The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning โดย ดร.สุทัด จันทะสิน วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุมสุทราภิรมย์ สพป.เชียงราย เขต 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by manthana699, 2022-09-05 02:26:32

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning โดย ดร.สุทัด จันทะสิน

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning โดย ดร.สุทัด จันทะสิน วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2565 ณ ห้องประชุมสุทราภิรมย์ สพป.เชียงราย เขต 2

สมรรถนะเฉพาะ (Specific Competency)

➢ เป็นความสามารถเฉพาะดา้ นท่ีเรยี นรู้ ฝกึ ฝนและพัฒนาได้ใน
ชว่ งเวลาท่กี าหนด

➢ ในการเรยี นการสอน คือ สมรรถนะเฉพาะวิชา ซง่ึ จาเปน็ สาหรบั วิชา
นนั้ ๆ

➢ กลุม่ สาระการเรียนร้หู รือรายวชิ าตา่ งๆจะมีสมรรถนะเฉพาะวชิ าของ
ตน ซ่งึ มลี ักษณะเป็น “ทักษะ” (Skill)

หากผเู้ รียนไดร้ บั การฝกึ ทักษะจนสามารถใช้งานได้ และสามารถ
ประยุกตใ์ ชท้ ักษะนนั้ ในการทางาน และในสถานการณห์ ลากหลาย ทักษะ
น้นั ก็จะพัฒนาเปน็ สมรรถนะ

สมรรถนะหลัก (Core Competency)

➢ เป็นความสามารถสาคญั ท่ีติดตัว ต้องใช้เวลาทกี่ ารบ่มเพาะ ฝกึ ฝน
และพัฒนา

➢ เป็นสมรรถนะข้ามวิชาหรือคร่อมวชิ า สามารถพฒั นาใหเ้ กดิ ข้ึนแก่
ผเู้ รยี นได้ในสาระการเรยี นรู้ต่างๆ ที่หลากหลาย หรอื นาไป
ประยุกตใ์ ช้ในการพัฒนาผเู้ รยี นใหเ้ รยี นรู้สาระตา่ งๆ ได้ดีข้นึ

➢ มีลักษณะ “Content-free” คือ ไม่เกาะติดเนื้อหา หรือไมข่ นึ้ กับ
เนอ้ื หา และต้องพัฒนาผา่ นเน้ือหาสาระในศาสตร์ หรอื วชิ าตา่ งๆ

ตวั อย่างสมรรถนะแต่ละประเภท

สมรรถนะหลัก (Core Competency) สมรรถนะเฉพาะ (Specific Competency)

•การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาน • การอ่านบทความภาษาองั กฤษ
• การคิดเชงิ สร้างสรรค์ • การแกโ้ จทย์คณติ ศาสตร์
• การทางานเป็นทมี • การเลน่ วอลเลยบ์ อล
• การสอื่ สาร • การเล่นดนตรี
• ภาษาองั กฤษ
• การตระหนกั รู้ตนเอง • การออกแบบเกม
• การจดั การตนเอง
• การตระหนกั ร้ทู างสงั คม
• การจดั การด้านความสมั พันธ์
• การตัดสินใจทม่ี ีความรับผดิ ชอบ

องคป์ ระกอบของสมรรถนะหลกั (Core Competency)

สมรรถนะการคิดขนั้ สงู (Higher Order Thinking : HOT)

นยิ าม องค์ประกอบ

สามารถคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และตดั สนิ ใจอย่างมี 1. การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
วิจารญาณบนหลักเหตผุ ลอยา่ งรอบดา้ น โดยใชค้ ณุ ธรรม (Critical Thinking : HOT-CTC)
กากบั การตดั สินใจได้อย่างมีวจิ ารณญาณ มีความสามารถ
คดิ อย่างเป็นเหตุเปน็ ผล ดว้ ยความเข้าใจถึงความเชอ่ื มโยง 2. การคิดเชงิ ระบบ
ของสรรพสิ่งท่อี ยู่รว่ มกันอย่างเป็นระบบ ใชจ้ นิ ตนาการและ (System Thinking : HOT-STM)
ความร้สู รา้ งทางเลอื กใหม่ เพอื่ แก้ปญั หาท่ซี ับซอ้ นไดอ้ ยา่ งมี
เป้าหมาย 3. การคดิ สร้างสรรค์
(Creative Thinking : HOT-CRT)

4. การคิดแกป้ ัญหา
(Problem Solving Thinking : HOT-PRB)

ตวั อยา่ งสมรรถนะเฉพาะ (Specific
Competency) ทนี่ ามาจดั การเรียนรู้

กลมุ่ สาระภาษาไทย กลมุ่ สาระคณติ ศาสตร์

• ฟงั ดู และพูดด้วยความเขา้ ใจ • การแกป้ ญั หา
• อ่านด้วยความเข้าใจ • การส่อื สารและนาเสนอ
• เขียนแสดงความเขา้ ใจ • การใหเ้ หตุผล
• เข้าใจธรรมชาติของภาษาและการใชภ้ าษาไทย • การคิดสร้างสรรค์
• การใชเ้ คร่ืองมอื ในการเรียนรู้
กลุม่ สาระวิทยาศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรียนภาษาองั กฤษ
• อธบิ ายปรากฏการณ์อย่างเปน็ วิทยาศาสตร์
• ประเมินและออกแบบการสบื เสาะเชิงวทิ ยาศาสตร์ • ฟัง พูดเพือ่ การสอื่ สาร
• ตคี วามหมายขอ้ มลู และหลกั ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ • อ่านเพ่อื ความเข้าใจ
• แกป้ ญั หา สรา้ งนวัตกรรม และการอยูร่ ่วมกนั • เขียนเพ่ือแสดงความคดิ เห็นและสะทอ้ นความรสู้ กึ
• ใช้และเขา้ ใจภาษาเชงิ วทิ ยาศาสตร์ • ใชภ้ าษาเพอื่ การเรยี นรู้ และทางานร่วมกับผอู้ ืน่
ใช้เครื่องมือในการเรียนรู้ •

องคป์ ระกอบสมรรถนะเฉพาะ (กลมุ่ สาระการเรยี นรู้)

ประกอบด้วย Knowledge K

ความรู้

ทักษะ Skills S

เจตคต/ิ Attitudes/Values A
คา่ นยิ ม

ของแต่ละกลมุ่ สาระการเรียนรทู้ ่ีกาหนดสาหรับนักเรยี นในแต่ละช่วงช้ัน

สมรรถนะสาคัญในโลกปจั จบุ ัน

ซ่งึ เปน็ โลกท่เี ปล่ยี นแปลง และพลกิ ผันอยา่ งรวดเรว็ (VUCA World)

