The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nur-erawanie.k, 2021-08-28 12:05:14

Unit 5 City and space

Unit 5

1

แผนการจดั การเรียนรู้

Unit 5 City and space

รหัสวชิ า/ชอ่ื รายวชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลาเรยี น 13 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 2

ผ้สู อน นางสาวนรู อรี าวานี กูโน โรงเรียน บ้านตาบา

________________________________________________________________________________

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ชว้ี ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทีฟ่ ังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมี

เหตุผล

ตวั ชว้ี ัด ต.1.1 ป.4/2 อา่ นออกเสยี งคำ สะกดคำ อ่านกลมุ่ คำ ประโยค ขอ้ ความงา่ ยๆ และบท

พูดเข้าจงั หวะถูกต้องตามหลกั การอา่ น

ตัวชวี้ ัด ต.1.1 ป.4/3 เลอื ก/ระบภุ าพ หรือสัญลักษณ์ หรือเครือ่ งหมาย ตรงตามความหมายของ

ประโยคและขอ้ ความส้นั ๆ ท่ีฟงั หรืออา่ น

ตวั ชว้ี ดั ต.1.1 ป.4/4 ตอบคำถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความ

คิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตัวชี้วัด ต.1.2 ป.4/4 พูด/เขียนเพือ่ ขอและใหข้ ้อมูลเกีย่ วกับตนเอง เพือ่ น และครอบครัว

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรือ่ งต่างๆ โดยการพดู และการ

เขยี น

ตวั ชว้ี ัด ต.1.3 ป.4/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง และเรื่องใกลต้ ัว

ตัวชีว้ ัด ต.1.3 ป.4/2 พูด/วาดภาพแสดงความสมั พันธข์ องสิ่งต่างๆ ใกล้ตัวตามท่ีฟงั หรืออา่ น

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้อยา่ ง

เหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตัวชี้วดั ต.2.1 ป.4/3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะกบั วัย

มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับภาษาและ

วฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม

ตัวชี้วัด ต.2.2 ป.4/1 บอกความแตกต่างของเสยี งตัวอกั ษร คำ กลุม่ คำ ประโยค และขอ้ ความของ

ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

2

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรยี นรูอ้ ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้กับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ื่น และเป็นพืน้ ฐานใน

การพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน
ตัวชวี้ ัด ต.3.1 ป.4/1 คน้ คว้า รวบรวมคำศัพท์ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื และนำเสนอ

ดว้ ยการพดู /การเขียน
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

ตัวชวี้ ดั ต.4.1 ป.4/1 ฟังและพูด/อา่ น ในสถานการณท์ ่เี กิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเปน็ เครอ่ื งมือพนื้ ฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ

แลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสงั คมโลก
ตัวช้ีวดั ต.4.2 ป.4/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ

2. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด
การเรยี นรคู้ ำศัพท์เกี่ยวกับสถานท่ีต่างๆ ในเมือง และส่ิงต่างๆ ในอวกาศ โครงสร้างประโยค Present

Simple Tense การใช้ prepositions of place ทำให้ผู้เรียนสามารถพูดขอและให้ข้อมูล และเขียนให้ข้อมูล
เกี่ยวกับสถานท่ีต่างๆ ในเมืองและสิ่งต่างๆ ในอวกาศได้ ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพ่ือนำไปใช้ในการ
ส่อื สารในชวี ติ ประจำวัน

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง

- Pronunciation: /st/

- กลุ่มคำ ประโยคเดย่ี ว และความหมายเกี่ยวกบั สถานท่ีต่างๆ ในเมือง และส่ิงต่างๆ ใน

อวกาศ

- ประโยค บทสนทนา เนือ้ เร่อื งที่มีภาพประกอบ

- คำศพั ท์ และประโยคท่ใี ชข้ อและให้ข้อมูลเกยี่ วกบั สถานทต่ี า่ งๆ ในเมืองและสง่ิ ต่างๆ ใน

อวกาศ

เชน่ What can you see in the ….? I can see………….

Where is ………? It is next to/opposite/in front of/

behind………

- ประโยคและข้อความท่ใี ชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับเร่ืองใกล้ตวั

- คำ กลมุ่ คำท่ีมคี วามหมายสัมพันธข์ องส่ิงตา่ งๆ ใกล้ตัว เชน่ แผนภมู ิ Venn Diagram

- กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การร้องเพลง

3

- ความแตกตา่ งของเสยี งตัวอกั ษร คำ กลมุ่ คำ และประโยคของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาไทย

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อ่ืน
- การใชภ้ าษาในการฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรยี น
- การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพทท์ ี่เกี่ยวข้องใกลต้ วั จากสอ่ื และแหล่งการ

เรยี นร้ตู ่างๆ
3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่

-

4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
4.1 ความสามารถในการคิด
- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอย่างสรา้ งสรรค์
4.2 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- อยอู่ ย่างพอเพยี ง
- ซือ่ สัตยส์ ุจริต
- มวี ินยั

6. ช้นิ งาน/ ภาระงาน
- งานเขยี นบรรยายตำแหน่งของสถานทีต่ า่ งๆ
- การวาดภาพและเขียนบรรยายทอ้ งฟ้าในตอนกลางคนื
- การวาดภาพจากการฟัง
- งานเขยี นจดหมายถึงนกั บินอวกาศ
- การทำโครงงาน Let’s go to Mars.
- การรวบรวมคำศัพทใ์ น My word book

7. การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรยี น
- ประเมินการทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

4

- ประเมนิ การทำแบบฝกึ หดั
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบย่อย (English Test)
- สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นชว่ งการทำกิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินงานเขียนบรรยายตำแหน่งของสถานที่ตา่ งๆ
- ประเมนิ การวาดภาพและเขียนบรรยายทอ้ งฟ้าในตอนกลางคนื
- ประเมนิ การวาดภาพจากการฟงั
- ประเมนิ งานเขียนจดหมายถึงนักบนิ อวกาศ
- ประเมนิ ชิ้นงาน Let’s go to Mars.
- ประเมนิ การจดบันทกึ คำศพั ท์ใน My word book

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
- กจิ กรรมนำส่กู ารเรียน
- กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ดังแนบมาพรอ้ มน้ี
- กจิ กรรมรวบยอด

9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บัตรภาพ บตั รคำ

5

แผนการจดั การเรียนรู้ 1

Unit 5 City and space

รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชั้น ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง ภาคเรียนท่ี 2

ผู้สอน นางสาวนูรอรี าวานี กูโน โรงเรียน บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคัญ

การเรียน รู้คำศัพ ท์ เกี่ยวกับ สถาน ท่ี ต่างๆ ใน เมือง การใช้ Present Simple Tense และ

prepositions of place การออกเสียง /st/ ทำให้ผู้เรียนสามารถพูดขอและให้ข้อมูล และเขียนให้ข้อมูล

เก่ยี วกับสถานทีต่ ่างๆ ในเมอื งได้ ซึง่ เปน็ การเรยี นรภู้ าษาอังกฤษ เพอ่ื นำไปใชส้ อ่ื สารในชีวิตประจำวัน

2. ตวั ชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นออกเสยี ง สะกดคำ และบอกความหมายคำศพั ท์เกี่ยวกบั สถานที่
- พดู /เขยี นขอและใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกับสถานท่ี โดยใช้โครงสรา้ งประโยค
Where is the…..?
It’s behind / next to / opposite / in front of ……….
- เขียนใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั สถานทีต่ ่างๆ ในเมืองได้
- ออกเสียง /st/ ไดถ้ กู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- Pronunciation: /st/
- กลมุ่ คำ ประโยคเดี่ยว และความหมายเก่ียวกับสิ่งแวดลอ้ ม เชน่ สถานทต่ี า่ งๆ ในเมือง และ
สง่ิ ตา่ งๆ ในอวกาศ
- ประโยค บทสนทนา เน้ือเรือ่ งทีม่ ีภาพประกอบ
- คำศัพท์ และประโยคในการใชข้ อและให้ขอ้ มลู เกีย่ วกบั สถานที่
เช่น Where is ………?
It is next to / opposite / in front of / behind………
- ประโยคและขอ้ ความท่ีใช้ในการพดู ให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั เรื่องใกลต้ ัว
- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม
- ความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร คำ กลมุ่ คำ และประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย

6

- การใช้ภาษาในการฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ท่เี กดิ ขึ้นในห้องเรยี น

3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
-

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- การคิดวเิ คราะห์

5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวินยั
- ซอื่ สัตย์สจุ ริต
- อยอู่ ย่างพอเพียง

6. ชิน้ งาน/ ภาระงาน
- งานเขียนบรรยายตำแหนง่ ของสถานทตี่ า่ งๆ

7. การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ประเมินการทำแบบฝกึ หัด
- ประเมินการทำแบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นร้ใู นช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลงั การเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ งานเขียนบรรยายตำแหน่งของสถานที่ตา่ งๆ

7

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมนำสู่การเรยี น

1. ทบทวนคำศพั ท์ โครงสร้างประโยคทเ่ี รยี นมาแลว้ ดว้ ยบตั รคำ บตั รภาพ และแถบประโยค
2. ครูแจกบตั รคำเกยี่ วกบั สถานท่ี 4 คำ ใหน้ กั เรยี น 4 คน คนละ 1 ใบ ดังน้ี

Supermarket School Park River

ครูหยิบบัตรภาพขึ้นมา 1 ใบ ให้นักเรียนช่วยกันดูรูปภาพ แล้วคนที่ถือบัตรคำที่ตรงกับรูปภาพให้วิ่ง
ออกมาหนา้ ชั้นเรยี น พรอ้ มกบั พดู คำศัพท์ดงั ๆ ครูทำกจิ กรรมเชน่ นีไ้ ป 3 - 4 รอบ
3. นักเรียนดูภาพ ในหนงั สือเรียน หน้า 60 ข้อ 1 What can you see? แล้วบอกครูวา่ เหน็ อะไรบา้ ง

Teacher: What do you see in the picture on page 60?
Students: Bank, dentist’s, doctor’s, spaceship, shop, bus stop, etc.
Teacher: Well done!
4. นกั เรียนอ่านคำศัพท์ 5 คำ ในหนังสือเรียน หน้า 60 ขอ้ 2 Read, look and find. แล้วจับคู่กับเพ่ือน
ข้างเคียง (Pair work) เพ่อื หาวา่ ภาพของคำศัพท์เหลา่ น้ีอย่ตู รงไหนของภาพใหญ่ในข้อ 1
5. นักเรียนอา่ นคำศัพท์ที่กำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 44 ข้อ 1 Look and label. พร้อมๆ กัน จากน้ัน
ให้เวลานักเรียน 3 นาที เติมคำศัพท์ลงไปในภาพให้ถูกต้อง ครูให้นักเรียนท่ีทำเสร็จ 10 คนแรกและ
ถกู ต้องทกุ ข้อ ช่วยเฉลยคำตอบ คนละ 1 ขอ้ ด้วยการลุกข้นึ ยนื อา่ นคำศพั ท์และบอกความหมาย
6. นักเรียนทำแบบฝึกหัด หน้า 44 ข้อ 2 Look at the picture. Read and match. จับคู่ข้อความที่
กำหนด ใหเ้ ป็นประโยคท่ีสมบรู ณ์

1. spaceship 2. plane 3. star 4 bus stop
5. dentist’s 6. doctor’s 7. car 8. playground

1. d The library is opposite the playground.
2. a The bus stop is near the bank.
3. b The doctor’s is next to the restaurant.
4. e The dentist’s is next to the library.
5. c The man is near the car.

เสร็จแล้วครูให้นักเรียนอ่านประโยคท่ีถูกต้องตามครู แล้วจึงอ่านประโยคท้ังหมดด้วยตนเองอีกครั้ง
พร้อมๆ กัน

8

กจิ กรรมนำสู่การเรียน

1. ครูชูบัตรภาพ 6 ภาพ ให้นักเรียนดูทีละภาพ ดังน้ี restaurant, bank, airport, the chemist’s,

the doctor’s และ the dentist’s ครูถามนักเรียนว่า

Teacher: (ครูยกบัตรภาพร้านอาหาร) What is it?

Students: It’s a restaurant.

