคตทิ ี่ดีต่อการ ๑๒.๑.๑ สนใจซักถามเกีย่ วกับ ๑๒.๑.๑ หยบิ หนงั สือมาอ่านและเขยี น

เรยี นรู้ สญั ลกั ษณห์ รือตวั หนังสือที่พบเหน็ สอื่ ความคดิ ดว้ ยตนเองเป็นประจำอย่าง

ต่อเนือ่ ง

๑๒.๑.๒ กระตือรือร้นในการเข้าร่วม ๑๒.๑.๒ กระตอื รือร้นในการรว่ ม

กิจกรรม กิจกรรมตง้ั แตต่ น้ จนจบ

๑๒.๒ มีความสามารถใน ๑๒.๒.๑ คน้ หาคำตอบของข้อสงสัย ๑๒.๒.๑ ค้นหาคำตอบของข้อสงสยั

การแสวงหาความรู้ ตา่ งๆ ตามวิธีการของตนเอง ต่างๆ ตามวธิ ีการทหี่ ลากหลายด้วย

ตนเอง

๑๒.๒.๒ ใชป้ ระโยคคำถามว่า “ที่ ๑๒.๒.๒ ใช้ประโยคคำถามว่า

ไหน” “ทำไม” ในการค้นหาคำตอบ “เม่ือไร” อย่างไร” ในการคน้ หา

คำตอบ

หมายเหตุ : เครอื่ งหมาย ( ** ) หมายถงึ สภาพท่ีพงึ ประสงคท์ โี่ รงเรียนเพมิ่ เตมิ หนา้ ๑๒
เครอ่ื งหมาย ขดี เสน้ ใต้ (____) หมายถงึ จุดเน้นที่เปน็ อัตลักษณ์

หลักสตู รการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565

ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะสาระการเรยี นรู้รายปี ระดับปฐมวัย โรงเรยี นวดั แม่แก้ดนอ้ ย

มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี ด้านที่ ๑ ดา้ นที่ ๒ สมรรถนะ ด้านที่ ๕ ด้านท่ี ๖ ด้านที่ ๗
ท่ี ความสามารถ พัฒนาการ พฒั นาการ พฒั นาการ พัฒนาการ
ด้านสงั คม ดา้ นท่ี ๓ ดา้ นท่ี ๔ ด้านภาษา ดา้ นการ
๑ ๑.๑ ในการ พัฒนาการ พฒั นาการ ดา้ น สร้างสรรค์
๑.๒ เคล่ือนไหว ดา้ นอารมณ์ ด้านการคิด  จรยิ ธรรม
๑.๓ และสขุ ภาวะ  
ทางกาย และ   
๒ ๒.๑ สติปญั ญา   
๒.๒  
    
๓ ๓.๑   
๓.๒     
    
๔ ๔.๑   
๕ ๕.๑     
   
๕.๒     
๕.๓    
๕.๔  
๖ ๖.๑   
๖.๒ 
๖.๓  
๗ ๗.๑ 
๗.๒  
๘ ๘.๑  
๘.๒ 
๘.๓ 
๙ ๙.๑
๙.๒ 
๑๐ ๑๐.๑ 
๑๐.๒ 
๑๐.๓
๑๑ ๑๑.๑ 
๑๑.๒ 
๑๒ ๑๒.๑ 
๑๒.๒ 



หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แม่แก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 หน้า ๑๓

แนวคดิ การจัดการศกึ ษาฐานสมรรถนะโรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดน้อย
โดยใช้นวตั กรรมการจัดการเรยี นรู้ “MAELADNOI Model”

ตารางแสดงความเชื่อมโยงระหว่างสมรรถนะระดับการศึกษาปฐมวัย กับสมรรถนะการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน

ของโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย

สมรรถนะการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน สมรรถนะการศกึ ษาระดบั ปฐมวัย

1. การจดั การตนเอง 1. ความสามารถในการเคล่อื นไหว และสุขภาวะ
ทางกาย และพัฒนาการด้านอารมณ์

2. การคดิ ข้นั สูง 2. พฒั นาการด้านการคดิ และสติปญั ญา
3. การสื่อสาร 3. พัฒนาการดา้ นภาษา

4. การรวมพลังทำงานเปน็ ทีม 4. พฒั นาการด้านสังคม

5. การเป็นพลเมอื งท่ีเข้มแข็ง 5. พฒั นาการด้านสังคม และพฒั นาการดา้ น
จริยธรรม

6. การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาติ และวิทยาการอย่าง 6. พฒั นาการด้านสังคม และพัฒนาการด้าน
ย่งั ยืน สร้างสรรค์

หลกั สูตรการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พทุ ธศักราช 2565 หนา้ ๑๔

การจัดเวลาเรยี น

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 ได้กำหนดกรอบ
โครงสร้างเวลาในการจดั ประสบการณใ์ ห้กับเด็ก ๔ - ๖ ปี โดยจัดเป็น ๒ ภาคเรยี น ต่อ ๑ ปกี ารศึกษา โดยมเี วลาเรยี น
ไมน่ ้อยกว่า ๑๘๐ วันตอ่ ๑ ปีการศกึ ษา ในแต่ละวนั จะใชเ้ วลาในการจัดกจิ กรรมหลักครบทง้ั ๖ กิจกรรม โดยกิจกรรม
เสริมประสบการณ์จะใช้รูปแบบ STEAM บูรณาการการสอนในชั้นเรียน และกิจกรรมส่งเสริม/พัฒนาแบบบูรณการ ได้แก่
คอมพิวเตอร์ พุทธมามะกะน้อย ภาษาจีน และกิจกรรมส่งเสริมพฒั นาการเด็กที่มีความตอ้ งการจำเป็นพิเศษ โดยมีการ
จดั ชั้นเรยี น โครงสรา้ งเวลาการจดั ประสบการณ์ และเวลาการจดั ประสบการณ์ และกจิ กรรม ตอ่ ปกี ารศกึ ษา ดงั นี้

๑. การจดั ช้นั เรียน
๑.๑ ชน้ั อนบุ าลปีท่ี ๒ ตวั ย่อ อ.๒ (เดก็ ช่วงอายุ ๔-๕ ป)ี
๑.๒ ช้ันอนุบาลปีท่ี ๓ ตัวยอ่ อ.๓ (เดก็ ชว่ งอายุ ๕-๖ ป)ี

๒. โครงสรา้ งเวลาในการจดั ประสบการณ์ ปีการศกึ ษาละ ๒ ภาคเรียน
๒.๑ ภาคเรยี นที่ ๑ (๑๖ พฤษภาคม ถึง ๗ ตลุ าคม)
๒.๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ (๑ พฤศจิกายน ถึง ๑๐ มีนาคม)

๓. ระยะเวลาจดั ประสบการณ์ และกิจกรรม ๑ ปกี ารศกึ ษา ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๘๐ วนั
๓.๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ไมน่ อ้ ยกว่า ๙๐ วนั เวลาจัดประสบการณ์ และกจิ กรรม วันละ ๖ ช่งั โมง
๓.๒ ภาคเรียนท่ี ๒ ไมน่ ้อยกว่า ๙๐ วนั เวลาจัดประสบการณ์ และกจิ กรรม วนั ละ ๖ ช่งั โมง
โดยมีโครงสร้างหลกั สูตรระดับปฐมวัย โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อย ดังน้ี

ชว่ งอายุ สาระการเรียนรู้ ระยะเวลาเรียน
๔ - ๖ ปี
ประสบการณส์ ำคญั ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๘๐/ปี

ด้านรา่ งกาย การศึกษา

ดา้ นอารมณ์ จิตใจ

ดา้ นสงั คม

ด้านสติปัญญา

สาระทคี่ วรเรียนรู้

เร่ืองราวเก่ยี วกับตัวเดก็

เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่

แวดลอ้ มเดก็

เรอื่ งราวเกี่ยวกับธรรมชาติรอบตวั เด็ก

เรือ่ งราวเกยี่ วกับสิง่ ตา่ งๆรอบตวั เด็ก

หลักสตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแมแ่ ก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 หน้า ๑๕

โครงสร้างเวลาเรยี นระดับปฐมวัย

กิจกรรม เวลาเรียน ชงั่ โมง/วนั

๑. กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ (STEAM), กิจกรรม อายุ ๔ - ๕ ปี อายุ ๕ - ๖ ปี
สง่ เสริม/พัฒนาแบบบูรณการ ได้แก่ คอมพวิ เตอร์
พุทธมามะกะน้อย ภาษาจีน 20 นาที 2๐ นาที
๒. กิจกรรมสร้างสรรค์
๓. กิจกรรมเสรี ๓๐ นาที ๓๐ นาที
๔. กจิ กรรมกลางแจง้ 4๐ นาที 4๐ นาที
๕. กจิ กรรมเกมการศึกษา 4๐ นาที 4๐ นาที
๖. กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ ๓๐ นาที ๓๐ นาที
๗. การพฒั นาทกั ษะพน้ื ฐานในชวี ติ ประจำวนั 20 นาที 2๐ นาที
(รวมทัง้ การชว่ ยตนเองในการแต่งกาย การ ๓ ชัว่ โมง ๓ ชวั่ โมง
รับประทานอาหาร สขุ อนามยั และการนอน
พักผ่อน ) ๖ ช่วั โมง ๖ ชั่วโมง

รวมเวลาเรยี น/วัน

หมายเหตุ : กจิ กรรมส่งเสริมพฒั นาการเด็กที่มคี วามต้องการจำเป็นพิเศษเปน็ รายบคุ คล สปั ดาห์ละ
๑.๕ - ๔ ช่ัวโมง/สปั ดาห์

หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แม่แก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565 หน้า ๑๖

ตารางกำหนดหน่วยการจดั ประสบการณ์ ภาคเรียนท่ี ๑

การกำหนดหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕

ชนั้ อนบุ าล ๒ โรงเรียนวดั แม่แกด้ น้อย อำเภอสนั ทราย จงั หวดั เชยี งใหม่

สปั ดาห์ท่ี วนั เดอื น ปี หนว่ ยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

๒ ๑๖ - ๒๐ พ.ค. ๖๕ ปฐมนิเทศ เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั ตัวเด็ก

๔ ๒๓ - ๒๗ พ.ค. ๖๕ โรงเรยี นของเรา เรื่องราวเก่ยี วกับบุคคลและสถานท่แี วดลอ้ มเดก็

๖ ๓๐ พ.ค. - ๓ มิ.ย. ๖๕ ตวั เรา เรื่องราวเก่ียวกับตัวเด็ก

๗ ๖ - ๑๐ มิ.ย. ๖๕ หนูทำได้ เรื่องราวเกย่ี วกบั ตวั เด็ก

๙ ๑๓ - ๑๗ มิ.ย. ๖๕ ตา้ นทจุ ริต เร่ืองราวเกย่ี วกับตวั เด็ก

๑๐ ๒๐ - ๒๔ มิ.ย. ๖๕ ครอบครัวมีสุข (**) เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั บคุ คลและสถานทแี่ วดลอ้ มเดก็

๑๑ ๒๗ ม.ิ ย. - ๑ ก.ค. ๖๕ ปลอดภัยไว้ก่อน เรื่องราวเกยี่ วกบั ตัวเด็ก
๑๒ ๔ - ๘ ก.ค ๖๕
๑๑ - ๑๕ ก.ค ๖๕ รักเมอื งไทย เรอื่ งราวเกย่ี วกบั บุคคลและสถานท่ีแวดล้อมเดก็
๑๓
๑๔ อาหารดมี ีประโยชน์(**) เรือ่ งราวเก่ยี วกับตัวเด็ก

๑๕ ๑๘ - ๒๒ ก.ค. ๖๕ สัตว์นา่ รัก (**) ธรรมชาตริ อบตวั

๑๖ ๒๕ – ๒๙ ก.ค. ๖๕ วนั เฉลิมพระชนมพรรษาฯ เรื่องราวเกย่ี วกบั บุคคลและสถานที่แวดลอ้ มเด็ก
๑ - ๕ ส.ค. ๖๕
๑๗ ฤดฝู น (**) ธรรมชาตริ อบตัว
๑๘
๘ - ๑๒ ส.ค. ๖๕ วนั แมแ่ หง่ ชาติ เร่อื งราวเกย่ี วกับบคุ คลและสถานทแ่ี วดล้อมเด็ก
๑๙
๑๕ - ๑๙ ส.ค. ๖๕ ขา้ วเพอื่ ชวี ิต (**) ธรรมชาติรอบตัว
๒๐
๒๑ ๒๒ - ๒๖ ส.ค. ๖๕ ของเล่นของใช้ (**) ส่ิงต่างๆรอบตวั เด็ก

๒๙ ส.ค - ๒ ก.ย. ๖๕ เทคโนโลยีและการ สง่ิ ต่างๆรอบตวั เด็ก
สื่อสาร (**)

๕ - ๙ ก.ย. ๖๕ โลกสวยดว้ ยสสี นั ส่ิงตา่ งๆรอบตวั เด็ก

๑๒ - ๑๖ ก.ย. ๖๕ กลางวนั กลางคืน (**) สง่ิ ตา่ งๆรอบตัวเด็ก

๑๙ - ๒๓ ก.ย. ๖๕ คณติ คดิ สนุก สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก

๒๖ - ๓๐ ก.ย. ๖๕ หนูน้อยรกั การอา่ น สง่ิ ต่างๆรอบตัวเด็ก

๓ - ๗ ต.ค. ๖๕ ประเมินพฒั นาการ

หมายเหตุ : เคร่อื งหมาย (**) หมายถึง การจัดกจิ กรรมเสริมประสบการณ์ รูปแบบ STEAM

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565 หน้า ๑๗

ตารางกำหนดหนว่ ยการจัดประสบการณ์ ภาคเรยี นท่ี ๑

การกำหนดหนว่ ยการจัดประสบการณ์ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕

ชั้นอนุบาล ๓ โรงเรยี นวัดแม่แกด้ นอ้ ย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

สัปดาห์ที่ วนั เดือน ปี หนว่ ยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

๒ ๑๖ - ๒๐ พ.ค. ๖๕ ปฐมนเิ ทศ เรื่องราวเกยี่ วกับตัวเด็ก

๔ ๒๓ - ๒๗ พ.ค. ๖๕ โรงเรยี นของเรา เรอ่ื งราวเก่ยี วกับบุคคลและสถานที่แวดลอ้ มเดก็

๖ ๓๐ พ.ค. - ๓ ม.ิ ย. ๖๕ ตวั เรา เร่ืองราวเกี่ยวกบั ตัวเด็ก

๗ ๖ - ๑๐ ม.ิ ย. ๖๕ หนูทำได้ เรือ่ งราวเกย่ี วกับตัวเด็ก
๘ ๑๓ - ๑๗ มิ.ย. ๖๕ ต้านทุจรติ เร่ืองราวเกยี่ วกับตัวเด็ก
๙ ๒๐ - ๒๔ มิ.ย. ๖๕ ครอบครัวมีสุข (**)
๑๐ เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั บุคคลและสถานท่ีแวดลอ้ มเด็ก

๑๑ ๒๗ มิ.ย. - ๑ ก.ค. ๖๕ ปลอดภยั ไว้ก่อน เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ตวั เด็ก
๑๒ ๔ - ๘ ก.ค. ๖๕ รักเมืองไทย
๑๑ - ๑๕ ก.ค. ๖๕ อาหารดมี ีประโยชน์ เร่อื งราวเก่ียวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเดก็
๑๓ ๑๘ - ๒๒ ก.ค. ๖๕ สตั ว์น่ารัก (**)
๑๔ เรอื่ งราวเกีย่ วกบั ตวั เด็ก
ธรรมชาติรอบตัว
๑๕
๒๕ – ๒๙ ก.ค. ๖๕ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษาฯ เรื่องราวเก่ยี วกบั บุคคลและสถานทแ่ี วดล้อมเดก็
๑๖ ๑ - ๕ ส.ค. ๖๕
๑๗ ฤดฝู น (**) ธรรมชาติรอบตัว

๑๘ ๘ - ๑๒ ส.ค. ๖๕ วนั แมแ่ ห่งชาติ เร่อื งราวเกี่ยวกับบคุ คลและสถานทแ่ี วดล้อมเด็ก
๑๕ - ๑๙ ส.ค. ๖๕ ขา้ วเพอื่ ชีวิต (**)
๑๙ ธรรมชาติรอบตัว

๒๐ ๒๒ - ๒๖ ส.ค. ๖๕ ของเลน่ ของใช้ (**) ส่งิ ตา่ งๆรอบตัวเด็ก

๒๑ ๒๙ ส.ค. - ๒ ก.ย. ๖๕ เทคโนโลยีและการสอ่ื สาร สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก

๕ - ๙ ก.ย. ๖๕ โลกสวยดว้ ยสีสนั (**) สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก

๑๒ - ๑๖ ก.ย. ๖๕ กลางวนั กลางคนื (**) สง่ิ ตา่ งๆรอบตัวเด็ก

๑๙ - ๒๓ ก.ย. ๖๕ คณิตคดิ สนุก สง่ิ ต่างๆรอบตัวเด็ก

๒๖ - ๓๐ ก.ย. ๖๕ หนูนอ้ ยรกั การอ่าน (**) ส่งิ ตา่ งๆรอบตวั เด็ก

๓ - ๗ ต.ค. ๖๕ ประเมนิ พัฒนาการ

หมายเหตุ : เครือ่ งหมาย (**) หมายถงึ การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ รูปแบบ STEAM

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พทุ ธศักราช 2565 หน้า ๑๘

ตารางกำหนดหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ ภาคเรยี นที่ ๒

การกำหนดหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕

ชนั้ อนุบาล ๒ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย อำเภอสนั ทราย จงั หวัดเชยี งใหม่

สปั ดาห์ที่ วนั เดือน ปี หน่วยการเรียนรู้ สาระที่ควรรู้

๒๒ ๑ - ๔ พ.ย. ๖๕ อารมณ์ของฉนั เร่ืองราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก
๒๓ ๗ - ๑๑ พ.ย. ๖๕
วนั ลอยกระทง (**) เรื่องราวเกยี่ วกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเดก็

๒๔ ๑๔ - ๑๗ พ.ย. ๖๕ เด็กดีมมี ารยาท เรอ่ื งราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก

๒๕ ๒๑ - ๒๕ พ.ย. ๖๕ ประสาทสมั ผัสท้ัง ๕ เรื่องราวเก่ียวกับตัวเด็ก

๒๖ ๒๘ พ.ย. - ๒ ธ.ค. ๖๕ ตน้ ไมท้ รี่ ัก (**) ธรรมชาติรอบตวั

๒๗ ๕ - ๙ ธ.ค. ๖๕ วนั ชาติ เรือ่ งราวเกี่ยวกบั บุคคลและสถานที่แวดลอ้ มเดก็
๒๘ ๑๒ - ๑๖ ธ.ค. ๖๕ การคมนาคม (**) สิง่ ตา่ งๆรอบตัวเด็ก

๒๙ ๑๙ - ๒๓ ธ.ค. ๖๕ ฤดหู นาว (**) ธรรมชาตริ อบตัว

๓๐ ๒๖ - ๓๐ ธ.ค. ๖๕ วนั ขนึ้ ปใี หม่ เร่อื งราวเก่ยี วกับบุคคลและสถานทแ่ี วดลอ้ มเดก็
๓๑ ๔ - ๖ ม.ค. ๖๖
เศรษฐกิจพอเพียง (**) ธรรมชาตริ อบตัว

๓๒ ๙ - ๑๓ ม.ค. ๖๖ วนั เด็กวนั ครู เรอ่ื งราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
๓๓ ๑๖ - ๒๐ ม.ค. ๖๖ วิทยาศาสตร์น่ารู้ ส่ิงตา่ งๆรอบตวั เด็ก

๓๔ ๒๓ – ๒๗ ม.ค. ๖๖ วิทยาศาสตร์ ส่งิ ตา่ งๆรอบตัวเด็ก
สร้างสรรค์ (**)

๓๕ ๓๐ ม.ค. - ๓ ก.พ. ๖๖ เชียงใหม่น่าอยู่ เรอ่ื งราวเกยี่ วกับบุคคลและสถานทีแ่ วดล้อมเดก็

๓๖ ๖ - ๑๐ ก.พ. ๖๖ สนั ทรายบ้านเฮา (**) เรื่องราวเกย่ี วกบั บุคคลและสถานที่แวดลอ้ มเด็ก

๓๗ ๑๓ - ๑๗ ก.พ. ๖๖ หนิ ดนิ ทราย ธรรมชาตริ อบตวั
๓๘ ๒๐ - ๒๔ ก.พ. ๖๖
แรงและพลังงาน (**) ธรรมชาติรอบตัว

๓๙ ๒๗ ก.พ. - ๓ มี.ค. ๖๖ ฤดูร้อน ธรรมชาตริ อบตัว

๔๐ ๖ - ๑๐ ม.ี ค. ๖๖ ประเมนิ พัฒนาการ

หมายเหตุ : เครอื่ งหมาย (**) หมายถึง การจดั กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ รูปแบบ STEAM

หลักสูตรการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พทุ ธศักราช 2565 หน้า ๑๙

ตารางกำหนดหนว่ ยการจัดประสบการณ์ ภาคเรียนที่ ๒

การกำหนดหน่วยการจัดประสบการณ์ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕

ช้ันอนบุ าล ๓ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย อำเภอสนั ทราย จังหวดั เชียงใหม่

สปั ดาห์ที่ วนั เดือน ปี หนว่ ยการเรยี นรู้ สาระท่ีควรรู้
๒๒
๒๓ ๑ - ๔ พ.ย. ๖๕ อารมณ์ของฉัน เร่อื งราวเก่ยี วกับตวั เด็ก
๒๔ ๗ - ๑๑ พ.ย. ๖๕ วันลอยกระทง เรอ่ื งราวเก่ียวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
๒๕
๒๖ ๑๔ - ๑๗ พ.ย. ๖๕ เด็กดมี ีมารยาท เร่อื งราวเกี่ยวกบั ตัวเด็ก
๒๗ ๒๑ - ๒๕ พ.ย. ๖๕ ประสาทสมั ผัสทง้ั ๕ เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ตัวเด็ก
๒๘ ๒๘ พ.ย. - ๒ ธ.ค. ๖๕ ตน้ ไมท้ ่รี ัก (**) ธรรมชาติรอบตวั

๒๙ ๕ - ๙ ธ.ค. ๖๕ วนั ชาติ เรือ่ งราวเก่ยี วกบั บุคคลและสถานท่แี วดลอ้ มเดก็
๓๐ ๑๒ - ๑๖ ธ.ค. ๖๕ การคมนาคม (**) ส่งิ ตา่ งๆรอบตวั เด็ก
๓๑
๑๙ - ๒๓ ธ.ค. ๖๕ ฤดหู นาว ธรรมชาตริ อบตวั
๓๒
๓๓ ๒๖ - ๓๐ ธ.ค. ๖๕ วันข้นึ ปีใหม่ เรอื่ งราวเก่ียวกบั บุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
๔ - ๖ ม.ค. ๖๖
๓๔ เศรษฐกจิ พอเพียง (**) ธรรมชาติรอบตวั

๓๕ ๙ - ๑๓ ม.ค. ๖๖ วันเด็กวนั ครู เรอ่ื งราวเกยี่ วกบั บุคคลและสถานท่แี วดลอ้ มเด็ก
๓๖
๓๗ ๑๖ - ๒๐ ม.ค. ๖๖ วิทยาศาสตรน์ า่ รู้ (**) สิง่ ต่างๆรอบตัวเด็ก

๓๘ ๒๓ – ๒๗ ม.ค. ๖๖ วิทยาศาสตร์สรา้ งสรรค์ สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก
(**)
๓๙
๔๐ ๓๐ ม.ค. - ๓ ก.พ. ๖๖ เชียงใหม่น่าอยู่ เรอื่ งราวเกย่ี วกับบุคคลและสถานที่แวดลอ้ มเด็ก

๖ - ๑๐ ก.พ. ๖๖ สันทรายบา้ นเฮา (**) เรื่องราวเกย่ี วกบั บุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก

๑๓ - ๑๗ ก.พ. ๖๖ หนิ ดนิ ทราย (**) ธรรมชาติรอบตัว

๒๐ - ๒๔ ก.พ. ๖๖ แรงและพลงั งาน (**) ธรรมชาตริ อบตวั

๒๗ ก.พ - ๓ ม.ี ค. ๖๖ ฤดรู ้อน ธรรมชาติรอบตัว

๖ - ๑๐ ม.ี ค. ๖๖ ประเมนิ พฒั นาการ

หมายเหตุ : เครอื่ งหมาย (**) หมายถึง การจดั กิจกรรมเสริมประสบการณ์ รปู แบบ STEAM

หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 หนา้ ๒๐

สาระการเรียนรู้

โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยกำหนดสาระการเรียนรู้รายปีตามมาตรฐานคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๒
มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ควบคุมประสบการณ์สำคัญทั้งด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จิตใจ ด้านสังคม
และด้านสติปัญญา สาระการเรียนรู้เป็นสื่อกลางในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับเด็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการ
ทกุ ด้าน ใหเ้ ป็นไปตามจดุ หมายของหลกั สูตรท่กี ำหนด ประกอบดว้ ย ประสบการณส์ ำคัญและสาระท่คี วรเรยี นรู้ ดังนี้

๑. ประสบการณ์สำคัญ

ประสบการณส์ ำคญั เปน็ แนวทางสำหรับผสู้ อนไปใชใ้ นการออกแบบการจดั ประสบการณ์ ใหเ้ ดก็ ปฐมวยั เรยี นรู้

ลงมือปฏิบตั ิ และได้รบั การส่งเสรมิ พฒั นาการครอบคลุมทกุ ด้าน ดงั นี้

๑.๑ ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการดา้ นร่างกาย เป็นการสนับสนุนใหเ้ ด็กได้มีโอกาสพัฒนาการ

ใช้กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาท ในการทำกิจวัตร

ประจำวนั หรือทำกิจกรรมตา่ งๆและสนับสนุนให้เดก็ มีโอกาสดูแลสุขภาพและสขุ อนามัย และการรกั ษาความปลอดภัย

ดังน้ี

ด้านรา่ งกาย ประสบการณ์สำคญั

๑.๑.๑ การใชก้ ล้ามเนอื้ ใหญ่ ๑) การเคล่อื นไหวอยู่กับที่

๒) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่

๓) การเคลือ่ นไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์

๔) การเคลื่อนไหวทใี่ ช้การประสานสัมพันธข์ องการใช้กลา้ มเนือ้ มัด

ใหญ่ในการขวา้ งการจบั การโยน การเตะ

๕) การเลน่ เคร่อื งเลน่ สนามอย่างอสิ ระ

๑.๑.๒ การใช้กลา้ มเนอ้ื เลก็ ๑) การเล่นเครอ่ื งเล่นสมั ผัสและการสรา้ งจากแทง่ ไม้ บล็อก

๒) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี

๓) การปนั้

๔) การประดิษฐ์ส่งิ ต่างๆดว้ ย เศษวัสดุ

๕) การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การฉีก การพบั การตดั การปะ

และการร้อยวสั ดุ

๑.๑.๓ การรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตัว ๑) การปฏบิ ตั ิตนตามสขุ อนามัย สุขนสิ ยั ที่ดใี นกจิ วัตรประจำวัน

๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภัย ๑) การปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั ในกจิ วัตรประจำวัน

๒) การฟงั นิทาน เร่ืองราว เหตกุ ารณ์ เกี่ยวกบั การป้องกันและ

รักษาความปลอดภยั

๓) การเล่นเคร่อื งเลน่ อย่างปลอดภยั

๔) การเล่นบทบาทสมมติเหตุการณ์ตา่ งๆ

๑.๑.๕ การตระหนกั รู้เกี่ยวกับร่างกาย ๑) การเคลื่อนไหวเพ่ือควบคุมตนเองไปในทิศทาง ระดับ และพนื้ ที่

ตนเอง ๒) การเคลื่อนไหวขา้ มสงิ่ กดี ขวาง

หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565 หน้า ๒๑

๑.๒ ประสบการณส์ ำคัญท่สี ่งเสริมพัฒนาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ เปน็ การสนับสนุนให้เด็กได้แสดงออกทาง
อารมณ์และความรู้สึกของตนเองทีเ่ หมาะสมกับวยั ตระหนักถงึ ลักษณะพเิ ศษเฉพาะท่เี ป็นอัตลกั ษณ์ ความเปน็ ตวั ของ
ตัวเอง มคี วามสุข รา่ เรงิ แจม่ ใส การเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้พัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม สุนทรียภาพ ความรสู้ กึ ที่ดตี อ่
ตนเอง และความเช่อื ม่นั ในตนเองขณะปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ ดังนี้

ด้านอารมณ์ จิตใจ ประสบการณ์สำคญั
๑.๒.๑ สนุ ทรียภาพดนตรี ๑) การฟงั เพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏิกริ ยิ าโตต้ อบ
เสยี งดนตรี
๑.๒.๒ การเลน่ ๒) การเคล่อื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
๓) การเล่นบทบาทสมมติ
๑.๒.๓ คุณธรรม จริยธรรม ๔) การทำกจิ กรรมศลิ ปะต่างๆ
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ ๕) การสรา้ งสรรค์ส่งิ สวยงาม
๑) การเล่นอิสระ
๑.๒.๕ การมอี ตั ลกั ษณ์เฉพาะตนและเชือ่ ว่า ๒) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มยอ่ ย กลมุ่ ใหญ่
ตนเองมีความสามารถ ๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์
๑.๒.๖ การเหน็ อกเหน็ ใจผู้อนื่ ๔) การเลน่ นอกห้องเรยี น
๑) การปฏิบตั ติ นตามหลักศาสนาที่นบั ถือ
๒) การฟังนิทานเกย่ี วกบั คุณธรรม จริยธรรม
๓) การร่วมสนทนาแลกเปล่ียนความคิดเหน็ เชิงจริยธรรม
๑) การสะท้อนความรสู้ ึกของตนเองและผอู้ ่นื
๒) การเลน่ บทบาทสมมติ
๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี
๔)การรอ้ งเพลง
๕) การทำงานศิลปะ
๑) การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆตามความสามารถของตนเอง

๑) การแสดงความยินดีเมื่อผ้อู ่ืนมีความสุข เหน็ อกเห็นใจเม่ือผอู้ ืน่
เศร้าหรือเสยี ใจ และการชว่ ยเหลอื ปลอบโยนเม่ือผอู้ ื่นไดร้ ับ
บาดเจ็บ

หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565 หน้า ๒๒

๑.๓ ประสบการณส์ ำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสปฏสิ ัมพนั ธ์กับ
บคุ ลและส่ิงแวดล้อมต่างๆรอบตวั จากการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่างๆผ่านการเรียนรู้ทางสังคม เช่น การเลน่ การทำงานกบั
ผู้อื่น การปฏบิ ัตกิ ิจวัตรประจำวัน การแกป้ ัญหาข้อขดั แย้งต่างๆ

ดา้ นสังคม ประสบการณ์สำคญั
๑.๓.๑ การปฏบิ ัติกิจวตั รประจำวนั ๑) การชว่ ยเหลอื ตนเองในกจิ วัตรประจำวัน
๑.๓.๒ การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและ ๒) การปฏิบตั ิตนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ส่งิ แวดล้อม ๑) การมสี ว่ นร่วมรบั ผิดชอบดูแลรกั ษาส่ิงแวดล้อมท้งั ภายในและ
ภายนอกหอ้ งเรยี น
๑.๓.๓ การปฏิบตั ติ ามวัฒนธรรมทอ้ ง ๒) การทำงานศลิ ปะทใ่ี ชว้ สั ดหุ รอื ส่ิงของท่ใี ชแ้ ลว้ มาใช้ซ้ำหรอื แปร
ถ่นิ ท่อี าศัยและความเป็นไทย รูปแลว้ นำกลบั มาใชใ้ หม่
๓) การเพาะปลูกและดแู ลตน้ ไม้
๑.๓.๔ การมีปฏสิ มั พนั ธ์ มีวินยั มสี วนรว่ ม ๔) การเล้ียงสัตว์
และบทบาทสมาชิกของสงั คม ๕) การสนทนาขา่ วและเหตุการณ์ที่เก่ยี วกับธรรมชาตแิ ละ
สง่ิ แวดลอ้ มในชีวิตประจำวนั
๑.๓.๕ การเล่นแบบรว่ มมือร่วมใจ ๑) การเลน่ บทบาทสมมุตกิ ารปฏบิ ัติตนในความเปน็ คนไทย
๒) การปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมท้องถิ่นท่ีอาศัยและประเพณีไทย
๑.๓.๖ การแกป้ ญั หาความขัดแย้ง ๓) การประกอบอาหารไทย
๑.๓.๗ การยอมรับในความเหมือนและ ๔) การศึกษานอกสถานท่ี
ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ๕) การละเลน่ พน้ื บ้านของไทย
๑) การรว่ มกำหนดข้อตกลงของหอ้ งเรยี น
๒) การปฏิบัติตนเป็นสมาชทิ ่ีดขี องห้องเรยี น
๓) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ ง ๆ
๔) การดูแลหอ้ งเรยี นร่วมกนั
๕) การร่วมกิจกรรมวนั สำคัญ
๑) การร่วมสนทนาและแลกเปล่ียนความคดิ เห็น
๒) การเล่นและทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ื่น
๓) การทำศิลปะแบบรว่ มมือ
๑) การมีส่วนรว่ มในการเลือกวธิ กี ารแก้ปัญหา
๒) การมสี ่วนร่วมในการแกป้ ัญหาความขัดแยง้
๑) การเลน่ หรือ ทำกจิ กรรมร่วมกบั กลมุ่ เพือ่ น

