12. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมแสดงการวิเคราะห์การเป็นผู้ประกอบการ เพ่ือให้มองเห็นถึงข้อเสียท่ี
ควรปรับปรุง และพัฒนาข้อดใี ห้เพมิ่ ขน้ึ ในการพฒั นาตนเอง
13. ผู้สอนและผ้เู รยี นแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ร่วมกนั
14. ผู้สอนใช้ส่ือ Power Point บรรยายความรู้เรือ่ ง หน้าทข่ี องผปู้ ระกอบการในการดาเนนิ ธุรกิจ
แนวทางการนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการทาธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ พร้อมใช้สื่อ
“VDO จริยธรรมทางธุรกิจ” ประกอบการบรรยาย
15. ผู้เรียนบันทึกความรู้เร่ือง หน้าท่ีของผู้ประกอบการในการดาเนินธุรกิจ แนวทางการนา
ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการทาธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ
16. ผูส้ อนส่มุ เรียกผู้เรียน ถาม-ตอบเกี่ยวกบั จริยธรรมทางธุรกิจของผ้ปู ระกอบการ
17. ผู้เรยี นสามารถตอบได้อยา่ งถูกต้องชดั เจน
18. ผสู้ อนและผู้เรียนสรปุ แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ รว่ มกนั
ข้ันสรปุ และการประยุกต์
19. สรปุ การเป็นผู้ประกอบการ โดยทากิจกรรมฝกึ ทักษะเพอ่ื การเรียนรู้ และทากิจกรรมใบงาน
20. ผู้สอนมอบหมายงานให้ผู้เรียนทาแบบฝึกหัดท่ี 3 เพ่ือทบทวนความรู้ และทาใบงานท่ี 3 เพ่ือ
นาส่งครั้งต่อไป
สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 2. สือ่ Power Point
1. หนังสือเรยี น วชิ า ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ 4. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
3. สื่อ VDO
หลักฐาน 2. ใบเช็ครายชอ่ื
1. บนั ทกึ การสอน 4. การตรวจประเมนิ ผลงาน
3. แผนจดั การเรียนรู้
การวัดผลและการประเมินผล
วิธีวัดผล
1. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
4. การสงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ
ประสงค์
เครอ่ื งมอื วดั ผล
1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมนิ คุณธรรมจรยิ ธรรมค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยผู้สอนและนักเรยี น
รว่ มกันประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรับปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ข้นึ ไป)
3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ขนึ้ ไป)
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยกู่ ับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย
แนะนาให้ศึกษาข้อมลู เกี่ยวกับธรุ กิจประเภทต่างๆ เพอื่ นามาวางแผนการทาธุรกิจและการเป็น
ผู้ประกอบการ และมอบหมายให้ผู้เรียนทาแบบฝึกหัดที่ 3 เพ่ือทบทวนความรู้ และทาใบงานที่ 3 เพื่อ
นาส่งครัง้ ต่อไป
ใบงานท่ี 3.3
เร่ือง ธรุ กิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ โดยประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หัวข้อ : ผูป้ ระกอบการ
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นสืบคน้ หาขอ้ มูลผ้ปู ระกอบการทปี่ ระสบความสาเร็จแล้วดาเนนิ การดงั นี้
ตดิ ภาพผปู้ ระกอบการ
1. ชื่อ-สกลุ ผูป้ ระกอบการ……….……………………………………………………….................………………........……………………………………………
2. ชอ่ื กจิ การ/ธรุ กจิ ...........………………………………………………………………………............……...........………………………………………………….
3. ธรุ กิจทีด่ าเนนิ การเก่ียวกับ………………………..…………………………………………........................……………………………………………………
4. ทต่ี ้ังกิจการ...........……………………….…………………………………………………..........………………..............……………………………………………
5. ประวัติผ้ปู ระกอบการพอ
สงั เขป….………………………………………………………………………………......................................................................……………………………
.…………….………………………………………………………………………………………………………………..................................………….………………….………
…………….………………………………………………………………………………………………………..................................……..……………………………….………
6. ในการดาเนินธรุ กจิ เขาเคยประสบอุปสรรคหรือไม่ และมวี ธิ กี ารแก้ปญั หาอย่างไร
…………………....………………………….………………………………………………………………………………………………………………………………….………………
.…….…………………………………………………………………………………………………………........................................................................…………………
……………….……………….…….………………………………………………………………....................................……………………………………………………………
7. ผู้ประกอบการทผี่ เู้ รยี นศกึ ษา ประสบความสาเร็จดว้ ยคุณสมบตั ใิ ดบา้ ง………...........…………………………………………
.…………….……………………………………………………………………………………………………………….……….………………………….…
…….……………………………………………………………………………………………………………………….……………...………………....……
8. สง่ิ สาคญั ในการดาเนินธรุ กจิ และให้ธรุ กจิ อยรู่ อดและเติบโตคืออะไรบา้ ง
.................................................…………….………………………………………………….…………………………………………………………
…………………………………….…………………………………………………………………………………..…….........………………………………
…………………………………….…………………………………………………………………………………..…….........………………………………
ใบงานที่ 3.4
เรือ่ ง ธรุ กจิ และการเป็นผูป้ ระกอบการ โดยประยกุ ต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
หวั ข้อ : ผปู้ ระกอบการ
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะห์และตอบคาถามกรณตี วั อยา่ ง เรอื่ ง ใครคือนักธุรกิจท่ีจะประสบความสาเรจ็
นายขา้ วตัง สนใจที่จะลงทุนทาธรุ กิจคาร์แคร์ในชุมชนที่เขาอาศัยอยแู่ ต่หลังจากที่คิดอย่หู ลาย
ครั้งเขาสรุปว่าความคิดน้ีคงไม่ประสบความสาเร็จ ชาวบ้านในชุมชนคงไม่มาใช้บริการเพราะชาวบ้าน
อาจคดิ วา่ การใช้บริการคารแ์ ครต์ อ้ งเสยี เวลาในการรอ ล้างรถไม่สะอาด ราคาแพง เป็นตน้
นายข้าวตู สนใจที่จะทาธุรกจิ คารแ์ คร์ในชมุ ชนท่เี ขาอาศัยอยู่ เขาคดิ ว่าคาร์แครข์ องเขาจะตอ้ ง
ให้บริการแก่ลูกค้าอย่างดีท่ีสุด ดังน้ันนายข้าวตูจงึ เริ่มออกไปพบปะพูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อสร้างความ
มน่ั ใจ ให้กับชาวบ้านก่อนท่ีจะเร่ิมให้บริการในเรื่องความสะอาดในการล้างรถ ราคาเป็นกันเอง และ
ความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการจนสามารถทาให้ชาวบ้านหลายราย ในชุมชนนั้นให้ความสนใจ
และตกปากรับคาท่จี ะมาใช้บริการ
คาถาม
1. นายขา้ วตงั และนายขา้ วตู มลี กั ษณะนิสยั อยา่ งไร
- ลกั ษณะนสิ ัยนายข้าวตัง
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
- ลักษณะนิสยั นายข้าวตู
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
2. ระหวา่ งนายข้าวตังกบั นายข้าวตู ใครควรจะเปน็ ผทู้ จ่ี ะประสบความสาเร็จในการทาธรุ กจิ เพราะสาเหตใุ ด
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
แบบประเมินผลการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 3
เร่อื ง ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ โดยประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
*************************
คาสงั่ จงเลอื กคาตอบทถี่ ูกต้องเพียงขอ้ เดยี ว
1. ข้อใด ไม่ใช่ รปู แบบของธรุ กิจ
ก. กิจการเจ้าของคนเดียว ข. บรษิ ัทมหาชน จากัด
ค. บริษทั จากดั ง. มลู นธิ ิ
2. กิจการเจา้ ของคนเดยี วหมายถงึ ข้อใด
ก. ธรุ กิจที่เจ้าของเปน็ ผู้ลงทุนแต่เพยี งผเู้ ดียว
ข. ธุรกิจที่เจา้ ของกิจการต้องดาเนินกิจกรรมตา่ ง ๆ เพียงลาพัง
ค. ธรุ กิจที่มบี คุ คลตงั้ แต่ 2 คน ขนึ้ ไปตกลงที่จะลงทุนทาธรุ กจิ รว่ มกนั
ง. ธุรกจิ ทม่ี ีบุคคลตง้ั แต่ 3 คน ขน้ึ ไปตกลงทจ่ี ะลงทนุ ทาธรุ กิจร่วมกนั
3. ทกุ ข้อตอ่ ไปนีเ้ ปน็ ขอ้ ดีของกจิ การเจ้าของคนเดียว ยกเว้นข้อใด
ก. ได้กาไรทงั้ หมด ข. จัดตงั้ งา่ ย เลิกกิจการง่าย
ค. รับผิดชอบหนีส้ นิ ท้งั หมด ง. มีอิสระเสรภี าพในการตดั สินใจ
4. ความหมายของบริษทั จากดั คือข้อใด
ก. ธุรกจิ ทเี่ จา้ ของเป็นผูล้ งทุนแต่เพยี งผเู้ ดยี ว
ข. ธุรกิจซ่ึงตั้งข้ึนด้วยการแบง่ ทุนออกเป็นห้นุ มีมูลคา่ ห้นุ ละเทา่ ๆ กนั
ค. ธุรกิจทด่ี าเนินกจิ กรรมโดยการลงทุนร่วมกนั ของบุคคลตง้ั แต่ 2 คน ข้นึ ไป
ง. ธรุ กิจซงึ่ ตงั้ ขึน้ โดยการรวมตัวกนั ของกลมุ่ สมาชกิ เพ่ือช่วยเหลอื ซึง่ กนั และกนั
5. ความหมายของธุรกิจคือขอ้ ใด
ก. องค์การซง่ึ มหี น้าทีด่ าเนนิ งานตามความตอ้ งการของชมุ ชน
ข. กิจการทห่ี าปจั จัยการผลิตเพื่อนาเขา้ กระบวนการแปรสภาพตอ่ ไป
ค. การดาเนนิ กจิ กรรมทุกสงิ่ ทกุ อยา่ งซง่ึ มคี วามสมั พันธ์กันในองคก์ ารเพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย
ง. การดาเนินกิจกรรมท่ีเกยี่ วข้องกับการผลติ การจดั จาหน่าย และการใหบ้ ริการโดยหวงั กาไร
6. ขอ้ ใดเป็นธรุ กจิ แบบ One Stop Shopping
ก. Department Store ข. Specialty
ค. Rack Jobber ง. Grocery Shop
7. 7–eleven เป็นรา้ นค้าปลีกชนิดใด
ก. ร้านสรรพาหาร ข. รา้ นคา้ ประชันเปิด
ค. ร้านสะดวกซือ้ ง. ร้านขายสนิ ค้าเฉพาะอยา่ ง
8. ผู้ประกอบการหมายถงึ ข้อใด
ก. ผู้เป็นเจ้าของเงนิ ทนุ ข. ผบู้ ริหารกจิ การ
ค. ผทู้ ี่กอ่ ต้งั กจิ การ ง. ผู้คิดคน้ นวัตกรรม
9. บคุ คลทีจ่ ะเปน็ ผปู้ ระกอบการท่ีประสบความสาเรจ็ จะต้องมคี ณุ สมบตั ติ ามข้อใด
ก. มีวสิ ยั ทศั น์กว้างไกล ใฝ่หาความรอู้ ยู่เสมอ
ข. มคี วามตงั้ ใจจริงในการปฏิบตั งิ าน
ค. มคี วามเออ้ื เฟอ้ื เผือ่ แผแ่ ละซื่อสตั ยต์ ่อลกู ค้า
ง. มีความสามารถในการปฏริ ูประบบการทางานเป็นหมคู่ ณะ
10. ขอ้ ใดเป็นคุณลกั ษณะพื้นฐานของผู้ประกอบการโดยเน้นการใชน้ วตั กรรม
ก. นาแนวความคิดใหม่จากสิง่ ท่มี ีอยู่เดมิ มาใชใ้ นรปู แบบใหม่
ข. การคิดประดิษฐ์คน้ สง่ิ ใหม่ ๆ
ค. เน้นประสิทธภิ าพของผปู้ ระกอบการ
ง. เน้นการตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ
11. ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ ารวิเคราะห์ธรุ กจิ ท่ีจะดาเนินการของผูป้ ระกอบการ
ก. สภาพแวดล้อม โอกาสและสถานการณ์ของธุรกิจท่จี ะดาเนินการ
ข. สนิ ค้า/ผลิตภัณฑ์ มคี วามแตกต่างและมีความเดน่ อยา่ งไร ทาให้เหนอื กว่าคแู่ ขง่ ขนั ไดห้ รือไม่
ค. หาท่ตี ง้ั ของธุรกิจ และเลือกทาเลที่เหมาะ
ง. จดุ แขง็ และจดุ ออ่ นของตนเอง
12. ข้อใดไม่ใชค่ ณุ สมบตั ิของผู้ประกอบการ
ก. มคี วามมุง่ มนั่ ท่จี ะประสบความสาเรจ็
ข. มีความม่นั ใจในการมีเงนิ ทนุ ของตนเอง
ค. มีแนวคดิ เกยี่ วกบั ธุรกิจของตนเองชดั เจน
ง. มแี ผนธุรกิจทเี่ ป็นระบบ
13. ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี งในระดบั บคุ คล คือข้อใด
ก. ความสามารถของชมุ ชน เมอื ง รัฐ ประเทศ หรือภูมภิ าคหนงึ่ ในการผลติ สนิ ค้าและบริการเพ่ือ
เลยี้ งสังคมได้ โดยไม่ตอ้ งพ่ึงพาปจั จัยทเ่ี ราไม่ได้เป็นเจ้าของ
ข. ความสามารถของแต่ละชุมชนทีน่ าทรพั ยากรมาใช้ไดอ้ ย่างฉลาดกอ่ ให้เกิดมูลคา่ เพิ่ม
ค. ความสามารถของชุมชนแต่ละชมุ ชนในการช่วยเหลือเกอื้ กลู กนั
ง. ความสามารถในการดารงชีวติ ได้อย่างไมเ่ ดอื ดรอ้ น มีความเปน็ อยอู่ ย่างประมาณตน
ตามฐานะ ตามอัตภาพ
14. ทางสายกลางตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง คือขอ้ ใด
ก. พอประมาณ มีเหตผุ ล พอกินพอใช้ ข. พอประมาณ ขยนั อดทน ใฝ่หาความรู้
ค. พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู ิค้มุ กนั ง. พอประมาณ ซ่อื สตั ยส์ ุจริต เอ้อื เฟ้ือเผื่อแผ่
15. นายชูชพี เปดิ รา้ นซ่อมเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ วสั ดุท่ีนามาใชใ้ นการซอ่ มเป็นวสั ดทุ ่มี คี ณุ ภาพดี นายชชู พี เป็น
ผู้ท่ปี ฏิบัติตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงข้อใด
ก. มคี ณุ ธรรม ข. พอประมาณ
ค. มีเหตุมีผล ง. มคี วามรู้
บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
ชอ่ื วชิ า ธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ รหัสวชิ า 20001-1003
หน่วยท่ี 3 เรื่อง การเป็นผู้ประกอบการ โดยประยุกต์ใชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บนั ทกึ หลังการสอน
1. ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ (จุดประสงค์การเรียนร/ู้ กจิ กรรม/การประเมนิ ผล)
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
2. ผลการเรยี นของนกั ศกึ ษา/ผลการสอนของผูส้ อน/ปญั หาทพี่ บ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกป้ ัญหา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .....................................................
