ภายในเดือนมนี าคมของทุกปี
(13) ออกประกาศและใหค้ ํารับรองเกี่ยวกับกิจการศาสนาอสิ ลามในจังหวดั ....”
“.....มาตรา 35 คณะกรรมการอสิ ลามประจํามัสยิด มีอํานาจหน้าท่ี ดังตอ่ ไปน้ี
(1) บํารุงรักษามัสยดิ และทรพั ยส์ นิ ของมัสยิดให้เรียบรอ้ ย
(2) วางระเบียบปฏิบัติภายในของมัสยิดเพื่อให้การดําเนินงานของมัสยิดเป็นไปด้วย
ความเรียบร้อย
(3) ปฏิบัติตามคําแนะนําช้ีแจงของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและ
คณะกรรมการอสิ ลามประจําจงั หวดั ในเมอ่ื ไม่ขัดตอ่ บัญญตั ิแห่งศาสนาอิสลามและกฎหมาย
(4) สนับสนุนสปั บุรุษในการปฏิบัตศิ าสนกจิ ส่งเสริมใหเ้ กิดความสามคั คีและช่วยเหลอื
ซง่ึ กนั และกันในทางทช่ี อบตามบัญญตั แิ หง่ ศาสนาอสิ ลาม
(5) พิจารณามมี ติรบั มุสลมิ เข้าเป็นสปั บุรุษประจํามัสยดิ
(6) อํานวยความสะดวกและอบรมสั่งสอนให้สัปบุรุษประจํามัสยิดปฏิบัติศาสนกิจโดย
ถูกต้องเครง่ ครัด
(7) ประนปี ระนอมขอ้ พิพาทระหวา่ งสปั บรุ ษุ ประจํามสั ยิดเมอ่ื ได้รับการรอ้ งขอ
(8) จัดให้มีและรักษาสมุดทะเบียนสัปบุรุษประจํามัสยิด และตรวจตราแก้ไขเพิ่มเติม
สมุดทะเบยี นดังกล่าวให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
(9) จําหน่ายชอื่ สปั บุรษุ ประจํามัสยิดออกจากทะเบียน เมือ่ ได้สอบสวนแลว้ ปรากฏว่า
ผู้นั้นกระทําการฝ่าฝืนหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิใหถ้ กู ตอ้ งตามบัญญัตแิ หง่ ศาสนาอสิ ลาม
(10) จดั ใหม้ ีทะเบียนทรพั ยส์ ิน เอกสาร และบัญชรี ายรับรายจา่ ยของมัสยดิ ให้ถกู ตอ้ ง
ตรงความเป็นจริง และจัดทํารายงานผลการดําเนินงาน ฐานะการเงิน และทรพั ยส์ นิ ของมัสยดิ
แลว้ รายงานให้คณะกรรมการอิสลามประจําจงั หวดั ทราบภายในเดือนมนี าคมของทุกปี
(11) ดดู วงจนั ทร์และแจ้งผลการดดู วงจนั ทรต์ ่อคณะกรรมการอิสลามประจําจงั หวัด
(12) สง่ เสรมิ การศกึ ษาและจัดกิจกรรมที่ไม่ขดั ตอ่ บัญญตั แิ หง่ ศาสนาอสิ ลาม
พระราชบัญญัติสง่ เสริมกจิ การฮจั ญ์ พ.ศ. 2554
หลักการและเหตุผลการตรากฎหมายมาใช้
เน่ืองจากการประกอบพิธีฮัจญ์ของมุสลิมท่ัวโลก เป็นหลักปฏิบัติศาสนกิจภาค
บังคับท่ีสำ�คัญ ในแต่ละปีจึงมีผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ร่วมกัน ณ เมืองเมกกะ ประเทศ
ซาอุดอิ าระเบียนับหลายล้านคน จากทกุ ชาติ ทุกภาษาท่วั โลก การที่ชาวมุสลมิ จากประเทศไทย
ไปประกอบพิธีฮัจญ์ร่วมกับประเทศอื่น จึงควรได้รับช่วยเหลือดูแลและอำ�นวยความสะดวก
