The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนปฏิบัติการปี 2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thiraphon Bunsan, 2023-09-17 00:18:42

แผนปฏิบัติการปี 2566

แผนปฏิบัติการปี 2566

44ชื่อโครงการ ส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้แผนงาน งานวิชาการ สนองกลยุทธ์สพฐ.ข้อที่3 ข้อที่2 สนองมาตรฐานด้าน คุณภาพผู้เรียน ตัวบ่งชี้ที่1 ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ บริหารวิชาการ ระยะเวลาดําเนินการ ปีการศึกษา 2565 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 1. โครงการ ส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้2. หลักการและเหตุผล ความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านต่าง ๆ ของโลกในยุคโลกาวิวัฒน์มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการศึกษาพฤติกรรมการแสดงออกของผู้เรียนในทางลบเพิ่มมากขึ้นซึ่งเห็นได้จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ําลง รวมทั้งพฤติกรรมการแสดงออกในด้านลบของผู้เรียนดังนั้นบุคลากรในโรงเรียนจําเป็นต้องจัดโครงการกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาทักษะทางการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ให้เป็นคนดีคนเก่งและสามารถร่วมอยู่กับสังคมได้อย่างมีความสุข พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ.2545ได้กําหนดให้การศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้การฝึกอบรม การสืบสานวัฒนธรรม การสร้างสรรค์ความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญาความรู้และคุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดํารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขเปิดโอกาสให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา พัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ได้ตระหนักถึงความสําคัญการจัดการศึกษามุ่งเน้นความสําคัญทั้งด้านความรู้ความคิด ความสามารถ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดหลักผู้เรียนเป็นสําคัญที่สุด ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้มีทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถดํารงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข จึงได้จัดทําโครงการนี้ขึ้น 3. วัตถุประสงค์3.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดีคนเก่ง และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข


453.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ 3.2.1 เพื่อให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 3.2.2 เพื่อให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ มีวินัยในตนเองและสังคม 4. เป้าหมายของโครงการ 4.1 เป้าหมายด้านปริมาณ นักเรียนจํานวน 159 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานาน 20 คน ปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนา มีคุณธรรมจริยธรรม 4.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีพัฒนาการด้านสติปัญญา ร่างกาย จิตใจ ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล 5. กิจกรรมและปฏิทินปฏิบัติงาน กิจกรรม งบประมาณ ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบขั้นเตรียมการ 1. เสนอโครงการ 2. อนุมัติโครงการ 3. ประชุมชี้แจงแต่งตั้งคณะทํางาน 4. ศึกษา เอกสาร ขั้นดําเนินการ 5. ดําเนินการตามโครงการ 5.1 จัดหาวัสดุทางการศึกษา 5.2 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 5.3 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์5.4 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์5.5 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม 5.6 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 5.7 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - - - - 5,000 5,000 10,000 5,000 5,000 5,000 ตุลาคม 2565 ตุลาคม 2565 ตุลาคม 2565 ถึง มีนาคม 2566


465.8 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ เทคโนโลยี5.9 กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างประเทศ ขั้นวัดผลประเมินผล 6. ติดตามและประเมินผล 7. สรุปผลและรายงานผลโครงการ 5,000 5,000 มีนาคม 2565 6. งบประมาณดําเนินการโครงการ จํานวน 45,000 บาท 7. การวัดผลและประเมินผล ที่ตัวบ่งชี้ความสําเร็จ วิธีการ เครื่องมือ1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น ร้อยละ 3 สังเกต ติดตาม พฤติกรรม แบบประเมิน8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติที่สูงขึ้น 8.2 นักเรียนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้มีทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถดํารงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข (ลงชื่อ) ผู้เสนอโครงการ (ลงชื่อ) ผู้เห็นชอบโครงการ (นายภาณุวัฒน์เครือน้ําคํา) (นางนงค์นุช พาหา) ครูครูชํานาญการพิเศษ (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายธีรพล บุญสรรค์) รองผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายเสกสรร ยุภาศ) ผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม


47ชื่อโครงการ โครงการประกันคุณภาพภายในโรงเรียน แผนงาน บริหารงานวิชาการ สนองมาตรฐานด้าน มฐ.4 ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวคัทรียา โสมนัสกุล ลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง ระยะเวลาดําเนินการ ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม 1. หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2 ) พ.ศ. 2545มาตรา 9 (3) ได้กําหนดการจัดระบบ โครงสร้าง และกระบวนการจัดการศึกษาให้ยึดหลักที่สําคัญข้อหนึ่งคือมีการกําหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษาโดยมาตรา 31 ให้กระทรวงมีอํานาจหน้าที่กํากับดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท กําหนดนโยบายแผนและมาตรฐานการศึกษาและมาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษาจัดให้มีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และให้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารการศึกษาที่ต้องดําเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทํารายงานประจําปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนําไปสู่การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอกดังนั้น เพื่อสนองต่อ พ.ร.บ. และเพื่อให้การบริการจัดการของโรงเรียนเป็นไปตามกฎกระทรวงอย่างมีประสิทธิภาพ โรงเรียนจึงได้จัดทําโครงการนี้ขึ้น 2. วัตถุประสงค์วัตถุประสงค์ทั่วไป 1. เพื่อดําเนินการระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง 2. เพื่อรายงานและเผยแพร่ผลการดําเนินงานต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง 3. เพื่อนําผลการประเมินทั้งภายในและภายนอกไปปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์เฉพาะ 3. เป้าหมาย ด้านปริมาณ 1. โรงเรียนมีการประกันคุณภาพภายในที่เป็นระบบโดยครูทุกคนมีส่วนร่วม 2. ได้ทราบจุดเด่น จุดที่ควรปรับปรุง และแนวทางการพัฒนาโรงเรียนโดยการระดมความคิดจากครูทุกคนในโรงเรียน


48ด้านคุณภาพ โรงเรียนมีระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ครูบุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีความเข้าใจ ให้ความร่วมมือการจัดกิจกรรม ผู้เรียนมีความรู้และทักษะตามมาตรฐานการเรียนรู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นไปตามเป้าหมาย 4. การดําเนินงาน ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ ผู้รับผิดชอบเงินอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆ 1 จัดประชุมอบรม พัฒนา ความรู้เรื่องการประกัน คุณภาพภายใน สถานศึกษา ต.ค.65 -ก.ย.66 - - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุล2 จัดทําแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษา และ แผนปฏิบัติการประจําปีต.ค.65-ก.ย.66 - - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุล3 จัดทําระบบข้อมูล สารสนเทศและให้บริการ ต.ค.65-ก.ย.66 - - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุล4 ประเมินคุณภาพภายใน ตามมาตรฐานการศึกษา และจัดทํารายงานผ ลการประเมิน(SAR) ต.ค.65 –ก.ย.66 3,000 - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุลรวม 3,000 - - - 5. รายละเอียดการใช้งบประมาณ ที่รายการ จํานวนเงิน หมายเหตุ1. ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมอบรม 2.ค่าใช้จ่ายในการจัดทําแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและแผน ปฏิบัติการประจําปี3. ค่าใช้จ่ายในการจัดทําระบบข้อมูลสารสนเทศ 4. ค่าใช้จ่ายในการประเมินและทํารายงาน SAR 3,000 รวม 3,000


496. การประเมินผล ตัวชี้วัดความสําเร็จ วิธีการประเมิน เครื่องมือผลผลิต 1. โรงเรียนมีแผนปฏิบัติการและปฏิทิน ปฏิบัติงานประจําปี2566 ที่เหมาะสม - - การนิเทศ กํากับ ติดตาม/ประเมิน โครงการ - - แบบประเมินโครงการ 2. โรงเรียนมีการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศอย่าง เป็นระบบทันสมัย พร้อมใช้ - ตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน 3. มีการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา จัดทํา รายงานการประเมินตนเอง (SAR) และเผยแพร่ผ ลการดําเนินงาน - การนิเทศ กํากับ ติดตาม - แบบสรุปรายงานผลสัมฤทธิ์1.ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา - การประเมินมาตรฐาน - แบบประเมินมาตรฐาน 7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ โรงเรียนมีการบริหารงานอย่างเป็นระบบครบวงจร มีการพัฒนาบุคลากรครูผู้เรียนการจัดการเรียนรู้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคุณภาพผู้เรียนเป็นสําคัญ


50ชื่อโครงการ โครงการน้อมนําศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน แผนงาน งานวิชาการ สนองกลยุทธ์กลยุทธ์โรงเรียนข้อที่2 สพม.28 ข้อที่และ สพฐ.ข้อที่1 ข้อที่2สนองมาตรฐานด้าน คุณภาพผู้เรียน ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มบริหารวิชาการ ระยะเวลาดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม 1. หลักการและเหตุผล ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงบําเพ็ญพระราชกรณียกิจเป็นเวลานานกว่า60ปีในรัชกาล เหล่าพสกนิกรชาวไทยต่างได้รู้ถึงพระราชกรณียกิจมากล้น ที่ทรงปฏิบัติและพระราชจริยวัตรที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ซึ่งหากเราชาวไทยสามารถเรียนรู้ข้อคิด ประสบการณ์ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ทั้งในส่วนของการตั้งมั่นในทศพิธราชธรรม และหลักการทรงงานในเรื่องต่าง ๆ นั้นก็จะเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาชีวิตให้ก้าวเดินไปได้อย่างมั่นคงและถึงพร้อมด้วยประโยชน์สุขแก่ตนเองและผู้อื่นซึ่งปวงชนชาวไทยสามารถดําเนินชีวิต ตามรอยพระยุคลบาทได้ด้วยหลักการและแนวทาง ดังต่อไปนี้หลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่พรั่งพร้อมด้วยทศพิธราชธรรม ทรงตรากตรําพระวรกายเสด็จฯ เยี่ยมเยียนประชาชนในทุกหนทุกแห่งทั่วประเทศด้วยพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้น ด้วยพระเมตตา พระราชทานพระราชดําริเพื่อประโยชน์สุขของประชาราษฎร์และนํามาซึ่งความผาสุกแก่ประชาชนอย่างแท้จริง ในส่วนของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากจะน้อมนําศาสตร์พระราชาอันนับว่าเป็นแนวทางพระราชทานมาสู่การปฏิบัติแล้ว ยังให้ความสําคัญกับการปฏิรูปการศึกษาไปสู่ยุคศตวรรษที่21ซึ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความคิดวิเคราะห์ความคิดริเริ่ม มีจินตนาการ มีการสนใจข้อมูลข่าวสารรอบตัว ที่ส่ง ผลกระทบต่อการตัดสินใจ และการดําเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และการประกอบกิจการใด ๆ ก็ตามความสนใจใฝ่รู้และศึกษาแนวโน้ม การคาดการณ์อนาคต บนพื้นฐานของฐานข้อมูลและสถิติและการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพ ให้ทุกคนมีงานทํา นโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”เพื่อให้ผู้เรียนมีทั้งความรู้ทางวิชาการความรู้ทางปฏิบัติการ และความรู้คิด อ่าน นโยบายการเรียนการสอนตามหลักปรัชญาของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และนโยบายเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปีได้กําหนดให้ผู้เรียนศึกษาเรียนรู้นอกสถานที่เหล่านี้เป็นต้น ดังนั้นโรงเรียนไผ่งามพิทยาคมจึงจัดทําโครงการน้อมนําศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืนเพื่อให้มีความรู้พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว น้อมนําไปสู่การปฏิบัติและร่วมกันขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นให้มีทัศนคติการทํางานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม นําความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ปฏิบัติตน และเสริมสร้างจิตสํานึกในการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้