(.............................................)
ครผู ู้สอน
แผนการจัดการเรยี นร้แู บบบูรณาการที่ 4 หน่วยท่ี 4
ชอ่ื วิชา ธรุ กิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ (20001-1003)
ชอื่ หน่วย การจัดหาและวางแผนทางการเงนิ เวลาเรียนรวม 54 ชว่ั โมง
ชอื่ เรือ่ ง การจัดหาและวางแผนทางการเงิน
สอนครั้งที่ 8/18
จานวน 3 ช่ัวโมง
สาระสาคัญ
บคุ คลแต่ละคนย่อมมีเปา้ หมายในชีวิตแตกตา่ งกัน ดังน้ัน จึงมีการวางแผนและการจดั การทาง
การเงินที่แตกต่างกันไปด้วย โดยตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับตนเองและสงิ่ แวดล้อมที่เหมาะสม ซ่งึ การ
วางแผนทางการเงินเป็นการจัดเตรียมข้อมูลต่างๆ ด้านการเงินท่ีคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วนามา
กาหนดเพื่อเป็นแนวทางในการดาเนินงาน ประสานข้อมูลต่าง ๆ ให้สัมพันธ์กันและมีประสิทธิผลมาก
ท่สี ุด
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การวางแผนทางการเงนิ
2. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับหลักการวางแผนทางการเงนิ
3. แสดงความรู้เกี่ยวกับการจัดการทางการเงิน
4. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ าเร็จการศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ที่ครูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรือ่ ง
4.1 ความมีมนุษยสมั พันธ์ 4.2 ความมวี นิ ัย
4.3 ความรับผดิ ชอบ 4.4 ความซอื่ สัตย์สุจรติ
4.5 ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.8 การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนนั
4.9 ความรกั สามัคคี 4.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับหลกั การวางแผนเป้าหมายชวี ติ ด้วยวงจรควบคมุ คณุ ภาพ ธรุ กิจและการ
เปน็ ผ้ปู ระกอบการ หลกั การจัดการทางการเงนิ หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต
เบ้อื งตน้ และกฎหมายท่ีเกยี่ วข้อง
2. จดั ทาแผนธุรกจิ อย่างง่าย
3. ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดาเนินงาน
4. ประยกุ ตใ์ ช้หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลิตในการวางแผนและดาเนินงาน
เนื้อหาสาระ
1. การวางแผนทางการเงิน
2. หลกั การวางแผนทางการเงนิ
3. การจัดการทางการเงิน
กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 8/18, คาบที่ 22-24/54)
ข้ันนาเข้าส่บู ทเรยี น
1. ผู้สอนสอบถามผู้เรียนจากการมอบหมายงานคร้ังที่แล้ว สามารถวิเคราะห์และทาใบงานได้
ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ พรอ้ มตรวจงานทม่ี อบหมาย
2. ผเู้ รยี นสามารถทางานได้ครบถ้วนและตอบคาถามได้อย่างชัดเจน
3. ผู้สอนกล่าวถึงการวางแผนทางการเงินเป็นการจดั เตรียมข้อมูลต่างๆ ทางดา้ นการเงินที่คาดว่า
จะเกิดข้ึนในอนาคตนามากาหนดเพ่ือเป็นแนวทางในการดาเนินงาน การประสานข้อมูลต่างๆ ให้มี
ความสัมพันธก์ นั อยา่ งต่อเนอื่ งและคาดว่าส่ิงทไ่ี ด้รบั จะมปี ระสทิ ธผิ ลมากท่ีสดุ และสอบถามผู้เรียนถงึ การ
วางแผนการเงินของตนเอง
4. ผเู้ รียนบอกวตั ถุประสงคใ์ นการวางแผนการเงนิ ของแตล่ ะคนได้
ขน้ั สอน
5. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง การวางแผนทางการเงิน หลักการวางแผน
ทางการเงิน และการจัดการทางการเงิน โดยการเปล่ียนแปลงทางสังคม วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ทาให้มี
ความจาเป็นตอ้ งวางแผนการเงนิ อย่างรอบคอบ และไม่ประมาทในการใช้ชวี ิต
6. ผู้เรียนบันทึกความรู้เร่ือง การวางแผนทางการเงิน หลักการวางแผนทางการเงิน และการ
จดั การทางการเงิน
7. ผู้สอนมอบหมายใหผ้ ู้เรียนสรปุ ความร้เู กยี่ วกบั ประเภทของเงินทนุ และถาม-ตอบในหอ้ งเรยี น
8. ผเู้ รยี นสามารถบอกประเภทของเงนิ ทุนไดอ้ ยา่ งถูกต้อง
9. ผ้สู อนและผู้เรียนสรปุ แลกเปลยี่ นความคิดเห็นร่วมกนั
10. ผู้สอนมอบหมายใหผ้ ู้เรยี นทาแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 4 เพ่อื ทบทวนความรู้
11. ผ้เู รียนสามารถทาแบบฝกึ หัดไดภ้ ายในเวลาท่ีกาหนด
12. ผ้สู อนมอบหมายใหผ้ ู้เรียนวิเคราะหข์ ้อมลู เกี่ยวกับการจัดหาและวางแผนทางการเพ่ือทาใบงานท่ี 4
13. ผู้เรยี นสามารถทาใบงานไดภ้ ายในเวลาทก่ี าหนด
ข้ันสรุปและการประยุกต์
14. ผสู้ อนและผู้เรียนสรุปการวางแผนทางการเงิน หลักการวางแผนทางการเงิน และการจัดการ
ทางการเงิน
15. สรปุ สาระสาคัญเพือ่ ใหเ้ กดิ การเรียนรู้สามารถนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ และประเมนิ ผเู้ รียน
16. ครูมอบหมายงานคร้งั ต่อไป ให้ผเู้ รยี นทบทวนเนื้อหาทั้ง 4 หนว่ ยเพอ่ื ทาการทดสอบ
สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 2. สอ่ื Power Point
1. หนงั สอื เรียน วิชา ธุรกิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ 4. กิจกรรมการเรียนการสอน
3. ส่ือ VDO
หลกั ฐาน 2. ใบเช็ครายช่อื
1. บันทึกการสอน 4. การตรวจประเมินผลงาน
3. แผนจัดการเรยี นรู้
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ัดผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
4. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
เคร่อื งมือวัดผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยผู้สอนและ
นกั เรยี นร่วมกันประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไม่มีชอ่ งปรับปรงุ
2. เกณฑผ์ ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ข้นึ ไป)
3. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่ คือ ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ
ประเมินตามสภาพจรงิ
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย
แนะนาให้ศึกษาข้อมลู เก่ยี วกับธุรกิจประเภทตา่ งๆ เพื่อนามาวางแผนการทาธุรกิจและการเป็น
ผปู้ ระกอบการ และมอบหมายให้ผู้เรียนทบทวนเนื้อหาสาระท้ัง 4 หน่วยและเตรียมโทรศัพท์มือถือต่อ
สัญญาณอินเทอรเ์ น็ตใหพ้ ร้อมเพื่อทาการทดสอบแบบเกมสใ์ นคร้งั ตอ่ ไป
ใบงานที่ 4.1
เร่ือง การจดั หาและวางแผนทางการเงนิ
หัวขอ้ : เงินทนุ
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. เงินทุน หมายถงึ .......................................................................................................................................................
.................................................................................................... .......................................................................................
............................................................................................................................ ...............................................................
............................................................................................................................. ..............................................................
