คมู ือการทำแบบตัดเสอ�้ ผา
และเคร�่องประกอบการแตงกาย
โครงการพฒั นาและยกระดับผลต� ภัณฑสน� คา OTOP ผาไหมและผาพ้น� เมือง
สำนักงานพัฒนาชุมชนจงั หวัดขอนแกน
คำนำ
ผา้ ไหม ถือเปน็ มรดกอันลา้ คา่ ของเมืองไทย มีความงดงามของเสน้ ไหมท่เี ป็นเอกลักษณ์ ลวดลายทบ่ี ่งบอก
ถึงความเป็นไทย ท้าให้เป็นผ้าไทยได้รับความนิยม และโด่งดังไปทั่วโลก การทอผ้าไหมของประเทศไทย ในอดีต
เป็นการท้ากันในครัวเรือนเพ่ือใช้เอง หรือท้าขึนเพื่อใช้ในงานพิธี เช่น งานบุญ งานแต่งงาน หรืองานสังคมต่างๆ
คนไทยมีการน้าเอาศิลปะมาประยุกต์ใช้กับวัสดุท่ีมีอยู่ในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ และมากย่ิงกว่า
การใชง้ าน คือความสวยงามและความมีเสน่ห์แบบไทย เป็นการแสดงถึงความประณีตของคนไทยท่ีมมี าแต่ในอดีต
และความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบซ่ึงยังสืบต่อมาถึงปัจจุบัน และยังคงสร้างสรรค์ผลงานจาก ผ้าไหม
ในรปู แบบต่างๆมากยง่ิ ขนึ
โครงการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ผ้าไทยและผ้าพืนเมืองได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
ศลิ ปวัฒนธรรมและเทคนิคการทอผ้าไหมของไทยในพืนที่จังหวัดขอนแก่น ที่มีลักษณะของลวดลายท่ีมีเอกลักษณ์
เฉพาะทีผ่ สมผสานรูปลักษณ์การทอ โดยเลือกใช้สีด้า สีแดงและสีเหลือง จากภมู ิปัญญา เสนห่ ์ของงานฝีมือดังเดิม
และวิถีชีวิตในอดีตท่ีน้ามาประยุกต์ใช้จนได้เป็นผลงานท่ีแสดงออกถึง การสร้างอัตลักษณ์ใหม่ซึ่งเช่ือมโยงกับชีวิต
ในอดีตและวัฒนธรรมอันงดงามของไทย ให้เข้ากับความทันสมัย และความเป็นสากลมากขึน และท้าหน้าที่
น้าเสนอผ้าไทยให้มีความเป็นสากล ร่วมสมัยสามารถใส่ได้จริง เพราะตัวตนของนักออกแบบเชื่อว่าผ้าไทย
หากน้ามาถ่ายทอดหรือออกแบบได้อย่างถูกต้องเหมาะสมจะเป็นงานศิลปะประเภทหนึ่งที่มีความเป็ นสากล
ไม่ว่าชนชาติใดก็สามารถสวมใส่ได้ โดยน้าเทคนิคท่ีมีกล่ินอายของความเป็นสากล เช่น รูปทรงเสือผ้า การตัดเย็บ
มาผสมผสานไดอ้ ย่างลงตวั กับความเป็นไทย โดยยึดรูปแบบเสือและรายละเอียดตา่ งๆให้สามารถสวมใส่ได้จรงิ
สำรบญั หน้ำ
เน้อื หำ 1-2
ความเปน็ มา 4 –9
คมู่ ือการตดั เยบ็ เครือ่ งแตง่ กายจากผา้ ไหม 10
1. วัสดุ-อปุ กรณ์ 10 – 33
2. ขนาดตวั ส้าหรบั สรา้ งแบบเสอื สตรแี ละกางเกงสตรี 34 – 43
3. ขนั ตอนการสรา้ งแบบและการตัดเยบ็ เครื่องแต่งกาย 44 – 51
52 – 54
3.1 เสือคลุม 55 – 61
3.2 กางเกง
3.3 หมวก
3.4 ผา้ คลุมไหล่
3.5 กระเปา๋
ห น้ า | 1
ความเป็นมา
ผา้ ไหม ถือเป็นมรดกอันล้าค่าของเมืองไทย มีความงดงามของเส้นไหมที่เป็นเอกลักษณ์ ลวดลายท่ีบ่งบอก
ถงึ ความเป็นไทย ทา้ ให้เป็นผ้าไทยได้รบั ความนิยม และโด่งดังไปทั่วโลก การทอผ้าไหมของประเทศไทย ในอดีตเป็น
การทา้ กันในครัวเรือนเพ่อื ใช้เอง หรือท้าขนึ เพ่ือใชใ้ นงานพธิ ี เช่น งานบญุ งานแต่งงาน หรอื งานสังคมต่างๆ คนไทย
มีการน้าเอาศิลปะมาประยุกต์ใช้กับวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ และมากยิ่งกว่าการใช้งาน
คอื ความสวยงามและความมเี สน่ห์แบบไทย เป็นการแสดงถึงความประณีตของคนไทยที่มมี าแต่ในอดตี และความคิด
สร้างสรรค์ในการออกแบบซึ่งยังสืบต่อมาถึงปัจจุบัน และยังคงสร้างสรรค์ผลงานจาก ผ้าไหมในรูปแบบต่างๆมาก
ย่งิ ขนึ
โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปวัฒนธรรมและเทคนิคการทอผ้าไหมของไทยในพืนที่จังหวัด ขอนแก่น
ที่มีลักษณะของลวดลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะท่ีผสมผสานรูปลักษณ์การทอ โดยเลือกใช้สีด้า สีแดงและสีเหลือง
จากภูมิปัญญา เสน่ห์ของงานฝีมือดังเดิม และวิถีชีวิตในอดีตที่น้ามาประยุกต์ใช้จนได้เป็นผลงานท่ีแสดงออกถึง
