แผนจัดการเรียนรู้ วิชาระบบเสียงและระบบภาพ 2562

แผนการจัดการเรยี นร้มู ่งุ เน้นสมรรถนะ
บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั ธรรมาภบิ าล

จิตอาสา และค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ
ประจาภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2562

วิชา ระบบเสียงและระบบภาพ รหัส3105-2009 ทฤษฏี 2 ปฎิบัติ 3 หน่วยกิต 3
หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557

ประเภทวิชา ชา่ งอตุ สาหกรรม สาขาวชิ า ชา่ งอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
สาขางาน อเิ ลก็ ทรอนิกส์อุตสาหกรรม

จดั ทาโดย
นายนพรตั น์ มโนรา

วทิ ยาลยั เทคนิคเชยี งคา
อาเภอเชยี งคา จงั หวดั พะเยา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะบูรณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลกั ธรรมาภบิ าล
จติ อาสา และคา่ นิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ

ประจาภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562

วิชา ระบบเสยี งและระบบภาพ รหสั 3105-2009 ทฤษฏี 2 ปฎิบตั ิ 3 หน่วยกติ 3

หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สูง พทุ ธศักราช 2557

ประเภทวชิ า ชา่ งอุตสาหกรรม สาขาวชิ า ช่างอิเลก็ ทรอนกิ ส์

สาขางาน อิเลก็ ทรอนิกส์อตุ สาหกรรม

ครผู สู้ อน
นายนพรัตน์ มโนรา

 ควรอนญุ าตใหใ้ ช้สอนได้  เหน็ ควรอนญุ าตให้ใชส้ อนได้
 ควรปรบั ปรุงเกีย่ วกบั  ควรปรบั ปรุงดังเสนอ

…………………………………............................... ....................................................................
ลงชื่อ .................................................. ลงชื่อ ...........................................................
(นายนพรตั น์ มโนรา)
หัวหนา้ แผนกวชิ า (นางสาวชวาลินี สิงห์คา)
............../............./............... รองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ
............../..................../...............

อนญุ าตใหใ้ ชส้ อนได้
อ่นื ๆ........................................................................................

ลงชอื่ ...........................................................

(นายสมปอง พลู เพ่มิ )

ผอู้ านวยการวทิ ยาลยั เทคนิคเชียงคา

............../.................../...............

ลักษณะรายวิชา
รหัสวชิ า 3105 - 2009 ช่ือวชิ า ระบบเสยี งและระบบภาพ จานวน 3 หนว่ ยกิต
5 ชว่ั โมง/สัปดาห์ 90 ชวั่ โมง/ภาคเรียน ประเภทวชิ าช่างอุตสาหกรรม สาขาวชิ าช่างอิเลก็ ทรอนกิ ส์

จดุ ประสงค์รายวชิ า เพอ่ื ให้

1. เข้าใจเทคโนโลยีระบบเสียงและระบบภาพพรอ้ มอุปกรณ์ประกอบ
2. มที กั ษะในการวดั ทดสอบ ตดิ ตงั้ บารงุ รกั ษาระบบเสียงและระบบภาพพร้อมอุปกรณ์ประกอบ
3. มีกจิ นิสยั ในการทางานด้วยความประณตี รอบคอบและปลอดภัย ตระหนกั ถึงคุณภาพของงานและมี

จริยธรรมในงานอาชพี

สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั หลกั การทางานของระบบเสยี งและระบบภาพ
2. วัด ทดสอบ ระบบเสียงและระบบภาพพร้อมอปุ กรณ์ประกอบ
3. บนั ทึกตัดต่อสัญญาณภาพและเสียง
4. ซ่อมบารุงรักษาระบบเสยี ง ระบบภาพและอปุ กรณ์ประกอบ

คาอธบิ ายรายวชิ า

ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับการวิเคราะห์และออกแบบระบบเสียง คุณลักษณะของเครื่องเสียงและ
อุปกรณ์ประกอบในระบบเสียง ไมโครโฟน ลาโพง ระบบเสียงสาธารณะ ระบบเสียงห้องประชุม
หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารอะคสู ติกส์ เทปบันทึกเสยี ง หลักการระบบเสยี งดจิ ิตอล คอมเพก็ ดิสก์ หลกั การกาเนิดสัญญาณ
ภาพกล้องโทรทัศน์และการนาไปใชง้ าน เทคโนโลยีการบนั ทึกภาพและเสียง อุปกรณต์ ัดต่อสญั ญาณภาพ การ
สรา้ งภาพพิเศษ ระบบเครื่องบนั ทึกภาพ ระบบควบคุมการทางานของระบบวีซดี ี ดีวีดี วดิ โี อ โปรเจคเตอร์ การ
ออกแบบและการประเมินราคาระบบเสยี งและระบบภาพ

หน่วยการเรียนรู้

รหัสวิชา 3105 – 2009 ชอ่ื วิชาระบบเสยี งและระบบภาพ 3 หน่วยกิต 5 ช่ัวโมง/สัปดาห์

หนว่ ยที่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ สัปดาห์ จานวน
ท่ี ช่วั โมง
1 หน่วยท่ี 1 คุณลักษณะของเครื่องเสียงและอุปกรณ์ประกอบในระบบเสียง 1
5

2 หนว่ ยท่ี 2 ไมโครโฟน ลาโพง 25

3 หนว่ ยที่ 3 ระบบเสียงสาธารณะ 35

4 หนว่ ยท่ี 4 ระบบเสียงหอ้ งประชมุ 4 - 5 10

5 หน่วยที่ 5 ห้องปฏิบัตกิ ารอะคูสตกิ ส์ เทปบันทกึ เสียง 65

6 หน่วยที่ 6 หลักการระบบเสยี งดิจิตอล คอมเพ็กดิสก์ 75

7 หนว่ ยท่ี 7 หลกั การกาเนิดสญั ญาณภาพกลอ้ งโทรทัศน์และการนาไปใชง้ าน 8 – 9 10

8 หนว่ ยที่ 8 เทคโนโลยกี ารบันทึกภาพและเสยี ง 10 5

9 หนว่ ยท่ี 9 อุปกรณ์ตัดต่อสญั ญาณภาพ 11 – 12 10

10 หน่วยท่ี 10 การสร้างภาพพเิ ศษ 13 5

11 หนว่ ยที่ 11 ระบบเคร่ืองบนั ทึกภาพ 14 5

12 หน่วยท่ี 12 ระบบควบคมุ การทางานของระบบวีซดี ี ดวี ดี ี วิดีโอ โปรเจคเตอร์ 15 - 16 10

13 หน่วยที่ 13 การออกแบบและการประเมินราคาระบบเสยี งและระบบภาพ 17 5

สอบปลายภาค 18 5
รวม 90

ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร
รหสั วชิ า 3105 – 2009 ช่ือวชิ าระบบเสยี งและระบบภาพ 3 หน่วยกติ 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์

พฤติกรรม พุทธพิ สิ ยั

ช่อื หน่วย ความรู้
ความ ้ขาใจ
นาไปใ ้ช
ิวเคราะห์/สังเคราะ ์ห
ประเ ิมน ่คา
สร้างสรร ์ค
ทักษะพิสัย
จิตพิ ัสย

ลา ัดบความสาคัญ

จานวนคาบ

หนว่ ยที่ 1 คุณลกั ษณะของเคร่ืองเสียงและอุปกรณ์ √√√√√ - √√65

ประกอบในระบบเสียง

หน่วยที่ 2 ไมโครโฟน ลาโพง √√√√√ - √√75

หนว่ ยที่ 3 ระบบเสียงสาธารณะ √√√√√ - √√15

หนว่ ยที่ 4 ระบบเสียงหอ้ งประชมุ √ √ √ √ √ √ √ √ 8 10

หนว่ ยท่ี 5 ห้องปฏบิ ตั ิการอะคสู ติกส์ เทปบันทกึ เสียง √ √ √ √ √ - √ √ 9 5

หนว่ ยท่ี 6 หลักการระบบเสียงดจิ ิตอล คอมเพ็กดสิ ก์ √ √ √ √ √ - √ √ 10 5

หน่วยท่ี 7 หลกั การกาเนดิ สัญญาณภาพกล้องโทรทศั น์ √ √ √ √ √ √ √ √ 2 10

และการนาไปใชง้ าน

หนว่ ยท่ี 8 เทคโนโลยกี ารบนั ทกึ ภาพและเสียง √ √ √ √ √ √ √ √ 11 5

หน่วยท่ี 9 อุปกรณ์ตดั ต่อสัญญาณภาพ √ √ √ √ √ √ √ √ 3 10

หนว่ ยที่ 10 การสรา้ งภาพพเิ ศษ √ √ √ √ √ √ √ √ 12 5

หน่วยท่ี 11 ระบบเครอื่ งบนั ทกึ ภาพ √ √ √ √ √ √ √ √ 13 5

หน่วยท่ี 12 ระบบควบคุมการทางานของระบบวีซดี ี ดวี ี √ √ √ √ √ √ √ √ 4 10

ดี วดิ ีโอ โปรเจคเตอร์

หนว่ ยที่ 13 การออกแบบและการประเมนิ ราคาระบบ √ √ √ √ √ - √ √ 5 5

เสียงและระบบภาพ

สอบปลายภาค 5

สัดส่วน 30 50 20

คะแนนรวม / เวลาเรียนรวม 100 90

หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะประจาหน่วย และช่วั โมงเรยี น

รหสั วิชา 3105 – 2009 ชื่อวิชาระบบเสยี งและระบบภาพ 3 หน่วยกิต 5 ชวั่ โมง/สัปดาห์

ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ /รายการสอน สมรรถนะประจาหนว่ ย สปั ดาห์ท่ี ช่วั โมงท่ี

หน่วยที่ 1 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1 1-5
คณุ ลกั ษณะของเครอื่ งเสยี งและอปุ กรณ์ อธิบายคุณลกั ษณะของเครื่องเสียงและอปุ กรณ์
ประกอบในระบบเสยี ง ประกอบในระบบเสยี ง ถกู ต้องตามคู่มอื และมาตรฐาน
รายการสอน
ปฐมนเิ ทศ
1.1. ความหมายของระบบเสยี ง
1.2. อุปกรณ์ประกอบในระบบเสียง
1.3. คณุ ลักษณะของอุปกรณใ์ นระบบ
เสียง

หนว่ ยที่ 2 1. สมรรถนะประจาหน่วย 2 6 - 10
ไมโครโฟน ลาโพง 1.1. ต่อไมโครโฟนและลาโพง กับระบบเสยี งได้ถกู ตอ้ ง
รายการสอน ตามแบบและมาตรฐาน
2.1. หลักการทางานของไมโครโฟนและ 1.2. ทดสอบการทางานของ ไมโครโฟนและลาโพง
ลาโพง ตามมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ าน
2.2. คุณลักษณะและประเภทของ
ไมโครโฟน และลาโพง
2.3. การต่อใช้งานไมโครโฟน และลาโพง
กบั ระบบเสียง
2.4. การวดั และทดสอบ ไมโครโฟนและ
ลาโพง
2.5. การบารุงและซอ่ มแซม ไมโครโฟน
และลาโพง

หน่วยท่ี 3 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย 3 11 - 15
ระบบเสยี งสาธารณะ 1.1. ตดิ ต้ังระบบเสียงสาธารณะ ตามแบบและ
รายการสอน มาตรฐานการปฏบิ ัติงาน
3.1. ความหมายและคณุ ลกั ษณะของ 1.2. วัดและทดสอบการทางานของระบบเสียง
ระบบเสียงสาธารณะ สาธารณะ ตามมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน

3.2. อปุ กรณ์ประกอบในระบบเสียง
สาธารณะ
3.3. การติดตัง้ ระบบเสยี งสาธารณะ
3.4. การวดั และทดสอบการทางานของ
ระบบเสยี งสาธารณะ
3.5. การซอ่ มบารงุ ระบบเสียงสาธารณะ

