ำ
การที่เด็กเข้ามาอยู่ในโรงเรียน เด็กต้องปรับตัวสร้างความคุ้นเคยกับครู กับเพื่อนๆ และสิ่งต่างๆ
รอบๆ ตัวเด็ก ต้องรู้จักช่วยเหลือตนเอง รักษาสิง่ ของประจำตัวของตนเอง และทำกิจกรรมร่วมกับผูอ้ ื่น โดยมี
ครคู อยแนะนำ
โรงเรยี นบ้านปา่ คลอก ต.ปา่ คลอก อ.ถลาง จ.ภูเกต็
แก้วน้ำ ผู้อำนวยการโรงเรยี น
ครู
แปรงฟนั
ใำ ใ
ผา้ ขนหนู ๒. ฏ ๆใ
แม่ครวั นักเรียน
ช้ันเกบ็ รองเท้า/ทีน่ อน/ผลงาน
หอ้ งวทิ ยาศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์
เคารพธงชาติ กจิ กรรม ใ ใ
เลน่ ฏ หอ้ งผอู้ ำนวยการ หอ้ งพยาบาล สนามเดก็ เลน่
รับประทานอาหาร นอน สวดมนต์
๑.ชือ่ โรงเรยี น ๑.ตราสัญลักษณ์ ทตี่ งั้ โรงเรียน ๑.ชือ่ โรงเรียน ตราสญั ลักษณ์ ที่ตั้งโรงเรยี น
๒.บุคคลภายในโรงเรียน ๒.การปฏิบตั ติ นและร่วมกิจกรรมภายใน ๒.อาคารสถานที่ในโรงเรียน
โรงเรยี น ๓.การแตง่ กาย การปฏิบตั ิตนและการรว่ ม
กิจกรรมภายในโรงเรยี น
๑.
การท่เี ดก็ เข้ามาอยูใ่ นโรงเรยี น เดก็ ตอ้ งปรบั ตัวสรา้ งความคุน้ เคยกับครู กบั เพ่อื
ประจำตวั ของตนเอง และทำกิจกรรมร่วมกบั ผอู้ ่นื โดยมคี รคู อยแนะนำ
๒.
๒.๑ กลา้ พูดกล้าแสดงออก
๒.๒ เคล่ือนไหวร่างกายตามจงั หวะได้
๒.๓ รบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ทที่ ่ีได้รับมอบหมาย
๒.๔ ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงของห้องเรยี นได้
๒.๔ อ่านภาพ สญั ลักษณ์ คำ ท่ีคุ้นเคย
๒.๕ สังเกตและบอกลักษณะของโรงเรยี นได้
๒.๖ เชือ่ มโยง ความรู้ เรอื่ งโรงเรียนมาใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้
๒.๗ เปรียบเทียบความเหมือนความแตกตา่ งของโรงเรยี นได้
๒.๘ สามารถเลา่ เร่อื งจากช้ินงานใหผ้ อู้ น่ื ฟังได้
๓.
๓ .๑. ๑
๑) วิง่ และหยุดไดโ้ ดยเสียการทรตงตัวเลก็ นอ้ ย
๒) วิง่ อย่างรวดเรว็
๓) การเคลื่อนไหวพรอ้ มวัสดุอปุ กรณ์
๔) การเลน่ เคร่อื งเลน่ สนามอย่างอสิ ระ
๕) เดนิ ต่อเท้าไปขา้ งหนา้
๖) การใช้มอื อย่างคล่องแคลว่
๗) การหยบิ จบั การใชก้ รรไกร การตดั
๓ ( ๕–๖ )
อน ๆ และสง่ิ ตา่ ง ๆ รอบ ๆ ตัวเดก็ ต้องร้จู กั ช่วยเหลอื ตนเอง รกั ษาส่งิ ของ
๓ .๑. ๒ ใ
๑) การรอ้ งเพลง/ การฟงั เพลง
๒) การพูดคำคล้องจอง
๓) เริ่มแสดงออกทางอารมณไ์ ด้เหมาะสมกับสถานการณ์
๔) มีความม่นั ใจในตนเองและกลา้ แสดงออก
๕) จัดเก็บของเล่น ของใชเ้ ขา้ ที่ไดเ้ รียบรอ้ ย
๖) การเล่นตามมุม
๗) การแสดงออกอย่างสนกุ สนานกับเรือ่ งตลกขำขนั และเร่อื
๓ .๑. ๓
๑) การปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง
๒) การเล่นและทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่นื
๓) การรว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี นความคิดเหน็
๔) การทำกจิ กรรรม (รายบุคคล กลมุ่ เลก็ กลุ่มใหญ่ )
๕.)การเป็นผนู้ ำผู้ตาม
๖) การทำสวน เลยี้ งสัตว์
๗) การทำงานศลิ ปท์ ี่นำวสั ดุของใชแ้ ลว้ มาใชใ้ หมด่ ว้ ยตนเอง
๓ .๑. ๔ ั
๑) การสนทนาโตต้ อบ เลา่ เปน็ เร่ืองราวได้
๒) การเชอ่ื มโยง ภาพถ่าย และรปู แบบตา่ งๆกบั ของจรงิ
๓) ฟงั แลว้ ปฏบิ ัตติ ามคำสัง่ ได้
๔) การเลียนแบบการกระทำและเสียงตา่ งๆ
๕) การสรา้ งผลงานตามความคดิ ของตนเองโดยมีรายละเอยี
๖) จัดหมวดหมู่สิง่ ตา่ งๆได้ ๔ ลักษณะ
องราวเหตกุ ารณ์ทส่ี นุกสนานตา่ งๆ
ง
ยดเพมิ่ ขึ้นและแปลกใหม่
๓.๒
๓.๒.๑ ชอ่ื โรงเรียนของตวั เอง
๓.๒.๒ ช่อื และหน้าท่ีของบุคลากรตา่ งๆในโรงเรยี น
๓.๒.๓ สถานทต่ี า่ งๆในโรงเรียน
๓.๒.๔ ของใชป้ ระจำตัวเด็ก
๓.๒.๕ ระเบียบวินยั ในห้องเรียน
ำ
ไ ๑.ชอ่ื โรงเรียน
๑ - เคล่อื นไหวพนื้ ฐาน ๒.ชือ่ ผูอ้ ำนวยการ ชื่อครปู ระจำ
ชอ่ื ครฝู กึ สอนและช่ือของเดก็
- การฟงั และการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณ ๓.การแสดงความรูส้ กึ ด้วยคำพูด
-การปฏบิ ตั ติ ามคำสัง่ (ความค้นุ เคยกับครแู ละครูฝกึ สอ
๑.รจู้ ัก ชื่อ และหน้าท่ีบคุ ลากรใ
๒ -เคลื่อนไหวพ้ืนฐาน โรงเรยี น
-การฟังและปฏบิ ตั ิตามสญั ญาณ ๒.การปฏิบตั ิตนต่อบคุ คลต่างๆ
-การทำทา่ ทางตามจนิ ตนาการ โรงเรียน
- ขับรอ้ งเพลง พรอ้ มเตน้ เพลงพระบาทสมเด็จพระ
ปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ตน้ ไม้ของพอ่ ) ๑.ของใช้ประจำตวั เด็ก
๒.การปฏบิ ตั ติ นตามสุขอนามัย
๓ -เคลอื่ นไหวพ้นื ฐาน
-การฟังและปฏบิ ัตติ ามสญั ญาณ ๑.ความสมั พนั ธข์ องบุคคลใน
-การทำทา่ กายบรหิ ารประกอบคำคลอ้ งจอง โรงเรียน
๒.การปฏิบัตติ นเพอื่ การอยู่รว่ มก
๔ -เคลอื่ นไหวพนื้ ฐาน โรงเรียน
-การฟังและปฏบิ ัตติ ามสญั ญาณ ๓.การปฏบิ ัตติ ามกฎ ระเบยี บ ข
-การทำทา่ ทางประกอบคำบรรยาย โรงเรยี น
- ขบั รอ้ งเพลง พรอ้ มเต้นเพลงพระบาทสมเด็จพระ
ปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช (ตน้ ไม้ของพอ่ )
๓ ( ๕–๖ )
- ปน้ั ดนิ นำ้ มัน -เลน่ เครื่อง -เกมภาพตดั ตอ่
ำช้ัน -วาดภาพด้วยสเี ทียน เลน่ สนาม โรงเรยี น
-ระบายสภี าพโรงเรียน -เลน่ โยนบอล -เกมจบั คู่ภาพกบั เงา
ด
อน) -เลน่ เครือ่ ง -เกมเรียงลำดบั
เล่นสนาม ความสมั พนั ธ์
ใน - ปนั้ ดินน้ำมนั
-วาดภาพด้วยสีเทยี น
ใน -มุมบทบาทสมมติ
-มมุ บล็อก
- ปน้ั ดนิ นำ้ มนั -มมุ นิทาน
-วาดภาพดว้ ยสีเทียน -มมุ ศลิ ปะ
-มุมเกมการศกึ ษา
