The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนสุขศึกษาและพลศึกษา ป 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thaimong1150, 2021-06-17 00:28:47

แผนสุขศึกษาและพลศึกษา ป 5

แผนสุขศึกษาและพลศึกษา ป 5

แผนการจัดการเรยี นรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา

หน่วยที่ ๑ รจู้ ักรา่ งกายของเรา แผนการจดั การเรยี นรู้เรือ่ งระบบทางเดนิ อาหาร

เวลา ๑ - ๒ ช่ัวโมง ระดบั ชัน้ ป.๕ วันท.่ี ..... เดือน.......................ป.ี .............. ภาคเรยี นที่.... ปีการศึกษา........

สาระที่ ๑ การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์
มาตรฐาน พ ๑.๑ เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์
ตัวชวี้ ัด ๑. อธบิ ายความสำคัญของระบบยอ่ ยอาหาร และระบบขับถา่ ยทม่ี ีผลตอ่ สขุ ภาพ
การเจรญิ เติบโต และพฒั นาการ

๒. อธบิ ายวิธดี แู ลระบบย่อยอาหารและระบบขบั ถ่ายให้ทำงานตามปกติ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

๑. อธิบายความสำคัญของระบบทางเดนิ อาหารที่มีต่อการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ยไ์ ด้
อย่างถูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ย ๕๐%

๒. จำแนกลักษณะและหนา้ ที่ของอวัยวะในระบบทางเดนิ อาหารได้ถกู ต้องอย่างน้อย ๖๐ %
๓. อธิบายวิธดี แู ลระบบทางเดนิ อาหารใหท้ ำงานตามปกติได้ถูกต้องอย่างน้อย ๖ ข้อ

สาระการเรยี นรู้
๑. อวัยวะในระบบทางเดนิ อาหารประกอบด้วย ปาก คอหอยและหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร

ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญแ่ ละลำไส้ตรง ทวารหนัก
๒. หนา้ ที่ของแตล่ ะอวยั วะในระบบทางเดนิ อาหาร
๓. โรคในระบบทางเดนิ อาหาร

กจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจ กรรม/ข้นั ตอน วธิ ีสอน ส่อื /อปุ กรณ์ การประเมินผล

ข้ันนำ (๕ - ๑๐ นาท)ี

๑.๑ สำรวจจำนวนนกั เรียนโดยหัวหนา้ ห้อง -ออกคำส่งั -สงั เกตและบนั ทกึ ลง

๑.๒ ครสู นทนากบั นักเรยี นวา่ รู้จัก “ระบบ -กระดาษ/สมดุ ในแบบประเมนิ

ทางเดนิ อาหารหรือไม่ และมีความสำคญั อยา่ งไร -ออกคำสัง่ -แบบประเมิน พฤตกิ รรม

ตอ่ นกั เรยี น” พรอ้ มใหด้ ูภาพ -คำถาม-คำตอบ พฤติกรรม

๑.๓ ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรุปสาระทไ่ี ด้ -ภาพระบบ -สงั เกตการปฏบิ ตั ิ

แลว้ เขียนบนกระดาน ทางเดนิ อาหาร ของทุกคน

๑.๔ ตัง้ คำถามใหน้ ักเรยี นบอกจดุ ประสงค์การ -คำถาม -บนั ทกึ ลงในแบบ

เรยี นรแู้ ละเรื่องทส่ี อนในชัว่ โมงน้ี -การนำ ประเมินพฤติกรรม

ความคิด



ข้นั สอนและกจิ กรรม (๓๐ – ๔๐ นาที) -คำถาม -กระดาน -สังเกตการแสดง
๒.๑ เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นระดมสมองและ -อภิปราย ความคดิ เหน็
-ใบความรู้ท่ี ๑ -บนั ทึกลงในแบบ
แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับลักษณะ หนา้ ที่ -อภิปราย ประเมินพฤติกรรม
ตำแหนง่ ท่ีต้ังของอวัยวะตา่ งๆในระบบทางเดิน- -การเรียนรู้ -แบบประเมนิ -ตรวจสอบและ
อาหาร แบบร่วมมอื พฤติกรรม ประเมินตามใบงานที่
-อธบิ าย -ใบงานที่ ๑ ๑
๒.๒ ใหน้ ักเรยี นดภู าพระบบทางเดนิ อาหาร -ออกคำสง่ั -สงั เกตและบันทึก
(ใบความรทู้ ี่ ๑) การประเมิน
พฤตกิ รรมการเรียนรู้
๒.๓ ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มช่วยกันระดมสมอง
แบบกลุ่มยอ่ ย กลมุ่ ละ ๓ คน (buzz session)
สรปุ หนา้ ทข่ี องอวัยวะแตล่ ะอวยั วะในระบบ
ทางเดินอาหารแล้วบนั ทึกลงในใบงานที่ ๑

๒.๔ ครูอธิบายเพิม่ เติมเม่ือนกั เรียนเกดิ ข้อ
สงสัย

๒.๕ ให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ นำเสนอให้เพ่ือน
ฟัง และนักเรียนแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ

ขน้ั สรปุ (๕ นาที)

๓.๑ ใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัยและชว่ ยกนั -คำถาม -ใบงานที่ ๒ -พฤติกรรมการรับรู้
และตอบสนอง
ทบทวนบทเรียนเรือ่ งระบบทางเดินอาหาร -ใหผ้ ู้เรยี น -สงั เกตความสนใจ
จากการซกั ถามและ
๓.๒ มอบหมายใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั ตาม ปฏิบัติ ตอบคำถาม
-บนั ทกึ การประเมนิ
ใบงานท่ี ๒ ให้สมบรู ณ์และทบทวนตาม -การเรียนรู้

ใบความรู้ แบบรว่ มมือ

๓.๓ ใหน้ ักเรียนจดบันทึกการปฏบิ ัติตนในการ

ดูแลรักษาระบบทางเดนิ อาหาร (ใบงานที่ ๒)

กจิ กรรมเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………



ใบความรู้ท่ี ๑

เร่ือง ระบบทางเดินอาหาร

จดุ ประสงค์ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นใชศ้ กึ ษาลกั ษณะและหน้าท่ีของระบบทางเดินอาหาร
……………………………………………………………………………………………………………

ปาก กระเพาะอาหาร
หลอดอาหาร ลาไส้ใหญ่

ตบั
ลาไส้เล็ก



ใบงานที่ ๑

เรื่อง การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์
วนั ท่ี..................เดือน............................พ.ศ. .............................
จดุ ประสงค์ เพ่อื ให้นกั เรียน สรปุ หน้าท่ีของอวัยวะแต่ละอวยั วะในระบบทางเดนิ อาหาร
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนแบ่งกลุม่ ชว่ ยกนั ระดมสมองแบบกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ ๓ คน (buzz session) สรปุ

หนา้ ที่ของอวัยวะแตล่ ะอวัยวะในระบบทางเดนิ อาหารแลว้ บนั ทึกลงในใบงานท่ี ๑

ปาก

ทวารหนกั คอหอยและหลอดอาหาร

ลาไส้ใหญ่และลาไส้ตรง ระบบ กระเพาะอาหาร
ทางเดนิ
อาหาร

ลาไส้เลก็



ใบงานท่ี ๒

เร่ือง การดแู ลรกั ษาระบบทางเดินอาหาร

จุดประสงค์ เพ่อื ให้นักเรียนจดบนั ทกึ การปฏิบตั ิตนในการดูแลรกั ษาอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร
คำช้แี จง ให้นักเรยี นจดบันทกึ การปฏบิ ตั ิตนในการดแู ลรกั ษาอวัยวะระบบทางเดนิ อาหารเป็นรายบคุ คล

…………………
…………………

………………… การดแู ลรักษา …………………
………………… อวยั วะในระบบ …………………
ทางเดินอาหาร
………………… …………………
………………… ………………… ………………....
…………………

ชอ่ื ..........................................นามสกลุ ...............................................หอ้ ง..................



แบบบันทึกการประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้

คำช้ีแจง ให้ผปู้ ระเมนิ พจิ ารณาคณุ ภาพตามรายการทร่ี ะบุได้และเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงใน

ชว่ งระดับคะแนน ๕ ด้าน

เกณฑป์ ระเมนิ พฤตกิ รรม ๓ = ดี ๒ = พอใช้ ๑ = ปรบั ปรุง

๑๒ ๓ ๔ ๕ ระดบั พฤติกรรมการเรยี นรู้ ใน
ภาพรวม
พฤตกิ รร สรปุ แสดงความ รับรู้และ สรุปใบ มีภาวะผู้นำ
รวมคะแนน
ม / องค์ความรู้ คิดเห็นใน ตอบสนอง งานได้ ผู้ตามใน

ลำดั ระดบั ได้ชัดเจน ระหว่างทำ การเรยี นรู้ ถกู ตอ้ ง โอกาสอนั

บที่ คะแนน กิจกรรม อยา่ ง ควร

กลมุ่ ตอ่ เน่ือง

ชื่อ - สกุล ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑๕










๑๐

รวม

การแปลงผลพฤตกิ รรม หมายถงึ ดีมาก
สงู กวา่ ๑๓ คะแนน หมายถึง ดี
๑๐ - ๑๒ คะแนน หมายถงึ พอใช้
๗ - ๙ คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ ๗ คะแนน
ลงช่ือ............................................ผู้ประเมนิ

O นกั เรียน O ครูผสู้ อน



แผนการจดั การเรียนรูว้ ิชาสขุ ศึกษาและพลศึกษา

หนว่ ยที่ ๒ เขา้ ใจคุณค่าของชวี ิต แผนการจัดการเรียนรู้เรอื่ งครอบครวั ท่ีอบอ่นุ

เวลา ๑ - ๒ ชั่วโมง ระดับชน้ั ป.๕ วนั ท่.ี ..... เดือน.......................ป.ี .............. ภาคเรยี นท.ี่ ... ปกี ารศึกษา........

