ไดโนเสาร์แดนสยาม
จัดจำหน่ายโดย : ไดโนเสาร์เล่าแบบไทยๆ
เนื้อหา : วรทย์, จักรพรรดิ, วีระเทพ, กษิดิศ
ตรวจทาน : อัฑฒ์, วงศ์เวชช์, ศรุตะ
ปองคุณ, ภัทรภร,
ภาพประกอบ : ชัชรินทร์
คำนำ
งานวิชาการนั้นดูเหมือนเป็นสิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนทั่ว ๆ ไป ด้วยสาระและคำเฉพาะทางมากมาย
ที่อาจจะเข้าใจได้ยาก จนเราอาจจะเคยได้ยินคำว่า "งานวิจัยขึ้นหิ้ง" กันมาบ้าง
หากแต่ไม่มีคนรุ่นถัดไปมาสานต่อ งานทั้งหมดก็จะจบที่จุดนั้น
พวกเราเชื่อว่าการที่คนทั่วไปนั้นสนใจงานวิชาการ จะทำให้เขาอยากมีส่วนร่วม อยากที่จะสนับสนุนงาน
วิชาการเหล่านี้ต่อไป ทำให้มีคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานแนวนี้ และยังทำให้ทางนักวิจัยเองมีโอกาสในการทำงานต่อไป
มากขึ้นด้วย
พวกเราจึงถือโอกาสที่จะเป็นผู้สื่อสารระหว่างคนทั่วไปกับงานวิชาการ แปลคำยาก ๆ ให้เป็นคำง่าย ๆ แปล
เรื่องที่คนไม่สนใจให้เป็นเรื่องน่าสนใจ และใส่เสริมเติมแต่งผ่านจินตนาการของพวกเราลงไปผสมกับข้อเท็จจริง
ของสัตว์ปัจจุบันเพื่อให้ชีวิตกับเหล่าสัตว์ที่สูญสิ้นไปแล้วพวกนี้ เพราะพวกเขาไม่ใช่เพียงกระดูกที่ถูกฝังอยู่ในดิน
รอให้พวกเรามาพบและศึกษาเพียงเท่านั้น
หนังสือไดโนเสาร์แดนสยามได้รวบรวมข้อมูลของสัตว์มีกระดูกสันหลังดึกดำบรรพ์ที่แสนน่าอัศจรรย์จากมหา
ยุคมีโซโซอิกของไทยไว้กว่า 41 สายพันธุ์ ตั้งแต่ไทยซอรัส จิ้งจกน้ำตัวจ้อย ไปถึงภูเวียงโกซอรัส ไดโนเสาร์ยักษ์ใหญ่
ในรูปแบบสมุดภาพพร้อมภาพประกอบสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใคร เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
สุดท้ายนี้พวกเราทีมงานไดโนเสาร์เล่าแบบไทยๆ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเสมอมา จนนำมา
สู่การผลิตผลงานสุดพิเศษเล่มนี้ ดังนั้นสำหรับท่านที่ได้อ่านคำนำฉบับนี้แล้ว พวกเราขอขอบพระคุณจากใจจริงอีก
ครั้ง และขอให้เพลิดเพลินไปกับ " ไดโนเสาร์แดนสยาม "
สารบัญ หน้า
ไทยซอรัส 1
โปรกาโนคีลิส 3
อีสานโนซอรัส 5
สยามโมคีลิส 7
มาเมนชิซอรัส 9
อินโดซิโนซูคัส 11
ภูน้อยคีลิส 13
กาฬสินธุ์นีมิส 15
อีสานอิกธิส 17
ไทยอิกธิส 19
โคราชอิกธิส 21
เฟอร์กาโนเซราโตดัส 23
อะโครดัส 25
ชาละวัน 27
ยักษ์คีมิส 29
บาซิโลคีลิส 31
กินรีมิมัส 33
ภูเวียงโกซอรัส 35
วายุเเรพเตอร์ 37
ภูเวียงเวเนเตอร์ 39
สยามโมซอรัส 41
สยามโมไทแรนนัส 43
สารบัญ หน้า
อีสานนีมิส 45
สยามโมซูคัส 47
ซูโนซูคัส 49
เทอริโอซูคัส 51
อีสานโนดัส 53
มุกดาหารโนดัส 55
ลอนคิเดียน 57
เฮเทอโรไทโคดัส 59
สยามเอเมีย 61
ซิตตะโคซอรัส 63
สยามแรพเตอร์ 65
สยามโมดอน 67
ราชสีมาซอรัส 69
สิรินธรน่า 71
โคราชโตซูคัส 73
คิซิลคูมีมิส 75
ไทยโอดัส 77
โคราชโตดัส 79
อะโครไรโซดัส 81
เอกสารอ้างอิง 83
กิ้งก่าของประเทศไทย
Family: Thaisauridae
ดัดแปลงจาก: Mazin et al. (1991)
ไทยซอรัสนั้นมีลักษณะเฉพาะ
ตัวอย่างหนึ่งคือฟันเป็นทรงกรวย
ผอมและเรียบเนียน โดยฟันบน
(สีเขียว) ยาวกว่าฟันล่าง (สีฟ้า)
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 20-30 เซนติเมตร
อายุ: 250-210 ล้านปี ต้นยุคไทรแอสซิก
สถานที่ค้นพบ: พัทลุง หมวดหินชัยบุรี
1
ไทยซอรัส จงลักษณมณีอิ
Thaisaurus chonglakmanii
ไทยซอรัส เป็นสัตว์เลื้อยคลานทะเลในกลุ่มอิกธิโอซอรีเจีย โดยเป็นเหมือน
ต้นตระกูลของอิกธิโอซอร์ตัวอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทั้งปลาและไดโนเสาร์ ในประเทศไทย
นั้นมีการค้นพบกะโหลก ซี่โครง ขาหน้า และต้นขาหลังของไทยซอรัส
แม้ยังไม่พบส่วนปลายของขาหลังแต่ลักษณะของกระดูกต้นขา (Femur)
สันนิษฐานได้ว่าขาหลังยังคงเป็นตีน ทำให้มันสามารถตะเกียกตะกาย
ขึ้นมาบนบกได้บ้าง ส่วนขาหน้าของมันเป็นใบพายช่วยในการ
ว่ายน้ำ แสดงถึงวิวัฒนาการของอิกธีโอซอร์จากบกสู่
ทะเล มันถูกค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2531 โดย
ดร.จงพันธ์ จงลักษมณี ที่จ.พัทลุง
ที่มา : Kasidit (2022)
แม้ไม่มีการพบหางของไทยซอรัส แต่
เมื่อเปรียบเทียบกับญาติของมันอย่าง
สเคลอโรคอร์มัส (Sclerocormus)
ทำให้สันนิษฐานได้ว่ามันมีหางที่
เรียวยาวเกินกว่าครึ่งลำตัว
32
เต่าแห่งรุ่งอรุณ
Clade: Testudinata
ในปี พ.ศ. 2523 – 2524 ในพื้นที่ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์
อ.ชุมแพ และ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ได้พบซากดึกดำบรรพ์ของ
เต่ารุ่นดั้งเดิม (Primitive Testudinate) ที่พัฒนากระดองได้
อย่างสมบูรณ์ในสกุลโปรกาโนคีลิสเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย
จากการศึกษาพบว่าเป็นชนิดใหม่ของโลก
ที่มา : France De LAPPARENT (1985)
43
โปรกาโนคีลิส รุจาเอ
