The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

000-หลักสูตรห้วยมะซาง-เล่มรวมใหญ่-ประถม 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by manthana699, 2022-09-19 06:35:15

หลักสูตรสถานศึกษา ห้วยมะซาง 2564

000-หลักสูตรห้วยมะซาง-เล่มรวมใหญ่-ประถม 2564

ประกาศโรงเรียนบา้ นห้วยมะซาง
เรื่อง ให้ใช้หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านห้วยมะซางประจาปีพทุ ธศักราช ๒๕64

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
_________________________________

ด้วย กระทรวงศึกษาธิการได้มีคาสั่งให้ใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

โรงเรียนบา้ นห้วยมะซาง ตาบลวาวี อาเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย สังกัด สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาเชียงราย เขต ๒ จึงได้ดาเนินการพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง ประจาปีพุทธศักราช
๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ข้ึนเพ่ือใช้จัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน
ของโรงเรยี นใหเ้ ปน็ ไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ โดยใช้หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียน
บ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕61 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ในปีการศึกษา 2561 ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 , ปีการศึกษา 2562 ในระดับชั้นประถมศึกษา
ปที ี่ 1,2,4 และ 5 และในปกี ารศกึ ษา 2563 เปน็ ตน้ ไปในทุกชั้นเรยี น

ทั้งนี้ หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 มีความสอดคล้องตาม
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา
ข้นั พนื้ ฐาน เมอื่ วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕64

ประกาศ ณ วนั ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕64

(นายเอนก กนั หา)
ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง

หลักสตู รโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

คำนำ

กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตรใ์ นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕๖4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
ตามคาสั่งกระทรวงศึกษาธิการท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาส่ังสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ท่ี ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปล่ียนแปลงมาตรฐานการ
เรียนรู้แล ะตัว ช้ีวัด กลุ่มสา ระการเรี ยนรู้คณิต ศาสตร์แ ละ วิทยาศ าสตร์ ห ลักสูตรส ถานศึกษ า
โรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕๖๓ โดยให้โรงเรียนใช้หลักสูตรในปีการศึกษา ๒๕๖๓ ให้ใช้ในชั้น
ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ และปีการศึกษา ๒๕๖๓ ให้ใช้ในทุกชั้นปี โดยกาหนดให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของ
ประเทศ กาหนดจดุ หมาย และมาตรฐานการเรยี นรเู้ ป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้
มีพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมทักษะวิชาการ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต มีคุณภาพและมีทักษะการ
เรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑

เพ่ือให้สอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมาย ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน
บ้านห้วยมะซาง จึงได้จัดทาหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕๖4 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพ่ือนาไปใชป้ ระโยชน์และเปน็ กรอบในการวางแผนและพัฒนา
หลักสูตรของสถานศกึ ษา และออกแบบการจัดการเรยี นการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้มี
กระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ โดยมีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัดและ
ประเมนิ ผล ใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรยี นสามารถกาหนดทิศทางในการจัดทา
หลกั สตู รการเรียนการสอน ในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเน้น โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางท่ีชัดเจน
เพอ่ื ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคมคุณภาพ มีความรู้อย่างแท้จริง และมีทักษะ
ในศตวรรษท่ี ๒๑

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ัดทกี่ าหนดไวใ้ นเอกสารน้ี ชว่ ยทาใหห้ นว่ ยงานที่เกีย่ วข้อง ในทุกระดับเห็น
ผลคาดหวงั ทต่ี อ้ งการพฒั นาการเรียนรู้ของผเู้ รียนที่ชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องใน
ระดบั ทอ้ งถิน่ และสถานศกึ ษารว่ มกนั พฒั นาหลักสูตรได้อยา่ งมนั่ ใจ ทาให้การจัดทาหลักสูตรในระดับสถานศึกษามี
คณุ ภาพและมีความเปน็ เอกภาพยงิ่ ข้นึ อีกท้งั ยงั ชว่ ยใหเ้ กดิ ความชัดเจนเร่ืองการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ช่วย
แก้ปญั หาการเทยี บโอนระหว่างสถานศกึ ษา ดังนั้นในการพัฒนาหลักสูตรในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชาติจนกระท่ังถึง
ระดับสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน รวมท้ังเป็นกรอบทิศทางในการจัดการศึกษาทุกรูปแบบ และค รอบคลุมผู้เรียนทุก
กล่มุ เป้าหมายในระดับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน

การจัดหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน จะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีคาดหวังได้ ทุกฝ่ายท่ี
เกี่ยวขอ้ งทัง้ ระดบั ชาติ ชุมชน ครอบครวั และทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ โดยร่วมกันทางานอย่างเป็นระบบ และ
ต่อเนื่อง วางแผนดาเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาเยาวชนของชาติ
ไปส่คู ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนดไว้

เอนก กันหา
ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง

หลกั สูตรโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

สำรบัญ หน้ำ

เร่ือง ๑
ประกาศโรงเรียน ๓
คานา ๔
วสิ ยั ทศั น์ ๕
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑๕
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๗
โครงสร้างเวลาเรียน ๒๓
คาอธบิ ายรายวชิ า ๓๐
๓๘
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๖๑
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ๖๘
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๘๗
กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๙๗
กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ ๙๙
กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี ๑๐๐
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาองั กฤษ ๑๐๒
กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน ๑๐๙
กจิ กรรมแนะแนว ๑๑๔
กิจกรรมนักเรียน
กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
คาอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
เกณฑ์การจบการศกึ ษา
ภาคผนวก

หลกั สูตรโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑



วิสยั ทศั นห์ ลักสูตรสถำนศกึ ษำ ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖4
หลักสูตรโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕๖4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน

พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากลและเป็น
มนุษย์ทมี่ ีความสมดลุ ทง้ั รา่ งกาย ความร้คู ู่คณุ ธรรม มีความเป็นผู้นาของสังคมมีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทย
และเป็นพลโลกโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงยึดม่ันในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษตั ริยเ์ ป็นประมุข มคี วามรู้และทักษะพน้ื ฐานสามารถใชน้ วตั กรรมและเทคโนโลยีรวมท้ังเจตคติที่จาเป็น
ตอ่ การศกึ ษาในการประกอบอาชพี และการศกึ ษาตลอดชีวิตโดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่าทุก
คนสามารถเรยี นรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ

เปำ้ ประสงค์หลักสูตร (Corporate objective)
๑.เพื่อให้ผูเ้ รยี นทุกคนได้รับการปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม มีคุณลกั ษณะอนั พงึ

ประสงค์ มีการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ มีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นาหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการดาเนินชีวิต เป็นผู้นาท่ีดีของสังคมและมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
เพอ่ื การเรียนรแู้ ละการส่อื สารอยา่ งหลากหลาย ผูเ้ รยี นมีศกั ยภาพเป็นพลโลก (Worid Citizen)

๒. เพื่อให้สถานศึกษามีระบบการบริหารและจัดการศกึ ษาดว้ ยระบบคณุ ภาพ (Quality
System Management) เพอื่ รองรบั การกระจายอานาจอย่างท่ัวถึง

๓. เพอ่ื ให้บุคลากรทุกคนมีทักษะวิชาชีพในการพฒั นาการเรียนการสอนและใช้
นวตั กรรมเทคโนโลยีท่ที นั สมัยยกระดบั การจดั การเรียนการสอนเทียบเคยี งมาตรฐานสากล (Worle Class
standard)

๔. เพ่อื ให้การใชง้ บประมาณและทรพั ยากรของทุกหน่วยงานเปน็ ไปตามเป้าหมายได้
อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ลสงู สุด

วิสัยทัศน์โรงเรียน
โรงเรียนบ้านห้วยมะซาง มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยชุมชนมีส่วนร่วม เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ เพื่อ

พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์
ธรรมชาตสิ งิ่ แวดล้อม และสืบสานวัฒนธรรมประเพณี

หลกั สตู รโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑



พนั ธกิจ

1. จัดการศกึ ษาในเขตบรกิ ารของโรงเรยี น ให้ไดร้ บั การศึกษาอยา่ งมคี ณุ ภาพตามมาตรฐาน

การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานทุกคน
2. พัฒนาระบบบรหิ ารจดั การศึกษาทมี่ ีคุณภาพและประสิทธิภาพ
3. สง่ เสรมิ พัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาตามมาตรฐานวิชาชีพ
4. พฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาและหลักสูตรทอ้ งถนิ่ ใหส้ อดคล้องกบั ความตอ้ งการของผู้เรยี น

และชุมชน
5. พัฒนาสถานศึกษาตามนโยบายของหน่วยงานตน้ สงั กดั
6. สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษธ์ รรมชาตสิ ิ่งแวดล้อม
7. ส่งเสรมิ มารยาทไทย และสบื สานวัฒนธรรมประเพณี

เปำ้ หมำย
1. เพ่ิมอัตราการเข้าเรียน ท้ังเด็กทั่วไป ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสในเขตบริการและลดอัตราการออก

กลางคันของผู้เรียนและจดั การศึกษาใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐาน

2. สถานศกึ ษามีระบบบรหิ ารจดั การศกึ ษาที่มีคณุ ภาพและประสิทธภิ าพตามหลัก
ธรรมาภิบาล

3. ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้รับการพฒั นาสมู่ าตรฐานวชิ าชพี
4. สถานศกึ ษามหี ลกั สตู รสถานศกึ ษา และหลกั สตู รท้องถิ่นทีส่ อดคล้องกบั ความต้องการของชุมชน
5. พฒั นาสถานศกึ ษาได้สอดคลอ้ งกับนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด
6. ผ้เู รียนมีใจรักธรรมชาติสงิ่ แวดล้อม
7. ผเู้ รียนมีมารยาทดี และรว่ มสบื สานประเพณที อ้ งถ่นิ

กลยทุ ธ์
1. พัฒนากระบวนการเรยี นรู้ให้ผเู้ รียนมคี ณุ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา
2. พฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการใหม้ ปี ระสิทธภิ าพ
3. พฒั นาครแู ละบคุ ลากรให้มีศกั ยภาพในการทางานใหส้ ูงขน้ึ
4. พัฒนาจุดเน้นและมาตรการสง่ เสริมของโรงเรยี น
5. พฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา และหลักสตู รท้องถ่ิน

อัตลักษณ์
สบื สานวัฒนธรรมท้องถนิ่

เอกลักษณ์
มารยาทดี

หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑



สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕๖๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.

๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานท่ีกาหนด ซ่งึ จะชว่ ยใหผ้ เู้ รียนเกิดสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดังนี้
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านหว้ ยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖4 มงุ่ ให้ผูเ้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดังนี้

๑. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวส ารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก
เหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเอง
และสังคม

๒. ควำมสำมำรถในกำรคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อ
การตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม

๓. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้
อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
และมีกาตดั สินใจทม่ี ีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่เี กิดข้ึนตอ่ ตนเอง สงั คมและส่ิงแวดล้อม

๔. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนิน
ชีวิตประจาวนั การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การเรียนรู้อย่างตอ่ เนอ่ื ง การทางาน และการอยรู่ ่วมกันในสังคมด้วยการสร้าง
เสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทัน
กับการเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อ
ตนเองและผู้อ่ืน

๕. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมี
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน
การแกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม

หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑



คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
หลักสูตรโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นาผูเ้ รยี นให้มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยรู่ ่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่าง
มีความสขุ ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก ดงั น้ี

๑. รกั ษ์ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. ซื่อสตั ยส์ จุ รติ
๓. มีวินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
๖. มงุ่ ม่ันในการทางาน
๗. รกั ความเป็นไทย
๘. มีจติ เปน็ สาธารณะ

หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑



โครงสรำ้ งหลักสตู รโรงเรียนบำ้ นห้วยมะซำง
โครงสรำ้ งหลกั สตู รเวลำเรยี นโรงเรียนบำ้ นหว้ ยมะซำง

เวลำเรยี น(ชว่ั โมง/ปี)

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู/้ กจิ กรรม ระดับประถมศกึ ษำ

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐

คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

ศลิ ปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

ภาษาตา่ งประเทศ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

รวมเวลำเรยี น (พื้นฐำน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐

 รำยวิชำเพม่ิ เตมิ

ภาษาอังกฤษ ฟงั -พูด ๘๐ ๘๐ ๘๐ - - -

หนา้ ท่พี ลเมือง - - - ๔๐ ๔๐ ๔๐

รวมเวลำเรยี น (เพม่ิ เตมิ ) ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

 กจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐

กจิ กรรมลดเวลำเรยี น เพมิ่ เวลำรู้

- กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

- กิจกรรมนักเรียน

- กิจกรรมลกู เสอื /เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐

- ชุมนมุ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

- กิจกรรมเพือ่ สังคมแลสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐

รวมเวลำเรยี นทัง้ หมด ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๔๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐ ๑,๐๐๐

***หมำยเหตุ

๑. กิจกรรมพัฒนำผู้เรียนจัดเป็นกิจกรรม “ลดเวลำเรียน เพิ่มเวลำรู้”บังคับตำมหลักสูตร ประกอบด้วย กิจกรรมลูกเสือเนตรนำรี

กจิ กรรมนกั เรยี น และกจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสำธำรณประโยชน์

๒. กำรสอนหลักสตู รตำ้ นทจุ รติ ศึกษำ บูรณำกำรในกิจกรรม “ลดเวลำเรียน เพมิ่ เวลำรู้” และ อบรมคณุ ธรรมจริยธรรม

หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

โครงสร้ำงหลักสตู รช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๑ ๖
โรงเรียนบำ้ นห้วยมะซำง
เวลำเรียน
รหสั กล่มุ สำระกำรเรียนร/ู้ กจิ กรรม (ชม./ปี)
(๘๔๐)
ท ๑๑๑๐๑ รำยวชิ ำพนื้ ฐำน ๒๐๐
ค ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐
ว ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ ๑๒๐
ส ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ๑
ส ๑๑๑๐๒ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑ ๔๐
พ ๑๑๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๑ ๔๐
ศ ๑๑๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๑ ๔๐
ง ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ ๔๐
อ ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๑ ๑๒๐
อ ๑๑๒๐๑ ๘๐
รำยวิชำเพม่ิ เติม ๘๐
ภาษาองั กฤษ ฟงั -พูด๑ (๑๒๐)
๔๐
กิจกรรมพัฒนำผู้เรียน
แนะแนว ๓๐
กิจกรรมนักเรยี น ๔๐

 ลูกเสอื เนตรนารี ๑๐
๑,๐๔๐
 ชมุ นมุ

กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑
รวมทัง้ สิ้นปลี ะ

หลักสตู รโรงเรยี นบ้านห้วยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

โครงสร้ำงหลกั สตู รชั้นประถมศึกษำปที ี่ ๒ ๗
โรงเรียนบำ้ นห้วยมะซำง
เวลำเรยี น
รหัส กล่มุ สำระกำรเรยี นร้/ู กจิ กรรม (ชม./ปี)
(๘๔๐)
ท ๑๒๑๐๑ รำยวชิ ำพนื้ ฐำน ๒๐๐
ค ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ๒๐๐
ว ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ ๑๒๐
ส ๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ๒
ส ๑๒๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒ ๔๐
พ ๑๒๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๒ ๔๐
ศ ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๒ ๔๐
ง ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ ๔๐
อ ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี ๒ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๒ ๑๒๐
อ ๑๒๒๐๑ ๘๐
รำยวิชำเพม่ิ เติม ๘๐
ภาษาองั กฤษ ฟงั -เขียน๒ (๑๒๐)
๔๐
กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน
แนะแนว ๓๐
กิจกรรมนกั เรียน ๔๐

 ลูกเสือ เนตรนารี ๑๐
๑,๐๔๐
 ชุมนุม

กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๒
รวมทัง้ สน้ิ ปีละ

หลักสูตรโรงเรียนบา้ นห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

โครงสรำ้ งหลกั สูตรช้ันประถมศกึ ษำปีที่ ๓ ๘
โรงเรียนบำ้ นห้วยมะซำง
เวลำเรยี น
รหสั กลุม่ สำระกำรเรยี นร้/ู กิจกรรม (ชม./ปี)
(๘๔๐)
ท ๑๓๑๐๑ รำยวชิ ำพ้นื ฐำน ๒๐๐
ค ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๒๐๐
ว ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๑๒๐
ส ๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ๓
ส ๑๓๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๓ ๔๐
พ ๑๓๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๓ ๔๐
ศ ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๓ ๔๐
ง ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ ๔๐
อ ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๓ ๑๒๐
อ ๑๓๒๐๑ ๘๐
รำยวชิ ำเพมิ่ เติม ๘๐
ภาษาอังกฤษ อ่าน-เขียน-สนทนา๓ (๑๒๐)
๔๐
กจิ กรรมพัฒนำผเู้ รยี น
แนะแนว ๓๐
กิจกรรมนักเรยี น ๔๐

 ลูกเสอื เนตรนารี ๑๐
๑,๐๔๐
 ชมุ นุม

กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๓
รวมทง้ั สิ้นปลี ะ

หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

โครงสร้ำงหลักสูตรชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๔ ๙
โรงเรยี นบำ้ นห้วยมะซำง
เวลำเรยี น
รหสั กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้/กจิ กรรม (ชม./ปี)
(๘๔๐)
ท ๑๔๑๐๑ รำยวิชำพ้ืนฐำน ๑๖๐
ค ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ ๑๖๐
ว ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ ๑๒๐
ส ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ๔
ส ๑๔๑๐๒ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔ ๘๐
พ ๑๔๑๐๑ ประวัติศาสตร์ ๔ ๔๐
ศ ๑๔๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๔ ๘๐
ง ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ ๘๐
อ ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๔ ๔๐
ภาษาอังกฤษ ๔ ๘๐
ส ๑๔๒๓๔ ๔๐
รำยวชิ ำเพ่มิ เติม ๔๐
หนา้ ทพี่ ลเมือง ๔ (๑๒๐)
๔๐
กิจกรรมพัฒนำผเู้ รยี น
แนะแนว ๓๐
กจิ กรรมนกั เรียน ๔๐

 ลูกเสอื เนตรนารี ๑๐
๑,๐๐๐
 ชุมนุม

กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๔
รวมท้ังส้นิ ปีละ

หลักสูตรโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

โครงสร้ำงหลักสูตรชัน้ ประถมศึกษำปีที่ ๕ ๑๐
โรงเรยี นบ้ำนห้วยมะซำง
เวลำเรยี น
รหัส กลมุ่ สำระกำรเรียนร/ู้ กจิ กรรม (ชม./ปี)
(๘๔๐)
ท ๑๕๑๐๑ รำยวิชำพ้ืนฐำน ๑๖๐
ค ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑๖๐
ว ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๑๒๐
ส ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ๕
ส ๑๕๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๕ ๘๐
พ ๑๕๑๐๑ ประวตั ิศาสตร์ ๕ ๔๐
ศ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ ๘๐
ง ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๘๐
อ ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๔ ๘๐
ส ๑๕๒๓๕ ๔๐
รำยวชิ ำเพ่มิ เติม ๔๐
หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๕ (๑๒๐)
๔๐
กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน
แนะแนว ๓๐
กจิ กรรมนกั เรียน ๔๐

 ลกู เสอื เนตรนารี ๑๐
๑,๐๐๐
 ชุมนมุ

กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๕
รวมท้งั ส้ินปลี ะ

หลักสตู รโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

โครงสร้ำงหลักสูตรชัน้ ประถมศึกษำปีที่ ๖ ๑๑
โรงเรยี นบ้ำนห้วยมะซำง
เวลำเรยี น
รหัส กลมุ่ สำระกำรเรียนร/ู้ กจิ กรรม (ชม./ปี)
(๘๔๐)
ท ๑๖๑๐๑ รำยวิชำพ้ืนฐำน ๑๖๐
ค ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๑๖๐
ว ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๖ ๑๒๐
ส ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ๖
ส ๑๖๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ ๘๐
พ ๑๖๑๐๑ ประวตั ิศาสตร์ ๖ ๔๐
ศ ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๖ ๘๐
ง ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๖ ๘๐
อ ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๖ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๖ ๘๐
ส ๑๖๒๓๖ ๔๐
รำยวชิ ำเพ่มิ เติม ๔๐
หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๖ (๑๒๐)
๔๐
กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน
แนะแนว ๓๐
กจิ กรรมนกั เรียน ๔๐

 ลกู เสอื เนตรนารี ๑๐
๑,๐๐๐
 ชุมนมุ

กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๖
รวมท้งั ส้ินปลี ะ

หลักสตู รโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒

รำยวชิ ำของโรงเรียนบำ้ นห้วยมะซำง

กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย จานวน ๒๐๐ ชั่วโมง
รำยวิชำพ้นื ฐำน จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ จานวน ๑๖๐ ชั่วโมง
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖

**************** จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง
กลุ่มสำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์ จานวน ๒๐๐ ชั่วโมง
รำยวิชำพืน้ ฐำน จานวน ๒๐๐ ช่ัวโมง
จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ จานวน ๑๖๐ ชัว่ โมง
ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓
ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔ จานวน ๑๒๐ ชวั่ โมง
ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ จานวน ๑๒๐ ชั่วโมง
ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ จานวน ๑๒๐ ชั่วโมง
จานวน ๑๒๐ ชัว่ โมง
- จานวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
**************** จานวน ๑๒๐ ชัว่ โมง
กลุ่มสำระกำรเรียนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
รำยวชิ ำพน้ื ฐำน
ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑
ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๒
ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๔
ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕
ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๖

***************

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๓

กล่มุ สำระกำรเรียนรสู้ ังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม จานวน ๔๐ ชั่วโมง
รำยวชิ ำพืน้ ฐำน จานวน ๔๐ ชั่วโมง
จานวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๑ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง
ส ๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๒ จานวน ๘๐ ชั่วโมง
ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๓ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง
ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๔
ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๕ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๖ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง
จานวน ๔๐ ช่ัวโมง
ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง
ส ๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๓ จานวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔
ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๕ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง
ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๖ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง
รำยวิชำเพ่ิมเติม จานวน ๔๐ ชัว่ โมง
ส ๑๔๒๓๔ หน้าท่ีพลเมือง ๔
ส ๑๕๒๓๕ หนา้ ท่พี ลเมอื ง ๕
ส ๑๖๒๓๖ หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๖

****************

กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ขุ ศึกษำและพลศึกษำ จานวน ๔๐ ชั่วโมง
รำยวิชำพ้นื ฐำน จานวน ๔๐ ชว่ั โมง
จานวน ๔๐ ชั่วโมง
พ ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๑ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง
พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาฯ ๒ จานวน ๘๐ ชั่วโมง
พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๓ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง
พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๔
พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๕
พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๖

****************

หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นห้วยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

กลุม่ สำระกำรเรียนร้ศู ิลปะ ๑๔
รำยวชิ ำพ้ืนฐำน
จานวน ๔๐ ช่ัวโมง
ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง
ศ ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง
ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ จานวน ๘๐ ชั่วโมง
ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง
ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ จานวน ๘๐ ช่วั โมง
ศ ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๖
จานวน ๔๐ ชั่วโมง
**************** จานวน ๔๐ ชั่วโมง
จานวน ๔๐ ช่วั โมง
กลุม่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี จานวน ๔๐ ชวั่ โมง
รำยวิชำพืน้ ฐำน จานวน ๔๐ ชั่วโมง
จานวน ๔๐ ช่ัวโมง
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๑
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพฯ ๒ จานวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพฯ ๓ จานวน ๑๒๐ ชัว่ โมง
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๔ จานวน ๑๒๐ ชวั่ โมง
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ฯ ๕ จานวน ๘๐ ชั่วโมง
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพฯ ๖ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง
จานวน ๘๐ ช่วั โมง
****************
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ(อังกฤษ) จานวน ๘๐ ชว่ั โมง
รำยวิชำพน้ื ฐำน จานวน ๘๐ ช่วั โมง
จานวน ๘๐ ชั่วโมง
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖
รำยวิชำเพิ่มเติม
อ ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษ ฟัง-พูด ๑
อ ๑๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษ ฟงั -พดู ๒
อ ๑๓๒๐๑ ภาษาอังกฤษ ฟงั -พดู ๓

หลักสตู รโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๕

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

หลักสูตรโรงเรยี นบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ๑๖

ท ๑๑๑๐๑ ภำษำไทย๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย
ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๑ เวลำ ๒๐๐ ชั่วโมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
ฝึกอ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความส้ันๆ บอกความหมายของคาและข้อความ ตอบคาถาม

เล่าเร่ืองย่อ คาดคะเนเหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอ นาเสนอเรื่องที่อ่าน บอก
ความหมายของเครื่องหมายหรือสัญลกั ษณ์สาคัญท่มี กั พบเหน็ ในชีวติ ประจาวัน มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือ
ดว้ ยตัวบรรจงเตม็ บรรทัด เขยี นสือ่ สารด้วยคาและประโยคงา่ ยๆ มมี ารยาทในการเขียน

