The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลงกรุง วารสารนำเที่ยวอยุธยา เมืองโบราณที่ทุกคนจะต้องไปยืนสักครั้งในชีวิต ทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความทรงจำ ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้คนที่เคยมาเยือนต้องตกหลุมรักกรุงเก่าแห่งนี้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by toonkong2509, 2021-11-28 23:43:36

หลงกรุง

หลงกรุง วารสารนำเที่ยวอยุธยา เมืองโบราณที่ทุกคนจะต้องไปยืนสักครั้งในชีวิต ทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความทรงจำ ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้คนที่เคยมาเยือนต้องตกหลุมรักกรุงเก่าแห่งนี้

ท่ปี รกึ ษาวารสาร ดาราพร ศรมี ว่ ง
อาจารย์
บรรณาธกิ าร สุรางคนางค์ รตั นวจิ ารณ์
ปกและรูปเล่ม (อาร์ต)
รวบรวมขอ้ มูล นริ ชั ภร เน่อื งฤทธิ์
พิสจู นอ์ ักษร
ภาพปก โสรยา รุ่งแสง นิรชั ภร เนอ่ื งฤทธิ์

พรศริ ิ ภาคจกั ษุ โสรยา รุ่งแสง

อิสแนน สารีฝนี ภทั ธญิ าภรณ์ ศาสตรส์ าระ

โอม กิตติพงษ์

สถานท่ที ่องเทย่ี วท่นี ่าสนใจของอยุธยา เมอื งมรดกโลก จ า รึก โ บ ร า ณ ท่ี ถู ก ค้ น พ บ อ ยู่ ภ า ย ใ น วัด ม ห า ธ า ตุ
เมอื งทร่ี ่ารวยประวตั ศิ าสตร์ ทจ่ี ารกึ เร่อื งราวและความเช่อื ของคนอยุธยาในอดตี

............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................

ท่ีมาและความหมายของ คาขวัญประจาจังหวัด เร่ืองราวและความสวยงามของวัดใหญ่ชัยมงคล
พระนครศรอี ยุธยา ทจ่ี ะทาใหท้ ุกทา่ นรจู้ กั ความเป็นอยธุ ยามากขน้ึ สถานทส่ี าคญั นอกเกาะเมอื งของชาวอยุธยา

............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................

ประวตั คิ วามเป็นมา และสถาปัตยกรรมวดั มหาธาตุท่นี ่า จากโบราณสถานทม่ี เี พยี งเร่อื งราวทางประวตั ศิ าสตร์
ตน่ื ตาต่นื ใจ สู่สถานท่ีท่องเท่ียวช่ือดังตามละครบุ พเพสันนิวาส และ
การทอ่ งเทย่ี วในรปู แบบใหมท่ ไ่ี มเ่ คยเกดิ ขน้ึ มากอ่ น
.............................................................................................................................................
........................................................................................................................................
ประวตั ศิ าสตรแ์ ละความล้ลี บั ของวดั ราชบูรณะ ทเ่ี ล่าลอื
ต่อๆ กนั วา่ มเี ร่อื งราวน่าขนลกุ ซอ่ นอยู่ ความหมายของคาศัพท์ต่างๆ ในบุพเพสันนิวาส
ทห่ี ลายคนอาจจะสงสยั ว่ามที ม่ี าจากไหน

ภาษาของชาวอยุธยาท่ีมีประวัติความเป็ นมา คาเฟ่ สไตล์ไทยท่นี ่าสนใจเพ่อื ท่ีจะได้พกั ผ่อนหย่อนใจ
อย่างยาวนาน ชวนใหส้ นใจ คลายความเมอ่ื ยลา้ จากการทางานตลอดทงั้ สปั ดาห์

.................................................................................................................. ..................................................................................................................

ข อ ง ดี ข อ ง ดัง ข อ ง อ ร่ อ ย ป ร ะ จ า จัง ห วัด งานเทศกาลประจาปี ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระนครศรอี ยุธยา กบั โรตสี ายไหม และปลาตะเพยี นสาน ทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยสสี นั ความตระกาลตา เสยี งหวั เราะ และความสุขของ
ผรู้ ่วมงานอย่างลน้ หลาม
..................................................................................................................
..................................................................................................................
ตลาดนัดใจกลางเกาะเมอื งอยุธยา สถานท่แี ห่งชวี ติ
ของชาวอยุธยาตงั้ แต่เชา้ จรดค่า บทเพลงเชดิ ชูความเป็นอยุธยา อดตี อนั น่าจดจาทน่ี ามา
ซง่ึ บทเรยี นแหง่ ชวี ติ ใหผ้ คู้ นไดต้ ระหนกั ทุกชว่ งเวลา
..................................................................................................................
..................................................................................................................
ตลาดนัดธรรมดาทไ่ี มธ่ รรมดา เพราะเป็นตลาดโต้รุ่ง
แห่งแรก และเป็นตลาดทม่ี เี อกลกั ษณ์เฉพาะตวั บทสัมภาษณ์ท่ีนาเสนอให้เห็นถึงมุมมอง สถานท่ี
ท่องเทย่ี ว และความทรงจาของผคู้ นในอดตี เมอ่ื 40 ปีก่อน

Yuttharut

ประวัติศาสตร์เป็นองค์ความรู้หนึ่งที่ทำให้ผู้คนเห็นถึงเรื่องราวในอดีตที่เราไม่รู้จัก การศึกษาค้นคว้า
จากแหลง่ ขอ้ มูลตา่ งๆ จึงเป็นสว่ นหนง่ึ ทที่ ำให้ผูค้ นไดเ้ ขา้ ใจและรับรเู้ รอ่ื งราวทชี่ ัดเจนมากย่ิงข้ึน แตก่ ารเดินทาง
ไปสู่สถานที่จริง ที่บันทึกเรื่องราวและทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ไว้ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ
ของประวตั ศิ าสตร์น้ันเกดิ เปน็ รูปธรรมและเป็นขอ้ เท็จจริงทนี่ า่ เชือ่ ถือมากยิ่งข้ึน

วารสาร “หลงกรุง” จะพาผู้อ่านทุกท่าน เดินทางไปยังกรุงเก่าที่เตม็ ไปด้วยกลิ่นอายของอดีต ซึ่งได้รับ
การยกย่องว่าเป็นเมืองมรดกโลกอย่าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ยังคง
หมุนเวียนอยู่ รวมไปถึงเรื่องราวทางภาษาจากจารกึ และจากละครบุพเพสนั นิวาส ทั้งนี้กรุงอโยธยาหรอื อยุธยา
ก็ยังมีวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ร่วมกันโบราณสถานให้ได้พบเห็นอยู่เป็นกิจวัตรประจำวัน จากสถานท่ี
ท่องเที่ยว ตลาดนัดที่ใช้จับจ่ายซื้อขายและเป็นศูนย์รวมของวิถีชีวิตชาวอยุธยาในทุกเพศทุกวัย ตลอดจนเรื่อง
เล่าและความทรงจำของคนเฒา่ คนแก่ ทพ่ี รอ้ มจะเลา่ เรื่องราวในยุคสมยั ของตน ใหผ้ อู้ า่ นในปัจจบุ ันได้สัมผัสถึง
มนตรเ์ สนห่ ์ของเมืองอยุธยา เมืองมรดกโลก เมืองท่ีรุ่งเรืองทางประวัตศิ าสตร์

Shopee BLOG

“อยุธยา” คำนี้ใครๆ ต่างก็รู้จักกันดี โดยชื่อ
เต็มๆ คอื จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา เป็นจังหวัด
โสรยา รงุ่ แสง ในแถบภาคกลาง ที่มีสถานที่สำคัญทาง
ประวัตศิ าสตร์ของไทย เมอ่ื พูดถงึ อยุธยาสิ่งแรกที่ตอ้ งนึกถึงคอื วดั และปราสาทโบราณที่ยงั คงหลงเหลือ ให้คนรุ่นหลังได้
ชนื่ ชมความสวยงาม และความรุ่งเรืองของอยธุ ยาเมอ่ื ครงั้ ยังเป็นเมอื งราชธานี จงึ ทำใหเ้ ปน็ ท่ีน่าสนใจแก่นกั ท่องเทย่ี วทั้ง
ชาวไทยและชาวตา่ งชาติ

https://thailandtourismdirectory.go.th

หากจะพูดถึงแหล่งโบราณสถานที่งดงาม มากคุณค่า
ด้านประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของไทยคงจะหนีไม่พ้น
แหล่งโบราณสถานทอ่ี ยุธยา ซงึ่ ในจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยาน้ัน
มแี หลง่ โบราณสถานที่สำคญั อยู่หลายหลากสถานทกี่ ระจายตัว
อยู่ตามบริเวณในและนอกเกาะเมือง โบราณสถานเหล่านี้มี
ชื่อเรียกว่า อุทยานประวัตศิ าสตร์พระนครศรอี ยธุ ยา ได้รับการ
ประกาศข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลก จากการประชุม
คณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ณ กรุงคาร์เธจ
ประเทศตูซิเซีย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 โดยในอุทยาน
ประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีวัดที่สำคัญ ที่ยังคง
ความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งหมด
7 วัด อันไดแ้ ก่

1. วิหารพระมงคลบพิตร (Phra Mongkhon Bophit) เป็นสถานที่

แรกๆ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจที่จะมาเยือน โดยวิหาร
พระมงคลบพิตรถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ เพราะเป็นวัดอารามหลวงที่
ตั้งอยู่ในเขตของกำแพงเมือง จุดเด่นที่นา่ สนใจคือพระพุทธรูปประธาน
ขนาดใหญ่ท่มี ีอายุยาวนานและผ่านการชำรดุ เสยี หายจากการเสียกรุง

แต่ได้รบั การปรบั ปรงุ บรู ณะข้ึนมาใหม่ทำใหย้ งั คงความสวยงาม
และเปน็ ท่สี ักการะบชู าแกค่ นอยุธยาและนักทอ่ งเทย่ี ว

https://www.ayutthayacity.go.th

2.วัดพระศรีสรรเพชญ์ (Wat Phrasisanphet) เป็นวัดที่มีความสำคัญใน

เรื่องราวเรื่องของกษัตริย์อยุธยา จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ เจดีย์องค์ใหญ่
3 องค์ เป็นสถานที่บรรจุพระอัฐิของกษัตริย์อยุธยาไว้ และเจดีย์ทั้ง 3 องค์
ยังคงความสมบรู ณ์อยู่ แมเ้ วลาจะผ่านมาเนิน่ นานมากแล้วก็ตาม

3.วัดพระราม (Wat Phra Ram) หากจะพูดถึง

วัดที่มีพระปรางค์ที่มีขนาดใหญ่ คงความสวยงาม
จากอดีตราชธานีจนถึงปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้น
วัดพระราม จุดที่น่าสนใจของสถานที่แห่งนี้คือ
พระปรางค์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบึงบัว
ซึ่งนอกจากพระปรางค์แล้ว ยังมีจุดเด่นภายใน
บรเิ วณวดั คอื วหิ ารทงั้ 7 หลังที่ต้ังอยู่ภายใน

นายสี่ตา

4.วดั ราชบรู ณะ (Wat Ratchaburana) วัดราชบูรณะถือเป็นอีกหน่ึงสถานท่ี

ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่มีมนตร์เสน่ห์ดึงดูด
นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก วัดราชบูรณะมีชื่อเสียงในเรื่องของจิตรกรรม
ฝาผนังสมัยอยุธยาตอนต้นภายในพระปรางค์ และเรื่องราวสมบัติเก่าแก่
การขุดค้นพบเครื่องทองตา่ งๆ ท่ีบรรจุอยู่ภายในกรุพระปรางค์ใหญ่ ซึ่งแน่นอน
ว่าเมื่อมีการขุดพบเครื่องทองที่เป็นสมบัติเก่าของคนอยุธยา ก็มักจะมาพร้อม
กบั เรือ่ งราวอาถรรพค์ วามลี้ลับของสมบัติโบราณ

TAT Contact Canter

6 .วัดโลกยสุธาหรือวัดพระนอน ( Wat Lokaya Sutha)

วัดโลกยสุธาถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่อยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์
พระนครศรีอยธุ ยาที่มคี วามน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าสถานทีอ่ ื่น โดย
ในวัดน้มี ีพระพุทธไสยาสน์ปางไสยาสน์หรือที่เรยี กกันว่า พระนอน
ท่ีมีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา เป็นที่ดึงดูดผู้คนให้มา
กราบไหว้

TAT Contact Canter

7.วัดธรรมิกราช (Wat Thammikarat) เป็นอีกหนึ่งวัดที่ไม่พูดถึงไม่ได้ โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ติดพระราชวังโบราณ มี

จดุ เด่นที่น่าสนใจคอื วิหารเก้าห้องที่มีความงดงาม และมีการคน้ พบเศยี รพระธรรมกิ ราชทเ่ี ป็นพระพุทธรูปท่ีมีขนาดใหญ่
ทส่ี ุดโดยตวั ของเศยี รเป็นรูปสำริด ปจั จุบันไดม้ กี ารย้ายเศยี รมาเกบ็ รักษาไว้ทพ่ี ิพิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติเจ้าสามพระยา

