รูปเล่มโครงการนมสดทอด

นมสดทอด

จัดทำโดย

ชตุ กิ าญจน์ แจ้งเจรญิ รหสั นกั ศึกษา 63302010063

พชิ ญาภา รตั นะ รหัสนกั ศกึ ษา 63302010064

สุภสั สรา เนียมชาวนา รหสั นักศกึ ษา 63302010079

เสนอ
นางนพิ ร จุทันรัตน์

รายงานนี้เปน็ สว่ นหนึง่ ของการศึกษา วิชาโครงการ
สาขาวิชา การบญั ชี ประเภทวิชา บริหารธรุ กจิ
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564
วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาชลบรุ ี

นมสดทอด

จดั ทำโดย
นางสาวชุตกิ าญจน์ แจ้งเจรญิ รหสั นกั ศึกษา 63302010063
นางสาวพิชญาภา รัตนะ รหสั นักศึกษา 63302010064
นางสาวสภุ สั สรา เนยี มชาวนา รหสั นกั ศกึ ษา 63302010079

เสนอ
นางนิพร จุทันรัตน์

รายงานนเ้ี ปน็ สว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษา วชิ าโครงการ
สาขาวชิ า การบัญชี ประเภทวิชา บรหิ ารธุรกจิ
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาชลบุรี



ใบรบั รองโครงการ
วิทยาลัยอาชวี ศึกษาชลบุรี

เร่อื ง นมสดทอด
จดั ทำโดย นางสาวชุติกาญจน์ แจง้ เจริญ

นางสาวพชิ ญาภา รัตนะ
นางสาวสุภสั สรา เนยี มชาวนา

ได้รับการรับรองใหน้ ับเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาตามหลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นสงู
(ปวส.) สาขาวิชาการบญั ชี ประเภทวชิ าบรหิ ารธรุ กิจ

……………………………….หัวหนา้ แผนกวิชา ………….………….รองผ้อู ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
(นางนิพร จทุ ัยรตั น์) (นายยรรยงค์ ประกอบเก้อื )

วนั ที…่ …..เดือน………………พ.ศ……….... วันที…่ …..เดอื น………………พ.ศ…....……..

คณะกรรมการสอบโครงการ
…………………………………………………ประธานกรรมการ (อาจารย์ทปี่ รกึ ษาโครงการ)
(…………………………………………..)

…………………………………………………กรรมการ
(…………………………………………..)

…………………………………………………กรรมการ
(…………………………………………..)

…………………………………………………กรรมการ
(…………………………………………..)

กิตติกรรมประกาศ

การศกึ ษาเรื่อง นมสดทอด ในครั้งน้ี สามารถสำเร็จลุล่วงอย่างสมบรู ณ์ดว้ ยความกรุณาจาก
อาจารยน์ พิ ร จทุ ยั รตั น์ ท่ีปรกึ ษาโครงการท่ีให้คำแนะนำแนวทางและคอยให้คำปรึกษา ตลอดจนชว่ ย
แก้ไขข้อบกพร่องในขนั้ ตอนของการจัดทำโครงการ คณะผู้จัดทำโครงการขอขอบพระคุณเปน็ อย่างสูง

ขอขอบพระคุณบิดา คุณมารดา และเพ่ือน ๆ ทุกคน ที่ให้คำปรกึ ษาแนะนำ คอยสนบั สนุน
คณะผจู้ ัดทำมาตลอด โครงการจะสำเร็จลลุ ่วงไม่ได้ หากไม่มบี ุคคลดงั กลา่ วในการจัดทำโครงการ

คณุ ค่าและประโยชนข์ องโครงการน้ี คณะผู้จดั ทำขอมอบเป็นกตัญญูกตเวทิตาแด่บพุ การี
บรู พาจารย์ และผู้มีพระคุณ ที่ได้อบรม สัง่ สอน ชีแ้ นะแนวทางในการศกึ ษาจนทำให้คณะผ้จู ดั ทำ
ประสบความสำเรจ็ มาจนตราบทุกวนั นี้

ชุตกิ าญจน์ แจง้ เจริญ
พชิ ญาภา รัตนะ
สุภสั สรา เนียมชาวนา

ช

สารบัญ
หน้า

ใบรับรองโครงการ.......................................................................................................................................ง
บทคัดย่อ.................................................................................................................................................จ-ฉ
กติ ติกรรมประกาศ......................................................................................................................................ช
สารบัญ.......................................................................................................................................................ฌ
สารบญั (ต่อ1)............................................................................................................................................ญ
สารบัญ (ต่อ2).............................................................................................................................................ฎ
สารบญั ตาราง.............................................................................................................................................ฏ
สารบัญภาพ............................................................................... .................................................................ฐ
บทท่ี 1 บทนำ...........................................................................................................................................1

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ...........................................1
ขอบเขตของโครงการ ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะไดร้ ับ นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ.........................................2
บทท่ี 2 เอกสาร ทฤษฎี และงานวจิ ัยทเี่ กีย่ วข้อง......................................................................................3
จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคำอธิบายรายวิชา..................................................4
ทฤษฎกี ารวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาด (SWOT Analysis).............................................5
แนวคิดเก่ียวกบั การขอรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน...........................................................6
แนวคดิ เก่ยี วกับการขอรบั รองมาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ ุมชน...........................................................7
ทฤษฎกี ลยุทธก์ ารตลาด (4Ps) และ (8Ps), กลยทุ ธ์ตลาดออนไลน์............................................8
ทฤษฎีกลยุทธก์ ารตลาด (4Ps) และ (8Ps), กลยุทธต์ ลาดออนไลน์............................................9
ทฤษฎีกลยุทธก์ ารตลาด (4Ps) และ (8Ps), กลยทุ ธต์ ลาดออนไลน์.........................................10
ทฤษฎกี ลยุทธก์ ารตลาด (4Ps) และ (8Ps), กลยทุ ธ์ตลาดออนไลน์.........................................11
การบรโิ ภคและทฤษฎีพฤติกรรมผบู้ ริโภค (Buyer Behavior’ Model).................................12
การบริโภคและทฤษฎีพฤติกรรมผ้บู รโิ ภค (Buyer Behavior’ Model).................................13
แนวคิดการออกแบบบรรจุภัณฑ์.............................................................................................14
แนวคิดการออกแบบบรรจุภัณฑ์.............................................................................................15

ฌ

สารบญั (ตอ่ 1)
หนา้

บทท่ี 2 ทฤษฎีกลไกราคา.......................................................................................................................16
ทฤษฎีกลไกราคา......................................................................................................................17
แนวความคิดของหลกั การบัญชีตน้ ทนุ .....................................................................................18
แนวความคิดของหลกั การบัญชีตน้ ทนุ .....................................................................................19
งานวิจัยทีเ่ กยี่ วขอ้ ง...................................................................................................................20

บทท่ี 3 วิธกี ารดำเนินการศึกษา.............................................................................................................21
ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการศกึ ษา............................................................21
ขั้นตอนในการสรา้ งเครื่องมือ...................................................................................................21
การเก็บรวบรวมข้อมลู การวเิ คราะหข์ ้อมลู และสถติ ิที่ใชใ้ นการศกึ ษา....................................22
การเกบ็ รวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมลู และสถิติท่ีใชใ้ นการศึกษา....................................23

บทท่ี 4 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล...............................................................................................................24
สัญลกั ษณ์ที่ใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล การนำเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ................................24
ตารางท่ี 1 แสดงความถ่ีและร้อยละของกลมุ่ เป้าหมาย จำแนกตามเพศ..................................25
ตารางที่ 2 แสดงความถีแ่ ละรอ้ ยละของกลุ่มเป้าหมาย จำแนกตามชว่ งอาย............................26
ตารางท่ี 3 แสดงความถแ่ี ละรอ้ ยละของกลมุ่ เป้าหมาย จำแนกตามกลมุ่ เรียน.........................27
ตารางท่ี 4 แสดงคา่ เฉลย่ี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความพงึ พอใจของผู้บรโิ ภคที่มีต่อ
ผลติ ภัณฑ์ และบรรจภุ ัณฑน์ มสดทอด สรปุ เป็นรายด้าน........................................28
ตารางที่ 5 แสดงค่าเฉลย่ี และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ความพงึ พอใจของผ้บู ริโภคท่ีมีต่อฃ
ผลิตภัณฑ์ และบรรจุภณั ฑน์ มสดทอด ด้านคณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์.........................29
ตารางที่ 6 แสดงค่าเฉล่ีย และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผู้บรโิ ภคทมี่ ีต่อ
ผลติ ภัณฑ์ และบรรจุภัณฑน์ มสดทอด ดา้ นคุณภาพของบรรจภุ ัณฑ์......................30
ตารางที่ 7 แสดงคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผู้บริโภคทีม่ ีต่อ
ผลติ ภัณฑ์ และบรรจุภณั ฑ์นมสดทอด ดา้ นการอำนวยความสะดวก......................31

ญ

สารบญั (ตอ่ 2)
หนา้

บทท่ี 4 ตารางที่ 8 แสดงคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผู้บรโิ ภคท่มี ีตอ่
ผลิตภณั ฑ์ และบรรจุภัณฑ์นมสดทอด ดา้ นสง่ เสริมการขาย....................................32

บทท่ี 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ......................................................................................33
สรปุ ผลการศึกษา.......................................................................................................................33
การอภปิ รายผล..........................................................................................................................34
การอภปิ รายผล..........................................................................................................................3 5
ขอ้ เสนอแนะ..............................................................................................................................36

บรรณานกุ รม................................................................................................................... .........................37
ภาคผนวก

ภาคผนวก ก แบบขออนมุ ัตโิ ครงการ และแบบเสนอโครงการ
ข แบบสอบถาม
ค งบประมาณค่าใช้จ่าย
ง เอกสารประกอบ (ภาพถ่าย)

ประวตั ผิ ทู้ ำการศึกษา

ฎ

สารบญั ตาราง

หนา้

ตารางที่ 1 แสดงความถี่และรอ้ ยละของกลมุ่ เป้าหมาย จำแนกตามเพศ...............................................25
ตารางท่ี 2 แสดงความถีแ่ ละร้อยละของกลมุ่ เปา้ หมาย จำแนกตามชว่ งอาย........................................26
ตารางที่ 3 แสดงความถ่ีและร้อยละของกลุ่มเปา้ หมาย จำแนกตามกลมุ่ เรียน......................................27
ตารางที่ 4 แสดงค่าเฉล่ยี และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผบู้ ริโภคที่มีต่อผลติ ภณั ฑ์

และบรรจุภณั ฑ์นมสดทอด สรุปเปน็ รายดา้ น.........................................................................28
ตารางที่ 5 แสดงค่าเฉล่ีย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคที่มีต่อฃผลติ ภัณฑ์

และบรรจุภณั ฑน์ มสดทอด ด้านคุณภาพของผลิตภณั ฑ์.........................................................29
ตารางที่ 6 แสดงค่าเฉลยี่ และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความพงึ พอใจของผูบ้ ริโภคทีม่ ีต่อผลติ ภณั ฑ์

และบรรจภุ ณั ฑ์นมสดทอด ด้านคุณภาพของบรรจุภณั ฑ์.......................................................30
ตารางท่ี 7 แสดงคา่ เฉลี่ย และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผ้บู รโิ ภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์

และบรรจภุ ณั ฑ์นมสดทอด ดา้ นการอำนวยความสะดวก........................................................31
ตารางท่ี 8 แสดงคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ความพงึ พอใจของผบู้ รโิ ภคทม่ี ีต่อผลิตภณั ฑ์

และบรรจุภัณฑน์ มสดทอด ดา้ นส่งเสรมิ การขาย....................................................................32

สารบญั ภาพ

หน้า

ภาพที่ 1 ผู้จัดทำจดั เตรียมวัตถุดบิ ……………………………………………………………………………………. 79
ภาพที่ 2 ผู้จดั ทำจดั เตรียมวัตถุดบิ ……………………………………………………………………………………. 79
ภาพท่ี 3 นำผลไม้มาจดั ใสจ่ านเพื่อนำไปห่นั ………………………………………………………………………. 80
ภาพที่ 4 ผู้ทำจัดห่ันผลไมท้ ่ีจัดเตรยี มไว้……………………………………………………………………………. 80
ภาพที่ 5 นำผลไม้ที่หนั่ แล้ว จัดใส่ชามเตรียมนำไปผสมแป้ง นำ้ ตาลและนม………………………….. 81
ภาพท่ี 6 นำส่วนผสมมาคลุกเคล้าให้เข้ากนั ………………………………………………………..…………….. 81
ภาพที่ 7 นำส่วนผสมไปตั้งเตาใชไ้ ฟอ่อนแล้วคนใหเ้ ปน็ เนื้อเดยี วกัน………………………….………….. 82
ภาพที่ 8 นำสว่ นผสมไปต้ังเตาใชไ้ ฟอ่อนแลว้ คนใหเ้ ปน็ เนื้อเดยี วกนั ………………………….………….. 82
ภาพที่ 9 นำสว่ นผสมตัดแบง่ เปน็ สี่เหล่ยี ม ชบุ แปง้ และเกลด็ ขนมปงั …………..………………………… 83
ภาพที่ 10 นำส่วนผสมตดั แบ่งเปน็ สเี่ หล่ยี ม ชุบแป้งและเกลด็ ขนมปัง…………………..………………. 83
ภาพที่ 11 นำส่วนผสมทช่ี ุบแป้งและเกลด็ ขนมปังแลว้ ไปทอด………………………………….………….. 84
ภาพที่ 12 นมสดทอดหลังจากนำไปทอดแล้ว.……………………………………………………….………….. 84
ภาพท่ี 13 กล่มุ เป้าหมายกรอกแบบสอบถาม…………………………………………………..…….…………. 85
ภาพท่ี 14 กลมุ่ เปา้ หมายกรอกแบบสอบถาม…………………………………………………..…….…………. 85
ภาพที่ 15 ผู้จดั ทำเกบ็ รวบรวมแบบสอบถาม…………………………………………………..…….….……… 86
ภาพที่ 16 ผู้จดั ทำเกบ็ รวบรวมแบบสอบถาม…………………………………………………..…….…………. 86
ภาพที่ 17 ผู้จัดทำเก็บรวบรวมแบบสอบถาม…………………………………………………..…….…………. 87
ภาพท่ี 18 ผ้จู ดั ทำเกบ็ รวบรวมแบบสอบถาม…………………………………………………..…….…………. 87

บทที่ 1

บทนำ

ความเปน็ มาและความสำคัญของปัญหา
นมสดทอด (Deep Fried Milk Ball) มที ี่มาจากสเปนสญั ชาติยุโรปแท้ เป็นเมนูท่ีเหมาะกับ

คนรักการด่ืมนมเป็นอยา่ งมาก แตส่ ว่ นมากจะพบเห็นเมนูทีท่ ำจากนมเปน็ จำพวกเครื่องดม่ื แต่นมสด
ทอดจะแตกต่างออกไป เป็นอีกรปู แบบหนึง่ โดยการนำนมสดมาแปรรปู คลุกเคลา้ สว่ นผสมและนำไป
ทอด ซ่งึ เปน็ ไดท้ ้ังของคาวและของหวานทำงา่ ย นา่ ล้ิมลอง และเหมาะกบั การทานเลน่ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

นมสดทอดแบบดั้งเดิม ทพ่ี บเห็นจะใชน้ มสดเปน็ สว่ นประกอบหลกั เพ่ือพัฒนาต่อยอดจาก
สตู รดัง้ เดิม พวกเราจึงทำนมสดทอดให้มไี ส้เปน็ เน้ือผลไม้ ได้แก่ กล้วยหอม เมลอน และสตรอว์เบอร์รี
ทำให้ตวั ไสจ้ ะมเี นือ้ สัมผัสของผลไม้ ผสมผสานกับนมสดได้เปน็ อยา่ งดี และนำไปชุบแป้งทอด แต่มี
ปัญหาทพ่ี บ คอื ตัวของนมสดทอดมีขนาดใหญ่ ไม่เทา่ กนั เน่ืองจากตวั ของไสผ้ ลไมช้ ิน้ ใหญ่เกนิ ไป
จงึ ทำใหต้ อนชุบแปง้ ทอด ตัวของแปง้ ตอนทอดเสร็จ มีขนาดใหญก่ วา่ ตอนยงั ไมน่ ำไปทอด ส่วนรสชาติ
ของนมสดทอดน้ันเปน็ ทน่ี ่าพงึ พอใจ พวกเราจงึ หาแนวทางการแก้ไข โดยห่ันผลไมใ้ หเ้ ป็นชิ้นเลก็ ๆ
เพ่ือให้ตวั นมสดทอดมีขนาดพอดคี ำ นา่ รับประท่านมากยงิ่ ข้ึน