ฝึกทักษะในการฟัง ฟังคาแนะนา คาสั่งง่ายๆและปฏิบัติตาม ตอบคาถาม เล่าเร่ือง พูดแสดงความคิดเห็น
และความรสู้ กึ จากเรอื่ งทีฟ่ ังและดู พดู สอ่ื สารไดต้ ามวตั ถุประสงค์ เนน้ มารยาทในการฟัง การดแู ละการพดู

ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา
เรียบเรียงคาเป็นประโยคงา่ ยๆ ตอ่ คาคล้องจองงา่ ยๆ

บอกข้อคิดท่ีได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรับเด็ก ฝึกท่องจาบท
อาขยานตามทกี่ าหนดและบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการ
แสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การต้ังคาถาม ตอบคาถาม ใช้
ทกั ษะการฟัง การดูและการพดู พดู แสดงความคดิ เห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ
อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับชีวิตประจาวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มำตรฐำน/ตวั ชวี้ ัด
ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒

รวม ๕ มำตรฐำน ๒๒ ตัวชว้ี ัด

หลกั สูตรโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน ๑๗

ท ๑๒๑๐๑ ภำษำไทย๒ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย
ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๒ เวลำ ๒๐๐ ชั่วโมง

คำอธิบำยรำยวชิ ำ
ฝึกอ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ

ข้อความท่ีอ่าน ตั้งคาถาม ตอบคาถาม ระบุใจความสาคัญและรายละเอียด แสดงความคิดเห็นและคาดคะเน
เหตุการณ์ เลอื กอ่านหนงั สอื ตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและนาเสนอเรื่องทอ่ี า่ น อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และ
ปฏบิ ตั ิตามคาสั่งหรอื ข้อแนะนา มีมารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเรื่องส้ันๆ เก่ียวกับประสบการณ์ เขียนเร่ืองสั้นๆ ตาม
จนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทกั ษะการฟงั ฟงั คาแนะนา คาสงั่ ที่ซับซอ้ นและปฏบิ ตั ิตาม เล่าเร่ือง บอกสาระสาคัญของเร่ือง ตั้ง
คาถาม ตอบคาถาม พูดแสดงความคดิ เห็น ความรู้สึก พูดส่ือสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทใน
การฟงั การดูและการพดู

ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา
เรยี บเรียงคาเปน็ ประโยคไดต้ รงตามเจตนาของการสอ่ื สาร บอกลกั ษณะคาคล้องจอง เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน
และภาษาถ่ินไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ

ฝึกจับใจความสาคัญจากเรื่อง ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสาหรับเด็ก เพ่ือ
นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ร้องบทร้องเล่นสาหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อย
กรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้
กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ
อธิบาย บันทึก การต้ังคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น
กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ
อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงและสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม

มำตรฐำน/ตวั ชว้ี ัด
ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ป.๒/๖, ป.๒/๗
ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓

รวม ๕ มำตรฐำน ๒๗ ตัวชี้วัด

หลกั สตู รโรงเรยี นบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน ๑๘

ท ๑๓๑๐๑ ภำษำไทย๓ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย
ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓ เวลำ ๒๐๐ ชว่ั โมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
ฝึกอ่านออกเสียงคา ข้อความ เรื่องสั้น ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ

ข้อความท่ีอ่าน ตั้งคาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผล ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้ ข้อคิด
จากเร่ืองท่ีอ่าน เพ่ือนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเรื่องท่ี
อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคาสั่งหรือข้อแนะนา อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ
แผนที่ และแผนภูมิ มมี ารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย เขียนบันทึกประจาวัน เขียนเร่ืองตามจินตนาการ
มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียด บอกสาระสาคัญ ต้ังคาถาม ตอบคาถาม พูด
แสดงความคดิ เหน็ ความรสู้ กึ พูดสือ่ สารได้ชัดเจนตรงตามวตั ถุประสงค์ มีมารยาทในการฟงั การดแู ละการพดู

ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ระบุชนิด หน้าที่ของคา ใช้
พจนานกุ รมคน้ หาความหมายของคา แต่งประโยคง่ายๆ แต่งคาคล้องจองและคาขวัญ เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐาน
และภาษาถนิ่ ไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ

ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอ่านวรรณกรรม เพ่ือนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก
เพ่ือปลูกฝังความช่ืนชมวัฒนธรรมท้องถ่ิน แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับวรรณคดีที่อ่าน ท่องจาบทอาขยานตามท่ี
กาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการ
แสวงหาความรู้ กระบวนการกล่มุ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึก
ปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การต้ังคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น
กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ
อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชวี ติ ประจาวันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม

มำตรฐำน/ตวั ชวี้ ดั
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙
ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔

รวม ๕ มำตรฐำน ๓๑ ตัวชี้วดั

หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ำยรำยวิชำพืน้ ฐำน ๑๙

ท ๑๔๑๐๑ ภำษำไทย๔ กลมุ่ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย
ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี ๔ เวลำ ๑๖๐ ชั่วโมง

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
ฝึกอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและสานวนจากเร่ืองที่

อ่าน อ่านเรื่องส้ัน ๆ ตามเวลาทีก่ าหนดและตอบคาถามจากเรื่องท่ีอ่าน แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ี
อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ีอ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่าน เพื่อ
นาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน เลอื กอ่านหนงั สอื ทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
เรือ่ งท่ีอา่ น มมี ารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตวั บรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คาได้
ถูกต้อง ชัดเจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพ่ือใช้พัฒนางานเขียน เขียนย่อ
ความจากเรื่องสั้น ๆ เขียนจดหมายถึงเพื่อนและมารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า
เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทักษะการฟงั การดูและการพดู จาแนกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ เรอ่ื งทฟี่ ังและดู พูดสรปุ จากการฟัง
และดู พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สกึ เก่ยี วกับเรอ่ื งที่ฟงั และดู ตง้ั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ล
จากเรอ่ื งทีฟ่ งั และดู พูดรายงานเร่ืองหรือประเดน็ ทีศ่ ึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา มีมารยาทใน
การฟงั การดแู ละการพดู ฝกึ เขียนตามหลักการเขยี น เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทต่าง ๆ
ระบุชนดิ และหน้าทีข่ องคาในประโยค ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคา แต่งประโยคได้ถูกต้องตามหลัก
ภาษา แต่งบทร้อยกรองและคาขวัญ บอกความหมายของสานวน เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ได้

ระบุขอ้ คิดจากนทิ านพน้ื บา้ นหรือนิทานคตธิ รรมอธิบายข้อคดิ จากการอ่านเพื่อนาไปใช้ในชวี ิตจริงร้องเพลง
พื้นบ้านท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน
กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ
กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติอธิบาย บันทึก
การต้งั คาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟงั การดูและการพูดพูดแสดงความคิดเห็นกระบวนการสร้างความคิดรวบ
ยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ
อนรุ กั ษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนาความร้ไู ปใช้ให้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและ
สามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม

มำตรฐำน/ตัวชีว้ ัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔

รวม ๕ มำตรฐำน ๓๓ ตัวชี้วัด

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นห้วยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ๒๐

ท ๑๕๑๐๑ ภำษำไทย๕ กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย
ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๕ เวลำ ๑๖๐ ชัว่ โมง

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่ีเป็น

การบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนัย แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น วิเคราะห์ แสดงความ
คิดเห็น อา่ นงานเขยี นเชิงอธบิ าย คาสงั่ ข้อแนะนา และปฏิบัติตาม เลือกอ่านหนังสือท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ
มีมารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสาร เขียนแผนภาพโครงเรื่อง
แผนภาพความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น
กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขยี น

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึก ต้ังคาถาม ตอบ
คาถาม วิเคราะห์ความ พูดรายงาน มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด

ระบุชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค จาแนกส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทย
มาตรฐานและภาษาถ่นิ ใชค้ าราชาศัพท์ บอกคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แต่งบท
ร้อยกรอง ใช้สานวนได้ถกู ตอ้ ง

สรุปเรอื่ งจากวรรณคดหี รอื วรรณกรรมท่ีอ่าน ระบุความรู้ ข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมท่ี
สามารถนาไปใช้ในชวี ิตจรงิ อธบิ ายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบท
ร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้
กระบวนการกลุม่ กระบวนการคิดวเิ คราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการส่ือ
ความ กระบวนการแกป้ ญั หา การฝกึ ปฏบิ ตั ิ อธิบาย บนั ทึก การต้ังคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การ
ดแู ละการพดู พูดแสดงความคดิ เห็น กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ
อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียง
และสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้กับชวี ิตประจาวันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม

มำตรฐำน/ตวั ชีว้ ดั
ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔

รวม ๕ มำตรฐำน ๓๓ ตวั ชว้ี ัด

หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๑

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

ท ๑๖๑๐๑ ภำษำไทย๖ กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย

ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ เวลำ ๑๖๐ ช่วั โมง

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความท่ีเป็น

โวหาร อา่ นเร่ืองสนั้ ๆอย่างหลากหลาย แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน วิเคราะห์และแสดงความ

คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านเพ่ือนาไปใช้ในการดาเนินชีวิต อ่านงานเขียน เชิงอธิบาย คาส่ัง ข้อแนะนา และ

ปฏิบัติตาม อธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิและกราฟ เลือกอ่านหนังสือตาม

ความสนใจและอธบิ ายคุณคา่ ที่ไดร้ บั มมี ารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คาได้ถูกต้อง ชัดเจน และ

เหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรือ่ งและแผนภาพความคดิ เพ่ือใช้พฒั นางานเขียน เขียนเรียงความ เขียนย่อความ

จากเร่อื งอา่ น เขียนจดส่วนตวั กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการและสร้างสรรค์ มีมารยาทใน

การเขียน

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเรื่องท่ีฟังและดู ต้ัง

คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องท่ีฟังและดู วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเร่ืองที่ฟังและดูส่ือโฆษณา

อยา่ งมีเหตผุ ล พดู รายงานเรือ่ งหรอื ประเด็นที่ศึกษาคน้ คว้าจากการฟัง การดูและการสนทนา พูดโน้มน้าวอย่างมี

เหตผุ ลและนา่ เชื่อถอื มมี ารยาทในการฟงั การดแู ละการพดู

ฝึกวิเคราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค ใช้คาได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและ

บอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง

วเิ คราะห์เปรียบเทยี บสานวนท่เี ป็นคาพังเพยและสุภาษิต

ฝึกแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทาน

พืน้ บา้ นของท้องถิน่ อื่น อธบิ ายคุณคา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอ่านและนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจา

บทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อย โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้

กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวเิ คราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการสื่อ

ความ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสังเกต กระบวนกรแยกข้อเท็จจริง กระบวนการค้นคว้า กระบวนการ

ใช้เทคโนโลยีในการส่ือสาร กระบวนการใช้ทักษะทางภาษา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การต้ังคาถาม ตอบ

คาถาม ใช้ทกั ษะการฟงั การดแู ละการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ

อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียง

และสามารถนาไปประยุกตใ์ ชก้ บั ชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม

มำตรฐำน/ตวั ช้ีวดั

ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙

ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙

ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

รวม ๕ มำตรฐำน ๓๔ ตวั ชี้วดั

หลกั สตู รโรงเรียนบ้านห้วยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๒

คำอธิบำยรำยวิชำ
กลุม่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์

หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๒๓

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน

ค ๑๑๑๐๑ คณิตศำสตร์๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้คู ณิตศำสตร์
ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๑ เวลำ ๒๐๐ ชวั่ โมง

คำอธิบำยรำยวชิ ำ
ศึกษา ฝกึ ทักษะการคิดคานวณและฝึกแก้ปัญหา จานวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจานวนสิ่ง

ต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับท่ีหลัก ค่าของเลขโดดใน
แต่ละหลกั และเขยี นแสดงจานวนในรปู กระจาย เปรียบเทยี บจานวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้เครื่องหมาย =
≠ > < เรยี งลาดับจานวนต้งั แต่ ๓ ถงึ ๕ จานวน แสดงจานวนนับไม่เกนิ ๒๐ ในรูปความสมั พันธ์ของจานวนแบบ
ส่วนย่อย-ส่วนรวม และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหา
การบวก การลบ ของจานวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวและน้าหนกั สร้างโจทย์ปัญหาพร้อมท้ังแสดงวิธี
หาคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ ของจานวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐ และ ๐ ระบุจานวนที่หายไปในแบบรูป
ของจานวนทเ่ี พิ่มขนึ้ หรอื ลดลงทลี ะ ๑ ทลี ะ ๑๐ รปู ทีห่ ายไปในแบบรปู ซ้าของรปู เรขาคณิตและรปู อน่ื ๆ ท่ีสมาชิก
ใน แต่ละชุดที่ซ้ามี ๒ รูป วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร น้าหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด
และใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน จาแนกรูปสามเหล่ียม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อกาหนดรูป ๑ รูปแทน
๑ หนว่ ย