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 หนา้ ๒๓

๑.๔ ประสบการณส์ ำคญั ทีส่ ่งเสรมิ พัฒนาการด้านสติปญั ญา เปน็ การสนบั สนุนใหเ้ ดก็ ได้รับรู้ เรียนรู้ส่ิง
ตา่ งๆรอบตวั ผ่านการมีปฏสิ มั พนั ธก์ บั สิง่ แวดล้อม บคุ คลและสือ่ ต่างๆ ด้วยกระบวนการเรียนรูท้ ่ีหลากหลาย เพื่อเปดิ
โอกาสใหเ้ ดก็ พัฒนาการใช้ภาษา จนิ ตนาการความคิดสร้างสรรค์การแก้ปัญหา การคิดเชงิ เหตผุ ล และการคิดรวบยอด
เกี่ยวกบั สิง่ ต่างๆ รอบตัวและมคี วามคดิ รวบยอดทางคณติ ศาสตร์ทเี่ ป็นพนื้ ฐานของการเรียนรู้ในระดบั ทีส่ งู ขนึ้ ต่อไป

ด้านสตปิ ญั ญา ประสบการณ์สำคญั
๑.๔.๑ การใช้ภาษา ๑) การฟังเสียงตา่ งๆ ในสง่ิ แวดล้อม
๒) การฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ
๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การคดิ เชิง ๓) การฟงั เพลง นทิ าน คำคล้องจอง บทร้อยกรงหรือเรื่องราวตา่ งๆ
เหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา ๔) การแสดงความคดิ ความรู้สกึ และความต้องการ
๕) การพูดกับผู้อนื่ เกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเลา่
เรื่องราวเกยี่ วกบั ตนเอง
๖) การพดู อธบิ ายเก่ยี วกับสง่ิ ของ เหตุการณ์ และความสัมพันธข์ องสิง่
ต่างๆ
๗) การพูดอยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการกระทำต่างๆ
๘) การรอจังหวะท่เี หมาะสมในการพดู
๙) การพดู เรยี งลำดบั เพ่ือใชใ้ นการสือ่ สาร
๑๐) การอ่านหนงั สือภาพ นทิ าน หลากหลายประเภท/รปู แบบ
๑๑) การอ่านอิสระตามลำพงั การอา่ นรว่ มกนั การอ่านโดยมผี ้ชู ้ีแนะ
๑๒) การเห็นแบบอย่างของการอา่ นที่ถูกต้อง
๑๓) การสังเกตทิศทางการอา่ นตวั อกั ษร คำ และข้อความ
๑๔) การอา่ นและชข้ี ้อความ โดยกวาดสายตาตามบรรทดั จากซ้ายไป
ขวา จากบนลงลา่ ง
๑๕) การสงั เกตตวั อกั ษรในชื่อของตน หรือคำคนุ้ เคย
๑๖) การสงั เกตตวั อกั ษรทป่ี ระกอบเปน็ คำผา่ นการอ่านหรือเขยี นของ
ผ้ใู หญ่
๑๗) การคาดเดาคำ วลี หรือประโยค ที่มีโครงสรา้ งซ้ำๆกัน จากนทิ าน
เพลง คำคล้องจอง
๑๘) การเลน่ เกมทางภาษา
๑๙) การเห็นแบบอย่างของการเขยี นท่ถี ูกตอ้ ง
๒๐) การเขยี นรว่ มกันตามโอกาส และการเขยี นอสิ ระ
๒๑) การเขยี นคำท่ีมีความหมายกบั ตวั เดก็ /คำคนุ้ เคย
๒๒) การคิดสะกดคำและเขยี นเพอื่ ส่ือความหมายดว้ ยตนเองอย่าง
อสิ ระ

๑) การสังเกตลักษณะ สว่ นประกอบ การเปลยี่ นแปลง และ
ความสัมพนั ธ์ของสิง่ ตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม

๒) การสงั เกตสิ่งต่างๆ และสถานทีจ่ ากมมุ มองที่ต่างกัน

หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 หน้า ๒๔

ด้านสตปิ ัญญา ๓) การบอกและแสดงตำแหน่ง ทศิ ทาง และระยะทางของสิ่งตา่ งๆ
๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชงิ ดว้ ยการกระทำ ภาพวาด ภาพถ่าย และรปู ภาพ
เหตผุ ล การตัดสนิ ใจและแก้ปญั หา
๔) การเล่นกบั สอ่ื ตา่ งๆทเ่ี ป็นทรงกลม ทรงสีเ่ หล่ยี มมุมฉาก
๑.๔.๓ จนิ ตนาการและความคดิ ทรงกระบอก กรวย
สร้างสรรค์
๑.๔.๔ เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรยี นร้แู ละการ ประสบการณส์ ำคญั
แสวงหาความรู้ ๕) การคดั แยก การจัดกลมุ่ และการจำแนกสงิ่ ต่างๆตามลกั ษณะและ
รปู ร่าง รูปทรง
๖) การต่อของชิน้ เล็กเติมในช้ินใหญ่ให้สมบรู ณ์ และการแยกชิ้นส่วน

๗) การทำซำ้ การต่อเตมิ และการสร้างแบบรปู

๘) การนบั และแสดงจำนวนของสิ่งต่างๆในชวี ติ ประจำวัน

๙) การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดบั จำนวนของสงิ่ ตา่ งๆ

๑๐) การรวมและการแยกส่ิงต่างๆ

๑๑) การบอกและแสดงอนั ดับท่ขี องสง่ิ ตา่ งๆ

๑๒) การชง่ั ตวง วัดสิ่งต่างๆโดยใช้เครอื่ งมือและหนว่ ยทไี่ ม่ใช่หน่วย
มาตรฐาน
๑๓) การจับคู่ การเปรยี บเทยี บ และการเรียงลำดบั ส่ิงต่างๆ ตาม
ลักษณะความยาว/ความสงู น้ำหนัก ปรมิ าตร
๑๔) การบอกและเรียงลำดบั กิจกรรมหรือเหตกู ารณ์ตามช่วงเวลา
๑๕) การใช้ภาษาทางคณติ ศาสตรก์ บั เหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจำวนั
๑๖) การอธบิ ายเชื่อมโยงสาเหตุและผลท่ีเกิดขน้ึ ในเหตุการณ์หรือการ
กระทำ
๑๗) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิง่ ที่อาจเกดิ ขน้ึ อยา่ งมีเหตผุ ล
๑๘) การมสี ่วนร่วมในการลงความเหน็ จากข้อมูลอย่างมเี หตุผล
๑๙) การตัดสนิ ใจและมสี ่วนรว่ มในกระบวนการแกป้ ัญหา
๑) การรบั รู้ และแสดงความคิดความรูส้ กึ ผา่ นสือ่ วัสดุ ของเลน่ และ
ช้ินงาน
๒) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ นภาษา ท่าทาง การเคล่ือนไหว
และศิลปะ
๓) การสร้างสรรค์ชนิ้ งานโดยใชร้ ปู ร่างรูปทรงจากวสั ดุท่หี ลากหลาย
๑) การสำรวจส่งิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรู้รอบตวั
๒) การต้ังคำถามในเรอ่ื งที่สนใจ
๓) การสบื เสาะหาความร้เู พ่ือคน้ หาคำตอบของข้อสงสัยตา่ งๆ
๔) การมสี ่วนรว่ มในการรวบรวมข้อมลู และนำเสนอขอ้ มูลจากการสบื
เสาะหาความรู้ในรูปแบบตา่ งๆและแผนภมู ิอยา่ งงา่ ย

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 หนา้ ๒๕

๒. สาระทคี่ วรเรยี นรู้

สาระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่นำมาเป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดแนวคิดหลังจาก
นำสาระการเรียนรู้นั้น ๆ มาจัดประสบการณ์ให้เด็ก เพื่อให้บรรลุจัดหมายที่กำหนดไว้ทั้งนี้ ไม่เน้นการท่องจำเนื้อหา
ครูสามารถกำหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความต้องการ และความสนใจของเด็ก โดยให้เด็กได้เรียนรู้
ผา่ นประสบการณ์สำคัญ ท้ังนี้ อาจยดื หยนุ่ เนอ้ื หาไดโ้ ดยคำนึงถงึ ประสบการณแ์ ละสิ่งแวดล้อมในชีวติ จริงของเด็ก ดงั นี้

๒.๑ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรรู้จักชื่อ นามสกุล รูปร่างหน้าตา รู้จักอวัยวะต่างๆ วิธีระวังรักษา
ร่างกายให้สะอาดและมีสุขภาพอนามัยทีด่ ี การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การระมัดระวังความปลอดภัยของ
ตนเองจากผู้อื่นและภัยใกล้ตัว รวมทั้งการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย การรู้จักความเป็นมาของตนเองและ
ครอบครวั การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน การเคารพสทิ ธิของตนเองและผู้อ่นื การรู้จักแสดง
ความคิดเห็นของตนเองและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การกำกับตนเอง การเล่นและทำสิ่งต่างๆด้วยตนเองตาม
ลำพังหรอื กับผู้อื่น การตระหนกั ร้เู ก่ียวกับตนเอง ความภาคภูมิใจในตนเอง การสะท้อนการรับรู้อารมณ์และความรู้สึก
ของตนเองและผู้อื่น การแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกอย่างเหมาะสม การแสดงมารยาทท่ี ดี การมีคุณธรรม
จรยิ ธรรม

๒.๒ เร่อื งราวเกีย่ วกับบคุ คลและสถานทีแ่ วดลอ้ มเด็ก เด็กควรเรียนรเู้ กย่ี วกบั ครอบครัว สถานศกึ ษา ชุมชน
และบคุ คลตา่ งๆ ท่เี ด็กตอ้ งเกยี่ วข้องหรือใกล้ชิดและมปี ฏิสมั พันธ์ในชวี ิตประจำวนั สถานทส่ี ำคัญ วนั สำคัญ อาชีพของ
คนในชุมชน ศาสนา แหล่งวัฒนาธรรมในชุมชน สัญลักษณ์สำคัญของชาติไทยและการปฏิบัติตามวัฒนธรรมท้องถ่ิน
และความเป็นไทย หรอื แหลง่ เรยี นร้จู ากภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ินอื่นๆ

๒.๓ ธรรมชาตริ อบตัว เด็กควรเรยี นรู้เกี่ยวกบั ช่ือ ลกั ษณะ ส่วนประกอบ การเปลย่ี นแปลงและความสัมพันธ์
ของมนุษย์ สัตว์ พืช ตลอดจนการรู้จักเกี่ยวกับดิน น้ำ ท้องฟ้า สภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ แรง และพลังงานใน
ชีวติ ประจำวนั ทีแ่ วดล้อมเด็ก รวมทง้ั การอนรุ ักษส์ ิ่งแวดลอ้ มและการรักษาสาธารณสมบตั ิ

๒.๔ สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ภาษาเพื่อสื่อความหมายในชีวิตประจำวัน ความรู้
พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้หนังสือและตัวหนังสือ รู้จักชื่อ ลักษณะ สี ผิวสัมผัส ขนาด รูปร่าง รูปทรง ปริมาตร น้ำหนัก
จำนวน ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงและความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆรอบตัว เวลา เงิน ประโยชน์ การใช้งาน และ
การเลือกใชส้ ิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ การคมนาคม เทคโนโลยีและการสื่อสารต่างๆ ทใ่ี ช้อยูใ่ นชวี ิตประจำวันอย่าง
ประหยดั ปลอดภัยและรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม

หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ ๒๖

คำอธบิ ายการวเิ คราะห์สาระการเรียนรรู้ ายปี

สาระการเรียนร้รู ายปี

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทีพ่ ึง ประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรยี นรู้
ประสงค์
ระบุ ระบุมาตรฐาน สำคญั
พฒั นาการวา่ คุณลกั ษณะที่
เปน็ ด้าน พึงประสงคใ์ ห้ ระบตุ วั บ่งชีท้ ่ี ระบสุ ภาพที่พึง กำหนด กำหนดสาระทคี่ วร
รา่ งกายหรอื สอดคล้องกบั
ดา้ นอารมณ์ พัฒนาการด้าน เปน็ ตวั ชี้วัดตาม ประสงค์ ซงึ่ เปน็ ประสบการณ์ท่ี เรียนรซู้ ึ่งเป็นเสมือนท่นุ
จติ ใจหรือ ร่างกาย ด้าน หรอื สื่อกลางในการจดั
ด้านสงั คม อารมณ์ จิตใจ มาตรฐาน พฤติกรรมหรอื สำคัญที่คาดวา่ จะ ประสบการณ์ให้เดก็ มี
หรอื ด้าน ด้านสงั คมหรอื คุณลกั ษณะท่ี ความสามารถท่ี เป็นแนวทางการ พฤติกรรมและ
สตปิ ญั ญา ด้านสติปญั ญา พึงประสงคโ์ ดย คาดหวงั ในแต่ จดั กจิ กรรมให้ ความสามารถตามสภาพ
โดยนำมาจาก
หลักสตู ร นำมาจาก ละชว่ งวยั โดย เด็ก ที่พึงประสงค์
การศึกษา
ปฐมวยั หลกั สูตร นำมาจาก เกดิ พฤติกรรม ตวั บ่งชี้และมาตรฐาน
พุทธศกั ราช
๒๕๖๐ การศึกษา หลักสตู ร หรือมี โดยนำมาจากสาระที่

ปฐมวยั การศกึ ษา ความสามารถ ควรเรยี นรทู้ ้ัง ๔ เรื่องที่
พุทธศกั ราช ปฐมวยั ตามสภาพท่ีพึง กำหนดไว้ในหลกั สูตร
๒๕๖๐ ท้ังนี้ พทุ ธศกั ราช ประสงค์ ตัวบง่ ช้ี การศกึ ษาปฐมวยั
สถานศกึ ษา ๒๕๖๐ ทั้งน้ี และมาตรฐานท่ี พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐
สามารถกำหนด สถานศกึ ษา สถานศกึ ษา และสอดคล้องกบั
ตวั บ่งชีเ้ พิ่มเตมิ สามารถกำหนด กำหนดโดยเลือก มาตรฐาน ตัวบง่ ช้แี ละ
สภาพที่พงึ ประสงคท์ ง้ั นี้

ได้ตามอตั ตัวบง่ ชเี้ พิม่ เตมิ จาก สถานศกึ ษาสามารถ

ลกั ษณ์หรือ ไดต้ ามอตั ประสบการณ์ เพ่มิ เตมิ สาระทค่ี วร
เอกลกั ษณ์ของ ลกั ษณ์หรือ สำคญั ที่ระบุไวใ้ น เรียนรไู้ ดใ้ หส้ อดคลอ้ ง
สถานศึกษา เอกลกั ษณ์ของ หลักสตู ร กบั ความสนใจความ
สถานศกึ ษา การศกึ ษาปฐมวยั ต้องการ ตามอตั ลักษณ์
พุทธศักราช เอกลกั ษณ์และภมู ิ
๒๕๖๐ ปญั ญาทอ้ งถน่ิ โดย
คำนงึ ถึงความเหมาะสม

ตามวยั ของเดก็

หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 หนา้ ๒๗

การวิเคราะห์สาระการเรียนร้รู ายปี

๑. พฒั นาการด้านร่างกาย

มาตรฐานท่ี ๑ ร่างกายเจรญิ เติมโตตามวยั และมีสุขนสิ ยั ท่ีดี

สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นร้รู ายปี

ตวั บง่ ช้ี ช้นั อนุบาล ๒ ชั้นอนบุ าล ๓ ประสบการณ์สำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้

๑.๑ นำ้ หนักและ ๑.นำ้ หนกั และสว่ นสูง ๑.น้ำหนกั และสว่ นสงู ตาม 1. การปฏิบตั ิตนตาม 1. การรบั ประทานอาหาร

สว่ นสงู ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์ของกรม เกณฑข์ องกรมอนามัย สขุ อนามยั สุขนสิ ัยทด่ี ี ท่ีเปน็ ประโยชน์

อนามยั ในกจิ วตั รประจำวนั

๑.๒ มสี ขุ ภาพ ๑.รับประทานอาหารที่ ๑.รับประทานอาหารทม่ี ี 1. การปฏิบัตติ นตาม 1. การรบั ประทานอาหาร

