The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารฯ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thaimong1150, 2021-07-07 04:50:00

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.5

แผนการเรียนรู้หน่วยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารฯ

แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวิชาวิทยาศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3
เร่อื ง การเปลี่ยนแปลงของสารฯ

จดั ทำโดย นายกชกร จนั ทรอ์ าภาส
ครูโรงเรียนบา้ นไทรงาม สพป.ชย. 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสารในชีวติ ประจาวัน

เวลาเรียน 10 ชัว่ โมง

แผนผังการเรียนรู้แบบบรู ณาการ ภาษาไทย
• แสดงความคิดเหน็ ฟังสรุปสาระสาคญั
วทิ ยาศาสตร์
• การเปล่ียนสถานะของสสาร และจบั ใจความ
• การละลายของสารในน้า • พูดแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถาม
• การเปลยี่ นแปลงของสาร • อ่านและสะกดคาถกู ตอ้ ง
• เขยี นตอบคาถามกิจกรรมการทดลอง
เม่ือเกิดการเปล่ยี นแปลงทางเคมี

การเปล่ยี นแปลง
ของสาร

ในชีวติ ประจาวนั

สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ : ทศั นศิลป์
• สารในชีวิตประจาวนั • วาดภาพและระบายสีใหส้ วยงาม

ตัวชี้วัด

1. อธิบายการเปลยี่ นแปลงของสสาร เมอ่ื ทาให้สสารร้อนข้นึ หรือเยน็ ลง โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
(ว 2.1 ป.5/1)

2. อธิบายการละลายของสารในน้า โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ (ว 2.1 ป.5/2)
3. วิเคราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงของสารเมื่อเกิดการเปลีย่ นแปลงทางเคมี โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

(ว 2.1 ป.5/3)
4. วิเคราะห์และระบกุ ารเปลย่ี นแปลงทีผ่ นั กลบั ได้ และการเปล่ียนแปลงทผ่ี นั กลบั ไมไ่ ด้ (ว 2.1 ป.5/4)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสารในชีวติ ประจาวัน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1

เร่ือง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร : 1

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิ

ของสสารกบั โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลกั และธรรมชาติ
ของการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ตัวชีว้ ดั
ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมอ่ื ทาให้สสารร้อนข้ึนหรือเยน็ ลง
โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสารได้ (K)
2. ปฏิบตั กิ ิจกรรม การเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความม่งุ มน่ั และต้งั ใจได้ (P)
3. มคี วามมงุ่ มนั่ และต้งั ใจ (A)

สาระการเรียนรู้

การเปล่ยี นสถานะของสสาร เป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพม่ิ ความร้อนให้กบั สสาร
ถึงระดบั หน่ึงจะทาใหส้ สารที่เป็นของแขง็ เปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว
และเมื่อเพมิ่ ความร้อนตอ่ ไปจนถงึ อีกระดบั หน่ึงของเหลวจะเปล่ยี นเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็ นไอ
แต่เมือ่ ลดความร้อนลงถึงระดบั หน่ึงแก๊สจะเปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น
และถา้ ลดความร้อนตอ่ ไปอีกจนถงึ ระดบั หน่ึงของเหลวจะเปล่ยี นสถานะเป็นของแขง็ เรียกวา่ การแขง็ ตวั

สสารบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแขง็ เป็นแกส๊ โดยไมผ่ า่ นการเป็นของเหลว เรียกว่า
การระเหิด ส่วนแกส๊ บางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกวา่
การระเหิดกลบั

เม่อื สารเกิดการเปล่ยี นแปลงแลว้ สารสามารถเปลี่ยนกลบั เป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลีย่ นแปลง
ทผ่ี นั กลบั ได้ แตส่ ารบางอยา่ งเกิดการเปล่ยี นแปลงแลว้ ไมส่ ามารถเปล่ยี นกลบั เป็นสารเดิมได้
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผนั กลบั ไมไ่ ด้

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
- การอธิบาย การเขียน การพูดหนา้ ช้นั เรียน

2. ความสามารถในการคิด
- การสังเกต การสารวจ การคิดวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสร้างคาอธิบาย การอภิปราย
การสื่อความหมาย การทากิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- การแกป้ ัญหาขณะปฏิบตั ิกิจกรรมการทดลอง

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
- กระบวนการกลุ่ม

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- การนาเสนอผลงานโดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทางาน

คาถามสาคญั

สสารเปลย่ี นสถานะไดอ้ ยา่ งไร

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข้•อม•ลู •(G•at•he•ri•ng•)

1. นกั เรียนสังเกตภาพไอศกรีมท่เี ริ่มหลอมเหลว และน้าในช่องแช่แขง็ ของตเู้ ยน็ กลายเป็นน้าแขง็

ไอศกรีมที่เร่ิมหลอมเหลว น้าในช่องแช่แขง็ ของตูเ้ ยน็ กลายเป็นน้าแขง็

แลว้ ร่วมกนั สนทนากระตนุ้ นกั เรียนเกิดความสงสยั และตอ้ งการหาคาตอบดว้ ยกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร์ โดยร่วมกนั ตอบคาถามสาคญั ดงั น้ี

1.1 การเปล่ียนแปลงของสสารมกี ี่แบบ อะไรบา้ ง
(การเปลี่ยนแปลงของสสารมี 3 แบบ ไดแ้ ก่ การเปลย่ี นสถานะ การละลาย และการเกิดสารใหม่)
1.2 ถงึ แมส้ สารแตล่ ะชนิดจะมสี มบตั เิ ฉพาะตวั แตส่ มบตั ขิ องสสารก็อาจเปล่ยี นแปลงไปได้
นกั เรียนทราบหรือไมว่ ่า สสารมกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งไรบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาตอบ สสารมกี ารเปลยี่ นแปลงจากสถานะหน่ึงไปเป็นอีกสถานะหน่ึงได้
และทาใหก้ ลบั คนื มาอยใู่ นสถานะเดิมได้ โดยการเปลีย่ นสถานะของสสารมีพลงั งานเขา้ มาเกี่ยวขอ้ งเสมอ)
1.3 อะไรทาใหส้ สารมกี ารเปล่ียนแปลงโดยเปลย่ี นสถานะ
(ตวั อยา่ งคาตอบ พลงั งานทาใหส้ สารมีการเปลี่ยนแปลงโดยเปล่ยี นสถานะ)

1.4 สสารเปล่ยี นสถานะไดอ้ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาตอบ สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหน่ึงไปยงั สถานะหน่ึงได้
เมื่อสสารไดร้ ับความร้อน)
2. นกั เรียนร่วมกนั คาดคะเนคาตอบ
3. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน คละเพศ และคละนกั เรียนเก่ง ปานกลาง และออ่ น
(หรือจะแบง่ กลมุ่ ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ เพ่ิมเติมได)้ โดยแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาวธิ ีทาและปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ี 3.1
เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร ในใบงานท่ี 13 ตามข้นั ตอน ดงั น้ี
3.1 ทบทวนบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิกในกลมุ่ วา่ ตอ้ งทาหนา้ ทอ่ี ยา่ งไรบา้ งในการดาเนินการ
ดว้ ยกระบวนการทางานกลุ่ม เช่น หัวหนา้ กลุม่ มหี นา้ ที่ .................. ผูจ้ ดบนั ทกึ มีหนา้ ที่ .........................
ผเู้ สนอรายงาน มีหนา้ ที่ .............. อนื่ ๆ .................................

กิจกรรมกลมุ่ เป็นการสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการร่วมมือทางานเป็นทมี
การคดิ แกป้ ัญหา และรบั ผิดชอบตอ่ ผลงานร่วมกนั

3.2 ตรวจสอบความพร้อมของส่ือ วสั ดอุ ุปกรณ์ สาหรับการปฏิบตั ิกิจกรรมว่าครบถว้ น
เหมาะสมท่ีจะใชใ้ นการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเพียงใด

4. นกั เรียนแต่ละกลุม่ อ่านและฟังอธิบายข้นั ตอนวธิ ีทากิจกรรมท่ี 3.1 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงสถานะ
ของสสาร ให้เขา้ ใจอยา่ งชดั เจน โดยเขียนข้นั ตอนลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ต และนาข้นึ หนา้ กระดาน

5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั แสดงความคิดเห็นกอ่ นทากิจกรรม โดยร่วมกนั ตอบคาถามกอ่ นทา
กิจกรรม ดงั น้ี

5.1 คาถามสาคญั ในการทากิจกรรมคืออะไร
(สสารเปลี่ยนสถานะไดอ้ ยา่ งไร)
5.2 สสารมีกี่สถานะ อะไรบา้ ง
(สสารมี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และแกส๊ )
5.3 สสารแตล่ ะชนิดสามารถเปลยี่ นสถานะไดห้ รือไม่ อยา่ งไร
(สสารสามารถเปลีย่ นสถานะจากสถานะหน่ึงไปยงั สถานะหน่ึงได้ เช่น น้าแข็งเปลีย่ นเป็นน้า
เมื่อไดร้ บั ความร้อน)
6. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อยา่ งรวมพลงั ทากิจกรรมท่ี 3.1 เร่ือง การเปลยี่ นแปลงสถานะ
ของสสาร และบนั ทึกผลการทากิจกรรมในใบงานที่ 13
7. ผแู้ ทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน เพ่ือตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

•(ขG•้นั aค•tดิh•eวrเิ •iคnรg•า)ะ•ห์•แล•ะส•รุป• ค•วา•ม•รู้ •(P•ro•ces•si•ng•)

8. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วเิ คราะห์ และอภิปรายผลการทากิจกรรม

โดยร่วมกนั ตอบคาถามหลงั ทากิจกรรม ดงั น้ี
8.1 น้าแข็งเกิดการเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร ปัจจยั ใดที่ทาใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงดงั กล่าว
(น้าแข็งทีอ่ ยใู่ นบกี เกอร์เกิดการหลอมเหลวและเปล่ยี นเป็นน้า โดยปัจจยั ทีท่ าใหน้ ้าแข็ง

เกิดการเปลี่ยนสถานะเป็นน้า คือ การไดร้ บั พลงั งานความร้อน)
8.2 เมอ่ื นาน้าในบีกเกอร์ไปตม้ เกิดการเปลย่ี นแปลงอยา่ งไร ปัจจยั ใดที่ทาใหเ้ กิดการ