ครยู กบัตรภาพทเ่ี หลอื อีก 6 ภาพ และถามนกั เรียนดว้ ยคำถามเดมิ

2. นกั เรยี นจบั คบู่ ัตรคำกบั บตั รภาพใหต้ รงกัน ดงั น้ี

Restaurant = ภัตตาคาร Bank = ธนาคาร

Airport = สนามบนิ Hospital = โรงพยาบาล

Library = ห้องสมดุ Supermarket = ร้านขายของขนาดใหญ่

The dentist’s = รา้ นทำฟนั The doctor’s = รา้ นหมอ

The chemist’s = รา้ นขายยา

จากนั้นแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ให้แข่งกันจับคู่บัตรภาพกับบัตรคำ กลุ่มใดจับคู่ได้เร็ว

ทสี่ ุดและถูกตอ้ งถอื ว่า เปน็ ฝ่ายชนะ

3. ครูบอกนกั เรยี นว่าใน Unit 5 น้ี นักเรยี นจะได้เรยี นรู้คำศัพท์เก่ยี วกับสถานท่ี การพูดถาม-ตอบเกย่ี วกับ

สถานท่ี และการใชค้ ำบพุ บท (prepositions) เพอื่ บอกทีต่ ง้ั สถานที่

กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้

1. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 61 ข้อ 1 Listen, point and repeat. ครูออกเสียงคำศัพท์ใน Word

box ให้นักเรียนพูดคำศัพท์ตามครู และช้ีรูปภาพในหนังสือเรียนตามไปด้วย ครูหยิบบัตรภาพคำศัพท์

ใน Word box ขน้ึ มาทีละ 1 ภาพ ใหน้ ักเรียนในห้องพดู คำศัพท์ตามภาพท่ีเหน็

ครูเปิด CD/track 62 ให้นักเรียนฟัง 2-3 ครั้ง และออกเสียงตาม ครูช่วยนักเรียนท่ียังออกเสียง

ไม่ถูกต้องหรือไมช่ ดั เจน

restaurant bank airport the chemist’s
the doctor’s the dentist’s behind next to
opposite in front of

2. นักเรียนดูภาพ A-F ในหนังสือเรียน หน้า 61 ข้อ 2 Listen and number. ครูช้ีที่ภาพทีละภาพ
แล้วถามนักเรียนว่าคือภาพอะไร จากน้ันแล้วครเู ปิด CD/track 63 ให้นักเรียนฟงั แล้วเรยี งลำดบั ภาพ
A-F ตามท่ีได้ยนิ จาก CD โดยให้นกั เรียนทำลงในสมดุ

9

1. They eat in the restaurant.
2. They are at the airport.
3. This is a bank.
4. We buy medicine at the chemist’s.
5. I have a toothache. I am at the dentist’s.
6. I have a cold. I am at the doctor’s.

1. D 2. C 3. B 4. E 5. A 6. F

3. นักเรียนฝึกทักษะการฟัง โดยครูเปิด CD/track 64 ให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง แล้วให้นักเรียนเติมคำศัพท์
ที่ขาดหายไปในประโยค ในหนังสือเรียน หน้า 61 ข้อ 3 Listen and write. ให้ถูกต้อง โดยให้
นกั เรยี นทำลงในสมดุ

1. I like the food at this restaurant.
2. My house is near the bank.
3. My school is between the library and the chemist’s.
4. Jack and Catherine are at the airport.
5. I have a cold. I am at the doctor’s.

4. นักเรียนเล่นเกม Why? (ทำไม) เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความกระฉับกระเฉง ต่ืนตัว และได้รับ
ความรู้ พรอ้ มกบั ความสนกุ สนาน ขน้ั ตอนการเล่นเกม มดี งั นี้

10

เกม Whwy? (ทำไม)
1) ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม เท่าๆ กัน (Team work) ตามจำนวนแถวนั่ง

(ครอู าจแบง่ ผเู้ ล่นเกมตามส่วนสูง น้ำหนกั อายุ เพศ)
2) ครูเตรียมบัตรคำเก่ียวกับสถานท่ีรวม 16 ใบ ใส่ลงในกล่องใบใหญ่บนโต๊ะครู

หน้าช้ันเรียน โดยไม่ให้นักเรียนเห็นคำศัพท์ ซึ่งมีดังนี้ restaurant, airport,
bank, supermarket, chemist’s, dentist’s, hospital, school, bus
station, train station, flower shop, book store, post office, library,
park, playground
3) นักเรียนแต่ละทีมส่งตวั แทนออกมาจับฉลากทีมละ 1 คน เมื่อจับได้คำศัพท์คำใด
ใหท้ ุกคนในทมี ช่วยกันแตง่ ประโยคสนทนา โดยประโยคมรี ปู แบบดังน้ี

A : Why do you go to the hospital ?
B : I go to the hospital because my leg hurts.

(หรอื to see a doctor.)
* ประโยคคำถามตอ้ งข้นึ ตน้ ด้วย Why*
4) ท้ัง 2 ทีมส่งตัวแทน ทีมละ 2 คน ยืนข้ึน ชูบัตรคำ และพูดบทสนทนากัน ครูฟัง

บทสนทนาว่ารู้เร่ืองหรือไม่ แล้วให้คะแนนแต่ละกลุ่ม โดยครูบอกผลว่า ผ่าน
หรือไม่ผ่าน ถ้าผ่าน ครูให้ดาวสีแดง (ครูประดิษฐ์ขึ้นจากกระดาษแข็ง) แก่ทีม
ดังกล่าว โดยนบั เป็น 1 คะแนน
5) แต่ละทีมส่งตัวแทนคนใหม่ออกมาจับฉลากบัตรคำ และผู้นำเสนอบทสนทนา 2
คน เพ่อื ใหท้ ุกคนไดม้ โี อกาสฝึกพดู กนั ท่ัวหนา้ โดยปรกึ ษากันเองภายในทมี
6) เม่ือแต่ละทีมพูดบทสนทนาเก่ียวกับบัตรคำใบสุดท้ายเสร็จแล้ว ครูให้แต่ละทีม
นบั ดาวท่ีไดร้ บั จากครู ทีมท่ีไดด้ าวมากทส่ี ุดจะเปน็ ผชู้ นะ ทีมที่ชนะสามารถส่ังให้
อกี ทีมทำอะไรก็ได้ เช่น เต้นหรือร้องเพลง ฯลฯ

5. นักเรียนดูภาพ A, B, C และ D ในหนังสือเรียน หน้า 62 ข้อ 4 Listen and number. แล้วครูถาม

นักเรยี นว่าในแต่ละภาพมีสถานท่ใี ดบา้ ง

ภาพ A police station, airport

ภาพ B chemist’s, dentist’s

ภาพ C restaurant, bank

ภาพ D school, bus stop

11

ครูเปิด CD/track 66 ให้นักเรียนฟัง 2 คร้ัง แล้วให้นักเรียนเรียงลำดับรูปภาพตามที่ได้ยินจาก CD
จากนั้นครูเปิด CD อีกครัง้ เพือ่ ให้นักเรียนเติมคำที่ขาดหายไปในประโยคใหส้ มบรู ณ์ โดยครูให้นักเรียน
ทำลงในสมดุ เสรจ็ แลว้ นกั เรียนอ่านประโยคทเ่ี ตมิ คำสมบรู ณแ์ ลว้ พรอ้ มๆ กนั

w
1. The restaurant is next to the bank.
2. The airport is opposite the police station.
3. The chemist’s is behind the dentist’s.
4. The bus stop is in front of the school.

w
1. C 2. A 3. B 4. D
1. The airport is opposite the police station.
2. The chemist’s is behind the dentist’s.
3. The restaurant is next to the bank.
4. The bus stop is in front of the school.

6. ครูสอนโครงสร้างประโยคที่ใช้ในการถาม-ตอบเกยี่ วกับสถานที่ ดงั นี้

Where is the (ชอื่ สถานที่ A)?

It’s (preposition of place) (ชอื่ สถานที่ B).

ครยู กตวั อยา่ งประโยคให้นกั เรยี นดู เช่น

Where is the hospital? โรงพยาบาลอย่ทู ไี่ หน

It’s near the police station. อยใู่ กลก้ บั สถานีตำรวจ

7. ครูอธบิ ายเก่ียวกบั Prepositions of place (คำบพุ บทเกี่ยวกับสถานที่) ให้นกั เรยี นเพม่ิ เติม ดังน้ี

คำบุพบทเกี่ยวกับสถานที่ หมายถึง คำบุพบทท่ีบอกตำแหน่งแหล่งท่ีว่าส่ิงนั้นๆ อยู่ท่ีไหน ซึ่งบุพบท

เก่ยี วกบั สถานที่ท่นี ักเรยี นพบเหน็ บ่อยๆ คือ

behind = ข้างหลงั next to = ถดั ไป, ติดกบั

opposite = ตรงขา้ ม in front of = ขา้ งหนา้

near = ใกล้ between = ระหว่าง

เชน่ My school is near the bus stop.

Krung Sri Bank is behind the supermarket.

ขอ้ ควรระวัง คำว่า between จะใชร้ ะหวา่ งส่งิ ของ 2 ส่ิง หรือ คน 2 คน จะมากกวา่ 2 ไม่ได้

เช่น My house is between the bank and the park.

12

8. นักเรียนดูภาพแผนผังในหนังสือเรียน หน้า 62 ข้อ 5 Look, listen and point. โดยครูช้ีที่ภาพทีละ
ภาพ แล้วออกเสียงคำศัพท์ ให้นักเรียนอ่านตาม จากน้ันครูแนะนำว่าเด็กผู้หญิงที่นักเรียนเห็นในภาพ
ช่ือว่า Maria และภาพท่ีนักเรียนเห็นคือแผนผังของเมืองท่ี Maria อาศัยอยู่ จากน้ันครูถามคำถาม
เกีย่ วกบั สถานทตี่ ่างๆ ในเมอื งของ Maria และให้นักเรียนช่วยกนั ตอบ เช่น
Teacher: Where is Maria’s house?
Students: It is behind the bus stop.
Teacher: Where is the airport?
Students: It is opposite the bank.
Teacher: Where is the hospital?
Students: It is next to the bank.
Teacher: Where is the school?
Students: It’s opposite the doctor’s and the dentist’s.
Students: Where is the restaurant?
Teacher: It’s behind the dentist’s.
ครูเปดิ CD/track 67 ใหน้ กั เรียนฟงั 2 รอบ และช้นี วิ้ ที่สถานทต่ี า่ งๆ ในแผนผงั ตามท่ไี ดย้ ินจาก CD

Hi, Mark. Here is the map of my town. You can see my
house. There is a bus stop in front of my house. Here I take
the bus to school. My school is opposite the doctor’s and
the dentist’s. Behind the dentist’s is the restaurant. My town
has a small hospital. It’s next to the bank. There’s an airport
near my house. Tell me about your town! Your friend, Maria

9. นักเรียนจับคู่กับเพ่ือน (Pair work) ดูภาพแผนผังในหนังสือเรียน หน้า 62 ข้อ 5 Look, listen and
point. อกี คร้งั แล้วฝกึ พูดถาม-ตอบ เกยี่ วกับสถานทตี่ ่างๆ ในแผนผงั เช่น
A: Where is the bus stop?
B: It is in front of Maria’s house.
A: Where is Maria’s school?
B: It is opposite the doctor’s and the dentist’s.
A: Where is the restaurant?
B: It is behind the dentist’s.
A: Where is the hospital?

13

B: It is next to the bank.
A: Where is the airport?
B: It is near Maria’s house.
ครูแจกกระดาษเปล่าให้นักเรียนคู่ละ 1 แผ่น ให้นักเรียนวาดแผนผังตามหนังสือเรียน หน้า 62
ลงในกระดาษ และเขียนบทสนทนาใต้ภาพ พร้อมกับตกแต่งระบายสีให้สวยงาม ครูสุ่มเรียกนักเรียน
3-4 คู่ ใหอ้ อกมานำเสนอหน้าชัน้ เรยี น
กจิ กรรมรวบยอด
1. นักเรียนแบ่งกลุ่มทำงาน กลุ่มละ 5 คน ช่วยกันเติมคำศัพท์ลงในตารางอักษรไขว้ ในแบบฝึกหัด หน้า
45 ข้อ 1 Find the words. ให้ถูกต้อง โดยดูคำใบ้จากรูปภาพที่กำหนดให้ เสร็จแล้วให้นักเรียน
ชว่ ยกันเฉลยคำตอบ

Across (แนวนอน): library, bus stop, hospital, restaurant
Down (แนวตงั้ ): bank, airport

2. นกั เรียนอ่านประโยค 1-6 ในแบบฝกึ หัด หน้า 45 ข้อ 2 Listen and write. จากนั้นครเู ปดิ CD/track
65 ให้นักเรียนฟัง 2 รอบ แล้วให้นักเรียนเติมคำศัพท์ลงไปในช่องว่างตามที่นักเรียนได้ยินจาก CD
เสร็จแล้วครูเปิด CD อีกครั้ง โดยหยุดหลังจบแต่ละประโยค เพื่อเฉลยคำตอบ ครูให้นักเรียนอ่าน
ประโยคทเ่ี ตมิ คำสมบรู ณแ์ ล้วทีละประโยคพรอ้ มๆ กัน

1. I eat lunch at this restaurant.
2. My house is next to the doctor’s.
3. My sister is at the dentist’s.
4. My school is between the library and the bank.
5. They are at the airport.
6. Mark is at the doctor’s.

