แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5
รายวชิ างานเขียนแบบ รหสั วชิ า ง 30212
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง องค์ประกอบของงานเขยี นแบบ จานวน 16 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 4 เรือ่ ง สญั ลกั ษณ์ในงานเขียนแบบ เวลา 4 ชั่วโมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสง่ิ ของเครอื่ งใชห้ รือ
วธิ ีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทาง
สร้างสรรคต์ ่อชีวติ สังคมส่งิ แวดล้อม และมีส่วนรว่ ม ในการจัดการเทคโนโลยที ย่ี ่ังยืน
สาระที่ 3: เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร
มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบคน้ ขอ้ มูล การ
เรยี นรู้ การสอื่ สาร การแกป้ ัญหา การทางาน และอาชพี อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ประสทิ ธิผล และมีคุณธรรม
สาระที่ 4: การอาชีพ
มาตรฐาน ง 4.1 เข้าใจทกั ษะท่ีจาเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยีเพือ่ พัฒนา
อาชพี มีคุณธรรม และมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ อาชพี
2. ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนร้ทู ี่ 2 : อธิบายและปฏบิ ัตกิ ารเขยี นองคป์ ระกอบที่ใชใ้ นงานเขียนแบบได้
ผลการเรยี นรทู้ ่ี 6 : มีความขยนั อดทนและรับผิดชอบในการทางาน
ผลการเรียนรทู้ ่ี 7 : มสี ว่ นร่วม ในการอนุรักษ์ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม การดาเนนิ ชวี ติ ตามปรัชญา
เศรษฐกิจ
พอเพียง เหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพ
3. สาระสาคัญ
สัญลักษณ์ในงานเขยี นแบบ หมายถึง ส่งิ ท่ีใช้เปน็ ภาพสื่อสารกันระหวา่ งผูอ้ อกแบบกับผปู้ ฏบิ ัติงานซึ่ง
ผเู้ ขียนแบบจะเขยี นลงไปในแบบ เพอื่ ให้ผ้อู า่ นเขา้ ใจและทราบรายละเอยี ดของแบบอย่างชัดเจน สัญลกั ษณ์ท่ีใช้
ในงานเขียนแบบ อาจแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ไดห้ ลายอยา่ ง เช่นสญั ลกั ษณ์ที่ใช้ในงานกอ่ สร้าง งานไฟฟ้า วทิ ยุ
และสุขภณั ฑ์ เปน็ ต้น
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4.1 อธบิ ายสญั ลักษณ์ในงานเขียนแบบได้
4.2 เลือกใช้สัญลกั ษณ์ในงานเขียนแบบได้
4.3 สามารถเขยี นสัญลักษณ์ในงานเขียนแบบได้
5.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการคดิ
5.2 ความสามารถในการแก้ปญั หา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรียนรู้
6.1 การเขยี นสัญลกั ษณ์งานพนื้
6.2 การเขยี นสญั ลกั ษณง์ านผนัง
6.3 การเขยี นสัญลกั ษณง์ านฝา้ เพดาน
6.4 การเขียนสัญลกั ษณ์งานสถาปตั ยกรรม
7. กระบวนกาจดั การเรยี นรู้
7.1 ขนั้ สนใจปญั หา (Motivation)
1. ครเู ช็คช่ือนักศกึ ษาที่เข้าช้นั เรียนและตรวจระเบียบการแตง่ กาย
2. ครูนาเข้าสบู่ ทเรยี นหนว่ ยที่ 2 ครั้งที่ 2 โดยครูสุ่มถามผเู้ รยี นโดยใชค้ าถามนา เชน่
คาถาม “สัญลักษณ์ของงานเขียนแบบเขยี นอยา่ งไรบ้าง”
ขั้นใหเ้ นอื้ หา (Information)
1. ครูบรรยายการเขยี นสัญลักษณ์ในงานเขียนแบบ จากใบความรู้ท่ี 2.2 ดังน้ี
- การเขียนสญั ลักษณ์งานพ้ืน
- การเขยี นสัญลักษณ์งานผนัง
- การเขียนสัญลกั ษณง์ านฝ้าเพดาน
- ครบู รรยายและสาธิตการเขียนสัญลกั ษณ์งานสถาปตั ยกรรม
ขัน้ พยายาม (Application)
1. บรรยายและสาธิตการเขียนสญั ลักษณง์ านพื้น
2. บรรยายและสาธติ การเขยี นสัญลกั ษณง์ านผนัง
3. บรรยายและสาธิตการเขียนสญั ลกั ษณง์ านฝา้ เพดาน
4. บรรยายและสาธิตการเขยี นสัญลักษณ์งานสถาปัตยกรรม
ขน้ั สาเร็จผล (Progress)
1. ใบงานที่ 2.2
8.การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
หลักความ พอประมาณกับเวลา นกั เรียนเข้าใจการเขียนสัญลกั ษณ์ในงานเขยี นแบบ ได้ทนั เวลา
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชกิ นักเรยี นสามารถแบ่งกลุ่ม เพยี งตอ่ การรว่ มกันทางานเปน็ กลุม่
พอประมาณกับสถานที่ ห้องเรียนอตุ สาหกรรมมโี ตะ๊ เขยี นแบบ 35 โต๊ะ
หลักมีเหตุผล ในการจัดการเรียนการสอน นักเรยี นสามารถเขยี นสญั ลกั ษณ์ในงานเขยี นแบบ ได้
หลกั การสร้าง การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา
ภมู ิคุม้ กนั ในตวั ที่ดี ไดเ้ ปน็ อย่างดีทุกคนมสี ว่ นร่วมในการเรียนการสอนไดเ้ ป็นอย่างดี
เงอื่ นไขความรู้ นกั เรียนมีความรคู้ วามเข้าใจเร่อื งการเขียนสญั ลกั ษณ์ในงานเขยี นแบบไดเ้ ป็นอย่างดี
เง่อื นไขคณุ ธรรม นักเรียนมีความซื่อสัตยแ์ ละความรบั ผิดชอบ
9. สอ่ื / แหล่งการเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1. ใบความรู้ที่ 2.2 เรอื่ ง การเขียนสญั ลักษณ์ในงานเขยี นแบบ
2. ใบงานที่ 2.2 เร่อื ง การเขยี นสญั ลกั ษณ์ในงานเขยี นแบบ
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งสมดุ
2. แหล่งข้อมลู สารสนเทศ
10.การวดั ประเมินผล
ส่งิ ทตี่ ้องการวดั วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑก์ ารวัด
1. การเขยี นสัญลกั ษณ์ สงั เกตจาก 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านระดบั ดี
ในงานเขียนแบบ การเขยี นสัญลักษณ์ใน การเขยี นสญั ลกั ษณ์ในงาน
งานเขยี นแบบ เขียนแบบ
ใบความรทู้ ี่ 2.2
เสน้ บอกระยะ (dimention) คือ เสน้ บอกขนาดความกวา้ ง-ยาวของแต่ละหอ้ ง ซง่ึ เส้นแต่ละแบบก็
บอกระยะต่างกนั เชน่ เสน้ dimention แบบเสน้ ตง้ั และเสน้ นอนตดั กัน มีวงกลมทบั ใชบ้ อกระยะจาก
ศนู ย์กลางถงึ ศูนยก์ ลาง มกั ใชก้ บั เสา บอกระยะหอ้ งจากกลางเสาต้นแรกถงึ กลางเสาตน้ ท่ี 2 เป็นต้น
รปู แสดงการเขียนเส้นบอกระยะ
สัญลกั ษณร์ ปู ดา้ น ถ้าหัวลูกศรหนั เข้าหากนั จะแสดงรูปด้านรวมภายนอกอาคาร ถ้าหัวลูกศรหันออกทกุ
