ประกาศโรงเรยี นบา้ นนา้ ไคร้
เร่ือง ใหใ้ ช้หลกั สตู รโรงเรยี นบ้านนา้ ไคร้ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขันพนื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๒)
---------------------------------------------------------
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐานโรงเรยี นบ้านน้าไคร้ ในคราวประชุมครง้ั ท่ี ๔/๒๕๖๒
วนั ที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ มีมติเหน็ ชอบให้โรงเรยี นใชห้ ลักสตู รโรงเรียนบ้านน้าไคร้
พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ ตามหลักสตู รแกนกลางขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ โรงเรียนบา้ นน้าไคร้จงึ
ประกาศใชห้ ลักสตู รโรงเรียนบ้านน้าไคร้ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช
๒๕๕๑ ตั้งแตบ่ ัดนเี้ ป็นต้นไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๐ เดือนพฤษภาคม พ.ศ .๒๕๖๔
(นางธัญพิมล ออนแสน) (นางชญาลกั ษณ์ ชยสรรพสทิ ธิ์ )
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ผู้อา้ นวยการโรงเรยี นบ้านนา้ ไคร้
โรงเรียนโรงเรียนบ้านนา้ ไคร้
คา้ นา้
ดว้ ยกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช
๒๕๕๑ ใหเ้ ป็นหลกั สูตรแกนกลางของประเทศ เพื่อให้การจัดการศึกษาข้นั พ้ืนฐานสอดคล้องกับสภาพ
ความเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและความเจริญก้าวหนา้ ทางวิทยาการ เปน็ การสร้างกลยทุ ธใ์ หม่
ในการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาใหส้ ามารถตอบสนองความตอ้ งการของบุคคล สังคมไทย ผู้เรียนมี
ศักยภาพในการแข่งขนั และร่วมมืออยา่ งสรา้ งสรรค์ในสังคมโลก ปลกู ฝงั ใหผ้ ู้เรียนมีจติ สา้ นึกความเปน็
ไทย มรี ะเบียบวินัย คา้ นึงถึงประโยชนส์ ว่ นรวมและยึดมัน่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข เป็นไปตามเจตนารมณ์มาตรา ๘๐ ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั ร
ไทย พุทธศกั ราช ๒๕๕๐ และพระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และทแี่ ก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับ
ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ โดยก้าหนดจุดหมายและมาตรฐานการเรียนร้เู ปน็ เป้าหมายและกรอบทิศทางในการ
พัฒนาคณุ ภาพผ้เู รยี นใหเ้ ปน็ คนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวติ ท่ีดแี ละมีขดี ความสามารถในการแขง่ ขันใน
เวทีระดบั โลก (กระทรวงศึกษาธิการ,๒๕๔๔) พรอ้ มกันน้ีได้ปรับเปล่ียนจดุ เน้นในการพัฒนาคณุ ภาพคน
ในสงั คมไทยให้มีคุณธรรมและความรอบรอู้ ย่างเท่าทัน ให้มีความพร้อมท้งั ดา้ นรา่ งกาย สติปัญญา
อารมณ์และศีลธรรม สามารถก้าวทันการเปลยี่ นแปลงเพื่อน้าไปสู่สังคมฐานความรไู้ ด้อยา่ งม่ันคง แนว
การพัฒนาคนดงั กล่าวมุ่งเตรยี มเด็กและเยาวชนใหม้ ีพ้นื ฐานจติ ใจท่ดี งี าม มจี ิตสาธารณะ พรอ้ มทั้งมี
สมรรถนะ ทักษะ โดยไดม้ ีการกา้ หนดวิสัยทศั น์ จดุ หมาย สมรรถนะส้าคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั ที่ชัดเจน ก้าหนดโครงสรา้ งเวลาเรยี น กระบวนการวดั และ
ประเมนิ ผลผ้เู รียน เกณฑ์การจบการศกึ ษาแตล่ ะระดับและเอกสารแสดงหลักฐานทางการศึกษาใหม้ ี
ความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรแู้ ละมคี วามชัดเจนตอ่ การน้าไปปฏิบัติ
โรงเรยี นบ้านน้าไคร้ จงึ ไดจ้ ัดทา้ เอกสารหลกั สูตรขน้ึ ส้าหรับครูน้าไปจดั การเรียนการสอนเพ่ือ
พัฒนาเดก็ และเยาวชนไทยทุกคนในระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานให้มคี ุณภาพด้านความรู้และทกั ษะที่
จา้ เปน็ ส้าหรบั การดา้ รงชีวติ ในสงั คมที่มีการเปลี่ยนแปลงและแสวงหาความรเู้ พื่อพัฒนาตนเองอย่าง
ตอ่ เน่ืองตลอดชวี ติ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั ทก่ี ้าหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยท้าใหห้ นว่ ยงานที่
เกีย่ วข้องในทกุ ระดับเห็นผลคาดหวังท่ตี อ้ งการพัฒนาการเรียนรูข้ องผเู้ รยี นทช่ี ัดเจนตลอดแนว ซึง่ จะ
สามารถช่วยใหห้ น่วยงานที่เก่ียวขอ้ งในระดบั ท้องถิน่ และสถานศกึ ษาร่วมกันพฒั นาหลกั สตู รไดอ้ ย่าง
ม่นั ใจ ท้าให้การจัดท้าหลักสตู รในระดบั สถานศกึ ษามคี ุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยงิ่ ข้ึน อีกทัง้ ยัง
ช่วยให้เกิดความชัดเจนเรอื่ งการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ชว่ ยแก้ปญั หาการเทยี บโอนระหว่าง
สถานศึกษา
ดังนั้นในการพฒั นาหลักสูตรในทุกระดับ ต้งั แต่ระดบั ชาติจนกระทั่งถงึ ระดบั สถานศึกษา
จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัดท่ีก้าหนดไวใ้ นหลักสตู รแกนกลางการศึกษา
ขนั้ พื้นฐาน รวมท้งั เปน็ กรอบทิศทางในการจดั การศึกษาทุกรูปแบบ และครอบคลมุ ผู้เรียนทุก
กลุ่มเปา้ หมายในระดบั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน
คณะทา้ งาน
โรงเรยี นบา้ นน้าไคร้
สารบญั
เรือ่ ง หน้า
ประกาศโรงเรยี นบ้านน้าไคร้ ก
คา้ น้า ข
วิสัยทศั น์ ๑
หลักการ ๑
จุดหมาย ๒
สมรรถนะส้าคัญของผ้เู รียน ๒
โครงสรา้ งเวลาเรียนตามหลกั สตู รแกนกลาง ๕
กลุ่มสาระสังคมศาสนาและวฒั นธรรม ๑๔
เกณฑ์การจบการศึกษา ๑๒๐
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ๑๒๕
ภาคผนวก
ค้าส่งั แต่งต้ัง
บทน้า
หลกั การ
หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช
๒๕๕๑ มีหลักการที่ส้าคญั ดงั นี้
๑. เปน็ หลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจดุ หมายและมาตรฐานการเรียนรู้เปน็
เปา้ หมายสา้ หรบั พัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรม บนพน้ื ฐาน
ของความเปน็ ไทยควบคู่กบั ความเป็นสากล
๒. เปน็ หลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชนที่ประชาชนทุกคนมโี อกาสไดร้ ับการศึกษาอยา่ งเสมอภาคและมี
คณุ ภาพ
๓. เป็นหลักสตู รการศึกษาทีส่ นองการกระจายอา้ นาจ ให้สังคมมีส่วนรว่ มในการจดั การศึกษาให้
สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถนิ่
๔. เป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสรา้ งยืดหยุ่นทั้งด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจดั การเรียนรู้
๕. เปน็ หลักสูตรการศึกษาท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสา้ คญั
๖. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาส้าหรบั การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลมุ ทกุ
กลมุ่ เป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์
วิสัยทศั น์
หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านน้าไคร้ มุ่งม่ันพฒั นาผูเ้ รยี นทกุ คนซ่งึ เปน็ กา้ ลัง
ของชาติให้เปน็ มนษุ ย์ที่มีความสมดุลท้งั ด้านรา่ งกาย ความรู้ มจี ิตสา้ นกึ ในความเป็นพลเมืองและเป็นพลโลกยึดม่ันในการ
ปกครองตามระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมท้ังเจตคติท่ี
จ้าเป็นตอ่ การศึกษา การประกอบอาชพี และการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นส้าคัญบนพ้ืนฐานความเช่ือว่าทุก
คนสามารถเรยี นรูแ้ ละพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศกั ยภาพ
สมรรถนะสา้ คัญของผเู้ รียน
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มุง่ ใหผ้ ้เู รียนเกดิ สมรรถนะส้าคัญ ๕ ประการ ดังน้ี
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร เป็นความสามารถในการรับและสง่ สาร มีวัฒนธรรมในการใชภ้ าษา
ถา่ ยทอดความคดิ ความรคู้ วามเข้าใจ ความรูส้ ึก และทัศนะของตนเองเพ่อื แลกเปลีย่ นข้อมูลขา่ วสารและประสบการณ์อัน
จะเปน็ ประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทงั้ การเจรจาตอ่ รองเพื่อขจดั และ
ลดปัญหาความขดั แย้งตา่ ง ๆ การเลอื กรับหรือไมร่ บั ข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้
วธิ กี ารสื่อสาร ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพโดยคา้ นึงถึงผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ สงั เคราะห์ การคิด
อย่างสรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพ่ือน้าไปสู่การสรา้ งองค์ความรหู้ รอื สารสนเทศเพอ่ื
การตัดสนิ ใจเก่ียวกบั ตนเองและสงั คมได้อย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ งๆ ท่ี
เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ
เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ตา่ งๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการ
ตัดสนิ ใจท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพโดยค้านงึ ถงึ ผลกระทบที่เกดิ ข้ึนต่อตนเอง สังคมและส่งิ แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการน้ากระบวนการต่างๆ ไปใช้ใน
การด้าเนินชวี ิตประจ้าวัน การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรอู้ ย่างต่อเน่ือง การท้างาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการ
สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับ
การเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและ
ผู้อ่ืน
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยดี ้านต่างๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร
การท้างาน การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ม่งุ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับ
ผูอ้ น่ื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่ือสัตย์สุจรติ
๓. มวี นิ ยั
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๖. มุ่งมัน่ ในการทา้ งาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มีจติ สาธารณะ
เปา้ หมายของภาษาไทย
ในการเรียนการสอนภาษไทยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ด้วยตนเองมากท่ีสุดเพื่อให้ได้ท้ังกระบวนการและ
ความรู้ จากวธิ กี ารอา่ น การเขียน การฟงั การดู การพูด หลกั การใช้ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม แล้วน้าผลที่ได้มา
จดั ระบบเปน็ หลกั การ แนวคดิ และองคค์ วามรู้
การจัดการเรยี นการสอนภาษาไทยจงึ มีเป้าหมายท่ีส้าคญั ดังน้ี
๑. เพื่อใหเ้ ขา้ ใจหลักการ ทฤษฎี และกฎทเ่ี ป็นพน้ื ฐานในวิชาภาษาไทย
๒. เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจขอบเขตของธรรมชาตขิ องวิชาภาษาไทยและขอ้ จ้ากัดในการศึกษาวิชา
ภาษาไทย
๓. เพื่อใหม้ ที ักษะทีส่ า้ คัญในวิธกี ารอ่าน การเขยี น การฟงั การดู การพูด และหลักการใช้ภาษาไทย
๔. เพื่อให้ตระหนักถงึ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างวรรณคดแี ละวรรณกรรม
๕. เพื่อนา้ ความรู้ ความเข้าใจ ในวิชาภาษาไทย ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนต์ ่อสงั คม
และการดา้ รงชวี ิต
๖. เพ่ือพัฒนาการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด และหลกั การใช้ภาษาไทย
๗. เพื่อให้เปน็ คนดี มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมในการเรียนภาษาไทย
เรยี นรู้อะไรในภาษาไทย
ภาษาไทยเป็นทักษะท่ีต้องฝึกฝนจนเกิดความช้านาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การเรียนรู้อย่างมี
ประสิทธิภาพ และเพ่อื น้าไปใชใ้ นชีวิตจรงิ
การอ่าน การอ่านออกเสียงคา้ ประโยค การอา่ นบทรอ้ ยแก้ว ค้าประพันธ์ชนิดต่างๆ การอ่านในใจเพื่อ
สร้างความเขา้ ใจ และการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ความร้จู ากสิ่งท่อี ่าน เพื่อน้าไป ปรับใชใ้ นชีวิตประจา้ วนั
การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนส่ือสาร โดยใช้ถ้อยค้าและรูปแบบต่างๆ ของการเขียน ซ่ึง
รวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขียนตามจินตนาการ วิเคราะห์วิจารณ์ และเขียนเชิง
สร้างสรรค์
การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูด
ล้าดบั เรอ่ื งราวต่างๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่างๆ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และการพูดเพ่ือ
โนม้ นา้ วใจ
หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาส
และบุคคล การแตง่ บทประพนั ธ์ประเภทต่างๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณค่าของงาน
ประพันธ์ และความเพลดิ เพลิน การเรียนรแู้ ละท้าความเข้าใจบทเห่ บทรอ้ งเล่นของเด็ก เพลงพ้นื บา้ นท่ีเป็นภูมิปัญญาที่มี
คุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เร่ืองราวของสังคมในอดีต และความ
งดงามของภาษา เพ่อื ให้เกดิ ความซาบซงึ้ และภูมิใจ ในบรรพบุรษุ ท่ไี ด้สัง่ สมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื น้าไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา
ในการด้าเนินชวี ิตและมนี ิสัยรกั การอา่ น
สาระที่ ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวใน
รปู แบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่าง มีประสทิ ธภิ าพ
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สกึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญา
ทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คณุ ค่าและน้ามาประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ
คุณภาพผู้เรยี น
จบชันประถมศึกษาปีท่ี ๓
อ่านออกเสียงค้า ค้าคล้องจอง ข้อความ เร่ืองส้ันๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้องคล่องแคล่ว เข้าใจ
ความหมายของค้าและข้อความท่ีอ่าน ต้ังค้าถามเชิงเหตุผล ล้าดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้ข้อคิด
จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน ปฏิบตั ิตามค้าส่งั คา้ อธิบายจากเร่ืองที่อ่านได้ เข้าใจความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และ
แผนภูมิ อา่ นหนังสืออย่างสม่้าเสมอ และ มีมารยาทในการอา่ น
มที กั ษะในการคัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย บนั ทึกประจ้าวนั เขียนจดหมายลาครู เขียน
เรื่องเกี่ยวกบั ประสบการณ์ เขียนเร่ืองตามจินตนาการและมมี ารยาทในการเขยี น
เล่ารายละเอียดและบอกสาระสา้ คญั ต้ังค้าถาม ตอบค้าถาม รวมทั้งพูดแสดงความคิดความรู้สึกเกี่ยวกับ
เรื่องท่ีฟังและดู พูดสื่อสารเล่าประสบการณ์และพูดแนะน้า หรือพูดเชิญชวนให้ผู้อ่ืนปฏิบัติตาม และมีมารยาทในการ
ฟัง ดู และพูด
สะกดค้าและเข้าใจความหมายของค้า ความแตกต่างของค้าและพยางค์ หน้าที่ของค้า ในประโยค มี
ทักษะการใช้พจนานุกรมในการค้นหาความหมายของค้า แต่งประโยคง่ายๆ แต่ง ค้าคล้องจอง แต่งค้าขวัญ และ
เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ
เขา้ ใจและสามารถสรุปข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อน้าไปใช้ในชีวิตประจ้าวัน แสดง
ความคิดเหน็ จากวรรณคดีท่ีอ่าน รู้จักเพลงพ้ืนบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของท้องถิ่น ร้องบทร้องเล่นส้าหรับ
เดก็ ในทอ้ งถนิ่ ทอ่ งจ้าบทอาขยานและบทรอ้ ยกรอง ทีม่ คี ณุ คา่ ตามความสนใจได้
จบชนั ประถมศึกษาปีที่ ๖
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นท้านองเสนาะได้ถูกต้อง อธิบายความหมายโดยตรงและ
ความหมายโดยนัยของค้า ประโยค ข้อความ สา้ นวนโวหาร จากเรื่องที่อ่าน เข้าใจค้าแนะน้า ค้าอธิบายในคู่มือต่างๆ
แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง รวมท้ังจับใจความส้าคัญของเร่ืองท่ีอ่านและน้าความรู้ความคิดจากเร่ืองที่อ่านไป
ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการด้าเนินชีวติ ได้ มีมารยาทและมีนิสยั รกั การอา่ น และเหน็ คุณคา่ ส่ิงที่อ่าน
มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสะกดค้า แต่งประโยคและเขียนข้อความ
ตลอดจนเขยี นส่ือสารโดยใช้ถ้อยค้าชดั เจนเหมาะสม ใชแ้ ผนภาพ โครงเรือ่ งและแผนภาพความคิด เพ่ือพัฒนางานเขียน
เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เขียน
เรอ่ื งตามจนิ ตนาการอย่างสร้างสรรค์ และมมี ารยาทในการเขียน
พูดแสดงความรู้ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องท่ีฟังและดู เล่าเรื่องย่อหรือสรุปจากเร่ืองท่ีฟังและดู ตั้งค้าถาม
ตอบค้าถามจากเรื่องที่ฟังและดู รวมทั้งประเมินความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูโฆษณาอย่างมีเหตุผล พูดตามล้าดับ
ขัน้ ตอนเรอ่ื งตา่ งๆ อย่างชัดเจน พูดรายงานหรอื ประเด็นค้นควา้ จาก การฟัง การดู การสนทนา และพูดโน้มน้าวได้
อยา่ งมเี หตผุ ล รวมทงั้ มีมารยาทในการดแู ละพูด
สะกดคา้ และเข้าใจความหมายของคา้ ส้านวน คา้ พังเพยและสุภาษติ รู้และเข้าใจ ชนิดและหน้าที่ของ
ค้าในประโยค ชนิดของประโยค และค้าภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้ ค้าราชาศัพท์และค้าสุภาพได้อย่าง
เหมาะสม แต่งประโยค แตง่ บทร้อยกรองประเภทกลอนส่ี กลอนสภุ าพ และกาพย์ยานี ๑๑
เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน ร้องเพลงพ้ืนบ้านของท้องถ่ิน น้า
ขอ้ คดิ เหน็ จากเรือ่ งทอี่ ่านไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ และท่องจา้ บทอาขยานตามที่กา้ หนดได้
ตัวชีวดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
สาระท่ี ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอ่ื น้าไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดา้ เนินชีวติ และมี
นิสัยรกั การอา่ น
ชนั ตวั ชีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.๑ ๑. อ่านออกเสยี งค้า คา้ คล้องจอง และ การอ่านออกเสียงและบอกความหมายของ
ข้อความสัน้ ๆ คา้ คา้ คล้องจอง และข้อความที่
๒. บอกความหมายของคา้ และ ประกอบดว้ ย ค้าพืน้ ฐาน คือ คา้ ทใี่ ช้ใน
ขอ้ ความทอี่ ่าน ชีวติ ประจ้าวนั ไมน่ ้อยกว่า ๖๐๐ ค้า
รวมทั้งคา้ ท่ีใชเ้ รยี นรใู้ น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
อ่ืน ประกอบด้วย
- ค้าที่มรี ปู วรรณยกุ ต์และไม่มีรปู วรรณยุกต์
- คา้ ท่ีมีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรง
ตามมาตรา
- ค้าทีม่ พี ยัญชนะควบกล้า
- คา้ ท่ีมีอักษรนา้
๓. ตอบค้าถามเก่ียวกับเรื่องท่ีอา่ น การอ่านจบั ใจความจากสื่อตา่ งๆ เชน่
๔. เล่าเรือ่ งย่อจากเร่ืองที่อา่ น - นิทาน
