27 หน่วย ผักและผลไม้

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

แผนการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ สาหรบั เดก็ อายุ 4 ปี โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู ินทรร์ าษฎร์นกุ ลู )

แผนการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ สาหรับเดก็ ปฐมแวผัยนกาอรจาดั ยปรุ ะ4สบกปารี ณก์ ารเรยี นรู้

โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู ินทรร์ าษฎรน์ กุ ูล) สังกดั กองการศกึ ษา เทศบาลเมอื งพะเยา
สปั ดาห์ที่ 27 สาระการเรียนรู้ท่ี 3 ธรรมชาตริ อบตวั

ความคิดรวบยอด

ผกั มีหลายชนิด มลี กั ษณะรูปร่าง ขนาด และสตี า่ งกนั ผกั มีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย ชว่ ยสร้างภมู ติ ้านทาน ให้ผิวพรรณดี และ
ช่วยให้ขบั ถา่ ยคลอ่ ง ดงั นนั้ เรารับประทานผกั เป็ นประจา และควรล้างผกั ก่อนรับประทานให้สะอาด ผลไม้มหี ลายชนดิ มีลกั ษณะรูปร่าง
ขนาด และสตี า่ งกนั ผลไม้มปี ระโยชน์ตอ่ ร่างกาย ชว่ ยให้ผิวพรรณสดใส และขบั ถา่ ยได้คลอ่ ง เราควรปอกหรือล้างผลไม้ให้สะอาดก่อน
กินผลไม้

ช่ือของผักและผลไม้

หน่วย ลักษณะและสีของผักและผลไม้
วธิ ีการกินผักและผลไม้
ผักและผลไม้

ประโยชน์ของผักและผลไม้

การปลูกผักและดูแลผักและผลไม้

ส่ิงท่เี ดก็ รู้แล้ว ส่งิ ท่เี ด็กต้องการรู้ ส่งิ ท่เี ด็กควรรู้

1. ชื่อของผกั และผลไม้
2. ลกั ษณะและสีของผกั และผลไม้
3. วธิ ีการกินผกั และผลไม้
4. ประโยชน์ของผกั และผลไม้
5. การปลกู ผกั และดแู ลผกั และผลไม้

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สาหรบั เดก็ อายุ 4 ปี โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู นิ ทรร์ าษฎรน์ กุ ลู )

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

แนวการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สาหรับเดก็ อายุ 4 ปี

สปั ดาห์ท่ี 27 สาระธรรมชาติรอบตวั หนว่ ยการเรียนรู้ ผักและผลไม้

การจัดกจิ กรรมหลกั 6 กจิ กรรมใน 1 สัปดาห์

กิจกรรม เคล่อื นไหว เสริมประสบการณ์ สร้างสรรค์ เสรี กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา
วันท่ี และจังหวะ
การเคลอ่ื นไหว ชื่อของผกั และ ระบายสี เลน่ ตามมมุ เกม จบั คภู่ าพ
1 ร่างกายประกอบ ผลไม้ ภาพผกั แสนสวย ประสบการณ์ ผกั ดีมีประโยชน์
เพลงกินผกั
กนั เถอะเรา เคร่ืองเลน่ สนาม

2 การเคลอ่ื นไหว ลกั ษณะและสีของ ฉีกปะติด เลน่ ตามมมุ เกม จบั คภู่ าพผกั
ร่างกายประกอบเพลง ผกั และผลไม้ ภาพผกั ชนดิ ตา่ งๆ ประสบการณ์ เกม โยนผกั ลงเขง่ ท่มี ีลกั ษณะ

ผกั จ้า สเี ดยี วกนั

3 การเคลอื่ นไหว วธิ ีการกินผกั และ
ร่างกายตาม ผลไม้
คาบรรยาย ทคี่ าดหวั เลน่ ตามมมุ เคร่ืองเลน่ สนาม เกม จบั คภู่ าพ
” ผกั แปลงร่าง ประสบการณ์ ผกั กบั เงา

4 ประโยชน์ของผกั
และผลไม้
การเคลอื่ นไหว เป่ าสภี าพผกั เลน่ ตามมมุ เกม เดนิ หนีบผกั เกม สงั เกตภาพ
ร่างกายแบบ ให้สดใส ประสบการณ์ ผกั นมี ้ ปี ระโยชน์
ผ้นู า ผ้ตู าม

5 การเคลอื่ นไหว การปลกู ผกั และ ปัน้ ดินนา้ มนั เลน่ ตามมมุ เกม โดมิโนภาพ
ร่างกายประกอบเพลง ดแู ลผกั และผลไม้ แปลงผกั ของฉนั ประสบการณ์ ผกั สวนครัว
เคร่ืองเลน่ สนาม
ตามจินตนาการ

กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สาหรบั เด็กอายุ 4 ปี โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู นิ ทร์ราษฎรน์ กุ ูล)

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

สาระท่ีควรเรียนรู้

การเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบเพลงกินผกั กนั เถอะเรา

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 - - - 8.1,8.2, - 10.3 11.2 12.1
8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.4 การมีปฏิสมั พนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา
กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง
- การเคลอื่ นไหวอยู่ - การฟังเพลง การร้องเพลง มวี ินัย มีส่วนร่วม และ
1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
กบั ท่ี และการแสดงปฏิกิริยา บทบาทสมาชกิ ของ - การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ นภาษา
โต้ตอบเสยี งดนตรี สังคม
- การเคลอื่ นไหว - การเคลอื่ นไหวตาม - การร่วมกาหนดข้อตกลง ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว
เสยี งเพลง/ดนตรี
เคลอื่ นท่ี 1.2.4 การแสดงออกทาง ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
1.1.3 การรักษา อารมณ์ - การให้ความร่วมมอื ใน แสวงหาความรู้
สุขภาพอนามยั - การเคลอื่ นไหวตาม - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
ส่วนตวั เสยี งเพลง/ดนตรี การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ
- การปฏบิ ตั ติ วั ตาม - การร้องเพลง 1.3.7 การยอมรับใน
สขุ อนามยั สขุ นิสยั 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ ความเหมือนและความ
เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง แตกต่างระหว่างบุคคล
ทีด่ ีในกจิ วตั ร - การเลน่ หรือทากิจกรรม

ประจาวนั ร่วมกบั กลมุ่ เพ่อื น
1.1.5 การ
ตระหนักรู้ มีความสามารถ
เก่ยี วกบั ร่างกาย
ตัวเอง - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ
- การเคลอื่ นไหว
ตามความสามารถของตวั เอง

โดยควบคมุ ตวั เอง
ไปในทิศทาง ระดบั

และพนื ้ ท่ี

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏบิ ัติ จาเพอื่ ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ สาหรับเดก็ อายุ 4 ปี โรงเรียนเทศบาล 4 (ภูมินทร์ราษฎรน์ กุ ลู )

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบเพลงกินผกั กนั เถอะเรา
2. พฒั นาทกั ษะการเคลอื่ นไหวตามคาบรรยาย
3. เพื่อให้เกิดความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์
วธิ ีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เดก็ เตรียมพร้อมร่างกาย โดยให้ยืนและขยบั ตวั ไปมาอยกู่ บั ทอี่ ยา่ งอสิ ระตามจงั หวะทค่ี รูกาหนด
2. ครูแนะนาเพลงกินผกั กนั เถอะเรา พร้อมเปิดเพลงให้เดก็ ฟัง และให้เดก็ ทาทา่ ประกอบตามเพลง
3. ครูและเด็กทาทา่ ทางประกอบเพลงกินผกั กนั เถอะเราตามจินตนาการ
4. ครูให้เดก็ นง่ั พกั ในทา่ ท่ีสบาย แล้วสนทนาซกั ถามว่าทาอะไรบ้าง และรู้สกึ อยา่ งไร
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เพลงกินผกั กนั เถอะเรา
2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ
ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบเพลงกินผกั กนั เถอะเรา
2. สงั เกตการพฒั นาทกั ษะการเคลอื่ นไหวตามคาบรรยาย
3. สงั เกตความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ สาหรบั เดก็ อายุ 4 ปี โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู ินทรร์ าษฎรน์ กุ ลู )

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

กิจกรรมเสริมประสบการณ์

สาระท่ีควรเรียนรู้

ผกั มีมากมายหลายชนดิ มีช่ือเรียกตา่ งๆ เชน่ ผกั บ้งุ ผกั คะน้า ผกั กาดขาว ผกั กวางต้งุ ฟักทอง มะเขือเทศ เป็ นต้น

คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.3 การรักษา 1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา
สุขภาพอนามัย เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง มวี ินัย มีส่วนร่วม และ - การฟังเพลง
ส่วนตวั มคี วามสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรู้สกึ
- การปฏิบตั ิตวั ตาม - การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชิก - การพดู อธิบายเกี่ยวกบั สง่ิ ของ เหตกุ ารณ์
สขุ อนามยั สขุ นิสยั ทด่ี ีของห้องเรียน และความสมั พนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ
ตามความสามารถของตวั เอง 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล
ที่ดใี นกจิ วตั ร - การให้ความร่วมมอื ใน การตดั สินใจและแก้ปัญหา
- การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ
ประจาวนั การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ
โดยใช้ประสาทสมั ผสั
1.3.5 การเล่นและทางาน - การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ ใน
แบบร่วมมอื ร่วมใจ
- การร่วมสนทนาและ ชีวิตประจาวนั
แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ - การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กบั เหตกุ ารณ์ใน
ชีวติ ประจาวนั
- การเลน่ และทางาน 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
ร่วมกบั ผ้อู นื่ แสวงหาความรู้
- การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างบุคคล

- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพ่อื น

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏิบตั ิ จาเพอ่ื ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมินตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ สาหรบั เด็กอายุ 4 ปี โรงเรียนเทศบาล 4 (ภูมนิ ทร์ราษฎร์นกุ ลู )

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถบอกช่ือของผกั ได้
2. สนทนาและตอบคาถามได้

วิธีการจดั กิจกรรม
ขัน้ นา

1. ครูและเด็กร่วมกนั ร้องเพลง “กินผกั กนั เถอะเรา” และทาทา่ ทางตามจินตนาการ

ขัน้ สอน

2. ครูนาบตั รภาพผกั ชนดิ ตา่ งๆ มาให้เดก็ ดู ครูบอกชื่อผกั และให้เด็กพดู ตาม จากนนั้ ผลดั ให้เดก็ ออกมาเป็ นคนชบู ตั รภาพ และให้