การสร้างอัตลักษณ์ใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับชีวิตในอดีตและวัฒนธรรมอันงดงามของไทย กับความทันสมัย และความ
เป็นสากลมากขึน และท้าหน้าที่น้าเสนอผ้าไทยให้มีความเป็นสากล ร่วมสมยั สามารถใส่ได้จริง เพราะตัวตนของนัก
ออกแบบเชื่อว่าผ้าไทยหากน้ามาถ่ายทอดหรือออกแบบได้อย่างถูกต้องเหมาะสมจะเป็นงานศิลปะประเภทหน่ึงท่ีมี
ความเป็นสากล ไม่ว่าชนชาติใดก็สามารถสวมใส่ได้ โดยน้าเทคนิคที่มีกล่ินอายของความเป็นสากล เช่นรูปทรง
เสือผ้า การตัดเย็บ มาผสมผสานไดอ้ ยา่ งลงตัวกบั ความเป็นไทย โดยยึดรูปแบบเสือและรายละเอยี ดต่างๆให้สามารถ
สวมใสไ่ ดจ้ ริง
ห น้ า | 2
เสือผา้ และเครื่องประกอบการแต่งกายที่ออกแบบทังหมด จะเป็นเสือผา้ ท่ีสามารถสวมใส่ในชีวิตประจ้าวัน
ได้ โดยออกแบบให้เป็นเสือคลุม (Blazer) ตัวเสือเบลเซอร์จะให้อารมณ์สบายๆ ไม่เป็นทางการ และดูสุภาพ
เรียบร้อยน้อยกว่าชุดสูท และไม่มีกางเกงคู่กนั โดยสามารถเลอื กใสค่ ู่กับเสือผา้ ท่เี ป็นทางการชุดอ่ืนๆได้หากหลังจาก
เลิกงานแล้วสาวออฟฟิศมีงานสังสรรค์ หรืองานปาร์ตี ก็สามารถประยุกต์กับเสือผ้าที่สวมใส่ส้าหรับไปออกงานได้
โดยที่ยังคงความทันสมัยและมคี วามเปน็ เอกลักษณ์ เพมิ่ ความโดดเด่นดว้ ยการสวมหมวกปกี กวา้ ง และมผี ้าคลุมไหล่
ท่ีสามารถน้ามาตกแต่งเพื่อคลุมศีรษะหรือน้ามาเป็นผ้าพันคอได้และถือกระเป๋าท่ีเข้าเซ็ทเพ่ิมลุคที่ดูทันสมัยและ
มีความเซ็กซ่ี ส่วนกางเกง เป็นกางเกงขาสันที่สวมใส่สบาย มีการตกแต่งด้วยผ้าไหมท่ีเป็นปีกทังสองข้างเพื่อให้
ดูคล้ายกระโปรงมีการร้อยเชือกบริเวณเอว ผูกเป็นโบว์เพิ่มความน่ารัก สามารถน้าไปใส่คู่กับเสือผ้าได้หลากหลาย
รปู แบบดงั ภาพประกอบ
ห น้ า | 3
ห น้ า | 4
คู่มอื การตัดเยบ็ เครื่องแต่งกายจากผา้ ไหม
1. วสั ดุ-อปุ กรณ์ มีรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปนี้
1.1 ดา้ ยเยบ็ วนี สั เบอร์ 60
1.2 กรรไกรตดั ผ้า ขนาด 9 นิว
1.3 ไมบ้ รรทัดมาตรฐาน ขนาดยาว 18 นวิ
ห น้ า | 5
1.4 ไมโ้ ค้งสะโพกมาตรฐาน
1.5 ชอล์กสี
1.6 เข็มหมุด
ห น้ า | 6
1.7 สายวดั มาตรฐาน
1.8 กรรไกรกา้ มปู
1.9 กระดาษคาร์บอน (กระดาษกดรอย)
ห น้ า | 7
1.10 ลูกกลงิ กดรอย
1.11 เข็มสอย
1.12 ท่ีเลาะด้าย
ห น้ า | 8
1.13 ชุดตอกตาไก่ขนาด 25 มม.
1.14 เชอื กเกลยี วไหม
1.15 ตุ้มเกบ็ ปลายเชือก
ห น้ า | 9
1.16 ซปิ ซอ่ นความยาว 9 นวิ
2. ขนาดตัวสาหรับสร้างแบบเสอื้ สตรแี ละกางเกงสตรี ขนาด 3
12
2.1 เสอื สตรี (ไซส์ L สร้างแบบเสือ Oversize) 41 40
96 26.5
รายการ 81 3
94 21
รอบวงคอ 33
รอบอก 34 36
รอบเอว 13
รอบสะโพกล่าง/เอวลกึ ถงึ สะโพกลา่ ง 42
ยาวหนา้ 31
บ่าหนา้ /บา่ หลัง/ไหลก่ ว้าง 70 57
ซีกไหล่
รอบวงแขน ขนาด
รอบตน้ แขน/รอบขอ้ มอื 12
ความยาวเสือ/ความยาวแขน/รอบปลายแขนจริง 70
90 21
2.2 กางเกงสตรี (ไซส์ M) 26
40 25
รายการ
รอบเอว
รอบสะโพกล่าง/เอวลึกถงึ สะโพกลา่ ง
เป้าลกึ
ความยาวเสอื /รอบปลายขาจริง
ห น้ า | 10
3. ข้ันตอนการสร้างแบบและการตดั เยบ็ เครื่องแตง่ กาย
3.1 เสอื คลุม
ด้านหน้า ด้านหลงั
3.1.1 การเตรียมผ้า
1) รีดผ้ากนั ผา้ ไหมหด จากนันอดั ผา้ กาวบาง (ผ้ากาวเจลซี)่ ให้เรียบรอ้ ย
2) ซบั ในผา้ คอตตอนซาตนิ ให้รดี ผ้าเพื่อกนั หดให้เรียบรอ้ ย
3.1.2 ขนั ตอนการสร้างแบบเบืองตน้ ห น้ า | 11
1) สร้างเสือชนิ หนา้
-วัดจากรมิ กระดาษดา้ นบนลงมาประมาณ
เสน้ คอเส้ือ 8 ซม. เปน็ เส้นคอเสอื
- วั ด จ า ก ริ ม ก ร ะ ด า ษ ด้ า น ข้ า ง ท า ง ข ว า เ ข้ า ม า
เสน้ กลางตวั ประมาณ 8 ซม. เปน็ เสน้ กลางตัวหนา้
หน้า
เสน้ คอเสอื้ 2
1-2 ขีดเสน้ ตรงเทา่ กบั ความยาวหน้าทว่ี ดั ได้บวก
กับความลึกเอวถึงสะโพกลา่ ง
- จากนันขีดเส้นฉากด้านบนและด้านล่างขดี
เส้นขนานออกไปประมาณ 30 ซม.