สาระท่ี ๒ ชวี ติ และครอบครวั

มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชีวิต

ตวั ชีว้ ัด อธิบายความสำคญั ของการมคี รอบครัวทอ่ี บอ่นุ ตามวัฒนธรรมไทย

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. อธบิ ายลักษณะของครอบครวั และองค์ประกอบของสมาชกิ ในครอบครวั ไดถ้ ูกต้องอยา่ งน้อย ๕๐%
๒. บอกหนา้ ที่และวิธปี ฏิบตั ขิ องสมาชกิ แตล่ ะคนในครอบครวั ได้ถกู ต้องทกุ คน (๑๐๐%)
๓. อธิบายความสำคญั ของกฎเกณฑใ์ นครอบครวั ได้อยา่ งน้อย ๒ ขอ้
๔. ระบวุ ิธีการสร้างเสริมครอบครัวให้อบอ่นุ ตามวัฒนธรรมไทยไดอ้ ยา่ งน้อย ๒ วิธี

สาระการเรียนรู้
๑. ลักษณะของครอบครวั องคป์ ระกอบของสมาชกิ ในครอบครวั
๒. การทำหนา้ ทข่ี องสมาชกิ แต่ละคนในครอบครัว
๓. กฎเกณฑใ์ นครอบครัว
๔. การสรา้ งเสริมครอบครัวใหอ้ บอุ่น
กิจกรรมการเรียนรู้

กจิ กรรม/ข้นั ตอน วธิ ีสอน สือ่ /อุปกรณ์ การประเมนิ ผล

๑. ข้นั นำ (๕-๑๐ นาท)ี -ออกคำสัง่ -สมุดรายชอ่ื -สงั เกตและบนั ทกึ
๑.๑ สำรวจจำนวนนกั เรียนโดยหัวหนา้ ห้อง -คำถาม- นกั เรยี น ลงในแบบประเมิน
๑.๒ นักเรยี นและครรู ่วมกนั สนทนาแลกเปลยี่ น คำตอบ -บตั รคำ พฤติกรรม
ความรู้และประสบการณ์เก่ียวกบั ความเปน็ อยู่ -สงั เกตความตั้งใจ
ภายในครอบครวั ตามบัตรคำ -ออกคำสั่ง ความสนใจ และ
การแสดงความ
๑.๓ ให้นักเรยี นอาสาสมัครเล่าชีวิตความ -อภปิ ราย คดิ เห็น
เปน็ อย่ใู นครอบครวั ตนเองให้เพอ่ื นฟงั -บนั ทกึ ลงในแบบ
ประเมินพฤติกรรม
๑.๔ ใหน้ กั เรียนสรุปวา่ วนั นี้จะเรียนเรื่องอะไร



๒. ข้ันสอนและกจิ กรรม (๓๐-๔๐ นาท)ี

๒.๑ นำแผนภมู ิและภาพสมาชกิ ในครอบครัว -อภิปราย -แผนภูมแิ ละ -สังเกตการแสดง
ความคดิ เห็น
มาให้นกั เรยี นดู ใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ภาพสมาชิกใน -บนั ทึกลงในแบบ
ประเมินพฤติกรรม
และความรสู้ ึกเกยี่ วกับบุคคลในภาพแต่ละคน ครอบครวั
-ตรวจสอบและ
(หน้าท่ี ความรับผิดชอบ การปฏบิ ัตติ อ่ กัน) ประเมนิ ตามใบงานที่

๒.๒ แบ่งกล่มุ ตามความสนใจกลุ่มละ -สังเกตและบนั ทกึ
การประเมิน
๔-๕ คน ให้ศกึ ษาจากใบความรแู้ ละทำกจิ กรรม -ออกคำส่งั -ใบความรู้ พฤติกรรมการเรียนรู้

ตามใบงานที่ ๑ -ใบงานที่ ๑ -สงั เกตความสนใจ

๒.๓ นักเรียนแต่ละคนเลือกวธิ นี ำเสนอถึงวธิ ี -สังเกตความสนใจ
จากการซักถามและ
สร้างเสรมิ ให้ครอบครวั อบอุ่นตามวัฒนธรรมไทย -การเรยี นรู้ -แบบประเมิน ตอบคำถาม การเข้า
รว่ มกจิ กรรม
ตามรปู แบบหรือลกั ษณะทีน่ ักเรียนสนใจ เช่น แบบร่วมมือ พฤติกรรม -บันทกึ การประเมนิ

บทบาทสมมติ ละคร หุ่นเชดิ โต้วาที โดยการส่มุ -การแก้ปญั หา

นกั เรียนออกมานำเสนอ -คำถาม-

๒.๔ นักเรียนซักถามและเสนอข้อคดิ เหน็ คำตอบ

ต่อเพ่อื น

๒.๕ ครูอธิบายเพ่ิมเติมเพอ่ื ใหน้ ักเรยี น -อภปิ ราย

ปฏิบัติตนได้ถูกตอ้ งในฐานะเป็นสมาชิกใน

ครอบครัว -อธบิ าย

๓. ขั้นสรปุ (๕-๑๐ นาท)ี

๓.๑ นกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปผลการนำเสนอ -อภิปราย -ใบงานที่ ๒

ผลงานโดยมีครชู ่วยใหข้ ้อคิดเหน็ เพิ่มเตมิ

๓.๒ เปิดโอกาสให้นกั เรยี นซักถาม -คำถาม-คำตอบ

๓.๓ มอบหมายใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรม –มอบหมายงาน/

ตามใบงานท่ี ๒ ให้การบา้ น

แหลง่ การเรยี นรเู้ พิ่มเตมิ
ห้องสมุดโรงเรียน หมบู่ า้ น/ตำบล ภูมิปัญญาท้องถิ่น ปยู่ า่ ตายาย ญาติผู้ใหญ่

กจิ กรรมเสนอแนะ
๑.นักเรยี นควรสังเกตและบันทกึ บทบาทหน้าทีข่ องบคุ คลในครอบครัวตนเอง๒.นักเรียนควรวิเคราะห์

การปฏิบตั ติ นท่ดี ี –ไมด่ ี เหมาะสม-ไมเ่ หมาะสมของตนเองในสมุดบนั ทกึ และแสดงข้อควรแก้ไขไว้ด้วย



บตั รคำ

การมีชีวิตทด่ี ี การมชี ีวติ ที่ ครอบครัวอบอนุ่ วฒั นธรรม
อบอุ่น ไทย
ครอบครวั
ไทย ลูกท่ีดี การมชี ีวติ ทีป่ ลอดภยั

แผนภมู สิ มาชกิ ในครอบครวั

ป่ ู ยา่ ตา ยาย
พอ่ แม่

ลกู

มใี ครในครอบครวั เราบา้ ง....................................

๑๐

ใบความรู้
เรอ่ื ง ครอบครวั ที่อบอนุ่
จดุ ประสงค์ เพอื่ ให้นกั เรียนได้รู้และเข้าใจหน้าท่ีและความสัมพันธท์ ี่ดีของสมาชกิ ท่ดี ใี นครอบครัว และ

เพือ่ นำไปใช้เป็นแนวการสรา้ งเสรมิ ชวี ติ และครอบครวั ใหอ้ บอนุ่
คำช้ีแจง ให้หนังเรยี นอา่ นและทำความเข้าใจกบั หนา้ ท่ีและความสมั พนั ธ์ทด่ี ขี องสมาชิกที่ดีในครอบครัว

……………………………………………………..
ครอบครัวประกอบด้วยพ่อ แม่ ลกู หรืออาจมญี าตผิ ู้ใหญ่ เชน่ ปู่ ยา่ ตา ยาย ลงุ ป้า น้า อา อาศัยอยู่
ในบ้านเดยี วกนั ครอบครวั อบอนุ่ คอื
-ครอบครวั ทีท่ กุ คนรักใครก่ ลมเกลียว ไมท่ ะเลาะเบาะแว้งกัน ไมท่ ำร้ายร่างกายและจติ ใจกัน
-เด็กๆตอ้ งเคารพเชื่อฟังญาตผิ ู้ใหญใ่ นครบครัว ทัง้ ในบา้ นเดียวกนั หรอื อยคู่ นละบ้าน
-ทกุ คนในครอบครัวรู้จกั หนา้ ที่ของตนเองและทำหน้าท่ีนนั้ ให้ดีที่สุด
-เคารพกฎเกณฑข์ องครอบครวั

๑๑

ใบงานที่ ๑

เร่ือง คณุ ค่าของการมชี ีวิตและครอบครวั ท่อี บอนุ่ ตามวัฒนธรรมไทย
ชือ่ ..........................นามสกุล............................ช้ัน. ..............เลขที.่ ..............................
จุดประสงค์ เพื่อให้นักเรียนเหน็ คุณค่าและความสัมพนั ธอ์ ันดีของการมีครอบครวั ที่อบอุ่นเพ่ือนำไปใชใ้ น

ชีวติ ประจำวนั
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นโยงเสน้ จากพฤตกิ รรมต่างๆท่สี มั พันธก์ ับการปฏิบัติจริงในครอบครัวของ

นกั เรยี น

อยกู่ นั พร้อมหนา้ พอ่ แม่ ลกู อยบู่ า้ นกบั พี่เล้ียง

แบง่ หนา้ ท่ีกนั ทางานบา้ น จดั งานเล้ยี งกนั ในบา้ น
อยบู่ า้ นคนเดียว ไม่ปรึกษาใคร ไปไหวญ้ าตผิ ใู้ หญใ่ นวนั สาคญั

ทานขา้ งม้อื เยน็ พร้อมกนั ครอบครัวทีอ่ บอ่นุ ปรึกษาหารือกนั เมอื่ มปี ัญหา

ไปดูหนงั กบั เพอ่ื น ช่วยกนั ปลกู ตน้ ไม้

เล่นกบั เพ่ือนบา้ น ออกกาลงั กาย เล่นเกม-กีฬาดว้ ยกนั

ไปท่องเที่ยวดว้ ยกนั เสมอ

เกณฑ์การประเมนิ รูส้ ึกอยา่ งไรกบั ผลงาน ใหว้ งกลมลอ้ มรอบหนา้
นักเรียนตอบ มากกว่า ๗ ขอ้ ได้ ๓ คะแนน
นักเรยี นตอบ ๔-๖ ข้อ ได้ ๒ คะแนน
นกั เรียนตอบ นอ้ ยกวา่ ๔ ข้อ ได้ ๑ คะแนน
สรปุ นกั เรยี นตอบถกู จำนวน...ขอ้ ได.้ ........คะแนน

ลงชอื่ .................................... ผู้ประเมนิ

ครู
พ่อแม่

๑๒

ใบงานที่ ๒

เรอื่ ง การสรา้ งเสรมิ ชวี ติ และครอบครวั ท่อี บอุ่นตามวัฒนธรรมไทย
ชื่อ..........................นามสกุล............................ชน้ั . ..............เลขที.่ ..............................
จดุ ประสงค์ เพื่อให้นกั เรยี นสรา้ งสรรค์และเลอื กวธิ ีสร้างเสรมิ ชวี ิตและครอบครวั ทอี่ บอนุ่ ตาม

วฒั นธรรมไทย
คำชแี้ จง ให้นกั เรียนวาดภาพหรอื ออกแบบแผนภูมปิ ัญญาแสดงความคิดเลือกวิธีสรา้ งเสรมิ ชีวิตและ