อนามัยและสุข มปี ระโยชนแ์ ละดืม่ น้ำ ประโยชนไ์ ด้หลายชนดิ สุขอนามัย สุขนสิ ยั ท่ดี ี ท่ีเปน็ ประโยชน์

นิสัยท่ดี ี สะอาดด้วยตนเอง และดม่ื นำ้ สะอาดไดด้ ้วย ในกิจวตั รประจำวนั 2. การรกั ษาร่างกายใหส้ ะอาด

๒.ล้างมอื ก่อน ตนเอง 2. การปฏิบตั ติ นให้ และมีสขุ ภาพอนามัยทด่ี ี

รบั ประทานอาหารและ ๒.ลา้ งมอื ก่อนรับประทาน ปลอดภัยในกิจวตั ร 3. อาหารหลกั ๕ หมู่

หลงั จากใชห้ ้องนำ้ ห้อง อาหารและหลังจากใช้ ประจำวนั 4. มารยาทในการ

ส้วมด้วยตนเอง ห้องน้ำห้องสว้ มด้วย 3. การเล่นอิสระ รับประทานอาหาร

๓.นอนพักผ่อนเปน็ เวลา ตนเอง 4. การเล่นตามมมุ 5. ประโยชนข์ องการนอน

๔.ออกกำลังกายเป็น ๒.นอนพกั ผ่อนเป็นเวลา ประสบการณ์ หลบั พักผ่อน

เวลา ๓.ออกกำลงั กายเป็นเวลา 6. ประโยชนข์ องการออก

กำลงั กาย

๑.๓ รักษาความ ๑.เลน่ และทำกจิ กรรม ๑. เล่นและทำกิจกรรม 1. การเล่นเครือ่ งเลน่ 1. การระมดั ระวงั ความ

ปลอดภัยของ อย่างปลอดภัยดว้ ย และปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ืน่ อย่าง อย่างปลอดภัย ปลอดภัยของตนเองจาก

ตนเองและผู้อืน่ ตนเอง ปลอดภัย 2. การเลน่ รายบคุ คล ผูอ้ ่ืนและภยั ใกลต้ ัว

กลุ่มย่อย กลมุ่ ใหญ่ 2. การปฏบิ ัตติ ่อผอู้ ่นื อยา่ ง

3. การเล่นนอก ปลอดภยั

ห้องเรยี น

มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเน้ือใหญ่และกล้ามเน้อื เลก็ แข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสานสมั พนั ธ์กัน

สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี

ตัวบ่งชี้ ชนั้ อนุบาล ๒ ช้ันอนบุ าล ๓ ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้

๒.๑ เคลื่อนไหว ๑. เดินต่อเทา้ ไป ๑. เดินตอ่ เทา้ ถอยหลงั 1. การเคลื่อนไหวอยูก่ บั ที่ 1. การเลน่ และกระทำ

ร่างกายอยา่ ง ข้างหนา้ เปน็ เส้นตรง เป็นเส้นตรงไดโ้ ดยไมต่ อ้ ง 2. การเคลื่อนไหว เคลือ่ นที่ ส่ิงตา่ ง ๆดว้ ยตนเอง

คล่องแคล่วประสาน ไดโ้ ดยไม่ต้องกาง กางแขน 3. การเคลอ่ื นไหวพร้อม ตามลำพังหรอื กบั ผูอ้ ่ืน

สมั พนั ธแ์ ละทรงตวั แขน ๒. กระโดดขาเดียว ไป วสั ดุอปุ กรณ์การ

ได้ ๒. กระโดดขาเดียว ขา้ งหนา้ ไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง เคลอื่ นไหวที่ใชป้ ระสาน

อยกู่ บั ท่ไี ด้โดยไมเ่ สยี โดยไมเ่ สียการทรงตัว สมั พนั ธข์ องการใช้

การทรงตัว ๓. ว่ิงหลบหลกี สิ่งกดี ขวาง กล้ามเนือ้ มดั ใหญใ่ นการ

๓. วิ่งหลบหลกี ส่งิ กีด ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ ขว้าง การจบั การโยน การ

ขวางได้ ๔. รับลูกบอลท่กี ระดอน เตะ

๔. รับลูกบอลไดด้ ว้ ย ข้ึนจากพื้นได้ 4. การเคลื่อนไหวขา้ มสง่ิ

มือทัง้ สองข้าง 5. แตะลูกบอลไป กีดขวาง

ขา้ งหน้าให้เขา้ ชอ่ งที่ 5. การเคล่อื นไหวเพ่อื

กำหนดได้ในระยะห่าง ๓ ควบคุมตนเองไปใน

เมตร ทศิ ทาง ระดับ และพืน้ ท่ี

หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ ๒๘

มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเน้ือใหญแ่ ละกลา้ มเนอ้ื เลก็ แข็งแรงใช้ไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และประสานสมั พันธก์ นั (ต่อ)

ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี
ชน้ั อนุบาล ๒ ชัน้ อนุบาล ๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

5. แตะลูกบอลไป 6. วงิ่ ตอ่ เนือ่ งได้ใน
ข้างหน้าให้เข้าชอ่ งท่ี ระยะทาง ๔๐๐ - ๕๐๐
กำหนดไดใ้ น เมตร
ระยะห่าง ๒ เมตร
6. วิ่งต่อเนอ่ื งได้ใน
ระยะทาง ๒๐๐ -
๓๐๐ เมตร

๒.๒ ใชม้ ือ – ตา ๑ .ใช้กรรไกรตดั ๑. ใชก้ รรไกรตดั กระดาษ 1. การเขยี นภาพและการ 1. การเลอื กใชส้ ง่ิ ของ
ประสานสัมพนั ธ์กัน เลน่ กบั สี เครอ่ื งใช้
กระดาษตามแนว ตามแนวเสน้ โคง้ ได้ 2. การหยบิ จับ การใช้
กรรไกร การฉกี การตดั
เส้นตรงได้ ๒ .เขยี นรูปสามเหลี่ยม การพบั การปะและการ
ร้อยวสั ดุ
๒. เขียนรปู ส่ีเหล่ียม ตามแบบได้อยา่ งมมี มุ

ตามแบบได้อยา่ งมี ชดั เจน

มมุ ชัดเจน ๓. รอ้ ยวัสดุท่ีมรี ขู นาดเส้น

3. ร้อยวสั ดทุ ม่ี ีรจู ผา่ นศูนยก์ ลาง๐.๒๕ ซม.

นาดเสน้ ผา่ นศูนย์ ได้

๐.๕ ซม.ได้ 4. วาดรปู คนท่มี ี

4. วาดรปู คนท่ีมี ส่วนประกอบหกสว่ น

สว่ นประกอบหา้ ส่วน 5. พบั กระดาษเป็นรปู ร่าง

5. พบั กระดาษเปน็ พื้นฐาน 3 ข้นั ตอน

รูปร่างพนื้ ฐาน2ข้ันตอน 6. เดินส่งน้ำครึง่ แกว้ ให้

6. ย่ืนมอื รับนำ้ ครง่ึ เพอื่ นโดยไม่หก ใน

แกว้ แลว้ สง่ ต่อให้ ระยะทาง 3 เมตร

เพือ่ นไดโ้ ดยไมห่ ก

๒. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ

มาตรฐานที่ ๓ มสี ุขภาพจติ ดีและมีความสขุ

สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี

ตวั บง่ ช้ี ชนั้ อนุบาล ๒ ช้นั อนุบาล ๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

๓.๑ แสดงออกทาง 1. แสดงอารมณ์ -แสดงอารมณ์ ความรู้สกึ - การแสดงความยินดีเม่ือ - การกำกบั ตนเอง

อารมณอ์ ยา่ ง ความรสู้ กึ ไดต้ าม ได้สอดคล้องกับ ผอู้ ื่นมคี วามสุข เห็นอกเหน็ -การแสดงออกทาง

เหมาะสม สถานการณ์ สถานการณอ์ ยา่ ง ใจเม่ือผู้อ่นื เศรา้ หรอื เสยี ใจ อารมณ์และความรสู้ ึก

เหมาะสม และการชว่ ยเหลือปลอบโยน อยา่ งเหมาะสม

เมอ่ื ผอู้ ื่นไดร้ บั บาดเจ็บ

๓.๒ มคี วามรสู้ ึกท่ี 2. กล้าพดู กล้า 1. กลา้ พูดกล้าแสดงออก 1. การแสดงความยนิ ดี 1. การสะท้อนการรบั รู้

ดตี อ่ ตนเองและ แสดงออกอย่าง อย่างเหมาะสมตาม เม่ือผ้อู ่ืนมคี วามสขุ เหน็ อารมณแ์ ละความรสู้ กึ

ผู้อนื่ เหมาะสมบางสถานการณ์ สถานการณ์ อกเห็นใจเมื่อผูอ้ ่ืนเศร้า ของตนเองและผอู้ นื่

3. แสดงความพอใจ 2. แสดงความพอใจใน หรือเสยี ใจและการ

ในผลงานและ ผลงานและความสามารถ ช่วยเหลอื ปลอบโยนเมอื่

ความสามารถของตนเอง ของตนเองและผู้อนื่ ผอู้ ื่นไดร้ ับบาดเจบ็

หลักสตู รการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย พทุ ธศักราช 2565 หน้า ๒๙

มาตรฐานท่ี ๔ ชน่ื ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรีและการเคลือ่ นไหว

สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรูร้ ายปี

ตัวบง่ ช้ี ชนั้ นอนบุ าล ๒ ชั้นอนบุ าล ๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้

๔.๑ สนใจและมี 1. สนใจและมี 1. สนใจและมีความสขุ 1. การเคล่ือนไหวตาม 1. การสะทอ้ นการรับรู้

ความสุขและ ความสุขและแสดงออก และแสดงออกผา่ นงาน เสียงดนตรี อารมณแ์ ละความรสู้ ึก

แสดงออกผา่ นงาน ผ่านงานศลิ ปะ ศิลปะ 2. การฟงั เพลง การร้อง

ศลิ ปะ ดนตรีและ 2. สนใจ มคี วามสุข 2. สนใจ มคี วามสขุ และ เพลงและการแสดง

การเคล่อื นไหว และแสดงออกผ่าน แสดงออกผ่านเสยี งเพลง ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบ

เสยี งเพลงดนตรี ดนตรี เสียงดนตรี

3. สนใจ มีความสุข 3. สนใจ มคี วามสขุ และ 3. การรอ้ งเพลง

และแสดงทา่ ทาง/ แสดงท่าทาง/เคล่อื นไหว -

เคล่ือนไหวประกอบ ประกอบเพลง จังหวะ

เพลง จังหวะและ และ ดนตรี

ดนตรี

มาตรฐานท่ี ๕ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและมีจติ ใจทดี่ ีงาม

สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรียนรรู้ ายปี

ตวั บง่ ชี้ ชั้นอนบุ าล ๒ ชั้นอนุบาล ๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้

๕.๑ ซอื่ สตั ย์ สจุ รติ 1. ขออนุญาตหรอื รอ 1. ขออนุญาตหรือรอคอย 1. การร่วมสนทนา 1. การมคี ุณธรรม

คอยเมอื่ ตอ้ งการ เม่ือตอ้ งการส่งิ ของของ แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น จริยธรรม

สิง่ ของของผอู้ ่นื เมือ่ มี ผอู้ ่นื ด้วยตนเอง เชิงจรยิ ธรรม 2. ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ

ผู้ชีแ้ นะ 3. ความเกรงใจ

๕.๒ มคี วามเมตตา 1. แสดงความรกั 1. แสดงความรกั เพ่ือน 1. การเล้ยี งสตั ว์ 1. การมคี ุณธรรม

กรณุ า มีนำ้ ใจและ เพือ่ นและมเี มตตา และมเี มตตาสตั ว์เลยี้ ง 2. การเพาะปลกู และดูแล จรยิ ธรรม

ชว่ ยเหลือแบ่งปนั สตั ว์เลย้ี ง 2. ช่วยเหลือและแบ่งปนั ตน้ ไม้ 2. ความเมตตา กรุณา

2. ชว่ ยเหลอื และ ผูอ้ น่ื ไดด้ ้วยตนเอง 3. ความมีนำ้ ใจ

แบง่ ปันผู้อืน่ ไดเ้ มือ่ มี ชว่ ยเหลอื แบง่ ปนั

ผูช้ ี้แนะ

๕.๓ มคี วามเห็นอก 1. แสดงสีหน้าหรือ 1. แสดงสหี น้าหรือ 1. การแสดงความยนิ ดี 1. การมคี ณุ ธรรม

เหน็ ใจผู้อ่ืน ท่าทางรบั รู้ความรสู้ ึก ทา่ ทางรบั รู้ความรสู้ กึ ผูอ้ ่ืน เมอ่ื ผูอ้ ื่นมีความสขุ เห็น จรยิ ธรรม

ผอู้ นื่ อยา่ งสอดคล้องกับ อกเห็นใจเมือ่ ผู้อื่นเศรา้ 2. ความเห็นอก เหน็ ใจ

สถานการณ์ หรือเสยี ใจและการ ผอู้ ื่น

ชว่ ยเหลือปลอบโยนเม่ือ

ผอู้ น่ื ไดร้ ับบาดเจบ็

๕.๔ มคี วาม 1. ทำงานทีไ่ ด้รบั 1. ทำงานทไ่ี ดร้ บั 1. การทำงานศลิ ปะ 1. คุณธรรม จรยิ ธรรม

รบั ผดิ ชอบ มอบหมายจนสำเรจ็ มอบหมายจนสำเรจ็ ด้วย 2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่าง 2. ความรบั ผิดชอบ

เม่ือมีผู้ช้แี นะ (ความ ตนเอง (ความสามคั ค)ี ๆ ตามความสามารถของ ความอดทน มงุ่ มน่ั

สามคั ค)ี ตนเอง ความเพยี ร

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565 หน้า ๓๐

๓. พัฒนาการด้านสงั คม

มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี

ตัวบ่งชี้ ชนั้ อนบุ าล ๒ ชัน้ อนบุ าล ๓ ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้

๖.๑ ช่วยเหลอื 1. แต่งตัวด้วยตนเอง 1. แต่งตัวด้วยตนเองได้ 1. การปฏิบัตติ นให้ 1. ปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิก

ตนเองในการ 2. รบั ประทานอาหาร อย่างคลอ่ งแคลว่ ปลอดภัยในกิจวตั ร ที่ดีของครอบครัวและ

ปฏิบตั ิกิจวตั ร ด้วยตนเอง 2. รบั ประทานอาหาร ประจำวนั โรงเรียน

ประจำวนั 3. ใชห้ อ้ งน้ำหอ้ งสว้ ม ด้วยตนเองอย่างถกู วิธี 2. การช่วยเหลือตนเองใน 2. การปฏิบตั กิ ิจวัตร

ดว้ ยตนเอง 3. ใช้และทำความสะอาด กิจวตั รประจำวัน ประจำวนั

4. แปรงฟนั ไดด้ ้วย หลงั ใช้ห้องน้ำหอ้ งส้วม

ตนเอง ดว้ ยตนเอง

4. แปรงฟนั ไดด้ ้วยตนเอง

อย่างถูกวิธี

๖.๒ มวี ินยั ใน 1. เก็บของเล่นของใช้ 1. เก็บของเล่นของใชเ้ ขา้ 1. คุณธรรมจริยธรรม

ตนเอง เขา้ ทดี่ ว้ ยตนเอง ท่อี ยา่ งเรียบรอ้ ยดว้ ยตนเอง

2. เข้าแถวตาลำดบั 2. เข้าแถวตาลำดบั

กอ่ นหลังไดด้ ้วย ก่อนหลังไดด้ ว้ ยตนเอง

ตนเอง

๖.๓ ประหยดั และ 1.ใช้สง่ิ ของเคร่อื งใชอ้ ย่าง 1. การปฏิบตั ิตนตามหลกั 1. คุณธรรม จริยธรรม

พอเพยี ง ประหยดั และพอเพียงดว้ ย ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ตนเอง

มาตรฐานท่ี ๗ รกั ธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม วัฒนธรรมและความเปน็ ไทย

สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี

ตวั บ่งช้ี ชน้ั อนบุ าล ๒ ช้ันอนุบาล ๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้

๗.๑ ดูแลรกั ษา 1. มสี ว่ นรว่ มในการ 1. มีสว่ นรว่ มในการดูแล 1. การมสี ่วนร่วม 1. ความสัมพันธ์ของมนุษย์

ธรรมชาตแิ ละ ดูแลรักษาธรรมชาติ รกั ษาธรรมชาติและ รบั ผดิ ชอบดูแลรักษา สตั ว์ พชื

ส่งิ แวดล้อม และสงิ่ แวดล้อมเม่ือ สิ่งแวดล้อมด้วยตนเอง ส่ิงแวดลอ้ มทั้งภายในและ 2. ธรรมชาตแิ ละ