** โดยเส้นบนจะเป็นเส้นคอเสือ และเส้นล่าง
จะเปน็ เส้นสะโพกล่าง
เสน้ สะโพกลา่ ง 1
ห น้ า | 12
1
เส้นคอเอว 1-3 วัดจากจดุ ที่ 1 ลงมาเทา่ กบั ความยาวหนา้
จะไดเ้ ป็นจุดท่ี 3 จะเปน็ เสน้ เอว
- จากนนั ขดี เส้นฉากขนานออกไปประมาณ 30 ซม.
3
2
1
เส้นอก 4
1-4 ให้แบ่งครังระหวา่ งจดุ ท่ี 1-3 จะได้เส้นนอก
- จากนนั ขีดเสน้ ฉากขนานออกไปประมาณ 30 ซม.
3
เสน้ บ่าหน้า ห น้ า | 13
1
5
4
1-5 ใหแ้ บ่งครง่ึ ระหว่างจุดที่ 1-4 จะได้เสน้ บา่ หนา้
- จากนันขีดเส้นฉากขนานออกไปประมาณ 30 ซม.
เสน้ คอเสอื้ 7
61
1-6 เทา่ กบั รอบคอเสือ หาร 6
6-7 ขีดเสน้ ฉากขนึ ไปเท่ากับรอบคอเสือ หาร 6
บวก 0.5 ซม.
ห น้ า | 14
7
9
8 61
1-8 เทา่ กบั คร่ึงของไหล่กวา้ ง หาร 2
8-9 วัดขึนไปประมาน 2.5 ถึง 3 ซม. จากนนั
ขีดเส้นฉากขึนไป
7-9 ใหข้ ดี เส้นมาเจอกัน จะได้เส้นซกี ไหล่
9 4
10
3 4-10 เทา่ กับบา่ หนา้ หาร 2 + 0.5 ซม.
11 3-11 เท่ากับรอบอก หาร 4 + เผ่อื หลวม 2.5
ถงึ 4 ซม.จากนนั โคง้ วงแขนเสอื ชินหน้าจาก
จุดท่ี 9,10,11
ห น้ า | 15
7
11 3 7-12 วดั ลงมาเท่ากับความยาวเสือท่ีต้องการ
จะได้เป็นเส้นชายเสือ
11-13 ให้กว้างท้ากับเสน้ อก คือจุดท่ี 3-11
จากนนั ตเี สน้ ขนาดลงมาถึงชายเสือ จะได้
เปน็ เส้นตะเขบ็ ข้าง
13 ชายเสอ้ื จริง 12
2) สร้างเสอื ชนิ หลัง 16 14
15 1
17
8 1-14 วดั ขนึ ไปเทา่ กับ 1-6
14-15 ตเี สน้ ฉากจากจุดท่ี 14 ออกไปให้เจอ
กับรองคอ จะไดจ้ ุดท่ี 15 จะได้เส้นคอ
ชินหลังดังรูป
15-16 วัดขนึ ไปเท่ากับความสูงคอหลงั 2-2.5 ซม.
8-17 วดั ขึนไปเป็นความสูงซกี ไหล่ชนิ หลัง 3.5-4 ซม.
16-17 ใหข้ ดี เส้นตรงหากัน จะไดเ้ ส้นซีกไหลห่ ลงั
17 ห น้ า | 16
18 10
10-18 วดั ออกไป 1 ซม. เปน็ แนวเสน้ บา่ หลงั
11 - จากนันลากเส้นวงแขนชินหลงั จากจดุ ที่ 17,18,11
3) วธิ กี ารสร้างแขนเสอื
B 1 1-2 ขดี เส้นตรงเทา่ กับความสงู หวั แขน 8-14 ซม.
C A 1-3 ขีดเสน้ ตรงลงไปเท่ากับความยาวแขนเสือท่ีตอ้ งการ
2-4 เทา่ กับจุดที่ 2 ถึง 3 หาร 2
6 2 4-5 วดั ขนึ ไป 3 ซม. จะได้เป็นเสน้ ข้อศอก
2-6 ตเี ส้นขนาดตัดกับเสน้ กลางหวั แขนเท่ากับรอบวงแขน
เสน้ หัวกลาง
แขน เสือชนิ หนา้ บวก รอบวงแขนชินหลัง หาร 2
5-7 ตเี สน้ ขนาดตดั กบั เส้นกลางหัวแขนเทา่ กบั รอบข้อศอก
75
4 หลวมตามความตอ้ งการ หาร 2
3-8 วดั เส้นขนาดตัดกบั เส้นกลางหวั แขนเท่ากับรอบปลาย
83
แขนหลวมตามความต้องการ หาร 2
6-7-8 ขีดเสน้ โค้งใตท้ ้องแขนใหส้ วยงาม
1-6 ขดี เส้นตรงจากหัวแขนเฉยี งไปที่มุมต้นแขน
วดั ความยาวเสน้ ตรงของหัวแขน และแบ่งออกเปน็
4 ส่วน
จดุ A ตีเสน้ ฉากขึนไป 2-2.5 ซม.
จุด B ใชพ้ อดีเสน้ ก่งึ กลาง
จดุ C ตเี ส้นฉากลงไป 0.5-1 ซม.
ห น้ า | 17
3.1.3 ขนั ตอนการปรับแบบและแยกแบบตัด
1) แยกตวั เสอื ชนิ หนา้ และชินหลงั ใหเ้ รียบรอ้ ย ดงั รูป
ช้นิ หน้า ช้นิ หลงั ช้นิ แขนเส้อื
1 ซม.
2) การปรับแบบเสือคลุม
- วดั จากมมุ คอเสอื ชินหลังเขา้ 1 ซม.
- โคง้ วงคอชินหลงั ใหม่ และวัดความยาว เพือ่ สรา้ ง
ปกสทู กบั ตวั เสอื ชนิ หนา้
ห น้ า | 18
2
4 เ ้สนกลางหน้าออก - วดั จากกลางหน้าออก 2 ซม. เปน็ สาบปกสูท
วดั จากกลางหน้าออก 2 - วัดจากเส้นขา้ งคออก 2 ซม. เป็นเสน้ แนวพบั ปกใหม่
- วดั จากเส้นเอวขึน 4 ซม.
