รายงานนิเทศ ติดตาม เตรียมการตามนโยบาย โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง”

๑

๒

คาํ นาํ

ดว้ ยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ได้กำหนดนโยบายและจุดเน้นเร่งด่วนของสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน (Quick Policy) ด้านการจดั การศึกษาเพอ่ื ความปลอดภยั ในภาคเรยี นที่ ๑
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ ดังน้ี

๑. สถานศึกษามรี ะบบเสริมสร้างความปลอดภัยตามบรบิ ทของสถานศึกษา
๒. นกั เรียน ครู และบคุ ลากรทางการศึกษามีความปลอดภัยทางดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ
๓. สถานศึกษาสามารถเผชญิ เหตุ และแก้ไขสถานการณ์ได้
๔. นกั เรียน ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ท่ปี ระสบเหตุได้รบั ความคมุ้ ครอง ดูแลชว่ ยเหลือเยยี วยา

ทง้ั ดา้ นร่างกายและจิตใจ
โรงเรยี นปทมุ ธานี “นันทมุนบี ำรุง” จงึ ดำเนนิ การเตรยี มการตามนโยบายและจดุ เรง่ ด่วนของสำนกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน (Quick Policy) ด้านการจัดการศึกษาเพือ่ ความปลอดภยั ในภาคเรียนที่ ๑
ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕

โรงเรยี นปทุมธานี “นันทมนุ บี ำรงุ ”
สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี

สารบัญ ๓

ดา้ นท่ี ๑ การนำพระบรมราโชบาย ของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ สู่การปฏิบัติ หนา้
ด้านท่ี ๒ การดำเนินการด้านประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง คุณธรรม จริยธรรม ๔
ด้านที่ ๓ การดำเนนิ การเรอื่ ง การศกึ ษากับการพฒั นาประชาธปิ ไตยโดยเนน้ การดำเนินการรว่ มกับสภา ๑๓
นกั เรียน ๑๗
ดา้ นที่ ๔ การจัดการศกึ ษา ระดบั ประถมศกึ ษา (เฉพาะโรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตวุ ทิ ยา)
ด้านท่ี ๕ การพฒั นาการเรยี นการสอน ACTIVE LEARNING ใหส้ อดคล้องกับ BIG ROCK ๓๒
ด้านที่ ๖ พาน้องกลบั มาเรยี น ๓๓
ดา้ นที่ ๗ แนวทางการดำเนนิ การโรงเรียนคุณภาพ ๔๒
ดา้ นท่ี ๘ การดำเนินการ Learning Loss ให้สอดคลอ้ งกับ UNESCO ๔๔
ด้านท่ี ๙ การประกนั คุณภาพ/O-net ๕๒
ด้านที่ ๑๐ ความปลอดภัยของผเู้ รียน ๕๔
๖๓

๔

ด้านท่ี ๑ การนำพระบรมราโชบาย ของในหลวงรชั กาลท่ี ๑๐ ส่กู ารปฏิบตั ิ
๑.๑ แนวทางการดำเนินการเสรมิ สรา้ งทศั นคติ ท่ีถูกต้องตอ่ บ้านเมือง ให้กับผูเ้ รยี น

โรงเรียนดำเนินการเสริมสร้างทัศนคติ ที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ให้กับผู้เรียน โดยการจัดกิจกรรมและ
โครงการวันสำคัญทางชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ มีความรู้ความเข้าใจที่มีต่อชาติบ้านเมือง ยึดมั่นใน
ศาสนา ม่ันคงในสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ และมคี วามเออื้ อาทรตอ่ ครอบครวั และชมุ ชนของตน
การเสริมสรา้ งทศั นคติ ท่ถี กู ตอ้ งตอ่ บา้ นเมือง ให้กับผู้เรียน

๕

๑.๒ แนวทางการเสรมิ สร้างผ้เู รยี นใหม้ พี ื้นฐานชวี ิตทมี่ ัน่ คงและสง่ เสริมคุณธรรม
โรงเรียนเสริมสร้างผู้เรียนให้มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงและส่งเสริมคุณธรรม โดยการสอดแทรก บูรณาการ

การจัดกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมทำบุญ ตักบาตร สวดมนต์ เพื่อการสร้าง
ความตระหนักให้ผู้เรียนรู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด-ที่ถูก สิ่งชั่ว-สิ่งดี เพื่อปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบที่ดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิดท่ี
ชวั่ เพ่ือสรา้ งคนดใี ห้แก่บ้านเมอื ง
การเสรมิ สรา้ งผูเ้ รียนให้มีพน้ื ฐานชวี ติ ท่ีมัน่ คงและส่งเสริมคณุ ธรรม