๕. คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเร่ืองที่อา่ น - เรอ่ื งสนั้ ๆ
- บทร้องเล่นและบทเพลง
- เรอื่ งราวจากบทเรียนในกลมุ่ สาระการ
เรียนรู้ภาษาไทยและกลมุ่ สาระการเรียนรู้
อนื่
๖. อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ การอา่ นหนงั สือตามความสนใจ เชน่
อยา่ งสม่้าเสมอและน้าเสนอเร่ืองท่ี - หนังสือทนี่ กั เรียนสนใจและเหมาะสมกบั วัย
อ่าน - หนังสอื ที่ครูและนกั เรยี นกา้ หนดรว่ มกัน
๗. บอกความหมายของเคร่ืองหมาย การอา่ นเครื่องหมายหรอื สัญลักษณ์
หรือสญั ลกั ษณ์สา้ คัญท่ีมกั พบเหน็ ใน ประกอบดว้ ย
ชีวติ ประจ้าวัน - เครอ่ื งหมายสญั ลักษณ์ต่างๆ ท่พี บเห็นใน
ชวี ิตประจา้ วนั
- เครอื่ งหมายแสดงความปลอดภัยและแสดง
อนั ตราย
๘. มมี ารยาท ในการอ่าน มารยาทในการอ่าน เช่น
- ไม่อา่ นเสียงดงั รบกวนผู้อ่ืน
- ไมเ่ ล่นกนั ขณะทอ่ี ่าน
- ไม่ท้าลายหนังสือ
ชัน ตัวชีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป.๒ ๑. อา่ นออกเสยี งค้า ค้าคลอ้ งจอง การอา่ นออกเสยี งและการบอกวามหมาย
ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ของคา้ ค้าคล้องจอง ข้อความ และบทร้อย
ไดถ้ ูกต้อง กรองง่ายๆ ทปี่ ระกอบดว้ ยคา้ พ้นื ฐานเพ่ิม
๒. อธบิ ายความหมายของค้าและ จาก ป. ๑ ไม่น้อยกว่า ๘๐๐ คา้
ข้อความทีอ่ ่าน รวมทง้ั ค้าที่ใชเ้ รยี นรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่
ประกอบด้วย
- คา้ ทม่ี รี ูปวรรณยุกต์และไมม่ ีรูปวรรณยกุ ต์
- ค้าที่มีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรง
ตามมาตรา
- ค้าทีม่ ีพยัญชนะควบกล้า
- ค้าที่มีอักษรนา้
- ค้าทม่ี ีตัวการนั ต์
- คา้ ทม่ี ี รร
- ค้าทม่ี ีพยัญชนะและสระที่ไมอ่ อกเสียง
๓. ตั้งคา้ ถามและตอบค้าถามเก่ียวกับ การอา่ นจับใจความจากสื่อต่างๆ เชน่
เรื่องท่ีอา่ น - นิทาน
๔. ระบใุ จความสา้ คญั และรายละเอียด - เร่อื งเลา่ สนั้ ๆ
จากเรอื่ งทอี่ า่ น - บทเพลงและบทร้อยกรองงา่ ยๆ
๕. แสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเน - เรื่องราวจากบทเรยี นในกล่มุ สาระการ
เหตุการณจ์ ากเรอื่ งทอี่ ่าน เรยี นร้ภู าษาไทย และกลมุ่ สาระการเรียนรู้
อื่น
- ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจ้าวนั
๖. อ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ ง การอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ เช่น
สม้่าเสมอและน้าเสนอเร่ืองที่อา่ น - หนังสอื ท่ีนกั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวยั
- หนงั สือท่คี รูและนักเรียนก้าหนดรว่ มกัน
๗. อ่านข้อเขียนเชงิ อธิบาย และปฏิบตั ิ
ตามค้าสัง่ หรือข้อแนะน้า การอา่ นข้อเขยี นเชงิ อธิบาย และปฏบิ ัติตาม
คา้ สั่งหรือข้อแนะน้า
๘. มีมารยาทในการอ่าน - การใชส้ ถานที่สาธารณะ
- ค้าแนะนา้ การใชเ้ ครื่องใช้ที่จ้าเป็นในบ้าน
และในโรงเรยี น
มารยาทในการอ่าน เช่น
- ไม่อา่ นเสียงดงั รบกวนผ้อู ่ืน
- ไมเ่ ลน่ กนั ขณะที่อ่าน
- ไม่ท้าลายหนังสือ
- ไม่ควรแย่งอ่านหรือชะโงกหน้าไปอ่านขณะท่ี
ผู้อน่ื ก้าลงั อา่ นอยู่
ชนั ตัวชีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ป.๓ ๑. อ่านออกเสียงคา้ ขอ้ ความ เรอ่ื ง การอ่านออกเสยี งและการบอกความหมาย
ส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ ของค้า คา้ คล้องจอง ข้อความ และบทรอ้ ย
ถกู ต้อง คลอ่ งแคล่ว กรองง่ายๆ ที่ประกอบดว้ ยค้าพ้ืนฐานเพมิ่
๒. อธบิ ายความหมายของค้าและ จาก ป.๒ ไม่น้อยกว่า ๑,๒๐๐ ค้า รวมทัง้ คา้
ข้อความทีอ่ ่าน ที่เรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่
ประกอบดว้ ย
๓. ตั้งคา้ ถามและตอบคา้ ถามเชงิ - คา้ ทม่ี ีตัวการนั ต์
เหตผุ ลเกี่ยวกบั เรอื่ งท่ีอา่ น - คา้ ทมี่ ี รร
- ค้าทีม่ พี ยัญชนะและสระไม่ออกเสียง
- ค้าพอ้ ง
- ค้าพเิ ศษอื่นๆ เชน่ ค้าที่ใช้ ฑ ฤ ฤๅ
การอา่ นจบั ใจความจากสื่อตา่ งๆ เช่น
- นิทานหรอื เรือ่ งเกี่ยวกับท้องถน่ิ
๔. ลา้ ดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเน - เร่ืองเล่าสัน้ ๆ
เหตกุ ารณ์จากเรอ่ื งท่อี ่านโดยระบุ - บทเพลงและบทร้อยกรอง
เหตุผลประกอบ - บทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
๕. สรุปความรแู้ ละขอ้ คดิ จากเร่ืองท่ี - ข่าวและเหตุการณ์ในชวี ติ ประจ้าวนั ใน
อา่ นเพื่อน้าไปใชใ้ นชีวิตประจ้าวัน ท้องถิน่ และชมุ ชน
๖. อ่านหนงั สือตามความสนใจ การอ่านหนงั สือตามความสนใจ เช่น
อย่างสมา่้ เสมอและนา้ เสนอเร่ืองท่ี - หนังสือทน่ี ักเรียนสนใจและเหมาะสมกบั วยั
อ่าน - หนงั สอื ที่ครแู ละนกั เรียนก้าหนดร่วมกนั
๗. อา่ นข้อเขียนเชิงอธบิ ายและปฏบิ ัติ การอ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบตั ิตาม
ตามค้าสง่ั หรือข้อแนะนา้ คา้ ส่งั หรอื ข้อแนะนา้
- คา้ แนะนา้ ตา่ งๆ ในชีวิตประจา้ วนั
- ประกาศ ปา้ ยโฆษณา และค้าขวัญ
๘. อธบิ ายความหมายของข้อมลู จาก การอา่ นข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และ
แผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ แผนภูมิ
๙. มีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการอ่าน เช่น
- ไม่อา่ นเสียงดังรบกวนผู้อ่ืน
- ไมเ่ ลน่ กันขณะที่อา่ น
- ไมท่ ้าลายหนังสือ
- ไม่ควรแย่งอา่ นหรอื ชะโงกหน้าไปอ่าน
ขณะท่ผี ู้อน่ื กา้ ลงั อ่าน
ชัน ตวั ชีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ป.๔ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และ การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมาย
บทร้อยกรองได้ถูกต้อง ของบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองที่
๒. อธิบายความหมายของคา้ ประโยค ประกอบดว้ ย
และสา้ นวนจากเร่อื งที่อา่ น - คา้ ทีม่ ี ร ล เปน็ พยัญชนะต้น
- ค้าท่ีมพี ยัญชนะควบกล้า
- ค้าท่มี ีอักษรนา้
- ค้าประสม
- อักษรย่อและเครอ่ื งหมายวรรคตอน
- ประโยคทีม่ สี า้ นวนเปน็ คา้ พังเพย สภุ าษิต
ปรศิ นาคา้ ทาย และเครื่องหมายวรรคตอน
การอ่านบทร้อยกรองเป็นท้านองเสนาะ
๓. อา่ นเร่ืองสั้นๆ ตามเวลาท่ีก้าหนด การอา่ นจบั ใจความจากสื่อต่างๆ เชน่
และตอบค้าถามจากเรือ่ งท่ีอ่าน - เรอื่ งสั้น ๆ
๔. แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ - เรื่องเลา่ จากประสบการณ์
จากเรอื่ งทอ่ี า่ น - นทิ านชาดก
๕. คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรื่องท่ีอ่าน - บทความ
โดยระบเุ หตผุ ลประกอบ - บทโฆษณา
๖. สรุปความรู้และขอ้ คิดจากเรอื่ งท่ี - งานเขยี นประเภทโนม้ นา้ วใจ
อ่าน
เพื่อนา้ ไปใชใ้ นชวี ิตประจ้าวัน - ข่าวและเหตกุ ารณป์ ระจ้าวัน
- สารคดีและบนั เทิงคดี
๗. อ่านหนังสอื ท่ีมคี ุณค่าตามความ การอ่านหนังสือตามความสนใจ เชน่
สนใจอย่างสม้่าเสมอและแสดงความ - หนงั สอื ท่ีนกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วยั
คดิ เหน็ เก่ยี วกบั เรื่องท่ีอา่ น - หนังสอื ทค่ี รแู ละนักเรียนก้าหนดร่วมกัน
๘. มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน
ป.๕ ๑. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและ การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมาย
บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง ของบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองที่
๒. อธิบายความหมายของค้า ประโยค ประกอบดว้ ย
และข้อความทเ่ี ป็นการบรรยาย - ค้าที่มีพยัญชนะควบกลา้
และการพรรณนา - คา้ ที่มีอักษรน้า
๓. อธบิ ายความหมายโดยนยั จาก - ค้าทม่ี ตี ัวการันต์
เรือ่ งที่อา่ นอย่างหลากหลาย - อกั ษรย่อและเครอ่ื งหมายวรรคตอน
- ขอ้ ความที่เปน็ การบรรยายและพรรณนา
- ข้อความที่มีความหมายโดยนัย
การอ่านบทร้อยกรองเป็นทา้ นองเสนาะ
ชนั ตวั ชีวดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
๔. แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ จาก การอา่ นจับใจความจากสื่อต่างๆ เชน่
เรื่องที่อ่าน - วรรณคดีในบทเรียน
๕. วเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเหน็ - บทความ
เก่ยี วกับเร่ืองท่ีอ่านเพ่ือนา้ ไปใช้ - บทโฆษณา
ในการด้าเนินชวี ิต - งานเขยี นประเภทโนม้ น้าวใจ
- ข่าวและเหตุการณ์ประจา้ วัน
๖. อา่ นงานเขียนเชงิ อธิบาย คา้ ส่ัง การอ่านงานเขยี นเชงิ อธิบาย คา้ ส่งั
ข้อแนะนา้ และปฏบิ ัติตาม ข้อแนะน้า และปฏบิ ัตติ าม เชน่
- การใชพ้ จนานกุ รม
- การใช้วัสดอุ ุปกรณ์
- การอ่านฉลากยา
- คูม่ อื และเอกสารของโรงเรียนท่เี กีย่ วข้องกับ
นักเรียน
- ข่าวสารทางราชการ
๗. อา่ นหนังสอื ท่มี ีคุณค่าตามความ การอ่านหนังสอื ตามความสนใจ เชน่
สนใจอยา่ งสม้า่ เสมอและแสดง - หนังสือทนี่ กั เรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั
ความคดิ เห็นเกีย่ วกบั เรือ่ งที่อ่าน - หนังสือทค่ี รแู ละนกั เรยี นก้าหนดร่วมกนั
๘. มมี ารยาทในการอา่ น มารยาทในการอา่ น
ป.๖ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และ การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมาย
บทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง ของบทรอ้ ยแก้ว และบทร้อยกรอง
๒. อธบิ ายความหมายของค้า ประโยค ประกอบดว้ ย
และข้อความท่ีเปน็ โวหาร - ค้าท่มี ีพยัญชนะควบกล้า
- คา้ ทม่ี ีอักษรน้า
- ค้าท่ีมีตัวการันต์
- ค้าทีม่ าจากภาษาตา่ งประเทศ
- อกั ษรย่อและเครือ่ งหมายวรรคตอน
- วนั เดอื น ปแี บบไทย
- ข้อความท่ีเปน็ โวหารต่างๆ
- สา้ นวนเปรยี บเทยี บ
การอา่ นบทร้อยกรองเปน็ ท้านองเสนาะ
๓. อ่านเรื่องสัน้ ๆ อยา่ งหลากหลาย การอ่านจบั ใจความจากส่ือตา่ งๆ เช่น
โดยจบั เวลาแล้วถามเกี่ยวกับเรอ่ื งท่ี - เร่ืองส้ัน ๆ
อา่ น - นิทานและเพลงพน้ื บา้ น
๔. แยกข้อเท็จจริงและขอ้ คดิ เหน็ จาก - บทความ
เร่ืองที่อ่าน
ชัน ตัวชวี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๕. อธิบายการนา้ ความรแู้ ละความคิด - พระบรมราโชวาท
จากเร่อื งท่อี ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา - สารคดี
ในการดา้ เนินชวี ติ - เรอ่ื งสน้ั
- งานเขียนประเภทโน้มนา้ ว
- บทโฆษณา
- ขา่ ว และเหตกุ ารณส์ ้าคัญ
การอา่ นเรว็
๖. อา่ นงานเขียนเชิงอธบิ าย คา้ สง่ั การอ่านงานเขยี นเชงิ อธิบาย คา้ สัง่
ขอ้ แนะนา้ และปฏิบตั ิตาม ข้อแนะนา้ และปฏิบัตติ าม
- การใชพ้ จนานกุ รม
- การปฏิบตั ติ นในการอยรู่ ่วมกนั ในสังคม
- ขอ้ ตกลงในการอยู่รว่ มกันในโรงเรียน และ
การใช้สถานท่ีสาธารณะในชมุ ชนและ
ท้องถน่ิ
๗. อธบิ ายความหมายของข้อมลู จาก การอ่านข้อมูลจากแผนผัง แผนที่ แผนภูมิ
การอา่ นแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิ และกราฟ
และกราฟ
๘. อา่ นหนงั สือตามความสนใจ และ การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ เช่น
อธิบายคณุ คา่ ท่ีได้รับ - หนงั สือทน่ี กั เรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย
- หนงั สืออา่ นท่ีครูและนักเรียนก้าหนด
ร่วมกัน
๙. มีมารยาทในการอ่าน มารยาทในการอา่ น
สาระท่ี ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ เขียน
รายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธิภาพ
ชัน ตวั ชวี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.๑ ๑. คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัด การคัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตาม
รปู แบบการเขียนตวั อักษรไทย
๒. เขียนส่อื สารด้วยคา้ และประโยค การเขยี นสื่อสาร
งา่ ยๆ - ค้าทใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจา้ วนั
- ค้าพื้นฐานในบทเรียน
- คา้ คล้องจอง
- ประโยคงา่ ยๆ
ชนั ตัวชีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง
๓. มมี ารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน เช่น
- เขยี นให้อา่ นงา่ ย สะอาด ไม่ขีดฆ่า
- ไม่ขีดเขยี นในท่ีสาธารณะ
- ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกับเวลา สถานท่ี
และบคุ คล
ป.๒ ๑. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั การคัดลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัดตาม
รปู แบบการเขยี นตวั อกั ษรไทย
๒. เขียนเรือ่ งสน้ั ๆ เกยี่ วกับ การเขยี นเร่อื งสนั้ ๆ เกีย่ วกบั ประสบการณ์
ประสบการณ์
๓. เขียนเรอื่ งสนั้ ๆ ตามจนิ ตนาการ การเขียนเรื่องสั้นๆ ตามจินตนาการ
๔. มมี ารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน เช่น
- เขยี นใหอ้ า่ นงา่ ย สะอาด ไม่ขดี ฆ่า
- ไมข่ ดี เขยี นในท่สี าธารณะ
- ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานที่
และบคุ คล
- ไม่เขียนลอ้ เลยี นผู้อน่ื หรอื ท้าให้ผูอ้ น่ื
เสยี หาย
ป.๓ ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด การคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตาม
รูปแบบการเขียน ตวั อักษรไทย
๒ เขยี นบรรยายเกีย่ วกบั สิ่งใดสิ่งหนึง่ การเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ลกั ษณะของ คน
ไดอ้ ย่างชดั เจน สัตว์ สิ่งของ สถานท่ี
๓. เขียนบันทึกประจ้าวนั การเขียนบันทึกประจา้ วัน
๔. เขียนจดหมายลาครู การเขียนจดหมายลาครู
๕. เขยี นเรอื่ งตามจินตนาการ การเขียนเรือ่ งตามจินตนาการจากค้า ภาพ
และหัวข้อทก่ี า้ หนด
๖. มีมารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน เชน่
- เขียนให้อ่านงา่ ย สะอาด ไม่ขีดฆา่
- ไมข่ ีดเขียนในทีส่ าธารณะ
- ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานที่
และบคุ คล
- ไมเ่ ขยี นลอ้ เลียนผู้อ่นื หรอื ท้าให้ผอู้ นื่
เสียหาย
ป.๔ ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และ การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และครึ่ง
ครงึ่ บรรทัด บรรทดั ตามรปู แบบการเขียนตัวอักษรไทย
๒. เขยี นส่ือสารโดยใช้คา้ ได้ถูกตอ้ ง การเขยี นส่อื สาร เชน่
ชัน ตัวชีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
ชดั เจน และเหมาะสม - ค้าขวัญ
- ค้าแนะนา้
๓. เขียนแผนภาพโครงเรื่องและ การนา้ แผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพ
แผนภาพความคิดเพ่ือใช้พฒั นางาน ความคิดไปพัฒนางานเขียน
เขียน
๔. เขียนย่อความจากเร่ืองสน้ั ๆ การเขยี นย่อความจากสื่อต่างๆ เชน่ นทิ าน
ความเรยี งประเภทตา่ งๆ ประกาศ จดหมาย
ค้าสอน
๕. เขียนจดหมายถงึ เพ่อื นและบิดา การเขยี นจดหมายถงึ เพื่อนและบิดามารดา
มารดา
๖. เขยี นบันทึกและเขียนรายงานจาก การเขยี นบันทึกและเขยี นรายงานจาก
การศกึ ษาค้นคว้า การศกึ ษาค้นคว้า
๗. เขยี นเรือ่ งตามจินตนาการ การเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการ
๘. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน
ป.๕ ๑. คัดลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัด การคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดและ
และคร่ึงบรรทัด ครึง่ บรรทดั ตามรูปแบบการเขียนตวั อักษรไทย
๒. เขียนส่อื สารโดยใชค้ า้ ไดถ้ ูกต้อง การเขยี นสื่อสาร เชน่
ชัดเจน และเหมาะสม - ค้าขวัญ
- ค้าอวยพร
- คา้ แนะนา้ และคา้ อธิบายแสดงข้ันตอน
๓. เขียนแผนภาพโครงเรื่องและ การนา้ แผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ
แผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางาน ความคดิ ไปพัฒนางานเขียน
เขียน
๔. เขยี นยอ่ ความจากเรอื่ งทีอ่ ่าน การเขียนย่อความจากส่ือตา่ งๆ เช่น นิทาน
ความเรียงประเภทต่างๆ ประกาศ แจ้งความ
แถลงการณ์ จดหมาย ค้าสอน โอวาท ค้า
ปราศรัย
๕. เขียนจดหมายถงึ ผู้ปกครองและ การเขียนจดหมายถึงผูป้ กครองและญาติ
ญาติ
๖. เขียนแสดงความรู้สึกและความ การเขยี นแสดงความร้สู ึกและความคดิ เห็น
คดิ เห็นไดต้ รงตามเจตนา
๗. กรอกแบบรายการต่างๆ การกรอกแบบรายการ
- ใบฝากเงนิ และใบถอนเงิน
- ธนาณัติ
ชนั ตัวชีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- แบบฝากส่งพัสดุไปรษณยี ภณั ฑ์
๘. เขยี นเร่ืองตามจนิ ตนาการ การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ
๙. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขยี น
ป.๖ ๑. คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทัด การคัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และ
และคร่ึงบรรทัด ครงึ่ บรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย
๒. เขียนสอื่ สารโดยใช้ค้าได้ถูกต้อง การเขียนส่อื สาร เช่น
ชัดเจน และเหมาะสม - ค้าขวญั
- ค้าอวยพร
- ประกาศ
๓. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและ การเขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพ
แผนภาพความคิดเพ่ือใชพ้ ฒั นางาน ความคิด
เขยี น
๔. เขยี นเรียงความ การเขยี นเรยี งความ
๕. เขียนย่อความจากเรือ่ งท่อี ่าน การเขียนยอ่ ความจากสื่อต่างๆ เชน่ นิทาน
ความเรยี งประเภทต่างๆ ประกาศ แจ้งความ
แถลงการณ์ จดหมาย คา้ สอน โอวาท
ค้าปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน ระเบียบ
คา้ สง่ั
๖. เขียนจดหมายสว่ นตัว การเขยี นจดหมายส่วนตัว
๗. กรอกแบบรายการต่างๆ - จดหมายขอโทษ
๘. เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการและ - จดหมายแสดงความขอบคุณ
- จดหมายแสดงความเหน็ ใจ
- จดหมายแสดงความยินดี
การกรอกแบบรายการ
- แบบคา้ ร้องต่างๆ
- ใบสมคั รศกึ ษาต่อ
- แบบฝากสง่ พัสดุและไปรษณียภัณฑ์
การเขียนเรือ่ งตามจนิ ตนาการและ
สร้างสรรค์ สร้างสรรค์
๙. มีมารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน
สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ กึ ในโอกาสต่างๆ
อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์
ชัน ตัวชวี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ฟงั คา้ แนะนา้ ค้าส่งั ง่ายๆ และปฏิบัติ การฟงั และปฏิบตั ติ ามคา้ แนะนา้ คา้ สงั่ ง่ายๆ
ตาม
๒. ตอบค้าถามและเลา่ เรื่องที่ฟงั และดู การจบั ใจความและพูดแสดงความคิดเห็น
ท้ังท่เี ปน็ ความรู้และความบนั เทงิ ความรู้สกึ จากเร่ืองที่ฟงั และดู ท้งั ท่ีเปน็
๓. พูดแสดงความคิดเหน็ และ ความรู้และความบันเทงิ เช่น
ความรู้สกึ จากเรื่องท่ีฟงั และดู - เร่อื งเลา่ และสารคดีส้าหรบั เด็ก
- นทิ าน
- การต์ นู
- เรอ่ื งขบขัน
