The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pookapoojung, 2020-06-05 03:53:01

เอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาสังคมศึกษา ป.3

หนังสือสังคม เล่ม 1 ออนไลน์

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 1

ความสาคญั พุทธประวตั ิ
ของศาสนา และหลักธรรม

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 ประวัตขิ องศาสนา
ศาสนาของเรา พรามหมณ์ - ฮนิ ดู

ส 1.1 ป. 3/1 และหลักธรรม
ส 1.1 ป. 3/2
ส 1.1 ป. 3/4 ประวตั ิของ
ส 1.1 ป. 3/5 ศาสนาครสิ ต์
ส 1.1 ป. 3/6 และหลักธรรม

ประวตั ิของ ประวตั ิของ
ศาสนาซิกข์ ศาสนาอิสลาม
และหลกั คาสอน และหลักธรรม

โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 2

หนว่ ยการเรียนรู้ท1่ี
ศาสนาของเรา

กจิ กรรมท่ี 1.1

คาสง่ั ใ‘ห。น้ กั เรยี นดภู าพและบอกว่าเป็นภาพอะไรและเปน็ การดาเนนิ ชีวิตทหี่ ลอ่ หลอมมาจาก

การนับถอื ศาสนาใด พรอ้ มทั้งบอกเหตผุ ล

เกย่ี วขอ้ งกบั ศาสนา……………………………...........
เพราะเป็นภาพเก่ยี วกบั .....................................
………………………………………………………………

เกย่ี วขอ้ งกบั ศาสนา……………………………...........
เพราะเปน็ ภาพเก่ียวกับ.....................................
………………………………………………………………

เก่ียวขอ้ งกับศาสนา……………………………...........
เพราะเปน็ ภาพเกีย่ วกับ.....................................
………………………………………………………………

โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 3

พุทธประวัติ

ถน่ิ กาเนิด กาเนดิ ในประเทศอินเดยี https://www.google.co.th
พระเจ้าสูงสดุ พระพุทธเจ้า
ศาสดา พระพุทธเจา้
คัมภีร์ พระไตรปิฎก
สญั ลกั ษณ์ พระพุทธรปู
ศาสนสถาน วัด

พระพุทธเจ้าทรงมีพระนามเดิมว่า "สิทธัตถะ" หมายถึง ผู้ที่สาเร็จความมุ่งหมายแล้ว หรือ
ผู้ปรารถนาส่ิงใดย่อมได้สิ่งนั้น ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะกษัตริย์ผู้ครอง
กรุงกบิลพัสด์ุ แคว้นสักกะ และ "พระนางสิริมหามายา" พระราชธิดาของกษัตริย์ราชสกุลโกลิยวงศ์
แห่งกรุงเทวทหะ แคว้นโกลิยะ ประสูติที่ใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน เม่ือวันขึ้น 15 ค่า เดือน
วสิ าขะ 80 ปีก่อนพุทธศักราช (ปัจจุบนั สวนลมุ พินีวัน อย่ใู นประเทศเนปาล)

เสดจ็ ออกบวช
เจา้ ชายสทิ ธัตถะทรงเบอ่ื ความจาเจในปราสาท 3 ฤดู จึงชวนสารถีทรงรถมา้ ประพาสอุทยาน

คร้ังน้ันได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตท้ัง 4 ซึ่งได้แก่ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช โดยเทวทูต
เหล่านั้นเป็นทูตสวรรค์ที่แปลงกายมา พระองค์จึงทรงคิดไดว้ ่าน่ีเป็นธรรมดาของโลกชีวิตของทุกคน
ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นน้ัน ไม่มีใครสามารถหลีกเล่ียงการเกิด แก่ เจ็บ ตายได้จึงทรงเห็นว่าความสุข
ทางโลกเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้นและวิถีทางที่จะพ้นจากความทุกข์ คือต้องครองตนเป็นสมณะ
ดังน้นั พระองค์จงึ ใครจ่ ะเสด็จออกบรรพชา ในขณะท่ีมพี ระชนม์ 29 พรรษา

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 4

การบาเพ็ญเพยี ร
หลังจากทรงผนวชแล้ว พระองค์มุ่งไปท่ีแม่น้าคยา แคว้นมคธได้พยายามเสาะแสวงทาง

พ้นทุกข์ ด้วยการศึกษาค้นคว้าทดลองในสานักอาฬารดาบส กาลามโคตร และอุทกดาบส รามบุตร
แต่เม่ือเรียนจบท้ัง 2 สานักแล้วทรงเห็นว่าน่ียังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์จากนั้นพระองค์ได้เสด็จไปท่ีแม่น้า
เนรัญชรา ในตาบลอุรุเวลาเสนานิคมและทรงบาเพ็ญทุกรกิริยา ด้วยการขบฟันด้วยฟัน กล้ันหายใจ
และอดอาหารจนรา่ งกายซบู ผอม แต่หลงั จากทดลองได้ 6 ปี ทรงเห็นว่านย่ี ังไมใ่ ช่ทางพ้นทกุ ข์จึงทรง
เลิกบาเพ็ญทุกรกิริยาและหันมาฉันอาหารตามเดิม หลังจากพระองค์เลิกบาเพ็ญทุกรกิริยาทาให้
ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยา มหานามะ และอัสสชิ ที่มาคอยรับใช้พระองค์
ดว้ ยความคาดหวงั วา่ เมือ่ พระองค์ค้นพบทางพน้ ทกุ ข์จะได้สอนพวกตนให้บรรลดุ ้วย เกดิ เส่ือมศรัทธา
ที่พระองค์ลม้ เลกิ ความตงั้ ใจจงึ เดินทางกลบั ไปทปี่ ่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตาบลสารนาถ เมืองพาราณสี
หลังจากพระสิทธัตถะทรงเร่ิมบาเพ็ญเพียร โดยการนั่งสมาธิให้จิตสงบ ขณะน้ันพญามาร (กิเลส)
ได้พยายามหลอกล่อพระองค์ให้หวนกลับสู่ความสุขสบายทางโลก แต่พระสิทธัตถะทรงต้ังจิตมั่น
ไม่หวั่นไหวต่อความคิดอันชั่วร้ายท่ีมากวนจิตของพระองค์ ในท่ีสุดพระองค์ก็ทรงตรัสรู้เป็นพระ
สมั มาสมั พุทธเจ้า ดว้ ยการคน้ พบหนทางพ้นทุกข์ คือ อรยิ สัจ 4 ได้แก่
ทุกข์ สมทุ ยั นโิ รธ และมรรค