นอกจาก 7 วัดในเขตอุทยาน กลิ่นอายของความเป็นไทย ที่รุ่งเรืองทั้งในอดีต
ประวัตศิ าสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่ไดข้ ึ้นทะเบียน และปัจจุบันเป็นสถานที่สำคัญที่ทำให้ผู้คนรุ่นหลัง
เป็นมรดกโลกแล้ว ยังมีสถานที่เกี่ยวข้องกับ หันมาศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของ
ประวัตศิ าสตร์ของคนอยธุ ยาอีกมากมายทีก่ ระจาย ไทย นอกจากนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สถานที่สำคัญ
ตามพืน้ ที่ต่างๆ ของจงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยาที่รอ “อยุธยา” ยังมีความงดงามของธรรมชาติและ
ให้ผู้คนไปสัมผัสถึงความพิเศษของสถานที่นั้นๆ สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ทำให้ใครหลายๆ คนที่มา
นอกจากแหล่งโบราณสถานท่ีให้ความรู้เกี่ยวกับ อยุธยาต้องตกหลุมรักในมนตร์เสน่ห์นี้และต้อง
เรื่องราวทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีสถานที่ท่ี กลับมาเยือนอีกครั้ง สิ่งที่ได้กล่าวมานี้เป็นเพียงส่ิง
ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรม วิถีชีวิตของ เล็กๆ ทีช่ ว่ ยใหผ้ อู้ า่ นเห็นถงึ ความงดงามของอยุธยา
ค น อ ย ุ ธ ย า ท ี ่ น ่ า ส น ใ จ อ ี ก ม า ก ม า ย ท ี ่ ร อ ใ ห้ ที่เป็นเมืองแห่งมรดกโลก และวัฒนธรรมท่ี
นกั ทอ่ งเทยี่ วไปเยอื น ทรงคุณค่า ที่รอให้ผู้อ่านไปสัมผัสประสบการณ์
เหล่านี้ด้วยตวั ของท่านเอง และดิฉันเชื่อว่าทุกทา่ น
“อยุธยา” เป็นเมืองแห่งมนตร์เสน่ห์ท่ี จะต้องรักความเปน็ “อยธุ ยา” เมอื งแหง่ มรดกโลก
ดึงดูดทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้
เข้ามาเยือนสถานที่แห่งนี้ พื้นที่ที่เต็มไปด้วย

thailandtourismdirectory

www.wallpaperflare.com

พรศิริ ภาคจกั ษุ ศรีอยุธยา" ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ได้เสนอ
เมื่อได้อ่านคำขวัญข้างต้นแล้ว ก็คงจะพอ ความคิดเห็นขอเพิ่มเติมคำขวัญจังหวัด เพ ื่ อให้
เดาได้ว่าคำขวัญข้างต้นเป็นคำขวัญประจำจังหวัด ครอบคลมุ จุดเดน่ ของจังหวัดพระนครศรอี ยุธยา
พ ร ะนคร ศร ีอยุธ ยา เพ ร า ะเด ิมที จ ังหวั ด
พระนครศรีอยุธยาเคยเป็นศูนย์กลางของสยามสืบ
ต่อกันยาวนานถึง 417 ปี กระทั่งเสียกรุงแก่พม่า
กรุงศรีอยุธยามีพระมหากษัตริย์ปกครอง
ราชอาณาจักรถึง 33 พระองค์ มี 5 ราชวงศ์ คือ
ราชวงศ์อู่ทอง ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ราชวงศ์สุโขทยั
ราชวงศ์ปราสาททอง และราชวงศ์บ้านพลูหลวง
อยุธ ยา มีปร ะว ัติ ศา ต ร ์ด ้า น ก า ร ปก ค ร อ ง
มีการกอบกู้เอกราชถึง 2 ครั้ง อีกทั้งอยุธยายังต้ัง
ถ่นิ ฐานบรเิ วณลุม่ แมน่ ้ำเจา้ พระยาทำให้เป็นพ้ืนที่ที่
ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเกษตรกรรมก็ว่า
ได้ อยุธยาจึงเหมาะแก่คำกล่าวที่ว่า “เมืองอู่ข้าว
อู่นำ้ ” และ “ในนำ้ มปี ลาในนามีขา้ ว” เป็นคำนยิ าม
ที่กล่าวถึงความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจ และ
ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ ด้วยสภาพ
ภูมิศาสตร์ของอยุธยาและความอุดมสมบูรณ์ทำให้
อยุธยาเหมาะแก่การค้ากับต่างประเทศเป็นอย่าง
มาก ทำให้อาณาจักรอยุธยามีความมั่งคั่งและ
รุ่งเรืองที่สุดกว็ า่ ได้

คำขวัญจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ถูก
กำหนดขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2533 โดยได้ตั้งคำขวัญว่า
"ราชธานเี ก่า อูข่ ้าวอู่น้ำ เลิศลำ้ กานท์กวี คนดี

https://www.hippopx.com เห็นชอบ และมอบหมายให้อำเภอจัดการรับฟัง
ความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ในแต่ละอำเภอ
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การศึกษา ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560 ได้มีการ
วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ นำเสนอผลการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวในท่ี
หรือยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลกทาง ประชุมกรรมการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า
ศิลปวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2534 ภาคส่วนต่างๆ ในทุกอำเภอเห็นชอบด้วย จึง
โดยคณะกรรมการจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีมติ ประกาศใช้คำขวัญประจำจังหวัดใหม่ โดยเพิ่มคำ
ว่า "เลอคุณค่ามรดกโลก" ต่อท้ายคำขวัญเดิมเป็น
"ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดี
ศรีอยธุ ยา เลอคณุ คา่ มรดกโลก"

คำขวัญประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในแต่ละประโยคยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็น
อยุธยา ทั้งโบราณสถานที่ให้คุณค่าแก่คนรุ่นหลัง
ครั้นในอดีตมีความยิ่งใหญ่เป็นศูนย์กลางอำนาจ
เป็นราชธานีที่เป็นศูนย์กลางการค้าก็ว่าได้ คำขวญั
ประจำจังหวัดยังแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์
ของบ้านเมือง ความงามด้านวรรณศิลป์ และ
ความเป็นอยธุ ยาจรงิ ๆ

“ราชธานเี กา่ ” คำนแ้ี สดงใหเ้ หน็ วา่ อยุธยา
ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
มาก่อน ก่อนที่จะมีเมืองหลวงในปัจจุบัน คือ
กรุงเทพมหานครฯ ในสมัยกรุงศรีอยุธยานับได้ว่า
เป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุด โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ
มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศทั้งฝรั่งเศส
โปรตุเกส ฮอลันดา และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย
เพราะอยุธยาเป็นเกาะเมืองที่ล้อมไปด้วยแม่น้ำ
ลำคลอง ทำให้เป็นศูนย์การค้าในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีความอุดมสมบูรณ์ของ
ทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยค้าขายสินค้า
แลกเปลี่ยนทางเรือกับต่างประเทศ สินค้าที่ขาย

ให้กับต่างประเทศ คือผลผลิตทางการเกษตร จำนวนมาก ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของอยุธยาเป็น
เครื่องสังคโลก และผลผลิตจากป่าไม้ ทำให้ พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำ 3 สายล้อมรอบเกาะ
กรงุ ศรีอยุธยามเี งนิ มากมายเขา้ คลังหลวง เมืองอยุธยา ในอดีตผู้คนส่วนใหญ่มักอาศัย
อยู่ริมแม่น้ำลำคลองเพื่อการคมนาคม และ
แม้ว่าอยุธยาจะมีความเจริญรุ่งเรืองถึงขีด การเลี้ยงชีพด้วยพื้นที่อยุธยาเป็นที่ลุ่มจึงเหมาะ
สุดในยุคนั้นแต่ก็เป็นเพียงแค่อดีต เพราะการเสีย แก่การเพาะปลูก โดยส่วนใหญ่ปลูกข้าวเป็นอาชีพ
กรุงครงั้ ท่ี 2 ให้กบั พม่า เกดิ ความเสียหายเป็นอยา่ ง หลักมาตัง้ แต่สมัยโบราณ ซ่ึงในสมยั อยุธยา “ข้าว”
มาก แม้ว่าสมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราชได้กอบกู้ ถ ื อ เ ป ็ น แ ห ล ่ ง ร า ย ไ ด ้ ส ำ ค ั ญ แ ม ้ แ ต ่ ใ น ส มั ย
เอกราชคืนมาได้ แต่ก็ไม่สามารถกู้กรุงศรีอยุธยา รัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบันอยุธยายังเป็นแหล่ง
เป็นราชธานีเช่นในอดีต เพราะกรุงศรีอยุธยาถูก ปลกู ข้าวทีส่ ำคญั ในพน้ื ที่ราบลุ่มแม่นำ้ เจ้าพระยา
ทำลายจนยากแก่การบูรณะ จึงได้ตั้งราชธานีใหม่
เป็นกรุงธนบุรี อันมีต้นแบบระบอบการปกครอง ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของอยุธยา นับได้ว่า
และระบบเศรษฐกิจมาจากกรุงศรีอยุธยา จึงเป็น พระเจ้าอู่ทองผู้ที่สถาปนาแผ่นดินกรุงศรีอยุธยามี
ราชธานีเกา่ จวบจนมาถึงปจั จุบนั พระปรีชาสามารถและเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติท้ัง
ผืนน้ำและผนื ดิน ทำใหเ้ ม่อื เขา้ สูช่ ่วงนำ้ ท่วมของทุก
อีกทั้งคำว่า “อู่ข้าวอู่น้ำ” สะท้อนวิถีชีวิต ปี แร่ธาตุที่ไหลมาจากน้ำเหนือลงมาถึงอยุธยาก็จะ
ของคนอยุธยาได้เป็นอย่างดี ถ้าได้เดินทางมา มีการตกตะกอนของแร่ธาตุ ทำให้ดินดีน้ำดีเช่นน้ี
จังหวัดพระนครศรีอยุธยารอบนอกเกาะเมือง ยิ่งทำให้ดนิ มีคณุ ภาพดีเหมาะแกก่ ารเพาะปลกู
ร ิ ม ถ น น จ ะ เ ห ็ น เ ก ษ ต ร ก ร ป ล ู ก ข ้ า ว ก ั น เ ป็ น

www.hippopx.com

ด้านการกวี ผู้คนต่างสนใจวรรณคดีและสร้างสรรค์
วรรณคดีหลายเร่ือง มวี รรณคดีเกดิ ขึน้ มากมาย

www.hippopx.com

สมดงั คำนิยามที่ว่า “เมอื งอขู่ ้าวอ่นู ้ำ” เพราะแสดง เช่นสมุทรโฆษคำฉันท์ โคลงพาลีสอนน้อง
ให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่และ โคลงทศรถสอนพระราม โคลงราชสวัสดิ์ อนิรุทธ์
ทรัพยากรในบรเิ วณนนั้ จริงๆ คำฉันท์ กาพย์ห่อโคลง โคลงเฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โคลงนิราศ
“เลิศลำ้ กานท์กวี” อยุธยาน้นั เป็นสถานที่ นครสวรรค์ ฉันท์ดุษฏีสังเวยกล่อมช้าง
ที่สร้างความงานความวิจิตรศิลป์ต่างๆ ไม่เพียงแค่ และจินดามณี เป็นต้น
สถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวรรณคดีที่มี
ความงามทางวรรณศิลป์อีกด้วย ในช่วงหนึ่งของ วรรณคดีที่ยกตัวอย่างมานั้นเป็นผลงาน
กรุงศรีอยุธยาเป็นช่วงที่เราเรียกกันว่า “ยุคทอง ของนักปราชณ์ราชกวีที่มีความสามารถล้ำเลิศ
แห่งวรรณคดี” ช่วงสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ทั้งสิ้น นอกจากพระองค์จะเป็นกวีเองแล้ว ยังทรง
มหาราช พระองค์เป็นกษัตริย์ไทยในอดีตที่ทรง อปุ ถมั ภก์ วีในยุคของพระองคไ์ ว้มากมาย โดยกวที ี่มี
พระปรีชาสามารถในหลายด้าน ทรงสร้าง ชื่อเสียงในสมัยพระนารายณ์ คือพระมหาราชครู
ความเจริญรุ่งเรือง และความยิ่งใหญ่ให้แก่ ศรีปราชณ์ พระศรีมโหสถ ขุนเทพกวี เป็นต้น
กรุงศรีอยุธยา พระนารายณ์เป็นผู้ปราดเปรื่องใน ทั้งหมดนี้คือบุคคลที่มีความโดดเด่นมากที่สุดใน

สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในช่วงสมัย คนอยุธยาก็พร้อมต่อสู้กับศัตรู และมีความเชื่อมั่น
อยธุ ยาตอนปลาย ว่าแม้จะเสียกรุงศรีอยุธยาไปก็ยังมีหนทางในการ
แก้ไขเพราะอยุธยาไม่เคยสิ้นผู้กล้าและคนดี
ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ากรุงศรีอยุธยานั้นเป็น นอกจากนยี้ งั เหน็ ถึงนสิ ยั ของคนอยธุ ยาเป็นผู้ที่ยอม
เมืองที่มีกวีสร้างผลงานวรรณคดีไว้อย่างมากมาย สละชีพเพื่อแผ่นดิน ไม่เกรงกลัวศัตรูต่อสู้จนถึง
มาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และถูกสร้างสรรค์มา ท่ีสุด
จนถึงอยุธยาตอนปลาย แต่ในช่วงอยุธยาตอน
ปลายวรรณคดีมีความโดดเด่นมากที่สุดและเป็น “เลอคณุ ค่ามรดกโลก” ประโยคนแี้ สดงให้
“ยุคทองด้านวรรณคดี” ของกรุงศรีอยุธยา เห็นว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเขต
แสดงให้เห็นว่าอยุธยามีผลงานด้านบทกวีมากมาย โบราณสถานที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม เป็นเมือง
มีความไพเราะ มีคุณค่าทางวรรณศิลป์ ไม่ว่าจะ ประวัติศาสตร์ที่ยังคงปรากฏหลักฐานร่องรอยของ
เปน็ ลลิ ติ คำฉนั ท์ กาพย์ ล้วนแตเ่ ป็นผลงานทนี่ ่ายก อารยธรรมอันรุง่ เรอื งในอดตี ของศลิ ปวัฒนธรรมอนั
ย่องให้เปน็ มรดกของคนไทยแสดงถึงความเป็นไทย ยง่ิ ใหญ่ท่งี ดงามและทรงคุณค่า สะทอ้ นให้เห็นภาพ
ทีค่ วรคู่ใหค้ นรนุ่ หลังอนรุ ักษ์และเรยี นรู้สืบต่อไป ของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาท่ีเคยเป็นราชธานีแหง่
หนึ่งในประวัติศาสตร์ของไทย เป็นอาณาจักร
“คนดีศรีอยุธยา” จากประโยคนี้หลายคน ศูนย์การค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งในอดีต ด้วยสภาพ
ที่เคยได้ยินอาจจะคิดว่า เป็นการกล่าวถึงนิสัยของ ภูมิศาสตร์เป็นเมืองท่าที่มีแม่น้ำล้อมรอบเอื้อต่อ
คนอยธุ ยาว่าเปน็ คนดี ในส่วนนี้ก็มคี วามจรงิ อยู่ แต่ การติดต่อค้าขาย และสร้างความสัมพันธ์กับ
อีกนัยหนึ่งคือ กล่าวถึงนักรบผู้กล้าหาญ ที่มี ดินแดนตา่ งๆ ทัง้ ในแผน่ ดนิ และนอกแผน่ ดนิ ส่งผล
ความสามารถ และเป็นคนดี สละชีพกอบกู้ ให้เกิดความมั่นคงทางการเมืองการปกครอง
บ้านเมือง แม้จะเสียกรุงศรีอยุธยาถึง 2 ครั้ง ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และมีเค้าโครงของ
ก็สามารถกู้เอกราชกลับคืนมาได้ จึงมีคำกล่าว สถาปัตยกรรมในอดีตที่เคยสวยงามแม้ปัจจุบันจะ
ควบคู่กับคำว่า “คนดีศรีอยุธยา” คือ “อยุธยาไม่ เหลือเพียงเค้าโครงของก้อนอิฐแต่ก็เต็มไปด้วย
สิ้ น ค น ดี ” เ ม ื ่ อ ถ ึ ง ค ร า ว บ ้ า น เ ม ื อ ง เ กิ ด คุณค่าทางจิตใจของชาวอยุธยา ด้วยความโดดเด่น
ความยากลำบากก็จะมีคนดี ที่มีความกล้าหาญ นี้ส่งผลให้เมืองประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
และเกง่ กาจ มาชว่ ยกอบกู้สถานการณ์บ้านเมืองให้ ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาให้เป็นอุทยาน
พน้ ภัย ประวัติศาสตร์และได้รับการขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชี
รายชอื่ แหลง่ มรดกโลก
ทั้งยังเห็นได้จากเพลงประจำจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา คือเพลงกรุงศรีอยุธยา ทำนอง แ ม ้ ว ่ า ใ น ป ั จ จ ุ บ ั น อ ย ุ ธ ย า จ ะ ไ ด ้ ช ื ่ อ ว่ า
ของพลตรหี ลวงวิจติ รวาทการ ท่มี ปี ระโยคหน่ึงร้อง “อยุธยาเมืองมรดกโลก” แต่ก็เป็นเมืองที่มากไป
ว่า “กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี” แสดงให้เห็นว่าแม้ ด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่พร้อมให้ผู้คน
กรุงศรีอยุธยาจะแพ้สงครามตกเป็นเมืองขึ้น

