1หน่วยการเรียนรู้ท่ี ทศั นธาตแุ ละหลักการออกแบบ
5เวลา ชวั่ โมง
1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ัด
ศ 1.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์การใชท้ ัศนธาตุและหลกั การออกแบบในการสือ่ ความหมายในรูปแบบตา่ งๆ
ม.4-6/2 บรรยายจดุ ประสงคแ์ ละเนอ้ื หาของงานทัศนศิลป์ โดยใชศ้ ัพท์ทางทศั นศิลป์
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ทศั นธาตุมคี วามสาคญั ตอ่ การออกแบบผลงานทัศนศลิ ป์ ผอู้ อกแบบจะตอ้ งรู้และเข้าใจองคป์ ระกอบหลัก
ในการออกแบบ และประเภทของงานออกแบบ เพื่อให้การสรา้ งสรรค์ผลงานมคี วามสมบรู ณ์
3 สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1) ทศั นธาตแุ ละหลกั การออกแบบ
2) ศพั ทท์ างทัศนศิลป์
3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
(พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา)
4 สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการวิเคราะห์
2) ทักษะการนาความรูไ้ ปใช้
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5 คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
การออกแบบโปสเตอรเ์ ผยแพรค่ วามรู้เก่ียวกับประชาคมอาเซียน
7 การวัดและการประเมินผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ทัศนธาตุและหลักการออกแบบ
7.2 การประเมินระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1) ตรวจใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง ทัศนธาตุ
2) ตรวจใบงานท่ี 1.2 เรื่อง หลักการออกแบบ
3) ตรวจใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง ประเภทของงานออกแบบ
4) ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน
5) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน
6) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม
8) สังเกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
7.3 การประเมนิ หลังเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง ทัศนธาตุและหลกั การออกแบบ
7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจผลงานโปสเตอร์เผยแพร่ความรเู้ ก่ียวกับประชาคมอาเซียน
8 กจิ กรรมการเรยี นรู้
นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1
เรอ่ื งท่ี 1 ทศั นธาตุ
1 ชว่ั โมง
วธิ สี อนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ขน้ั ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage)
1. ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมบริเวณโรงเรยี น แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั บอกว่า นักเรยี นเห็น
อะไรบา้ ง
2. ครูนาภาพวาดระบายสีทวิ ทัศนต์ ่างๆ มาใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ในประเด็น
ทก่ี าหนด
3. ครูอธบิ ายเชอื่ มโยงใหน้ ักเรยี นเข้าใจองค์ประกอบสาคัญทที่ าใหภ้ าพวาดระบายสมี ีความสวยงาม
ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore)
นกั เรียนรวมกลมุ่ กนั กลมุ่ 7 คน ตามความสมคั รใจ แล้วให้แต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาความรเู้ รื่อง ทศั นธาตุ
โดยจับสลากเลอื กศึกษา คนละ 1 หวั ขอ้ ดงั น้ี
- หมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรอื่ ง จดุ - หมายเลข 2 ศกึ ษาความร้เู รอื่ ง เส้น
- หมายเลข 3 ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง รปู รา่ ง-รปู ทรง - หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เร่ือง พื้นผวิ
- หมายเลข 5 ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง พื้นท่วี ่าง - หมายเลข 6 ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง น้าหนกั อ่อน-แก่
- หมายเลข 7 ศึกษาความรเู้ รื่อง สี
ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
สมาชกิ แต่ละคนผลดั กนั นาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาเล่าให้เพอื่ นในกลมุ่ ฟัง เรียงตามลาดับหมายเลข 1-7
ผลัดกันซักถามขอ้ สงสยั และอธบิ ายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชัดเจนตรงกนั
ขน้ั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ทศั นธาตุ แล้วผลัดกันเล่าผลงานในใบงานที่ 1.1 ของตนใหเ้ พอ่ื นฟงั
แล้วหลอมรวมเปน็ ผลงานของกลุม่
2. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายเก่ยี วกับองคป์ ระกอบของทศั นธาตกุ บั การสร้างสรรคผ์ ลงานทัศนศลิ ป์
แล้วเขยี นสรปุ เปน็ แผนผงั ความคิดลงในกระดาษที่ครแู จกให้
ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบผลนักเรยี นจากการทาใบงานท่ี 1.1
2. ตัวแทนแตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอผลการอภิปรายหนา้ ชน้ั เรียน โดยครูและเพอื่ นกลมุ่ อน่ื รว่ มกนั แสดงความ
คิดเหน็ และใหข้ อ้ เสนอแนะ
3. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความรูเ้ รื่อง ทัศนธาตุ
เร่ืองที่ 2 หลกั การออกแบบ
1 ชั่วโมง
วิธีสอนแบบ กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์
ขน้ั ที่ 1 นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพทีก่ าหนด แล้วให้นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นวา่ ภาพดังกลา่ วมีการนาทศั นธาตุ
มาใช้ในการออกแบบตกแต่งอยา่ งไรบา้ ง
2. ครอู ธิบายเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรียนเขา้ ใจความสาคญั ของทัศนธาตกุ บั การออกแบบ
ขั้นท่ี 2 จดั การเรียนรู้
1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความร้เู รื่อง หลกั การออกแบบ จากหนงั สอื เรยี น โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นที่
กาหนด โดยแบ่งประเด็นในการศกึ ษาใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกล่มุ ตามความเหมาะสม
2. สมาชิกแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภิปรายความรู้เก่ยี วกบั หลักการออกแบบ โดยครคู อยอธบิ ายเพมิ่ เตมิ เพอ่ื ให้
นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจชัดเจนมากยิง่ ขน้ึ
3. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันทาใบงานท่ี 1.2 เรื่อง หลักการออกแบบ เม่ือทาเสรจ็ แลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งและเติมเตม็ คาตอบให้สมบูรณ์ จากน้นั นาสง่ ครูตรวจ
ขน้ั ท่ี 3 สรุปและนาหลักการไปประยกุ ต์ใช้
1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สรปุ ความรู้เรอ่ื ง หลกั การออกแบบ ในประเด็นทก่ี าหนด
2. ครแู นะนาใหน้ ักเรยี นนาความรู้ทไ่ี ด้จากการศึกษาไปประยุกตใ์ ช้ในการศกึ ษาและออกแบบผลงานทัศนศลิ ป์
ของตนเองตอ่ ไปในอนาคต
ข้นั ท่ี 4 วดั และประเมินผล
ครูวดั และประเมินผลนกั เรียนจากการทาใบงานท่ี 1.2
เรอ่ื งท่ี 3 ประเภทของงานออกแบบ
2 ชั่วโมง
วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุม่
ขน้ั ที่ 1 มีผูน้ าและมกี ารแบง่ หนา้ ทีร่ ับผิดชอบ
1. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ และเลขานกุ ารกลุ่ม โดยครเู น้นยา้ ใหน้ กั เรยี นทุกคนรว่ มมอื และ
ชว่ ยเหลอื กันตลอดการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
2. ครนู าภาพการออกแบบผลงานประเภทต่างๆ มาให้นกั เรียนดู แลว้ ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็
ในประเด็นทีก่ าหนด
ขนั้ ที่ 2 วางแผน
ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวางแผนและกาหนดขอบเขตในการศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง ประเภทของงาน
ออกแบบ จากหนงั สือเรยี น หอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ
ขัน้ ที่ 3 ปฏิบัติตามแผน
1. สมาชิกแต่ละกลมุ่ ร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง ประเภทของงานออกแบบ ตามแผนท่ีไดว้ างไว้ในข้ันที่ 2
จากหนังสอื เรยี น หอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
2. ครูสมุ่ นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ใหบ้ อกลักษณะของงานออกแบบแตล่ ะประเภท ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งและ
อธบิ ายเพม่ิ เติมเพ่อื ใหน้ ักเรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจชัดเจนมากยง่ิ ขน้ึ
3. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1.3 เรื่อง ประเภทของงานออกแบบ เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ ชว่ ยกัน
ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและเตมิ เตม็ คาตอบใหส้ มบรู ณ์
ขัน้ ท่ี 4 ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน
ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานในใบงานท่ี 1.3 หนา้ ช้นั เรยี น โดยครแู ละเพอ่ื นกล่มุ อน่ื รว่ มกนั
แสดงความคิดเหน็ และใหข้ อ้ เสนอแนะ
ขั้นที่ 5 ปรับปรงุ และพัฒนา
1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ปรับปรุงและพฒั นาผลงานในใบงานท่ี 1.3 ตามคาแนะนาทไ่ี ด้รับใหถ้ ูกต้องสมบูรณ์
จากนน้ั นาส่งครูตรวจ
2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้เรอ่ื ง ประเภทของงานออกแบบ
เร่อื งที่ 4 ศพั ทท์ างทัศนศลิ ปก์ บั งานทัศนศลิ ป์
1 ชว่ั โมง
วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการเรยี นความรู้ความเขา้ ใจ
ขน้ั ท่ี 1 สังเกต ตระหนัก
1. ครูแจกภาพผลงานทางทศั นศิลป์ ให้นกั เรยี นกลุ่มละ 1 ภาพ แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวิเคราะห์และเขยี น
บรรยายภาพผลงานดังกลา่ วลงในกระดาษท่ีครแู จกให้
2. ครูสุม่ นกั เรยี น 1-2 กลมุ่ ใหอ้ ่านคาบรรยายภาพผลงานทางทัศนศลิ ป์ที่กลมุ่ ของตนเองไดร้ ับให้เพ่ือนฟงั
หนา้ ชั้นเรียน แลว้ ครูบรรยายภาพผลงานดังกลา่ วให้นักเรยี นฟังอกี ครง้ั โดยใชค้ าศัพท์ทางทศั นศิลป์
ประกอบการบรรยาย
3. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ การบรรยายภาพผลงานทางทศั นศิลป์ของครูน้นั เป็นการบรรยาย
โดยใชค้ าศพั ท์ทางทศั นศลิ ป์ ซึง่ เป็นคาศพั ทเ์ ฉพาะในวงการทัศนศลิ ป์ ซึง่ คาศพั ทเ์ หล่านีเ้ มื่อนามาใชป้ ระกอบ
การบรรยายผลงานทางทศั นศลิ ป์จะชว่ ยให้เขา้ ใจในชน้ิ งานตามหลกั การของการสร้างงานทัศนศลิ ป์
ขั้นท่ี 2 วางแผนปฏบิ ตั ิ
ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวางแผนในการศกึ ษาความรูเ้ รอื่ ง ศัพทท์ างทัศนศิลปก์ ับงานทศั นศิลป์
จากหนงั สือเรยี น หอ้ งสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ทก่ี าหนด และกาหนดประเดน็
ในการศกึ ษาให้สมาชิกแตล่ ะคนตามความเหมาะสม
ขนั้ ท่ี 3 ลงมือปฏิบัติ
สมาชกิ แต่ละกลมุ่ รว่ มกันศกึ ษาความรู้เร่ือง ศพั ทท์ างทัศนศิลป์กบั งานทัศนศลิ ป์ จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ
และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ตามแผนทีไ่ ด้วางไวใ้ นขนั้ ท่ี 2
ขั้นท่ี 4 พฒั นาความรู้ ความเขา้ ใจ
1. ครูแจ้งใหน้ กั เรียนทราบว่า จะใหน้ ักเรยี นแข่งขนั กันอธบิ ายความหมายของคาศัพทท์ างทศั นศลิ ป์ โดยให้
ตัวแทนแตล่ ะกลุม่ ผลดั กนั จบั สลากบตั รคา คร้งั ละ 1 ใบ แล้วอา่ นออกเสยี งให้เพอ่ื นฟงั จากน้นั ให้แต่ละกลุม่
เขียนอธิบายความหมายของคาศัพทด์ งั กลา่ วลงในกระดาษทค่ี รูแจกให้
2. เมือ่ แต่ละกลุม่ เขียนอธิบายความหมายของคาศพั ทท์ างทัศนศิลปค์ รบทุกขอ้ แลว้ ให้แลกเปลยี่ นกันตรวจกับ
เพ่ือนกลุ่มอน่ื ตามแนวเฉลยทคี่ รแู จกให้ ครูประกาศชมเชยกล่มุ ทไ่ี ดค้ ะแนนสูงสุด เพือ่ เป็นการเสริมกาลังใจ