๔. พดู สอ่ื สารไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ การพดู ส่อื สารในชีวิตประจ้าวนั เช่น
- การแนะน้าตนเอง
- การขอความช่วยเหลือ
- การกลา่ วค้าขอบคุณ
- การกล่าวคา้ ขอโทษ
๕. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง เชน่
พูด - ต้งั ใจฟงั ตามองผู้พูด
- ไมร่ บกวนผู้อน่ื ขณะท่ฟี ัง
- ไม่ควรน้าอาหารหรือเคร่ืองดมื่ ไป
รบั ประทานขณะทฟ่ี ัง
- ให้เกียรตผิ ู้พูดดว้ ยการปรบมอื
- ไมพ่ ดู สอดแทรกขณะทฟี่ ัง
มารยาทในการดู เชน่
- ตัง้ ใจดู
- ไม่สง่ เสยี งดังหรือแสดงอาการรบกวนสมาธิ
ของผู้อนื่
มารยาทในการพดู เชน่
- ใช้ถ้อยค้าและกิริยาทีส่ ุภาพ เหมาะสมกับ
กาลเทศะ
- ใช้น้าเสยี งนุ่มนวล
- ไมพ่ ูดสอดแทรกในขณะทผี่ ู้อ่นื ก้าลงั พดู
ป.๒ ๑. ฟังคา้ แนะน้า ค้าสัง่ ที่ซบั ซ้อน และ การฟงั และปฏิบตั ิตามค้าแนะน้า คา้ ส่ังท่ี
ปฏิบตั ิตาม ซบั ซ้อน
ชนั ตวั ชวี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๒. เลา่ เรื่องที่ฟังและดทู ้ังท่ีเป็นความรู้ การจับใจความและพูดแสดงความคิดเห็น
และความบันเทงิ ความรู้สกึ จากเรื่องท่ีฟังและดู ทงั้ ท่เี ปน็
๓. บอกสาระส้าคญั ของเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู ความรแู้ ละความบันเทงิ เช่น
๔. ตง้ั ค้าถามและตอบคา้ ถามเกยี่ วกับ - เร่อื งเลา่ และสารคดีสา้ หรับเด็ก
เรื่องท่ีฟงั และดู - นิทาน การต์ ูน และเร่ืองขบขัน
๕. พูดแสดงความคิดเหน็ และ - รายการสา้ หรบั เดก็
ความร้สู ึกจากเร่ืองท่ีฟังและดู - ข่าวและเหตุการณป์ ระจา้ วัน
- เพลง
๖. พดู สอ่ื สารไดช้ ัดเจนตรงตาม การพดู สอื่ สารในชีวิตประจ้าวัน เชน่
วัตถุประสงค์ - การแนะน้าตนเอง
- การขอความชว่ ยเหลอื
- การกล่าวคา้ ขอบคุณ
- การกล่าวค้าขอโทษ
- การพดู ขอร้องในโอกาสต่างๆ
- การเล่าประสบการณ์ในชีวติ ประจ้าวนั
๗. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการ มารยาทในการฟัง เชน่
พูด - ตง้ั ใจฟงั ตามองผู้พูด
- ไมร่ บกวนผอู้ ื่นขณะทีฟ่ ัง
- ไมค่ วรนา้ อาหารหรือเครื่องดืม่ ไป
รับประทานขณะท่ีฟัง
- ไม่พูดสอดแทรกขณะทฟ่ี งั
มารยาทในการดู เช่น
- ตัง้ ใจดู
- ไม่ส่งเสยี งดังหรอื แสดงอาการรบกวนสมาธิ
ของผู้อ่ืน
มารยาทในการพดู เชน่
- ใช้ถอ้ ยค้าและกิรยิ าท่ีสุภาพ เหมาะสมกบั
กาลเทศะ
- ใชน้ า้ เสยี งนุ่มนวล
- ไมพ่ ดู สอดแทรกในขณะทีผ่ ู้อนื่ กา้ ลังพูด
- ไม่พูดล้อเลียนให้ผอู้ นื่ ไดร้ ับความอับอาย
หรอื เสยี หาย
ป.๓ ๑. เลา่ รายละเอยี ดเกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟงั การจบั ใจความและพดู แสดงความคิดเห็น
และดทู ง้ั ทเี่ ป็นความรู้และความ และความร้สู กึ จากเรื่องท่ีฟังและดทู งั้ ทีเ่ ปน็
บนั เทงิ ความรแู้ ละความบนั เทงิ เชน่
๒. บอกสาระส้าคัญจากการฟังและการ - เรื่องเลา่ และสารคดีส้าหรบั เดก็
ชนั ตวั ชวี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ดู - นทิ าน การต์ นู เรื่องขบขัน
๓. ตง้ั คา้ ถามและตอบค้าถามเก่ียวกบั - รายการสา้ หรับเดก็
เร่อื งท่ีฟงั และดู - ข่าวและเหตุการณใ์ นชีวิตประจ้าวัน
๔. พดู แสดงความคิดเห็นและ - เพลง
ความรสู้ ึกจากเรื่องท่ีฟงั และดู
๕. พดู ส่อื สารไดช้ ดั เจนตรงตาม การพดู ส่อื สารในชีวิตประจ้าวนั เชน่
วตั ถปุ ระสงค์ - การแนะน้าตนเอง
- การแนะน้าสถานท่ีในโรงเรียนและในชมุ ชน
- การแนะนา้ /เชญิ ชวนเก่ยี วกับการปฏิบัตติ น
ในด้านตา่ งๆ เชน่ การรักษาความสะอาด
ของร่างกาย
- การเล่าประสบการณใ์ นชีวิตประจ้าวัน
- การพดู ในโอกาสตา่ งๆ เช่น การพดู ขอร้อง
การพดู ทกั ทาย การกลา่ วขอบคณุ และขอ
โทษ การพดู ปฏิเสธ และการพูดชักถาม
๖. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการ มารยาทในการฟัง เชน่
พดู - ต้ังใจฟัง ตามองผู้พดู
- ไม่รบกวนผอู้ ื่นขณะท่ีฟัง
- ไม่ควรน้าอาหารหรือเคร่ืองดม่ื ไป
รบั ประทานขณะท่ฟี ัง
- ไม่แสดงกิริยาทไ่ี ม่เหมาะสม เชน่ โห่ ฮา
หาว
- ใหเ้ กยี รติผพู้ ดู ด้วยการปรบมอื
- ไมพ่ ูดสอดแทรกขณะทีฟ่ งั
มารยาทในการดู เช่น
- ตง้ั ใจดู
- ไมส่ ่งเสียงดงั หรอื แสดงอาการรบกวนสมาธิ
ของผู้อน่ื
มารยาทในการพดู เช่น
- ใชถ้ อ้ ยคา้ และกิริยาทส่ี ุภาพ เหมาะสมกับ
กาลเทศะ
- ใชน้ ้าเสียงน่มุ นวล
- ไม่พูดสอดแทรกในขณะที่ผู้อ่ืนก้าลังพดู
- ไมพ่ ูดล้อเลยี นให้ผ้อู ่ืนได้รับความอบั อาย
หรอื เสียหาย
ชัน ตวั ชวี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.๔ ๑. จา้ แนกข้อเท็จจริงและข้อคดิ เห็น การจ้าแนกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็นจาก
จากเรอื่ งทฟ่ี งั และดู เรื่องท่ีฟงั และดู ในชีวิตประจ้าวนั
๒. พูดสรุปความจากการฟังและดู การจับใจความ และการพดู แสดงความรู้
๓. พดู แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ ความคิดในเรื่องท่ีฟังและดู จากสอื่ ต่างๆ
และความรูส้ กึ เกย่ี วกับเร่ืองท่ีฟัง เช่น
และดู - เรอ่ื งเลา่
๔. ตัง้ คา้ ถามและตอบค้าถามเชงิ - บทความส้นั ๆ
เหตุผลจากเรอ่ื งท่ีฟงั และดู - ข่าวและเหตุการณป์ ระจ้าวัน
- โฆษณา
- สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์
- เรื่องราวจากบทเรยี นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
๕. รายงานเรือ่ งหรือประเดน็ ท่ีศกึ ษา การรายงาน เช่น
คน้ ควา้ จากการฟงั การดู และการ - การพูดล้าดบั ข้นั ตอนการปฏิบัติงาน
สนทนา - การพูดล้าดับเหตุการณ์
๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด
พดู
ป.๕ ๑. พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และ การจบั ใจความ และการพดู แสดงความรู้
ความรสู้ ึกจากเร่ืองท่ีฟงั และดู ความคิดในเรื่องท่ีฟังและดู จากสอ่ื ต่างๆ เชน่
๒. ตง้ั คา้ ถามและตอบคา้ ถามเชงิ - เร่ืองเลา่
เหตผุ ลจากเรื่องที่ฟงั และดู - บทความ
๓. วิเคราะหค์ วามนา่ เช่อื ถือจากเรือ่ ง - ข่าวและเหตุการณ์ประจา้ วัน
ทีฟ่ ังและดูอยา่ งมีเหตุผล - โฆษณา
- สอ่ื ส่อื อิเล็กทรอนิกส์
การวิเคราะหค์ วามน่าเชื่อถือจากเรอื่ งทฟี่ งั
๔. พูดรายงานเร่ืองหรือประเดน็ ที่ และดใู นชีวิตประจ้าวนั
การรายงาน เช่น
ศึกษาค้นควา้ จากการฟัง การดู - การพูดลา้ ดับข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน
และการสนทนา - การพดู ล้าดบั เหตุการณ์
๕. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพดู
พูด
ป.๖ ๑. พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจ การพูดแสดงความรู้ ความเขา้ ใจใน
จดุ ประสงคข์ องเร่ืองท่ีฟังและดู จุดประสงคข์ องเรื่องที่ฟงั และดูจากสอ่ื ตา่ งๆ
ได้แก่
๒. ตั้งคา้ ถามและตอบคา้ ถามเชิง
ชนั ตวั ชีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
เหตผุ ล จากเรื่องทีฟ่ ังและดู
- ส่ือสงิ่ พมิ พ์
- ส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์
๓. วิเคราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถือจากการฟงั การวิเคราะหค์ วามน่าเชอื่ ถือจากการฟังและ
และดูส่อื โฆษณาอยา่ งมีเหตผุ ล ดสู อื่ โฆษณา
๔. พดู รายงานเร่ืองหรือประเดน็ ที่ การรายงาน เช่น
ศกึ ษาค้นคว้าจากการฟัง การดู - การพูดล้าดบั ข้ันตอนการปฏิบตั งิ าน
และการสนทนา - การพูดลา้ ดบั เหตุการณ์
๕. พูดโน้มน้าวอย่างมเี หตุผล และ การพดู โน้มนา้ วในสถานการณต์ ่างๆ เชน่
น่าเช่ือถอื - การเลอื กต้งั กรรมการนกั เรียน
- การรณรงคด์ า้ นต่างๆ
- การโต้วาที
๖. มีมารยาทในการฟงั การดู และการ มารยาทในการฟงั การดู และการพูด
พูด
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภมู ปิ ญั ญา
ทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ
ชนั ตัวชีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.๑ ๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ พยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์
วรรณยุกต์ และเลขไทย เลขไทย
๒. เขยี นสะกดค้าและบอกความหมาย การสะกดค้า การแจกลกู และการอา่ นเปน็
ของคา้ ค้า
มาตราตวั สะกดท่ีตรงตามมาตราและไม่ตรง
ตามมาตรา
การผันค้า
ความหมายของคา้
๓. เรยี บเรยี งค้าเป็นประโยคง่าย ๆ การแต่งประโยค
๔. ตอ่ คา้ คลอ้ งจองง่ายๆ คา้ คล้องจอง
ป.๒ ๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ พยญั ชนะ สระ และวรรณยุกต์
วรรณยุกต์ และเลขไทย เลขไทย
๒. เขยี นสะกดค้าและบอกความหมาย การสะกดค้า การแจกลูก และการอา่ นเปน็
ของค้า คา้
มาตราตัวสะกดท่ีตรงตามมาตราและไม่ตรง
ชนั ตัวชีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ตามมาตรา
การผันอกั ษรกลาง อักษรสงู และอักษรต่้า
คา้ ทีม่ ีตัวการันต์
ค้าทม่ี ีพยัญชนะควบกล้า
คา้ ท่ีมีอักษรนา้
คา้ ทีม่ คี วามหมายตรงข้ามกัน
คา้ ทม่ี ี รร
ความหมายของค้า
๓. เรียบเรียงคา้ เป็นประโยคได้ตรงตาม การแตง่ ประโยค
เจตนาของการสือ่ สาร การเรยี บเรียงประโยคเป็นข้อความส้ันๆ
๔. บอกลักษณะค้าคลอ้ งจอง ค้าคล้องจอง
๕. เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและ ภาษาไทยมาตรฐาน
ภาษาถิน่ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ภาษาถนิ่
ป.๓ ๑. เขยี นสะกดคา้ และบอกความหมา การสะกดค้า การแจกลกู และการอ่านเป็น
ของค้า ค้า
มาตราตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไม่ตรง
ตามมาตรา
การผันอักษรกลาง อักษรสงู และอักษรต้่า
ค้าทม่ี พี ยัญชนะควบกล้า
คา้ ที่มีอักษรน้า
คา้ ที่ประวิสรรชนียแ์ ละค้าที่ไมป่ ระ
วิสรรชนยี ์
คา้ ทมี่ ี ฤ ฤๅ
คา้ ทีใ่ ช้ บัน บรร
ค้าที่ใช้ รร
คา้ ทม่ี ตี วั การันต์
ความหมายของค้า
๓. ระบุชนดิ และหน้าท่ขี องค้าในประโยค ชนดิ ของคา้ ได้แก่
- ค้านาม
- ค้าสรรพนาม
- คา้ กรยิ า
๔. ใช้พจนานุกรมคน้ หาความหมายของ การใชพ้ จนานกุ รม
ค้า
๕. แต่งประโยคงา่ ยๆ การแตง่ ประโยคเพื่อการสอ่ื สาร ไดแ้ ก่
- ประโยคบอกเลา่
ชนั ตัวชวี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
๖. แต่งคา้ คลอ้ งจองและคา้ ขวัญ - ประโยคปฏิเสธ
- ประโยคคา้ ถาม
- ประโยคขอร้อง
- ประโยคคา้ สง่ั
ค้าคลอ้ งจอง
ค้าขวญั
๗. เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและ ภาษาไทยมาตรฐาน
ภาษาถนิ่ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ภาษาถิ่น
ป.๔ ๑. สะกดค้าและบอกความหมายของค้า ค้าในแม่ ก กา
ในบริบทต่างๆ มาตราตัวสะกด
การผันอักษร
ค้าเป็นคา้ ตาย
คา้ พอ้ ง
๒. ระบุชนิดและหน้าทีข่ องค้าในประโยค ชนดิ ของคา้ ได้แก่
- ค้านาม
- คา้ สรรพนาม
- คา้ กรยิ า
- ค้าวเิ ศษณ์
๓ ใช้พจนานกุ รมค้นหาความหมายของค้า การใชพ้ จนานกุ รม
๔. แตง่ ประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษา ประโยคสามญั
- ส่วนประกอบของประโยค
- ประโยค ๒ สว่ น
- ประโยค ๓ สว่ น
๕. แต่งบทร้อยกรองและคา้ ขวญั กลอนสี่
คา้ ขวัญ
๖. บอกความหมายของส้านวน สา้ นวนท่เี ปน็ คา้ พงั เพยและสุภาษติ
๗. เปรยี บเทียบภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาไทยมาตรฐาน
ภาษาถ่นิ ได้ ภาษาถน่ิ
ป.๕ ๑. ระบุชนดิ และหน้าทขี่ องค้าในประโยค ชนิดของคา้ ได้แก่
- คา้ บุพบท
- ค้าสนั ธาน
- คา้ อุทาน
๒. จ้าแนกส่วนประกอบของประโยค ประโยคและส่วนประกอบของประโยค
๓. เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาไทยมาตรฐาน
ภาษาถนิ่ ภาษาถ่ิน
ชนั ตวั ชีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๔. ใช้ค้าราชาศัพท์ ค้าราชาศพั ท์
๕. บอกคา้ ภาษาต่างประเทศใน คา้ ท่มี าจากภาษาต่างประเทศ
ภาษาไทย
๖. แต่งบทรอ้ ยกรอง กาพยย์ านี ๑๑
๗. ใชส้ ้านวนได้ถูกตอ้ ง สา้ นวนทีเ่ ป็นค้าพงั เพยและสภุ าษิต
ป.๖ ๑. วเิ คราะหช์ นิดและหน้าท่ีของคา้ ใน ชนดิ ของค้า
ประโยค - ค้านาม
- ค้าสรรพนาม
- ค้ากริยา
- คา้ วเิ ศษณ์
- คา้ บุพบท
- คา้ เชื่อม
- ค้าอทุ าน
๒. ใช้คา้ ไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะและ คา้ ราชาศัพท์
บคุ คล ระดบั ภาษา
ภาษาถ่ิน
๓. รวบรวมและบอกความหมายของ คา้ ทมี่ าจากภาษาตา่ งประเทศ
คา้ ภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย
๔. ระบลุ ักษณะของประโยค กลุ่มคา้ หรือวลี
ประโยคสามัญ
ประโยครวม
ประโยคซอ้ น
๕. แตง่ บทรอ้ ยกรอง กลอนสภุ าพ
๖. วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทยี บสา้ นวนท่ี สา้ นวนทเี่ ปน็ คา้ พงั เพย และสุภาษิต
เปน็ ค้าพังเพย และสุภาษิต
สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณคา่ และนา้ มา
ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ชนั ตัวชวี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. บอกข้อคดิ ทไ่ี ดจ้ ากการอ่านหรอื การ วรรณกรรมรอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรองสา้ หรับ
ฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อย เด็ก เช่น
กรองส้าหรบั เด็ก - นทิ าน
ชนั ตัวชีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- เร่ืองสน้ั งา่ ยๆ
- ปรศิ นาค้าทาย
- บทร้องเล่น
- บทอาขยาน
- บทรอ้ ยกรอง
- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี น
๒. ทอ่ งจา้ บทอาขยานตามท่ีก้าหนด บทอาขยานและบทร้อยกรอง
และบทร้อยกรองตามความสนใจ - บทอาขยานตามที่ก้าหนด
- บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ
ป.๒ ๑. ระบุข้อคิดท่ีไดจ้ ากการอ่านหรอื วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสา้ หรบั
การฟงั วรรณกรรมสา้ หรบั เด็ก เด็ก เช่น
เพื่อนา้ ไปใช้ในชวี ติ ประจ้าวนั - นทิ าน
- เรือ่ งสั้นง่ายๆ
- ปริศนาคา้ ทาย
- บทอาขยาน
- บทรอ้ ยกรอง
- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรยี น
๒. รอ้ งบทร้องเล่นสา้ หรบั เด็กใน บทร้องเล่นท่มี ีคณุ ค่า
ท้องถนิ่ - บทร้องเลน่ ในท้องถิน่
- บทร้องเล่นในการละเล่นของเด็กไทย
๓. ท่องจา้ บทอาขยานตามที่ก้าหนด บทอาขยานและบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่า
และบทร้อยกรองที่มีคณุ ค่าตาม - บทอาขยานตามท่ีกา้ หนด
ความสนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๓ ๑. ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอ่าน วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพืน้ บ้าน
วรรณกรรมเพื่อนา้ ไปใช้ใน - นทิ านหรอื เรือ่ งในท้องถิน่
ชีวติ ประจ้าวนั - เรอื่ งส้ันงา่ ยๆ ปริศนาคา้ ทาย
๒. ร้จู ักเพลงพน้ื บ้านและเพลงกลอ่ ม - บทร้อยกรอง
เดก็ เพ่ือปลูกฝังความชนื่ ชม - เพลงพื้นบ้าน
วฒั นธรรมท้องถ่ิน - เพลงกล่อมเดก็
๓. แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั วรรณคดี - วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรยี นและ
ทอี่ ่าน ตามความสนใจ
ชนั ตวั ชีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
๔. ท่องจ้าบทอาขยานตามท่ีกา้ หนด บทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคณุ คา่
และบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่าตาม - บทอาขยานตามท่ีก้าหนด
ความสนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๔ ๑. ระบขุ อ้ คิดจากนิทานพน้ื บ้านหรอื วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่
นิทานคตธิ รรม - นิทานพ้นื บา้ น
๒. อธิบายข้อคิดจากการอ่านเพื่อ - นิทานคติธรรม
น้าไปใช้ในชีวิตจรงิ - เพลงพ้นื บ้าน
- วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียนและ
ตามความสนใจ
๓. ร้องเพลงพื้นบ้าน เพลงพ้ืนบา้ น
๔. ทอ่ งจา้ บทอาขยานตามท่ีก้าหนด บทอาขยานและบทร้อยกรองทีม่ ีคุณคา่
และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความ - บทอาขยานตามท่ีก้าหนด
สนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๕ ๑. สรุปเร่ืองจากวรรณคดีหรือ วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่
วรรณกรรมท่ีอ่าน - นิทานพน้ื บ้าน
๒. ระบุความรู้และข้อคิดจากการอา่ น - นทิ านคตธิ รรม
วรรณคดแี ละวรรณกรรมทส่ี ามารถ - เพลงพนื้ บา้ น
นา้ ไปใช้ในชีวติ จรงิ - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียนและ
๓. อธิบายคุณค่าของวรรณคดแี ละ ตามความสนใจ
วรรณกรรม
๔. ทอ่ งจ้าบทอาขยานตามที่ก้าหนด บทอาขยานและบทร้อยกรองทีม่ ีคุณคา่
และบทร้อยกรองท่ีมคี ุณค่าตามความ - บทอาขยานตามที่กา้ หนด
สนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ
ป.๖ ๑. แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี วรรณคดีและวรรณกรรม เชน่
หรือวรรณกรรมท่ีอ่าน - นิทานพืน้ บา้ นท้องถิ่นตนเองและท้องถ่ินอืน่
๒. เลา่ นิทานพนื้ บ้านท้องถิน่ ตนเอง - นทิ านคติธรรม
และนทิ านพืน้ บ้านของท้องถ่ินอนื่ - เพลงพนื้ บ้าน
๓. อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดี และ - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและ
วรรณกรรมท่ีอา่ นและน้าไป ตามความสนใจ
ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ
๔. ทอ่ งจ้าบทอาขยานตามท่ีก้าหนด บทอาขยานและบทร้อยกรองทม่ี ีคณุ คา่
และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความ - บทอาขยานตามท่ีกา้ หนด
สนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ
ค้าอธิบายรายวิชาพืนฐาน
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย๑ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ชนั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง
คา้ อธบิ ายรายวชิ า
อา่ นออกเสียงคา้ คา้ คล้องจอง และข้อความสนั้ ๆ สามารถบอกความหมายของคา้ และข้อความที่อ่านตอบคา้ ถาม
เกยี่ วกับเร่ืองท่อี ่าน เล่าเรอ่ื งย่อจากเรื่องท่ีอ่าน คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องท่ีอ่านอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจอย่าง
สมา้่ เสมอและน้าเสนอเรื่องท่ีอ่าน บอกความหมายของเครื่องหมายหรือสญั ลกั ษณ์สา้ คัญ
ทีม่ กั พบเห็นในชวี ติ ประจ้าวนั มีมารยาท ในการอ่าน คัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั เขียนสื่อสารดว้ ยคา้
และประโยคง่ายๆ มีมารยาทในการเขยี น ฟังค้าแนะนา้ ค้าส่ังงา่ ยๆ และปฏบิ ตั ิตามตอบคา้ ถามและเล่าเร่ือง
ทฟ่ี งั และดู ทงั้ ท่เี ป็นความรู้และความบันเทงิ พดู แสดงความคิดเห็นและความรูส้ ึกจากเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู
พูดสอื่ สารไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู บอกและเขียนพยัญชนะ
