สารจากอธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก
สถาบันพระบรมราชชนก (สบช.) ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2565 สู่สถาบันท่ีผลิตและ
พฒั นาบคุ ลากรตามความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข ใหก้ ารศึกษา ส่งเสริมวชิ าการและวิชาชีพ ทำการสอน
ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม การจัดการศึกษาของ
สถาบันพระบรมราชชนก มงุ่ พฒั นาผู้เรียนให้เป็นผู้มีคุณธรรมตามพระราชปณิธานของสมเดจ็ พระบรมราชชนก
“ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง”และมีอัตลักษณ์คุณธรรม “วินัย หน้าที่ สามัคคี เสียสละ สัจจะ
กตเวที” มีความรอบรู้ มีภูมิปัญญาในสาขาวิชาชีพและมีสมรรถนะที่จำเป็นที่จะนำไปปรับใช้ในสถานการณ์ที่
เปลี่ยนแปลงและวิกฤติที่เกิดขึ้น มีความพร้อมในการจัดการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ประกอบด้วยหลักสูตร บุคลากร สถานที่ในจัดการเรียนการสอนและการฝึกปฏิบัติ และสื่อการเรียนการ
สอนที่เพียงพอและทันสมัย
การศึกษาทางด้านการพยาบาลและสาธารณสุขท่ีดี นกั ศึกษาตอ้ งหมน่ั ศกึ ษาใฝห่ าความรู้เพ่ิมเติมควบคู่
กบั การฝึกฝนปฏบิ ัติให้เกิดความรู้ความชำนาญ สร้างทักษะในการทำงานรว่ มกบั สหวชิ าชีพ ช่วยเหลือพึ่งพากัน
และกัน อันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งของการศึกษาในระดับวิชาชีพ ทำให้สามารถนำความรู้ปรับใช้ตามบริบทของ
ชมุ ชน เพอื่ การดแู ลสุขภาพประชาชนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
ในนามสถาบันพระบรมราชชนก ขออำนวยอวยพรให้นักศึกษาทุกคนของสถาบันพระบรมราชชนก
มคี วามสุขกับการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ประสบความสำเร็จในการศกึ ษา และมคี วามเจรญิ ก้าวหน้าในหน้าที่
การงานทีเ่ กดิ ขึ้นในอนาคต
(ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.นายแพทยว์ ิชัย เทยี นถาวร)
อธิการบดีสถาบนั พระบรมราชชนก
ก
คำนำ
สถาบันพระบรมราชชนก ได้จัดทำคู่มือนักศึกษา ปีการศึกษา 2565 เพื่อให้นักศึกษาของสถาบันฯ
มีความเขา้ ใจ และใชเ้ ป็นแนวทางประกอบตลอดระยะเวลาของการศึกษา
ค่มู ือนักศึกษา ประกอบด้วยข้อมูล 4 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลทวั่ ไปของสถาบันพระบรมราชชนก
ส่วนที่ 2 คณะ/วทิ ยาลัยและหลักสูตรทเี่ ปดิ สอน
ส่วนท่ี 3 ระเบยี บ ขอ้ บังคับของสถาบนั พระบรมราชชนก และรายละเอียดทเ่ี กีย่ วกบั การเรียนการสอน
ส่วนที่ 4 แบบคำรอ้ งตา่ งๆ สำหรับนกั ศกึ ษา
นักศึกษาทุกคนควรศึกษาคู่มือนักศึกษา และทำความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ ข้อบังคับ และแบบคำร้อง
ต่าง ๆ ของสถาบันฯ เพื่อให้ปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง และเป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษา ควบคู่กับการศึกษา
รายละเอียดของสถานศกึ ษาที่นกั ศึกษาเข้ารบั การศึกษา
สถาบนั พระบรมราชชนก หวังเป็นอย่างยิง่ ว่า คู่มือนักศึกษาเล่มนี้จะเปน็ ประโยชนแ์ ก่นกั ศึกษา
คณะผู้จดั ทำ
ข
หัวข้อ/สารบญั หน้า
ก
สารจากอธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก ข
จ
คำนำ จ
จ
ตราสญั ลกั ษณ์สถาบันพระบรมราชชนก จ
จ
ดอกไมป้ ระจำสถาบนั พระบรมราชชนก ฉ
ฉ
สปี ระจำสถาบนั พระบรมราชชนก 1
1
สีประจำคณะพยาบาลศาสตร์ 2
2
สปี ระจำคณะสาธารณสขุ ศาสตร์และสหเวชศาสตร์ 3
เพลงเทดิ พระบดิ า 4
5
เพลงมาร์ชสถาบนั พระบรมราชชนก 6
7
สว่ นท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไปของสถาบันพระบรมราชชนก 10
1. ประวตั ิสถาบันพระบรมราชชนก 10
2. ปรัชญาการศกึ ษา 11
3. วสิ ัยทศั น์ ปณิธาน วฒั นธรรมองค์กร อัตลักษณ์ 19
4. รายชอ่ื อธกิ ารบดี รองอธกิ ารบดี ผู้อำนวยการสำนักวชิ าการ
20
และคณบดี
5. แผนทีส่ ถานศึกษา 33
6. ปฏิทินการศกึ ษา ปีการศึกษา 2565
7. ปฏิทินการชำระค่าใช้จ่ายในการศึกษา ปกี ารศึกษา 2565 46
8. การกำหนดรหัสนกั ศึกษา
ส่วนที่ 2 คณะและหลกั สตู รทีเ่ ปดิ สอน ค
1. คณะพยาบาลศาสตร์
2. คณะสาธารณสุขศาสตรแ์ ละสหเวชศาสตร์
สว่ นท่ี 3 ข้อบังคับของสถาบันพระบรมราชชนก
และรายละเอยี ดที่เกย่ี วกับการเรยี นการสอน
1. ขอ้ บังคับสถาบันพระบรมราชชนกว่าดว้ ยการจดั การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
ของสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2564
2. ข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนกว่าด้วยการจดั การศึกษาระดับปริญญาตรี
ของสถาบนั พระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ.2564
3. ขอ้ บงั คับสถาบันพระบรมราชชนกวา่ ด้วยการจดั การศึกษา
ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชัน้ สงู ของสถาบันพระบรมราชชนก
กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ.2565
หัวขอ้ /สารบัญ (ตอ่ ) 49
3. ข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนกวา่ ดว้ ยเคร่ืองแบบ เครื่องหมาย หรอื หน้า
เครื่องแตง่ กายของนกั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๓ 46
49
4. ข้อบงั คบั สถาบันพระบรมราชชนกว่าดว้ ยเครื่องแบบ เครื่องหมาย หรือ 54
เคร่ืองแต่งกายของนกั ศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๖4
58
5. รายละเอียดค่าใช้จ่ายในการศึกษาหลักสูตรต่าง ๆ ของสถาบัน 59
พระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ ประจำปกี ารศึกษา 2563 60
61
ส่วนท่ี 4 แบบคำร้องต่างๆ สำหรับนกั ศกึ ษา 62
- แบบคำรอ้ งขอแก้ไข ชื่อตัว-นามสกลุ 63
- แบบคำรอ้ งขอทำบัตรประจำตวั นกั ศึกษา
- แบบคำรอ้ งขอผ่อนผนั ชำระค่าลงทะเบียนเรยี น
- แบบคำร้องขอลากจิ /ลาปว่ ย
- แบบคำร้องขอพกั การศึกษา/รกั ษาสภาพนักศึกษา/ลาออก
ง
ตราสัญลักษณส์ ถาบนั พระบรมราชชนก
เป็นรูปทรงดอกบัว ด้านบนเป็นพระมหามงกุฎสีทองมีอักษรย่อ “ม” สีฟ้าขลิบทอง อันหมายถึง
พระนามาภิไธยของพระบรมราชชนก ต้งั อยู่บนดอกบวั รูปทรงกลมสีชมพู ภายในมีตราสญั ลักษณ์ของกระทรวง
สาธารณสุขสีทองอยบู่ นพื้นสฟี ้า ซ่งึ เป็นสีประจำวนั พระราชสมภพ หมายถงึ การศึกษา และการพัฒนาบุคลากร
ด้านลา่ งมีแพรแถบสฟี า้ โดยมชี ื่อสถาบันพระบรมราชชนกอยใู่ นแพรแถบ
ดอกการบูร
ดอกไมป้ ระจำสถาบันพระบรมราชชนก
ดอกการบรู ดอกออกรวมเป็นชอ่ แบบแยกแขนง ออกตามซอกใบ มขี นาดเลก็ เปน็ สีขาวอมสีเหลอื งหรือ
อมสีเขียว กลบี รวมมี 6 กลีบ เรียงเป็นวง 2 ออกดอกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
สีประจำสถาบันพระบรมราชชนก
สีฟา้
สีเหลือง
สีประจำคณะพยาบาลศาสตร์
สแี ดง เป็นสีประจำวนั พระราชสมภพของสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี
สีประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์
สีม่วง เปน็ สปี ระจำวันพระราชสมภพของสมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
จ
เพลงเทิดพระบิดา
เราทกุ คน มัน่ กมล ใฝค่ วามดี
เราพร้อมมี ศกั ด์ศิ รี แห่งมวลชน
เรามอบรัก พิทกั ษ์ ไทยทุกคน
เราผจญ ใหท้ กุ คน กินอยูด่ ี
เราลำเค็ญ ยากเขญ็ สฝู้ า่ ฟนั
เรารักกนั ม่นั ใจ ไมห่ นา่ ยหนี
เราท้งั ผอง ปรองดอง สยู้ อมพลี
เราชีพน้ี พลเี พอ่ื พระบิดา
เราพรอ้ มใจ ต้านโรคภยั ใหป้ วงชน
เราทุกคน สู้ทน ด้วยศรทั ธา
เราฝึกฝน อุทศิ ตน ช่วยชวี า
ตามรอยพระบดิ า คือสัญญา เพือ่ ปวงชน
เพลงมาร์ชสถาบนั พระบรมราชชนก
สถาบันพระบรมราชชนก ไดห้ ยบิ ยกงานใหญแ่ ผ่ไพศาล
งานสาธารณสุขอปุ การ รับผดิ ชอบงานทุกด้านแห่งอนามัย
มุ่งสรรค์สร้างผองพลงั บุคลากร อกี งานสอนดว้ ยหลกั แหง่ แพทย์ไทย
พระชนกทรงให้หลักอยา่ งกวา้ งไกล พระบดิ าสาธารณสขุ ไซร้แพทยเ์ มธี
เปน็ ที่รกั และบชู าเชดิ ศกั ดิ์ศรี
บรมราชชนกพระนามน้ีทรงเป็นหลัก ผองเราเปน็ ด่ังพระนามแห่งศรีสถาบัน
พระภูมิพลพระราชทานพระนามนี้ งานสขุ ภาพต้องสานต่อสืบเนื่องกนั
สาธารณสุขพระคณุ ลว้ นต้องเพยี งพอ ไม่เลือกชนชัน้ นั่นคนจนทวั่ ถนิ่ ไทย
ท้ังชนบทก็ไมท่ อดทิ้งเหน็ ความสำคัญ มุ่งพฒั นางานสาธารณสขุ ไซร้
ขจรเกริกไกรไปทั้งธาตรี
ขอตง้ั สัตย์ปฏญิ ญา จงรกั ภูมนิ ทร์ขจรจักรี
เพอ่ื เกยี รติพระบดิ าสาธารณสุขไทย สยามบดี ทรงพระเจริญ ** (ซ้ำ)
ขอรบั ใชช้ าติ ศาสน์ แผ่นดนิ
ด้วยเดชะพระบุญญาบารมี
ผปู้ ระพันธ์ นางสคุ นธ์ พรพิรุณ
ฉ
1. ประวตั ิสถาบันพระบรมราชชนก
สถาบันพระบรมราชชนก เดิมชื่อ “สถาบันพัฒนากำลังคนด้านสาธารณสุข” เป็นหน่วยงานตาม
พระราชบัญญัติโอนอำนาจหน้าที่และกิจการบริหารบางส่วนของกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.๒๕๓5 ให้ไว้
ณ วนั ที่ 2 เมษายน 2535 (ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 109 ตอนท่ี 45 วนั ที่ 9 เมษายน 2535 หนา้
3 - 5) และพระราชฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.๒๕๓๖ ให้ไว้ ณ
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2536 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 110 ตอนที่ 22 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2536 หน้า
21 – 23 และ 28) ซึ่งได้รวมหน่วยงานด้านการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านสาธารณสุขจากกรมกอง
ต่างๆ ได้แก่ วิทยาลัยพยาบาล วิทยาลัยการสาธารณสุขภาค โรงเรียนต่างๆ ในสังกัดกรมการแพทย์ กรม
ควบคุมโรคติดต่อ กรมอนามัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองฝึกอบรม และกองงานวิทยาลัยพยาบาล
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่ดูแลงานด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพของ
กระทรวงสาธารณสุข
27 กันยายน 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดชฯ ไดพ้ ระราชทานพระบรมราชานุญาต
ให้เชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เป็นชื่อสถาบันว่า
“สถาบันพระบรมราชชนก” (หนังสือสำนักราชเลขาธิการ ที่ รล 0003/12819 ลงวันที่ 27 กันยายน 2537)
ทั้งนี้ในปี พ.ศ.๒๕๓๗ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานช่ือ
วิทยาลัยพยาบาลในสังกัดว่า วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี และต่อท้ายชื่อจังหวัด ส่วนวิทยาลัยที่ได้รับ
พระราชทานชื่ออยู่ก่อนแล้วให้คงชื่อที่ได้รับพระราชทานต่อไป ได้แก่ วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี
วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี (หนังสือวังสระปทุม
ลงวนั ท่ี 14 กุมภาพันธ์ 2537) และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสมี าคุณากรปยิ ชาติ
สยามบรมราชกุมารี (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธย
“สิรินธร” และพระนามาภิไธยย่อ “สธ” มาเปน็ ช่ือของวทิ ยาลัยการสาธารณสุข โดยเปล่ยี นชื่อเป็น “วิทยาลัย
การสาธารณสุขสิรินธร” และต่อท้ายชื่อจังหวัด (หนังสือสำนักราชเลขาธิการ ที่ รล 007/74 ลงวันที่ 7
มกราคม 2537) ในปี พ.ศ.๒๕๓๙ วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข ได้รับพระราชทาน
พระบรมราชานุญาต ให้เปลี่ยนนามเป็น “วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก”
พร้อมทั้งให้ประดิษฐานตราสัญลักษณ์งานฉลองศิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี (หนังสือสำนักราชเลขาธิการ
ท่ี รล 003/12609 ลงวันท่ี 20 กรกฎาคม 2539)
4 เมษายน พ.ศ.2562 พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสินทรมหาวชริ าลงกรณมหิศรภูมิพล
ราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามมินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอย่หู ัว
มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยสถาบันพระบรมราชชนก
จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบัญญตั ิสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ.2562 ให้ใช้บังคบั ตั้งแต่วัน
ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เป็นตน้ ไป (ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม่ 136 ตอนที่ 43 ก วนั ที่
5 เมษายน 2562) ให้สถาบันพระบรมราชชนกเป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพที่จัด
การศึกษาระดับอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นส่วนราชการ
ตามกฎหมายว่าด้วยวธิ ีการงลประมาณ อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยมีวิทยาลัยในสังกัดรวมท้ังสิ้น 39 แห่ง
ประกอบด้วยวิทยาลัยพยาบาล 30 แห่ง วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร 7 แห่ง วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์
และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก 1 แห่ง และวทิ ยาลยั การแพทย์แผนไทยอภยั ภเู บศร จงั หวดั ปราจนี บรุ ี 1 แหง่
1
2. ปรชั ญาการศึกษา
สถาบันพระบรมราชชนก จัดการศึกษาที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เปน็ ผู้มีคุณธรรมตามพระราชปณิธานของ
สมเด็จพระบรมราชชนก “ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” และมีอัตลักษณ์คุณธรรมตามที่สถาบัน
กำหนด “วินัย หน้าที่ สามัคคี เสียสละ สัจจะ กตเวที” มีความรอบรู้ มีภูมิปัญญาในสาขาวิชาชีพและมี
สมรรถนะที่จำเป็นทจี่ ะนำไปปรบั ใช้ในสถานการณ์ท่ีเปล่ยี นแปลงและวิกฤติท่ีเกิดข้ึน ทัง้ ในปัจจุบันและอนาคต
ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่มีรูปแบบหลากหลาย ทั้งในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียน รวมทั้งการเรียนรู้ จาก
ประสบการณจ์ ริง ผ่านกระบวนการคิด วเิ คราะห์ แกป้ ญั หา และค้นควา้ ดว้ ยตนเอง โดยมีผเู้ รียนเป็นศูนย์กลาง
ของการจัดการเรียนรู้ ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นบัณฑิตที่ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต และสามารถเป็นที่พึ่งด้านสุขภาพแก่
ชมุ ชน
3. วสิ ยั ทัศน์ / ปณิธาน / วฒั นธรรมองคก์ ร / อัตลกั ษณ์
ตามพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. 2562 มาตรา 7 สถาบันมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิต
และพัฒนาบุคลากรตามความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพ ทำ
การสอน ทำการวิจยั ใหบ้ ริการทางวิชาการแกส่ ังคม และทะนบุ ำรุงศิลปะและวัฒนธรรม และมาตรา 8 เพ่ือให้