ครอบครวั ท่อี บอุ่นตามวฒั นธรรมไทยตามความคดิ และจินตนาการของนักเรียนแต่ละคน

เกณฑก์ ารประเมิน คะแนนทไ่ี ด้
๑. ความครอบคลมุ เน้อื หา ๕ คะแนน
๒. ความคิดสรา้ งสรรค์ ๓ คะแนน ๑. ความครอบคลุมเน้ือหา ..........คะแนน
๓. ความสวยงามและความตั้งใจ ๒ คะแนน ๒. ความคดิ สรา้ งสรรค.์ .............. คะแนน
๓. ความสวยงามและความต้งั ใจ.......คะแนน

รวม........................คะแนน

ลงชอ่ื ..............................................ผปู้ ระเมิน นักเรยี น ครู พอ่ แมผ่ ู้ปกครอง (ทำวงกลมลอ้ มรอบ)

๑๓

แบบบันทกึ การประเมนิ พฤติกรรมการเรียนรู้

คำชี้แจง ใหผ้ ู้ประเมิน พิจารณาคุณภาพตามรายการทร่ี ะบไุ ดแ้ ละเขียนเครื่องหมาย ✓ ลงใน

ชว่ งระดับคะแนน ๕ ด้าน

เกณฑ์ประเมนิ พฤตกิ รรม ๓ = ดี ๒ = พอใช้ ๑ = ปรับปรงุ

๑๒ ๓ ๔ ๕ ระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ใน
ภาพรวม
พฤตกิ รร สรปุ แสดงความ รบั รแู้ ละ สรปุ มภี าวะผนู้ ำ รวมคะแนน

ม/ องค์ความรู้ คดิ เหน็ ใน ตอบสนอง ใบงานได้ ผู้ตามใน

ลำดั ระดับ ไดช้ ดั เจน ระหวา่ งทำ การเรยี นรู้ ถูกตอ้ ง โอกาสอัน

บท่ี คะแนน กิจกรรม อยา่ ง ควร

กลุ่ม ตอ่ เน่อื ง

ชือ่ - สกลุ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑ ๒ ๓ ๑๕







รวม

การแปลงผลพฤตกิ รรม หมายถงึ ดมี าก
สงู กวา่ ๑๓ คะแนน
๑๐ - ๑๒ คะแนน หมายถึง ดี
๗ - ๙ คะแนน
ต่ำกว่า ๗ คะแนน หมายถงึ พอใช้

หมายถึง ควรปรับปรุง

ลงช่อื ............................................ผู้ประเมนิ

นักเรยี น ครผู ้สู อน

๑๔

แผนการจดั การเรยี นรวู้ ิชาสุขศึกษาและพลศึกษา

หน่วยที่ ๓ จติ และกายคือสายสัมพันธ์ แผนการจดั การเรยี นรูเ้ รื่องสนุกกับการเคลือ่ นไหว

เวลา ๑ - ๒ ช่วั โมง ระดับช้นั ป.๕ วันที่...... เดือน.......................ป.ี .............. ภาคเรียนท่ี.... ปีการศกึ ษา........

สาระที่ ๓ การเคลอื่ นไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที ักษะในการการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกมและกฬี า

ตัวช้วี ัด ๑. จดั รูปแบบการเคลือ่ นไหว แบบผสมผสาน และควบคุมตนเองเมอ่ื ใชท้ กั ษะการ

เคล่อื นไหวตามแบบทก่ี ำหนด

๒. ควบคุมการเคล่ือนไหวในเรื่องการรบั แรง การใชแ้ รง และความสมดลุ

๓. แสดงทักษะกลไกในการปฏิบตั ิกิจกรรมทางกายและเลน่ กฬี า

มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกมและเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเปน็ ประจำอยา่ งสม่ำเสมอ มี
วนิ ัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มนี ำ้ ใจนกั กฬี า มีจิตวญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมใน
สุนทรยี ภาพของการกีฬา

ตัวชว้ี ัด ๑. ออกกำลังกายอยา่ งมรี ูปแบบ เลน่ เกมทใี่ ชท้ กั ษะการคดิ และตดั สนิ ใจ
๒. ปฏิบตั ิตามกฎกติกา การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล ตามชนดิ กีฬาที่เล่น
๓. ปฏิบัติตนตามสทิ ธิของตนเอง ไมล่ ะเมิดสิทธิผู้อื่นและยอมรับในความแตกตา่ งระหวา่ ง

บคุ คลในการเลน่ เกม และกฬี าไทย กีฬาสากล
จุดประสงค์การเรยี นรู้

๑. บอกถึงหลักการเคลอื่ นไหวไดถ้ กู ตอ้ งทกุ ขั้นตอน
๒. เคล่ือนไหวแบบผสมผสาน และควบคุมตนเองไดต้ ามแบบทก่ี ำหนด ๖๐%
๓. นำทกั ษะการเคล่อื นไหวไปใชใ้ นการเลน่ เกมได้อย่างน้อย ๕๐%
๔. เลน่ และฝกึ ตามแบบฝกึ อยา่ งสนุกสนานพรอ้ มแสดงมารยาทของการเล่นตามกฎระเบยี บท่ีกำหนด

ไว้ทกุ แบบฝึก
๕. บรหิ ารร่างกายและสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายไดถ้ ูกต้องทกุ ทา่

สาระการเรยี นรู้
๑. ความสำคญั ของพลศึกษาที่มีตอ่ การดำรงชีวิต
๒. กลไกการเคล่อื นไหวร่างกาย และหลักการเคล่ือนไหวรา่ งกาย
๓. รูปแบบการเคลอื่ นไหวร่างกาย

๑๕

กจิ กรรมการเรียนรู้

กจิ กรรม วิธสี อน สอ่ื /อุปกรณ์ การประเมนิ ผล

ขั้นเตรยี ม (๕ - ๗ นาที) -สงั เกตดหู มายเลข
ประจำตวั ของ
๑. สำรวจนักเรียน ดังน้ี นักเรยี นพร้อมทง้ั
บนั ทกึ
๑.๑ ให้นักเรยี นเขา้ แถวตามกลุ่ม 2 กลมุ่ ตรวจนบั -ถามว่ามใี คร
เจ็บป่วยหรอื ไม่
จำนวนนกั เรยี น (กลมุ่ ละ 4 คน) -ออกคำสงั่ -แบบประเมนิ -สงั เกตการแต่งกาย
-สังเกตจำนวนและ
๑.๒ ตรวจสุขภาพ(เลบ็ การเจ็บปว่ ย) -บรรยาย พฤตกิ รรม ความถูกต้องของ
การบรหิ ารร่างกาย
๑.๓ ตรวจดูการแตง่ กายและอปุ กรณป์ ระกอบการ -บญั ชีรายชื่อ

เรียน นักเรียน

๒. บริหารร่างกาย

ครูให้นักเรียนเข้าแถวหนา้ กระดาน และยนื ห่าง

กันสองชว่ งแขน

๒.๑ ทำท่าเหยียดยดื กลา้ มเน้ือ-ขอ้ ต่อส่วนตา่ ง ๆ

ของร่างกายตงั้ แต่ศรี ษะถึงเท้า (ความออ่ นตวั )

๒.๒ กระโดดเขยง่ พรอ้ มกบั ตบมือ ๑๐ คร้ัง (ความ

แข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนือ้ ขาและแขน

ความออ่ นตวั ของกลา้ มเน้ือไหล่) -ออกคำสัง่

๒.๓ วงิ่ อยู่กบั ท่ีพร้อมกบั การหมนุ แขนแบบ -อธบิ ายและ

กระโดดเชอื ก ๑ นาที (ความอดทนของระบบ สาธิต

ไหลเวยี นเลอื ดและระบบหายใจ ความอ่อนตวั ของ -นกั เรยี นลงมือ

ไหล่ ความแข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อขา) ปฏบิ ัติ

๒.๔ กระโดดเขา่ แตะอก ๑๐ ครงั้ ตดิ ต่อกนั (ความ

แขง็ แรง-อดทนของกล้ามเนอ้ื ขา พลังกลา้ มเนอื้ ขา)

๒.๕ ฝ่ามือประกบกันแล้วดันขอ้ มอื เข้าหากันนับ

๑ – ๘ จำนวน ๕ ครงั้ /เซต (ความแข็งแรง-อดทน

ของกล้ามเนือ้ แขน)

๒.๖ ลกุ -นง่ั เข่างอ ๒๐ ครงั้ (ความแขง็ แรง-อดทน

ของกล้ามเนือ้ หน้าทอ้ ง)

๒.๗ ดนั พืน้ ๑๕ คร้งั (ความแขง็ แรง-อดทนของ

กลา้ มเน้อื แขนและหน้าอก)

๑๖

ข้นั สอน (๕ - ๘ นาท)ี -ออกคำส่งั -สังเกตการให้ความ
๑. ส่งั ใหน้ กั เรยี นทกุ กลุ่มอยู่ในรปู แบบครึง่ วงกลม รว่ มมอื ของนักเรียน
ดงั ตอ่ ไปนี้ ในการปฏิบตั ิตาม
คำส่งั
ⓈⓈ
ⓈⓈ
ⓈⓈ
ⓈⓈ

Ⓣ ๑ เมตร

Ⓣ = ครู

Ⓢ = นักเรยี น
๒. ครอู ธบิ ายกลไกและหลกั การเคล่ือนไหวพรอ้ มใหด้ ู -อธบิ ายและ -ภาพแสดง
สาธิต กลไกและ
ภาพประกอบ(ใบความร้)ู และซักถาม
-คำถาม-คำตอบ หลกั การ -สงั เกตความสนใจ
๓. ให้นักเรียนยนื ขึน้ ในลักษณะดงั นี้ ในการฟงั และดกู าร
เคลือ่ นไหว อธบิ ายและสาธติ

-ใบความรู้

ⓈⓈⓈⓈⓈⓈⓈⓈ

Ⓣ -สงั เกตการปฏิบตั ิ
๔. ครอู ธิบายและให้นกั เรียนช่วยสาธติ การเคลื่อนไหว -อธบิ ายและ ของนักเรยี นว่าทำ
แบบต่าง ๆ และบอกถึงประโยชน์ในการนำไปใชใ้ น สาธิต ได้ถกู ต้อง ๖๐%
ชีวติ ประจำวนั และการเล่นกีฬา ของนกั เรยี นทัง้ หมด

ขน้ั ฝึกหดั (๒๐-๒๕ นาท)ี -สงั เกตการ
๑. ให้นกั เรยี นลองการเคลอื่ นไหวแบบตา่ ง ๆ ในท่ี -นักเรียนลงมือ เคลื่อนไหวทีถ่ ูกและ
ปลอดภัย
วา่ ง อย่างอิสระโดยจะต้องไม่ไปกระทบกระแทก ปฏบิ ัติ