ทศิ ทางจะแสดงรปู ดา้ นรวมภายในของห้อง ซง่ึ ทง้ั 2 แบบมักวางไวใ้ กลช้ ือ่ แปลน หรอื มุมขวาล่างของแปลน
สว่ นตัวเลขในวงกลมแถวบน หมายถงึ แต่ละดา้ นในแปลน แถวล่าง หมายถึง หน้าทแ่ี สดงรูปด้านน้ันๆ
รูปแสดงการสัญลกั ษณร์ ปู ด้าน
สญั ลกั ษณ์รูปตดั แสดงแนวรปู ตดั อาคารหรอื แปลนนน้ั ๆ ตัวเลขข้างบนเปน็ หมายเลขรปู ตดั ตัวเลข
ข้างลา่ งเป็นหน้าทแ่ี สดงรปู ตัดนนั้ จากตวั อย่างคือแสดงแนวตดั ของ รปู ตดั A-A และ รูปตดั B-B ซงึ่ แสดงที่หน้า
A-00
รปู แสดงสัญลกั ษณแ์ นวเส้นตัด
สญั ลกั ษณบ์ อกช่ือห้อง นอกจากช่อื หอ้ งแล้วยังบอกอีกวา่ พนื้ หอ้ งน้นั ๆใชว้ สั ดอุ ะไร และอยสู่ ูงจากระดับ
พื้นตงั้ ต้นเทา่ ไหร่
รูปแสดงสญั ลกั ษณพ์ ้ืนหอ้ ง
ประตู และหนา้ ตา่ ง คอื สัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เลยในการเขยี นแปลนพ้นื เพราะเวลาเราตัดครึ่งห้อง
ย่อมตอ้ งเหน็ สัญลกั ษณ์เหล่านี้
สัญลกั ษณป์ ระตู ไมจ่ าเป็นต้องเป็นวงกลมเสมอไป อาจเป็นหกเหลี่ยม หรอื สามเหล่ยี มก็ได้ ตัวเลข
ภายในอาจเปน็ ตวั เลขเดย่ี วๆ หรือมตี วั อักษร “D” หรือ “ป” แทรกอยู่หนา้ ตัวเลขกไ็ ด้ เชน่ D1, ป1 เพอ่ื บอกวา่
ประตูบานนน้ั เป็นประตูลักษณะไหนซ่งึ จะเห็นได้แบบขยาย (detail)
รูปแสดงสัญลกั ษณ์ประตู
สญั ลักษณห์ น้าต่างกเ็ หมอื นกนั ไมจ่ าเป็นต้องเป็นหกเหล่ียม และอาจมีตวั อักษร “W” หรอื “น”
แทรกอยู่ข้างหนา้ ตวั เลขได้เชน่ เดยี วกบั สญั ลกั ษณ์ประตู
รปู แสดงสัญลกั ษณ์หน้าต่าง
ใบงานท่ี 2.2
คาสง่ั : ใหเ้ ขยี นสญั ลกั ษณ์ประกอบแบบ
เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์
1.โต๊ะเขยี นแบบ ขนาด 60 × 80 ซ.ม.
2.ไม้ที ขนาด 60 ซ.ม.
3.ฉากสามเหลีย่ ม
4.ดินสอเขยี นแบบ
5.ยางลบ
6.เทปกาว
7.ผา้ เช็ดมือ
เทคนคิ การทางานและข้อควรระวัง
1. การใชไ้ มท้ ีจะต้องสัมพนั ธก์ ับโตะ๊ เขยี นแบบ และฉากสามเหล่ียม
2. การรกั ษาความสะอาดบนกระดาษเขยี นแบบ
การประเมินชิ้นงาน / ภาระงาน
แบบประเมนิ งานเขยี น
ประเด็น 4 (ดมี าก) ระดับคะแนน / คาอธบิ ายระดบั คุณภาพ น้าหนกั คะแนน
การประเมนิ ความ รวม
เขยี นถูกตอ้ ง 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ควรปรบั ปรงุ ) สาคัญ
1. เน้อื หา ครอบคลมุ เน้ือหา 4
อยา่ งสมบรู ณ์ เขยี นถูกตอ้ ง เขียนผดิ บ้าง และไม่ เขียนผิดมาก และ 2
ครอบคลมุ เนื้อหา ครอบคลุมเนื้อหา ใหข้ อ้ มลู น้อย
เปน็ สว่ นใหญ่
2. การเขยี น เขยี นสญั ลกั ษณ์ เขยี นสญั ลักษณ์ เขยี นสญั ลักษณ์ เขยี นสัญลกั ษณ์ 2 4
สัญลกั ษณ์ ประกอบแบบได้ ประกอบแบบได้ ประกอบแบบมขี อ้ ประกอบแบบมีข้อ
ประกอบแบบ อยา่ งถูกตอ้ งและ เหมาะสม ผดิ บา้ ง ผดิ มาก
เหมาะสม
3. องค์ประกอบ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบของ องค์ประกอบของ องคป์ ระกอบของ 1 2
ของงานเขียน งานเขียนแบบ งานเขยี นแบบ งานเขยี นแบบ งานเขยี นแบบ 5 10
แสดงใหเ้ ห็นความ มคี วามสมั พนั ธ์ นา่ สนใจ ขาด ไมน่ ่าสนใจ
รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ ต่อเนอ่ื งน่าสนใจ ความสมั พันธ์
มีความสมั พนั ธ์ ต่อเนอ่ื ง
ตอ่ เนื่องน่าสนใจ
รวม
เกณฑ์การประเมนิ : นักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไมน่ อ้ ยกวา่ 60% หรือ 6 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์
วิธีคิดคะแนน: คา่ น้าหนกั ความสาคัญ × ระดบั คะแนนทีน่ ักเรียนได้ = คะแนนรวม
แบบบันทกึ การประเมนิ งานเขยี น
ประเด็น / เนือ้ หา คาศพั ท์ สานวน องค์ประกอบ คะแนน
และโครงสร้างภาษา ของงานเขยี น รวม
ลาดบั คะแนน
ที่ 4 4 2 10
ช่ือ - สกลุ
ลงชอื่ ...................................... ผูป้ ระเมิน
(..............................................)
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5
รายวิชางานเขียนแบบ รหสั วิชา ง 30212
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่อื ง องค์ประกอบของงานเขยี นแบบ จานวน 16 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื ง อักษรในงานเขียนแบบ เวลา 4 ชวั่ โมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสรา้ งสิ่งของเครือ่ งใช้หรือ
วธิ ีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งมคี วามคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทาง
สรา้ งสรรค์ต่อชวี ิต สังคมส่งิ แวดล้อม และมีสว่ นร่วม ในการจัดการเทคโนโลยที ่ยี ั่งยนื
สาระท่ี 3: เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร
มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสบื ค้นขอ้ มูล การ
เรยี นรู้ การสอื่ สาร การแก้ปัญหา การทางาน และอาชพี อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ประสทิ ธิผล และมีคุณธรรม
สาระท่ี 4: การอาชพี
มาตรฐาน ง 4.1 เขา้ ใจทักษะที่จาเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยีเพอ่ื พัฒนา
อาชพี มคี ุณธรรม และมีเจตคติที่ดตี อ่ อาชพี
2. ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนรทู้ ี่ 2 : อธบิ ายและปฏบิ ตั ิการเขยี นองค์ประกอบทีใ่ ช้ในงานเขียนแบบได้
ผลการเรยี นรู้ท่ี 6 : มคี วามขยนั อดทนและรับผิดชอบในการทางาน
ผลการเรยี นรู้ท่ี 7 : มสี ่วนรว่ ม ในการอนรุ ักษธ์ รรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม การดาเนินชีวติ ตามปรชั ญา
เศรษฐกจิ
พอเพยี ง เหน็ แนวทางในการประกอบอาชพี
3. สาระสาคัญ
แบบตวั อกั ษรท่ใี ชใ้ นงานเขยี นแบบ จะต้องเปน็ แบบตวั อักษรทีเ่ ขียนแลว้ สามารถอา่ นไดง้ า่ ยและขนาด
เหมาะสมกับแบบ ท่เี ขียน ซึง่ ถ้าไมเ่ หมาะสมแลว้ จะทาให้แบบทเี่ ขยี นนน้ั ดไู ม่สวยงามและไม่เป็นระเบียบ ดังนน้ั