Proganochelys ruchae
โปรกาโนคีลิส เป็นเต่าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่ที่มีการพบมา
มันมีกระดองที่พัฒนาสมบูรณ์แล้วและสามารถอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ
มันถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศเยอรมนี แล้วในเวลาต่อมาได้มีการพบกระดองที่
คล้ายกันในประเทศไทย จากการศึกษาในภายหลัง
ทำให้พบว่าเป็นชนิดใหม่ของโลก จึงมีการตั้ง
ชื่อชนิดใหม่เพื่อเป็นเกียรติแก่ อ.รุจา อิงคะวัต
นักบรรพชีวินวิทยาของกรมทรัพยากรธรณีในขณะนั้น
นอกจากนี้ในแหล่งเดียวกันเรายังพบปลา หอย ไฟโตซอร์
รวมทั้งสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกอีกหลายชนิด
อาศัยอยู่อีกด้วย
ประเภท: กินพืช
ขนาด: 50 เซนติเมตรหรือมากกว่า
อายุ: 220 ล้านปี ปลายยุคไทรแอสซิก
สถานที่ค้นพบ: เพชรบูรณ์และขอนแก่น หมวดหินห้วยหินลาด
54
กิ้งก่าแดนอีสาน
Clade: Sauropoda
อีสานโนซอรัสขณะยังมีชีวิตอาจมีลำตัวยาวประมาณ 8.3 เมตร และหนัก 1.3 ตัน
แต่จากในแหล่งขุดค้นเดียวกันก็ได้มีการค้นพบกระดูกต้นแขนขนาดใหญ่อีกชิ้น
ซึ่งนักวิจัยคาดว่าเป็นของอีสานโนซอรัสที่เกือบโตเต็มที่แล้ว
แต่ไม่สามารถยืนยันแน่ชัดได้ จึงให้ชื่อเป็น cf. Isanosaurus
โดยมันถูกประมาณขนาดไว้ที่ยาว 13.8 เมตรและหนัก 6 ตัน
ทำให้อีสานโนซอรัสเป็นไดโนเสาร์ซอโรพอดยุคแรกเริ่ม
ที่มีขนาดมหึมาเลยทีเดียว
ประเภท: กินพืช
ขนาด: 8-14 เมตร
อายุ: 210 ล้านปี ปลายยุคไทรแอสซิก?
สถานที่ค้นพบ: ชัยภูมิ หมวดหินน้ำพอง
65
อีสานโนซอรัส อรรถวิภัชน์ชิ
Isanosaurus attavipachi
อีสานโนซอรัส เป็นหนึ่งในไดโนเสาร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีการค้นพบในประเทศไทย
ถึงแม้ปัจจุบันสถานะทางด้านอายุของอีสานโนซอรัสจะยังคงเป็นปริศนาว่าพวกมัน
อยู่ในยุคไทรแอสซิกตอนปลายหรือจูแรสซิกตอนต้นกันแน่ แต่ด้วยขนาดอันมหึมา
ของอีสานโนซอรัส ทำให้มันเป็นหนึ่งในซอโรพอดยุคแรกเริ่มที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
อีสานโนซอรัสนั้นยังคงหลายลักษณะที่แสดงถึงความเก่าแก่ของมัน เช่น ไม่มีถุงลมที่
ซับซ้อน ฯลฯ ซึ่งพบในซอโรพอดเก่าแก่อื่น ๆ อย่างวัลคาโนดอน (Vulcanodon)
และ บาราปาซอรัส (Barapasaurus)นอกจากนี้เรายังพบรอยของโรคมะเร็งใน
ขาหน้าของอีสานโนซอรัสตัวหนึ่งอีกด้วย
ฟอสซิลของอีสานโนซอรัสที่มี
กระดูกต้นขายาว 71 เซนติเมตร
แสดงลักษณะข้อต่อกระดูกต้นขา
ที่อยู่สูงเป็นเอกลักษณ์ ที่มา : Ghedoghedo (2009)
ฟอสซิลส่วนกระดูกต้นขาหน้า
(Humerus) ของ cf. Isanosaurus
ที่ถูกนำไปตรวจภายใต้
กล้องจุลทรรศน์พบว่ามีอาการของ
ที่มา : Jentgen-Ceschino B et al. (2020) มะเร็งชนิด Ewing sarcoma หรือ
เนื้องอกบริเวณกระดูกนั่นเอง
67
เต่าแห่งแดนสยาม
Clade: Testudinata
สยามโมคีลีส เป็นเต่าเก่าแก่ที่พบในภาคใต้ของประเทศไทย มันมี
ลักษณะใกล้เคียงกับเต่าโบราณที่พบทางประเทศจีนและเอเชียกลาง รวมถึง
มีอายุที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าในช่วงยุคจูแรสซิกประเทศไทย
บริเวณฝั่งตะวันตกไปถึงตอนใต้ได้รวมกับแผ่นดินใหญ่ทางฝั่งตะวันออก
ที่เรียกว่า แผ่นอนุทวีปอินโดจีน แล้วทำให้สัตว์บกสามารถอพยพเคลื่อนย้าย
ลงมาทางตอนใต้ได้จากการที่ฟอสซิลของมันถูกค้นพบคู่กับ
สัตว์น้ำจืดชนิดอื่น ๆ เช่น หอยน้ำจืด ปลาน้ำจืด
และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ฯลฯ ทำให้เราทราบว่า
มันเป็นเต่าน้ำจืดที่หากินตามบึงน้ำเป็นหลัก
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 30-50 เซนติเมตร
อายุ: 174-155 ล้านปี กลางยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: นครศรีธรรมราช หมวดหินคลองมีน
87
สยามโมคีลิส เพนินซูลาริส
Siamochelys peninsularis
ที่มา : Lauprasert et al. (2007) มีการพบซากดึกดำบรรพ์ส่วนกระดองสภาพ
ค่อนข้างสมบูรณ์ จากหมวดหินคลองมีน
ยุคจูแรสซิกตอนกลาง ที่บ้านมาบชิง ต.เขาขาว
อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จากการศึกษา
ในปี พ.ศ. 2545 พบว่าเป็นชนิดใหม่ของโลก
สยามโมคีลีสยังมีลักษณะใกล้เคียงกับเต่า
โบราณที่พบทางประเทศจีนและเอเชียกลาง
การค้นพบนี้เป็นหลักฐานอย่างดีว่าในช่วงยุค
จูแรสซิกประเทศไทยฝั่งตะวันตกไปถึงตอนใต้
ที่เรียกว่า แผ่นอนุทวีปไซบูมาสุ (Sibumasu
Terrane) ได้รวมกับแผ่นดินใหญ่ทางฝั่ง
ตะวันออก ที่เรียกว่า แผ่นอนุทวีปอินโดจีน
(Indochina Terrane) แล้วทำให้สัตว์บก
อพยพเคลื่อนย้ายลงมาทางตอนใต้ได้
89
กิ้งก่าแห่งลุ่มแม่น้ำหม่าเหมิน
Family: Mamenchisauridae
ฟันของมาเมนชิซอริด ที่มา : Suteethorn et al. (2013) กระดูกคอหมายเลข SM KS26−4
จากหมวดหินภูกระดึง Mamenchisaurus sp.
