The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 ปี 2563
โดยกลุ่มบริหารงานทั่วไป กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thailand Tourism Satellite Account: TSA, 2021-08-21 01:09:04

รายงานภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 ปี 2563

รายงานภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 ปี 2563
โดยกลุ่มบริหารงานทั่วไป กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

Keywords: Tourism Economic Review,รายงานภาวะเศรษฐกิจการท่องเที่ยว,Cuture,Creative

สูตรส�ำเรจ็ จาก

“ตลาดโอ๊ะปอ่ ย”

ตลาดเชา้ รมิ ธารล�ำน้�ำภาชีเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ส�ำหรับผูม้ าเยือน จงั หวัดราชบุรี กลายเป็นสถานท ่ี
พักผอ่ นสมกบั ความหมายตามภาษากะเหรยี่ งอนั เป็นชอ่ื ของตลาด เ ปิดบรกิ ารทกุ วนั เสาร-์ อาทติ ย ์ แ ละวนั หยดุ
ต่อเนื่อง ต้งั แต่ 07.00-14.00 น.

โซนตา่ ง ๆ ในตลาดมีอะไรบา้ ง... 4 ลานกิจกรรมงาน
Art และ DIY
1 พื้นท่กี ิจกรรมกลาง 2 แครไ่ ม้ไผ่นง่ั พักผอ่ น 3 รา้ นขายอาหาร

กิจกรรมไม่ควรพลาด 1 2 3

• ตักบาตรพระล่องแพ
• ผ่อนคลายใตร้ ่มไมแ้ ละถา่ ยรูปกับคังด้ง
• จบั จ่ายสินค้าในตลาด

กญุ แจสู่ความสำ� เรจ็

12 345

เขา้ ใจกลุ่มเปา้ หมาย ทุกภาคส่วนร่วมมือ วัฒนธรรมองค์กร ระบบบริหารจัดการ การส่อื สารเป็นระบบ

นำ� เสนอจดุ ขายทชี่ ดั เจน กัน ท่ดี ี ไดม้ าตรฐาน ด้วยการสร้างเรื่องราว

คือ การเรียนรู้วิถีชีวิต ทั้งสถานการศึกษา วัด คิ ด เ ชิ ง บ ว ก ท� ำ เ พ่ื อ ด้ า น บ ริ ห า ร บุ ค ล า ก ร ท่ี มี คุ ณ ค่ า ทั้ ง ร ะ บ บ

ของชุมชน การเคารพ ชุมชน ภาครฐั ทอ้ งถิ่น ส่วนรวม รักในสิง่ ท่ที ำ� บรหิ ารพนื้ ที่ การหารายได้ ออนไลน์และออฟไลน ์

ธรรมชาติ และศรัทธา และสมาคมธรุ กจิ ทอ่ งเทยี่ ว รกั องคก์ รและพวกพ้อง บริหารการเงนิ และการ และเขา้ ถงึ กลมุ่ เปา้ หมาย

ในพระพุ ทธศาสนา สวนผึ้ง มุ่ ง พั ฒ น า ศั ก ย ภ า พ ส ร้ า ง น วั ต ก ร ร ม ท า ง ผ่านเครือข่ายสมาคม

ตลอดเวลา การท่องเที่ยว ทอ่ งเที่ยวสวนผึง้ และ

เครอื ข่ายอื่น ๆ

หลักการทอ่ งเที่ยวอยา่ งยง่ั ยืนของโอ๊ะปอ่ ย

ดา้ นสงั คม ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม
สร้างการแบ่งปัน รัก สามัคคี ผลักดัน ใ ห้ สิ ท ธิ์ เ ฉ พ า ะ ค น ใ น พื้ น ท่ี แ ล ะ ต้ อ ง ข า ย ดูแลธรรมชาติให้สมบูรณ์ จัดการขยะ
การพัฒนาศักยภาพตน ร ักษาวิถีชีวิต สนิ คา้ ทไี่ มซ่ ำ้� กนั ใ หค้ นในพนื้ ทเ่ี ปน็ เจา้ หนา้ ที่ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพรว่ มมอื กบั หนว่ ยงาน
และภมู ใิ จในวฒั นธรรมตน ใ น ต ล า ด แ ล ะ ใ ห้ ค่ า ต อ บ แ ท น ที่ คุ้ ม ค่ า ตา่ ง ๆ ทง้ั ภาครฐั เอกชน และชมุ ชน

กระจายรายไดส้ พู่ ื้นทใ่ี กลเ้ คยี งการรบั ชว่ ง

จ้างผลิตและฝากขายสินค้าเพ่ิมจ�ำนวน
นักท่องเที่ยวเพื่ อการเพิ่ มมูลค่าทาง
เศรษฐกจิ

Tourism Economic Review 49

ทอ่ งเทย่ี วเชงิ สรา้ งสรรค์ กบั กรณศี ึกษา 2. การเคารพธรรมชาติ แมป้ ระเทศไทยจะมแี หลง่ ทอ่ งเทยี่ ว
50 Tourism Economic Review ทางธรรมชาติท่ีหลากหลาย ทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
แต่ยังมีความเส่ียงในด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อาจจะ
ทรุดโทรมลงจากการท่องเท่ียวนั้นได้เช่นกัน เหตุหลักเกิดจากการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่มีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ อีกท้ัง
นกั ทอ่ งเทย่ี วนนั้ กใ็ ชท้ รพั ยากรอยา่ งสนิ้ เปลอื ง ทำ� ใหท้ รพั ยากรทรดุ โทรม
และถูกท�ำลายไป โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวท่ีอยู่ในกระแสนิยม
ที่นักท่องเที่ยวโดยส่วนมากจะให้ความสนใจ ก่อให้เกิดการเพ่ิมการ
เข้ามาของนักท่องเที่ยวสู่แหล่งท่องเท่ียวเป็นจ�ำนวนมาก ในขณะท่ี
ทรัพยากรด้านการท่องเท่ียวหรือตัวแหล่งท่องเท่ียวมีความสามารถ
ในการรองรบั อยอู่ ยา่ งจำ� กดั ยงั ผลทางดา้ นลบทง้ั ในแงม่ มุ ของชมุ ชน และ
ส่ิงแวดล้อมที่เส่ือมโทรมลง และและผลสุดท้ายในแง่มุมของ
นกั ทอ่ งเทยี่ วเองทอ่ี าจจะไดร้ บั ประสบการณก์ ารทอ่ งเทยี่ วทไ่ี มป่ ระทบั ใจ
ตามท่ีคาดหวังไว้ เป็นผลให้ไม่อยากกลับมาเท่ียวในแหล่งท่องเท่ียว
แหง่ นอี้ กี ดงั นนั้ โอะ๊ ปอ่ ย จงึ ใหค้ วามสำ� คญั กบั การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาติ
รว่ มกนั ดแู ลสงิ่ แวดลอ้ ม โดยหนา้ ทกี่ ารดแู ลนน้ั ไมเ่ พยี งจำ� กดั แคค่ นในพนื้ ท่ี
แตร่ วมถงึ นกั ทอ่ งเทย่ี วผมู้ าเยอื นดว้ ย
จุดเด่นที่สองของ โอ๊ะป่อย ในการเคารพธรรมชาติน้ัน เร่ิมต้น
จากแนวคิดในการพัฒนาครั้งแรกโดยสร้างรูปแบบการจัดการของ
แหล่งท่องเที่ยวให้ค�ำนึงถึงส่ิงแวดล้อมมากที่สุด เน่ืองจากท่ีตั้งของ
แหล่งท่องเท่ียวน้ีมีต้นไม้อยู่จ�ำนวนมาก ทั้งอยู่ติดล�ำธารเป็นพื้นที่ทาง
ธรรมชาตทิ ม่ี คี วามรม่ รนื่ ดงั นน้ั การจดั วางพน้ื ทร่ี า้ นคา้ และพน้ื ทพ่ี กั ผอ่ น
ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั บรรยากาศของธรรมชาติ สนิ คา้ ทขี่ ายกเ็ นน้ เปน็ สนิ คา้
จากธรรมชาติ ภาชนะตา่ ง ๆ ทบ่ี รรจสุ นิ คา้ นน้ั จะเปน็ ภาชนะทย่ี อ่ ยสลาย
ได้ง่าย ผู้ขายในแหล่งท่องเท่ียวแห่งน้ีจะมีวินัยที่ปฏิบัติร่วมกันคือการ
รับฝากขยะจากนักท่องเที่ยว โดยทุกร้านค้าจะติดป้ายรับฝากขยะ
ซงึ่ นกั ทอ่ งเทย่ี วจะสามารถเอาขยะไปฝากทรี่ า้ นใดกไ็ ด้ โดยชมุ ชนไดเ้ รยี นรู้
ไดด้ ว้ ยตนเองวา่ เขาตอ้ งรกั ษาพนื้ ท่ี รกั สงิ่ แวดลอ้ ม และจดั การดว้ ยตวั เอง
สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เมอื่ เกดิ การแบง่ ขยะไปตามรา้ นคา้ และรา้ นคา้ นนั้ จะเกบ็ ขยะ
ของตวั เองไปจดั การทบ่ี า้ นตวั เอง เปน็ การกระจายขยะ ไมใ่ หภ้ าระลงมา
ทใี่ ดทห่ี นงึ่ มากจนเกนิ ไป นอกจากนแี้ ตล่ ะรา้ นคา้ จะตอ้ งรบั ผดิ ชอบการ
ดแู ลรกั ษาความสะอาดบรเิ วณรอบรา้ นตนเองอยเู่ สมอ เปน็ การสรา้ งการมี
ส่วนร่วมของการดูแลพื้นที่จริง ๆ ไม่ใช่แค่คนในชุมชน รวมถึงการฝึก
เด็กนักเรียนโรงเรยี นในพื้นทีใ่ ห้เดนิ ดูแลพน้ื ท่คี อยเก็บขยะในจดุ ตา่ ง ๆ
รวมถงึ เดนิ เกบ็ จากนกั ทอ่ งเทยี่ ว และนำ� ไปคดั แยกตอ่ ณ จดุ คดั แยกขยะ
นกั เรยี นนอกจากไดร้ ายได้ ยงั ไดเ้ รยี นรู้ ปลกู จติ สำ� นกึ ความสำ� คญั ของ
การดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม ตง้ั แตย่ งั เดก็ สรา้ งแนวคดิ ของการอนรุ กั ษพ์ น้ื ท่ี
ของตนเมอ่ื เตบิ โตขน้ึ และไมเ่ พยี งแตช่ มุ ชนเทา่ นน้ั ทจี่ ะตอ้ งดแู ลรกั ษาพนื้ ที่
นักท่องเที่ยวก็เช่นกันท่ีต้องมีส่วนร่วมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และ
การจดั การขยะของตนเอง โดยทางแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วเองจะมกี ารสง่ เสรมิ
และสอื่ สารในการจดั การขยะและสง่ิ แวดลอ้ มใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ วทม่ี าเยอื น
เพอ่ื ปลกู ฝงั แนวคดิ การรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มในพนื้ ทที่ อ่ งเทยี่ วตอ่ ไป นอกจากนี้
โอะ๊ ปอ่ ย ยงั เสนอกจิ กรรมทแ่ี สดงถงึ ความเคารพธรรมชาติ ผา่ นการเลา่
เรอื่ งราวของสายนำ�้ ลำ� ภาชี ทถี่ อื เปน็ สายนำ้� ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ มเี รอื่ งราวสบื ตอ่ มา
ในชุมชน โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเท่ียวได้น�ำน้�ำจากสายน�้ำล�ำภาชีมา
รดน้�ำต้นผึ้ง “ม่ังมี” และ “ศรีสุข” ซ่ึงเป็นต้นไม้ประจ�ำอ�ำเภอสวนผึ้ง
เพอ่ื ความเปน็ สริ มิ งคล และแสดงถงึ ความรกั ในธรรมชาตอิ กี ดว้ ย

