The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน ม.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 61100143122, 2022-10-19 11:58:11

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน ม.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์พื้นฐาน ม.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3

21 นางสาวพัชรห์ ทยั จนั ทร์สมคอย 2 68
22 นางสาวพัชราภร บตุ รพรม 2
23 นางสาวพณั ณิตา พรมสมบัติ 2 2 22 8 /
24 นางสาวพนั ธนันธ์ ยาวาปี 2 2 22 8 /
25 นายพรี วิชญ์ ศรี ษะโคตร 2 2 22 8 /
26 เด็กชายพฒุ ิพงศ์ สงวนต้นกัลยา 2 2 22 8 /
27 นางสาวเพชรไพลิน จิว๋ กรา่ ง 2 2 22 8 /
28 เด็กหญงิ เพลงไพเราะ สว่างอารมณ์ 2 2 22 8 /
29 นางสาวฟ้าพราว จันทร์ทะวงษ์ 2 2 22 8 /
30 นางสาวภัทรยี า นัทธี 2 2 22 8 /
31 เด็กชายยศกร ทิพย์โชติ 2 2 22 8 /
32 นางสาวรมติ า ทา้ วพา 2 2 22 8 /
33 นายวงศกร บตุ รแก้ว 2 2 22 8 /
34 นายวชริ วชิ ญ์ ภาโนมยั 2 2 22 8 /
35 เด็กหญงิ วรศิ รา พะรินรมั ย์ 2 2 22 8 /
36 นางสาววรศิ รา สนทนา 2 2 22 8 /
37 นายศุภกร ใจแก้ว 2 2 22 8 /
38 เดก็ ชายศุภโชค เปรมนัส 2 2 22 8 /
39 เด็กชายอชิระ เพราะกระโทก 2 2 22 8 /
40 นายอนุวฒั น์ สดุกา 2 2 22 8 /
41 เดก็ หญิงอรกญั ญาฐ์ วงศเ์ ลศิ 2 2 22 8 /
42 นางสาวอรจิรา ประทมุ ชยั 2 2 22 8 /
43 นายอรรถพร เหวนอก 2 2 22 8 /
44 นางสาวสุวภทั ร เจริญวงศ์ 2 2 22 8 /
45 นายเสฎภมู ิ จริยามา 2 2 22 8 /
2 22 8 /
เกณฑก์ ารให้คะแนน 2 22 8 /
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
สรปุ คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน ไม่ผา่ น
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน ผ่าน

69

แบบประเมินพฤติกรรมนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/11

คำชแี้ จง : ครผู สู้ อนประเมนิ พฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนโดยใหค้ ะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด

รายการการประเมิน สรปุ ผลการ
ประเมนิ

เลขที่ ชอื่ -นามสกุล ความร่วม ืมอใน รวม
ทำ ิกจกรรม คะแนน ผ่าน ไม่

การแสดงความ ิคดเห็นตอบ ผ่าน
คำถาม

การรับฟังความคิดเห็นผู้ ่ือน
ความ ัต้งใจทำงาน

1 นางสาวกัลป์ยกร ศภุ วฒุ ณิ ฐั 2 2 22 8 /
2 นางสาวกานต์ วงศ์เพชรชารัต 2 2 22 8 /
4 นายฉัตรนิ ปานะถึก 2 2 22 8 /
5 เด็กหญงิ ชญาภา สงิ คลีประภา 2 2 22 8 /
8 นางสาวดารารตั น์ รม่ วาปี 2 2 22 8 /
9 นายตลุ า วระไวย์ 2 2 22 8 /
10 นายธนดล เหลา่ โพธ์ิ 2 2 22 8 /
11 นางสาวธญั ญรัตน์ ปญั ญาวชิรพงษ์ 2 2 22 8 /
12 นางสาวธิชา โคตรมงคล 2 2 22 8 /
13 นางสาวบญุ ญารกั ษ์ เหลา่ หวา้ น 2 2 22 8 /
14 นางสาวเบ็ญจพร บุญสา 2 2 22 8 /
15 เดก็ ชายปรมนิ ทร์ พรมมาตย์ 2 2 22 8 /
16 นายปรินทร กองสิน 2 2 22 8 /
17 นายปญั ณวิศญ์ ปัญญาทอง 2 2 22 8 /
18 นางสาวปาลิดา กิจขยัน 2 2 22 8 /
19 นางสาวปณุ ณศิ า ชุกะวฒั น์ 2 2 22 8 /
20 เด็กหญิงปณุ ยวรี ์ อปุ ถัมภ์ 2 2 22 8 /
21 นางสาวพลอยทิพย์ รวมธรรม 2 2 22 8 /
22 นายพิชาญเมธ กังวานสุขธำรง 2 2 22 8 /

23 เดก็ หญงิ พรี ดา อัชฌานภาลยั 2 70

24 นายภคพล เงนิ ขาว 2 2 22 8 /
2 22 8 /
25 นางสาวภิญญดา ลายวรรณรัตน์ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
26 นางสาวภริ ญั ญา ผาริโน 2 2 22 8 /
2 22 8 /
27 นางสาวมนชนก แกว้ ฝา่ ย 2 2 22 8 /
2 22 8 /
28 นายยุทธภมู ิ นามอตุ วงศ์ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
29 เดก็ หญงิ รชาอร ช้างรักษา 2 2 22 8 /
2 22 8 /
30 นายรัตนะเทพ สขุ เกษม 2 2 22 8 /
2 22 8 /
31 เดก็ ชายวรี ชั กรณ์ เอีย่ มสนิ ธร 2 2 22 8 /
2 22 8 /
32 นายเวคิน ทอนฮามแกว้ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
33 เด็กหญิงศริ ิกลั ยา ผการตั น์ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
34 นายสรรพากร ศรหี ะ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
35 นางสาวสุปรยี า หงษี 2 2 22 8 /
2 22 8 /
36 นายอนพัทย์ โสตะราษฎร์ 2 2 22 8 /

37 เด็กชายอนุศิษฎ์ แก้ววันนา 2 ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
38 นางสาวอภิญญา ภูวเดชากุล 2 ให้ 1 คะแนน