๑๗

เพือ่ น ครเู ดินดูความถกู ต้องไปรอบ ๆ พรอ้ ม -ใบงานที่ ๑ -สังเกตความ
ช่วยแก้ไข -แร็กเกตตา่ งๆ ร่วมมอื พฤติกรรม
๒. ครใู ห้นกั เรยี นทำใบงานท่ี ๑ “ชวนกันคิด ช่วยกัน
ทำ” โดยแบง่ กลุม่ ๆละ ๓ - ๔ คน กระจายออกไป การทำงานกล่มุ
ตามทวี่ ่างๆ จะใชอ้ ุปกรณห์ รือไมก่ ไ็ ด้
-สังเกตการให้ความ
ข้นั ใช้ (๕-๑๐ นาท)ี รว่ มมือของในการ
๑. ให้นักเรยี นเขา้ แถวตอนตามกล่มุ ของตนเอง และ ปฏบิ ตั ติ ามคำสงั่
ทำการแขง่ ขันกันเมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณเริ่ม กติกา คือ -การใหค้ วาม
รว่ มมือกบั กลุ่ม
๑.๑ นกั เรียนต้องกระโดดสองเท้าสลับกบั การ -ประเมนิ
กระโดดเขย่ง หากทุกคนถึงเสน้ ชัยก่อนใหน้ ัง่ ลง และ คุณลักษณะอนั พงึ
จะเปน็ ผชู้ นะ ทกุ กลมุ่ ทำพร้อมกันหลงั ครใู หส้ ญั ญาณ ประสงค์
นกหวดี
ⓈⓈⓈⓈ .................................
ⓈⓈⓈⓈ .................................

๑.๒ นักเรยี นวง่ิ ไปขา้ งหน้าถึงเสน้ ชยั แลว้ วง่ิ กลบั มา
โดยหนั หลังวิ่ง กตกิ าเหมอื นขอ้ ๑.๑
ⓈⓈⓈⓈ .................................
ⓈⓈⓈⓈ .................................

ข้นั สรุปและสุขปฏิบตั ิ (๕-๗ นาท)ี
๑. ครูเรยี กรวมนกั เรียนและให้นัง่ ในรูปแบบดงั น้ี


ⓈⓈⓈⓈⓈⓈⓈ

๑๘

๒. สรปุ ทง้ั หมดท่ีเรยี น (ทกั ษะ ความร้คู วามเขา้ ใจ -คำถาม-คำตอบ
การแต่งกาย ความตง้ั ใจ กฎระเบยี บ)

๓. อบรมและสัง่ งาน คือใหไ้ ปทำใบงานท่ี ๒ และส่ง -ให้การบ้าน

ในการเรยี นคราวต่อไป -สังเกตการปฏิบัติ
ตามระเบียบและ
๔. สงั่ ให้นกั เรยี นทำความสะอาดรา่ งกาย -ออกคำส่งั คำส่ัง

๕. ใหน้ กั เรยี นยนื และสั่งเลกิ แถว โดยการปรบมือ ๓ -ใบงานท่ี ๒

ครัง้ แล้วรอ้ ง “สนกุ จัง สนุกจงั สนุกจัง”

๑๙

ใบความรู้
เร่อื ง กลไกและหลักการเคล่อื นไหวร่างกาย
จดุ ประสงค์ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นใช้ศกึ ษาพร้อมการอธบิ ายของครแู ละใช้ทบทวนหลักการเคลอื่ นไหวร่างกาย

กลไกการเคล่ือนไหวรา่ งกายและทำอยา่ งไรจึงจะเคลอ่ื นไหวรา่ งกายได้ดี

๑. หลกั การรบั แรง
๒. หลักการใช้แรง
๓. หลกั ความสมดุล
(รายละเอยี ดมใี นหนังสอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐานฯ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ชนั้ ประถมศึกษา
ปีที่ ๕ บทท่ี ๓ หน้า ๖๙ - ๗๑)

๒๐

ใบงานที่ ๑

เรือ่ ง ชวนกนั คิด ชว่ ยกันทำ

ชื่อ......................................................................... ชน้ั ......................................

วันท.่ี .................เดอื น............................พ.ศ. .............................

จดุ ประสงค์ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นได้ช่วยกันคดิ และลองปฏิบตั กิ ารเคลอื่ นไหวแบบตา่ ง ๆ ด้วยตนเอง

คำชีแ้ จง แบ่งกลมุ่ กลุ่มละ ๓-๔ คน ให้นกั เรียนช่วยกันคดิ สร้างสรรค์ และหาวธิ ี รูปแบบการเคลอื่ นไหว
แบบตา่ ง ๆ โดยตอบโจทย์ ดังนี้
๑. ลองคดิ ว่ากิจกรรมการเคล่อื นไหวท่ีแนะนำไว้ ท่าใดเหมาะสมกบั การนำไปใช้ใน

ชวี ติ ประจำวัน
๒. เมื่อเคลอ่ื นไหวในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมประจำวนั ควรคำนึงถงึ หลักการเคลื่อนไหวตามทไ่ี ด้

เรยี นรอู้ ยา่ งไรบ้าง

เกณฑ์การประเมิน ลงช่ือผู้ประเมิน.........................................................
o ดมี าก = ๕ คะแนน
o ดี = ๔ คะแนน o ครู
o พอใช้ = ๓ คะแนน o นกั เรียน
o ควรปรับปรุง = ๒ คะแนน o พอ่ แม่ ผปู้ กครอง

๒๑

ใบงานท่ี ๒

เร่ือง ลองคดิ ลองทำ

ช่อื ......................................................................... ชัน้ ......................................

วันท.่ี .................เดือน............................พ.ศ. .............................

จดุ ประสงค์ เพ่อื ให้นกั เรยี นคิดและลองปฏบิ ตั กิ ารเคล่อื นไหวแบบตา่ งๆดว้ ยตนเองที่บ้าน

คำชี้แจง นกั เรยี นคดิ สร้างสรรค์ และหาวิธี รูปแบบการเคลื่อนไหวแบบตา่ งๆ และจดบนั ทกึ ไว้ โดยตอ้ ง
ปฏบิ ัติ ดงั น้ี

๑. เมอื่ เคลอ่ื นไหวในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมประจำวัน ต้อง
คำนึงถงึ หลกั ความปลอดภยั ตามหลักการเคลื่อนไหวที่
ได้เรียนรู้ไปแล้ว
๒. ใช้เวลาวา่ งหลงั จากทำการบ้าน ประมาณ ๓๐ นาที
ฝึกการเคลอื่ นไหวตามหลักการเคล่อื นไหว

นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรกบั ผลงาน ใหว้ งกลมลอ้ มรอบหนา้

ลงชือ่ ผู้ประเมิน.........................................................

o ครู
o นกั เรียน
o พอ่ แม่ / ผปู้ กครอง

๒๒

แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ “คุณมีนำ้ ใจนักกีฬาเพียงใด”
ชอื่ ...................................................................................หอ้ งเรียน........................กลุม่ .......

คุณสมบตั ิ ๓ ๒๑
(มาก) (ปานกลาง) (น้อย)
๑.กลา้ หาญ
๒.อดทน ผปู้ ระเมนิ ........................................................
๓.รู้แพ้
๔.รู้ชนะ
๕.รู้จักให้อภยั
๖.ไมเ่ อาเปรียบ
๗.สามัคคี
๘.ใหค้ วามร่วมมือกลุม่
๙.ไม่เห็นแกต่ ัว
๑๐.ให้ความชว่ ยเหลือผู้ดอ้ ยกว่า
๑๑.ซอื่ สตั ย์สุจริต
๑๒.มีความมัน่ คงทางอารมณ์
๑๓.เคารพสิทธิผอู้ นื่
๑๔.มีความรบั ผดิ ชอบ
๑๕.เอ้อื อาทรคนอื่น

รวม

เกณฑ์
ดีมาก (มากกว่า ๔๐ คะแนนข้นึ ไป)
ดี (๓๕ คะแนน - ๓๙ คะแนน)
พอใช้ (๓๐คะแนน - ๓๔ คะแนน)
ควรปรับปรงุ (ตำ่ กวา่ ๓๐ คะแนน)

๒๓

แผนการจดั การเรยี นรวู้ ชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา

หน่วยท่ี ๓ จติ และกายคอื สายสมั พันธ์ แผนฯ เรื่อง เกมสนกุ เพอื่ สขุ ภาพ

เวลา ๑ ชั่วโมง ระดบั ช้นั ป.๕ วนั ที่ .... เดือน...........ป.ี .............. ภาคเรียนที่ ........... ปีการศึกษา ....................

สาระท่ี ๓ การเคล่อื นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทกั ษะในการการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกฬี า

ตวั ชี้วัด ๑. เล่มเกมนำไปสกู่ ีฬาท่เี ลอื กและกจิ กรรมการเคลือ่ นไหวแบบผลดั ควบคุมการเคลือ่ นไหวในเร่อื งการ

รับแรง การใชแ้ รง และความสมดลุ

๒. แสดงทกั ษะกลไกในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬา

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลังกาย การเลน่ เกมและเลน่ กีฬา ปฏิบตั เิ ป็นประจำอยา่ งสม่ำเสมอ มวี ินัย
เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี ำ้ ใจนักกฬี า มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขัน และชน่ื ชมในสุนทรียภาพของการกีฬา
ตัวชีว้ ดั ๑. ออกกำลงั กายอย่างมรี ูปแบบ เล่นเกมทใี่ ชท้ กั ษะการคิดและตัดสนิ ใจ
๒. ปฏิบตั ติ ามกฎกตกิ า การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล ตามชนิดกฬี าท่เี ล่น
๓. ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธิของตนเอง ไม่ละเมิดสิทธิผู้อืน่ และยอมรับในความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลในการเล่น
เกม และกีฬาไทย กีฬาสากล
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

๑. บอกความหมายและหลกั การเลน่ เกมเลยี นแบบไดถ้ กู ต้อง ๘๐ %
๒. นำทกั ษะการเคลอ่ื นไหวไปใช้ในการเล่นเกมได้อยา่ งน้อย ๕๐%
๓. เลน่ เกมอยา่ งสนกุ สนานพร้อมแสดงมารยาทของการเล่นตามกฎระเบยี บท่กี ำหนดไว้ทุกครัง้
๔. บริหารรา่ งกายและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ถกู ตอ้ งทกุ ท่า

สาระการเรยี นรู้ (เกมเลยี นแบบ)
๑. ความหมายของเกมเลยี นแบบ
๒. ประโยชนข์ องการเล่นเกม
๓. เกมเลียนแบบ เช่น เกมโรคตดิ ต่อ เกมชนไก่

