The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม-การป้องกันการทุจริต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม-การป้องกันการทุจริต

หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม-การป้องกันการทุจริต

- ๙๔ - หลักสูตรรายวิชาเพ่มิ เติม “การปอ้ งกันการทุจริต” : 95

ชดุ วิชาที่ ๔
พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ สังคม

๔.1 ความหมายและท่ีมาของคาศพั ท์ที่เกยี่ วข้องกบั พลเมือง
คาว่า “พลเมือง” มีความหมายในหลายแง่มุม และมีการนาไปใช้เทียบกับคาอ่ืนๆ อาทิ ประชากร

ประชาชน ปวงชน และราษฎร ฯลฯ แตห่ ากพิจารณาให้ละเอยี ดจะสามารถทาความเข้าใจความหมายของคาต่างๆ
ท่คี ล้ายกัน ได้ดงั น้ี

ประชาชน หมายความถึง คนทั่วไป คนของประเทศ ซ่ึงไม่ใช่ผู้ปกครอง เป็นสามัญชนอยู่ภายใต้รัฐ
เชน่ ประชาชนทกุ คนมีหน้าทีต่ อ้ งรกู้ ฎหมาย ใครจะปฏิเสธวา่ ไมร่ ูไ้ ม่ได้

ประชากร หมายถึง คนโดยท่ัวไป โดยมกั ใชใ้ นกรณีพิจารณาถงึ จานวน
ราษฎร คาว่า “ราษฎร” เป็นคาเก่าแก่ที่มีใช้กันมานาน ในกฎหมายสมัยกรุงศรีอยุธยาและกฎหมาย
ตราสามดวง กม็ ีการใชค้ าว่า “ราษฎร” หมายถึง คนโดยท่ัวไป แต่วา่ “ราษฎร” เป็นคาท่ีใช้ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5
เนื่องจากสังคมไทยสมัยโบราณ ประชาชนเป็นไพร่ หรือทาสเกือบทั้งหมด พอมาถึงช่วงรัชกาลที่ 5 ได้มี
การเปล่ียนแปลงการบริหารราชการแผ่นดินครั้งใหญ่และได้ทาการเลิกทาส เลิกไพร่ทาให้ประชาชนเหล่านั้น
กลายเป็นราษฎรหรือเสรีชนท่ไี ม่ตอ้ งเป็นขา้ รับใช้มลู นายและมีสถานะทางกฎหมายเทา่ เทยี มกนั จึงเรยี กอดีตไพร่
ทาส ขุนนาง รวมทั้งชนชั้นใหม่ๆ ว่า “ราษฎร” ในความหมายของ ผู้ท่ีต้องเสียภาษีให้กับรัฐและต้องปฏิบัติตาม
กฎหมายของบา้ นเมืองเชน่ เดยี วกนั หมด
ปัจจุบันคาว่าราษฎรและประชาชน มีความหมายเกือบจะเหมือนกัน แต่ประชาชนสื่อถึงการเป็น
เจ้าของประเทศ และเจ้าของอานาจอธปิ ไตย มากกว่าราษฎร ส่วนราษฎรมีนัยของคนท่ีเสียเปรียบคนที่ด้อยกว่า
อยู่ด้วย และมีนัยความหมายเป็นทางการน้อยกว่าคาว่า ประชาชน เช่น แม้เราจะเป็นราษฎรธรรมดา แต่ถ้า
ผู้บริหารประเทศคดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวง เราก็ต้องไปคัดค้าน ท่ีผ่านมาข้าราชการมักจะกดข่ีราษฎร ดังนั้น
ราษฎร แปลว่า คนของรัฐ เดิมหมายถึง สามัญชน คือ คนที่ไม่ใช่ขุนนาง โดยท่ัวไปมักหมายถึง คนธรรมดา
หม่คู นที่มใิ ชข่ ้าราชการ
พลเมือง คาว่า “พลเมือง” เกิดขึ้นครั้งแรกเม่ือเกิดการปฏิวัติใหญ่ในฝร่ังเศส เร่ิมต้นเม่ือปี ค.ศ. 1789
ชาวฝร่ังเศสลุกฮือกันข้ึนมาล้มล้างระบอบการปกครองของพระเจ้าหลุยส์ท่ี 16 ล้มล้างระบบชนช้ันต่างๆ
ขณะนั้นได้แก่ พระราชวงศ์ ขุนนาง ข้าราชการ สมณะ นักพรต นักบวช และไพร่ ประกาศความเสมอภาคของ
ชาวฝรั่งเศสทกุ คน ต่อมาคาวา่ “Citoyen” จึงแปลเป็น “Citizen” ในภาษาองั กฤษ
สาหรับประเทศไทย คาว่า “พลเมือง” น่าจะถูกนามาใชส้ มยั หลงั เปล่ยี นแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
เนื่องจากผู้นาคณะราษฎรบางท่านเคยเรียนท่ีประเทศฝร่ังเศส จึงได้นาเอาคานี้มาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร
ซง่ึ ประกาศใช้เมื่อวันท่ี 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ต่อมากลายเป็นวิชาบงั คบั ที่นักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาจะต้องเรียน
ควบคกู่ บั วชิ าศีลธรรมกลายเปน็ วิชา “หนา้ ท่พี ลเมืองและศีลธรรม”
ในส่วนที่เป็นหน้าท่ีพลเมืองก็ลอกมาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2475 เร่ือยมาจนถึง
รัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2495 และเลิกใช้เม่ือจอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ ทาการ
รัฐประหาร เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 แต่วิชาหนา้ ท่ีพลเมืองก็ยังคงเรียนและสอนกันต่อมาอีกหลายปี
จงึ เลิกไปพร้อมๆ กบั คาว่า “พลเมือง” โดยต่อมาก็ใช้คาว่า “ปวงชน” แทน คาว่า ราษฎร คงเป็นการใช้แทนคาว่า

หลักสตู รรายวิชาเพิม่ เตมิ “การปอ้ งกันการทจุ ริต” : 96

- ๙๕ -

“ประชาชน” หรือคาว่า People ในภาษาอังกฤษ อาจจะมาจากอิทธิพลของอเมริกาสืบเน่ืองมาจากสุนทรพจน์
เกตทสี เบิรก์ ของประธานาธบิ ดีอับราฮัม ลนิ คอล์น ทีใ่ ห้คาจากัดความของรฐั บาลประชาธปิ ไตยไวว้ า่ เป็น
“รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพือ่ ประชาชน” แต่แทนที่เราจะใช้คาว่า “ประชาชน” แทนคาว่า
“ราษฎร” เรากลับใช้คาวา่ “ปวงชน” แทน อยา่ งไรก็ตาม คาวา่ ปวงชนกใ็ ช้แต่ในรฐั ธรรมนูญฉบับต่าง ๆ เทา่ น้ัน
แต่ไม่ติดปากท่ีจะใช้กันทั่วไปในที่อื่นๆ ไม่ว่าในหน้าหนังสือพิมพ์หรือในสื่ออื่นๆ ยังนิยมใช้คาว่า “ประชาชน”
มากกวา่ คาวา่ “ปวงชน”

อย่างไรก็ตาม คาว่า “พลเมือง” ได้มาปรากฏอกี ครั้งในร่างรัฐธรรมนูญฉบับปจั จุบัน เรม่ิ ต้ังแต่หมวดที่ 2
ประชาชน ส่วนท่ี 1 ความเป็นพลเมืองและหน้าท่ีของพลเมือง มาตรา 26 บัญญัติไว้ว่า “ประชาชนชาวไทย
ย่อมมีฐานะเป็นพลเมือง” ที่น่าสังเกตก็คือ ในมาตรานี้ใช้คาว่า “ประชาชน” ชาวไทย แทนคาว่า “ปวงชน”
ชาวไทยที่เขียนไว้ในมาตรา 3 “อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย” และมาตรา 5 “ปวงชนชาวไทยไม่ว่า
เหล่ากาเนิดเพศ หรือศาสนาใด ย่อมอยู่ในความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญเสมอกัน” ซ่ึงร่างรัฐธรรมนูญมีทั้งคาว่า
“ปวงชน” “ประชาชน” และ “พลเมือง” ในที่ต่างๆ แทนคาว่า “ปวงชน” เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับอื่น ๆ
(วรี พงษ์ รามางกรู , 2558)

สาหรับคาวา่ “พลเมือง” มนี ักวชิ าการให้ความหมาย สรปุ ได้พอสังเขป
พจนานุกรมนกั เรียนฉบับราชบัณฑิตยสถาน ใหค้ วามหมาย “พลเมอื ง” หมายถงึ ชาวเมือง ชาวประเทศ
ประชาชน “วิถี” หมายถึง สาย แนว ทาง ถนน และ “ประชาธิปไตย” หมายถึง แบบการปกครองท่ีถือมติปวงชน
เป็นใหญ่ ดังนั้น คาว่า “พลเมืองดีในวิถีชีวิตประชาธิปไตย” จึงหมายถึง พลเมืองที่มีคุณลักษณะที่สาคัญ คือ
เป็นผู้ที่ยึดม่ันในหลักศีลธรรมและคุณธรรมของศาสนา มีหลักการทางประชาธิปไตยในการดารงชีวิตปฏิบัติตน
ตามกฎหมายดารงตนเป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยมีการช่วยเหลือเก้ือกูลกันอันจะก่อให้เกิดการพัฒนาสังคมและ
ประเทศชาติ ให้เป็นสงั คมและประเทศประชาธปิ ไตยอย่างแทจ้ ริง
วราภรณ์ สามโกเศศ อธิบายว่า ความเป็นพลเมือง หมายถึง การเป็นคนที่รับผิดชอบได้ด้วยตนเอง
มคี วามสานกึ ในสันติวิธีมีการยอมรับความคดิ เห็นของผู้อ่ืน
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล กล่าวว่า ความเป็นพลเมืองของระบอบประชาธิปไตย หมายถึง การที่สมาชิก
มอี สิ รภาพ ควบคู่กับความรบั ผดิ ชอบ และมีอสิ รเสรีภาพควบค่กู ับ “หนา้ ท่ี”
จากความหมายของนักวิชาต่างๆ พอสรุปได้ว่า “พลเมือง” หมายถึง ประชาชนที่นอกจากเสียภาษี
และปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ยังต้องมีบทบาทในทางการเมือง คือ อย่างน้อยมีสิทธิไปเลือกต้ัง
แต่ยิง่ ไปกวา่ นน้ั คือ มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นตา่ งๆ ต่อทางการหรือรัฐได้ ท้ังยังมสี ิทธิเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ
กบั รัฐและอาจเป็นฝ่ายรกุ เพ่ือเรียกร้องกฎหมาย นโยบายและกิจกรรมของรัฐตามที่เห็นพ้อง พลเมืองนัน้ จะเป็นคน
ท่ีรู้สึกเป็นเจ้าของในส่ิงสาธารณะ มีความกระตือรือร้นอยากมีส่วนร่วม เอาใจใส่การทางานของรัฐ และ
เปน็ ประชาชนที่สามารถแกไ้ ขปญั หาส่วนรวมไดใ้ นระดบั หนึ่ง โดยไม่ต้องรอให้รฐั มาแก้ไขใหเ้ ทา่ นน้ั
อย่างไรก็ตาม มีการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างความเป็นราษฎร และความเป็นพลเมือง ดังตาราง
(อ้างจาก จดหมายขา่ วสถาบันพระปกเกลา้ ปที ่ี 10 ฉบบั ที่ 7 เดอื นกรกฎาคม 2552) (ความเป็นราษฎร, ม.ป.ป.)

หลักสูตรรายวชิ าเพิม่ เติม “การปอ้ งกนั การทุจริต” : 97

- ๙๖ -

ความเป็นราษฎร ความเปน็ พลเมือง
- ปฏบิ ัตติ นตามหน้าทเ่ี ทา่ น้ัน เช่น เสียภาษี - นอกจากเสียภาษีและปฏิบัติตามกฎหมายแลว้ ต้องมีสานึก
ปฏิบตั ิตามกฎหมาย ในทางการเมือง อยา่ งน้อยต้องไปใช้สิทธเิ ลอื กตงั้ หรือ
มากกวา่ นน้ั คือ แสดงความคิดเห็นต่างๆ ตอ่ บ้านเมือง
ใช้สทิ ธเิ ขา้ ร่วมการทากิจกรรมต่างๆ ร่วมกบั รัฐ

- ยอมรับกฎหมาย นโยบาย กิจการ กิจกรรม - มอี ิสรภาพ ศักด์ิศรี มคี วามเท่าเทียมกับผ้อู ื่น ให้ความสนใจ
ต่าง ๆ ของรฐั ตอ่ ส่วนรวมมบี ทบาทและมสี ่วนร่วมทางการเมอื ง

- ไม่กระตือรือร้นทีจ่ ะมสี ว่ นร่วมทางการเมอื ง - เคารพตนเองและเคารพสทิ ธิของผูอ้ ่ืน เปน็ เจ้าของชวี ติ
หรอื กิจกรรมสาธารณะ ตนเอง ไมอ่ ยู่ใตร้ ะบบอุปถัมภ์ หรืออทิ ธิพลอานาจของใคร

- คิดว่าตนเองเป็นผู้น้อย ตอ้ งคอยรับการอปุ ถัมภ์ - ไม่ตกอย่ใู ต้อิทธิพลของพรรคการเมือง และนกั การเมือง
จากผใู้ หญ่ ไมร่ ับเงินหรือความชว่ ยเหลือท่ีได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ไม่ซ้ือสิทธิ
ไม่ขายเสยี ง

- เอาใจใส่ แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั การทางานของรัฐบาล
ตรวจสอบ ร้องเรยี น เมื่อมีการดาเนนิ นโยบายผดิ พลาด รู้สกึ
เดอื ดรอ้ น เมอ่ื รัฐบาลทาเร่อื งไม่ดี ทางานผิดพลาด หรือ
ดาเนินนโยบายผิด

- เปน็ ฝา่ ยรกุ เพอ่ื เรียกร้องกฎหมาย นโยบาย หรอื กิจการ
ท่ีตนเองเห็นพ้อง

- สามารถแก้ปัญหาสว่ นรวมเบื้องตน้ ได้ ไม่ต้องรอแต่รัฐบาล
มาแก้ไข

ตารางท่ี 3 เปรียบเทียบความแตกตา่ งระหวา่ งความเป็นราษฎร และความเป็นพลเมือง

กล่าวโดยสรุป “พลเมือง” มีความแตกต่างจากคาว่า “ประชาชน” และ “ราษฎร” ตรงท่ีว่า พลเมือง
จะแสดงออกถึงความกระตือรือร้นในการรักษาสิทธิต่างๆ ของตน รวมถึงการมีส่วนร่วมทางการเมือง
โดยการแสดงออกซง่ึ สทิ ธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ความเป็นพลเมอื ง (Citizen) มีความหมายทส่ี ะท้อน
ให้เห็นถึงบทบาท หน้าท่ี และความรับผิดชอบของสมาชิกทางสังคมที่มีต่อรัฐ ต่างจากคาว่า ประชาชน
ท่ีกลายเป็นผู้รับคาสั่งทาตามผู้อ่ืน ดังน้ัน การเปลี่ยนแปลงที่สาคัญจึงอยู่ที่การเปล่ียนให้ประชาชน คนธรรมดา
กลายเปน็ พลเมืองท่มี ีสิทธกิ าหนดทศิ ทางของประเทศได้

หลักสูตรรายวชิ าเพิม่ เตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 98

- ๙๗ -

๔.2 ความหมายและแนวคดิ เกย่ี วกับการศึกษาเพื่อสรา้ งความเป็นพลเมอื ง
๔.2.1 ความหมายของพลเมอื งศึกษา
พลเมืองศึกษา (Civic education) หมายถึง การจัดการศึกษาและประสบการณ์เรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียน

ให้เป็นพลเมืองดีของประเทศ มีความภาคภูมิใจในความเปน็ พลเมอื งตนเอง มสี ทิ ธิ มีเสียง สนใจต่อส่วนรวม และ
มีส่วนร่วมในกิจการบ้านเมืองตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับรัฐบาล
รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระบบการเมืองการปกครองสิทธิและความรับผิดชอบของพลเมือง ระบบการบริหาร
จัดการสาธารณะและระบบตุลาการ