บรรลุวตั ถปุ ระสงค์ตามมาตรา 7 สถาบันมีหน้าท่ี ดงั ตอ่ ไปนี้
(1) ผลติ บณั ฑติ และพฒั นาบุคลากรให้สอดคลอ้ งกับแนวนโยบายแหง่ รฐั เพื่อใหม้ ีความร้คู วามสามารถ
ทางวชิ าการและทักษะในวิชาชีพ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม มีความสำนึกต่อสังคม และเพ่ือให้มีศักยภาพในการเรียนรู้
ด้วยตนเอง
(2) จัดการศึกษา วิจยั สง่ เสริม สนบั สนุนการวิจัย เพอ่ื สร้างหรือพัฒนาองค์ความรแู้ ละนำความร้นู น้ั ไป
ใชเ้ พ่ือประโยชน์ในการพฒั นาสงั คมและประเทศชาติ
(3) พัฒนาองค์ความรูด้ ้านวิทยาศาสตร์สขุ ภาพให้มีมาตรฐานและคุณภาพทางวชิ าการใหเ้ ปน็ ทยี่ อมรบั
ในระดบั ประเทศและนานาชาติ
(4) ส่งเสริมใหเ้ กิดโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตามความต้องการของชุมชน
(5) ใหบ้ รกิ ารทางวชิ าการแก่สังคมโดยเน้นความร่วมมือกับชมุ ชน
(6) ให้บริการดา้ นการแพทย์และการสาธารณสุข
(7) สง่ เสริมและทะนบุ ำรุงศลิ ปะและวฒั นธรรม
2
4. รายชื่ออธิการบดี รองอธิการบดี ผ้อู ำนวยการสำนกั วิชาการ และคณบดี
ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ดร.นายแพทย์วิชยั เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก
นายแพทย์วิศิษฎ์ ตงั้ นภากร รองอธกิ ารบดีดา้ นนโยบายและแผนงาน
นายแพทยศ์ ักดช์ิ ยั กาญจนวฒั นา รองอธิการบดีดา้ นบริหารและเทคโนโลยีสารสนเทศ
นายแพทยป์ ภัสสร เจยี มบุญศรี รองอธิการบดีดา้ นบริการวิชาการ โครงการพระราชดำริ
และกจิ การพเิ ศษ
รองศาสตราจารยว์ สธุ ร ตนั วฒั นกลุ รองอธกิ ารบดีดา้ นกจิ การนักศกึ ษา ศิลปวฒั นธรรม
และชุมชนสัมพันธ์
ศาสตราจารย์ เรอื อากาศเอกหญงิ วณิชา ชืน่ กองแก้ว รองอธกิ ารบดีด้านวจิ ัย นวตั กรรม และวิเทศสมั พันธ์
รองศาสตราจารยอ์ รัญญา เชาวลติ รองอธกิ ารบดีดา้ นการศึกษาและประกนั คุณภาพ
นายแพทย์จิโรจ สนิ ธวานนท์ ผอู้ ำนวยการสำนักวิชาการ
ดร.กมลรตั น์ เทอร์เนอร์ คณบดคี ณะพยาบาลศาสตร์
รองศาสตราจารยว์ ิทยา อยู่สขุ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์
โดยมโี ครงสร้างการบรหิ ารตามแผนภมู ริ า่ งโครงสรา้ งสถาบันพระบรมราชชนกตามทีป่ รากฏดังนี้
3
5. แผนทีส่ ถานศกึ ษา
แผนท่แี สดงทต่ี ั้งสถานศึกษาในสังกดั สถาบันพระบรมราชชนก
4
6. ปฏิทินการศกึ ษา ปกี ารศึกษา 2565
กจิ กรรม ระดับปริญญาตรี ปี 1 ระดับปริญญาตรี ปี 2-3 ระดบั ปริญญาตรี ปี 4 ระดับประกาศนียบตั ร
วชิ าชพี ช้ันสงู
คณะพยาบาล คณะ คณะ คณะ คณะพยาบาล คณะ
ศาสตร์ สาธารณสขุ พยาบาล สาธารณสขุ ศาสตร์ สาธารณสขุ คณะ คณะ
ศาสตร์ฯ ศาสตร์ ศาสตร์ฯ ศาสตร์ฯ สาธารณสขุ สาธารณสขุ
ศาสตร์ฯปี 1 ศาสตรฯ์ ปี 2
นกั ศกึ ษาใหม่รายงานตัว 20 มิย.65 - - - - 20 มิย.65 -
ปฐมนิเทศและเตรียมความพร้อม 20-24 มยิ .65 -- - - 20-24มยิ .65 -
13 มยิ .65
เปดิ ภาคการศึกษาที่ 1 27 มยิ .65 20 มยิ .65 27 มยิ .65 20 มยิ .65 6 มยิ .65 27 มยิ .65
ชำระคา่ ใช้จา่ ยในการศึกษา ภาคการศึกษาท่ี 1 ตามปฏิทินชำระคา่ ใชจ้ า่ ยในการศกึ ษา ประจำปกี ารศึกษา 2565 สถาบนั พระบรมราชชนก
สอบภาษาองั กฤษคร้ังท่ี 1 9 กค.65
พิธีไหว้ครู 21 กค.65
วันสดุ ท้ายภาคการศึกษาท่ี 1 23 ตค.65 28 ตค.65 23 ตค.65 28 ตค.65 23 ตค.65 7 ตค.65 28 ตค.65 12 ตค.65
ไมม่ ี
ปดิ ภาคการศึกษาท่ี 1 24-30 29 ตค.-6 24-30 29 ตค.-6 24-30 ไมม่ ี 29 ตค.-6
ตค.65 พย.65 ตค.65 พย.65 ตค.65 พย.65 17 ตค.65
แจ้งผลการเรียนภาคการศึกษาที่ 1 : กอ่ นวันเปดิ ภาคการศึกษาท่ี 2
เปิดภาคการศกึ ษาที่ 2 31 ตค.65 7 พย.65 31 ตค.65 7 พย.65 31 ตค.65 10 ตค.65 7 พย.65
ชำระคา่ ใช้จ่ายในการศึกษา ภาคการศึกษาที่ 2 ตามปฏิทินชำระคา่ ใชจ้ า่ ยในการศึกษา ประจำปกี ารศกึ ษา 2565 สถาบันพระบรมราชชนก
สอบภาษาอังกฤษครั้งที่ 2 19 พย. 65
นกั ศึกษาชน้ั ปที ี่ 4 สอบความรู้รวบยอด 8 สาขาวชิ าการพยาบาล คร้งั ที่ 1 21-22 มค. 66 - - -
- -
นักศึกษาช้นั ปีท่ี 4 สอบความรรู้ วบยอด 8 สาขาวชิ าการพยาบาล คร้งั ที่ 2 26-27 มค.66 - - -
- -
สอบปากเปลา่ (สอบซอ่ ม กรณสี อบความรรู้ วบยอดสาขาวิชาการพยาบาล ไม่ผา่ น) 28-31 มค.66 - - -
- -
นักศกึ ษาช้ันปที ่ี 4 สอบความรู้รวบยอด คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ ครง้ั ที่ 1 - 30มค.-2กพ.66
10 มคี .66 17 กพ.66
อนุมัติและประกาศผลผสู้ ำเรจ็ การศึกษา รอบแรก คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ - 20-24 กพ.66 11-19 18-26
มคี .66 กพ.66
ปัจฉิมนิเทศผ้สู ำเรจ็ การศกึ ษา ปีการศึกษา 2564 6-9 กพ.66
20 มีค.66 27 กพ.66
วันสำเรจ็ การศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี ปีการศึกษา 2564 10 กพ.66
- -
วันสุดท้ายภาคการศึกษาที่ 2 5 มีค.66 10 มคี .66 5 มคี .66 10 มคี .66 - - 1-5 พค.66
19 พค.66 22-26พค.66
ปิดภาคการศกึ ษาที่ 2 6 มคี .-18 11-19 6-12 11-19 - -
มคี . 66 มีค. 66 - -
มยิ . 66 มีค. 66 20 พค.- 26 พค.66
18 มยิ .66 1 มิย.66
แจง้ ผลการเรียนภาคการศึกษาท่ี 2 : กอ่ นวันเปดิ ภาคฤดูร้อน
-
เปิดภาคฤดูร้อน - - 13 มีค.66 20 มคี .66 - -
ชำระค่าใช้จ่ายในการศึกษา ภาคฤดูรอ้ น ตามปฏทิ นิ ชำระคา่ ใชจ้ า่ ยในการศึกษา ประจำปกี ารศกึ ษา 2565 สถาบนั พระบรมราชชนก
ฝึกงาน รพ.สต. ปี 1 - 20มีค.-28เมย.66 - - - -
สอบรวบยอด ปวส.ครงั้ ท่ี 1
อนุมัติและประกาศผลผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษา รอบแรก และปจั ฉมิ นิเทศ ปวส. คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์
วันสุดทา้ ยภาคการศกึ ษาฤดูรอ้ น - 21 พค.66 19 พค.66 - -
วันสำเรจ็ การศกึ ษา ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชัน้ สูง ปกี ารศกึ ษา 2565
รายงานตวั ผสู้ ำเรจ็ การศกึ ษากบั ต้นสงั กดั 3 เมย.66
ปิดภาคฤดรู อ้ น - 29 เมย.- 22 พค.- 20 พค.- - -
18 มิย.66 18 มยิ ..66 18 มิย.66
แจ้งผลการเรียนภาคารศกึ ษาฤดรู อ้ น : กอ่ นวนั เปิดภาคการศกึ ษาท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2566
ภาคการศกึ ษาที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 : 20 มยิ .65
หมายเหตุ นักศึกษาดรู ายละเอียดปฏิทินการศึกษาของวทิ ยาลยั ที่นกั ศกึ ษากำลงั ศึกษารว่ มด้วย
5
7. ปฏิทินการชำระคา่ ใชจ้ า่ ยในการศกึ ษา ปกี ารศกึ ษา 256๕
กจิ กรรม ภาคการศึกษาท่ี 1 ภาคการศกึ ษาท่ี 2 ภาคการศกึ ษาฤดรู ้อน
วันเปิดภาคการศึกษา ตามปฏทิ นิ การศึกษาของแตล่ ะคณะ
ขัน้ ตอนการชำระคา่ ใช้จา่ ย 8 กรกฎาคม 2565 10 – 11 พฤศจกิ ายน 2565 17 – 18 เมษายน 2566
ในการศึกษา
1. วทิ ยาลัยจัดทำขอ้ มลู คา่ ใชจ้ า่ ย
ในการศึกษาของนักศกึ ษาที่ต้องชำระ
(ตามประกาศ) รวมทงั้ คา่ หอพกั
การรักษาสภาพนักศึกษา ส่งให้
สถาบันพระบรมราชชนก
2. วิทยาลยั จัดทำใบแจง้ หนี้ 8 กรกฎาคม 2565 14 – 18 พฤศจกิ ายน 2565 17 - 20 เมษายน 2566
3. วิทยาลยั ตรวจสอบความถูกต้อง 8 กรกฎาคม 2565 21 – 22 พฤศจกิ ายน 2565 24 - 26 เมษายน 2566
ข้อมลู และแจ้งแก้ไขขอ้ มูลใบแจ้งหน้ี
4. วิทยาลยั ปรบั แก้ใบแจง้ หนี้ 11 - 12 กรกฎาคม 2565 23 พฤศจิกายน 2565 27 - 28 เมษายน 2566
5. วิทยาลยั พมิ พใ์ บแจง้ หน้ี 20 กรกฎาคม 2565 28 – 29 พฤศจกิ ายน 2565 1 - 2 พฤษภาคม 2566
ใหน้ กั ศึกษานำไปชำระ
6. นกั ศึกษาชำระค่าใชจ้ ่าย 1 - 10 สิงหาคม 2565 30 พฤศจกิ ายน ถงึ 3 - 7 พฤษภาคม 2566
ในการศึกษาปกติ / ชำระคา่ รักษา 12 ธนั วาคม 2565
สภาพนกั ศกึ ษา
7. นักศึกษาทำเรอื่ งขอผ่อนผนั การ 1 – 10 สงิ หาคม 2565 8 – 9 ธนั วาคม 2565 4 - 5 พฤษภาคม 2566
ชำระค่าใช้จ่ายในการศึกษาปกติ
ผ่านทางวิทยาลัย โดยระบกุ ารชำระ
การผอ่ นผนั ในรอบที่ 1 หรือ 2 และ
บันทึกลงระบบ
8. นักศกึ ษาชำระค่าใชจ้ ่ายฯ 15 – 27 สงิ หาคม 2565 26 – 29 ธันวาคม 2565 8 - 10 พฤษภาคม 2566
การผ่อนผันรอบที่ 1
9. นักศึกษาชำระคา่ ใช้จ่ายฯ 7 - 10 กันยายน 2565 10 - 13 มกราคม 2566 -
การผอ่ นผนั รอบท่ี 2
10. นกั ศึกษาชำระค่าใชจ้ า่ ยฯ 19 - 22 กันยายน 2565 16 - 18 มกราคม 2566 -
ของผู้ไดร้ บั ทุน เช่น กยศ. ทุนโครงการ
พิเศษ
6
๘. การกำหนดรหสั นักศกึ ษา
เพือ่ ใหก้ ารดำเนินการกำหนดรหัสนักศึกษาของวิทยาลัยในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนกเป็นไปอย่าง
เหมาะสม และดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน สถาบันพระบรมราชชนกจึงไดจ้ ดั ทำแนวปฏบิ ตั ิการกำหนดรหัส
นกั ศกึ ษาของวทิ ยาลัยในสังกดั สถาบันพระบรมราชชนก สำหรบั นกั ศกึ ษาทกุ ชัน้ ปี เร่มิ ตั้งแตป่ กี ารศึกษา 2563
เป็นต้นไป
การกำหนดรหัสนักศึกษาของวิทยาลัยในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก มีจำนวนตัวเลข 11 หลัก
รายละเอยี ด ดังน้ี
ปีการศกึ ษา คณะ วทิ ยาลัย ระดบั การศกึ ษาและชอ่ื หลกั สตู ร ลำดบั นักศึกษา
หลักท่ี หลักท่ี หลกั ที่ หลักท่ี หลักท่ี หลกั ท่ี หลกั ที่ หลักที่ หลกั ท่ี หลกั ท่ี หลกั ท่ี
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11
แทน ปกี ารศึกษาทเี่ ขา้ ศกึ ษา ใช้ 2 หลักสุดทา้ ย
63 แทน ปกี ารศึกษา 2563
64 แทน ปีการศกึ ษา 2564
แทน คณะ (2 คณะ) เรยี งตามลำดับคณะท่ีเปดิ การศึกษาระดับปรญิ ญาตรีก่อน
1 แทน คณะพยาบาลศาสตร์
2 แทน คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์
แทน วทิ ยาลัย (39 แห่ง) เรยี งตามวทิ ยาลยั ทเ่ี ปิดการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรีกอ่ น
คณะพยาบาลศาสตร์
01 แทน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี กรงุ เทพ
02 แทน วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พทุ ธชนิ ราช
03 แทน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา
04 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลพระปกเกลา้ จันทบุรี
05 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สงขลา
06 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สวรรคป์ ระชารักษ์
07 แทน วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธปิ ระสงค์
08 แทน วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี
09 แทน วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี
10 แทน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครลำปาง
11 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบรุ ี
12 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อตุ รดิตถ์
13 แทน วทิ ยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม
14 แทน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สรุ าษฎรธ์ านี
7
แทน วิทยาลยั (39 แห่ง) เรยี งตามวทิ ยาลยั ท่เี ปิดการศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรีกอ่ น (ต่อ)
15 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรุ นิ ทร์
16 แทน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ตรงั
17 แทน วทิ ยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จงั หวดั เพชรบรุ ี
18 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี อดุ รธานี
19 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท
20 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี พะเยา
21 แทน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี พระพุทธบาท
22 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี นครศรธี รรมราช
23 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จงั หวัดนนทบรุ ี
24 แทน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี
25 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่
26 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี จกั รีรัช
27 แทน วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา
28 แทน วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ขอนแก่น
29 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นพรัตนว์ ชริ ะ
30 แทน วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี แพร่
คณะสาธารณสขุ ศาสตร์และสหเวชศาสตร์
01 แทน วิทยาลัยการสาธารณสขุ สิรนิ ธร จงั หวัดชลบรุ ี
02 แทน วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรนิ ธร จังหวัดขอนแกน่
03 แทน วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวดั ยะลา
04 แทน วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวัดพิษณโุ ลก
05 แทน วิทยาลัยการสาธารณสขุ สริ นิ ธร จงั หวดั ตรงั
06 แทน วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จงั หวัดอบุ ลราชธานี
07 แทน วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จังหวัดสพุ รรณบุรี
08 แทน วทิ ยาลัยเทคโนโลยที างการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ กาญจนาภิเษก
09 แทน วิทยาลยั การแพทยแ์ ผนไทยอภัยภูเบศร จงั หวัดปราจนี บรุ ี
แทน ระดับการศกึ ษาและช่ือหลักสตู ร เรยี งตามระดับการศึกษาจากนอ้ ยไปหามาก
001-099 แทน ระดับการศึกษา : ประกาศนียบตั ร 1 ปี
001 แทน หลักสูตรประกาศนียบัตรผูช้ ่วยพยาบาล
101-199 แทน ระดับการศึกษา : ประกาศนียบัตรวิชาชพี ชัน้ สูง
101 แทน หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชัน้ สงู สาขาวิชาเทคนิคเภสัชกรรม
102 แทน หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั้ สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉนิ การแพทย์
103 แทน หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั้ สงู สาขาวชิ าเวชระเบียน
104 แทน หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้นั สูง สาขาวชิ าโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์
8
แทน ระดบั การศึกษาและช่ือหลักสตู ร เรยี งตามระดับการศกึ ษาจากน้อยไปหามาก (ต่อ)
201-299 แทน ระดบั การศกึ ษา : อนปุ ริญญา
301-399 แทน ระดบั การศึกษา : ปริญญาตรี
301 แทน หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต
302 แทน หลักสตู รสาธารณสขุ ศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ าสาธารณสขุ ชุมชน
303 แทน หลักสตู รสาธารณสุขศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาทันตสาธารณสุข
304 แทน หลกั สตู รการแพทยแ์ ผนไทยบัณฑติ สาขาวชิ าการแพทย์แผนไทย
305 แทน หลักสตู รการแพทยแ์ ผนไทยบัณฑติ สาขาวชิ าการแพทยแ์ ผนไทยประยุกต์
306 แทน หลักสูตรวทิ ยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเวชระเบียน
307 แทน หลกั สูตรวทิ ยาศาสตรบณั ฑิต สาขาวชิ ารงั สเี ทคนิค
308 แทน หลกั สูตรวิทยาศาสตรบัณฑติ สาขาวชิ าอาชวี อนามยั และความปลอดภยั
309 แทน หลกั สูตรวทิ ยาศาสตรบณั ฑิต สาขาวชิ าฉกุ เฉินการแพทย์
401-499 แทน ระดับการศึกษา : ประกาศนียบัตรบณั ฑิต
501-599 แทน ระดับการศกึ ษา : ปรญิ ญาโท
501 แทน หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑติ
601-699 แทน ระดบั การศึกษา : ประกาศนียบัตรบัณฑติ ชนั้ สงู
701-799 แทน ระดับการศกึ ษา : ปรญิ ญาเอก
801-899 แทน ระดับการศึกษา : การวจิ ัยหลังปรญิ ญาเอก (Post Doctoral)
แทน ลำดับนกั ศึกษา
ตัวอย่าง
63 1 01 301 001 หมายถึง นักศึกษาปีการศึกษา 2563 คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาล
บรมราชชนนี กรุงเทพ ระดบั ปริญญาตรี หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑติ ลำดับที่ 001
63 2 02 101 001 หมายถงึ นกั ศกึ ษาปีการศึกษา 2563 คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์
วิทยาลัยการสาธารณสขุ สิรินธร จังหวัดขอนแก่น ระดับประกาศนียบัตรชั้นสงู หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสงู
สาขาวิชาเทคนิคเภสชั กรรม ลำดับที่ 001
9
คณะพยาบาลศาสตร์
คณะพยาบาลศาสตร์ จัดการศึกษา ๒ ระดับ คือ
๑. หลกั สตู รระดบั ปรญิ ญาตรี คือ หลกั สตู รพยาบาลศาสตรบัณฑิต
๒. หลักสูตรระดบั ต่ำกว่าปรญิ ญาตรี คอื หลักสตู รประกาศนียบัตรผชู้ ่วยพยาบาล (หลักสูตร ๑ ป)ี
หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑติ
หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑติ วทิ ยาลัยพยาบาลในสงั กดั สถาบนั พระบรมราชชนกทุกแห่ง พฒั นาหลักสตู ร
ให้เป็นมาตรฐานตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘
และประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เรื่อง มาตรฐานคุณวุฒิระดบั ปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๖๐
มโี ครงสร้างหลกั สูตร ดังน้ี
หน่วยกติ รวมตลอดหลักสูตรไม่นอ้ ยกวา่ ๑๓๒ หน่วยกติ แบ่งเปน็
หมวดวชิ าศึกษาทัว่ ไป ไม่น้อยกวา่ ๓๐ หนว่ ยกติ
หนว่ ยกติ
หมวดวิชาเฉพาะ ไมน่ ้อยกว่า ๙๖ หน่วยกิต
หน่วยกิต
(๑) กล่มุ วชิ าพน้ื ฐานวชิ าชีพ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๐ หนว่ ยกิต
หน่วยกติ
(๒) กลุ่มวิชาวิชาชพี ไม่นอ้ ยกว่า ๗๖ หนว่ ยกติ
หนว่ ยกติ
- ทฤษฏี ไมน่ ้อยกวา่ ๔๐
- ปฏิบตั ิ ไมน่ อ้ ยกว่า ๓๖
ทั้งน้ี มวี ชิ าการพยาบาลผดุงครรภ์ จำนวน ๑๒
หมวดวิชาเลอื กเสรี ไม่นอ้ ยกว่า ๖
หลักสูตรประกาศนียบตั รผู้ช่วยพยาบาล (หลกั สูตร ๑ ปี)
หลักสตู รประกาศนียบตั รผ้ชู ่วยพยาบาล (หลกั สูตร ๑ ป)ี วิทยาลยั พยาบาลในสงั กดั สถาบนั พระบรมราชชนก
ทุกแห่ง พัฒนาหลักสูตรให้เป็นมาตรฐาน ตามข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการรับรองหลักสูตร
ประกาศนียบตั รผู้ชว่ ยพยาบาล พ.ศ. ๒๕๖๐ มโี ครงสร้างหลักสตู ร ดงั น้ี
หน่วยกิตรวมตลอดหลกั สตู รไม่นอ้ ยกว่า ๓๖ หน่วยกติ แบ่งเปน็
หมวดวชิ าศกึ ษาทั่วไป ไมน่ อ้ ยกวา่ ๖ หนว่ ยกติ
หน่วยกติ
หมวดวชิ าเฉพาะ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๘ หน่วยกิต
หนว่ ยกติ
- รายวิชาภาคทฤษฏี ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๘ หน่วยกติ
- รายวิชาภาคปฏบิ ัติ ไม่นอ้ ยกว่า ๑๐
หมวดวิชาเลอื กเสรี ไมน่ อ้ ยกว่า ๒
10
คณะสาธารณสขุ ศาสตรแ์ ละสหเวชศาสตร์
คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ จัดการศึกษา 3 ระดบั คือ
1. หลักสตู รระดับปรญิ ญาโท 1 หลกั สูตร
- หลกั สูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต
2. หลักสูตรระดับปริญญาตรี 7 หลักสูตร
2.1 หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน
2.2 หลกั สตู รสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ าทันตสาธารณสุข
2.3 หลกั สตู รการแพทยแ์ ผนไทยบณั ฑติ
2.4 หลกั สตู รวทิ ยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเวชระเบียน
2.5 หลกั สตู รวิทยาศาสตรบณั ฑติ สาขาวชิ ารังสีเทคนิค
2.6 หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑติ สาขาวชิ าอาชวี อนามยั และความปลอดภยั
2.7 หลักสูตรวทิ ยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์
3. หลกั สตู รระดบั ต่ำกวา่ ปรญิ ญาตรี 4 หลกั สตู ร
3.1 หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สงู สาขาวิชาเทคนคิ เภสชั กรรม
3.2 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพชนั้ สูง สาขาปฏบิ ตั ิการฉุกเฉินการแพทย์
3.3 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูง สาขาวิชาเวชระเบยี น
3.4 หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง สาขาวิชาโสตทศั นศกึ ษาทางการแพทย์
หลกั สูตรระดับปรญิ ญาโท
หลกั สูตรสาธารณสขุ ศาสตรมหาบณั ฑิต
หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต พัฒนาหลักสูตรให้เป็นมาตรฐานตามประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ และพระราชบัญญัติ
วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๖ เปิดสอนท่ีวิทยาลยั ในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก ๒ แหง่ คอื
๑) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จังหวดั ขอนแก่น
๒) วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวัดพษิ ณุโลก
มโี ครงสร้างหลักสูตร ดงั น้ี
หน่วยกติ รวมตลอดหลักสตู รไม่น้อยกว่า ๓๖ หนว่ ยกิต แบง่ เป็น
หมวดวชิ าบังคบั
กลุม่ วชิ าแกนหรือกลมุ่ วชิ าชพี ทางสาธารณสขุ ๑๕ หนว่ ยกิต
กล่มุ วชิ าเฉพาะสาขา ๖ หน่วยกติ
หมวดวชิ าเลือก ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ หน่วยกิต
วทิ ยานพิ นธ์ ๑๒ หนว่ ยกิต
หมวดวิชาปรบั พนื้ ฐาน (ไม่นบั หนว่ ยกิต)
11
หลกั สูตรระดบั ปริญญาตรี
๑. หลักสูตรสาธารณสขุ ศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ าสาธารณสุขชุมชน
หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน พัฒนาหลักสูตรให้เป็นมาตรฐาน
ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ และ
พระราชบัญญัตวิ ชิ าชีพการสาธารณสุขชมุ ชน พ.ศ. ๒๕๕๖ แบ่งเป็น ๒ หลกั สตู ร ดังนี้
๑.๑ หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๙
เปดิ สอนทีว่ ทิ ยาลยั การสาธารณสขุ สริ ินธรในสังกัดสถาบนั พระบรมราชชนก ๖ แห่ง คือ
๑) วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จงั หวัดขอนแกน่
๒) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จงั หวดั อบุ ลราชธานี
๓) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จังหวดั พษิ ณโุ ลก
๔) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จังหวัดชลบุรี
๕) วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี
๖) วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จงั หวัดตรงั
มโี ครงสร้างหลักสูตร ดงั นี้
หน่วยกิตรวมตลอดหลักสตู รไมน่ อ้ ยกว่า ๑๔๐ หน่วยกติ แบ่งเป็น
หมวดวิชาศึกษาทว่ั ไป ๓๐ หนว่ ยกิต
หนว่ ยกติ
หมวดวชิ าเฉพาะ ๑๐๔ หน่วยกติ
หน่วยกติ
(๑) กลมุ่ วชิ าพืน้ ฐานวชิ าชพี 33 หน่วยกติ
หน่วยกติ
(๒) กล่มุ วชิ าชีพสาธารณสุข 3๑
(๓) กลุ่มวชิ าชพี เฉพาะสาขา 4๐
หมวดวิชาเลือกเสรี ไมน่ อ้ ยกวา่ ๖
๑.๒ หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐
เปดิ สอนทว่ี ิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จงั หวัดยะลา มโี ครงสรา้ งหลกั สตู ร ดังนี้
หน่วยกิตรวมตลอดหลักสตู รไมน่ ้อยกวา่ ๑๓๖ หน่วยกติ แบง่ เปน็
หมวดวิชาศกึ ษาท่ัวไป ไมน่ อ้ ยกว่า ๓๐ หนว่ ยกิต
หมวดวิชาเฉพาะ ไม่นอ้ ยกว่า ๑๐๐ หนว่ ยกติ
(๑) กลุ่มวิชาพนื้ ฐานวชิ าชีพ ไม่น้อยกวา่ 3๐ หน่วยกิต
(๒) กลุ่มวิชาชีพสาธารณสุข ไม่นอ้ ยกวา่ 3๔ หนว่ ยกิต
(๓) กลมุ่ วิชาชพี เฉพาะสาขา ไมน่ ้อยกว่า ๓๖ หนว่ ยกิต
สาธารณสขุ ชุมชน
หมวดวชิ าเลือกเสรี ไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หนว่ ยกติ
๒. หลกั สูตรสาธารณสุขศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชาทนั ตสาธารณสขุ
หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาทันตสาธารณสุข พัฒนาหลักสูตรให้เป็นมาตรฐาน
ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘
พระราชบัญญัติวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. ๒๕๕๖ และตามความสามารถที่พึงประสงค์ (Competence)
ของทันตาภิบาล (หลักสูตร ๔ ปี) รับรองโดยทันตแพทยสภา เปิดสอนที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรในสังกัด
สถาบนั พระบรมราชชนก ๗ แหง่ คือ
12
๑) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จงั หวัดขอนแก่น
๒) วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จังหวดั อบุ ลราชธานี
๓) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จังหวัดพิษณโุ ลก
๔) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวดั ชลบรุ ี
๕) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จงั หวดั สุพรรณบุรี
๖) วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวัดตรงั
๗) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จงั หวดั ยะลา
มีโครงสรา้ งหลกั สตู ร ดังนี้
หน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกว่า ๑๔๔ หน่วยกิต แบ่งเป็น
หมวดวิชาศกึ ษาทว่ั ไป ๓๐ หนว่ ยกิต
หนว่ ยกิต
หมวดวชิ าเฉพาะ ๑๐๘ หนว่ ยกิต
หนว่ ยกติ
(๑) กลุ่มวชิ าพน้ื ฐานวชิ าชีพ 33 หนว่ ยกติ
หน่วยกิต
(๒) กลุ่มวชิ าชีพสาธารณสุข 30
(๓) กลมุ่ วชิ าชีพเฉพาะสาขา 45
หมวดวิชาเลอื กเสรี ไมน่ อ้ ยกว่า ๖
3. หลักสตู รการแพทยแ์ ผนไทยบณั ฑิต
หลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต พัฒนาหลักสูตรให้เป็นมาตรฐานตามประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปรญิ ญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิ
ระดับปริญญาตรี สาขาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ และตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
พ.ศ. ๒๕๕๖ แบง่ เปน็ ๒ หลักสตู ร ดังนี้
3.๑ หลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต เปิดสอนที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา
มีโครงสรา้ งหลกั สูตร ดังนี้
หนว่ ยกติ รวมตลอดหลกั สูตรไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๓๓ หนว่ ยกิต แบง่ เปน็
หมวดวิชาศกึ ษาทว่ั ไป ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐ หน่วยกิต
หมวดวชิ าเฉพาะ ๙๗ หนว่ ยกติ
(๑) กลมุ่ พ้นื ฐานวิชาชีพ ๔๖ หน่วยกิต
(๒) กลมุ่ วิชาชีพ ๕๑ หนว่ ยกิต
หมวดวิชาเลอื กเสรี ไม่นอ้ ยกว่า ๖ หนว่ ยกิต
3.๒ หลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย เปิดสอนที่วิทยาลัย
การสาธารณสุขสริ นิ ธร จงั หวดั พิษณโุ ลก และวิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสขุ กาญจนาภิเษก
มีโครงสรา้ งหลกั สูตร ดงั น้ี
หน่วยกติ รวมตลอดหลกั สตู รไม่น้อยกว่า ๑๔๑ หน่วยกิต แบ่งเปน็
หมวดวิชาศึกษาทว่ั ไป ไม่น้อยกว่า ๓๓ หน่วยกติ
หมวดวิชาเฉพาะ ไม่น้อยกว่า ๑๐๒ หน่วยกติ
(๑) กลมุ่ พนื้ ฐานวชิ าชีพ ไมน่ อ้ ยกว่า ๕๐ หนว่ ยกิต
(๒) กล่มุ วิชาชพี บังคบั ไมน่ ้อยกว่า ๕๒ หนว่ ยกิต
หมวดวชิ าเลือกเสรี ไมน่ ้อยกว่า ๖ หนว่ ยกติ
13
4. หลกั สูตรวิทยาศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาเวชระเบียน
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเวชระเบียน พัฒนาหลักสูตรให้เป็นมาตรฐานตามประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. ๒๕๕๘ เปิดสอนที่วิทยาลัยเทคโนโลยี
ทางการแพทย์และสาธารณสขุ กาญจนาภิเษก มโี ครงสรา้ งหลักสูตร ดงั น้ี
หน่วยกิตรวมตลอดหลกั สูตรไม่น้อยกว่า ๑๓๙ หน่วยกติ แบ่งเปน็
หมวดวชิ าศึกษาทว่ั ไป ไม่น้อยกวา่ ๓๐ หน่วยกิต
หมวดวชิ าเฉพาะ ไม่นอ้ ยกว่า ๑๐๓ หนว่ ยกติ
(๑) หมวดพืน้ ฐานวชิ าชพี 3๙ หนว่ ยกิต
(๒) หมวดวิชาชีพเวชระเบียน ๖๔ หนว่ ยกติ
หมวดวชิ าเลอื กเสรี ไม่น้อยกวา่ ๖ หน่วยกติ
5. หลักสูตรวิทยาศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชารงั สเี ทคนิค
หลกั สตู รวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารังสีเทคนิค เปิดสอนท่วี ิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และ
สาธารณสุข กาญจนาภิเษก ในสงั กดั สถาบนั พระบรมราชชนก มีโครงสร้างหลักสูตร ดังน้ี
หน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๑๓๘ หนว่ ยกิต แบง่ เปน็
หมวดวชิ าศึกษาท่วั ไป ไม่น้อยกว่า ๓๐ หนว่ ยกติ
หมวดวิชาเฉพาะ ไมน่ ้อยกว่า ๑๐๒ หน่วยกติ
(๑) กลมุ่ วชิ าพ้ืนฐานวิชาชีพ ไม่นอ้ ยกวา่ ๓๑ หนว่ ยกติ
(๒) กลุ่มวชิ าชีพรังสเี ทคนิค ไม่นอ้ ยกวา่ ๗๑ หนว่ ยกติ
กลมุ่ วิชาทางรังสีวทิ ยาท่ัวไป ๒๓ หนว่ ยกติ
กลมุ่ วิชาทางรงั สวี ิทยาวนิ จิ ฉัย ๑๙ หน่วยกิต
กลมุ่ วชิ าทางรังสีรกั ษาและมะเร็งวิทยา ๗ หน่วยกิต
กล่มุ วชิ าทางเวชศาสตรน์ ิวเคลียร ๗ หนว่ ยกิต
กล่มุ วชิ าฝึกปฏบิ ตั ปิ ระสบการณ์วิชาชีพ ๑๕ หนว่ ยกิต
หมวดวิชาเลือกเสรี ไมน่ อ้ ยกวา่ ๖ หนว่ ยกิต
6. หลักสูตรวทิ ยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภยั
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เปิดสอนที่วิทยาลัย
การสาธารณสุขสริ ินธร จงั หวดั ยะลา ในสงั กัดสถาบันพระบรมราชชนก มโี ครงสร้างหลกั สตู ร ดังน้ี
หน่วยกิตรวมตลอดหลกั สูตรไม่น้อยกวา่ ๑๔๑ หน่วยกติ แบง่ เปน็
หมวดวิชาศึกษาทว่ั ไป ไม่น้อยกวา่ ๓๐ หนว่ ยกิต
หมวดวิชาเฉพาะ ไม่น้อยกว่า ๑๐๕ หน่วยกติ
(๑) กล่มุ วชิ าวิทยาศาสตร์ ไมน่ อ้ ยกว่า ๒๑ หนว่ ยกติ
และคณติ ศาสตร์
(๒) กลมุ่ วชิ าชีพ
กลมุ่ วิชาด้านสาธารณสขุ ไมน่ อ้ ยกว่า ๒๑ หน่วยกติ
กล่มุ วิชาด้านวิศวกรรม ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๘ หนว่ ยกิต
(๓) กลุม่ วิชาชีพเฉพาะสาขา ไม่นอ้ ยกวา่ ๔๕ หน่วยกิต