เพือ่ นๆ บอกชื่อผกั ชนิดนนั้ ๆ
3. ครูนาผกั ของจริงท่ีตรงกบั ภาพมาให้เดก็ จบั คขู่ องจริงกบั ภาพ แล้วเรียกช่ืออกี ครัง้
4. ครูให้เดก็ บอกลกั ษณะของผกั ที่เห็นมาคนละ 1 อยา่ ง เดก็ ๆ อาจจะพดู เหมอื นกนั ก็ได้

ขัน้ สรุป

5. ครูและเดก็ ร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั ช่ือของผกั อกี ครัง้

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. บตั รภาพผกั ชนิดตา่ งๆ
2. เพลง “กินผกั กนั เถอะเรา”
3. ผกั ของจริงทตี่ รงกบั ภาพ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการบอกชื่อของผกั
2. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม

3. สงั เกตการทาผลงานในกจิ กรรม

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สาหรับเด็กอายุ 4 ปี โรงเรียนเทศบาล 4 (ภูมินทรร์ าษฎรน์ กุ ลู )

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์

สาระท่ีควรเรียนรู้
กิจกรรม ระบายสภี าพผกั แสนสวย

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12
1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 - 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1

8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ัติกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา
- การฟังเสยี งตา่ งๆ ในสง่ิ แวดล้อม
กล้ามเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศิลปะตา่ งๆ ประจาวนั - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา
1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- การเขียนภาพและ - การสร้างสรรค์สงิ่ สวยงาม - การชว่ ยเหลอื ตวั เองใน - การสร้างสรรค์ชิน้ งานโดยใช้รูปร่าง รูปทรง

การเลน่ กบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง กิจวตั รประจาวนั จากวสั ดทุ ีห่ ลากหลาย
1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
อารมณ์ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พนั ธ์ แสวงหาความรู้
- การตงั้ คาถามในเร่ืองทส่ี นใจ
- การทางานศิลปะ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ

1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ บทบาทสมาชกิ ของ

เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง สังคม

มีความสามารถ - การร่วมกาหนดข้อตกลง

- การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ของห้องเรียน

ตามความสามารถของตวั เอง - การให้ความร่วมมือใน

การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ

1.3.5 การเล่นและทางาน
แบบร่วมมอื ร่วมใจ
- การร่วมสนทนาและ

แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏิบัติ จาเพือ่ ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คิดไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สาหรับเดก็ อายุ 4 ปี โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู นิ ทรร์ าษฎร์นกุ ูล)

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ฝึกทกั ษะการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. มคี วามคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกทกั ษะการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู ่ืน
4. ฝึกทกั ษะการสนทนาและการเลา่ เรื่องราวเก่ียวกบั ผลงานตนเองได้

วิธีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เดก็ นงั่ เป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แล้วแจกอปุ กรณ์ในการทากิจกรรมให้เด็กทกุ กลมุ่
2. ครูแนะนากจิ กรรมและอปุ กรณ์ในการระบายสภี าพผกั แสนสวย และให้เดก็ พดู ชือ่ อปุ กรณ์ตามดงั นี ้
ภาพผกั ชนิดตา่ งๆ สเี ทียน
3. เมอ่ื ทาผลงานเสร็จ เดก็ นาผลงานตวั เองมาเลา่ ให้เพอ่ื นฟังหน้าชนั้ เรียน ครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงานและนาผลงานมาตดิ ทมี่ มุ แสดง
ผลงาน
4. เดก็ ๆ ชว่ ยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณ์เข้าที่ และทาความสะอาดโต๊ะกิจกรรม

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. ภาพผกั ชนดิ ตา่ งๆ
2. สเี ทียน

ประเมินผล
1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตผลงานมีความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู น่ื
4. สงั เกตการสนทนาและการเลา่ เรื่องราวเกย่ี วกบั ผลงาน

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สาหรบั เด็กอายุ 4 ปี โรงเรียนเทศบาล 4 (ภูมนิ ทร์ราษฎร์นกุ ลู )

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

กจิ กรรมเล่นตามมุม

สาระท่ีควรเรียนรู้

การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสให้เดก็ เลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณ์หรือศนู ย์การเรียน ทจี่ ดั ไว้ในห้องเรียน เช่น มมุ

บลอ็ ก มมุ วทิ ยาศาสตร์หรือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บ้าน มมุ หนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็ นต้น

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ัติกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวนั - การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา

- การเลน่ เครื่องเลน่ 1.2.2 การเล่น - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

สมั ผสั และการสร้าง - การเลน่ อิสระ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

สง่ิ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ

บลอ็ ก และกลมุ่ ใหญ่ 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ
- การหยิบจบั สงิ่ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล
ตา่ งๆ การร้อยวสั ดุ - การเลน่ ตามมมุ - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ การตัดสินใจและแก้ปัญหา
1.1.5 การ - การเลน่ กบั สอ่ื ตา่ งๆ ท่เี ป็ นทรงกลม ทรง
ตระหนักรู้ ประสบการณ์/มมุ เลน่ ตา่ งๆ เคร่ืองใช้อยา่ งค้มุ คา่ สเี่ หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย
เก่ยี วกับร่างกาย 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
ตัวเอง - การปฏิบตั ิตวั ตามหลกั มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ แก้ปัญหา
- การเคลอื่ นไหว บทบาทสมาชกิ ของสังคม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
โดยควบคมุ ตวั เอง ศาสนาท่นี บั ถือ - การร่วมกาหนดข้อตกลง - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
ไปในทศิ ทาง ระดบั 1.2.4 การแสดงออกทาง สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
และพนื ้ ท่ี อารมณ์ ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
- การเลน่ บทบาทสมมติ - การให้ความร่วมมือใน แสวงหาความรู้
1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ
มคี วามสามารถ
- การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ
ตามความสามารถของตวั เอง

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมือทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏิบัติ จาเพอ่ื ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทักษะพืน้ ฐาน จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมินตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สาหรับเดก็ อายุ 4 ปี โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู ินทร์ราษฎรน์ กุ ูล)

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สง่ เสริมให้เดก็ พฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกและสง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ แก้ปัญหา การคิดอยา่ งมีเหตผุ ล
4. สง่ เสริมให้เด็กรู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากิจกรรม

วธิ ีการจดั กจิ กรรม

1. เด็กและครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณ์ตา่ งๆ ในห้องเรียน และให้คดิ วางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไรตามลาดบั ความสนใจ

ของตวั เอง

2. เด็กและครูร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เชน่

- เดก็ ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เมื่อเลน่ เสร็จเก็บของเลน่ เข้าท่ี

- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้เสยี หาย

- รู้จกั ขอบคณุ เมอื่ ครูชว่ ยเหลอื ขอบใจเมอื่ เพอ่ื นชว่ ยเหลอื และขอโทษเม่อื ทาให้ผ้อู นื่ เจ็บหรือเดอื ดร้อน

- เม่ือได้ยินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บของเลน่ ทนั ที และมานง่ั รวมกนั ท่หี น้าห้อง

3. เด็กๆ เลอื กเลน่ ตามทีค่ ดิ ไว้อยา่ งอสิ ระ ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง และเมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เก็บของเข้าทใ่ี ห้เรียบร้อย และมานง่ั

รวมกนั ทห่ี น้าห้อง

4. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถงึ สง่ิ ทต่ี วั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาที่พบ รวมถงึ วิธีแก้ปัญหาอยา่ งไร

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. มมุ ประสบการณ์ในห้องเรียน
2. อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในมมุ ประสบการณ์
3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมอื กบั ตา
2. สงั เกตการพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการรู้จกั คิดแก้ปัญหา การคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล
4. สงั เกตการคดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สาหรับเดก็ อายุ 4 ปี โรงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู นิ ทรร์ าษฎรน์ กุ ูล)

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

จกรรมกลางแจ้ง

สาระท่คี วรเรียนรู้

การเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามทาให้เดก็ ได้มโี อกาสออกไปนอกห้องเรียนเพือ่ ออกกาลงั เคลอ่ื นไหวร่างกายและแสดงออกอยา่ งอิสระ

ในการเลน่ เครื่องเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็ นหลกั

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.2 การดแู ลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การเลน่ อสิ ระ ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา

- การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การมีสว่ นร่วมรับผดิ ชอบ - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ
อยกู่ บั ท่ี
และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรักษาสงิ่ แวดล้อมทงั้ ความต้องการ

- การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ นอกห้องเรียน ภายในและภายนอกห้องเรียน - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ
เคลอื่ นที่
1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ กระทาตา่ งๆ

- การเลน่ เคร่ืองเลน่ - การปฏิบตั ิตวั ตามหลกั เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล

สนามอยา่ งอสิ ระ ศาสนาทนี่ บั ถือ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พนั ธ์ การตัดสินใจและแก้ปัญหา

1.1.4 การรักษา 1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์ มีวินัย มีส่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
ความปลอดภยั เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม แก้ปัญหา
- การเลน่ เคร่ืองเลน่ มคี วามสามารถ - การร่วมกาหนดข้อตกลง 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
อยา่ งปลอดภยั ของห้องเรียน

1.1.5 การ ตามความสามารถของตวั เอง - การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชิก สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
ตระหนักรู้ ท่ีดีของห้องเรียน
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การให้ความร่วมมอื ใน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
ตวั เอง การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ แสวงหาความรู้
- การเคลอื่ นไหว 1.3.7 การยอมรับใน - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
ความเหมอื นและความ
โดยควบคมุ ตวั เอง แตกต่างระหว่างบุคคล

ไปในทศิ ทาง ระดบั

และพนื ้ ที่ - การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพอื่ น

สร้างเสริม EF

ทกั ษะปฏิบตั ิ ริเร่ิมลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย

ทกั ษะพนื้ ฐาน จาเพ่ือใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง

ทกั ษะกากบั ตนเอง แผนการจดั ปจรดะจสบ่อกใาสรใ่ ณจ์การเรียนรู้ สาคหวรบับเคด็กมุ ออาายรุ 4มปณี โ์ รงเรยี นเทศบาล 4 (ภมู ินทร์ราษตฎิดรน์ ตกุ าลู ม) ประเมินตนเอง

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู ืน่
3. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย
4. สง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม
5. สง่ เสริมให้เด็กมโี อกาสปฏิสมั พนั ธ์กบั เพือ่ นๆ และสง่ิ แวดล้อม