ข้นั ท่ี 5 สรปุ
ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรูเ้ ร่ือง ศัพท์ทางทัศนศลิ ปก์ บั งานทัศนศลิ ป์
ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันออกแบบและจดั ทาโปสเตอรเ์ ผยแพร่ความรเู้ กี่ยวกับ
ประชาคมอาเซียน พรอ้ มวเิ คราะห์ผลงานของตนเอง โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามที่กาหนด
นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1
9 สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
9.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น ทัศนศิลป์ ม.4
2) บัตรคา
3) บัตรภาพ
4) กระดาษขนาด A4
5) สลาก
6) กล่องทึบ 1 ใบ
7) ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ทัศนธาตุ
8) ใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง หลักการออกแบบ
9) ใบงานที่ 1.3 เร่อื ง ประเภทของงานออกแบบ
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ
2) บริเวณโรงเรียน
3) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/01
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/02
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/03
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/04
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/05
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/06
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/07
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/08
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ ผลงานโปสเตอร์เผยแพรค่ วามรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมอาเซยี น
รายการประเมนิ ดมี าก (4) คาอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ปรบั ปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การออกแบบ ออกแบบผลงานโดยใช้ ออกแบบผลงานโดยใช้ ออกแบบผลงานโดยใช้ ออกแบบผลงานโดยใช้
ผลงาน
ทศั นธาตตุ า่ งๆ ได้ ทัศนธาตตุ า่ งๆ ได้ ทัศนธาตตุ ่างๆ ได้ ทศั นธาตตุ ่างๆ ได้
ถกู ต้อง เหมาะสม ถกู ตอ้ ง เหมาะสม ถกู ตอ้ ง เหมาะสม คล้ายคลึงกับแบบทั่วไป
สวยงาม แสดงถงึ คอ่ นขา้ งสวยงาม คอ่ นข้างสวยงาม ไมค่ ่อยสวยงาม และ
ความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ แสดงถึงความคดิ ริเร่มิ แต่ขาดความคิดรเิ รมิ่ ขาดความคิดริเร่ิม
สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์เป็นบางสว่ น สรา้ งสรรค์
2. การวิเคราะห์การ ผลงานทอี่ อกแบบ ผลงานทอ่ี อกแบบ ผลงานทีอ่ อกแบบ ผลงานทอ่ี อกแบบ
จดั องคป์ ระกอบ มคี วามสมบูรณ์ ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง เหมาะสมตาม ถูกต้อง เหมาะสมตาม ถกู ต้องตามหลักสาคญั
ศลิ ป์ เหมาะสมตามหลกั หลกั สาคัญของการ หลักสาคญั ของการ ของการออกแบบ 1 ขอ้
สาคัญของการออกแบบ ออกแบบ 2 ขอ้ ออกแบบ 1 ข้อ แต่ไม่เหมาะสม
ทงั้ 3 ขอ้ ได้แก่
1) ความเปน็ เอกภาพ
2) ความกลมกลืน
3) ความสมดลุ
3. การวเิ คราะห์ วเิ คราะห์การใช้ทัศนธาตุ วเิ คราะห์การใชท้ ัศนธาตุ วิเคราะห์การใชท้ ัศนธาตุ วิเคราะห์การใช้ทศั นธาตุ
การใช้ทัศนธาตุ
ในการส่ือ ในการส่ือความหมาย ในการส่ือความหมาย ในการสอ่ื ความหมาย ในการสอื่ ความหมาย
ความหมาย
ในรูปแบบต่างๆ ในผลงานของตนเองได้ ในผลงานของตนเองได้ ในผลงานของตนเองได้ ในผลงานของตนเองได้
ถูกต้อง ละเอยี ด ชัดเจน ถกู ตอ้ ง ชัดเจนเป็น ถูกต้อง ชัดเจนเป็น ถกู ตอ้ ง แต่ไมล่ ะเอียด
สว่ นใหญ่ บางส่วน และไม่ชัดเจน
4. การเขยี นอธิบาย เขยี นอธบิ ายความรู้ เขียนอธบิ ายความรู้ เขยี นอธบิ ายความรู้ เขยี นอธบิ ายความรู้
ความรใู้ น
โปสเตอร์ ในโปสเตอรโ์ ดยใช้ ในโปสเตอร์โดยใช้ ในโปสเตอรโ์ ดยใช้ ในโปสเตอร์โดยใช้
คาศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์ คาศพั ทท์ างทัศนศิลป์ คาศัพท์ทางทัศนศิลป์ คาศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ละเอยี ด ได้อย่างถกู ต้อง ชดั เจน ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ชัดเจน ได้อย่างถูกต้องเพยี ง
ชดั เจน เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน ส่วนน้อยและไม่ชดั เจน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ตา่ กวา่ 8
ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง
แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. สว่ นประกอบทสี่ าคญั ท่สี ุดของทัศนธาตุ คืออะไร 6. การออกแบบ หมายถงึ อะไร
ก. สี ข. จดุ ก. การศกึ ษาองคป์ ระกอบ
ค. เสน้ ง. รูปทรง ข. การสรา้ งสรรค์ส่ิงใหมๆ่
2. เสน้ ในข้อใดใหค้ วามรู้สกึ สงบน่ิง ค. การประยุกตเ์ อกภาพ
ก. เส้นตรง ข. เสน้ นอน ง. การพฒั นาขน้ั พื้นฐาน
ค. เสน้ โค้ง ง. เสน้ ซิกแซก 7. ในการออกแบบสัญลักษณ์ ผ้อู อกแบบจะตอ้ งคานงึ ถึง
3. นา้ หนักอ่อน-แกข่ องแสงเงาและสี มคี วามสาคญั ในเร่ืองใด เร่ืองใดมากที่สดุ
ก. การไล่น้าหนักของสี ก. การตอบสนองทางอารมณ์
ข. การสรา้ งสรรค์ผลงาน ข. การสื่อความหมายใหเ้ ข้าใจร่วมกนั
ค. การวางสัดส่วนของภาพ ค. การสะท้อนความคิดของเจา้ ของผลงาน
ง. การแสดงระยะไกลใกล้ และเปน็ มิติ ง. การนารูปรา่ งแบบเรขาคณติ มาจดั วางเป็นระเบยี บ
4. หนา้ ทพี่ ิเศษของสี คอื อะไร 8. การนาความร้ทู างวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยมี าใช้
ก. การแสดงคณุ สมบตั ิของเนอื้ สี ในการออกแบบมีประโยชนอ์ ยา่ งไร
ข. การนามาผสมกันให้เกิดสสี นั ใหม่ๆ ก. ผลงานทีไ่ ด้มคี วามทันสมยั
ค. การแสดงอิทธิพลทีม่ ีตอ่ อารมณแ์ ละความรสู้ ึก ข. ผลงานทไ่ี ด้มคี วามสมจรงิ และเปน็ ธรรมชาติ
ง. การเพม่ิ ความเป็นมิติในการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ ค. ผลงานทไี่ ด้มปี ระโยชน์ในการใช้สอยเพมิ่ มากขนึ้
5. ข้อใดกลา่ วถึงความหมายของคาว่า “กระบวนแบบ” ง. ผลงานท่ีได้มีความประณตี แม่นยา และประหยัด
ไดถ้ กู ตอ้ ง เวลาในการออกแบบและแก้ไข
ก. ลักษณะทีเ่ ดน่ เฉพาะของรปู แบบและกลวธิ ใี นการ 9. สีเอกรงค์ (Monochrom) หมายถึงขอ้ ใด
สรา้ งสรรค์ผลงานของศิลปิน ก. แม่สีวตั ถุธาตุ 3 สี ข. สวี รรณะอุ่น 6 สี
ข. แรงผลกั ดนั ที่เกิดขึ้นในใจ ทาให้เกิดการสรา้ งสรรค์ ค. สวี รรณะเยน็ 6 สี ง. สเี ดยี วมีคา่ ออ่ น-แก่
ผลงานทศั นศลิ ป์ 10. คาศัพท์ใดบ้างที่มคี วามหมายเกยี่ วขอ้ งกบั คาวา่
ค. การแสดงความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ผ่านผลงาน องคป์ ระกอบศิลป์
ทัศนศลิ ป์ ก. ความสมดุล ข. งานส่ือผสม
ง. ความประสานกันอยา่ งลงตัวของผลงานทัศนศิลป์ ค. วรรณะสี ง. ทัศนธาตุ
มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/1-2
ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็
10
เฉลย
1. ค 2. ข 3. ง 4. ค 5. ก 6. ข 7. ข 8. ง 9. ง 10. ก
แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. คาศพั ทใ์ ดบ้างท่มี คี วามหมายเกยี่ วข้องกบั คาว่า 6. เสน้ ในขอ้ ใดให้ความรสู้ กึ สงบนง่ิ
องคป์ ระกอบศลิ ป์ ก. เส้นซกิ แซก ข. เสน้ นอน
ก. วรรณะสี ข. ทัศนธาตุ ค. เส้นตรง ง. เส้นโคง้
ค. งานส่ือผสม ง. ความสมดลุ 7. ขอ้ ใดกล่าวถึงความหมายของคาว่า “กระบวนแบบ”
2. สีเอกรงค์ (Monochrom) หมายถึงข้อใด ไดถ้ ูกตอ้ ง
ก. สเี ดยี วมคี า่ อ่อน-แก่ ข. สีวรรณะอนุ่ 6 สี ก. ความประสานกนั อย่างลงตวั ของผลงานทศั นศลิ ป์
ค. แม่สีวตั ถุธาตุ 3 สี ง. สีวรรณะเย็น 6 สี ข. การแสดงความคิด อารมณ์ ความรู้สกึ ผ่านผลงาน
3. การออกแบบ หมายถึงอะไร ทศั นศิลป์
ก. การพัฒนาข้นั พนื้ ฐาน ค. แรงผลักดนั ท่ีเกิดขึ้นในใจ ทาใหเ้ กิดการสร้างสรรค์
ข. การประยกุ ต์เอกภาพ ผลงานทศั นศิลป์
ค. การสร้างสรรคส์ ิ่งใหมๆ่ ง. ลกั ษณะท่ีเดน่ เฉพาะของรูปแบบและกลวธิ ใี นการ
ง. การศึกษาองค์ประกอบ สร้างสรรคผ์ ลงานของศลิ ปนิ
4. การนาความร้ทู างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยมี าใชใ้ นการ 8. สว่ นประกอบท่สี าคญั ทีส่ ุดของทศั นธาตุ คืออะไร
ออกแบบมีประโยชน์อย่างไร ก. รปู ทรง ข. เส้น
ก. ผลงานทไี่ ด้มีความประณีต แม่นยา และประหยัด ค. จดุ ง. สี
เวลาในการออกแบบและแก้ไข 9. นา้ หนกั อ่อน-แก่ของแสงเงาและสี มคี วามสาคัญในเรอื่ ง
ข. ผลงานท่ไี ด้มปี ระโยชนใ์ นการใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ใด
ค. ผลงานท่ไี ด้มีความสมจรงิ และเป็นธรรมชาติ ก. การแสดงระยะไกลใกล้ และเป็นมติ ิ
ง. ผลงานทไ่ี ด้มีความทันสมยั ข. การวางสดั ส่วนของภาพ
5. ในการออกแบบสัญลกั ษณ์ ผู้ออกแบบจะต้องคานงึ ถงึ ค. การสรา้ งสรรค์ผลงาน
เร่อื งใดมากทีส่ ุด ง. การไล่น้าหนักของสี
ก. การนารูปร่างแบบเรขาคณิตมาจดั วางเป็นระเบยี บ 10. หนา้ ที่พิเศษของสี คืออะไร
ข. การสะทอ้ นความคิดของเจ้าของผลงาน ก. การเพิม่ ความเป็นมิติในการสรา้ งสรรคง์ าน
ค. การส่ือความหมายใหเ้ ขา้ ใจรว่ มกนั ทัศนศิลป์
ง. การตอบสนองทางอารมณ์ ข. การแสดงอิทธิพลทีม่ ีต่ออารมณแ์ ละความร้สู ึก
ค. การนามาผสมกนั ให้เกดิ สสี ันใหมๆ่
ง. การแสดงคุณสมบตั ิของเนอื้ สี
มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/1-2
ได้คะแนน คะแนนเตม็
10
เฉลย
1. ง 2. ก 3. ค 4. ก 5. ค 6. ข 7. ง 8. ข 9. ก 10. ข
2หน่วยการเรียนรู้ท่ี รูปแบบงานทัศนศิลปต์ ะวนั ออก
6เวลา ชั่วโมง
1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้วี ัด
ศ 1.2 ม.4-6/1 วิเคราะห์และเปรยี บเทียบงานทัศนศิลป์ในรปู แบบตะวนั ออกและรูปแบบตะวันตก
ม.4-6/3 อภปิ รายเกยี่ วกบั อทิ ธิพลของวัฒนธรรมระหวา่ งประเทศทม่ี ีผลต่องานทศั นศิลปใ์ นสงั คม
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
งานทศั นศิลปต์ ะวนั ออกลว้ นไดร้ บั อิทธิพลมาจากรปู แบบทศั นศิลปอ์ ินเดียและจนี ซึง่ เปน็ วฒั นธรรมระหวา่ ง
ประเทศทีม่ ีผลตอ่ งานทัศนศลิ ปใ์ นสงั คม
3 สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
1) งานทศั นศิลปร์ ปู แบบตะวันออก
2) อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมระหวา่ งประเทศที่มีผลตอ่ งานทศั นศิลป์
3.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
- รปู แบบงานทัศนศลิ ป์
4 สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการคดั แยก
2) ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
5 คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
หนงั สอื เลม่ เล็ก เรอื่ ง รูปแบบงานทัศนศลิ ป์ตะวันออก
7 การวดั และการประเมินผล
7.1 การประเมินก่อนเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง รูปแบบงานทัศนศลิ ป์ตะวันออก
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง รูปแบบงานทศั นศิลป์
2) ตรวจใบงานท่ี 2.2 เร่ือง รูปแบบงานทศั นศิลป์อินเดยี
3) ตรวจใบงานท่ี 2.3 เรือ่ ง รูปแบบงานทัศนศิลป์จีน
4) ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน
5) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน
6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล
7) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ
8) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.3 การประเมินหลังเรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง รปู แบบงานทัศนศลิ ปต์ ะวันออก
7.4 การประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจหนงั สอื เลม่ เลก็ เรอ่ื ง รปู แบบงานทัศนศิลป์ตะวนั ออก