อาชวี อนามยั และความปลอดภัย
หมวดวชิ าเลอื กเสรี ไม่น้อยกวา่ ๖ หน่วยกิต
14
7. หลักสตู รวิทยาศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชาฉุกเฉนิ การแพทย์
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์ เปิดสอนที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร
จังหวดั ยะลา ในสังกดั สถาบันพระบรมราชชนก มีโครงสร้างหลักสตู ร ดงั น้ี
หน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตรไมน่ อ้ ยกวา่ ๑40 หน่วยกติ แบ่งเป็น
หมวดวิชาศกึ ษาทว่ั ไป ๓๐ หนว่ ยกิต
หมวดวชิ าเฉพาะ ๑๐4 หน่วยกิต
(๑) กลมุ่ วิชาพ้นื ฐาน 40 หน่วยกิต
(๒) กลุ่มวชิ าเฉพาะ 64 หนว่ ยกติ
หมวดวชิ าเลอื กเสรี ๖ หน่วยกติ
๑. หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี ชน้ั สูง สาขาวชิ าเทคนิคเภสัชกรรม
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาเทคนิคเภสัชกรรม พัฒนาหลักสูตรให้เป็น
มาตรฐานตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช ๒๕๕๗ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐาน
การอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. ๒๕๕๙ และตาม
สมรรถนะของเจ้าพนักงานเภสัชกรรม โดยกำหนดจากสภาเภสัชกรรม เปิดสอนที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร
ในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก ๗ แหง่ คอื
๑) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จงั หวัดขอนแกน่
๒) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวัดอบุ ลราชธานี
๓) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวดั พิษณุโลก
๔) วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จงั หวดั ชลบรุ ี
๕) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดสุพรรณบรุ ี
๖) วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ นิ ธร จงั หวดั ตรัง
๗) วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จงั หวัดยะลา
มโี ครงสร้างหลกั สตู ร ดงั น้ี
หนว่ ยกิตรวมตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 84 หนว่ ยกติ แบ่งเป็น หนว่ ยกิต
หมวดวชิ าทกั ษะชวี ิต ๒๑ หน่วยกติ
หมวดวชิ าทกั ษะวิชาชพี ไม่นอ้ ยกว่า 57 หนว่ ยกิต
(๑) กลมุ่ ทักษะวิชาชีพพนื้ ฐาน 16 หน่วยกติ
(๒) กลุ่มทักษะวิชาชีพเฉพาะ 21 หน่วยกติ
(๓) กลมุ่ ทักษะวชิ าชีพเลือก ไม่นอ้ ยกวา่ 12 หนว่ ยกติ
(๔) ฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพ 4 หนว่ ยกิต
(๕) โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 4 หนว่ ยกติ
หมวดวิชาเลอื กเสรี ไมน่ อ้ ยกว่า ๖ ช่ัวโมงตอ่ สปั ดาห์
กิจกรรมเสริมหลักสูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ 2
เปน็ การส่งเสริมการพัฒนาทักษะชวี ิต และหรือทักษะวชิ าชีพ
15
สำหรับผู้สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 6) หรือเทียบเท่า ที่ไม่มีพื้นฐานวิชาชีพ
จะต้องเรยี นรายวชิ าปรบั พ้ืนฐานวชิ าชพี
กลุ่มรายวชิ าปรับพื้นฐานวชิ าชพี 12 หนว่ ยกิต
๒. หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ชั้นสงู สาขาปฏิบตั กิ ารฉุกเฉนิ การแพทย์
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ พัฒนาหลักสูตรให้เป็น
มาตรฐานตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ เกณฑ์
การใช้หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช ๒๕๕๗ พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑
ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน เรื่องการให้ประกาศนียบัตรและการปฏิบัติ การฉุกเฉินของผู้ปฏิบัติการ
พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน เรื่องอำนาจหน้าที่ ขอบเขต ความรับผิดชอบ และ
ข้อจำกัดในการปฏิบัติการแพทย์ของผู้ช่วยเวชกรรมตามคำส่ังการแพทยห์ รอื การอำนวยการ พ.ศ. ๒๕๕๖ และ
ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉนิ แห่งชาติ เรือ่ ง หลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขการรับรององค์กรการศึกษา
ที่ดำเนินการหลักสูตรหรือการฝึกอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติการฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๗ เปิดสอนที่วิทยาลัย
การสาธารณสุขสิรินธรในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก ๕ แห่ง คือ
๑) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จงั หวัดขอนแกน่
๒) วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั อบุ ลราชธานี
๓) วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จงั หวดั ชลบรุ ี
๔) วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จงั หวดั ตรงั
๕) วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวดั ยะลา
มโี ครงสรา้ งหลกั สตู ร ดังน้ี
หน่วยกติ รวมตลอดหลกั สตู ร 8๓ หนว่ ยกติ แบ่งเป็น ๒๑ หนว่ ยกติ
หมวดวิชาทกั ษะชวี ิต
หมวดวิชาทักษะวิชาชพี 5๖ หนว่ ยกติ
(๑) กลุ่มทักษะวิชาชพี พืน้ ฐาน 1๘ หนว่ ยกติ
(๒) กลุ่มทักษะวชิ าชพี เฉพาะ 2๘ หน่วยกิต
(๓) กล่มุ ทกั ษะวิชาชพี เลือก ไมน่ อ้ ยกวา่ 2 หน่วยกิต
(๔) ฝกึ ประสบการณท์ ักษะวิชาชพี 4 หนว่ ยกิต
(๕) โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชพี 4 หน่วยกิต
หมวดวิชาเลอื กเสรี ไมน่ ้อยกว่า ๖ หนว่ ยกิต
กิจกรรมเสริมหลักสตู ร ไมน่ ้อยกวา่ 2 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์
เปน็ การสง่ เสริมการพัฒนาทักษะชวี ติ และหรอื ทักษะวชิ าชีพ
สำหรบั ผู้สำเรจ็ การศึกษามธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม. 6) หรอื เทียบเท่า ท่ไี ม่มีพ้นื ฐานวชิ าชีพ
จะตอ้ งเรยี นรายวิชาปรบั พน้ื ฐานวิชาชีพ
กลมุ่ รายวชิ าปรับพ้นื ฐานวชิ าชีพ 1๘ หน่วยกติ
16
๓. หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี ช้นั สงู สาขาวิชาเวชระเบียน
หลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพชั้นสูง สาขาวิชาเวชระเบยี น พัฒนาหลกั สตู รให้เป็นมาตรฐานตาม
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรอ่ื ง มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. ๒๕๕๖
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ ระเบียบ
กระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตร
วิชาชพี ชัน้ สงู พทุ ธศักราช ๒๕๕๗ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรือ่ ง ให้ใชม้ าตรฐานการอาชวี ศกึ ษาระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. ๒๕๕๙ เปิดสอนที่วิทยาลัยเทคโนโลยี
ทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ กาญจนาภเิ ษก มโี ครงสร้างหลักสูตร ดงั น้ี
หนว่ ยกติ รวมตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกวา่ 8๕ หนว่ ยกิต แบ่งเป็น
หมวดวชิ าทักษะชวี ติ ๒๑ หนว่ ยกติ
หมวดวชิ าทักษะวชิ าชีพ ไม่นอ้ ยกวา่ 5๘ หนว่ ยกติ
(๑) กลุม่ ทักษะวชิ าชพี พ้นื ฐาน 1๕ หน่วยกติ
(๒) กลมุ่ ทักษะวิชาชพี เฉพาะ 21 หน่วยกติ
(๓) กลุม่ ทักษะวชิ าชพี เลือก ไมน่ ้อยกว่า 12 หนว่ ยกติ
(๔) ฝึกประสบการณ์ทกั ษะ 6 หน่วยกิต
วชิ าชพี 4 หน่วยกติ
(๕) โครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ
หมวดวชิ าเลือกเสรี ไม่น้อยกว่า ๖ หน่วยกติ
กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร ไมน่ อ้ ยกว่า 2 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์
เป็นการสง่ เสริมการพัฒนาทักษะชีวิต และหรอื ทักษะวิชาชีพ
สำหรับผู้สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย (ม. 6) หรือเทียบเท่า ที่ไม่มีพื้นฐานวิชาชีพ
จะตอ้ งเรยี นรายวิชาปรบั พ้นื ฐานวชิ าชพี
กลุม่ รายวชิ าปรบั พื้นฐานวิชาชพี 12 หนว่ ยกติ
๔. หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชั้นสงู สาขาวิชาโสตทัศนศกึ ษาทางการแพทย์
หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สงู สาขาวิชาโสตทัศนศึกษาทางการแพทย์ พฒั นาหลกั สูตรให้เป็น
มาตรฐานตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรือ่ ง มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชั้นสูง
พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช ๒๕๕๗ และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐาน
การอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ และระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. ๒๕๕๙ เปิดสอนท่ี
วทิ ยาลัยเทคโนโลยที างการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก มีโครงสรา้ งหลกั สูตร ดังนี้
17
หนว่ ยกติ รวมตลอดหลักสตู รไม่นอ้ ยกวา่ 8๕ หนว่ ยกิต แบ่งเป็น
หมวดวิชาทักษะชีวิต ๒๑ หนว่ ยกติ
หมวดวชิ าทกั ษะวิชาชพี ไม่น้อยกว่า 5๘ หนว่ ยกิต
(๑) กล่มุ ทักษะวิชาชีพพน้ื ฐาน 1๕ หน่วยกติ
(๒) กลุ่มทักษะวชิ าชพี เฉพาะ 21 หน่วยกติ
(๓) กลุ่มทักษะวิชาชพี เลือก ไมน่ ้อยกวา่ 12 หนว่ ยกิต
(๔) ฝึกประสบการณท์ ักษะวิชาชพี 6 หนว่ ยกิต
(๕) โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ 4 หน่วยกติ
หมวดวชิ าเลอื กเสรี ไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกติ
กจิ กรรมเสรมิ หลักสูตร ไม่น้อยกว่า 2 ชวั่ โมงตอ่ สัปดาห์
เป็นการสง่ เสรมิ การพฒั นาทักษะชีวติ และหรือทกั ษะวชิ าชีพ
สำหรบั ผู้สำเรจ็ การศกึ ษามัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ม. 6) หรือเทียบเท่า ที่ไมม่ ีพ้ืนฐานวชิ าชีพ
จะต้องเรยี นรายวิชาปรบั พน้ื ฐานวชิ าชีพ
กลุม่ รายวิชาปรบั พืน้ ฐานวิชาชีพ 12 หนว่ ยกติ
หมายเหตุ : หลกั สูตรทสี่ ถาบันพระบรมราชชนก ร่วมผลิตกบั มหาวิทยาลัยบรู พา ได้แก่
1. หลักสูตรการแพทย์แผนไทยบัณฑิต สาขาวิชาการแพทย์แผนไทย จัดการศึกษาที่วิทยาลัย
การสาธารณสุขสิรินธร จังหวดั ชลบรุ ี
2. หลกั สตู รการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต สาขาวิชาการแพทยแ์ ผนไทยประยุกต์ จดั การศึกษาท่ี
วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภยั ภเู บศร จงั หวดั ปราจนี บรุ ี
18
ขอ้ บงั คับของสถาบนั พระบรมราชชนก และรายละเอียดทเ่ี กี่ยวกบั การเรียนการสอน มดี ังน้ี
1. ข้อบังคบั สถาบนั พระบรมราชชนกว่าด้วยการจดั การศึกษาระดบั บัณฑิตศึกษาของสถาบันพระบรมราชชนก
กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2564
2. ข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนกว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีของสถาบันพระบรมราชชนก
กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ.2564
3. ข้อบังคับสถาบนั พระบรมราชชนก ว่าด้วยการจดั การศึกษาระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพชั้นสูงของ
สถาบนั พระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๖๕
4. ข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนกว่าด้วยเครื่องแบบ เครื่องหมาย หรือเครื่องแต่งกายของนักศึกษา
พ.ศ. 2563
5. ข้อบังคบั สถาบันพระบรมราชชนกว่าด้วยเคร่ืองแบบ เครือ่ งหมาย หรอื เครื่องแต่งกายของนักศึกษา
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. 2564
6. รายละเอียดค่าใช้จ่ายในการศึกษาหลักสูตรต่าง ๆ ของสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
ประจำปีการศกึ ษา 2565
19
ข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนกว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับบัณฑติ ศกึ ษา
ของสถาบนั พระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยที่เป็นการสมควรกำหนดการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของสถาบันพระบรมราชชนก
กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้การจัดการศึกษาของสถาบันพระบรมราชชนกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เกิดประสิทธิผลสูงสุด และมีความสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันของการศึกษาที่มีการเปลี่ยนแปลง
มุ่งเน้นยกระดับการศึกษาของสถาบันพระบรมราชชนก ให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกบั เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดบั บัณฑิตศึกษา
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘ (๒) และมาตรา ๑๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก
พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบกับมติสภาสถาบันพระบรมราชชนก ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันท่ี
๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ จงึ ออกขอ้ บงั คับไว้ ดังต่อไปนี้
หมวดที่ ๑
บททั่วไป
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนกว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
ของสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๔”
ขอ้ ๒ ขอ้ บงั คับนี้ให้ใช้บงั คับตั้งแต่วันถดั จากวนั ประกาศเปน็ ต้นไป
ขอ้ ๓ ในขอ้ บังคับนี้
“สถาบัน” หมายความวา่ สถาบนั พระบรมราชชนก
“สภาสถาบัน” หมายความว่า สภาสถาบนั พระบรมราชชนก
“คณะ” หมายความว่า ส่วนราชการที่มีหน้าที่หลักในการผลิตบัณฑิต การจัดการเรียนการสอน
การวจิ ัย การใหบ้ รกิ ารทางวชิ าการ และทะนุบำรงุ ศลิ ปะและวัฒนธรรม
“วิทยาลัย” หมายความว่า ส่วนราชการในสังกัดคณะ มีหน้าที่จัดการเรียนการสอน การวิจัย
การให้บรกิ ารทางวิชาการ และทะนุบํารงุ ศิลปะและวฒั นธรรม
“อธกิ ารบดี” หมายความว่า อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก
“คณบดี” หมายความวา่ คณบดีของคณะทเ่ี ปิดสอนระดับบัณฑติ ศกึ ษาในสถาบนั พระบรมราชชนก
20
“ผู้อำนวยการวิทยาลัย” หมายความว่า ผู้อำนวยการของวิทยาลัยที่เปิดสอนระดับบัณฑิตศึกษา
ในสถาบนั พระบรมราชชนก
“อาจารย์ผู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร” หมายความว่า อาจารย์ประจำหลักสตู รที่มภี าระหน้าท่ีในการบรหิ าร
และพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน ตั้งแต่การวางแผน การควบคุมคุณภาพ การติดตามประเมินผล
และการพัฒนาหลักสูตร อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต้องอยู่ประจำหลักสูตรนั้นตลอดระยะเวลา