๖

๑.๓ แนวทางการส่งเสรมิ ด้านอาชีพและการมีงานทำใหก้ ับผ้เู รียน

การศึกษาเป็นเคร่ืองมือสำคัญในการพฒั นาความรู้ ความคิด คณุ ธรรมของเด็กและเยาวชนให้เป็นพลเมือง
ที่ดีมีคุณภาพ นอกจากนี้ การศึกษายังเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การประกอบอาชีพ รายได้ ประสิทธิภาพของ
การทำงาน และการพึ่งพาตนเองได้ในท่สี ุด ดงั นนั้ หากจะมุง่ หวังให้การพฒั นาประเทศเป็นไปอย่างสมบูรณ์ราบรื่น
ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระจายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม
ปัญหาความยากจนยังเป็นอุปสรรคที่ทำให้เด็กและเยาวชนไทยส่วนหนึ่งขาดโอกาสทางการศึกษา ต้องออกจาก
โรงเรียนกลางคันหรือไม่ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น แนวนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาล มุ่งเน้นให้
หน่วยงานต่าง ๆ พิจารณาถึงปัญหา ความจำเป็นที่ ต้องได้รับการพัฒนาในแต่ละช่วงวัยอย่างรอบด้าน และการมี
ทักษะการงานไดถ้ กู บรรจลุ งในหลักสตู รการศึกษา โดยการศึกษาภาคบังคับ ท้ังระดบั ประถม และมัธยม เพ่ือให้เด็ก
เรียนรู้ เสริมสร้างทักษะ มองหาความถนัด ที่จะพัฒนาเป็นอาชีพต่อไปในอนาคต นอกจากแนวทางดังกล่าวท่ี
ดำเนินการให้กับเด็กในระบบการศึกษาแล้วนั้น ทั้ง ภาครัฐและเอกชนยังได้พัฒนานโยบายมาตรการ กลไกอื่น ๆ
ขึ้นมาสนับสนุน ที่สนับสนนุ เก้ือกูล การส่งเสริมทักษะอาชีพ ในฐานะโรงเรยี นปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” มีภารกิจ
หลักในการจดั การศึกษา และสง่ เสริมการเรียนร้ทู ่ีหลากหลายเพ่ือตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการของชุมชน
เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นให้อยู่กันอย่างสันติสุขได้เล็งเห็นความสำคัญ
ของ การฝึกอบรมทักษะด้านอาชีพให้แก่นักเรียน โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” จึงจัดทำโครงการศูนย์การ
เรียนรู้ฝึกทักษะอาชีพ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักการเรียนรู้ทักษะชีวิต และทักษะพัฒนา อาชีพ ฝึกทักษะ
กระบวนการคิดในการทำงานของนักเรียน อีกทั้งยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการสร้าง ความสามารถ
พัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์ด้านอาชีพให้แก่นักเรียน และเป็นกำลังสำคัญใน การพั ฒนาประเทศ
ตอ่ ไปในอนาคต

๗

๑.๔ แนวทางการสง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นเปน็ พลเมอื งดี
โรงเรียนสง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนทุกคนมีโอกาสทำหน้าท่ีพลเมอื งดี มีระเบียบวินัย มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผือ่ แผ่ มี

ความเอ้ืออาทร มีจิตอาสา งานสาธารณกุศล บำเพ็ญประโยชน์ เพ่อื ประโยชน์ส่วนรวมส่งเสริมผู้เรียนให้มีความ
สมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นในการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

การส่งเสริมให้ผเู้ รียนเปน็ พลเมืองดี

๘

การส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนเปน็ พลเมืองดี

๙

การส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนเปน็ พลเมืองดี

๑๐

การส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นเปน็ พลเมอื งดี

๑๑

การส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นเป็นพลเมืองดี

๑๒

การมีจิตอาสา

๑๓

ด้านท่ี ๒ การดำเนินการดา้ นประวตั ิศาสตร์ หนา้ ท่ีพลเมือง คณุ ธรรม จริยธรรม โรงเรยี นมแี นวทางการ
ดำเนนิ การดงั น้ี

โรงเรียนมีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา จัดกิจกรรมการเรียนการสอน แบบบูรณาการเนื้อหา
ประวตั ศิ าสตร์และภูมปิ ัญญาท้องถิน่ สอดแทรกหนา้ ที่การเป็นพลเมือง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในรายวิชาสังคมศึกษา
ชั่วโมงคุณธรรม ชั่วโมงโฮมรูม รายวิชาอื่นๆ รวมทั้งกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เน้นการสร้างความตระหนักให้ผู้เรียน
รู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด-ที่ถูก สิ่งชั่ว-สิ่งดี เพื่อปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบที่ดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิดที่ชั่ว ทำหน้าที่พลเมืองดี
เพื่อสร้างคนดใี หแ้ ก่บา้ นเมือง

การดำเนินการดา้ นประวัตศิ าสตร์ หน้าที่พลเมือง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

๑๔

การดำเนนิ การดา้ นประวัติศาสตร์ หน้าท่ีพลเมือง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

๑๕

การดำเนนิ การดา้ นประวัติศาสตร์ หน้าท่ีพลเมอื ง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

๑๖

๑๗

ด้านที่๓ การดำเนินการเร่ือง การศึกษากับการพัฒนาประชาธปิ ไตยโดยเนน้ การดำเนนิ การร่วมกับสภานักเรยี น
๓.๑ โรงเรยี นใหก้ ารสง่ เสรมิ และสนับสนุนการพฒั นาประชาธิปไตยอย่างไร

ทางโรงเรยี นมกี ารจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน โดยสอดแทรก ส่งเสริม สนบั สนุน ในรายวิชา โดยผ่าน
กระบวนการต่างๆ เชน่ การแสดงความคิดเห็น การทำงานเปน็ กลุ่ม การรบั ฟงั การเคารพสทิ ธขิ องผู้อนื่ ครทู ีป่ รกึ ษา
โดยการใชค้ าบโฮมรูม การโหวตคัดเลอื กหวั หนา้ ห้อง การคัดเลอื กผู้แทนห้องในกจิ กรรมต่างๆ การแสดงความ
คิดเหน็ ในห้องเรียน นอกจากนยี้ ังมกี ารจดั กิจกรรมการเลอื กตัง้ คณะกรรมการสภานักเรยี น เพ่อื สง่ เสรมิ สนบั สนนุ
การเป็นประชาธิปไตย ในโรงเรียน

(ภาพการจัดการเรียนการสอน)

๑๘

(ภาพการคัดเลือกผแู้ ทนหอ้ งในกิจกรรม)

๑๙

(ภาพการจัดกจิ กรรรมสง่ เสริม)

๒๐

๒๑

(ภาพการสง่ นักเรยี นเขา้ รว่ มอบรมส่งเสริมประชาธปิ ไตย)

๒๒

(ภาพการจัดกจิ กรรมเลือกต้ัง)

๒๓

๒๔

๒๕

๓.๒ สภานกั เรียนมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ในการช่วยเหลอื โรงเรยี นพฒั นาประชาธิปไตย อย่างไร
สภานกั เรียนมบี ทบาทในการแสดงความคิดเห็น และมสี ว่ นร่วมกบั การจดั กิจกรรมเพอื่ ยกระดับพัฒนา

ทักษะในโรงเรียน อาทิเชน่ กิจกรรมหนา้ เสาธง กจิ กรรมวันไหวค้ รู กจิ กรรมวันประดบั เข็มนักเรียนชัน้ ม.๔ และ
กิจกรรมอ่นื ๆที่ทางโรงเรียนได้จดั ขึ้น นอกจากนั้น สภานกั เรียนยงั ทำหนา้ ท่ีเปน็ ผแู้ ทนนักเรยี นในการผู้ประสานงาน
นำเร่ืองหรือปัญหา เพื่อเสนอต่อผู้บริหาร และคณะคุณครู เพือ่ ใหเ้ กิดการแก้ไขปัญหาในโรงเรียน

(ภาพจดั กจิ กรรมหน้าเสาธง)

๒๖

(ภาพกจิ กรรมวันไหว้ครู)

๒๗

(ภาพกจิ กรรมวันประดับเข็มม.๔)

(ภาพกิจกรรมวนั ไหวค้ รู)

๒๘

๒๙

(ภาพกจิ กรรมนำเรอื่ งประสานงาน)

๓๐

๓๑

๓๒

ด้านที่ ๔ การจัดการศึกษา ระดบั ประถมศึกษา (เฉพาะโรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตุวิทยา)

๓๓

ดา้ นที่ ๕ การพัฒนาการเรียนการสอน ACTIVE LEARNING ใหส้ อดคลอ้ งกับ BIG ROCK

โรงเรียนปทุมธานี “นันทมุนีบำรุง” ได้มีการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน Active Learning เพื่อ
ตอบสนองการเปลยี่ นแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ ดงั น้ี