ศึกษาและเรียนรู้ ทั้งเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวท่ี ถึงขีดสุด แตกต่างกับปัจจุบันที่เหลือเพียงเศษซาก
ต้อนรับผู้คนที่มาเยี่ยมชมอีกด้วย หากอุทยาน ของอารยธรรมในอดีต ทั้งนี้ก็เพราะคนไทยเกิด
ประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาไม่ได้รับการดูแล ความโลภ แยง่ ชิงผลประโยชน์ขาดความสามัคคีทำ
ก็อาจเป็นการทำลายคุณค่าของความเป็นเมืองเก่า ให้เราเหลือเพียงประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตที่
อันได้รับยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก อาจทำให้ สืบทอดต่อเนื่องกันมา เราคาดหวังว่าคนไทยใน
เมืองเก่าแห่งนี้ถูกลดทอนความสำคัญในอนาคต ปัจจุบันจะได้เรียนรู้ความผิดพลาดในอดีต และหัน
และไม่เหลอื คณุ ค่าใหเ้ ราได้เย่ียมชมอีกต่อไป มาตระหนักถึงความสำคัญร่วมกันดูแลรักษา
บา้ นเมอื งให้สมกบั ทีไ่ ดช้ อ่ื วา่ อยธุ ยาเมืองมรดกโลก
คำขวัญประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
แสดงให้เห็นแล้วว่าอยุธยาในอดีตมีความรุ่งโรจน์

Yuttharut Yuttharut
อมรนิ ทรพ์ ริน้ ตง้ิ



สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
อยุธยามีสถานที่หนึ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีมากนั่นก็คือ วัดมหาธาตุ
ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์
พระนครศรอี ยุธยาเลยกว็ ่าได้ เพราะมีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัย
อยุธยาตอนต้น ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือ
ขุนหลวงพระงว่ั หลายคนอาจจะสงสยั วา่ เพยี งแค่เป็นวดั ทเี่ ก่าแก่
จะมีความสำคัญอย่างไร? ในอดีตวัดมหาธาตุมีความสำคัญเป็น
อย่างมากในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะพระราเมศวรมหาราชได้
บรรจพุ ระบรมสารรี ิกธาตไุ วใ้ ตฐ้ านพระปรางค์ของวดั เพอ่ื ให้ผคู้ น
สักการะและวัดอารามหลวงที่ใช้ประกอบราชพิธีต่างๆ ที่สำคัญ
ก่อนจะย้ายไปประกอบราชพิธีวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดนี้จึงเป็น
ดง่ั ศูนยก์ ลางทางศาสนา

และเป็นหลักของเมอื งเลยกว็ ่าได้

พรศิริ ภาคจกั ษุ

วัดมหาธาตุสร้างขึ้นในระยะแรก ด้านหน้าของวัดมี “พระวิหารหลวง”
ในช่วงสมัยวอัดยมุธหยาาธตาอตนุสตร้านงขไ้ึนด้ใรนับรอะิทยธะิพแรลกกใานรช่วงสมัย ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด บริเวณใต้พระวิหาร
สรอ้ายงมุธยาจาาตกอขนอตม้น แไลดะ้รรับูปอแิทบธบิพกลากรากร่อสสรร้า้างงมวาัดจากขอม ได้ค้นพบภาชนะดินเผาขนาดเล็ก 5 ใบ ภายใน
ไดแ้รลับะครวูปาแมบนบิยกมาเรปก็น่ออสยร่า้ งมวัาดกไดใน้รัชบ่วคงวสามันยิยมเป็น บรรจุแผ่นทองดุนลายรูปพระพุธรูป และรูปสัตว์
อยอุธยย่าางตมอานกตใน้นชจ่วะงสมังเัยกอตยไุธดย้วา่าตวอัดนราตช้นบจูระณสะังทเก่ี ตได้ว่า ตา่ งๆ ปัจจุบนั วหิ ารหลวงเหลอื เพียงแคพ่ ื้นและเสา
อยวู่ใัดกรลา้ๆชบกูรับณวัดะมทหี่อายธู่ใากตลุนๆ้ ั้นกมับีรวูปัดแมบหบากธารตสุนร้ัน้ามงีรูปแบบ ให้เห็นเพียงเท่านั้น ส่วนฝาผนังและหลังคาได้ถูก
ที่เกหามรสือรน้ากงทันี่เหคมือือในหก้คันวาคมือสใหำค้ ัวญากมับสำวคิหัญารกับวิหาร ทำลายไปตงั้ แตเ่ สยี กรงุ ครงั้ ที่ 2
มามกากกวก่าวอ่าุโอบุโสบถสถโดโยดสยรส้ารง้าวงิหวิหาราไรวไว้ด้ด้า้านนหหนน้า้า ถัดไป
ถัดเไปป็นเปพ็นรพะรปะปรราางงคค์ป์ ระธธาานนพพระรอะุโอบุสโบถจสะถจะอยู่ ถัดไปด้านหลังสุดคือ “พระอุโบสถ”
อยด่ดู า้ า้ นนหหลลังงั สสดุ ุดพพรระะปปรราางงคค์ว์วัดัดมมหหาาธธาาตตุ ุ ตั้งอยู่ด้านหลังปรางค์ประธาน ผนังก่ออิฐยังคง
เหลืออยู่บางส่วน ภายในปรากฏเสาแปดเหลี่ยม
จุดจสุดนสในจภใจาภยาในยใวนัดวมัดหมาหธาธตาุ ปตุรปะรกะอกบอดบ้วดย้วย ด้านหลงั เป็นท่ตี ั้งของฐานทีร่ องพระประธาน เจดยี ์
แปดเหลี่ยม ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้ยี่สิบ
“เจ“ดเจียด์แียป์แดปเหดลเหี่ยลมี่ย”มน”ับนเปับ็นเปส็นถสาถปาัตปยัตกยรกรรมรทมี่ไทมี่ไเคมย่เคย ชน้ั บนเป็นเจดยี ร์ ูปแปดเหล่ยี ม ลดหล่ันกนั ขน้ึ ไป 4
ชั้น ทำซุ้มอยู่โดยรอบทั้ง 8 ด้าน ผนังประดับด้วย
ปรปากราฏกทฏไ่ี ทห่ีไนหในอในยอุธยธุายมาีแมตแีท่ ตวี่ ่ทดั วี่มัดหมาหธาธตาุทตี่นุท่ีที่น่ีเดี่ทีย่เดวียว ปูนปั้นรูปเทวดา นับเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมองค์
เดียวทีพ่ บในพระนครศรีอยธุ ยา
โดยโดเจยดเจียด์ดียัง์ดกังลก่าลว่าเปว็นเปเจ็นดเจียด์ฐียา์ฐนาแนปแดปเหดลเหี่ยลมี่ยลมดลหดลห่ันล่ัน

กันกัมนีทมั้งีทหั้งมหดม4ด ช4ั้นชั้ตน่าตงจ่างาจกาเจกดเจียด์โีดย์ยโดทยั่วทไปั่วไทปี่ฐทาี่ฐนาน

มกั มจักะจเปะน็เปท็นรทงกรงลกมลหมรหือรสอื ี่เหสลเ่ี หยี่ ลม่ยี ม

“พระปรางค์ประธาน” เป็นที่ประดิษฐาน วัดมหาธาตุจึงไม่มียอดเจดีย์ทำให้ไม่สามารถเห็น
พระบรมสารีริกธาตุ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยกสูง ความงามของพระปรางคใ์ นอดีตได้อย่างครบถว้ น
โดยมีระเบียงคดล้อมรอบทั้งสี่ด้าน เป็นปรางค์ใน
ยุคแรกของสมัยอยุธยาซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะ ซึ่งเศษซากพระปรางค์ที่ตกลงมานั้นได้
ขอม พระปรางค์องค์ประธานของวัดมหาธาตุได้ หล่นลงมาทับรูปปั้นสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ใต้ฐาน
พังทลายลงมาถึง 2 ครั้ง คือในช่วงแรกที่พังลงมา พระปรางค์ ทั้งหมดล้วนเป็นสัตว์ในหิมพานต์
สมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ได้พังลงมาถึงช้ัน ทั้งสิ้น ปัจจุบันนี้ได้เสียหายไปหมดแล้ว จาก
ครุฑ คือชั้นที่มีรูปปั้นครุฑประดับอยู่ ต่อมาใน จดหมายของคณะทูตชาวลังกาในสมัยสมเด็จ
แผ่นดินสมัยพระเจ้าปราสาททองได้บูรณสังขรณ์ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้มีการพรรณนาข้อมูลทาง
ใหม่โดยก่อให้สูงขึ้นกว่าเดิม จากเดิมที่สูง 23 วา สถาปัตยกรรมของวัดมหาธาตุอย่างละเอียดไว้ว่า
เป็น 25 วา จนกระทั่งเสียกรุงครั้งที่ 2 กลายเป็น “ยอดพระธาตุนั้นเป็นทองทั้งแท่ง บันไดหลังพนัก
วัดร้างเกิดความเสียหายครั้งใหญ่อีกครั้งในช่วง ทั้งสองข้างเป็นนาคราชตวั โตเท่าลำตาลเลื้อยลงมา
รัชกาลที่ 5 พระปรางค์องค์ประธานได้พังลงมาอีก ศีรษะแผ่พังพานประดับกระจกอยู่เชิงบันได
ถึงชั้นมุข ในปัจจุบันพระปรางค์องค์ประธานของ อ้าปากมีเขี้ยวใครเห็นก็เป็นที่พึงกลัว รอบฐาน
วัดมหาธาตุมีรูปสัตว์ตั้งเรียงราย คือราชสีห์ หมี
หงส์ นกยูง กินนร มังกร โค สุนัขป่า กระบือ และ
ยังมีรูปโทวาริกถือดาบบ้าง ฉัตรบ้าง นอกจากนี้ยัง
มีรปู ภาพถือเครอ่ื งพุทธบชู าตา่ งๆ อีกเป็นอันมาก”

การสร้างพระปรางค์วัดมหาธาตุใน
รูปแบบนี้สะท้อนให้เห็นถึงคติความเชื่อของคนใน
อดีตที่สร้างโดยยึดคติความเชื่อจากเรื่องไตรภูมิใน
การก่อสร้าง เปรียบได้ว่าพระปรางค์นั้นคือเขา
พระสุเมรุเป็นแกนกลางของจักรวาลถูกล้อมรอบ
โดยป่าหิมพานต์อยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ในปัจจุบันก็
ยังคงเห็นว่าคนไทยก็ยังคงมีความเชื่อในเรื่องนี้อยู่
สังเกตได้จากพระเมรุมาสของรัชกาลที่ 9 ที่มี
การผสมผสานคติไตรภูมิ แสดงให้เห็นว่าท้งั ในอดตี
และปัจจุบันอิทธิพลของไตรภูมิมีผลต่อการสร้าง
สถาปตั ยกรรม ศลิ ปกรรมของไทยต้ังแต่อดีตสืบต่อ
กันมาถึงปัจจุบนั