92 รายวิชาที่ 6 กฎหมายทใ่ี ช้ในจังหวดั ชายแดนภาคใต้
จากรัฐบาลตามสมควร ดังน้ัน การมีกฎหมายส่งเสริมกิจการฮัจญ์ เป็นเพียงเพ่ือประโยชน์ใน
การอ�ำ นวยความสะดวกต่อการเดนิ ทางและปอ้ งกันการแสวงหาประโยชน์โดยมชิ อบจากบคุ คล
บางคน บางกลมุ่ รวมทง้ั เพอ่ื รกั ษาภาพลกั ษณข์ องประเทศ ในสายตานานาชาติ ผา่ นผเู้ ดนิ ทางไป
ประกอบพิธีฮจั ญ์ ซ่งึ เป็นบทบาทหน้าท่ีปกติของรฐั ท่จี ะต้องปกป้อง คุ้มครอง ดูแลพลเมืองของ
ตนเอง ณ ต่างแดน เท่าน้ัน ไม่ได้เป็นกฎหมายท่ีตราออกมาเพื่อเอาใจชาวไทยผู้นับถือศาสนา
อสิ ลามเป็นกรณพี ิเศษตามที่มผี ูต้ ้งั ข้อสงั เกต บดิ เบือนโจมตแี ต่ประการใด
“.....โดยทีก่ ารเดินทางไปประกอบพิธฮี ัจญ์ของชาวไทยผู้นับถือศาสนาอสิ ลาม ณ เมอื ง
เมกกะ ประเทศซาอดุ อิ าระเบยี เปน็ ศาสนบญั ญตั อิ นั จ�ำ เปน็ ในทางศาสนาอสิ ลาม และมชี าวไทย
ผู้นับถือศาสนาอิสลามเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์แต่ละปีเป็นจำ�นวนมาก ในการนี้ รัฐบาลได้
ให้ความอนุเคราะห์ส่งเสริมการไปประกอบพิธีฮัจญ์ตลอดมา แต่ยังมีอุปสรรคบางประการทาง
กฎหมายท่ีสมควรได้รับการแก้ไขเพื่อให้การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวไทยผู้นับถือ
ศาสนาอิสลาม ได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้องสมบูรณ์ทั้งในทางหลักศาสนา ความสะดวก
ปลอดภยั มหี ลกั ประกนั ในการเดนิ ทาง และปอ้ งกนั การหาประโยชนอ์ นั มชิ อบ ทงั้ ใหส้ มประโยชน์
ในดา้ นการปกครอง เศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ จงึ จ�ำ เปน็ ตอ้ งตราพระราชบญั ญตั นิ .ี้ .....”
บทบญั ญตั ขิ องกฎหมายมงุ้ เนน้ การแตง่ ตง้ั หวั หนา้ คณะผแู้ ทนฮจั ญท์ างการ เสมอื นเปน็
ตวั แทนรฐั บาลไปดแู ลประชาชนคนไทยทไี่ ปแสวงบญุ รวมทง้ั เปน็ ผคู้ วบคมุ ดแู ลและอ�ำ นวยความ
สะดวกแกช่ าวไทยผู้นับถอื ศาสนาอสิ ลามทเ่ี ดินทางไปประกอบพิธีฮจั ญ์
“.....มาตรา 4 ในพระราชบัญญตั นิ ี้
“กิจการฮัจญ”์ หมายความว่า กจิ การใด ๆ ที่เก่ยี วกับการเดนิ ทางของชาวไทยผู้นบั ถือ
ศาสนาอิสลามเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียไม่ว่าจะเป็น
การจดั บรกิ ารการอ�ำ นวยความสะดวกหรอื ความปลอดภยั กอ่ นเดนิ ทาง ระหวา่ งเดนิ ทาง ระหวา่ ง
ประกอบพิธฮี ัจญ์ หรือการเดินทางกลับถึงภมู ิลำ�เนา รวมทงั้ กจิ การท่เี กยี่ วเน่อื งกบั การดงั กล่าว
ตามท่คี ณะกรรมการก�ำ หนด
