The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by journalsmtat smtat, 2023-09-04 10:11:56

วารสารออนไลน์ สวคท

ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565

Keywords: คณิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์,เทคโนโลยี

ปีปีที่ปีที่ปี ที่ที่30 ฉบับับบับัที่ที่ ที่ที่1 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย การจัดจัการเรีย รี นรู้ เพื่อ พื่ สร้า ร้ งสมรรถนะผู้เผู้รีย รี น


C O NTENTS2 จากบรรณาธิการถึงเพื่อนสมาชิก 20 การประเมินความสามารถการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์โดยการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีมิติ เสมือนจริง เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 กิตติวัฒน์ ดิษฐประเสริฐ: รร ศรัทธาสมุทร 38 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เพื่อสร้างความสุขในการเรียน แบบออนไลน์ เรื่องสมบัติของสารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกบินทร์วิทยา นางฐิติพร เผือกพิบูลย์ : โรงเรียนกบินทร์วิทยา 53 การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นวรัตน์ แจ่มจำ รัส: โรงเรียนบ้านหมี่วิทยา 69 การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ โดย ใช้สื่อ Coding For STEM Maker ภานุวัฒน์ เกียรตินฤมล: โรงเรียนบรบือ 79 การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับการจัดการ เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน วิชาเคมี 1 เรื่อง ตารางธาตุ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สาริณี ภู่ระหงษ์: โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร 12 นโยบายและวิธีปฏิบัติในโรงเรียนที่ประสบความสำ เร็จ : ข้อมูลจากผลการประเมิน PISA 2018 ดร.นันทวัน สมสุข และ นางสุชาดา ปัทมวิภาต 3 แนวทางการส่งเสริมสมรรถนะการคิดขั้นสูงและการวัด ประเมินผล ดร.อภิสิทธิ์ ธงไชย สสวท. S M T A T O N L I N E J O U R N A L กองบรรณาธิการ Jessica Wilde shares how to overcome writer's block. Story on p. 20 จากบรรณาธิการถึงเพื่อนสมาชิก สมาคมครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ประเทศไทย มีวัตถุประสงค์จะรวบรวม แลกเปลี่ยนและเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสาร ตลอดจนผลงานของผู้ทรงคุณวุฒิและสมาชิกของ สมาคมฯ ในเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาชีพด้านดัง กล่าว จึงได้จัดทำ วารสารเพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างสมาคมครูฯ และ เพื่อนสมาชิก วารสารสมาคมครูฯ ได้จัดทำ มาเป็นเวลา 29 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นปีที่ก่อตั้งสมาคมครูฯ จัดทำ ในรูปแบบเอกสารสิ่งพิมพ์ และได้มีการปรับการเผยแพร่รูปเล่มใหม่ในรูปแบบ e-journal เพื่อให้ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงกัน วารสารสมาคมครูฯ ฉบับปีที่ 30 นี้ ประกอบด้วยบทความ 2 ด้านคือ บทความวิชาการและบทความวิจัยทางการศึกษา โดย - บทความวิชาการ เป็นบทความจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้ผู้อ่านได้ทั้ง ความรู้และแนวคิดหลากหลาย 2 บทความ - บทความวิจัย เป็นผลงานของสมาชิกสมาคมครูฯ รวม 5 บทความ สมาคมครูฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกคงจะได้รับประโยชน์ จากบทความดังกล่าวข้างต้นไม่มากก็น้อย และขอเชิญชวนสมาชิกที่มี แนวคิดหรือเรื่องราวที่เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกส่งบทความมายังคณะผู้จัดทำ เพื่อพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสารฉบับต่อๆ ไป


สภาพสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าของวิทยาการความรู้ และ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือโรคระบาดที่เกิดขึ้นอย่างคาดการณ์ไม่ถึงเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการดำ รงชีวิตของมนุษย์ ดังนั้น การพัฒนาคนเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจึงมีความ จำ เป็นอย่างยิ่ง กระบวนทัศน์การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนจำ เป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง แนวคิดดั้งเดิมที่ มุ่งพัฒนาความรู้และทักษะอาจไม่ตอบสนองต่อสังคมโลกยุคใหม่ แนวคิดการส่งเสริมสมรรถนะเพื่อการประยุกต์ใช้นำ การ ดำ เนินชีวิตและการทำ งานจึงมีความจำ เป็น โดยสมรรถนะการคิดขั้นสูง (Higher-order thinking) จัดเป็นสมรรถนะสำ คัญ ประการหนึ่งของการศึกษาในยุคปัจจุบัน เพื่อให้ผู้เรียนมีความสามารถในการวิเคราะห์ วิพากษ์ จัดระบบ หรือวางแผนในการ ทำ งานหรือแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง นำ ไปสู่การดำ เนินชีวิตและการทำ งานได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งแนวทาง ของการพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้เกิดสมรรถนะการคิดขั้นสูง (Higher-order thinking) จำ เป็นต้องมีการวางแผนกิจกรรมการเรียน รู้อย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดการพัฒนาการคิดตามวัตถุประสงค์ รวมถึงแนวทางการวัดประเมินที่จะต้องสอดคล้องกับแนวทาง การพัฒนาสมรรถนะการคิด ซึ่งบทความนี้นำ เสนอแนวคิดสำ คัญของการคิดขั้นสูง แนวทางการพัฒนาผู้เรียน และแนวคิดการ วัดและประเมินผลที่สอดคล้องกับการพัฒนาสมรรถนะ Page 3 แนวทางการส่ง ส่ เสริมริสมรรถนะการคิดขั้นขั้สูงสู และการวัดวั ประเมินมิผล บทคัดย่อ ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ดร.อภิสิทธิ์ ธงไชย ผู้ชำ นาญ ฝ่ายบริหารเครือข่ายและพัฒนาครู สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คำ สำ คัญ สมรรถนะ, การคิดขั้นสูง, การวัดประเมินผล [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 4 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย เป้าหมายสำ คัญประการหนึ่งในการจัดการศึกษา คือการพัฒนาสมรรถนะการคิด เพื่อให้ผู้เรียนมีความ สามารถในการวิเคราะห์ วิพากษ์ จัดระบบ หรือวางแผนใน การทำ งานหรือแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง นำ ไปสู่ การดำ เนินชีวิตและการทำ งานได้ในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างไรก็ตามแนวทางของการพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้เกิด สมรรถนะการคิด โดยเฉพาะการคิดที่เป็นขั้นสูง (Higherorder thinking) เป็นสิ่งสำ คัญที่จะต้องมีการออกแบบ กระบวนการ หรือวิธีการเพื่อให้เกิดการพัฒนาการคิดได้ อย่างที่คาดหวัง รวมถึงแนวทางการประเมินที่จะต้อง สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาการคิด ดังนั้น ครูหรือ บุคลากรทางการศึกษาจึงจำ เป็นต้องเข้าใจถึงแนวคิดหลัก ของการคิดขั้นสูง การออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะการ คิด รวมทั้งแนวทางการวัดประเมินที่ต้องสอดคล้องกันเป็น อย่างดี บทความนี้จึงนำ เสนอแนวคิดสำ คัญของสมรรถนะ การคิดขั้นสูง แนวทางการพัฒนาผู้เรียน รวมทั้งแนวทางการ วัดและประเมินผลที่จะนำ ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาผู้ เรียนต่อไป แนวคิดสำ คัญของการคิดขั้นสูง ในปี 1956 เบนจามิน บลูม (Benjamin Bloom) ได้จัดระดับความสามารถของมนุษย์ด้านพุทธิ พิสัย (Cognitive domain) ซึ่งเกี่ยวข้องกับระดับการ เรียนรู้ การทำ งานของสมองหรือความซับซ้อนใน กระบวนการคิด โดยแบ่งเป็น 6 ระดับ ได้แก่ ความรู้ (knowledge) ความเข้าใจ (Comprehension) การ ประยุกต์ใช้ (Application) การวิเคราะห์ (Analysis) การสังเคราะห์ (Synthesis) และการประเมินค่า (Evaluation) ดังภาพที่ 1 ภาพที่ 1 อนุกรมวิธานของบลูม [9] บทนำ [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 5 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ต่อมา ในปี 2001 โลริน แอนเดอร์สัน และคณะ ได้ เสนอกรอบแนวคิดการจัดระดับกระบวนการคิดหรือการ เรียนรู้ขึ้นใหม่ โดยมีแรงบันดาลใจจากแนวคิดการทำ งาน ของวิศวกรและสถาปนิก ซึ่งมีแนวคิดว่า การสร้างสรรค์เพื่อ ให้เกิดสิ่งใหม่นั้น เป็นสิ่งที่ยากที่สุด เพราะต้องอาศัยการ ผนวกความรู้ที่มีและจินตนาการเข้าด้วยกัน ซึ่งสอดคล้องกับ แนวคิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) จึงได้เสนอปรับปรุงอนุกรมวิธานของบลูมกลายเป็น ฉบับใหม่ (Bloom’s revised taxonomy) ประกอบด้วย ความรู้ (Knowing) ความเข้าใจ (Understanding) การ ประยุกต์ (Applying) การวิเคราะห์ (Analyzing) การ ประเมิน (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating) เป็นการคิดในระดับขั้นสูงสุด ดังภาพที่ 2 แนวคิดโดยรวมยังคล้ายเดิม มีสิ่งที่ปรับปรุงเป็นหลักคือ การคิดสร้างสรรค์ (Creating) โดยมองว่าเป็นระดับการ คิดสูงสุด ในขณะที่ การคิดสังเคราะห์ (Synthesis) ไม่ได้ ถูกตัดออกไป แต่ได้ผนวกเข้าไปในการสร้างสรรค์ทำ ให้ เกิดเป็นการสร้างสรรค์ผลงาน ตามแผนภาพระดับความสามารถในการเรียนรู้หรือการ คิดของบลูมฉบับปรับปรุงนั้น นักการศึกษาได้กำ หนด ให้การคิดใน 3 ระดับบนสุดของยอดพิรามิดเป็นความคิด ขั้นสูง [10] อันประกอบด้วย การวิเคราะห์ (Analyzing) การประเมิน (Evaluating) และการสร้างสรรค์ (Creating) ในประเทศไทย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 [4] ได้กำ หนดให้ความ สามารถในการคิด เป็นสมรรถนะหลักประการหนึ่ง จาก จำ นวน 5 สมรรถนะ ซึ่งได้อธิบายไว้ว่า “ความสามารถ ในการคิด หมายถึง รู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิด อย่างสร้างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดเป็น ระบบ เพื่อนำ ไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะ สม” โดยความสามารถในการคิด ประกอบไปด้วย 5 ลักษณะ ได้แก่ 1) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ 2) มีทักษะในการคิดนอกกรอบอย่าง สร้างสรรค์ ภาพที่ 2 อนุกรมวิธานปรับปรุงของบลูม [10] ที่มา https://citt.ufl.edu/media/cittufledu/images/ Blooms-Taxonomy.png [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 6 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย 3) สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ 4) มีความสามารถใน การคิดอย่างมีระบบ 5) ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตนเอง ได้ (ร่าง) กรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช… ระดับประถมศึกษา ซึ่งมักกล่าวถึงกันในชื่อ ว่า ร่างหลักสูตรฐานสมรรถนะ ได้กำ หนดให้ สมรรถนะการ คิดขั้นสูง เป็นสมรรถนะอันหนึ่งในจำ นวน 6 สมรรถนะ หลัก ประกอบด้วย 1) การจัดการตนเอง 2) การคิดขั้นสูง 3) การสื่อสาร 4) การรวมพลังทำ งานเป็นทีม 5) การเป็น พลเมืองที่เข้มแข็ง 6) การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและ วิทยาการอย่างยั่งยืน โดยที่สมรรถนะการคิดขั้นสูงแบ่งออก เป็นสมรรถนะย่อย 4 อย่าง ได้แก่ การคิดอย่างมี วิจารณญาณ (Critical thinking) การคิดเชิงระบบ (System thinking) การคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) และการแก้ปัญหา (Problem solving) จะเห็นได้ว่า นักการศึกษาไม่ว่าจะเป็นในต่างประเทศหรือ ในประเทศ ต่างก็ให้ความสำ คัญกับการส่งเสริมการคิด และ การศึกษาในประเทศไทยเอง ถึงแม้จะมีการปรับปรุง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่ก็ยังคงให้ความ สำ คัญกับการส่งเสริมการคิดกับผู้เรียน แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการคิดขั้นสูง สมรรถนะจะเกิดขึ้นได้ต้องประกอบไปด้วยการมีความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) และเจตคติ (Attitude/Value) ผสมผสานร้อยเรียงเข้าด้วยกันเพื่อนำ ไปสู่การปฏิบัติในชีวิต จริง [10] จึงจะทำ ให้เกิดเป็นสมรรถนะได้อย่างแท้จริง กระบวนการของการจัดการเรียนรู้ที่จะส่งเสริมผู้เรียนให้ เกิดสมรรถนะการคิดขั้นสูงได้ จึงมีความจำ เป็นต้องวางแผน ออกแบบกิจกรรม หรือกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ แนวคิดการส่งเสริมสมรรถนะ โดยในปัจจุบัน นโยบายส่งเสริม การเรียนรู้ที่มักกล่าวถึงกันอย่างมาก คือ การจัดการเรียนรู้ เชิงรุก (Active learning) ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนการสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ ภาพที่ 3 กรอบแนวคิดสมรรถนะของ OECD [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 7 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย โดยมีครูเป็นผู้อานวยความสะดวก (Facilitator) สร้างแรงบันดาลใจ ให้คำ ปรึกษา ดูแล แนะนำ แสวงหา เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย (Meaningful learning) ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ได้ มีความเข้าใจใน ตนเอง ใช้สติปัญญา คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ผลงาน นวัตกรรมที่บ่งบอกถึงการมีสมรรถนะสาคัญในศตวรรษที่ 21 มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต และทักษะวิชาชีพ บรรลุ เป้าหมายการเรียนรู้ตามระดับช่วงวัย ซึ่งแนวคิดการจัดการ เรียนรู้เชิงรุกจะช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด ขั้นสูง (Higher-order thinking) การเรียนรู้ของผู้เรียนไม่ เพียงแต่เป็นผู้รับฟัง ผู้เรียนต้องได้อ่าน เขียน ตั้งคำ ถาม อภิปรายร่วมกัน และลงมือปฏิบัติจริง [7] โดย สำ นักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2562) ได้สรุปแนวคิด ลักษณะสำ คัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ดังนี้ 1.เป็นการพัฒนาศักยภาพการคิด การแก้ปัญหา และ การนำ ความรู้ไปประยุกต์ใช้ 2.ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดระบบการเรียนรู้ และสร้าง องค์ความรู้โดยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันในรูปแบบของความ ร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน 3.เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ สูงสุด 4.เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ สู่ทักษะการคิดวิเคราะห์และประเมินค่า 5.ผู้เรียนได้เรียนรู้ความมีวินัยในการทำ งานร่วมกับผู้อื่น 6.ความรู้เกิดจากประสบการณ์ และการสรุปของผู้เรียน 7.ผู้สอนเป็นผู้อำ นวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง จากแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุกข้างต้น การออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ให้ส่งเสริมสมรรถนะผู้เรียน จึงควร พิจารณาองค์ประกอบสำ คัญ ได้แก่ 1.การระบุผลลัพธ์การเรียนรู้จำ แนกตามพิสัย (Domain) การเรียนรู้ได้ และเลือกผลลัพธ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับ การประเมินสมรรถนะ 2.เลือกวิธีการประเมินผลการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับ ผลลัพธ์การเรียนรู้และสมรรถนะสำ คัญ 3.การออกแบบการประเมินผลการเรียนรู้ร่วมกับ สมรรถนะสำ คัญของผู้เรียน โดยการนำ แนวคิดการ ประเมินทางเลือกไปใช้ได้ ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู้มักประกอบไปด้วยภาระกิจหรือ ภาระงานที่ต้องให้ผู้เรียนได้ฝึกคิด วางแผน แก้ปัญหา หรือ สร้างสรรค์ และในการกำ หนดภาระงานที่เหมาะสมจะช่วย ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ได้ โดยลักษณะภาระงานที่ดีเป็น ดังตารางที่ 1 [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