51ร่วมกันและ เกิดแนวคิดไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยนําศาสตร์พระราชาที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนและการเรียนการสอนมาประมวลหลักการทรงงานไว้ดังนี้ทํางานอย่างผู้รู้จริง ให้ศึกษางานที่จะทําให้ดีอย่าผลีผลาม ความรู้จะหยุดนิ่งมิได้ต้องขวนขวาย ต้องเก็บบันทึกไว้แล้วนํากลับมาใช้ประโยชน“์ความรู้” ต้องพัฒนาอยู่เรื่อยๆ ต้องรู้หมดและรู้อย่างแท้จริงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทําให้ดูเป็นตัวอย่างเช่น การที่จะพระราชทานโครงการใดโครงการหนึ่งจะทรงศึกษาข้อมูลรายละเอียดอย่างรอบ ครอบและครบถ้วน ทั้งจากข้อมูลเบื้องต้น จากเอกสาร แผนที่สอบถามจากเจ้าหน้าที่นักวิชาการและประชาชนในพื้นที่เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริง เพื่อที่พระองค์จะได้พระราชทานความช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วตรง ตามที่ประชาชนต้องการ ซึ่งนั่นก็คือ ไม่ว่าเราจะทําอะไรต้องรู้จริงศึกษาให้เข้าใจ แล้วจึงลงมือปฏิบัติระเบิดจากข้างใน คือการทําสิ่งใดต้องสร้างฐาน ต้องเริ่มจากความพร้อม ความเห็นพ้องต้องกันในกลุ่มเล็กๆก่อนแล้วค่อยๆสร้าง ค่อยๆก่อ จะมั่นคงถาวรพระองค์ทรงมุ่งเน้นพัฒนาคน ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ต้องระเบิดจากข้างใน” นั่น หมายความว่า ต้องสร้างความเข้มแข้งให้คนในชุมชนที่เราเข้าไปพัฒนาให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่นําเอาความเจริญหรือบุคคลจากสังคมภายนอกเข้าไปหาชุมชน หมู่บ้านที่ยังไม่มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งตัว อดทน มุ่งมั่น รู้จักการอดทน ทําจนเป็นนิสัย ไม่ว่าสิ่งดีๆที่เข้ามา ทุกข์ที่เข้ามา สุขที่เข้ามา เราก็รับด้วยใจสงบไม่ตื้นเต้นหรือกังวลที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เหมือนดังคําว่า “ธรรมะ” ซึ่งนั่นก็คือ ธรรมชาติธรรมดา นอกจากนี้หากเกิดปัญหา เราก็ทําจิตใจให้รู้สึกท้าทายกับปัญหานั้น เห็นปัญหาแล้วกระโดดเข้าใส่เป็นการท้าทายสติปัญญาอย่ากลัวปัญหาและละลายปัญหาจากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย อ่อนน้อม ถ่อมตน เรียบง่ายและประหยัด ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญ เช่น นาฬิกาข้อพระกรที่พระองค์ทรงใช้ไม่จําเป็นต้องราคาแพง แต่ทรงเน้นที่ประโยชน์ของการบอกเวลาทรงอ่อนน้อมถ่อมพระองค์มาก เวลาที่เสด็จฯเยี่ยมราษฎร ทรงโน้มพระวรกาย คุกเข่าและประทับพับเพียบเข้าหาประชาชนในการพัฒนาและช่วยเหลือราษฎร ทรงใช้หลักในการแก้ไขปัญหาด้วยธรรมชาติเรียบง่ายและประหยัดราษฎรสามารถทําได้เอง หาได้ในท้องถิ่นและประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ในภูมิภาคนั้นมาแก้ไขโดยไม่ต้อง ลงทุนสูง หรือใช้เทคโนโลยีที่ยุ่งยากนัก ซื่อสัตย์สุจริต กตัญญูพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกตัญญูต่อพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์และพระบรมวงศ์มาก ทรงให้ความสําคัญในเรื่องความซื่อสัตย์มาก ดังพระราชดํารัสความตอนหนึ่งว่า “…ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียว ก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไปพูดอย่างนี้หยาบคาย แต่ว่าต้องให้มีอันเป็นไป แต่ถ้าไม่ทุจริต สุจริต และมีความตั้งใจมุ่งมั่น สร้างความเจริญก็ขอต่ออายุให้ถึง 100 ปี… ความสุจริตจะทําให้ประเทศไทยรอดพ้นอันตราย ภายใน 10 ปีเมืองไทยน่าจะเจริญข้อสําคัญต้องยืดความสุจริตให้สําเร็จ และไม่ทุจริตเสียเอง…”


52รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเคารพความคิดที่แตกต่าง ในทุกครั้งที่เสด็จ ฯ ในพื้นที่ต่างๆ ทรงทําประชาพิจารณ์(Public Hearing) ทุกครั้ง โดยวิธีการของพระองค์นั้น เป็นวิธีที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา โดยจะทรงอธิบายถึงวัตถุประสงค์และผลที่จะได้รับจากโครงการพัฒนากับพระพสกนิกรที่มาเฝ้าฯล้อมรอบอยู่หลังจากนั้นจะ ทรงถามถึงความต้องการของประชาชนความสมัครใจและให้ตกลงกันเองในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์และกลุ่มที่จะต้องเสีย สละในขณะนั้นเลยพร้อมทั้งทรงกางแผนที่เพื่อตรวจสอบถึงข้อมูลและข้อเท็จจริง ของสภาพภูมิประเทศและหลังจากนั้นก็จะทรงเรียกผู้นําท้องถิ่นและฝ่ายปกครองให้มารับทราบและดําเนินการขั้นต้นก่อนที่จะพระราชทานให้หน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการในเชิงบริหารและวิชาการต่อไปจนเสร็จสิ้นโครงการ “..มีคนบอกว่าโครงการพระราชดําริแตะต้องไม่ได้ข้อนี้เป็นความคิดผิดหรือความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะหากโครงการพระ ราชดําริแตะต้องไม่ได้เมืองไทยไม่เจริญ..”ความตั้งใจจริงและมีความเพียร ต้องมีความตั้งใจ อย่าทํางานไปวัน ตั้งใจทํางานจะทําให้มีแรง มีกําลังใจและต้องขยันหมั่นเพียรงานบางอย่างยากแต่ก็ต้องฟันฝ่าไปให้ได้ดัง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานข้อคิดเกี่ยวกับความเพียรในพระ ราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” ความตอนหนึ่งว่า “..คนเราทําอะไรต้องมีความเพียร แม้ไม่เห็นฝั่งก็ต้องว่ายน้ําและมีคําตอบอยู่ว่ามีประโยชน์อย่างไรเพราะถ้าหาก ไม่เพียรที่จะว่ายน้ําเป็นเวลา 7 วัน7คืนก็จะไม่พบเทวดา คนอื่นไม่มีความเพียรที่จะว่ายน้ํา ก็จงเป็นอาหารของปลา ของเต่า เพราฉะนั้น ความเพียรแม้จะไม่ทราบว่าจะถึงฝั่งเมื่อไหร่ก็ต้องเพียรว่ายน้ําต่อไป..”คํานึงถึงประโยชน์ส่วนรวม โดยต้องคิดให้ดีให้ลึกซึ้ง อย่างเช่นโครงการเขื่อนป่าสักฯเป็นการดําเนินโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่คํานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและไม่ได้ละเลยคนส่วนน้อยที่ต้อง เสียสละเพื่อส่วนรวมเมื่อส่วนรวมได้ประโยชน์อย่างมากมาย คนส่วนรวมต้องช่วยคนกลุ่มเล็กที่เสียสละอย่างเต็มที่“..การปฏิบัติงานทุกอย่างของข้าราชการ มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมืองและประชาชนทุกคนเพราะฉะนั้นจึงจําเป็นที่ข้าราชการทุกคน จะต้องทําหน้าที่ทุกๆ ประการให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยเต็มกําลังสติปัญญา ความรู้ความสามารถเพื่อผลการปฏิบัติราชการ ทุกอย่างจะได้บรรลุความสําเร็จอย่างสูงและ บังเกิดประโยชน์อย่างที่สุดแก่ตนเอง แก่หน้าที่และแก่แผ่นดิน..”พึ่งตนเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนให้ชาวไทยสามารถดํารงชีวิตด้วยตนเองได้ไม่ว่าจะเป็นการพึ่งตนเอง ทั้งทางด้านจิตใจ ที่ต้องเข้มแข็ง มีจิตสํานึกที่ดีสร้างสรรค์ให้ตนเองและชาติโดยรวม ด้านสังคมก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็งเป็น อิสระ หรือแม้กระทั่งด้านเศรษฐกิจที่ต้องมุ่งลดรายจ่ายเป็นสําคัญและยึดหลัก พอเพียง พอกิน พอใช้และสามารถอยู่ด้วยตนเองในระดับพื้นฐานดังพระราชดํารัสความตอนหนึ่งว่า“..ยืนบนขาของตนเอง (ซึ่งแปลว่าพึ่งตนเอง) หมายความว่า สองขาของเรานี้ยืนบนพื้นให้อยู่โดยไม่หกล้ม ไม่ต้องไปขอยืมขาของคนอื่นมาใช้สําหรับยืน..”


53ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือยึดความพอดีพอเพียง พอควร เป็นที่ตั้ง อย่าทําอะไรให้ล้นเกินพอดีเศรษฐกิจพอเพียงอธิบายอย่างง่ายที่สุดคือ ถ้ากินมากก็จุก ไม่กิน หรือกินน้อยก็หิวโหย ทําอะไร ให้พอดีแต่ต้องทําอย่างเต็มศักยภาพที่แต่ละคนมีอยู่เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดํารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดําเนินไปในทางสายกลาง โดย เฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ “..พอเพียงนี้มีความหมายกว้างขวางยิ่งกว่านี้อีก คือคําว่าพอ ก็เพียงพอ เพียงนี้ก็พอ ดังนั้นเองคนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อยเมื่อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิด อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจ มีความคิดว่าทําอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข..”ภูมิสังคม การพัฒนาใดๆต้องสอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้นๆ เนื่องจากแต่ละแห่งคนไม่เหมือนกัน ต้องคํานึงถึงสภาพภูมิประเทศของ บริเวณนั้นว่าเป็นอย่างไร และสังคมวิทยาเกี่ยวกับลักษณะนิสัยใจคอของคน ตลอดจนวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีก็ไม่เหมือนกัน ทรงใช้คําว่า “ภูมิสังคม” คือทรงดูลักษณะภูมิศาสตร์และลักษณะของสังคม ดังพระราชดํารัสตอนหนึ่งความว่า “..การพัฒนาจะต้องเป็นไปตามภูมิประเทศทางภูมิศาสตร์และภูมิประเทศทาง สังคมศาสตร์ในสังคมวิทยา ภูมิประเทศตามสังคมวิทยาคือนิสัยใจคอของคนเราจะไปบังคับให้คนคิดอย่างอื่นไม่ได้เราต้องแนะนํา เราเข้าไป ไปช่วย โดยที่จะคิดให้เขาเข้ากับเราไม่ได้แต่ถ้าเราเข้าไปแล้ว เราเข้าไปดูว่าเขาต้องการอะไรจริงๆ แล้วก็อธิบายให้เขาเข้าใจหลักการของการพัฒนานี้ก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง..” รู้รัก สามัคคี รู้คือ รู้ต้นเหตุรู้ปลายเหตุแล้วถึงเริ่มทํางาน จะได้มีประสิทธิภาพ ต้องรู้ถึงปัจจัยทั้งหมดทั้งรู้ถึงปัญหาและรู้ถึงวิธีการแก้ไขปัญหา รัก คือ ความรัก ความเมตตาซึ่งจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการกระทําและไปลงมือปฏิบัติแก้ไขปัญหา นั้นๆ อีกทั้งความรักที่มีความเมตตากรุณาเป็นพื้นฐานก็สามารถนําไปสู่ความ ปรารถนาที่จะช่วยเหลือเกื้อกูล สนับสนุนให้บุคคลอื่นบรรลุประโยชน์หรือเข้า ถึงจุดหมายของชีวิตของเขาในระดับต่างๆได้สามัคคีคือการที่จะลงมือปฏิบัตินั้น ควรคํานึงเสมอว่าเราจะทํางานคนเดียว ไม่ได้ต้องทํางานร่วมมือร่วมใจเป็นองค์กร เป็นหมู่คณะ จึงจะมีพลังเข้าไปแก้ปัญหาให้ลุล่วงได้ด้วยดี เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจก่อน การพัฒนาในด้านต่างๆต้อง เข้าใจภูมิประเทศ เข้าใจคน เข้าใจหลักปฏิบัติและที่สําคัญเราเข้าใจเขาและจะต้องทําอย่างไรให้เขาเข้าใจเราด้วย เราเข้าถึงเขาแล้ว ต้องทําอย่างไรให้เขาอยากเข้าถึงเราด้วย เมื่อเข้าใจกันแล้วก็สามารถที่จะนํา ไปสู่พัฒนาในขั้นต่อไปได้ปลูกป่าในใจคน เป็นการปลูกป่าลงบนแผ่นดินด้วยความต้องการอยู่รอดของ มนุษย์ทําให้ต้องการบริโภคและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง เพื่อ ประโยชน์ของตนเองและสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งแวดล้อมไม่รู้จักพอ ปัญหาความไม่สมดุลจึงบังเกิดขึ้น ดังนั้นในการที่จะฟื้นฟูทรัพย์ยาก “..เจ้าหน้าที่ป่าไม้ควรจะปลูกต้นไม้ลงในใจคนเสียก่อน แล้วเหล่านั้นก็จะพากันปลูกต้นไม้ลงบนแผ่นดินและรักษาต้นไม้ด้วยตนเอง..”


54ทํางานอย่างมีความสุข พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสําราญและทรงมีความสุขทุกคราที่ได้ช่วยเหลือประชาชนซึ่งเคยรับสั่งครั้งหนึ่งว่า “..ทํางานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้นอกจากการมีความสุขร่วมกัน ในการทําประโยชน์ให้กับผู้อื่น..”หลักการทรงงานที่ประมวลไว้มิใช่หลักสําหรับผู้ปฏิบัติงานราชการ เท่านั้น หากแต่เป็นหลักการทํางานที่ดีที่ทุกๆคนสามารถนําไปปรับใช้กับวิถีชีวิตและการทํางานของแต่ละคนได้ซึ่งจะเป็นมงคลชีวิตของผู้นําไปปฏิบัติเป็น แนวทางที่นําไปสู่ความสุขที่แท้จริงและยั่งยืนได้เพราะนี้คือ แก่นแท้ของการ ดําเนินชีวิตที่มาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงเป็น หลักชัยแห่งชีวิตของชาวไทยทั้งปวง 2. วัตถุประสงค์2.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนและบุคลากรทางการศึกษาน้อมนําศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน 2.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ 2.2.1 เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากรทางการศึกษาและส่งเสริมให้ปฏิบัติตนตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2.2.2 เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้และประกอบอาชีพการปลูกข้าวปลอดสารพิษและการเลี้ยงไก่บ้านได้2.2.3 เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีการออม และลดการใช้ไฟฟ้าตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 3. เป้าหมาย 3.1 ด้านปริมาณ นักเรียนจํานวน 159 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 20 คน สามารถน้อมนําศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติได้ทุกคน 3.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาสามารถน้อมนําศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน อย่างยั่งยืน 4. กิจกรรมและปฏิทินปฏิบัติงาน ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ เงิน ผู้รับผิดชอบอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆ 1. เสนอโครงการ ต.ค.2565 - - - - นายหงษ์มีมุข2. อนุมัติโครงการ ต.ค.2565 - - - - ผู้อํานวยการโรงเรียน3. ประชุมชี้แจงแต่งตั้ง ต.ค.2565 - - - - นายหงษ์มีมุข


55ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ เงิน ผู้รับผิดชอบอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆ คณะทํางาน 4. ศึกษาเอกสาร พ.ย.2565 - - - - นายหงษ์มีมุข5. ดําเนินการตามโครงการ 8,000 - - - 5.1 กิจกรรมจัดทําแหล่ง เรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.2 กิจกรรมการออม พ.ย.2565 -ก.ย.2566 คณะทํางาน5.3 กิจกรรมลดการใช้ไฟฟ้า และทรัพยากร พ.ย.2565 -ก.ย.2566 คณะทํางาน5.4 กิจกรรมปลูกข้าวปลอด สารพิษ มิ.ย.- ต.ค .2566 5,000 คณะทํางาน5.5 กิจกรรมปลูกไผ่พ.ย.2565 -ก.ย.2566 500 คณะทํางาน5.6 กิจกรรมปลูกยางพารา พ.ย.2565 -ก.ย.2566 500 คณะทํางาน5.7 กิจกรรมเลี้ยงปลา พ.ย.2565 -ก.ย.2566 2,000 คณะทํางาน5.9 จัดหาวิทยากรท้องถิ่นมา ให้ความรู้พ.ย.2565 -ก.ย.2566 คณะทํางาน6. ติดตามและประเมินผล พ.ย.2565 -ก.ย.2566 นายหงษ์มีมุข


56ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ เงิน ผู้รับผิดชอบอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆ 7. สรุปผล และรายงานผล โครงการ ก.ย.2566 นายหงษ์มีมุขรวม 8,000 - - - 5. รายละเอียดการใช้งบประมาณ ที่รายการ จํานวนเงิน หมายเหตุ1. ค่าใช้จ่ายในการดําเนินโครงการ 8,000 1.1 กิจกรรมปลูกข้าวปลอดสารพิษ 5,000 1.2 กิจกรรมปลูกไผ่ 500 1.3 กิจกรรมเลี้ยงปลา 500 1.4 กิจกรรมเลี้ยงปลา 2,000 รวม 8,000 6. การวัดผลและประเมินผล ที่ตัวบ่งชี้ความสําเร็จ วิธีการ เครื่องมือ1 ผู้เรียนและบุคลากรทางการศึกษาน้อมนําศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน สังเกต ติดตาม พฤติกรรม แบบสังเกต,แบบประเมิน7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 7.1 ผู้เรียนและบุคลากรทางการศึกษาน้อมนําศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืนกับตนเอง 7.2 ผู้เรียนมีอาชีพเลี้ยงไก่บ้านและปลูกข้าวปลอดสารพิษและประกอบอาชีพในชุมชนของตนเอง


57


58ชื่อโครงการ ส่งเสริมดนตร-ีนาฏศิลป์แผนงาน วิชาการ สนองกลยุทธ์สพฐ.ข้อที่1 สนองมาตรฐานด้าน คุณภาพผู้เรียน ตัวบ่งชี้ที่1 และ 2 ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวบราลีอินทศรีระยะเวลาดําเนินการ ปีงบประมาณ 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 1. โครงการ ส่งเสริมดนตรี-นาฏศิลป์2. หลักการและเหตุผล วิชาดนตรี-นาฏศิลป์เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของความคิดสร้างสรรค์จินตนาการและการแสดงออกทั้งดนตรีและนาฏศิลป์เน้นกระบวนการเรียนการสอนแบบปฏิบัติควบคู่กับทฤษฎีเพื่อการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้การฝึกทักษะ การส่งเสริมความสามารถด้านดนตรีนาฏศิลป์และแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย โดยมุ่งให้พัฒนานักเรียนให้มีความเป็นเลิศตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ดังนั้นโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ได้ตระหนักถึงความสําคัญ การจัดการศึกษามุ่งเน้นความสําคัญทั้งด้านความรู้ความคิด ความสามารถ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และทักษะกระบวนการที่สร้างสรรค์เพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดหลักผู้เรียนเป็นสําคัญที่สุด ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้มีทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถดํารงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะจึงได้จัดทําโครงการนี้ขึ้น 3. วัตถุประสงค์3.1 เพื่อให้นักเรียนมผีลสัมฤทธิ์และทักษะทางดนตรี-นาฏศิลป์ที่สูงขึ้น 3.2 เพื่อให้นักเรียนมีกล้าแสดงออก มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรี-นาฏศิลป์ตามจินตนาการ3.3 เพื่อให้นักเรียนมีอุปกรณ์การเรียนการสอนและแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด3.4 เพื่อให้นักเรียนมีเจตคติที่ดีและมีสุนทรียภาพต่อดนตรี-นาฏศิลป์4. เป้าหมายของโครงการ 4.1 เป้าหมายด้านปริมาณ ร้อยละ 80 ของนักเรียนโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม มีผลสัมฤทธิ์และทักษะทางดนตรีนาฏศิลป์ที่สูงขึ้น4.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ 4.2.1 นักเรียนในโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม มีความรู้ความสามารถและทักษะด้านดนตรีและนาฏศิลป์อยู่ในระดับมาตรฐานสากล


