97
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
รายวิชา คอมพิวเตอร์
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นทา่ เรอื ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
98
คำอธบิ ายรายวชิ าคอมพิวเตอร์
รหสั วิชา ว ๑420๑ รายวชิ าเพ่ิมเตมิ คอมพิวเตอร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลารวม 40 ชั่วโมง/ปี
*********************************************************************************
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาส่วนประกอบ หน้าท่ีการใช้งาน ประโยชน์ ของเครือ่ งคอมพิวเตอร์ การมีบุคลิกภาพในการใช้
งานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีถูกต้อง การบำรุงรักษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์และการแก้ไขอย่างง่าย การสร้างเทคนิค
ท่ีดีในการพิมพ์สัมผัส การเรียนรู้แป้นพิมพ์ การพิมพ์สัมผัส การสร้างเอกสาร และการใช้งานระบบ
อินเทอรเ์ น็ตเบือ้ งตน้
ปฏิบัติการใช้คอมพิวเตอร์ในการศึกษาเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การ
สรา้ งเอกสาร การพมิ พส์ ัมผัส และเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต็
นำความรู้ท่ีได้จากการเรียนรู้เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงานเพ่ือนำไปสู่ การเลือกอาชีพต่อไป
โดยให้มเี จตคติทดี่ แี ละเห็นความสำคัญต่ออาชีพ ดว้ ยความซื่อสัตย์ สุจริต รบั ผดิ ชอบและเห็นคุณค่า
ผลการเรียนรู้
1. อธิบายสว่ นประกอบ หลกั การทำงานและการเลือกใชค้ อมพิวเตอร์ได้
2. บอกลกั ษณะซอฟต์แวร์คอมพิวเตอรแ์ ละการบำรงุ รักษาเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ได้
3. อธิบายการสื่อสารข้อมลู สำหรบั เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ได้
4. อธิบายเกยี่ วกับโปรแกรมการสร้างเอกสารได้
5. สามารถแกไ้ ขข้อความและตกแตง่ งานเอกสารได้
6. สามารถแทรกรปู ภาพและวตั ถุต่าง ๆในเอกสารได้
7. สามารถการกำหนดขนาดกระดาษและเลือกแผ่นงานในการสง่ั พมิ พ์ได้
8. สามารถสร้างชน้ิ งานอย่างมจี ิตสำนกึ และมีความรับผดิ ชอบได้
รวม 8 ผลการเรียนรู้
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นทา่ เรือ ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
99
คำอธิบายรายวิชาคอมพิวเตอร์
รหสั วิชา ว ๑520๑ รายวิชาเพ่ิมเติม คอมพวิ เตอร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลารวม 40 ชวั่ โมง/ปี
*********************************************************************************
คำอธิบายรายวชิ า
ศึกษาบทบาทและหลักการทำงานของเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อมูล และสารสนเทศ ประมวลผล
ระบบการจดั การสารสนเทศคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบ ซอฟแวร์ บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ เครือข่าย
คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต การใช้โปรแกรมในการคำนวณ (โปรแกรม Microsoft Excel) ทักษะการใช้
โปรแกรมตารางคำนวณ ฝกึ ทกั ษะและกระบวนการทำงานเก่ียวกบั ตารางการคำนวณ (Microsoft Excel) การ
เรียกใช้โปรแกรมการสร้างสมุดงานใหม่ การใส่ข้อมูลลงในตาราง ปรับขนาดและช่องตาราง จัดรูปแบบเซลล์
การใส่สูตรคำนวณ คัดลอกข้อมูล คัดลอกสูตร ย้ายข้อมูล ลบเซลล์ แทรกเซลล์ การตั้งช่ือ ย้ายและลบ
Worksheet สร้างกราฟ และการสั่งพิมพ์การทำปฏิทินปฏิบัติงานประจำปีการศึกษา การทำบัญชีรายรับ-
รายจ่ายของตนเอง การออกแบบตารางบันทึกจำนวนนักเรียนในแต่ละช้ันเรียน การทำบัญชีรายช่ือภายใน
ห้องเรียน การเกบ็ บนั ทึกคะแนนและรวมคะแนนของตนเอง
โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศและภูมิปัญญาท้องถิ่น กระบวนการสร้างความคิดรวบ
ยอด กระบวนการฝึกปฏิบัติ กระบวนการออกแบบ กระบวนการจัดการ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการ
คิดวิเคราะห์ มีนิสัยรักการทำงาน รักการค้นคว้า มีความรับผิดชอบ ทำงานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุขมี
สมาธิในการทำงานจนสามารถนำทักษะปฏบิ ตั ิงานไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้
เพื่อนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ในชีวิตประจำวัน มีความมุ่งม่ันในการทำงาน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้
และมีความซ่ือสัตย์สุจริตต่อผลงาน มีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและนำไปใช้ให้
เกดิ ประโยชน์สงู สุด
ผลการเรยี นรู้
1. อธิบายลักษณะการใช้งาน การเรียกใช้และส่วนประกอบหน้าจอของโปรแกรม Microsoft Excel
ได้
2. มที กั ษะในการใชง้ านโปรแกรม Microsoft Excel
3. มเี จตคติท่ดี แี ละเหน็ ประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft Excel
4. สามารถเข้า – ออก โปรแกรม Microsoft Excel ได้อยา่ งถูกวิธี
5. เข้าใจและใชง้ านส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Excel ไดอ้ ยา่ งดี
6. สามารกรอก ปรบั แกข้ ้อมูล สรา้ งตาราง ออกแบบเสน้ และสสี นั ได้
7. สามารถสร้างแผนภูมิแท่ง-วงกลม-เสน้ -แท่งเชิงซ้อน-แทง่ ซ้อนกัน ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
8. สามารถจัดเก็บแฟม้ ข้อมลู ได้อยา่ งถูกต้อง
9. เหน็ คุณคา่ ของการนำเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์มาใช้งาน
รวม 9 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
100
คำอธบิ ายรายวิชาคอมพิวเตอร์
รหัสวชิ า ว ๑620๑ รายวชิ าเพ่ิมเติม คอมพิวเตอร์
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 เวลารวม 40 ชวั่ โมง/ปี
*********************************************************************************
คำอธิบายรายวชิ า
ศึกษาระบบคอมพวิ เตอรส์ ำหรับงานประมวลผลแบบสื่อประสม อุปกรณแ์ สดงผลกราฟิก การ
แสดงผลด้วยภาพ วดี ีโอ เสยี ง อุปกรณ์ประกอบ เชน่ เคร่ืองขับแผ่นบนั ทกึ ซดี ี การด์ ประมวลผลเสียง
วดี ีโอ สแกนเนอร์ เครือ่ งพมิ พส์ ี ฯลฯ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู แบบสอื่ ประสม ภาพ วีดีโอ เสยี ง ขอ้ มูล การ
ใชโ้ ปรแกรมแบบส่ือประสม คำสง่ั ในการดำเนนิ งาน หลกั การกราฟกิ การเขยี นรูปภาพ การเกบ็ รปู ภาพ
การแก้ไข การสรา้ งกราฟ การพัฒนางานเพ่ือนำเสนอ การนำเสนองาน การใชส้ ี การตกแต่งภาพ การ
เชื่อมขอ้ มลู หลกั การสื่อหลายมิติ การสรา้ งขอ้ ความหลายมติ ิ งานประยกุ ตด์ า้ นการศกึ ษา
ปฏบิ ัติการสร้างงานนำเสนอแบบส่อื ประสม และการใชโ้ ปรแกรมนำเสนอแบบสื่อประสม เพือ่
นำเสนองานตา่ ง ๆ
เพอ่ื ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจและสามารถใชเ้ ทคโนโลยแี บบสื่อประสมในการนำเสนองานตา่ ง ๆได้
ผลการเรยี นรู้
1. มคี วามรเู้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกบั โปรแกรมนำเสนอ
2. เขา้ ใจหลกั การสรา้ งผลงานการนำเสนอได้
3. สามารถแก้ไขขอ้ ความและย่อหนา้ ได้
4. สามารถใช้ภาพและกราฟิกในสไลด์ได้
5. สามารถตกแตง่ สี เส้นขอบ การเตมิ สี และภาพ 3 มติ ไิ ด้
6. สามารถสรา้ งแผนภูมิ ตารางและผังองคก์ รได้
7. มที ักษะในการสร้างผลงานการนำเสนอได้
8. ปฏบิ ตั ิการเตรยี มงานนำเสนอและการนำเสนองานได้
รวม 8 ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทา่ เรือ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
101
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
วชิ า การปอ้ งกันการทุจรติ
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นท่าเรือ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
102
คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ หลกั สตู รต้านทจุ ริต
ส๑๑๒๐๒ หลักสูตรตา้ นทุจริต ๑ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษาฯ
ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี
*ค*ำ*อ**ธ*บิ *า*ย*ร*า*ย*ว*ชิ *า********************************************************************
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การ
สอบ กิจกรรมนกั เรียน STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต ความพอเพียง ความโปร่งใส ต้านทุจริต ความ
เอื้ออาทร รู้หน้าท่ีของพลเมืองและรับผิดชอบต่อสังคม ความหมายบทบาทและสิทธิ การเคารพสิทธิหน้าท่ีต่อ
ตนเองและผู้อื่น ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อตนเองกับต่อผู้อื่น) ความเป็นพลเมืองใน
การต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงาน
กระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการ
เขียน เพื่อให้มีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการต่อต้านและการป้องกนั การทจุ รติ
ผลการเรียนรู้
๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม
2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต
3. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั STRONG/จติ พอเพียงต่อต้านการทจุ รติ
4. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั พลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
5. สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวมได้
6. ปฏิบัติตนเปน็ ผลู้ ะอายและไม่ทนต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ
7. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผูท้ ่ี STRONG/จิตพอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต
8. ปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทพี่ ลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม
9. ตระหนักและเห็นความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทุจรติ
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้
หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
103
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ หลักสูตรตา้ นทุจริต
ส๑2๒๐๒ หลักสูตรต้านทุจริต 2 กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษาฯ
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี
*ค*ำ*อ**ธ*บิ *า*ย*ร*า*ย*ว*ิช*า********************************************************************
ศึกษาเก่ียวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไม่ทน
ต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ กิจกรรมนักเรียน STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต
ความพอเพียง ความโปร่งใส ต้านทจุ ริต ความเอ้ืออาทร รู้หน้าทขี่ องพลเมืองและรบั ผิดชอบตอ่ สังคม เร่ืองการ
เคารพสิทธิหนา้ ที่ต่อตนเองและผู้อื่น การเคารพสิทธิหน้าที่ต่อชุมชนและสังคม ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย
ความรับผิดชอบ (ต่อห้องเรียน) คุณลักษณะของพลเมืองที่ดี หน้าที่ของพลเมืองท่ีดีในการต่อต้านการทุจริต
โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕
ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน เพ่ือให้มีความตระหนัก
และเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและการป้องกันการทุจริต
ผลการเรยี นรู้
๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม
2. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต
3. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั STRONG/จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับพลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม
5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชน์สว่ นรวมได้
6. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทุกรูปแบบ
7. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้ทู ี่ STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต
8. ปฏิบตั ิตนตามหน้าท่พี ลเมืองและมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม
9. ตระหนกั และเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
104
คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติมหลักสูตรต้านทจุ ริต
ส๑3๒๐๒ หลกั สูตรต้านทุจรติ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาฯ
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
**********************************************************************************
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม การขัดกันระหว่าง
ประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร
การสอบ การแต่งกาย กิจกรรมส่งเสริมความถนัดและความสนใจ STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต
ความพอเพียง ความโปร่งใส ต้านทุจริต ความเอื้ออาทร พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่องการ
เคารพสิทธิหน้าที่ต่อตนเองและผู้อื่นที่มีต่อชุมชน เรื่องการเคารพสิทธิหน้าที่ต่อตนเองและผู้อื่นที่มีต่อ
ประเทศชาติ ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อโรงเรยี น) ความเป็นพลเมืองในการต่อต้าน
การทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการ
เรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน เพื่อให้มี
ความตระหนักและเหน็ ความสำคัญของการต่อต้านและการป้องกนั การทจุ ริต
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม
2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต
3. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต
4. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้
6. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูล้ ะอายและไมท่ นต่อการทจุ ริตทุกรปู แบบ
7. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้ทู ี่ STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต
8. ปฏิบตั ิตนตามหนา้ ทพี่ ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
9. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ ริต
รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
105
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติมหลักสตู รตา้ นทจุ รติ
ส๑4๒๐๒ หลกั สูตรตา้ นทุจริต 4 กลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษาฯ
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
**********************************************************************************
คำอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและการทุจริต ประโยชน์ส่วนตนและ
ประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ การแต่ง
กาย กิจกรรมนักเรียน (ภายในโรงเรียน) การเข้าแถว STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต การดำรงชีวิตตาม
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความโปร่งใส ความตื่นรู้/ความรู้ ต้านทุจริต มุ่งไปข้างหน้า ความเอื้ออาทร
พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เร่ืองการเคารพสิทธิหน้าท่ีต่อตนเองและผู้อ่ืนที่มีต่อครอบครัว ระเบียบ กฎ
กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อชุมชน) ความเป็นพลเมืองในการต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด
วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ข้ันตอน (๕ STEPs) การ
อภิปราย การสืบสอบ การแก้ปญั หา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มีความตระหนกั และเห็นความสำคัญ
ของการต่อตา้ นและการป้องกนั การทจุ รติ
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม
2. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
3. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับพลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม
5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้
6. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้ลู ะอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ
7. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
8. ปฏิบัตติ นตามหน้าท่พี ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
9. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่าเรอื ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
106
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติมหลักสูตรตา้ นทจุ รติ
ส๑5๒๐๒ หลกั สตู รตา้ นทุจริต 5 กลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษาฯ
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
**********************************************************************************
คำอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและการทุจริต ประโยชน์ส่วนตนและ
ประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ การแต่ง
กาย กิจกรรมนักเรียน (ภายในโรงเรียน) การเข้าแถว STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต การดำรงชีวิตตาม
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความโปร่งใส ความตื่นรู้/ความรู้ ต้านทุจริต มุ่งไปข้างหน้า ความเอื้ออาทร
พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เร่ืองการเคารพสิทธิหน้าท่ีต่อตนเองและผู้อ่ืนที่มีต่อครอบครัว ระเบียบ กฎ
กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อชุมชน) ความเป็นพลเมืองในการต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด
วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ข้ันตอน (๕ STEPs) การ
อภิปราย การสืบสอบ การแก้ปญั หา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มีความตระหนกั และเห็นความสำคัญ
ของการต่อตา้ นและการป้องกนั การทจุ รติ
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม
2. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
3. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับพลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม
5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้
6. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้ลู ะอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ
7. ปฏิบตั ติ นเป็นผทู้ ี่ STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
8. ปฏิบัตติ นตามหน้าท่พี ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
9. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่าเรอื ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
107
คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติมหลักสตู รตา้ นทจุ รติ
ส๑6๒๐๒ หลกั สูตรตา้ นทุจริต 6 กลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษาฯ
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี
**********************************************************************************
คำอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ
ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและการทุจริต ประโยชน์ส่วนตนและ
ประโยชน์ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทำการบ้าน การทำเวร การสอบ การแต่ง