๒๔

กจิ กรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม วธิ ีสอน ส่ือ/อปุ กรณ์ การประเมินผล

ขัน้ เตรียม (๕-๗ นาที)

๑. สำรวจนกั เรยี น ดังนี้

๑.๑ ให้นกั เรยี นเข้าแถวตามกลุ่ม ๒ กลุ่ม ตรวจนบั

จำนวนนกั เรียน (กลมุ่ ละ ๔ คน) -ออกคำสั่ง -แบบประเมิน -สังเกตดหู มายเลข

๑.๒ ตรวจสุขภาพ(เล็บ การเจบ็ ป่วย) -บรรยาย พฤตกิ รรม ประจำตวั ของ

๑.๓ ตรวจดกู ารแตง่ กายและอปุ กรณป์ ระกอบการเรียน -บัญชรี ายชอ่ื นักเรยี นพรอ้ มทง้ั

๒. บรหิ ารรา่ งกาย นกั เรียน บนั ทกึ

ครใู ห้นกั เรียนเข้าแถวหนา้ กระดาน และยนื ห่างกนั -ถามวา่ มใี ครเจบ็ ปว่ ย

สองช่วงแขน หรอื ไม่

๒.๑ ทำท่าเหยียดยดื กล้ามเน้อื -ข้อต่อสว่ นต่างๆของ -สงั เกตการแตง่ กาย

ร่างกายต้งั แตศ่ รี ษะถึงเทา้ (ความออ่ นตวั ) -สงั เกตจำนวนและ

๒.๒ กระโดดเขย่งพร้อมกับตบมอื ๑๐ ครง้ั (ความ ความถกู ต้องของการ

แขง็ แรงและความอดทนของกล้ามเนอ้ื ขาและแขน ความ บริหารร่างกาย

ออ่ นตัวของกล้ามเนือ้ ไหล)่

๒.๓ วง่ิ อยู่กับท่พี ร้อมกับการหมุนแขนแบบกระโดด -ออกคำสง่ั

เชือก ๑ นาที (ความอดทนของระบบไหลเวียนเลอื ดและ -อธิบายและ

ระบบหายใจ ความออ่ นตวั ของไหล่ ความแข็งแรงและ สาธติ

ความอดทนของกลา้ มเนื้อขา) -นักเรียนลงมอื

๒.๔ กระโดดเข่าแตะอก ๑๐ คร้ังติดตอ่ กัน (ความ ปฏิบตั ิ

แขง็ แรง-อดทนของกลา้ มเนอื้ ขา พลงั กล้ามเนือ้ ขา)

๒.๕ ฝ่ามอื ประกบกนั แล้วดนั ขอ้ มอื เข้าหากนั นับ

๑ – ๘ จำนวน ๕ ครง้ั /เซต (ความแขง็ แรง-อดทนของ

กลา้ มเน้ือแขน)

๒.๖ ลุก-นงั่ เข่างอ ๒๐ ครัง้ (ความแขง็ แรง-อดทนของ

กล้ามเนอื้ หนา้ ท้อง)

๒.๗ ดันพน้ื ๑๕ ครั้ง (ความแขง็ แรง-อดทนของกล้ามเน้ือ

แขนและหนา้ อก)

๒๕

ข้นั สอน (๕-๘ นาท)ี -ออกคำส่งั -สังเกตการให้ความ
๑. สัง่ ใหน้ กั เรียนอยใู่ นรูปแบบดังต่อไปนี้ทกุ กลมุ่ รว่ มมือของนักเรยี น
ในการปฏิบัตติ าม
Ⓢ Ⓢ คำสง่ั
Ⓢ Ⓢ
Ⓢ Ⓢ
Ⓢ Ⓢ

Ⓣ ๑ เมตร

Ⓣ = ครู -สังเกตความสนใจใน
การฟงั และดูการ
Ⓢ = นกั เรียน อธิบายและสาธติ

๒. ครูอธบิ ายความหมายของเกมเลียนแบบ และ -ถามความเข้าใจของ
นักเรียน
ยกตวั อย่าง โดยสาธติ ให้นักเรียนดู หรือสมุ่ ใหน้ กั เรียนลอง -อธิบายและ -ใบความรู้

แสดงท่าทางเลียนแบบสตั วต์ ่างๆ นักเรยี นซกั ถาม
๓. ครูแจกใบความรเู้ รื่องเกมเลียนแบบ (เกมโรคติดตอ่ สาธิต

เกมชนไก่ )ใหน้ กั เรยี นทกุ คน

๔. ให้นกั เรยี นเลอื กวา่ กนั ว่าอยากเล่นเกมใดกอ่ น-หลัง

เมอ่ื เลอื กได้แล้ว ใหน้ ักเรียนยืนขนึ้ ในลกั ษณะดังน้ี -ออกคำสง่ั
ⓈⓈⓈⓈⓈⓈⓈ



๕. ครูอธิบายและให้นกั เรยี นช่วยสาธิตวธิ ีการเลน่ และบอก

ถึงประโยชนใ์ นการนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันและการเล่น

กฬี า (เกมโรคตดิ ตอ่ เกมชนไก่ ) -อธิบายและ

สาธติ

ขนั้ ฝึกหัดและนำไปใช้ (๒๐-๒๕ นาท)ี -นกั เรียนลงมอื -ถงั น้ำ -สงั เกตการ
๑. ใหน้ ักเรียนเลน่ เกมโรคตดิ ต่อ โดยซักซ้อมกติกาการ ปฏบิ ตั ิ พลาสตกิ ลัง เคลื่อนไหวท่ถี ูกและ
เล่นให้เข้าใจ ครเู ปน็ ผู้ตัดสนิ (ใช้เวลา ๑๐ นาที) นกั เรียน ปลอดภัย
เล่นซ้ำไดม้ ากกว่า ๑ รอบ (รายละเอียดของอปุ กรณ์
สถานที่ และวิธีเลน่ ครูอธิบาย)

๒๖

Ⓢ Ⓢ ⓈⓈ กระดาษ หรือ -สังเกตความรว่ มมอื
ⓈⓈ กระป๋อง กับกล่มุ -ประเมิน

Ⓢเชอื้ โรค คุณลักษณะอันพงึ
Ⓢ ประสงค์

Ⓢ ⓈⓈ Ⓢ Ⓢ Ⓢ

๒.ให้นกั เรยี นเลน่ เกมชนไก่ โดยซกั ซ้อมกตกิ าการเล่นให้ -สังเกตวา่ นกั เรียนมี
เข้าใจ ครเู ปน็ ผู้ตัดสิน(ใช้เวลา ๑๐ นาท)ี นกั เรียนเล่นซ้ำ ความสุข สนใจใน
ไดม้ ากกวา่ ๑ รอบ (รายละเอยี ดของอปุ กรณ์ สถานท่ี การเรียนหรือไม่
และวิธีเลน่ ครอู ธบิ าย)

Ⓢ Ⓢ ⓈⓈ
ⓈⓈ

Ⓢ ⓈⓈ


ⓈⓈ
ⓈⓈ ⓈⓈ

ขัน้ สรุปและสขุ ปฏบิ ัติ (๕-๗ นาที)

๑. ครเู รียกรวมนกั เรียนและใหน้ ั่งทีว่ า่ งๆตรงไหนกไ็ ด้ แต่
ตอ้ งได้ยินและเห็นครชู ัดเจน





Ⓢ ⓈⓈ ⓈⓈ -ถาม-ตอบ
-ให้การบ้าน
ⓈⓈ ⓈⓈ ⓈⓈ Ⓢ -ใบงานท่ี ๑
-ออกคำสัง่
Ⓢ Ⓢ ⓈⓈ

Ⓢ Ⓢ ⓈⓈ ⓈⓈ

ⓈⓈ ⓈⓈⓈ

๒๗

ⓈⓈ Ⓢ Ⓢ Ⓢ ⓈⓈ

ⓈⓈⓈⓈⓈ -สังเกตการปฏิบตั ิ
ตามระเบียบและ
๒. สรปุ ทง้ั หมดที่เรยี น (ทักษะ ความร้คู วามเข้าใจ การ คำส่ัง

แตง่ กาย ความต้ังใจ กฎระเบยี บ)

๓. อบรมและส่งั งาน คือให้ไปทำใบงานที่ ๑ และส่งในการ

เรยี นคราวต่อไป

๔. สัง่ ใหน้ กั เรยี นทำความสะอาดร่างกาย

๕. ใหน้ ักเรยี นยนื และสัง่ เลกิ แถวโดยการให้ปรบมือ ๓

ครงั้ แลว้ ร้อง “เอก อี เอ๊ก เอก๊ ...สนุกจังเลย”

๒๘

ใบความร้ทู ี่ ๑

เรือ่ ง เกมเลียนแบบ (เกมโรคติดตอ่ เกมชนไก่)
จดุ ประสงค์ เพือ่ ให้นักเรยี นใช้ศึกษาและทำความเข้าใจกอ่ นครอู ธบิ ายและสาธิต

เกมโรคติดตอ่ เกมชนไก่

ใบงานที่ ๑

เรือ่ ง เกมเลียนแบบทีห่ นู/ผมชอบ
ชอื่ ......................................................................... ชั้น......................................
วันที่..................เดอื น............................พ.ศ. .............................
จดุ ประสงค์ เพ่ือใหน้ ักเรยี นคิดสร้างสรรคเ์ กมเลยี นแบบตามจินตนาการ
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนคิดสร้างสรรคเ์ กมเลียนแบบตามจนิ ตนาการของนักเรยี น ๒ เกม

ช่ือเกม.................. ช่ือเกม..................
วิธีเลน่ ..................
อุปกรณ์ อุปกรณ์
.................. ..................

วธิ ีเลน่ ....................

เกณฑก์ ารประเมนิ ลงชื่อผปู้ ระเมิน.........................................................
o ดีมาก = ๕ คะแนน
o ดี = ๔ คะแนน o ครู
o พอใช้ = ๒ คะแนน o นกั เรียน
o พอ่ แม่ ผปู้ กครอง

๒๙

แบบประเมนิ ทศั นคตินักเรียน
นกั เรยี นรู้สกึ อยา่ งไรกบั การเรียนวนั น้ี ใหข้ ีดทำวงกลมล้อมรอบ

• มีความสขุ
• เร้าใจ
• ตลก
• ประหลาดใจ
• เสียใจ
• โกรธ
ลงชื่อนักเรียน...................................................................เลขท่ี........................................................

๓๐

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ “คุณมีน้ำใจนักกฬี าเพียงใด”
ชื่อ...................................................................................หอ้ งเรียน........................กลมุ่ .......