- จากนนั ขีดเส้นจากมุมคอใหม่ลงมาท่จี ุดพับปก 4 ซม.
5 ซม.
11.5 ซม. 6.5 ซม.
- วัดจากมุมคอใหม่ลง 11.5 ซม. เปน็ คอสทู
- และวดั จาก 11.5 ซม. ขึนไปอกี 5 ซม. เป็นมมุ ปก
- จากนนั ตีเส้นฉากจาก 11.5 ซม. ออกไปยาว 6.5 ซม.
- ขีดเส้นสามเหลี่ยมปลายปก และขีดเส้นปกใหม่
ลงไปถึงชายเสอื ดงั รปู
ห น้ า | 19
- ตเี สน้ ฉากจากแนวพับปกตอ่ ขึนไปเท่ากบั ครึง่
ของความยาวคอเสอื ชนิ หลงั
- ตีเส้นฉากต่อไป เปน็ ฐานคอ 3 ซม.
1 ซม. - วดั จากเส้นพบั ปกเดมิ ออก 1 ซม. และขดี เส้น
มมุ คอวัดออก1 ซม. พบั ปกใหม่มาทีเ่ สน้ ฐานคอ
- ขดี เส้นฉากจากเส้นพบั ปกใหมอ่ อกไป 3 ซม.
- วดั มุมคอออก 1 ซม. และตีฉากเสน้ คอหลังใหม่
ลงมาเจอกัน
ห น้ า | 20
- วดั จากเสน้ พับปกใหม่ ออกไป 3 ซม. หรอื ทา้ กบั
ความกวา้ งฐานคอชินหลัง
- จากนนั โคง้ ปกดงั รูป
วัดออก 3 ซม.
- วดั ความกว้างปกสูทออกจากเสน้ แนวพบั ปก 4 ซม.
- จากมุมปลายปกวัดเขา้ ไป 3.5 ซม.
- วดั ปลายปกบนโดยขีดเส้นฉากขึนไป 3.5 ซม.
- วัดจากเสน้ ปลายปกบนขนาดออกไป 1 ซม. ดงั รูป
- จากนนั โค้งเส้นปลายปกให้สวยงาม ดังรปู
8 ซม. เสน้ กลางแขน ห น้ า | 21
8 ซม. ปลายแขน
3) วธิ ีการทา้ แบบตดั แขน
- วัดจากมมุ ตน้ แขนเขา้ ไปประมาณ 8 ซม.
- วัดจากมมุ ปลายแขนเข้าไปประมาณ 8 ซม.
- ลากเส้นตดั ต่อแขนใหมใ่ หส้ วยงาม ดงั รปู
- แผ่ครึง่ เสน้ กลางแขน
- แผส่ ันทบชนิ แขนอกี ด้านขนึ มา ดังรปู
ห น้ า | 22
ปกเสือ้
4) การแยกแบบตัดตวั เสอื ชนิ นอก
- ชินหน้าและชนิ หลงั จะใช้แบบตัดเตม็ ชิน ดงั รูป
- ชนิ ปกเสือจะลอกแบบปกจากแบบตัดชนิ ดงั รปู
ชน้ิ หนา้ ชิ้นหลงั
5) การแยกแบบตัดแขนเสือชินนอก
- ชินหนา้ และชนิ หลังจะใช้แบบตดั เตม็ ชนิ ดังรูป
- ชนิ ปกเสอื จะลอกแบบปกจากแบบตดั ชนิ ดงั รูป
แขน 2
ห น้ า | 23
แบ่งครึง่
เสน้ กลางตวั หนา้ 6) แยกแบบตดั ตวั เสือชินหนา้ (ซับใน)
- แบง่ ครง่ึ ซีกไหล่
- วัดจากเสน้ กลางตัวหนา้ ท่เี สน้ ชายเสือเขา้ ไป 8 ซม.
- ขดี เส้นจากจดุ กง่ึ กลางลงไปถงึ ชายเสือและโคง้ เสน้ ให้
สวยงาม ดังรปู
วัดเข้า 8 ซม.
- ตัดแยกส่วนชนิ ซับในเสือชนิ หน้า ดังรปู
ซับในชิ้นหนา้ 2 สาบเสื้อชนิ้ หนา้ 1
ห น้ า | 24
- แผส่ นั ทบปกเสอื ซบั ในให้เตม็ ชนิ ดังรปู
7) แบบตดั เสือชินหลัง (ซับใน)
- ชนิ หลังใช้แบบตัดเหมอื นเสอื ตวั นอก ดังรูป
8) แบบตดั แขนเสือ (ซบั ใน)
- ชินแขนจะใช้แบบตดั เตม็ ชนิ ดังรูป
3.1.4 ขนั ตอนการเผ่อื เย็บ ห น้ า | 25
1) เสอื คลมุ ตัวนอก เผือ่ เย็บดังต่อไปนี
เสือคลุมชินหน้าและชนิ หลัง
- กลางตวั /ปกชินหนา้ = 1 ซม.
- ตะเข็บขา้ งชนิ หน้าและหลงั = 1.ซม.
- ชายเสอื ชินหน้าและหลงั = 5 ซม.
- วงแขนเสือชนิ หนา้ และหลัง = 1 ซม.
- ซีกไหล่ชนิ หนา้ และชนิ หลัง = 1.5 ซม.
- กลางตัวชินหลงั วางสันทบ (ไมเ่ ผือ่ เยบ็ )
** วางผ้าเกรนตามยาว
เผอ่ื เยบ็ แขนเสือตวั นอก
- ชินท่ี 1/2/3 เผอ่ื ปลายแขน = 5 ซม.
- ตะเขบ็ ขา้ งชนิ ที่ 1/3 = 1.5 ซม.
- แนวต่อแขนชนิ ท่ี 1/2/3 เผอ่ื ปลายแขน = 1 ซม.
- แนววงแขนชนิ ที่ 1/2/3 เผ่ือปลายแขน = 1 ซม.
** วางผ้าเกรนตามยาว
เผื่อเยบ็ ปกเสอื ตวั นอก
- เผ่ือเยบ็ โดยรอบ 1 ซม.