๑. มีหลักสูตรที่พัฒนาขน้ึ ใหผ้ ู้เรยี นทกุ ระดับได้มีโอกาสพฒั นาตนเองตามความถนดั และความสนใจเป็น
รายบุคคล จนสามารถประกอบอาชีพหรือศึกษาต่อในวิชาชีพขั้นสูงได้ สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีการจัดการ
เรียนการสอนท่ีส่งเสริมด้านทักษะอาชีพ เช่น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพในรายวิชาการขยายพันธุ์พืช
อาหารจานเดียว แปรรปู ผลผลติ การเกษตร พืชผกั สวนครวั ไมด้ อกไม้ประดับ งานประดิษฐท์ ้องถนิ่ อาหารวา่ ง และ
การผลิตเคร่อื งดมื่ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะในรายวิชา กลองยาวเบ้อื งตน้ ดนตรเี พอื่ การแสดง เปน็ ตน้

นอกจากนี้โรงเรียนยังมหี ลักสตู รทีพ่ ัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมใหน้ ักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถ
ในการคิดได้หลากหลายและแปลกใหม่จากเดิม โดยสามารถนำไปประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการได้อย่างรอบคอบ
และมีความถูกต้อง จนนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่หรือรูปแบบความคิดใหม่ เช่น การ
ทดลองทางวิทยาศาสตร์ การเล่นกีฬาที่ต้องสร้างสรรค์รูปแบบเกมให้หลากหลายไม่ซ้ำแบบเดิม เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู่
รู้ทัน เป็นต้น สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมด้านความคิดสร้างสรรค์ของ
นักเรียน คือ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ วางแผนการจัดการเรียนการสอนร่วมกับกลุ่มสาระการเรียนรู้
คณติ ศาสตร์ ในรายวิชา โครงงานสะเตม็ ศึกษา ความคิดสรา้ งสรรค์สูน่ วัตกรรมชุมชน และ นักคดิ นวตั กร เปน็ ตน้

๒. มีการจัดการเรียนการสอน Active Learning ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนทุกระดับเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์การเรียนรู้
เพื่อให้เกิดสมรรถนะหลักและการพัฒนาตนเองตามความถนัดและความสนใจ โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการสอน
ที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น การจัดการเรียนการสอนแบบคิดและคุยกัน (Think-Pairs-Share), เพื่อนเรียน (Partners)
และผลัดกันพูด (Say and Switch), กจิ กรรมโต๊ะกลม (Roundtable หรือ Round-robin), คตู่ รวจสอบ (Pairs Check),
มุมสนทนา (Confers), ร่วมกันคิด (Numbered Heads Together), เทคนิค STAD (Student Teama Achievment
Division), เทคนิค TGT (Team – Games Tournament), เทคนิค TAI (Team – Assisted Individualization) และ
เทคนิค CIRC(Cooperative – Integrated Reading and Composition) เปน็ ต้น

๓. มีรูปแบบการประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับที่เน้นการปฏิบัติและการพัฒนาการเรียนรู้
โดยโรงเรียนมีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ ซึ่งครูผู้สอนต้องมีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
มีการวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด เพื่อจัดทำคำอธิบายรายวิชา ออกแบบโครงสร้างการเรียนรู้ และจัดทำ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ใช้การประเมินที่หลากหลาย เหมาะสม
กับผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล พร้อมทั้งมีการสรุปผลการจัดการเรียนรู้หลังจัดกิจกรรม ทั้งน้ี
ยังมีระบบนิเทศ กำกับ ติดตาม จากหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้างานนิเทศ รองผู้อำนวยการโรงเรียน
และผอู้ ำนวยการโรงเรียน อยา่ งน้อยภาคเรียนละ ๑ ครงั้

๓๔

๔. มีแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลสำหรับผู้เรียนทุกระดับในความรอบรู้ที่จำเป็นและสมรรถนะหลัก
รวมถึงความถนัดและความสนใจรายบุคคล