VUCA โลกที่วนุ่ วาย ซับซ้อน เปลย่ี นผนั อย่างรวดเรว็

ก่อให้เกดิ เหตกุ ารณ์ เรอื่ งราว
หรือปญั หาทไี่ มค่ ุ้นเคย ไมค่ าดคดิ มากมาย

สอน/เรียนออนไลน.์ ..อย่างไรใหร้ อด ตกงาน ของแพง...ทาอย่างไรใหร้ อด

ทาอย่างไร...ใหร้ อดจากโควดิ

ตัวอยา่ งสมรรถนะและทักษะสาคัญในศตวรรษท่ี 21

ทักษะผเู้ รียนแห่งศตวรรษที่ 21 โดย The partnership for

21st century skills (P21)

4 สมรรถนะสาคัญของ •การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาน
ผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 • การคิดเชงิ สร้างสรรค์
• การทางานเปน็ ทีม
• การสอ่ื สาร

ตวั อย่างสมรรถนะและทกั ษะสาคัญในศตวรรษท่ี 21

ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21

5 สมรรถนะสาคญั สาหรับโลก
หลังการเกดิ โรคระบาด

การปรบั ตัว
การคดิ สร้างสรรค์
การคดิ วเิ คราะห์
การฟืน้ ตวั จากสภาวะยากลาบาก
การจดั การตนเอง

8 ทกั ษะดิจทิ ลั ที่ตอ้ งมีเพ่อื พัฒนา “ความฉลาดรทู้ างดจิ ทิ ลั ”

• การสร้างและจดั การในการระบตุ ัวตนด้วยความซือ่ สตั ย์
ท้ังในโลกออนไลน์และออฟไลน์

• การจดั การเวลาในโลกออนไลน์
• การจัดการการกลน่ั แกลง้ ในโลกไซเบอร์
• การจดั การความปลอดภยั และการปกปอ้ งขอ้ มลู
• การจัดการข้อมลู ส่วนบคุ คลทีเ่ ผยแพรใ่ นโลกออนไลน์

เพื่อปกปอ้ งความเปน็ ส่วนตัว
• การคดิ วเิ คราะห์ จาแนกข้อมูลจรงิ และเท็จ
• การจัดการร่องรอย/ข้อมูลทางดิจิทัล
• การแสดงออกถึงความใส่ใจในความรู้สึกของตนเองและ

ผู้อ่นื ในโลกออนไลน์

ทักษะสาคญั ในศตวรรษที่21

• ความร้ดู า้ น IT Hard Soft • ทกั ษะการสื่อสาร
• ทักษะภาษา Skill Skill • การทางานเปน็ ทมี
• การวิเคราะห์ข้อมลู • การแก้ไขปัญหาที่ซบั ซอ้ น

Meta Skill

• การรจู้ กั หรือเขา้ ใจตนเอง
• ความคิดสร้างสรรค์
• ความยดื หยนุ่ ทางความคดิ

ตวั อย่างสมรรถนะสาคัญที่ประเทศต่างๆ
กาหนดในหลักสตู รการศึกษาของชาติ

สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลใี ต้ แคนาดา เครือรัฐออสเตรเลยี
• การตระหนักรตู้ นเอง • การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ • การรู้หนงั สอื
• การจดั การตนเอง • ความสามารถในการจดั การตนเอง • การคิดแกป้ ัญหา • ทกั ษะการคดิ
• การตระหนักรทู้ างสงั คม • การจัดการขอ้ มลู สารสนเทศ • ความคดิ สร้างสรรค์
• การจดั การด้านความสมั พนั ธ์ • ความสามารถในการประมวลความรู้และ • การคดิ สรา้ งสรรค์และนวตั กรรม • การจัดการตนเอง
• การตัดสนิ ใจทีม่ ีความรบั ผดิ ชอบ • การส่อื สาร • การทางานเปน็ ทมี
ข้อมูลสารสนเทศ • • การร่วมมือ • ความเข้าใจระหวา่ งวฒั นธรรม
นิวซีแลนด์ • สมรรถนะทางวฒั นธรรมและ • คุณธรรม จริยธรรมและ
• การใช้ภาษา สัญลกั ษณ์และข้อความ ความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์ การเปน็ พลโลก ความสามารถทางสังคม
• การจัดการตนเอง • การเจรญิ เติบโตและมีความ • การรู้เร่อื งจานวน
• ความสมั พนั ธก์ บั ผอู้ ื่น • ความสามารถดา้ นสุนทรียศาสตรท์ าง เปน็ อยู่ทด่ี ี • เทคโนโลยีสารสนเทศ
• การมสี ว่ นรว่ มและจิตสาธารณะ
• การคิด อารมณ์

• ความสามารถในการสอ่ื สาร

• ความสามารถในการเป็นพลเมือง

สมรรถนะสาคัญ/สมรรถนะหลกั ท่กี าหนดในหลักสตู รของไทย

หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 (รา่ ง) กรอบหลกั สูตรการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ. ...

การจัดการตนเอง (Self- การคิดขน้ั สูง Higher Order
Management) Thinking

การเปน็ พลเมือง สมรรถนะหลกั การสอ่ื สาร
ทเ่ี ขม้ แข็ง (Active ของผู้เรียน (Communication)

Citizen)

การรวมพลงั ทางานเปน็ ทีม การอยู่ร่วมกบั ธรรมชาตแิ ละ
(Teamwork & วทิ ยาการอยา่ งย่งั ยืน
Collaboration)

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พ.ศ. 2551 วิเคราะห์สมรรถนะสาคัญ/สมรรถนะหลกั ท่ี
กาหนดในหลกั สตู รของไทย
ความสามารถในการสื่อสาร
ความสามารถในการคิด (รา่ ง) กรอบหลักสูตรการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พ.ศ. ...

ความสามารถในการแก้ปัญหา สมรรถนะการคิดขนั้ สงู
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต สมรรถนะการสื่อสาร
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สมรรถนะการจดั การตนเอง
สมรรถนะการรวมพลงั ทางานเป็นทีม
สมรรถนะการเป็นพลเมืองทเ่ี ข้มแขง็
สมรรถนะการอยู่รว่ มกบั ธรรมชาติ
และวิทยาการอย่างย่งั ยนื

การนารายละเอยี ดของสมรรถนะหลัก
ใน (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พ.ศ. ... มาใชป้ ระโยชน์

หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน 2551 (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พ.ศ. ...