ที่ยาว 170 มม. และสูง 340 มม.
คาดว่าเจ้าของคอชิ้นนี้อาจมีลำตัวยาว
ที่มา : Suteethorn et al. (2013)
ประมาณ 10-12 เมตร
มาเมนชิซอริดเป็นหนึ่งในไดโนเสาร์ซอโรพอดที่มี
จำนวนกระดูกคอมากที่สุด
โดยมาเมนชิซอรัส โหฉวนเอนซิส
(Mamenchisaurus hochuanensis)
มีกระดูกสันหลังส่วนคอถึง 19 ชิ้นเลยทีเดียว
ประเภท: กินพืช
ขนาด: 25-30 เมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
98
มาเมนชิซอรัส
Mamenchisaurus sp.
มาเมนชิซอรัส เป็นไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณประเทศจีน
แต่ในปี พ.ศ. 2555 ก็ได้มีรายงานการค้นพบมาเมนชิซอรัสที่แหล่งขุดค้นภูดานม้า
จ.กาฬสินธุ์ ในหมวดหินภูกระดึง คาดว่ามีอายุอยู่ในช่วงยุคจูแรสซิก โดยพบเป็น
กระดูกสันหลังส่วนคอ 1 ชิ้น ที่มีสภาพเกือบสมบูรณ์เต็มไปด้วยร่องรอยโพรงถุงลม
และมีรูปร่างคล้ายกับกระดูกสันหลังส่วนคอชิ้นที่ 18 ของมาเมนชิซอรัส โหฉวนเอนซิส
(Mamenchisaurus hochuanensis) ของจีน อีกทั้งยังมีรูปร่างของก้านสันหลัง
(Neural spine) ที่แตกเป็นสองกิ่ง (Bifid) เหมือนกันอีกด้วย แต่เนื่องจากค้นพบโครง
กระดูกไม่สมบูรณ์ มาเมนชิซอรัสของไทยจึงไม่สามารถระบุชนิดได้ ส่วนหลักฐานอีกอย่าง
ของไดโนเสาร์วงศ์นี้ถูกค้นพบที่แหล่งขุดค้นภูน้อย จ.กาฬสินธุ์ โดยพบโครงกระดูกและฟัน
หลายร้อยชิ้นของมาเมนชิซอริดหลากหลายวัยรวมกัน โดยฟอสซิลฟันชิ้นที่ใหญ่ที่สุดบอก
เราได้ว่ามาเมนชิซอรัสของไทยอาจมีลำตัวยาวได้สูงสุดราว ๆ 25-30 เมตรเลย ฟอสซิล
จำนวนมากนี้จึงช่วยยืนยันถึงการกระจายตัวของมาเมนชิซอริดในประเทศไทยเป็นอย่างดี
นอกจากมาเมนชิซอรัสแล้วหมวดหินภูกระดึงยังมีการค้นพบ
ไดโนเสาร์อีกหลากหลายสายพันธุ์ทั้งออร์นิโทพอดขนาดเล็ก
สเตโกซอร์ รวมทั้งนักล่าอย่างพวกเมเทรียแคนโทซอริด
แสดงถึงความสมบูรณ์และหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
ในช่วงยุคจูแรสซิกของไทย
190
จระเข้แห่งแดนอินโดจีน
Family: Teleosauridae
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 5.5 เมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
ที่มา : Johnson MM et al. (2020) อินโดซิโนซูคัส กาฬสินธุ์เอนซิส
Indosinosuchus kalasinensis
121
อินโดซิโนซูคัส
Indosinosuchus spp.