วธิ ีการจดั กจิ กรรม

1. เด็กและครูร่วมกนั อบอนุ่ ร่างกายด้วยการออกกายบริหารในการเคลอื่ นไหวอยกู่ บั ท่ี

2. ครูแนะนาการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งถกู วิธี และปลอดภยั ให้เดก็ ฟังพร้อมสาธิตให้ดู แล้วร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เคร่ืองเลน่

สนาม เช่น

 เลน่ อยา่ งถกู วิธี ไมเ่ ลน่ โลดโผน  เลน่ ร่วมกนั ไมท่ ะเลาะกนั

 เข้าแถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพอื่ น  ไมเ่ ด็ดใบไม้ ดอกไม้มาเลน่

 รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่  รู้จกั ขอบคณุ เมื่อครูช่วยเหลอื ขอบใจเมอ่ื เพือ่ น

 เลน่ เคร่ืองเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้ ชว่ ยเหลอื และขอโทษเม่ือทาให้ผ้อู น่ื เจ็บหรือ
เสยี หาย เดอื ดร้อน

3. ครูให้เดก็ คิดวางแผนการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ให้เลน่ ตามทคี่ ิดวางแผนไว้อยา่ งอิสระ ปฏิบตั ติ าม

ข้อตกลง และเม่ือได้ยินเสยี งนกหวดี ให้หยดุ เลน่ แล้วมาเข้าแถวที่หน้าสนามเดก็ เลน่

4. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงสงิ่ ท่ีตวั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วิธีแก้ปัญหาอยา่ งไร

5. ครูให้เด็กๆ เตรียมตวั เข้าแถว ไปล้างมือ แล้วทากิจกรรมอนื่ ตอ่ ไป

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. เคร่ืองเลน่ สนาม

2. นกหวีด

ประเมินผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมอื กบั ตา
2. สงั เกตทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู นื่
3. สงั เกตการมคี ณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย
4. สงั เกตการรู้จกั คิด วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากิจกรรม
5. สงั เกตการปฏิสมั พนั ธ์กบั เพ่ือนๆ และสง่ิ แวดล้อม

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สาหรบั เด็กอายุ 4 ปี โรงเรียนเทศบาล 4 (ภูมินทร์ราษฎรน์ กุ ลู )

กิจกรรมเกมการศกึ ษา

สาระท่คี วรเรียนรู้

เกม จบั คภู่ าพผกั ดมี ีประโยชน์

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 - 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ อสิ ระ ประจาวนั - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา

- การหยิบจบั สง่ิ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

ตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพยี ง - การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการ

- การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ
ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม - การเลน่ เกมทางภาษา
ศาสนาทนี่ บั ถือ - การใช้วสั ดแุ ละสงิ่ ของ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล

1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์

เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา

มคี วามสามารถ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ - การจบั คู่

- การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
ตามความสามารถของตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม
- การร่วมกาหนดข้อตกลง แก้ปัญหา
1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
ของห้องเรียน
- การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
- การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชกิ สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
ทด่ี ขี องห้องเรียน
1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
- การให้ความร่วมมือใน แสวงหาความรู้

การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

สร้างเสริม EF

ทักษะปฏบิ ตั ิ ริเริ่มลงมือทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะพนื้ ฐาน จาเพอื่ ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมนิ ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั

2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหาได้

3. พฒั นาทกั ษะทางสตปิ ัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองตา่ งๆ
4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

วิธีการจดั กิจกรรม
1. ครูแนะนาเกม จบั คู่ภาพผกั ดีมีประโยชน์ โดยให้ดภู าพทีส่ มบรู ณ์ และสนทนาจากภาพ
2. ครูสาธิตวธิ ีการเลน่ โดยให้เดก็ มสี ว่ นร่วมด้วย และแนะนาทบทวนเกมอนื่ ๆ ท่เี คยเลน่ มาแล้ว
3. ครูแบง่ กลมุ่ เด็ก กลมุ่ ละ 2-3 คน โดยให้เดก็ เลอื กเองหรือตามความเหมาะสม และสร้างข้อตกลงในการเลน่ อยา่ งง่ายๆ เช่น
- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่
- รู้จกั รอคอยตอ่ จากเพอ่ื น
- เลน่ กนั เบาๆ ไมท่ าลายให้เสยี หาย
- เมอื่ ได้ยนิ สญั ญาณหยดุ (เสยี งเคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บเกมเข้าที่ และมานง่ั รวมกนั ท่หี น้าห้อง
4. ครูให้เดก็ กลมุ่ แรกเลน่ เกม จบั คู่ภาพผกั ดีมีประโยชน์ กลมุ่ ที่เหลอื เลน่ เกมท่ีเคยเลน่ มาแล้วเลน่ เสร็จให้หมนุ เวียนกนั เลน่ จน
ครบทกุ เกม เมอ่ื ได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ให้เก็บเกมเข้าท่ี และมานง่ั รวมกนั ทีห่ น้าห้อง
5. ครูและเดก็ ร่วมกนั สนทนา และให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ สงิ่ ทไี่ ด้เลน่ ความรู้สกึ ตา่ งๆ ชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เกม จบั คภู่ าพผกั ดีมีประโยชน์
2. เกมเกา่ ทเี่ คยเลน่ มาแล้ว
3. เครื่องเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตการใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหา
3. สงั เกตการพฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องตา่ งๆ
4. สงั เกตคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

ภาคผนวก

เพลง กินผกั กนั เถอะเรา

กินผกั กนั เถอะเรา บวบ ถว่ั ฝักยาว ผกั กาดขาว แตงกวา

คะน้า กวางต้งุ ผกั บ้งุ โหระพา มะเขือเทศสดี า ฟักทอง กะหลา่ ปลี

(ไม่ทราบนามผูแ้ ต่ง)

เกมการศกึ ษา

เกม จับคู่ภาพผักดมี ปี ระโยชน์

*ครูสามารถยอ่ หรือขยายภาพได้ตามความเหมาะสม

กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจงั หวะ

สาระท่ีควรเรียนรู้

การเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบเพลงผกั จ้า

คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 - - - 8.1,8.2, - 10.3 11.2 12.1

8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.4 การมปี ฏิสมั พนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การร้องเพลง มีวินัย มสี ่วนร่วม และ - การฟังเพลง

- การเคลอื่ นไหวอยู่ และการแสดงปฏกิ ิริยา บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
กบั ท่ี โต้ตอบเสยี งดนตรี สงั คม - การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ นภาษา
- การเคลอื่ นไหว - การเคลอื่ นไหวตาม - การร่วมกาหนดข้อตกลง
เคลอื่ นที่ เสยี งเพลง/ดนตรี ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว
1.1.3 การรักษา 1.2.4 การแสดงออกทาง ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
สุขภาพอนามัย อารมณ์ - การให้ความร่วมมอื ใน แสวงหาความรู้
ส่วนตวั - การเคลอ่ื นไหวตาม - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การปฏิบตั ิตวั ตาม เสยี งเพลง/ดนตรี การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ
สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั - การร้องเพลง 1.3.7 การยอมรับใน
ทด่ี ใี นกจิ วตั ร 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ ความเหมือนและความ
ประจาวนั เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง แตกต่างระหว่างบุคคล
- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพอื่ น

1.1.5 การ มีความสามารถ

ตระหนักรู้ - การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ

เก่ยี วกับร่างกาย ตามความสามารถของตวั เอง
ตวั เอง

- การเคลอ่ื นไหว

โดยควบคมุ ตวั เอง

ไปในทิศทาง ระดบั

และพนื ้ ท่ี

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมือทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏิบัติ จาเพ่ือใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. เคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบเพลงผกั จ้า
2. พฒั นาทกั ษะการเคลอื่ นไหวตามคาบรรยาย
3. เพอ่ื ให้เกิดความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

วธิ ีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เดก็ เตรียมพร้อมร่างกาย โดยให้ยนื และขยบั ตวั ไปมาอยกู่ บั ที่อยา่ งอิสระตามจงั หวะทค่ี รูกาหนด
2. ครูแนะนาเพลงผกั จ้า พร้อมเปิ ดเพลงให้เดก็ ฟัง และให้เดก็ ทาทา่ ประกอบตามเพลง
3. ครูและเด็กทาทา่ ทางประกอบเพลงผกั จ้าตามจินตนาการ
4. ครูให้เดก็ นงั่ พกั ในทา่ ท่ีสบาย แล้วสนทนาซกั ถามวา่ ทาอะไรบ้าง และรู้สกึ อยา่ งไร

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. เพลงผกั จ้า
2. เครื่องเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบเพลงผกั จ้า
2. สงั เกตการพฒั นาทกั ษะการเคลอื่ นไหวตามคาบรรยาย
3. สงั เกตความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

กิจกรรมเสริมประสบการณ์

สาระท่ีควรเรียนรู้

ผกั แตล่ ะชนดิ มีลกั ษณะและสที ่ีแตกตา่ งกนั เช่น ผกั รับประทานใบจะมีสเี ขยี ว ผกั ที่รับประทานผลจะมีสแี ดง สเี หลอื ง สสี ้ม

สขี าว เป็ นต้น

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.3 การรักษา 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา
สุขภาพอนามัย เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การฟังเพลง
ส่วนตวั มีความสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสังคม
- การปฏิบตั ิตวั ตาม - การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การปฏิบตั ิตวั เป็ นสมาชกิ - การพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรู้สกึ
ทีด่ ีของห้องเรียน - การพดู อธิบายเกี่ยวกบั สงิ่ ของ เหตกุ ารณ์
สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั ตามความสามารถของตวั เอง และความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ
- การให้ความร่วมมอื ใน 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล
ที่ดีในกจิ วตั ร การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา
การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ
ประจาวนั
1.3.5 การเล่นและทางาน เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ
แบบร่ วมมือร่ วมใจ โดยใช้ประสาทสมั ผสั
- การร่วมสนทนาและ - การนบั และแสดงจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ ใน

แลกเปลยี่ นความคิดเห็น ชีวิตประจาวนั
- การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กบั เหตกุ ารณ์ใน
- การเลน่ และทางาน ชีวิตประจาวนั
1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
ร่วมกบั ผ้อู ่นื แสวงหาความรู้
- การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมอื นและความ
แตกต่างระหว่างบุคคล

- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพื่อน

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏบิ ตั ิ จาเพือ่ ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน

ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถบอกลกั ษณะ และสขี องผกั ชนิดตา่ งๆ ได้

2. สนทนาและตอบคาถามได้

วธิ ีการจดั กจิ กรรม
ขัน้ นา

1. ครูนาผกั ชนดิ ตา่ งๆ โดยเลอื กลกั ษณะและสขี องผกั ให้แตกตา่ งกนั มาให้เดก็ ดู และสนทนากบั เดก็ โดยใช้คาถามดงั นี ้

 เดก็ ๆ รู้จกั ชื่อผกั เหลา่ นไี ้ หม เรียกช่ืออะไรบ้าง
 ผกั เหลา่ นแี ้ ตกตา่ งกนั อยา่ งไร
 เดก็ ๆ ชอบผกั ชนดิ ไหนมากทส่ี ดุ เพราะเหตใุ ด
ขัน้ สอน
2. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนา ผกั แตล่ ะชนิดมีลกั ษณะและสที ี่แตกตา่ งกนั เชน่ ผกั รับประทานใบจะมสี เี ขียว ผกั ที่รับประทานผลจะมี
สแี ดง สเี หลอื ง สสี ้ม สขี าว เป็ นต้น
3. ครูให้เดก็ แยกประเภทของผกั เช่น ผกั ท่ีเรารับประทานใบ ผกั ท่ีเรารับประทานผล โดยครูนาผกั ใสใ่ นตะกร้าแล้วให้เดก็ แยกประเภท
ของผกั ตามลกั ษณะตา่ งๆ
4. ครูให้เดก็ ๆ บอกชื่ออาหารท่ที าด้วยผกั ทเี่ ดก็ ๆ เคยรับประทาน
ขัน้ สรุป
5. ครูและเดก็ ร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั เรื่อง ลกั ษณะและสขี องผกั พร้อมกนั อีกครงั้

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. ผกั ชนิดตา่ งๆ
2. ตะกร้าแยกผกั

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการบอกลกั ษณะและสขี องผกั ชนิดตา่ งๆ ได้
2. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถามได้
3. สงั เกตการทาผลงานในกิจกรรม

กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์

สาระท่ีควรเรียนรู้
กิจกรรม ฉีกปะตดิ ภาพผกั ชนดิ ตา่ งๆ

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 - 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1
8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา
- การฟังเสยี งตา่ งๆ ในสงิ่ แวดล้อม
กล้ามเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ ประจาวนั
- การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา
- การเขียนภาพและ - การสร้างสรรค์สง่ิ สวยงาม - การชว่ ยเหลอื ตวั เองใน 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- การสร้างสรรค์ชิน้ งานโดยใช้รูปร่าง รูปทรง
การเลน่ กบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง กิจวตั รประจาวนั
จากวสั ดทุ ่ีหลากหลาย
อารมณ์ 1.3.4 การมปี ฏิสมั พนั ธ์ 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
แสวงหาความรู้
- การทางานศิลปะ มีวนิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การตงั้ คาถามในเร่ืองทสี่ นใจ

1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ บทบาทสมาชกิ ของ

เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง สังคม

มีความสามารถ - การร่วมกาหนดข้อตกลง

- การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ของห้องเรียน

ตามความสามารถของตวั เอง - การให้ความร่วมมือใน
การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ

1.3.5 การเล่นและทางาน
แบบร่ วมมือร่ วมใจ
- การร่วมสนทนาและ

แลกเปลย่ี นความคิดเห็น

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏบิ ัติ จาเพ่อื ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมินตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ฝึกทกั ษะการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. มีความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกทกั ษะการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู ่ืน
4. ฝึกทกั ษะการสนทนาและการเลา่ เร่ืองราวเกี่ยวกบั ผลงานตนเองได้

วธิ ีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เดก็ นง่ั เป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แล้วแจกอปุ กรณ์ในการทากิจกรรมให้เดก็ ทกุ กลมุ่
2. ครูแนะนากิจกรรมและอปุ กรณ์ในการฉีกปะตดิ ภาพผกั ชนิดตา่ งๆ และให้เดก็ พดู ช่ืออปุ กรณ์ตามดงั นี ้
ภาพลายเส้นผกั ชนิดตา่ งๆ กระดาษสี กาว
3. ครูสาธิตวธิ ีการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมและให้เดก็ ลงมือทา ปะติดภาพผกั ชนิดตา่ งๆ ตกแตง่ ให้สวยงามตามจินตนาการ
4. เมื่อทาผลงานเสร็จ เดก็ นาผลงานตวั เองมาเลา่ ให้เพอ่ื นฟังหน้าชนั้ เรียน ครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงานและนาผลงานมาตดิ ทม่ี มุ
แสดงผลงาน
5. เด็กๆ ชว่ ยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณ์เข้าที่ และทาความสะอาดโต๊ะกจิ กรรม

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. ภาพลายเส้นผกั ชนิดตา่ งๆ
2. กระดาษสี
3. กาว

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตผลงานมีความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู น่ื
4. สงั เกตการสนทนาและการเลา่ เรื่องราวเก่ียวกบั ผลงาน

กิจกรรมเล่นตามมุม

สาระท่ีควรเรียนรู้

การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสให้เดก็ เลน่ อิสระตามมมุ ประสบการณ์หรือศนู ย์การเรียน ทีจ่ ดั ไว้ในห้องเรียน เช่น มมุ

บลอ็ ก มมุ วิทยาศาสตร์หรือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มุมคณิตศาสตร์ มมุ บ้าน มมุ หนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็ นต้น

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบัตกิ จิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวนั - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา

- การเลน่ เครื่องเลน่ 1.2.2 การเล่น - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

สมั ผสั และการสร้าง - การเลน่ อสิ ระ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

สงิ่ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพยี ง - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ

บลอ็ ก และกลมุ่ ใหญ่ 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ
- การหยิบจบั สงิ่ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล
ตา่ งๆ การร้อยวสั ดุ - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา
1.1.5 การ ประสบการณ์/มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การเลน่ กบั สอ่ื ตา่ งๆ ท่เี ป็ นทรงกลม ทรง
ตระหนักรู้ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ สเี่ หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพันธ์ - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ
ตวั เอง ศาสนาทน่ี บั ถือ มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ แก้ปัญหา
- การเคลอื่ นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง บทบาทสมาชกิ ของสังคม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
โดยควบคมุ ตวั เอง อารมณ์ - การร่วมกาหนดข้อตกลง - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
ไปในทศิ ทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
และพนื ้ ที่ 1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์ ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง แสวงหาความรู้
มคี วามสามารถ - การให้ความร่วมมอื ใน - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ

ตามความสามารถของตวั เอง

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏบิ ตั ิ จาเพอ่ื ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมินตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมอื กบั ตา
2. สง่ เสริมให้เดก็ พฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกและสง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ แก้ปัญหา การคิดอยา่ งมเี หตผุ ล
4. สง่ เสริมให้เด็กรู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม

วธิ ีการจดั กจิ กรรม

1. เดก็ และครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณ์ตา่ งๆ ในห้องเรียน และให้คิดวางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไรตามลาดบั ความสนใจ

ของตวั เอง

2. เดก็ และครูร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เช่น

- เด็กไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เมือ่ เลน่ เสร็จเก็บของเลน่ เข้าท่ี

- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้เสยี หาย

- รู้จกั ขอบคณุ เมอ่ื ครูชว่ ยเหลอื ขอบใจเม่ือเพื่อนช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาให้ผ้อู ่ืนเจ็บหรือเดอื ดร้อน

- เมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บของเลน่ ทนั ที และมานง่ั รวมกนั ท่ีหน้าห้อง

3. เด็กๆ เลอื กเลน่ ตามที่คดิ ไว้อยา่ งอสิ ระ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง และเมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เก็บของเข้าท่ใี ห้เรียบร้อย และมานง่ั

รวมกนั ทหี่ น้าห้อง

4. ครูให้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถงึ สงิ่ ท่ีตวั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแก้ปัญหาอยา่ งไร

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. มมุ ประสบการณ์ในห้องเรียน
2. อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในมมุ ประสบการณ์
3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สงั เกตการพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการรู้จกั คิดแก้ปัญหา การคิดอยา่ งมีเหตผุ ล
4. สงั เกตการคดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากิจกรรม

กจิ กรรมกลางแจ้ง

สาระท่คี วรเรียนรู้

เกม โยนผกั ลงเขง่

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.2 การดแู ลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การเลน่ อสิ ระ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา

- การเคลอื่ นไหว - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การมีสว่ นร่วมรับผิดชอบ - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

อยกู่ บั ที่ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรักษาสง่ิ แวดล้อมทงั้ ความต้องการ

- การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ นอกห้องเรียน ภายในและภายนอกห้องเรียน - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ

เคลอื่ นท่ี 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ กระทาตา่ งๆ

1.1.5 การ - การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล
ตระหนักรู้ ศาสนาท่นี บั ถือ
เก่ยี วกับร่างกาย 1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ การตัดสินใจและแก้ปัญหา
ตวั เอง เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง
- การเคลอื่ นไหว มคี วามสามารถ มีวินัย มีส่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
- การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ
โดยควบคมุ ตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม แก้ปัญหา
ตามความสามารถของตวั เอง - การร่วมกาหนดข้อตกลง 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
ไปในทิศทาง ระดบั
ของห้องเรียน แสวงหาความรู้

- การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชิก - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

และพนื ้ ท่ี ทดี่ ีของห้องเรียน

- การให้ความร่วมมอื ใน

การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ

1.3.7 การยอมรับใน

ความเหมอื นและความ

แตกต่างระหว่างบุคคล

- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพอ่ื น

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏบิ ัติ จาเพือ่ ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คิดไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมินตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ในการเคลอ่ื นไหวได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่
2. ฝึกการปรับตวั อยรู่ ่วมกบั ผ้อู ่ืน โดยรู้จกั การรอคอย เอือ้ เฟือ้ แบง่ ปัน ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงได้
3. สนทนาและเลา่ เรื่องราวสนั้ ๆ ได้
4. เรียนรู้สง่ิ ตา่ งๆ จากการเลน่ คดิ แก้ปัญหาและตดั สนิ ใจอยา่ งงา่ ยๆ ได้