หากเดินทางไปยังวัดมหาธาตุ ก็จะพบกับ กัน และยังสามารถเอาสมบัติเหล่านั้นเอาออกมา
เศียรพระพุทธรูปในรากไม้ หากพลาดถ่ายรูปที่จุด ได้เป็นจำนวนมาก ที่คนรู้เพราะมีคนลือกันอย่าง
นี้แสดงว่ายังมาไม่ถึงวัดมหาธาตุ เพราะนี่ถือเป็น หนาหูว่ามีคนวิกลจริตร่ายรำที่ตลาดเจ้าพรหมใส่
จุดเด่นที่ต้องมาเช็คอินให้ได้ เป็นเศียรพระ เครือ่ งทองงดงามอย่กู ลางตลาด ทำให้กรมศิลปากร
ที่มีรูปแบบศิลปะกรรมสมัยอยุธยาตอนกลาง ลงไปใต้ฐานพระปรางค์วัดราชบูรณะเพื่อเก็บ
เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งปกคลุมด้วยรากไม้ สิ่งของที่หลงเหลืออยู่ได้เป็นจำนวนมาก
ของต้นโพธิ์ เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ กรมศิลปากรจึงคิดว่าถ้าใต้ฐานวัดราชบูรณะมีวัด
นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากทีเ่ ศียรพระอยู่ในรากไม้ มหาธาตุที่อยู่ข้างๆ ก็ต้องมีเช่นกัน จึงได้เริ่ม
สาเหตุที่เศียรพระอยู่ในรากไม้เพราะตัวองค์พระ การบูรณะวัดมหาธาตุพบช่องระบายอากาศท่ี
หายไป และเศียรพระได้มาอยู่ที่โคนต้นไม้แทน มุมห้องภายในองค์พระปรางค์ จึงได้ลื้อเจดีย์ขนาด
ในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เมื่อเวลาล่วงเลย เล็กกลางพื้นห้องออก นำของที่อยู่ข้างใต้ไปเก็บ
ไปรากไม้ก็ขึ้นปกคลุมเศียรพระจนฝังลึกไปในราก รักษาที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จึงเป็นที่มาของ
โพธิต์ ้นใหญต่ ้นนี้ สุภาษิต “วัวหายล้อมคอก” ว่าของหายแล้วจึงคิด
จะป้องกัน เพราะหลังจากที่ขุดกรุทั้ง 2 กรุแล้ว
วัดนี้นอกจากบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ กรมศิลปากรก็เร่งลงมือขุดกรุตามวัดต่างๆ
ใต้ฐานพระปรางค์แล้ว ทุกคนสงสัยไหมว่าคนสมัย ในพระนครศรีอยุธยาเพื่อเก็บรักษามรดกของชาติ
โบราณใสอ่ ะไรไว้ใต้ฐานพระปรางค์และทำไมคนถึง ให้ลูกหลานได้ดูได้ศึกษา ก่อนที่จะมีคนโลภมา
รู้ว่ามีสมบัติอยู่ใต้ฐานพระปรางค์? สมบัติที่พบใต้ ขุดกรขุ โมยสมบัตไิ ป
ฐานวัดมหาธาตุ คือปลาหินหยกเขียนลายทอง
เครื่องทอง พระพิมพ์ดุลทองและเงิน สถูปศิลา จ ะ เ ห ็ น ไ ด ้ ว ่ า วั ด ม ห า ธ า ต ุ น ี ้ ต อ บ โ จ ท ย์
ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 7 ชั้น แบ่ง สำหรับใครหลายๆ คน ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
ออกเป็น ชิน เงินนาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง และการท่องเที่ยว ทำให้ไม่ควรพลาดที่จะไปเที่ยว
แก้ว โกเมนและทองคำ และยังพบเครื่องสูงจาก ชมวัดมหาธาตุเพื่อไปถ่ายรูปเช็คอินว่ามาเยือนถึง
เจดีย์ศรีสุริโยไทย ภายในห้องของพระปรางค์ กรุงเก่าแล้ว เพราะเป็นวัดที่อยู่ใจกลางเกาะเมือง
ประธานยังมีจิตรกรรมฝาผนังรูปอดีตพระพุทธเจ้า อยุธยา แม้ว่าหลายคนมองว่าวัดมหาธาตุ
ประทับนั่งปางสมาธิ ปัจจุบันสมบัติเหล่านั้นได้ไป เป็นเพียงวัดท่ีเหลือเพียงแค่ก้อนอิฐ แต่ก็เต็ม
จัดตั้งแสดงทีพ่ พิ ธิ ภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระ ไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ให้ควรค่าแก่การรักษา
ยา สมบัติที่ขุดขึ้นมาจากวัดมหาธาตุเหมือนกับ สถาปัตยกรรมต่างๆ ที่คนในอดีตสร้างไว้อย่าง
สุภาษิตที่ว่า “วัวหายล้อมคอก” เหตุที่กล่าวถึง ประณีตสวยงาม และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
สุภาษิตนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าเกิดการเสียสมบัติ ท ี ่ เ ป ็ น ส ่ ว น ห น ึ ่ ง ข อ ง อ ุ ท ย า น ป ร ะ ว ั ต ิ ศ า ส ต ร์
บางส่วนที่ วัดราชบูรณะไปบ้างแล้ว สาเหตุที่คนรู้ พระนครศรีอยธุ ยาทม่ี คี วามร่มรนื่ จากต้นไม้สูงใหญ่
ว่ามีสมบัติใต้ฐานพระปรางค์วัดมหาธาตุเกิดจาก สเี ขยี วชอมุ่ ตัดกับสีอิฐสีนำ้ ตาลนา่ มอง ถอื ได้ว่าเป็น
ข่าวที่ว่ามีคนมาขุดกรุวัดราชบูรณะที่อยู่วัดข้างๆ วดั ทคี่ วรค่าแกก่ ารอนรุ กั ษ์

Chalermchai Es

การท่องเทย่ี วแห่งประเทศไทย (ททท.).
วดั มหาธาตุ. [ออนไลน]์ . สืบค้นเม่อื
วันท่ี 23 กนั ยายน 2564. จาก
https://thai.tourismthailand.org

เอม พะมาน. จดหมายเหตรุ ะวางราชทูต
ลงั กาและสยามคร้งั กรงุ ศรี.
[ออนไลน]์ . สบื ค้นเมือ่ วันที่ 27
กันยายน 2564. จาก
http://www.car.chula.ac.th/rare
book/book/cl53_0221/mobile/
index.html



วดั ราชบรู ณะ

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

Touronthai.com

พรศริ ิ ภาคจกั ษุ

พดู ถึงสมบตั ิกรุงเก่าก็ตอ้ งสมบตั ทิ อ่ี ยู่ใต้ คงต้องตอบว่าคนไทยนั้นมีความเช่ือ
วัดราชบูรณะ เพราะเป็นวัดที่เก่าตั้งแต่ เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่อดีต ไม่ว่าจะ
สมัยอยุธยา มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสมบัติใต้ฐาน เรื่องภูตผี ปีศาจ เชื่อเรื่องดวงการทำนาย ซึ่งล้วน
พระปรางค์วัดราชบูรณะ ว่ามีการขุดกรุเอาสมบัติ เป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติที่มนุษย์ในอดีตไม่
ขึ้นมาโดยไม่ได้รับอนุญาติ ผู้ที่เอาไปก็ต้องพบเจอ สามารถอธิบายได้ มนุษย์จึงแสวงหาสิ่งที่จะมา
ภัยพิบัติและความโชคร้าย มีคนพูดถึงสมบัติของ คุ้มครองท่ีเชอื่ วา่ เหนอื กวา่ ตน จึงไม่แปลกท่ีคนไทย
วัดราชบูรณะว่าเป็นที่เก็บสมบัติไว้อย่างมากมาย ในปัจจุบันยังคงมีความเชื่อแบบนี้อยู่เพราะเป็น
แม้แต่ดินข้างในฐานพระปรางค์ก็ยังมีเศษทอง ความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา โดยการเล่า
ปะปนอยู่ ถึงขนาดที่ร่อนออกมาเอาทองออกจาก การบันทึกเกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ บางคนอาจจะ
ดินยังได้ทองจำนวนมาก และคนอยุธยาก็มีความ เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตำนานอิน จัน มั่น คง เป็น
เชื่อว่าสมบัติทุกที่ในเมืองอยุธยามีเรื่องเล่าลือว่ามี ความเชื่อเกี่ยวกบั การสร้างเมืองในสมัยโบราณ คือ
ผู้ที่คอยเฝ้าสมบัติไม่ให้ไปอยู่ในมือของคนคิดไม่ดี การทำพธิ อี าถรรพ์ 4 ประตูเมอื ง การสรา้ งเสาหลกั
หรือคนโลภ ถ้าถามว่าคนไทยมีความเชื่อเกี่ยวกับ เมอื ง โดยนำคนทมี่ ชี ีวติ ช่อื อิน จนั มน่ั คง มาอยู่ใน
สง่ิ ทมี่ องไมเ่ ห็นจรงิ หรือ? หลุมและให้เสาหล่นลงมาทับตาย หรือบางครั้งเรา

อาจจะได้ยินมาว่าโยนผู้หญิงที่ตั้งครรภล์ งหลุมแลว้ ทำให้กิเลสบังตาขุดกรุสมบัติขึ้นมา แต่สมบัติ
ลงเสาทบั ใหต้ ายทัง้ เป็น โบราณนั้นมาพร้อมกับความอาถรรพณ์ และ
คำสาปที่คนได้ไปจะอยู่อย่างไม่สงบสุข และคนที่มี
เราเชื่อกันว่าคนเหล่านี้เมื่อตายก็จะ กิเลสบังตาจนมืดบอด มักจะมีความคึกคะนองเต็ม
กลายเป็นผีคอยปกปักรักษาบ้านเมืองจากศัตรู ไปด้วยความโลภอยากได้ของที่ไม่ใช่ของตนเอง
ทั้งหลาย ตำนานปโู่ สมกเ็ ชน่ กนั มีหนา้ ที่เฝ้าสมบัติที่ คนเหล่านั้นได้ขุดกรุสมบัติที่วัดราชบูรณะใต้ฐาน
ลำ้ คา่ ของชาติ คล้ายกับเจ้าที่เจา้ ทางแต่เป็นเจ้าที่ที่ พระปรางค์ขึ้นมาได้สำเร็จนำสมบัติขึ้นมาจากกรุ
ปกป้องสมบัติ เช่นกรุสมบัติในอยุธยา ที่มีสมบัติ เพื่อนำไปขาย แต่ก็ได้ยินเรื่องเล่ามาว่าโจรที่ไปขุด
มากมายในแผ่นดินอยุธยาจึงต้องมีผู้ที่คอยเฝ้า กรุวัดราชบูรณะไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเลยกลับกัน
เอาไว้ โดยในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลายก่อน หลายคนฆ่ากันเองเพ่ือแย่งสมบัติ บางคนนำทอง
การเสียกรุง เหล่าเจ้าขุนมูลนาย แม้กระท้งั กษัตริย์ ไปขายแต่ระหว่างทางกลับรถคว่ำตายก็มี หรือโจร
ได้เริ่มฝั่งสมบัติและหาคนมาปกป้องดูแลสมบัติ ที่ไปขุดกรใุ ส่ทองเต็มตัวแล้วไปรำที่ตลาดเจ้าพรหม
เพื่อให้ผู้ที่มีบุญญาธิการนำไปใช้ประโยชน์ในการ จนกลายเป็นคนวิกลจริตในที่สุดไม่มีมีใครร่ำรวย
สรา้ งบ้านเมอื งในอนาคต เลยสักคน ร้านทองที่รับซื้อก็พบกับความย่อยยับ
เชน่ กัน
หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 สร้าง
ความเสียหายแก่อยุธยาเป็นจำนวนมาก ไม่ ภายในวัดราชบูรณะมีสถาปัตยกรรมเป็น
สามารถบูรณะกรุงศรีอยุธยาได้ดั่งเดิม อยุธยาจึง องค์พระปรางค์ เป็นศิลปะอยุธยาสมัยแรก
กลายเป็นเมืองร้างและไม่เหลือเค้าโครงของ พระปรางค์องค์นี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของความ
ความงดงามเฉกเช่นอดีต พระบรมมหาราชวัง อาถรรพณ์ต่างๆ มีเรื่องเล่าของการขุดกรุ
วัดวาอารามต่างๆ ทรุดโทรม และรกร้าง ไม่เหลือ วดั ราชบรู ณะว่าเป็นสมบัติอาถรรพณ์ เพราะทรัพย์
ความรุ่งเรอื งของกรงุ ศรอี ยุธยาเหลือแตเ่ พยี งสมบัติ เหล่านั้นคือสมบตั ิตอ้ งห้ามของพระมหากษัตรยิ ์ที่มี
ที่อยู่ใต้ดินที่ดึงดูดความโลภของมนุษย์เข้าไปใกล้

คำสาปติดอยู่กับสมบัติ และมีผู้ที่เฝ้าสมบัติโดย 2 เล่มคาดอยู่ด้านหลัง ใบหน้าซีกหหนึ่งฉ่ำเยิ้มไป
คนไทยส่วนใหญ่เรียกว่าปู่โสม เป็นวิญญาณที่คอย ด้วยน้ำเหลือง เนื้อที่ติดอยู่ก็รุ่งริ่งเหมือนจะหลุด
เฝ้าสมบัติไม่ให้ใครเอาไป จากการที่มีผู้บุกรุก ออกมามีกลิ่นสาปไปอบอวนไปรอบๆ สักพักร่าง
ลักลอบเข้าไปขุดกรุสมบัติเมื่อปีพ.ศ. 2500 ท่ี นักรบโบราณกค็ ่อยๆ จางหายไปในอากาศ
พระปรางค์วัดราชบูรณะแห่งนี้ถูกกลุ่มคนจำนวน
มากลักลอบเข้าไปขุดกรุสมบัติ พบสมบัติมากมาย หลายๆ คนยังคงเห็นวิญญาณของชาว
ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ โดยเฉพาะสมบัติส่วน กรงุ ศรอี ยธุ ยาท่ียงั คงวนเวยี นอยู่ในอยุธยา เพราะมี
ใหญ่เป็นเครื่องราชูปโภค เป็นสิ่งของเครื่องใช้ทีท่ ำ จิตที่ผูกพันหวงแหนในแผ่นดิน มีแรงปรารถนาท่ี
ด้วยทองคำและอญั มณเี ปน็ ส่งิ ทย่ี ังประเมนิ คา่ ไม่ได้ จะรักษาแผ่นดินอย่างแรงกล้า ทำให้ไม่สามารถไป
ในภพภูมิที่สงบได้ จึงยังวนเวียนอยู่ที่เดิมให้คนได้
ในช่วงที่ขุดกรุกันอยู่บรรยากาศเริ่มมี พบเหน็ อยเู่ สมอ ซ่งึ เรอื่ งเลา่ เหล่านี้ก็ทำใหผ้ ู้ท่ีคิดจะ
เค้าลางของอาถรรพ์ ผู้ขุดกรุคนหนึ่งในทีมเล่าว่า ขุดกรุสมบัติไม่กล้าที่จะทำเพราะกลัวอาถรรพณ์
ขณะท่ีกำลังเริ่มเกิดฟ้าร้อง ลมพัดแรงแต่ก็ไม่มีใคร จากสมบัติจะติดตัวให้ชีวติ ตอ้ งวิบตั ิ
สนใจ จนกระทั่งเอาพระแสงขรรค์ชัยศรีออกมาก็
เกิดแสงที่พระขรรค์ขึ้น ในภายหลังยังเกิด เมอ่ื เรื่องสมบัตทิ ีอ่ ย่ใู นกรวุ ัดราชบูรณะเลด็
อาถรรพณ์กับผู้ที่รว่ มขุดสมบัตคิ ือคนส่วนใหญ่ที่ไป ลอดออกไปถึงหูของตำรวจ กรมศิลปากรก็มาที่วัด
ลักลอบขุดจะสติฟั่นเฟือน ประสบเคราะห์กรรม ร า ช บ ู ร ณ ะ เ พ ื ่ อ เ ก ็ บ ส ม บ ั ต ิ ท ี ่ ห ล ง เ ห ล ื อ อ ยู่
ต่อให้มีชีวิตก็ตกอับหมดเนื้อหมดตัว ซึ่งหลายคน พบพระพิมพ์ทองคำ และเครื่องราชูปโภค
คงจะเคยได้ยินเรื่องที่มีคนเอาสมบัติไปเอาได้สวม มีโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ คือ พระแสงขรรค์ชัยศรี
เครื่องทรงกษัตริย์และถือพระแสงดาบออกมา เครื่องราชกกุธภัณฑ์ พระปรางค์ทองคำ และเจดีย์
รำที่ตลาด ส่วนร้านทองที่รับซื้อทองจากกรุก็ ทองคำที่บรรจุพระบรมธาตุ ได้จากการขุดค้นทาง
ประสบเหตุไฟไหม้ โบราณคดใี นกรุชน้ั ที่ 3 เปน็ ห้องทีอ่ ยู่ในสดุ