หนว่ ยท่ี 4 1. สมรรถนะประจาหน่วย 4-5 16 - 25
ระบบเสยี งห้องประชุม 1.1. ติดตงั้ ระบบเสยี งหอ้ งประชมุ ตามแบบและ 6
รายการสอน มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน 26 - 30
4.1. ความหมายและคุณลักษณะของ 1.2. วดั และทดสอบการทางานของระบบเสยี งหอ้ ง 31 - 35
ระบบเสยี งห้องประชุม ประชมุ ตามมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงาน
4.2. อุปกรณป์ ระกอบในระบบเสยี งห้อง
ประชุม
4.3. การตดิ ต้งั ระบบเสยี งห้องประชมุ
4.4. การวัดและทดสอบการทางานของ
ระบบเสยี งห้องประชุม
4.5. การซอ่ มบารุงระบบเสยี งห้องประชุม

หน่วยที่ 5 1. สมรรถนะประจาหน่วย

หอ้ งปฏิบัติการอะคสู ตกิ ส์ เทปบนั ทกึ เสยี ง 1.1. อธิบายคณุ ลกั ษณะของหอ้ งปฏิบัติการอะคูสติกส์

รายการสอน ได้ถกู ต้องตามทฤษฎี

5.1. ห้องปฏบิ ัติการอะคสู ตกิ ส์ 1.2. บนั ทึกเสียงดว้ ยเทปบนั ทกึ เสียง ตามมาตรฐาน

5.2. คุณลักษณะหอ้ งปฏิบัติการอะคูสติกส์ การบนั ทึกเสยี ง

5.3. เทปบันทกึ เสียง

5.4. การบารุงรกั ษา เทปบันทกึ เสียง

หน่วยที่ 6 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย 7
หลกั การระบบเสียงดิจิตอล คอมเพก็ ดิสก์ 1.1. อธิบายหลกั การทางานของระบบเสียงดิจติ อล
รายการสอน ถูกตอ้ งตามทฤษฎี
6.1. ระบบเสียงดจิ ิตอล 1.2. บนั ทึกเสยี งดว้ ยระบบดจิ ติ อล ตามมาตรฐานการ
6.2. คอมเพ็กดิสก์ บันทกึ เสยี งระบบดจิ ติ อล

หน่วยท่ี 7 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย 8–9 36 - 45
หลกั การกาเนิดสัญญาณภาพ 1.1. บันทกึ ภาพและเสยี งดว้ ยกล้องโทรทัศน์ ตาม 46 - 50
กลอ้ งโทรทัศนแ์ ละการนาไปใช้งาน มาตรฐานการปฏิบัตงิ าน 51 – 60
รายการสอน 61 - 65
7.1. หลกั การกาเนิดสญั ญาณภาพ
7.2. คุณลักษณะของกลอ้ งโทรทัศน์
7.3. การใช้งานกล้องโทรทศั น์
7.4. การซอ่ มบารงุ กล้องโทรทศั น์

หน่วยท่ี 8 1. สมรรถนะประจาหน่วย 10
เทคโนโลยีการบันทกึ ภาพและเสียง 1.1. บนั ทกึ ภาพและเสียงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดว้ ย
รายการสอน Face book และ You tube
8.1. เทคโนโลยกี ารบนั ทกึ ภาพ
8.2. เทคโนโลยีการบนั ทกึ เสยี ง
8.3. อปุ กรณใ์ นการ บันทกึ ภาพและเสียง
8.4. บันทึกภาพและเสียง ด้วย
Face book และ You tube

หนว่ ยที่ 9 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย 11 – 12
อปุ กรณต์ ดั ตอ่ สญั ญาณภาพ
รายการสอน 1.1. ตดิ ตงั้ และทดสอบ อุปกรณต์ ดั ตอ่ สัญญาณภาพ
9.1. อปุ กรณ์ตดั ต่อสญั ญาณภาพ ระบบ และอุปกรณ์ประกอบ ถูกต้องตามแบบและมาตรฐาน
อนาลอ็ ก 1.2. ตดั ตอ่ สัญญาณภาพ ตามแบบและมาตรฐาน
9.2. อุปกรณ์ตดั ต่อสัญญาณภาพ ระบบ
ดจิ ติ อล
9.3. การซ่อมบารงุ อปุ กรณต์ ัดต่อ
สญั ญาณภาพ

หนว่ ยที่ 10 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย 13
การสรา้ งภาพพิเศษ
รายการสอน 1.1. สร้างภาพพเิ ศษ ดว้ ยโปรแกรม ไดต้ ามรปู แบบที่
10.1. ประเภทของภาพพิเศษ กาหนด

10.2. เทคนิคการสรา้ งภาพพิเศษ
10.3. โปรแกรมสรา้ งภาพพเิ ศษ

หนว่ ยที่ 11 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย 14 66 - 70
เครอื่ งบนั ทกึ ภาพ 15 – 16 71 – 80
รายการสอน 1.1. ตดิ ตัง้ และทดสอบ เครอื่ งบนั ทกึ ภาพ และ
11.1. เครือ่ งบันทึกภาพระบบวดี โี อเทป อุปกรณ์ประกอบ ถูกตอ้ งตามแบบและมาตรฐาน 17 81 - 85
11.2. เครอ่ื งบนั ทกึ ภาพระบบ วซี ีดี 18 86 - 90
11.3. เคร่อื งบันทกึ ภาพระบบ ดีวีดี
11.4. เครอื่ งบนั ทึกภาพระบบ ฮารท์ ดิกส์

หน่วยที่ 12 1. สมรรถนะประจาหนว่ ย

ระบบควบคุมการทางานของระบบวซี ดี ี 1.1. ตดิ ตัง้ และทดสอบการทางาน วดิ โี อโปรเจคเตอร์
ดวี ีดี วดิ โี อโปรเจคเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบ ถูกตอ้ งตามแบบและมาตรฐาน
รายการสอน

12.1. การทางานและคณุ ลกั ษณะของวซี ีดี

ดวี ีดี

12.2. การทางานและคณุ ลกั ษณะของ

วดี โี อโปรเจคเตอร์

12.3. การติดต้ังและปรับแต่ง

วิดีโอโปรเจคเตอร์

12.4. การซอ่ มบารงุ วิดีโอโปรเจคเตอร์

หน่วยที่ 13 1. สมรรถนะประจาหน่วย
การออกแบบและการประเมนิ ราคาระบบ
เสยี งและระบบภาพ 1.1. ออกแบบและการประเมินราคาระบบเสียงและ
รายการสอน ระบบภาพ ตามมาตรฐาน
12.1. การออกแบบระบบเสยี งและระบบ
ภาพ
12.2. การประเมนิ ราคาระบบเสียงและ
ระบบภาพ

สอบปลายภาค ( สัปดาห์ท่ี 18 )



แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 1
ชอื่ วิชา 3105 - 2009 ระบบเสียงและระบบภาพ สอนสัปดาห์ท่ี 1
ชอ่ื หนว่ ย คุณลักษณะของเครื่องเสยี งและอุปกรณป์ ระกอบในระบบ
เสียง คาบที่ 1 - 5
ชื่อเรอื่ ง คณุ ลกั ษณะของเครือ่ งเสียงและอปุ กรณ์ประกอบในระบบเสียง
1. สาระสาคญั จานวนคาบ 5

ระบบเสียง หมายถงึ การนาอุปกรณ์เคร่ืองเสียงต่างๆ มาต่อเชื่อมกันให้ทางานอย่างเป็นระบบ จึงเปน็ การ
รวบรวมอุปกรณ์เกี่ยวกับเสียงท่ีมีความสัมพันธ์กันมาจัดให้เกิด ความสมดุลในการเชื่อมต่อเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
สูงสุด ระบบเสียง ถือเปน็ ระบบทตี่ ้องอาศยั ความรู้ด้านวศิ วกรรมศาสตร์เก่ียว กับเสียง มาประยุกต์ใช้ในการสร้าง
ระบบเพอ่ื ตอบสนองการใช้งานดา้ นเสียงโดยเฉพาะ และ อาจมกี ารใช้งานรว่ มกับระบบภาพและแสง ต้องมีการรวม
ระบบ เข้าด้วยกันเป็นระบบภาพและเสียง หรือทผี่ ู้ใช้สื่อเรียกว่า มลั ติมีเดีย และ บางครั้งอาจรวมระบบควบคุมแสง
เขา้ มาดว้ ยโดยเรยี กรวมกนั วา่ AVL

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย
อธบิ ายคุณลกั ษณะของเครื่องเสยี งและอปุ กรณ์ประกอบในระบบเสียง ถกู ต้องตามคู่มือและมาตรฐาน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1. ดา้ นความรู้
3.1.1. อธบิ ายความหมายของระบบเสยี ง
3.1.2. บอกอปุ กรณ์ประกอบในระบบเสยี ง
3.1.3. อธบิ ายคณุ ลักษณะของอปุ กรณใ์ นระบบเสียง
3.2. ดา้ นทักษะ
3.2.1. ต่อเครอ่ื งเสียงและอปุ กรณ์ประกอบในระบบ
3.3. ดา้ นคณุ ลักษณะท่ีพึง่ ประสงค์
3.3.1.มคี วามซื่อสตั ย์ สุจริต
3.3.2.มีจติ อาสาช่วยเหลือเพือ่ นและครูสอน
3.3.3. มคี วามพอประมาณ มเี หตุผล และมภี ูมิคมุ้ กัน
3.3.4. ตรงต่อเวลาและมีความรบั ผดิ ชอบ
3.3.5. ระมดั ระวงั ในการใช้อุปกรณ์ และเครื่องมอื
3.3.6. ทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมายไดด้ ้วยตนเอง
3.3.7. ค้นคว้าได้ด้วยตนเองและติดตามเทคโนโลยีท่ีทันสมยั

4. เนื้อหาสาระ
4.1. ความหมายของระบบเสยี ง
4.2. อุปกรณ์ประกอบในระบบเสยี ง
4.3. คณุ ลกั ษณะของอปุ กรณ์ในระบบเสยี ง

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1. ขั้นนาเข้าสบู ทเรียน
5.1.1.ผสู้ อนชี้แจงแนะนา รายวิชา วธิ กี ารเก็บคะแนน และวธิ กี ารเรยี น
5.1.2.ผสู้ อนช้แี จงจุดประสงค์ ของหนว่ ยการเรยี น และโนม้ น้าวให้ผ้เู รยี นเหน็ ความสาคญั ของเน้ือหา
5.1.3.ผสู้ อนสอบถามความรู้เบอ้ื งต้นทีเ่ กี่ยวกบั เน้อื หาของหน่วยการเรยี น
5.1.4.ผู้สอนใช้สื่อการเรยี นรู้แบบต่างๆ เพือ่ กระตุ้นใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดความสนใจในเนื้อหาที่จะเรียน
5.2. ขั้นการเรยี นรู้
5.2.1.ผสู้ อนบรรยาย โดยใช้ Power point หน่วยที่ 1 เร่ือง คณุ ลักษณะของเครือ่ งเสยี งและอุปกรณ์
ประกอบในระบบเสยี ง
5.2.2. ให้ผู้เรียน เรยี นร้ดู ้วยตนเอง จากหนังสอื ระบบเสียงและระบบภาพ และจากระบบสารสนเทศ
5.2.3.เปดิ โอกาสให้ผู้เรียน สอบถามข้อสงสัยในระหว่างที่เรียนกบั ผสู้ อน
5.2.4.ผสู้ อนและผูเ้ รยี นร่วมกนั สุรปเน้อื หา
5.3. ขั้นประยกุ ต์ใช้งาน
5.3.1.ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทา ใบงานที่ 1 เร่อื ง คณุ ลกั ษณะของเคร่ืองเสียงและอุปกรณป์ ระกอบในระบบเสยี ง
5.3.2.ระหวา่ งทาใบงานผเู้ รยี นสามารถสืบค้น เนอ้ื หาท่เี กีย่ วข้องกบั การทาใบงานได้จาก Internet
5.3.3.ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของผู้เรยี น ระหวา่ งปฏิบัติงาน
5.4. ขนั้ สรปุ และประเมินผล
5.4.1.ผสู้ อนตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลการทดลองและประเมนิ ผล
5.4.2.ผู้สอนและผเู้ รยี น รว่ มกนั สรุปเน้อื หาที่เรยี น เพ่ือใหม้ คี วามเขา้ ใจในทศิ ทางเดียวกัน
5.4.3.ผสู้ อนมอบหมายงานใหแ้ ก่ผู้เรยี น ( หากมี )