ประเด็น คำ อธิบาย ความสำ คัญ นำ เสนอแนวคิดหรือทักษะสำ คัญหลักที่ต้องการวัด ความซับซ้อน กำ หนดให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมดำ เนินงานในลักษณะเนื้อหาเชิงลึกและเป็น แนวทางที่มีความหมาย ความสมจริง เป็นไปได้ นำ เสนอกิจกรรมที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริง ความเท่าเทียม ไม่ลำ เอียง กระตุ้นให้ผู้เรียนที่มีลักษณะหลากหลายได้แสดงสิ่งที่ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ การเรียนรู้ สอดคล้องกับวิธีการจัดการเรียนรู้ ที่ช่วยให้นักเรียนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ ความครบถ้วนสมบูรณ์ เปิดโอกาสในการพัฒนาต่อยอดได้มากขึ้นจากงานที่มอบหมาย การมีส่วนร่วม เป็นงานหรือปัญหาที่ท้าทายและกระตุ้นการคิด กระตือรือร้น เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สร้างงานที่มีความหมาย มีประโยชน์ต่อผู้คนหรือใช้ ทรัพยากรอย่างเป็นประโยชน์ การเข้าถึง ผู้ที่มีระดับความสามารถแตกต่างหลายระดับได้มีโอกาสทำ งานร่วมจนบรรลุผล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Page 8 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ตารางที่ 1 ลักษณะภาระงานที่ส่งเสริมการเรียนรู้สมรรถนะ[8] [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 9 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย การวัดและประเมินที่สอดคล้องการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ เป็นสิ่งที่ควบคู่กันกับ การจัดการเรียนรู้ เป็นกระบวนการที่จะได้ข้อมูลสารสนเทศที่ แสดงถึงพัฒนาการความก้าวหน้าและความสำ เร็จของผู้เรียน รวมทั้งได้ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียน เกิดการพัฒนาและเรียนรู้ตามศักยภาพ ซึ่งแนวคิดการ ประเมินอาจแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การประเมินเพื่อ พัฒนา (Formative assessment) ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการ เรียนรู้เพื่อช่วยให้ครูได้ข้อมูลความก้าวหน้าของผู้เรียน สามารถนำ มาเป็นสารสนเทศเพื่อการปรับปรุงหรือพัฒนา กิจกรรมการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (Assessment for learning) ในขณะเดียวกันนักเรียนได้ทราบความ ก้าวหน้าของตนเองในการเรียนรู้ (Self-monitoring) เกิดการ เรียนรู้ว่าตนเองเกิดการพัฒนามากน้อยเพียงใดเพื่อให้ สามารถปรับปรุงตนเอง (Self-correction/Adjustment) ใน การเรียนรู้ได้ดีขึ้น (Assessment as learning) และการ ประเมินเพื่อตัดสินสรุป (Summative assessment) โดยมัก เกิดขึ้นหลังจากจบบทเรียนหรือท้ายภาคเรียนเพื่อการ ประเมินตัดสินสรุปผลว่านักเรียนแต่ละคนได้ผลลัพธ์การเรียน รู้จากบทเรียนทั้งหมดเป็นอย่างไร (Assessment of learning) จะเห็นได้ว่า แนวคิดการประเมินพัฒนา (Formative assessment) เป็นแนวคิดที่มีความสำ คัญต่อการพัฒนาการ เรียนรู้ให้กับครูและผู้เรียน เนื่องจากเป็นการเก็บรวบรวม สารสนเทศระหว่างการเรียนรู้ที่จะนำ ไปสู่การปรับปรุงวิธีการ จัดการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับทั้งเนื้อหาบทเรียนและ บริบทของผู้เรียน (Assessment for learning) ในขณะ เดียวกันข้อสารสนเทศนั้นยังนำ ไปสู่การประเมินตนเองของผู้ เรียนในการเข้าใจพัฒนาการหรือวิธีการเรียนรู้ของผู้เรียนเพื่อ ปรับปรุงได้อย่างเหมาะสม (Assessment as learning) ซึ่ง จะนำ ไปสู่การเกิดการเข้าใจการเรียนรู้ของตนเอง ดังนั้น ครู ควรปรับแนวคิดการใช้การประเมินจากที่เคยเน้นการประเมิน ปลายทางเป็นการประเมินระหว่างทางเพื่อการพัฒนาให้มาก ขึ้น ดังภาพที่ 3 ภาพที่ 4 แนวคิดการประเมินที่เน้นการประเมิน เพื่อพัฒนา [8] [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 10 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย แนวทางการประเมินเพื่อการพัฒนายังสอดคล้องกับแนวคิด การส่งเสริมสมรรถนะ เนื่องจาก กระบวนการพัฒนาผู้เรียน จะเกิดขึ้นระหว่างการเรียนรู้ การประเมินเพื่อการพัฒนาจึง ต้องเกิดขึ้นไปพร้อมกัน เพื่อให้ครูสามารถปรับเปลี่ยน แนวทางการจัดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ผู้เรียน ได้รับการสะท้อนคิดจากการทำ กิจกรรม และประเมินตนเอง เพื่อการปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ของตนเองได้อีกด้วย (Assessment as learning) ซึ่งวิธีการวัดและประเมินผลอาจ ทำ ได้หลายอย่างขึ้นกับบริบทกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น การใช้ คำ ถามระหว่างเรียน การเขียนสะท้อนการเรียนรู้ แฟ้มสะสม งาน ผลการปฏิบัติงาน การสังเกตพฤติกรรม การนำ เสนอผล งาน การสัมภาษณ์ หรือบางโอกาสอาจให้นักเรียนได้มีการ ประเมินระหว่างเพื่อนร่วมชั้นได้ ซึ่ง หน่วยศึกษานิเทศก์ สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้นำ เสนอ กรอบแนวทางการวัดและประเมินที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ แบบเชิงรุก ดังภาพที่ 4 บทสรุป การพัฒนาคนในปัจจุบัน นอกจากความรู้และทักษะที่มี ความสำ คัญต่อการพัฒนาผู้เรียนแล้ว เจตคติหรือการเห็น คุณค่ายังมีความจำ เป็นที่ต้องได้รับการพัฒนาควบคู่กันไปใน การเรียนรู้ทั้งในและนอกชั้นเรียน เพื่อให้เกิดเป็นสมรรถนะที่ จะนำ ไปสู่การใช้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะสมรรถนะการคิดขั้นสูง ซึ่งจะช่วยพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลที่มีความสามารถในการ วิเคราะห์ วางแผน ประเมิน ตัดสินใจในการแก้ปัญหา หรือ การทำ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่กลวิธีในการจัด กระบวนการเรียนรู้ที่จะส่งเสริมสมรรถนะการคิดนั้นต้องมี การออกแบบ วางแผนให้สอดคล้องกับการส่งเสริมสมรรถนะ ที่คาดหวัง การเรียนรู้ต้องเปิดกว้างให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมใน การฝึกคิด ฝึกปฏิบัติ มีส่วนร่วมในการทำ งานอภิปรายกับ เพื่อนร่วมชั้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ทั้งนี้ การวัดประเมินผลซึ่งเป็นหัวใจสำ คัญอันหนึ่งในการ จัดการศึกษาที่ต้องมาพร้อมกับหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ มีความสำ คัญอย่างยิ่งที่กระบวนทัศน์ของการวัดประเมินผล ต้องปรับจากการวัดผลการเรียนรู้ปลายทางมาเน้นที่การวัดผล ระหว่างการเรียนรู้เพื่อการพัฒนา (Assessment for Learning) จึงจะสอดคล้องกับการเรียนรู้เชิงรุกที่ต้องการส่ง เสริมสมรรถนะ เพื่อให้เกิดการพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง นำ ไปสู่การพัฒนาคนได้อย่างมีคุณภาพ ตอบโจทย์สภาพสังคม โลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและต่อเนื่อง ภาพที่ 5 การประเมินผลการเรียนรู้เชิงรุก [8] [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 11 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย เอกสารอ้างอิง [1] กมล โพธิเย็น (2564). Active Learning: การจัดการ เรียนรู้ที่ตอบโจทย์การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสาร ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีที่ 19 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2564). [2] ทิศนา แขมมณี. (2551). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อ การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ พิมพ์ครั้งที่ 7 : กรุงเทพฯ : สำ นักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. [3]สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, (2560). กระบวนการคิด. กรุงเทพมหานคร: อักษร อินสไปร์. [4]สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, (2562). เอกสารประกอบการอบรมหลักสูตร การจัดการเรียน รู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่ส่งเสริมทักษะ การคิดและแก้ปัญหา. [5] สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551, กระทรวงศึกษาธิการ. [6] สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, (2565). (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช…. ระดับประถมศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2565, จาก cbethailand.com. [7] หน่วยศึกษานิเทศก์ สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน (2562). แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและส่งเสริม การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามนโยบายลด เวลาเรียน เพิ่มเวลารู้. หน่วยศึกษานิเทศก์ สำ นักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. [8] ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง (2022). เอกสารประกอบการอบรม ผู้เชี่ยวชาญโครงการโรงเรียนคุณภาพฯ สสวท. [9] Bloom, B. S. (1956). Taxonomy of Educational Objectives, Handbook I: The Cognitive Domain. New York: David McKay Co Inc. [10] OECD (2018), Global competency for an inclusive world, (Online), Available: https://www.oecd.org/education/Globalcompetency-for-an-inclusive-world.pdf. Retrieved August 8, 2022. [11] Watson, Sue. (2020, August 26). Higher-Order Thinking Skills (HOTS) in Education. Retrieved from https://www.thoughtco.com/higher-order-thinkingskills-hots-education-3111297 [12] Wei, R.C., S.E. Schultz, and R. Pecheone. 2012. Performance assessments for learning: The next generation of state assessments. Paper presented at the Annual Meeting of the American Educational Research Association, Vancouver, British Columbia. [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


“PISA ไม่ได้ให้ข้อมูลเพียงคะแนนที่ได้จากการประเมินด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เท่านั้นหากแต่ ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่ทำ ให้เห็นว่า นโยบายและแนวปฏิบัติต่าง ๆ ส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างไร ความแตกต่างของระบบการศึกษาของประเทศที่เป็นอยู่กับของประเทศอื่น ๆ ที่ประสบความสำ เร็จเป็นอย่างไร และ การยกระดับคุณภาพการศึกษาควรเริ่มที่จุดใดบ้าง” โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐาน สากล หรือ PISA (Programme for International Student Assessment) ซึ่งริเริ่มโดยองค์การเพื่อความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development) นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน คุณภาพของระบบการศึกษาในการเตรียมความพร้อมให้ ประชาชนมีศักยภาพหรือความสามารถพื้นฐานที่จำ เป็น ต่อการดำ รงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยในการ ประเมินมีการเก็บข้อมูลจากเครื่องมือสองส่วน Page 12 นโยบายและวิธีวิปธี ฏิบัติบั ติในโรงเรีย รี นที่ประสบ ความสำ เร็จ ร็ : ข้อ ข้ มูลจากผลการประเมินมิ PISA 2018 [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat ดร.นันทวัน สมสุข รักษาการผู้อำ นวยการสำ นักวิชาการวัดและประเมินผล นางสุชาดา ปัทมวิภาต ผู้ชำ นาญสาขาการวัดและประเมินผลระดับนานาชาติ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 13 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ได้แก่ 1) การทำ แบบทดสอบของนักเรียน ซึ่งวัดความ ฉลาดรู้ (literacy) ด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ โดยนักเรียนต้องแสดงความสามารถใน การนำ ความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ชีวิตจริง และ 2) การตอบแบบสอบถามของนักเรียน เกี่ยวกับข้อมูลพื้น ฐานของนักเรียน อุปนิสัย เจตคติ ความเชื่อ ประสบการณ์ การเรียน โรงเรียน และบ้าน นอกจากนี้ ยังมีการเก็บ ข้อมูลจากแบบสอบถามสำ หรับผู้บริหารโรงเรียนที่ สอบถามเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน การบริหาร จัดการการศึกษาของโรงเรียน รวมถึงสิ่งแวดล้อมทางการ เรียนด้วย ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากแบบสอบถามจะนำ มา วิเคราะห์เพื่อหาความสัมพันธ์กับผลการประเมินที่ได้จาก แบบทดสอบ และนำ สู่การสะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยที่ส่งผล ต่อผลการเรียนรู้ของนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลของ PISA PISA 2018 เป็นการประเมินรอบล่าสุดที่ได้เผย แพร่ผลการประเมินไปแล้ว โดยรอบนี้เน้นการประเมิน ด้านการอ่าน จึงมีจำ นวนข้อสอบด้านการอ่านในสัดส่วน ที่มากกว่าอีกสองด้านที่เหลือ และแบบสอบถามนักเรียน ได้เน้นสอบถามนักเรียนในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การอ่าน สำ หรับผู้บริหารโรงเรียน มีแบบสอบถามที่ถาม ถึงนโยบายและวิธีปฏิบัติที่ใช้ในการบริหารจัดการการ ศึกษาของโรงเรียนใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) การคัดเลือกและแบ่งกลุ่มนักเรียน ที่สอบถามถึง โครงสร้างที่ใช้ในการแบ่งระดับชั้นและสายการเรียน วิธีการคัดเลือกและแยกกลุ่มนักเรียนตามแผนการเรียน และความสามารถของนักเรียน 2) การลงทุนทางทรัพยากรการศึกษา ที่สอบถามถึง จำ นวนและประเภทของทรัพยากรที่มีในโรงเรียน วิธีการ จัดสรรและใช้งาน ทั้งทรัพยากรบุคคล (ครู ผู้ช่วยสอน อัตราส่วนครูต่อนักเรียนและการพัฒนาวิชาชีพ) ทรัพยากรวัตถุ (ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐาน ทรัพยากร การเรียน และทรัพยากรดิจิทัล) ทรัพยากรการเงิน (ค่า ใช้จ่ายทางการศึกษาของนักเรียนหนึ่งคนตลอดระยะ เวลาเรียน และเงินเดือนครู) และทรัพยากรเวลาเรียน (จำ นวนชั่วโมงเรียนในชั้นเรียนปกติและนอกเวลาเรียน)


Page 14 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย 3) การกำ กับดูแลระบบการศึกษา ที่สอบถามถึง การมี ส่วนร่วมของภาครัฐและภาคเอกชนในการบริหารจัดการ และจัดหาเงินทุนให้กับโรงเรียน การมีอำ นาจอิสระในการ ดำ เนินการของโรงเรียนด้านหลักสูตร การสอน การ ประเมินผล และการแข่งขันของโรงเรียน 4) การวัดและการประเมินผลการศึกษา ที่สอบถามถึง นโยบายและแนวทางปฏิบัติที่ใช้ในการประเมินผลการ เรียนรู้ของนักเรียน การประเมินผลการปฏิบัติงานของครู และผลการดำ เนินงานของโรงเรียน แบบสอบถามสำ หรับผู้บริหารโรงเรียนที่สอบถาม ถึงนโยบายและวิธีปฏิบัติที่ใช้ในการบริหารจัดการ การศึกษาของโรงเรียนใน 4 ด้าน *เนื่องจากการประเมิน PISA 2018 เน้นประเมินด้านการอ่าน ดังนั้น การวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยต่าง ๆ จากแบบสอบถามที่ส่งผลหรือมีความสัมพันธ์กับผลการเรียนรู้ของนักเรียนจะมุ่งเน้นไปที่ผลการ ประเมินด้านการอ่านเป็นหลัก นักเรียนที่เข้าเรียนในระดับก่อนประถมศึกษาเป็น เวลา 1-3 ปี ซึ่งเมื่อนักเรียนเหล่านี้อายุ 15 ปี ผล การประเมิน PISA พบว่า มีคะแนนการอ่านสูง กว่านักเรียนที่ไม่เคยเข้าเรียนในระดับก่อนประถม ศึกษาหรือเรียนในระดับดังกล่าวน้อยกว่า 1 ปี นักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนที่ไม่มีการแบ่งกลุ่ม นักเรียนตามความสามารถทั้งในห้องเรียนเดียวกัน หรือต่างห้องกัน มีคะแนนการอ่านสูงกว่า นักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนที่มีการแบ่งกลุ่มเช่นนั้น นักเรียนที่เรียนสายสามัญมีคะแนนการอ่านสูง กว่านักเรียนที่เรียนสายอาชีพ การวิเคราะห์ข้อมูลข้างต้นว่าตัวแปรต่างๆ มีความ สัมพันธ์ต่อผลการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างไรนั้น ต้อง พิจารณาถึงตัวแปรภูมิหลังด้านสถานะทางเศรษฐกิจและ สังคมของนักเรียนและโรงเรียนมาอธิบายประกอบด้วย จึงจะสามารถสะท้อนผลการประเมินที่เกิดขึ้นได้ใกล้ ความเป็นจริงที่สุด ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลของ PISA 2018 จากระบบโรงเรียนที่ประสบความสำ เร็จ ซึ่งชี้วัด จากผลการประเมินด้านการอ่าน* ของประเทศนั้นสูง กว่าค่าเฉลี่ย OECD และสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลกระทบต่อผลการเรียนรู้ด้านการอ่านน้อย ได้ข้อค้น พบในประเด็นหลัก ๆ ดังนี้ การคัดเลือกและแบ่งกลุ่มนักเรียน


