The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by KruKae_e-book, 2021-09-13 04:30:48

แผนการสอน_20001-1003

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ

ใบงานท่ี 7.1
เร่อื ง รูปแบบและการจดั ทาแผนธรุ กจิ โดยประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

หวั ข้อ : การวเิ คราะห์ SWOT ธรุ กจิ
คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นวเิ คราะห์ SWOT กิจการของแตงโม แล้วเขียนลงในตารางที่กาหนดให้

นายแตงโมสาเร็จการศึกษาระดับ ปวช. แผนกอิเล็กทรอนิกส์ ได้เปิดบริการรับซ่อม
เคร่ืองใช้ไฟฟ้า โดยที่ร้านของเขาอยู่ในแหล่งชุมชนจึงมีลูกค้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก ประกอบกับ
แตงโมเป็นคนร่าเริง ย้ิมง่าย เป็นกันเองกับลูกค้า และมีฝีมือในการทางาน แต่เนื่องจากเป็นร้านเล็ก
แตงโมจึงต้องทางานเพียงคนเดียวและขาดแคลนเงินทุน จึงทาให้มีอะไหล่หรือช้ินส่วนในการซ่อม
ภายในร้านค่อนข้างน้อย จึงทาให้บริการล่าช้า ส่งผลทาให้ลูกค้าเกิดความเบื่อหน่ายมาใช้บริการลด
น้อยลง แตงโมได้ทราบข่าวว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนร้านค้าขนาดเลก็ โดยให้กู้เงินในอัตราดอกเบ้ีย
ต่าจึงทาให้เขามีความหวังวา่ จะสามารถกู้เงินเพื่อนามาขยายกิจการของเขาได้ในอนาคต ในชุมชนที่เขา
เปิดกิจการอยูน่ ม้ี ีรา้ นรับซอ่ มเครื่องใช้ไฟฟ้าอยแู่ ล้ว 2-3 ราย

จดุ แขง็ Strength จดุ ออ่ น Weakness

โอกาส Opportunities อุปสรรค Threat

ใบงานท่ี 7.2
เร่ือง รูปแบบและการจัดทาแผนธุรกจิ โดยประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

หวั ขอ้ : การประมาณยอดขาย
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นวิเคราะหข์ ้อมูลยอดขายกรณตี ัวอยา่ ง แลว้ ดาเนินการตามท่ีกาหนดให้

นายเล็กมคี วามคิดทจี่ ะทาธุรกจิ โดยการเปดิ รา้ นขายอะไหล่รถจกั รยานยนต์ โดยจะเรมิ่ ขายเพียง

- นา้ มันเครือ่ ง - หัวเทยี น

- กระจกมองหลงั - ยางรถจกั รยานยนต์

- หลอดไฟ - เบาะรถจกั รยานยนต์

นายเล็กรู้ว่าใกล้ๆ กันมีรา้ นที่ขายอะไหล่รถจักรยานยนต์อยู่ 2 ร้าน นายเลก็ จึงไปสงั เกตดวู ่าทั้ง

สองร้านขายได้มากน้อยเพียงใด ตารางตอ่ ไปน้คี อื ผลสรุปจากการสังเกต

ประมาณการยอดขายรา้ นนายใหญ่

รายการสนิ ค้า วนั ที่ 1 วนั ท่ี 2 วันท่ี 3 วันท่ี 4 เฉลย่ี ตอ่ วนั เฉลยี่ ตอ่ เดือน
หวั เทียน
กระจกมองหลัง 30 40 35 40 36 1,080
ยางรถ
หลอดไฟ 15 20 12 16 16 480
เบาะ
นา้ มันเครอ่ื ง 10 15 12 15 13 390

20 25 18 30 23 690

7 5 4 10 7 210

25 30 40 30 31 930

ประมาณการยอดขายร้านนายบิ๊ก

รายการสนิ คา้ วันที่ 1 วันท่ี 2 วันท่ี 3 วนั ท่ี 4 เฉลี่ยตอ่ วัน เฉลย่ี ตอ่ เดอื น
หวั เทียน
กระจกมองหลงั 50 60 40 50 50 1,500
ยางรถ
หลอดไฟ 20 25 30 20 24 720
เบาะ
น้ามนั เครื่อง 25 20 18 25 22 660