ท่มี า http://hilight.kapook.com/view/37629

https://www.google.co.th

โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 5

กิจกรรมท่ี 1.2
คาสง่ั ให้นักเรียนโยงเส้นจบั คขู่ ้อความให้สัมพนั ธก์ บั ภาพ

บาเพญ็ เพียร
ปฐมเทศนา

ผจญมาร

ปรินพิ พาน

ประสูติ

ตรสั รู้

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 6

ผลงานนกั เรยี น

กิจกรรมท่ี 1.3

คาสง่ั ให้นกั เรียนเขยี นสรุปพทุ ธประวัตใิ นรปู แบบผงั มโนทศั น์ พร้อมตกแตง่ ระบายสีใหส้ วยงาม

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 7

หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา

กิจกรรมที่ 1.4 เบญจศลี เบญจธรรม

คาสงั่ ใหน้ กั เรียนนาอกั ษรหนา้ หลกั ธรรมด้านขวามอื มาเติมลงในช่องวา่ งทางซ้ายมือให้สอดคล้องกับ
การปฏิบัติตน

การปฏิบตั ิตน หลกั ธรรม

1. .......... ไม่ฆ่าสัตวห์ รือทรมานสตั ว์ ก. เบญจศีลข้อท่ี 2
2. .......... ไม่ประพฤตผิ ดิ ในลูกเมยี ผูอ้ ่ืน ข. เบญจศีลขอ้ ที่ 4
3. .......... ไมพ่ ดู โกหก ค. เบญจธรรมข้อท่ี 5
4. .......... ไมล่ กั ทรพั ย์ ง. เบญจศลี ข้อท่ี 5
5. .......... ไมด่ ่ืมสุรา จ. เบญจธรรมขอ้ ที่ 2
6. .......... มีสติ ฉ. เบญจธรรมขอ้ ที่ 1
7. ......... มีความซ่อื สัตย์ ซ. เบญจธรรมข้อที่ 3
8. .......... ร้จู กั สารวม กาย วาจา ใจ ฌ. เบญจศีลขอ้ ที่ 1
9. .......... ประกอบอาชพี สุจรติ ญ. เบญจธรรมข้อท่ี 4
10. .......... มีเมตตากรณุ าต่อสัตว์ ณ. เบญจศีลขอ้ ท่ี 3

สติสมั ปชัญญะ และสังคหวตั ถุ 4

กจิ กรรมท่ี 1.5 โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 8

สงั คหวัตถุ 4

คาส่งั ใหน้ กั เรยี นนาพยัญชนะหนา้ ขอ้ ความดา้ นขวามือเตมิ ในช่องวา่ งด้านซ้ายให้สมั พันธก์ บั
หลกั ธรรม

หลักธรรม ข้อปฏิบตั ิ

.........1. ปยิ วาจา ก. การให้
ข. ความรสู้ ึกตัว
.........2. สติ
การพดู ด้วย
..........3. ทาน ค. ถ้อยคาท่ีสภุ าพ
ง. ความระลกึ ได้
..........4. อตั ถจริยา จ. การวางตวั ให้เหมาะสม

..........5. สมานัตตา กับฐานะ
.........6. สมั ปชญั ญะ ฉ. การบาเพ็ญประโยชน์

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร์) 9

กจิ กรรมที่ 1.6 ฆราวาสธรรม 4

คาสัง่ ให้นกั เรยี นเติมคาในช่องวา่ งใหถ้ กู ต้อง
1. ฆราวาส แปลว่า .....................................................................................................................
2. ธรรม แปลว่า .........................................................................................................................
3. ฆราวาสธรรมมี 4 ประการ ไดแ้ ก่

3.1 ............................หมายถึง ......................................................................................
3.2 ............................หมายถึง .....................................................................................
3.3 ............................หมายถงึ .....................................................................................
3.4 ............................หมายถงึ .....................................................................................

กิจกรรมท่ี 1.7 อัตถะ 3
คาสงั่ ให้นกั เรียนเตมิ คาในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง
1. อัตถะ แปลว่า .....................................................................................................................
2. อตั ตัตถะ หมายถงึ ....................................................................................................................
3. ปรตั ถะ หมายถงึ .....................................................................................................................
4. อุภยัตถะ หมายถงึ .....................................................................................................................

โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 10

กิจกรรมที่ 1.8 มงคล 38
คาสงั่ ใหน้ ักเรยี นอธิบายเก่ยี วกับมงคล 38 ประการ ตามหัวข้อตอ่ ไปนี้

1. การรจู้ ักให้ ....................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

2. การพูดจาไพเราะ .........................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

3. การอยู่ในสิ่งแวดลอ้ มทด่ี ี .............................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 11

ศาสนาคริสต์

ถิ่นกาเนดิ กาเนิดในประเทศอิสราเอล https://www.google.co.th
พระเจา้ สูงสดุ พระยะโฮวาห์
ศาสดา พระเยซู
คมั ภรี ์ ไบเบิล
สญั ลกั ษณ์ ไมก้ างเขน
ศาสนสถาน โบสถ์

กิจกรรมท่ี 1.9

คาสัง่ ให้นักเรยี นเติมคาในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง

1. ศาสดาของศาสนาครสิ ต์คือ............................................................................................................
2. พระเยซูประสตู ทิ ่ีกรงุ .........................................ประเทศ.................................................................
3. คาสอนของพระเยซทู ส่ี อนประชาชนคอื ........................................................................................
...........................................................................................................................................................
4. สาเหตทุ ่พี ระเยซถู ูกประหาร คอื ......................................................................................................

https://www.google.co.th

โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 12

หลกั ธรรมทเี่ ปน็ พน้ื ฐานของศาสนาคริสต์

หลักธรรมสาคัญของศาสนาคริสต์คือสอนใหร้ ักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง ด้วยการช่วยเหลอื
ซึ่งกนั และกนั ปฏบิ ัติตนใหม้ ปี ระโยชน์ต่อสงั คม รักสงบและสันติ อีกทั้งสอนให้รักพระผูเ้ ปน็ เจา้

กจิ กรรมท่ี 1.10
คาสงั่ ให้นกั เรยี นเขียนคาตอบลงในแผนผังใหถ้ กู ตอ้ ง

หลกั ธรรมที่เปน็ พืน้ ฐานของศาสนาครสิ ต์

บัญญัติ 10 ประการ หลกั ความรกั

1. ............................................ …….................................................
2. ............................................ …….................................................
3. ............................................ …….................................................
4. ............................................ …….................................................
5. ............................................ …….................................................
6. ............................................
7. ............................................
8. ............................................
9. ............................................
10. ............................................