2. ประเภทของเงนิ ทนุ
เงนิ ทนุ ถาวร เงนิ ทนุ หมนุ เวยี น
3. แหลง่ เงนิ ทนุ มี 3 ประเภท
ใบงานที่ 4.2
เรื่อง การจัดหาและวางแผนทางการเงนิ
หัวข้อ : หลักการวางแผนทางการเงนิ
คาช้ีแจง ให้นกั เรียนวเิ คราะหแ์ ละตอบคาถามกรณตี วั อย่าง เรอื่ ง ร้านซ่อมรถจกั รยานยนต์ของบญุ เมือง
บญุ เมืองสาเร็จการศกึ ษาในระดับ ปวช. แผนกช่างยนต์ จากวทิ ยาลัยเทคนิคแหง่ หน่ึง และมี
ความตั้งใจทจี่ ะทาธรุ กจิ ร้านซ่อมรถจกั รยานยนต์ โดยเปิดเปน็ ร้านเล็กๆ บญุ เมืองจึงได้ปรึกษากบั พอ่ ใน
เรือ่ งของเงนิ ลงทนุ ซึ่งพอ่ ของบุญเมอื งกพ็ รอ้ มท่จี ะให้ความชว่ ยเหลือ บุญเมืองจงึ ไดน้ าบ้านและท่ีดินไป
จานองธนาคารและไดเ้ งินมาลงทุน โดยได้ซอ้ื เครื่องมืออุปกรณ์ในการซอ่ มรถจกั รยานยนต,์ คอมพวิ เตอร์
,อะไหล,่ รถยนต์ และเป็นค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้านใหส้ วยงาม แล้วจึงเร่ิมเปิดร้านให้บริการแก่ลูกค้า
กจิ การดาเนินไปไดด้ ้วยดี มลี ูกค้ามาใช้บริการสม่าเสมอ เวลาผ่านไป 7 – 8 เดือน บุญเมืองเริ่มมีปญั หา
ทางดา้ นการเงิน เนอื่ งจากมีภาระต้องสง่ เงินกู้ธนาคาร ทาให้ขาดแคลนเงนิ ทุนท่จี ะนาไปซ้ืออะไหลใ่ นการ
ซ่อม การให้บริการลูกค้าล่าช้าลง จนทาให้ลูกค้าบางกลุ่มเลิกมาใช้บริการ ในท่ีสุดธนาคารได้ยึดบ้าน
และท่ดี ินของบญุ เมือง รวมทงั้ เจา้ หนกี้ ารคา้ อกี หลายรายท่ยี นื่ ฟ้องต่อศาล
คาถาม
1. ทาไมธุรกิจของบุญเมืองจึงไมป่ ระสบความสาเร็จ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
2. บุญเมืองควรเรม่ิ ต้นในการทาธรุ กิจอย่างไร
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ใบงานท่ี 4.3
เรื่อง การจดั หาและวางแผนทางการเงนิ
หัวข้อ : การจดั การทางการเงนิ
คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นวิเคราะหแ์ ละตอบคาถามกรณีตวั อย่าง เรอื่ ง เงินลงทนุ ของนายโชคดี
นายโชคดีกาลังวางแผนจะทาธุรกิจ เขามเี งนิ สด 100,000บาท และมีเงินในธนาคาร 213,650
บาท แต่ในขณะนเ้ี ขาไม่มีงานทา ซ่ึงหมายความว่า นายโชคดีจะไม่มีเงนิ เพิ่มเติมเขา้ มาจนกว่าจะเร่ิมมี
รายได้จาก การทาธุรกิจ นอกจากนี้ในแต่ละเดือนเขาจะต้องมีค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว เดือนละ
15,000 บาท และ ต้องชาระหนีส้ ่วนตัวอีก 20,000 บาท เขาต้งั ใจจะเริ่มทาธุรกิจใน 1 เดือน และคิด
วา่ จะตอ้ งใช้เวลา 3 เดอื น กว่าจะเริ่มมรี ายได้
คาถาม
1. นายโชคดีมีเงินคงเหลอื เพ่ือทาธุรกิจเป็นจานวนเงินเท่าไร ให้นักเรียนคานวณและกรอกตัวเลข
ลงในตารางด้านล่างตอ่ ไปน้ี
เงนิ รายได้ จานวนเงนิ (บาท)
เงนิ ท่ีมอี ย่ตู อนนี้
เงินท่จี ะไดร้ ับเพม่ิ เตมิ ก่อนเริ่มธรุ กจิ
รวมเงินรบั
เงินรายจ่าย (ในระยะ 4 เดือนขา้ งหน้า)
คา่ ใช้จา่ ยในครอบครัว
ชาระหนี้
อนื่ ๆ
รวมเงนิ จา่ ย
เงินคงเหลือสาหรับทาธุรกิจ
2. นักเรยี นคิดว่าโชคดีจะสามารถก้เู งินจากธนาคารเพอ่ื นามาใช้ในการทาธุรกจิ ได้หรอื ไม่ เพราะเหตุ
ใด และหากไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารมาลงทุนเพิ่มเติมได้ ให้นักเรียนแนะนาโชคดีว่าเขาควรนา
เงินไปลงทนุ ทาธุรกิจรปู แบบใด
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 4
เรอ่ื ง การจัดหาและวางแผนทางการเงนิ
*************************
คาสั่ง จงเลือกคาตอบที่ถกู ต้องเพยี งข้อเดยี ว
1. ความหมายของเงินทุนคือขอ้ ใด
ก. ทรพั ยส์ ินท่ีผ้ปู ระกอบการจัดหามาเพือ่ ใชใ้ นการประกอบธรุ กิจโดยหวังผลกาไร
ข. เงนิ ทุนท่ีไดม้ าจากการร่วมลงทนุ จากการทาธรุ กจิ ในรูปแบบหา้ งหุ้นส่วน
ค. เงนิ ทนุ ที่ไดม้ าจากเงินออม เงินสะสมของผูป้ ระกอบการ
ง. เงนิ ทนุ ที่กิจการนาไปลงทนุ ในทรัพย์สินถาวร
2. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ เงินทุนหมนุ เวยี น
ก. สนิ ค้า ข. ที่ดนิ
ค. ลูกหนี้ ง. เงนิ สด
3. เงินทนุ ถาวรหมายถึงขอ้ ใด
ก. ลูกหนี้ ข. สินคา้
ค. โรงงาน ง. กาไรสะสม
4. ขอ้ ใดกลา่ ว ไมถ่ กู ตอ้ ง ในเรอื่ งของการพจิ ารณาจดั หาเงนิ ทนุ
ก. เปรยี บเทยี บข้อมูลของการให้สินเช่อื จากสถาบันการเงนิ หลาย ๆ แห่ง
ข. พิจารณาต้นทนุ ของเงนิ ทุนและความเสยี่ งทางการเงิน
ค. นาเงินที่จดั หามาไปลงทุนใหเ้ กดิ ผลประโยชน์มากที่สุด
ง. นาเงนิ ท่ีจัดหามาไปลงทนุ ในทรพั ยส์ นิ ถาวรใหม้ ากทีส่ ดุ
5. เงนิ ทุนที่ไดม้ าจากการรว่ มกันจดั ต้งั ธุรกจิ ในรูปแบบของห้างหุน้ ส่วน ถือวา่ เป็นแหล่งเงินทุนประเภทใด
ก. เงินทนุ จากส่วนของเจ้าของกจิ การ
ข. เงินทุนที่ไดจ้ ากการร่วมทุน
ค. เงินทุนท่ีไดจ้ ากการขายหุ้น
ง. เงนิ ทุนที่ไดจ้ ากการกู้ยมื
6. ในกรณีทผี่ ้ปู ระกอบการต้องการเงินเพอื่ นามาใชใ้ นการซอ้ื วัตถดุ บิ ควรจัดหาเงนิ ทุนตามขอ้ ใด
ก. การจัดหาเงนิ ทุนโดยการขายหลกั ทรพั ย์ ข. การจดั หาเงนิ ทุนระยะปานกลาง
ค. การจดั หาเงินทุนระยะยาว ง. การจดั หาเงินทนุ ระยะส้ัน
7. แหล่งเงนิ ทนุ ระยะสั้นท่ีมคี วามสาคัญตอ่ ผู้ท่เี ริม่ ตน้ ประกอบธุรกจิ คือข้อใด
ก. เงินกรู้ ะยะสั้นชนดิ มหี ลักประกนั ข. เงนิ กู้จากบรษิ ัทประกนั ชวี ิต
ค. การออกหลักทรัพยจ์ าหน่าย ง. สินเช่อื ทางการคา้
8. ข้อใด ไมใ่ ช่ สินทรพั ยท์ ี่นิยมนามาใหเ้ ช่า
ก. โรงงาน ข. เครอ่ื งจกั รกล
ค. เคร่อื งถา่ ยเอกสาร ง. เครอ่ื งมือและอุปกรณ์
9. “ตลาดทมี่ ีการซ้ือขายหลกั ทรัพย์ระยะยาวโดยมรี ะยะเวลาในการชาระคืนเกินกว่า 1 ปี” ข้อความ
ดงั กล่าวหมายถงึ ข้อใด
ก. ตลาดผ้ซู อื้ ข. ตลาดผู้ขาย
ค. ตลาดเงิน ง. ตลาดทนุ
10. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ วัตถุประสงค์ในการจดั ตั้งตลาดหลักทรพั ย์แหง่ ประเทศไทย
ก. เปน็ แหล่งระดมเงนิ ทนุ ระยะยาว ทาให้เกิดสภาพคลอ่ ง
ข. เปน็ แหล่งซือ้ ขายตราสารระยะสนั้ เช่น ตั๋วสญั ญาใช้เงนิ
ค. สนับสนนุ ให้ประชาชนมสี ว่ นรว่ มในการเปน็ เจา้ ของธรุ กจิ
ง. ส่งเสรมิ การลงทุนจากนักลงทนุ ต่างประเทศ
บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้
ช่อื วิชา ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ รหสั วิชา 20001-1003
หน่วยท่ี 4 เรือ่ ง การจดั หาและวางแผนทางการเงนิ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บันทกึ หลงั การสอน
1. ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ (จุดประสงค์การเรยี นร้/ู กิจกรรม/การประเมนิ ผล)
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนกั ศึกษา/ผลการสอนของผ้สู อน/ปัญหาทพี่ บ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแก้ปญั หา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .....................................................
(.............................................)
ครผู ู้สอน
แผนการจัดการเรียนร้แู บบบูรณาการท่ี 5 หนว่ ยท่ี 5
ชือ่ วิชา ธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ (20001-1003)
ชอ่ื หน่วย กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั ธุรกิจและการเปน็ เวลาเรยี นรวม 54 ชว่ั โมง
ผปู้ ระกอบการ
ชอื่ เรื่อง กฎหมายท่ีเก่ียวกับธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ สอนครง้ั ที่ 9-10/18
จานวน 6 ช่ัวโมง
สาระสาคญั
การประกอบธุรกิจนั้นสิ่งท่ีมีความสาคัญมากต่อผู้ประกอบการอีกอยา่ งหน่ึง ก็คือผู้ประกอบการ
ควรจะมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายทเี่ กีย่ วข้องกบั ธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ เน่ืองจาก
ตอ้ งปฏิบัติตามข้อบังคับทางกฎหมายทรี่ ะบุไวใ้ ห้ปฏิบัตติ าม ซ่ึงกฎหมายทมี่ ีความเก่ียวข้องโดยตรงนั้นมี
หลายฉบับด้วยกัน เช่น กฎหมายแรงงาน เพราะเป็นกฎหมายที่บัญญัติถึงสิทธิและหน้าท่ีของนายจ้าง
ลกู จ้าง องค์การของนายจ้าง และองค์กรของลูกจ้าง รวมทั้งมาตรการท่ีกาหนดให้นายจ้าง ลูกจ้างและ
องค์กรดังกล่าวปฏิบัติต่อกันและรัฐ ทั้งนี้เพื่อให้การจ้างงาน และการใช้งาน การประกอบกิจการและ
ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเป็นไปโดยเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีกฎหมายฉบับอื่น ๆ ท่ี
เก่ียวข้องอีกได้แก่ การจดทะเบยี นพาณิชย์ กฎหมายแรงงาน กฎหมายประกนั สังคม กฎหมายเกย่ี วกับ
ภาษีตามประมวลรัษฎากร และอน่ื ๆ ท่เี กีย่ วข้อง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. แสดงความร้เู กีย่ วกบั การจดทะเบียนพาณิชยข์ องผ้ปู ระกอบการ
2. แสดงความรู้เก่ยี วกับกฎหมายภาษีตามประมวลรัษฎากร
3. แสดงความรเู้ กย่ี วกับการจดทะเบยี นสทิ ธบิ ัตร
4. แสดงความรู้เกีย่ วกับเครอื่ งหมายการคา้
5. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับกฎหมายประกันสงั คม
6. แสดงความร้เู กย่ี วกบั กฎหมายอน่ื ๆท่เี กย่ี วขอ้ ง
7. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สาเร็จการศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
7.1 ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ 7.2 ความมีวนิ ัย
7.3 ความรบั ผดิ ชอบ 7.4 ความซอื่ สตั ย์สุจริต
7.5 ความเช่อื มัน่ ในตนเอง 7.6 การประหยัด
7.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 7.8 การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนัน
7.9 ความรักสามัคคี 7.10 ความกตัญญกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลักการวางแผนเปา้ หมายชีวติ ดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการ
เปน็ ผูป้ ระกอบการ หลกั การจัดการทางการเงิน หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต
เบอ้ื งต้น และกฎหมายที่เกีย่ วข้อง
2. จัดทาแผนธุรกิจอยา่ งง่าย
3. ประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในการวางแผนและดาเนินงาน
4. ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตในการวางแผนและดาเนนิ งาน
เนื้อหาสาระ
1. การจดทะเบยี นพาณิชย์ของผปู้ ระกอบการ
2. กฎหมายภาษตี ามประมวลรษั ฎากร
3. การจดทะเบยี นสิทธบิ ตั ร
4. เครอื่ งหมายการค้า
5. กฎหมายประกนั สงั คม
6. กฎหมายอน่ื ๆทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ที่ 9/18, คาบท่ี 25-27/54)
ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น
1. ผสู้ อนสรุปทบทวนเนอื้ หาสาระทง้ั 4 หนว่ ยใหผ้ ้เู รียนเพื่อเตรียมตัวทดสอบ
2. ผ้เู รียนบันทึกสรุปความรู้ทง้ั 4 หนว่ ย
3. ผู้สอนใช้ส่ือ “เกมส์ Kahoot” ในการทดสอบ โดยให้ผู้เรียนเตรียมโทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อ
สัญญาณอนิ เทอร์เนต็ ใหพ้ ร้อม และอธิบายกตกิ าการทดสอบและวธิ กี ารทดสอบแบบเกมส์
4. ผเู้ รยี นมีความรู้ความเข้าใจสามารถเขา้ ระบบในโปรแกรม Kahoot เพื่อรับรหัสในการทดสอบ
5. ผูเ้ รียนเตรียมพร้อมและเรมิ่ ทดสอบภายในเวลาทีก่ าหนด
6. ผสู้ อนสรปุ ผลคะแนนจากการทดสอบแต่ละหนว่ ย
7. ผู้เรียนรับทราบผลคะแนน
8. ผูส้ อนสอบถามผูเ้ รยี น มีครอบครวั ผู้เรียนคนใดทาธรุ กจิ บา้ ง
9. ผเู้ รียนสามารถตอบไดบ้ างส่วน
ขั้นสอน
10. ผู้สอนใช้ส่ือ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง การจดทะเบียนจัดต้ังธุรกิจ/จดทะเบียน
พาณิชย์ของผปู้ ระกอบการ และกฎหมายภาษีตามประมวลรัษฎากร
11. ผู้เรยี นบนั ทกึ ความรู้เรอื่ ง การจดทะเบยี นจดั ตง้ั ธุรกจิ /จดทะเบียนพาณิชย์ของผ้ปู ระกอบการ
และกฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากร
12. ผู้สอนนาตวั อยา่ งแบบฟอรม์ การจดทะเบยี นพาณชิ ย์ (ทพ.) มาใหผ้ ้เู รียนฝึกเขยี นตามรูปแบบ
13. ผู้เรียนสามารถดาวน์โหลดและเขียนแบบฟอร์มการจดทะเบียนพาณิชย์ (ทพ.) ได้อย่าง
ถกู ต้อง
14. ผู้สอนและผู้เรียนสรปุ แลกเปล่ยี นความคิดเห็นรว่ มกนั
ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์
15. ผู้สอนและผู้เรียนสรุปการจดทะเบียนจัดต้ังธุรกิจ/จดทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบการ
และกฎหมายภาษตี ามประมวลรัษฎากร
16. สรปุ สาระสาคัญเพือ่ ให้เกิดการเรยี นร้สู ามารถนาไปปฏบิ ตั ิได้ และประเมนิ ผเู้ รยี น
17. ผู้สอนมอบหมายงานคร้ังต่อไป ให้ผู้เรียนค้นคว้าหาข่าวที่เก่ียวข้องกับกฎหมายธุรกิจและ
ผูป้ ระกอบการ เพือ่ ตดิ ตามสถานการณ์ปจั จบุ ัน
กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี 10/18, คาบท่ี 28-30/54)
ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ผู้สอนสุ่มเรยี กผเู้ รียนใหอ้ ่านข่าวที่คน้ คว้ามาจากการมอบหมายงานครงั้ ท่ีแล้ว
2. ผู้เรียนสามารถนาเสนอข่าวได้ตรงประเดน็ ตามหัวขอ้
3. ผูส้ อนสมุ่ เรยี กผ้เู รียน รจู้ ักหรอื เคยสังเกตตราสนิ คา้ อะไรบา้ ง
4. ผู้เรียนสามารถบอกโลโก้หรอื ตราสนิ คา้ ไดต้ ามที่ตนเองร้จู กั
ขั้นสอน
5. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง การจดทะเบียนสิทธิบัตร และเครื่องหมาย
การค้า
6. ผเู้ รยี นบนั ทึกความร้เู รือ่ ง การจดทะเบียนสิทธิบตั ร และเครื่องหมายการค้า
7. ผูส้ อนใช้สื่อ “เกมสเ์ ครอื่ งหมายทางการคา้ ” เป็นกจิ กรรมเสรมิ สร้างการเรยี นรู้ เพื่อทดสอบ
ความจดจาและการร้จู กั สังเกต
8. ผู้เรยี นจดจาและบอกเคร่อื งหมายทางการคา้ ได้อย่างแม่นยา
9. ผู้สอนและผู้เรียนสรปุ แลกเปล่ยี นความคิดเห็นร่วมกนั
10. ผู้สอนสุ่มเรยี กผู้เรยี น มีกฎหมายอะไรบ้างทีร่ จู้ ักและใกลต้ ัวเรามากที่สุด
11. ผ้เู รียนบอกกฎหมายท่ตี นเองรจู้ กั ได้
12. ผู้สอนใชส้ ่ือ Power Point บรรยายความร้เู รือ่ ง กฎหมายประกันสังคม และกฎหมายอืน่ ๆท่ี
เกย่ี วขอ้ ง
13. ผ้เู รยี นบันทกึ ความรู้เรอ่ื ง กฎหมายประกนั สังคม และกฎหมายอ่นื ๆที่เกยี่ วข้อง
14. ผสู้ อนและผู้เรียนสรปุ แลกเปลีย่ นความคิดเห็นรว่ มกนั
15. ผู้สอนมอบหมายใหผ้ ูเ้ รียนทาแบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 5
16. ผ้เู รยี นสามารถทาแบบฝึกหัดไดเ้ สร็จทนั ภายในเวลาทก่ี าหนด
ขั้นสรปุ และการประยกุ ต์
17. ผูส้ อนและผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเพื่อให้เกดิ การเรยี นรู้สามารถนาไปปฏิบัติได้ และประเมิน
ผู้เรยี น
18. ผู้สอนมอบหมายงานครงั้ ตอ่ ไป ใหผ้ ู้เรียนค้นควา้ หาข้อมลู หลกั การบรหิ ารทีด่ ี และทาใบงานท่ี 5
สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียน วิชา ธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ
2. สอื่ Power Point
3. สือ่ VDO
4. กิจกรรมการเรียนการสอน
หลกั ฐาน 2. ใบเช็ครายชอื่
1. บันทกึ การสอน 4. การตรวจประเมนิ ผลงาน
3. แผนจัดการเรยี นรู้
การวัดผลและการประเมนิ ผล
วธิ วี ัดผล
1. สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. สังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
4. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์
เครือ่ งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ โดยผู้สอนและ
นักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไม่มีช่องปรบั ปรงุ
2. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยูก่ ับการ
ประเมินตามสภาพจริง
กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย
แนะนาใหศ้ ึกษาข้อมลู เกี่ยวกบั ธรุ กิจประเภทตา่ งๆ เพื่อนามาวางแผนการทาธุรกิจและการเป็น
ผู้ประกอบการ และมอบหมายให้ผ้เู รียนทาใบงานที่ 5 และค้นควา้ หาข้อมลู หลกั การบริหารท่ีดเี พื่อนามา
ประกอบการเรยี นในครง้ั ต่อไป
ใบงานที่ 5.1
เรื่อง กฎหมายที่เกยี่ วกบั ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ
หวั ขอ้ : การจดทะเบยี นพาณชิ ยข์ องผู้ประกอบการ
คาช้แี จง ใหน้ กั เรียน Download แบบจดทะเบยี นพาณชิ ย์ (ทพ.) ที่ www.dbd.go.th
แล้วนามากรอกข้อมูล เพ่ือฝึกทักษะในการจดทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบการ ตาม
คาแนะนาของเอกสาร
ใบงานท่ี 5.2
เรอ่ื ง กฎหมายทีเ่ กย่ี วกบั ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
หัวขอ้ : สทิ ธิประโยชนท์ ี่ได้รบั จากกองทนุ ประกันสงั คม
คาชี้แจง ให้บอกสิทธิประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากกองทนุ ประกันสังคม โดยยกตัวอย่างคานวณจากฐานค่าจา้ ง
ที่ลูกจ้างได้รับ เช่น การคานวณเงินสมทบสาหรบั ผู้ประกันสังคมท่ีมีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนข้ึนไป
(อ้างอิงอตั ราเงินสมทบปี 2556 ตามประกาศกฎกระทรวง)
สิทธิ เงินสมทบ สทิ ธิจะได้รบั
ประโยชน์ ลกู จ้าง นายจา้ ง รฐั บาล
1.ประสบ การบรกิ ารทางการแพทยจ์ นสน้ิ สดุ การรกั ษา รวมการบาบัดทดแทนไต
อันตราย กรณีไตวายเร้อื รังระยะสดุ ท้าย ปลกู ถ่ายไขกระดกู เปล่ียนอวยั วะกระจก
เจ็บป่วย ตา อวัยวะและอุปกรณใ์ นการบาบดั รักษาโรค บรกิ ารดา้ นทันตกรรม
และเงินทดแทนการขายรายได้
2.ทพุ พลภาพ 75 75 75 ค่ารกั ษาพยาบาล+เงินทดแทนรายได้
(0.5%) (0.5%) (0.5%) ค่าใชจ้ า่ ยในการฟนื้ ฟสู มรรถภาพของผทู้ ุพพลภาพทางรา่ ยกาย จติ ใจ
และอาชพี ไมเ่ กนิ 40,000 บาทต่อราย
3.ตาย คา่ ทาศพ 40,000 บาท + เงินสงเคราะหก์ รณตี าย
4.คลอดบตุ ร ค่าคลอดบตุ รเหมาจ่าย 13,000 บาทต่อคร้งั และเงินสงเคราะห์
การหยดุ งานเพื่อการคลอดบตุ รมีสทิ ธคิ นละไมเ่ กนิ 2 ครงั้
5.สงเคราะห์ บตุ รอายุน้อยกวา่ 6 ปี จานวน 400 บาทต่อคนต่อเดอื นคราวละไม่เกนิ
บตุ รชราภาพ 2 คน
อายคุ รบ 55 ปี และความเป็นผู้ประกันตนสน้ิ สดุ ลง สมทบไม่ครบ 180
450 450 300 เดือน มีสิทธิได้รับบำเหน็จจ่ายเป็นก้อนครง้ั เดยี ว
(3%) (3%) (2%) อายคุ รบ 55 ปี และความเปน็ ผู้ประกนั ตนส้นิ สดุ ลง สบทบต้ังแต่ 180
เดือนขน้ึ ไป มสี ิทธิได้รับบำนำญ จา่ ยรายเดอื นตลอดชวี ติ เชน่ ถ้าคา่ จา้ ง
เดอื นละ 15,000 บาท และสมทบ 15 ปีพอดี มสี ทิ ธิได้บานาญเดอื นละ
3,000 บาท ตลอดชีวติ
***หมายเหตุ ตัวอักษรสีแดงคอื เฉลย
ใบงานท่ี 5.3
เร่ือง กฎหมายทีเ่ ก่ยี วกบั ธุรกิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ
หวั ข้อ : วเิ คราะห์ขา่ ว
คาช้ีแจง ให้นักเรียนค้นหาและคัดเลือกข่าวท่ีเก่ียวกับกฎหมายธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ จาก
นิตยสาร/ วารสาร/ หนังสือพมิ พ/์ อนิ เทอร์เน็ต มา 1 ขา่ ว และดาเนนิ การตามรูปแบบดังนี้
วเิ คราะหข์ า่ ว “กฎหมายทเ่ี กย่ี วกับธรุ กจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ”
ตดิ ภาพขา่ ว
ท่ีมาของข่าว : ........................................................................................................................................