ดังน้ัน คณะผู้จดั ทำจงึ ทำนมสดทอดแบบมไี สเ้ น้ือผลไม้เปน็ ชิ้นเล็กๆ จากกลว้ ยหอม เมลอน
และสตรอวเ์ บอรร์ ี เพ่ือให้ตัวนมสดทอดมเี นอื้ สัมผสั ของผลไม้ และสะดวกในการรบั ประทานเพราะมี
ขนาดที่พอดีคำ

วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ
1. เพ่อื พฒั นาผลิตภณั ฑ์และบรรจภุ ณั ฑ์นมสดทอดไสผ้ ลไม้
2. เพือ่ ศึกษาความพงึ พอใจของกลุ่มเปา้ หมายที่มีตอ่ นมสดทอดไสผ้ ลไม้
3. เพื่อเปน็ ช่องทางการจดั จำหน่ายและเปน็ รายได้ระหวา่ งเรยี น

ขอบเขตของโครงการ
1. ขอบเขตดา้ นเนอ้ื หา ไดแ้ ก่ การทำนมสดทอดไสผ้ ลไม้ 3 ไส้ คือ กลว้ ยหอม เมลอน และ

สตรอวเ์ บอรร์ ี นำมาหัน่ เป็นชิ้นเลก็ ๆ ผสมใหเ้ ข้ากบั นมสด และนำไปชุบแป้งทอด เพื่อให้ตัวนมสดทอด
มเี นอื้ สัมผัสของผลไม้

2. ขอบเขตด้านกลุม่ เปา้ หมาย ไดแ้ ก่ นักศึกษาประกาศนียบตั รวิชาชีพชัน้ สงู (ปวส.)
ระดบั ชัน้ ปที ่ี 2 แผนกวชิ าการบญั ชี วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาชลบรุ ี จำนวน 84 คน

3. ขอบเขตดา้ นเวลาและสถานท่ี ได้แก่ ระยะเวลาต้งั แต่ 1 มิถนุ ายน ถงึ 1 ตลุ าคม 2564
ณ วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาชลบุรี

ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ
1. ไดน้ มสดทอดไส้ผลไม้และบรรจุภัณฑ์ที่พฒั นาแลว้
2. ไดท้ ราบความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมายท่มี ีต่อนมสดทอดไสผ้ ลไม้
3. เปน็ ชอ่ งทางการจดั จำหน่ายและเปน็ รายได้ระหว่างเรยี น

นยิ ามศพั ท์เฉพาะ
1. นมสดทอด หมายถึง ขนมทมี่ แี หล่งกำเนิดมาจากสเปน เปน็ นมสดท่ีถูกทำให้มีเนอ้ื สัมผัส

คลา้ ยเตา้ หู้ นำไปชุบแปง้ เกล็ดขนมปงั และนำไปทอด
2. ไส้ผลไม้ หมายถึง เนื้อของผลไม้ นำมาหน่ั เป็นชิน้ เลก็ ๆ ไดแ้ ก่ กลว้ ยหอม เมลอน และ

สตรอวเ์ บอรร์ ี แล้วใส่ผลไมท้ ห่ี ่ันลงไปผสมกบั นมสด เพ่ือเพ่ิมเนือ้ สมั ผสั ของตวั นมสดทอด ทำให้มี
รสชาติของผลไม้

3. ช่องทางการจัดจาํ หนา่ ย หมายถึง วิธกี ารจาํ หน่ายผลิตภณั ฑข์ องเราไปยงั ผ้บู ริโภค เพือ่
ตอบสนองความพงึ พอใจของผบู้ รโิ ภค

4. ความพงึ พอใจ หมายถึง ความรูส้ กึ ภายในใจของแต่ละคน วา่ มีความคาดหวงั หรอื ความ
ต้งั ใจมากน้อยแคไ่ หนต่อผลิตภณั ฑ์ของเรา

บทที่ 2

เอกสาร ทฤษฎี และงานวิจัยทเี่ กีย่ วขอ้ ง

ในบทนจ้ี ะนำเสนอเอกสารและงานวิจยั ที่เกยี่ วข้อง มีดังต่อไปนี้
1. จดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวิชา และคำอธบิ ายรายวชิ า
2. แนวคดิ การวิเคราะห์การตลาดแบบการจัดองค์กรอุตสาหกรรม
3. แนวคดิ เก่ยี วกบั การขอรับรองมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ชุมชน
4. ทฤษฎีกลยทุ ธ์การตลาด (4Ps) และ (8Ps), กลยุทธต์ ลาดออนไลน์
5. การบรโิ ภคและทฤษฎพี ฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค (Buyer Behavior’ Model)
6. แนวคิดการออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์
7. ทฤษฎีกลไกราคา
8. แนวความคดิ ของหลกั การบญั ชตี น้ ทุน
9. งานวิจัยทเ่ี กีย่ วข้อง

1. จุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคำอธบิ ายรายวชิ า

1.1 จดุ ประสงค์รายวชิ า
1.1.1 เขา้ ใจขั้นตอนกระบวนการสร้างหรือพฒั นางานอาชีพอยา่ งเปน็ ระบบ
1.1.2 สามารถบรู ณาการความรู้และทักษะในการสรา้ งหรือพัฒนางานในสาขาวชิ าชพี

ตามกระบวนการวางแผน การดำเนนิ งาน การแก้ไขปัญหาประเมนิ ผลทำรายงานและนำเสนอผลงาน
1.1.3 มเี จตคตแิ ละกิจนสิ ัยในการศกึ ษาคน้ คว้าเพ่ือสรา้ งหรอื พัฒนางานอาชีพดว้ ย

ความรับผดิ ชอบ มวี ินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความคดิ ริเร่ิมสรา้ งสรรค์ ขยนั อดทนและสามารถทำงาน
ร่วมกบั ผอู้ น่ื ได้

1.2 สมรรถนะรายวชิ า
1.2.1 แสดงความรเู้ กยี่ วกบั หลกั การและกระบวนการสร้างหรือพฒั นางานอาชีพอย่าง

เป็นระบบ
1.2.2 เขียนโครงการสร้างหรือพัฒนางานตามหลกั การ
1.2.3 ดำเนินงานตามแผนงานโครงการตามหลักการและกระบวนการ
1.2.4 เกบ็ ข้อมูล วิเคราะห์ สรปุ และประเมนิ ผลการดำเนนิ งานโครงการตามหลักการ

1.2.5 นำเสนอผลการดำเนนิ งานดว้ ยรปู แบบวธิ กี ารตา่ งๆ
1.3 คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาและปฏบิ ตั ิเก่ียวกับการบรู ณาการความรู้ และทักษะในระดบั เทคนคิ ท่ีสอดคล้องกบั
สาขาวชิ าชพี ท่ีศึกษา เพ่ือสรา้ งหรอื พัฒนางานด้วยกระบวนการทดลอง สำรวจ ประดิษฐ์คดิ คน้ หรือ
การปฏบิ ัติงานเชงิ ระบบ การเลือกหวั ข้อโครงการ การศึกษาคน้ คว้าข้อมลู และเอกสารอา้ งอิง เขยี น
โครงการการดำเนินงานโครงการ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล วิเคราะห์แปรผล การสรปุ ผลการดำเนนิ งาน
และจดั ทำรายงาน การนำเสนอผลงานโครงการ ดำเนินการเป็นรานบคุ คลหรอื กลมุ่ ตามลักษณะของ
งานใหแ้ ลว้ เสร็จ ในระยะเวลาทีก่ ำหนด

2. ทฤษฎกี ารวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาด (SWOT Analysis)

SWOT Analysis คือ หลักทฤษฎกี ารวเิ คราะหช์ นิดหน่งึ ที่ใช้วเิ คราะห์สถานะขององค์กร หรือ
ธุรกจิ โดยการวเิ คราะหด์ ว้ ยวธิ กี ารทำ SWOT นำเอาจุดแข็งและจดุ อ่อนขององค์กร รวมถงึ โอกาสและ
อุปสรรค มาใช้พิจารณาและวเิ คราะหส์ ถานะภาพของกิจการ เพอ่ื ประโยชน์ในการใช้วางแผนงาน
ตลอดจนการสรา้ งกลยทุ ธ์ตา่ งๆ ในการดำเนินธรุ กิจ หรือดำเนนิ กิจการองค์กรได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ
และเหมาะสมกับสภาพความเปน็ จรงิ ขององคก์ ร แบ่งออกเป็น 2 ปัจจัย ไดแ้ ก่

2.1 ปัจจัยภายในองค์กร หมายถงึ สภาพแวดล้อมภายในองค์กรที่มีผลกระทบต่อการดำเนิน
กจิ การ ได้แก่

2.1.1 จดุ แขง็ (Strengths) คือ ข้อไดเ้ ปรยี บของกจิ การ หมายถงึ ลักษณะพเิ ศษหรือ
ลักษณะเดน่ ขององค์กรทเ่ี ออื้ ตอ่ การประสบความสำเรจ็ สามารถนำมาใชป้ ระโยชนแ์ ละใชแ้ ขง่ ขันกบั
ค่แู ข็งได้ เช่น ความสามารถเฉพาะทางของผ้ปู ระกอบในการดำเนินธรุ กจิ ความสามารถในการนำ
นวัตกรรมมาใชใ้ นการดำเนินกจิ การ การทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีของบุคลากรภายในองคก์ ร

2.1.2 จุดออ่ น (Weaknesses) คือ ข้อด้อย ข้อเสีย หรอื ปัญหาภายในองคก์ ร ท่สี ่งผล
กระทบต่อการดำเนนิ กิจการ ท่สี ามารถนำไปสูค่ วามล้มเหลวของการทำธุรกจิ ได้ เชน่ ปัญหาในดา้ น
การสื่อสารของบุคลากรภายในองค์กร การใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ท่ไี ม่มลี ิขสิทธ์ิ คา่ เช่าทีใ่ นการ

ดำเนินกิจการมีราคาสูง อัตราดอกเบี้ยกูย้ ืมสงู
2.2 ปัจจยั ภายนอก หมายถงึ สภาวะภายนอกขององคก์ ร ทอี่ าจมีผลต่อการดำเนนิ งานของ

กจิ การ ได้แก่

2.2.1 โอกาส (Opportunities) คอื เกดิ จากปจั จัยภายนอก ทีเ่ ป็นปัจจัยทส่ี ่งผล
กระทบในแง่ของการเอื้อประโยชนใ์ ห้กับการดำเนินกิจการของบริษัท โอกาสตา่ งจากจุดแข็งตรงที่
เป็นปจั จยั ทเ่ี กิดจากภายนอกองค์กรแตส่ ง่ ผลในทางท่ดี ีกับองค์กร เป็นความได้เปรยี บทเี่ อ้อื ต่อ
ความสำเร็จของการดำเนินกิจการ เช่น รฐั บาลออกนโยบายที่สนับสนุนอตุ สาหกรรมทีก่ ิจการกำลงั
ดำเนินธรุ กิจอยู่ เศรษฐกิจที่อยูใ่ นชว่ งขาข้นึ หรือการมเี ทคโนโลยี หรอื นวตั กรรมใหม่ๆ ที่ชว่ ยให้การ
ดำเนินกิจการเป็นไปได้อย่างเต็มประสทิ ธิภาพมากข้นึ

2.2.2 อุปสรรค (Threat) คือ ความเสยี เปรยี บ หรือผลเสยี จากปัจจัยภายนอกท่ีสง่ ผล
กระทบต่อกิจการ อาจนำมาซ่ึงปัญหา และความลม้ เหลวของกจิ การได้ เช่น เศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ
ราคานำ้ มนั ทีส่ งู ขนึ้ ทำใหต้ น้ ทุนในการดำเนนิ งานเพ่ิมขน้ึ การเพมิ่ ค่าแรงของแรงงาน หรือ นโยบาย
อัตราดอกเบย้ี ที่ถูกปรบั ให้สูงขึน้

3. แนวคิดเก่ยี วกบั การขอรับรองมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ชมุ ชน
3.1 การรับรองคุณภาพผลติ ภณั ฑช์ ุมชน หมายถึง การให้การรับรองคณุ ภาพผลิตภัณฑ์

ชุมชนของผู้ผลิตในชุมชนตามมาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนทีส่ ำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
ไดป้ ระกาศกำหนดไวแ้ ลว้

3.2 มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชมุ ชน หรอื (.มผช) Thai Community Product Standard (s)
หมายถงึ ข้อกำหนดทางวิชาการที่สำนกั งานมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรม (.สมอ) ได้กำหนดขึ้น
เพื่อเปน็ แนวทางแกผ่ ู้ผลติ ชมุ ชนในการผลติ สินคา้ ให้มีคุณภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑช์ มุ ชนเปน็
เคร่ืองมอื ท่ีใชเ้ พ่ือสนับสนุน ผปู้ ระกอบการใหม้ ีแนวทางในการ ผลติ สินคา้ ใหม้ ีคณุ ภาพเหมาะสมกับ
วัตถปุ ระสงค์การใช้งานและปลอดภยั ต่อผู้บรโิ ภคอีกทง้ั ยังสรา้ ง ความมนั่ ใจให้กับผบู้ รโิ ภค เนอื่ งจากมี
หลักเกณฑก์ ารตรวจสอบ และมีหน่วยงานกำกับดูแลทงั้ การใหก้ ารรบั รอง และการตรวจติดตามผล
ภายหลงั ได้รบั การรับรองแล้ว

3.3 ผยู้ นื่ คำขอ หมายถงึ ผ้ผู ลติ ในชุมชนท่ยี น่ื ขอการรับรองคณุ ภาพผลิตภณั ฑ์ชุมชน
3.4 ผไู้ ด้รับการรับรอง หมายถึง ผ้ยู น่ื คำขอทีผ่ า่ นการตรวจประเมนิ แล้ว และไดร้ ับการ
รบั รองจากคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน
3.5 คุณสมบัติของผู้ย่ืนคำขอ

3.5.1 ผ้ยู ื่นคำขอต้องเปน็ ผูผ้ ลติ ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน ไมเ่ ป็นผู้แอบอา้ ง หรอื มีทำการผลติ
แอบแฝง และมคี ุณสมบัติในข้อหน่ึงข้อใด ดังต่อไปนี้

3.5.1.1 บุคคลท่วั ไป
3.5.1.2 กล่มุ ผผู้ ลิตชมุ ชนทขี่ ้นึ ทะเบยี นไวก้ บั หน่วยงานราชการหรอื กลุ่มตาม
กฎหมายวิสาหกิจชุมชน
3.5.1.3 นิตบิ คุ คลทข่ี ้นึ ทะเบียนเป็นผู้ประกอบการหนง่ึ ตำบลหน่ึงผลติ ภณั ฑ์
3.6 การรบั รอง
3.6.1 การรบั รองคุณภาพผลิตภัณฑช์ มุ ชน ประกอบด้วยการดำเนนิ การดังน้ี
3.6.1.1 ตรวจสอบสถานทผี่ ลติ และเก็บตวั อย่างจากสถานที่ผลิตสง่ ตรวจสอบ
เพ่อื พจิ ารณาออกใบรับรอง
3.6.1.2 ตรวจตดิ ตามผลคณุ ภาพผลติ ภัณฑ์ชุมชนท่ีได้รบั การรบั รอง โดยสมุ่ ซอ้ื
ตัวอย่างที่ได้รบั การรับรองจากสถานที่จำหน่ายเพื่อตรวจสอบ
3.6.2 การขอการรับรอง ใหย้ ื่นคำขอต่อสำนักงานมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม
หรือสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัด หรอื จังหวัด พรอ้ มหลักฐานและเอกสารตา่ งๆ ตามแบบที่
สำนักงานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรมกำหนด
3.6.3 เม่อื ไดร้ บั คำขอตามข้อ 3.6.2 แลว้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
จะนดั หมายการตรวจสอบสถานท่ผี ลติ เก็บตัวอย่างส่งทดสอบ หรือทดสอบ ณ สถานท่ผี ลิต
3.6.4 ประเมินผลการตรวจสอบวา่ เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชุมชนทีไ่ ด้กำหนดไว้
หรอื ไม่
3.6.5 ใบรบั รองผลติ ภัณฑ์ มีอายุ 3 ปี นบั ตง้ั แต่วันทรี่ ะบุในใบรับรอง
3.6.6 การขอต่ออายุใบรับรองหรือการออกใบรบั รองฉบับใหม่เม่ือใบรบั รองฉบบั เก่าสิ้น
อายุ ใหด้ ำเนนิ การตามขอ้ 3.6.2 ถงึ 3.6.4
3.7 การตรวจตดิ ตาม
3.7.1 ผู้ได้รบั การรับรอง ต้องรักษาไว้ซ่ึงคณุ ภาพตามมาตรฐานผลิตภณั ฑช์ ุมชน ท่ี
กำหนดไว้ ตลอดระยะเวลาท่ีไดร้ บั การรบั รอง
3.7.2 การประเมนิ ผลการตรวจสอบตัวอยา่ งทีส่ ุ่มซือ้ เพื่อตรวจตดิ ตามผลต้องเป็นไป
ตามมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชุมชนทกี่ ำหนด