อินโดซิโนซูคัส โปตาโมสยามเอนซิส
Indosinosuchus potamosiamensis
ที่มา : Martin et al. (2019)
อินโดซิโนซูคัส นั้นเป็นจระเข้ในกลุ่ม
เทลีโอซอริดี (Teleosauridae)
ที่เป็นวงศ์ของจระเข้ทะเล แต่มันอาศัยอยู่ในน้ำจืด
ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พบจระเข้ในกลุ่มนี้ที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด
ลักษณะภายนอกของพวกมันทั้ง 2 ตัวนั้นแทบจะไม่มี
ส่วนใดที่แตกต่างกันเลยมีเพียงกระดูกของมันเท่านั้น
ที่พบข้อแตกต่าง นั่นคือ ปากช่วงก่อนดวงตาสูงขึ้นช้า ๆ ในชนิดกาฬสินธุ์เอนซิส กับ
สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในชนิดโปตาโมสยามเอนซิส การที่เราพบมันอยู่กับสัตว์น้ำอื่น ๆ
ในพื้นที่ทำให้เรารู้ว่าบริเวณที่เราพบมันเคยเป็นแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์มาก่อน
123
เต่าแห่งภูน้อย
Family: Xinjiangchelyidae
ภูน้อยคีลิส เป็นเต่าที่สามารถหดหัวเข้าไปในกระดองได้ทั้งคอ ที่ถูกค้น
พบในแหล่งไดโนเสาร์ภูน้อย ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ในตอนล่างของหมวดหิน
ภูกระดึง โดยตั้งชื่อชนิดเพื่อเป็นเกียรติแก่รศ. ดร.กำธร ธีรคุปต์ ผู้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ด้านเต่าของประเทศไทยและเป็นผู้รวบรวมจัดเก็บตัวอย่างเต่าปัจจุบันของไทย
มันเป็นเต่าน้ำจืดที่มีลักษณะคล้ายเต่าจากจีนในยุคเดียวกัน
จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่บอกว่าหมวดหินภูกระดึง
อยู่ในยุคจูแรสซิกเช่นเดียวกับ
ที่ประเทศจีน
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 20-30 เซนติเมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
143
ภูน้อยคีลิส ธีรคุปติ
Phunoichelys thirakhupti
ภูน้อยคีลิสเป็นเต่าขนาดเล็กฟอสซิลกระดองของมัน
มีความกลมมนและมีขนาดเพียงแค่หนึ่งฝ่ามือเท่านั้น
ที่มา : Tong et al. (2014)
ชื่อสกุล ภูน้อยคีลิส แปลว่า เต่าแห่ง
ภูน้อย เพื่อบ่งบอกว่าเต่าชนิดนี้
ค้นพบที่แหล่งขุดค้นภูน้อย ส่วนชื่อ
ชนิด ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่
รศ. ดร.กำธร ธีรคุปต์ ผู้ซึ่งเป็น
ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเต่า
มือหนึ่งของประเทศไทย
145
เต่าแห่งกาฬสิ นธุ์
Family: Xinjiangchelyidae
กาฬสินธุ์นีมิสถูกพบที่ ต.ดินจี่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ โดยพบชิ้นส่วนกะโหลก และ
กระดองสภาพสมบูรณ์ แม้จะเป็นญาติกับภูน้อยคีลิสแต่กาฬสินธุ์นีมิสมีผิวกระดอง
ที่เรียบกว่า และกระดองหลังบริเวณคอมีส่วนเว้าเข้าไป ซึ่งภูน้อยคีลีสไม่มี
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 25-30 เซนติเมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
15
กาฬสินธุ์นีมิส ปราสาททองโอสถถิ
Kalasinemys prasarttongosothi
กาฬสินธุ์นีมิส เป็นเต่าน้ำจืดที่เป็นญาติกับภูน้อยคีลีส ซึ่งถึงแม้ว่าจะจัดอยู่
ในวงศ์เดียวกันกับภูน้อยคีลิส แต่กระดองของพวกมันทั้งคู่ก็มีความแตกต่างกัน
เช่น กระดองของกาฬสินธุ์นีมิสมีความเรียบกว่า ฯลฯ ชื่อของมันถูกตั้งเพื่อ
เป็นเกียรติแก่นพ. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้สนับสนุนงานศึกษาวิจัย
ด้านบรรพชีวินวิทยาในประเทศไทยการค้นพบของกาฬสินธุ์นีมิสก็มี
ความสำคัญเช่นเดียวกันกับภูน้อยคีลิส เป็นหลักฐาน
ว่าหมวดหินภูกระดึงอยู่ในยุคจูแรสซิก
เพราะฟอสซิลสัตว์ที่พบนั้น
มีลักษณะเหมือนกับสัตว์
ที่พบในยุคจูแรสซิก
จากประเทศจีน
ที่มา : Tong et al. (2019)
16
ปลาแห่งแดนอีสาน
Clade: Ginglymodi
อีสานอิกธิส เลิศบุศย์ศี
Isanichthys lertboosi
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 30-100 เซนติเมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
17
อีสานอิกธิส
Isanichthys spp.
อีสานอิกธิส เป็นปลากระดูกแข็งน้ำจืดที่มีลักษณะฟันแหลมคมเรียงกัน
เป็นแท่งดินสอประกอบกับขากรรไกรที่แข็งแรงทรงพลัง เป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ได้ว่า
ปลาชนิดนี้เป็นปลานักล่าโดยแท้ นอกจากนี้มันยังมีเกล็ดรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน
เรียกว่ากานอยด์ (Ganoid) ซึ่งในปัจจุบันสามารถพบได้ใน
ปลาบางกลุ่ม เช่น ปลาการ์ และปลาฉลามปากเป็ด ฯลฯ
อีสานอิกธิส พาลัสทริส ที่มา : Cavin & Suteethorn (2006)
Isanichthys palustris ที่มา : Deesri et al. (2014)
18
ปลาของประเทศไทย
Clade: Ginglymodi
ประเภท: กินพืช
ขนาด: 40-50 เซนติเมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
19
ไทยอิกธิส พุทธบุตรเอนซิส
Thaiichthys buddhabutrensis
ไทยอิกธิส เป็นปลากินพืชจากหมวดหินภูกระดึงที่ถูกพบเป็นจำนวนมาก ชื่อ
ชนิดของมันถูกตั้งตามวัดป่าพุทธบุตรที่เป็นที่เก็บรวบรวมตัวอย่าง โดยลักษณะที่ใช้
จำแนกมันออกจากปลากระดูกแข็งชนิดอื่น ๆ คือกระดูกแก้มที่มากกว่าปลาอื่น ๆ
ขากรรไกรของไทยอิกธิสมีฟันซี่เล็กแหลมเหมาะกับการใช้ครูดพืชน้ำเป็นอาหาร
ฟอสซิลเกล็ดของมันเป็นสีดำเพราะเคลือบด้วยอีนาเมลหรือ
สารเคลือบฟัน ทำให้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเกล็ดของ
พญานาค โดยเกล็ดของปลาชนิดนี้เป็น
เกล็ดประเภทกานอยด์ (ganoid)
เช่นเดียวกับอีสานอิกธิส
ฟอสซิลของไทยอิกธิส ที่มา : Cavin et al. (2013)
ที่มีสภาพสมบูรณ์
เช่นนี้สามารถพบได้ 20
เป็นจำนวนมากที่
แหล่งซากดึกดำบรรพ์
ปลาโบราณภูน้ำจั้น
ปลาแห่งโคราช
Order: Lepisosteiformes
ประเภท: กินทั้งพืชและเนื้อ
ขนาด: 35-45 เซนติเมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: นครราชสีมา หมวดหินภูกระดึง
21
โคราชอิกธิส จิบบัส
Khoratichthys gibbus
โคราชอิกธิส เป็นปลาน้ำจืดที่มีโหนกนูนขึ้นมาเด่นชัด ซึ่งแสดงลักษณะพื้นฐาน
ที่สุดของปลาในอันดับของปลาการ์ มันถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2540 และถูกตั้งชื่อในปี
พ.ศ. 2557 โดย ดร.อุทุมพร ดีศรี และ ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล และผู้เชี่ยวชาญ
ฟอสซิลปลาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ลำตัวของมันปกคลุมด้วยเกล็ดกานอยด์รูป
สี่เหลี่ยม มีเกล็ดตรงสันกลางหลังที่ยาวแหลมคล้ายหนาม ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กำลัง
พอดี ทำให้ปลาชนิดนี้มีโอกาสอาจจะตกเป็นเป้าหมายของนักล่าปลาหลายชนิด เช่น
จระเข้ ฯลฯ
ที่มา : Deesri et al. (2016)
22
ฟันมีเขาจากเฟอร์กานา
Order: Dipnoi
เฟอร์กาโนเซราโตดัสนั้นถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศคีร์กีซสถาน โดยได้ชื่อว่า
เฟอร์กาโนเซราโตดัส จูแรสซิคัส (Ferganoceratodus jurassicus) ก่อนจะพบชนิดอื่น ๆ
เช่น เฟอร์กาโนเซราโตดัส มาร์ตินนิ (Ferganoceratodus martini)
จากแหล่งภูน้ำจั้น จ.กาฬสินธุ์ และต่อมาคือชนิด เฟอร์กาโนเซราโตดัส แอนน์เคมเป
(Ferganoceratodus annekempae) ในแหล่งซากดึกดำบรรพ์ภูน้อย จ.กาฬสินธุ์
เฟอร์กาโนเซราโตดัส แอนเคมเป
Ferganoceratodus annekempae
ประเภท: กินทั้งพืชและเนื้อ
ขนาด: 30-100 เซนติเมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
23
เฟอร์กาโนเซราโตดัส
Ferganoceratodus spp.
