คำนำ
ชุดการสอนฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ านวตั กรรมและเทคโนโลยสี ารสนเทศทาง
การศกึ ษา (EDP3102) โดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือใชใ้ นการเตรียมการสอนในรายวชิ าภาษาไทย ระดบั ช้นั
มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ ซ่ึงประกอบดว้ ย แผนการสอน ใบความรู้ แบบฝึกหดั และเฉลยแบบฝึ กหดั
ท้งั น้ีผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ ชุดการสอนฉบบั น้ีจะเป็นประโยชนแ์ ก่นกั ศึกษาวชิ าชีพครู
หรือผทู้ ี่สนใจศึกษาหาขอ้ มูลอยู่ หากมีขอ้ แนะนาหรือขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับไว้
และขออภยั มา ณ ที่น้ีดว้ ย
ผจู้ ดั ทา
11 ตุลาคม 2563
สำรบญั
หน้า
คานา
คาชี้แจงประกอบการใช้แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ค
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ๑
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่องโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ๔
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ๑๑
ภาพท่ี ๑๐พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เร่ืองคุณคา่ และขอ้ คิดโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ๒๐
ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ เรื่องโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ๒๘
คุณคา่ และขอ้ คิดโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ๓๗
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ เร่ืองบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมา ๔๐
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ืองวเิ คราะห์คุณค่าของวรรณคดีไทย วรรณกรรม ๕๑
และวรรณกรรมทอ้ งถ่ิน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ เรื่องท่องจาบทอาขยานบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมา ๖๗
บรรณานุกรม
คำช้ีแจง
ประกอบการใช้แผนการจัดการเรียนรู้กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
การนาแผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ าภาษาไทย รหสั วชิ า ท ๒๒๑๐๑ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทย ไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน มีขอ้ ช้ีแจงในการนาแผนการจดั การเรียนรู้ไปใชเ้ พ่ือใหเ้ กิด
ประโยชนส์ ูงสุดต่อผเู้ รียน ดงั น้ี
๑. ครูผสู้ อนควรศึกษาและทาความเขา้ ใจก่อนนาแผนการจดั การเรียนรู้ในแต่ละแผนไวก้ ่อนล่วงหนา้ ก่อนนาไปใช้
๒. เตรียม ส่ือ วสั ดุอุปกรณ์ที่จะใชป้ ระกอบในแผนการจดั การเรียนรู้และที่ไดร้ ะบุไวใ้ นแผนของแต่ละแผน โดย
เตรียมไวก้ ่อนล่วงหนา้ อยา่ งนอ้ ย 2 วนั เพ่ือเป็ นการเตรียมความพร้อมในการจดั การเรียนการสอน
๓. แหล่งเรียนรู้เตรียมแหล่งเรียนรู้ท่ีจะใหน้ กั เรียนไดเ้ ขา้ ไปศึกษาคน้ ควา้ เช่น หอ้ งสมุดของโรงเรียน มุมศึกษา
คน้ ควา้ ในห้องเรียน ห้องคอมพวิ เตอร์เป็ นตน้
๔. การจดั สภาพแวดลอ้ ม โดยจดั บรรยากาศในหอ้ งเรียนใหเ้ อ้ือต่อการพฒั นาการเรียนรู้หอ้ งเรียนสะอาด มีความ
เป็นระเบียบ ตกแตง่ หอ้ งเรียนใหน้ ่าอยู่ มีมุมตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน มีท่ีเกบ็ วสั ดุอุปกรณ์และง่ายต่อการนามาใชม้ ีป้ าย
นิเทศใหค้ วามรู้ภายนอกหอ้ งเรียนจดั บรรยากาศใหเ้ ป็นธรรมชาติน่าอยู่ ร่มร่ืน
๕. การดาเนินการจดั การเรียนรู้ครูผสู้ อนควรจดั การเรียนรู้ตามกระบวนการข้นั ตอนการสอนในแผนการจดั การ
เรียนรู้ซ่ึงประกอบดว้ ย ข้นั นา ข้นั สอน ข้นั สรุป ดงั น้ี
๕.๑ ข้นั นา เป็ นข้นั ท่ีเตรียมความพร้อมของผเู้ รียน ใหม้ ีความพร้อมก่อนการเรียนเน้ือหาใหม่ เช่น
ทบทวนความรู้เดิมท่ีเคยเรียนมา สนทนาซกั ถาม เล่นเกม ร้องเพลง กิจกรรมเบรนยมิ เคล่ือนไหวร่างกายประกอบ
เสียงเพลง และดนตรี
๕.๒ ข้นั สอน เป็นข้นั ที่ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้เน้ือหาใหม่ โดย
๕.๒.๑ ศึกษาจาก ใบความรู้หนงั สือเรียน แหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ
๕.๒.๒ ใชก้ ระบวนการกลุ่ม ระดมสมอง อภิปราย
๕.๒.๓ ใหผ้ เู้ รียนศึกษาความรู้ดว้ ยตนเอง ครูคอยให้คาแนะนา เป็นผอู้ านวยความสะดวกใหก้ บั
ผเู้ รียน
๕.๒.๔ ใหน้ กั เรียนไดล้ งมือปฏิบตั ิและนาเสนอผลงาน
๕.๒.๕ ใชส้ ื่อวสั ดุอุปกรณ์ประกอบการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
๕.๓ ข้นั สรุป เป็นข้นั ตอน ที่ใหน้ กั เรียนไดส้ รุปเป็นความคิดรวบยอด เช่น การทาใบงาน
แบบฝึกหดั ใบกิจกรรม สร้างผลงานชิ้นงานหรือโครงงาน เป็นตน้
๖. การวดั และประเมินผล มีการวดั และประเมินผลการจดั การเรียนรู้ดงั น้ี
๖.๑ ทาการทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนในแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ บนั ทึกผลการเรียนรู้แลว้ เทียบกบั
เกณฑก์ ารประเมินผล
๖.๒ ตรวจประเมินผลงาน (ใบงาน แบบฝึกหดั ใบกิจกรรม สร้างผลงานชิ้นงานหรือโครงงาน) เทียบกบั
เกณฑท์ ี่กาหนด แลว้ วเิ คราะห์วา่ ควรส่งเสริมหรืออธิบายเพมิ่ เติมอยา่ งไร
๖.๓ สงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รียน จากการจดั การเรียนรู้ บนั ทึกผลเทียบกบั เกณฑท์ ี่กาหนด
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๓
………………………………………………………………………………………………………………….
๑. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐานท่ี ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ
นามาประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จริง
ตวั ชี้วดั
ม.๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดบั ท่ียากข้ึน
ม.๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
ม.๒/๔ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่าน ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
วรรณคดีและวรรณกรรมไทยทุกเรื่องลว้ นแลว้ แตใ่ หค้ วามรู้ คุณคา่ ทางดา้ นประวตั ิศาสตร์ โดยเฉพาะ
ความกลา้ หาญของบุคคลตวั อยา่ งในการเสียสละชีวติ เพ่ือปกป้ องแผน่ ดิน ขอ้ คิด เหล่าน้ี สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ในชีวติ ประจาวนั
๓. สาระการเรียนรู้
ความรู้
๑. อธิบายหลกั การพิจารณาคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมได้
๒. อธิบายรายละเอียดจากการอา่ นโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ได้
๓. อธิบายหลกั การพจิ ารณาคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมได้
ทกั ษะ/กระบวนการ
๑. วเิ คราะห์คุณคา่ ของโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งไดถ้ ูกตอ้ ง
๒. วเิ คราะห์คุณคา่ ของโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ได้
เจตคติ
๑. มีเจตคติที่ดีต่อวชิ าภาษาไทย
๒. ตระหนกั คุณค่าของวชิ าภาษาไทย
๓. ตระหนกั คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมไทย
๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๕. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ใฝ่ เรียนรู้
๓. มุ่งมนั่ ในการท างาน
๔. มีจิตสาธารณะ
๕. มีวนิ ยั
๖. การประเมินผลรวบยอด
ชื้นงานหรือภาระงาน
๑. พดู สรุปใจความสาคญั จากเร่ืองที่ฟังและดู
๒. การพดู วเิ คราะห์ วจิ ารณ์จากเร่ืองที่ฟังและดู
เกณฑ์การให้คะแนนการประเมินการวเิ คราะห์คุณค่าทางวรรณคดแี ละวรรณกรรม
รายการประเมิน เกณฑ์/คะแนน
(๔) ดีมาก (๓) ดี (๒)พอใช้ (๑)ปรับปรุง
มีสาระสาคญั
๑.การสรุป มีสาระสาคญั มีสาระสาคญั ถูก มีสาระสาคญั ถูกตอ้ งตาม
ประเดน็ ที่ ตอ้ งการ
สาระสาคญั ถูกตอ้ ง ตอ้ งตามประเด็น ถูกตอ้ งตาม เป็นส่วนนอ้ ย
มีการนาเสนอ
ตามประเด็นท่ี ท่ีตอ้ งการเป็น ประเดน็ ทีตอ้ งการ ความคิดสาคญั แต่
ไม่ชดั เจน
ตอ้ งการท้งั หมด ส่วนใหญ่ เป็ นบางส่วน
๑.ใชถ้ อ้ ยคา้
๒.การนาเสนอ มีการนาเสนอ มีการนาเสนอ มีการนาเสนอ สานวนถูกตอ้ ง
เหมาะสม
ความคิดสาคญั ความคิดสาคญั ความคิดสาคญั
และมีการขยาย แตข่ าดการขยาย บางประเด็น
ความท่ีทาใหผ้ อู้ ่าน ความบางส่วนท่ี
เกิดความเช่ือมนั่ ทา้ ใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับ
ผลการศึกษา ขอ้ มูลไม่ชดั เจน
ขาดความเชื่อมน่ั
ผลการศึกษา
๓.การใชภ้ าษา ๑.ใชถ้ อ้ ยคา ๑.ใชถ้ อ้ ยคา้ ๑.ใชถ้ อ้ ยคา้
สานวนถูกตอ้ ง สานวนถูกตอ้ ง สานวนถูกตอ้ ง
เหมาะสม เหมาะสม เหมาะสม
๒.พดู และเขียนสื่อ ๒.พดู และเขียน ๒.พดู และเขียน
ความหมายได้ ส่ือความหมายได้ สื่อความหมายได้
ชดั เจน
ชดั เจน ชดั เจน
วเิ คราะห์ไดไ้ ม่
๓.ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง ๓.ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง ครอบคลุมและ
ขาดรายละเอียด
๔.มีมารยาทในพดู
และการเขียน
๔.การวเิ คราะห์ วเิ คราะห์ได้ วเิ คราะห์ได้ วเิ คราะห์ไดไ้ ม่
คุณคา่ ทาง ครอบคลุมและ
วรรณคดีและ ครอบคลุมและมี ครอบคลุมแต่ ไมม่ ีรายละเอียด
วรรณกรรม
รายละเอียดทุกแง่ ขาดรายละเอียด
ทุกมุม บางประเดน็
เกณฑ์การตัดสิน
คะแนน ๑๓-๑๖ หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๙-๑๒ หมายถึง ดี
คะแนน ๕-๘ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๑-๔ หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดบั .... ดี..... ข้ึนไป
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๒
เรื่องโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
รายวชิ าภาษาไทย
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