นยิ ามสมรรถนะสาคัญแต่ละด้าน กาหนดเปน็ นยิ ามสมรรถนะ
เปา้ หมายในการ
ใหส้ ถานศกึ ษาและครผู ู้สอนบูรณาการในหลักสตู รและการ พฒั นาผ้เู รยี น กาหนดองค์ประกอบของสมรรถนะ
จัดการเรยี นรตู้ ามที่เห็นเหมาะสม
กาหนดระดบั พัฒนาการ 10 ระดบั

ระบุพฤตกิ รรมบง่ ชีข้ องแต่ละองค์ประกอบ ตาม
ระดับพฒั นาการ 10 ระดบั

แตล่ ะช่วงช้นั (3 ปี) กาหนดระดบั
ความสามารถผูเ้ รียนไว้ 4 ระดับ

สมรรถนะตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ทต่ี อ้ งพฒั นา

สมรรถนะหลัก (Core Competency) สมรรถนะเฉพาะ (Specific Competency)

• ภาษาไทย
• คณติ ศาสตร์
• สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา
• ศลิ ปะ
• ภาษาอังกฤษ
• สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
• วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• การงานอาชีพ

การใชป้ ระโยชนจ์ ากสมรรถนะหลัก (Core Competency)
ที่มีการกาหนดรายละเอียด

สมรรถนะการคดิ ขัน้ สูง (Higher Order Thinking : HOT)

นยิ าม องคป์ ระกอบ

สามารถคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และตัดสินใจอย่างมี 1. การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ
วจิ ารญาณบนหลักเหตุผลอย่างรอบดา้ น โดยใชค้ ุณธรรม (Critical Thinking : HOT-CTC)
กากบั การตัดสินใจได้อยา่ งมวี ิจารณญาณ มคี วามสามารถ
คดิ อย่างเปน็ เหตุเปน็ ผล ดว้ ยความเข้าใจถงึ ความเชือ่ มโยง 2. การคิดเชิงระบบ
ของสรรพสง่ิ ทีอ่ ยู่รว่ มกันอยา่ งเปน็ ระบบ ใชจ้ ินตนาการและ (System Thinking : HOT-STM)
ความรสู้ ร้างทางเลอื กใหม่ เพ่ือแก้ปญั หาท่ีซับซ้อนไดอ้ ยา่ งมี
เปา้ หมาย 3. การคดิ สร้างสรรค์
(Creative Thinking : HOT-CRT)

4. การคดิ แก้ปญั หา
(Problem Solving Thinking : HOT-PRB)

- ระดับสมรรถนะการคิดขนั้ สงู -

ระดับการพัฒนา ระดบั ความสามารถ

ระดบั คาบรรยายระดับ ป.1-3 ป.4-6 ม.1-3 ม.4-6

ตั้งคาถามหรือระบุปญั หาอย่างง่ายจากการสังเกตส่ิงต่าง ๆ รอบตัวสถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวัน สังเกต จาแนก สารวจ วางแผน

1 รวบรวมข้อมูลหรือทรัพยากร สรุปข้อมูล และเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้อย่างอิสระ เร่มิ ตน้

ตลอดจนสามารถผลิตผลงานอย่างง่ายโดยอาศยั ต้นแบบ

ต้ังคาถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวัน สังเกต จาแนก หรือระบุ

2 ความสัมพันธ์ของส่ิงที่เก่ียวข้องกับปรากฏการณ์หรือสถานการณ์นั้น ๆ ได้ สามารถสารวจ วางแผน รวบรวมข้อมูลหรือทรัพยากร สรุปข้อมูล กาลงั
และเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ พร้อมแสดงเหตุผลและประเมินความเหมาะสมของคาตอบ สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้ พฒั นา

อย่างคล่องแคลว่ หลายประเภทและหลายทศิ ทาง ตลอดจนสามารถผลิตผลงานอยา่ งงา่ ยโดยอาศยั ตน้ แบบ

ตั้งคาถามหรือระบุปัญหาอย่างง่ายจากการสังเกตส่ิงต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวัน สังเกต จาแนก หรือระบุ

ความสัมพันธ์ของส่ิงท่ีเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์หรือสถานการณ์น้ัน ๆ ได้ สามารถสารวจ วางแผน รวบรวมข้อมูลหรือทรัพยากร แปล

3 ความหมายข้อมลู ดว้ ยหลักฐานเชิงประจักษ์ และสรปุ ขอ้ มูล เพอ่ื เปรยี บเทียบ ประเมิน ตัดสินใจ หรือเสนอแนวทางแก้ปัญหาอย่างง่ายได้ พร้อม สามารถ เร่ิมต้น

แสดงเหตุผล โดยคานึงถึงความเหมาะสมของการออกแบบวิธีการแก้ปัญหา สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้อย่างคล่องแคล่ว

หลากหลาย โดยใชค้ วามคิดท่ีแปลกใหม่ที่ไม่ซ้าใคร ตลอดจนสามารถผลิตผลงานตามจนิ ตนาการโดยอาศัยต้นแบบ

ตั้งคาถามหรือระบุปัญหาอยา่ งง่ายจากการสังเกตส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวันโดยละเอียดหรือจากผลท่ีไม่

คาดคิดมาก่อน สามารถวางแผนและดาเนินการสารวจตรวจสอบโดยใช้เคร่ืองมือหรือเทคโนโลยีพ้ืนฐาน เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลพื้นฐานท่ีใช้เป็ น

4 หลักฐาน เลือกวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งประเมินความถูกต้องและข้อจากัดของข้อมูล วิเคราะห์และจัดลาดับสาเหตุของปัญหา โดย เหนอื ความ กาลัง
สามารถรวบรวมปัจจัยอ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้องกับปัญหาหรือสถานการณ์ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลของปัจจัยต่าง ๆ สามารถ คาดหวัง พฒั นา

จินตนาการและเสนอความคิดไดอ้ ย่

- พฤตกิ รรมบ่งชี้ตามระดับสมรรถนะการคดิ ขนั้ สงู -

ระดับ คาบรรยายระดับ พฤตกิ รรมบ่งชี้

ด้านการคดิ ด้านการคดิ ดา้ นการคดิ สร้างสรรค์ ด้านการคดิ แกป้ ญั หา
อยา่ งมวี ิจารณญาณ เชงิ ระบบ

ต้งั คาถามหรอื ระบปุ ญั หาอยา่ งงา่ ยจากการ - สรุปความเขา้ ใจ - อธบิ ายองคป์ ระกอบ - บอกเล่าความคิดของ - ระบปุ ัญหาอยา่ ง

สังเกตสง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั สถานการณ์ หรือ ของตนเกี่ยวกบั ทีเ่ กี่ยวข้องกบั ตนเองหรือจนิ ตนาการ ง่าย อธิบายลกั ษณะของ

ปรากฏการณใ์ นชีวิตประจาวนั สังเกต เร่อื งน้นั ได้ สถานการณ์ ที่แปลกใหม่ไปจากส่ิง ปญั หา ออกแบบวธิ ี

จาแนก สารวจ วางแผน รวบรวมข้อมูลหรือ จากการตงั้ คาถาม ทสี่ ามารถสงั เกตได้ รอบตวั ไดห้ ลายความคดิ แก้ปญั หาและลงมือ

ทรัพยากร สรปุ ข้อมลู และเสนอแนวทาง การฟัง/ อ่านขอ้ มูล อย่างชัดเจน และรวดเร็ว แก้ปญั หาดว้ ยตนเองจน