๔.2.2 คณุ ลกั ษณะของพลเมือง
“พลเมือง” ในระบอบประชาธิปไตย ประกอบด้วยลักษณะ 6 ประการ (ปริญญา เทวานฤมิตรกุล,
2555) คอื
1) มีอิสรภาพและพ่ึงตนเองได้ หมายความว่า ประชาธิปไตย คือ ระบอบการปกครองที่ประชาชน
เป็นเจา้ ของอานาจสูงสุดในประเทศ ประชาชนจึงมฐี านะเปน็ เจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของชีวิตและมีสิทธิเสรีภาพ
ในประเทศของตนเอง ระบอบประชาธิปไตย จึงทาให้เกิดหลักสิทธิเสรีภาพ และทาให้ประชาชนมีอิสรภาพ คือ
เปน็ เจา้ ของชีวิตตนเอง “พลเมอื ง” ในระบอบประชาธิปไตยจึงเป็นไทย คอื เป็นอิสระชนที่พงึ่ ตนเองและสามารถ
รับผดิ ชอบตนเองได้ และไมย่ อมตกอยภู่ ายใตอ้ ิทธิพลอานาจ หรอื “ระบบอปุ ถัมภ์” ของผใู้ ด
2) เห็นคนเท่าเทียมกัน หมายความว่า ประชาธิปไตย คือ ระบอบการปกครองที่อานาจสูงสุด
ในประเทศเป็นของประชาชน ดังน้ัน ไม่ว่าประชาชนจะแตกต่างกันอย่างไรทุกคนล้วนแต่เท่าเทียมกันในฐานะ
ทีเ่ ป็นเจ้าของประเทศ “พลเมือง” จึงต้องเคารพหลักความเสมอภาคและจะต้องเห็นคนเท่าเทียมกัน คือ เห็นคน
เปน็ แนวระนาบ (horizontal) เห็นตนเท่าเทียมกับคนอ่ืน ทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีของความเป็นเจ้าของประเทศ
อยา่ งเสมอกนั ถงึ แมจ้ ะมกี ารพ่งึ พาอาศยั แต่จะเป็นไปอย่างเทา่ เทยี ม
3) ยอมรับความแตกต่าง หมายความว่า ประชาธิปไตย คือ ระบอบการปกครองทีป่ ระชาชนเป็น
เจ้าของประเทศ ประชาชนจึงมีเสรีภาพ ระบอบประชาธิปไตย จึงให้เสรีภาพและยอมรับความหลากหลาย
ของประชาชน ประชาชนจึงแตกต่างกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองการเลือกอาชีพ วิถีชีวิต ความเชื่อทางศาสนาหรือ
ความคิดเห็นทางการเมืองดังนั้น เพ่ือมิให้ความแตกต่างนามาซ่ึงความแตกแยกในสังคม “พลเมือง” ในระบอบ
ประชาธิปไตยจึงต้องยอมรับและเคารพความแตกต่างของกันและกัน เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ และจะต้อง
ไมม่ กี ารใช้ความรนุ แรงต่อผ้ทู ่เี หน็ แตกต่างไปจากตนเอง
4) เคารพสิทธิผู้อื่น หมายความว่า ในระบอบประชาธิปไตยทุกคนเป็นเจา้ ของประเทศทุกคนจึงมีสิทธิ
แต่ถ้าทุกคนใชส้ ิทธิ โดยคานึงถงึ แต่ประโยชน์ของตนเอง หรือเอาแต่ความคิดของตนเองเป็นที่ต้ัง โดยไม่คานึงถึง
สิทธิผู้อื่น หรือไม่สนใจว่าจะเกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ใดย่อมจะทาให้เกิดการใช้สิทธิที่กระทบซึ่งกันและกัน สิทธิ
ในระบอบประชาธิปไตยจึงจาเป็นต้องมีขอบเขต คือ มีสิทธิและใช้สิทธิได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิผู้อ่ืน “พลเมือง”
ในระบอบประชาธิปไตยจงึ ตอ้ งเคารพสิทธผิ ู้อน่ื และจะต้องไมใ่ ชส้ ิทธิเสรภี าพของตนไปละเมดิ สิทธิของผู้อืน่
5) รับผิดชอบต่อสังคม หมายความว่า ประชาธิปไตยมิใช่ระบอบการปกครองตามอาเภอใจหรือ
ใครอยากจะทาอะไรก็ทาโดยไม่คานึงถึงส่วนรวม ดังน้ัน “พลเมือง” ในระบอบประชาธิปไตยยังจะต้องใช้สิทธิ
เสรีภาพของตน โดยรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ด้วยเหตุที่สังคมหรือประเทศชาติมิได้ดีข้ึนหรือแย่ลง โดยตัวเอง
หากสงั คมจะดีข้นึ ได้ก็ด้วยการกระทาของคนในสงั คม

หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเติม “การป้องกันการทจุ ริต” : 99

- ๙๘ -
6) เข้าใจระบอบประชาธิปไตยและมีส่วนร่วม หมายความว่า ประชาธิปไตย คือ การปกครอง
โดยประชาชน ใช้กติกาหรือกฎหมายทีม่ าจากประชาชนหรือผู้แทนประชาชน ระบอบประชาธิปไตย
จะประสบความสาเร็จไดก้ ็ตอ่ เม่ือมี “พลเมอื ง” ทีเ่ ข้าใจหลักการพนื้ ฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ตามสมควร ทั้งในเร่ืองหลักประชาธิปไตยหรือการปกครองโดยประชาชน และหลักนิติรัฐหรือการปกครอง
โดยกฎหมาย ถ้ามีความขัดแย้งก็เคารพกติกาและใช้วิถีทางประชาธิปไตยในการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้กาลังหรือ
ความรุนแรง
๔.3 องค์ประกอบของการศกึ ษาความเปน็ พลเมอื ง
สาหรับนักวิชาการต่างประเทศ ได้เขียนบทความวิชาการเก่ียวกับการศึกษาเพ่ือสร้างพลเมือง อาทิ
John Porter เขียนบทความเรื่อง “The Challenge of education for active citizenship” โดยอธิบาย
การศึกษาความเป็นพลเมืองว่ามี 3 ประเด็น ที่เช่ือมกับมิติพลเมือง การเมือง และสังคม ทั้งนี้ พลเมือง
ประกอบดว้ ย สิทธิจาเป็นสาหรับความอสิ ระ เสรภี าพระดับปจั เจกบุคคล การเมอื ง ประกอบดว้ ย สิทธใิ นการมีสว่ นรว่ ม
ในการใช้อานาจทางการเมือง ส่วนสังคม ประกอบด้วย สิทธิท่ีมีต่อสวัสดิการทางเศรษฐกิจ และความมั่งคง
ทม่ี ตี อ่ สิทธิที่จะรว่ มมอื กัน และเพอื่ อาศัยอยใู่ นชีวติ ของความศวิ ไิ ล
๔.3.1 ความรับผิดชอบทางสังคม (Social Responsibility)
การเรยี นรู้ของเด็กจะเร่ิมตน้ จากความไว้ใจตนเอง เก่ียวกับสังคม ศีลธรรม พฤติกรรมความรับผิดชอบ
ท้งั ในและอย่เู หนือห้องเรียน การเรียนรขู้ องเด็กควรทาหรือแสดงบทบาทในกลุ่มหรือมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมของชุมชน
๔.3.2 ความเกยี่ วพันชุมชน (Community Involvement)
การเรียนรผู้ ่านชุมชนหรือการบริการในชมุ ชนมี 2 สาขา ของความเป็นพลเมือง ไม่จากัดเวลาของเด็ก
ทโี่ รงเรียน แตค่ วรรับรู้ในฐานะเป็นกลุ่มอาสาสมคั รท่ไี ม่เปน็ การเมือง
๔.3.3 ความสามารถในการอ่านและเขียนทางการเมือง (Political Literacy)
การเรียนของนักเรียนเกี่ยวกับการทาให้ “ชีวิตสาธารณะ” มีประสิทธิผล โดยผ่านความรู้ ทักษะ
และค่านิยม คาว่า “ชีวิตสาธารณะ” ถูกใช้ในความรู้สึกท่ีกว้างที่สุด เพ่ือที่จะล้อมรอบความรู้ทีส่ มเหตุสมผล
ของการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแยง้ และเกี่ยวข้องกบั การตัดสินใจตอ่ เศรษฐกิจหลกั และปัญหาสังคม
ของทุกวัน รวมทั้งแต่ละการคาดหมายของบุคคลและการตระเตรียมสาหรับโลกของการจ้างงาน และ
การอภปิ รายของการจดั สรรทรัพยากรภาครัฐและการสมเหตุสมผลของระบบการจัดเก็บภาษี
Joseph KuiFoon และ Chow – Kerry J. Kennedy (2012) เขียนบทความ เรื่อง “Citizenship and
Governance in the Asian Region : Insights from the International Civic and Citizenship Education Study”
โดยเสนอว่า ขอบเขตเน้ือหาของการศึกษาความเป็นพลเมือง ประกอบด้วย 4 อย่าง คือ 1) ประชาสังคมและระบบ
2) องค์ประกอบข้อปฏิบัติพลเมือง 3) การมีส่วนร่วมพลเมือง และ 4) อัตลักษณ์พลเมือง ส่วนขอบเขต
กระบวนการความคิด คือ การรู้จัก การวเิ คราะห์และการให้เหตุผล และขอบเขตพฤติกรรมอารมณ์ คือ ความเชื่อ
ค่านยิ ม ทศั นคติ ความสนใจเก่ยี วกบั พฤติกรรม
Jaap Scheerens เขียนบทความ เรื่อง “Indicators on Informal learning for Active Citizenship
at School” มีสาระว่าเป้าหมายของการศึกษาสาหรับความเป็นพลเมืองมี 3 มิติ คือ มิติ 1 การรับรู้เข้าใจกับ
การนับถือความรู้เก่ียวกับสถาบันประชาธิปไตย มิติ 2 เน้นการปฏิบัติจริง (pragmatic) ในอารมณ์ความรู้สึก
ของการกระทาและการได้รับประสบการณ์ และมิติ 3 เกย่ี วกับอารมณ์ในศัพท์ของการผูกติดกับสังคมและชุมชน
ซง่ึ อนั หนึ่งเป็นเจ้าของสมรรถนะการสือ่ สารและสังคม

หลกั สูตรรายวิชาเพมิ่ เตมิ “การป้องกนั การทจุ ริต” : 100

- ๙๙ -

John Patrick เขียนบทความ เรื่อง “Defining, Delivering, and Defending a Common Education
for Citizenship in a Democracy” ซ่ึงได้พัฒนากรอบแนวคิดการศึกษาหลักสูตรพลเมืองที่ว่านิยามตาม
องค์ประกอบการศกึ ษาความเปน็ พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย อนั ไดแ้ ก่

1) ความรู้ของความเปน็ พลเมอื งและรัฐบาลในระบอบประชาธปิ ไตย
2) ทกั ษะท่ีเฉลียวฉลาดของความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
3) ทักษะการมีส่วนร่วมของความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย (ทักษะความเป็นพลเมือง
แบบมสี ่วนรว่ ม)
4) แนวโน้มทีจ่ ะกระทาการบางอยา่ งของความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย (ความเอนเอียง
ของพลเมอื ง)
Joel Westheimerและ Joseph Kahne (2004) ได้เขียนบทความ เร่ือง “What kind of Citizen ?
The Politic of Educating for Democracy” โดยมีสาระว่า นักการศึกษาและผู้กาหนดนโยบายได้ติดตาม
แผนงานเพิ่มขึ้นท่ีว่าได้มีจุดมุ่งหมายทาให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งผ่านการศึกษาความเป็นพลเมือง การเรียนรู้
การบริการ และการสอน ท้ังน้ี Westheimer และ Kahne ได้ให้แนวคิดที่สาคัญ 3 แนวคิด ของความเป็นพลเมืองท่ีดี
คือ การมุ่งเน้นความรับผิดชอบระดับบุคคล การมีส่วนร่วม และความยุติธรรมที่เน้นย้าโดยนัยทางการเมืองของ
การศกึ ษาประชาธปิ ไตย อันมีรายละเอียดแสดงเป็นตาราง ดงั น้ี

การมงุ่ เน้นความรับผดิ ชอบ การมสี ่วนรว่ ม ความยตุ ธิ รรม
ระดบั บคุ คล
การอธบิ าย
การกระทาความสามารถ สมาชิกทก่ี ระตอื รือร้นขององคก์ รชมุ ชน การประเมินโครงสรา้ งทางสงั คม
รับผดิ ชอบในชุมชน และหรอื การปรับปรงุ ความพยายาม การเมือง เศรษฐกจิ โดยเปน็ ช่วงสาคัญ
อันตรายเพอื่ มองเห็นนอกเหนือสาเหตุ
พนื้ ผิว
การทางานและการจ่ายภาษี ชมุ ชนท่มี ีการจัดโครงสร้างกลมุ่ พยายาม การแสวงหาจากภายนอกและการระบุ
ท่จี ะดแู ลความต้องการจาเปน็ เหลา่ นี้ ประเดน็ ของความไมย่ ุติธรรม
สนบั สนนุ การพฒั นาเศรษฐกจิ หรือ
การทาให้สะอาดดา้ นสง่ิ แวดล้อม
การเชือ่ ฟงั กฎหมาย การรจู้ ักวา่ หนว่ ยงานรฐั ทางานอย่างไร การระบุเกยี่ วกบั การเคล่ือนไหวสังคม
ประชาธิปไตยและการกระทาทจ่ี ะแก้
สาเหตุท่เี ปน็ รากปญั หา
อาสาสมคั รทจ่ี ะลงมอื ในเวลา การรจู้ ักกลยทุ ธ์ท่ีทาให้งานโดยส่วนรวม/
วกิ ฤติ กล่มุ บรรลเุ ปา้ หมาย
สมมตฐิ านแกนหลกั
เพือ่ แก้ปญั หาสงั คมและปรบั ปรงุ เพอื่ แกป้ ญั หาสังคมและปรบั ปรงุ สังคม เพื่อแก้ปญั หาสังคมและปรบั ปรงุ สังคม
สังคม ความเปน็ พลเมอื งที่ดี ความเปน็ พลเมอื งที่ดีตอ้ งมีส่วนรว่ ม ความเปน็ พลเมอื งทดี่ ี ต้องมคี าถาม
มีคุณลักษณะนน่ั คือ ตอ้ งมี อย่างกระตอื รือรน้ และเอาตาแหนง่ การอภปิ รายและการเปลยี่ นแปลง
ความซ่ือสตั ย์ รับผิดชอบต่อสงั คม ภาวะผนู้ าภายใตก้ ารจดั ต้งั ระบบ และ เพอ่ื จัดตงั้ ระบบ และโครงสรา้ งที่วา่
ตลอดไปและการเป็นสมาชกิ โครงสรา้ งชุมชน กลบั มาเปน็ รูปแบบผลิตซ้าของ
ตลอดไปของชุมชน ความยุติธรรมมากเกินไป

ตารางที่ 4 ประเภทของความเป็นพลเมือง

หลกั สูตรรายวชิ าเพ่ิมเตมิ “การป้องกันการทจุ ริต” : 101

- ๑๐๐ -

4.๔ แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมอื งดี
ณฐั นันท์ ศิริเจริญ (2555) ได้กล่าวถึง แนวทางการปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถชี ีวติ ประชาธิปไตย

ควรมีแนวทางการปฏิบัติตน ดงั นี้
ด้านสังคม ไดแ้ ก่
1) การแสดงความคดิ อยา่ งมีเหตุผล
2) การรบั ฟังขอ้ คดิ เหน็ ของผู้อนื่
3) การยอมรบั เม่ือผู้อื่นมเี หตผุ ลที่ดีกว่า
4) การตดั สนิ ใจโดยใช้เหตผุ ลมากกวา่ อารมณ์
5) การเคารพระเบียบของสังคม
6) การมจี ติ สาธารณะ คือ เหน็ แก่ประโยชนข์ องส่วนรวมและรักษาสาธารณสมบตั ิ
ดา้ นเศรษฐกจิ ได้แก่
1) การประหยดั และอดออมในครอบครัว
2) การซ่ือสัตย์สจุ รติ ต่ออาชพี ท่ีทา
3) การพัฒนางานอาชีพใหก้ ้าวหน้า
4) การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ต่อตนเองและสงั คม
5) การสรา้ งงานและสร้างสรรคส์ ิ่งประดษิ ฐ์ใหมๆ่ เพอ่ื ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมไทยและสงั คมโลก
6) การเป็นผู้ผลติ และผู้บรโิ ภคที่ดี มคี วามซื่อสัตย์ ยึดมัน่ ในอดุ มการณ์ท่ีดตี ่อชาติเปน็ สาคัญ
ดา้ นการเมอื งการปกครอง ไดแ้ ก่
1) การเคารพกฎหมาย
2) การรบั ฟังขอ้ คดิ เหน็ ของทุกคนโดยอดทนต่อความขดั แย้งที่เกิดขึ้น
3) การยอมรับในเหตุผลท่ดี กี ว่า
4) การซอ่ื สตั ยต์ ่อหนา้ ทีโ่ ดยไม่เห็นแก่ประโยชนส์ ว่ นตน
5) การกล้าเสนอความคิดเห็นต่อส่วนรวมกล้าเสนอตนเองในการทาหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

หรือสมาชกิ วฒุ ิสภา
6) การทางานอยา่ งเต็มความสามารถเตม็ เวลา
ดังนั้น ความเป็นพลเมืองสามารถแยกพิจารณาทาความเข้าใจว่า ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ส่วนที่ 1

คุณคา่ คา่ นิยม สว่ นท่ี 2 ความรู้ และส่วนท่ี 3 ทักษะพฤตกิ รรม รายละเอียดดังน้ี
(จาก www. thaiciviceducation.org)

หลักสตู รรายวชิ าเพ่ิมเตมิ “การป้องกันการทุจริต” : 102 - ๑๐๑ -

คุณคา่ ค่านิยม ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและพฤตกิ รรม
- รกั ความเปน็ ธรรมและ - สทิ ธมิ นษุ ยชน(เสรภี าพความ - เขา้ ใจผู้อน่ื (Consider others)
ความเสมอภาคและตระหนกั หลากหลาย และความเทา่ เทียม) - ปฏิบัตใิ นอยา่ งเท่าเทียมกัน
ในผลรา้ ยของความไม่เปน็ - สทิ ธทิ างสังคมการเมอื งและเศรษฐกจิ (Treat others as equal)
ธรรมและความไม่เสมอภาค - ความเท่าเทยี มทางเพศ - เรียกร้องหรือตอ่ สเู้ พือ่ ความเปน็ ธรรม
- เช่ือมัน่ ในความเป็นธรรมในสงั คม - ใชห้ ลกั ความยุตธิ รรมเปน็ พ้นื ฐาน บอกไดว้ า่ อะไรเปน็ ความยุตธิ รรม
- เช่อื มั่นในการปฏบิ ัตติ ่อกนั สาคญั ของสงั คมประชาธิปไตย ไมย่ ตุ ธิ รรมในสถานการณต์ า่ งๆ
อย่างเท่าเทยี ม - รู้จักแยกแยะไดว้ า่ อะไรคือความ
เป็นธรรมอะไรคือความไมเ่ ปน็
ธรรมและอะไรคอื ความเสมอภาค
อะไรคือความไม่เสมอภาค
- เคารพความเท่าเทยี มทางเพศ - สทิ ธิมนษุ ยชน - เสรภี าพอย่างรับผดิ ชอบ
เชอ่ื ในเสรีภาพท่ีมี (เสรภี าพ ความหลากหลาย และ - แกป้ ัญหาความขัดแย้งดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี
ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ความเทา่ เทยี ม) - ใหค้ วามสาคญั กบั สทิ ธิและ
- เคารพในสิทธแิ ละเสรีภาพ - ความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและ ผลประโยชนข์ องผอู้ ่ืน
ของผอู้ น่ื สงั คม - รบั ผดิ ชอบผลอนั เกดิ จากการกระทา
- เคารพในเสรภี าพท่จี ะแสดงออก - มสี ว่ นร่วมกบั วถิ ีชมุ ชนดว้ ยการ
หรอื การกระทา ทางานอาสาสมคั ร
- รบั ผิดชอบตอ่ การตัดสินและ
การกระทาของตนที่จะมีผล
ต่อผอู้ ่ืน
- รับผดิ ชอบต่อการตัดสนิ และ
การกระทาของตนทีจ่ ะมีผลต่อ
ผูอ้ น่ื
- เห็นคุณคา่ ของการใช้สิทธิ - สทิ ธิมนษุ ยชน - ใชส้ ทิ ธแิ ต่ไมล่ ะทง้ิ หนา้ ท่ี
แต่ไมล่ ะทิ้งหน้าท่ีและตระหนกั (เสรีภาพ ความหลากหลาย และ - ปฏบิ ัตติ ามกฎหมายจา่ ยภาษี
ในผลร้ายของการใชส้ ิทธิ ความเทา่ เทยี ม) ไปเลือกตง้ั และออกเสียงประชามติ
อย่างไม่รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ - สิทธทิ างสังคม การเมือง และ อย่างมวี จิ ารณญาณท่ดี ี
ยดึ หลักการใชส้ ิทธแิ ต่ไม่ละทง้ิ เศรษฐกจิ - กระตอื รือร้นในการเปน็ สังคมแบบ
หนา้ ที่ไว้เสมอ ประชาสงั คม (Civil society)
- มีส่วนร่วมในสังคม กระตอื รอื รน้
ทางการเมือง
- มภี ราดรภาพและเคารพ - สิทธิมนษุ ยชน - แกป้ ญั หาความขัดแยง้ ด้วยสนั ติวิธี
ความแตกตา่ ง (เสรภี าพความหลากหลาย และ - ความสามารถในการอยแู่ ละทางาน
- เหน็ คณุ คา่ ของความแตกต่าง ความเทา่ เทียม) ทา่ มกลางความหลากหลายทาง
หลากหลาย - ความรู้เกีย่ วกับสังคมทีม่ ีความ วฒั นธรรม
แตกตา่ งทางวัฒนธรรม - ความเข้าใจความรูส้ กึ ของผู้อน่ื
- การอยรู่ ว่ มกันอยา่ งสมานฉันท์