30 35 30 40 34 1,020

15 12 10 20 14 420

40 60 50 40 48 1,440

นายเล็กได้นาขอ้ มูลท่ไี ดจ้ ากการสงั เกตมาเปรียบเทยี บกบั ร้านคา้ ที่นายเลก็ จะเปดิ ใหบ้ ริการ โดยได้
มกี ารวเิ คราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ของคู่แข่งขันท้ัง 2 ราย และสรปุ ได้วา่ กิจการของนายเล็กจะดีกว่านาย
ใหญ่ แต่จะส้นู ายบ๊ิกไม่ได้อย่างน้อยในช่วง 1 ปีแรก และต้องใชเ้ วลาอย่างน้อย 3 เดอื น ยอดขายจงึ จะ
อยู่ในระดับเดยี วกับกบั นายใหญ่

คาถาม ยอดขายในเดอื นแรกของนายเล็กเป็นอย่างไร ใหน้ ักเรียนจดั ทาประมาณการยอดขายให้นาย
เล็ก

ประมาณการยอดขายรา้ นนายเลก็

รายการสินค้า วันที่ 1 วนั ท่ี 2 วนั ท่ี 3 วันท่ี 4 เฉล่ียต่อวนั เฉลยี่ ต่อเดอื น

ใบงานท่ี 7.3
เรือ่ ง รปู แบบและการจัดทาแผนธุรกจิ โดยประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

หวั ข้อ : เงนิ ทุนท่ีนามาเพื่อเรม่ิ ธุรกจิ
คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนวิเคราะหก์ รณตี วั อยา่ ง แล้วดาเนนิ การตามท่ีกาหนดให้

นายยุทธ วางแผนจะประกอบธรุ กิจขายเคร่ืองปรับอากาศพร้อมให้บรกิ ารติดต้ังแบบครบวงจร

โดยในระยะเร่ิมตน้ ของการทาธรุ กิจ จะต้องลงทนุ ซอ้ื เคร่ืองมือและอุปกรณ์ ดงั นี้

- เคร่ืองเชื่อมแก๊ส 1 เครอื่ ง 4,500 บาท - เครอื่ งทาสญุ ญากาศ 1 เครือ่ ง 15,000 บาท

- สวา่ นโรตาร่ี 1 อัน 6,000 บาท - ปม๊ั แรงดนั 1 เครอื่ ง 3,600 บาท

- เครอื่ งเปา่ ลม 1 เคร่อื ง 1,500 บาท - เกจวดั แรงดัน 1 เคร่ือง 2,500 บาท

- แคมป์ออนมิเตอร์ 1 อัน 2,000 บาท - มัลตมิ เิ ตอร์ 1 อัน 1,000 บาท

- ถังน้ายา 1 ถงั 4,500 บาท - กลอ่ งเครอื่ งมอื 2 ชดุ 750 บาท

- บนั ไดอลูมเิ นยี ม 1 อนั 1,600 บาท

นอกจากน้ีแล้ว นายยทุ ธยังไดป้ ระมาณการว่าจะต้องมีเงนิ สดเพ่ือใช้เป็นค่าใช้จา่ ยในการดาเนิน

กิจกรรมธุรกจิ ดังน้ี

- ค่าไฟฟา้ 2,000 บาท/เดือน - คา่ โทรศัพท์ 1,000 บาท/เดอื น

- ค่าโฆษณา 500 บาท/เดือน - คา่ บารงุ รักษา 300 บาท/เดอื น

- ค่าประกนั สงั คม 450 บาท/เดอื น - คา่ เช่าสถานท่ี 3,000 บาท/เดือน

- เงินเดือนชา่ ง 2 คน คนละ 6,000 บาท/เดอื น - ต้นทนุ สนิ คา้ (เครื่อง) 21,900 บาท

โดยนายยุทธได้ประมาณการยอดขายไวว้ ่าในช่วง 3 เดือนแรกของการทาธุรกิจ เขาจะสามารถ

ขายเครื่องปรับอากาศได้ 5 เคร่ือง, 10 เคร่ือง, 15 เคร่ือง ตามลาดับ และเม่ือพ้นสามเดือนไปแล้ว