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 15 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย นักเรียนที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้อย เปรียบ มีแนวโน้มเรียนซ้ำ ชั้นอย่างน้อยหนึ่งครั้ง มากกว่านักเรียนที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม ได้เปรียบ ประเทศที่มีสัดส่วนของนักเรียนที่เรียนซ้ำ ชั้นน้อยกว่าจะมีคะแนนการอ่านสูงกว่า ซึ่งแสดงให้ เห็นว่า การซ้ำ ชั้นส่งผลกระทบเชิงลบกับผลการ เรียนรู้ การขาดแคลนครูที่มีคุณวุฒิเหมาะสมกระทบต่อผล การเรียนรู้ของนักเรียน นักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนที่มี การขาดแคลนครูผู้สอนสูงกว่า จะมีคะแนนการอ่าน ต่ำ กว่า อัตราส่วนของครูต่อนักเรียน มีความสัมพันธ์กับผล การเรียนรู้ไม่มากนัก การขาดแคลนทรัพยากรการเรียน เช่น ตำ ราเรียน ห้องสมุด อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์ใน ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์มีความสัมพันธ์กับ คะแนนการอ่านไม่มากนัก ทรัพยากรโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคารสถานที่ สนาม ระบบน้ำ ระบบไฟ ไม่ค่อยส่งผลกระทบหรือ มีความสัมพันธ์กับผลการเรียนรู้น้อย การลงทุนทางทรัพยากรการศึกษา การมีอุปกรณ์ดิจิทัลให้นักเรียนใช้ที่โรงเรียน เช่น คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์แบบพกพา ไม่มีความ สัมพันธ์กับผลการเรียนรู้ การมีทรัพยากรการเรียนอย่างเพียงพอ เป็นสิ่ง จำ เป็นในการสร้างโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ อย่างมีคุณภาพ แต่สิ่งสำ คัญคือทรัพยากรนั้นต้อง ถูกใช้อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ โรงเรียนที่ด้อยเปรียบมีการขาดแคลนทรัพยากร หรือมีไม่เพียงพอสูงกว่าโรงเรียนที่ได้เปรียบ ซึ่งใน ประเทศที่มีผลการประเมินสูง จะมีการจัดสรร ทรัพยากรอย่างเป็นธรรม นั่นคือ โรงเรียนที่ด้อย เปรียบและได้เปรียบมีทรัพยากรวัตถุที่แตกต่างกัน ไม่มากนัก หรือในบางประเทศโรงเรียนที่ด้อย เปรียบมีแนวโน้มที่จะมีทรัพยากรวัตถุมากกว่า โรงเรียนที่ได้เปรียบกว่าด้วย ค่าใช้จ่ายทางการศึกษากับผลการเรียนรู้ ไม่มี ความสัมพันธ์กัน ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาที่สูง ไม่ ได้เป็นตัวทำ นายถึงผลการศึกษาเสมอไป เวลาที่ใช้เรียนตามเวลาเรียนปกติ มีความสัมพันธ์ เชิงบวกกับผลการเรียน คะแนนการอ่านมีความ สัมพันธ์กับเวลาที่ใช้ในการเรียนการสอนภาษา หลักต่อสัปดาห์


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 16 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย เวลาเรียนพิเศษนอกเวลา และเวลาที่ใช้ในการ ทำ การบ้าน ไม่มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการ เรียนรู้ (มีความสัมพันธ์เชิงลบกับคะแนน) ในระบบ โรงเรียนที่นักเรียนใช้เวลาเรียนพิเศษนอกเวลาและ ทำ การบ้านยิ่งมาก แนวโน้มผลการประเมินยิ่งต่ำ ระบบที่ให้อำ นาจอิสระโรงเรียนตัดสินใจในนโยบาย ด้านหลักสูตร การสอน และการประเมินผล การ เลือกสาระของเนื้อหารายวิชาและหนังสือเรียน มี ความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลการเรียนรู้ของนักเรียน อำ นาจอิสระในการจัดการทรัพยากรด้านงบ ประมาณ และบุคลากรโรงเรียน ไม่ปรากฏรูปแบบ ที่ชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์กับผลการเรียนรู้ของ นักเรียน โรงเรียนของรัฐ มีผลการประเมินสูงกว่าโรงเรียน เอกชน เมื่อตัดผลกระทบของสถานะทางเศรษฐกิจ และสังคมแล้ว นักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนที่ครูใหญ่รายงานว่าครูมี ส่วนร่วมในการบริหารจัดการการศึกษาของ โรงเรียนมากกว่า จะมีคะแนนสูงกว่า แสดงให้เห็น ว่า ความร่วมมือของครูในโรงเรียนเป็นตัวแปรที่ เกี่ยวข้องกับการมีอำ นาจอิสระที่ส่งผลเชิงบวกกับ ผลการเรียนรู้ การกำ กับดูแลโรงเรียนในระบบการศึกษา ครูใหญ่ที่รายงานว่า มีความเป็นผู้นำ ด้านการสอน มักมีการวางกรอบเป้าหมายและมีการสื่อสารเป้า หมายและการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียน และ ครูใหญ่ที่มีความเป็นผู้นำ ด้านการสอนมักได้รับ ความร่วมมือเป็นอย่างดีจากครู ระดับการแข่งขันกันรับนักเรียนระหว่างโรงเรียน ไม่มีความสัมพันธ์กับผลการเรียนรู้ของนักเรียน การแข่งขันกันรับนักเรียนระหว่างโรงเรียนเป็นผล เชิงลบกับความเสมอภาคทางการศึกษา ในระดับโรงเรียน นักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนที่มี การนำ ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเผยแพร่ต่อ สาธารณะมีคะแนนการอ่านสูงกว่านักเรียนที่ไม่ได้ มีการปฏิบัติเช่นนี้ เมื่อตัดผลกระทบของสถานะ ทางเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ในระดับระบบการศึกษา การนำ ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเผยแพร่ต่อสาธารณะ ไม่มีความ สัมพันธ์กับผลการประเมิน PISA หรือความเท่า เทียมกันทางการศึกษา การวัดและการประเมินผลการศึกษา


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 17 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่จะมีความเท่า เทียมทางการศึกษามากขึ้นหากโรงเรียนมีการนำ การประเมินผลนักเรียนไปใช้เพื่อแจ้งให้ผู้ปกครอง ทราบถึงความก้าวหน้าของนักเรียน ชี้บอกว่าการ เรียนการสอนหรือหลักสูตรด้านใดที่ต้องปรับปรุง รวมถึงโรงเรียน มีการขอความคิดเห็นจากนักเรียน และขอคำ ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุง โรงเรียนที่มุ่งเป้าหมายเพื่อการประกันและปรับปรุง คุณภาพของโรงเรียน ระบบที่นักเรียนอยู่ในโรงเรียนที่มีการใช้ข้อมูลป้อน กลับเพื่อปรับปรุงและยกระดับการเรียนการสอน มี แนวโน้มที่จะมีผลการประเมินสูงกว่าโรงเรียนที่ไม่ ได้ใช้แนวปฏิบัตินี้ บรรยากาศทางระเบียบวินัยส่งผลต่อคุณภาพการ เรียนรู้ โดยโรงเรียนที่มีบรรยากาศทางระเบียบวินัย เชิงลบ เช่น นักเรียนมาโรงเรียนสายไม่เข้าชั้นเรียน หรือขาดเรียน มักมีผลการประเมินต่ำ นักเรียนที่มีความรู้สึกเชิงลบต่อความเป็นส่วนหนึ่ง ของโรงเรียน เช่น รู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกถูกทอดทิ้ง และรู้สึกเก้อเขินผิดที่ผิดทางเมื่ออยู่ที่โรงเรียน จะมี คะแนนน้อยกว่านักเรียนที่ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น นอกจากนี้ จากการสำ รวจข้อมูลจากแบบสอบถาม ในเรื่องสิ่งแวดล้อมทางการเรียนพบว่า มีความสัมพันธ์กับ ผลการเรียนรู้ของนักเรียน โดยพบประเด็นสำ คัญ เช่น นักเรียนที่ไม่เคยหรือไม่ค่อยถูกกลั่นแกล้งจาก เพื่อนนักเรียนด้วยกันไม่ว่าจะทั้งทางร่างกาย วาจา หรือทางสังคม นักเรียนเหล่านี้จะมีคะแนน มากกว่านักเรียนที่รายงานว่ามักจะถูกกลั่นแกล้ง จากเพื่อนนักเรียนเป็นประจำ จากข้อค้นพบในประเด็นต่าง ๆ ข้างต้นของ PISA 2018 สะท้อนภาพของโรงเรียนที่ประสบความ สำ เร็จในระดับนานาชาติ ทำ ให้เห็นว่ามีปัจจัยหลาย ประการที่มีความสัมพันธ์และส่งผลต่อผลการเรียนรู้ของ นักเรียนและสามารถนำ ข้อมูลนี้มาปรับใช้เพื่อยกระดับ คุณภาพการศึกษาได้ แต่ต้องปรับให้เหมาะกับบริบทของ ประเทศหรือเพิ่มเติมการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์เชิงลึก ร่วมด้วย โดยในบทความนี้เน้นเสนอในประเด็นที่เป็น ปัจจัยด้านนโยบายและแนวปฏิบัติในการบริหารการ ศึกษาของโรงเรียนเป็นสำ คัญ ซึ่งนอกจากนี้แล้วยังมี ปัจจัยอื่น ๆ ทั้งปัจจัยด้านผู้เรียนเองที่ครอบครัวก็นับว่า ส่งผลมากต่อการมีทัศนคติ แรงจูงใจ และกลยุทธ์ในการ เรียนรู้ของผู้เรียน ปัจจัยด้านคุณภาพครู ซึ่งเป็นบุคคล สำ คัญมากในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน จึงต้องมี การสรรหา พัฒนา และส่งเสริมศักยภาพของครูอย่าง เหมาะสมตลอดจนปัจจัยด้านนโยบายของหน่วยงาน ระดับสูงที่ต้องวิเคราะห์สภาพปัญหาการศึกษาของ ประเทศ วางนโยบายและแนวทางการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาในภาพใหญ่ โดยเห็นความเชื่อมโยง


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 18 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ของตัวแปรต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพการเรียนรู้ เพื่อ ให้การแก้ปัญหาการศึกษาเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่องและ สอดคล้องกันบนพื้นฐานของบริบทประเทศ ในปัจจุบัน เข้าสู่รอบการประเมิน PISA 2022 ซึ่ง ประเทศไทย มีสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี (สสวท.) ทำ หน้าที่เป็นศูนย์แห่งชาติดำ เนิน งานด้านกระบวนการวิจัยเป็นหลักและได้ดำ เนินการเก็บ ข้อมูลรอบการวิจัยหลัก (Main Survey) ในเดือนสิงหาคม 2565และ OECD มีกำ หนดเผยแพร่ผลการประเมิน PISA 2022 ในเดือนธันวาคม 2566 โดยการประเมินรอบนี้จะ สะท้อนผลการเรียนรู้ของนักเรียนในช่วงที่ผ่านมา และยัง คงมีการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามของนักเรียนและผู้ บริหารโรงเรียนเช่นเดียวกับรอบการประเมินก่อนๆ ทั้งนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลเรื่องนโยบายและวิธีปฏิบัติใน การบริหารการศึกษาของโรงเรียนในรอบนี้ยิ่งมีความน่า สนใจ เนื่องจากในช่วงสองปีที่ผ่านมานานาประเทศต้อง พยายามขับเคลื่อนการจัดการศึกษาภายใต้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา2019(COVID-19) ข้อมูลจาก PISA 2022 จึงจะ ช่วยสะท้อนให้เห็นได้ว่า COVID-19ส่งผลกระทบต่อการ เรียนรู้ของนักเรียนมากน้อยเพียงใด ประเทศต่างๆมี แนวทางในการบริหารจัดการการศึกษาภายใต้ สถานการณ์นี้อย่างไร และควรจะมีนโยบายและวิธี ปฏิบัติเช่นไรภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เรามาติดตาม ผลการประเมินไปด้วยกัน !


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 19 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย เอกสารอ้างอิง OECD (2019). PISA 2018 Results (Volume I): What Students Know and Can Do, PISA. OECD Publishing, Paris. OECD (2020). PISA 2018 Results (Volume V): Effective Policies, Successful Schools, PISA. OECD Publishing, Paris. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี [สสวท.] (2564). บทสรุปสำ หรับผู้บริหารนโยบายที่มี ประสิทธิภาพ – โรงเรียนที่ประสบความสำ เร็จ จากการประเมิน PISA 2018”. สสวท., กรุงเทพฯ.


ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย บทคัดย่อ งานวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความสามารถการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ โดยการจัดการเรียนรู้แบบ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยาของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้า หมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำ นวน 28 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยา ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 จำ นวน 4 แผน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ 1) แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้แบบอัตนัย 2) แบบบันทึกภาค สนามของครู 3) อนุทินสะท้อนความคิดของนักเรียน 4) แบบประเมินเจตคติต่อการเรียนวิชาชีววิทยา วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้ Normalized gain <g> ผลการวิจัย พบว่านักเรียนที่มีผลการเรียนรู้ในระดับสูง (High gain) จำ นวน 22 คน (78.57%) มีจำ นวน นักเรียนที่มีผลการเรียนรู้ในระดับกลาง (medium gain) คือ 6 คน (21.43 %) และไม่มีนักเรียนผลการเรียนรู้ในระดับต่ำ (low gain) และเมื่อพิจารณาในภาพรวมของนักเรียนทั้งห้อง จำ นวน 28 คน พบว่าค่าเฉลี่ยของ Actual gain มีค่า ดังนี้ 0.79 + 0.16 และมีระดับ เจตคติเฉลี่ยอยู่ในระดับ “สูง” (X = 4.14, SD = 0.48) คำ สำ คัญ การจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม, ทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์, ชีววิทยา, โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ * Corresponding author e-mail : [email protected] Page 20 การพัฒพันาความสามารถการสื่อสื่สารทางวิทวิยาศาสตร์ โดยการจัดจัการเรียรีนรู้แ รู้ บบเทคโนโลยีคยีวามเป็น ป็ จริงริเสริมริ เรื่อรื่ง โครงสร้า ร้ งเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชวิา ชีวชีวิทวิยา ของนักเรียรีนชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่4 นายกิตติวัฒน์ ดิษฐประเสริฐ* กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนศรัทธาสมุทร จังหวัด สมุทรสงคราม สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรสาคร สมุทรสงคราม


Page 21 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย การส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะด้านการสื่อสาร โดย เฉพาะการสื่อสารสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy) ซึ่งเป็นทักษะที่สำ คัญในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะการส่ง เสริมทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งทักษะการสื่อสาร ทางวิทยาศาสตร์เป็นทักษะที่เน้นการสื่อสาร มีการติดต่อ สื่อสารทั้งการเขียนและการตอบคำ ถามหรือแสดงทัศนะ ต่างๆ ดังนั้นการที่นักเรียนจะสามารถดำ รงชีวิตอยู่ในยุคนี้จึง จำ เป็นต้องมีทักษะการสื่อสาร โดยเฉพาะทักษะการสื่อสาร ทางวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อก่อให้เกิดความราบ รื่นในการดำ รงชีวิต ซึ่งทักษะการสื่อสารนั้นจำ เป็นต้องมา ควบคู่กับวิทยาศาสตร์ด้วย เนื่องจากความเป็นวิทยาศาสตร์ จะสนับสนุนกัน ให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ การมีความรู้ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์จะส่งผลให้มีเจตคติ ทางวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้องซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์เป็นไปอย่างมีคุณภาพ [1] โดยการจัดการเรียนรู้ที่จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียน มีกระบวนการดังที่กล่าวข้างต้น คือ การจัดการเรียนรู้ที่ จำ เป็นต้องเน้นให้นักเรียนลงมือค้นหาคำ ตอบและส่งเสริม ทักษะและความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยาของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สามารถจัดการเรียนรู้โดย การนำ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาหรือการสอน ได้มี การนำ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมนำ มาประยุกต์ใช้ ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆทำ ให้นักเรียนได้สัมผัส ประสบการณ์ใหม่ในมิติที่เสมือนจริง อาทิ ภาพสามมิติ วีดิโอ หรือสื่อต่างๆ ส่งผลให้นักเรียนเกิดความสามารถ ในการพัฒนาการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ [2] อาทิ ด้านการเขียน โดยนักเรียนมีการเรียนรู้โดยใช้ภาษาใน การสื่อสาร เนื่องมาจากเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เป็นภาพสามมิติ วิดีโอ หรือภาพเคลื่อนไหว ทําให้ นักเรียนเกิดความเข้าใจในเรื่องราวและเนื้อหา มีลำ ดับ ความสัมพันธ์ของข้อมูล ส่งผลให้สามารถลำ ดับความ คิดได้ดีในการตอบคำ ถาม ประการถัดมาในด้านการพูด ทำ ให้นักเรียนมีความสามารถทางการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะเทคโนโลยีความเป็น จริงเสริมที่เลือกใช้ มีเนื้อหาที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อน ทำ ให้นักเรียนนำ ความรู้ที่ได้ นำ มาสู่การลงข้อสรุปทาง ความคิด ส่งผลให้สามารถอธิบาย ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจออกมาเป็นการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ได้ อีกทั้งกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างครูผู้สอนก่อ ให้เกิดการเสริมสร้างความรู้พัฒนาทักษะและ กระบวนการของนักเรียนทำ ให้เข้าใจลึกซึ้งในสิ่งที่ ต้องการเรียนรู้ ทั้งนี้ครูผู้สอนจึงควรที่จะเป็นเป็นจุด เริ่มต้นสำ คัญในการนำ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม บทนำ [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 22 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย มาประยุกต์ใช้เพื่อให้นักเรียนได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้ ที่มากขึ้น ร่วมกับการเชื่อมโยงเนื้อหาผนวกเข้ากับการเปิด โลกแห่งการเรียนรู้ ผ่านเทคโนโลยีมือถือและอุปกรณ์สมัย ใหม่ที่ทำ ให้การเรียนสามารถจะขยายออกหรือย้ายการเรียน รู้สู่นอกห้องเรียนมากขึ้น ส่งเสริมการเรียนรู้จากรูปแบบเดิม สู่การเรียนรู้แบบท้าทาย [3] จากการสอบถามแบบไม่เป็นทางการและพิจารณา จากคะแนนการสอบประจำ บทที่ผ่านมา พบว่านักเรียนเกิด ปัญหาในเรื่องการมีทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ โดย เฉพาะทักษะการเขียน การเชื่อมโยงความรู้ หรือการตอบ คำ ถามในห้องเรียน ประกอบกับเนื้อหาที่นักเรียนต้องเรียน ใน เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชา ชีววิทยา พบว่ามีเนื้อหาที่มีจำ นวนมาก เป็นเรื่องที่มีความ ละเอียด ซับซ้อน และต้องใช้ความจำ มาก อีกทั้งเวลาที่ใช้ใน ห้องเรียนไม่เพียงพอต่อการทำ ความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดได้ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นนามธรรม เข้าใจยาก ยิ่งไปกว่า นั้นผู้เรียนแต่ละคนมีทักษะที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การเรียนรู้ ของนักเรียนแต่ละคนแตกต่างกัน อีกทั้งนักเรียนยังขาดสื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้สำ หรับการศึกษา [4] จากที่กล่าวมาข้างต้นทำ ให้ผู้วิจัยได้มองเห็นความสำ คัญ และต้องการแก้ปัญหาด้านการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ของ นักเรียน เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ เพื่อให้ นักเรียนเป็นผู้สื่อสารทางวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มมากขึ้น ประเมินความสามารถในการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์โดยการจัดการเรียนรู้แบบ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้าง เซลล์และหน้าที่ของเซลล์ในรายวิชาชีววิทยา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วัตถุประสงค์ 1. 2. ประเมินเจตคติต่อการเรียนวิชาชีววิทยาโดย การจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีความ เป็นจริงเสริมเรื่อง โครงสร้างเซลล์และ หน้าที่ของเซลล์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทบทวนวรรณกรรม เอกรัฐ หล่อพิเชียร [6] กล่าวว่า การศึกษาความพึง พอใจของผู้เรียนที่มีต่อสื่อการเรียนรู้ความเป็นจริง เสริม (Augmented Reality) พบว่า ความพึงพอใจ ของผู้เรียนจากการใช้สื่อการเรียนรู้ความเป็นจริงเสริม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.603) แสดงให้เห็นว่าสื่อการเรียนรู้มีการใช้ งานที่ง่าย ผู้เรียนสามารถเข้าใจ รวมทั้งสื่อที่นำ มาใช้มี ความน่าสนใจจึงช่วยเพิ่มความเข้าใจในเนื้อหาของ เรื่อง โปรโตคอล TCP/IP วิชาการสื่อสารข้อมูลและ เครือข่ายคอมพิวเตอร์