** วางผา้ เกรนเฉลยี ง
ห น้ า | 26
2) เสือคลุมซับใน เผ่อื เย็บดงั ต่อไปนี
เสือคลมุ ซับในหน้าและชินหลงั
- กลางตัว/ปก/แนวตอ่ สาบชินหนา้ = 1 ซม.
- ตะเขบ็ ขา้ งชินหน้าและหลงั = 1.5 ซม.
- ชายเสอื ชนิ หน้าและหลัง = 2 ซม.
- วงแขนเสือชินหนา้ และหลงั = 1 ซม.
- ซีกไหลช่ นิ หนา้ และชนิ หลัง = 1.5 ซม.
- กลางตัวชินหลงั = 2 ซม.
** วางผ้าเกรนตามยาว
- เผอ่ื เย็บปกเสอื 1 ซม. โดยรอบ
** วางผ้าเกรนตามยาว
ห น้ า | 27
เผ่อื เยบ็ แขนเสือซบั ใน
- วงแขน = 1.5 ซม.
- ตะเข็บขา้ ง = 1.5 ซม.
- ปลายแขน = 2 ซม.
** วางผ้าเกรนตามยาว
3.1.5 ขนั ตอนการวางผ้า
- เสือคลุมตวั นอก รีดผ้ากาวเพือ่ กันผ้าหด และรดี ผ้ากาวเจลซใี่ ห้เรยี บรอ้ ย
- เสือคลมุ ตัวนอก วางผ้าเกรนตามยาว กรณผี ้าลายสามารถวางตามลายขวางกไ็ ด้เชน่ กนั ดงั รปู
ห น้ า | 28
- เสือคลุมชนิ ซบั ใน วางผ้าเกรนตามยาว ดงั รปู
3.1.6 ขนั ตอนการตัดเยบ็
- เนาเส้นแนวพบั ปกเสือ/ชนิ หน้าตวั นอก/ชนิ สาบ ทงั ซบั ในและตัวนอก
- นา้ ชินปกตัวนอกเย็บตอ่ กลางคอชนิ หลัง และรีดแบะตะเข็บในเรียบรอ้ ย
- เยบ็ ทับควิ 1 ตนี ผี ตลอดฐานคอชนิ ปก
- แบง่ ส่วนชนิ ปกออกเปน็ ฝง่ั ละ 5 ส่วน ขีดสามเหลีย่ มสา้ หรับดามปลายคอ/เยบ็ ตามเส้นดามปลายปก
ห น้ า | 29
- ประกอบชนิ สว่ นแขนเสอื ทงั สามชิน รดี แบะตะเข็บให้เรียบร้อย เย็บทบั ควิ 1 ตีนผีทแ่ี นวตอ่ แขน
- เย็บประกอบตะเข็บใตท้ อ้ งแขน รดี แบะตะเข็บ
- รดี พับชายเสือและปลายแขนเสอื ตัวนอก
- ต่อแนวกลางหลังซับในด้วยฝีเข็มห่างจากเส้นคอถึงแนวเอว และเย็บฝีเข็มปกติจากแนวเอวถึงชาย
รดี ปัดจบี ไปดา้ นใดดา้ นหนงึ่
- ขลิบแนวเอวเขา้ ไปประมาน 1 ซม. รีดแบะตะเขบ็
ห น้ า | 30
- เยบ็ ประกอบซีกไหล่ชนิ นอกและซับใน รดี แบะตะเขบ็ ดังรูป
- เยบ็ ตอ่ สาบและซับใน รดี ปัดตะเขบ็ และเย็บทับควิ 1 ตีนผี
ห น้ า | 31
- น้าปกเสอื ท่ีตอ่ ตะเขบ็ กลางคอหลงั เย็บประกอบเข้ากบั คอเสอื ชินนอก เจยี นตะเข็บประมาน 5 มม.
รีดแบะตะเข็บ
- น้าปกเสอื ทว่ี างแนวสันทบกลางคอหลงั เย็บประกอบเข้ากบั คอเสือชนิ ซับใน เจียนตะเขบ็ ประมาน 5 มม.
รีดแบะตะเขบ็
- เยบ็ ประกอบวงแขนชนิ เสอื เขา้ กับตวั เสือทงั ตัว
นอกและซบั ใน เจียนตะเข็บให้เสมอกัน
- น้าเสือตัวนอกและซับในเย็บประกบปลายปกบนโดยเย็บจากจุดสินสุดปกบนไปอีกดา้ นหนึ่ง เจียนตะเข็บ
ใหเ้ หลือประมาน 5 มม. รีดพบั ตะเขบ็
ห น้ า | 32
- เย็บต่อจุดปลายปกล่างลงไปถงึ ชายเสือ เจยี นตะเขบ็
ใหเ้ หลอื ประมาน 5 มม. รีดพบั ตะเขบ็
- จากนนั พบั มมุ ปกบนและลา่ ง เพื่อกลบั ดา้ น รดี ให้
เรยี บรอ้ ย เย็บทบั ควิ 1 ตีนผี ตวั เสือชินหนา้ /ปก ให้
เรียบรอ้ ย
- จับตะเขบ็ ดา้ นในของคอเสือใหต้ รงจดุ และกลึงหรือ
สอยคอเสอื ตวั นอกและซบั ในเพอ่ื ยดึ ไมใ่ หป้ กเสือ
เลื่อนออกจากกนั
- ประกบผา้ ด้านถูกชนกันเย็บต่อปลายแขนเสือตวั นอกและชนิ ซับใน กลบั แขนเสือออกด้านถูกให้เรียบร้อย
รดี ปัดตะเข็บปลายเเขนใหข้ ึนไปด้านบน
ห น้ า | 33
- จบั ตะเข็บด้านในของวงแขนเสือใหต้ รงจดุ และกลึง
หรอื สอยตะเข็บไหล่ ตะเขบ็ ขา้ งเสือตัวนอกและ
ซบั ในเพอ่ื ยึดไมใ่ ห้ปกเสือเลอ่ื นออกจากกนั
- เลาะแนวฝเี ข็มหา่ งกลางหลังใหเ้ รยี บรอ้ ย
- พลิกประกบผ้าด้านถกู ชนกันเยบ็ ต่อชายเสอื ทงั สองด้าน
โดยเวน้ ชอ่ งสา้ หรบั ล่วงเสือออกประมาณ 7-10 ซม.