ยอดขายจะอยทู่ ปี่ ระมาณ 20 เคร่ือง/เดอื น

คาถาม 1. นายยุทธต้องใชเ้ งนิ ลงทุนในการเริ่มตน้ ประกอบธุรกิจเท่าไร
2. ให้นักเรยี นคานวณหาเงนิ ลงทุนทนี่ ายยทุ ธต้องใช้ในการเร่ิมตน้ ประกอบธรุ กจิ
โดยให้บนั ทกึ รายการค่าใช้จา่ ยที่เป็นเงนิ ทุนถาวรและค่าใช้จ่ายทเ่ี ป็นเงนิ ทุนหมุนเวยี นลงใน

ตารางทก่ี าหนดให้

เงินทนุ ถาวร เงนิ ทนุ หมุนเวยี น

ท่ี รายการ จานวนเงนิ ท่ี รายการ จานวนเงนิ

รวมเงนิ รวมเงนิ

คาตอบ
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….……………………………
………………………………………………………………………………………………………………….………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………

ใบงานท่ี 7.4
เรือ่ ง รูปแบบและการจดั ทาแผนธรุ กิจ โดยประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

หวั ข้อ : ประมาณการงบกาไรขาดทนุ
คาชี้แจง ให้นกั เรียนใชข้ อ้ มลู ในใบงานที่ 7.3 กรณีกิจการขายเคร่อื งปรับอากาศของยุทธ และประมาณ
การยอดขายลงในตารางท่ีกาหนดให้ เพอ่ื ทาประมาณการงบกาไรขาดทุน

สินค้า ประมาณการยอดขาย (เครื่อง/เดอื น) พ.ค. มิ.ย.
เคร่ืองปรบั อากาศ 20 20
ราคาขายตอ่ หน่วย ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. 25,900 25,900
ยอดขายตอ่ เดือน 5 10 15 20
25,900 25,900 25,900 25,900

สนิ ค้า ประมาณการงบกาไรขาดทนุ พ.ค. ม.ิ ย.
รายได้จากการขาย
รายจ่าย ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย.

รวมรายจา่ ย
กาไร(กอ่ นหักภาษ)ี

ใบงานท่ี 7.5
เรือ่ ง รปู แบบและการจัดทาแผนธรุ กิจ โดยประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

หวั ข้อ : ประมาณการงบกระแสเงินสด
คาช้ีแจง ให้นักเรียนใชข้ ้อมลู จากประมาณการงบกาไรขาดทุนในใบงานท่ี 7.4 เพื่อทาประมาณการงบ
กระแสเงินสด จากกรณีกิจการขายเคร่ืองปรับอากาศของยุทธ ซ่ึงยุทธคิดว่าในช่วงปีแรกเขาสามารถขอ
เครดิตทางการค้าจากบริษัทผู้ผลิตเคร่ืองปรับอากาศได้เป็นเวลา 1 เดือน ขณะน้ียุทธมีเงินสดประมาณ
100,000 บาท ในการเริ่มต้นธุรกิจ

คาถาม 1. ให้นักเรียนจดั ทาประมาณการงบกระแสเงนิ สดให้กิจการของยทุ ธ
2. เงินจานวน 100,000 บาท เพียงพอในการเร่มิ ตน้ ธรุ กจิ หรือไม่
3. ถา้ เงนิ จานวน 100,000 บาท ไม่เพยี งพอ ยทุ ธจะต้องมีเงินในการเรมิ่ ต้นธรุ กิจเท่าไร
4. ใหน้ กั เรียนแนะนารปู แบบธรุ กิจ ท่เี หมาะกบั เงนิ ทนุ ของยทุ ธ

รายละเอียด ประมาณการงบกระแสเงนิ สด
เงนิ สดตน้ เดอื น
เงนิ สดจากการขายสด ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย.

รวมเงนิ สดรบั
เงนิ สดจ่าย

รวมเงนิ สดจ่าย
เงนิ สดส้ินเดอื น

คาตอบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 7
เรอื่ ง รปู แบบและการจดั ทาแผนธุรกจิ โดยประยุกต์ใชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

*************************

คาสัง่ จงเลอื กคาตอบทีถ่ ูกต้องเพียงข้อเดยี ว

1. ความหมายของแผนธุรกจิ คือข้อใด

ก. ส่ิงทผี่ บู้ ริหารต้องปฏบิ ัตอิ ยา่ งต่อเนือ่ งตามขั้นตอนทีไ่ ดร้ ะบไุ วเ้ พอ่ื ให้การทางานมปี ระสิทธิภาพ