- ปั้นดนิ น้ำมัน - วิ่งเปรยี้ ว -เกมจบั คูภ่ าพเหมือน
-วาดภาพด้วยสีเทยี น ภาพ
กันใน โรงเรียน
ของ
๕ -เคล่ือนไหวพน้ื ฐาน ๑.ร้จู ักสถานทตี่ า่ งๆ ในโรงเรียน
-การฟงั และปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณ ๒.วิธกี ารใชบ้ ริการห้องตา่ งๆ ใน
-การปฏิบัติตามขอ้ ตกลง โรงเรียน
น -พับกระดาษเป็น -เล่นเครื่อง -เกมจับค่ภู าพกบั เงา
น อาคารเรียน เล่นสนาม
-ป้ันดินน้ำตาม
จนิ ตนาการ
-พิมพภ์ าพจากน้วิ มอื
๓(
ำไ
๑. เคล่อื นไหวตาม - การเคลื่อนไหวอยกู่ ับท่ี - เคลื่อนไหวสว่ นตา่ งๆของ ๑. ครูสรา้ งข้อสรา้ ง
เร็วตามทคี่ รใู หจ้ งั ห
จังหวะเพลงพรอ้ ม - การเคลอื่ นไหวเคลอื่ นที่ รา่ งกาย
ทา่ ทางประกอบได้ - การเคลื่อนไหว ทันที
๒.ฟงั และปฏบิ ัติ ความสมั พันธ์ของร่างกาย ๒.ใหเ้ ด็กเคล่อื นไหว
ตามสญั ญาได้ (อวยั วะต่างๆและรูปรา่ ง) ๓. ครแู นะนำช่อื เพ
๓. เพ่อื เดก็ ปฏิบตั ิ - การฟงั และปฏิบัตติ าม ๔. ครูใหเ้ ด็กร้องเพ
ตามขอ้ ตกลงได้ คำแนะนำ ๕. ครใู หเ้ ด็กทกุ คน
๖.ครูทำทา่ ทางประ
ทา่ ทางตามครทู ล่ี ะ
๗.เดก็ ทำทา่ ทางปร
๘.ใหเ้ ดก็ ออกมาเล
๑. เพือ่ ใหเ้ ด็ก - การแสดงออกอยา่ ง - ความสำคัญของโรงเรียน
สามารถบอก สนุกสนานกบั เรอ่ื งตลกขำ ๑. ครคู ำคล้องจอง
ความหมายของ ขนั และเร่อื งราว ๒. เดก็ คำคล้องจอ
และความสำคญั เหตกุ ารณท์ ี่สนุกสนาน ๓. ครแู ละเด็กรว่ มก
ของเรามาโรงเรียน ต่างๆ ๔. ครแู นะนำชอ่ื นทิ
ได้ - การแสดงความคิด สขุ สันตใ์ หเ้ ด็กฟัง
๒. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ รว่ ม ความร้สู กึ และความ ๕. ครูและเด็กร่วมก
สนทนาและ ต้องการดว้ ยคำพูด ๖. นำภาพที่เก่ยี วก
แลกเปลย่ี นความ - การรว่ มสนทนาและ รว่ มกบั เด็กเก่ียวกบั
คิดเห็นจากเร่อื งได้ แลกเปล่ียนความคิดเหน็
๕–๖ ) ๑
๑. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ ๑. สงั เกตจากการ
งขอ้ ตกลงกบั เด็กว่าใหเ้ ดก็ เคลอื่ นไหวจังหวะ ช้า – ๒. เพลงเรามา เคลอ่ื นไหวตาม
หวะ เมื่อครูให้จังหวะ๒ ครั้งตดิ กนั ใหห้ ยดุ เคลอ่ื นไหว โรงเรยี น จงั หวะการเคาะ
ของเดก็
วร่างกายตามจังหวะไปท่ัวบรเิ วณห้อง ๒. สังเกตจาก
พลงให้เด็กร้จู กั เพลงเรามาโรงเรยี น การร้องเพลงของ
พลงเรามาโรงเรยี นตามครูทีละวรรคพรอ้ มกนั เด็ก
นทบทวนเพลงเรามาโรงเรยี น พรอ้ มๆกนั
ะกอบพรอ้ มใหเ้ ด็กร้องเพลงเรามาโรงเรียนและทำ
ะทา่ พรอ้ มๆกัน
ระกอบเพลงเรามาโรงเรียนพรอ้ มกนั
ลา่ ความรสู้ กึ หลงั จัดกจิ กรรม
๑. คำคล้องจอง ๑.สงั เกตจากการ
ง โรงเรยี นของเรา ใหเ้ ด็กฟงั ๑ เทย่ี ว โรงเรียนของเรา บอกความหมาย
อง ตามครูทีละวรรค ๒.นทิ านเรอ่ื ง ของโรงเรียนของ
กันอา่ นคำคลอ้ งจอง โรงเรียนของฉัน โรงเรียนสขุ สนั ต์ เด็กแตล่ ะคน
ทานเรื่องโรงเรยี น ๒.สังเกตจากการ
อา่ นคำคลอ้ งจอง
กันสนทนาถงึ เนอื้ หาของนิทาน
กบั บุคคลในโรงเรียนและภาพโรงเรยี น สนทนา
บความหมายของโรงเรยี น
ำ ๗.ใหเ้ ดก็ ออกมาเล
ของเดก็ แตล่ ะคน
๑. เพื่อใหเ้ ดก็ - การเลน่ และทำงาน - การเขียนภาพและการ ๘. ครแู ละเด็กรว่ มก
๙. ครูและเด็กร่วมก
สามารถ วาดภาพ ร่วมกับผู้อน่ื เล่นกบั สี
๑.ครใู หเ้ ด็กรอ้ งเพล
ดว้ ยสีเทยี นได้ - การเลน่ อสิ ระ - การทำงานศิลปะและ พรอ้ มทงั้ ๓ กจิ กรร
๓.ครแู นะนำอุปกร
๒. เพ่อื ใหเ้ ด็ก - การทำกจิ กรรม สรา้ งผลงานอยา่ งมี ๔.ครูกับเดก็ รว่ มกนั
๕.ครอู ธบิ ายวิธีทำก
สามารถปัน้ ดิน (รายบคุ คล กลุ่มเล็ก กลมุ่ ความสุข ใหเ้ ดก็ ดงั น้ี
น้ำมนั อย่างอสิ ระ ใหญ่ ) - รบั ผิดชอบทำหน้าท่ี - ครนู ำสีเทยี น
- ครใู ห้เดก็ ปน้ั
ได้ - การทำงานศลิ ปะ ไดร้ บั หมาย - ครูให้เดก็ เปา่
๖.ให้เด็กจบั กลุม่ ๓
๓.เด็กสามารถเปา่ - การสร้างสรรคส์ ง่ิ ท่ี ตนเองสนใจ
๗. เม่ือเด็กทำกจิ กร
สไี ด้ สวยงาม เรียบรอ้ ย
๘. เดก็ นำผลงานม
๔.เพื่อใหเ้ ดก็ - การทำกจิ กรรมศลิ ปะ คำพดู ของเด็กลงใน
๙. เด็กนำเสนอผลง
สามารถปฎิบัติ ตา่ งๆ
ตามข้อตกลงได้
ลา่ เก่ียวกับลกั ษณะโรงเรียนและของใช้ในโรงเรยี น
กนั สนทนาความหมายของโรงเรยี น
กนั สรปุ ความหมายของโรงเรยี นพรอ้ มๆกัน
๑. เพลงโรงเรียนนา่ ๑. สงั เกตจากการ
ทำกิจกรรม
ลงโรงเรียนน่าอยู่ ๒.ครูเตรียมกจิ กรรมตา่ งๆ ให้ อยู่ ๒. สงั เกตจากการ
ทำผลงานของเด็ก
รม ๒. สีเทยี น
รณใ์ นการทำกิจกรรม ทั้ง ๓ กจิ กรรม ๓. กระดาษ A๔
นสรา้ งขอ้ ตกลงในการทำกจิ กรรม ๔. ดนิ นำ้ มนั
กจิ กรรมท้ัง ๓ กิจกรรม ๕. ท่รี องป้ันดนิ
นำ้ มนั
นใหเ้ ดก็ วาดภาพโรงเรยี น ๖. สนี ำ้ สีแดง สี
นดินน้ำมนั อย่างอิสระ เหลอื ง สีสม้ และสี
าสแี ละเลอื กสที ตี่ นเองชอบ เขียว
๓ คน และเข้ากลมุ่ หมุนเวียนกันเลือกทำกิจกรรมท่ี
รรมเสรจ็ ให้เด็กชว่ ยกันเก็บอปุ กรณ์ทกุ อยา่ ง ให้
มาส่งครูและเล่าเรอ่ื งตามภาพให้ครูฟงั พรอ้ มบนั ทึก
นผลงานท่ีทำ
งานของตนเองใหเ้ พ่อื น ๆ ฟัง
ำ
๑. เพือ่ ให้เดก็ - การเลน่ และทำงาน - เล่นตามมมุ
ประสบการณ์
สามารถเล่นของ ร่วมกบั ผู้อ่นื - บทบทสมมติ ๑. ครูสำรวจอุปก
และปลอดภยั
เลน่ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง - การเลน่ อิสระ - เล่นเครอ่ื งเลน่ สนาม ๒. ครูอธิบายวธิ กี า
๓. ครูบอกกตกิ าใ
และปลอดภยั - การเล่นบทบาทสมมติ
- ไมน่ ำอุปก
๒. เพ่ือให้เดก็ - การทำกจิ กรรม - การแบ่งป
- เลน่ แลว้ เก