3. นักเรียนแต่งประโยคอย่างน้อย 4 ประโยค โดยนึกถึงส่ิงท่ีใกล้ตัวเป็นหลักและใช้ Prepositions
ต่อไปนี้ opposite, behind, next to, near, in front of, between นักเรียนร่างประโยคที่ตนเอง
คิดลงในสมุด นักเรียนสามารถปรึกษากับเพ่ือนข้างเคียงหรือคุณครูได้ ครูเดินสังเกตและคอยให้
คำปรึกษากับนักเรียนในการทำงาน
ตัวอย่าง I am sitting between Noi and Ying. Sunee is in front of me,
but Winai is behind me. There is a tree near the window.
The teacher is standing in front of the class.

14

ครูขออาสาสมัคร 3-4 คน ออกมาอ่านประโยคท่ีตนเองแต่งหน้าห้อง เสร็จแล้วครูให้หัวหน้าห้อง
รวบรวมสมุดงานของนักเรียนทุกคนมาส่งครู เพื่อนำไปตรวจให้คะแนน รวมท้ังบันทึกพฤติกรรมการ
เรียนรู้ของนกั เรียนจากการทำชน้ิ งานนด้ี ว้ ย
4. นักเรียนดูแผนผังในแบบฝึกหัด หน้า 45 ข้อ 3 Look and say yes or no. แล้วอ่านประโยค 1-4
ครูให้นักเรียนพิจารณาว่าประโยคท่ีนักเรียนอ่านมีความหมายตรงกับรูปภาพหรือไม่ ถ้าตรง ให้เขียน
ตอบ yes ท้ายประโยค ถ้าไม่ตรง ตอบ no เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 5 คน ให้อ่านคนละ 1
ประโยค พรอ้ มทั้งเฉลยคำตอบ โดยคนใดทีอ่ า่ นประโยคท่ตี อบ no ให้แกไ้ ขประโยคให้ถูกต้องด้วย

1. yes 2. no 3. yes 4. no

5. นักเรียนอ่านประโยค 1-4 ในแบบฝึกหัด หน้า 46 ข้อ 4 Read and match. แล้วจับคู่ประโยคกับ
รูปภาพ (a-d) ให้ถูกต้อง ครูให้นักเรียนอ่านประโยค 1 พร้อมๆ กัน แล้วสุ่มเรียกนักเรียน 1 คน
ให้บอกว่าตรงกบั รปู ใด ครทู ำเชน่ นี้กบั ประโยคที่ 2-4 เสรจ็ แลว้ ครูเขยี นเฉลยบนกระดานอีกครง้ั

1. B 2. C 3. A 4. D

6. นักเรียนจับคู่กับเพ่ือนข้างเคียง แล้วดูภาพ 3 ภาพ ในแบบฝึกหัด หน้า 46 ขอ้ 5 Look and answer.
จากนั้นจึงเขียนตอบคำถามท่ีกำหนดให้ เมื่อนักเรียนทำเสร็จแล้ว ครูถามคำถาม 1-5 ทีละข้อ และ
ส่มุ เรียกนักเรยี น 3-4 คนให้พูดตอบคำถามในแตล่ ะขอ้ จากน้ันครูจึงเฉลยคำตอบท่ีถูกต้องบนกระดาน
เพ่ือให้นักเรียนตรวจคำตอบของตนเอง และแก้ไขข้อที่ผิด ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่ม
นักเรยี นชายและกลุม่ นักเรียนหญิง ใหก้ ลุม่ นักเรียนชายเป็นฝา่ ยพูดถามก่อน และกลุ่มนักเรยี นหญงิ พูด
ตอบ จนครบ 4 ขอ้ จากนน้ั จงึ สลับบทบาทกนั
w
1. It’s near the library.
2. It’s next to the supermarket.
3. It’s behind the dentist’s.
4. It’s next to the restaurant.
5. It’s between the doctor’s and the bank.

7. นักเรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ช่วยกันบอกช่ือ Supermarket ห้างสรรพสินค้า หรือร้าน
สะดวกซื้อ ท่ีนักเรียนรู้จักในประเทศไทย เมื่อแต่ละกลุ่มระดมสมองเสร็จแล้ว ครูให้แต่ละกลุ่มบอก

15

คำตอบครั้งละ 1 ช่ือ เวียนกันไปเร่ือยๆ ทีละกลุ่ม โดยไม่ให้บอกช่อื ซ้ำกัน ครูเขียนคำตอบของนักเรียน

บนกระดาน เชน่

Tesco Lotus Thai Daimaru Siam Discovery

Big C Sogo Carrefour

Emporium The Mall Family Mart

Makro Central Mabunkhrong

Seven Eleven Foodland

ครถู ามนกั เรยี นว่าชอบไปหา้ งสรรพสนิ คา้ หรอื ซุปเปอร์มาร์เก็ตเหล่าน้ีหรือไม่

Teacher: Do you like to go to these department stores?

Students: Yes, I do. หรอื No, I don’t.

นักเรียนในแต่ละกลุ่มแสดงความคิดเห็นว่าชอบไปหรือไม่ชอบไปเพราะอะไร จากนั้นให้แต่ละกลุ่ม

ออกมานำเสนอเป็นภาษาไทย เพราะครูต้องการทราบความคดิ เหน็ ของนักเรียน

อิมรอน: ชอบไป เพราะอากาศเย็นสบาย มีของเล่นมาก มขี องกินอรอ่ ยๆ

อานสิ : ไม่ชอบไป เพราะของแพง อึดอัดคนแน่น อากาศไม่บริสุทธ์ิ

เสยี เวลา

ครูต้ังข้อสังเกตให้นักเรียนทราบว่าในห้างสรรพสินค้ามักไม่มีนาฬิกาให้ลูกค้าดูเวลา เพื่อให้ลูกค้า

มีอสิ ระในการเลอื กเดินดูของและจ่ายเงนิ ซ้อื ของ ดังนน้ั ในสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังฝืดเคอื ง

นกั เรยี นจงึ ควรใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดไม่ซ้อื สิ่งของท่ีไม่จำเปน็ และไม่ควรไปหา้ งสรรพสนิ คา้ บ่อยมาก

นกั เพราะสิ่งของในห้างสรรพสินค้ามักมีราคาแพงกว่าร้านค้าปลีกย่อย และอากาศในห้างมักไม่ถ่ายเท

สุดท้ายครูเตือนสตินักเรียนว่า เงินเป็นส่ิงที่หาได้ยากย่ิง แต่ใช้จ่ายได้ง่ายมาก นักเรียนจึงควรรู้จัก

คุณค่าของเงิน

9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บัตรคำ

16

10. บันทึกผลหลงั การสอน
10.1 ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปัญหาอปุ สรรคในการปฏิบตั ิกิจกรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแก้ไขการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ .............................................ผูส้ อน
(นางสาวนรู อีราวานี กูโน)

17

แผนการจดั การเรียนรู้ 2

Unit 5 City and space

รายวชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง ภาคเรียนท่ี 2

ผู้สอน นางสาวนรู อีราวานี กโู น โรงเรียน บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคัญ

การเรียน รู้คำศัพ ท์ เกี่ยวกับ สถาน ท่ี ต่ างๆ ใน เมือง การใช้ Present Simple Tense และ

prepositions of place การออกเสียง /st/ ทำให้ผู้เรียนสามารถพูดขอและให้ข้อมูล และเขียนให้ข้อมูล

เก่ยี วกบั สถานท่ีต่างๆ ในเมอื งได้ ซงึ่ เปน็ การเรียนรภู้ าษาอังกฤษ เพ่อื นำไปใชส้ ่อื สารในชวี ิตประจำวัน

2. ตวั ชีว้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
- อา่ นออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายคำศัพท์เกยี่ วกับสถานท่ี
- พูด/เขียนขอและใหข้ ้อมลู เก่ยี วกบั สถานท่ี โดยใช้โครงสร้างประโยค
Where is the…..?
It’s behind / next to / opposite / in front of ……….
- เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั สถานทต่ี า่ งๆ ในเมอื งได้
- ออกเสยี ง /st/ ไดถ้ ูกตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- Pronunciation: /st/
- กลุม่ คำ ประโยคเด่ียว และความหมายเกี่ยวกับสงิ่ แวดล้อม เช่น สถานท่ีต่างๆ ในเมือง และ
สิง่ ต่างๆ ในอวกาศ
- ประโยค บทสนทนา เนื้อเรื่องท่ีมภี าพประกอบ
- คำศพั ท์ และประโยคในการใชข้ อและให้ขอ้ มูลเกีย่ วกบั สถานท่ี
เชน่ Where is ………?
It is next to / opposite / in front of / behind………
- ประโยคและขอ้ ความทใี่ ชใ้ นการพูดใหข้ อ้ มูลเกีย่ วกบั เร่ืองใกลต้ วั
- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม
- ความแตกตา่ งของเสียงตัวอักษร คำ กลมุ่ คำ และประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย

18

- การใชภ้ าษาในการฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ท่เี กดิ ขึ้นในห้องเรยี น

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่
-

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดวิเคราะห์

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั
- ซ่ือสัตย์สุจริต
- อยอู่ ย่างพอเพยี ง

6. ช้นิ งาน/ ภาระงาน
- งานเขียนบรรยายตำแหน่งของสถานท่ีต่างๆ

7. การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทำแบบฝกึ หดั
- ประเมินการทำแบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรูใ้ นชว่ งการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลงั การเรียน
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินงานเขียนบรรยายตำแหน่งของสถานทตี่ ่างๆ

19

8. กิจกรรมการเรียนรู้
กจิ กรรมนำสกู่ ารเรียน

1. ครูทบทวนคำศัพท์เก่ียวกับสถานที่ต่างๆ และร้านค้า โดยครูชูบัตรภาพ 12 ภาพ เพ่ือให้นักเรียนระบุ
และออกเสียงคำศัพท์ได้ตรงกับภาพ จากนั้นครูชูบัตรคำ 12 ใบ ให้นักเรียนออกเสียงพร้อมๆ กัน
ทีละใบ ครูติดบัตรภาพและบัตรคำดังกล่าวบนกระดาน โดยตดิ ให้กระจัดกระจาย ครูสมุ่ เรียกนักเรียน
แถวกลาง จำนวน 3 คน ให้เดนิ ออกมาหนา้ ชั้นเรียน และชว่ ยกันจบั ค่บู ัตรภาพและบตั รคำให้ถกู ต้อง

2. นกั เรยี นไดร้ ับมอบหมายให้ทอ่ งจำคำศัพท์เกี่ยวกบั สถานท่ี และร้านค้าต่างๆ ท่เี รยี นมาแล้วรวม 10 คำ
ครูทดสอบและให้นักเรียนประเมินความสามารถของตนเอง โดยเขียนคำศัพท์ตามที่ครูบอก
(Dictation) โดยครูตกั เตือนใหน้ ักเรียนมีความซอ่ื สัตย์ และหยงิ่ ในศกั ดิ์ศรีของตน ไมล่ อกงานผู้อืน่

3. ครูบอกนักเรียนว่าในช่ัวโมงต่อไปน้ี นักเรียนจะได้เรียนรู้เร่ืองการอ่าน การเขียนบรรยายเพื่อบอก
สถานท่ี และการออกเสยี ง /st/

กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้
1. ครทู บทวนคำบพุ บทเก่ียวกบั สถานที่ โดยถามคำถามนกั เรยี น เช่น
- Who is sitting in front of (ช่ือนกั เรยี น A)?
- Who is sitting behind (ชือ่ นักเรียน B)?
- Who is sitting between (ชื่อนักเรยี น C) and (ชอื่ นักเรียน D)?
- Who is sitting next to (ชื่อนกั เรียน E)?
- Who is sitting opposite me? ครไู ปยนื หน้านักเรยี นคนใดคนหน่งึ แล้วช้ที ต่ี ัวเอง
2. นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน อ่านเน้ือเรื่องในหนังสือเรียน หน้า 63 ข้อ 6 Read and complete.
แล้วช่วยกันเติมชื่อสถานที่ (1-5) ในแผนผังให้สมบูรณ์ โดยให้นักเรียนทำลงในกระดาษคำตอบของ
กลุ่ม เสร็จแล้วครูถามนักเรียนทีละกลุ่มว่า สถานที่ 1-5 คือสถานที่ใด ครูเฉลยคำตอบให้นักเรียนฟัง
พรอ้ มอธบิ ายเหตุผล แลว้ ให้นักเรยี นอา่ นออกเสยี งเนอื้ เร่อื งพรอ้ มๆ กนั

1. library 2. doctor’s 3. bank
4. supermarket 5. bus stop

3. นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 63 ข้อ 7 Draw a map and write about it. โดยวาด
แผนผงั งา่ ยๆ ลงในสมดุ ของตนเอง แลว้ เขียนบอกตำแหน่งของสถานท่ีตา่ งๆ ในแผนผัง

4. ครสู อนนกั เรียนออกเสียง /st/ โดยเปรยี บเทียบกบั เสยี ง /t/ ดงั น้ี
ครูให้นกั เรยี นออกเสียง /t/ โดยครชู ีท้ ่ีตนเองแล้วพูด
Teacher: I am a teacher. “Teacher”
นักเรียนพูดคำว่า “Teacher” ตามครู