แบบตัวอักษรจึงมคี วามสาคญั ตอ่ งานเขยี นแบบมาก การกาหนดมาตรฐานของตัวอักษรแบง่ ออกเป็น 2 แบบ
คือ ตัวอกั ษรโรมัน และตวั อักษรภาษาไทย
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
4.1 อธบิ ายอกั ษรในงานเขียนแบบได้
4.2 เลือกใชอ้ กั ษรในงานเขยี นแบบได้
4.3 สามารถเขยี นอกั ษรในงานเขียนแบบได้
5.สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการคดิ
5.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรียนรู้
6.1 การเขยี นอกั ษรโรมัน
6.2 การเขียนอกั ษรภาษาไทย
7. กระบวนกาจดั การเรียนรู้
7.1 ขนั้ สนใจปญั หา (Motivation)
1. ครเู ช็คชือ่ นักศกึ ษาที่เข้าชนั้ เรียนและตรวจระเบียบการแต่งกาย
2. ครูนาเข้าสู่บทเรยี นหนว่ ยที่ 2 คร้งั ที่ 3 โดยครสู ุ่มถามผู้เรียนโดยใช้คาถามนา เชน่
คาถาม “อักษรของงานเขียนแบบเขียนอยา่ งไรบ้าง”
ขัน้ ให้เนอ้ื หา (Information)
1. ครูบรรยายการเขยี นอักษรในงานเขียนแบบ จากใบความรทู้ ่ี 2.3 ดังน้ี
- การเขยี นอักษรโรมนั
- การเขยี นอักษรภาษาไทย
ขน้ั พยายาม (Application)
1. บรรยายและสาธติ การเขียนอกั ษรโรมัน
2. บรรยายและสาธิตการเขียนอกั ษรภาษาไทย
ขนั้ สาเรจ็ ผล (Progress)
1. ใบงานท่ี 2.3
8.การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
หลักความ พอประมาณกับเวลา นกั เรยี นเขา้ ใจการเขยี นอักษรในงานเขียนแบบ ได้ทนั เวลา
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชกิ นกั เรยี นสามารถแบ่งกลุ่ม เพยี งตอ่ การร่วมกนั ทางานเปน็ กล่มุ
พอประมาณกบั สถานที่ ห้องเรยี นอุตสาหกรรมมีโต๊ะเขียนแบบ 35 โต๊ะ
หลกั มีเหตผุ ล ในการจดั การเรียนการสอน นักเรยี นสามารถเขียนอกั ษรในงานเขียนแบบ ได้
หลักการสรา้ ง การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา
ภมู ิคุ้มกนั ในตัวทด่ี ี ได้เปน็ อย่างดที กุ คนมสี ่วนร่วมในการเรยี นการสอนได้เปน็ อย่างดี
เง่อื นไขความรู้ นกั เรียนมีความร้คู วามเข้าใจเรอ่ื งการเขียนอกั ษรในงานเขียนแบบได้เปน็ อยา่ งดี
เงอ่ื นไขคุณธรรม นกั เรียนมคี วามซื่อสตั ยแ์ ละความรบั ผิดชอบ
9. ส่อื / แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สื่อการเรียนรู้
1. ใบความรทู้ ี่ 2.3 เร่อื ง การเขยี นอักษรในงานเขยี นแบบ
2. ใบงานที่ 2.3 เร่อื ง การเขยี นอักษรในงานเขยี นแบบ
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งสมดุ
2. แหล่งข้อมลู สารสนเทศ
10.การวัดประเมินผล
สง่ิ ทีต่ ้องการวัด วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์การวัด
1. การเขียนอักษรใน สงั เกตจาก
การเขยี นอกั ษรในงาน 1. แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านระดบั ดี
งานเขยี นแบบ เขยี นแบบ
การเขยี นอักษรในงานเขยี น
แบบ
ใบความรู้ท่ี 2.3
1. ตัวอักษรโรมนั
ตัวอกั ษรโรมนั และตัวเลขอารบคิ ท่ใี ช้ในงานเขยี นแบบมี 2 ชนดิ คอื
1.1 ตัวอกั ษรแบบตรง ตามมาตรฐานสากล (มอก.210-2520)
รูปแสดงอกั ษรโรมันแบบตรง
1.2 ตัวอกั ษรแบบเอยี ง ตามมาตรฐานสากล (มอก.210-2520)
รูปแสดงอกั ษรโรมนั แบบเอียง
2. ตัวอักษรภาษาไทย
ตัวอกั ษรที่ใชใ้ นราชการ ในปจั จุบนั เขยี นด้วยคอมพิวเตอร์ เพราะมีความเปน็ มาตรฐาน นยิ มใช้ 2
รูปแบบ คอื
2.1 ตวั อกั ษรประดษิ ฐ์ นยิ มใช้ในการเขียนใบประกาศนียบตั ร ปรญิ ญาบัตร การ์ดเชญิ ร่วมงาน ในพธิ ี
ต่างๆ ในการเขยี นจะใช้คอมพวิ เตอร์ชว่ ย หรอื เขียนด้วยมอื เปลา่
รปู แสดงอกั ษรภาษาไทยชนิดหัวเหลย่ี ม
2.2 ชนดิ หัวกลม ตามมาตรฐานสากล (มอก.210-2520)
รูปแสดงอกั ษรภาษาไทยชนิดหัวกลม
ใบงานที่ 2.3
คาสงั่ : ให้เขียนอักษรโรมนั และอักษรภาษาไทยในงานเขียนแบบ โดยเลอื กเขียนอักษรโรมัน 1 แบบ
และเลอื กเขยี นอกั ษรภาษาไทย 1 ชนดิ
เครือ่ งมอื และอปุ กรณ์
1.โตะ๊ เขยี นแบบ ขนาด 60 × 80 ซ.ม.
2.ไมท้ ี ขนาด 60 ซ.ม.
3.ฉากสามเหลีย่ ม
4.ดนิ สอเขียนแบบ
5.ยางลบ
6.เทปกาว
7.ผ้าเช็ดมอื
เทคนิคการทางานและข้อควรระวัง
1. การใช้ไมท้ จี ะต้องสมั พันธก์ ับโต๊ะเขียนแบบ และฉากสามเหล่ยี ม
2. การรักษาความสะอาดบนกระดาษเขียนแบบ
การประเมนิ ชิ้นงาน / ภาระงาน
แบบประเมนิ งานเขยี น
ประเด็น 4 (ดมี าก) ระดบั คะแนน / คาอธิบายระดับคุณภาพ นา้ หนัก คะแนน
การประเมิน ความ รวม
เขยี นถกู ตอ้ ง 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ควรปรบั ปรงุ ) สาคญั
1. เนอื้ หา ครอบคลุมเน้ือหา 4
อย่างสมบูรณ์ เขียนถกู ต้อง เขยี นผดิ บ้าง และไม่ เขียนผดิ มาก และ 2
ครอบคลมุ เน้อื หา ครอบคลมุ เนอื้ หา ใหข้ อ้ มลู นอ้ ย
เปน็ ส่วนใหญ่
2. การเขยี น เขยี นอักษร เขียนอักษรประกอบ เขียนอกั ษร เขียนอักษร 2 4
อักษร ประกอบแบบได้
ประกอบแบบ อยา่ งถกู ต้องและ แบบไดเ้ หมาะสม ประกอบแบบมขี ้อ ประกอบแบบมขี ้อ
เหมาะสม
ผดิ บา้ ง ผิดมาก
3. องค์ประกอบ องค์ประกอบของ องค์ประกอบของ องค์ประกอบของ องค์ประกอบของ 1 2
ของงานเขียน งานเขียนแบบ งานเขียนแบบ งานเขยี นแบบ งานเขียนแบบ 5 10
แสดงให้เห็นความ มีความสมั พันธ์ นา่ สนใจ ขาด ไม่นา่ สนใจ
ริเริ่ม สร้างสรรค์ ต่อเนอื่ งน่าสนใจ ความสมั พันธ์
มีความสมั พันธ์ ต่อเน่อื ง
ต่อเน่ืองน่าสนใจ
รวม
เกณฑก์ ารประเมิน: นักเรียนต้องได้คะแนนรวมไมน่ อ้ ยกวา่ 60% หรอื 6 คะแนน จึงจะผ่านเกณฑ์
วิธคี ดิ คะแนน: ค่านา้ หนักความสาคัญ × ระดับคะแนนที่นักเรียนได้ = คะแนนรวม
แบบบันทึกการประเมินงานเขียน
ประเดน็ / เน้อื หา คาศพั ท์ สานวน องค์ประกอบ คะแนน
และโครงสรา้ งภาษา ของงานเขียน รวม
ลาดับ คะแนน
ที่ 4 4 2 10
ชื่อ - สกลุ
ลงช่อื ...................................... ผ้ปู ระเมนิ
(..............................................)