ที่จัดการศึกษา โดยจะเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเกินกว่าหนึ่งหลักสูตรในเวลาเดียวกันไม่ได้ ยกเว้น
พหุวิทยาการ หรือสหวิทยาการ ให้เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรได้อีกหนึ่งหลักสูตรและอาจารย์
ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร สามารถซำ้ ได้ไมเ่ กินสองคน
“นักศึกษา” หมายความว่า นักศึกษาที่ศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในหลักสูตรต่าง ๆ ของคณะในสังกัด
สถาบนั พระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ
“คณะกรรมการบัณฑติ ศึกษาระดบั สถาบัน” หมายความว่า คณะกรรมการทไ่ี ด้รบั แต่งต้ังเพือ่ รับผดิ ชอบ
บริหารหลักสตู รระดับบัณฑติ ศกึ ษา ในระดับสถาบนั
“คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะ” หมายความว่า คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งเพื่อรับผิดชอบ
บริหารหลักสูตรระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา ในระดบั คณะ
“เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา” หมายความว่า เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรตามประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือตามท่ีกระทรวง
การอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม ประกาศเปล่ยี นแปลง ทีม่ ผี ลบังคับใช้ในขณะนั้น
ข้อ ๔ ให้อธิการบดีรักษาการตามข้อบังคับนี้ และมีอำนาจออกประกาศหรือคำสั่งเพื่อปฏิบัติการ
ตามขอ้ บังคับนี้
ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ ให้อธิการบดีมีอำนาจตีความหรือวินิจฉัยชี้ขาด
คำวนิ ิจฉยั ชขี้ าด ของอธกิ ารบดีใหถ้ อื เปน็ ที่สดุ
หมวด ๒
คณะกรรมการ
ข้อ ๕ ให้มีคณะกรรมการบัณฑิตศึกษา เพื่อบริหาร กำกับดูแลคุณภาพ การจัดการศึกษาระดับ
บัณฑิตศกึ ษาทกุ หลักสูตรของสถาบัน ประกอบด้วย
(๑) คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดบั สถาบัน ประกอบดว้ ย
(ก) รองอธิการบดที ีร่ บั ผดิ ชอบด้านบัณฑติ ศกึ ษา เป็นประธาน
(ข) คณบดีของคณะที่เปิดสอนระดับบัณฑิตศกึ ษา เป็นกรรมการ
(ค) ผูแ้ ทนอาจารยผ์ ูร้ ับผิดชอบหลักสตู รระดับบัณฑิตศึกษา อยา่ งน้อยสามคนแต่ไม่เกินห้าคน
เป็นกรรมการ
(ง) ผูอ้ ำนวยการสำนักวิชาการ เป็นกรรมการและเลขานุการ
ใหค้ ณะกรรมการบณั ฑติ ศกึ ษาระดับสถาบนั แตง่ ต้งั ผู้ช่วยเลขานกุ ารจำนวนสองคน
21
ให้อธิการบดี โดยความเห็นชอบของสภาวิชาการ แต่งตั้งคณะกรรมการบัณฑิตศึกษา
ระดับสถาบัน ในกรณีพน้ จากตำแหนง่ ก่อนครบวาระ ใหผ้ ู้ท่ไี ดร้ ับแต่งตัง้ ทดแทนนน้ั อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระ
ท่เี หลอื อยู่ของกรรมการท่ีได้รับแตง่ ตั้งไว้แล้ว
(๒) คณะกรรมการบัณฑิตศกึ ษาระดบั คณะ ประกอบด้วย
(ก) คณบดขี องคณะท่เี ปิดสอนระดบั บัณฑติ ศกึ ษา เป็นประธาน
(ข) ผอู้ ำนวยการวิทยาลัยท่ีเปดิ สอนระดับบณั ฑิตศึกษา เป็นกรรมการ
(ค) ผู้แทนอาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ไม่เกนิ ห้าคน เปน็ กรรมการ
(ง) รองคณบดที ี่รบั ผิดชอบด้านบณั ฑิตศกึ ษา เป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะแต่งตัง้ ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ ารจำนวนสองคน
ให้อธิการบดี โดยความเห็นชอบของสภาวิชาการ แต่งตั้งคณะกรรมการบัณฑิตศึกษา
ระดับคณะ ในกรณีพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งทดแทนนั้น อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระ
ท่ีเหลืออย่ขู องกรรมการทไี่ ด้รบั แตง่ ตั้งไวแ้ ล้ว
ข้อ ๖ คณะกรรมการตามข้อ ๕ มีหนา้ ทีแ่ ละอำนาจ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) คณะกรรมการบัณฑติ ศึกษาระดบั สถาบนั มีหน้าทแี่ ละอำนาจ ดงั ต่อไปน้ี
(ก) เสนอแนะนโยบาย และแผนการจัดการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาของสถาบัน
ตอ่ สภาสถาบนั
(ข) กำกับดูแลการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของสถาบันให้มีคุณภาพ
และประสทิ ธิภาพ
(ค) ประสานการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของคณะต่าง ๆ และสนับสนุน
กระบวนการต่าง ๆ ให้มีประสทิ ธิภาพ
(ง) จดั การศกึ ษาระดับบณั ฑติ ศกึ ษาแบบสหสาขาวชิ า
(จ) กลั่นกรองการขออนุมัติสำเร็จการศึกษาของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อเสนอ
ต่อสภาสถาบัน
(ฉ) จัดทำและกลั่นกรอง ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาระดับ
บัณฑติ ศึกษา เพื่อเสนอต่อสภาสถาบนั
(ช) ปฏบิ ตั หิ น้าทอ่ี ่นื ตามท่สี ภาสถาบนั มอบหมาย
(๒) คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดบั คณะ มหี นา้ ท่แี ละอำนาจ ดังตอ่ ไปน้ี
(ก) นำนโยบาย และแผนการจัดการศึกษาในระดับบัณฑติ ศึกษาของสถาบนั ไปดำเนินการ
(ข) กำกับดูแลการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของคณะตั้งแต่การวางแผน
การพฒั นาหลักสูตร การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ใหม้ คี ุณภาพและประสิทธิภาพ
(ค) ประสานการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของวิทยาลัยในสังกัดคณะ
และสนับสนุนกระบวนการต่าง ๆ ให้มีประสทิ ธภิ าพ
(ง) จัดการศึกษาระดบั บณั ฑติ ศกึ ษาแบบสหสาขาวิชาของวทิ ยาลัยในสังกัดคณะ
(จ) รบั รองผลการเรียนและการสำเรจ็ การศกึ ษาของนักศึกษาระดบั บัณฑิตศึกษา
(ฉ) ปฏิบตั ิหนา้ ที่อื่น ตามท่สี ภาสถาบนั มอบหมาย
22
ข้อ ๗ คณะกรรมการตามข้อ ๕ มวี าระการดำรงตำแหนง่ คราวละสป่ี ี และอาจแตง่ ตัง้ ใหม่อกี ได้ แต่จะ
ดำรงตำแหนง่ เกินสองวาระตดิ ต่อกนั มิได้ เว้นแต่ กรรมการตามข้อ ๕ (๑) (ก) (ข) (ง) และข้อ ๕ (๒) (ก) (ข) (ง)
นอกจากการพ้นตำแหนง่ ตามวาระ คณะกรรมการบัณฑติ ศึกษาพน้ จากตำแหน่งเม่ือ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคณุ สมบตั ขิ องการเปน็ กรรมการประเภทน้ัน ๆ
(๔) ถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการ เพราะเหตุมีมลทินหรือ
มวั หมองในกรณีท่ถี ูกสอบสวนทางวินยั อย่างรา้ ยแรง
(๕) ถกู จำคุกโดยคำพพิ ากษาถึงท่สี ุดให้จำคุก
(๖) เปน็ บคุ คลลม้ ละลาย
(๗) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมอื นไรค้ วามสามารถ
หมวด ๓
ระบบการจดั การศึกษา
ข้อ ๘ ระบบการจัดการศึกษา ใช้ระบบทวิภาค โดยหนึ่งปีการศึกษา แบ่งออกเป็นสองภาคการศึกษาปกติ
แต่ละภาคการศึกษาปกติ มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่าสิบห้าสัปดาห์ และอาจจัดการศึกษาภาคฤดูร้อนได้
ตามความจำเป็นของแตล่ ะหลกั สูตร โดยมรี ะยะเวลาไมน่ ้อยกว่าแปดสัปดาห์
ข้อ ๙ การคิดหนว่ ยกิต
(๑) รายวิชาภาคทฤษฎี ที่ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปรายปัญหาไม่น้อยกว่าสิบห้าชั่วโมง
ต่อภาคการศกึ ษาปกติ ใหม้ คี ่าเทา่ กบั หนึ่งหนว่ ยกิตในระบบทวภิ าค
(๒) รายวชิ าภาคปฏบิ ัติ ที่ใช้เวลาฝึกหรือทดลองไม่น้อยกว่าสามสิบช่ัวโมงต่อภาคการศึกษาปกติ
ให้มีค่าเท่ากบั หนง่ึ หน่วยกติ ในระบบทวภิ าค
(๓) การฝึกงานหรือการฝึกภาคสนาม ทใ่ี ชเ้ วลาฝกึ ไม่น้อยกว่าส่สี บิ ห้าช่วั โมงต่อภาคการศึกษาปกติ
ให้มคี า่ เทา่ กับหนึ่งหน่วยกติ ในระบบทวภิ าค
(๔) การค้นคว้าอิสระ ที่ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติ
ใหม้ ีคา่ เทา่ กบั หน่งึ หนว่ ยกติ ในระบบทวิภาค
(๕) วิทยานิพนธ์ ที่ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าชั่วโมงต่อภาคการศึกษาปกติ
ให้มคี ่าเทา่ กับหนึ่งหนว่ ยกติ ในระบบทวิภาค
ขอ้ ๑๐ การจดั แผนการศึกษา
(๑) การจัดแผนการศึกษาแบบเต็มเวลา (Full–time) หมายถึง การจัดแผนการศึกษา
ในหลักสูตร โดยกำหนดจำนวนหน่วยกิตเฉลี่ยตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าเก้าหน่วยกิต และไม่เกินสิบห้าหน่วยกิต
ตอ่ ภาคการศึกษาปกติ สำหรบั ระบบทวิภาค
23
(๒) การจัดแผนการศึกษาแบบไม่เตม็ เวลา (Part–time) หมายถึง การจัดแผนการศึกษาในหลักสูตร
โดยกำหนดจำนวนหน่วยกิตเฉลี่ยตลอดหลักสูตร ไม่เกินเก้าหน่วยกิตต่อภาคการศึกษาปกติ สำหรับระบบทวิภาค
ทั้งนี้ หลักสูตรหนึ่ง ๆ อาจจัดการศึกษาระบบอื่น ๆ และหรือจัดแผนการศึกษาแบบใดแบบหนึ่ง
หรอื หลายแบบได้ โดยให้เปน็ ไปตามประกาศของสถาบนั
ข้อ ๑๑ รูปแบบการจดั การเรยี นการสอน
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนสามารถดำเนินการได้ในลักษณะแบบเผชิญหน้า (Face to Face
Learning) หรือแบบออนไลน์ (Online Learning) หรือแบบผสม (Blended Learning) ตามที่คณะพิจารณา
ตามความเหมาะสม
ขอ้ ๑๒ การวดั และประเมินผลการศกึ ษา ให้เปน็ ไปตามประกาศของสถาบัน
หมวดท่ี ๔
หลกั สูตรและโครงสร้างหลกั สูตร
ขอ้ ๑๓ หลักสูตรระดับบัณฑิตศกึ ษา
(๑) หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต เป็นหลักสูตรที่เน้นการพัฒนานักวิชาการและนักวิชาชีพ
ให้มีความเชี่ยวชาญ หรือประสิทธิภาพในสาขาวิชาเฉพาะ เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีลักษณะเบ็ดเสร็จ
ในตัวเอง สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่ามาแล้ว ให้มีจำนวนหน่วยกิต รวมตลอดหลักสูตร
ไม่น้อยกวา่ ย่ีสบิ สี่หน่วยกิต
(๒) หลักสูตรปริญญาโท เป็นหลักสูตรที่เน้นการพัฒนานักวิชาการและนักวิชาชีพ ที่มีความรู้
ความสามารถระดับสูง โดยกระบวนการวิจัยหรือให้สามารถบุกเบิกแสวงหาความรู้ใหม่ได้อย่างอิสระ
ในสาขาวิชาต่าง ๆ ในระดับสูงกว่าปริญญาตรีและประกาศนียบัตรบัณฑิต ให้มีจำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร
ไมน่ ้อยกวา่ สามสิบหกหนว่ ยกติ โดยแบง่ การศกึ ษาออกเปน็ ๒ แผน คือ
แผน ก เป็นแผนการศึกษาท่ีเนน้ การวิจัยโดยมีการทำวทิ ยานพิ นธ์ ดงั น้ี
แบบ ก ๑ ทำเฉพาะวิทยานิพนธ์ซึ่งมีค่าเทียบได้ไม่น้อยกว่าสามสิบหกหน่วยกิต
คณะอาจกำหนด ให้เรียนรายวิชาเพิ่มเติมหรือทำกิจกรรมทางวิชาการอื่นเพิ่มขึ้นก็ได้ โดยไม่นับหน่วยกิต
แตจ่ ะต้องมีผลสมั ฤทธ์ติ ามทีค่ ณะกำหนด
แบบ ก ๒ ทำวิทยานิพนธ์ซึ่งมีค่าเทียบได้ไม่น้อยกว่าสิบสองหน่วยกิต และศึกษา
งานรายวชิ าอีกไม่นอ้ ยกวา่ สบิ สองหนว่ ยกิต
แผน ข เป็นแผนการศึกษาที่เน้นการศึกษางานรายวิชา โดยไม่ต้องทำวิทยานิพนธ์ แต่ต้องมี
การคน้ คว้าอิสระไมน่ อ้ ยกว่าสามหนว่ ยกิต และไม่เกินหกหน่วยกิต
(๓) หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง เป็นหลักสูตรที่เน้นการพัฒนานักวิชาการ
และนักวิชาชีพให้มีความเชี่ยวชาญ หรือประสิทธิภาพในสาขาวิชาเฉพาะเพื่อให้มีความรู้ความสามารถ
ปฏิบัตงิ านได้ดีย่ิงข้นึ และเป็นหลักสูตรการศึกษาทม่ี ีลักษณะเบ็ดเสร็จในตัวเอง สำหรับผูส้ ำเร็จการศึกษาระดับ
ปรญิ ญาโทหรือเทยี บเท่ามาแล้ว ให้มจี ำนวนหน่วยกติ รวมตลอดหลักสูตรไม่นอ้ ยกวา่ ยี่สิบสี่หนว่ ยกิต
24
(๔) หลกั สูตรปรญิ ญาเอก เปน็ หลักสตู รทเี่ นน้ การพฒั นานักวชิ าการและนักวิชาชีพ ที่มีความรู้
ความสามารถระดับสูงในสาขาวิชาต่าง ๆ โดยกระบวนการวิจยั เพื่อให้สามารถบุกเบิกแสวงหาองคค์ วามรู้ใหม่
ได้อย่างอิสระและสร้างสรรค์ จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ เชื่อมโยงและบูรณาการศาสตร์ท่ีตนเชี่ยวชาญ
กับศาสตร์อื่นได้อย่างต่อเนื่องในระดับสูงกว่าปริญญาโทและประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง แบ่งการศึกษา
เป็น ๒ แบบ ดงั น้ี
แบบ ๑ ผู้เข้าศึกษาที่สำเร็จปริญญาโท จะต้องทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่าสี่สิบแปดหน่วยกิต
หรือ ผู้เข้าศึกษาที่สำเร็จปริญญาตรี จะต้องทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบสองหน่วยกิต ทั้งนี้ วิทยานิพนธ์
จะตอ้ งมีมาตรฐานและคุณภาพเดียวกนั
แบบ ๒ ผ้เู ข้าศึกษาที่สำเร็จปริญญาโท จะตอ้ งทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่าสามสิบหกหน่วยกิต
และศึกษางานรายวิชาอีกไม่น้อยกว่าสิบสองหน่วยกิต หรือ ผู้เข้าศึกษาที่สำเร็จปริญญาตรี จะต้องทำ
วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่าสี่สิบแปดหน่วยกิต และศึกษางานรายวิชาอีกไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่หน่วยกิต ทั้งนี้
วิทยานิพนธจ์ ะตอ้ งมมี าตรฐานและคณุ ภาพเดยี วกนั
ข้อ ๑๔ ระยะเวลาการศึกษาของแต่ละหลกั สตู รทีจ่ ัดแผนการศึกษาแบบเตม็ เวลา ดังน้ี
(๑) ประกาศนียบัตรบัณฑิตและประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง ให้ใช้เวลาศึกษาไม่เกิน
สามปกี ารศกึ ษา
(๒) ปรญิ ญาโท ใหใ้ ชเ้ วลาศึกษาไมเ่ กินห้าปีการศึกษา
(๓) ปริญญาเอก ผู้ที่สำเร็จปริญญาตรีแล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกให้ใช้เวลาศึกษา
ไม่เกินแปดปีการศึกษา ส่วนผู้ที่สำเร็จปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกให้ใช้เวลาศึกษา ไม่เกิน
หกปกี ารศกึ ษา
ระยะเวลาการศึกษาสำหรับหลักสูตรที่จัดแผนการศึกษาแบบไม่เต็มเ วลาหรือแบบอื่น
ให้เป็นไปตามประกาศของสถาบัน
หมวดท่ี ๕
อาจารยร์ ะดับบัณฑิตศึกษา
ข้อ ๑๕ จำนวน คุณวุฒิ และคุณสมบัติของอาจารย์ประจำหลักสูตร อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และการค้นคว้าอิสระ อาจารย์ผู้สอบวิทยานิพนธ์ และอาจารย์ผู้ สอน
ของหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต ปริญญาโท ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง และปริญญาเอก ให้เป็นไป
ตามเกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตรระดบั บณั ฑิตศกึ ษา
ข้อ ๑๖ ภาระงานของอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และการค้นคว้าอิสระ ให้เป็นไปตาม เกณฑ์
มาตรฐานหลักสตู รระดบั บณั ฑติ ศึกษา
25
หมวดท่ี ๖
การรบั เขา้ ศกึ ษา
ข้อ ๑๗ คณุ สมบตั ขิ องผเู้ ขา้ ศกึ ษา
(๑) หลกั สูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต
จะตอ้ งเปน็ ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตามท่หี ลักสตู รกำหนด และหรือ
มีคุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะกำหนด โดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการบณั ฑติ ศึกษาระดบั สถาบนั
(๒) หลักสตู รปริญญาโท
จะต้องเปน็ ผูส้ ำเรจ็ การศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทยี บเท่า ตามท่ีหลักสตู รกำหนด และหรือ
มีคุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะกำหนด โดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการบัณฑติ ศึกษาระดับสถาบัน
(๓) หลักสูตรประกาศนียบตั รบัณฑติ ชัน้ สงู
จะต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือปริญญาโทหรือเทียบเท่า
ตามที่หลักสูตรกำหนด และหรือมีคุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมตามท่ีคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะกำหนด
โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบัณฑิตศกึ ษาระดับสถาบนั
(๔) หลกั สูตรปรญิ ญาเอก
(ก) จะต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า ตามที่หลักสูตรกำหนด
และหรือมีคุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะกำหนด โดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการบณั ฑิตศึกษาระดับสถาบนั หรอื
(ข) จะต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ในสาขาวิชาเดียวกัน
หรือ สาขาวิชาที่สัมพันธ์กันกับหลักสูตรที่เข้าศึกษา ที่มีผลการเรียนดีมาก และหรือมีคุณสมบัติอื่นเพิ่มเติม
ตามท่ีคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดบั
สถาบนั
ทั้งนี้ ผู้เข้าศึกษาระดับปรญิ ญาเอก จะตอ้ งมผี ลการสอบภาษาองั กฤษได้ตามเกณฑ์ท่ีหลักสตู ร
กำหนด
ข้อ ๑๘ การรับบุคคลเขา้ ศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับ
คณะกำหนด โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบณั ฑิตศึกษาระดับสถาบัน และจดั ทำเป็นประกาศของสถาบัน
ข้อ ๑๙ การรายงานตัวและขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา ใหเ้ ป็นไปตามประกาศของสถาบัน
26
หมวดท่ี ๗
การลงทะเบียนเรยี น
ขอ้ ๒๐ การลงทะเบยี นเรียน
(๑) นักศึกษาในหลักสูตรที่จัดแผนการศึกษาแบบเต็มเวลา ต้องลงทะเบียนวิชาเรียนไม่น้อยกว่า
เก้าหน่วยกิต และไมเ่ กนิ สบิ หา้ หนว่ ยกิตตอ่ ภาคการศกึ ษาปกติ
(๒) นักศกึ ษาในหลักสูตรทจี่ ัดแผนการศึกษาแบบไม่เต็มเวลา ตอ้ งลงทะเบียนวิชาเรยี นไม่น้อยกว่า
สามหน่วยกิต และไมเ่ กินเก้าหน่วยกติ ต่อภาคการศึกษาปกติ
หากมีเหตุผลและความจำเป็นพิเศษ การลงทะเบียนเรียนที่มีจำนวนหน่วยกิตแตกต่างไป
จากเกณฑ์ข้างต้น ให้เป็นไปตามประกาศของสถาบัน ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อมาตรฐานและคุณภาพ
การศกึ ษา
ข้อ ๒๑ การเพิ่มหรือถอนวิชาเรยี น ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของสถาบัน
ข้อ ๒๒ การรับและเทียบโอนหน่วยกิต ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา
หรือคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับคณะอาจกำหนดเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อมาตรฐาน
และคุณภาพการศกึ ษา
หมวดที่ ๘
การทำวิทยานพิ นธแ์ ละการคน้ คว้าอิสระ
ข้อ ๒๓ การลงทะเบียนวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ กระทำได้เมื่อนักศึกษามีคุณสมบัติ
ครบตามที่แต่ละหลักสูตรกำหนด โดยได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลักหรือ
การคน้ คว้าอิสระ
ข้อ ๒๔ การเสนออนมุ ัติโครงรา่ งวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอสิ ระ
(๑) ปริญญาโทต้องได้รับอนุมัติโครงร่างวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ ภายในสองปี
นบั ต้ังแต่ภาคการศึกษาแรกท่เี ขา้ ศกึ ษา
(๒) ปริญญาเอกต้องได้รับอนุมัตโิ ครงร่างวิทยานิพนธภ์ ายในสามปีนับต้ังแตภ่ าคการศึกษาแรก
ที่เข้าศกึ ษา
ข้อ ๒๕ การควบคุมวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ ให้มีอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก
หรอื การค้นคว้าอิสระหนงึ่ คน และอาจมีอาจารยท์ ปี่ รกึ ษาร่วมได้อีก ตามความเหมาะสมแต่ละกรณี
ขอ้ ๒๖ การประเมินผลความก้าวหน้าในการทำวทิ ยานพิ นธ์หรอื การค้นควา้ อิสระ
(๑) อาจารย์ท่ีปรึกษาวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ มีหน้าที่ในการประเมินผล
ความก้าวหน้าในการทำวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระของนักศึกษา และรายงานผลการประเมินต่อ
คณะกรรมการบัณฑติ ศึกษาระดับคณะ
27
(๒) การประเมินผลความก้าวหน้าในการทำวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ ต้องกระทำ
ในทกุ ภาคการศกึ ษา โดยผา่ นความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบัณฑิตศกึ ษาระดับคณะ
ใช้สัญลักษณ์ P (In Progress) หมายถึง ผลการประเมินความก้าวหน้าในการทำวิทยานิพนธ์
หรือการค้นคว้าอิสระของนักศึกษาเป็นที่พอใจ โดยระบุจำนวนหน่วยกิตวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ
ของนักศึกษาแต่ละคนในภาคการศึกษานั้น และใช้สัญลักษณ์ N (No Progress) สำหรับผลการประเมินที่ไม่มี
ความก้าวหนา้ หรือไม่เป็นท่พี อใจ
ข้อ ๒๗ ในกรณีที่นักศึกษาได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนหัวข้อวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ ซึ่งมีผลต่อ
การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของเนื้อหาวิทยานิพนธห์ รือการคน้ คว้าอิสระ ให้อาจารย์ที่ปรกึ ษาประเมินจำนวน
หน่วยกิตจากหัวข้อเดิมที่สามารถนำไปใช้กับหัวข้อใหม่ได้ แต่ต้องไม่เกินจำนวนหน่วยกิตที่ผ่านในหัวข้อเดิม
ท้ังน้ี ให้นับจำนวนหน่วยกติ ดงั กล่าว เป็นจำนวนหน่วยกิตท่ีผ่านได้สัญลักษณ์ P ซึ่งสามารถนำมานับเพื่อสำเร็จ
การศกึ ษาตามหลกั สตู รได้
ข้อ ๒๘ การสอบวิทยานพิ นธ์ หรือการค้นควา้ อิสระ
(๑) นักศึกษาสามารถยื่นขอสอบวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระได้ เมื่อจัดทำวิทยานิพนธ์
หรือการค้นคว้าอิสระเสร็จสมบูรณ์ โดยได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก หรือ
การคน้ ควา้ อสิ ระ
(๒) การสอบวิทยานิพนธห์ รือการค้นคว้าอสิ ระ
(ก) ให้คณะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอิสระ สำหรับจำนวน
คุณวุฒิ คณุ สมบตั ิ และผลงานทางวิชาการของคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ หรอื การคน้ คว้าอิสระ ให้เป็นไป
ตามเกณฑม์ าตรฐานหลักสูตรระดับบณั ฑติ ศกึ ษา
(ข) การสอบวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ ต้องเป็นแบบเปิด โดยการเปิดให้ผู้สนใจ
เข้ารบั ฟังการนำเสนอและตอบคำถามของผู้เข้าสอบได้ คณะต้องประกาศให้ผู้สนใจทราบก่อนการสอบไม่น้อยกว่า
ห้าวันทำการ คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ มีอำนาจในการอนุญาตหรือไม่อนุญาต
ให้ผู้เข้าฟังถามหรือแสดงความเห็นที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอิสระ รวมทั้ง
การจำกดั เวลาการถาม และการควบคมุ ให้ดำเนินการสอบเปน็ ไปโดยเรียบร้อย
(ค) ในวันสอบจะต้องมีคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอิสระ ตามเกณฑ์
มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา จึงจะถือว่าการสอบนั้นมีผลสมบูรณ์ ทั้งนี้ อาจสอบโดยใช้วิธีการ
ผา่ นเครอื ข่ายอินเตอร์เนต็ โดยให้เป็นไปตามประกาศของสถาบัน
ถ้าคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอิสระ ไม่ครบตามเกณฑ์มาตรฐาน
หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ให้เลื่อนการสอบออกไป ในกรณีที่จำเป็นอาจเปลี่ยนแปลงกรรมการได้ โดยให้
คณะแต่งตั้งกรรมการเพมิ่ เติมและกำหนดวนั สอบครงั้ ใหม่
ทั้งนี้ กรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกสามารถส่งผลการประเมิน
การให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะด้วยเอกสาร โดยประธานคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ เป็นผู้ นำเสนอ
ผลการประเมนิ ต่อคณะกรรมการสอบวทิ ยานิพนธ์ในวนั สอบ
28
(ง) ผลการสอบวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอิสระ ให้ถือมติตามที่คณะกรรมการสอบ
วทิ ยานพิ นธ์ หรือการค้นคว้าอสิ ระพจิ ารณาร่วมกัน
ข้อ ๒๙ การประเมนิ ผลการสอบวทิ ยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอสิ ระ แบง่ เป็น ๔ ระดับ คอื
Excellent หมายความวา่ ผลการประเมินขนั้ ดีเยี่ยม
Good หมายความว่า ผลการประเมนิ ขน้ั ดี
Pass หมายความว่า ผลการประเมนิ ขัน้ ผ่าน
Fail หมายความวา่ ผลการประเมินขน้ั ไม่ผ่าน
ข้อ ๓๐ ใหป้ ระธานคณะกรรมการสอบแจ้งผลการสอบเปน็ ลายลักษณ์อักษร ต่อคณบดีและผู้เข้าสอบ
ภายในสบิ วันทำการ ถดั จากวันสอบ
(๑) ในกรณีที่สอบผ่านและไม่มีข้อแก้ไข ให้นักศึกษาส่งวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระฉบับ
สมบูรณภ์ ายในย่ีสิบวนั ทำการ ถัดจากวันสอบ
(๒) ในกรณีที่สอบผ่านแต่ต้องมีข้อแก้ไข ให้บันทึกประเด็นหรือรายการที่ต้องแก้ไขพร้อมท้ัง
อธิบายชี้แจงให้ผู้เข้าสอบรับทราบ และผู้เข้าสอบต้องแก้ไขตามข้อเสนอให้แล้วเสร็จและส่งวิทยานิพนธ์หรือ
การคน้ ควา้ อิสระฉบบั สมบูรณ์ภายในส่ีสบิ ห้าวนั ทำการ ถดั จากวันสอบ
(๓) ในกรณที สี่ อบคร้ังแรกไม่ผ่าน ใหบ้ ันทกึ สาเหตุหลักของการพิจารณาไม่ผ่าน และให้ย่ืนขอ
สอบครั้งที่ ๒ ภายในสามสิบวันทำการ ถัดจากวันสอบครั้งแรก และต้องสอบภายในหกสิบวันทำการ ถัดจาก
วนั ยน่ื ขอสอบคร้ังที่ ๒
หากนักศึกษาไม่สามารถดำเนินการได้ตาม (๑) (๒) และ (๓) และไม่มีเหตุผลอันสมควร
ให้ถือว่าไม่ผ่านในการสอบครัง้ น้ัน ให้คณะกรรมการสอบ รายงานผลขั้นสุดท้ายต่อคณบดี ภายในห้าวนั ทำการ
หลังส้ินสดุ ระยะเวลาทกี่ ำหนด
ขอ้ ๓๑ หากนกั ศกึ ษาขาดสอบโดยไม่มีเหตผุ ลอนั สมควร ใหถ้ อื วา่ สอบไม่ผ่านในการสอบครั้งนนั้
ขอ้ ๓๒ นกั ศึกษาท่จี ะยื่นเรื่องขอสอบโครงร่างวิทยานพิ นธ์ หรือการค้นควา้ อสิ ระ ขอสอบวิทยานิพนธ์
หรือการค้นคว้าอิสระ และส่งวิทยานิพนธ์ หรือการค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์ ให้ดำเนินการตรวจสอบ
การคัดลอกผลงาน พร้อมแนบหลักฐานรายงานผลการตรวจสอบที่แสดงค่าร้อยละของความซ้ำซ้อน
(Plagiarism Checking Report) และผ่านการรับรองจากอาจารยท์ ่ีปรกึ ษาวิทยานิพนธห์ ลักหรือการค้นคว้าอิสระ
ทั้งนี้ การกำหนดคา่ ร้อยละของความซำ้ ซ้อน ใหเ้ ป็นไปตามประกาศของสถาบนั
ข้อ ๓๓ รปู แบบการพิมพ์ การสง่ เล่ม และลิขสทิ ธิ์ในวทิ ยานิพนธ์หรอื รายงานการค้นคว้าอิสระ
(๑) รปู แบบการพิมพว์ ทิ ยานิพนธ์หรอื รายงานการคน้ คว้าอิสระให้เป็นไปตามท่ีสถาบันกำหนด
(๒) นักศึกษาต้องส่งวิทยานิพนธ์หรือรายงานการค้นคว้าอิสระฉบับสมบูรณ์ตามจำนวน
ลกั ษณะและระยะเวลาที่สถาบันกำหนด
(๓) ลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรในวิทยานิพนธ์หรือรายงานการค้นคว้าอิสระเป็นของสถาบัน
นักศึกษาและหรืออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ สามารถนำไปเผยแพร่ในเชิงวิชาการได้
แต่การนำเนื้อหาหรือผลจากการศึกษาไปใช้เพื่อประโยชน์อื่น ให้คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับสถาบัน
พิจารณาเป็นรายกรณี
29
หมวดที่ ๙
การสำเรจ็ การศกึ ษา
ข้อ ๓๔ การสำเร็จการศึกษา นักศึกษาจะสำเร็จการศึกษาได้ต้องมีคณุ สมบัติต่อไปน้ี
(๑) หลักสูตรประกาศนียบตั รบณั ฑิตและประกาศนยี บัตรบัณฑิตช้ันสงู ต้องสอบผา่ นรายวิชาตา่ ง ๆ
ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร โดยได้ระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ จากระบบ ๔ ระดับ
คะแนนหรอื เทียบเท่า
(๒) หลักสตู รปรญิ ญาโท
(ก) สอบเทยี บหรือสอบผา่ นความรภู้ าษาองั กฤษตามประกาศของสถาบัน
(ข) แผน ก แบบ ก ๑ นำเสนอวิทยานิพนธ์และสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้าย
โดยคณะกรรมการสอบวิทยานพิ นธ์ และผลงานวิทยานพิ นธ์หรือส่วนหนึ่งของวทิ ยานิพนธ์ ต้องได้รับการตีพิมพ์
หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติที่มีคุณภาพ
ตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับ
การเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการ
(ค) แผน ก แบบ ก ๒ ศึกษารายวิชาครบถ้วนตามที่กำหนดในหลักสูตร โดยได้ระดับ
คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ จากระบบ ๔ ระดับคะแนนหรือเทียบเท่า พร้อมทั้งนำเสนอวิทยานิพนธ์
และสอบผา่ นการสอบปากเปลา่ ขั้นสดุ ท้าย โดยคณะกรรมการสอบวทิ ยานพิ นธ์
ผลงานวิทยานิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ ต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อย
ได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติที่มีคุณภาพ ตามประกาศ
คณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงาน
ทางวิชาการ หรือนำเสนอต่อที่ประชุมวิชาการโดยบทความที่นำเสนอฉบับสมบูรณ์ (Full Paper) ได้รับ
การตีพิมพใ์ นรายงานสบื เน่อื งจากการประชุมวชิ าการ (Proceedings) ดงั กลา่ ว
ในกรณีท่ีเป็นวิทยานิพนธ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์ อาจถือการได้รับการจดทะเบียน
สิทธบิ ตั รหรอื อนุสิทธิบตั ร แทนการตีพิมพใ์ นวารสารทางวชิ าการได้
(ง) แผน ข ต้องสอบผ่านรายวิชาต่างๆ ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร โดยได้ระดับ
คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ จากระบบ ๔ ระดับคะแนนหรือเทียบเท่า และสอบผ่านการสอบประมวลความรู้
(Comprehensive Examination) ด้วยข้อเขียน และหรือปากเปล่าในสาขาวิชานั้น พร้อมทั้งนำเสนอรายงาน
การค้นคว้าอิสระและสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้าย โดยคณะกรรมการสอบการค้นคว้าอิสระ และรายงาน
การค้นคว้าอิสระ หรือส่วนหนึ่งของรายงานการค้นคว้าอิสระต้องได้รับการเผยแพร่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง
ท่ีสืบคน้ ได้
30
(๓) หลกั สูตรปรญิ ญาเอก
(ก) สอบผ่านการสอบวดั คณุ สมบัติ (Qualifying Examination)
(ข) แบบ ๑ นำเสนอวิทยานิพนธ์และสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้าย โดย
คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ และผลงานวิทยานิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ ต้องได้รับการตีพิมพ์
หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศ
คณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงาน
ทางวชิ าการ อยา่ งนอ้ ย ๒ เร่ือง
(ค) แบบ ๒ ศึกษารายวิชาครบถ้วนตามที่กำหนดในหลักสูตร โดยได้ระดับคะแนนเฉล่ีย