โอ๊ะป่อย นำ�เสนอวิถีชีวติ ท้องถ่นิ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการการหาประสบการณ์ท่ีแปลกใหม่
ของชุมชนผ่านกจิ กรรมการ ไดเ้ รยี นรจู้ ากการไดม้ สี ว่ นรว่ ม สรา้ งทกั ษะประสบการณจ์ ากการลงมอื
ทอ่ งเทีย่ วในแหลง่ ท่องเที่ยวแห่งน้ี ทำ� ดว้ ยตนเอง
เพื่อให้นกั ท่องเที่ยวทีม่ าเที่ยวเกิด อย่างไรก็ตามนอกจากมีจุดเด่นท่ีสามารถเป็นจุดขายในการดึงดูด
การเรียนรูว้ ิถชี มุ ชนเพิ่มมากขึน้ นักท่องเท่ียวกลุ่มเป้าหมายแล้ว การจะสร้างความส�ำเร็จให้แก่
แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วนน้ั ปจั จยั สำ� คญั อกี สงิ่ หนงึ่ ท่ี โอะ๊ ปอ่ ย แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว
3. การเรยี นรวู้ ถิ ชี มุ ชน เนอ่ื งดว้ ยแตล่ ะชมุ ชนมคี วามแตกตา่ ง แห่งน้ี ได้ให้ความส�ำคัญไม่น้อยกว่าปัจจัยใดคือ การสร้างวัฒนธรรม
ในวถิ ชี วี ติ และวฒั นธรรม ซง่ึ สงิ่ เหลา่ นสี้ ามารถนำ� มาพฒั นาเปน็ จดุ เดน่ องคก์ รทดี่ ี ผา่ นการการปลกู ฝงั จติ สำ� นกึ ของชมุ ชนในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วใหม้ ี
ทางการท่องเที่ยว โดยการน�ำเสนออัตลักษณ์ของชุมชน มาสร้างเป็น ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและสงั คม ความสำ� คญั ในการปลกู จติ สำ� นกึ ให้
เอกลักษณ์ ความแตกต่างในการท่องเท่ียว น�ำเรื่องราว เร่ืองเล่า ผ่าน คนรจู้ กั เสยี สละ รว่ มแรงรว่ มใจ ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั มคี วามรว่ มมอื
วถิ ชี วี ติ มาสรา้ งคณุ คา่ เปดิ โอกาสการเรยี นรแู้ กผ่ มู้ าเยอื น ผา่ นการนำ� สนิ คา้ ในการทำ� ประโยชนเ์ พอ่ื สว่ นรวม อกี ทง้ั ตอ้ งชว่ ยกนั พฒั นาศกั ยภาพตนเอง
ประจ�ำท้องถ่ิน ทรัพยากรธรรมชาติ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชุมชน โดยพฒั นาสนิ คา้ และบรกิ ารใหม้ คี ณุ ภาพ มมี าตรฐาน ปลอดภยั อยเู่ สมอ
มาน�ำเสนอ พร้อมกับสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและนักท่องเท่ียว เพอ่ื มอบความพงึ พอใจสงู สดุ ใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ วทม่ี าเยอื นได้
อีกท้ังสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากจุดเด่นท้ังหมดอาจกล่าวได้ว่า การมีจุดขายที่โดดเด่น และ
สรา้ งรายไดแ้ กเ่ ศรษฐกจิ ชมุ ชนของคนในทอ้ งถนิ่ อกี ดว้ ย สามารถสรา้ งความแตกต่างได้ ถอื วา่ เป็นสิ่งสำ� คญั อยา่ งมากทีจ่ ะทำ� ให้
โอะ๊ ปอ่ ย นำ� เสนอวถิ ชี วี ติ ทอ้ งถน่ิ ของชมุ ชนผา่ นกจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี ว เกดิ การดงึ ดดู ทางการทอ่ งเทยี่ ว โดยเฉพาะปจั จบุ นั ทม่ี กี ารใชก้ ารสอื่ สาร
ในแหล่งท่องเท่ียวแห่งนี้ เพ่ือให้นักท่องเท่ียวท่ีมาเท่ียวเกิดการเรียนรู้ ผา่ นสงั คมออนไลนก์ นั จำ� นวนมาก เปน็ ผลใหจ้ ดุ เดน่ ท่ี โอะ๊ ปอ่ ย ไดน้ ำ� เสนอ
วถิ ชี มุ ชนเพม่ิ มากขน้ึ โดยแบง่ เปน็ พนื้ ทเ่ี ปน็ สว่ น ๆ เพอื่ นำ� เสนอเรอ่ื งราว นน้ั ถกู กระจายตอ่ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ในวงกวา้ ง เปน็ ผลใหเ้ กดิ การมสี ว่ นรว่ ม
ของชมุ ชน เชน่ พน้ื ทส่ี ว่ นกจิ กรรมเรยี นรงู้ านฝมี อื จากสนิ คา้ ทางวฒั นธรรม ในการอนุรักษ์พระพุทธศาสนา เกิดการเคารพธรรมชาติ และยังเป็น
กะเหรยี่ ง ในพนื้ ทนี่ มี้ สี นิ คา้ ทพ่ี ฒั นาจากเรอ่ื งราว วถิ ชี วี ติ และวฒั นธรรม การเรยี นรสู้ ง่ิ ตา่ ง ๆ ความเปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะทอ้ งถนิ่ กอ่ ใหเ้ กดิ อาชพี
อยา่ ง “คงั ดง้ ” ทน่ี ำ� เสนอความเชอื่ ในเรอ่ื งของการปกปกั รกั ษาชมุ ชน และ และรายไดเ้ พมิ่ ขนึ้
พธิ กี รรมทางศาสนาทใ่ี ชใ้ นพธิ สี ำ� คญั คอื “พธิ ซี ง่ ทะเดง่ิ ” หรอื พธิ แี หฉ่ ตั ร จากตัวอย่างของแหล่งท่องเที่ยว โอ๊ะป่อย น้ันสามารถกล่าวได้ว่า
รบั พระพทุ ธองคท์ จี่ ดั ขนึ้ ในชว่ งออกพรรษาของชาวกะเหรยี่ ง ถกู นำ� มา เป็นแหล่งท่องเท่ียวหน่ึงท่ีประยุกต์ใช้การท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์ได้
พฒั นาเปน็ สนิ คา้ ของฝากตา่ ง ๆ เชน่ โมบายคงั ดง้ พดั ปน่ิ ปกั ผม ตา่ งหู อยา่ งกลมกลนื สามารถดงึ ปจั จยั เชงิ วฒั นธรรมและวถิ ชี วี ติ ทอ้ งถน่ิ ของ
ฯลฯ โดยเปดิ โอกาสใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วไดส้ รา้ งประสบการณเ์ รยี นรู้ ผา่ น ชาวกะเหรยี่ งมาพฒั นาสรา้ งคณุ คา่ เปน็ สนิ คา้ เชงิ วฒั นธรรมทม่ี อบทกั ษะ
การลงมอื ทำ� ดว้ ยตวั เอง โดยมชี าวบา้ นในพนื้ ทเี่ ปน็ ผสู้ อนและใหค้ วามรู้ และประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่แตกต่าง ผ่านการมีส่วนร่วมกับ
อกี ทง้ั ผลติ ภณั ฑเ์ สอ้ื เพน้ ทล์ ายจากผา้ ทอกะเหรยี่ ง “เสอื้ ไซโคลง่ สะ” ชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทย่ี วผมู้ าเยอื นได้ อกี ทง้ั เปน็ การฝกึ ฝน สรา้ ง
สนิ คา้ ทพี่ ฒั นามาจากลวดลายของ ผา้ ทอกะเหรย่ี ง โดยนำ� ความหมาย สำ� นกึ คนในชมุ ชน เยาวชน คนทอ้ งถน่ิ รวมถงึ นกั ทอ่ งเทยี่ ว ใหเ้ กดิ การ
ของลวดลายอันเป็นมงคลที่สืบต่อกันมาจากผ้าทอกะเหร่ียงในชุมชน ตระหนกั ถงึ การมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ธรรมชาติ การอนรุ กั ษ์
กะเหรยี่ ง มาสรา้ งมลู คา่ เพม่ิ ผา่ นเรอ่ื งเลา่ สผู่ ลติ ภณั ฑ์ ทสี่ รา้ งการมสี ว่ นรว่ ม วฒั นธรรม วถิ ชี วี ติ ซง่ึ ทรพั ยากรอนั มคี า่ ของชมุ ชนนน้ั ตอ่ ไป
ของนกั ทอ่ งเทย่ี ว และเปดิ โอกาสใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วไดร้ ะบายสใี นลวดลายที่
ชืน่ ชอบ ซึ่งนอกจากได้ชิน้ งานจากฝมี อื ตวั เองแล้วยังไดเ้ รียนรู้เรอ่ื งราว ทมี่ า : ภาพจากเพจโอะ๊ ปอ่ ย
และวฒั นธรรมทส่ี บื ตอ่ กนั มาของชาวกะเหรยี่ ง อกี ดว้ ย
นอกจากส่วนพื้นที่กิจกรรมงานฝีมือ ในส่วนของส่วนพ้ืนที่ของ
รา้ นขายสนิ คา้ ประเภทอาหาร และของฝาก ยงั ถกู ตกแตง่ ตามวถิ ชี วี ติ ของ
ชาวกะเหรย่ี ง โดยรา้ นคา้ ทที่ ำ� ดว้ ยไมไ้ ผ่ ปา้ ยชอ่ื รา้ นคา้ รวมถงึ รายการอาหาร
ท่ีท�ำมือ พร้อมเขียนภาษากะเหรี่ยงก�ำกับไว้ การตบแต่งหน้าร้านด้วย
คงั ดง้ รวมถงึ การขายอาหารทอ้ งถนิ่ โดยเฉพาะอาหารของชาวกะเหรยี่ ง
เช่น อั้งหมีถ่อง หรือ ข้าวห่อกะเหร่ียง เป็นต้น ซ่ึงส่ิงต่าง ๆ เหล่านี้

