The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siriwan.phothisansakul, 2021-10-31 01:51:29

สมบูรณ์

สมบูรณ์

สรปุ

ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยแหลง่ ท่องเที่ยวและมีความหลากหลายของแหล่งทอ่ งเที่ยวมากทีส่ ดุ
ประเทศหนง่ึ ของโลก แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเปน็ กลมุ่ ใหญ่ๆได้ ดงั น้ี

แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์วถิ ี
ชวี ิต อนุเสาวรยี ์บคุ คลสำคญั เมอื งหรือแหลง่ อารยธรรมเกา่ แก่ และปราสาทหนิ เป็นต้น

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น ภูเขา (ดอย/ภู) น้ำตก ถ้ำ เหว หน้าผา จุดชมวิว อุทยานแห่งชาติ
วนอทุ ยาน เขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่า เขตห้ามล่าสตั ว์ป่า ป่าสงวนแห่งชาติ ทะเลสาบและบงึ ธรรมชาติ เปน็ ต้น

แหล่งท่องเท่ียวทางทะเล เช่น เกาะและหม่เู กาะต่างๆ ชายหาด แหลมและอา่ วตา่ งๆ เปน็ ต้น
แหลง่ ทอ่ งเที่ยวทางศาสนาและความเชอ่ื เชน่ วัด โบสถ์ มัสยิด เจดยี ์และพระธาตุ เปน็ ตน้
แหล่งท่องเที่ยวสมัยใหม่ เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนน้ำ สวนนก สวนสัตว์ ตลาดน้ำ ตลาดนัด สถาน
แสดงพันธสุ์ ตั วน์ ำ้ ฟาร์มสัตวป์ ระเทศต่างๆ รสี อร์ท สถานตากอากาศ และสวนสาธารณะ
วัฒนธรรมไทยมีส่วนที่คล้ายคลึงกับวัฒนธรรมเอเชีย กล่าวคือ มีการให้ความเคารพแก่บรรพบุรุษ ซึ่งเป็นการ
ยึดถือปฏิบัติกันมาอย่างช้านาน ชาวไทยมักจะมีความเป็นเจ้าบ้านและความกรุณาอย่างดี แต่ยังมีการแบ่งชน
ชั้น ความอาวุโสเป็นแนวคิดที่สำคัญในวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง ผู้อาวุโสต้องปกครองดูแลครอบครัวของตน
ตามธรรมเนยี ม และนอ้ งตอ้ งเช่ือฟังพี่การทักทายตามประเพณขี องไทย คอื การไหว้ ผนู้ ้อยมักจะเป็นผู้ทักทาย
ก่อนเมื่อพบกนั และผ้ทู ่ีอาวโุ สกว่าก็จะทักทายตอบในลักษณะท่ีคลา้ ย ๆ กัน สถานะและตำแหน่งทางสังคมก็มี
ส่วนต่อการตัดสินว่าผู้ใดควรจะไหว้อีกผู้หนึ่ง ก่อนเช่นกัน การไหว้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ในการให้ความเคารพ
และความนับถอื แกอ่ ีกผหู้ นงึ่

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซียน

วฒั นธรรมทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการดำรงชีวิตของคนไทยในทุกภาค มพี นื้ จากการเป็นสังคมเกษตรกรรม เป็น
สังคมที่ผสมผสานคติความเชื่อพื้นเมือง เช่น การนับถือสิ่งศักดิ์สทิ ธิ์ นับถือธรรมชาติ เข้ากับคติความเชื่อ ทาง
ศาสนา การเป็นสังคมเกษตรของไทยในอดีต คือการเกษตรแบบยังชีพ การทำนาเป็นอาชีพหลัก ใน อดีตเป็น
การทำนาที่ใช้แรงงานคนในครอบครัวและแรงงานสัตว์เป็นหลัก พึ่งพาน้ำฝนและน้ำในแม่น้ำลำ คลองในการ
เพาะปลูก และใช้ในชีวิตประจำวัน ลักษณะการดำรงชีวิตที่ต้องพึงพาธรรมชาติ และพึ่งพาตน เอง ทำให้
ชาวบา้ นเรียนร้ทู ่ีจะอยรู่ ว่ มกนั และพง่ึ พากัน เพอื่ ให้สามารถดำรงชีวิตอยูไ่ ด้อย่างมนั่ คงเป็นสุข

วัฒนธรรมแบบสังคมเกษตรของคนไทยมีลักษณะเด่น คือ เป็น สังคมที่มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ชว่ ยเหลือกัน มกี ารนับญาตกิ นั อย่าง สนิทสนม เชน่ ใชค้ ำวา่ ปู่ ย่าลุง ป้า นา้ พี่ เรยี กผูส้ งู อายุทไี่ ม่รู้จักกัน หรือ
ไม่ใช่ญาติ มีการยกย่องธรรมชาติและสิ่งที่มีบุญคุณ เช่น การทำ ขวัญพระแม่โพสพ การลอยกระทง เพื่อ
ขอบคุณและขอขมาพระแม่ คงคา การนับถือพระแม่ธรณี การทำขวัญโค-กระบือ มีการร่วมมือกัน ในสังคม
เช่น การขอแรงเพ่ือนบ้านมาช่วยกันทำงาน เมอื่ แรงงาน ภายในครอบครัวไมเ่ พียงพอ เช่น การลงแขก การขอ
แรง การเอาแรง เอามือ เอาปากกินหวาน เพื่อช่วยกันทำงานในนา ปลูกสร้างบ้าน โดยเป็นการแลกเปลี่ยน
หมุนเวียน แรงงานในชุมชน โดยที่ไม่ต้องใช้ การว่าจ้าง เจ้าของงานมีหน้าที่เพียงดูแลเรื่องอาหารการกินให้
เพียง พอแก่ผู้มาชว่ ยงาน

93

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

บทท่ี 3
เท่ียวทพิ ยป์ ระเทศฟลิ ปิ ปนิ ส์

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

สว่ นนำ

ฟิลิปปินส์(Philippines) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เป็นประเทศเอกราชที่เป็นหมู่เกาะ
ในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ ตง้ั อยู่ในมหาสมทุ รแปซิฟิกตะวนั ตกประกอบดว้ ยเกาะ 7,641 เกาะ มแี ม่น้ำ
ที่ยาวทีส่ ดุ คือแม่น้ำคากายันในภาคเหนือของเกาะลูซอน เมืองที่มีประชากรมากท่ีสุดคือนครเกซอน ฟิลิปปินส์
มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลจีนใต้ทางตะวันตก ทะเลเซเลบีสทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยมีพรหมแดนทะเล
รว่ มกับ ไตห้ วนั ทางทศิ เหนอื ปาเลาทางทศิ ตะวันออก มาเลเซยี และอินโดนีเซยี ทางทิศใต้ และเวยี ดนามทางทิศ
ตะวันตก ฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในแถบวงแหวนแห่งไฟและใกล้กับเส้นศูนย์สูตร ทำให้มีแนวโน้มสูงที่จะประสบภัย
จากแผ่นดินไหวและไตฝ้ ุ่น แต่ก็ทำให้มีทัง้ ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ี่อุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ
ในฟิลิปปินสม์ ภี ูเขาไฟทม่ี ีพลังอยหู่ ลายลกู เช่น ภเู ขาไฟมาโยน ภเู ขาปนี าตโู บ ภูเขาไฟตาอลั เน่ืองจากธรรมชาติ
ของเกาะตา่ งๆ เป็นภเู ขาไฟ ฟลิ ิปปินส์จึงมที รพั ยากรแรธ่ าตุอุดมสมบรู ณ์ มแี หล่งแรท่ องคำใหญ่ท่ีสุดเป็นอันดับ
ที่ 2 รองจากแอฟรกิ าใต้ ป่าดิบช้นื และชายฝัง่ ทะเลท่ีกวา้ งของฟลิ ิปปินส์ทำให้กลุ่มเกาะน้เี ป็นแหลง่ รวมนก พืช
สตั ว์ ฟิลปิ ปนิ สม์ เี นอ้ื ท่ปี ระมาณ(รวมพื้นผวิ แหล่งน้ำภายในแผ่นดิน) 300,000 ตารางกโิ ลเมตร (115,831ตาราง
ไมล์) และมีประชากรประมาณ 100 ล้านคน นับเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 8 ในเอเชีย
และเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับท่ี 12 ของโลก นอกจากนี้ยังมีชาวฟิลิปปินส์ประมาณ 10
ล้านคนอาศัยอยู่ในต่างประเทศรวมแล้วถือเป็นกลุ่มคนพลัดถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มหนึ่งของโลก ความ
หลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมปรากฏให้เห็นตลอดทั้งหมู่เกาะ ฟิลิปปินส์เป็นสมาชิกจัดตั้งองค์การ
สหประชาชาติ องค์การการค้าโลกการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย - แปซิฟิก และการประชุมสุด
ยอดเอเชียตะวันออก นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อพัฒนาเอเชีย ปัจจุบันประเทศนี้
ได้รับการพิจารณาว่าเป็นตลาดเกิดใหม่ (emerging market) และเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งมีระบบ