3.7.3 การตรวจตดิ ตามผลทำอยา่ งน้อยปี ละ 1 ครง้ั
3.8 การยกเลิกการรับรอง สำนักงานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรม จะยกเลกิ ใบรบั รอง
กรณีใดกรณีหนึง่ ดังตอ่ ไปนี้

3.8.1 ผลติ ภณั ฑท์ ี่ตรวจติดตามผลไม่เปน็ ไปตามมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน 2 คร้งั
ติดต่อกัน

3.8.2 ผู้ไดร้ ับการรับรองขอยกเลกิ ใบรับรอง
3.8.3 มีการประกาศแกไ้ ขหรือยกเลิกมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ชุมชนทไ่ี ดก้ ำหนดไว้
3.8.4 เม่ือใบรบั รองครบอายุ 3 ปี นบั จากวันท่ไี ด้รบั การรับรอง
3.8.5 กรณีมีการกระทำอนั เปน็ การฝา่ ฝืนหรือไมป่ ฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไข
ตา่ งๆ ท่กี ำหนด เช่น การอวดอา้ งเกนิ ความเปน็ จรงิ โฆษณาการได้รับการรับรองครอบคลุมรวมถึง
ผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี ม่ได้รับการรบั รอง
3.9 อนื่ ๆ
3.9.1 ในกรณที ่ียกเลกิ ใบรับรอง ผ้ไู ด้รับการรับรองตอ้ งยุติการใช้สง่ิ พิมพ์ สือ่ โฆษณา
ท่มี ีการอ้างอิงถึงการได้รบั การรบั รองท้ังหมด
3.9.2 สำนักงานมาตรฐานผลติ ภัณฑ์อตุ สาหกรรม ไม่รบั ผดิ ชอบในการกระทำใด ๆ
ของผู้ไดร้ ับการรับรองที่ได้กระทำไป โดยไมส่ จุ ริตหรือไม่ปฏิบัตติ ามหรอื ฝา่ ฝืนหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไข
ทก่ี ำหนด

4. ทฤษฎกี ลยุทธก์ ารตลาด (4Ps) และ (8Ps), กลยทุ ธ์ตลาดออนไลน์

4.1 กลยทุ ธ์การตลาด marketing mix หรือ 4P คอื สว่ นผสมทางการตลาดและเปน็ กลยทุ ธ์
ทีใ่ ชใ้ นทางการตลาดที่ใชใ้ นการวเิ คราะหเ์ พ่ือประกอบการวางแผนและตัดสนิ ใจในการดำเนนิ กจิ กรรม
ทางการตลาด ซ่ึงเป็นเครื่องมือวางแผนการตลาดอย่างงา่ ยท่ีได้รบั ความนิยมสูง เปน็ ทฤษฎหี นง่ึ ที่นิยม
ใช้ในการวางแผนการตลาด โดยแบง่ ออกเปน็ 4 ส่วนหลกั ๆ ได้แก่

4.1.1 ผลิตภณั ฑ์ (Product) ซ่ึงกค็ ือสนิ ค้าหรือบรกิ ารที่ตอบสนองความต้องการของ
ผบู้ ริโภคกลมุ่ เป้าหมาย ลูกค้าหรอื ผู้บริโภค ต้องคำนงึ ถึงกลมุ่ เปา้ หมายทีเ่ หมาะสมและชัดเจน ดูว่า
กลุม่ ลกู คา้ เปา้ หมายเขาตอ้ งการอะไรบ้างให้ใส่ใจในรายละเอียดนัน้ สินค้าหรือการบรกิ ารท่มี แี ตกต่าง
อย่างไรทำให้ลูกคา้ เกิดความสะดดุ ตาสะดุดใจในรูปลักษณ์ รวมถึงการใชง้ าน ความทนทาน และความ
ปลอดภยั ตลอดจนการสรา้ งความประทบั ใจให้แกล่ ูกคา้

4.1.2 ราคา (Price) หรือการกำหนดราคา การตงั้ ราคาของสินค้าหรือบริการ การตั้ง
ราคาสนิ คา้ เป็นกลยุทธท์ ี่สำคัญเรอื่ งนงึ เลยกว็ า่ ได้ การต้งั ราคาอาจจะต้องมีความเหมาะสมหรอื
สอดคล้องกบั คุณสมบตั ิหรือผลประโยชนท์ ี่ลกู คา้ ไดร้ บั หรอื การตง้ั ราคาตามตน้ ทุน + กำไร หรอื การ
ตัง้ ราคาตามคูแ่ ขง่

4.1.3 ชอ่ งทางการจัดจำหน่าย (Place) คือชอ่ งทางการขายหรือบรกิ าร เป็นชอ่ งทางท่ี
ลกู คา้ จะสามารถเขา้ ถึงสนิ คา้ และบรกิ ารของเราได้เช่น ชอ่ งทางการจัดจำหนา่ ย ช่องทางการ
ใหบ้ ริการ รวมถงึ ทำเลในการจดั จำหน่ายสินค้าและบริการใหแ้ กล่ ูกคา้ เช่น การเปดิ รา้ น การขาย
ออนไลน์ เป็นต้น

4.1.4 การสง่ เสริมการขาย (Promotion) คือการส่ือสารการตลาดเพ่ือทำให้ธุรกิจ
สามารถสอ่ื สารไปยงั กลุม่ เป้าหมาย และนำไปสูก่ ารโน้นน้าวให้กลมุ่ เป้าหมายตดั สินใจซอ้ื สนิ ค้าและ
บริการ ไดแ้ ก่

4.1.4.1 สว่ นลด แลก แจก แถม ตามเง่ือนไขต่างๆ
4.1.4.2 การจดั แสดงสินค้าและบริการ
4.1.4.3 การโฆษณาในสื่อประชาสัมพันธ์ การทำ PR
4.2 กลยุทธ์ทางการตลาด (8 P’s Strategy) หมายถงึ กลยทุ ธ์ทางการตลาดสมัยใหม่ซ่ึงเปน็
ส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix) หรือที่เรียกสนั้ ๆ ว่า 8P’s ซ่งึ ตอ้ งมีแนวทางความคดิ
ทางการส่ือสารการตลาด (IMC) โดยอาศยั เครอ่ื งมอื การ ติดต่อสอ่ื สารกับผูบ้ รโิ ภคแบบสมัยใหม่ซงึ่
แบง่ ส่วนขยายเพ่ิมเติมจากเดิมอกี หลายส่วนท้งั งานศกึ ษาท้งั ภายในและภายนอกประเทศเชอื่ มโยงสู่
การทำธุรกิจสมัย ใหม่ซง่ึ เน้นการสร้างผลกำไรสงู สดุ บนความพอใจของผู้บริโภคซ่งึ เป็นการทำ ธรุ กจิ
ระยะยาว (Long-Term Business) พรอ้ มกบั พฤติกรรมที่เปล่ียนไปของผบู้ รโิ ภคสมัยใหม่ซ่ึงเปลี่ยนไป
อยา่ งมากโดยเฉพาะการแบง่ ส่วนการตลาด (Segmentation) ซึ่งไม่สามารถแบง่ ส่วนการตลาด
แบบเดิมๆ ไดแ้ ลว้ ซง่ึ การเอกสารการศึกษาในสว่ นแรกเป็นแนวทางทำธรุ กิจและก่อให้เกิดพฤตกรรม
ในการเลือกซ้ือผลิตภณั ฑเ์ สริมอาหารส่วนที่เอกสารอืน่ ๆจะช่วยในการวางแผนการตลาด
4.2.1 กลยุทธ์ผลติ ภัณฑ์ (Product Strategy) คือ กลยุทธผ์ ลิตภัณฑน์ นั้ จะเก่ียวข้องกับ
กระบวนการตัดสินใจ ได้แก่

4.2.1.1 คณุ สมบตั ิผลิตภัณฑ์ (Product attribute) คอื ลักษณะของผลิตภัณฑท์ ่ี
ทำให้การทำงานพื้นฐานสามารถบรรลุ คุณภาพที่กำหนดไวไ้ ด้ เชน่ สูตร สี รปู ร่าง ขนาด รสชาติ กลน่ิ
เป็นต้น

4.2.1.2 สว่ นประสมผลิตภัณฑ์ (Product mix) กลุ่มของสินค้าหรอื ผลติ ภัณฑ์ที่
มีลกั ษณะคล้ายกัน ทก่ี ิจการทำการเสนอขายให้แก่ลกู คา้ หรือผูบ้ ริโภค โดยมกี ลุ่มเป้าหมาย ช่อง
ทางการจดั จำหนา่ ย ตลาดเดียวกันแตส่ ามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละกล่มุ ย่อยได้

4.2.1.3 สายผลิตภณั ฑ์ (Product lines) กลมุ่ ของผลติ ภัณฑ์ที่อย่ภู ายใน
ระดับชนั้ ของผลิตภณั ฑ์ และมีความสัมพันธ์ใกลช้ ิดกนั ในลกั ษณะของการใช้งานรว่ มกนั เชน่ สาย
ผลติ ภณั ฑข์ องเครื่องหนงั ไดแ้ ก่กระเปา๋ รองเทา้ เขม็ ขัด เป็นตน้

4.2.2 กลยทุ ธ์ราคา (Price Strategy) เปน็ การกำหนดวา่ เราจะตัง้ ราคาแบบใด กลยุทธ์
ราคาสงู หรอื ราคาต่ำ ส่ิงทจี่ ะต้องตระหนัก คือ ราคาทีได้กำหนดไวน้ ้ันเหมาะสมในการแข่งขนั หรอื
สอดคลอ้ งกบั ตำแหน่งผลติ ภัณฑ์ของสินค้านั้นหรือไม่กลยุทธ์ ด้านราคา (Price strategy) การกำหนด
กลยทุ ธด์ า้ นราคามีประเดน็ สำคัญท่จี ะต้องพิจารณาดังน้ี

4.2.2.1 ตัง้ ราคาตามตลาด (On going price) หรือตัง้ ราคาตามความพอใจ
(Leading price)

1) ตงั้ ราคาตามตามตลาด (On going price) เหมาะสำหรับสินค้าที่
สร้างความแตกตา่ งได้ยากจึงไม่สามารถจะตัง้ ราคาใหแ้ ตกต่างจากตลาดคู่แข่งขนั ได้ นัน่ คือ การตัง้
ราคาตามคแู่ ขง่ ขนั

2) ตง้ั ราคาตามความพอใจ (Leading price) เป็นการตัง้ ราคาตาม
ความพอใจโดยไมค่ ำนงึ ถึงคู่แขง่ ขนั เหมาะสำหรับผลิตภัณฑท์ ่มี ีความแตกตา่ งในตราสินค้า สินคา้ ที่มี
เอกลักษณส์ ่วนตวั มีภาพพจน์ท่ดี ี จะต้ังราคาเท่าไรก็ไม่มีใครเปรยี บเทยี บ

4.2.2.2 สินค้าจะออกเป็นแบบราคาสูง (Premium price) เมือ่ แน่ใจในคุณภาพ
ทเี่ หนอื กวา่ และการยอมรับในราคาของลกู ค้า หรือราคามาตรฐาน (Standard) เม่ือใช้การต้ังราคา
โดยพจิ ารณาจากราคาของคู่แข่งขัน หรอื ตราสนิ ค้าเพอื่ การแขง่ ขนั (Fighting brand) เป็นสินค้าดอ้ ย
คุณภาพกว่าคู่แข่งขันเล็กน้อย จะลงตลาดล่าง

4.2.2.3 การตัง้ ราคาเท่ากันหมด (One pricing) คอื สินคา้ หลายอย่างท่ีมรี าคา
ติดอยูบ่ นกล่องหมายถึง ไมว่ า่ จะขายอยูท่ ใ่ี ดฤดหู นาวหรือฤดรู อ้ นราคาก็เท่ากนั หมด หรือราคา

แตกต่างกนั ( Discriminate price) ขอ้ ดี คือสามารถเรียกราคาได้หลายราคา แตข่ ้อเสยี ก็คอื เราต้อง
หาเหตผุ ลในการตง้ั ราคาหลายอยา่ ง เพ่ือให้คนยอมรับได้

4.2.2.4 การขยายสายผลติ ภัณฑ์ (Line extension) ในกรณีนีก้ ารนำเสนอ
สินค้าเรม่ิ ตน้ ด้วยราคาหนง่ึ แล้วมีกลยทุ ธเ์ ผยแพรค่ วามนยิ มไปยังตลาดบน หรือตลาดลา่ ง

4.2.2.5 การขยบั ซื้อสงู ขึน้ (Trading up) เปน็ การปรับราคาสงู ขึ้นทำให้ได้กำไร
มากข้นึ จงึ พยายามขายให้ปริมาณมากข้ึนหรือการขยบั ซ้ือต่ำลง (Trading down) เป็นการผลิตสนิ ค้า
ท่มี รี าคาแพงใหม้ คี ุณภาพกว่าสินคา้ ทร่ี าคาถูกเล็กน้อยแต่ ตง้ั ราคาสงู กว่า เพื่อให้คนซื้อสินคา้ ท่ี
รองลงมา

4.2.2.6 การใช้กลยุทธ์ด้านขนาด (Size) คอื ไม่ทำขนาดเท่ากับผูผ้ ลิตรายอืน่ ๆ
4.2.3 กลยทุ ธ์การจัดจำหน่าย (Place Strategy) คอื กลยุทธเ์ ก่ียวกบั วิธีการจดั จำหน่าย
จะต้องพิจารณาถึงรายละเอยี ดดงั นี้

4.2.3.1 ช่องทางการจัดจำหน่าย (Channel of distribution ) เป็นเสน้ ทางที่
สินคา้ เคลอ่ื นย้ายจากผผู้ ลิตหรือผู้ขายไปยังผู้บรโิ ภคหรือผใู้ ช้ ซึ่งอาจจะผา่ นคนกลางหรือไม่ฝา่ ยคน
กลางก็ได้

4.2.3.2 ประเภทของร้านคา้ (Outlets ) ในทกุ วันนี้จะพบไดว้ ่าวิวัฒนาการของ
การจดั จำหน่ายนัน้ เป็นสิ่งทเ่ี จริญเตบิ โตรวดเร็วมากประเภทของรา้ นค้ามมี ากมาย เชน่

1) ร้านหา้ งสรรพสินคา้ (Department store)
2) ชอ้ ปป้ิงชุมชน (Community mall) เปน็ รา้ นค้าทอี่ ยู่ในยา่ นชุมชน
3) รา้ นคา้ ในปม๊ั นำ้ มัน
4.2.4 กลยทุ ธก์ ารสง่ เสรมิ การตลาด (Promotion Strategy) กลยทุ ธ์การส่งเสริม
การตลาดจะต้องประสานกบั แผนการตลาดโดยรวมและควรกำหนดแผนการส่งเสริมการตลาดท่ี
เฉพาะเจาะจง
4.2.5 กลยุทธ์การบรรจภุ ณั ฑ์ (Packaging Strategy) การตัดสินใจเลอื กรปู แบบการ
บรรจุภณั ฑแ์ ละประเภทวัสดขุ องบรรจภุ ัณฑ์มกั จะใชก้ ับสนิ ค้าอุปโภคบริโภคท่ีพัฒนาใหม่หรอื เมอื่ มี
การปรับปรุงเปล่ียนแปลงสนิ คา้ ใหม่กลยทุ ธก์ ารบรรจุภณั ฑ์
4.2.6 กลยุทธก์ ารใหข้ า่ วสาร (Public Relation Strategy) คือการใหข้ ่าวสารนั้นคือ
รปู แบบหน่ึงของการติดต่อส่ือสารท่ไี มเ่ สียค่าใช้จา่ ยในการซื้อสือ่ ท้ังนเ้ี พ่ือสร้างทัศนคติทเ่ี ป็นบวกตอ่