ข. แผนงานธุรกจิ ที่แสดงถงึ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องปฏิบัติเพอ่ื ให้การดาเนนิ งานบรรลเุ ป้าหมาย

ค. แผนงานทีม่ ขี อบเขตกวา้ งขวาง มกี าหนดระยะเวลาตัง้ แต่ 5 – 10 ปี ขึ้นไป

ง. การตดั สินใจเลอื กวิธีการในการจัดแบง่ กิจกรรมและทรพั ยากรขององคก์ าร

2. บคุ คลที่ไมไ่ ด้เกย่ี วข้องกับแผนธุรกิจคือข้อใด

ก. สถาบันการเงนิ ข. หุ้นส่วน

ค. ผบู้ รหิ าร ง. ผู้บริโภค

3. โครงเร่ืองมาตรฐานของแผนธรุ กิจหวั ข้อใดเขียนเปน็ หวั ข้อสุดท้าย

ก. บทสรุปของผู้บรหิ าร ข. ประวัตยิ ่อของกิจการ

ค. แผนการเงนิ ง. แผนการตลาด

4. ข้อใด ไมใ่ ช่ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมภายนอก

ก. สังคม วฒั นธรรม ข. โอกาสและอุปสรรค

ค. เทคโนโลยี ง. เศรษฐกจิ และการเมือง

5. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ องค์ประกอบของ SWOT

ก. จุดแขง็ ข. จุดอ่อน

ค. โอกาส ง. กาไร

6. ขอ้ ใดมีความเก่ียวขอ้ งกบั จดุ แข็ง

ก. ลกู ค้ากลุ่มเดิมขยายตวั ข. มมี นษุ ยสัมพันธท์ ีด่ ี

ค. มีการพฒั นาสนิ ค้าใหม่ ง. มกี ารบริการใหม่

7. ค่แู ขง่ ขนั จดั ว่าเป็น

ก. จดุ แข็ง ข. จุดออ่ น

ค.โอกาส ง. อปุ สรรค

8. การวิเคราะห์ SWOT มปี ระโยชนต์ ่อกิจการอย่างไร

ก. เพือ่ นามาใชใ้ นการปรับปรุงและพฒั นาการดาเนินกจิ การให้บรรลเุ ปา้ หมาย

ข. เพอื่ เปน็ การขจดั ปญั หาและอปุ สรรคในการดาเนนิ กจิ กรรมของกจิ การ

ค. เพอ่ื ใหก้ ิจการมีความเชอ่ื ม่นั ในการดาเนินกิจกรรมทางธุรกิจ

ง. เพอ่ื ใหก้ จิ การมโี อกาสในการแสวงหาลูกค้ากลมุ่ ใหม่

9. Vision หมายถงึ ข้อใด

ก. พนั ธกจิ ข. เปา้ หมาย

ค. วสิ ัยทัศน์ ง. ปรชั ญา

10. วสิ ยั ทัศน์คอื อะไร

ก. ภารกิจทกี่ จิ การตอ้ งทาเพือ่ ใหง้ านบรรลเุ ป้าหมาย

ข. ปัจจัยภายนอกท่ีส่งผลกระทบในเชิงบวกตอ่ กจิ การ

ค. สงิ่ ที่กาหนดหรอื บอกไดว้ ่าเมอื่ ไรจึงจะประสบความสาเรจ็

ง. ภาพในอนาคตของกจิ การทเ่ี จา้ ของอยากใหป้ ระสบความสาเรจ็ ในระยะยาว

11. พนั ธกจิ จะต้องสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด

ก. โอกาส ข. วสิ ยั ทัศน์

ค. แผนการเงิน ง. แผนการตลาด

12. ข้อใดกลา่ ว ไม่ถูกต้อง เกยี่ วกับเป้าหมาย

ก. เป้าหมาย คอื ส่งิ ที่กาหนดหรือบอกได้วา่ เม่ือไรกจิ การจะประสบความสาเร็จ

ข. วสิ ยั ทศั น์ พันธกิจ และเปา้ หมาย จะต้องสอดคลอ้ งกัน

ค. การกาหนดเปา้ หมายไม่จาเปน็ ต้องแสดงเป็นตัวเลข

ง. เป้าหมายจะตอ้ งเปน็ สง่ิ ที่วัดได้

13. การจดั โครงสร้างองค์การและการจดั ทีมบรหิ าร เป็นการวางแผนด้านใด

ก. แผนจดั การและแผนกาลงั คน ข. แผนการตลาด

ค. แผนการเงนิ ง. แผนการผลิต

14. สว่ นประกอบของแผนการเงนิ คือข้อใด

ก. การหาแหลง่ สินค้า

ข. การกาหนดเป้าหมายกาไร

ค. งบกาไรขาดทุนและงบกระแสเงินสด

ง. การจัดซอ้ื และระบบสนิ คา้ คงคลงั

15. แผนธรุ กจิ มปี ระโยชนต์ ่อการประกอบธรุ กจิ อยา่ งไร

ก. เพอ่ื ใชใ้ นการบอกเป้าหมายและข้นั ตอนท่ีต้องดาเนินการ