40 นายอัครพล วงศก์ าฬสนิ ธุ์ 2

41 นางสาวอัญชิสา ภูชธู รรม 2

42 นายจรี าวัฒน์ ถาวรสนิ พงศ์ 2

43 นายเจษฏาภรณ์ บญุ นอก 2

44 นายจิรันธนิน วงศธ์ รี ะชวลิต 2

45 นางสาวฐานิตา เนตรโสภา 2

46 นางสาวปญั ฐญิ า วลิ าวัน 2

47 นางสาวรสิตา ผา่ นคำ 2

48 นายอันดามัน มพี ยุง 2

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ

ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั

ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั

สรุป คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน ไม่ผา่ น
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน ผา่ น

71

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 15

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
รายวิชา ฟิสกิ ส์พนื้ ฐาน รหัสวิชา ว30101
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 แรงและกฎการเคลื่อนท่ี เวลา 24 ช่วั โมง
เรือ่ ง การประยุกตใ์ ชก้ ฎการเคลอ่ื นที่ เวลา 3 ชั่วโมง
ภาคเรยี นที่ 1/2565
ครูผู้สอน นายสรุ วุฒิ สงศรี

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ดั
สาระฟสิ กิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและกฎ

การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทานสมดุลกล ของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์
พลงั งานกล โมเมนตมั และกฎการอนรุ กั ษ์ โมเมนตัม การเคลอ่ื นท่แี นวโคง้ รวมทัง้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ผลการเรียนรู้
5. เขยี นแผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุอิสระ และอธิบายกฎการเคลื่อนทขี่ องนวิ ตันและการใช้

กฎการเคลื่อนทีข่ องนิวตันกับสภาพการเคลื่อนที่ของวัตถุ รวมทั้งทดลองและอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างแรง
มวล และความเรง่ ตามกฎข้อทีส่ องของนิวตัน

2. สาระสำคญั
การนำกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันไปใช้ในกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันทั้งสามข้อเป็นความรู้พื้นฐาน

ทีส่ ำคญั ทสี่ ามารถนำไปใชห้ าปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้องกบั แรงชนดิ ต่าง ๆ และการเคลือ่ นที่ของวัตถุ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
1) อธิบายการใช้กฎการเคลอ่ื นท่ขี องนวิ ตันกับสภาพการเคลือ่ นท่ีของวตั ถุแบบต่างๆ ได้
3.2 ด้านด้านทักษะกระบวนการ (P)
1) เขยี นแผนภาพของแรงที่กระทำต่อวัตถุอสิ ระ
2) คำนวณหาปริมาณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวข้องกบั การเคล่ือนที่ของวัตถุ
3.3 ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
1) มคี วามสนใจใฝร่ ู้ทางด้านวิทยาศาสตร์
3.4 ทกั ษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ (Science Process Skill)
- การสังเกต การวัด การคำนวณ และการลงความเห็นจากขอ้ มูล

72

4. สาระการเรยี นรู้
- กฎการเคลือ่ นท่ีของนิวตัน 3 ข้อ
- การนำกฎการเคล่ือนท่ีของนิวตนั ไปใช้
- แรงชนดิ ตา่ ง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง ได้แก่ นำ้ หนัก แรงดึง แรงเสยี ดทาน และแรงปฏิกิริยาในแนวตั้งฉาก

5. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
5.1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement)
5.1.1 ครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ
5.1.2 ครถู ามคำถามกระตนุ้ นักเรยี นว่ากฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมีก่ีข้อ กฎการเคลื่อนที่ของ

นิวตนั แตล่ ะข้อนยิ ามไว้ว่าอยา่ งไร
5.1.3 ครูถามคำถาม เพื่อให้นักเรียนได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยใช้คำถามว่า

“ ในชีวติ ประจำวัน นักเรยี นคดิ ว่ามอี ะไรทเ่ี ก่ยี วกับกฎการเคลื่อนที่ของนวิ ตัน ยกตวั อย่าง”

5.2 ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration)
5.2.1 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกบั การประยุกตใ์ ช้กฎการเคล่อื นที่ ดังนี้
- การนำกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันไปใช้หาแรงและปริมาณต่าง ๆ เกี่ยวกับ

การเคลื่อนที่ของวัตถุ จะพิจารณาในกรณีวัตถุเคลื่อนที่ในแนวตรง นั่นคือแรงลัพธ์และความเร่งมีทิศทางอย่ใู น
แนวเดียวกับทิศการเคลื่อนที่ของวัตถุ การใช้กฎนี้ อาจให้หาขนาดของแรงกระทำโดยถือว่าทราบทิศทางของ
แรงทกี่ ระทำ

- การเคลอื่ นที่ของวัตถุสามารถนำกฎการเคลื่อนท่ีของนิวตนั และการเขียนแผนภาพ
วัตถุอิสระมาชว่ ยในการสร้างความเขา้ ใจในการเปล่ียนแปลงสภาพการเคลื่อนที่ของวตั ถุจากแรงทมี่ ากระทำต่อ
วตั ถใุ นกรณตี า่ งๆ การกำกบั ทิศทางของแรงจึงเป็นสิ่งสำคญั โดยต้องกำกบั ทิศทางตามชนิดของแรง

73



⃑⃑⃑ แรงดึงในเส้นเชอื ก ( ⃑ )
มที ิศทางตามแนวเสน้ เชอื ก ชี้ออกจาก
น้ำหนักของวตั ถุ ( ⃑⃑⃑ )
มีทศิ ทางตามแนวด่งิ ชลี้ งขา้ งล่างเสมอ วัตถุ

⃑ ทศิ ทางการเคล่ือนที่ของวตั ถุ



แรงแนวฉาก ( ⃑ ) แรงเสยี ดทาน ( )
มีทิศทางชีอ้ อกมาจากพื้นผวิ ในแนวฉาก มที ศิ ทางขนานกับพื้นผวิ
และตรงขา้ มกับทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ขี องวัตถุ

5.3 ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
5.3.1 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ การนำกฎการเคล่ือนท่ีของนิวตนั ไปใช้ว่าในการนำไปใช้มัก

เกี่ยวข้องกับการหาแรงลัพธ์กระทำตอ่ วัตถุ เพื่อช่วยในการแรงลัพธ์ จึงมีการเขียนแผนภาพแสดงแรงทุกแรงท่ี
กระทำตอ่ วัตถุ เรยี กแผนภาพน้ีว่า แผนภาพวตั ถอุ ิสระ