เปลย่ี นแปลงดงั กลา่ ว

(น้าในบีกเกอร์เกิดการกลายเป็นไอน้า โดยปัจจยั ทท่ี าให้น้าแข็งเกิดการเปล่ยี นสถานะเป็นน้า
คือ การไดร้ บั พลงั งานความรอ้ น)

8.3 สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอยา่ งไร

(สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหน่ึงไปเป็นอกี สถานะหน่ึงได้ โดยการเพ่ิมความร้อน
ใหแ้ กส่ สารหรือทาใหส้ สารเยน็ ลง เช่น เมือ่ เพ่ิมความร้อนใหแ้ กน่ ้าแขง็ จะทาใหน้ ้าแข็งเกิดการหลอมเหลว
เปล่ียนเป็นน้า ซ่ึงมสี ถานะของเหลว เรียกกระบวนการน้ีวา่ การหลอมเหลว เมอื่ ให้ความร้อนต่อไปเร่ือย ๆ
น้าจะเกิดการกลายเป็นไอน้า ซ่ึงมสี ถานะแกส๊ เรียกกระบวนการน้ีวา่ การกลายเป็ นไอ

แต่เม่ือทาให้ไอน้าเยน็ ตวั ลงโดยการลดความร้อน ไอน้าซ่ึงมีสถานะแกส๊ จะเปลี่ยนเป็นน้า
ซ่ึงมสี ถานะของเหลว เรียกกระบวนการน้ีว่า การควบแน่น แลว้ หากลดความร้อนตอ่ ไปอกี น้าซ่ึงมสี ถานะ
ของเหลวจะเปลย่ี นเป็นน้าแขง็ ซ่ึงมสี ถานะของแขง็ เรียกกระบวนการน้ีว่า การแข็งตัว)

จากน้นั ฝึกนกั เรียนถามคาถามท่ีสงสัยดว้ ยการถามเพื่อน โดยไม่จาเป็นตอ้ งถามครูอยา่ งเดียว

9. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั คดิ วเิ คราะห์ เพ่อื เพิม่ สมรรถนะการคดิ โดยสงั เกตการเปลีย่ นแปลง
ของสาร แลว้ วิเคราะหก์ ระบวนการเปลี่ยนแปลงใหถ้ กู ตอ้ ง

การเปลี่ยนแปลงของสสาร ช่ือกระบวนการ
(การระเหิด)
9.1 ลูกเหม็นทที่ ้งิ ไวใ้ นตูเ้ ส้ือผา้ มีขนาดเลก็ ลง (การระเหย)
9.2 น้าในอ่างทบี่ า้ นมปี ริมาณลดลง (การควบแน่น)
9.3 การเกิดหยดน้าคา้ งบนใบไมใ้ นตอนเชา้ (การหลอมเหลว)
9.4 ช็อกโกแลตที่ซ้ือมาเริ่มละลาย (การระเหย)
9.5 แมซ่ กั ผา้ แลว้ ตากทง้ิ ไว้ (การหลอมเหลว)
9.6 เม่อื จุดเทียนไขมีหยดน้าตาเทยี นเกิดข้ึน (การระเหิดกลบั )
9.7 ไอการบูรกลายเป็นเกลด็ การบรู

10. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรุปผลการทากิจกรรมและสรุปส่ิงที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั เก่ียวกบั
การเปล่ียนแปลงสถานะของสสารวา่ สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหน่ึงไปเป็นอกี สถานะหน่ึงได้
โดยการเพิม่ ความร้อนใหแ้ ก่สสารหรือทาใหส้ สารเยน็ ลง เช่น เม่อื เพ่ิมความร้อนให้แกน่ ้าแขง็
จะทาให้น้าแขง็ เกิดการหลอมเหลวเปลีย่ นเป็นน้า ซ่ึงมีสถานะของเหลว เรียกกระบวนการน้ีว่า
การหลอมเหลว เมอื่ ให้ความร้อนตอ่ ไปเรื่อย ๆ น้าจะเกิดการกลายเป็นไอน้า ซ่ึงมีสถานะแก๊ส
เรียกกระบวนการน้ีวา่ การกลายเป็ นไอ

แต่เมอ่ื ทาให้ไอน้าเยน็ ตวั ลงโดยการลดความร้อน ไอน้าซ่ึงมีสถานะแก๊สจะเปล่ียนเป็นน้า
ซ่ึงมีสถานะของเหลว เรียกกระบวนการน้ีวา่ การควบแน่น แลว้ หากลดความร้อนตอ่ ไปอกี น้าซ่ึงมีสถานะ
ของเหลวจะเปลี่ยนเป็นน้าแข็ง ซ่ึงมสี ถานะของแข็ง เรียกกระบวนการน้ีว่า การแขง็ ตวั

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แบบฝึกหัด รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 5
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พฒั นาการคิดวิเคราะห์ รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

4. ภาพไอศกรีมที่เร่ิมหลอมเหลว

5. ภาพน้าในช่องแช่แข็งของตเู้ ยน็ กลายเป็นน้าแขง็

6. บีกเกอร์ขนาด 250 ลกู บาศก์เซนติเมตร 1 ใบ

7. น้าแขง็ บด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร

8. ตะเกียงแอลกอฮอลพ์ ร้อมทีก่ ้นั ลม 1 ชุด

9. ใบงานที่ 13 เร่ือง การเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร
10. แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง การเปลยี่ นสถานะของสสาร (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ การปฏบิ ตั ิการทากิจกรรมการทดลอง (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมินการปฏบิ ตั ิการทากจิ กรรมการทดลอง

รายการการประเมนิ 4 ระดับคณุ ภาพ 1
32

1. การทากิจกรรม ทากิจกรรมการทดลอง ทากิจกรรมการทดลอง ทากิจกรรมการทดลอง ทากิจกรรมการทดลอง

การทดลอง ตามวิธีการและข้นั ตอน ตามวธิ ีการและข้นั ตอน ตามวิธีการและข้นั ตอน ไม่ถกู ตอ้ งตามวธิ ีการ

ตามแผนทกี่ าหนด ที่กาหนดไวอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ท่กี าหนดไวด้ ว้ ยตนเอง ท่ีกาหนดไว้ โดยมีครู และข้นั ตอนทกี่ าหนดไว้

ดว้ ยตนเอง มีการปรับปรุง มีการปรับปรุงแกไ้ ขบา้ ง หรือผอู้ น่ื เป็นผแู้ นะนา ไมม่ ีการปรับปรุงแกไ้ ข

แกไ้ ขเป็นระยะ

2. การใชอ้ ุปกรณ์ ใชอ้ ุปกรณ์และ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณ์และ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใชอ้ ุปกรณแ์ ละ/หรือ

และ/หรือเคร่ืองมอื เคร่ืองมอื ในการทา เครื่องมือในการทา เครื่องมอื ในการทา เคร่ืองมือในการทา

กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง

ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง โดยมีครู ไมถ่ ูกตอ้ ง

ตามหลกั การปฏบิ ตั ิ ตามหลกั การปฏิบตั ิ หรือผอู้ ่นื เป็นผูแ้ นะนา และไมม่ คี วามคล่องแคลว่

และคล่องแคล่ว แต่ไม่คล่องแคลว่ ในการใช้

3. การบนั ทกึ ผล บนั ทึกผลเป็นระยะ บนั ทึกผลเป็นระยะ บนั ทกึ ผลเป็นระยะ บนั ทึกผลไมค่ รบ

การทากิจกรรม อยา่ งถูกตอ้ ง มรี ะเบยี บ อย่างถูกตอ้ ง มรี ะเบยี บ แต่ไมเ่ ป็นระเบียบ ไม่มกี ารระบุหน่วย

การทดลอง มีการระบุหน่วย มีการ มกี ารระบหุ น่วย มกี าร ไมม่ ีการระบุหน่วย และไมเ่ ป็นไปตาม

อธิบายขอ้ มูลใหเ้ ห็น อธิบายขอ้ มูลใหเ้ ห็นถึง และไม่มีการอธิบายขอ้ มูล การทากิจกรรม

ความเช่ือมโยงเป็นภาพรวม ความสัมพนั ธ์เป็นไป ใหเ้ หน็ ถงึ ความสัมพนั ธ์ การทดลอง

เป็นเหตเุ ป็นผล และเป็นไป ตามการทากิจกรรม ของการทากิจกรรม

ตามการทดลอง การทดลอง การทดลอง

4. การจดั กระทาขอ้ มลู จดั กระทาขอ้ มลู จดั กระทาขอ้ มูล จดั กระทาขอ้ มูล จดั กระทาขอ้ มูลอย่าง

และการนาเสนอ อย่างเป็นระบบ อย่างเป็นระบบ มกี าร อยา่ งเป็นระบบ ไม่เป็นระบบ และมกี าร

มกี ารเช่ือมโยงให้เห็น จาแนกขอ้ มลู ให้เห็น มีการยกตวั อยา่ งเพม่ิ เตมิ นาเสนอไมส่ ่ือความหมาย

เป็นภาพรวม และนาเสนอ ความสมั พนั ธ์ นาเสนอ ใหเ้ ขา้ ใจง่าย และนาเสนอ และไม่ชดั เจน

ดว้ ยแบบต่างๆอยา่ งชดั เจน ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ได้ ดว้ ยแบบต่าง ๆ

ถูกตอ้ ง แต่ยงั ไมช่ ดั เจน แตย่ งั ไม่ชดั เจน

และไมถ่ กู ตอ้ ง

รายการการประเมิน 4 ระดับคณุ ภาพ 1
32

5. การสรุปผล สรุปผลการทากิจกรรม สรุปผลการทากิจกรรม สรุปผลการทากิจกรรม สรุปผลการทากิจกรรม

การทากิจกรรม การทดลอง การทดลองไดถ้ ูกตอ้ ง การทดลองได้ โดยมคี รู การทดลองตามความรู้

การทดลอง ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง กระชบั แตย่ งั ไม่ครอบคลุมขอ้ มูล หรือผอู้ นื่ แนะนาบา้ ง ทพี่ อมอี ยู่ โดยไมใ่ ช้

ชดั เจน และครอบคลุม จากการวิเคราะหท์ ้งั หมด จึงสามารถสรุปไดถ้ ูกตอ้ ง ขอ้ มลู จากการทากิจกรรม

ขอ้ มูลจากการวิเคราะห์ การทดลอง

ท้งั หมด

6. การดแู ลและการเกบ็ ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรือ ดแู ลอุปกรณแ์ ละ/หรือ ไม่ดูแลอุปกรณ์และ/

อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมอื ในการทา เครื่องมือในการทา เคร่ืองมอื ในการทา หรือเคร่ืองมือในการทา

เคร่ืองมือ กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง

และมีการทาความสะอาด และมกี ารทาความสะอาด มีการทาความสะอาด และไมส่ นใจทาความ

และเก็บอยา่ งถูกตอ้ ง อย่างถูกตอ้ ง แตเ่ ก็บไมถ่ ูกตอ้ ง สะอาด รวมท้งั เก็บ

ตามหลกั การ และแนะนา แต่เกบ็ ไมถ่ กู ตอ้ ง ตอ้ งใหค้ รูหรือผอู้ ืน่ ไม่ถูกตอ้ ง

ใหผ้ อู้ ่ืนดูแลและเกบ็ แนะนา

รกั ษาไดถ้ กู ตอ้ ง

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

ลงช่ือ )
( )

ตาแหน่ง

บนั ทึกหลังการสอน

ผลการจดั การเรียนการสอน

ปัญหา/อปุ สรรค

แนวทางแกไ้ ข

ครูผสู้ อน
(

วนั ทีบ่ นั ทึก

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การเปล่ียนแปลงของสารในชีวติ ประจาวัน
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2

เรื่อง การเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร : 2

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมบตั ิ

ของสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติ
ของการเปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี
ตวั ชี้วดั
ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลีย่ นสถานะของสสาร เมื่อทาํ ใหส้ สารร้อนข้นึ หรือเยน็ ลง
โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเปล่ยี นสถานะของสสารได้ (K)
2. จดั ทาํ แผ่นพบั ภูมิปัญญาชาวบา้ นเกี่ยวกบั การเปลีย่ นสถานะของสสารในชุมชน อยา่ งรวมพลงั

ดว้ ยความมงุ่ มนั่ และต้งั ใจได้ (P)
3. มีความมงุ่ มน่ั และต้งั ใจ (A)

สาระการเรียนรู้

การเปลีย่ นสถานะของสสาร เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เมือ่ เพ่ิมความร้อนใหก้ บั สสาร
ถึงระดบั หน่ึงจะทาํ ใหส้ สารที่เป็นของแขง็ เปลีย่ นสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การหลอมเหลว
และเมอ่ื เพ่มิ ความร้อนต่อไปจนถึงอกี ระดบั หน่ึงของเหลวจะเปลีย่ นเป็นแกส๊ เรียกวา่ การกลายเป็ นไอ
แต่เมอ่ื ลดความร้อนลงถึงระดบั หน่ึงแกส๊ จะเปล่ยี นสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การควบแน่น
และถา้ ลดความร้อนตอ่ ไปอกี จนถึงระดบั หน่ึงของเหลวจะเปลย่ี นสถานะเป็นของแขง็ เรียกว่า การแข็งตวั

สสารบางชนิดสามารถเปลีย่ นสถานะจากของแขง็ เป็นแก๊สโดยไม่ผา่ นการเป็นของเหลว เรียกว่า
การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลย่ี นสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า
การระเหิดกลบั

เมื่อสารเกิดการเปล่ียนแปลงแลว้ สารสามารถเปลยี่ นกลบั เป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลง
ท่ผี นั กลบั ได้ แตส่ ารบางอยา่ งเกิดการเปลีย่ นแปลงแลว้ ไม่สามารถเปล่ียนกลบั เป็นสารเดิมได้
เป็นการเปล่ยี นแปลงทผี่ นั กลบั ไมไ่ ด้

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
- การอธิบาย การเขียน การพูดหนา้ ช้นั เรียน

2. ความสามารถในการคดิ
- การสงั เกต การสาํ รวจ การคิดวเิ คราะห์ การเปรียบเทยี บ การสร้างคาํ อธิบาย การอภปิ ราย
การส่ือความหมาย การทาํ กิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- การแกป้ ัญหาขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการทดลอง

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
- กระบวนการกลุม่

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- การนาํ เสนอผลงานโดยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน

คาถามสาคญั

(-)

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

• •ข้นั •ป•ฏิบ• ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•งั ก•าร•ปฏ• ิบ• ตั •ิ (A• p•pl•yin•g•an•d•Co•ns•tr•uc•tin•g•th•e K• n•ow• le•dg•e)•
•1.• นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั วางแผน สาํ รวจในทอ้ งถิ่นของนกั เรียนว่า

มีภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ เก่ียวกบั การเปล่ยี นแปลงสถานะของสารอยา่ งไรบา้ ง แลว้ รวบรวมขอ้ มลู
การเปล่ยี นแปลงสถานะของสารทค่ี นในชุมชนรู้จกั นาํ มาใชป้ ระโยชน์ไวอ้ ยา่ งเป็นระบบ
แลว้ ช่วยกนั จดั ทาํ เป็นแผ่นพบั โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ไมโครซอฟตอ์ อฟฟิ ศเวริ ์ด จดั ทาํ เป็นช้ินงาน

การวางแผน สาํ รวจ ออกแบบ และจดั ทาํ แผน่ พบั สร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21
ดา้ นการคิดวเิ คราะห์ การคดิ สร้างสรรค์ และการส่ือสาร

2. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
• การเปล่ยี นสถานะของสสาร เป็นการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ เมอ่ื เพ่มิ ความร้อน

ใหก้ บั สสารถึงระดบั หน่ึงจะทาํ ใหส้ สารที่เป็นของแขง็ เปล่ยี นสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การหลอมเหลว
และเม่ือเพิ่มความร้อนตอ่ ไปจนถงึ อีกระดบั หน่ึงของเหลวจะเปลย่ี นเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ
แตเ่ มอื่ ลดความร้อนลงถึงระดบั หน่ึงแกส๊ จะเปล่ยี นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น
และถา้ ลดความร้อนตอ่ ไปอีกจนถึงระดบั หน่ึงของเหลวจะเปลยี่ นสถานะเป็นของแขง็ เรียกวา่ การแข็งตวั

• สสารบางชนิดสามารถเปลย่ี นสถานะจากของแขง็ เป็นแก๊สโดยไมผ่ ่านการเป็นของเหลว
เรียกวา่ การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลีย่ นสถานะเป็นของแขง็ โดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว
เรียกว่า การระเหิดกลบั

• เมือ่ สารเกิดการเปล่ยี นแปลงแลว้ สารสามารถเปล่ียนกลบั เป็นสารเดิมได้ เป็นการเปล่ยี นแปลง
ทผ่ี นั กลบั ได้ แต่สารบางอยา่ งเกิดการเปลย่ี นแปลงแลว้ ไม่สามารถเปลี่ยนกลบั เป็นสารเดิมได้
เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผนั กลบั ไมไ่ ด้

• ข•้นั •ส่ือ•ส•าร•แล•ะน• า•เสน• อ• (A• p•pl•yin•g•th•e•Co•m•m•un•ic•ati•on•S•ki•ll)•

3. ผแู้ ทนนกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมาพดู และนาํ เสนอแผน่ พบั ภมู ิปัญญาชาวบา้ นเกี่ยวกบั การเปลี่ยน
สถานะของสสารในชุมชนหนา้ ช้นั เรียน เพือ่ แลกเปล่ียนเรียนรู้กนั เพอ่ื น ๆ ร่วมกนั ตรวจสอบและแกไ้ ข
ให้ถูกตอ้ ง

4. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรุปเกี่ยวกบั วธิ ีการทาํ งานให้เห็นการคดิ เชิงระบบและวิธีการทาํ งาน
ทีม่ แี บบแผน

•ข้นั• ป•ระ•เม•ิน•เพ•ื่อเ•พมิ่• ค•ุณ•ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม•แ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณ•ะ •(S•elf•-R•eg•ul•ati•ng•)

5. นกั เรียนร่วมกนั คดั เลือกผลงานทีด่ ีเด่นจดั ทาํ เป็นนิทรรศการ หรือจดั แสดงผลงาน หรือเผยแพร่
ในเวบ็ ไซต์ หรือเฟซบุก๊ (facebook) ของโรงเรียน เพอ่ื เป็นแหลง่ การเรียนรู้ให้นกั เรียนช้นั อนื่ ๆ

การนาํ เสนอผลงานโดยการเผยแพร่ในเวบ็ ไซต์ หรือเฟซบกุ๊ (facebook)
สร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นความรอบรู้ในเทคโนโลยีสารสนเทศ

6. นกั เรียนตรวจสอบหรือประเมนิ ข้นั ตอนตา่ ง ๆ ทเี่ รียนมาในวนั น้ีมจี ดุ เดน่ จุดบกพร่องอะไรบา้ ง
มีความสงสัย ความอยากรู้อยากเห็นในเร่ืองใด ให้ระบุ

7. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียน ในประเด็นต่อไปน้ี
• ส่ิงทน่ี กั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคอื อะไร
• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด
• เพอ่ื นนกั เรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพียงใด
• นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพียงใด
• นกั เรียนจะนาํ ความรู้ทไ่ี ดน้ ้ีไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทว่ั ไป
ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปล่ยี นตรวจสอบข้นั ตอนการทาํ งานทุกข้นั ตอนว่าจะเพมิ่ คุณคา่ ไปสู่สงั คม

เกิดประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากข้ึนกว่าเดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาํ หรบั การทาํ งานในคร้งั ตอ่ ไป

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พฒั นาการคิดวเิ คราะห์ รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินชิ้นงาน แผ่นพบั ภูมิปัญญาชาวบา้ นเก่ียวกบั การเปลีย่ นสถานะของสสารในชุมชน (P)

ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ ชิน้ งาน การจดั กระทาและนาเสนอแผ่นพับ

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

การจดั กระทาํ 4 321
และนาํ เสนอ จดั กระทาํ แผน่ พบั
แผ่นพบั อยา่ งเป็นระบบ จดั กระทาํ แผ่นพบั จดั กระทาํ แผน่ พบั ได้ จดั กระทาํ แผ่นพบั
และนาํ เสนอดว้ ยแบบ
ท่ชี ดั เจน ถูกตอ้ ง อย่างเป็ นระบบ มีการยกตวั อย่างเพ่ิมเติม อย่างไม่เป็นระบบ
ครอบคลมุ และมกี าร
เชื่อมโยงใหเ้ ห็นเป็น มีการจาํ แนกขอ้ มูล และนาํ เสนอดว้ ยแบบ และนาํ เสนอ
ภาพรวม
ให้เหน็ ความสมั พนั ธ์ ต่างๆ แตย่ งั ไมค่ รอบคลุม ไมส่ ่ือความหมาย