594.2.2 นักเรียนได้รับโอกาสในการแสดงออกถึงความรู้ความสามารถและทักษะด้านดนตรีและนาฏศิลป์โดยมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์4.2.3 นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อดนตรีและนาฏศิลป์5. กิจกรรมและปฏิทินปฏิบัติงาน กิจกรรม งบประมาณ ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบขั้นเตรียมการ 1. เสนอโครงการ 2. อนุมัติโครงการ 3. ประชุมชี้แจงแต่งตั้งคณะทํางาน 4. ศึกษา เอกสาร ขั้นดําเนินการ 5. ดําเนินการตามโครงการ 5.1 จัดหาวัสดุทางการศึกษา 5.2 จัดบรรยากาศห้องเรียนดนตรีขั้นวัดผลประเมินผล 6. ติดตามและประเมินผล 7. สรุปผลและรายงานผลโครงการ - - - - 15,000 10,000 ตุลาคม 2565 ตุลาคม 2565 ถึง กันยายน 2566 กันยายน 2566 น.ส.บราลีอินทศรีและคณะครูผู้อํานวยการโรงเรียนและคณะครู6. งบประมาณดําเนินการโครงการ จํานวน 25,000 บาท 7. การวัดผลและประเมินผล ที่ตัวบ่งชี้ความสําเร็จ วิธีการ เครื่องมือ1 2 3 มีนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์และทักษะทางดนตร-ีนาฏศิลป์นักเรียนมีผลงานการแสดงทางดนตร-ีนาฏศิลป์และมีความกล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อดนตรี-นาฏศิลป์ ประเมินตาม สภาพจริง สังเกต ติดตาม ประเมินผล แบบสอบถาม แบบบันทึกผลการเรียนแบบสังเกตแบบสอบถามความพึงพอใจ


608. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์และทักษะทางดนตรี-นาฏศิลป์ที่สูงขึ้น 8.2 นักเรียนมีกล้าแสดงออก มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรี-นาฏศิลป์ตามจินตนาการ8.3 นักเรียนมอีุปกรณ์การเรียนการสอนและแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด8.4 นักเรียนมีเจตคติที่ดีและมีสุนทรียภาพต่อดนตรี-นาฏศิลป์


61ชื่อโครงการ ส่งเสริมศักยภาพด้านกีฬา แผนงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สนองกลยุทธ์สพฐ. ข้อที่1 ผู้เรียนมีสุขภาวะที่ดีและมีสุนทรียภาพ สนองมาตรฐานด้าน ตัวบ่งชี้ที่1.6 สร้างผลงานจากการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬา และนันทนาการตามจินตนาการ ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ นายจักราวุธ อ่อนหวาน ระยะเวลาดําเนินการ ปีงบประมาณ 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 1. โครงการส่งเสริมศักยภาพด้านกีฬา 2. หลักการและเหตุผล โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ตระหนักถึงความสําคัญในการพัฒนา นักเรียน ครูอาจารย์และบุคลากรให้เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง จิตใจ ร่าเริงแจ่มใสมุ่งใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลจาก ยาเสพติดประกอบความต้องการของนักเรียนโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม เรียกร้องให้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นผู้ประสานงาน ให้เกิดการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ ขึ้น 3. วัตถุประสงค์1. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน คณะครูและประชาชน ได้ออกกําลังกาย โดยการเล่นกีฬาประเภทต่างๆอย่างสม่ําเสมอ 2. เพื่อส่งเสริมให้เกิดความรักความสามัคคีและมีความสัมพันธ์อันดีระหว่าง นักเรียนคณะครูและประชาชนในเขตบริการของโรงเรียน 3. เพื่อให้นักเรียน และคณะครูทราบ กฎ กติกา และมารยาทที่ดีในการเล่นกีฬา รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัยและมีน้ําใจเป็นนักกีฬา 4. เพื่อคัดเลือกนักกีฬา เพื่อใช้เป็นตัวแทนของโรงเรียนไว้สําหรับการแข่งขันกับหน่วยงานอื่นต่อไป4. เป้าหมายของโครงการ 4.1 เป้าหมายด้านปริมาณ นักเรียนที่มีความสามารถด้านกีฬา มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม การแข่งขันกีฬาในระดับต่างๆทั้งในและนอกสถานศึกษา


624.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ นักเรียนมีพฤติกรรมที่เหมาะสม รวมถึงคณะครูทุกคน มีความรักความสามัคคีและมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน 5. วิธีดําเนินการ (รายละเอียดกิจกรรม) กิจกรรม/ขั้นตอน ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบขั้นเตรียมงาน Plan - แต่งตั้งคณะกรรมการดําเนินงาน เพื่อจัดทําโครงการ และขออนุมัติจากผู้บริหารโรงเรียน ขั้นดําเนินการ Do - เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ - ประชุมคณะกรรมการ เพื่อวางแผน/ดําเนินงาน - ดําเนินงานกิจกรรม โดยจัดอบรมครูให้ความรู้และทํา ความเข้าใจ ในการจัดทําโครงการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง 1. การแข่งขันกีฬาภายใน ไผ่งามเกมส์2. การแข่งขันกีฬานักเรียน สพม.ศรีสะเกษ ยโสธร 3. การแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษา จ.ศรีสะเกษ 4. การแข่งขันฟุตบอล PNPK Youth Cup 5. การแข่งขันฟุตบอล 7 คน VIP Winner Cup ขั้นตรวจสอบ Check - ติดตามการดําเนินกิจกรรม - แบบประเมินผลการดําเนินการ ขั้นรายงาน Action - สรุปประเมินผล - รายงานผลการดําเนินงาน ต.ค. 2565 พ.ย. 2565 ธ.ค. 65 - ก.ค. 66 ส.ค. 2566 ครูจักราวุธ6. งบประมาณดําเนินการโครงการ จํานวน 76,000 บาท การแข่งขันกีฬาภายใน ไผ่งามเกมส์จํานวน 13,000 บาท การแข่งขันกีฬานักเรียน สพม. ศรีสะเกษ ยโสธร จํานวน 30,000 บาท การแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษา จ.ศรีสะเกษ จํานวน 20,000 บาท การแข่งขันฟุตบอล PNPK Youth Cup จํานวน 10,000 บาท การแข่งขันฟุตบอล 7 คน VIP Winner Cup จํานวน 3,000 บาท


637. การติดตามและประเมินผล ที่ตัวชี้วัดความสําเร็จของแต่ละกิจกรรม วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้1 2 3 จํานวนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน นักเรียน คณะครูและบุคลากรทุกคน มีความรัก ความสามัคคีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผลการแข่งขัน และการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา รายการต่างๆ - สํารวจจํานวน นักเรียน - สังเกตการทํา กิจกรรมร่วมกัน - การได้เป็น ตัวแทนกีฬา ประเภทต่างๆ - แบบสํารวจ- แบบสังเกต- ผลการดําเนินงานของครูและนักเรียนเกียรติบัตร เหรียญรางวัล 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียน คณะครูและประชาชนในเขตบริการโรงเรียน ได้ออกกําลังกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของตนเอง 2. มีการพัฒนาศักยภาพด้านกีฬา ให้เข้าสู่ระบบสากลอย่างต่อเนื่อง 3. โรงเรียนมีผลงาน และนักเรียนได้ตัวแทน เพื่อนําไปใช้ในการแข่งขันกับหน่วยงานอื่นๆ ต่อไป4. นักเรียน คณะครูและประชาชนในเขตบริการโรงเรียน ได้มีโอกาสเล่นกีฬา และแข่งขันกีฬาอย่างทั่วถึงลงชื่อ ผู้เสนอโครงการ (ลงชื่อ) ผู้เห็นชอบโครงการ(นายจักรวุธ อ่อนหวาน) (นางนงค์นุช พาหา) พนักงานราชการ ครูชํานาญการพิเศษ (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายธีรพล บุญสรรค์) รองผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายเสกสรร ยุภาศ) ผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม


64ชื่อกิจกรรม การแข่งขันฟุตบอล 7 คน VIP Winner Cup ครั้งที่1 ประจําปี2565สอดคล้องยุทธศาสตร์2 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นครูมืออาชีพ ลักษณะโครงการ ใหม่กลุ่มงาน งานบริหารทั่วไป ผู้รับผิดชอบโครงการ นายจักราวุธ อ่อนหวาน ระยะเวลาดําเนินการ วันที่4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 หลักการและเหตุผล การแข่งขันฟุตบอล 7 คน เป็นการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์สังคม และสติปัญญาส่งเสริมความสามัคคีในหมู่คณะ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชน เปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชนได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ที่สําคัญฝึกการปฏิบัติงานเป็นหมู่คณะ ปลูกฝังคุณธรรมความมีน้ําใจเป็นนักกีฬา จึงเห็นสมควรจัดทําโครงการนี้ขึ้น วัตถุประสงค์1. เพื่อส่งเสริมความสามัคคีในหมู่คณะ 2. เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชน 3. เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม 4. เพื่อพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอลของทีมอาวุโส เพื่อต่อยอดนําไปใช้ในการแข่งขันต่อไปเป้าหมาย เชิงปริมาณ นักกีฬารุ่นอาวุโส เรทอายุ30 ปีขึ้นไป ที่เป็นหน่วยงานภายในชุมชมตําบลไผ่เชิงคุณภาพ นักกีฬาสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตามกฎ กติกา ที่กําหนด และต่อยอดนําไปใช้ในการแข่งขันรายการต่างๆต่อไปของรุ่นอาวุโสได้วิธีการดําเนินงาน รายการ เวลา ผู้รับผิดชอบขั้นเตรียมการ 1. สอบถาม คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา เกี่ยวกับ รายละเอียดการแข่งขันเบื้องต้น 2. ประชุมคณะกรรมการบริหารงานโรงเรียน 3. ประชุมคณะกรรมการ การดําเนินงานเพื่อกําหนดการ แข่งขันกีฬา 4. ประชาสัมพันธ์การแข่งขันให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ ตุลาคม 2565 ตุลาคม 2565 ตุลาคม 2565 ตุลาคม 2565 ครูจักราวุธ


65ขั้นดําเนินการ แข่งขันกีฬาฟุตบอล 7 คน ขั้นสรุปและประเมินผล 1. สร้างแบบสอบถาม 2. สุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม 3. สรุป ประเมินผล 4 พฤศจิกายน 2565 พฤศจิกายน 2565 พฤศจิกายน 2565 พฤศจิกายน 2565 ระยะเวลาการดําเนินงาน วันที่4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 สถานที่ดําเนินการ สนามกีฬา PNPK Arena โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ตําบลไผ่อําเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษงบประมาณ 1. ค่าจัดทําสนาม ป้ายผู้สนับสนุน 1,200 บาท 2. ค่าเช่าเหมาเครื่องเสียง 1,000 บาท 3. ค่าตอบแทนกรรมการ 800 บาท รวม 3,000 บาท หมายเหตุ: ถัวจ่ายทุกรายการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะครูโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม - กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ตําบลไผ่- องค์การบริหารส่วนตําบลไผ่ผู้รับผิดชอบโครงการ นายจักราวุธ อ่อนหวาน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ผลที่คาดว่าจะได้รับ 5. สามารถส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ 6. สามารถสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชน 7. พัฒนาทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอล 7 คน ของประชาชนในชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ 8. คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ประชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ ในชุมชน นําทักษะทางด้านกีฬาไปใช้ในชีวิตประจําวัน และปฏิบัติตามกฎ กติกา ได้อย่างถูกต้อง