สระ วรรณยกุ ตแ์ ละ เลขไทย เขียนสะกดคา้ และบอกความหมายของค้า เรียบเรยี งค้าเป็นประโยคง่าย ๆ
ต่อค้าคลอ้ งจองง่ายๆ บอกข้อคดิ ท่ีไดจ้ ากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรม รอ้ ยแก้ว และร้อยกรองส้าหรบั เดก็ ท่องจ้าบท
อาขยานตามที่ก้าหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ.นทิ านพ้นื บ้านบักเซย่ี งเมีย่ งตอนล้างไส้เอาขไ้ี กอ่ อก
โดยใชก้ ระบวนการฟงั กระบวนการพูด กระบวนการอ่านออกเสยี ง อา่ นในใจ การเลา่ กระบวนการเขียน
กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิด และกระบวนการเรยี นการสอนแบบมงุ่ ประสบการณภ์ าษา
เพอ่ื ใหเ้ กิด ความรู้ ความเขา้ ใจในการอ่าน การเขยี น การคิด สามารถน้าความรู้ไปใช้ในสาระต่างๆ และนา้ ไปใช้
ในชีวิตประจ้าวันได้
รหสั ตวั ชีวัด
ท ๑.๑ ป ๑/๑, ป ๑/๒, ป ๑/๓, ป ๑/๔, ป ๑/๕, ป ๑/๖, ป ๑/๗, ป ๑/๘
ท ๒.๑ ป ๑/๑, ป ๑/๒, ป ๑/๓
ท ๓.๑ ป ๑/๑, ป ๑/๒, ป ๑/๓, ป ๑/๔, ป ๑/๕
ท ๔.๑ ป ๑/๑, ป ๑/๒, ป ๑/๓, ป ๑/๔, ป ๑/๕
ท ๕.๑ ๑.๑ ป ๑/๑, ป ๑/๒
รวมทังหมด ๒๓ ตวั ชีวดั
โครงสร้างรายวิชา ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑ เวลาเรยี น ๒๐๐ ช่ัวโมง
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้าหนัก
การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั (ช่วั โมง) คะแนน
เตรยี มความ ท ๓.๑ ป.๑/๑,๓ ฝกึ ทักษะในการฟัง คำแนะนำ คำส่งั ๕๕
พรอ้ ม ท ๓.๑ ป.๑/๔,๕ ปฏิบตั ติ ามฝกึ ทักษะการเขียนพยญั ชนะ สระ
ท ๔.๑ ป.๑/๑ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย
๑ ใบโบก ใบบัว ท ๑.๑ ป.๑/๑,๒,๘ - การฟัง ดู และพูด - การอ่านคำ ๑๐ ๑๐
ท ๒.๑ ป.๑/๑ - การคัดลายมอื - การอ่านออกเสียง
ท ๓.๑ ป.๑/๒,๕ - การอ่านออกเสยี งพยัญชนะ-การแตง่ ประโยค
ท ๔.๑ ป.๑/๑-๕ - อา่ นคล่อง ร้องเลน่ - การอ่านและเขียนสระ
- การอ่านและเขียนคำ - การเขยี นค้า
๒ ภูผา ท ๑.๑ ป.๑/๑-/๕ - รจู้ ักคำนา้ เร่ือง - การอา่ นจบั ใจความ ๑๐ ๑๐
ท ๒.๑ ป.๑/๑-/๓ - คำสระอา สระอี สระอู -อา่ นคลอ่ ง รอ้ งเล่น
ท ๓.๑ ป.๑/๑,๓,๕ - ชวนทำ ชวนคิด - อา่ นบท ร้องเล่น
ท ๔.๑ ป.๑/๑-๓ - แต่งประโยคจากภาพ - อา่ นและคัดพยญั ชนะไทย
- คำสระอา สระอี สระอู -แต่งประโยคจากคำ
๓ เพอื่ นกนั ท ๑.๑ ป.๑/๑,๒ - รจู้ ักคำน้าเรื่อง - การอา่ นบทอ่าน ๑๐ ๑๐
ท ๒.๑ ป.๑/๑,๒ - การอา่ นพยัญชนะ - การอ่านเลขไทย
ท ๓.๑ ป.๑/๑ - จุดเน้นการอ่านสะกดคำ -การอา่ นสะกดคำ
ท ๔.๑ ป.๑/๑,๒ - อา่ นคล่อง ร้องเล่น - ชวนฟังชวนรอ้ ง
- ระบำเสียงสัตว์ - ฝกึ เขียน
๙
๔ ตามหา ท ๑.๑ ป.๑/๑ - ร้จู ักคำนา้ เรื่อง -การอ่านบทอา่ น ๑๐ ๑๓
ท ๒.๑ ป.๑/๒ - การอา่ นพยัญชนะสระ - การอา่ นเลขไทย
ท ๓.๑ ป.๑/๑,๔ - จุดเน้นการอ่านสะกดคำ-การอ่านสะกดค้า
ท ๔.๑ ป.๑/๒ - อา่ นคล่องร้องเล่น - ชวนพูด ชวนฟัง
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - การอา่ นทบทวน - ฝกึ เขยี น
๕ เจา้ ท ๑.๑ ป.๑/๑ - เพลงกล่อมเด็ก - บทร้อง“เจา้ เนื้อละมุน” ๑๐ ๑๓
เนื้ออ่อน ท ๑.๑ ป.๑/๘ - บทรอ้ ง“เจา้ เน้ืออ่อน” - เพลงของแม่
เอย ท ๒.๑ ป.๑/๑ - ดอกไม้หลายชนดิ - ภาษาทา่ ทาง
ท ๓.๑ ป.๑/๔ - บทร้อง“เด็กนอ้ ย เนื้อละมนุ ”
ท ๔.๑ ป.๑/๑ - เรามาเลน่ เลีย้ งน้องกนั -นทิ านกล่อมนอ้ ง
ท ๔.๑ ป.๑/๒ - พาน้อง รอ้ งเล่น
๖ ไปโรงเรียน ท ๑.๑ ป.๑/๑ - รจู้ ักคำ น้าเร่ือง - การอา่ นบทอ่าน ๑๐ ๑๓
ท ๑.๑ ป.๑/๒ - การอ่านพยัญชนะสระ - รูปและเสยี งวรรณยุกต์
ท ๒.๑ ป.๑/๒ - จดุ เนน้ การอ่านสะกดคำ -การอ่านสะกดคำ
ท ๓.๑ ป.๑/๑ - อา่ นคลอ่ งร้องเล่น - ชวนร้องชวนเลน่
ท ๔.๑ ป.๑/๒,๓ - การอ่านทบทวน - ฝกึ เขยี น
๗ มาเลน่ กันไป ท ๑.๑ ป.๑/๑ - เล่น เปน็ ลกู ไก่ - เพลง กกุ๊ กุ๊ก ไก่ ๑๐ ๑๓
ท ๒.๑ ป.๑/๒ - เพลง “ แม่ งู เอ๋ย” - การเล่น“ แม่ งู เอย๋ ”
ท ๓.๑ ป.๑/๑ - บทรอ้ งประกอบการเลน่ -เพลงรอ้ งเล่น“โยกยา้ ย”
ท ๔.๑ ป.๑/๒,๓ - เรยี งคำเปน็ ประโยค - การคดั ลายมอื
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - การใชค้ ำ - การแต่งประโยค
๘ โรงเรียน ท ๑.๑ ป.๑/๑,๒ - รูจ้ ักคำ น้าเรื่อง -การอา่ นบทอ่าน ๑๐ ๑๓
ลกู ช้าง ท ๒.๑ ป.๑/๒ - การอ่านวเิ คราะห์คำ - การอา่ นพยัญชนะ สระ
ท ๔.๑ ป.๑/๒ - การผันวรรณยกุ ต์ - การอ่านสะกดคำ
ท ๕.๑ ป.๑/๑ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคิด
- การอ่านทบทวน - ฝึกเขยี น
- นทิ านพ้นื บา้ นบกั
เซยี่ งเมยี่ ง ตอนล้างไส้
เอาข้ีไก่ออก
รวมภาคเรยี นที่๑ ๑๐๐ ๑๐๐
๙ ของเธอของ ท ๑.๑ ป.๑/๑ - การอ่านบทร้องเลน่ การทอ่ งอาขยานและค้า ๕ ๗
ฉัน ท ๒.๑ ป.๑/๒ คล้องจอง
ท ๓.๑ ป.๑/๕ - การพดู และการฟัง -มา เรา มา รอ้ งเพลงกนั
ท ๔.๑ ป.๑/๒,๓ - อา่ น คิด ตอบคำถาม
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - การแต่งประโยค - จุดเน้นการอา่ นสะกดค้า
- จุดเนน้ การเขียนสะกดคำ
๑๐ เพ่ือนรกั ท ๑.๑ ป.๑/๑,๒ - รู้จักคำ นำเรื่อง -การอ่านบทอ่าน ๑๐ ๑๐
เพอ่ื นเล่น ท ๒.๑ ป.๑/๒ - การอ่านวเิ คราะห์คำ -การอ่านพยัญชนะ สระ
ท ๓.๑ ป.๑/๕ - การผนั วรรณยุกต์ - การอา่ นสะกดคำ
ท ๔.๑ ป.๑/๒ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคดิ
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - การอ่านทบทวน - ฝึกเขยี น
๑๑ ฝนตกแดด ท ๑.๑ ป.๑/๑,๘ - การอา่ นบทร้องเล่น - บทร้อยกรอง ๑๐ ๗
ออก
ท ๒.๑ ป.๑/๑ - ค าคลอ้ งจอง - ค าประพนั ธใ์ นภาษา
ท ๓.๑ ป.๑/๔ - การอ่านบทร้อยกรอง - การท่องอาขยาน
ท ๔.๑ ป.๑/๑,๒ - การอา่ น เขียน เรยี น ร้อง-ฝกึ อา่ นเพ่ิมเติม
- มา รอ้ งเพลง ดว้ ยกนั - ลองเลยี นเสยี งอื่นๆ
๑๒ พดู เพราะ ท ๑.๑ ป.๑/๑ - รจู้ ักค า น าเรื่อง-การอา่ นบทอ่าน ๑๒ ๑๐
ท ๒.๑ ป.๑/๒ - การอา่ นวิเคราะหค์ -า การอา่ นพยัญชนะสระ
ท ๔.๑ ป.๑/๒,๔ - การผนั วรรณยกุ ต์ - จดุ เน้นการสะกดค า
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - การอ่านสะกดค า - อา่ นคลอ่ งร้องเล่น
- ชวนท า ชวนคดิ - การอา่ นทบทวน
- ฝึกเขียน - จุดเนน้ การเขียน
๑๓ เรารกั เมืองไ ท ๑.๑ ป.๑/๑ - การอ่านบทร้องเลน่ - บทรอ้ ยกรอง ๑๐ ๗
ท ๒.๑ ป.๑/๒ - ค าคลอ้ งจอง - การท่องอาขยาน
ท ๓.๑ ป.๑/๑ - การอา่ นบทรอ้ ยกรอง- การอ่าน เขียน เรยี น
๑๔ เกอื บไป ท ๔.๑ ป.๑/๒,๓ - การอา่ นและการสนทนา- เด็กน่ารัก
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - การอา่ นและการดูแลหนังสอื -จุดเนน้ การเขี
ท ๑.๑ ป.๑/๒,๗ - รูจ้ กั ค า น าเรอ่ื ง บทอา่ นการอ่านและการอ่าน ๑๒ ๑๐
ท ๔.๑ ป.๑/๒,๔ วเิ คราะห์ค า
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - การอา่ นพยัญชนะสระ การผนั วรรณยกุ ต์
- จุดเน้นการอ่านสะกดค-อ่านคลอ่ งร้องเลน่
- จดุ เน้นการเขยี นสะกดค- การอา่ นทบทวน
๑๕ ตัง้ ไข่ลม้ ท ๑.๑ ป.๑/๑ - การอา่ นบทร้องเลน่ - บทร้อยกรอง ๙๗
ตม้ ไขก่ ิน
ท ๒.๑ ป.๑/๒ - คำคลอ้ งจอง - การท่องอาขยาน
ท ๓.๑ ป.๑/๑ - การอา่ นบทร้อยกรอง - การพดู เล่าเรือ่ ง
ท ๔.๑ ป.๑/๒,๓ - การอา่ นการสนทนา - คำบอกรปู ร่าง
ท ๕.๑ ป.๑/๑ - อา่ น เขียน เรียน ร้อง เลน่
๑๖ เพ่ือนรใู้ จ ท ๑.๑ ป.๑/๑ - รู้จักคำ นำเร่ือง - การอา่ นบทอา่ น ๑๐ ๑๐
ท ๒.๑ ป.๑/๑,๗ - การอา่ นวเิ คราะห์คำ –การอ่านพยัญชนะ สระ
- การผนั วรรณยุกต์ - การอา่ นสะกดคำ
ท ๔.๑ ป.๑/๑,๒ - อ่านคลอ่ งร้องเลน่ - ชวนทำ ชวนคิด ๑๒
ท ๕.๑ ป.๑/๑ - การอ่านทบทวน - ฝกึ เขียน ๗
๙
๑๗ แมวเหมียว ท ๑.๑ ป.๑/๑,๘ - การอา่ นบทร้องเลน่ บทร้อยกรองคำคลอ้ งจอง ๕
ท ๒.๑ ป.๑/๑ - การทอ่ งอาขยาน ๗
ท ๓.๑ ป.๑/๔ - การพดู เลา่ เร่อื ง ๙
ท ๔.๑ ป.๑/๑,๒ - จุดเนน้ การเขยี นอ่านสะกดคำ
๑๘ ชา้ งนอ้ ยน่ารัก ท ๑.๑ ป.๑/๑,๘ - รู้จกั คำ นำเรอ่ื ง -การอา่ นบทอา่ น ๑๓
ท ๒.๑ ป.๑/๑ - การอ่านวเิ คราะหค์ ำ -การอ่านผันวรรณยกุ ต์
ท ๓.๑ ป.๑/๔ - การผันวรรณยุกต์ - จดุ เนน้ การอ่านสะกดค้า
ท ๔.๑ ป.๑/๑,๒ - การอ่านสะกดคำ - เครือ่ งหมายสัญลักษณ์
ท ๕.๑ ป.๑/๑,๒ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคดิ
- จุดเน้นการเขียนสะกดคำ-ฝกึ เขยี นค้า
๑๙ กระตา่ ยกับเตา่ ท ๑.๑ ป.๑/๑ - การอา่ นออกเสยี ง - การอ่านนทิ าน ๕
ท ๒.๑ ป.๑/๒ - การแสดงบทบาทสมมุติ
ท ๓.๑ ป.๑/๒ - การเลา่ เรือ่ ง
ท ๕.๑ ป.๑/๑ - คำบอกรูปร่าง
๒๐ วนั สงกรานต์ ท ๑.๑ ป.๑/๑,๘ - รู้จกั คำ นำเรอื่ ง -การอา่ นคำ ๑๔
ท ๒.๑ ป.๑/๑ - การอา่ นวเิ คราะหค์ ำ -การอ่านผนั วรรณยกุ ต์
ท ๓.๑ ป.๑/๔ - การผนั วรรณยุกต์ - การอ่านสะกดคำ
ท ๔.๑ ป.๑/๑,๒ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคดิ
- การอา่ นทบทวน - ฝกึ เขยี น
- การสะกดคำมาตราแม่ กบ- มาตราตัวสะกด ๑๐๐ ๑๐๐
ภาคเรียนท๒่ี ๒๐๐
รวมตลอดภาคเรียน/ปีการศกึ ษา
37
คา้ อธบิ ายรายวิชาพนื ฐาน
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชนั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชวั่ โมง
คา้ อธิบายรายวชิ า
อา่ นออกเสยี งและบอกความหมายของพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ เลขไทย การสะกดค้าและสะกดค้า แจกลูกค้า คา้ คล้อง
จอง ประโยค ข้อความ บทร้อยแกว้ ร้อยกรอง บทดอกสร้อย การใชภ้ าษาจบั ใจความจากนิทานเรอื่ งเก่ียวกบั ท้องถิ่น เรอื่ งสนั้ ๆ