- ๑๐๒ - หลกั สตู รรายวชิ าเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทุจรติ ” : 103

คณุ ค่า ค่านิยม ความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและพฤตกิ รรม
- เปดิ ใจกว้างต่อความเห็นตา่ ง

เปล่ียนแปลงความเห็นส่วนตน
และประนปี ระนอม
- เคารพความเหน็ ทแ่ี ตกตา่ งกัน
ยอมรับหลกั ของประชามตแิ ละ
ยอมรบั เสียงขา้ งน้อย

- ยึดประโยชน์ของสว่ นรวม - สิทธิมนุษยชน (ความหลากหลาย - ปฏิบตั ติ ามคุณค่ารว่ มและ
เป็นสาคญั ความเท่าเทียม) ความเป็นธรรมในสังคม
- มีจิตสาธารณะ - ความเขา้ ใจวา่ องค์ทางการเมอื ง - มีสว่ นร่วมในประชาสังคม
- ม่งุ มน่ั ในหลกั การ คนมคี วามคิด และรัฐจาเป็นตอ้ งมคี วามรับผิดชอบ - มีส่วนร่วมในชุมชน
ความเชือ่ คุณคา่ ตา่ งกนั อย่างกระตือรอื รน้ เพื่อให้บรรลุ - มสี ว่ นรว่ มในชุมชนทางการเมือง
แตท่ กุ คนกม็ ีคณุ ค่าเท่าเทยี มกัน เปา้ หมายรว่ มกัน การรว่ มมอื กบั ผอู้ ืน่ หรือมสี ว่ นร่วม
- เหน็ คุณคา่ ของการใช้สิทธิ - ความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกับการเมือง - คดิ อยา่ งมีวิจารญาณและมีเหตุผล
แตไ่ ม่ละทง้ิ หนา้ ทีแ่ ละตระหนัก - ความร้เู กีย่ วกับหลักของการเคารพ ความสามารถในการประเมนิ
ในผลรา้ ยของการใช้สิทธิ สทิ ธิและวฒั นธรรมที่แตกตา่ งกัน สถานะหรือการตดั สนิ ใจ
อย่างไมร่ ับผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ ของผู้คน - แยกแยะระหวา่ งข้อเท็จจรงิ กับ
- ยึดหลกั การใช้สิทธแิ ต่ไม่ละทิ้ง - รู้เกยี่ วกับการตัง้ คาถามหรือ ความคดิ เหน็ สามารถที่จะประเมนิ
หนา้ ท่ีไวเ้ สมอ การหาขอ้ มูลเพ่ิมประกอบ ขา่ วสารตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณ
การตดั สินใจ มที ักษะการสือ่ สารอย่างเป็น
กระบวนการสามารถการให้
การตัดสนิ ใจเกดิ ผลในระดบั รฐั
- ม่นั ใจทจ่ี ะมีส่วนร่วมทางการเมอื ง - บทบาทของสอื่ ที่มีตอ่ บุคคล - ตีความสาระจากส่อื (ระบบ
- ร้จู ักสิทธขิ องบคุ คลที่จะมี และสังคม การจงู ใจและการใหค้ ุณค่า /
ส่วนรว่ ม - มีความรพู้ ้ืนฐานทางการเมอื ง การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ)
(ความหมายและความสาคญั สามารถใช้สอื่ ในทางทีถ่ กู ตอ้ ง
ของการเมอื ง) - มีส่วนร่วมทางการเมือง สามารถ
- ความรูท้ ัว่ ไปเก่ยี วกบั รัฐ นาความรู้พ้ืนฐานทางการเมือง
(ความหมายลกั ษณะประเภท ไปใช้ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
รูปแบบของรัฐ) ไปเลอื กต้ังและออกเสยี ง
- ระบอบการเมืองการปกครอง ประชามตอิ ยา่ งมวี ิจารณญาณที่ดี
(ความหมาย หลักการ ลกั ษณะ ตดิ ตามตรวจสอบพฤติกรรมและ
ประเภท รูปแบบข้อดีและข้อเสีย การทางานของนักการเมือง
ของระบอบประชาธปิ ไตยและ - สามารถวพิ ากษ์วิจารณแ์ ละตัดสนิ
เผดจ็ การ) นโยบาย ผลงานและกรณีตา่ ง ๆได้
อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

หลักสตู รรายวิชาเพ่มิ เติม “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 104 - ๑๐๓ -

คุณค่า คา่ นิยม ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและพฤตกิ รรม
- เคารพกฎ กตกิ าและกฎหมาย - ระบบเศรษฐกจิ (ความหมาย - สามารถนาหลักการประชาธปิ ไตยไป
หลักการ ลกั ษณะ ประเภท ใชใ้ นการดาเนินชีวิตและ
ช่ืนชมในความหลากหลาย รปู แบบ ขอ้ ดแี ละข้อเสียของระบบ การทางานได้อยา่ งถูกตอ้ งและ
ของสิทธิไดแ้ ก่ สิทธิมนษุ ยชน ทนุ นิยมและสงั คมนยิ มและ เหมาะสม
และการประยุกต์ ความสัมพนั ธ์ของระบอบการเมอื ง - สามารถถา่ ยทอดความรพู้ ้นื ฐาน
เปน็ ความรับผดิ ชอบ การปกครองกบั ระบบเศรษฐกจิ ทางการเมืองไปสูผ่ ูอ้ ่ืนได้
ทง้ั ในระดับปจั เจกและองคก์ ร - ความร้พู น้ื ฐานเกี่ยวกับกฎหมาย - พฒั นาคณุ ค่าทางการเมอื งใหแ้ ก่
(ความหมายความสาคัญ หลักการ ตนเองมที กั ษะและความมัน่ ใจ
ลกั ษณะ ประเภทและศกั ดิ์ของ ทจ่ี ะประยุกต์ใชใ้ นการปฏิบัติ
กฎหมาย)
- ประวตั ศิ าสตรก์ ารเมอื งการปกครอง
ของไทย (สภาพเหตุการณส์ าเหตุ
ผลความสาคญั ของเหตุการณ์ และ
สงิ่ ที่ได้เรยี นรจู้ ากเหตุการณ์)
- สาระสาคัญของรัฐธรรมนูญและ
กฎหมายประกอบรฐั ธรรมนูญของ
ไทยในปัจจบุ ัน (กลไก สถาบันและ
กระบวนการทางการเมอื งการ
ปกครองของไทยในปัจจุบัน)
- รจู้ กั แยกแยะได้วา่ อะไรคือ - ปฏบิ ัตติ ามกฎหมายรูว้ า่ ใน
การเคารพกฎกติกาและกฎหมาย สถานการณใ์ ดทจ่ี ะนาเรอ่ื งสทิ ธิ
และอะไรคอื การไม่เคารพกฎ ไปใชใ้ นการปกปอ้ งสิทธิหรอื
กตกิ าและกฎหมาย การสรา้ งสมดลุ
- ความร้เู กี่ยวกบั กฎกตกิ า กฎหมาย
(ทาไมจึงตอ้ งมีกฎกติกา)
- บทบาทของกฎหมายในการท่ีจัด
ระเบียบสงั คมและแกป้ ญั หา
ความขัดแยง้
- การดาเนนิ การทเ่ี ป็นธรรม
เป็นอย่างไรเมอ่ื อยภู่ ายใต้
กระบวนการของกฎหมาย
- ความเปน็ ธรรมท่มี กี ารปรบั ใช้
ในสถานการณ์ที่แตกตา่ งกนั
- กระบวนการของกฎหมายมหาชน
ท่มี ีการปรับเปลี่ยนโดยประชาชน
และกระบวนการมีสว่ นร่วม
ในสภารฐั และศาล

ตารางที่ 5 องคป์ ระกอบของความเปน็ พลเมือง

- ๑๐๔ห-ลกั สตู รรายวชิ าเพิ่มเตมิ “การป้องกันการทุจรติ ” : 105

๔.5 แนวทางการสรา้ งเสรมิ สานึกความเป็นพลเมอื ง : กรณีศึกษาประเทศไทย
จากรายงานการศกึ ษาแนวทางการสรา้ งเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแกเ่ ยาวชน โดยสภาพัฒนาการเมือง

สถาบนั พระปกเกล้า ร่วมมือกบั หน่วยงานในพ้ืนท่ีจัดทารายงานการศึกษาในระดบั พื้นที่ เช่น
กรณี ภาคเหนอื : จงั หวดั ลาปาง
1) กจิ กรรมเพ่ือเสริมสร้างสานกึ ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ยาวชนในจังหวดั ลาปาง
ภาพรวมของการจัดกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชนและภาพรวมของ

การสนับสนุน ส่งเสริมจากภาคส่วนต่างๆ ในการจัดกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน
ในจังหวัดลาปาง ส่วนใหญ่เปน็ การดาเนินการจดั กจิ กรรม เพือ่ การแกไ้ ขปัญหาและพัฒนาเด็กและเยาวชน ไม่ไดต้ ้ัง
วตั ถปุ ระสงค์เพือ่ สร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแกเ่ ยาวชนโดยตรง เหมอื นเชน่ โครงการทไี่ ด้รับการสนับสนุน
จากสถาบันพระปกเกล้าท่ีได้ดาเนินการในโรงเรียนบางแห่งของจังหวัดลาปาง แต่อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรม
การพัฒนาเด็กและเยาวชนต่างๆ ที่ได้ดาเนินการในจังหวัดลาปางน้ันท้ายท่ีสุดแล้วก็จะส่งผลหนุนเสริมเติมเต็ม
สานึกความเป็นพลเมืองของเด็กและเยาวชนได้เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ภาคส่วนต่างๆ ท่ีดาเนินการสนับสนุน
ส่งเสริมกิจกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชน หรือกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน
ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มผู้ปฏิบัติการกลุ่มผู้สนับสนุนงบประมาณ กลุ่มผู้สนุบสนุนวิชาการองค์ความรู้
กลุ่มผ้สู นับสนุนบคุ ลากรวิทยากรกลุ่มผู้สนับสนุนอาคารสถานท่ี วัสดุอุปกรณ์ และกลุ่มผู้มีสว่ นได้ส่วนเสียกับการจัด
กิจกรรมต่างๆ มีความร่วมมือระหว่างกัน ตามภาระหน้าที่ พันธกิจและตามความสัมพันธ์ของภาคส่วนต่าง ๆ
เหลา่ น้ี

2) ปัญหาอปุ สรรคและปจั จยั สูค่ วามสาเร็จในการสร้างเสรมิ สานกึ ความเป็นพลเมอื งแก่เด็กและเยาวชน
การดาเนินกิจกรรมสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชนในจังหวัดลาปาง มีปัญหาอปุ สรรค

และความสาเร็จเกิดข้ึนมาก จากการศึกษาข้อมูลผ่านเวทสี ะท้อนในการประชุมกลุ่มยอ่ ย สามารถสรปุ ปัจจัยสาคัญ
ท่ีเป็นปัจจัยปัญหาอุปสรรคของการดาเนินงานสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน เกิดจาก 3 ปัจจัย
คือ ปัจจัยครอบครัว พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ปัจจัยการสนับสนุนของหน่วยงานองค์กรท่ีเกี่ยวข้องกับงานด้านเด็กและ
เยาวชน และปัจจยั โอกาสการเขา้ ถึงกจิ กรรมของเด็กและเยาวชน ส่วนปจั จัยสาคัญที่เปน็ ปจั จัยแห่งความสาเรจ็ นั้น
เกิดจาก 4 ปัจจัย คือ ปัจจัยพลังเด็กและเยาวชน ปัจจัยครอบครัว พ่อ แม่ ผูป้ กครอง ปัจจัยบุคคล หน่วยงาน
องค์กร ชุมชน และปัจจยั เครือขา่ ยการทางาน

3) แนวทางในการพัฒนารปู แบบกจิ กรรม เพ่อื เสริมสร้างสานกึ ความเปน็ พลเมืองแกเ่ ดก็ และเยาวชน
การพัฒนาเด็กและเยาวชนเป็นงานที่ต้องอาศัยเวลาและต้องมีรูปแบบกิจกรรมท่ีเหมาะสม

สอดคล้องกับบริบทการทางานของแต่ละพ้ืนที่ ซึ่งจาเป็นต้องมีการพัฒนารูปแบบกิจกรรมอยู่อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้เหมาะสมทันต่อสภาวการณ์ของเด็กและเยาวชน และสภาพการเปล่ียนแปลงทางสังคมท่ีส่งผลกระทบต่อ
เด็กและเยาวชนอย่างรวดเร็ว จากการศึกษาพบว่า แนวทางการพัฒนารูปแบบกิจกรรม เพื่อสร้างเสริมสานึก
ความเป็นพลเมืองแก่เยาวชนในจังหวัดลาปาง ควรพัฒนารูปแบบกิจกรรมโดยเน้นการมีส่วนร่วมของเด็กและ
เยาวชน การบูรณาการกิจกรรมในพ้ืนท่ีระดับตาบล การพัฒนาเครือข่ายการทางานด้านเด็กและเยาวชน และ
การส่อื สารสร้างความรู้ ความเข้าใจในพน้ื ท่อี ย่างทว่ั ถึง

หลกั สตู รรายวิชาเพิ่มเติม “การปอ้ งกนั การทุจรติ ” : 106

- ๑๐๕ -

กรณี ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื : จงั หวดั สกลนคร
1) กิจกรรมการสรา้ งเสรมิ สานกึ ความเปน็ พลเมืองแก่เดก็ และเยาวชนในจงั หวัดสกลนคร

ในรอบ 3 ปีท่ีผ่านมา เป็นการดาเนินกิจกรรมของหน่วยงานทั้งภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน
ท่ีทางานขับเคล่ือนการพัฒนาเด็กและเยาวชน แต่พบว่าเป็นกิจกรรมท่ีมักจะพัฒนาแนวคิดการดาเนินงานท่ีเป็น
ลกั ษณะนโยบายสว่ นกลาง เพอ่ื รองรบั งบประมาณ เช่น สานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ แต่ถ้าเป็น
กิจกรรมเด่นๆ ที่เกิดจากมุมมองในปัญหาของเด็กและเยาวชนและผู้ท่ีทางานกบั เด็กและเยาวชนจริงๆ จะเห็นว่า
ยังไม่ได้เกิดในหน่วยงานภาครัฐ กิจกรรมท่ีสามารถสร้างสานึกพลเมืองเด็กและเยาวชนท่ีเห็นผลของการพัฒนา
การสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ที่มีเสียงจากกลุ่มเด็กและเยาวชน คือ กิจกรรมค่ายท่ีให้โอกาส
เด็กและเยาวชนได้คิดสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ และหลากหลาย โดยอยู่ภายใต้การดูแลให้คาแนะนา และได้รับ
การสนับสนุนงบประมาณจากผู้ใหญ่ใจดี เช่น กิจกรรมของชมรมคนรักศิลป์ กิจกรรมของกลุ่มเด็กฮักถิ่น
สรุปภาพรวมผลการสนทนากลุ่มย่อยในการสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชนในจังหวัดสกลนคร
มีสาระสาคัญ คือ การให้นิยามความหมายของเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ไม่ได้แตกต่างกัน ส่วนสานึกพลเมือง
เด็กและเยาวชนในปัจจุบันควรจะมีต้นแบบสานึกพลเมืองจากผู้ใหญ่ ส่วนสานึกพลเมืองของเด็กและเยาวชนนั้น
ไดเ้ รยี นรผู้ า่ นกจิ กรรมค่ายทีม่ ุ่งเน้นการพฒั นาจติ อาสา

2) ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน
ในจังหวดั สกลนคร

ปัจจัยที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในการเสริมสร้างสานึกพลเมืองแก่เด็กและเยาวชนในพ้ืนท่ีจังหวัด
สกลนคร สรุปได้ดังนี้ 1) การขาดโอกาสในการเรียนรู้ความเป็นพลเมืองของเด็กและเยาวชน 2) พ่อแม่
ผ้ปู กครอง ผู้ใหญ่ในสังคม ไมเ่ ป็นต้นแบบทีด่ ีแก่ลกู หลานขาดตน้ แบบผู้ใหญ่ท่ดี ี 3) สถาบันการศึกษาขาดความเข้าใจ
ในการสร้างสานึกพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ผ่านหลักสูตรการจัดการเรียนการสอน และ 4) หน่วยงานที่ดูแล
ดา้ นเดก็ และเยาวชนขาดการประสานงาน ขาดความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องของการสร้างสานึกพลเมอื งและทางาน
ซา้ ซ้อน

3) แนวทางในการพัฒนารปู แบบกิจกรรม เพ่ือเสริมสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน
จังหวดั สกลนคร มี 2 มมุ มอง คือ มมุ มองของผู้ใหญ่ และมุมมองของเด็กและเยาวชน