หัวข้อข่าว : ………………………………………………………………………………………………………………………………
สาระสาคัญของข่าว :
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
กฎหมายเก่ียวข้องกบั ข่าว :
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประโยชนท์ ผี่ ปู้ ระกอบการจะไดร้ ับจากการศกึ ษากฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ งกับธรุ กิจ :
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาและอุปสรรค :
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบประเมินผลการเรียนรู้ หน่วยที่ 5
เรือ่ ง กฎหมายท่ีเกีย่ วกบั ธรุ กิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ
*************************
คาส่ัง จงเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งเพยี งขอ้ เดยี ว
1. ผู้ประกอบการต้องจดทะเบยี นพาณิชย์ตัง้ ใหม่ภายในกี่วนั นบั แตว่ นั เริ่มประกอบพาณชิ ยกิจ
ก. 7 วนั ข. 15 วัน ค. 30 วัน ง. 60 วัน
2. ถา้ ผูป้ ระกอบการไม่จดทะเบียนพาณิชยต์ ามกฎหมายจะมคี วามผิดอย่างไรบา้ ง
ก. ปรบั ไม่เกิน 1,000 บาท
ข. ปรบั ไมเ่ กนิ 2,000 บาท
ค. ปรับไมเ่ กนิ 3,000 บาท
ง. ปรบั ไม่เกิน 5,000 บาท
3. ตามกฎหมายเงนิ ได้ทตี่ ้องเสียภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาเรียกวา่ อะไร
ก. เงนิ ไดพ้ งึ ประเมิน
ข. เงินไดบ้ ุคคลธรรมดา
ค. เงินไดน้ ติ บิ คุ คล
ง. เงนิ ได้สุทธิ
4. ขอ้ ใดเปน็ เงินไดป้ ระเภทท่ี 1
ก. เงินเดอื น คา่ จ้าง ข. เบ้ียประชมุ โบนสั
ค. ดอกเบย้ี เงินปันผล ง. เงินไดจ้ ากการรบั เหมาท่ผี ู้รบั เหมา
5. ในกรณีท่ีผมู้ ีเงินได้พึงประเมินทกุ ประเภท ควรจะยน่ื แสดงรายการแบบใด
ก. ภ.ง.ด.90 ข. ภ.ง.ด.91
ค. ภ.ง.ด.93 ง. ภ.ง.ด.94
6. ผปู้ ระกอบการท่มี ีรายรับจากการขายสนิ คา้ หรือให้บริการไมเ่ กินจานวนเท่าใดท่ีต้องจดทะเบยี น
ภาษีมลู ค่าเพมิ่
ก. 150,000 บาทต่อปี ข. 180,000 บาทต่อปี
ค. 1,500,000 บาทต่อปี ง. 1,800,00 บาทตอ่ ปี
7. อตั ราภาษมี ูลค่าเพมิ่ ที่จดั เก็บในปจั จุบันคอื ข้อใด
ก. ร้อยละ 1 ข. รอ้ ยละ 2
ค. รอ้ ยละ 5 ง. ร้อยละ 7
8. กิจการใดไมต่ อ้ งเสียภาษธี ุรกจิ เฉพาะ
ก. ธนาคารไทยพาณิชย์ ข. โรงรบั จานาเม๊งหงวน
ค. บรษิ ทั ไทยประกันชวี ิต ง. บรษิ ทั ในเครอื เจรญิ โภคภณั ฑ์
9. กฎหมายกาหนดให้ลกู จา้ งทางานตามปกติ โดยทั่วไปไม่เกินก่ีชว่ั โมงต่อวนั
ก. 6 ชวั่ โมง ข. 7 ชั่วโมง
ค. 8 ช่ัวโมง ง. 9 ชว่ั โมง
10. กรณีใหล้ กู จ้างทางานลว่ งเวลาตอ่ จากเวลาทางานปกติไม่นอ้ ยกว่า 2 ชั่วโมงตอ้ งจัดให้ลกู จ้างพักกอ่ น
เริ่มทางานล่วงเวลาไมน่ ้อยกวา่ กี่นาที
ก. 5 นาที ข. 10 นาที
ค. 15 นาที ง. 20 นาที
บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
ชอื่ วิชา ธุรกจิ และการเป็นผ้ปู ระกอบการ รหัสวชิ า 20001-1003
หน่วยท่ี 5 เรอ่ื ง กฎหมายทเ่ี กีย่ วกับธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บนั ทกึ หลงั การสอน
1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ (จดุ ประสงค์การเรียนรู้/กจิ กรรม/การประเมนิ ผล)
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักศึกษา/ผลการสอนของผู้สอน/ปัญหาทพี่ บ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแก้ปัญหา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.....................................................
(.............................................)
ครูผู้สอน
แผนการจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการท่ี 6 หน่วยท่ี 6
ชอื่ วชิ า ธุรกิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ (20001-1003)
ช่ือหน่วย หลักเบ้ืองต้นในการบรหิ ารงานคณุ ภาพและ เวลาเรียนรวม 54 ชว่ั โมง
เพ่ิมผลผลติ ในองค์กร
ชอื่ เรอ่ื ง หลักเบอ้ื งตน้ ในการบริหารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลิตในองค์กร สอนครงั้ ท่ี 11/18
จานวน 3 ชัว่ โมง
สาระสาคัญ
การบริหารงานคุณภาพในองค์กรเป็นกระบวนการบริหารงานที่ประกอบด้วยนโยบาย
วัตถุประสงค์ การวาแผนงาน ระบบการบริหารจัดการ ระบบการตรวจสอบหรอื การประเมนิ ผล และการ
ปรับปรุงอย่างต่อเน่ือง เพ่ือตอบสนองความต้องการของลูกค้า พนักงานและของสังคม ทาให้เข้าใจ
เก่ียวกับหลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิตเบ้ืองต้น และประยุกต์ใช้หลักการบริหารงาน
คณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิต
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. แสดงความรูเ้ กีย่ วกบั การบรหิ ารงานคณุ ภาพเบ้ืองต้น
2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การเพ่ิมผลผลิตเบอื้ งตน้
3. แสดงความรู้เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลิต
4. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรือ่ ง
3.1 ความมีมนุษยสัมพันธ์ 3.2 ความมีวินัย
3.3 ความรบั ผิดชอบ 3.4 ความซอื่ สตั ย์สจุ รติ
3.5 ความเช่ือมั่นในตนเอง 3.6 การประหยดั
3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเว้นสงิ่ เสพติดและการพนนั
3.9 ความรักสามัคคี 3.10 ความกตัญญกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับหลักการวางแผนเปา้ หมายชีวิตดว้ ยวงจรควบคุมคณุ ภาพ ธรุ กิจและการ
เปน็ ผู้ประกอบการ หลักการจัดการทางการเงนิ หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิต
เบ้ืองตน้ และกฎหมายที่เกยี่ วข้อง
2. จดั ทาแผนธุรกิจอยา่ งงา่ ย
3. ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดาเนนิ งาน
4. ประยุกต์ใชห้ ลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลิตในการวางแผนและดาเนนิ งาน
เนอ้ื หาสาระ
1. การบรหิ ารงานคณุ ภาพเบอื้ งต้น
2. การเพิม่ ผลผลติ เบือ้ งตน้
3. การประยกุ ต์ใช้หลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิต
กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 11/18, คาบท่ี 31-33/54)
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน
1. ผสู้ อนเรยี กตรวจใบงานจากการมอบหมายงานคร้ังท่ีแล้ว
2. ผูเ้ รยี นสามารถทาใบงานได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
3. ผสู้ อนสอบถามผู้เรียน หากเป็นผปู้ ระกอบการจะบรหิ ารงานเช่นไรให้มคี ณุ ภาพ
4. ผเู้ รียนยกตัวอยา่ งการบรหิ ารงานท่มี คี ุณภาพตามความเข้าใจ
ขั้นสอน
5. ผู้สอนใช้สือ่ Power Point บรรยายความรู้เร่ือง การบริหารงานคณุ ภาพเบือ้ งตน้ การเพ่ิม
ผลผลติ เบือ้ งต้น และการประยุกต์ใช้หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิต
6. ผู้เรยี นบนั ทึกความรู้เรือ่ ง การบริหารงานคณุ ภาพเบือ้ งตน้ การเพ่มิ ผลผลติ เบอื้ งตน้ และการ
ประยกุ ตใ์ ช้หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิต
7. ผูส้ อนนาตัวอย่างธุรกจิ ทีน่ าหลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ ไปใช้ในองค์กร
8. ผู้สอนและผู้เรียนสรปุ แลกเปลี่ยนความคดิ เห็นรว่ มกนั
9. ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนทาแบบฝึกหดั หน่วยท่ี 6 และใบงานท่ี 6
10. ผ้เู รยี นสามารถทาแบบฝึกหดั และใบงานไดเ้ สร็จทนั ภายในเวลาท่กี าหนด
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
11. ผ้สู อนและผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเพื่อให้เกิดการเรยี นรู้สามารถนาไปปฏิบัติได้ และประเมิน
ผเู้ รยี น
12. ผ้สู อนมอบหมายงานครั้งต่อไป ให้ผู้เรียนคน้ คว้าหาข้อมูลสินค้าของธุรกิจที่ตนเองสนใจและ
ชื่นชอบ
ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 2. สอื่ Power Point
1. หนังสอื เรียน วิชา ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ 4. กิจกรรมการเรยี นการสอน
3. ส่ือ VDO
หลกั ฐาน 2. ใบเช็ครายช่อื
1. บนั ทึกการสอน 4. การตรวจประเมนิ ผลงาน
3. แผนจัดการเรียนรู้
การวัดผลและการประเมินผล
วิธวี ัดผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
4. การสงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์
เครื่องมอื วัดผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยผู้สอนและ
นกั เรยี นรว่ มกนั ประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง
2. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ข้ึนไป)
3. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขนึ้ ไป)
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กบั การ
ประเมินตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย
แนะนาให้ศึกษาข้อมูลเก่ยี วกับธรุ กจิ ประเภทตา่ งๆ เพอ่ื นามาวางแผนการทาธุรกิจและการเป็น
ผู้ประกอบการ และมอบหมายให้ผเู้ รยี นคน้ คว้าหาขอ้ มลู สินค้าของธรุ กิจท่ีตนเองสนใจและชื่นชอบ
ใบงานท่ี 6.1
เรอ่ื ง หลักเบ้อื งต้นในการบริหารงานคุณภาพและเพมิ่ ผลผลติ ในองคก์ ร
หัวขอ้ : การบริหารงานคุณภาพ
คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะหห์ าแนวทางการควบคมุ คุณภาพเพ่ือให้งานมปี ระสิทธภิ าพ
1. หากนกั เรยี นเป็นผปู้ ระกอบการ จะใชห้ ลกั การ QCC เพ่อื สร้างมาตรฐานในการทางานของพนกั งานได้
อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. หากนักเรียนต้องการให้ที่ทางานเป็นระเบียบเรยี บร้อย ซ่งึ จะส่งผลให้การทางานมปี ระสิทธิภาพและ
มีการเพ่มิ ผลผลิตที่ดีขึน้ นกั เรียนควรใช้กจิ กรรมใดในการดาเนนิ งาน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. หากนกั เรยี นเปน็ ผปู้ ระกอบการ ควรนาข้นั ตอน TQM ไปส่กู ารปฏิบัตงิ านไดอ้ ยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่ 6.2
เร่ือง หลกั เบ้ืองต้นในการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในองค์กร
หัวขอ้ : การเพ่มิ ผลผลติ ในองค์กร
คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนอธิบายความสาเรจ็ ของการเพ่มิ ผลผลิตในองค์กรในรปู แบบโครงสรา้ งองคก์ ร
ความสาเรจ็ ของการเพ่มิ ผลผลิตในองคก์ ร
พนกั งาน ผู้บริหาร หวั หนา้ งาน
แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 6
เร่ือง หลักเบ้ืองต้นในการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตในองคก์ ร
*************************
คาส่งั จงเลือกคาตอบที่ถกู ตอ้ งเพยี งข้อเดยี ว
1. ข้อใดไมใ่ ช่ส่วนทเ่ี กย่ี วข้องกับคาว่า “คุณภาพ”
ก. เหมาะสมกับมาตรฐาน ข. เหมาะสมกบั ประโยชน์ใชส้ อย
ค. เหมาะสมกับตน้ ทนุ ง. เหมาะสมกบั ราคาสินค้าและบริการ
2. คุณภาพของผลติ ภัณฑ์ สามารถพิจารณาได้จากข้อใด
ก. ความเขา้ ใจลูกค้า ข. ความสุภาพ
ค. ความน่าเชื่อถอื ง. ความสวยงามและทนทาน
3. คณุ ภาพของงานบรกิ าร สามารถพิจารณาไดจ้ ากขอ้ ใด
ก. สมรรถนะ ข. ลักษณะเฉพาะ
ค. ความทนทาน ง. การรับรคู้ ุณภาพ หรือชอ่ื เสียงของสินคา้
4. คากล่าวทวี่ ่า “เม่อื หวั นา หางก็ตอ้ งตาม” สอดคลอ้ งกับหลักการบริหารงานคุณภาพขอ้ ใด
ก. การให้ความสาคัญกับลกู คา้ ข. ความเปน็ ผนู้ า
ค. การมสี ว่ นรว่ มของบุคลากร ง. กระบวนการดาเนินงาน
5. ข้อใดเปน็ การประยุกต์ใช้หลักการบรหิ ารงานคุณภาพทใ่ี ห้ความสาคญั กับลูกค้า
ก. กาหนดกระบวนการบริหารงานให้เกดิ ผลตามเป้าหมาย
ข. กาหนดจุดเชือ่ มโยงหรือประสานงานระหว่างหน่วยงาน
ค. ฝึกอบรมและพัฒนาทกั ษะของพนักงาน
ง. กาหนดนโยบายเพือ่ ตอบสนองความพงึ พอใจของลกู ค้า
6. “วิสัยทัศน์: การท่องเท่ียวพักผ่อนเป็นส่วนหน่ึงในชีวิต ขณะท่ีการทาธุรกิจท่ีบ้านผ่านเครือข่าย
อินเตอร์เน็ตมีแนวโน้มท่ีสูงขึ้นและมีประสิทธิภาพมากข้ึน” จากข้อความนี้สอดคล้องกับหลักการ
บรหิ ารงานคณุ ภาพข้อใด
ก. การให้ความสาคัญกบั ลกู คา้ ข. ความเป็นผู้นา
ค. การมสี ่วนร่วมของบคุ ลากร ง. การตัดสินใจบนพ้ืนฐานของความเปน็ จรงิ
7. การประยุกต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพท่เี นน้ การมสี ่วนรว่ มของบคุ ลากรคือขอ้ ใด
ก. สรา้ งการยอมรบั ให้เปน็ ส่วนหนงึ่ ขององคก์ ร
ข. กาหนดกระบวนการบรหิ ารงานให้เกิดผลตามเป้าหมาย
ค. กาหนดแผนการประเมนิ ผลงาน และเกณฑก์ ารประเมินผลทีช่ ัดเจน
ง. มกี ารวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทีถ่ ูกต้องและเชื่อถือได้
8. ขอ้ ใดไม่ใชป่ จั จยั ในการเพิ่มผลผลิต
ก. นโยบายสาธารณูปโภค ฐานภาษี
ข. ทรพั ยากรธรรมชาติ และทรัพยากรบคุ คล
ค. ค่านิยมการใชส้ ินคา้ ภายในประเทศ
ง. การสรา้ งความเปน็ ธรรมให้องค์กร
9. ข้อใดไม่ใชอ่ งคป์ ระกอบในการเพ่ิมผลผลติ
ก. คุณภาพ และตน้ ทนุ
ข. การสง่ มอบ และความปลอดภยั ในการทางาน
ค. ขวญั กาลงั ใจและสิง่ แวดล้อมในการทางาน
ง. ทนุ แรงงาน วธิ ปี ฏบิ ัตกิ าร
10. ถ้าใช้คนที่มีความรู้ความสามารถทางานในสิง่ ท่ชี อบและมคี วามถนัด จะทาใหง้ านนั้นมีประสทิ ธิภาพ
และมีความพร้อมท่ีจะทางานทีไ่ ดอ้ ย่างเต็มท่ี สอดคลอ้ งกับข้อใดมากท่ีสุด
ก. Right Man
ข. Right Job
ค. Right Tool
ง. Right Place
บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้
ชอ่ื วิชา ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ รหสั วิชา 20001-1003
หนว่ ยที่ 6 เรอื่ ง หลกั เบ้อื งตน้ ในการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลติ ในองคก์ ร
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บนั ทกึ หลังการสอน
1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ (จดุ ประสงค์การเรียนร/ู้ กจิ กรรม/การประเมนิ ผล)
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
2. ผลการเรยี นของนกั ศึกษา/ผลการสอนของผสู้ อน/ปญั หาทพ่ี บ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแก้ปัญหา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .....................................................