66การวัดผลประเมินผล รายการ วิธีประเมิน เครื่องมือ 1. จํานวนผู้เข้าร่วมแข่งขัน 2. บุคลากรมีความรัก และความ สามัคคีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ กันในหน่วยงานภายใน โรงเรียนและชุมชน - สํารวจจํานวนคน - สังเกตการทํากิจกรรมร่วมกัน - แบบสํารวจ - แบบสังเกต ลงชื่อ ผู้เสนอโครงการ (ลงชื่อ) ผู้เห็นชอบโครงการ(นายจักรวุธ อ่อนหวาน) (นางนงค์นุช พาหา) พนักงานราชการ ครูชํานาญการพิเศษ (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายธีรพล บุญสรรค์) รองผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายเสกสรร ยุภาศ) ผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม


67ชื่อโครงการ โครงการยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาสู่มาตรฐานสากล แผนงาน บริหารงานวิชาการ สนองนโยบาย สพฐ. ข้อที่3 สนองนโยบายสพม. ข้อที่สนองกลยุทธ์โรงเรียนข้อที่สนองมาตรฐานด้าน มฐ.3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวคัทรียา โสมนัสกุล ลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง ระยะเวลาดําเนินการ ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม 1. หลักการและเหตุผล กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านวิทยาการและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศทําให้แต่ละประเทศไม่สามารถปิดตัวอยู่โดยลําพัง ต้องริวมมือและพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การดํารงชีวิตของคนในแต่ละประเทศ มีการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันมากขึ้นมีความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจและแก้ปัญหาต่างต่าง ร่วมกันมากขึ้น ในขณะเดียวกัน สังคมโลกในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารทําให้คนต้องคิด วิเคราะห์แยกแยะ และมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์ในสังคม ที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น สิ่งเหล่านั้นนําไปสู่สภาวการณ์ของการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นแรงผลักดันสําคัยที่ทําให้หลายประเทศต้องปฏิรูปการศึกษา คุณภาพของการจัดการศึกษาจึงเป็นตัวบ่งชี้ที่สําคัญประการหนึ่ง สําหรับความพร้อมในการเข้าสู่ศตวรรษที่21 ด้วยเหตุนี้โรงเรียนไผ่งามพิทยาคมจึงจําเป็นต้องพัฒนาให้เป็นหน่วยบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดเสรีทางการศึกษา การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนต้องมีความเป็นสากล มีการพัฒนาทักษะการคิด และการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น ตลอดจนการสอนภาษาต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนและก้าวหน้าความเป็นสากลอย่างภาคภูมิใจโดยการจัดทํากิจกรรมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาสู่มาตรฐานสากล ซึ่งมีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างยั่งยืน 2. วัตถุประสงค์วัตถุประสงค์ทั่วไป 1. เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับหลักสูตรโรงเรียนมาตรบานสากล 2. เพื่อพัฒนาจัดการเรียนรู้สาระเพิ่มเติมวิชา IS ให้สอดคล้องกับหลักสุตรสถานศึกษา 3. เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการประเมินโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับScQAOBECQA


683. เป้าหมาย ด้านปริมาณ ผู้บริหาร คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนทุกคนในโรงเรียนไผ่งามพิทยาคมด้านคุณภาพ ๑. โรงเรียนมีความพร้อมรับการประเมินโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับScQAOBECQA ๒. โรงเรียนมีความพร้อมรับการประเมินโรงเรียนมาฐานสากล ระดับ ScQA OBECQA๓. โรงเรียนจัดการเรียนรู้สาระเพิ่มเติม วิชา IS ให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ๔. นักเรียนสามารถเรียนรู้ตามหลักสูตรของโรงเรียน และพัฒนาตนเองได้ตรงตามวัตถุประสง4. กิจกรรมและขั้นตอนการดําเนินการ ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ ผู้รับผิดชอบเงินอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆ 1 ขั้นเตรียมการ (P) จัดประชุมวางแผน จัดทําโครงการ 1.จัดทําโครงการเพื่อขอ อนุมัติจากผู้บริหาร โรงเรียน 2.ประชุมคณะกรรมการ เพื่อการวางแผนการ ดําเนินงาน 3. เสนอโครงการเพื่อ อนุมัติ ต.ค.65 ก.ย.66 - - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุล2 ขั้นดําเนินการ(D) 1.ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร รับผิดชอบจัดเตรียม ควา ม พ ร้อ ม กับ การ ป ร ะเ มิน โ ร ง เ รีย น ต.ค.65-ก.ย.66 - - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุล


69มาตรฐานสากล ระดับ ScQA OBECQA 3 ขั้นตรวจสอบและ ประเมินผล (C) นําผลการดําเนินงานมา สรุปและรายงาน โครงการ ต.ค.65-ก.ย.66 - - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุล4 ขั้นการนําผลการ ประเมินมาปรับปรุงการ ดําเนินงาน (A) -นําผลการประเมินมา วิเคราะห์เพื่อวางแผนใน การดําเนินโครงการ พัฒนาและติดตาม ติดตามโครงการครั้ง ต่อไป ต.ค.65 –ก.ย.66 10,000 - - - น.ส.คัทรียา โสมนัสกุลรวม 10,000 - - - 5. รายละเอียดการใช้งบประมาณ ที่รายการ จํานวนเงิน หมายเหตุ1. ค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมอบรม 2. ค่าใช้จ่ายในการจัดทําการประเมินโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล 3. ค่าใช้จ่ายในการจัดทําระบบข้อมูลสารสนเทศ 4. ค่าใช้จ่ายในการประเมิน ScQA OBECQA รวม 10,000


706. การประเมินผล ตัวชี้วัดความสําเร็จ วิธีการประเมิน เครื่องมือผลผลิต 1. โรงเรียนมีความพร้อมรับการประเมินโครงการ โรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับ ScQA OBECQA 2.โรงเรียนจัดการเรียนรู้สาระเพิ่มเติม วิชา IS .ให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา อย่างมีประสิทธิภาพ 3. นักเรียนสามารถเรียนรู้ตามหลักสูตรของ โรงเรียนและพัฒนาตนเองได้ตรงตามวัตถุประสงค์ - 1.ประชุมวางแผนการ ดําเนินงาน 2.ดําเนินกิจกรรมตาม แผน/ปฏิทิน 3.นิเทศติดตามการ ดําเนินงาน 4.สรุปประเมินผลการ ดําเนินการ - 5.นําข้อข้อมูลมา วิเคราะห์พัฒนาต่อไป - - แบบประเมินโครงการ 7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.โรงเรียนมีความพร้อมรับการประเมินโครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับ ScQAOBECQA2. โรงเรียนจัดการเรียนรู้สาระเพิ่มเติม วิชา IS 3. นักสารสามารถเรียนรู้ตามหลักสูตรของโรงเรียน และพัฒนาตนเองได้ตรงตามวัตถุประสงค์


71ชื่อโครงการ รณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE แผนงาน บริหารงานทั่วไป สนองกลยุทธ์นโยบายข้อที่2 กลยุทธ์ข้อที่1 และ 2 สนองมาตรฐานด้าน คุณภาพผู้เรียน ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ บริหารงานทั่วไป ระยะเวลาดําเนินการ ปีงบประมาณ 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 1. โครงการ รณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE 2. หลักการและเหตุผล ปัจจุบันปัญหายาเสพติดกําลังแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชนที่กําลังจะโตขึ้นไปเป็นอนาคตที่ดีของชาติเนื่องจากปัจจุบันมีความสะดวกที่จะเข้าถึงสื่อข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข่าวสารที่มีลักษณะขัดต่อศีลธรรมและบรรทัดฐานทางสังคมที่จะเป็นการชักนําให้เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการ ลอกเลียนแบบในพฤติกรรมนั้น ๆ รวมถึงการเสพยาเสพติดด้วย ยาเสพติดจึงเป็นปัญหาสําคัญที่ต้องเร่ง ดําเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง ด้วยพระอัจฉริยภาพของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดีที่มีสายพระเนตรอันยาวไกลทรงตระหนักและทรงห่วงใยในปัญหานี้มาก จึงทรงพระกรุณาธิคุณ รับเป็นองค์ประธานโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งใช้ชื่อว่า โครงการ TO BE NUMBER ONEเพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยทรงมีพระประสงค์มุ่งเน้นการรณรงค์ในกลุ่มเป้าหมายหลัก คือวัยรุ่นและเยาวชนโดยกลวิธีสร้างกระแสการแสดงพลังอย่างถูกต้องโดยไม่ข้องแวะกับยาเสพติด ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองพระดําริของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีโรงเรียนไผ่งามพิทยาคมจึงก่อตั้งชมรม TO BE NUMBER ONE ในปีการศึกษา 2563 เพื่อสร้างโอกาสสร้างทางเลือกของเด็กและเยาวชน ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์มีความสุขและปลอดจากสิ่งเสพติดและอบายมุขเพื่อให้เกิดค่านิยมของการ เป็นหนึ่ง โดยไม่ต้องพึ่งยาเสพติด 3. วัตถุประสงค์1. เพื่อระดมสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE ในโรงเรียนให้ไดร้้อยละ 80 2. เพื่อส่งเสริมสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE แสดงความสามารถกล้าคิด กล้าทํา กล้าแสดงออกและช่วยสร้างเสริมความภาคภูมิใจ มีความสุข 3. เพื่อให้สมาชิกชมรมมีส่วนร่วมในการขจัดปัญหายาเสพติดและอบายมุขภายในโรงเรียน 4. เพื่อขยายเครือข่ายโครงการไปยังโรงเรียนอื่น ๆ ในอําเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ


724. เป้าหมายของโครงการ 4.1 เป้าหมายด้านปริมาณ นักเรียนโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม จํานวนร้อยละ 80 4.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ 1) สมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE แสดงความสามารถกล้าคิด กล้าทํา กล้าแสดงออกและช่วยสร้างเสริมความภาคภูมิใจ มีความสุข 2) สมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE มีส่วนร่วมในการขจัดปัญหายาเสพติดและอบายมุขภายในโรงเรียน 5. กิจกรรมและปฏิทินปฏิบัติงาน กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณผู้รับผิดชอบ1. เสนอโครงการ ตุลาคม 2565 - คณะครู2. อนุมัติโครงการ ตุลาคม 2565 - คณะครู3. ประชุมชี้แจงแต่งตั้งคณะทํางาน พฤศจิกายน 2565 - คณะครู4. ศึกษา เอกสาร พฤศจิกายน 2565 - คณะครู5. ดําเนินการตามโครงการ 5.1 กิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด 5.2 กิจกรรมรณรงค์งดสูบบุหรี่โลก 5.3 กิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลก 5.4 กิจกรรมแข่งขันกีฬาต่อต้านยา เสพติด 5.5 กิจกรรมประกวดร้องเล่น เต้น รีไซเคิล 5.6 กิจกรรมห้องเรียนสีขาว 5.7 กิจกรรมส่งเสริมโครงงาน 5.8 กิจกรรมปลอดยาเสพติดและ อบายมุขภายในโรงเรียน 5.9 กิจกรรม TO BE เสียงตามสาย ประชาสัมพันธ์ที่โรงเรียนทุกวันจันทร์และ วันพฤหัสบดีเวลาพักเที่ยง 1 ธันวาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 8,000 - - - - - - - คณะครู 6. ติดตามและประเมินผล กันยายน 2566 7. สรุปผล และรายงานผลโครงการ กันยายน 2566