มำตรฐำน/ตัวช้วี ดั
ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕
ค ๑.๒ ป.๑/๑
ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ค ๒.๒ ป.๑/๑
ค ๓.๑ ป.๑/๑

รวมทั้งหมด ๑๐ ตัวชว้ี ดั

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๒๔

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศำสตร์๒ กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์
ช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๒ เวลำ ๒๐๐ ชว่ั โมง

คำอธบิ ำยรำยวิชำ
ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคดิ คานวณและฝกึ แก้ปัญหา จานวนนบั ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจานวน

ส่ิงต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับท่ีหลัก ค่าของเลขโดด
ในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้
เครื่องหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ต้ังแต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาค่าของตัว
ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบของจานวนนับไม่เกิน
๑,๐๐๐ และ ๐ หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่เกิน
๒ หลัก และประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการหารที่ตัวตัง้ ไม่เกิน ๒ หลกั ตัวหาร ๑ หลกั โดยท่ีผลหารมี ๑ หลัก ท้ังหาร
ลงตัวและหารไม่ลงตัว หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหา
คาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา
เก่ียวกับเวลาที่มีหน่วยเด่ียวและเป็นหน่วยเดียว วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร พร้อมท้ัง
แสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและ
เปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด พร้อมท้ังแสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการ
บวกการลบเก่ียวกบั น้าหนักทีม่ ีหน่วยเป็นกโิ ลกรมั และกรมั กโิ ลกรมั และขีด วัดและเปรียบเทียบปริมาตรและความ
จุเป็นช้อนชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง และลิตร จาแนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหล่ียมและวงกลม ใช้ข้อมูลจาก
แผนภมู ริ ปู ภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา เมื่อกาหนดรูป ๑ รูปแทน ๒ หนว่ ย ๕ หน่วยหรือ ๑๐ หน่วย

มำตรฐำน/ตวั ช้วี ดั
ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖
ค ๒.๒ ป.๒/๑
ค ๓.๑ ป.๒/๑
รวม ๑๖ ตวั ช้ีวดั

หลกั สูตรโรงเรยี นบา้ นห้วยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๒๕

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศำสตร์๓ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้คณิตศำสตร์
ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๓ เวลำ ๒๐๐ ชว่ั โมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐

เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียน
เศษส่วนทแ่ี สดงปริมาณสิ่งต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วนที่กาหนด เปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตัวเศษเท่ากัน
โดยท่ีตัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบ
ของจานวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑
หลกั กับจานวนไม่เกิน ๔ หลกั และจานวน ๒ หลักกับจานวน ๒ หลัก หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์
แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก และหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนและแสดงวิธีการ
หาคาตอบของโจทย์ปญั หา ๒ ขั้นตอนของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาผลบวกและแสดงวิธีหาคาตอบ
ของโจทย์ปัญหาการบวกของเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเท่ากันและผลบวกไม่เกิน ๑ และหาผลลบพร้อมทั้งแสดงวิธีหา
คาตอบของโจทยป์ ญั หาการลบของเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเท่ากัน ระบุจานวนที่หายไปในแบบรูปของจานวนที่เพิ่มขึ้น
หรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน ระบุแบบรูปของจานวนท่ีเกิดจากการคูณ การหารด้วยจานวนเดียวกัน แสดงวิธีหา
คาตอบของโจทยป์ ัญหาเกยี่ วกบั เงนิ เวลาและระยะเวลา เลือกใช้เคร่ืองมือความยาวท่ีเหมาะสม วัดและบอกความ
ยาวของสิ่งต่าง ๆ เป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็น
เซนตเิ มตร เปรยี บเทยี บความยาวและแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับระหว่างเซนติเมตรกับมิลลิเมตร
เมตรกบั เซนติเมตร กิโลเมตรกบั เมตร จากสถานการณต์ า่ ง ๆ เลือกใช้เครอ่ื งช่งั ทเี่ หมาะสม วัดและบอกน้าหนักเป็น
กิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม คาดคะเนน้าหนักเป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้าหนักและแสดงวิธีหา
คาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับน้าหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง
ๆ เลือกใช้เครอื่ งตวงที่เหมาะสม วัดและเปรียบเทียบปรมิ าตร ความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนและแสดงวิธี
หาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิเมตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติท่ีมีแกน
สมมาตรและจานวนแกนสมมาตร เขยี นแผนภมู ริ ปู ภาพและใช้ข้อมูลจากแผนภมู ิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์
ปัญหา เขยี นตารางทางเดยี วจากข้อมลู ทเ่ี ปน็ จานวนนับและใชข้ อ้ มลู จากตารางทางเดยี วในการหาคาตอบของโจทย์
ปญั หา

มำตรฐำน/ตวั ชีว้ ัด
ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ , ป.๓/๑๑
ค ๑.๒ ป.๓/๑
ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑,
ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓
ค ๒.๒ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
รวม ๒๘ ตัวชี้วดั

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านห้วยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๖

คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน

ค ๑๔๑๐๑ คณิตศำสตร์๔ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์
ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ เวลำ ๑๖๐ ช่วั โมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
ศึกษา ฝึกทักษะการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับท่ี

มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ พร้อมท้ังเปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับท่ีมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ต่าง
ๆ บอก อา่ นและเขยี นเศษสว่ น จานวนคละแสดงปรมิ าณส่ิงต่าง ๆ และแสดงสิ่งต่าง ๆ ตามเศษส่วน จานวนคละที่
กาหนด เปรียบเทียบ เรยี งลาดับเศษส่วนและจานวนคละทต่ี ัวสว่ นตัวหนงึ่ เป็นพหูคูณของอีกตัวหนึ่ง อ่านและเขียน
ทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตาแหน่ง แสดงปริมาณของส่ิงต่าง ๆ ตามทศนิยมท่ีกาหนด เปรียบเทียบและเรียงลาดับทศนิยม
ไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบการคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่าง
สมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวก การลบของจานวนนับที่มากกว่า
๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงการคูณของจานวนหลายหลัก ๒ จานวน ที่มีผลคูณไม่เกิน ๖ หลัก และแสดงการหารท่ี
ตัวตงั้ ไม่เกนิ ๖ หลกั ตวั หารไม่เกิน ๒ หลกั หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ และ ๐ แสดงวิธี
หาคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอนของจานวนนับท่ีมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สร้างโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอน
ของจานวนนับ และ ๐ พรอ้ มทั้งหาคาตอบ หาคาตอบและแสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบของ
เศษส่วนและจานวนคละท่ีตัวส่วนตัวหน่ึงเป็นพหูคูณของอีกตัวหน่ึง หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน ๓
ตาแหนง่ และแสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ ๒ ข้ันตอนของทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตาแหน่ง

แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวิธีหา
คาตอบของโจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั ความยาวรอบรูปและพื้นท่ีของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จาแนกชนิดของมุม บอกช่ือมุม
ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปสี่เหล่ียมมุมฉากเมื่อกาหนดความยาวของด้าน และใช้
ขอ้ มลู จากแผนภูมแิ ทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา

มำตรฐำน/ตวั ชว้ี ดั
ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐, ป.๔/๑๑,

ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖
ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑
รวม ๒๒ ตวั ชี้วดั

หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๒๗

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน

ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศำสตร์๕ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์
ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี ๕ เวลำ ๑๖๐ ชัว่ โมง

คำอธิบำยรำยวชิ ำ
เขียนเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม แสดงวิธีหา

คาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของเศษส่วนและจานวนคละ
แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคณู การหารเศษส่วน ๒ ขั้นตอน หาผลคูณของทศนิยม ที่
ผลคณู เปน็ ทศนิยมไมเ่ กนิ ๓ ตาแหน่ง หาผลหารทตี่ ัวตั้งเป็นจานวนนับหรือทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง และตัวหาร
เป็นจานวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบการคูณ การหาร
ทศนยิ ม แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๒ ข้ันตอน และแสดงวิธีหา
คาตอบของโจทยป์ ัญหาร้อยละไมเ่ กนิ ๒ ขั้นตอน

แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาว น้าหนัก ท่ีมีการเปลี่ยนหน่วยและเขียนในรูป
ทศนิยม แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรของทรงสี่เหล่ียมมุมฉากและความจุของภาชนะทรง
สีเ่ หลย่ี มมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสเี่ หลี่ยมและพืน้ ท่ขี องรูปสเี่ หลี่ยมดา้ นขนานและรูปส่ีเหลี่ยมขนมเปียกปูน
สร้างเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงท่ีกาหนดให้ จาแนกรูปสี่เหล่ียมโดย
พิจารณาจากสมบัติของรูป สร้างรูปสี่เหล่ียมชนิดต่าง ๆ เมื่อกาหนดความยาวของด้านและขนาดของมุมหรือเม่ือ
กาหนดความยาวของเส้นทแยงมุม และบอกลกั ษณะของปรซิ ึม

ใชข้ ้อมูลจากกราฟเสน้ ในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา และเขียนแผนภูมิแท่งจากข้อมลู ท่ีเป็นจานวนนับ

มำตรฐำน/ตวั ชีว้ ัด
ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
รวม ๑๙ ตวั ช้ีวัด

หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๘

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน

ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศำสตร์๖ กล่มุ สำระกำรเรยี นรูค้ ณิตศำสตร์
ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๖ เวลำ ๑๖๐ ชั่วโมง

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
เปรียบเทียบ เรียงลาดับ เศษส่วนและจานวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ

เปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยท่ีปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจานวนนับ หา
อัตราส่วนที่เท่ากับอัตราส่วนท่ีกาหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนับไม่เกิน ๓ จานวน แสดงวิธีหา
คาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ หารระคนของ
เศษส่วนและจานวนคละ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและจานวนคละ ๒ – ๓ ขั้นตอน หาผลหาร
ของทศนิยมท่ีตัวหารและผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การ
ลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ข้ันตอน แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาอัตราส่วน ปัญหาร้อยละ ๒ – ๓
ขั้นตอน แสดงวธิ คี ิดและหาคาตอบของปัญหาเก่ียวกบั แบบรปู

แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติท่ีประกอบด้วยทรงสี่เหลี่ยมมุม
ฉาก และแสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรปู และพนื้ ท่ขี องรปู หลายเหล่ียม ความยาวรอบ
รูปและพ้นื ทีข่ องวงกลม จาแนกรปู สามเหลีย่ มโดยพจิ ารณาจากสมบตั ิของรูป สร้างรูปสามเหล่ียมเมื่อกาหนดความ
ยาวของด้านและขนาดของมุม บอกลักษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติชนิดต่าง ๆ ระบุรูปเรขาคณิตสามมิติท่ี
ประกอบจากรูปคลีแ่ ละระบรุ ูปคล่ขี องรูปเรขาคณิตสามมิติ

ใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู ริ ูปวงกลมในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา

มำตรฐำน/ตวั ช้ีวดั
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐, ป.๖/๑๑
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑
รวม ๒๐ ตวั ช้ีวดั

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๙

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์

และเทคโนโลยี

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๐

คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

รหสั ว๑๑๑๐๑ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๑ เวลำ ๑๒๐ ชว่ั โมง

ศึกษา วิเคราะห์ ระบชุ ่ือพชื และสตั วท์ ี่อาศยั อยบู่ รเิ วณต่างๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ บอกสภาพแวดลอ้ ม
ทีเ่ หมาะสมกับการดารงชวี ติ ของสตั วใ์ นบริเวณทอี่ าศยั อยู่ บรรยายลักษณะและบอกหน้าท่ขี อง สว่ นตา่ งๆของ
ร่างกายมนุษย์สัตว์ และพืช รวมทง้ั บรรยายการทาหนา้ ที่ร่วมกันของ ส่วนตา่ งๆ ของร่างกายมนุษย์ในการทา
กจิ กรรมตา่ ง ๆจากขอ้ มูลท่รี วบรวมได้ ตระหนักถงึ ความสาคญั ของส่วนตา่ งๆ ของร่างกายตนเอง โดยการดแู ลส่วน
ต่างๆ อย่าถูกตอ้ งให้ปลอดภัย และรกั ษาความสะอาดอยู่เสมอ อธิบายสมบัติท่ีสงั เกตได้ของวสั ดุท่ีใชท้ าวัตถุ