มาตรฐานท่ี ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และ
นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ช้ีวดั
ม.๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดบั ที่ยากข้ึน
ม.๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
๑. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ประวตั ิศาสตร์ ความเป็นมาของเรื่องโคลงภาพพระราช
พงศาวดาร
๒. อธิบายถึงท่ีม วตั ถุประสงค์ ลกั ษณะการประพนั ธ์ของวรรณคดี เร่ืองโคลงภาพพระราช
พงศาวดารไดถ้ ูกตอ้ ง
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
๑. นกั เรียนสามารถสรุปเน้ือหารายละเอียดของวรรณคดี เร่ืองโคลงภาพพระราชพงศาวดารได้
ถูกตอ้ ง
ด้านคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A)
๑. มีวนิ ยั
๒. ใฝ่ เรียนรู้
๓. มุง่ มน่ั ในการทางาน
สาระสาคญั
วรรณคดีและวรรณกรรมไทยทุกเร่ืองลว้ นแลว้ แต่ใหค้ วามรู้ คุณคา่ ทางดา้ นประวตั ิศาสตร์ โดยเฉพาะ
ความกลา้ หาญของบุคคลตวั อยา่ งในการเสียสละชีวติ เพือ่ ปกป้ องแผน่ ดิน ขอ้ คิด เหล่าน้ี สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ในชีวติ ประจาวนั
สาระการเรียนรู้
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
- ประวตั ิและท่ีมา
- ผปู้ ระพนั ธ์
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. นกั เรียนแสดงความคิดเห็นโดยถามนกั เรียนวา่
- นกั เรียนเคยไดย้ นิ หรือรู้จกั พระราชพงศาวดารหรือไม่
- พระราชพงศาวดารคืออะไร มีเน้ือหาเกี่ยวกบั อะไร
- นกั เรียนรู้จกั วีรบุรุษและวรี สตรีไทยทา่ นใดบา้ ง
๒. นกั เรียนดูภาพโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพตา่ ง ๆ ซ่ึงภาพดงั กล่าวเป็นภาพที่ใชป้ ระกอบ
พระราชพงศาวดารซ่ึงนบั เป็ นหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์
ข้นั สอน
๑. นกั เรียนศึกษาเน้ือหา (โคลงภาพพระราชพงศาวดาร)
- โคลงภาพพระราชพงศาวดารที่นามาใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนมีกี่เรื่อง อะไรบา้ ง (๒ เร่ือง คือ
โคลงพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง และโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ )
- รูปที่ ๑๐ เป็นเร่ืองเกี่ยวกบั ใคร และมีวรี กรรมอะไรที่สาคญั (สมเด็จพระสุริโยทยั ทรง
สละพระชนมช์ ีพเพือ่ ช่วยสมเด็จ พระมหาจกั รพรรดิ)
- รูปท่ี ๕๖ เป็นเร่ืองเกี่ยวกบั ใคร และมีวรี กรรมอะไรท่ีสาคญั (พนั ทา้ ยนรสิงห์ยอมสละ
ชีวติ เพ่ือรักษาประเพณีและพระเกียรติแห่งพระมหากษตั ริย)์
๒. นกั เรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดารที่ตอ้ งศึกษา เพื่อให้นกั เรียนไดร้ ู้จกั
เกี่ยวกบั ความเป็นมา ประวตั ิผแู้ ต่ง ลกั ษณะการประพนั ธ์ของเรื่อง และเน้ือหาโดยสังเขป (โคลง
ภาพพระราชพงศาวดาร) แลว้ บนั ทึกความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาลงในสมุดของแต่ละคน
ข้ันสรุป
๑. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปสาระสาคญั ของเรื่องโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ครูอธิบาย
เพ่ิมเติม และตอบขอ้ ซกั ถามของนกั เรียน
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
๑. หนงั สือแบบเรียนรายวชิ าภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๒
๒. ภาพโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
๓. ใบความรู้ เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
๔. ใบงานเร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
ภาระงาน/ช้ันงาน
บนั ทึกความรู้จากเรื่อง
การวดั และประเมินผล
วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
๑. ตรวจผลงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๒. ทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………………...
แนวทางการพฒั นา…………………………………………………………………………………….
๒. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………
๓. สิ่งท่ีไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิตามแผน……………………………………………………………………………
เหตุผล………………………………………………………………………………………………...
๔. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………
ลงชื่อ…………………………………………………………..ผสู้ อน
()
ใบความรู้
เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอช้าง
ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
ทม่ี าของเรื่อง
คดั มาจากหนงั สือโคลงภาพพระราชพงศาวดารเป็ นโคลงบรรยายภาพท่ี ๑๐ แผน่ ดินสมเด็จ พระมหา
จกั รพรรดิและโคลงบรรยายภาพท่ี ๕๖ แผน่ ดินสมเด็จพระเจา้ เสือ
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เพือ่ สดุดีวรี กรรมของสมเด็จพระสุริโยทยั ที่มีความรัก และความเสียสละพระชนมช์ ีพ ช่วยปกป้ องพระ
สวามีจากขา้ ศึกใหร้ อดพระชนมช์ ีพ
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ เป็นโคลงสี่สุภาพ
เนือ้ เร่ืองย่อ
พระเจา้ บุเรงนอง กษตั ริยพ์ มา่ ยกกองทพั ประชิดติดเมือง สมเด็จพระมหาจกั รพรรดิจึงยกพลออกไป ออก
สู้รบสมเด็จพระสุริโยทยั พระมเหสีทรงเครื่องพิชยั สงครามทรงชา้ งโดยเสดจ็ ดว้ ย เมื่อชา้ งพระที่นงั่ ของพระมหา
จกั รพรรดิไปประจนั หนา้ และชนกบั ชา้ งทรงของพระเจา้ แปรทพั หนา้ ชา้ งของพระมหาจกั รพรรดิเสียทีกลบั หลงั วง่ิ
เตลิดพระเจา้ แปรก็ขบั ชา้ งตาม พระสุริโยทยั ทรงไสชา้ งเขา้ ขดั ขวาง พระเจา้ แปรจึงใชพ้ ระ แสงของา้ วฟันพระสุริโย
ทยั สิ้นพระชนมอ์ ยบู่ นคอชา้ ง
ข้อคิดทจี่ ากเร่ือง
๑. ตอ้ งมีความกตญั ํูต่อผมู้ ีพระคุณ
๒. รู้จกั เสียสละชีวติ เพอ่ื ปกป้ องประเทศชาติจากขา้ ศึกศตั รู เพื่อใหไ้ ดม้ าเพ่ือความเป็นไทยตลอดไป
๓. ปลูกจิตสานึกใหเ้ ยาวชนไทยเห็นคุณค่าของความเสียสละของวรี ชนไทย
ภาพท่ี ๕๖ พนั ท้ายนรสิงห์ถวายชีวติ
ผู้แต่ง พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระนราธิปประพนั ธ์พงศ์
ทมี่ าของเรื่อง คดั จากหนงั สือโคลงภาพพระราชพงศาวดารพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
จุดมุงหมายในการแต่ง
เพื่อสดุดีวีรกรรมของพนั ทา้ ยนรสิงห์ที่ยอมเสียสละชีวติ ของตนเองเพอื่ รักษาพระราชกาหนดที่มีมา
ทุกสมยั มิใช่เสื่อมเสีย และสูญหายไป เพราะตนเพียงคนเดียว
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ เป็นโคลงสี่สุภาพ
เนือ้ เร่ืองย่อ
เม่ือสมเด็จพระเจา้ เสือประพาสปากน้า ไดป้ ระทบั เร่ือเอกชยั เขา้ มาถึงตาบลโคกขามลาคลองลกั ษณะคด
เค้ียวนายทา้ ยเรือดว้ ยความลาบาก ทาใหโ้ ขนเรือหกั พนั ทา้ ยนรสิงห์จึงรับผดิ ชอบขอใหพ้ ระเจา้ เสือประหารชีวติ
ตน เพ่ือเอาโขนเรือและศีรษะมาเซ่นสรวงทาศาลตามประเพณี สมเดจ็ พระเจา้ เสือพระราชทานโทษให้ แต่ทรง
โปรดใหป้ ้ันรูปพนั ทา้ ยนรสิงห์ข้ึนมาฟันคอรูปแทน พนั ทา้ ยนรสิงห์ไม่ยอม กราบทูลรบเร้าใหพ้ ระเจา้ เสือประหาร
ชีวติ ตนใหไ้ ด้ พระเจา้ เสือก็ตอ้ งจาพระทยั สังเพชฌฆาตประหารชีวติ พนั ทา้ ยนรสิงห์ แลว้ ใหน้ าศีรษะของพนั
ทา้ ยนรสิงห์กบั โขนเรือเซ่นไวท้ ี่ศาล เพ่อื เป็นที่เตือนใจคนทว่ั ไป
ข้อคดิ ทไี่ ด้รับการเรื่อง
๑ มีความกตญั ํูต่อผมู้ ีพระคุณ
๒ รู้จกั เสียสละชีวติ เพื่อปกป้ องพระราชกาหนดใหค้ งอยตู่ ลอดไป
๓ ปลูกจิตสานึกใหเ้ ยาวช์ นไทยเห็นคุณค่าเสียสละของวรี ะชนไทย
ใบงาน
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
ตอนที่ ๑
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนทาเครื่อง หนา้ ขอ้ ความท่ีถูกและทาเครื่องหมาย ✖ หนา้ ขอ้ ความที่ผดิ
____________๑. ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งผแู้ ต่งคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
____________๑. ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง คดั มาจากหนงั สือโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
____________๑. ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งมีจุดมุง่ หมายในการแตง่ เพื่อสดุดีวรี กรรมของพนั ทา้ ยนร
สิงห์
____________๑. ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งลกั ษณะคาประพนั ธ์ เป็นกาพยย์ านี ๑๑
____________๑. ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งขอ้ คิดท่ีไดร้ ับการเรื่องรู้จกั เสียสละชีวติ เพื่อปกป้ องพระราช
กาหนดใหค้ งอยตู่ ลอดไป
____________๑. ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ผแู้ ต่งคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
____________๑. ภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ที่มาของเรื่อง คดั จากหนงั สือโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
____________๑. ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวิตมีจุดมุงหมายในการแต่งเพ่ือสดุดีวรี กรรมของสมเด็จพระ
สุริโยทยั
____________๑. ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ลกั ษณะคาประพนั ธ์ เป็นโคลงสี่สุภาพ
____________๑. ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ขอ้ คิดท่ีไดร้ ับการเร่ือง คือ มีความกตญั ํูต่อผมู้ ีพระคุณ
เฉลยใบงาน
เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
ตอนท่ี ๑
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนทาเคร่ือง หนา้ ขอ้ ความที่ถูกและทาเคร่ืองหมาย ✖ หนา้ ขอ้ ความที่ผดิ