97

เศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบทีพ่ ึง่ พิงภาคเกษตรกรรมเป็นระบบที่พึง่ พิงภาคบริการและภาคการผลิต
มากขึน้ สว่ นในด้านการปกครองนนั้ เปน็ แบบพอ่ ปกครองลกู โครงสรา้ งทางการปกครองเปน็ แบบงา่ ย ๆ
มี 4 ชนช้นั คือ ดาตแู ละครอบครัว ขนุ นาง อสิ ระชน ทาส ในส่วนของกฎหมายและกฎระเบียบการปกครองนั้น
ยังไม่มี สถาบันที่สำคัญคือ ศาสนา แม่น้ำที่ยาวที่สดุ คือแม่น้ำคากายนั ในภาคเหนือของเกาะลซู อน อ่าวมะนิลา
(ชายฝั่งของอ่าวเป็นที่ตั้งของกรุงมะนิลาเมืองหลวง) เชื่อมต่อกับลากูนาเดบาอี(ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดใน
ฟลิ ิปปินส์) ผา่ นแมน่ ้ำปาซิก อา่ วซบู กิ อา่ วดาเบา และอ่าวโมโรเปน็ อ่าวอื่น ๆ ที่สำคญั ในฟิลิปปินส์มีภูเขาไฟที่
มีพลังอยู่หลายลูก เช่น ภูเขาไฟมาโยน ภูเขาปีนาตูโบ ภูเขาไฟตาอัล เป็นต้น การปะทุของภูเขาปีนาตูโบใน
เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1991 ถือเป็นการปะทุที่รุนแรงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลกในคริสต์ศตวรรษท่ี 20
เน่อื งจากธรรมชาตขิ องเกาะตา่ ง ๆ เปน็ ภเู ขาไฟ ฟิลิปปนิ สจ์ ึงมีทรพั ยากรแรธ่ าตุอดุ มสมบูรณ์ ประเทศน้ีมีแหล่ง
แร่ทองคำใหญท่ ีส่ ุดเปน็ อันดับที่ 2 รองจากแอฟรกิ าใต้ และเปน็ แหลง่ แรท่ องแดงท่ีใหญท่ ่ีสุดแห่งหนง่ึ ในโลก
ป่าดิบชื้นและชายฝั่งทะเลที่กว้างขวางฟิลิปปินส์ทำให้กลุ่มเกาะนี้เป็นแหล่งรวมนก พืช สัตว์ และสิ่งมีชีวิตใน
ทะเลหลากชนิด ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดประเทศของโลกที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยิ่ง เรา
สามารถพบสัตว์บกที่มีกระดูกสันหลงั ได้ถึงประมาณ 1,100 ชนิด ซึ่งรวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 100 ชนิด
และนกกว่า 170 ชนิด ในประเทศฟิลิปปินส์มีวัฒนธรรมและชื่อเสียงด้านงานหัตถกรรมการจักสานพื้นบ้านท่ี
อยูค่ ชู่ ุมชนมายาวนาน รวมถงึ การทอเสอื่ ใช้ในทอ้ งถ่นิ ของตนท่ีเรียกท่ัวไปว่า Banig ในหลายเขตจงั หวดั ท้ังเขต
หมู่เกาะตอนเหนือลูซอน หม่เู กาะตอนกลางวสิ ายาส์ และโดยเฉพาะในเขตหมู่เกาะตอนใต้มินดาเนา โดยแต่ละ
จังหวดั จะมกี ารออกแบบลวดลายสีสันแตกตา่ งกันไปตามลักษณะศิลปะพ้นื บ้าน โดยท่วั ไปชาวฟลิ ิปปินส์จะเน้น
การใช้สีสันและลวดลายทีเ่ ป็นลักษณะทรงเลขาคณิตและใชว้ สั ดุในท้องถิ่นของตนหลากหลาย อาทิ หญ้าทะเล
ใบตาล ใบเตย ต้นกก โดยมีการนำวัสดุดังกล่าวมาประยุกต์ทำหลากหลายผลิตภัณฑ์สินค้า อาทิ หมวก พัด
กระเปา๋ สตางค์ กระเปา๋ สะพาย กลอ่ งของขวัญ ถงุ ใส่ไวน์ รองเทา้ แตะ ทีร่ องแกว้ และจาน และของทร่ี ะลกึ

เทยี่ วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซียน

เนื้อหาในบทที่ 3 จะกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกแต่ละประเภท ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยว
ทางศิลปกรรม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ แหล่งท่องเที่ยวทาง
ประวตั ศิ าสตร์ และแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศ

จากทีก่ ลา่ วมาขา้ งตน้ ประเภทแหล่งท่องเท่ยี วทางศิลปกรรม ไดแ้ ก่ โบสถซ์ านอากุสตนิ (San Agustin
Church), ซากปรักหักพัง (The Ruins), โบสถ์บาโรกแห่งฟิลิปปินส์ (Baroque Churches of the
Philippines) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ ภูเขาช็อคโกแลต (Chocolate hills), อุทยาน
แห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปูเวร์โตปรินเซซา(Puerto Princesa Subterranean River National Park), ภูเขาไฟมา
ยอน (Mayon Volcano) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 3 มิติ
แบบโต้ตอบในฟิลิปปินส์ หรือ ART IN ISLAND, Casa Manila Museum, พิพิธภัณฑ์อายาลา (AYALA
MUSEUM) ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ เมืองโบราณอินทรามูรอส (Intramuros), ป้อม
ซานติเอโก (Fort Santiago), Historic City of Vigan ประเภทแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ได้แก่ เกาะโบราเคย์
(Boracay Island), เกาะมาลาปาสกัว (Malapascua Island), อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา
(Tubbataha Reef) ดังตอ่ ไปนี้

99

โบสถซ์ านอากสุ ติน (San Agustin Church)
ท่มี า: http://www.resource.lib.su.ac.th/art_asean/contents/country?country=PHI&category

โบสถ์ซานอากุสตินได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1993 ในฐานะสถาปตั ยกรรมชั้นเยีย่ ม
ลกั ษณะแบบโบสถ์บาโรกในประเทศฟลิ ปิ ปินส์ รฐั บาลฟิลปิ ปินส์ได้กำหนดให้เป็น “ศูนย์กลางประวัติศาสตร์
แหง่ ชาติ”

เท่ียวทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซียน

โบสถซ์ านอากสุ ตนิ (San Agustin Church)

โบสถซ์ านอากสุ ติน ตง้ั อยู่แถบกำแพงเมืองเกา่ ของอนิ ตรามโู รสทางฝ่ังตะวนั ตกของกรุงมะนลิ า ทีม่ า
ของโบสถ์ซานอากุสติน สร้างโดยคณะนกั บุญออกสั ตเิ นยี นชาวสเปน ใช้โครงสร้างจากไมไ้ ผแ่ ละใบปาล์มตาม
แบบสิ่งปลกู สร้างพื้นเมอื งแบบฟิลิปปินส์ แต่ว่าถูกไฟไหมไ้ ปหมดเมือ่ ปี 1574 จากการโจมตีมะนลิ าของกอง
กำลังโจรสลัดลิมาฮงหรือกลุ่มโจรสลัดหลินฟ่ง ต่อมาได้มีการสร้างโบสถ์ซานอากุสตนิ หลังที่ 2 สร้างขึ้นใหม่
อีกครั้งในตำแหน่งที่เดียวกัน และมีการเปลี่ยนมาใช้โครงสร้างมาเป็นไม้ทั้งหลังในปี 1583 ก็เกิดไฟไหม้อีก
ครั้งทำให้โบสถ์ทั้งหลังไฟไหม้ไปจนหมด ดังนั้นโบสถ์ซานอากุสตินที่สร้างขึ้นในปี 1571 นับเป็นหลังที่ 3 ที่
สร้างเสร็จสมบูรณ์และยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน การก่อสร้างยังคงสร้างตำแหน่งเดิมบนพื้นที่โบสถ์เก่าทั้งสอง
หลังในอดตี

โบสถ์ซานอากุสตินท่ีอินตรามูโรส เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโรกตะวันตกที่โดด
เด่นด้วยการตกแต่งโครงสร้างอย่างประณีต เน้นการให้แสงเงาตัดกัน โดยปรับให้เข้ากับสภาพอากาศของ
ฟิลิปปินส์ โคมระย้าทองขนาดใหญ่ห้อยลงมาจากเพดานทรงโค้ง บริเวณด้านนอกเป็นส่วนของหอระฆังท่ี
สรา้ งข้นึ จากหนิ ปะการังทั้งหลัง ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของโบสถซ์ านอากสุ ติน สร้างในรปู แบบเรียบง่าย
ผนังโบสถ์ใช้สีครีมและขาวตัดกัน เสาด้านหน้าเป็นแบบดอริกแต่หัวเสาเป็นแบบคอรินเธียน บานประตู
แกะสลกั รูปนกั บญุ ออกสุ ตินและนักบุญโมนีกาอย่างงดงาม บริเวณอาคารด้านขา้ งยงั สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เพ่ือ
เกบ็ รักษาโบราณวตั ถุ
เอกสารอ้างองิ : รศ.ปยิ ะแสง จนั ทรวงศไพศาล. (2021). โบสถซ์ านอากุสตนิ (San Agustin Church).
สืบค้น 5 ตลุ าคม 2564. สืบค้นจาก
http://www.resource.lib.su.ac.th/art_asean/contents/country?country=PHI&category
ผู้เรียบเรียง 97 นางสาวศิรวิ รรณ โพธสิ ารสกุล

101

ซากปรักหกั พงั (The Ruins)
ที่มา:https://ak-d.tripcdn.com/images/100h1f000001gru6tB71B.jpg?proc=source%2Ftrip

ซากปรกั หกั พัง (The Ruins) ในอดตี เปน็ คฤหาสนข์ อง ดอน มาริอาโน เลเดสมา แลคสนั
(Don Mariano Ledesma Lacson) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงภรรยาของเขา มาเรีย บรากา ลัคสัน (Maria
Braga Lacson) ปัจจุบนั เหลือเพียงซากปรักพังจากการเผาของกองโจรฟิลปิ ปนิ ส์ในสมยั สงครามโลกครง้ั ท่ี 2

เที่ยวทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

ซากปรกั หกั พงั (The Ruins)