Tourism Economic Review 51

ผลกระทบของอตุ สาหกรรมการทอ่ งเทย่ี ว

ตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ

52 Tourism Economic Review

จากขอ้ มลู บญั ชปี ระชาชาตดิ า้ นการทอ่ งเทย่ี ว (Tourism Satellite (GDP) จำ� นวน 2,975,364.01 ลา้ นบาท แบง่ เปน็ ไตรมาสแรก 816,630.74
Account : TSA) แสดงให้เห็นถึงบทบาทส�ำคัญของอุตสาหกรรมการ ลา้ นบาท ไตรมาสที่ 2 จำ� นวน 650,479.76 ลา้ นบาท ไตรมาส 3 จำ� นวน
ทอ่ งเทยี่ วทม่ี ตี อ่ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศไทยมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งตลอด 725,545.19 ลา้ นบาท และไตรมาส 4 จำ� นวน 782,708.32 ลา้ นบาท
ช่วงเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา (ปี 2553-2562e) โดยก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ คดิ เปน็ สดั สว่ นรอ้ ยละ 19.36 รอ้ ยละ 15.68 รอ้ ยละ 17.38 และรอ้ ยละ
มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) จากการใชจ้ า่ ย 18.04 ของ GDP รายไตรมาสของประเทศ ตามล�ำดับ โดยก่อให้เกิด
ของนักท่องเท่ียวท้ังชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉลี่ย การจา้ งงานในระบบเศรษฐกจิ ทง้ั 4 ไตรมาสเฉลยี่ 4,385,031 คน คดิ เปน็
2,115,827.53 ลา้ นบาทตอ่ ปี คดิ เปน็ สดั สว่ นเฉลย่ี ตอ่ ปรี อ้ ยละ 15.37 ของ สดั สว่ นเฉลยี่ ตอ่ ปรี อ้ ยละ 11.66 ของการจา้ งงานทง้ั ประเทศ แบง่ เปน็
GDP รวมทง้ั ประเทศ และกอ่ ใหเ้ กดิ การจา้ งงานเฉลย่ี ปลี ะ 4,154,947.18 คน ไตรมาสแรก 4,368,345 คน ไตรมาสที่ 2 จ�ำนวน 4,462,625 คน
คดิ เปน็ สดั สว่ นเฉลย่ี ตอ่ ปรี อ้ ยละ 10.90 ของการจา้ งงานทงั้ ประเทศ ไตรมาสท่ี 3 จ�ำนวน 4,394,347 คน และไตรมาสท่ี 4 จ�ำนวน
ส�ำหรับในช่วงไตรมาส 4/2562 ประมาณการไว้ว่า อุตสาหกรรม 4,314,809 คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.59 ร้อยละ 11.81 ร้อยละ
การท่องเท่ียวของไทยจะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 11.72 และรอ้ ยละ 11.51 ของจำ� นวนการจา้ งงานรวมทงั้ ประเทศ ตามลำ� ดบั

ผลกระทบของอตุ สาหกรรมการทอ่ งเทย่ี วตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ

รายละเอยี ด หนว่ ย 2560r 2561p 2562e 2561p 2562e

Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4

คา่ ใช้จ่ายจากการท่องเทีย่ ว ล้านบาท 2,855,049.98 2,983,525.66 3,053,839.39 807,623.91 653,556.43 723,113.83 799,231.49 840,118.68 666,380.09 744,057.27 803,283.35
(รายได้จากการท่องเที่ยว)
(Tourism Expenditure) รอ้ ยละ +10.62 +4.50 +2.36 +10.46 +3.46 -1.07 +4.99 +4.02 +1.96 +2.90 +0.51
%การเปลีย่ นแปลง ล้านบาท 2,779,981.18 2,907,043.02 2,975,364.01 792,052.10 635,864.40 705,579.21 773,547.31 816,630.74 650,479.76 725,545.19 782,708.32
(Y-o-Y)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ลา้ นบาท 1,134,277.18 1,186,450.02 1,209,488.48 322,349.10 260,504.40 285,266.21 318,330.31 331,334.87 264,677.07 295,091.57 318,384.97
ประเทศด้านการท่องเทยี่ ว ล้านบาท 1,645,704.00 1,720,593.00 1,765,875.53 469,703.00 375,360.00 420,313.00 455,217.00 485,295.87 385,802.68 430,453.63 464,323.35
(Tourism GDP) ลา้ นบาท 83,197.28 91,446.59 88,668.43 25,198.39 21,016.05 21,393.87 23,838.28 24,382.77 20,263.75 20,850.25 23,171.66
- ทางตรง ลา้ นบาท 15,486,551.00 16,365,572.00 16,879,027.00 4,050,238.00 3,998,361.00 4,063,328.00 4,253,645.00 4,217,970.00 4,147,950.00 4,175,125.00 4,337,982.00
- ทางออ้ ม
ภาษจี ากการทอ่ งเท่ียว
(ทางตรง)
ผลิตภณั ฑม์ วลรวมภายใน
ประเทศ* (GDP of the
Country)

สดั สว่ นผลติ ภัณฑ์มวลรวม ร้อยละ 17.95 17.76 17.63 19.56 15.90 17.36 18.19 19.36 15.68 17.38 18.04
ภายในประเทศด้าน
การท่องเทยี่ ว/ผลติ ภณั ฑ์
มวลรวมภายในประเทศ
(Tourism GDP/ Total GDP)


