The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเงิน การคลัง 2-2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by a0981653842, 2024-03-17 15:19:58

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเงิน การคลัง 2-2565

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การเงิน การคลัง 2-2565

ผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อ ผลต่อการกระจายรายได้ กลุ่มได้ประโยชน์ และกลุ่มเสียประโยชน์ ผลต่อการออม เพราะคิดว่าค่าของเงินลดลง-ขาดแรงจูงใจในการออม ผลต่อการค้าระหว่างประเทศ ดุลการค้าขาดดุล (น าเข้า>ส่งออก) กลุ่มได้ประโยชน์ กลุ่มเสียประโยชน์ พ่อค้า นักธุรกิจ ผู้ที่ถือทรัพย์สินที่มิใช่ตัวเงิน เช่น อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน อาคาร ลูกหนี้ -ประชาขนที่มีรายได้ประจ า เช่น ข้าราชการ -ประชาขนที่ถือทรัพย์สินเป็นตัวเงิน เช่น เงินสด เงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน พันธบัตร -เจ้าหนี้


การแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ นโยบายการเงินแบบ เข้มงวด (ธนาคารกลาง) เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ประกาศขายพันธบัตรรัฐบาล เพิ่มอัตราเงินสดส ารองตามกฎหมาย เพิ่มอัตรารับช่วงซื้อลด เพื่อ ลด ปริมาณเงินในระบบ นโยบายทางการคลังแบบ หดตัว (รัฐบาล) เพื่อ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ (เพิ่มการเก็บภาษี) เพิ่มภาษีอากร จัดงบประมาณแผ่นดินแบบเกินดุล (รายได้>รายจ่าย) ลดการก่อหนี้สาธารณะ


คือ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อเพิ่มระดับการออม เมื่อลดการใช้จ่าย ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจก็จะลดลง คือ การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อลดการกู้ยืมเงินของ ประชาชน ท าให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจลดลง เพิ่มอัตรา ดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ โดยธนาคารกลางประกาศขายพันธบัตรออกสู่ท้องตลาดเพื่อ ลดการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มการขาย พันธบัตรรัฐบาล นโยบายการเงินแบบ เข้มงวด (ธนาคารกลาง) อัตราเงินเฟ้อสูงมาก แสดงว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัวเร็ว เกินไป ดังนั้นจึงจ าเป็นต้องชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ


นโยบายการเงินแบบ เข้มงวด (ธนาคารกลาง) เพิ่มอัตรา รับช่วงซื้อลด กล่าวคือ ธนาคารกลางประกาศเพิ่มอัตรารับช่วงซื้อลดซึ่งเป็นอัตรา ดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางคิดกับธนาคารพาณิชย์เมื่อธนาคารพาณิชย์มากู้ยืม เงินจากธนาคารกลาง เพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ชะลอการปล่อย สินเชื่อสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นการลดปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มอัตรา เงินสดส ารองตามกฎหมาย ธนาคารกลางประกาศเพิ่มอัตราเงินสดส ารองตามกฎหมายเพื่อชะลอไม่ให้ ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น (ลดการ หมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ)


นโยบายการคลังแบบหดตัว (Contractionary Fiscal Policy) คือ นโยบายการคลังที่ ลดงบประมาณรายจ่ายและเพิ่มภาษี หรือการตั้ง งบประมาณเกินดุล เพื่อให้ความต้องการใช้จ่ายมวลรวมลดลง จัดงบประมาณแผ่นดิน แบบเกินดุล (รัฐบาลลดรายจ่ายให้น้อยลง) เพิ่มภาษีอากร ทั้งภาษีทางตรงและภาษีทางอ้อม (ท าให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะท าให้การบริโภคลดลง) นโยบายทางการคลังแบบ หดตัว (รัฐบาล)


ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ (งบประมาณเกินดุล) เพิ่มภาษี นโยบายการคลัง แบบหดตัว นโยบายการเงิน แบบเข้มงวด เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เพิ่มการขายพันธบัตรรัฐบาล เพิ่มอัตราเงินสดส ารองตามกฎหมาย เพิ่มอัตรารับช่วงซื้อลด รัฐบาล ประชาชน ธนาคาร (ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจมากเกินไป) การแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ


การด าเนินนโยบาย เงินเฟ้อ นโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ย พันธบัตรรัฐบาล อัตราเงินสดส ารอง อัตรารับช่วงซื้อลด นโยบายการคลัง รายจ่าย รายได้ ภาษี *งบประมาณ เพิ่ม เพิ่ม ขาย เพิ่ม เข้มงวด หดตัว ลด เพิ่ม เพิ่ม มาลองตอบค าถามกัน เกินดุล


การแก้ไขปัญหาเงินฝืด


ภาวะเงินฝืด (Deflation) เนื่องจากปริมาณสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ผลิตออกมามีมากกว่าความต้องการซื้อสินค้า ความหมาย ภาวะที่ราคาของสินค้า+บริการโดยทั่วไป...............อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจมี............................ ลดลง น้อยเกินไป