ข. เพอ่ื ชว่ ยคน้ หาอุปสรรคทผี่ ้ปู ระกอบการอาจพบในระหว่างการทาธรุ กิจ

ค. เพือ่ ช่วยใหไ้ ด้รับการสนบั สนนุ ทางการเงนิ จากนักลงทนุ และสถาบันการเงนิ

ง. เพือ่ ชว่ ยพัฒนาความสามารถในการบรหิ ารไดฝ้ ึกฝนวิธคี ิดและแนวทางในการแกป้ ญั หา

บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้

ชื่อวชิ า ธุรกิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ รหัสวชิ า 20001-1003

หน่วยท่ี 7 เรื่อง รปู แบบและการจัดทาแผนธุรกจิ โดยประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บนั ทกึ หลังการสอน

1. ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ (จดุ ประสงค์การเรยี นรู้/กจิ กรรม/การประเมนิ ผล)
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

2. ผลการเรียนของนกั ศกึ ษา/ผลการสอนของผูส้ อน/ปญั หาทพ่ี บ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

3. แนวทางการแกป้ ญั หา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.....................................................
(.............................................)
ครูผู้สอน

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก
แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล

พฤตกิ รรม

ลาดบั ช่อื -สกลุ ความสนใจ การแสดง การตอบ การรับฟัง ทางาน รวม
ท่ี ความคิดเหน็ คาถาม ความคิดเหน็ ตามท่ไี ด้รบั
มอบหมาย

1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี

ดมี าก = 4 (เกณฑร์ ะหว่าง 90 - 100%)

ดี = 3 (เกณฑ์ระหวา่ ง 70 - 89%)

ปานกลาง = 2 (เกณฑ์ระหว่าง 50 - 69% )

ปรบั ปรุง = 1 (เกณฑต์ า่ กว่า 50 %)

หมายเหตุ : ใชแ้ บบประเมินนท้ี ุกแผนการจดั การเรยี นรู้

ลงชือ่ ……………………………….ผสู้ งั เกต
(………………………….……)
…………/…………/………..

ภาคผนวก ข
แบบประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่

กลุ่มท่ี………..ชน้ั /แผนก……………….

คาชี้แจง 1.ใหส้ ังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นตามที่กาหนด

ลาดบั 2. ใหผ้ ้สู อนประเมินและใสเ่ คร่อื งหมาย  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั พฤตกิ รรมของนกั เรยี นแต่ละกลุม่
ที่
พฤติกรรม

หัวขอ้ เร่ือง ความ การแสดง ความตง้ั ใจ ทางานเสร็จ การนาเสนอ รวม
รว่ มมอื กัน ความคิดเห็น ในการ ตามเวลา ผลงาน 20
ทางาน

12341234123412341234

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ดีมาก = 4 (เกณฑ์ 90 - 100% หรอื ปฏิบตั บิ ่อยครั้ง)
ดี = 3 (เกณฑ์ 70 - 89% หรอื ปฏบิ ตั ิบางคร้งั )
ปานกลาง = 2 (เกณฑ์ 50 - 69% หรอื ปฏบิ ตั ิครง้ั เดยี ว)
ปรับปรงุ = 1 (ตา่ กวา่ 50 % หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ิเลย)

ลงช่ือ…………………………….ผู้ประเมนิ
(……..……………………..)
………./………../.……….

ภาคผนวก ค
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

กลมุ่ เชี่ยวชาญท…ี่ ..……..ชน้ั /แผนก……………….