สามารถเลน่ ตามมมุ (รายบคุ คล กลุ่มเล็ก กลมุ่ ๔. เดก็ ๆเข้าไปเล
๕.ให้เด็กๆออกมา
ร่วมกบั ผอู้ ่นื ได้ ใหญ่ )
๑.ครูสำรวจเครอ่ื ง
๓. เพือ่ ให้เด็ก - การรบั ผดิ ชอบในการ ๒. ครแู นะนำวธิ ีกา
๓.ครูสาธติ วธิ ีการเ
สามารถเกบ็ ของ ดูแลห้องเรียนร่วมกันได้ ๔.ครูกบั เดก็ รว่ มก
๕. ครใู หเ้ ด็กเลน่ เค
เลน่ เมื่อเลกิ เล่นได้ ด้วยตนเอง ๖. ให้เด็กแสดงคว
- การพดู อยา่ งสรา้ งสรรค์
ในการเลน่ และการกระทำ
ตา่ งๆ
- การแสดงบทบาทสมมติ
ตา่ งๆตามจินตนาการ
๑. เพ่อื ใหเ้ ดก็ - การเลน่ เครื่องเล่นสนาม
สามารถเล่นเคร่ือง อยา่ งอสิ ระ
เล่นสนามได้อย่าง - การเคลือ่ นไหว
ถกู ต้องและ เคล่ือนท่ี
ปลอดภัย - การเลน่ และทำงาน
๒. เพื่อให้เด็ก รว่ มกบั ผูอ้ ืน่
สามารถเลน่ และ
/ ๑. มุมบล็อก เช่น ๑. สงั เกต
กรณ์ของเลน่ ตามมุมต่างๆ ใหอ้ ยใู่ นสภาพที่เรียบร้อย
บล็อกไม้รปู ทรงต่างๆ พฤติกรรมขณะ
ารเลน่ ตามมมุ ทกุ มมุ
ในการเล่นมุมตา่ งๆ หลายขนาด เล่นตามมุม
กรณ์ออกจากมุม
ปันของเลน่ ๒. มมุ หนังสอื เช่น ๒. สงั เกตจาก
กบ็ ของไว้ทเ่ี ดมิ
ลน่ ตามมุมท่ีตนเองสนใจ หนงั สือนิทานต่างๆ การเลน่ รว่ มกับ
าเลา่ วา่ ตนเองไดเ้ ลน่ มุมอะไรบา้ ง
๓. มุมบ้าน เชน่ ผู้อื่น
อปุ กรณ์ครัว ๓. สังเกตการ
๔. มุมศลิ ปะ เกบ็ ของเลน่
๕. มุมดนตรี เช่น ขณะเลกิ เล่น
เครื่องเคาะจังหวะ
๖. มุมเกมการศึกษา
งเล่นสนาม เคร่ืองเล่นสนาม ๑. สงั เกต
ารเลน่ เครื่องเล่นสนามทถ่ี กู ต้อง ๑. ชิงชา้ พฤติกรรมขณะ
เลน่ ทถ่ี กู ตอ้ งและปลอดภัยให้เด็ดดู ๒.มา้ หมุน เล่นสนาม
กันสรา้ งข้อตกลงในการเลน่ ๓. กระดานล่ืน ๒. สังเกตจาก
คร่ืองเล่นสนามตามอธั ยาศัย ๔.ไม้กระดก การเลน่ ร่วมกบั
วามรู้สกึ หลังจากเล่นเคร่อื งสนาม ๕. เครื่องห้อยโหน ผู้อื่น
ทำงานรว่ มกบั ำ ๗. เม่อื เลน่ เคร่ืองเล
เพื่อนได้ ๘.ครใู หต้ วั แทนเดก็
- การทำกจิ กรรม
(รายบุคคล กลมุ่ เล็ก กลมุ่ ๑.ครูใหเ้ ด็กรอ้ งเพล
ใหญ่ ) ๒.ครแู นะนำชอ่ื เกม
๓.ครใู ห้เด็กออกมา
๑. เพ่ือใหเ้ ด็ก - การเลน่ เกม - เกมภาพตัดตอ่ ของตนเอง
โรงเรียน ๔.ครสู าธติ วิธีการเล
สามารถเล่นเกม - การฟังและปฏิบตั ติ าม เป็นตวั อย่างใหเ้ ดก็
ภาพตดั ตอ่ รูป คำแนะนำ - ให้เดก็ สกั เกตภ
ขนาด ของภาพ
โรงเรยี นได้ - การคดิ รเิ ริ่มตัดสิน
- นำเกมภาพตัด
๒. เพ่ือใหเ้ ดก็ รจู้ กั ใจแกป้ ัญหาร่วมกัน - ให้เด็กนำชิ้นส
ภาพที่สมบูรณ์
การสังเกต รปู รา่ ง - การเล่นและทำงาน ๔. ครใู หเ้ ด็กแบ่งกล
รว่ มกับผู้อน่ื โรงเรียนอยา่ งอิสระ
สี ความตา่ งได้ - การทำกจิ กรรม ๕. เม่ือเล่นเสรจ็ เดก็
๖. ครใู ห้ตวั แทนเด
(รายบุคคล กลุ่มเลก็ กลมุ่
ใหญ่ )
- การแสดงการแก้ปญั หาท่ี
พบระหว่างทำกิจกรรม
- การมุง่ ม่ันในการทำ
กจิ กรรม มีสมาธิต จดจอ่
ล่นสนามเสร็จใหเ้ ด็กทำความสะอาดรา่ งกาย ๓. สังเกตการ
กออกมาแสดงความร้สู กึ หลงั ทำกจิ กรรม
เคลอ่ื นไหวส่วน
ลงโรงเรียนนา่ อยู่ ตา่ ง ๆ ของ
มภาพตดั ตอ่ โรงเรียน รา่ งกาย
าสาธติ วธิ ีการเล่นเกมภาพตดั ตอ่ ตามความเข้าใจ
๑. เกมภาพตัดตอ่ ๑. สังเกตจาก
ลน่ เกมภาพตดั ต่อโดยใชเ้ กมภาพตดั ต่อรูปภาพอนื่
กดู ดังน้ี โรงเรียน พฤติกรรมขณะ
ภาพที่เหมือนกนั หรอื ตา่ งกัน เกย่ี วกับสี รูปรา่ ง
๒. เกมเก่าที่เคยเลน่ เล่นเกม
ดตอ่ แยกชิ้นสว่ นย่อย
สว่ นย่อยมาต่อกันใหเ้ ปน็ ๒. สังเกตจาก
การเลน่ เกม
รว่ มกับผอู้ น่ื
๓. สงั เกตจาก
การออกมา
แสดงความรู้สกึ
ล่มุ เทา่ ๆกันและให้แตล่ ะกล่มุ เลน่ เกมภาพตัดต่อ
ะ
กๆช่วยกนั เกบ็ อุปกรณเ์ ขา้ ทใี่ ห้เรียบรอ้ ย
ดก็ ออกมาแสดงความรู้สึกหลงั ทำกจิ กรรม
๓(
ำ
๑. เพ่อื ให้เดก็ - การเคล่อื นไหวอยู่กบั ที่ - เคลื่อนไหวส่วน ไ
สามารถ - การเคลอื่ นไหวเคลอ่ื นที่ ต่างๆของร่างกาย ๑.ครูสรา้ งข้อสร้างขอ้
เคลอ่ื นไหว - การเคล่อื นไหว ประกอบอุปกรณ์ เรว็ ตามทคี่ รใู ห้จงั หวะ
ทันที
รา่ งกายประกอบ ความสัมพันธ์ของร่างกาย ๒.ให้เดก็ เคล่ือนไหวร
อปุ กรณไ์ ด้ (อวัยวะต่างๆและรปู รา่ ง) ๓.ครใู ห้เด็กท่องคำคล
๔.ครูอธบิ ายกตกิ ากา
๒.ฟงั และปฏบิ ัติ - การฟังและปฏิบตั ติ าม
ตามสัญญาได้ คำแนะนำ - เมอื่ ไดย้ ินเสียงเพ
๓. เพือ่ เด็กปฏบิ ัติ ร่างกายอย่างอิสระตา
ตามข้อตกลงได้ - เมอื่ เพลงหยดุ ใ
๕.ครูและเด็กรว่ มกัน
๑. เพื่อให้เด็ก - เล่นบทบาทสมมติ - บุคคลในโรงเรียน ๖.ครูให้เดก็ หาพนื้ ทวี่
ร้จู กั บคุ คลภายใน - การพูดกับอ่นื เกยี่ วกับ ของรา่ งกายอยา่ งอิสร
โรงเรียนของ ประสบการณ์ของตนเอง ๗. เม่ือเพลงหยดุ ให
๘. เมื่อเลน่ เสร็จเดก็ ๆ
ตนเองได้ หรือเล่าเรอ่ื งเกยี่ วกบั ๙.ใหเ้ ดก็ ออกมาเลา่ ค
๑.ครูและเดก็ รว่ มกัน
ประกอบ
๒.ครูและเดก็ รว่ มกัน
ตนเอง
๕–๖ ) ๒
๑. เคร่ืองเคาะ ๑. สงั เกตจากการทรง
อตกลงกบั เดก็ ว่าให้เดก็ เคลอื่ นไหวจังหวะ ช้า – จงั หวะ ตวั ในการเคลอื่ นไหว
ะ เม่ือครใู หจ้ งั หวะ ๒ ครง้ั ติดกันให้หยดุ เคลอื่ นไหว ๒. เพลง ๒. สังเกตจาก
ร่างกายตามจงั หวะไปทวั่ บริเวณหอ้ ง โรงเรียน ๓.คำ พฤตกิ รรมการเล่น
ล้องจองโรงเรียน คล้องจอง รว่ มกบั ผู้อ่ืน
โรงเรียน
ารเลน่ ดังนี้
พลง ให้เดก็ นำริบบิน้ ผ้าเคลือ่ นไหวส่วนตา่ งๆของ
ามจงั หวะเพลง
ใหเ้ ดก็ หยุดท่าน้ัน
นสรา้ งข้อตกลงในการทำกจิ กรรมรว่ มกัน
วา่ งและแจกรบิ บน้ิ ผา้ ใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวสว่ นต่างๆ