ซง่ึ ทาจากวัสดชุ ุนเดียวหรือหลายชุนประกอบกนั โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ระบุชนิดของวัสดุและจดั
กลุ่มวสั ดตุ ามสมบัติทีส่ งั เกตได้
บรรยายการเกดิ เสียงและทิศทางการเคลื่อนที่ ของเสยี งจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ระบุดาวท่ีปรากฏบนท้องฟ้าใน
เวลากลางวันและกลางคนื จากข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ อธิบายสาเหตทุ มี่ องไม่เหน็ ดาวสว่ นใหญใ่ นเวลากลางวนั จาก
หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธบิ ายลกั ษณะภายนอกของหนิ จากลกั ษณะ เฉพาะตัวท่ีสงั เกตได้

แกป้ ญั หาอย่างงา่ ยโดยใช้การลองผิดลองถูก การเปรยี บเทยี บ แสดงลาดับข้นั ตอนการทางานหรอื การ
แกป้ ญั หา อย่างงา่ ยโดยใช้ภาพสญั ลักษณห์ รือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือสอื่ ใช้
เทคโนโลยใี นการสร้าง จัดเก็บเรยี กใชข้ ้อมูล ตามวตั ถปุ ระสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบัติ ตาม
ข้อตกลงในการใช้คอมพวิ เตอรร์ ว่ มกนั ดแู ล รกั ษาอปุ กรณ์เบ้อื งตน้ ใช้งานอย่างเหมาะสม

เพ่อื ใหร้ ักการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ
มีจติ วทิ ยาศาสตร์ สามารถสื่อสารสง่ิ ทเี่ รียนรู้ สามารถตัดสินใจ มีทักษะในการดารงชีวติ และนาความรู้
วทิ ยาศาสตร์เป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้วิชาอนื่ และนาไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ตัวช้วี ดั
ว ๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒
ว ๑.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑
ว ๓.๑ ป.๑/๑
ว.๓.๒ ป.๑/๑
ว.๔.๒ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป๑.๔ ป.๑/๕

หลักสตู รโรงเรยี นบ้านห้วยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๓๑

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหสั ว๑๒๑๐๑ วิทยำศำสตร์ และเทคโนโลยี๒ กล่มุ สำระกำรเรียนร้วู ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี ๒ เวลำ ๑๒๐ ชัว่ โมง

สารวจและอธิบาย พชื และสัตวส์ ามารถตอบสนองต่อแสง อณุ หภมู ิ และการสัมผสั อาหาร น้า อากาศ เป็น
ปัจจัยที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต และการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ปัจจัยที่จาเป็น
ต่อการดารงชีวิต และการเจริญเติบโตของมนุษย์ ประโยชน์ของพืชและสัตว์ในท้องถ่ิน การนาแม่เหล็กมาใช้
ประโยชน์ ระบุชนิดและเปรียบเทียบสมบัติของวัสดุท่ีนามาทาของเล่นของใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกใช้วัสดุและ
ส่ิงของตา่ ง ๆ ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย ทดลองและอธิบาย น้า แสง เป็นปัจจัยที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต
ของพืช รา่ งกายของมนุษย์สามาร ตอบสนองต่อแสง อุณหภูมิ และการสัมผัส แรงท่ีเกิดจากแม่เหล็ก แรงไฟฟ้าท่ี
เกิดจากการถูวัตถุบางชนิด ไฟฟ้าเป็นพลังงาน สารวจและยกตัวอย่างเคร่ืองใช้ไฟฟ้าในบ้านท่ีเปล่ียนพลังงาน
ไฟฟา้ เปน็ พลงั งานอืน่ จาแนกประเภทของดินโดยใช้สมบัติทางกายภาพเป็นเกณฑ์ และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
สบื ค้นและอภิปรายความสาคัญของดวงอาทิตย์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา การสารวจตรวจสอบ การ
สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ
สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันมี
จติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม

รหสั ตัวชี้วดั
ว ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕
ว ๑.๒ ป.๒/๑
ว ๓.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒
ว ๔.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓
ว ๕.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒
ว ๖.๑ ป.๒/๑
ว ๗.๑ ป.๒/๑
ว ๘.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕ , ป.๒/๖ , ป.๒/๗ , ป.๒/๘
รวมท้ังหมด ๒๓ ตัวชีว้ ัด

หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๒

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

รหัส ว๑๓๑๐๑ วิทยำศำสตร์ และเทคโนโลยี๓ กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๓ เวลำ ๑๒๐ ชว่ั โมง

เปรียบเทยี บและระบุลักษณะท่คี ลา้ ยคลงึ กันของพอ่ แม่กับลูก การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ท่ีก่อให้เกิดปัญหา
ส่ิงแวดล้อมในท้องถิ่น สังเกต สารวจและอธิบายลักษณะที่คล้ายคลึงกันของพ่อแม่ กับลูกว่าเป็นการถ่ายทอด
ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม และนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ สารวจสิง่ แวดล้อมในท้องถน่ิ ความสัมพนั ธข์ องสิ่งมีชีวิตกับ
สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ของวัสดุแต่ละชนิด ความสาคัญของพลังงานไฟฟ้าและ เสนอ
วธิ ีการใช้ไฟฟ้าอยา่ งประหยดั และปลอดภยั สมบตั ิทางกายภาพของน้าจากแหล่งน้าในท้องถิ่น และนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์ การขึ้นตกของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ การเกิดกลางวันกลางคืน และการกาหนดทิศ สืบค้นข้อมูลและ
อภิปรายเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต บางชนิดท่ีสูญพันธ์ุไปแล้ว และท่ีดารงพันธ์ุมาจนถึงปัจจุบัน ลักษณะต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิต
ใกล้ตัว ประโยชน์และอันตรายท่ีอาจเกิดข้ึน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ และนาเสนอการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างประหยัด คุ้มค่า และมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ การใช้ทรัพยากร ธรรมชาติในท้องถิ่น
ส่วนประกอบของอากาศและความสาคัญของอากาศ จาแนกชนิดและสมบัติของวัสดุที่เป็นส่วนประกอบของของ
เล่น ของใช้ ทดลองและอธิบายผลของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนกับวัสดุ เมื่อถูกแรงกระทา หรือทาให้ร้อนขึ้น
หรือทาให้เย็นลง การเคลื่อนท่ีของอากาศที่มีผลจากความแตกต่างของอุณหภูมิ ผลของการออกแรงท่ีกระทาต่อ
วัตถุ ทดลองการตกของวัตถุสู่พื้นโลก และอธิบายแรงที่โลกดึงดูดวัตถุ บอกแหล่งพลังงานธรรมชาติท่ีใช้ผลิต
ไฟฟ้า

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา การสารวจตรวจสอบ การ
สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ
สือ่ สารส่ิงทเี่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ

เหน็ คุณคา่ ของการนาความร้ไู ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และ
คา่ นิยมที่เหมาะสม
รหัสตวั ชวี้ ดั
ว ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ว ๒.๑ ป.๓/๑
ว ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ว ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ว ๔.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ว ๕.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ว ๖.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ ,ป.๓/๓
ว ๗.๑ ป.๓/๑
ว ๘.๑ ป.๓/๑ ,ป.๓/๒ ,ป.๓/๓ ,ป.๓/๔ ,ป.๓/๕ ,ป.๓/๖ ,ป.๓/๗ ,ป.๓/๘
รวมทง้ั หมด ๒๘ ตวั ชว้ี ัด

หลักสูตรโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๓

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน

รหสั วชิ ำ ว๑๔๑๐๑ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี๔ กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ เวลำ ๑๒๐ ช่ัวโมง

ศึกษา วิเคราะห์ ระบบสุริยะ ส่วนประกอบของระบบสุริยะ การเคล่ือนที่ของแสงจากแหล่งกาเนิด การ
มองเห็น ตัวกลางของแสง การสะท้อนและหักเหของแสง การกระจายแสงและการเกิดรุ้ง การเกิดดิน สมบัติของ
ดินที่ใช้ปลกู พืชในท้องถิ่น หน้าท่ีของท่อลาเลียงและปากใบของพืช ปัจจัยท่ีจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช การ
สงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื การตอบสนองต่อสิ่งเรา้ ของพืช และการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์ การออกแบบและ
เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดในโปรแกรม การค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและการใช้คาค้นหา
การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การรวบรวมข้อมูล การประมวลผลอย่าง่าย การวิเคราะห์ผลและสร้าง
ทางเลือก การนาเสนอข้อมูล การสื่อสารอย่างมีมารยาทและรู้กาลเทสะ การปกป้องข้อมูลส่วนตัวทั้งน้ีโดยใช้
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์

การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้
ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน
มีจติ วิทยาศาสตร์จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสม

รหสั ตัวชวี้ ัด
ว ๑.๒ ป.๔/๑
ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๒.๓ ป.๔/๑
ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
ว ๘.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
รวมทัง้ หมด ๒๖ ตวั ชว้ี ดั

หลักสูตรโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๔

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

ว๑๕๑๐๑ วทิ ยำศำสตร์ และเทคโนโลยี๕ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๕ เวลำ ๑๒๐ ช่วั โมง

สังเกตและระบุส่วนประกอบของดอกและโครงสร้างท่ีเกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ของพืชดอก ลักษณะของ
พืชดอกท่เี ป็นพืชใบเลี้ยงเด่ียวและพืชใบเล้ยี งคู่ โดยใชล้ กั ษณะภายนอกเป็นเกณฑ์ อธิบายการสืบพันธ์ุของพืชดอก
การขยายพันธพ์ุ ชื และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ วัฏจักรชีวิตของพืชดอกบางชนิด การสืบพันธุ์และการขยายพันธุ์
ของสัตว์ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของส่ิงมีชีวิตในแต่ละรุ่น การเกิดทิศ และปรากฏการณ์การข้ึนตก
ของดวงดาวโดยใช้แผนท่ีดาว สารวจ สืบค้น อภิปรายวัฏจักรชีวิตของสัตว์บางชนิด และนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์ การนาวัสดุไปใช้ในชีวิตประจาวัน อันตรายที่เกิดข้ึนเม่ือฟังเสียงดังมาก ๆ เปรียบเทียบและระบุ
ลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว จาแนกพืชออกเป็นพืชดอก และพืชไม่มีดอก สัตว์ออกเป็นกลุ่มโดยใช้
ลักษณะภายในบางลักษณะและลักษณะภายนอกเป็นเกณฑ์ ทดลองและอธิบายสมบัติของวัสดุชนิด ต่าง ๆ
เก่ียวกับความยืดหยุ่น ความแข็ง ความเหนียว การนาความร้อน การนาไฟฟ้า และ ความหนา แน่น ความดันอากาศ
ความดนั ของของเหลว แรงพยงุ ของของเหลว การลอยตัว และการจมของวัตถุ การหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรง ซ่ึง
อยู่ในแนวเดียวกันท่ีกระทาต่อวัตถุ แรงเสียดทานและนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ การเกิดเสียงและการเคล่ือนที่
ของเสยี ง การเกิดเสียงสูง เสียงต่า เสียงดัง เสียงค่อย การเกิดเมฆ หมอก น้าค้าง ฝน และลูกเห็บ การเกิดวัฏ
จกั รนา้ การเกิดลมและนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันออกแบบและสร้างเคร่ืองมืออย่างง่ายในการวัด
อณุ หภูมิ ความชน้ื และความกดอากาศ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา การสารวจตรวจสอบ การ
สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ
สอ่ื สารส่ิงทีเ่ รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ

เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันมีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ
คา่ นิยมที่เหมาะสม
รหสั ตวั ชี้วดั
ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๑.๒ ป๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๔.๒ ป.๕/๑
ว ๕.๑ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๖.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๗.๑ ป.๕/๑
ว ๘.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
รวมทัง้ หมด ๓๔ ตวั ช้วี ัด

หลกั สูตรโรงเรยี นบา้ นห้วยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๕

คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน

ว๑๖๑๐๑ วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี๖ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ เวลำ ๑๒๐ ชวั่ โมง

สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายการเจริญเติบโตของมนุษย์จากวัยแรกเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่ การทางานท่ีสัมพันธ์กัน
ของระบบ ยอ่ ยอาหาร ระบบหายใจ และระบบหมนุ เวียนเลือดของมนุษย์ ความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต
ในรูปของโซ่อาหารและสายใยอาหาร ความสัมพันธ์ระหว่าง การดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตกับสภาพแวดล้อมใน
ท้องถิน่ แหล่งทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละท้องถน่ิ ที่เป็นประโยชนต์ อ่ การดารงชีวติ จาแนกประเภทของหิน โดยใช้
ลักษณะของหิน สมบัติของหินเป็นเกณฑ์และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ธรณีพิบัติภัยท่ีมีผลต่อมนุษย์แ ละ
สภาพแวดล้อมในท้องถ่ิน สรา้ งแบบจาลองและอธิบายการเกิดฤดู ข้างข้ึนข้างแรม สุริยุปราคา จันทรุปราคา และ
นาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ ประเภทของสารต่าง ๆ ท่ีใช้ในชีวิตประจาวัน โดยใช้สมบัติและการใช้ประโยชน์
วิเคราะห์สารอาหารและอภิปรายความจาเป็นที่ร่างกายต้องได้รับสารอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศ และวัย ผล
ของการเพ่ิมขึ้นของประชากรมนุษย์ต่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงที่ทาให้เกิดสารใหม่และมี
สมบัติเปล่ียนแปลงไป สารวจ สืบค้น และอภิปรายความสัมพันธ์ของกลุ่ม ส่ิงมีชีวิตในแหล่งท่ีอยู่ต่าง ผลต่อ
สิ่งมีชีวิต จากการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม ท้ังโดยธรรมชาติและโดยมนุษย์ แนวทางในการดูแลรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมๆ มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ิน การเลือกใช้สารแต่ละ
ประเภทได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงของสารท่ีก่อให้เกิดผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การ
เปลยี่ นแปลงของหิน สืบค้นอภิปรายความก้าวหน้าและประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ ของสารเป็นเกณฑ์ เป็น
กลมุ่ โดยใชส้ ถานะหรอื เกณฑ์อน่ื ทกี่ าหนดเอง ทดลองและอธิบาย สมบัติของของแข็ง ของเหลว และแก๊ส วิธีการ
แยกสารบางชนดิ ทผี่ สมกันโดยการร่อน การตกตะกอน การกรอง การระเหิด การระเหยแห้ง สมบัติของสาร เมื่อ
สารเกิดการละลายและเปลี่ยนสถานะ การต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ตัวนาไฟฟ้าและฉนวนไฟฟ้า การต่อ
เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ การต่อหลอดไฟฟ้าทั้งแบบอนุกรม แบบขนาน และนา
ความรู้ไปใช้ประโยชน์ การเกดิ สนามแม่เหล็กรอบสายไฟท่มี ีกระแสไฟฟา้ ผา่ น และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การแก้ปญั หา การสารวจตรวจสอบ การ
สบื คน้ ข้อมลู บนั ทึก จัดกลุ่มข้อมูลสรา้ งแบบจาลองและอธิบายการเกดิ ฤดู ข้างขึ้นขา้ งแรม สุรยิ ุปราคา
จันทรปุ ราคา และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันมีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ี
เหมาะสม

รหสั ตัวช้ีวัด
ว ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓
ว ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓
ว ๒.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓ ,ป.๖/๔,ป.๖/๕
ว ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓ ,ป.๖/๔,ป.๖/๕
ว ๓.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓

หลกั สตู รโรงเรยี นบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๖

ว ๕.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓ ,ป.๖/๔,ป.๖/๕
ว ๖.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓
ว ๗.๑ ป.๖/๑
ว ๗.๒ ป.๖/๑
ว ๘.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒, ป.๖/๓ ,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗, ป.๖/๘
รวมทั้งหมด ๓๗ ตัวชีว้ ัด

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๗

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
กลุม่ สำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษำ

ศำสนำและวัฒนธรรม

หลกั สตู รโรงเรยี นบ้านห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๘

ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำฯ๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน
ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี ๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม
เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
บอกพทุ ธประวัติ หรือประวัตขิ องศาสดาทต่ี นนับถือโดยสงั เขป ชนื่ ชมและบอกแบบอย่างการดาเนนิ ชีวิต

และข้อคิดจากประวตั ิสาวก ชาดก/เรอื่ งเล่าและศาสนิกชนตัวอย่างตามท่กี าหนด บอกความหมาย ความสาคญั
และเคารพพระรัตนตรยั ปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมโอวาท ๓ ในพระพทุ ธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาทตี่ นนบั ถือ
ตามที่กาหนด เหน็ คุณคา่ และสวดมนต์ แผ่เมตตา มสี ตทิ เี่ ป็นพ้นื ฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนา หรอื การ
พัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาทตี่ นนบั ถือตามที่กาหนด บาเพ็ญประโยชน์ตอ่ วัด หรือศาสนสถานของศาสนาที่
ตนนบั ถือ แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ หรือแสดงตนเป็นศาสนกิ ชนของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพธิ ี
พธิ กี รรม และวนั สาคญั ทางศาสนา ตามทก่ี าหนดไดถ้ ูกตอ้ ง บอกประโยชนแ์ ละปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ีของ
ครอบครัวและโรงเรียนยกตัวอยา่ งความสามารถและความดขี องตนเอง ผู้อ่นื และบอกผลจากการกระทาน้ัน บอก
โครงสรา้ ง บทบาทและหน้าทขี่ องสมาชกิ ในครอบครัวและโรงเรียน ระบบุ ทบาท สทิ ธิ หนา้ ท่ขี องตนเองใน
ครอบครวั และโรงเรียน มีสว่ นร่วมในการตัดสนิ ใจและทากจิ กรรมในครอบครวั และโรงเรียนตามกระบวนการ
ประชาธิปไตย ระบุสินค้าและบรกิ ารท่ีใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวนั ยกตวั อยา่ งการใชจ้ ่ายเงนิ ในชวี ิต ประจาวนั ที่
ไมเ่ กินตวั และเหน็ ประโยชนข์ องการออม ยกตัวอย่างการใช้ทรัพยากรในชีวติ ประจาวันอย่างประหยัด อธบิ าย
เหตุผลความจาเป็นท่คี นต้องทางานอย่างสุจรติ

จาแนกส่ิงแวดล้อมรอบตัวที่เกิดขน้ึ เองตามธรรมชาตแิ ละท่ีมนษุ ย์สร้างขน้ึ ระบุความสัมพันธข์ องตาแหน่ง
ระยะ ทศิ ของส่งิ ต่างๆ ใชแ้ ผนผงั ง่าย ๆ ในการแสดงตาแหน่งของส่ิงต่างๆในห้องเรียน สังเกตและบอกการ
เปลยี่ นแปลงของสภาพอากาศในรอบวัน บอกส่ิงแวดล้อม ทีเ่ กดิ ตามธรรมชาติทส่ี ง่ ผลต่อความเป็นอย่ขู องมนษุ ย์
สังเกตและ เปรยี บเทียบการเปลย่ี น แปลงของสิ่งแวดลอ้ มเพื่อการปฏิบตั ติ นอย่างเหมาะสม มสี ว่ นร่วมในการจดั ระเบียบ
ส่งิ แวดลอ้ มท่บี ้านและห้องเรียน

เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในการสนทนาการปฏิบัติตนตามกาลเทศะและการต้อนรับผู้
มาเยือนรู้คุณค่าใช้อย่างประหยัดคุ้มค่าและบารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมมีส่วนร่วมใน
ศิลปวฒั นธรรมไทยปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้มีวนิ ยั ในตนเองในเรอ่ื งความซ่ือสัตย์สุจรติ ตง้ั ใจปฏิบตั ิหนา้ ที่และยอมรับผลที่เกิด
จากการกระทาของตนเอง เห็นคุณค่าและแสดงออกถึงความรักชาติยึดม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบัน
พระมหากษัตริย์ด้วยการใช้สินค้าไทยดูแลรักษาโบราณสถานโบราณวัตถุและสาธารณสมบัติปฏิบัติทางานอย่างมี
ความสุขและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเร่ืองความซ่ือสัตย์สุจริ ต
ขยันหม่ันเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ีและยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง มีส่วนร่วมใน
การสรา้ งและปฏบิ ัตติ นตามกฎระเบยี บของโรงเรียนในการรักษาความสะอาดการรักษาของใช้ร่วมกันและการดูแล
พื้นที่ท่ีได้รับมอบหมายโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างกฎระเบียบด้วยหลักเหตุผลและยึดถือประโยชน์
สว่ นรวมปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหนา้ ทข่ี องการเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องหอ้ งเรยี นและโรงเรียนในเร่ืองการยึดถือหลักความ
จริงความดีงามความถกู ต้องและหลกั เหตุผลการยึดถอื ประโยชน์ของส่วนรวมเปน็ สาคัญการยึดหลักความเสมอภาค
และความยุตธิ รรมมีส่วนรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียนปฏิบัติตนเป็นผู้มี
วินยั ในตนเองในเรือ่ งความซอ่ื สัตยส์ จุ ริตขยันหมั่นเพยี รอดทนใฝ่หาความรตู้ ง้ั ใจปฏิบัติหนา้ ทีแ่ ละยอมรบั ผลที่เกดิ

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๓๙

จากการกระทาของตนเอง ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในท้องถ่ินในเร่ืองวิ ถีชีวิต
วัฒนธรรมศาสนาและส่งิ แวดลอ้ มอยู่ร่วมกับผูอ้ น่ื อย่างสนั ตแิ ละพึง่ พากันด้วยการเคารพซึ่งกันและกันไม่แสดงกิริยา
วาจาดูหม่ินผู้อ่ืนช่วยเหลือซ่ึงกันและกันและแบ่งปันวิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเองในเร่ืองการ
จัดการทรัพยากรและการขัดแย้งทางความคิดและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยใน
ตนเองในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตความอดทนและยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนมี
ลักษณะที่ดีของคนไทยภาคภูมิใจและรักษาไว้ซ่ึงความเป็นไทยแสดงออกถึงความรักชาติยึดมั่นในศาสนาเทิดทูน
สถาบนั พระมหากษัตริย์ดาเนนิ ชีวติ ตามวิถปี ระชาธิปไตยอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติสามารถจัดการความขัดแย้งด้วย
สันติวิธแี ละมีวนิ ยั ในตนเอง

มำตรฐำน/ตวั ช้วี ดั
ส ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔
ส ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ส ๒.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๓.๒ ป.๑/๑
ส ๕.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕
ส ๕.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
รวม ๘ มำตรฐำน ๒๔ ตวั ชวี้ ัด

หลักสูตรโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

ส ๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษำ ศำสนำฯ๒ ๔๐
ช้ันประถมศึกษำปที ี่ ๒
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม
เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
ศึกษาความสาคัญ ความหมาย ความสัมพันธ์ของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือ ในฐานะที่เป็น

รากฐานสาคญั ของวฒั นธรรมไทย พทุ ธประวัติต้งั แต่การบาเพ็ญเพียรจนถึงปรินิพพาน หรือประวัติของศาสดาท่ี
ตนนับถือตามท่กี าหนด การดาเนนิ ชวี ิตและข้อคดิ จากประวัติสาวก ชาดก/เรื่องเลา่ และ ศาสนิกชนตัวอย่าง ตามท่ี
กาหนด พระไตรปฎิ ก หรือคัมภีรข์ องศาสนาทีต่ นนับถอื ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน และศาสนบุคคลของศาสนาอื่นๆ
แบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เร่ืองเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง ตามท่ีกาหนด
การสวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติท่เี ป็นพนื้ ฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนา
ท่ีตนนับถือตามที่กาหนดความสัมพันธ์ของตนเอง และสมาชิกในครอบครัวในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
มบี ทบาทอานาจในการตัดสนิ ใจในโรงเรยี นและชมุ ชนทรพั ยากรท่ีนามาผลิตสินค้าและบริการที่ใช้ในชีวิตประจาวัน
ท่ีมาของรายได้และรายจ่ายของตนเองและครอบครัว ผลดีของการใช้จ่ายท่ีเหมาะสมกับรายได้และการออม
สินค้าและบรกิ ารที่รฐั จดั หาและใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชนภาษแี ละบทบาทของประชาชนในการเสียภาษี เหตุผลการ
แข่งขันทางการค้าที่มีผลทาให้ราคาสินค้าลดลงระบุสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งปรากฏ
ระหว่างโรงเรียนกับบ้าน ระบุตาแหน่งและลักษณะทางกายภาพของส่ิงต่างๆ ท่ีปรากฏในลูกโลก แผนท่ี แผนผัง และ
ภาพถ่าย สงั เกตและแสดงความสัมพันธ์ระหว่างโลก ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ท่ีทาให้เกิดปรากฏการณ์ อธิบาย
ความสาคญั ของสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติที่มนุษยส์ รา้ งขน้ึ