- สัดส่วน TGDP ทางตรง ร้อยละ 7.32 7.25 7.17 7.96 6.52 7.02 7.48 7.86 6.38 7.07 7.34
/ ผลิตภัณฑม์ วลรวม
ภายในประเทศ

- สัดส่วน TGDP ทางอ้อม ร้อยละ 10.63 10.51 10.46 11.60 9.39 10.34 10.70 11.51 9.30 10.31 10.70
/ ผลิตภัณฑม์ วลรวม
ภายในประเทศ

การจ้างงานในดา้ น คน 4,318,297 4,393,294 4,385,031 4,763,532 4,424,900 4,894,160 4,571,252 4,368,345 4,462,625 4,394,347 4,314,809
การทอ่ งเท่ียว (Total
Employment in
Tourism Sector)

การจา้ งงานท้ังหมด คน 37,458,250 37,864,550 37,613,438 37,361,500 37,884,500 38,301,000 37,911,200 37,702,700 37,781,800 37,486,330 37,482,920

สัดสว่ นการจ้างงานใน รอ้ ยละ 11.53 11.60 11.66 12.75 11.68 12.78 12.06 11.59 11.81 11.72 11.51
อุตสาหกรรมการท่องเท่ียว
ตอ่ การจา้ งงานทง้ั หมด
(ร้อยละ)

หมายเหตุ : e หมายถึง ขอ้ มลู ประมาณการ (ประมาณการ ณ วนั ที่ 13 เมษายน 2563)
ผลิตภัณฑม์ วลรวมภายในประเทศดา้ นการทอ่ งเท่ียว (Tourism GDP) เปน็ การรวม TGDP ทางตรง และ ทางออ้ ม (ไม่รวม Induced impact)

Tourism Economic Review 53

สัมภาษณพ์ ิเศษ
54 Tourism Economic Review

ทอ่ งเทยี่ วไทยพรอ้ มแคไ่ หนในการรบั มอื วกิ ฤต COVID-19

โชติ ตราชู

ปลดั กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า

คงไมม่ ใี ครคาดคดิ วา่ การแพรร่ ะบาดของ “โคโรนาไวรสั สายพันธใ์ุ หม”่ หรอื ทเี่ ราเรยี กกนั วา่
“วกิ ฤตโควดิ -19” ไดส้ ง่ ผลกระทบตอ่ ทกุ ประเทศทวั่ โลกชนดิ ทร่ี นุ แรงทสี่ ดุ อยา่ งทไี่ มเ่ คย

เกดิ ขนึ้ มากอ่ น และอตุ สาหกรรมทอ่ งเทยี่ วกถ็ อื วา่ ไดร้ บั ผลกระทบนเี้ ตม็ ๆ แบบไมท่ นั ตง้ั ตวั
วนั นป้ี ระเทศไทยกำ� ลงั ถกู ลอ็ กดาวน์ เพื่อเปดิ ทางใหท้ กุ ฝา่ ยเรง่ แกป้ ญั หา ลดการแพรก่ ระจาย

ของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ ใหม้ ากทสี่ ดุ ทวา่ ...กย็ งั มหี ลายคำ� ถามทรี่ อคำ� ตอบ โดยเฉพาะ
ภาคการทอ่ งเทยี่ วไทย เราพรอ้ มมากนอ้ ยขนาดไหนในการรบั มอื วกิ ฤตจากไวรสั วายรา้ ยตวั นี้

ภาพรวมการทอ่ งเทยี่ วไทยในปี 2563 ของมาตรการคดั กรองนกั ทอ่ งเทยี่ วการประกาศปดิ สถานทช่ี ว่ั คราวของ
ผวู้ า่ ราชการกรงุ เทพฯ และโดยเฉพาะในตา่ งจงั หวดั ทสี่ ำ� คญั ทว่ั ประเทศ
“ส�ำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในปี 2563 น้ัน ผมอยากแบ่ง เชน่ อดุ รธานี กระบ่ี ภเู กต็ พงั งา เชยี งใหม่ พทั ยา ทำ� ใหเ้ กดิ การหยดุ นงิ่
เปน็ 2 ชว่ ง คอื ชว่ งปใี หมจ่ นถงึ วนั ท่ี 24 มกราคม 2563 กอ่ นจนี ประกาศ ในเรอื่ งการเดนิ ทางของประชาชน และคาดวา่ จะมผี ลตอ่ การทอ่ งเทยี่ ว
ปิดประเทศ การท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มไปในทิศทางท่ีดีมาก จ�ำนวน ของคนไทยเทยี่ วไทยในเดอื นมนี าคมทม่ี กี ารลดลงอยา่ งมนี ยั สำ� คญั ”
นักท่องเท่ียวและรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัวสูงขึ้น แต่หลังจาก “นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬาได้มีการจัดท�ำการ
วันที่ 24 มกราคม 2563 ประเทศจีนปิดประเทศช่วงตรุษจีน จ�ำนวน วิเคราะห์ถึงผลกระทบเชิงเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเบื้องต้น จาก
นกั ทอ่ งเทยี่ วและรายไดจ้ ากการทอ่ งเทย่ี วกค็ อ่ ย ๆ ลดลงทนั ทแี ละลดลง โครงสร้างของระบบบัญชีประชาชาติด้านการท่องเท่ียว (TSA) พบว่า
อยา่ งรวดเรว็ มาก ซงึ่ สง่ ผลกระทบตอ่ การทอ่ งเทยี่ วรอบทศิ ทาง ผมเขา้ ใจวา่ กรณหี ากมกี ารระบาดของไวรสั โควดิ -19 ในชว่ งครงึ่ ปแี รกของปี 2563
นเี่ ปน็ สถานการณด์ า้ นการทอ่ งเทย่ี วทเี่ ลวรา้ ยทส่ี ดุ เทา่ ทเ่ี ราเคยเผชญิ มา (มกราคม – มถิ นุ ายน 2563) จะมผี ลทำ� ใหม้ ลู คา่ เพมิ่ (Value Added)
อยา่ งไรกต็ าม ภายหลงั การแพรร่ ะบาดของโคโรนาไวรสั สายพนั ธใ์ุ หม่ ไทย ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวท้ังหมดลดลงประมาณ 6.06 แสนล้านบาท
และประเทศตา่ ง ๆ ทว่ั โลกตอ้ งดำ� เนนิ มาตรการอยา่ งเครง่ ครดั เพอ่ื ควบคมุ และส่งผลต่อแรงงานท้ังในอุตสาหกรรมท่องเท่ียวโดยตรง และ
โรคระบาด เชน่ การเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม รวมถงึ การจำ� กดั การเดนิ ทาง อตุ สาหกรรมอน่ื ๆ ทเี่ ปน็ หว่ งโซก่ ารผลติ ทเี่ ชอื่ มโยงกบั ภาคการทอ่ งเทย่ี ว
ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาค ตอ้ งวา่ งงานชว่ั คราวไปประมาณ 1.05 ลา้ นคน (Fulltime Equivalent)
การทอ่ งเทยี่ วทช่ี ะลอตวั อยา่ งนอ้ ย 6 - 9 เดอื น และเมอื่ การระบาดสน้ิ ซ่ึงเราก็ติดตามอย่างใกล้ชิดพร้อมกับประเมินผลกระทบที่เกี่ยวเน่ือง
สดุ ลง คาดวา่ ประเทศตา่ ง ๆ จะผอ่ นคลายมาตรการตา่ ง ๆ อยา่ งชา้ ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาหามาตรการต่าง ๆ ท่ีเหมาะสมส�ำหรับ
สถานการณท์ อ่ งเทยี่ วกจ็ ะคอ่ ย ๆ ฟน้ื ตวั สภู่ าวะปรกต”ิ การเยยี วยาและฟน้ื ฟกู ารทอ่ งเทย่ี วไทย”

ผลกระทบจากโรคไวรสั โควดิ -19 ตอ่ การทอ่ งเทย่ี วไทย

เปน็ อยา่ งไร? ผมเชื่อวา่ หลังจากโรคระบาด
เราจะต้องฟ้ืนฟู ซงึ่ ถ้า
“ไทยเร่ิมได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน ในช่วงปลายเดือนมกราคม ผ้ปู ระกอบการในอตุ สาหกรรม
2563 หรอื ตงั้ แตท่ ที่ างการจนี ประกาศหา้ มบรษิ ทั นำ� เทย่ี วดำ� เนนิ กจิ กรรม ทอ่ งเทีย่ วหายไป เรากจ็ ะขาด
ในต่างประเทศ ในช่วงวันที่ 24 มกราคม 2563 และได้รับผลกระทบ มอื อาชีพในอตุ สาหกรรมนี้
รุนแรงขึ้น จากความเช่ือม่ันของนักท่องเที่ยวท่ีลดลง รวมถึงการเพ่ิม ซง่ึ เป็นสง่ิ ที่เราไม่อยากใหเ้ กิดขนึ้
ระดบั มาตรการคดั กรองนกั ทอ่ งเทย่ี วของไทย เชน่ การยกเลกิ มาตรการ
Visa on arrival การก�ำหนดให้นักท่องเท่ียวแสดงเอกสารรับรอง
สุขภาพกอ่ นการเดินทาง และการปิดช่องทางเดนิ ทางเขา้ ออกระหว่าง
ประเทศภายหลงั จากทมี่ กี ารประกาศสถานการณฉ์ กุ เฉนิ ในทกุ เขตทอ้ งท่ี
ทว่ั ราชอาณาจกั รท่มี ีผลตั้งแตว่ ันท่ ี 26 มีนาคม – 30 เมษายน 2563
ซึ่งส่งผลให้ในเดือนมีนาคม มีนักท่องเท่ียวต่างชาติเดินทางเข้ามา
ท่องเท่ียวไทยลดลงถึงร้อยละ 76 อีกท้ัง การเพิ่มความเข้มข้น