สนิ คา้ และกิจการของเรา แต่ปัจจบุ นั การสือ่ สารโดยวิธดี งั กลา่ วอาจมคี า่ ใชจ้ ่ายอนื่ ๆ รวมท้ังคา่ ใช้จ่าย
ทางอ้อมเกีย่ วกับสือ่ อีกด้วย การใหข้ า่ วสารแก่สาธารณะชน เป็นรูปแบบหนึ่งของการประชาสัมพนั ธ์
การใหข้ า่ วสารจัดว่าเปน็ การสรา้ งภาพลักษณใ์ นระยะยาวแก่องค์กร และตอ้ งการใหผ้ ลลัพธน์ ้ีออกมา
ในเชิงบวกแก่องค์กร สิง่ ทเี่ ราตอ้ งพจิ ารณาอยา่ งยิ่งในการให้ขา่ วสารคือ กลุ่มเป้าหมายที่ตอ้ งการได้รับ
ขา่ วสารและส่ือโฆษณาทีจ่ ะใช้เพ่ือการสื่อขา่ วสาร

5. การบรโิ ภคและทฤษฎพี ฤติกรรมผูบ้ รโิ ภค (Buyer Behavior’ Model)
5.1 การบรโิ ภค (Consumption) หมายถึง มนุษย์กเ็ ชน่ เดียวกบั สตั ว์โลกโดยทว่ั ไป ทีม่ คี วาม

หวิ และความต้องการ แต่มนุษย์จะระงบั ความหิวและความต้องการน้นั ดว้ ยการอปุ โภคและบริโภค
สินค้าและบริการท่ีมนุษย์นนั้ เองเปน็ ผ้ผู ลิตขึ้น

5.2 ลกั ษณะทว่ั ไปของผู้บรโิ ภค
5.2.1 สง่ิ เรา้ (stimuli) ในทางการตลาดน้นั เราแบง่ สิ่งเรา้ ออกเป็น 2 ประเภท คอื
5.2.1.1 ส่ิงเร้าทางการตลาด ไดแ้ ก่ ส่งิ ท่เี ราเรยี กวา่ สว่ นประสมทางการตลาด

หรือ 4'Ps อนั ได้แกผ่ ลิตภณั ฑ์ ราคา ชอ่ งทางการจัดจำหน่ายและการสง่ เสรมิ การตลาด
5.2.1.2 สิ่งแวดลอ้ มอ่นื ๆ ทางการตลาด ที่อยอู่ ยูล่ ้อมรอบผูบ้ รโิ ภคไดแ้ ก่

เศรษฐกิจ เทคโนโลยี สงั คม การเมือง / กฎหมาย และวัฒนธรรม ซง่ึ มอี ิทธิพลต่อการตัดสินใจของ
ผู้บรโิ ภค สิ่งเรา้ เหลา่ น้นี ับเปน็ ตัวนำเข้าหรอื input ที่จะเข้าไปยังกล่องดำของผบู้ รโิ ภค และส่งผลใหม้ ี
การตอบสนองออกมาเปน็ output

5.2.2 กลอ่ งดำ (black box) เป็นนามธรรม โดยสมมตวิ ่ากล่องดำเป็นทรี่ วมเอาปัจจยั
ตา่ งๆ ได้แก่ วัฒนธรรม สังคม ลักษณะ สว่ นบุคคล และลกั ษณะทางจิตวิทยาของผ้บู ริโภคแต่ละคน
เอาไว้ นอกไปจากนใ้ี นกลอ่ งดำยังมีกระบวนการตดั สินใจซื้ออย่อู ีกด้วย สง่ิ เร้าเมอื่ มาถึงกล่องดำจะถูก
ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวตกแตง่ ขัดเกลาแปรรปู ออกมาเป็นการตอบสนอง ถ้าการตอบสนองเปน็ ไปใน
ทางบวก กระบวนการตดั สนิ ใจซอ้ื ทำงาน จนกระทั่งมีการซ้ือเกิดข้ึนตามมา ถ้าตอบสนองเป็นไป
ในทางลบ ผบู้ ริโภคคงไม่ลงมือซ้ือ

5.2.3 การตอบสนอง (response) เปน็ ผลลพั ธ์จากอิทธิพลของปัจจยั และกลไกการ
ทำงานของกระบวนการตัดสนิ ใจซือ้ ท่ีอยู่ในกลอ่ งดำของผู้บรโิ ภค ถ้าการตอบสนองเปน็ ไปในทางบวก

จะสังเกตเห็นผู้บรโิ ภคไปเลือกผลิตภัณฑท์ จ่ี ะซื้อ เลือกตราผลติ ภัณฑ์ทีจ่ ะซอ้ื เลือกร้านค้าทีจ่ ะซื้อ เลือก
จังหวะเวลาท่ีจะซ้ือ และเลือกจำนวนท่จี ะซ้อื เปน็ ต้น

5.3 ปจั จัยท่ีมผี ลตอ่ การบริโภคและผลของการบริโภค
5.3.1 ปัจจยั ทางวฒั นธรรม (cultural factors) เปน็ ปัจจยั ทอ่ี ิทธิพลออกท่ีกระทบต่อ

พฤติกรรมของผู้บรโิ ภคได้กว้างขวางท่สี ุด ลกึ ล้ำทสี่ ดุ ซงึ่ แบ่งยอ่ ยออกเปน็ วัฒนธรรมหลัก (core
culture) แล้วก็อนุวัฒนธรรม (subculture) และชน้ั ทางสงั คม (social class)

5.3.1.1 วัฒนธรรมหลัก เปน็ ส่ิงท่ีมีอยู่ในทกุ กล่มุ หรือในทุกสังคมของมนุษย์ และ
เปน็ ตวั ก่อให้เกดิ คา่ นยิ ม การรับรู้ ความอยากได้ ไปจนถงึ พฤติกรรมของมนษุ ย์ สิง่ เหล่าน้ีเม่ือเกิดข้ึน
แลว้ กถ็ า่ ยทอดให้แก่กนั และกันมา

5.3.1.2 อนุวัฒนธรรม หมายถึง วฒั นธรรมของคนกล่มุ ย่อยที่รวมกนั เข้าเป็น
สังคมกลุ่มใหญ่ จำแนกอนุวฒั นธรรมออกเป็น 4 ลกั ษณะ คือ

1) อนุวัฒนธรรมทางเชื้อชาติ (ethnic subculture)
2) อนุวัฒนธรรมตามท้องถิน่ (regional subculture)
3) อนวุ ฒั นธรรมทางอายุ (age subculture)
4) อนุวฒั นธรรมทางอาชพี (occupational subculture)
5.3.1.3 ช้ันทางสงั คม หมายถึง คนจำนวนหนึง่ ทีม่ รี ายได้ อาชีพ การศึกษา หรอื
ชาติตระกูลอย่างใดอย่างหนึง่ หรือหลายอยา่ งเหมอื นกัน
5.4 WHO คอื กลมุ่ เป้าหมายทีต่ ้องการ เปน็ การศกึ ษาถึงลกั ษณะของกลุ่มเป้าหมายในเร่ือง
ตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นประชากรศาสตร์ จติ วิทยาและพฤติกรรม เช่น เพศ อายุ อาชีพ สถานที่ เป็นต้น
ขอ้ มลู เหล่านี้จะช่วยระบุข้อมูลของคุณได้ชดั เจน เพือ่ ทคี่ ุณจะสามารถวางแผนกลยทุ ธ์การตลาดด้าน
ตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสมและสามารถตอบสนองต่อความพงึ พอใจของกลุ่มเปน็ หมายได้น่ันเอง
5.5 WHAT คือ สิ่งท่ผี บู้ ริโภคตอ้ งการซ้ือ เช่น องคป์ ระกอบผลติ ภัณฑ์หบี หอ่ คุณสมบัติตวั
สินคา้ ที่ตรงตามความต้องการ ตราสินค้าต้องตรานี้เท่านัน้ เปน็ ตน้ เพ่ือท่จี ะนำไปปรบั ปรุงหรือ
ส่งเสริมสินคา้ และบริการ ไม่ว่าจะเป็นตัวสนิ ค้าและบรกิ าร รูปลักษณข์ องสนิ ค้า คุณภาพสินค้า เพอื่
สรา้ งแบรนดใ์ หแ้ ข็งแกรง่ รวมถงึ สร้างความแตกตา่ งจากแบรนด์อืน่ ๆ
5.6 WHERE คือ ชอ่ งทางในการซือ้ ช่องทางท่ลี กู คา้ ใชใ้ นการหาข้อมลู ก่อนการตัดสนิ ใจซ้ือ
เชน่ ซอ้ื ผา่ นเว็บไซต์ ซ้ือที่ตลาดขายสินคา้ เฉพาะ หรอื ห้างสรรพสนิ ค้า หรอื พูดง่ายๆกค็ ือการสถานที่

ทีก่ ล่มุ เปา้ หมายมักชอบไปซ้ือสินคา้ ซึง่ สง่ิ นีเ้ ปน็ สงิ่ สำคัญ หากทราบว่ากล่มุ เปา้ หมายชอบซ้อื สนิ ค้า
จากท่ไี หน ก็จะทำให้สามารถกำหนดกลยทุ ธด์ า้ นการจัดจำหนา่ ยและนำผลิตภัณฑห์ รือสนิ คา้ ไปสู่
แหลง่ ตลาดได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

5.7 WHY คอื เหตุผลทผี่ ู้บรโิ ภคต้องการซอื้ สินคา้ ควรศกึ ษาถึงผูบ้ ริโภค หาเหตุผลวา่ ทำไม
ผู้บรโิ ภคจงึ ตดั สินใจซ้ือ เช่น ซือ้ เพ่ือตอบสนองตามความต้องการ ซือ้ เพื่อตอบสนองความอยากอาหาร
หรือ ซื้อเพือ่ ต้องการลดน้ำหนัก

5.8 WHEN คือ โอกาสในการซ้ือหรอื จะซื้อเม่ือไหร่ จะต้องคำนงึ ถึงสนิ คา้ ของคณุ ว่า เป็น
สินคา้ ทอ่ี ยู่ในชว่ งเวลาหรือไม่ หรือเปน็ สนิ คา้ ท่ีขายได้ตลอดท่ัวไป เพราะต้องแยกแยะสนิ ค้าเหลา่ น้ี
ออกจากกนั ก่อน บางครั้งสนิ ค้าอาจอยู่ในชว่ งเทศกาล ซึง่ สิ่งนส้ี ามารถช่วยเพมิ่ ยอดขายใหธ้ รุ กิจยงั คง
ดำรงอยูใ่ นโลกของการตลาดออนไลน์ได้

5.9 WHOM คือ ใครมีส่วนร่วมในการตัดสนิ ใจของลูกคา้ ต่อการซื้อสนิ ค้า บางครงั้ ลูกค้าไม่ได้
ซอ้ื เพราะความตอ้ งการของตนเองเพยี งอยา่ งเดยี ว อาจมีบุคคลอน่ื ทมี่ ีผลครอบคลมุ ในการซ้ือดังนี้

5.9.1 ผรู้ เิ ร่ิม คือ ผูท้ ี่มีความตอ้ งการซื้ออะไรสกั อยา่ ง แลว้ บอกพอ่ แมใ่ ห้ทำการซ้ือ
5.9.2 ผู้ทแี่ นะนำ คือ ผทู้ ่ีมสี ่วนในการเลอื กตดั สนิ ใจซื้อผลติ ภัณฑ์
5.9.3 ผู้ตัดสินใจ คือ ผทู้ ่ีมีอำนาจตดั สินใจซือ้ หรือไม่ซ้ือ
5.9.4 ผู้ซอื้ คือ ใครกไ็ ดท้ ่ีมีเงินเพยี งพอต่อการซ้อื ดงั นัน้ การทำธุรกจิ อันดับแรกจะต้อง
ทำความเข้าใจลูกคา้ ด้วยการวิเคราะห์พฤตกิ รรม ใน 6WS ข้างตน้ น้เี สยี ก่อน เพราะเป็นส่วนสำคญั
มากในการตดั สนิ ใจ ในการประกอบธรุ กิจ ลองนำหลักทฤษฎนี ไ้ี ปใช้ เพื่อสร้างความสำเร็จใหแ้ กธ่ รุ กจิ
การตลาดออนไลน์ ไม่ใช่เร่ืองยากอยา่ งท่ีคดิ หากมีความรู้ ความเขา้ ใจและถ้าได้ผเู้ ช่ยี วชาญคอยให้
คำแนะนำน้นั จะยงิ่ เสริมใหก้ ารทำการตลาดออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขน้ึ

6. แนวคดิ การออกแบบบรรจุภัณฑ์
6.1 กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ถือเป็นเรอ่ื งสำคญั ของการออกแบบบรรจภุ ัณฑเ์ พราะ

กลมุ่ เปา้ หมายสามารถสง่ ผลกระทบต่อผลิตภณั ฑ์ได้โดยตรง ผปู้ ระกอบการจะต้องศึกษาและเรยี นรู้
ความตอ้ งการของตลาดและความตอ้ งการของผู้บริโภค โดยกำหนดกลมุ่ เป้าหมายใหช้ ัดเจน เพ่อื ทีจ่ ะ
ไดส้ ามารถออกแบบบรรจุภัณฑใ์ ห้ตรงต่อความต้องการของกลมุ่ เป้าหมายให้มากทสี่ ดุ

6.2 กำหนดชื่อตราสนิ คา้ (Brand) ตราสินคา้ ใช้เป็นชอื่ หรือเครื่องหมายสำหรับการเรียกขาน
ผลติ ภัณฑ์ ผ้ปู ระกอบการจะต้องทำการกำหนดชื่อตราสนิ ค้าให้เรียบร้อยก่อนการออกแบบบรรจุภณั ฑ์
โดยกำหนดให้ช่อื ตราสินคา้ มีความเป็นเอกลกั ษณ์ ชัดเจน นา่ สนใจ ทส่ี ำคัญจะตอ้ งเป็นท่จี ดจำได้ง่าย
แกผ่ ูบ้ รโิ ภคตราสินค้าที่ดนี นั้ สามารถยกตวั อยา่ งได้ดงั นี้ คือตั้งตามชื่อเจา้ ของกจิ การ ตงั้ ตามความเช่อื
อันเปน็ มงคล ตง้ั ตามแหลง่ ทีม่ าของผลติ ภณั ฑ์ หรอื ตั้งโดยการผสมคำทมี่ ีความหมายใหเ้ กิดเปน็ คำใหม่
ที่มีเอกลักษณ์ ฯลฯ เปน็ ต้น

6.3 วัสดทุ ีใ่ ช้ทำบรรจภุ ัณฑ์ วัสดมุ คี วามจำเป็นอย่างยง่ิ ต่อการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ การท่ี
ผปู้ ระกอบการตดั สนิ ใจว่าจะใช้วสั ดุอะไรมาผลิตเป็นบรรจภุ ัณฑน์ น้ั ทา่ นควรคำนงึ ถึงความปลอดภัย
ของผู้บรโิ ภค ความรับผิดชอบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม และคุณสมบตั ิของวัสดแุ ตล่ ะประเภท ทีจ่ ะนำมาผลติ
บรรจุภัณฑเ์ ปน็ สำคัญ เน่ืองวัสดแุ ต่ละชนดิ แต่ละชนดิ จะมีคณุ สมบัตทิ ่ีเปน็ ข้อดแี ละขอ้ เสยี ในการ
คุ้มครองผลติ ภณั ฑ์ให้คงคุณภาพ การยืดอายุผลิตภัณฑ์ และการนำกลบั มาใชใ้ หม่(Recycle) ที่
แตกตา่ งกนั ไป หากท่านเลือกใช้วสั ดไุ มถ่ ูกต้องนอกจากจะทำให้เกิดผลกระทบต่อตัวผลิตภณั ฑ์
ผ้บู ริโภคและสิ่งแวดลอ้ มแล้ว ยังเปน็ สาเหตุให้เกดิ ต้นทุนในการผลิตบรรจภุ ณั ฑท์ เี่ พิ่มข้นึ อีกดว้ ย