ระตามจังหวะเพลง
ห้เดก็ หยุดทา่ น้นั ทำซำ้ ๆ ๒-๓ คร้ัง
ๆช่วยกันเก็บอุปกรณเ์ ขา้ ทีใ่ ห้เรยี บร้อย
ความรูส้ กึ หลังจดั กจิ กรรม
๑. คำคล้องจอง ๑. สงั เกตจาก
นทอ่ งคำคล้องจองโรงเรยี นของเรา พรอ้ มทำท่าทาง โรงเรยี นของเรา พฤตกิ รรมขณะเลน่ เกม
๒. กระดาน ๒. สังเกตจากการเล่น
นสนทนาถึงบคุ คลในคำคล้องจองมใี ครบา้ ง ๓.ปากกาไว เกมร่วมกับผูอ้ ่นื
บอร์ด
๒. เพื่อให้เด็ก ำ ๓.ให้อาสาสมคั รออก
บอกบุคคล ใครบา้ ง ชอ่ื ว่าอะไร
ภายในโรงเรียน - การแสดงออกอย่าง ๔.ครูและเดก็ รว่ มกัน
ของตนเองได้ สนกุ สนานกับเร่อื งตลกขำ กวาดภาพบคุ คลในโ
๓.เพ่อื ใหเ้ ด็ก ขนั และเรอื่ งราวเหตุการณ์ที่ ๕.ครใู ห้ตวั แทนเดก็ อ
สามารถ สนุกสนานตา่ งๆ
ปฏิบัติตาม - การแสดงความคิด
ขอ้ ตกลงได้ ความร้สู กึ และความต้องการ
ด้วยคำพดู
- การรว่ มสนทนาและ
แลกเปลีย่ นความคดิ เหน็
๑. เพอื่ ให้เด็ก - การเล่นและทำงานรว่ มกับ -การเขียนภาพและการ
สามารถวาด ผู้อื่น เลน่ กับสี ๑.ครูให้เดก็ ทอ่ งคำค
ภาพดว้ ยสีเทียน - การเล่นอสิ ระ - การทำงานศลิ ปะและ ๒.ครูเตรยี มกจิ กรรม
ได้ - การทำกจิ กรรม สร้างผลงานอยา่ งมี ๓.ครกู บั เด็กรว่ มกันส
๒. เพอื่ ให้เด็ก (รายบุคคล กลุ่มเล็ก กลมุ่ ความสุข ๔.ครแู นะนำอปุ กรณ
สามารถปั้นดิน ใหญ่ ) -รบั ผดิ ชอบทำหน้าท่ี ๕.ครูอธิบายวธิ ีทำกจิ
นำ้ มันอยา่ ง - การทำงานศิลปะ ไดร้ บั หมาย - ครนู ำกระดาษและ
อิสระได้ - การสรา้ งสรรคส์ ่ิงท่ี จินตนาการของตนเอ
๓.เพ่อื ใหเ้ ด็ก สวยงาม -ครใู หเ้ ด็กปน้ั ดนิ นำ้ ม
สามารถปฏบิ ตั ิ - การทำกิจกรรมศิลปะ ๖.ให้เดก็ จับกล่มุ ๓
ตามขอ้ ตกลงได้ ต่างๆ ตนเองสนใจอยา่ งอิส
๗.เมือ่ เดก็ ทำกิจกรร
เรียบรอ้ ย
กมาเล่าถึงบคุ คลภายในโรงเรยี นของตนเองว่ามี ๓. สงั เกตจากการ
ออกมาแสดงความรสู้ กึ
นสรปุ ถงึ สมาชิกในโรงเรยี นและใหอ้ าสาสมัครออ
โรงเรยี นใหเ้ พื่อนๆดู
ออกมาแสดงความรู้สึกหลังทำกจิ กรรม
๑. คำคล้องจอง ๑. สงั เกตจากการทำ
คลอ้ งจองโรงเรียนของเราพรอ้ มกนั โรงเรียนของเรา กิจกรรม
มตา่ งๆ ใหพ้ รอ้ มท้งั ๒ กจิ กรรม ๒.สเี ทียน ๒. สังเกตจากการทำ
สรา้ งขอ้ ตกลงในการทำกจิ กรรม ๓. กระดาษ A๔ ผลงานของเด็ก
ณ์ในการทำกิจกรรม ทั้ง ๒ กิจกรรม ๔. ดนิ น้ำมนั
จกรรมท้งั ๒ กจิ กรรมใหเ้ ด็ก ๕. ทร่ี องปั้นดิน
ะสีเทยี นให้เดก็ วาดภาพโรงเรยี นพรอ้ มระบายสตี าม ๖. เส่อื นำ้ มัน
อง
มนั เปน็ รปู ต่างๆอย่างอสิ ระ
คน และเขา้ กลมุ่ หมนุ เวยี นกันเลือกทำกิจกรรมที่
สระ
รมเสรจ็ ให้เดก็ ชว่ ยกนั เกบ็ อปุ กรณท์ ุกอยา่ ง ให้
ำ
๑. เพื่อใหเ้ ด็ก - การเลน่ และทำงานรว่ มกับ - เลน่ ตามมุม ๘.เดก็ นำผลงานมาส
คำพูดของเด็กลงในผ
สามารถเล่นของ ผู้อื่น ประสบการณ์ ๙. เด็กนำเสนอผลงา
เลน่ ได้อยา่ ง - การเลน่ อสิ ระ - บทบาทสมมติ ๑. ครสู ำรวจอปุ กรณ
และปลอดภยั
ถกู ต้องและ -การเลน่ บทบาทสมมติ ๒. ครูอธิบายวธิ ีการ
๓. ครบู อกกตกิ าในก
ปลอดภยั - การทำกิจกรรม
- ไม่นำอุปก
๒. เพ่ือให้เด็ก (รายบคุ คล กลุ่มเลก็ กลมุ่ - การแบ่งป
- เล่นแลว้ เก
สามารถเล่น ใหญ่ ) ๔. เดก็ ๆเขา้ ไปเล่น
๕. ให้เดก็ ๆออกมา
ตามมุมรว่ มกับ - การรบั ผดิ ชอบในการดแู ล
ผอู้ ่นื ได้ ห้องเรยี นร่วมกันไดด้ ว้ ย
๓.เพื่อใหเ้ ด็ก ตนเอง
สามารถเก็บของ -การแสดงบทบาทสมมติ
เล่นเมือ่ เลิกเลน่ ตา่ งๆตามจินตนาการ
ได้
สง่ ครแู ละเลา่ เร่ืองตามภาพใหค้ รูฟังพร้อมบนั ทกึ
ผลงานท่ที ำ
านของตนเองให้เพือ่ นๆ ฟัง
ณ์ของเล่นตามมมุ ต่างๆ ใหอ้ ยใู่ นสภาพที่เรียบร้อย ๑. มุมบลอ็ ก ๑.สังเกตพฤติกรรม
เช่น บลอ็ กไม้ ขณะเลน่ ตามมุม
รเลน่ ตามมมุ ทกุ มุม รูปทรงตา่ งๆ ๒. สงั เกตจากการเลน่
การเล่นมมุ ตา่ งๆ หลายขนาด ร่วมกบั ผอู้ ่นื
กรณอ์ อกจากมุม ๒. มมุ หนงั สือ ๓. สงั เกตการเกบ็ ของ
ปนั ของเลน่ เช่น หนงั สอื เลน่ ขณะเลกิ เล่น
ก็บของไว้ทเ่ี ดมิ นิทานตา่ งๆ
นตามมุมทต่ี นเองสนใจ ๓. มุมบ้าน
าเล่าว่าตนเองได้เล่นมมุ อะไรบา้ ง เชน่ อุปกรณ์
ครัว
๔. มุมศลิ ปะ
๕. มมุ ดนตรี
เชน่ เครื่องเคาะ
จังหวะ
๖. มมุ เกม
การศกึ ษา
ำ - โยนลกู บอล
๑. เพ่ือ -การเล่นเครอ่ื งเลน่ สนาม ๑. ครแู นะชอื่ กจิ กรร
เสรมิ สร้างความ อย่างอสิ ระ ๒.ครูกบั เด็กรว่ มกนั ส
คลอ่ งแคลว่ -การเคลอื่ นไหว ๓.ครูอธิบายวิธกี ารเล
ว่องไว ให้เดก็ เคลื่อนท่ี
๒. เพอื่ ใหเ้ ด็ก - การเลน่ และทำงาน - ใหเ้ ดก็ จบั กลมุ่ แล
พฒั นาทักษะ ร่วมกับผอู้ ื่น - ในแต่ละกลมุ่ แบง่
การใชก้ ล้ามเนอ้ื - การทำกจิ กรรม ตะกรา้ โดยโยนแล้ว
มัดเลก็ และมัด (รายบคุ คล กลุม่ เลก็ กลมุ่ วา่ กลุม่ ใดโยนบอลลง
ใหญ่ได้ ใหญ่ ) ๔. ครใู ห้เด็กเล่นกิจก
๓.เพ่อื ให้เดก็ เด็ก
เป็นผู้นำผ้ตู ามท่ี ๕. ครใู ห้ตัวแทนเด็ก
ดีได้
- เกมจบั คู่ภาพกบั เงา
๑. เพ่ือใหเ้ ดก็ -การเลน่ เกม
สามารถเล่นเกม -การฟงั และปฏิบตั ติ าม ๑.ครูใหเ้ ด็กรอ้ งเพลง
จบั คภู่ าพกับเงา คำแนะนำ ๒.ครแู นะนำชอื่ เกมจ
ได้ -การคิดรเิ รม่ิ ตดั สิน ๓.ครูใหเ้ ด็กออกมาส
๒. เพือ่ ให้เดก็ ใจแก้ปัญหาร่วมกนั เข้าใจของตนเอง
รูจ้ กั การสงั เกต - การเลน่ และทำงาน ๔.ครูสาธติ วธิ กี ารเล่น
รูปร่าง ความ ร่วมกบั ผ้อู ่นื ตวั อย่างใหเ้ ด็กดู ดังน
ต่างได้ -ใหเ้ ดก็ สกั เกตภาพ
ขนาด ของภาพ
๑. ลูกบอล ๑.สงั เกตพฤตกิ รรม