จุดจบที่น่ากลัวของผู้ที่ลักลอบขุดกกรุ
สมบัติวัดราชบูรณะทั้งหมดนี้ หลายคนเชื่อว่าเป็น
อาถรรพณ์ที่เกิดจากการสาปแช่งของเจ้าของ
สมบัติ ซึ่งยังไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีเรื่องเล่าในหมู่
นักโบราณคดีว่าเห็นนักรบโบราณ ในคืนที่เสร็จ
จากงานสำรวจกำลังกลับที่พักคุ้มขุนแผน ระหว่าง
ทางกลับเมื่อถึงหน้าวัดราชบูรณะก็ต้องจอดรถ
กระทันหัน เพราะมีบุรุษลึกลับยืนขวางกลางถนน
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือร่างชายสูงใหญ่ของนักรบ
สวมหมวก ใส่เสื้อแขนยาว นุ่งโจงกระเบน มีดาบ

และเป็นห้องท่ีสำคัญที่สุดเต็มไปด้วยพระพุทธรูป เป็นที่น่าเสียดายที่สมบัติอันล้ำค่าของชาติได้
ต่างๆ ปัจจุบันของทั้งหมดนี้จัดแสดงให้ชมและ สูญหายหรือถูกนำไปหลอมใหม่ เพราะสมบัติ
ศึกษาทพี่ ิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ เจ้าสามพระยา เหล่านั้นมีค่าเป็นเงินมหาศาลที่สามารถนำ
ไปใช้เป็นประโยชน์ในอนาคตได้ หรือนำไปศึกษา
นอกจากนี้มีเรื่องเล่าต่อกันว่าในวันที่ ศิลปวัฒนธรรมของคนในสมัยอยุธยาก็ได้ แต่เม่ือ
กรมศิลปากรเข้าไปรวบรวมสมบัติใต้ฐาน สูญหายไปก็ไม่สามารถทำอะไรคงปล่อยให้เป็น
พระปรางคว์ ดั ราชบรู ณะหลงั จากทโี่ จรขโมยไปแลว้ เรื่องของกรรมที่จะตามติดผู้ที่กระทำผิดต่อสมบัติ
ที่พื้นขา้ งในฐานพระปรางค์ชน้ั ที่ 2 เปน็ ห้องที่บรรจุ ของแผ่นดินต่อไป ผู้ที่เอาไปก็คงไม่ได้กินดีอยู่ดีนัก
ทองคำและเพชรนลิ จินดา พบแหวน เคร่ืองทองคำ ใช้ชีวิตเหมือนมีไฟสุมตัวอยู่ตลอด ไม่ก็เสียสติ
ชิ้นเล็กๆ พลอยและทับทิม คลุกเคล้าอยู่กับ บา้ งเจบ็ ป่วยทกุ ขท์ รมานด้วยโรคภัย เหมอื นต้องคำ
ฝุ่นทรายพื้นห้องแพรวพราวไปหมด กรมศิลปากร สาปให้ชีวติ ต้องย่อยยับล่มจมไป
ได้กวาดฝุ่นทรายก้นกรุทั้งหมดขึ้นมาใส่กระสอบ
เพื่อร่อนหาทองด้วย เพราะมีเศษทองและพลอย ถ้าหากใครมีโอกาสได้ไปเยือนอยุธยา
ต่างๆ คลุกเคล้าอยู่กับฝุ่นทรายเหล่านั้นอีกมาก กรุงเก่าก็ไม่ควรพลาดที่จะต้องไปชม
สมบัติที่วัดราชบูรณะมีมากขนาดนั้นเลย หรื อ? ศลิ ปะวัฒนธรรมทว่ี ัดราชบรู ณะ เพราะเปน็ อีกวัดที่
มีการสันนิษฐานว่าสมบัติในกรุวัดราชบูรณะมีเป็น มีชื่อเสียงที่โด่งดังพอๆ กับวัดมหาธาตุในเรื่องของ
จำนวนมากถ้าไม่ถูกขโมยไป เพราะสมบัติที่โจร โจรขุดกรุสมบตั ิภายในพระปรางค์ประธาน และยงั
นำเอาไปจากกรุตามกลบั มาได้เพียง 2 ใน 10 ส่วน เป็นต้นแบบของโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของ
เท่านั้น คาดว่าสมบัติบางส่วนถูกหลอมไปบ้างไม่ก็ อยุธยาเช่นกัน เนื่องจากพระปรางค์ประธาน
ถกู ขายใหก้ บั ชาวตา่ งชาติไปแล้ว วัดมหาธาตุได้พังทลายลงมาทำให้เราไม่สามารถ
เห็นพระปรางค์ได้เต็มองค์ หลายคนที่อยากจะ
ศึกษาเกี่ยวกับพระปรางค์ประธานก็สามารถมา
ศึกษาที่วัดราชบูรณะได้เช่นกันเพราะพระปรางค์
วัดราชบูรณะค่อนข้างสมบูรณ์กว่าวัดมหาธาตุ
มีจิตรกรรมฝาผนังในองค์ปรางค์ประธานของ
วัดราชบูรณะเป็นภาพพุทธประวัติ ภาพเทพชุมนุม
มีลวดลายการประดับลักษณะเดียวกับศิลปะ
สุโขทัยหรือเหล่าเทวดาเหาะประนมมือ และที่
สำคัญวัดราชบูรณะยังเป็นวัดต้นแบบที่ทำให้คน
ไทยหลายคนอยากจะรักษาอนุรักษ์ให้เป็นสมบัติ
ของชาติอยถู่ ึงปจั จุบนั

เข็มกลัดและสอ่ื สง่ิ พมิ พ์. เปดิ ตำนานกรุสมบัติ. [ออนไลน]์ .
สบื คน้ เมือ่ วนั ท่ี 3 ตุลาคม 2564. จาก https://
www.beyond.co.th/ghost.html

ภทั ธิญาภรณ์ ศาสตรส์ าระ

www.db.sac.or.th

การจารกึ ถอื ว่าเป็นหน่ึงในประเภทหลกั ฐานท่มี คี วามสาคญั ต่อวงการโบราณคดี
เป็นอยา่ งมาก เพราะเป็นการจารกึ ตวั อกั ษรตามทผ่ี สู้ รา้ งพงึ ประสงคจ์ ะบนั ทกึ เอาไว้ โดยส่วน
ใหญ่มกั จะเป็นการบนั ทกึ สง่ิ ท่เี ก่ยี วกบั วิถีชวี ติ ของคนในสมยั ก่อน ทงั้ การจารกึ ประวตั ิของ
บุคคลสาคญั จารึกเก่ียวกับศาสนา หรือแม้แต่การจารึกความเป็นมาของประวัติศาสตร์
บ้านเมอื ง อย่าง “จารึกพ่อขุนรามคาแหง” ถือว่าเป็นจารกึ ท่มี ชี ่อื เสยี งและทุกคนย่อมรู้จกั
เป็นจารกึ ทถ่ี กู กล่าวถงึ และเป็นทม่ี าของตน้ กาเนดิ ตวั อกั ษรภาษาไทยในปัจจบุ นั น้ี

พระนครศรอี ยุธยาไมไ่ ดม้ หี ลกั ฐานเพยี งแค่โบราณสถานจานวนมากทก่ี ระจายไป
ทวั่ เกาะเมอื งและพน้ื ทโ่ี ดยรอบเทา่ นนั้ และน้อยคนนักทห่ี ากไมใ่ ช่นกั ศกึ ษาทไ่ี ดเ้ รยี นเกย่ี วกบั
ประวตั ศิ าสตรห์ รอื ผทู้ ท่ี างานเกย่ี วขอ้ งจะทราบว่าในจงั หวดั ของเราน้ีกม็ กี ารคน้ พบจารกึ ทม่ี า
จากการสารวจคน้ หา และเป็นหลกั ฐานสาคญั ทท่ี าใหเ้ ราได้รูถ้ งึ ความนิยมในการใชต้ วั อกั ษร
และไดร้ ถู้ งึ วถิ ชี วี ติ ของคนอยธุ ยาโบราณดว้ ย

วดั มหาธาตุ เป็นโบราณสถานแห่งหน่ึงทไ่ี ดร้ บั ความนิยมทงั้ ในนกั ท่องเทย่ี วไทย

และนักท่องเท่ียวชาวต่างชาติ เปรียบได้ว่าวัดแห่งน้ีเป็ นแลนด์มาร์คของจังหวัด
พระนครศรอี ยุธยาเลยก็ว่าได้ และมเี ศียรพระพุทธรูปอยู่ในรากไม้เป็นท่ดี งึ ดูดความสนใจ
นักท่องเท่ียวให้เดินทางมาช่ืนชมความอัศจรรย์ของธรรมชาติ โดยในวดั มหาธาตุนัน้ มี
การค้นพบจารกึ ทงั้ หมด 2 ช้นิ ด้วยกนั เป็นการคน้ พบจากการเขา้ ขุดค้นกรุฐานพระปรางค์
วัดมหาธาตุในช่วงปี พ.ศ. โดยค้นพบจารึกพร้อมกับโบราณวัตถุหลายช้ิน เช่น
พระบรมสารีริกธาตุบรรจุในผอบแก้วผลึกสีม่วงซ่ึงมีทองคาหุ้มประกอบ พระพุทธรูป
พระพมิ พ์ และของมคี ่าจานวนมาก

“ จ า รึ ก ล า น เ งิ น ภ า ษ า ไ ท ย วัด ไปเกดิ บนสวรรค์ชนั้ ดุสติ เฝ้าพระศรอี ารย์ และ
เม่อื พระองค์เสด็จลงมาตรสั รู้เป็นพระพุทธเจ้า
มหาธาต”ุ อกั ษรทใ่ี ชจ้ ารกึ คอื อกั ษรไทยอยุธยา กข็ อใหต้ นได้มาเกดิ ในตระกูลกษตั รยิ ์ มปี ัญญา
ท่ีมีลัก ษ ณ ะ แบบล า ยสือไ ท ยข อง พ่ อ ขุ น รอบรู้ กล้าหาญ ฯลฯ และถึงแก่นิพพาน
รามคาแหง สนั นิษฐานว่าจารกึ น้ีกาเนิดในช่วง ตอนทา้ ยไดร้ ะบุช่อื และอายุของผสู้ รา้ งพระพมิ พ์
พุทธศตวรรษ 20 ลักษณะจารึกเป็นแผ่นเงิน คอื พอ่ อา้ ยและแมเ่ ฉา อายุ 75 ปี
ขนาดรูปร่างคล้ายใบลานมเี พยี ง 1 ด้าน และมี
ทัง้ หมด 7 บรรทัด ช่ือของผู้สร้างคือขุนศรี วัดราชบูรณะ เป็ นโบราณสถานท่ี
รตั นากร โดยมลี ักษณะเน้ือหาโดยสงั เขป คอื สาคญั อีกแห่งซ่ึงตงั้ อยู่ข้างวัดมหาธาตุ แม้ว่า
ขุนศรีรตั นากรและครอบครัวได้ร่วมกันสร้าง จานวนนักท่องเท่ียวท่ีเข้าชมวดั ราชบูรณะจะ
พระพิมพ์ข้ึนจานวน 76,152 องค์ โดยถวาย ไม่ได้มากเท่ากับวดั มหาธาตุ แต่วดั ราชบูรณะ
อานิสงส์แด่พระรามาธิบดีพระศรีราชาธิราช ยังคงมีพระปรางค์ท่ีอยู่ในสภาพสมบูรณ์ซ่ึง
ญาตพิ น่ี ้อง โยมอุปัฏฐาก พระสงฆแ์ ละนักธรรม แตกต่างจากวัดมหาธาตุท่ีมีการทรุดตัวของ
ทงั้ หลายให้ไปสู่นิพพาน ส่วนตนขอไปเกิดบน พระปรางค์จนเหลือเพยี งซากอิฐและฐานของ
สวรรค์ชั้นดุสิต และได้เฝ้ าพระศรีอารย์ พระปรางค์ให้เห็นเท่านั้น นอกจากน้ีทาง
นอกจากน้ียังมีการแสดงความปรารถนาอีก ศิลปากรได้สร้างบันไดและทางลงไปในกรุ
หลายอยา่ ง เช่น ขอใหฉ้ ลาดเหมอื นพระมโหสถ เพอ่ื ใหน้ กั ท่องเทย่ี วไดเ้ ขา้ ชมภายในจนสามารถ
กล้าหาญ เหมอื นพระราม สามารถให้ทานได้ พ บ กั บ ภ า พ ว า ด ใ น ส มั ย อ ยุ ธ ย า ท่ี ค่ อ น ข้ า ง
เหมือนพระเวสสันดร สามารถระลึกชาติได้ สมบูรณ์ จารึกท่ีพบในกรุแห่งน้ีพบทัง้ หมด
เป็นตน้ และสดุ ทา้ ยขอใหต้ นถงึ แกน่ พิ พาน 3 ชน้ิ ดว้ ยกนั

“จารึกแผ่นดีบุก วดั มหาธาตุ” เป็น “ จ า รึ ก แ ผ่ น ท อ ง ค า จ า ก ก รุ
จ า รึก อี ก ช้ิน ท่ีพ บ จ า ก ก า ร ขุ ด ค้ น ก รุ ใ น เ ว ล า
เดียวกันกับท่ีพบจารึกลานเงินภาษาไทย พระปรางคว์ ดั ราชบูรณะ 1 ” จารกึ ดว้ ยอกั ษร
สนั นิษฐานว่าจารกึ น้ีกาเนิดในช่วงพุทธศกั ราช
1917 (โดยประมาณ) และมีการใช้อักษร ขอมอยุธยา สนั นิษฐานว่าจารกึ น้ีกาเนิดในช่วง
เดียวกนั คืออกั ษรไทยอยุธยา ลกั ษณะวตั ถุคอื พุทธศตวรรษ 20 ลกั ษณะของจารึกเป็นแผ่น
แผ่นดบี ุกส่เี หล่ยี ม หลกั ฐานจารึกช้นิ น้ีปรากฏ ทองคาผวิ เรียบส่เี หล่ียมผืนผ้า ด้านขวา-ซ้าย
ตวั อกั ษรชดั เจนกว่าจารกึ ลานเงนิ มกี ารจารกึ 2 ทาเป็น รปู โคง้ ปลายแหลมเหมอื นกลบี บวั จารกึ
ด้าน และมที งั้ หมด 33 บรรทดั ช่อื ผู้สร้าง คือ ตัวอักษรเพียง 1 ด้านมีทัง้ หมด 4 บรรทัด
พอ่ อา้ ย และ แมเ่ ฉา โดยมเี น้อื หาโดยสงั เขป คอื ตามแนวยาว 1 บรรทดั แนวกว้าง 2 บรรทดั
เป็นคาอทุ ศิ สว่ นกุศลจากการหล่อพระพุทธพมิ พ์ มขี อ้ ความในจารกึ บอกนามผสู้ รา้ งแผน่ ทองคาน้ี
เท่าจานวนวนั เกิด การบูชาพระรตั นตรยั และ คือ ศรีจันทรภานุชัยวรรทธโหราธิบดี และ
การฟังพระอภิธรรม 7 คมั ภีร์ ใหแ้ ก่สรรพสตั ว์ นามบรรดาศกั ดคิ ์ อื กมรเตงธรรมาภนิ นั ทนาม
ทงั้ หลาย บดิ า ญาติ และตนเอง โดยขอใหต้ นได้
“ จ า รึ ก แ ผ่ น ท อ ง ค า จ า ก ก รุ