สะสมไม่ต่ำกว่า ๓.๐๐ จากระบบ ๔ ระดับคะแนนหรือเทียบเท่า พร้อมทั้งนำเสนอวิทยานิพนธ์และสอบผ่าน
การสอบปากเปลา่ ข้นั สุดทา้ ย โดยคณะกรรมการสอบวทิ ยานพิ นธ์
ผลงานวิทยานิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์หรืออย่างน้อย
ได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศคณะกรรมการ
การอุดมศกึ ษา เร่ือง หลกั เกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวชิ าการสำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ในกรณีที่เป็นวิทยานิพนธ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์ อาจถือการได้รับการจดทะเบียน
สิทธิบตั รหรอื อนุสทิ ธบิ ัตร แทนการตพี ิมพ์ในวารสารทางวิชาการได้
ขอ้ ๓๕ วนั สำเรจ็ การศกึ ษาและการขออนุมัตปิ รญิ ญาให้เปน็ ไปตามประกาศของสถาบนั
ข้อ ๓๖ สภาสถาบันอาจพิจารณาเพิกถอนปริญญาหรือประกาศนียบัตรซึ่งได้อนุมัติแก่ผู้สำเร็จ
การศึกษาผู้หน่ึงผ้ใู ดไปแลว้ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดบั สถาบัน
ข้อ ๓๗ ให้สถาบนั จดั ระบบตรวจสอบการคัดลอกผลงาน หรือการซำ้ ซอ้ นกับงานของผู้อ่ืนหรอื การจ้าง
ทำรายงานวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ หากพบว่ามีการคัดลอก การซ้ำซ้อนกับงานของผู้อื่น หรือ
มีการจ้างทำรายงานวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระ ให้สถาบันพิจารณาถอดถอนรายงานวิทยานิพนธ์หรือ
การค้นคว้าอสิ ระชนิ้ นัน้
ข้อ ๓๘ คณะกรรมการบัณฑิตศึกษาระดับสถาบัน สามารถออกแนวทางปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ
ให้สอดคล้องกับนโยบายของสถาบัน กฎหมาย และระเบียบแบบแผน ของทางราชการ โดยไม่ขัดหรือแย้งกับ
ข้อบังคบั น้ี
ข้อ ๓๙ การประกันคุณภาพของหลักสูตร ให้ทุกหลักสูตรกำหนดระบบการประกันคุณภาพ
ของหลกั สูตร ใหเ้ ปน็ ไปตามระบบการประกนั คณุ ภาพหลกั สตู รของสถาบนั
31
บทเฉพาะกาล
ขอ้ ๔๐ ในระยะเร่ิมแรก ให้อธิการบดโี ดยความเห็นชอบของสภาวชิ าการแตง่ ตง้ั ผู้ทรงคุณวุฒภิ ายนอก
ท่ีมีความเชี่ยวชาญด้านการจดั การศกึ ษาระดบั บัณฑิตศึกษาและสาขาวิชาท่เี กี่ยวขอ้ งอย่างนอ้ ยสามคนแต่ไม่เกิน
ห้าคน เป็นกรรมการตามข้อ ๕ (๑) และ (๒) ทงั้ นี้ ใหด้ ำรงตำแหน่งไดเ้ พยี งวาระเดียว
ประกาศ ณ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
(ลงชื่อ) เกยี รติภูมิ วงศร์ จิต
(นายเกยี รติภูมิ วงศร์ จติ )
ปลดั กระทรวงสาธารณสขุ
นายกสภาสถาบนั พระบรมราชชนก
32
ข้อบังคบั สถาบันพระบรมราชชนก ว่าด้วยการจัดการศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี
ของสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๖๔
ตามทส่ี ถาบนั พระบรมราชชนก ได้ปรับเปล่ยี นสถานะเป็นสถาบนั อดุ มศกึ ษาเฉพาะทางสังกดั กระทรวง
สาธารณสุข จึงเห็นสมควรจัดทำข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนก ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี
ของสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๔ เพอื่ ใหก้ ารจดั การศึกษาของสถาบันพระบรมราชชนก
มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันของการศึกษาที่มีการเปลี่ยนแปลง มุ่งเน้น
ยกระดับการศกึ ษาของสถาบันพระบรมราชชนกใหเ้ ปน็ ท่ยี อมรับมากยง่ิ ขึ้น
อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๑๙ (๒) ประกอบกับ
มติสภาสถาบันพระบรมราชชนก ในคราวประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๗ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓
จึงออกขอ้ บังคับ ไวด้ งั น้ี
หมวด ๑
บททั่วไป
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนก ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี
ของสถาบนั พระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ขอ้ บงั คับน้ีใชบ้ งั คบั ตง้ั แตบ่ ดั นี้เป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ในข้อบังคบั น้ี
“สถาบนั ” หมายความวา่ สถาบนั พระบรมราชชนก
“สภาสถาบัน” หมายความว่า สภาสถาบนั พระบรมราชชนก
“สภาวชิ าการ” หมายความว่า สภาวชิ าการสถาบนั พระบรมราชชนก
“ส่วนราชการ” หมายความว่า สำนักงานอธิการบดี คณะ สำนัก และส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น
ที่มฐี านะเทยี บเท่าคณะ และใหห้ มายความรวมถงึ วทิ ยาลัยทเี่ ป็นส่วนราชการในสังกัดคณะดว้ ย
“คณะ” หมายความว่า ส่วนราชการที่มีหน้าที่หลักในการผลิตบัณฑิต การจัดการเรียนการสอน
การวจิ ยั การให้บรกิ ารทางวชิ าการ และทะนบุ ำรงุ ศิลปะและวฒั นธรรม
“วิทยาลัย” หมายความว่า ส่วนราชการในสังกัดคณะ มีหน้าที่จัดการเรียนการสอน การวิจัย
การให้บรกิ ารทางวิชาการ และทะนุบำรุงศลิ ปะและวัฒนธรรม
“อธกิ ารบดี” หมายความว่า อธกิ ารบดสี ถาบนั พระบรมราชชนก
33
“คณบดี” หมายความวา่ คณบดีในสถาบันพระบรมราชชนก
“คณะกรรมการประจำคณะ” หมายความวา่ คณะกรรมการประจำคณะในสถาบนั พระบรมราชชนก
“ผู้อํานวยการวิทยาลัย” หมายความว่า ผู้อํานวยการวิทยาลัยในสถาบันพระบรมราชชนก
“การจัดการศึกษา” หมายความว่า การบริหารจัดการการเรียนการสอนในสถาบันพระบรมราชชนก
ท่คี รอบคลมุ ตั้งแต่หมวดท่ี ๑ ถงึ หมวดที่ ๕ และ บทเฉพาะกาล ตามท่กี ำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
“อาจารย์ประจำ” หมายความว่า บุคคลที่ดำรงตำแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์
และศาสตราจารย์ ในวทิ ยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรนั้น ที่มหี นา้ ทรี่ ับผดิ ชอบตามพันธกิจของสถาบันพระบรมราชชนก
และปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา หรือบุคคลท่ีดำรงตำแหน่งด้านการสอนในสถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัด
กระทรวงสาธารณสุข ก่อนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครู
และบุคลากรทางการศึกษา
“อาจารย์ประจำหลักสูตร” หมายความว่า อาจารย์ประจำที่มีคุณวุฒิตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิ ชา
ของหลักสตู รที่เปิดสอน ซ่ึงมหี น้าท่ีสอนและค้นคว้าวจิ ยั ในสาขาวิชาดงั กลา่ ว ท้ังนี้ สามารถเป็นอาจารย์ประจำ
หลักสูตรหลายหลักสูตรได้ในเวลาเดียวกัน แต่ต้องเป็นหลักสูตรที่อาจารย์ผู้นั้นมีคุณวุฒิตรงหรือสัมพันธ์
กบั สาขาวชิ าของหลักสตู ร ทั้งนี้ ใหม้ ีคณุ สมบัติเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศกึ ษา
“อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร” หมายความวา่ อาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีภาระหนา้ ท่ีในการบริหาร
และพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนตั้งแต่การวางแผน การควบคุมคุณภาพ การติดตามประเมินผล
และการพัฒนาหลักสูตร อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต้องอยู่ประจำหลักสูตรนั้นตลอดระยะเวลา
ที่จัดการศึกษา โดยจะเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเกินกว่าหนึ่งหลักสูตรในเวลาเดียวกันไม่ได้ ยกเว้น
พหุวทิ ยาการหรือสหวิทยาการให้เป็นอาจารย์ผู้รบั ผิดชอบหลักสูตรได้อีกหน่งึ หลกั สูตร และอาจารย์ผู้รับผิดชอบ
หลกั สูตรสามารถซ้ำไดไ้ มเ่ กนิ สองคน
“นักศึกษา” หมายความว่า นักศึกษาที่ศึกษาระดับปริญญาตรีในหลักสูตรต่าง ๆ ของคณะในสังกัด
สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ
ข้อ ๔ ผู้อำนวยการวิทยาลัยโดยคำแนะนำของคณะกรรมการบริหารวิทยาลัยมีอำนาจออกแนวทาง
ปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของคณะและสถาบัน กฎหมาย และระเบียบแบบแผน
ของทางราชการ โดยไมข่ ัดหรอื แยง้ กับขอ้ บังคับนี้
ข้อ ๕ ให้อธิการบดีมีอำนาจออกประกาศ ระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติให้เป็นไป
ตามขอ้ บังคับนี้
ข้อ ๖ ให้อธิการบดีเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้ และมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาเกี่ยวกับ
การปฏิบตั ติ ามข้อบงั คับน้ี
34
หมวด ๒
คณะกรรมการ
ขอ้ ๗ คณะมหี น้าที่หลักในการผลิตบัณฑติ การจดั การเรียนการสอน การวจิ ัย การใหบ้ รกิ ารทางวิชาการ
และทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม โดยคณะกรรมการประจำคณะตามข้อบังคับสถาบันพระบรมราชชนก
ว่าด้วย คณะกรรมการประจำคณะ พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๘ ให้มีคณะกรรมการระดับวิทยาลัย ทำหน้าที่ในการบริหารการจัดการศึกษาของวิทยาลัย
ในสังกดั สถาบันพระบรมราชชนก ประกอบดว้ ย
(๑) คณะกรรมการบริหารวิทยาลัย เสนอต่อคณบดี โดยความเห็นชอบจากผู้อำนวยการ
วทิ ยาลัย เพอ่ื แตง่ ตงั้ ประกอบดว้ ย
(ก) ผู้อำนวยการวทิ ยาลยั เปน็ ประธานคณะกรรมการ
(ข) กรรมการโดยคัดเลือกจากผู้มีตำแหน่งทางการบริหารในวิทยาลัย ได้แก่ รองผู้อำนวยการ
วทิ ยาลยั ประธานหลกั สตู ร หวั หน้าสาขาวชิ า และหัวหนา้ ฝา่ ยหรอื หัวหนา้ งานตามหลักเกณฑท์ ีว่ ิทยาลยั กำหนด
ไม่เกินสิบหา้ คน
(ค) กรรมการที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข พนักงาน
สถาบันพระบรมราชชนก และลกู จ้างของวิทยาลัยที่ปฏิบัตหิ น้าที่เป็นอาจารย์ประจำ ตามหลักเกณฑ์ท่ีวิทยาลัย
กำหนดไม่เกนิ สามคน โดยมาจากกระบวนการสรรหาทอี่ าจารยข์ องวทิ ยาลยั มสี ว่ นรว่ ม
(ง) กรรมการที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข พนักงาน
สถาบันพระบรมราชชนก และลูกจ้างของวิทยาลัยที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรสายสนับสนุน ตามจำนวน
ทวี่ ทิ ยาลยั กำหนด โดยมาจากกระบวนการสรรหาทบ่ี คุ ลากรสายสนบั สนนุ ของวทิ ยาลยั มสี ว่ นร่วม
โดยให้ประธานกรรมการแต่งต้ังกรรมการเป็นเลขานุการ และผชู้ ่วยเลขานุการ ตำแหน่งละหนึ่งคน
(๒) คณะกรรมการบริหารหลักสูตร เสนอต่อคณบดี โดยความเห็นชอบจากผู้อำนวยการ
วทิ ยาลัยเพื่อแตง่ ต้ัง ประกอบด้วย
(ก) รองผอู้ ำนวยการวทิ ยาลัยท่ีรับผดิ ชอบการจัดการศึกษา เปน็ ประธานคณะกรรมการ
(ข) ประธานหลกั สตู ร หวั หนา้ สาขาวิชา หวั หน้าภาควิชาหรอื ตำแหน่งเทียบเทา่ เปน็ กรรมการ
(ค) หัวหนา้ งานที่รับผดิ ชอบการวดั และประเมินผล เปน็ กรรมการ
(ง) อาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบหลกั สูตร เป็นกรรมการ
(จ) อ่นื ๆ ตามทว่ี ทิ ยาลยั กำหนด
โดยใหป้ ระธานกรรมการแต่งตัง้ กรรมการเปน็ เลขานุการ และผชู้ ว่ ยเลขานุการ ตำแหนง่ ละหนึ่งคน
ขอ้ ๙ คณะกรรมการ ตามข้อ ๘ มีหนา้ ท่ี ดงั นี้
(๑) คณะกรรมการบริหารวทิ ยาลัย มีหน้าที่
(ก) ให้คำแนะนำหรือความเห็นต่อผู้อำนวยการวิทยาลัยเกี่ยวกับนโยบายในการดำเนินงาน
ตามพนั ธกิจของวิทยาลัย และนโยบายอื่น ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง
35
(ข) ให้คำแนะนำหรือความเห็นต่อผู้อำนวยการวิทยาลัยในการออกระเบียบ ข้อบังคับ
หลักเกณฑ์ หรือแนวทางปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบาย กฎหมาย และระเบียบแบบแผน
ของทางราชการ
(ค) จัดทำแผนกลยุทธ์ แผนการดำเนินงาน และแผนปฏิบัติงานประจำปี รวมทั้งคำขอ
งบประมาณของวิทยาลัย เสนอคณะกรรมการประจำคณะ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และกำกับติดตาม
การดำเนนิ งานตามทีก่ ำหนด
(ง) ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการปฏิบัติในการบริหารงานบุคคล
และสง่ เสรมิ สนับสนนุ การบรหิ ารงานบคุ คลอยา่ งมีธรรมาภิบาล
(จ) สนับสนุน และกำกบั ติดตามการประกันคุณภาพการศกึ ษาของวิทยาลยั
(ฉ) ให้ความเหน็ ชอบในการตัดสนิ การประเมนิ ผลการศึกษาตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับน้ี
(ช) เสนอรายชื่อผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะสำเร็จการศึกษา ต่อคณะกรรมการประจำคณะ
เพ่อื พจิ ารณากล่นั กรองการสำเรจ็ การศึกษาตามที่หลกั สูตรกำหนด
(ซ) หน้าที่อื่น ๆ ตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ หรือตามที่วิทยาลัย ขอคำแนะนำ หรือ
ความคดิ เหน็
(๒) คณะกรรมการบริหารหลักสูตร มหี นา้ ที่
(ก) วางแผนการบรหิ ารหลกั สตู ร
(ข) ควบคุม กำกับ ติดตามการดำเนินงานตามแผนของหลักสูตร ให้เป็นไปตามการประกัน
คณุ ภาพการศึกษาภายในระดับหลกั สตู ร
(ค) ตดิ ตามผลการใช้หลกั สูตรและนำผลการประเมนิ มาพฒั นาหลักสูตร และการเรยี นการสอน
(ง) อื่น ๆ ตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย
ขอ้ ๑๐ คณะกรรมการตามข้อ ๘ มวี าระ ดังน้ี
(๑) คณะกรรมการบริหารวิทยาลัย มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี ทั้งนี้หากผู้อำนวยการ
วิทยาลยั พ้นจากตำแหน่ง ให้คณะกรรมการบริหารวิทยาลัยพ้นจากตำแหน่งด้วย
(๒) คณะกรรมการบริหารหลักสูตร มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละห้าปี ตามวงรอบการปรับปรุง
หลักสูตร ท้ังน้ี หากมีการปรบั ปรุงหลกั สูตรอาจพจิ ารณาแต่งตง้ั คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรชดุ ใหม่ได้
ข้อ ๑๑ นอกจากพ้นตำแหน่งตามวาระ คณะกรรมการตามขอ้ ๘ พ้นจากตำแหนง่ เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) พ้นจากตำแหน่งในหนา้ ทที่ ีต่ นดำรงตำแหน่งตามข้อ ๘
(๔) เปน็ บคุ คลลม้ ละลาย
(๕) เปน็ บุคคลไร้ความสามารถหรือคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ
(๖) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษที่เป็นความผิดที่กระทำ
โดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
36
ข้อ ๑๒ ในกรณีที่กรรมการพ้นตำแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการในระหว่าง
ที่กรรมการซึ่งแต่งต้ังไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหนง่ ไม่วา่ จะเป็นการแต่งตัง้ เพิม่ ขึ้นหรือแต่งตั้งซ่อม ให้ผู้ที่ได้รบั
แต่งต้งั น้ัน อยใู่ นตำแหนง่ เทา่ กับวาระทเี่ หลืออยู่ของกรรมการที่ได้รับแต่งตัง้ ไว้แล้วน้นั
ข้อ ๑๓ การประชุมของคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน
กรรมการทั้งหมด จึงเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้สำหรับ
การประชุมของคณะกรรมการบริหารวิทยาลัย ให้มอบหมายรองผู้อำนวยการวิทยาลัยผู้ใดผู้หนึ่งทำหน้าที่
เป็นประธานในที่ประชุม และคณะกรรมการบริหารหลักสูตรให้กรรมการในที่ประชุมเลือกกรรมการคนหน่ึง
เปน็ ประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุม ให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งเสียง
ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเท่ากันใหป้ ระธานในทปี่ ระชมุ ออกเสียงเพิม่ ขึ้นอีกหนึ่งเสยี งเปน็ เสียงช้ขี าด
หมวด ๓
ระบบการศกึ ษา
ขอ้ ๑๔ ระบบการศึกษา
(๑) ระบบการจัดการศึกษา ใช้ระบบทวิภาค โดย ๑ ปีการศึกษาแบ่งออกเป็น ๒ ภาคการศึกษาปกติ
ซึ่ง ๑ ภาคการศึกษาปกติ มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๕ สัปดาห์ หรืออาจมีการศึกษาภาคฤดูร้อน สำหรับ
การศึกษาภาคฤดูร้อนให้กำหนดระยะเวลาการศึกษาและจำนวนหน่วยกิตโดยมีสัดส่วนเทียบเคียงกันได้กับ
ภาคการศึกษาปกติ
(๒) หลักเกณฑ์การกำหนดหนว่ ยกิตแต่ละรายวิชา มีดงั น้ี
(ก) วิชาภาคทฤษฎีที่ใช้บรรยายหรืออภิปรายปัญหา ไม่น้อยกว่า ๑๕ ชั่วโมงต่อ
ภาคการศกึ ษาปกติ มคี ่าเทา่ กบั ๑ หนว่ ยกิต
(ข) รายวิชาภาคปฏิบัติที่ใช้เวลาฝึกปฏิบัติหรือทดลองไม่น้อยกว่า ๓๐ ชั่วโมงต่อ
ภาคการศึกษาปกติ มคี ่าเทา่ กับ ๑ หนว่ ยกติ
(ค) การฝึกงานหรือการฝึกภาคสนามทใี่ ชเ้ วลาฝึกไมน่ ้อยกวา่ ๔๕ ช่วั โมงต่อภาคการศึกษา
ปกติ มคี า่ เทา่ กับ ๑ หน่วยกิต
(ง) การทำโครงงานหรือกิจกรรมการเรียนอื่นใดตามที่ได้รับมอบหมายที่ใช้เวลาทำ
โครงงานหรือกจิ กรรมน้นั ๆ ไมน่ ้อยกวา่ ๔๕ ชัว่ โมงต่อภาคการศกึ ษาปกติ มคี า่ เทา่ กบั ๑ หนว่ ยกติ
(จ) จำนวนหน่วยกิตและระยะเวลาการศึกษา
๑) หลักสูตรปริญญาตรี (๔ ปี) ให้มีจำนวนหน่วยกิตรวม ไม่น้อยกว่า ๑๒๐ หน่วยกิต
หรือตามเกณฑ์ที่สภาวิชาชีพกำหนด ใช้เวลาการศึกษาไม่เกิน ๘ ปีการศึกษา สำหรับการลงทะเบียนเรียนเต็มเวลา
และไมเ่ กนิ ๑๒ ปกี ารศึกษา สำหรบั การลงทะเบยี นเรียนไม่เต็มเวลา
37
๒) หลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) ให้มีจำนวนหน่วยกิตรวมไม่นอ้ ยกว่า ๗๒ หน่วยกิต
หรือตามเกณฑ์ที่สภาวิชาชีพกำหนด ใช้เวลาการศึกษาไม่เกิน ๔ ปีการศึกษา สำหรับการลงทะเบียนเรียน
เตม็ เวลา และไมเ่ กิน ๖ ปกี ารศึกษา สำหรับการลงทะเบยี นเรียนไม่เต็มเวลา
ทั้งนี้ ให้นับเวลาการศึกษาจากวันที่เปิดภาคการศึกษาแรก ที่ลงทะเบียนเข้าศึกษา
ในหลักสตู รนน้ั
ข้อ ๑๕ การรับสมคั รบุคคลเขา้ ศกึ ษาทกุ หลักสตู ร ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของสถาบัน
ขอ้ ๑๖ คณุ สมบตั ผิ ูเ้ ข้าศึกษา
(๑) จะต้องเป็นผทู้ ่ีสำเรจ็ การศกึ ษาระดบั มัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทยี บเท่า
(๒) เป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ มีบุคลิกภาพที่เหมาะสม ไม่มีความพิการ
หรอื ผิดปกติทางด้านรา่ งกายและจติ ใจ อันเป็นอปุ สรรคตอ่ การศกึ ษา และการประกอบวชิ าชพี
(๓) เป็นผู้ท่มี ีคณุ สมบตั ิอน่ื ตามเกณฑค์ ณุ สมบตั ิผู้เข้าศึกษาทกี่ ำหนดไวใ้ นหลักสตู ร หรอื ตามประกาศ
ของสถาบนั
ข้อ ๑๗ การลงทะเบียน ดังนี้
(๑) การลงทะเบียนเรียนเต็มเวลาให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่น้อยกว่า ๙ หน่วยกิต และไม่เกิน
๒๒ หน่วยกิต ในแต่ละภาคการศึกษาปกติ สำหรับการลงทะเบียนเรียนภาคฤดูร้อน ให้ลงทะเบียนเรียนได้
ไม่เกนิ ๙ หน่วยกิต
ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็น การลงทะเบียนเรียนที่มีจำนวนหน่วยกิตแตกต่างไป
จากเกณฑ์ข้างต้นก็อาจทำได้ แต่ต้องไม่กระทบกระเทือนต่อมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา ทั้งนี้ต้องเรียน
ให้ครบตามจำนวนหนว่ ยกติ ที่ระบุไว้ในหลกั สูตร โดยไดร้ ับอนมุ ตั จิ ากคณบดีผ่านความเห็นชอบของผู้อำนวยการ
วิทยาลัย
(๒) การลงทะเบียนเรียน จะสำเรจ็ การศึกษาได้ ดงั นี้
หลักสูตรปริญญาตรี (๔ ปี) สำเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน ๖ ภาคการศึกษาปกติ สำหรับ
การลงทะเบียนเรยี นเตม็ เวลา และไม่กอ่ น ๑๔ ภาคการศึกษาปกติ สำหรับการลงทะเบียนเรยี นไม่เตม็ เวลา
หลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) สำเร็จการศึกษาได้ไม่ก่อน ๔ ภาคการศึกษาปกติ สำหรับ
การลงทะเบยี นเรียนเต็มเวลา และไมก่ ่อน ๘ ภาคการศกึ ษาปกติ สำหรบั การลงทะเบียนเรียนไม่เตม็ เวลา
(๓) การลงทะเบียนเรียนรายวิชา ในกรณีที่ไม่ขอรับผลการประเมินเป็นลำดับขั้น ให้กระทำ
โดยการยื่นคำร้องต่อวิทยาลัยในหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการลงทะเบียน พร้อมทั้งได้รับการอนุมัติจาก
ผอู้ ำนวยการวทิ ยาลัย โดยผ่านความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ทง้ั น้ี จำนวนหน่วยกิตท้ังหมด
จะตอ้ งไมเ่ กนิ จำนวนที่ระบุไว้ในข้อ (๑)
(๔) การลงทะเบียนและการชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา อัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียม
การศึกษา ให้เปน็ ไปตามทีส่ ถาบนั กำหนด
38
ขอ้ ๑๘ ระบบการประเมนิ ผลการศึกษา
(๑) นักศึกษาจะเข้าสอบในรายวิชาใดต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน
ทั้งหมดของรายวชิ านัน้ ในกรณีทน่ี ักศกึ ษามีเวลาเรียนต่ำกวา่ น้ี ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของคณะกรรมการบริหารวิทยาลัย
(๒) ระบบการให้คะแนนของแต่ละรายวชิ า ให้ใช้ระบบตัวอักษร (Letter Grade) แสดงระดบั
คะแนน (Grade) ซึ่งมคี วามหมายและค่าระดบั คะแนน ดังน้ี
ความหมาย คา่ ระดบั คะแนน
A ดเี ยย่ี ม (Excellent) ๔.๐๐
B+ ดมี าก (Very Good) ๓.๕๐
B ดี (Good) ๓.๐๐
C+ ค่อนข้างดี (Fairy Good) ๒.๕๐
C พอใช้ (Fair) ๒.๐๐
D+ อ่อน (Poor) ๑.๕๐
D ออ่ นมาก (Very Poor) ๑.๐๐
F ตก (Fail) ๐
S พงึ พอใจ (Satisfactory) -
U ไมพ่ ึงพอใจ (Unsatisfactory) -
I ยังไม่สมบูรณ์ (Incomplete) -
P การศึกษายงั ไม่สิ้นสดุ (In Progress) -
E มเี งอื่ นไข (Condition)
W การถอนรายวชิ า (Withdrawn) -
X ไมร่ ายงานผล (No Report) -
AU ร่วมฟังบรรยาย (Audit) -
NC การศึกษาโดยไมน่ ับหนว่ ยกิต
(Non-credit)
CP เทียบโอนหน่วยกิต (Credit Pass) -
(๓) การตัดสินผลการศกึ ษา มหี ลักเกณฑต์ อ่ ไปนี้
(ก) ผลการเรียนในหมวดวิชาชีพไม่ต่ำกว่าระดบั คะแนน C และในหมวดวิชาอืน่ ๆ ไม่ต่ำกว่า
ระดับคะแนน D
(ข) กรณีผลการเรียนรายวิชาไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินผล หลังสอบแก้ตัวผ่านให้ได้รับ
การพิจารณาผลการเรียนในหมวดวิชาชพี ไมส่ ูงกว่าระดับคะแนน C ในหมวดวชิ าอ่นื ๆ ไมส่ ูงกว่าระดับคะแนน D
39
(๔) การให้ระดบั คะแนน F กระทำได้ในกรณีต่อไปน้ี
(ก) เข้าสอบและไดผ้ ลการสอบและหรือมีผลงานทีป่ ระเมนิ ผลว่าไมผ่ ่านเกณฑ์
(ข) ขาดสอบโดยไม่มีเหตุผลอนั ควรและไม่ได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการวิทยาลัยหรือผู้ที่
ได้รับมอบหมาย
(ค) ทำผิดระเบียบการสอบและคณะกรรมการบริหารวิทยาลยั หรอื คณะกรรมการอนื่ ท่ีได้รับ
มอบหมายตัดสินให้ตก
(ง) เปลี่ยนจากระดับคะแนน I หรือ E เป็นระดับคะแนนไม่ได้ภายใน ๔ สัปดาห์หลังสิ้นสุด
ภาคการศกึ ษานัน้
(จ) กรณที ี่ไดร้ ะดบั คะแนน E สอบแกต้ วั ๒ คร้งั แลว้ ไม่ผา่ น
(๕) การให้ระดับคะแนน S และ U ใช้เฉพาะบางรายวิชาที่กำหนดไว้ในรายละเอียด
ของหลักสตู รและประเมนิ ผลดว้ ยอกั ษร S และ U ไม่มกี ารประเมินผลเปน็ คา่ ระดบั คะแนน
(๖) การใหร้ ะดับคะแนน I กระทำไดใ้ นกรณีตอ่ ไปนี้
(ก) ปว่ ยจนไม่สามารถเขา้ สอบได้ และได้ปฏบิ ัติตามข้อ ๒๘ และ ขอ้ ๒๙ ในขอ้ บังคบั น้ี
(ข) ขาดสอบโดยเหตุสุดวสิ ัย ซึ่งมหี ลักฐานที่เชื่อถือได้ และได้รบั อนญุ าตจากผู้อำนวยการ
วิทยาลยั หรือผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย
(ค) ทำงานหรือปฏิบัติงานที่เป็นส่วนประกอบของการศึกษายังไม่สมบูรณ์ และอาจารย์
ผู้สอนเห็นสมควรให้รอผลการศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารวิทยาลยั หรือคณะกรรมการ
อื่นทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
(ง) การให้ระดับคะแนน I ต้องได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ผู้สอนและการอนุมัติ
จากผู้อำนวยการวิทยาลัย นักศึกษาจะต้องดำเนินการขอรับการวัดและประเมินผลเพื่อแก้ระดับคะแนน I
ให้สมบูรณ์ภายใน ๔ สัปดาห์ หลังสิ้นสุดภาคการศึกษานั้น หากพ้นกำหนดดังกล่าว วิทยาลัยจะเปลี่ยนอักษร I
เปน็ ระดับคะแนน F หรือ U
(๗) การให้ระดับคะแนน P กระทำได้กรณีที่รายวิชานั้นยังมีการเรียนการสอนต่อเนื่องอยู่
และไม่มีการวัดและประเมินผลภายในภาคการศึกษาที่ลงทะเบียน ทั้งนี้ให้ใช้เฉพาะบางรายวิชาที่กำหนดไว้
ในรายละเอียดของหลักสูตร อักษร P จะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อมีการวัดและประเมินผล ภายในระยะเวลาไม่เกิน
วันสุดท้ายของการสอบปลายภาคของปีการศึกษาถัดไป หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว วิทยาลัยจะเปล่ยี น
อกั ษร P เปน็ ระดบั ข้ัน F หรืออักษร U
(๘) การให้ระดับคะแนน E กระทำได้ในกรณตี ่อไปน้ี
(ก) ผลการสอบของแต่ละรายวิชาท่ีคณะกรรมการบริหารวิทยาลัยหรือคณะกรรมการอ่นื
ที่ได้รบั มอบหมาย พิจารณาเหน็ วา่ ยงั ไม่สมควรให้ตก ควรใหโ้ อกาสแก้ตวั
(ข) การเปลยี่ นระดบั คะแนน E สามารถสอบแก้ตวั ได้ ๒ คร้งั และเปลยี่ นระดับคะแนนได้
ไม่เกินระดับคะแนน C ในหมวดวิชาชีพและไม่เกินระดับคะแนน D ในหมวดวิชาอ่ืน ๆ ทั้งนี้จะต้องกระทำ
ให้เสรจ็ สนิ้ ภายใน ๔ สปั ดาห์ หลังสนิ้ สุดภาคการศึกษานนั้
40
(๙) การให้ระดับคะแนน W กระทำได้กรณีตอ่ ไปนี้
(ก) นกั ศึกษาได้ถอนรายวชิ าทลี่ งทะเบยี นตามเง่ือนไขการลงทะเบียน
(ข) นกั ศึกษาลงทะเบยี นผิดเงื่อนไขและเป็นโมฆะ
(ค) นกั ศกึ ษาถกู สง่ั พักการศึกษาในภาคการศึกษาน้ัน
(๑๐) การคำนวณคะแนนเฉลี่ย (Grade Point Average, GPA) กระทำเมื่อสิ้นสุดแต่ละ
ภาคการศึกษา โดยมวี ธิ คี ิดดังนี้
(ก) ให้เอาผลรวมทั้งหมดของผลคูณระหว่างค่าระดับคะแนนกับจำนวนหน่วยกิต
แต่ละรายวิชาที่มีการประเมินผลเป็นค่าคะแนนเป็นตัวตั้ง หารด้วยผลรวมของจำนวนหน่วยกิตในแต่ละ
ภาคการศึกษา
(ข) การคำนวณคะแนนเฉลี่ย ให้ตั้งหารถึงจุดทศนิยม ๓ ตำแหน่ง และให้ปัดเศษทศนิยม
ท่ีมีคา่ ตั้งแต่ ๕ ขึ้นไป เพ่อื ใหเ้ หลือทศนิยม ๒ ตำแหนง่
(๑๑) การคำนวณคะแนนเฉลี่ยสะสม (Cumulative Grade Point Average, CGPA) กระทำเม่ือ
เรียนจบตลอดหลักสตู รโดยมีวิธคี ดิ ดังน้ี
(ก) ให้เอาผลรวมทั้งหมดของผลคูณระหว่างค่าระดับคะแนนกับจำนวนหน่วยกิต
แต่ละรายวิชาที่มีการประเมนิ ผลเปน็ คา่ คะแนนเป็นตัวตัง้ หารด้วยจำนวนหน่วยกิตสะสม
(ข) การคำนวณคะแนนเฉลี่ยสะสม ให้ตั้งหารถึงทศนิยม ๓ ตำแหน่ง และให้ปัดเศษ
ทศนิยมทม่ี คี ่าตงั้ แต่ ๕ ขึน้ ไป เพ่อื ให้เหลอื ทศนยิ ม ๒ ตำแหน่ง
(ค) การนับจำนวนหนว่ ยกิตสะสมเพือ่ ให้ครบหลักสูตร ให้นับเฉพาะหน่วยกิตของรายวิชา
ทสี่ อบได้เท่าน้นั
(ง) กรณีที่เรียนซ้ำในรายวิชาใด ให้ใช้ระดับคะแนนที่ได้ครั้งสุดท้าย มาคำนวณคะแนน
เฉลีย่ สะสม
(จ) ระดบั คะแนน S U I P และ W จะไมน่ ำมาคำนวณคะแนนเฉลี่ยสะสม
(๑๒) การลงทะเบยี นเรยี นซำ้ รายวิชา แบง่ ได้ ๒ กรณี
(ก) กรณีได้ระดับคะแนน F ให้ลงทะเบียนเรียนใหม่ (Repeat) ได้ไม่เกิน ๑ ครั้ง
หากนักศึกษาไม่ผ่านและคะแนนเฉลี่ยรวมเกิน ๒.๐๐ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหาร
วิทยาลยั หรือคณะกรรมการอ่นื ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
(ข) กรณีปรับระดับคะแนนให้สูงขึ้น (Regrade) ให้ลงทะเบียนเรียนได้ในรายวิชา
ที่ได้คะแนนตั้งแต่ระดับคะแนน C ลงมาได้ไม่เกิน ๑ ครั้ง โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
บรหิ ารวิทยาลัย หรอื คณะกรรมการอืน่ ที่ไดร้ ับมอบหมาย
(๑๓) การเลื่อนชน้ั กระทำไดใ้ นกรณีต่อไปน้ี
(ก) ตอ้ งสอบได้ทุกวิชาในปกี ารศกึ ษาน้ัน ๆ และ
(ข) คะแนนเฉลยี่ สะสมไม่ต่ำกว่า ๒.๐๐
41
(๑๔) การทำเงือ่ นไขในการเลื่อนชั้นมหี ลักเกณฑ์ดงั ต่อไปน้ี
(ก) ผลการเรยี นบางวชิ าได้ระดับคะแนน F แต่คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกวา่ ๒.๐๐
(ข) คะแนนเฉลีย่ สะสมไมต่ ำ่ กวา่ ๑.๙๕
(ค) คะแนนเฉลี่ยสะสม ๒ ปีการศึกษา ที่อยู่ระหว่างการทำเงื่อนไขจะต้องไม่ต่ำกว่า ๒.๐๐
จึงจะเล่อื นชัน้ ได้ มฉิ ะน้นั จะต้องเรียนซ้ำชัน้ ในปที ่อี ยู่ระหว่างการทำเงือ่ นไข
(๑๕) การเรยี นซำ้ ชัน้ กระทำไดใ้ นกรณตี อ่ ไปน้ี
(ก) คะแนนเฉลย่ี สะสมตำ่ กว่า ๒.๐๐ ยกเว้นกรณที ี่ทำเง่ือนไข
(ข) การเรียนซ้ำชั้นให้เลือกเรียนซ้ำเฉพาะในรายวิชาที่ได้ระดับคะแนนต่ำกว่า B
ในหมวดวชิ าชพี และต่ำกว่าระดบั คะแนน C ในหมวดวิชาอื่น ๆ
(ค) ในการเรียนซ้ำชัน้ แตล่ ะชัน้ ปี ซ้ำช้นั ได้ไมเ่ กนิ ๑ ปกี ารศึกษา
(๑๖) การเลื่อนชั้น การทำเงื่อนไข การเรียนซ้ำชั้นและการลงทะเบียนเรียนเพื่อปรับระดับ
คะแนนต้องไดร้ ับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการบรหิ ารวทิ ยาลยั
ข้อ ๑๙ การรับโอนยา้ ยนักศึกษา ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของสถาบนั
ขอ้ ๒๐ การสำเร็จการศกึ ษา ผู้สำเร็จการศกึ ษาตอ้ งมคี ุณสมบตั ิ ดังนี้
(๑) คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ตำ่ กว่า ๒.๐๐
(๒) จำนวนปีท่เี รยี นไมเ่ กินระยะเวลาท่ีเกณฑม์ าตรฐานหลักสูตรกำหนด
(๓) สอบไดจ้ ำนวนหน่วยกิตครบตามหลกั สตู ร
(๔) ผ่านการสอบความรู้รวบยอดตามเกณฑ์การวัดและประเมินผลการศึกษาของสถาบัน
พระบรมราชชนก
(๕) ผา่ นเกณฑ์ภาษาอังกฤษ ตามประกาศของสถาบัน
(๖) ต้องชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการศกึ ษาครบตามทก่ี ำหนด
ข้อ ๒๑ การให้ปริญญาเกียรตินิยม ผู้สำเร็จการศึกษาที่จะได้รับปริญญาเกียรตินิยมต้องอยู่ในเกณฑ์
ต่อไปน้ี
(๑) เปน็ ผู้สำเร็จการศกึ ษาในหลกั สูตร ท่ไี ม่ได้เปน็ หลักสูตรต่อเนือ่ งหรือหลักสตู รเฉพาะกิจ
(๒) เป็นผมู้ ีความประพฤติดี และไม่เคยถกู ลงโทษทางวินัย
(๓) เป็นผู้ที่ไม่เคยได้ระดับคะแนน F U หรือลงทะเบียนเรียนซ้ำในรายวชิ าใดวิชาหนึ่งตลอด
หลักสตู ร และทกุ รายวิชาไม่เคยไดร้ บั ผลการเรียนตำ่ กวา่ ระดับ C
(๔) มีระยะเวลาการศึกษาไม่เกินกว่าแผนการศึกษาปกติที่หลักสูตรกำหนด ทั้งนี้ ไม่นับรวม
ภาคการศึกษาที่ได้รับอนุมัติให้ลาพักการศึกษากรณีที่ป่วย หรือถูกเกณฑ์หรือระดมเข้ารับราชการทหาร
กองประจำการ หรือได้รับทุนต่าง ๆ หรือไปศึกษารายวิชา หรือฝึกอบรมจากสถาบันอุดมศึกษาอื่น ซึ่งคณะ
พจิ ารณาเหน็ ว่าเปน็ ประโยชนก์ บั นักศึกษา หรอื ความจำเป็นอื่น ๆ ทคี่ ณะกรรมการประจำคณะเห็นชอบ
42