The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จังหวัดกระบี่ ประจำปี 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by policykrabi, 2021-04-05 04:28:20

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จังหวัดกระบี่ ประจำปี 2563

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จังหวัดกระบี่ ประจำปี 2563

คำนำ

การค้ าม นุ ษ ย์ เป็ น ปั ญ ห าอ าช ญ ากรรม ข้ าม ช าติ ที่ ส ำคั ญ ใน ระดั บ ส ากล แ ล ะถื อเป็ น การล ะเมิ ด
สิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ปัจจุบันผู้ที่กระทำผิดหรืออาชญากรข้ามชาติได้เปลี่ยนแปลงวิธีการรูปแบบในการ
กระทำความผิด มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการชกั ชวน หลอกลวงคนท่ีตอ้ งการแสวงหาชีวิตท่ีดีขึ้นให้หลงเช่ือ
จนในที่สุดก็ตกเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเกิดข้ึนและมีความเก่ียวพันกับหลายประเทศท่ัวทุกภูมิภาคของโลก
มีผู้คนมากมายโดยเฉพาะเด็กและสตรีท่ีถูกแสวงหาประโยชน์และถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และได้รับความ
เสียหายท้ังร่างกายและจิตใจ ต้องสูญเสียโอกาสและอนาคตรวมถึงเกิดความสูญเสียและเสียหายต่อบุคคล
รอบข้าง ชุมชน และสังคม ส่งผลกระทบตอ่ ความปลอดภัย และความมั่นคงของมนุษย์ ซ่ึงไม่อาจประเมินมลู ค่า
เปน็ ตัวเงนิ ได้

เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระดับพื้ นที่
ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดกระบี่ จึงได้จัดทำรายงานสถานการณ์
การค้ามนุษย์ของจังหวัดประจำปี 2563 โดยได้รวบรวมข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์ปัญหาการค้ามนุษย์
การคัดแยกผู้เสียหาย ตลอดจนประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์ และแนวโน้มการค้ามนุษย์
ในภาพรวมของจังหวัดผลการดำเนินงานของหน่วยงาน และข้อเสนอแนะการดำเนินงานด้านการป้องกันและ
ปราบปรามการคา้ มนุษย์ในระดบั พน้ื ที่

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2563 จะเป็นประโยชน์
ต่อหน่วยงานท่ีมีบทบาทภารกิจเกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่าย รวมถึงประชาชนท่ัวไป ได้ใช้ค้นคว้าหาความรู้
เพ่ือช่วยกันขจดั ปญั หาการค้ามนุษยใ์ นพ้นื ที่ให้หมดไป

สำนกั งานพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์จงั หวัดกระบี่
มีนาคม 2564

สารบัญ

เร่อื ง หน้า

สว่ นที่ 1 ขอ้ มูลพนื้ ฐานและสถานการณท์ ว่ั ไปของจังหวดั 1
1.1 ประวตั คิ วามเป็นมา 1-2
1.2 ที่ต้ังและอาณาเขต 3
1.3 ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ 4
1.4 ลักษณะภูมอิ ากาศ 6
1.5 ขอ้ มลู การปกครอง 7-9
1.6 ขอ้ มลู ด้านประชากร 10-14
1.7 ข้อมลู ดา้ นเศรษฐกิจ 14-17
1.8 ขอ้ มลู ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม 18-22
1.9 ขอ้ มูลด้านแรงงาน
23-25
ส่วนที่ 2 สถานการณ์การคา้ มนษุ ย์จังหวัด 26
2.1 สถานะการคา้ มนษุ ย์จังหวดั กระบี่ 27
2.2 เส้นทางการค้ามนุษยจ์ ังหวัดกระบี่ 28
2.3 สถิติท่เี กยี่ วข้องกบั การค้ามนษุ ยใ์ นจงั หวัดกระบี่ 29-30
2.4 ปจั จยั ทีส่ ง่ ผลตอ่ การค้ามนุษย์ของจังหวดั
2.5 สถานที่และกล่มุ เส่ยี งตอ่ การค้ามนษุ ย์ 31-32
32-34
สว่ นที่ 3 การป้องกนั และปราบปรามการค้ามนษุ ย์ของจังหวดั 35
3.1 นโยบายและยุทธศาสตร์ชาติ 36-52
3.2 นโยบายระดบั กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ 53-54
3.3 นโยบายระดบั จังหวดั
3.3 ผลการดำเนนิ งานของจงั หวดั