8 กิจกรรมการเรียนรู้
นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2
เร่ืองที่ 1 รูปแบบงานทศั นศลิ ป์
1 ชวั่ โมง
วิธสี อนโดยการจัดการเรียนรูแ้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ คคู่ ดิ
ขั้น นาเข้าสูบ่ ทเรยี น
1. ครนู าภาพมาใหน้ ักเรยี นดู แล้วใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับความเหมอื นและความ
แตกต่างของภาพดังกลา่ ว
2. ครูอธบิ ายเชอื่ มโยงใหน้ ักเรยี นเข้าใจเกี่ยวกบั รปู แบบของงานทศั นศิลป์
ข้ัน สอน
1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ แล้วใหส้ มาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศึกษา
ความรู้เรื่อง รูปแบบงานทัศนศลิ ป์ จากหนงั สือเรียน
2. สมาชกิ แตล่ ะคนผลดั กนั นาความรู้ทไ่ี ด้จากการศึกษามาเล่าใหเ้ พอ่ื นในกล่มุ ฟงั ผลดั กนั ซกั ถามขอ้ สงสยั และ
อธบิ าย จากนนั้ ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ
3. นกั เรียนแต่ละคนทาใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง รปู แบบงานทัศนศิลป์ เมอื่ ทาเสร็จแลว้ จบั คู่กบั เพอ่ื นในกลุ่ม
ผลดั กนั อธบิ ายผลงานในใบงานของตนให้เพอื่ นฟัง ผลัดกนั ซักถามขอ้ สงสยั และอธิบายจนมคี วามเขา้ ใจ
ชดั เจนตรงกนั
4. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันเฉลยคาตอบในใบงานที่ 2.1
5. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ หาภาพผลงานทางทศั นศลิ ปท์ ี่แสดงใหเ้ ห็นถงึ ศลิ ปะรูปลกั ษณ์ ศลิ ปะไร้รปู ลกั ษณ์
และศิลปะก่ึงไร้รปู ลกั ษณ์ ตามความสนใจของนกั เรยี น มากลมุ่ ละ 1 ภาพ (ครแู จง้ ให้นกั เรียนเตรยี มมา
ลว่ งหน้า) แลว้ เขียนบรรยายลักษณะและความรสู้ ึกทีม่ ีตอ่ ผลงานดงั กล่าว
6. ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มบรรยายลกั ษณะและรูปแบบของผลงานทางทัศนศิลปท์ ่ีกลมุ่ ของตนสนใจ หนา้ ชน้ั เรียน
ครูเปน็ ผู้ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขนั้ สรุป
นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรู้เรอ่ื ง รปู แบบของงานทศั นศลิ ป์
เรื่องท่ี 2 รปู แบบงานทศั นศิลป์อนิ เดีย
2 ชว่ั โมง
วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการเรยี นความรู้ความเข้าใจ
ข้นั ที่ 1 สงั เกต ตระหนัก
ครูให้นกั เรยี นดภู าพผลงานเศยี รพระพุทธรปู ศิลปะแบบคันธาระของอินเดยี และพระพทุ ธรูปสมัยสโุ ขทยั
แล้วให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ ถงึ ความแตกต่างของพระพทุ ธรูปท้งั 2 ภาพ
ขนั้ ที่ 2 วางแผนปฏิบตั ิ
ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวางแผนในการศึกษาความรเู้ รอ่ื ง รปู แบบงานทศั นศลิ ป์อินเดยี จาก
หนังสอื เรียน ห้องสมดุ และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ โดยให้ครอบคลุมประเดน็ ตามที่กาหนด และกาหนดประเด็น
ในการศกึ ษาให้สมาชกิ แตล่ ะคนตามความเหมาะสม
ขัน้ ท่ี 3 ลงมือปฏบิ ัติ
สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง รูปแบบงานทศั นศลิ ปอ์ นิ เดยี จากหนังสอื เรียน หอ้ งสมุด และ
แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ ตามแผนทไี่ ด้วางไวใ้ นข้ันที่ 2
ขน้ั ท่ี 4 พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ
1. นักเรียนแต่ละคนทาใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง รูปแบบงานทัศนศลิ ป์อินเดยี เม่ือทาเสรจ็ แล้วผลัดกนั เล่าผลงาน
ในใบงานของตนให้เพอื่ นในกลมุ่ ฟงั ผลัดกนั ซักถามขอ้ สงสัยแล้วหลอมรวมเป็นผลงานของกลมุ่
2. ตวั แทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานในใบงานท่ี 2.2 หนา้ ชนั้ เรียน โดยครแู ละเพอ่ื นกลมุ่ อนื่ รว่ มกนั
ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและใหข้ ้อเสนอแนะ
3. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันอภปิ รายเก่ยี วกับรปู แบบของงานทัศนศลิ ปอ์ นิ เดยี ในแต่ละสมยั แล้วครูส่มุ นกั เรียน
ให้บอกลกั ษณะรูปแบบงานทศั นศลิ ปอ์ ินเดยี ในสมัยต่างๆ โดยครเู ป็นผตู้ รวจสอบความถูกตอ้ งและอธบิ าย
เพิม่ เติม
ขั้นที่ 5 สรุป
นกั เรียนรว่ มกนั สรุปความรเู้ ร่อื ง รปู แบบงานทศั นศิลป์อินเดยี โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ทกี่ าหนด
เรื่องที่ 3 รูปแบบงานทศั นศิลป์จีน
2 ชัว่ โมง
วิธสี อนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)
ครใู ห้นกั เรียนดูวดี ิทศั น์เกีย่ วกับสสุ านจักรพรรดจิ น๋ิ ซี แล้วใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สังเกตลกั ษณะของรปู ปั้นทหาร
ขน้ั ที่ 2 สารวจค้นหา (Explore)
สมาชกิ แต่ละกลมุ่ จับคกู่ ันเปน็ 2 คู่ ให้แตล่ ะคู่รว่ มกนั ศึกษาความรูเ้ รอ่ื ง รูปแบบงานทศั นศลิ ปจ์ ีน จาก
หนังสือเรยี น ตามประเดน็ ทกี่ าหนดให้ ดังนี้
- คู่ที่ 1 ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง รปู แบบงานทศั นศิลป์จีนสมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์
- คูท่ ่ี 2 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง รูปแบบงานทัศนศลิ ปจ์ นี สมยั ประวัติศาสตร์
ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. สมาชิกแต่ละคูผ่ ลดั กันนาความรู้ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษามาเล่าใหเ้ พอ่ื นอกี คู่หนง่ึ ภายในกลมุ่ ฟัง ผลัดกันซกั ถาม
ข้อสงสยั และอธิบายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนตรงกนั
2. ครูอธบิ ายความร้เู กี่ยวกบั รปู แบบงานทัศนศิลปจ์ ีนในแตล่ ะสมยั ใหน้ กั เรียนฟงั เพมิ่ เติม พรอ้ มยกตวั อยา่ ง
ประกอบเพือ่ ใหน้ กั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจมากย่ิงขนึ้
ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. ครูให้นกั เรียนทาใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง รูปแบบงานทัศนศิลปจ์ นี โดยให้สมาชกิ ในกลุ่มแบง่ หนา้ ที่กันปฏบิ ตั ิ
ดงั นี้
- สมาชิกคนท่ี 1 อา่ นคาถามและแยกแยะประเดน็ ให้ชัดเจน
- สมาชิกคนท่ี 2 รวบรวมข้อมลู หาแนวทางในการตอบคาถาม
- สมาชกิ คนท่ี 3 ตอบคาถาม
- สมาชิกคนท่ี 4 ตรวจสอบคาตอบ
จากนนั้ ให้สมาชิกแตล่ ะคนหมนุ เวยี นเปล่ียนหนา้ ที่กันปฏบิ ตั ิจนตอบคาถามครบทุกข้อ
2. เมือ่ นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทาใบงานที่ 2.3 เสรจ็ แล้วใหช้ ่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและเตมิ เตม็ คาตอบ
ในใบงานใหส้ มบูรณ์
3. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันอภปิ รายเกีย่ วกบั รูปแบบงานทัศนศลิ ปจ์ นี ในสมยั ตา่ งๆ
ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครตู รวจสอบผลนักเรยี นจากการทาใบงานท่ี 2.3
2. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้เร่อื ง รปู แบบงานทศั นศลิ ป์จนี
เร่อื งท่ี 4 อิทธิพลของวฒั นธรรมระหวา่ งประเทศ
ท่ีมตี ่องานทัศนศิลป์ 1 ชว่ั โมง
วิธสี อนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนิคค่คู ิดสส่ี หาย
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
ครใู ห้นกั เรียนดภู าพผลงานทางทศั นศิลปร์ ูปแบบตา่ งๆ แลว้ ให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกว่า แต่ละภาพจดั เป็น
ผลงานทางทัศนศิลปร์ ูปแบบใด และนักเรียนทราบไดอ้ ยา่ งไร
ขน้ั สอน
1. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ จบั คกู่ ันเป็น 2 คู่ ใหแ้ ตล่ ะคู่รว่ มกนั ศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง อทิ ธิพลของวฒั นธรรมระหว่าง
ประเทศทีม่ ีต่องานทศั นศิลป์ จากหนงั สอื เรยี น แลว้ ร่วมกันสรุปสาระสาคญั
2. สมาชิกแตล่ ะครู่ วมกลมุ่ เดมิ (4 คน) ผลดั กันนาความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษามาเล่าให้เพื่อนอีกคหู่ นึง่ ฟัง
ผลัดกนั ซกั ถามขอ้ สงสัยและอธบิ ายจนมีความเขา้ ใจชัดเจนตรงกัน
3. ครอู ธิบายความรู้เก่ียวกบั อิทธพิ ลของวฒั นธรรมระหวา่ งประเทศทีม่ ตี อ่ งานทศั นศลิ ป์ พร้อมยกตัวอย่าง
ประกอบให้นกั เรยี นฟงั เพ่มิ เตมิ
4. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั อภิปรายเกย่ี วกับอทิ ธพิ ลของรปู แบบงานทศั นศิลป์อินเดียและจีนทส่ี ่งผลตอ่
รูปแบบงานทศั นศิลปไ์ ทย แลว้ เขียนสรปุ เปน็ แผนผังความคดิ ลงในกระดาษทค่ี รแู จกให้
5. ตัวแทนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอแผนผังความคดิ แสดงอทิ ธพิ ลของรูปแบบงานทัศนศลิ ปอ์ นิ เดยี และจนี
ท่ีสง่ ผลตอ่ รูปแบบงานทศั นศิลป์ไทย หน้าชั้นเรยี น ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งและอธิบายเพิ่มเติม
ขน้ั สรปุ
ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปความรู้เร่ือง อทิ ธิพลของวฒั นธรรมระหว่างประเทศท่ีมตี อ่ งานทัศนศลิ ป์
ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั จดั ทาหนังสอื เลม่ เล็ก เรอ่ื ง รูปแบบงานทัศนศิลป์
ตะวนั ออก โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามทก่ี าหนด
นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2
9 สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
9.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น ทัศนศลิ ป์ ม.4
2) วดี ทิ ัศน์เกย่ี วกบั สุสานจกั รพรรด์จิ นิ๋ ซี
3) บตั รภาพ
4) ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง รูปแบบงานทัศนศิลป์
5) ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง รปู แบบงานทศั นศิลปอ์ ินเดยี
6) ใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง รูปแบบงานทัศนศลิ ปจ์ นี
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งสมุด
2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/09
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/10
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/11
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ หนงั สอื เล่มเล็ก เร่ือง รูปแบบงานทัศนศิลปต์ ะวนั ออก
รายการประเมิน ดีมาก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรบั ปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การอธบิ าย อธิบายรูปแบบงาน อธบิ ายรูปแบบงาน อธิบายรูปแบบงาน อธิบายรปู แบบงาน
รูปแบบงาน ทศั นศิลปไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ทศั นศิลปไ์ ด้ถูกตอ้ ง ทศั นศิลปไ์ ด้ถูกต้อง ทัศนศิลป์ได้ถูกต้อง
ทัศนศลิ ป์ ละเอียด ชัดเจน ละเอยี ด ชดั เจน ละเอียด ชัดเจน 1 แบบ แต่ไมล่ ะเอียด
ทั้ง 3 แบบ 2 แบบ 1 แบบ และไมช่ ัดเจน
2. การวิเคราะห์ วิเคราะห์รปู แบบงาน วเิ คราะห์รูปแบบงาน วเิ คราะห์รูปแบบงาน วเิ คราะห์รูปแบบงาน
รปู แบบงาน ทัศนศลิ ปอ์ ินเดยี ใน ทศั นศลิ ปอ์ นิ เดียใน ทัศนศลิ ปอ์ นิ เดียใน ทศั นศลิ ปอ์ นิ เดียใน
ทัศนศิลป์อนิ เดยี สมยั ต่างๆ ได้ถกู ต้อง สมัยต่างๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง สมัยต่างๆ ไดถ้ ูกต้อง สมัยตา่ งๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง
ในสมยั ต่างๆ ละเอยี ด ชดั เจนทุกสมัย ชัดเจนเป็นส่วนใหญ่ ชดั เจนเป็นบางสว่ น เพยี งสว่ นน้อย และ
ไม่ชดั เจน
3. การวิเคราะห์ วเิ คราะห์รูปแบบงาน วิเคราะห์รปู แบบงาน วเิ คราะห์รูปแบบงาน วเิ คราะหร์ ปู แบบงาน
รูปแบบงาน
ทัศนศิลป์จนี ทศั นศลิ ป์จนี ในสมยั ทศั นศิลป์จนี ในสมัย ทศั นศิลป์จนี ในสมยั ทัศนศลิ ปจ์ นี ในสมยั
ในสมยั ตา่ งๆ