พระปรางค์วดั ราชบูรณะ 2” จารกึ ด้วยอกั ษร
ขอมอยุธยา สนั นิษฐานว่าจารกึ น้ีกาเนิดในช่วง

พุทธศตวรรษ 20 ลักษณะจารึกเป็นทองคา พ.ศ. 2547 จึงพบว่าด้านหลงั ของพระพุทธรูป
พ้นื ผวิ มภี าพบุรูปพระพุทธรูปปรกโพธิ ประทบั ปางลลี ามจี ารกึ อกั ษรไทย ในปัจจุบนั จารกึ น้ีถูก
นัง่ สมาธิราบปางมารวิชัยแตกต่างจาก จารึก เ รีย ก ว่ า “ศิ ลาจารึก ห ลัง พ ร ะพุท ธ รูป
เลขท่ี 1 ซง่ึ เป็นผวิ เรยี บไม่มภี าพบุ เป็นแผน่ รูป ปางลีลา”
สเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ ทส่ี ุดดา้ นขวาซา้ ยทาเป็นรปู โคง้
มน ข้อความในจารึกบอกนามผู้สร้างแผ่น “ศิ ลาจารึกหลังพระพุทธรูปปาง
ทองคาน้ีคือ ขุนไวทยาธิบดี ให้นามแก่บุคคล ลี ล า ” เ ป็ น จ า รึ ก บ ริ เ ว ณ ด้ า น ห ลัง ข อ ง
ผหู้ น่งึ คอื หมอมกุ พระพุทธรูปปางลลี าทท่ี ามาจากหนิ ทรายสเี ทา
มีการใช้อักษรจารึกเป็ นอักษรไทยอยุธยา
“ จ า รึ ก แ ผ่ น ท อ ง ค า จ า ก ก รุ เหมอื นกบั จารกึ ลานเงนิ และจารกึ แผ่นดบี ุกของ

พระปรางคว์ ดั ราชบูรณะ 3” จารกึ ด้วยอกั ษร www.db.sac.or.th
ขอมอยุธยา สนั นิษฐานว่าจารกึ น้ีกาเนิดในช่วง
พุทธศตวรรษ 20 ลักษณะจารึกเป็นทองคา
พน้ื ผวิ มภี าพบุรูปพระพุทธรูปปรกโพธิ ประทบั
นงั่ สมาธริ าบปางมารวชิ ยั เหนือปัทมาสน์ มแี ผ่น
รูปส่เี หล่ยี มผนื ผ้า ท่สี ุดด้านขวาซ้ายทาเป็นรูป
โคง้ มน จานวนด้านจารกึ มที งั้ หมด 2 ด้าน และ
มี 5 บรรทดั ขอ้ ความในจารกึ ดา้ นท่ี 1 บอกนาม
ผู้สร้างแผ่นทองคาน้ีคอื ขุนศรีจูฬา ให้นามแก่
บุคคลผหู้ น่ึงคอื นายศรกี ณั ฐ ส่วนดา้ นท่ี 2 บอก
นามบุคคลคอื ขนุ ศรรี ตั ปัทราช

ไม่เพยี งแค่อยุธยามกี ารค้นพบจารกึ ท่ี
อยู่ในวัตถุเป็นลักษณะของแผ่นทองคา ดีบุก
หรอื เงนิ เท่านัน้ ในภายหลงั นัน้ ได้มกี ารค้นพบ
จารึกในลกั ษณะท่เี หมอื นกบั ศลิ าจารึกของพ่อ
ขุนรามคาแหง โดยกล่าวกันว่าอาจเป็ นศิลา
จารึกหลกั แรกในสมยั อยุธยาท่พี ่งึ มกี ารคน้ พบ
พระพุทธรูปปางลลี าท่ีมจี ารึกด้านหลงั องค์น้ีมี
ป ร ะ วัติว่ า พ ร ะ ย า โ บ ร า ณ ร า ช ธ า นิ นท ร์
(พร เดชะคุปต์) ได้นามาเก็บรักษาไว้ท่ี
พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ จนั ทรเกษม โดยรวม
อยู่ในคลงั พระทน่ี ัง่ พมิ านรตั ยา ต่อมาเม่อื มกี าร
ข อ อ นุ ญ า ต น า ไ ป จัด แ ส ด ง ท่ีพิพิธ ภัณ ฑ์
ซ า น ฟ ร า น ซิ ส โ ก ส ห รัฐ อ เ ม ริ ก า เ ม่ื อ

วดั ราชบรู ณะ ทงั้ ยงั มชี ่วงเวลากาเนิดทใ่ี กลเ้ คยี ง ความประสงค์ของผู้จารกึ ท่จี ะเลอื กใช้รูปแบบ
กับจารึกแผ่นดีบุก คือ พ.ศ. 1918 ตรงกับ อกั ษรในการบนั ทกึ
รชั กาลสมเดจ็ พระบรมราชาธริ าชท่ี 1 (ขนุ หลวง
พะงวั่ ) จารกึ น้ีมที งั้ หมด 20 บรรทดั และมเี พยี ง แต่สงิ่ ทเ่ี หน็ ไดจ้ ากขอ้ ความจารกึ ทงั้ หมด
1 ด้าน โดยมีเน้ือหาโดยสังเขปข้อความใน นัน้ สอดคล้องกนั คือ มกี ารกล่าวถึงวิถีชีวิตทาง
ตอนต้นมกี ารกล่าวถึงตาแหน่งขุนนางในสมยั ศาสนาพุทธทงั้ สน้ิ ทงั้ มกี ารกล่าวถวายอานิสงค์
อยุธยาตอนตน้ ไวด้ ว้ ย คอื “ขุนสรมุท” ซง่ึ น่าจะ การกล่าวคาอุทศิ ส่วนกุศลในจารกึ กรุวดั มหาธาตุ
เป็ นขุนนางชัน้ สูงในเวลานั้น เน้ือความใน ขอ้ ความในจารกึ บอกช่อื บรรดาศกั ดิ ์ สนั นิษฐาน
ตอนท้ายของศิลาจารึกเป็ นการกล่าวถึง ว่า คงจะเป็นช่อื และนามของผู้สรา้ งแผ่นทองคา
การแสดงความปรารถนา คอื ขอให้ได้ไปเกิด ถวายไว้กบั พระพุทธศาสนาในกรุวดั ราชบูรณะ
ทนั ยุคพระศรอี รยิ เมตไตรยและสาปแช่งผู้ท่มี า และมีการกล่าวถึงการสร้างวัดวาอารามต่างๆ
ทาลายพระอารามแห่งน้ี นอกจากน้ียงั มเี น้ือหา ปรากฏขนบความเช่อื ในการสรา้ งพระพมิ พ์ตาม
ทป่ี รากฏเกย่ี วกบั กบั สรา้ งวดั วาอาราม การสรา้ ง อายุเกิดของตนเอง ทาให้เห็นว่าวิถีชีวิตทาง
วิหาร และสร้างพระพุทธรูปพระเจ้าจงกรม มี ศาสนาของคนอยุธยาในสมยั ก่อนมคี วามศรทั ธา
การกล่าวถึงการกัลปนาท่ีดิน ผู้คน ช้าง ฯลฯ และมคี วามเช่อื มนั่ ต่อการทาบุญเป็นอย่างมาก
ใหก้ บั ศาสนสถาน ซ่งึ ในจานวนน้ีมกี ารกล่าวถงึ และมกั จะมกี ารขอใหผ้ สู้ รา้ งบุญนนั้ ไดเ้ กดิ ในทท่ี ด่ี ี
ขา้ สมในซง่ึ เป็นผหู้ ญงิ จานวน 20 คน มบี ุญวาสนาไม่อดอยากยากจน เช่นเดยี วกบั มี
การกล่าวสาปแช่งผูท้ ค่ี ดิ ทาลายวดั วาอารามและ
จากหลกั ฐานจารกึ ต่างๆ ท่กี ล่าวมาทา พระพุทธรปู
ให้เราได้เหน็ ว่าอยุยาในอดตี นัน้ ได้รบั อิทธิพล
ทางภาษาและตวั อกั ษรมาจากสุโขทยั ซ่ึงเป็น จารึกถือว่าเป็ นหลักฐานสาคัญทาง
อิทธิพลท่สี ่งผ่านมาจากการสานสมั พนั ธไมตรี ประวตั ศิ าสตร์เพราะเป็นหลกั ฐานจากคนจารกึ ท่ี
ระหว่างสองอาณาจักรคือ อาณาจกั รสุโขทัย ส่งผ่านโดยตรงจากคนสมัยก่อน ไม่เพียงแค่
และอาณาจกั รกรุงศรอี ยุธยา เหน็ ไดช้ ดั อย่างยงิ่ การดูลักษณะของตัวอักษรจะทาให้เราได้รู้ถึง
จากหลกั ฐานจารึกท่ีใช้อักษรไทยอยุธยาซ่ึงมี พฒั นาการทางภาษาและความนิยมของการใช้
ลกั ษณะคลา้ ยกบั ลายสอื ไทยทถ่ี ูกใชใ้ นช่วงสมยั ตวั อกั ษรในการบนั ทกึ เท่านนั้ แต่ยงั ทาใหเ้ รารวู้ ่า
พ่อขุนรามคาแหง และยังได้รับอิทธิพลทาง วิถีชีวิตของคนอยุธยาในอดีตถือศาสนาเป็ น
อั ก ษ ร ข อ ม ร ว ม ทั้ง ยัง มี ก า ร ใ ช้ ค า เ ข ม ร ใ น ส่ิงยึดเหน่ียวจิตใจเป็นท่ีสาคญั แม้ว่าหลักฐาน
การจารึกลงไปในวัตถุต่างๆ ซ่ึงคาเขมรน้ี การจารกึ นัน้ จะไม่ได้มมี ากพอท่จี ะทาให้เราไดร้ ู้
ปรากฏเกอื บทงั้ หมดจากหลกั ฐานจารกึ ท่กี ล่าว ทุกเร่ืองของอยุธยาในอดีต ตราบใดท่ีผู้คนยัง
มา และแสดงใหเ้ หน็ ว่าตวั อกั ษรทใ่ี ชใ้ นอดตี นัน้ คน้ หาหลกั ฐานอยู่ หลกั ฐานทุกชน้ิ ท่พี บใหม่ย่อม
สามารถเปล่ยี นแปลงได้ในเวลาอนั สนั้ เป็นไป สามารถศกึ ษาและเปล่ยี นประวตั ศิ าสตรจ์ ากเดมิ
ได้ว่าการใช้ตัวอักษรท่ีแตกต่างกันในระยะ ท่เี ราเขา้ ใจได้ และการได้คน้ พบหลกั ฐานใหม่ท่ี
เวลาท่ีกาเนิดจารึกใกล้เคียงกันอาจเป็ น ไม่ได้มีในบทเรียนนั้นเป็ นสิ่งท่ีทุกคนควรให้
ความสนใจ

ฐานขอ้ มลู จารกึ ในประเทศไทย ศนู ยม์ นุษยวิทยาสริ นิ ธร. อยธุ ยา. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อวนั ท่ี 26 กนั ยายน 2564.
จาก https://db.sac.or.th



ภทั ธิญาภรณ์ ศาสตร์สาระ

เมื่อพูดถึงพระนครศรีอยุธยา ทุกคนมักจะนึกถึงเมืองโบราณราชธานีเก่าที่มี
ความเจริญรุ่งเรืองเมื่อหลายร้อยปีก่อน แม้ว่าในปัจจุบันความสวยงามของ
สถาปัตยกรรมอยุธยาในตอนนี้จะกลายเป็นโบราณสถานและบางสถานที่เป็นเพียง
ซากอฐิ ทไ่ี ร้นามไป แต่โบราณสถานเหล่าน้ีล้วนมเี สน่ห์ในความเป็นประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น
ซึ่งวัดใหญ่ชัยมงคลนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนนิยมแวะเวียนอย่างไม่ขาดสาย
ทั้งยังคงเค้าโครงเดิมของโบราณสถานที่สามารถรักษาเอาไว้ได้จนถึงปัจจุบัน แม้ว่า
วัดใหญช่ ยั มงคลอยูใ่ นบริเวณนอกเกาะเมอื งก็ตาม และเพราะเหตุใดวดั ใหญช่ ัยมงคลถึง
ได้เป็นสถานท่ีทอ่ งเที่ยวทีส่ ำคัญของพระนครศรอี ยุธยา?

วัดใหญ่ชัยมงคลนั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานไม่แพ้กับ
โบราณสถานอื่นภายในเกาะเมือง เพราะต้นกำเนิดของวัดนี้เกิดในช่วง พ.ศ. 1900
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทองทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดศพ
เจ้าแก้วและเจ้าไทซึ่งสิ้นพระชนม์เพราะโรคอหิวาตกโรคขึ้นมาเผา และโปรดให้
สถาปนาบริเวณที่เผาศพเป็นพระอารามชื่อว่า “วัดป่าแก้ว” และในเวลาต่อมา
มีคณะสงฆ์จากสำนักรัตนมหาเถระ ประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวบ้านใน
สมัยนั้นมาพำนักอยู่ ทำให้มีคนมาบวชเรียนที่นี่เป็นจำนวนมาก พระเจ้าอู่ทองจึงทรง
ตั้งอธิบดีสงฆ์นิกายนี้เป็นสมเด็จพระวันรัต และแต่งตั้งให้เป็นประธานสงฆ์ วัดแห่งนี้จึง
เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดเจ้าพระยาไทย” จนกระทั่งในช่วงปีพ.ศ. 2309 พม่าได้ยกทัพ
มาตีกรุงศรีอยุธยา โดยยึดวัดป่าแก้วเป็นฐานทัพ และสู้รบกันมาเป็นเวลานานจน
ปี พ.ศ. 2310 เกิดเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
วดั แห่งนกี้ ็ถกู ท้งิ รา้ งไวน้ านถึง 400 ปี จนกระท่ังมพี ระภกิ ษุ สามเณร และแม่ชกี ลุ่มหน่ึง
มาใชท้ น่ี ีเ่ ป็นสถานปฏบิ ตั ิธรรมอยู่ประมาณ 4 ปี หลังจากน้นั จงึ มกี ารดแู ลวัดและพัฒนา
ให้วัดกลับมามคี วามเจรญิ อกี ครงั้ จนกลายเปน็ สถานทีท่ ่องเที่ยวสำคญั จนถึงทุกวนั นี้