____________๑. ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งผแู้ ต่งคือ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
____________๒. ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง คดั มาจากหนงั สือโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
______ ×______๓. ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งมีจุดมุ่งหมายในการแต่งเพื่อสดุดีวรี กรรมของพนั ทา้ ยนร
สิงห์
______×______๔. ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งลกั ษณะคาประพนั ธ์ เป็นกาพยย์ านี ๑๑
______×______๕. ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งขอ้ คิดท่ีไดร้ ับจากเรื่องคือ รู้จกั เสียสละชีวติ เพือ่ ปกป้ องพระ
ราชกาหนดใหค้ งอยตู่ ลอดไป
______×______๖. ภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ผแู้ ต่งคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
___________๗. ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ที่มาของเร่ือง คดั จากหนงั สือโคลงภาพพระราช
พงศาวดารพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
______×______๘. ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวิตมีจุดมุงหมายในการแตง่ เพ่ือสดุดีวรี กรรมของสมเด็จพระ
สุริโยทยั
___________๙. ภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ลกั ษณะคาประพนั ธ์ เป็นโคลงส่ีสุภาพ
___________๑๐. ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวิตขอ้ คิดท่ีไดร้ ับการเรื่อง คือ มีความกตญั ํูตอ่ ผมู้ ีพ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เวลา ๑ ชั่วโมง
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๒
เรื่องโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
รายวชิ าภาษาไทย
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
มาตรฐานท่ี ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และ
นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ช้ีวดั
ม.๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดบั ที่ยากข้ึน
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ
พลงั ของภาษาภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
ตวั ช้ีวดั
ม.๒/๔ ใชค้ าราชาศพั ท์
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
๑. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั สาระสาคญั ของเรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
๒. อธิบายรายละเอียดจากการอ่านโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งได้
ถูกตอ้ ง
๓. รู้ความหมายของคาศพั ท์
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
๑. จบั ใจความสาคญั สาระสาคญั เหตุการณ์ของเรื่อง จากการอา่ นโคลงภาพพระราชพงศาวดาร
ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งได้
๒. บอกความหมายของคาศพั ทไ์ ด้
ด้านคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
สาระสาคญั
วรรณคดีและวรรณกรรมไทยทุกเร่ืองลว้ นแลว้ แต่ใหค้ วามรู้ คุณคา่ ทางดา้ นประวตั ิศาสตร์ โดยเฉพาะ
ความกลา้ หาญของบุคคลตวั อยา่ งในการเสียสละชีวติ เพือ่ ปกป้ องแผน่ ดิน ขอ้ คิด เหล่าน้ี สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ในชีวติ ประจาวนั
สาระการเรียนรู้
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. นกั เรียนดูภาพการท ายทุ ธหตั ถีของพระสุริโยทยั แลว้ ตอบคาถาม
- บุคคลที่ในภาพเป็นใครและก าลงั ท าส่ิงใด
๒. นกั เรียนตอบคาถาม ท่ีวา่
- นกั เรียนรู้หรือไม่วา่ พระสุริโยทยั คือใคร
(พระสุริโยทยั หรือสมเดจ็ พระศรีสุริโยทยั วรี สตรีไทยสมยั อยธุ ยาเป็นอคั รมเหสีใน
สมเดจ็ พระมหาจกั รพรรดิพระมหากษตั ริยอ์ งคท์ ่ี ๑๕ ของกรุงศรีอยธุ ยาแห่งราชวงศส์ ุพรรณภมู ิ)
ข้นั สอน
๑. นกั เรียนศึกษาเรื่อง โคลงประกอบภาพท่ี ๑๐ ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง โดยครูอธิบายวา่
ภาพดงั กล่าวเป็นเพียงส่วนหน่ึงของเหตุการณ์ มีคาบรรยายภาพประกอบ (ภาพท่ีไดร้ างวลั มี
ท้งั หมด ๑๘ อนั ดบั โดยโคลงภาพที่นกั เรียนจะไดเ้ รียนน้ีเป็นโคลงภาพที่ไดร้ ับรางวลั ท่ี ๓ ผเู้ ขียน
ภาพ คือ สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งยาเธอเจา้ ฟ้ ากรมขนุ นริศรานุวดั ติวงศ์ ภายหลงั ด ารงพระยศเป็น
สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอเจา้ ฟ้ ากรมพระยานริศรานุวดั ติวงศ์ ซ่ึงภาพน้ีไดร้ างวลั ลูกปื น ๑ ลูก
เงิน ๑ ชง่ั ๓๐ บาท)
๒. นกั เรียนเรียนรู้ความหมายศพั ทย์ ากจากเรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๑๐ พระ
สุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
๓. นกั เรียนแบ่งกลุ่มเป็น ๔ กลุ่ม ศึกษาเน้ือเร่ืองจากหนงั สือแบบเรียนรายวชิ าภาษาไทยช้นั
มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒
๔. ถอดคาประพนั ธ์ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง กลุ่มละ ๑
บท จนครบทุกบทแลว้ ออกมาอธิบายใหเ้ พอื่ นๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยครูซกั ถามและอธิบายเน้ือหาเพม่ิ เติม
๕. นกั เรียนทาใบงาน เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง เพอ่ื
ประเมินผลการเรียน
ข้ันสรุป
๑. นกั เรียนสรุปเน้ือหาของเรื่องโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
โดยจบั ใจความสาคญั สรุปเน้ือหาลาดบั เหตุการณ์ของเร่ือง
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
๑.หนงั สือแบบเรียนรายวชิ าภาษาไทยช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่๒
๒.รูปภาพ
๓.ใบความรู้เร่ืองบทประพนั ธ์ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
๔. ใบงาน เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
ภาระงาน/ช้ันงาน
ตอบคาถามจากใบงาน เร่ืองโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
การวดั และประเมินผล
วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
๑. ตรวจผลงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๒. ทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………………...
แนวทางการพฒั นา…………………………………………………………………………………….
๒. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………
๓. สิ่งที่ไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิตามแผน……………………………………………………………………………
เหตุผล………………………………………………………………………………………………...
๔. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………………………………………..ผสู้ อน
()
ใบความรู้ ศัพท์ยาก
เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอช้าง
รามญั = มอญ
พยหุ แสนยา = หมเู่ สนา
มา่ น = พมา่
เผา้ ภวู ดล = เผา้ คือ ส่วนท่ีสูงท่ีสุดของศีรษะ ภวู ดล คือ แผน่ ดิน
นิกร = หมู่ , พวก
สมร = การรบ การสงคราม
เคร่ืองยทุ ธพชิ ยั = เครื่องแต่งกายที่แต่งออกรบ
เถลิง = ข้ึน ใชก้ บั ส่ิงสาคญั เช่น เถลิงถวลั ยราชสมบตั ิ
ควา้ ง = เคลื่อนลอยไปอยา่ งรวดเร็ว
ไคล = เขา้ ขบวน
ประจญั = ปะทะต่อสู้
สาร = ชา้ งใหญ่
เตลง = คือ ตะเลง เป็ นช่ือท่ีใชเ้ รียกชนชาติมอญ พงศาวดารไทยมกั เรียก
ดสั กร กองทพั พมา่ วา่ กองทพั ตะเลง เน่ืองจากพม่าเกณฑ์ เอาพวกมอญผตู้ กอยู่
มนสั ในปกครองมาเป็นไพร่พลในการรบเป็ นจานวนมาก
ขนุ มอญ = ขา้ ศึก
หรุบ = หวั ใจ
= ในท่ีน้ีคือ พระเจา้ แปรซ่ึงเป็นผปู้ กครองเมืองแปร ยกกองทพั มา
= อาการส่ิงของท่ีร่วงลงมาพรู เรียกวา่ ร่วงหรุบ
ใบความรู้ บทประพนั ธ์
เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๑๐พระสุริโยทยั ขาดคอช้าง
บงั อรอคั รเรศผู้ พิสมยั ทา่ นนา
นามพระสุริโยทยั ออกอา้ ง
ทรงเคร่ืองยทุ ธพไิ ชย เช่นอุปราชแฮ
เถลิงคชาธารควา้ ง ควบเขา้ ขบวนไคล
พลไกรกองน่าเร้า โรมรัน กนั เฮย
ชา้ งพระเจา้ แปรประจญั คชไท้
สารทรงซวดเซผนั หลงั แล่น เตลิดแฮ
เตลงขบั คชไล่ใกล้ หวดิ ทา้ ยคชาธาร
นงคราญองคเ์ อกแกว้ กระษตั รีย์
มานมนสั กตั เวที ยง่ิ ลา้
เกรงพระราชสามี มลายพระ ชนมเ์ ฮย
ขบั คเชนทรเขน่ คา้ สะอึกสู้ดสั กร
ขนุ มอญร่อนงา้ วฟาด ฉาดฉะ
ขาดแล่งตราบอุระ หรุบดิ้น
โอรสรีบกนั พระ ศพสู่ นครแฮ
สูญชีพไป่ สูญสิ้น พจนผ์ สู้ รรเสริญ
ใบงาน
เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอช้าง
ชื่อ………………………………………..นามสกลุ ……………..…………………..ช้ันม.๒/………เลขท่ี………….
ตอนที่ ๑
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรุปใจความสาคญั โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
บงั อรอคั รเรศผู้ พิสมยั ท่านนา
นามพระสุริโยทยั ออกอา้ ง
ทรงเครื่องยทุ ธพิไชย เช่นอุปราชแฮ
เถลิงคชาธารควา้ ง ควบเขา้ ขบวนไคล
ความว่า
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
พลไกรกองน่าเร้า โรมรัน กนั เฮย
ชา้ งพระเจา้ แปรประจญั คชไท้
สารทรงซวดเซผนั หลงั แล่น เตลิดแฮ
เตลงขบั คชไล่ใกล้ หวดิ ทา้ ยคชาธาร
ความวา่
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………
นงคราญองคเ์ อกแกว้ กระษตั รีย์
มานมนสั กตั เวที ยงิ่ ลา้
เกรงพระราชสามี มลายพระ ชนมเ์ ฮย
ขบั คเชนทรเข่นคา้ สะอึกสู้ดสั กร
ความวา่
………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………
ขนุ มอญร่อนงา้ วฟาด ฉาดฉะ
ขาดแล่งตราบอุระ หรุบดิ้น
โอรสรีบกนั พระ ศพสู่ นครแฮ
สูญชีพไป่ สูญสิ้น พจนผ์ สู้ รรเสริญ
ความวา่
………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….……………
เฉลยใบงาน
เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอช้าง
ช่ือ………………………………………..นามสกุล……………..…………………..ช้ันม.๒/………เลขท่ี………….