ตา่ งๆ ไดถ้ ูกต้อง ตา่ งๆ ได้ถกู ตอ้ ง ชัดเจน ตา่ งๆ ได้ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ตา่ งๆ ได้ถกู ต้อง
ละเอียด ชดั เจนทกุ สมยั เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางสว่ น เพียงสว่ นนอ้ ย และ
ไม่ชดั เจน
4. การอธิบาย อธิบายเกี่ยวกับอทิ ธพิ ล อธบิ ายเก่ยี วกบั อิทธพิ ล อธิบายเกีย่ วกับอิทธิพล อธบิ ายเกย่ี วกบั อทิ ธพิ ล
เกีย่ วกบั อิทธพิ ล
ของวฒั นธรรม ของงานทัศนศิลป์ของ ของงานทัศนศิลปข์ อง ของงานทัศนศลิ ปข์ อง ของงานทศั นศลิ ปข์ อง
ระหวา่ งประเทศ
ที่มีผลตอ่ งาน อนิ เดยี และจีนทม่ี ีผล อินเดยี และจนี ท่ีมผี ล อนิ เดยี และจีนที่มีผล อินเดียและจนี ท่มี ีผล
ทัศนศิลป์ใน
สงั คมไทย ตอ่ งานทัศนศลิ ป์ใน ต่องานทศั นศิลป์ใน ตอ่ งานทศั นศลิ ป์ใน ต่องานทัศนศลิ ป์ใน
สังคมไทยไดถ้ ูกตอ้ ง สังคมไทยไดถ้ กู ต้อง สงั คมไทยได้ถูกต้อง สังคมไทยไดถ้ กู ต้อง
ละเอียด ชัดเจน ชัดเจนเปน็ ส่วนใหญ่ ชดั เจนเป็นบางสว่ น เพียงสว่ นน้อย และ
ไม่ชดั เจน
เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ตา่ กว่า 8
ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2
คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดกลา่ วถงึ ศลิ ปะรปู ลักษณ์ได้ถูกตอ้ ง 5. ศิลปะอินเดยี แบบใดท่ไี ดร้ ับอิทธพิ ลจากศิลปะแบบกรกี
ก. ศิลปะท่เี นน้ การใช้รูปร่าง และสสี นั ทฉี่ ดู ฉาด ก. ศลิ ปะแบบมถรุ า
ข. ศิลปะทเ่ี น้นสภาพความเปน็ จริงตามธรรมชาติ ข. ศลิ ปะแบบสาญจี
ค. ศลิ ปะท่เี กิดจากการตัดทอนรปู ทรงบางส่วนออกไป ค. ศลิ ปะแบบคันธาระ
จากความจริง ง. ศิลปะแบบอมราวดี
ง. ศลิ ปะที่เนน้ ความประสานกลมกลนื ขององคป์ ระกอบ
และทัศนธาตุ 6. เพราะเหตุใด พระพทุ ธรปู แบบคปุ ตะ จงึ ได้ชื่อวา่ เป็น
พระพุทธรปู ทมี่ ีความงดงามสูงสดุ
2. ศิลปะและวัฒนธรรมในซีกโลกตะวนั ออก มักไดร้ บั อทิ ธพิ ล ก. พระเศียรมีลักษณะกลม มรี ปู รา่ งและเส้นเด่นชัด
มาจากชนชาติใด ข. เศยี รพระพุทธรูปมีความงดงามคลา้ ยคลึงกับ
ก. จนี - อินเดยี ศิลปะกรกี
ข. ญีป่ ุน่ - เกาหลี ค. พระพทุ ธรปู ครองจวี รหม่ เฉียง จีวรเปน็ รว้ิ ท้งั องค์
ค. ไทย - กัมพูชา อย่างงดงาม
ง. จีน - กมั พูชา ง. พุทธลกั ษณะสมดลุ ไดส้ ดั ส่วน แสดงถึงความเป็น
ตัวเองในการสร้างสรรค์
3. หลกั ฐานทางโบราณคดที ่ีแสดงให้เหน็ รูปแบบงาน
ทัศนศลิ ป์ อินเดีย สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตรค์ อื อะไร 7. ข้อใดกล่าวถงึ ข้อมูลของเครือ่ งปน้ั ดนิ เผา 3 ขาได้
ก. หม้อ 3 ขา ถูกตอ้ งทีส่ ุด
ข. สถปู สาญจี ก. เปน็ วฒั นธรรมหลงซาน ในยคุ หนิ ใหม่
ค. ตกุ๊ ตาดินเผา ข. เป็นวัฒนธรรมราชวงศ์ชาง ในสมัยประวตั ิศาสตร์
ง. ซากเมอื งโบราณฮารปั ปา ค. เป็นวฒั นธรรมราชวงศ์โจว ในสมยั ประวตั ศิ าสตร์
ง. เปน็ วฒั นธรรมราชวงศ์จิ๋น หรอื ฉนิ ในสมัย
4. ศลิ ปะแบบคันธาระ มีลกั ษณะอย่างไร ประวตั ิศาสตร์
ก. นยิ มสร้างพุทธศลิ ปด์ ้วยการแกะสลักศลิ า
ข. นิยมสร้างสถปู ตา่ งๆ เปน็ รปู โอคว่าหรอื ขนั ควา่ 8. เครื่องเคลือบสามสใี นสมยั ใดของจนี ทีไ่ ด้รับการ
ค. นิยมสร้างพระพทุ ธรปู ครองจวี รหม่ เฉยี ง และจีวร ขนานนามว่าสวยงามมากท่ีสดุ
เป็นรว้ิ ท้งั องค์ ก. ราชวงศช์ าง
ง. นยิ มสรา้ งพระพทุ ธรปู ทมี่ ีความละเอยี ดอ่อนสวยงาม ข. ราชวงศโ์ จว
ตามแบบธรรมชาติ มีรูปรา่ งและเสน้ เดน่ ชัด ค. ราชวงศฮ์ น่ั
ง. ราชวงศถ์ ัง
9. ในสมัยราชวงศฮ์ ่ัน นิยมการสรา้ งประติมากรรม 10. ผลงานในข้อใดท่ไี ด้รบั อิทธิพลมาจากรูปแบบงาน
รปู แบบใด ทัศนศิลปจ์ นี
ก. การนาหินมาแกะสลกั เปน็ รปู ลอยตัว และรูปแบน ก. เรือพระท่ีนั่งสพุ รรณหงส์
ข. การสร้างรูปเคารพที่มเี นื้อหาเกี่ยวข้องกบั ข. พระทน่ี งั่ อนันตสมาคม
ค. วดั ราชโอรสาราม
พทุ ธประวัติ ง. วดั เบญจมบพติ ร
ค. การนาหยกมาเจยี ระไนและแกะสลักเปน็
ลวดลายตา่ งๆ
ง. การสรา้ งสรรค์ผลงานโดยการปน้ั ดว้ ยดินเหนียว
สีเทา จากน้ันนาไปเผาไฟ
มฐ. ศ 1.2 ม.4-6/1, 3
ไดค้ ะแนน คะแนนเต็ม
10
เฉลย
1. ข 2. ก 3. ง 4. ก 5. ค 6. ง 7. ก 8. ง 9. ก 10. ค
แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. เครอื่ งเคลอื บสามสีในสมัยใดของจนี ทไ่ี ด้รบั การ 5. เพราะเหตุใด พระพุทธรูปแบบคปุ ตะ จงึ ได้ชื่อว่าเป็น
ขนานนามวา่ สวยงามมากทส่ี ดุ
ก. ราชวงศ์ฮั่น พระพทุ ธรูปท่มี คี วามงดงามสงู สดุ
ข. ราชวงศ์ถัง
ค. ราชวงศ์โจว ก. พทุ ธลักษณะสมดุล ได้สดั ส่วน แสดงถงึ ความเป็น
ง. ราชวงศ์ชาง
ตัวเองในการสรา้ งสรรค์
2. ขอ้ ใดกล่าวถึงขอ้ มลู ของเครื่องปัน้ ดนิ เผา 3 ขาได้ถกู ต้อง
ที่สุด ข. พระพุทธรปู ครองจวี รหม่ เฉยี ง จวี รเปน็ ร้วิ ทง้ั องค์
ก. เป็นวัฒนธรรมราชวงศจ์ ๋นิ หรอื ฉนิ ในสมยั
ประวัตศิ าสตร์ อยา่ งงดงาม
ข. เปน็ วัฒนธรรมราชวงศช์ าง ในสมัยประวัติศาสตร์
ค. เปน็ วัฒนธรรมราชวงศโ์ จว ในสมยั ประวตั ิศาสตร์ ค. เศยี รพระพทุ ธรปู มีความงดงามคล้ายคลงึ กบั
ง. เปน็ วัฒนธรรมหลงซาน ในยุคหนิ ใหม่
ศลิ ปะกรกี
3. ผลงานในขอ้ ใดท่ีไดร้ บั อิทธพิ ลมาจากรปู แบบงาน
ทัศนศิลปจ์ ีน ง. พระเศยี รมีลกั ษณะกลม มรี ูปรา่ งและเสน้ เด่นชดั
ก. วัดราชโอรสาราม
ข. วัดเบญจมบพติ ร 6. ขอ้ ใดกลา่ วถึงศลิ ปะรปู ลักษณไ์ ดถ้ กู ต้อง
ค. พระทน่ี ั่งอนันตสมาคม
ง. เรอื พระทนี่ งั่ สุพรรณหงส์ ก. ศิลปะท่เี นน้ ความประสานกลมกลืนของ
4. ในสมยั ราชวงศ์ฮั่น นิยมการสรา้ งประติมากรรม องคป์ ระกอบ และทัศนธาตุ
รปู แบบใด
ก. การสร้างสรรคผ์ ลงานโดยการป้ันด้วยดนิ เหนียว ข. ศิลปะทีเ่ กดิ จากการตดั ทอนรูปทรงบางสว่ นออกไป
สีเทา จากน้ันนาไปเผาไฟ จากความจรงิ
ข. การนาหยกมาเจยี ระไนและแกะสลักเป็น
ลวดลายต่างๆ ค. ศลิ ปะที่เนน้ สภาพความเปน็ จริงตามธรรมชาติ
ค. การสรา้ งรูปเคารพท่ีมเี น้ือหาเก่ียวขอ้ งกบั ง. ศิลปะทเ่ี นน้ การใช้รปู ร่าง และสสี ันทฉ่ี ดู ฉาด
พทุ ธประวตั ิ 7. ศิลปะอนิ เดียแบบใดท่ไี ดร้ ับอทิ ธพิ ลจากศิลปะแบบกรกี
ง. การนาหินมาแกะสลกั เปน็ รูปลอยตวั และรูปแบน ก. ศลิ ปะแบบอมราวดี
ข. ศลิ ปะแบบมถรุ า
ค. ศลิ ปะแบบคันธาระ
ง. ศิลปะแบบสาญจี
8. ศิลปะและวัฒนธรรมในซีกโลกตะวันออก มักไดร้ บั
อทิ ธิพลมาจากชนชาตใิ ด
ก. จนี - กมั พชู า
ข. จนี - อนิ เดยี
ค. ญีป่ ่นุ - เกาหลี
ง. ไทย - กัมพูชา
9. หลักฐานทางโบราณคดที ่แี สดงให้เหน็ รปู แบบงาน 10. ศลิ ปะแบบคันธาระ มลี กั ษณะอย่างไร
ทัศนศลิ ป์ อินเดีย สมัยก่อนประวตั ิศาสตร์คอื อะไร ก. นิยมสรา้ งพระพุทธรปู ทมี่ ีความละเอียดออ่ น
ก. ซากเมอื งโบราณฮารปั ปา สวยงาม
ข. ตุ๊กตาดนิ เผา ตามแบบธรรมชาติ มรี ูปรา่ งและเสน้ เดน่ ชดั
ค. สถูปสาญจี ข. นยิ มสรา้ งพระพุทธรปู ครองจีวรห่มเฉียง และจวี ร
ง. หม้อ 3 ขา เปน็ ร้วิ ทัง้ องค์
ค. นิยมสร้างสถปู ต่างๆ เป็นรูปโอคว่าหรอื ขันควา่
ง. นยิ มสร้างพุทธศลิ ป์ด้วยการแกะสลักศลิ า
มฐ. ศ 1.2 ม.4-6/1, 3
ได้คะแนน คะแนนเต็ม
10
เฉลย
1. ข 2. ง 3. ก 4. ง 5. ก 6. ค 7. ค 8. ข 9. ก 10. ง
3หน่วยการเรียนรู้ท่ี การแสดงออกทางทศั นศลิ ป์
ของศลิ ปนิ 6เวลา ช่ัวโมง
1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชว้ี ัด
ศ 1.1 ม.4-6/3 วเิ คราะห์การเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ และเทคนิคของศลิ ปนิ ในการแสดงออกทางทัศนศลิ ป์
ม.4-6/4 มีทกั ษะและเทคนคิ ในการใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ และกระบวนการท่ีสงู ข้นึ ในการสร้างงานทศั นศิลป์
ม.4-6/7 วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายจดุ มุ่งหมายของศลิ ปินในการเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ และเนอื้ หา
เพอื่ สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ป์
ม.4-6/10 สร้างสรรค์งานทศั นศิลปไ์ ทย สากล โดยศกึ ษาจากแนวคดิ และวิธกี ารสร้างงานของศลิ ปินทตี่ นชน่ื ชอบ
ศ 1.2 ม.4-6/2 ระบงุ านทัศนศลิ ปข์ องศิลปินทีม่ ชี ื่อเสยี ง และบรรยายผลตอบรบั ของสังคม
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ศลิ ปนิ ทางทศั นศิลป์สาขาจติ รกรรม ประตมิ ากรรม และภาพพิมพ์ทม่ี ชี ื่อเสียงนั้น จะมีผลงานทโ่ี ดดเด่นและ
เป็นทีย่ อมรับ ซ่ึงเราควรศกึ ษาวิธกี ารใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ และเนื้อหาในการสร้างสรรคผ์ ลงานของศลิ ปิน
เหล่าน้ัน เพ่ือนามาปรบั ใช้ในการสร้างผลงานทางทศั นศลิ ป์ของตนเองให้ดยี ิ่งขน้ึ
3 สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
1) วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิคของศลิ ปนิ ในการแสดงออกทางทัศนศิลป์
2) เทคนคิ วสั ดุ อปุ กรณ์ กระบวนการในการสร้างงานทศั นศิลป์
3) จดุ มุง่ หมายของศิลปินในการเลอื กใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ และเนอ้ื หาในการสร้างงานทศั นศิลป์
4) การสร้างงานทัศนศิลป์จากแนวคดิ และวิธกี ารของศิลปนิ
5) งานทศั นศลิ ป์ของศิลปนิ ท่ีมีชือ่ เสียง
3.2 สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถน่ิ
(พิจารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา)
4 สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 2) ทกั ษะการคดั แยก
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการจัดกลมุ่
3) ทักษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการนาความรไู้ ปใช้
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
5 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุง่ มนั่ ในการทางาน
6 ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ผลงานทางทศั นศิลป์จากแนวคดิ ของศลิ ปินท่ีตนชืน่ ชอบ
7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง การแสดงออกทางทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปิน
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1) ตรวจใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ประวัติและผลงานของปาโบล ปกี สั โซ
2) ตรวจใบงานที่ 3.2 เรื่อง ประวัตแิ ละผลงานของจกั รพันธุ์ โปษยกฤต
3) ตรวจใบงานที่ 3.3 เรอ่ื ง ประวัติและผลงานของเฮนรี มัวร์
4) ตรวจใบงานท่ี 3.4 เรื่อง ประวัติและผลงานของเขยี น ยมิ้ ศริ ิ
5) ตรวจใบงานที่ 3.5 เรอื่ ง ประวัตแิ ละผลงานของแอนดี วอรโ์ ฮล
6) ตรวจใบงานท่ี 3.6 เรื่อง ประวตั แิ ละผลงานของประหยัด พงษด์ า
7) ตรวจแบบบนั ทึกการอา่ น
8) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน
9) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล
10) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม
11) สังเกตคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
7.3 การประเมินหลังเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การแสดงออกทางทัศนศิลปข์ องศิลปิน
7.4 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจผลงานทางทศั นศลิ ปจ์ ากแนวคิดของศิลปนิ ที่ตนช่นื ชอบ
8 กิจกรรมการเรยี นรู้
นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3
เรือ่ งท่ี 1 ศลิ ปินทางทศั นศลิ ปส์ าขาจติ รกรรม 2 ชั่วโมง
วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลุม่
ขั้นที่ 1 มผี ู้นาและมกี ารแบ่งหน้าทรี่ บั ผดิ ชอบ
1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลือกหวั หนา้ กลุม่ และเลขานกุ ารกล่มุ
2. ครนู าภาพผลงานจติ รกรรม มาให้นักเรียนดู แลว้ ให้นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นท่ีกาหนด
ขน้ั ที่ 2 วางแผน
ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วางแผนและแบ่งหนา้ ที่กนั ในการศึกษาความรู้เก่ียวกับประวตั ิ
และผลงานของปาโบล ปกี ัสโซ และจกั รพนั ธ์ุ โปษยกฤต จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามท่ีกาหนด
ขัน้ ท่ี 3 ปฏบิ ัติตามแผน
1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาความรูเ้ กย่ี วกับประวตั แิ ละผลงานของปาโบล ปีกัสโซ และจักรพนั ธ์ุ
โปษยกฤต จากหนงั สือเรียน หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ โดยใหค้ รอบคลมุ ประเด็นตามที่
กาหนดไวใ้ นข้นั ที่ 2 จากนน้ั ผลัดกันอภิปรายความรทู้ ีไ่ ด้รบั จากการศกึ ษา
2. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ ช่วยกันทาใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง ประวัติและผลงานของปาโบล ปกี ัสโซ และใบงานที่ 3.2
เรอื่ ง ประวัติและผลงานของจักรพนั ธุ์ โปษยกฤต เม่อื ทาเสร็จแลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและ
เติมเตม็ คาตอบใหส้ มบรู ณ์
ข้นั ที่ 4 ประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงาน
1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานในใบงานที่ 3.1-3.2 หนา้ ชัน้ เรยี น ครเู ป็นผตู้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง
และใหข้ อ้ เสนอแนะ
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภปิ รายเกยี่ วกบั การสรา้ งสรรค์ผลงานศลิ ปะของตนเอง โดยการนาความร้เู กย่ี วกบั
การใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และเทคนคิ ของปาโบล ปกี ัสโซ และจักรพันธ์ุ โปษยกฤติ มาประยกุ ตใ์ ช้
ขน้ั ท่ี 5 ปรบั ปรุงและพัฒนา
1. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันปรับปรุงและพฒั นาผลงานในใบงานท่ี 3.1-3.2 ของกลมุ่ ตนเอง ตามคาแนะนาที่
ได้รบั ในขนั้ ท่ี 4 จากนน้ั นาส่งครูตรวจ
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกยี่ วกบั ประวตั ิและผลงานของปาโบล ปกี ัสโซ และจกั รพนั ธ์ุ โปษยกฤต
เรื่องท่ี 2 ศลิ ปินทางทศั นศิลปส์ าขาประตมิ ากรรม
2 ช่วั โมง
วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ขน้ั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครูนาภาพผลงานทศั นศลิ ป์สาขาประตมิ ากรรม มาใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็
เก่ียวกับภาพผลงานดังกลา่ วในประเดน็ ทก่ี าหนด
2. ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นักเรียนเขา้ ใจว่า ภาพผลงานท่ีครนู ามาใหน้ กั เรียนดูนนั้ เปน็ ภาพผลงานของ
เฮนรี มวั ร์ และเขียน ยมิ้ ศิริ ซึ่งทง้ั 2 ทา่ น ต่างเป็นศลิ ปนิ ท่ีมชี ือ่ เสียงทางทัศนศิลป์สาขาประตมิ ากรรม
ขน้ั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore)
ครูให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ จับคกู่ ันเปน็ 2 คู่ ใหแ้ ตล่ ะคู่ร่วมกนั ศกึ ษาความรูเ้ รือ่ ง ศิลปนิ ทางทัศนศลิ ป์สาขา
ประตมิ ากรรม จากหนงั สอื เรยี น ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดให้ ดงั น้ี
- คทู่ ่ี 1 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง เฮนรี มวั ร์
- คู่ที่ 2 ศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง เขยี น ย้มิ ศิริ
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
1. สมาชิกแต่ละคนู่ าความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการศึกษามาเล่าใหเ้ พอื่ นอกี คหู่ นึง่ ฟัง ผลัดกนั ซกั ถามและอธบิ ายขอ้ สงสยั
จนทุกคนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนตรงกนั
2. ครอู ธบิ ายความรเู้ ก่ยี วกับประวัติและผลงานของเฮนรี มัวร์ และเขียน ยม้ิ ศิริ ใหน้ กั เรยี นฟงั เพมิ่ เติม เพอ่ื ให้
นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจชดั เจนมากยิง่ ขน้ึ
ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงานที่ 3.3 เรอ่ื ง ประวัติและผลงานของเฮนรี มวั ร์ และใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง
ประวัตแิ ละผลงานของเขียน ยิ้มศริ ิ
2. สมาชิกแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอภปิ รายเกี่ยวกบั การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และเทคนคิ ในการสร้างสรรคผ์ ลงานของ
เฮนรี มวั ร์ และเขยี น ย้ิมศริ ิ วา่ มคี วามคล้ายคลงึ หรอื แตกตา่ งกนั อย่างไรบา้ ง แล้วเขยี นสรุปลงในกระดาษ
ทีค่ รแู จกให้
ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบผลนกั เรยี นจากการทาใบงานที่ 3.3-3.4
2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความร้เู ร่ือง ศลิ ปินทางทศั นศิลป์สาขาประตมิ ากรรม
เร่อื งท่ี 3 ศิลปินทางทัศนศิลปส์ าขาภาพพิมพ์
2 ช่วั โมง
วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรียนความรู้ความเขา้ ใจ
ขั้นท่ี 1 สงั เกต ตระหนกั
1. ครูให้นกั เรยี นดูผลงานภาพพิมพ์ ด้วยการพมิ พบ์ นตะแกรงไหม และผลงานภาพพมิ พ์แกะไม้ แล้วให้
นกั เรยี นร่วมกนั สงั เกตและแสดงความคิดเหน็ ในประเด็นที่กาหนด
2. ครูอธิบายเชอ่ื มโยงให้นักเรยี นเขา้ ใจว่า ภาพผลงานท่ีครนู ามาใหน้ กั เรยี นดูนนั้ เปน็ ผลงานของแอนดี
วอร์โฮล และประหยดั พงษด์ า ซ่ึงท้ัง 2 ทา่ น ตา่ งเปน็ ศลิ ปนิ ทางทัศนศิลป์สาขาภาพพมิ พท์ ่ีมชี อ่ื เสียง
และมผี ลงานทโี่ ดดเด่นเปน็ ทยี่ อมรบั
ขัน้ ท่ี 2 วางแผนปฏบิ ัติ
1. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วางแผนและกาหนดขอบเขตในการศึกษาความรูเ้ รอื่ ง ศลิ ปินทางทัศนศิลป์
สาขาภาพพิมพ์ จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมุด และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
2. สมาชิกแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วางแผนและกาหนดขอบเขตในการศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง ศิลปนิ ทางทศั นศลิ ปส์ าขา
ภาพพมิ พ์ โดยแบ่งหนา้ ทใ่ี หส้ มาชกิ แตล่ ะคนตามความเหมาะสม
ขน้ั ที่ 3 ลงมอื ปฏิบตั ิ
สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรู้เร่ือง ศลิ ปนิ ทางทัศนศลิ ปส์ าขาภาพพมิ พ์ จากหนงั สือเรยี น หอ้ งสมดุ
และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ตามแผนท่ไี ด้วางไวใ้ นขัน้ ท่ี 2
ขั้นท่ี 4 พัฒนาความรู้ ความเขา้ ใจ
1. นกั เรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 3.5 เร่ือง ประวัติและผลงานของแอนดี วอรโ์ ฮล และใบงานที่ 3.6 เร่ือง
ประวตั แิ ละผลงานของประหยัด พงษ์ดา
2. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงานที่ 3.5-3.6
3. ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายเกีย่ วกบั การใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และเทคนคิ ในการสรา้ งสรรค์ผลงานของ
แอนดี วอรโ์ ฮล และประหยดั พงษด์ า
ขั้นท่ี 5 สรุป
ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความรเู้ รือ่ ง ศิลปินทางทัศนศิลป์สาขาภาพพิมพ์
ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนสร้างสรรค์ผลงานทางทัศนศลิ ปจ์ ากแนวคดิ ของศลิ ปนิ ทีต่ น
ชืน่ ชอบ คนละ 1 ชนิ้ โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามทก่ี าหนด
นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3
9 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียน ทศั นศิลป์ ม.4
2) กระดาษขนาด A4
3) บัตรภาพ
4) ใบงานที่ 3.1 เร่ือง ประวัติและผลงานของปาโบล ปกี ัสโซ
5) ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง ประวัติและผลงานของจกั รพันธุ์ โปษยกฤต
6) ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง ประวตั แิ ละผลงานของเฮนรี มัวร์
7) ใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง ประวัตแิ ละผลงานของเขยี น ยิม้ ศริ ิ
8) ใบงานท่ี 3.5 เรือ่ ง ประวัตแิ ละผลงานของแอนดี วอร์โฮล
9) ใบงานท่ี 3.6 เรื่อง ประวตั ิและผลงานของประหยัด พงษ์ดา
9.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/12
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/13
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/14
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินผลงานทางทศั นศิลป์จากแนวคดิ ของศิลปินท่ีตนชน่ื ชอบ
รายการประเมนิ ดีมาก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การสร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ผลงานจาก สร้างสรรคผ์ ลงานจาก สรา้ งสรรคผ์ ลงานจาก สร้างสรรคผ์ ลงานจาก
ผลงานจาก แนวคดิ ของศิลปนิ
แนวคิดของ ทชี่ น่ื ชอบไดถ้ กู ต้อง แนวคดิ ของศลิ ปนิ แนวคิดของศิลปนิ แนวคิดของศิลปิน
ศลิ ปินท่ีตน เหมาะสม สวยงาม
ชื่นชอบ แสดงออกถงึ ความคิด ที่ช่ืนชอบได้ถกู ต้อง ที่ชนื่ ชอบได้ถูกตอ้ ง ท่ีชืน่ ชอบได้ แต่ไม่
สรา้ งสรรค์
เหมาะสม คอ่ นข้าง เหมาะสม ค่อนขา้ ง เหมาะสม ไม่ค่อย
สวยงาม แสดงถงึ สวยงาม แตข่ าด สวยงาม และขาด
ความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์
เปน็ บางสว่ น
2. การจัดองค์ ผลงานมคี วามสมบรู ณ์ ผลงานมีความสมบูรณ์ ผลงานมีความสมบรู ณ์ ผลงานมีความสมบูรณ์
ประกอบศลิ ป์ ถูกตอ้ ง เหมาะสมตาม ถกู ตอ้ ง เหมาะสมตาม ถกู ตอ้ ง เหมาะสมตาม ถูกต้องตามหลักสาคญั
หลักสาคญั ของการจัด หลกั สาคัญของการจัด หลกั สาคญั ของการจดั ของการจดั องคป์ ระกอบ
องคป์ ระกอบศิลป์ องคป์ ระกอบศิลป์ องค์ประกอบศลิ ป์ ศลิ ป์ 1 ข้อ แตไ่ ม่
ทั้ง 3 ข้อ ไดแ้ ก่ 2 ขอ้ 1 ขอ้ เหมาะสม
1) ความเป็นเอกภาพ
2) ความกลมกลืน
3) ความสมดลุ
3. การเลอื กใชว้ สั ดุ เลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ เลอื กใช้วัสดุ อปุ กรณ์ เลือกใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ เลอื กใช้วัสดุ อุปกรณ์
อปุ กรณ์ เทคนิค เทคนคิ และกระบวนการ เทคนคิ และกระบวนการ เทคนคิ และกระบวนการ เทคนิค และกระบวนการ
และกระบวนการ ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน
ในการสร้างสรรค์ ได้ถกู ตอ้ ง ครบถ้วน ได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม ได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม ไดถ้ ูกต้องเพยี งสว่ นนอ้ ย
ผลงานทัศนศิลป์ เหมาะสม เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางสว่ น และไม่เหมาะสม
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ตา่ กว่า 6
ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ขอ้ ใดกลา่ วถึงปาโบล ปีกัสโซ ไดถ้ ูกตอ้ ง 6. งานประตมิ ากรรมของเฮนรี มวั ร์ ท่ีใช้บรเิ วณวา่ ง
ก. เปน็ ศิลปินผู้พฒั นาการวาดรปู ในแนว Cubism
ข. นยิ มสร้างผลงานด้วยไม้ สัมฤทธ์ิ หิน และบรอนซ์ สรา้ งสรรคค์ วามงาม ไดแ้ กผ่ ลงานชิ้นใด
ค. ได้รับการยกย่องให้เป็นศลิ ปินแห่งชาติ สาขา
ทศั นศิลป์ ก. ภาพกษัตริย์และพระราชินิ
ง. ภาพเขียนในช่วงแรกจะเปน็ การใช้สีขาว สดี า และสี
เทา ข. ภาพผลงานช่อื “Reclining Figure”
เปน็ หลกั
ค. ภาพประติมากรรมชุด “รูปคนนอน
2. ศลิ ปินไทยคนใดบ้างทน่ี าแนวคิดของปาโบล ปกี ัสโซ มา
ใชใ้ นการสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง ง. ภาพพระแม่มาดอนนากบั พระบุตร
ก. ชลดู นมิ่ เสมอ และถวัลย์ ดชั นี
ข. เฟอ้ื หรพิ ทิ ักษ์ และชลูด นิ่มเสมอ 7. ผลงานในระยะแรกของเฮนรี มัวร์ มีลกั ษณะอย่างไร
ค. ถวลั ย์ ดัชนี และเฉลมิ ชัย โฆษิตพพิ ฒั น์
ง. เฟอ้ื หริพทิ กั ษ์ และเฉลมิ ชัย โฆษิตพพิ ฒั น์ ก. เหมอื นจริง