ขนั้ ตอนในการเขียนแผนภาพวตั ถอุ สิ ระ
- เลือกวตั ถทุ ี่ต้องการหาแรงลพั ธ์ แสดงวตั ถุเปน็ จุด
- เขยี นเวกเตอร์แสดงแรงทกุ แรงทีก่ ระทำตอ่ วตั ถุ
- สรา้ งแกนฉาก (ถ้ามแี รงกระทำไมอ่ ย่ใู นแนวการเคล่อื นที่)
- แยกหาองค์ประกอบแต่ละแนวแกน

แนวทางในการใชก้ ฎการเคลือ่ นท่ี
1) วาดแผนภาพวัตถุอิสระ ระบุแรงที่มากระทำต่อวัตถุให้ครบ แล้วกำหนดทิศทางความเร่ง

ของวตั ถแุ ตล่ ะก้อน
2) สร้างแกนพิกัดที่เหมาะสมเพื่อหา ∑F⃑ โดยระบบแกนฉากที่เหมาะสมควรอยู่ในแนว

เดยี วกับการเคลื่อนทขี่ องวตั ถุ

74

3) กำหนดแรงที่มีทิศเดียวกับการเคลื่อนที่ให้มีค่าเป็นบวก และแรงที่มีทิศตรงข้ามกับ
การเคล่ือนท่ใี หม้ คี ่าเป็นลบ

4) ดำเนินการแกส้ มการ F⃑ = 0 หรอื ∑F⃑ = m⃑a เพอ่ื หาค่าทตี่ ้องการออกมา

5.4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
5.4.1 ครูยกตัวอยา่ งการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ใหน้ ักเรยี นได้เขียนแผนภาพวัตถุอสิ ระ การแยก

แรงองค์ประกอบ ต่างๆทเ่ี ก่ียวขอ้ ง แสดงใหเ้ หน็ ถงึ สมการการเคลื่อนที่ และแนวคิดในการแกป้ ญั หาที่เก่ียวข้อง
กับการเคลื่อนที่ ดังตอ่ ไปนี้

การช่งั น้ำหนกั ในลิฟต์
1) คา่ ท่ีอา่ นได้จากตาชั่ง = แรงทตี่ าชง่ั แบกคนไว้
2) คา่ ที่อา่ นได้ในตาช่งั ไม่ใช่ค่านำ้ หนัก แต่เปน็ แรงในแนวฉาก



ลิฟตอ์ ยนู่ ิง่ หรือ

เคลอื่ นทด่ี ว้ ยความเรว็ คงตัว ลิฟต์เคลื่อนทข่ี ้ึนดว้ ยความเร่ง ลิฟตเ์ คลือ่ นทลี่ งดว้ ยความเร่ง

N = mg N - mg = ma mg - N= ma
** ถา้ ลฟิ ตข์ าด ตาชงั่ จะอ่านค่าได้เป็นศนู ย์ หรือ อยู่ในสภาพไร้นำ้ หนัก

** ถา้ ลฟิ ต์เคลื่อนท่ีข้นึ ดว้ ยความเรง่ น้ำหนักที่อา่ นได้จะมากกวา่ น้ำหนักท่แี ท้จริง

** ถ้าลฟิ ตเ์ คลอื่ นท่ีลงดว้ ยความเรง่ น้ำหนักที่อา่ นไดจ้ ะนอ้ ยกวา่ นำ้ หนักท่ีแทจ้ ริง
- ชายคนหน่ึงมีมวล 55 กิโลกรัม ยืนอยู่บนตาชั่งในลิฟต์ จงหาว่าตาชั่งจะอ่านค่าได้เท่าใดใน

กรณตี ่อไปนี้

ก) ลฟิ ตว์ ิ่งลงดว้ ยความเร็วคงตัว ข) ลิฟต์เคลอ่ื นท่ีขน้ึ ด้วยความเร่ง 3.2 เมตรตอ่ วนิ าที2
จาก F = 0 จาก F = ma
N - mg = ma
mg - N = 0 N = ma + mg = m(a+g)
N = mg N = (55)(3.2+9.8)
N = (55)(9.8) N = 715 N
N = 539 N ดังนั้น ตาช่งั จะอ่านคา่ ได้ 715 นวิ ตัน

ดังนั้น ตาชงั่ จะอ่านค่าได้ 539 นิวตนั

75

- ชายคนหน่ึงมวล 60 กิโลกรมั ยนื อย่ใู นลิฟต์ จงหาแรงทพี่ ื้นลิฟต์กระทำต่อชายคนนี้ในกรณี

ตา่ ง ๆ ต่อไปน้ี

ก. ลฟิ ต์เคล่อื นท่ีขึน้ ดว้ ยความเร่ง 5 เมตรตอ่ วินาที2 ⃑
จาก F = ma

N – mg = ma

N = m(g+a)

N = (60 kg)(9.8 m/s2 + 5 m/s2)

N = 888 N
ดังน้นั แรงทีล่ ฟิ ต์กระทำกับชายคนน้ีเทา่ กับ 888 นิวตัน

ข. ลฟิ ต์เคล่ือนทีข่ ้ึนดว้ ยความเรง่ 5 เมตรต่อวนิ าที2

จาก F = ma ⃑
mg – N = ma

N = m(g-a)

N = (60 kg)(9.8 m/s2 - 5 m/s2)

N = 288 N

ดังนั้น แรงท่ลี ิฟตก์ ระทำกบั ชายคนนี้เท่ากับ 288 นวิ ตนั

การหาน้ำหนักของวัตถุจากตาชัง่ สปรงิ



⃑ ⃑







นำ้ หนักทีอ่ ่านไดจ้ ากตาช่งั สปริง น้ำหนักทีอ่ า่ นได้จากตา จะเทา่ กับ นำ้ หนักทีอ่ า่ นไดจ้ ากตาชง่ั สปริง กค็ ือ
คา่ แรงดงึ เชอื ก T โดยที่ตาช่งั เบาไม่มมี วล
จะเท่ากับคา่ แรงดงึ เชือก T คา่ แรงปฏิกริ ยิ า N ระหวา่ ง และมองตาชง่ั นั้นเป็นเชอ่ื เสน้ เดยี วตลอด

ที่ผูกระหว่างวัตถแุ ละตาช่งั ผิวสมั ผสั กบั ตาชง่ั

- วัตถุ 2 ก้อนมวล 5 กิโลกรัม และ 15 กิโลกรัม ผูกติดกับตาชั่งสปริง ซึ่งเบามากแล้วคล้องผ่านรอก
ดงั รูป อยากทราบว่าตาช่งั สปรงิ จะอา่ นค่าไดเทา่ ใด