736. งบประมาณ จํานวน 8,000 บาท 7. การวัดผลและประเมินผล ที่ตัวบ่งชี้ความสําเร็จ วิธีการ เครื่องมือ1 2 สมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE แสดงความสามารถกล้าคิด กล้าทํา กล้า แสดงออกและช่วยสร้างเสริมความ ภาคภูมิใจ มีความสุข สมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE มีส่วนร่วมในการขจัดปัญหายาเสพติดและ อบายมุขภายในโรงเรียน สังเกต ติดตาม พฤติกรรม แบบประเมิน8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนร้อยละ 100 เข้าร่วมกิจกรรมชมรม TO BE NUMBER ONE 2. สมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE สามารถแสดงความสามารถกล้าคิด กล้าทํา กล้าแสดงออกและช่วยสร้างเสริมความภาคภูมิใจ มีความสุข 3. สมาชิกชมรมมีส่วนร่วมในการขจัดปัญหายาเสพติดและอบายมุขภายในโรงเรียน 4. ชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม สามารถขยายเครือข่ายโครงการไปยังโรงเรียนอื่น ๆ ในอําเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ


74ชื่อโครงการ โครงการโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) แผนงาน งานวิชาการ สนองกลยุทธ์กลยุทธ์โรงเรียนข้อที่2 สพม.28 ข้อที่และ สพฐ.ข้อที่1 ข้อที่2สนองมาตรฐานด้าน คุณภาพผู้เรียน ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มบริหารวิชาการ ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม 1. หลักการและเหตุผล การจัดการเรียนการสอนสําหรับนักเรียนในศตวรรษที่21 นักเรียนต้องมีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ มีความสามารถในการสื่อสารและการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจได้อย่างถูกต้องบนพื้นฐานของข้อมูลและเหตุผล การใช้ทักษะชีวิตที่ถูกต้อง สามารถค้นหาความรู้ใหม่ๆได้ด้วยเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด ด้วยตนเองด้วยเหตุนี้จึงเป็นหน้าที่ครูและโรงเรียนที่ต้องจัดประสบการณ์แก่ผู้เรียนอย่างชัดเจน เป็นรูปธรรมเรื่องการเรียนรู้ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีศักยภาพ คิดประดิษฐ์และสร้างสรรค์ผลงานสามารถแข่งขันทัดเทียมกับนานาประเทศ เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่คุณภาพ อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก โครงการโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมมีการตั้งคณะกรรมการ เข้ามาขับเคลื่อนในเรื่องต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ การดูแลด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานและการพัฒนาผู้นําผ่านโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) ซึ่งภาคเอกชนจะสามารถเข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนวางแผนพัฒนาโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีหน้าที่จะต้องดําเนินการใน 4 ด้านหลัก คือ 1. การจัดทําฐานข้อมูลการศึกษาของโรงเรียนทุกส่วน เพื่อที่จะให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึง และนําข้อมูล ไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่จะนําบุตรมาเข้าเรียน ทั้งยังเป็นการเปิดความโปร่งใสให้ทุกภาคส่วนสามารถตรวจสอบได้ซึ่งจะต้องเร่งให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้2. เตรียมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลให้กระจายไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ และใช้ในการเข้าถึงองค์ความรู้และสื่อต่างๆ 3. การเตรียมพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งจะมีทั้งการนําสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในโรงเรียนและนําวิธีการสอนในสถาบันชั้นนํามาถ่ายทอดให้แก่นักเรียนและ 4. การเตรียมพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นําและธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา จะรวมไปถึงการพัฒนาอบรมครูผู้สอนให้สามารถเป็นผู้แนะนําและอํานวยความสะดวกในการเรียนรู้ของผู้เรียนนั่นเอง การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสําคัญสําคัญที่สุด เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย


75ผู้เรียนสามารถนําวิธีการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตจริงได้โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเนื่องจากในขณะนี้รัฐบาลกําลังขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) ที่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐเอกชน และ ภาคประชาสังคม ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการมาขับเคลื่อนในเรื่องต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการดูแลด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นําผ่านโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) ซึ่งภาคเอกชนจะสามารถเข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อน สํานักงานเขตพื้นการศึกษามัธยมศึกษาเขต 28 มีข้อตกลง(MOU)กับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) ให้ดําเนินการในปีการศึกษา 2563 จํานวน 2 เรื่อง ได้แก่ 1) การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกระดับชั้นให้สูงขึ้น และ 2) ส่งเสริมการเรียนการสอนพัฒนาอาชีพ1อาชีพ 1 โรงเรียน ดังนั้นทางโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม จึงได้จัดทําโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยการจัดการเรียนการสอนด้วย ICT และกิจกรรม 1 อาชีพ 1 โรงเรียน โดยปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน สู่ศตวรรษที่21 และพัฒนาครูให้มีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป2. วัตถุประสงค์2.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบายโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) 2.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ 2.2.1 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกระดับชั้นให้สูงขึ้น 2.2.2 เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนนักเรียนพัฒนาอาชีพ 1 อาชีพ 1 โรงเรียน 2.2.3 เพื่อพัฒนาครูและบุคลาการทางการศึกษาให้จัดการเรียนการสอนโดยใช้ICT 3. เป้าหมายของโครงการ 3.1 เป้าหมายด้านปริมาณ นักเรียนจํานวน 159 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 18 คน พัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบายโรงเรียนประชารัฐ (ดีใกล้บ้าน) 3.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และทุกระดับชั้นสูงขึ้นครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาจัดการเรียนการสอนโดยใช้ICT และจัดการเรียนการสอนพัฒนาอาชีพ1 อาชีพ1โรงเรียน


764. กิจกรรมและปฏิทินปฏิบัติงาน ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ เงิน ผู้รับผิดชอบอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆ 1. เสนอโครงการ ต.ค.2565 - - - - นายฉัตรชัยนาดีอนุมัติโครงการ ต.ค.2565 - - - -ผู้อํานวยการโรงเรียน3. ประชุมชี้แจงแต่งตั้ง คณะทํางาน ต.ค.2565 - - - - นายฉัตรชัยนาดี4. ศึกษาเอกสาร พ.ย.2565 - - - - นายฉัตรชัยนาดี5. ดําเนินการตามโครงการ โรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) 2,000 - - - นายฉัตรชัยนาดี5.1 กิจกรรมจัดการเรียน การสอนโดยใช้ICT พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.2 กิจกรรม 1 อาชีพ 1 โรงเรียน พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน6. ติดตามและประเมินผล พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - นายฉัตรชัยนาดี7. สรุปผล และรายงานผล โครงการ ก.ย.2566 - - - -นายฉัตรชัยนาดีรวม - - - - 5. รายละเอียดการใช้งบประมาณ ที่รายการ จํานวนเงิน หมายเหตุ1 กิจกรรม 1 อาชีพ 1 โรงเรียน 2,000 รวม 2,000


776. การวัดผลและประเมินผล ที่ตัวบ่งชี้ความสําเร็จ วิธีการ เครื่องมือ1 ผู้เรียนและบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาคุณภาพ การศึกษาตามตามนโยบายโรงเรียนประชารัฐ (ดีใกล้บ้าน) สังเกต ติดตาม พฤติกรรม แบบสังเกต,แบบประเมิน7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 7.1 ผู้เรียนและบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบายโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) 7.2 ครูผู้สอนมีความชํานาญในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ICT ลงชื่อ ผู้เสนอโครงการ (ลงชื่อ) ผู้เห็นชอบโครงการ(นายฉัตรชัย นาดี) (นางนงค์นุช พาหา) ครูชํานาญการ ครูชํานาญการพิเศษ(ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายธีรพล บุญสรรค์) รองผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม (ลงชื่อ) ผู้อนุมัติโครงการ (นายเสกสรร ยุภาศ) ผู้อํานวยการโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม


78ประมาณการค่าใช้จ่ายตามโครงการโรงเรียนประชารัฐ(ดีใกล้บ้าน) ปีงบประมาณ 2566 (1 ตุลาคม 2565 – 30 กันยายน 2566) กิจกรรมปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียน ลําดับ รายการ จํานวนเงิน 1 กิจกรรม 1 อาขีพ 1 โรงเรียน 2,000 รวม 2,000


79ชื่อโครงการ พัฒนาห้องสมุด แผนงาน งานวิชาการ สนองกลยุทธ์กลยุทธ์สพม. ศก.ยส. ข้อที่2 สนองมาตรฐานด้าน ผู้เรียน ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ นางวินิจ อํานวย ระยะเวลาดําเนินการ ปีงบประมาณ 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 1. โครงการ พัฒนาห้องสมุด 2. หลักการและเหตุผล ความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านต่าง ๆ ของโลกในยุคโลกาวิวัฒน์มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการศึกษาพฤติกรรมการแสดงออกของผู้เรียนในทางลบเพิ่มมากขึ้นซึ่งเห็นได้จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ําลง รวมทั้งพฤติกรรมการแสดงออกในด้านลบของผู้เรียน ดังนั้นบุคลากรในโรงเรียนจําเป็นต้องจัดโครงการ กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพผู้เรียนให้เป็นคนดีคนเก่งและสามารถร่วมอยู่กับสังคมได้อย่างมีความสุข พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่2 พ.ศ. 2545) ได้กําหนดให้การศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้การฝึกอบรม การสืบสานวัฒนธรรม การสร้างสรรค์ความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจสติปัญญาความรู้และคุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดํารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขเปิดโอกาสให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา พัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องการบริหารจัดการโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายและครูในโรงเรียน ถือเป็นส่วนสําคัญในการจัดการเรียนการสอนดังนั้นโรงเรียนไผ่งามพิทยาคมได้ตระหนักถึงความสําคัญ จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จึงได้จัดทําโครงการขึ้น 3. วัตถุประสงค์3.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดีคนเก่ง และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข 3.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ 1) เพื่อให้ครูพัฒนาการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง 2) เพื่อให้การจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้


