27 หน่วย ผักและผลไม้

กิจกรรมกลางแจ้ง

สาระท่คี วรเรียนรู้

เกม เดินหนีบผกั

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.2 การดูแลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การเลน่ อสิ ระ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา

- การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การมีสว่ นร่วมรับผิดชอบ - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

อยกู่ บั ท่ี และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรักษาสง่ิ แวดล้อมทงั้ ความต้องการ

- การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ นอกห้องเรียน ภายในและภายนอกห้องเรียน - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ

เคลอ่ื นที่ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ กระทาตา่ งๆ

- การเลน่ เคร่ืองเลน่ - การปฏิบตั ิตนตามหลกั เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล

สนามอยา่ งอสิ ระ ศาสนาทนี่ บั ถือ 1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ การตดั สินใจและแก้ปัญหา

1.1.4 การรักษา 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
ความปลอดภยั เฉพาะตนและเช่ือว่า
- การเลน่ เคร่ืองเลน่ ตนเองมคี วามสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสงั คม แก้ปัญหา
- การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ - การร่วมกาหนดข้อตกลง 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
อยา่ งปลอดภยั
ของห้องเรียน - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น

1.1.5 การ ตามความสามารถของตนเอง - การปฏบิ ตั ิตนเป็ นสมาชิก สอ่ื วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน

ตระหนักรู้ ที่ดีของห้องเรียน 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การให้ความร่วมมอื ใน แสวงหาความรู้
ตนเอง การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การเคลอ่ื นไหว 1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมอื นและความ
โดยควบคมุ ตนเอง แตกต่างระหว่างบุคคล

ไปในทิศทาง ระดบั

และพนื ้ ท่ี - การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพื่อน

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏบิ ัติ จาเพอ่ื ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคิด ยงั้ คิดไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมินตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ในการเคลอ่ื นไหวได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่
2. ฝึกการปรับตวั อยรู่ ่วมกบั ผ้อู นื่ โดยรู้จกั การรอคอย เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงได้
3. สนทนาและเลา่ เรื่องราวสนั้ ๆ ได้
4. เรียนรู้สงิ่ ตา่ งๆ จากการเลน่ คิดแก้ปัญหาและตดั สนิ ใจอยา่ งงา่ ยๆ ได้

วิธีการจดั กิจกรรม
1. ครูและเด็กสนทนาถงึ ข้อตกลงในการปฏิบตั ิตนเม่อื ลงไปเลน่ ทส่ี นาม เชน่ เดนิ แถวอยา่ งเป็ นระเบียบ ไมส่ ง่ เสยี งดงั ครูพา
เดก็ เดินไปทส่ี นาม
2. ครูแนะนาเกม เดินหนีบผกั กบั เดก็ และสนทนาเก่ียวกบั กฎ กตกิ าในการเลน่ เกม เดินหนีบผกั
3. ครูให้อาสาสมคั รเดก็ ออกมาสาธิตการหนีบผกั ให้เพ่อื นๆ ดู โดยนาผกั จาลองแล้วใช้อวยั วะของร่างกายหนบี ผกั ไมใ่ ห้หลน่ เดก็ เดนิ
จากจดุ ทกี่ าหนดให้ไปอีกจดุ หนงึ่ โดยครูคอยดแู ลอยา่ งใกล้ชิด เดก็ ผลดั กนั เลน่ เกมจนครบทกุ คน
4. ทาเชน่ นไี ้ ปเรื่อยประมาณ 2-3 รอบ หรือตามความเหมาะสม เมื่อได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้หยดุ เลน่ และมานงั่ พกั ผอ่ น
5. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนา และให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ สง่ิ ท่ไี ด้เลน่ ความรู้สกึ ตา่ งๆ ชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด
6. ครูให้เดก็ ๆ เตรียมตวั เข้าแถว ไปล้างมอื แล้วทากจิ กรรมอ่ืนตอ่ ไป