วิธีการจดั กิจกรรม
1. ครูและเด็กสนทนาถงึ ข้อตกลงในการปฏิบตั ติ นเม่อื ลงไปเลน่ ทส่ี นาม เชน่ เดินแถวอยา่ งเป็ นระเบียบ ไมส่ ง่ เสยี งดงั ครูพาเดก็ เดนิ
ไปท่สี นาม
2. ครูแนะนาเกม โยนผกั ลงเข่ง กบั เดก็ และสนทนาเกี่ยวกบั กฎ กติกาในการเลน่ เกม โยนผกั ลงเข่ง
3. ครูนาเขง่ ไปวางให้หา่ งจากจดุ ที่เด็กยนื พอประมาณ จากนนั้ ให้เด็กเลอื กผกั จาลองคนละ 1 ชิน้
4. เด็กเข้าแถวตอนลกึ โดยเดก็ คนแรกอยใู่ นจดุ ทคี่ รูกาหนดแล้วโยนผกั ลงในเขง่ โดยมคี รูคอยแนะนาและคอยดแู ลอยา่ งใกล้ชิด เมื่อ
ได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ให้หยดุ เลน่ และมานงั่ พกั ผอ่ น
5. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนา และให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ สง่ิ ท่ีได้เลน่ ความรู้สกึ ตา่ งๆ ชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด
6. ครูให้เดก็ ๆ เตรียมตวั เข้าแถว ไปล้างมือ แล้วทากจิ กรรมอน่ื ตอ่ ไป

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. ผกั จาลอง
2. เขง่
3. นกหวีด

ประเมินผล
1. สงั เกตการเคลอ่ื นไหวร่างกายและการทรงตวั
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู ื่น ในการรอคอย เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และปฏิบตั ติ ามข้อตกลง
3. สงั เกตพฤติกรรมการเลน่ การคดิ แก้ปัญหาและตดั สนิ ใจ
4. สงั เกตการสนทนาและการเลา่ เร่ืองราวเก่ียวกบั การเลน่

จกรรมเกมการศกึ ษา

สาระท่คี วรเรียนรู้

เกม จบั คภู่ าพผกั ทม่ี ลี กั ษณะสเี ดยี วกนั

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 - 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.1 การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ อสิ ระ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา

- การหยบิ จบั สงิ่ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

ตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพยี ง - การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการ

- การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ
ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม - การเลน่ เกมทางภาษา
ศาสนาที่นบั ถือ - การใช้วสั ดแุ ละสงิ่ ของ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล

1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์

เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง เคร่ืองใช้อยา่ งค้มุ คา่ การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา

มคี วามสามารถ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ - การจบั คู่

- การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ มวี ินัย มสี ่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ
ตามความสามารถของตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม
- การร่วมกาหนดข้อตกลง แก้ปัญหา
1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
ของห้องเรียน
- การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
- การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชิก สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
ทีด่ ขี องห้องเรียน
1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
- การให้ความร่วมมอื ใน แสวงหาความรู้

การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

\ ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
จาเพ่ือใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ยงั้ คิดไตร่ตรอง
สร้างเสริม EF จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมนิ ตนเอง
ทักษะปฏิบัติ
ทักษะพนื้ ฐาน
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหาได้
3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องตา่ งๆ
4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

วิธีการจดั กจิ กรรม
1. ครูแนะนาเกม จบั คู่ภาพผกั ทีม่ ีลกั ษณะสีเดียวกนั โดยให้ดภู าพท่สี มบรู ณ์ และสนทนาจากภาพ
2. ครูสาธิตวิธีการเลน่ โดยให้เด็กมีสว่ นร่วมด้วย และแนะนาทบทวนเกมอนื่ ๆ ทเี่ คยเลน่ มาแล้ว
3. ครูแบง่ กลมุ่ เด็ก กลมุ่ ละ 2-3 คน โดยให้เดก็ เลอื กเองหรือตามความเหมาะสม และสร้างข้อตกลงในการเลน่ อยา่ งง่าย ๆ เช่น
- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่
- รู้จกั รอคอยตอ่ จากเพ่อื น
- เลน่ กนั เบาๆ ไมท่ าลายให้เสยี หาย
- เม่อื ได้ยินสญั ญาณหยดุ (เสยี งเคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บเกมเข้าท่ี และมานง่ั รวมกนั ท่ีหน้าห้อง
4. ครูให้เดก็ กลมุ่ แรกเลน่ เกม จบั คู่ภาพผกั ทีม่ ีลกั ษณะสีเดียวกนั กลมุ่ ท่เี หลอื เลน่ เกมท่ีเคยเลน่ มาแล้วเลน่ เสร็จให้หมนุ เวียนกนั
เลน่ จนครบทกุ เกม เม่ือได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ให้เก็บเกมเข้าท่ี และมานง่ั รวมกนั ที่หน้าห้อง
5. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนา และให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ สงิ่ ทไ่ี ด้เลน่ ความรู้สกึ ตา่ งๆ ชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เกม จบั คภู่ าพผกั ที่มลี กั ษณะสเี ดยี วกนั
2. เกมเก่าทเี่ คยเลน่ มาแล้ว
3. เครื่องเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตการใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหา
3. สงั เกตการพฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องตา่ งๆ
4. สงั เกตคณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

ภาคผนวก

เพลง ผกั จ้า นนั่ ผกั กาด น่ีแตงกวา
ซือ้ ซิจ๊ะ ผกั สดสะอาด มะเขอื ยาว กะหลา่ ปลี
โนน่ คะน้า ถว่ั ฝักยาว

(เบญจา แสงมลิ)

เกมการศกึ ษา

เกม จับค่ภู าพผกั ท่ีมลี ักษณะสเี ดยี วกนั

*ครูสามารถยอ่ หรือขยายภาพได้ตามความเหมาะสม

กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ

สาระท่ีควรเรียนรู้

การเคลอื่ นไหวร่างกายตามคาบรรยาย

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 - - - 8.1,8.2, - 10.3 11.2 12.1

8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.1 การใช้ 1.2.4 การแสดงออกทาง 1.3.4 การมีปฏสิ มั พนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ อารมณ์ มวี นิ ัย มีส่วนร่วม และ - การฟังเพลง

- การเคลอ่ื นไหวอยู่ - การเคลอ่ื นไหวตาม บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
กบั ท่ี สงั คม - การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ นภาษา
- การเคลอื่ นไหว เสยี งเพลง/ดนตรี - การร่วมกาหนดข้อตกลง
เคลอื่ นท่ี - การร้องเพลง ของห้องเรียน ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว
1.1.3 การรักษา 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การให้ความร่วมมือใน
สุขภาพอนามยั เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
ส่วนตวั มคี วามสามารถ 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้
- การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

- การปฏบิ ตั ติ วั ตาม ตามความสามารถของตวั เอง ความเหมอื นและความ

สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั แตกต่างระหว่างบคุ คล
ทีด่ ีในกิจวตั ร - การเลน่ หรือทากิจกรรม
ประจาวนั ร่วมกบั กลมุ่ เพือ่ น

1.1.5 การ

ตระหนักรู้

เก่ยี วกบั ร่างกาย

ตวั เอง

- การเคลอ่ื นไหว

โดยควบคมุ ตวั เอง

ไปในทิศทาง ระดบั

และพนื ้ ที่

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมือทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏบิ ตั ิ จาเพอื่ ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมินตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ฝึกทกั ษะการใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. ฝึกทกั ษะการเคลอ่ื นไหวแบบผ้นู า ผ้ตู าม
3. สนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

วธิ ีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เด็กเคลอื่ นไหวร่างกายโดยไมใ่ ห้ชนกนั
2. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคลอื่ นไหวร่างกายในทา่ ตา่ งๆ ให้เพือ่ นทาทา่ ตาม
3. ครูเปิ ดเพลงบรรเลงเบาๆ แล้วสมุ่ เรียกเด็กออกมาทลี ะ 1-2 คน ออกมาเป็ นผ้นู าเคลอ่ื นไหวในทา่ ตา่ งๆ ให้เพือ่ นทาตามสลบั กบั
การให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาเป็นผ้นู าตามความสนใจ ครูคอยดแู ลให้เด็กทกุ คนได้มโี อกาสออกมาเป็ นผ้นู าเคลอ่ื นไหวร่างกาย
จนครบทกุ คน
4. ครูให้เดก็ นงั่ พกั ในทา่ ท่สี บาย แล้วสนทนาซกั ถามวา่ ทาอะไรบ้าง และรู้สกึ อยา่ งไร

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
เพลงบรรเลง

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตการเคลอื่ นไหวแบบผ้นู า ผ้ตู าม
3. สงั เกตความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

กจิ กรรมเสริมประสบการณ์

สาระท่ีควรเรียนรู้

ผกั สด ก่อนที่เราจะนามาปรุงอาหาร เราควรล้างผกั ให้สะอาดและหนั่ เป็ นชิน้ เลก็ ๆ ให้พอดคี า เพื่อจะรับประทานได้งา่ ยๆ เรา

สามารถนาผกั ไปชบุ แป้ งทอด และต้มเพ่อื ให้รับประทานได้ง่ายอกี ด้วย

คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2

ประสบการณ์สาคญั

1.1.3 การรักษา 1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา
สุขภาพอนามัย เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง มวี นิ ัย มีส่วนร่วม และ - การฟังเพลง
ส่วนตวั มคี วามสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสงั คม
- การปฏิบตั ิตวั ตาม - การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การปฏิบตั ิตวั เป็ นสมาชิก - การพดู แสดงความคดิ เห็น ความรู้สกึ

สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั ตามความสามารถของตวั เอง ท่ีดขี องห้องเรียน - การพดู อธิบายเก่ียวกบั สง่ิ ของ เหตกุ ารณ์
ทดี่ ีในกิจวตั ร
- การให้ความร่วมมอื ใน และความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ
ประจาวนั
การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล
การตัดสินใจและแก้ปัญหา
1.3.5 การเล่นและทางาน - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ
แบบร่วมมอื ร่วมใจ
- การร่วมสนทนาและ เปลยี่ นแปลง และความสมั พนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ

แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ โดยใช้ประสาทสมั ผสั

- การเลน่ และทางาน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
แสวงหาความรู้
ร่วมกบั ผ้อู ่นื - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างบคุ คล

- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพ่ือน

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมือทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏบิ ตั ิ จาเพ่อื ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคิด ยงั้ คิดไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมินตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถบอกลกั ษณะของผกั สดได้