ตอนที่ ๑
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรุปใจความสาคญั โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
บงั อรอคั รเรศผู้ พิสมยั ทา่ นนา
นามพระสุริโยทยั ออกอา้ ง
ทรงเคร่ืองยทุ ธพไิ ชย เช่นอุปราชแฮ
เถลิงคชาธารควา้ ง ควบเขา้ ขบวนไคล
ความว่า
สมเด็จพระสุริโยทยั ไดแ้ ต่งองคท์ รงเครื่องเยย่ี งชาย เป็นชุดออกศึกเช่นมหาอุปราช แลว้ ทรงชา้ งเขา้
ร่วมรบ
พลไกรกองน่าเร้า โรมรัน กนั เฮย
ชา้ งพระเจา้ แปรประจญั คชไท้
สารทรงซวดเซผนั หลงั แล่น เตลิดแฮ
เตลงขบั คชไล่ใกล้ หวดิ ทา้ ยคชาธาร
ความวา่
กองทพั หนา้ ของท้งั สองฝ่ ายต่อสู้กนั ชา้ งทรงของพระเจา้ แปรไดช้ นชา้ งกบั พระมหาจกั รพรรดิ พระ
มหาจกั รพรรดิเสียทีเพล่ียงพลา้ พระเจา้ แป
นงคราญองคเ์ อกแกว้ กระษตั รีย์
มานมนสั กตั เวที ยง่ิ ลา้
เกรงพระราชสามี มลายพระ ชนมเ์ ฮย
ขบั คเชนทรเขน่ คา้ สะอึกสู้ดสั กร
ความวา่
สมเดจ็ พระสุริโยทยั เกรงวา่ พระสวามีจะสิ้นพระชนม์ จึงไดไ้ สชา้ งเขา้ ขวางพระเจา้ แปรและสู้กบั พระเจา้
แปรแทน
ขนุ มอญร่อนงา้ วฟาด ฉาดฉะ
ขาดแล่งตราบอุระ หรุบดิ้น
โอรสรีบกนั พระ ศพสู่ นครแฮ
สูญชีพไป่ สูญสิ้น พจน์ผสู้ รรเสริญ
ความวา่
พระเจา้ แปรไดเ้ อางา้ วฟันสมเดจ็ พระสุริโยทยั ขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนมบ์ นคอชา้ ง สองพระโอรสไดก้ นั
พระศพแลว้ นาเขา้ สู่พระนคร เหลือแตค่ าสรรเสริญไว้
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ เวลา ๑ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เร่ืองโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒
รายวชิ าภาษาไทย
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
มาตรฐานที่ ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และ
นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ช้ีวดั
ม.๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน
ม.๒/๔ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่าน ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
๑. หลกั การพิจารณาคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม
๒. อธิบายหลกั การพจิ ารณาคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมได้
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
๑. วเิ คราะห์คุณคา่ ของโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ งได้
๒. สังเคราะห์สรุปความรู้และขอ้ คิดจากโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพระสุริโยทยั ขาดคอ
ชา้ งได้
ด้านคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุง่ มน่ั ในการท างาน
๕. มีจิตสาธารณะ
สาระสาคญั
วรรณคดีและวรรณกรรมไทยทุกเรื่องลว้ นแลว้ แตใ่ หค้ วามรู้ คุณค่าทางดา้ นประวตั ิศาสตร์ โดยเฉพาะ
ความกลา้ หาญของบุคคลตวั อยา่ งในการเสียสละชีวติ เพือ่ ปกป้ องแผน่ ดิน ขอ้ คิด เหล่าน้ี สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ในชีวติ ประจาวนั
สาระการเรียนรู้
๑. คุณค่า โคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
๒. ขอ้ คิดโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี
- สมเดจ็ พระสุริโยทยั คือใคร และมีบทบาทสาคญั อยา่ งไรในการสู้รบคร้ังน้ีอยา่ งไร
- ขบั คเชนทร์ เช่น คา้ สะอึกสู้ดสั กร ตามความเขา้ ใจของนกั เรียนขอ้ ความน้ีมีความหมาย
วา่ อยา่ งไร
- เหตุใดสมเด็จพระสุริโยทยั จึงตดั สินพระทยั ขบั ชา้ งเขา้ ต่อสู้กบั ขา้ ศึกและผลที่ตามมา
เป็นอยา่ งไร
ข้นั สอน
๑. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ๔ กลุ่ม ศึกษาใบความรู้ เรื่องลีลาวรรณคดีไทยแลว้ สนทนากบั นกั เรียนใน
ประเด็นตอ่ ไปน้ี
- คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ มีลกั ษณะอยา่ งไร (การใชภ้ าษาท่ีทาใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับรสทางภาษา)
- คุณคา่ ดา้ นแนวคิดมีลกั ษณะอยา่ งไร (มีการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมใหผ้ อู้ า่ นนาไป
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
- คุณคา่ ดา้ นเน้ือหามีลกั ษณะอยา่ งไร (ใหน้ กั เรียนศึกษาจากใบความรู้ เร่ือง ลีลาวรรณคดีไทย)
- คุณค่าดา้ นสังคมมีลกั ษณะอยา่ งไร (ส่ิงท่ีทาใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจสภาพความเป็นอยขู่ องสงั คมในยคุ
น้นั )
๒. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาการพิจารณาคุณคา่ ของวรรณคดีโดยส่งตวั แทนออกมาจบั ฉลาก
หวั ขอ้ เพ่ือท ากิจกรรม ประเด็นตอ่ ไปน้ี
กลุ่มที่ ๑ อธิบายคุณคา่ ดา้ นเน้ือหาของโคลงพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
กลุ่มที่ ๒ อธิบายคุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ ของโคลงพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
กลุ่มท่ี ๓ อธิบายคุณคา่ ดา้ นสงั คมของโคลงพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
กลุ่มท่ี ๔ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากโคลงพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง
๓. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมาน าเสนอหนา้ ช้นั เรียน ทุกคนร่วมกนั ตรวจสอบความ
ถูกตอ้ งและแสดงความคิดเห็น ครูอธิบายเน้ือหาเพ่ิมเติมใหส้ มบรู ณ์
๔. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ร่วมกนั สนทนา โดยถามนกั เรียนวา่ การอธิบายเหตุการณ์
ประวตั ิศาสตร์โดยแตง่ เป็ นโคลงส้นั ๆ ช่วยใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเร่ืองราวไดด้ ีหรือไม่ เพราะเหตุใด
ข้นั สรุป
๑. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
การอ่านมีความสาคญั และจะเกิดประโยชนเ์ ม่ือผอู้ ่านสามารถประเมินคุณค่าหรือแนวคิด
ไดจ้ ากการอ่านวรรณคดีโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอชา้ ง และนาไปใช้
ในการดาเนินชีวติ
ส่ือ/แหล่งเรียนรู้
๑. หนงั สือแบบเรียนรายวชิ าภาษาไทยช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๒
๒. ใบความรู้ เร่ือง ลีลาวรรณคดีไทย
๓. สลากแบง่ กลุ่ม
ภาระงาน/ช้ันงาน
การพดู อวยพรในโอกาสตา่ ง ๆ
การวดั และประเมินผล
วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์การวดั และประเมินผล
๑. ตรวจผลงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๒. ทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………………...
แนวทางการพฒั นา…………………………………………………………………………………….
๒. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………
๓. สิ่งที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน……………………………………………………………………………
เหตุผล………………………………………………………………………………………………...