Page 23 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย วิชุดา วงศ์เจริญ [7] กล่าวว่า การพัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์และทักษะการคิดแก้ปัญหาผ่านการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง พบว่า นักเรียนความรู้ ความเข้าใจหลังจากได้รับการจัดการเรียนรู้ สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เนื่องจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังกล่าว สามารถช่วยส่ง เสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาเคมีเพิ่ม มากขึ้น ผ่านแอพพลิเคชันเทคโนโลยีเสมือนจริง ทำ ให้ นักเรียนเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพิ่มความเข้าใจใน เนื้อหาที่เรียนได้เป็นอย่างดี กรรณิการ์ ไชยทอง, ศศิเทพ ปิติพรเทพินและปราโมทย์ ชำ นาญปืน [2] กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีมิติ เสมือนจริงมาใช้เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารวิทยาศาสตร์ใน ด้านการเขียน พบว่านักเรียนมีการเรียนรู้รูปแบบการใช้ ภาษาที่ดีมากขึ้น ทําให้นักเรียนเกิดการจัดกระทําข้อมูลที่น่า สนใจและหลากหลาย โดยการพัฒนาทักษะการสื่อสาร วิทยาศาสตร์ของนักเรียนทั้งด้านการเขียนและการพูด สามารถทำ ให้นักเรียนมีการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ของ นักเรียนให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ยาเซร์ หะสาเมาะ [8] กล่าวว่า การพัฒนามโนมติทาง วิทยาศาสตร์ผ่านการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ร่วมกับเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมที่มีผลต่อ เรื่อง ระบบ หมุนเวียนเลือดของคน พบว่านักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย ความเข้าใจมโนมติ ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยแตก ต่างกันอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติที่ระดับ .01 ระเบียบวิธีวิจัย งานวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้น เรียน (Classroom Action Research) ตามขั้นตอน แนวคิดของ Kemmis, S. และ Mc Taggart, R. [9] อ้างถึงใน [10] ที่ประกอบไปด้วยกระบวนการปฏิบัติ 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นวางแผน (Plan) ขั้นปฏิบัติตามแผน (Act) ขั้นสังเกต (Observe) และขั้นสะท้อนผลการ ปฏิบัติ (Reflect) ดำ เนินการปฏิบัติเป็นวงจร PAOR ซึ่งมีขั้นตอนในการดำ เนินงาน ซึ่งมีการปรับแก้ไขจาก [11] และ [12] ดังต่อไปนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นวางแผน (Planning) ผู้วิจัยได้มีการ สอบถามแบบไม่เป็นทางการและพิจารณาจากคะแนน การสอบที่ผ่านมาพบว่าสาเหตุของนักเรียนส่วนใหญ่ พบปัญหาในเรื่องการสื่อสารซึ่งเป็นสิ่งที่สำ คัญในการ เชื่อมโยงความรู้สู่การแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้นักเรียน มีความสามารถในการสื่อสารโดยเฉพาะการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์ ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้วางแผนในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีการ สื่อสารทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นร่วมกับการใช้ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสมือน จริงในการจำ ลองเกี่ยวกับเซลล์และโครงสร้างเซลล์ [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 24 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย เพื่อช่วยให้นักเรียนได้เข้าใจ ประกอบกับการจัดกิจกรรมใน รูปแบบของภารกิจพิชิตเซลล์ (Mission impossible of the Cell) ขั้นที่ 2 ขั้นการปฏิบัติการ (Action) ผู้วิจัยได้ดำ เนิน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ แผนการจัดการเรียนรู้ จำ นวน 4 แผน พบว่ามีค่าดัชนีความ สอดคล้อง (IOC) ของแผนการจัดการเรียนรู้ [13] ซึ่งเป็นการ พิจารณาตามความคิดเห็นจากครูผู้สอนในวิชาชีววิทยา วิทยฐานะชำ นาญการและชำ นาญการพิเศษ จำ นวนทั้งสิ้น 3 ท่าน ซึ่งผลที่ได้ดังนี้ 0.80, 0.84, 0.96 และ 0.92 ตามลำ ดับ พบว่า ใช้ได้ อีกทั้งมีการปรับแก้ไขที่ได้รับจากข้อเสนอแนะ และคำ แนะนำ ดังกล่าว ซึ่งในแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดใน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ 1) ขั้นนำ เข้าสู่บทเรียน (ขั้น รับภารกิจ) 2) ขั้นสำ รวจและค้นหา (ขั้นปฏิบัติภารกิจ) 3) ขั้นอภิปรายและลงข้อสรุป (ขั้นรวบรวมภารกิจ) 4) ขั้นขยาย ความรู้ (ขั้นเสริมภารกิจ) และ 5) ขั้นประเมินผล (ขั้นเสร็จ สิ้นภารกิจ) การใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ผ่านการสร้างสื่อ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมซึ่งมีวิธีการคัดเลือก [8] ดังนี้ 1) วีดีโอต้องสอดคล้องกับเนื้อหาและเหมาะสม 2) วีดีโอมี เนื้อหาที่ถูกต้องและภาพชัดเจน 3) วิดีโอมีความน่าสนใจ และเข้าใจง่าย 4) รูปแบบของภาษาที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ตามลำ ดับ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนของการพัฒนาการใช้ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ดังนี้ 1) นำ แอปพลิเคชัน HP Reveal ร่วมกับโปรแกรม Augmented Reality Studio มาสแกนรูปภาพจากคิวอาร์โค้ดที่ผู้วิจัยนำ ไป ติดไว้ตามพื้นที่ที่กำ หนดให้ 2) เมื่อสแกนรูปภาพจาก คิวอาร์โค้ดแล้วจะมีวิดีโอหรือแบบจำ ลองขึ้นมา จาก นั้นนำ สื่อเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมให้ครูผู้สอนใน วิชาชีววิทยา วิทยฐานะชำ นาญการและชำ นาญการ พิเศษ จำ นวนทั้งสิ้น 3 ท่าน ตรวจความถูกต้องทั้งทาง ด้านเนื้อหาและด้านสื่อ ผ่านค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) โดยกำ หนดค่าดัชนีของสื่อเทคโนโลยีความเป็น จริงเสริมที่นำ ไปใช้ได้ตั้งแต่ 0.6 ขึ้นไป [14] มีค่า 0.73, 0.68, 0.65, 0.71 ตามลำ ดับ พบว่า ใช้ได้ จากนั้นนำ สื่อเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมที่ผ่านการประเมินมา ใช้ในกิจกรรม ภารกิจพิชิตเซลล์ (Mission impossible of the Cell) ซึ่งนำ มาใช้กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร์ (โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม) ของโรงเรียน ศรัทธาสมุทร สมุทรสงคราม ภาคเรียนที่ 1 ปีการ ศึกษา 2563 จำ นวนนักเรียน 28 คน โดยการเลือก ตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จาก ห้องที่ผู้วิจัยรับผิดชอบสอนในรายวิชาชีววิทยา [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 25 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ขั้นที่ 3 ขั้นสังเกต (Observing) ผู้วิจัยได้ดำ เนินการ จัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ร่วมกับเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริมที่สร้างขึ้น ผู้วิจัยได้ทำ การสังเกตและเก็บ รวบรวมข้อมูล โดยอาศัยเครื่องมือที่ใช้ในการสังเกตและ รวบรวมข้อมูล คือ อนุทินสะท้อนความคิดของนักเรียนรูป แบบออนไลน์ (google form) และแบบบันทึกภาคสนาม ของครู โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ในระดับ 0.68 และ 0.82 ตามลำ ดับ โดยผู้วิจัยเป็นผู้บันทึกสะท้อนผลใน แต่ละขั้นตอนของการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้หลังเสร็จสิ้น การจัดการเรียนรู้แต่ละคาบด้วยตนเอง ขั้นที่ 4 ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ (Reflecting) ผู้วิจัยนำ ข้อมูลที่ได้จากการสังเกต โดยผู้วิจัย และผู้ร่วมวิจัยมา วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา เพื่อนำ มาหาข้อสรุป และข้อ เสนอแนะเพื่อใช้เป็นแนวทางในการวางแผนและปรับปรุง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในแผนการจัดการเรียน รู้ต่อ ๆ ไป การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ออกแบบการดำ เนินการเก็บ รวบรวมข้อมูลในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ใช้ระยะ เวลาในการทำ วิจัยทั้งหมด 9 คาบ ตามแผนการจัดการเรียน รู้ ในรายวิชาชีววิทยา โดยทำ การเก็บข้อมูลทั้งก่อนการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ และหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ซึ่งมี รายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. ครูได้อธิบายถึงกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่มีชื่อว่า ภารกิจพิชิตเซลล์ (Mission impossible of the Cell) และการใช้สื่อเทคโนโลยีแบบเสมือนจริงที่ใช้ใน การจัดการเรียนรู้ เรื่อง เซลล์และโครงสร้างเซลล์ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยชี้แจงวัตถุประสงค์ใน การเรียนรู้ วิธีประเมินผลการเรียนรู้ การวางแผนการ เรียน และระยะเวลาในการเรียนแต่ละบทเรียน ตาม ลำ ดับ 2. ก่อนการจัดการเรียนรู้ในแผนการจัดการเรียนรู้ แผนที่ 1 ครูให้นักเรียนทำ แบบทดสอบวัดผลการเรียน รู้ก่อนเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบอัตนัย โดยมีค่า ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 0.76 ซึ่งผู้เรียนจะ ได้ทำ แบบทดสอบทั้งสิ้น จำ นวน 10 ข้อ โดยใช้เวลา 55 นาที 3. ดำ เนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการ จัดการเรียนรู้ซึ่งผู้วิจัยได้ปฏิบัติการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำ นวน 4 แผนการ จัดการเรียนรู้ โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมด 7 คาบ คาบละ 55 นาที 4. เมื่อดำ เนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในแผนการ จัดการเรียนรู้แผนที่ 1, 2, 3 และ 4 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ครูนำ ข้อมูลจากการสะท้อนผลของนักเรียนในแบบ อนุทินสะท้อนความคิดรูปแบบออนไลน์ [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 26 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย (google form) ของนักเรียน จากการสังเกตของผู้วิจัยใน แบบบันทึกภาคสนามของครู และจากการสังเกตของครูพี่ เลี้ยง มาทำ การวิเคราะห์หาปัญหาและสาเหตุ หากพบว่ายัง มีสิ่งที่ต้องทำ การปรับปรุงแก้ไขในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้วิจัยจะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหานั้น และนำ มาใช้ ปรับปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอน ในแผนการจัดการเรียนรู้ต่อ ๆ ไป ทำ เช่นนี้จนกระทั่งครบ ทุกแผนการจัดการเรียนรู้ 5. ภายหลังการจัดการเรียนรู้แผนที่ 4 ผู้วิจัยให้นักเรียนทำ แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้หลังเรียน ซึ่งเป็นแบบทดสอบ แบบอัตนัย ซึ่งผู้เรียนจะได้ทำ แบบทดสอบจำ นวน 10 ข้อ โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) เท่ากับ 0.89 โดยใช้ เวลา 55 นาทีและให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่างทำ แบบวัดเจตคติ ต่อการเรียนวิชาชีววิทยาจำ นวน 10 ข้อ ตามลำ ดับ การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. นำ ข้อมูลที่ได้จากการสะท้อนผลการปฏิบัติจากการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ โดยทำ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Content analysis) ปรับแก้ไขจาก [14] และ [12] ที่ได้ ข้อมูลเชิงคุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ เช่น แบบบันทึกภาค สนามของครู อนุทินสะท้อนความคิดของนักเรียนรูปแบบ ออนไลน์ (google form) ความคิดเห็นของนักเรียนจากแบบ ประเมินเจตคติ และความเห็นของครูนิเทศน์ ตลอดจนการ สื่อสารระหว่างผู้วิจัยกับนักเรียน การสังเกต หลักฐาน เอกสารชิ้นงานของผู้เรียน เป็นต้น 2. สถิติพื้นฐานที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่า เฉลี่ย (Average) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ของคะแนนที่ได้จากแบบ ทดสอบวัดผลการเรียนรู้ และแบบวัดเจตคติต่อการ เรียนวิชาชีววิทยา 3. วิเคราะห์หาผลการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ในงาน วิจัยนี้ ผู้วิจัยได้ทำ การวิเคราะห์ข้อมูลตามแนวคิด ของHake,R. [15] อ้างถึง ใน [16] และ [12] วิเคราะห์ หาผลการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ด้วยการวัดผลจาก คะแนนก่อนเรียน-หลังเรียนที่ได้จากแบบทดสอบวัดผล การเรียนรู้แต่ละแผนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้ วิธีประเมินผลการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นที่เรียกว่า Normalized Gain <g> ซึ่งเป็นการวิเคราะห์หาผล การพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน พิจารณาจากผลต่าง ของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนที่ได้จากแบบ ทดสอบวัดผลการเรียนรู้ ผลการวิจัย ผู้วิจัยขอนำ เสนอข้อมูลผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดย แบ่งออกเป็น 2 ด้าน โดยมีรายละเอียดของผลการ วิเคราะห์ข้อมูลตามลำ ดับ ดังนี้ [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 27 1. ผลและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 และ 2 ขั้นที่ 1 ขั้นวางแผน (Planning) นักเรียนปฏิบัติภารกิจ พิชิตเซลล์ (Mission impossible of the Cell) โดยให้ นักเรียนนำ เอาโทรศัพท์มือถือมาใช้ โดย การสแกนจากคิวอาร์โค้ด ตั้งแต่แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 และ 2 ตามที่ผู้วิจัยกำ หนดให้ ขั้นที่ 2 ขั้นการปฏิบัติการ (Action) นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรมภารกิจพิชิตเซลล์ (Mission impossible of the Cell) ตั้งแต่แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 และ 2 ตามที่ผู้วิจัย กำ หนด ขั้นที่ 3 ขั้นสังเกต (Observing) นักเรียนบางคน ยังเล่น ยังไม่พร้อมตั้งใจเรียนบางคน สับสนและสงสัย เพราะว่านักเรียนยังไม่เข้าใจหรือยังไม่ พร้อมในการเรียน (จากแบบบันทึกภาคสนามของครู, แผนที่ 1) นักเรียนบางคนในกลุ่มยังมีอาการเขินอายและยังมีการ สื่อสารไม่คล่องเท่าที่ควร เนื่องจากไม่ค่อยได้ออกมานำ เสนอ หน้าชั้นเรียน ซึ่งครูพยายามช่วยพูดเสริมและใช้คำ พูดเกริ่น นำ หรือชี้นำ เพื่อให้นักเรียนได้ส่งเสริมทักษะการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์ (จากแบบบันทึกภาคสนามของครู แผนที่ 1 และ 2) [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย


Page 28 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ลำ ดับความคิด และนำ วิธีการต่าง ๆ จากที่ได้รับมาแก้ไข ปัญหาได้ ดังใจความตอนหนึ่งที่ว่า “หนูสามารถเข้าใจวิธีการ ใช้กล้องจุลทรรศน์ได้มากขึ้นหลังจากได้ใช้เทคโนโลยีความ เป็นจริงเสริมที่มีการจำ ลองวิธีการใช้กล้องจุลทรรศน์ เปรียบ เหมือนว่าหนูได้ทำ จริงค่ะ” “หนูสามารถทำ ข้อสอบแบบ เขียนอธิบายได้เยอะขึ้นค่ะ เพราะสื่อทำ ให้หนูเห็นภาพ” และ “ผมสามารถอธิบายกลไกส่งออกของโปรตีนในเซลล์ได้ อย่างสบายๆครับ เพราะวีดิโอที่ครูสอน ทำ ให้เข้าใจและง่าย ขึ้นครับ” 2. การสอบถามอย่างไม่เป็นทางการกับนักเรียนหลังการ จัดการเรียนรู้ พบว่านักเรียนส่วนใหญ่ชอบเรียนโดยปฏิบัติ กิจกรรมที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมากกว่าการนั่งเรียนแบบฟัง บรรยายเพียงอย่างเดียว อีกทั้งนักเรียนสนใจเกี่ยวกับการทำ กิจกรรมด้วยตนเอง โดยอยากฝึกและค้นหาคำ ตอบจาก แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพราะทำ ให้การเรียนการสอนสนุก มี ความน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ ทำ ให้มีความรู้สึกอยากเรียนรู้มาก ยิ่งขึ้น และการที่นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติทุก ขั้นตอน ทำ ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และเกิดความเข้าใจใน เนื้อหาที่เรียนได้ดียิ่งขึ้น ร่วมกับการที่ผู้วิจัยมีการเพิ่มองค์ ความรู้ เรื่อง เซลล์มะเร็งภัยใกล้ตัว ซึ่งเป็นการชี้นำ ให้เห็นถึง การทำ งานของเซลล์ที่ผิดปกติ และสอดคล้องกับเนื้อหาที่ได้ ศึกษา ทวนเนื้อหาเดิมที่นักเรียนได้เรียนผ่านมาแล้ว พบว่า ทำ ให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาเดิมและทำ ความ นักเรียนบางคนเริ่มมีการสื่อสารคล่องขึ้นเพราะเพื่อน ในชั้นเรียนช่วยกันตอบสนองด้วยอารมณ์ขบขัน ทำ ให้ มีกำ ลังใจในการตอบความว่าเพื่อน “ยิ้มและส่งแรงใจ เชียร์ หนูเลยทำ ได้” (จากแบบบันทึกภาคสนามของครู และอนุทินสะท้อนคิดของนักเรียน แผนที่ 2) ขั้นที่ 4 ขั้นสะท้อนผลการปฏิบัติ (Reflecting) นักเรียนบางกลุ่มยังมีการเขียนตอบมาผิดหรือสะกดคำ ผิด เพราะระบุเป็นศัพท์เฉพาะทางชีววิทยา โดยครู สอนซ้ำ และทบทวนโดยใช้แบบฝึกหัด อีกทั้งหาเวลา จัดสอนเสริมทักษะโดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เข้าร่วมการจัดการเรียนรู้ให้เพิ่มขึ้น (จากแบบบันทึก ภาคสนามของครู, แผนที่ 1 และ 2) การวิเคราะห์อนุทินสะท้อนความคิดของนักเรียน หลังจากที่นักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เพื่อส่งเสริมความ สามารถในการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์เรื่อง โครงสร้าง เซลล์และหน้าที่ของเซลล์ จำ นวน 4 แผน การจัดการเรียนรู้ ซึ่งผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิง คุณภาพ ดังนี้ 1. ผลของเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริมมาใช้ในการ จัดการเรียนรู้ พบว่านักเรียนสามารถพัฒนาความ สามารถในการสื่อสารวิทยาศาสตร์ได้ โดยเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริมจะช่วยให้นักเรียนวางแผน [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


Page 29 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย เฉพาะทางชีววิทยา ซึ่งครูสอนซ้ำ และทบทวนโดยใช้แบบ ฝึกหัด ยกตัวอย่าง อีกทั้งหาเวลาจัดสอนให้เพิ่มขึ้น ดังว่า “ครูจะคอยหาคลิป ภาพ สื่อ มาช่วยสอนผมตอนพักกลางวัน ซึ่งทำ ให้ผมเรียนตามทันเพื่อนครับ” เป็นต้น 2. ผลและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ 2.1 ผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่ได้ รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยวิธี การจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ผู้สอนนำ ผลคะแนนที่ได้จากการตรวจแบบทดสอบวัดผล การเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มเป้า หมายมาวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนน สอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้วิธีการประเมินผลการ เรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นแบบ Normalized gain <g> ตามแนวคิด ของ Hake, R. R. [15] (อ้างถึง [16]) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์หา ผลการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยหาได้จากผลการ เรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นจริงของนักเรียน (Actual gain) ต่อผลการ เรียนรู้สูงสุดที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ (Maximum possible gain) แสดงผลดังนี้ เข้าใจกับเนื้อหาใหม่ได้ดีขึ้น นอกจากนี้วิธีการสอนของ ครูก็มีส่วนช่วยเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน ดังใจความ ตอนหนึ่งที่ว่า “หนูรู้สึกสนุกเวลาเรียนทุกครั้ง เพราะ ครูตลกและชอบเวลาที่เล่าเรื่องต่าง ๆ ที่มีการนำ ความ รู้ไปประยุกต์ใช้” “ชอบที่ครูมีเทคนิคการสอนที่แตก ต่างจากครูชีววิทยาคนอื่นมาก เช่น สอนให้จำ ง่าย ๆ ครับ” และ “ ชอบกิจกรรมที่ครูสอน ทำ ให้เข้าใจและ เห็นภาพกว่าการนั่งฟังเฉยๆ เพราะตอนแรกหนูไม่ เข้าใจ แต่พอครูนำ สื่อที่มีภาพ เสียงมาให้ หนูเข้าใจ มากขึ้นค่ะ” 3. อุปสรรคที่พบหลังการจัดการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจเนื่องจากฟังภาษาอังกฤษ เข้าใจในระดับที่ดีขึ้น โดยครูพยายามแปลและอธิบาย ไปอย่างช้าๆ ทำ ให้นักเรียนเข้าใจ ดังว่า “หนูเข้าใจเพิ่ม มากขึ้นเพราะครูช่วยแปลจากอังกฤษเป็นไทยได้เพิ่ม มากขึ้นจากตอนแรกที่ งง จนเริ่มเข้าใจค่ะ” “ตอนแรก ผมฟังไม่ออกแต่พอเรียนๆไปเริ่มดีขึ้น อีกทั้งวิดีโอพูด ศัพท์ เนื้อหาที่ไม่ยากจนเกินไป” อีกทั้งครูให้นักเรียน จับคู่กัน โดยเป็นการสอนร่วมกับครู โดยเพื่อนช่วย เพื่อน ดังว่า “หนูไม่เหงาเพราะครูและเพื่อนช่วยให้ เข้าใจ อีกอย่างหนึ่งครูอธิบายละเอียด พร้อมกับภาพ ทำ ให้เข้าใจค่ะ” แต่ยังพบว่า มีนักเรียนบางกลุ่มยังมี การเขียนตอบมาผิดหรือสะกดคำ ผิดเพราะเป็นศัพท์ [email protected] [email protected] smtat สวคท smtat


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 30 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ของนักเรียนทั้งห้อง จำ นวน 28 คน พบว่าค่าเฉลี่ยของ Actual gain มีค่า ดังนี้ 0.79 + 0.16 เมื่อพิจารณาจากผล การเรียนรู้เมื่อจบแผนการเรียนรู้โดยวิธีการจัดการเรียนรู้ แบบเทคโนโลยีมิติเสมือนจริง เรื่อง โครงสร้างเซลล์และ หน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยาโดยส่งเสริมทักษะการ สื่อสารทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2.2 ผลการประเมินเจตคติต่อการเรียนวิชาชีววิทยาหลัง จากวิธีการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีความเป็นจริง เสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ใน รายวิชาชีววิทยา จากการประเมินเจตคติต่อการเรียนวิชาชีววิทยาด้วยแบบ ทดสอบดังกล่าว พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่าง มีระดับเจตคติ จากรูปที่ 1 แสดงผลการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นจริงของ นักเรียน (Actual gain) จากการเปรียบเทียบคะแนน จากแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลัง เรียน เมื่อจบแผนจัดการเรียนรู้ เรื่อง โครงสร้างเซลล์ และหน้าที่ของเซลล์ ผลการวิจัยพบว่า แสดงผลการ เรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นจริงของนักเรียนเพิ่มขึ้นตามลำ ดับ โดย มีจำ นวนนักเรียนที่มีผลการเรียนรู้ในระดับสูง (High gain) คือ 22 คน (78.57%) มีจำ นวนนักเรียนที่มีผล การเรียนรู้ในระดับกลาง (medium gain) คือ 6 คน (21.43 %) และไม่มีนักเรียนผลการเรียนรู้ในระดับต่ำ (low gain) 0 คน (0 %) และเมื่อพิจารณาในภาพรวม รูปที่ 1 คะแนนผลการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นของนักเรียนรายบุคคลโดยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีมิติ เสมือนจริง เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยาโดยส่งเสริมทักษะการสื่อสาร ทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 31 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย 1) การเรียนวิชาชีววิทยา เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ ของเซลล์ ทำ ให้ฉันมีความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้น และ 2) ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชาชีววิทยา เรื่อง โครงสร้างเซลล์ และหน้าที่ของเซลล์ มีประโยชน์ และสามารถนำ ไปใช้ใน ชีวิตประจำ วันได้ ตามลำ ดับ อภิปราย ตามจุดประสงค์ที่ 1 การจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีมิติ ความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ เป็นการจัดการเรียนรู้ที่นำ เทคโนโลยีมาปรับใช้โดยเฉพาะ เทคโนโลยีมิติความเป็นจริงเสริมซึ่งเป็นรูปแบบของวิดีโอ หรือภาพเคลื่อนไหวเปรียบเสมือนเป็นตัวกลางในการทำ ให้ เนื้อหาที่ซับซ้อน ยากต่อการศึกษา ประกอบกับการมีราย ละเอียดหรือกลไกต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยจินตนาการในการ ศึกษาและทำ ความเข้าใจ รวมทั้งการเชื่อมโยงเนื้อหาที่ได้ จากการศึกษา นำ มาสู่การแก้ไขปัญหา อีกทั้งการพิจารณา สื่อหรือเทคโนโลยีที่นำ มาดัดแปลงหรือใช้ให้สอดคล้องกับ เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ โดยจำ เป็นต้องมี การพิจารณาในการเลือกใช้สื่อหรือเทคโนโลยีให้เหมาะสม และครบถ้วน เนื่องมาจากกลุ่มตัวอย่างที่นำ มาศึกษาเป็น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษปีที่ 4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร์ (โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม) ของโรงเรียน ศรัทธาสมุทร สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นนักเรียนในกลุ่มที่มีความ สามารถและมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง เฉลี่ยอยู่ในระดับ “สูง” (X = 4.14, SD = 0.48) โดยคะแนนเจตคติในระดับที่สูงมาก 2 อันดับแรก ได้แก่ ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชาชีววิทยา เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ 1) การเรียนวิชา ชีววิทยา เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ทำ ให้ฉันมีความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้น และ 2) ความ รู้ที่ได้จากการเรียนวิชาชีววิทยา เรื่อง โครงสร้างเซลล์ และหน้าที่ของเซลล์ มีประโยชน์ และสามารถนำ ไปใช้ ในชีวิตประจำ วันได้ ตามลำ ดับ สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ สรุป 1. ผลการประเมินความสามารถในการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์โดยการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีมิติ ความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ ของเซลล์ พบว่านักเรียนมีความสามารถในการสื่อสาร ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นในระดับสูง (High gain) จาก ค่าเฉลี่ยของ Actual gain มีค่า 0.79 + 0.16 2. ผลการประเมินเจตคติต่อการเรียนชีววิทยาโดยการ จัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ พบว่า นักเรียน กลุ่มตัวอย่าง มีระดับเจตคติเฉลี่ยอยู่ในระดับ “สูง” (X = 4.14, SD = 0.48) โดยคะแนนเจตคติในระดับที่สูง มาก 2 อันดับแรก ได้แก่ ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชา ชีววิทยา เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 32 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ประสบการณ์ของผู้เรียนทําให้ผู้สอนสามารถมีวิธีการสอน แบบใหม่ ๆ [19] ซึ่งการใช้เทคโนโลยีมิติเสมือนจริง ดังกล่าว จะช่วยให้เกิดการจัดการเรียนรู้เป็นมิติใหม่แห่งด้านการ ศึกษา และมีการตอบโต้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสื่อกับนักเรียน [20] สู่การส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ใน ระดับสูง (High gain) โดยพิจารณาจากค่าเฉลี่ยของ Actual gain มีค่า 0.79 + 0.16 เพราะว่านักเรียนมีความเข้าใจใน เนื้อหาของบทเรียน นำ มาซึ่งการเรียนรู้หรือแม้แต่ช่วยให้ นักเรียนเกิดความสนใจ และมีความกระตือรือร้นต่อการ เรียนรู้นวัตกรรมการศึกษารูปแบบใหม่ ย่อมนำ ไปสู่การเกิด ความสามารถในด้านการฝึกหรือใช้ภาษาทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งมีคุณลักษณะหรือพฤติกรรมที่ แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทักษะในด้านการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์ เช่น การเขียนสรุปเรื่องราวจากการอ่าน ศึกษา ค้นคว้าจากเอกสาร และการนำ เสนอทางวิทยาศาสตร์ด้วย ปากเปล่าผ่านการฟัง เพื่อแสดงออกถึงความรู้ ความคิดเกี่ยว กับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ [21] อีกทั้งการมีทักษะการ สื่อสารทางวิทยาศาสตร์เป็นการแสดงความสามารถในการ ใช้ภาษาเพื่อแสดงความรู้ความคิด เป็นองค์ความรู้และแนว ความคิดหลักทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการเขียนสรุปสาระ สำ คัญจากการอ่านและการฟังในกิจกรรมการเรียนการสอน วิชาวิทยาศาสตร์ [22] และทักษะการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์ ดังนั้นการเลือกใช้สื่อหรือเทคโนโลยีให้เหมาะสมควรมี เกณฑ์ดังนี้ 1) วิดีโอต้องสอดคล้องกับเนื้อหาและ เหมาะสม 2) วิดีโอมีเนื้อหาที่ถูกต้องและภาพชัดเจน 3) วิดีโอมีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย 4) รูปแบบของ ภาษาที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ ตามลำ ดับ ส่งผลให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้และเข้าใจในเนื้อหาสาระที่ กำ ลังศึกษาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเพื่อให้ผู้เรียนสามารถ วิเคราะห์ พิจารณา อภิปรายและตัดสินใจได้อย่างถูก ต้องสมเหตุสมผล การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality) นั้นไปช่วย เรื่องสื่อการสอนโดยเป็นสื่อกลางในการสื่อสารเพื่อช่วย ให้ผู้ที่เรียนรู้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น [17] การนําเทคโนโลยีมาช่วยให้การศึกษามีความ น่าสนใจ แต่การเรียนรู้นั้นจะเกิดขึ้นได้จากการที่ผู้เรียน เรียนรู้โดยวิธีต่าง ๆ อาศัยประสบการณ์เดิม โครงสร้าง ทางปัญญาที่มีอยู่ ความสนใจและแรงจูงใจภายในเป็น พื้นฐาน ประกอบกับการทำ งานของเทคโนโลยีมิติ เสมือนจริงนั้นเป็นเทคโนโลยีที่นําสื่อที่เคยเป็นส่วน ประกอบบนโลกเสมือน (Virtual world) เช่น ภาพ กราฟิก วีดีโอรูปทรงสามมิติและแอนิเมชั้น ผสมผสาน ระหว่างความเป็นจริงและโลกเสมือนที่สร้างขึ้นมา เพื่อ ก่อให้เกิดความน่าสนใจในการเรียน [18] อีกทั้งการนํา เทคโนโลยีมิติเสมือนจริงมาใช้นั้น สามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพการเรียนการสอนและสร้างเสริม


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 33 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย คำ ตอบที่ชัดเจน ซึ่งเป็นการตรวจสอบคำ ตอบโดยใช้ความคิด จากมุมมองที่หลากหลาย ทำ ให้ผู้เรียนมีโอกาสในการแสดง ความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น จนกระทั่งลง ข้อสรุปของคำ ตอบ ทำ ให้ผู้เรียนนั้นสามารถพัฒนาตนเอง จนสามารถนำ มาสู่ข้อค้นพบ ความรู้ที่ได้มาเสริมทักษะการ สื่อสารทางวิทยาศาสตร์ได้ นักเรียนจะสามารถพัฒนาตนเอง ได้อย่างเต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคล เช่น พัฒนา กระบวนการคิด วิเคราะห์ การหาเหตุผล หลักฐานมาอ้างอิง สามารถแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้ [12] โดยเฉพาะสื่อด้านเทคโนโลยีมิติเสมือนจริง เช่น สื่อ วิดีทัศน์ และสื่ออินเทอร์เน็ต โดยมีการนำ ข้อมูลที่ได้มาได้มา ทำ การพูดคุย อภิปราย นำ เสนอ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกัน และกัน เพื่อส่งเสริมความสามารถทักษะการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์ และเมื่อผู้เรียนประสบความสำ เร็จในการทำ กิจกรรม ครูผู้สอนก็จะมีส่วนช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสนใจใน การเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ตามจุดประสงค์ที่ 2 พบว่านักเรียนมีเจตคติต่อวิชา ชีววิทยาซึ่งระดับเจตคติเฉลี่ยอยู่ในระดับ “สูง” ซึ่งอาจเกิด เนื่องมาจากนักเรียนชอบการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยี มิติเสมือนจริง เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ ซึ่ง สอดคล้องกับหลักการถ่ายทอดความรู้สำ หรับผู้เรียนยุคใหม่ ที่ว่า “นักเรียนสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้โดยการลงมือ ปฏิบัติ และยังเป็นการเชิญชวนให้นักเรียนร่วมลงมือและ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ค้นพบด้วยกัน [12] ย่อมเกิดจากพฤติกรรมที่แสดงออกในลักษณะทำ งาน ในด้านการอธิบาย อภิปราย การแสดงความคิดเห็น การเขียน การนำ เสนอข้อมูลในรูปของกราฟ ตาราง วงจรหรือสัญลักษณ์ทางวิทยาศาสตร์ การจัดกระทำ ข้อมูลลงในเว็บไซต์ การจัดป้ายนิทรรศการ การจัด กระทำ ข้อมูลรูปของ power point และอื่น ๆ [5] ซึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นจากการจัดการเรียนรู้ทั้งสิ้น พบว่า นักเรียนให้ความสนใจและมีความตื่นตัวในการเรียน เนื่องจากการจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้แบบ เทคโนโลยีมิติเสมือนจริง เพื่อส่งเสริมความสามารถใน การส่งเสริมทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ของเซลล์ เป็นการกระตุ้นให้ ผู้เรียนเกิดความสงสัย อยากรู้ นำ ไปสู่การค้นคว้าหา ข้อมูลอันเป็นคำ ตอบของคำ ถาม ทำ ให้เกิดความ ท้าทายในการแสวงหาคำ ตอบที่ต้องสืบค้นด้วยตนเอง ยังส่งเสริมให้นักเรียนนำ ความรู้ที่ได้จากการศึกษา ค้นคว้าไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือนำ ไปเชื่อมโยงกับ ชีวิตประจำ วันได้ ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาวิชา ชีววิทยาที่เป็นนามธรรมให้เข้าใจเป็นรูปธรรมมากยิ่ง ขึ้น อีกทั้งการจัดการเรียนรู้ดังกล่าว ทำ ให้นักเรียนมี ส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ทุกขั้นตอน นักเรียนได้ ลงมือปฏิบัติกิจกรรม ได้เสาะแสวงหาความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเอง และมีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง เมื่อได้คำ ตอบแล้วก็มีการรวมกลุ่มอภิปรายเพื่อให้ได้


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 34 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย การค้นคว้าข้อมูลที่น่าสนใจและหลากหลายได้ ด้วยเหตุนี้ผู้ สอนจึงพัฒนาและสรรหาเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาทักษะการ สื่อสารวิทยาศาสตร์ของนักเรียนทั้งด้านการเขียนและการ พูด โดยการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยีมิติเสมือนจริงเป็น เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เหมาะสมและสำ คัญยิ่ง เพื่อส่งเสริมให้ นักเรียนมีความสามารถในสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ของ นักเรียนให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น [2] ข้อเสนอแนะ 1. ครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นำ ผลการ วิจัยไปปรับใช้ในการวางแผน และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใน รายวิชาชีววิทยา และวิชาวิทยาศาสตร์ในเนื้อหาอื่น ๆ ต่อไป 2. การจัดการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยี มิติเสมือนจริง เพื่อส่งเสริมความสามารถในการส่งเสริม ทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง โครงสร้างเซลล์และ หน้าที่ของเซลล์ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ นักเรียนได้วิเคราะห์ พิจารณา อภิปรายและตัดสินใจ เพื่อ แก้ไขปัญหานั้น ๆ อย่างมีวิจารณญาณเพิ่มมากขึ้น นำ มาสู่ ทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น การเรียนรู้ลักษณะนี้จะช่วยให้นักเรียนที่จะทำ ให้ก้าว กระโดดจากทฤษฎีไปสู่การค้นคว้าที่ยิ่งใหญ่ นำ มาสู่ การส่งเสริมทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ เพราะ การเรียนการสอนในยุคใหม่ไม่เพียงแต่สอนนักเรียน รวมทั้งดึงดูดความสนใจของนักเรียน และชี้ให้นักเรียน เห็นถึงความเกี่ยวพันธ์ของเนื้อหาวิชากับชีวิตประจำ วัน ดังนั้นการประเมินความสามารถการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์โดยการจัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม เรื่อง โครงสร้างเซลล์และหน้าที่ ของเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยา ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 สามารถพัฒนาผลการเรียนรู้และ ความสามารถการสื่อสารวิทยาศาสตร์ของนักเรียนได้ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าทักษะการสื่อสารวิทยาศาสตร์ เป็นทักษะที่สำ คัญโดยเฉพาะการสื่อสารสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy) ซึ่งเป็นทักษะที่สำ คัญใน ศตวรรษที่ 21 เช่น ทักษะด้านการเขียนและการพูด ซึ่ง พิจารณาได้จากแบบทดสอบก่อนการจัดการเรียนรู้ และหลังการจัดการเรียนรู้ที่เพิ่มมากขึ้นหลังจากการ จัดการเรียนรู้ รวมทั้งนักเรียนมีเจตคติต่อวิชาชีววิทยา ซึ่งระดับเจตคติเฉลี่ยอยู่ในระดับสูง หรือแม้แต่ครูผู้ สอนยังจะต้องมีปรับเปลี่ยนกิจกรรมที่สามารถส่งเสริม ให้นักเรียนได้ศึกษาเทคโนโลยีมิติเสมือนจริงอื่นๆหรือ แหล่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์อื่นเพิ่มเติม ทําให้เกิด


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 35 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย สังคมศาสตร์ และศิลปะ. 8(1): 1243-1255. [5] ศิโรรัตน์ เตชะแก้ว, สิรินภา กิจเกื้อกูลและอุบลวรรณ บุญฉ่ำ . (2560). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียน กลับทางเพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบประสาท และระบบโครงร่างและการเคลื่อนไหว [6] เอกรัฐ หล่อพิเชียร. (2560). “การใช้สื่อการเรียนรู้ความ เป็นจริงเสริม(Augmented Reality) เรื่อง โปรโตคอล TCP/IP เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักศึกษา วิชาการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สาขา เทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี,” ใน รายงานการ ประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งที่ 9 (9th RMUTNC). (หน้า 1116-1122). [7] วิชุดา วงศ์เจริญ. (2561). การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหา เป็นฐานร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริง เพื่อพัฒนาทักษะการ คิดวิเคราะห์และทักษะการคิดแก้ปัญหา สำ หรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. [8] ยาเซร์ หะสาเมาะ. (2562). ผลของการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ร่วมกับเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ที่มีผลต่อการพัฒนามโนมติทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบ หมุนเวียนเลือดของคน สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สงขลา: มหาวิทยาลัยทักษิณ. เอกสารอ้างอิง [1] กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). การประเมินตาม สภาพจริง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ ครุสภา ลาดพร้าว. [2] กรรณิการ์ ไชยทอง, ศศิเทพ ปิติพรเทพินและ ปราโมทย์ ชำ นาญปืน. (2562). การพัฒนาทักษะการ สื่อสารวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสังคม: การประชุมทางวิชาการของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 57: สาขาศึกษา ศาสตร์, สาขาเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ, สาขา มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: 81-88. [3] สุบิน ไชยยะ. (2560). การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ในห้องสมุดประชาชน.วารสารบรรณศาสตร์ มศว, 10(2), 134-148. [4] เสาวลักษณ์ หล้าสิงห์. (2558, มกราคม – เมษายน). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนและเจตคติต่อวิทยาศาสตร์โดยใช้การ สอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (5E) ด้วยสื่อประสม เรื่อง ระบบ ประสาทและอวัยวะรับความรู้สึกสำ หรับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 วารสารวิชาการ Veridian EJournal บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศิลปากร ฉบับ ภาษาไทย สาขา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 36 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย แนวความคิดรูปตัววี เรื่อง ระบบย่อยอาหาร ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต. [13] ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2538). เทคนิคการ วิจัยทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น [14] อิทธิพัทธ์ สุวทันพรกูล. (2561). การวิจัยทางการศึกษา แนวคิดและการประยุกต์ใช้. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. [15] Hake, R. R. (1998) −Interactive-engagement vs traditional methods: A six-thousand student survey of mechanics test data for introductory physics courses× American Journal of Physics. 61 (1) : 64-74. [16] อภิสิทธิ์ ธงไชย และคณะ. (2555). สรุปการบรรยาย พิเศษ เรื่อง Science, Technology, Engineering, and Mathematics Education: Preparing students for the 21st Century. [17] Noddings, N. (1990). Foreword. In, T.Sears, J.D.Marshall, Teaching and Thinking about Curriculum, Critical inquiries. New York: Teachers College Press. [18] ใจทิพย์ ณ สงขลา. (2560). การออกแบบการเรียนแนว ดิจิทัล. กรุงเทพฯ. เอกสารอ้างอิง [9] Kemmis, S., & Mc Taggart, R. (1988). The Action Research Planner (3rded.). Australia: Deakin University Press.Noddings, N. (1990). Constructivism in mathematics education. In R. B. Davis, C. A. Maher, & N. Noddings (Eds.), Constructivist views on the teaching and learning of mathematics (pp. 7– 18). Reston, VA: National Council of Teachers of Mathematics. [10] พินันทร์ คงคาเพชร. (2552). การวิจัยปฏิบัติการ ในชั้นเรียน (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: บริษัทแเน็กซ์ อินเตอร์คอร์ปอเรชั่น จำ กัด. [11] นุสบา เหมกุล. (2559). การพัฒนาผลการเรียนรู้ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง การสลายสารอาหารระดับเซลล์ ในรายวิชาชีววิทยา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต. [12] กิตติวัฒน์ ดิษฐประเสริฐ. (2561). การส่งเสริม ความสามารถในการสร้างคำ อธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ โดยวิธีการสอนแบบกรณีศึกษาร่วมกับการใช้แผนผัง แนวความคิดรูปตัววี เรื่อง ระบบย่อยอาหาร ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต.


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 37 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย เอกสารอ้างอิง [19] Vongsripeng, S., & Utakrit, N. (2012). Applies augmented reality techniques to use to teach Thai alphabet. The Eighth National Conference on Computing and Information Technology. Bangkok: King Mongkut's University of Technology North Bangkok [20] เสาวภา กลิ่นสูงเนิน สมเกียรติ ตันติวงศ์วาณิช และศิริรัตน์ เพ็ชรแสงศรี. (2558). การพัฒนาสื่อ เทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง หลักการทํางานของ คอมพิวเตอร์ สําหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม. ปีที่ 14(3). 2558. [21] สาริญา และสุม. (2560). ผลของการจัดการเรียน รู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาชีววิทยาทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์และ เจตคติต่อวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. [22] เนตรนภางค์ สัญศรีเมือง. (2545). ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการส่งเสริมทักษะการสื่อสาร และการประเมินผลตามสภาพจริง.


ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์ 1. พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life 2. ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life 3. ศึกษาระดับ ความสุขและความเครียดของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life 4. ศึกษาเจตคติ ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life กลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือ นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนกบินทร์วิทยา อำ เภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี สังกัด สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปราจีนบุรี นครนายก จำ นวน 3 ห้องเรียน รวมนักเรียนทั้งสิ้น 125 คน เครื่องมือที่ ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง สมบัติของ สารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา 2 รหัสวิชา ว30252 แบบสำ รวจห้องสี่เหลี่ยมในหัวใจ แบบประเมิน Diary of life แบบ ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life รายวิชาชีววิทยา2 รหัสวิชา ว30252 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า ความถี่ และค่าร้อยละ * Corresponding author e-mail : [email protected] Page 38 การพัฒพันารูปแบบการจัดจัการเรียรีนรู้ ONLINE ON LIFE เพื่อพื่สร้า ร้ งความสุขสุในการเรียรีน แบบออนไลน์ เรื่อรื่งสมบัติบั ติ ของสารพันพัธุกรรม รายวิชวิาชีวชีวิทวิยา2 ระดับชั้นชั้มัธมัยมศึกษา ปีที่ปี ที่4 โรงเรียรีนกบินบิทร์วิร์ทวิยา นางฐิติพร เผือกพิบูลย์* โรงเรียนกบินทร์วิทยา อำ เภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 39 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ผลการวิจัยพบว่า 1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life ที่พัฒนาขึ้นมี 8 องค์ประกอบสำ คัญ คือ 1) แนวคิดพื้นฐานและทฤษฎีพื้น ฐาน 2) หลักการของรูปแบบ 3) วัตถุประสงค์ 4) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ มี 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1: ระบายใจ ขั้นที่ 2: ตื่น รู้สู่เนื้อหา ขั้นที่ 3: สร้างประสบการณ์เรียนรู้ ขั้นที่ 4: เรียนเพื่อใช้ชีวิต และขั้นที่ 5: สะท้อนคิดร่วมกัน 5) ระบบสังคม 6) ระบบการตอบสนอง 7) ระบบสนับสนุน และ 8) การวัดและประเมินผล ผ่านการหาคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญจำ นวน 3 คน พบว่ามีค่าเฉลี่ยรวม เท่ากับ 4.51 และส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน เท่ากับ 0.71 ซึ่งมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้รูปแบบ Online On Life นักเรียนร้อยละ 91.00 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเมื่อเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 3. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Online On Life ร้อยละ 81.60 มีระดับความสุขเพิ่มขึ้นและร้อยละ 90.40 มีระดับความเครียดลดลง 4. ผลการเปรียบเทียบเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life พบว่านักเรียน ร้อยละ 82.40 มีเจตคติที่ดีต่อการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เมื่อเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 คำ สำ คัญ : ความสุข และ การเรียนแบบออนไลน์ บทนำ ความสุขในการเรียนรู้เป็นความรู้สึกที่ดีหรือเพลิดเพลิน ต่อการเรียนของผู้เรียนที่ส่งผลให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ สนใจอยากที่จะรู้ เกิดความสนุกสนานและมีพลังที่จะ เรียนรู้เพิ่มมากขึ้น ประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 5 ด้าน คือ ด้านความสนใจใฝ่เรียนรู้เป็นการที่ผู้เรียนสนุกและ เอาใจใส่กับการเรียน ด้านทัศนคติต่อวิชาชีพ ด้าน ความพึงพอใจในการเรียนเป็นความรู้สึกที่ผู้เรียนพึงพอใจ ต่อการเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ ด้านความวิตกกังวลเป็น ความรู้สึกทางลบต่อการเรียนและการฝึกปฏิบัติงาน และด้านความพึงพอใจในตนเองเป็นความรู้สึกที่ดีต่อ ตนเอง [1] ซึ่งหากนักศึกษาสนใจใฝ่เรียนรู้ในวิชาที่เรียนมี ทัศนคติต่อวิชาชีพที่ดี มีความพึงพอใจต่อการเรียน มี ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และไม่มีความวิตกกังวลต่อการ เรียนและการฝึกปฏิบัติงาน จะส่งผลให้นักศึกษาเรียนรู้ได้ อย่างมีความสุข สามารถนำ มาเป็นแนวทางในการแก้ ปัญหาความใส่ใจการศึกษาของผู้เรียน โดยการช่วยให้ผู้ เรียนค้นให้พบในสิ่งที่รักและใช้ศักยภาพที่มีได้อย่างเต็มที่ [2]