มุมมองของผู้ใหญ่ การสร้างต้นแบบให้กับเด็กและเยาวชนผ่านสื่อต่างๆ การส่งเสริมต้นแบบคนดี
โดยมีเวทีแสดงความดีเชิงประจักษ์ เชิดชูความดี คนดี เพ่ือเป็นกาลังใจแก่คนทาดี โดยเริ่มจากระดับครอบครัว
และการพัฒนาแบบผสมผสานหลักธรรมคาสอนกับกิจกรรมในชีวิตประจาวัน รวมท้ังการบรรจุหลักสูตร
การเสริมสร้างสานกึ พลเมอื งแกเ่ ดก็ และเยาวชนในทุกระดบั การศกึ ษาท่ีครอบคลุมเนื้อหาทกุ วิชา ทกุ มติ ิ

มุมมองของเด็กและเยาวชน รูปแบบกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างสานึกพลเมืองท่ีอยากเห็นและ
ต้องการ คือ การให้โอกาสได้เข้าร่วมกาหนดกรอบแนวทาง เพ่ือสร้างสานึกพลเมืองกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง
โดยสอดแทรกกิจกรรมจติ อาสาพัฒนาสาธารณะใหแ้ ก่เด็กและเยาวชนอยา่ งต่อเนือ่ งและย่ังยืน

กรณี ภาคใต้ : จงั หวดั ยะลา
บริบทปัญหาส่วนใหญ่ที่คุกคาม หรือส่งเสริมการสร้างสานึกพลเมือง จังหวัดยะลา คือ เยาวชนว่างงาน
เยาวชนเล่นการพนัน เยาวชนติดยาเสพติด เยาวชนขับรถซ่ิง เยาวชนขาดการศึกษา ขาดทุนทรัพย์ในการศึกษา
แต่ที่สาคัญจากผลการวิจัย พบว่าปัญหาสาคัญในจังหวัดยะลา คือ เยาวชนติดยาเสพติด และเยาวชนได้รับ
การศึกษานอ้ ย

หลักสูตรรายวิชาเพ่มิ เตมิ “การป้องกันการทจุ รติ ” : 107

- ๑๐๖ -

สาหรับท่ีผ่านมาการดาเนินงาน ด้านการพัฒนาเยาวชน ในจังหวัดยะลา จากข้อมูลประเด็น
ยุทธศาสตร์ของจังหวัดยะลา สรปุ ได้ว่า โครงการพฒั นาเยาวชน เพื่อสร้างงานโครงการจา้ งงานนักเรียน นักศึกษา
ในช่วงปิดภาคฤดูร้อน โครงการฝึกอาชีพแก่เยาวชนในสถาบันการศึกษาปอเนาะ โครงการมหกรรมเปิดโลก
การศึกษาและอาชีพ เพื่อการมีงานทา โครงการศูนย์ยะลาสันติสุขคืนคนดีสู่สังคม โครงการมวลชนสานสัมพันธ์
สานฝันสู่อามานดามัน และโครงการครอบครัวป้องกันภัยแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนมีโครงการพัฒนา
เยาวชนในถ่ินทุรกันดาร โครงการทูบีนัมเบอร์วัน เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าการสร้างเยาวชนให้มีสานึกพลเมือง
เริ่มต้นจากการอบรม ดูแล เอาใจใส่ ศึกษาให้ความรู้ของครอบครัว พ่อแม่ และญาติพี่น้อง การได้รับการศึกษา
จากสถาบันท่ีเยาวชนศึกษาและหน่วยงานภาครัฐท่ีมีหน้าท่ีเก่ียวกับเยาวชน คือ สานักงานพัฒนาสังคมและ
ความมัน่ คงของมนุษย์ จังหวัดยะลา และสานักงานพฒั นาชมุ ชน จงั หวัดยะลา

1) กจิ กรรมการสรา้ งเสริมสานกึ ความเปน็ พลเมอื งแกเ่ ด็กและเยาวชนในระดบั พืน้ ท่ี จังหวดั ยะลา
- จัดโครงการสอนภาษาไทยให้ผู้ไม่รู้หนังสือหรือผู้อ่านภาษาไทยไม่ได้ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจ

ในความเปน็ คนไทยมีความเปน็ เจา้ ของประเทศมากขึน้
- โครงการสอนภาษามลายูให้แกท่ หารพราน เพ่ือใหส้ ามารถสอื่ สารสร้างความเข้าใจกับประชาชน
- โครงการสานึกรักษ์ท้องถิ่นเสริมสร้างความสมานฉันท์ เพื่อให้เยาวชนทากิจกรรมร่วมกันและ

เป็นโครงการทีส่ ่งเสริมปลกู จติ สานกึ ให้เยาวชนรกั บ้านเกดิ ร้สู ึกความเป็นเจ้าของ
- โครงการนาเยาวชนสู่สนั ติ เพอ่ื เรยี นรู้วิธีการสรา้ งสนั ติภาพการจัดการความขัดแยง้
- โครงการค่ายเอดสแ์ ละยาเสพติด
- จัดตั้งศูนย์บริการที่เป็นมิตรแก่เยาวชน เพื่อให้เยาวชนมีความพอใจ มีความประทับใจรู้สึกว่า

ตนเองมคี วามสาคัญทาใหม้ ีความรกั ต่อประเทศชาติ
- จัดเวทีประชาคมหมู่บ้าน เพ่ือให้เยาวชนมีส่วนร่วมกับทุกฝ่ายในการพัฒนา หรือแก้ไขปัญหา

ในชุมชนทาใหเ้ ยาวชนภมู ใิ จและมีความรกั ต่อชุมชน
- โครงการส่งเสริมอาชีพแก่เยาวชน เพ่ือให้เยาวชนเห็นช่องทางอาชีพในอนาคตใช้เวลาว่างให้เป็น

ประโยชน์ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มคี วามรับผดิ ชอบมากขึน้
- กิจกรรมนันทนาการ เช่น กิจกรรมฟุตบอลภาคฤดูร้อน และกิจกรรมออเครสตร้า เพ่ือสะท้อน

การอย่รู ่วมกัน
- โครงการสานพลังเยาวชนนาสังคมเขม้ แข็ง
- โครงการส่งเสรมิ อาชีพให้เด็กและเยาวชน เชน่ ปลกู ผัก เลยี้ งไก่ ซอ่ มรถจกั รยานยนต์

2) ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินกิจกรรม เพ่ือเสริมสร้างสานึกความเป็นพลเมืองแก่เยาวชน
ในจังหวดั ยะลา

ปัญหาส่วนใหญ่ท่ีคุกคามหรือส่งเสริมการสร้างสานึกพลเมือง จังหวัดยะลา คือ เยาวชนขาด
ความรับผิดชอบในการร่วมกิจกรรม เพื่อการพัฒนาศักยภาพและในการทาโครงการ ปัญหาความไม่เข้าใจ
ในวัตถุประสงค์ของการทากจิ กรรม เยาวชนขาดจิตอาสา จิตสาธารณะ ปัญหาด้านยาเสพตดิ งบประมาณในการ
พฒั นาศักยภาพของเยาวชนในการทาโครงการไม่ตอ่ เนื่อง การใชง้ บประมาณไมโ่ ปร่งใส ขาดความเป็นอิสระ

หลกั สตู รรายวิชาเพ่มิ เตมิ “การป้องกนั การทุจริต” : 108

- ๑๐๗ -

3) แนวทางในการพัฒนารูปแบบกิจกรรมการสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน
ในระดับพน้ื ท่ี จังหวดั ยะลา

- กิจกรรมการสร้างเสริมสานึกความเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยาวชน ควรดาเนินการท้ังในระบบ
และนอกระบบโรงเรียน เน้นกิจกรรมการมีส่วนร่วมและสรุปบทเรียนร่วมกัน เพ่ือก่อให้เกิดการเรียนรู้และ
ย้าสานึกพลเมืองบอ่ ยๆ เพอ่ื ให้กลายเปน็ วัฒนธรรมของชมุ ชนตอ่ ไป

- กิจกรรมนอกหลักสูตรท่ีทานอกเหนือกิจกรรมในชั้นเรียน นอกจากนี้ ยังรวมท้ังการให้
หน่วยงานราชการภาคีท่ีมีหน้าที่เกี่ยวกับโครงการท่ีเยาวชนดาเนินการ หรือบุคคลที่มีบทบาทในชุมชนมาร่วมรับรู้
เป็นสักขีพยานการทางานของโครงการ โดยเน้นวางระบบการทางานแบบเป็นทางการและลายลักษณ์อักษร
มกี าหนดการทางานท่ีชัดเจน และมีคณะบุคคลที่มีหน้าท่ีเกีย่ วข้องมาร่วมติดตาม

๔.6 การศึกษาเก่ียวกับความเป็นพลเมืองในบริบทตา่ งประเทศ
ในหลายประเทศมีการส่งเสริม เรื่อง การศึกษา เรื่อง ความเป็นพลเมือง ซึ่งแต่ละประเทศมีแนวคิด

และประเด็นในการศึกษาท่ีแตกต่างกัน โดยเอกสารนี้จะนาเสนอแนวคิด พร้อมทั้งประเด็นการปฏิบัติที่น่าสนใจ
ท่ีเกิดข้ึนจากการส่งเสริมด้านความเป็นพลเมือง โดยเน้ือหาหลักนามาจากบทความของเสิศพงษ์ อุดมพงศ์
เร่ือง การศึกษาเพื่อความเป็นพลเมือง (Civic / Citizenship Education) ในการส่งเสริมบทบาทของภาค
พลเมืองในการเมืองระบบตัวแทน : แนวทางทีย่ ัง่ ยนื ผ่านประสบการณ์จากต่างประเทศ (2558) ซ่ึงมีประเทศ
ทีน่ า่ สนใจ ดังนี้

ประเทศญี่ปุน่
ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่อยู่ในทวีปเอเชีย มีรูปแบบของรัฐเป็นรัฐเด่ียว และปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
ในระบบรัฐสภามอี งค์พระจักรพรรดิ หรือกษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นาในการบริหารประเทศ
เช่นเดียวกับประเทศไทย (ชานาญ จันทร์เรือง, 2554) ในปีคศ. 2013 ได้รับการจัดอันดับด้านความเป็น
ประชาธิปไตย (Democracy Ranking) เป็นอันดับ 20 ของโลก (แคมป์เบลล์และคณะ Campbell et.al.,
2013) นบั เปน็ ประเทศประชาธปิ ไตยในฝ่ังเอเชยี เพยี งไม่กี่ประเทศ ท่ไี ดร้ ับการประเมินอยูใ่ นอนั ดับต้น ๆ ของโลก
การศึกษาเพ่ือความเป็นพลเมืองในประเทศญี่ปุ่น คือ การพัฒนาพลเมืองผู้ซ่ึงจะสร้างสังคมประชาธิปไตย
ในอนาคต ซึ่งประชาธิปไตยมีทั้งทางตรงและทางอ้อม ความเป็นพลเมืองมีท้ังรูปแบบเสรีนิยมและรัฐนิยม
จึงมีความหลากหลายและความยากที่จะนิยามคาน้ีให้มีความหมายที่ครอบคลุมได้ในระดับนโยบาย เรื่อง การศึกษา
เพื่อความเป็นพลเมืองน้ันอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงหลัก 2 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข
แรงงาน และสวัสดกิ าร และกระทรวงศกึ ษาธิการ วฒั นธรรม วทิ ยาศาสตร์ กฬี า และเทคโนโลยี
โดยที่รัฐบาลมีการกาหนดแผนนโยบายการพัฒนาเด็กและเยาวชนข้ึน ในปีคศ. 2003 โดยได้กล่าวถึง
หลกั การสาคญั 4 ข้อ สาหรับการจัดการศกึ ษา เพ่อื ความเป็นพลเมืองของญ่ปี ุ่น ประกอบด้วย
1) สนับสนุนความเป็นอสิ ระทางสงั คม
2) สนับสนนุ ให้ไดร้ บั ประสบการณต์ ามความตอ้ งการของแต่ละบคุ คล
3) ปรับเปลีย่ นมมุ มองของเยาวชนในฐานะสมาชกิ ท่ีกระตือรือรน้ ของสังคม
4) กระตุ้นให้เกดิ บรรยากาศท่ีเปน็ อิสระและมีการอภิปรายได้อยา่ งเปิดกว้างในสังคม
ในปีคศ. 2006 มีการปฏริ ูปพระราชบัญญัติการศกึ ษาขั้นพื้นฐานของญี่ปุ่น ซงึ่ นับต้ังแต่ปี คศ. 1947
ท่ียังไม่เคยมีการปฏิรูป แต่หลักการท่ีสาคัญประการหนึ่งที่ยังคงไว้อยู่ในพระราชบัญญัติ โดยท่ีมิได้มีการเปลี่ยนแปลง
มีใจความสาคัญในวรรคแรกว่า เป้าหมายของการศกึ ษาทส่ี าคัญ คือ การศึกษาจะกอ่ ใหเ้ กดิ การพัฒนาบุคลิกภาพ

หลักสตู รรายวชิ าเพมิ่ เตมิ “การป้องกันการทจุ รติ ” : 109

- ๑๐๘ -

โดยสมบูรณ์ พยายามอยา่ งหนักในการส่ังสอนขัดเกลาบุคคล มีจิตใจที่สดใสร่างกายท่ีสมบูรณ์เป็นผู้ซ่ึงรัก
ในความถูกต้องและความยุติธรรม เคารพในคุณค่าของตนเอง เคารพผู้ใชแ้ รงงาน มคี วามตระหนกั ต่อความสานึก
รับผิดชอบอย่างลึกซึ้ง ซึมซับจิตวิญญาณท่ีเป็นอิสระในฐานะเป็นผู้สร้างสันติภาพแห่งรัฐและสังคม ซ่ึงเป้าหมาย
ท่กี าหนดข้ึนน้นั เป็นประเด็นสาคญั ท่ีจะสนบั สนุนให้ประชาชนเปน็ พลเมอื งอยา่ งแท้จรงิ

มีการส่งเสริม เรื่อง จิตสาธารณะ ซึ่งนาไปสู่การมีส่วนร่วมอย่างอิสระในการสร้างสังคมพร้อมท้ัง
การพัฒนาทัศนคติท่ีมีต่อความต้องการรับผิดชอบตอ่ การเติบโตของสงั คม ซึ่งปัจจบุ ันทาให้ประชาชนในประเทศ
มจี ติ สาธารณะ สามารถเหน็ ได้ในหลายๆ เหตุการณ์ทเี่ กิดข้ึนในประเทศญ่ปี ุ่น

การศึกษาความเป็นพลเมืองถูกบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอน ตั้งแต่ในระดับประถมศึกษา
เน้ือหาวิชาพลเมืองเป็นศูนย์กลางของการสร้างความเป็นพลเมือง โดยอาศัยฐานขอ งการตระหนัก
ในประชาธิปไตยและความรู้ ความเข้าใจในสิทธิมนุษยชน และความหมายและแนวคิดใน เร่ือง ความสัมพันธ์
ระหว่างประเทศ “สร้างความเช่ือมโยงกับครอบครัวและชุมชน สร้างให้นักเรียนมีความตระหนักว่ามนุษย์เป็น
จุดเร่ิมต้นท่ีสาคัญของสังคม สร้างให้นักเรียนมีความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง เรื่อง ส่วนตัวและสังคม
ความมศี ักดศ์ิ รีของตนเองในระบบครอบครัวแบบรว่ มสมยั ความเท่าเทยี มทางเพศ และสร้างให้เยาวชนตระหนัก
ถึงความสาคัญของแบบแผนประเพณีของชีวิตในสังคม การรักษาขนบธรรมเนียมและความสานึกรับผิดชอบ
ของแต่ละบุคคล”

ประเดน็ ศกึ ษาเกี่ยวกับหน้าทีพ่ ลเมืองในประเทศญป่ี ุ่น
สาหรับประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศท่ีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยคร้ัง แต่ละครั้งมีความรุนแรง
และสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพยส์ ินเป็นจานวนมาก แต่จากความยากลาบากจากส่ิงท่ีเกิดข้ึนก็ได้เกิด
ส่ิงท่ีน่าสนใจจากพฤติกรรมท่ีแสดงออกถึงความเป็นพลเมือง ท้ังในส่วนของความรับผิดชอบต่อสังคม
จิตสาธารณะ ความมีวินัย และอื่นๆ โดยจะนาเสนอเป็นเรื่องราวสั้นๆ เพ่ือง่ายต่อการทาความเข้าใจ ดังน้ี
โดยเนื้อหานามาจากบทความ เร่อื ง “เรอ่ื งราวดๆี ของคนญปี่ นุ่ ยามภาวะฉกุ เฉนิ ” (“เรอ่ื งราวดๆี ”, 2554)
กรณีท่ี 1 ท่ีสวนสนุกแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ซึ่งทาให้นักท่องเท่ียวจานวนมากไม่สามารถออกไป
ข้างนอกได้ และทางร้านขายของก็ได้เอาขนมมาแจกนักท่องเท่ียว มีนักเรียนชั้นมัธยมปลายหญิงกลุ่มหนึ่ง ไปเอามา
เป็นจานวนมาก ซึ่งมากเกินกว่าท่ีจะบริโภคหมด ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีว่า “ทาไมเอาไปเยอะ” แต่วินาทีต่อมา
กลายเป็นความรู้สึกตืน้ ตันใจ เพราะ “เด็กกลุ่มนั้นเอาขนมไปให้เดก็ ๆ ซ่ึงพ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้ เน่อื งจาก
ตอ้ งอยดู่ แู ลลูก
จากเหตุการณน์ ้แี สดงให้เห็นถงึ ความเอื้อเฟ้ือ การช่วยเหลือซงึ่ กันและกนั และมีความรับผิดชอบตอ่ ผอู้ ่ืน
กรณีท่ี 2 ในซุปเปอร์มารเ์ ก็ตแห่งหน่ึง มีของตกระเกะระกะเต็มพืน้ เพราะแรงแผน่ ดินไหว แต่คนที่เข้า
ไปซือ้ ของได้ช่วยกันเกบ็ ของขึ้นไว้บนชน้ั แลว้ ก็หยบิ สว่ นที่ตนอยากซอ้ื ไปต่อควิ จา่ ยเงนิ
จากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อย การช่วยเหลือซึ่งกันแ ละกัน และ
มีความรับผดิ ชอบต่อผูอ้ น่ื
กรณีท่ี 3 ในจังหวัดจิบะ เกิดแผ่นดินไหวบ้านเรือนพังเสียหาย คุณลุงคนหน่ึงที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรย
ออกมาว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร เด็กหนุ่ม ม.ปลาย ก็ตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไป
เมือ่ เปน็ ผใู้ หญ่ พวกผมจะทาให้มนั กลับมาเหมอื นเดิมแนน่ อน
จากเหตุการณ์น้ีแสดงให้เห็นถึงความรบั ผิดชอบต่อชุมชนบ้านเกิด มีความคิดที่จะสร้างชุมชนบ้านเกิด
กลับมาใหเ้ หมอื นเดมิ ไมย่ อ่ ท้อตอ่ ความยากลาบาก