ใชก้ ระบวนการสังเกต แยกแยะ บอก อธิบาย ระบุ และปฏบิ ัตใิ นการแสดงความเคารพ พระรัตนตรัย

และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรม ๓ ในพระพุทธศาสนา หรอื หลักธรรมของศาสนาทต่ี นนับถือตามท่ีกาหนดปฏิบัติตนอย่าง

เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาที่ตนนับถือ ตามท่ีกาหนดได้ถูกต้อง ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และโอวาท

วันสาคัญทางศาสนา ตามที่กาหนดได้ถูกต้อง ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบและหน้าท่ีท่ีต้องปฏิบัติ

ในชวี ิตประจาวนั ปฏบิ ัตติ นตนตามมารยาทไทยแสดงพฤติกรรมในการยอมรับความคิดความเชื่อและการปฏิบัติของ

บุคคลอ่ืนท่ีแตกต่างกันโดยปราศจากอคติเคารพในสิทธิ เสรีภาพของผู้อ่ืน บันทึกรายรับรายจ่ายของตนเอง

แยกแยะและใช้ทรัพยากรธรรมชาติท่ีใช้แล้วไม่หมดไปและท่ีใช้แล้วหมดไปได้อย่างคุ้มค่า มีส่วนร่วมในการฟ้ืนฟู

ปรับปรงุ สิง่ แวดล้อมในโรงเรยี นและชมุ ชน

ตระหนักในความสาคัญเห็นคุณคา่ ของการปฏิบตั ิแสดงความชื่นชมในเรือ่ งท่ีได้ศึกษาและปฏบิ ัตดิ ว้ ยความ
จรงิ ใจเกย่ี วกับการดาเนนิ ชวี ติ และข้อคดิ จากประวตั สิ าวกชาดก/เรื่องเล่าและศาสนกิ ชนตัวอยา่ งตามทห่ี นดเห็น
คุณค่าการสวดมนต์ แผเ่ มตตา การมสี ตทิ เี่ ปน็ พื้นฐานของสมาธิ หรอื การพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ตี น
นับถอื ตามทีก่ าหนด

เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในการสนทนาการปฏิบัติตนตามกาลเทศะและการต้อนรับผู้
มาเยือนรู้คุณค่าใช้อย่างประหยัดคุ้มค่าและบารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีส่วนร่วมใน
ศลิ ปวฒั นธรรมไทยปฏิบัตติ นเปน็ ผ้มู ีวนิ ัยในตนเองในเรือ่ งความซ่อื สตั ยส์ ุจริตตั้งใจปฏบิ ตั หิ น้าที่และยอมรับผลที่เกิด

หลักสตู รโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๔๑

จากการกระทาของตนเอง เห็นคุณค่าและแสดงออกถึงความรักชาติยึดม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบัน
พระมหากษัตริย์ดว้ ยการใชส้ นิ ค้าไทยดแู ลรกั ษาโบราณสถานโบราณวัตถแุ ละสาธารณสมบัตปิ ฏิบัติทางานอย่างมี

ความสขุ และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต
ขยันหมั่นเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง มีส่วนร่วมใน
การสร้างและปฏิบัติตนตามกฎระเบยี บของโรงเรียนในการรักษาความสะอาดการรักษาของใช้ร่วมกันและการดูแล
พ้ืนท่ีที่ได้รับมอบหมายโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างกฎระเบียบด้วยหลักเหตุผลและยึดถือประโยชน์
สว่ นรวมปฏบิ ัติตนตามบทบาทหนา้ ทขี่ องการเปน็ สมาชิกทดี่ ีของห้องเรียนและโรงเรียนในเรื่องการยึดถือหลักความ
จรงิ ความดงี ามความถกู ต้องและหลกั เหตุผลการยดึ ถอื ประโยชนข์ องสว่ นรวมเป็นสาคัญการยึดหลักความเสมอภาค
และความยุตธิ รรมมสี ว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียนปฏิบัติตนเป็นผู้มี
วินัยในตนเองในเร่ืองความซ่ือสัตย์สุจริตขยันหม่ันเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ตั้งใ จปฏิบัติหน้าท่ีและยอมรับผลที่เกิด
จากการกระทาของตนเอง ยอมรบั ความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในทอ้ งถน่ิ ในเรอ่ื งวิถีชีวิตวัฒนธรรมศาสนา
และส่ิงแวดล้อมอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติและพ่ึงพากันด้วยการเคารพซึ่งกันและกันไม่แสดงกิริยาวาจาดูหมิ่นผู้อื่น
ชว่ ยเหลอื ซึ่งกนั และกันและแบง่ ปนั วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเองในเร่ืองการจัดการทรัพยากร
และการขัดแย้งทางความคิดและเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่อง
ความซ่ือสัตย์สุจริตความอดทนและยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคน
ไทยภาคภูมิใจและรักษาไว้ซ่ึงความเป็นไทยแสดงออกถึงความรักชาติยึดม่ันในศาสนาเทิดทูนสถาบัน
พระมหากษัตรยิ ด์ าเนนิ ชีวติ ตามวิถปี ระชาธิปไตยอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติสามารถจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
และมวี นิ ยั ในตนเอง

มำตรฐำน/ตัวชี้วัด
ส ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗
ส ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ส ๕.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔

รวม ๘ มำตรฐำน ๒๘ ตัวชี้วดั

หลักสูตรโรงเรยี นบ้านห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ส ๑๓๑๐๑ สังคมศึกษำ ศำสนำฯ๓ ๔๒
ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๓
คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน
กลมุ่ สำระกำรเรียนรูส้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม
เวลำ ๔๐ ชั่วโมง

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ
อธิบายความสาคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะท่ีเป็นรากฐานสาคัญของ

วัฒนธรรมไทย สรปุ พุทธประวัตติ ้ังแตก่ ารบาเพญ็ เพยี รจนถึงปรนิ พิ พาน หรือประวัตขิ องศาสดาที่ตนนับถือตามที่
กาหนด บอกความหมาย ความสาคัญของพระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาท่ีตนนับถือ บอกช่ือ ความสาคัญ
ของศาสนวัตถุศาสนสถานและศาสนบุคคลของศาสนาอ่ืนๆสรุปประโยชน์และปฏิบัติตนตามประเพณีและ
วฒั นธรรมในครอบครัวและทอ้ งถ่นิ บอกพฤติกรรมการดาเนินชีวิตของตนเอง และผู้อื่นท่ีอยู่ในกระแสวัฒนธรรมที่
หลากหลายอธิบายความสาคญั ของวันหยดุ ราชการที่สาคัญ วิเคราะห์ความแตกต่างของกระบวนการการตัดสินใจ
ในชนั้ เรยี น/โรงเรยี นและชมุ ชนโดยวิธกี ารออกเสียงโดยตรงและการเลือกตัวแทนออกเสียง ระบุบทบาทหน้าท่ีของ
สมาชกิ ของชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ตามกระบวนการประชาธิปไตย จาแนกความต้องการและ
ความจาเป็นในการใชส้ นิ ค้าและบริการในการดารง ชีวิต อธิบายได้ว่าทรัพยากรที่มีอยู่จากัดมีผลต่อการผลิตและ
บรโิ ภคสินคา้ และบริการบอกสนิ ค้าและบริการที่รัฐจัดหาและให้บริการแก่ประชาชนบอกความสาคัญของภาษีและ
บทบาทของประชาชนในการเสียภาษี อธิบายเหตุผลการแข่งขันทางการค้า ท่ีมีผลทาให้ราคาสินค้าลดลง บอก
ความสัมพันธ์ของลักษณะกายภาพกับลักษณะทางสังคมของชุมชน เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม
ในชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน อธิบายการพึ่งพาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในการสนองความต้องการ
พ้ืนฐานของมนุษย์ และการประกอบอาชีพ อธิบายเก่ียวกับมลพิษและการก่อให้เกิดมลพิษโดยมนุษย์ อธิบาย
ความแตกต่างของเมืองและชนบท

ใช้กระบวนการสังเกต วิเคราะห์ แยกแยะ อธิบาย บอก ระบุ และแสดงความเคารพพระรัตนตรัย

และปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมโอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนาหรือหลกั ธรรมของศาสนาทตี่ นนับถอื ตามที่กาหนด ปฏิบัติตน

ได้อย่างเหมาะสมต่อศาสนวัตถุศาสนสถาน และศาสนบุคคลของศาสนาอื่นๆ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อสาวก

ศาสนสถาน ศาสนวตั ถุของศาสนาทต่ี นนับถือ ตามท่กี าหนดไดถ้ ูกต้อง แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ หรือแสดงตนเป็น

ศาสนิกชนของศาสนาทีต่ นนบั ถือปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัวและท้องถ่ิน ยกตัวอย่างบุคคล

ซ่งึ มผี ลงานท่ีเป็นประโยชนแ์ กช่ ุมชนและทอ้ งถิน่ ของตนยกตวั อยา่ งการเปล่ียนแปลงในช้นั เรียน/โรงเรียนและชุมชน

ที่เป็นผลจากการตัดสินใจของบุคคลและกลุ่ม วิเคราะห์การใช้จ่ายของตนเอง สารวจข้อมูลทางภูมิศาสตร์ใน

โรงเรยี นและชมุ ชนโดยใช้แผนผงั แผนท่ี และรปู ถ่ายเพ่ือแสดงความสมั พันธ์ของตาแหนง่ ระยะ ทิศทาง วางแผนผัง

เพ่ือแสดงตาแหน่งท่ีต้ังของสถานท่ีสาคัญในบริเวณโรงเรียนและชุมชน อธิบายการใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม

และทรัพยากรธรรมชาติในกาสนองความตอ้ งการพื้นฐานของมนุษย์ และการประกอบอาชีพ อธิบายสาเหตุที่ทาให้

เกิดมลพิษโดยมนุษย์ อธิบายความแตกต่างของลักษณะเมืองและชนบท อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทาง

กายภาพกับการดาเนินชีวิตของคนในชุมชน มีส่วนร่วมกับการจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชน ตระหนัก เห็นคุณค่า

และช่ืนชม แบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/เร่ืองเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง ตามที่

กาหนด การสวดมนต์ แผ่เมตตา การมีสติท่ีเป็นพ้ืนฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตาม

แนวทางของศาสนาทตี่ นนับถอื ตามทีก่ าหนด การปฏิบัตติ นในศาสนพิธีพิธกี รรม และวันสาคัญ

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๔๓

ทางศาสนา ตามท่กี าหนดได้ การเปล่ยี นแปลงของสงิ่ แวดล้อมในชมุ ชนระดับตำบลและอำเภอเห็นคุณค่า
และปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในการสนทนาการปฏิบัติตนตามกาลเทศะและการต้อนรับผู้มาเยือนรู้คุณค่าใช้
อยา่ งประหยัดคุม้ ค่าและบารงุ รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีส่วนร่วมในศิลปวัฒนธรรมไทยปฏิบัติตน
เป็นผู้มีวินัยในตนเองในเร่ืองความซ่ือสัตย์สุจริตตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ีและยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง
เห็นคุณค่าและแสดงออกถึงความรักชาติยึดม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการใช้สินค้าไทย
ดแู ลรกั ษาโบราณสถานโบราณวตั ถุและสาธารณสมบตั ปิ ฏิบตั ิทางานอย่างมีความสุขและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริตขยันหม่ันเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ต้ังใจปฏิบัติ
หน้าที่และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง มีส่วนร่วมในการสร้างและปฏิบัติตนตามกฎระเบียบขอ ง
โรงเรียนในการรักษาความสะอาดการรักษาของใช้ร่วมกันและการดูแลพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายโดยใช้กระบวนการมี
ส่วนรว่ มในการสร้างกฎระเบยี บด้วยหลักเหตุผลและยึดถือประโยชน์ส่วนรวมปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีของการ
เป็นสมาชกิ ทด่ี ีของห้องเรียนและโรงเรียนในเรื่องการยึดถือหลักความจริงความดีงามความถูกต้องและหลักเหตุผล
การยดึ ถอื ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสาคัญการยึดหลักความเสมอภาคและความยุติธรรมมีส่วนร่วมและรับผิดชอบ
ในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียนปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต
ขยันหม่ันเพียรอดทนใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ีและยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง ยอมรับความ
หลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในท้องถ่ินในเรื่องวิถีชีวิตวัฒนธรรมศาสนาและส่ิงแวดล้อมอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง
สันติและพึ่งพากันด้วยการเคารพซึ่งกันและกันไม่แสดงกิริยาวาจาดูหม่ินผู้อ่ืนช่วยเห ลือซึ่งกันและกันและแบ่งปัน
วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเองในเร่ืองการจัดการทรัพยากรและการขัดแย้งทางความคิดและ
เสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเองในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริตความอดทนและ
ยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทยภาคภูมิใจและรักษาไว้ซ่ึงความ
เปน็ ไทยแสดงออกถงึ ความรกั ชาติยดึ ม่ันในศาสนาเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย
อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ่นื อย่างสนั ตสิ ามารถจดั การความขดั แยง้ ด้วยสนั ติวธิ ีและมีวนิ ัยในตนเอง