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 13

ศาสนาอสิ ลาม

ถิ่นกาเนดิ กาเนดิ ในประเทศซาอดุ ิอาระเบีย
พระเจา้ สงู สดุ พระอลั เลาะห์
ศาสดา นบี มฮุ มั มัด กาเนดิ ในเมืองเมกกะประเทศซาอดุ อิ าระเบีย
คมั ภรี ์ อัลกุรอาน
ศาสนสถาน มัสยดิ

กจิ กรรมที่ 1.11
คาสง่ั ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ีกาหนดให้เตมิ ในช่องวา่ ง

เอเชีย 23 ปี นบมี ฮู ัมมดั
ตะวันออกกลาง นครเมกกะ

เทวทูต

1. ศาสดาของศาสนาอิสลาม คอื ....................................................................................................
2. นบมี ูฮัมมัด เกดิ ท.ี่ ......................................................................................................................
3. ผูท้ ี่นาโองการของอลั เลาะห์มาประทานแก่นบีมูฮมั มดั คือ..........................................................
4. นบมี ฮู ัมมดั เผยแพร่ศาสนาอยู่เปน็ เวลา......................................................................................
5. ประชาชนที่นบั ถอื ศาสนาอิสลามมีมากที่...................................................................................

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 14

หลักธรรมทเ่ี ป็นพืน้ ฐานของศาสนาอสิ ลาม

หลักคาสอนสาคัญของศาสนาอิสลามคือ สอนให้ทุกคนอดทนต่อการทาความดี ละเว้น
ความช่ัว ละจากกิเลสและอบายมุขทงั้ ปวง ซึ่งประกอบดว้ ยหลักศรัทธา และหลักปฏิบัติ รวมถึงสอน
ใหย้ ดึ ม่นั ในศาสนาและองคอ์ ลั เลาะห์

กจิ กรรมท่ี 1.12
คาสัง่ ให้นกั เรยี นเตมิ คาตอบใหถ้ กู ต้อง

หลักคาสอนของศาสนาอิสลาม

หลกั ศรัทธา 6 ประการ หลักปฏบิ ตั ิ 5 ประการ
1....................................... 1.......................................
2....................................... 2.......................................
3....................................... 3.......................................
4....................................... 4.......................................
5....................................... 5.......................................

โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 15

6.......................................

ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู

เป็นศาสนาเก่าแก่ที่สุดโลก ช่วงแรกเรียกว่า ศาสนาพราหมณ์ ต่อมาได้พัฒนามาเป็นศาสนา
ฮินดู และเป็นศาสนาที่คนไทยจานวนหนงึ่ นับถือกาเนดิ ขึ้นในประเทศอินเดีย ชาวอินเดียส่วนใหญ่จะ
นับถือศาสนาน้ี เป็นศาสนาที่ไม่มศี าสดา นับถือพระเจ้าหลายองค์ เทพเจ้าที่สาคัญ ได้แก่ พระพรหม
คือ ผสู้ รา้ งโลกและจักรวาล พระวิษณคุ ือ ผู้คมุ้ ครองโลก พระศวิ ะคอื ผู้ทาลายโลก

ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู เป็นศาสนาท่ีเน้นการประกอบพิธีกรรม เพื่อบูชาและสรรเสริญ
เทพเจา้ ผ้ทู ่ีอย่ใู นฐานะสงู สุด และเปน็ ผ้นู าทางความเชอื่ ถอื ของศาสนา ได้แก่ พราหมณ์ ซึง่ เป็น ผู้
ประกอบพิธกี รรมและเปน็ ตัวแทนในการติดต่อกบั เทพเจ้า วรรณะพราหมณ์จงึ เปน็ วรรณะหรอื ชน
ช้นั สูงสุดของชาวอนิ เดีย

วรรณะศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู มี 4 ช้ัน คือ พราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ศูทร
1. วรรณะพราหมณ์ คือ ผู้ทาพิธีกรรม มีหน้าท่ีติดต่อกับเทพเจ้า ส่ังสอนศาสนาและประกอบ
พิธีกรรมแก่ประชาชนทุกวรรณะ รวมถึงมีหน้าท่ีศึกษา จดจาและสืบต่อคัมภีร์พระเวท วรรณะนี้เชื่อ
ว่ากาเนิดมาจากปากของพระพรหม
2. วรรณะกษัตริย์ คือ กษัตริย์หรือนักรบ ทาหน้าที่ป้องกันชาติบ้านเมือง และทาศึกสงคราม
วรรณะนีเ้ ชอื่ ว่ากาเนิดมาจากหน้าอกของพระพรหม

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร์) 16

3. วรรณะแพศย์ คือ ผู้ประกอบพาณิชกรรม เกษตรกรรม ซึ่งเป็นวรรณะของคนส่วนใหญ่ใน
สงั คม วรรณะน้ีเชือ่ วา่ กาเนดิ มาจากมือของพระพรหม

4. วรรณะศทู ร คือ กรรมกร วรรณะนีเ้ ชอื่ วา่ กาเนดิ มาจากเทา้ ของพระพรหม
ในกรณีท่ีมีการแต่งงานข้ามวรรณะ บุตรท่ีเกิดมาก็จะกลายเป็น จัณฑาล (ในภาษาไทยคือ
กาลกิณ)ี เป็นผ้อู ยูน่ อกวรรณะซึ่งเปน็ ทร่ี ังเกยี จของทกุ วรรณะ

ศาสนาพราหมณ์ - ฮนิ ดู

ถิน่ กาเนิด กาเนิดในประเทศอนิ เดีย
พระเจ้าสูงสุด -
เทพเจ้า พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ
คมั ภีร์ พระเวท ได้แก่
ฤคเวท = สวดสรรเสรญิ พระเจ้า
ยชุรเวท = บทสวดในพธิ ีบูชายญั
สามเวท = บทสวดในพธิ ีประกอบการทางไสยศาสตร์

กจิ กรรมท่ี 1.13 ประวตั ศิ าสดาของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู

คาสงั่ ให้นกั เรยี นเติมคาในชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ ง
1. ศาสนาที่เก่าแกท่ ่ีสดุ ในโลกคือศาสนา............................................................................................
2. ศาสนาฮินดูพัฒนามาจากศาสนา..................................................................................................
3. ศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ถือกาเนิดทีป่ ระเทศ.................................................................................
4. เทพเจ้าทสี่ าคัญของศาสนา พราหมณ์ - ฮนิ ดู คอื ..........................................................................
5. วรรณะสูงสุดของชาวอนิ เดียคอื วรรณะ.........................................................................................