20

ครูช้ีไปที่โต๊ะแล้วพูด “table, table” นักเรียนพูดตามครู และดูปากครูด้วย ครูสอนนักเรียนให้
ออกเสียง /t/ โดยการนำปลายลิ้นมาแตะหลังฟันบนในช่วงเวลาสั้นๆ นักเรียนช่วยกันคิดหาคำศัพท์ที่
ขึ้นต้นด้วยอักษร t คำอื่นๆ แล้วบอกครู ครูรวบรวมแล้วเขียนบนกระดาน เช่น town, table,
tomorrow, time, take, tiger, etc. นักเรียนอา่ นออกเสียงคำเหล่าน้ีตามครู แลว้ จดบันทกึ ลงในสมุด
จากน้ันครูให้นักเรียนช่วยกันคิดว่าตัวอักษร t คล้ายกับตัวอักษรใดในภาษาไทย นักเรียนช่วยกันคิด
แลว้ สรุปวา่ คล้ายกับ “ท” ในภาษาไทย
จากนั้นครูชูภาพดาว 1 ดวง  แล้วพูดว่า “star, star” นักเรียนดูปากครู แล้วออกเสียงตาม
ครูบอกนกั เรียนให้ออกเสียง s ซึ่งอยู่หนา้ ตวั อักษร t เบาๆ ไม่ต้องเน้นเสียง /s/ เพราะในภาษาอังกฤษ
/st/ ถือเป็นคำควบกล้ำ นับเป็น 1 พยางค์ โดยครูอธิบายว่า เม่ือ t ตามหลัง s เสียง t จะออกเสียง
เหมือน ‘ต’ ในภาษาไทย ดังนั้นเสยี ง /st/ จะออกเสียงคล้ายๆ /สต/ ในภาษาไทย นักเรียนช่วยกันคิด
หาคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วยอักษร st ครูรวบรวมแล้วเขียนบนกระดาน เช่น star, steak, stop, student,
stupid นักเรียนอ่านออกเสียงคำเหล่าน้ีตามครู และจดบันทึกลงในสมุด เสร็จแล้วครูให้นักเรียนอ่าน
คำทีข่ น้ึ ตน้ ด้วย st และ t บนกระดานอกี ครัง้
5. ครูให้นักเรียนอ่านประโยคท่ีกำหนดให้ในหนังสือเรียน หน้า 63 ข้อ 8 Listen and say. แล้วเปิด
CD/track 68 ใหน้ ักเรียนฟัง 2 ครั้ง และฝกึ อา่ นตามจนคลอ่ ง จากนนั้ ครูสุ่มเรยี กนกั เรียน 5-6 คน
ให้ลุกขนึ้ ยนื และอา่ นประโยคน้ที ีละคน

The astronaut is in the station and looks at the stars.

 กจิ กรรมรวบยอด
1. นักเรียนอ่านเนื้อเร่ืองในแบบฝึกหัด หน้า 47 ข้อ 6 Read and answer true or false. ในใจ แล้ว
พิจารณาว่าประโยค 1-5 ถูกหรือผิด ถ้าถูก ให้เขียน T (True) ถ้าผิด ให้เขียน F (False) จากน้ันจึง
ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ ครูสรุปและเขียนคำตอบท่ีถูกต้องอีกคร้ังบนกระดาน

1. T 2. T 3. F 4. F 5. T

นักเรียนตรวจคำตอบของตนเองและแก้ไข ครูให้นักเรียนหาเหตุผลว่าทำไมข้อ 3 และ 4 จึงผิด และ
ประโยคที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร นักเรียนช่วยกันคิดและบอกครู นักเรียนอ่านออกเสียงเนื้อเร่ืองของ
Peter พรอ้ มๆ กนั จากน้นั ครูใหน้ ักเรยี นเขยี นแผนทีจ่ ากบา้ นของ Peter ไปยงั สถานทีต่ า่ งๆ ให้ถกู ต้อง
ตัวอย่าง (สามารถเปลีย่ นตำแหนง่ ของสวนสาธารณะได้)

21

Park

Peter’s house School

Playground Supermarket

Park

2. นักเรียนดูคำท่ีให้มาในแบบฝึกหัด หน้า 47 ข้อ 7 Put the words in the correct order. แล้ว
เรยี งคำในแต่ละขอ้ ให้เป็นประโยคท่ีถูกต้อง โดยครูใหน้ ักเรยี นทำงานเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 3 คน เสร็จแล้ว
ครูให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ยืนขน้ึ อ่านประโยคที่เรียงคำสมบรู ณ์แล้ว กลมุ่ ละ 1 ประโยค ครเู ฉลยประโยค
ทีถ่ ูกต้องบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนแก้ไขงานของตนเองใหถ้ ูกต้อง

1. Do you live in a big or small town?
2. I live in a big town.
3. Is there a library in your town?
4. There is a big library in my town.

3. ครูทบทวนการออกเสียง /st/ กบั /t/ โดยใหน้ ักเรียนออกเสียงคำศัพทบ์ นกระดาน ดงั น้ี

/st/ star stay stand stop study student

/t/ tall time tiger tooth teacher table

ครูให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย /st/ และ /t/ ในแบบฝึกหัด หน้า 47 ข้อ 8 Listen: star, tar.

Listen, circle and say. แล้วครูเปดิ CD/track 69 ให้นกั เรียนฟงั และวงกลมลอ้ มรอบคำศพั ท์ทไ่ี ดย้ นิ

stick stop take

22

เสร็จแล้วครูเฉลยคำตอบบนกระดาน และเปิด CD ให้นักเรียนฟังอีกหลายๆ ครั้ง และฝึกพูดตาม ให้
สำเนยี งเหมือนกบั เจ้าของภาษา
4. ครูแจกกระดาษที่ใช้แล้ว 1 หน้า (Recycle) ให้นักเรียน คนละ 2 แผ่น แล้ววาดแผนท่ีจากบ้านของ
นักเรียนมายังโรงเรียน ลงในกระดาษ 1 แผ่น และเขียนบรรยายอีก 1 แผ่น โดยครูมอบหมายให้
นักเรียนไปทำเป็นการบา้ น

My house Bank Restaurant

The chemist’s Park Airport

My house is opposite twhe chemist’s. The chemist’s is
next to the park. The park is opposite the airport. Opposite
the airport is the bank. Near the bank is the restaurant.

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บัตรภาพ บัตรคำ

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน
10.1 ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

23

10.2 ปญั หาอุปสรรคในการปฏิบตั ิกจิ กรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไขการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ .............................................ผสู้ อน
(นางสาวนรู อีราวานี กโู น)

24

แผนการจดั การเรยี นรู้ 3

Unit 5 City and space

รายวชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง ภาคเรียนที่ 2

ผู้สอน นางสาวนูรอรี าวานี กโู น โรงเรียน บ้านตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคญั

การเรียนรู้คำศัพทเ์ ก่ียวกบั สงิ่ ต่างๆ ในอวกาศ โครงสรา้ งประโยค Present Simple Tense การพูดขอ

และให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในอวกาศและสถานที่ต่างๆ ในเมือง ทำให้ผู้เรียนสามารถเขียนให้ข้อมูลเก่ียวกับ

ส่ิงท่ีตนเองเห็นบนท้องฟ้าและสถานท่ีต่างๆ ในเมืองได้ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้สื่อสารใน

ชีวิตประจำวัน

2. ตัวชี้วัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- ออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพท์เกย่ี วกับสิ่งต่างๆ ในอวกาศได้
- ฟังจับใจความได้
- ตอบคำถามและสรุปข้อมูลจากการอ่านได้
- พูด/เขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั สิ่งตา่ งๆ ในอวกาศและท้องฟา้ ได้
- พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั สถานทตี่ า่ งๆ ในเมืองและสง่ิ ตา่ งๆ ในอวกาศได้
- ใช้ Present Simple Tense ได้ถกู ตอ้ ง
- เล่นเกมและรอ้ งเพลงภาษาองั กฤษท่กี ำหนดได้

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- Pronunciation: /st/
- กลุ่มคำ ประโยคเด่ยี ว และความหมายเกีย่ วกับสงิ่ ต่างๆ ในอวกาศ
- ประโยค บทสนทนา เนอ้ื เร่อื งทมี่ ภี าพประกอบ
- คำศัพท์ และประโยคท่ใี ช้ขอและให้ข้อมลู เกยี่ วกับสิง่ ต่างๆ ในอวกาศ
เชน่ What can you see in the …………?
I can see……………..
- ประโยคและขอ้ ความท่ใี ช้ในการพดู ใหข้ ้อมูลเก่ียวกับเร่ืองใกล้ตวั
- คำ กลุม่ คำท่ีมีความหมายสมั พันธ์ของสิ่งต่างๆ ใกล้ตัว เชน่ แผนภูมิ Venn Diagram
- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การรอ้ งเพลง

25

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศัพท์ทเี่ กยี่ วข้องกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อนื่
(วทิ ยาศาสตร์)

- การใช้ภาษาในการฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
- การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เก่ยี วข้องใกลต้ ัว จากสือ่ และแหลง่ การ

เรียนรู้ต่างๆ
3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน

-

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- การคดิ วิเคราะห์
4.2 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- อยู่อยา่ งพอเพียง
- มีวนิ ัย

6. ช้นิ งาน/ ภาระงาน
- การวาดภาพและเขยี นบรรยายท้องฟา้ ในตอนกลางคืน
- การวาดภาพจากการฟงั
- งานเขียนจดหมายถงึ นักบนิ อวกาศ
- การทำโครงงาน Let’s go to Mars.
- การรวบรวมคำศัพทใ์ น My word book

7. การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด
- ประเมินการทำแบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลังการเรียน

26

- ประเมินการทำแบบทดสอบ
- ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การวาดภาพและเขียนบรรยายท้องฟ้าในตอนกลางคนื
- ประเมนิ การวาดภาพจากการฟงั
- ประเมนิ งานเขียนจดหมายถึงนกั บินอวกาศ
- ประเมนิ โครงงาน Let’s go to Mars.

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรมนำสู่การเรียน

1. ครูทบทวนการพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับสถานที่ โดยครูเขียนแผนผังง่ายๆ บนกระดาน และชอื่ สถานที่ 4-
5 แหง่ และให้นกั เรียนช่วยกนั บอกตำแหน่งของสถานทตี่ ่างๆ บนกระดาน เช่น
Teacher: Where is the park?
Student: It’s near the police station.

2. นักเรียนเล่นเกมอ่านปาก โดยครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ให้ผู้เล่น 1 คน ออกมาหน้าห้อง
หยิบบัตรคำ 1 ใบ แล้วทำปากพูดคำศัพท์คำนั้น ห้ามออกเสียงเด็ดขาด แล้วให้เพื่อนๆ ในชั้นช่วยกัน
ระบุว่าคำศัพท์คำน้ันคือคำว่าอะไร โดยอนุญาตให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน แบบฝึกหัด และสมุด
คำศพั ทข์ องนักเรยี นได้ กลุ่มใดเขียนคำตอบได้รวดเร็วที่สุดและถกู ต้อง จะถอื เปน็ ผ้ชู นะ

3. นักเรียนเล่นเกม Jigsaw sentence (เรียงคำให้เป็นประโยค) โดยครูนำบัตรคำมาติดไว้บนกระดาน
โดยไมเ่ รียงลำดับของบตั รคำ จากนน้ั ให้นักเรยี นช่วยกนั เรยี งบัตรคำให้เป็นประโยคท่ีถูกตอ้ ง เชน่
1) The airport is opposite the police station.
2) The chemist’s is behind the dentist’s.
3) The restaurant is next to the bank.
4) The bus stop is in front of the school.