804. เป้าหมายของโครงการ 4.1 เป้าหมายด้านปริมาณ ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน 4.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ 1) ครูจัดการเรียนการสอนสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และนําเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 5. กิจกรรมและปฏิทินปฏิบัติงาน กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ1. เสนอโครงการ ตุลาคม 2565 - งานห้องสมุด2. อนุมัติโครงการ ตุลาคม 2565 - งานห้องสมุด3. ประชุมชี้แจงแต่งตั้งคณะทํางาน พฤศจิกายน 2565 - งานวิชาการ 4. ศึกษา เอกสาร พฤศจิกายน 2565 - งานห้องสมุด5. ดําเนินการตามโครงการ 5.1 ปรับปรุงซ่อมแซม 5.3 จัดหาหนังสือ สารานุกรม 5.4 นิเทศติดตามประเมินผล ตลอดปีการศึกษา2566 ตลอดปีการศึกษา2566 ตลอดปีการศึกษา2566 5,000 3,000 งานห้องสมุด6. ติดตามและประเมินผล กันยายน 2566 - 7. สรุปผล และรายงานผลโครงการ กันยายน 2566 - 6. งบประมาณ จํานวน 8,000 บาท 7. การวัดผลและประเมินผล ที่ตัวบ่งชี้ความสําเร็จ วิธีการ เครื่องมือ1 1. ครูมีความรู้สื่อ นวัตกรรมใหม่ๆ ในการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอน 2. ห้องสมุดสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และปลอดภัย สังเกต ติดตาม พฤติกรรม แบบประเมิน8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและผลการทดสอบระดับชาติที่สูงขึ้น 8.2 มีสื่อการเรียนในการสืบค้นสําหรับบุคลากร และแหล่งเรียนรู้ที่ปลอดภัย


81


82ชื่อโครงการ ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์แผนงาน งานบริหารทั่วไป สนองกลยุทธ์กลยุทธ์โรงเรียนข้อที่2 สพม.28 ข้อที่และ สพฐ.ข้อที่1 ข้อที่2สนองมาตรฐานด้าน คุณภาพผู้เรียน ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ กลุ่มบริหารวิชาการ ระยะเวลาดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม 1. หลักการและเหตุผล คุณภาพผู้เรียนที่สังคมต้องการถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ.2545 มาตรา 6 ระบุว่า “การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดํารงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข” และในมาตรา 7 ระบุว่า “ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมุ่งปลูกจิตสํานึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขรู้จักรักษาและส่งเสริมสิทธิหน้าที่เสรีภาพ ความเคารพกฎหมาย ความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติรวมทั้งส่งเสริมศาสนา ศิลปะวัฒนธรรมของชาติการกีฬา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและความรู้อันเป็นสากล ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพ รู้จักพึ่งตนเอง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่12 (พ.ศ.2560–2564) เป็นแผนที่ยึดกรอบวิสัยทัศน์และเป้าหมายอนาคตประเทศไทยในปีพ.ศ. 2579 ซึ่งกําหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20ปีเป็นกรอบมุ่งเตรียมความพร้อมและวางรากฐานในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีความมั่นคง ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาคนไทยให้มีทัศนคติและพฤติกรรมตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม มีกิจกรรมที่ปฏิบัติตนที่สะท้อนการมีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบมีวินัยมีจิตสาธารณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายขับเคลื่อนส่งเสริมโรงเรียนคุณธรรมตามแผนพัฒนาฯฉบับที่12 กําหนดไว้ ในการดําเนินการส่งเสริมตามนโยบายภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนคุณธรรมในการขับเคลื่อนพัฒนาโรงเรียนคุณธรรมให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างเป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืน ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ทั้งในและนอกห้องเรียนที่สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย จิตสาธารณะรวมทั้งเร่งสร้างสภาพแวดล้อมทั้งภายในและโดยรอบสถานศึกษาให้ปลอดภัยจากอบายมุขอย่างจริงจัง ดังนั้นการดําเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายกระทรวงศึกษาธิการโดยสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กําหนดมาตรฐานการศึกษาให้สถานศึกษาจัดการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนดไว้ตามแบบประกันคุณภาพการศึกษา ซึ่งการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์


83และสนองค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติและการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพโรงเรียนไผ่งามพิทยาคมจึงได้จัดทําโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์โดยจัดกิจกรรมให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามตัวบ่งชี้และเป็นไปตามเป้าหมายที่กําหนดไว้2. วัตถุประสงค์2.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรมปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนา มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และปฏิบัติตนตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ 2.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ 2.2.1 เพื่อใหผู้้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ปฏิบัติตนตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ 2.2.2 เพื่อใหผู้้เรียนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตามระบอบประชาธิปไตย 2.2.3 เพื่อพัฒนาผู้เรียนตามคุณลักษณะของโรงเรียนสุจริต โรงเรียนคุณธรรมและโรงเรียนวิถีพุทธ3. เป้าหมายของโครงการ 3.1 เป้าหมายด้านปริมาณ นักเรียนจํานวน 159 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 20 คน ปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนา มีคุณธรรมจริยธรรม 3.2 เป้าหมายด้านคุณภาพ นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษามีคุณธรรมจริยธรรมปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนามีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ปฏิบัติตนตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตามระบอบประชาธิปไตย และมีคุณลักษณะของโรงเรียนสุจริต โรงเรียนวิถีพุทธ และ โรงเรียนคุณธรรม4. กิจกรรมและปฏิทินปฏิบัติงาน ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ เงิน ผู้รับผิดชอบอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆ1. เสนอโครงการ ต.ค.2565 - - - - นายหงษ์มีมุข2. อนุมัติโครงการ ต.ค.2565 - - - -ผู้อํานวยการโรงเรียน3. ประชุมชี้แจงแต่งตั้ง คณะทํางาน ต.ค.2565 - - - - นายหงษ์มีมุข4. ศึกษาเอกสาร พ.ย.2565 - - - - นายหงษ์มีมุข5. ดําเนินการตามโครงการ 27,000 - - - 5.1 กิจกรรมค่ายคุณธรรม มิ.ย. 2566 15,000 - - 10,000 คณะทํางาน


84ที่กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ เงิน ผู้รับผิดชอบอุดหนุน เงิน รายได้ เงิน สนับสนุน ค่าใช้จ่าย เงิน อื่นๆจริยธรรม 5.2 กิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระทุกวันศุกร์พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.3 กิจกรรมน้องไหว้พี่พี่ไหว้น้อง พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.4 กิจกรรมอบรมคุณธรรม จริยธรรมหน้าเสาธง พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.5 กิจกรรมโรงเรียนสุจริต (ต้านทุจริตศึกษา) พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.6 กิจกรรมโรงเรียน วิถีพุทธ พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.7 กิจกรรมโรงเรียน คุณธรรม พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.8 กิจกรรมบําเพ็ญ ประโยชน์พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - - คณะทํางาน5.9 กิจกรรมวันสําคัญทาง พระพุทธศาสนา พ.ย.2565 -ก.ย.2566 2,000 คณะทํางาน6. ติดตามและประเมินผล พ.ย.2565 -ก.ย.2566 - - - นายหงษ์มีมุข7. สรุปผลรายงานผลโครงการ ก.ย.2566 - - - - นายหงษ์มีมุขรวม 27,000 - - -


855. รายละเอียดการใช้งบประมาณ ที่รายการ จํานวนเงิน หมายเหตุ1. ค่าใช้จ่ายจัดค่ายอบรมคุณธรรมจริยธรรม 25,000 2. กิจกรรมวันสําคัญทางศาสนา 2,000 รวม 27,000 6. การวัดผลและประเมินผล ที่ตัวบ่งชี้ความสําเร็จ วิธีการ เครื่องมือ1 นักเรียนมีการเรียนรู้และการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ปฏิบัติตนตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ สังเกต ติดตาม พฤติกรรม แบบสังเกต,แบบประเมิน7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 7.1 นักเรียนทุกคนได้รับการอบรมคุณธรรมจริยธรรม 7.2 นักเรียนนําความรู้ตามหลักธรรมพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ในการดําเนินชีวิตประจําวันอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ตามระบอบประชาธิปไตย


86ชื่อโครงการ โครงการส่งเสริมสุขภาพของนักเรียน แผนงาน บริหารทั่วไป สนองกลยุทธ์ที่1 ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานการศึกษา ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวรําไพ พันธ์ศรีลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง ระยะเวลาดําเนินการ 1 พฤศจิกายน 2565 – 30 กันยายน 2566 1. หลักการและเหตุผล ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี โครงการส่งเสริมสุขภาพ เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการสร้างหลักประกันสุขภาพพื้นฐานโดยมีโรงเรียนเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาสุขภาพอนามัยที่อาศัยความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ระหว่างนักเรียนกับครอบครัว และชุมชน โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม จึงต้องจัดให้มีโครงการนี้ขึ้น เพื่อสนองนโยบายโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ 2. วัตถุประสงค์1. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ให้เอื้อต่อการพัฒนาสุขภาพนักเรียน 2. เพื่อเฝ้าระวัง และแก้ปัญหาสุขภาพนักเรียน 3. เพื่อพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของนักเรียน ให้เป็นไปตามสุขบัญญัติแห่งชาติ4. เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคของนักเรียนในโรงเรียน 5. เพื่อส่งเสริมการออกกําลังกาย เพื่อสุขภาพแก่นักเรียนและชุมชน โดยมีโรงเรียนเป็นศูนย์กลาง6. เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิต และเฝ้าระวังพฤติกรรมการเสี่ยงในนักเรียน 7. เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาสุขภาพนักเรียน บุคลากรในโรงเรียนและชุมชน3. เป้าหมาย 1. นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้ถึงการจัดสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง ปลูกฝังสุขนิสัยและเสริมสร้าง พฤติกรรมด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดีตั้งแต่วัยเรียน 2. นักเรียนทุกคนได้รับการเฝ้าระวังภาวะสุขภาพ โดยการตรวจสุขภาพ 3. นักเรียนทุกคนได้รับความรู้ความเข้าใจและสร้างเสริมเจตคติตามสุขบัญญัติแห่งชาติ4. นักเรียนทุกคนมีความรู้ในการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าและปลอดภัย 5. โรงเรียน จัดให้มีการจัดตั้งชมรมสร้างเสริมสุขภาพ 6. โรงเรียน มีระบบการเฝ้าระวัง และดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้อย่างทันท่วงทีและต่อเนื่อง 7. ส่งเสริมให้ชุมชน และครูเป็นแบบอย่างที่ดีด้านสุขภาพแก่นักเรียน