กาย กิจกรรมนักเรียน (ภายในโรงเรียน) การเข้าแถว STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต การดำรงชีวิตตาม
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความโปร่งใส ความตื่นรู้/ความรู้ ต้านทุจริต มุ่งไปข้างหน้า ความเอื้ออาทร
พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เร่ืองการเคารพสิทธิหน้าท่ีต่อตนเองและผู้อ่ืนที่มีต่อครอบครัว ระเบียบ กฎ
กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อชุมชน) ความเป็นพลเมืองในการต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด
วิเคราะห์ จำแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทำโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ข้ันตอน (๕ STEPs) การ
อภิปราย การสืบสอบ การแก้ปญั หา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มีความตระหนกั และเห็นความสำคัญ
ของการต่อตา้ นและการป้องกนั การทจุ รติ
ผลการเรียนรู้
๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม
2. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
3. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
4. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับพลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม
5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้
6. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้ลู ะอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ ทุกรปู แบบ
7. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต
8. ปฏิบัตติ นตามหน้าท่พี ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม
9. ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต
รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่าเรอื ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
108
คำอธิบายรายวชิ า
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทา่ เรือ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
109
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พัฒนาอย่างรอบด้านเพ่ือความเป็น
มนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบ
วินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่น
อย่างมีความสขุ
จดุ มุ่งหมายของกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนมจี ดุ มงุ่ หมายใหผ้ เู้ รยี นไดร้ ับการพัฒนา ดังน้ี
๑) พัฒนาองค์ความรู้ของความเปน็ มนษุ ย์ให้ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม
๒) พัฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพ โดยม่งุ เน้นเพิม่ เตมิ จากกิจกรรมทีไ่ ดจ้ ัด
ใหผ้ ูเ้ รยี นเรียนรู้ตามกลมุ่ สาระการเรยี นรูท้ ้ัง ๘ กลุม่
๓) เข้าร่วมและปฏิบตั กิ จิ กรรมที่เลอื กตามความถนัดและความสนใจของตนเอง
ขอบขา่ ยของกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น ๓ ลักษณะ คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และ
กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ซึ่งสถานศึกษาสามารถจัดแยกหรือบูรณาการไว้ด้วยกันก็ได้ และจัด
ได้หลากหลายรปู แบบและวธิ ีการ โดยมีขอบขา่ ยดงั น้ี
๑) เป็นกิจกรรมท่ีเก้ือกูล ส่งเสริมการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม สาระการเรียนรู้ให้กว้างขวาง ลึกซึ้ง
ยง่ิ ขึ้น ในรปู แบบของการปฏิบัติตามโครงการ / โครงงาน ในลกั ษณะเป็นกระบวนการ
๒) เชิงบูรณาการ โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม เป็นพ้ืนฐานและเป็นกิจกรรมท่ีสนองความ
สนใจ ความถนัด ความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคลในลักษณะชมรม
ชุมนมุ กลุ่มสนใจ เน้นการให้ผเู้ รียนเห็นคณุ คา่ ของวชิ าความรูอ้ าชีพ และการดำเนนิ ชวี ิตท่ดี งี าม
ตลอดจนเหน็ ช่องทางในการประกอบอาชพี
๓) เปน็ กิจกรรมทปี่ ลูกฝงั และสร้างจิตสำนึกในการทำกิจกรรมท่ีเป็นประโยชนต์ ่อสังคมในลักษณะ
ต่างๆ ให้สามารถจัดการกับชีวิตและสังคมได้ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ รักและเห็นคุณค่าใน
ตนเองและผู้อ่ืน มีค่านิยมในความดีงาม มีวินัยในตนเอง มีคุณธรรมและจริยธรรม ตลอดจน
อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
๔) เป็นกิจกรรมท่ีฝึกการทำงานและการให้บริการด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ส่วนรวม เพ่ือ
เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอ้ืออาทร ความเป็นพลเมืองดี และรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และ
สงั คม
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นท่าเรือ ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
110
กจิ กรรมแนะแนว
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทา่ เรือ ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
111
คำอธิบายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น กิจกรรมแนะแนว
ช้ันประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี
*********************************************************************************
รู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติท่ีดีต่อ
การมีชวี ิตทีด่ ีมคี ุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวติ สามารถปรบั ตัวใหด้ ำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพ
อย่างหลากหลาย มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจรติ รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทางในการประกอบอาชีพ
ได้อย่างเหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพ่ือประกอบอาชีพตามที่ตนเองมีความถนัดและ
สนใจ มีคุณลักษณะพ้ืนฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้าง
ฐานะทางเศรษฐกจิ ให้กบั ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและประเทศชาติ
พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอยา่ งเต็มศักยภาพ รู้จกั แสวงหาความรู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนให้เป็นคนดีมีความรู้
และทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ มีวิธีการเรียนรู้ มีทักษะการคิด แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คิดเป็น ทำเป็น มีคุณธรรม
จริยธรรม เอ้อื อาทรและสมานฉนั ท์ เพ่อื ดำรงชีวติ อยู่รวมกนั อย่างสงบสุขตามวถิ ชี วี ิตเศรษฐกิจพอเพียง
เพ่อื ให้ผ้เู รียนเกิดการเรียนรู้ ร้จู ัก เข้าใจ รักและเหน็ คุณค่าในตนเองและผูอ้ ื่น เกิดการเรียนร้สู ามารถ
วางแผนการเรียนรู้ อาชีพ รวมท้ังการดำเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรู้สามารถปรับตัวได้
อย่างเหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะในการเลือกแนวทางการศึกษา การ
งานและอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจิตท่ีดีและจิตสำนึกในการทำประโยชน์ต่อครอบครัว สังคมและ
ประเทศชาตติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรยี นรู้
๑. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ รู้จัก เขา้ ใจ รัก และเหน็ คุณค่าในตนเองและผู้อน่ื
๒. เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรียน การศึกษาต่อ อาชีพ รวมทั้งการ
ดำเนินชีวิต และมีทักษะทางสงั คม
๓. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่าง
เหมาะสม
๔. สามารถประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้
รวม ๔ ผลการเรยี นรู้
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทา่ เรือ ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
112
กจิ กรรมลกู เสือ
เนตรนารี
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านทา่ เรือ ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
113
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน คำอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น
ช้นั ประถมศึกษาปที ี ๑ กจิ กรรมนักเรยี น (เตรียมลูกเสือสำรองและลกู เสอื สำรองดาวดวงที่ ๑)
เวลา ๓๐ ชัว่ โมง/ปี
*********************************************************************************
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่และปฏิบัตกิ ิจกรรมตามคำปฏิญาณและกฎของ
ลูกเสือสำรอง เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์
ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลการ
ปฏิบตั กิ ิจกรรม ปดิ ประชมุ กอง ในเรือ่ งตอ่ ไปนี้
๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเร่ิมกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว เบื้องต้น คำ
ปฏิญาณ กฎและคติพจนข์ องลกู เสอื สำรอง
๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหา
ธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธงและประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การ
บันเทิง การผกู เงื่อน คำปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสำรอง
เพ่อื ให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ สามารถปฏบิ ัติตามคำปฏญิ าณ
กฎ และคติ
พจน์ของลกู เสือสำรอง มีนิสยั ในการสังเกต จดจำ เช่อื ฟังและพึ่งตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจรติ มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน รู้จักบำเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำ
กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่ันคงของชาติ
และสามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
๑. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพ่งึ พาตนเองได้
๒. มีความซอ่ื สัตย์ สุจรติ มรี ะเบียบวินยั และเห็นอกเหน็ ใจผ้อู ื่น
๓. บำเพญ็ ตนเพือ่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรมประเพณี ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ และ ความมน่ั คง
๖. อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ สิง่ แวดล้อมและลดภาวะโลกร้อน
๗. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้
รวม ๗ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านท่าเรอื ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
114
กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
ชั้นประถมศึกษาปที ี ๒ กจิ กรรมนักเรียน (ลกู เสอื สำรองดาวดวงที่ ๒)
เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
*********************************************************************************
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎ
ของลูกเสือสำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองท่ีมีความเป็น
เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติ
กิจกรรม ปิดประชมุ กองในเรือ่ งต่อไปนี้
ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเร่ิมกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรใน
ชุมชนท้องถ่ิน ความปลอดภัย บริการ การผูกเง่ือน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ใน
ทอ้ งถน่ิ กิจกรรมกลางแจ้ง การบนั เทงิ ทสี่ ่งเสรมิ สุขภาพกายสุขภาพจติ และอนุรักษ์ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น อนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ิ่งแวดลอ้ มลดภาวะโลกร้อน
เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ
กฎและคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟังและพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริต
มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝน
ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง
ผลการเรียนรู้
1. มนี ิสัยในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพง่ึ ตนเองได้
2. มีความซ่อื สตั ย์ สุจริต มีระเบยี บวินัย และเหน็ อกเห็นใจผอู้ ืน่
3. บำเพญ็ ตนเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
4. ทำการฝีมือและฝึกฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
5. รักษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่ินและความมนั่ คงของชาติ
6. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียงได้
รวม ๖ ผลการเรียนรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
115
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น คำอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น
ช้นั ประถมศึกษาปที ี ๓ กิจกรรมนกั เรียน (ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓)
เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี
*********************************************************************************
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎ
ของลูกเสือสำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเป็น
เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏิบัติ
กิจกรรม ปิดประชมุ กองในเร่ืองตอ่ ไปน้ี
ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเร่ิมกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่
(แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรใน
ชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือท่ีใช้วัสดุเหลือใช้ใน
ทอ้ งถ่ิน กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทงิ ที่ส่งเสริมสุขภาพกายสขุ ภาพจิตและอนุรกั ษ์ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน อนรุ ักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อมลดภาวะโลกร้อน
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ
และคติพจน์ของลกู เสือสำรอง มนี ิสยั ในการสงั เกต จดจำ เชอื่ ฟังและพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง
ผลการเรยี นรู้
๑. มนี สิ ัยในการสงั เกต จดจำ เช่อื ฟงั และพง่ึ ตนเองได้
๒. มีความซอื่ สัตย์ สจุ ริต มีระเบยี บวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อนื่
๓. บำเพ็ญตนเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์
๔. ทำการฝมี อื และฝกึ ฝนทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และความม่ันคงของชาติ
๖. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงได้
รวม ๖ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
116
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที ๔ กิจกรรมนกั เรยี น (ลูกเสอื สามญั (ลกู เสอื ตร)ี )
เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
*********************************************************************************
เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์
และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็น
เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง ความรูเ้ กี่ยวกับกระบวนการลูกเสือ ประวัติของ Load Baden Powell พระราชประวัติ
สังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยู่หัว วิวัฒนาการของกระบวนการ ลูกเสือไทยและลูกเสือโลก
การทำความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถวท่ามือเปล่า ท่ามือไม้
พลวง การใชส้ ญั ญามอื และนกหวีด การต้ังแถวและการเรยี นแถว
เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ
พจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำ
กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม
และความมนั่ คง ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
ผลการเรียนรู้
1. มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เช่ือฟงั และพึง่ ตนเองได้
2. มีความซื่อสัตยส์ จุ รติ มีระเบียบ วินยั และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ นื่
3. บำเพ็ญตนเพอ่ื ส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์
4. ทำการฝมี ือและฝกึ ฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ
5. รักษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถิ่น และความม่ันคงของชาติ
6. อนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น
7. สามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรอื ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
117
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที ๕ กิจกรรมนักเรียน ( กจิ กรรมลกู เสือสามัญ (ลูกเสอื โท) )
เวลา ๓๐ ช่ัวโมง/ปี
*********************************************************************************
เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัตกิ ิจกรรมตามคำปฏิญาณ คตพิ จน์
และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญที่มีความเป็น
เอกลักษณ์ ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง โดยใชท้ ักษะในทางวชิ าลูกเสือ การรู้จกั ดูแลตนเอง การชว่ ยเหลือผูอ้ ่ืน การเดนิ ทางไปยัง
สถานทีต่ า่ ง ๆ ทำงานอดเิ รก และเรอื่ งท่สี นใจ
เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ
พจน์ของลกู เสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบ
วินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำ
กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รกั ษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม
และความมนั่ คง ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ผลการเรียนรู้
1. มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟงั และพึ่งตนเองได้
2. มคี วามซือ่ สตั ยส์ ุจริต มรี ะเบยี บ วนิ ยั และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ น่ื
3. บำเพ็ญตนเพอื่ ส่งเสรมิ และสาธารณะประโยชน์
4. ทำการฝมี อื และฝกึ ฝนทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ
5. รักษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ และความมั่นคงของชาติ
6. อนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น
7. สามารถประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
118
กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน คำอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
ช้ันประถมศกึ ษาปีที ๖ กจิ กรรมนกั เรียน ( กิจกรรมลกู เสอื สามญั (ลูกเสอื เอก) )
เวลา ๓๐ ช่วั โมง/ปี
*********************************************************************************
เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ
สามญั วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพ่งึ ตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิกลูกเสือสามัญ
ท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิ
ปัญญาท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการปฏิบัติกิจกรรม
เพือ่ การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกร้อน
เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์
ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพึ่งตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจรติ มีระเบียบวินัย
และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรม
ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและ
ความม่นั คง ประโยชน์และสามารถประยุกตใ์ ช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ผลการเรียนรู้
1. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟังและพ่ึงตนเองได้
2. มีความซอ่ื สัตยส์ ุจริต มรี ะเบียบ วนิ ยั และเหน็ อกเห็นใจผ้อู ืน่
3. บำเพญ็ ตนเพ่อื ส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์
4. ทำการฝมี อื และฝกึ ฝนทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ
5. รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ และความมั่นคงของชาติ
6. อนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน
7. สามารถประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
รวม ๗ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓
119
กิจกรรมเพอ่ื สงั คม
และสาธารณประโยชน์
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นท่าเรอื ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
120
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น คำอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
ช้นั ประถมศึกษาปีที ๑ - ๖ กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์
เวลา ๑๐ ชั่วโมง/ปี
*********************************************************************************
ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมท่ีหลากหลาย ฝึกการทำงานที่สอดคล้องกับชีวิต
จริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็น
ระบบ เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ต่อ
ตนเองและส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอ้ืออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง
ครอบครัวและสังคม คดิ ออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จติ อาสา เพ่อื แสดงความ
รับผิดชอบตอ่ สังคมตามแนวทางวถิ ชี ีวิตเศรษฐกจิ พอเพียง
เพ่ือให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความ
สนใจในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ได้
อย่างมีประสิทธิภาพเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ มีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียงได้
ผลการเรยี นรู้
1.บำเพญ็ ตนให้เป็นประโยชนต์ ่อครอบครวั โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ
2.ออกแบบการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและ
ความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร
3.สามารถพัฒนาศักยภาพในการจดั กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
4.ปฏิบัติกิจการเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตามคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
5.สามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้
รวม ๕ ผลการเรียนรู้
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นท่าเรือ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓
121
กิจกรรม
ชมุ นมุ
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
122
กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน คำอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ กิจกรรมนักเรยี น (กิจกรรมชุมนมุ )
เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี
*********************************************************************************
ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการ เพอื่ พฒั นาความรู้ ความสามารถดา้ น
การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ทั้งด้านวิชาการ และพ้ืนฐานอาชีพ ทักษะชีวิตและสังคมตาม
ศักยภาพอย่างรอบด้าน เพ่ือความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความสามารถในการสื่อสาร มีทักษะการคิด
แก้ปัญหา ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาทักษะในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้
อย่างมีความสุข รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ
ทำงานรักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ
เพื่อให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ได้พัฒนา
ความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิดประสบการณ์ทั้งทักษะทางวิชาการ ทักษะ
อาชีพ ทักษะชีวิตและสังคมตามศักยภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ทำได้
ทำงานรว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย และประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้อยา่ งเหมาะสม
ผลการเรยี นรู้
1.ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั และความตอ้ งการของตน
2.มีความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ ท้ังทางวิชาการ
และวิชาชีพตามศักยภาพ
3.ใช้เวลาว่างใหเ้ กดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
4.มุ่งมัน่ ในการทำงานและทำงานร่วมกับผอู้ ่ืนได้ตามวถิ ีประชาธิปไตย
5.ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างเหมาะสม
รวม ๕ ผลการเรยี นรู้
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นท่าเรือ ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ส่วนที่ ๔
เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา
หลักสูตรโรงเรียนบา้ นท่าเรือ (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดเกณฑส์ ำหรบั การจบการศึกษา ดังนี้
เกณฑก์ ารจบระดับประถมศึกษา
๑. ผู้เรียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน จำนวน ๘๔๐ ช่ัวโมง และรายวิชาเพ่ิมเติมจำนวน ๘๐ ช่ัวโมง
และมีผลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐานผา่ นทกุ รายวชิ า
๒. ผู้เรยี นตอ้ งมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ระดับ “ผา่ น” ข้ึนไป
๓. ผเู้ รียนมผี ลการประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับ “ผ่าน” ข้ึนไป
๔. ผู้เรียนต้องเขา้ รว่ มกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนและไดร้ ับการตดั สินผลการเรยี น “ผา่ น” ทกุ กจิ กรรม
การจัดการเรยี นรู้
การจัดการเรยี นรู้เป็นกระบวนการสำคญั ในการนำหลักสตู รสู่การปฏิบัติ หลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ข้ันพื้นฐาน เป็นหลักสูตรท่ีมีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
เป็นเปา้ หมายสำหรบั พฒั นาเด็กและเยาวชน
ในการพฒั นาผู้เรียนให้มีคุณสมบตั ิตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคดั สรร กระบวนการเรียนรู้
จดั การเรียนรโู้ ดยช่วยให้ผเู้ รียนเรียนรู้ผ่านสาระท่ีกำหนดไวใ้ นหลักสูตร ๘ กลุม่ สาระการเรียนรู้ รวมทงั้ ปลูกฝัง
เสรมิ สร้างคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พฒั นาทกั ษะตา่ งๆ อนั เป็นสมรรถนะสำคญั ใหผ้ ู้เรียนบรรลุตามเปา้ หมาย
๑. หลกั การจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรูเ้ พื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี
ความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ คำนึงถึง
ความแตกตา่ งระหว่างบุคคลและพฒั นาการทางสมองเน้นให้ความสำคญั ทั้งความรู้ และคณุ ธรรม
๒. กระบวนการเรยี นรู้
การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เป็น
เคร่ืองมือท่ีจะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทางสังคม
กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณจ์ ริง กระบวนการปฏิบัติ ลง
มือทำจริง กระบวนการจัดการ กระบวนการวิ จัย กระบวนการเรียนรู้การเรียนรู้ของตนเอง
กระบวนการพฒั นาลักษณะนสิ ัย
124
กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ
สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ดังน้ัน ผู้สอน จึงจำเป็นต้องศึกษาทำ
ความเข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพ่ือให้สามารถเลือกใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
๓. การออกแบบการจัดการเรียนรู้
ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด สมรรถนะสำคัญของ
ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ
จัดการเรียนรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผู้เรียน
ได้พฒั นาเตม็ ตามศักยภาพและบรรลตุ ามเป้าหมายที่กำหนด
๔. บทบาทของผสู้ อนและผูเ้ รียน
การจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ท้ังผู้สอนและผู้เรียนควรมี
บทบาท ดงั นี้
๔.๑ บทบาทของผสู้ อน
๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการ
เรียนรู้ ที่ท้าทความสามารถของผเู้ รียน
๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ท่ี
เป็นความคดิ รวบยอด หลกั การ และความสมั พนั ธ์ รวมทั้งคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ
พฒั นาการทางสมอง เพ่ือนำผเู้ รียนไปสู่เป้าหมาย
๔) จดั บรรยากาศทเี่ อ้ือตอ่ การเรียนรู้ และดแู ลชว่ ยเหลอื ผูเ้ รียนให้เกดิ การเรียนรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่
เหมาะสมมาประยุกตใ์ ช้ในการจัดการเรียนการสอน
๖) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติของ
วชิ า
และระดับพัฒนาการของผเู้ รียน