“อะมีรุ้ลฮัจญ์” หรือ “รออิสบิซาตุลฮัจญ์ อัลรัสมียะห์” (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์
ทางการ หมายความวา่ บุคคลผู้ท�ำ หนา้ ทเ่ี ป็นหวั หนา้ คณะผแู้ ทนฮัจญท์ างการของประเทศไทย
นำ�ชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลามเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศ
ซาอุดิอาระเบีย
“การรับจัดบริการขนส่ง” หมายความว่า การรับจ้างขนส่งหรือรวบรวมบุคคลและ
รายวิช าท่ี 6 กฎ หมายท่ใี ช ้ในจงั หวัด ชายแดนภาคใต้ 93
สมั ภาระในการรับจา้ งขนส่งโดยพาหนะใด ๆ จากทีแ่ ห่งหนง่ึ ไปยังทีอ่ กี แหง่ หนง่ึ ในกจิ การฮจั ญ์
“คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการสง่ เสรมิ กิจการฮัจญ์แหง่ ประเทศไทย
“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่ง
ประเทศไทย
มาตรา 4 ทวิ ให้จุฬาราชมนตรีเป็นอะมีรุ้ลฮัจญ์ หรือรออิสบิซาตุลฮัจญ์ อัลรัสมี
ยะห์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ทางการ) ในปีใดที่จุฬาราชมนตรีไม่ประสงค์จะเดินทางไปเป็น
อะมีรุ้ลฮัจญ์ หรือรออิสบิซาตุลฮัจญ์ อัลรัสมียะห์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ทางการ) ให้คณะ
กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกบุคคลผู้สมควรเป็นอะมีรุ้ลฮัจญ์
หรือรออิสบซิ าตลุ ฮัจญ์ อัลรสั มยี ะห์ (หวั หนา้ คณะผแู้ ทนฮัจญ์ทางการ) จำ�นวนสามคน เพอ่ื ให้
จฬุ าราชมนตรนี �ำ เสนอชื่อตอ่ คณะรัฐมนตรีพิจารณาคดั เลอื กแต่งตัง้ เป็นอะมรี ุ้ลฮัจญ์ หรือรออิส
บิซาตลุ ฮจั ญ์ อัลรัสมยี ะห์ (หัวหน้าคณะผู้แทนฮจั ญ์ทางการ) จ�ำ นวนหน่ึงคน
มาตรา 4 ตรีใหอ้ ะมีรุ้ลฮัจญ์ หรือรออสิ บซิ าตุลฮัจญ์ อลั รัสมียะห์ (หัวหนา้ คณะผูแ้ ทน
ฮจั ญท์ างการ) มอี ำ�นาจหน้าท่ี ดังตอ่ ไปน้ี
(1) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฮัจญ์ทางการของประเทศไทย นำ�ชาวไทยผู้นับถือศาสนา
อสิ ลามในกิจการทีต่ อ้ งท�ำ เก่ยี วกับการประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอดุ ิอาระเบีย
(2) เป็นผ้คู วบคมุ ดแู ลและอำ�นวยความสะดวกแก่ชาวไทยผู้นบั ถือศาสนาอสิ ลามท่ีเดนิ
ทางไปประกอบพิธีฮจั ญ์
(3) เป็นผู้ประสานงานในการปฏิบัติงานของคณะเจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการต่าง ๆ ท่ี
เกยี่ วข้องซงึ่ เดินทางไปประเทศซาอุดอิ าระเบียเพื่อกิจการฮัจญ์
(4) ใหค้ ำ�ปรึกษาหารือแกค่ ณะกรรมการ
(5) ปฏิบตั ิการอน่ื ใดตามท่ีก�ำ หนดในกฎกระทรวง.......”