หลกั สูตรรายวชิ าเพม่ิ เตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 110

- ๑๐๙ -

กรณีท่ี 4 หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิคร้งั ใหญ่ อาคารบา้ นเรือนพังเสียหาย ประชาชนไม่มีท่อี ยู่อาศัย
และอาหารไม่เพียงพอต่อการบริโภค มีการแจกจ่ายอาหาร ประชาชนไม่มีการแย่งอาหารกัน ประชาชนต่อแถว
เพ่อื รบั อาหารอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี
สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ต้ังอยู่ทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี มีระบบการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย โดยมีประมุขของประเทศ คือ ประธานาธิบดี ซ่ึงได้รับการเลือกต้ัง โดยตรงจากประชาชน ให้เป็น
หัวหน้าฝ่ายบริหาร และมีนายกรัฐมนตรี ซ่ึงได้รับการแต่งตั้ง โดยประธานาธิบดีผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
(กระทรวงการต่างประเทศ, 2556) เกาหลีใต้เป็นประเทศในเอเชียเพียงไม่กี่ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับ
ดา้ นความเป็นประชาธิปไตย (Democracy Ranking) ติด 1 ใน 30 ของโลก โดยไดเ้ ป็นอันดับ 26 จากการประเมิน
ปี คศ. 2013 (แคมป์เบลล์และคณะ Campbell et.al., 2013) อาจกล่าวไดว้ ่า ประเทศเกาหลีใต้มีพัฒนาการ
ของความเป็นประชาธิปไตยดีขึ้นมาเป็นลาดับ ทั้งความก้าวหน้าในด้านระบบการเลือกต้ังและความเจริญ
ทางวัฒนธรรม ดชั นีความเป็นประชาธิปไตยขยับเพิ่มข้ึนทุกปี มคี ะแนนสูงในทุกด้าน โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงด้านสิทธิ
ทางการเมืองและด้านเสรีภาพของพลเมือง จนได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่เป็นประชาธิปไตย
สมบูรณ์เต็มใบ ในด้านการพัฒนาเยาวชน ด้านการศึกษา เพื่อความเป็นพลเมืองนั้น มีการดาเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
มีการกาหนดค่านิยม/สงิ่ ที่ดีงามพน้ื ฐานทเี่ ปน็ องค์ประกอบของทักษะชีวติ 4 ด้าน ด้านละ 5 ลักษณะย่อย ไดแ้ ก่
1) การใชช้ ีวติ สว่ นตัว : การเคารพตนเอง ความจรงิ ใจ ความซื่อสตั ย์ ความเป็นอิสระ และการยบั ยัง้ ชัง่ ใจ
2) การใช้ชีวิตร่วมกนั ในครอบครวั เพอ่ื นบ้าน และโรงเรียน : การปฏิบตั ิตนตามศาสนา การปฏบิ ัติหน้าท่ี
ของลูกต่อพ่อแม่ จรรยามารยาทการอยู่รว่ มกนั และความรกั ตอ่ โรงเรียนและบ้านเกดิ
3) การใช้ชีวิตในสังคม : การปฏิบัติตนตามกฎหมาย การสนใจต่อผู้อ่ืนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ความยตุ ิธรรม และการสรา้ งจิตสานึกสาธารณะ
4) การใช้ชีวิตในระดับชาติและชาติพันธุ์ : ความรักในรัฐ ความรักในชาติ การมีจิตใจท่ีมั่นคง มีสติ
สมั ปชญั ญะ การสรา้ งความสันตภิ ายหลงั การแบง่ แยกและความรักในมนษุ ยชาติ
ลักษณะสาคัญ 4 ประการนี้ ถูกปลูกฝังมาต้ังแต่ในระดับชั้นประถมศึกษา และยังส่งเสริมการปลูกฝัง
ทักษะการคิดและการตัดสินใจเชิงจริยธรรม (moral thinking and judgment) หรือทักษะท่ีจาเป็นต่อการแก้ไข
เชิงจริยธรรมในชีวติ ประจาวันอย่างถกู ต้องและมเี หตผุ ล
โดยสรุป แนวคิดสาหรับการศึกษา เพ่ือสร้างความเป็นพลเมืองของเกาหลีใต้ หมายถึง การฝึกฝน
ความสามารถในการคิดตัดสนิ ใจในสถานการณ์ท่เี ก่ียวข้องกบั การเมือง และมวี ัตถปุ ระสงค์ท่ีจะให้ความรู้เกยี่ วกับ
ปรากฏการณ์ทางการเมืองระดับชาติและท้องถ่ิน ในฐานะท่ีเป็นพลเมืองผู้ถืออานาจอธิปไตย (sovereign citizen)
และสาหรับการให้การศึกษาแก่เยาวชนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง จะให้ความสาคัญกับการฝึกฝนทักษะ
และสอนให้รู้บทบาทหนา้ ทีใ่ นฐานะพลเมืองท่ีมีความสานึกรบั ผดิ ชอบ (responsible citizen)
วฒั นธรรมของคนเกาหลีใต้ สอนให้คนมีระเบียบวนิ ัย หากได้เคยสัมผัส หรือสังเกตคนเกาหลีใต้จะรับรู้ได้
ไม่ว่าจะเป็นท้ังทางด้านการศึกษา กีฬา หรือการใช้ชีวิต และหากดูวิวัฒนาการของเกาหลีใต้ นั้นประสบความสาเร็จ
ในหลากหลายด้านในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเกาหลีใต้สอนให้มีการตื่นตัวกับสิ่งต่างๆ อยูเ่ สมอ มีการปลูกฝัง
ความรักชาติ ซง่ึ เปน็ วัฒนธรรมทีส่ บื ทอดกนั มาอย่างยาวนาน

หลักสตู รรายวชิ าเพ่มิ เตมิ “การป้องกนั การทุจรติ ” : 111

- ๑๑๐ -

ประเดน็ ศกึ ษาเกย่ี วกับหน้าที่พลเมอื งในประเทศสาธารณรัฐเกาหลี
กรณีที่ 1 กรณี การอปั ปางของเรือเฟอรร์ ่ี ประเทศเกาหลีใต้ ท่ีชื่อเซวอล ซ่ึงจมลงระหว่างการเดินทาง
จากกรุงโซลไปยังเกาะเซจู ทั้งสาเหตุของการล่มของเรือความรับผิดชอบของกัปตันเรือ นายลี จูน เซ๊ียก (Lee
Joon – seok) และผู้ช่วยกัปตันเรือการปฏิบัติการและการกระจายคาส่ังของลูกเรือหลังเกิดอุบัติเหตุรวมท้ัง
การกู้ภัยที่ยังคงดาเนินอยู่ซ่ึงพบศพผู้โดยสาร 54 คน สูญหาย 248 คน รอดชีวิต 174 คน จากจานวน
ผู้โดยสารและลกู เรือท้ังหมด 476 คน ผู้เสียชีวติ และสูญหายส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมจากโรงเรยี น Danwon
High School ในเมืองอนั ซนั ชานกรงุ โซลท่ไี ปทศั นศกึ ษาถงึ 350 คน
ร้อยเอกนายแพทย์ ยงยุทธ มัยลาภ ได้เขียน เรื่อง ที่น่าสนใจประเด็นหนึง่ ไว้ คือ การปฏิบัติของ
นักเรียนที่อยู่บนเรือ หลังจากมีคาส่ังจากลูกเรือไปยังผู้โดยสารเมื่อเกิดเหตุแล้วก็คือ “ให้น่ังอยู่กับท่ีห้าม
เคลื่อนไหวไปไหน ขณะท่ีเจา้ หน้าที่กาลังดาเนินการแก้ไขปัญหากันอยู่ ซ่ึงผ้โู ดยสารจานวนมากก็ปฏิบัตติ ามคาสง่ั นี้”
จนกระท่ังเรือเอียงและจมลงแม้ว่าจะมีเวลาถึง 2 ชั่วโมงกว่า ก่อนท่ีเรือจะจม ซึ่งผู้โดยสารน่าจะมีเวลาเพียงพอ
ท่ีจะสามารถช่วยเหลือตัวเองออกมาจากเรือได้ ซ่ึงสะท้อนให้เห็นถึงวินัยของเด็กๆ นักเรียนท่ีฟังคาสั่งของ
“ผู้ใหญ่” และสะท้อนถึงความมีระเบียบวินัยของคนเกาหลที ่ีเชื่อฟังคาสัง่ แม้ตนทราบดีว่าอันตรายใกล้ตวั เข้ามา
มากแล้ว แต่ครั้งน้ี “ผู้ใหญ่” คงประเมินสถานการณ์ผิดพลาดอย่างร้ายแรง มีรายงานว่าลูกเรือได้พยายาม
กระจายคาส่ังสละเรือในช่วงครึ่งช่ัวโมงต่อมา หลังจากเกิดอุบัติเหตุแต่เข้าใจว่าคาส่ังน้ีกระจายไปไม่ท่ัวถึง และ
เช่ือว่าผู้โดยสารจานวนมากโดยเฉพาะเด็กๆ กย็ ังคงนั่งอยูก่ ับที่ (ยงยทุ ธ มยั ลาภ, ม.ป.ป.)
กรณีท่ี 2 ประเด็น เรื่อง ของความรับผิดชอบ เห็นได้จากการลาออกและฆ่าตัวตายของข้าราชการ
นกั การเมืองในประเทศหลายคนท้ังๆ ท่อี าจจะไมเ่ กยี่ วกบั ความผิดท่เี กิดข้ึนโดยตรง แตอ่ ยใู่ นภาระหนา้ ทท่ี ี่ดแู ล เช่น
การลาออกของนายกรัฐมนตรี ชอง ฮง วอน เพ่ือรับผิดชอบต่อการล่มของเรือเซวอนและไม่สามารถ
ชว่ ยเหลอื ได้อยา่ งรวดเรว็ ทงั้ ๆ ท่นี ายกรัฐมนตรีไมใ่ ช่คนขบั เรือและก็ไม่ใช่คนทเ่ี ข้าไปชว่ ยเหลือ
เดือน ธันวาคม 2548 นายฮูห์ จุนยัง ผบู้ ัญชาการตารวจเกาหลใี ต้ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตาแหน่ง
เพื่อรับผิดชอบ กรณีท่ีตารวจปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงจนถึงแก่ความตาย กรณีเจ้าหน้าที่ตารวจทุบตี
กลุ่มเกษตรกรที่มารวมตัวประท้วง เรื่อง การเปิดเสรีข้าว ในกรุงโซล จนเป็นเหตุให้มีชาวนาเสียชีวิต 2 คน
พรอ้ มกบั ขอโทษตอ่ กรณีดังกล่าว (เมธา มาสขาว, 2557)
เดือน มีนาคม 2549 นายกรัฐมนตรีลี เฮชอน แห่งเกาหลีใต้ ประกาศลาออกจากตาแหน่งภายหลังจาก
ทีเ่ ขาแอบไปร่วมตีกอล์ฟกบั กลุ่มนักธุรกิจ ท่ีเมืองปูซาน เม่ือวันท่ี 1 มีนาคม 2549 แม้จะเป็นวันหยดุ ของเกาหลีใต้
แต่ก็ฟงั ไม่ข้ึน ในขณะท่ีท้ังประเทศกาลังประสบปัญหา เนอื่ งจากการประท้วงของพนกั งานรถไฟ (เมธา มาสขาว,
2557)

หลกั สตู รรายวิชาเพม่ิ เติม “การปอ้ งกันการทจุ ริต” : 112

- ๑๑๑ -

บรรณานุกรม
ความเป็นราษฎรและความเป็นพลเมือง สืบคน้ เม่ือวันที่ 29 พฤษภาคม 2558

จาก http://km.streesp.ac.th/external_links.php?links=3766
คอลมั นโ์ ลกและเรา [ฉบบั อเิ ล็กทรอนิกส์] ไทยโพสต์ แทบลอยด์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2556

จาก http://www.oknation.net/blog/talkwithMetha/2014/01/27/entry-1
ปรญิ ญา เทวานฤมิตรกุล “พลเมืองศกึ ษา (Civic Education) : พัฒนาการเมืองไทย โดยสรา้ งประชาธิปไตยท่ี “คน”

สืบค้นเมอ่ื วันที่ 29 พฤษภาคม 2558 จาก http:/www.social.obec.go.th/node/64
ยงยุทธ มยั ลาภ (2557) “วินยั และความรบั ผิดชอบของชาวเกาหลีใต้” สบื ค้นเม่ือวนั ที่ 28 พฤษภาคม 2558

จาก http://www.thaiworld.org/thn/thailand_monitor/answera.php?question_id=1338.
เรือ่ งราวดีๆ ของคนญ่ีปุ่นยามภาวะฉุกเฉนิ สืบคน้ เมื่อ 28 พฤษภาคม 2558

จาก http://www.dmc.tv/pages/scoop.html
วรี พงษ์ รามางกรู “พลเมอื ง ราษฎร ปวงชน ประชาชน” สบื ค้นเมอื่ 29 พฤษภาคม 2558

จาก http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1430887063
เสศิ พงษ์ อุดมพงศ์“การศกึ ษาเพ่ือความเปน็ พลเมอื ง (Civic/Citizenship Education) ในการสง่ เสริม

บทบาทของภาคพลเมอื งในการเมืองระบบตัวแทน : แนวทางที่ยง่ั ยนื ผ่านประสบการณ์
จากตา่ งประเทศ” สบื คน้ เมื่อวนั ที่ 29 พฤษภาคม 2558
จาก http://kpi.ac.th/media/pdf/M8_272.pdf
Foon, J. Kui .& Kennedy C.– K. J. (2012). Citizenship and Governance in the Asian Region :
Insights from the International Civic and CitizenshipEducation Study. Public
Organiz,12 : 299-311
Porter J. (n.d. ). The Challenge of Education for Active Citizenship.
Scheerens, J. (2011). Indicators on Informal learning for Active Citizenship at School.
EducAsseEval. Acc 201-222.
Westheimer, J. andKahne, J. (2004). What kind of Citizen? The Politic of Educating
for Democracy. American Educational Research Journal 41, 2, 237-269.

- ๑๑๒ -

ส่อื การเรยี นรู้

ส่อื ทใี่ ช้ประกอบชดุ วชิ าท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 114

เรือ่ งท่ี ชือ่ ส่ือการเรยี นรู้ ประเภท เนอื้ หาสาระ เวลา กลุม่ เปา้ หมาย แหล่งส่ือ หมายเหตุ QR Code
1 Paoboonjin วีดีโอ ทา่ นร่ัว มตี าแหน่งเป็นเจ้าเมือง ซง่ึ เปน็ 1.45 ม. 4 – ม. 6 สานกั งาน ป.ป.ช. เน้ือหายัง
(รบั ทรัพยส์ ิน+ เจา้ หนา้ ทร่ี ฐั หาผลประโยชน์เพือ่ ตนเอง โดยรับ นาที โดย สปม. ไม่เหมาะสมกับ
เป็นคู่สัญญา) เงนิ จากเถา้ แก่หวังเพ่ือไม่ให้เถ้าแก่หวังจ่ายภาษี เดก็ เล็ก
ใหห้ ลวง และรับงานขุดบ่อบาดาลและทา
ประปาหม่บู ้าน

2 MOST –The วีดโี อ เรอื่ ง เกีย่ วกับพนักงานการรถไฟ ผซู้ ง่ึ มหี น้าที่ ม. 1 – ม. 3 เริม่ ใช้ได้ ต้งั แต่ ม.ต้น
Bridge v.2 ไทย ดูแลสะพานรถไฟ วันหน่งึ เขาได้พาลูกชาย สามารถวิเคราะห์ได้
มาทที่ างาน ขณะนัน้ มรี ถไฟขบวนหน่ึงกาลังว่งิ ม.ปลายน่าจะเป็น
เข้ามาใกลส้ ะพาน ลูกชายเหน็ รถไฟกาลงั มา กรณีทย่ี ากกวา่ นี้
แตม่ องไม่เห็นพ่อ จึงวง่ิ ไปที่สะพานเพ่ือท่ีจะดึง โฟกัสไปท่ีพ่อเดก็
คันโยกใหส้ ะพานลง เพื่อให้รถไฟว่งิ ผ่าน ทท่ี าหนา้ ท่ีเป็น
แต่เกดิ พลัดตกลงไปใต้สะพาน ซงึ่ ขณะน้นั เจ้าหน้าท่ีรถไฟ
พนกั งานฯ มองเหน็ ลกู ชายของตนเองตกไป
ใตส้ ะพาน และรถไฟว่งิ ใกลจ้ ะถงึ สะพาน
จงึ เปน็ วินาทที ตี่ ้องตดั สนิ ใจว่า จะดงึ คันโยก
ให้สะพานลง เพ่ือให้รถไฟวง่ิ ผ่าน หรอื จะไมด่ งึ
คนั โยกให้สะพานลง เพ่ือชว่ ยชีวิตลูกชาย
ของตนเอง

เร่อื งที่ ชอื่ สื่อการเรียนรู้ ประเภท เน้อื หาสาระ เวลา กลุ่มเปา้ หมาย แหล่งสื่อ หมายเหตุ QR Code
3 แกท้ ุจรติ วีดีโอ อธบิ ายรูปแบบ การขดั กนั ระหวา่ งผลประโยชน์ 4.37 ม. 1 - ม. 6 รู้จักคิดแยกแยะ
คิดฐานสอง ส่วนรวมและผลประโยชน์สว่ นตน นาที เปน็ การฝกึ ให้เด็กคิด
4 เตือน ส่งั เกบ็ โต๊ะ ระบบคิดฐานสิบและระบบคดิ ฐานสอง เนื้อหาดี แตน่ าเสนอ
ร้านผัดไทย ไม่น่าสนใจ มวี ีดโี อ
ประตูผี ขา่ ว เพอ่ื ศึกษาตวั อยา่ ง 3.18 ม. 1 - ม. 6 ขา่ วจากสานกั อินโฟกราฟฟิก
(วิดีทัศน)์ นาที ข่าวอรุณอมรนิ ทร์ ผลประโยชน์ทับซ้อน
สปจ.เพชรบรุ ี
นาเสนอผลประโยชน์
ทบั ซอ้ น
ใช้เป็นกรณศี ึกษา