ซากปรักหักพัง (The Ruins) เป็นซากของคฤหาสน์บ้านของครอบครัว ดอน มาริอาโน เลเดสมา
แลคสัน(Don Mariano Ledesma Lacson) และ มาเรีย บรากา ลัคสัน (Maria Braga Lacson) ตั้งอยู่ที่
Talisay , Negros Occidental ของประเทศฟิลิปปนิ ส์ คฤหาสน์น้ไี ด้แรงบลั ดาลใจจากสถาปตั ยกรรม
อิตาเลียนและถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1900 เพื่อรำลึกถึง มาเรีย บรากา ลัคสัน (Maria Braga
Lacson) ภรรยาชาวโปรตเุ กสของเขาไดเ้ สียชวี ิตระหวา่ งการเกิดลูกคนที่ 11 จากนนั้ ในชว่ งสงครามโลกคร้ัง
ที่ 2 กองโจรชาวฟิลิปปินส์ได้เผาเพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังญี่ปุ่นเข้ามาบุกรุกได้ ต่อมาในปัจจุ บัน ซาก
ปรักหักพัง (The Ruins) ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์และรู้จักกันในชื่อ "ทัชมาฮาลแห่งทาลิเซย์"
"ทัชมาฮาลแหง่ เนโกร"และ"ทัชมาฮาลแห่งฟิลปิ ปนิ ส์" มีสภาพท่พี ังยับเยิน

เอกสารอ้างอิง: Wikipedia. (2021). The Ruins of Intipata.สืบคน้ วนั ที่ 3 กันยายน 2564,
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Ruins_(mansion)
ผ้เู รยี บเรยี ง: 98 นายศุกรภ์ ิชัย บญุ มาก

103

โบสถบ์ าโรกแหง่ ฟลิ ปิ ปนิ ส์ (Baroque Churches of the Philippines)
ท่ีมา: http://architectureinsea.blogspot.com/2017/10/san-agustin-church-in-manila.html

โรมันคาทอลกิ 4 แหง่ ได้แก่ โบสถซ์ านออกสั ติน, โบสถซ์ านตามาเรยี , โบสถ์ซานอกสั ติน และโบสถ์
ซานโต โดยมีเอกลักษณค์ ือการแสดงความเป็นบาโรกของยโุ รปที่ผสมผสานลวดลายแบบจนี

เท่ยี วทิพย์ 10 ประเทศอาเซยี น

โบสถบ์ าโรกแห่งฟลิ ปิ ปินส์ (Baroque Churches of the Philippines)

โบสถ์บาโรกแห่งฟิลิปปินส์ ประกอบด้วยโบสถ์โรมันคาทอลิก 4 แห่ง มีการผสมผสานศิลปะ
ลวดลายของจีน คริสตจักรจึงกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากการปฏิวัติและการก่อกบฏในประเทศ
โบสถ์เหล่านีจ้ ึงไม่ใช่สง่ิ ก่อสร้างท่ีให้บรกิ ารทางศาสนาเท่านั้น แต่เป็นสิง่ ก่อสรา้ งในลักษณะป้อมปราการ

ความสำคญั และลกั ษณะทางกายภาพ
1) โบสถซ์ านออกัสติน ในกรงุ มะนิลา เป็นแหง่ แรกท่ีสร้างขน้ึ บนเกาะลูซอน โบสถ์แหง่ นไี้ ดก้ ลายเป็นแม่แบบ
ของโบสถ์ออกัสตนิ ในประเทศฟิลปิ ปินส์
2) โบสถซ์ านตามาเรยี ในซานตามาเรยี จงั หวดั อิโลโกสซรู ์ สรา้ งต้งั ข้นึ ในปี 1765 ถอื เปน็ โบสถ์ออกัสติเนียน
ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟิลิปปินส์ ตัวอาคารโบสถ์ก่ออิฐสีแดงโดดเด่น มีโครงสร้างที่ป้องกันการ
ถล่มเนือ่ งจากแผน่ ดินไหว
3) โบสถ์ซานอกัสติน ในปาโออาย จงั หวัดอโิ ลโคสนอรเ์ ต เปน็ โบสถโ์ รมันคาทอลกิ สรา้ งจาก อิฐ หนิ ปะการัง
และไม้แปรรปู ทเ่ี น้นคานขนาดใหญท่ ด่ี า้ นข้างและหลังอาคาร มีหอระฆังสร้างขึน้ จากหนิ ปะการัง
4) โบสถ์ซานโตโทมสั เดอ วิลลานูวา ในไมอากาโออิโลอิโล เปน็ สถานปฏิบัตขิ องศริสตจักรโรมนั คาทอลิกถูก
ทำลายโจรสลัดมุสลิมเป็นสถานที่ปฏิบัติภาระกิจทางศาสนา ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการเพื่อต้านทานการ
รุกรานทจ่ี ะเกิดขึน้ ในอนาคต

การข้ึนทะเบยี นเป็นมรดกโลก โบสถท์ ง้ั 4 แห่งไดร้ บั การขึ้นทะเบียนเปน็ มรดกโลกรวมกันในปี พ.ศ.
2536 โดยมคี ุณสมบัตติ รงตามขอ้ กำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกโลกดา้ นวัฒนธรรม
เอกสารอ้างอิง: UNESCO World Heritage Centre. (2014). “Baroque Churches of the
Philippines” สบื ค้น 5 ตุลาคม 2564, จาก http://whc.unesco.org/en/list/677
ผ้เู รียบเรยี ง 99 นางสาวศจุ ภี รณ์ มานะสะสม

105

Chocolate hills
ที่มา: https://travel.mthai.com/world-travel/85085.html

“ช็อกโกแลตฮิลส์” เนินเขาความสงู ราว 400 ฟตุ ประมาณ 1,260 ถงึ 1,776 ลกู ที่ตัง้ อย่บู น
เกาะโบฮอลในฟิลปิ ปนิ ส์ โดยโครงสร้างของภูเขาเหล่าน้กี ็คอื หนิ ปูนทีถ่ กู ปกคลมุ ด้วยต้นหญ้า

เทยี่ วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

ภูเขาช็อคโกแลต (Chocolate hills)

Chocolate hills ตั้งอยู่บนเกาะโบฮอลทางตอนใต้ของมะนิลา รูปทรงของช็อคโกแลตฮิลส์ คือ
เนินเขาลูกย่อมๆ ทรงกรวยควำ่ ที่มีลกั ษณะคอ่ นข้างจะสมมาตรเรียงกันเปน็ บริเวณกวา้ ง ครอบคลุมพืน้ ทกี่ ว่า
50 ตารางกิโลเมตร คาดว่ามีจำนวน 1,260 ถึง 1,776 ลูก ความสูงโดยเฉลี่ยของเนินเหล่านี้อยู่ที่ 30-50
เมตร ส่วนลูกที่ใหญ่ที่สุดมีความสูง 120 เมตร โครงสร้างเนินเหล่านี้เป็นหินปูน ที่ถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้า
เนินเขาเหล่าน้ีเกิดจากธรรมชาติ โดยนักธรณีวิทยาเชื่อว่า อดีตชาติหลายล้านปีก่อนบริเวณน้ีเปน็ ท้องทะเล
และนี่คือแนวปะการัง ต่อมาเวลาเปลี่ยนนำ้ ทะเลเกิดเหือดแห้งหลงั จากนั้นก็เกิดการทับถมของหินปนู นาน
วันเข้ากลายเป็นเนินเขาเหล่าน้ี แต่ก็มีตำนานตามความเชื่อของชาวฟิลิปปินส์ที่เชื่อว่า ช็อกโกแลตฮิลส์เกิด
จากการต่อสู้กันของยักษ์สองตัว ตัวที่แพ้ได้ร้องไห้ออกมา และหยดน้ำตาของมันจึงกลายมาเป็นเนินเขา
นั่นเอง พืชผักของช็อคโกแลตฮิลส์ถูกครอบงำโดยสายพันธุ์หญ้าเช่นหญ้าคาและSaccharum โดยจากเนิน
เขาทั้งหมด 1,247 แห่งมีแค่ 2 แห่งเท่านั้นที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยว จุดชมวิว
หลักของช็อกโกแลตฮลิ ส์คือศูนย์ช็อกโกแลตฮลิ สค์ อมเพลก็ ซ์ของรัฐบาลในเมืองคาร์เมน เมืองโบโฮลหา่ งจาก
เมืองตักบิลารันเมืองหลวงของภูมิภาคประมาณ 55 กม.อีกจุดหลักในการชม Chocolate Hills อยู่ที่ยอด
เขา Sagbayan ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือช็อกโกแลตฮลิ ส์เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล ในฤดูฝนเนนิ เขาจะเขียวชอ่มุ
และจะกลายเป็นสเี หลืองอ่อนจนถงึ สีนำ้ ตาลชอ็ กโกแลตในฤดรู อ้ น

เอกสารอ้างอิง: NGThai. เยือนช็อกโกแลตฮิลส์ เนินเขาแปลกในฟิลิปปินส์ สืบค้น 4 ตุลาคม 2564, จาก
https://ngthai.com/travel/11704/chocolate-hills-in-the-philippines/
ผูเ้ รียบเรียง 100 นางสาวสรัลชนา จิตตราวงค์

107

อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปูเวร์โตปรินเซซา(Puerto Princesa Subterranean River National
Park)
ทีม่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/อทุ ยานแหง่ ชาติแมน่ ้ำใต้ดินปเู วรโ์ ตปรินเซซา

เปน็ อุทยานแห่งชาติของประเทศฟลิ ิปปินส์ เป็นแม่นำ้ ใตด้ นิ ท่ีมีความยาวท่ีสุดในโลก และได้จัดเป็น
มรดกโลกทางธรรมชาติในปี ค.ศ. 1999

เทีย่ วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซียน

อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปูเวร์โตปรินเซซา(Puerto Princesa Subterranean
River National Park)