๗) วิเคราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสริมและพัฒนาผู้เรียน รวมท้ังปรับปรุงการ
จัดการเรยี นการสอนของตนเอง
๔.๒ บทบาทของผู้เรียน
๑) กำหนดเปา้ หมาย วางแผน และรับผดิ ชอบการเรียนรขู้ องตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ต้ังคำถาม คิดหา
คำตอบหรือหาแนวทางแก้ปญั หาดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ
๓) ลงมือปฏิบัติจริง สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์
ตา่ งๆ
หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นท่าเรือ ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
125
๔) มีปฏสิ ัมพนั ธ์ ทำงาน ทำกจิ กรรมรว่ มกับกลุ่มและครู
๕) ประเมินและพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ของตนเองอยา่ งต่อเนื่อง
สือ่ การเรยี นรู้
ส่ือการเรียนรู้เป็นเคร่ืองมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้
ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่ือการเรียนรู้มี
หลากหลายประเภท ท้ังสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ ส่ือเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ ที่มีในท้องถ่ิน
การเลือกใชส้ ือ่ ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพฒั นาการ และลีลาการเรียนรทู้ ี่หลากหลายของผูเ้ รยี น
การจัดหาส่ือการเรียนรู้ ผ้เู รียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาข้ึนเอง หรอื ปรับปรงุ เลือกใช้อย่าง
มีคณุ ภาพจากสื่อต่างๆ ที่มอี ยู่รอบตัวเพ่ือนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนร้ทู ่ีสามารถส่งเสริมและส่อื สารให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพ่ือพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่าง
แท้จริง สถานศึกษา เขตพ้ืนที่การศึกษา หน่วยงานที่เก่ียวข้องและผู้มีหน้าท่ีจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ควร
ดำเนินการดังนี้
๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพท้ังในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปล่ียน
ประสบการณ์การเรียนรู้ ระหวา่ งสถานศกึ ษา ทอ้ งถิ่น ชุมชน สงั คมโลก
๒. จัดทำและจัดหาส่ือการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมท้ัง
จดั หาสิง่ ที่มอี ยใู่ นท้องถน่ิ มาประยกุ ตใ์ ช้เปน็ ส่อื การเรยี นรู้
๓. เลือกและใช้ส่ือการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ
เรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลของผเู้ รยี น
๔. ประเมนิ คุณภาพของสอ่ื การเรยี นรู้ท่ีเลือกใช้อย่างเป็นระบบ
๕. ศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั เพือ่ พฒั นาส่ือการเรยี นรใู้ ห้สอดคลอ้ งกับกระบวนการเรียนรขู้ องผู้เรยี น
๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับส่ือและการใช้สื่อ
การเรียนรู้เปน็ ระยะๆ และสม่ำเสมอ
ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา ควรคำนึงถึง
หลักการสำคัญของส่ือการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ
กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เน้ือหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคง
ของชาติ ไม่ขดั ต่อศลี ธรรม มกี ารใช้ภาษาท่ถี ูกตอ้ ง รูปแบบการนำเสนอทีเ่ ข้าใจงา่ ย และนา่ สนใจ
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนร้ขู องผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพ้ืนฐานสองประการ คือ การประเมิน
เพ่ือพัฒนาผู้เรียนและเพ่ือตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จ
นั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัดเพ่ือให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อน
สมรรถนะสำคัญ และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผูเ้ รียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการ
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
126
เรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรยี น ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และระดับชาติ การ
วัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็น
ประโยชนต์ อ่ การส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ การพฒั นาและเรียนรอู้ ยา่ งเต็มตามศกั ยภาพ
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา
ระดับเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา และระดบั ชาติ มรี ายละเอียด ดังน้ี
๑. การประเมนิ ระดบั ช้นั เรียน เป็นการวัดและประเมนิ ผลท่ีอยูใ่ นกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน
ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น
การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินช้ินงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสม
งาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อน
ประเมินเพอื่ น ผู้ปกครองรว่ มประเมิน ในกรณีทไ่ี ม่ผา่ นตวั ชี้วดั ให้มีการสอนซ่อมเสริม
การประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้
อันเป็นผลมาจากการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื ไม่ และมากน้อยเพียงใด มีส่ิงท่ีจะต้องได้รบั การพัฒนา
ปรับปรงุ และส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยงั เป็นข้อมูลให้ผู้สอนใชป้ รับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้
โดยสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ดั
๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินท่ีสถานศึกษาดำเนินการเพ่ือตัดสินผล การเรียน
ของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์
และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อ
การเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมท้ังสามารถนำผลการเรียนของ
ผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและ
สารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพ่ือการ
จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการ
รายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา สำนักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ผู้ปกครองและชุมชน
๓. การประเมินระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่
การศกึ ษาตามมาตรฐานการเรยี นรู้ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน เพ่อื ใช้เป็นขอ้ มลู พ้ืนฐานในการ
พัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพ้ืนที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมิน
คุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือด้วย
ความรว่ มมอื กบั หน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจดั สอบ นอกจากน้ียังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูล
จากการประเมนิ ระดับสถานศกึ ษาในเขตพืน้ ที่การศึกษา
๔. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคณุ ภาพผ้เู รยี นในระดับชาติตามมาตรฐานการเรยี นรู้ตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนท่ีเรียน ในช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพ
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่าเรือ ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
127
การศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูล
สนบั สนนุ การตดั สินใจในระดับนโยบายของประเทศ
ขอ้ มลู การประเมินในระดับตา่ งๆ ข้างตน้ เป็นประโยชน์ตอ่ สถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา
คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาท่ีจะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข
ส่งเสริมสนับสนุนเพ่ือให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพ้ืนฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนก
ตามสภาพปญั หาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรยี นทั่วไป กลุ่มผเู้ รียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนท่ี
มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลมุ่ ผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่ม
ผู้เรยี นทม่ี ีปญั หาทางเศรษฐกจิ และสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมิน
จึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการ
พฒั นาและประสบความสำเร็จในการเรยี น
สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะตอ้ งจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการ
เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกำหนดของหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน เพ่อื ให้บคุ ลากรที่เก่ียวข้องทกุ ฝ่ายถือปฏิบตั ิร่วมกนั
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่าเรอื ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
128
เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการเรียน
๑. การตดั สนิ การให้ระดบั และการรายงานผลการเรียน
๑.๑ การตัดสินผลการเรยี น
ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็น
หลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมท้ังสอนซ่อมเสริม
ผูเ้ รยี นใหพ้ ัฒนาจนเตม็ ตามศักยภาพ
ระดบั ประถมศึกษา
(๑) ผู้เรียนต้องมเี วลาเรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้ังหมด
(๒) ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมินทุกตวั ชี้วดั และผา่ นตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากำหนด
(๓) ผ้เู รยี นต้องไดร้ บั การตดั สินผลการเรยี นทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนด
ในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน
การพิจารณาเล่ือนช้ัน ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า
สามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพนิ ิจของสถานศกึ ษาทจี่ ะผ่อนผันให้เลือ่ นช้นั ได้ แตห่ ากผู้เรยี น
ไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นท่ีสูงขึ้น สถานศกึ ษาอาจตั้ง
คณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำช้ันได้ ท้ังนี้ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของผู้เรียนเป็น
สำคัญ
๑.๒ การให้ระดับผลการเรียน
ระดบั ประถมศึกษา ในการตัดสินเพื่อใหร้ ะดับผลการเรียนรายวชิ า สถานศกึ ษาสามารถใหร้ ะดับ
ผลการเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตัวอักษร ระบบร้อยละ และ
ระบบทใ่ี ชค้ ำสำคญั สะทอ้ นมาตรฐาน
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผล การ
ประเมนิ เปน็ ดเี ยีย่ ม ดี และผา่ น
การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ
กิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นผ่าน และ
ไม่ผา่ น
๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรยี นเป็นการสอื่ สารใหผ้ ูป้ กครองและผู้เรียนทราบความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้
ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ
หรอื อย่างน้อยภาคเรยี นละ ๑ ครงั้
การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนท่ีสะท้อน
มาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้
หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นท่าเรือ ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
129
๒. เกณฑ์การจบการศกึ ษา
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน กำหนดเกณฑก์ ลางสำหรับการจบการศึกษาเปน็ ๑ ระดบั คือ
ระดบั ประถมศกึ ษา
๒.๑ เกณฑ์การจบระดบั ประถมศึกษา
(๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนท่ี
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานกำหนด
(๒) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ีสถานศึกษา
กำหนด
(๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน
ตามทส่ี ถานศกึ ษากำหนด
(๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากำหนด
(๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี
สถานศกึ ษากำหนด
สำหรับการจบการศึกษาสำหรบั กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มี
ความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย ให้
คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพื้นทก่ี ารศึกษา และผู้ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ดำเนินการวัดและประเมนิ ผล การเรียนรู้
ตามหลักเกณฑ์ในแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
เอกสารหลกั ฐานการศึกษา
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศท่ีเกี่ยวข้อง
กับพัฒนาการของผูเ้ รียนในดา้ นต่าง ๆ แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ดงั นี้
๑. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธกิ ารกำหนด
๑.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของ
ผู้เรยี นตามรายวิชา ผลการประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์
ของสถานศึกษา และผลการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารนี้
ใหผ้ ูเ้ รยี นเป็นรายบคุ คล เมื่อผู้เรยี นจบการศึกษาระดับประถมศกึ ษา (ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖)
๑.๓ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึกรายชื่อ
และข้อมูลของผู้จบการศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา (ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖)
๒. เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษากำหนด
เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เก่ียวกับ
ผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวิชา ระเบียนสะสม ใบรับรอง
ผลการเรียน และ เอกสารอน่ื ๆ ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการนำเอกสารไปใช้
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
130
การเทยี บโอนผลการเรยี น
สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่างๆได้แก่ การย้ายสถานศึกษา การ
เปล่ียนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศึกษาต่อ การศึกษาจาก
ต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากน้ี ยังสามารถเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จาก
แหลง่ การเรียนร้อู ่ืนๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชีพ การจดั การศึกษาโดย
ครอบครวั
การเทียบโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรก หรือต้นภาคเรียนแรก ท่ี
สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ทั้งนี้ ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเน่ืองใน
ส ถ า น ศึ ก ษ า ท่ี รั บ เที ย บ โอ น อ ย่ า ง น้ อ ย ๑ ภ า ค เรี ย น โด ย ส ถ า น ศึ ก ษ า ที่ รั บ ผู้ เรี ย น จ า ก
การเทียบโอนควรกำหนดรายวชิ า/จำนวนหนว่ ยกิตทีจ่ ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม
การพจิ ารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนนิ การได้ ดังน้ี
๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา และเอกสารอ่ืนๆ ที่ให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถของ
ผเู้ รียน
๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผเู้ รียนโดยการทดสอบด้วยวธิ ีการตา่ งๆ ทั้งภาคความรแู้ ละ
ภาคปฏบิ ัติ
๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏิบตั ิในสภาพจรงิ
การเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ปน็ ไปตาม ประกาศ หรอื แนวปฏิบตั ิ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ
การบรหิ ารจัดการหลกั สตู ร
ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถ่ินและสถานศึกษามีบทบาทในการพัฒนาหลักสูตร
นั้น หน่วยงานต่างๆ ที่เก่ียวข้องในแต่ละระดับ ต้ังแต่ระดับชาติ ระดับท้องถ่ิน จนถึงระดับสถานศึกษา มี
บทบาทหนา้ ท่ี และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนนุ ส่งเสริม การใช้และพฒั นาหลกั สตู รให้เป็นไปอย่าง
มปี ระสิทธิภาพ เพ่ือให้การดำเนินการจัดทำหลักสตู รสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา
มีประสิทธิภาพสูงสุด อันจะส่งผลให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ใน
ระดบั ชาติ
ระดับท้องถน่ิ ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษา หน่วยงานต้นสังกัดอ่ืน ๆ เป็นหน่วยงานที่มีบทบาท
ในการขับเคลื่อนคุณภาพการจดั การศึกษา เป็นตวั กลางทีจ่ ะเช่ือมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
ที่กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกบั สภาพและความต้องการของท้องถ่ิน เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของ
สถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีภารกิจ
สำคัญ คอื กำหนดเป้าหมายและจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน ในระดับท้องถนิ่ โดยพจิ ารณาให้สอดคลอ้ ง
กับส่ิงท่ีเป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถิ่น ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับ
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านทา่ เรือ ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓
131
ทอ้ งถน่ิ รวมทัง้ เพ่ิมพนู คณุ ภาพการใช้หลกั สูตรดว้ ยการวจิ ยั และพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม
ตดิ ตามผล ประเมนิ ผล วิเคราะห์ และรายงานผลคณุ ภาพของผเู้ รียน
สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสูตร
การเพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลักสูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรจัดทำระเบียบ
การวัดและประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคล้อง กับหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน และรายละเอียดท่ีเขตพื้นท่ีการศึกษา หรือหน่วยงาน สังกัดอ่ืนๆ ในระดับท้องถิ่นได้
จดั ทำเพมิ่ เตมิ รวมทั้ง สถานศึกษาสามารถเพมิ่ เตมิ ในส่วนท่เี กยี่ วกับสภาพปญั หาในชมุ ชนและสงั คม ภูมปิ ัญญา
ทอ้ งถน่ิ และความต้องการของผู้เรยี น โดยทุกภาคส่วนเข้ามามีสว่ นร่วมในการพฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓
132
ภาคผนวก
ภาคผนวก
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านทา่ เรอื ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
คำสงั่ โรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ
ที่ ๓๔/๒๕๖๓
เร่ือง แต่งตั้งคณะกรรมการปรบั ปรงุ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐)
……………………………………………………………………..
ตามคำส่ังกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. ๑๒๓๙/ ๒๕๖๐ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม
ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