๔. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………………………………………..ผสู้ อน
()
ใบความรู้ เร่ือง ลลี าวรรณคดไี ทย
วรรณกรรมและวรรณคดี
วรรณกรรม คือ งานเขียนทุกชนิดที่เขียนหรือแต่งข้ึนจากความรู้สึกและความนึกคิดของมนุษย์ โดยใช้
ภาษาเป็นส่ือ หรืออาจจะเป็นเรื่องเล่ากไ็ ด้
วรรณคดี คือ หนงั สือท่ีไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ แต่งดี เป็นผลงานที่มีคุณค่าควรแก่การศึกษามีการถ่ายทอด สืบ
ต่อกนั มาเป็นเวลานาน โดยใชศ้ ิลปะและวรรณศิลป์ ในการแตง่ การจาแนกวรรณคดี
อาจจาแนกวรรณคดี ออกเป็ น ๒ ประเภท ไดแ้ ก่
๑. วรรณคดีมุขปาฐะ เป็ นเร่ืองท่ีถ่ายทอดสืบต่อกนั มาแบบปากต่อปาก ไม่มีการบนั ทึกไว้ เช่น
เพลงพ้นื บา้ น เพลงกล่อมเด็ก นิทานชาวบา้ น บทร้องเล่น เป็นตน้
๒. วรรณคดีลายลกั ษณ์ เป็นเร่ืองที่จดบนั ทึกไวใ้ นตน้ ฉบบั สมุดไทย ตน้ ฉบบั ใบลาน หรือมีการพิมพ์
เผยแพร่ เช่น ไตรภูมิพระร่วง ลิลิตตะเลงพา่ ย อิเหนา เป็นตน้
ศิลปะการประพนั ธ์ในวรรณคดีไทย
การสร้างสรรคว์ รรณคดีผปู้ ระพนั ธ์จะตอ้ งคานึงถึง “วรรณศิลป์ ” คือ ใหง้ านน้นั มีความงาม
ความไพเราะ และความหมายเป็นที่จบั ใจของผอู้ า่ น ดงั น้นั กวจี ะตอ้ งคิดกลวธิ ีการประพนั ธ์ใหง้ านน้นั ออกมาอยา่ ง
เหมาะสม เพ่อื ส่ือท้งั ความหมายและความ ไพเราะงดงามดว้ ยกลวธิ ีการประพนั ธ์ท่ีสาคญั ที่จะตอ้ งนามาใช้ คือ การ
เล่นเสียง การเล่นคา และการใชภ้ าพพจน์
การเล่นเสียง
การเล่นเสียง คือ การสรรคาใหม้ ีเสียงสัมผสั เป็นพิเศษกวา่ ปกติ เพ่อื ใหเ้ กิดท านองเสียงท่ีไพเราะน่าฟัง มี
ท้งั การ เล่นเสียงพยญั ชนะ เสียงสระ และเสียงวรรณยกุ ต์ ดงั น้ี
๑. การเล่นเสียงพยญั ชนะ คือ การใชค้ าท่ีมีเสียงพยญั ชนะเสียงเดียวกนั หลายพยางคต์ ิด ๆ กนั ไปในคา
ประพนั ธ์ เช่น มวล-มิตร , ปลาบ-ปล้ืม , ล้า-ลึก-เหลือ-หลาย เป็นตน้
๒. การเล่นเสียงสระ คือ การใชค้ าคลอ้ งจองที่มีเสียงสระเดียวกนั ถา้ มีตวั สะกดกต็ อ้ งเป็นตวั สะกดใน
มาตรา เดียวกนั เช่น สุข-รุก , ใจ-ไป, สามารถ-ยรุ ยาตร
๓. การเล่นเสียงวรรณยกุ ต์ คือ การใชค้ าท่ีไล่ระดบั เสียง ๒ หรือ ๓ ระดบั เป็ นชุดๆ ไป เช่น ซอน-ซ่อน
ซอ้ น , เสือ –ส่ือ-เส้ือ เป็นตน้
การเล่นคา
การเล่นคา คือ การสรรคามาเรียงร้อยในคาประพนั ธ์ โดยใชค้ าที่มีเสียงเดียวกนั ในความหมายต่าง ๆ
มาพรรณนาเป็นวธิ ีการเล่นคา ทาใหไ้ พเราะน่าฟังยง่ิ ข้ึน อาจช่วยสร้างอารมณ์ขนั บนั เทิงใจใหผ้ อู้ า่ นและผฟู้ ัง
โวหารภาพพจน์
ภาพพจน์ คือ การสร้างมโนภาพใหเ้ กิดข้ึนโดยอาศยั ถอ้ ยคาสานวนโวหาร หรืออาจจะกล่าวง่าย ๆ
วา่ ภาพพจน์ คือ สานวนโวหารที่กวใี ชเ้ พื่อสร้างภาพในจิตของผอู้ า่ นใหก้ ระจ่างชดั ตรงกบั ภาพในใจของผเู้ ขียนเอง
โดยกวไี มก่ ล่าวอยา่ งตรงไปตรงมา การใชภ้ าพพจนใ์ นการแต่งทาใหผ้ อู้ า่ นไดร้ ่วมเขา้ ใจ และรู้สึกเขา้ ถึงอารมณ์
ยง่ิ ข้ึนตามที่ผแู้ ตง่ ตอ้ งการ โวหารภาพพจนม์ ีหลายชนิดและมีชื่อเรียกดงั น้ี
๑. อปุ มา
ภาพพจน์แบบอุปมา หมายถึง การเปรียบเทียบสิ่งที่เหมือนกนั หรือคลา้ ยกนั นามาเปรียบเทียบกนั เรียก
โดยทวั่ ไปวา่ “เปรียบเหมือน” ไดแ้ ก่ การนาส่ิงท่ีเคยรู้จกั กนั มาแลว้ อยา่ งดีมาเปรียบเทียบกบั สิ่งอื่นท่ียงั ไมเ่ ป็นท่ีรู้จกั
เพอ่ื ชกั โยงความคิดของผอู้ า่ นใหน้ ึกเห็นภาพไดด้ ียงิ่ ข้ึน การใชภ้ าพพจนล์ กั ษณะน้ีจะมีคาเช่ือม เช่น “เหมือนดงั ดุจ
ปาน ราวกบั ” เช่น ทนตแ์ ดงดง่ั แสงทบั ทิม เพริศพริ้มเพรารับกบั ขนง (อิเหนา)
๒. อุปลกั ษณ์
ภาพพจนแ์ บบอุปลกั ษณ์ หมายถึง การเปรียบเทียบโดยนยั ที่เรียกวา่ “เปรียบเป็น” ซ่ึงเป็ นการเปรียบ
เทียบโดยไม่ใชค้ าเชื่อมเหมือนการสร้างภาพพจน์แบบอุปมา มกั มีค าวา่ เป็น คือ เม่ือจะเปรียบเทียบส่ิงใดส่ิงหน่ึงก็
จะนาลกั ษณะเด่นของส่ิงน้นั มากล่าวโอนไปใชก้ บั อีกสิ่งหน่ึง เช่น
ลูกคือดวงตาของพอ่ แม่ , เดก็ ไทยคือหวั ใจของชาติ
๓. บุคคลวตั
หรือบุคคลสมมติ เดิมเรียกวา่ บุคลาธิษฐาน เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่ไมม่ ีชีวติ ไมม่ ีวญิ ญาณใหเ้ สมือนเป็น
ส่ิงมีชีวติ โดยสมมติใหก้ ิริยาอาการเหมือนคน ท าใหผ้ รู้ ับสารมองเห็นภาพเหล่าน้นั เคลื่อนไหว หรือทากิริยาอาการ
มีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนคน เช่น ผเี ส้ือกระซิบกระซาบกบั ดอกไม,้ เสียงซากอิฐปูนสะอ้ืน
๔. สัทพจน์
สัทพจน์ คือ ภาพพจน์แบบเลียนเสียงธรรมชาติ เป็นกลวธิ ีการประพนั ธ์อยา่ งหน่ึงท่ีถ่ายเสียงตา่ ง ๆ
ที่มิใช่ คาพดู เช่น เสียงสตั วร์ ้อง เสียงคนร้อง เสียงดนตรี ฯลฯ ไวใ้ นบทประพนั ธ์เพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ นเกิดความรู้สึกวา่ ได้
ยนิ เสียง น้นั ๆ ตามเน้ือความไปดว้ ย เช่น
ครืนครืนใช่ฟ้ าร้อง เรียมครวญ
ห่ึงห่ึงใช่ลมหวน พี่ไห้
(ตานานศรีปราชญ์ พระยาพระปริยตั ิธรรมธาดา)
๕. อตพิ จน์
คือ การกล่าวเกินจริง เพ่อื สร้างความรู้สึกมากกวา่ เหตุผล มกั เปรียบเทียบในเร่ืองปริมาณวา่ มีมาก
เหลือเกิน มีเจตนาเนน้ ขอ้ ความท่ีกล่าวน้นั ใหม้ ีน้าหนกั ยง่ิ ข้ึน เช่น ร้อนตบั แตก, คอแหง้ เป็นผง, รักคุณเทา่ ฟ้ า, มารอ
ต้งั โกฎิปี แลว้ , ใจดีเป็นบา้ , อกไหมไ้ ส้ขม , เหน่ือยสายตวั แทบขาด
หมายเหตุ:ใบความรู้น้ีรวบรวมขอ้ มูลเพอื่ ใชส้ าหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒
ใบงาน
เรื่อง ลลี าวรรณคดีไทย
ชื่อ………………………………………..นามสกลุ ……………..…………………..ช้ันม.๒/………เลขที่………….
ตอนที่ ๑
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคาต่อไปน้ี
วรรณกรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
วรรณคดี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ศิลปะการประพนั ธ์ในวรรณคดไี ทย
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………..
การเล่นเสียง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
การเล่นคา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
โวหารภาพพจน์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เฉลยใบงาน
เร่ือง ลลี าวรรณคดไี ทย
ช่ือ………………………………………..นามสกลุ ……………..…………………..ช้ันม.๒/………เลขท่ี………….
ตอนท่ี ๑
คาส่ัง ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคาต่อไปน้ี
วรรณกรรม
คอื งานเขียนทกุ ชนิดทเี่ ขียนหรือแต่งขึน้ จากความรู้สึกและความนึกคิดของมนุษย์ โดยใช้ภาษาเป็ นส่ือ
หรืออาจจะเป็ นเรื่องเล่ากไ็ ด้
วรรณคดี
คอื หนังสือทไ่ี ด้รับการยกย่องว่าแต่งดี เป็ นผลงานทม่ี คี ุณค่าควรแก่การศึกษามีการถ่ายทอด สืบต่อกนั มา
เป็ นเวลานาน โดยใช้ศิลปะและวรรณศิลป์ ในการแต่ง
ศิลปะการประพนั ธ์ในวรรณคดไี ทย
คอื ให้งานน้ันมคี วามงามความไพเราะ และความหมายเป็ นทจี่ ับใจของผู้อ่าน ดังน้ัน กวจี ะต้องคิดกลวธิ ี
การประพนั ธ์ให้งานน้ันออกมาอย่างเหมาะสม เพอ่ื ส่ือท้งั ความหมายและความ ไพเราะงดงาม
การเล่นเสียง
คือ การสรรคาใหม้ ีเสียงสัมผสั เป็นพเิ ศษกวา่ ปกติ เพ่ือใหเ้ กิดท านองเสียงท่ีไพเราะน่าฟัง มีท้งั การ เล่น
เสียงพยญั ชนะ เสียงสระ และเสียงวรรณยกุ ต์
การเล่นคา
คือ การสรรคามาเรียงร้อยในคาประพนั ธ์ โดยใชค้ าท่ีมีเสียงเดียวกนั ในความหมายตา่ ง ๆ
มาพรรณนาเป็นวธิ ีการเล่นคา ทาใหไ้ พเราะน่าฟังยง่ิ ข้ึน อาจช่วยสร้างอารมณ์ขนั บนั เทิงใจใหผ้ อู้ า่ นและผฟู้ ังโวหาร
ภาพพจน์
คือ สานวนโวหารท่ีกวใี ชเ้ พ่ือสร้างภาพในจิตของผอู้ ่านใหก้ ระจ่างชดั ตรงกบั ภาพในใจของผเู้ ขียนเองโดย
กวไี มก่ ล่าวอยา่ งตรงไปตรงมา การใชภ้ าพพจน์ในการแต่งทาใหผ้ อู้ า่ นไดร้ ่วมเขา้ ใจ และรู้สึกเขา้ ถึงอารมณ์ยงิ่ ข้ึน
ตามท่ีผแู้ ต่งตอ้ งการ
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ เวลา ๒ ชั่วโมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เร่ืองโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๒
รายวชิ าภาษาไทย
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
มาตรฐานที่ ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณคา่ และ
นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ช้ีวดั
ม.๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านในระดบั ท่ียากข้ึน
ม.๒/๓ อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
ม.๒/๔ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ น ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
๑. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั หลกั การพิจารณาคุณคา่ ของวรรณคดี
๒. อธิบายหลกั การพิจารณาคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมได้
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
๑. จบั ใจความสาคญั สาระสาคญั เหตุการณ์ของเร่ือง จากการอา่ นโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
ได้
๒.วเิ คราะห์คุณค่าของโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ได้
ด้านคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. มีวนิ ยั
๓. ใฝ่ เรียนรู้
๔. มุ่งมนั่ ในการท างาน
๕. มีจิตสาธารณะ
สาระสาคัญ
วรรณคดีและวรรณกรรมไทยทุกเร่ืองลว้ นแลว้ แตใ่ หค้ วามรู้ คุณค่าทางดา้ นประวตั ิศาสตร์ โดยเฉพาะ