1 แกป้ ญั หาอยา่ งงา่ ยได้ สามารถจินตนาการ เรือ่ งราว และอธบิ าย - ทาผลงานท่ีเปน็ ชิน้ งาน ปัญหาได้รับการแกไ้ ข

และเสนอความคดิ ไดอ้ ย่างอสิ ระ ตลอดจน - อธิบายเหตผุ ล ความสมั พันธ์ระหวา่ ง โดยอาศัยต้นแบบ และ/ ภายใต้คาการดแู ลของ

สามารถผลติ ผลงานอยา่ งง่ายโดยอาศัย ในการตดั สินใจ องค์ประกอบ หรือ แตกต่างจากตน้ แบบ ผู้ใหญ่

ต้นแบบ ในเร่อื งตา่ ง ๆ โดยการพูด เขยี น ภายใตเ้ งอื่ นไขง่ายๆ ให้

ในชวี ติ ประจาวัน แผนภาพหรอื รายละเอียดของงานหรอื

ของตน แผนผัง วาดภาพ ความคดิ อยา่ งง่ายได้

เคลอ่ื นไหวร่างกาย

- พฤติกรรมบง่ ช้ตี ามระดบั สมรรถนะการคดิ ขนั้ สูง -

ระดับ คาบรรยายระดับ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี

ตง้ั คาถามหรือระบปุ ญั หาอยา่ งง่ายจากการ ด้านการคดิ ดา้ นการคิด ดา้ นการคิดสรา้ งสรรค์ ด้านการคดิ แก้ปญั หา
สังเกตสงิ่ ต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ เชงิ ระบบ
ปรากฏการณ์ในชวี ติ ประจาวนั สังเกต จาแนก
หรือระบุความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั - สรปุ ความเขา้ ใจของ - อธบิ ายองคป์ ระกอบ - บอกเล่าความคดิ ของ - ระบุปัญหาอย่างงา่ ย
ปรากฏการณห์ รือสถานการณ์นั้น ๆ ได้
สามารถสารวจ วางแผน รวบรวมขอ้ มลู หรือ ตน และแสดงความ ท่ีเกยี่ วข้องกับสถานการณ์ ตนเองหรือจนิ ตนาการ หาสาเหตุของปญั หา

2 ทรัพยากร สรปุ ข้อมูล และเสนอแนวทาง คดิ เห็นเกยี่ วกับเรอ่ื ง ท่ีสามารถสงั เกตได้อย่าง ท่แี ปลกใหม่ไปจากสงิ่ รอบตัว และวิธกี ารแก้ไขปัญหา
แก้ปัญหาอย่างงา่ ยได้ พรอ้ มแสดงเหตผุ ลและ
ประเมนิ ความเหมาะสมของคาตอบ สามารถ นัน้ ได้ จากการตงั้ ชดั เจน และอธบิ าย ไดอ้ ยา่ งหลากหลายและ ออกแบบวิธแี ก้ปญั หา
จินตนาการและเสนอความคิดได้อยา่ ง
คลอ่ งแคล่ว หลายประเภทและหลายทศิ ทาง คาถาม การฟัง/ อา่ น ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง รวดเร็วในเวลาท่กี าหนด และลงมอื แกป้ ัญหา
ตลอดจนสามารถผลิตผลงาน
อย่างงา่ ยโดยอาศัยตน้ แบบ ข้อมลู เร่อื งราว องคป์ ระกอบ โดยการพดู - ทาผลงานทเี่ ป็นชิน้ งาน ด้วยตนเอง จนปญั หา

- อธบิ ายเหตุผล เขียนแผนภาพหรือแผนผงั หรือวิธกี ารโดยอาศยั ได้รบั การแก้ไขภายใต้

ในการตดั สนิ ใจ วาดภาพ เคลือ่ นไหว ต้นแบบ และ/หรอื แตกตา่ ง การแนะนาของผู้ใหญ่

ในเรอ่ื งต่าง ๆ ใน รา่ งกาย จากตน้ แบบ ภายใตเ้ งอ่ื นไข

ชวี ติ ประจาวันของตน ง่าย ๆ ให้รายละเอียดของ

งานหรือความคดิ อย่างง่ายได้

และสามารถนาไปใช้จรงิ ใน

ชีวิตประจาวนั

- พฤติกรรมบ่งชีต้ ามระดบั สมรรถนะการคิดขัน้ สูง -

ระดับ คาบรรยายระดับ พฤติกรรมบง่ ช้ี

ด้านการคิด ดา้ นการคดิ ด้านการคิดสรา้ งสรรค์ ด้านการคิดแก้ปัญหา
อยา่ งมวี จิ ารณญาณ เชิงระบบ

ตั้งคาถามหรือระบุปญั หาอยา่ งง่ายจากการสงั เกตส่ิง - สรุปความเข้าใจ - อธิบายองคป์ ระกอบ - บอกเล่าความคดิ ของ - ระบปุ ัญหาอย่างงา่ ย

ต่าง ๆ รอบตัว สถานการณ์ หรือปรากฏการณ์ใน ของตน และแสดง ท่สี ามารถสงั เกตได้ ตนเองหรอื จินตนาการ หาสาเหตขุ องปญั หา

ชีวิตประจาวนั สังเกต จาแนก หรอื ระบุ ความคิดเห็นอยา่ งมี อยา่ งชัดเจนตาม ที่แปลกใหม่ไปจากสิ่งรอบตวั และวิธีการแกไ้ ขปญั หา

ความสัมพันธข์ องสิ่งทเี่ กยี่ วขอ้ งกับปรากฏการณ์ เหตผุ ลเกยี่ วกับเรอ่ื ง ข้อเทจ็ จริงท่มี ี และ ได้อยา่ งหลากหลายและ ออกแบบวธิ แี ก้ปัญหาท่ีมี

หรอื สถานการณ์นน้ั ๆ ได้ สามารถสารวจ วางแผน น้ันได้ จากการตั้ง ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง รวดเรว็ ในเวลาท่ีกาหนด ความเป็นไปได้จรงิ

รวบรวมขอ้ มลู หรือทรพั ยากร แปลความหมาย คาถาม การฟัง/ อ่าน องค์ประกอบท่ี - ทาผลงานทเี่ ป็นชิน้ งาน ในทางปฏบิ ตั ิ

3 ขอ้ มูลดว้ ยหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ และสรุปข้อมูล ข้อมลู เรือ่ งราว เกี่ยวข้องกับ หรอื วธิ ีการทีม่ ีรายละเอยี ด และลงมอื แกป้ ญั หาด้วย
เพอื่ เปรียบเทียบ ประเมิน ตัดสินใจ หรอื เสนอ - อธบิ ายเหตผุ ลและ สถานการณ์ โดยใช้การดดั แปลงจาก ตนเอง จนปัญหาได้รบั