เพื่อให้การจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรมสภาพแวดล้อมและความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการ
พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนของชาติให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
การยกระดับคุณภาพการศกึ ษาและการเรียนรู้ใหม้ ีคณุ ภาพและมาตรฐานระดบั สากลสอดคล้องกับประเทศไทย
๔.๐ ในศตวรรษท่ี ๒๑ และทัดเทียมกับนานาชาติ ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขันและดำรงชีวิตอย่าง
สร้างสรรคใ์ นประชาคมโลกตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรฐาน ๓๙ วรรค หนึ่งและ (๑) (๒) แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๔๖ ลงวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๔๖ และมาตรา
๒๗ (๑)-(๖) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ ลงวันท่ี
๒๓ ธนั วาคม ๒๕๔๗ จึงมอบหมายให้ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนบา้ นทา่ เรือ ดำเนนิ การ
ปรับปรุงหลักสูตรสถานศกึ ษา กลุ่มสาระท่ีรับผิดชอบ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐานพุทธศักราช
๒๕๕๑ (ปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) ประกอบด้วย
๑. คณะกรรมการอำนวยการ ประกอบดว้ ย ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการ
๑.๑ วา่ ท่รี อ้ ยตรีวชิรพันธ์ุ บุญณมี ครู กรรมการ
๑.๒ นางสาวกฤตยพร สกลุ จันทร์ ครู กรรมการ
๑.๓ นางพรศรี คลายสวุ รรณ ครู กรรมการ
๑.๔ นางนุชนารถ เกอ้ื กลู ครู กรรมการและเลขานกุ าร
๑.๕ นางสาวจิราภรณ์ อินทยอด
มีหนา้ ที่
จัดประชมุ นิเทศ กำกบั ติดตาม ให้คำปรึกษา แนะนำช่วยเหลือเก่ียวกับการพัฒนาหลักสตู ร การ
จัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการแนะแนวให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ และสนับสนุน
งบประมาณ สถานที่ หรือทรัพยากรอ่ืนๆ ใหก้ บั คณะกรรมการดำเนินการ
/๒. คณะกรรมการ…
134
๒. คณะกรรมการดำเนนิ การ ประกอบด้วย ผ้อู ำนวยการ ประธานกรรมการ
๒.๑ ว่าทีร่ ้อยตรวี ชิรพนั ธุ์ บุญณมี ครู กรรมการ
๒.๒ นางสาวกฤตยพร สกุลจนั ทร์ ครู กรรมการ
๒.๓ นางพรศรี คลายสุวรรณ ครู กรรมการ
๒.๔ นางนชุ นารถ เกื้อกลู ครู กรรมการ
๒.๕ นายสทุ ธพิ ร ศรที อง ครู กรรมการ
๒.๖ นางยอนุศักดิ์ วงศม์ ูสา ครู กรรมการ
๒.๗ นางสาวณฐั ณชิ า สุธากลุ ครู กรรมการ
๒.๘ นางสาวกอบเก้อื ฐิตอาภากุล ครู กรรมการ
๒.๙ นางสาวพรทิพย์ หนยิ นุ หนุ๊ ครู กรรมการ
๒.๑๐ นางสาวปยิ วรรณ ชินช่วยแรง ครู กรรมการ
๒.๑๑ นางสาววิชาพร ศรชี ัย ครู กรรมการ
๒.๑๒ นายพรี พล นวลมุสิงห์ ครู กรรมการและเลขานุการ
๒.๑๓ นางสาวจิราภรณ์ อินทยอด
มีหน้าที่
ทบทวนหลักสูตร วางแผนปรับปรุง กำหนดรายละเอียดของหลักสูตรระดับสถานศึกษาและ
แนวการจัดโครงสร้างหลักสูตรและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษาประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ให้
สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จุดเน้น กรอบสาระท้องถ่ินของ
เขตพนื้ ท่ีการศึกษาและความตอ้ งการของชมุ ชน นกั เรยี น เพ่ือใหเ้ ปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงค์
๓. คณะกรรมการจัดทำหลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้
๓.๑ คณะกรรมการจัดทำหลักสตู ร กลุ่มสาระภาษาไทย ประกอบดว้ ย
๓.๑.๑ นางสาวจิราภรณ์ อินทยอด ครู ประธานกรรมการ
๓.๑.๒ นางสาวกอบเกอ้ื ฐิตอาภากลุ ครู กรรมการ
๓.๑.๓ นางสาวปยิ วรรณ ชินชว่ ยแรง ครู กรรมการและเลขานกุ าร
๓.๒ คณะกรรมการจัดทำหลกั สูตร กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ประกอบด้วย
๓.๒.๑ นางพรศรี คลายววุ รรณ ครู ประธานกรรมการ
๓.๒.๒ นางสาววชิ าพร ศรีชยั ครู กรรมการ
๓.๒.๓ นายสุทธพิ ร ศรีทอง ครู กรรมการและเลขานุการ
๓.๓ คณะกรรมการจัดทำหลกั สตู ร กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกอบด้วย
๓.๓.๑ นายอนศุ กั ด์ิ วงศม์ สู า ครู ประธานกรรมการ
๓.๓.๒ นายสทุ ธิพร ศรที อง ครู กรรมการ
๓.๓.๓ นางสาววชิ าพร ศรชี ยั ครู กรรมการและเลขานกุ าร
๓.๔ คณ ะกรรมการจัดทำหลักสูตร กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ประกอบดว้ ย
๓.๔.๑ นายพรี พล นวลมุสิงห์ ครู ประธานกรรมการ
๓.๔.๒. นางนชุ นารถ เก้อื กูล ครู กรรมการ
๓.๔.๓ นางพรศรี คลายสวุ รรณ ครู กรรมการและเลขานุการ
/๓.๕ คณะกรรมการ…
หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นท่าเรอื ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓
135
๓.๕ คณะกรรมการจดั ทำหลักสูตร กลุม่ สาระสขุ ศึกษา และพลศกึ ษา ประกอบดว้ ย
๓.๕.๑ นางสาวพรทพิ ย์ หนิยหุ นุ๊ ครู ประธานกรรมการ
๓.๕.๒ นายอนศุ กั ด์ิ วงศ์มสู า ครู กรรมการ
๓.๕.๓ นางนชุ นารถ เกอ้ื กลู กรรมการและเลขานุการ
๓.๖ คณะกรรมการจดั ทำหลักสตู ร กลมุ่ สาระศลิ ปะ ประกอบด้วย
๓.๖.๑ นางนชุ นารถ เกอื้ กลู ครู ประธานกรรมการ
๓.๖.๒ นาสาวจริ าภร์ อินทยอด ครู กรรมการ
๓..๖.๓ นาปิยวรรณ ชนิ ชว่ ยแรง ครู กรรมการและเลขานุการ
๓.๗ คณะกรรมการจัดทำหลักสูตร กลมุ่ สาระการงานอาชพี ประกอบดว้ ย
๓.๗.๑ นายสทุ ธพิ ร ศรีทอง ครู ประธานกรรมการ
๓.๗.๒ นางสาวกอบเก้ือ ฐติ อาภากลุ ครู กรรมการ
๓.๗.๓ นางสาวพรทิพย์ หนิยุหนุ๊ ครู กรรมการและเลขานุการ
๓.๘ คณะกรรมการจัดทำหลักสตู ร กลมุ่ สาระภาษาตา่ งประเทศ ประกอบด้วย
๓.๘.๑ นางสาวณฐั ณชิ า สธุ ากลุ ครู ประธานกรรมการ
๓.๘.๒. นางสาววิชาพร ศรีชยั ครู กรรมการ
๓.๘.๙ นางสาวกอบเก้ือ ฐติ อาภากุล ครู กรรมการเลขานกุ าร
๓.๙ คณะกรรมการจดั ทำหลักสตู ร กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นและสาระเพม่ิ เติม ประกอบด้วย
๓.๙.๑ นายอนุศกั ด์ิ วงศม์ สู า ครู ประธานกรรมการ
๓.๙.๒นายพรี พล นวลมุสิงห์ ครู กรรมการ
๓.๙.๓ นายสุทธิพร ศรที อง ครู กรรมการและเลขานุการ
มหี น้าที่
๑. ศึกษา วิเคราะห์ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ โครงสร้างหลักสูตร
สถานศกึ ษาโรงเรยี นปทุมพทิ ยาคม ขอ้ มูลท่ีเกย่ี วขอ้ ง บริบทของโรงเรยี น ชุมชน สังคม กฎหมาย แนวโน้มการ
จัดการศกึ ษา และนโยบายรัฐบาล ฯลฯ เพ่ือนำมาจดั ทำเป็นหลกั สูตรของกลมุ่ สาระ
๒. ให้มี การบูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การบูรณาการตามแนวทางโรงเรียน
วิถีพทุ ธ และบรู ณาการหลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษา เข้าไวใ้ นหลักสูตรของกลุ่มสาระ
๓. นัดหมาย จัดประชุมคณะทำงาน เพ่ือแบ่งหนา้ ที่รบั ผิดชอบ จัดทำข้อมูลเปน็ ไฟล์ ใหเ้ รียบร้อย
และนำสง่ ทีป่ ระธานคณะกรรมการดำเนนิ การโดยดำเนนิ การใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในวนั ที่ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓
๔. คณะกรรมการ จัดพิมพ์ ทำสำเนา และเขา้ เลม่ ประกอบด้วย
๔.๑ นายสทุ ธิพร ศรที อง ครู ประธานกรรมการ
๔.๒ นายอนศุ กั ด์ิ วงศ์มูสา ครู กรรมการ
๔.๓ นายรพีภพ สมพรานนท์ เจ้าหน้าทธ่ี รุ การ กรรมการ
๔.๔ นางสาวพรทพิ ย์ หนยิ ุหนุ๊ ครู กรรมการ
๔.๕ นางสาวปยิ วรรณ ชนิ ชาวยแรง ครู กรรมการ
๔.๖ นางสาววิชาพร ศรีชัย ครู กรรมการ
๔.๗ นางสาวณฐั ณชิ า สธุ ากลุ ครู กรรมการ
๔.๘ นางนุชนารถ เกอ้ื กลู ครู กรรมการ
๔.๙ นายพรี พล นวลมสุ งิ ห์ ครู กรรมการ
/๔.๑๐ นางพรศร…ี
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นทา่ เรอื ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
136
๔.๑๐ นางพรศรี คลายสุวรรณ ครู กรรมการ
๔.๑๑ นางสาวกอบเกื้อ ฐิตอาภากุล ครู กรรมการ
๔.๑๒ นางสาวจริ าภรณ์ อนิ ทยอด ครู กรรมการและเลขานกุ าร
มหี นา้ ที่
จดั พมิ พ์ข้อมลู พิสูจน์อกั ษร จัดทำสำเนา และเข้าเล่มเอกสารหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี น
บา้ นท่าเรือ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง
๒๕๖๐) ให้มจี ำนวนครบตามกลุม่ สาระการเรียนรู้
ขอใหค้ ณะกรรมการท่ีได้รับแต่งตั้ง อุทิศตน ทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้งานสำเร็จ
เรียบรอ้ ยบรรลุวัตถุประสงค์ และทันประกาศใช้ในปีการศึกษา ๒๕๖๓
สงั่ ณ วนั ที่ ๑๖ เดอื น มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ว่าทีร่ อ้ ยตรี
(วชิรพันธุ์ บุญณม)ี
ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นทา่ เรือ
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านท่าเรือ ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
137
คณะผูจ้ ดั ทำหลักสตู รสถานศึกษา
โรงเรยี นบ้านท่าเรอื (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
1 วา่ ท่ีร้อยตรวี ชิรพันธุ์ บญุ ณมี ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ประธาน
2 นางพรศรี คลายสุวรรณ ครู กรรมการ
3 นางนชุ นารถ เกื้อกลู ครู กรรมการ
4 นายสทุ ธิพร ศรีทอง ครู กรรมการ
5 นางสาวกอบเก้ือ ฐิตอาภากุล ครู กรรมการ
6 นางสาวพรทพิ ย์ หนิยุหนุ๊ ครู กรรมการ
7 นายอนศุ กั ดิ์ วงศม์ สู า ครู กรรมการ
8 นางสาวณฐั ณิชา สุธากลุ ครู กรรมการ
9 นางสาวปิยวรรณ ชนิ ช่วยแรง ครู กรรมการ
10 นางสาววิชาพร ศรชี ยั ครู กรรมการ
11 นายพรี พล นวลมุสงิ ห์ ครู กรรมการ
12 นายรพภี พ สมพรานนท์ เจ้าหน้าทธี่ รุ การ กรรมการ
13 นางสาวจริ าภรณ์ อินทยอด ครู กรรมการและเลขานกุ าร
หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นท่าเรอื ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓
มีวินัย ไฝศ่ ึกษา อนามยั ดี มีคณุ ธรรม
สำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาภูเก็ต
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