มำตรฐำน/ตวั ช้วี ัด
ส ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗
ส ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ส ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๕.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๕.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖
รวม ๘ มำตรฐำน ๓๑ ตวั ชี้วดั

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหว้ ยมะซาง พุทธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๔๔

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ส ๑๔๑๐๑ สังคมศึกษำ ศำสนำฯ๔ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๔ เวลำ ๘๐ ช่ัวโมง

คำอธิบำยรำยวชิ ำ

ศึกษา รู้ เข้าใจ ความสาคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะเป็นศูนย์รวมจิตใจ

ของศาสนิกชน พุทธประวัติต้ังแต่บรรลุธรรมจนถึงประกาศธรรม หรือประวัติศาสดาท่ีตนนับถือตามที่กาหนด

ประวตั ิศาสดาของศาสนาอนื่ ๆ โดยสังเขป ความสาคัญ และมีส่วนรว่ มในการบารุงรักษาศาสนสถานของศาสนาที่

ตนนบั ถือ สิทธพิ ้ืนฐานทีเ่ ด็กทกุ คน พึงไดร้ ับตามกฎหมาย ความแตกต่างทางวัฒนธรรมของกลุ่มคนในท้องถ่ิน

เสนอวิธีการที่จะอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุขในชีวิตประจาวัน อธิบายอานาจอธิปไตยและความสาคัญของ

ระบอบประชาธิปไตย อธิบายบทบาทหน้าท่ีของพลเมืองในกระบวนการเลือกตั้ง ความสาคัญของสถาบัน

พระมหากษัตรยิ ์ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ ปจั จัยที่มีผลต่อการเลือกซ้ือสินค้า

และบรกิ าร บอกสิทธิพืน้ ฐานและรักษาผลประโยชนข์ องตนเองในฐานะผู้บริโภค หลักการของเศรษฐกิจพอเพียง

และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันของตนเอง ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน หน้าท่ีเบื้องต้นของเงิน

แหล่งทรพั ยากรและสงิ่ ต่าง ด้วยแผนท่ี สภาพ แวดลอ้ มทางกายภาพของชุมชนที่ส่งผลต่อการดาเนินชีวิตของคนใน

การใช้ภำษำถ่ินส่ือสารกับคนในท้องถ่ินได้ถูกต้อง การเปล่ียนแปลงสภาพ แวดล้อมใน และผลท่ีเกิดจากการ

เปล่ยี นแปลงนั้น

ใช้กระบวนการวิเคราะห์ แยกแยะ สรุป อธิบาย อภิปราย ระบุ และปฏิบัติ การแสดงความเคารพ

พระรตั นตรยั ปฏบิ ัติตามไตรสิกขาและหลกั ธรรมโอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับ

ถือตามที่กาหนด ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อการอยู่ร่วมกันเป็นชาติได้อย่างสมานฉันท์

มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดี ตามที่กาหนด ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรมและวันสาคัญทางศาสนา

ตามทก่ี าหนดได้ถูกต้อง ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกท่ีดีของชุมชน ปฏิบัติตน

ในการเป็นผู้นาและผู้ตามท่ีดี สืบค้นและอธิบายข้อมูลลักษณะทางกายภาพในจังหวัดของตนเองด้วยแผนท่ี และ

รูปถ่าย ระบุแหล่งทรัพยำกรและสถำนท่ีสำคัญในจังหวัดของตน ด้ำยแผนท่ีและรูปถ่ำย อธิบำยลักษณะทำง

กำยภำพทีส่ ่งผลตอ่ แหลง่ ทรัพยำกรและสถำนท่ีสำคญั ในจังหวดั

เห็นคุณค่าความสาคัญของปฏิบัติตนตามแบบอย่างการดาเนินชีวิต และข้อคิดจากประวัติสาวก

ชาดก/เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง ตามท่ีกาหนด ช่ืนชมการทาความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัว

โรงเรยี นและชมุ ชนตามหลกั ศาสนา พรอ้ มท้งั บอกแนวปฏบิ ตั ใิ นการดาเนนิ ชีวติ การสวดมนต์ แผ่เมตตา การมีสติท่ี

เป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามทก่ี าหนด

มำตรฐำน/ตัวชว้ี ดั

ส ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗, ป.๔/๘

ส ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕

ส ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๓.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๓.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒

ส ๕.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๕.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

รวม ๘ มำตรฐำน ๓๐ ตัวชีว้ ัด

หลักสตู รโรงเรยี นบ้านหว้ ยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษำ ศำสนำฯ๕ ๔๕
ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๕
คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม
เวลำ ๘๐ ชั่วโมง

คำอธิบำยรำยวิชำ
ศึกษารู้และเข้าใจความสาคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือในฐานะที่เป็นมรดกทาง

วัฒนธรรมและหลกั ในการพัฒนาชาติไทย พุทธประวัติตั้งแต่เสด็จกรุงกบิลพัสด์ุจนถึงพุทธกิจสาคัญ หรือประวัติ
ศาสดาท่ีตนนับถือตามที่กาหนด องค์ประกอบ และความสาคัญของพระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาที่ตนนับ
ถือ และปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิเสรีภาพ และหน้าที่ในฐานะพลเมืองดี วิธีการปกป้อง
คุ้มครองตนเองหรือผู้อ่ืนจากการละเมิดสิทธิเด็ก โครงสร้าง อานาจ หน้าที่และความสาคัญของการปกครองส่วน
บทบาทหน้าท่ี และวิธีการเข้าดารงตาแหน่งของผู้บริหารท้องถ่ิน ประโยชน์ที่ชุมชน จะได้รับจากองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถ่ิน ปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ อธิบายหลักการสาคัญและประโยชน์ของสหกรณ์ บทบาทหน้าที่
เบ้ืองต้นของธนาคาร ผลดีและผลเสียของการกู้ยืม รู้ตาแหน่ง สืบค้นและอธิบายข้อมูลลักษณะทางกายภาพใน
ภูมิภาคของตนเองด้วยแผนท่ี และรูปถ่าย อธิบายลักษณะทางกายภาพที่ส่งผลต่อแหล่งทรัพยากรและสถานที่
สาคัญในภมู ภิ าคของตน

ใช้กระบวนการสังเกต วิเคราะห์แยกแยะ อธิบาย บอก ระบุ อภิปราย นาเสนอและปฏิบัติจริง
การแสดงความเคารพพระรัตนตรัย การปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนาหรือ
หลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ เพ่ือการพัฒนา
ตนเองและส่ิงแวดลอ้ ม จดั พธิ กี รรมตามศาสนาที่ตนนบั ถืออย่างเรยี บงา่ ย มีประโยชน์ และปฏิบัติตนถูกต้อง ปฏิบัติ
ตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสาคัญทางศาสนา ตามท่ีกาหนด และอภิปรายประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วม
กจิ กรรม มีมรรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนทด่ี ี ตามท่กี าหนด มสี ว่ นร่วมในการอนุรักษ์และเผยแพร่ภูมิปัญญา
ท้องถ่ินของชุมชน ประยุกต์ใช้แนวคิดของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการทากิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัว
โรงเรียนและชุมชน

เห็นคุณค่า ความสาคัญ และช่ืนชม การประพฤติตนตามแบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจาก
ประวัติสาวก ชาดก/เรือ่ งเล่าและศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ตามทก่ี าหนด เห็นคุณค่าและสวดมนต์แผ่เมตตา มีสติที่เป็น
พ้ืนฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด
เหน็ คณุ คา่ วัฒนธรรมไทยท่มี ีผลตอ่ การดาเนินชีวติ ในสงั คมไทย

มำตรฐำน/ตวั ช้วี ัด
ส ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗
ส ๑.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป. ๕/๔
ส ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส.๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
ส ๕.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๕.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓

รวม ๘ มำตรฐำน ๒๘ ตวั ช้ีวดั

หลักสตู รโรงเรียนบ้านหว้ ยมะซาง พทุ ธศักราช ๒๕64 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

ส ๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษำ ศำสนำฯ๖ ๔๖
ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖
คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน
กล่มุ สำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม
เวลำ ๘๐ ชั่วโมง

คำอธบิ ำยรำยวิชำ
ศึกษา รู้ เข้าใจ ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจาชาติ หรือความสาคัญของ

ศาสนาทีต่ นนับถอื พทุ ธประวัติตั้งแต่ปลงอายุสังขารจนถึงสังเวชนียสถาน หรือประวัติศาสดาท่ีตนนับถือตามท่ี
กาหนด หลักธรรมสาคัญของศาสนาอื่นๆ โดยสังเขป ลักษณะสาคัญของศาสนพิธีพิธีกรรมของศาสนาอ่ืนๆ
และปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมเมื่อต้องเข้าร่วมพิธีอธิบายความรู้เกี่ยวกับสถานท่ีต่างๆในศาสนสถาน และปฏิบัติ
ตนได้อย่างเหมาะสม ประโยชน์ของการเข้าร่วมใน ศาสนพิธี พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสาคัญทางศาสนา
ตามทก่ี าหนด และปฏบิ ัตติ นไดถ้ ูกตอ้ งวิเคราะหก์ ารเปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมตามกาลเวลาและธารงรักษาวัฒนธรรม
อนั ดีงาม คุณค่าทางวฒั นธรรมท่แี ตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนในสังคมไทย ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง
ๆ ในชีวิตประจาวนั เลอื กรับและใชข้ อ้ มูล ขา่ วสารในการเรียนรูไ้ ด้เหมาะสม บทบาท หน้าที่ขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถ่ินและรัฐบาล บทบาท ความสาคัญในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
บทบาทของผู้ผลิตท่ีมีความรับผิดชอบ บทบาทของผู้บริโภคที่รู้เท่าทัน บอกวิธีและประโยชน์ของการใช้
ทรัพยากรอย่างย่ังยืน อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร และรัฐบาล สืบค้นและอธิบาย
ข้อมูลลักษณะทางกายภาพของประเทศไทย ด้วยแผนที่รูปถ่ายทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม อธิบาย
ความสัมพันธร์ ะหว่างลกั ษณะทางกายภาพกบั ภยั พิบัตใิ นประเทศไทยเพอ่ื เตรียมพร้อมรับมือภยั พิบตั ิ

โดยใช้กระบวนการ วิเคราะห์ แยกแยะ เปรียบเทียบ บอก ระบุ อธิบาย อภิปราย และปฏิบัติ
ตน ตามหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ เพื่อแก้ปัญหาอบายมุขและ ส่ิงเสพติด ปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมเม่ือ
ต้องเข้าร่วมพิธี มีมารยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดี ตามท่ีกาหนด แสดงตนเป็นพุทธมามกะ หรือแสดงตน
เป็นศาสนิกชนของศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัติตามกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวันของครอบครัวและชุมชน
มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีส่งเสริม ประชาธิปไตยในท้องถ่ินและประเทศ ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (แผนที่
ภาพถา่ ยชนดิ ต่าง ๆ) ลกั ษณะสาคญั ทางกายภาพและสงั คมของประเทศ จดั ทาแผนการใชท้ รัพยากรในชมุ ชน

เห็นคุณค่า ความสาคัญ ชื่นชมการประพฤติตนตามแบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติ
สาวก ชาดก/เรื่องเล่า และ ศาสนิกชนตัวอย่างตามท่ีกาหนด ความสาคัญและเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตาม
ไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนด ชื่นชม
การทาความดีของบคุ คลในประเทศตามหลักศาสนา แนวปฏิบัติ ในการดาเนินชีวิต เห็นคุณค่าการสวดมนต์แผ่
เมตตา และบริหารจติ เจรญิ ปญั ญา มีสติท่ีเปน็ พื้นฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทาง
ของศาสนาทตี่ นนับถือ ตามทีก่ าหนด

มำตรฐำน/ตวั ชวี้ ัด
ส ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙
ส ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔
ส ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕
ส ๒.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ส ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓

หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นห้วยมะซาง พทุ ธศกั ราช ๒๕64 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑


Click to View FlipBook Version