แล้วเหตุใดถึงมีชื่อ “วัดใหญ่ชัยมงคล” ที่ดำรงชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน เมื่อมาถึงคำถามนี้จึงต้องมี
การกล่าวถึงจุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ซึ่งเรียกว่าเป็นแลนด์ มาร์คอีกแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
“เจดีย์ชัยมงคล” เป็นเจดีย์โบราณสถานที่สูงที่สุดในอยุธยา มีความสูงโดยประมาณจากฐานถึงยอดเจดีย์
ประมาณ 60 เมตร ซึ่งตั้งบนฐานทักษิณสี่เหลี่ยม และมีเจดีย์อีก 4 องค์ประจำมุมทั้งสี่ของฐานสูงประมาณ
12 เมตร มีความสวยงามตระหง่ายสะดุดตา นักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติมักนิยมเข้ามาในบริเวณนี้เพ่ือ
ถา่ ยรปู เปน็ ท่ีระลกึ

https://thai.tourismthailand.org

https://thai.tourismthailand.org เจดีย์ชัยมงคลนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยไร้เหตุผล
เกดิ เรอื่ งเล่ามาชา้ นานโดยกลา่ วว่า เจดีย์ชัยมงคลน้ีเป็น
อนุสรณ์แห่งชัยชนะและความเมตตาของสมเด็จ
พระนเรศวรมหาราช จากเหตุการณ์ที่สมเด็จ
พระนเรศวรมหาราชทรงรบชนะมังกะยอชวา
พระมหาอุปราชของหงษาวดี ที่ ต.หนองสาหร่าย
จ.สพุ รรณบรุ ี ในครัง้ นัน้ พระองค์ได้ขบั ชา้ งเข้าไปอยู่ใน

https://thai.tourismthailand.org

วงล้อมของขา้ ศกึ ทีคอยระดมยิงปืนเขา้ ใสพ่ ระและพระคชาธาร โดยทเี่ หล่าแม่ทพั นายกองวิ่งตามพระองค์มาไม่
ทัน และในท้ายที่สุดพระองค์ได้รับชัยชนะในศึกครั้งนั้นด้วยการใช้พระแสงพลผ่ายฟาดฟันพระอุปราช
ขาดตะพายแล่ง

เมื่อกลับมาสพู่ ระนครแล้ว พระองคก์ จ็ ะลงโทษเหล่าทหารท่ีตามพระไปไม่ทันตอนกระทำศึกยุทธหัตถี
ซึ่งตามกฎระเบียบแล้วต้องโทษถึงขึ้นประหารชีวติ ช่วงเวลาที่รออาญาสมเด็จพระพันรัตน พระสังฆราชพร้อม
ด้วยพระสงฆ์ 25 รูปได้ขอให้พระนเรศวรพระราชทานอภัยยกเว้นโทษให้กับทหารเหล่านั้น โดยให้เหตุผลว่า
พระองค์เปรียบดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แวดล้อมด้วยหมู่มารก่อนที่จะตรัสรู้ เป็นการประกาศเกียรติและ
บารมคี วามกล้าหาญและเก่งกาจของพระองคใ์ ห้ขจรกระจายไปท่วั แคว้นทัว่ แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรจึงโปรด
ให้สร้างเจดยี ์องคใ์ หญ่ขึ้น เพื่อเป็นสญั ลกั ษณ์แหง่ ชัยชนะและความมีน้ำพระทยั ของพระองค์ ที่มีต่อเหลา่ ทหาร
เหล่านั้น และพระราชทานนามวา่ “เจดียช์ ัยมงคล” และเป็นท่มี าของชอ่ื “วดั ใหญช่ ัยมงคล” ในเวลาตอ่ มา

จดุ ท่ีนา่ สงั เกต คอื ลกั ษณะของเจดีย์นัน้ เอยี งไปทางด้านทิศตะวนั ตกเล็กนอ้ ย สาเหตุนน้ั มาจากการถูก
ลักลอบขุดกรุเข้าไปจนถึงแกนกลางพระเจดีย์ จึงทำให้พระเจดีย์อยู่ในลักษณะเอียงและในเวลาต่อมาได้มี
การบรู ณะซ่อมแซมเพื่อไมใ่ หเ้ กดิ การทรดุ เอยี งไปมากกวา่ เกา่ ทั้งยังพบวา่ เจดยี ์ชัยมงคลถกู สรา้ งขึ้นให้ก่อหุ้มกับ
เจดีย์องค์เดิมจึงทำให้มีขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเจดีย์เพื่อชมความสวยงาม
และสถานที่โดยรอบวัดใหญ่ชัยมงคลจากมุมสูง เมื่อเข้าไปภายในองค์พระเจดีย์จะพบว่าบริเวณตรงกลางถูก
ล้อมด้วยรั้วไม้ไว้ทั้งสี่ด้าน มีรั้วไม้ปิดบริเวณปากหลุมที่จะสามารถลงสู่กรุในเจดีย์ได้ นักท่อ งเที่ยวจะนิยมโยน
เหรียญลงไปภายในกรุเจดีย์ตามความเชื่อ จึงเป็นภาพที่ชินตาสำหรับผู้ที่เข้ามาแวะเวียน นอกจากนี้บริเวณ
โดยรอบของวดั ใหญ่ชัยมงคลยงั มพี ระพทุ ธรูปจำนวนมากล้อมไว้บริเวณรอบฐาน โดยจะหันหน้าไปทางองค์

https://travel.trueid.net

พระเจดีย์ทั้งหมด โดยส่วนมากเป็นพระพุทธรูปที่เหล่าลูกศิษย์วัดหรือผู้ใจบุญได้สร้างเอาไว้เพื่ออุทิศให้แก่
ญาตมิ ติ ร หรือจารกึ ชือ่ ของตนเองซ่งึ เปน็ ผู้มอบไว้

นอกจากเจดีย์ชัยมงคลที่เป็นสถานที่สำคัญภายในวัดแล้ว ยังคงมีสถานที่ในบริเวณโดยรอบที่มี
ความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลย และเป็นจุดนิยมที่ผู้คนมักจะเข้าไปกราบไหว้เพื่อสักการะบูชาสิ่งยึดเหนี่ยว
จติ ใจของตนเอง โดยสถานที่แรกซึ่งเป็นสถานท่สี ำคัญเหมือนกับทกุ วดั คอื “พระอโุ บสถของวดั ใหญ่ชัยมงคล”
ซึ่งมีพระประธานอยู่ภายในวัด พระอุโบสถนี้ยังคงสภาพของสถาปัตยกรรมเดิมเอาไว้ และมีส่วนที่ถูกบูรณะ
ซ่อมแซมใหม่เพื่อไม่ให้ถูกทำลายจากฝนและแดดโดยบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถถูกสร้างเป็นหลังคาคุ้มไว้ท้ัง
บริเวณ เป็นจุดแรกที่นักท่องเที่ยวมักจะเข้ามากราบไหว้พระพุทธรูป ทำบุญบริจาค ราดน้ำมันตะเกียงเพ่ือ
ความเป็นสิรมิ งคล และเสี่ยงเซียมซีทำนายชะตา

สถานที่ต่อมาซึ่งอยู่ก่อนถึงพระอุโบสถคือ “พระพุทธไสยาสน์” ซึ่งอยู่ในซากวิหารปรักพัง
พระไสยาสน์ หรือ พระนอนเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์สีขาว มีความสวยงามและโดดเด่นเป็นอย่างมาก
นักท่องเที่ยวมักเข้ามากราบไหว้พร้อมทั้งดอกไม้และธูปเทียน พระนอนองค์นี้ไม่ใช่องค์ที่มีมาแต่ดั้งเดิมเพราะ
องคเ์ กา่ นั้นถูกผแู้ สวงโชคหรือผปู้ ระสงค์รา้ ยเข้ามาขุดทำลายจนพงั ทง้ั หมด บรเิ วณฝ่าเท้าของพระพทุ ธรูปมักจะ
พบว่ามีเหรียญจำนวนมากถูกติดเอาไว้ ซึ่งเป็นความเชื่อคล้ายกับการโยนเหรียญ แต่เป็นความเชื่อใน
การเสี่ยงทายอีกรูปแบบหนึ่ง ผู้เสี่ยงทายมักจะทำนายหรือตั้งคำถามถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการก่อนจะติดเหรียญ
เอาไว้ หากตดิ เหรียญไดแ้ ล้วไมร่ ่วงลงมา ส่งิ ท่ผี ้เู ส่ียงทายขอไวจ้ ะถูกตเี ป็นผลทำนายประสบความสำเรจ็

และสถานที่สุดท้ายซึ่งเป็นสถานที่อีกแห่งที่ไม่ควรพลาด “วิหารสมเด็จ
พระนเรศวรมหาราช” เป็นวิหารสีขาวตัดสีแดงอิฐขนาดใหญ่ตระหง่านอยู่อีกฝ่ัง
ของเจดยี แ์ ละพระอุโบสถ ภายในวิหารนัน้ เป็นพระบรมรูปองค์สมเดจ็ พระนเรศวร
มหาราชสีดำขนาดใหญ่ มีกระจกกั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้และอนุญาตให้
สักการะกราบไหว้ในบริเวณที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น ในวิหารจะไม่อนุญาตให้จุด
ธูปเทียนไหว้ ผู้คนมักนิยมมากราบไหว้และบนบานสิ่งที่ตัวเองปรารถนาไว้
โดยส่วนใหญ่มักให้ของบนเป็นรูปปั้นไก่เป็นหลักโดยถือความเชื่อว่าสมเด็จ
พระนเรศวรมหาราชนั้นโปรดในการชนไก่อย่างมาก จึงพบได้ว่าบริเวณหนึ่งรอบ
นอกของวิหารจะมีรูปปั้นไก่ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่วางเรียงรายกันเป็น
ระเบียบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ได้เปน็ อย่างดี

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือเหตุผลที่สามารถตอบได้กระจ่างชัดว่าทำไม
นักท่องเที่ยวต่างต้องมาเยือนในที่แห่งนี้แม้จะไม่ได้อยู่ในเกาะเมืองอยุธยา
แม้วัดใหญ่ชัยมงคลจากถูกบูรณะเปลี่ยนสภาพสถานที่จนมีความเจริญไปตาม
กาลเวลา แต่วัดใหญช่ ยั มงคลยังคงมีร่องรอยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ซอ่ นใน
ก้อนอิฐเก่าแก่ทุกก้อน และยังคงความยิ่งใหญ่สวยงามส มกับช่ือ
“วัดใหญ่ชัยมงคล” อย่างไรก็ตาม สถานที่นี้ยังเป็นสถานที่ที่ควรได้รับ
การบำรุงรักษาจากนักท่องเที่ยวและผู้คนในท้องถิ่น ทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่
ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพุทธ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม สมควรที่จะ
แวะเวยี นมาทำบุญไหวพ้ ระ และถ่ายรูปเกบ็ เปน็ ความประทบั ใจของตัวเองไว้

จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา. วดั ใหญช่ ัยมงคล. [ออนไลน์]. สบื ค้นเมือ่ วันที่ 26 กนั ยายน 2564.
จาก https://ww2.ayutthaya.go.th

madchima-org www.touronthai.com

www.touronthai.com madchima-org
madchima-org

วกัดบั กไาชรยทอ่ วงเฒัที่ยวนสมายั รใหามม่
นริ ชั ภร เนือ่ งฤทธ์ิ

วัดไชยวัฒนารามถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่ต่างโบราณสถานภายในบริเวณ

เกาะเมืองอยุธยา ต้ังอยู่ท่ี ตำบลบา้ นป้อม อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา บริเวณรมิ ฝัง่ แมน่ ้ำเจา้ พระยาตรงขา้ ม

กับพระราชวัง มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและยังคงความสมบูรณ์ของโครงสร้างในอดีตไว้ได้มากที่สุด และเนื่องจาก

ละครบพุ เพสนั นวิ าสทเี่ ข้าฉายในปี พ.ศ. 2561 มีฉากท่กี ลา่ วถงึ วดั ไชยวฒั นารามในอดีต ทำใหท้ ำใหใ้ ครหลายๆ คนที่มา

เยือนจังหวดั พระนครศรีอยุธยาเป็นต้องแวะเวียนมาเท่ียวที่วัดนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ พูดได้ว่าถ้าไม่มาวดั ไชยวัฒนารามก็ถอื

ว่ามาไม่ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปแล้ว ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างล้นหลามจึงทำให้เกิดเศรษฐกิจและรูปแบบ