แนวทางแกป้ ญั หาอย่างง่ายได้ พรอ้ มแสดงเหตผุ ล ความเหมาะสมในการ โดยการพูด เขยี น ความคดิ เดิม สิง่ ท่มี ีอยู่ หรือ การแกไ้ ข ภายใตก้ าร

โดยคานงึ ถึงความเหมาะสมของการออกแบบวธิ ีการ ตัดสนิ ใจในเรื่อง แผนภาพหรอื แผนผัง นาสง่ิ อืน่ มาทดแทนสิง่ ที่ ติดตามของผู้ใหญ่

แกป้ ญั หา สามารถจินตนาการและเสนอความคิดได้ ตา่ งๆ ใชวี ติ ประจาวนั วาดภาพ เคลือ่ นไหว ขาดได้ในเวลาทก่ี าหนด

อยา่ งคลอ่ งแคลว่ หลากหลาย โดยใชค้ วามคิดที่ ของตน รา่ งกาย และสามารถนาไปใช้จรงิ

แปลกใหมท่ ไ่ี ม่ซา้ ใคร ตลอดจนสามารถผลติ ผลงาน ในชวี ิตประจาวัน

ตามจินตนาการโดยอาศยั ต้นแบบ

องคป์ ระกอบสมรรถนะเฉพาะ (กลมุ่ สาระการเรยี นรู้)

ประกอบด้วย Knowledge K

ความรู้

ทักษะ Skills S

เจตคต/ิ Attitudes/Values A
คา่ นยิ ม

ของแต่ละกลมุ่ สาระการเรียนรทู้ ่ีกาหนดสาหรับนักเรยี นในแต่ละช่วงช้ัน

การจัดการเรยี นรเู้ ชิงรกุ (Active Learning) คือ การสร้างสมรรถนะ

กระตุ้นคดิ ให้ แสวงหาความรู้ ลงมือปฏิบตั จิ รงิ และ
อยากเรยี นรู้ และฝึกปฏิบตั ิ สะท้อนคิด

A K SA SKA

ปรับ ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้และ สื่อสารผลการปฏิบัติ
เผยแพร่
ASK
KSA

การจดั การเรียนรูเ้ ชงิ รกุ (Active Learning) คอื การสรา้ งสมรรถนะ

กระตุ้นคิดให้ แสวงหาความรู้ ลงมอื ปฏิบัติจรงิ และ
อยากเรียนรู้ และฝึกปฏบิ ตั ิ สะทอ้ นคิด

A K SA สมรรถนะเฉพาะ/หลัก

ปรับ ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรแู้ ละ ส่อื สารผลการปฏิบตั ิ
เผยแพร่ สมรรถนะหลัก

สมรรถนะเฉพาะ/หลัก

เราจะพฒั นาสมรรถนะผู้เรยี นได้อย่างไร

สมรรถนะหลัก
สมรรถนะเฉพาะ

เราสามารถพฒั นาสมรรถนะผู้เรยี นได้

ด้วยการจดั การเรยี นรฐู้ านสมรรถนะ
(Competency-Based Learning: CBL)

เพราะเป็นกระบวนการท่มี เี ปา้ หมายในการ

พัฒนาสมรรถนะของผูเ้ รียน เพื่อให้ผเู้ รียน สามารถ
พร้อมรับและเผชิญกบั การเปลีย่ นแปลงตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม ตอบโจทยค์ วามต้องการของประเทศ และ
พฒั นาตนเองได้อย่างเตม็ ศกั ยภาพ ตามความสนใจ
และความถนดั ของตน

- หลกั การจดั การเรียนรฐู้ านสมรรถนะ -

Competency-Based Self-directed Learning

กาหนดสมรรถนะและผลลพั ธก์ ารเรยี นรูเ้ ป็น เสรมิ สร้างคณุ ลักษณะ สร้างแรงจงู ใจ และแรง
เป้าหมาย มุ่งเนน้ การพัฒนาความสามารถการ บันดาลใจ กระตนุ้ ความสนใจใฝร่ ู้ เพ่ือใหผ้ ้เู รยี น
ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ ทกั ษะ เจตคติ คา่ นิยมในการ สามารถกากับการเรยี นรขู้ องตนเองได้ ตามความ
ปฏิบตั ิงาน แก้ปญั หาและใช้ชีวิต ถนัดและความสามารถของตน

Active Learning Assessment as Learning

จัดการเรียนรู้เชิงรกุ ตอบสนองความแตกตา่ งของ ให้ผู้เรยี นไดป้ ระเมนิ การเรียนรู้ของตนเองระหวา่ งเรียน
ผเู้ รยี น เน้นการปฏบิ ตั ิ เอือ้ ให้เกดิ การเรียนรูแ้ ละ
การฝกึ ฝนแกป้ ญั หา นาไปสูส่ มรรถนะ เพอ่ื ปรบั ปรงุ วธิ ีเรียนร้แู ละ ผลการ

Integration เรยี นรู้ของตน

เชอื่ มโยงกบั ชีวติ จรงิ ใชป้ ระโยชน์ Feedback
ในสถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิต ส่งเสริมการใชค้ วามรู้
ขา้ มศาสตรอ์ ย่างบูรณาการ ให้ขอ้ มลู ป้อนกลบั แก่ผูเ้ รยี น เพ่ือการปรบั ปรงุ
พัฒนาและให้ความชว่ ยเหลอื ตามความต้องการของ
ผู้เรยี น

ท่านคดิ วา่ สามารถพฒั นา
สมรรถนะสาคญั ในการจัดการเรียนการ
สอนในสถานศึกษาได้มากนอ้ ยเพียงใด?

แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผูเ้ รียน

ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551

โรงเรยี นบ้านห้วยไคร้
สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 2

โดย ดร.สุทัด จนั ทะสินธุ์

ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นห้วยไคร้

แนวทางการพฒั นาสมรรถนะผ้เู รียน

สมรรถนะหลกั (Core Competency) สมรรถนะเฉพาะ (Specific Competency)

• ภาษาไทย
• คณิตศาสตร์
• สขุ ศึกษา พลศึกษา
• ศิลปะ
• ภาษาองั กฤษ
• สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
• วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
• การงานอาชพี

วิเคราะหส์ มรรถนะสาคญั /สมรรถนะหลกั ท่ีกาหนดในหลกั สตู รของไทย

หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พ.ศ. 2551 (รา่ ง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พ.ศ. ...

ความสามารถในการส่อื สาร สมรรถนะการคิดขัน้ สงู
ความสามารถในการคิด สมรรถนะการส่อื สาร
สมรรถนะการจัดการตนเอง
ความสามารถในการแก้ปญั หา สมรรถนะการรวมพลงั ทางานเป็นทมี
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ สมรรถนะการเปน็ พลเมืองทเี่ ข้มแขง็
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สมรรถนะการอยรู่ ่วมกับธรรมชาติ
และวทิ ยาการอย่างยัง่ ยนื

การนารายละเอยี ดของสมรรถนะหลกั
ใน (ร่าง) กรอบหลักสตู รการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พ.ศ. ... มาใช้ประโยชน์

หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน 2551 (รา่ ง) กรอบหลักสตู รการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พ.ศ. ...