และนาํ เสนอดว้ ยแบบ และไม่ชดั เจน

ทถ่ี กู ตอ้ งครอบคลุม

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

ลงช่ือ )
( )

ตาํ แหน่ง

บนั ทึกหลังการสอน

ผลการจดั การเรียนการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแกไ้ ข

ครูผสู้ อน
(

วนั ทีบ่ นั ทึก

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงของสารในชีวิตประจาวัน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3

เรื่อง การหลอมเหลว การกลายเป็ นไอ การแขง็ ตวั และการควบแน่น : 1

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบตั ิ

ของสสารกบั โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค หลกั และธรรมชาติ
ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ตวั ชีว้ ดั
ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลยี่ นสถานะของสสาร เมือ่ ทาํ ให้สสารร้อนข้นึ หรือเยน็ ลง
โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมอ่ื ทาํ ใหส้ สารร้อนข้ึนหรือเยน็ ลง โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ (K)
2. ปฏิบตั กิ ิจกรรม การเปลยี่ นสถานะของสสาร อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความมงุ่ มนั่ และต้งั ใจได้ (P)
3. มีความม่งุ มน่ั และต้งั ใจ (A)

สาระการเรียนรู้

ในธรรมชาติ สสารแต่ละชนิดจะปรากฏอยใู่ นสถานะใดสถานะหน่ึง คอื ของแข็ง ของเหลว และแกส๊
เราสามารถทาํ ใหส้ สารเปลย่ี นสถานะจากสถานะหน่ึงไปเป็นอีกสถานะหน่ึง และทาํ ใหก้ ลบั คนื มาอยู่
ในสถานะเดิมได้ การเปล่ียนสถานะของสารมพี ลงั งานเขา้ ไปเกี่ยวขอ้ งดว้ ยเสมอ

การเปล่ยี นสถานะเมือ่ สสารไดร้ ับความร้อน (เพ่ิมอณุ หภูม)ิ
• ของแขง็ เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การหลอมเหลว
• ของเหลวเปลย่ี นสถานะเป็นแก๊ส เรียกวา่ การกลายเป็นไอ
• ของแข็งเปล่ียนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การระเหิด

การเปลีย่ นสถานะเม่อื สสารคายความร้อน (ลดอณุ หภูมิ)
• แก๊สเปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การควบแน่น
• ของเหลวเปลย่ี นสถานะเป็นของแขง็ เรียกว่า การแข็งตวั
• แกส๊ เปลย่ี นสถานะเป็นของแข็ง เรียกวา่ การระเหิดกลบั

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
- การอธิบาย การเขยี น การพูดหนา้ ช้นั เรียน

2. ความสามารถในการคดิ
- การสังเกต การคิดวเิ คราะห์ การเปรียบเทยี บ การสร้างคาํ อธิบาย การอภปิ ราย
การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสื่อความหมาย การทาํ กิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- การแกป้ ัญหาขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรมการทดลอง

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
- กระบวนการกลมุ่

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- การเขยี นแผนภาพโดยใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์
- การนาํ เสนอผลงานโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน

คาถามสาคญั

(-)

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข้•อม•ูล•(G•at•he•ri•ng•)

1. นกั เรียนร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เกี่ยวกบั การเปลย่ี นแปลงของสสารในสถานะตา่ ง ๆ คอื ของแข็ง
ของเหลว และแกส๊ แลว้ ร่วมกนั ตอบคาํ ถาม ดงั น้ี

น้าํ แข็ง หลอมเหลว น้าํ กลายเป็นไอ ไอน้าํ

แข็งตวั ควบแน่น

ของแข็ง ของเหลว แกส๊

แผนภาพ การเปลยี่ นสถานะของสสาร

1.1 น้าํ แขง็ เปลี่ยนเป็นน้าํ ไดอ้ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ น้าํ แข็งไดร้ ับความรอ้ น จะเปลยี่ นเป็นของเหลว เรียกวา่ การหลอมเหลว)
1.2 น้าํ เปลีย่ นเป็นไอน้าํ ไดอ้ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ น้าํ ไดร้ บั ความร้อน จะเปลี่ยนเป็นไอน้าํ เรียกว่า การกลายเป็นไอ)

1.3 ไอน้าํ เปลย่ี นเป็นน้าํ ไดอ้ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ ไอน้าํ คายความร้อน จะเปล่ยี นเป็นน้าํ เรียกว่า การควบแน่น)
1.4 น้าํ เปลี่ยนเป็นน้าํ แขง็ ไดอ้ ยา่ งไร
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ น้าํ คายความรอ้ น จะเปลย่ี นเป็นน้าํ แขง็ เรียกวา่ การแข็งตวั )
1.5 การเปลี่ยนสถานะของสสารเก่ียวขอ้ งกบั สิ่งใด
(การไดร้ บั หรือคายความร้อน)
2. นกั เรียนร่วมกนั คาดคะเนคาํ ตอบ
3. นกั เรียนแบง่ กลุม่ กลุม่ ละ 4 คน คละเพศ และคละนกั เรียนเกง่ ปานกลาง และออ่ น
(หรือจะแบ่งกลุ่มดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ เพิ่มเตมิ ได)้ โดยแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาวิธีทาํ และปฏบิ ตั ิกิจกรรม
เร่ือง การเปล่ียนสถานะของสสาร ในใบกิจกรรม ตามข้นั ตอน ดงั น้ี
3.1 ทบทวนบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในกลมุ่ วา่ ตอ้ งทาํ หนา้ ทอี่ ยา่ งไรบา้ งในการดาํ เนินการ
ดว้ ยกระบวนการทาํ งานกลมุ่ เช่น หัวหนา้ กล่มุ มหี นา้ ท่ี .................. ผูจ้ ดบนั ทกึ มีหนา้ ท่ี .........................
ผเู้ สนอรายงาน มีหนา้ ที่ .............. อื่น ๆ .................................

กิจกรรมกลุม่ เป็นการสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ดา้ นการร่วมมือทาํ งานเป็นทมี
การคิดแกป้ ัญหา และรบั ผิดชอบตอ่ ผลงานร่วมกนั

3.2 ตรวจสอบความพร้อมของสื่อ วสั ดุอปุ กรณ์ สาํ หรับการปฏิบตั ิกิจกรรมวา่ ครบถว้ น
เหมาะสมทีจ่ ะใชใ้ นการปฏิบตั กิ ิจกรรมเพียงใด

4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ อ่านและฟังอธิบายข้นั ตอนวิธีทาํ กิจกรรม เร่ือง การเปลี่ยนสถานะของสสาร
ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งชดั เจน โดยเขยี นข้นั ตอนลงในกระดาษฟลิปชาร์ต และนาํ ข้ึนหนา้ กระดาน

5. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นกอ่ นทาํ กิจกรรม โดยร่วมกนั ตอบคาํ ถามก่อนทาํ
กิจกรรม ดงั น้ี

5.1 คาํ ถามสาํ คญั ในการทาํ กิจกรรมคืออะไร
(สสารมีการเปล่ียนสถานะไดอ้ ยา่ งไร)
5.2 ยกตวั อยา่ งการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสารทพ่ี บเห็นไดใ้ นชีวิตประจาํ วนั
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ น้าํ แขง็ หลอมเหลวเป็นน้าํ น้าํ ในหมอ้ เดือดกลายเป็นไอน้าํ )
6. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อยา่ งรวมพลงั ทาํ กิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร
เพือ่ บ่งช้ีการเปลย่ี นสถานะของสสาร และบนั ทกึ ผลการทาํ กิจกรรมในใบกิจกรรม
7. ผแู้ ทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาํ เสนอผลการทาํ กิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน เพอื่ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

•ข(G•้นั aค•tิดh•eวrิเ•iคnรg•า)ะ•ห์•แล•ะส•รุป• ค•วา•ม•รู้ •(P•ro•ces•si•ng•)

8. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั วเิ คราะห์ และอภิปรายผลการทาํ กิจกรรม

โดยร่วมกนั ตอบคาํ ถามหลงั ทาํ กิจกรรม ดงั น้ี
8.1 ขณะที่เป็นน้าํ แข็ง วดั อณุ หภมู ิไดเ้ ทา่ ไร
(0 ๐C)
8.2 ขณะทเ่ี ป็นน้าํ วดั อณุ หภูมไิ ดเ้ ท่าไร
(30 ๐C)

8.3 ขณะน้าํ เดือด วดั อณุ หภูมไิ ดเ้ ท่าไร
(100 ๐C)

8.4 จากการทดลองส่ิงใดทาํ ให้น้าํ เกิดการเปลย่ี นสถานะ
(อณุ หภมู )ิ
8.5 ขณะทนี่ ้าํ กาํ ลงั เดือด นกั เรียนสงั เกตเห็นส่ิงใดเกิดข้นึ
(ควนั สีขาวลอยข้ึนจากผวิ น้าํ มีสถานะเป็นแกส๊ )
8.6 ขณะองั หลอดทดลองเหนือบกี เกอร์ขณะน้าํ เดือด นกั เรียนสงั เกตเห็นส่ิงใดเกิดข้ึน
(เกิดละอองน้าํ เลก็ ๆ เกาะอยขู่ า้ งหลอดทดลอง)
8.7 สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอยา่ งไร
(ขณะทีน่ ้าํ แข็ง (ของแขง็ ) หลอมเหลวเป็นน้าํ (ของเหลว) คา่ อุณหภูมิจะมคี า่ คงที่ และเม่ือน้าํ แขง็
หลอมเหลวเป็นน้าํ จนหมด คา่ อณุ หภูมจิ ะเพ่มิ ข้นึ และเมอื่ เพ่มิ อณุ หภูมจิ นถงึ ระดบั หน่ึง น้าํ ในสถานะ
ของเหลวจะเปลีย่ นสถานะเป็นแก๊ส)