6. ส่ือการเรียนการสอน/การเรยี นรู้
6.1. สอ่ื ส่งิ พิมพ์
6.1.1.หนังสอื ระบบเสียงและระบบภาพ
6.1.2.ใบความรู้

6.1.3.ใบงานการทดลอง
6.1.4.แบบประเมินผลงาน
6.2. สื่อโสตทัศน์
Power point เรือ่ ง คณุ ลกั ษณะของเครื่องเสียงและอปุ กรณป์ ระกอบในระบบเสียง
6.3. สื่อของจรงิ
6.3.1. เพาวเวอรแ์ อมป์
6.3.2. เครอื่ งเล่น DVD
6.3.3. ลาโพง
6.3.4. สายสญั ญาณ
6.3.5. ไมโครโฟน
6.4. อ่ืนๆ / แหล่งเรยี นรู้
6.4.1.ในสถานศกึ ษา

- หอ้ งสมดุ แผนกวชิ าช่างอิเลก็ ทรอนกิ ส์วทิ ยาลยั เทคนคิ เชียงคา
- หอ้ งสมุดวิทยาลัยเทคนิคเชียงคา
6.4.2.นอกสถานศกึ ษา
- สถานประกอบการ รา้ นซ่อมเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ ( ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )
ใบความรหู้ น่วยท่ี 1 เร่อื ง คุณลักษณะของเครอ่ื งเสยี งและอุปกรณ์ประกอบในระบบเสียง
ใบมอบหมายงานที่ 1 เร่อื ง คณุ ลักษณะของเครื่องเสยี งและอปุ กรณ์ประกอบในระบบเสยี ง

8. การบรู ณาการ ความสัมพันธก์ ับวิชาอื่นๆ
8.1. ระบบเสยี ง
8.2. เครื่องมือวดั อิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรม

9. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
9.1. ก่อนเรียน
9.1.1.สอบถามความรูเ้ บอ้ื งต้นกอ่ นเรียน
9.2. ขณะเรยี น
9.2.1.ตรวจสอบผลการทดลอง แบบฝึกหดั
9.2.2.สังเกตการณ์ทางาน

9.3. หลงั เรียน
9.3.1.แบบทดสอบหลังเรียน
9.3.2.สอบถาม สมั ภาษณ์

10. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี นรู้
- วธิ ีการประเมิน : การทดสอบ สังเกต
- เครอ่ื งมือ : แบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลใบงานการทดลองและใบมอบหมายงาน
- ผ่านเกณฑ์ : ไดค้ ะแนนร้อยละ 60 ข้นึ ไป

11. ผลงาน ชน้ิ งาน ผลความสาเรจ็ ของผู้เรยี น

แผนการจดั การเรียนร้มู ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 1
สอนครั้งท่ี 1
ช่ือหนว่ ย คณุ ลักษณะของเครื่องเสยี งและอุปกรณ์ประกอบใน ช่ัวโมงท่ี 1 - 5
ระบบเสียง ชว่ั โมงรวม 5

ช่อื เร่ือง คณุ ลกั ษณะของเครอ่ื งเสียงและอปุ กรณป์ ระกอบในระบบเสียง .
.
12. บนั ทึกหลังการสอน .

12.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้

12.2 ผลการเรยี นรู้ของนักเรยี น นักศกึ ษา

12.3 แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ .
.
ผูบ้ ันทกึ ผตู้ รวจ ผู้ตรวจ .
.
............................................. .......................................... .......................................
(นายนพรัตน์ มโนรา) (นายนพรตั น์ มโนรา) (นางสาวจนิ ดา ใจเจน็ ) .
ครผู สู้ อน หวั หนา้ แผนกวขิ า หัวหนา้ งานพฒั นาหลักสตู ร .
.
การเรยี นการสอน .

บันทึกการตรวจสอบ/คาแนะนา

..............................................
(นางสาวชวาลนิ ี สิงห์คา)
รองผู้อานวยการฝา่ ยวิชาการ



แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ 2
ชอื่ วชิ า 3105 - 2009 ระบบเสยี งและระบบภาพ สอนสัปดาหท์ ี่ 2
ชอ่ื หนว่ ย ไมโครโฟน ลำโพง
คาบท่ี 6 - 10
ชื่อเรือ่ ง ไมโครโฟน ลำโพง
1. สาระสาคญั จานวนคาบ 5

ไมโครโฟน คือ อุปกรณ์ที่เปลี่ยนเสียงเป็นสัญญำณไฟฟ้ำ กำรออกแบบไมโครโฟนที่ดี จะต้องสำมำรถ
เปล่ยี นพลังเสยี งได้ดี ตลอดย่ำนควำมถเี่ สียง ซึ่งมคี วำมจำกัดมำก จึงมีเทคโนโลยหี ลำยอย่ำงเกดิ ขึ้นเพ่อื ให้ไดส้ ัญญำณ
สียง ที่ ดีเห มือ น ต้น ก ำ เนิ ดเสี ยง ดัง นั้น จึง มีไ มโ คร โ ฟ น หลำ ยช นิดท่ี มีคุ ณลั ก ษณ ะ ไ ม่เห มือ น กั น

ลำโพง (อังกฤษ: loudspeaker, speaker) เปน็ อุปกรณ์ไฟฟำ้ เชงิ กลอย่ำงหนงึ่ ทำหน้ำทแ่ี ปลงสญั ญำณไฟฟำ้
ให้เป็นเสยี ง มดี ้วยกันหลำยแบบ คำว่ำ ลำโพงมักจะเรียกรวมกัน ทั้งดอกลำโพง หรือตัวขับ (driver) และลำโพงทัง้ ตู้
(speaker system) ท่ีประกอบด้วยลำโพงและวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับแบ่งย่ำนควำมถ่ี (ครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์ก)
ลำโพงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในระบบเครื่องเสียง โดยมีขนำดตั้งแต่เล็กเท่ำปลำยน้ิว จนถึงใหญ่ขนำด
เส้นผำ่ ศูนยก์ ลำงนับสบิ นิว้ โดยมโี ครงสรำ้ งที่แตกตำ่ งกัน และให้เสียงท่ีแตกต่ำงกันดว้ ย

2. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. ต่อไมโครโฟนและลำโพง กบั ระบบเสยี งไดถ้ ูกต้องตำมแบบและมำตรฐำน
2.2. ทดสอบกำรทำงำนของ ไมโครโฟนและลำโพง ตำมมำตรฐำนกำรปฏิบัติงำน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1. ด้านความรู้
3.1.1. อธิบำยหลกั กำรทำงำนของไมโครโฟนและลำโพง
3.1.2. อธบิ ำยคุณลกั ษณะและประเภทของไมโครโฟน และลำโพง
3.2. ด้านทกั ษะ
3.2.1. ตอ่ ใช้งำนไมโครโฟน และลำโพงกบั ระบบเสยี ง
3.2.2.วัดและทดสอบ ไมโครโฟนและลำโพง
3.2.3.บำรงุ และซ่อมแซม ไมโครโฟนและลำโพง
3.3. ด้านคุณลกั ษณะท่ีพ่งึ ประสงค์
3.3.1.มคี วำมซอื่ สัตย์ สุจรติ
3.3.2.มีจิตอำสำช่วยเหลือเพ่อื นและครูสอน
3.3.3. มคี วำมพอประมำณ มเี หตุผล และมีภูมิคุม้ กนั

3.3.4. ตรงต่อเวลำและมีควำมรับผิดชอบ
3.3.5. ระมดั ระวงั ในกำรใชอ้ ุปกรณ์ และเคร่ืองมอื
3.3.6. ทำงำนทไี่ ด้รับมอบหมำยไดด้ ว้ ยตนเอง
3.3.7. คน้ คว้ำไดด้ ว้ ยตนเองและติดตำมเทคโนโลยีที่ทันสมยั

4. เน้อื หาสาระ
4.1. หลกั กำรทำงำนของไมโครโฟนและลำโพง
4.2. คณุ ลักษณะและประเภทของไมโครโฟน และลำโพง
4.3. กำรตอ่ ใช้งำนไมโครโฟน และลำโพงกับระบบเสยี ง
4.4. กำรวดั และทดสอบ ไมโครโฟนและลำโพง
4.5. กำรบำรุงและซอ่ มแซม ไมโครโฟนและลำโพง

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
5.1. ขน้ั นาเขา้ สบู ทเรยี น
5.1.1.ผู้สอนช้แี จงแนะนำ จุดประสงคข์ องหน่วยกำรเรียน สมรรถนะ กิจกรรมกำรเรียนรู้ และกำรวดั ผล
5.1.2.ผู้สอนโน้มนำ้ วใหผ้ เู้ รยี นเหน็ ควำมสำคญั ของเน้ือหำ
5.1.3.ผู้สอนสอบถำมควำมรู้เบ้ืองตน้ ท่ีเกย่ี วกับเน้ือหำของหนว่ ยกำรเรียน
5.1.4.ผสู้ อนใช้สือ่ กำรเรียนรู้แบบตำ่ งๆ เพ่อื กระต้นุ ใหผ้ ้เู รยี นเกดิ ควำมสนใจในเนอ้ื หำท่ีจะเรียน
5.2. ข้นั การเรียนรู้
5.2.1.ผสู้ อนบรรยำย โดยใช้ Power point หนว่ ยท่ี 2 เร่อื ง ไมโครโฟนและลำโพง
5.2.2. ใหผ้ ู้เรยี น เรียนรูด้ ว้ ยตนเอง จำกหนังสอื ระบบเสยี งและระบบภำพ และจำกระบบสำรสนเทศ
5.2.3.เปิดโอกำสใหผ้ ู้เรียน สอบถำมข้อสงสยั ในระหวำ่ งท่เี รยี นกบั ผู้สอน
5.2.4.ผสู้ อนและผ้เู รียนร่วมกนั สุรปเนือ้ หำ
5.3. ขนั้ ประยกุ ตใ์ ช้งาน
5.3.1.ผู้สอนให้ผเู้ รยี นทำ ใบงำนท่ี 1 เรอ่ื ง ไมโครโฟนและลำโพง
5.3.2.ระหว่ำงทำใบงำนผูเ้ รยี นสำมำรถสืบคน้ เน้อื หำท่เี กี่ยวขอ้ งกบั กำรทำใบงำนไดจ้ ำก Internet
5.3.3.ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของผูเ้ รยี น ระหวำ่ งปฏบิ ัติงำน
5.4. ขนั้ สรปุ และประเมนิ ผล
5.4.1.ผสู้ อนตรวจสอบควำมถกู ต้องของผลกำรทดลองและประเมนิ ผล
5.4.2.ผู้สอนและผ้เู รยี น รว่ มกนั สรุปเน้อื หำท่เี รียน เพอ่ื ใหม้ ีควำมเข้ำใจในทศิ ทำงเดียวกัน
5.4.3.ผ้สู อนมอบหมำยงำนใหแ้ ก่ผู้เรียน ( หำกมี )

6. ส่ือการเรียนการสอน/การเรยี นรู้
6.1. สอ่ื สิง่ พมิ พ์
6.1.1.หนังสือ ระบบเสียงและระบบภำพ
6.1.2.ใบควำมรู้
6.1.3.ใบงำนกำรทดลอง
6.1.4.แบบประเมนิ ผลงำน
6.2. ส่อื โสตทัศน์
Power point เรื่อง ไมโครโฟนและลำโพง
6.3. สือ่ ของจรงิ
6.3.1. ไมโครโฟน ประเภทตำ่ งๆ
6.3.2. ลำโพง ประเภทตำ่ งๆ
6.4. อืน่ ๆ / แหล่งเรียนรู้
6.4.1.ในสถานศึกษา
- ห้องสมุดแผนกวิชำช่ำงอิเลก็ ทรอนกิ สว์ ิทยำลยั เทคนคิ เชยี งคำ
- ห้องสมุดวทิ ยำลยั เทคนิคเชียงคำ
6.4.2.นอกสถานศึกษา
- สถำนประกอบกำร ร้ำนซ่อมเครือ่ งใช้ไฟฟ้ำและอเิ ล็กทรอนิกส์