คุณสมบัติ ๓ ๒๑
(มาก) (ปานกลาง) (นอ้ ย)
๑.กล้าหาญ
๒.อดทน
๓.รแู้ พ้
๔.รชู้ นะ
๕.รู้จักให้อภยั
๖.ไมเ่ อาเปรยี บ
๗.สามคั คี
๘.ใหค้ วามรว่ มมือกลมุ่
๙.ไมเ่ ห็นแก่ตัว
๑๐.ใหค้ วามช่วยเหลือผู้ด้อยกวา่
๑๑.ซอื่ สัตยส์ ุจริต
๑๒.มีความมั่นคงทางอารมณ์
๑๓.เคารพสิทธผิ อู้ ่นื
๑๔.มคี วามรบั ผดิ ชอบ
๑๕.เอือ้ อาทรคนอื่น

รวม

เกณฑ์ ผปู้ ระเมนิ .......................................
ดมี าก (มากกว่า ๔๐ คะแนนข้ึนไป)
ดี (๓๕ คะแนน - ๓๙ คะแนน)
พอใช้ (๓๐คะแนน - ๓๔ คะแนน)
ควรปรบั ปรุง (ตำ่ กว่า ๓๐ คะแนน)

๓๑

แผนการจดั การเรยี นรวู้ ชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา
หนว่ ยที่ ๓ จิตและกายคอื สายสัมพนั ธ์ แผนฯ เรอ่ื งเกมสนุกเพ่ือสขุ ภาพ
เวลา ๑ ชัว่ โมง ระดับช้นั ป.๕ วนั ที่ .... เดือน...........ป.ี .............. ภาคเรียนท.่ี ... ปีการศกึ ษา .....

สาระที่ ๓ การเคล่อื นไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกฬี า

ตวั ชว้ี ดั ๑. เลม่ เกมนำไปสูก่ ฬี าทีเ่ ลอื กและกจิ กรรมการเคลือ่ นไหวแบบผลัดควบคุมการเคล่ือนไหวในเรือ่ งการ

รบั แรง การใช้แรง และความสมดุล

๒. แสดงทกั ษะกลไกในการปฏิบตั กิ ิจกรรมทางกายและเล่นกฬี า

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลงั กาย การเลน่ เกมและเลน่ กฬี า ปฏิบตั เิ ปน็ ประจำอยา่ งสม่ำเสมอ มีวินยั
เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกฬี า มจี ิตวญิ ญาณในการแขง่ ขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา
ตวั ช้ีวัด ๑. ออกกำลงั กายอย่างมีรูปแบบ เลน่ เกมทใี่ ชท้ กั ษะการคดิ และตดั สินใจ
๒. ปฏบิ ตั ติ ามกฎกตกิ า การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล ตามชนิดกฬี าท่ีเล่น
๓. ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธขิ องตนเอง ไมล่ ะเมิดสิทธิผู้อ่นื และยอมรับในความแตกต่างระหว่างบคุ คลในการเล่น
เกม และกีฬาไทย กฬี าสากล

จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. บอกถงึ ความหมายของเกมไดถ้ ูกตอ้ ง ๖๐%
๒. บอกประโยชนข์ องการเล่นเกมไดอ้ ยา่ งน้อย ๕ใน ๙ ขอ้
๓. นำทกั ษะการเคลื่อนไหวไปใชใ้ นการเล่นเกมได้อย่างนอ้ ย ๕๐%
๔. เล่นเกมอยา่ งสนุกสนานพรอ้ มแสดงมารยาทของการเล่นตามกฎระเบยี บทก่ี ำหนดไว้ทุกครั้ง
๕. บรหิ ารร่างกายและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ถกู ต้องทกุ ท่า

สาระการเรียนรู้
๑. ความหมายของเกม
๒. ประโยชน์ของการเลน่ เกม
๓. เกมเบ็ดเตล็ด เช่น เกมคนท่ี ๓ หนี เกมทำตามรหสั
๔. เกมเลยี นแบบ เช่น เกมโรคติดต่อ เกมชนไก่

๓๒

๕. เกมนำ เช่น เกมลงิ ชิงบอล เกมโยนให้คนหลังรบั เกมรบั บอลให้ทัน เกมสง่ -รับบอลเคล่ือนท่ี

(รายละเอียดมใี นหนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐานฯ กล่มุ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั ประถมศึกษา

ปที ี่ ๕ บทท่ี ๓ หนา้ ๘๒ - ๙๔)

กจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรม วธิ ีสอน ส่อื /อปุ กรณ์ การประเมินผล

ขั้นเตรียม (๕-๗ นาที)

๑. สำรวจนักเรยี น ดงั นี้

๑.๑ ให้นักเรียนเขา้ แถวตามกลุม่ ๒ กลมุ่ ตรวจนบั

จำนวนนักเรยี น (กลุ่มละ ๔ คน) -ออกคำส่ัง -แบบประเมนิ -สงั เกตดูหมายเลข

๑.๒ ตรวจสขุ ภาพ(เล็บ การเจ็บปว่ ย) -บรรยาย พฤติกรรม ประจำตวั ของ

๑.๓ ตรวจดกู ารแต่งกายและอปุ กรณ์ประกอบการเรยี น -บญั ชรี ายช่ือ นักเรียนพรอ้ มทง้ั

๒. บรหิ ารรา่ งกาย นกั เรยี น บนั ทึก

ครูใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวหน้ากระดาน และยืนห่างกัน -ถามว่ามีใคร

สองช่วงแขน เจบ็ ป่วยหรอื ไม่

๒.๑ ทำทา่ เหยยี ดยืดกลา้ มเนอ้ื -ขอ้ ตอ่ สว่ นต่างๆของ -สังเกตการแต่งกาย

รา่ งกายตงั้ แตศ่ รี ษะถงึ เทา้ (ความอ่อนตวั ) -สงั เกตจำนวนและ

๒.๒ กระโดดเขย่งพรอ้ มกบั ตบมือ ๑๐ คร้งั (ความ ความถกู ตอ้ งของ

แข็งแรงและความอดทนของกล้ามเนื้อขาและแขน ความ การบรหิ ารรา่ งกาย

ออ่ นตัวของกล้ามเน้ือไหล่)

๒.๓ ว่ิงอย่กู บั ท่พี ร้อมกับการหมุนแขนแบบกระโดด -ออกคำสัง่

เชือก ๑ นาที (ความอดทนของระบบไหลเวยี นเลอื ดและ -อธบิ ายและ

ระบบหายใจ ความอ่อนตวั ของไหล่ ความแข็งแรงและ สาธิต

ความอดทนของกลา้ มเน้ือขา) -นักเรียนลง

๒.๔ กระโดดเขา่ แตะอก ๑๐ คร้งั ตดิ ต่อกนั (ความ มือปฏิบัติ

แขง็ แรง-อดทนของกล้ามเนอ้ื ขา พลังกลา้ มเนื้อขา)

๒.๕ ฝ่ามอื ประกบกนั แลว้ ดนั ข้อมอื เข้าหากนั นับ

๑ – ๘ จำนวน ๕ ครั้ง/เซต (ความแข็งแรง-อดทนของ

กล้ามเนอ้ื แขน)

๒.๖ ลกุ -นั่งเขา่ งอ ๒๐ คร้งั (ความแขง็ แรง-อดทนของ

กล้ามเนื้อหน้าท้อง)

๒.๗ ดันพืน้ ๑๕ คร้ัง (ความแขง็ แรง-อดทนของกล้ามเน้อื

แขนและหน้าอก)

๓๓

กจิ กรรม วิธสี อน สือ่ /อุปกรณ์ การประเมินผล

ขนั้ ฝึกหัดและนำไปใช้ (๒๐-๒๕ นาที) -นักเรยี นลง -สงั เกตการ
มอื ปฏบิ ัติ เคล่อื นไหวทถ่ี ูก
๑. ให้นกั เรยี นเลน่ เกมคนท่ี ๓ หนี โดยซกั ซ้อมกติกาการ และปลอดภัย
-สังเกตความ
เลน่ ให้เข้าใจ ครูเป็นผู้ตัดสิน (ใช้เวลา ๑๐ นาท)ี นักเรยี น ร่วมมือกบั กล่มุ
-การปฏิบตั ิตาม
เลน่ ซ้ำได้มากกว่า ๑ รอบ (รายละเอยี ดของอุปกรณ์ กติกา

สถานที่ และวิธเี ล่นครูอธิบาย)

ⓈⓈ ⓈⓈ

ⓈⓈ ⓈⓈ

ⓈⓈ ⓈⓈ
ⓈⓈ ⓈⓈ

ⓈⓈ
ⓈⓈ

๒. ให้นักเรียนเลน่ เกมทำตามรหสั โดยซกั ซ้อมกตกิ าการ -เกา้ อเี้ ท่า -สังเกตว่านักเรียนมี
เล่นใหเ้ ข้าใจ ครูเปน็ ผตู้ ดั สนิ (ใชเ้ วลา ๑๐ นาที)นักเรียน จำนวนผเู้ ลน่ ความสขุ ในการ
เลน่ ซำ้ ได้มากกวา่ ๑ รอบ (รายละเอียดของอปุ กรณ์ แต่ละรอบ เรียนหรอื ไม่
สถานท่ี และวธิ ีเลน่ ครอู ธบิ าย) -ประเมิน
คุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์

ขั้นสรุปและสุขปฏบิ ตั ิ (๕-๗ นาที) -คำถาม-
๑. ครเู รียกรวมนักเรยี นและให้น่ังในรปู แบบดังนี้ คำตอบ

Ⓣ -ใหก้ ารบา้ น

ⓈⓈⓈⓈⓈⓈⓈ

-ใบงานท่ี ๑

๓๔

๒. สรุปทง้ั หมดท่ีเรยี น (ทักษะ ความรคู้ วามเขา้ ใจ การ

แตง่ กาย ความตัง้ ใจ กฎระเบียบ) -ออกคำส่งั

๓. อบรมและสั่งงาน คอื ให้ไปทำใบงานท่ี ๑ และส่งในการ

เรยี นคราวตอ่ ไป -สงั เกตการปฏิบตั ิ
ตามระเบียบและ
๔. สงั่ ใหน้ ักเรยี นทำความสะอาดร่างกาย คำสง่ั

๕. ใหน้ ักเรียนยืนและส่ังเลกิ แถวโดยการให้ปรบมือ

๓ คร้งั แลว้ รอ้ ง “ สนกุ จงั สนุกจริง”

๓๕

ใบความรู้ท่ี ๑
เรือ่ ง เกมเบ็ดเตล็ด (เกมคนท่ี ๓ หนีและ เกมทำตามรหัส)
จดุ ประสงค์ เพอ่ื ให้นกั เรียนใชศ้ ึกษาและทำความเขา้ ใจพร้อมการอธบิ ายและสาธติ ของครู

เกมคนท่ี ๓ หนี และ เกมทำตามรหัส

๓๖

ใบงานท่ี ๑

เรื่อง ประโยชนข์ องการเลน่ เกม
ช่อื ......................................................................... ช้ัน......................................
วนั ท่ี..................เดอื น............................พ.ศ. .............................
จดุ ประสงค์ เพอื่ ให้นักเรยี นสรุปประโยชน์ของการเล่นเกม
คำช้ีแจง ให้นกั เรียนบอกประโยชนข์ องการเลน่ เกมอยา่ งนอ้ ย ๖ ข้อ โดยทำเปน็ แผนภูมปิ ัญญา

ประโยชน์ของการเล่นเกม

เกณฑก์ ารประเมิน ลงชือ่ ผู้ประเมนิ .........................................................
o ดีมาก = ๕ คะแนน
o ดี = ๔ คะแนน o ครู
o พอใช้ = ๒ คะแนน o นกั เรียน
o พอ่ แม่ ผปู้ กครอง

๓๗

แบบประเมินทศั นคตินกั เรียน
นกั เรยี นรู้สกึ อยา่ งไรกบั การเรียนวนั นี้ ให้ทำวงกลมลอ้ มรอบหรอื ระบายสีหนา้

• มคี วามสุข
• เร้าใจ
• ตลก
• ประหลาดใจ
• เสยี ใจ
• โกรธ
ลงชื่อนักเรยี น...................................................................เลขท.่ี .......................................................