โรงเรียนมีระบบบริการออนไลน์ที่เอื้อให้ผู้เรยี น ผู้สอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา สามารถ
ใช้ประโยชน์จากข้อมูล เครื่องมือ และทรัพยากรต่างๆ เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน ความก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยที ำให้การเรียนรู้มิได้จำกัดอยู่ในระบบห้องเรียนแบบเดมิ ๆ มีการนำเทคโนโลยมี าใช้เป็นเคร่ืองมือในการ
จดั การและพัฒนาการเรยี นการสอน รวมทั้งสง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รียนแสวงหาความร้ดู ้วยตนเองจากส่ือดิจิทลั และสอื่ สังคม
ออนไลน์ (Social Media) เชน่ การเรียนรูผ้ ่านโทรศพั ท์มือถือ (Mobile Learning) การเรียนรรู้ ่วมกันผา่ นส่ือสังคม
ออนไลน์ (Social Learning) การเรียนผ่านสื่อวดี ทิ ัศน์ (Video Learning) เปน็ ต้น

๕. มีระบบนเิ วศการเรียนรูข้ องผู้เรียนทกุ ระดับทีเ่ นน้ การมสี ่วนร่วมและการสร้างสรรค์ นวตั กรรม
ผูเ้ รยี น ไดร้ ับการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มกี ารพฒั นาศักยภาพใหเ้ กดิ ผลสัมฤทธทิ์ างการศึกษา และสอดคล้อง
กับอัตลักษณ์ชุมชนและบริบทพื้นที่ของโรงเรียน โดยโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
มเี ทคนิคการสอนท่หี ลากหลาย เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนไดม้ ีสว่ นรว่ มในกิจกรรมการเรยี นการสอน ได้ลงมือปฏบิ ัติจริง
เช่น การทดลองวิทยาศาสตร์ กิจกรรมสะเต็มศึกษา การเล่นกีฬา การทำอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้โรงเรียนยังมี
การจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การสร้างสรรค์ของนักเรียนนอกห้องเรียนอีกด้วย เช่น กิจกรรมทัศนศึกษา
แหล่งเรียนรู้ กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี กิจกรรมเปิดบ้านวิชาการ กิจกรรมสุนทรภู่ กิจกรรมวันภาษาไทย
กิจกรรมวิทยาศาสตร์ กิจกรรมประวัติศาสตร์ กิจกรรมคณิตศาสตร์ และในช่วงเช้าหลังเข้าแถวมีกิจกรรม
ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน สัปดาหล์ ะคำ เพือ่ สง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นรู้จักคำในภาษาต่างประเทศมากข้ึน มีกจิ กรรมนัก
เล่าชาวนันท์ เพื่อให้นักเรียนได้รับข่าวสารในปัจจุบัน ทำให้รอบรู้ทันโลก ทันเหตุการณ์ มีความรู้ความคิดที่
หลากหลายกว้างไกล สามารถนำมาเป็นแนวทางในการประพฤตปิ ฏิบัติตนให้ชีวิตมีคุณค่า และมีระเบียบแบบแผน
ทด่ี ยี ิ่งข้ึน
สถานศึกษา มีการกระจายอำนาจการจัดการศึกษา และการบริหารงานอย่างเป็นอิสระ สอดคล้องกับ
บริบทและความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศ โรงเรียนได้กำหนดให้มีการจัดทำ
SWOT ของโรงเรียน เพื่อนำผลการวิเคราะห์มากำหนดเป็นกลยุทธ์ ( STRATEGY ) โดยมีการวิเคราะห์
สภาพแวดล้อมภายนอก ปัจจยั ดา้ นสังคม วฒั นธรรม ดา้ นเทคโนโลยี ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง กฎหมายและ
นโยบาย ที่เป็นข้อได้เปรียบของโรงเรียน นำมาจัดทำเป็นกลยุทธ์ เช่น ปัจจัยเรื่องสภาพแวดล้อม ทำเลที่ตั้งของ
โรงเรียน ที่มีหน่วยราชการและองค์กรที่เป็นแหล่งเรียนรู้ มีสัมพันธภาพที่ดีกับหน่วยงานต่างๆ โดยได้รับการ
สนับสนุนจากสมาคมศิษย์เก่า เครือข่ายผู้ปกครองที่เข้มแข็ง รวมถึงความร่วมมือร่วมใจขององค์กรภาคีเครือข่าย
ของโรงเรยี น ทำให้ได้รบั รว่ มมอื ในการพฒั นาการจดั การศกึ ษาเปน็ อยา่ งดี
ระบบบริหารจดั การศกึ ษา มีการสร้างกลไกการบรหิ ารงานอย่างอิสระและคล่องตัว ทั้งในด้านหลักสูตร
และการจัดการเรียนการสอน ที่สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของโรงเรียน เพ่ือสนับสนนุ ให้เกิดการสร้างนวตั กรรมการศึกษา