- กลบั เสอื ด้านถกู ออกมาให้เรยี บร้อย/รีดปดั ตะเข็บชายเสือให้ขนึ ไปด้านบน
- สอยซอ่ นด้ายชอ่ งวา่ งให้เรียบร้อย
ห น้ า | 34
3.2 กางเกง
3.2.1 การเตรยี มผา้
1) รีดผา้ กันผ้าไหมหด จากนนั อัดผา้ กาวบาง (ผา้ กาวเจลซ)ี่ ใหเ้ รียบร้อย
2) ซบั ในผ้าคอตตอนซาตนิ ใหร้ ีดผ้าเพ่ือกนั หดให้เรียบรอ้ ย
3.2.2 ขนั ตอนการสรา้ งแบบเบืองตน้
1) สร้างกางเกงชินหน้า
เส้นแนวเอว
เสน้ - วัดจากรมิ กระดาษดา้ นบนลงมาประมาณ 10 ซม.
สัน เป็นเสน้ แนวเอว
ขา
- วดั จากรมิ กระดาษด้านข้างทางซา้ ยเข้ามาประมาณ 15 ซม.
เป็นเสน้ สนั ขา
1 เสน้ แนวเอว ห น้ า | 35
เสน้ สนั ขา 1-2 จากเส้นแนวเอววัดลงมาเทา่ กับ ความยาวเอว
2 เสน้ สะโพกลา่ ง ถงึ ลึกสะโพกล่าง หรือประมาณ 20-25 ซม.
3 เสน้ เป้าลึก
1-3 น้าแนวเป้าลึกที่วัดได้ – 5 ซม. หรอื วัดรอบเป้า
4 เสน้ ปลายขา น้าไปหาร 3 และ ลบ 5 ซม.
1-4 คือความยาวกางเกงทีต่ อ้ งการ
71 11
10
3-5 น้าสะโพกลา่ ง หาร 12 บวก 1.5 ซม. ขีดเส้นตงั ฉากผา่ น
6 3 ขึนไปท่เี ส้นสะโพกลา่ งเปน็ จุดที่ 6 และขีดผา่ นขนึ ไปถงึ
95 แนวเอวเป็นจุดท่ี 7
13 4 6-8 นา้ สะโพกลา่ ง หาร 4 บวกเผอ่ื หลวมประมาณ 1-3 ซม.
5-9 รอบสะโพก หาร 16 บวก 0.5-1 ซม.
8 7-10 วดั เขา้ ไปจากเส้นกลางหนา้ เดิม 1 ซม. ขีดเสน้ เสน้ เฉียง
จากจดุ ท่ี 6 ไปหาจดุ ท่ี 10 เปน็ เส้นกลางหน้าใหม่
6-9 ขดี เสน้ โคง้ เป้า ดังรปู
10-11 น้าเอว หาร 4 บวกเผ่อื หลวมประมาณ 1-3 ซม.
(เกล็ดชินหนา้ วดั ออกจากเส้นสนั ขาออกขา้ งละ 1 ซม.)
4-12 รอบปลายขาที่เผือ่ หลวมแล้ว หาร 2 โค้งเส้นสะโพก
12 4-13 รอบปลายขาที่เผอ่ื หลวมแลว้ หาร 2 โค้งเสน้ ใต้ทอ้ งขา
ห น้ า | 36
2) สร้างกางเกงชนิ หลัง
18 1 19
7 10 15
17
16
6 22
20 9 14
21 53
24 13 12 23
5 - 14 วดั จุดท่ี 3 และจุดที่ 5 นา้ ความยาวมาหาร 4 ขีดเส้นตรงขึนฉากไปทแ่ี นวเอวจะได้เปน็ จดุ ที่ 15
6 - 16 ครึ่งของเสน้ 14-15
10 - 17 วดั เข้า 2 ซม. เป็นแนวเส้นกลางหนา้ ชนิ หลังใหม่
17 - 18 วัดขนึ ไป 1.5 - 2 ซม.
18 - 19 น้าเอว หาร 4 (ชินหลังไม่มีเกล็ด) ขดี เส้นเอวใหม่
9 - 20 ครึ่งของจุดที่ 5-9
20 - 21 วัดเสน้ เป้าหลงั ลงมา 0.5 ซม. – 1 ซม. โคง้ เสน้ เปา้ หลังดังรูป
6 - 22 นา้ สะโพกลา่ ง หาร 4 บวกเผอ่ื หลวมประมาณ 1.5 ซม.
12 - 23 และ 13-24 วดั ปลายขาออกข้างละ 1 ซม. จากนนั โคง้ เส้นสะโพกและโคง้ ใตท้ อ้ งชินหลัง
3.2.3 ขนั ตอนการแยกแบบตดั
ห น้ า | 37
ช้ินหน้า ชิ้นหลัง
- ลอกแบบตดั กางเกงชินหนา้ และชินหลงั แยกออกจากกันใหเ้ รยี บร้อย
** ชินกางเกงแผ่นหลังสามารถใชเ้ ป็นแบบตัดเลย เนอื่ งจากไม่มกี ารปรบั แบบที่ชินหลงั
สาบชนิ้ หลัง
สาบช้ินหนา้
5 ซม. 5 ซม.
- วดั จากเสน้ เอวลง 5 ซม. ทังชินหน้าและชินหลัง ขีดเส้นใหข้ นานจะไดแ้ นวสาบกางเกงขึนมา ดงั รปู
- สาบชินหน้าแผส่ นั ทบให้เต็มชนิ และปิดเกลด็ แต่งแนวเอวและรมิ สาบด้านลา่ งใหเ้ รยี บรอ้ ย
- สาบชนิ หลงั จะมี 2 ข้าง
- แตง่ เอวกางเกงที่ตะเข็บขา้ งชนิ หน้าและชนิ หลังให้สวย เอวกางเกงตอ้ งไม่เป็นมมุ แหลม
4.5 ซม. ห น้ า | 38
2.5 ซม.
- ขีดเส้นเกลด็ ตรงลงมาถงึ ปลายขา
- นา้ แผน่ ปา้ ยปิดดา้ นหนา้ ตัวกางเกงปิดเกล็ด จากนนั ตดั
แยกเส้นเกล็ดจากชายกางเกงขนึ ไปถึงปลายเกล็ดเดิม
- วัดจากแนวเกล็ดที่เส้นเอวออกไป 4.5 ซม.