อุทยานแห่งชาตแิ ม่น้ำใต้ดินปูเวร์โตปรินเซซาตั้งอยู่บรเิ วณทวิ เขาเซนต์พอล ทางตอนเหนือของเขา
เกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นแม่น้ำที่มีความยาวที่สุดในโลก (ประมาณ8.2กิโลเมตร) ลอดผ่านถ้ำ
หินปูนของทิวเขาเซนต์พอล ที่มีอายุกำเนิดมานานกว่า 20 ล้านปี ภายในถ้ำประกอบด้วยหินงอกหินย้อย
ต่างๆ ที่มีลักษณะรูปร่างตามแต่จินตนาการของผู้พบเห็น เช่น หัวสิงโต เห็ดหรือพระแม่มารี ซึ่งถือเป็น
จุดสำคัญของการเข้าชม การเข้าชมต้องใช้วิธีการล่องเรือพายเข้าไป และใช้ไฟฉายส่องเพราะภายในถำ้ ไม่มี
การติดตั้งไฟ ก่อนที่จะเข้าสู่ถ้ำ ต้องเดินผ่านเส้นทางชมธรรมชาติซึ่งเป็นป่าดิบที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไป
ดว้ ยป่าไม้นานาชนิด และสตั ว์ปา่ หายากชนิดต่างๆ เชน่ ลงิ แสม นกเงอื กปาลาวัน และภายในถ้ำก็เป็นแหล่ง
อาศยั ของค้างคาวจำนวนมาก

เอกสารอา้ งองิ : สมุทรโคจร สืบค้น 3 ตุลาคม 2564 จาก
https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=278
ผู้เรียบเรียง 101 นางสาวสรัลพร พูลสวัสด์ิ

109

ภูเขาไฟมายอน (Mayon Volcano)
ทม่ี า: http://www.pentorexchange.com/news_view.php?id=703

ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ บนเกาะลูซอน อยู่ในจังหวัดอัลเบ (Albay)
รูปทรงภเู ขาเป็นรปู สมมาตรทีส่ วยงาม มคี วามสงู 2,462 เมตร

เทย่ี วทิพย์ 10 ประเทศอาเซียน

ภเู ขาไฟมายอน (Mayon Volcano)

ภูเขามายอน ตั้งอยทู่ างตะวันออกเฉยี งใต้ของประเทศฟลิ ปิ ปินส์ บนเกาะลซู อน อยู่ในจังหวัดอลั เบ
(Albay) และอย่ใู นเขตอุทยานแหง่ ชาติภูเขาไฟมายอนเป็นภูเขาไฟท่ยี ังไม่ดบั เคยเกดิ ระเบดิ มาแลว้ 40 คร้ัง
ในรอบ 400 ปีที่ผ่านมา รูปทรงภูเขาเป็นรูปสมมาตรที่สวยงาม มีความสูง 2,462 เมตร โดยครั้งล่าสุดเกิด
ระเบิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1984 และครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1814 เป็นการปะทุ
แบบทำลายลา้ งและมลี าวาไหลไปทวั่ ซึ่งจะเห็นได้จากลาวาท่ีแข็งตวั จนกลายเปน็ หนิ อยู่รอบพน้ื ท่ี ทว่าความ
สวยงามของรูปทรงและจุดชมวิวบนยอดเขา และยังมีซากปรักหักพังของโบสถ์อันเก่าแก่ที่ถูกทำลายโดย
ลาวา ภูเขามายอน (Mayon Volcano) มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่าเป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ในโลก ด้วยรูปร่างทรงกรวย เป็นรูปสมมาตรที่สวยงาม เหมือนภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น เพราะด้วยความ
สวยงามแบบธรรมชาติ ภูเขาไฟแห่งนี้จึงได้ถูกจัดให้ขึ้นชื่อว่าเป็น 10 อันดับสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
นักท่องเที่ยวจึงแห่กันมาดูความสมบูรณ์แบบของภูเขาไฟมายอนเพราะเป็นการยากที่จะหาภูเขาไฟที่มี
รูปร่างสวยงามตระการตาขนาดนีใ้ นโลก

คำว่า มายอน มาจากคำว่า มากายอน (Magayon) ที่แปลว่า ‘สวยงาม’ เขาว่ากันว่าภูเขาไฟมา
ยอน คือ ภูเขาไฟที่สวยงาม และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก เพราะมีรูปทรงเป็นทรงกรวยที่สมบูรณ์ 360
องศา สามารถมองเห็นภูเขาไฟมายอนตระหงา่ นเวลามองจากไกลๆ

เอกสารอ้างอิง: pentorexchange. ภูเขาไฟมายอน เกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์. สืบค้น 3 ตุลาคม
2564, จาก http://www.pentorexchange.com/news_view.php?id=703
ผเู้ รยี บเรียง 102 นางสาวสติ าภา เล๊ยี บประเสริฐ

111

พิพิธภณั ฑศ์ ิลปะ 3 มิติแบบโต้ตอบในฟลิ ปิ ปนิ ส์ หรือ ART IN ISLAND
ทมี่ า: https://board.postjung.com/1273147

เทยี่ วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซียน

พิพิธภัณฑ์ศลิ ปะ 3 มิติแบบโตต้ อบในฟลิ ปิ ปินส์ หรอื ART IN ISLAND

ART IN ISLAND ในเมืองหลวงของมะนิลานี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกซอนซิตี (Quezon City) และถือ
เป็นพิพิธภัณฑ์ภาพวาด 3 มิติที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ภายในมีงานศิลปะมากมายทั้งที่วาดอยู่บนฝาผนัง
และบนพื้นที่ ใช้ประโยชน์จากบัตรเข้าชมสำหรับ 1 วันที่ ด้วยการเข้าไปชมงานศิลปะมากมายที่ทำให้
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สำคัญ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เหมือนที่อื่นตรงที่ไม่ต้องนั่งสำรวมกิริยาใด ๆ
คุณสามารถไถลลื่น หรือนอนลงไปกับพื้น และส่งเสียงหัวเราะได้ดังเท่าที่ต้องการ นอกจากภาพวาด
พิพิธภัณฑ์ยังมีนิทรรศการอื่น ๆ ให้ไปชื่นชม เช่นนิทรรศการแบล็คไลต์อาร์ต (Black Light Art) และ
นทิ รรศการภาพวาดท่เี คลือ่ นไหวได้ (Paintings in Motion)

ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ต่างๆทั่วโลกไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งแต่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่
เพียง แต่อนุญาตให้สัมผัสการจัดแสดงและการถ่ายภาพเท่านั้น ในความเป็นจริงการเดินทางไปยัง“ Art in
Island ” พิพิธภัณฑ์ศิลปะแบบอินเทอร์แอคทีฟที่จะไร้ประโยชน์หากไม่มีกล้องถ่ายรูป พิพิธภัณฑ์มีภาพ
จิตรกรรมฝาผนังศิลปะกลลวงกว่า 50 ภาพซ่ึงวาดโดยทมี จิตรกรเอกชาวเกาหลี 18 คนท่ีบินมารว่ มโครงการ
นี้โดยเฉพาะ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเหล่านี้ให้ภาพลวงตาของความลึกเมื่อมองจากบางมุมและออกแบบมา
เพ่ือใชเ้ ป็นฉากหลงั สำหรบั โอกาสในการถ่ายภาพ ผู้เขา้ รว่ มพิพิธภัณฑค์ วรปีนข้ึนไปบนภาพวาดและถ่ายภาพ
ปฏิสมั พนั ธ์ของพวกเขา

เอกสารอ้างองิ : Kaushik Patowary(2015). Art in Island: An Interactive 3D Art Museum In
Philippines สบื ค้น4ตลุ าคม2564 จาก https://board.postjung.com/1273147
ผู้เรียบเรียง 103 นางสาวสริ าวรรณ ห้อยแก้ว

113

Casa Manila Museum
ท่ีมา: https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=240

คฤหาสน์สมยั อาณานคิ มสเปนหลังนี้ ภายในตกแตง่ ด้วยเคร่ืองเรือน ของประดับบ้าน และงานศิลปะ
สมัยโบราณ ตัวอาคารสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ความมั่งคง่ั ของตระกลู ต่างๆ ที่อาศยั อยูภ่ ายใต้การปกครองของสเปน

เทยี่ วทิพย์ 10 ประเทศอาเซยี น

Casa Manila Museum

Casa Manila Museum เป็นคฤหาสน์สมัยอาณานิคมสเปนที่อยู่ในย่านเมืองโบราณอินทรามูรอส
สร้างด้วยหินภูเขาไฟและต่อเติมชั้นบนด้วยโครงสร้างไม้กลางครสิ ต์ศตวรรษที่ 19 ภายในตกแต่งดว้ ยเครื่อง
เรือน ของประดับบา้ น และงานศิลปะสมัยโบราณ ตัวอาคารสะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความม่ังคัง่ ของตระกูลตา่ งๆ ที่
อาศยั อยูภ่ ายใตก้ ารปกครองของสเปน อธิบายถึงวิถชี วี ิตของชาวอาณานคิ มในยุคลา่ อาณานคิ มของสเปนใน
ฟิลิปปินส์พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลาเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของชาวฟิลิปปินส์บันทึกเหตุการณ์ทางด้าน
ประวัติศาสตร์นับหลายพันปี ตั้งแต่วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวพื้นเมืองฟิลิปปินส์ไปจนถึงศิลปะทางด้าน
วัฒนธรรมท่แี ตกต่างกันออกไป โดยภายในพพิ ธิ ภัณฑ์แห่งนี้แบง่ การแสดงนิทรรศการออกไปเปน็ 3 ช้ัน เคย
ถูกไฟไหม้เสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในช่วง ค.ศ.1980
ภายในตกแต่งอย่างดี เพื่อถ่ายทอดภาพชีวิตของครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ในช่วงที่ตกเป็นอาณานิคมของ
สเปน เปิดให้บริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 9:00 น. – 18:00 น.อัตราค่า
เข้าชม 75 PPH สำหรับผู้ใหญ่ และอัตราค่าเข้าชม 50 PPH สำหรับเด็กนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ และผู้
พกิ าร

เอกสารอ้างอิง: Webmaster.(2563). พิพธิ ภณั ฑ์คาซามะนลิ า กรงุ มะนิลา.สบื คน้ 5 ตุลาคม 2564, จาก
https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=240
ผู้เรียบเรียง 104 นางสาวสิริรัตน์ เร็มศรงี าม

115

พพิ ิธภณั ฑ์อายาลา (AYALA MUSEUM)
ทมี่ า: https://th.trip.com/travel-guide/attraction/makati/ayala-museum-95791/