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 40 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบ ต่อการเรียนการสอนในชั้นเรียนเป็นอย่างมาก จึงทำ ให้ เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการศึกษาขึ้น เกิดผล กระทบทั้งต่อการจัดการเรียนการสอน ทำ ให้ต้องจัดการ เรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งพบปัญหาการเรียน ออนไลน์ของนักเรียนมีจำ นวนมาก ทั้งหลักสูตรที่ต้อง ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ ปัญหาความไม่พร้อมด้าน อุปกรณ์ ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนและ อินเตอร์เน็ต ส่งผลให้นักเรียนบางส่วนได้รับความรู้ไม่เต็ม ที่เท่าที่ควร [3] ซึ่งผลการสังเกตและสอบถาม ผู้วิจัยพบ ว่า ผู้เรียนมีความเครียดสูง และไม่อยากเข้าเรียน ขาด พลังใจ ขาดแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง ขาด กระบวนการการมีส่วนร่วมในห้องเรียนออนไลน์ ผลการ เรียนต่ำ กว่ามาตรฐานที่เคยทำ ได้ ถึงแม้ว่าห้องเรียน ออนไลน์ จะบรรจุเนื้อหาที่จำ เป็นต่อการวัดผลการเรียน อย่างครบถ้วนแล้ว จากการวิเคราะห์สาเหตุเกิดจาก บรรยากาศการเรียนรู้ในห้องเรียนออนไลน์นั้น ขาดการ ปฏิสัมพันธ์และสังสรรค์ทางสังคม ขาดการเชื่อมโยง ระหว่างเนื้อหาบทเรียนกับสภาพแวดล้อมจริงของ นักเรียน ขาดการเอาใจใส่เอื้ออาทรที่ผู้เรียนจะสัมผัสได้ จากกิริยาท่าทาง น้ำ เสียง แววตา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีน้อยจาก การเรียนออนไลน์ จากการศึกษาพบว่าความสุขในการเรียนออนไลน์ ผู้สอนและผู้เรียนได้ร่วมสนุกและผ่อนคลายไปด้วยกัน ซึ่งเมื่อผู้สอนมีความสุขแล้ว ก็จะส่งผลให้สิ่งที่ถ่ายทอดไป ยังผู้เรียนเป็นไปได้ด้วยดี นักศึกษาสนใจ ใฝ่เรียนรู้ในวิชา ที่เรียน มีทัศนคติต่อวิชาชีพที่ดี มีความพึงพอใจต่อการ เรียน มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และไม่มีความวิตกกังวล ต่อการเรียนและการฝึกปฏิบัติงาน จะส่งผลให้นักศึกษา เรียนรู้ได้อย่างมีความสุข [4] และการสอนเรื่องสมบัติ สารพันธุกรรมเป็นแนวคิดที่ยากที่จะเรียนรู้ เพราะ กระบวนการเป็นเรื่องยากที่จะเห็นภาพ รายงานว่าการ แปลรหัส เป็นหัวข้อที่นักเรียนมีความสับสนมากในการ เรียนเรื่องการสังเคราะห์โปรตีนที่ไรโบโซม นอกจากนี้ยัง พบความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอื่น ๆ เช่น โครงสร้างและ การทํางานของ RNA ทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ mRNA rRNA tRNA มีความสับสนระหว่างโคดอนและแอนติโดดอน ไม่ สามารถเชื่อมโยงระหว่าง DNARNAamino acid (พอลิเพปไทด์) [5] และ [6] ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เหล่านี้จะต้องได้รับการปรับแก้ด้วยเทคนิคการจัดการ เรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นครูจําเป็นต้องออกแบบ การจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อให้เกิดความเหมาะสม กับนักเรียนในบริบทของตนเอง ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะพัฒนารูปแบบการจัดการ เรียนรู้ Online On Life เพื่อสร้างความสุขในการเรียน แบบออนไลน์ เรื่องสมบัติของสารพันธุกรรม รายวิชา ชีววิทยา2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกบินทร์วิทยา


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 41 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ภาพ 1 รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life (ฐิติพร, 2564)


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 42 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย 2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life 2. ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการ สอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life 3. ศึกษาระดับความสุขและความเครียดของนักเรียนที่ได้ รับการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life 4. ศึกษาเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบ การจัดการเรียนรู้ Online On Life 3. วิธีดำ เนินการวิจัย การศึกษาครั้งนี้มีมีรูปแบบการวิจัยกึ่งทดลอง ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เพื่อสร้างความสุขในการเรียนแบบออนไลน์ เรื่องสมบัติของสารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา2 ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกบินทร์วิทยา มีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การสนทนากลุ่ม (Focus group) ร่วมกับครู จำ นวน 10 คนและนักจิตวิทยาจำ นวน 2 คน เพื่อแลก เปลี่ยนวิธีสอนที่สร้างความสุขในชั้นเรียน ขั้นที่ 2 การศึกษา แนวคิด ทฤษฎีจากเอกสาร ตำ รา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 3 การสร้างรูปแบบและองค์ประกอบการเรียน การสอน ขั้นที่ 4 การตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการเรียน การสอนโดยผู้เชี่ยวชาญ จำ นวน 3 คน ประกอบด้วย ครู อาจารย์มหาวิทยาลัย และนักจิตวิทยา ขั้นที่ 5 การปรับปรุงแก้ไขรูปแบบตามที่ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำ ระยะที่ 2 ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เพื่อสร้างความสุขในการเรียนแบบออนไลน์ เรื่องสมบัติของสารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา2 ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกบินทร์วิทยา มีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ข้อมูล - แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง สมบัติของสาร พันธุกรรม ราย วิชาชีววิทยา 2 รหัสวิชา ว30252 - แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง สมบัติของสารพันธุกรรม เป็นแบบเลือกตอบ ในแต่ละข้อ มี 4 ตัวเลือก จำ นวน 30 ข้อ - แบบสำ รวจห้องสี่เหลี่ยมในหัวใจ พันธุกรรม เป็น แบบสอบถามและแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) เพื่อวัดดัชนีความสุข - แบบประเมิน Diary of life เป็นแบบสอบถาม เพื่อ วัดดัชนีความเครียด


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 43 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย - แบบวัดเจตคติของนักเรียนจาก www.inskru.com เป็นแบบสอบถามและแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ขั้นที่ 2 การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอน การทดลองใช้รูปแบบการสอนในการวิจัยขั้นตอนนี้ กำ หนดระยะเวลาในการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการ สอนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ใช้เวลาในการ สอน 15 ชั่วโมงในรูปแบบออนไลน์ ขั้นที่ 3 การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเรียน การสอน - ให้นักเรียนทำ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องสมบัติสารพันธุกรรม ก่อนใช้รูปแบบการจัดการเรียน รู้ Online On Life - ให้นักเรียนทำ แบบสำ รวจห้องสี่เหลี่ยมในหัวใจ เพื่อ วัดดัชนีความสุข และแบบประเมิน Diary of life เพื่อวัด ดัชนีความเครียด ก่อนเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการ เรียนรู้ Online On Life - จัดการเรียนการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้รูป แบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life หน่วยการเรียน รู้ เรื่อง สมบัติของสารพันธุกรรม ราย วิชาชีววิทยา 2 รหัสวิชา ว30252 จำ นวน 15 ชั่วโมง - ให้นักเรียนทำ แบบสำ รวจห้องสี่เหลี่ยมในหัวใจ เพื่อ วัดดัชนีความสุข และแบบประเมิน Diary of life เพื่อวัด ดัชนีความเครียด หลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life - ให้นักเรียนทำ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องสมบัติสารพันธุกรรม หลังใช้รูปแบบการจัดการเรียน รู้ Online On Life - ให้นักเรียนทำ แบบวัดเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการ สอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life 4. ผลการวิจัย ผลการดำ เนินงานตามขั้นตอนการวิจัยได้นำ เสนอในตอน ต้น ปรากฏผล ดังนี้ 4.1 ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เพื่อสร้างความสุขในการเรียนแบบออนไลน์ เรื่อง สมบัติของสารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา2 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกบินทร์วิทยา 4.1.1 ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เพื่อสร้างความสุขในการเรียนแบบออนไลน์ เรื่องสมบัติ ของสารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา2 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกบินทร์วิทยา มีองค์ ประกอบสำ คัญ คือ 1) แนวคิดพื้นฐานและทฤษฎีพื้นฐาน 2) หลักการของรูปแบบ 3) วัตถุประสงค์ 4) ขั้นตอน การจัดการเรียนรู้ 5) ระบบสังคม 6) ระบบการตอบ สนอง 7) ระบบสนับสนุน และ 8) การวัดและประเมินผล โดยขั้นตอนการจัดการเรียนรู้มี 5 ขั้นตอน คือ


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 44 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ขั้นที่ 1: ระบายใจ เป็นขั้นแรกที่ผู้สอนเปิดห้องเรียนมา พบกับนักเรียน จึงต้องสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้น่า เรียน อาทิ การพูดคุยอย่างเป็นกันเอง การเปิดเพลงสร้าง บรรยากาศ การส่งสัญลักษณ์แสดงความรู้สึก หรือการรับ ฟังเรื่องเล่าต่าง ๆ ที่ผู้เรียนอยากเล่าหรือระบายใจ เพื่อ เปิดใจเรียนรู้ในสิ่งที่ครูสอนอย่างเป็นมิตรและไว้ใจ ครู ต้องควบคุมบรรยากาศให้เตรียมพร้อมสู่การเรียน ขั้นที่ 2: ตื่นรู้สู่เนื้อหา เป็นขั้นที่ผู้สอนกระตุ้นผู้เรียนด้วย คำ ถาม ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เรียน โดยใช้กระบวนการ ห้องเรียนกลับด้านเพื่อตรวจสอบความรู้ที่นักเรียนศึกษา มาก่อน และใช้กระบวนการที่หลากหลาย อาทิ ร่วมพูด คุย แลกเปลี่ยน และถาม-ตอบ จากเนื้อหาที่ได้ศึกษามา แล้วในวิดีโอ เพื่อให้เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ และการ สื่อสาร เล่าเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียน ยกเพลง ละคร หรือข่าวที่เป็นกระแสนิยมมากระตุ้น เป็นต้น โดยเชื่อม โยงให้สัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวของผู้เรียน เพื่อให้เห็นภาพ พร้อมที่จะเข้าสู่เนื้อหาการเรียนรู้ และประเมินความรู้พื้น ฐานของผู้เรียนเพื่อปรับใช้ในขั้นสร้างประสบการณ์เรียนรู้ ขั้นที่ 3: สร้างประสบการณ์เรียนรู้ เป็นขั้นสร้าง ประสบการณ์เรียนรู้เป็นขั้นตอนที่สำ คัญ โดยผู้สอนต้อง เลือกใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning ) ให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียนเนื้อหา และระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำ กัด อาทิ บรรยายแบบเล่า เรื่องประกอบสื่อสอนโดยใช้เกมในแอปพลิเคชัน ที่หลากหลายเช่น Quizizz, Quizlet, Gamilab, Gather town, Padlet เป็นต้น เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจ และสร้างความมีส่วนร่วมของผู้เรียน นอกจากนี้ต้องคำ นึง ถึงนักเรียนที่ไม่สามารถเข้าเรียนออนไลน์ได้จากปัญหา ต่างๆ โดยครูต้องการจัดทำ วิดีโอสำ หรับเรียนย้อนหลัง โดยอัฟโหลดทาง Youtube และให้นักเรียนได้ติดตาม งานย้อนหลังทาง Google classroom โดยเน้นให้ผู้เรียน มีส่วนร่วม ในการเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ หรือสร้างสรรค์ผล งานด้วยตนเอง โดยใช้หลักการตอบสนองและระบบ สนับสนุนของรูปแบบ โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการจัดการ เรียนรู้ ผ่านสื่อ แหล่งเรียนรู้หรือแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจ ร่วมสมัยการเรียนรู้ โดยผู้สอนเป็นโค้ชชี้แนะให้ผู้เรียนไป ถึงเป้าหมายการเรียนรู้ และคอยปลุกพลังเสริมแรงให้ผู้ เรียนอย่างเป็นมิตรและเท่าเทียมกันทุกคน ขั้นที่ 4: เรียนเพื่อใช้ชีวิต เป็นขั้นเรียนเพื่อใช้ชีวิต เป็น ขั้นที่ผู้เรียนจะต้องรู้ว่าเนื้อหาสาระความรู้ที่ได้เรียนไป สามารถนำ ไปประยุกต์ใช้เพื่อดำ เนินชีวิตได้อย่างไร ซึ่งจะ เป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมายที่แท้จริง ผู้เรียนจะไม่มี ข้อสงสัยว่าเรียนไปทำ ไม จะเอาไปใช้อะไร ครูจะต้องโค้ช ด้วยการถามหลังจากสร้างประสบการณ์เรียนรู้เสร็จ ว่า สิ่งที่ได้จากการเรียนวันนี้ นักเรียนจะนำ ไปใช้ประโยชน์ได้ อย่างไร โดยครูอาจใช้ภาพประกอบ การเล่าเรื่อง ยก ตัวอย่างสถานการณ์ในชีวิตมาให้นักเรียนเห็น หรืออาจจะ ให้นักเรียนสร้างสรรค์ชิ้นงาน/ผลงาน เพื่อเป็นการ


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat Page 45 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิต ขั้นที่ 5: สะท้อนคิดร่วมกัน เป็นขั้นสะท้อนคิดร่วมกัน เป็นขั้นสุดท้ายในกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยผู้ สอนต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ถามข้อสงสัย และให้ผู้ เรียนในห้องสะท้อนคิดหาคำ ตอบร่วมกัน หรือผู้สอนอาจ จะให้คำ ถามเป็นการสะท้อนความรู้ของนักเรียน โดย ปราศจากการตัดสินว่าถูก - ผิด แต่ต้องชี้แนะให้เป็นไปใน แนวทางที่เหมาะสม แนวคำ ถามควรเป็นคำ ถามปลาย เปิด อาจจะใช้การวางเงื่อนไขเพื่อกระตุ้นตอบ เช่น หาก นักเรียนสะท้อนคิดดี จะไม่มีการบ้านหรือภาระงาน เพื่อ เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนได้ หรืออาจะใช้ขั้นตอนนี้เป็นการเช็คชื่อปิดท้ายคาบ เพื่อ ตรวจสอบความรู้และสะท้อนคิดของผู้เรียนเป็น 4.1.2 ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการ จัดการเรียนรู้ Online On Life โดยผู้เชี่ยวชาญจำ นวน 3 คน พบว่ามีค่าเฉลี่ยรวม เท่ากับ 4.51 และส่วนเบี่ยงเบน มาตราฐาน เท่ากับ 0.71 ซึ่งมีความเหมาะสมอยู่ในระดับ มากที่สุด 4.2 ผลการเปรียบเทียบศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียน รู้ Online On Life ร้อยละ 91 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผ่านเมื่อเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 4.3 ผลการเปรียบเทียบดัชนีความสุขของนักเรียนก่อน และหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life มี ค่าร้อยละเพิ่มขึ้นเท่ากับ 35.20 และผลการเปรียบเทียบ ดัชนีความเครียดของนักเรียนในระดับปกติก่อนและหลัง ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life มีค่าร้อย ละเพิ่มขึ้นเท่ากับ 26.40 4.4 ผลการเปรียบเทียบเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการ สอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life พบ ว่านักเรียนร้อยละ 84.48 มีเจตคติที่ดีในระดับมากขึ้นไป ต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เมื่อเทียบ กับเกณฑ์ร้อยละ 80 ขั้นที่ 1 : ระบายใจ ขั้นที่ 2 : ตื่นรู้สู่เนื้อหา


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat 5. สรุปผลและอภิปรายผลการวิจัย 1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เพื่อ สร้างความสุขในการเรียนแบบออนไลน์ เรื่องสมบัติของ สารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4 โรงเรียนกบินทร์วิทยา มีองค์ประกอบสำ คัญ คือ 1) แนวคิดพื้นฐานและทฤษฎีพื้นฐาน 2) หลักการของ รูปแบบ 3) วัตถุประสงค์ 4) องค์ประกอบ และ 5) การ วัดและประเมินผล ซึ่งมีผลการประเมินคุณภาพรูปแบบ การสอนชีววิทยา จากการประเมินคุณภาพโดยผู้ทรง คุณวุฒิ จำ นวน 3 ท่าน ผลปรากฏว่า รูปแบบการจัดการ เรียนรู้ Online On Life ที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพความ เหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจาก รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life ที่ผู้วิจัย พัฒนาขึ้นมานั้นมีกระบวนการพัฒนารูปแบบการจัดการ เรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน แต่ละขั้นตอนมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มีความชัดเจน โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสภาพ/ ปัญหาการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ร่วม กับคณะครูจำ นวน 10 คนและนักจิตวิทยาจำ นวน 2 คน และศึกษาเอกสารหลักฐาน ทฤษฎีการเรียนรู้และแนวคิด ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในที่นี้ได้พิจารณาแล้วว่าแนวทางที่ จะช่วยสร้างความสุขในการเรียนแบบออนไลน์ ได้คือ 1) ทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความสุข 2) แนวคิดห้องเรียน กลับด้าน (Flipped Classroom) 3) แนวคิดการเรียนรู้ ภาพที่ 2 กิจกรรมการเรียนการสอนตามรูปแบบการ จัดการเรียนรู้ Online On Life ขั้นที่ 3 : สร้างประสบการณ์เรียนรู้ Page 46 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย ขั้นที่ 4 : เรียนเพื่อใช้ชีวิต ขั้นที่ 5 : สะท้อนคิดร่วมกัน