3. จากภาพ เปน็ ผลงานของ ข. สง่ิ แวดล้อมรอบตวั
ปาโบล ปีกสั โซ ทสี่ รา้ งขน้ึ ในยุคใด
ก. ยคุ สมยั สนี า้ เงนิ ค. ประเพณีวฒั นธรรม
ข. ยคุ สมัยสกี ุหลาบ
ค. ยุคบาศกนิยม ง. เป็นแท่ง เป็นมวล เทอะทะ
ง. ยคุ สมัยฟน้ื ฟูศลิ ปวิทยาการ
8. ผลงานที่มีชอื่ ว่า “แมก่ บั ลกู ” ของเขียน ยม้ิ ศิริ ตอ้ งการ
4. จกั รพันธุ์ โปษยกฤต ถนดั และชืน่ ชอบการวาดภาพ
ลกั ษณะใด สอื่ ให้เห็นส่ิงใด
ก. การวาดภาพทิวทัศน์
ข. การวาดภาพตามจนิ ตนาการ ก. ความอ่อนชอ้ ย ข. ความโดดเด่น
ค. การวาดภาพลอ้ เลยี น เสยี ดสีสังคม
ง. การวาดภาพตัวละครในวรรณคดี และภาพเหมอื น ค. ความรกั ของแม่ ง. ความกลมกลนื
บคุ คล
9. ลักษณะเฉพาะของศิลปะภาพพมิ พ์ทแ่ี อนดี วอร์โฮล
5. จุดมุ่งหมายในการเลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ของจักรพนั ธุ์
โปษยกฤต คอื อะไร สร้างสรรค์ตรงกบั ขอ้ ใด
ก. เลอื กใชต้ ามประเภทของการทางาน
ข. เลือกใชต้ ามจดุ มงุ่ หมาย ก. พมิ พ์เป็นรูปดาราสาว
ค. เลอื กใชต้ ามแนวคิด
ง. เลอื กใชต้ ามเทคนคิ ข. ใช้แม่พมิ พต์ ะแกรงไหม
เฉลย ค. เน้นการออกแบบโฆษณา
1. ก 2. ข 3. ก 4. ง 5. ก ง. จดั วางซา้ กนั เป็นภาพต่อเนอ่ื ง
10. ประหยัด พงษด์ า นยิ มสรา้ งสรรค์ผลงานโดยใช้
วธิ ีการใด
ก. ผสมผสานความเป็นไทยและสากล
ข. เลา่ เรอื่ งราวในวรรณคดไี ทย
ค. ใช้แม่พมิ พต์ ะแกรงไหม
ง. พมิ พภ์ าพแกะไม้
มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/3-4, 7,10
มฐ. ศ 1.2 ม.4-6/2-4, 7,10
ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็
10
6. ค 7. ง 8. ค 9. ข 10. ง
แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3
คาชแี้ จง ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. จดุ มุง่ หมายในการเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ของจกั รพันธ์ุ 6. จากภาพ เป็นผลงานของ
โปษยกฤต คืออะไร ปาโบล ปีกัสโซ ทส่ี ร้างขึน้ ในยุค
ก. เลอื กใชต้ ามเทคนคิ
ข. เลือกใช้ตามแนวคิด ใด
ค. เลือกใชต้ ามจดุ มุง่ หมาย ก. ยุคสมัยฟืน้ ฟูศิลปวิทยาการ
ง. เลอื กใช้ตามประเภทของการทางาน ข. ยุคสมยั สนี า้ เงนิ
2. จกั รพนั ธ์ุ โปษยกฤต ถนัดและชน่ื ชอบการวาดภาพ ค. ยคุ สมัยสีกุหลาบ
ลกั ษณะใด
ก. การวาดภาพตวั ละครในวรรณคดี และภาพเหมือน ง. ยุคบาศกนยิ ม
บคุ คล
ข. การวาดภาพล้อเลยี น เสยี ดสีสงั คม 7. ผลงานทม่ี ชี ่อื วา่ “แม่กับลกู ” ของเขียน ยมิ้ ศริ ิ ตอ้ งการ
ค. การวาดภาพตามจินตนาการ
ง. การวาดภาพทวิ ทศั น์ สอ่ื ใหเ้ หน็ สงิ่ ใด
3. ประหยัด พงษด์ า นยิ มสร้างสรรคผ์ ลงานโดยใช้ ก. ความโดดเด่น ข. ความรกั ของแม่
วิธีการใด
ก. พมิ พ์ภาพแกะไม้ ค. ความกลมกลืน ง. ความอ่อนชอ้ ย
ข. ใช้แมพ่ มิ พต์ ะแกรงไหม
ค. เล่าเรื่องราวในวรรณคดไี ทย 8. ลกั ษณะเฉพาะของศิลปะภาพพมิ พท์ แ่ี อนดี วอรโ์ ฮล
ง. ผสมผสานความเปน็ ไทยและสากล สร้างสรรคต์ รงกับข้อใด
ก. จดั วางซ้ากันเป็นภาพต่อเนือ่ ง
4. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ปาโบล ปีกัสโซ ได้ถูกต้อง ข. เนน้ การออกแบบโฆษณา
ก. ภาพเขียนในช่วงแรกจะเปน็ การใชส้ ีขาว สดี า และ ค. ใช้แม่พิมพ์ตะแกรงไหม
สเี ทาเปน็ หลกั ง. พิมพเ์ ปน็ รูปดาราสาว
ข. ได้รบั การยกย่องใหเ้ ปน็ ศิลปนิ แห่งชาติ สาขา
ทศั นศลิ ป์ 9. ผลงานในระยะแรกของเฮนรี มัวร์ มีลักษณะอย่างไร
ค. นยิ มสร้างผลงานด้วยไม้ สัมฤทธ์ิ หิน และบรอนซ์ ก. เปน็ แท่ง เปน็ มวล เทอะทะ
ง. เปน็ ศลิ ปนิ ผพู้ ฒั นาการวาดรปู ในแนว Cubism ข. ประเพณวี ฒั นธรรม
ค. สง่ิ แวดล้อมรอบตวั
5. ศลิ ปนิ ไทยคนใดบา้ งทน่ี าแนวคิดของปาโบล ปีกัสโซ มา ง. เหมือนจรงิ
ใชใ้ นการสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง
ก. เฟื้อ หริพิทกั ษ์ และเฉลิมชัย โฆษติ พิพฒั น์ 10. งานประติมากรรมของเฮนรี มวั ร์ ท่ีใช้บริเวณว่าง
ข. ถวลั ย์ ดชั นี และเฉลิมชยั โฆษิตพิพฒั น์ สร้างสรรคค์ วามงาม ได้แก่ผลงานชิน้ ใด
ค. เฟือ้ หรพิ ทิ กั ษ์ และชลดู นมิ่ เสมอ ก. ภาพพระแม่มาดอนนากับพระบุตร
ง. ชลูด นมิ่ เสมอ และถวัลย์ ดชั นี ข. ภาพกษตั ริย์และพระราชนิ ิ
ค. ภาพผลงานช่ือ “Reclining Figure”
เฉลย ง. ภาพประติมากรรมชดุ “รปู คนนอน
1. ง 2. ก 3. ก 4. ง 5. ค มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/3-4, 7,10
มฐ. ศ 1.2 ม.4-6/2-4, 7,10
ได้คะแนน คะแนนเต็ม
10
6. ข 7. ข 8. ค 9. ก 10. ง
4หน่วยการเรียนรู้ท่ี การสร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป์
ประเภทจติ รกรรม
8(การสรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป)์ เวลา ชั่วโมง
1 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด
ศ 1.1 ม.4-6/4 มีทักษะและเทคนคิ ในการใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และกระบวนการทีส่ งู ขึ้นในการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์
ม.4-6/6 ออกแบบงานทศั นศลิ ปไ์ ด้เหมาะกบั โอกาสและสถานที่
2 สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การสรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ประเภทจติ รกรรม จะต้องมที กั ษะในการใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ กระบวนการ และ
เทคนคิ ตา่ งๆ อยา่ งถกู ตอ้ ง อกี ท้ังยังตอ้ งมคี วามคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการออกแบบผลงาน เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลงานทส่ี วยงาม
มคี ณุ คา่ เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่
3 สาระการเรียนรู้
3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1) เทคนคิ วสั ดุ อุปกรณ์ กระบวนการในการสร้างงานทัศนศิลป์
2) การออกแบบงานทัศนศลิ ป์
3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่ิน
(พิจารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)
4 สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
5 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทางาน
4. มีความรับผิดชอบ
6 ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ผลงานการวาดภาพระบายสี ในหัวขอ้ “เมอื งในฝัน” ด้วยเทคนคิ การเขียนภาพสีนา้ และสีโปสเตอร์
7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินกอ่ นเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การสร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ประเภท
จิตรกรรม
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1) ตรวจใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง เทคนคิ การเขยี นภาพสนี า้
2) ตรวจใบงานท่ี 4.2 เรือ่ ง การเขยี นภาพระบายสนี า้
3) ตรวจใบงานท่ี 4.3 เรื่อง เทคนคิ การเขยี นภาพสีโปสเตอร์
4) ตรวจใบงานท่ี 4.4 เรื่อง การเขยี นภาพระบายสโี ปสเตอร์
5) ตรวจใบงานที่ 4.5 เรอ่ื ง การเขยี นภาพโดยใช้เทคนคิ แบบผสม
6) ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น
7) ประเมินการนาเสนอผลงาน
8) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล
9) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่
10) สงั เกตคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
7.3 การประเมินหลงั เรยี น
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปป์ ระเภท
จติ รกรรม
7.4 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจผลงานการวาดภาพระบายสี ในหัวขอ้ “เมืองในฝนั ” ดว้ ยเทคนิคการเขยี นภาพสนี ้า
และสีโปสเตอร์
8 กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4
เรื่องที่ 1 เทคนิคการเขยี นภาพสีนา้
1 ชั่วโมง
วธิ สี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
ครูนาภาพเขยี นสนี า้ มาใหน้ กั เรียนดู แล้วใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ ในประเดน็ ทีก่ าหนด จากน้นั
ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ
ข้นั ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore)
1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ให้สมาชกิ แตล่ ะคนกาหนดหมายเลข
ประจาตวั เป็นหมายเลข 1-4 ตามลาดับ เรยี กกลมุ่ น้วี า่ กลุ่มบ้าน จากนนั้ ใหส้ มาชิกทม่ี หี มายเลขเดียวกนั
มารวมกนั เป็นกลมุ่ ใหม่ เรียกกล่มุ นวี้ ่า กลมุ่ ผเู้ ชยี่ วชาญ
2. นกั เรียนกลมุ่ ผู้เชี่ยวชาญร่วมกนั ศึกษาความรู้เรื่อง เทคนคิ การเขยี นภาพสนี ้า จากหนงั สอื เรียน ตามหวั ขอ้
ทีก่ าหนดให้ ดงั น้ี
- กล่มุ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง ความเข้าใจในลกั ษณะของสีนา้
- กลุ่มหมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรอ่ื ง ส่อื วัสดุ และอปุ กรณ์ในการเขยี นภาพระบายสนี ้า
- กลมุ่ หมายเลข 3 ศึกษาความร้เู รอื่ ง การรบั รูส้ กู่ ารสร้างสรรค์ผลงาน
- กลุม่ หมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรื่อง เทคนคิ การระบายสีนา้
ขัน้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
สมาชิกกลุ่มผ้เู ชย่ี วชาญกลับเข้าสกู่ ลมุ่ บ้าน ผลดั กนั นาความรู้ทไ่ี ด้จากการศึกษามาเล่าใหเ้ พอื่ นกลุม่ บา้ นฟัง
เรียงตามลาดบั หมายเลข 1-4 แล้วผลัดกันซักถามขอ้ สงสยั จากนั้นครูอธิบายเพม่ิ เตมิ
ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand)
1. นักเรียนแตล่ ะคนทาใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง เทคนิคการเขียนภาพสีนา้
2. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายเกย่ี วกับการนาเทคนคิ การเขยี นภาพสนี า้ ไปใช้ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน
ของตนเองในอนาคตไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง แล้วครูส่มุ นกั เรยี นนาเสนอผลการอภิปรายเปน็ รายกลมุ่ แลว้ ให้กลุ่มอ่ืน
ได้นาเสนอเพิม่ เตมิ ในสว่ นที่แตกต่างกนั ออกไป
ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงานท่ี 4.1
2. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้เรอ่ื ง เทคนิคการเขยี นภาพสีนา้
เร่อื งท่ี 2 การเขียนภาพระบายสีนา้
1 ชั่วโมง
วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ
ข้ันท่ี 1 สงั เกต รับรู้
1. ครูให้นกั เรียนดูวดี ทิ ัศนส์ าธติ การเขยี นภาพระบายสีนา้ แลว้ ให้นกั เรยี นช่วยกนั สงั เกต และแสดงความ
คิดเหน็ ในประเดน็ ทกี่ าหนด
2. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงความรู้เก่ียวกบั วสั ดุ อปุ กรณ์ และขน้ั ตอนในการเขยี นภาพระบายสนี า้
ขนั้ ท่ี 2 ทาตามแบบ
1. ครูสาธิตการเขียนภาพสนี า้ ภาพทิวทศั น์ในหอ้ งเรียน ใหน้ กั เรียนดู พรอ้ มอธิบายประกอบในแตล่ ะขน้ั ตอน
เพอื่ ใหน้ ักเรยี นสงั เกตและสามารถปฏบิ ัติไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
2. นักเรียนแตล่ ะคนฝึกเขียนภาพสีนา้ ภาพทิวทัศนใ์ นหอ้ งเรียน ตามแบบที่ครูสาธิต แลว้ ผลัดกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งในการปฏิบัติ หากมขี อ้ สงสยั ใหศ้ กึ ษาความร้เู พมิ่ เติม จากเอกสารประกอบการสอน หรอื
สอบถามจากครู
3. ครคู อยสังเกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนักเรยี นอยา่ งใกลช้ ดิ หากมีขอ้ บกพรอ่ ง ครูคอยใหค้ าแนะนาเพ่ือให้
นักเรียนสามารถปฏิบัติได้อย่างถกู ตอ้ ง
ขนั้ ที่ 3 ทาเองโดยไม่มีแบบ
1. นกั เรียนแตล่ ะคนเขยี นภาพสนี ้าภาพทิวทศั นใ์ นห้องเรยี น โดยไมต่ อ้ งดูแบบ แล้วผลัดกนั ตรวจสอบความ
ถูกต้องในการปฏิบตั ิ