6.4 รูปทรง บรรจุภณั ฑ์ ท่ีมีรูปร่างสวยงาม สามารถสร้างความประทับใจให้กบั ผู้บรโิ ภค
ถึงแมผ้ ู้บรโิ ภคจะยังมไิ ด้สัมผัสกบั ตัวผลติ ภณั ฑ์ท่ีอยภู่ ายใน รูปทรงของบรรจุภัณฑ์สามารถสร้างความ
เป็นเอกลักษณ์ได้ กลา่ วคือเม่ือผบู้ รโิ ภคเห็นรูปทรงสามารถรบั รไู้ ดท้ ันทวี ่าเป็นผลติ ภณั ฑ์อะไรและมีชอ่ื
ตราสนิ คา้ อะไร หรือจะเปน็ ผลิตภัณฑเ์ ดยี วแตกต่างกันท่ีชอ่ื ตราสนิ ค้า

6.5 สสี นั และกราฟฟิค สีสนั และกราฟฟิคนค้ี ือการรวมของการใช้สัญลกั ษณ์ ตวั อักษร
ภาพประกอบ ลวดลายและพื้นผิว ซ่งึ ส่วนประกอบทั้งหมดสามารถบง่ บอกถงึ ชื่อตราสินค้า ลักษณะ
ผลิตภัณฑ์ ทบ่ี รรจุอยภู่ ายในไดแ้ ละสามารถแสดงถึงแหลง่ ท่ีมาของผลติ ภัณฑ์ไดด้ ว้ ย

6.6 การออกแบบบรรจุภณั ฑ์ ให้มีความสวยงามและความแปลกตาน้ันไม่เพยี งพอสำหรับ
บรรจุภณั ฑ์ผลิตภัณฑ์อาหารเพราะหวั ใจของบรรจุภณั ฑ์ คือ การเก็บรกั ษาคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์ให้
คงอยยู่ นื ยาว ดังนั้น การออกแบบทด่ี ผี ปู้ ระกอบการควรคำนงึ ถึงหน้าท่ีของบรรจภุ ณั ฑเ์ ป็นสำคญั ดังน้ี

6.6.1 ป้องกันผลติ ภัณฑ์ บรรจภุ ัณฑท์ เ่ี หมาะสมในการบรรจุอาหารจะต้องสามารถ
ป้องกันไมใ่ ห้อาหารสมั ผสั กบั บรรยากาศภายนอก ซงึ่ อาจจะเกิดการร่ัว การซมึ แสง ความรอ้ นเย็น

6.6.2 เก็บรักษาคุณภาพของผลิตภณั ฑ์ บรรจภุ ัณฑท์ ตี่ ้องสามารถรกั ษาคุณภาพของ
ผลติ ภณั ฑม์ ใิ หเ้ ปลย่ี นแปลงไป ไมว่ ่าจะเปน็ กลิ่นหรอื รสชาติ

6.7 หลักการออกแบบบรรจบุ รรจภุ ณั ฑ์ ประกอบดว้ ยการออกแบบท่ีสำคญั 2 ส่วนคือ
6.7.1 การออกแบบโครงสร้าง เน้นคุณสมบตั ิของวัสดุใชท้ ำบรรจภุ ณั ฑแ์ ละรปู แบบ

บรรจุภัณฑ์
6.7.2 การออกแบบกราฟิก เนน้ การสอ่ื ความหมายดว้ ยภาพวาดสัญลกั ษณ์ตา่ งๆ ทชี่ ว่ ย

ส่งเสริมการขาย

7. ทฤษฎกี ลไกราคา

7.1 กลไกราคา หมายถงึ ภาวะการณ์เปลีย่ นแปลงในระดับราคาสนิ คา้ และบรกิ ารอันเกิด
จากแรงผลกั ดันของอปุ สงค์และอุปทาน เม่อื ผผู้ ลิตพยายามปรับปรงุ การผลิตและบรกิ ารให้สอดคล้อง
กับความต้องการของผูบ้ รโิ ภค ดงั นัน้ จะเหน็ ไดว้ า่ ราคาสนิ ค้าและบริการเปน็ ตวั แปรสำคัญในการ
กำหนดอปุ สงค์และอปุ ทาน ตลอดจนเปน็ กระบวนการปรบั เปลีย่ นราคาใหเ้ ขา้ สู่จดุ ดุลยภาพ เชน่ เม่อื
ราคาสนิ ค้าและบริการเพิม่ ขนึ้ โดยทว่ั ไปแลว้ ความตอ้ งการซ้ือหรืออุปสงค์กจ็ ะลดลง แต่อุปทานของ
สินคา้ และบรกิ ารจะเพ่มิ ขึ้นกลไกราคาจะพบได้ในทุกตลาด ยกเวน้ ตลาดแบบผกู ขาด เพราะกลไก
ราคาจะเกดิ ได้เฉพาะตลาดท่ีมีการดำเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกิจในลกั ษณะของตลาดเสรีหรอื ประเทศ
ทใ่ี ช้ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นิยมหรอื เสรนี ยิ ม หรอื ระบบเศรษฐกจิ แบบผสมเท่านั้น โดยระบบ
เศรษฐกจิ เหลา่ น้ีจะมกี ลไกราคาเปน็ ตวั กำหนดวา่ จะผลติ สินค้าปรมิ าณเท่าใดและราคาเทา่ ใด

7.2 การกำหนดราคาสินคา้ และบรกิ ารในทางเศรษฐกจิ กำหนดไว้ 2 วธิ ี คือ
7.2.1 ให้กลไกราคาเป็นเคร่ืองมอื ในการกำหนดราคาสนิ ค้าและบรกิ าร ซ่ึงจะ

เปลี่ยนแปลงไปตามแรงผลกั ดันของอุปสงค์และอุปทาน
7.2.2 รฐั บาลกำหนดราคาสินคา้ และบริการด้วยการควบคมุ และแทรกแซงราคาสินคา้

และบริการด้วยวธิ ีกำหนดราคาเมอ่ื สินค้าทจี่ ำเปน็ ขาดตลาด เพือ่ ช่วยเหลอื ผบู้ ริโภค การประกนั ราคา
ข้นั ต่ำเพ่ือช่วยเหลอื ผ้ผู ลิต การพยุงราคาสนิ ค้าไมใ่ หต้ กตำ่ มากเกนิ ไป เพ่ือช่วยเหลอื ผูผ้ ลติ หรอื ผู้ขาย
ไม่ใหข้ าดทนุ

7.3 อปุ สงค์ หมายถึง ปริมาณความต้องการซือ้ สนิ ค้าและบรกิ ารชนิดใดชนิดหน่ึงของ
ผ้บู ริโภคท่ีเตม็ ใจจะซ้ือและซ้ือหามาได้ ณ ระดับราคาตา่ งๆที่ตลาดกำหนดให้ กลา่ วคือ เมอื่ ผู้บรโิ ภคมี
ความต้องการทจี ะซื้อสนิ คา้ และบรกิ ารนน้ั แล้ว กจ็ ะสามารถมกี ำลังซอ้ื สนิ ค้าน้ันได้ แต่ถ้าผูบ้ ริโภคไม่
สามารถทจ่ี ะซ้อื หรือไม่มีกำลงั ซอื้ กจ็ ะไม่ถือวา่ เปน็ อุปสงค์ตามความหมายในทางเศรษฐศาสตร์

7.3.1 กฎของอุปสงค์ (Law of Demand) หมายถงึ ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อสนิ ค้า
และบริการในราคาตำ่ (ราคาถูก) ในปรมิ าณมากกว่าซ้ือสินค้าในราคาสูง(ราคาแพง)

7.3.2 ปจั จยั ทมี่ ผี ลต่อการเปลยี่ นแปลงอปุ สงค์การท่ผี ู้บรโิ ภคจะทำการซ้อื สนิ ค้าชนดิ ใด
ชนดิ หน่ึงในขณะใดขณะหน่ึงเปน็ จำนวนเท่าใดน้ัน ยอ่ มขนึ้ อย่กู ับปัจจัยตา่ งๆ ดงั นี้

7.3.2.1 ราคาสินค้าและบริการ (ตามกฎของอุปสงค์)
7.3.2.2 รายไดข้ องผู้บรโิ ภค
7.3.2.3 รสนิยมของผูบ้ รโิ ภค
7.3.2.4 สมัยนิยม
7.3.2.5 การโฆษณาและเทคนิคการตลาด
7.3.2.6 ราคาสินคา้ หรอื บรกิ ารอ่ืนๆทตี่ ้องใชร้ ่วมกนั หรอื แทนกันได้
7.3.2.7 การคาดคะเนการขึ้นลงของราคาของผู้บริโภค
7.3.2.8 พฤติกรรมของผ้บู ริโภค เช่น ฤดูกาล การศึกษา
7.3.2.9 ภาวะเศรษฐกิจขณะนั้นๆ
7.4 อุปทาน หมายถึง ปรมิ าณสินค้าและบริการทผ่ี ู้ขายหรือผู้ผลติ ยนิ ดขี ายหรือผลิตให้แก่ผู้
ซอ้ื ณ ระดับราคาต่างๆตามที่ตลาดกำหนดให้ กล่าวคือ เม่ือราคาสินค้าชนิดใดชนดิ หนึง่ เพ่ิมสงู ข้นึ
ผผู้ ลติ ก็ยินดที ี่จะเสนอขายมากขึ้น แตถ่ ้าราคาสินค้าชนดิ น้ันลดลงปริมาณของอุปทานกจ็ ะลดลงตาม
ไปดว้ ย
7.4.1 กฎของอุปทาน (Law of Supply) หมายถึง ผผู้ ลติ มีความตอ้ งการเสนอขาย
สนิ คา้ และบรกิ ารในราคาสนิ ค้าและบริการท่ีสงู (ราคาแพง) ในปริมาณมากกวา่ ราคาสนิ คา้ และบรกิ าร
ทต่ี ำ่ (ราคาถกู )
7.4.2 ปจั จัยท่มี ผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงอปุ ทานการทผ่ี ผู้ ลิตจะผลติ สินค้าเพื่อสนอง
ความตอ้ งการของผ้บู รโิ ภคหรือผซู้ อื้ มากน้อยเพยี งใดขึ้นอยู่กบั ปัจจยั หลายประการ ดงั น้ี
7.4.2.1 ราคาสนิ คา้ และบริการในขณะน้นั ๆ (กฎของอุปทาน)
7.4.2.2 ตน้ ทนุ การผลิตทีเ่ ปลี่ยนแปลง (วัตถุดิบ)
7.4.2.3 เทคโนโลยีการผลติ ท่ีนำมาใช้
7.4.2.4 ฤดูกาล
7.4.2.5 สภาวะของตลาดและภาวะเศรษฐกิจในขณะน้ัน

7.4.2.6 การคาดคะเนการข้ึนลงของราคาสินคา้ และบริการของผู้ผลิต (การเกิด
กำไร)

7.4.2.7 จำนวนผผู้ ลิตท่เี ปน็ คแู่ ขง่ (ราคาสินค้าและบริการชนิดเดยี วกนั ทม่ี ีการ
แขง่ ขันกนั )

7.5 ดลุ ยภาพ (Equilibrium) คือกลไกราคาทำงานโดยไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากทัง้ ผผู้ ลติ และ
ผ้บู รโิ ภค ซง่ึ เราจะสังเกตเห็นได้วา่ ณ เวลาใด เวลาหน่งึ ถ้าปริมาณความตอ้ งการหรือปริมาณอุปสงค์
ตอ่ สินค้าในตลาดมีมากเกนิ กว่าปริมาณสินคา้ ท่ผี ผู้ ลติ จะยินดขี ายให้ ราคาสนิ คา้ กม็ ีแนวโน้มท่จี ะ
ปรับตวั สูงข้นึ เนื่องจากการขาดแคลนของสนิ ค้า แต่ถา้ ปรมิ าณสนิ ค้าท่ผี ผู้ ลติ ประสงค์จะขายให้
ผู้บริโภค หรอื ปริมาณอุปทานของสนิ ค้ามมี ากกวา่ ปริมาณสินค้าทผี่ ้บู รโิ ภคประสงค์จะซ้ือ ราคาสนิ คา้
นั้นกจ็ ะมีแนวโน้มลดตำ่ ลง เมื่อปริมาณอปุ สงค์และปริมาณอปุ ทานเท่ากันราคาสินค้าจึงจะอยูน่ ่งิ หรือ
ท่ีเรยี กว่า มเี สถียรภาพไม่ปรับข้ึนลงอกี ยกเว้นวา่ จะมปี จั จัยอืน่ ๆท่ที ำใหต้ ลาดต้องเปลี่ยนแปลงไป

7.6 อุปสงคส์ ว่ นเกินและอุปทานสว่ นเกิน
7.6.1 ภาวะอปุ สงคส์ ว่ นเกนิ หรืออปุ ทานส่วนขาด คือ ถา้ สนิ คา้ ใดเป็นท่ีตอ้ งการมาก จะ

ทำให้ราคาสินค้าและบริการสูง ส่งผลให้สนิ ค้าและบริการขาดตลาด อุปสงค์ส่วนเกินจะเกดิ ขึ้นได้ก็
ต่อเม่ือราคาสินคา้ ตำ่ กวา่ จดุ ดุลยภาพ ซึ่งหมายถึง ความต้องการซื้อมีมากกวา่ ปริมาณสนิ ค้าและ
บริการทีผ่ ผู้ ลติ ทำการผลติ ออกมาขาย

7.6.2 ภาวะอุปทานสว่ นเกินหรืออปุ สงค์สว่ นขาด คือ ถ้าสนิ คา้ ใดเปน็ ที่ต้องการน้อยจะ
ทำใหก้ ารบริโภคสินค้าและบริการตำ่ สง่ ผลใหส้ ินค้าและบรกิ ารลน้ ตลาด อุปทานส่วนเกนิ จะเกิดข้นึ ก็
ต่อเม่ือราคาสนิ ค้าอยู่เหนือจุดดุลยภาพ ซ่งึ หมายถึงความต้องการซ้ือสนิ คา้ และบรกิ ารมีน้อยกวา่
ปริมาณสนิ ค้าและบริการท่ีผ้ผู ลิตผลิตออกมาขาย

8. แนวความคดิ ของหลกั การบัญชีตน้ ทุน

8.1 การบญั ชตี ้นทุน (Cost Accounting) จัดเปน็ วธิ ีการทางบญั ชที ท่ี ำหนา้ ทีร่ วบรวมขอ้ มูล
ทางดา้ นตน้ ทุนของธุรกิจ ประเภทอุตสาหกรรม โดยมีวตั ถุประสงค์พื้นฐานในการจัดทำรายงาน
ทางการเงนิ ตลอดจนวิเคราะห์ และจำแนกข้อมลู เพื่อใชใ้ นการบริหารตน้ ทนุ (Cost Management)
ตามความต้องการของผบู้ ริหาร ในปจั จบุ ันน้ไี มใ่ ชแ่ ต่กิจประเภทอตุ สาหกรรมเท่าน้ัน ทจ่ี ะตอ้ งใช้
วธิ ีการทางบญั ชหี รอื ข้อมลู ของบัญชีตน้ ทนุ แตย่ งั มีธรุ กจิ อกี หลายประเภท เช่น โรงแรม โรงพยาบาล
โรงเรยี น มหาวิทยาลัย ธนาคาร บริษัทเงินทนุ บรษิ ัทสายการบิน และกจิ การอนื่ ๆ อกี มากมายท่ีได้มี

การนำวธิ กี ารบัญชตี ้นทุนไปประยุกตใ์ ชเ้ พ่อื การตดั สินใจของผบู้ ริหาร อย่างไรก็ตามวัตถุประสงคท์ ี่
สำคัญของข้อมูลทางบัญชตี น้ ทนุ พอสรุปได้ดงั น้ี