มผี ู้ช้ีแนะ 2. ท้งิ ขยะได้ถูกที่ ภายนอกห้องเรียน สิ่งแวดล้อม

-ทง้ิ ขยะได้ถูกท่ี 2. การสนทนาขา่ วและ 3. การอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ

เหตุการณท์ ี่เกย่ี วกบั และสิง่ แวดลอ้ ม

ธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม 4. ภัยธรรมชาติ

ในชวี ติ ประจำวัน 5. การรกั ษาสาธารณ

3.การเพาะปลูกและดแู ล สมบัติของโรงเรยี น

ตน้ ไม้

4.การฟังเสียงตา่ งๆในธรรมชาติ

๗.๒ มมี ารยาทตาม 1. ปฏบิ ัติตนตาม 1. ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาท 1. การเลน่ บทบาทสมมตุ ิ 1. การแสดงมารยาททดี่ ี

วฒั นธรรมไทยและ มารยาทไทยไดด้ ว้ ย ไทยได้ ตามกาลเทศะ 2. การเล่นบทบาทสมมตุ ิ 2. เอกลกั ษณ์ สญั ลกั ษณ์

รักความเป็นไทย ตนเอง(มารยาทการไหว้) (มารยาทการไหว)้ การปฏิบตั ติ นในความเปน็ ไทย และความเปน็ ไทย

2. กลา่ วคำขอบคณุ 2. กลา่ วคำขอบคณุ และ 3. การปฏิบตั ิตนตาม 3. การแสดงความเคารพ

และขอโทษดว้ ยตนเอง ขอโทษดว้ ยตนเอง วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ ทีอ่ าศัย 4. การพดู สภุ าพ

และประเพณีไทย 5. การกลา่ วคำขอบคณุ และขอโทษ

หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 หน้า ๓๑

สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี

ตวั บง่ ช้ี ช้นั อนุบาล ๒ ชน้ั อนบุ าล ๓ ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้

3. หยดุ เมอ่ื ไดย้ ิน 3. ยนื ตรงและร่วมรอ้ ง 4. การละเลน่ พื้นบ้าน 6. วนั สำคญั ของชาติ
เพลงชาตไิ ทยและ เพลงชาติไทยและเพลง
เพลงสรรเสรญิ พระ สรรเสรญิ พระบารมี ของไทย ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
บารมี

มาตรฐานท่ี ๘ อยรู่ ว่ มกับผอู้ ่ืนได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ทด่ี ีของสงั คมในระบอบประชาธปิ ไตย

อนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี

ตวั บง่ ชี้ ชนั้ อนุบาล ๒ ช้ันอนุบาล ๓ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้

๘.๑ ยอมรบั ความ 1. เล่นและทำกิจกรรม 1. เลน่ และทำกิจกรรม 1. การเล่นและทำงาน 3. การเคารพสิทธิของ

เหมือนและความ ร่วมกบั กลมุ่ เด็กที่ ร่วมกบั เดก็ ทแ่ี ตกต่างไป ร่วมกบั ผ้อู ื่น ตนเองและผู้อื่น

แตกตา่ งระหวา่ ง แตกตา่ งไปจากตน จากตน 2. การเลน่ หรือทำ

บคุ คล กิจกรรมรว่ มกบั กลมุ่

เพื่อน

๘.๒ มปี ฏิสมั พันธท์ ี่ 1. เล่นหรือทำงาน 1. เลน่ หรอื ทำงานร่วมกบั 1.การเล่นบทบาทสมมตุ ิ 1. การแสดงมารยาทท่ี

ดีกบั ผู้อื่น ร่วมกับเพื่อนเปน็ กล่มุ เพ่ือนอยา่ งมเี ปา้ หมาย 2. การเล่นหรือทำ ดี

2. ย้ิมหรอื ทักทายหรอื 2. ย้มิ หรอื ทกั ทายหรอื กิจกรรมร่วมกับกลมุ่

พดู คยุ กับผูใ้ หญ่และ พดู คยุ กับผู้ใหญ่และบคุ คล เพอ่ื น

บุคคลที่ค้นุ เคยได้ด้วย ทค่ี นุ้ เคยไดเ้ หมาะสมกบั

ตนเอง สถานการณ์

๘.๓ ปฏิบัติตน 1. มีส่วนร่วมสร้าง 1. มีส่วนรว่ มสร้าง 1. การรว่ มกำหนด 1. ครอบครวั

เบอื้ งต้นในการเป็น ขอ้ ตกลงและปฏิบตั ิ ขอ้ ตกลงและปฏบิ ัตติ าม ข้อตกลงของหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชนและ

สมาชกิ ที่ดีของ ตามขอ้ ตกลงเม่อื มผี ู้ ขอ้ ตกลงดว้ ยตนเอง 2. การปฏิบตั ติ นเปน็ บคุ คลต่าง ๆ

สังคม ช้แี นะ 2. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้นำและ สมาชกิ ท่ดี ีของหอ้ งเรียน 2. การปฏบิ ัติตนเปน็

2. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้นำ ผ้ตู ามไดเ้ หมาะสมกบั 3. การดแู ลหอ้ งเรยี น สมาชิกท่ีดี

และผตู้ ามทดี่ ไี ดด้ ว้ ย สถานการณ์ (ความสามัคคี ร่วมกัน 3. คณุ ธรรม

ตนเอง (ความสามคั คี ยอมรับความแตกต่าง

ยอมรับความแตกต่าง หลากหลายทางความคดิ )

หลากหลายทาง 3. ประนปี ระนอมแกไ้ ข

ความคิด) ปญั หาโดยปราศจากการ

3. ประนปี ระนอม ใช้ความรุนแรงด้วยตนเอง

แก้ไขปัญหาโดย (ความสามคั คี มีเหตผุ ล

ปราศจากการใชค้ วาม

รุนแรงเมื่อมผี ้ชู ี้แนะ

(ความสามคั คี มี

เหตุผล

หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดนอ้ ย พทุ ธศักราช 2565 หนา้ ๓๒

๔. พัฒนาการดา้ นสติปัญญา

มาตรฐานท่ี ๙ ใช้ภาษาส่ือสารได้เหมาะสมกบั วยั

สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี

ตวั บง่ ช้ี ชนั้ อนุบาล ๒ ชน้ั อนบุ าล ๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้

๙.๑ สนทนา 1. ฟงั ผอู้ นื่ พูดจนจบ 1. ฟงั ผอู้ นื่ พดู จนจบและ 1. การฟงั และปฏบิ ัตติ าม 1. การส่อื ความหมายใน

โต้ตอบและเลา่ และสนทนาโตต้ อบ สนทนาโตต้ อบอยา่ ง คำแนะนำ ชีวติ ประจำวัน

เร่ืองใหผ้ ู้อน่ื เขา้ ใจ สอดคล้องกบั เรื่องที่ ต่อเนอ่ื งเชอ่ื มโยงกบั เร่อื ง 2. การรอจงั หวะท่ี

ฟัง ทฟ่ี ัง เหมาะสมในการพดู

2. เลา่ เร่อื งเปน็ 2. เลา่ เปน็ เรอื่ งราว 3. การฟงั เพลง นิทานคำ

ประโยคอยา่ ง ตอ่ เน่อื งได้ คลอ้ งจอง บทร้อยกรอง

ตอ่ เน่อื ง หรือเรอ่ื งราวต่าง ๆ

มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาส่ือสารได้เหมาะสมกบั วัย (ต่อ)

สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี

ตัวบง่ ช้ี ช้ันอนุบาล ๒ ชนั้ อนุบาล ๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้

๙.๒ อ่าน เขยี น 1. อา่ นภาพ 1.อ่านภาพ สญั ลกั ษณ์ 1. การอ่านหนังสอื ภาพ 1. ความรู้พ้ืนฐานเกย่ี วกับ

ภาพและสัญลกั ษณ์ สัญลกั ษณ์ คำ พร้อม คำ ดว้ ยการชี้ หรอื กวาด นทิ าน หลากหลาย หนงั สือและตัวหนังสอื

ได้ ทั้งช้ี หรือกวาดตา ตามองจดุ เริ่มตน้ และจดุ ประเภท /รูปแบบ 2. คำ

มองขอ้ ความตาม จบของข้อความ 2. การสงั เกตตวั อกั ษรใน 3. ภาพและสญั ลักษณ์

บรรทดั 2. เขยี นช่ือของตนเอง ชอื่ ของตนหรอื คำคุ้นเคย

-เขียนคลา้ ยตวั อกั ษร ตาม 3. การเหน็ แบบอยา่ งของ

3. แบบ เขียนขอ้ ความ การเขียนทีถ่ ูกต้อง

ด้วยวิธีท่คี ิดขึ้นเอง 4. การเขยี นคำที่มี

ความหมายกับตัวเดก็ /คำ

คุ้นเคย

มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคิดทีเ่ ปน็ พ้นื ฐานการเรยี นรู้

สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระการเรียนรรู้ ายปี

ตัวบง่ ช้ี ช้ันอนุบาล ๒ ชนั้ อนบุ าล ๓ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้

๑๐.๑ มี 1. บอกลกั ษณะและ 1. บอกลักษณะ 1. การคดั แยก การจดั 1. การเปรียบเทยี บ

ความสามารถในการ ส่วนประกอบของ ส่วนประกอบ การ กลุม่ การจำแนกส่งิ ตา่ งๆ ลักษณะ รปู ทรง ตา่ ง ๆ

คิดรวบยอด สิ่งของต่างๆจากการ เปล่ยี นแปลง หรือ ตามลักษณะและรูปตา่ ง 2. น้ำหนัก จำนวน

สงั เกตโดยใชป้ ระสาท ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ของ รูปทรง

สัมผัส ต่างๆจากการสงั เกตโดย 2. การเปรียบเทยี บและ

2. จบั คแู่ ละเปรียบเทยี บ ใช้ประสาทสมั ผสั เรียงลำดับจำนวนของสิ่งตา่ งๆ

ความแตกตา่ งหรอื ความ 2. จบั คแู่ ละเปรยี บเทียบ 3. การจบั คู่ การ

เหมอื นของส่ิงตา่ งๆโดยใช้ ความแตกตา่ งหรือความ เปรยี บเทยี บ และการ

ลักษณะท่สี งั เกตพบเพียง เหมือนของสง่ิ ตา่ งๆโดย เรียงลำดบั สิง่ ต่าง ๆ

ลกั ษณะเดียว ใช้ลกั ษณะทส่ี งั เกตพบ ตามลกั ษณะความยาว /

3. จำแนกและจดั สองลักษณะขนึ้ ไป ความสงู น้ำหนกั

กลุ่มสง่ิ ตา่ งๆโดยใช้ ปรมิ าตร

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดนอ้ ย พทุ ธศกั ราช 2565 หนา้ ๓๓

สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี

ตวั บ่งช้ี ชั้นอนบุ าล ๒ ชน้ั อนุบาล ๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้

อย่างนอ้ ยหนงึ่ ลักษณะ 3. จำแนกและจดั กล่มุ ส่ิง

เปน็ เกณฑ์ ต่างๆโดยใช้ตั้งแต่สอง

4. เรยี งลำดับส่งิ ของ ลกั ษณะขน้ึ ไปเปน็ เกณฑ์

หรอื เหตุการณ์อย่าง 4. เรยี งลำดับส่ิงของหรอื

น้อย ๔ ลำดบั เหตกุ ารณอ์ ยา่ งนอ้ ย๕ลำดบั

๑๐.๒ มี 1. ระบสุ าเหตหุ รอื ผล 1. อธิบายเชอื่ มโยง 1. การคาดเดาหรือการ 1. การคาดคะเน

ความสามารถในการ ทเ่ี กิดข้นึ ในเหตุการณ์หรอื สาเหตแุ ละผลที่เกิดขน้ึ ใน คาดคะเนส่งิ ท่อี าจเกดิ ขนึ้ 2. ความสัมพนั ธ์ของ

คดิ เชงิ เหตผุ ล การกระทำเมือ่ มผี ้ชู ้ีแนะ เหตุการณ์หรอื การกระทำ อย่างมเี หตผุ ล มนุษย์ สตั ว์ พืช

2. คาดเดา หรอื ดว้ ยตนเอง 2. การอธบิ ายเชื่อมโยง

คาดคะเนส่ิงท่อี าจจะ 2. คาดคะเนส่ิงทอี่ าจจะ สาเหตุและผลทีเ่ กดิ ขนึ้ ใน

เกิดขึ้น หรือมสี ่วน เกิดข้ึน และมีส่วนร่วมใน เหตกุ ารณ์หรือการ

ร่วมในการลง การลงความเห็นจาก กระทำ

ความเห็นจากขอ้ มลู ข้อมลู อยา่ งมีเหตผุ ล 3. การมสี ่วนร่วมในการ

ลงความเหน็ จากขอ้ มลู

อยา่ งมเี หตผุ ล

๑๐.๓ มี 1. ตดั สนิ ใจในเรือ่ ง 1. ตัดสนิ ใจในเรอ่ื งงา่ ยๆ 1. มสี ่วนรว่ มในการเลอื ก 1. การคดิ อยา่ งมีเหตุผล

ความสามารถในการ งา่ ยๆและเรมิ่ เรยี นรู้ และยอมรับผลทเี่ กิดข้นึ วิธีการแกป้ ญั หา 2. ความสมั พันธ์ของสิง่

คิดแก้ปัญหาและ ผลที่เกดิ ขน้ึ 2. ระบุปญั หาสรา้ ง 2. การมสี ่วนร่วมในการ ตา่ ง ๆ รอบตัว

ตัดสนิ ใจ 2. ระบปุ ญั หา และ ทางเลอื กและเลือกวิธี แก้ปญั หาความขดั แยง้

แก้ปัญหาโดยลองผดิ แกป้ ญั หา

ลองถูก

มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี

ตัวบง่ ชี้ ชน้ั อนบุ าล ๒ ชนั้ อนุบาล ๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้

๑๑.๑ เล่น / 1. สรา้ งผลงานศลิ ปะ 1. สรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่อื 1.การแสดงความคิด 1. การแสดงออกทาง

ทำงานศลิ ปะตาม เพ่ือสอื่ สารความคดิ ส่อื สารความคดิ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา อารมณ์และความรสู้ ึก

จนิ ตนาการและ ความรสู้ กึ ของตนเอง ความรสู้ กึ ของตนเองโดย ทา่ ทาง การเคลื่อนไหว อย่างเหมาะสม

ความคดิ สร้างสรรค์ โดยมีการดดั แปลง มีการดดั แปลงและแปลก และศลิ ปะ 2. การใชเ้ ครอื่ งมือใน

และแปลกใหม่จาก ใหมจ่ ากเดมิ และมี 2. การสร้างสรรค์ชิน้ งาน การทำงานศลิ ปะอย่าง

เดมิ หรอื มีรายละเอียด รายละเอยี ดเพ่มิ ขึ้น โดยใช้รูปร่าง รปู ทรงจาก ถูกวิธีและปลอดภยั เช่น

เพม่ิ ข้ึน วสั ดทุ ี่หลากหลาย กรรไกร

๑๑.๒ แสดง 1. เคลอื่ นไหวทา่ ทาง 1. เคลอื่ นไหวท่าทางเพอื่ 1. การรบั รู้ และแสดง 1.การแสดงออกทาง

ท่าทาง/เคลือ่ นไหว เพอ่ื สื่อสารความคดิ สือ่ สารความคดิ ความคดิ เหน็ ความรสู้ กึ อารมณแ์ ละความรสู้ ึก

ตามจินตนาการ ความรสู้ กึ ของตนเอง ความรสู้ กึ ของตนเอง ผา่ นสอื่ วัสดุ ของเลน่ และ อยา่ งเหมาะสม

อย่างสร้างสรรค์ อย่างหลากหลายหรอื อยา่ งหลากหลายและ ชนิ้ งาน 2. การเลน่ และทำส่ิง

แปลกใหม่ แปลกใหม่ ตา่ ง ๆ ด้วยตนเอง

3. การแสดงท่าทางตา่ ง

ๆ ตามความคดิ ของ

ตนเอง

หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 หนา้ ๓๔

มาตรฐานท่ี ๑๒ มีเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้ และมคี วามสามารถในการแสวงหาความรไู้ ด้อย่างเหมาะสมกับวยั

สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี

ตัวบ่งช้ี ช้ันอนุบาล ๒ ชน้ั อนุบาล ๓ ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้

๑๒.๑ มีเจตคตทิ ดี่ ี 1. สนใจซกั ถาม 1. หยิบหนงั สือมาอา่ น 1. การตง้ั คำถามในเรื่อง 1. ความรูพ้ น้ื ฐานในการ

ต่อการเรียนรู้ เก่ยี วกับสญั ลกั ษณห์ รอื และเขียนสื่อความคดิ ทีส่ นใจ ใชห้ นงั สอื และตวั หนังสือ