ความกลา้ หาญของบุคคลตวั อยา่ งในการเสียสละชีวติ เพอ่ื ปกป้ องแผน่ ดิน ขอ้ คิด เหล่าน้ี สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้
ในชีวติ ประจาวนั
สาระการเรียนรู้
๑. โคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๒. คุณค่าวรรณคดีโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๓. ขอ้ คิดวรรณคดีโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. นกั เรียนฟังเพลง ศาลพนั ทา้ ยนรสิงห์ สมุทรสาครแลว้ ร่วมกนั สนทนาถึงเน้ือหาของเพลง วา่ กล่าวถึง
ใคร ทาอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร
๒. นกั เรียนศึกษาภาพประกอบโคลงเรื่อง พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ และภาพศาลพนั ทา้ ยนรสิงห์ นกั เรียน
ดู แลว้ สนทนาซกั ถามวา่ เป็นภาพของใคร สองภาพน้ีมีความเกี่ยวขอ้ งกนั อยา่ งไร
๓. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็น โดยครูถามนกั เรียนวา่ นกั เรียนคิดวา่ วรรณกรรมมีคุณค่า
หรือไม่ เพราะเหตุใด
ข้นั สอน
๑. นกั เรียนเรียนรู้ความหมายศพั ทย์ ากจากเรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๕๖ ภาพพนั
ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๒. นกั เรียนศึกษาเน้ือหา สรุปรายละเอียดเหตุการณ์ของเรื่องโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่
๕๖ ภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๓. จากการสรุปเน้ือหาของเรื่อง ครูใหน้ กั เรียนที่ไดร้ ับเลือกเป็นตวั แทนนกั เรียนออกมาทา
กิจกรรม ดงั น้ี
- นกั เรียนคนที่ ๑ อธิบายรายละเอียดของเหตุการณ์ในโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
- นกั เรียนคนท่ี ๒ เขียนโคลงสี่สุภาพบาทท่ีเป็นใจความสาคญั ของแตล่ ะบท
- นกั เรียนคนที่๓ สรุปความจากโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
- นกั เรียนคนที่ ๔ แสดงความคิดเห็นวา่ นกั เรียนจะแสดงความจงรักภกั ดีตอ่ พระบาทสมเด็จพระ
เจา้ อยหู่ วั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
๔. นกั เรียนและครูอภิปรายเน้ือหาเพมิ่ เติม (โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๕๖ ภาพพนั
ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ) แลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกลงสมุด
๕. นกั เรียนทาใบงาน เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
เพือ่ ประเมินผลการเรียนรู้ขอนกั เรียน
๖. นกั เรียนศึกษาการพิจารณาคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมแลว้ ร่วมกนั สนทนาวา่ การ
พจิ ารณาคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมสามารถพจิ ารณาไดก้ ี่ดา้ น อะไรบา้ ง (๔ ดา้ น ไดแ้ ก่ คุณค่า
ดา้ นวรรณศิลป์ คุณคา่ ดา้ นแนวคิด คุณคา่ ดา้ นเน้ือหา คุณค่าดา้ นสงั คม)
๗. นกั เรียนศึกษา เร่ืองการพิจารณาคุณค่าของวรรณคดีเร่ืองโคลงพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๕๖
ภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวิต ประเด็นต่อไปน้ี พร้อมกบั ใหน้ กั เรียนบนั ทึกเน้ือหาลงสมุด
๗.๑ คุณค่าดา้ นเน้ือหาของโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๗.๒ คุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ ของโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๗.๓ คุณค่าดา้ นสงั คมของโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๗.๔ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากโคลงพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
๗.๕ นกั เรียนร่วมสนทนาถึงแนวคิดและศิลปะการประพนั ธ์จากโคลงประกอบภาพ
เรื่อง พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวิต แลว้ ทากิจกรรมต่อไปน้ี
๑. ยกตวั อยา่ งการน าขอ้ คิดที่ไดจ้ ากเร่ืองไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
๒. พิจารณาคาประพนั ธ์ที่มีศิลปะการใชภ้ าษาท่ีใชค้ านอ้ ยแตก่ ินความมากและแสดงภาพ
ไดช้ ดั เจน พร้อมแสดงเหตุผล
๓. นกั เรียนส่งตวั แทนออกมาน าเสนอผลงาน เพ่ือนๆ ในช้นั เรียนร่วมกนั แสดงความ
คิดเห็น ครูอธิบายเพ่ิมเติมให้สมบรู ณ์
๔. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี นกั เรียนคิดวา่
ในสังคมปัจจุบนั มีบุคคล เช่น พนั ทา้ ยนรสิงห์อยมู่ ากหรือนอ้ ยเพียงใด เพราะเหตุใด
- นกั เรียนคิดวา่ พนั ทา้ ยนรสิงห์ เป็นแบบอยา่ งท่ีดีสาหรับเดก็ ในวยั เดียวกบั นกั เรียนใน
เรื่องใด
- นกั เรียนคิดวา่ ขอ้ คิดที่ไดจ้ ากเรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์
ถวายชีวติ นาไปใชใ้ นชีวติ จริงไดอ้ ยา่ งไร
ข้ันสรุป
๑. นกั เรียนและครูช่วยกนั สรุปโคลงประกอบภาพเร่ืองพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ใบงาน เรื่อง
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
๑. หนงั สือแบบเรียนรายวชิ าภาษาไทยช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่๒
๒. เพลงศาลพนั ทา้ ย
๓. ภาพประกอบโคลง
๔. ใบความรู้ ศพั ทย์ าก
๕. ใบงาน เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
ภาระงาน/ช้ันงาน
๑. ใบงาน เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์
๒. เขียนแผนผงั ความคิด
ถวายชีวติ การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๑. ตรวจผลงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๒. ทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ
บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………………...
แนวทางการพฒั นา…………………………………………………………………………………….
๒. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………
๓. สิ่งท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน……………………………………………………………………………
เหตุผล………………………………………………………………………………………………...
๔. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………
ลงชื่อ…………………………………………………………..ผสู้ อน
()
ใบความรู้ บทประพนั ธ์
เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพท่ี ๕๖ พนั ท้ายนรสิงห์ถวายชีวติ
สรรเพชญท่ีแปดเจา้ อยธุ ยา
เสด็จประพาสทรงปลา ปากน้า
ล่องเรือเอกไชยมา ถึงโคก ขามพอ่
คลองคดโขนเรือคา้ ขดั ไมห้ กั สลาย
พนั ทา้ ยตกประหม่าสิ้น สติคิด
โดดจากเรือทลู อุทิศ โทษร้อง
พนั ทา้ ยนรสิงห์ผดิ บทฆ่า เสียเทอญ
หวั กบั โขนเรือตอ้ ง คูเ่ ส้นทาศาล
ภูบาลบาเหน็จให้ โทษถนอม ใจนอ
พนั ไมย่ อมอยยู่ อม มอดมว้ ย
พระโปรดเปล่ียนโทษปลอม ฟันรูป แทนพ่อ
พนั กราบทูลทดั ดว้ ย ท่านทิง้ ประเพณี
ภมู ีปลอบกลบั ต้งั ขอบรรลยั พอ่
จาส่ังเพชฌฆาตฟัน ฟาดเกลา้
โขนเรือกบั หวั พนั เซ่นที่ ศาลแล
ศาลสืบกฤติคุณเคา้ คติไวใ้ นสยาม
ใบงาน
เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพที่ ๕๖ พนั ท้ายนรสิงห์ถวายชีวติ
ชื่อ………………………………………..นามสกุล……………..…………………..ช้ันม.๒/………เลขที่………….
ตอนท่ี ๑
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรุปใจความสาคญั โคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ
สรรเพชญที่แปดเจา้ อยธุ ยา
เสด็จประพาสทรงปลา ปากน้า
ล่องเรือเอกไชยมา ถึงโคก ขามพอ่
คลองคดโขนเรือคา้ ขดั ไมห้ กั สลาย
ความวา่
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
พนั ทา้ ยตกประหมา่ สิ้น สติคิด
โดดจากเรือทูลอุทิศ โทษร้อง
พนั ทา้ ยนรสิงห์ผดิ บทฆ่า เสียเทอญ
หวั กบั โขนเรือตอ้ ง คูเ่ ส้นทาศาล
ความวา่
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภบู าลบาเหน็จให้ โทษถนอม ใจนอ
พนั ไมย่ อมอยยู่ อม มอดมว้ ย
พระโปรดเปลี่ยนโทษปลอม ฟันรูป แทนพอ่
พนั กราบทูลทดั ดว้ ย ทา่ นทิง้ ประเพณี
ความวา่
………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………….………………………
ภูมีปลอบกลบั ต้งั ขอบรรลยั พอ่
จาส่งั เพชฌฆาตฟัน ฟาดเกลา้
โขนเรือกบั หวั พนั เซ่นที่ ศาลแล
ศาลสืบกฤติคุณเคา้ คติไวใ้ นสยาม
ความวา่
………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตอนที่ ๒
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรุปความรู้ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากเร่ืองโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพท่ี ๕๖
พนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ ลงในแผนผงั ความคิด พร้อมท้งั ตกแต่งใหส้ วยงาม
ตอนที่ ๒
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรุปความรู้ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากเร่ืองโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพท่ี ๕๖ พนั ทา้ ย
นรสิงห์ถวายชีวติ ลงในแผนผงั ความคิด พร้อมท้งั ตกแต่งใหส้ วยงาม
อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผตู้ รวจ
อยใู่ นดุลยพินิจของครูผตู้ รวจ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ บทเสภาสามคั คีเสวก
รหสั วชิ า ท๒๒๑๐๑ รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๓
………………………………………………………………………………………………………………….
๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐานการเรียนรู้
ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณค่า และ
นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ช้ีวดั
ม.๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดบั ที่ยากข้ึน
ม.๒/๒ วเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่ินท่ีอา่ น พร้อมยกเหตุผล
ประกอบ
ม.๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
ม.๒/๔ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่าน ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ม.๒/๕ ทอ่ งจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ
๒.สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
วรรณคดีและวรรณกรรมเป็นบนั ทึกทางสงั คมและสะทอ้ นวถิ ีชีวติ ความเป็ นอยขู่ องคนในท้งั คุณคา่
ดา้ นอารมณ์และคุณค่าทางความคิดนาไปพฒั นาคุณภาพชีวิตของตนเอง สังคม และประเทศชาติยคุ น้นั ๆ ผา่ นตวั
ละครที่สร้างตามจินตนาการของผแู้ ต่งผเู้ รียนควรศึกษาเรียนรู้ถึงคุณคา่ และความงดงามทางภาษาตลอดจนคุณค่า
ในแง่มุมต่าง ๆ เพ่ือให้เกิดความซาบซ้ึงผกู พนั กบั เอกลกั ษณ์ของความเป็ นไทยร่วมกนั อนุรักษแ์ ละสืบทอดมรดก
อนั ล้าคา่ น้ีใหค้ งอยคู่ ูค่ วามเป็ นไทยน้ีตลอดไป
๓. สาระการเรียนรู้
ความรู้
๑. มีความรู้และเขา้ ใจในการสรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรม
๒. บอกขอ้ คิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมได้
๓. อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมได้
๔. บอกประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการวเิ คราะห์คุณค่าวรรณคดีวรรณกรรมท่ีสามารถนาไปปรับ
ใชไ้ ด้
ทกั ษะ/กระบวนการ
๑. สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมได้
๒. บอกขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการอา่ น และน าไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงได้
๓. วเิ คราะห์คุณคา่ วรรณคดีและวรรณกรรมได้
เจตคติ
๑. ตระหนกั และเห็นคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม
๒. มีความรับผดิ ชอบ
๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๕. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ใฝ่ เรียนรู้
๓. มุง่ มน่ั ในการท างาน
๔. มีจิตสาธารณะ
๕. มีเจตคติที่ดีต่อการอ่าน
๖. การประเมินผลรวบยอด
ช้ืนงานหรือภาระงาน
ใบงานเรื่อง การวิเคราะห์คุณคา่ ทางวรรณคดีและวรรณกรรรม
เกณฑ์การให้คะแนนการประเมนิ การวเิ คราะห์คุณค่าทางวรรณคดแี ละวรรณกรรม
รายการประเมนิ เกณฑ์/คะแนน
(๔) ดมี าก (๓) ดี (๒)พอใช้ (๑)ปรับปรุง
๑.การสรุป มีสาระสาคญั ถกู ตอ้ ง มีสาระสาคญั ถูก มีสาระสาคญั ถูกตอ้ ง มีสาระสาคญั ถกู ตอ้ ง
สาระสาคญั ตามประเดน็ ท่ี ตอ้ งตามประเด็น ที่ ตาม ประเดน็ ที ตาม ประเดน็ ที่
ตอ้ งการท้งั หมด ตอ้ งการเป็ น ส่วน ตอ้ งการเป็ นบางส่วน ตอ้ งการเป็ นส่วนนอ้ ย
ใหญ่
๒.การนาเสนอ มีการนาเสนอ มีการนาเสนอ มีการนาเสนอ มีการนาเสนอ
ความคิดสาคญั และมี ความคิดสาคญั ความคิดสาคญั ความคิดสาคญั แต่ไม่
การขยายความท่ีทา แตข่ าดการขยาย บางประเด็น ชดั เจน
๓.การใชภ้ าษา ใหผ้ อู้ ่านเกิดความ ความบางส่วนที่ ๑.ใชถ้ อ้ ยคา้ ๑.ใชถ้ อ้ ยคา้
เชื่อมนั่ ผลการศึกษา ทา้ ใหผ้ อู้ า่ นไดร้ ับ สานวนถกู ตอ้ ง สานวนถกู ตอ้ ง
๔.การวเิ คราะห์ ขอ้ มลู ไม่ชดั เจน เหมาะสม เหมาะสม
คุณค่าทาง ๑.ใชถ้ อ้ ยคาสานวน ขาดความเชื่อมนั่ ๒.พดู และเขียน
วรรณคดีและ ถูกตอ้ งเหมาะสม ผลการศึกษา ส่ือความหมายได้ วเิ คราะห์ไดไ้ ม่
วรรณกรรม ๒.พดู และเขียนสื่อ ๑.ใชถ้ อ้ ยคา้ ชดั เจน ครอบคลุมและ
ความหมายไดช้ ดั เจน สานวนถกู ตอ้ ง ไมม่ ีรายละเอียด
๓.ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง เหมาะสม วเิ คราะห์ไดไ้ ม่
๔.มีมารยาทในพดู ๒.พดู และเขียน ครอบคลมุ และ
และการเขียน สื่อความหมายได้ ขาดรายละเอียด
วเิ คราะห์ได้ ชดั เจน
ครอบคลมุ และมี ๓.ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง
รายละเอียดทุกแง่ทุก วเิ คราะห์ได้
มมุ ครอบคลุมแต่
ขาดรายละเอียด
บางประเด็น
เกณฑ์การตดั สิน
คะแนน ๑๓-๑๖ หมายถึง ดีมาก
คะแนน ๙-๑๒ หมายถึง ดี
คะแนน ๕-๘ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๑-๔ หมายถึง ปรับปรุง
เกณฑ์การผ่าน ต้งั แต่ระดบั .... ดี..... ข้ึนไป
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เวลา ๑ ช่ัวโมง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เร่ืองบทเสภาสามคั คเี สวก ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒
รายวชิ าภาษาไทย
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
มาตรฐานท่ี ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่าและ
นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ช้ีวดั
ม.๒/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ นในระดบั ท่ียากข้ึน
ม.๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
๑. ประวตั ิผแู้ ตง่ ของวรรณคดีบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
๑. อธิบายเกี่ยวกบั ประวตั ิผแู้ ตง่ ของวรรณคดีบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คี
เสวก
๒. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั บทเสภาสามคั คีเสวกตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวกได้
๓. สรุปความรู้จากบทเสภาสามคั คีเสวก ตอน วศิ วกรรมาและสามคั คีเสวกไดท้ ่ีอ่านได้
ด้านคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒.ใฝ่ เรียนรู้
๓. มุง่ มน่ั ในการทางาน
๔. มีเจตคติที่ดีตอ่ การอ่าน
สาระสาคัญ
วรรณคดีและวรรณกรรมเป็นบนั ทึกทางสงั คมและสะทอ้ นวถิ ีชีวติ ความเป็ นอยขู่ องคนในท้งั คุณคา่
ดา้ นอารมณ์และคุณคา่ ทางความคิดนาไปพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตนเอง สังคม และประเทศชาติยคุ น้นั ๆ ผา่ นตวั
ละครที่สร้างตามจินตนาการของผแู้ ต่งผเู้ รียนควรศึกษาเรียนรู้ถึงคุณค่าและความงดงามทางภาษาตลอดจนคุณค่า
ในแง่มุมตา่ ง ๆ เพอื่ ให้เกิดความซาบซ้ึงผกู พนั กบั เอกลกั ษณ์ของความเป็ นไทยร่วมกนั อนุรักษแ์ ละสืบทอดมรดก
อนั ล้าคา่ น้ีใหค้ งอยคู่ ูค่ วามเป็ นไทยน้ีตลอดไป
สาระการเรียนรู้
๑. ประวตั ิผแู้ ต่งวรรณคดีบทเสภาสามคั คีเสวก ตอน วศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
๒. บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
๓. เน้ือหาของบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. นกั เรียนอา่ นบทประพนั ธ์ ดงั ตอ่ ไปน้ี
“อนั ชาติใดไร้ ช่างชานาญศิลป์ เหมือนนารินไร้ โฉมบรรโลมสง่า”
๒. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาถึงบทประพนั ธ์ที่กล่าวขา้ งตน้ วา่ มาจากวรรณคดีเรื่องใดและใครเป็ น
ผปู้ ระพนั ธ์บทเสภาสามคั คีเสวกตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
(ตอบ บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวิศวกรรมาและสามคั คีเสวก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั )
๓.นกั เรียนอา่ นขอ้ ความน้ีบนกระดาน แต่กรุงไทยศรีวไิ ลทนั เพ่ือนบา้ น จึงมีช่างชานาญวเิ ลขา ท้งั ช่างป้ัน
ช่างเขียน เพียรวชิ า อีกช่างสถาปนาถูกทานอง
๔. นกั เรียนร่วมกนั พิจารณาขอ้ ความบนกระดาน ครูสนทนากบั นกั เรียน โดยใชค้ าถาม นกั เรียนคิดวา่
ขอ้ ความขา้ งตน้ มีช่างอะไรบา้ ง (ตอบช่างชานาญวิเลขา ช่างป้ัน ช่างเขียน ช่างสถาปนา )
๕.นกั เรียนสงั เกตลกั ษณะคาประพนั ธ์วา่ เป็นคาประพนั ธ์ประเภทใด
(ตอบกลอนสุภาพ กลอนเสภา)
ข้นั สอน
๑. นกั เรียนศึกษาประวตั ิผแู้ ต่งจากใบความรู้เร่ืองประวตั ิผทู้ รงพระราชนิพนธ์ และร่วมกนั สนทนาถึง
ประวตั ิของผแู้ ตง่ บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
๒. นกั เรียนต้งั คาถามเกี่ยวกบั ประวตั ิของผแู้ ตง่ และผลงานของผแู้ ต่งรวมถึงนามปากกาที่นกั เรียนคุน้ เคย
๓. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงาน เร่ือง ประวตั ิผูแ้ ตง่ บทเสภาสามคั คีเสวกตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก โดย
การตอบคาถามส้ัน ๆ
๔. เปิ ดไฟลเ์ สียงการขบั เสภาใหน้ กั เรียนฟังพร้อมท้งั ครูอธิบายลกั ษณะกลอนเสภาเพอื่ ใหน้ กั เรียนมีความรู้
ความเขา้ ใจมากยงิ่ ข้ึน
๕. นกั เรียนอ่านออกเสียงบทเสภาสามคั คีเสวก ตอน วศิ วกรรมาพร้อมกนั เมื่อนกั เรียนอ่านจบแลว้
ช่วยกนั หาคาสัมผสั จากบทประพนั ธ์
๖. นกั เรียนศึกษาบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมา โดยให้นกั เรียนอ่านอออกเสียงพร้อมกนั
๗. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ๔ กลุ่ม เลือกประธาน รองประธานและเลขานุการ ครูแบ่งเน้ือหาคาประพนั ธ์
ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มถอดคาประพนั ธ์ ใหแ้ ต่ละกลุ่มร่วมกนั ถอดคาประพนั ธ์บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมา
๘. สุ่มตวั แทน ๒ กลุ่ม นาเสนอการถอดคาประพนั ธ์หนา้ ช้นั เรียนเพอื่ นกลุ่มอื่นร่วมกนั อภิปรายและแสดง
ความคิดเห็นครูแบง่ เน้ือหาคาประพนั ธ์ ใหแ้ ต่ละกลุ่มถอดคาประพนั ธ์ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ถอดคา
ประพนั ธ์บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมา
๙.นกั เรียนทาใบงานเร่ืองบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
ข้ันสรุป
๑. นกั เรียนและครูร่วมกนั อภิปรายและสรุปความรู้เกี่ยวกบั ประวตั ิ ผแู้ ตง่ บทเสภาสามคั คีเสวก ตอน
วศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก ครูใหน้ กั เรียนรวบรวมนามปากกาของผแู้ ต่งที่มีท้งั หมด
๒.นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั บทเสภาสามคั คีเสวกตอน วศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
พร้อมอธิบายความรู้เพมิ่ เติมและจดความรู้ท่ีไดล้ งสมุด
ส่ือ/แหล่งเรียนรู้
๑. ใบความรู้ เรื่องเรื่องประวตั ิผทู้ รงพระราชนิพนธ์ บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คี
เสวก
๒. ใบงาน เรื่อง ประวตั ิผแู้ ตง่ บทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
๓.ไฟลเ์ สียงการขบั เสภา
๔. ใบงาน เรื่อง ถอดคาประพนั ธ์บทเสภาสามคั คีเสวก ตอน วศิ วกรรมา
ภาระงาน/ช้ันงาน
๑. สมุดบนั ทึกนามปากกาผแู้ ต่ง
๒. สมุดบนั ทึกความรู้เพม่ิ เติม
๓. สมุดบนั ทึกการถอดคาประพนั ธ์
การวดั และประเมินผล
วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
๑. ตรวจผลงาน ใบงาน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๒. ทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………………...