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 17

สัญลักษณข์ องศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

กจิ กรรมที่ 1.14 อักษรเทวนาครี อา่ นว่า “โอม” ซ่งึ ย่อมาจากอักษร อะ อุ และ มะ

คาส่งั ให้นกั เรยี นจับคูต่ วั อกั ษร กบั ข้อความให้ถกู ตอ้ ง

.......... 1. ผสู้ รา้ งโลก ก. พระวษิ ณุ
.......... 2. ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ข. ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
.......... 3. ผ้คู ุ้มครองโลก ค. ศาสนาซกิ ข์
.......... 4. ครุ นุ านกั ง. พระพรหม

.......... 5. ศาสนาที่เกา่ แก่ทีส่ ุดในโลก จ. ศาสดาองค์แรกแหง่ ศาสนาซิกข์

.......... 6. ศาสนาทม่ี ีศาสดาหลายองค์ ฉ. พระศิวะ
.......... 7. ผู้ทาลายโลก
.......... 8. พราหมณ์ ด. ศาสนาทไ่ี ม่มศี าสดา

ต. ผู้ประกอบพิธกี รรม และเป็น
ตัวแทนในการตดิ ต่อกบั เทพเจ้า

กจิ กรรมที่ 1.15 โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 18

หลกั ธรรมศาสนาพราหมณ์ – ฮนิ ดู

คาสง่ั ให้นักเรยี นเติมหลกั ธรรมของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ให้ถูกต้อง

หลกั ธรรม
10 ประการ

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 19

ศาสนาซิกข์

เป็นศาสนาท่ีมีคนไทยจานวนหน่ึงนับถือ แต่มีจานวนไม่มากนัก ถือกาเนิดในประเทศอินเดีย
เป็นศาสนาที่ต้ังอยู่บนรากฐานของความจริง และเน้นความเรียบง่าย สอนให้ทุกคนมีความเสมอภาค
ยดึ มน่ั เพือ่ ให้เกดิ ความสามัคคีกัน โดยการศรทั ธาในพระเจา้ องค์เดยี ว

ศาสนาซิกข์มีศาสดาหลายองค์ ศาสดาองค์แรกคือ คุรุนานัก ท่านเป็นผู้ใฝ่ใจในเรื่องศาสนา
วันหน่ึงขณะท่ีท่านบาเพ็ญสมาธิอยู่ในป่า ท่านได้พบพระผู้เป็นเจ้า จากน้ันเป็นต้นมา ท่านได้
สงเคราะห์คนยากจน และคนเจ็บป่วย รวมท้ังได้เดินทางส่ังสอนประชาชนตามที่ต่าง ๆ เพ่ือเผยแผ่
ศาสนาจนมลี ูกศษิ ย์มากมาย

หลกั คาสอนของศาสนาซิกข์
หลักคาสอนของศาสนาซิกข์ จะสอนให้พยายามเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ การท่ีคนเราจะพบ

ความสขุ ที่แทจ้ รงิ ได้ มอี ยู่ 5 ประการคือ
1. กรรมคอื การกระทา
2. ปญั ญา คอื ความรอบรใู้ นทุกส่งิ ทุกอยา่ งทีเ่ ป็นจรงิ
3. มหาปตี ิ คือ ความอ่ิมใจ ทาให้อ่มิ เอิบอยู่ในทางธรรม
4. พละ คอื กาลงั จติ ทาให้แน่วแน่มัน่ คงไม่หว่ันไหว ไม่เกรงกลัว
5. สัจจะ คือ ความเคารพอย่างจริงใจตอ่ พระเจ้า
นอกจากน้ีหลักคาสอนที่สาคัญของศาสนาซิกข์ คือ การสอนให้นับถือเทพเจ้าเพียงองค์เดียว

สอนใหค้ นมีความเสมอภาคกัน และมเี สรีภาพ เช่น การยกฐานะผู้หญิงใหเ้ ท่าเทยี มกบั ผชู้ าย ให้
ผหู้ ญิงมีสิทธ์ใิ นการศึกษา ร่วมสวดมนตห์ รือเป็นผ้นู าในการสวดมนตไ์ ด้เชน่ เดียวกับผู้ชายเปน็ ตน้

ที่มา http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php

คันด้า คือ สัญลักษณข์ องชาวซิกข์

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 20

กิจกรรมท่ี 1.16 หลกั คาสอนของศาสนาซิกข์
คาสง่ั ใหน้ กั เรยี นเติมคาตอบในชอ่ งวา่ งให้ถูกตอ้ ง

..................................... .....................................
..................................... .....................................
..................................... .....................................
..................................... .....................................

..................................... หลักคาสอน .....................................
..................................... ของ .....................................
..................................... .....................................
..................................... ศาสนาซกิ ข์ .....................................

......................................
......................................
......................................
......................................

โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร์) 21

ศาสนสาวกหรอื ศาสนบคุ คล

กจิ กรรมท่ี 1.17
คาสัง่ ใหน้ ักเรยี นดูภาพต่อไปนี้แล้วตอบว่าเปน็ ศาสนสาวกหรอื ศาสนบคุ คลของศาสนาใดและมีชือ่

เรียกวา่ อยา่ งไร

เปน็ ศาสนสาวก หรอื ศาสนบุคคลของศาสนา ...................................
มชี ่ือเรยี กว่าอย่างไร.............................................................................

เปน็ ศาสนสาวก หรอื ศาสนบุคคลของศาสนา ...................................
มีชอื่ เรยี กวา่ อย่างไร.............................................................................

เป็นศาสนสาวก หรือศาสนบคุ คลของศาสนา ...................................
มชี ื่อเรียกวา่ อยา่ งไร.............................................................................

เปน็ ศาสนสาวก หรอื ศาสนบคุ คลของศาสนา ...................................
มีชื่อเรียกว่าอย่างไร.............................................................................