ตัวหนังสอื ท่ีพบเหน็ ดว้ ยตนเองเปน็ ประจำ 2. การเล่นเกมทาง 2. การเรยี นรเู้ กี่ยวกบั ดนิ

2. กระตือรือรน้ ในการ อย่างตอ่ เนอื่ ง ภาษา นำ้ ทอ้ งฟ้า สภาพอากาศ

เขา้ ร่วมกิจกรรม 2. กระตอื รอื รน้ ในการ ภยั ธรรมชาติ แรงและ

ร่วมกจิ กรรมตัง้ แตต่ น้ พลังงานในชวี ติ ประจำวัน

จนจบ

๑๒.๒ มี 1. ค้นหาคำตอบของขอ้ 1. คน้ หาคำตอบของ 1. การสำรวจสิ่งตา่ ง ๆ 1. ความรู้พื้นฐานในการ

ความสามารถในการ สงสยั ตา่ งๆ ตามวธิ ีการ ขอ้ สงสัยต่างๆ ตาม และแหล่งเรยี นรรู้ อบตวั ใช้หนงั สือและตวั หนงั สอื

แสวงหาความรู้ ของตนเอง วธิ กี ารท่ีหลากหลาย 2. การสืบเสาะหา 2. การเรยี นรเู้ ก่ยี วกับดิน

2. ใชป้ ระโยคคำถามวา่ ดว้ ยตนเอง ความรู้เพ่ือค้นหาคำตอบ น้ำ ทอ้ งฟา้ สภาพอากาศ

“ท่ีไหน” “ทำไม” ใน 2. ใชป้ ระโยคคำถาม ของข้อสงสัยต่าง ๆ ภยั ธรรมชาติ แรงและ

การคน้ หาคำตอบ วา่ “เมอื่ ไร” อย่างไร” พลงั งานในชวี ติ ประจำวัน-

ในการค้นหาคำตอบ เทคโนโลยีและการส่ือสาร

ต่าง ๆ

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดน้อย พุทธศักราช 2565 หนา้ ๓๕

การจัดประสบการณ์

การจัดประสบการณ์เกี่ยวกับสมรรถนะสำหรับเด็กปฐมวัยอายุ ๔ – ๖ ปี เน้นให้เด็กเรียนรู้อย่างมี
ความสขุ ผ่านการเล่น การลงมือปฏิบัตโิ ดยใชป้ ระสาทสมั ผสั ทัง้ ๕ ผา่ นกจิ กรรมหลัก ๖ กิจกรรม และกิจกรรมส่งเสรมิ /
พัฒนาแบบบูรณาการอย่างหลากหลาย ให้เด็กมีทักษะชีวิต ทักษะการคิด ทักษะการสื่อสาร เด็กสามารถบูรณาการ
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการทางวิศวกรรม คณิตศาสตร์ และศิลปะ (STEAM Education) บน
พนื้ ฐานความมคี ุณธรรม ไปใชใ้ นการเชื่อมโยงและแกป้ ัญหาในชีวิตจริง รวมทัง้ การพัฒนากระบวนการหรอื ผลผลิตใหม่
ควบคไู่ ปกับการพฒั นาทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 รวมทัง้ เด็กมสี มรรถนะตามวยั สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาตขิ องเด็ก ทจี่ ะทำ
ให้เด็กคิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น พร้อมทั้งรู้จักน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่าง
เหมาะสมกับวัย ตามบริบทของตน และอยู่ร่วมกับผู้อืน่ ได้อย่างมีความสุข โดยผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วมในการ
พัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการรอบด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยมีหลักการและแนวทางการจัด
ประสบการณ์ ดงั นี้

๑. หลกั การจดั ประสบการณ์
๑.๑ จัดประสบการณ์การเล่น และการเรียนรู้อย่างหลากหลาย บนพื้นฐานการมีคุณธรรม เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์
รวมอย่างสมดุลและต่อเนอื่ ง ส่งเสริมและพฒั นาสมรรถนะทเ่ี หมาะสมตามวยั

๑.๒ เนน้ เด็กเป็นสำคัญ โดยจัดประสบการณ์สนองความตอ้ งการ ความสนใจ ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล
และบรบิ ทของสงั คมท่เี ด็กอาศัยอยู่

๑.๓ จดั ประสบการณค์ ณุ ภาพใหเ้ ดก็ ไดร้ บั การพัฒนา โดยใหค้ วามสำคัญกับการเปิดโอกาสให้เดก็ ได้เกิด
การเรียนรู้ด้วยตนเอง

๑.๔ จดั การประเมนิ พัฒนาการใหเ้ ปน็ ระบบ และเป็นส่วนหน่ึงของการจัดประสบการณ์ พรอ้ มทงั้ นำผลการ
ประเมนิ มาพัฒนาเดก็ อย่างตอ่ เน่อื ง

๑.๕ เปดิ กาสใหพ้ ่อแม/่ ผปู้ กครอง ครอบครวั ชุมชน และทุกฝา่ ยท่เี ก่ยี วขอ้ งมสี ่วนรว่ มในการพัฒนาเดก็
๒. แนวทางการจดั ประสบการณ์

๒.๑ โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดน้อยไดจ้ ัดประสบการณ์ ให้สอดคลอ้ งกับจติ วิทยาพัฒนาการ และการทำงานของ
สมองทเ่ี หมาะสม อายุ วุฒภิ าวะในระดบั พฒั นาการ เพื่อให้เดก็ ทกุ คนได้พัฒนาเต็มตามศกั ยภาพ

๒.๒ โรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ น้อยจัดประสบการณใ์ หส้ อดคล้องกับแบบการเรียนรู้ของเด็ก เดก็ ได้ลงมือกระทำ
เรียนรผู้ ่านประสาสมั ผัสท้ังห้า ได้เคล่อื นไหว สำรวจ เล่น สังเกต สบื คน้ ทดลอง และคดิ แกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง

๒.๓ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยจัดประสบการณ์แบบบูรณาการ โดยบูรณาการทั้งกิจกรรมทักษะและสาระ
การเรยี นรู้ บนพื้นฐานการมคี ุณธรรม

๒.๔ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยจัดประสบการณ์ใหเ้ ด็กมีสมรรถนะด้านการเคล่ือนไหวและสขุ ภาวะทางการ
พัฒนาการด้านสังคม พัฒนาการด้านอารมณ์ พัฒนาการด้านการคิดและสติปัญญา พัฒนาการด้านภาษา พัฒนาการ
ด้านจรยิ ธรรม และพฒั นาการด้านการสรา้ งสรรค์

๒.๕ โรงเรยี นวดั แมแ่ กด้ น้อยจัดประสบการณใ์ ห้เด็กได้ริเร่ิมคิดวางแผน ตดั สินใจลงมือกระทำและนำเสนอ
ความคิดโดยครหู รอื ผ้จู ัดประสบการณ์เป็นผสู้ นับสนนุ อำนวยความสะดวก และเรียนรรู้ ว่ มกับเด็ก

๒.๖ โรงเรยี นวัดแมแ่ กด้ นอ้ ยจดั ประสบการณใ์ ห้เดก็ เกิดทักษะการคิด ทกั ษะดา้ นคณิตศาสตร์ ทักษะทาง
วทิ ยาศาสตร์ ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะการสื่อสาร ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี และทักษะ
ทางสังคม (STEAM Education) ผา่ นการสร้างสรรค์ขององคป์ ระกอบศิลปท์ ใ่ี ชจ้ ินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 หนา้ 36

๒.๗ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยจัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่นกับผู้ใหญ่ ภายใต้
สภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ ในบรรยากาศที่อบอุน่ มีความสุขและเรียนรูก้ ารทำกิจกรรมแบบร่วมมือในลักษณะ
ตา่ งๆกัน

๒.๘ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยจัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและแหล่งการเรียนรู้ท่ี
หลากหลายและอยูใ่ นวิถีชีวติ ของเด็ก

๒.๙ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยจัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้
ชีวิตประจำวนั ตลอดจนสอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรมให้เป็นสว่ นหนึ่งของการจัดประสบการณ์การเรยี นรอู้ ย่างต่อเนื่อง

๒.๑๐ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยจัดประสบการณ์ทั้งในลักษณะที่ดีการวางแผนไวล้ ่วงหน้าและแผนที่
เกดิ ขึน้ ในสภาพจรงิ โดยไม่ได้คาดการณ์ไว้

๒.๑๑ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยจัดทำสารนิทัศน์ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการ
เรียนร้ขู องเด็กเปน็ รายบคุ คล นำมาไตรต่ รองและใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเดก็ และการวจิ ัยในช้นั เรียน

๒.๑๒ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อยจัดประสบการณ์โดยให้พ่อแม่ ครอบครัว และชมุ ชนมสี ่วนร่วมทั้งการ
วางแผน การสนับสนุนส่อื แหลง่ เรยี นรู้ การเข้าร่วมกิจกรรม และการประเมินพฒั นาการ

๓. การจดั กจิ กรรมประจำวัน
กจิ กรรมสำหรับเด็กอายุ ๔ – ๖ ปี สามารถนำมาจัดเป็นกจิ กรรมประจำวันได้หลายรูปแบบ เปน็ การช่วย

ให้ครูผู้สอนหรือผู้จัดประสบการณ์ทราบว่าแต่ละวันจะทำกิจกรรมอะไร เมื่อใด และอย่างไร ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม
ประจำวันสามารถจัดได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนำไปใชข้ องแต่ละหน่วยงานและสภาพชุมชน
ท่สี ำคัญครผู ูส้ อนต้องคำนึงถงึ การจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมพฒั นาการทุกด้านการจัดกิจกรรมประจำวันมีหลักการจัด
และขอบข่ายกจิ กรรมประจำวัน ดังน้ี

๓.๑ หลักการจดั กิจกรรมประจำวนั
๓.๑.๑ กำหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมแต่ละกิจกรรมให้เหมาะสมกับวัยของเด็กในแต่ละวันแต่

ยืดหยุน่ ได้ตามความตอ้ งการและความสนใจของเด็ก เช่น
วัย ๔ – ๕ ปี มีความสนใจอยูไ่ ด้ประมาณ ๑๒ - ๑๕ นาที
วยั ๕ - ๖ ปี มคี วามสนใจอยูไ่ ดป้ ระมาณ ๑๕ - ๒๐ นาที

๓.๑.๒ กิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดทั้งในกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ไม่ควรใช้เวลาต่อเนื่องนานเกินกว่า
๒๐ นาที

๓.๑.๓ กิจกรรมที่เด็กมีอิสระเลือกเล่นเสรี เพื่อช่วยให้เด็กรู้จักเลือกตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา คิด
สร้างสรรค์ เชน่ การเล่นตามมมุ การเลน่ กลางแจ้ง ฯลฯ ใช้เวลาประมาณ ๔๐-๖๐ นาที

๓.๑.๔ กิจกรรมควรมีความสมดุลระหว่างกิจกรรมในห้องและนอกห้อง กิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อใหญ่
และกล้ามเนื้อเล็ก กิจกรรมที่เป็นรายบุคคล กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ กิจกรรมที่เด็กเป็นผู้ริเริ่มและครูผู้สอนหรือผู้จัด
ประสบการณ์เป็นผู้ริเริ่ม และกิจกรรมที่ใช้กำลังและไม่ใช้กำลังจัดให้ครบทุกประเภท ทั้งนี้ กิจกรรมที่ต้องออกกำลัง
กายควรจดั สลับกับกิจกรรมทไี่ มต่ ้องออกกำลงั มากนัก เพอ่ื เด็กจะไดไ้ ม่เหน่อื ยเกนิ ไป

๓.๒ ขอบข่ายของกจิ กรรมประจำวนั
การจัดกิจกรรมประจำวันของโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย ได้จัดให้มีความหลากหลาย และเหมาะสมกับบริบท
ของโรงเรยี น โดยการใหเ้ ดก็ ไดล้ งมือปฏิบตั ิผ่านกิจกรรมทีห่ ลากหลายอย่างเหมาะสมกบั วยั ของเดก็ ส่งเสริมให้เด็กเกิด
ทกั ษะการคดิ ทักษะด้านคณิตศาสตร์ ทักษะทางวิทยาศาสตร์ ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการ

หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ 37

คิดวิเคราะห์ ทักษะการใช้เทคโนโลยี ทักษะทางสังคม และศิลปะอย่างสร้างสรรค์ (STEAM Education) เกิด
สมรรถนะทัง้ ๗ ดา้ น เพอ่ื ให้มพี ฒั นาการครบทง้ั ๔ ดา้ นอยา่ งสมดลุ ดังต่อไปนี้

๓.๒.๑ การพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ เป็นการพัฒนาความแข็งแรง การทรงตัว ความยืดหยุ่น ความ
คล่องแคล่วในการใช้อวัยวะต่าง ๆ และจังหวะการเคลื่อนไหวในการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้เล่น
อิสระกลางแจ้ง เลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม ปีนปา่ ยเล่นอสิ ระ เคล่ือนไหวร่างกายตามจังหวะดนตรี

๓.๒.๒ การพัฒนาการกล้ามเนื้อเล็ก เป็นการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเล็ก กล้ามเนื้อมือ-น้ิว
มือการประสานสมั พันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อมอื และระบบประสาทตามือได้อย่างคล่องแคลว่ และประสานสัมพันธ์ โดยจัด
กิจกรรมให้เด็กได้เล่นเครื่องสัมผัส เล่นเกมการศึกษา ฝึกช่วยเหลือตนเองในการแต่งกาย หยิบจับช้อนส้อม และใช้
อปุ กรณศ์ ิลปะ เช่น สเี ทยี น กรรไกร พูก่ ัน ดนิ เหนยี ว ฯลฯ

๓.๒.๓ การพฒั นาการอารมณ์ จติ ใจ และปลกู ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เปน็ การปลูกฝังใหเ้ ด็กมีความรู้สึก
ที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มีความเชื่อมั่น กล้าแสดงออก มีวินัย รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ประหยัด เมตตากรุณา เอื้อเฟื้ อ
แบ่งปัน มีมารยาทและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทยและศาสนาที่นับถอื โดยจัดกิจกรรมตา่ งๆ ผ่านการเล่นให้เด็กได้มี
โอกาสตดั สนิ ใจเลือก ได้รับการตอบสนองตาความตอ้ งการได้ฝึกปฏบิ ัติโดยสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรมอย่างต่อเนือ่ ง

๓.๒.๔ การพัฒนาสังคมนิสัย เป็นการพัฒนาให้เด็กมีลักษณะนิสัยที่ดี แสดงออกอย่างเหมาะสมและอยู่
ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวันมีนิสัยรักการทำงาน ระมัดระวังความ
ปลอดภัยของตนเองและผูอ้ น่ื โดยรวมท้งั ระมดั ระวงั อนั ตรายจากคนแปลกหนา้ ใหเ้ ด็กไดป้ ฏิบตั กิ จิ วตั รประจำวันอย่าง
สม่ำเสมอ เช่น รับประทานอาหาร พักผ่อนนอนหลับ ขับถ่าย ทำความสะอาดร่างกาย เล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น
ปฏบิ ัตติ ามกฎกตกิ าขอ้ ตกลงของร่วมรวม เกบ็ ของเขา้ ที่เม่อื เลน่ หรือทำงานเสร็จ

๓.๒.๕ การพัฒนาการคิด เป็นการพัฒนาให้เด็กมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาความคิดรวบยอด
ทางคณิตศาสตร์ และคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้สนทนา อภิปรายและ
เปลี่ยนความคิดเห็น เชิญวิทยากรมาพูดคุยกับเด็ก ศึกษานอกสถานที่เล่นเกมการศึกษา ฝึกการแก้ปัญหาใน
ชีวติ ประจำวัน ฝกึ ออกแบบและสรา้ งชิ้นงาน และทำกิจกรรมท้ังเปน็ กลุ่มย่อย กลมุ่ ใหญแ่ ละรายบุคคล

๓.๒.๖ การพัฒนาภาษา เป็นการพัฒนาให้เด็กใช้ภาษาสื่อสารถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ความรู้ความ
เข้าใจในสิ่งต่างๆ ที่เด็กมีประสบการณ์โดยสามารถตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัยใคร่รู้ จัดกิจกรรมทางภาษาให้มีความ
หลากหลายในสภาพแวดล้อมที่เออ้ื ต่อการเรียนรู้ ม่งุ ปลูกฝังให้เดก็ ไดก้ ล้าแสดงออกในการฟัง พูด อา่ น เขียน มนี ิสยั รัก
การอ่าน และบุคคลแวดล้อมต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษา ทั้งนี้ต้องคำนึกถึงหลักการจัดกิจกรรมทางภาษาที่
เหมาะสมกบั เด็กเปน็ สำคญั