รม ๒.ตะกร้า ขณะเล่น
สรา้ งข้อตกลงในการเลน่ ๒. สังเกตจากการเลน่
ลน่ ดงั น้ี ร่วมกบั ผอู้ ่นื
ล้วรบั ส่งลกู บอลกนั จะส่งด้วยวธิ ใิ ดก็ได้ ๓. สังเกตการ
งกลมุ่ เป็น ๒ กลุม่ ย่อย ให้แข่งกนั โยนลูกบอลลง เคลื่อนไหวส่วนตา่ ง ๆ
วไมว่ า่ จะลงหรือไม่ลง ให้เวียนไปตอ่ หลังแถว แล้วดู ของรา่ งกาย
งตะกรา้ ไดม้ ากกว่ากัน
กรรมตามอธั ยาศยั โดยมคี รคู อ่ ยชี้แนะอยใู่ กลช้ ิด
กออกมาแสดงความร้สู ึกหลังทำกิจกรรม
๑. เพลง ๑. สังเกตจาก
งโรงเรียนน่าอยู่ โรงเรียนน่าอยู่ พฤติกรรมขณะเล่นเกม
จบั ค่ภู าพกับเงา
สาธติ วิธีการเล่น เกมจบั คูภ่ าพกับเงาตามความ ๒. เกมจับคู่ ๒. สงั เกตจากการเล่น
นเกมจับคภู่ าพกับเงาโดยใชร้ ปู ภาพอนื่ เป็น ภาพกบั เงา เกมร่วมกับผอู้ ืน่
นี้
พเงาทเี่ หมอื นกนั หรือตา่ งกนั เก่ียวกับ รปู ร่าง ๓. เกมเก่าที่เคย ๓. สังเกตจากการ
เลน่ ออกมาแสดงความรสู้ กึ
๓.เพอื่ ใหเ้ ด็ก ำ -ให้เด็กนำภาพเงาทเ่ี
รู้จักการเล่น ๔.ครูและเดก็ รว่ มกนั
กับผูอ้ ่นื ไก้ - การทำกจิ กรรม ๕.ครูใหเ้ ดก็ แบง่ กลุ่ม
(รายบุคคล กล่มุ เล็ก กลมุ่ โรงเรียนกบั เงาอยา่ ง
ใหญ่ ) ๖.เมอ่ื เล่นเสรจ็ เด็กๆ
-การแสดงการแกป้ ญั หาที่ ๖.ครูใหต้ วั แทนเดก็ อ
พบระหวา่ งทำกิจกรรม
-การมุ่งมัน่ ในการทำ
กจิ กรรม มีสมาธติ จดจอ่
เหมอื นกันมาเรียงกันเป็นคู่
นสรา้ งข้อตกลงในการทำกจิ กรรม
ม เทา่ ๆกันและให้แต่ละกลุ่มเลน่ เกมจบั คู่ภาพ
งอิสระ
ๆช่วยกันเก็บอปุ กรณเ์ ขา้ ท่ใี หเ้ รียบรอ้ ย
ออกมาแสดงความรู้สกึ หลังทำกจิ กรรม
๓(
ำ
๑. เคลือ่ นไหว - การเคลอื่ นไหวอยกู่ บั ที่ - เคล่อื นไหวส่วน ไ
ตามจงั หวะ - การเคลื่อนไหวเคลอื่ นที่ ต่างๆของรา่ งกาย ๑. ครสู ร้างขอ้ สรา้ งข้อ
เพลงกระโดด - การเคลือ่ นไหว ตามท่ีครูใหจ้ ังหวะ เม่ือ
พร้อมทา่ ทาง ความสมั พนั ธข์ องรา่ งกาย ๒.ใหเ้ ด็กเคล่อื นไหวร่า
ประกอบได้ (อวัยวะต่างๆและรปู รา่ ง) ๓. ครแู นะนำชื่อเพลงใ
๒.ฟังและปฏบิ ัติ - การฟงั และปฏบิ ตั ิตาม ๔.ครุให้เดก็ รอ้ งเพลงก
ตามสญั ญาได้ คำแนะนำ ๕.ครใู หเ้ ด็กทุกคนทบท
๓. เพอ่ื เดก็ ๖.ครใู หเ้ ดก็ ทำทา่ ทางป
ปฏิบัตติ าม ๗. เดก็ ทำทา่ ทางประ
ขอ้ ตกลงได้ ๘.ใหเ้ ด็กออกมาเล่าคว
แสดงความรู้สึกหลงั ทำ
๑.เพือ่ พดู 1. การพดู อธบิ ายเกยี่ วกบั อปุ กรณ์ เครอ่ื งใช้
อธิบายเก่ยี วกับ สง่ิ ของ เหตกุ ารณ์ และ ประจำตวั ต่าง ๆ คอื ๑.เดก็ และครรู ว่ มกนั ส
ของใช้สว่ นตวั ความสัมพันธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ ใหเ้ ดก็ รู้วา่ อุปกรณ์ จริง จากภาพที่ครนู ำม
และวิธีการเกบ็ 2.การรอจังหวะทเ่ี หมาะสม ชนิดตา่ งๆเหล่านัน้ ๒.แจกภาพอุปกรณ์เคร
รักษา ในการพูด ควรอยทู่ ใี่ ด เมอื่ ใช้ แปรงสฟี ัน ผ้าขนหนู
๒.สงั เกตและ 3.การแสดงความคิดสรา้ ง เสรจ็ ควรเก็บใหเ้ ข้าท่ี รว่ มกันเกีย่ วกบั ภาพอุป
อธิบายวิธีการใช้ สรรคผ์ า่ นภาษา ท่าทาง การ เช่น ทนี่ อนควรพบั ใส่ ๓.ครูให้เดก็ เล่นบทบาท
ทีถ่ ูกสขุ ลักษณะ เคลื่อนไหวและศิลปะ ในลน้ิ ชกั แปรงสฟี นั ๔. ครแู ละเด็กรว่ มสรุป
ทีด่ ี ควรเกบ็ ไว้ที่แขวนให้
เรยี บร้อย ฯลฯ
๕–๖ ) ๓
๑. เครือ่ งเคาะ ๑. สงั เกตจากการ
อตกลงกับเดก็ ว่าให้เดก็ เคลอื่ นไหวจังหวะ ช้า – เรว็ จงั หวะ เคล่ือนไหวตาม
อครใู หจ้ ังหวะ๒ ครั้งตดิ กันใหห้ ยดุ เคล่อื นไหวทนั ที ๒. เพลงกระโดด จังหวะการเคาะ
างกายตามจังหวะไปทวั่ บริเวณหอ้ ง ของเด็ก
ให้เด็กรจู้ กั เพลงกระโดด ๒. สงั เกตจากการ
กระโดดตามครทู ีละวรรคพรอ้ มกนั รอ้ งเพลงของเด็ก
ทวนกระโดดพรอ้ มๆกนั
ประกอบเพลงกระโดดตามจนิ ตนาการของตนเอง
ะกอบเพลงกระโดดพร้อมกนั
วามรสู้ ึกหลงั จดั กจิ กรรม๖.ครใู หต้ วั แทนเดก็ ออกมา
ำกจิ กรรม
๑.อุปกรณ์เครื่องใช้ สงั เกตพฤตกิ รรม
สนทนาเกีย่ วกบั อปุ กรณ์ เคร่ืองใชต้ า่ ง ๆ จากของ ประจำตวั ต่างๆ การฟังและพูด
มาให้ดู โตต้ อบอุปกรณ์
ร่อื งใช้ประจำตวั นักเรียน เช่น ท่นี อน หมอน เคร่อื งใช้ตา่ งๆ
สี ฯลฯ ใหเ้ ดก็ คนละ ๑ ภาพ และสนทนา
ปกรณ์ทีเ่ ด็กถืออยู่
ทสมมตุ กิ ารใชอ้ ปุ กรณ์เคร่อื งใช้ประจำหอ้ งตา่ ง ๆ
ปเก่ียวกับกิจกรรมอีกครง้ั
ำ
๓.เพ่อื ใหเ้ ด็ก - การแสดงความคดิ - เมื่อเดก็ อย่โู รงเรียน
สามารถปฏบิ ตั ิ ความรสู้ กึ และความต้องการ - ห้องตา่ งๆมีประโย
ตามขอ้ ตกลงได้ ด้วยคำพดู - ครแู ละเด็กรว่ มกัน
- การรว่ มสนทนาและ
แลกเปลีย่ นความคิดเหน็
๑. เพ่อื ให้เดก็ - การเลน่ และทำงานรว่ มกบั -การเขยี นภาพและการ
สามารถวาด ผู้อื่น เลน่ กบั สี ๑.ครใู ห้เดก็ ท่องคำคล
ภาพดว้ ยสเี ทียน - การเลน่ อิสระ - การทำงานศลิ ปะและ ๒.ครเู ตรียมกิจกรรมต
ได้ - การทำกิจกรรม สร้างผลงานอยา่ งมี ๓.ครกู ับเด็กรว่ มกันสร
๒. เพือ่ ให้เดก็ (รายบุคคล กลมุ่ เลก็ กลมุ่ ความสขุ ๔.ครแู นะนำอุปกรณใ์
สามารถปัน้ ดนิ ใหญ่ ) -รบั ผิดชอบทำหนา้ ที่ ๕.ครอู ธิบายวิธที ำกิจก
นำ้ มนั อย่าง - การทำงานศิลปะ ได้รับหมาย - ครูนำกระดาษและส
อิสระได้ - การสร้างสรรคส์ ิ่งที่ จนิ ตนาการของตนเอ
๓.เพ่อื ให้เด็ก สวยงาม -ครใู ห้เดก็ ป้นั ดนิ น้ำมัน
สามารถปฏิบัติ - การทำกจิ กรรมศิลปะ ๖.ให้เด็กจบั กลมุ่ ๓ ค
ตามขอ้ ตกลงได้ ต่างๆ ตนเองสนใจอย่างอิสร
๗.เม่อื เดก็ ทำกิจกรรม
เรียบรอ้ ย
๘.เด็กนำผลงานมาสง่
คำพูดของเดก็ ลงในผล