คาช้ีแจง 1. ให้ประธานกลมุ่ สังเกตพฤตกิ รรมสมาชกิ ในกลุ่มตามทีก่ าหนด

ลาดับ 2. ให้ประธานกล่มุ ประเมินและใส่เคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับพฤตกิ รรมของสมาชกิ ในกลุ่ม
ที่
พฤตกิ รรม

ช่อื -สกลุ ความ การแสดง การรับฟัง ความตง้ั ใจ การมีส่วน- รวม
สมาชกิ กลุ่ม ร่วมมอื กัน ความคิดเหน็ ความคดิ เหน็ ในการ รว่ มในการ
ทางาน อภิปราย

1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (เกณฑร์ ะหว่าง 90 - 100% หรือปฏิบัตบิ อ่ ยครง้ั )
ดีมาก = 4 (ในเกณฑ์ระหวา่ ง 70 - 89% หรือปฏิบตั ิบางครง้ั )
ดี = 3 (เกณฑ์ระหว่าง 50 - 69% หรอื ปฏิบตั ิครงั้ เดียว)
ปานกลาง = 2 (เกณฑ์ต่ากว่า 50 % หรือไมป่ ฏิบัตเิ ลย)
ปรับปรงุ = 1

ลงชือ่ …………………………….ผสู้ ังเกต
(……..………………….…..)
…….…./………../.……….

ภาคผนวก ง
แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ชื่อผูป้ ระเมนิ /กล่มุ ประเมนิ …………………………………………………………………………………………..
ชือ่ กลมุ่ รบั การประเมนิ ………………………………………………………………………………………………
ประเมินผลครั้งที่…………………....…….. วนั ท่ี ……………..…. เดอื น ………..………. พ.ศ. ……...….…..
เรอ่ื ง…………………………………………………………………………………………………………………….

ท่ี คุณลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดบั พฤตกิ รรม คะแนนทไ่ี ด้
เกดิ = 1 ควรปรบั ปรุง = 0

1 ความมีมนุษยสัมพนั ธแ์ สดง: กริ ิยาท่าทางสุภาพตอ่ ผอู้ นื่

2 ความมีวนิ ยั :ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบ ข้อบังคบั และขอ้ ตกลงต่างๆ

ของสถาบันการศึกษา ได้แก่ แตง่ กายถูกต้องตามระเบียบ

ข้อบังคบั ตรงต่อเวลา

3 ความรับผิดชอบ: มกี ารเตรียมความพรอ้ มในการเรียน

4 ความซือ่ สัตย์สจุ รงิ :พูดความจรงิ

5 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง: กล้าแสดงออกในสงิ่ ทถี่ กู ต้อง

6
การประหยดั : ใชว้ ัสดุถูกต้องและเหมาะสมกบั งาน

7 ความสนใจใฝร่ ู้: มคี วามกระตอื รือร้นในการใฝ่หาความรใู้ หม่

8 การละเวน้ สิ่งเสพติดและการพนัน:ไมเ่ สพส่งิ เสพตดิ

9 ความรกั สามคั ค:ี ร่วมมือในการทางาน

10 ความกตญั ญกู ตเวที:มสี มั มาคารวะตอ่ ครู-อาจารย์อย่างสมา่ เสมอ
ท้งั ตอ่ หน้าและลบั หลงั

รวมคะแนนทไ่ี ดท้ ัง้ หมด = …………… คะแนน

หมายเหตุ : แบบประเมินน้ีใช้แบบเดียวกันทั้งผู้สอนและประธานกลุ่ม และประเมินคุณลักษณะดังกล่าวตลอดภาค
การศึกษา

ภาคผนวก จ
แบบรวมคะแนนการประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม
คา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตลอดภาคการศกึ ษา

ชอ่ื -สกลุ …………………………………………………………....รหสั ประจาตวั …………………………………
ระดับช้นั ………………..กลมุ่ ………………...แผนกวชิ า…………………….……………………………………

ครง้ั ทีป่ ระเมิน

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
คะแนนรวม
หารจานวนค ั้รงที่ประเ ิมน
คะแนนท่ีไ ้ด

คะแนนท่ีได้

1. ความมีมนุษยสัมพนั ธ์
2. ความมีวนิ ัย
3. ความรับผิดชอบ
4. ความซื่อสตั ย์สจุ รติ
5. ความเช่ือมั่นในตนเอง
6. การประหยดั
7. ความสนใจใฝ่รู้
8. การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนัน
9. ความรกั สามคั คี
10. ความกตัญญกู ตเวที

หมายเหตุ : แบบรวมคะแนนนีใ้ ชแ้ บบเดยี วกันท้ังผู้สอนและประธานกลุ่ม

ลงชื่อ……………………………….ผ้ปู ระเมนิ
(………………………….……)
…………/…………/………..