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. ผกั จาลอง
2. นกหวีด

ประเมินผล
1. สงั เกตการเคลอ่ื นไหวร่างกายและการทรงตวั
2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู ื่น ในการรอคอย เออื ้ เฟือ้ แบ่งปัน และปฏิบตั ิตามข้อตกลง
3. สงั เกตพฤติกรรมการเลน่ การคิดแก้ปัญหาและตดั สนิ ใจ
4. สงั เกตการสนทนาและการเลา่ เรื่องราวเกี่ยวกบั การเลน่

กิจกรรมเกมการศึกษา

สาระท่คี วรเรียนรู้

เกม สงั เกตภาพผกั นมี ้ ปี ระโยชน์

คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 - 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ อสิ ระ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา

- การหยบิ จบั สง่ิ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

ตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพยี ง - การพดู อยา่ งสร้างสรรค์ในการเลน่ และการ

- การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ
ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม - การเลน่ เกมทางภาษา
ศาสนาท่นี บั ถือ - การใช้วสั ดแุ ละสงิ่ ของ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล

1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์

เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา

มคี วามสามารถ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พันธ์ - การจบั คู่

- การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
ตามความสามารถของตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม
- การร่วมกาหนดข้อตกลง แก้ปัญหา
1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ของห้องเรียน
- การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
- การปฏิบตั ิตวั เป็ นสมาชกิ สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
ทดี่ ขี องห้องเรียน
1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
- การให้ความร่วมมอื ใน แสวงหาความรู้

การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมือทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏิบตั ิ จาเพอ่ื ใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมินตนเอง
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหาได้
3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองตา่ งๆ
4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

วิธีการจดั กจิ กรรม
1. ครูแนะนาเกม สงั เกตภาพผกั นีม้ ีประโยชน์ โดยให้ดภู าพท่ีสมบรู ณ์ และสนทนาจากภาพ
2. ครูสาธิตวธิ ีการเลน่ โดยให้เดก็ มสี ว่ นร่วมด้วย และแนะนาทบทวนเกมอืน่ ๆ ท่เี คยเลน่ มาแล้ว
3. ครูแบง่ กลมุ่ เด็ก กลมุ่ ละ 2-3 คน โดยให้เดก็ เลอื กเองหรือตามความเหมาะสม และสร้างข้อตกลงในการเลน่ อยา่ งงา่ ยๆ เชน่
- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่
- รู้จกั รอคอยตอ่ จากเพื่อน
- เลน่ กนั เบาๆ ไมท่ าลายให้เสยี หาย
- เมือ่ ได้ยินสญั ญาณหยดุ (เสยี งเคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บเกมเข้าท่ี และมานง่ั รวมกนั ที่หน้าห้อง
4. ครูให้เด็กกลมุ่ แรกเลน่ เกม สงั เกตภาพผกั นีม้ ีประโยชน์ กลมุ่ ท่ีเหลอื เลน่ เกมที่เคยเลน่ มาแล้ว เลน่ เสร็จให้หมนุ เวยี นกนั เลน่ จน
ครบทกุ เกม เม่ือได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เก็บเกมเข้าที่ และมานง่ั รวมกนั ท่ีหน้าห้อง
5. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนา และให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ สงิ่ ทีไ่ ด้เลน่ ความรู้สกึ ตา่ งๆ ชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เกม สงั เกตภาพผกั นมี ้ ปี ระโยชน์
2. เกมเกา่ ทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว
3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตการใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหา
3. สงั เกตการพฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองตา่ งๆ
4. สงั เกตคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

นิทาน ภาคผนวก
เกมการศึกษา
แครอตยกั ษ์ของบิลล่ี

เกม สังเกตภาพผกั นีม้ ปี ระโยชน์

*ครูสามารถยอ่ หรือขยายภาพได้ตามความเหมาะสม

กิจกรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ

สาระท่คี วรเรียนรู้

การเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบเพลงตามจินตนาการ

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 - - - 8.1,8.2, - 10.3 11.2 12.1

8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การร้องเพลง มีวินัย มสี ่วนร่วม และ - การฟังเพลง