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 22

พระคมั ภีร์ของศาสนาต่าง ๆ

กจิ กรรมท่ี 1.18

คาสง่ั ใหน้ กั เรยี นนาตัวอักษรหน้าขอ้ ความทางขวามอื มาใสใ่ นช่องว่างหนา้ ข้อความทางซา้ ยมือ

......... 1. คัมภีร์ของศาสนาพุทธ ก. อลั กุรอาน
.......... 2. คัมภีร์ของศาสนาคริสต์ ข. สามเวท
.......... 3. คัมภีร์ของศาสนาอสิ ลาม ค. พระไตรปิฎก
.......... 4. คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู ง. ยชุรเวท
.......... 5. บทสวดเทพเจ้า จ. หลักธรรมของศาสนาคริสต์
.......... 6. บทสวดในพิธีบูชายัญ ฉ. ไบเบลิ
.......... 7. บทสวดสาหรับใชท้ ั่วไป ช. อาถรรพเวท
.......... 8. บทสวดประกอบพิธีกรรมต่างๆ ญ. ฤคเวท
.......... 9. มีจุดมุ่งหมายสาคัญในการเขา้ ถงึ พระเจา้ ฎ. พระเวท
..........10. พระวนิ ัยปิฎก พระสตุ ตันตปฎิ ก ฏ. คาสอน 3 หมวด

และพระอภิธรรมปฎิ ก

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 23

ผลงานนักเรยี น

กจิ กรรมที่ 1.19
คาส่งั ให้นักเรียนเขยี นสรุปรปู แบบผังมโนทศั น์ เร่ืองความสาคญั ของพระไตรปิฎก และหลกั ธรรมของ

ทุกศาสนาพร้อมทงั้ ระบายสแี ละตกแต่งใหส้ วยงาม

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 24

ช้ินงานท่ี 1

คาส่งั ให้นักเรียนสรุปความร้จู ากการเรียนรูเ้ ร่อื งศาสนาของเรา โดยใชร้ ูปแบบแผนผงั ความคดิ

โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 25

เกณฑ์การใหค้ ะแนนผลงาน

ประเดน็ ที่ประเมิน ดีมาก (4) ระดบั การประเมนิ
ดี (3) ปานกลาง (2) ควรปรับปรุง (1)
1. ผลงานตรงกับ
เน้อื หาทกี่ าหนด ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานไม่สอดคลอ้ ง
เนือ้ หาทุกประเดน็ เนอ้ื หาเป็นส่วนใหญ่ เน้อื หาบางประเด็น กบั เนือ้ หา

2. ผลงานมีความ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ
ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ งเป็น
ครบถ้วน ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถกู ต้องเป็น ส่วนใหญ่
3. ผลงานมคี วามคดิ
สร้างสรรค์ ส่วนใหญ่ บางประเดน็

4. ผลงานมีความเป็น ผลงานแสดงออกถึง ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง
ระเบียบ ความคิดสรา้ งสรรค์ แปลกใหม่แต่ยังไม่ น่าสนใจ แตย่ งั ไม่มี แนวคิดใหม่
แปลกใหมแ่ ละเป็น เป็นระบบ แนวคิดแปลกใหม่
ระบบ

ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญไ่ ม่
ระเบียบแสดงออกถงึ ความเป็นระเบยี บ ระเบยี บแต่มี เปน็ ระเบียบ และมี
ความประณตี แตย่ งั มขี ้อบกพร่อง ข้อบกพร่องบางสว่ น ข้อ บกพร่องมาก
เลก็ นอ้ ย

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรยี นได้คะแนน 13 คะแนนข้นึ ไป หมายถึง ระดบั การประเมิน ดีมาก
หมายถึง ระดบั การประเมิน ดี
นักเรียนไดค้ ะแนน 11 - 12 คะแนน หมายถงึ ระดับการประเมนิ พอใช้
หมายถึง ระดับการประเมนิ ควรปรับปรุง
นกั เรยี นไดค้ ะแนน 9 - 10 คะแนน

นักเรียนไดค้ ะแนน 8 คะแนนลงไป

โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 26

ผลการประเมนิ ชน้ิ งาน
คาช้แี จง ให้ทาเครอื่ งหมาย  ในช่อง  เพือ่ ประเมนิ ชนิ้ งานตามความคดิ เห็นของตนเอง

(ตนเอง) ระดับการประเมนิ
ควร
ประเดน็ ท่ีประเมิน
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ
1. ผลงานตรงกับเนื้อหาทก่ี าหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมคี วามถูกต้องสมบูรณ์
3. ผลงานมคี วามคิดสร้างสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมคี วามเป็นระเบียบ

รวม

ลงชือ่ ...................................................................

(..........................................................................)
ตนเอง

(ผู้ปกครอง) ระดับการประเมนิ
ควร
ประเดน็ ที่ประเมิน
ดมี าก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ
1. ผลงานตรงกบั เนอ้ื หาท่กี าหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมคี วามถูกต้องสมบูรณ์
3. ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมีความเปน็ ระเบียบ

รวม

ลงชอ่ื ...................................................................

(..........................................................................)
ผปู้ กครอง

(ผู้สอน) ระดบั การประเมนิ
ควร
ประเด็นที่ประเมิน
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรุง
1. ผลงานตรงกบั เนือ้ หาท่กี าหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมีความถกู ต้องสมบูรณ์
3. ผลงานมคี วามคดิ สร้างสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ

รวม

ลงช่ือ ...................................................................

(..........................................................................)
ผู้สอน

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 27

ความหมายและ ประโยชน์และ
ประเภทสนิ ค้า คุณคา่ ของสนิ คา้
และบริการ
และบริการ

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 หลกั การเลือก
เศรษฐศาสตร์ใกลต้ วั ซอื้ สนิ คา้ ท่ี
จาเป็นและ
ส 3.1 ป. 3/1 ความหมาย
ส 3.1 ป. 3/3 ผผู้ ลติ และ
ผูบ้ รโิ ภค

ปัญหาพื้นฐาน
ทางเศรษฐกจิ

การแข่งขนั ทาง
การคา้

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 28

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2
เศรษฐศาสตร์ใกลต้ วั

กิจกรรมท่ี 2.1 ความหมายและประเภทของสนิ คา้

คาสั่ง ให้นักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถกู ตอ้ ง

1. สินคา้ คือ …………………………………………………………………………………………………………………
2. บรกิ าร คอื ……………………………………………………………………………………………………………….
3. สินคา้ แบง่ ออกได้เปน็ 2 ประเภท คอื …………………………………………………………………………….

และ…………………………………………………………………………………………………………………………..
4. ปจั จยั 4 ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง

1. ……………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………………
3. ……………………………………………………………………………
4. ……………………………………………………………………………
5. สนิ ค้าที่มนุษย์ตอ้ งการเพอ่ื ใหเ้ กิดความพึงพอใจ แต่เกนิ ความจาเปน็
เรียกว่า………………………………………………………………………………………………………………………
คาสั่ง ให้นักเรยี นวาดภาพการบรกิ ารและภาพสนิ ค้า แลว้ ตอบคาถาม

1. จากภาพเปน็ การบริการอะไร …………………………………….
มปี ระโยชน์ตอ่ นกั เรยี นคือ....................................................
…….…………………………………………………………………………..