ภาคผนวก ฉ
แบบสรปุ ผลการประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ภาคเรียนท่ี……………………ปกี ารศกึ ษา…………………

รหสั วิชา…………………………………….. ความ ีมม ุนษยสัมพัน ์ธ
ช่อื วชิ า……………………………………… ความ ีม ิว ันย
ระดับช้ัน…………………………………… ความ ัรบผิดชอบ
แผนก / กลุ่ม…………………………….…. ความ ่ืซอสัตย์ ุสจ ิรต
ความเชื่อ ่ัมนในตนเอง
การประหยัด
ความสนใจใฝ่รู้
การละเ ้วนส่ิงเสพ ิตดและการพ ันน
ความ ัรกสา ัมคคี
ความก ัตญญูกตเวที
รวม (ใน ่สวนของ ูผ้สอน)
รวม (ใน ่สวนของประธานก ่ลุม)
รวมคะแนนที่ไ ้ดจาก ั้ทง ๒ ส่วน

ลาดบั ที่ รหสั ชอ่ื -สกลุ 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 10 10 20
ประจาตัว

วธิ ีการใชแ้ บบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม
และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ในการทากิจกรรมทุกครั้ง ครูจะใช้แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทา
การสงั เกตและประเมินผู้เรียน (ดูตัวอยา่ งในภาคผนวก)

2. ในขณะเดียวกัน เพื่อความเที่ยงในการประเมิน ครูผู้สอนจะมอบแบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ซ่ึงเป็นชดุ เดยี วกบั ของครผู ู้สอนใหป้ ระธานกลุ่มสงั เกตและประเมินผู้เรียน

3. คุณลกั ษณะท่ปี ระเมินตลอดจนพฤตกิ รรมบ่งชีท้ ี่ระบุในแบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอัน
พึงประสงค์ของ กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ท่ี ศธ 1911/3363 ลงวันท่ี 9 กรกฎาคม 2544 เรื่อง แนว
ปฏิบัติในการกากับดูแลการบูรณาการคุณธรรม กาหนดให้ครูผู้สอนต้องบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในทุกรายวิชา โดยให้มีคะแนน 20% เมื่อการจัดการเรียนการสอนครบทุก
รายวิชาตามโครงสร้างของหลักสตู รแลว้ จะต้องมีการบูรณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ ครบ 11 คุณลกั ษณะ ดังน้นั คุณลักษณะทปี่ ระเมินตลอดจนพฤตกิ รรมบ่งช้ี จึงขนึ้ อยูก่ บั สถานศึกษา
และครูเห็นสมควรว่าเหมาะสมกับเน้ือหาวิชาเพียงใด ตัวอย่างท่ีแสดงมาน้ีจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ในท่ีนี้ได้
เลอื กคุณลกั ษณะและพฤตกิ รรมบง่ ชี้ จานวน 7 คณุ ลกั ษณะ (10 ข้อ) กาหนดขอ้ ละ 1 คะแนน

4. เมื่อทาการประเมินในแต่ละครั้ง ครูผู้สอนจะนาคะแนนของผู้เรียนแต่ละคนไปสรุปในแบบรวม คะแนนการ
ประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ดูตวั อย่างในภาคผนวก) เพ่ือดูพัฒนาการ
ของผู้เรียน

5. ครูมอบให้ประธานกลุ่มสรุปคะแนนการประเมินในแต่ละคร้ังที่ประเมินลงในแบบรวมคะแนนการประเมินคุณธรรม
จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

6. หลังจบภาคการศึกษา นาหลกั ฐานคะแนนท่ีได้ทัง้ 2 สว่ น คือ จากครูและประธานกลุ่มไปสรุปลงในแบบสรุปผล
การประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ดูตัวอย่างในภาคผนวก) ในที่นี้ได้แบ่ง
คะแนนท่ีได้จากครูผ้สู อน 10% และจากประธานกลุ่ม 10% ก็จะไดผ้ ลรวมคะแนนคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 20%


Click to View FlipBook Version