แนวทางการพฒั นา…………………………………………………………………………………….
๒. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………
๓. สิ่งท่ีไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิตามแผน……………………………………………………………………………
เหตุผล………………………………………………………………………………………………...
๔. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้………………………………………………………………………
ลงช่ือ…………………………………………………………..ผสู้ อน
()
ใบความรู้
เร่ือง ประวตั ิพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หวั
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
กบั สมเด็จพระศรีพชั รินทราบรมราชินีนาถ มีพระบรมราชสมภพเมื่อวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๓ ทรงพระนาม
วา่ สมเด็จพระเจา้ ลูกยาเธอ เจา้ ฟ้ ามหาวชิราวธุ
พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงเร่ิมศึกษาเบ้ืองตน้ ในพระบรมมหาราชวงั ต่อมาไดเ้ สดจ็ พระ
ราชด าเนินไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศองั กฤษ โดยทรงศึกษาวชิ าทหาร วชิ าพลเรือน และภาษาฝรั่งเศส หลงั จาก
น้นั ไดเ้ สด็จเขา้ ศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนดเ์ ฮิสต์ เม่ือทรงสาเร็จการศึกษาวชิ าทหารแลว้ ยงั ทรงศึกษา
วชิ าประวตั ิศาสตร์และกฎหมายท่ีวทิ ยาลยั ไครสตเ์ ชิชแห่งมหาวทิ ยาลยั ออกซ์ฟอร์ดดว้ ยระหวา่ งท่ี พระองคศ์ ึกษาท่ี
ประเทศองั กฤษน้นั สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช เจา้ ฟ้ ามหาวชิรุณหิศสยามกุฎราชกุมาร สิ้นพระชนม์ พระองคจ์ ึง
ไดร้ ับสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจา้ ฟ้ ามหาวชิราวธุ สยามกุฎราชกุมาร ก่อนเสด็จนิวตั ประเทศไทย
ไดเ้ สดจ็ พระราชด าเนินเยอื นประเทศต่าง ๆ และทรงศึกษางานและเจริญพระราชไมตรี กบั ผนู้ าตา่ ง ๆ ในประเทศ
ยโุ รป สหรัฐอเมริกา และญี่ป่ ุนพระองคเ์ สดจ็ พระราชดาเนินกลบั ประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๕ เสดจ็ ข้ึน
ครองราชยส์ มบตั ิในพ.ศ. ๒๔๕๓ และเสดจ็ สวรรคตเม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๘
พระราชกรณียกิจของพระองคม์ ีอเนกประการ ท้งั ดา้ นการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจการศึกษา
ส่ือสารมวลชน ศิลปะ และอกั ษรศาสตร์ มีผลใหป้ ระเทศพฒั นาและกา้ วทนั เทคโนโลยขี องตะวนั ตก
ดา้ นอกั ษรศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั มีพระราชนิพนธ์ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑,๒๐๐ เรื่อง แบง่
ไดเ้ ป็นหลายประเภท ท้งั ร้อยแกว้ และร้อยกรอง เช่น สารคดี บทความ นิทาน นิยาย เร่ืองส้นั พระบรมราโชวาท
พระราชหตั ถเลขา บทพระราชนิพนธ์ที่คนไทยรู้จกั ดี เช่น โคลนติดลอ้ ยวิ แห่งบูรพาทิศ บทเสภา สามคั คีเสวก
มทั นะพาธาคาฉนั ท์ พระนลคาหลวง ศกุนตลา สาวติ รี เร่ืองมทั นะพาธาคาฉนั ทไ์ ดร้ ับยกยอ่ งจาก วรรณคดีสโมสร
วา่ เป็นยอดของบทละครพดู คาฉนั ท์ ส่วนเรื่องหวั ใจนกั รบไดร้ ับยกยอ่ งใหเ้ ป็นยอดของบทละครพดู
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงใชพ้ ระนามแฝงในพระราชนิพนธ์มากกวา่ ๑๐๐ พระนาม มี
ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ท่ีเป็นพระนามแฝงภาษาไทย เช่นอศั วพาหุ รามจิตติ ศรีอยธุ ยา นายแกว้ นายขวญั
พนั แหลม พระขรรคเ์ พชร ที่เป็นพระนามแฝงภาษาองั กฤษ เช่น Young Tommy, Tom Toby, DiltonMarsh,Carlton
H. Terris
พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงไดร้ ับพระสมญั ญานามวา่ พระมหาธีรราชเจา้ อนั สืบ
เน่ืองมาจากความเป็นปราชญใ์ นทางอกั ษรศาสตร์ เน่ืองในวาระฉลองวนั พระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ พรรษา เมื่อ
วนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๔ องคก์ ารศึกษาวทิ ยาศาสตร์และวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้
ประกาศยกยอ่ งพระองคว์ า่ ทรงเป็นนกั ปราชญข์ องโลก
ใบงาน
เร่ือง ประวตั ผิ ้แู ต่งบทเสภาสามัคคีเสวก ตอนวศิ วกรรมา
ช่ือ………………………………………..นามสกุล……………..…………………..ช้ันม.๒/………เลขท่ี………….
ตอนท่ี ๑
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี
๑. ใครคือผแู้ ต่งบทเสภาสามคั คีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามคั คีเสวก
………………………………………………………………………………………………………………
๒. ผแู้ ต่งเป็นพระราชโอรสของใคร
………………………………………………………………………………………………………………
๓. ผแู้ ตง่ พระราชสมภพเมื่อใด
………………………………………………………………………………………………………………
๔. เม่ือพระราชสมภพ ทรงมีพระนามเดิมวา่ อะไร
………………………………………………………………………………………………………………
๕. ผแู้ ต่งเดินทางไปศึกษาต่อ ณ ประเทศใด และทรงศึกษาในสาขาใดบา้ ง
………………………………………………………………………………………………………………
๖. ผแู้ ตง่ ทรงศึกษาในดา้ นใดที่วทิ ยาลยั ไครสตเ์ ชิชแห่งมหาวทิ ยาลยั ออกซ์ฟอร์ด
………………………………………………………………………………………………………………
๗. ผแู้ ต่งทรงมีความเชียวชาญในดา้ นใด
………………………………………………………………………………………………………………
๘. เรื่องใดบา้ งของผแู้ ตง่ ท่ีไดร้ ับการยกยอ่ งจากวรรณคดีสโมสร
………………………………………………………………………………………………………………
๙. ผแู้ ต่งทรงใชพ้ ระนามแฝงในพระราชนิพนธ์ ท่ีเป็นพระนามแฝงภาษาไทย อะไรบา้ ง
………………………………………………………………………………………………………………
๑๐.ผแู้ ต่งทรงไดร้ ับพระสมญั ญานามวา่ อะไร เน่ืองจากอะไร
………………………………………………………………………………………………………………
ตอนที่ ๒
คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนโยงสมั ผสั นอกของบทเสภาสามคั คีเสวก ตอ่ ไปน้ี
อนั ชาติใดไร้ศานติสุขสงบ ตอ้ งมวั รบราญรอนหาผอ่ นไม่
ณ ชาติน้นั นรชนไมส่ นใจ ในศิลปะวไิ ลละวาดงาม
แต่ชาติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ วา่ งการรบอริพลอนั ลน้ หลาม
ยอ่ มจานงศิลปาสง่างาม เพอื่ อร่ามเรืองระยบั ประดบั ประดา
อนั ชาติใดไร้ช่างช านาญศิลป์ เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า
ใครใครเห็นไมเ่ ป็ นท่ีจาเริญตา เขาจะพากนั เยย้ ใหอ้ บั อาย
ศิลปกรรมนาใจใหส้ ร่างโศก ช่วยบรรเทาทุกขใ์ นโลกใหเ้ หือดหาย
จาเริญตาพาใจใหส้ บาย อีกร่างกายกจ็ ะพลอยสุขสราญ
แมผ้ ใู้ ดไม่นิยมชมส่ิงงาม เม่ือถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร
เพราะขาดเคร่ืองระงบั ดบั ราคาญ โอสถใดจะสมานซ่ึงดวงใจ
ตอนที่ ๓
คาสั่ง ใหน้ กั เรียนถอดคาประพนั ธ์ตอ่ ไปน้ีใหไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์ถูกตอ้ ง
อนั ชาติใดไร้ศานติสุขสงบ ตอ้ งมวั รบราญรอนหาผอ่ นไม่
ณ ชาติน้นั นรชนไมส่ นใจ ในกิจศิลปะวไิ ลละวาดงาม
แตช่ าติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ วา่ งการรบอริพลอนั ลน้ หลาม
ยอ่ มจานงศิลปาสง่างาม เพือ่ อร่ามเรืองระยบั ประดบั ประดา
อนั ชาติใดไร้ช่างช านาญศิลป์ เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า
ใครใครเห็นไมเ่ ป็ นท่ีจาเริญตา เขาจะพากนั เยย้ ใหอ้ บั อาย
ศิลปกรรมนาใจใหส้ ร่างโศก ช่วยบรรเทาทุกขใ์ นโลกใหเ้ หือดหาย
จาเริญตาพาใจใหส้ บาย อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ
แมผ้ ใู้ ดไมน่ ิยมชมส่ิงงาม เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร
เพราะขาดเคร่ืองระงบั ดบั ราคาญ โอสถใดจะสมานซ่ึงดวงใจ
เพราะการช่างน้ีสาคญั อนั วเิ ศษ ทุกประเทศนานาท้งั นอ้ ยใหญ่
จึงยกยอ่ งศิลปกรรมน้นั ทวั่ ไป ศรีวไิ ลวลิ าสดีเป็นศรีเมือง
ใครดูถูกผชู้ านาญในการช่าง ความคิดขวางเฉไฉไม่เขา้ เร่ือง