- วดั ปลายเกล็ดด้านกลางหน้า วดั ออกไป 2.5 ซม.
- จากนันขดี เส้นตรงลงมาเจอกนั
- แตง่ โคง้ แนวเอวและชายกางเกงใหม่ให้สวยงามดงั รปู
3.2.4 ขันตอนการเผื่อเย็บ
1) กางเกงชนิ หน้าและชินหลัง จา้ นวนอย่างละ 2 ชิน
- เส้นเอวและเสน้ เป้าเผอื่ เยบ็ 1 ซม.
- เส้นตะเข็บขา้ งและเส้นใต้ท้องขาเผอื่ เย็บ 1.5 ซม.
- ปลายขาเผื่อเยบ็ 4 ซม.
ห น้ า | 39
2) แผ่นปา้ ยปิดดา้ นหน้า จ้านวน 2 ชนิ
- เส้นเอวเผื่อเยบ็ 1 ซม.
- เส้นตะเขบ็ ข้างและเสน้ ริมแผน่ ปา้ ยเผอ่ื เย็บ 1.5 ซม.
- ปลายขาเผื่อเยบ็ 1.5 ซม.
สาบชนิ หน้า สาบชินหลัง
3) สาบกางเกงชินหนา้ จา้ นวน 1 ชิน และชินหลงั จ้านวน 2 ชนิ
- เส้นเอวและชายแนวสาบ เผอ่ื เยบ็ 1 ซม.
- ตะเข็บข้างเผอื่ เยบ็ 1.5 ซม.
- กลางหลังเผ่ือเยบ็ 2 ซม.
3.2.5 ขันตอนการวางผ้า
- ตวั กางเกง/สาบ/แผ่นปา้ ยด้านหนา้ และขอบเอววางผ้าเกรนตามยาว
3.2.5 ขนั ตอนการตัดเย็บ ห น้ า | 40
- ต่อผ้าลายและผ้าพืนแผ่นป้ายชินหน้า พันริมรวม
ตะเข็บ
- เย็บกลับมุมปลายขาท่ีแผ่นป้ายด้านหน้าที่ผ้าด้านผิด
เจียนตะเข็บ รีดแบะตะเข็บ พลิกกลับมุมให้เรียบร้อย
และรีดอีกครงั
- รดี ปัดตะเขบ็ ใหเ้ รยี บร้อยไปด้านผ้าพืน
เยบ็ ทับควิ 1 ตนี ผี
- น้าแผ่นปา้ ยดา้ นหน้าพบั เย็บทบั คิว 1 ตนี ผี
บรเิ วณกลางชนิ หนา้ และปลายขา
ห น้ า | 41
- เยบ็ เกลด็ ชนิ /รดี ปดั ตะเขบ็ เข้าหากลางตัวชนิ หน้า
- รดี พบั ปลายขากางเกงชินหนา้ และชินหลัง
ช้นิ
แผ่นป้าย
ชิน้
- น้าแผ่นป้ายด้านหน้าวางทับลงบนกางเกงชินหน้าท่ีด้านถูก จากนันน้ากางเกงชินหลังมาประกบปิดเป็นชัน
สดุ ท้าย และเยบ็ ประกอบตะเขบ็ ข้า
- พันริมตะเขบ็ ข้างของชินปา้ ยด้านหน้าพรอ้ มกับกางเกง
ชนิ หน้า และพนั ริมตะเขบ็ ขา้ งชินหลงั น้าไปรดี แบะตะเขบ็
ใหเ้ รียบรอ้ ย
ห น้ า | 42
- เยบ็ ประกอบใตท้ อ้ งขากางเกง พนั รมิ แยกตะเข็บและรีดแบะตะเข็บ
- เย็บล็อคแนวเอวแผ่นป้ายด้านหนา้ เข้ากับเอวกางเกงชนิ หนา้ ดว้ ยฝีเขม็ ห่าง
- น้ากางเกงทังสองชนิ เยบ็ ประกอบแนวเป้าจากเอวหน้า
ถึงสะโพกล่างชินหลงั พนั รมิ แยกตลอดแนวจากเอวหนา้
ถึงเอวหลัง และรดี แบะตะเข็บ
- เยบ็ ประกอบซปิ ซ้อนใหเ้ รยี บร้อย
ห น้ า | 43
- น้าสาบกางเกงเย็บต่อตะเขบ็ ข้าง พนั ริมตะเขบ็ ข้าง
แยกกนั และรดี แบะตะเข็บ
- พนั ริมสาบกลางหลงั และพนั ริมชายสาบตลอดแนว
- นา้ สาบกางเกงเย็บประเขา้ กับตวั กางเกง เจียนตะเขบ็
ให้เหลอื ประมาน 5 มม. ปดั ตะเข็บกางเกงไปทช่ี ิน
สาบเย็บทบั ควิ 1 ตีนผี
- รดี รอบเอวให้เรียบรอ้ ย
- สอยสาบกลางหลังติดกับซิปใหเ้ รียบร้อย
- วัดจากแนวเอวลงไปเทา่ กบั 4 ซม. เย็บทบั ตามเส้นที่
ก้าหนดไว้รอบตัวให้เรยี บร้อย
** จบั ผา้ สาบด้านในให้เรยี บ ไม่ใหม้ ผี า้ กอง
- เย็บปลายขาจากตะเข็บขา้ งหน่งึ ไปอีกดา้ นให้
เรยี บร้อย
- เยบ็ ปลายขาจากตะเขบ็ ข้างหนง่ึ ไปอีกดา้ นให้เรยี บร้อย
- ตัดผ้าเฉลียงสา้ หรบั ท้าโบว์ ยาวประมาน 80 ซม. กว้าง 3 ซม.
- รดี ดึงผา้ เฉลยี งให้คลา้ ยความยดื ออก รีดพับครงึ่ ผ้าเฉลยี ง
- น้าผา้ เฉลียงเย็บระยะ 1 ตนี ผ้า เจียนตะเข็บให้เหลอื ประมาณ 3 มม.