เฟอร์กาโนเซราโตดัส เป็นปลาปอดสกุลหนึ่งที่พบในเอเชีย โดยมันมีอวัยวะที่
คล้ายปอดช่วยในการหายใจ ทำให้มันสามารถดำรงชีวิตในแหล่งน้ำที่ออกซิเจนต่ำได้
และในปลาปอดบางกลุ่มพบว่ามันมีพฤติกรรมจำศีลในหน้าแล้งด้วย พวกมันเป็นปลา
ที่มีครีบเป็นพู่เนื้อเช่นเดียวกับปลาซีลาแคนท์ ซึ่งปลากลุ่มนี้มีความใกล้ชิดกับสัตว์บก
มากกว่าปลาทั่วไป ปัจจุบันเราพบปลาปอดได้เพียงที่ทวีปออสเตรเลีย อเมริกาใต้
และแอฟริกาเท่านั้น แต่ในอดีตปลาพวกนี้มีการกระจายตัวที่กว้างขวางมาก ๆ อย่าง
เช่นในประเทศไทยที่พบถึง 2 ชนิดด้วยกัน
ที่มา : Cavin, Deesri & Chanthasit. (2020)
เฟอร์กาโนเซราโตดัส มาร์ตินนิ
Ferganoceratodus martini
24
ฟันสูง
Order: Hybodontiformes
ลักษณะฟอสซิลของฉลามที่พบนั้นแตกต่างจาก
ฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่สามารถพบเป็น
โครงร่างกระดูก หรือโครงร่างของสิ่งมีชีวิตทั้ง
ตัว แต่ฟอสซิลของฉลามส่วนใหญ่ จะพบเฉพาะ
ส่วนของฟัน เกล็ด และหนามบริเวณครีบหลัง
เนื่องจากฉลามเป็นปลากระดูกอ่อน ดังนั้นชิ้น
ส่วนที่แข็งที่สุดในร่างกายเท่านั้น ที่จะสามารถ
ถูกเก็บรักษาเป็นฟอสซิลได้
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 1.5-2 เมตร
อายุ: 150-145 ล้านปี ปลายยุคจูแรสซิก
สถานที่ค้นพบ: กาฬสินธุ์ หมวดหินภูกระดึง
25
อะโครดัส กาฬสินธุ์เอนซิส
Acrodus kalasinensis
อะโครดัส กาฬสินธุ์เอนซิส คือฉลามไฮโบดอนท์น้ำจืดในประเทศไทย
ถึงแม้ในทุกวันนี้ฉลามที่อยู่ในน้ำจืดจะเหลือน้อยมาก แต่ครั้งหนึ่ง ฉลามน้ำจืด
เคยเป็นหนึ่งในกลุ่มปลากระดูกอ่อนที่มีความหลากหลายสูงและกระจายตัวอยู่
ทั่วไป โดยอะโครดัสชนิดนี้เป็นฉลามน้ำจืดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยเท่่าที่มีการ
ค้นพบมา แต่กลับมีอายุทางธรณีกาลน้อยกว่าอะโครดัสชนิดอื่น ๆ
ในต่างประเทศ ฟันของอะโครดัส กาฬสินธุ์เอนซิสมีขนาดเล็ก
ยาวประมาณ 7-13 มิลลิเมตร ตัวฟันแบน ไม่มีปุ่มหรือยอดแหลม
ลักษณะฟันแสดงให้เห็นถึงชนิดของอาหาร นั่นคืิอสัตว์เปลือกแข็ง
เช่น กุ้ง ปู และหอย เนื่องจากฟันประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อ
ขบเปลือกและกระดองของสัตว์น้ำโดยเฉพาะ
ที่มา : Cuny et al. (2013)
26
ชาละวัน
Family: Pholidosauridae
ประเภท: กินเนื้อ ชื่อ ชาละวัน จระเข้ใน
ขนาด: 7-10 เมตร ตำนานแห่งเมืองพิจิตร
อายุ: 145-140 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส ถือเป็นการนำตำนาน
สถานที่ค้นพบ: หนองบัวลำภู หมวดหินภูกระดึง พื้นบ้านมาตั้งเป็นชื่อทำให้
ชื่อดูติดหูจำง่าย และเข้า
ถึงผู้คนได้ง่ายมากขึ้น
2107
ชาละวัน ไทยแลนดิคัส
Chalawan thailandicus
ในช่วงปี พ.ศ. 2522 มีการพบกรามล่างของสัตว์กลุ่มจระเข้ขนาดใหญ่ใน
จ.หนองบัวลำภูในหมวดหินภูกระดึง และได้รับการตั้งชื่อว่า "ซูโนซูคัส ไทยแลน
-ดิคัส" เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับจระเข้วงศ์โกนิโอโฟลิดี ต่อมามีการค้นพบขา
กรรไกรที่สมบูรณ์กว่าและกะโหลกของมันเพิ่มเติมจากจ.มุกดาหาร ทำให้ทราบว่า
มันมีความคล้ายกับโฟลิโดซอร์มากกว่า จึงถูกตั้งชื่อใหม่เป็น "ชาละวัน ไทยแลน
-ดิคัส" นั่นเอง แม้ส่วนของกะโหลกนั้นจะไม่ได้สมบูรณ์นัก แต่ก็ทำให้เรารู้ได้ว่า
ขนาดของมันนั้นใหญ่และน่าสะพรึงกลัวไม่แพ้โฟลิโดซอร์ตัวอื่น ๆ เลย ชาละวัน
อาศัยอยู่ในน้ำจืดหรือน้ำกร่อยเช่นเดียวกับกับซาร์โคซูคัส (Sarcosuchus) ญาติ
ของมัน โดยจะคอยซุ่มเงียบใต้ผิวน้ำและพุ่งขึ้นมาจับไดโนเสาร์ผู้เคราะห์ร้ายกิน
กะโหลกขนาดใหญ่ของชาละวันที่ ที่มา : Martin et al. (2014)
มีรูปร่างยาวคล้ายกับตะโขง
แต่หนาและแข็งแรงกว่ามาก
กะโหลกนี้มีไว้เพื่อจับเหยื่อ
ขนาดใหญ่ ส่วนปลายมีร่องเว้า
เปรียบเสมือนตัวล็อคไม่ให้เหยื่อ
ของมันหลุดไปได้
2181
เต่ายักษ์
Family: Macrobaenidae
ฟอสซิลของยักษ์คีมิสถูกพบในชั้นหิน
ตอนบนของหมวดหินภูกระดึง จาก
บ้านห้วยยาง อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์
กระดองที่พบมีสันปรากฎอยู่บนหลัง
กระดอง นอกจากจะพบชิ้นส่วนกระ