หนงั สือตามความสนใจและปฏิบตั ิตามคา้ สัง่ ค้าที่มตี วั สะกดตรงมาตราและไมต่ รงมาตรา ค้าควบกล้า อักษรนา้ ค้าท่มี ีตัวการนั ต์ ค้า
ทม่ี คี วามหมายการผันอกั ษรกลาง สงู ตา่้ ค้าตรงกันขา้ ม ค้าท่มี ี รร มีมารยาทในการอ่าน โดยฟงั พดู เขยี น ประเมินค่าเรอ่ื งที่อ่าน
ฟัง พูด เขยี น คดั ลายมือตามรูปแบบการเขยี นตวั อักษรไทย ขอ้ ความประโยคง่ายๆอย่างสรา้ งสรรค์ นิทาน ภาษาถิ่นเร่ืองสัน้ ๆ บท
เพลง บทอาขยาน ปรศิ นาคา้ ทาย ต้งั ค้าถาม ตอบคา้ ถาม จากประสบการณ์ตามจินตนาการในชีวิตประจา้ วัน นิทานปรมั ปรา งู
เหลอื มไร้พิษ- จง้ิ หรีดกลัน้ ใจตาย การละเล่นสะบ้า
ใชก้ ระบวนการอา่ น การฟงั การพดู การเขียน การคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์การเล่านิทาน บทร้อยแกว้ ร้อยกรอง
การเรียนรตู้ ามจินตนาการ
เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจทกั ษะปฏบิ ตั ิตามค้าสง่ั ต่างๆในชวี ิตประจา้ วนั เห็นคุณคา่ เกดิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านิยม
ที่เหมาะสมเอกลกั ษณค์ วามเป็นไทย
รหัสตวั ชีวัด
ท.๑.๑ ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖,ป.๒/๗,ป.๒/๘
ท.๒.๑ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔
ท.๓.๑ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕,ป.๒/๖,ป.๒/๗
ท.๔.๑ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓,ป.๒/๔,ป.๒/๕
ท.๕.๑ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓
รวม ๒๗ ตัวชีวดั
38
ชั้น ประถมศึกษาปที ่ี ๒ โครงสรา้ งรายวิชา ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒
เวลาเรียน ๒๐๐ชวั่ โมง
ที่ ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลา น้าหนัก
เรียนรู้ การเรยี นรู้ -พยัญชนะไทย ภาระงาน/ช้นิ งาน (ชัว่ โมง) คะแนน
และตัวช้ีวัด
-แบบฝกึ หดั ๕ ๕๕
๑ ตวั อักษรไทย ท๔.๑ ป.๒.๑
๒ มาตรา ก กา ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสียงและสะกดคำใน ๕ ๘๐
มาตราแม่ก กา
-การอธิบายความหมายของคำและ -แบบฝึกหดั
ขอ้ ความทอี่ ่าน
ท๒.๑ ป.๒/๒ -การเขยี นสะกดคำและบอก
ความหมายของคำท่ีอา่ น
ท๔.๑ ป.๒/๒
๓ มาตรา กง ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสียงคำในมาตรา
แม่ กงและการอ่านบทร้อยกรอง
-การเขยี นสะกดคำ -แบบฝึกหดั
-การคดั ลายมือดว้ ยตัวบรรจงเต็ม ๗ ๖๕
บรรทัด
- นิทานปรมั ปรา
- งูเหลือมไร้พษิ
- จ้งิ หรดี กลั้นใจตาย
ท๔.๑ ป.๒/๒
39
ท๒.๑ ป.๒/๑
๔ มาตรา กม ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสียงคำในมาตราแม่ กม
-การอธิบายความหมายของคำทอี่ า่ น -แบบฝึกหัด ๗ ๖๕
ท๑.๑ ป.๒/๒
-การเขียนสะกดคำ
40
ท๔.๑ ป.๒/๒
๕ มาตรา เกย ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสียงคำในมาตราแม่ เกย
-การอธิบายความหมายของคำทอี่ ่าน -แบบฝกึ หัด ๗ ๕๕
ท๑.๑ ป.๒/๒ ๗ ๘๐
๑๐ ๔๐
-การเขียนสะกดคำ
-การคดั ลายมือดว้ ยตัวบรรจงเต็ม
ท๔.๑ ป.๒/๒ บรรทัด
ท๒.๑ ป.๒/๑
๖ มาตรา เกอว ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสียงคำในมาตราแม่
เกอว
-การอธบิ ายความหมายของคำทอี่ า่ น -แบบฝึกหัด
ท๑.๑ ป.๒/๒
-การเขียนสะกดคำ
-การคดั ลายมือด้วยตัวบรรจงเตม็
ท๔.๑ ป.๒/๒ บรรทดั
ท๒.๑ ป.๒/๑
๗ ครอบครัวผาสุก ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสยี งข้อความและบท -ฝึกอ่านออกเสียง
...(วรรณคดี) ร้อยกรอง บทร้อยกรองเร่ือง
-การอธิบายความหมายของคำ ไกแ่ ก้,ไก่แก้ว
ท๑.๑ ป.๒/๒ -มารยาทในการอ่าน -ร้องเพลงหน้าท่ี
-การแสดงความคิดเหน็ จากเร่ืองที่อา่ น เด็ก
ท๑.๑ ป.๒/๘ -ทำกจิ กรรมจาก
-จับใจความสำคัญของเรื่องท่ีอ่าน แบบฝึกหดั
ท๑.๑ ป.๒/๕ -การระบุข้อคิดทไ่ี ดจ้ ากเรื่อง
41
ท๑.๑ ป.๒/๔
42
ท๕.๑ ป.๒/๑
๘ สนุกกับนิทาน ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสยี งข้อความจาก -ฝกึ อา่ นนิทาน
...(วรรณคดี) เรื่องท่ีกำหนด เรอื่ งตากะยายและ
-การอธิบายความหมายของคำทอี่ ่าน ออกมาพดู หนา้ ชั้น
ท๑.๑ ป.๒/๒ เรียน
-มรรยาทในการอ่าน -แตง่ นิทาน
ท๑.๑ ป.๒/๘ -การต้ังคำถามและตอบคำถามจาก -บอกข้อคิดทไ่ี ด้ ๑๐ ๖๕
เรื่องที่อา่ นได้ จากเรอื่ งตากะยาย
ท๑.๑ ป.๒/๓ -การระบใุ จความสำคญั จากเรื่องท่ีอ่าน -แบบฝกึ หดั
-การแสดงความคิดเห็น
ท๑.๑ ป.๒/๔ -การระบขุ ้อคดิ ทไ่ี ดอ้ า่ น
ท๑.๑ ป.๒/๕
ท๕.๑ ป.๒/๑
๙ มาตรา กก ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสียงคำในมาตรา
แม่ กก
-การอธิบายความหมายของคำทอ่ี ่าน -แบบฝกึ หดั ๗ ๗๕
ท๑.๑ ป.๒/๒
-การเขยี นสะกดคำ
ท๔.๑ ป.๒/๒
๑๐ มาตรา กด ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสียงคำในมาตราแม่
กด
-การอธิบายความหมายของคำทอี่ า่ น -แบบฝึกหดั
ท๑.๑ ป.๒/๒ ๗ ๗๐
-การเขียนสะกดคจากคำในมาตรา
แม่ กด
43
ท๔.๑ ป.๒/๒ -การคัดลายมือด้วยตวั บรรจงเต็ม
บรรทัด
ท๒.๑ ป.๒/๑
44
๑๑ มาตรา กน ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสยี งคำในมาตราแม่
กน
ท๑.๑ ป.๒/๒ -การอธิบายความหมายของคำทอ่ี า่ น -แบบฝึกหัด ๕ ๗๐
-การเขียนสะกดคจากคำในมาตรา
ท๔.๑ ป.๒/๒ แม่ กน
๑๒ มาตรา กบ ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสียง
-การอธิบายความหมายของคำทอี่ ่าน
ท๑.๑ ป.๒/๒ -แบบฝกึ หัด ๕ ๕๕
๑๐ ๙๐
-การเขียนสะกดคำ ๑๐ ๓๕
-การคัดลายมือ
ท๔.๑ ป.๒/๒
ท๒.๑ ป.๒/๑
๑๓ การผันอกั ษร ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสียง -แบบฝกึ หดั
-การอธบิ ายความหมายของคำที่อา่ น
ท๑.๑ ป.๒/๒
-การเขียนสะกดคำ
-การคัดลายมือ
ท๔.๑ ป.๒/๒
ท๒.๑ ป.๒/๑
๑๔ ทนั ขา่ วเหตุการณ์ ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสยี ง -ฝกึ อา่ นออกเสียง
จากข้อความง่าย
(วรรณคดี) -การระบใุ จความสำคัญ -แบบฝกึ หดั
ท๑.๑ ป.๒/๔
45
๑๕ สืบสานมารยาท ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสยี ง -อธบิ าย
ไทย -อธบิ ายความหมายของคำที่อ่าน ความหมายของ
(วรรณคดี) ท๑.๑ ป.๒/๒ -มารยาทในการอา่ น คำศัพท์
-การถามและการตอบจากเรอื่ งสืบ -ตง้ั คำถามจาก
ท๑.๑ ป.๒/๘ สานมารยาทไทย นิทาน
-ระบุขอ้ คดิ จากเร่อื ง -การแสดงบทบาท ๑๐ ๖๐
ท๑.๑ ป.๒/๓ สมมตุ ิ ๑๐ ๘๐
๑๐ ๗๐
-บอกข้อคิดท่ีได้
จากเรอื่ งราชสหี ์
ท๕.๑ ป.๒/๑ กบั หนู
-แบบฝกึ หดั
๑๖ คำท่ีมีพยัญชนะ ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสยี งคำคล้องจอง -ฝึกการอ่านออก
ควบกล้า -การเขยี นสะกดคำ เสยี งจากเรื่องทอ่ี ่าน
ท๔.๑ ป.๒/๒ -การคัดลายมือ
-ฝึกการคดั ลายมือ
ท๒.๑ ป.๒/ จากเรอ่ื งที่กา้ หนดให้
๑
-แบบฝึกหัด
๑๗ คำทมี่ ีอักษรนำ ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสยี ง
-การอธิบายความหมายของคำ
ท๑.๑ ป.๒/๒ -การคัดลายมือ -แบบฝกึ หัด
-การเขยี นสะกดคำ
ท๒.๑ ป.๒/๑
ท๔.๑ ป.๒/๒
๑๘ คำทีม่ ตี วั การนั ต์ ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอา่ นออกเสยี ง -แบบฝึกหดั ๖ ๕๕
-การอธิบายความหมายของคำ
ท๑.๑ ป.๒/๒ -การคัดลายมือ
-การเขยี นสะกดคำ
ท๒.๑ ป.๒/๑
46
ท๔.๑ ป.๒/๒
47
๑๙ คำท่มี ี รร ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสยี ง -แบบฝึกหัด ๕ ๖๐
-การอธบิ ายความหมายของคำ
ท๑.๑ ป.๒/๒ -การคดั ลายมือ
-การเขยี นสะกดคำ
ท๒.๑ ป.๒/๑
ท๔.๑ ป.๒/๒
๒๐ คำท่มี ีพยัญชนะ ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสยี ง
และสระท่ีไม่ออก -การอธบิ ายความหมายของคำ
เสียง ท๑.๑ ป.๒/๒ -การคัดลายมือ -แบบฝกึ หัด ๗ ๕๐
ท๒.๑ ป.๒/๑
๒๑ คำท่ีมีความหมาย ท๔.๑ ป.๒/๒ -เขยี นสะกดคำและบอกความหมาย -แบบฝกึ หัด
ตรงข้ามกนั ของคำ ๕ ๕๕
๒๕
๒๒ ธรรมชาติแสนงาม ท๕.๑ ป.๒/๓ -การท่องจำบทอาขยาน -แบบฝึกหัด ๕ ๔๐
(วรรณคดี)
๗๕
๒๓ เมืองไทยเมืองทอง ท๕.๑ ป.๒/๑ -การระบุข้อคดิ ท่ีได้จากเรื่อง -บอกข้อคิดจาก
(วรรณคดี) -ร้องบทร้องเล่นในท้องถ่ิน เรอื่ งที่อา่ น
ท๕.๑ ป.๒/๒ -ฝึกรอ้ งเพลงจาก ๕
บทรอ้ งเล่น
การละเลน่ สะบ้า
-แบบฝกึ หัด
๒๔ คำคล้องจอง ท๑.๑ ป.๒/๑ -การอ่านออกเสยี งคำคลอ้ งจอง -ฝกึ อา่ นคำคล้องจอง
-บอกลักษณะของคำคลอ้ งจอง จากคำทกี่ ้าหนดให้
ท๔.๑ ป.๒/๔ -คัดลายมอื ดว้ ยตัวบรรจงเต็ม
บรรทดั -ถามและตอบถึง ๕
48
ท๒.๑ ป.๒/๑ ลกั ษณะของคำ
คล้องจอง
-แบบฝกึ หัด
49
๒๕ ภาษาไทยและ ท๔.๑ ป.๒/๕ -การใชภ้ าษาไทยมาตรฐาน -ถามและตอบถึง
ความแตกต่างของ
ภาษาถนิ่ มาตรฐาน -การใช้ภาษาถน่ิ แต่ละภาษา
-ตัวแทนแตล่ ะ
กลมุ่ แขง่ กันตอบ ๑๐ ๖๐
คำถามจากบตั รคำ ๙๐
-แต่งประโยค
-แสดงบทบาท
สมมตุ หิ นา้ ชั้นเรียน
-แบบฝึกหัด
๒๖ การเขยี น ท๔.๑ ป.๒/๓ -การเรยี งคำเปน็ ประโยค -การแตง่ ประโยค
-การเขยี นเรอ่ื งสัน้ เกยี่ วกบั ๆ -การเรยี งคำให้
ท๒.๑ ป.๒/๓ ประสบการณ์ เป็นประโยค
-การเขยี นเรอ่ื งสน้ั ๆ ตามจินตนาการ -ใบงานการเขยี น
เร่ืองจาก
ท๒.๑ ป.๒/ -มรรยาทในการเขียน ประสบการณ์ ๑๐
๓ -ใบงานการเขียน
เรอื่ งจาก
ท๒.๑ ป.๒/ จินตนาการ
๔ -แบบฝกึ หัด
๒๗ การฟัง การดู ท๓.๑ ป.๒/๗ -มรรยาทในการฟงั การดู และการ ๑๐ ๘๕
การพดู พูด
-การเลา่ เร่ืองท่ีฟงั และดู
ท๓.๑ ป.๒/๒ -การบอกสาระสำคญั ของเร่ือง -แบบฝึกหัด
-ถามและตอบเก่ียวกบั เร่ืองที่ฟัง
ท๓.๑ ป.๒/๓ และดู
-การพดู แสดงความคิดเห็น
ท๓.๑ ป.๒/๔
ท๓.๑ ป.๒/๕