8.1.1 เพื่อให้ทราบถึงต้นทุนการผลิต ตลอดจนตน้ ทุนขาย (Cost of goods sold)
ประจำงวด ซง่ึ จะนำไปหักออกจากรายได้ในงบกำไรขาดทุน เพอ่ื ะช่วยใหผ้ ้บู รหิ ารได้ทราบถงึ ผลของ
การดำเนนิ งานของกจิ การวา่ มีผลกำไรหรือขาดทนุ อยา่ งไร

8.1.2 เพื่อใชใ้ นการตีราคาสินคา้ คงเหลือ (Inventory Evaluation) ในธุรกิจ
อตุ สาหกรรม สนิ คา้ คงเหลอื ที่จะปรากฏในงบดุลจะประกอบดว้ ย วตั ถุดบิ งานระหวา่ งผลติ และสนิ ค้า
สำเร็จรปู ซ่งึ การแสดงมูลคา่ ของสินค้าคงเหลือเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง หรอื ใกลเ้ คยี งความเปน็ จรงิ มาก
ท่ีสุดจำเป็นตอ้ งอาศัยวิธกี ารทางบญั ชีตน้ ทุนทีม่ ีประสิทธิภาพ

8.1.3 เพื่อให้ข้อมลู เก่ยี วกับการตดั สินใจวางแผนและควบคุม (Planning and
Control) ซง่ึ จะช่วยใหผ้ ู้บรหิ ารสามารถดำเนนิ ธรุ กิจไปอย่างมแี บบแผน และบรรลุเป้าหมายตาม
ความตอ้ งการของธรุ กจิ ในท่สี ุด นอกจากนข้ี ้อมูลทางบัญชตี ้นทุนยังช่วยให้ผบู้ ริหารไดท้ ราบถงึ ความ
ผดิ พลาดหรือจดุ บกพร่องในการดำเนินธรุ กิจ เพ่ือหาทางกำหนดวิธีการปฏิบัตเิ พือ่ แกไ้ ขเหตกุ ารณ์ท่ีไม่
พึงประสงค์ได้อยา่ งทนั ท่วงที

8.1.4 เพื่อใชเ้ ป็นเคร่ืองมอื ในการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อตัดสินใจ(Decision Making)
ทั้งนใ้ี นการดำเนนิ ธรุ กจิ ผูบ้ รหิ ารมักจะต้องประสบปัญหาท่ีจะต้องทำการแกไ้ ขอยูต่ ลอดเวลา ไม่วา่ จะ
เป็นปัญหาในระยะสัน้ หรอื ปัญหาที่จะสง่ ผลกระทบในระยะยาวกต็ าม เชน่ การตดั สนิ ใจเกยี่ วกับการ
รับใบสงั่ ซ้อื พเิ ศษ การปดิ โรงงานชว่ั คราว การเพม่ิ ลดรายการผลิต การตง้ั ราคาสนิ ค้า การวเิ คราะห์
กำไร การกำหนดกลยทุ ธใ์ นการประมูลงาน เป็นต้น

8.2 บญั ชตี น้ ทุน เปน็ หลักการบัญชีท่ีเกย่ี วกับการสะสมและวิเคราะห์ขอ้ มลู เพ่ือการตัดสนิ ใจ
ของฝา่ ยบรหิ าร ทั้งเพื่อการวางแผน ควบคมุ และการตดั สินใจในเร่อื งอน่ื ๆ โดยปกติแล้วการบัญชี
ตน้ ทุนจะทำหน้าทหี่ ลกั ในการสะสมข้อมลู ทางดา้ นตน้ ทุนที่เป็นข้อมูลทเ่ี กดิ ข้ึนแลว้ ในอดีต เพอ่ื
คำนวณหาตน้ ทุนของผลติ ภณั ฑ์ รวมทั้งใช้ประมาณมูลคา่ ของสินคา้ คงเหลือ นอกจากนกี้ ารบัญชี
ต้นทนุ ยังเปน็ สว่ นที่เก่ยี วข้องกบั การประมาณหรือการพยากรณต์ น้ ทนุ ทจ่ี ะเกิดขึน้ ในอนาคตเพ่ือการ
ตดั สนิ ใจอกี ด้วย ซง่ึ ในส่วนนเ้ี องจึงทำให้การบัญชีตน้ ทุนเข้ามามีบทบาทเพื่อการตดั สินใจของฝา่ ย
บรหิ าร ในปจั จบุ นั น้กี ารพัฒนาทางด้านอตุ สาหกรรมและการผลติ ไดม้ กี ารพฒั นาเปลยี่ นแปลงไปมาก

9. งานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง

นางสาวสกุ ัญญา ก่ิงพยอม (2557) ไดศ้ ึกษาประโยชนข์ องกล้วย ผลการวจิ ัยพบวา่ กลว้ ยอดุ ม
ไปดว้ ยวติ ามนิ และแร่ธาตุตา่ งๆ ทส่ี ำคัญและจำเปน็ ต่อร่างกาย เชน่ ธาตุเหลก็ ฟอสฟอรัส โปรตนี
โพแทสเซียม แมกนีเซยี ม คาโบไฮเดรต วิตามินเอ วิตามนิ บี 6 วิตามนิ บี 12 และวิตามินซี ชว่ ยรกั ษา
อาการท้องผูก เพราะกลว้ ยมเี สน้ ใยและกากอาหาร ซ่ึงจะช่วยใหข้ บั ถ่ายไดอ้ ย่างปกติ ชว่ ยในเร่ือง
รักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะในกล้วยมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะช่วยในการผลติ ฮโี มโกลบนิ ในเลือด เพ่ือ
รกั ษาภาวะโลหิตจางหรือผ้ทู ่ีอยูใ่ นสภาวะขาดกำลงั กล้วยยงั สามารถรักษาโรคซึมเศร้าหรือตอนท่ี
เกิดภาวะความเครียด เพราะกลว้ ยมีโปรตนี ชิดหน่ึงทีเ่ รียกว่า Tryptophan ซ่ึงช่วยในการผลติ สาร
Serotonin หรอื ฮอร์โมนแห่งความสขุ จงึ ส่วนช่วยในการผ่อนคลายอารมณ์ได้ดียง่ิ ขน้ึ

ดร.ณรงค์ชยั พิพัฒน์ธนวงศ์ (2559) ได้ศึกษาประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รี ผลการวิจยั พบว่า
เมอ่ื เทียบน้ำหนักทเี่ ทา่ กับ ผลไม้ชนิดอนื่ ๆ แล้ว พลังในการต้านอนมุ ูลอสิ ระของสตรอเบอรร์ จี ะสงู กวา่
ส้มถงึ หนง่ึ เท่าคร่งึ สงู กว่า องุ่นแดง 2 เท่า สงู กว่ากวี ี 3 เทา่ สูงกว่ากลว้ ยหอมกบั มะเขอื เทศ 2 เท่า
และสูงกว่า ลกู แพรถงึ 15 เท่า กรดแอสคอร์บิก ในวติ ามนิ ซีชว่ ยป้องกนั โรคเลือดออกตามไรฟัน
ยังชว่ ยเพ่ิมภมู ติ า้ นทานของร่างกายต่อ โรคภยั ตา่ งๆ เช่น โรคภูมแิ พ้ และโรคหวดั ช่วยชะลอความชรา
และการเกิดรวิ้ รอยก่อนวัยอนั ควร ช่วยให้ระบบทางเดนิ อาหารทำงานไดส้ ะดวก สตรอว์เบอรร์ ีมี
สรรพคณุ เป็นยาระบายอยา่ งอ่อนๆ

นายกติ ติพนั ธ์ บรรพต (2560) ไดศ้ ึกษาประโยชน์จากเมล่อน ผลการวจิ ยั พบวา่ เมลอ่ นมี
สารตา้ นอนมุ ลู อิสระท่สี ำคัญในปริมาณสูง มวี ติ ามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซยี ม ฟอสฟอรสั
และธาตุเหล็ก ไม่มไี ขมนั และคอเลสตอรอล อีกทง้ั แคลอรี่ต่ำ จงึ เหมาะกบั ผ้ทู ่ตี ้องการลดนำ้ หนัก
และนอกจากนยี้ ังเชื่อวา่ เอมไซมใ์ นน้ำเมล่อนชอื่ วา่ “superoxide dismutase” มีสรรพคณุ ชว่ ย
ตา้ นอนมุ ลู อิสระและลดกระบวนการทางเคมีภายในรา่ งกาย ส่งผลใหส้ ามารถลดระดบั ความเครียดได้

บทที่ 3

วิธีการดำเนนิ การศกึ ษา

นมสดทอด เปน็ การพฒั นาผลิตภณั ฑแ์ ละบรรจภุ ัณฑ์ เพื่อเพิม่ มลู ค่าให้กบั ผลิตภณั ฑ์รวมถึงให้
เปน็ ที่นา่ สนใจแกผ่ ู้บรโิ ภค โดยผ้ศู กึ ษาได้ดำเนินงานตามลำดับขน้ั ตอนดังต่อไปน้ี

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
2. เคร่อื งมือที่ใช้ในการศึกษา
3. ขน้ั ตอนในการสรา้ งเครื่องมือ
4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
5. การวเิ คราะห์ข้อมลู และสถติ ิทใ่ี ช้ในการศกึ ษา

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
นักศกึ ษาประกาศนยี บตั รวิชาชพี ช้ันสูง (ปวส.) ระดบั ชน้ั ปที ่ี 2 แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลยั

อาชวี ศกึ ษาชลบรุ ี จำนวน 84 คน

2. เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการศึกษา
เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการศกึ ษาในครั้งนเี้ ป็นแบบสอบถาม ซึ่งประกอบด้วยแบบตรวจรายการ

แบบมาตราสว่ นประมาณ และแบบคำถามปลายปิดและปลายเปดิ จำนวน 3 ตอน มีรายละเอยี ด ดังนี้
ตอนที่ 1 สอบถามข้อมูลท่วั ไป
ตอนที่ 2 ศึกษาความพึงพอใจของกลมุ่ เป้าหมายทีม่ ตี ่อผลิตภณั ฑแ์ ละบรรจุภัณฑน์ มสดทอด

ลักษณะแบบสอบถามเปน็ แบบมาตราส่วนประมาณ 5 ระดับ
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะและความคิดเห็น

3. ขน้ั ตอนในการสร้างเครือ่ งมือ
การสรา้ งเคร่ืองมือจากแบสอบถาม ซ่งึ มรี ายละเอยี ดแบ่งเป็น 3 ตอนดงั นี้
ตอนท่ี 1 สอบถามขอ้ มูลท่ัวไป
ขอ้ 1 เพศ
ขอ้ 2 อายุ
ขอ้ 3 กลมุ่ เรียน

ตอนที่ 2 ศึกษาความพึงพอใจของกลุม่ เปา้ หมายท่ีมตี ่อผลติ ภัณฑแ์ ละบรรจุภัณฑ์นมสดทอด

ลกั ษณะแบบสอบถามเปน็ แบบมาตราสว่ นประมาณ 5 ระดับ

ระดับ 5 หมายถึง มีความพึงพอใจมากทส่ี ดุ

ระดับ 4 หมายถึง มคี วามพึงพอใจมาก

ระดับ 3 หมายถึง มคี วามพึงพอใจปานกลาง

ระดบั 2 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจน้อย

ระดับ 1 หมายถงึ มคี วามพึงพอใจน้อยทสี่ ดุ

โดยกำหนดเกณฑ์การแปลความหมายข้อมูลทเ่ี ปน็ คา่ เฉลย่ี ตา่ ง ๆ คือ

ค่าเฉล่ยี ระหว่าง ความหมาย

4.51 - 5.00 ความพึงพอใจในระดบั มากที่สดุ

3.51 - 4.50 ความพึงพอใจในระดบั มาก

2.51 - 3.50 ความพงึ พอใจในระดับปานกลาง

1.51 - 2.50 ความพึงพอใจในระดับนอ้ ย

1.00 - 1.50 ความพึงพอใจในระดับนอ้ ยท่ีสุด

ตอนที่ 3 เป็นแนวคำถามปลายเปดิ สำหรับผตู้ อบแบบสอบถามแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติม

และใหข้ ้อเสนอแนะต่าง ๆ

4. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
คณะผู้จดั ทำได้ดำเนนิ การเก็บรวบรวมข้อมลู ตามลำดับขน้ั ตอน ดงั น้ี
4.1 ดำเนินการแจกแบบสอบถาม นมสดทอด โดยแจกแบบสอบถามใหก้ ลมุ่ เป้าหมาย

ผ่านทาง Google Form
4.2 เกบ็ รวบรวมแบบสอบถาม นมสดทอด เพ่ือนำข้อมูลที่ได้มาวเิ คราะหต์ ่อไป

5. การวิเคราะหข์ ้อมูลและสถิตทิ ใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา
การวิเคราะห์ขอ้ มูลเกย่ี วกับลักษณะส่วนบคุ คลของแบบสอบถาม สถิตทิ ี่ใชเ้ ป็นค่าร้อยละ

ค่าเฉล่ยี ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน โดยรวบรวมขอ้ มลู การหาคา่ สถิติพ้ืนฐาน คือ ร้อยละ ค่าเฉลย่ี และ
ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของคะแนนท่ีได้ โดยใช้สูตร ดงั นี้

5.1 คา่ รอ้ ยละ =
P แทน รอ้ ยละ
แทน ความถท่ี ่ตี ้องการแปลคา่ ใหเ้ ป็นรอ้ ยละ
เม่ือ P แทน จำนวนความถีท่ ง้ั หมด
F
n

5.2 คา่ เฉล่ยี =
เมื่อ แทน คา่ เฉลีย่
n แทน ผลรวมทัง้ หมดของความถี่ คูณคะแนน
แทน ผลรวมทัง้ หมดของความถ่ซี งึ่ มีค่าเทา่ กบั จำนวนข้อมลู ท้งั หมด

5.3 สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน
S.D. =

เมอ่ื S.D. แทน สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน
n แทน จำนวนคทู่ ัง้ หมด
X แทน คะแนนแตต่ ัวในกล่มุ ข้อมูล
แทน ผลรวมของความแตกต่างของคะแนนแต่ละคู่

บทที่ 4

ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล

เพือ่ พัฒนาผลติ ภณั ฑ์และบรรจภุ ณั ฑใ์ หม้ คี ุณภาพ และเหมาะสมกบั ความต้องการของ
ผบู้ ริโภค มเี อกลักษณแ์ ละรสชาติเฉพาะ โดดเด่น ดึงดูดให้ผบู้ รโิ ภคตัดสินใจซอ้ื สนิ ค้า ในคร้ังน้ี ผู้ศกึ ษา
เสนองานตามลำดบั ดังน้ี

4.1 สัญลักษณ์ทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมลู
n แทน จำนวนคนในกลุ่มเป้าหมาย
แทน คะแนนเฉลี่ย

S.D. แทน สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน
4.2 การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมลู ในการศกึ ษาน้ี ผ้ศู กึ ษาไดด้ ำเนินการวิเคราะหอ์ อกเป็น 3 ขั้นตอน ดังน้ี
ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

ตอนท่ี 2 ศึกษาความพึงพอใจของผบู้ ริโภคทม่ี ีต่อผลติ ภัณฑ์และบรรจภุ ัณฑ์นมสดทอด
แบ่งเป็น 4 ด้าน คือ ดา้ นคุณภาพของผลติ ภัณฑ์ ดา้ นคุณภาพของบรรจภุ ณั ฑ์ ดา้ นการอำนวยความ
สะดวก และด้านส่งเสริมการขาย

ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะและความคิดเห็น

ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล

ตอนที่ 1 ข้อมูลทว่ั ไปของผูต้ อบแบบสอบถาม

ตารางท่ี 1 แสดงความถี่และร้อยละของกลมุ่ เปา้ หมาย จำแนกตามเพศ

สถานภาพ n = 84
จำนวน ร้อยละ

เพศ

ชาย 5 6.00

หญงิ 79 94.00

รวม 84 100.00

จากตารางที่ 1 พบว่า นกั ศึกษาจากกลุ่มเปา้ หมายเปน็ เพศหญงิ จำนวน 79 คน คิดเป็นรอ้ ย
ละ 94.00 เพศชาย จำนวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.00

