The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เครื่องดนตรีสากล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by theerasak0935075574, 2021-05-21 00:03:34

เครื่องดนตรีสากล

เครื่องดนตรีสากล

หน่วยการเรียนรู้เร่ืองเคร่ืองดนตรีสากล

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. บอกช่ือและประเภทของเครื่องดนตรีแตล่ ะชนิดได้
2. อธิบายลกั ษณะการเกิดเสยี งของเคร่ืองดนตรีแตล่ ะชนิดได้

เคร่ืองดนตรีสากลแบ่งออกเป็น 5 ประเภท

1. เคร่ืองสาย ( String Instruments )
2. เคร่ืองเป่ าลมไม้ (Woodwind Instruments )
3. เครื่องเป่ าทองเหลือง ( Brass Instruments )
4. เคร่ืองล่ิมนิ้ว ( Keyboard Instruments )
5. เคร่ืองประกอบจงั หวะ ( Percussion Instruments )

1. เคร่ืองสาย ( String Instruments )

ไวโอลนิ วโิ อลา
เชลโล ดับเบลิ้ เบส

ต้แู อมป์

ลูท กีตาร์เบส

กีตาร์โปร่งโฟลค กีตาร์คลาสสิค กีตาร์ไฟฟ้ าลีดและคอร์ด

แบนโจ

แมนโดลนิ
ฮาร์ พ





2. เคร่ืองเป่ าลมไม้ (Woodwind Instruments)
ขลุ่ยรีคอเดอร์

ป่ี คลาริเนท



ฟลูท อัลโต้ แซกโซโฟน

3. เคร่ืองเป่ าทองเหลือง ( Brass Instruments )
คอร์ เนท

ทรัมเป็ ท

เฟร็นซ์ ฮอร์ น

บูเกลิ
สไลด์ ทรอมโบน

บาริโทน

เฟร็นซ์ฮอร์น

ยูฟอร์ เนียม ทูบา ซูซ่าโฟน



4. เคร่ืองลม่ิ นิว้ ( Keyboard Instruments )

เซนตไิ ซเซอร์ ฮาร์พซคิ อร์ด
อัพไรท์ เปี ยโน แกรนด์เปี ยโน

เมโลเดีย้ น อเิ ลคโทน
ออร์ แกน

แอคคอร์เดีย้ น



5. เครื่องประกอบจงั หวะ ( Percussion Instruments )
มาริมบา

ไซโลโฟน กลองชุด กลองทมิ พานี

ไซโลโฟน

มาราคาส คาวเบลล์
เบสดรัม สแนร์ ดรัม

กลองบองโก แทมบูลนิ
รีโช่
กลองทอมบา
ซมิ บอล

คอนเสิร์ต ดรัม เบสดรัม

สแนร์ ดรัม

เบลไรร่ า ทูบวิ ล่าเบล
ควอททอม
คาบาซ่า



เครื่องดนตรีคืออุปกรณ์ในการสร้างเสียงดนตรีท่ีสาคญั
ความแตกต่างของรูปร่าง ลกั ษณะวตั ถุท่ีใชท้ าเคร่ืองดนตรีและ
วธิ ีการทาใหเ้ กิดเสียงจะใหเ้ สียงดนตรีที่แตกต่างกนั ใหอ้ ารมณ์แก่
ผฟู้ ังต่างกนั การจดั แบ่งกลุ่มหรือประเภทของเคร่ืองดนตรีอาจทา
ไดห้ ลายวธิ ีการอาจจดั ตามรูปร่างลกั ษณะ วธิ ีการทาใหเ้ กิดเสียง
ฯลฯ ในดนตรีของชาติต่างๆกม็ ีวธิ ีการจดั โดยอาศยั หลกั เกณฑท์ ่ี

แตกต่างกนั ออกไป สาหรับเคร่ืองดนตรีสากล ในปัจจุบนั นิยม
แบ่งเป็นกลุ่มต่างๆดงั น้ี

กล่มุ เคร่ืองสาย (String Instruments)

เป็นเครื่องดนตรีที่ทาใหเ้ กิดเสียงโดยการสน่ั สะเทือนของ
สายลวด เชือก เอน็ หรือไนลอนและมีตวั กาธรเสียงทาหนา้ ที่ขยาย
เสียงใหด้ งั มากข้ึนคุณภาพของเสียงข้ึนอยกู่ บั รูปร่างและวตั ถุที่ใชท้ า
การสน่ั สะเทือนของสายอาจทาไดโ้ ดยการสีหรือดีดโดยอาจกระทา
โดยตรงหรือเพ่มิ กลไกใหย้ งุ่
ยากข้ึนเคร่ืองสายที่พบเห็นในปัจจุบนั นิยมใชว้ ธิ ีทาใหเ้ กิดเสียงได้ 2
วธิ ี คือ วธิ ีสีและวธิ ีดีด

วงดนตรีสากล

1) ไวโอลนิ (Violin) ไวโอลินคนั หน่ึง ๆ ประกอบดว้ ยแผน่ ไม้

หลายชิ้นแต่ละชิ้นเลือกมาจากไมช้ นิดต่าง ๆ กนั ตามความเหมาะสมท่ีจะ
นามาทาเป็นส่วนต่าง ๆ ของซอ ดา้ นหนา้ ใชไ้ มพ้ รุช ซ่ึงเป็นไมเ้ น้ืออ่อนมีลาย
ละเอียดดา้ นหลงั ใชไ้ มเ้ มเปิ้ ล ไวโอลินประกอบดว้ ยสาย 4 สาย แต่ละสาย
เทียบเสียงห่างกนั คู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง G-D-A-E สายต่าสุดเทียบเสียง G

ต่าถดั จาก Middle C สายท้งั ส่ีมีความยาวเท่ากนั แต่ระดบั เสียงแตกต่างกนั
ตามขนาดไวโอลินขนาดมาตรฐานจะมีความยาวท้งั สิ้น 23.5 นิ้ว คนั ชกั ยาว
29 นิ้วไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีท่ีใชเ้ ล่นท่วงทานอง (Melodic Instrument) มี
เสียงแหลมสดใส ถ่ายทอดอารมณ์ไดด้ ีถา้ ตอ้ งการจะเล่นใหเ้ สียงหวาน เศร้า

กท็ าได้ โดยใชเ้ ทคนิคการเล่นแบบต่าง ๆ

2) วโิ อลา (Viola) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาด
ใหญ่กวา่ ไวโอลินประมาณหน่ึงในหา้ มีความยาวท้งั สิ้น 26.5 นิ้ว วิโอลา
ประกอบดว้ ยสาย 4 สาย ต้งั เสียงต่ากวา่ ไวโอลินลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ
C-G-D-A มีเสียงทุม้ และนุ่มนวลกวา่ ไวโอลิน แต่ไม่มีบทบาทเด่นเหมือน
ไวโอลิน การเล่นเครื่องดนตรีไวโอลินและวโิ อลาน้ีผเู้ ล่นจะใชม้ ือซา้ ยจบั ท่ี
คอของเคร่ือง โดยใหค้ อของเคร่ืองอยใู่ นร่องระหวา่ งหวั แม่มือกบั นิ้วช้ี นิ้ว
ท้งั ส่ี (ยกเวน้ หวั แม่มือ) ทาหนา้ ท่ีกดลงบนสายเพอ่ื เปลี่ยนระดบั เสียง ดา้ น
ทา้ ยของเครื่องวางบนไหล่ซา้ ยของผเู้ ล่น และผเู้ ล่นจะใชค้ างหนีบกระชบั จบั

ตวั เคร่ืองดว้ ยมือซา้ ยและใชม้ ือขวาจบั คนั ชกั ในการสี

3) เชลโล (Cello) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มี
ขนาดโตกวา่ มาก คือความยาวประมาณ 48.5 นิ้ว ขณะเล่นตอ้ งนง่ั เกา้ อ้ี
เอาเคร่ืองไวร้ ะหวา่ งขาท้งั สองขา้ งหนั หนา้ เครื่องออก เทคนิคการเล่น
เหมือนกบั ไวโอลินสายท้งั สี่เสียงต่ากวา่ วิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คือ C-G-D-A
เสียงของเชลโลนุ่มนวล แสดงอารมณ์เศร้สร้อย

4) ดบั เบิลเบส (Double Bass) เป็นเครื่องท่ีมีขนาดใหญ่ที่สุดใน
ตระกลู ไวโอลิน มี ความยาวประมาณ 74 นิ้ว ผบู้ รรเลงตอ้ งยนื เล่น เสียง
ของดบั เบิลเบส ต่าสุดแสดงถึงความมีอานาจ ความกลวั ความลึกลบั สาย
ท้งั สี่ต้งั เสียงห่างกนั เป็นคู่ 4 เพอร์เฟค คือ E- A- D- G

1) ฮาร์พ (Harp) ฮาร์พเป็นพิณโบราณขนาดใหญ่ มีประวตั ิเก่าแก่มาก ชาวอียปิ ต์

โบราณใชฮ้ าร์พเป็นเครื่องดนตรีสาคญั ในราชสานกั ของฟาโรห์ ในยโุ รปสมยั กลางฮาร์พ
เป็นเครื่องดนตรีที่ไดร้ ับความนิยมจากชาวไอริช และเวลส์ เป็นอยา่ งมาก ฮาร์พมีลกั ษณะ
เป็นโครงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ดา้ นบนโคง้ งอสวยงาม มีสายขึงอยทู่ ้งั หมด 47 สาย
ช่วงเสียงกวา้ ง 6 Octaves บนั ไดเสียงพ้ืนฐานของฮาร์พเป็น Cb Major ที่ฐานของฮาร์พ จะมี
กระเด่ือง 7 อนั สาหรับเหยยี บ (ประจาท้งั 7 เสียง) ถา้ เหยยี บจมลงคร้ังหน่ึงสายจะดึงข้ึนทา
ใหเ้ สียงสูงข้ึนคร่ึงเสียง ถา้ เหยยี บอีกเป็นคร้ังท่ีสองสายจะตึงข้ึนอีกทาใหเ้ สียงสูงข้ึนอีกทา
ใหผ้ เู้ ล่น เล่นเพลงไดท้ ุกบนั ไดเสียงในการบรรเลงฮาร์พผเู้ ลน่ จะตอ้ งนงั่ ลงใหไ้ หล่ขวาชิดกบั
ตวั ฮาร์พใชน้ ิ้วมือท้งั สอง ยกเวน้ นิ้วกอ้ ยดีดสาย เสียงของฮาร์พเบาและนุ่มนวลกวา่ เปี ยโน
มากปัจจุบนั ฮาร์พใชบ้ รรเลงในวงดนตรีประเภทออร์เคสตราเท่าน้นั

2) ลทู (Lute) เป็นพิณชนิดหนง่ึ ท่ีเป็นต้นกาเนิด
ของเคร่ืองสายประเภทดดี ลทู มีรูปทรงเหมือนผลส้มผา่
ซีก มีสะพานวางนิว้ ที่มีชอ่ งปรากฏอยู่ เชน่ เดียวกบั กีตาร์

แบนโจ แมนโดลนิ ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกนั มาก
แตป่ ัจจบุ นั นีไ้ มไ่ ด้รับความนิยม

3) กีตาร์ (Guitar) กีตาร์เป็ นเครื่องดนตรีท่ีแพร่หลายมากใน
ปัจจบุ นั มีรูปร่างคล้ายคลงึ กบั พณิ ลทู แตผ่ ิดกนั ตรงท่ีรูปร่างแบนกวา่ ใน

ปัจจบุ นั มีความสาคญั ทงั้ ในวงดนตรีประเภทสตริง แจ๊สร็อค เป็นต้น
กีตาร์ประกอบด้วยสาย 6 สาย โดยตงั้ ระดบั เสียงต่าไปหาสงู ในแตล่ ะ
สายดงั นี ้E,A,D,G,B,E ไมว่ า่ จะเป็นกีตาร์โปร่งธรรมดา หรือกีตาร์ไฟฟ้ า
นอกจากนีเ้คร่ืองสายประเภทดีดยงั มแี มนโดลิน แบนโจ ซง่ึ เป็น

เคร่ืองสายประเภทดีดที่มีรูปร่างคล้ายกีตาร์ แตม่ ไิ ด้นามาใช้ในวงดนตรี

มากนกั สว่ นมากใช้ในดนตรีของชาวพืน้ เมอื งแถบลาติน อเมริกาอยา่ งไรก็
ตามทงั้ แมนโดลนิ และแบนโจก็เป็นผลการววิ ฒั นาการของลทู นน่ั เอง

4) แมนโดลนิ (Mandolin) เป็ นเครื่องดนตรีตระกลู ลทู มีสาย 4 คู่
(8สาย) หรือ 6 คู่ (12สาย) ตงั้ เสยี งเทา่ กนั เป็ นคู่ มีลกู บดิ คล้ายกีตาร์ใช้ใน
การตงั้ เสยี ง และมีนม (Feat) รองรับสาย เวลาเลน่ จะใช้นิว้ มือซ้ายจบั ตวั

แมนโดลนิ และใช้มือขวาดีด ลกั ษณะการดีดคล้ายการดีดกีตาร์โดยใช้ปิ๊ค
(Pick) เสียงท่ีเกิดจากแมนโดลินมีความไพเราะเป็ นเสียงท่ีมีคณุ ภาพ เร้า
อารมณ์ได้ดโี ดยเฉพาะอารมณ์โศกเศร้าเก่ียวกบั ความรัก แมนโดลนิ มีถิ่น

กาเนิดท่ีประเทศอิตาลี เป็ นเคร่ืองดนตรีที่ชาวอิตาเลียนนิยมกนั แพร่หลาย

ในปี ค.ศ. 1713 ได้มีผ้นู าเอาแมนโดลินมาเลน่ ผสมในวงคอนเสริ ์ตใน
ประเทศองั กฤษ

5) แบนโจ (Banjo) เป็นเคร่ืองดนตรีในตระกลู ลูท

จุดเริ่มตน้ ท่ีมีผนู้ ามาเล่นอยใู่ นแถบ แอฟริกาตะวนั ตก
(Western Africa) เป็นเคร่ืองดนตรีพ้นื บา้ นของพวกนิโกร
ต่อมาจึงเป็นท่ีแพร่หลายในหมู่อเมริกนั นิโกร วธิ ีการเล่น

คลา้ ยกบั กีตาร์

ในปัจจบุ นั มีเคร่ืองดนตรีหลายเครื่องท่ีไมไ่ ด้ทาด้วยไม้เน่ืองจาก

ไม้หายาก จงึ ใช้วสั ดอุ ยา่ งอ่ืนสร้างขนึ ้ แตว่ ิธีการเกิดเสียงและคณุ ภาพเสียง

ก็ยงั เหมือนกบั ทาด้วยไม้ทกุ ประการเคร่ืองดนตรีกลมุ่ เคร่ืองลมไม้ยงั แบง่

ได้อยา่ งกว้าง ๆ เป็ น 2 ประเภทคือประเภทเป่ าลมเข้าไปในรูเป่ า(Blowing
into a tube) ลาตวั มลี กั ษณะเป็ นท่อเคร่ืองเป่ าประเภทนีเ้ป่ าลมเข้า
ทางด้านข้าง และประเภทเป่ าลมให้ผา่ นลนิ ้ ของเครื่องดนตรี (Blowing
through a reed)เคร่ืองลมไม้ประเภทขลยุ่ ยงั แบง่ ตามลกั ษณะของการเป่ า
ได้

1) ฟลตู (Flute) เป็ นเคร่ืองดนตรีท่ีเกา่ แก่ที่สดุ ชนิดหนง่ึ ที่มี
พฒั นาการมาจากมนษุ ย์กอ่ น ประวตั ิศาสตร์ท่ีคิดใช้กระดกู สตั ว์หรือเขา
ของสตั ว์ที่เป็ นท่อกลวงหรือไม่ก็ใช้ปล้องไม้ไผม่ าเจาะรูแล้วเป่ าให้เกิดเสียง
ตา่ ง ๆ วตั ถนุ นั้ จงึ เป็นต้นกาเนิดของเคร่ืองดนตรีประเภทขลยุ่ ฟลตู เป็นขลยุ่
เป่ าด้านข้าง มีความยาว 26 ?นวิ ้ มีชว่ งเสียงตงั้ แต่ C กลางจนถึง C สงู ขนึ ้ ไป
อีก 3 ออคเทฟ เสียงแจ่มใสจงึ เหมาะสาหรับเป็ นเคร่ืองดนตรีประเภทเลน่
ทานองใช้เลยี นเสยี งนกเล็ก ๆ ได้ดีและเสียงตา่ ของฟลตู จะให้เสียงท่ี

น่มุ นวล

2) พคิ โคโล (Piccolo) เป็ นขลยุ่ ขนาดเลก็ มีลกั ษณเช่นเดียวกบั ฟลตู
แตเ่ ลก็ กวา่ ทามาจากไม้หรืออีบอร์ไนท์ แตป่ ัจจบุ นั ทาด้วยโลหะ ยาว

ประมาณ 12 นิว้ เสียงเลก็ แหลมชดั เจน แม้วา่ จะเป่ าเพียงเเครื่องลมไม้อีก
ประเภทหนง่ึ คอื ประเภทป่ี มีสว่ นประกอบท่ีสาคญั คือมีลนิ ้ (Reed) เป็นตวั
สน่ั สะเทือนสว่ นท่ีเป็ นลนิ ้ จะอยตู่ รงปลายด้านหนง่ึ ของป่ี เมื่อเป่ าลมผา่ นลนิ ้

ให้เกิดการสน่ั สะเทือนแล้วลมก็จะเข้าไปในทอ่ ซง่ึ ทาหน้าที่เป็นตวั ขยายเสียง

หรือตวั กาธร แล้วออกไปยงั ปากลาโพง นอกจากนีเ้คร่ืองดนตรีพวกป่ียงั
จาแนกออกได้ตามลกั ษณะของลนิ ้ ท่ีใช้เป็นประเภทลนิ ้ คู่ (Double reed) และ
ลนิ ้ เดี่ยว(Single reed) คร่ืองเดียว พคิ โคโลเลน่ ได้ดีเป็ นพิเศษโดยเฉพาะการ
ทาเสียงรัว (Trillo) และการบรรเลงเดี่ยว (Solo)

1)คลาริเนต (Clarinet) เป็ นเครื่องดนตรีท่ีรู้จกั กนั แพร่หลายกวา่
เคร่ืองอื่น ๆ ในบรรดาเครื่องลมไม้ด้วยกนั คลาริเนตเป็ นเครื่องดนตรีที่ใช้ได้
ในวงดนตรีเกือบทกุ ประเภทและเป็นเครื่องดนตรีที่สาคญั ในวงออร์เคสตรา
วงโยธวาทติ และวงแจ๊สป่ี คลาริเนตทาด้วยไม้หรืออีบอไนท์เชน่ เดยี วกบั ปี่ โอ

โบมีรูปร่างคล้ายโอโบมากความแตกตา่ ง อยทู่ ่ีมีลนิ ้ เดยี ว คลาริเนตยาวกวา่
โอโบเลก็ น้อย รูปทรงของทอ่ ลมเป็นทรงกระบอก ปากลาโพงบานเป็นทรง
ระฆงั ความยาวทงั้ สนิ ้ ประมาณ 26 นิว้ คลาริเนตมีเสยี งกว้างที่สดุ ใน
บรรดาเครื่องลมไม้

ป่ี ชนดิ นีแ้ ตกตา่ งกบั ฟลตู ในเร่ืองคณุ สมบตั ขิ องเสียง เสียงของฟลตู จาก
เสยี งตา่ ไปเสียงสงู ไม่คอ่ ยแตกตา่ งกนั เทา่ ใด แตเ่ สยี งของคลาริเนต

แตกตา่ งกนั มากจนสงั เกตเห็นได้อยา่ งชดั เจนคลาริเนตให้เสยี งสงู สดใส่
ร่าเริง คม ชดั เจน มคี วามคลอ่ งตวั ในการบรรเลงสงู เวลาเป่ าผ้เู ป่ าจะเม้ม
ริมฝี ปากให้ลนิ ้ ของปี่ แตะอยบู่ นริมฝี ปากลา่ ง สว่ นริมฝี ปากบนผ้เู ป่ าจะทา
ให้เกิดคณุ สมบตั ขิ องเสียงตลอดจนความดงั หรือเบาให้แตกตา่ งกนั โดย
การให้ลนิ ้ ของป่ี เข้าไปอยใู่ นปากมากหรือน้อยและการเม้มริมฝี ปากลา่ ง

กดกบั ลนิ ้ ป่ี หนกั – เบา เพียงใด ในวงโยธวาทิตปี่ คลาริเนตถือเป็ นเคร่ือง
ดนตรีที่สาคญั และได้รับสมญาวา่ เป็ นไวโอลนิ ของวงโยธวาทิต ปี่

คลาริเนตมีหลายขนาดแตท่ ี่นิยมใช้โดยทว่ั ไปในปัจจบุ นั มี Bb คลาริเนต
และ Ebคลาริเนต

2)เบส คลาริเนต (Bass Clarinet) เป็นป่ี คลาริเนตขนาด
ใหญ่มีชว่ งเสยี งต่ากวา่ คลาริเนตธรรมดา 1 ออคเทฟ ลาตวั
ยาวกวา่ คลาริเนต สว่ นปากลาโพงทาด้วยโลหะและงอนขนึ ้

สว่ นท่ีเป่ างอโค้งทามมุ กบั ตวั ปี่ วตั ถปุ ระสงค์ของการประดษิ ฐ์

เบสคลาริเนตขนึ ้ เพ่ือให้มีเสยี งของเครื่องดนตรีในตระกลู

คลาริเนตครบทกุ เสียง

3)แซกโซโฟน (Saxophone) มีลกั ษณะกา้ กง่ึ ระหวา่ งเคร่ืองลม

ทองเหลืองและเครื่องลมไม้ มีอายนุ ้อยเมื่อเทียบกบั เครื่องดนตรีชนดิ อื่น ๆ
ประดษิ ฐ์เม่ือ ค.ศ.1840 ท่ีนครปารีส ประเทศฝร่ังเศส โดย อดอล์ฟ แซกเป็น
ผ้ผู ลติ ซง่ึ เขาผลติ แซกโซโฟนขนึ ้ ในราว ค.ศ. 1840 ในขณะนนั้ ได้มีหวั หน้าวง
โยธวาทิตมาจ้างให้เขาผลติ เคร่ืองดนตรีชนิดใดก็ได้ซงึ่ สามารถเลน่ เสียงให้ดงั
เพ่ือใช้ในวงโยธวาทิต (Military Band) และต้องการให้เคร่ืองดนตรีชนิดใหมน่ ี ้
เป็ นเครื่องลมไม้ เขาจงึ นาเอาเคร่ืองดนตรีประเภทเครื่องทองเหลืองชนิดหนง่ึ
ซงึ่ ล้าสมยั แล้วเรียกวา่ แตรออพคิ เลยี ด (Ophiclede) มาถอดที่เป่ าอนั เดมิ ออก
แล้วเอาท่ีเป่ าของคลาริเนตมาใสแ่ ทนจากนนั้ เขาได้แก้กลไกของกระเดอื่ งตา่ ง

ๆ และปรับปรุงจนสามารถใช้งานได้ แซกโซโฟนจงึ ได้กาเนิดขนึ ้ มาเป็นชิน้ แรก

ของโลก

ในอดตี แซกโซโฟนมฉี ายาวา่ คลาริเนตทองเหลือง เพราะสามารถเลน่ ได้

อยา่ งคลอ่ งแคลว่ ปราดเปรียวเหมือนคลาริเนต ในปัจจบุ นั แซกโซโฟน

ได้รับความนิยมสงู สดุ ดงั จะเห็นได้จากศลิ ปิ นชาวตา่ งประเทศได้นามา

แสดงในเมอื งไทยหลายครัง้ และมีการจดั อนั ดบั ผ้ทู ่ีมีความสามารถใน
การเลน่ แซกโซโฟนของโลกด้วย เชน่ Kenny G, Grover Washington,Jr.,
Sadao Watanabe เป็ นต้นในวงออร์เคสตราไมน่ ิยมใช้แซกโซโฟน เพราะ
บทบรรเลงท่ีใช้สาหรับวงออร์เคสตราสว่ นใหญ่เกิดก่อนแซกโซโฟน แต่

ปัจจบุ นั แซกโซโฟนเป็ นเคร่ืองเป่ าที่มีบทบาทมากทงั้ ในวงโยธวาทติ วง

แจ๊ส วงคอมโบ้ ตลอดจนวงดนตรีสมยั ใหม่ แซกโซโฟนที่นยิ มใช้ใน
ปัจจบุ นั มี 4 ขนาด คอื บแี ฟลตโซปราโน อีแฟลตอลั โต บีแฟลตเทเนอร์
และอีแฟลตบาริโทน

เคร่ืองดนตรีในกลุ่มเครื่องลมทองเหลืองน้ีเรียกรวม ๆ
วา่ กลุ่มแตร ส่วนประกอบที่สาคญั ของเคร่ืองดนตรีกลุ่มน้ี คือ
ท่อลมทาดว้ ยโลหะขนาดต่างๆกนั การเกิดเสียงเกิดจากการเป่ า

ลมใหเ้ กิดการสน่ั สะเทือนท่ีริมฝีปากของผเู้ ล่นผา่ นเขา้ ไปใน
ปากเป่ า (Mouth Piece) การเป่ าเคร่ืองลมทองเหลืองจึงข้ึนอยกู่ บั
ริมฝีปากเป็นสาคญั เครื่องดนตรีในกลุม่ เครื่องลมทองเหลืองท่ี

ใชอ้ ยใู่ นปัจจุบนั

1) เฟรนช์ฮอร์น (France horn) ปัจจบุ นั เรียกว่า “ฮอร์น” ต้นกาเนิด
ของฮอร์นคอื เขาสตั ว์ ฮอร์นที่เก่าแก่ท่ีสดุ คอื โชฟาร์ (Shofar) ของชาวฮบิ รู
ทาด้วยเขาแกะ เฟรนช์ฮอร์นเป็ นแตรที่มชี ่วงเสียงกว้างถงึ 3 ออคเทฟคร่ึง
มีท่อยาวประมาณ 12-15 ฟตุ แตน่ ามาขดเป็ นวงโค้งไปมาเพื่อให้สะดวกแก่
ผ้เู ป่ าจนเหลอื ความยาวจากปากเป่ าถึงปากลาโพงเพยี ง 20 นิว้ เสียงของเฟ
รนช์ฮอร์น สดใส สง่า จดั วา่ เป็ นพระเอกในบรรดาเคร่ืองลมทองเหลอื ง นกั

แตง่ เพลงหลายคนใช้เสยี งของเฟรนซ์ฮอร์นบรรยายความงามของธรรมชาติ

เช่น ท้องทะเลครามอนั กว้างใหญ่ไพศาล และหบุ เขาท่ีมีเสียงสะท้อนก้อง

กลบั ไปกลบั มา เนื่องจากทอ่ ลมมีขนาดยาวมากการบงั คบั ริมฝี ปากในการ

เป่ าจงึ เป็นเร่ืองยาก

2)ทรอมโบน (Trombone) เป็ นแตรซงึ่ ใช้มาตงั้ แตค่ ริสต์ศตวรรษ
ที่ 15 ในพิธีศาสนาและพธิ ียรุ ยาตราร่วมกบั แตรโบราณ ทรอมโบน
ประกอบด้วยท่อลมสวมซ้อนเลื่อนเข้า – ออกได้ (Telescopic slide)
ขนาดยาวโค้งได้สองทบ สองในสามของทอ่ ลมนีเ้ป็ นทอ่ ทรงกระบอก

เช่นเดียวกบั ทรัมเปตสว่ นท่ีเหลือคอ่ ย ๆ บานออกเป็นปากลาโพง สว่ นท่ี

เป็นทอ่ ลมทรงกระบอกจะเป็นทอ่ สองชนั้ สวมกนั ไว้ในลกั ษณะรูปตวั U
เลื่อนเข้าออกเพอ่ื ปรับระดบั เสียง เม่ือเลือ่ นออกจะยาวประมาณ 9 ฟตุ
แตเ่ ม่ือเลอื่ นเข้า จะเหลือเพียง 3 ฟตุ เศษ ทรอมโบนมเี สยี งท้มุ ห้าว ไม่
สดใส เหมอื นทรัมเปต ปัจจบุ นั นยิ มใช้แพร่หลายในวงดนตรีชนิดตา่ ง ๆ

เชน่ เดยี วกนั ทรัมเปตประกอบด้วยเทเนอร์ทรอมโบน (Tenor Trombone)
และ เบสทรอมโบน (Bass Trombone)

3)ทรัมเปต (Trumpet) ในสมยั โบราณชาวยโุ รปถือวา่ แตรทรัมเปตเป็น

ของคนชนั้ สงู ผู้ ที่จะมีสทิ ธิเป็ นเจ้าของแตรชนิดนีไ้ ด้ต้องเป็ นพระเจ้าแผน่ ดนิ

หรือเจ้านายชนั้ สงู หรือไม่ก็นกั รบชนั้ แมท่ พั สามญั ชนไมม่ ีสทิ ธิท่ีจะเป็นเจ้าของ
แตรชนิดนี ้ทรัมเปตเป็ นแตรที่มีท่อลมรูปทรงกระบอกขนาดของท่อลมมีเส้น

ผา่ นศนู ย์กลางประมาณ 3 นิว้ โค้งงอทบกนั เป็นสามทบ ตดิ ลกู สบู เพ่ือใช้บงั คบั
เสียง3 อนั ( 3 valve) อยตู่ รงกลางลาตวั ผ้เู ป่ าจะใช้นิว้ ขวาบงั คบั ลกู สบู ทงั้ สาม
โดยการ กดลงหรือผอ่ นให้ขนึ ้ แนวตงั้ กาพวด (Mouthpiece) ของทรัมเปตเป็ น
“กาพวดรูปถ้วยหรือระฆงั ” ซง่ึ ทาให้แตร ทรัมเปตสามารถเลน่ เสยี งสงู ได้สดใส

แผดกล้าให้ความรู้สกึ ตื่นเต้นได้ดีแตถ่ ้าเลน่ เสียงตา่ จะให้ความนมุ่ นวล
ลกั ษณะคล้ายเสยี งกระซบิ กระซาบได้ดีเช่นเดยี วกนั บางครัง้ ผ้เู ป่ าต้องการลด
เสยี งของแตรให้เบาลงทาให้เกิดเสยี งท่ีแปลกหกู ็สามารถใช้ “มวิ ท์” (Mute)
สวมเข้าไปในปากลาโพงของแตร ในปัจจบุ นั ทรัมเปตเป็ นแตรท่ีแพร่หลายและ

ใช้ในวงดนตรีเกือบทกุ ประเภท

4)คอร์เนต (Cornet) คอร์เนตคือเครื่องเป่ าทองเหลือง

ท่ีมีลกั ษณะคล้ายกบั ทรัมเปต แตล่ าตวั สนั้ กวา่ คณุ ภาพของ
เสียงมีความนมุ่ นวลกลมกลอ่ มแตค่ วามสดใสของเสียงน้อย

กวา่ ทรัมเปตคอร์เนตถกู นามาใช้ในวงออร์เคสตราครัง้ แรก
ประมาณ ค.ศ. 1829 ในการแสดงโอเปร่าของ Rossini เรื่อง
William Tell ในปัจจบุ นั คอร์เนตเป็นเครื่องดนตรีสาคญั
สาหรับวงโยธวาทติ และแตรวง

5)ฟลเู กิลฮอร์น (Flugelhorn) เป็นเครื่องดนตรี

ประเภทเครื่องเป่ าทองเหลืองเช่นเดียว กบั ทรัมเปต มี
ลกั ษณะคล้ายกบั แตรบิวเกิลปกติจะมี 3 อนั ทอ่ ลม
กลวงเป็นรูปกรวยปลายบานเป็นลาโพงรูปร่างคอ่ นข้าง

จะใหญ่กวา่ คอร์เนต ลกั ษณะของเสยี งจะคล้ายกบั

ฮอร์น แตม่ ีความห้าวมากกวา่ ฮอร์น

6)ยโู ฟเนียม (Euphonium) ยโู ฟเนียม คือเครื่องดนตรี
ประเภทเครื่องเป่ าทองเหลืองคุณ ภาพเสียงของยโู ฟเนียมจะ
นุ่มนวล ทุม้ ลึก และมีความหนกั แน่นมาก สามารถเล่นในระดบั

เสียงต่าไดด้ ี บางคร้ังนาไปใชบ้ รรเลงในวงออร์เคสตราแทนทูบ คา
วา่ ยโู ฟเนียมมาจากภาษา กรีกหมายถึง “เสียงดี”ลกั ษณะทว่ั ไปของ
ยโู ฟเนียมเหมือนกบั เคร่ืองเป่ าทองเหลืองทว่ั ไปคือมีลกู สูบ 3-4
อนั มีกาพวดเป็นรูปถว้ ย ท่อลมกลวงบานปลายเป็นลาโพง

7)ทบู า (Tuba) เป็นเคร่ืองดนตรีตระกลู แซกฮอร์น ซ่ึงอดอลฟ์
แซก ไดป้ ระดิษฐข์ ้ึนเม่ือ ปี 1845 แตรตระกลู แซกฮอร์น มีหลายขนาด
เรียกช่ือต่าง ๆ กนั ตามขนาด เช่น บาริโทน ยโู ฟเนียม การผลิตใหม้ ีหลาย
ขนาดกเ็ พอื่ จะใหม้ ีแตรหลาย ๆ ระดบั เสียงเพอ่ื ใชใ้ นวงแตรวง และวง
โยธวาทิต ส่วนที่ใชใ้ นวงออร์เคสตรา ซ่ึงมีมาแต่เดิม และนิยมใชม้ ากที่สุด
คือ ทูบาทบู ามีท่อลมขนาดใหญ่ และมีความยาวต้งั แต่ 9 ,12,14,16 และ 18
ฟุต แลว้ แต่ขนาดมีช่วงเสียงกวา้ ง 3 ออคเทฟ เศษ ๆ ท่อลมเป็นทรงกรวย
เช่นเดียวกบั ฮอร์น ส่วนกลางลาตวั ติดลูกสูบบงั คบั เสียง 3 อนั หรือ 4 อนั
เสียงของทูบาต่าลึกนุ่มนวล ไม่แตกพร่า เสียงต่ามากท่ีเรียกวา่ “เพดลั
โทน” (Pedal tones) น้นั มีคุณสมบตั ิเฉพาะตวั ปกติแตรทูบาทาหนา้ ที่เป็น
แนวเบส ใหแ้ ก่กลุ่มเครื่องลมทองเหลือง

8) ซูซาโฟน (Sousaphone) เป็นเครื่องดนตรีท่ี
จอร์น ฟิ ลิป ซูซา (Johe Philip
Sousa,1854-1932)ประดิษฐข์ ้ึนเพอ่ื ใชแ้ ทนทบู า เพอ่ื ให้
ง่ายแก่การเดินสนาม สุ้มเสียงของซูซาโฟน มีเสียงแบบ
เดียวกบั ทบู า ฉะน้นั จึงใชแ้ ทนกนั ได้


Click to View FlipBook Version