นิยามสมรรถนะสาคญั แต่ละด้าน นิยามสมรรถนะ
ใหส้ ถานศึกษาและครผู ู้สอนบูรณาการในหลักสูตรและการ กาหนดองค์ประกอบของสมรรถนะ

จัดการเรยี นรู้ตามทีเ่ หน็ เหมาะสม กาหนดระดับพฒั นาการ 10 ระดับ

กาหนดเปน็ ระบพุ ฤติกรรมบ่งชี้ของแต่ละองคป์ ระกอบ ตาม
เปา้ หมายในการ ระดบั พัฒนาการ 10 ระดับ
พฒั นาผ้เู รยี น
แตล่ ะชว่ งชัน้ (3 ปี) กาหนดระดับ
ความสามารถผู้เรยี นไว้ 4 ระดบั

การนารายละเอยี ดของสมรรถนะหลกั
ใน (ร่าง) กรอบหลกั สูตรการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พ.ศ. ... มาใช้ประโยชน์

• เพอื่ พัฒนาสมรรถนะทส่ี าคัญของผเู้ รียน ❑ กาหนดสมรรถนะ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา
ตามนโยบาย ขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551

• สถานศกึ ษาสามารถพิจารณากาหนด ❑กาหนดสมรรถนะตามความพร้อม หรอื จดุ เน้นของ
สมรรถนะสาคญั ทตี่ อ้ งการพัฒนาผู้เรยี น สถานศกึ ษา
ดังนี้
❑ ใหค้ รูผสู้ อนเลอื กกาหนดสมรรถนะ ตามลักษณะวชิ าที่
สอน ความพร้อม และความสนใจ

หากท่านจะตอ้ งแนะนาครเู รื่องการกาหนดสมรรถนะ
เพือ่ นามาพัฒนานักเรยี นในรายวชิ าท่ีสอน
ทา่ นจะใหค้ าแนะนาอย่างไร เพราะเหตใุ ด

หลกั การสาคญั ในการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน

1. ทาได้หลายรูปแบบ ทงั้ พัฒนาผา่ นกิจกรรมในชีวิตประจาวันหรือกจิ กรรมท่ี
เป็นกจิ วตั รในโรงเรยี น กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน และกิจกรรมการเรียนรใู้ นห้องเรยี น

2. สามารถพัฒนาผา่ นการเรยี นการสอนในทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้ (แมอ้ าจจะ
พฒั นาได้ไม่เท่ากนั ) และสามารถพัฒนาผา่ นประเดน็ หรอื เนอ้ื หาทเ่ี ปน็ เรอ่ื งราวเหตกุ ารณ/์
ประเดน็ สาคัญ ในปจั จุบนั

3. การออกแบบกจิ กรรมเพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน อาจจะผสานและบรู ณาการ
หลาย ๆ สมรรถนะ ท้งั ทีเ่ ปน็ สมรรถนะย่อยในสมรรถนะหลักน้ัน หรอื สมรรถนะย่อยใน
สมรรถนะหลักอ่นื ๆ

หลักการออกแบบกิจกรรมเพือ่ พฒั นาสมรรถนะผู้เรียน

1. ความรู้ (K) ท่จี าเปน็ และเพียงพอต่อการเกดิ สมรรถนะที่ตอ้ งการ ซ่งึ เลือกมาจากเน้ือหาสาระ มโนทศั นข์ องศาสตร์
สาขาวิชาตา่ ง ๆ

2. ทักษะ (S) ทจ่ี าเปน็ ตอ่ การเกิดสมรรถนะทีต่ อ้ งการ ซง่ึ เลอื กมาจากทัง้ ทกั ษะสาคญั ของศาสตร์สาขาวิชาตา่ ง ๆ และทักษะท่ี
เป็นองค์ประกอบหลกั ของสมรรถนะ

3. เจตคติ คุณลกั ษณะนสิ ยั แรงจงู ใจ ฯลฯ (A) ท่ีจาเป็นตอ่ การเกดิ สมรรถนะ
4. สถานการณต์ ่าง ๆ ทจ่ี ะนาสมรรถนะทีต่ อ้ งการไปใช้

หลังจากน้ันจึงเลือกพฤติกรรมตามระดบั สมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะ เพ่ือออกแบบผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ (Learning
Outcomes) และออกแบบประสบการณ์การเรยี นรู้ (Learning Experiences) ทจ่ี ะทาใหผ้ ูเ้ รียนได้เรยี นรแู้ ละ เกิดความรู้ ทกั ษะ เจต
คติ/คุณลักษณะ และสามารถนาความรู้ทักษะ เจตคติ/ คณุ ลกั ษณะไปใช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ

กรณีศกึ ษา
แนวทางการพฒั นาสมรรถนะผู้เรยี น

แนวทางการพฒั นาสมรรถนะของผเู้ รียน : กรณีศกึ ษาที่ 1

ครนู ิดสอนรายวิชาภาษาไทยชั้น ป.2 ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 51

• ครูนิดได้จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ หรือแผนการสอนตามรายวชิ าที่สอนอยูแ่ ลว้
• เมื่อมีนโยบายใหจ้ ดั การเรียนรู้เพอื่ พัฒนาสมรรถนะผู้เรยี น ครูนิดจึงได้ใช้วธิ ศี ึกษาว่า ในจดุ ประสงค์การเรยี นรู้วชิ า
ภาษาไทยทส่ี อนจะช่วยพฒั นาสมรรถนะใดไดบ้ า้ ง
• ครูนิดพบวา่ สมรรถนะการสื่อสาร และสมรรถนะการคดิ น่าจะพัฒนาผา่ นการเรียนภาษาไทยไดด้ ีทส่ี ุด จงึ ได้ศึกษาและเลอื ก
พฤตกิ รรมบ่งช้ขี องสมรรถนะการคดิ และการสื่อสารในระดบั ทเ่ี หมาะสมกับชัน้ และวยั ผู้เรยี น มาเขยี นเพ่ิมในจุดประสงคก์ าร
เรียนรใู้ นแผนการสอนเดิม แลว้ ตรวจสอบว่า กจิ กรรมและสอ่ื ทก่ี าหนดไวเ้ ดิมในแผน มีสว่ นท่ใี ห้ผเู้ รยี นได้ฝึกและแสดง
พฤตกิ รรมของสมรรถนะดังกล่าวหรือไม่ ถ้าไม่มีก็เพม่ิ เตมิ ในกจิ กรรม และดาเนินการวดั และประเมินตามจดุ ประสงคท์ ไ่ี ดป้ รบั
ใหม่ใหค้ รบถว้ น