Tourism Economic Review 55

สัมภาษณพ์ ิเศษ

มาตรการดแู ลและเยยี วยาผไู้ ดร้ บั ผลกระทบวกิ ฤต เจลแอลกอฮอล์ ให้กับนักท่องเที่ยวในรถทุกคันท่ีให้บริการน�ำเท่ียว
ครงั้ น?ี้ ขอความรว่ มมอื กบั ผปู้ ระกอบธรุ กจิ นำ� เทยี่ ว งดจดั รายการนำ� เทยี่ วไปยงั
ประเทศกลุ่มเส่ียงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทุกกรณี เป็นต้น
“ในช่วงแรก เราได้หารือร่วมกับหลายภาคส่วน ตั้งแต่ที่ นอกจากนี้ เราได้มีการเตรียมการแก้ไขปัญหา ในระยะเร่งด่วน เช่น
สถานการณ์เร่ิมต้นข้ึนในประเทศไทย ที่เริ่มมีการคัดกรองผู้ป่วย จัดตั้งศูนย์อ�ำนวยการรับเร่ืองร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว การประชุม
ท่ีเดินทางจากอู่ฮั่น (3 มกราคม 2563) และพบผู้ติดเชื้อรายแรก หารอื รว่ มกบั หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งถงึ แนวทางการชว่ ยเหลอื แกไ้ ขปญั หา
ในไทย (22 มกราคม 2563) และ ประธานาธิบดีสีจ้ินผิงมีค�ำส่ังให้ เก่ียวกับการยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง จากกรณีที่นักท่องเท่ียว
บ ริ ษั ท น� ำ เ ท่ี ย ว ทั่ ว ป ร ะ เ ท ศ ห ยุ ด ด� ำ เ นิ น กิ จ ก ร ร ม น� ำ เ ที่ ย ว แจ้งขอยกเลิกรายการน�ำเที่ยว (ทัวร์) เป็นจ�ำนวนมาก และเกิด
(24 มกราคม 2563) โดยมคี ำ� สงั่ แตง่ ตง้ั Tourism War Room ขนึ้ ทนั ที ปัญหาการร้องเรียนเก่ียวกับการที่บริษัทน�ำเที่ยว ไม่คืนเงินค่าบริการ
(มีผลตั้งแต่ 28 มกราคม 2563) มีอ�ำนาจหน้าที่หลักในการเป็น (คา่ ทวั ร)์ หรอื คนื คา่ บรกิ ารใหบ้ างสว่ น เปน็ ตน้ ”
คณะอ�ำนวยการ สนับสนุน เฝ้าระวัง ติดตาม ประสานงานกับ “ส�ำหรับท่ผี า่ นมา เราพยายามแก้ปญั หาใหแ้ กผ่ ปู้ ระกอบการธรุ กิจ
หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยว และ นำ� เทย่ี วหลายอยา่ ง ตง้ั แตแ่ กก้ ฎกระทรวงเพอ่ื ผอ่ นคลายเงนิ หลกั ประกนั
แก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้น ก�ำหนดแนวทางการปฏิบัติงานเชิงบูรณาการ บรษิ ทั นำ� เทยี่ ว ซง่ึ ขณะนอ้ี ยรู่ ะหวา่ งการหาขอ้ มลู ของแตล่ ะบรษิ ทั ในเชงิ ลกึ
ในการเตรียมความพร้อม ป้องกนั และให้ความช่วยเหลือนกั ทอ่ งเทย่ี ว เช่น บริษัทไหนไม่สามารถด�ำเนินการต่อไปได้ขอให้แจ้งเข้ามา เราจะ
ทไี่ ดร้ บั ผลกระทบ รวมทง้ั ประสานขอ้ มลู วเิ คราะหส์ ถานการณ์ รว่ มมอื กบั ตง้ั ทมี เฉพาะเปน็ ตวั กลางในการเจรจากบั ธนาคารตา่ ง ๆ เราไมอ่ ยากให้
ภาคเอกชนและประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู แกน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว” คนทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั อตุ สาหกรรมทอ่ งเทย่ี วตอ้ งปดิ บรษิ ทั ผมเชอื่ วา่ หลงั จาก
“ส�ำหรับการดูแลผู้ประกอบธุรกิจน�ำเที่ยว เราก็ได้ด�ำเนินการแล้ว โรคระบาดเราจะตอ้ งฟน้ื ฟู ซงึ่ ถา้ บรษิ ทั ทอ่ งเทยี่ วหายไป เรากจ็ ะขาดมอื
หลายเรอื่ ง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การควบคมุ และปอ้ งกนั เชน่ ขอความรว่ มมอื อาชพี ในอตุ สาหกรรมน้ี ซง่ึ เปน็ สง่ิ ทเ่ี ราไมอ่ ยากใหเ้ กดิ ขนึ้ ”
จากผปู้ ระกอบธรุ กจิ นำ� เทย่ี วในการรว่ มใหบ้ รกิ ารหนา้ กากอนามยั และ

56 Tourism Economic Review

เราควรวางโครงการฟน้ื ฟู การเตรียมความพร้อมเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาบูม
แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว และอนรุ กั ษ์ อกี ครงั้ ?
ทรพั ยากรตา่ งๆ ซง่ึ ควรใช้
โอกาสนว้ี างแผนระยะยาววา่ “สำ� หรบั การเตรยี มความพรอ้ มเมอื่ การทอ่ งเทยี่ วกลบั มาบมู อกี ครง้ั
จะรกั ษาแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วให้ สิ่งแรกท่ีต้องท�ำ คือการเพิ่มพูนทักษะบุคลากรด้านการท่องเท่ียว
สวยงามตลอดไปไดอ้ ยา่ งไร มัคคุเทศก์เรามีจ�ำนวนมากก็จริง แต่ถ้าลงรายละเอียดในรายประเทศ
ยงั ถอื วา่ ขาดแคลน เชน่ มคั คเุ ทศกท์ พ่ี ดู ภาษาจนี ไดอ้ ยา่ งมอื อาชพี ถอื วา่
มนี อ้ ย เรากร็ ว่ มกบั กระทรวง ทบวงกรมตา่ ง ๆ ฝกึ ภาษาใหเ้ ขา เปน็ การ
เพิ่มพูนทักษะขึ้นมา หรืออาจจะเพิ่มภาษาที่ 3 ให้กับบุคลากรเหล่านี้
อยา่ งทสี่ อง คอื การฟน้ื ฟแู หลง่ ทอ่ งเทยี่ ว เราควรวางโครงการฟน้ื ฟแู หลง่
ทอ่ งเทยี่ ว และอนรุ กั ษท์ รพั ยากรตา่ ง ๆ ซงึ่ ควรใชโ้ อกาสนวี้ างแผนระยะยาว
ว่าจะรักษาแหล่งท่องเท่ียวให้สวยงามตลอดไปได้อย่างไร และอีกเร่ือง
คอื หอ้ งนำ้� สาธารณะทตี่ อ้ งเนน้ เรอื่ งความสะอาด โดยเฉพาะตามแหลง่
ท่องเที่ยวส�ำคัญต้องมีห้องน้�ำสาธารณะและรองรับคนพิการด้วย
แตต่ อนนพ้ี ดู ไดค้ ำ� เดยี ว เราตอ้ งอยบู่ า้ นกอ่ น ควรออกกำ� ลงั กายใหร้ า่ งกาย
แข็งแรง เม่ือโรคระบาดผ่านพ้นไปแล้ว เราค่อยเที่ยว และหลังจากน้ี
นักท่องเที่ยวจะต้องกลับมาเยือนเมืองไทยอย่างแน่นอน ถึงตอนน้ัน
เราตอ้ งพรอ้ มในทกุ ๆ ดา้ น”

มีมาตรการอย่างไรในการสร้างความเข้มแข็งของ
หว่ งโซอ่ ปุ ทาน?

“มาตรการนี้ถือเป็นมาตรการระยะยาว ซ่ึงจะเริ่มต้ังแต่เดือน
พฤษภาคม 2563 เปน็ ตน้ ไป เราไดต้ งั้ คณะกรรมการขบั เคลอ่ื นเพอ่ื เสรมิ
สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหห้ ว่ งโซอ่ ปุ ทาน (Ease of Traveling) ขยายเวลา
เศรษฐกิจภาคกลางคืนเฉพาะในพื้นที่ท่องเท่ียว (Zoning) และการ
ยกระดบั มาตรฐานและคณุ ภาพของบรกิ ารการทอ่ งเทยี่ ว การสนบั สนนุ
เทย่ี วบนิ เชา่ เหมาลำ� (Charter Flight) สำ� หรบั นกั ทอ่ งเทยี่ วคณุ ภาพทมี่ ี
การใชจ้ า่ ยสงู สพู่ น้ื ทเ่ี มอื งรอง”

การสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจยงั คงเปน็ สงิ่ สำ� คญั ?

“กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกีฬาและหนว่ ยงานภายใต้กระทรวงฯ
ทกุ หนว่ ยงานไดเ้ รง่ ใหท้ อ่ งเทยี่ วและกฬี าจงั หวดั ตำ� รวจทอ่ งเทย่ี วทวั่ ประเทศ
ดูแลให้ความรู้ความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
มกี ารแจกหนา้ กากอนามยั ใหก้ บั นกั ทอ่ งเทยี่ วตามสถานทตี่ า่ ง ๆ และดแู ล
ใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกน่ กั ทอ่ งเทย่ี วชาวตา่ งชาตทิ ตี่ กคา้ งในประเทศไทย
รวมทง้ั สำ� นกั งานการทอ่ งเทย่ี วและกฬี าจงั หวดั มบี ทบาทสำ� คญั ในการ
สร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อร่วมกันติดตาม
สถานการณ์การระบาด เผยแพร่ข่าวสารและแลกเปล่ียนข้อมูลต่าง ๆ
ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การระบาด รวมถงึ การรวบรวมขอ้ มลู ผลกระทบและความ
ตอ้ งการชว่ ยเหลอื ของภาคเอกชน เพอ่ื เสนอตอ่ กระทรวงการทอ่ งเทย่ี ว
และกีฬาประกอบการจัดท�ำมาตรการให้ความชว่ ยเหลอื และสนับสนนุ
ของรฐั บาล นอกจากน้ี กระทรวงฯ ไดใ้ หก้ ารดแู ลและใสใ่ จกบั บคุ ลากรโดย
การทำ� ความสะอาดและฆา่ เชอื้ ในสถานทท่ี ำ� งาน ขานรบั นโยบาย Social
Distancing ดว้ ยการทำ� งานทบ่ี า้ น (Work from home) การกกั ตวั และ
ตดิ ตามเฝา้ ระวงั บคุ ลากรทมี่ คี วามเสย่ี งเปน็ เวลา 14 วนั มอบหนา้ กาก
อนามยั และเจลแอลกอฮอลลเ์ พอื่ สรา้ งสขุ ลกั ษณะทดี่ ี รวมทง้ั มกี ารเฝา้
ระวงั คดั กรองบคุ คลเขา้ ออกในอาคารดว้ ยการตรวจวดั อณุ หภมู ริ า่ งกาย”

Tourism Economic Review 57

สัมภาษณพ์ ิเศษ

ผอู้ ำ� นวยการ อพท.

ทวพี งษ์ วชิ ยั ดษิ ฐ

กบั พันธกจิ นำ� พาไทยสกู่ ารทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรา้ งสรรค์

ในฐานะหวั เรอื ใหญข่ ององคก์ ารบรหิ ารการพัฒนาพื้นทพี่ ิเศษเพ่ือการทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยง่ั ยนื
(อพท.) ซง่ึ ถอื เปน็ อกี หนง่ึ หนว่ ยงานทม่ี หี นา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบในการบรหิ ารจดั การเพื่อพัฒนา

ขดี ความสามารถดา้ นการทอ่ งเทยี่ วของไทยใหก้ า้ วทนั โลก แลว้ อพท.มแี ผนดำ� เนนิ งานในทาง
ปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรบา้ งเพื่อใหส้ อดรบั กบั เปา้ หมายดา้ นการทอ่ งเทยี่ วตามแผนยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี

อนาคตการท่องเที่ยวไทยถูกก�ำหนดไว้อย่างไรในแผน การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรา้ งสรรคค์ อื อะไร ทำ� ไมถงึ ถกู หยบิ ยก
ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี มาเปน็ แนวทางในการพัฒนาการทอ่ งเทย่ี วของไทย

“เรายงั คงใหค้ วามสำ� คญั กบั การเปน็ จดุ หมายปลายทางการทอ่ งเทย่ี ว “เปน็ การทอ่ งเทยี่ วทตี่ อ้ งนำ� องคค์ วามรแู้ ละนวตั กรรม มาผนวกกบั
ระดับโลก แต่ต้องมีการพัฒนาท้ังระบบ โดยเฉพาะการเพ่ิมสัดส่วน จดุ แขง็ ดา้ นความหลากหลายของทรพั ยากรธรรมชาติ วฒั นธรรม และ
นกั ทอ่ งเทยี่ วกลมุ่ คณุ ภาพ การพฒั นาธรุ กจิ ทอ่ งเทย่ี วใหม้ มี ลู คา่ สงู มากยง่ิ ขน้ึ วิถีชีวิตความเป็นไทยที่เรามี เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับสินค้า
โดยชูจดุ เด่นของเราน่ันคอื อัตลักษณค์ วามเป็นไทยนำ� ขอ้ มูลภมู ปิ ัญญา มากขึ้น รวมทั้งยังเป็นการสร้างทางเลือกที่มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ
ทอ้ งถน่ิ มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ ตลอดจนการเหน็ คณุ คา่ กบั สงิ่ แวดลอ้ มและ ใหก้ บั นกั ทอ่ งเทยี่ ว ซงึ่ ทำ� ไดห้ ลายวธิ ี ตงั้ แต่
ใหค้ วามสำ� คญั กบั การพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วอยา่ งยงั่ ยนื นนั่ คอื เปา้ หมาย 1) การสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพมิ่ ใหก้ บั สนิ คา้ และบรกิ ารทเี่ รามตี น้ ทนุ
ในการพฒั นาประเทศดา้ นการทอ่ งเทย่ี ว สำ� หรบั ในสว่ นของ อพท. ได้ ที่ดีทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอยู่แล้ว อย่างเช่น สุโขทัยที่
ดำ� เนนิ การตามกรอบยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสรา้ งขดี ความสามารถใน ยูเนสโกประกาศให้เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ (Creative Cities
การแขง่ ขนั เนน้ ในดา้ นความหลากหลายของการทอ่ งเทย่ี ว 6 แนวทาง Network) ประจำ� ปี 2019 สาขาหตั ถกรรมและศลิ ปะพน้ื บา้ น (Crafts
ไดแ้ ก่ ทอ่ งเทย่ี วเชงิ สรา้ งสรรคแ์ ละวฒั นธรรม ทอ่ งเทย่ี วเชงิ ธรุ กจิ (ไมซ)์ and Folk Art)
ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย ท่องเที่ยวเชิง 2) การพฒั นาปจั จยั แวดลอ้ มใหเ้ ออ้ื ตอ่ การสง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์
เรอื สำ� ราญทางนำ้� ทอ่ งเทย่ี วเชงิ นเิ วศ และทอ่ งเทย่ี วเชอ่ื มโยงภมู ภิ าค” ในการทำ� วจิ ยั พฒั นา ออกแบบ และสรา้ งนวตั กรรมทใ่ี ชต้ อ่ ยอดสนิ คา้

ต้องน�ำ องค์ความรแู้ ละนวัตกรรม
มาผนวกกับจดุ แข็งดา้ นความ
หลากหลายของทรพั ยากรธรรมชาติ
วฒั นธรรม และวถิ ชี ีวติ ความเป็นไทย
ทีเ่ รามี เพื่อสร้างคณุ ค่าและมลู คา่ ให้
กับสนิ ค้ามากข้ึน รวมทั้งยังเปน็ การ
สรา้ งทางเลอื กท่มี อบประสบการณ์
ใหม่ ๆ ใหก้ ับนกั ท่องเทยี่ ว