2. จากภาพเป็นสนิ ค้าอะไร...………..……….……….…………….
มปี ระโยชน์ต่อนกั เรยี นคือ...................................................

…..…….………………………………………………………………

โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 29

กจิ กรรมที่ 2.2

คาสั่ง ให้นกั เรียนวาดรปู สนิ ค้าทีน่ ักเรียนรู้จักลงในกรอบท่ีกาหนด

สนิ ค้าจาเป็นที่ช่วยใหช้ วี ติ อย่รู อด สินค้าทีใ่ ห้ความสะดวกสบาย

ชอื่ สินคา้ …………………………………… ช่ือสินคา้ ……………………………………
ช่ือสนิ ค้า …………………………………… ช่อื สินค้า ……………………………………
ช่อื สินค้า …………………………………… ชอ่ื สินคา้ ……………………………………

โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร์) 30

ห ลั กกา ร เลือ กซื้ อสินค้าท่ี จาเป็น

การเลือกซ้ือสินค้าอย่าง ฉลาดและรอบคอบ เพ่ือให้

ไดร้ ับประโยชนม์ ากทส่ี ุดจากสนิ คา้ นน้ั ๆ ควรปฏบิ ตั ิตามหลักการดงั น้ี

1. หลกั ประโยชน์ หมายถงึ ซื้อสนิ คา้ ทีจ่ าเป็นตอ่ การดารงชวี ติ

2. หลักประหยดั หมายถึง เปรียบเทยี บราคาสินค้าใหส้ อดคลอ้ งกบั รายไดต้ นเอง

3. หลักความปลอดภัย หมายถึง การคานึงถึงความปลอดภัยของสินค้า โดยดูเคร่ืองหมาย
รบั รองคณุ ภาพ

กิจกรรมท่ี 2.3

คาส่งั เขยี นหลกั การเลือกซื้อสินค้าทคี่ วรปฏิบตั ิและส่ิงท่ไี ม่ควรปฏบิ ตั ใิ นการเลือกซ้ือสินคา้

หลักการเลอื กซื้อสนิ คา้ ที่ควรปฏิบัติ สงิ่ ที่ไมค่ วรปฏิบตั ิในการซือ้ สินค้า

1. …………………………………...……………… 1. …………………………………...………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
2. …………………………………...……………… 2. …………………………………...………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
3. …………………………………...……………… 3. …………………………………...………………
………………………………………………………… …………………………………………………………
………………………………………………………… …………………………………………………………

โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 31

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 32

งานบรกิ าร

อาชีพด้านงานบริการ ได้แก่ ขับรถโดยสาร ช่างตัดผม ช่างตัดเสื้อ พนักงานเก็บขยะ แพทย์
ตารวจ ครู เปน็ ต้น อาชีพเหล่านีเ้ ปน็ กระบวนการของความสัมพนั ธร์ ะหว่างผู้ใช้บริการและ ผู้
ให้บริการ เช่น พยาบาลดูแลคนปว่ ย ครูให้ความรู้ อบรม นักเรียน

กิจกรรมที่ 2.4

คาสง่ั ในชวี ิตประจาวนั นกั เรียนรจู้ กั อาชีพบรกิ ารที่จาเป็นอะไรบ้างและใชบ้ รกิ ารในลกั ษณะอย่างไร
ใหน้ กั เรียนวาดภาพ หรือติดภาพประกอบพรอ้ มเขยี นอธิบาย

อาชพี บรกิ ารทีร่ ู้จกั ลักษณะการใช้บริการ

อาชีพ…………………………………... ..................................................................
อาชีพ…………………………………... ..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................

..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................
..................................................................

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 33

การผลิตและการแขง่ ขนั ทางการคา้

ผ้ผู ลิต หมายถงึ ผูท้ นี่ าเอาปัจจยั การผลติ มาแปรรปู เพื่อใหเ้ กดิ สินค้าและบริการ เช่น ชาวนา
ชาวสวน ชาวประมง เจา้ ของโรงงาน

ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ท่ีซื้อสินค้า หรือบริการ ท่ีผู้ผลิตทาข้ึน เพ่ือไปใช้ประโยชน์ตามความ
ต้องการของตน

กิจกรรมท่ี 2.5

คาส่ัง ให้นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง
1. ผู้ผลติ หมายถึง
……………………………………………………………………………………………………………
2. ผบู้ ริโภคหมายถึง
………………………………………………….…………………………………………………………
3. เหตใุ ดจึงเกดิ ปัญหาขาดแคลนทรัพยากร
…………………………………………………………………………………………………………….

คาสงั่ ให้นักเรียนเขยี น ผ หนา้ ข้อความทเี่ ป็นผู้ผลติ และเขียน บ หน้าข้อความท่ีเป็นผู้บริโภค

………….. 1. ชาวนาทานาปลกู ขา้ ว

………….. 2. แม่ซ้ือผกั จากตลาดมาทาอาหาร

………….. 3. พอ่ ทาโรงงานทอผา้ ส่งผา้ ไปขาย

………….. 4. ชาวสวนปลกู ผลไมไ้ ปขาย

………….. 5. ชาวสวนซื้อข้าวสารไปรับประทาน

………….. 6. ชาวประมงจบั ปลาสง่ ไปขายตา่ งประเทศ

………….. 7. พีซ่ ือ้ เส้อื จากห้างสรรพสนิ คา้

………….. 8. แดงซอ้ื เนื้อหมูเพือ่ ทาอาหาร

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 34

ปญั หาพ้นื ฐานทางเศรษฐกิจ

ในการผลิตสินค้าและบริการ ทรัพยากรในการผลิตเป็นปัจจัยที่สาคัญอย่างยิ่ง ซึ่งปัจจุบัน
ประเทศไทยมีทรัพยากรอย่างจากัด ขณะท่ีประชากรมีปริมาณเพม่ิ สูงขน้ึ จงึ มคี วามตอ้ งการในการใช้
สินค้าและบริการในปริมาณเพ่ิมมากขึ้น ส่งผลให้ทรัพยากรที่มีอย่างจากัดไม่เพียงพอต่อความ
ต้องการของทุกคน ทาให้เกิดปญั หาการขาดแคลนทรัพยากรท่ีใชใ้ นการผลติ ดังนั้นผู้ผลติ ตอ้ งศึกษา
และตัดสนิ ใจอย่างรอบคอบวา่