บทบาทหนา้ ทขี่ องสว่ นราชการและขา้ ราชการซงึ่ เปน็ คณะกรรมการสง่ เสรมิ กจิ การฮจั ญ์
แหง่ ประเทศไทย ตามกฎหมายเปน็ ผกู้ �ำ หนดระเบยี บ ขอ้ บงั คบั เงอ่ื นไข หรอื มาตรการใด ๆ เพอ่ื
อำ�นวยความสะดวก และความปลอดภยั แกพ่ ลเมอื งไทยในต่างแดน
“.....มาตรา 6 ใหม้ ีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรยี กวา่ “คณะกรรมการส่งเสริมกจิ การ
ฮจั ญ์แห่งประเทศไทย” ประกอบดว้ ย
(1) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ
(2) ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ
(3) กรรมการโดยตำ�แหน่ง จำ�นวนสิบเอ็ดคน ได้แก่ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัด
กระทรวงวฒั นธรรม ผแู้ ทนกระทรวงการตา่ งประเทศ ผแู้ ทนกระทรวงสาธารณสขุ ผแู้ ทนกรมการ
94 รายวิชาท่ี 6 กฎหมายทใี่ ช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ศาสนา ผู้แทนกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ผูแ้ ทนสำ�นกั ข่าวกรองแห่งชาติ ผ้แู ทนสำ�นักงาน
สภาความมัน่ คงแห่งชาติ ผ้แู ทนสำ�นักงานตำ�รวจแหง่ ชาติ ผู้แทนศูนยอ์ �ำ นวยการบรหิ ารจังหวดั
ชายแดนภาคใต้ และผแู้ ทนคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
(4) กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ซง่ึ คณะรฐั มนตรแี ตง่ ตงั้ จ�ำ นวนไมเ่ กนิ สคี่ นใหเ้ ลขาธกิ ารเปน็
กรรมการและเลขานกุ าร และใหเ้ ลขาธกิ ารแตง่ ตง้ั ขา้ ราชการของกรมการปกครอง จ�ำ นวนไมเ่ กนิ
สองคนเปน็ ผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร
มาตรา 11 ให้คณะกรรมการมหี น้าที่ ดังตอ่ ไปนี้
(1) ก�ำ หนดระเบยี บ ข้อบงั คับ เงอื่ นไข หรอื มาตรการใด ๆ เพือ่ เป็นแนวปฏบิ ตั ิในอนั ท่ี
จะให้ความคุ้มครองผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย
และมีหลกั ประกนั
(2) ก�ำ หนดระเบียบ ข้อบังคับ เงื่อนไข หรือมาตรการใด ๆ ในการควบคมุ กจิ การ ซึง่
ตอ้ งไดร้ บั อนญุ าตตามมาตรา 5
(3) ปฏบิ ตั ิการอนื่ ใดอันอยู่ในขอบเขตแห่งกจิ การฮัจญต์ ามพระราชบัญญัตนิ ้ี หรอื ตาม
กฎหมายอืน่ ท่ีใหอ้ �ำ นาจไว.้ .........”
รายวิช าท่ี 6 กฎ หมายท่ีใช ใ้ นจงั หวัด ชายแดนภาคใต้ 95
บรรณานุกรม
กระทรวงยุติธรรม. (2552). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการยุติธรรมจังหวัดชายแดน
ภาคใต้ พ.ศ. 2553-2557. กรงุ เทพฯ.
กิตตพิ งษ์ กิตยารกั ษ์ และจุทารตั น์ เอ้ืออำ�นวย. (2549). กระบวนการยตุ ธิ รรมกับความยากจน
ยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการยุติธรรมเพ่ือคนจน. เอกสารโรเนียว. กระทรวง
ยตุ ธิ รรม.
กิตติพงษ์ กิตยารักษ์. (2549). ยุติธรรมชุมชน: การเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของประชาชนใน
กระบวนการยุตธิ รรม. เอกสารวิจยั หลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รนุ่ ที่ 49.
จฑุ ารัตน์ เอื้ออำ�นวยและคณะ. (2549). การดำ�เนนิ กระบวนการยตุ ิธรรมใน 3 จงั หวดั ชายแดน
ภาคใต้: ปัญหาและแนวทางแก้ไข (ฉบับสมบูรณ์). กรงเทพฯ: สำ�นักงานเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี
จุฑารตั น์ เอ้อื อำ�นวยและคณะ. (2550). ยตุ ิธรรมชมุ ชน: การเปดิ พื้นท่ขี องชมุ ชนในการอ�ำ นวย
ความยุติธรรม.กรงุ เทพฯ: ส�ำ นกั งานกองทุนสนับสนนุ การวจิ ัย (สกว.)