จาก F = ma 76
(1)
ทีม่ วล 15 kg ; mg – T = ma (2)

(15 x 9.8) – T = (15)a

⃑ ⃑ 147 – T = 15a

5kg 15kg ท่มี วล 5 kg ; T – mg = ma
T – (5 x 9.8) = (5)a

m1 m2 T – 49 = 5a

แทน a ในสมการท่ี (2) ; T – mg = ma (1)+(2) ; 98 = 20a

T – (5 x 9.8) = (5 x 4.9) a = 4.9 m/s2

T – 49 = 24.5

T = 24.5 + 49 =73.5 N

- จงอ่านค่าทไ่ี ดจ้ ากตาช่งั สปริง

⃑ จาก F = 0
T – mg = 0
8 kg T = mg
T = (8kg)(9.8m/s2)
m T = 78.4 N

ดงั นั้น ค่าท่ีอ่านไดจากตาช่ังสปรงิ เท่ากับ 78.4 นิวตนั
(เทา่ กบั น้ำหนกั ของวตั ถุ)

- นำวตั ถมุ วล 2 กโิ ลกรมั ตดิ กบั ตาช่ังสปริงห้อยไวในแนวดิ่ง เมื่อดึงใหต้ าชั่งสปริงเคลื่อนท่ีข้ึน
ด้วยความเร่งคงตวั 1 เมตร/วนิ าที2 อยากทราบวา่ ตาช่ังสปรงิ อ่านคา่ ไดเ้ ท่าไร

⃑ จาก F = ma
T – mg = ma
m T = ma +mg
T = (2x1) + (2x9.8)
T = 2 + 19.6
T = 21.6 N

ดงั นน้ั ค่าที่อ่านไดจากตาชั่งสปริงเท่ากบั 21.6 นวิ ตัน

77

การเคลอื่ นท่วี ตั ถุในแนวราบ

- ชายคนหนึ่งออกแรงดึงวัตถุมวล 10 กิโลกรัม ในแนวราบ ไปบนพื้นฝืด ด้วยความเร่ง
2 เมตรต่อวนิ าท2ี ชายคนน้ีจะต้องออกแรงดงึ กน่ี วิ ตนั (กำหนดใหส้ ัมประสิทธิ์ความเสยี ดทานจลนเ์ ท่ากับ 0.3)

จาก F = ma

จะไดว้ า่ F - f = ma

F - = ma

เนื่องจาก N = mg

จะได้ว่า F - = ma

F - (0.3)(10kg)(9.8 m/s2) = (10kg)(2m/s2)

F = 20 kg·m/s2 + 29.4 kg·m/s2

F = 49.4 N

- ชายคนหนึ่งลากกลอ่ งมวล 5 กิโลกรัม เลอ่ื นไปตามพนื้ ราบท่ีมีความฝืดดว้ ยแรง 40 นวิ ตนั

โดยแรงนท้ี ำมุม 300 กับแนวราบ กลอ่ งจะเลอ่ื นไปตามพนื้ ราบด้วยความเร่งเทา่ ใด ถ้าสมั ประสทิ ธแ์ิ รงเสยี ด

ทานจลนเ์ ทา่ กบั 0.3 (กำหนดให้ cos300 = 0.866 แจลากะ sin300 = 0.5) F = ma

จะได้ว่า F - f = ma
F - = ma


⃑ เนอ่ื งจาก N = mg - 40sin300
40sin300
จะไดว้ า่ 40cos300 – (mg - 40sin300) = ma

[ ]40 N (40N x 0.866)-(0.3) (10kg x 9.8 m/s2) - (40N x 1) = (5kg) a
300 2
40cos300
(34.64 N) – (23.4 N) = (5kg) a

11.24 N = (5kg) a

การคดิ หน่วย 1 N = 1 kg·m/s2

ดงั นน้ั a = ( )11.24 kg·m/ 2
5kg

a = 2.25 m/s2

78

- กล่องมวล 5 กิโลกรัม 3 กิโลกรมั และ 2 กิโลกรัม วางติดกันบนพ้นื เกลี้ยง ถา้ ออกแรงผลกั 10 นิวตนั จงหา

แรงทีก่ ล่องแตล่ ะกล่องกระทำซึ่งกนั และกนั

จาก F = ma

5 kg หาความเรง่ จะไดว้ ่า 10 N = (5kg + 3 kg + 2kg) a

10 N 3 kg 2 kg การคดิ หนว่ ย 1 N = 1 kg·m/s2
a = 10kg·m/ 2
F53 F35
F32 F23 10

หา F35 จากกลอ่ ง 5 กโิ ลกรัม หา F23 จากกลอ่ ง 3 กโิ ลกรัม
10 N - F35 = (5 kg)( 1 m/s2) F53– F23 = (3 kg)( 1 m/s2)
F35 = 10 - 5 = 5 N 5 N - F23 = 3 N
F23 = 5 N – 3 N
เนอื่ งจาก แรงกิรยิ า = แรงปฏกิ ิรยิ า
F23 = 2 N
ดังนนั้ F35 = F53 = 5 N เนือ่ งจาก แรงกริ ยิ า = แรงปฏกิ ิริยา

ดงั นัน้ F23 = F32 = 2 N

- กล่องใบแรกมีมวล 12 กิโลกรัม ถูกเชื่อมต่อกับกล่องใบที่สองซึ่งมวล 18 ด้วยเชือกเบา แล้วถูกลาก
ไปด้วยแรงในแนวระดับ ถา้ ขนาดของแรงมคี ่า 68 นวิ ตัน และสัมประสทิ ธคิ์ วามเสยี ดทานจลน์ระหว่างกล่องกับ
พื้นเป็น 0.1 จงหาแรงดึงในเสน้ เชอื กระหว่างกล่องท้ังสองใบและขนาดความเรง่ ของระบบ

79

12 kg ⃑ 18 kg F = 68 N

⃑⃑⃑ ⃑2 ⃑ ⃑⃑ ⃑1

⃑ ⃑

⃑⃑ ⃑2 ⃑ ⃑⃑ 1
2 1

ขนาดความเร่งของระบบ แรงดึงในเส้นเชอื กระหวา่ งกล่องท้ังสองใบ
F = ma คดิ ท่ีมวลก้อนสุดทา้ ย