2. สนทนาและตอบคาถามได้

ขัน้ นา
1. ครูให้เดก็ ดู หนงั สือเสริมฯ สนกุ เล่น เก่ง คิด “ธรรมชาติรอบตวั ” หนา้ ที่ 35 “กินผกั ดีมีประโยชน์” และสนทนากบั เดก็ โดยใช้
คาถามดงั นี ้

 เดก็ ๆ รู้จกั ช่ือผกั เหลา่ นหี ้ รือไม่ เรียกวา่ อะไรบ้าง
 เด็กๆ ชอบกินผกั ชนดิ ไหนมากทส่ี ดุ
 ถ้าเราจะกินผกั เราต้องทาอยา่ งไรบ้าง
ขัน้ สอน
2. ครูให้เดก็ สงั เกตผกั ชนิดตา่ งๆ และจดั กิจกรรม Cooking โดยเด็กๆ ชว่ ยกนั ล้างผกั ให้สะอาด และครูสาธิตการต้มผกั ให้เดก็ ดู ให้
เดก็ ๆ ชว่ ยกนั นาผกั จดั ใสจ่ านให้สวยงาม จากนนั้ ให้เดก็ ๆ ชิมผกั ต้ม และออกมาบอกความรู้สกึ ท่ไี ด้รับประทานผกั ให้เพื่อนๆ ได้
ฟังหน้าห้อง
3. ครูและเดก็ ร่วมกนั สนทนาวา่ ผกั สด ก่อนทเ่ี ราจะนามาปรุงอาหาร เราควรล้างผกั ให้สะอาดและหน่ั เป็ นชิน้ เลก็ ๆ ให้พอดีคาเพอื่ จะ
กินได้ง่ายๆ เราสามารถนาผกั ไปชบุ แป้ งทอด และต้มเพ่อื ให้รับประทานได้งา่ ยอกี ด้วย
ขัน้ สรุป
4. ครูและเดก็ ร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั เร่ือง ผกั สด อีกครงั้ และให้เด็กทากิจกรรมใน หนงั สือเสริมฯ สนกุ เล่น เก่ง คิด “ธรรมชาติรอบตวั ”
หนา้ ที่ 35 “กินผกั ดีมีประโยชน์” สนทนาจากภาพ สงั เกตภาพเลอื กวงกลมล้อมรอบภาพทม่ี จี านวนผกั เยอะทส่ี ดุ และฝึกลากเส้น
ตามตวั เลข

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เสริมฯ สนกุ เลน่ เก่ง คดิ “ธรรมชาตริ อบตวั ”
2. สเี ทยี น
3. ผกั ชนิดตา่ งๆ
4. หม้อต้ม
5. จาน ชามสาหรับใสผ่ กั

ประเมินผล
1. สงั เกตการบอกลกั ษณะของผกั สด
2. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม
3. สงั เกตผลงานในใบงาน

กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์

สาระท่คี วรเรียนรู้

กิจกรรม ทคี่ าดหวั ผกั แปลงร่าง

คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ มฐ.10 มฐ.11

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 - 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1
8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา
- การฟังเสยี งตา่ งๆ ในสง่ิ แวดล้อม
กล้ามเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศิลปะตา่ งๆ ประจาวนั
- การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา
- การเขียนภาพและ - การสร้างสรรค์สงิ่ สวยงาม - การชว่ ยเหลอื ตวั เองใน 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- การสร้างสรรค์ชิน้ งานโดยใช้รูปร่าง รูปทรง
การเลน่ กบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง กิจวตั รประจาวนั
จากวสั ดทุ หี่ ลากหลาย
อารมณ์ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
แสวงหาความรู้
- การทางานศิลปะ มีวินัย มีส่วนร่วม และ - การตงั้ คาถามในเรื่องท่สี นใจ

1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์ บทบาทสมาชกิ ของ

เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง สังคม

มคี วามสามารถ - การร่วมกาหนดข้อตกลง

- การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ของห้องเรียน

ตามความสามารถของตวั เอง - การให้ความร่วมมอื ใน

การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ

1.3.5 การเล่นและทางาน
แบบร่ วมมือร่ วมใจ
- การร่วมสนทนาและ

แลกเปลยี่ นความคิดเห็น

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมือทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏบิ ตั ิ จาเพอื่ ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ยงั้ คิดไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ประดิษฐ์ชิน้ งานจากวสั ดตุ า่ งๆ รอบตวั ได้
2. มคี วามคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

3. ทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู ่นื ได้

4. สนทนาและเลา่ เรื่องราวสนั้ ๆ ได้

วิธีการจดั กิจกรรม
1. ครูแนะนากิจกรรมและอปุ กรณ์ในการประดิษฐ์ทค่ี าดหวั ผกั แปลงร่างและให้เดก็ พดู ตาม ได้แก่ กระดาษแขง็ ภาพผกั ชนดิ ตา่ งๆ
กาว ผ้ากนั เปื อ้ น ผ้าเช็ดมอื
2. ครูสาธิตและอธิบายการประดิษฐ์ทคี่ าดหวั ผกั แปลงร่าง โดยให้เดก็ คดิ วางแผน นาภาพผกั มาระบายสีตกแตง่ ตามจินตนาการ
ใช้กาวเป็ นตวั เชื่อมตอ่ ให้ติดกนั กบั ที่คาด และทดลองสวมท่ีศีรษะโดยครูคอยดแู ลอยา่ งใกล้ชิด
3. ครูและเด็กร่วมกนั สร้างข้อตกลงอยา่ งงา่ ยๆ ในการทากิจกรรม เช่น แบง่ ปันของใช้ร่วมกนั ทากจิ กรรมเสร็จชว่ ยกนั เก็บเข้าท่ี
จากนนั้ ให้เดก็ คดิ ก่อนวา่ จะใช้สอี ะไรฝนสเี ปลอื กไม้
4. เด็กลงมอื ทากิจกรรม เม่อื ทาผลงานเสร็จ ให้ตงั้ ช่ือผลงาน และออกมาบอกเลา่ และความรู้สกึ ทมี่ ีตอ่ ผลงาน แล้วนามาตดิ ทม่ี มุ
แสดงผลงาน
5. เด็กทกุ คนชว่ ยกนั เก็บอปุ กรณ์ให้เรียบร้อย

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. ภาพผกั ชนดิ ตา่ งๆ
2. กาว
3. กระดาษแข็ง
4. ผ้าเช็ดมือ
5. ผ้ากนั เปื อ้ น

ประเมินผล
1. สงั เกตการประดษิ ฐ์ชิน้ งานจากวสั ดตุ า่ งๆ รอบตวั
2. สงั เกตการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู ่ืน
3. สงั เกตการสนทนาและการเลา่ เร่ืองราวเก่ียวกบั ผลงาน

กิจกรรมเล่นตามมุม

สาระท่คี วรเรียนรู้

การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสให้เด็กเลน่ อิสระตามมมุ ประสบการณ์หรือศนู ย์การเรียน ทีจ่ ดั ไว้ในห้องเรียน เชน่ มมุ

บลอ็ ก มมุ วิทยาศาสตร์หรือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บ้าน มมุ หนงั สอื มมุ ศลิ ปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็ นต้น

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวนั - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา

- การเลน่ เครื่องเลน่ 1.2.2 การเล่น - การปฏิบตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

สมั ผสั และการสร้าง - การเลน่ อสิ ระ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

สง่ิ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ

บลอ็ ก และกลมุ่ ใหญ่ 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ
- การหยบิ จบั สง่ิ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล
ตา่ งๆ การร้อยวสั ดุ - การใช้วสั ดแุ ละสงิ่ ของ การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา
1.1.5 การ ประสบการณ์/มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การเลน่ กบั สอื่ ตา่ งๆ ท่ีเป็ นทรงกลม ทรง
ตระหนักรู้ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เคร่ืองใช้อยา่ งค้มุ คา่ สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ
ตัวเอง ศาสนาทีน่ บั ถือ มวี นิ ัย มีส่วนร่วม และ แก้ปัญหา
- การเคลอื่ นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
โดยควบคมุ ตวั เอง อารมณ์ - การร่วมกาหนดข้อตกลง - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
ไปในทิศทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
และพนื ้ ที่ 1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์ ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง แสวงหาความรู้
มีความสามารถ - การให้ความร่วมมอื ใน - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ

ตามความสามารถของตวั เอง

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมือทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏิบัติ จาเพ่ือใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมินตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สง่ เสริมให้เด็กพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกและสง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ แก้ปัญหา การคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล
4. สง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากิจกรรม

วธิ ีการจดั กิจกรรม

1. เดก็ และครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณ์ตา่ งๆ ในห้องเรียน และให้คิดวางแผนการเล่น วา่ จะเลน่ อะไรตามลาดบั ความสนใจ

ของตวั เอง

2. เด็กและครูร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เช่น

- เดก็ ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เมอื่ เลน่ เสร็จเก็บของเลน่ เข้าที่

- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้เสยี หาย

- รู้จกั ขอบคณุ เมื่อครูช่วยเหลอื ขอบใจเมื่อเพ่อื นชว่ ยเหลอื และขอโทษเมอ่ื ทาให้ผ้อู น่ื เจ็บหรือเดอื ดร้อน

- เมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บของเลน่ ทนั ทแี ละมานงั่ รวมกนั ที่หน้าห้อง

3. เดก็ ๆ เลอื กเลน่ ตามที่คดิ ไว้อยา่ งอสิ ระ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง และเมื่อได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เก็บของเข้าทใี่ ห้เรียบร้อยและมานง่ั

รวมกนั ท่หี น้าห้อง

4. ครูให้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถงึ สง่ิ ท่ีตวั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแก้ปัญหาอยา่ งไร

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. มมุ ประสบการณ์ในห้องเรียน
2. อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในมมุ ประสบการณ์
3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ

ประเมินผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมอื กบั ตา
2. สงั เกตการพฒั นาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการรู้จกั คดิ แก้ปัญหา การคดิ อยา่ งมีเหตผุ ล
4. สงั เกตการคดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากิจกรรม

กจิ กรรมกลางแจ้ง

สาระท่ีควรเรียนรู้

การเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม เด็กได้มีโอกาสออกไปนอกห้องเรียนเพอื่ ออกกาลงั เคลอ่ื นไหวร่างกายและแสดงออกอยา่ งอิสระใน

การเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็ นหลกั

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.2 การดูแลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การเลน่ อิสระ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา

- การเคลอื่ นไหว - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การมีสว่ นร่วมรับผิดชอบ - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