๓๕

โรงเรียน มีการนำองค์กรโดยผู้นำระดับสูงของโรงเรียนได้ใช้การบริหารงานแบบมีส่วนร่วม จากคณะครู และ
บุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมถึงผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสียพิจารณาและ
ให้ความเห็นชอบ ด้วยการประชุมหารือวิเคราะห์สภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการจำเป็นโดยใช้การ
วิเคราะห์ SWOT เพ่อื กำหนดทศิ ทาง นโยบาย วสิ ยั ทศั น์ ค่านิยมและพันธกิจดำเนนิ การ ตามวงจรคุณภาพ PDCA
มุ่งเน้นพัฒนางานใหไ้ ด้มาตรฐานเดียวกนั ดว้ ยระบบ PTN Model ผบู้ รหิ ารระดับสงู มวี ิสัยทศั น์ มภี าวะผนู้ ำ มีความ
พร้อม และมีความคิดริเริ่มที่เนน้ การพัฒนาผูเ้ รียน โดยใช้หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม และ ใช้สนับสนุนในการ
ใช้เทคโนโลยีเปน็ เคร่อื งมือในการทำงาน ทง้ั ด้านวิชาการ และการจัดการ สามารถบรหิ ารจดั การการศึกษาให้บรรลุ
เป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการ มุ่งส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพของบุคลากร มีการนิเทศ กำกับ
ติดตาม ให้คำแนะนำ คำปรึกษาทางวิชาการ และเอาใจใส่การจัดการศึกษาเต็มศักยภาพ และเต็มเวลา ส่งผลให้
นกั เรียน ผู้ปกครอง และชมุ ชนพึงพอใจผลการบรหิ ารการจดั การศึกษา สูส่ ถานศกึ ษาแห่งความเป็นเลิศ

๓๖

การพัฒนาการเรยี นการสอน ACTIVE LEARNING ใหส้ อดคลอ้ งกับ BIG ROCK โรงเรียนไดด้ ำเนินการอย่างไร
๑. มหี ลักสตู รที่พัฒนาขน้ึ ให้ผูเ้ รยี นทกุ ระดบั ได้มโี อกาสพฒั นาตนเองตามความถนดั และความสนใจเป็น

รายบุคคล

กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ

๓๗

กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

๓๘

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ วางแผนการจัดการเรียนการสอนรว่ มกับกลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์
ในรายวิชา โครงงานสะเต็มศึกษา (STEM) ความคิดสรา้ งสรรคส์ นู่ วัตกรรมชุมชน และนักคิดนวัตกร
๒. มกี ารจัดการเรียนการสอน Active Learning ท่ีม่งุ เน้นให้ผู้เรยี นทุกระดับเป็นผ้รู ว่ มสรา้ งสรรค์การเรียนรู้

๓๙

๓. มรี ปู แบบการประเมนิ การเรียนร้ขู องผเู้ รยี นทุกระดับท่ีเน้นการปฏบิ ตั ิและการพัฒนาการเรยี นรู้

วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ัด ออกแบบโครงสรา้ งการเรียนรู้
และจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้ท่มี กี ารจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning

ระบบนิเทศ กำกับ ติดตาม จากหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ หัวหนา้ งานนเิ ทศ
รองผู้อำนวยการโรงเรยี น และผู้อำนวยการโรงเรยี น

๔๐

๔. มีแพลตฟอรม์ การเรยี นรดู้ ิจิทัลสำหรบั ผู้เรียนทุกระดับ

การเรียนรผู้ า่ นโทรศัพทม์ อื ถือ (Mobile Learning)

การเรียนรู้ร่วมกันผา่ นสอื่ สังคมออนไลน์ (Social Learning)

การเรยี นผา่ นส่อื วดี ิทศั น์ (Video Learning)

๔๑

๕. มรี ะบบนเิ วศการเรยี นร้ขู องผเู้ รียนทกุ ระดับทเี่ นน้ การมีส่วนร่วมและการสรา้ งสรรค์ นวัตกรรม

๔๒

ดา้ นที่ ๖ พานอ้ งกลับมาเรยี น
โรงเรยี นมีคำสั่งแตง่ ตั้งครทู ่ปี รึกษาเพอื่ ดูแลนักเรยี นทุกระดับชัน้ และครูที่ปรกึ ษาทุกระดับช้ันมีการติดตาม

นักเรยี นในชนั้ เรยี น โดยการใช้แอปพริเคช่ัน NN St.Care เชค็ ช่อื นกั เรียนในคาบโฮมรูมทุกวนั เพื่อตดิ ตามการมา
เรียนของนักเรยี น พร้อมรายงานฝ่ายบริหาร