F – f1 – f2 = (m1 + m2) a F = ma
F – N1 – N2 = (m1 + m2) a T – f2 = m2a
F – m1g – m2g = (m1 + m2) a T – N2 = m2a
68–(0.1)(18)(9.8)–(0.1)(12)(9.8) = (18+12)a T – m2g = m2a
68 – 17.64 – 11.76 = 30a T – (0.1)(12)(9.8) = (12)(1.29)
T – 11.76 = 15.48
38.6 = 30a
a = 38.6 = 1.29 m/s2 T = 15.48 + 11.76
T = 27.24
30

การเคลอื่ นท่ขี องวัตถุบนพ้นื เอียง

- กล่องใบหนึง่ ไถลลงพื้นเอียงที่ไรแ้ รงเสียดทาน จงหาความเร่งของกล่องใบนี้ (กำหนดให้พน้ื
เอียงทำมุม 30 องศา กับพนื้ ราบ)

แรงทที่ ำให้กลอ่ งไถลซ่ึงมีค่า mg sin300
N จากกฎข้อทส่ี องของนิวตนั

จะไดว้ า่ F = ma

mg sin300 = ma

mg sin300 300 g sin300 = a
a = 9.8 (1)
300 mg mg cos300
2

a = 4.9 m/s2

80

การเคลื่อนที่ของวตั ถุในแนวด่งิ
- เชือกเส้นหนึ่งแขวนห้อยลงมาจากเพดาน ปลายอีกข้างหนึ่งปล่อยลงมาในแนวดิ่ง ชายคน

หนงึ่ มมี วล 60 กิโลกรมั โหนอยู่ดังรูป ถ้าเชอื กมมี วลน้อยมากเชอื กจะมคี วามตึงเท่าไร เมอ่ื ชายคนน้ีไตเชอื ก

ก. ข้ึนดว้ ยความเร่ง 2 เมตร/วินาที2 ข. ลงด้วยความเร่ง 2 เมตร/วนิ าที2

T จาก F = ma T จาก F = ma
T – mg = ma a mg – T = ma

a T – (60)(9.8) = (60)(2) mg (60)(9.8) – T = (60)(2)
T – 588 = 120 588 – T = 120
T = 588 - 120
T = 120 + 588 T = 468 N
mg T = 708 N

การเคลอ่ื นที่ของวัตถุสองกอ้ นที่วางซ้อนกนั

1) การเคล่ือนทจ่ี ะเป็น 2 แบบ คอื
(1) มวลบนไถลไปบนมวลก้อนลา่ ง
(2) มวลกอ้ นบน ตดิ ไปกบั มวลกอ้ นลา่ ง

2) หลกั การพิจารณา
(1) แยกมวลทั้งสองก้อนออกจากกันอย่างอิสระ เขียนแรงทั้งหมดที่กระทำกับมวล

แตล่ ะกอ้ น
(2) คำนวณหาความเร่งของแตล่ ะกอ้ นออกมาเพื่อวิเคราะหล์ ักษณะการเคลื่อนที่

81

- กล่องสองใบมีมวล m1 และ m2 ตามลำดับวางซ้อนกันบนพื้นราบลื่นไร้ความฝืด มีแรง F
กระทำต่อกล่อง m2 ทำให้กล่องทั้งสองเคลื่อนท่ีไปทางขวาด้วยความเร่ง a ถ้า f เป็นแรงเสียดทานสูงสุดท่ีมไี ด้
ระหวา่ งผิวสัมผัสทง้ั aสอง F มีคา่ มากทสี่ ุดเท่าใด มวล m1 จึงไม่ไถลไปบนมวล m2

m2 a พจิ ารณาท้ังระบบ
F m1
m2 f F = ma

พจิ ารณาที่ m2 F = (m1 + m2)a
F = ma แทนคา่ a ลงในสมการ
f = m2a
a = F = (m1 + m2)( )

2 2
F = 1+ 2
2

- วัตถมุ วล 1.0 กโิ ลกรมั ผกู โยงต่อดว้ ยเชือกเบากบั แผ่นไม้มวล 5.0 กโิ ลกรมั เชือกคล้องผ่าน
รอกล่ืน และแผ่นไมว้ างบนพ้ืนราบมแี รง ขนาด 50.0 นิวตัน ดึงแผน่ ไมใ้ นแนวระดบั ดงั รูป

1 kg
5 kg F = 50 N

ถ้าสัมประสิทธิ์ความเสียดทานจลน์ระหว่างมวล 1.0 กิโลกรัม กับมวล 5.0 กิโลกรัมมีค่า 0.4 และ
สัมประสิทธ์ิความเสียดทานจลนร์ ะหวา่ งมวล 5.0 กิโลกรัม กับพ้ืนมีค่า 0.5

ก. เขียนแผนภาพของแรงทกี่ ระทำ ต่อมวล 1.0 กโิ ลกรมั และ 5.0 กโิ ลกรมั

a a f1
T 5 kg F
T 1 kg
f1 f2

ข. แรงเสยี ดทานจลนร์ ะหวา่ งมวล 1.0 และ 5.0 กโิ ลกรมั มคี า่ เท่าใด
f = N
f1 = (mg) = (0.4)(1)(9.8) = 3.92 N

82

ค. แรงเสยี ดทานจลน์ระหว่างมวล 5.0 กโิ ลกรัม กบั พ้ืน มคี า่ เทา่ ใด

แรงท่ีกดพน้ื ท้งั หมดเกดิ จากนำ้ หนกั ของมวลทัง้ สองกอ้ น

f = N

f2 = (mg) = (m1 + m2)g

f2 = (0.5)(1+5)(9.8) = 29.4 N

ง. ความเรง่ ของระบบ มคี า่ เทา่ ใด

คดิ ท่มี วล 5 kg ; F = ma คดิ ท่มี วล 1 kg ; F = ma

F – f1 – f2 – T = ma T – f1 = ma
50 – (3.92) – (29.4) – T = 5a T - 3.92 = 1a

16.68 – T = 5a (1) T - 3.92 = a (2)

(1) + (2) ; 16.68 - 3.92 = 6a

12.76 = 6a

a = 2.13 m/s2

การเคลือ่ นทีใ่ นกรณีมีรอก

- วัตถมุ วล 10.0 กโิ ลกรมั และ 5.0 กโิ ลกรัม ผกู ติดกนั ดว้ ยเชือกเบา แลว้ คล้องผา่ นรอกล่นื
และวางอยบู่ นพน้ื เอียงที่ไมม่ ีความเสียดทาน ดงั รปู เม่ือปล่อยให้มวลทั้งสองเคลอื่ นที่
จงหา ก. ความเรง่ ของมวลท้ังสอง และ ข. แรงดงึ ในเสน้ เชือก