- จะผลิตสนิ คา้ ชนดิ ใด
- จะผลิตอย่างไร
- จะผลิตเพ่อื ใคร

กิจกรรมที่ 2.6

คาสัง่ ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง

1. อะไรเปน็ สาเหตใุ ห้เกิดปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรท่ีใชใ้ นผลิต
…………………………………………………………………….………………………………

2. ถ้าผู้ผลิตและผ้บู รโิ ภคไมใ่ ชท้ รพั ยากรทม่ี ีอยูอ่ ย่างประหยัดจะกอ่ ให้เกดิ ผลอยา่ งไร
…………………………………………………………………….………………………………

3. ผผู้ ลิตจะต้องตัดสนิ ใจใหร้ อบคอบในเรือ่ งใดบา้ งก่อนทจ่ี ะผลิตสินคา้
1. .………………………………………………………………..
2. .………………………………………………………………..
3. .………………………………………………………………..

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) 35

การแข่งขนั ทางการค้า

การแข่งขันทางการค้า หมายถึง การท่ีผู้ผลิตหรือผู้ขายมากกว่า 2 รายข้ึนไป แสวงหาวิธี
เพื่อให้สินค้าของตนขายไดใ้ นปริมาณทีม่ ากข้นึ โดยผู้ผลิตหรือผู้ขายจะแข่งขันทั้งด้านราคา คุณภาพ
มาตรฐาน การบริการ โฆษณา และปจั จัยอืน่ ๆ ที่ส่งผลตอ่ การตดั สนิ ใจซือ้ สนิ คา้ ของผ้บู รโิ ภค

กิจกรรมที่ 2.7

คาส่งั ให้นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ตอ้ ง
1. การแขง่ ขนั ทางการค้าคืออะไร………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..
2. การแข่งขันทางการคา้ ทาใหเ้ กดิ ผลดีตอ่ ผ้บู รโิ ภคอยา่ งไร ……………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
3. ถ้าผลติ สนิ คา้ ชนดิ เดยี วกันออกมาจานวนมากจะส่งผลในเรือ่ งใด
…………………………………………………………………………………………………………………………..
4. การลดราคาสินคา้ ต่ากว่าทนุ จะเกิดผลอยา่ งไร ………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………
5. บอกวิธกี ารดงึ ดูดใจให้ผู้ซื้อตัดสินใจซ้อื สนิ คา้ ไดง้ ่ายข้ึน ………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………..

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 36

ชิ้นงานที่ 2

คาสั่ง ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรู้จากการเรยี นรเู้ ร่อื งเศรษฐศาสตรใ์ กล้ตัว โดยใชร้ ูปแบบแผนผังความคดิ

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 37

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงาน

ประเด็นที่ประเมิน ดีมาก (4) ระดบั การประเมนิ
ดี (3) ปานกลาง (2) ควรปรับปรุง (1)
1. ผลงานตรงกับ
เน้อื หาทกี่ าหนด ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานไม่สอดคลอ้ ง
เนือ้ หาทุกประเดน็ เนอื้ หาเป็นส่วนใหญ่ เน้อื หาบางประเด็น กบั เนือ้ หา

2. ผลงานมีความ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ
ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ งเป็น
ครบถ้วน ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถกู ต้องเป็น ส่วนใหญ่
3. ผลงานมคี วามคดิ
สร้างสรรค์ สว่ นใหญ่ บางประเดน็

4. ผลงานมีความเป็น ผลงานแสดงออกถึง ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมคี วาม ผลงานไม่แสดง
ระเบียบ ความคิดสรา้ งสรรค์ แปลกใหม่แต่ยังไม่ น่าสนใจ แตย่ งั ไม่มี แนวคิดใหม่
แปลกใหมแ่ ละเป็น เปน็ ระบบ แนวคิดแปลกใหม่
ระบบ

ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญไ่ ม่
ระเบียบแสดงออกถงึ ความเป็นระเบยี บ ระเบยี บแต่มี เปน็ ระเบียบ และมี
ความประณตี แตย่ งั มขี ้อบกพร่อง ข้อบกพร่องบางสว่ น ข้อ บกพร่องมาก
เลก็ นอ้ ย

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

นกั เรยี นได้คะแนน 13 คะแนนข้นึ ไป หมายถึง ระดบั การประเมิน ดีมาก
หมายถึง ระดบั การประเมิน ดี
นักเรียนไดค้ ะแนน 11 - 12 คะแนน หมายถงึ ระดับการประเมิน พอใช้
หมายถึง ระดับการประเมิน ควรปรับปรุง
นกั เรยี นไดค้ ะแนน 9 - 10 คะแนน

นักเรียนไดค้ ะแนน 8 คะแนนลงไป

โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 38

ผลการประเมนิ ชน้ิ งาน
คาช้แี จง ให้ทาเครื่องหมาย  ในช่อง  เพือ่ ประเมนิ ชนิ้ งานตามความคดิ เหน็ ของตนเอง

(ตนเอง) ระดับการประเมิน
ควร
ประเดน็ ท่ีประเมิน
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรุง
1. ผลงานตรงกบั เนื้อหาทก่ี าหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมีความถูกตอ้ งสมบรู ณ์
3. ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมีความเป็นระเบียบ

รวม

ลงชือ่ ...................................................................

(..........................................................................)
ตนเอง

(ผู้ปกครอง) ระดับการประเมนิ
ควร
ประเดน็ ที่ประเมิน
ดมี าก ดี ปานกลาง ปรบั ปรุง
1. ผลงานตรงกบั เนอ้ื หาท่กี าหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมีความถูกต้องสมบรู ณ์
3. ผลงานมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมีความเป็นระเบียบ

รวม

ลงชอ่ื ...................................................................

(..........................................................................)
ผูป้ กครอง

(ผู้สอน) ระดบั การประเมนิ
ควร
ประเด็นที่ประเมิน
ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ
1. ผลงานตรงกับเนือ้ หาท่กี าหนด (4) (3) (2) (1)
2. ผลงานมีความถูกตอ้ งสมบูรณ์
3. ผลงานมีความคิดสร้างสรรค์ ………………..คะแนน
4. ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ

รวม

ลงช่ือ ...................................................................