มูฮัมหมดั รอฟอี ี มซู อ. (2549). กระบวนการยตุ ธิ รรมเชงิ สมานฉนั ท์และการจัดการความขัดแยง้
ในชุมชนมสุ ลิม. กรุงเทพฯ: สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย
ยศศักดิ์ โกศยั กานนท.์ (2548). การพฒั นาแนวคิดยุติธรรมชุมชนสรู่ ะบบกฎหมายคุ้มครองสทิ ธิ
และเสรีภาพ. เอกสารประกอบการสัมมนาทางวิชาการ คร้ังท่ี 3 โครงการปรัชญา-
ดษุ ฎีบัณฑิตทางสงั คมศาสตร์ สาขานติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามคำ�แหง.
ศรนิ ทร สวุ รรณพงศ.์ (2551). การศกึ ษาแนวคดิ ยตุ ธิ รรมชมุ ชนเพอื่ ประยกุ ตใ์ ชแ้ กป้ ญั หาความไม่
สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้. กรณีศึกษาอำ�เภอเทพา อำ�เภอสะบ้าย้อย อำ�เภอนาทวี
และอำ�เภอจะนะ จงั หวดั สงขลา. กรุงเทพฯ: วิทยาลยั การทพั อากาศ.
ศรีสมภพ จิตต์ภิรมย์ศรี. (2552). ชายแดนใต้เดือนสิงหาฯ 52: การต่อสู้ที่ฟาฏอนีในเดือน
รอมฎอน. ศนู ยเ์ ฝา้ ระวงั สถานการณภ์ าคใต.้ สบื คน้ จาก www.deepsouthwatch.org.
ศูนย์อำ�นวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้. (2552). สรุปผลการดำ�เนินงานประจำ�ปี
งบประมาณ พ.ศ. 2552. ยะลา: ส�ำ นักบริหารงานยุติธรรม.
สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้. (2552). การศึกษาวิจัย
ผลกระทบของพระราชกำ�หนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต่อการ
จัดการและการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้. ปัตตานี:
มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์วทิ ยาเขตปตั ตาน.ี
96 รายวิชาท่ี 6 กฎหมายทีใ่ ช้ในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้
สถาบนั พระปกเกลา้ . (2552). รายงานปญั หาความไมส่ งบในจงั หวดั ชายแดนภาคใต:้ บทวเิ คราะห์
และแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงรุกท่ีย่ังยืนด้วยสันติวิธี. กรุงเทพฯ สำ�นักสันติวิธีและ
ธรรมาภบิ าล.
สภาทป่ี รกึ ษาเสรมิ สรา้ งสนั ตสิ ขุ จงั หวดั ชายแดนภาคใต.้ (2551). สภาพปญั หาและแนวทางแกไ้ ข
สถานการณค์ วามไม่สงบจังหวดั ชายแดนภาคใต้. ยะลา ยะลาการพมิ พ.์
ส�ำ นกั งานสภาความมน่ั คงแหง่ ชาต.ิ ค�ำ สง่ั ส�ำ นกั นายกรฐั มนตรี ท่ี 206/2549 เรอ่ื ง นโยบายเสรมิ สรา้ ง
สนั ตสิ ขุ ในพน้ื ทจี่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้ และค�ำ สง่ั ที่ 207/2549 เรอ่ื ง การบรหิ ารราชการ
ในจังหวัดชายแดนภาคใต.้ ลงวันที่ 30 ตลุ าคม 2549.
อังคณา บญุ สิทธแ์ิ ละคณะ. (2548). กระบวนการยุตธิ รรมเชงิ สมานฉนั ทก์ บั วัฒนธรรมการระงบั
ขอ้ พพิ าทในทอ้ งถน่ิ ไทย. ชดุ โครงการวจิ ยั โครงการกระบวนการยตุ ธิ รรมเชงิ สมานฉนั ท์
กับสังคมไทย. กรงุ เทพฯ ส�ำ นกั งานกองทุนสนบั สนุนการวิจัย (สกว.).
รายวชิ าที่ 6 กฎ หมายทใี่ ช ใ้ นจงั หวัด ชายแดนภาคใต้ 97