5 อวสานแผงคา้ ขา่ ว กรมทางหลวง มนี โยบายจดั ระเบียบแผงค้า 4.37 ม. 1 - ม. 6 ขา่ ว จากกระปกุ ใช้บรรยายอบรม หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 115
ริมทางหลวง และสิง่ ปลกู สรา้ งทรี่ ุกล้าทางหลวงทว่ั ประเทศ นาที ดอทคอม ทว่ั ไป เอาไวท้ าเป็น
ลน่ั ภายใน 2 ปี ทัง้ แผงถาวร คือ ขายตลอดท้ังปี และ ใบงานวเิ คราะห์
ร้อื เกลยี้ ง แผงชวั่ คราว ม.ตน้ และม.ปลาย
ไว้เปน็ กรณีศกึ ษา

เร่อื งที่ ช่อื ส่ือการเรียนรู้ ประเภท เนอื้ หาสาระ เวลา กล่มุ เป้าหมาย แหล่งส่ือ หมายเหตุ QR Code หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 116
6 แกไ้ มจ่ บส่ีแยก ข่าว นกั เรข่ ายกล้วยทอด ลงมาเร่ขายบนถนน - ป. 4 - ป. 6 ขา่ วจาก
กล้วยแขกทารถ เป็นการกีดขวางการจราจร สร้างความเดือดร้อน โพสต์ทูเดย์
ติดผดิ กฎหมาย กับผูใ้ ชถ้ นน ทางเท้าในเขตนางเลง้ิ

7 ตะลงึ โรงเรียน ข่าว กรณที ี่ โรงเรียนเบญจมราชูทศิ จ.นครศรีธรรมราช - ม. 4 – ม. 6 ข่าวจากเว็บ ใชเ้ ปน็ กรณีศึกษา
เบญจมฯ เมืองคอน ขึน้ ป้ายขนาดใหญห่ นา้ โรงเรียน โดยมขี ้อความ DMCTODAY ใชเ้ ปน็ กรณีศึกษา
ขน้ึ ป้ายยกเลกิ เขยี นระบุ ปกี ารศึกษา 2559 ร่วมยกระดับ ชดุ วชิ าคิดแยกแยะฯ
เด็กฝากเขา้ เรียน คุณภาพการศกึ ษาพฒั นาโรงเรยี นสคู่ วามเปน็ เลศิ (A)
ยกเลิกเดก็ ฝากเขา้ เรยี น

8 เด็กโรงเรยี น ข่าว เด็กโรงเรียนเบญจมราชทู ิศนครศรฯี - ม. 4 – ม. 6
เบญจมราชทู ิศ คะแนนสอบสูงสุด ตดิ นิเทศฯจฬุ า
นครศรฯี คะแนน เป็นการยกเลิกเดก็ ฝากเข้าเรียน
สอบสงู สุด
ติดนิเทศฯ จุฬา

9 รทู้ ันการโกง วีดีโอ ลกั ษณะของผลประโยชน์ทับซ้อน และแนวทาง 5.36 ม. 1 – ม. 6 สถาบนั
ตอนผลประโยชน์ การปฏิบตั ิเพ่ือป้องกนั ผลประโยชนท์ ับซ้อน นาที พระปกเกลา้
ทับซอ้ น ภัยเงียบ
ทาลายชาติ

ส่ือทใี่ ช้ประกอบชดุ วิชาที่ 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต

เรอ่ื งท่ี ชื่อส่ือการเรยี นรู้ ประเภท เนอ้ื หาสาระ เวลา กลมุ่ เปา้ หมาย แหล่งสื่อ หมายเหตุ QR Code
1 รบั สินบน วีดีโอ
มีคนย่ืนเงนิ ให้กับเจ้าหนา้ ท่ี ซึ่งเจา้ หนา้ ที่ 32 ม. 1 - ม. 6 https://www.youtub
ท่ีเปน็ ลกู น้องไมย่ อมรับหัวหน้าท่ีโกง วนิ าที e.com/watch?v=MGc
และออกมาต่อตา้ น
3LXOlZ-o จาก ACT

2 Bazaar วดี ีโอ แม่คา้ และคนในตลาด รวมตวั กนั ต่อต้าน 33 ป. 1 – ม. 6 https://
ผูท้ มี่ าซ้อื ของ ซึ่งเปน็ บคุ คลที่ทจุ รติ การ วนิ าที www.youtube.com/
เลือกตงั้ หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 117
watch?v=6xTi4qcGX
zs จาก ACT

3 การเขา้ แถว วีดีโอ การไม่เขา้ แถวซ้อื อาหาร โดยการแซงคนอ่นื 1.55 ปฐมวยั – ม. 6 https://www.youtub เป็นการปลกู ฝัง
รับบรกิ าร ถอื เปน็ การกระทาที่ไม่ถกู ต้อง และคนอืน่ ๆ นาที e.com/watch?v=CQ วินัย
ไดแ้ สดงอาการไม่พอใจตอ่ การกระทานน้ั m0h9-b9p4
จากกรมสง่ เสริม
วฒั นธรรม

- 116 - หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 118

เร่อื งที่ ชื่อสื่อการเรยี นรู้ ประเภท เน้ือหาสาระ เวลา กลุ่มเปา้ หมาย แหล่งส่อื หมายเหตุ QR Code
4 โตไปไม่โกง วดี ีโอ การไมเ่ ข้าแถวซื้ออาหาร โดยคนอืน่ ทเ่ี ขา้ แถวแลว้ 10.54 ปฐมวยั – ม. 6 https://www.youtub ให้วิเคราะห์ ครู
ตอน โดนัท ซอื้ ของให้ตนเอง ถือเป็นการกระทาที่ไม่ถูกต้อง นาที e.com/watch?v=Ayo อธิบายขั้นตอน
และคนอื่นๆ ได้แสดงอาการไมพ่ อใจตอ่ การ RPq4t_lM ในวีดโี อ ช่วงท่ี
กระทาน้ัน จาก กทม. โทรศัพท์ฝากเพื่อน
ใช้อนุบาลถึงมัธยม

5 โตไปไมโ่ กง วดี ีโอ แกไ้ ขเวลาจอดรถ เพ่ือใหต้ นเองได้จอดรถฟรี 9.47 ม. 1 - ม. 6 จาก กทม. เอาไปใช้หมวดซีได้
ตอน สาวนักชอ้ ป นาที (การซ้ือของ -
พอเพยี ง)

6 ความซ่อื สตั ย์ วีดีโอ นาเงินท่ตี กไว้ไปคนื ใหก้ ับเจ้าของ 1.55 ปฐมวยั - ป. 6 https://www.youtub
นาที e.com/watch?v=qr2g

tPGsGcg
จากกรมส่งเสรมิ วัฒนธรรม

- 117 -

เร่อื งท่ี ช่ือส่ือการเรียนรู้ ประเภท เน้อื หาสาระ เวลา กลมุ่ เป้าหมาย แหล่งสอ่ื หมายเหตุ QR Code
7 นมิ นตย์ ิ้มเดล่ี วีดีโอ 1. ตอนแย่งที่ เป็นการแยง่ ที่จอดเรือ โดยมี 1. ตอนแย่งที่ https://www.youtub เอาไปใช้หมวดซไี ด้
คนดีไม่คอรร์ ปั ชัน คนติดสินบนเจ้าหนา้ ที่ ซึง่ เจ้าหนา้ ทีผ่ นู้ นั้ ปฐมวัย – ป.6 e.com/watch?v=wv6 (การซ้ือของ -
1. ตอน แยง่ ท่ี วีดีโอ ไม่ยอมรบั สินบน และจับตัวคนทจี่ ะให้ 9Dr4DyiU พอเพียง)
2. ตอน รับไม่ได้ วีดโี อ สินบนไปลงโทษ จากสานักงาน ป.ป.ช.
3. ตอน ทาบญุ 2. ตอนรบั ไมไ่ ด้ เจา้ หนา้ ทเ่ี ข้าไปตรวจสอบสินคา้ 2. ตอนรับไม่ได้
บรู ณะวัด แตเ่ จ้าของสนิ คา้ ไมใ่ หต้ รวจและจะมอบ ป.1 – ป.6
สนิ บนให้กับเจ้าหน้าที่ ซง่ึ เจ้าหน้าทีค่ นนั้น
8 นิมนตย์ ้มิ เดลี่ ไมย่ อมรบั ของดังกล่าว
คนดีไม่คอร์รัปชัน 3. ตอนทาบุญบูรณะวัด วดั มีสภาพเสอ่ื มโทรม 3. ตอนทาบุญ
1. ตอน แป๊ะเจยี้ ซ่งึ มคี นมาชว่ ยเหลอื บรจิ าคเงิน แต่ตอ้ งให้ บูรณะวดั
2. ตอน สง่ เสรมิ พระทวี่ ัดพูดจาหว่านล้อมให้ชาวบา้ นขายที่ดนิ ป.4 – ม.6
ลูกนอ้ ง ใหต้ นเอง 1. ตอนแป๊กเจ๊ีย
1. ตอนแป๊ะเจ๊ยี ะ พ่อต้องการใหล้ ูกเข้าเรยี น 9.47 ป.4 – ม.6 หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 119
9 มอื สะอาด ในโรงเรยี นทีม่ ีช่ือเสียง จึงจะจ่ายเงนิ นาที
ชาตไิ มล่ ่ม ใหก้ ับทางโรงเรียน แต่ลูกไม่ยอมและ
ยนื ยันวา่ จะสอบเข้าด้วยตัวเอง
2. ตอนส่งเสริมลูกน้อง เจา้ นายอยากให้ลูกน้อง 2. ตอนสง่ เสริม
เป็นทหาร จงึ เอาของไปติดสนิ บน ลกู น้อง
สุดท้ายจึงถูกจาคกุ ม.1 – ม.6
ประกวดการพูด รณรงค์ต่อต้านการทจุ รติ 5 ป.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.
นาที

เรอื่ งที่ ช่ือส่ือการเรยี นรู้ ประเภท เนอื้ หาสาระ เวลา กล่มุ เป้าหมาย แหล่งสื่อ หมายเหตุ QR Code หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 120
10 UNDP วดี ีโอ การตอ่ ต้าน การทจุ ริต ไมย่ อมรับการทุจริต 32 ม.1 – ม.6 UNDP ชดุ วิชาความละอาย
Thailand Anti – วินาที และความไม่ทน
Corruption ต่อการทุจรติ (B)
Animation
คอรปั ชัน
ฉนั ไม่ขอรบั
11 ขอทาน วีดโี อ คนทจุ ริตใหเ้ งนิ ขอทาน ขอทานไม่ยอมรบั 32 ม.1 – ม.6 ACT ชุดวชิ าความละอาย
เพราะคนนัน้ ทุจรติ วนิ าที และความไม่ทน
ต่อการทุจรติ (B)

สอื่ ทใ่ี ช้ประกอบชุดวิชาท่ี 3 STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ รติ

เรือ่ งที่ ช่อื สื่อการเรียนรู้ ประเภท เน้ือหาสาระ เวลา กล่มุ เปา้ หมาย แหล่งสื่อ หมายเหตุ QR Code
1 ภาพยนตรส์ ั้น วดี โี อ ตา ให้เงินกับหลาน 100 บาท เพ่ือไปซอื้ ข้าว 7.26 ป.1 – ม.6 https://www.youtub พอเพยี ง แบ่งปัน
โรงเรยี นคุณธรรม แต่เพ่อื นของหลานเอากลอ่ งดินสอมาอวดกัน นาที e.com/watch?v=uisz เกดิ ทกั ษะการคิด
สพฐ. เร่ือง เลอื ก ทาให้หลานอยากได้กลอ่ งดินสอ oeKyLjE ชุดวิชาSTRONG
จึงมีความคิดว่าจะนาเงนิ ทไี่ ด้ซอ้ื ข้าว จาก โรงเรยี น. (C)
หรอื ซอ้ื กล่องดินสอ วดั ศรีสุวรรณคงคาราม
จงั หวัด สมทุ รสงคราม

2 ตามรอยพ่อ วีดโี อ พลงั ความสามัคคีทาให้ผ่านพ้นวิกฤตได้ 37 ป.1 – ม.6 สานักงาน ป.ป.ช.
ขอทาดี วินาที
ตอน สามคั คี

3 การพึ่งตนเอง วีดโี อ ปลูกพชื เมืองหนาวแทนฝิ่น 1 นาที ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช. หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 121

เร่อื งท่ี ชื่อสื่อการเรียนรู้ ประเภท เนอื้ หาสาระ เวลา กลมุ่ เป้าหมาย แหล่งสื่อ หมายเหตุ QR Code หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 122
4 ความเสยี สละ วีดโี อ แพทย์อาสาในพน้ื ทท่ี รุ กันดาร 1 นาที ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.

5 ความอดทน วีดโี อ ปลกู กาแฟแทนการปลูกฝ่ินทาใหช้ ีวติ ดขี นึ้ 1 นาที ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.

6 การแกป้ ัญหา วีดโี อ การสรา้ งฝายอนรุ ักษ์ เพ่ือคืนสมดุลให้ 58 ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.
ด้วยปญั ญา ธรรมชาติ วนิ าที

7 เศรษฐกจิ วีดโี อ การรกั ษาป่าไม้ เพื่อเปน็ แหล่งอาหาร 1 นาที ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.
พอเพียง

เรอื่ งที่ ชื่อส่ือการเรียนรู้ ประเภท เนอื้ หาสาระ เวลา กลุ่มเป้าหมาย แหล่งส่ือ หมายเหตุ QR Code
8 การทางานดว้ ย วดี โี อ ตารวจจราจรช่วยทาคลอดบนท้องถนน 1 นาที ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.
ความรอบคอบ
(จติ อาสา)

9 ความไม่ วีดโี อ ห้องเรียน โตไปไม่โกง 1 นาที ป.1 –ป.6 สานักงาน ป.ป.ช.
เบยี ดเบียน
ไมเ่ อาเปรียบผ้อู ืน่

10 การตั้งม่นั ในศลิ วดี ีโอ การน่งั สมาธิ เพ่ือพัฒนาจิตใจ 1 นาที ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช. หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 123
มคี ณุ ธรรม

ส่ือทีใ่ ช้ประกอบชุดวิชาที่ 4 พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 124

เรื่องท่ี ชอื่ สื่อการเรยี นรู้ ประเภท เนอ้ื หาสาระ เวลา กลุ่มเปา้ หมาย แหล่งสอ่ื หมายเหตุ QR Code
1 รู้จกั หนา้ ท่ี วีดีโอ การไม่ตั้งใจทางาน โดยเลน่ อินเตอร์เนต/ 1.55 ป.4 – ม.6 https://www.you ใหค้ รเู ชื่อมโยง
โทรศพั ท์ในเวลาทางาน นาที tube.com/watch เหตุการณ์ทจุ รติ
?v=GATjrfppBBA เรื่องเวลา

จากกรมส่งเสริม
วฒั นธรรม

2 อดทน อดกลั้น วดี โี อ การขับรถแซงผู้อื่นไปมา และไมเ่ คารพกฎจราจร 1.55 ป.1 – ป.6 https://www.youtu
3 เคารพสิทธผิ ู้อื่น นาที be.com/watch?v=d
WmZDGYtE_k

จากกรมสง่ เสริม
วฒั นธรรม

วดี ีโอ วางกระถางต้นไม้ไว้บนกาแพงทก่ี ้ันระหวา่ ง 1.55 ปฐมวัย – ม. 6 https://www.you
บ้าน และรดน้าตน้ ไม้ ทาใหด้ ินไหลออกไป นาที tube.com/watch
เลอะบา้ นท่ีมกี าแพงติดกนั จึงต้องเปลี่ยนที่วาง ?v=bztZQ_hkkNs
ตน้ ไม้ใหม่
จากกรมสง่ เสรมิ
วฒั นธรรม

เร่อื งที่ ชอ่ื ส่ือการเรียนรู้ ประเภท เน้ือหาสาระ เวลา กลุ่มเปา้ หมาย แหล่งสือ่ หมายเหตุ QR Code
4 รทู้ นั กนั โกง วีดโี อ ความหมาย รปู แบบของการทุจริต 3.32 ป.4 – ม.6 สถาบัน ควรอยใู่ นชุด
ตอน ทุจรติ (ครตู ้องอธิบายเพิ่มเติม เลือกสอนวา่ จะสอน นาที พระปกเกลา้ ความละอายฯ
ทาลายชาติ เกีย่ วกับการทจุ รติ รูปแบบใด) และชดุ พลเมืองฯ
(B/D)

5 คอร์รปั ชนั วดี ีโอ ความเสยี หายจากการทุจรติ ทีเ่ กิดขึน้ ทางสงั คม 5 ม.1 – ม.6 วชิ าพลเมอื งฯ
เศรษฐกจิ นาที (D)
(ข้อมลู การประเมนิ เกา่ ไป (ซีพีไอ 2554)
แตส่ ว่ นอนื่ ยงั ใช้ได้ ครอู าจไปหากรณีอืน่ ๆ
มาเพ่ือสอนว่ามีความเสยี หายเกดิ ขน้ึ เท่าไร)
หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 125
6 ละครป้องกนั วดี ีโอ ตารวจ ทม่ี ีอุดมการณ์ในการทางาน ยดึ ม่ัน 23. ป.4 – ม.6 สานักงาน ป.ป.ช.
และปราบปราม ในส่ิงที่ถกู ตอ้ ง โดยจับกุมตารวจทีท่ าผดิ 59
การทจุ รติ ครใู ห้นักเรียนดภู าพยนตร์ แล้วใหเ้ ดก็ คดิ กบั นาที
คอรร์ ปั ชัน เรอื่ งท่ีดู และตัง้ คาถามให้เดก็ สะทอ้ นความคิด
ตอน โฉด เลว ดี ทเี่ กย่ี วกบั เรื่องท่ดี ู โดยคาถามต้องเหมาะกับ
ระดับช้นั ของเดก็ )