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat ต้องมีทฤษฎีการเรียนรู้มาเป็นพื้นฐานรองรับขั้นตอนที่ กำ หนดขึ้น เพื่อสร้างเป็นรูปแบบฉบับร่าง พร้อมทั้งแบบ ประเมิน จากนั้นนำ ไปให้ผู้ทรงคุณวุฒิจำ นวน 3 ท่าน ประเมินคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life และแบบประเมิน โดยผู้ทรงคุณวุฒิประเมินรูป แบบและประเมินว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับดีมาก สอดคล้องกับแนวคิดของทิศนา แขมมณี [8] ที่สรุปได้ว่า การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนจะต้องผ่านการจัด องค์ประกอบของรูปแบบต่าง ๆ ของรูปแบบการเรียน การสอนให้เป็นระบบ โดยคำ นึงถึงทฤษฎีและหลักการที่ เกี่ยวข้อง รวมทั้งการจัดองค์ประกอบต่าง ๆ ของรูปแบบ การเรียนการสอนให้มีความสัมพันธ์กัน เพื่อนำ นักเรียน ไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ และเมื่อนำ ไปทดลองใช้เบื้อง ต้นแล้วพบว่า มีประสิทธิภาพสามารถนำ ไปใช้พัฒนา นักเรียนให้มีคุณภาพตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ คือ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ดัชนีความสุข และ เจตคติ เพิ่มขึ้น และดัชนีความเครียดลดลงเนื่องจากรูป แบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life มีลักษณะของ การที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำ คัญ สร้างองค์ความรู้ร่วมกัน สร้างแรงจูงใจเสริมแรงทางบวก ใช้ห้องเรียนกลับด้าน สามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา และสามารถประยุกต์ใช้ ความรู้ในชีวิตประจำ วันจึงสามารถนำ ไปใช้ในการสอนได้ จริงและบรรลุวัตถุประสงค์ตามต้องการ 2. ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน การเปลี่ยนแปลง (Transformative learning) 4) แนวคิดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 5) แนวคิด การเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community Based Learning) ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำ คัญในการจัดการเรียนรู้บน พื้นฐานความสุข ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำ คัญ สร้างองค์ ความรู้ร่วมกัน สร้างแรงจูงใจเสริมแรงทางบวก ใช้ ห้องเรียนกลับด้านสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ฝึก ประสบการณ์เรียนรู้เชิงรุก ลงมือปฏิบัติ อย่างหลาก หลายตามความถนัดและความสนใจของผู้เรียน เรียนรู้ เพื่อการใช้ชีวิตสะท้อนความคิดเห็นได้อย่างเท่าเทียม สานเสวนา สร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างมีความหมาย สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตประจำ วันสู่สมรรถนะ การเรียนรู้ โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการจัดการเรียนรู้ เมื่อ ได้ประเด็นในการศึกษาแล้ว จึงศึกษาแนวคิดของการ พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ของนักการศึกษาหลาย ๆ ท่าน อาทิ Joyce, Weil & Calhoun [7] และทิศนา แขมมณี [8] เพื่อทำ ความเข้าใจกระบวนการในการ พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ จากนั้นจึงศึกษาราย ละเอียดของแนวคิดที่เกี่ยวข้องที่ได้คัดเลือกไว้แล้วทำ การ กำ หนดวัตถุประสงค์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life ที่เมื่อนำ ไปใช้แล้วจะให้เกิดการพัฒนา สิ่งใดกับผู้เรียน คิดขั้นตอนในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ของรูปแบบ เพื่อส่งผลการพัฒนาการเรียนรู้ไปยังผู้เรียน ในการกำ หนดขั้นตอนในกระบวนการจัดการเรียนรู้นั้นจะ Page 47 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat (Flipped Classroom) ให้ผู้เรียนได้เป็นการทบทวน เนื้อหาจากที่บ้าน ผ่านการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทัน สมัย ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาผ่านสื่อเทคโนโลยีที่ผู้สอนเตรียม ไว้ให้ก่อนเข้าชั้นเรียนออนไลน์ แล้วมาทำ กิจกรรม และ ถามตอบปัญหาในชั้นเรียนออนไลน์ ตอบสนองการ จัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ สนใจใฝ่รู้ สร้าง ความรู้ ประยุกต์ความรู้ การลงมือปฎิบัติจริง และสร้าง ทักษะการเรียนรู้เพื่อการดำ รงชีวิตสำ หรับศตวรรษที่ 21 ฐานิตา ลิ่มวงศ์ และยุพาภรณ์ แสงฤทธิ์ [11] ได้ใช้ แนวคิดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยครูจะ เป็นผู้ดำ เนินกิจกรรมอย่างเท่าเทียม ด้วยกระบวนการ เรียนรู้เชิงรุกที่หลากหลาย โค้ชไปสู่เป้าหมายแต่ละขั้น กระตุ้นด้วยคำ ถาม สังเกต และรับฟังอย่างตั้งใจและส่ง เสริมให้ผู้เรียนเปิดใจเรียนรู้ ดำ เนินการตามขั้นตอนการ สอน แลกเปลี่ยนสะท้อนคิดอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้ทำ ให้ผู้ เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ และผู้เรียนมีส่วนร่วมใน กิจกรรมการเรียนรู้ สอดคล้องกับงานวิจัยของนนทลี พรธาดาวิทย์ [12] การเรียนรู้เชิงรุกทำ ให้ผู้เรียนสนใจบท เรียนและทำ ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น นอกจากนี้ มีการใช้แนวคิดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community Based Learning) ซึ่งออกแบบการสอนที่ เชื่อมโยงเนื้อหาสาระในบทเรียนให้สัมพันธ์กับชุมชน ผ่าน การบูรณาการสาระความรู้ในหลายศาสตร์กับประเด็น ปัญหาในโลกที่เป็นจริง และเป็นเรื่องใกล้ตัว ในชุมชน ที่ได้รับการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life พบว่านักเรียนร้อยละ 91.00 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนผ่านเมื่อเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 ทั้งนี้เป็น เพราะรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life นี้ได้ นำ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่อยู่บนพื้นฐานของทฤษฎี การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง (Transformative learning) การเรียนรู้ที่เปลี่ยนกรอบการอ้างอิง (frame of reference) เดิมที่ยังไม่ชัดเจน ไปสู่กรอบการอ้างอิงที่ ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ลึกขึ้น สามารถแยกแยะความแตกต่าง ได้ สามารถสะท้อนและนำ เสนอภาพความรู้สึกนึกคิดได้ มากขึ้น รวมถึงรู้สึกว่ากรอบนี้สามารถรับกับการ เปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น และถูกต้องมากขึ้น [9] ซึ่ง แนวคิดทฤษฎีนี้จะสอดคล้องกับแนวคิดของการสร้าง ความรู้ด้วยตนเองที่เรียกว่า คอนสตรัคติวิสต์ ที่เน้นให้ผู้ เรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองและทำ กิจกรรม ร่วมกับกลุ่ม โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดทั้งใน การแก้ปัญหา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ความรู้ในทุก ระดับเพื่อสร้างการเรียนรู้ด้วยตนเอง สอดคล้องกับงาน วิจัยขององค์อร ประจันเขตต์ [10] ได้กล่าวว่าจากการ เรียนรู้และเข้าใจตนเองอย่างใคร่ครวญ มีวิจารณญาณ จนนำ ไปสู่การสร้างการเรียนรู้ของตนเอง ทำ ให้เกิดความ เข้าใจในบทเรียนอย่างแท้จริงและยั่งยืน สามารถบูรณา การความรู้ทางทฤษฎีสู่การปฏิบัติได้อย่างกลมกลืนและ ถูกต้องและมีการนำ แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน Page 48 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat เรียนรู้ในห้องเรียนออนไลน์ ซึ่งพบว่าเด็กแต่ละคนได้รับ การยอมรับจากกิจกรรมขั้นที่ 1 ระบายใจและ Diary of life ครูมีความเมตตาจริงใจ เด็กเกิดความรัก ความภูมิใจ ในตัวเอง บทเรียนสนุก แปลกใหม่ และนำ ไปใช้ในชีวิต ประจำ วันได้ และสอดคล้องกับงานวิจัยของสุมน อมรวิวัฒน์ [14] นิสิตพบว่าอาจารย์ของเขาเป็น กัลยาณมิตร ผู้เรียนจะเกิดความศรัทธา เห็นความสำ คัญ ของสาระที่กำ ลังเรียน ผู้เรียนย่อมมีความสุข และร้อยละ 90.40 มีระดับความเครียดลดลงอยู่ในระดับปกติ มีปัจจัย มาจากบรรยากาศในการเรียนรู้ในรูปแบบที่ต่างออกไป มี ช่วงให้นักเรียนได้ระบายใจ ปรับทุกข์ มีเนื้อหาเชื่อมโยง กับสิ่งรอบตัวของนักเรียนมากขึ้น ซึ่งนอกจากกิจกรรม การเรียนการสอน ผู้วิจัยได้จัดกิจกรรมวงเล่าออนไลน์ (Community Counseling) เป็นกิจกรรมกลุ่มบำ บัด ออนไลน์ จัดกระบวนการแบบวงสนทนาแบบไม่เป็น ทางการตามความสมัครใจ แต่ยึดหลักของการทำ กลุ่ม บำ บัด เพื่อให้เกิดการสร้างปฏิสัมพันธ์ในกลุ่มออนไลน์ ลดความเครียด เพิ่มความสุข จากการพูดคุย การรับรู้ เรื่องราว รับรู้อารมณ์ความรู้สึกระหว่างผู้เข้าร่วมกลุ่ม สัปดาห์ละ 1 ครั้งๆละ 1 ชั่วโมง โดยนักจิตวิทยาและ บุคคลที่ประกอบอาชีพต่าง ๆ เช่น แพทย์ พยาบาล ตำ รวจ แอร์โฮสเตส เภสัชกร เป็นต้น ระหว่างเรียนรู้เรื่อง สมบัติของสารพันธุกรรมที่จัดการเรียนรู้รูปแบบการ จัดการเรียนรู้ Online On Life และสิ่งแวดล้อมของผู้เรียน เน้นทักษะการคิดการแก้ ปัญหา เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงจากการลงมือปฏิบัติ จริง มีการประเมินผลตามสภาพจริงโดยการมีส่วนร่วม จากผู้ที่เกี่ยวข้อง [13] ภายใต้กระบวนการคิดบวก การ เห็นคุณค่าในตัวเอง และความสามารถในการฟื้นคืนพลัง โดยผู้วิจัยมีการใช้เครื่องมือสื่อสาร สำ หรับการทำ กิจกรรมการเรียนการสอนออนไลน์ที่หลากหลาย เช่น Quizizz, Quizlet, Gamilab, Gather town, Padlet เป็นต้น เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจและสร้างความมี ส่วนร่วมของผู้เรียน นอกจากนี้ต้องคำ นึงถึงนักเรียนที่ไม่ สามารถเข้าเรียนออนไลน์ได้จากปัญหาต่างๆ โดยครู ต้องการจัดทำ วิดีโอสำ หรับเรียนย้อนหลังโดยอัฟโหลด ทาง Youtube และให้นักเรียนได้ติดตามงานย้อนหลัง ทาง Google classroom 3. ผลการศึกษาระดับความสุขและความเครียดของ นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียน รู้ Online On Life พบว่านักเรียนที่ได้รับการจัดการ เรียนรู้รูปแบบ Online On Life เพื่อสร้างความสุขใน การเรียนแบบออนไลน์ เรื่องสมบัติของสารพันธุกรรม รายวิชาชีววิทยา2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน กบินทร์วิทยา ร้อยละ 81.60 มีระดับความสุขเพิ่มขึ้นจาก การจัดการเรียนรู้รูปแบบ Online On Life ซึ่งเป็นกระ บวนการเรียนรู้ที่มีความใส่ใจผู้เรียน มีความใส่ใจผู้สอน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมหรือได้แลกเปลี่ยน Page 49 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย


[email protected] [email protected] smtat สวคท smtat การเรียนการสอนชีววิทยาเรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรม โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียน รู้ 7 ขั้น (7E) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิด วิเคราะห์ และเจตคติทางวิทยาศาสตร์หลังการเรียนอยู่ใน ระดับมาก นอกจากนี้ผู้วิจัยยังพบว่านักเรียนก็ยังมีการ แสดงออกถึงการมีเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการสอน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life ด้านครูผู้ สอนโดยเป็นด้านที่มีคะแนนเจตคติสูงที่สุดซึ่งมีนักเรียน มากกว่าร้อยละ 60 ที่แสดงความคิดเห็นในรูปแบบ เดียวกันจากอนุทินบันทึกการเรียนรู้ของนักเรียน เช่น “คุณครูเข้าใจนักเรียนมากๆๆ คอยให้คำ ปรึกษาเด็กๆ ตลอด” “คุณครูเป็นคนที่พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด พยายาม ปรับตัวเข้ากับเด็กให้ได้มากที่สุด” “ครูพัฒนาตัวเองมาก ปรับปรุงการสอนมีอะไรแปลกใหม่อยู่เสมอ” “พัฒนาตัว เองอยู่เสมอ พยายามสอนแบบใหม่ ทำ ให้นักเรียนไม่ เบื่อ” “มีรูปแบบการสอน รูปแบบกิจกรรม เพื่อสร้าง ความหลากหลาย” “ครูสอนดี เข้าใจง่ายทุกคาบที่ครู สอนเลยค่ะ ครูพยายามดูแลเด็กหลังห้องมาก” “ครู สอนดีมากๆๆๆๆๆๆๆ หนูเรียนกับครู หนูไม่รู้สึกว่าเบื่อ หรือไม่อยากเรียนเลยค่ะ” “ครูสามารถให้เหตุผลรวมถึง ความรู้ในสิ่งที่เราไม่เข้าใจได้ตลอด” “อาจารย์เป็นคนที่ จัดทำ กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อคอยพัฒนาความสามารถของ เด็กที่ขาดหายไป” “หนูชอบการสอนของครูมากๆเลยค่ะ 4. ผลการศึกษาเจตคติของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life พบว่า นักเรียนร้อยละ 82.40 มีเจตคติที่ดีต่อการสอนด้วยรูป แบบการจัดการเรียนรู้ Online On Life เมื่อเทียบกับ เกณฑ์ร้อยละ 80 โดยภาพรวมนักเรียนมีเจตคติทั้ง 5 ด้าน ตามลำ ดับ ดังนี้ 1) ความตั้งใจสอนของครู 2) ครู เอาใจใส่เรา 3) เราเคารพซึ่งกันและกัน 4) การออกแบบ การสอนของครู 5) เรียนแล้วคุ้มได้ความรู้เยอะเลย ส่งผล ให้ผู้เรียนมีความสุขเนื่องจากผู้สอนใช้รูปแบบการจัดการ เรียนรู้ Online On Life เพื่อสร้างความสุขในการเรียน แบบออนไลน์ เรื่องสมบัติของสารพันธุกรรม รายวิชา ชีววิทยา2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกบินทร์ วิทยา ที่จัดการเรียนรู้บนพื้นฐานความสุข ที่มุ่งเน้นผู้เรียน เป็นสำ คัญ สร้างองค์ความรู้ร่วมกัน สร้างแรงจูงใจเสริม แรงทางบวก ใช้ห้องเรียนกลับด้าน สามารถเรียนรู้ได้ ตลอดเวลา ฝึกประสบการณ์เรียนรู้เชิงรุก ลงมือปฏิบัติ อย่างหลากหลาย ตามความถนัดและความสนใจของผู้ เรียน เรียนรู้เพื่อการใช้ชีวิตสะท้อนความคิดเห็นได้อย่าง เท่าเทียม สานเสวนา สร้างบรรยากาศการเรียนรู้อย่างมี ความหมาย สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตประจำ วันสู่ สมรรถนะการเรียนรู้ โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการจัดการ เรียนรู้ ภายใต้กระบวนการคิดบวก การเห็นคุณค่าในตัว เอง และความสามารถในการฟื้นคืนพลัง ซึ่งสอดคล้องกับ ธัญญุรีย์ สมองดี [15] ได้ศึกษาผลการจัดกิจกรรม Page 50 ปีที่ 30 กันยายน - ธันวาคม 2565 วารสารออนไลน์น์ น์น์ สมาคมครูวิรูทวิยาศาสตร์คร์ณิตณิศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีแยีห่งห่ ประเทศไทย


Click to View FlipBook Version