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6
กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
รายวชิ างานเขียนแบบ รหสั วิชา ง 30212
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่อื ง องค์ประกอบของงานเขยี นแบบ จานวน 16 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง มาตราสว่ นในงานเขียนแบบ เวลา 4 ช่วั โมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างส่ิงของเครอื่ งใช้หรอื
วธิ ีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ย่างมีความคิดสรา้ งสรรค์ เลอื กใช้เทคโนโลยีในทาง
สร้างสรรค์ตอ่ ชวี ติ สังคมสงิ่ แวดลอ้ ม และมสี ่วนรว่ ม ในการจัดการเทคโนโลยที ่ียัง่ ยนื
สาระที่ 3: เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร
มาตรฐาน ง 3.1 เขา้ ใจ เหน็ คุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื คน้ ข้อมูล การ
เรยี นรู้ การส่ือสาร การแก้ปญั หา การทางาน และอาชพี อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ประสทิ ธิผล และมีคุณธรรม
สาระที่ 4: การอาชพี
มาตรฐาน ง 4.1 เข้าใจทักษะที่จาเป็น มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือพฒั นา
อาชพี มีคุณธรรม และมเี จตคตทิ ่ีดีต่ออาชีพ
2. ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนร้ทู ี่ 2 : อธิบายและปฏบิ ตั กิ ารเขยี นองค์ประกอบทีใ่ ชใ้ นงานเขียนแบบได้
ผลการเรยี นรทู้ ่ี 6 : มคี วามขยัน อดทนและรบั ผดิ ชอบในการทางาน
ผลการเรียนรทู้ ่ี 7 : มีสว่ นร่วม ในการอนุรกั ษธ์ รรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม การดาเนินชวี ติ ตามปรชั ญา
เศรษฐกิจ
พอเพียง เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ
3. สาระสาคัญ
แบบงานส่วนมากจะเขียนแบบเท่ากับช้ินงานจรงิ บางครง้ั ช้นิ งานมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถเขียนลงบน
กระดาษเขียนแบบได้ จาเปน็ ตอ้ งย่อขนาดลง ในขณะเดยี วกันถ้าช้นิ งานมขี นาดเล็กมาก ในการทีจ่ ะเขยี นเท่า
ขนาดจรงิ นั้นจะทาให้แบบไม่ชัดเจน มขี นาดเลก็ การเขียนหรอื การอ่านแบบจะทาไดย้ าก จาเปน็ ต้องเขยี นแบบ
ขยายเพ่มิ ใหญข่ ้ึน มาตราส่วนทใ่ี ช้ในการเขียนแบบจงึ มีสว่ นจาเป็นมาก
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
4.1 อธบิ ายมาตราส่วนในงานเขยี นแบบได้
4.2 เลือกใชม้ าตราสว่ นในงานเขยี นแบบได้
4.3 สามารถเทียบมาตราสว่ นในงานเขยี นแบบได้
5.สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
5.1 ความสามารถในการคิด
5.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรียนรู้
6.1 การเขียนมาตราส่วนปกติ
6.2 การเขียนมาตราส่วนย่อ
6.3 การเขยี นมาตราสว่ นขยาย
7. กระบวนกาจดั การเรยี นรู้
7.1 ขัน้ สนใจปญั หา (Motivation)
1. ครูเช็คชื่อนกั ศกึ ษาที่เข้าช้ันเรียนและตรวจระเบยี บการแตง่ กาย
2. ครูนาเข้าสบู่ ทเรียนหนว่ ยที่ 2 คร้ังที่ 4 โดยครสู ุ่มถามผู้เรียนโดยใชค้ าถามนา เช่น
คาถาม “การมาตราสว่ นในงานเขียนแบบเขียนอยา่ งไรบา้ ง”
ข้ันให้เนอื้ หา (Information)
1. ครบู รรยายการเขยี นมาตราส่วนในงานเขียนแบบ จากใบความรทู้ ี่ 2.4 ดังน้ี
- การเขียนมาตราส่วนปกติ
- การเขยี นมาตราสว่ นย่อ
- การเขียนมาตราสว่ นขยาย
ข้นั พยายาม (Application)
1. บรรยายและสาธิตการเขียนมาตราสว่ นปกติ
2. บรรยายและสาธติ การเขียนมาตราสว่ นยอ่
3. บรรยายและสาธิตการเขียนมาตราสว่ นขยาย
ขน้ั สาเร็จผล (Progress)
1. ใบงานที่ 2.4
8.การบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
หลกั ความ พอประมาณกับเวลา นักเรยี นเขา้ ใจการเขยี นมาตราสว่ นในงานเขียนแบบ ได้ทนั เวลา
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชิก นักเรยี นสามารถแบง่ กลุ่ม เพียงตอ่ การร่วมกันทางานเปน็ กลมุ่
พอประมาณกบั สถานที่ ห้องเรยี นอุตสาหกรรมมีโตะ๊ เขยี นแบบ 35 โตะ๊
หลกั มเี หตุผล ในการจัดการเรยี นการสอน นกั เรยี นสามารถเขียนมาตราสว่ นในงานเขียนแบบ ได้
หลกั การสรา้ ง การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา
ภมู ิคุม้ กนั ในตัวทีด่ ี ได้เป็นอยา่ งดที ุกคนมสี ว่ นรว่ มในการเรยี นการสอนได้เป็นอยา่ งดี
เง่ือนไขความรู้ นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจเร่ืองการเขียนมาตราส่วนในงานเขยี นแบบไดเ้ ป็นอยา่ งดี
เงอ่ื นไขคณุ ธรรม นักเรยี นมีความซ่ือสตั ยแ์ ละความรับผิดชอบ
9. สอ่ื / แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สอื่ การเรยี นรู้
1. ใบความรู้ที่ 2.4 เร่อื ง การเขียนมาตราสว่ นในงานเขยี นแบบ
2. ใบงานที่ 2.4 เร่อื ง การเขียนมาตราสว่ นในงานเขียนแบบ
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งสมุด
2. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
10.การวัดประเมนิ ผล
สิ่งที่ต้องการวดั วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์การวัด
1. การเขียนมาตราส่วนในงาน 1. สงั เกตจาก 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นระดับ ดี
การเขียนมาตราส่วนใน การเขยี นมาตราสว่ นในงาน
เขียนแบบ งานเขยี นแบบ เขียนแบบ
ใบความร้ทู ่ี 2.4
1. มาตราส่วนปกติ (Full Scale) ใช้ในกรณที ่ี วสั ดุหรือสิ่งที่ตอ้ งการเขยี นลงในแบบมีขนาดพอๆกับ
กระดาษจะเขียน เพอ่ื ต้องการจะให้เหน็ ขนาดเทา่ ของจรงิ เช่น 1 : 1 อ่านว่า มาตราสว่ น 1 ตอ่ 1 หมายความ
ว่า ความยาวในรูป 1หนว่ ย แทนความยาวจรงิ 1 หนว่ ย
2. มาตราส่วนยอ่ (Brief Scale )ใช้ในกรณีสง่ิ ทต่ี ้องการเขียนแบบมขี นาดใหญโ่ ตเกนิ กว่ากระดาษเขียน
แบบ ผู้เขียนแบบต้องยอ่ ส่วนให้มีขนาดเหมาะสมกบั กระดาษเขยี นแบบ โดยมหี ลกั ที่วา่ ขนาดของส่ิงนนั้ จะเปน็
เท่าใดกต็ ามจะกาหนดลงในกระดาษเขยี นแบบเป็น 1 เสมอ มาตราส่วนย่อน้ไี ดแ้ ก่ แผนที่ แบบา้ น ฯลฯ เช่น 1
: 10 อ่านว่า มาตราส่วน 1 ตอ่ 10 หมายความวา่ ความยาวในรปู 1หนว่ ย แทนความยาวจรงิ 10 หนว่ ย หรือมี
ความยาวจริงเปน็ 10 เท่าของความยาวในรูป
3. มาตราสว่ นขยาย (Extended Scale) ใช้ในกรณีสิ่งทีต่ อ้ งการเขียนแบบน้ันมีขนาดเล็กมาก และไม่
สามารถเขยี นแบบแสดงรายละเอียดของชน้ิ งานนนั้ ได้อยา่ งชัดเจนตามขนาดจริง ไมส่ ามารถกาหนดขนาดราย
ระเอยี ดไดห้ มด มาตราส่วนขยายน้ี เช่น แบบเฟอื งนาฬิกาข้อมอื แบบชน้ิ ส่วนแม่พมิ พโ์ มเดลรถแขง่ คันเลก็ ๆ
ฯลฯ เชน่ 10 : 1 อ่านว่า มาตราสว่ น 10 ต่อ 1 หมายความว่า ขนาดของจรงิ 1 สว่ นถกู ขยายเปน็ 10 ส่วนใน
กระดาษเขยี นแบบ
รูปแสดงการเขยี นมาตราส่วน
ใบงานท่ี 2.4
คาส่ัง: ใหเ้ ขียนแบบขยายให้มาตราส่วนขยาย 2:1 และมาตราส่วนยอ่ 1: 2
เครื่องมอื และอุปกรณ์
1.โตะ๊ เขยี นแบบ ขนาด 60 × 80 ซ.ม.