7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ ( ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )
ใบควำมรู้หน่วยท่ี 2 เร่ือง ไมโครโฟนและลำโพง
ใบมอบหมำยงำนท่ี 2 เร่ือง ไมโครโฟนและลำโพง

8. การบรู ณาการ ความสัมพนั ธ์กบั วิชาอ่ืนๆ
8.1. ระบบเสียง
8.2. เครอ่ื งมอื วัดอิเลก็ ทรอนกิ ส์ในอุตสำหกรรม

9. การประเมนิ ผลการเรียนรู้
9.1. กอ่ นเรยี น
9.1.1.สอบถำมควำมร้เู บอื้ งตน้ ก่อนเรียน
9.2. ขณะเรยี น
9.2.1.ตรวจสอบผลกำรทดลอง แบบฝึกหดั

9.2.2.สังเกตกำรณ์ทำงำน
9.3. หลังเรียน

9.3.1.แบบทดสอบหลังเรยี น
9.3.2.สอบถำม สมั ภำษณ์

10. รายละเอียดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้
- วธิ ีกำรประเมิน : กำรทดสอบ สังเกต
- เครอื่ งมือ : แบบทดสอบ แบบประเมินผลใบงำนกำรทดลองและใบมอบหมำยงำน
- ผำ่ นเกณฑ์ : ได้คะแนนร้อยละ 60 ขนึ้ ไป

11. ผลงาน ชิน้ งาน ผลความสาเรจ็ ของผเู้ รียน

แผนการจดั การเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 2
ช่ือหนว่ ย ไมโครโฟนและลำโพง สอนคร้งั ที่ 2
ช่วั โมงท่ี 6 -10
ชือ่ เร่อื ง ไมโครโฟนและลำโพง ช่ัวโมงรวม 5

12. บันทึกหลังการสอน .
.
12.1 ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ .

12.2 ผลการเรยี นรู้ของนกั เรยี น นักศกึ ษา

12.3 แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้ .
.
ผ้บู ันทึก ผู้ตรวจ ผตู้ รวจ .
.
............................................. .......................................... .......................................
(นำยนพรัตน์ มโนรำ) (นำยนพรัตน์ มโนรำ) (นำงสำวจนิ ดำ ใจเจน็ ) .
ครูผสู้ อน หัวหนำ้ แผนกวิขำ หัวหนำ้ งำนพัฒนำหลกั สูตร .
.
กำรเรยี นกำรสอน .

บันทึกกำรตรวจสอบ/คำแนะนำ

..............................................
(นำงสำวชวำลนิ ี สงิ ห์คำ)
รองผู้อำนวยกำรฝำ่ ยวิชำกำร



แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ 3
ช่ือวิชา 3105 - 2009 ระบบเสียงและระบบภาพ สอนสปั ดาหท์ ่ี 3
ชอ่ื หน่วย ระบบเสยี งสาธารณะ
คาบที่ 11 - 15
ชือ่ เร่อื ง ระบบเสียงสาธารณะ
1. สาระสาคัญ จานวนคาบ 5

ระบบเสียง PA (พเี อ) หรือท่ีเรยี กว่าระบบ Sound Reinforcement การเพ่มิ หรือการขยายสัญญาณเสียง
หมายถึงระบบทีช่ ่วยในการขยายเสยี งของเคร่อื งดนตรีหรือเสียงร้องเพอื่ เพ่ิมพลงั เสียงทีอ่ อกมาให้ครอบคลุมพื้นท่ีรับ
ฟังเพือ่ ใหไ้ ด้ยินได้อย่างชัดเจนมากย่งิ ขึ้น ระบบเสียง PA อาจจะทาหนา้ ท่ี เปน็ เครื่องเสียงสาหรับการประกาศในท่ี
สาธารณะต่างๆ หรือเป็นเครื่องเสียงสาหรับคอนเสิร์ตสาหรับสถานที่ที่มีพื้นท่ีขนาดใหญ่ โดยจะมีการเช่าหรือซื้อ
ระบบเสยี ง PA มาตดิ ต้ังใช้งาน โดยจะมี Sound Engineer คอยทาหน้าที่ควบคมุ ดูแลระบบเสยี ง สว่ นสถานทบี่ ันเทิง
หรือในสถานที่ที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่นั้น วงดนตรีส่วนใหญ่จะมีระบบเสียงและผู้ควบคุมเสียงของตนเองมาดูแลเองได้

ระบบเสียง PA มีหลากหลายรูปแบบ ขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็ก เช่น งานปาร์ตีว้ ันเกิดสวนหลงั บ้าน งาน
วงดนตรีสดในผับในรา้ นอาหาร งานประชุมสมั มนาในหอ้ งประชมุ หรอื งานทัวร์คอนเสริ ต์ ของนกั รอ้ งดงั ๆ สิง่ ทสี่ าคัญ
ของระบบเสียง PA คือ การเลือกชนิดของระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ลาโพง -
Loudspeaker ท่ีให้ความดังเพียงพอกับความต้องการ ให้โทนเสียงท่ีครบถ้วน ชัดเจน ครอบคลุมพ้ืนที่การรับฟัง
เคร่ืองขยายเสียง-Amplifier ท่ีมีกาลังขับอย่างเพียงพอ เพราะหากระบบดังไม่เพียงพอก็จะทาให้ผู้รับฟังได้ยินไม่
ชัดเจน ได้ยินไม่ครบถ้วน

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย
2.1. ติดตง้ั ระบบเสียงสาธารณะ ตามแบบและมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ าน
2.2. วดั และทดสอบการทางานของระบบเสยี งสาธารณะ ตามมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1. ดา้ นความรู้
3.1.1. อธบิ ายความหมายและคุณลกั ษณะของระบบเสียงสาธารณะ
3.1.2. อธิบายคณุ ลกั ษณะ อปุ กรณ์ประกอบในระบบเสียงสาธารณะ
3.2. ด้านทกั ษะ
3.2.1.การติดตง้ั ระบบเสยี งสาธารณะ
3.2.2.การวัดและทดสอบการทางานของระบบเสยี งสาธารณะ
3.2.3.การซ่อมบารงุ ระบบเสยี งสาธารณะ

3.3. ด้านคณุ ลักษณะที่พึ่งประสงค์
3.3.1.มีความซื่อสตั ย์ สจุ รติ
3.3.2.มจี ิตอาสาช่วยเหลอื เพอื่ นและครสู อน
3.3.3. มีความพอประมาณ มเี หตุผล และมภี ูมคิ มุ้ กนั
3.3.4. ตรงต่อเวลาและมคี วามรบั ผิดชอบ
3.3.5. ระมัดระวังในการใช้อปุ กรณ์ และเครื่องมือ
3.3.6. ทางานท่ไี ด้รบั มอบหมายไดด้ ้วยตนเอง
3.3.7. ค้นคว้าได้ดว้ ยตนเองและตดิ ตามเทคโนโลยที ี่ทนั สมยั

4. เน้อื หาสาระ
4.1. ความหมายและคุณลกั ษณะของระบบเสยี งสาธารณะ
4.2. อปุ กรณ์ประกอบในระบบเสียงสาธารณะ
4.3. การตดิ ต้ังระบบเสียงสาธารณะ
4.4. การวัดและทดสอบการทางานของระบบเสยี งสาธารณะ
4.5. การซอ่ มบารงุ ระบบเสียงสาธารณะ

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1. ขน้ั นาเขา้ สูบทเรียน
5.1.1.ผู้สอนช้ีแจงแนะนา จุดประสงค์ของหนว่ ยการเรียน สมรรถนะ กิจกรรมการเรยี นรู้ และการวัดผล
5.1.2.ผู้สอนโน้มน้าวให้ผ้เู รยี นเหน็ ความสาคัญของเนอื้ หา
5.1.3.ผสู้ อนสอบถามความร้เู บ้ืองตน้ ทเ่ี ก่ียวกบั เน้อื หาของหน่วยการเรียน
5.1.4.ผ้สู อนใช้ส่ือการเรียนรูแ้ บบต่างๆ เพื่อกระตุน้ ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในเน้อื หาท่จี ะเรยี น
5.2. ข้นั การเรียนรู้
5.2.1.ผู้สอนบรรยาย โดยใช้ Power point หน่วยที่ 3 เร่ือง ระบบเสยี งสาธารณะ
5.2.2. ใหผ้ ู้เรียน เรียนรดู้ ้วยตนเอง จากหนงั สือ ระบบเสยี งและระบบภาพ และจากระบบสารสนเทศ
5.2.3.เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี น สอบถามขอ้ สงสยั ในระหวา่ งท่เี รียนกบั ผู้สอน
5.2.4.ผูส้ อนและผเู้ รยี นร่วมกนั สุรปเนอื้ หา
5.3. ขน้ั ประยุกตใ์ ช้งาน
5.3.1.ผ้สู อนให้ผู้เรียนทา ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง ระบบเสียงสาธารณะ
5.3.2.ระหว่างทาใบงานผู้เรยี นสามารถสืบค้น เนื้อหาท่เี ก่ยี วข้องกบั การทาใบงานได้จาก Internet
5.3.3.ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น ระหว่างปฏิบตั ิงาน

5.4. ขั้นสรปุ และประเมินผล
5.4.1.ผสู้ อนตรวจสอบความถูกต้องของผลการทดลองและประเมนิ ผล
5.4.2.ผู้สอนและผู้เรยี น ร่วมกันสรปุ เน้ือหาท่ีเรียน เพอื่ ใหม้ ีความเขา้ ใจในทศิ ทางเดยี วกนั
5.4.3.ผ้สู อนมอบหมายงานใหแ้ ก่ผเู้ รียน ( หากมี )

6. สือ่ การเรียนการสอน/การเรียนรู้
6.1. สื่อสง่ิ พมิ พ์
6.1.1.หนงั สือ ระบบเสียงและระบบภาพ
6.1.2.ใบความรู้
6.1.3.ใบงานการทดลอง
6.1.4.แบบประเมินผลงาน
6.2. สอ่ื โสตทัศน์
Power point เรื่อง ระบบเสียงสาธารณะ
6.3. สือ่ ของจรงิ
6.3.1. ไมโครโฟน
6.3.2. ลาโพง
6.3.3. เพาวเวอรแ์ อมป์
6.3.4. มกิ เซอร์
6.3.5. สายสัญญาณ
6.4. อนื่ ๆ / แหลง่ เรยี นรู้
6.4.1.ในสถานศึกษา
- หอ้ งสมุดแผนกวิชาช่างอเิ ล็กทรอนกิ ส์วิทยาลัยเทคนคิ เชยี งคา
- ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคเชยี งคา
6.4.2.นอกสถานศึกษา
- สถานประกอบการ ร้านซ่อมเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนกิ ส์

7. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ ( ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )
7.1. ใบความรู้หนว่ ยท่ี 3 เรอื่ ง ระบบเสยี งสาธารณะ
7.2. ใบมอบหมายงานท่ี 3 เร่อื ง ระบบเสียงสาธารณะ

8. การบูรณาการ ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื ๆ
8.1. ระบบเสียง
8.2. เคร่ืองมือวัดอเิ ล็กทรอนกิ ส์ในอุตสาหกรรม

9. การประเมินผลการเรียนรู้
9.1. กอ่ นเรยี น
9.1.1.สอบถามความรเู้ บอ้ื งตน้ กอ่ นเรยี น
9.2. ขณะเรียน
9.2.1.ตรวจสอบผลการทดลอง แบบฝึกหัด
9.2.2.สงั เกตการณท์ างาน
9.3. หลังเรียน
9.3.1.แบบทดสอบหลงั เรียน
9.3.2.สอบถาม สมั ภาษณ์

10. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้
- วิธีการประเมนิ : การทดสอบ สังเกต
- เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลใบงานการทดลองและใบมอบหมายงาน
- ผา่ นเกณฑ์ : ได้คะแนนรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป

11. ผลงาน ช้ินงาน ผลความสาเรจ็ ของผเู้ รยี น

แผนการจัดการเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3
ช่ือหนว่ ย ระบบเสยี งสาธารณะ สอนคร้ังท่ี 3
ชั่วโมงท่ี 11 -15
ชอื่ เรื่อง ระบบเสยี งสาธารณะ ชั่วโมงรวม 5

12. บนั ทึกหลังการสอน .
.
12.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ .

12.2 ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น นกั ศกึ ษา

12.3 แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ .
.
ผู้บันทึก ผู้ตรวจ ผูต้ รวจ .
.
............................................. .......................................... .......................................
(นายนพรตั น์ มโนรา) (นายนพรัตน์ มโนรา) (นางสาวจนิ ดา ใจเจน็ ) .
ครูผสู้ อน หวั หน้าแผนกวขิ า หัวหนา้ งานพฒั นาหลักสตู ร .
.
การเรยี นการสอน .

บันทึกการตรวจสอบ/คาแนะนา

..............................................
(นางสาวชวาลินี สงิ ห์คา)
รองผูอ้ านวยการฝา่ ยวิชาการ



แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ 4
ช่อื วิชา 3105 - 2009 ระบบเสยี งและระบบภาพ สอนสปั ดาห์ท่ี 4-5
ช่ือหนว่ ย ระบบเสียงห้องประชุม
คาบท่ี 16 - 25
ชื่อเรอ่ื ง ระบบเสยี งหอ้ งประชุม
1. สาระสาคญั จานวนคาบ 10

ระบบเสียงห้องประชุม เราจาเป็นต้องรู้ว่าห้องประชุมหนึ่งห้องท่ีเราต้องการระบบเสียงนั้นเราใช้กิจกรรม
แบบไหนบ้าง อย่างเช่น ห้องประชมุ โรงเรียน ท่ีมีขนาดเล็กอาจจะมีแค่การนาเสนอผลงานของนกั เรียน กค็ งไม่มีความ
จาเปน็ ต้องมไี มโครโฟนเยอะแยะมากมาย อาจจะมีแค่ 2-4 ตวั กน็ ่าจะเพียงพอ แต่หากวา่ เปน็ ห้องประชุมโรงแรม ที่มี
ขนาดไม่ใหญม่ ากนักแตอ่ าจจะมีกิจกรรมหลากหลาย เช่น ต้องมาประชุมสรปุ หรือดาเนินวางแผนทางธุรกิจทุกท่านที่
เข้าร่วมประชุมอาจจะต้องนาเสนอแสดงความคิดเห็นถกเถียงกัน เราก็สมควรมีไมโครโฟนชุดประชุมให้สาหรับ
ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน จะมากจะน้อยข้ึนอยู่กับจานวนท่ีน่ังในห้องน้ันๆ หากเราวางกิจกรรมให้เหมาะสมเราก็จะ
สามารถเลือกเครอ่ื งเสยี งห้องประชมุ ได้อย่างคุม้ คา่ ไมส่ ้ินเปลืองงบประมาณในการซอ้ื ของทีไ่ มจ่ าเป็นมาใชง้ าน

2. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. ตดิ ตงั้ ระบบเสยี งห้องประชมุ ตามแบบและมาตรฐานการปฏิบัตงิ าน
2.2. วดั และทดสอบการทางานของระบบเสียงหอ้ งประชุม ตามมาตรฐานการปฏบิ ัติงาน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1. ดา้ นความรู้
3.1.1. อธิบายความหมายและคุณลกั ษณะของระบบเสียงห้องประชุม
3.1.2. อธบิ ายคุณลกั ษณะ อุปกรณ์ประกอบในระบบเสียงห้องประชมุ
3.2. ดา้ นทักษะ
3.2.1.การตดิ ต้ังระบบเสียงหอ้ งประชมุ
3.2.2.การวัดและทดสอบการทางานของระบบเสียงหอ้ งประชุม
3.2.3.การซอ่ มบารุงระบบเสยี งห้องประชุม
3.3. ดา้ นคุณลักษณะทพ่ี ึง่ ประสงค์
3.3.1.มีความซอ่ื สัตย์ สจุ รติ
3.3.2.มีจติ อาสาชว่ ยเหลือเพ่อื นและครูสอน
3.3.3. มีความพอประมาณ มีเหตุผล และมภี ูมคิ ุ้มกนั
3.3.4. ตรงตอ่ เวลาและมคี วามรับผดิ ชอบ

3.3.5. ระมดั ระวงั ในการใช้อปุ กรณ์ และเครื่องมือ
3.3.6. ทางานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายไดด้ ้วยตนเอง
3.3.7. ค้นคว้าได้ด้วยตนเองและตดิ ตามเทคโนโลยีที่ทนั สมยั

4. เน้อื หาสาระ
4.1. ความหมายและคุณลกั ษณะของระบบเสยี งห้องประชมุ
4.2. อปุ กรณ์ประกอบในระบบเสยี งห้องประชุม
4.3. การติดตงั้ ระบบเสยี งห้องประชุม
4.4. การวัดและทดสอบการทางานของระบบเสียงหอ้ งประชมุ
4.5. การซอ่ มบารงุ ระบบเสยี งห้องประชุม

5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1. ขน้ั นาเข้าสบู ทเรียน
5.1.1.ผู้สอนชี้แจงแนะนา จดุ ประสงค์ของหน่วยการเรียน สมรรถนะ กิจกรรมการเรยี นรู้ และการวัดผล
5.1.2.ผู้สอนโน้มน้าวใหผ้ ู้เรยี นเหน็ ความสาคญั ของเน้ือหา
5.1.3.ผู้สอนสอบถามความรูเ้ บื้องตน้ ท่เี กี่ยวกับเน้อื หาของหนว่ ยการเรียน
5.1.4.ผู้สอนใช้สอ่ื การเรยี นรูแ้ บบตา่ งๆ เพอ่ื กระตุ้นให้ผเู้ รยี นเกดิ ความสนใจในเนือ้ หาท่จี ะเรยี น
5.2. ขน้ั การเรียนรู้
5.2.1.ผู้สอนบรรยาย โดยใช้ Power point หน่วยที่ 4 เร่ือง ระบบเสียงหอ้ งประชุม
5.2.2. ใหผ้ ู้เรียน เรียนรูด้ ว้ ยตนเอง จากหนังสือ ระบบเสียงและระบบภาพ และจากระบบสารสนเทศ
5.2.3.เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี น สอบถามข้อสงสัยในระหวา่ งทเ่ี รยี นกับผู้สอน
5.2.4.ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกัน สรุ ปเนื้อหา
5.3. ข้นั ประยุกตใ์ ช้งาน
5.3.1.ผู้สอนให้ผู้เรยี นทา ใบงานท่ี 4 เร่อื ง ระบบเสียงหอ้ งประชุม
5.3.2.ระหว่างทาใบงานผเู้ รยี นสามารถสืบค้น เนือ้ หาทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การทาใบงานไดจ้ าก Internet
5.3.3.ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของผเู้ รยี น ระหว่างปฏบิ ัติงาน
5.4. ขน้ั สรุปและประเมนิ ผล
5.4.1.ผ้สู อนตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลการทดลองและประเมินผล
5.4.2.ผ้สู อนและผูเ้ รียน ร่วมกันสรปุ เน้ือหาท่ีเรียน เพอ่ื ให้มคี วามเขา้ ใจในทิศทางเดียวกัน
5.4.3.ผสู้ อนมอบหมายงานใหแ้ ก่ผ้เู รยี น ( หากมี )

6. สอื่ การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้
6.1. ส่อื สิง่ พมิ พ์
6.1.1.หนงั สือ ระบบเสยี งและระบบภาพ
6.1.2.ใบความรู้
6.1.3.ใบงานการทดลอง
6.1.4.แบบประเมินผลงาน
6.2. สือ่ โสตทัศน์
Power point เร่อื ง ระบบเสียงห้องประชุม
6.3. สือ่ ของจรงิ
6.3.1. ไมโครโฟน
6.3.2. ลาโพง
6.3.3. เพาวเวอร์แอมป์
6.3.4. มกิ เซอร์
6.3.5. สายสญั ญาณ
6.4. อน่ื ๆ / แหลง่ เรยี นรู้
6.4.1.ในสถานศึกษา
- ห้องสมุดแผนกวชิ าช่างอิเลก็ ทรอนกิ สว์ ิทยาลยั เทคนคิ เชยี งคา
- ห้องสมดุ วิทยาลัยเทคนคิ เชียงคา
6.4.2.นอกสถานศึกษา
- สถานประกอบการ ร้านซอ่ มเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ ( ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )
7.1. ใบความรู้หนว่ ยที่ 4 เร่อื ง ระบบเสยี งหอ้ งประชุม
7.2. ใบมอบหมายงานที่ 4 เรื่อง ระบบเสยี งหอ้ งประชมุ

8. การบูรณาการ ความสัมพันธ์กับวิชาอ่นื ๆ
8.1. ระบบเสยี ง
8.2. เครื่องมอื วัดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ในอตุ สาหกรรม

9. การประเมินผลการเรยี นรู้
9.1. กอ่ นเรียน
9.1.1.สอบถามความรู้เบื้องต้นกอ่ นเรียน
9.2. ขณะเรยี น
9.2.1.ตรวจสอบผลการทดลอง แบบฝกึ หดั
9.2.2.สังเกตการณ์ทางาน
9.3. หลงั เรยี น
9.3.1.แบบทดสอบหลังเรียน
9.3.2.สอบถาม สัมภาษณ์

10. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรียนรู้
- วธิ กี ารประเมนิ : การทดสอบ สังเกต
- เครอ่ื งมอื : แบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลใบงานการทดลองและใบมอบหมายงาน
- ผา่ นเกณฑ์ : ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป

11. ผลงาน ชน้ิ งาน ผลความสาเรจ็ ของผเู้ รยี น

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 4
ชอ่ื หน่วย ระบบเสยี งห้องประชุม สอนคร้ังท่ี 4 - 5
ช่วั โมงท่ี 16 - 25
ชือ่ เรอ่ื ง ระบบเสยี งหอ้ งประชมุ ชั่วโมงรวม 10

12. บนั ทกึ หลงั การสอน .
.
12.1 ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ .

12.2 ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรียน นกั ศกึ ษา

12.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้ .
.
ผบู้ ันทกึ ผตู้ รวจ ผ้ตู รวจ .
.
............................................. .......................................... .......................................
(นายนพรัตน์ มโนรา) (นายนพรตั น์ มโนรา) (นางสาวจินดา ใจเจ็น) .
ครูผสู้ อน หัวหนา้ แผนกวขิ า หัวหนา้ งานพัฒนาหลกั สตู ร .
.
การเรยี นการสอน .