(..........................................................................)
ผสู้ อน

โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 39

สญั ลกั ษณข์ อง แผนผงั ประเภท
สงิ่ แวดลอ้ ม และประโยชน์
ของแผนที่

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 ทิศ มาตราส่วน
สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัวเรา สญั ลักษณ์และ
การใชส้ ีในแผนท่ี
ส 5.1 ป. 3/1
ส 5.1 ป. 3/2
ส 5.1 ป. 3/3

ลักษณะทาง
สังคมของชมุ ชน

ที่ต้ังและลักษณะ
ทางกายภาพของ

ชมุ ชน

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร)์ 40

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3
ส่งิ ต่าง ๆ รอบตวั เรา

กิจกรรมท่ี 3.1 สิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว
เรา

คาสง่ั ใหน้ ักเรยี นสารวจสถานที่ของชุมชนตนเองแล้ววาดแผนผังใหถ้ ูกต้องและสวยงาม

แผนผังชุมชน..........................................................................................

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 41

กิจกรรมท่ี 3.2

คาสง่ั ใหน้ กั เรยี นวาดสัญลักษณข์ องสิง่ แวดลอ้ มต่าง ๆ ทมี่ ใี นชุมชน

โรงเรียน บา้ น

วัด สวนสาธารณะ

โรงพยาบาล ตลาด

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 42

แผนทแี่ ละแผนผงั

แผนท่ี หมายถึง การแสดงลักษณะพ้ืนผิวโลกลงบนแผ่นราบ โดยการย่อส่วนและการใช้
สญั ลักษณ์ไม่วา่ เครื่องหมายหรือสี แทนสิ่งต่าง ๆ บนพืน้ ผวิ โลก แผนที่จึงต่างจากลูกโลกและแผนผงั

ประเภทของแผนที่
1. แผนท่ีภูมิประเทศเป็นแผนที่แสดงรายละเอียดของสิ่งที่เกิดข้ึนโดยธรรมชาติ เช่น ทะเล

มหาสมุทร เทือกเขา ที่ราบสูง ท่ีราบ ฯลฯ

2. แผนท่เี ฉพาะเรือ่ ง ทีน่ ยิ มใช้มี 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่

2.1 แผนทร่ี ัฐกจิ เชน่ แผนท่ีแสดงขอบเขตการปกครองของจงั หวดั รัฐ ประเทศ

2.2 แผนที่เศรษฐกิจเป็นแผนท่ีแสดงการกระทาทางเศรษฐกิจของมนุษย์ต่าง ๆ
รวมทัง้ แสดงแหลง่ ทรพั ยากรสาคญั

แผนผัง หมายถงึ สง่ิ ท่ีแสดงรายละเอยี ดของส่ิงต่าง ๆ โดยการยอ่ หรือการขยายขนาดลงบน
กระดาษ มีลักษณะเป็นภาพท่ีมองจากด้านบน นิยมใช้แสดงบริเวณพ้ืนท่ีท่ีมีขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก
เช่น บ้าน โรงเรยี น และชุมชน

การใช้แผนผัง
การใช้แผนผัง ผู้ใช้แผนผังต้องมีความรู้เก่ียวกับความหมายและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ท่ีปรากฏ

บนแผนผังนน้ั ๆ รวมทง้ั ความรูเ้ กยี่ วกบั ทศิ ทางและระยะทางเพอื่ ระบุสถานทตี่ า่ ง ๆ ในแผนผงั ได้

ทีม่ า https://sites.google.com/site/ruangnok/1-4-kar-chi-phaenphang-laea-phaenthi

โรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 43

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์ 44

กิจกรรมท่ี 3.3

คาสั่ง ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ให้ถกู ตอ้ ง
1. แผนผังคือ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
2. การใช้แผนผังต้องมคี วามเข้าใจเก่ยี วกบั อะไรบ้าง
........................................................................................................................................................
3. แผนที่คือ.....................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
4. ประเภทของแผนทที่ ่นี ยิ มใชก้ นั มี ...........ลักษณะ คือ

1) ..........................................................................................
2) ..........................................................................................
5. แผนทีร่ ฐั กิจ คอื แผนทีแ่ สดง.........................................................................................................
.........................................................................................................................................................
6. แผนที่เศรษฐกจิ คือแผนที่แสดง...................................................................................................
.........................................................................................................................................................

โรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 45

กิจกรรมท่ี 3.4 แผนทีป่ ระเทศไทย
คาสัง่ ใหน้ กั เรียนระบายสีแผนท่ีประเทศไทยให้สวยงาม

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์) 46

ตวั อย่างแผนท่แี ละแผนผงั

แผนผังโรงเรยี น แผนท่มี หาวทิ ยาลัยขอนแก่น

กจิ กรรมที่ 3.5
คาสัง่ ใหน้ กั เรียนเขียนข้ันตอนในการเขียนแผนผังอย่างงา่ ย

การเขียนแผนผังอยา่ งงา่ ย

……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลยั ขอนแก่น ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 47

กิจกรรมท่ี 3.6
คาสัง่ ใหน้ ักเรยี นบอกประโยชนข์ องแผนที่

………………………………… ………………………………… …………………………………
………………………………… ………………………………… …………………………………

………………………………… ………
……………………………….. …………………………………
ประโยชนข์ องแผนท่ี …………………………………

…………………………………… ………………………………………
………………………………………… …………..…………………………

.

โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแกน่ ฝ่ายประถมศกึ ษา (ศึกษาศาสตร์) 48

กิจกรรมที่ 3.7 ทิศ

ตอนท่ี 1
คาส่ัง ให้นกั เรยี นบอกทิศทัง้ 8 ทศิ แบบสากลใหถ้ กู ตอ้ ง

.(..ต...ัว...อ..ย...่า..ง...)...ท...ศิ ...เ.ห...น...อื.....

……………………….. …………………….......

………………………… ……………….……….

………………………… …………………………..

........................................

ตอนที่ 2
คาสงั่ ใหน้ กั เรียนบอกชอื่ เรยี กทิศทัง้ 8 ทิศ แบบไทยให้ถกู ตอ้ ง

......(.ต...วั...อ...ย..่า...ง..)...อ...ุด..ร.........

……………………….. …………………….......

………………………… ……………….……….

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร)์ 49

กจิ กรรมที่ 3.8

คาส่งั ให้นกั เรยี นเขยี นตาแหนง่ ทศิ ใหถ้ กู ต้อง
1. สนามบาสของโรงเรียนตงั้ อยู่ทางทิศใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ถา้ ยืนอยู่ที่เสาธงแล้วหนั มาทาง อาคาร 10 แสดงว่าหนั หน้ามาทางทศิ ใด
……………………………………………………………………………………………………………………………………………


Click to View FlipBook Version