จากน้นั ฝึกนกั เรียนถามคาํ ถามทีส่ งสยั ดว้ ยการถามเพ่อื น โดยไม่จาํ เป็นตอ้ งถามครูอยา่ งเดียว
9. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั สรุปผลการทาํ กิจกรรมและสรุปส่ิงท่เี ขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั
เก่ียวกบั การเปลย่ี นสถานะของสสารวา่ สสารจะเปล่ยี นสถานะเมอื่ ไดร้ บั ความร้อนหรือสูญเสียความร้อน
10. ผแู้ ทนนกั เรียนแต่ละกลมุ่ อธิบายความหมายท่เี กี่ยวขอ้ งกบั การเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร
ไดแ้ ก่ การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ การควบแน่น จดุ เดือด จุดหลอมเหลว โดยนกั เรียนบนั ทึก
องคค์ วามรู้ลงในสมดุ บนั ทึก

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5

ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แบบฝึกหัด รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5

ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พฒั นาการคดิ วเิ คราะห์ รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5

ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

4. แผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร

5. เทอร์มอมิเตอร์ 1 อนั

6. แท่งแกว้ คนสาร 1 แท่ง

7. ขาต้งั พร้อมที่จบั เทอร์มอมเิ ตอร์ 1 ชุด

8. บกี เกอร์ขนาด 250 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร 2 ใบ

9. ตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ใบ

10. หลอดทดลองขนาดกลาง 1 หลอด

11. น้าํ กลน่ั 150 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร

12. น้าํ แข็งป่ น

13. ใบกิจกรรม เร่ือง การเปลีย่ นสถานะของสสาร

14. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

กิจกรรมเสนอแนะ

นกั เรียนลองทาํ กิจกรรมตอ่ ไปน้ี
กิจกรรม การเปลี่ยนสถานะของสสาร

วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1 อนั
1 แทง่
1. เทอร์มอมเิ ตอร์ 1 ชุด
2. แท่งแกว้ คนสาร 2 ใบ
3. ขาต้งั พร้อมทจ่ี บั เทอร์มอมเิ ตอร์ 1 ใบ
4. บีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร 1 หลอด
5. ตะเกียงแอลกอฮอล์ 150 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร
6. หลอดทดลองขนาดกลาง
7. น้าํ กลนั่
8. น้าํ แข็งป่ น

วิธที า

1. แบง่ กลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ใส่น้าํ แขง็ ลงในบกี เกอร์ขนาด 250 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร
ให้มปี ริมาตร 43 ของบีกเกอร์

2. เสียบเทอร์มอมเิ ตอร์ลงในน้าํ แข็ง ใหป้ ลายกระเปาะเทอร์มอมิเตอร์อยตู่ รงกลางน้าํ แขง็
และยดึ เทอร์มอมิเตอร์ไวด้ ว้ ยขาต้งั อา่ นและบนั ทกึ ค่าอุณหภูมิ

3. ใชแ้ ท่งแกว้ คนน้าํ แขง็ ให้ทวั่ จนน้าํ แขง็ หลอมเหลวหมด อา่ นและบนั ทกึ ค่าอณุ หภมู ิ
ขณะน้าํ แข็งหลอมเหลวหมด

4. นาํ น้าํ ท่ีไดจ้ ากการหลอมเหลวของน้าํ แขง็ ในขอ้ 3 ต้งั ทิง้ ไวจ้ นมีอณุ หภูมหิ ้อง บนั ทึกผล
จากน้นั นาํ น้าํ ในบีกเกอร์ดงั กล่าวไปใหค้ วามร้อน อ่านและบนั ทึกค่าอุณหภูมิขณะน้าํ เดือด

5. นาํ เทอร์มอมิเตอร์ออก นาํ หลอดทดลองขนาดกลางเปล่าไปองั เหนือบีกเกอร์ขณะน้าํ เดือด
สังเกตสิ่งที่เกิดข้ึน

6. แตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอผลการทดลอง

คาถามก่อนทากจิ กรรม

1. คาํ ถามสาํ คญั ในการทาํ กิจกรรมคืออะไร
(สสารมกี ารเปลยี่ นสถานะไดอ้ ยา่ งไร)

2. ยกตวั อยา่ งการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสารท่พี บเห็นไดใ้ นชีวิตประจาํ วนั
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ น้าํ แขง็ หลอมเหลวเป็นน้าํ น้าํ ในหมอ้ เดือดกลายเป็นไอน้าํ )

บนั ทึกผลการทากิจกรรม

ตาราง คา่ อณุ หภูมิที่วดั ได้ ขณะน้าํ มกี ารเปลี่ยนแปลงสถานะ

การทดลอง ขณะเป็ นน้าแข็ง ขณะนา้ แขง็ ขณะเป็ นนา้ ขณะน้าเดือด
ค่าอุณหภูมิ (๐C) 0 หลอมเหลวหมด 30 100

0

คาถามหลังทากิจกรรม

ตอบคาถามและเขยี นเครื่องหมาย ✓ ใน หน้าคาตอบทถี่ กู ต้อง

1. ขณะที่เป็นน้าํ แขง็ วดั อุณหภูมไิ ดเ้ ทา่ ไร (0๐C)

2. ขณะท่เี ป็นน้าํ วดั อุณหภมู ิไดเ้ ท่าไร (30๐C)

3. ขณะน้าํ เดือด วดั อณุ หภมู ไิ ดเ้ ทา่ ไร (100๐C)

4. จากการทดลอง ส่ิงใดที่ทาํ ใหน้ ้าํ เกิดการเปลย่ี นสถานะ

อุณหภมู ิ เทอร์มอมเิ ตอร์ การคนดว้ ยแท่งแกว้ คนสาร

5. ขณะที่น้าํ กาํ ลงั เดือด นกั เรียนสงั เกตเห็นสิ่งใดเกิดข้นึ

น้าํ ในบีกเกอร์มีปริมาตรเพมิ่ ข้นึ และมหี ยดน้าํ เกาะดา้ นนอกบีกเกอร์

ควนั สีขาวลอยข้ึนจากผวิ น้าํ มีสถานะเป็นแก๊ส

6. ขณะองั หลอดทดลองเหนือบกี เกอร์ขณะน้าํ เดือด นกั เรียนสังเกตเห็นส่ิงใดเกิดข้นึ

เกิดละอองน้าํ เลก็ ๆ เกาะอยขู่ า้ งหลอดทดลอง

เกิดของเหลวอยภู่ ายในหลอดทดลอง

7. สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอยา่ งไร

(ขณะท่ีน้าํ แขง็ (ของแขง็ ) หลอมเหลวเป็นน้าํ (ของเหลว) คา่ อุณหภมู ิจะมคี า่ คงที่ และเมือ่ น้าํ แข็ง

หลอมเหลวเป็นน้าํ จนหมด คา่ อุณหภูมจิ ะเพม่ิ ข้นึ และเม่ือเพมิ่ อณุ หภูมิจนถึงระดบั หน่ึง น้าํ ในสถานะ

ของเหลวจะเปลีย่ นสถานะเป็นแกส๊ )

จงทากจิ กรรมอย่างรวมพลัง ด้วยความม่งุ มั่นและต้งั ใจ

กิจกรรมเสนอแนะ

นกั เรียนลองทาํ กิจกรรมตอ่ ไปน้ี
กิจกรรม การเปลี่ยนสถานะของสสาร

วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1 อนั
1 แทง่
1. เทอร์มอมเิ ตอร์ 1 ชุด
2. แท่งแกว้ คนสาร 2 ใบ
3. ขาต้งั พร้อมทจ่ี บั เทอร์มอมเิ ตอร์ 1 ใบ
4. บีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร 1 หลอด
5. ตะเกียงแอลกอฮอล์ 150 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร
6. หลอดทดลองขนาดกลาง
7. น้าํ กลนั่
8. น้าํ แข็งป่ น

วิธที า

1. แบง่ กลุม่ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ใส่น้าํ แข็งลงในบกี เกอร์ขนาด 250 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร
ให้มปี ริมาตร 43 ของบกี เกอร์

2. เสียบเทอร์มอมเิ ตอร์ลงในน้าํ แขง็ ใหป้ ลายกระเปาะเทอร์มอมิเตอร์อยตู่ รงกลางน้าํ แขง็
และยดึ เทอร์มอมิเตอร์ไวด้ ว้ ยขาต้งั อา่ นและบนั ทกึ ค่าอณุ หภมู ิ

3. ใชแ้ ท่งแกว้ คนน้าํ แขง็ ใหท้ ว่ั จนน้าํ แข็งหลอมเหลวหมด อา่ นและบนั ทกึ ค่าอณุ หภมู ิ
ขณะน้าํ แข็งหลอมเหลวหมด

4. นาํ น้าํ ท่ไี ดจ้ ากการหลอมเหลวของน้าํ แขง็ ในขอ้ 3 ต้งั ท้งิ ไวจ้ นมีอุณหภูมหิ ้อง บนั ทึกผล
จากน้นั นาํ น้าํ ในบีกเกอร์ดงั กลา่ วไปให้ความร้อน อา่ นและบนั ทกึ ค่าอณุ หภมู ขิ ณะน้าํ เดือด

5. นาํ เทอร์มอมเิ ตอร์ออก นาํ หลอดทดลองขนาดกลางเปลา่ ไปองั เหนือบกี เกอร์ขณะน้าํ เดือด
สังเกตสิ่งที่เกิดข้ึน

6. แต่ละกลมุ่ นาํ เสนอผลการทดลอง

คาถามก่อนทากิจกรรม

1. คาํ ถามสาํ คญั ในการทาํ กิจกรรมคืออะไร
(สสารมกี ารเปล่ยี นสถานะไดอ้ ยา่ งไร)

2. ยกตวั อยา่ งการเปล่ียนแปลงสถานะของสสารทพี่ บเห็นไดใ้ นชีวิตประจาํ วนั
(ตวั อยา่ งคาํ ตอบ น้าํ แข็งหลอมเหลวเป็นน้าํ น้าํ ในหมอ้ เดือดกลายเป็นไอน้าํ )

บนั ทึกผลการทากจิ กรรม

ตาราง คา่ อณุ หภมู ิทว่ี ดั ได้ ขณะน้าํ มกี ารเปลีย่ นแปลงสถานะ

การทดลอง ขณะเป็ นน้าแข็ง ขณะนา้ แข็ง ขณะเป็ นนา้ ขณะน้าเดือด
ค่าอุณหภมู ิ (๐C) 0 หลอมเหลวหมด 30 100

0

คาถามหลังทากจิ กรรม

ตอบคาถามและเขียนเครื่องหมาย ✓ ใน หน้าคาตอบทถ่ี ูกต้อง

1. ขณะทเ่ี ป็นน้าํ แข็ง วดั อุณหภมู ไิ ดเ้ ทา่ ไร (0๐C)