๙. เด็กนำเสนอผลงาน
น เดก็ ทำกจิ กรรมใดบา้ งในห้องตา่ งๆในโรงเรยี น
ยชนต์ ่อตัวเราอยา่ งไร
นทบทวนกจิ กรรมข้างตน้ หลังทำกิจกรรม
๑. คำคล้องจอง ๑. สงั เกตจากการ
ทำกิจกรรม
ลอ้ งจองโรงเรียนของเราพร้อมกัน โรงเรียนของเรา ๒. สังเกตจากการ
ทำผลงานของเดก็
ตา่ งๆ ให้พร้อมทง้ั ๒ กจิ กรรม ๒.สีเทียน
รา้ งขอ้ ตกลงในการทำกจิ กรรม ๓. กระดาษ A๔
ในการทำกจิ กรรม ทั้ง ๒ กจิ กรรม ๔. ดนิ นำ้ มัน
กรรมทั้ง ๒ กจิ กรรมใหเ้ ดก็ ๕. ที่รองปั้นดิน
สเี ทยี นใหเ้ ด็กวาดภาพโรงเรยี นพรอ้ มระบายสตี าม ๖. เสอื่ นำ้ มนั
อง
นเปน็ รูปต่างๆอยา่ งอสิ ระ
คน และเข้ากลุม่ หมนุ เวียนกันเลอื กทำกจิ กรรมท่ี
ระ
มเสรจ็ ให้เด็กชว่ ยกนั เกบ็ อุปกรณ์ทุกอยา่ ง ให้
งครแู ละเลา่ เรื่องตามภาพใหค้ รูฟงั พร้อมบนั ทกึ
ลงานทท่ี ำ
นของตนเองใหเ้ พอื่ นๆ ฟงั
ำ
๑. เพอ่ื ให้เด็ก - การเล่นและทำงาน - เล่นตามมมุ
สามารถเล่นของ ร่วมกับผู้อนื่ ประสบการณ์ ๑. ครูสำรวจอุปกรณข์
และปลอดภัย
เลน่ ได้อยา่ ง - การเลน่ อสิ ระ - บทบาทสมมติ ๒. ครูอธบิ ายวิธกี ารเล
๓. ครูบอกกตกิ าในกา
ถูกตอ้ งและ -การเลน่ บทบาทสมมติ
- ไมน่ ำอุปกรณ
ปลอดภยั - การทำกิจกรรม - การแบ่งปัน
- เล่นแลว้ เก็บ
๒. เพอ่ื ใหเ้ ด็ก (รายบคุ คล กลุ่มเลก็ กลมุ่ ๔. เด็กๆเข้าไปเลน่ ตา
๕. ให้เด็กๆออกมาเล
สามารถเลน่ ตาม ใหญ่ )
มุมรว่ มกับผู้อื่นได้ - การรับผิดชอบในการ
๓. เพอ่ื ใหเ้ ด็ก ดูแลหอ้ งเรยี นร่วมกันได้
สามารถเกบ็ ของ ด้วยตนเอง
เลน่ เม่อื เลิกเล่น -การแสดงบทบาทสมมติ
ได้ ตา่ งๆตามจินตนาการ
๑. เพ่ือให้เด็ก - การเล่นเครื่องเลน่ สนาม - เล่นเคร่ืองเลน่ ๑.ครูสำรวจเครอื่ งเลน่ ส
สามารถเล่น อย่างอิสระ สนาม ๒. ครูแนะนำวธิ กี ารเล่น
เครื่องเลน่ สนาม - การเคลือ่ นไหว ๓.ครูสาธติ วิธีการเลน่ ท
ไดอ้ ย่างถูกต้อง เคลอื่ นที่ ๔.ครูกบั เดก็ รว่ มกันสรา้
และปลอดภัย - การเล่นและทำงาน ๕. ครใู ห้เด็กเลน่ เครือ่ ง
๒. เพอื่ ใหเ้ ดก็ ร่วมกับผอู้ น่ื ๖. ให้เดก็ แสดงความรู้ส
สามารถเล่นและ
๑. มมุ บล็อก ๑. สังเกตพฤตกิ รรม
ของเล่นตามมมุ ต่างๆ ใหอ้ ยใู่ นสภาพท่เี รียบรอ้ ย เชน่ บล็อกไม้ ขณะเล่นตามมุม
ล่นตามมุมทุกมมุ รูปทรงตา่ งๆ ๒. สงั เกตจากการเลน่
ารเล่นมมุ ต่างๆ
ณอ์ อกจากมมุ หลายขนาด ร่วมกับผ้อู น่ื
นของเลน่
บของไว้ท่ีเดิม ๒. มมุ หนังสอื ๓. สงั เกตการเกบ็ ของ
ามมุมทต่ี นเองสนใจ
ลา่ วา่ ตนเองได้เลน่ มมุ อะไรบา้ ง เช่น หนังสอื เล่นขณะเลกิ เล่น
นิทานตา่ งๆ
สนาม
นเครอ่ื งเล่นสนามท่ีถกู ตอ้ ง ๓. มมุ บ้าน เชน่
ทถ่ี กู ตอ้ งและปลอดภัยใหเ้ ด็ดดู
างขอ้ ตกลงในการเลน่ อปุ กรณค์ รัว
งเลน่ สนามตามอธั ยาศัย
สกึ หลังจากเล่นเคร่ืองสนาม ๔. มุมศลิ ปะ
๕. มุมดนตรี เชน่
เครื่องเคาะ
จังหวะ
๖. มุมเกม
การศกึ ษา
เครือ่ งเลน่ สนาม ๑. สงั เกตพฤตกิ รรม
๑. ชิงช้า ขณะเล่นสนาม
๒.มา้ หมนุ ๒. สงั เกตจากการเล่น
๓. กระดานล่ืน รว่ มกบั ผู้อืน่
๔.ไม้กระดก
๕. เครือ่ งหอ้ ย
โหน
ทำงานรว่ มกับเพอื่ นได้ ำ ๗. เมือ่ เลน่ เคร่อื งเลน่ ส
๘.ครใู หต้ วั แทนเด็กออ
- การทำกิจกรรม
(รายบคุ คล กลมุ่ เล็ก ๑.ครูให้เดก็ รอ้ งเพลงโ
กลุ่มใหญ่ ) ๒.ครแู นะนำชอ่ื เกมเรยี
๓.ครูใหเ้ ด็กออกมาสา
๑. เพื่อให้เด็กสามารถ -การเลน่ เกม - เกมเรยี งลำดบั ของตนเอง
เลน่ เกมเรยี งลำดบั ๔.ครสู าธติ วธิ ีการเล่นเ
ความสัมพันธ์ ได้ -การฟงั และปฏิบตั ิ ความสมั พนั ธ์ ตัวอยา่ งให้เด็กดู ดงั น้ี
๒. เพอื่ ใหเ้ ดก็ รจู้ กั การ
สังเกต รปู รา่ ง ความ ตามคำแนะนำ -ใหเ้ ด็กสักเกตภาพท
ต่างได้ ของภาพ
๓.เพือ่ ให้เด็กรูจ้ กั การ -การคดิ รเิ ร่มิ ตดั สิน
เล่น -ให้เดก็ นำแผ่นภาพ
กบั ผอู้ น่ื ได้ ใจแก้ปญั หารว่ มกนั -ใหเ้ ด็กนำแผน่ ภาพ
ทหี ายไป แลว้ นำช้ินส่ว
- การเล่นและทำงาน ๔.ครแู ละเดก็ รว่ มกนั ส
๕.ครใู หเ้ ด็กแบ่งกลุม่ เ
รว่ มกบั ผู้อืน่ ความสัมพันธ์ อยา่ งอสิ
๖.เม่ือเล่นเสรจ็ เด็กๆช
- การทำกิจกรรม ๗.ครูให้ตวั แทนเด็กออ
(รายบคุ คล กลุ่มเลก็
กลุ่มใหญ่ )
-การแสดงการ
แกป้ ัญหาที่พบ
ระหว่างทำกิจกรรม
-การมงุ่ มน่ั ในการทำ
กิจกรรม มีสมาธิ
จดจอ่
สนามเสร็จใหเ้ ดก็ ทำความสะอาดรา่ งกาย ๓. สังเกตการ
อกมาแสดงความรู้สึกหลังทำกจิ กรรม เคลื่อนไหวสว่ นตา่ ง
ๆ ของรา่ งกาย
๑.เพลงโรงเรียน ๑. สังเกตจาก
โรงเรยี นของฉนั ของฉนั พฤติกรรมขณะเล่น
ยงลำดบั ความสมั พันธ์ ๒.เกมเรยี งลำดับ เกม
าธติ วิธกี ารเลน่ เกมจบั คูภ่ าพกบั เงาตามความเขา้ ใจ ความสัมพนั ธ์ ๒. สงั เกตจากการ
๓.เกมเก่าทเ่ี คยเล่น เลน่ เกมรว่ มกบั ผอู้ ่นื
เกมเรียงลำดับความสัมพันธ์ โดยใช้รปู ภาพอื่นเปน็ ๓. สงั เกตจากการ
ทเ่ี หมือนกันหรือตา่ งกนั เกย่ี วกับ สี รูปรา่ ง ขนาด ออกมาแสดง
ความรูส้ กึ
พแล้วสังเกตดภู าพตา่ งๆ
พวางไว้ แล้วสงั เกตในช่องสี่เหลยี่ มดลู ำดับภาพไหน
วนภาพทีห่ ายไปวางเรยี งใกล้กนั
สรา้ งข้อตกลงในการทำกจิ กรรม
เทา่ ๆกนั และใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลน่ เกมเรยี งลำดบั
สระ
ชว่ ยกนั เก็บอุปกรณเ์ ขา้ ทใี่ หเ้ รียบร้อย
อกมาแสดงความรู้สึกหลังทำกิจกรรม
๓(
ำ
๑. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถ - การเคลอ่ื นไหวอยู่ -เคล่อื นไหวสว่ น ไ
ทำท่าทางตาม กบั ท่ี ต่างๆของร่างกาย ๑.ครูสรา้ งข้อสร้างข้อตก