พพิ ิธภัณฑ์อายาลาอยู่ในมาคาติ เมโทรมะนิลา ฟิลปิ ปนิ ส์ ต้งั อยูต่ ิดกบั ห้างสรรพสินค้ากรีนเบล ข้าง
ในมกี ารจัดนทิ รรศการเก่ียวกับประเทศฟิลิปปนิ ส์

เที่ยวทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

พิพธิ ภณั ฑ์อายาลา (AYALA MUSEUM)

พิพิธภัณฑ์อายาลาอยู่ในมาคาติ เมโทรมะนิลา ฟิลิปปินส์ โดยพิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ติดกับ
ห้างสรรพสินค้ากรีนเบล ในอตีตผู้ก่อตั้งคือ จิตรกรเฟร์นันโดโซเบล เดออายาลามอนโตโย ได้ก่อตั้ง
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ขึ้นมาในปี 1967 โดยการจัดตั้งนี้เป็นโครงการของมูลนิธิ Filipinas
เดิมพิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์มาคาติเก่า โดยอาคารนี้ถูกออกแบบโดยศิลปินแห่งชาติ แต่
ด้วยสภาพอาคารที่เสื่อมสภาพลง จึงเกดิ ข้อวิพากษว์ ิจารณ์อยา่ งหนักในเรอื่ งไม่เหมาะสมทีจ่ ะเป็นพิพิธภัณฑ์
แห่งชาติ จึงได้ย้ายไปที่อยู่ปัจจุบันในปี 2002 โดยข้างในมีการจัดแสดงถึงชาติพันธุ์ โบราณคดีเกี่ยวกับ
วัฒนธรรม ศิลปะและประวัติศาสตร์ของชาวฟิลิปปินส์ มีจัดการงานศิลปะร่วมสมัย เช่น ฉากไดโอรามาทำ
มือ 60 ชิ้น เป็นการเล่าประวัติความเปน็ มา เน้นเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่ยคุ ก่อนประวัตศิ าสตร์ไปจนถึงช่วงที่
ได้รับอิสรภาพ นิทรรศการ Beyond Tobacco เป็นการนำเสนอประวัติทางเศรษฐกิจระหวา่ งฟิลิปปินส์กับ
สเปนหลงั จากการผูกขาดยาสบู ศูนย์การศึกษามรดกฟลิ ิปปินส์เกี่ยวกับภาษา ศาสนาและสังคมศาสตร์ การ
ทำภาชนะเซรามิกเพือ่ การค้าจากคอลเลก็ ชัน Roberto T. Villanveva

เอกสารอ้างอิง: Wikipedia . (2004) . พิพธิ ภณั ฑ์อายาลา . สบื คน้ วันท่ี 4 ตุลาคม 2564
https://hmong.in.th/wiki/Filipinas_Heritage_Library
ผ้เู รียบเรียง 105 นางสาวสิริวมิ ล สง่าสงฆ์

117

เมืองโบราณอินทรามูรอส (Intramuros)
ทมี่ า: https://isecosmetic.com/wiki/Intramuros

เมืองที่มีกำแพงล้อม รอบยังถือเป็นศูนย์ทางศาสนาและการศึกษาของชาวสเปน Intramuros และ
ป้อม Santiago ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี 1951 มีการประกาศป้อม
ปราการของ Intramuros ป้อมปราการแหง่ มะนลิ า เป็นสมบัตทิ างชมุ ชนแห่งชาติ

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซียน

เมืองโบราณอนิ ทรามรู อส (Intramuros)

เมืองโบราณอินทรามูรอส (Intramuros) มรดกอารยธรรมทางประวัติศาสตร์ในปี 1600 เป็น
สถานท่ีสำคญั ของกรุงมะนลิ า ตง้ั อยูบ่ ริเวณชายฝั่งของอา่ วมะนิลา ทางตอนใต้ของแมน่ ำ้ ปาซิก มีรูปแบบของ
สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของผู้คน ที่มีความผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตก จากการเข้ามาของ
สเปนและอเมริกาในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเจริญในยุคนั้น โดยมีผู้นำการก่อสร้างคือ
Miguel Lopez de Legazpi เพื่อป้องกันการโจมตีจากข้าศึกและโจรสลัดของชาวสเปน ในช่วงปีค.ศ.1571
อินทรามูรอสได้ถูกทำลายทั้งที่เกิดจากเหตุการณ์ไฟไหม้ พายุ แผ่นดินไหว และสงคราม เพราะหลังจาก
สเปนแลว้ อังกฤษก็เข้ามายดึ ครองสองปี จากนน้ั สเปนก็กลบั คืนมาได้ แต่ก็เสยี ใหส้ หรฐั อเมริกา ต่อด้วยญปี่ นุ่
ในสมยั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 และจบลงทีส่ หรัฐประกาศอสิ รภาพใหฟ้ ลิ ิปปนิ ส์

อนิ ทรามรู อส มลี กั ษณะเปน็ ป้อมปราการและกำแพงเมือง พนื้ ที่ 400 ไร่ ภายในมชี ุมชนและสถานท่ี
สำคัญมากมาย เช่น ป้อมซานตีเอโก โบสถ์ซานอากุสติน และหอศิลป์โบราณ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรม
เหมือนเมืองในสมัยยุโรปยุคกลางที่มีกำแพงล้อมรอบและค่ายป้อมยามมิดชิด ภายในป้อมมีทั้งโบสถ์
คอนแวนต์ โรงเรียน โรงพยาบาล ค่ายทหาร และสถานที่ราชการต่าง ๆ ป้อมอินทรามูรอส ถูกสร้างขึ้นมา
เพอ่ื เปน็ ศนู ยก์ ลางในการปกครองการศึกษา วัฒนธรรม ศาสนา และการคา้ ฯลฯ

การเดินทางไปยังเมืองโบราณอินทรามูรอส จะนั่งด้วยรถ shuttle bus จากสนามบินนานาชาติ
กรุงมะนิลา และต่อรถไฟฟ้าเพื่อลงสถานี Central Terminal Station การเข้าชมจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
ทงั้ สิน้ ชว่ งเวลาท่เี ปดิ ใหน้ กั ทอ่ งเท่ียวเขา้ ชมอย่รู ะหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น. ของทกุ วัน

เอกสารอ้างองิ : กาญจน์ อายุ. เมืองในกำแพงอินทรามรู อส. สบื คน้ 4 ตลุ าคม 2564, จาก
https://www.posttoday.com/life/travel/302139
ผ้เู รยี บเรยี ง 106 นางสาวสชุ ัญญา ดีนาน

119

ปอ้ มซานติเอโก (Fort Santiago)
ท่ีมา: https://www.tlcthai.com/travel/31206/.html/manila-cathedral

ป้อมซานติเอโกเป็นด่านแรกที่ป้องกันข้าศึก นับเป็นป้อมปราการของสเปนที่เก่าแก่ที่สุดใน
ฟลิ ปิ ปนิ ส์ใชเ้ ปน็ สถานทค่ี มุ ขงั นกั โทษละยังใชก้ กั ขัง โฮเซ่ ไรซาล วรี บุรุษแหง่ ชาติ และ นกั รบเสรีภาพในช่วง
ทำสงครามยึดครองญี่ปนุ่

เท่ยี วทิพย์ 10 ประเทศอาเซยี น

ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago)

ป้อมซานตเิ อโกสร้างขึน้ เมื่อ ค.ศ. 1571 ปอ้ มปราการแห่งนถ้ี ูกใชง้ านเสมอื นด่านป้องกนั เมืองมะละ
กา จากศึกสงครามโดยจะมีกำแพงยางล้อมรอบเนินเขาชื่อเนินเขามะละกาซึง่ ปอ้ งกันไดเ้ ปน็ อย่างดียาวนาน
ถึง 150 ปี จนกระท้งั ฮอลันดาเข้ามายึดครองเมืองมะละกาไดส้ ำเร็จในปี ค.ศ. 1641 จงึ มีการส่ังซ่อมป้อมให้
อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์จนกระทั้งอังกฤษผู้ปกครองปีนังได้สั่งให้ กัปตันวิลเลียม ฟาร์คูฮาร์ มาทำลายป้อม
ปราการนี้เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์ครอบครองดินแดนของฮอลันดา แต่แล้วป้อมปราการแห่งนี้ก็ไม่ได้ถูก
ทำลายไปทั้งหมดยังมไี ว้เพ่ือใหเ้ ยาวชนรุน่ หลงั ไดศ้ ึกษาเห็นซากเหตุการณ์ในประวัตศิ าสตร์ของเมืองมะละกา
ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม ปอ้ มซานตเิ อโกเป็นหนึง่ ในสถาปัตยกรรมท่สี วยงาม โดยเฉพาะบริเวณซุ้ม
ประตูที่มีรูปสลัก เซนต์เจมส์ผู้พิฆาตแขกมัวร์ (Saint Jame the Moon-slayer) เซนต์เจมส์เป็นนักบวชใน
ครสิ ต์ศาสนาที่ชาวสเปนนับถอื กันมาก

เอกสารอา้ งองิ : เดลนิ วิ ส์.(2557). ปอ้ มซานติเอโก ซากความงามของฟลิ ปิ ปนิ ส.์ ค้นเม่ือวนั ท่ี 4 ตุลาคม
2564,จาก https://www.dailynews.co.th/article/234313
ผเู้ รียบเรยี ง 107 นางสาวสดุ ารตั น์ ทศทิศไพศาล

121

Historic City of Vigan
ท่ีมา:https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0
%B8%99

“Vigan แสดงถึงการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของการออกแบบและการก่อสร้างอาคารของ
เอเชียกับสถาปตั ยกรรมและการวางแผนในยุคอาณานิคมของยโุ รป”