N1 T
T
10kg
m2g cos500 500 N2
m1g sin300
m1g cos300 5kg
300 m1g
m2g sin500

m2g

83

หาวา่ เมอ่ื ปลอ่ ยวตั ถทุ งั สองแล้ววัตถจุ ะเคลอ่ื นท่ไี ปทางใด
มวล 10 kg => m1g sin300 = (10)g(0.5) = 5g
มวล 5 kg => m2g sin500 = (5)g(0.766) = 3.83g

วตั ถจุ ะเคล่ือนท่ไี ปทางมวล 10 kg

ก. ความเร่งของมวลทัง้ สอง ข. แรงดึงในเส้นเชือก
จาก F = ma จาก F = ma
m1g sin300 – m2g sin500 = (m1 + m2)a
(10)(9.8)(0.5) – (5)(9.8)(0.766) = (10+5)a m1g sin300 – T = m1a
(10)(9.8)(0.5) – T = (10)(0.76)
49 – 37.534 = 15a
11.466 = 15a 49 – T = 7.6
T = 49 – 7.6
a = 11.466 = 0.76 m/s2 T = 41.4 N

15

- ชายคนหนึ่งดึงวัตถุขึ้นไปบนยอดตึกสูง 10 เมตร โดยใช้วิธีนำเชือกเบาผูกกับวัตถุคล้องกับ

รอกลื่นแล้วดึงดังภาพ พบว่าขณะวัตถุขึ้นถึงยอดตึกมีความเร็ว 10 เมตรต่อวินาที ถ้าวัตถุมีมวล 40 กิโลกรัม

ชายคนน้จี ะตอ้ งออกแรงดึงเท่าไร จาก v2 = u2 + 2as

102 = 0 + 2a(10)

a = 100 = 5 m/s2

20

จาก F = ma

T – Mg = Ma

T = M (g+a)

T = (40)(9.8+5) = 529 N

84

- มวล M และมวล m ผูกโยงต่อกนั ดว้ ยเชือกเบาคล้องผ่านรอกลืน่ โดยมวล M วางบนพื้น

เอียงท่ีไมม่ ีความฝืด ตอ้ งใชแ้ รง ขนาด 24.5 นิวตัน ในแนวขนานกบั พน้ื เอียง เพ่ือทำ ให้ระบบหยดุ น่งิ ถา้ M มี

ค่า 1.0 กิโลกรมั และพน้ื เอียงทำ มมุ 30 องศากับแนวระดับ ดังรูป มวล m มคี ่าก่ีกิโลกรัม
ที่วตั ถมุ วล M จาก F = 0

NT F + Mg sin300 - T = 0

Mg sin300 M T T = F + Mg sin300
Mg Mg cos300 T = 24.5 + (1)(9.8)(0.5)
F
300 m T = 24.5 + 4.9 = 29.4 N

mg หามวล m จาก T = mg

29.4 = m (9.8)

m = 3 kg

- พิจารณาระบบดงั ในรปู กำหนดใหเ้ ชอื กไม่มีมวล และพ้นื ไมม่ แี รงเสยี ดทาน ความเร่งของ

ระบบมีค่าเท่าใด และแรงดงึ ในเส้นเชือกจะมคี ่าก่นี ิวตนั จาก F = ma
5 kg



ที่วตั ถมุ วล 5 kg ; T = ma

⃑ T = 5a (1)
ทีว่ ัตถุมวล 10 kg ; m2g - T = ma
10 kg
98 - T = 10a
m2
(1) + (2) ; 98 = 15a

a = 6.53 m/s2 (2)

แทน a ในสมการที่ (1) จะได้ T = 5(6.53)

T = 32.65 N (10)(9.8) = (5 + 10)a

a=

85

- มวล 20 กิโลกรัม และ 10 กิโลกรัม คล้องผ่านลอกที่เบา ดังรูป จงหาความเร่งและความตึงในเส้น
เชือก

จาก F = ma

aT Ta ที่วตั ถุมวล 20 kg ; m1g - T = m1a (1)
(20)(9.8) - T = 20a

10 kg 20 kg 196 - T = 20a (2)
m2g m1g ท่วี ัตถมุ วล 10 kg ; T - m2g = m2a

T- (10)(9.8) = 10a

(1) + (2) ; 196 - 98 = 30a หาความตึงเชือกโดยแทT-น9ค8า่ a= ล1ง0ใaนสมการที่ (1)
98 = 30a
a = 3.27 m/s2 196 - T = 20a

196 – T = (20)(3.27)
(10)(9.8) =T(5= +19160)-a65.4 = 130.6 N

a=

- มวล 2 และ 6 กิโลกรัม แขวนกับรอกเบา ดังรูป จงหาความตึงเชือกและความเร่งของมวล

ทั้งสอง
จาก F = ma

T1 ท่วี ตั ถุมวล 2 kg ; T1 – m1g = m1a1 (1)
T1 T1 - (2)(9.8) = 2a1
T1 – 19.6 = 2a1 (2)
a2 T1 a1 (3)
T2 ที่วตั ถุมวล 6 kg ; m2g – T2 = m2a2
62 (6)(9.8) – T2 = 6 a2
58.8 – T2 = 6a2
m2g m1g
คิดทรี่ อก ; T2 – (T1 +T1) = 0
T2 = 2T1

ระยะทางทมี่ วล 2 กิโลกรัมเคล่อื นทขี่ นึ้ จะเปน็ 2 เทา่ ของระยะทางท่ีมวล 6 กิโลกรัมเคล่ือนท่ีลง

ดังน้ัน จะได้ว่า a1 = 2a2 (4)

แทนสมการท่ี (4) ในสมการ (1) จะได้ว่า T1 – 19.6 = 2(2a2) (5)
T1 – 19.6 = 4a2

86

แทนสมการท่ี (3) ในสมการ (2) จะได้ว่า 58.8 – (2T1) = 6a2 (6)