จินตนาการประกอบ - การเคล่อื นไหว ประกอบคำ – เร็วตามที่ครูใหจ้ งั หวะ
คำบรรยายได้ เคลือ่ นท่ี บรรยาย เคลื่อนไหวทันที
๒. เพ่อื เดก็ สามารถ - การเคล่ือนไหว ๒.ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างก
ปฏิบตั ิตามข้อตกลงได้ ความสมั พนั ธ์ของ ๓. ให้เดก็ ทำทา่ ทางตาม
รา่ งกาย (อวยั วะตา่ งๆ “เดก็ ๆและเพื่อนๆไปเท
และรปู ร่าง) คนกเ็ ดนิ เบาๆไปเรือ่ ยๆ
- การฟงั และปฏิบตั ิ ลงเรอื ทุกคนช่วยกันพาย
ตามคำแนะนำ คนขน้ึ จากเรอื ตอ้ งเกาะ
- เลน่ บทบาทสมมติ ยายทกุ คนถอดรองเทา้ ค
เหตุการณตา่ งๆ และทานขนมรว่ มกัน
๔.ใหเ้ ดก็ ๆอาสาสมัครออ
๑. เพ่อื ให้เด็กเข้าใจ เล่นบทบาทสมมติ - ความสมั พันธ์ของ
ความสมั พันธ์ของคน -การพดู กับผอู้ ื่น บคุ คลในโรงเรียน ๑.ให้เดก็ ท่องคำคลอ้ งจอ
ในบคุ คลภายใน เก่ียวกับประสบการณ์ - บทบาทหน้าที่ ๒.ครูเล่านทิ านเร่ืองโรงเ
โรงเรียนได้ ของตนเองหรือเล่า ของบคุ คลใน ๓.ครูและเดก็ รว่ มกนั สน
๒. เพื่อให้เด็กปฏิบตั ิ เร่ืองเก่ยี วกับตนเอง โรงเรียน ๔.ครูและเด็กรว่ มกันสน
ต่อบุคคลในโรงเรยี น ใครทำงานอะไรบ้าง
ได้ ๕..ครูและเด็กรว่ มกนั รอ้
ความหมายของเน้ือเพล
๕ -๖ ) ๔
๑. คำบรรยาย ๑.สังเกตจากทำทา่ กาย
กลงกบั เด็กวา่ ให้เด็กเคล่ือนไหวจังหวะ ชา้ บรหิ ารของเดก็ แต่ละคน
ะ เมอื่ ครูให้จังหวะ ๒ ครัง้ ตดิ กันให้หยุด
๒.สงั เกตจากการทำ
กายตามจังหวะไปท่ัวบรเิ วณหอ้ ง ท่าทางตามจนิ ตนาการ
มจินตนาการ โดยฟังคำบรรยายดงั นี้ ประกอบคำบรรยายของ
ที่ยวบ้านคุณยายตอ้ งจดั ของใสก่ ระเปา๋ บาง เด็กแต่ละคน
ขึ้นทส่ี งู ลงที่ตำ่ ตอ้ งคลานลอดซุ้มดอกไม้
ยจนเหนอื่ ยจงั เลย เมื่อถึงบา้ นคณู ยาย ทกุ
ะราวบนั ไดอยา่ งระมดั ระวงั เม่ือถงึ บา้ นคุณ
คอ่ ยๆคลานเข้าไปหาคณุ ยายสวัสดีคณุ ยาย
อกมาแสดงความร้สู กึ จากการทำกจิ กรรม ๑. คำคลอ้ งจอง ๑.สังเกตการโตต้ อบใน
องโรงเรียน โรงเรยี น การซกั ถาม
เรยี นสขุ สันตใ์ ห้เดก็ ฟงั
นทนาถงึ ความสัมพันธ์ของบคุ คลในนทิ าน ๒.เพลงขอบคุณขอบใจ ๒. สงั เกตจากการเล่น
นทนาบทบาทหนา้ ท่ีของบุคคลในนิทานมี
เกมร่วมกับผอู้ ่นื
องเพลง “ขอบคุณขอบใจ”แล้วสนทนาถึง
ลง ๓. สงั เกตจากการ
ออกมาแสดงความรสู้ กึ
ำ
๓. เพ่อื ใหเ้ ด็กรจู้ กั การ -การแสดงออกอยา่ ง ๖.ครแู ละเดก็ รว่ มกนั ส
แสดงความเคารพตอ่ สนกุ สนานกับเรือ่ งตลก และกิรยิ ามารยาททีด่ งี
บคุ คลในโรงเรียนได้ ขำขนั และเรือ่ งราว ๗.ครูสาธติ การไหวท้ ีถ่
เหตุการณ์ท่สี นกุ สนาน ๘.ให้เด็กปฏิบตั ติ ามเป
ต่างๆ ๙.ให้เดก็ เล่นบทบาทส
- การแสดงความคดิ กริ ยิ ามารยาทท่ีดีงามต
ความรสู้ กึ และความ - ครูและเด็กร่วมกัน
ต้องการดว้ ยคำพดู
- การรว่ มสนทนาและ
แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็
๑. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถ - การเล่นและทำงาน -การเขยี นภาพ
วาดภาพดว้ ยสเี ทยี นได้ ร่วมกับผ้อู ่นื และการเล่นกบั สี ๑.ให้เด็กทอ่ งคำคล้อง
๒. เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถ - การเลน่ อสิ ระ - การทำงาน ๒.ครเู ตรียมกิจกรรมต
ป้นั ดนิ นำ้ มนั อย่าง - การทำกิจกรรม ศิลปะและสรา้ ง ๓.ครกู บั เดก็ รว่ มกนั สร
อสิ ระได้ (รายบุคคล กลุม่ เล็ก ผลงานอยา่ งมี ๔.ครแู นะนำอุปกรณใ์
๓.เด็กสามารถพิมพ์ กล่มุ ใหญ่ ) ความสุข ๕.ครอู ธบิ ายวิธีทำกจิ ก
ภาพตา่ งๆได้ - การทำงานศิลปะ -รบั ผิดชอบทำ - ครูนำกระดาษและ
๔.เพอื่ ให้เดก็ สามารถ - การสรา้ งสรรคส์ ่งิ ท่ี หนา้ ท่ีไดร้ บั หมาย จินตนาการของตนเอง
ปฏิบตั ิตามข้อตกลงได้ สวยงาม -ครใู หเ้ ดก็ ปัน้ ดนิ น้ำ
- การทำกิจกรรมศิลปะ - ครูเตรียมตัวพิมพ์ส
ต่างๆ - ใหเ้ ด็กใช้มือพมิ พภ์
สนทนาเกยี่ วกบั การปฏิบตั ติ นในการอยรู่ ่วมกัน
งามต่อบคุ คลในโรงเรยี น
ถูกตอ้ ง
ป็นรายบุคคล
สมมตกิ ารปฏิบตั ิตนในการอยู่รว่ มกันและ
ตอ่ บคุ คลในโรงเรยี นเปน็ รายกลุ่มหนา้ ชั้นเรียน
นสนทนาทบทวนกจิ กรรมข้างตน้
งจองโรงเรียน ๑.คำคลอ้ งจอง ๑.สงั เกตจากการทำ
ต่างๆ ให้พรอ้ มท้งั ๓ กิจกรรม โรงเรยี น กิจกรรม
รา้ งข้อตกลงในการทำกจิ กรรม ๒. สีเทยี น ๒.สงั เกตจากการทำ
ในการทำกจิ กรรม ท้งั ๓ กจิ กรรม ๓. กระดาษ ผลงานของเดก็
กรรมท้งั ๓ กจิ กรรมใหเ้ ดก็ ๔ .สนี ำ้
ะสเี ทยี นใหเ้ ด็กวาดภาพบ้านพรอ้ มระบายสตี าม ๕. น้ำมัน
ง ๖.ทีร่ องดินนำ้ มนั
ำมันเปน็ รปู ต่างๆอย่างอสิ ระ ๗.ตวั พิมพร์ ูป
สำหรับตัวพมิ พ์ ตา่ งๆ
ภาพวาดตอ่ เติมตามอิสระ
ำ
๑. เพ่ือให้เด็กสามารถเล่น - การเลน่ และทำงาน - เล่นตามมมุ ๖.ใหเ้ ด็กจับกลมุ่ ๕ ค
ประสบการณ์ ตนเองสนใจอยา่ งอสิ ร
ของเลน่ ได้อย่างถูกตอ้ ง ร่วมกับผู้อนื่ -บทบาทสมมติ ๗.เม่อื เด็กทำกิจกรรม
อปุ กรณ์ทกุ อยา่ ง ให้เร
และปลอดภยั - การเลน่ อิสระ ๘.เด็กนำผลงานมาส่ง
คำพดู ของเด็กลงในผล
๒. เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถเล่น -การเลน่ บทบาท
๑. ครูสำรวจอปุ กรณ
ตามมมุ รว่ มกับผูอ้ ืน่ ได้ สมมติ และปลอดภยั
๒. ครอู ธบิ ายวิธกี ารเ
๓. เพ่อื ใหเ้ ดก็ สามารถเกบ็ - การทำกิจกรรม ๓. ครบู อกกตกิ าในก
ของเลน่ เม่ือเลิกเล่นได้ (รายบคุ คล กล่มุ เล็ก - ไมน่ ำอปุ กร
- การแบง่ ปนั
กล่มุ ใหญ่ ) - เล่นแล้วเก
๔. เด็กๆเข้าไปเล่นต