2.ไม้ที ขนาด 60 ซ.ม.
3.ฉากสามเหลย่ี ม
4.ดนิ สอเขียนแบบ
5.ยางลบ
6.เทปกาว
7.ผา้ เช็ดมอื
เทคนิคการทางานและขอ้ ควรระวัง
1. การใช้ไม้ทจี ะตอ้ งสัมพนั ธ์กับโตะ๊ เขยี นแบบ และฉากสามเหล่ยี ม
2. การรักษาความสะอาดบนกระดาษเขียนแบบ
การประเมินช้ินงาน / ภาระงาน
แบบประเมนิ งานเขยี น
ประเด็น 4 (ดีมาก) ระดับคะแนน / คาอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ นา้ หนัก คะแนน
การประเมนิ ความ รวม
เขียนถูกต้อง 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ควรปรับปรงุ ) สาคญั
1. เนอ้ื หา ครอบคลมุ เนอ้ื หา 4
อยา่ งสมบูรณ์ เขยี นถูกต้อง เขยี นผิดบ้าง และไม่ เขียนผิดมาก และ 2
ครอบคลมุ เนือ้ หา ครอบคลุมเนื้อหา ให้ขอ้ มูลน้อย
เป็นสว่ นใหญ่
2. การเขยี น เขยี นมาตรา เขยี นมาตรา เขยี นมาตรา เขยี นมาตรา 2 4
มาตรา ส่วนประกอบแบบ ส่วนประกอบแบบ
สว่ นประกอบ ไดอ้ ย่างถกู ต้องและ ไดเ้ หมาะสม ส่วนประกอบแบบมี ส่วนประกอบแบบมี
แบบ เหมาะสม
ข้อผดิ บา้ ง ข้อผดิ มาก
3. องค์ประกอบ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ 1 2
ของงานเขียน งานเขยี นแบบ งานเขียนแบบ งานเขียนแบบ งานเขียนแบบ 5 10
แสดงให้เห็นความ มีความสมั พันธ์ นา่ สนใจ ขาด ไมน่ า่ สนใจ
รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ ตอ่ เนอื่ งนา่ สนใจ ความสัมพนั ธ์
มคี วามสัมพนั ธ์ ต่อเนอื่ ง
ตอ่ เนอ่ื งนา่ สนใจ
รวม
เกณฑ์การประเมนิ : นักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไมน่ อ้ ยกว่า 60% หรอื 6 คะแนน จึงจะผา่ นเกณฑ์
วธิ คี ดิ คะแนน: คา่ นา้ หนกั ความสาคญั × ระดบั คะแนนท่นี กั เรียนได้ = คะแนนรวม
แบบบนั ทกึ การประเมินงานเขยี น
ประเดน็ / เน้อื หา คาศพั ท์ สานวน องค์ประกอบ คะแนน
และโครงสรา้ งภาษา ของงานเขียน รวม
ลาดับ คะแนน
ที่ 4 4 2 10
ชื่อ - สกลุ
ลงช่อื ...................................... ผ้ปู ระเมนิ
(..............................................)
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7
กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5
รายวชิ างานเขียนแบบ รหสั วชิ า ง 30212
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การเขียนภาพ 3 มิติ จานวน 16 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 เรอื่ ง การเขียนภาพออบลิค เวลา 4 ชั่วโมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสงิ่ ของเครื่องใช้หรอื
วิธกี าร ตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทาง
สร้างสรรค์ตอ่ ชวี ติ สังคมสิง่ แวดล้อม และมีสว่ นร่วม ในการจัดการเทคโนโลยีท่ียง่ั ยนื
สาระท่ี 3: เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร
มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื ค้นขอ้ มูล การ
เรยี นรู้ การส่อื สาร การแกป้ ญั หา การทางาน และอาชีพอยา่ งมีประสิทธิภาพ
ประสิทธผิ ล และมีคุณธรรม
สาระที่ 4: การอาชพี
มาตรฐาน ง 4.1 เขา้ ใจทกั ษะท่ีจาเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยีเพอื่ พัฒนา
อาชีพ มคี ุณธรรม และมเี จตคตทิ ี่ดตี ่ออาชีพ
2. ผลการเรียนรู้
ผลการเรียนรู้ท่ี 3 : อธิบายการเขยี นแบบภาพ 3 มติ ไิ ด้
ผลการเรยี นรทู้ ่ี 5 : อธิบายการเขยี นแบบภาพ 3 มติ ิได้
ผลการเรียนรทู้ ่ี 6 : มคี วามขยัน อดทนและรบั ผดิ ชอบในการทางาน
ผลการเรยี นร้ทู ่ี 7 : มีสว่ นรว่ ม ในการอนรุ กั ษ์ธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม การดาเนินชวี ติ ตามปรัชญา
เศรษฐกจิ
พอเพยี ง เหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพ
3. สาระสาคญั
ภาพออบลคิ เป็นภาพเขียนแบบท่ดี า้ นหน้ามลี ักษณะตง้ั ตรง ส่วนภาพดา้ นข้างและดา้ นบนจะเอียงลกึ
ลงไปเพียงดา้ น โดยมีขนาดทีข่ นานเทา่ กันตลอด โดยท่วั ไปจะเปน็ มุมเอยี ง 45 องศา
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
4.1 อธบิ ายงานเขียนแบบภาพออบลิคได้
4.2 สามารถเขยี นแบบภาพออบลิคได้
5.สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
5.1 ความสามารถในการคิด
5.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรียนรู้
6.1 การเขียนภาพออบรคิ แบบเตม็ ส่วน
6.2 การเขยี นภาพออบรคิ แบบครึ่งส่วน
7. กระบวนกาจดั การเรยี นรู้
7.1 ขั้นสนใจปัญหา (Motivation)
1. ครเู ชค็ ชือ่ นักศึกษาท่ีเข้าช้นั เรียนและตรวจระเบียบการแตง่ กาย
2. ครูนาเขา้ ส่บู ทเรยี นหนว่ ยท่ี 3 ครัง้ ท่ี 1 โดยครูสุ่มถามผเู้ รยี นโดยใชค้ าถามนา เชน่
คาถาม “การเขยี นแบบเขยี นภาพ 3 มิตเิ ขยี นอย่างไรบ้าง”
ขน้ั ใหเ้ นอ้ื หา (Information)
1. ครบู รรยายการเขยี นภาพออบรคิ จากใบความรู้ที่ 3.1 ดงั น้ี
- การเขยี นภาพออบริคแบบเต็มสว่ น