บันทกึ การตรวจสอบ/คาแนะนา

..............................................
(นางสาวชวาลินี สิงห์คา)
รองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ



แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 5
ช่อื วิชา 3105 - 2009 ระบบเสียงและระบบภาพ สอนสัปดาหท์ ี่ 6
ชือ่ หน่วย ห้องปฏบิ ัตกิ ารอะคสู ตกิ ส์ เทปบนั ทึกเสียง
คาบที่ 26 - 30

ช่อื เรอื่ ง ห้องปฏบิ ตั ิการอะคสู ตกิ ส์ เทปบนั ทึกเสียง จานวนคาบ 5

1. สาระสาคัญ

1.1. อคสู ติคส(์ Acoustics)น้ันมีความหมายแยกออกเป็นสองเร่ือง สองความหมาย ความหมายหน่ึงคือเปน็

ศาสตร์แขนงหนึ่งในวชิ าฟิสกิ ส์ ซึ่งทาการศกึ ษาเกี่ยวกับคลื่นเสยี งทิ่เดนิ ทางผ่านตัวกลางต่างๆ อีก

ความหมายหนง่ึ ของคาว่าอคูสติคส์ คอื สภาพของสถานที่ ท่มี ีผลต่อการรับฟงั เสียง ซงึ่ สถานท่ี ท่ีว่าน้ันใน

กรณขี องเราคอื หอ้ งฟงั เพลง ห้องโฮมเธียเตอรน์ น่ั เอง ท่เี ป็นเชน่ นัน้ เพราะเสยี งทีอ่ อกมาจากลาโพงไมไ่ ด้

เดนิ ทางเปน็ เส้นเล็กๆแบบลาแสงเลเซอร์ แต่คล่นื เสียงจะแผอ่ อกไปรอบๆแหล่งกาเนดิ เสียง(ลาโพง) เสยี งที่

เรารับฟังจงึ มที ัง้ เสยี งตรงทอี่ อกมาจากลาโพง ผสมรวมกับเสียงจากการสะทอ้ นกบั ผนงั หอ้ งทุกดา้ น ซ่ึงแตล่ ะ

ห้องมีคณุ ภาพเสยี งท่แี ตกต่างกนั อยา่ งรสู้ กึ ได้ชดั เจน ดงั น้ันแม้จะใช้ชุดเคร่ืองเสียงและลาโพงท่ีเหมือนกนั ทกุ

อยา่ งแตเ่ มอ่ื ใชอ้ ยใู่ นห้องท่ีต่างกันเสียงท่ไี ด้กจ็ ะแตกต่างกนั

ฉะนั้น อคูสติคส์ของห้องฟงั เพลง ห้องโฮมเธียเตอร์กค็ อื เร่ืองของขนาด สดั ส่วน พืน้ ผิว ความ

แข็งแรงและคุณสมบตั อิ ่นื ๆของหอ้ งซงึ่ สง่ ผลตอ่ คุณภาพเสยี งท่ไี ดร้ บั ฟัง

1.2. เครื่องบนั ทึกเทป เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมลู แบบอะนาลอ็ กที่บันทึก และเล่นเสยี ง ,รวมทัง้ เสยี งกอ้ ง โดยมกั

ใชเ้ ทปแมเ่ หล็กทง้ั แผลบนรลี หรอื ในเทปสาหรบั การจัดเกบ็ ในรูปแบบปจั จุบนั การบนั ทกึ สัญญาณมีความผัน

ผวนโดยการเคลอ่ื นยา้ ยเทปไปยังหวั เทปท่ีขั้วขอ้ มูลโดเมนในเทปตามสัดส่วนของสัญญาณเสยี ง อุปกรณ์

บนั ทึกเทป รวมไปถงึ เทปเทปแบบ reel-to-reel และเทปคาสเซ็ตต์ การใชเ้ ทปแมเ่ หล็กสาหรบั การ

บนั ทกึ เสยี งมตี น้ กาเนดิ มาต้งั แต่ ค.ศ. 1930 โดย เทปแม็กนีไทเซชัน ปฏวิ ตั ิวงการวทิ ยแุ ละอุตสาหกรรมการ

บนั ทกึ เพลง ทาให้ศลิ ปนิ และผ้ผู ลิตสามารถบนั ทึกและบนั ทกึ เสยี งได้โดยไมเ่ สยี คณุ ภาพและสามารถแกไ้ ข

และจดั เรยี งการบันทกึ ไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย

2. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. อธิบายคุณลักษณะของห้องปฏิบตั กิ ารอะคสู ติกส์ไดถ้ กู ต้องตามทฤษฎี
2.2. บันทึกเสยี งดว้ ยเทปบันทกึ เสยี ง ตามมาตรฐานการบนั ทึกเสยี ง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1. ดา้ นความรู้
3.1.1. อธบิ ายลักษณะของห้องปฏบิ ัติการอะคสู ตกิ ส์

3.1.2. บอกคุณลกั ษณะห้องปฏบิ ัตกิ ารอะคูสตกิ ส์
3.1.3. อธิบายหลักการทางานของ เทปบันทึกเสียง
3.1.4. บอกวธิ ีการบารุงรักษา เทปบันทึกเสียง
3.2. ดา้ นทักษะ
3.2.1. บนั ทึกเสียงด้วยเทปบันทกึ เสยี ง ในหอ้ งหอ้ งปฏบิ ัตกิ ารอะคสู ติกส์
3.3. ด้านคณุ ลักษณะทพี่ ึง่ ประสงค์
3.3.1.มคี วามซอื่ สัตย์ สจุ รติ
3.3.2.มจี ติ อาสาชว่ ยเหลือเพื่อนและครสู อน
3.3.3. มีความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมคิ ุ้มกนั
3.3.4. ตรงตอ่ เวลาและมคี วามรับผดิ ชอบ
3.3.5. ระมดั ระวังในการใชอ้ ปุ กรณ์ และเครอ่ื งมอื
3.3.6. ทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายไดด้ ้วยตนเอง
3.3.7. ค้นควา้ ไดด้ ว้ ยตนเองและตดิ ตามเทคโนโลยที ี่ทนั สมยั

4. เนอ้ื หาสาระ
4.1. หอ้ งปฏบิ ัติการอะคสู ติกส์
4.2. คุณลักษณะห้องปฏบิ ัตกิ ารอะคูสตกิ ส์
4.3. เทปบนั ทกึ เสยี ง
4.4. การบารงุ รกั ษา เทปบันทกึ เสียง

5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1. ขั้นนาเข้าสูบทเรียน
5.1.1.ผู้สอนชี้แจงแนะนา จดุ ประสงค์ของหน่วยการเรียน สมรรถนะ กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผล
5.1.2.ผ้สู อนโน้มนา้ วให้ผเู้ รียนเห็นความสาคญั ของเนอื้ หา
5.1.3.ผ้สู อนสอบถามความรู้เบอ้ื งตน้ ที่เก่ยี วกบั เน้ือหาของหนว่ ยการเรียน
5.1.4.ผ้สู อนใช้ส่อื การเรียนรู้แบบต่างๆ เพอ่ื กระตุ้นให้ผู้เรยี นเกดิ ความสนใจในเน้ือหาท่ีจะเรียน
5.2. ขัน้ การเรยี นรู้
5.2.1.ผสู้ อนบรรยาย โดยใช้ Power point หนว่ ยที่ 5 เร่ือง ห้องปฏบิ ัตกิ ารอะคูสตกิ ส์ เทปบันทกึ เสยี ง
5.2.2. ใหผ้ ู้เรยี น เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง จากหนงั สือ ระบบเสียงและระบบภาพ และจากระบบสารสนเทศ
5.2.3.เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียน สอบถามข้อสงสยั ในระหว่างทเ่ี รียนกบั ผู้สอน
5.2.4.ผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกัน สุรปเนอื้ หา

5.3. ข้ันประยกุ ตใ์ ช้งาน
5.3.1.ผู้สอนให้ผู้เรียนทา ใบงานที่ 5 เรื่อง ห้องปฏบิ ตั กิ ารอะคสู ตกิ ส์ เทปบนั ทึกเสยี ง
5.3.2.ระหวา่ งทาใบงานผู้เรยี นสามารถสืบคน้ เนื้อหาที่เกย่ี วขอ้ งกบั การทาใบงานได้จาก Internet
5.3.3.ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น ระหวา่ งปฏบิ ตั ิงาน

5.4. ข้ันสรุปและประเมินผล
5.4.1.ผู้สอนตรวจสอบความถูกต้องของผลการทดลองและประเมินผล
5.4.2.ผสู้ อนและผูเ้ รยี น ร่วมกนั สรุปเนือ้ หาท่เี รยี น เพ่ือใหม้ คี วามเขา้ ใจในทิศทางเดยี วกนั
5.4.3.ผูส้ อนมอบหมายงานใหแ้ ก่ผู้เรียน ( หากมี )

6. สอ่ื การเรยี นการสอน/การเรยี นรู้
6.1. สอ่ื ส่งิ พิมพ์
6.1.1.หนังสือ ระบบเสียงและระบบภาพ
6.1.2.ใบความรู้
6.1.3.ใบงานการทดลอง
6.1.4.แบบประเมินผลงาน
6.2. สื่อโสตทศั น์
Power point เรอื่ ง หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารอะคสู ตกิ ส์ เทปบันทกึ เสียง
6.3. สื่อของจริง
6.3.1. เครอื่ งบนั ทึกเทป
6.3.2. เทปบันทกึ เสยี ง
6.3.3. เพาวเวอร์แอมป์ ลาโพง
6.3.4. มกิ เซอร์
6.3.5. สายสญั ญาณ
6.4. อน่ื ๆ / แหลง่ เรยี นรู้
6.4.1.ในสถานศกึ ษา
- หอ้ งสมุดแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์วิทยาลยั เทคนิคเชยี งคา
- ห้องสมดุ วิทยาลัยเทคนิคเชยี งคา
6.4.2.นอกสถานศกึ ษา
- สถานประกอบการ ร้านซอ่ มเครอื่ งใช้ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ ( ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )
7.1. ใบความรูห้ น่วยท่ี 5 เรื่อง หอ้ งปฏิบัตกิ ารอะคูสติกส์ เทปบันทกึ เสียง
7.2. ใบมอบหมายงานท่ี 5 เร่อื ง หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารอะคสู ติกส์ เทปบันทึกเสยี ง

8. การบรู ณาการ ความสัมพันธก์ ับวชิ าอน่ื ๆ
8.1. ระบบเสยี ง
8.2. เครอ่ื งมือวดั อิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรม

9. การประเมินผลการเรยี นรู้
9.1. ก่อนเรยี น
9.1.1.สอบถามความรเู้ บื้องตน้ ก่อนเรยี น
9.2. ขณะเรยี น
9.2.1.ตรวจสอบผลการทดลอง แบบฝกึ หัด
9.2.2.สงั เกตการณ์ทางาน
9.3. หลังเรียน
9.3.1.แบบทดสอบหลังเรียน
9.3.2.สอบถาม สัมภาษณ์

10. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้
- วธิ กี ารประเมิน : การทดสอบ สงั เกต
- เคร่อื งมือ : แบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลใบงานการทดลองและใบมอบหมายงาน
- ผา่ นเกณฑ์ : ไดค้ ะแนนร้อยละ 60 ขนึ้ ไป

11. ผลงาน ช้ินงาน ผลความสาเร็จของผูเ้ รียน

แผนการจัดการเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 5
ชื่อหนว่ ย ห้องปฏิบัติการอะคสู ติกส์ เทปบนั ทึกเสียง สอนครง้ั ท่ี 6
ช่ัวโมงท่ี 26 - 30
ชื่อเรอ่ื ง ห้องปฏิบัติการอะคูสติกส์ เทปบนั ทกึ เสียง ชั่วโมงรวม 5

12. บันทึกหลังการสอน .
.
12.1 ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ .

12.2 ผลการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น นกั ศกึ ษา

12.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นรู้ .
.
ผู้บันทกึ ผ้ตู รวจ ผ้ตู รวจ .
.
............................................. .......................................... .......................................
(นายนพรัตน์ มโนรา) (นายนพรัตน์ มโนรา) (นางสาวจินดา ใจเจ็น) .
ครผู สู้ อน หวั หน้าแผนกวขิ า หวั หนา้ งานพัฒนาหลกั สตู ร .
.
การเรียนการสอน .