4. ครูเปิดเพลงท่ีมที ำนองเหมือนกำลังล่องลอยไปในอวกาศ หรือเสยี งท่ีคลา้ ยกับยานอวกาศกำลังบินหรือ
ขึ้น-ลง (เช่น ringtone ของโทรศัพท์มือถือบางรุ่นมีเสียงคล้ายยานอวกาศ) แล้วให้นักเรียนหลับตาฟัง
ดนตรี 1 นาที เม่ือลืมตาขึ้น ครูถามนักเรียนว่าดนตรีที่นักเรียนได้ฟัง ทำให้นักเรียนนึกถึงอะไร ครู
กระตนุ้ ถามนกั เรียนจนได้คำตอบว่า “อวกาศ” หรอื “นอกโลก”

5. ครบู อกนกั เรยี นวา่ ในบทเรียนน้ี นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ กยี่ วกบั สิง่ ต่างๆ ที่อย่ใู นอวกาศ

27

กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. นักเรียนอ่านคำศัพท์ ใน Word box ในหนังสือเรียน หน้า 64 ข้อ 1 Listen, point and repeat.
ตามครู 1 รอบ แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมาย จากน้ันครูเปิด CD/track 70 ให้นักเรียนฟัง
และออกเสียงตาม พรอ้ มทงั้ ชภี้ าพในหนังสือเรียนตามไปด้วย

comet planet spaceship rocket
satellite Mars astronaut Earth
space station

2. นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 64 ข้อ 2 Listen and number. แล้วช่วยกันบอกว่าภาพ A-H
คอื ภาพอะไร โดยตอบเป็นภาษาไทย
ภาพ A = ดาวหาง
ภาพ B = ดาวเคราะห์
ภาพ C = ยานอวกาศ
ภาพ D = จรวด
ภาพ E = ดาวเทียม
ภาพ F = สถานอี วกาศ
ภาพ G = นกั บนิ อวกาศ
ภาพ H = โลก
ครูเปิด CD/track 71 ให้นักเรียนฟัง 2 คร้ัง แล้วให้นักเรียนจับคู่รูปภาพ A-H กับประโยค 1-8
ที่นักเรียนได้ฟังจาก CD โดยทำลงในสมุด เสร็จแล้วครูสุ่มถามนักเรียน 3-4 คน ว่าประโยคท่ี 1 คือ
รปู ภาพใด จากน้นั ครูเปิด CD ให้นักเรียนฟังเฉพาะประโยคที่ 1 เพอื่ เป็นการเฉลยคำตอบ เสร็จแลว้ ครู
ทำกิจกรรมเชน่ เดิมกบั ประโยคที่ 2-8

1. Neil Armstrong is an astronaut.
2. The astronaut is in a spaceship.
3. You can see a satellite in the sky.
4. They work in the space station.
5. We live on Earth.
6. A rocket is in the sky.
7. Mars is a planet.
8. There’s a comet in the sky.

28

w
1. G 2. C 3. E 4. F
5. H 6. D 7. B 8. A

3. ครูติดแผ่นปา้ ย Audio script ของ CD/track 71 ให้นักเรียนดูบนกระดาน แล้วเปิด CD/track 71 ให้
นักเรียนฟังและอ่านออกเสียงตามไปด้วย จากนั้นครูชี้ท่ีรูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 64 ข้อ 2 อีกครั้ง
และใหน้ กั เรียนบอกคำศัพทเ์ ป็นภาษาอังกฤษ ดังนี้
ภาพ A = comet
ภาพ B = Mars
ภาพ C = spaceship
ภาพ D = rocket
ภาพ E = satellite
ภาพ F = space station
ภาพ G = astronaut
ภาพ H = Earth
จากนนั้ ครใู ห้นกั เรียนอ่านออกเสยี ง Audio script อกี ครง้ั พรอ้ มๆ กัน

4. นกั เรยี นอ่านข้อความในหนังสอื เรยี น หน้า 64 ข้อ 3 Listen and write. แล้วเติมคำศัพทล์ งในช่องวา่ ง
ให้ถูกต้อง โดยดูจากภาพที่อยู่ข้างๆ โดยให้นักเรียนทำลงในสมุด จากนั้นครูเปิด CD/track 72 ให้
นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนพิจารณาว่าคำศัพท์ที่นักเรียนเติมถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูก ให้แก้ไขให้
ถกู ต้อง จากนั้นครูเปิด CD อีกครั้ง โดยหยดุ CD เม่ือจบแต่ละประโยค เพ่ือเปน็ การเฉลยคำตอบ เสร็จ
แล้วครใู ห้นักเรียนอ่านออกเสียงตาม CD แล้วสุ่มเรียกนักเรียนชาย 1 คน และนักเรียนหญิง 1 คน ให้
ยืนข้ึนอ่านออกเสยี งอีกครง้ั คนละ 1 ขอ้

1. John is an astronaut. He is working in the spaceship. He works
in the space station too.

2. Look at the sky. You can see a satellite, a rocket and a comet.

5. นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 65 ข้อ 4 Look and say. ครูนำรูปภาพ picture A และ picture B
ที่ขยายใหญ่แล้ว มาติดบนกระดาน จากน้ันครถู ามนักเรียนว่า นักเรียนเหน็ อะไรในภาพ A และ B บา้ ง
โดยใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สาร

29

ครูให้นักเรียนอ่านบทสนทนาในหนังสือเรียนพร้อมๆ กัน เมื่ออ่านจบแล้ว ครูถามนักเรียนเป็น
ภาษาอังกฤษว่า นักเรียนเห็นอะไรในภาพ A และ B บ้าง และให้นักเรียนตอบโดยใช้โครงสร้าง
ประโยคในหนงั สือเรียน เชน่

Teacher: What can you see in picture A?
Students: I can see the moon, a plane, and stars.
Teacher: What can you see in picture B?
Students: I can see a satellite, the moon, the comet and UFO.
หมายเหตุ: คำว่า UFO ย่อมาจาก unidentified flying object คนไทยเรียกว่า จานบิน
ซ่ึงเป็นวัตถุแปลกประหลาดท่ีถูกพบเห็นบนท้องฟ้า และถูกคิดว่าเป็นยานอวกาศจาก
ดาวเคราะหอ์ ื่น
6. นกั เรยี นจับคู่กับเพ่ือนท่ีนั่งด้านซ้ายมือของตนเองและดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 65 ข้อ 5 Read the
questions. Listen and answer. ซง่ึ เปน็ ภาพเด็กชายสัมภาษณน์ ักบนิ อวกาศ จากนัน้ ให้นักเรียนอา่ น
ประโยค 1-6 พร้อมๆ กัน แล้วครูเปิด CD/track 74 ให้นักเรียนฟังบทสัมภาษณ์ 2 ครั้ง แล้วเขียน
คำตอบลงในสมุด

w

Jack: Good morning, Mr. Johnson. Please tell us about your job.
Tony: Well, I go by rocket to the space station. I live there from

March till May.
Jack: Is it cold there?
Tony: It’s always cold in space. There are 4 astronauts in the

space station. We work a lot, but we have fun too.
Jack: How many hours do you work?
Tony: 12 to 14 hours a day. We control the space station and

we do experiments.
Jack: What do astronauts eat?
Tony: Lots of different food – fruit, vegetables, meat, macaroni

and pizza.
Jack: What time do you go to bed?
Tony: About 8 in the evening – Earth time. We sleep about 8

hours.
Jack: Are you happy to be back on Earth?
Tony: Yes, but I’m happy when I’m in the space station too.

30

ครเู ฉลยโดยเปิด CD ให้นกั เรยี นฟังทลี ะประโยค แลว้ ถามคำถามนกั เรียน ดังน้ี
Teacher: What is the astronaut’s name?
Students: Mr. Johnson (Tony Johnson).
Teacher: How many hours do the astronauts work?
Students: 12 to 14 hours a day.
Teacher: What time do they go to bed?
Students: About 8 in the evening – Earth time. etc.

จากน้ันครูอ่านแต่ละประโยค เม่ือถึงช่องท่ีให้เติมคำ ครูสุ่มเรียกนักเรียนให้เติมคำท่ีขาดหายไป ครูทำ
เช่นน้ีจนครบทุกข้อ โดยครูเขียนคำตอบท่ีถูกต้องบนกระดานอีกครั้ง เพ่ือให้นักเรียนตรวจและแก้ไข
งานของตนเอง

1. March 2. cold 3. four
6.happy
4. different things w5. eight

ครูติดแผ่นป้าย Audio script ให้นักเรียนดูบนกระดาน แล้วแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก
อ่านบทสนทนาของนักบินอวกาศ กลุ่มที่ 2 อ่านบทสนทนาของผู้สัมภาษณ์ เสร็จแล้วให้นักเรียนสลับ
บทบาทกนั ครูให้นักเรียนช่วยกันสรปุ เนอ้ื เรือ่ งในบทสมั ภาษณ์เป็นภาษาไทยครา่ วๆ
7. นักเรียนเล่นเกม Where are you? (เธออยู่ไหน) เพ่ือทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับอวกาศ และการบอก
ตำแหนง่ ท่ีต้ัง โดยมีวิธกี ารเล่น ดงั นี้

31

เกม Where are you? (เธออยู่ไหน)

1) นกั เรียนแบง่ ออกเปน็ 2 ทีม (Team work) โดยให้มจี ำนวนสมาชิกเท่าๆ กนั

2) ครเู ตรียมภาพคำศัพท์ 10 ภาพ โดยติดรปู บนกระดาษแข็ง แล้วตดั ตามรูปภาพ

เหล่านี้

- space station - the sun

- spaceship - astronaut

- the Earth - comet

- star - rocket

- the moon - satellite

ครูทดสอบความจำของนักเรียนโดยการชูภาพทีละใบ แล้วให้นักเรียนบอก

คำศัพท์ ครูนำบตั รคำทั้ง 10 ภาพ ใสล่ งในกล่องกระดาษบนโตะ๊ ครู แล้วเขย่าให้

ปนกัน

3) แต่ละทีมส่งตัวแทนออกมาจับฉลากหน้าชั้นเรียน คนละ 1 ภาพ แล้ว

ปรึกษาหารือกัน จากนั้นตัวแทนของทั้ง 2 ทีม (คนที่จับฉลาก) เดินออกมาหน้า

ห้องเพอ่ื พูดบทสนทนา ดงั ตัวอย่างต่อไปน้ี

Team A: I am a star. (จบั ได้รปู ดวงดาว จึงสมมตติ นเองเปน็ ดาว)

Team B: Where are you?

Team A: I’m in the sky.

Team B: I’m a spaceship.

(จบั ได้รูปยานอวกาศ จงึ สมมติตนเองเป็นยานอวกาศ)

Team A: Where are you?

Team B: I’m in the space.

4) เมื่อคูแ่ รกของแตล่ ะทีมสนทนาจบลงแลว้ แต่ละทมี ส่งตวั แทนคนใหม่ออกมาจับ

ฉลากหนา้ ช้นั เรยี น และเรม่ิ บทสนทนาต่อไป

5) ฉลากรปู ภาพท่ีได้ใช้ไปแลว้ ครูแยกออกไปเกบ็ ถ้ารูปหมดแตค่ นในทมี ยงั คง

เหลืออยู่ ครูนำฉลากรูปภาพเก่าออกมาใช้ไดอ้ ีก

8. ครูบอกนักเรียนว่าเม่ือสมัยครูเป็นเด็กๆ ครูที่โรงเรียนสอนให้ครูร้องเพลง Twinkle twinkle little
star ซ่ึงครูชอบมาก วันนี้ครูจึงจะสอนนักเรียนบ้าง ครูติดแผ่นป้ายเนื้อเพลงบนกระดาน แล้วให้
นักเรยี นคดั ลอกใสส่ มุดงานของตน ดงั นี้

32

Twinkle twinwkle little star
Twinkle twinkle little star,
How I wonder what you are,
Up above the world so high,
Like a diamond in the sky.
Twinkle twinkle little star,
How I wonder what you are.

ครูร้องเพลงนี้หรือหา CD เพลงนี้มาเปิดให้นักเรียนฟัง และให้นักเรียนฝึกร้องตาม จากน้ันให้นักเรียน

ช่วยกันคิดท่าทางประกอบเพลง และลงมติเลือกท่าทางท่ีจะใช้ร่วมกัน หรือครูอาจให้นักเรียนทำ

กิจกรรมเพิ่มเติม โดยการจัดประกวดวาดภาพประกอบเพลง Twinkle twinkle little star และให้

รางวัลกับนักเรียนที่วาดภาพได้ส่ือความหมายของเน้ือเพลงมากท่ีสุด และภาพมีความสวยงามหรือมี

ความคดิ สรา้ งสรรค์

กิจกรรมรวบยอด

1. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ทำงานใหไ้ ดก้ ลุ่มละ 5 คน เพ่ือช่วยกนั หาคำศัพท์ 12 คำ ในแบบฝึกหัดหนา้ 48 ข้อ 1

Find twelve words. โดยครูอาจใหต้ ัวช่วยดว้ ยการเขียนคำศัพทต์ ่อไปน้ีบนกระดาน

sky planet rocket comet

astronaut moon Mars spaceship

satellite star sun Earth

นักเรียนอ่านคำศัพท์บนกระดานพร้อมๆ กันทุกกลุ่ม แล้วให้แต่ละกลุ่มช่วยกันหาคำศัพท์เหล่าน้ี

ให้ครบท้ัง 12 คำ เมื่อหาได้แลว้ ใหว้ งกลมรอบคำศัพทด์ ังกล่าว กล่มุ ท่หี าไดเ้ ร็วท่สี ุดและถูกต้อง จะถือ

วา่ ชนะ ครเู ฉลยคำตอบทีละแถวบนกระดาน แล้วให้นักเรียนตรวจคำตอบ และแก้ไขงานของตนเอง

w
planet, sky, Mars, satellite, sun, rocket, astronaut

spaceship, star, Earth, comet, moon

2. ครูทบทวนคำศัพท์ด้วยการติดบัตรตัวอักษร (A-Z) บนกระดาน โดยไม่เรียงลำดับ แล้วครูพูดคำว่า
“planet” จากนั้นสุ่มเรียกนักเรียน 1 คน ให้ออกมาหยิบบัตรตัวอักษร และเรียงให้เป็นคำว่า
“planet” เม่ือเรียงถูกต้องแล้ว ให้นักเรียนในห้องสะกดคำศัพท์ และอ่านออกเสียงพร้อมๆ กัน เสร็จ
แล้วครูทำกิจกรรมเช่นน้ีอีก 3 คร้ัง กับคำศัพท์คำว่า comet, rocket, satellite โดยสุ่มเรียกนักเรียน
คนใหม่ ให้ออกมาเรียงบัตรตวั อกั ษร