- การรับผดิ ชอบใน ๕. ให้เด็กๆออกมาเล
การดแู ลห้องเรยี น
ร่วมกันไดด้ ว้ ยตนเอง
-การแสดงบทบาท
สมมติต่างๆตาม
จนิ ตนาการ
คน และเขา้ กลุม่ หมนุ เวียนกันเลอื กทำกจิ กรรมท่ี ๑. มมุ บล็อก ๑. สงั เกตพฤตกิ รรมขณะ
ระ เชน่ บล็อกไม้ เลน่ ตามมุม
มเสร็จให้เด็กชว่ ยกันเก็บ รปู ทรงตา่ งๆ ๒. สังเกตจากการเลน่
รยี บรอ้ ย หลายขนาด รว่ มกบั ผอู้ ืน่
งครแู ละเลา่ เรอ่ื งตามภาพให้ครฟู ังพรอ้ มบันทึก ๒. มุมหนงั สอื ๓. สังเกตการเกบ็ ของ
ลงานทท่ี ำ เชน่ หนงั สือ เลน่ ขณะเลิกเลน่
นทิ านตา่ งๆ
ณ์ของเล่นตามมุมตา่ งๆ ใหอ้ ยใู่ นสภาพท่ีเรยี บร้อย ๓. มมุ บา้ น เชน่
อุปกรณ์ครัว
เลน่ ตามมุมทกุ มมุ ๔. มมุ ศิลปะ
การเล่นมุมตา่ งๆ ๕. มุมดนตรี
รณอ์ อกจากมมุ เชน่ เคร่อื งเคาะ
นของเลน่ จงั หวะ
ก็บของไว้ทเ่ี ดิม ๖. มุมเกม
ตามมมุ ทต่ี นเองสนใจ การศกึ ษา
ลา่ ว่าตนเองได้เล่นมุมอะไรบ้าง
๑.เพ่ือให้เด็กสามารถเลน่ ำ ๑.ครูแนะนำชื่อกจิ กรร
กบั ผู้อื่นได้ ๒. ครกู ับเดก็ รว่ มกันส
๒.เพอ่ื ให้เดก็ เป็นผนู้ ำผู้ การเคลื่อนไหวพร้อม - วิง่ เปรี้ยว ๓.ครอู ธิบายวธิ ีการเล่น
ตามทด่ี ไี ด้ วัสดอุ ปุ กรณ์ -แบง่ เดก็ ออกเป็น ๒
๓.เพื่อฝึกใหเ้ ด็กร้จู กั การ -การเคลือ่ นไหว ท่ีตัง้ ตรงอยูข่ า้ มกนั
แพ้ ชนะด้วยใจท่ยี อมรบั เคลือ่ นที่ -เม่ือเปา่ นกหวดี ใหค้ น
อยา่ งแทจ้ ริง - การเลน่ และทำงาน ใน ๑ รอบยังตไี ม่ไดใ้ ห
รว่ มกบั ผูอ้ ื่น ๔.ครูให้เด็กเลน่ กิจกรร
- การทำกิจกรรม ๕.ครใู หต้ วั แทนเดก็ ออ
(รายบุคคล กลุม่ เลก็
กลมุ่ ใหญ่ ) ๑.ครใู ห้เดก็ รอ้ งเพลงโ
-การรอ้ งเพลง ๒.ครูแนะนำชือ่ เกมจับ
-การฟังและปฏิบตั ิ ๓.ครูใหเ้ ด็กออกมาสา
ตามคำแนะนำ ตามความเข้าใจของตน
๔.ครูสาธติ วธิ กี ารเล่นเ
๑. เพื่อให้เดก็ สามารถเล่น -การเล่นเกม - เกมจับคู่ ให้เด็กดู ดังน้ี
เกมจบั คู่ภาพเหมอื นภาพ -การฟงั และปฏบิ ัติ ภาพเหมอื นภาพ -ใหเ้ ดก็ สักเกตภาพท่ีเห
โรงเรียนได้ ตามคำแนะนำ โรงเรยี น -ให้เดก็ นำภาพโรงเรีย
๒. เพื่อให้เดก็ รจู้ ักการ -การคิดริเริ่มตดั สนิ
สังเกต รปู รา่ ง ความตา่ ง ใจแกป้ ญั หาร่วมกัน
ได้ - การเล่นและทำงาน
๓.เพื่อให้เด็กรู้จกั การเลน่ ร่วมกบั ผอู้ น่ื
กบั ผู้อน่ื ได้
๑.เพ่ือใหเ้ ดก็ การเคลือ่ นไหวพรอ้ ม
รมว่ิงเปร้ียว สามารถเลน่ กบั วสั ดอุ ปุ กรณ์
สรา้ งขอ้ ตกลงในการเล่น ผูอ้ ่ืนได้ -การเคล่ือนไหว
นดงั นี้ ๒.เพอ่ื ใหเ้ ด็ก เคลื่อนที่
กลมุ่ แต่ละกล่มุ ตัง้ แถวเป็นแนวยาวหลังเสาหลกั เปน็ ผู้นำผตู้ ามท่ี - การเล่นและทำงาน
ดีได้ รว่ มกับผูอ้ นื่
นแรกที่ถอื ผา้ ออกวงิ่ เพือ่ ใชผ้ า้ ตฝี ่ายตรงกันข้าม ถ้า ๓.เพ่ือฝกึ ให้เดก็ - การทำกจิ กรรม
ห้ส่งผ้าให้คนถัดไปในกลุ่มออกวิ่งไลแ่ ทน รจู้ กั การแพ้ (รายบุคคล กล่มุ เลก็
รมตามอัธยาศัย โดยมคี รคู อ่ ยชแี้ นะอยใู่ กลช้ ดิ เดก็ ชนะด้วยใจท่ี กลุ่มใหญ่ )
อกมาแสดงความรสู้ ึกหลังทำกิจกรรม ยอมรบั อย่าง -การร้องเพลง
แทจ้ รงิ -การฟงั และปฏบิ ัติตาม
คำแนะนำ
โรงเรียนของฉนั ๑.เพลงโรงเรียน ๑. สงั เกตจากพฤตกิ รรม
บคู่ภาพเหมือนภาพโรงเรียน ของฉัน ขณะเล่นเกม
าธติ วธิ กี ารเล่นเกมจับคู่ภาพเหมือนภาพโรงเรยี น ๒.เกมจบั คู่ ๒. สังเกตจากการเลน่
นเอง ภาพเหมือน เกมร่วมกบั ผ้อู ่นื
เกมจบั ค่ภู าพเหมือนโดยใชร้ ปู ภาพอน่ื เป็นตวั อย่าง ภาพโรงเรียน ๓. สงั เกตจากการ
๓.เกมเก่าทเี่ คย
หมือนกัน เล่น ออกมาแสดงความรู้สกึ
ยนท่ีเหมอื นกันมาวางเรียงกนั เปน็ คู่
ำ ๖.ครูใหเ้ ด็กแบ่งกลมุ่
ภาพเหมอื นภาพโรงเ
- การทำกจิ กรรม ๗.เมือ่ เล่นเสรจ็ เดก็ ๆ
(รายบคุ คล กลุ่มเล็ก ๘. ครใู ห้ตัวแทนเด็ก
กล่มุ ใหญ่ ) เด็กร่วมกนั สร้างขอ้ ต
-การแสดงการแก้ปัญหา
ท่ีพบระหว่างทำกจิ กรรม
-การมุง่ ม่นั ในการทำ
กจิ กรรม มสี มาธิ จดจอ่
ม เทา่ ๆกนั และให้แต่ละกลมุ่ เล่นเกมจบั คู่
เรียนอยา่ งอสิ ระ
ๆช่วยกนั เกบ็ อุปกรณ์เขา้ ทใ่ี ห้เรียบร้อย
กออกมาแสดงความรู้สึกหลงั ทำกิจกรรม๕.ครแู ละ
ตกลงในการทำกจิ กรรม
๓(
๑.เพอ่ื ให้เดก็ สามารถ ำ -เคลอื่ นไหวส่วน ไ
ปฏิบัติตามคำส่งั ได้ ตา่ งๆของร่างกาย ๑.ครูสรา้ งข้อสรา้ ง
๒.เพอ่ื ฝึกให้เดก็ เปน็ ผู้นำผู้ -การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ ตามคำสงั่ – เรว็ ตามทคี่ รใู หจ้
ตามทดี่ ี -การเคล่อื นไหวเคล่อื นที่ เคลื่อนไหวทนั ที
๓.เพ่ือเดก็ สามารถปฏบิ ตั ิ -การเคลื่อนไหว ๒.ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไห
ความสมั พนั ธ์ของ ๓.ครูอธิบายวธิ ีการ
ตามขอ้ ตกลงได้ ร่างกาย (อวัยวะต่างๆ ผูน้ ำ ๑ คน แลว้ ให
และรูปรา่ ง) ๓.ใหผ้ ลัดเปลี่ยนเด
-การฟังและปฏิบัตติ าม ๔.ครูและเด็กรว่ มก
คำแนะนำ
- ไม่เล่นระหวา่ ง
๑. เพ่ือให้เดก็ เรียนรู้ -เล่นบทบาทสมมติ -โครงสร้างของ - มีสมาธใิ นการท
เกย่ี วกับลักษณะของหอ้ ง -การพดู กบั อน่ื เกยี่ วกบั โรงเรยี น ๔.เมอ่ื ทำกิจกรรมเ
ตา่ งๆภายในโรงเรียน ประสบการณข์ องตนเอง ออกมาเลา่ ความรสู้
๒. เพื่อให้เด็กเรียนรู้และ หรอื เล่าเร่อื งเกยี่ วกบั
เสน้ ทางไปห้องตา่ งๆ ตนเอง ๑.ใหเ้ ด็กท่องคำคล
ภายในโรงเรยี นได้อยา่ ง -การแสดงออกอยา่ ง ๒.ครสู นทนาซกั ถา
เหมาะสมได้ สนกุ สนานกบั เรื่องตลก ๓.ครนู ำภาพแตล่ ะ
อะไรและปฏบิ ัติตน
๔.ครูนำแปลนโครง
ตอบว่าเราต้องเดิน
อยา่ งปลอดภัย