ครูสิริภา ท 33101 (หน่วยที่ 2)

เฉลยแบบฝกึ ทักษะ
เรอ่ื ง แนวทางการประเมนิ ค่าเรอื่ งทฟี่ งั และดู (เพลง)

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเขยี นประเมนิ คา่ เรื่องที่ฟังและดู จากบทเพลงท่ีนักเรียนชื่นชอบตามประเดน็ ท่ี
กำหนดให้

รปู แบบ
....................................................................................... .......................................................................................
.................................................................................. ....................................................................................... .....
............................................................................................................................. ....................................

แนวคดิ
..............................................................................................................................................................................
........................................................................... ........................................................................................ ...........
............................................................................................................................. ....................................
..............................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
การใช้ภาษา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

.....................................................................................................................................................................

(พจิ ารณาคำตอบของนักเรียนและอยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)

แบบฝึกทกั ษะ
เร่อื ง แนวทางการประเมินคา่ เรอ่ื งท่ีฟงั และดู

คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นเขยี นประเมนิ ค่าเร่ืองท่ีฟังและดู จากบทโทรทศั นร์ ายการพูดจาภาษาไทย
ตอน เคร่ืองแนม-เครื่องเคยี ง ตามประเดน็ ทกี่ ำหนดให้

เครื่องแนม - เคร่อื งเคยี ง

ชาย : เรยี บรอ้ ยแลว้ ครับพี่
พิชญทัฬห จันทร์พุฒ : จะ้ จะ้ ขอบใจจ้ะ
ทิน โชคกมูลกจิ : ไหน ไหน โห! น้ำพริกกะปิ มปี ลาทเู ปน็ เครอ่ื งเคียงดว้ ย น่าทานจังเลย
พิชญทัฬห จนั ทรพ์ ฒุ : เขาเรยี กว่าเครื่องแนมค่ะพ่ที นิ ไม่ใชเ่ ครอื่ งเคียง
ทนิ โชคกมลู กิจ : ใช่เหรอ พเ่ี คยไดย้ นิ แตเ่ คร่ืองเคยี ง เครือ่ งแนมไมเ่ คยไดย้ นิ เลย มนั คืออะไร

คำบรรยาย
เครื่องแนม คือ อาหารท่ีรับประทานประกอบกับอาหารหลักค่ะ มีลักษณะเป็นชุดเดียวกัน โดยเฉพาะ

อาหารประเภทเคร่ืองจ้ิมต่างๆ เช่น น้ำพริกกะปิมีปลาทูทอดเป็นเครื่องแนม ข้าวคลุกกะปิมีหมูหวานเป็น
เคร่อื งแนม สะเดาน้ำปลาหวานมีปลาดุกย่างเปน็ เคร่อื งแนม ส่วนเคร่ืองเคยี งเปน็ อาหารคนละอยา่ ง แต่นำมา
รับประทานด้วยกันเพื่อเสริมรสชาติซึ่งกันและกนั อย่างเนื้อเค็มเป็นเคร่ืองเคยี งกับแกงเผ็ด ปลาสลดิ หรือไข่
เจียวเป็นเครื่องเคียงของแกงส้ม เคร่ืองแนมและเคร่ืองเคียงเป็นศิลปะในการประกอบและการรับประทาน
อาหารของคนไทยมาแต่โบราณคะ่

พิชญทฬั ห จนั ทร์พฒุ : ชดั เจนไหมคะคราวน้ี
ทิน โชคกมูลกิจ : เข้าใจแลว้ ครบั เครือ่ งแนม หมายถึง อาหารที่ทานประกอบกบั อาหารหลัก

เพ่ือ ส่วนเคร่อื งเคียง หมายถึง อาหารคนละอยา่ งกัน แต่นำมารับประทานด้วยกัน

พชิ ญทฬั ห จันทร์พุฒ เสริมรสชาติซึง่ กนั และกนั ใชไ่ หมฮะ
ทิน โชคกมูลกจิ : ถกู ต้องแลว้ คะ่
พิชญทัฬห จนั ทรพ์ ฒุ : ถา้ อยา่ งนั้นปลาทูน้ีกบั น้ำพริกน้ี พขี่ อไปล่ะ
: ไมไ่ ด้คะ่ พท่ี ิน เพราะนีค่ ืออปุ กรณ์ประกอบฉาก วางไว้ค่ะ

ท่ีมา : http://www.thaipbs.or.th/Clip/ โดยถอดบทโทรทัศน์จากรายการพูดจาภาษาไทย ตอน เคร่ือง
แนม-เครือ่ งเคียงของ ราชบัณฑิตยสถาน
๑. จากรายการพดู จาภาษาไทย ตอน เครื่องแนม-เครอื่ งเคียง มกี ารนำเสนอน่าสนใจหรอื ไม่ อยา่ งไร

๒. ข้อคิดหรอื ความรู้ท่ีไดร้ ับจากรายการพูดจาภาษาไทย ตอน เครอ่ื งแนม-เคร่ืองเคยี ง คอื อะไร
๓. สาระสำคัญหรือประเดน็ สำคัญของรายการที่ฟังและดู มอี ะไรบา้ ง
๔. รายการพดู จาภาษาไทย ตอน เครอ่ื งแนม-เครื่องเคยี ง มีความโดดเดน่ ในด้านใด
๕. รายการพูดจาภาษาไทย ตอน เคร่อื งแนม-เครอื่ งเคยี ง มีความนา่ เชอ่ื ถือมากน้อยเพียงใด

เฉลยแบบฝึกทักษะ
เรอื่ ง แนวทางการประเมินคา่ เร่อื งทฟี่ งั และดู

คำช้ีแจง ให้นักเรยี นเขยี นประเมนิ คา่ เรื่องที่ฟงั และดู จากบทโทรทัศนร์ ายการพูดจาภาษาไทย
ตอน เคร่ืองแนม-เครื่องเคียง ตามประเดน็ ท่กี ำหนดให้

เคร่ืองแนม - เคร่อื งเคยี ง

ชาย : เรยี บรอ้ ยแลว้ ครบั พี่
พิชญทฬั ห จันทรพ์ ุฒ : จะ้ จ้ะ ขอบใจจ้ะ
ทนิ โชคกมูลกิจ : ไหน ไหน โห! นำ้ พริกกะปิ มปี ลาทูเป็นเครื่องเคยี งด้วย น่าทานจังเลย
พิชญทัฬห จันทร์พฒุ : เขาเรยี กว่าเครื่องแนมคะ่ พี่ทนิ ไมใ่ ช่เคร่อื งเคยี ง
ทิน โชคกมูลกจิ : ใชเ่ หรอ พีเ่ คยได้ยนิ แตเ่ ครอ่ื งเคียง เครอ่ื งแนมไม่เคยได้ยินเลย มันคืออะไร

คำบรรยาย
เคร่ืองแนม คือ อาหารท่ีรับประทานประกอบกับอาหารหลักค่ะ มีลักษณะเป็นชุดเดียวกัน โดยเฉพาะ

อาหารประเภทเครื่องจ้ิมต่างๆ เช่น น้ำพริกกะปิมีปลาทูทอดเป็นเคร่ืองแนม ข้าวคลุกกะปิมีหมูหวานเป็นเคร่ือง
แนม สะเดาน้ำปลาหวานมปี ลาดุกยา่ งเปน็ เคร่ืองแนม ส่วนเครอื่ งเคยี งเปน็ อาหารคนละอย่าง แตน่ ำมารับประทาน
ด้วยกันเพ่ือเสริมรสชาติซ่ึงกันและกัน อย่างเนื้อเค็มเป็นเครื่องเคียงกับแกงเผ็ด ปลาสลิดหรือไข่เจียวเป็นเคร่ือง
เคียงของแกงส้ม เครื่องแนมและเคร่ืองเคียงเป็นศิลปะในการประกอบและการรับประทานอาหารของคนไทยมา
แต่โบราณค่ะ

พชิ ญทฬั ห จันทรพ์ ฒุ : ชัดเจนไหมคะคราวนี้
ทนิ โชคกมลู กจิ : เขา้ ใจแลว้ ครบั เครอื่ งแนม หมายถึง อาหารที่ทานประกอบกบั อาหารหลกั

พิชญทฬั ห จันทร์พุฒ สว่ นเครอื่ งเคียง หมายถึง อาหารคนละอย่างกนั แตน่ ำมารบั ประทานด้วยกันเพอ่ื
ทิน โชคกมูลกจิ เสริมรสชาติซึง่ กันและกัน ใช่ไหมฮะ
พชิ ญทัฬห จันทร์พุฒ : ถูกต้องแล้วค่ะ
: ถา้ อยา่ งนน้ั ปลาทูนีก้ บั น้ำพริกนี้ พขี่ อไปละ่
: ไมไ่ ด้ค่ะพที่ ิน เพราะน่คี อื อปุ กรณป์ ระกอบฉาก วางไว้คะ่

ท่ีมา : http://www.thaipbs.or.th/Clip/ โดยถอดบทโทรทัศน์จากรายการพูดจาภาษาไทย ตอน เครื่องแนม-
เครื่องเคยี งของ ราชบณั ฑิตยสถาน

๑. จากรายการพดู จาภาษาไทย ตอน เครื่องแนม-เครอื่ งเคียง มกี ารนำเสนอน่าสนใจหรือไม่ อย่างไร
การนำเสนอของรายการพดู จาภาษาไทยนา่ สนใจ เพราะใช้วิธีสมมตสิ ถานการณ์ดว้ ยการสนทนา โดยมี
อปุ กรณ์ประกอบเพื่ออธิบายเรื่องทีต่ ้องการใหผ้ ู้ฟังและผ้ดู รู ับทราบจงึ ทำใหเ้ ขา้ ใจความหมายท่ี
ต้องการสอ่ื สารได้ชัดเจนภายในระยะเวลาทจี่ ำกดั แตส่ ามารถนำเสนอประเด็นได้ชดั เจน

๒. ข้อคดิ หรอื ความรู้ท่ีไดร้ ับจากรายการพูดจาภาษาไทย ตอน เครื่องแนม-เครื่องเคยี ง คอื อะไร
ผู้ฟงั และผดู้ ูได้รับความรแู้ ละความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การใชค้ ำมากข้ึน เพราะได้อธิบายใหเ้ ข้าใจ

ความหมายของคำว่า “เครื่องเคยี ง” และ “เครื่องแนม” ซ่ึงหลายคนไม่เข้าใจและไม่ทราบว่ามีคำว่า
“เครอ่ื งแนม” ทใี่ ชเ้ รียกของท่ีทานกบั อาหารอน่ื ๆ

๓. สาระสำคัญหรอื ประเดน็ สำคญั ของรายการที่ฟังและดู มีอะไรบ้าง
รายการนี้อธิบายความหมายและการใช้คำว่า “เครอ่ื งแนม” และ “เครื่องเคียง” ท่ีใช้เรียกอาหารท่ี

ทานประกอบหรือร่วมกับอาหารหลัก ซ่ึงอธิบายว่า เครื่องแนม หมายถึง อาหารที่ทานประกอบกับ
อาหารหลัก ส่วนเครื่องเคียง หมายถึงอาหารคนละอย่างกันแต่นำมารับประทานด้วยกันเพ่ือเสริม
รสชาติซ่งึ กนั และกนั

๔. รายการพูดจาภาษาไทย ตอน เคร่อื งแนม-เครื่องเคียง มคี วามโดดเดน่ ในด้านใด
รายการพดู จาภาษาไทยมีความโดดเด่นด้านการนำเสนอทใี่ ช้นกั แสดงมาชว่ ยในการนำเสนอข้อมูล

และวธิ กี ารอธบิ ายทสี่ ามารถอธิบายไดเ้ ข้าใจชัดเจนภายในระยะเวลาอนั ส้นั นอกจากนย้ี งั ไดน้ ำเสนอ
เรื่องที่อยูใ่ กล้ตวั เก่ยี วกบั การใช้คำเรยี กทำใหเ้ ห็นความสำคัญของภาษาไทย วา่ ควรใช้คำเรียกหรือพูด
ให้ถกู ต้อง

๕. รายการพดู จาภาษาไทย ตอน เคร่ืองแนม-เครอ่ื งเคียง มีความน่าเชอ่ื ถอื มากน้อยเพยี งใด
รายการน้ีมีความน่าเช่ือถือ เพราะเป็นรายการที่ผลิตโดยราชบัณฑิตยสถานซึ่งเป็นหน่วยงานเดียว

ที่มผี ู้ทรงคุณวุฒิในสาขาตา่ งๆ ท่ีมีความเชีย่ วชาญเฉพาะด้าน เชน่ ภาษาไทย

แบบฝึกทักษะ
เร่อื ง ประเมนิ ค่าละคร

คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกดลู ะครท่ชี ื่นชอบ แล้วประเมินคา่ การฟังและดลู ะคร ตามประเด็นท่ีกำหนด

๑. รปู แบบของละคร
..................................................................................................... .........................................................................
.................................................................................. ............................................................................................
...................................................................................................................................... ........................................

๒. การใชภ้ าษาในละคร
.................................................................................. ............................................................................................
............................................................... ..................................................................................................... ..........
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................... ..........................................................................................
................................................................. ..................................................................................................... ........
............................................................................................................................. .................................................

๓. แนวคิดจากการฟังและดูละคร
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................... ...................................
........................................................................................................................ ......................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................. .................................
.......................................................................................................................... ....................................................

แบบฝกึ ทกั ษะ
เรื่อง ประเมินค่าละคร

คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเลอื กดูละครท่ชี ื่นชอบ แลว้ ประเมนิ ค่าการฟงั และดูละคร ตามประเดน็ ที่กำหนด

๑. รปู แบบของละคร
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.............................................................. ........................................................................................... ....................

๒. การใชภ้ าษาในละคร
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................... ..........................

๓. แนวคิดจากการฟังและดูละคร
.............................................................................................................. ................................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................ ..............................
................................................................................................................ ..............................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................................................................................................................................... ....................................

(เฉลยอย่ใู นดลุ ยพินิจของครโู ดยพิจารณาคำตอบจากคำตอบของนักเรียน)

แบบประเมินรายงานการวเิ คราะห์สารจากการฟังและดอู ย่างมีประสทิ ธภิ าพ

รายการประเมิน ดมี าก (๔) คำอธิบายระดับคณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรับปรุง (๑)
ดี (๓) พอใช้ (๒)

1. การสรุปแนวคิด สรุปแนวคิดและแสดง สรุปแนวคิดและแสดง สรปุ แนวคดิ และแสดง สรุปแนวคิดและแสดง

และแสดงความ ความคดิ เห็นจากเรอ่ื ง ความคดิ เหน็ จากเรอื่ ง ความคดิ เห็นจากเรอื่ ง ความคิดเหน็ จากเร่ือง

คดิ เห็นจากเร่ืองท่ี ทีฟ่ ังและดูได้ถูกต้อง ทีฟ่ ังและดูได้ถูกต้อง ท่ี ฟังและดูได้ถูกต้อง ท่ฟี ังและดไู ดถ้ กู ตอ้ ง

ฟงั และดู ครบทกุ ประเดน็ และมี เป็นส่วนใหญ่ ครบ เพยี งเลก็ น้อย และมี เพยี งเล็กน้อย แต่ไมม่ ี

ตัวอย่างประกอบ ทุกประเด็น และมี ตัวอยา่ งประกอบ ตวั อยา่ งประกอบ

ชัดเจน ตัวอยา่ งประกอบ ค่อนข้างชัดเจน

ชัดเจน

2. การวเิ คราะห์ วเิ คราะหแ์ นวคดิ วิเคราะหแ์ นวคิด วิเคราะห์แนวคดิ วเิ คราะหแ์ นวคิด

แนวคดิ การใช้ การใชภ้ าษา และความ การใช้ภาษา และความ การใชภ้ าษา และความ การใชภ้ าษา และความ

ภาษา และความ นา่ เช่ือถอื ได้ถกู ต้อง นา่ เชือ่ ถือได้ถูกต้อง นา่ เชอ่ื ถือได้ถูกต้อง น่าเช่ือถือได้ถูกต้อง

นา่ เชื่อถอื จากเรอ่ื ง ชดั เจน มีเหตผุ ล ชัดเจนเปน็ สว่ นใหญ่ เปน็ สว่ นใหญ่ มเี หตผุ ล เพียงเล็กน้อย ไม่มี

ท่ีฟังและดูอยา่ งมี ประกอบ มีเหตุผลประกอบ ประกอบแต่ไมช่ ดั เจน เหตุผลประกอบ

เหตผุ ล

3. ความสมบูรณ์ กำหนดขอบเขตเนื้อหา กำหนดขอบเขตเนื้อหา กำหนดขอบเขตเนื้อหา กำหนดขอบเขตเน้ือหา

และความ ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ไดอ้ ย่างชัดเจน ไม่ชัดเจนและไมต่ รง

ถกู ต้องของเน้ือหา เหมาะสม และตรงกับ เหมาะสม และตรงกับ เหมาะสม และตรงกับ กับประเดน็ ท่กี ำหนดไว้

ประเดน็ ท่ีกำหนดไว้ ประเดน็ ท่ีกำหนดไว้ ประเดน็ ที่กำหนดไว้

เปน็ สว่ นใหญ่ เปน็ ส่วนนอ้ ย

4. การใชภ้ าษา ใชภ้ าษาวิชาการได้ ใชภ้ าษาวิชาการได้ ใช้ภาษาวิชาการได้ ใชภ้ าษาวิชาการได้

ถกู ต้อง ชดั เจน เข้าใจ ถกู ต้อง ชัดเจน เข้าใจ ถกู ต้อง เข้าใจงา่ ย ถกู ต้อง แต่เข้าใจยาก

งา่ ยและเรียบเรียงเป็น งา่ ยเป็นสว่ นใหญ่ และ แตเ่ รียบเรียงไมค่ ่อย และเรียบเรยี งไม่เป็น

ระบบ เรียบเรยี งเป็นระบบ เปน็ ระบบ ระบบ

เป็นสว่ นใหญ่

เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
๑๔ – ๑๖ ดีมาก
๑๑ – ๑๓ ดี
๘ – ๑๐ พอใช้
ต่ำกว่า ๘ ปรับปรงุ

แบบบนั ทกึ ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

คำช้ีแจง : ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วให้คะแนน
การประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นตามพฤติกรรมทีป่ รากฏของนักเรียน

เลข ช่อื -นามสกุล ความ ความ ความสามารถ รวม ผลการประเมิน
ท่ี สามารถ สามารถ ในการใช้
ในการสอื่ สาร ในการคิด
1 ทักษะชีวติ
2 3 3
3 3 9 ผ่าน ไมผ่ า่ น
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16

ลงชอ่ื ……………........….......……. ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสิริภา แสงสมัคร)

ครชู ำนาญการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

คะแนน/ ๓๒๑
รายการประเมิน
ความสามารถ พูดถ่ายทอดความรู้ พดู ถ่ายทอดความรู้ พูดถา่ ยทอดความรู้
ในการสื่อสาร ความเข้าใจจากสาร ความเข้าใจจากสาร ความเข้าใจจากสาร
ที่อ่าน ฟัง ดู ดว้ ยภาษา ทอ่ี า่ น ฟัง หรือ ดู ดว้ ย ทีอ่ า่ น ฟัง หรือ ดู ด้วย
ความสามารถ ของตนเองได้อย่าง ภาษาของตนเองได้อยา่ ง ภาษาของตนเองได้บา้ ง
ในการคดิ คลอ่ งแคล่ว ชดั เจน ชัดเจน แตข่ าด
ความคล่องแคล่ว
ความสามารถ
ในการใช้ทักษะชีวิต ระบุหลักการสำคญั ระบหุ ลกั การสำคัญ ระบุหลกั การสำคัญ
แนวคดิ หรอื ความรู้ท่ี แนวคิดหรอื ความรู้ที่ แนวคดิ หรอื ความรทู้ ี่
ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ปรากฏในข้อมลู ตา่ ง ๆ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ
ที่พบเหน็ ได้อย่างถูกตอ้ ง ทพ่ี บเห็นไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทพ่ี บเหน็ ไดถ้ ูกตอ้ งเป็น
และครบถว้ น แตไ่ ม่ครบถ้วน บางส่วนและ
ไมค่ รบถว้ น

นำความร้/ู ทกั ษะและ นำความร/ู้ ทกั ษะและ นำความร/ู้ ทักษะและ
เทคนิควิธตี ่าง ๆ มาใช้ เทคนิควิธีตา่ ง ๆ มาใช้ เทคนิควธิ ีตา่ ง ๆ มาใช้
สร้างสรรค์งานอยา่ งเปน็ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น สร้างสรรค์งานได้
ระบบและ ระบบแตข่ าด แต่ไม่มีประสิทธิภาพ
มีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธิภาพ และไม่สำเรจ็ ในเวลา
ที่กำหนด

เกณฑ์การประเมิน
๘ – ๙ คะแนน หมายถึง ดีมาก
๖ – ๗ คะแนน หมายถึง ดี
๔ – ๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้
๐ - ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง

เกณฑก์ ารสรปุ ผล
ได้คะแนนตั้งแตร่ ะดับดีข้นึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน

แบบบนั ทกึ ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชแ้ี จง : ครูผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วใหค้ ะแนนการ
ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามพฤติกรรมท่ีปรากฏของนักเรยี น

รายการประเมิน ผลการ
ประเมนิ
รวม
ท่ี ชือ่ -สกุล ซอ่ื สัตย์ มุ่งม่นั
สจุ รติ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ในการทำงาน ่ผาน
ไ ่มผ่าน
33 3 3 12

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

ลงชอื่ ……………........….......……. ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสิรภิ า แสงสมัคร)

ครูชำนาญการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา

เกณฑ์การให้คะแนนแบบบันทกึ ผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คะแนน/ ๓ ๒ ๑๐
รายการประเมิน

ซ่ือสัตย์สจุ ริต ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกต้อง ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไมใ่ ห้ข้อมูล

และเป็นจรงิ ไม่นำ และเป็นจรงิ และเป็นจรงิ ท่ีถกู ต้องและเปน็

ส่ิงของและผลงาน ไม่นำสิ่งของและ ไม่นำสง่ิ ของและ จริง

ของผู้อ่ืนมาเปน็ ของ ผลงานของผู้อนื่ มา ผลงานของผู้อ่ืนมา มพี ฤติกรรมนำ

ตนเอง ปฏิบัติตนต่อ เป็นของตนเอง เป็นของตนเอง สิง่ ของและ

ผอู้ ่ืนด้วยความซ่ือตรง ปฏิบตั ติ นต่อผ้อู ่นื ด้วย ผลงานของผู้อนื่

เป็นแบบอยา่ งท่ดี ี ความซอ่ื ตรง มาเปน็ ของ

ดา้ นความซ่ือสัตย์ ตนเอง

มีวนิ ยั ขณะเรยี นปฏิบัติตาม ขณะเรียนปฏิบัติตาม ขณะเรยี นปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติตนตาม

ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ตามข้อตกลง ข้อตกลง

ระเบยี บของ กติกาท่ีได้ตกลงกัน กฎเกณฑ์ กตกิ าที่ กฎเกณฑ์

หอ้ งเรียน ไมร่ บกวน ไม่รบกวนบุคคลอ่ืน ได้ตกลงกนั บา้ ง ระเบยี บ

บุคคลอื่น มสี มาธิใน ข้อบังคบั ของ

การปฏบิ ัติงาน ห้องเรยี น

ใฝ่เรียนรู้ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ตงั้ ใจเรยี น

และมคี วามเพยี ร และมคี วามเพยี ร และมคี วามเพยี ร ไม่ศึกษาคน้ ควา้

พยายามในการเรยี นรู้ พยายามใน การ พยายามในการ หาความรู้

และเขา้ ร่วมกจิ กรรม เรยี นรู้ และเขา้ ร่วม เรยี นรู้ และเข้า

การเรียนรู้ ต่าง ๆ กิจกรรมการเรียนรู้ ร่วมกจิ กรรมการ

อย่างสม่ำเสมอ ตา่ ง ๆ บ่อยครั้ง เรียนรู้ ต่าง ๆ

บางคร้งั

มงุ่ ม่ัน มคี วามตัง้ ใจ อดทน มคี วามตงั้ ใจ อดทน มคี วามต้ังใจ ไมต่ ้ังใจ

ในการทำงาน พยายามในการ พยายามในการ พยายาม ในการ ปฏบิ ตั ิงานท่ี

ทำงาน ทีไ่ ด้รับ ทำงาน ท่ไี ดร้ ับ ทำงานที่ไดร้ ับ ไดร้ บั มอบหมาย

มอบหมาย และไม่ มอบหมาย เพ่อื ให้ มอบหมายบ้าง

ท้อแทต้ ่ออุปสรรค งานสำเร็จ

เพอื่ ใหง้ านสำเรจ็

เกณฑก์ ารประเมนิ
๑๐ – ๑๒ คะแนน หมายถึง ดมี าก
๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี
๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้
๐ - ๓ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การสรุปผล
ไดค้ ะแนนต้ังแต่ระดับดีขึน้ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ สามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ

กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ๕ รหสั ท ๓๓๑๐๑

แผนการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เร่ืองอา่ นรอ้ ยแก้ว ร้จู ักสามก๊ก ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๖

เวลา ๒ คาบ ผสู้ อน ครสู ิรภิ า แสงสมัคร

โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จังหวดั ยะลา สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษายะลา

๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนำไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาใน
การดำเนินชวี ิตและมนี ิสัยรักการอ่าน
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ ง
เห็นคณุ คา่ และนำมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง

๒. ตวั ช้ีวดั
ตัวชีว้ ัด ม. ๔-๖/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้อยา่ งถูกต้องไพเราะและเหมาะสม
กบั เร่ืองที่อา่ น
ตวั ชว้ี ัด ม. ๔-๖/๑ วเิ คราะหแ์ ละวิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องตน้

3. สาระสำคญั
สามก๊กได้รับยกย่องจากวรรณคดสี โมสรวา่ เปน็ ยอดความเรียงเรื่องนิทานประเภทร้อยแก้ว ดีท้ังด้านเน้ือ

เรื่องและสำนวนภาษา สามก๊กมีเนอ้ื หาการชิงอำนาจ กลอุบายการศึกและการปกครองบา้ นเมอื ง กลยทุ ธ์ทาง
ทหารและการใชไ้ หวพรบิ ตลอดจนเรอ่ื งการรจู้ กั ใช้คน จะเหน็ ได้จากตอนกวนอไู ปรบั ราชการกบั โจโฉ ซ่งึ การท่ี
จะไดร้ ับความรู้จากเรื่องน้ตี ้องมีทักษะในการอา่ นและคำนงึ ถึงหลกั การอ่านที่ถูกต้อง อาทิ การออกเสียงชัดเจน
การอ่านเว้นวรรคตอน ศิลปะการใชเ้ สยี งหรอื การแสดงอารมณไ์ ปตามเนื้อเรอ่ื งที่อ่าน เพ่ือให้เข้าใจและเขา้ ถึง
อรรถรสจากการอา่ น ทราบความเป็นมาของเรื่อง ประวตั ิผู้แตง่ และสามารถวิเคราะห์วิจารณ์ตามหลกั การ
วิจารณเ์ บอื้ งตน้

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
4.1 นักเรยี นบอกประวัตผิ ูแ้ ต่งเร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉได้ (K1)
4.2 นักเรยี นอธบิ ายประวตั ิความเปน็ มาของเรอ่ื ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกบั โจโฉได้ (K2)
4.3 นกั เรียนอา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ ได้ถูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกับเรอ่ื งท่ีอ่าน (P)
4.4 นกั เรียนวเิ คราะหว์ ิจารณเ์ ร่อื งตามหลักการวจิ ารณ์เบ้ืองตน้ ได้ (P)
4.5 นักเรยี นเหน็ คณุ คา่ ของวรรณคดี (A)

๕. สมรรถนะสำคัญ
5.1 ความสามารถในการส่อื สาร

5.2 ความสามารถในการคิด
5.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
6.1 ใฝ่เรยี นรู้
6.2 มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
6.3 รกั ความเป็นไทย

7. สาระการเรียนรู้
7.1 การอ่านออกเสียง
7.2 หลักการวิเคราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมเบอ้ื งต้น

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี ๑ (วธิ ีสอนโดยการจัดการเรยี นรูแ้ บบรว่ มมือ : เทคนิคเล่าเรอื่ งรอบวง )
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน
๑. นักเรยี นดภู าพจากเร่ืองสามก๊กซ่ึงเป็นภาพตัวละครตา่ ง ๆ ในเร่ืองแล้วถามวา่ ตัวละครท่ี

ปรากฏในเรอื่ งคือใคร และมคี วามสำคญั อยา่ งไรจากน้นั ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ และแจ้งกับ
นกั เรียนว่าภาพตัวละครเหลา่ นม้ี าจากเรื่องสามกก๊ ซง่ึ นักเรียนจะไดเ้ รยี นร้ใู นหน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ น้ี

๒. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื งสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ จากนนั้ ตรวจ
และเฉลยร่วมกัน

ข้ันสอน
๑. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ ๔ คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ ง
เกง่ ปานกลางคอ่ นข้างอ่อน และอ่อน
๒. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันอภิปรายความรเู้ ก่ยี วกบั หลักในการอา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้
ตามทเ่ี คยไดเ้ รยี นมาแล้ว ฝึกอ่านออกเสยี งเรอ่ื ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกบั โจโฉ โดยครคู อยแนะนำ
และใหข้ ้อเสนอแนะ เพ่อื ใหน้ ักเรียนปฏบิ ัตไิ ด้อยา่ งถูกต้อง
๓. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันฝกึ ทกั ษะการอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วอย่างสม่ำเสมอ แล้วมา
ทดสอบกับครูเปน็ รายบุคคลนอกเวลาเรยี น
๔. นักเรียนดูภาพยนตรเ์ รื่อง สามก๊ก (ครูเลอื กเฉพาะตอนที่เก่ียวข้องกบั เนื้อหาท่เี รียน)
๕. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มกำหนดหมายเลขประจำตวั ๑-๔ ตามลำดับแล้วใหน้ ักเรียนศึกษา
ความรูเ้ รอ่ื ง สามกก๊ ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกบั โจโฉ จากหนงั สือเรียน หนังสือค้นควา้ เพิ่มเตมิ จาก
หอ้ งสมุด และแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นท่ีกำหนดให้ แล้วบันทึกความร้ทู ี่ไดจ้ ากการศกึ ษา ดงั น้ี

- หมายเลข ๑ ศกึ ษาความรู้เรอื่ งความเปน็ มา
- หมายเลข ๒ ศกึ ษาความรู้เรื่องประวัติผแู้ ต่ง
- หมายเลข ๓ ศึกษาความรูเ้ รือ่ งลกั ษณะคำประพนั ธ์
- หมายเลข ๔ ศกึ ษาความรูเ้ ร่อื งเรอื่ งย่อ

ข้ันสรุป
๑. สมาชกิ แต่ละกลุม่ รวบรวมเน้ือหาเสรจ็ เรียบรอ้ ย จากน้ันสรปุ เน้อื หาร่วมกันเพอ่ื เตรยี มนำเสนอ
ในคาบต่อไป
คาบที่ ๒
ข้ันนำเขา้ สูบ่ ทเรียน
๑. ครขู ออาสาสมัครนกั เรียนกลุ่มละหนึ่งคน อธิบายความรทู้ ีไ่ ด้รบั จากการศึกษาค้นคว้าตามประเด็น
ทีค่ รใู ห้ทางกลมุ่ ไปเมื่อคาบท่แี ล้ว จากนน้ั ครถู ามถึงการวางแผนการทำงานของแตล่ ะกล่มุ และให้ทางกลุม่
เตรียมตวั ในการทำกจิ กรรมในคาบน้ี
๒. นักเรยี นแต่ละคนนำความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศึกษามาเล่าให้เพือ่ นในกลมุ่ ฟังแบบเลา่ เร่ืองรอบวง
เรียงตามลำดับหมายเลข ๑-๔ ผลัดกันซักถามข้อสงสัย และช่วยกนั อธิบายจนทกุ คนมีความเข้าใจชัดเจน
ตรงกัน
3. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอผลการศึกษาความรู้ท่ีหนา้ ช้ันเรยี นโดยครูและเพ่ือนกลุ่มอ่นื
ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและเสนอแนะเพม่ิ เติม
4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันททำแบบฝกึ ทกั ษะ เรื่องร้จู กั สามกก๊ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
และเติมเต็มคำตอบให้สมบรู ณ์
ขั้นสรปุ
ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียน ๒-๓ กลมุ่ ออกมาเฉลยคำตอบในแบบฝึกแลว้ ให้นกั เรียนกลุ่มที่มีความเหน็
แตกต่างกันไปได้นำเสนอเพ่ิมเตมิ และสรปุ เนื้อหารว่ มกนั อีกครงั้
9. สือ่ /แหลง่ เรียนรู้
๑. หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทยชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖
๒. ภาพตัวละครจากเรอื่ งสามก๊ก
๓. ห้องสมดุ
๔. อนิ เตอรเ์ นต็
10. หลักฐานการเรยี นรู้
ภาระงาน
- การอ่านออกเสยี งเรื่องสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉและการทำแบบฝึกทักษะ

11. การวดั และประเมินผล

วธิ ีการวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ

- ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - นั ก เรีย น ได้ ค ะแ น น ก าร ท ำ

ก่อน-หลงั เรยี น - แบบฝกึ ทกั ษะ ทดสอบผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70

- ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ - แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล แสดงวา่ ผา่ น

- การสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล - แบบบนั ทกึ ผลคุณลกั ษณะ - นักเรียนได้คะแนนการทำใบงาน

- การบนั ทกึ ผลคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 แสดงว่า

อนั พงึ ประสงค์ - แบบบันทึกผลสมรรถนะสำคัญ ผ่าน

- การบันทึกผลสมรรถนะสำคัญ ของผู้เรยี น - นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน

ของผูเ้ รียน พฤติกรรมรายบุคคล ระดับ ๒

แสดงว่าผา่ น

- นักเรียนผ่านเกณฑ์คุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ระดับ ๒ แสดงว่า

ผ่าน

- นักเรียนผ่านเกณฑ์สมรรถนะ

สำคญั ของผู้เรียนระดับ ๒

แสดงวา่ ผ่าน

๑2. ขออนุมตั ิใชแ้ ผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. ..............................................
..........................................................................................................................................................................
.................................................................................... ......................................................................................

ลงช่อื ……………..............………………
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมัคร)

ครชู ำนาญการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา
วันท่ี 7 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖5

๑3. ความคดิ เห็นของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
............................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................... ......................................................................................
............................................................................................................................. .............................................

ลงชอ่ื ……………..............………………
(นายไพโรจน์ ขวัญคง)

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

บนั ทกึ ผลการสอน (ม.6/1)
ผลการเรียนของนกั เรียน
ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนบอกประวตั ิผู้แต่งเรอ่ื ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกบั โจโฉ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
อยใู่ นระดับดีมาก จำนวน 30 คน
2. นักเรียนอธิบายประวตั คิ วามเปน็ มาของเรอ่ื ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ ผา่ นเกณฑ์
การประเมินอยู่ในระดบั ดีมาก จำนวน 30 คน
3. นกั เรียนอา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ ไดถ้ ูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เรอ่ื งท่ีอา่ น ผ่านเกณฑ์
การประเมนิ อยูใ่ นระดับดีมาก จำนวน 30 คน
4. นกั เรยี นวิเคราะหว์ จิ ารณเ์ ร่ืองตามหลกั การวจิ ารณ์เบอ้ื งตน้ ได้ผ่านเกณฑ์การประเมิน
อยู่ในระดบั ดมี าก จำนวน 35 คน ระดบั ดี 5 คน
5. นักเรียนเหน็ คุณค่าของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ อยู่ในระดบั ดีมาก จำนวน 30 คน

ตามสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
- นกั เรียนมผี ลการประเมนิ ตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดีมากทุกคน

ตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- นกั เรียนมผี ลการประเมนิ ตามคุณลักษณะอนั พึงประสงคผ์ ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมากทกุ คน

ปญั หา/อุปสรรค

-

ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขผลการแกไ้ ข

-

ลงชอื่ ..................................................ผสู้ อน
(นางสาวสริ ิภา แสงสมคั ร)

ครู โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา
วนั ที่ 5 สงิ หาคม 2565

บนั ทกึ ผลการสอน (ม.6/2)
ผลการเรยี นของนกั เรยี น
ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นบอกประวัติผู้แต่งเรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
อย่ใู นระดบั ดีมาก จำนวน 27 คน
2. นกั เรยี นอธบิ ายประวตั คิ วามเป็นมาของเร่อื ง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ ผ่านเกณฑ์
การประเมนิ อยูใ่ นระดบั ดีมาก จำนวน 27คน
3. นักเรียนอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วไดถ้ ูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เร่ืองที่อ่าน ผ่านเกณฑ์
การประเมินอย่ใู นระดบั ดีมาก จำนวน 27 คน
4. นกั เรยี นวเิ คราะห์วิจารณ์เรื่องตามหลกั การวิจารณ์เบอื้ งตน้ ได้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
อยใู่ นระดบั ดีมาก จำนวน 27 คน
5. นกั เรยี นเห็นคุณคา่ ของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ อยู่ในระดบั ดีมาก จำนวน 27 คน

ตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- นกั เรยี นมผี ลการประเมินตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมากทกุ คน

ตามคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- นักเรยี นมีผลการประเมินตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดีมากทุกคน

ปญั หา/อุปสรรค

-

ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไขผลการแก้ไข

-

ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมัคร)

ครู โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จังหวดั ยะลา
วนั ที่ 5 สิงหาคม 2565

บนั ทกึ ผลการสอน (ม.6/3)
ผลการเรียนของนักเรยี น
ตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรียนบอกประวตั ผิ แู้ ต่งเรอ่ื ง สามกก๊ ตอนกวนอไู ปรับราชการกบั โจโฉ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
อยใู่ นระดบั ดมี ากทุกคน
6. นักเรยี นอธิบายประวัตคิ วามเปน็ มาของเรอื่ ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกบั โจโฉ ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ อยู่ในระดบั ดีมากทกุ คน
7. นักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ ได้ถูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกับเรอ่ื งท่ีอา่ น ผ่านเกณฑ์
การประเมินอยใู่ นระดบั ดีมากทุกคน
8. นกั เรยี นวเิ คราะหว์ จิ ารณเ์ รื่องตามหลักการวจิ ารณ์เบือ้ งตน้ ได้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
อยใู่ นระดบั ดมี ากทุกคน
9. นักเรียนเห็นคุณคา่ ของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดมี าก

ตามสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
- นักเรียนมผี ลการประเมนิ ตามสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี นผ่านเกณฑ์ในระดับ ดีมากทุกคน

ตามคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- นกั เรียนมผี ลการประเมินตามคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดีมากทกุ คน

ปญั หา/อุปสรรค

-

ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไขผลการแก้ไข

-

ลงชอื่ ..................................................ผสู้ อน
(นางสาวสริ ิภา แสงสมัคร)

ครู โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา
วันท่ี 5 สงิ หาคม 2565

บนั ทกึ ผลการสอน (ม.6/8)
ผลการเรียนของนักเรยี น
ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนบอกประวตั ิผู้แตง่ เรื่อง สามกก๊ ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
อยู่ในระดบั ดีมากทุกคน
2. นักเรยี นอธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาของเรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ อยู่ในระดบั ดีมากทกุ คน
3. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ ไดถ้ ูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เรื่องท่ีอา่ น ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ อยู่ในระดับดีมาก จำนวน 30 คน ระดับดี 7 คน
4. นกั เรยี นวิเคราะหว์ จิ ารณเ์ ร่ืองตามหลักการวจิ ารณ์เบ้ืองต้นได้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
อยใู่ นระดับดีมาก จำนวน 25 คน ระดับดี 17 คน
5. นกั เรยี นเห็นคณุ ค่าของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ อยู่ในระดับดมี าก จำนวน 30 คน ดี
จำนวน 7 คน

ตามสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- นกั เรียนมีผลการประเมินตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดีมาก

จำนวน 30 คน ระดบั ดี จำนวน 7 คน

ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์
- นกั เรยี นมีผลการประเมนิ ตามคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมาก 30 คน

ระดบั ดี จำนวน 7 คน

ปญั หา/อุปสรรค

- เมื่อทำกจิ กรรมกล่มุ นักเรียนกลมุ่ อ่อนเขา้ ห้องเรยี นสาย ไม่ได้ทำกจิ กรรมด้วยตัวเอง เมื่อทดสอบ
ความรูเ้ ป็นรายคนจงึ ไม่สามารถทำแบบฝกึ ได้ถกู ต้อง

ข้อเสนอแนะแนวทางแกไ้ ขผลการแกไ้ ข

- ให้กลุ่มนกั เรียนกลุ่มเก่งช่วยอธบิ ายเนอื้ หาเพ่ิมเตมิ ให้แกน่ ักเรียนกลมุ่ อ่อน ครูอธบิ ายเพมิ่ เติม
และนดั เรยี นซ่อมเสรมิ

ลงชือ่ ..................................................ผูส้ อน
(นางสาวสิริภา แสงสมคั ร)

ครู โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา
วันที่ 5 สงิ หาคม 2565

บนั ทกึ ผลการสอน (ม.6/10)
ผลการเรยี นของนกั เรยี น
ตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นกั เรยี นบอกประวตั ิผแู้ ต่งเร่อื ง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรบั ราชการกบั โจโฉ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
อยู่ในระดบั ดมี ากทุกคน
2. นกั เรียนอธิบายประวัติความเปน็ มาของเรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกับโจโฉ ผ่านเกณฑ์
การประเมินอยู่ในระดบั ดีมากทกุ คน
3. นกั เรยี นอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วได้ถูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกับเร่อื งที่อา่ น ผ่านเกณฑ์
การประเมินอยูใ่ นระดบั ดีมากทกุ คน
4. นกั เรยี นวิเคราะห์วิจารณเ์ ร่ืองตามหลักการวจิ ารณ์เบ้อื งต้นได้ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
อยูใ่ นระดบั ดมี าก จำนวน 35 คน ระดบั ดี 7 คน
5. นกั เรยี นเห็นคุณคา่ ของวรรณคดี ผ่านเกณฑ์การประเมนิ อยู่ในระดบั ดมี าก จำนวน 40 คน
ระดับดี จำนวน 2 คน

ตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- นักเรียนมีผลการประเมนิ ตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดีมาก

จำนวน 40 คน ระดบั ดี จำนวน 2 คน

ตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- นกั เรียนมผี ลการประเมินตามคุณลักษณะอนั พึงประสงคผ์ ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมาก 40 คน

ระดบั ดี จำนวน 2 คน

ปัญหา/อุปสรรค

- การใช้เวลาทำกิจกรรมในเร่ืองนค้ี อ่ นขา้ งน้อย นักเรียนทำแบบฝึกไม่ค่อยทนั ต้องปรบั กิจกรรม

ข้อเสนอแนะแนวทางแกไ้ ขผลการแกไ้ ข

- คาบทท่ี ำกจิ กรรมในแบบฝกึ ทักษะช่วยท้ายเฉลยพร้อมอธิบายไมท่ ันกบั เวลาครแู กป้ ญั หาโดยเฉลย
โดยรวม และส่งเน้อื หาการเฉลยใหน้ กั เรียนเพ่ิมเตมิ และทบทวนให้อกี คร้ังในคาบถดั ไป

ลงชื่อ..................................................ผสู้ อน
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมัคร)

ครู โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา
วันท่ี 5 สงิ หาคม 2565

บนั ทกึ ผลการสอน (ม.6/12)
ผลการเรียนของนักเรียน
ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรยี นบอกประวัตผิ ู้แต่งเรือ่ ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั ราชการกับโจโฉ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
อยู่ในระดับดมี ากทุกคน
2. นกั เรียนอธิบายประวัติความเปน็ มาของเรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ ผา่ นเกณฑ์
การประเมินอยู่ในระดบั ดีมากทุกคน
3. นักเรยี นอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ ไดถ้ ูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกบั เรอ่ื งท่ีอ่าน ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ อยู่ในระดบั ดีมากทกุ คน
4. นกั เรยี นวเิ คราะหว์ จิ ารณ์เร่ืองตามหลกั การวิจารณ์เบื้องตน้ ได้ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
อย่ใู นระดบั ดมี าก จำนวน 15 คน ระดับดี 5 คน
5. นกั เรยี นเหน็ คณุ คา่ ของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดบั ดมี าก จำนวน 17 คน
ระดับดี จำนวน 3 คน

ตามสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- นักเรียนมผี ลการประเมินตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดีมาก

จำนวน 17 คน ระดับดี จำนวน 3 คน

ตามคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- นกั เรยี นมีผลการประเมนิ ตามคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมาก 17 คน

ระดบั ดี จำนวน 3 คน

ปญั หา/อุปสรรค

- การใชเ้ วลาทำกจิ กรรมในเรื่องนค้ี อ่ นขา้ งน้อย นักเรยี นทำแบบฝึกไม่ค่อยทนั ตอ้ งปรบั กจิ กรรม

ข้อเสนอแนะแนวทางแกไ้ ขผลการแกไ้ ข

- คาบทที่ ำกจิ กรรมในแบบฝึกทักษะชว่ ยทา้ ยเฉลยพร้อมอธบิ ายไม่ทันกบั เวลาครูแก้ปญั หาโดยเฉลย
โดยรวม และสง่ เนอ้ื หาการเฉลยใหน้ กั เรยี นเพ่ิมเตมิ และทบทวนใหอ้ ีกครัง้ ในคาบถัดไป

-

ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
(นางสาวสริ ิภา แสงสมคั ร)

ครู โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา
วันท่ี 5 สงิ หาคม 2565

ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการสถานศกึ ษา
........................................................................................... ................................................................................
..........................................................................................................................................................................
................................................................................................................................. .........................................

ลงชื่อ ……………..............………………
(นายนพปฎล มณุ รี ัตน์)

ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา

ภาคผนวก

แบบทดสอบ
เร่ืองสามก๊ก ตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
คำช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

๑. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ กู ต้องเกีย่ วกับเรื่องสามกก๊ ๕. คณุ ธรรมท่ีโดดเด่นท่สี ดุ ของกวนอูในเรอ่ื งสามก๊ก
ก. จีนเรียกเร่ืองสามกก๊ วา่ “สามก๊กจ่ี” แปลว่า จดหมาย ตอน กวนอู

เหตุ เรอื่ งสามก๊ก ไปรบั ราชการกับโจโฉ คืออะไร
ข. วรรณคดสี โมสรยกย่องให้เรอื่ งสามก๊กเป็น ก. ความกตญั ญูรคู้ ณุ ข. ความเป็นผมู้ วี าจาสตั ย์
ค. ความกลา้ หาญเด็ดเด่ียว ง. ความจงรักภักดตี ่อ
“ยอดแห่ ความเรยี งประเภทนิทาน” กษัตรยิ ์
ค. นักปราชญ์จีนชื่อ ล่อกวนตง เป็นผนู้ ำเรอ่ื งสามก๊ก ๖. “หวังจะใหก้ วนอคู ิดทำรา้ ยพ่ีสะใภ้ นำ้ ใจจะไดแ้ ตกออกจาก
เล่าป่ี จะไดเ้ ป็นสิทธ์ิแก่ตัว” “สทิ ธิ์แก่ตัว” ในข้อความข้างต้น
ทีเ่ ล่ากนั เป็นนิทานมาแต่งเป็นหนงั สือ หมายถงึ อะไร
ง. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช ก. กวนอจู ะได้เปน็ ข้าโจโฉเต็มตัว
ข. กวนอูจะไดเ้ ปน็ ตวั ของตัวเองเต็มที่
โปรดฯ ให้เจา้ พระยาบดินทรเดชาเป็นผูอ้ ำนวยการแปลสาม ค. ภรรยาท้ัง ๒ ของเลา่ ป่ีจะไดเ้ ป็นของโจโฉ
กก๊ เป็นภาษาไทย ง. กวนอูจะได้พี่สะใภ้ทัง้ ๒ เปน็ ภรรยาตนเอง
๒. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกี่ยวกับเร่ืองสามกก๊ ๗. ข้อใดปรากฏถ้อยคำสำนวนทใ่ี ช้ในความหมายต่างจาก
ปัจจุบนั
ก. สามก๊ก หมายถึง วุยก๊ก จ๊กกก๊ และงอ่ ก๊ก ก. กวนอูก็คิดรักเล่าป่ีอยมู่ ิได้ขาด
ข. หนงั สอื สามก๊กแตง่ ขน้ึ ในสมยั ราชวงศฮ์ ั่น ข. กวนอูหม่ เส้อื ขาด โจโฉจึงเอาเส้อื อยา่ งดีใหก้ วนอู
ค. ยคุ ท่ีแผน่ ดนิ จนี เกิดความแตกแยกและเกิดสงคราม ค. แลว้ โจโฉก็ใหก้ วนอกู นิ โต๊ะ แลว้ วา่ พรงุ่ นเ้ี ช้าเราจะ
ชงิ อำนาจจนแตกออกเปน็ สามก๊ก คือ สมยั ราชวงศจ์ น้ิ
ง. ยคุ ที่กก๊ ทงั้ สามก๊กเส่ือมอำนาจลง และแผน่ ดนิ จนี ยกกลับไปเมืองฮโู ต๋
กลับมารวมเปน็ อาณาจักรเดยี วกนั ได้อีกครง้ั คอื สมัย ง. เหตไุ ฉนทา่ นจึงรักมา้ อนั เปน็ สัตวเ์ ดยี รัจฉานมากกว่า
ราชวงศ์ฮนั่
๓. “สามก๊ก” หมายถงึ กก๊ ของใครบ้าง ทรพั ยส์ ิ่งสินอกี เลา่
ก. ก๊กของสุมาอ้ี ก๊กของเลา่ ป่ี กก๊ ของโจโฉ ๘. “ถา้ ละไวช้ ้าก็จะมกี ำลงั มากข้ึน อุปมาเหมือนลูกนกอนั ขน
ข. ก๊กของซุนกวน กก๊ ของเลา่ ป่ี ก๊กของโจโฉ ปกี ยงั ไม่ขึน้ พร้อม แมเ้ ราจะนง่ิ ไว้ให้อยูใ่ นรังฉะนี้ ถ้าขนขนึ้
ค. ก๊กของเล่าปี่ ก๊กของเตียวหุย ก๊กของโจโฉ พรอ้ ม แล้วก็จะบนิ ทางไกลได้” ขอ้ ความขา้ งต้น ใครเปน็ ผู้พูด
ง. ก๊กของอว้ นเส้ยี ว ก๊กของขงเบ้ง กก๊ ของโจโฉ และพดู ถึงใคร
๔. “บดั น้ีกองทัพโจโฉกย็ กมาใกล้เมอื งเราแล้ว เวลาค่ำวันน้ี
ข้าพเจา้ จะอาสาคุมทหารยกออกไปโจมตกี องทัพโจโฉ ก. เล่าป่ีพูดถงึ โจโฉ
อย่าให้ตง้ั มั่นลงได้ เห็นโจโฉจะเสียทีเปน็ ม่ันคง” ข. โจโฉพูดถึงเล่าปี่
ข้อความข้างตน้ ใครเปน็ คนพูด ค. โจโฉพดู ถึงกวนอู
ก. กวนอู ข. ซุนกวน ค. เตียวหุย ง. อ้วน ง. โจโฉพดู ถงึ อ้วนเส้ียว
เส้ียว

๙. ขอ้ ใดใช้โวหารต่างจากขอ้ อื่น ๑๒.“โจโฉจึงใหก้ วนอูกบั ภรรยาเล่าปท่ี ั้งสองน้นั อยเู่ รือน
ก. ตวั เราก็มไิ ด้รักชีวติ อันความตายอปุ มาเหมือนนอน
เดยี วกัน” เหตใุ ดโจโฉจึงให้กวนออู ยู่กบั ภรรยาของเล่าปี่ใน
หลบั ท่านเรง่ กลบั ไปบอกแกโ่ จโฉให้ตระเตรียมทหารไว้
ใหพ้ รอ้ ม เราจะยกลงไปรบ เรือนเดยี วกัน

ข. ถึงมาตรว่าท่านจะได้ความลำบากก็อปุ มาเหมือนหนง่ึ ก. ต้องการให้กวนอสู วามภิ ักดติ์ ่อตน
ลุยเพลงิ อันลุก แลข้ามพระมหาสมทุ รอันกวา้ งใหญ่ ก็จะ
ลือชาปรากฏชือ่ เสยี งท่านไปภายหน้าวา่ เปน็ ชาตทิ หารมใี จ ข. ต้องการไดภ้ รรยาเลา่ ปี่มาเป็นของตน
สตั ย์ซอื่ กตัญญตู ่อแผ่นดิน
ค. ต้องการใหก้ วนอูคิดไมซ่ ื่อต่อภรรยาเล่าปี่
ค. เราก็แจง้ อยู่วา่ คร้งั น้ีไดท้ ีทำการศึก แตใ่ จเราน้นั เป็น
ห่วงอยถู่ งึ บุตร ถ้าบุตรเปน็ อันตราย ขา้ งหลังชีวิตเรากจ็ ะ ง. ตอ้ งการให้กวนอูทะเลาะแตกคอกับภรรยาเลา่ ป่ี
ตายดว้ ย ประการหนึง่ มาตรวา่ จะยกไปก็ไม่มีชัยชนะดว้ ยเหตุ
ไมส่ บาย ๑๓.ธรรมดาเกิดมาเปน็ ชายให้รู้จกั ทหี่ นักท่เี บา ถ้าผใู้ ดมิได้รจู้ ัก

ง. เล่าปี่นั้นเปน็ คนมีสติปัญญา ถ้าละไวช้ ้ากจ็ ะมีกำลัง ทห่ี นักท่ีเบา คนท้งั ปวงกจ็ ะลว่ งตเิ ตยี นวา่ ผู้นน้ั หาสติปัญญาไม่
มากขนึ้ อุปมาเหมือนลกู นกอันขนปกี ยงั ไม่ขึน้ พร้อม แม้เรา
จะนงิ่ ไว้ให้อยใู่ นรงั ฉะน้ี ถา้ ขนขึ้นพร้อมแลว้ ก็จะบินไป คำวา่ “ทีห่ นกั ท่เี บา” ในข้อความข้างตน้ หมายถึงอะไร
ทางไกลได้ ซึง่ จะจบั ตัวน้นั เห็นจะได้ความขดั สน
๑๐.เหตใุ ดซุนฮกจงึ กล่าวแก่โจโฉวา่ “ถา้ มีศึกมาก็อยา่ ให้กวน ก. รู้ผดิ รชู้ อบ ข. หนรี ้อนมาพ่ึงเย็น
อูออกอาสา”
ค. ผ่อนสัน้ ผ่อนยาว ง. รหู้ ลบเปน็ ปีก รู้หลีกเปน็ หาง
ก. เพราะเกรงวา่ กวนอจู ะเอาใจออกหาก
ข. เพราะเกรงวา่ กวนอจู ะแสรง้ รบแพ้ข้าศกึ ๑๔.ข้อใดไมใ่ ช่เงอ่ื นไขที่กวนอูยอมไปรบั ราชการกบั โจโฉ
ค. เพราะเกรงวา่ กวนอจู ะลอบหนจี ากโจโฉ
ง. เพราะจะทำให้กวนอูไดแ้ ทนคุณโจโฉสำเร็จเร็วเกินไป ก. ขอให้ไดต้ ำแหน่งเสนาบดี
๑๑.เหตกุ ารณ์ตอนใดที่โจโฉม่ันใจวา่ ตนไมส่ ามารถผกู ใจกวน
อไู วไ้ ด้ ข. ขอให้ได้เป็นขา้ พระเจ้าเหี้ยนเต้
ก. กวนอปู ฏเิ สธไมย่ อมออกรบกบั เลา่ ป่ี
ข. กวนอดู ีใจท่ีโจโฉมอบม้าเชก็ เธาวใ์ ห้ ค. ขอไปหาเลา่ ปท่ี ันทีท่รี ู้ว่าอยทู่ ี่ไหน
ค. กวนอเู คารพและซอื่ สตั ย์ต่อภรรยาเล่าป่ีไม่
เปล่ยี นแปลง ง. ขอให้ดแู ลและได้คมุ้ ครองภรรยาเลา่ ปี่
ง. กวนอูใส่เสือ้ ท่ีโจโฉให้ไว้ข้างใน และใสเ่ สื้อเกา่ ท่ีเล่าปี่
ให้ไวข้ า้ งนอก ๑๕.ข้อใดสะท้อนคุณธรรมความกตัญญขู องกวนอเู ด่นชัดท่ีสุด

ก. ทุกวันน้มี หาอุปราชชุบเลยี้ งเราจึงไดม้ ีความสขุ

คุณนนั้ ก็มีเป็นอันมาก แต่จะได้วายคิดถึงเล่าปน่ี ้นั หามิได้

ข. กวนอเู หน็ แสงเพลิงในเมืองสว่างขึ้นก็ตกใจ

คดิ ถงึ ครอบครวั เล่าปี่ จึงคุมทหารลงมาถงึ เชงิ เขา

ค. ตวั เราเกดิ มาเป็นชายรักษาสตั ย์มใิ ห้เสียวาจา ถึงมาตร

ว่า เลา่ ปีจ่ ะถงึ แกค่ วามตาย เรากจ็ ะตายไปตามความท่ีได้

สาบานไว้

ง. แม้ข้าพเจา้ รู้ว่าเลา่ ปอี่ ยูท่ ่ีใด ถงึ มาตรวา่ เปน็ ทางกันดาร

จะต้องข้ามพระมหาสมทุ รแลลยุ เพลิงกด็ ี ขา้ พเจา้ จะไป

หาเลา่ ป่ใี หจ้ งได้ แมข้ า้ พเจา้ ยังมิทันลามหาอุปราชก็ดี

ขอท่านใหอ้ ภัยแก่ข้าพเจา้

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
เรอื่ ง สามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ

๑. ง ๒. ก ๓. ข ๔. ค ๕. ก

๖. ก ๗. ค ๘. ข ๙. ค ๑๐. ง

๑๑. ข ๑๒. ค ๑๓. ค ๑๔. ก ๑๕. ง

แบบฝกึ ทกั ษะ เร่อื ง รู้จกั สามกก๊
ตอนที่ ๑
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้

๑. จนี เรยี กเรอ่ื งสามกก๊ วา่ อะไร

๒. จนี นยิ มนำเร่อื งสามก๊กไปเลน่ ในการแสดงประเภทใด

๓. ในสังคมไทยนิยมนำเรื่องสามกก๊ ไปเลน่ ในการแสดงประเภทใด

๔. ในเมืองจีนใครเปน็ ผ้นู ำเร่ืองสามกก๊ ทเ่ี ล่ากนั เปน็ นิทานและปรากฏในพงศาวดารมาแตง่ เปน็ วรรณคดี

๕. ไทยนำเรื่องสามก๊กของจีนมาแปลเป็นไทยในสมยั ใด

๖. ใครเป็นผอู้ ำนวยการแปลสามกก๊ เปน็ ภาษาไทย

๗. เร่ืองสามกก๊ ของไทยแต่งดว้ ยคำประพันธป์ ระเภทใด

๘. เนอ้ื หาในเร่ืองสามก๊กเป็นเรื่องราวสมยั ใดของจนี

๙. วรรณคดีสโมสรยกยอ่ งใหเ้ รอ่ื งสามก๊กเปน็ ยอดของวรรณคดีประเภทใด

๑๐. คำวา่ “สามก๊ก” หมายถึงก๊กใดบ้าง

ตอนที่ ๒
คำชแี้ จง ให้นักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามทีก่ ำหนดให้

๑. สรปุ ความรู้เก่ยี วกบั ประวัตผิ อู้ ำนวยการแปลเรอื่ งสามก๊กเป็นภาษาไทย

๒. สรุปความรู้เกย่ี วกับก๊กทั้งสามจากเรอื่ งสามก๊ก

๓. ยกตัวอย่างผลงานประพันธเ์ ร่ืองอน่ื ๆ ของผู้อำนวยแปลเร่ืองสามกก๊

เฉลยแบบฝกึ ทักษะ เรอ่ื ง รจู้ ักสามก๊ก
ตอนที่ ๑
คำช้แี จง ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้

๑. จีนเรยี กเรอื่ งสามกก๊ ว่าอะไร
สามกก๊ จี่

๒. จีนนิยมนำเรื่องสามก๊กไปเลน่ ในการแสดงประเภทใด
งิว้

๓. ในสังคมไทยนิยมนำเร่ืองสามก๊กไปเล่นในการแสดงประเภทใด
ละครพนั ทาง

๔. ในเมืองจีนใครเป็นผู้นำเรื่องสามก๊กท่เี ล่ากนั เปน็ นิทานและปรากฏในพงศาวดารมาแตง่ เป็นวรรณคดี
ลอ่ กวนตง

๕. ไทยนำเร่ืองสามก๊กของจนี มาแปลเป็นไทยในสมยั ใด
รชั กาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

๖. ใครเปน็ ผูอ้ ำนวยการแปลสามกก๊ เปน็ ภาษาไทย
เจา้ พระยาพระคลงั (หน)

๗. เรื่องสามกก๊ ของไทยแต่งดว้ ยคำประพนั ธป์ ระเภทใด
ความเรียงร้อยแกว้

๘. เนอื้ หาในเรื่องสามกก๊ เป็นเร่ืองราวสมยั ใดของจนี
ปลายราชวงศ์ฮน่ั

๙. วรรณคดสี โมสรยกย่องให้เร่ืองสามกก๊ เปน็ ยอดของวรรณคดีประเภทใด
ยอดของความเรยี งนทิ าน

๑๐. คำวา่ “สามก๊ก” หมายถึงก๊กใดบา้ ง
วุยก๊ก จก๊ ก๊ก ง่อก๊ก

ตอนท่ี ๒
คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนปฏิบัตกิ ิจกรรมตามที่กำหนดให้

๑. สรปุ ความรู้เกย่ี วกบั ประวตั ิผอู้ ำนวยการแปลเร่ืองสามก๊กเป็นภาษาไทย
- พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช รชั กาลท่ี 1 โปรดเกลา้ ฯ ให้ เจ้าพระยาพระ

คลงั (หน) เป็นผู้อำนวยการแปล เรื่อง สามกก๊ เปน็ ภาษาไทย
- เจ้าพระยาพระคลงั (หน) เดิมมบี รรดาศักด์เิ ป็น หลวงสรวิชติ ตอ่ มาเลื่อนเป็นพระยาโกษาพพิ ฒั น์

และเจา้ พระยาพระคลงั ตามลำดับ
- เจ้าพระยาพระคลัง (หน) รับราชการมาต้ังแตส่ มัยกรุงธนบรุ ี จนกระท่งั ถงึ สมัยรชั กาลที่ 1
- เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เปน็ ทง้ั นักรบและนกั ปราชญ์ผูม้ ีความรู้ความสามารถทางภาษาไทย

อย่างดีย่ิง ไดแ้ ต่งวรรณคดีที่ไพเราะงดงามทัง้ ร้อยแก้วและร้อยกรอง

๒. สรุปความรเู้ กย่ี วกบั ก๊กท้ังสามจากเร่อื งสามก๊ก
จุดเร่มิ ตน้ ของการแบ่งเป็น 3 กก๊ ในแผ่นดินจนี เกิดข้นึ ในรชั สมยั พระเจา้ เหี้ยนเต้ กษัตรยิ ์ราชวงศ์ฮนั่

ในยุคสมัยดงั กลา่ ว
บ้านเมอื งอ่อนแอ เกิดความแตกแยกระส่ำระสาย มสี งครามรบพงุ่ ชงิ อำนาจกนั จนในที่สุดแตกออกเป็น

3 กก๊ ได้แก่ วุยกก๊
มีโจโฉเป็นผู้นำ จก๊ กก๊ มีเล่าปเ่ี ปน็ ผูน้ ำ และงอ่ กก๊ มีซนุ กวนเปน็ ผู้นำ วุยกก๊ ครอบครองพ้ืนทีท่ างตอน

เหนือของจนี จ๊กก๊กครอบครองพืน้ ท่ที างภาคตะวันตกของจีน ส่วนงอ่ ก๊ก ครอบครองพ้ืนทท่ี างตะวนั ออกของ
จีน บรเิ วณตอนใตข้ องแม่น้ำฉางเจียง ทั้ง ๓ กก๊ ต่างทำสงครามขับเคีย่ วชงิ อำนาจกันเปน็ เวลานาน จนกระทงั่
เรมิ่ เส่อื มอำนาจลง ตอ่ มามสี ุมาเอย๋ี นได้สถาปนาราชวงศ์จ้ินขึน้ และรวบรวมก๊กตา่ งๆ ของจนี รวมเข้ามาเป็น
อาณาจักรเดียวกนั อีกคร้ัง

๓. ยกตัวอยา่ งผลงานประพนั ธเ์ ร่ืองอ่นื ๆ ของผ้อู ำนวยแปลเร่ืองสามก๊ก
ลิลติ เพชรมงกุฎ อิเหนาคำฉันท์ ราชาธริ าช กากคี ำกลอน ลลิ ติ ศรวี ิชัยชาดก ร่ายยาวมหา

เวสสนั ดรชาดก (กณั ฑ์กมุ ารและกณั ฑม์ ัทรี) สมบัตอิ มรินทร์คำกลอน ฯลฯ

แบบบันทกึ ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

คำช้ีแจง : ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วให้คะแนน
การประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นตามพฤติกรรมทีป่ รากฏของนักเรียน

เลข ช่อื -นามสกุล ความ ความ ความสามารถ รวม ผลการประเมิน
ท่ี สามารถ สามารถ ในการใช้
ในการสอื่ สาร ในการคิด
1 ทักษะชีวติ
2 3 3
3 3 9 ผ่าน ไมผ่ า่ น
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16

ลงชอ่ื ……………........….......……. ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสิริภา แสงสมัคร)

ครชู ำนาญการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

คะแนน/ ๓๒๑
รายการประเมิน
ความสามารถ พูดถา่ ยทอดความรู้ พดู ถ่ายทอดความรู้ พูดถา่ ยทอดความรู้
ในการสื่อสาร ความเข้าใจจากสาร ความเข้าใจจากสาร ความเข้าใจจากสาร
ที่อ่าน ฟัง ดู ดว้ ยภาษา ทอ่ี า่ น ฟัง หรือ ดู ดว้ ย ทีอ่ า่ น ฟัง หรือ ดู ด้วย
ความสามารถ ของตนเองได้อย่าง ภาษาของตนเองได้อยา่ ง ภาษาของตนเองได้บา้ ง
ในการคดิ คลอ่ งแคล่ว ชดั เจน ชัดเจน แตข่ าด
ความคล่องแคล่ว
ความสามารถ
ในการใช้ทักษะชีวิต ระบุหลักการสำคญั ระบหุ ลกั การสำคัญ ระบุหลกั การสำคัญ
แนวคดิ หรอื ความรู้ท่ี แนวคิดหรอื ความรู้ที่ แนวคดิ หรือความรทู้ ี่
ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ปรากฏในข้อมลู ตา่ ง ๆ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ
ที่พบเหน็ ได้อย่างถูกตอ้ ง ทพ่ี บเห็นไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ทพ่ี บเหน็ ไดถ้ ูกตอ้ งเป็น
และครบถว้ น แต่ไม่ครบถ้วน บางส่วนและ
ไมค่ รบถว้ น

นำความร้/ู ทกั ษะและ นำความร/ู้ ทกั ษะและ นำความร/ู้ ทักษะและ
เทคนิควิธตี ่าง ๆ มาใช้ เทคนิควิธีตา่ ง ๆ มาใช้ เทคนิควิธีตา่ ง ๆ มาใช้
สร้างสรรค์งานอยา่ งเปน็ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น สร้างสรรค์งานได้
ระบบและ ระบบแตข่ าด แต่ไม่มีประสิทธิภาพ
มีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธิภาพ และไม่สำเรจ็ ในเวลา
ที่กำหนด

เกณฑ์การประเมิน
๘ – ๙ คะแนน หมายถึง ดีมาก
๖ – ๗ คะแนน หมายถงึ ดี
๔ – ๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้
๐ - ๓ คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง

เกณฑก์ ารสรปุ ผล
ได้คะแนนตั้งแตร่ ะดับดขี น้ึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน

แบบบนั ทกึ ผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชแ้ี จง : ครูผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วใหค้ ะแนนการ
ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ตามพฤติกรรมท่ีปรากฏของนักเรยี น

รายการประเมิน ผลการ
ประเมนิ
รวม
ท่ี ชือ่ -สกุล ซอ่ื สัตย์ มุ่งม่นั
สจุ รติ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ในการทำงาน ่ผาน
ไ ่มผ่าน
33 3 3 12

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

ลงชอื่ ……………........….......……. ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสิรภิ า แสงสมัคร)

ครูชำนาญการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา

เกณฑ์การให้คะแนนแบบบันทกึ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คะแนน/ ๓ ๒ ๑๐
รายการประเมนิ

ซื่อสตั ยส์ จุ ริต ให้ขอ้ มลู ทถี่ ูกตอ้ ง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ใหข้ อ้ มลู ทถี่ ูกตอ้ ง ไมใ่ ห้ข้อมูล

และเป็นจรงิ ไม่นำ และเปน็ จรงิ และเปน็ จรงิ ทถี่ ูกต้องและเปน็

สงิ่ ของและผลงาน ไม่นำสงิ่ ของและ ไม่นำส่งิ ของและ จรงิ

ของผู้อนื่ มาเปน็ ของ ผลงานของผู้อ่ืนมา ผลงานของผู้อน่ื มา มพี ฤติกรรมนำ

ตนเอง ปฏบิ ตั ิตนต่อ เปน็ ของตนเอง เป็นของตนเอง สง่ิ ของและ

ผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่ือตรง ปฏิบัติตนต่อผอู้ น่ื ด้วย ผลงานของผู้อน่ื

เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี ความซอ่ื ตรง มาเป็นของ

ด้านความซ่ือสตั ย์ ตนเอง

มวี นิ ยั ขณะเรยี นปฏิบัติตาม ขณะเรียนปฏิบัติตาม ขณะเรียนปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบัติตนตาม

ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ตามข้อตกลง ข้อตกลง

ระเบยี บของ กติกาท่ีได้ตกลงกัน กฎเกณฑ์ กติกาท่ี กฎเกณฑ์

ห้องเรยี น ไมร่ บกวน ไมร่ บกวนบคุ คลอ่นื ได้ตกลงกนั บ้าง ระเบียบ

บคุ คลอนื่ มีสมาธใิ น ข้อบังคับของ

การปฏบิ ัติงาน หอ้ งเรียน

ใฝเ่ รยี นรู้ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตัง้ ใจเรียน เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ไมต่ ้งั ใจเรยี น

และมีความเพียร และมคี วามเพียร และมีความเพยี ร ไม่ศึกษาคน้ ควา้

พยายามในการเรียนรู้ พยายามใน การ พยายามในการ หาความรู้

และเข้ารว่ มกิจกรรม เรยี นรู้ และเข้ารว่ ม เรยี นรู้ และเข้า

การเรียนรู้ ต่าง ๆ กิจกรรมการเรยี นรู้ รว่ มกิจกรรมการ

อย่างสม่ำเสมอ ตา่ ง ๆ บ่อยคร้ัง เรียนรู้ ตา่ ง ๆ

บางครง้ั

ม่งุ มน่ั มีความตัง้ ใจ อดทน มีความตั้งใจ อดทน มคี วามตงั้ ใจ ไม่ต้งั ใจ

ในการทำงาน พยายามในการ พยายามในการ พยายาม ในการ ปฏบิ ัติงานท่ี

ทำงาน ทไ่ี ดร้ บั ทำงาน ทไ่ี ด้รับ ทำงานท่ีได้รับ ได้รบั มอบหมาย

มอบหมาย และไม่ มอบหมาย เพื่อให้ มอบหมายบ้าง

ท้อแทต้ ่ออปุ สรรค งานสำเรจ็

เพ่ือให้งานสำเรจ็

เกณฑ์การประเมิน
๑๐ – ๑๒ คะแนน หมายถงึ ดีมาก
๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี
๔ – ๖ คะแนน หมายถงึ พอใช้
๐ - ๓ คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ารสรุปผล
ไดค้ ะแนนตั้งแตร่ ะดับดขี ้ึนไปถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนพฤตกิ รรมการทำงานเปน็ รายบคุ คล

ประเดน็ การประเมนิ พฤตกิ รรม/ระดบั คะแนน
ความรบั ผิดชอบ
๔๓๒๑
การรับฟังความคดิ เห็น
ทำงานตามที่ได้รับ ทำงานตามท่ีไดร้ ับ ทำงานตามทไ่ี ด้รบั ทำงานที่ได้รับ
การแสดงความคิดเหน็
มอบหมายได้ มอบหมายได้ มอบหมายไดแ้ ต่ไม่ มอบหมายได้แต่
ความมนี ำ้ ใจ เอ้อื เฟือ้
เสยี สละ สำเร็จตาม สำเร็จตาม ตรงตอ่ เวลาและ ต้องอาศัยคำส่งั

วตั ถปุ ระสงค์ วตั ถปุ ระสงค์ ผลงานยังไมด่ นี ัก และผลงานไม่ดี

ตรงเวลา และมี ตรงเวลา

ผลงานที่ถูกต้อง แตผ่ ลงานยงั ไม่ดี

มปี ระสทิ ธิภาพ เท่าทค่ี วร

เคารพ เคารพ เคารพ ไม่ค่อยรบั ฟัง

การตดั สนิ ใจ การตดั สนิ ใจ การตัดสนิ ใจ ความคิดเห็น

ให้เกยี รตใิ นความ ในความคดิ เห็น ในความคดิ เห็น ของผู้อืน่

คิดเหน็ และรับฟงั และรบั ฟังความ และรบั ฟงั ความ

ความคดิ เหน็ คดิ เหน็ ของผู้อน่ื คดิ เห็นของผูอ้ ืน่

ของผู้อน่ื ทกุ ครัง้ บ้าง

แสดงความคิดเห็น แสดงความ แสดงความคดิ เห็น แสดงความคดิ เห็น

ตอ่ ทีเ่ ป็นประโยชน์ คดิ เหน็ ตอ่ ที่เปน็ ตอ่ ทเี่ ป็นประโยชน์ ตอ่ ท่เี ปน็ ประโยชน์

สำหรบั การเรยี น ประโยชนส์ ำหรบั สำหรบั การเรยี น สำหรบั การเรียน

และมคี วาม การเรียนและมี และมคี วาม บ้าง

สร้างสรรคท์ กุ คร้ัง ความสรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรคบ์ ้าง

อยา่ งสม่ำเสมอ

มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ มนี ้ำใจ เอื้อเฟื้อ มนี ำ้ ใจ เอ้ือเฟื้อ มนี ำ้ ใจ เอ้ือเฟื้อ

และเสยี สละต่อ และเสียสละต่อ และเสยี สละต่อ และเสียสละ

ผอู้ นื่ และปฏิบัติ ผ้อู ่ืนและปฏิบัติ ผอู้ ืน่ แตย่ ังปฏิบตั ิ ตอ่ ผู้อืน่ บา้ ง

อยา่ งสม่ำเสมอ อย่างสมำ่ เสมอ ไม่สม่ำเสมอ

สามารถเปน็

แบบอยา่ งที่ดีแก่

ผู้อื่น

ระดับคณุ ภาพ เปน็ ดังน้ี หมายถงึ ดมี าก
คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถงึ ดี
คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง ปรับปรุง
คะแนน ๐ - ๔

เกณฑ์การประเมนิ ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผา่ น

แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
คำช้แี จง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของผ้เู รียนแลว้ ขดี ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน

รายการประเมิน ผลการ
ประเมิน
การรับฟัง การแสดง
ท่ี ชือ่ ความ ความคดิ เห็น ความคิดเห็น ความมีนำ้ ใจ รวมผ่าน
รับผดิ ชอบ เออ้ื เฟอ้ื ไ ่มผ่าน
เสยี สละ

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16

ระดับคุณภาพ เป็นดงั นี้ หมายถงึ ดมี าก
คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถงึ ดี
คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง ปรับปรงุ
คะแนน ๐ - ๔

ผลการประเมนิ คิดเป็นรอ้ ยละ ………….
ระดับดมี าก จำนวน …………. คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
ระดับดี จำนวน …………. คน คดิ เป็นร้อยละ ………….
ระดบั พอใช้ จำนวน …………. คน คิดเปน็ ร้อยละ ………….
ระดับปรบั ปรุง จำนวน …………. คน

เกณฑก์ ารประเมิน ระดับ “ด”ี ข้นึ ไป คือ ผ่าน
สรุปผลการประเมิน

ผา่ น จำนวน …………. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….

ไม่ผ่าน จำนวน …………. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ………….

ลงชื่อ ..................................................... ผปู้ ระเมิน
(นางสาวสริ ิภา แสงสมคั ร)

แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรียนแล้วขดี ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกบั รายการประเมนิ

รายการประเมนิ ผลการ
ประเมนิ

ที่ ชอื่ กลมุ่ กระบวนการ การรับฟงั การแสดง ความสามคั คี รวม

ทำงานกลุ่ม ความคดิ เหน็ ความคดิ เหน็ ผ่าน
ไ ่มผ่าน

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16

ระดับคุณภาพ เป็นดงั น้ี
คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก

คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี

คะแนน ๕ - ๘ หมายถงึ พอใช้
หมายถึง ปรบั ปรุง
คะแนน ๐ - ๔
ผลการประเมนิ

ระดบั ดีมาก จำนวน …………. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ………….

ระดับดี จำนวน …………. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ………….

ระดบั พอใช้ จำนวน …………. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ………….

ระดับปรับปรุง จำนวน …………. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ………….

เกณฑ์การประเมนิ ระดับ “ด”ี ข้ึนไป คือ ผา่ น
สรปุ ผลการประเมิน

ผา่ น จำนวน …………. คน คิดเปน็ ร้อยละ ………….

ไมผ่ า่ น จำนวน …………. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ………….

ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน
(นางสาวสิรภิ า แสงสมคั ร)

เกณฑก์ ารให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

ประเด็นการประเมนิ ๔ พฤตกิ รรม/ระดับคะแนน ๑
๓๒

กระบวนการทำงานกลุ่ม วางแผน วางแผน ทำงานตามท่ไี ด้รับ ขาดการวางแผน

การทำงานตามที่ การทำงานตามท่ี มอบหมายได้ ในการทำงาน

ได้รับมอบหมายได้ ไดร้ ับมอบหมายได้ แตไ่ มต่ รงต่อเวลา และผลงานไม่ดี

สำเร็จตาม สำเร็จตาม และผลงาน เท่าที่ควร

วัตถปุ ระสงค์ วตั ถปุ ระสงค์ ยงั ไมด่ ีนัก

ตรงเวลา และมี ตรงเวลา

ผลงานทถี่ ูกต้อง แต่ผลงานยงั ไม่ดี

มีประสทิ ธภิ าพ เท่าทค่ี วร

การรบั ฟงั ความคดิ เห็น เคารพ เคารพ เคารพ ไม่ค่อยรับฟัง

การตัดสนิ ใจ การตัดสนิ ใจ การตัดสินใจ ความคดิ เหน็

ให้เกยี รติในความ ในความคิดเหน็ ในความคิดเห็น ของผู้อนื่

คดิ เห็นและรบั ฟัง และรับฟงั ความ และรบั ฟังความ

ความคิดเห็น คิดเหน็ ของผู้อ่ืน คิดเหน็ ของผอู้ น่ื

ของผู้อน่ื ทุกคร้ัง บ้าง

การแสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเหน็ แสดงความ แสดงความคดิ เหน็ แสดงความคดิ เห็น

ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ คิดเห็นทเ่ี ปน็ ที่เป็นประโยชน์ ท่ีเปน็ ประโยชน์

สำหรบั การเรียน ประโยชน์สำหรบั สำหรบั การเรียน สำหรบั การเรยี น

และมีความ การเรยี นและมี และมคี วาม บา้ ง

สร้างสรรคท์ กุ คร้ัง ความสรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรคบ์ า้ ง

อย่างสมำ่ เสมอ

ความสามคั คี มคี วามเปน็ มีความเป็น ค่อนข้าง ขาดความเป็น

อนั หนึ่ง อันหน่ึง ขาด ความเปน็ อันหน่ึงอัน

อันเดียวกนั อนั เดียวกนั อันหน่งึ เดียวกนั

แบ่งหนา้ ท่ี แบง่ หนา้ ที่ อนั เดยี วกัน แบง่ หน้าที่

ความรบั ผิดชอบ ความรับผดิ ชอบ แบง่ หนา้ ท่ี ความรับผิดชอบ

โดยยุติธรรม มนี ้ำใจ เอื้อเฟื้อ ความรบั ผดิ ชอบ ไม่เสมอภาค

มนี ้ำใจ เอ้ือเฟื้อ ไมท่ ั่วถึง

และเสียสละต่อกนั

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ สามก๊ก ตอน กวนอไู ปรับราชการกับโจโฉ

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ๕ รหสั ท ๓๓๑๐๑

แผนการเรยี นรูท้ ่ี 4 วรรณศิลป์สามกก๊ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖

เวลา ๒ คาบ ผ้สู อน ครสู ิรภิ า แสงสมคั ร

โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษายะลา

๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่าง
เหน็ คณุ ค่าและนำมาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ

๒. ตัวช้วี ดั
ตวั ชว้ี ดั ม. ๔-๖/๓ วิเคราะหแ์ ละประเมนิ คุณค่าดา้ นวรรณศิลปข์ องวรรณคดแี ละวรรณกรรม
ในฐานะทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ

3. สาระสำคญั
วรรณคดเี รื่อง สามกก๊ ได้รบั การยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่ามคี วามดเี ดน่ ประเภทความเรียงเรื่อง

นิทาน ซง่ึ เป็นเรื่องทีม่ ีคณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์โดยมีกลวธิ กี ารประพันธท์ ด่ี เี ยยี่ ม และให้คำเหมาะสมกบั ลักษณะ
หน้าทีข่ องคำ ถูกต้องตรงความหมายเหมาะสมกับเน้ือเรื่องโดยเร่ืองสามก๊กตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉนี้
มีความงามทางภาษาที่ทำให้ผูอ้ ่านจะเกิดจินตนาการตามเน้ือเร่ือง ปรากฎสำนวนโวหารและภาพพจน์ เสมือน
ไดย้ ินเสียง ไดเ้ หน็ ภาพเกิดอารมณส์ ะเทือนใจ มีความร้สู กึ คล้อยตามได้อยา่ งงดงาม

4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 นักเรยี นอธบิ ายหลกั การวิเคราะหแ์ ละประเมนิ คุณคา่ ดา้ นวรรณศิลปไ์ ด้ (K2)
4.2 นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์และประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์จากเร่ืองสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับ

ราชการกับโจโฉได้ (P)
4.3 นกั เรียนเหน็ คณุ คา่ ของวรรณคดี (A)

๕. สมรรถนะสำคัญ
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

6. คุณลักษณะ
๑. ใฝ่เรียนรู้
๒. มุง่ ม่ันในการทำงาน
๓. รักความเปน็ ไทย

7. สาระการเรยี นรู้
- การวเิ คราะหแ์ ละประเมินคุณค่าดา้ นวรรณศิลป์จากเร่ืองสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ

8. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี ๑ (วธิ สี อนแบบกระบวนการกลุม่ สมั พนั ธ์)
ขั้นท่ี ๑ นำเขา้ สู่บทเรียน
๑. นกั เรียนรวมกลมุ่ เดมิ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มยกตัวอย่างบทประพันธเ์ ร่อื ง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรบั

ราชการกับโจโฉ ตอนท่ีตนเองชน่ื ชอบหรือสนใจ จากน้ันช่วยกนั วิเคราะหว์ ่าบทประพนั ธด์ งั กลา่ วใชโ้ วหาร
ประเภทใด และมีการใช้ภาษาดีเด่นอยา่ งไร

๒. ครูและนักเรียนรว่ มกนั วเิ คราะห์ลกั ษณะของโวหารและการใชภ้ าษาในบทประพันธ์ดังกล่าว เพ่อื
นำเขา้ สู่บทเรยี นเกี่ยวกับภาษาและโวหารในเร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ

ขน้ั ที่ ๒ จดั การเรียนรู้
๑. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศึกษาความรู้เกยี่ วกับคณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์ การใช้ภาษาและโวหาร
ของเร่ือง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉ จากหนังสอื เรียนและแบบฝกึ ทักษะเรื่องคุณค่าดา้ น
วรรณศลิ ป์
๒. นักเรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลการศกึ ษาหน้าช้นั เรยี น โดยให้นกั เรยี นกล่มุ อืน่ ได้
นำเสนอเพิ่มเตมิ ในสว่ นที่แตกตา่ งกันออกไป
ขั้นที่ ๓ สรปุ และนำหลักการไปประยุกต์ใช้
นกั เรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกบั คุณค่าด้านวรรณศิลป์การใช้ภาษาและโวหารของเรื่อง สามกก๊
ตอนกวนอูไปรบั ราชการกบั โจโฉ
คาบท่ี ๒
ขน้ั ท่ี ๔ วดั และประเมนิ ผล
นักเรยี นแต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั ทำแบบฝึกทกั ษะ เรื่อง ศิลปแ์ ห่งโวหาร ตอนกวนอูไปรับราชการกบั โจโฉ
เสร็จแล้วครูและนกั เรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบในแบบฝกึ
9. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
๑. หนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทยชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖
๒. ภาพตัวละครจากเรือ่ งสามก๊ก
๓. ห้องสมดุ
๔. อนิ เตอร์เน็ต
10 หลักฐานการเรยี นรู้
- แบบฝกึ ทกั ษะและการนำเสนอ

11. การวดั และประเมินผล

วธิ กี ารวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ

- ตรวจแบบฝึกทกั ษะ - แบบฝกึ ทักษะ - นักเรียนได้คะแนนการทำแบบ

- การสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ฝึกทักษะผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70

- การสังเกตพฤติกรรมการทำงาน - แบบสังเกตพฤติกรรมการ แสดงวา่ ผา่ น

กลมุ่ ทำงานกลมุ่ - นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน

การบันทกึ ผลคณุ ลกั ษณะ แบบบันทกึ ผลคณุ ลักษณะ พฤติกรรมการทำงานกลมุ่

อันพงึ ประสงค์ อนั พึงประสงค์ ระดบั ๒ แสดงว่าผา่ น

- การบันทึกผลสมรรถนะสำคัญ - แบบบันทึกผลสมรรถนะสำคัญ

ของผูเ้ รยี น ของผู้เรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน

พฤติกรรมรายบุคคล ระดับ ๒

แสดงว่าผ่าน

- นักเรียนผ่านเกณฑ์คุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ระดับ ๒ แสดงว่า

ผา่ น

- นักเรียนผ่านเกณฑ์สมรรถนะ

สำคัญของผู้เรยี นระดบั ๒

แสดงวา่ ผา่ น

๑2. ขออนุมัติใช้แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
............................................................................................................................. ..............................................
.................................................................................... ......................................................................................
............................................................................................................................. .............................................

ลงช่ือ ……………..............………………
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมัคร)

ครชู ำนาญการโรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา
วันท่ี 9 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖5

๑3. ความคิดเห็นของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
............................................................................................................................. ..............................................
................................................................................................................................................................ ..........
........................................................................................................................ ..................................................

ลงชอ่ื ……………..............………………
(นายไพโรจน์ ขวัญคง)

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

บันทกึ ผลการสอน (ม.6/1)
ผลการเรยี นของนกั เรียน
ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรียนอธิบายหลักการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ได้ ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดบั

ดีมากทุกคน
2. นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์และประเมินคุณค่าดา้ นวรรณศิลปจ์ ากเรื่องสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับ

ราชการกับโจโฉได้ ผ่านเกณฑ์การระดับอยู่ในระดบั ดีมาก จำนวน 15 คน ระดบั ดี จำนวน 5 คน
3. นักเรยี นเห็นคณุ ค่าของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดับดมี ากทุกคน

ตามสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
- นักเรยี นมผี ลการประเมินตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมากทุกคน

ตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- นักเรียนมีผลการประเมินตามคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมากทกุ คน

ปัญหา/อุปสรรค

- มนี ักเรียน จำนวน 5 คน ยงั ทำแบบฝึกทักษะในส่วนของโวหารได้คะแนนน้อย

ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ขผลการแก้ไข

- ใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ ทักษะเสริมเพือ่ ใหเ้ ข้าใจเน้ือหาเพ่ิมมากขนึ้ และครูอธิบายเพมิ่ เติมโดยการ
ยกตวั อยากเสริมให้เหตตุ ัวอย่างทหี่ ลากหลาย

ลงชื่อ..................................................ผู้สอน
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมัคร)

ครู โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา
วนั ท่ี 16 สิงหาคม 2565

บันทกึ ผลการสอน (ม.6/2)
ผลการเรียนของนักเรยี น
ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นกั เรยี นอธิบายหลักการวิเคราะหแ์ ละประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศลิ ปไ์ ด้ ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดับ

ดีมากทุกคน
2. นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศลิ ป์จากเร่อื งสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับ

ราชการกบั โจโฉได้ ผ่านเกณฑ์การระดบั อยใู่ นระดบั ดมี าก จำนวน 23 คน ระดบั ดี จำนวน 4 คน
3. นกั เรยี นเหน็ คณุ ค่าของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดับดีมากทุกคน

ตามสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
- นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นผา่ นเกณฑ์ในระดับ ดีมากทุกคน

ตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- นกั เรยี นมผี ลการประเมินตามคุณลักษณะอนั พึงประสงคผ์ า่ นเกณฑ์ในระดับ ดีมากทุกคน

ปญั หา/อุปสรรค
- การทำกจิ กรรมกลมุ่ ในเร่ืองน้ีพบวา่ ใช้เวลานาน นกั เรียนหลายคนไม่สามารถทำกิจกรรมได้เสร็จ

ภายในเวลาทีก่ ำหนด

ข้อเสนอแนะแนวทางแกไ้ ขผลการแก้ไข
- ครูปรับกิจกรรมในแบบฝึกทกั ษะให้ช่วยกันทำพร้อม ๆ กัน และอธบิ ายเน้ือหาประกอบเพิ่มเติม

เพ่ือใหน้ ักเรยี นเกิดความเขา้ ใจไดเ้ ร็วมากย่งิ ขน้ึ

ลงชอ่ื ..................................................ผู้สอน
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมัคร)

ครู โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา
วันที่ 16 สงิ หาคม 2565

บนั ทึกผลการสอน (ม.6/3)
ผลการเรยี นของนกั เรยี น
ตามจุดประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นอธบิ ายหลักการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดบั

ดีมากทุกคน
2. นักเรียนสามารถวิเคราะห์และประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศิลปจ์ ากเรื่องสามก๊ก ตอนกวนอูไปรับ

ราชการกบั โจโฉได้ ผา่ นเกณฑ์การระดบั อยูใ่ นระดับดีมาก จำนวน 30 คน ระดบั ดี จำนวน 4 คน
3. นักเรียนเหน็ คุณคา่ ของวรรณคดี ผ่านเกณฑ์อยูใ่ นระดบั ดีมากทุกคน

ตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- นักเรยี นมผี ลการประเมนิ ตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนผ่านเกณฑ์ในระดับ ดีมากทกุ คน

ตามคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- นักเรยี นมผี ลการประเมนิ ตามคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ผ่านเกณฑ์ในระดับ ดีมากทุกคน

ปัญหา/อุปสรรค
- การทำกิจกรรมกลมุ่ ในเรื่องนี้พบว่าใชเ้ วลานาน นกั เรยี นหลายคนไม่สามารถทำกิจกรรมได้เสร็จ

ภายในเวลาที่กำหนด
- นักเรยี นจำนวนหลายคนไปเข้ารว่ มกจิ กรรมวิทยาศาสตร์ ทำให้จำนวนสมาชิกของแตล่ ะกลมุ่ น้อย

ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไขผลการแก้ไข
- ครปู รบั กิจกรรมในแบบฝึกทกั ษะให้ช่วยกันทำพร้อม ๆ กัน และอธิบายเนื้อหาประกอบเพม่ิ เติม

เพื่อใหน้ ักเรยี นเกิดความเข้าใจไดเ้ รว็ มากย่งิ ขึ้น
- ครลู งเน้ือหาทเี่ รยี นใน Google Classroom และแบบฝกึ ทักษะให้นกั เรียนท่ีไปทำกจิ กรรม

ทำย้อนหลัง

ลงชือ่ ..................................................ผู้สอน
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมัคร)

ครู โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา
วันที่ 16 สิงหาคม 2565

บนั ทึกผลการสอน (ม.6/8)
ผลการเรียนของนกั เรยี น
ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นกั เรยี นอธบิ ายหลักการวิเคราะหแ์ ละประเมินคุณค่าดา้ นวรรณศิลปไ์ ด้ ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดบั

ดีมากทุกคน
2. นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์และประเมินคุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์จากเร่อื งสามก๊ก ตอนกวนอไู ปรับ

ราชการกับโจโฉได้ ผา่ นเกณฑ์การระดบั อยู่ในระดบั ดมี าก จำนวน 30 คน ระดบั ดี จำนวน 7 คน
3. นักเรยี นเหน็ คุณค่าของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์อยใู่ นระดบั ดมี ากทุกคน

ตามสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
- นักเรียนมีผลการประเมินตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนผ่านเกณฑ์ในระดับดมี าก จำนวน 30

คน ระดับดี จำนวน 7 คน

ตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- นกั เรียนมผี ลการประเมินตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคผ์ ่านเกณฑ์ในระดับดมี าก

จำนวน 30 คน ระดับดี จำนวน 7 คน

ปญั หา/อุปสรรค
- การทำกิจกรรมกลมุ่ ในเร่ืองน้ีพบว่าใช้เวลานาน นกั เรียนหลายคนไม่สามารถทำกิจกรรมไดเ้ สรจ็

ภายในเวลาที่กำหนด
- นักเรียนขาดเรียนหลายคน

ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ขผลการแก้ไข
- ครูปรับกิจกรรมในแบบฝึกทักษะให้ช่วยกันทำพร้อม ๆ กัน และอธิบายเนื้อหาประกอบเพิ่มเติม

เพอ่ื ให้นักเรียนเกิดความเข้าใจไดเ้ ร็วมากยงิ่ ขน้ึ
- ครูลงเนอ้ื หาที่เรยี นใน Google Classroom และแบบฝกึ ทักษะใหน้ ักเรยี นทำยอ้ นหลัง

ลงชื่อ..................................................ผสู้ อน
(นางสาวสริ ภิ า แสงสมคั ร)

ครู โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา
วนั ที่ 16 สงิ หาคม 2565

บนั ทกึ ผลการสอน (ม.6/10)
ผลการเรียนของนกั เรยี น
ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นอธิบายหลักการวิเคราะห์และประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ปไ์ ด้ ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดับ

ดีมากทุกคน
2. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์และประเมนิ คุณค่าดา้ นวรรณศิลป์จากเรื่องสามก๊ก ตอนกวนอูไปรบั

ราชการกับโจโฉได้ ผ่านเกณฑ์การระดบั อย่ใู นระดับดีมาก จำนวน 30 คน ระดบั ดี จำนวน 12 คน
3. นักเรียนเห็นคณุ คา่ ของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์อยู่ในระดบั ดีมากทุกคน

ตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
- นักเรียนมีผลการประเมนิ ตามสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดมี าก

จำนวน 40 คน ระดบั ดี จำนวน 2 คน

ตามคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- นกั เรยี นมีผลการประเมินตามคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีมาก

จำนวน 40 คน ระดบั ดี จำนวน 2 คน

ปัญหา/อุปสรรค
- การทำกิจกรรมกลมุ่ ในเรื่องน้ีพบวา่ ใช้เวลานาน นักเรยี นหลายคนไม่สามารถทำกิจกรรมได้เสร็จ

ภายในเวลาทก่ี ำหนด

ข้อเสนอแนะแนวทางแกไ้ ขผลการแกไ้ ข
- ครูปรับกิจกรรมในแบบฝึกทักษะให้ช่วยกันทำพร้อม ๆ กัน และอธิบายเนื้อหาประกอบเพิ่มเติม

เพอ่ื ให้นักเรยี นเกดิ ความเขา้ ใจไดเ้ ร็วมากยง่ิ ขนึ้
- ครูลงเนอื้ หาท่ีเรยี นใน Google Classroom และแบบฝกึ ทักษะให้นกั เรยี นทำย้อนหลัง

ลงช่ือ..................................................ผูส้ อน
(นางสาวสิริภา แสงสมัคร)

ครู โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา
วันที่ 16 สงิ หาคม 2565

บันทึกผลการสอน (ม.6/12)
ผลการเรียนของนักเรยี น
ตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นกั เรยี นอธิบายหลักการวิเคราะหแ์ ละประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดบั

ดีมาก จำนวน 16 คน ระดบั ดี 4 คน
2. นักเรยี นสามารถวิเคราะห์และประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์จากเรื่องสามก๊ก ตอนกวนอไู ปรบั

ราชการกบั โจโฉได้ ผา่ นเกณฑ์การระดบั อยู่ในระดบั ดีมาก จำนวน 16 คน ระดบั ดี จำนวน 4 คน
3. นักเรยี นเหน็ คุณคา่ ของวรรณคดี ผา่ นเกณฑ์อยใู่ นระดับดมี าก ผา่ นเกณฑ์การระดบั อยู่ในระดับดี

มาก จำนวน 16 คน ระดบั ดี จำนวน 4 คน

ตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
- นกั เรียนมผี ลการประเมนิ ตามสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นผ่านเกณฑ์ในระดบั ดมี าก

จำนวน 16 คน ระดับดี จำนวน 4 คน

ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์
- นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ตามคุณลกั ษณะอันพึงประสงคผ์ ่านเกณฑ์ในระดับดมี าก

จำนวน 16 คน ระดบั ดี จำนวน 4 คน

ปญั หา/อุปสรรค
- นักเรยี นไปทำกิจกรรมจำนวนหลายคน ไมส่ ามารถแบ่งกล่มุ การทำงานได้ตามทคี่ รูกำหนด จึงให้

เปน็ กิจกรรมคู่และทำไปพร้อม ๆ กัน

ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขผลการแกไ้ ข
- ครูปรับกิจกรรมในแบบฝึกทักษะให้ช่วยกันทำพร้อม ๆ กัน และอธิบายเนื้อหาประกอบเพิ่มเติม

เพอื่ ใหน้ ักเรียนเกดิ ความเขา้ ใจไดเ้ รว็ มากยง่ิ ขน้ึ
- ครลู งเนอื้ หาทเ่ี รียนใน Google Classroom และแบบฝกึ ทักษะให้นกั เรยี นทำยอ้ นหลงั

ลงช่อื ..................................................ผสู้ อน
(นางสาวสิรภิ า แสงสมคั ร)

ครู โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จงั หวัดยะลา
วนั ที่ 16 สงิ หาคม 2565