2. ครคู อยสังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรมของนกั เรยี นอย่างใกล้ชิด หากมขี อ้ บกพรอ่ ง ครูคอยใหค้ าแนะนาเพือ่ ให้
นกั เรยี นสามารถปฏิบตั ไิ ด้อย่างถกู ตอ้ ง
ข้นั ท่ี 4 ฝึกทาให้ชานาญ
1. นกั เรยี นแต่ละคนฝกึ เขียนภาพระบายสีนา้ จนเกิดความชานาญ แลว้ ทาใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง การเขยี นภาพ
ระบายสีน้า เสร็จแล้วนาสง่ ครูตรวจ
2. นักเรยี นแต่ละคนออกมานาเสนอผลงานในใบงานที่ 4.2 หนา้ ชัน้ เรยี น โดยครคู อยแสดงความคิดเหน็ และ
ให้ ข้อเสนอแนะ
3. ครคู ดั เลอื กผลงานทดี่ ีทีส่ ดุ 3 อนั ดบั เพอ่ื นามาจดั ปา้ ยนเิ ทศแสดงผลงานของนกั เรียน
เร่ืองที่ 3 เทคนิคการเขียนภาพสีโปสเตอร์
1 ชัว่ โมง
วิธสี อนโดยการจัดการเรียนร้แู บบร่วมมือ : เทคนคิ เล่าเรอ่ื งรอบวง
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูตั้งคาถามใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั ตอบเพอื่ เปน็ การทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรยี น
2. ครูนาภาพเขยี นสโี ปสเตอร์ และภาพเขยี นสนี า้ มาให้นกั เรยี นดู แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกนั วิเคราะหค์ วาม
แตกตา่ งของท้ัง 2 ภาพ
3. ครูอธิบายเชอ่ื มโยงให้นกั เรียนเขา้ ใจถงึ ความแตกต่างของการเขยี นภาพสีโปสเตอร์กับสนี า้
ขั้น สอน
1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ กาหนดหมายเลขประจาตัวเปน็ หมายเลข 1-4 ตามลาดบั แลว้ ให้แต่ละหมายเลขศกึ ษา
ความรเู้ ร่ือง เทคนิคการเขยี นภาพสีโปสเตอร์ จากหนังสือเรยี น ตามหัวขอ้ ท่กี าหนดให้ ดงั น้ี
- หมายเลข 1 ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ลกั ษณะของสีโปสเตอร์
- หมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรอื่ ง การเขยี นภาพดว้ ยสีโปสเตอร์
- หมายเลข 3 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง วสั ดุ อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการเขยี นภาพสโี ปสเตอร์
- หมายเลข 4 ศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง การไลน่ า้ หนกั ของสีโปสเตอร์
2. สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขในกลมุ่ นาความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษามาเลา่ ให้เพอ่ื นในกลมุ่ ฟังทีละคน แบบเล่าเรือ่ ง
รอบวง เรียงตามลาดบั หมายเลข 1-4 ผลัดกนั ซกั ถามขอ้ สงสยั และอธิบายจนทกุ คนมีความเขา้ ใจชัดเจน
ตรงกัน
3. ครูอธิบายความรูเ้ ก่ยี วกบั เทคนคิ การเขียนภาพสโี ปสเตอร์ ให้นกั เรียนฟังเพมิ่ เตมิ พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ
และเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามขอ้ สงสยั
4. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 4.3 เรื่อง เทคนิคการเขยี นภาพสโี ปสเตอร์ เม่อื ทาเสรจ็ แล้วตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งเรยี บร้อย จากน้ันนาสง่ ครูตรวจ
ขน้ั สรุป
1. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรเู้ รือ่ ง เทคนคิ การเขยี นภาพสโี ปสเตอร์
2. ครูเน้นยา้ ให้นกั เรยี นนาความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาไปประยุกตใ์ ชใ้ นการเขยี นภาพสโี ปสเตอร์ เพื่อให้ผลงาน
มีความสวยงาม
เรอื่ งท่ี 4 การเขยี นภาพระบายสีโปสเตอร์
1 ชวั่ โมง
วธิ สี อนโดยใชก้ าร สาธิต
ขั้นที่ 1 เตรียมการสาธติ
1. ครูนาภาพระบายสโี ปสเตอร์ มาให้นกั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรียนเลือกภาพทช่ี ื่นชอบ คนละ 1 ภาพ แลว้ ให้
นักเรียนแต่ละคนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ที่กาหนด
2. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจเก่ียวกบั การสะทอ้ นความคดิ ความเป็นตวั ตนของศิลปนิ ผา่ นผลงานภาพเขียน
สีโปสเตอร์
3. ครูจดั เตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการเขียนภาพระบายสีโปสเตอร์ เพ่ือประกอบการสาธิต
ขน้ั ที่ 2 สาธติ
1. ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารสาธติ การเขียนภาพระบายสีโปสเตอร์ (ภาพห่นุ นิง่ หรอื ครอู าจปรับเปลย่ี นตามความ
เหมาะสม) ใหน้ กั เรียนทราบ
2. ครสู าธติ การเขยี นภาพระบายสีโปสเตอร์ ใหน้ กั เรียนดูเปน็ ตวั อยา่ ง พร้อมอธิบายประกอบทลี ะขัน้ ตอนอย่าง
ละเอยี ด เพ่ือให้นักเรยี นสังเกตขั้นตอนในการเขยี นภาพระบายสโี ปสเตอร์
3. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ฝกึ เขยี นภาพระบายสโี ปสเตอร์ ตามทค่ี รูสาธติ หากมขี อ้ สงสยั ให้ศึกษาความรู้
เพิ่มเติมจากหนังสอื เรียน หรอื สอบถามจากครู
ขั้นท่ี 3 สรปุ การสาธติ
1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันสรปุ และเรียงลาดับขน้ั ตอนในการเขยี นภาพระบายสีโปสเตอร์
2. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงานท่ี 4.4 เรอ่ื ง การเขียนภาพระบายสีโปสเตอร์ เป็นการบ้าน เสร็จแลว้ นาส่งครู
ตามกาหนดเวลาท่ตี กลงกัน
ข้นั ที่ 4 วัดผลประเมินผล
1. ครูวดั และประเมินผลนักเรยี นจากการทาใบงานที่ 4.4
2. ครคู ัดเลอื กผลงานทีด่ ที ่ีสดุ 3 อันดบั เพอ่ื นามาจัดป้ายนเิ ทศแสดงผลงานของนกั เรียน
เรอื่ งที่ 5 เทคนคิ ผสมในการเขยี นภาพ
1 ชั่วโมง
วธิ สี อนโดยการจดั การเรียนรู้แบบรว่ มมือ : เทคนคิ คคู่ ิดสสี่ หาย
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน
1. ครูนาภาพเขียนสีโดยใชเ้ ทคนคิ ผสม มาใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ให้นกั เรยี นตอบคาถามทก่ี าหนด
2. ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นกั เรยี นเขา้ ใจเกยี่ วกับเทคนิคผสมในการเขยี นภาพ
ขนั้ สอน
1. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ จับคกู่ นั เปน็ 2 คู่ ให้แตล่ ะครู่ ว่ มกันศึกษาความรู้เรอ่ื ง เทคนิคผสมในการเขยี นภาพ จาก
หนังสอื เรียน โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามท่กี าหนด
2. สมาชิกแตล่ ะคู่ผลัดกันนาความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการศกึ ษามาเลา่ ให้เพือ่ นอกี ค่หู นงึ่ ภายในกลมุ่ ฟัง ผลดั กันซกั ถาม
ข้อสงสยั และอธิบายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนตรงกนั
3. ครอู ธบิ ายความรู้เกยี่ วกบั เทคนคิ ผสมในการเขยี นภาพ พรอ้ มยกตัวอยา่ งประกอบใหน้ ักเรยี นฟงั เพม่ิ เตมิ
เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจชดั เจนมากยงิ่ ขนึ้
ข้ัน สรปุ
1. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ ร่ือง เทคนคิ ผสมในการเขยี นภาพ
2. ครูเน้นยา้ ใหน้ กั เรยี นนาความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศึกษาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการเขยี นภาพโดยใชเ้ ทคนคิ แบบผสม
เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลงานที่มคี วามสวยงาม
เรอ่ื งท่ี 6 การเขยี นภาพโดยใช้เทคนคิ แบบผสม 1 ช่ัวโมง
วธิ ีสอนโดยใช้การ สาธิต
ขน้ั ท่ี 1 เตรยี มการสาธติ
1. ครใู หน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งผลงานหรือศิลปินทใ่ี ชเ้ ทคนคิ แบบผสมในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทน่ี กั เรียนรจู้ กั
หรอื ชื่นชอบ พรอ้ มอธบิ ายลกั ษณะการใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเทคนิคในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานของศิลปิน
ดงั กล่าว
2. ครอู ธบิ ายให้นกั เรยี นเข้าใจเกีย่ วกบั การเขยี นภาพโดยใชเ้ ทคนคิ แบบผสม
3. ครจู ัดเตรยี มวัสดุ อปุ กรณ์ ทีใ่ ชใ้ นการเขยี นภาพโดยใช้เทคนิคแบบผสม เพอื่ ประกอบการสาธติ ให้นักเรยี นดู
ขน้ั ท่ี 2 สาธิต
1. ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารสาธติ การเขียนภาพโดยใช้เทคนคิ แบบผสม (ภาพทิวทัศนบ์ ริเวณโรงเรียน หรือครู
อาจปรบั เปลย่ี นตามความเหมาะสม) ใหน้ ักเรยี นทราบ
2. ครสู าธติ การเขยี นภาพโดยใช้เทคนคิ แบบผสม ใหน้ กั เรยี นดเู ป็นตวั อยา่ ง พรอ้ มอธบิ ายประกอบทลี ะข้นั ตอน
อย่างละเอยี ด เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสงั เกตขน้ั ตอนในการปฏิบัติ
3. สมาชิกแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ฝกึ เขยี นภาพโดยใชเ้ ทคนิคแบบผสม ตามทคี่ รูสาธิต หากมขี ้อสงสัยให้สอบถาม
จากครู
ข้นั ที่ 3 สรุปการสาธิต
1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สรปุ และเรยี งลาดบั ขนั้ ตอนในการเขยี นภาพโดยใชเ้ ทคนคิ แบบผสม
2. นักเรียนแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 4.5 เรือ่ ง การเขียนภาพโดยใชเ้ ทคนคิ แบบผสม เสรจ็ แลว้ ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งเรียบร้อยก่อนนาส่งครู
ขน้ั ท่ี 4 วดั ผลประเมินผล
1. ครูวัดและประเมินผลนกั เรยี นจากการทาใบงานที่ 4.5
2. ครูเน้นยา้ ให้นกั เรียนหมนั่ ฝึกฝนการเขยี นภาพโดยใช้เทคนคิ ตา่ งๆ เพอื่ ใหค้ ้นพบความถนัดของตนเอง
และสามารถสรา้ งสรรค์ผลงานไดอ้ ย่างสวยงาม
เรือ่ งที่ 7 การเขยี นภาพโดยใชเ้ ทคนิคแบบตา่ งๆ
2 ชว่ั โมง
วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม
ขน้ั ท่ี 1 มีผนู้ าและมกี ารแบง่ หน้าท่ีรับผดิ ชอบ
1. นักเรียนแต่ละกลมุ่ คดั เลือกหวั หนา้ กลมุ่ และเลขานกุ ารกลุม่ โดยครูเน้นยา้ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนรว่ มมอื และ
ช่วยเหลอื กันตลอดการปฏิบตั กิ จิ กรรม
2. ครสู ่มุ นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ให้บอกวัสดุ อุปกรณ์ และเทคนคิ ทใ่ี ชใ้ นการสรา้ งสรรคก์ ารเขยี นภาพ โดยใช้สี
ชนิดตา่ งๆ ครแู ละเพอื่ นกลมุ่ อื่นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งและใหข้ ้อเสนอแนะ
ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั วาดภาพระบายสี ในหัวข้อ “เมอื งในฝัน” ดว้ ยเทคนคิ
การเขียนภาพสีน้า และสีโปสเตอร์ โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด
ขน้ั ที่ 2 วางแผน
สมาชกิ แต่ละกลมุ่ รว่ มกันวางแผนและกาหนดแนวคดิ ในการสร้างสรรค์ผลงานตามหวั ข้อทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
โดยครูคอยกระตนุ้ ให้นกั เรยี นทุกคนมสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็
ข้ันที่ 3 ปฏิบัตติ ามแผน
สมาชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วาดภาพระบายสีตามแนวคิดทไ่ี ดว้ างแผนไว้ในขัน้ ท่ี 2 โดยครเู ป็นผูส้ งั เกตการณ์
และเนน้ ย้าใหส้ มาชกิ ทุกคนในกลุ่มชว่ ยเหลอื กนั ตลอดการปฏิบัตกิ ิจกรรม
ขั้นที่ 4 ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน
นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานการวาดภาพระบายสี ในหัวข้อ “เมอื งในฝนั ” หนา้ ชนั้ เรยี น
ครแู สดงความคดิ เหน็ และให้ข้อเสนอแนะ
ขน้ั ท่ี 5 ปรับปรงุ และพัฒนา
1. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ปรับปรงุ และพัฒนาผลงานตามคาแนะนาท่ีได้รบั เสร็จแลว้ นาสง่ ครูตรวจ
2. ครคู ัดเลอื กผลงานที่ดที ี่สดุ 3 อนั ดับ เพือ่ นามาจัดป้ายนิเทศแสดงผลงานของนกั เรียน
นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4
9 สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
9.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน ทัศนศลิ ป์ ม.4
2) หนังสอื คน้ คว้าเพม่ิ เตมิ
- สุชาติ เถาทอง. 2540. การเขียนภาพสีน้า. กรุงเทพมหานคร : แพรพ่ ทิ ยา.