33

3. นกั เรยี นดูภาพในแบบฝึกหัด หนา้ 48 ข้อ 2 Look and write. แล้วนำคำศัพท์ที่กำหนดให้มาเขียนเติม
ลงใตภ้ าพให้ถูกต้อง
w
1. spaceship 2. Earth 3. satellite 4. comet

4. นักเรียนดูแถวตัวอักษรท่ีกำหนดให้ในแบบฝึกหัด หน้า 49 ข้อ 3 Circle the words. แล้วให้นักเรียน
วงกลมล้อมรอบคำศัพท์ในแถวตัวอักษรดังกล่าว จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ โดยครู
เขียนคำตอบท่ีถูกต้องอีกครั้งบนกระดาน ได้แก่ dentist’s, planet, astronaut, chemist’s, space
station, doctor’s, comet, satellite, school
นักเรียนอ่านประโยค 1-5 แล้วนำคำศัพท์บนกระดานมาเติมลงในช่องว่างให้ได้ใจความสมบูรณ์ ครูให้
นกั เรียนอ่านประโยคท่ีเติมคำสมบูรณ์แล้วพร้อมๆ กัน จากนน้ั จึงสุ่มเรียกนักเรียน 5 คน ใหย้ ืนข้ึนอ่าน
คนละ 1 ประโยค
w
1. doctor’s 2. school 3. space station
4. chemist’s 5. dentist’s

5. นกั เรียนดูภาพในแบบฝึกหัด หน้า 49 ขอ้ 4 Listen and write the number. ครูถามนกั เรียนว่าเห็น
อะไรในภาพแตล่ ะภาพบ้าง
Teacher: What do you see in this picture? (ช้ภี าพแรก)
Students: I see an astronaut.
ครูถามจนครบท้ัง 6 ภาพ จากน้ันครูเปิด CD/track 73 ให้นักเรียนฟัง 2 คร้ัง แล้วเรียงลำดับรูปภาพ
ตามประโยคที่นักเรียนได้ยินจาก CD เม่ือนักเรียนใส่หมายเลขครบทุกภาพแล้ว ครูเปิด CD อีกคร้ัง
โดยหยุด CD เมือ่ จบแตล่ ะประโยค เพ่ือเปน็ การเฉลยคำตอบ
w
1. Anna is on the chair in the dentist’s.
2. The astronaut is in the spaceship.
3. The Earth is near the sun.
4. The library is next to the chemist’s.
5. The chair is opposite the door.
6. The moon is between the Earth and the sun.

34

ภาพแถวท่ี 1w 2, 4, 1
ภาพแถวที่ 2 6, 5, 3

ครูติดแผ่นป้าย Audio script ให้นักเรียนดูบนกระดาน แล้วเปิด CD ให้นักเรียนฟังอีกคร้ัง โดยให้
นักเรียนอ่าน Audio script ตาม CD จากน้ันครูสุ่มเรียกนักเรียนแถวหลัง 6 คน ให้ยืนขึ้นอ่าน คนละ
1 ประโยค

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น Smile ป. 4
2. แบบฝกึ หดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บัตรภาพ บัตรคำ

10. บนั ทึกผลหลงั การสอน
10.1 ผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรยี นรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.2 ปัญหาอุปสรรคในการปฏิบตั กิ จิ กรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ขการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ.............................................ผู้สอน
(นางสาวนูรอีราวานี กูโน)

35

แผนการจัดการเรยี นรู้ 4

Unit 5 City and space

รายวชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลาเรียน 2 ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ 2

ผู้สอน นางสาวนูรอรี าวานี กโู น โรงเรียน บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคญั

การเรียนรู้คำศัพทเ์ ก่ียวกบั สง่ิ ต่างๆ ในอวกาศ โครงสรา้ งประโยค Present Simple Tense การพดู ขอ

และให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในอวกาศและสถานที่ต่างๆ ในเมือง ทำให้ผู้เรียนสามารถเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับ

ส่ิงท่ีตนเองเห็นบนท้องฟ้าและสถานท่ีต่างๆ ในเมืองได้ ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้ส่ือสารใน

ชีวิตประจำวัน

2. ตัวชี้วัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- ออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพทเ์ ก่ียวกับส่ิงต่างๆ ในอวกาศได้
- ฟังจับใจความได้
- ตอบคำถามและสรุปขอ้ มลู จากการอา่ นได้
- พูด/เขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับสิ่งตา่ งๆ ในอวกาศและทอ้ งฟ้าได้
- พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกับสถานท่ีตา่ งๆ ในเมืองและสง่ิ ต่างๆ ในอวกาศได้
- ใช้ Present Simple Tense ไดถ้ กู ต้อง
- เล่นเกมและรอ้ งเพลงภาษาอังกฤษท่กี ำหนดได้

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- Pronunciation: /st/
- กลุ่มคำ ประโยคเด่ยี ว และความหมายเก่ียวกบั สิง่ ต่างๆ ในอวกาศ
- ประโยค บทสนทนา เน้อื เร่อื งท่ีมภี าพประกอบ
- คำศัพท์ และประโยคท่ใี ชข้ อและให้ข้อมูลเกี่ยวกบั สง่ิ ต่างๆ ในอวกาศ
เชน่ What can you see in the …………?
I can see……………..
- ประโยคและขอ้ ความทีใ่ ช้ในการพูดให้ข้อมลู เกี่ยวกบั เร่ืองใกลต้ วั
- คำ กลุม่ คำท่ีมคี วามหมายสมั พันธข์ องสิง่ ตา่ งๆ ใกลต้ วั เชน่ แผนภมู ิ Venn Diagram
- กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม การรอ้ งเพลง

36

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศัพท์ทเี่ กยี่ วข้องกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อนื่
(วทิ ยาศาสตร์)

- การใช้ภาษาในการฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
- การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เก่ยี วข้องใกลต้ ัว จากสือ่ และแหลง่ การ

เรียนรู้ต่างๆ
3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน

-

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- การคดิ วเิ คราะห์
4.2 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- อยู่อยา่ งพอเพียง
- มีวนิ ัย

6. ช้นิ งาน/ ภาระงาน
- การวาดภาพและเขยี นบรรยายท้องฟา้ ในตอนกลางคืน
- การวาดภาพจากการฟงั
- งานเขียนจดหมายถงึ นักบนิ อวกาศ
- การทำโครงงาน Let’s go to Mars.
- การรวบรวมคำศัพทใ์ น My word book

7. การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด
- ประเมินการทำแบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลังการเรียน

37

- ประเมินการทำแบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
7.4 การประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การวาดภาพและเขยี นบรรยายท้องฟา้ ในตอนกลางคนื
- ประเมนิ การวาดภาพจากการฟงั
- ประเมนิ งานเขยี นจดหมายถึงนกั บนิ อวกาศ
- ประเมินโครงงาน Let’s go to Mars.

8. กิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมนำสกู่ ารเรยี น

1. ครูทบทวนคำศัพทท์ ่เี รยี นมาแลว้ ในบทเรยี นท่ผี ่านมา ด้วยบตั รภาพและบตั รคำ
2. นกั เรยี นร้องเพลง “Twinkle twinkle little star” พรอ้ มทำท่าประกอบโดยพร้อมเพรียงกนั
3. ครูทดสอบคำศัพท์ของนักเรียน โดยถ่ายเอกสาร English Test จากส่วนท้ายของแผนการจัดการ

เรียนรู้นี้ แจกนักเรียนคนละ 1 แผ่น ระหว่างที่นักเรียนทำแบบทดสอบ ครนู ำภาพทั้ง 10 ภาพ มาวาง
บนขอบกระดานคละกัน เพื่อช่วยจำกัดวงคำศัพท์ให้แคบลง โดยไม่อนุญาตให้นักเรียนเปิด
หนงั สือเรยี นดู เพ่อื ทดสอบตนเอง เสรจ็ แล้วครูให้นักเรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ โดยครสู ุ่มเรียกนกั เรียน
10 คนสุดท้ายจากใบรายชื่อ ออกมาเขียนคำศัพท์ท่ีถูกต้องบนกระดาน คนละ 1 ข้อ ครูตรวจตัวสะกด
อกี ครั้ง แลว้ ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งและสะกดคำศัพท์ โดยพร้อมเพรียงกนั

w
1. comet 2. Earth 3. moon 4. sun
5. Mars 6. rocket 7. space 8. sky
9. satellite 10. astronaut

4. ครูแจ้งนักเรียนว่าในบทเรียนนี้ นักเรียนจะได้เรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับอวกาศ (ต่อ) และการถาม-ตอบ
เกยี่ วกบั สิง่ ตา่ งๆ ทอ่ี ยูใ่ นเมืองและในอวกาศ และกิจวตั รประจำวนั ของมนุษยอ์ วกาศ

กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้
1. นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 66 ข้อ 6 What can you see in the city/the space? Look
and say. และอา่ นบทสนทนาท่กี ำหนดให้ ครอู ธบิ ายโครงสรา้ งประโยคใหน้ ักเรียนดบู นกระดาน
A: What can you see in the city/the space?
B: I can see the (ช่อื สถานที่ 1).
A: Where is it?
B: It’s (คำบพุ บทบอกสถานท)ี่ + (ชือ่ สถานที่ 2).

38

ครูถามคำถาม แล้วสุ่มเรียกนักเรียน 1 คน ให้เป็นผู้ตอบ โดยดูข้อมูลจากภาพในการตอบ จากน้ันให้
นกั เรียนคนท่ีตอบสุ่มเรียกเพ่ือนนักเรียนอีกคนหน่ึง ให้เป็นผู้ตอบคำถามของตนเอง ครูให้นักเรียนถาม
ต่อกันแบบน้ีเรื่อยๆ ประมาณ 7-8 คน จากน้ันให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนช่วยกันเขียนบทสนทนาตาม
ตัวอย่างดังกล่าวมาคู่ละ 2 บท ครูแจกกระดาษท่ีใช้แล้ว 1 หน้า (Recycle) ให้นักเรียนคู่ละ 1 แผ่น
ตกแตง่ ให้สวยงาม แล้วนำไปติดบอรด์ หน้าช้ันเรียน ครูยำ้ ให้นักเรียนตระหนกั ถึงความสำคัญของการใช้
ทรพั ยากรอย่างประหยัดในชวี ติ ประจำวนั ของตนเอง
2. ครูทบทวนการใช้ Verb to do ใน Present Simple Tense ดังนี้

Verb to do

Verb to do ถ้าเป็นกริยาแท้จะมีความหมายว่า “ทำ” ได้แก่ do และ does ซ่ึงแยกใช้
ตามประธานได้ ดังนี้

Do จะใช้กับ I, You, We, They และประธานพหพู จน์
Does จะใชก้ ับ He, She, It และประธานเอกพจน์
เช่น We do our work in the morning.

He does his homework at his house. เป็นต้น
Verb to do นอกจากจะทำหน้าท่ีเป็นกริยาแท้แล้ว ยังทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยใน
ประโยคได้อีก แต่เม่ือเป็นกริยาช่วย Verb to do จะไม่มีความหมายในตัวเอง แต่จะเข้ามาช่วย
เปลี่ยนประโยคดงั กล่าวใหเ้ ปน็ ประโยคปฏิเสธและคำถาม
โดยจะใช้ Verb to do ในการทำให้เป็นประโยคปฏิเสธและคำถาม ก็ต่อเม่ือประโยคนั้น
ไม่มีกริยาช่วยตัวอื่นๆ ในประโยค (มีแต่กริยาแท้) เพราะถ้าประโยคนั้นมีกริยาช่วยอยู่แล้ว เวลา
ทำให้เป็นประโยคปฏิเสธหรือคำถาม ให้ใช้กริยาช่วยเหลา่ น้ันได้เลย กริยาชว่ ยเหล่านี้ได้แก่ Verb
to be (is, am, are), can, will, must เป็นตน้
ประโยคปฏิเสธ

ประธาน + do/does + not + กริยาแทไ้ ม่ตอ้ งเติม s/es + กรรม.

ประโยคคำถาม

Do/Does + ประธาน + กริยาแทไ้ มต่ อ้ งเติม s/es + กรรม.