ดองจากจ.กาฬสินธุ์แล้ว ยังมีการพบชิ้น
ส่วนกระดองที่ อ.โนนสัง
จ.หนองบัวลำภู และอ.คำชะอี
จ.มุกดาหาร ซึ่งจัดเป็นชนิดเดียวกัน
ประเภท: กินเนื้ อ
ขนาด: 70 เซนติเมตร
อายุ: 145-140 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: กาฬสิ นธุ์ มุกดาหาร หมวดหินภูกระดึง
29
ยักษ์คีมิส มัลติพอร์คาตา
Yakemys multiporcata
ยักษ์คีมิส เป็นเต่าดึกดำบรรพ์จากยุคครีเทเชียสตอนต้นสกุลใหม่
ของโลก มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่หากเทียบกับญาติ ๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน
โดยประมาณความยาวกระดองไว้กว่า 70 ซม. กระดองมีความกลม ต่ำมีสัน
นูนหลายสันบริเวณกระดอง การพบยักษ์คีมิสที่ไทยนั้นแสดงให้เห็นถึง
หลักฐานการขยายตัวของเต่ากลุ่มนี้ที่มาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดย
ลักษณะของเต่าสกุลนี้เหมาะกับการอาศัยอยู่ในน้ำเป็นหลัก
ที่มา : Tong et al. (2021)
30
เต่าพระราชา
Superfamily: Trionychia
บาซิโลคีลิส นั้นเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่มีการค้นพบในไทย มันเป็นเต่า
ในกลุ่มของตะพาบ ชื่อของมันถูกตั้งไว้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80
พรรษา โดยชื่อสกุล หมายถึง “เต่าพระราชา” และชื่อชนิด มีความหมายว่า "มีชีวิต
ยิ่งยืนนาน” หรือ “ทรงพระเจริญ”
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 1 เมตร
อายุ: 145-140 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: มุกดาหาร หมวดหินภูกระดึง
31
บาซิโลคีลิส แมคโครไบออส
Basilochelys macrobios
แม้ขนาดจะดูใหญ่ แต่สำหรับสัตว์จำพวกตะพาบ
ขนาดของมันถือว่าไม่ได้ใหญ่โตมากนักเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
อย่างตะพาบม่านลาย (Asian narrow-headed softshell
turtle; Chitra chitra) ที่สามารถโตได้ถึง 1.5 เมตร
ที่มา : Tong et al. (2009)
มีการค้นพบฟอสซิลกระดองของบาซิโลคีลิสถึง 2 ตัว
ด้วยกันโดยพวกมันอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์
ในท่านอนหงายท้องโดยความยาวของมันเกือบถึง
1 เมตรทั้งคู่ และมีความกว้างราว ๆ 85 เซนติเมตร
32
กินรีจำแลง
Clade: Ornithomimosauria
มีการค้นพบฟอสซิลรอยประทับขนของลูกออร์นิโทมิมัส
และร่อยรอยของขนปีกบนกระดูกแขนของตัวเต็มวัย
ทำให้เราทราบว่าไดโนเสาร์กลุ่มนี้รวมทั้งกินรีมิมัสจะมี
ขนปกคลุมร่างกายแตกต่างกันไปตามอายุคล้าย
นกกระจอกเทศหรือนกแคสโซแวรี (Cassowary)
ที่มา : Buffetaut et al. (2009)
ขาที่เรียวยาวของกินรีมิมัส
เหมาะกับการเดินทางและ
วิ่งหนีผู้ล่าได้รวดเร็ว
ที่มา : Zelenitskyet al. (2012)
ประเภท: กินพืช
ขนาด: 1-2 เมตร
อายุ: 130 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: ขอนแก่น หมวดหินเสาขัว
33
กินรีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส
Kinnareemimus khonkaenensis
กินรีมิมัส เป็นไดโนเสาร์ออร์นิโทมิโมซอร์ยุคแรกเริ่ม ฟอสซิลส่วนที่ถูก
ค้นพบประกอบไปด้วยส่วนของกระดูกสันหลังและกระดูกขาส่วนต่าง ๆ
นักบรรพชีวินรู้ได้ว่ามันเป็นเจ้าลมกรดและมีร่างกายปกคลุมไปด้วยขนนก
จากการเทียบญาติของมันอย่างแกลลิมิมัส (Gallimimus) ที่มีขนและวิ่งได้ไว
ถึง 42-56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การวิ่งจึงเป็นวิธีการหลักที่พวกมันใช้ในการ
หลบหนีศัตรู อย่างไรก็ดี เช่นเดียวกับนกกระจอกเทศในปัจจุบัน กินรีไมมัส
น่าจะมีพลังเตะที่มหาศาลจากขาและแข้งที่ยาวของมัน นอกจากชิ้นส่วน
ที่ถูกค้นพบดังกล่าวแล้ว ก็ไม่มีชิ้นส่วนอื่นใดถูกค้นพบอีกเลยจนปัจจุบัน
ทำให้เจ้ากินรีไมมัสมีความเร้นลับเฉกเช่นเดียวกับสัตว์ในตำนานที่มันได้ชื่อมา
ชื่อของมันมาจาก "กินรี" สัตว์ในป่า
หิมพานต์ที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์
ท่อนล่างเป็นนก มีปีกบินได้ ตามตำนาน
เล่าว่าอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เชิงเขา
ไกรลาส นับเป็นสัตว์ที่มีปรากฏในงาน
ศิลปะของไทยบ่อยครั้ง ส่วนในวรรณคดี
ไทยก็มีการอ้างถึงกินรีด้วยเช่นกัน