สาเหตุของภาวะเงินฝืด ด้านอุปทาน - เกิดจากความต้องการขาย หรืออุปทานมวลรวมเพิ่มขึ้น เกินความต้องการซื้อ (เช่น มีเทคโนโลยีการผลิตที่ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง) - เกิดจากความต้องการซื้อ หรืออุปสงค์มวลรวม ลดลง เช่น อาจเกิดจากการลดลงของก าลังซื้อ (จาก ภาระหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น รายได้ลดลง การว่างงาน การเข้มงวดของสินเชื่อ) ชะลอการใช้จ่าย ด้านอุปสงค์


สาเหตุของภาวะเงินฝืด พิมพ์ธนบัตรออกมาใช้ น้อยเกินไป จึงไม่เพียงพอกับ ความต้องการ ธนาคารกลางก าหนดนโยบาย แบบเข้มงวด เช่น ธนาคารกลางประกาศเพิ่มอัตราเงินสดส ารองที่ ธนาคารพาณิชย์ ประกาศใช้นโยบายควบคุมการ ปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ปริมาณเงินในระบบ เศรษฐกิจลดน้อยลง สถาบันการเงิน ลด/ชะลอ การปล่อยสินเชื่อ ขาดดุลการค้า ต่อเนื่องยาวนาน ท าให้สูญเสีย เงินตราให้กับต่างประเทศ รัฐบาลใช้นโยบายลดงบประมาณรายจ่าย เก็บภาษีในอัตราสูง (นโยบายการคลังแบบหดตัว) ท าให้ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจลดลง


อ านาจซื้อของเงิน มากขึ้น แต่ประชาชนไม่มีเงินเพียงพอในการซื้อสินค้า บริการ ผลกระทบของภาวะเงินฝืด การผลิต การลงทุน ลดลง เพราะผู้ผลิตขายสินค้า บริการไม่ได้ เกิดปัญหาการว่างงาน ประชาชนมีรายได้น้อยลง เป็นผลให้เศรษฐกิจซบเซา


ระดับของภาวะเงินฝืด มี 3 ระดับ


ผลกระทบของภาวะเงินฝืด บางกลุ่มเสียประโยชน์จากเงินฝืด เช่น - กลุ่มที่มีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น พ่อค้า นักธุรกิจ - ลูกหนี้ (เสมือนเงินที่ต้องน าไปช าระหนี้คืน มีค่ามากขึ้น ) บางกลุ่มได้รับประโยชน์จากเงินฝืด เช่น - ผู้ที่มีรายได้ประจ า เช่น ครู - เจ้าหนี้


ลดดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อกระตุ้น ให้ประชาชนใช้จ่ายมากขึ้น ลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อกระตุ้น ให้ประชาชนกู้เงินไปใช้จ่ายมากขึ้น แนวทางการแก้ไขภาวะเงินฝืด นโยบายการเงิน แบบผ่อนคลาย ลด อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ ลด การจ าหน่ายหลักทรัพย์ของรัฐบาล ลด อัตราเงินสดส ารองตามกฎหมาย ลด อัตรารับช่วงซื้อลด (ซื้อพันธบัตร คืนจากประชาชนเพื่อเพิ่มปริมาณเงินในระบบ) (ลด เพื่อส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อ) (ลด ท าให้ต้นทุนกู้ยืมของธนาคาพาณิชย์ต่ าลงปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น)


แนวทางการแก้ไขภาวะเงินฝืด นโยบายการคลัง แบบขยายตัว ลด การเก็บภาษี เพิ่ม การก่อหนี้สาธารณะ เพิ่ม การใช้จ่ายของรัฐบาล ใช้งบประมาณแผ่นดินแบบ ขาดดุล ลดรายได้ เพิ่มการใช้จ่าย (เพิ่อช่วยกระตุ้นให้ประชาชน มีการใช้จ่ายมากขึ้น) (*รัฐบาลอาจชดเชยงบประมาณขาดดุลโดยใช้เงินคงคลัง หรือเงินกู้)


การด าเนินนโยบาย เงินฝืด เงินเฟ้อ 1) ภาษี 2) นโยบายการเงิน 3) อัตรารับช่วงซื้อลด 4) รายจ่าย 5) อัตราเงินสดส ารอง 6) อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 7) นโยบายการคลัง 8) พันธบัตรรัฐบาล 9) รายได้ 10) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 11) งบประมาณ 12) หนี้สาธารณะ เติมค าในช่องว่าง เข้มงวด ผ่อนคลาย เพิ่ม ลด เกินดุล ขาดดุล สมดุล หดตัว ขยายตัว ประกาศขาย ประกาศรับซื้อ


Click to View FlipBook Version