39

ตวั อย่างที่ 1 She likes durians. (ทเุ รยี น)
ประโยคบอกเล่า: She does not (doesn’t) like durians.
ประโยคปฏเิ สธ: Does she like durians?
ประโยคคำถาม:
They like durians.
ประโยคบอกเล่า: They do not (don’t) like durians.
ประโยคปฏเิ สธ: Do they like durians?
ประโยคคำถาม:

หมายเหตุ 1) ถา้ ใช้ does แลว้ กริยาแท้ไมต่ ้องเตมิ s, es
2) รูปย่อของ do not คอื don’t และรปู ย่อของ does not คือ doesn’t

การตอบคำถามท่ขี ึน้ ตน้ ด้วย Verb to do จะตอบดว้ ย Yes หรอื No เทา่ นัน้
มีโครงสรา้ ง ดงั น้ี Yes, + สรรพนาม + do/does.

No, + สรรพนาม + don’t/doesn’t.

ครหู าแบบฝึกหดั ท่เี หมาะสมเกย่ี วกบั Verb to do เพ่อื ใหน้ ักเรียนไปฝกึ ฝนเพิม่ เตมิ เปน็ การบ้าน
3. นักเรียนอ่านบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 66 ข้อ 7 Look, ask and answer. และอธิบายให้

นักเรียนฟังว่าเป็นบทสนทนาถาม-ตอบเก่ียวกับกิจวัตรประจำวันของนักบินอวกาศท่ีนักเรียนเห็นใน
ภาพ จากน้ันครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนฝึกพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับนักบินอวกาศเพ่ิมเติมตามข้อมูลที่
กำหนดให้ในตาราง เสร็จแลว้ ครูให้นักเรียนบันทึกบทสนทนาลงในสมดุ ของตนเองและนำมาส่งครูท้าย
ช่ัวโมง ครูสุ่มเรยี กนกั เรียน 4-5 คู่ ออกมานำเสนอบทสนทนาหนา้ ชนั้
4. นักเรียนอ่านเน้ือเรื่องในหนังสือเรียน หน้า 67 ข้อ 8 Read and choose the correct answer.
พร้อมๆกัน จากน้ันให้นักเรียนอ่านประโยค 1-5 แล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้อง เขียนลงในสมุด เสร็จแล้ว
ครเู ฉลยคำตอบบนกระดาน

w
1. near 2. next to 3. between 4. opposite 5. around

ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี นออกเป็นกลุ่มย่อย ครูแจกกระดาษวาดรูปขนาดใหญ่ให้แตล่ ะกล่มุ กลุ่มละ 1 แผ่น
สมาชิกในกลุ่มช่วยกันอ่านเนื้อเรื่องอีกครั้ง แล้ววาดรูปประกอบเน้ือเรื่อง จากนั้นให้แต่ละกลุ่มออกมา
นำเสนอหน้าช้ันเรียน
5. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 67 ข้อ 9 What can you see in the sky? Draw
and write. โดยครูชูภาพท้องฟา้ ในเวลากลางวันทม่ี เี มฆสขี าว และพระอาทติ ย์ส่องแสง แล้วพูดวา่

Teacher: This is the sky in the day time.
But these are the stars. (ครชู ภู าพดวงดาว)

40

It is night time.
What can you see in the sky at night time?
Students: The moon, the stars, a comet, a satellite, … etc.
ครูแจกกระดาษ A4 ที่ใช้แล้ว 1 หน้า (Recycle) ให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น แล้ววาดรูปท้องฟ้าในตอน
กลางคืนในความคิดของนักเรียนว่าเป็นอย่างไรบ้าง จากน้ันระบายสีหรือตกแต่งให้สวยงาม โดยให้
นักเรียนใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และจินตนาการในการทำงาน เสร็จแล้วเขียนบรรยายภาพของ
ตนเอง โดยเร่ิมตน้ ประโยควา่ The sky is beautiful. I can see …

w
The sky is beautiful. I can see a rabbit on the blue moon
above the sky. The satellite is moving around the world. There are a
lot of stars in the sky. They are shining. Look! A comet is falling from
the sky. I love the sky at night.

ครูคัดเลือกช้ินงานที่โดดเด่นออกมา 5 ชิ้น และให้เจ้าของผลงานออกมานำเสนอผลงานของตนเอง ท่ี
หน้าช้ันเรียน ครูให้เพ่ือนๆ ปรบมือให้กำลังใจ เสร็จแล้วครูนำผลงานของนักเรียนมาติดแสดงท่ีบอร์ด
หลงั ห้อง
กิจกรรมรวบยอด
1. ครหู าเพลง What a wonderful world! ของ Louis Armstrong มาเปิดให้นักเรียนฟังเพียง 1 ท่อน
แรก ถ้านักเรียนยังไม่เกิดความซาบซ้ึงกับบทเพลง ครูหยิบลูกโลกท่ีซ่อนอยู่ในโต๊ะครู ออกมาหมุนให้
นักเรยี นดู เพอ่ื เรยี กรอ้ งความสนใจจากนักเรยี น ครถู ามนกั เรียน (Elicit)

Teacher: What’s this?
Students: It’s a world. (ช่วยกนั ตอบ)
Teacher: What shape is it?
Students: It’s round.
Teacher: Is it beautiful?
Students: Yes, it is.
ครูบอกนักเรียนว่าเพลงที่ได้ฟังเม่ือสักครู่ ร้องโดยนักร้องผิวสีชาวอเมริกัน ซึ่งมีนามสกุลเหมือนกับ
นักบินอวกาศชาวอเมริกัน คือ Neil Armstrong ซ่ึงเดินทางไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรก ครูชู
ลูกโลกแล้วพูดกับนักเรียนว่า สมมติพวกเราอยู่ในยานอวกาศนอกโลก เราจะเห็นโลกในอีกแง่มุมหน่ึง
ครูให้นักเรียนหลับตา และจินตนาการดูว่า ถ้าเราได้มองเห็นโลกจากที่ไกลๆ เช่น บนยานอวกาศ
นักเรยี นคิดว่านักเรยี นจะได้เห็นอะไรบ้าง ครูให้นกั เรยี นช่วยกันระดมความคิด จากนั้นครูบอกนักเรียน
ว่า นักเรียนจะได้ฟังบทสนทนาระหว่าง Bill และ Tom โดย Tom เป็นนักบินอวกาศท่ีอยู่นอกโลก
ส่วน Bill เป็นผู้สัมภาษณ์ซ่ึงอยู่ในโลก ขอให้นักเรียนตั้งใจฟังให้ดีๆ ห้ามคุยและโปรดรักษาวินัยในช้ัน

41

เรียน ครูเปิด CD/track 75 ให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง โดยครูบอกให้นักเรียนฟังและจับใจความว่า Bill
เห็นอะไรบ้าง แล้วจดบันทึกส้ันๆ ครูให้นักเรียนวาดรูปส่ิงท่ี Bill ซ่ึงเป็นนักบินอวกาศเห็น ในกรอบท่ี
กำหนดใหใ้ นแบบฝึกหัด หนา้ 50 ข้อ 5 What can the astronaut see? Listen and draw.

Bill: Hello, Tom. Can you hear me?
Tom: Hello, Bill! Yes, I can see you very well.
Bill: Tell me about the space.
Tom: Beautiful! I can see the moon near the Earth. It looks

very big. And I can see the satellite next to it.
Bill: How about the space station?
Tom: It’s between the moon and the Earth. There

are lots of stars around the satellite.
Bill: Can you see any comets?
Tom: Yes, it’s opposite the moon.

เม่ือตรวจผลงานและให้คะแนนเรียบร้อยแล้ว ครูคัดเลือกผลงานที่เรียบร้อย สวยงาม และมีความคิด
สร้างสรรค์ มาแสดงให้นักเรียนในห้องดู ส่วนผลงานของนักเรียนคนอื่นๆ ขณะตรวจงาน ครูควรเขียน
ความคดิ เห็นเล็กๆ นอ้ ยๆ เพอื่ ใหก้ ำลังใจนักเรยี น
2. ครูชูภาพนกั บนิ อวกาศ แล้วถามนกั เรียนวา่ อยากเปน็ นกั บนิ อวกาศหรอื ไม่

Teacher: Do you want to be an astronaut?
Students: Yes./No. (ตา่ งความคดิ เห็น)
ครูแบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม ตามความชอบและสมัครใจ กลุ่มละไม่เกิน 8 คน ทุกคนในกลุ่มต้องมี
ความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน คือ ชอบหรือไม่ชอบ ถ้าในห้องเรียนมีจำนวนนักเรียนมาก ก็จะแบ่งได้
หลายกลุ่ม นักเรียนกลุ่มที่อยากเป็นนักบินอวกาศก็ปรึกษาหารือกัน (Brainstorm) โดยคิดถึงข้อดีของ
อาชีพนี้ และผลประโยชน์ที่ได้รับ ส่วนกลุ่มท่ีไม่อยากเป็นก็ปรึกษาหารือกัน คิดถึงข้อเสียของอาชีพนี้
จากนั้นจึงช่วยกันแต่งเป็นประโยคง่ายๆ แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอ (Oral presentation)
หน้าช้ันเรียน พรอ้ มกนั ทัง้ 2 ฝา่ ย เพอ่ื อธบิ ายเหตุผล อย่างนอ้ ยกลมุ่ ละ 3 เหตุผล
Chai: We want to be an astronaut because it is fun.

We will have a lot of money. We will be famous.
Nid: We don’t want to be an astronaut because it is

dangerous. There will be no hamburgers for us. And we
will miss our parents.

42

ครูรวบรวมความคดิ ของนกั เรยี นทุกกลมุ่ แลว้ เขยี นตารางบนกระดาน เพ่อื สรุปขอ้ มลู ดงั นี้
To be an astronaut

Advantages (ข้อดี) Disadvantages (ข้อเสีย)
1) Get a lot of money. 1) Be alone and lonely.
2) Have fun and excitement. 2) Be dangerous.
3) Be well known (famous). 3) No delicious food in the
4) Gain (get) more experiences.
space.
4) Not healthy (no place to

exercise).

นักเรียนคัดลอกสิ่งที่ครูเขียนสรุปบนกระดานลงในสมุดงานของตนเอง แล้วช่วยกันแปล คำใด

ที่นักเรียนไม่ทราบคำศพั ท์ ครใู ห้นกั เรียนเปิดหาความหมายจากพจนานุกรมอังกฤษ-ไทย

3. ครูสุ่มแจกบัตรคำศพั ท์ 10 คำ ซง่ึ อยใู่ นแบบฝกึ หดั หน้า 50 ข้อ 6 แกน่ ักเรียนในช้ัน 10 คน จากนนั้ ครู

พูดคำศัพท์ภาษาไทย แล้วให้นักเรียนคนที่ถือคำศัพท์นั้นยืนขึ้นและออกเสียงคำศัพท์คำนั้นให้ถูกต้อง

ครูบอกให้นักเรยี นสะกดคำศัพทค์ ำนัน้ ดว้ ย

Teacher: ดาวหาง

Student: (ยนื ขน้ึ พร้อมชูบตั รคำ) Comet.

Teacher: Could you spell that, please?

Student: C - O - M - E - T

Teacher: That’s correct. Very good.

จากนน้ั ครูให้นักเรยี นอ่านคำศัพทใ์ นแบบฝึกหดั หน้า 50 ขอ้ 6 What can you see in the city and

in space? Complete the chart. แล้วเขียนคำศัพท์ท่ีเก่ียวกับเมืองลงในตารางช่อง City และ

คำศัพท์เกี่ยวกับอวกาศ ลงในตารางช่อง Space ให้ถูกต้อง โดยนักเรียนสามารถปรึกษากับเพ่ือน

ข้างเคยี งได้

City - w
restaurant, dentist’s, supermarket, school, bank

Space - rocket, spaceship, moon, comet, satellite

ครูเขียนเฉลยคำตอบบนกระดาน เพ่ือให้นักเรียนตรวจทาน และแก้ไขงานของตนเอง เสร็จแล้ว
ครูใหน้ ักเรียนหาคำศัพทอ์ น่ื ๆ ท่เี รียนมาแลว้ เขียนใสล่ งในตารางชอ่ ง City และ Space เพ่มิ เติม
4. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด หน้า 50 ข้อ 7 Complete the sentences with do, does, don’t or
doesn’t. เพอ่ื ประเมินการใช้ Verb to do ของนักเรยี น

43

1. Does, does 2. Do, don’t w 3. doesn’t 4. doesn’t 5. do

ครูอาจทำใบงานเสรมิ เกีย่ วกบั Verb to do เพิม่ เตมิ เพอื่ ใหน้ ักเรียนทำเป็นการบ้าน

5. ครูนำภาพของ Neil Armstrong ซ่ึงเป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ไปเหยียบบนดวงจนั ทรม์ าให้นักเรียนดู

แล้วอธิบายภูมหิ ลังของประเทศสหรฐั อเมริกาทีส่ ่งคนเดินทางไปยงั ดวงจนั ทร์ครั้งแรกด้วยยานอพอลโล

11 ซึ่งภายหลังมีคนนำชื่อ “อพอลโล” ไปตั้งช่ือสินค้ากันมากมาย เช่น ไอศกรีม อพอลโล โรงแรมอ