๔๓

หากครูท่ปี รึกษาพบนักเรียนไมม่ าเรยี นเกนิ ๓ วนั ให้ครทู ี่ปรึกษาติดตามนกั เรยี นพรอ้ มรายงานหวั หนา้
ระดบั ชัน้ ตอ่ ไป การตดิ ตามนักเรียนมกี ารติดตามทางโทรศัพท์ ไลน์ และมีการเยยี่ มบ้านสำหรบั นกั เรียนที่ไม่
สามารถติดต่อได้ โดยในปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ทางโรงเรยี นได้มรี ะบบการเยีย่ มบ้านเพ่อื เกบ็ ข้อมูลไว้เปน็ สารสนเทศ
ของนักเรียนรายบุคคล

คุณครสู ามารถสบื คน้ ขอ้ มูลนกั เรยี นจากสารสนเทศของระบบดูแลช่วยเหลือเพ่ือตดิ ตามนกั เรยี นรายบุคคล

ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา มีนักเรียนท่ีมีแนวโน้มออกจากระบบจำนวน ๒ คน ทางโรงเรยี นสามารถ
ตดิ ตามกลับมาได้ทัง้ ๒ คน โดย ๑ คน สามารถจบการศกึ ษาไปตามระบบ และอีกหนงึ่ คนไดย้ ้ายไปเรยี นที่
สถานศกึ ษาอื่น

๔๔

ดา้ นท่ี ๗ แนวทางการดำเนนิ การโรงเรียนคณุ ภาพ

โรงเรียนมีการการดำเนินการในเรื่องความปลอดภัยของอาคารสถานที่มีครุภัณฑ์อุปกรณ์ระบ บ
อินเตอร์เน็ต ที่เอื้อต่อการเรียนรู้และทันสมัย - เน้นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ลดเหลื่อมล้ำโดยมีงบประมาณ
และอัตรากำลังครูอย่างเหมาะสม มีการจัดทำระบบประกันคุณภาพ พัฒนาครูอย่างต่อเนี่อง จัดการเรียนการสอน
โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีการวัดและประเมินผลที่หลากหลายและสอดคองกับบริบทของ นักเรียนมีการนิเทศ
กำกับติดตามอย่างเป็นระบบทั้งภายในและภายนอกและมีการเก็บข้อมูลสารสนเทศอย่างเป็นระบบสามารถนำ
ข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการปรับปรุงการดำเนินการของโรงเรียนเรียนคุณภาพให้เกิดการดำเนินงานให้เกิด
ประสิทธิภาพ และประสทิ ธผิ ลสูงสดุ

๔๕

๑. ความปลอดภัยของผู้เรยี น
โรงเรียนมแี นวทางการวางแผนการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษาใหแ้ ก่นักเรียน เน้นการมสี ว่ น

รว่ มระหว่างนกั เรยี น ครู ผู้ปกครอง ชมุ ชน ผู้มสี ว่ นเกยี่ วข้อง และเครือขา่ ยต่างๆ โดยรว่ มกันวางแผนปอ้ งกนั แก้ไข
ควบคุม กำกับ ติดตาม ประเมินผลและรายงานผล สรา้ งระบบความปลอดภัยในสถานศกึ ษาทีไ่ ด้มาตรฐานผ่าน
ระบบดแู ละชว่ ยเหลอื นักเรยี นและการแนะแนว สร้างภูมคิ ้มุ กันแกน่ ักเรยี น เชน่ การรบั แจ้งเหตุ และประสานสง่ ต่อ
ผา่ นระบบ (MOE Safety Center) การให้ความรกู้ ารขบั ขีใ่ ห้ถูกตอ้ งตามกฎจราจรและยาเสพติด การตรวจสอบ
ความปลอดภยั ในอาหาร ความปลอดภยั ด้านอาคาร สถานที่ รวมทงั้ การป้องกันการแพร่ระบาดโรคการติดเช้อื ไวรัส
โคโรนา่ ๒๐๑๙ (COVID-๑๙)