2. ขณะทเ่ี ป็นน้าํ วดั อณุ หภมู ไิ ดเ้ ท่าไร (30๐C)

3. ขณะน้าํ เดือด วดั อุณหภูมิไดเ้ ท่าไร (100๐C)

4. จากการทดลอง สิ่งใดทีท่ าํ ใหน้ ้าํ เกิดการเปล่ยี นสถานะ

✓ อุณหภมู ิ เทอร์มอมิเตอร์ การคนดว้ ยแทง่ แกว้ คนสาร

5. ขณะท่นี ้าํ กาํ ลงั เดือด นกั เรียนสังเกตเห็นสิ่งใดเกิดข้ึน

น้าํ ในบีกเกอร์มีปริมาตรเพิ่มข้นึ และมีหยดน้าํ เกาะดา้ นนอกบกี เกอร์

✓ ควนั สีขาวลอยข้ึนจากผิวน้าํ มีสถานะเป็นแก๊ส
6. ขณะองั หลอดทดลองเหนือบีกเกอร์ขณะน้าํ เดือด นกั เรียนสงั เกตเห็นสิ่งใดเกิดข้ึน

✓ เกิดละอองน้าํ เลก็ ๆ เกาะอยขู่ า้ งหลอดทดลอง
เกิดของเหลวอยภู่ ายในหลอดทดลอง

7. สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอยา่ งไร

(ขณะที่น้าํ แขง็ (ของแขง็ ) หลอมเหลวเป็นน้าํ (ของเหลว) คา่ อุณหภูมิจะมีคา่ คงท่ี

และเมือ่ น้าํ แขง็ หลอมเหลวเป็นน้าํ จนหมด ค่าอุณหภมู ิจะเพ่ิมข้นึ และเม่ือเพมิ่ อณุ หภูมิจนถงึ ระดบั หน่ึง

น้าํ ในสถานะของเหลวจะเปล่ยี นสถานะเป็นแกส๊ )

จงทากจิ กรรมอย่างรวมพลงั ด้วยความม่งุ มน่ั และต้งั ใจ

การประเมนิ การเรียนรู้

1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง การเปล่ยี นสถานะของสสาร เมื่อทาํ ให้สสารร้อนข้ึนหรือเยน็ ลง
โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมินการปฏิบตั กิ ารทาํ กิจกรรมการทดลอง (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทาํ งาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมนิ การปฏบิ ัติการทากิจกรรมการทดลอง

รายการการประเมนิ 4 ระดับคุณภาพ 1
32

1. การทาํ กิจกรรม ทาํ กิจกรรมการทดลอง ทาํ กิจกรรมการทดลอง ทาํ กิจกรรมการทดลอง ทาํ กิจกรรมการทดลอง

การทดลอง ตามวิธีการและข้นั ตอน ตามวธิ ีการและข้นั ตอน ตามวธิ ีการและข้นั ตอน ไมถ่ กู ตอ้ งตามวธิ ีการ

ตามแผนทีก่ าํ หนด ทก่ี าํ หนดไวอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ที่กาํ หนดไวด้ ว้ ยตนเอง ทกี่ าํ หนดไว้ โดยมคี รู และข้นั ตอนทกี่ าํ หนดไว้

ดว้ ยตนเอง มีการปรับปรุง มีการปรับปรุงแกไ้ ขบา้ ง หรือผอู้ ื่นเป็นผแู้ นะนาํ ไมม่ กี ารปรับปรุงแกไ้ ข

แกไ้ ขเป็นระยะ

2. การใชอ้ ุปกรณ์ ใชอ้ ุปกรณแ์ ละ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ

และ/หรือเคร่ืองมือ เคร่ืองมอื ในการทาํ เครื่องมือในการทาํ เครื่องมอื ในการทาํ เคร่ืองมือในการทาํ

กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง

ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง โดยมคี รู ไมถ่ กู ตอ้ ง

ตามหลกั การปฏิบตั ิ ตามหลกั การปฏิบตั ิ หรือผอู้ น่ื เป็นผูแ้ นะนาํ และไมม่ คี วามคล่องแคล่ว

และคลอ่ งแคลว่ แต่ไมค่ ล่องแคล่ว ในการใช้

3. การบนั ทกึ ผล บนั ทึกผลเป็นระยะ บนั ทกึ ผลเป็นระยะ บนั ทกึ ผลเป็นระยะ บนั ทึกผลไม่ครบ

การทาํ กิจกรรม อยา่ งถูกตอ้ ง มรี ะเบยี บ อย่างถกู ตอ้ ง มรี ะเบียบ แต่ไมเ่ ป็นระเบยี บ ไมม่ ีการระบหุ น่วย

การทดลอง มีการระบหุ น่วย มีการ มีการระบหุ น่วย มกี าร ไมม่ ีการระบุหน่วย และไม่เป็นไปตาม

อธิบายขอ้ มูลให้เหน็ อธิบายขอ้ มลู ให้เห็นถึง และไม่มกี ารอธิบายขอ้ มลู การทาํ กิจกรรม

ความเช่ือมโยงเป็นภาพรวม ความสมั พนั ธ์เป็นไป ให้เหน็ ถงึ ความสัมพนั ธ์ การทดลอง

เป็นเหตเุ ป็นผล และเป็นไป ตามการทาํ กิจกรรม ของการทาํ กิจกรรม

ตามการทดลอง การทดลอง การทดลอง

4. การจดั กระทาํ ขอ้ มลู จดั กระทาํ ขอ้ มูล จดั กระทาํ ขอ้ มูล จดั กระทาํ ขอ้ มูล จดั กระทาํ ขอ้ มลู อยา่ ง

และการนาํ เสนอ อย่างเป็นระบบ อยา่ งเป็นระบบ มีการ อยา่ งเป็นระบบ ไม่เป็นระบบ และมกี าร

มีการเชื่อมโยงใหเ้ ห็น จาํ แนกขอ้ มูลใหเ้ ห็น มกี ารยกตวั อยา่ งเพมิ่ เติม นาํ เสนอไมส่ ่ือความหมาย

เป็นภาพรวม และนาํ เสนอ ความสมั พนั ธ์ นาํ เสนอ ให้เขา้ ใจง่าย และนําเสนอ และไม่ชดั เจน

ดว้ ยแบบต่างๆอยา่ งชดั เจน ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ

ถกู ตอ้ ง แตย่ งั ไม่ชดั เจน แต่ยงั ไม่ชดั เจน

และไม่ถกู ตอ้ ง

รายการการประเมิน 4 ระดบั คุณภาพ 1
32

5. การสรุปผล สรุปผลการทาํ กิจกรรม สรุปผลการทาํ กิจกรรม สรุปผลการทาํ กิจกรรม สรุปผลการทาํ กิจกรรม

การทาํ กิจกรรม การทดลอง การทดลองไดถ้ ูกตอ้ ง การทดลองได้ โดยมีครู การทดลองตามความรู้

การทดลอง ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง กระชบั แตย่ งั ไมค่ รอบคลุมขอ้ มลู หรือผอู้ ืน่ แนะนาํ บา้ ง ทพ่ี อมอี ยู่ โดยไมใ่ ช้

ชดั เจน และครอบคลุม จากการวเิ คราะห์ท้งั หมด จงึ สามารถสรุปไดถ้ กู ตอ้ ง ขอ้ มูลจากการทาํ กิจกรรม

ขอ้ มูลจากการวเิ คราะห์ การทดลอง

ท้งั หมด

6. การดแู ลและการเก็บ ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรือ ไม่ดแู ลอปุ กรณ์และ/

อปุ กรณ์และ/หรือ เครื่องมอื ในการทาํ เคร่ืองมือในการทาํ เคร่ืองมอื ในการทาํ หรือเคร่ืองมือในการทาํ

เครื่องมือ กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง

และมีการทาํ ความสะอาด และมกี ารทาํ ความสะอาด มีการทาํ ความสะอาด และไมส่ นใจทาํ ความ

และเก็บอยา่ งถูกตอ้ ง อย่างถูกตอ้ ง แต่เกบ็ ไม่ถูกตอ้ ง สะอาด รวมท้งั เก็บ

ตามหลกั การ และแนะนาํ แตเ่ ก็บไม่ถกู ตอ้ ง ตอ้ งใหค้ รูหรือผอู้ นื่ ไมถ่ กู ตอ้ ง

ให้ผอู้ ่ืนดแู ลและเกบ็ แนะนาํ

รกั ษาไดถ้ กู ตอ้ ง

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

ลงช่ือ )
( )

ตาํ แหน่ง

บนั ทึกหลังการสอน

ผลการจดั การเรียนการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแกไ้ ข

ครูผสู้ อน
(

วนั ทีบ่ นั ทึก

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลยี่ นแปลงของสารในชีวติ ประจาวนั
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4

เร่ือง การหลอมเหลว การกลายเป็ นไอ การแข็งตัว และการควบแน่น : 2

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสมบตั ิ

ของสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนุภาค หลกั และธรรมชาติ
ของการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี
ตวั ชี้วัด
ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลย่ี นสถานะของสสาร เมื่อทาํ ใหส้ สารร้อนข้นึ หรือเยน็ ลง
โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการเปลยี่ นสถานะของสสาร เมือ่ ทาํ ให้สสารร้อนข้นึ หรือเยน็ ลง
โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษไ์ ด้ (K)

2. เขยี นแผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความมุ่งมน่ั และต้งั ใจได้ (P)
3. มคี วามมงุ่ มน่ั และต้งั ใจ (A)

สาระการเรียนรู้

ในธรรมชาติ สสารแต่ละชนิดจะปรากฏอยใู่ นสถานะใดสถานะหน่ึง คอื ของแข็ง ของเหลว และแกส๊
เราสามารถทาํ ให้สสารเปลย่ี นสถานะจากสถานะหน่ึงไปเป็นอีกสถานะหน่ึง และทาํ ใหก้ ลบั คนื มาอยู่
ในสถานะเดิมได้ การเปล่ียนสถานะของสารมพี ลงั งานเขา้ ไปเกี่ยวขอ้ งดว้ ยเสมอ

การเปล่ียนสถานะเมือ่ สสารไดร้ ับความร้อน (เพ่ิมอณุ หภูม)ิ
• ของแขง็ เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การหลอมเหลว
• ของเหลวเปลย่ี นสถานะเป็นแก๊ส เรียกวา่ การกลายเป็นไอ
• ของแข็งเปล่ียนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การระเหิด