58 Tourism Economic Review

Tourism Economic Review 59

สัมภาษณพ์ ิเศษ

และบรกิ ารได้ ผมยกตวั อยา่ งงา่ ย ๆ จากมะพรา้ วสดทหี่ ลน่ จากตน้ นำ� ไป เศรษฐกิจ ส�ำหรับเป้าหมายในอนาคตสองทศวรรษข้างหน้าตามแผน
แปรรปู เปน็ กะท ิ จากกะทนิ ำ� ไปทำ� อาหารหรอื ขนม หรอื จะใชเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ป ี หากเปน็ ไปตามสง่ิ ทกี่ ำ� หนดไวใ้ นแผนแมบ่ ทยอ่ ย
ในการเปดิ คลาสสอนทำ� อาหาร นคี่ อื การตอ่ ยอดและยกระดบั ทรพั ยากร การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมในไทยจะมีเครือข่ายเมือง
ทเี่ รามที เี่ หน็ ไดช้ ดั เจน สรา้ งสรรคข์ องยเู นสโกถงึ 35 เมอื ง ซงึ่ อาจตอบโจทยส์ รา้ งความยง่ั ยนื
3) เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรม ในมติ ติ า่ ง ๆ ได้ อาทิ การพฒั นาเปน็ ไปตามเปา้ หมายการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื
การทอ่ งเทยี่ ว Sustainable Development Goals (SDGs) สามารถสร้างระบบ
4) ส่งเสริมการจดทะเบียน การคุ้มครองและการใช้ทรัพย์สินทาง เศรษฐกิจที่ย่ังยืนที่ท�ำให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น สามารถดึงดูด
ปญั ญาและภมู ปิ ญั ญา นกั ทอ่ งเทยี่ วจากเมอื งทเี่ ปน็ เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรคจ์ ากทวั่ โลกมาเยอื น
5) สง่ เสรมิ การตลาดการทอ่ งเทย่ี วผา่ นสอื่ สรา้ งสรรคแ์ ละสอื่ สารผา่ น เพม่ิ ขน้ึ ฯลฯ”
ชอ่ งทางการตลาดทเ่ี ปน็ กลมุ่ เปา้ หมายใหเ้ ปน็ ทเี่ ขา้ ใจในเวทโี ลก”
ประโยชนข์ องการเปน็ เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรค์
ภาพรวมสถานการณก์ ารทอ่ งเทยี่ วเชงิ สรา้ งสรรคข์ อง
ไทยในปจั จบุ นั ‘เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรค’์ คอื สง่ิ ทย่ี เู นสโกกำ� หนดขนึ้ เพอื่ ตอ้ งการ
ให้มนุษยชาติเกิดการส่ือสารกัน ตามเง่ือนไขคือเราต้องไปหาเขา
“รฐั บาลไดม้ งุ่ เนน้ การพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วในเมอื งตามภมู ภิ าคตา่ ง ๆ หรือต้องเชิญเขามาหาเรา เพ่ือแลกเปล่ียนวัฒนธรรมซ่ึงกันและกัน
ใหก้ ลายเปน็ เมอื งสรา้ งสรรค์ (Creative City) ทม่ี กี จิ กรรมทางวฒั นธรรม ส�ำหรับไทยมีเมืองที่เข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์แล้ว 4 เมือง คือ
ทหี่ ลากหลาย มกี ารรวมกลมุ่ กนั อยา่ งหนาแนน่ ของคนทำ� งานสรา้ งสรรค์ ภเู กต็ (Gastronomy : 2015) เชยี งใหม ่ (Craft and Folk Art : 2017)
ท�ำให้เกิดการรวมตัวทางสังคมและความเป็นท้องถิ่นท่ีแสดงออกหรือ สโุ ขทยั (Craft and Folk Art : 2019) และกรงุ เทพฯ (Design : 2019)
สอ่ื ออกมาทางศลิ ปะในรปู แบบตา่ ง ๆ ซง่ึ ลว้ นมสี ว่ นสำ� คญั ในการพฒั นา “ถ้าให้เห็นภาพความส�ำเร็จที่ชัดเจนของการเป็นเครือข่าย

60 Tourism Economic Review

การทอ่ งเทยี่ วโดยชุมชนจะกลบั มาเป็นตัวชโู รง
เพราะคนไมอ่ ยากไปเท่ียวในท่ีท่ีแออัดอีกต่อไป
แตจ่ ะหนั ไปมองหาสถานที่เท่ยี วในท่มี ขี นาดพอดี
มกี ิจกรรมทน่ี ่าสนใจและเหมาะสมกบั เขา
ซึง่ การท่องเทีย่ วโดยชมุ ชนจะตอบโจทย์
ความต้องการนไ้ี ด้ดี

เมอื งสรา้ งสรรคก์ ต็ อ้ งยกใหเ้ มอื งปซู านของเกาหลใี ต้ ทไี่ ดร้ บั การยกระดบั ภารกจิ ของ อพท. กบั การสง่ เสรมิ เมอื งตามภมู ภิ าคให้
ใหเ้ ปน็ เมอื งแหง่ ภาพยนตรเ์ มอื่ ปี 2010 และปจั จบุ นั นเ้ี มอื งปซู านกก็ ลาย เปน็ เมอื งทอ่ งเทย่ี วเชงิ สรา้ งสรรค์
เปน็ ทรี่ จู้ กั เทยี บเทา่ กบั เมอื งคานส์ เมอื งภาพยนตรร์ ะดบั โลกของฝรง่ั เศส
ไปแลว้ เกาหลใี ตน้ ำ� วฒั นธรรมการทำ� หนงั ไปตอ่ ยอดดว้ ยการจดั มหกรรมใหญ่ “ในป ี 2020 เปน็ ตน้ ไป เราไดก้ ำ� หนดใหอ้ กี 4 เมอื งเตรยี มความพรอ้ ม
ด้านภาพยนตร์ให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เพ่ือให้ผู้คนมา ในระดบั สากลโดยอพท.วางเปา้ หมายในป ี 2021เราจะผลกั ดนั พนื้ ทพ่ี เิ ศษ
ท่องเท่ียว ซึ่งน่ีคือเป้าหมายของยูเนสโก ที่ช่วยให้เมืองน้ันยกระดับ เมอื งนา่ นและสพุ รรณบรุ เี ขา้ สกู่ ระบวนการเสนอชอ่ื เพอ่ื รบั การคดั เลอื ก
การพฒั นา แตก่ วา่ จะไปถงึ จดุ นนั้ ได้ หนงึ่ ในเงอ่ื นไขสำ� คญั คอื การสรา้ ง เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ตามมาด้วยเมืองเชียงราย
บรรยากาศของเมอื ง สรา้ งผปู้ ระกอบการรนุ่ ใหมท่ ใี่ หค้ วามสำ� คญั กบั การ และเพชรบรุ ภี ายในปี 2023 นอกจากน้ี ภายในปี 2022 หรอื ปี 2565
ออกแบบและการใชน้ วตั กรรมที่ทำ� ใหต้ ัวสนิ คา้ มีมูลคา่ เพิม่ ข้ึนมา น่ีคอื อพท. จะมโี ครงการขบั เคลอ่ื นทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก ่ โครงการพฒั นาระบบบรหิ าร
เปา้ หมายและประโยชนข์ องการเปน็ เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรค์ เชน่ เดยี วกบั การจัดการฐานทรัพยากรการท่องเท่ียวตามศักยภาพหลัก เพ่ือพัฒนา
ท่ี อพท.ท�ำเรื่องท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์มาตั้งแต่ปี 2011 จากเดิม ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ปกป้องคุ้มครองพ้ืนท่ีทางประวัติศาสตร์
สโุ ขทยั มคี นมาเทย่ี วเยอะ แตเ่ ครอื่ งสงั คโลกทเ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชุมชน โครงการพัฒนาต้นแบบแหล่งท่องเที่ยว
ส�ำคัญของท่ีน่ีกลับถูกเก็บหลบอยู่ในมุม แต่พอส่งเสริมการท่องเท่ียว โดยชมุ ชนและเมอื งศลิ ปะเชงิ สรา้ งสรรค์ โครงการพฒั นาหลกั สตู รและ
เชิงสร้างสรรค์ นักท่องเท่ียวได้รู้จักและเข้าใจเครื่องสังคโลกมากขึ้น ยกระดบั ความสามารถในการจดั การแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วเชงิ สรา้ งสรรคใ์ หก้ บั
จากการทำ� กจิ กรรมเกยี่ วกบั เครอื่ งสงั คโลก เชน่ ออกแบบลวดลายบน บคุ ลากรดา้ นการทอ่ งเทยี่ ว และโครงการพฒั นาระบบการจดั การความ
ถ้วยชามสังคโลก เรียนรู้วัฒนธรรมและได้ค�ำตอบว่าท่ีเคร่ืองสังคโลก ปลอดภยั ในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วและชมุ ชนเมอื งสรา้ งสรรคแ์ ละวฒั นธรรม”
สมยั กอ่ นตอ้ งมลี วดลายปลาตะเพยี นเปน็ พน้ื ฐาน เปน็ หลกั ฐานทบี่ ง่ บอก
ถงึ ความอดุ มสมบรู ณข์ องสโุ ขทยั เปน็ ตน้ ” การท่องเที่ยวหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส
โควดิ -19 จะเกดิ มติ อิ ะไรขนึ้ บา้ ง