ชาย
6%

เพศ

ชาย
หญิง

หญิง
94%

ภาพท่ี 1 แสดงความถ่ีและร้อยละของนักศกึ ษาตามกลุ่มเปา้ หมาย จำแนกตามเพศ

ตารางท่ี 2 แสดงความถ่ีและรอ้ ยละของกลมุ่ เปา้ หมาย จำแนกตามช่วงอายุ

สถานภาพ n = 84
จำนวน ร้อยละ

อายุ

18 - 19 ปี 26 31.00

20 - 21 ปี 57 67.90

22 ปีขึน้ ไป 1 1.10

รวม 84 100.00

จากตารางท่ี 2 พบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ อายุ 20 - 21 ปี จำนวน 57 คน คิดเป็นนรอ้ ยละ
67.90 รองลงมาอายุ 18 – 19 ปี จำนวน 26 คน คิดเปน็ ร้อยละ 31.00 และ 22 ปีข้ึนไป จำนวน 1
คน คิดเป็นร้อยละ 1.10

22 ปีขนึ้ ไป ชว่ งอายุ

18 - 19 ปี 18 - 19 ปี
20 - 21 ปี
22 ปีขนึ้ ไป

20 - 21 ปี

ภาพท่ี 2 แสดงความถแ่ี ละรอ้ ยละของนกั ศึกษาตามกลุม่ เป้าหมาย จำแนกตามช่วงอายุ

ตารางท่ี 3 แสดงความถี่และร้อยละของกล่มุ เป้าหมาย จำแนกตามกลุ่มเรียน

สถานภาพ n = 84
จำนวน ร้อยละ

กลุ่มเรยี น

ปวส. 2/1 26 31.00

ปวส. 2/2 31 36.90

ปวส. 2/3 27 32.10

รวม 84 100.00

จากตารางที่ 3 พบว่า นักศึกษาส่วนใหญม่ าจาก ปวส. 2/2 จำนวน 31 คน คิดเป็นรอ้ ยละ
36.90 รองลงมาคือ ปวส. 2/3 จำนวน 27 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 32.10 และ ปวส. 2/1 จำนวน 26 คน
คดิ เปน็ รอ้ ยละ 31.00

กลุ่มเรยี น

32.1 31 ปวส. 2/1
ปวส. 2/2
ปวส. 2/3

36.9

ภาพที่ 3 แสดงความถแี่ ละรอ้ ยละของนักศกึ ษากลุ่มเปา้ หมาย จำแนกตามกลมุ่ เรยี น

ตอนท่ี 2 ข้อมลู เกย่ี วกบั ความพึงพอใจของผูบ้ ริโภคที่มีต่อผลติ ภณั ฑ์และบรรจุภณั ฑ์นมสดทอด
แบ่งเป็น 4 ด้านคือ ดา้ นคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ดา้ นคุณภาพของบรรจุภณั ฑ์ ดา้ นการ
อำนวยความสะดวก และดา้ นส่งเสริมการขาย

ตารางท่ี 4 แสดงค่าเฉลยี่ และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผบู้ ริโภคท่ีมีต่อผลิตภณั ฑ์

และบรรจภุ ณั ฑน์ มสดทอด สรปุ เปน็ รายด้าน

รายการประเมนิ ระดบั ความคดิ เห็น
S.D. แปลผล

1. ด้านคณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์ 4.44 0.63 มาก

2. ดา้ นคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ 4.43 0.67 มาก

3. ดา้ นการอำนวยความสะดวก 4.49 0.62 มาก

4. ด้านสง่ เสรมิ การขาย 4.46 0.66 มาก

รวม 4.45 0.65 มาก

จากตารางที่ 4 พบวา่ ความพงึ พอใจของผ้บู รโิ ภคท่มี ีต่อผลติ ภัณฑแ์ ละบรรจุภณั ฑ์นมสดทอด
โดยรวมมคี วามพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.45 และ S.D. = 0.65) เม่อื พจิ ารณาเป็นรายดา้ นแล้ว
ด้านการอำนวยความสะดวก มีความพึงพอใจในระดับมาก ( = 4.49 และ S.D. = 0.62) รองลงมา
คอื ดา้ นส่งเสรมิ การขาย มีความพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.46 และ S.D. = 0.66) ดา้ นคณุ ภาพ
ของผลติ ภณั ฑ์ มคี วามพงึ พอใจในระดับมาก ( = 4.44 และ S.D. = 0.63) และด้านคุณภาพของ
บรรจภุ ณั ฑ์ มคี วามพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.43 และ S.D. = 0.67) ตามลำดบั

สรุปเป็ นรายดา้ น

01324.....5555513024 ดา้ นคณุ ภาพของ ดา้ นคณุ ภาพของ ดา้ นการอานวยความ ดา้ นสง่ เสริมการขาย
ผลิตภณั ฑ์ บรรจภุ ณั ฑ์ สะดวก
คา่ เฉลย่ี 4.46
S.D. 4.44 4.43 4.49 0.66
0.63 0.67 0.62

ภาพที่ 4 แสดงคา่ เฉลย่ี และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผ้บู รโิ ภคทมี่ ีตอ่ ผลิตภัณฑ์และบรรจภุ ณั ฑ์
นมสดทอดสรปุ เปน็ รายด้าน

ตารางท่ี 5 แสดงคา่ เฉลี่ย และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผบู้ ริโภคทีม่ ีตอ่ ผลิตภัณฑ์
และบรรจุภณั ฑ์นมสดทอด ดา้ นคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์

รายการประเมิน ระดบั ความพึงพอใจ
S.D. แปลผล
1. มรี สชาตกิ ลมกล่อม
2. มีขนาดพอเหมาะแกก่ ารรับประทาน 4.50 0.65 มาก
3. ความน่ารับประทานของผลติ ภัณฑ์ 4.37 0.69 มาก
4.45 0.63 มาก
รวม 4.44 0.63 มาก

จากตารางที่ 5 พบวา่ ความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคท่มี ตี ่อผลิตภณั ฑแ์ ละบรรจุภัณฑน์ มสดทอด
โดยรวมมีความพงึ พอใจในระดับมาก ( = 4.44 และ S.D. = 0.63) เม่อื พิจารณาเป็นรายข้อแลว้ มี
รสชาติกลมกล่อม มีความพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.50 และ S.D. = 0.65) รองลงมาคอื ความ
น่ารบั ประทานของผลติ ภณั ฑ์ มคี วามพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.45 และ S.D. = 0.63) และมี
ขนาดพอเหมาะแก่การรับประทาน มีความพึงพอใจในระดับมาก ( = 4.37 และ S.D. = 0.69)
ตามลำดับ

ด้านคุณภาพของผลิตภณั ฑ์

4.5 มรี สชาติกลมกลอ่ ม มขี นาดพอเหมาะแก่การ ความนา่ รบั ประทานของ
4 รบั ประทาน ผลิตภณั ฑ์
4.5
3.5 0.65 4.37 4.45
3 0.69 0.63

2.5
2

1.5
1

0.5
0

คา่ เฉลยี่

S.D.

ภาพที่ 5 แสดงคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคทม่ี ตี อ่ ผลติ ภณั ฑ์
และบรรจภุ ณั ฑ์นมสดทอด ด้านคณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์

ตารางท่ี 6 แสดงคา่ เฉลย่ี และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ความพงึ พอใจของผู้บรโิ ภคที่มีต่อผลติ ภัณฑ์

และบรรจภุ ณั ฑน์ มสดทอด ด้านคณุ ภาพของบรรจุภัณฑ์

รายการประเมิน ระดับความพงึ พอใจ
S.D. แปลผล

1. มีความกระทดั รดั พกพาง่าย 4.49 0.61 มาก

2. มมี าตรฐานและมีความปลอดภยั ตอ่ ผู้บรโิ ภค 4.44 0.72 มาก

3. มคี วามสวยงาม โดดเด่น 4.38 0.71 มาก

4. สามารถป้องกนั ความมนั จากนำ้ มันได้ 4.43 0.70 มาก

รวม 4.43 0.67 มาก

จากตารางท่ี 6 พบวา่ ความพงึ พอใจของผูบ้ ริโภคที่มตี ่อผลติ ภณั ฑ์และบรรจุภัณฑ์นมสดทอด
โดยรวมมีความพงึ พอใจในระดับมาก ( = 4.43 และ S.D. = 0.67) เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายข้อแล้ว มี
ความกระทัดรัดพกพาง่าย มีความพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.49 และ S.D. = 0.61) รองลงมาคอื
มีมาตรฐานและมีความปลอดภยั ตอ่ ผบู้ รโิ ภค มีความพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.44 และ S.D. =
0.72) สามารถป้องกันความมันจากน้ำมันได้ มีความพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.43 และ S.D. =
0.70) และมคี วามสวยงาม โดดเดน่ มคี วามพึงพอใจในระดับมาก ( = 4.38 และ S.D. = 0.71)
ตามลำดับ

ดา้ นคุณภาพของบรรจุภณั ฑ์

4.5 มีมาตรฐานและมคี วาม มคี วามสวยงาม โดด สามารถปอ้ งกนั ความ
4 ปลอดภยั ต่อผบู้ ริโภค เดน่ มนั จากนา้ มนั ได้

3.5 4.44 4.38 4.43
3 0.72 0.71 0.7

2.5
2

1.5
1

0.5
0
มีความกระทดั รดั พกพา

งา่ ย

ค่าเฉล่ีย 4.49

S.D. 0.61

ภาพที่ 6 แสดงคา่ เฉลยี่ และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผู้บรโิ ภคทม่ี ีต่อผลิตภณั ฑ์
และบรรจภุ ณั ฑ์นมสดทอด ด้านคณุ ภาพของบรรจุภณั ฑ์

ตารางท่ี 7 แสดงค่าเฉลีย่ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคทีม่ ีต่อผลติ ภัณฑ์

และบรรจภุ ณั ฑน์ มสดทอด ด้านการอำนวยความสะดวก

รายการประเมนิ ระดับความพงึ พอใจ
S.D. แปลผล

1. ผลิตภัณฑส์ ามารถรบั ประทานได้ง่าย 4.50 0.63 มาก

2. บรรจุภัณฑม์ นี ้ำหนักเบา 4.46 0.67 มาก

3. บรรจภุ ัณฑม์ ขี นาดท่ีเหมาะสม 4.46 0.65 มาก

4. บรรจุภณั ฑ์สะดวกต่อการรับประทาน 4.51 0.59 มากท่ีสุด

รวม 4.49 0.62 มาก

จากตารางท่ี 7 พบวา่ ความพงึ พอใจของผูบ้ ริโภคที่มตี ่อผลติ ภัณฑแ์ ละบรรจุภัณฑ์นมสดทอด
โดยรวมมีความพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.49 และ S.D. = 0.62) เม่ือพิจารณาเป็นรายขอ้ แลว้
บรรจภุ ณั ฑส์ ะดวกต่อการรับประทาน มีความพึงพอใจในระดับมากทส่ี ดุ ( = 4.51 และ S.D. =
0.59) รองลงมาคือ ผลติ ภัณฑ์สามารถรับประทานได้งา่ ย มีความพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.50
และ S.D. = 0.63) บรรจุภณั ฑ์มีขนาดทเี่ หมาะสม มีความพงึ พอใจในระดับมาก ( = 4.46 และ
S.D. = 0.65) และบรรจุภณั ฑ์มีนำ้ หนักเบา มีความพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.46 และ S.D. =
0.67) ตามลำดับ

ดา้ นการอานวยความสะดวก

5 ผลติ ภณั ฑส์ ามารถ บรรจภุ ณั ฑม์ ีนา้ หนกั บรรจภุ ณั ฑม์ ขี นาดที่ บรรจภุ ณั ฑส์ ะดวกต่อ
4.5 รบั ประทานไดง้ า่ ย เบา เหมาะสม การรบั ประทาน

4 4.5 4.46 4.46 4.51
3.5 0.63 0.67 0.65 0.59

3
2.5

2
1.5

1
0.5

0

ค่าเฉลยี่
S.D.

ภาพที่ 7 แสดงคา่ เฉลยี่ และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคทมี่ ตี ่อผลติ ภณั ฑ์
และบรรจภุ ณั ฑ์นมสดทอด ดา้ นการอำนวยความสะดวก

ตารางที่ 8 แสดงคา่ เฉล่ยี และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคที่มีตอ่ ผลิตภณั ฑ์

และบรรจุภัณฑน์ มสดทอด ด้านสง่ เสริมการขาย

รายการประเมนิ ระดับความพึงพอใจ
S.D. แปลผล

1. บรรจภุ ัณฑม์ คี วามทนั สมยั ตามความต้องการของ 4.45 0.63 มาก
ผู้บรโิ ภค

2. ผลิตภณั ฑม์ รี สชาติแปลกใหม่ดึงดดู ใหผ้ บู้ ริโภคตัดสินใจ 4.42 0.71 มาก
ซอ้ื สินคา้

3. บรกิ ารสง่ ผลติ ภณั ฑ์ตามความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภคใน 4.43 0.70 มาก
บริเวณใกลเ้ คียง

4. บรรจุภัณฑม์ เี อกลักษณท์ ผี่ ู้บรโิ ภคสามารถจดจำได้ 4.52 0.67 มากท่ีสดุ

รวม 4.46 0.66 มาก

จากตารางที่ 8 พบว่าความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคที่มีต่อผลิตภณั ฑ์และบรรจภุ ณั ฑน์ มสดทอด
โดยรวมมคี วามพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.46 และ S.D. = 0.66) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อแล้ว
บรรจภุ ัณฑม์ ีเอกลักษณท์ ่ผี บู้ ริโภคสามารถจดจำได้ มีความพงึ พอใจในระดบั มากทีส่ ุด ( = 4.52
และ S.D. = 0.67) รองลงมาคอื บรรจุภณั ฑ์มีความทนั สมัยตามความต้องการของผู้บริโภค มคี วาม
พึงพอใจในระดับมาก ( = 4.45 และ S.D. = 0.63) บริการสง่ ผลิตภณั ฑต์ ามความตอ้ งการของ
ผู้บรโิ ภคในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง มีความพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.43 และ S.D. = 0.70) และ
ผลิตภัณฑ์มีรสชาติแปลกใหม่ดึงดดู ใหผ้ ู้บริโภคตดั สนิ ใจซือ้ สินค้า มีความพึงพอใจในระดับมาก
( = 4.42 และ S.D. = 0.71) ตามลำดับ

ดา้ นส่งเสรมิ การขาย

5 บรรจภุ ณั ฑม์ ี
4
3
2
1
0

บรรจภุ ณั ฑม์ ีความ ผลติ ภณั ฑม์ ีรสชาติ บริการสง่ ผลิตภณั ฑ์

ทนั สมยั ตามความ แปลกใหมด่ ึงดดู ให้ ตามความตอ้ งการ เอกลกั ษณท์ ่ีผบู้ ริโภค

ตอ้ งการของผบู้ ริโภค ผบู้ ริโภคตดั สินใจซอื้ ของผบู้ รโิ ภคใน สามารถจดจาได้
สินคา้ บริเวณใกลเ้ คียง

คา่ เฉล่ยี 4.45 4.42 4.43 4.52

S.D. 0.63 0.71 0.7 0.67

ภาพท่ี 8 แสดงคา่ เฉล่ีย และสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ความพงึ พอใจของผู้บรโิ ภคท่มี ีต่อผลติ ภัณฑ์
และบรรจุภัณฑ์นมสดทอด ดา้ นสง่ เสริมการขาย