การเปล่ยี นสถานะเม่อื สสารคายความร้อน (ลดอณุ หภูมิ)
• แก๊สเปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การควบแน่น
• ของเหลวเปลย่ี นสถานะเป็นของแขง็ เรียกวา่ การแข็งตวั
• แกส๊ เปลย่ี นสถานะเป็นของแข็ง เรียกวา่ การระเหิดกลบั

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
- การอธิบาย การเขยี น การพูดหนา้ ช้นั เรียน

2. ความสามารถในการคดิ
- การสังเกต การคิดวเิ คราะห์ การเปรียบเทยี บ การสร้างคาํ อธิบาย การอภปิ ราย
การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสื่อความหมาย การทาํ กิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- การแกป้ ัญหาขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรมการทดลอง

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
- กระบวนการกลมุ่

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- การเขียนแผนภาพโดยใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์
- การนาํ เสนอผลงานโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทาํ งาน

คาถามสาคญั

(-)

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

• •ข้นั •ป•ฏิบ• ตั •ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•งั ก•าร•ปฏ• ิบ• ตั •ิ (A• p•pl•yin•g•an•d•Co•ns•tr•uc•tin•g•th•e K• n•ow• le•dg•e)•
•1.• นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั วางแผน ออกแบบ และเขียนแผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร

ท่ีสนใจ โดยใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ จดั ทาํ เป็นชิ้นงาน

การวางแผน สาํ รวจ ออกแบบ และเขียนแผนภาพ สร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21
ดา้ นการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ สร้างสรรค์ และการส่ือสาร

(ตวั อยา่ งแผนภาพ)

เพ่มิ อุณหภูมใิ ห้สสาร

การระเหดิ

การหลอมเหลว การกลายเป็ นไอ

ของแข็ง การแข็งตวั ของเหลว การควบแน่น แก๊ส
การระเหดิ กลบั

ลดอุณหภมู ิให้สสาร

แผนภาพ การเปลีย่ นสถานะของสสาร

2. นกั เรียนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
• ในธรรมชาติ สสารแตล่ ะชนิดจะปรากฏอยใู่ นสถานะใดสถานะหน่ึง คอื ของแข็ง ของเหลว
และแก๊ส เราสามารถทาํ ให้สสารเปลีย่ นสถานะจากสถานะหน่ึงไปเป็นอกี สถานะหน่ึง
และทาํ ใหก้ ลบั คนื มาอยใู่ นสถานเดิมได้ การเปล่ียนสถานะของสารมีพลงั งานเขา้ ไปเกี่ยวขอ้ งดว้ ยเสมอ

การเปลยี่ นสถานะเมื่อสสารไดร้ บั ความร้อน (เพ่มิ อุณหภมู )ิ
• ของแขง็ เปลยี่ นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว
• ของเหลวเปลยี่ นสถานะเป็นแกส๊ เรียกว่า การกลายเป็นไอ
• ของแข็งเปล่ยี นสถานะเป็นแก๊ส เรียกวา่ การระเหิด

การเปลีย่ นสถานะเม่อื สสารคายความร้อน (ลดอณุ หภมู )ิ
• แกส๊ เปลีย่ นสถานะเป็นของเหลว เรียกวา่ การควบแน่น
• ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกวา่ การแขง็ ตวั
• แกส๊ เปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การระเหิดกลบั

• ข•้นั •สื่อ•ส•าร•แล•ะน• า•เสน• อ• (A• p•pl•yin•g•th•e•Co•m•m•un•ic•ati•on•S•ki•ll)•

3. ผแู้ ทนนกั เรียนแต่ละกล่มุ ออกมาพดู และนาํ เสนอแผนภาพการเปล่ียนสถานะของสสาร
หนา้ ช้นั เรียน เพอ่ื แลกเปลยี่ นเรียนรู้กนั เพือ่ น ๆ ร่วมกนั ตรวจสอบและแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง

4. นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายสรุปเกี่ยวกบั วธิ ีการทาํ งานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทาํ งาน
ที่มแี บบแผน

•ข้นั• ป•ระ•เม•ิน•เพ•่อื เ•พม่ิ• ค•ุณ•ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม•แ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณ•ะ •(S•elf•-R•eg•ul•ati•ng•)

5. นกั เรียนร่วมกนั คดั เลือกผลงานทด่ี ีเด่นจดั ทาํ เป็นนิทรรศการ หรือจดั แสดงผลงาน หรือเผยแพร่
ในเวบ็ ไซต์ หรือเฟซบ๊กุ (facebook) ของโรงเรียน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ให้นกั เรียนช้นั อ่ืน ๆ

การนาํ เสนอผลงานโดยการเผยแพร่ในเวบ็ ไซต์ หรือเฟซบ๊กุ (facebook)
สร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นความรอบรู้ในเทคโนโลยีสารสนเทศ

6. นกั เรียนตรวจสอบหรือประเมินข้นั ตอนต่าง ๆ ท่เี รียนมาในวนั น้ีมีจุดเด่น จดุ บกพร่องอะไรบา้ ง
มีความสงสัย ความอยากรู้อยากเห็นในเร่ืองใด ให้ระบุ

7. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปน้ี
• ส่ิงทนี่ กั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ีคืออะไร
• นกั เรียนมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• เพ่อื นนกั เรียนในกล่มุ มีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด
• นกั เรียนพึงพอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพียงใด
• นกั เรียนจะนาํ ความรู้ท่ไี ดน้ ้ีไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสังคมทวั่ ไป
ไดอ้ ยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้นั ตอนการทาํ งานทุกข้นั ตอนว่าจะเพิ่มคุณคา่ ไปสู่สังคม

เกิดประโยชนต์ ่อสงั คมใหม้ ากข้ึนกวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สาํ หรบั การทาํ งานในคร้ังตอ่ ไป

ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

2. แบบฝึกหัด รายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พฒั นาการคิดวเิ คราะห์ รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)

4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

การประเมินการเรียนรู้

1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทาํ ใหส้ สารร้อนข้ึนหรือเยน็ ลง
โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ

2. ประเมนิ ช้ินงาน แผนภาพ การเปล่ยี นสถานะของสสาร (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)

แบบประเมินชิ้นงาน การจดั กระทาและนาเสนอแผนภาพ

รายการการประเมิน ระดับคณุ ภาพ

4 321

การจดั กระทาํ จดั กระทาํ แผนภาพ จดั กระทาํ แผนภาพ จดั กระทาํ แผนภาพได้ จดั กระทาํ แผนภาพ

และนาํ เสนอแผนภาพ อยา่ งเป็นระบบ อยา่ งเป็นระบบ มีการยกตวั อย่างเพ่ิมเติม อย่างไมเ่ ป็นระบบ

และนาํ เสนอดว้ ยแบบ มกี ารจาํ แนกขอ้ มูล และนาํ เสนอดว้ ยแบบ และนาํ เสนอ

ทชี่ ดั เจน ถูกตอ้ ง ให้เห็นความสัมพนั ธ์ ต่างๆ แตย่ งั ไม่ครอบคลุม ไมส่ ่ือความหมาย

ครอบคลมุ และมกี าร และนาํ เสนอดว้ ยแบบ และไมช่ ดั เจน

เช่ือมโยงให้เหน็ เป็น ทค่ี รอบคลมุ

ภาพรวม

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารสถานศึกษา

ลงช่ือ )
( )

ตาํ แหน่ง

บนั ทึกหลังการสอน

ผลการจดั การเรียนการสอน

ปัญหา/อุปสรรค

แนวทางแกไ้ ข

ครูผสู้ อน
(

วนั ทีบ่ นั ทึก

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลย่ี นแปลงของสารในชีวติ ประจาวัน
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5

เรื่อง การละลายของสารในนา้ : 1

ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ิ

ของสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลกั และธรรมชาติ
ของการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี
ตัวชีว้ ัด
ว 2.1 ป.5/2 อธิบายการละลายของสารในน้า โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
ว 2.1 ป.5/4 วเิ คราะหแ์ ละระบกุ ารเปล่ียนแปลงทผ่ี นั กลบั ได้ และการเปลี่ยนแปลง
ท่ีผนั กลบั ไม่ได้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายการละลายของสารในน้า (K)
2. ปฏิบตั กิ ิจกรรม การละลายของสารในน้า อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความมงุ่ มนั่ และรับผิดชอบได้ (P)
3. มคี วามมงุ่ มนั่ และรบั ผดิ ชอบ (A)

สาระการเรียนรู้

เมือ่ ใส่สารลงในน้าแลว้ สารน้นั รวมเป็นเน้ือเดียวกนั กบั น้าทว่ั ทกุ ส่วน แสดงวา่ สารเกิดการละลาย
เรียกสารผสมที่ไดว้ ่า สารละลาย

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
- การอธิบาย การเขียน การพูดหนา้ ช้นั เรียน

2. ความสามารถในการคิด
- การสงั เกต การคิดวเิ คราะห์ การจดั จาแนก การเปรียบเทียบ การสร้างคาอธิบาย การอภปิ ราย
การส่ือความหมาย การทากิจกรรมโดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- การแกป้ ัญหาขณะปฏิบตั ิกิจกรรมการทดลอง

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
- กระบวนการกล่มุ

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
- การนาเสนอผลงานโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรียนรู้
2. ม่งุ มน่ั ในการทางาน

คาถามสาคัญ

เม่ือนาสารบางชนิดใส่ลงไปในน้า สารน้นั จะเกิดการเปลย่ี นแปลงหรือไม่ อยา่ งไรบา้ ง

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข้•อม•ลู •(G•at•he•ri•ng•)

1. นกั เรียนสงั เกตโอวลั ตนิ (ผง) ผูแ้ ทนนกั เรียนเทน้าร้อนลงในแกว้ ที่มีผงโอวลั ตนิ แลว้ คน
จากน้นั ถามนกั เรียนวา่ ผงโอวลั ตนิ หายไปไหน นกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถามจนกระทง่ั ไดค้ าวา่ การละลาย
แลว้ ร่วมกนั ตอบคาถามกระตุน้ ความคิด ดงั น้ี

1.1 นอกจากการเปลีย่ นแปลงสถานะแลว้ นกั เรียนทราบหรือไมว่ า่ สารมีการเปลย่ี นแปลง
อยา่ งไรไดอ้ กี บา้ ง