แนวทางการพัฒนาสมรรถนะของผเู้ รียน : กรณีศกึ ษาท่ี 2

ครูชบาสอนสงั คมศกึ ษาชนั้ ป.3

• ครูชบาตอ้ งการพัฒนาสมรรถนะดา้ นการคิดและการทางานเปน็ ทมี ของผูเ้ รยี น
• ครูชบาเหน็ ว่า การฝึกสมรรถนะสามารถทาไดเ้ ลย จึงตรวจสอบและวิเคราะห์กจิ กรรมในแผนการสอนของตน และเพิม่ เติม
สถานการณท์ ่ผี ูเ้ รยี นต้องใช้กระบวนการทางานเป็นทีม และกระบวนการคิดลงไปในกิจกรรมทกี่ าหนดไว้เดมิ โดยเลอื กเตมิ
กระบวนการการทางานเปน็ ทีมและการคิด ตามพฤตกิ รรมบ่งชี้ทีร่ ะบุไว้ในองค์ประกอบของสมรรถนะดงั กล่าว
• จากนัน้ ครูชบาปรบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ใหค้ รอบคลมุ สมรรถนะ และเพ่มิ วิธวี ัดและประเมนิ ผลสมรรถนะเพิม่ เข้าไปดว้ ย

แนวทางการพัฒนาสมรรถนะของผเู้ รยี น : กรณศี ึกษาท่ี 3

ครูนาโชค สอนวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ป.5

• ครูนาโชคเห็นวา่ ซึ่งแผนการสอน และกระบวนการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ กเ็ นน้ ทกั ษะกระบวนการ ซง่ึ ตรงกบั สมรรถนะการ
คดิ ขัน้ สงู ในด้านการคดิ แกป้ ญั หา การคดิ เชงิ ระบบ และการสื่อสารอย่แู ล้ว
• ครูนาโชคเห็นว่า การสอนโดยใช้รูปแบบโครงงาน นา่ จะเปน็ แนวทางท่เี หมาะสมกับจุดประสงค์การเรยี นรูข้ องรายวิชา จึง
กาหนดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชโ้ ครงงาน แลว้ ดวู า่ ในแตล่ ะขั้นตอนของโครงงาน สามารถนาพฤติกรรมบง่ ชีข้ องสมรรถนะ
การคดิ และสมรรถนะการสือ่ สารในองคป์ ระกอบดา้ นใด ระดบั ใดมาบูรณาการได้
• จากนั้น ครูนาโชคออกแบบกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ีจะช่วยพัฒนาสมรรถนะท่ีกาหนดไว้ และปรับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และ
การวดั ประเมนิ ผลให้ครอบคลุมสมรรถนะ

แนวทางการพฒั นาสมรรถนะของผเู้ รยี น : กรณศี ึกษาที่ 4

ครูสตารส์ อนวชิ าภาษาอังกฤษ ชนั้ ป.4

• ครูสตารเ์ ห็นว่า วิชาภาษาอังกฤษเปน็ วชิ าทีเ่ นน้ การฝึกทักษะอยู่แล้ว เมือ่ มนี โยบายใหม้ กี ารพัฒนาสมรรถนะผ้เู รียน จึง
ต้องการนาสมรรถนะมาจัดการเรยี นรู้ผา่ นรายวิชาภาษาอังกฤษทีต่ นสอนโดยตรง

• ครูสตารก์ าหนดสมรรถนะที่จะพฒั นาผเู้ รยี น เป็นสมรรถนะการสือ่ สาร และการคิด

• ครสู ตาร์ศึกษานิยามและระดบั สมรรถนะการสื่อสารและการคดิ พบวา่ ระดบั ทส่ี อดคลอ้ งกบั ความสามารถของนกั เรียน คือ
ระดับที่ 5 จงึ ไปเลอื กพฤติกรรมบง่ ชี้ของทงั้ 2 สมรรถนะในระดับดังกลา่ วทจ่ี ะพฒั นาผเู้ รียนไว้

• ครสู ตารเ์ ลือกตวั ชว้ี ดั และเนอ้ื หาท่ีสอดคลอ้ งกบั พฤตกิ รรมบง่ ช้ีของสมรรถนะท่ีเลอื กไว้ แลว้ กาหนดหัวเรอ่ื ง ความรู้ ทกั ษะ
เจตคตทิ ต่ี ้องการใหเ้ กิดกบั ผูเ้ รียน และนามาเขียนจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูใ้ หค้ รอบคลุมสมรรถนะทก่ี าหนด

• ครูสตาร์ออกแบบกจิ กรรมท่ีเอื้อให้นักเรยี นไดฝ้ ึกฝน แสดงพฤติกรรมตามสมรรถนะท่กี าหนด ส่งเสรมิ ให้นักเรียนได้ใช้
ความรู้ ทกั ษะและเจตคติในการปฏบิ ัตใิ นสถานการณต์ ่างๆ

• ครสู ตาร์ประเมินผล โดยเน้นประเมนิ การปฏบิ ัติของผเู้ รียนในสถานการณ์ทกี่ าหนด

แนวทางการพฒั นาสมรรถนะของผเู้ รียน : กรณศี กึ ษาที่ 5

ครตู ิน๊ าสอนภาษาไทย สขุ ศึกษาและการงานอาชพี

• จากประสบการณ์ ครูติ๊นาพบวา่ รายวชิ าที่สอน มีเนื้อหาทม่ี ีความซา้ ซ้อนกัน และหลายสว่ นเชอื่ มโยงกนั จงึ ควรจดั การ
เรยี นการสอนแบบบูรณาการ
• ครตู ิ๊นาจงึ ศึกษาสมรรถนะ และวิเคราะห์ K S A ของตวั ชวี้ ัดทกุ รายวิชาที่สอน เพ่ือดคู วามสัมพนั ธ์ เชอื่ มโยงกัน
• ครตู น๊ิ ากาหนดหน่วยการเรียนรูท้ เี่ ช่ือมโยงเนื้อหาการเรยี นรู้ ประเด็นรว่ มสมัยทผ่ี เู้ รียนสนใจเหมาะสมกบั วยั ของผ้เู รยี น
• ครตู ิ๊นากาหนดประเด็นและข้อคาถามทส่ี อดคล้องกบั เนือ้ หาสาระ ทา้ ทายใหค้ ิดและค้นหาคาตอบ รวมท้งั สามารถฝึก
กระบวนการและสมรรถนะที่ตอ้ งการพฒั นาผู้เรยี น
• ครตู นิ๊ าจึงกาหนดขอบเขตเนอื้ หา K S A ทก่ี าหนดในแตล่ ะรายวชิ าที่สมั พันธก์ บั หนว่ ยการเรียนรู้ ผลลพั ธ์การเรยี นรู้ และ
การประเมนิ ผล
• ครูตนิ๊ าออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยนาสมรรถนะทต่ี อ้ งการพฒั นาผเู้ รียนมาเชื่อมโยงกับกิจกรรม แลว้ จดั การเรยี นรู้