874. กิจกรรมและการดําเนินการ ที่กิจกรรม ระยะเวลาดําเนินงาน ผู้รับผิดชอบ1 กิจกรรมโรงเรียน อย.น้อย พ.ย. 65 – ต.ค. 66 -นางรําไพ พันธ์ศรี -คณะครู2 กิจกรรมตรวจสุขภาพร่างกาย พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางรําไพ พันธ์ศรี -คณะครู3 กิจกรรมทดสอบสมรรถภาพ พ.ย. 65 - ต.ค. 66 นางรําไพ พันธ์ศรี4 กิจกรรมออกกําลังกาย พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางรําไพ พันธ์ศรี -คณะครู5 กิจกรรมชั่งน้ําหนัก วัดส่วนสูง พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางรําไพ พันธ์ศรี -คณะครู6 กิจกรรมจัดหาเวชภัณฑ์พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางรําไพ พันธ์ศรี -คณะครู7. กิจกรรมกําจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางสาวศิริพร พุทธภูมิ-คณะครู8. กิจกรรมสุขาน่าใช้พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางสาวศิริพร พุทธภูมิ-คณะครู9. กิจกรรมป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางสาวศิริพร พุทธภูมิ-คณะครู10. กิจกรรมขับขี่ปลอดภัย พ.ย. 65 - ต.ค. 66 -นางสาวศิริพร พุทธภูมิ-คณะครู5. งบประมาณ งบประมาณจากโครงการสนับสนุนการจัดการศึกษารายหัว งบประมาณรวม.......10,000.........บาท กิจกรรมและรายละเอียด การใช้งบประมาณ งบ ประมาณ ค่าใช้จ่ายตามรายการจําแนกรายจ่ายงบประมาณงบบุคลากร ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุงบลงทุน1. กิจกรรมโรงเรียน อย.น้อย - - - - - - 2. กิจกรรมตรวจสุขภาพร่างกาย - - - - - - 3.กิจกรรมทดสอบสมรรถภาพ - - - - - - 4. กิจกรรมออกกําลังกาย - - - - - - 5. กิจกรรมชั่งน้ําหนัก วัดส่วนสูง - - - - - - 6. กิจกรรมจัดหาเวชภัณฑ์ 3,000 -


88กิจกรรมและรายละเอียด การใช้งบประมาณ งบ ประมาณ ค่าใช้จ่ายตามรายการจําแนกรายจ่ายงบประมาณงบบุคลากร ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุงบลงทุน7.กิจกรรมกําจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 1,000 - - - - - 8.กิจกรรมสุขาน่าใช้- - - - - 9.กิจกรรมป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร - - - - - 10.กิจกรรมขับขี่ปลอดภัย - - - - -รวม 4,000 - - - 4,000 - 6. การประเมินผล ตัวชี้วัดความสําเร็จ วิธีวัดและประเมินผล เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผล1. มีชมรม/ชุมนุมอย.น้อย สัมภาษณ,์สังเกต แบบสังเกต2. มีข้อมูลการตรวจร่างกายของนักเรียน สัมภาษณ,์สังเกต แบบสังเกต3. มีข้อมูลการวัดสมรรถภาพร่างกาย สัมภาษณ,์สังเกต แบบสอบถาม4. นักเรียนมีร่างกายแข็งแรง สังเกต แบบสังเกต5. นักเรียนทุกคนได้ชั่งน้ําหนักและวัดส่วนสูง สังเกต,สัมภาษณ์แบบสังเกต6. มียาและเวชภัณฑ์ใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สังเกต,สัมภาษณ์แบบสังเกต7.นักเรียนช่วยกันกําจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย สัมภาษณ,์สังเกต แบบสังเกต8.นักเรียนช่วยกันทําความสะอาดสุขา สัมภาษณ,์สังเกต แบบสังเกต9.นักเรียนมีความรู้เรื่องการตั้งครรภ์และหลีกเลื่ยง ไม่ให้ตัวเองตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร สัมภาษณ,์สังเกต แบบสังเกต10.นักเรียนรู้จักการขับขี่ปลอดภัย สัมภาษณ,์สังเกต แบบสังเกต7. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนทุกคนรู้จักการจัดสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง มีสุขนิสัยและพฤติกรรมด้านอนามัย สิ่งแวดล้อมที่ดีตั้งแต่วัยเรียน 2. นักเรียนทุกคนมีสุขภาพดี3. นักเรียนทุกคนมีสุขภาพดี4. โรงเรียนออกกําลังกายตอนเช้าก่อนเข้าชั้นเรียนทุกวัน 5. นักเรียนทุกคนมีสุขภาพดี


896. นักเรียนทุกคนมีความรู้ในการใช้ยาและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น 7. โรงเรียนมีระบบการเฝ้าระวัง และดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้อย่างทันท่วงทีและต่อเนื่อง 8. ห้องน้ําโรงเรียนสะอาด เป็นแบบอย่างที่ดีด้านสุขภาพแก่นักเรียน 9. นักเรียนทุกคนมีความรู้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร 10. นักเรียนทุกคนมีความรู้ในการขับขี่อย่างปลอดภัย


90ชื่อโครงการ โรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) แผนงาน ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สนองกลยุทธ์สพฐ.ข้อที่1 สนองมาตรฐานด้าน ด้านการจัดการศึกษา ตัวบ่งชี้ที่1 ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป ระยะเวลาดําเนินการ ปีงบประมาณ 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 1. หลักการและเหตุผล เนื่องด้วยสภาพปัจจุบันปัญหาขยะเป็นปัญหาของสังคมที่ต้องการไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นการสร้างความตระหนักและรับผิดชอบร่วมกันในสังคมจึงต้องสร้างความตระหนักให้กับนักเรียนที่จะเติบโตเป็นเยาวชนต่อไป สู่สังคมและประเทศชาติเพื่อให้บริเวณโรงเรียน และสถานที่ต่างๆสะอาดและปลอดขยะทางโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม เล็งเห็นปัญหาขยะในโรงเรียน จึงได้จัดโครงการปลอดภัย (Zero Waste School) เพื่อให้นักเรียนรู้จักการแยกขยะที่ถูกต้องและทิ้งขยะได้ถูกถังทําให้การจัดการขยะสะดวก รวดเร็วมากขึ้นและทําให้นักเรียนรู้จักมูลค่าของขยะรีไซเคิล ลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อเป็นโรงเรียนที่น่าอยู่2. วัตถุประสงค์1. เพื่อจัดการขยะในโรงเรียนให้ดีขึ้น 2. เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสํานึกและความรับผิดชอบให้กับนักเรียนและบุคลากรในการลดปริมาณขยะ3. เพื่อดูแลความสะอาดความปลอดภัยด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม 3. เป้าหมาย ด้านปริมาณ 1. โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมที่สะอาด สวยงาม น่าอยู่2. นักเรียนรู้จักแยกขยะและสร้างรายได้ในห้องเรียน ด้านคุณภาพ โรงเรียนสะอาด สวยงามน่าเรียนรู้ ปลูกจิตสํานึกนักเรียนให้ความสําคัญในการทิ้งขยะลงถังและเห็นมูลค่าขยะที่นํามารีไซเคิลได้และสร้างรายได้4. พื้นที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม 5. ระยะเวลาดําเนินการ ปีงบประมาณ 2566


91วิธีดําเนินการ (รายละเอียดกิจกรรม) กิจกรรม/ขั้นตอน ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบขั้นเตรียมงาน PLAN - สํารวจความต้องการ - ประชุมคณะกรรมการ - เขียนโครงการ ขั้นดําเนินการ DO 1. แบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบ 2. ให้ความรู้สร้างความตระหนักในการทิ้งขยะ 3. พัฒนาสํานักงานอาคารสถานที่ขั้นตรวจสอบ CHECK - ประเมินผล ขั้นรายงาน ACTION - รายงานผล พ.ย 2565 พ.ค. 2566 มิ.ย. 2566 ก.ย. 2566 ก.ย. 2566 นางสาวศิริพร พุทธภูมิ6. งบประมาณที่ใช้และแหล่งที่มาของงบประมาณ ที่รายการ งบดําเนินการ แหล่งที่มาของงบประมาณค่า ตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ1 ค่าวัสดุอุปกรณ์ 1,000 อุดหนุน7. หน่วยงานที่รับผิดชอบ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป 8. การติดตามและประเมินผล ที่ตัวชี้วัดความสําเร็จของแต่ละกิจกรรม วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้1 2 ผลผลิต ( outputs )ปลูกจิตสํานึกนักเรียนให้ความสําคัญในการทิ้งขยะลงถัง และ เห็นมูลค่าขยะที่นํามารีไซเคิ้ลได้และสร้างรายได้ให้กับนักเรียน ผลลัพธ์( outcome ) โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม น่า สะอาด สภาพแวดล้อมร่มรื่น และมีแหล่งเรียนรู้สําหรับผู้เรียน แบบสอบถาม แบบสอบถาม


929. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริงถึงประเภทของขยะต่าง ๆ และคัดแยกขยะได้อย่างถูกวิธี2. สามารถมุ่งสู่ขยะเหลือศูนย์3. เป็นสถานที่ต้นแบบในการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วม


93ชื่อโครงการ ส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน แผนงาน งานกิจการนักเรียน สนองกลยุทธ์สพฐ. ข้อที่1 สนองมาตรฐานด้าน คุณภาพผู้เรียน ตัวบ่งชี้ที่1 ลักษณะโครงการ ( ) ใหม่ ( ) ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ นายจักราวุธ อ่อนหวาน ระยะเวลาดําเนินการ ปีงบประมาณ 2566 สถานที่ดําเนินการ โรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ระยะเวลาในการดําเนินการ เริ่มต้น 1 ตุลาคม 2565 ถึง 30 กันยายน 2566 1. โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน 2. หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ(ฉบับที่4) พุทธศักราช 2562 ได้กําหนดความมุ่งหมายให้พัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกายจิตใจ สติปัญญา ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรมและมีวิถีชีวิตที่เป็นความสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษาในรูปแบบของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ครูทุกคนในโรงเรียน ซึ่งมีครูที่ปรึกษาเป็นหลักสําคัญในการดําเนินการช่วยเหลือนักเรียน เพื่อให้นักเรียนเป็นบุคคลที่มีความสามารถและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนให้เติบโตงอกงาม เก่งดีและมีความสุข ดังนั้นโรงเรียนไผ่งามพิทยาคม ได้ตระหนักถึงความสําคัญของการจัดการศึกษามุ่งเน้นความสําคัญทั้งด้านความรู้ความคิด ความสามารถ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และความรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อพัฒนาคนให้มีความสมดุล โดยยึดหลักผู้เรียนเป็นสําคัญที่สุด ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้มีทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถดํารงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข จึงได้จัดทําโครงการส่งเสริมให้นักเรียนได้ประกวดแข่งขันเพื่อพัฒนาตนเองนี้ขึ้น 3. วัตถุประสงค์3.1 วัตถุประสงค์ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนเป็นคนดีคนเก่ง และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข 3.2 วัตถุประสงค์เฉพาะ ครูโรงเรียนไผ่งามพิทยาคมมีความรู้ความเข้าใจ รวมถึงวิธีการในการปฏิบัติงาน กิจกรรมสภานักเรียนกิจกรรมเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียน กิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งในชุมชน อย่างมีองค์ความรู้


Click to View FlipBook Version