(ตวั อยา่ งคาตอบ สารยงั มีการเปลย่ี นแปลงไดอ้ ีกโดยการละลาย)
2. นกั เรียนร่วมกนั สนทนา โดยต้งั ประเดน็ ปัญหาเพ่ือใหน้ กั เรียนเกิดความสงสัยและตอ้ งการ
หาคาตอบดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยร่วมกนั ตอบคาถามสาคญั ดงั น้ี

2.1 เมื่อนาสารบางชนิดใส่ลงไปในน้า สารน้นั จะเกิดการเปลีย่ นแปลงหรือไม่ อยา่ งไรบา้ ง
(ตวั อยา่ งคาตอบ สารน้นั อาจจะเกิดการละลายน้าหรือไมล่ ะลายน้ากไ็ ด้ ข้ึนอยกู่ บั สมบตั ิของสาร
ชนิดน้นั ๆ)
3. นกั เรียนร่วมกนั คาดคะเนคาตอบ
4. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละเพศ และคละนกั เรียนเก่ง ปานกลาง และออ่ น
(หรือจะแบง่ กลุ่มดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ เพิ่มเติมได)้ โดยแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาวธิ ีทาและปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่ี 3.2
เรื่อง การละลายของสารในน้า ในใบงานที่ 14 ตามข้นั ตอน ดงั น้ี
4.1 ทบทวนบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในกลมุ่ วา่ ตอ้ งทาหนา้ ทอี่ ยา่ งไรบา้ งในการดาเนินการ
ดว้ ยกระบวนการทางานกลมุ่ เช่น หวั หนา้ กล่มุ มหี นา้ ท่ี .................. ผูจ้ ดบนั ทกึ มหี นา้ ท่ี .........................
ผเู้ สนอรายงาน มหี นา้ ท่ี .............. อื่น ๆ .................................

กิจกรรมกลุ่ม เป็นการสร้างเสริมทกั ษะศตวรรษที่ 21 ดา้ นการร่วมมือทางานเป็นทมี
การคดิ แกป้ ัญหา และรบั ผิดชอบตอ่ ผลงานร่วมกนั

4.2 ตรวจสอบความพร้อมของสื่อ วสั ดุอุปกรณ์ สาหรบั การปฏิบตั กิ ิจกรรมว่าครบถว้ น
เหมาะสมทีจ่ ะใชใ้ นการปฏบิ ตั ิกิจกรรมเพียงใด

5. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ อ่านและฟังอธิบายข้นั ตอนวิธีทากิจกรรมที่ 3.2 เรื่อง การละลายของสารในน้า
ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งชดั เจน โดยเขยี นข้นั ตอนลงในกระดาษฟลปิ ชาร์ต และนาข้ึนหนา้ กระดาน

6. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นกอ่ นทากิจกรรม โดยร่วมกนั ตอบคาถามกอ่ นทา
กิจกรรม ดงั น้ี

6.1 คาถามสาคญั ในการทากิจกรรมคืออะไร
(เมื่อนาสารบางชนิดใส่ลงไปในน้า สารน้นั จะเกดิ การเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อยา่ งไรบา้ ง)
6.2 เมือ่ ใส่น้าตาลทราย เกลือ และน้ามนั พืชลงในน้า นกั เรียนคิดว่าจะเกิดการเปล่ียนแปลง
อยา่ งไร
(น้าตาลทราย เกลอื จะละลายรวมเป็นเน้ือเดียวกบั น้า
ส่วนน้ามนั พชื จะไมล่ ะลายน้า และอยแู่ ยกช้นั กบั น้า)
7. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อยา่ งรวมพลงั ทากิจกรรมท่ี 3.2 เรื่อง การละลายของสารในน้า
และบนั ทกึ ผลการทากิจกรรมในใบงานท่ี 14
8. ผแู้ ทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ช้นั เรียน เพ่ือตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

•(ขG•้นั aค•tิดh•eวrเิ •iคnรg•า)ะ•ห์•แล•ะส•รุป• ค•วา•ม•รู้ •(P•ro•ces•si•ng•)

9. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะห์ และอภปิ รายผลการทากิจกรรม โดยร่วมกนั ตอบคาถาม
หลงั ทากิจกรรม ดงั น้ี

9.1 เมอ่ื เตมิ เกลอื ลงในน้า สังเกตเห็นการเปล่ียนแปลงอยา่ งไรบา้ ง
(เกลือละลายรวมตวั กบั น้าเป็นของเหลวใส)
9.2 เมื่อเตมิ น้าตาลทรายลงในน้า สังเกตเห็นการเปลย่ี นแปลงอยา่ งไรบา้ ง
(น้าตาลทรายละลายรวมตวั กบั น้าเป็นของเหลวใส)
9.3 เมอ่ื เตมิ น้ามนั พชื ลงในน้า สงั เกตเห็นการเปลยี่ นแปลงอยา่ งไรบา้ ง
(น้ามนั พืชไมล่ ะลายน้าและอยแู่ ยกช้นั กบั น้า)
9.4 สารใดละลายน้า สารใดไม่ละลายน้า
(เกลือ น้าตาลทรายละลายน้า ส่วนน้ามนั พืชไมล่ ะลายน้า)
9.5 เมื่อนาสาร 2 ชนิด มาผสมกนั แลว้ รวมตวั เป็นเน้ือเดียวกนั เราเรียกสารผสมน้นั วา่ อะไร
(สารละลาย)
9.6 เม่อื นาบกี เกอร์ที่เตมิ เกลือและน้าตาลทรายไปตม้ สังเกตเห็นการเปลยี่ นแปลงอยา่ งไรบา้ ง
(มคี ราบเกลอื และน้าตาลทรายติดทกี่ น้ บีกเกอร์)

9.7 สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอยา่ งไร

(เมือ่ เติมเกลอื และน้าตาลทรายลงไปในน้าจะเกิดการละลายรวมตวั กนั เป็นเน้ือเดียวกบั น้า
และเม่ือนาไปตม้ จะพบเกลอื และน้าตาลทรายติดทก่ี น้ บกี เกอร์

ส่วนน้ามนั พืชเมื่อเตมิ ลงในน้าพบว่า น้ามนั พืชไม่ละลายน้าและอยแู่ ยกช้นั กบั น้า)
จากน้นั ฝึกนกั เรียนถามคาถามทส่ี งสยั ดว้ ยการถามเพ่ือน โดยไมจ่ าเป็นตอ้ งถามครูอยา่ งเดียว
10. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สรุปผลการทากิจกรรมและสรุปสิ่งที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั
เก่ียวกบั การละลายของสารในน้าวา่ สารแตล่ ะชนิดมีการละลายน้าไดแ้ ตกตา่ งกนั สารบางชนิดละลายน้า
ไดม้ าก บางชนิดละลายน้าไดน้ อ้ ยบางชนิดไมล่ ะลายน้า

สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 5

ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

2. แบบฝึกหดั รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5

ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)

3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พฒั นาการคดิ วเิ คราะห์ รายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5

ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)

4. ผงโอวลั ติน

5. น้าร้อน

6. ชอ้ น

7. แกว้

8. เกลือ 2 ชอ้ นเบอร์ 2

9. น้าตาลทราย 2 ชอ้ นเบอร์ 2

10. น้ามนั พชื 10 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร

11. น้า 100 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร

12. บกี เกอร์ขนาด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 3 ใบ

13. กระบอกตวง ขนาด 100 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร 1 ใบ

14. แท่งแกว้ คนสาร 1 แท่ง

15. ชอ้ นตกั สารเบอร์ 2 2 คนั

16. ตะเกียงแอลกอฮอลพ์ ร้อมที่ก้นั ลม 1 ชุด

17. ใบงานที่ 14 เร่ือง การละลายของสารในน้า

18. ใบกิจกรรม เร่ือง การละลายของสารในน้า

19. แหลง่ การเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

กจิ กรรมเสนอแนะ

นกั เรียนลองทากิจกรรมต่อไปน้ี
กจิ กรรม การละลายของสารในนา้

วสั ดุอปุ กรณ์

1. น้ากลน่ั 50 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร

2. ชอ้ นตกั สารเบอร์ 2 1 คนั

3. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 5 หลอด

4. หลอดฉีดยาขนาด 10 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร 1 อนั

5. สารที่ตอ้ งการทดสอบ ไดแ้ ก่ แป้งมนั ดิน ทราย น้าตาลทราย และเกลอื

วิธีทา

1. แบ่งกลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ใส่น้ากลน่ั ปริมาตร 10 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ลงในหลอดทดลองขนาดใหญ่
5 หลอด จากน้นั เตมิ แป้งมนั ดิน ทราย น้าตาลทราย และเกลอื อยา่ งละ 1 ชอ้ นเบอร์ 2 ลงใน
หลอดทดลองทีใ่ ส่น้าไวแ้ ลว้ หลอดละ 1 ชนิด เขียนป้ายชื่อบอกชนิดของสารบนหลอดทดลอง

2. เขยา่ สารในหลอดทดลองนานประมาณ 1 นาที จากน้นั ต้งั ท้งิ ไว้ 2 นาที สังเกตการละลายของสาร
บนั ทึกผล

3. แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลการทดลอง

แป้งมนั ดิน ทราย น้าตาลทราย เกลอื วธิ ีการเขยา่ สารในหลอดทดลอง
สารท่ีใช้ในการทดลอง การละลายน้าของสาร

คาถามก่อนทากจิ กรรม

1. คาถามสาคญั ในการทากิจกรรมคืออะไร
(สารแตล่ ะชนิดมีสมบตั ใิ นการละลายน้าเหมอื นกนั หรือแตกต่างกนั อยา่ งไร)

2. ตวั แปรตน้ ของการทดลองน้ีคอื อะไร
(ชนิดของสาร)

3. ตวั แปรตามของการทดลองน้ีคอื อะไร
(การละลายของสารในน้า)

4. ตวั แปรควบคุมของการทดลองน้ีคอื อะไร
(ปริมาณสารทีใ่ ช้ ปริมาณน้าทีใ่ ช้ ระยะเวลาท่ใี ช้ในการละลาย)

5. เขยี นเคร่ืองหมาย ✓ ทบั ภาพสารที่นกั เรียนคิดว่าสามารถละลายน้าไดด้ ี และเขียน ลอ้ มรอบ
ภาพสารทีน่ กั เรียนคดิ ว่าสามารถละลายน้าไดบ้ า้ ง

แป้งมนั ดิน ทราย

น้าตาลทราย เกลือ


Click to View FlipBook Version