29.4 - T1 = 3a2

นำสมการท่ี (5) + (6) ; 9.8 = 7a2

a2 = 1.4 m/s2

หา a1 จากสมการที่ (4) จะได้ว่า a1 = 2(1.4) = 2.8 m/s2

หา T1 จากสมการที่ (6) จะได้ว่า 29.4 - T1 = 3(1.4)

T1 = 25.2 N

หา T2 จากสมการที่ (3) จะได้วา่ T2 = 2T1

T2 = 2(25.2)

T2 = 50.4 N

5.4.2 ครูให้นกั เรียนทำใบงาน เรือ่ ง การประยุกตใ์ ช้กฎการเคลอื่ นที่

5.5 ข้ันประเมิน (Evaluation)
5.5.1 ครถู ามคำถามนกั เรยี นเพ่ือตรวจสอบความรู้ โดยใช้คำถามตอ่ ไปนี้
- กฎของนวิ ตนั มีกี่ข้อ อะไรบ้าง
- น้ำหนัก แรงดึง แรงเสียดทาน และแรงปฏิกิริยาในแนวตั้งฉาก คืออะไร ใช้

สญั ลักษณอ์ ะไร
5.5.2 ครูตรวจสอบผลจากการตรวจใบงาน เรือ่ ง การประยกุ ต์ใชก้ ฎการเคลอ่ื นท่ี
5.5.3 ครูประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงาน

รายบคุ คล

6. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
6.1 หนังสอื เรยี นรายวชิ าฟิสิกส์เพิ่มเตมิ ม. 4 เล่ม 1 สสวท.
6.2 ใบงาน เรอื่ ง การประยุกตใ์ ชก้ ฎการเคล่ือนที่

87

7. กระบวนการวดั และประเมินผล

จดุ ประสงค์ เครอ่ื งมอื วิธกี ารวดั เกณฑ์การตดั สนิ
ดา้ นความรู้ (K) ใบงาน
1) อธิบายการใช้กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันกับ ตรวจคำตอบจาก ผ่านเกณฑ์อยา่ ง
สภาพการเคลอ่ื นทข่ี องวัตถุแบบต่างๆ ได้ ใบงาน ใบงาน น้อยร้อยละ 70
ด้านด้านทักษะกระบวนการ(P)
1) เขยี นแผนภาพของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุอสิ ระ แบบประเมิน ตรวจคำตอบจาก ผ่านเกณฑ์อยา่ ง
2) คำนวณหาปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกับการ พฤติกรรม ใบงาน น้อยร้อยละ 70
เคล่ือนที่ของวัตถุ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) สังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์อยา่ ง
1) มคี วามสนใจใฝร่ ทู้ างด้านวิทยาศาสตร์ นอ้ ยร้อยละ 70

88

บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการจดั การเรยี นการสอน
K : นกั เรียนสามารถอธบิ ายและยกตัวอย่างการใช้กฎของนิวตันกับสภาพการเคล่ือนที่ของวัตถแุ บบต่างๆ
P : นกั เรยี นส่วนใหญ่สามารถเขียนแผนภาพของแรงท่กี ระทำกบั วัตถุได้
A : นักเรยี นออกมาทำกจิ กรรมหน้าชนั้ เรียน ต้ังใจทำงานทไี่ ด้รับมอบหมายเป็นอยา่ งดี

ปัญหาและอุปสรรค/ข้อบกพร่องที่พบ
-

ข้อเสนอแนะ/แนวทางการแก้ไข
พยายามพูดคุยกับนกั เรยี นมากขึน้ เพื่อนักเรียนจะไดโ้ ต้ตอบกบั ครูมากย่ิงข้ัน

89

ความคิดเหน็ ของครพู ี่เลีย้ ง

ความคดิ เห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์

90

แบบประเมินพฤติกรรมนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4/9

คำชี้แจง : ครผู สู้ อนประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนโดยให้คะแนนตามเกณฑท์ ่ีกำหนด