การท่องเท่ียววดั ไชยวัฒนารามแบบใหม่ข้นึ Smile Sasina
travel.mthai.com

เ ป ็ น ว ั ด ท ี ่ ม ี ป ร ะ ว ั ติ ของวัดตั้งอยูบ่ นฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีลักษณะเป็น
ความเป็นมาตั้งแต่อดีต ปรางค์ทรงจตุรมุข คือมีมุขยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน
ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง กรุงศรีอยุธยาตอน ซึ่งมีบันไดทางขึ้นสู่มุขทุกด้าน ยอดขององค์ปรางค์
ปลาย เคยเปน็ ที่อยขู่ องพระราชมารดาของพระเจา้ ทำเป็นรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้น บนสุดเป็นทรง
ปราสาททอง ซึ่งพระองค์ก็ได้สิ้นพระชนม์ไปกอ่ นท่ี ดอกบัวตูม รูปแบบคล้ายกับปรางค์ในสมัยอยุธยา
พระเจ้าปราสาททองจะได้เสวยราชสมบัติเป็น ตอนต้นระเบียงคต คือส่วนที่เชื่อมเมรุทั้ง 4 ทิศ
กษัตริย์ ด้วยความกตัญญูต่อพระราชมารดาจึงทำ เข้าด้วยกัน ภายในระเบียงคตประดิษฐาน
ให้พระเจ้าปราสาททอง สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้น พระพทุ ธรปู ปนู ป้ันปางมารวิชัย ทีเ่ คยลงรักปิดทอง
เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายให้พระราชมารดา จำนวน 120 องค์ เหมือนเป็นกำแพงของพื้นท่ี
และยังเคยใช้จัดพิธีถวายพระเพลิงศพใน ศักดิ์สิทธิ์ แต่น่าเสียดายที่ในปัจจุบันพระพุทธรูป
พระมหากษัตริย์เกือบทุกพระองค์ของอยุธยา ส่วน ปูนปั้นเหล่านี้ โดนตัดเศียรไปเกือบหมดแล้ว
ที่มาของชื่อวัดไชยวัฒนารามนั้น ในสมัยก่อนมีชื่อ เหลือเพียง 2 องค์ ทยี่ ังมเี ศยี รอยู่
เดิมว่า “วัดชัยวัฒนาราม” จะเห็นได้ว่ามี
การเปลี่ยนชื่อวัดในเวลาต่อมา โดยสันนิษฐานที่ วัดไชยวัฒนารามจึงเป็นสถานท่ีที่มีทั้ง
พระเจ้าปราสาททองตั้งชื่อนี้เพราะต้องการให้เป็น เรื่องราวและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
อนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือกรุงละแวก หรือ จากสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ก็ได้ไปปรากฏอยู่
กรุงพนมเปญ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น วัดไชยวัฒนาราม บนจอโทรทัศน์เรื่องบุพเพสันนิวาส ทำให้มีผู้คน
เพราะ “ไชย” มาจากคำว่า “ไชยโย” เป็น หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่ เพื่อตามรอยละคร
การประกาศความยง่ิ ใหญข่ องพระเจา้ ปราสาททอง สัมผัสกับบรรยากาศและกลิ่นอายความโบราณของ
และชยั ชนะทง้ั หมดท่ไี ด้รับมา สถานที่แห่งนี้ หากเป็นในอดีตก่อนที่ละคร
ความงดงามของวัดไชยวัฒนารามไม่ได้มี บุพเพสันนิวาสจะฉาย คนทั่วไปก็คงจะมาเยี่ยมชม
เพียงแต่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์เพียงเท่าน้ัน และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของวัดไชยวัฒนาราม
แต่ยังมีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่งดงาม เพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันตั้งแต่ปี 2561 เป็น
ไม่เหมือนวัดอื่นๆ ในอยุธยา ด้วยเช่นกัน ตน้ มา วถิ กี ารท่องเที่ยววดั แห่งน้กี เ็ ปลยี่ นไป
สถาปัตยกรรมภายในวัดบางสว่ นก็ได้รับอิทธิพลมา
จากศิลปะขอม โดยมีการจำลองมาจากปราสาท ในช่วงเวลาทผี่ า่ นมาจากกระแสของละคร
นครวัด คือ มีปรางค์ประธานและปรางค์มุมอยู่บน ดังบุพเพสันนิวาส ก็ทำให้มีทิปนำเที่ยวตามรอย
ฐานเดียวกัน บริเวณตรงกลางของพื้นที่ และ ออเจ้า เกิดขึ้นมากมาย และส่งผลให้เกิดรูปแบบ
รายล้อมด้วยปรางค์บริวารอีกสี่องค์ โดย การท่องเที่ยวแบบใหม่ขึ้น คือ เมื่อมาเที่ยวที่
พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธาน วัดไชยวัฒนารามจะต้อง แต่งกายด้วย “ชุดไทย”
เพื่อย้อนรอยอดตี ให้เหมือนกับมาเทย่ี วยุคเดียวกัน
กบั การะเกศ ตวั ละครเอกของละครบพุ เพสนั นวิ าส
ซึ่งบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามวัดไชยวัฒนารามก็จะมี

ร้านชุดไทยตั้งอยู่ให้เลือกเช่าใส่อย่างหลากหลาย ตลอดสาย จนออกไปถนนเส้นหลัก มีผู้คนเข้ามา
ราคาตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ซึ่งนอกจากในร้านจะ อย่างไมข่ าดสาย จนคนในพ้นื ทีต่ อ้ งเปลยี่ นเส้นทาง
มชี ดุ ไทยใหเ้ ช่าแล้ว ยังมบี รกิ ารอื่นๆ ให้เลือกใช้อีก ขับรถไปอีกทางหนึ่งเลยทีเดียว แต่นั่นก็ทำให้
ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริการแต่งหน้า ถ่ายรูป ชาวบ้านและคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นเกิดอาชีพ
จดั ทำพร็อพประกอบฉากตา่ งๆ ราคาก็จะบวกเพ่ิม เก ิด แหล่งร า ยได ้ใ หม่ ท ั้งก า ร เปิด ให้ ชุด
เข้าไปอีก และแน่นอนว่าร้านเช่าชุดก็ไม่ได้มีเพียง เปิดร้านอาหาร หรือแม้กระทั่งเปิดพื้นที่บริเวณ
แคร่ า้ นเดียว แต่มหี ลายรา้ นตง้ั อยู่ใหเ้ ลือกเข้าไปใช้ หน้าบ้านเป็นพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจอดรถ
บริการอย่างมากมาย ด้วยการแข่งขันของร้านท่มี ี กล่าวได้ว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้ทั้งผู้คน
มาก ก็ทำให้บางร้านงัดกลวิธีการเรยี กลูกค้าใหม่ๆ ที่มาเที่ยวและคนในพื้นที่ ต่างได้รับผลประโยชน์
มาเรียกลูกคา้ อย่างมสี ีสัน ทั้งการตั้งชุดสวยๆ ตาม ทงั้ สองฝ่าย และเป็นรูปแบบการทอ่ งเที่ยวสมัยใหม่
กระแสละครเร่ืองอื่น การวา่ จ้างกลุ่มคนเพศที่สาม ที่มีเอกลักษณ์ ต่างจากสถานโบราณแหล่งอื่นๆ
เพื่อมาสร้างความขบขันในการโฆษณา ทำให้ ในจงั หวัดพระนครศรอี ยุธยา
บริเวณหน้าวัดไชยวัฒนารามกลายเป็นสถานทีท่ ี่มี
สีสัน เตม็ ไปดว้ ยความสขุ มากท่สี ุดในบริเวณน้นั Smile Sasina

นอกจากเรื่องชุดไทยที่มีให้เลือกเช่าแล้ว
บริเวณวัดไชยวัฒนารามบางพื้นที่ ก็เริ่มที่จะมีร้าน
ขายของที่ระลึก และร้านอาหาร มาตั้งเพิ่มมากขน้ึ
ทั้งร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว
ร้านชาพะยอม ร้านผลไม้-ยำผลไม้ ร้านขาย
ลูกชิ้น ร้านโรตีสายไหมของดังของจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา ก็ยกขบวนกันมาตั้งร้านขายที่
หน้าวัดไชยแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์อาหารขนาด
ย่อม ทถี่ า้ เดนิ ถ่ายรปู แล้วท้องวา่ งเมื่อไหร่ ก็แวะมา
เติมพลังกับร้านของกินเหล่านี้ได้เสมอ รับรอง
ความอร่อยโดยคนพ้ืนท่ี

ด้วยเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากทั้งกระแส
ความนิยมตามรอยบุพเพสันนิวาสก็ดี จากกลุ่มคน
ที่ชื่นชอบศึกษาประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมก็
ดี ต่างก็เป็นส่วนเสริมที่ช่วยกันหล่อหลอมให้เกิด
การท่องเที่ยวแบบใหม่ในวัดไชยวัฒนารามได้อยา่ ง
น่าอัศจรรย์ใจ ยิ่งเป็นช่วงแรกที่เพิ่งจะฉายจบไป
ใหม่ๆ ถนนบริเวณหน้าวัดไชยวัฒนารามยาวติดไป



นริ ชั ภร เน่ืองฤทธ์ิ

ในปี พ.ศ.2561 ละครเรื่องบุพเพสันนิวาสได้รับความสนใจจากคนทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างล้นหลาม
กล่าวได้ว่าแทบจะไมม่ ีใครไมร่ จู้ ักคำว่า “ออเจา้ ” ด้วยเน้อื เร่อื งของละครบุพเพสันนวิ าสทม่ี คี วามแปลกใหม่กว่า
ละครที่กำลังฉายอยู่ในขณะนั้น โดยมีตัวละครเอกอย่างการะเกดหรือเกศสุรางค์ นักโบราณคดีสาวผู้มีจิตใจ
ร่าเริง และชื่นชอบความรู้ด้านโบราณคดีและภาษาฝรั่งเศสเป็นตัวละครเอกในการดำเนินเรื่อง ได้ประสบ
อุบัติเหตุ และย้อนอดีตเข้าไปเปน็ การะเกดที่มีนิสยั อิจฉาริษยาผู้อ่ืนอยู่เสมอ ทำให้ตัวของเกศสุรางค์ต้องรบั มอื
กับปัญหาต่างๆ ที่การะเกดเคยก่อไว้ทั้งในด้านครอบครัว ความรัก และการเมือง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งความ ร่าเริงสดใสและความฉลาดของการะเกดฉบับวิญญาณเกศสุรางค์ก็เป็นที่ถูกใจของผู้ชมทั่วบ้านท่ัว
เมืองเป็นอยา่ งมาก ทำให้เกดิ ปรากฏการณค์ นทัง้ ประเทศพากันย้อนยุคกนั เลยทีเดียว ไมว่ ่าจะดว้ ยเร่อื งการแต่ง
กายชุดไทยที่กลับมาเป็นที่นิยม การท่องเที่ยวตามรอยบุพเพสันนิวาส ยังมีการใช้คำศัพท์เรียกสิ่งของต่างๆ
ตามละครอกี ดว้ ย ซ่ึงในคำศัพทท์ เี่ ราพบในบทละครก็มีท่ีมาและเกรด็ ความรทู้ างประวัตศิ าสตรอ์ ย่อู ย่างมากมาย

“ออเจ้า” คำเรียกบุรุษที่ 2 ที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยก็เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะปรากฏให้เห็นใน
บทละครทุกๆ ตอนแล้ว ยังเป็นคำที่สั้น กระชับและจดจำได้ง่าย นายบุญเตือน ศรีวรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน
อักษรศาสตร์ กลา่ วว่า “ออเจ้า” คำนปี้ รากฏในจดหมายเหตุ ลาลูแบร์ และปรากฏในหนังสืออักขราพิธานศพั ท์
ของหมอบรัดเลย์ สมัยรัชกาลที่ 4 โดยการใช้คำว่าออเจ้าจะใช้กับคนในระดับเดียวกัน และระดับต่ำกว่า
เรยี กได้ท้งั ชายและหญิง แตต่ อ้ งเรียกผูท้ อ่ี ่อนกวา่ และยังมีคำวา่ “ออ” ใช้เรยี กผู้อ่นื ท่ไี มไ่ ดอ้ ยู่ตอ่ หน้า ส่วนใหญ่
จะนยิ มใช้ในคนชน้ั สงู ส่วนคนท่ีมียศศักด์ิ จะเรยี กวา่ “หม่อม”

“เวจ” หรือ “เว็จ” หมายถึงส้วมหรือที่ถ่าย www.sistacafe.com/summaries
อุจจาระ แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้มีความหมายว่า
ส้วมเสียทีเดียว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชานป์วิชช์
ทัดแก้ว สาขาวิชาภาษาเอเชียใต้ คณะอักษรศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “เว็จ” ที่ใช้ๆ กัน
จนเข้าใจว่า หมายถึง “ส้วม” นั้น เป็นคำที่ ย่นย่อ
ตัดสั้นจาก “เว็จกุฎี” คำว่า กุฎี นั้น มาจากภาษาบาลี
สันสกฤต “กุฏิ” แปลว่า กระท่อม หรือ กระต๊อบ หรือ
เรือนที่ปรุงขึ้นไว้ใช้สอย อย่าง กุฏิพระภิกษุ เป็นต้น
ส่วน เวจ หรือ เว็จ นั้น จริงๆ แปลว่า ขี้ หรือ อุจจาระ
มาจาก ภาษาบาลีว่า “วจฺจ” แล้วแผลงเสียงสระ อะ
เป็น เอ ใหอ้ อกเสียงงา่ ย เม่อื ทัง้ สองคำมารวมกนั แล้วจงึ
มี ความว่า “ส้วม” แบบทเ่ี ราเขา้ ใจกนั

“ฟะรังคี” หรือ “ฝรั่ง” แบบที่คนไทยในปัจจุบันใช้เรียกชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเทียวในไทยกัน
หลายคนให้เหตผุ ลว่า เปน็ คำทย่ี ่อมาจาก “ฝรัง่ เศส” แต่ก็เป็นขอ้ เทจ็ จรงิ เพยี งบางสว่ นเทา่ นน้ั แท้จริงแล้วคำวา่
ฝรั่งที่เราใช้เรียกกันติดปาก มีที่มาจากการเรียกชื่อชาวยุโรปตามชาวเปอร์เซีย โดยเพี้ยนมาจากคำว่า แฟรงค์
(Franks) หมายถึงชนเผ่าแฟรงคท์ ี่อาศยั อยูใ่ นอาณาจักร Frankish ในสมัยยโุ รปกลาง เนือ่ งจากการออกเสียงที่
ไม่เปน็ ที่คุ้นเคยของคนในสมัยกอ่ นจึงทำใหอ้ อกเสียงเพีย้ นเป็น ฟะรงั คี จนมาเปน็ ฝรง่ั ในปจั จบุ นั

“หัวร่อดังม้าล่อ” เป็นอีกหนึ่งคำที่ผู้ชมจดจำคำนี้ได้ดี เพราะเป็นคำที่บ่าวใช้กล่าวเตือน ประชด
แม่การะเกดว่าเป็นคนไม่สุภาพ หัวร่อดังม้าล่อ โดยคำนี้ก็มีที่มาน่าสนใจอยู่ว่า ม้าล่อ ในนี้ที่นี้ไม่ได้มากจากมา้
ที่เป็นสัตว์สี่ขา แต่เป็นเครื่องโลหะชนิดหนึ่งที่ชาวจีนใช้ตีให้เกิดเสียงดัง ดังนั้นจึงเปรียบเปรยคนที่หัวเราะ
เสยี งดังว่า หวั ร่อดังม้าล่อ น่ันเอง

“น้ำมันครั่ง” ปรากฏให้เห็นในละครมีที่มา www.sistacafe.com/summaries
จาก น้ำมนั ทน่ี ำมาจากแมลงจำพวกเพลย้ี หลายชนิดท่ี hilight.kapook.com
อยู่ในวงศ์ Kerridae ตัวครั่งจะขับสารชนิดหนึ่งซึ่งมี
ลักษณะเป็นเหมือนยางหรือชันออกมาไว้ป้องกัน
ตัวเองจากศัตรู ซึ่งสารที่ขับถ่ายออกมานี้เรียกว่า
“ครั่งดิบ” ตามชื่อเรียก สารนี้มีสีแดงม่วง ลักษณะ
คล้ายขี้ผึ้งสีเหลืองแก่ หรือยางสีส้ม ซึ่งมนุษย์ได้
นำมาใช้ประโยชน์กันมานานกว่า 4,000 ปี แล้วใน
หลายอารยธรรม โดยใช้เป็นสมนุ ไพร เป็นยารกั ษาโรค
โลหติ จาง, โรคลมขัดข้อ เป็นต้น นอกจากนย้ี ังนำไปใช้
ในอุตสาหกรรมการทำ เชลแล็ก, แลกเกอร์,
เครื่องใช้, เครื่องประดับต่างๆ, ย้อมสีผ้า สีโลหะ หรือ
ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนใช้ประทับในการไปรษณีย์
ขนส่งหรือตราประทับเอกสารทางราชการใดๆ
ปัจจุบันครั่งเป็นสินค้าออกที่สำคัญของหลายๆ
ประเทศ อาทิ อินเดยี , ไทย ซ่งึ มกี ารเลย้ี งในเชิงเกษตร
มรี าคาขายทแี่ พงมาก


Click to View FlipBook Version