- การเขยี นภาพออบรคิ แบบคร่ึงสว่ น
ข้ันพยายาม (Application)
1. บรรยายและสาธติ การเขียนภาพออบรคิ แบบเต็มส่วน
2. บรรยายและสาธติ การเขียนภาพออบรคิ แบบเต็มส่วน
ข้ันสาเรจ็ ผล (Progress)
1. ใบงานท่ี 3.1
8.การบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
หลักความ พอประมาณกบั เวลา นักเรยี นเขา้ ใจการเขยี นแบบภาพออบริคได้ทนั เวลา
พอประมาณ พอประมาณกับสมาชกิ นกั เรยี นสามารถแบง่ กลุ่ม เพียงต่อการร่วมกนั ทางานเป็นกล่มุ
พอประมาณกับสถานที่ ห้องเรียนอุตสาหกรรมมีโต๊ะเขยี นแบบ 35 โต๊ะ
หลักมีเหตผุ ล ในการจัดการเรียนการสอน นกั เรียนสามารถเขียนแบบภาพออบรคิ ได้
หลกั การสร้าง การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา
ภูมิคมุ้ กันในตวั ทีด่ ี ได้เปน็ อยา่ งดที ุกคนมสี ่วนรว่ มในการเรยี นการสอนไดเ้ ป็นอยา่ งดี
เงื่อนไขความรู้ นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเรือ่ งการเขียนแบบภาพออบริคไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
เง่ือนไขคณุ ธรรม นักเรยี นมีความซ่ือสตั ยแ์ ละความรับผิดชอบ
9. สอื่ / แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 ส่ือการเรียนรู้
1. ใบความรู้ท่ี 3.1 เรอ่ื ง การเขียนแบบภาพออบรคิ
2. ใบงานที่ 3.1 เรือ่ ง การเขียนแบบภาพออบรคิ
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1. หอ้ งสมุด
2. แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
10.การวดั ประเมนิ ผล
สิ่งที่ต้องการวดั วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารวัด
1. การเขียนแบบภาพออบรคิ 1. สังเกตจาก
การเขยี นแบบภาพ 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านระดับ ดี
ออบรคิ
การเขียนแบบภาพออบรคิ
ใบความรู้ที่ 3.1
ภาพออบลิค (Oblique) เป็นภาพสามมิติที่ต้องมองเหน็ ดา้ นหน้าของวัตถุ ซึ่งโครงสร้างประกอบไป
ด้วย เส้นแนวนอน เสน้ แนวดง่ิ และเสน้ เอียง 45 องศา ภาพออบลิคมี 2 แบบ
1. ภาพออบลิคแบบเต็มส่วน(Cavalier Drawing) เป็นแบบทีมีอัตราส่วนภาพระหว่างความกว้าง :
ความสงู : ความลกึ เทา่ กับ 1:1:1
2. ภาพออบลิคแบบเต็มส่วน(Cabinet Drawing) เป็นแบบทีมีอัตราส่วนภาพระหว่างความกว้าง :
ความสูง : ความลึก เท่ากับ 1:1:0.5
หลกั ในการเขยี นภาพออบลคิ มีดงั น้ี
1) เขียนภาพด้านหน้าของวตั ถตุ ามมาตรสว่ น โดยไมใ่ ห้เกิดความบิดเบ้ียว
2) ดา้ นขา้ ง และ ดา้ นบน เขยี นโดยทามมุ 45 องศา กับแกนนอน
3) ความยาวของดา้ นทเี่ ขยี นตามแกนทามมุ 45 องศา จะยาวเป็นครึง่ หน่ึงของอกี ดา้ น เพือ่ ให้ดเู หมือน
ของจรงิ มากขึ้น
ใบงานท่ี 3.1 0.50
คาสัง่ : ให้เขยี นแบบภาพออบลิคจากรปู ด้านต่อไปน้ี 0.30 0.20
0.30
0.50
0.30
0.30
0.50
0.30
0.20
เครื่องมอื และอปุ กรณ์
1.โต๊ะเขยี นแบบ ขนาด 60 × 80 ซ.ม.
2.ไมท้ ี ขนาด 60 ซ.ม.
3.ฉากสามเหลี่ยม
4.ดนิ สอเขียนแบบ
5.ยางลบ
6.เทปกาว
7.ผา้ เช็ดมือ
เทคนคิ การทางานและข้อควรระวัง
1. การใช้ไม้ทีจะตอ้ งสมั พนั ธก์ บั โตะ๊ เขียนแบบ และฉากสามเหล่ียม
2. การรกั ษาความสะอาดบนกระดาษเขยี นแบบ
การประเมินชิ้นงาน / ภาระงาน
แบบประเมินงานเขยี น
ประเด็น 4 (ดีมาก) ระดบั คะแนน / คาอธบิ ายระดับคุณภาพ นา้ หนัก คะแนน
การประเมนิ ความ รวม
1. เน้อื หา เขียนถกู ต้อง 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ควรปรบั ปรุง) สาคัญ
ครอบคลมุ เนื้อหา 4
2. การเขยี น อยา่ งสมบรู ณ์ เขียนถูกต้อง เขียนผดิ บ้าง และไม่ เขยี นผิดมาก และ 2
แบบภาพ ครอบคลุมเน้อื หา ครอบคลุมเนอ้ื หา ให้ข้อมูลนอ้ ย
ออบลิค เปน็ ส่วนใหญ่
เขยี นแบบภาพออบ เขยี นแบบภาพ เขยี นแบบภาพ เขยี นแบบภาพ 2 4
ลคิ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ออบลคิ ไดเ้ หมาะสม ออบลคิ มขี อ้ ผิดบ้าง ออบลิคมขี อ้ ผิดมาก
และเหมาะสม
3. องคป์ ระกอบ องค์ประกอบของ องค์ประกอบของ องค์ประกอบของ องค์ประกอบของ 1 2
ของงานเขยี น งานเขียนแบบ งานเขยี นแบบ งานเขียนแบบ งานเขียนแบบ 5 10
แสดงให้เห็นความ มคี วามสมั พนั ธ์ น่าสนใจ ขาด ไม่น่าสนใจ
ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ ต่อเน่อื งน่าสนใจ ความสัมพันธ์
มคี วามสัมพันธ์ ตอ่ เน่ือง
ต่อเนอ่ื งน่าสนใจ
รวม
เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนนรวมไม่นอ้ ยกวา่ 60% หรือ 6 คะแนน จงึ จะผา่ นเกณฑ์
วิธีคดิ คะแนน: คา่ นา้ หนกั ความสาคญั × ระดับคะแนนท่นี ักเรยี นได้ = คะแนนรวม
แบบบันทกึ การประเมินงานเขยี น
ประเดน็ / เน้อื หา คาศพั ท์ สานวน องค์ประกอบ คะแนน
และโครงสรา้ งภาษา ของงานเขียน รวม
ลาดับ คะแนน
ที่ 4 4 2 10
ชื่อ - สกลุ
ลงช่อื ...................................... ผ้ปู ระเมนิ
(..............................................)