รายการการประเมิน สรปุ ผลการ
ประเมนิ

เลข ชอื่ -นามสกุล ความร่วม ืมอใน รวม
ที่ ทำ ิกจกรรม คะแนน ผ่าน ไม่

การแสดงความ ิคดเห็นตอบ ผ่าน
คำถาม

การรับฟังความคิดเห็นผู้ ่ือน
ความ ัต้งใจทำงาน

1 นางสาวกฤตธรี า วเิ ชยี รเครอื 2 2 22 8 /

2 เด็กชายกษิกร ถาวรวเิ ชยี ร 2 2 22 8 /

3 นางสาวจรรยมณฑน์ ปัถพี 2 2 22 8 /

4 นายจฑุ าภกั ดี จนั ทคตั 2 2 22 8 /

5 นางสาวชลกมล ดอนจนั ทร์โคตร 2 2 2 2 8 /

6 นายญาณวุฒิ ใหม่วงษ์ 2 2 22 8 /

7 นางสาวณฎั ฐณิชา นภากาศ 2 2 22 8 /

8 นางสาวณฐั ธยาน์ วงตา 2 2 22 8 /

9 เด็กหญิงณัฐรวี ศรีสุนทร 2 2 22 8 /

10 นางสาวดลภคั ชยั รัตน์ 2 2 22 8 /

11 นายธนธรรม คา่ ยใส 2 2 22 8 /

12 นางสาวธนภรณ์ เสยี งใส 2 2 22 8 /

13 เดก็ หญงิ ธวัลรตั น์ ทองธริ าช 2 2 22 8 /

14 นางสาวธาริน หาญณรงค์ 2 2 22 8 /

15 นางสาวนภสร ไชยมงคล 2 2 22 8 /

16 นายนราธร วงษศ์ รวี อ 2 2 22 8 /

17 นายบรุ วชิ ยา รงค์ทอง 2 2 22 8 /

18 นายปฏิภาณ เบย้ี วทุ่งน้อย 2 2 22 8 /

19 เด็กหญงิ ปพิชญา ภกู องไชย 2 2 22 8 /

20 นายพศวตั ศรีขดั เค้า 2 2 22 8 /

21 นางสาวพัชรห์ ทยั จนั ทร์สมคอย 2 91
22 นางสาวพัชราภร บตุ รพรม 2
23 นางสาวพณั ณิตา พรมสมบัติ 2 2 22 8 /
24 นางสาวพนั ธนันธ์ ยาวาปี 2 2 22 8 /
25 นายพรี วิชญ์ ศรี ษะโคตร 2 2 22 8 /
26 เด็กชายพฒุ ิพงศ์ สงวนต้นกัลยา 2 2 22 8 /
27 นางสาวเพชรไพลิน จิว๋ กรา่ ง 2 2 22 8 /
28 เด็กหญงิ เพลงไพเราะ สว่างอารมณ์ 2 2 22 8 /
29 นางสาวฟ้าพราว จันทร์ทะวงษ์ 2 2 22 8 /
30 นางสาวภัทรยี า นัทธี 2 2 22 8 /
31 เด็กชายยศกร ทิพย์โชติ 2 2 22 8 /
32 นางสาวรมติ า ทา้ วพา 2 2 22 8 /
33 นายวงศกร บตุ รแก้ว 2 2 22 8 /
34 นายวชริ วชิ ญ์ ภาโนมยั 2 2 22 8 /
35 เด็กหญงิ วรศิ รา พะรินรมั ย์ 2 2 22 8 /
36 นางสาววรศิ รา สนทนา 2 2 22 8 /
37 นายศุภกร ใจแกว้ 2 2 22 8 /
38 เดก็ ชายศุภโชค เปรมนัส 2 2 22 8 /
39 เด็กชายอชิระ เพราะกระโทก 2 2 22 8 /
40 นายอนุวฒั น์ สดุกา 2 2 22 8 /
41 เดก็ หญิงอรกญั ญาฐ์ วงศเ์ ลิศ 2 2 22 8 /
42 นางสาวอรจิรา ประทมุ ชัย 2 2 22 8 /
43 นายอรรถพร เหวนอก 2 2 22 8 /
44 นางสาวสุวภทั ร เจริญวงศ์ 2 2 22 8 /
45 นายเสฎภมู ิ จริยามา 2 2 22 8 /
2 22 8 /
เกณฑก์ ารให้คะแนน 2 22 8 /
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
สรปุ คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน ไม่ผา่ น
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน ผ่าน

92

แบบประเมินพฤติกรรมนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/11

คำชแี้ จง : ครผู สู้ อนประเมนิ พฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนโดยใหค้ ะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด

รายการการประเมิน สรปุ ผลการ
ประเมนิ

เลขที่ ชอื่ -นามสกุล ความร่วม ืมอใน รวม
ทำ ิกจกรรม คะแนน ผ่าน ไม่

การแสดงความ ิคดเห็นตอบ ผ่าน
คำถาม

การรับฟังความคิดเห็นผู้ ่ือน
ความ ัต้งใจทำงาน

1 นางสาวกัลป์ยกร ศภุ วฒุ ณิ ฐั 2 2 22 8 /
2 นางสาวกานต์ วงศ์เพชรชารัต 2 2 22 8 /
4 นายฉัตรนิ ปานะถึก 2 2 22 8 /
5 เด็กหญงิ ชญาภา สงิ คลีประภา 2 2 22 8 /
8 นางสาวดารารตั น์ รม่ วาปี 2 2 22 8 /
9 นายตลุ า วระไวย์ 2 2 22 8 /
10 นายธนดล เหลา่ โพธ์ิ 2 2 22 8 /
11 นางสาวธญั ญรัตน์ ปญั ญาวชิรพงษ์ 2 2 22 8 /
12 นางสาวธิชา โคตรมงคล 2 2 22 8 /
13 นางสาวบญุ ญารกั ษ์ เหลา่ หวา้ น 2 2 22 8 /
14 นางสาวเบ็ญจพร บุญสา 2 2 22 8 /
15 เดก็ ชายปรมนิ ทร์ พรมมาตย์ 2 2 22 8 /
16 นายปรินทร กองสิน 2 2 22 8 /
17 นายปญั ณวิศญ์ ปัญญาทอง 2 2 22 8 /
18 นางสาวปาลิดา กิจขยัน 2 2 22 8 /
19 นางสาวปณุ ณศิ า ชุกะวฒั น์ 2 2 22 8 /
20 เด็กหญิงปณุ ยวรี ์ อปุ ถัมภ์ 2 2 22 8 /
21 นางสาวพลอยทิพย์ รวมธรรม 2 2 22 8 /
22 นายพิชาญเมธ กังวานสุขธำรง 2 2 22 8 /

23 เดก็ หญงิ พรี ดา อัชฌานภาลยั 2 93

24 นายภคพล เงนิ ขาว 2 2 22 8 /
2 22 8 /
25 นางสาวภิญญดา ลายวรรณรัตน์ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
26 นางสาวภริ ญั ญา ผาริโน 2 2 22 8 /
2 22 8 /
27 นางสาวมนชนก แกว้ ฝา่ ย 2 2 22 8 /
2 22 8 /
28 นายยุทธภมู ิ นามอตุ วงศ์ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
29 เดก็ หญงิ รชาอร ช้างรักษา 2 2 22 8 /
2 22 8 /
30 นายรัตนะเทพ สขุ เกษม 2 2 22 8 /
2 22 8 /
31 เดก็ ชายวรี ชั กรณ์ เอีย่ มสนิ ธร 2 2 22 8 /
2 22 8 /
32 นายเวคิน ทอนฮามแกว้ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
33 เด็กหญิงศริ ิกลั ยา ผการตั น์ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
34 นายสรรพากร ศรหี ะ 2 2 22 8 /
2 22 8 /
35 นางสาวสุปรยี า หงษี 2 2 22 8 /
2 22 8 /
36 นายอนพัทย์ โสตะราษฎร์ 2 2 22 8 /

37 เด็กชายอนุศิษฎ์ แก้ววันนา 2 ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
38 นางสาวอภิญญา ภูวเดชากุล 2 ให้ 1 คะแนน

40 นายอัครพล วงศก์ าฬสนิ ธุ์ 2

41 นางสาวอัญชิสา ภูชธู รรม 2

42 นายจรี าวัฒน์ ถาวรสนิ พงศ์ 2

43 นายเจษฏาภรณ์ บญุ นอก 2

44 นายจิรันธนิน วงศธ์ รี ะชวลิต 2

45 นางสาวฐานิตา เนตรโสภา 2

46 นางสาวปญั ฐญิ า วลิ าวัน 2

47 นางสาวรสิตา ผา่ นคำ 2

48 นายอันดามัน มพี ยุง 2

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ

ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั

ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั

สรุป คะแนนรวม 0 - 7 คะแนน ไม่ผา่ น
คะแนนรวม 8 - 12 คะแนน ผา่ น


Click to View FlipBook Version