3) เอกสารประกอบการสอน
4) วดี ิทศั น์สาธิตการเขยี นภาพระบายสนี า้
5) วสั ดุ อปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นการเขยี นภาพระบายสี ไดแ้ ก่ สชี นิดต่างๆ กระดานรองเขียน พกู่ ัน จานสี
ดนิ สอร่างภาพ ยางลบ และกระดาษวาดเขยี น
6) บตั รภาพ
7) ใบงานท่ี 4.1 เรื่อง เทคนคิ การเขยี นภาพสีนา้
8) ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง การเขยี นภาพระบายสนี ้า
9) ใบงานที่ 4.3 เรื่อง เทคนคิ การเขียนภาพสโี ปสเตอร์
10) ใบงานท่ี 4.4 เร่ือง การเขยี นภาพระบายสโี ปสเตอร์
11) ใบงานท่ี 4.5 เรอ่ื ง การเขียนภาพโดยใชเ้ ทคนิคแบบผสม
9.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/15
- http://www.aksorn.com/LC/Va/M4/16
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินผลงานการวาดภาพระบายสี ในหัวขอ้ “เมอื งในฝัน”
ดว้ ยเทคนิคการเขยี นภาพสีน้า และสโี ปสเตอร์
รายการประเมนิ ดีมาก (4) คาอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การออกแบบ ผลงานทีอ่ อกแบบมี ผลงานที่ออกแบบ ผลงานทีอ่ อกแบบ ผลงานทีอ่ อกแบบ
ผลงาน ความสมบูรณ์ ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง เหมาะสมตาม ถูกต้อง เหมาะสมตาม ถูกตอ้ งตามหลกั สาคญั
เหมาะสมตามหลกั หลักสาคญั ของการ หลกั สาคัญของการ ของการออกแบบ 1 ขอ้
สาคัญของการออกแบบ ออกแบบ 2 ขอ้ ออกแบบ 1 ขอ้ แตไ่ มเ่ หมาะสม
ทงั้ 3 ข้อ ได้แก่
1) ความเป็นเอกภาพ
2) ความกลมกลืน
3) ความสมดลุ
2. การจัดองค์ ผลงานมคี วามสมบูรณ์ ผลงานมีความสมบรู ณ์ ผลงานมีความสมบรู ณ์ ผลงานขาดความ
ประกอบศลิ ป์ ถกู ต้อง เหมาะสมตาม ถูกตอ้ ง เหมาะสมตาม ถูกตอ้ ง เหมาะสมตาม สมบูรณ์ตาม
องค์ประกอบในการ องค์ประกอบในการ องค์ประกอบในการ องค์ประกอบในการ
วาดภาพ และมคี วาม วาดภาพ และคอ่ นขา้ ง วาดภาพเป็นบางส่วน วาดภาพ และไม่
สวยงาม สวยงาม และค่อนข้างสวยงาม สวยงาม
3. การเลือกใช้วสั ดุ เลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เลือกใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ เลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์
อปุ กรณ์ เทคนิค เทคนิค และกระบวน เทคนิค และกระบวน เทคนคิ และกระบวน เทคนิค และกระบวน
และกระบวนการ การในการสร้างสรรค์ การในการสรา้ งสรรค์ การในการสร้างสรรค์ การในการสร้างสรรค์
ในการสรา้ งสรรค์ ผลงานได้ถูกต้อง ผลงานได้ถูกต้อง ผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง ผลงานไดถ้ ูกต้องเพยี ง
ผลงานทัศนศลิ ป์ ครบถ้วน เหมาะสม เหมาะสมเปน็ สว่ นใหญ่ เหมาะสมเป็นบางส่วน ส่วนนอ้ ย และไม่
เหมาะสม
4. ความคิดรเิ ริม่ ผลงานแสดงออกถงึ ผลงานแสดงออกถงึ ผลงานแสดงออกถึง ผลงานขาดความคิด
สรา้ งสรรค์ ความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์ ความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ ความคิดริเร่มิ สร้างสรรค์ ริเร่ิมสร้างสรรค์ ไม่มีการ
สอดแทรกเทคนิค สอดแทรกเทคนคิ สอดแทรกเทคนคิ สอดแทรกเทคนิค กลวธิ ี
กลวธิ ีแปลกใหม่ได้ กลวิธีแปลกใหม่ได้ กลวธิ ีแปลกใหม่ได้ แปลกใหม่
อย่างเหมาะสม ลงตวั อยา่ งเหมาะสม ลงตวั อย่างเหมาะสม ลงตวั และไมน่ ่าสนใจ
และมีความน่าสนใจ และคอ่ นขา้ งนา่ สนใจ แต่ไมค่ อ่ ยนา่ สนใจ
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ากว่า 8
ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4
คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. สีน้ามีคุณสมบตั ิท่ีแตกตา่ งจากสชี นิดอนื่ อยา่ งไร 6. ข้ันตอนแรกของการเขยี นภาพสนี ้า คืออะไร
ก. การระบายสจี ากซา้ ยไปขวา
ก. มีราคาถกู ข. กาหนดนา้ หนัก แสงเงาของภาพ
ค. การจดั เตรยี มสอื่ วัสดุ และอปุ กรณท์ จ่ี าเปน็
ข. หาซ้อื ได้ง่าย ง. การร่างภาพ โครงสรา้ ง และสว่ นรวมของภาพ
ค. มลี ักษณะโปร่งใส
ง. ระบายซอ้ นทบั ได้หลายครง้ั
2. คณุ สมบตั ิสาคญั ของสีโปสเตอร์ คืออะไร จากภาพ
7. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ ทคนิคการระบายสีน้า
ก. ความทึบแสง
ก. แบบโปร่งใสแหง้ เรว็
ข. ความโปร่งใส ข. แบบเปยี กบนเปยี ก
ค. แบบเปียกบนแหง้
ค. ความโปร่งแสง ง. แบบแห้งบนเปยี ก
ง. ความสะท้อนแสง
3. ขนของสัตว์ชนดิ ใดสามารถนามาทาเปน็ พู่กนั ได้
ก. ขนแกะ ข. ขนแมว 8. ขอ้ ควรระวงั ในการระบายสีนา้ คอื อะไร
ค. ขนหมขี าว ง. ขนกระตา่ ย ก. ระบายจากด้านขวาไปซ้าย และระบายจากบนลง
4. สีชนดิ ใดที่ใช้ระบายบางๆ แบบสนี ้า และปาดปา้ ยเป็น ล่าง
ก้อนแบบสนี ้ามนั ได้ ข. อยา่ ระบายสีทบั กันหลายคร้ังเพราะจะทาใหส้ ีด่าง
ก. สีพาสเทล ข. สอี ะคริลกิ ค. ไม่ควรระบายตอ่ เนื่องในแนวทีส่ ียงั ไม่แห้ง
ค. สโี ปสเตอร์ ง. สฝี ุ่น ง. ใชพ้ ู่กันจุ่มสีระบายบนภาพจรงิ ไดเ้ ลย
5. เครื่องมอื และอุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี มีความ 9. เทคนคิ การเขียนภาพสีโปสเตอร์ มีความสาคญั กบั ผูใ้ ด
สาคญั อยา่ งไร มากท่สี ดุ
ก. เป็นสอื่ สร้างสรรคใ์ ห้เกดิ ผลงานศลิ ปะทกุ ประเภท ก. ผเู้ รมิ่ ตน้ เรียนศลิ ปะ
ทุกแขนง ข. มัณฑนากร
ข. เป็นส่วนสาคัญในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานให้เป็นศิลปะ ค. สถาปนกิ
ประจาชาติ ง. จติ รกร
ค. เปน็ การเรยี นรู้เรอื่ งการเลือกใชว้ ัสดุ-อปุ กรณ์ 10. ใครใชเ้ ทคนิคผสมในการเขียนภาพ
บางประเภทเท่านน้ั ก. ฝนใชส้ ีโปสเตอรร์ ะบายลงบนผ้าใบ
ง. เปน็ การถา่ ยทอดการคิดค้นดัดแปลงวัสดุ-อุปกรณ์ ข. ออยใช้สีชอล์กวาดลวดลายบนกระถางตน้ ไม้
ในการวาดภาพ ค. เกดใชส้ ดี าผสมกับสีอ่ืนๆ เพอ่ื ให้สมี คี วามเข้มขน้ึ
ง. หยกใช้สีนา้ และสีโปสเตอร์ วาดภาพตกแตง่ การ์ด
มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/4, 6
อวยพรปีใหม่ มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/4, 6
ได้คะแนน คะแนนเตม็
เฉลย 10
1. ค 2. ก 3. ง 4. ข 5. ก
6. ค 7. ก 8. ข 9. ก 10. ง
แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ใครใช้เทคนิคผสมในการเขยี นภาพ 6. ขนของสตั วช์ นดิ ใดสามารถนามาทาเป็นพูก่ ันได้
ก. หยกใช้สนี า้ และสโี ปสเตอร์ วาดภาพตกแต่งการ์ด
อวยพรปใี หม่ ก. ขนกระตา่ ย ข. ขนหมีขาว
ข. เกดใช้สดี าผสมกบั สีอ่นื ๆ เพ่อื ใหส้ ีมีความเข้มข้ึน
ค. ออยใช้สีชอล์กวาดลวดลายบนกระถางต้นไม้ ค. ขนแมว ง. ขนแกะ
ง. ฝนใชส้ ีโปสเตอร์ระบายลงบนผา้ ใบ
7. คณุ สมบตั สิ าคัญของสีโปสเตอร์ คอื อะไร
2. ขอ้ ใดไม่ใช่เทคนิคการระบายสีน้า
ก. แบบแห้งบนเปยี ก ก. ความสะท้อนแสง
ข. แบบเปยี กบนแหง้
ค. แบบเปียกบนเปียก ข. ความโปร่งแสง
ง. แบบโปรง่ ใสแห้งเรว็
ค. ความโปรง่ ใส
3. ขน้ั ตอนแรกของการเขยี นภาพสีน้า คืออะไร
ก. การรา่ งภาพ โครงสร้าง และส่วนรวมของภาพ ง. ความทบึ แสง
จากภาพ
ข. การจัดเตรียมสอ่ื วสั ดุ และอปุ กรณ์ท่ีจาเป็น 8. สีนา้ มคี ณุ สมบตั ทิ แ่ี ตกต่างจากสีชนิดอ่ืนอย่างไร
ค. กาหนดน้าหนัก แสงเงาของภาพ
ง. การระบายสจี ากซ้ายไปขวา ก. ระบายซ้อนทับได้หลายครัง้
4. ข้อควรระวังในการระบายสีน้า คืออะไร ข. มีลักษณะโปร่งใส
ก. ใชพ้ ่กู นั จุม่ สีระบายบนภาพจริงไดเ้ ลย
ข. ไม่ควรระบายตอ่ เนื่องในแนวทส่ี ียังไม่แห้ง ค. หาซ้ือได้ง่าย
ค. อย่าระบายสที บั กนั หลายครั้งเพราะจะทาให้สีดา่ ง
ง. ระบายจากดา้ นขวาไปซ้าย และระบายจากบนลงลา่ ง ง. มีราคาถูก
5. เทคนคิ การเขยี นภาพสีโปสเตอร์ มคี วามสาคัญกับผ้ใู ด 9. สีชนดิ ใดที่ใชร้ ะบายบางๆ แบบสีนา้ และปาดปา้ ยเปน็
มากทส่ี ดุ
ก. จติ รกร ก้อนแบบสนี า้ มันได้
ข. สถาปนกิ
ค. มณั ฑนากร ก. สีฝ่นุ ข. สโี ปสเตอร์
ง. ผูเ้ รมิ่ ต้นเรยี นศลิ ปะ
ค. สีอะคริลิก ง. สีพาสเทล
เฉลย
10. เครือ่ งมอื และอุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี มคี วาม
1. ก 2. ง 3. ข 4. ค 5. ง
สาคัญอยา่ งไร
ก. เป็นการถา่ ยทอดการคิดค้นดดั แปลงวัสดุ-อปุ กรณ์
ในการวาดภาพ
ข. เป็นส่ือสร้างสรรค์ใหเ้ กิดผลงานศิลปะทกุ ประเภท
ทุกแขนง
ค. เป็นส่วนสาคญั ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานให้เปน็
ศิลปะ ประจาชาติ
ง. เป็นการเรียนรู้เรือ่ งการเลือกใช้วสั ดุ-อุปกรณ์
บางประเภทเท่านนั้
มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/4, 6
มฐ. ศ 1.1 ม.4-6/4, 6
ไดค้ ะแนน คะแนนเต็ม
10
6. ก 7. ง 8. ข 9. ค 10. ข
5หน่วยการเรียนรู้ท่ี การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์
ประเภทประติมากรรม
4(การสร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์) เวลา ชัว่ โมง
1 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั
ศ 1.1 ม.4-6/4 มที กั ษะและเทคนิคในการใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และกระบวนการทส่ี ูงขน้ึ ในการสรา้ งงานทัศนศิลป์
ม.4-6/6 ออกแบบงานทัศนศิลป์ไดเ้ หมาะกบั โอกาสและสถานที่
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การสร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ประเภทประติมากรรม จะต้องรู้จกั และมที กั ษะการใช้วัสดุ อุปกรณ์ กระบวนการ
และเทคนิคตา่ งๆ ในการปนั้ อีกทง้ั ตอ้ งมีความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการออกแบบ เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลงานท่ีมีความสวยงาม
มคี ณุ คา่ เหมาะสมกบั โอกาสและสถานท่ี
3 สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1) เทคนคิ วัสดุ อุปกรณ์ กระบวนการในการสร้างงานทัศนศลิ ป์
2) การออกแบบงานทศั นศิลป์
3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ
(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศึกษา)
4 สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการนาความรู้ไปใช้
4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
5 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ
6 ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ผลงานปน้ั แสดงเรื่องราวตามนทิ านทีช่ นื่ ชอบ โดยใช้เทคนคิ การปน้ั รปู แบบตา่ งๆ
7 การวัดและการประเมินผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
- ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรื่อง การสร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์ประเภท
ประติมากรรม
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1) ตรวจใบงานท่ี 5.1 เรอื่ ง การปน้ั รูปนนู ตา่
2) ตรวจใบงานที่ 5.2 เรือ่ ง การปั้นรปู นูนสงู
3) ตรวจใบงานท่ี 5.3 เรือ่ ง การปัน้ รปู ลอยตัว
4) ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน
5) ประเมินการนาเสนอผลงาน
6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
7) สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่
8) สังเกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
- ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การสร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ปป์ ระเภท
ประติมากรรม
7.4 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ตรวจผลงานป้นั แสดงเรอ่ื งราวตามนทิ านที่ชน่ื ชอบ โดยใช้เทคนิคการปนั้ รูปแบบตา่ งๆ
8 กิจกรรมการเรียนรู้
นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5