พอลโล เสื้อยดื อพอลโล ฯลฯ

นักเรียนดูภาพประกอบในแบบฝึกหัด หน้า 51 ข้อ 8 Read and complete. ซ่ึงเป็นภาพใบหน้าของ

Neil Armstrong และ Roberta Bondar นักบินอวกาศหญิงคนแรก ครูให้นักเรียนอ่านคำศัพท์

ที่กำหนดให้พร้อมๆ กัน

Students: years, from, old, lives, reads, spaceship, space, on

จากน้ันให้นักเรียนอ่านเนื้อเร่ือง แล้วนำคำเหล่าน้ีมาเติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็จแล้วจึงช่วยกัน

เฉลยคำตอบ โดยครูเขียนเฉลยบนกระดาน เพื่อให้นักเรียนตรวจคำตอบของตนเอง และแก้ไขให้

ถกู ตอ้ ง

1. years w 4. spaceship
2. lives 3. on

5. from 6. old 7. space 8. reads

Background Information
โครงการอพอลโล เป็นโครงการต่อเน่ืองเมอร์ควิ ร่ี และ เจมิน่ี มีเป้าหมายสำคัญ คือ จะนำ
มนุษย์ลงไปสำรวจดวงจันทร์ ใช้มนุษยอ์ วกาศขึ้นไปครงั้ ละ 3 คน ตัวยานอวกาศประกอบด้วยส่วน
สำคญั 3 สว่ น คอื 1) ยานบังคบั การ 2) ยานบริการ 3) ยานลงดวงจนั ทร์
โครงการอพอลโล เร่ิมส่งมนุษย์ข้ึนโคจรในอพอลโล โดยข้ึนไปโคจรรอบโลก 163 รอบ
ในปี พ.ศ. 2511 โดยมนุษย์อวกาศชุดแรกลงไปเหยียบดวงจันทร์ คือ นักบินของยานอพอลโล 11
จำนวน 3 คน คอื นลี อาร์มสตรอง เอด็ วนิ อัลดริน และไมเคลิ คอลลินส์
นีล อาร์มสตรอง เป็นนักบินอวกาศชาวอเมริกัน และเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้ชื่อว่าเหยียบ
พนื้ ผิวดวงจนั ทร์
พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) เขาเป็นผู้บัญชาการของโครงการอพอลโล 11 ซ่ึงมีเป้าหมายนำ
ยานไปจอดบนดวงจันทร์ โดยสมาชิกในทีมคือ เอ็ดวิน อัลดริน และไมเคิล คอลลินส์ เขากล่าว
ประโยคนเ้ี มอื่ เหยียบลงบนพ้ืนผวิ ของดวงจนั ทร์
“That’s one small step for [a] man, one giant leap for mankind”

นเ่ี ปน็ กา้ วเลก็ ๆ ของมนุษยค์ นหนึ่ง แตเ่ ป็นกา้ วที่ยิง่ ใหญข่ องมนษุ ยชาติ
ท่มี า: th.wikipedia.org/wiki/นลี _อารม์ สตรอง th.wikipedia.org/wiki/โครงการอพอลโล

44

6. นักเรียนดูข้อมูลกิจวัตรประจำวันของ Tom และ Jenney ในแบบฝึกหัด หน้า 51 ข้อ 9 Write
sentences about Tom and Jenny. จากน้ันให้นักเรียนแต่งประโยคเก่ียวกับสิ่งท่ี Tom และ
Jenny ทำและไม่ทำ โดยดูข้อมูลจากในตารางท่ีกำหนดให้ เสร็จแล้วครูสุ่มเลือกนักเรียน 2 คน ให้
ออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน
w
Tom walks to school. He goes to bed at 9:30 and
does homework after school. Tom doesn’t eat lunch at
12:00. He doesn’t get up at 8:00 and doesn’t eat fruit and
vegetables.
Jenny eats lunch at 12:00. She gets up at 8:00 and
eats fruit and vegetables. Jenny doesn’t walk to school.
She doesn’t go to bed at 9:30 and doesn’t do homework
after school.

7. ครูมอบหมายให้นักเรียนรวบรวมคำศัพท์ที่เรียนมาแล้วใน Unit 5 น้ี ลงใน My word book สมุด
คำศัพทข์ องนักเรยี น โดยคดั คำศพั ทต์ ัวบรรจง เขยี นคำแปล และวาดภาพประกอบ แลว้ นำมาส่งครู

9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น Smile ป. 4
2. แบบฝึกหัด Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บัตรคำ

10. บนั ทึกผลหลังการสอน
10.1 ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

45

10.2 ปญั หาอุปสรรคในการปฏิบตั ิกิจกรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ขการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ.............................................ผูส้ อน
(นางสาวนรู อีราวานี กูโน)

46

แผนการจัดการเรยี นรู้ 5

Unit 5 City and space

รายวชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง ภาคเรยี นที่ 2

ผู้สอน นางสาวนูรอรี าวานี กโู น โรงเรียน บา้ นตาบา

________________________________________________________________________________

1. สาระสำคญั

การเรียนรู้คำศัพทเ์ ก่ียวกบั สง่ิ ต่างๆ ในอวกาศ โครงสร้างประโยค Present Simple Tense การพดู ขอ

และให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในอวกาศและสถานที่ต่างๆ ในเมือง ทำให้ผู้เรียนสามารถเขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับ

ส่ิงท่ีตนเองเห็นบนท้องฟ้าและสถานท่ีต่างๆ ในเมืองได้ ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปใช้ส่ือสารใน

ชีวิตประจำวัน

2. ตัวชี้วัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
- ออกเสียง สะกดคำ และบอกความหมายของคำศัพทเ์ กยี่ วกับส่งิ ต่างๆ ในอวกาศได้
- ฟังจับใจความได้
- ตอบคำถามและสรุปขอ้ มูลจากการอา่ นได้
- พูด/เขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับสิ่งตา่ งๆ ในอวกาศและท้องฟ้าได้
- พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกับสถานท่ีตา่ งๆ ในเมืองและสิ่งตา่ งๆ ในอวกาศได้
- ใช้ Present Simple Tense ไดถ้ กู ต้อง
- เล่นเกมและรอ้ งเพลงภาษาอังกฤษท่กี ำหนดได้

3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- Pronunciation: /st/
- กลุ่มคำ ประโยคเด่ยี ว และความหมายเก่ียวกบั สงิ่ ต่างๆ ในอวกาศ
- ประโยค บทสนทนา เน้อื เร่อื งท่ีมภี าพประกอบ
- คำศัพท์ และประโยคท่ใี ชข้ อและให้ข้อมูลเกยี่ วกบั สิ่งต่างๆ ในอวกาศ
เชน่ What can you see in the …………?
I can see……………..
- ประโยคและขอ้ ความทีใ่ ช้ในการพูดให้ข้อมลู เกย่ี วกับเร่ืองใกลต้ วั
- คำ กลุม่ คำท่ีมคี วามหมายสมั พันธข์ องสิง่ ตา่ งๆ ใกล้ตวั เช่น แผนภูมิ Venn Diagram
- กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การรอ้ งเพลง

47

- การรวบรวมและการนำเสนอคำศัพท์ทเี่ กยี่ วข้องกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อนื่
(วทิ ยาศาสตร์)

- การใช้ภาษาในการฟังและพดู /อา่ นในสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
- การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคำศัพท์ที่เก่ยี วข้องใกลต้ ัว จากสือ่ และแหลง่ การ

เรียนรู้ต่างๆ
3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน

-

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- การคดิ วิเคราะห์
4.2 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- อยู่อยา่ งพอเพียง
- มีวนิ ัย

6. ช้นิ งาน/ ภาระงาน
- การวาดภาพและเขยี นบรรยายท้องฟา้ ในตอนกลางคืน
- การวาดภาพจากการฟงั
- งานเขียนจดหมายถงึ นักบนิ อวกาศ
- การทำโครงงาน Let’s go to Mars.
- การรวบรวมคำศัพทใ์ น My word book

7. การวัดและประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนเรยี น
- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
7.2 การประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ประเมนิ การทำแบบฝกึ หัด
- ประเมินการทำแบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม
7.3 การประเมินหลังการเรียน

48

- ประเมนิ การทำแบบทดสอบ
- ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
7.4 การประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การวาดภาพและเขียนบรรยายท้องฟา้ ในตอนกลางคนื
- ประเมินการวาดภาพจากการฟัง
- ประเมินงานเขียนจดหมายถึงนกั บินอวกาศ
- ประเมนิ โครงงาน Let’s go to Mars.

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมนำสู่การเรียน

1. ครชู ูภาพเมือง (City) และภาพห้วงอวกาศ (Space) แลว้ นำ 2 ภาพใหญน่ ี้ มาตดิ บนกระดานและกล่าว
Teacher: This is a city. (ชที้ ี่ภาพเมือง)
This is the space. (ช้ที ี่ภาพอวกาศ)

ครูใหน้ ักเรียนคิดว่าในเมืองมอี ะไร และในอวกาศมีอะไรอยู่บ้าง
Teacher: What are there in a city?
Students: Cars, supermarkets, libraries, banks, parks, airports,
hospitals, etc.
Teacher: And what are there in the space?
Students: A satellite, a spaceship, an astronaut, the sun, the moon,
stars, comets, Mars etc.
Teacher: Excellent!

2. ครูบอกนักเรียนว่าในบทเรียนน้ี นักเรียนจะได้ฝึกพูดขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเมืองท่ีอาศัย
อยู่ อ่านข้อมูลเกย่ี วกบั ดาวองั คารและโลก และเขยี นจดหมายถงึ เพ่อื น

กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. นกั เรยี นอ่านตวั อยา่ งคำถามท่ีกำหนดให้ในหนังสอื เรยี น หน้า 68 ข้อ 1 Ask and answer about the
city. พรอ้ มๆ กัน
1) Where do you live?
2) Is it big or small?
3) Is there a/an ________?
4) What’s the name of your school?
5) Do you walk to school?
6) What do you like in your town?

49

นักเรียนถามคำถาม 6 ข้อ ในหนังสือเรียน กับเพ่ือนจำนวน 5 คน แล้วจดบันทึกข้อมูลท่ีเพ่ือนตอบลง
ในสมุด เมอื่ ถามเสรจ็ แล้ว ใหน้ ำข้อมลู มาเขียนบรรยายส้ันๆ 1 ยอ่ หนา้

Ken: Where do you live?
Ann: I live in Nakhon Ratchasima.
Ken: Is it big or small?
Ann: It’s big.
Ken: Is there a department store?
Ann: Yes, there is.
Ken: What’s the name of your school?
Ann: Suranaree Wittaya School.
Ken: Do you walk to school?
Ann: No, I don’t. I go to school by bus.
Ken: What do you like in your town?
Ann: I like the Monument of Thao Suranaree.
นักเรยี นเขียนบรรยายส้นั ๆ ได้ ดังนี้
“Her name is Ann. She lives in Nakhon Ratchasima. It is a big city. There is a
department store. Her school’s name is Suranaree Wittaya School. Her favourite
place in her town is the Monument of Thao Suranaree.”
ครูสุ่มเรียกนักเรียน 5 คน ออกมานำเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน โดยเลือกอ่านข้อมูลของเพื่อนเพียง
2 คน เท่านั้น
2. นักเรียนอ่านคำถามท่ีกำหนดให้ ในหนังสือเรียน หน้า 68 ข้อ 2 Match the dialogue. พร้อมๆ กัน
จากนั้นครูถามนักเรียนว่า คำถามในข้อใดท่ีไม่สามารถตอบว่า Yes หรือ No ได้ เม่ือได้คำตอบว่า
คำถามข้อ 1 เพราะข้ึนต้นด้วย What ซึ่งเป็นคำถาม Wh-question จะต้องตอบเกี่ยวกับรายละเอียด
จากนั้นครูให้นักเรียนอ่านประโยคคำตอบคร่าวๆ ว่าประโยคใดไม่ได้ตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งก็คือ
ข้อ c จากนนั้ ครใู หน้ กั เรยี นอ่านคำถามขอ้ 1 และคำตอบข้อ c พรอ้ มๆ กัน
ครูให้เวลานักเรียนในการจับคู่คำถามและคำตอบข้อที่เหลือ เสร็จแล้วจึงเฉลยคำตอบพร้อมๆ กัน
จากน้ันให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพ่ือฝึกพูดถาม-ตอบโดยใช้คำถามที่กำหนดให้ แต่นักเรียนสามารถ
เปลีย่ นคำตอบได้

w
1. c 2.a 3. d 4. b

3. ครแู บง่ นกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม แลว้ แจกกระดาษ A4 ใหน้ ักเรียนกลุ่มละ 1 แผ่น ใหก้ ล่มุ หนึ่งหาข้อมูล
เก่ียวกับ Earth อีกกลุ่มหาข้อมูลเก่ียวกับ Mars จากในหนังสือเรียน หน้า 69 ข้อ 3 Read and


Click to View FlipBook Version