๓๘

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ “คณุ มีน้ำใจนกั กฬี าเพยี งใด”
ช่ือ...................................................................................หอ้ งเรียน........................กลุ่ม.......

คณุ สมบตั ิ ๓ ๒๑
(มาก) (ปานกลาง) (นอ้ ย)
๑.กลา้ หาญ
๒.อดทน ผปู้ ระเมนิ .......................................
๓.รแู้ พ้
๔.ร้ชู นะ
๕.รู้จกั ใหอ้ ภยั
๖.ไม่เอาเปรยี บ
๗.สามัคคี
๘.ใหค้ วามร่วมมือกลุ่ม
๙.ไม่เหน็ แกต่ วั
๑๐.ให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ดอ้ ยกวา่
๑๑.ซื่อสัตย์สจุ รติ
๑๒.มีความมั่นคงทางอารมณ์
๑๓.เคารพสิทธิผอู้ น่ื
๑๔.มคี วามรบั ผดิ ชอบ
๑๕.เออ้ื อาทรคนอน่ื

รวม

เกณฑ์
ดีมาก (มากกวา่ ๔๐ คะแนนข้ึนไป)
ดี (๓๕ คะแนน - ๓๙ คะแนน)
พอใช้ (๓๐คะแนน - ๓๔ คะแนน)
ควรปรบั ปรงุ (ตำ่ กว่า ๓๐ คะแนน)

๓๙

แผนการจัดการเรยี นร้วู ิชาสุขศึกษาและพลศกึ ษา
หนว่ ยท่ี ๓ จิตและกายคอื สายสัมพนั ธ์ แผนฯ เรื่องกฬี าเปน็ ยาวิเศษ
เวลา ๑ - ๓ ชวั่ โมง ระดบั ช้ัน ป.๕ วนั ที่ .... เดอื น...........ป.ี .............. ภาคเรียนท่ี ........... ปกี ารศกึ ษา ....................

สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะในการการเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกมและกีฬา
ตัวชีว้ ดั
๑. เล่นกฬี าไทย และกีฬาสากลประเภทบุคคลและประเภททมี ไดอ้ ย่างละ ๑ ชนดิ
๒. แสดงทักษะกลไกในการปฏิบัตกิ จิ กรรมทางกายและเล่นกีฬา

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลังกาย การเล่นเกมและเลน่ กฬี า ปฏิบตั ิเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มีวนิ ัย
เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มจี ิตวญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา
ตัวชี้วดั
๑. ออกกำลงั กายอยา่ งมรี ปู แบบ เลน่ เกมทใ่ี ชท้ ักษะการคิดและตัดสนิ ใจ
๒. ปฏบิ ตั ิตามกฎกติกา การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล ตามชนิดกีฬาท่เี ล่น
๓. ปฏิบัติตนตามสิทธขิ องตนเอง ไมล่ ะเมดิ สิทธผิ ู้อืน่ และยอมรบั ในความแตกตา่ ง
ระหวา่ งบคุ คลในการเล่นเกม และกฬี าไทย กีฬาสากล

จุดประสงค์การเรยี นรู้
๑. อธิบายลกั ษณะการวงิ่ ได้ถกู ต้อง ๖๐ %
๒. วิง่ ไดถ้ กู ต้องตามหลกั การเคลอ่ื นไหวอย่างสนุกสนานได้อยา่ งนอ้ ย ๘๐%
๓. เลน่ อยา่ งสนุกสนานพรอ้ มแสดงการปฏิบัติตามกฎระเบยี บที่กำหนดไว้ทุกคร้งั
๔. บริหารร่างกายและสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ถกู ต้องทุกท่า

สาระการเรียนรู้ (กรีฑา-การว่ิงระยะส้ัน)
๑. ความหมายและประโยชนข์ องกรฑี า
๒. การวิ่งระยะสน้ั
๒.๑ การเรมิ่ ตน้ วิ่ง
๒.๒ ทา่ ทางการวิ่ง
๒.๓ การว่ิงเขา้ เสน้ ชยั

๔๐

กจิ กรรมการเรียนรู้

กิจกรรม วิธสี อน ส่ือ/อปุ กรณ์ การประเมินผล

ขั้นเตรยี ม (๕ - ๗ นาที)

๑. สำรวจนกั เรยี น ดังนี้

๑.๑ ให้นกั เรียนเขา้ แถวตามกลมุ่ ๒ กล่มุ ตรวจนบั

จำนวนนักเรยี น (กลมุ่ ละ ๔ คน) -ออกคำสั่ง -แบบประเมิน -สังเกตดูหมายเลข

๑.๒ ตรวจสขุ ภาพ(เล็บ การเจ็บปว่ ย) -บรรยาย พฤตกิ รรม ประจำตัวของ

๑.๓ ตรวจดูการแตง่ กายและอุปกรณป์ ระกอบการเรยี น -บัญชรี ายชอ่ื นักเรยี นพร้อมทง้ั

๒. บริหารรา่ งกาย นกั เรียน บันทึก

ครใู ห้นกั เรียนเขา้ แถวหน้ากระดาน และยืนห่างกนั -ถามวา่ มใี คร

สองชว่ งแขน เจ็บปว่ ยหรอื ไม่

๒.๑ ทำทา่ เหยยี ดยดื กลา้ มเนอ้ื -ขอ้ ต่อส่วนตา่ งๆของ -สงั เกตการแตง่ กาย

รา่ งกายตง้ั แต่ศีรษะถึงเท้า (ความออ่ นตวั ) -สังเกตจำนวนและ

๒.๒ กระโดดเขยง่ พรอ้ มกับตบมอื ๑๐ ครง้ั (ความ ความถูกต้องของ

แขง็ แรงและความอดทนของกล้ามเนอื้ ขาและแขน ความ การบริหารร่างกาย

อ่อนตัวของกลา้ มเนอื้ ไหล)่

๒.๓ ว่งิ อยกู่ ับทีพ่ ร้อมกับการหมุนแขนแบบกระโดด -ออกคำสง่ั

เชอื ก ๑ นาที (ความอดทนของระบบไหลเวียนเลือดและ -อธิบายและ

ระบบหายใจ ความออ่ นตัวของไหล่ ความแขง็ แรงและ สาธิต

ความอดทนของกล้ามเนอ้ื ขา) -นักเรียนลงมอื

๒.๔ กระโดดเข่าแตะอก ๑๐ ครงั้ ติดตอ่ กนั (ความ ปฏิบตั ิ

แข็งแรง-อดทนของกล้ามเน้อื ขา พลงั กล้ามเนื้อขา)

๒.๕ ฝ่ามือประกบกันแลว้ ดนั ขอ้ มอื เข้าหากนั นับ

๑ – ๘ จำนวน ๕ ครั้ง/เซต (ความแขง็ แรง-อดทนของ

กล้ามเนอ้ื แขน)

๒.๖ ลกุ -นง่ั เข่างอ ๒๐ คร้งั (ความแข็งแรง-อดทนของ

กลา้ มเนอ้ื หน้าทอ้ ง)

๒.๗ ดนั พน้ื ๑๕ ครงั้ (ความแขง็ แรง-อดทนของกลา้ มเนอ้ื

แขนและหน้าอก)

๔๑

กจิ กรรม วิธสี อน ส่อื /อุปกรณ์ การประเมินผล
ขัน้ สอน (๕ - ๘ นาท)ี
๑. สงั่ ใหน้ กั เรยี นอย่ใู นรปู แบบดังตอ่ ไปนี้ทุกกล่มุ -ออกคำสั่ง -สงั เกตการให้ความ
ร่วมมือของนกั เรียน
Ⓢ Ⓢ ในการปฏบิ ตั ิตาม
Ⓢ Ⓢ คำสัง่
Ⓢ Ⓢ
Ⓢ Ⓢ

Ⓣ ๑ เมตร -อธิบาย -สงั เกตความสนใจ
-อธบิ าย ในการฟังและดกู าร
Ⓣ = ครู -ออกคำสง่ั อธิบายและสาธติ
-ถามความเข้าใจ
Ⓢ = นกั เรียน ของนักเรีย
๒. ครอู ธบิ ายความหมายและประโยชน์ของกรีฑาโดย
ยกตวั อย่างการเคลื่อนไหวในชวี ิตประจำวัน และให้ -ใบความรู้
นักเรยี นซักถาม
๓. ครแู จกใบความรเู้ ร่อื งการวงิ่ ระยะสั้น เกย่ี วกบั
ความหมายและประโยชนข์ องกรีฑา การวิง่ ระยะสน้ั
การเริม่ ต้นวง่ิ ท่าทางการว่ิง การวิง่ เข้าเส้นชยั ให้นักเรยี น
ทกุ คนศึกษา ประกอบการอธบิ ายของครู
๔. เม่อื เลือกได้แล้ว ให้นกั เรยี นยืนขึน้ ในลกั ษณะดงั นี้

ⓈⓈⓈⓈⓈ .....................................................

ⓈⓈⓈⓈⓈ........................................................



๕. ครูอธบิ ายและสาธติ ลกั ษณะการวิง่ และบอกถงึ -อธิบายและ
ประโยชนใ์ นการนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั และการเลน่ กีฬา สาธติ
และให้นกั เรยี นลองปฏบิ ตั ทิ ลี ะคน พร้อมแกไ้ ขข้อบกพร่อง -นกั เรยี นลงมือ

ปฏิบัติ

๔๒

กจิ กรรม วธิ สี อน สอื่ /อปุ กรณ์ การประเมนิ ผล
ขัน้ ฝกึ หดั (๒๐ - ๒๕ นาที)
๑.ใหน้ ักเรยี นฝกึ การออกวิง่ หรือเริ่มตน้ วง่ิ นกั เรยี นปฏบิ ตั ิ -นักเรียนลงมอื -สงั เกตการ
ซำ้ ได้หลายรอบ(รายละเอยี ดในหนังสือหน้า ๑๒๒) ปฏิบตั ิ เคลื่อนไหวท่ีถกู ตอ้ ง
ตามหลักการอยา่ ง
ⓈⓈⓈⓈⓈⓈ ปลอดภยั
ⓈⓈⓈⓈⓈⓈ

๒. ให้นกั เรียนฝึกทา่ ทางการวิ่ง นกั เรยี นปฏิบัติซ้ำได้หลาย -การเรยี นรู้ -ใบงานที่ ๑ -สงั เกตว่านกั เรียนมี
รอบ โดยใหไ้ ปฝกึ ในทวี่ ่างโดยอิสระกลุ่มละ ๓-๔ คน และ แบบร่วมมือ ความสขุ สนใจใน
ช่วยกันแก้ไขใหเ้ พื่อน ระมดั ระวงั ไมใ่ หช้ นกัน (ใบงานท่ี ๑) การเรียนหรือไม่
-สังเกตความถูก
ⓈⓈⓈ ⓈⓈⓈ Ⓢ ต้องของการปฏิบัติ
ⓈⓈ -สงั เกตความ
ร่วมมือ พฤติกรรม
ⓈⓈⓈⓈ ⓈⓈⓈⓈ การทำงานกลมุ่
-การปฏบิ ตั ติ าม
ข้อตกลง

ข้ันใช้ (๑๐ - ๑๒ นาท)ี

๑. ครูเรยี กรวมนกั เรียนและให้น่งั ทีว่ ่างๆตรงไหนกไ็ ด้ แต่

ตอ้ งไดย้ ินและเหน็ ครชู ัดเจน





Ⓢ ⓈⓈ ⓈⓈ

ⓈⓈ ⓈⓈ ⓈⓈ Ⓢ -อธิบายและ
สาธติ
๒. ครอู ธบิ ายกติกาการแข่งขนั วงิ่ พร้อมการสาธติ และให้ -นกั เรยี นลงมือ
นกั เรียนทุกกลมุ่ (กลุม่ เดิม)ฝกึ ตามรปู แบบดงั นี้ ปฏบิ ตั ิ

๔๓

ⓈⓈⓈⓈⓈⓈⓈ -สังเกตการปฏิบตั ิ
ⓈⓈⓈⓈⓈⓈⓈ ตามระเบียบและ
คำส่งั และกฎกติกา
-ประเมนิ
คุณลักษณะอนั
พึงประสงค์

๔๔

ใบความรทู้ ี่ ๑

เรื่อง การวง่ิ ระยะสน้ั
จดุ ประสงค์ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นใชศ้ กึ ษาและทำความเขา้ ใจกอ่ นครูอธบิ ายและสาธติ

การวง่ิ ระยะสนั้

๑. ความหมายและประโยชน์ของกรีฑา
๒. การวิ่งระยะสัน้

๒.๑ การเริ่มตน้ วงิ่
๒.๒ ท่าทางการวิ่ง
๒.๓ การวง่ิ เข้าเสน้ ชยั

๔๕

ใบงานท่ี ๑

เรอ่ื ง ท่าทางการว่ิง
ช่ือ......................................................................... ชนั้ ......................................
วันท่.ี .................เดอื น............................พ.ศ. .............................
จดุ ประสงค์ เพ่ือให้นกั เรียนฝกึ ทา่ ทางการว่งิ และช่วยเพ่อื นแก้ไขขอ้ บกพรอ่ ง
คำชี้แจง ให้นกั เรียนฝึกทา่ ทางการวง่ิ นกั เรียนปฏิบตั ิซำ้ ได้หลายรอบโดยให้ไปฝกึ ในที่ว่างโดยอสิ ระกลมุ่

ละ ๓-๔ คน และชว่ ยกนั แก้ไขใหเ้ พ่อื น ระมัดระวงั ไมใ่ ห้ชนกัน

เกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื ผู้ประเมิน.........................................................
o ดมี าก = ๕ คะแนน
o ดี = ๔ คะแนน o ครู
o พอใช้ = ๒ คะแนน o นกั เรียน
o พอ่ แม่ ผปู้ กครอง

๔๖

แบบประเมนิ ทศั นคตินักเรียน
นกั เรยี นรู้สกึ อยา่ งไรกบั การเรียนวนั น้ี ใหข้ ีดทำวงกลมล้อมรอบ

• มีความสขุ
• เร้าใจ
• ตลก
• ประหลาดใจ
• เสียใจ
• โกรธ
ลงชื่อนักเรียน...................................................................เลขท่ี........................................................

๔๗

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ “คณุ มีนำ้ ใจนักกีฬาเพียงใด”

ชอ่ื ...................................................................................ห้องเรียน........................กล่มุ .......

คุณสมบัติ ๓ ๒๑
(มาก) (ปานกลาง) (น้อย)
๑.กลา้ หาญ
๒.อดทน ผูป้ ระเมิน.......................................
๓.รู้แพ้
๔.รูช้ นะ
๕.ร้จู ักให้อภัย
๖.ไมเ่ อาเปรยี บ
๗.สามคั คี
๘.ให้ความร่วมมือกลมุ่
๙.ไมเ่ หน็ แก่ตวั
๑๐.ใหค้ วามช่วยเหลอื ผู้ดอ้ ยกว่า
๑๑.ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ
๑๒.มีความม่ันคงทางอารมณ์
๑๓.เคารพสทิ ธผิ ูอ้ นื่
๑๔.มีความรบั ผดิ ชอบ
๑๕.เออ้ื อาทรคนอ่นื

รวม

เกณฑ์
ดมี าก (มากกวา่ ๔๐ คะแนนขนึ้ ไป)
ดี (๓๕ คะแนน - ๓๙ คะแนน)
พอใช้ (๓๐คะแนน - ๓๔ คะแนน)
ควรปรับปรงุ (ตำ่ กว่า ๓๐ คะแนน)

๔๘

แผนการจดั การเรยี นรู้วิชาสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา
หน่วยท่ี ๓ จติ และกายคอื สายสัมพันธ์ แผนฯ เรื่องสมรรถภาพทางกาย
เวลา ๑ - ๓ ชั่วโมง ระดับชนั้ ป.๕ วนั ท่ี .... เดอื น...........ป.ี .............. ภาคเรียนท่ี ........... ปกี ารศึกษา ....................

ผูส้ อน..................................................................................
สาระที่ ๔ การสร้างเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เหน็ คุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ การป้องกันโรค และ
การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ
ตวั ชีว้ ัด ทดสอบและปรับปรงุ สมรรถภาพทางกายตามผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
จุดประสงค์การเรยี นรู้

๑. บอกความหมายของสมรรถภาพทางกายได้ถูกต้อง ๖๐ %
๒. บอกคณุ ค่าของสมรรถภาพทางกายทม่ี ตี อ่ สุขภาพ ได้อยา่ งนอ้ ย ๒ ขอ้
๓. แสดงการปฏบิ ัตกิ ารทดสอบสมรรถภาพทางกายตามกฎระเบยี บทก่ี ำหนดไวถ้ กู ตอ้ งทุกครงั้
๔. บอกสว่ นประกอบของสมรรถภาพทางกายไดถ้ ูกต้องทกุ ทา่
๕.แสดงทา่ กายบริหารเพือ่ สร้างเสรมิ และปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายได้อย่างนอ้ ย ๓ ท่า
สาระการเรียนรู้
๑.ความหมายของสมรรถภาพทางกาย
๒.องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกาย
๓.การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย

๔๙

กิจกรรมการเรียนรู้

กจิ กรรม วิธีสอน สือ่ /อุปกรณ์ การประเมนิ ผล

ขน้ั เตรียม (๕ - ๗ นาท)ี -แบบประเมิน -สงั เกตดหู มายเลข
พฤติกรรม ประจำตวั ของ
๑. สำรวจนักเรียน ดังนี้ -บัญชรี ายชอื่ นักเรียนพรอ้ มทงั้
นกั เรียน บนั ทึก
๑.๑ ให้นักเรยี นเขา้ แถวตามกลุม่ ๒ กลุ่ม ตรวจนบั
-ถามว่ามใี คร
จำนวนนักเรยี น (กลมุ่ ละ ๔ คน) -ออกคำส่ัง เจ็บป่วยหรือไม่
-สังเกตการแตง่ กาย
๑.๒ ตรวจสุขภาพ(เลบ็ การเจ็บป่วย) -บรรยาย -สงั เกตจำนวนและ
ความถกู ต้องของ
๑.๓ ตรวจดกู ารแตง่ กายและอุปกรณป์ ระกอบการเรียน การบรหิ ารรา่ งกาย

๒. บรหิ ารรา่ งกาย -สงั เกตการให้ความ
รว่ มมอื ของนกั เรยี น
ทำทา่ เหยียดยืดกลา้ มเนอื้ -ขอ้ ตอ่ ส่วนตา่ งๆของรา่ งกาย ในการปฏิบัตติ าม
คำสง่ั
ต้ังแต่ศรี ษะถึงเท้า

ขน้ั สอน (๑๐ - ๑๒ นาท)ี -ออกคำส่งั
๑. ส่งั ใหน้ กั เรยี นอย่ใู นรปู แบบดงั ต่อไปน้ที กุ กลมุ่

Ⓢ Ⓢ
Ⓢ Ⓢ
Ⓢ Ⓢ
Ⓢ Ⓢ

Ⓣ ๑ เมตร -อธิบาย -สังเกตความสนใจ
-ใบความรู้ ในการฟังและดูการ
Ⓣ = ครู อธิบายและสาธติ
-คำถาม-คำตอบ ของครู
Ⓢ = นกั เรยี น
๒. ครูอธบิ ายความหมายและประโยชนข์ องสมรรถภาพ
ทางกาย และให้นักเรยี นซกั ถาม
๓. ครูแจกใบความรูเ้ ร่อื งสมรรถภาพทางกาย เก่ียวกับ
ความหมายของสมรรถภาพทางกาย องค์ประกอบของ
สมรรถภาพทางกาย และการสรา้ งเสริมสมรรถภาพ
ทางกาย ใหน้ กั เรยี นทุกคนศึกษา และซักถาม

๕๐


Click to View FlipBook Version