อยกู่ บั ที่ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรักษาสงิ่ แวดล้อมทงั้ ความต้องการ

- การเคลอื่ นไหว - การเลน่ นอกห้องเรียน ภายในและภายนอกห้องเรียน - การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการ

เคลอื่ นที่ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ กระทาตา่ งๆ

- การเลน่ เครื่องเลน่ - การปฏิบตั ิตวั ตามหลกั เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล

สนามอยา่ งอสิ ระ ศาสนาทน่ี บั ถือ 1.3.4 การมีปฏิสัมพันธ์ การตัดสินใจและแก้ปัญหา

1.1.4 การรักษา 1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์ มีวนิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ
ความปลอดภยั เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง
- การเลน่ เครื่องเลน่ มีความสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสังคม แก้ปัญหา
- การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - การร่วมกาหนดข้อตกลง 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
อยา่ งปลอดภยั
ของห้องเรียน - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น

1.1.5 การ ตามความสามารถของตวั เอง - การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชกิ สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน

ตระหนักรู้ ท่ดี ขี องห้องเรียน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การให้ความร่วมมือใน แสวงหาความรู้
ตัวเอง การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การเคลอ่ื นไหว 1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมอื นและความ
โดยควบคมุ ตวั เอง แตกต่างระหว่างบุคคล

ไปในทิศทาง ระดบั

และพนื ้ ที่ - การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพ่อื น

สร้างเสริม EF

ทักษะปฏิบตั ิ ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย

ทักษะพนื้ ฐาน จาเพ่อื ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง

ทกั ษะกากบั ตนเอง จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมนิ ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนือ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมอื กบั ตา
2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู ่ืน
3. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย
4. สง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม
5. สง่ เสริมให้เดก็ มโี อกาสปฏสิ มั พนั ธ์กบั เพ่ือนๆ และสงิ่ แวดล้อม

วิธีการจดั กจิ กรรม

1. เดก็ และครูร่วมกนั อบอนุ่ ร่างกายด้วยการออกกายบริหารในการเคลอ่ื นไหวอยกู่ บั ที่

2. ครูแนะนาการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งถกู วิธี และปลอดภยั ให้เด็กฟังพร้อมสาธิตให้ดู แล้วร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เครื่อง

เลน่ สนาม เช่น

 เลน่ อยา่ งถกู วธิ ี ไมเ่ ลน่ โลดโผน  เลน่ ร่วมกนั ไมท่ ะเลาะกนั

 เข้าแถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพ่ือน  ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไม้มาเลน่

 รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่  รู้จกั ขอบคณุ เม่ือครูช่วยเหลอื ขอบใจเมือ่ เพือ่ น

 เลน่ เครื่องเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้ ชว่ ยเหลอื และขอโทษเมอ่ื ทาให้ผ้อู ื่นเจ็บหรือ
เสยี หาย เดือดร้ อน

3. ครูให้เดก็ คดิ วางแผนการเลน่ เครื่องเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ให้เลน่ ตามทคี่ ดิ วางแผนไว้อยา่ งอสิ ระ ปฏิบตั ิตาม

ข้อตกลง และเมื่อได้ยินเสยี งนกหวดี ให้หยดุ เลน่ แล้วมาเข้าแถวทห่ี น้าสนามเด็กเลน่

4. ครูให้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถงึ สง่ิ ทีต่ วั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาที่พบ รวมถงึ วิธีแก้ปัญหาอยา่ งไร

5. ครูให้เดก็ ๆ เตรียมตวั เข้าแถว ไปล้างมอื แล้วทากจิ กรรมอ่นื ตอ่ ไป

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เครื่องเลน่ สนาม

2. นกหวดี

ประเมินผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมอื กบั ตา
2. สงั เกตทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู ื่น
3. สงั เกตการมคี ณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย
4. สงั เกตการรู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม
5. สงั เกตการปฏสิ มั พนั ธ์กบั เพอื่ นๆ และสงิ่ แวดล้อม

กิจกรรมเกมการศกึ ษา

สาระท่ีควรเรียนรู้

เกม จบั คภู่ าพผกั กบั เงา

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 - 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.1 การปฏิบัติกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ อิสระ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา

- การหยิบจบั สงิ่ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

ตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพยี ง - การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการ

- การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ
ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม - การเลน่ เกมทางภาษา
ศาสนาท่ีนบั ถือ - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล

1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์

เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ การตัดสินใจและแก้ปัญหา

มคี วามสามารถ 1.3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ - การจบั คู่

- การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ มีวินัย มสี ่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
ตามความสามารถของตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม
- การร่วมกาหนดข้อตกลง แก้ปัญหา
1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ของห้องเรียน
- การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
- การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชกิ สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
ท่ีดขี องห้องเรียน
1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
- การให้ความร่วมมอื ใน แสวงหาความรู้

การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏบิ ัติ จาเพื่อใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมินตนเอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน

ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหาได้
3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องตา่ งๆ
4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

วธิ ีการจดั กิจกรรม
1. ครูแนะนาเกม จบั คู่ภาพผกั กบั เงา โดยให้ดภู าพทสี่ มบรู ณ์จากเกม
2. ครูสาธิตวธิ ีการเลน่ โดยให้เด็กมีสว่ นร่วมด้วยและแนะนาทบทวนเกมอนื่ ๆ ทเี่ คยเลน่ มาแล้ว
3. ครูแบง่ กลมุ่ เดก็ กลมุ่ ละ 2-3 คน โดยให้เดก็ เลอื กเองหรือตามความเหมาะสมและสร้างข้อตกลงในการเลน่ อยา่ งงา่ ยๆ เช่น
- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่
- รู้จกั รอคอยตอ่ จากเพื่อน
- เลน่ กนั เบาๆ ไมท่ าลายให้เสยี หาย
- เมื่อได้ยินสญั ญาณหยดุ (เสยี งเคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บเกมเข้าที่ และมานงั่ รวมกนั ที่หน้าห้อง
4. ครูให้เดก็ กลมุ่ แรกเลน่ เกม จบั คู่ภาพผกั กบั เงา กลมุ่ ทีเ่ หลอื เลน่ เกมที่เคยเลน่ มาแล้วหลงั จากเลน่ เสร็จให้หมนุ เวยี นกนั เลน่ จนครบทกุ
เกม เม่ือได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ให้เก็บเกมเข้าท่ี และมานงั่ รวมกนั ทหี่ น้าห้อง
5. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนา และให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ สง่ิ ท่ไี ด้เลน่ ความรู้สกึ ตา่ งๆ ชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. เกม จบั คภู่ าพผกั กบั เงา
2. เกมเกา่ ทเี่ คยเลน่ มาแล้ว
3. เครื่องเคาะจงั หวะ

ประเมินผล
1. สงั เกตการพฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตการใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหา
3. สงั เกตการพฒั นาทกั ษะทางสตปิ ัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองตา่ งๆ
4. สงั เกตคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

เกมการศกึ ษา ภาคผนวก

เกม จับค่ภู าพผักกบั เงา

.
*ครูสามารถยอ่ หรือขยายภาพได้ตามความเหมาะสม

กิจกรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ

สาระท่คี วรเรียนรู้

การเคลอื่ นไหวร่างกายแบบผ้นู า ผ้ตู าม

คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 - - - 8.1,8.2, - 10.3 11.2 12.1

8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การร้องเพลง มีวนิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การฟังเพลง

- การเคลอื่ นไหวอยู่ และการแสดงปฏิกิริยา บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
กบั ที่ โต้ตอบเสยี งดนตรี สงั คม - การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผา่ นภาษา
- การเคลอื่ นไหว - การเคลอ่ื นไหวตาม - การร่วมกาหนดข้อตกลง
เคลอื่ นท่ี เสยี งเพลง/ดนตรี ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว
1.1.3 การรักษา 1.2.4 การแสดงออกทาง ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
สุขภาพอนามัย อารมณ์ - การให้ความร่วมมอื ใน แสวงหาความรู้
ส่วนตัว - การเคลอ่ื นไหวตาม - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การปฏบิ ตั ติ วั ตาม เสยี งเพลง/ดนตรี การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ
สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั - การร้องเพลง 1.3.7 การยอมรับใน
ทีด่ ีในกจิ วตั ร 1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์ ความเหมือนและความ
ประจาวนั เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง แตกต่างระหว่างบคุ คล
- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพ่ือน

1.1.5 การ มคี วามสามารถ

ตระหนักรู้ - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ

เก่ยี วกับร่างกาย ตามความสามารถของตวั เอง
ตัวเอง

- การเคลอื่ นไหว

โดยควบคมุ ตวั เอง

ไปในทิศทาง ระดบั

และพนื ้ ที่

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏิบัติ จาเพอื่ ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ฝึกทกั ษะการใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. ฝึกทกั ษะการเคลอื่ นไหวแบบผ้นู า ผ้ตู าม
3. สนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

วิธีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายโดยไมใ่ ห้ชนกนั
2. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคลอื่ นไหวร่างกายในทา่ ตา่ งๆ ให้เพอ่ื นทาทา่ ตาม
3. ครูเปิ ดเพลงบรรเลงเบาๆ แล้วสมุ่ เรียกเดก็ ออกมาทลี ะ 1-2 คน ออกมาเป็ นผ้นู าเคลอื่ นไหวในทา่ ตา่ งๆ ให้เพอ่ื นทาตามสลบั กบั การ
ให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาเป็ นผ้นู าตามความสนใจ ครูคอยดแู ลให้เด็กทกุ คนได้มโี อกาสออกมาเป็ นผ้นู าเคลอื่ นไหวร่างกาย จนครบ
ทกุ คน
4. ครูให้เดก็ นง่ั พกั ในทา่ ท่ีสบาย แล้วสนทนาซกั ถามวา่ ทาอะไรบ้าง และรู้สกึ อยา่ งไร

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
เพลงบรรเลง

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตการเคลอ่ื นไหวแบบผ้นู า ผ้ตู าม
3. สงั เกตความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

กิจกรรมเสริมประสบการณ์

สาระท่คี วรเรียนรู้

ผกั มีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย ให้วิตามิน ชว่ ยให้ผวิ พรรณสดใส และชว่ ยในเรื่องของการขบั ถา่ ยทด่ี ี ผกั มมี ากมายหลายชนิดแตล่ ะ