(.............................................)
ครูผู้สอน
แผนการจัดการเรยี นรู้แบบบรู ณาการท่ี 7 หน่วยที่ 7
ช่ือวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ (20001-1003)
ช่ือหน่วย รปู แบบและการจัดทาแผนธรุ กิจ โดย เวลาเรยี นรวม 54 ชัว่ โมง
ประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ชื่อเรือ่ ง Product & Branding สอนครัง้ ท่ี 12/18
จานวน 3 ชวั่ โมง
สาระสาคญั
แผนธรุ กิจเป็นเครอ่ื งมือของธุรกิจท่ีผูป้ ระกอบการสามารถใช้ในการกาหนดขั้นตอน และวางแผน
การ ดาเนินธรุ กิจอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมายตามท่ี
กาหนดไว้ โดยแผนธุรกจิ ท่ดี นี น้ั ควรจะมคี วามถกู ตอ้ ง ชดั เจนและกระชบั ครอบคลมุ เนอื้ หาทส่ี าคญั งา่ ย
ต่อการเข้าใจ และต้องมีความเป็นไปได้ในการนาไปใช้ในการดาเนินธุรกิจ โดยจะต้องมีผลิตภัณฑ์ท่ี
สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของตลาด
ดังนั้นก่อนจะเริ่มต้นประกอบธุรกิจ ผปู้ ระกอบการจาเปน็ ต้องมีผลิตภัณฑ์ท่ีตรงกับความต้องการ
ของ ลูกค้าและตลาด เพื่อชักจูงใจให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อและสามารถจดจาผลิตภัณฑ์ได้ ก่อน
นาไปสกู่ ารจัดทาแผนธรุ กิจ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายและความสาคัญของผลติ ภัณฑ์
2. แสดงความรู้เก่ยี วกับหลักการสร้างผลิตภัณฑท์ างการตลาด
3. จดั ทาต้นแบบของผลิตภณั ฑ์
4. มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศกึ ษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง
3.1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 3.2 ความมวี ินัย
3.3 ความรับผิดชอบ 3.4 ความซอื่ สัตย์สุจรติ
3.5 ความเชอื่ มั่นในตนเอง 3.6 การประหยดั
3.7 ความสนใจใฝ่รู้ 3.8 การละเวน้ ส่ิงเสพตดิ และการพนนั
3.9 ความรกั สามัคคี 3.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับหลักการวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกจิ และการ
เป็นผู้ประกอบการ หลักการจัดการทางการเงิน หลักการบริหารงานคุณภาพและเพิ่มผลผลิตเบื้องต้น
และกฎหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
2. จัดทาแผนธุรกิจอยา่ งงา่ ย
3. ประยุกต์ใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดาเนนิ งาน
4. ประยกุ ตใ์ ช้หลักการบริหารงานคุณภาพและเพ่ิมผลผลิตในการวางแผนและดาเนนิ งาน
เนอื้ หาสาระ
1. ความหมายและความสาคญั ของผลิตภัณฑ์
2. หลักการสรา้ งผลติ ภัณฑ์ทางการตลาด
3. จดั ทาตน้ แบบของผลติ ภณั ฑ์
กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ที่ 12/18, คาบท่ี 34-36/54)
ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน
1. ผูส้ อนเรยี กตรวจใบงานจากการมอบหมายงานครั้งท่แี ลว้
2. ผู้เรียนสามารถทาใบงานได้อย่างถกู ตอ้ งครบถ้วน
3. ผูส้ อนสอบถามผู้เรียน หากเปน็ ผู้ประกอบการจะประกอบธรุ กจิ แบบใด
4. ผู้เรยี นยกตัวอยา่ งกิจการทตี่ นเองอยากประกอบธรุ กจิ ได้
ขน้ั สอน
5. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เร่ือง ความหมายและความสาคัญของผลิตภัณฑ์
หลกั การสร้างผลติ ภัณฑ์ทางการตลาด พรอ้ มแสดงตวั อย่างรูปแบบของการสรา้ งผลติ ภณั ฑ์
6. ผูเ้ รยี นบนั ทึกความรเู้ รอื่ ง ความหมายและความสาคญั ของผลิตภณั ฑ์ หลักการสรา้ งผลติ ภณั ฑ์
ทางการตลาด
7. ผู้สอนและผู้เรยี นสรปุ แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นรว่ มกนั
8. ผู้สอนใช้ส่ือวิดีโอการเรียนการสอน เร่ือง “การสร้าง Branding & Product” เพื่อเสริมสร้าง
การ เรียนรู้ใหผ้ ู้เรียนเกดิ แนวคิดกอ่ นทากจิ กรรมกลมุ่
9. ผสู้ อนนาหลกั การสร้าง Branding & Product มาประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนนิ กิจกรรมการเรียนรู้ 2
กิจกรรม คือ “กิจกรรมสร้างผลิตภัณฑต์ ามหลักการส่วนประสมทางการตลาด 4P” และ “กจิ กรรมสร้าง
Brand ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ” เพ่ือฝึกทักษะและแนวคิดก่อนการเขียนแผนธุรกิจ โดยใช้กระบวนการ
ทางาน เปน็ กล่มุ หรอื เป็นหนุ้ สว่ นกันในเชิงธุรกจิ
10. ผสู้ อนใช้ส่ือ Power Point อธบิ ายกติกาและวิธกี ารทางานแบบกลุ่ม พร้อมแสดงตัวอยา่ งของ
ชนิ้ งาน
11. ผ้สู อนให้ผู้เรยี นเลอื กสมาชกิ กลมุ่ ตามความสมคั รใจ และทาขอ้ ตกลงเสมอื นเปน็ หนุ้ สว่ นกนั
12. ผู้เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจกติกาและเริม่ ลงมือปฏบิ ัติสรา้ ง Branding & Product
13. ผู้เรยี นสามารถสรา้ ง Branding & Product ของธรุ กจิ ตนเองไดภ้ ายในเวลาทก่ี าหนด
14. ผูส้ อนและผู้เรียนสรุปแลกเปล่ยี นความคิดเห็นร่วมกนั
ข้ันสรุปและการประยกุ ต์
15. ผู้สอนและผู้เรยี นสรปุ สาระสาคญั เพื่อให้เกิดการเรียนรสู้ ามารถนาไปปฏิบัติได้ และประเมิน
พฤติกรรมกลมุ่ ของผูเ้ รยี น
16. ผู้สอนมอบหมายงานครัง้ ต่อไป ให้ผเู้ รียนค้นควา้ หาโมเดลของธรุ กิจทต่ี นเองสนใจและช่ืนชอบ
สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 2. ส่ือ Power Point
1. หนังสือเรยี น วิชา ธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ 4. กจิ กรรมการเรียนการสอน
3. สื่อ VDO
หลักฐาน 2. ใบเช็ครายชอ่ื
1. บันทกึ การสอน 4. การตรวจประเมินผลงาน
3. แผนจดั การเรยี นรู้
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธีวัดผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. ประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ
3. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
4. การสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์
เคร่อื งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยผู้สอนและ
นกั เรยี นรว่ มกนั ประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มีชอ่ งปรับปรงุ
2. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขึ้นไป)
3. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่ คือ ปานกลาง (50% ข้นึ ไป)
4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การ
ประเมนิ ตามสภาพจริง
กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย
แนะนาให้ศึกษาข้อมลู เก่ียวกับธรุ กจิ ประเภทตา่ งๆ เพอื่ นามาวางแผนการทาธุรกิจและการเป็น
ผู้ประกอบการ และมอบหมายใหผ้ เู้ รียนคน้ ควา้ หาโมเดลของธุรกิจทีต่ นเองสนใจและชืน่ ชอบ
บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
ชือ่ วิชา ธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ รหัสวิชา 20001-1003
หน่วยท่ี 7 เรื่อง Product & Branding
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บันทึกหลังการสอน
1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ (จดุ ประสงค์การเรียนร้/ู กจิ กรรม/การประเมนิ ผล)
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักศกึ ษา/ผลการสอนของผูส้ อน/ปัญหาทพี่ บ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกป้ ญั หา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงช่อื .....................................................
(.............................................)