บทที่ 5

สรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ

ในการศึกษาเร่ืองนมสดทอด มวี ตั ถุประสงค์ 1. เพื่อพฒั นาผลิตภณั ฑแ์ ละบรรจุภัณฑ์
นมสดทอดไส้ผลไม้ 2. เพอ่ื ศึกษาความพงึ พอใจของกลุ่มเป้าหมายทีม่ ตี ่อนมสดทอดไส้ผลไม้ 3. เพ่ือ
เปน็ ช่องทางการจัดจำหน่ายและเป็นรายได้ระหวา่ งเรยี น กลุม่ เป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครง้ั น้ี ได้แก่
นกั ศึกษาประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชั้นสงู (ปวส.) ช้ันปีที่ 2 แผนกวชิ าการบญั ชี วิทยาลยั อาชวี ศึกษา
ชลบรุ ี จำนวน 84 คน เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการศึกษาในครง้ั นเ้ี ป็นแบบสอบถาม ซงึ่ ประกอบด้วยแบบ
ตรวจรายการ แบบมาตราสว่ นประมาณ และแบบคำถามปลายปิดและปลายเปิด จำนวน 3 ตอน
มรี ายละเอียด คอื ตอนท่ี 1 สอบถามข้อมลู ท่วั ไป ตอนท่ี 2 ศกึ ษาความพงึ พอใจของกล่มุ เป้าหมาย
ท่ีมตี ่อผลติ ภัณฑแ์ ละบรรจภุ ัณฑน์ มสดทอด ลักษณะแบบสอบถามเปน็ แบบมาตราสว่ นประมาณ 5
ระดบั ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะและความคิดเห็น สถติ ิท่ีใชใ้ นการศึกษา คือ 1. ค่าร้อยละ(Percentage)
2. คา่ เฉลี่ย(Mean) 3. สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน(Standard Deviation)

สรุปผลการศึกษา

ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลในการศกึ ษาคร้งั นี้ สรปุ ไดด้ ังน้ี
ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทั่วไปของผูต้ อบแบบสอบถาม พบวา่ นกั ศึกษาจากกลุ่มตวั อยา่ งส่วนใหญ่เปน็
เพศหญงิ จำนวน 79 คน คดิ เป็นร้อยละ 94.00 เพศชาย จำนวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.00
นักศกึ ษาส่วนใหญ่ อายุ 20 - 21 ปี จำนวน 57 คน คิดเปน็ ร้อยละ 67.90 รองลงมาอายุ 18 – 19 ปี
จำนวน 26 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 31.00 และ 22 ปีข้นึ ไป จำนวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.10 นกั ศึกษา
ส่วนใหญม่ าจาก ปวส. 2/2 จำนวน 31 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 36.90 รองลงมา คือ ปวส. 2/3 จำนวน
27 คน คิดเป็นร้อยละ 32.10 และ ปวส. 2/1 จำนวน 26 คน คิดเปน็ ร้อยละ 31.00
ตอนท่ี 2 ข้อมลู เก่ยี วกบั ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มตี ่อผลติ ภัณฑแ์ ละบรรจภุ ัณฑน์ มสด
ทอดแบ่งเปน็ 4 ดา้ น คือ ดา้ นคณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์ ดา้ นคุณภาพของบรรจุภณั ฑ์ ด้านการอำนวย
ความสะดวก และด้านส่งเสริมการขาย
ด้านคณุ ภาพของผลิตภณั ฑ์ โดยรวมมีความพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.44 และ S.D. =
0.63) เมื่อพิจารณาเปน็ รายข้อแล้ว มรี สชาตกิ ลมกล่อม มีความพงึ พอใจในระดับมาก ( = 4.50
และ S.D. = 0.65) รองลงมาคือ ความน่ารบั ประทานของผลิตภณั ฑ์ มคี วามพึงพอใจในระดับมาก

( = 4.45 และ S.D. = 0.63) และมีขนาดพอเหมาะแก่การรับประทาน มีความพึงพอใจในระดับ
มาก ( = 4.37 และ S.D. = 0.69) ตามลำดบั

ด้านคณุ ภาพของบรรจุภณั ฑ์ โดยรวมมีความพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.43 และ
S.D. = 0.67) เมอ่ื พิจารณาเป็นรายข้อแลว้ มีความกระทดั รัดพกพางา่ ย มีความพงึ พอใจในระดับมาก
( = 4.49 และ S.D. = 0.61) รองลงมาคือ มีมาตรฐานและมคี วามปลอดภยั ต่อผู้บริโภค มีความพึง
พอใจในระดบั มาก ( = 4.44 และ S.D. = 0.72) สามารถปอ้ งกนั ความมันจากนำ้ มันได้ มคี วามพึง
พอใจในระดบั มาก ( = 4.43 และ S.D. = 0.70) และมีความสวยงาม โดดเดน่ มคี วามพงึ พอใจใน
ระดบั มาก ( = 4.38 และ S.D. = 0.71) ตามลำดับ

ด้านการอำนวยความสะดวก โดยรวมมคี วามพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.49 และ
S.D. = 0.62) เม่อื พจิ ารณาเป็นรายขอ้ แล้ว บรรจภุ ณั ฑส์ ะดวกต่อการรับประทาน มคี วามพงึ พอใจใน
ระดบั มากทสี่ ุด ( = 4.51 และ S.D. = 0.59) รองลงมาคือ ผลิตภณั ฑ์สามารถรับประทานไดง้ า่ ย
มคี วามพึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.50 และ S.D. = 0.63) บรรจุภณั ฑม์ ีขนาดท่ีเหมาะสม มคี วาม
พึงพอใจในระดบั มาก ( = 4.46 และ S.D. = 0.65) และบรรจภุ ณั ฑ์มนี ้ำหนกั เบา มีความพึงพอใจ
ในระดับมาก ( = 4.46 และ S.D. = 0.67) ตามลำดับ

ด้านสง่ เสริมการขาย โดยรวมมคี วามพงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.46 และ S.D. = 0.66)
เม่ือพจิ ารณาเปน็ รายข้อแล้ว บรรจภุ ณั ฑม์ เี อกลักษณท์ ่ผี ูบ้ ริโภคสามารถจดจำได้ มีความพึงพอใจใน
ระดบั มากทีส่ ุด ( = 4.52 และ S.D. = 0.67) รองลงมา คือ บรรจุภณั ฑ์มคี วามทนั สมัยตาม
ความต้องการของผู้บริโภค มีความ พงึ พอใจในระดบั มาก ( = 4.45 และ S.D. = 0.63) บริการ
ส่งผลิตภณั ฑต์ ามความต้องการของผบู้ ริโภคในบรเิ วณใกลเ้ คียง มคี วามพึงพอใจในระดับมาก
( = 4.43 และ S.D. = 0.70) และผลิตภณั ฑ์มีรสชาติแปลกใหมด่ ึงดูดใหผ้ บู้ รโิ ภคตดั สินใจซ้ือสินค้า
มคี วามพึงพอใจในระดับมาก ( = 4.42 และ S.D. = 0.71) ตามลำดับ

การอภปิ รายผล

การอภิปรายผล ซง่ึ มวี ัตถปุ ระสงคด์ ังนี้ 1. เพื่อพัฒนาผลิตภณั ฑแ์ ละบรรจภุ ณั ฑน์ มสดทอด
ไส้ผลไม้ 2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของกลมุ่ เป้าหมายที่มีต่อนมสดทอดไส้ผลไม้ 3. เพือ่ เป็นชอ่ งทาง
การจดั จำหน่ายและเปน็ รายไดร้ ะหวา่ งเรยี น ในรายวิชา โครงการ แบ่งเป็น 4 ด้าน คือ ด้านคุณภาพ
ของผลติ ภณั ฑ์ ด้านคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ ดา้ นการอำนวยความสะดวก และดา้ นสง่ เสริมการขาย

ดา้ นคุณภาพของผลติ ภณั ฑ์ โดยรวมมคี วามพงึ พอใจในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็น
รายขอ้ แลว้ มีรสชาตกิ ลมกลอ่ ม มีความพึงพอใจในระดบั มากทีส่ ดุ มีค่าเฉลยี่ 4.50 รองลงมา คือ
ความน่ารบั ประทานของผลติ ภณั ฑ์ และมีขนาดพอเหมาะแก่การรับประทาน

ดา้ นคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ โดยรวมมีความพึงพอใจในระดับมาก เม่ือพิจารณาเปน็ ราย
ข้อแล้ว มีความกระทดั รดั พกพาง่าย มีความพึงพอใจในระดบั มากทส่ี ดุ มีค่าเฉลี่ย 4.49 รองลงมา
คือ มมี าตรฐานและมีความปลอดภัยตอ่ ผูบ้ ริโภค สามารถป้องกนั ความมันจากนำ้ มนั ได้ และ
มีความสวยงาม โดดเด่น

ดา้ นการอำนวยความสะดวก โดยรวมมคี วามพึงพอใจในระดบั มาก เมื่อพิจารณาเปน็
รายข้อแลว้ บรรจภุ ณั ฑ์สะดวกต่อการรบั ประทาน มีความพงึ พอใจในระดับมากทส่ี ุด มีค่าเฉลี่ย 4.51
รองลงมา คือ ผลติ ภณั ฑส์ ามารถรับประทานไดง้ า่ ย บรรจุภัณฑ์มีขนาดที่เหมาะสม และบรรจุภัณฑ์
มีน้ำหนกั เบา

ดา้ นส่งเสรมิ การขาย โดยรวมมีความพงึ พอใจในระดับมาก เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายข้อแล้ว
บรรจภุ ณั ฑ์มีเอกลักษณ์ท่ีผบู้ ริโภคสามารถจดจำได้ มีความพงึ พอใจในระดับมากทส่ี ุด มคี ่าเฉลยี่ 4.52
รองลงมา คือ บรรจุภัณฑ์มคี วามทันสมยั ตามความต้องการของผูบ้ ริโภค บรกิ ารสง่ ผลติ ภัณฑ์ตาม
ความตอ้ งการของผู้บริโภคในบริเวณใกล้เคยี ง และผลิตภัณฑ์มรี สชาตแิ ปลกใหมด่ งึ ดดู ให้ผ้บู ริโภค
ตัดสนิ ใจซื้อสนิ ค้า ซ่ึงสอดคล้องกับ นางสาวสุกัญญา กิง่ พยอม (2557) ได้ศึกษาประโยชนข์ องกลว้ ย
ผลการวิจัยพบว่า กลว้ ยอดุ มไปดว้ ยวิตามินและแร่ธาตตุ า่ งๆ ทีส่ ำคัญและจำเปน็ ต่อร่างกาย เชน่ ธาตุ
เหล็ก ฟอสฟอรัส โปรตีนโพแทสเซยี ม แมกนีเซยี ม คาโบไฮเดรต วติ ามนิ เอ วิตามินบี 6 วิตามนิ บี 12
และวิตามนิ ซี ช่วยรักษาอาการท้องผูก เพราะกลว้ ยมีเสน้ ใยและกากอาหาร ซ่งึ จะชว่ ยให้ขบั ถ่ายได้
อยา่ งปกติ ช่วยในเรอื่ งรักษาโรคโลหติ จางได้ เพราะในกล้วยมธี าตเุ หลก็ สงู ซง่ึ จะช่วยในการผลิต
ฮโี มโกลบนิ ในเลอื ด เพือ่ รักษาภาวะโลหติ จางหรอื ผทู้ อ่ี ยู่ในสภาวะขาดกำลงั กล้วยยงั สามารถรกั ษา
โรคซมึ เศรา้ หรือตอนท่ี เกิดภาวะความเครียด เพราะกล้วยมโี ปรตีนชดิ หน่ึงทเ่ี รียกว่า Tryptophan
ซ่ึงช่วยในการผลิตสาร Serotonin หรือฮอร์โมนแห่งความสขุ จงึ สว่ นชว่ ยในการผอ่ นคลายอารมณไ์ ด้
ดีย่งิ ข้ึน ดร.ณรงคช์ ยั พิพฒั นธ์ นวงศ์ (2559) ได้ศกึ ษาประโยชน์ของสตรอว์เบอรร์ ี ผลการวจิ ยั พบว่า
เมือ่ เทยี บน้ำหนักท่เี ท่ากับ ผลไมช้ นิดอืน่ ๆ แล้ว พลงั ในการต้านอนมุ ูลอิสระของสตรอเบอรร์ จี ะสูงกวา่
สม้ ถงึ หนึ่งเทา่ ครง่ึ สงู กว่า องุ่นแดง 2 เทา่ สงู กว่ากวี ี 3 เทา่ สูงกวา่ กลว้ ยหอมกับมะเขอื เทศ 2 เทา่
และสงู กว่า ลูกแพรถงึ 15 เท่า กรดแอสคอรบ์ ิก ในวติ ามนิ ซชี ่วยป้องกันโรคเลอื ดออกตามไรฟัน

ยงั ช่วยเพ่มิ ภมู ติ ้านทานของรา่ งกายต่อ โรคภัยต่างๆ เชน่ โรคภูมแิ พ้ และโรคหวัด ช่วยชะลอความชรา
และการเกดิ ริ้วรอยก่อนวยั อนั ควร ช่วยใหร้ ะบบทางเดนิ อาหารทำงานได้สะดวก สตรอวเ์ บอร์รีมี
สรรพคณุ เป็นยาระบายอย่างออ่ นๆ และ นายกติ ติพันธ์ บรรพต (2560) ได้ศึกษาประโยชนจ์ ากเมลอ่ น
ผลการวจิ ัยพบว่า เมลอ่ นมี สารต้านอนุมูลอสิ ระท่ีสำคัญในปรมิ าณสงู มีวิตามนิ ซี วติ ามนิ เอ เบต้าแค
โรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ไม่มีไขมันและคอเลสตอรอล อีกทั้งแคลอร่ีต่ำ จึงเหมาะ
กับผู้ทีต่ อ้ งการลดน้ำหนัก และนอกจากนย้ี งั เช่ือวา่ เอมไซม์ในน้ำเมลอ่ นชอ่ื ว่า “superoxide
dismutase” มีสรรพคุณชว่ ย ตา้ นอนุมลู อสิ ระและลดกระบวนการทางเคมภี ายในรา่ งกาย ส่งผลให้
สามารถลดระดับความเครียดได้

ข้อเสนอแนะ

-

บรรณานุกรม

แขมร อินเตอร เจา ของสูตรนมสดทอดแบบด้ังเดิม เขา ถึงไดจ าก :
https://cooking.kapook.com/view218810.html / 14 กนั ยายน 2564

สกุ ญั ญา ก่ิงพยอม (2557) สรรพคุณและประโยชนของกลว ย 33 ขอ
http://reo06.mnre.go.th/newweb/images/file/report2557/sukanya57.p
df / 14 กนั ยายน 2564

ดร.ณรงคชยั พพิ ัฒนธ นวงศ (2559) การคัดเลอื กสตรอเบอรีพ่ นั ธลุ ูกผสมเพ่ือพฒั นาเปน
สายพันธุก ารคา เขาถงึ ไดจาก :
https://archive.lib.cmu.ac.th/full/rpf/2559/rpf051_59.pdf /
14 กันยายน 2564

นายกติ ตพิ นั ธ บรรพต (2560) การเปรียบเทยี บวสั ดปุ ลกู ตอ การเจรญิ เติบโตของเมลอ น
พันธกุ รีนเนต็ ในระบบปลูกพชื ไมใชดนิ เขา ถงึ ไดจาก :
http://ait.nsru.ac.th/stuResearch/re_20190315111639.pdf /

14 กันยายน 64

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก

แบบขออนุมตั ิโครงการ

รายวชิ าโครงการ รหสั วิชา 30201 8501 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
วิทยาลัยอาชวี ศึกษาชลบุรี

ชื่อโครงการ นมสดทอด
ระยะเวลาดำเนนิ การ ตั้งแต่วันที่ 1 มถิ ุนายน ถงึ 1 ตุลาคม 2564
สถานท่ดี ำเนนิ การ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาชลบุรี
ประมาณการค่าใชจ้ ่าย ค่าใช้จา่ ยในการดำเนนิ งานประมาณ 1,300 บาท
ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ 1. นางสาวชตุ ิกาญจน์ แจง้ เจริญ ช้ันปวส.2/3 สาขาการบัญชี

2. นางสาวพิชญาภา รตั นะ ชนั้ ปวส.2/3 สาขาการบญั ชี
3. นางสาวสุภสั สรา เนียมชาวนา ชน้ั ปวส.2/3 สาขาการบัญชี

ลงชอื่ .............................................ผูร้ ับผดิ ชอบโครงการ
(....................................................)

…………………./……………../………………….

ลงชอื่ .............................................ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ
(....................................................)

…………………./……………../………………….

ลงชื่อ.............................................ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงการ
(....................................................)

…………………./……………../………………….

ความเหน็ ของครปู ระจำวชิ า
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

ลงชือ่ .............................................ครผู ้สู อน
(....................................................)

…………………./……………../………………….

ความเหน็ ของหัวหน้าแผนกวิชา
..............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

ลงช่ือ.............................................หวั หน้าแผนกวิชา
(....................................................)

..…………………./……………../………………….