เร่อื งท่ี ช่อื ส่ือการเรยี นรู้ ประเภท เนื้อหาสาระ เวลา กลุ่มเปา้ หมาย แหล่งสอ่ื หมายเหตุ QR Code หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 126
7 หกั เหลีย่ ม วีดีโอ การทจุ ริตคอร์รปั ชันในการซื้อวสั ดกุ อ่ สร้างโดม 2.1 ป.4 – ม.3 สานกั งาน ป.ป.ช.
คอร์รปั ชนั นาที

8 God star ภาพยนตร์ การตดิ สินบนเจ้าหนา้ ทีเ่ วลาทาผิดกฎจราจร 5 ป.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.
สน้ั นาที

9 ผลลับ ภาพยนตร์ การลอกข้อสอบ แล้วอาจารย์จับได้ แล้วขอให้ 14.12 ม.4 – ม.6 สานักงาน ป.ป.ช.
ส้นั ผู้ปกครองเด็กจา่ ยเงิน เพ่ือแลกกับการใหเ้ ด็ก นาที
สอบผา่ นแต่ผูป้ กครองไมย่ อมจ่าย

เรอื่ งที่ ชื่อส่ือการเรียนรู้ ประเภท เน้ือหาสาระ เวลา กล่มุ เป้าหมาย แหล่งสื่อ หมายเหตุ QR Code
10 พระราชดารขิ อง วีดีโอ นักบนิ ฝนหลวง ตอ้ งบินผ่าเขา้ ไปในก้อนเมฆ ม.4 – ม.6 สานกั งาน ป.ป.ช.
ในหลวง เพ่ือทาฝนหลวงใหช้ าวบา้ น

11 กลโกงเลอื กตงั้ ขา่ ว การพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน เพื่อเวียนเทียน ม.4 – ม.6 สานกั ขา่ ว DNN
การเลือกตง้ั

หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 127

ผลการคดั เลอื กสอ่ื การเรียนรู้ หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 128

12 จานวน
10
8 B ความไมท่ นฯ C STRONG/จติ พอเพียงฯ D พลเมอื งฯ
6
4
2
0

A การคดิ แยกแยะฯ

สื่อทใี่ ช้ประกอบชุดวิชาท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม

เรื่องที่ ชอ่ื ส่ือการเรียนรู้ ประเภท กล่มุ เปา้ หมาย (ระดบั ชั้น) หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 129
1 Paoboonjin (รบั ทรัพยส์ ิน+เปน็ คูส่ ัญญา) วดี ีโอ
2 MOST –The Bridge v.2 ไทย วดี ีโอ ปฐมวัย ป. 1 - ป. 3 ป. 4 – ป. 6 ม. 1 - ม. 3 ม. 4 - ม. 6
3 แก้ทุจรติ คิดฐานสอง วดี ีโอ 
4 เตอื น ส่งั เก็บโต๊ะรา้ นผัดไทยประตผู ี ข่าว (วิดีทัศน์)
5 อวสานแผงคา้ รมิ ทางหลวง ล่ัน ภายใน 2 ปี รื้อเกลยี้ ง ข่าว 
6 แก้ไมจ่ บสแี่ ยกกล้วยแขกทารถติด-ผดิ กฎหมาย ข่าว 
7 ตะลึง เบญจมฯเมอื นคอน ขึ้นป้ายยกเลิกเด็กฝากเข้าเรียน ขา่ ว 
8 เดก็ โรงเรยี นเบญจมราชทู ิศ นครศรฯี คะแนนสอบสงู สุด ตดิ นเิ ทศฯจฬุ า ข่าว 
9 รทู้ นั การโกง ตอนผลประโยชน์ทับซอ้ น ภัยเงียบทาลายชาติ วดี ีโอ 





สอ่ื ที่ใช้ประกอบชุดวชิ าท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 130

เร่ืองท่ี ชื่อสื่อการเรียนรู้ ประเภท กล่มุ เป้าหมาย (ระดับชั้น)
1 รับสินบน วีดโี อ ปฐมวัย ป. 1 - ป. 3 ป. 4 – ป. 6 ม. 1 - ม. 3 ม. 4 - ม. 6
2 Bazaar วดี ีโอ
3 การเข้าแถวรับบรกิ าร วดี ีโอ 
4 โตไปไมโ่ กง ตอน โดนทั วดี โี อ 
5 โตไปไม่โกง ตอน สาวนักชอ้ ป วีดีโอ 
6 ความซ่อื สตั ย์ วีดโี อ 
7 นมิ นต์ยมิ้ เดล่ี คนดีไมค่ อร์รัปชัน วดี โี อ
ตอน แย่งที่ 
ตอน รบั ไม่ได้ วดี โี อ 
ตอน ทาบญุ บรู ณะวัด วดี ีโอ
8 นิมนต์ยมิ้ เดล่ี คนดีไม่คอร์รัปชัน วีดโี อ 
ตอน แป๊ะเจี้ย วีดีโอ 
ตอน ส่งเสริมลกู น้อง 
9 มือสะอาด ชาติไม่ลม่
10 UNDP Thailand Anti–Corruption 
Animation คอรปั ชัน ฉันไมข่ อรบั 
11 ขอทาน





สื่อทีใ่ ช้ประกอบชุดวชิ าท่ี 3 STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ ริต

เร่อื งท่ี ชือ่ ส่ือการเรียนรู้ ประเภท กล่มุ เป้าหมาย (ระดับชั้น) หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 131
1 ภาพยนตรส์ ั้น โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. เรื่อง เลอื ก วดี ีโอ ปฐมวยั ป. 1 - ป. 3 ป. 4 – ป. 6 ม. 1 - ม. 3 ม. 4 - ม. 6
2 ตามรอยพ่อขอทาดี ตอน สามัคคี วดี โี อ
3 การพึ่งตนเอง วดี โี อ 
4 ความเสียสละ วีดโี อ 
5 ความอดทน วดี ีโอ
6 การแกป้ ัญหาดว้ ยปัญญา วีดีโอ 
7 เศรษฐกิจพอเพียง วีดีโอ 
8 การทางานด้วยความรอบคอบ (จิตอาสา) วีดโี อ 
9 ความไม่เบียดเบียนไมเ่ อาเปรียบผู้อื่น วดี โี อ 
10 การต้งั ม่นั ในศิลมคี ุณธรรม วดี ีโอ 




สอ่ื ทใ่ี ช้ประกอบชดุ วิชาที่ 4 พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 132

เร่อื งท่ี ช่อื ส่ือการเรยี นรู้ ประเภท กล่มุ เปา้ หมาย (ระดับชั้น)
1 รู้จกั หนา้ ท่ี วดี โี อ ปฐมวยั ป. 1 - ป. 3 ป. 4 – ป. 6 ม. 1 - ม. 3 ม. 4 - ม. 6
2 อดทน อดกลนั้ วีดีโอ
3 เคารพสิทธิผูอ้ ่นื วดี ีโอ 
4 รทู้ นั กันโกง ตอน ทจุ รติ ทาลายชาติ วีดโี อ 
5 คอรร์ ปั ชัน วีดีโอ 
6 ละครป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ คอร์รัปชัน ตอน โฉด เลว ดี วีดโี อ
7 หกั เหล่ยี มคอร์รัปชนั วดี โี อ 
8 God star ภาพยนตร์สั้น 
9 ผลลับ ภาพยนตร์สน้ั
10 พระราชดารขิ องในหลวง วีดโี อ 
11 กลโกงเลอื กตั้ง ข่าว 






คาสงั่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.
ที่ 646/2560

เรื่อง แต่งตัง้ คณะอนกุ รรมการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้
ดา้ นการปอ้ งกันการทุจริต

----------------------------------------

ดว้ ย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชมุ ครั้งท่ี 855-26/2560 เม่ือวันท่ี 11 เมษายน 2560
ได้มีมตเิ ห็นชอบใหแ้ ตง่ ต้ังคณะอนกุ รรมการจัดทาหลกั สูตรหรอื ชุดการเรียนรูแ้ ละส่ือประกอบการเรยี นรู้ ดา้ นการป้องกัน
การทุจริต เพ่ือดาเนินการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรูแ้ ละสอ่ื ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกนั การทุจริต
สาหรับใช้เป็นเนื้อหามาตรฐานกลางให้สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องนาไปพิจารณาปรับใช้
ในการเรียนการสอนให้กับกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกระดับช้ันเรียน เพื่อปลูกฝังจิตสานึกในการแยกแยะ
ระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จิตพอเพียง และสร้างพฤตกิ รรมท่ีไมย่ อมรบั และไมท่ นต่อ
การทุจริต อันเป็นการดาเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3
(พ.ศ. 2560 – 2564) ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 “สร้างสงั คมไม่ทนต่อการทุจริต” กลยุทธ์ที่ 1 ปรบั ฐานความคิดทุกช่วงวัย
ตั้งแต่ปฐมวัยให้สามารถแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม และกลยุทธ์ท่ี 3
ประยุกตห์ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ เคร่อื งมือต้านทจุ ริต

ฉะน้ัน อาศัยอานาจตามมาตรา 19 (16) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2559 จึงขอแต่งตั้ง
คณะอนุกรรมการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต
โดยมอี งคป์ ระกอบ ดังนี้
1. รองศาสตราจารย์ ดร.มาณี ไชยธรี านวุ ัฒศริ ิ ประธานอนุกรรมการ
2. รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. อนุกรรมการ
(นายประหยดั พวงจาปา)
3. ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. อนุกรรมการ
(นายกติ ติ ลม้ิ พงษ์)
4. ผูช้ ว่ ยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. อนกุ รรมการ
(นายอุทิศ บัวศร)ี
5. ผอู้ านวยการสานักป้องกนั การทุจริตภาคการเมือง อนุกรรมการ
6. ผู้อานวยการสานักป้องกันการทุจรติ ภาครฐั วสิ าหกจิ อนุกรรมการ
และธุรกิจเอกชน
7. ผอู้ านวยการสานกั ป้องกนั การทจุ รติ ภาคประชาสังคม อนุกรรมการ
และการพฒั นาเครือขา่ ย

หลกั สูตรรายวิชาเพิ่มเตมิ “การป้องกันการทุจรติ ” : 134 อนุกรรมการ
อนกุ รรมการ
8. ผู้แทนสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร อนกุ รรมการ
(ด้านการสรา้ งหลกั สตู รและสื่อการเรยี นรู)้ อนุกรรมการ
อนุกรรมการ
9. ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน อนกุ รรมการ
(ดา้ นการสร้างหลกั สตู รและสื่อการเรียนร)ู้
อนกุ รรมการ
10. ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา อนุกรรมการ
(ดา้ นการสร้างหลกั สูตรและสื่อการเรียนร)ู้ อนุกรรมการ
อนกุ รรมการ
11. ผู้แทนสานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(ด้านการสรา้ งหลักสูตรและสื่อการเรียนร)ู้ อนกุ รรมการ

12. ผูแ้ ทนสานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา อนุกรรมการ
(ด้านการสรา้ งหลกั สูตรและส่ือการเรียนร)ู้ อนุกรรมการ
อนกุ รรมการ
13. ผแู้ ทนสานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและ อนุกรรมการ
การศึกษาตามอธั ยาศัย อนุกรรมการ
(ด้านการสรา้ งหลักสตู รและสื่อการเรียนร้)ู อนุกรรมการ
อนกุ รรมการ
14. ผแู้ ทนสานักงานลกู เสือแหง่ ชาติ อนุกรรมการและเลขานกุ าร
(ด้านการสร้างหลกั สูตรและส่ือการเรียนรู้)

15. ผู้แทนทปี่ ระชุมอธกิ ารบดีแห่งประเทศไทย
(ดา้ นการสรา้ งหลกั สูตรและส่ือการเรยี นรู้)

16. ผูแ้ ทนท่ีประชมุ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภฏั
(ดา้ นการสร้างหลักสูตรและสื่อการเรยี นรู้)

17. ผแู้ ทนคณะกรรมการอธิการบดีมหาวทิ ยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคล
(ด้านการสรา้ งหลักสูตรและส่ือการเรยี นร)ู้

18. ผู้แทนสถาบนั วิชาการป้องกันประเทศ
กองบัญชาการกองทัพไทย
(ด้านการสรา้ งหลกั สูตรและส่ือการเรียนรู)้

19. ผแู้ ทนกรมยทุ ธศกึ ษาทหารบก
(ดา้ นการสร้างหลกั สูตรและสื่อการเรียนรู้)

20. ผู้แทนกรมยุทธศกึ ษาทหารเรือ
(ดา้ นการสรา้ งหลักสตู รและสื่อการเรยี นรู้)

21. ผ้แู ทนกรมยุทธศึกษาทหารอากาศ
(ดา้ นการสรา้ งหลกั สูตรและสื่อการเรยี นร)ู้

22. ผแู้ ทนกองบัญชาการศึกษา สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ
(ด้านการสร้างหลกั สูตรและสื่อการเรียนรู้)

23. พลโท ดร.ชัยฤกษ์ แก้วพรหมมาลย์
24. นายเสฏฐนันท์ องั กรู ภาสวชิ ญ์
25. นายสเุ ทพ พรหมวาศ
26. ผูอ้ านวยการสานักป้องกนั การทุจริตภาครัฐ

หลักสตู รรายวิชาเพิ่มเตมิ “การป้องกนั การทุจรติ ” : 135

27. นายสมพจน์ แพ่งประสทิ ธิ์ ผชู้ ่วยเลขานุการ
28. นางสาวกัลยา สวนโพธ์ิ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร
29. นายสราวุฒิ เศรษฐกร ผู้ช่วยเลขานกุ าร
30. นายกาญจน์บณั ฑิต สนนชุ ผู้ชว่ ยเลขานกุ าร
31. นายเทอดภูมิ ทัศนพิมล ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร
32. นายธนวฒั น์ มะแม้น ผชู้ ่วยเลขานุการ

โดยคณะอนุกรรมการฯ มีอานาจหนา้ ท่ี ดังนี้
1. ศึกษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และ
สื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการปอ้ งกันการทุจรติ
2. กาหนดแนวทางและขอบเขตในการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบ
การเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ยุทธศาสตร์ที่ 1 “สร้างสังคมไมท่ นต่อการทุจริต”
3. พิจารณายกร่างและจัดทาเนื้อหาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้
ด้านการป้องกันการทุจริต โดยกาหนดโครงสร้างหลักสูตร วัตถุประสงค์ของหลักสูตร จุดประสงค์ของรายวิชา
เน้อื หาสาระ จัดระเบยี บ/ลาดับของเนอ้ื หาสาระ วิธกี ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ รวมทง้ั อน่ื ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง
4. พิจารณ าให้ความเห็นเพ่ิมเติมเก่ียวกับการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และ
ส่ือประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต เพ่ือให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมและสมบูรณ์ พร้อมทั้งนาเสนอ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบ ทัง้ น้ี ใหด้ าเนนิ การแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2560
5. กาหนดแผนหรือแนวทางการนาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้
ด้านการปอ้ งกันการทจุ รติ ไปใช้ในหนว่ ยงานที่เกี่ยวขอ้ ง
6. ดาเนินการอนื่ ๆ ตามท่ีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย

ท้ังน้ี ต้ังแต่บดั น้ีเป็นต้นไป

ส่งั ณ วนั ที่ 26 เดือน เมษายน พ.ศ. 2560

พลตารวจเอก
(วชั รพล ประสารราชกิจ)

ประธานกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

หลักสตู รรายวิชาเพ่ิมเตมิ “การป้องกนั การทจุ รติ ” : 136

รายชื่อคณะทางาน
จัดทาหลักสูตรหรือชดุ การเรียนรู้ และสือ่ ประกอบการเรยี นรู้

ดา้ นการป้องกนั การทจุ ริต กลุ่มการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
--------------------------------

ท่ีปรึกษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
1. นายบญุ รกั ษ์ ยอดเพชร รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน
2. นางสาวอุษณีย์ ธโนศวรรย์ ผ้อู านวยการสานักพฒั นานวตั กรรมการจดั การศึกษา
3. นายสรุ ศกั ดิ์ อนิ ศรีไกร รกั ษาการในตาแหนง่ ทป่ี รึกษา ดา้ นนโยบายและแผน
4. นายอุทศิ บัวศรี สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
ผู้ชว่ ยเลขาธิการคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ

คณะทางาน

กลุ่มท่ี 1 หลักสูตรปฐมวยั ครู โรงเรยี นอนบุ าลเสาไห้ สพป.สระบรุ ี เขต 1
1. นางธารณี พรมหนู
2. นางสมบัตร สบื ศักด์ิ ครู โรงเรียนอนบุ าลบ่อพลอย สพป.กาญจนบรุ ี เขต 4
3. นางสาวนภสั สร ภิรมย์รกั ษ์ ครู โรงเรียนอนบุ าลบอ่ พลอย สพป.กาญจนบรุ ี เขต 4
4. นางสาวลกั ขณา โคบุตร ครู โรงเรยี นอนุบาลบอ่ พลอย สพป.กาญจนบรุ ี เขต 4
5. นางสมใจ จีนเทห่ ์ ครู โรงเรียนวดั เก้าชง่ั สพป.สิงหบ์ ุรี
6. นางสาวกชกร จีนเทห์ ครู โรงเรยี นวดั ระนาม สพป.สงิ ห์บุรี
7. นางสพุ กิ า ต้นสอน ครู โรงเรยี นวดั บา้ นปอ้ งน้อย สพป.ราชบุรี เขต 2
8. นายพฒั นา พวงมาลี ครู โรงเรียนอนบุ าลเดมิ บางนางบวช (วัดท่าชา้ ง) สพป.สพุ รรณบุรี เขต 3
9. นางสุภคั ษร พรอุดมประเสริฐ ครู โรงเรียนวดั บ่อกรุ “คุรุประชาสรรค์” สพป.สพุ รรณบรุ ี เขต 3
10. นางฐิติพร ศรแี จม่ ครู โรงเรียนวัดบ่อกรุ “ครุ ุประชาสรรค์” สพป.สพุ รรณบุรี เขต 3
11. นางอารยี ์วรรณ เขม็ เงิน ครู โรงเรยี นวดั นา้ พุ สพป.สุพรรณบุรี เขต 3