ครผู ู้สอน
แผนการจัดการเรียนรูแ้ บบบูรณาการที่ 7 หน่วยที่ 7
ชื่อวชิ า ธุรกิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ (20001-1003)
ชื่อหนว่ ย รปู แบบและการจัดทาแผนธรุ กจิ โดย เวลาเรยี นรวม 54 ชว่ั โมง
ประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ชื่อเร่อื ง Business Model Canvas สอนคร้งั ท่ี 13-14/18
จานวน 6 ชว่ั โมง
สาระสาคัญ
แผนธุรกิจเป็นเคร่อื งมือของธุรกิจท่ีผู้ประกอบการสามารถใช้ในการกาหนดขั้นตอน และวางแผน
การ ดาเนินธุรกิจอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพ เพ่ือให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมายตามท่ี
กาหนดไว้ โดยแผนธรุ กจิ ที่ดนี น้ั ควรจะมคี วามถกู ต้อง ชดั เจนและกระชบั ครอบคลุมเนอ้ื หาทีส่ าคญั ง่าย
ตอ่ การเข้าใจ และต้องมีความเปน็ ไปได้ในการนาไปใชใ้ นการดาเนินธุรกจิ
ดังน้ันก่อนจะเร่ิมต้นประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบการจาเป็นต้องวิเคราะห์ธุรกิจเบื้องต้นได้ด้วย
Business Model Canvas เพราะเปน็ โมเดลสาหรบั การใช้ในการวางแผนธุรกิจ เพอื่ การสร้างธุรกิจหรือ
การปรบั ปรงุ กลยุทธใ์ นการดาเนนิ ธุรกิจ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายความหมายและความสาคัญของ Business Model Canvas
2. บอกองคป์ ระกอบของ Business Model Canvas
3. จดั ทา Business Model Canvas
4. มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สาเรจ็ การศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ที่ครูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรือ่ ง
3.1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 3.2 ความมวี นิ ัย
3.3 ความรบั ผิดชอบ 3.4 ความซ่อื สตั ย์สจุ ริต
3.5 ความเช่อื มน่ั ในตนเอง 3.6 การประหยัด
3.7 ความสนใจใฝ่รู้ 3.8 การละเว้นสงิ่ เสพตดิ และการพนัน
3.9 ความรักสามัคคี 3.10 ความกตญั ญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับหลกั การวางแผนเปา้ หมายชีวิตดว้ ยวงจรควบคมุ คณุ ภาพ ธุรกจิ และการ
เป็นผปู้ ระกอบการ หลักการจัดการทางการเงนิ หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิต
เบือ้ งต้น และกฎหมายท่ีเกยี่ วข้อง
2. จดั ทาแผนธุรกิจอยา่ งง่าย
3. ประยกุ ต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดาเนินงาน
4. ประยุกต์ใชห้ ลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพมิ่ ผลผลติ ในการวางแผนและดาเนนิ งาน
เน้ือหาสาระ
1. ความหมายและความสาคัญของ Business Model Canvas
2. องค์ประกอบของ Business Model Canvas
3. จัดทา Business Model Canvas
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาห์ที่ 13/18, คาบท่ี 37-39/54)
ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. ผู้สอนสมุ่ เรียกการค้นคว้าจากการมอบหมายงานครั้งทแ่ี ลว้
2. ผ้เู รยี นสามารถค้นคว้าได้ตามความเข้าใจ
3. ผูส้ อนทบทวนงานครง้ั ที่แล้ว เพ่ือนาไปใชใ้ นงานชน้ิ ตอ่ ไปอยา่ งต่อเน่อื งสู่การเขยี นแผนธรุ กิจ
4. ผเู้ รยี นสนใจและนางานครั้งที่แลว้ มาปฏบิ ัตติ อ่ เนือ่ ง
ขั้นสอน
5. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เร่ือง ความหมายและความสาคัญของ Business
Model Canvas องค์ประกอบของ Business Model Canvas พร้อมแสดงตัวอย่างรูปแบบของการ
สร้าง Business Model Canvas
6. ผู้เรียนบันทึกความรู้เร่ือง ความหมายและความสาคัญของ Business Model Canvas
องค์ประกอบของ Business Model Canvas
7. ผู้สอนและผูเ้ รยี นสรุปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นรว่ มกนั
8. ผู้สอนใช้สื่อวิดีโอการเรียนการสอน เรื่อง “การสร้าง Business Model Canvas” เพื่อ
เสรมิ สรา้ ง การเรยี นรู้ให้ผู้เรยี นเกดิ แนวคิดกอ่ นทากิจกรรมกลุ่ม
9. ผู้สอนนาหลักการสร้าง Business Model Canvas มาประยุกต์ใช้ในการดาเนินกิจกรรมการ
เรียนรู้ เพ่ือฝกึ ทักษะและแนวคิดก่อนการเขียนแผนธุรกิจ โดยใช้กระบวนการทางานเป็นกลุ่มหรือเป็น
ห้นุ สว่ นกนั ใน เชิงธุรกิจ
10. ผสู้ อนใช้สือ่ Power Point อธบิ ายกติกาและวธิ กี ารทางานแบบกลุ่ม พร้อมแสดงตัวอยา่ งของ
ชิ้นงาน
11. ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนเลอื กสมาชิกกลุ่มตามความสมคั รใจ/กลุ่มเดิมต่อเนือ่ ง และทาข้อตกลงเสมอื น
เปน็ หนุ้ ส่วนกนั
12. ผเู้ รยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจกตกิ าและเร่ิมลงมือปฏบิ ัติสร้าง Business Model Canvas
13. ผูเ้ รยี นสามารถสรา้ ง Business Model Canvas ของธุรกจิ ตนเองได้ภายในเวลาที่กาหนด
14. ผู้สอนและผู้เรียนสรุปแลกเปลยี่ นความคิดเห็นร่วมกัน
ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์
15. ผ้สู อนและผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเพ่ือให้เกิดการเรยี นรู้สามารถนาไปปฏบิ ัติได้ และประเมิน
พฤตกิ รรมกลมุ่ ของผ้เู รียน
16. ผู้สอนมอบหมายงานครั้งต่อไป ให้ผู้เรียนค้นคว้าหาแผนธุรกิจท่ีตนเองสนใจและเตรียม
นาเสนอผลงาน 2 กิจกรรม
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 14/18, คาบที่ 40-42/54)
ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน
1. ผ้สู อนทบทวนงานครง้ั ที่แล้ว เพ่อื นาไปสู่การนาเสนอผลงาน 2 กจิ กรรม
2. ผู้เรียนเตรยี มความพรอ้ มนาเสนอผลงาน 2 กิจกรรม
ขนั้ สอน
3. ผสู้ อนใชส้ ่ือ Power Point สรปุ ความสาคัญทง้ั 2 กิจกรรม
4. ผ้เู รียนบันทึกสรปุ ความรูค้ วามสาคญั
5. ผูส้ อนใชส้ อื่ Power Point อธบิ ายกตกิ าการนาเสนอผลงาน และเกณฑ์การประเมินผลงาน
6. ผู้เรียนเข้าใจกติกาและเริ่มต้นนาเสนอผลงานท้ัง 2 กิจกรรม จนครบทุกกลุ่มภายในเวลาท่ี
กาหนด
7. ผ้สู อนสรุปแนะนาเพม่ิ เติมเพื่อให้ผเู้ รยี นพัฒนาต่อไป
8. ผู้สอนและผู้เรียนสรปุ แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ ร่วมกัน
ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์
9. ผู้สอนและผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเพื่อให้เกิดการเรียนรู้สามารถนาไปปฏิบัติได้ และประเมิน
การนาเสนอของผเู้ รียน
10. ผู้สอนมอบหมายงานคร้ังต่อไป ให้ผเู้ รียนคน้ คว้าหาแผนธุรกจิ ท่ีตนเองสนใจและชื่นชอบ
สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี น วิชา ธรุ กิจและการเป็นผ้ปู ระกอบการ 2. ส่อื Power Point
3. สอื่ VDO 4. กิจกรรมการเรียนการสอน
หลกั ฐาน 2. ใบเช็ครายชื่อ
1. บันทึกการสอน 4. การตรวจประเมินผลงาน
3. แผนจดั การเรียนรู้
การวัดผลและการประเมินผล
วิธีวัดผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เคร่ืองมือวดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยผู้สอนและ
นกั เรียนร่วมกันประเมิน
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง
2. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ ับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย
แนะนาให้ศึกษาข้อมลู เก่ยี วกบั ธุรกจิ ประเภทตา่ งๆ เพอื่ นามาวางแผนการทาธุรกิจและการเป็น
ผปู้ ระกอบการ และมอบหมายให้ผ้เู รียนค้นคว้าหาแผนธุรกิจทต่ี นเองสนใจและชืน่ ชอบ
บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้
ช่ือวชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ รหัสวชิ า 20001-1003
หนว่ ยท่ี 7 เรือ่ ง Business Model Canvas
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บนั ทึกหลงั การสอน
1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ (จดุ ประสงค์การเรยี นร/ู้ กจิ กรรม/การประเมนิ ผล)
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
2. ผลการเรียนของนักศึกษา/ผลการสอนของผู้สอน/ปัญหาทพ่ี บ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแก้ปญั หา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.....................................................
(.............................................)
ครูผู้สอน
แผนการจัดการเรียนรแู้ บบบูรณาการท่ี 7 หน่วยท่ี 7
ชื่อวิชา ธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ (20001-1003)
ช่อื หนว่ ย รูปแบบและการจัดทาแผนธรุ กิจ โดย เวลาเรยี นรวม 54 ชั่วโมง
ประยกุ ตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ช่อื เรอื่ ง การเขียนแผนธุรกจิ โดยประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนครัง้ ท่ี 15-17/18
จานวน 9 ช่ัวโมง
สาระสาคัญ
แผนธุรกจิ เป็นเครื่องมือของธุรกิจที่ผูป้ ระกอบการสามารถใช้ในการกาหนดข้ันตอน และวางแผน
การ ดาเนินธรุ กิจอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าหมายตามที่
กาหนดไว้ โดยแผนธุรกจิ ท่ีดีนั้นควรจะมคี วามถกู ต้อง ชดั เจนและกระชับ ครอบคลุมเนอื้ หาทส่ี าคญั ง่าย
ต่อการเขา้ ใจ และตอ้ งมีความเปน็ ไปได้ในการนาไปใชใ้ นการดาเนนิ ธุรกิจ
ดังนนั้ แผนธุรกิจ จึงเปรียบเสมือนเข็มทิศไว้นาทางธรุ กิจ สามารถใช้เป็นเคร่ืองมือในการนาเสนอ
ตอ่ หุ้นส่วนหรอื สถาบนั การเงนิ ตา่ งๆ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณารว่ มลงทุน หรือการพิจารณาเงินกู้
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ
2. แสดงความรเู้ ก่ียวกับองค์ประกอบของแผนธุรกจิ
3. จดั ทาประวตั กิ ิจการหรอื ภาพรวมหรือแนวคิดของกิจการ
4. จดั ทา SWOT หรือการวิเคราะหส์ ถานการณ์ทางธรุ กจิ
5. จดั ทาแผนการตลาด
6. จัดทาแผนการบริหารจัดการ
7. จดั ทาแผนการผลติ
8. จดั ทาแผนการเงิน
9. จัดทาจริยธรรมทางธรุ กจิ
10. จัดทาแผนสารองฉุกเฉินหรอื แผนรองรบั ความเสยี่ ง
11. จัดทาบทสรปุ สาหรับผู้บรหิ าร
12. จัดทาปกหนา้ คานา และสารบัญ
13. แสดงความรู้และจดั ทาภาคผนวก
14. ประยุกตใ์ ช้ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาเนินธุรกิจ
15. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูส้ าเรจ็
การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนใน
เรอ่ื ง
3.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ 3.2 ความมวี ินยั
3.3 ความรับผดิ ชอบ 3.4 ความซื่อสัตย์สุจริต
3.5 ความเชื่อมั่นในตนเอง 3.6 การประหยดั
3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเว้นสิง่ เสพติดและการพนนั
3.9 ความรักสามัคคี 3.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1.แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการวางแผนเป้าหมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพ ธุรกิจและการ