แนวทางการพฒั นาสมรรถนะของผูเ้ รยี น จากกรณศี ึกษา 1-5

1. ครูนิด ปรบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ให้ครอบคลุมสมรรถนะ
2. ครูชบา เพิ่มเติมสมรรถนะในสถานการณก์ ารเรยี นรู้
3. ครูนาโชค ใชร้ ูปแบบการเรียนรนู้ าสกู่ ารพัฒนาสมรรถนะ
4. ครสู ตาร์ ปรบั ตัวชีว้ ดั เนอ้ื หา จุดประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละกิจกรรมให้เปน็ เชิงสมรรถนะ
5. ครูตน๊ิ า จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเพอื่ พัฒนาสมรรถนะ

ถอดขั้นตอนการดาเนนิ การในแตล่ ะกรณศี กึ ษา

แนวทางที่ 1 ปรบั จดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ ห้ครอบคลุมสมรรถนะ

ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน
1. เลือกและระบุสมรรถนะท่ีสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้
2. คดิ กจิ กรรมที่เสรมิ สร้างสมรรถนะ บรู ณาการในกิจกรรมเดิม
3. ปรับจุดประสงคก์ ารเรียนร้ใู ห้ครอบคลุมสมรรถนะ
4. ระบุวิธีวัดและประเมินสมรรถนะเพ่มิ เติม

แนวทางท่ี 2 เพม่ิ เติมสมรรถนะในสถานการณ์การเรยี นรูข้ องผู้เรยี น

ขั้นตอนการดาเนินการ
1. วเิ คราะหก์ ิจกรรมทกี่ าหนดไว้เดมิ ว่า ได้กาหนดให้ผูเ้ รียนนาความรู้ ทักษะ และเจตคตทิ ไ่ี ดเ้ รียนร้แู ล้วไปใช้
อย่างไรบา้ ง
2. เลือกสถานการณ์ต่าง ๆ ทจ่ี ะชว่ ยให้ผู้เรียนได้ใชค้ วามรู้ ทักษะและเจตคติที่ไดเ้ รยี นรแู้ ลว้ ไปใชใ้ นการปฏิบตั ิ
การทางาน หรือการลงมอื แกป้ ัญหา แล้วเพ่ิมสถานการณน์ น้ั ในกิจกรรมการเรียนรู้
3. ปรับจุดประสงค์การเรียนรใู้ หค้ รอบคลุมสมรรถนะที่กาหนดเพิ่มขึ้น
4. เพิม่ วิธกี ารวดั ประเมนิ ผลสมรรถนะทไี่ ด้ฝึกเพ่ิมเตมิ

แนวทางที่ 3 ใชร้ ูปแบบการเรียนรู้นาสูก่ ารพัฒนาสมรรถนะ

ขนั้ ตอนการดาเนนิ การ

1. เลือกรปู แบบการเรียนร้ทู ่เี หมาะสม สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
2. ศกึ ษารูปแบบการเรยี นรู้ท่ไี ดเ้ ลอื กไว้ ให้เข้าใจถงึ หลกั การ กระบวนการ วิธีการ จดุ อ่อน และจดุ แขง็
3. กาหนดกิจกรรมตามข้นั ตอน/วิธกี ารของรปู แบบการเรียนรู้
4. ศกึ ษาสมรรถนะต่างๆ และพิจารณาวา่ ในและขน้ั ตอนทก่ี าหนด มสี มรรถนะใดที่นามาบรู ณาการได้
5. คิดกิจกรรมการเรียนรทู้ ีส่ ามารถพัฒนาสมรรถนะท่ีบรู ณาการ
6. ปรบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ให้ครอบคลุมสมรรถนะทีเ่ พ่ิมเตมิ
7. เพิม่ เตมิ วธิ กี ารวดั และประเมินสมรรถนะทบ่ี ูรณาการ

แนวทางที่ 4 ปรบั ตัวช้วี ดั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้แู ละ
กิจกรรมให้เป็นเชิงสมรรถนะ

ข้นั ตอนการดาเนินการ

1. กาหนดสมรรถนะทต่ี ้องการพฒั นาผเู้ รียน
2. พจิ ารณาตวั ชี้วัดและเนอ้ื หาสาระท่สี อดคล้องกับสมรรถนะที่เลือก
3. กาหนดหวั ข้อ/หัวเรอื่ ง ความรู้ ทักษะและเจตคตสิ าคญั และจุดประสงค์การเรียนรู้ท่ตี อ้ งการให้ผู้เรียนได้
เรยี นรู้
4. กาหนดจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหค้ รอบคลุมสมรรถนะทก่ี าหนด
5. ออกแบบกจิ กรรมการเรียนร้ทู เ่ี อือ้ ให้ผเู้ รยี นได้เกิดสมรรถนะทตี่ อ้ งการพัฒนา
6. วางแผนการประเมินผล โดยเน้นการประเมนิ ตามสภาพจริง ให้สอดคล้องและตอบรบั จดุ ประสงคเ์ ชิง
สมรรถนะทีก่ าหนดไว้

แนวทางที่ 5 จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเพอ่ื พฒั นาสมรรถนะ

ข้ันตอนการดาเนนิ การ

1. ศกึ ษาสมรรถนะหลักทงั้ หมด และสาระการเรยี นรตู้ ่างๆ เพื่อดูความสมั พันธ์ เช่อื มโยงกนั
2. กาหนดหน่วยการเรยี นร้แู บบบูรณาการท่ีสามารถเช่อื มโยง K S A ของสาระการเรยี นรตู้ ่างๆ เขา้ ดว้ ยกนั โดย
เลอื กหวั ข้อทีน่ ่าสนใจ
3. กาหนดประเด็น แนวคดิ คาถามที่สอดคล้องกับแนวคดิ เน้อื หา และสมรรถนะทต่ี ้องการพฒั นาผูเ้ รียน
4. กาหนดขอบเขตเน้ือหา KSA ในตัวชวี้ ดั หรือ ผลลพั ธก์ ารเรยี นรขู้ องสาระการเรยี นรู้ต่างๆ ที่สมั พนั ธก์ บั หนว่ ย
การเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้เชงิ สมรรถนะ และการประเมินผล
5. กาหนดประสบการณก์ ารเรียนรู้ โดยนาสมรรถนะมาเชื่อมโยงกบั กจิ กรรมทจี่ ัดใหน้ กั เรยี น เพอื่ ใหบ้ รรลุ
จดุ ประสงค์
6. ดาเนนิ การจดั การเรียนรู้ และวดั ผลประเมนิ ผลตามจุดประสงค์การเรยี นรู้


Click to View FlipBook Version