เที่ยวทิพย์ 10 ประเทศอาเซยี น

Historic City of Vigan

Vigan นครแหง่ ความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรม เปน็ เมอื งมรดกโลกในประเทศฟลิ ิปปินส์ ต้ังอยู่
บริเวณปากแม่น้ำอาบรา ทางตะวันตกของเกาะลูซอน ในจังหวัดอีโลโกสซรู ์ สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
16 จัดเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุด สถาปัตยกรรมสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของวัฒนธรรมฟิลิปปินส์
จีน และยโุ รป เพ่อื สรา้ งวัฒนธรรมและภูมิทัศนเ์ มืองที่ไมเ่ หมือนใคร วางผงั เมอื งเป็นรูปแบบเมืองการค้าของ
ยโุ รป โครงสรา้ งสองช้นั สร้างดว้ ยอิฐและไม้ โดยมีหลงั คาแหลมสูงชัน ชวนใหน้ กึ ถงึ สถาปัตยกรรมจีนโบราณ
อาคารท่มี ีอยูส่ ่วนใหญน่ ่าจะสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษท่ี 18 ถึงปลายศตวรรษท่ี 19 เนื่องจากความเส่ือม
โทรมทางเศรษฐกิจของ Vigan ในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่สอง อาคาร
ประวัติศาสตร์เพียงไม่กี่แห่งที่มีการจัดโครงสร้างภายในใหม่ เพื่อการใช้งานทางเลือก ทำธุรกิจ ร้านค้า
สำนักงาน และห้องเก็บของที่ชั้นล่างของบ้าน โดยมีที่อยู่อาศัยอยู่ด้านบน นอกจากสถาปัตยกรรมที่เป็นเชงิ
พาณิชย์แล้ว Vigan ยังมีอาคารสาธารณะที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งแสดงถึงอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม
ด้วย

ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นมา จนปัจจุบันเข้าสู่คริสต์ศตวรรษท่ี 21 นครวีกัน
ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมสมัยอาณานิคมของสเปนไว้ได้อย่างดี ถนน ตึก อาคารบ้านเรือน
เก่าแก่ ยังมีสภาพสมบูรณ์อยูม่ ากในเขตเมืองเก่า และมีโบสถ์เก่าแก่ตั้งแตส่ มัยอาณานิคมที่มีชื่อเสียง เช่น
มหาวิหารวกี ัน (Cathedral of Vigan) เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ถนนในเมืองนี้จึงอนญุ าตให้เฉพาะรถมา้ เท่าน้นั
ที่สัญจรได้

เอกสารอา้ งอิง: UNESCO. Historic City of Vigan. สบื ค้น 4 พฤศจิกายน 2564, จาก
https://whc.unesco.org/en/list/502/
ผู้เรียบเรยี ง 108 นางสาวสดุ ารัตน์ มใี จซ่ือ

123

เกาะโบราเคย์ (Boracay Island)
ท่ีมา: https://www.yingpook.com/blogs/world/5-best-in-philippines

เกาะโบราเคย์เปน็ สถานทที่ ่องเท่ยี วสุดฮิตของประเทศฟิลปิ ปนิ ส์ ตงั้ อยู่ห่างจากกรงุ มะนลิ า (Manila)
เมืองหลวงของประเทศฟลิ ปิ ปินส์ไปทางทิศใตป้ ระมาณ 315 กม. (196 ไมล์)

เทีย่ วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

เกาะโบราเคย์ (Boracay Island)

เกาะโบราเคย์ (Boracay Island) เป็นแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วทสี่ ำคัญของประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines)
ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังได้รับรางวัล
ทางดา้ นการท่องเที่ยวในหลายๆคร้งั โดยตัวเกาะประกอบดว้ ยหาดต่างๆท่ีมีทรายขาวสะอาดทอดยาวไปตาม
ชายฝงั่ ของเกาะ ภายในเกาะมีถำ้ ทส่ี วยงามรวมไปถงึ ป่าเขตร้อนทมี่ ีความอดุ มสมบรู ณซ์ ่ึงเป็นแหลง่ อาศัยของ
สัตวใ์ นท้องถน่ิ จำนวนมาก

นอกจากน้ี เกาะโบราเคย์ยงั เป็นที่ต้ังของโรงแรมชัน้ นำ รา้ นอาหารทะเลสดใหม่ และศูนย์การค้าที่มี
สินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวบนเกาะจะมีหลากหลายเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึก
สนุกสนานไปกับกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ เช่น กระดานโต้คลื่น เจ็ทสกี ขี่เรือกล้วย ปีนเขา และการขี่ม้าซึ่ง
เป็นกิจกรรมที่ได้รับนิยมอย่างมาก สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆบนเกาะโบราเคย์ จุดหมายแรกท่ี
นักทอ่ งเที่ยวจะไป คอื การไปชมความสวยงามของ "ไวท์ บีช" (White Beach) หรอื หาดทรายขาว ชายหาด
ที่มีชื่อเสียงอันดับ 1 ของเกาะโบราเคย์ โดยชายหาดนั้นมีลักษณะเป็นหาดทรายสีขาวละเอียดเรียงกันยาว
ประมาณ 4 กิโลเมตรและมีความกว้างเกือบ 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญของเกาะโบราเคย์ และติด
อนั ดับตน้ ๆของสถานที่พักผอ่ นทีไ่ ด้รบั การยอมรับจากทัว่ โลกอีกดว้ ย

เอกสารอ้างองิ : thaifly.(2020).ข้อมลู เท่ยี วฟลิ ปิ ปินส์ เกาะโบราเคย์ (Boracay Island).สืบคน้ 5 ตลุ าคม
2564 จากhttps://bit.ly/3Bhatxu
ผเู้ รยี บเรยี ง 134 นางสาวณัฐวดี เด่นศรี

125

เกาะมาลาปาสกัว (Malapascua Island)
ท่ีมา: https://en.wikipedia.org/wiki/Malapascua

หาดทรายขาวเบานต์ ใี นยามเย็นของเกาะมาลาปสั กัว ที่อย่ใู นเขตตำบลโลกอน มพี ้นื ทรี่ าว ๆ 2.5x1
ตารางกโิ ลเมตร มหี มูบ่ า้ นทอี่ ยู่บนเกาะเพยี ง 8 หม่บู ้าน

เทย่ี วทิพย์ 10 ประเทศอาเซยี น

เกาะมาลาปาสกัว (Malapascua Island)

เกาะมาลาปัสกัวคือเกาะขนาดเล็กๆในประเทศฟิลิปปินส์ที่อยู่ถัดมาจากส่วนเหนือของเกาะเซบู มี
หาดทรายขาวที่เรียกว่าเบาน์ตี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังในเรื่องของการดำน้ำเพราะแนวประการัง
รวมถึงผาประการังท่ีสวยงาม แตส่ ่ิงที่ดึงดูดนักดำน้ำทสี่ ุดคือฉลามหางยาวซ่ึงเป็นพันธ์ุทห่ี าพบได้ยาก บริเวณ
ที่พบฉลามพันธุ์ลึกลับนี้จะอยู่ในจุดที่เรียกว่า Monad shol มีลักษณะเป็นภูเขาหัวตัดอยู่ภายใต้น้ำทะเลซ่ึง
อยู่ห่างจากบรเิ วณผวิ น้ำประมาณ 18 เมตร ลกึ ลงไปอีกมากกวา่ 250 เมตรจะเป็นจดุ ทีส่ ามารถพบฉลามหาง
ยาวได้มากท่ีสุด

แต่เดิมชาวเกาะมาลาปัสกัวส่วนมากทำอาชีพการประมงและการเกษตรจากเกาะข้างเคียง เช่น
เกาะเบซูและเกาะเลยเ์ ต แต่เมื่อมีประชากรเพิม่ ขึ้นสง่ ผลใหจ้ ำนวนปลาลดน้อยลงจึงต้องเปล่ียนมาทำอาชพี
ทเี่ กีย่ วข้องกับการท่องเทย่ี วแทน แต่ก็มขี ้อจำกดั ทางทุนทรัพย์ต่างๆทำใหบ้ นเกาะไม่มที ่าเรือสำหรับเรือใหญ่
เป็นสาเหตุทท่ี ำใหก้ ารก่อสรา้ งไม่สามารถขยายตัวตามทันยคุ สมัยได้

นอกจากนี้เกาะมาลาปัสกัวยังมีความเชื่อในทางศาสนาถึงพระรูปไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขยายใหญ่
ขึ้นเองได้จากขนาดเริ่มแรกผู้คนที่ศรัทธาจากทั่วโลกจึงพากันมาบูชากราบไหว้ แม่พระในวันเฉลิมฉลองทุก
วันท่ี 11 และ 12 พฤษภาคมของทุกปที ี่โบสถ์

เอกสารอา้ งองิ NG Thai.2019.มาลาปัสกัว หมู่เกาะแหง่ ความฝนั ในทะเลฟิลปิ ปินส์.สืบค้น 3 ตุลาคม 2564,
จาก https://ngthai.com/travel/22550/malapascua/
ผู้เรยี บเรยี ง 137 นางสาวธนภรณ์ สุศิวะ

127

อทุ ยานธรรมชาตปิ ะการังตบุ บาตาฮา (Tubbataha Reef)
ท่มี า: https://www.shutterstock.com/th/search/(tubbataha+reef)

อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮาได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็น 1 ใน 9 ของมรดกโลก
ทางทะเล ที่มีความสวยงามและความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ สถานที่ยอดนิยมสำหรับการดำน้ำดูปะการัง
แห่งหนงึ่ ในอาเซียน

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซียน

อุทยานธรรมชาตปิ ะการงั ตุบบาตาฮา (Tubbataha Reef)

อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮาเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการ ดำน้ำดูปะการังเป็นแหล่ง
ธรรมชาติที่สมบูรณ์และมหัศจรรย์แห่งหนึ่งในอาเซียน เกาะตั้งอยู่บริเวรใจกลางทะเลซูลู ทางตะวันออก
เฉียงใต้ของเมือง Puerto Princesa City จังหวัดปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ การเดินทางสามารถเดินทาง
จากกรุงมะนิลาโดยเครื่องบินมายังสนามบิน Puerto Princesa และนั่งรถต่อมายังท่าเรือเพื่อขึ้นเรือมายัง
อุทยาน ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 10 ชั่วโมง จุดเด่นของที่นี้ คือ เป็นเขตสงวนพันธุ์นกและสัตว์ทะเล
ประกอบด้วย เกาะรูปวงแหวนที่เกิดจากหินประการังใหญ่ 2 เกาะ และปะการังเจสซี่ บิสซ์ และ ในเดือน
ธนั วาคม ค.ศ. 1993 ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกใหเ้ ป็นมรดกโลก เนื่องจากเปน็ ตัวอย่างที่เด่นชัด
ของเกาะปะการังวงแหวนที่มีความหนาแน่นของสายพันธุ์สตั ว์ทะเลในระดับสูงมาก เกาะวงแหวนเหนือเปน็
ที่ตั้งของเขตทำรังของนกและเต่าทะเล มีพืดหินปะการังดั้งเดิมที่ยอดเยี่ยม เป็นศูนย์กลางของความ
หลากหลายทางชวี ภาพทางทะเล ท้ังสายพันธุป์ ลาตา่ งๆ เชน่ วาฬ ฉลาม โลมา และสายพันธ์ปุ ะการังมากถึง
360 สายพันธุ์ จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักดำน้ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่ชอบดำน้ำลึก
เพราะจะได้พบกับปะการังน้ำลึกและกลุ่มปลาหายากหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาฉลามหัวค้อน ปลาสาก ปลา
โนรีเทวรปู และปลาไหลมอเรย์ ทสี่ ำคัญคอื เปิดอนุญาติให้ดำน้ำได้แคป่ ีละ 3 เดอื น ต้งั แตก่ ลางเดือนมีนาคม
จนถึงกลางเดือนมิถุนายนเท่านั้น นอกจากนั้นก็จะปิดไม่อนุญาตให้เรือเข้ามา การจะเข้าไปดำน้ำที่นี่ต้องมี
การจองล่วงหน้าและมีกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพราะ เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมาก
ทางธรรมชาติ การดูแลจึงต้องเข้มงวด ทำให้เป็นผลดีกับธรรมชาติอย่างแท้จริงและสร้างความประทับใจ
ให้กับคนทช่ี อบดำนำ้ เป็นอยา่ งมาก
เอกสารอ้างอิง วิกิพีเดีย สานุกรมเสรี. อุทยานธรรมชาติพืดหินปะการังตุบบาฮา.สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม
2564, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/
ผเู้ รยี บเรยี ง 144 นางสาวสุกลั ยา พงษ์ธรรมรัตน์

129

เที่ยวทพิ ย์10ประเทศอาเซียน(ฟิลิปปนิ ส์)

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

วิดที ัศน์

วิดีทัศน์มีลักษณะพูดถึงประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของสถานที่เหล่านั้น โดยประเทศฟิลิปปินส์มี
หลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว จึงได้เลือกมา 15 แหล่งท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจ เร่ิมจากด้านศิลปกรรม
ได้แก่ 1. โบสถซ์ านอากุสตนิ ภายในเป็นแบบโบสถ์บาโรกในประเทศฟิลิปปนิ ส์ รฐั บาลกำหนดให้เปน็ ศูนย์กลาง
ประวัติศาสตร์แห่งชาติ 2. ซากปรักหักพัง (The Ruins) อตีตเป็นคฤหาสน์ของดอน มาริอาโน เลเดสมา แลค
สัน สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงภรรยาของเขา 3. โบสถ์บาโรกแห่งฟิลิปปินส์ เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก 4 แห่ง
เอกลักษณค์ ือมคี วามเป็นบาโรกผสมจนี ดา้ นธรรมชาติ 4. ภเู ขาช็อกโกแลต มปี ระมาณ 1,776 ลูก สงู ราว 400
ฟุต โครงสร้างเป็นหินปนู ปกคลุมดว้ ยตน้ หญา้ 5. อทุ ยานแหง่ ชาติแม่นำ้ ใตด้ นิ ปูเวรโ์ ตปรนิ เซซา เป็นแมน่ ้ำใต้ดิน
ท่ียาวที่สุดในโลก 6. ภเู ขาไฟมายอน มรี ปู ทรงสมมาตร สงู ถึง 2,462 เมตร ด้านพพิ ธิ ภณั ฑ์และหอศลิ ป์ 7. ART
IN ISLAND เป็นพิพิธภัณฑ์ 3 มิติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย 8. Casa Manila Museum คฤหาสน์สมัยอาณานิคม
สเปน 9. Ayala Museum เล่าเรื่องราวสำคัญตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงช่วงที่ได้รับอิสรภาพ ด้าน
ประวัตศิ าสตร์ 10. เมืองโบราณอินทรามูรอส ศูนย์กลางทางศาสนาและการศึกษาชาวสเปนและเปน็ สมบัติทาง
ชุมชนแห่งชาติ 11. ป้อมซานติเอโก เป็นป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุด 12. Historic City of Vigan เป็นการ
ผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ของเอเชียและยุโรป ด้านเชิงนิเวศ 13. เกาะโบราเคย์ สถานท่ียอดนิยมห่างจาก
เมืองหลวงไม่ไกล 14. เกาะมาลาปาสกัว มีหาดทรายขาวเบาว์ตีในตอนเย็น 15. อุทยานธรรมชาติปะการังตุบ
บาตาฮา เป็น 1 ใน 9 มรดกโลกทางทะเล เป็นสถานที่ยอดนยิ มสำหรบั การมาดำน้ำ ดูปะการัง ทั้งนี้ สถานที่ท่ี
ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นสถานที่ที่มีทั้งความสวยงาม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม วัฒนธรรม
ธรรมชาติและแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ

131

สรุป

ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์เป็นกลุ่มเกาะที่ประกอบด้วยเกาะ 7,641 เกาะ ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในสิบเจ็ด
ประเทศของโลกทมี่ ีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างย่ิง (megadiverse country) เราสามารถพบสัตว์บกที่มี
กระดูกสันหลังได้ถึงประมาณ 1,100 ชนดิ ซง่ึ รวมถึงสตั ว์เลี้ยงลกู ดว้ ยนมกว่า 100 ชนิด และนกกวา่ 170 ชนิด
นกประจำชาตทิ ่ีรู้จกั กันในชือ่ นกอนิ ทรีฟลิ ิปปินส์ (Pithecophaga jefferyi) มีลำตัวยาวทส่ี ดุ ในบรรดานกอินทรี
ชนิดใดๆ น่านน้ำอาณาเขตของฟิลิปปนิ ส์ครอบคลุมเนื้อที่กวา้ งขวางถงึ 2,200,000 ตารางกิโลเมตร (849,425
ตารางไมล์) เป็นแหล่งกำเนิดชีวิตในท้องทะเลทีม่ ีลักษณะเฉพาะและมีความหลากหลายอันเป็นส่วนสำคัญของ
สามเหล่ียมปะการงั นา่ นนำ้ ฟิลิปปินส์ยงั เอื้อต่อการเจริญเติบโตของปู หอยมุก และสาหร่ายทะเล ด้วยชนิดพืช
ประมาณ 13,500 ชนดิ ซง่ึ 3,200 ชนดิ ในจำนวนน้พี บเฉพาะในกลุม่ เกาะน้ีเท่านนั้ ป่าดิบช้ืนของฟิลิปปินส์จึงมี
พรรณพืชหลากหลายซึ่งรวมถึงกล้วยไม้และบัวผุดหายากหลายพันธ์ุ ภาคการเดินทางและท่องเที่ยวมีบทบาท
สำคัญต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ โดยสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ระบบเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.1 ของผลิตภัณฑ์
มวลรวมในฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 2013 ความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศเป็นหนึ่งในบรรดาจุดดึงดูด
ความสนใจหลัก ๆ ของการท่องเที่ยว โดยมีชายหาด ภูเขา ป่าดิบชื้น เกาะ และจุดดำน้ำอยู่ในบรรดาสถานที่
ท่องเทีย่ วยอดนยิ ม เน่ืองจากฟิลิปปนิ สม์ ีสภาพภมู ิศาสตร์เป็นกลมุ่ ของเกาะประมาณ 7,500 เกาะ จงึ มีชายหาด
ถ้ำ และการกอ่ ตัวของหินรปู ทรงแปลกตามากมาย ช่อื เสยี งดา้ นงานหัตถกรรมการจักสานพืน้ บา้ นที่อยู่คู่ชุมชน
มายาวนาน รวมถึงการทอเสื่อใช้ในท้องถิ่นของตนที่เรียกว่า Banig ในหลายเขต เขตหมู่เกาะตอนเหนือลูซอน
หมู่เกาะตอนกลาง และโดยเฉพาะในเขตหมู่เกาะตอนใต้มินดาเนา โดยแต่ละเขตมีการออกแบบลวดลายสีสัน
แตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะศลิ ปะพื้นบ้าน โดยทัว่ ไปชาวฟลิ ิปปนิ สจ์ ะเน้นการใช้สีสันและลวดลายที่เป็นลักษณะ
ทรงเลขาคณิตและใช้วัสดุในท้องถิ่นของตนหลากหลาย อาทิ หญ้าทะเล ใบตาล ใบเตย ต้นกก โดยมีการนำ
วัสดุดังกล่าวมาประยุกต์ทำหลากหลายผลิตภัณฑ์สินค้า เช่น หมวก พัด กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย

เทย่ี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

อุตสาหกรรมสง่ิ ทอและเคร่ืองนุง่ ห่มของฟิลิปปินส์ อตุ สาหกรรมสิ่งทอนป้ี ระกอบดว้ ย 2 ส่วนหลัก คือ การผลิต
ขั้นปฐมภูมิ ได้แก่ การทอผ้า ถักผ้า การผลิตเส้นใย และในส่วนของการผลิตขั้นทุติยภูมิ ได้แก่ การผลิตเสื้อผา้
และสง่ิ ทอ ซ่งึ อตุ สาหกรรมผลิตเส้ือผา้ ในชว่ งนน้ั ได้ทดแทนการตัดเย็บเส้ือผา้ แบบพื้นบ้าน และต่อมาฟิลิปปินส์
เรมิ่ เป็นแหลง่ ผลติ เสอื้ ผา้ ให้กับเสื้อผ้าแบรนดเ์ นมชื่อดังหลายแบรนด์ จนกลายเป็นสนิ คา้ หลกั ในการส่งออกของ
ฟลิ ปิ ปินส์ในท่ีสดุ

133

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

บทท่ี 4
เทีย่ วทพิ ย์ประเทศลาว

เท่ยี วทพิ ย์ 10 ประเทศอาเซยี น

ส่วนนำ

การทอ่ งเท่ยี วเป็นการเดนิ ทางเพ่ือการพักผ่อน การศกึ ษา การแลกเปลีย่ นวัฒนธรรม โดยมนุษย์แต่ละ
เชื้อชาติทั่วทุกมุมโลกมักจะมีการเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศของตนเอง
จึงทำให้เกิดการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันทั่วโลก ซึ่งแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวมีหลากหลาย
ประเภทไดแ้ ก่ แหลง่ ท่องเท่ียวทางศลิ ปกรรม แหล่งท่องเทยี่ วทางธรรมชาติ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทางพิพิธภัณฑ์และ
หอศิลป์ แหลง่ ท่องเทยี่ วทางประวัตศิ าสตร์ และแหล่งทอ่ งเทย่ี วเชิงนเิ วศ เปน็ ต้น

เมื่อกล่าวถึงประเทศลาวดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและเต็มไปด้วยมรดกทาง
วัฒนธรรมอันล้ำค่าซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่ควรค่าแก่การไปสัมผัส ที่ประเทศลาวมีแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว
มากมายไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปกรรมโดยส่วนใหญ่เป็นวัดซึ่งจุดเด่นคือพระอุโบสถมี
สถาปัตยกรรมอนั เปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะถิน่ เชน่ วัดเชยี งทองเปน็ วดั หลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง ราชวงศห์ ลวง
พระบาง และราชวงศ์ลาว วัดหอเสี่ยงรูปแบบของวัดมีหลังคาทรงจั่ว เมื่อต้องการสัมผัสกับธรรมชาติของ
ประเทศลาวนั้นจะได้สัมผัสกับสายน้ำ โดยเฉพาะน้ำตกที่มีอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกตาดกวางสีเป็นน้ำตกที่มี
ความงดงามของสายน้ำสีเขียวมรกตและป่าเขียวขจีรอบด้าน จากธรรมชาติไปที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เป็น
สถานที่จัดเกบ็ มรดกทางวฒั นธรรม เช่น ภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ลาวอยูท่ ีห่ อพระแก้ว อีกหน่ึง
แหลง่ ทอ่ งเที่ยวอันสำคัญทีต่ ้องกล่าวถึงคือแหล่งท่องเทยี่ วทางประวตั ิศาสตร์ซ่ึงเป็นสถานท่ีของเร่ืองราวนับแต่
อดตี และส่งผลถึงปัจจุบัน เช่น ปราสาทหินวัดพซู ึ่งเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว พระธาตุหลวงเป็น
ปูชนียสถานอันสำคัญที่สุดแห่งเวียงจันทน์ศนู ย์รวมจิตใจของประชาชนชาวลาว และสุดท้ายแหลง่ ท่องเท่ียวเชิง
นิเวศเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น เขตพิทักษ์

137

ธรรมชาติน้ำฮาซึ่งพืน้ ที่ในอุทยานเปน็ ป่าผลัดใบผสมป่าดิบชื้น มีสัตว์ป่าหลายชนิด วังเวียงมีทิวทัศน์ภูเขาและ
หนา้ ผาหินปูนทตี่ ั้งเรียงรายเป็นแนวยาวและภายในพน้ื ที่มแี ม่นำ้ ไหล

แหล่งสถานที่ท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นแสดงให้เห็นว่าประเทศลาวไม่มีพื้นท่ี
ทางทะเล เนื่องจากเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล และพื้นที่โดยส่วนใหญ่เป็น
เขตภูเขาสงู และเขตทีร่ าบสูง

เท่ยี วทิพย์ 10 ประเทศอาเซียน

เนื้อหาในบทที่ 4 นั้นจะกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกแต่ละประเภทของ “ประเทศลาว”

ได้แก่ แหล่งท่องเท่ียวทางศิลปกรรม แหลง่ ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเทย่ี วทางพพิ ิธภัณฑแ์ ละหอศลิ ป์

แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทางประวัตศิ าสตร์ และ แหล่งทอ่ งเทยี่ วเชงิ นิเวศ จากทกี่ ล่าวมาข้างต้น

ประเภทแหล่งทอ่ งเท่ยี วทางศิลปกรรม ได้แก่

1. วดั เชยี งทอง 2. วดั เชียงควน 3. วดั หอเซยี งวรวหิ าร

ประเภทแหล่งทอ่ งเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่

1. นำ้ ตกตาดกวางสี 2. เวยี งจนั ทร์ บลูลากนู 3. ทร่ี าบสงู โบลาแวน

ประเภทแหล่งทอ่ งเทย่ี วทางพพิ ธิ ภัณฑแ์ ละหอศลิ ป์ ไดแ้ ก่

1. วัดสีสะเกด 2. หอพระแก้ว 3.พระราชวงั หลวงพระบาง

ประเภทแหล่งท่องเทย่ี วทางประวัติศาสตร์ ไดแ้ ก่

1. พระธาตหุ ลวง 2. ปราสาทหินวดั พู 3.ประตูไซ

ประเภทแหลง่ ท่องเทยี่ วเชงิ นิเวศ ได้แก่

1. วงั เวยี ง 2. เขตพิทกั ษ์ธรรมชาติแม่น้ำฮา 3. อทุ ยานแห่งชาตินำ้ แอด-ภเู ลย

ทั้งนี้ แหล่งท่องเที่ยวแต่ละประเภทที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั้น ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ

“ประเทศลาว” โดยรายละเอยี ดของแหลง่ ท่องเที่ยวแตล่ ่ะทน่ี ัน้ มีดังตอ่ ไปนี้

139

วดั เชยี งทอง
ทมี่ า: https://th.traveligo.com/tours/asia/laos/luang-prabang/lao-luang-prabang-3days-
2nights-tatla-6745
วัดเชียงทอง สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปกรรมของประเทศลาว ถือเป็นวัดหลวงของราชวงศ์ล้านช้าง
โดยมศี ลิ ปะการออกแบบที่เปน็ เอกลกั ษณ์ อกี ทง้ั ยงั ไดร้ ับยกย่องว่าเปน็ ด่งั อัญมณเี มด็ งามของศิลปะล้านชา้ ง

เที่ยวทิพย์ 10 ประเทศอาเซียน

วัดเชียงทอง

วดั เชียงทอง เปน็ วัดหลวงประจำราชวงศล์ ้านชา้ ง ราชวงศห์ ลวงพระบาง และราชวงศล์ าว ต้ังอยบู่ ริเวณ
นครหลวงพระบาง ใกล้กับแม่น้ำโขง ประเทศลาว ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชประมาณ
พ.ศ. 2101-2103 เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างตอนเหนือ ได้รับขนานนามว่า “อัญมณีของศิลปะ
ล้านชา้ ง” และวดั เชยี งทองแห่งนี้ยงั เป็นสถานที่ประดิษฐานหนึ่งในพระพุทธรูปศกั ดิส์ ิทธ์และสำคัญที่สุดองค์
หนึ่งของเมืองหลวงพระบางที่สำคัญ วัดเชียงทองแห่งนี้ยังเป็นวัดที่รอดจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่
ใน พ.ศ. 2430 เมื่อถงึ วัดเชียงทองที่แรกทีค่ วรไปชม คอื สมิ หรอื อุโบสถของวดั เชียงทอง ซ่งึ สมิ หลงั น้ี ไดเ้ ป็น
ต้นแบบของสถาปัตยกรรมในเวลาต่อมา เอกลักษณ์ของสิมแบบนี้ คือ ความอ่อนโค้ง ที่ต่างจากสิมแบบอื่น
ด้านนอกมีลายฟอกคำท่ีถกู ทำขน้ึ ในชว่ งที่มกี ารบูรณะสิมหลังน้ี เมื่อ พ.ศ. 2471 ทางดา้ นหลังของสิมจะเป็น
งานประดับกระจกรูปต้นทองขนาดใหญ่ ทีจ่ ะส่ือถึงตำนานการสรา้ งเมืองหลวงพระบาง เมือ่ เข้าไปด้านในสิม
จะพบแทน่ ประดิษฐานพระประธานขนาดใหญ่ที่ตั้งรว่ มกบั พระพทุ ธรปู ขนาดเล็กอีกนบั 10 องค์ โดยองค์ท่ีมี
ความโดดเด่นจะเป็นองค์ที่อยู่ฝั่งซ้ายของพระประธาน และมีอีกสิ่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน คือผนัง
ด้านในที่ได้รับการตกแต่งด้วยลายฟอกคำโดยจะเล่าเรื่องราว พุธประวัติ ชาดก และตำนานของเมืองหลวง
พระบาง ซึง่ อาคารอืน่ ๆ ของวดั แห่งนี้กย็ ังมคี วามโดดเดน่ และศลิ ปะทสี่ วยงามไม่แพ้กนั เลย

เอกอา้ งองิ
วดั เชียงทอง.(2562).สืบคน้ เมือ่ วันท่ี 10 ตุลาคม 2564,จาก https://readthecloud.co/wat-xieng-

thong/
ผู้เรยี บเรยี ง นางสาวสุพรรณษา แจ้งสุข เลขท่ี 111

141


Click to View FlipBook Version