34
กิ้งก่าแห่งภูเวียง
Clade: Titanosauriformes
ภูเวียงโกซอรัส เป็นไดโนเสาร์ซอโรพอดจากยุคครีเทเชียสของประเทศไทยที่
ฟอสซิลมีความสมบูรณ์มาก ๆ และถูกค้นพบในหลายช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่นและ
โตเต็มวัย จากงานวิจัยโดย ดร.สุรเวช สุธีธร และคณะ ในปี ค.ศ.2009 ได้พบลักษณะ
ทางกระดูกของภูเวียงโกซอรัสที่เป็นเอกลักษณ์และลักษณะร่วมกับซอโรพอดกลุ่ม
ไททันโนซอริฟอร์มหลายชนิด เช่น แบรคคีโอซอรัส คามาราซอรัส และยูฮีโลปัส โดย
ลักษณะที่พบได้เฉพาะในภูเวียงโกซอรัสที่เด่นชัดคือ มีกระดูกสันหลังส่วนคอยืดยาวและ
มีทรงต่ำ แบนในด้านบนและล่าง เช่นเดียวกันกับซอโรพอดชนิดอื่น ๆ พวกมันมีอัตรา
การเจริญเติบโตที่สูงเป็นอย่างมาก เมื่อพวกมันโตเต็มวัย ขนาดอันใหญ่ยักษ์จะถูกใช้
เป็นเครื่องป้องกันหลักที่ทำให้มันปลอดภัยจากการโจมตีของไดโนเสาร์นักล่าขนาดใหญ่
ประเภท: กินพืช
ขนาด: 15-20 เมตร
อายุ: 130 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: ขอนแก่น หมวดหินเสาขัว
35
ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน
Phuwiangosaurus sirindhornae
ภูเวียงโกซอรัสเป็นไดโนเสาร์ที่ถูกพบ ที่มา : Kasidit (2022)
กระดูกสมบูรณ์มากที่สุดในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโครงที่
สมบูรณ์ที่สุดถูกค้นพบที่ภูกุ้มข้าว
จ. กาฬสินธุ์ โดยเป็นตัวยังโตไม่เต็มที่
ทราบได้จากโครงกระดูกต้นฉบับจาก
ขอนแก่นที่มีลำตัวใหญ่กว่ามาก ภายในหลุมขุดค้นนี้ยังพบทั้งฟัน
ของสไปโนซอร์ รวมทั้งโครงกระดูกของซอโรพอดที่แตกต่างชนิดกัน
อีกอย่างน้อย 3 โครงอีกด้วย สันนิษฐานได้ว่าที่ตรงนี้เคยเป็นแอ่ง
รวมของซากสัตว์ที่ไหลมาตามกระแสน้ำ
กระดูกต้นขาหลัง (Femur)
ขนาด 132 ซม. ของภูเวียงโกซอรัส
ตัวเต็มวัยถูกค้นพบที่อ.ภูเวียง
จ.ขอนแก่น จากการเปรียบเทียบ
พบว่าขาชิ้นนี้มีลักษณะคล้ายขาของ
แบรคคีโอซอรัสและคามาราซอรัส
ที่มา : Kasidit (2022)
36
จอมโจรแห่งสายลม
Clade: Megaraptora
ลักษณะกระดูกหน้าแข้งที่ยาวเรียว
ของวายุแรพเตอร์ทำให้ทราบว่ามัน
เป็นนักล่าที่ใช้ความเร็วเป็นหลัก
มันสามารถจับเหยื่อที่หนีได้เร็ว
อย่างกินรีมิมัสได้อย่างไม่ลำบาก
ที่มา : Samathi et al. (2019)
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 4-4.5 เมตร
อายุ: 130 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: หนองบัวลำภู หมวดหินเสาขัว
37
วายุแรพเตอร์ หนองบัวลำภูเอนซิส
Vayuraptor nongbualamphuensis
ในไดโนเสาร์กลุ่มเมกะแรพเตอร่านั้นมีลักษณะ
ที่สำคัญ คือ ในกระดูกของพวกมันมีช่องอากาศ
ทำให้ไดโนเสาร์น้ำหนักเบาลง ช่วยในเรื่องความเร็ว
ซึ่งเราพบลักษณะนี้ในเมกะแรพเตอแรนหลายชนิดมาก
และคาดว่าในวายุแรพเตอร์กับภูเวียงเวเนเตอร์ก็มีเช่นกัน
วายุแรพเตอร์ นั้นเป็นไดโนเสาร์นักล่ากลุ่ม
เมกะแรพเตอรา มันถูกตั้งชื่อในปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา
โดย ดร.อดุลย์ สมาธิ นักบรรพชีวินวิทยาและอาจารย์
จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และคณะนักวิจัยโดยตั้ง
ชื่อตาม "พระพาย" เพื่อสื่อว่ามันเป็นไดโนเสาร์ที่มีความ
ว่องไว มันถูกสันนิษฐานว่ามีใบหน้าที่ยาว รวมถึงฟัน
และกรงเล็บที่ยาวและแหลมคมซึ่งช่วยในการจับคว้า
เหยื่อที่ว่องไว แต่การจัดจำแนกกลุ่มของวายุแรพเตอร์
นั้นเป็นไปได้ยากเพราะฟอสซิลที่พบค่อนข้างน้อยของ
มัน มีเพียงหน้าแข้งและส้นตีนที่รวมกัน ช่วงของ
กระดูกบ่า น่อง ซี่โครง นิ้วมือ นิ้วตีน และหัวหน่าว
38
นักล่าแห่งภูเวียง
Clade: Megaraptora
ภูเวียงเวเนเตอร์ เป็นไดโนเสาร์ในกลุ่มเมกะแรพเตอร่าที่ไม่ได้อยู่ในวงศ์เมกะ-
แรพเตอริดี ซึ่งนับว่ามีความใกล้เคียงกับฟุกุอิแรพเตอร์ (Fukuiraptor) จากญี่ปุ่น
โดยไดโนเสาร์ในกลุ่มนี้ความสัมพันธ์กับไดโนเสาร์กลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยแน่ชัด แต่ใน
ปัจจุบันคาดว่าพวกมันน่าจะอยู่ในกลุ่มของไดโนเสาร์ที่มีขนนก มันเป็นนักล่าขนาด
กลางที่มีความว่องไวเป็นอย่างยิ่ง มันมีอาวุธหลักเป็นเล็บตีนหน้าขนาดใหญ่ที่ใช้โจมตี