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8
กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5
รายวิชางานเขียนแบบ รหสั วิชา ง 30212
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง การเขียนภาพ 3 มิติ จานวน 16 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 8 เร่อื ง การเขียนภาพแอกโซโนเมตรกิ เวลา 4 ชัว่ โมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสรา้ งสง่ิ ของเคร่อื งใชห้ รอื
วิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยีในทาง
สร้างสรรคต์ อ่ ชวี ติ สังคมส่ิงแวดล้อม และมีส่วนร่วม ในการจดั การเทคโนโลยีทีย่ ั่งยนื
สาระที่ 3: เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสืบคน้ ข้อมูล การ
เรยี นรู้ การสื่อสาร การแกป้ ัญหา การทางาน และอาชีพอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ประสทิ ธิผล และมีคุณธรรม
สาระท่ี 4: การอาชพี
มาตรฐาน ง 4.1 เขา้ ใจทักษะท่ีจาเป็น มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนา
อาชพี มคี ุณธรรม และมเี จตคติท่ีดตี ่ออาชพี
2. ผลการเรยี นรู้
ผลการเรยี นรูท้ ี่ 3 : อธิบายการเขยี นแบบภาพ 3 มติ ิได้
ผลการเรยี นรทู้ ี่ 5 : อธิบายการเขยี นแบบภาพ 3 มิตไิ ด้
ผลการเรยี นรู้ที่ 6 : มีความขยัน อดทนและรบั ผิดชอบในการทางาน
ผลการเรียนรูท้ ี่ 7 : มสี ่วนร่วม ในการอนุรกั ษ์ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม การดาเนินชีวติ ตามปรัชญา
เศรษฐกิจ
พอเพยี ง เหน็ แนวทางในการประกอบอาชพี
3. สาระสาคญั
แอกโซโนเมตรกิ (Axonometric) คาวา่ แอกซอน (Axon) มาจากคาว่า Axis ซงึ่ แปลว่าแกนฉะนั้นภาพ
แอกโซโนเมตริจึงเปน็ ภาพสามมิตทิ ี่วัดจากแกนสามแกนมุมรวมกัน 360 องศา โดยมีแกนหลักทามุมต้งั ฉากกับ
แนวนอน ส่วนอกี สองแกนจะมมี มุ เอียงลึกลงไปทัง้ สองข้าง
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4.1 อธิบายงานเขยี นแบบภาพแอกโซโนเมตรกิ ได้
4.2 สามารถเขยี นแบบภาพแอกโซโนเมตรกิ ได้
5.สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการคิด
5.2 ความสามารถในการแก้ปัญหา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรียนรู้
6.1 การเขยี นภาพไตรเมตรกิ
6.2 การเขียนภาพไดเมตริก
6.3 การเขียนภาพไอโซเมตริก
7. กระบวนกาจดั การเรยี นรู้
7.1 ข้ันสนใจปัญหา (Motivation)
1. ครูเชค็ ชื่อนกั ศกึ ษาที่เขา้ ช้นั เรียนและตรวจระเบยี บการแตง่ กาย
2. ครนู าเขา้ สูบ่ ทเรียนหนว่ ยที่ 3 คร้ังที่ 2 โดยครูทบทวนเรยี นโดยใชค้ าถามนา เช่น
คาถาม “การเขยี นแบบเขยี นภาพออบลคิ เขยี นอยา่ งไรบา้ ง”
ข้ันใหเ้ นอื้ หา (Information)
1. ครูบรรยายการเขยี นภาพแอกโซโนเมตริก จากใบความรทู้ ่ี 3.2 ดังน้ี
- การเขยี นภาพไตรเมตรกิ
- การเขียนภาพไดเมตริก
- การเขยี นภาพไอโซเมตริก
ขั้นพยายาม (Application)
1. บรรยายและสาธติ การเขยี นภาพไตรเมตริก
2. บรรยายและสาธิตการเขียนภาพไดเมตริก
3. บรรยายและสาธติ การเขียนภาพไอโซเมตรกิ
ข้นั สาเร็จผล (Progress)
1. ใบงานที่ 3.2
8.การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
หลักความ พอประมาณกับเวลา นักเรียนเขา้ ใจการเขียนแบบภาพแอกโซโนเมตรกิ ได้ทันเวลา
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชกิ นกั เรียนสามารถแบง่ กลุ่ม เพยี งต่อการรว่ มกนั ทางานเป็นกลมุ่
พอประมาณกับสถานที่ ห้องเรียนอตุ สาหกรรมมีโตะ๊ เขียนแบบ 35 โต๊ะ
หลักมเี หตุผล ในการจัดการเรียนการสอน นกั เรยี นสามารถเขยี นแบบภาพแอกโซโนเมตรกิ ได้
หลักการสร้าง การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา
ภูมิคมุ้ กันในตัวทดี่ ี ไดเ้ ปน็ อยา่ งดที กุ คนมสี ว่ นร่วมในการเรียนการสอนไดเ้ ปน็ อย่างดี
เงอื่ นไขความรู้ นักเรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจเรอื่ งการเขียนแบบภาพแอกโซโนเมตรกิ ได้เปน็ อย่างดี
เงือ่ นไขคณุ ธรรม นกั เรยี นมคี วามซื่อสตั ย์และความรับผิดชอบ
9. ส่อื / แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สอื่ การเรียนรู้
1. ใบความรทู้ ี่ 3.2 เรอ่ื ง การเขียนแบบภาพแอกโซโนเมตรกิ
2. ใบงานที่ 3.2 เรื่อง การเขยี นแบบภาพแอกโซโนเมตรกิ
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. ห้องสมดุ
2. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
10.การวัดประเมนิ ผล
ส่ิงทต่ี อ้ งการวัด วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์การวัด
ผา่ นระดับ ดี
1. การเขยี นแบบภาพแอกโซโน 1. สงั เกตจาก 1. แบบสังเกตพฤตกิ รรม
เมตรกิ การเขียนแบบภาพแอกโซ การเขียนแบบภาพแอกโซ
โนเมตริก โนเมตรกิ
ใบความร้ทู ี่ 3.2
ภาพแอกโซโนเมตริก (Axsonometric) เปน็ ภาพสามมติ ทิ ่ีสามารถแบง่ ออกได้เป็น 3 ชนิดคอื
1. ภาพสามมติ ิแบบไตรเมตริก (TRIMETRIC) เปน็ ภาพสามมิติทีม่ ีความสวยงาม และลกั ษณะคล้าย
ของจริงมากทส่ี ดุ และเปน็ ภาพท่งี า่ ยตอ่ การอา่ นแบบเพราะเป็นภาพทเ่ี ขยี นไดย้ าก เนอ่ื งจากมมุ ทีใ่ ช้เขยี นเอียง
12 องศา และ 23 องศา และอตั ราความยาวของแต่ละด้านไม่เทา่ กัน
รูปแสดงภาพไตรเมตริก
2. ภาพสามมิตแิ บบไดเมตริก (DIMETRIC) เปน็ ภาพสามมติ ิท่ีมีลักษณะคลา้ ยกับภาพถ่ายและ
งา่ ยต่อการอา่ นแบบ แต่ไมค่ อ่ ยนยิ มในการเขยี นแบบเพราะเปน็ ภาพทเี่ ขียนไดย้ าก เนื่องจากมุมท่ีใช้เขยี นเอยี ง
7 องศา และ 42 องศา และขนาดความหนาของภาพทีเ่ ขยี นจะลดขนาดลงคร่ึงหนึง่ ของความหนาจริง
รูปแสดงภาพไดเมตริก
3. ภาพสามมติ ิแบบไอโซเมตรกิ (ISOMETRIC) เป็นภาพสามมติ ิที่นยิ มเขยี นมาก เพราะภาพทเี่ ขียน
งา่ ย เนอ่ื งจากภาพมีมุมเอียง 30 องศา ทั้งสองข้างเทา่ กนั และขนาดความยาวของภาพทกุ ดา้ นจะมีขนาดเทา่
ขนาดงานจริง ภาพที่เขียนจะมีขนาดใหญม่ ากทาใหเ้ ปลืองเนือ้ ทก่ี ระดาษ
รปู แสดงภาพไอโซเมตริก
ใบงานท่ี 3.2
คาสงั่ : ให้เขยี นแบบภาพไอโซเมตริกจากรปู ดา้ นต่อไปน้ี
เครือ่ งมอื และอปุ กรณ์
1.โต๊ะเขยี นแบบ ขนาด 60 × 80 ซ.ม.
2.ไมท้ ี ขนาด 60 ซ.ม.
3.ฉากสามเหลี่ยม
4.ดนิ สอเขียนแบบ
5.ยางลบ
6.เทปกาว
7.ผา้ เช็ดมือ
เทคนคิ การทางานและข้อควรระวัง
1. การใช้ไม้ทีจะตอ้ งสมั พนั ธก์ บั โตะ๊ เขียนแบบ และฉากสามเหล่ียม
2. การรกั ษาความสะอาดบนกระดาษเขยี นแบบ
การประเมินชิ้นงาน / ภาระงาน
แบบประเมินงานเขยี น
ประเด็น 4 (ดีมาก) ระดบั คะแนน / คาอธิบายระดับคณุ ภาพ น้าหนกั คะแนน
การประเมิน ความ รวม
1. เนือ้ หา เขียนถกู ต้อง 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ควรปรบั ปรุง) สาคญั
ครอบคลุมเนอ้ื หา 4
2. การเขียน อย่างสมบรู ณ์ เขยี นถกู ตอ้ ง เขียนผิดบ้าง และไม่ เขยี นผิดมาก และ 2
แบบภาพ ครอบคลมุ เนอ้ื หา ครอบคลมุ เน้อื หา ให้ขอ้ มลู น้อย
แอกโซโน เปน็ สว่ นใหญ่
เมตริก
เขียนแบบภาพแอก เขยี นแบบภาพ เขียนแบบภาพ แอก เขียนแบบภาพ 2 4
โซโนเมตรกิ ไดอ้ ยา่ ง แอกโซโนเมตรกิ ได้ โซโนเมตรกิ มีขอ้ ผิด แอกโซโนเมตริกมี
ถกู ตอ้ งและ เหมาะสม บา้ ง ข้อผิดมาก
เหมาะสม
3. องค์ประกอบ องค์ประกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบของ 1 2
ของงานเขียน งานเขียนแบบ งานเขยี นแบบ งานเขยี นแบบ งานเขยี นแบบ 5 10
แสดงใหเ้ ห็นความ มคี วามสมั พันธ์ น่าสนใจ ขาด ไมน่ า่ สนใจ
รเิ ริ่ม สร้างสรรค์ ต่อเนอ่ื งนา่ สนใจ ความสมั พันธ์
มีความสัมพันธ์ ตอ่ เนื่อง
ต่อเนอื่ งน่าสนใจ
รวม
เกณฑก์ ารประเมนิ : นกั เรียนตอ้ งได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่า 60% หรอื 6 คะแนน จึงจะผ่านเกณฑ์
วิธคี ดิ คะแนน: คา่ นา้ หนกั ความสาคัญ × ระดบั คะแนนท่นี ักเรียนได้ = คะแนนรวม
แบบบนั ทึกการประเมนิ งานเขียน
ประเดน็ / เน้อื หา คาศพั ท์ สานวน องค์ประกอบ คะแนน
และโครงสรา้ งภาษา ของงานเขียน รวม
ลาดับ คะแนน
ที่ 2 4 2 10
ชื่อ - สกลุ
ลงช่อื ...................................... ผ้ปู ระเมนิ
(..............................................)