ชนิดมีประโยชนต์ อ่ ร่างกายของเรา ทาให้เราเจริญเติบโตและร่างกายแขง็ แรง

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2

ประสบการณ์สาคญั

1.1.3 การรักษา 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา
สุขภาพอนามัย เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง มีวินัย มสี ่วนร่วม และ - การฟังเพลง
ส่วนตวั มคี วามสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสังคม - การพดู แสดงความคดิ เห็น ความรู้สกึ
- การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ - การปฏิบตั ิตวั เป็ นสมาชกิ - การพดู อธิบายเก่ียวกบั สงิ่ ของ เหตกุ ารณ์

สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั ตามความสามารถของตวั เอง ทดี่ ีของห้องเรียน และความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ
ทีด่ ใี นกจิ วตั ร 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล
- การให้ความร่วมมือใน การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา
ประจาวนั - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ
การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ

1.3.5 การเล่นและทางาน โดยใช้ประสาทสมั ผสั
แบบร่ วมมือร่ วมใจ - การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ ใน
- การร่วมสนทนาและ ชีวิตประจาวนั
แลกเปลย่ี นความคิดเห็น - การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กบั เหตกุ ารณ์ใน

- การเลน่ และทางาน ชีวิตประจาวนั
1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
ร่วมกบั ผ้อู ื่น แสวงหาความรู้
- การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมือนและความ
แตกต่างระหว่างบุคคล

- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพื่อน

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏบิ ัติ จาเพอื่ ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมนิ ตนเอง
ทักษะพนื้ ฐาน

ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถบอกประโยชน์ของผกั ได้
2. สนทนาและตอบคาถามได้

วิธีการจดั กจิ กรรม
ขัน้ นา

1. ครูให้เดก็ ๆ ฟังนทิ านเร่ือง “แครอตยกั ษ์ของบิลล”ี่ และตอบคาถามตอ่ ไปนี ้
 ในนทิ าน บิลลแี่ ละแมตตกี ้ าลงั ทาอะไรอยู่
 เด็กๆ เคยเห็นผกั ทเี่ หมือนกนั กบั ของบิลลห่ี รือไม่
 เดก็ ๆ ชอบนทิ านเร่ืองนหี ้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด

ขัน้ สอน
2. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนาวา่ ผกั มีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย ให้วิตามนิ ช่วยให้ผวิ พรรณสดใส และช่วยในเร่ืองของการขบั ถา่ ยทด่ี ี
ผกั มีมากมายหลายชนิดแตล่ ะชนิดมปี ระโยชนต์ อ่ ร่างกายของเรา ทาให้เราเจริญเตบิ โตและร่างกายแขง็ แรง
3. ครูให้เดก็ ดผู กั ชนิดตา่ งๆ ทม่ี ีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย และให้เด็กๆ ทดลองชิมผกั สดๆ โดยทกุ ครัง้ ครูแสดงวิธีการล้างผกั ท่ถี กู ต้องให้
เดก็ ๆ ได้ดู
4. ครูให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ ความรู้สกึ หลงั จากที่ได้ทากิจกรรม ผกั มีประโยชน์ต่อร่างกาย และบอกลกั ษณะของผกั ทมี่ ีประโยชน์
มาคนละ 1 ชนดิ

ขัน้ สรุป
5. ครูและเดก็ ร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั เรื่อง ประโยชน์ของผกั พร้อมกนั อกี ครัง้

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. ผกั สด
2. นทิ านเร่ือง “แครอตยกั ษ์ของบลิ ล”ี่

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการบอกประโยชน์ของผกั
2. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม
3. สงั เกตผลงานในกิจกรรม

กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์

สาระท่คี วรเรียนรู้
กิจกรรม เป่ าสภี าพผกั ให้สดใส

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 - 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1
8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบัติกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา
- การฟังเสยี งตา่ งๆ ในสงิ่ แวดล้อม
กล้ามเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ ประจาวนั
- การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา
- การเขียนภาพและ - การสร้างสรรค์สง่ิ สวยงาม - การชว่ ยเหลอื ตวั เองใน 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- การสร้างสรรค์ชิน้ งานโดยใช้รูปร่าง รูปทรง
การเลน่ กบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง กิจวตั รประจาวนั
จากวสั ดทุ ่ีหลากหลาย
อารมณ์ 1.3.4 การมีปฏิสมั พนั ธ์ 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
แสวงหาความรู้
- การทางานศลิ ปะ มีวินัย มสี ่วนร่วม และ - การตงั้ คาถามในเรื่องทีส่ นใจ

1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์ บทบาทสมาชกิ ของ

เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง สงั คม

มีความสามารถ - การร่วมกาหนดข้อตกลง

- การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ของห้องเรียน

ตามความสามารถของตวั เอง - การให้ความร่วมมือใน
การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ

1.3.5 การเล่นและทางาน
แบบร่วมมอื ร่วมใจ
- การร่วมสนทนาและ

แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็

สร้างเสริม EF

ทกั ษะปฏิบัติ ริเร่ิมลงมือทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จาเพ่ือใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ติดตามประเมินตนเอง

ทักษะกากบั ตนเอง จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ฝึกทกั ษะการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั

2. มคี วามคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกทกั ษะการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู ื่น

4. ฝึกทกั ษะการสนทนาและการเลา่ เร่ืองราวเก่ียวกบั ผลงานตนเองได้

วิธีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เดก็ นงั่ เป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แล้วแจกอปุ กรณ์ในการทากิจกรรมให้เดก็ ทกุ กลมุ่
2. ครูแนะนากิจกรรมและอปุ กรณ์ในการเป่ าสภี าพผกั ให้สดใส และให้เดก็ พดู ชื่ออปุ กรณ์ตามดงั นี ้
กระดาษ 100 ปอนด์ สนี า้ ผ้าเช็ดมือ ผ้ากนั เปื อ้ น สเี ทยี น หลอดกาแฟ
3. ครูให้เดก็ หยดสภี าพและเป่ าสใี ห้เป็ นรูปผกั ตามจินตนาการ และใช้สเี ทยี นวาดตอ่ เตมิ ให้สวยงาม
4. ครูเน้นยา้ ให้ระมดั ระวงั ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม เช่น ไมใ่ ช้มือท่ีเปื อ้ นสขี ยีต้ าหรือสมั ผสั ใบหน้า ไมใ่ ช้มือท่ีเปื อ้ นสสี มั ผสั เสอื ้ ผ้าของ
ตนเองและผ้อู ื่น
5. เม่ือทาผลงานเสร็จ เดก็ นาผลงานตวั เองมาเลา่ ให้เพ่อื นฟังหน้าชนั้ เรียน ครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงานและนาผลงานมาตดิ ทมี่ มุ แสดง
ผลงาน
6. เด็กๆ ชว่ ยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณ์เข้าที่ และทาความสะอาดโต๊ะกจิ กรรม

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. กระดาษ 100 ปอนด์
2. สเี ทยี น
3. สนี า้
4. ผ้าเช็ดมือ
5. ผ้ากนั เปื อ้ น
6. หลอดกาแฟ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตผลงานมีความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู นื่
4. สงั เกตการสนทนาและการเลา่ เร่ืองราวเก่ียวกบั ผลงาน

กิจกรรมเล่นตามมุม

สาระท่คี วรเรียนรู้

การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสให้เดก็ เลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณ์หรือศนู ย์การเรียน ทจ่ี ดั ไว้ในห้องเรียน เชน่ มมุ

บลอ็ ก มมุ วทิ ยาศาสตร์หรือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บ้าน มมุ หนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็ นต้น

คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวนั - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา

- การเลน่ เครื่องเลน่ 1.2.2 การเล่น - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

สมั ผสั และการสร้าง - การเลน่ อสิ ระ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

สงิ่ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ

บลอ็ ก และกลมุ่ ใหญ่ 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ
- การหยบิ จบั สง่ิ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล
ตา่ งๆ การร้อยวสั ดุ - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ การตัดสินใจและแก้ปัญหา
1.1.5 การ ประสบการณ์/มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การเลน่ กบั สอื่ ตา่ งๆ ท่เี ป็ นทรงกลม ทรง
ตระหนักรู้ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เคร่ืองใช้อยา่ งค้มุ คา่ สเี่ หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การปฏิบตั ิตวั ตามหลกั 1.3.4 การมปี ฏิสมั พนั ธ์ - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ
ตัวเอง ศาสนาท่ีนบั ถือ มีวินัย มสี ่วนร่วม และ แก้ปัญหา
- การเคลอ่ื นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
โดยควบคมุ ตวั เอง อารมณ์ - การร่วมกาหนดข้อตกลง - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
ไปในทศิ ทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
และพนื ้ ท่ี 1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์ ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง แสวงหาความรู้
มีความสามารถ - การให้ความร่วมมอื ใน - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ

ตามความสามารถของตวั เอง

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
จาเพ่อื ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คิดไตร่ตรอง
ทักษะปฏบิ ัติ จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมินตนเอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สง่ เสริมให้เดก็ พฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกและสง่ เสริมให้เด็กรู้จกั คดิ แก้ปัญหา การคิดอยา่ งมเี หตผุ ล
4. สง่ เสริมให้เด็กรู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม

วธิ ีการจดั กจิ กรรม

1. เดก็ และครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณ์ตา่ งๆ ในห้องเรียน และให้คดิ วางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไรตามลาดบั ความสนใจ

ของตวั เอง

2. เดก็ และครูร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เชน่

- เด็กไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เมือ่ เลน่ เสร็จเก็บของเลน่ เข้าท่ี

- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้เสยี หาย

- รู้จกั ขอบคณุ เมอื่ ครูชว่ ยเหลอื ขอบใจเมอ่ื เพอ่ื นช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาให้ผ้อู ่ืนเจ็บหรือเดอื ดร้อน

- เมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บของเลน่ ทนั ที และมานง่ั รวมกนั ทหี่ น้าห้อง

3. เด็กๆ เลอื กเลน่ ตามทีค่ ดิ ไว้อยา่ งอสิ ระ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง และเมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เก็บของเข้าท่ใี ห้เรียบร้อย และมานง่ั

รวมกนั ทหี่ น้าห้อง

4. ครูให้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถงึ สงิ่ ที่ตวั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแก้ปัญหาอยา่ งไร

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. มมุ ประสบการณ์ในห้องเรียน
2. อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในมมุ ประสบการณ์
3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สงั เกตการพฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการรู้จกั คิดแก้ปัญหา การคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล
4. สงั เกตการคดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม