The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เครื่องดนตรีสากล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by theerasak0935075574, 2021-05-21 00:03:34

เครื่องดนตรีสากล

เครื่องดนตรีสากล

เคร่ืองดนตรีในกลุม่ น้ีมกั นิยมเรียกทบั ศพั ทใ์ นภาษาองั กฤษวา่ “เครื่อง
ดนตรีประเภทคียบ์ อร์ด” ลกั ษณะเด่นของเคร่ืองดนตรีท่ีอยใู่ นกลุ่มน้ีกค็ ือมีล่ิมนิ้ว
สาหรับกดเพอื่ ปรับเปลี่ยนระดบั เสียงดนตรี ล่ิมนิ้วสาหรับกดเรียกวา่ “คีย์ (Key)”
เคร่ืองดนตรีแต่ละชนิดมีจานวนคียไ์ ม่เท่ากนั โดยปกติสีของคียเ์ ป็นสีขาวกบั ดา คีย์

สีดาโผล่สูงข้ึนมามากกวา่ คียส์ ีขาวการเกิดเสียงของเครื่องดนตรีในกลุ่มน้ีมีหลาย
ลกั ษณะเช่นเปี ยโน ฮาร์ปสิคอร์ด คลาวคิ อร์ด เกิดเสียงโดยการกดคียท์ ่ีตอ้ งการ

แลว้ คียน์ ้นั จะส่งแรงไปท่ีกลไกต่าง ๆ ภายในเครื่องเพื่อท่ีจะไปทาใหส้ ายโลหะท่ี
ขึงตึงส่ันสะเทือนทาใหเ้ กิดเสียงดงั ข้ึน เครื่องดนตรีประเภทคียบ์ อร์ดบางชนิดใช้
ลมพน่ ไปยงั ลิ้นโลหะใหส้ ัน่ สะเทือนทาใหเ้ กิดเสียง ในปัจจุบนั นิยมใชน้ อ้ ยมาก
เช่น ออร์แกน แอก คอร์เดียน สาหรับเมโลเดียนและเมโลดิกาซ่ึงนามาใช้

ประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนระดบั อนุบาลจนถึงระดบั ประถมศึกษาน้นั
กจ็ ดั อยใู่ นเคร่ืองดนตรีประเภทคียบ์ อร์ด

1) เปี ยโน (Piano) เปี ยโนเป็นเคร่ืองดนตรีประเภทคียบ์ อร์ดประเภท
ใชส้ ายเสียงหรือ ประเภทล่ิมนิ้วที่มีววิ ฒั นาการมาจากฮาร์ปสิคอร์ด
(Harpsichord) ประดิษฐข์ ้ึนคร้ังแรกท่ีเมืองฟลอเรนซ์ในประเทศอิตาลี ในตน้
ศตวรรษท่ี 18 เดิมมีชื่อเรียกวา่ เปี ยโนฟอร์เตเพราะทาไดท้ ้งั เสียงเบาและเสียงดงั
สายเสียงจะถกู ตีดว้ ยคอ้ นเชื่อมโยงไปที่คียก์ ดโดยผา่ นเคร่ืองกลไกซบั ซอ้ นท่ี
เรียกวา่ แอคชนั่ (Action)เปี ยโนเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถเลน่ เป็นทานองเพลง
และเป็นเสียงประสานหรือเลน่ เป็นคอร์ดได้ ในขณะท่ีเลน่ ผเู้ ลน่ ตอ้ งใชม้ ือ 2
ขา้ งเลน่ พร้อมกนั เปี ยโนเหมาะสาหรับเป็นเคร่ืองดนตรีประจาบา้ น สามารถ
บงั คบั ใหเ้ สียงดงั หรือเบาไดโ้ ดยการเหยยี บเพดลั (Pedal) ดา้ นล่างของเครื่อง
เปี ยโนมี เพดลั 3 แบบ คือ

1. เพดลั ประเภทใหเ้ สียงต่อเน่ือง จะอยทู่ างขวาส่วนเทา้ เหยยี บของผู้
เล่น เม่ือเหยยี บเพดลั ลงไปจะทาใหเ้ สียงทกุ เสียงที่กดยาวต่อเนื่องกนั ไป

2. เพดลั ประเภทเด่ียวอยตู่ รงกลางระหวา่ งเทา้ เหยยี บของผเู้ ล่นเม่ือ
เหยยี บเพดลั ลงทาใหเ้ สียงยาวต่อเน่ืองหรือลากยาวไดเ้ สียงเดียวหรือคอร์ด

เดียว
3. เพดลั แบบอนู าคอร์ดา อยทู่ างซา้ ยส่วนเทา้ เหยยี บของผเู้ ล่นเม่ือ

เหยยี บเพดลั ลงทาเสียงเบาไดช้ ่วยลดเสียงหรือทาใหเ้ สียงเบาลงเปี ยโน

ประกอบดว้ ย 2 ประเภทคือแกรนดเ์ ปี ยโน (Grand Piano) สายของเปี ยโนชนิด

น้ีเรียงสายในแนวนอน และอพั – ไรทเ์ ปี ยโน (Up – right Piano) สายของ
เปี ยโนชนิดน้ีเรียงสายในแนวต้งั
เปี ยโนเป็นเครื่องดนตรีท่ีมีช่วงเสียงกวา้ งมากถึง 7 ? ออคเทฟ (Octaves) หรือ
ในบางรุ่นอาจมีถึง 8 ออคเทฟ (Octaves) มีลิ่มท้งั หมด 88 ล่ิม

2) ออร์แกน (Organ) เป็นเคร่ืองดนตรีคียบ์ อร์ดประเภทใชล้ มที่มี
ขนาดใหญ่ท่ีสุดกล่าวกนั วา่ เป็น “The King of Instruments” เป็นเคร่ืองดนตรี
สาคญั ในโบสถใ์ ชบ้ รรเลงประกอบบทเพลงร้องทางศาสนาท่ีเรียกวา่ “เพลง
โบสถ”์ (Church Music) จึงมกั เรียกออร์แกนท่ีอยใู่ นโบสถว์ า่ เป็น “ออร์แกน
โบสถ”์ (Church Organ) เมื่อมีลมเป่ าผา่ นท่อทาใหเ้ กิดเสียงท่อละหน่ึงเสียง
ออร์แกนมีแผงคียส์ าหรับกดดว้ ยนิ้วมือและแผงคียเ์ หยยี บดว้ ยเทา้ แผงคียท์ ี่กด
เล่นดว้ ยมือเรียกวา่ แมนน่วล (Manual) แผงคียท์ ี่เหยยี บดว้ ยเทา้ เรียกวา่ เพดลั
(Pedal) การบงั คบั กลุ่มท่อต่าง ๆ ซ่ึงจดั ไวเ้ ป็นพวกเดียวกนั ทาไดโ้ ดยการใช้
ป่ ุมกดหรือคนั ยกข้ึนลงท่ีเรียกวา่ สตอ็ ป (Stops) ออร์แกนขนาดใหญ่จะมีกลุ่ม
ท่อเปล่ียนเสียงเรียกวา่ ไพพ์ (Pipes) เป็นจานวนมากเพอื่ ใชส้ ร้างสีสนั แห่ง
เสียงไดห้ ลากหลาย ออร์แกนสมยั ใหม่ใชไ้ ฟฟ้ าบงั คบั แทนลมซ่ึงตามแบบ
ด้งั เดิมน้นั ลมที่ใชเ้ กิดจากการอดั ลมดว้ ยเทา้ ของผเู้ ล่นหรือไม่กม็ ีผชู้ ่วยอดั ลม
แทนให้

3)ฮาร์ปสิคอร์ด (Harpsichord) เป็นเคร่ืองดนตรีที่
เก่าแก่ใชก้ นั มากในศตวรรษท่ี 16,17 และ18 เกิดก่อนเปี ยโน
สายภายในเครื่องดนตรีจะถกู เก่ียวดว้ ยไมด้ ีด ขณะที่เรากดคีย์
ลงไป ฮาร์ปสิคอร์ดไม่สามารถเล่นใหเ้ กิดเสียงดงั – คอ่ ย ได้
เหมือนเปี ยโน

4)คลาวคิ อร์ด (Clavichord) เป็นเครื่องดนตรีคียบ์ อร์ดในยคุ แรก ๆ
ประเภทเกิดเสียงได.้ จากการดีดโดยมีสายเสียงที่ขึงไปตามส่วนรูปของกล่อง
ไม้ ส่วนปลายสุดของคียจ์ ะมีกลไกการงดั หรือแตะของลิ่มทองเหลืองเลก็ ๆ
เม่ือผเู้ ล่นกดคียล์ งไปล่ิมทองเหลืองน้ีกจ็ ะยกข้ึนและตีไปที่สายเสียงเพอื่ ทา
ใหเ้ กิดเสียงคลาวิคอร์ดเป็นเครื่องดนตรีประเภทคียบ์ อร์ดประเภทแรกที่
สามารถเล่นไดท้ ้งั เบาและดงั โดย
เปล่ียนแปลงน้าหนกั การกดคีย์ เสียงที่ไดจ้ ากคลาวิคอร์ดน้ีมีความไพเราะ
และนุ่มนวล

5) แอกคอร์เดยี น (Accordion) เป็นเครื่องดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว
เช่นเดียวกบั เปี ยโนเสียงของแอกคอร์เดียนเกิดจากการสั่นสะเทือนของลิ้น
ทองเหลืองเลก็ ๆ ภายในตวั เครื่องอนั เน่ืองมาจากการเล่นผา่ นเขา้ – ออกของ
ลมซ่ึงตอ้ งใชแ้ รงของผเู้ ล่นสูบเขา้ – ออกแอกคอร์เดียนมีหลายขนาดเช่น
ขนาด 25 ล่ิมนิ้ว 12 เบส ขนาด 37 ล่ิมนิ้ว 80 เบส และขนาดใหญ่ซ่ึงนิยมใช้
เล่นโดยทวั่ ไปจะมี 41 ล่ิมนิ้ว 120 เบส และยงั มีป่ ุมปรับเสียงเปล่ียนระดบั
เสียงติดอยทู่ างดา้ นขวาอีกหลายป่ ุม ทางดา้ นซา้ ยอาจมีช่องปรับความดงั –
ค่อยซ่ึงเปิ ด – ปิ ด ไดอ้ ีก 3-4 ช่อง ป่ ุมปรับระดบั เสียงจะเป็นป่ ุมเสียงต่า (Low
reed)แอกคอร์เดียนนิยมใชก้ บั วงดนตรีขนาดเลก็ เช่น วงดนตรีประจา
หม่บู า้ น วงดนตรีลกู ทุ่งวงคอมโบ วงโฟลค์ ซอง

กลุ่มเคร่ืองกระทบหรือเคร่ืองตีประกอบจังหวะ (Percussion Instruments)

เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีกระทบไดแ้ ก่ เครื่องดนตรีท่ีเกิดเสียงดงั
ข้ึนจากการตีกระทบ การสน่ั การเขยา่ หรือ การเคาะ การตีอาจใชไ้ มต้ ีหรือใช้
ส่ิงหน่ึงกระทบเขา้ กบั อีกสิ่งหน่ึงเพ่ือทาใหเ้ กิดเสียง เคร่ืองตีกระทบประกอบ
ข้ึนดว้ ยวสั ดุของแขง็ หลายชนิด เช่น โลหะ ไม้ หรือ แผน่ หนงั ขึงตึงเครื่อง
ดนตรีในกลุ่มเครื่องตีกระทบแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

เคร่ืองดนตรีมีระดบั เสียงแน่นอน

1)ระฆงั ราว (Tubular Bells) ในภาษาองั กฤษเรียกระฆงั ราววา่
“Orchestral Bells” และ “Chimes” เครื่องดนตรีชนิดน้ีประดิษฐข์ ้ึนเพ่อื เลียน
เสียงระฆงั จริง ๆ ทาดว้ ยท่อโลหะแขวนเรียงตามลาดบั เสียงต่าไปยงั เสียงสูง
ท่อโลหะท่ีมีขนาดส้นั จะเป็นเสียงสูงส่วนท่อยาวจะเป็นเสียงต่า แขวนกบั
โครงโลหะในแนวด่ิง ใชไ้ มต้ ีท่ีปลายท่อดา้ นหวั จะเกิดเป็นเสียงเหมือนเสียง
ระฆงั

2)มาริมบา (Marimba) คือเครื่องตีกระทบท่ีมีระดบั
เสียงแน่นอนเป็นระนาดของดนตรีตะวนั ตก ลกั ษณะทวั่ ๆ ไป
เหมือนกบั ไซโลโฟนหรือไวปราโฟนเป็นระนาดไมข้ นาด
ใหญ่ลกู ระนาดทาดว้ ยไมท้ ่ีมีชื่อวา่ “โรสวดู้ ” ใตล้ กู ระนาดมี
ท่อโลหะติดอยเู่ พอ่ื เป็นตวั ขยายเสียง

3)ไซโลโฟน (Xylophone) คือเครื่องตีกระทบท่ีมีระดบั

เสียงแน่นอน เป็นระนาดไมข้ นาดเลก็ ของดนตรีตะวนั ตก
ลกั ษณะทว่ั ไปคลา้ ยกบั มาริมบาหรือ ไวบราโฟนลูกระนาด
ทาดว้ ยไมเ้ น้ือแขง็ จดั เรียงลาดบั เสียงตามบนั ไดเสียงโครมาติก
(Chromatic) เช่นเดียวกบั เปี ยโนหรือออร์แกนใตล้ ูกระนาดมี
ท่อโลหะติดอยเู่ พอ่ื เป็นตวั ขยายเสียงประกอบดว้ ย 2 ขนาด

4)ไวปราโฟน (Vibraphone) คือเครื่องตี
กระทบที่มีระดบั เสียงแน่นอนเป็นระนาดโลหะของดนตรี
ตะวนั ตก ลกั ษณะทวั่ ไปคลา้ ยกบั มาริมบาหรือไซโลโฟนเป็น
ระนาดขนาดใหญ่ ลูกระนาดทาดว้ ยโลหะใตล้ กู ระนาดมีท่อ
โลหะเพอื่ เป็นตวั ขยายเสียงมีแกนใบพดั เลก็ ๆ ประจาอยแู่ ต่
ละท่อใชร้ ะบบมอเตอร์หมุนใบพดั ทาใหเ้ กิดเอฟเฟค

(Sound Ettect) เสียงสน่ั รัวได้

เคร่ืองดนตรีมรี ะดบั เสียงไม่แน่นอน เคร่ืองดนตรีในกลุม่ น้ีไม่มีระดบั เสียง
แน่นอนหนา้ ที่สาคญั กค็ ือใชเ้ ป็นเครื่องดนตรีประกอบจงั หวะเกิดเสียงโดยการตี ส่ัน

เขยา่ เคาะ หรือขดู ประกอบดว้ ย

1) ฉาบ (Cymbals) ฉาบคือเคร่ืองตีกระทบ มีหลายลกั ษณะบางชนิด
ใชต้ ีเป็นคู่ใหเ้ กิดเสียงผตู้ ีตอ้ งสอดมือเขา้ ไปที่หูร้อยฉาบซ่ึงทาดว้ ยสายหนงั แบ
ฝ่ ามือประกบแนบกบั ฝาฉาบตรงส่วนนูนกลางฉาบ แลว้ ตีกระทบฝาฉาบดว้ ย
มือท้งั สองขา้ ง ฉาบบางชนิดใชเ้ พยี งขา้ งเดียว ตีดว้ ยไมต้ ี ฉาบประเภทน้ีตอ้ ง
ติดต้งั บนขาต้งั เช่นฉาบสาหรับกลองชุด ฉาบมีหลายขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง
มากกจ็ ะทาใหเ้ กิดเสียงดงั และความกอ้ งกงั วานมากข้ึนดว้ ย

2)ไทรแองเกลิ หรือ ก่ิง (Triangle) คือเคร่ืองตีกระทบ ทาดว้ ย
แท่งโลหะ ดดั ใหเ้ ป็นรูปสามเหล่ียม แท่งโลหะมีขนาด

เส้นผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 1 ซ.ม. เพื่อใหเ้ สียงดงั กงั วานตอ้ งแขวนก่ิง
ไวก้ บั เชือกแลว้ ตีกระทบดว้ ยแท่งโลหะ กิ่งมีเสียงแจ่มใสมีชีวติ ชีวา

3) มาราคสั (Maracas) คือ เคร่ืองตีกระทบเดิมทา
ดว้ ยผลน้าเตา้ แก่จดั ทาใหแ้ หง้ ภายในบรรจุดว้ ยเมลด็ น้าเตา้
เมลด็ ถว่ั ต่าง ๆ ต่อดา้ มไวส้ าหรับถือเวลาเล่นใชเ้ ขยา่ เพอื่ ให้
เกิดเสียงดงั ซ่า ๆ จะเขยา่ ดว้ ยมือท้งั สองขา้ งใหด้ งั สลบั กนั
ในปัจจุบนั ทาดว้ ยไมแ้ ละมกั ใชป้ ระกอบในเพลงประเภท
ลูกกรุงของไทย หรือเพลงในกลุม่ อเมริกาใต้

4)คาบาซา (Cabaza) คือเครื่องกระทบจงั หวะเดิมทาดว้ ยผล

น้าเตา้ หรือผลบวบแหง้ ภายนอกกรอบ ๆ ท่อหุม้ ดว้ ยลูกประคาร้อยเชือก
มีดา้ มถือหรือไม่มีกไ็ ดเ้ กิดเสียงโดยการหมุน สน่ั เขยา่ ถู เพอ่ื ให้
ลกู ประคาเคล่ือนท่ีเสียดสีกบั ผวิ ของผลน้าเตา้ หรือผลบวบทาใหเ้ กิดเสียง
ดงั ข้ึนเสียงของคาบาซาฟังคลา้ ยกบั เสียงของมาราคสั ปัจจุบนั คาบาซาทา
ดว้ ยไมป้ ระกอบโลหะเป็นทรงกระบอกมีดา้ มจบั ถือ ผวิ ของ

ทรงกระบอกห่อหุม้ ดว้ ยแผน่ โลหะ ทาผวิ ใหข้ รุขระลูกประคาทาดว้ ย

โลหะร้อยติดกนั ลอ้ มรอบผวิ โลหะ

5) กลองใหญ่ (Bass drum) คือเคร่ืองตีกระทบ มี 2 หนา้ ขึงดว้ ยหนงั
กลอง กลองใหญ่ที่ใชใ้ นวงออร์เคสตราจะมีขนาดใหญ่กวา่ 32 นิ้ว ถา้ ใชใ้ นวง
โยธวาทิตจะมีขนาดต้งั แต่ 24-32 นิ้ว ตีดว้ ยไมต้ ี ปลายไมข้ า้ งหน่ึงทาเป็นปม
ไวส้ าหรับใชต้ ีกระทบกบั หนงั กลอง ปมน้นั อาจจะหุม้ ดว้ ยสกั หลาด ไมก้ อ็ ก
ผา้ นวม หรือฟองน้า เสียงกลองใหญ่ตีเนน้ ย้าจงั หวะเพอ่ื ใหเ้ กิดความหนกั
แน่น หรืออาจจะใชร้ ัวเพอื่ ใหเ้ กิดความต่ืนเตน้ รัวเพื่อสร้างจุดสนใจในบท
เพลงเพ่ิมข้ึนกไ็ ด้

6)กลองเลก็ (Snare drum) กลองเลก็ คือเครื่องตีกระทบ
มี 2 หนา้ ขึงดว้ ยหนงั กลอง ลกั ษณะเฉพาะกค็ ือหนา้ กลอง
ดา้ นล่างขึงคาดไวด้ ว้ ยสายสะแนร์ทาดว้ ยเอน็ สตั วใ์ นปัจจุบนั สาย
สะแนร์มีท้งั ท่ีทาดว้ ยไนล่อนและทาดว้ ยเส้นลวดโลหะ กลอง
เลก็ มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น Snare drum มีขาต้งั รองรับตวั กลอง
ใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของกลองชุดหรือนามาใชบ้ รรเลงประกอบ
จงั หวะสาหรับวงออร์เคสตราหรือวงดนตรีอื่น ๆ ท่ีนง่ั บรรเลง
สาหรับวงโยธวาทิตและแตรวงมีตวั ยดึ กลองทาดว้ ยโลหะคลอ้ ง
ยดึ ไวก้ บั ลาตวั ของผตู้ ีกลองจะอยดู่ า้ นหนา้ ของผตู้ ี

7)กลองทมิ ปานี (Timpani) กลองทิมปานีเป็นกลองที่มีลกั ษณะ
เหมือนกะทะหรือกาตม้ น้าจึงมีชื่อหน่ึงวา่ Kettle drum ตวั กลองทาดว้ ย
โลหะทองแดงต้งั อยบู่ นขาหยงั่ กลองทิมปานีมีระดบั เสียงแน่นอนเทียบเท่า
กบั เสียงเบส มีเทา้ เหยยี บเพอ่ื เปลี่ยนระดบั เสียงตามท่ีตอ้ งการ ในการ
บรรเลงตอ้ งใชอ้ ยา่ งนอ้ ย 2 ใบ จึงมีรูปพหูพจนอ์ ยเู่ สมอคือ “Timpani” ถา้
เป็นเอกพจน์หรือกลองลกู เดียวเรียกวา่ “Timpani” เสียงของกลองทิมปานี
แสดงอานาจความยงิ่ ใหญ่ตื่นเตน้ เร้าใจ กลองทิมปานีเป็นกลองที่มีระดบั
เสียงท่ีนิยมมี 4 ขนาด คือ 20 นิ้ว 23 นิ้ว 26 นิ้วและ29นิ้ว กลองแต่ละใบจะ
มีช่วงห่างของเสียงอยรู่ าวคู่ 5 เพอร์เฟค (Perfect) และถา้ ตอ้ งการจะใหม้ ี
เสียงท่ีดีควรจดั ใหเ้ สียงอยชู่ ่วงกลาง เสียงของกลองแต่ละใบมีช่วงกวา้ งของ

เสียงดงั น้ีคือ

8)กลองชุด (Drum set) กลองชุด คือกลองท่ี
ประกอบดว้ ยกลองใหญ่ กลองสะแนร์ ฉาบ 1 หรือ 2
ใบ กลองทอม 2 หรือ 3 ลูก ไฮแฮท 1คู่ พร้อมท้งั ยงั
เพม่ิ เครื่องกระทบจงั หวะอ่ืน ๆ ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั
เป็นพิเศษอีก เช่น คาวเบลส์ เป็นตน้

9)คองก้า (Conga) คองกา้ คือช่ือกลองชนิดหน่ึงมีรูปทรงต่าง
ๆ กนั โดยปกติมีความสูงประมาณ 30 นิ้ว เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางประมาณ 11
นิ้ว ตวั กลองทาดว้ ยไมอ้ าจใชท้ ่อนไมน้ ามาขดุ ใหก้ ลวงหรือใชแ้ ผน่ ไมต้ ดั ให้
เป็นรูปทรงตวั กลองคาดแผน่ โลหะไวร้ อบตวั กลองติดยดึ ดว้ ยหมุดโลหะ
คองกา้ เป็นกลองหนา้ เดียว ขึงดว้ ยหนงั สตั วก์ ลองคองกา้ มีหลายขนาด ต่าง
ระดบั เสียงกนั จะใช้ 3-5 ใบ หรือมากกวา่ น้นั กไ็ ด้ ปกติใช้ อยา่ งต่า 2 ใบ
ตีสอดสลบั กนั ตามลีลาจงั หวะของบทเพลง ตีดว้ ยปลายนิ้วและฝ่ ามือ
เช่นเดียวกบั การตีกลองบองโก

11)แทมบูรีน(Tambourine)เป็นเคร่ืองตีกระทบจงั หวะ
ประกอบข้ึนดว้ ยขอบกลมเหมือนขอบกลองขนาดเลก็ ประมาณ 10 นิ้ว
ขอบอาจจะทาดว้ ยไม้ พลาสติก หรือโลหะ รอบ ๆ ขอบติดดว้ ยแผน่ โลหะ

ประกบกนั 2 แผน่ หรือติดดว้ ยลกู กะพรวนเป็นระยะใชต้ ีกระทบกบั ฝ่ามือ
หรือสน่ั เขยา่ ใหเ้ กิดเสียงดงั กรุ๋งกร๋ิงเพือ่ ประกอบจงั หวะ แทมบรู ีนบางชนิด
ขึงดว้ ยหนงั 1 ดา้ น ใชฝ้ ่ ามือตีที่หนงั ได้

12)คาวเบลส์ (Cowbells) คาวเบลส์คือเครื่อง
ดนตรีประเภทตีกระทบ พฒั นามาจากกระด่ิงผกู คอววั นามาท้งั
รูปร่างและช่ือรูปทรงคลา้ ยกบั ระฆงั มากกวา่ กระด่ิง ตีดว้ ยไม้
กลอง คาวเบลส์ใชม้ ากในดนตรีละตินอเมริกา ดนตรี

ประกอบการเตน้ ลีลาศหรือเพลงลูกทุ่งของไทย คาวเบลส์ยงั ใช้

เป็นอปุ กรณ์ส่วนหน่ึงของกลองชุดอีกดว้ ย


Click to View FlipBook Version