เหยื่อ ก่อนที่จะใช้ฟันแหลมคมในปากของมันปิดฉาก อย่างไรก็ดี เล็บของ
มันยังคงเล็กกว่าเมกะแรพเตอร่าตัวอื่น ๆ และมีลักษณะที่
ค่อนข้างเก่าแก่ มันจึงถูกจัดเป็นเมกะแรพเตอแรน
ที่มีลักษณะโบราณที่สุดในปัจจุบัน
ที่มา : Samathi et al. (2019)
39
ภูเวียงเวเนเตอร์ แย้มนิยมมิ
Phuwiangvenator yaemniyomi
ภูเวียงเวเนเตอร์ถือเป็นนักล่าขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ในระบบนิเวศน์ที่มันอยู่อาศัย ท่ามกลางนักล่ามากกว่า 4 ชนิด
อย่างวายุแรพเตอร์ สยามโมไทแรนนัส สยามโมซอรัส และคาร์คาโรดอนโทซอริด โดยการที่มีนักล่ามากขนาดนี้ใน
พื้นที่เดียวกัน บ่งบอกถึงการแบ่งบทบาทหน้าที่
ในระบบนิเวศทั้งวิธีการ ช่วงเวลาหรือ
แม้แต่ชนิดของเหยื่อที่อาจจะ
แตกต่างกันออกไป
ชื่อของมันหมายถึง
"นักล่าแห่งเทือกเขาภูเวียง"
ส่วนชื่อชนิด "แย้มนิยมมิ"
ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้แก่
คุณสุธรรม แย้มนิยม อดีตข้าราชการกรมทรัพยากรธรณี ผู้ค้นพบกระดูก
ไดโนเสาร์ชิ้นแรกของประเทศไทยที่อุทยานแห่งชาติภูเวียงเมื่อ 40 กว่าปี
ที่แล้ว อันนำมาสู่การศึกษาวิจัยไดโนเสาร์ในประเทศไทยในเวลาต่อมา
ที่มา : Samathi et al. (2019) ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 6 เมตร
อายุ: 130 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: หนองบัวลำภู หมวดหินเสาขัว
40
กิ้งก่าแห่งแดนสยาม
Family: Spinosauridae
มีการศึกษาออกซิเจนไอโซโทปของฟันสยามโมซอรัส
พบว่าสยามโมซอรัสมีพฤติกรรมคล้ายกับพวกจระเข้และ
เต่าน้ำจืด คืออยู่ใกล้กับแหล่งน้ำเป็นหลักและยังพบ
อีกว่าสยามโมซอรัสอยู่ในน้ำมากกว่าไดโนเสาร์
สไปโนซอริดตัวอื่น ๆ อย่างสไปโนซอรัสเสียอีก
มีฟันของซิโนไพลโอซอรัส (Sino
-pliosaurus) จากจีนที่ปัจจุบัน
คาดว่ามันเป็นของสไปโนซอริด
และน่าจะเป็นของสยามโมซอรัสด้วย
ที่มา : Buffetaut et al. (2008)
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 7-9 เมตร
อายุ: 130 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: ขอนแก่น หมวดหินเสาขัว
41
สยามโมซอรัส สุธีธรนิ
Siamosaurus suteethorni
สยามโมซอรัส เป็นไดโนเสาร์ตัวแรกที่มีการตั้งชื่อขึ้นในประเทศไทยมันเป็น
ไดโนเสาร์สไปโนซอริดที่ปกติแล้วกินปลาเป็นอาหารหลัก สังเกตได้จากฟันทรง
กรวยที่เหมาะกับการจับปลาของมัน ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่เพื่อใช้ข่มขู่ไม่ให้
นักล่าตัวอื่น ๆ เข้ามาคุกคามในระหว่างที่มันหากิน อย่างไรก็ดี สยามโมซอรัส
สามารถล่าเหยื่อบนบกได้เช่นกันในยามที่แหล่งน้ำขาดแคลน โดยอาจจับลูก
ไดโนเสาร์หรือเทอโรซอร์กินเป็นหลัก ฟอสซิลของที่ถูกค้นพบมีเพียงฟันเท่านั้น
ที่มา : Tor (2010) ฟันของสไปโนซอร์จะฟันมีลักษณะเป็นทรง
กรวย มีแนวร่อง และมีสันคล้ายฟันของ
จระเข้ต่างตรงที่ฟันสยามโมซอรัสจะโค้งไป
ทางด้านหลังส่วนฟันจระเข้จะโค้งเข้าหาลิ้น
โดยฟันของสยามโมซอรัสค่อนข้างตรง
และไม่ค่อยมีรอยหยักมากเท่าไหร่
นอกจากสยามโมซอรัสแล้วเรายังพบ ที่มา : Samathi et al. (2021)
กระดูกหางของสไปโนซอร์อีกชนิด
จากภูเวียงด้วย ซึ่งกระดูกเหล่านี้มี
ความคล้ายกับของคามาริลลาซอรัส
(Camarillasaurus) จากสเปน
42
ทรราชแห่งแดนสยาม
Clade: Coelurosauria ?
ไดโนเสาร์กลุ่มซีลูโรซอร์ (Coelurosaur)
ถูกคิดว่าเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนนกปกคลุม
ร่างกายเนื่องจากไดโนเสาร์ในกลุ่มนี้ เช่น
จูราเวเนเตอร์ (Juravenator) และยูไทแรนนัส
(Yutyrannus) ล้วนแล้วแต่มีรอยประทับขนทั้งสิ้น
ประเภท: กินเนื้อ
ขนาด: 6.5-7 เมตร
อายุ: 130 ล้านปี ต้นยุคครีเทเชียส
สถานที่ค้นพบ: ขอนแก่น หมวดหินเสาขัว
ซากฟอสซิลของมันถูกพบเป็นครั้ง ที่มา : Samathi (2019)
แรกที่หลุมขุดค้นที่ 9 ที่
43
ภูประตูตีหมา อุทยานแห่งชาติ
ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดย
คุณสมชัย เตรียมวิชานนท์
นักธรณีวิทยา กรมทรัพยากร
-ธรณี ประกอบด้วยกระดูกสะโพก
1 ชิ้น กระดูกเชิงกรานด้านซ้าย
ที่วางตัวฝังอยู่ใต้กระดูกสันหลัง