บนั ทกึ การตรวจสอบ/คาแนะนา

..............................................
(นางสาวชวาลนิ ี สงิ หค์ า)
รองผอู้ านวยการฝา่ ยวิชาการ



แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 6
ช่ือวชิ า 3105 - 2009 ระบบเสยี งและระบบภาพ สอนสัปดาห์ท่ี 7
ชอ่ื หน่วย หลกั การระบบเสียงดิจติ อล คอมเพ็กดิสก์
คาบที่ 31 - 35

ชื่อเร่อื ง หลกั การระบบเสยี งดิจิตอล คอมเพก็ ดิสก์ จานวนคาบ 5

1. สาระสาคญั

1.1. หลักการระบบเสยี งดจิ ิตอล เปน็ การแปลงสัญญาณเสียงอนาลอ็ กทม่ี าจากไมโครโฟน แหลง่ กาเนิดอนื่ ๆ ให้

เป็นรูปแบบดิจิตอล ด้วยกระบวนการคานวณทางตัวเลข digitization, ทาให้มันสามารถบันทึกและส่ง

สญั ญาณ transmitted ด้วยส่ือตัวกลาง media ที่กว้างขวางหลากหลาย และมีประสิทธิภาพสูงการบนั ทึก

แบบดิจิตอล เก็บข้อมูลเสียงด้วยชุดของเลขฐานสอง (ชุดรหัส1กับ0) เพื่อเป็นตัวแทนของตัวอย่างสุ่ม

samples ของความกว้างคลื่น amplitude ของสัญญาณเสยี ง audio signal ที่ช่วงเวลาของเสียงที่เท่ากัน

ท่ีอัตราการสุ่มตัวอย่าง sample rate ในความรวดเร็วที่หูของมนุษย์สามารถรับรู้ผลของการต่อเน่ืองของ

เสียงได้

การบันทึกแบบดิจิตอล จึงเป็นที่เชื่อถือว่ามีคุณภาพสูงกว่าการบันทึกแบบอนาล็อก ไม่ใช่เพียง

เพราะว่า มีความถูกต้องแม่นยากว่า higher fidelity (การตอบสนองความถี่ frequency response หรือ

ขอบเขตพลงั งาน dynamic range) แต่เปน็ เพราะว่า รูปแบบ ดิจติ อล digital format สามารถป้องกันการ

สญู เสียคณุ ภาพอย่างมากซึ่งเกดิ ขึน้ ในการบันทึกแบบอนาล็อก ท้ังเสียงรบกวน noise และ การรบกวนจาก

คล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ electromagnetic interference ในขณะเล่นกลับ playback และการเสอ่ื มสภาพของ

ระบบกลไก หรือเกิดการชารุดเสียหายข้ึนกับ สื่อกลาง storage medium ท่ีทาการบันทึกสัญญาณเสียง

ดจิ ิตอล digital audio จะต้องถูกแปลงกลับเปน็ รูปแบบอนาล็อก ระหว่างการเลน่ กลับ ก่อนท่ีจะนาไปใช้

กบั ลาโพงหรอื หูฟงั loudspeaker or earphones.

1.2. คอมแพ็คดิสค์ (CD=Compact Disc)" เรียกตามศัพท์คอมพิวเตอร์ ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2533 ว่า

"จานบันทึกอัดแน่น. จานคอมแพ็คต์ (ซีด)ี " หรือทเี่ รยี กกันทัว่ ไปสนั้ ๆ ว่า "CD" CD เปน็ ผลของเทคโนโลยีท่ี

รว่ มมือกนระหว่างบรษิ ทั Sony และบริษัท Philips เพ่ือผลิต CD ในลักษณะของแผ่นเพลง CD (Compact

Disc-Digital Audio : CD-DA) ข้ึนมาเพ่ือใช้แทนแผ่นเสียงขนาด 12 น้ิวท่ีใช้กันอยู่ขณะนั้นโดยมีการ

ประกวดใช้มาตรฐานแผ่น CD ในปี ค.ศ. 1980 และผลติ แผ่นเพลง CD ออกมาเป็นคร้ังแรกใน ค.ศ. 1982

ลกั ษณะเฉพาะของแผน่ CD ท่ีผลติ นจี้ ะมีการบันทกึ ข้อมลู ในระบบดิจิทลั ซง่ึ เปน็ ตัวเลข 0 และ 1 และใชแ้ สง

เลเซอร์ในการบันทึกและอ่านข้อมูล(ในขณะท่ีแผ่นเสียงจะบันทึกเสียงในระบบอนาล็อกและการใช้เข็มใน

การเล่น) นอกจากน้ีลักษณะเฉพาะจะเกี่ยวข้องถึงขนาดของ "หลุม" (pits) และพ้ืน (land คือพื้นที่ราบ

ระหว่างหลุม) ของการบันทึกข้อมูลที่มีการจัดเรียงเป็นวงก้นห้อยรวมถึงลักษณะอื่นๆ ด้วยการประการ

มาตรฐานของ CD ที่รจู้ ักในนามของ "Red Book" โดยเรียกจากสีแดงที่พิมพ์บนแผ่นปกกลอ่ ง CD เพื่อเป็น

หลักประกันวา่ แผน่ เพลง CD ที่จะผลิตต่อจากนีไ้ ปจะเป็นมาตรฐานสากลเดียวกันท้ังหมดโดยสามารถเล่นใน
เคร่อื งเลน่ เพลง CD ใดๆ ก็ได้ มารตราฐานนี้ทาได้งา่ ยเน่ืองจากแผน่ เพลง CD บนั ทกึ เฉพาะเสยี งเทา่ น้ัน

2. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1. อธิบายหลกั การทางานของระบบเสยี งดจิ ิตอล ถกู ตอ้ งตามทฤษฎี
2.2. บันทึกเสียงดว้ ยระบบดจิ ิตอล ตามมาตรฐานการบันทกึ เสยี งระบบดิจติ อล

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1. ดา้ นความรู้
3.1.1. อธบิ ายระบบเสยี งดิจิตอล
3.1.2. อธิบายหลักการทางานของคอมเพ็กดสิ ก์
3.2. ด้านทกั ษะ
3.2.1. บนั ทึกเสียงดว้ ยระบบดจิ ติ อล
3.2.2. ต่ออุปกรณเ์ พอื่ แปลงสัญญาณ อนาล็อกเปน็ สญั ญาณดจิ ิตอล
3.3. ดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพ่ึงประสงค์
3.3.1.มีความซอ่ื สตั ย์ สุจริต
3.3.2.มีจิตอาสาชว่ ยเหลอื เพอ่ื นและครูสอน
3.3.3. มคี วามพอประมาณ มีเหตผุ ล และมภี มู คิ มุ้ กนั
3.3.4. ตรงต่อเวลาและมคี วามรบั ผดิ ชอบ
3.3.5. ระมัดระวงั ในการใช้อุปกรณ์ และเครือ่ งมือ
3.3.6. ทางานท่ไี ด้รบั มอบหมายได้ด้วยตนเอง
3.3.7. คน้ ควา้ ไดด้ ้วยตนเองและตดิ ตามเทคโนโลยที ่ีทันสมยั

4. เนื้อหาสาระ
4.1. ระบบเสยี งดิจิตอล
4.2. คอมเพ็กดสิ ก์

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
5.1. ขน้ั นาเขา้ สูบทเรียน
5.1.1.ผสู้ อนชี้แจงแนะนา จุดประสงค์ของหนว่ ยการเรียน สมรรถนะ กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดผล
5.1.2.ผูส้ อนโน้มนา้ วใหผ้ ้เู รียนเห็นความสาคัญของเนอ้ื หา

5.1.3.ผู้สอนสอบถามความรเู้ บ้ืองตน้ ทีเ่ ก่ยี วกบั เน้อื หาของหน่วยการเรยี น
5.1.4.ผู้สอนใช้สือ่ การเรียนรู้แบบตา่ งๆ เพื่อกระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นเกดิ ความสนใจในเนอ้ื หาทจ่ี ะเรยี น
5.2. ขั้นการเรยี นรู้
5.2.1.ผู้สอนบรรยาย โดยใช้ Power point หนว่ ยที่ 6 เรื่อง หลกั การระบบเสียงดจิ ิตอล คอมเพก็ ดิสก์
5.2.2. ใหผ้ ู้เรยี น เรยี นร้ดู ้วยตนเอง จากหนงั สอื ระบบเสยี งและระบบภาพ และจากระบบสารสนเทศ
5.2.3.เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี น สอบถามข้อสงสยั ในระหวา่ งท่เี รียนกับผู้สอน
5.2.4.ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกัน สุรปเนื้อหา
5.3. ขนั้ ประยุกต์ใช้งาน
5.3.1.ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทา ใบงานท่ี 6 เรือ่ ง หลกั การระบบเสียงดจิ ิตอล คอมเพ็กดสิ ก์
5.3.2.ระหวา่ งทาใบงานผ้เู รียนสามารถสืบค้น เน้ือหาที่เก่ียวขอ้ งกบั การทาใบงานได้จาก Internet
5.3.3.ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของผ้เู รียน ระหว่างปฏิบตั งิ าน
5.4. ขน้ั สรปุ และประเมินผล
5.4.1.ผู้สอนตรวจสอบความถูกตอ้ งของผลการทดลองและประเมนิ ผล
5.4.2.ผสู้ อนและผู้เรยี น รว่ มกนั สรุปเนือ้ หาท่ีเรยี น เพ่อื ให้มคี วามเข้าใจในทศิ ทางเดียวกนั
5.4.3.ผู้สอนมอบหมายงานใหแ้ ก่ผเู้ รยี น ( หากมี )

6. สอ่ื การเรยี นการสอน/การเรียนรู้
6.1. สื่อส่ิงพิมพ์
6.1.1.หนังสอื ระบบเสยี งและระบบภาพ
6.1.2.ใบความรู้
6.1.3.ใบงานการทดลอง
6.1.4.แบบประเมินผลงาน
6.2. สอ่ื โสตทศั น์
Power point เรอ่ื ง หลกั การระบบเสียงดิจิตอล คอมเพก็ ดสิ ก์
6.3. สอ่ื ของจรงิ
6.3.1. เคร่อื งบนั ทึกเทป
6.3.2. เทปบนั ทึกเสยี ง
6.3.3. เพาวเวอรแ์ อมป์ ลาโพง
6.3.4. มกิ เซอร์
6.3.5. สายสัญญาณ
6.4. อน่ื ๆ / แหล่งเรียนรู้

6.4.1.ในสถานศึกษา
- หอ้ งสมดุ แผนกวชิ าช่างอเิ ล็กทรอนกิ ส์วิทยาลัยเทคนิคเชียงคา
- หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคนคิ เชยี งคา

6.4.2.นอกสถานศึกษา
- สถานประกอบการ ร้านซ่อมเครือ่ งใช้ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์

7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ ( ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )
7.1. ใบความร้หู นว่ ยท่ี 6 เรอื่ ง หลักการระบบเสยี งดจิ ิตอล คอมเพก็ ดิสก์
7.2. ใบมอบหมายงานที่ 6 เรือ่ ง หลกั การระบบเสยี งดิจติ อล คอมเพก็ ดิสก์

8. การบรู ณาการ ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอื่นๆ
8.1. ระบบเสียง
8.2. เคร่ืองมือวดั อิเลก็ ทรอนกิ ส์ในอตุ สาหกรรม

9. การประเมินผลการเรยี นรู้
9.1. ก่อนเรียน
9.1.1.สอบถามความรเู้ บือ้ งตน้ ก่อนเรยี น
9.2. ขณะเรยี น
9.2.1.ตรวจสอบผลการทดลอง แบบฝึกหดั
9.2.2.สงั เกตการณท์ างาน
9.3. หลังเรียน
9.3.1.แบบทดสอบหลงั เรยี น
9.3.2.สอบถาม สัมภาษณ์

10. รายละเอยี ดการประเมินผลการเรยี นรู้
- วธิ ีการประเมนิ : การทดสอบ สงั เกต
- เคร่ืองมือ : แบบทดสอบ แบบประเมินผลใบงานการทดลองและใบมอบหมายงาน
- ผ่านเกณฑ์ : ไดค้ ะแนนร้อยละ 60 ข้ึนไป

11. ผลงาน ชิน้ งาน ผลความสาเร็จของผู้เรียน

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 6
ชอ่ื หนว่ ย หลกั การระบบเสียงดิจติ อล คอมเพก็ ดสิ ก์ สอนครงั้ ท่ี 7
ช่วั โมงท่ี 31 - 35
ช่ือเรื่อง หลักการระบบเสยี งดจิ ติ อล คอมเพก็ ดิสก์ ชว่ั โมงรวม 5

12. บันทกึ หลังการสอน .
.
12.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ .

12.2 ผลการเรียนรู้ของนกั เรียน นกั ศึกษา

12.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ .
.
ผ้บู นั ทกึ ผู้ตรวจ ผตู้ รวจ .
.
............................................. .......................................... .......................................
(นายนพรตั น์ มโนรา) (นายนพรัตน์ มโนรา) (นางสาวจินดา ใจเจน็ ) .
ครูผสู้ อน หวั หน้าแผนกวิขา หัวหนา้ งานพัฒนาหลักสตู ร .
.
การเรียนการสอน .

บันทึกการตรวจสอบ/คาแนะนา

..............................................
(นางสาวชวาลนิ ี สงิ หค์ า)
รองผอู้ านวยการฝ่ายวิชาการ



แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 7

ชื่อวิชา 3105 - 2009 ระบบเสียงและระบบภาพ สอนสปั ดาหท์ ่ี 8 – 9

ชอื่ หน่วย หลกั การกาเนิดสญั ญาณภาพกลอ้ งโทรทศั น์ คาบที่ 36 - 45
และการนาไปใชง้ าน

ชอ่ื เรอ่ื ง หลกั การกาเนิดสัญญาณภาพกลอ้ งโทรทัศนแ์ ละการนาไปใชง้ าน จานวนคาบ 10

1. สาระสาคัญ

การกาเนดิ สัญญาณภาพนั้น กล้องถ่ายภาพ เรียกว่า แคมเมอร่าทิว้ นั้นจะดาเนินการถา่ ยภาพตา่ งๆเช่น

คน วิว หรอื วัตถตุ ่างๆ กลอ้ งถ่ายจะเปลยี่ นจากภาพตา่ งๆ มาเปน็ สัญญาณทางไฟฟา้ ของภาพ ซ่ึงเรียกว่า วดิ ีโอซกิ แนล

แล้วก็จะนาเอา วิดีโอซิกแนล น้ีไปขยายให้มีกาลังสูงข้ึนในภาค วิดีโอแอมป์ ต่อไปและในขณะเดียวกัน จะนาเอา

สัญญาณวิดีโอซิกแนลทไ่ี ด้น้ีไปรวมกับสัญญาณควบคุมเพื่อบังคับ การสแกน ซึ่งสัญญาณนี้เรียกว่า ซิงค์โครไนเซซั่น

น้ันหมายความว่าสัญญาณ วิดีโอซิกแนล จะรวมกันอยู่ในสัญญาณซิงค์โครไนเซซั่น และสัญญาณน้ีจะเป็นสัญญาณ

ภาพทีส่ มบูรณ์ เรียกว่า คอมโพสิตวิดโี อ ซิกแนล การมอดูเลชนั่ เน่ืองจากวิดโี อซิกแนล ไม่สามารถจะออกอากาศได้

ดังน้ันจึงตอ้ งนาไปรวมกบั คลืน่ พาหะเสยี ก่อน ซ่ึงเรยี กว่า แคร์เรีย หรอื นาไปรวมกับคลื่นวทิ ยุ เม่ือนาเอาวิดีโอซิกแนล

ไปรวมกับ แคร์เรีย จึงเรียกสัญญาณน้วี ่า วิดโี อแคร์เรยี การมอดเู ลชัน่ ด้านภาพ เป็นการมอดเู ลช่ัน แบบ เอ-เอม็ วิดีโอ

แครเ์ รยี กาลังยงั นอ้ ยมากจะต้องนาไปขยายใหม้ กี าลังเพยี งพอต่อความตอ้ งการ ในวงจร อาร์ เอฟ แอมปก์ อ่ นและเม่ือ

วิดีโอแคร์เรีย ถูกขยายแล้วก็จะส่งไปที่สายอากาศ เพื่อให้สายอากาศกระจายสัญญาณ วิดีโอแคร์เรีย ออกอากาศ

รูปกล้องถา่ ยวดิ ีโอ ทาหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณภาพเป็นสญั ญาณไฟฟ้าการทจ่ี ะรับและส่งข้อมลู ข่าวสารมีได้

หลายวธิ ี แต่การท่ีจะรับและส่งข้อมูลได้ดคี ือ การท่ีผู้รับสามารถรับขอ้ มูลไดท้ ้ังภาพและเสียง การแพรภ่ าพโทรทัศน์

เปน็ การสง่ ขอ้ มูลอกี วิธหี น่งึ ทส่ี ามารถทใ่ี ห้ผ้รู ับได้ท้ังขอ้ มลู ทางภาพและทางเสียง เหมือนกบั แหลง่ ท่ีมา ซงึ่ แบ่งออกเป็น

2 ประเภท คือการแพร่ภาพโทรทัศน์แบบ แอนะล็อก และการแพร่ภาพโทรทัศน์แบบดิจิตอล ซง่ึ การแพร่ภาพในแต่

ละประเภทสามารถรับและส่งข้อมูลได้หลายแบบ เช่น การส่งสัญญาณผ่านสายเคเบิล การสง่ สัญญาณผ่านดาวเทียม

และ ก าร ส่งสัญ ญาณภาคพ้ืน ดิน ซ่ึงอ าจจะ มาก จากก ารถ่าย ทอดสดหรือจากก ารบัน ทึก เทปไ ว้

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย
2.1. บนั ทกึ ภาพและเสยี งดว้ ยกล้องโทรทัศน์ ตามมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ าน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1. ดา้ นความรู้
3.1.1. อธบิ ายหลักการกาเนดิ สัญญาณภาพ
3.1.2. บอกคุณลกั ษณะของกลอ้ งโทรทัศน์

3.2. ดา้ นทักษะ
3.2.1. หลกั การใช้งานกลอ้ งถ่ายวดี โี อ
3.2.2. เทคนิคการถ่ายวีดีโอ
3.2.3.การซ่อมบารุง กล้องโทรทศั น์

3.3. ด้านคณุ ลักษณะทพี่ ึง่ ประสงค์
3.3.1.มคี วามซือ่ สตั ย์ สจุ รติ
3.3.2.มจี ิตอาสาชว่ ยเหลือเพ่อื นและครสู อน
3.3.3. มีความพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมคิ ุม้ กัน
3.3.4. ตรงต่อเวลาและมคี วามรับผิดชอบ
3.3.5. ระมดั ระวงั ในการใชอ้ ุปกรณ์ และเครือ่ งมอื
3.3.6. ทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมายไดด้ ว้ ยตนเอง
3.3.7. คน้ คว้าไดด้ ้วยตนเองและติดตามเทคโนโลยีที่ทันสมัย

4. เน้อื หาสาระ
4.1. หลักการกาเนดิ สญั ญาณภาพ
4.2. คุณลักษณะของกลอ้ งวีดีโอ
4.3. การใช้งานกล้องวีดโี อ
4.4. การซ่อมบารุง กล้องวีดีโอ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
5.1. ข้ันนาเข้าสูบทเรยี น
5.1.1.ผู้สอนชี้แจงแนะนา จุดประสงค์ของหน่วยการเรยี น สมรรถนะ กิจกรรมการเรียนรู้ และการวดั ผล
5.1.2.ผู้สอนโน้มน้าวให้ผู้เรยี นเหน็ ความสาคญั ของเน้ือหา
5.1.3.ผสู้ อนสอบถามความร้เู บ้อื งตน้ ทเ่ี ก่ียวกบั เนอื้ หาของหนว่ ยการเรยี น
5.1.4.ผสู้ อนใช้สื่อการเรียนร้แู บบตา่ งๆ เพ่อื กระตนุ้ ให้ผ้เู รยี นเกิดความสนใจในเน้อื หาท่จี ะเรยี น
5.2. ขน้ั การเรียนรู้
5.2.1.ผสู้ อนบรรยาย โดยใช้ Power point หนว่ ยท่ี 7 เรอ่ื ง หลกั การกาเนดิ สัญญาณภาพกล้องโทรทัศนแ์ ละ
การนาไปใชง้ าน
5.2.2. ให้ผู้เรียน เรยี นรู้ด้วยตนเอง จากหนังสอื ระบบเสียงและระบบภาพ และจากระบบสารสนเทศ
5.2.3.เปดิ โอกาสให้ผู้เรียน สอบถามข้อสงสัยในระหวา่ งทเี่ รยี นกับผู้สอน
5.2.4.ผ้สู อนและผู้เรียนรว่ มกัน สรุ ปเนือ้ หา

5.3. ขัน้ ประยกุ ต์ใช้งาน
5.3.1.ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นทา ใบงานท่ี 7 เรอ่ื ง หลกั การกาเนดิ สญั ญาณภาพกลอ้ งโทรทัศน์และการนาไปใชง้ าน
5.3.2.ระหว่างทาใบงานผูเ้ รยี นสามารถสืบคน้ เนื้อหาที่เก่ียวขอ้ งกบั การทาใบงานได้จาก Internet
5.3.3.ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผูเ้ รียน ระหวา่ งปฏบิ ัตงิ าน

5.4. ขั้นสรุปและประเมินผล
5.4.1.ผสู้ อนตรวจสอบความถกู ตอ้ งของผลการทดลองและประเมินผล
5.4.2.ผู้สอนและผู้เรยี น ร่วมกนั สรุปเนื้อหาทีเ่ รียน เพอื่ ใหม้ ีความเข้าใจในทศิ ทางเดยี วกัน
5.4.3.ผ้สู อนมอบหมายงานใหแ้ ก่ผู้เรยี น ( หากมี )

6. สอ่ื การเรยี นการสอน/การเรียนรู้
6.1. สือ่ สิ่งพิมพ์
6.1.1.หนงั สอื ระบบเสยี งและระบบภาพ
6.1.2.ใบความรู้
6.1.3.ใบงานการทดลอง
6.1.4.แบบประเมินผลงาน
6.2. สือ่ โสตทัศน์
Power point เรอื่ ง หลักการกาเนดิ สญั ญาณภาพกลอ้ งโทรทัศน์และการนาไปใช้งาน
6.3. สอ่ื ของจรงิ
6.3.1. กล้องวดี โี อ
6.3.2. โทรศัพท์มอื ถือ
6.4. อื่นๆ / แหลง่ เรียนรู้
6.4.1.ในสถานศกึ ษา
- ห้องสมดุ แผนกวิชาช่างอิเลก็ ทรอนกิ สว์ ทิ ยาลัยเทคนิคเชียงคา
- ห้องสมดุ วิทยาลัยเทคนิคเชยี งคา
6.4.2.นอกสถานศกึ ษา
- สถานประกอบการ รา้ นซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์

7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ ( ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ )
7.1. ใบความรู้หน่วยที่ 7 เรอื่ ง หลกั การกาเนิดสัญญาณภาพกล้องโทรทศั นแ์ ละการนาไปใช้งาน
7.2. ใบมอบหมายงานที่ 7 เร่ือง หลักการกาเนดิ สัญญาณภาพกลอ้ งโทรทัศน์และการนาไปใช้งาน

8. การบูรณาการ ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื ๆ
8.1. ระบบเสียง
8.2. เคร่ืองมือวัดอเิ ล็กทรอนกิ ส์ในอุตสาหกรรม

9. การประเมินผลการเรียนรู้
9.1. กอ่ นเรยี น
9.1.1.สอบถามความรเู้ บอ้ื งตน้ กอ่ นเรยี น
9.2. ขณะเรียน
9.2.1.ตรวจสอบผลการทดลอง แบบฝึกหัด
9.2.2.สงั เกตการณท์ างาน
9.3. หลังเรียน
9.3.1.แบบทดสอบหลงั เรียน
9.3.2.สอบถาม สมั ภาษณ์

10. รายละเอยี ดการประเมนิ ผลการเรยี นรู้
- วิธีการประเมนิ : การทดสอบ สังเกต
- เครือ่ งมือ : แบบทดสอบ แบบประเมนิ ผลใบงานการทดลองและใบมอบหมายงาน
- ผา่ นเกณฑ์ : ได้คะแนนรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไป

11. ผลงาน ช้ินงาน ผลความสาเรจ็ ของผเู้ รยี น