เปน็ ผู้ประกอบการ หลกั การจัดการทางการเงนิ หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิต
เบ้อื งตน้ และกฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง
2.จดั ทาแผนธุรกจิ อย่างงา่ ย
3.ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดาเนินงาน
4.ประยุกตใ์ ช้หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ ในการวางแผนและดาเนินงาน
เนอ้ื หาสาระ
1. ความหมายและความสาคัญของแผนธุรกจิ
2. องค์ประกอบของแผนธรุ กจิ
3. ประวตั กิ ิจการหรอื ภาพรวมหรอื แนวคิดของกิจการ
4. SWOT หรือการวิเคราะห์สถานการณ์ทางธุรกิจ
5. แผนการตลาด
6. แผนการบรหิ ารจัดการ
7. แผนการผลิต
8. แผนการเงิน
9. จรยิ ธรรมทางธุรกจิ
10. แผนสารองฉุกเฉินหรือแผนรองรับความเสย่ี ง
11. บทสรุปสาหรบั ผบู้ รหิ าร
12. ปกหน้า คานา และสารบญั
13. ภาคผนวก
14. ประยกุ ต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาเนนิ ธรุ กิจ
กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 15/18, คาบท่ี 43-45/54)
ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน
1. ผูส้ อนส่มุ เรียกการค้นคว้าจากการมอบหมายงานครัง้ ท่แี ลว้
2. ผูเ้ รียนสามารถค้นคว้าได้ตามความเข้าใจ
3. ผสู้ อนและผู้เรียนทาความเข้าใจการเขียนแผนธุรกิจ
ขน้ั สอน
4. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง ความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ
องค์ประกอบของแผนธรุ กจิ
5. ผู้เรียนบันทึกความรู้เร่ือง ความหมายและความสาคัญของแผนธุรกิจ องค์ประกอบของแผน
ธรุ กจิ
6. ผสู้ อนและผเู้ รยี นสรปุ แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ ร่วมกัน
7. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง การจัดทาประวัติกิจการหรือภาพรวมหรือ
แนวคิดของกิจการ พร้อมใช้สื่อวิดีโอการเรียนการสอน เร่ือง “แนวคิดและแรงบันดาลใจในการทา
ธุรกิจ”สาหรับเป็นตัวอย่างการเรียนรู้ให้ผู้เรียน และนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดทาหรือเขียนประวัติ
กจิ การหรือภาพรวมหรอื แนวคิดของกจิ การ
8. ผูเ้ รียนบนั ทึกความรเู้ รอ่ื ง การจัดทาประวัตกิ ิจการหรอื ภาพรวมหรือแนวคิดของกิจการ
9. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง การจัดทา SWOT หรือการวิเคราะห์
สถานการณ์ทางธุรกิจ พร้อมแสดงตัวอย่างการวิเคราะห์ SWOT ให้ผู้เรียน สาหรับนาไปประยุกต์ใช้ใน
การจัดทาหรือเขยี น SWOT เพอ่ื วิเคราะห์สถานการณท์ างธุรกจิ
10. ผู้เรยี นบันทกึ ความรเู้ รื่อง การจัดทา SWOT หรอื การวิเคราะห์สถานการณท์ างธุรกิจ
11. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง การจัดทาแผนการตลาด พร้อมใช้สื่อวิดีโอ
การ เรียนการสอน เร่ือง “กลยุทธ์ทางการตลาด” และแสดงตัวอย่างแผนการตลาดให้ผู้เรียน สาหรับ
นาไป ประยกุ ต์ใช้ในการจัดทาหรือเขียนแผนการตลาด
12. ผเู้ รียนบันทึกความรู้เร่ือง การจัดทาแผนการตลาด
13. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เร่ือง การจัดทาแผนการบริหารจัดการ พรอ้ มใช้
สือ่ วิดีโอการเรียนการสอน เร่อื ง “การแบ่งหน้าที่” และแสดงตัวอย่างแผนการบรหิ ารจัดการให้ผู้เรียน
สาหรับ นาไปประยุกตใ์ ชใ้ นการจัดทาหรอื เขยี นแผนการบริหารจดั การ
14. ผู้เรยี นบันทกึ ความรู้เรอ่ื ง แผนการบริหารจัดการ
15. ผสู้ อนใช้ส่อื Power Point บรรยายความรู้เร่ือง การจัดทาแผนการผลิต พร้อมแสดงตัวอยา่ ง
แผนการผลิตให้ผเู้ รยี น สาหรับนาไปประยุกตใ์ ช้ในการจดั ทาหรือเขียนแผนการผลิต
16. ผเู้ รียนบันทกึ ความรู้เรื่อง แผนการผลิต
17. ผู้สอนสรุปความสาคัญองค์ประกอบของแผนธุรกิจ 5 ส่วนและมอบหมายให้ผู้เรียนลงมือจัดทา
โดยใหผ้ ู้เรียนแบ่งหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในกลมุ่ แต่ละฝา่ ยตามรูปแบบของโครงสรา้ งธรุ กิจ
18. ผู้เรียนสามารถเขยี นหรอื จดั ทาแผนธุรกิจ 5 ส่วนได้ภายในเวลาที่กาหนด
19. ผูส้ อนและผูเ้ รยี นสรปุ แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ รว่ มกนั
ข้ันสรุปและการประยกุ ต์
20. ผสู้ อนและผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเพื่อให้เกดิ การเรยี นรู้สามารถนาไปปฏิบัติได้ และประเมิน
พฤตกิ รรมกลุ่มของผู้เรยี น
21. ผู้สอนมอบหมายงานครง้ั ต่อไป ให้ผเู้ รียนทบทวนการเขียนแผนธรุ กจิ 5 ส่วนและทาใบงานท่ี
7
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ี่ 16/18, คาบที่ 46-48/54)
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน
1. ผ้สู อนทบทวนการเขยี นแผนธุรกิจ 5 สว่ น
2. ผูเ้ รยี นเตรยี มความพรอ้ มเขยี นแผนธุรกจิ ต่อเนอ่ื ง
3. ผสู้ อนช้แี จงการแบง่ งานตามหน้าทค่ี วามรับผิดชอบของแตล่ ะบุคคล
ขน้ั สอน
4. ผู้สอนใช้ส่ือ Power Point บรรยายความรู้เรื่อง จริยธรรมทางธุรกิจ พร้อมใช้ส่ือวิดีโอการ
เรียนการสอน เร่ือง “จรรยาบรรณของนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ”สาหรับเป็นตัวอย่างการเรียนรู้ให้
ผเู้ รียน และนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดทาหรือเขยี นจรยิ ธรรมทางธรุ กจิ
5. ผู้เรียนบนั ทึกความรู้เรอื่ ง จรยิ ธรรมทางธุรกิจ
6. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point บรรยายความรู้เร่ือง การจัดทาแผนสารองฉุกเฉินหรอื แผนรองรับ
ความเส่ียง พร้อมแสดงตัวอย่างแผนสารองฉุกเฉินหรือแผนรองรับความเสี่ยงให้ผู้เรียน สาหรับนาไป
ประยุกตใ์ ช้ในการจัดทาหรอื เขียนแผนสารองฉกุ เฉินหรอื แผนรองรบั ความเสย่ี ง
7. ผู้เรียนบันทึกความรูเ้ รื่อง การจดั ทาแผนสารองฉกุ เฉนิ หรอื แผนรองรบั ความเสย่ี ง
8. ผู้สอนบรรยายความรู้เร่ือง การจัดทาแผนการเงนิ พร้อมเขียนวิธีการคิดวางแผนการเงินเป็น
ตวั อยา่ งบนกระดานให้ผู้เรยี น สาหรับนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการจดั ทาหรือเขียนแผนการเงิน
9. ผเู้ รยี นบนั ทึกความรเู้ รื่อง การจดั ทาแผนการเงิน
10. ผู้สอนสรุปความสาคัญองค์ประกอบของแผนธรุ กิจ 3 ส่วนและมอบหมายใหผ้ ู้เรียนลงมือจัดทา
โดย ให้ผเู้ รยี นแบง่ หน้าทีข่ องสมาชิกในกลมุ่ แต่ละฝา่ ยตามรูปแบบของโครงสร้างธุรกจิ
11. ผูเ้ รยี นสามารถเขยี นหรือจดั ทาแผนธุรกจิ 3 ส่วนไดภ้ ายในเวลาทก่ี าหนด
12. ผ้สู อนและผ้เู รียนสรุปแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นร่วมกนั
ข้ันสรปุ และการประยุกต์
13. ผสู้ อนและผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเพื่อให้เกดิ การเรียนรู้สามารถนาไปปฏิบัติได้ และประเมิน
พฤตกิ รรมกลุ่มของผเู้ รยี น
14. ผสู้ อนมอบหมายงานคร้งั ตอ่ ไป ให้ผเู้ รยี นทบทวนการเขียนแผนธรุ กจิ 8 สว่ นและทาใบงานท่ี 7
กิจกรรมการเรียนรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 17/18, คาบที่ 49-51/54)
ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ผสู้ อนทบทวนการเขยี นแผนธุรกิจ 8 ส่วน
2. ผู้เรยี นเตรยี มความพร้อมเขียนแผนธุรกจิ ต่อเนื่อง
3. ผูส้ อนช้แี จงการแบ่งงานตามหนา้ ทคี่ วามรบั ผิดชอบของแต่ละบคุ คล
ขั้นสอน
4. ผู้สอนใช้ส่ือ Power Point บรรยายความรู้เร่ือง การจัดทาบทสรุปสาหรับผู้บริหาร พร้อม
แสดงตัวอย่างบทสรุปสาหรับผู้บรหิ ารให้ผู้เรียน สาหรับนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดทาหรอื เขียนบทสรุป
สาหรับผ้บู ริหาร
5. ผเู้ รยี นบันทกึ ความรเู้ รอ่ื ง การจดั ทาบทสรปุ สาหรบั ผบู้ รหิ าร
6. ผู้สอนใช้ส่ือ Power Point บรรยายความรู้เร่ือง การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงใน
การดาเนินธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ พร้อมใช้สื่อวิดีโอการเรียนการสอน เรื่อง “หลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงกับนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ”สาหรับเป็นตัวอย่างการเรียนรู้ให้ผู้เรียน และนาไป
ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ
7. ผเู้ รียนบนั ทึกความรู้เร่ือง การประยุกต์ใชป้ รัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดาเนินธุรกิจและการ
เป็นผูป้ ระกอบการ
8. ผู้สอนใช้สื่อ Power Point อธิบายการจัดทาปกหน้า คานา สารบัญ ภาคผนวก และ
องค์ประกอบของแผนธุรกิจ เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนนาไปจดั ทาในลกั ษณะของรปู เล่ม
9. ผเู้ รยี นบนั ทกึ ความร้เู รือ่ ง การทาจดั รปู เล่มแผนธรุ กิจ
10. ผู้สอนสรุปความสาคัญองค์ประกอบของแผนธุรกิจทงั้ หมดและมอบหมายให้ผู้เรยี นลงมือจัดทา
โดยให้ผู้เรียนแบง่ หนา้ ท่ขี องสมาชิกในกล่มุ แตล่ ะฝา่ ยตามรปู แบบของโครงสรา้ งธุรกจิ
11. ผเู้ รียนสามารถเขยี นหรือจัดทาแผนธรุ กจิ ทง้ั หมดได้ภายในเวลาทก่ี าหนด
12. ผ้สู อนและผูเ้ รยี นสรปุ แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นรว่ มกัน
ขัน้ สรปุ และการประยกุ ต์
13. ผู้สอนและผู้เรียนสรุปสาระสาคัญเพื่อให้เกิดการเรียนรู้สามารถนาไปปฏบิ ัติได้ และประเมิน
พฤติกรรมกลุม่ ของผู้เรยี น
14. ผู้สอนทบทวนเนื้อหาสาระที่เรียนท้ังหมด เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจสาหรับเตรียม
ทดสอบปลายภาค
15. ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนทบทวนการเขียนแผนธุรกิจท้ังหมดและจัดทารูปเล่มให้สมบูรณ์
ตามรูปแบบ โดยผเู้ รียนสามารถดาวน์โหลดไฟล์รูปแบบแผนธุรกิจไดท้ ี่ เพจ : วชิ าการเป็นผปู้ ระกอบการ
ของผู้สอนและทาใบงานที่ 7 ทง้ั หมดสง่ ในสปั ดาหข์ องการสอบปลายภาค
กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ท่ี 18/18, คาบที่ 52-54/54)
- ผู้เรยี นทดสอบปลายภาค
- ผเู้ รียนนาส่งแผนธุรกจิ รปู เล่มฉบบั สมบรู ณ์
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน วชิ า ธุรกจิ และการเปน็ ผู้ประกอบการ
2. สอ่ื Power Point
3. สอ่ื VDO
4. กิจกรรมการเรียนการสอน
หลักฐาน 2. ใบเช็ครายช่ือ
1. บนั ทึกการสอน 4. การตรวจประเมินผลงาน
3. แผนจัดการเรยี นรู้
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ
4. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์
เครอ่ื งมอื วัดผล
1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยผู้สอนและ
นักเรยี นร่วมกันประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มีชอ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขึ้นไป)
3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป)
4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั การ
ประเมินตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ/งานทมี่ อบหมาย
-