๔๖

๒. ระบบประกนั คุณภาพ

โรงเรยี นมกี ารมกี ารจดั ทำระบบประกนั คณุ ภาพ และการประเมินตนเองอย่างต่อเนอื่ ง ซง่ึ ผลการประเมนิ ตนเอง
ของโรงเรยี นอยใู่ นระดบั ยอดเยยี่ ม จากผลการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมต่างๆส่งผลใหโ้ รงเรียนจัดการ
พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ประสบผลสำเรจ็ ตามทต่ี ัง้ เป้าหมายไว้ในแตล่ ะมาตรฐานจากผลการประเมินสรปุ วา่ ได้
ระดบั ยอดเย่ยี ม ทง้ั นีเ้ พราะมาตรฐานที่ ๑ คณุ ภาพผเู้ รียน อยู่ในระดับ ดีเลศิ มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบรหิ าร
และการจัดการศึกษาอยู่ในระดบั ยอดเยย่ี ม มาตรฐานท่ี ๓ กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผูเ้ รยี นเป็น
สำคัญอย่ใู นระดับ ยอดเยย่ี ม ทง้ั น้ีโรงเรยี นมกี ารจัดกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผ้เู รียนอย่างหลากหลายที่เปน็ ไปตาม
ปัญหาและความตอ้ งการพัฒนาตามสภาพของผู้เรยี นสอดคล้องกับจดุ เน้นของโรงเรียนและสภาพของชุมชนท้องถ่นิ

๔๗

๓. การพฒั นาครู

โรงเรียนมีการการดำเนินการในการพัฒนาครูอย่างต่อเนี่อง เน้นจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียน
เปน็ สำคัญ มกี ารวัด และประเมินผลทหี่ ลากหลายและสอดคองกับบรบิ ทของนักเรยี น โดยยึดหลกั วา่ ผ้เู รียนทุกคนมี
ความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด รวมถึงจะต้องส่งเสริ มให้ผู้เรียน
สามารถพัฒนาตามธรรมชาติ และเต็มตามศักภาพโดยเนน้ ความสำคญั ทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และ
บูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับการศึกษาและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจ และความถนัด
ของผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการ
ประยุกต์ความรู้ มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติ ให้ทำได้
คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อยา่ งต่อเนื่อง โดยให้เด็กศึกษาเรียนรู้ได้ด้วยตนเองมีการนิเทศ กำกับ
ติดตามการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบทั้งภายในและภายนอกเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเกิด
ประสิทธิภาพ และประสิทธผิ ลสงู สุด

๔๘

๔. การเรยี นการสอน

โรงเรียนปทุมธานี “นนั ทมนุ ีบำรงุ ” ไดม้ ีการพฒั นาการจดั การเรียนการสอน Active Learning เพื่อ
ตอบสนองการเปลย่ี นแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑ มหี ลกั สตู รทีพ่ ัฒนาขึน้ ใหผ้ เู้ รียนทุกระดบั ได้มโี อกาสพฒั นาตนเองตาม
ความถนดั และความสนใจเปน็ รายบุคคล จนสามารถประกอบอาชีพหรือศึกษาต่อในวชิ าชีพข้นั สงู ได้มีการจัดการ
เรียนการสอน Active Learning ทม่ี งุ่ เนน้ ให้ผเู้ รียนทุกระดับเป็นผรู้ ว่ มสร้างสรรคก์ ารเรียนรู้ เพือ่ ใหเ้ กดิ สมรรถนะ
หลกั และการพัฒนาตนเองตามความถนัดและความสนใจ โดยใช้เทคนคิ หรือวธิ ีการสอนท่ีหลากหลาย

๔๙

๕. การวัดและประเมินผล

มรี ูปแบบการประเมนิ การเรยี นรขู้ องผเู้ รียนทุกระดับท่เี นน้ การปฏบิ ัตแิ ละการพฒั นาการเรียนรู้ โดย
โรงเรียนมกี ารจัดทำแผนการจัดการเรียนร้อู ยา่ งเปน็ ระบบ ซงึ่ ครผู ู้สอนต้องมีการวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี นเปน็ รายบุคคล มี
การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั เพื่อจัดทำคำอธิบายรายวิชา ออกแบบโครงสรา้ งการเรยี นรู้ และจดั ทำ
แผนการจดั การเรยี นรู้ทีม่ ีการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ใชก้ ารประเมินที่หลากหลาย เหมาะสม
กับผ้เู รียน โดยคำนงึ ถงึ ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล

๕๐

๖. การนิเทศกำกับและติดตาม
โรงเรยี นมกี ารสรุปผลการจัดการเรียนรหู้ ลังจดั กจิ กรรม มรี ะบบนเิ ทศ กำกบั ติดตาม จากหวั หนา้ กลุม่
สาระการเรยี นรู้ หัวหน้างานนิเทศ รองผู้อำนวยการโรงเรียน ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น และหนว่ ยงานภายนอกอยา่ ง
ตอ่ เนอ่ื ง