“ผมเชอื่ วา่ การทอ่ งเทย่ี วโดยชมุ ชนจะมาเปน็ ตวั ชโู รง เพราะคนไมอ่ ยาก
ไปเทยี่ วในทท่ี ม่ี ผี คู้ นแออดั อกี ตอ่ ไป แตจ่ ะหนั ไปมองหาสถานทเี่ ทยี่ วในที่
ทม่ี ขี นาดพอดี มกี จิ กรรมทน่ี า่ สนใจและเหมาะสมกบั เขา ซง่ึ การทอ่ งเทยี่ ว
โดยชมุ ชนจะตอบโจทยค์ วามตอ้ งการนไ้ี ดด้ ี นอกจากนี้ ผมคดิ วา่ มมุ มอง
การท่องเที่ยวของไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ
การท่องเท่ียวอย่างย่ังยืนที่จะถูกน�ำมาด�ำเนินการปฏิบัติอย่างจริงจัง
ในทกุ ๆ ฝา่ ยทเี่ กย่ี วขอ้ ง ดว้ ยผลลพั ธท์ เ่ี หน็ ไดช้ ดั เจนจากวกิ ฤตโควดิ -19
แล้วว่า การหยุดชะงักของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในมุมหนึ่งนั่นคือการ
รบกวนธรรมชาตนิ อ้ ยลง สง่ ผลใหธ้ รรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มมเี วลาฟน้ื ตวั
ไดด้ ขี นึ้ ดงั นนั้ ดว้ ยบทบาทและความรบั ผดิ ชอบของ อพท.ในเวลาน ้ี เราจงึ
ไดเ้ ตรยี มความพรอ้ มในการเชญิ ชวนชมุ ชน ประชาชน และผปู้ ระกอบการ
ในพื้นที่ให้เข้ามามีส่วนร่วมให้มากข้ึนในการท่องเท่ียวที่ใส่ใจและดูแล
สงิ่ แวดลอ้ มควบคไู่ ปดว้ ย โดยชว่ งแรกหลงั วกิ ฤตนผ้ี า่ นพน้ ไป ผมคดิ วา่
คนไทยคงต้องช่วยเหลือกันเองก่อน ด้วยการรณรงค์และส่งเสริม
การเที่ยวไทยให้มากขึ้น เพื่อรอเวลาที่สถานการณ์ต่าง ๆ คล่ีคลาย
ในระดบั ทน่ี กั ทอ่ งเทยี่ วตา่ งชาตใิ นกลมุ่ ประเทศตา่ ง ๆ ทงั้ แถบเอเชยี และ
ยโุ รปมน่ั ใจในความปลอดภยั และมคี วามพรอ้ มในการออกเดนิ ทางมาเทย่ี ว
เมอื งไทยอกี ครง้ั หนง่ึ ”

Tourism Economic Review 61

บทสรปุ

การท่องเท่ียวยังคงเป็นสาขาที่มีความส�ำคัญต่อการเติบโตทาง อยา่ งไรกต็ าม เพอ่ื ใหก้ ารพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วของไทยมคี วามพรอ้ ม
เศรษฐกิจของประเทศตา่ ง ๆ ทัว่ โลกรวมท้ังประเทศไทยอยา่ งต่อเนอื่ ง ที่จะสามารถด�ำเนินต่อไปได้หลังจากเหตุการณ์ระบาดน้ีส้ินสุดลง การ
โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีจ�ำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมา ผลักดันแนวคิดและการพัฒนาการท่องเท่ียวยังคงต้องเดินหน้าต่อไป
โดยตลอด อยา่ งไรกต็ าม ในปี 2563 ตอ้ งมาสะดดุ ลงดว้ ยการแพรร่ ะบาด อย่างเช่น การท่องเท่ียววัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ที่เป็นนโยบายหน่ึง
ของเชอื้ ไวรสั โควดิ -19 ทอี่ งคก์ ารอนามยั โลกประกาศใหเ้ ปน็ การระบาดใหญ่ ท่ีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ความส�ำคัญ ซึ่งมองว่าต้อง
ทั่วโลก (Pandemic) ส่งผลกระทบต่อไม่ใช่เฉพาะภาคการท่องเที่ยว มีการบรรจุแนวคิดการพัฒนาท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เป็นส่วนหน่ึง
แต่ลุกลามไปถึงเศรษฐกจิ โดยรวมของประเทศตา่ ง ๆ ในโลก ของแผนชาติ และแผนยุทธศาสตร์กระทรวงการท่องเท่ียวและกีฬา
รฐั บาลทกุ ประเทศตา่ งดำ� เนนิ มาตรการเพอื่ ยบั ยงั้ การระบาดรวมทงั้ รวมทั้งการจัดท�ำแผนการพัฒนาการพัฒนาท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
เพ่ือบรรเทาผลกระทบท่ีเกิดข้ึน ซึ่งรวมถึงรัฐบาลไทยในการด�ำเนิน ท่ีครอบคลุมการพัฒนาทั้งระบบตลอดห่วงโซ่มูลค่าท้ังในภาพรวม
มาตรการบรรเทาผลกระทบในภาพรวม และกระทรวงการท่องเท่ียว และในแต่ละพื้นท่ี/ชุมชน การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแผนการ
และกีฬาที่รับผิดชอบต่อการจัดท�ำมาตรการต่าง ๆ ส�ำหรับผู้ประกอบ พัฒนาการท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์กับการพัฒนาอุตสาหกรรม
การท่องเที่ยวและบุคลากรด้านการท่องเท่ียวที่ได้รับผลกระทบ สร้างสรรค์ในฐานะเป็นทรัพยากรที่ส�ำคัญต่อการสร้างภาพพจน ์
ซึ่งนับว่าค่อนข้างสาหัสในครั้งน้ี แต่ดูเหมือนการระบาดยังคงอยู่อย่าง (Image) และตราสินค้า (Brand) คนในพื้นท่ี/ชุมชนต้องได้รับ
ตอ่ เนอ่ื งและไม่มใี ครสามารถตอบไดว้ า่ เมอ่ื ไรจะสิน้ สดุ การเสริมสร้างศักยภาพให้มีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนากิจกรรม

62 Tourism Economic Review

ด้านการท่องเท่ียวที่สามารถดึงดูดความสนใจของนักท่องเท่ียว เพอ่ื ใหเ้ กิดความสอดคล้อง
ส่งเสริมให้มีการข้ึนทะเบียนรับรองวัฒนธรรมของไทยทั้งวัฒนธรรม “โอ๊ะป่อย” อ�ำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี แหล่งท่องเท่ียวเล็ก ๆ
ท่ีจับต้องไม่ได้ (มรดกทางวัฒนธรรม) และวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ในลักษณะตลาดชุมชน นับเป็นตัวอย่างที่ดีในการพัฒนาตามรูปแบบ
รวมทงั้ ความเปน็ เครอื ขา่ ยเมอื งสรา้ งสรรคข์ ององคก์ ารยเู นสโก (UNESCO) แนวคิดของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้
เพ่ือสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักท่องเที่ยว การคัดเลือกและ สามารถประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ ดงั กลา่ วจนสรา้ งชอื่ เสยี ง ดงึ ดดู นกั ทอ่ งเทยี่ ว
สนับสนุนการด�ำเนินงานของตัวแทนการบริหารจัดการท่องเท่ียว เข้ามาในจังหวัดราชบุรีได้อย่างมากมาย ด้วยการน�ำเสนอจุดเด่น
ในพ้ืนที่ (DMO) ซึ่งอาจเป็นบุคคลหรือองค์กรท่ีมีศักยภาพในการท�ำ ท่ีแตกต่างใน 3 แนวคิดด้วยกัน ได้แก่ 1. การส่งเสริมการศรัทธาใน
หนา้ ทคี่ นกลางในการคดิ คน้ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารและนำ� เสนอตอ่ นกั ทอ่ งเทย่ี ว พระพทุ ธศาสนา 2. การเคารพธรรมชาติ และ 3. การเรียนรวู้ ถิ ีชมุ ชน
กลุ่มเป้าหมาย การสร้างสภาพแวดล้อมที่สอดคล้องกับรูปแบบ ซ่ึงท้ังสามแนวความคิดน้ี ไม่เพียงแค่ส่ือสารให้แก่นักท่องเที่ยวให้มี
ทางวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ การจัดท�ำระบบฐานข้อมูลการพัฒนา สว่ นรว่ มในการปฏบิ ตั ติ ามแนวคดิ นเี้ ทา่ นน้ั ยงั เปน็ รากฐานของแนวทาง
ท่องเทีย่ วเชงิ สร้างสรรค์ในภาพรวมและแตล่ ะพ้นื ที่ รวมทงั้ การทำ� งาน การปฏิบัติของชุมชน พ่อค้า แม่ค้า รวมถึงทุก ๆ คนท่ีอยู่ในแหล่ง
ทเี่ นน้ การประสานการทำ� งานรว่ มกนั ระหวา่ งหนว่ ยงานดา้ นวฒั นธรรม ทอ่ งเท่ยี วแห่งน้อี กี ด้วย
และหน่วยงานด้านการท่องเท่ียวซ่ึงเป็นประเด็นส�ำคัญท่ีต้องได้รับ
การมองอย่างเป็นองค์รวมตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงการปฏิบัติ

Tourism Economic Review 63

64 Tourism Economic Review

Tourism Economic Review 65

กองเศรษฐกจิ การทอ่ งเทยี่ วและกฬี า
กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า

เลขท่ี 4 ถนนราชดำ� เนนิ นอก แขวงวดั โสมนสั เขตปอ้ มปราบศัตรพู ่าย กรงุ เทพมหานคร 10100
โทรศัพท์ : 0-2283-1500 ตอ่ 1605 โทรสาร : 0-2356-0738

ภายใตโ้ ครงการจดั ทำ� บญั ชปี ระชาชาตดิ า้ นการทอ่ งเทย่ี ว (Tourism Satellite Account: TSA)
บรษิ ัท เอก็ เซลเลนท์ บสิ เนส แมแนจเมน้ ท์ จำ� กดั

66 Tourism Economic Review


Click to View FlipBook Version