- รอ้ ยด้ายกลบั ไสไ้ กอ่ อกมา รีดไสไ้ ก่ใหเ้ รยี บร้อย และเยบ็ ลอ็ คปลายโบว์ไส้ไกท่ งั สองข้าง
- กา้ หนดแนวสอดตาไกท่ ี่กางเกงชนิ หน้า โดยวัดจากแนวเอวลงประมาน 2 ซม. และวดั จากกลางหนา้ เขา้
ขา้ งละ 2 ซม.
- เจาะชอ่ งตาไก่ และตอกตาไกใ่ หเ้ รยี บรอ้ ย
- ผกู เชือกเข้าในชอ่ งตาไก่ มันเปน็ โบว์ให้เรียบร้อย
ห น้ า | 44
3.3 หมวก
3.3.1 การเตรียมผ้า
1) รดี กนั หดผา้ ไหม จากนนั อดั ผ้ากาวแขง็ ทังหมด 2 ชัน ใหเ้ รยี บรอ้ ย
2) ซับในผ้าคอนตอ้ นซาตนิ ให้รดี ผา้ เพอ่ื กันหดให้เรยี บรอ้ ย จากนนั รดี อัดผ้ากาวบาง
(ผ้ากาวเจลซี่) ทงั หมด 2 ชัน
3.3.2 ขันตอนการสร้างแบบและแยกแบบตัด
เพ่ือให้ง่ายในการสร้างแบบ ขนั ตอนตอ่ ไปนีเป็นวธิ ีการสรา้ งแบบครึ่งเดียวเทา่ นนั เพือ่ ให้งา่ ย
ตอ่ การทา้ งาน โดยในรายละเอยี ดจะมวี ิธกี ารแผ่สนั ทบชนิ งานเต็มชนิ ให้อยา่ งครบถว้ น
1) วธิ ีสร้างหวั หมวก
1
1-2 ขีดเสน้ ตรงแนวยาวขนาด 15.6 ซม.
4 3 2-3 แบง่ ครึ่งระหว่างจดุ ท่ี 1 และ 2
3-4 ขดี เสน้ ขนาดออกไปเท่ากับ 15 ซม.
2
โค้งรศั มี 12 ซม. ห น้ า | 45
1
- จดุ ที่ 1-4 และจดุ ที่ 2-4 ให้ขีดเสน้ โคง้ หวั หมวกให้ไดร้ ศั มี
4 เทา่ กบั 12 ซม.
** ขณะขีดเส้นโคง้ ควรขีดเส้นบริเวณจุดที 1,2 และ 4 ให้
โคง้ รศั มี 12 ซม. 2 ฉากเสมอ เพอ่ื ใหห้ ัวหมวกเปน็ มมุ แหลม
1
- พบั เส้นจุดท่ี 1,3 และ 2 คร่งึ หนึ่งเพื่อแผส่ ันทบหัวหมวก
43 - ลอกเส้นโคง้ และเส้นกลางหัวหมวก จุดท่ี 1,4,2 และ
จุดท่ี 4 ถึง 3
2 ** เมอ่ื ลอกแบบออกมาจะได้หัวหมวกทีเ่ ทา่ กัน โดยมรี ศั มี
รอบหวั หมวกทังหมดเท่ากับ 24 ซม.
2) วธิ กี ารสรา้ งดา้ นขา้ งหมวก
3 4
1 2
1-2 ขีดเสน้ ตรงแนวนอนเท่ากบั 15.5 ซม.
1-3 และ 2-4 ขดี เสน้ ตรงแนวตงั ใหฉ้ ากขนึ เท่ากบั 10 ซม.
3-4 ให้ขีดเสน้ มาเจอกนั ใหเ้ รยี บรอ้ ย จะไดเ้ ปน็ กรอบสี่เหลี่ยมผนื ผา้ ดงั รูป
ห น้ า | 46
5
12
1-5 ขดี เส้นฉากขึนไปเท่ากบั 3 ซม. เพอื่ เป็นตา้ แหนง่ โค้งปีกหมวก
2-5 ขดี เสน้ โคง้ ปีกหมวกรัศมเี ทา่ กบั 15.8 ซม.
** ขณะโคง้ ปีกหมวกใหต้ เี สน้ ฉากจดุ ท่ี 2 ดงั รูป แล้วจึงโค้งปีกหมวก เพ่อื ไมใ่ หป้ ีกหมวกเปน็ มุมแหลม
6
5
5-6 ขดี เสน้ ฉากขึนไปยาวเท่ากบั 10 ซม. เปน็ รอยตอ่ ตะเข็บด้านขา้ งหมวก
6
4
6-4 ขีดเส้นโค้งมาเจอกัน โดยให้มีรัศมีปีกหมวกด้านบนเท่ากับ 12 ซม. หรือเท่ากับแนวต่อตะเข็บ
ของชนิ หวั หมวกด้านบน
ห น้ า | 47
64
5
2
2-4 ใหพ้ ับครึง่ จากนันลอกแบบชนิ ข้างหมวกจุดท่ี 2,5,6 และ 4 เพือ่ แผส่ นั ทบจะได้ชนิ ข้างหมวกเตม็ ชิน
**เมื่อลอกปีกหมวกเต็มชิ้น ปีกหมวกด้านบนจะมีรัศมีกว้างท้ังหมด 31.6 ซม.และปีกหมวกด้านล่าง
รัศมีกว้างท้งั หมด 43 ซม.
3) วิธกี ารสร้างปกี หมวก
34
1 2
1-2 ขีดเสน้ ตรงแนวนอนเท่ากับ 18.7 ซม.
1-3 และ 2-4 ขีดเส้นตรงแนวตงั ใหฉ้ ากขนึ เท่ากบั 6 ซม.
3-4 ให้ขดี เสน้ มาเจอกนั ให้เรียบรอ้ ย จะไดเ้ ป็นกรอบสี่เหล่ยี มผนื ผา้ ดังรปู
5
3
2
3-5 ให้ขีดเส้นฉากขึนไปดา้ นบนเท่ากับ 2 ซม.
2-5 ใหข้ ีดเส้นโคง้ โดยใหม้ ีรัศมปี ีกหมวกเท่ากับ 21.5 ซม.
** ขณะโค้งปีกหมวกให้ตเี ส้นฉากจดุ ที่ 2 ดงั รูป แล้วจึงโค้งปกี หมวก เพอ่ื ไมใ่ ห้ปกี หมวกเป็นมุมแหลม