- การเคลอื่ นไหวอยู่ และการแสดงปฏกิ ิริยา บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
กบั ที่ โต้ตอบเสยี งดนตรี สงั คม - การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผา่ นภาษา
- การเคลอื่ นไหว - การเคลอ่ื นไหวตาม - การร่วมกาหนดข้อตกลง
เคลอ่ื นที่ เสยี งเพลง/ดนตรี ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว
1.1.3 การรักษา 1.2.4 การแสดงออกทาง ของห้องเรียน
สุขภาพอนามัย อารมณ์ 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
ส่วนตัว - การเคลอ่ื นไหวตาม - การให้ความร่วมมือใน แสวงหาความรู้
- การปฏิบตั ติ วั ตาม เสยี งเพลง/ดนตรี การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั - การร้องเพลง 1.3.7 การยอมรับใน
ท่ดี ใี นกจิ วตั ร 1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์ ความเหมือนและความ
ประจาวนั เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง แตกต่างระหว่างบคุ คล
- การเลน่ หรือทากิจกรรม
ร่วมกบั กลมุ่ เพ่ือน

1.1.5 การ มีความสามารถ

ตระหนักรู้ - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ

เก่ยี วกบั ร่างกาย ตามความสามารถของตวั เอง
ตัวเอง

- การเคลอื่ นไหว

โดยควบคมุ ตวั เอง

ไปในทิศทาง ระดบั

และพนื ้ ที่

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมือทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทักษะปฏบิ ัติ จาเพ่ือใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทักษะพนื้ ฐาน จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมินตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พฒั นาการใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. พฒั นาทกั ษะการเคลอื่ นไหวร่างกายตามจินตนาการ
3. เพอ่ื ให้เกิดความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

วธิ ีการจดั กจิ กรรม
1. ครูให้เด็กเคลอ่ื นไหวร่างกายตามจงั หวะการเคาะเคร่ืองเคาะจงั หวะโดยไมใ่ ห้ชนกนั
2. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคลอื่ นไหวร่างกายในทา่ ตา่ งๆ ให้เพอ่ื นทาทา่ ตาม
3. ครูเปิ ดเพลงบรรเลง ให้เด็กเคลอื่ นไหวร่างกายตามจินตนาการของตนเองประกอบจงั หวะเพลงบรรเลงไปรอบๆ ห้องเรียน โดยไมใ่ ห้
ชนกบั เพ่อื น เดก็ ๆ จินตนาการวา่ ตนเองกาลงั ว่ิงเลน่ กบั เพื่อนๆ อยใู่ นฤดหู นาวท่ีหมิ ะโปรยปราย
4. ครูให้เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายตามจินตนาการ 1-2 รอบ
5. เมอื่ หมดเวลาทากจิ กรรม ครูให้เด็กนง่ั พกั ในทา่ ทส่ี บาย แล้วสนทนาซกั ถามวา่ ทาอะไรบ้าง และรู้สกึ อยา่ งไร

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
เครื่องเคาะจงั หวะ

ประเมินผล
1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ ใหญ่ เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตทกั ษะการเคลอ่ื นไหวร่างกายตามจินตนาการ
3. สงั เกตความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

กิจกรรมเสริมประสบการณ์

สาระท่ีควรเรียนรู้

เราสามารถปลกู ผกั ไว้รับประทานเองได้ เหมอื นกบั การปลกู ต้นไม้ และเราควรดแู ลรดนา้ ใสป่ ๋ ยุ เพอื่ ให้ผกั เจริญเตบิ โต

คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.3 การรักษา 1.2.5 การมอี ัตลกั ษณ์ 1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา
สุขภาพอนามยั เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง มีวนิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การฟังเพลง
ส่วนตวั มคี วามสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การพดู แสดงความคดิ เห็น ความรู้สกึ
- การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ - การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชกิ
- การพดู อธิบายเก่ียวกบั สงิ่ ของ เหตกุ ารณ์
สขุ อนามยั สขุ นิสยั ตามความสามารถของตวั เอง ทด่ี ขี องห้องเรียน และความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ
1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล
ทด่ี ีในกจิ วตั ร - การให้ความร่วมมือใน การตัดสินใจและแก้ปัญหา
ประจาวนั - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ
การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ
เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ
1.3.5 การเล่นและทางาน
แบบร่วมมอื ร่วมใจ โดยใช้ประสาทสมั ผสั
- การร่วมสนทนาและ - การนบั และแสดงจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ ใน
ชีวติ ประจาวนั
แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็
- การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กบั เหตกุ ารณ์ใน
- การเลน่ และทางาน ชีวติ ประจาวนั
1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
ร่วมกบั ผ้อู นื่ แสวงหาความรู้
- การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมอื นและความ
แตกต่างระหว่างบคุ คล

- การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพอื่ น

สร้างเสริม EF ริเร่ิมลงมือทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏบิ ตั ิ จาเพอื่ ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมนิ ตนเอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน

ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถบอกวิธีการปลกู ผกั และดแู ลผกั ได้

2. ฝึกทกั ษะการสนทนาและตอบคาถาม

วธิ ีการจดั กิจกรรม
ขัน้ นา

1. ครูนาเมลด็ พนั ธ์ผุ กั ชนดิ ตา่ งๆ และผกั ทเ่ี ป็ นชนิดเดยี วกบั เมลด็ พนั ธ์ผุ กั มาให้เดก็ ดู และสนทนาถงึ วธิ ีการปลกู ผกั ท่ถี กู ต้อง
ขัน้ สอน

2. ครูแนะนากิจกรรม “การปลูกผกั และการดแู ลผกั ” และเตรียมอปุ กรณ์ปลกู ผกั แล้วพาเด็กไปท่แี ปลงผกั ของโรงเรียน จากนนั้ อธิบาย
วิธีการปลกู ผกั ให้
เด็กดแู ละช่วยกนั ปลกู ผกั โดยสร้างข้อตกลงร่วมกนั ในการทากิจกรรม เช่น เดนิ เป็ นแถว ไมส่ ง่ เสยี งดงั เมื่อทากิจกรรมเสร็จล้าง
มือทาความสะอาด

3. หลงั จากท่ีปลกู เสร็จแล้ว ครูให้เด็กรดนา้ ผกั ท่ีปลกู ไป จากนนั้ ครูแบง่ กลมุ่ ให้เดก็ ๆ มารดนา้ ผกั ของห้องทกุ วนั โดยสลบั กนั ให้
ทกุ คนได้มารดนา้

4. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนาวา่ เราสามารถปลกู ผกั ไว้รับประทานเองได้ เหมอื นกบั การปลกู ต้นไม้ และเราควรดแู ลรดนา้ ใสป่ ๋ ยุ
เพือ่ ให้ผกั เจริญเตบิ โต

ขัน้ สรุป
5. ครูและเด็กร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั เร่ือง การปลกู ผกั และการดแู ลผกั ร่วมกนั อกี ครัง้

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. เมลด็ พนั ธ์ผุ กั
2. ช้อนพรวนดนิ
3. ท่รี ดนา้ ต้นไม้
4. กระถาง

ประเมินผล
1. สงั เกตการบอกวิธีการปลกู ผกั และดแู ลผกั
2. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม
3. สงั เกตผลงานในกจิ กรรม

กิจกรรมศิลปะสร้ างสรรค์

สาระท่คี วรเรียนรู้
กิจกรรม ปัน้ ดินนา้ มนั แปลงผกั ของฉนั

คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์
มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12
1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 - 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1

8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบัติกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา
- การฟังเสยี งตา่ งๆ ในสง่ิ แวดล้อม
กล้ามเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศิลปะตา่ งๆ ประจาวนั
- การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา
- การเขยี นภาพและ - การสร้างสรรค์สงิ่ สวยงาม - การชว่ ยเหลอื ตวั เองใน 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- การสร้างสรรค์ชิน้ งานโดยใช้รูปร่าง รูปทรง
การเลน่ กบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง กิจวตั รประจาวนั จากวสั ดทุ ี่หลากหลาย
1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
อารมณ์ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ แสวงหาความรู้
- การตงั้ คาถามในเรื่องทีส่ นใจ
- การทางานศิลปะ มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ

1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ บทบาทสมาชกิ ของ

เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง สงั คม

มีความสามารถ - การร่วมกาหนดข้อตกลง

- การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ของห้องเรียน

ตามความสามารถของตวั เอง - การให้ความร่วมมือใน

การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ

1.3.5 การเล่นและทางาน
แบบร่วมมอื ร่วมใจ
- การร่วมสนทนาและ

แลกเปลยี่ นความคิดเห็น

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
ทกั ษะปฏิบตั ิ จาเพื่อใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คิดไตร่ตรอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ฝึกทกั ษะการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั

2. มคี วามคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกทกั ษะการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู ืน่
4. ฝึกทกั ษะการสนทนาและการเลา่ เรื่องราวเกี่ยวกบั ผลงานตนเองได้

วธิ ีการจดั กิจกรรม
1. ครูให้เด็กนง่ั เป็ นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แล้วแจกอปุ กรณ์ในการทากจิ กรรมให้เดก็ ทกุ กลมุ่
2. ครูแนะนากจิ กรรมและอปุ กรณ์ในการปัน้ ดนิ นา้ มนั แปลงผกั ของฉนั และให้เดก็ พดู ชื่ออปุ กรณ์ตามดงั นี ้ดนิ นา้ มนั กระดานรองปัน้
อปุ กรณ์การปัน้ จากนนั้ เดก็ ปัน้ ดนิ นา้ มนั ในหวั ข้อ “แปลงผกั ของฉนั ” ตามจินตนาการ
3. ครูและเด็กร่วมกนั สร้างข้อตกลงอยา่ งง่ายๆ ในการทากจิ กรรม เชน่ แบง่ ปันของใช้ร่วมกนั ทากิจกรรมเสร็จชว่ ยกนั เก็บเข้าท่ี
4. เด็กลงมือทากิจกรรม เม่ือทาผลงานเสร็จ เดก็ นาผลงานตวั เองมาเลา่ ให้เพื่อนฟังหน้าชนั้ เรียนและนาผลงานมาวางทมี่ มุ แสดง
ผลงาน
5. เด็กทกุ คนชว่ ยกนั เก็บอปุ กรณ์ให้เรียบร้อย

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้

1. ดินนา้ มนั
2. กระดานรองปัน้
3. อปุ กรณ์การปัน้

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้สมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตผลงานมคี วามคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการทากิจกรรมร่วมกบั ผ้อู น่ื
4. สงั เกตการสนทนาและการเลา่ เร่ืองราวเก่ียวกบั ผลงาน

กิจกรรมเล่นตามมุม

สาระท่คี วรเรียนรู้

การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสให้เดก็ เลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณ์หรือศนู ย์การเรียน ทจ่ี ดั ไว้ในห้องเรียน เชน่ มมุ

บลอ็ ก มมุ วทิ ยาศาสตร์หรือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บ้าน มมุ หนงั สอื มมุ ศลิ ปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็ นต้น

คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวนั - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา

- การเลน่ เครื่องเลน่ 1.2.2 การเล่น - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

สมั ผสั และการสร้าง - การเลน่ อสิ ระ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

สงิ่ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการ

บลอ็ ก และกลมุ่ ใหญ่ 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ
- การหยบิ จบั สง่ิ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล
ตา่ งๆ การร้อยวสั ดุ - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ การตัดสินใจและแก้ปัญหา
1.1.5 การ ประสบการณ์/มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การเลน่ กบั สอื่ ตา่ งๆ ท่เี ป็ นทรงกลม ทรง
ตระหนักรู้ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เคร่ืองใช้อยา่ งค้มุ คา่ สเี่ หลย่ี มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การปฏิบตั ิตวั ตามหลกั 1.3.4 การมปี ฏิสมั พนั ธ์ - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ
ตัวเอง ศาสนาท่ีนบั ถือ มีวินัย มสี ่วนร่วม และ แก้ปัญหา
- การเคลอ่ื นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
โดยควบคมุ ตวั เอง อารมณ์ - การร่วมกาหนดข้อตกลง - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
ไปในทศิ ทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
และพนื ้ ท่ี 1.2.5 การมีอัตลกั ษณ์ ของห้องเรียน 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการ
เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง แสวงหาความรู้
มีความสามารถ - การให้ความร่วมมอื ใน - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ

ตามความสามารถของตวั เอง

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนนิ การ มงุ่ เป้ าหมาย
จาเพ่อื ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคดิ ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทักษะปฏบิ ัติ จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทกั ษะพนื้ ฐาน
ทกั ษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สง่ เสริมให้เดก็ พฒั นาความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ
3. ฝึกและสง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ แก้ปัญหา การคิดอยา่ งมเี หตผุ ล
4. สง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม

วธิ ีการจดั กจิ กรรม

1. เด็กและครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณ์ตา่ งๆ ในห้องเรียน และให้คิดวางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไรตามลาดบั ความสนใจ

ของตวั เอง

2. เด็กและครูร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เช่น

- เดก็ ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เมือ่ เลน่ เสร็จเก็บของเลน่ เข้าที่

- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้เสยี หาย

- รู้จกั ขอบคณุ เมอ่ื ครูช่วยเหลอื ขอบใจเม่ือเพ่ือนช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาให้ผ้อู ่ืนเจ็บหรือเดอื ดร้อน

- เมอื่ ได้ยินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บของเลน่ ทนั ที และมานง่ั รวมกนั ท่ีหน้าห้อง

3. เดก็ ๆ เลอื กเลน่ ตามที่คดิ ไว้อยา่ งอสิ ระ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง และเมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เก็บของเข้าท่ใี ห้เรียบร้อย และมานง่ั

รวมกนั ทห่ี น้าห้อง

4. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถงึ สง่ิ ทตี่ วั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแก้ปัญหาอยา่ งไร

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. มมุ ประสบการณ์ในห้องเรียน
2. อปุ กรณ์ตา่ งๆ ในมมุ ประสบการณ์
3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สงั เกตการพฒั นาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
3. สงั เกตการรู้จกั คิดแก้ปัญหา การคิดอยา่ งมีเหตผุ ล
4. สงั เกตการคดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากิจกรรม

กจิ กรรมกลางแจ้ง

สาระท่ีควรเรียนรู้

การเลน่ เครื่องเลน่ สนามทาให้เดก็ ได้มีโอกาสออกไปนอกห้องเรียนเพอ่ื ออกกาลงั เคลอื่ นไหวร่างกายและแสดงออกอยา่ งอสิ ระ

ในการเลน่ เครื่องเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็ นหลกั

คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั

ร่ างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคญั

1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.2 การดแู ลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การเลน่ อิสระ ธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม - การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา

- การเคลอื่ นไหว - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การมีสว่ นร่วมรับผดิ ชอบ - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

อยกู่ บั ที่ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรักษาสง่ิ แวดล้อมทงั้ ความต้องการ

- การเคลอื่ นไหว - การเลน่ นอกห้องเรียน ภายในและภายนอกห้องเรียน - การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการ

เคลอ่ื นท่ี 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ กระทาตา่ งๆ

- การเลน่ เครื่องเลน่ - การปฏิบตั ิตวั ตามหลกั เครื่องใช้อยา่ งค้มุ คา่ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล

สนามอยา่ งอิสระ ศาสนาท่ีนบั ถือ 1.3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ การตัดสินใจและแก้ปัญหา

1.1.4 การรักษา 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นร่วมในกระบวนการ
ความปลอดภยั เฉพาะตัวและเช่ือว่าตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม แก้ปัญหา
- การเลน่ เครื่องเลน่ มคี วามสามารถ - การร่วมกาหนดข้อตกลง 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
- การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ - การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
อยา่ งปลอดภยั ของห้องเรียน

1.1.5 การ ตามความสามารถของตวั เอง - การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชิก สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน

ตระหนักรู้ ทีด่ ขี องห้องเรียน 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
เก่ยี วกบั ร่างกาย - การให้ความร่วมมือใน แสวงหาความรู้
ตวั เอง การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั
- การเคลอ่ื นไหว 1.3.7 การยอมรับใน
ความเหมอื นและความ
โดยควบคมุ ตวั เอง แตกต่างระหว่างบคุ คล

ไปในทศิ ทาง ระดบั

และพนื ้ ที่ - การเลน่ หรือทากิจกรรม

ร่วมกบั กลมุ่ เพ่ือน

สร้างเสริม EF

ทกั ษะปฏิบตั ิ ริเริ่มลงมอื ทา วางแผน จดั ระเบียบ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย

ทักษะพนื้ ฐาน จาเพ่ือใช้งาน ยดื หยนุ่ ความคดิ ยงั้ คิดไตร่ตรอง

ทกั ษะกากบั ตนเอง จดจ่อใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ติดตามประเมนิ ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สง่ เสริมพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมอื กบั ตา
2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู ื่น
3. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย
4. สง่ เสริมให้เดก็ รู้จกั คดิ วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม
5. สง่ เสริมให้เด็กมีโอกาสปฏิสมั พนั ธ์กบั เพื่อนๆ และสง่ิ แวดล้อม

วิธีการจดั กิจกรรม

1. เดก็ และครูร่วมกนั อบอนุ่ ร่างกายด้วยการออกกายบริหารในการเคลอื่ นไหวอยกู่ บั ท่ี

2. ครูแนะนาการเลน่ เครื่องเลน่ สนามอยา่ งถกู วิธี และปลอดภยั ให้เด็กฟังพร้อมสาธิตให้ดู แล้วร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ เคร่ืองเลน่

สนาม เช่น

 เลน่ อยา่ งถกู วิธี ไมเ่ ลน่ โลดโผน  เลน่ ร่วมกนั ไมท่ ะเลาะกนั

 เข้าแถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพ่อื น  ไมเ่ ด็ดใบไม้ ดอกไม้มาเลน่

 รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่  รู้จกั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลอื ขอบใจเม่ือเพ่อื น

 เลน่ เครื่องเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายให้ ช่วยเหลอื และขอโทษเมอ่ื ทาให้ผ้อู ่นื เจ็บหรือ

เสยี หาย เดือดร้ อน

3. ครูให้เดก็ คดิ วางแผนการเลน่ เครื่องเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ให้เลน่ ตามทค่ี ิดวางแผนไว้อยา่ งอิสระ ปฏบิ ตั ิตาม

ข้อตกลง และเมอื่ ได้ยินเสยี งนกหวดี ให้หยดุ เลน่ แล้วมาเข้าแถวที่หน้าสนามเดก็ เลน่

4. ครูให้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงสงิ่ ทตี่ วั เองเลน่ ความรู้สกึ และปัญหาทพ่ี บ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาอยา่ งไร

5. ครูให้เดก็ ๆ เตรียมตวั เข้าแถว ไปล้างมอื แล้วทากิจกรรมอน่ื ตอ่ ไป

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เครื่องเลน่ สนาม
2. นกหวดี

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นาการด้านกล้ามเนอื ้ ใหญ่ กล้ามเนอื ้ เลก็ และประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตา
2. สงั เกตทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผ้อู ื่น
3. สงั เกตการมคี ณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย
4. สงั เกตการรู้จกั คิด วางแผน และตดั สนิ ใจในการทากจิ กรรม
5. สงั เกตการปฏิสมั พนั ธ์กบั เพ่อื นๆ และสง่ิ แวดล้อม

กจิ กรรมเกมการศกึ ษา

สาระท่ีควรเรียนรู้

เกม โดมโิ นภาพผกั สวนครัว

คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคัญ

ร่ างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา

มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12

1.3 2.2 3.1, 3.2 - 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 - 12.1

5.3 8.3

ประสบการณ์สาคัญ

1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเล่น 1.3.1 การปฏิบัติกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา

กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ อิสระ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา

- การหยิบจบั สงิ่ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การปฏบิ ตั ิตวั ตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ

ตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรัชญาของ ความต้องการ

1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลน่ และการ

- การปฏบิ ตั ิตวั ตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ
ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม - การเลน่ เกมทางภาษา
ศาสนาท่ีนบั ถือ - การใช้วสั ดแุ ละสง่ิ ของ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล

1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์

เฉพาะตวั และเช่ือว่าตวั เอง เคร่ืองใช้อยา่ งค้มุ คา่ การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา

มคี วามสามารถ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พนั ธ์ - การจบั คู่

- การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ
ตามความสามารถของตวั เอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม
- การร่วมกาหนดข้อตกลง แก้ปัญหา
1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ของห้องเรียน
- การรับรู้ และแสดงความคดิ ความรู้สกึ ผา่ น
- การปฏบิ ตั ิตวั เป็ นสมาชิก สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน
ทดี่ ขี องห้องเรียน
1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อการเรียนรู้และการ
- การให้ความร่วมมือใน แสวงหาความรู้

การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้รอบตวั

สร้างเสริม EF ริเริ่มลงมือทา วางแผน จดั ระเบยี บ ดาเนินการ มงุ่ เป้ าหมาย
จาเพอ่ื ใช้งาน ยืดหยนุ่ ความคิด ยงั้ คดิ ไตร่ตรอง
ทกั ษะปฏิบัติ จดจอ่ ใสใ่ จ ควบคมุ อารมณ์ ตดิ ตามประเมนิ ตนเอง
ทักษะพนื้ ฐาน
ทักษะกากบั ตนเอง

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. พฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหาได้
3. พฒั นาทกั ษะทางสตปิ ัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องตา่ งๆ
4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

วิธีการจดั กจิ กรรม
1. ครูแนะนาเกม โดมิโนภาพผกั สวนครวั โดยให้ดภู าพทสี่ มบรู ณ์ และสนทนาจากภาพ
2. ครูสาธิตวธิ ีการเลน่ โดยให้เดก็ มีสว่ นร่วมด้วย และแนะนาทบทวนเกมอน่ื ๆ ทีเ่ คยเลน่ มาแล้ว
3. ครูแบง่ กลมุ่ เด็ก กลมุ่ ละ 2-3 คน โดยให้เดก็ เลอื กเองหรือตามความเหมาะสม และสร้างข้อตกลงในการเลน่ อยา่ งงา่ ยๆ เช่น
- รู้จกั แบง่ ปันกนั เลน่
- รู้จกั รอคอยตอ่ จากเพ่อื น
- เลน่ กนั เบาๆ ไมท่ าลายให้เสยี หาย
- เมือ่ ได้ยนิ สญั ญาณหยดุ (เสยี งเคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บเกมเข้าท่ี และมานงั่ รวมกนั ที่หน้าห้อง
4. ครูให้เดก็ กลมุ่ แรกเลน่ เกม โดมิโนภาพผกั สวนครวั กลมุ่ ที่เหลอื เลน่ เกมทเี่ คยเลน่ มาแล้วเลน่ เสร็จให้หมนุ เวียนกนั เลน่ จน ครบทกุ เกม
เมอ่ื ได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เก็บเกมเข้าท่ี และมานง่ั รวมกนั ทหี่ น้าห้อง
5. ครูและเด็กร่วมกนั สนทนา และให้เดก็ ออกมาบอกเลา่ สงิ่ ท่ีได้เลน่ ความรู้สกึ ตา่ งๆ ชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. เกม โดมโิ นภาพผกั สวนครวั
2. เกมเก่าทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว
3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ

ประเมนิ ผล
1. สงั เกตการพฒั นากล้ามเนอื ้ มดั เลก็ และตาให้ประสานสมั พนั ธ์กนั
2. สงั เกตการใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ไขปัญหา
3. สงั เกตการพฒั นาทกั ษะทางสตปิ ัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองตา่ งๆ
4. สงั เกตคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื ้ เฟือ้ แบง่ ปัน และรู้จกั การรอคอย

เกมการศกึ ษา ภาคผนวก

เกม โดมิโนภาพผกั สวนครัว

*ครูสามารถยอ่ หรือขยายภาพได้ตามความเหมาะสม