๓.๒.๗ การส่งเสรมิ จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เป็นการสง่ เสริมใหเ้ ด็กมีความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์
ได้ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกและเห็นความสวยงามของสิ่งต่างๆ โดยจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ดนตรี การ
เคลื่อนไหวและจังหวะตามจินตนาการ วาดภาพ ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ อย่างอิสระ เล่นบทบาทสมมุติ เล่นน้ำ เล่นทราย
เลน่ บล็อก และเลน่ ก่อสร้าง

๓.๓ การจดั กิจกรรมประจำวนั โรงเรียนวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย
การจดั ตารางกิจกรรมประจำวันโรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อยได้ปรับใช้ตามความเหมาะสมของบริบทโรงเรียน

และแนวคิดการจัดการศึกษาปฐมวัยของนวัตกรรมที่นำมาใช้ในการจัดประสบการณ์กิจกรรมที่จัดให้เด็กในแต่ละวัน
ตามตารางกจิ กรรมประจำวนั ดงั ตอ่ ไปน้ี

หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวดั แม่แก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 หนา้ 38

ตารางการจดั ประสบการณ์ และกิจกรรมประจำวนั ในระดับปฐมวัย

โรงเรียนวดั แมแ่ กด้ นอ้ ย

เวลา กิจกรรม

๐๗.๐๐ – ๐๘.๐๐ น. - รบั เด็กเป็นรายบคุ คล

๐๘.๐๐ - ๐๘.๒๐ น. - เคารพธงชาติ

- สวดมนต์ / น่ังสมาธิ

๐๘.๒๐ - ๐๘.๓๐ น. - สนทนาข่าวและเหตุการณ์

๐๘.๓๐ – ๐๙.๐๐ น. - กิจกรรมการเคลอื่ นไหวและจังหวะ/กจิ กรรมเสริมประสบการณ/์

กิจกรรมสร้างสรรค์/กจิ กรรมเสรี/กิจกรรมส่งเสรมิ พฒั นาแบบบูรณ

การ

๐๙.๐๐ - ๐๙.๓๐ น. - กจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวและจงั หวะ/กิจกรรมเสริมประสบการณ/์

กิจกรรมสรา้ งสรรค/์ กจิ กรรมเสรี/กจิ กรรมสง่ เสรมิ พฒั นาแบบบรู ณ

การ

๐๙.๓๐ – ๑๐.๐๐ น. - กจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวและจงั หวะ/กิจกรรมเสริมประสบการณ์/

กจิ กรรมสรา้ งสรรค์/กิจกรรมเสรี/กิจกรรมสง่ เสริม พฒั นาแบบบรู ณ

การ

๑๐.๐๐ – ๑๐.๑๐ น. - ด่มื นม อาหารวา่ ง

๑๐.๑๐– ๑๐.๔๐ น. - กิจกรรมการเคล่ือนไหวและจงั หวะ/กจิ กรรมเสริมประสบการณ์/

กิจกรรมสร้างสรรค์/กิจกรรมเสรี/กิจกรรมสง่ เสริม พฒั นาแบบบูรณ

การ

๑๐.๔๐ – ๑๑.๑๐ น. - กิจกรรมกลางแจ้ง

๑๑.๑๐ – ๑๑.๕๐ น. - รับประทานอาหารกลางวนั

๑๑.๕๐ – ๑๓.๔๐ น. - แปรงฟนั /เขา้ ห้องน้ำ/นอนหลบั พักผ่อน

๑๓.๔๐ – ๑๔.๐๐ น. - เก็บทีน่ อน/ลา้ งหนา้ /รับประทานอาหารวา่ ง

๑๔.๐๐ – ๑๔.๓๐ น. - กิจกรรมเกมการศึกษา

๑๔.๓๐ – ๑๕.๐๐ น. - ทบทวนบทเรียน/เตรียมตัวกลบั บา้ น

หมายเหตุ * ตารางกจิ กรรมประจำวันอาจมรการปรบั เปลยี่ นตามความเหมาะสม
* กิจกรรมส่งเสรมิ /พฒั นาแบบบรู ณการการ จะมกี ารจัดการเรยี นร้ตู ามความเหมาะสม

๑. กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ
เคลอื่ นไหวและจังหวะ เป็นกิจกรรมทจ่ี ัดให้เด็กเคล่ือนไหวสว่ นตา่ งๆของร่างกายอยา่ งอิสระตามจังหวะโดยใช้
เสียงเพลง คำคล้องจอง เคร่ืองเคาะจังหวะ และอุปกรณ์ มาประกอบการเคลอ่ื นไว ซึงจังหวะและดนตรที ี่ใชป้ ระกอบ
ได้แกเ่ สยี งปรบมือ เสียงเพลง เสยี งเคาะไม้ เคาะเหลก็ กรงุ๋ กร๋ิง รำมะนา กลอง กรับ มาประกอบการเคลอ่ื นไหวเพื่อ
สง่ เสริมให้เดก็ เกดิ จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ เด็กวัยนร้ี า่ งกายอยู่ในระหว่างพัฒนาการใช้สว่ นตา่ งๆของ
รา่ งกาย ยังไมป่ ระสานสัมพนั ธอ์ ย่างสมบูรณ์

หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวัยฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ 39

จุดประสงค์
๑. เพื่อพัฒนาอวยั วะทุกส่วนให้มคี วามสัมพนั ธ์กันอยา่ งดีในการเคลอ่ื นไหว
๒. เพอ่ื ฝึกทักษะภาษา ฝกึ ฟังคำสง่ั ขอ้ ตกลง
๓. เพื่อใหเ้ กดิ ความซาบซง้ึ และสุนทรียภาพในการเคลื่อนไหว
๔. เพ่ือพัฒนาด้านสังคม การปรบั ตัวและความรว่ มมือในกลมุ่
๕. เพ่ือให้เด็กไดแ้ สดงออก และความรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์
๖ .เพื่อใหเ้ กิดความสนกุ สนาน ผ่อนคลายความตงึ เครยี ด
๗. เพอื่ ใหไ้ ด้รับประสบการณ์ สนุกสนาน รื่นเรงิ จากการเคลอ่ื นไหว และจังหวะแบบตา่ งๆ

ขอบขา่ ย/เนอ้ื หา/ความหมาย
๑. กิจกรรมการเคลื่อนไหวพื้นฐาน เป็นกจิ กรรมท่ตี ้องฝึกทุกครงั้ ก่อนทจี่ ะฝึกกิจกรรมอื่นๆต่อไปลกั ษณะ

การจัดกิจกรรมมีจดุ เนน้ ในเรื่องจังหวะและการเคล่อื นไหวหรอื ทา่ ทางอย่างอิสระ การเคลอ่ื นไหวตามธรรมชาติ-เด็ก
มี ๒ ประเภท คอื การเคล่ือนไหวอยกู่ ับที่ เชน่ ตบมอื ผงกศีรษะ ขยิบตา ชันเข่า เคาะเทา้ เคลือ่ นไหวมือและแขน มือ
และนว้ิ มอื เท้าและปลายเทา้ การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นที่ เช่น คลาน คบื เดนิ ว่ิง กระโดด ควบม้า กา้ วกระโดด
เขยง่ เท้าชดิ

โดยกจิ กรรมการเคลอื่ นไหวพ้ืนฐานอาจดำเนนิ การ ดงั น้ี
๑.๑ ใหเ้ ด็กทราบถงึ ขอ้ ตกลงร่วมกันในการกำหนดสัญญาณนั้นหมายถึงอะไร เชน่

(๑) ให้จงั หวะ ๑ ครัง้ สม่ำเสมอ แสดงว่า ให้เด็กเดินหรอื เคล่ือนไหวไปเรื่อยๆตาม จงั หวะ
(๒) ใหจ้ ังหวะ ๒ ครง้ั ติดกัน แสดงใหเ้ ด็กหยดุ การเคลอ่ื นไหว โดยเด็กจะตอ้ งหยุดน่งิ จริงๆ หากกำลัง
อยู่ในทา่ ใด กต็ องหยุดในทา่ น้ัน จะเคลือ่ นไหวหรอื เปล่ยี นท่าไม่ได้
(๓) ให้จงั หวะรัว แสดงว่า เด็กเคลือ่ นไหวอยา่ งเร็ว หรอื เคลอ่ื นที่เร็วขึน้ เช่น การฝึก เป้นผู้นำหรอื ผู้
ตามจะหมายถงึ การเปล่ียนตำแหน่ง
๑.๒ ใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวอยา่ งอิสระตามความคดิ หรือจินตนาการของตนเอง โดยใช้ส่วนต่างๆของร่างกายให้
มากที่สุด และขณะเดยี วกันต้องคำนึงถึงองคป์ ระกอบพ้นื ฐานในการเคลื่อนไหว ซ่ึงไดแ้ ก่ การใชร้ ่างกายตนเอง การใช้
พ้นื ทบ่ี ริเวณ การเคลอื่ นไหวอยา่ งมีอิสระ มรี ะดับและทิศทาง
๒. กจิ กรรมการเคลื่อนไหวท่ีสมั พนั ธก์ บั เนือ้ หา เปน็ กจิ กรรมทจ่ี ัดใหเ้ ด็กไดเ้ คลื่อนไหวรา่ งกาย โดยเน้นก
ทบทวนเรื่องที่ได้รับรู้จากกจิ กรรมอื่น และนำมาสมั พันธ์กับสาระการเรียนรหู้ รือเรอ่ื งอื่นๆท่เี ด็กสนใจ ได้แก่
๒.๑ การเคลื่อนไหวเลียนแบบ เป็นการเคลื่อนไหวเลียนแบบสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น การเลียนแบบท่าทาง
สัตว์ การเลียนแบบท่าทางคน การเลียนแบบเครื่องยนต์กลไกและเครื่องเล่น และการเลียนแบบปรากฎการณ์
ธรรมชาติ
๒.๒ การเคลื่อนไหวตามบทเพลง เป็นการเคลื่อนไหวหรือทำท่าประกอบเพลง เช่น เพลงไก่ เพลงข้าม
ถนน เพลงสวสั ดี
๒.๓ การทำท่าทางกายบรหิ ารประกอบเพลงหรือคำคล้องจอง เปน็ การทำท่าทางการบริหารกายบริหาร
ตามจังหวะและทำนองเพลงหรือคำคล้องจอง เช่น เพลงกำมือแบมือ เพลงออกกำลังกาย รับแสงตะวัน คำคล้องจอง
ฝนตกพรำพรำ
๒.๔ การเคลือ่ นไหวเชิงสร้างสรรค์ เป็นการเคล่ือนไหวท่ีให้เด็กคิดสร้างสรรค์ท่าทางข้ึนเองหรืออาจชี้ด้วย
การป้อนคำถามเคลอ่ื นไหวโดยใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ เชน่ หว่ งหวาย แถบผา้ รบิ บ้นิ ถุงทราย
๒.๕ การเคลื่อนไหวหรือการแสดงท่าทางตามคำบรรยายหรือเรื่องราว เป็นการเคลื่อนไหวหรือแสดง
ทา่ ทางตามจินตนาการจากเรอ่ื งราวหรอื คำบรรยายทีผ่ ู้สอนเลา่

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแม่แก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ 40

๒.๖ การเคลื่อนไหวหรือการแสดงท่าทางตามคำสั่ง เป็นการเคลื่อนไหวหรือท่าทางตามคำสั่งของครู
เชน่ การจดั ดกลมุ่ ตามจำนวน การทำท่าตามคำสง่ั

๒.๗ การเคลื่อนไหวหรือการแสดงท่าทางตามข้อตกลง เป็นการเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางตาม
ขอ้ ตกลงที่ได้ตกลงไวก้ ่อนเริ่มกิจกรรม

๒.๘ กรเคลื่อนไหวหรือการแสดงท่าทางเป็นผู้นำ ผู้ตาม เป็นการเคลื่อนไหวหรือทำท่าทาง จาก
ความคิดสรา้ งสรรค์ของเดก็ เอง แลว้ ให้เพือ่ นปฎบิ ตั ติ ามกิจกรรม

จากรูปแบบการเคล่ือนไหวขา้ งต้น ลักษณะการเคลื่อนไหวของเด็กอาจมีลักษณะตา่ งๆเช่น ช้า เร็ว นุ่ม
นวม ทำท่าทางขึงขัง ร่าเริง มีความสุข หรือโศกเศร้าเสียใจ และมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน เช่นการ
เคลื่อนไหวไปข้างหนา้ และขา้ งหลัง ไปข้างซ้ายและขา้ งขวา เคลื่อนตัวข้ึนและลง หรือเคลือ่ นไหวรอบทิศทาง โดยให้มี
ระดับของการเคลอ่ื นไหวสงู กลาง และต่ำ ในบรเิ วณทีเ่ ดก็ ต้องการเคลื่อนไหว
ส่อื เคลอ่ื นไหวและจงั หวะกิจกรรม

๑. เคร่ืองเคาะจงั หวะ เชน่ ฉิ่ง เหลก็ สามเหลี่ยม กรับ รำมะนา กลอง
๒. อุปกรณ์ประกอบการเคลื่อนไหว เช่น หนังสือพิมพ์ ริบบิ้น แถบผ้า ห่วงหวาย ห่วงพลาสติก ถุงทราย
ขอ้ เสนอแนะ
๑. ควรเรมิ่ กจิ กรรมจากการเคล่ือนไหวทีเ่ ปน็ อิสระ และมวี ธิ ีการท่ีไม่ยงุ่ ยากมากนัก เช่น ใหเ้ ดก็ ได้เคลื่อนไหว
กระจายอยูภ่ ายในหอ้ ง และใหเ้ คล่ือนไหวไปตามธรรมชาตขิ องเด็ก
๒. ควรให้เด็กไดแ้ สดงออกดว้ ยตนเองอย่างอิสระ และเปน็ ไปตามความนึกคิดของเด็กเอง ผู้สอน ไมค่ วรชแี้ นะ
๓. ควรเปดิ โอกาสให้เด็กคิดหาวธิ ีเคล่ือนไหว ทัง้ ท่ตี อ้ งเคลอื่ นทแี่ ละไมต่ ้องเคลื่อนท่ี เปน็ รายบุคคล เป็นคู่ เป็น
กลมุ่ ตามลําดบั และกล่มุ ไม่ควรเกนิ ๕ - ๖ คน
๔. ควรใชhวัสดุที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก เช่น ของเล่น กระดาษหนังสือพิมพ์ เศษผ้า เชือก ท่อนไม้ประกอบการ
เคล่ือนไหวและการใหวจงั หวะ
๕. ควรกําหนดจังหวะสัญญาณนัดหมายในการเคลื่อนไหวต่างๆ เช่นการเปลี่ยนทางหรือหยุด ให้เด็กทราบ
เมื่อทาํ กจิ กรรมทกุ ครั้ง
๖. ควรสร้างบรรยากาศอย่างอสิ ระ ใหเ้ ดก็ ร้สู ึกอบอุ่น เพลดิ เพลนิ และรูส้ ึกสบาย สนุกสนาน
๗. ควรจดั ใหม้ ีรูปแบบของการเคล่ือนไหวท่ีหลากหลาย เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ ด็กสนใจมากขึน้
๘. กรณีเด็กไมjยอมเข้าร่วมกิจกรรม ผู้สอนไม่ควรใช้วิธีบังคับ ควรให้เวลาและโน้มน้าวให้เด็กสนใจ เข้าร่วม
กจิ กรรมดว้ ยความสมคั รใจ
๙. ควรจัดให้มีเกมการเล่นท่ไี ม่เน้นการแข่งขัน เพื่อกระตนุ้ เรา้ ความสนใจของเดก็ มากขึ้น
๑๐. การจัดกิจกรรมควรจัดตามกําหนดตารางกิจกรรมประจําวัน และควรจัดให้เป็นที่น่าสนใจ เกิดความ
สนุกสนาน
๑๑. ใหเ้ ลน่ เป็นเรอ่ื งราว โดยการเล่าใหhเดก็ ฟัง เด็กเกิดจนิ ตนาการและเคลือ่ นไหวไปตามเรื่องน้ันๆ
๑๒. หลังจากเด็กได้ทํากิจกรรมแล้ว ต้องให้เด็กได้พักผ่อน โดยอาจเปิดเพลงจังหวะช้าๆ เบาๆ ที่สร้าง
ความร้สู ึกใหเ้ ดก็ อยากพักผอ่ น

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แมแ่ ก้ดนอ้ ย พุทธศักราช 2565 หน้า 41

๒. กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ/์ กิจกรรมในวงกลม
กิจกรรมเสริมประสบการณ์/กิจกรรมในวงกลม เป็นกจิ กรรมที่มุ่งเน้นให้เดก็ ได้พฒั นาทกั ษะ การเรยี นรู้ ทกั ษะ
การฟัง การพูด การสังเกต การคิดแก้ปัญหา การใช้เหตุผล และการปฎิบัติการทดลอง โดยการฝึกปฎิบัติร่วมกัน
และการทำงานเป็นกลุ่ม ทั้งกลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ เพื่อให้เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเรื่องที่ได้เรียนรู้มากกว่า
เน้อื หา เม่อื เกิดการเรยี นรู้ตามกระบวนการจะทำให้เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจในเน้ือหานัน้ ๆดว้ ยตนเอง
จุดประสงค์
๑. เพอื่ ฝึกทักษะกระบวนการคดิ พ้นื ฐาน การมีสมาธิในการทํางานยืดระยะความสนใจ
๒. เพื่อฝึกการใชภ้ าษาในการฟัง การพูด และการถ่ายทอดเรื่องราว
๓. เพอื่ ฝึกมารยาทในการฟงั การพุด
๔. เพอ่ื ฝกึ ความรบั ผิดชอบ และปฎิบัติตามขอ้ ตกลง
๕. เพ่ือให้เด็กเรยี นรู้ผา่ นการสงั เกต มคี วามอยากรอู้ ยากเห็นสิง่ แวดล้อมรอบตวั
๖. เพื่อเพ่อื ส่งเสรมิ ความสามารถในการคดิ รวบยอด การคิดแกป้ ญั หาและตดั สนิ ใจ
๗. เพอื่ ส่งเสริมการเรียน รวู้ ธิ แี สวงหาความรู้ เกิดการเรยี นรจู้ ากการค้นพบดว้ ยตนเอง
๘. เพื่อฝึกการกล้าแสดงออก ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน
ขอบข่าย/เนอื้ หา/กจิ กรรม
นําเนื้อหาและรายการประสบการณ์ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยมาบูรณาการการจัดประสบการณก์ ารเรยี น
การสอน โดยยึดขั้นตอนการเรียนรู้ประสบการณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเด็กไปยังสิ่งที่อยู่ไกลตัวเด็กมาเป็นแกน ในการจัดหน่วย
การจดั ประสบการณ์
แนวการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์/กจิ กรรมในวงกลม
การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์/กิจกรรมในวงกลม (ควรใช้เวลา ๑๕ - ๒๐ นาที) ถ้านานเกินไป หรือ
กจิ กรรมไม่น่าสนใจ เดก็ เบือ่ ทําให้ไม่อยู่น่ิง ในการดําเนนิ กจิ กรรมจะมวี ธิ ีดาํ เนินกจิ กรรม ๓ ข้นั ตอน คือ

๑. ข้นั นํา เข้าสบู่ ทเรียน เป็นการเตรียมเด็กใหพ้ ร้อมและกระตนุ้ ให้เด็กสนใจท่ีจะร่วมกิจกรรม ต่อไป
กจิ กรรมท่ีใช้อาจปนการร้องเพลง คําคล้องจอง ปริศนาคําทาย คาใบ้ ฯลฯ ซึ่งจะใชร้ ะยะเวลาสัน้ ๆ

๒. ขั้นสอน เปน็ การจดั กิจกรรมทีต่ ้องการให้เด็กได้รบั ความรแู้ ละประสบการณ์ดว้ ยกจิ กรรม หลาย
รูปแบบ เช่น

๒.๑ การสนทนาหรือการอภิปราย เปน็ การพูดคุยซักถามระหว่างเด็กกบั ผสู้ อน หรอื เด็กกับเด็ก
เป็นทางส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา ด้านการพูดและการฟัง โดยการกําหนดประเด็นในการสนทนาหรืออภิปราย
เด็กจะได้แสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ผู้สอนเปิดโอกาสให้เด็กซักถาม โดยใช้คําถาม
กระตุ้นหรือเล่าประสบการณ์ที่แปลกใหม่ นําเสนอปัญหาที่ท้าทายความคิด การยกตัวอย่าง การใช้สื่อประกอบการ
สนทนาหรอื การอภปิ ราย ควรใชส้ ่ือของจรงิ ของจำลอง รปู ภาพ หรอื สถานการณ์จำลอง

๒.๒ การเลา่ นทิ านหรือการอ่านนิทาน เป็นกิจกรรมท่ผี ้สู อนเล่าหรืออ่านเร่ืองราวจากนิทานโดย
การใช้น้ำเสียงประกอบการเล่าแตกต่างตามบุคลิกของตัวละคร ซึ่งผู้สอนควรเลือกสาระของนิทานให้เหมาะสมกับวัย
สือ่ ที่ใชอ้ าจเปน็ หนังสือนิทาน หนังสอื ภาพ แผ่นภาพ หุน่ มอื หุ่นน้ิวมือ หรือการแสดงท่าทางประกอบการเล่าเรื่อง
โดยผู้สอนใช้คำถามเพื่อกระคุน้ การเรยี นรู้ เช่น ในนทิ านเรอื่ งน้ี มตี วั ละครอะไรบ้าง เหตกุ ารณ์ในนทิ านเรือ่ งนี้เกิดข้ึนท่ี
ไหน เวลาใด หรือลำดับเหตุการณท์ ีเ่ กิดขึ้นในนิทาน นิทานเร่ืองนี้มีปัญหาอะไรบ้างและเด็กๆ ชอบเหตุการณ์ใดใน
นทิ านเร่อื งนี้มากทสี่ ดุ

๒.๓ การสาธติ เป็นกจิ กรรมที่เด็กได้เรีนรู้จากประสบการณ์ตรง โดยแสดงหรอื ทำส่ิงท่ีต้องการให้
เด็กได้สังเกตและเรียนรู้ตามขั้นตอนของกิจกรรมนั้นๆ และเด้กได้อภิปรายและร่วมกันสรุปการเรียนรู้ การสาธิตใ น

หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวดั แม่แก้ดน้อย พทุ ธศกั ราช 2565 หนา้ 42

บางครั้งอาจให้เด็กอาสาสมัครเป็นผู้สาธิตร่วมกับผูส้ อน เพื่อนำไปสู่การปฎบิ ัติจริงด้วยตนเอง เช่นการเพาะเมล็ดพืช
การประกอบอาหาร การเป่าลกู โป่ง การเลน่ เกมการศึกษา

๒.๔ การทดลอง/ปฎบิ ตั ิการ เปน็ กจิ กรรมทจ่ี ดั ใหเ้ ด็กไดร้ ับประสบการณ์ตรงจากการลงมือปฎิบัติ
การทดลอง การคดิ แก้ปัญหา มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะคณติ ศาสตร์ ทกั ษะภาษา ส่งเสริมให้เด็ก
เกิดข้อสงสัย สืบค้นคำตอบด้วยตนเอง ผ่านการวิเคราะห์ สังเคราะห์อย่างง่าย สรุปผลการทดลองอภิปรายผลการ
ทดลอง และสรุปการเรยี นรู้ โดยกจิ กรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ เช่นการเลยี้ งหนอนผีเสื้อ การปลกู พืช ฝึกการ
สังเกตการไหลของน้ำ

๒.๕ การประกอบอาหาร เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการทดลองโดยเปิดโอกาสให้เด็ก
ได้ลงมือทดสอบและปฎิบัติด้วยตนเอง เกยี่ วกบั การเปลยี่ นแปลงของผัก เนือ้ สตั ว์ ผลไม้ ดว้ ยวธิ ีการต่างๆ เชน่ ตม้ น่ึง
ผัด ทอด หรือการรับประทานสด เด็กจะได้รับประสบการณ์จากการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาหารการรับรู้
รสชาติและกลิ่นของอาหารด้วยการใช้ประสาทสมั ผสั และการทำงานรว่ มกนั เช่น การทำอาหารจากไข่

๒.๖ การเพาะปลูก เปน็ กิจกรรมทเ่ี น้นกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ซึ่งเด็กจะได้
เรียนรู้การบูรณาการ จะทำให้เดก็ ไดร้ ับประสบการณ์โดยทำความเข้าใจความต้องการของสงิ่ มีชีวิตในโลก และช่วยให้
เด็กเข้าใจความคิดรวบยอดเก่ยี วกับสิ่งที่อยู่รอบตวั โดยการสงั เกต เปรยี บเทยี บ และการคิดอย่างมีเหตผุ ล ซ่ึงเป็นการ
เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ ไดค้ ้นพบและเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

๒.๗ การศึกษานอกสถานที่ เป็นการจัดกิจกรรมทัศนศึกษาที่ให้เด็กได้เรียนรู้สภาพความเป็นจริง
นอกห้องเรียน จากแหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษาหรือแหล่งเรียนรู้ในชุมชน เช่น ห้องสมุด สวนสมุนไพร วัด ไปรษณีย์
พิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นการเพ่ิมพนู ประสบการณ์แกเ่ ดก็ โดยผูส้ อนและเด็กรวมกันวางแผนศกึ ษาสิ่งท่ี ต้องการเรียนรู้การ
เดินทาง และสรุปผลการเรียนรทู้ ไี่ ดจ้ ากการไปศกึ ษานอกสถานที่

๒.๘ การเลน่ บทบาทสมมติ เปน็ กจิ กรรมใหเ้ ดก็ สมมติตนเองเป็นตัวละคร และแสดงบทบาท ต่างๆ
ตามเนื้อเรื่องในนิทาน เรื่องราว หรือสถานการณ์ ต่างๆ โดยใช้ความรู้สึกของเด็กในการแสดง เพื่อให้เด็กเข้าใจ
เรื่องราว ความรู้สึก และพฤติกรรมของตนเองและผูกอื่น ควรใช้สื่อประกอบการเล่นสมมติ เช่น หุ่นสวมศีรษะ ที่คาด
ศรี ษะรปู คนและสัตว์ รูปแบบตา่ งๆ เคร่อื งแตง่ กาย และอุปกรณข์ องจริงชนิดต่างๆ

๒.๙ การร้องเพลง ท่องคําคล้องจอง เป็นกิจกรรมทจ่ี ัดให้เดก็ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาษา จังหวะ และ
การแสดงท่าทางให้สัมพันธ์กับเนือ้ หาของเพลงหรือคําคล้องจอง ผู้สอนควรเลือกเพลงหรือคําคล้องจอง ให้เหมาะกับ
วยั ของเด็ก

๒.๑๐ การเล่นใชเ้ กม เป็นกจิ กรรมทีน่ าํ เกมการเรยี นรเู้ พื่อฝกึ ทักษะการคดิ การแก้ปญั หา และการ
ทาํ งานเปน็ กลุ่ม เกมที่นาํ มาเลน่ ไม่ควรเนน้ การแข่งขนั

๒.๑๑ การแสดงละคร เป็นกิจกรรมที่เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการลําดับเรื่องราว การเรียงลําดับ
เหตุการณ์หรือเรื่องราวจากนิทาน การใช้ภาษาในการสื่อสารของตัวละคร เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ และทําความเข้าใจ
บุคลิกลักษณะของตัวละครที่เด็กสวมบทบาท สื่อที่ใช้ เช่น ชุดการแสดงทีส่ อดคลอ้ งกับ บทบาทที่ได้รบั บทสนทนาท่ี
เดก็ ใช้ฝกึ สนทนาประกอบการแสดง

๒.๑๒ การใช้สถานการณ์จําลอง เป็นกิจกรรมที่เด็กได้เรียนรู้แนวทางการปฏิบัติตนเมื่ออยู่ ใน
สถานการณท์ ีผ่ ู้สอนกําหนด เพ่ือให้เด็กได้ฝกึ การแก้ปัญหา เชน่ นํ้าท่วม โรคระบาด พบคนแปลกหนา้

สอ่ื กิจกรรมเสริมประสบการณ์/กจิ กรรมในวงกลม
๑. สอ่ื ของจริงท่ีอยใู่ กลต้ ัว และส่อื จากธรรมชาตหิ รอื วัสดุท้องถนิ่ เชน่ ต้นไม้ ใบไม้ เปลอื กหอย เสื้อผ้า
๒. สื่อทจ่ี ําลองข้นึ เชน่ ตน้ ไม้ ตุ๊กตาสตั ว์

หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรยี นวัดแมแ่ ก้ดน้อย พุทธศกั ราช 2565 หนา้ 43

๓. สอื่ ประเภทภาพ เช่น ภาพพลิก ภาพโปสเตอร์ หนงั สือภาพ
๔. สื่อเทคโนโลยี เช่น เครื่องบันทึกเสียง เครื่องขยายเสียง โทรศัพท์ แม่เหล็ก แว่นขยาย เครื่องชั่ง กล้อง
ถา่ ยรูปดจิ ิตอล
๕. สื่อแหล่งเรียนรู้ เช่น แหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกสถานศึกษา เช่น แปลงเกษตร สวนผัก สมุนไพร
ร้านค้า สวนสตั ว์ แหลง่ ประกอบการในท้องถิน่
ข้อเสนอแนะ
๑. การจัดกิจกรรมควรยึดหลักการจัดกิจกรรมที่เน้นให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า
และมีโอกาสคน้ พบด้วยตนเองใหม้ ากท่ีสดุ
๒. ผูส้ อนควรยอมรับความคิดเห็นท่ีหลากหลายของเด็ก และใหโ้ อกาสเด็กไดฝ้ ึกคิดแสดง ความคิดเห็น ฝึกต้ัง
คาํ ถาม
๓. อาจเชิญวิทยากร เช่น พ่อแม่ ตํารวจ หมอ ฯลฯ มาให้ความรู้แทนผู้สอน เพื่อช่วยให้เด็ก สนใจและ
สนุกสนานยิ่งขึน้
๔. ในขณะทเ่ี ดก็ ทํากิจกรรมหรือหลงั จากทํากิจกรรมเสรจ็ แล้ว ผสู้ อนควรใช้คําถามปลายเปดิ ทช่ี วนใหเ้ ด็กคิด
หลีกเล่ียงการใช้คาํ ถามที่มคี ําตอบ “ใช่ “ไม่ใช่” หรือมคี าํ ตอบใหเ้ ด็กเลอื ก และผู้สอนควรให้ เวลาเดก็ คดิ คําตอบ
๕. ช่วงระยะเวลาทีจ่ ดั กิจกรรมสามารถยดื หยุ่นได้ ตามความเหมาะสม โดยคํานึงถึงความสนใจ ของเด็กและ
ความเหมาะสมของกิจกรรมนั้นๆ เช่น กิจกรรมการศึกษานอกสถานที่ การประกอบอาหาร การเพาะปลูก อาจใช้
เวลานานกว่าทก่ี ําหนดไว้

๓. กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
กิจกรรมศิลปะสรางสรรค เปนกิจกรรมที่มุงพัฒนากระบวนการคิดสรางสรรค การรับรูเกี่ยวกับความงาม
และสงเสริมกระตุนใหเด็กไดแสดงออกทางอารมณตามความรูสึก ความคิดริเริ่มสรางสรรคและจินตนาการ โดยใช
ศลิ ปะ เชน การวาดภาพ ระบายสี การปน การพมิ พภาพ การพบั ตดั ฉกี ปะ ฯลฯ
จดุ ประสงค
๑. เพ่ือพฒั นากลามเนื้อมือและตาใหประสานสมั พันธกนั
๒. เพือ่ ใหเกิดความเพลดิ เพลิน ช่นื ชมในส่ิงทสี่ วยงาม
๓. เพอ่ื สงเสรมิ การปรับตัวในการทํางานรวมกบั ผูอนื่
๔. เพ่ือสงเสริมการแสดงออกและมคี วามมัน่ ใจในตนเอง
๕. เพ่ือสงเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม และทกั ษะทางสังคม
๖. เพือ่ สงเสรมิ ทักษะทางภาษา อธบิ ายผลงานของตนได
๗. เพ่อื ฝกทักษะการสังเกต การคดิ และการแกปญหา
๘. เพื่อสงเสรมิ ความคดิ รเิ ร่มิ สรางสรรคและจนิ ตนาการ
ขอบขาย/เนื้อหา/กจิ กรรม
๑. การวาดภาพและระบายสี เชน การวาดภาพดวยสีเทยี น สีไม สนี ํ้า
๒. การเลนกับสนี าํ้ เชน การเปาสี การหยดสี การพับสี การเทสี การละเลงสีดวยนิว้ มอื
๓. การพมิ พภาพ เชน การพิมพภาพดวยพชื การพิมพภาพดวยวสั ดตุ างๆ
๔. การปน เชน การปนดนิ เหนียว การปนแปงปน การปนดินนาํ้ มนั การปนแปงขนมปง
๕. การพับ ฉกี ตัด ปะ เชน การพบั ใบตอง การฉีกกระดาษเสน การตดั ภาพตางๆ การปะติดวัสดุ
๖. การประดษิ ฐ เชน ประดษิ ฐเศษวสั ดุ

หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั ฐานสมรรถนะ โรงเรียนวัดแม่แก้ดน้อย พทุ ธศักราช 2565 หน้า 44


Click to View FlipBook Version