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5
รายวชิ างานเขียนแบบ รหสั วชิ า ง 30212
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง การเขียนภาพ 3 มิติ จานวน 16 ช่วั โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 9 เร่อื ง การเขยี นภาพเปอร์สเปกทพี เวลา 4 ชวั่ โมง
________________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 2: การออกแบบและเทคโนโลยี
มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสง่ิ ของเครอ่ื งใชห้ รือ
วิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เลอื กใช้เทคโนโลยีในทาง
สร้างสรรคต์ ่อชีวติ สงั คมสง่ิ แวดลอ้ ม และมีสว่ นรว่ ม ในการจัดการเทคโนโลยที ีย่ งั่ ยืน
สาระท่ี 3: เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร
มาตรฐาน ง 3.1 เขา้ ใจ เหน็ คุณคา่ และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื คน้ ข้อมูล การ
เรียนรู้ การสื่อสาร การแกป้ ัญหา การทางาน และอาชีพอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ประสิทธผิ ล และมคี ุณธรรม
สาระที่ 4: การอาชพี
มาตรฐาน ง 4.1 เขา้ ใจทักษะท่ีจาเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยีเพื่อพฒั นา
อาชพี มคี ุณธรรม และมเี จตคติท่ีดตี อ่ อาชพี
2. ผลการเรียนรู้
ผลการเรยี นรู้ท่ี 3 : อธิบายการเขยี นแบบภาพ 3 มติ ิได้
ผลการเรยี นรทู้ ่ี 5 : อธบิ ายการเขยี นแบบภาพ 3 มิติได้
ผลการเรียนรู้ท่ี 6 : มีความขยนั อดทนและรับผิดชอบในการทางาน
ผลการเรยี นรูท้ ่ี 7 : มีส่วนร่วม ในการอนุรักษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม การดาเนนิ ชีวติ ตามปรชั ญา
เศรษฐกิจ
พอเพียง เหน็ แนวทางในการประกอบอาชพี
3. สาระสาคัญ
การเขยี นภาพเปอร์สเปกทีพหรอื ภาพทัศนยี ภาพ เปน็ ภาพเขียนแบบท่ีมลี ักษณะเป็นจดุ รวมสายตา
เม่ือภาพมองดูภาพทีใ่ กลก้ ็จะมีขนาดใหญ่ และเม่ือไกลออกไปจะมองเหน็ เล็กลงไปรวมจดุ ภาพเขยี นแบบชนิดน้ี
นิยมใชเ้ ขยี นในงานสถาปัตยกรรม
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4.1 อธิบายงานเขียนแบบภาพเปอรส์ เปกทพี
4.2 สามารถเขยี นแบบภาพเปอร์สเปกทีพ
5.สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
5.1 ความสามารถในการคิด
5.2 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6.สาระการเรยี นรู้
6.1 การเขยี นภาพเปอรส์ เปกทพี แบบจุดรวมสายตาจดุ เดยี ว
6.2 การเขยี นภาพเปอรส์ เปกทพี แบบจุดรวมสายตา 2 จุด
6.3 การเขียนภาพเปอร์สเปกทีพแบบจุดรวมสายตา 3 จุด
7. กระบวนกาจัดการเรยี นรู้
7.1 ขน้ั สนใจปญั หา (Motivation)
1. ครูเชค็ ชื่อนกั ศึกษาท่ีเข้าช้ันเรียนและตรวจระเบียบการแตง่ กาย
2. ครนู าเขา้ ส่บู ทเรยี นหน่วยท่ี 3 ครง้ั ที่ 3 โดยครูทบทวนเรยี นโดยใชค้ าถามนา เชน่
คาถาม “การเขยี นแบบเขยี นภาพแอกโซโนเมตริกเขียนอยา่ งไรบ้าง”
ขั้นให้เนอ้ื หา (Information)
1. ครูบรรยายการเขยี นภาพเปอรส์ เปกทพี จากใบความรู้ที่ 3.3 ดังน้ี
- การเขยี นภาพเปอรส์ เปกทีพแบบจุดรวมสายตาจุดเดยี ว
- การเขยี นภาพเปอร์สเปกทพี แบบจุดรวมสายตา 2 จุด
- การเขยี นภาพเปอรส์ เปกทพี แบบจดุ รวมสายตา 3 จุด
ขน้ั พยายาม (Application)
1. บรรยายและสาธติ การเขยี นภาพเปอร์สเปกทีพแบบจดุ รวมสายตาจดุ เดยี ว
2. บรรยายและสาธติ การเขียนภาพเปอร์สเปกทพี แบบจุดรวมสายตา 2 จดุ
3. บรรยายและสาธติ การเขยี นภาพเปอร์สเปกทพี แบบจดุ รวมสายตา 3 จดุ
ขนั้ สาเร็จผล (Progress)
1. ใบงานท่ี 3.3
8.การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หลกั ความ พอประมาณกบั เวลา นกั เรียนเข้าใจการเขียนแบบภาพเปอร์สเปกทีฟได้ทนั เวลา
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชิก นักเรียนสามารถแบง่ กลุ่ม เพยี งตอ่ การร่วมกนั ทางานเป็นกลมุ่
พอประมาณกับสถานที่ ห้องเรยี นอุตสาหกรรมมีโตะ๊ เขยี นแบบ 35 โต๊ะ
หลักมเี หตผุ ล ในการจดั การเรยี นการสอน นกั เรียนสามารถเขียนแบบภาพเปอรส์ เปกทฟี ได้
หลกั การสร้าง การจัดการเรียนสอนแต่ละครั้ง นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียน เนื้อหา
ภูมคิ ุ้มกนั ในตัวทด่ี ี ได้เปน็ อยา่ งดีทกุ คนมสี ่วนรว่ มในการเรยี นการสอนได้เปน็ อย่างดี
เงือ่ นไขความรู้ นักเรียนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเรื่องการเขยี นแบบภาพเปอร์สเปกทีฟได้เปน็ อยา่ งดี
เง่ือนไขคุณธรรม นกั เรยี นมีความซื่อสตั ยแ์ ละความรบั ผิดชอบ
9. สอื่ / แหล่งการเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรียนรู้
1. ใบความรทู้ ี่ 3.3 เรื่อง การเขยี นภาพเปอร์สเปกทพี
2. ใบงานที่ 3.3 เร่ือง การเขียนภาพเปอร์สเปกทีพ
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1. ห้องสมดุ
2. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
10.การวดั ประเมินผล
ส่ิงที่ต้องการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวัด
1. การเขียนภาพเปอร์สเปกทพี 1. สงั เกตจาก 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านระดบั ดี
การเขียนภาพเปอรส์ เปก การเขียนภาพเปอร์สเปกทีพ
ทีพ
ใบความรูท้ ่ี 3.3