กลมุ่ ที่ 2 หลักสตู รประถมศึกษาตอนตน้
1. นางสาวสภุ สั สร สภุ าพ ครู โรงเรียนชลประทานอนุเคราะห์ สพป.พระนครศรอี ยุธยา เขต 1
2. นางสาวกนกนพ วรฏั ธร ครู โรงเรยี นชลประทานอนุเคราะห์ สพป.พระนครศรีอยธุ ยา เขต 1
3. นางอารี พวงวรินทร์ ผู้อานวยการโรงเรียนวดั ทงุ่ คอก (สวุ รรณสาธุกิจ) สพป.สุพรรณบรุ ี เขต 2
4. นางละเอยี ด สะอง้ิ ทอง ครู โรงเรยี นวดั ทงุ่ คอก (สุวรรณสาธกุ ิจ) สพป.สพุ รรณบุรี เขต 2
5. นางสาวเรณู กุศลวงษ์ ครู โรงเรยี นอนุบาลวดั อ่างทอง สพป.อา่ งทอง
6. นางสจุ ริ า อาบู ครู โรงเรียนบา้ นนาดา สพป.นราธวิ าส เขต 1
7. นางสาววไิ ลวรรณ ทองไหม ครู โรงเรียนเมอื งนราธวิ าส สพป.นราธิวาส เขต 1
8. นางสาวนิตยา อาหมาด ครู โรงเรยี นบา้ นมะนงั กาหยี สพป.นราธวิ าส เขต 1
9. นางสาวกัสมานี มามะ ครู โรงเรยี นบา้ นบือเจ๊าะ สพป.นราธวิ าส เขต 1
10. นางสาวนิสริน เทพลกั ษณ์ ครู โรงเรียนบ้านโคกพนอม สพป.นราธิวาส เขต 1

หลกั สตู รรายวชิ าเพิม่ เติม “การปอ้ งกันการทจุ ริต” : 137

- 135 -

11. นายยูกิฟลี มาหะ ครู โรงเรียนบา้ นฮูแตยือลอ สพป.นราธวิ าส เขต 1
12. นางสาวซาฮาเราะ เจะยิ ครู โรงเรยี นบา้ นยือสาแม สพป.นราธวิ าส เขต 1
กลุ่มท่ี 3 หลกั สตู รประถมศกึ ษาตอนปลาย
1. นายกติ ติพงศ์ ศรัทธาวาณชิ ย์ ผูอ้ านวยการโรงเรียนวัดนางแกว้ สพป.ราชบรุ ี เขต 2
2. นางพรทิพย์ อิม่ ศลิ ป์ ครู โรงเรยี นวัดสมถะ (สมถวทิ ยาคาร) สพป.ราชบุรี เขต 2
3. นางอจั ฉราวดี บญุ โต ครู โรงเรียนวดั นางแก้ว สพป.ราชบุรี เขต 2
4. นางสาวศิริเพ็ญ จันทรท์ อง ครู โรงเรยี นวัดนางแกว้ สพป.ราชบรุ ี เขต 2
5. นางสาวเสาวรส แสนแซว ครู โรงเรียนวดั นางแก้ว สพป.ราชบุรี เขต 2
6. นางสมพร คานุช ครู โรงเรียนวดั นางแกว้ สพป.ราชบรุ ี เขต 2
7. นางรุสนานี ยะโกะ๊ ครู โรงเรียนบ้านกวู า สพป.นราธวิ าส เขต 1
8. นางซเี ตาะห์ นมิ ะ ครู โรงเรยี นบา้ นยะหอ สพป.นราธิวาส เขต 1
9. นางสุนทรี ทองชติ ร์ ครู โรงเรยี นสายนา้ ทพิ ย์ สพป.กรงุ เทพมหานคร
10. นางสาวพชิ ญดา ไชยดี ครู โรงเรียนสายน้าทิพย์ สพป.กรงุ เทพมหานคร
11. นางสาวศศิธร คานงึ ครู โรงเรยี นสายน้าทิพย์ สพป.กรุงเทพมหานคร
12. นางสาวณิชนันทน์ สุวรรณาภยั ครู โรงเรียนสายน้าทพิ ย์ สพป.กรุงเทพมหานคร

กลุม่ ท่ี 4 หลกั สูตรมธั ยมศึกษาตอนต้น
1. นางสาวสธุ ีรา ศริ พิ ิรุณ ครู โรงเรียนวดั นางแก้ว สพป.ราชบุรี เขต 2
2. นางสลติ ตา มะโนวฒั นา ครู โรงเรียนวัดนางแกว้ สพป.ราชบุรี เขต 2
3. นางทิวาพร อุณยเกียรติ ครู โรงเรียนวัดดอนกระเบ้ือง สพป.ราชบรุ ี เขต 2
4. นางสาววรรณดี ศรีอนิ สวัสด์ิ ครู โรงเรยี นชมุ ชนวัดบา้ นเลอื ก สพป.ราชบรุ ี เขต 2
5. นางสาวฉวีวรรณ หอธรรมกลุ ครู โรงเรียนบ้านลาดวถิ ี สพป.ประจวบครี ขี ันธ์ เขต 2
6. นางสาวชนาธิป เทยี นวรรณ ครู โรงเรียนบา้ นตะพานหนิ (ประชาสามคั ค)ี สพป.ชัยนาท
7. นายวิทยา ศริ ดิ ารง ครู โรงเรยี นบา้ นไพรนกยงู (วนั ชัยประชาสรรค)์ สพป.ชัยนาท
8. นางสาวขจร สงั ขป์ ระเสริฐ ครู โรงเรยี นบ้านหนองตอ่ สพป.ชัยนาท
9. นายเมธา สรุ ะจติ ร ครู โรงเรียนวัดบางปนู สพป.สิงห์บรุ ี
10. นายนพรตั น์ บญุ อน้ ครู โรงเรียนบ้านบอ่ กะปุง สพป.นครสวรรค์ เขต 2
11. นางสาวบษุ ยพรรณ พรหมวาทย์ จนั ทรา ครู โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี สพม. เขต 2
12. นางสาวลักษิกา มกี ศุ ล ครู โรงเรียนสาคลวี ทิ ยา สพม. เขต 3

กลุ่มท่ี 5 หลักสูตรมธั ยมศึกษาตอนปลาย
1. นายภธู ร จนั ทะหงษ์ ปุณยจรสั ธารง ผู้อานวยการกล่มุ วจิ ัยและพัฒนาองค์กรแหง่ การเรยี นรู้ สนก.
2. นายจกั รพงษ์ วงค์อา้ ย นักวิชาการศึกษา สนก.
3. นายฐาปณัฐ อุดมศรี นกั วิชาการศกึ ษา สนก.
4. นายศภุ กร มรกต ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป.ราชบุรี เขต 2
5. นายสพลกิตติ์ สงั ข์ทพิ ย์ ครู โรงเรยี นตากฟา้ วิชาประสิทธิ์ ช่วยราชการ สนก.
6. นางสาวพรรณราย ธนสัตย์สถิตย์ ครู โรงเรียนเสาไห้ “วมิ ลวทิ ยานุกลู ” สพม. เขต 4
7. นายวรินทร ตนั ตริ ตั น์ ครู โรงเรียนหนองแคสรกจิ วทิ ยา สพม. เขต 4
8. นางเยาวลกั ษณ์ หงส์หิรัญเรือง ครู โรงเรียนสายนา้ ผ้งึ ในพระอุปถมั ภ์ สพม. เขต 2

หลกั สูตรรายวิชาเพ่มิ เติม “การปอ้ งกนั การทจุ ริต” : 138

9. นางสาวขวัญวภิ า ภูแ่ ส ครู โรงเรยี นอินทรบ์ ุรี สพม. เขต 5
10. นายธรรมสรณ์ สุศิริ ครู โรงเรยี นอนิ ทร์บรุ ี สพม. เขต 5
11. นางสาววิภา ทวีวงศ์ ครู โรงเรยี นชมุ ชนวัดใหญโ่ พหกั สพป.ราชบุรี เขต 2
12. นางสาวดวงจันทร์ บัวเบา ครู โรงเรียนชุมชนวดั ใหญโ่ พหัก สพป.ราชบรุ ี เขต 2

คณะทางานสว่ นกลาง
1. นายไชยวัฒน์ สุคนั ธวภิ ัติ ข้าราชการบานาญ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
2. นางสาธพุ ร สุคนั ธวภิ ตั ิ ข้าราชการบานาญ กระทรวงศึกษาธิการ
3. นางสาวสรรเสรญิ สวุ รรณ์ ข้าราชการบานาญ กระทรวงศึกษาธกิ าร
4. นางสุณสิ าห์ ม่วงคราม ข้าราชการบานาญ กระทรวงศึกษาธิการ
5. นางสจุ ิตรา พชิ ัย เจ้าพนกั งานธุรการชานาญงาน สนก.
6. นางสาวณัฐรดา เนตรสวา่ ง นกั จัดการงานทั่วไป สนก.
7. นางสาวมณฑาทิพย์ ศิรสิ ุมทมุ นักจดั การงานทั่วไป สนก.
8. นางสาวศรัญญา โชติ พนกั งานบนั ทกึ ขอ้ มลู สนก.
9. นายสหสั พล ษรบัณฑิต เจ้าหนา้ ท่ีบรหิ ารทว่ั ไป สนก.
10. นายภรู ติ ะ ปราศกาเมศ เจา้ หนา้ ทบ่ี รหิ ารทั่วไป สนก.
11. นางสาวอรอมุ า เสือเฒ่า เจ้าหนา้ ทบี่ ริหารทัว่ ไป สนก.

***************************

หลกั สตู รรายวชิ าเพ่ิมเติม “การปอ้ งกันการทจุ ริต” : 139

รายชอื่ คณะบรรณาธกิ ารกจิ
หลกั สตู รหรือชุดการเรยี นรู้และสอื่ ประกอบการเรยี นรู้
ดา้ นการปอ้ งกันการทุจรติ กลมุ่ การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน

--------------------------------

ทปี่ รึกษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน
1. นายบุญรกั ษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน
2. นางสาวอุษณยี ์ ธโนศวรรย์ ผ้อู านวยการสานกั พฒั นานวตั กรรมการจัดการศึกษา
3. นายสุรศกั ดิ์ อนิ ศรไี กร รักษาการในตาแหน่งที่ปรกึ ษา ดา้ นนโยบายและแผน
4. นายอทุ ิศ บวั ศรี สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน
ผชู้ ่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ

คณะทางาน ข้าราชการบานาญ กระทรวงศึกษาธิการ
1. นางสาวสรรเสรญิ สวุ รรณ์ ขา้ ราชการบานาญ กระทรวงศึกษาธกิ าร
2. นางจานงค์ ศรมี ังกร ศึกษานิเทศก์ ศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั ชัยนาท
3. นายธนบดีพิพัฒน์ ดานิล ศึกษานิเทศก์ สพป.พิษณุโลก เขต 3
4. นางณฐั พร พว่ งเฟ่อื ง ศกึ ษานิเทศก์ สพป.ราชบุรี เขต 2
5. นายศุภกร มรกต ศกึ ษานิเทศก์ สพป.อุดรธานี เขต 1
6. นายวนิ ัย อสณุ ี ณ อยุธยา ศึกษานเิ ทศก์ สพป.มหาสารคาม เขต 3
7. นายณฐั พล ค้มุ วงศ์ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป.นนทบุรี เขต 2
8. นางเพ็ญจา เสมอเหมอื น ศึกษานิเทศก์ สพม. เขต 17
9. นางบงั อร ควรประสงค์ ผู้อานวยการโรงเรยี นสายนา้ ทพิ ย์ สพป.กรุงเทพมหานคร
10. นางนิรมล บัวเนยี ม ผ้อู านวยการโรงเรียนบา้ นหนองปลาตอง (ประชาวิทยาคาร)
11. นายวชริ เมษฐ์ บารงุ ผดุงวทิ ย์ สพป.สกลนคร เขต 1
12. นายไกรสร พมิ พป์ ระชา ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านแบง สพป.หนองคาย เขต 2
13. นายธนกฤติ พรมบตุ ร ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านโคกเฟอื ง สพป.บุรีรมั ย์ เขต 3
14. นายบณุ ยพงศ์ โพธิวัฒนธ์ นัต ผู้อานวยการโรงเรียนบางมดวิทยา “สีสกุ หวาดจวนอุปถัมภ์” สพม. เขต 1
15. นางนนั ทนา ชมชน่ื ผู้อานวยการโรงเรียนผกั ไห่ “สุทธาประมขุ ” สพม. เขต 3
16. นางสาวปิยนุช เป่ยี มวิริยวงศ์ ผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้ารบั รอ่ สพป.ชุมพร เขต 1
17. นางทพิ าภรณ์ หญีตศรคี า ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นหินกบ สพป.ชมุ พร เขต 1
18. นางสจุ ติ รา จรรยา ครู โรงเรยี นอนุบาลลพบรุ ี สพป.ลพบรุ ี
19. นางสาวภณั ฑลิ า บ้านด่าน ครู โรงเรยี นคชิ ฌกูฏวทิ ยา สพม. เขต 17
20. นางสุวรรณี ศักดช์ิ ยั สมบรู ณ์ ครู โรงเรียนวดั บางปนู สพป.สิงหบ์ รุ ี
21. นางลัดดา คาวิจิตร ครู โรงเรยี นวดั โบสถ์ สพป.สิงหบ์ รุ ี
22. นางสาวชัญญานชุ รัตนวชิ ยั ครู โรงเรียนบางมดวทิ ยา “สีสกุ หวาดจวนอุปถัมภ์” สพม. เขต 1

หลกั สูตรรายวชิ าเพิม่ เตมิ “การป้องกันการทุจริต” : 140

23. นางสาวอรสา อิษฐเจริญ ครู โรงเรียนบางมดวิทยา “สีสกุ หวาดจวนอปุ ถมั ภ์” สพม. เขต 1
24. นางสาวรัตนากร ศรีคณุ ครู โรงเรยี นบางมดวทิ ยา “สสี กุ หวาดจวนอปุ ถัมภ์” สพม. เขต 1
25. นางสาวกญั ญาพชั ร หมู่ม่วง ครู โรงเรยี นบางมดวทิ ยา “สสี ุกหวาดจวนอุปถมั ภ์” สพม. เขต 1
26. นางสาวประภาลักษณ์ เพยี มะ ครู โรงเรยี นบางมดวิทยา “สสี กุ หวาดจวนอุปถัมภ์” สพม. เขต 1
27. นางสาวณัฐทติ า รักษา ครู โรงเรียนบางมดวิทยา “สีสกุ หวาดจวนอุปถมั ภ์” สพม. เขต 1
28. นางสาวเบญจวรรณ ศริ ิหัตถ์ ครู โรงเรียนบางมดวิทยา “สสี ุกหวาดจวนอุปถัมภ์” สพม. เขต 1
29. นางสาวรังสิมา ไกรนรา ครู โรงเรยี นบางมดวิทยา “สสี ุกหวาดจวนอุปถัมภ์” สพม. เขต 1
30. นางสาวสวุ รรณี สมประเสริฐ ครู โรงเรียนบางมดวิทยา “สีสุกหวาดจวนอปุ ถมั ภ์” สพม. เขต 1
31. นายบรบิ รู ณ์ พรหมสว่าง ครู โรงเรยี นบางมดวิทยา “สีสกุ หวาดจวนอปุ ถัมภ์” สพม. เขต 1
32. นางนติ ยา ภริ มยก์ จิ นกั ทรัพยากรบคุ คล สพร.
33. นายภธู ร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธารง ผูอ้ านวยการกลุ่มบรหิ ารทัว่ ไป สนก.
34. นายจกั รพงษ์ วงคอ์ ้าย นกั วชิ าการศึกษา สนก.
35. นายสพลกติ ติ์ สงั ข์ทพิ ย์ ครู โรงเรยี นตากฟา้ วชิ าประสิทธ์ิ ชว่ ยราชการ สนก.
36. นายฐาปณฐั อดุ มศรี นักวิชาการศกึ ษา สนก.
37. นางสุจิตรา พชิ ยั เจา้ พนักงานธรุ การ สนก.
38. นางสาวณัฐรดา เนตรสวา่ ง นักจดั การงานทว่ั ไป สนก.
39. นางสาวศรัญญา โชติ พนกั งานบนั ทกึ ขอ้ มลู สนก.
40. นายสหัสพล ษรบณั ฑิต เจ้าหนา้ ท่ีบริหารท่วั ไป สนก.
41. นางสาวอรอมุ า เสือเฒ่า เจ้าหน้าทบ่ี รหิ ารทั่วไป สนก.

***************************

หลกั สตู รรายวิชาเพม่ิ เติม “การปอ้ งกนั การทจุ รติ ” : 141

รายชื่อคณะผู้ประสานงาน
การจดั ทาหลักสูตรหรือชดุ การเรยี นรแู้ ละส่อื ประกอบการเรยี นรู้

ด้านการป้องกนั การทจุ ริต กลุ่มการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน
สานกั งาน ป.ป.ช.

--------------------------------

ที่ปรึกษา

1. นายวรวิทย์ สุขบญุ เลขาธกิ ารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ
2. นายประหยัด พวงจาปา รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ
3. นายกิตติ ลิม้ พงษ์ ผู้ช่วยเลขาธกิ ารคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ
4. นายอุทิศ บวั ศรี ผู้ชว่ ยเลขาธิการคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ
5. นางสาวจินตนา พลอยภัทรภิญโญ ผู้อานวยการสานกั ป้องกันการทุจริตภาครัฐ

คณะผ้ปู ระสานงาน เจ้าพนกั งานปอ้ งกนั การทุจรติ ชานาญการพเิ ศษ
1. นายสมพจน์ แพ่งประสิทธ์ิ เจา้ พนักงานปอ้ งกนั การทจุ ริตชานาญการ
2. นายสราวุฒิ เศรษฐกร เจ้าพนกั งานปอ้ งกนั การทุจริตชานาญการ
3. นายธนวฒั น์ มะแมน้ เจ้าพนกั งานป้องกนั การทจุ รติ ปฏบิ ัตกิ าร
4. นายณฐั พงศ์ มณีจกั ร์ นกั ศกึ ษาฝึกงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
5. นางสาวจิดาภา แสงหริ ัญ นักศึกษาฝกึ งาน มหาวิทยาลยั ราชภฏั จันทรเกษม
6. นางสาววลั ภา บญุ ชู

***************************


Click to View FlipBook Version