สว่ นที่ 4 บทสรุปขอ้ เสนอแนะ

สารบัญตารางและแผนภูมิ

เรอ่ื ง หน้า

ตาราง 1 แสดงพน้ื ที่ จำแนกตามเขตการปกครองรายอำเภอ 6

ตาราง 2 แสดงจำนวนประชากร จำแนกวัยเดก็ วยั แรงงาน และวยั ผู้สูงอายุ 7

ตาราง 3 แสดงจำนวนครวั เรือน และ ประชากรชาวอุรักลาโว้ย จำแนกตามชุมชน 8

ตาราง 4 แสดงจำนวนประชากรอูรักลาโว้ยบนเกาะลันตา 9

ตาราง 5 แสดงจำนวนประชากรอรู ักลาโว้ยบนเกาะศรีบอยา 9

ตาราง 6 แสดงจำนวนประชากรอรู กั ลาโว้ยบนเกาะพีพี 9

ตาราง 7 แสดงจำนวนคดีที่เก่ยี วขอ้ งกบั การค้ามนษุ ย์ 27

ตาราง 8 แสดงอายุ และรปู แบบการกระทำความผดิ คดีคา้ มนษุ ย์ 27

ตาราง 9 แสดงจำนวนโรงแรม โรงงานอตุ สาหกรรม เรือประมง สถานบริการ 29

จังหวดั กระบี่ 2559-2563

แผนภมู ิ 1 แสดงจำนวนประชากรจงั หวัดกระบ่ี 8

แผนภมู ิ 2 แสดงผลผลติ ยางพารา 12

แผนภูมิ 3 แสดงผลผลติ ปาล์มน้ำมนั 12

แผนภูมิ 4 แสดงจำนวนโรงงานอุตสาหกรรม 13

แผนภมู ิ 5 แสดงจำนวนนักท่องเท่ียวผา่ นด่านตรวจคนเข้าเมอื ง 13

แผนภูมิ 6 แสดงยอดขายทผี่ ปู้ ระกอบการแจง้ เสียภาษี 14

แผนภมู ิ 7 แสดงโครงสร้างประชากรจงั หวดั กระบี่ ปี 2563 18

แผนภูมิ 8 แสดงอตั ราการจ้างงานจังหวัดกระบ่ี 18

แผนภมู ิ 9 แสดงผู้มงี านทำจังหวัดกระบ่ี 19

แผนภูมิ 10 แสดงผู้มีงานทำจังหวัดกระบี่จำแนกตามอาชีพ ปี 2563 20

แผนภมู ิ 11 แสดงผมู้ ีงานทำจังหวดั กระบี่ จำแนกตามระดับการศึกษา ปี 2563 20

แผนภูมิ 12 แสดงผมู้ งี านทำจงั หวัดกระบ่ี จำแนกตามสถานภาพการทำงาน ปี 2563 21

แผนภูมิ 13 แสดงผวู้ า่ งงานและจำนวนตำแหนง่ งานวา่ งจงั หวดั กระบ่ี 21

จำแนกชาย หญิง ปี 2563

สว่ นที่ 1 ขอ้ มลู พนื้ ฐานและสถานการณ์ทวั่ ไป

ของจงั หวัดกระบี่

ขอ้ มูลกายภาพของจังหวดั พื้นท่ีการปกครอง องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ

1.1) ประวัติความเป็นมา

จังหวัดกระบ่ี ตั้งขึ้นประมาณปี พ.ศ.๒๔๑๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ได้ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะข้ึนเป็นเมืองปกาสัย และทรงพระราชทานนามว่า "เมืองกระบ่ี"เม่ือได้
ประกาศตั้งขึ้นเป็นเมืองแล้ว โปรดเกลา้ ฯ ให้ต้งั ท่ีทำการอยทู่ ี่ตำบลกระบ่ีใหญ่ (บ้านตลาดเก่า) ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๑๘
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหแ้ ยกเมอื งกระบ่ี ออกจากการปกครองของเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองจัตวา
ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ และในปี พ.ศ.๒๔๔3 ได้ย้ายท่ีต้ังเมืองไปอยู่ตำบลปากน้ำ อยู่ใกล้ปากอ่าวเป็นร่องน้ำลึก
เรือใหญ่สามารถเข้าเทียบท่าได้สะดวก เป็นที่ตัง้ ศาลากลางจงั หวัด จนถึงปจั จุบันนี้

1.2) ที่ต้ังและอาณาเขต

จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดขนาดเล็กท่ีมากด้วยทรัพยากรท่องเท่ียวทางธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรม
อันเก่าแก่ การผสมผสานการดำรงชีวิตของผู้คนท่ีต่างเช้ือชาติ ต่างศาสนา และความเชื่อท่ีแตกต่าง
อย่างกลมกลืน ต้ังอยู่ทางด้านฝ่ังทะเลตะวันตกของภาคใต้ติดกับทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปตาม
ทางหลวงแผ่นดินประมาณ ๘๑๔ กิโลเมตร มีพื้นท่ีท้ังหมด ๔,๗๐๘.๕๑๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ
๒,๙๔๒,๘๒๐ ไร่ มอี าณาเขตตดิ ตอ่ กับจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง ดงั น้ี

ทิศเหนือ จดจังหวดั พงั งา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทศิ ใต้ จดจังหวัดตรัง และทะเลอนั ดามัน
ทิศตะวันออก จดจงั หวัดนครศรธี รรมราช และจังหวดั ตรงั
ทิศตะวันตก จดจงั หวัดพงั งา และทะเลอันดามนั

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 1

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 2

1.3) ลักษณะภูมิประเทศ

สภาพภูมิประเทศโดยท่ัวไปของจังหวัดกระบี่ ทางตอนเหนือประกอบด้วย เทือกเขายาวทอดตัวไป
ในแนวเหนือใต้ สลับกับสภาพพ้ืนท่ีแบบลูกคล่ืนลอนลาด และลอนชัน มีท่ีราบชายฝั่งทะเลทางด้านตะวันตก
บริเวณทางตอนใต้ มีสภาพภูมปิ ระเทศเป็นภูเขากระจัดกระจายสลับกับพื้นที่แบบลกู คลนื่ ส่วนบริเวณทางตอนใต้สุด
และตะวันตกเฉียงใต้ มีสภาพพ้ืนท่ีเป็นแบบลูกคล่ืนลอนลาดจนถึงค่อนข้างราบเรียบ และมีภูเขาสูงๆต่ำๆ
สลับกันไป บริเวณด้านตะวันตกมีลักษณะเป็นชายฝั่งติดกับทะเลอันดามัน ยาวประมาณ ๑๖๐ กิโลเมตร
ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ จำนวน ๑๕๔ เกาะ แต่เป็นเกาะท่ีมีประชากรอาศัยอยู่เพียง ๑๓ เกาะ เกาะท่ีสำคัญ
ได้แก่ เกาะลันตา เป็นท่ีต้ังของ อำเภอเกาะลันตา และเกาะพีพี ซ่ึงอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นสถานท่ีท่องเที่ยว
ท่สี วยงามติดอนั ดับของโลก

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 3

1.4) ลักษณะภูมิอากาศ

จังหวัดกระบ่ี มีภูมิอากาศแบบมรสุมในเขตร้อน และได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และ
ลมมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนอื ทำใหม้ ฝี นตกชุกตลอดปี

ฤดูกาลของจังหวดั กระบีพ่ ิจารณาตามลักษณะลมฟ้าอากาศของประเทศไทย แบง่ ออกได้เปน็ 3 ฤดู คอื
ฤดูร้อน เริ่มต้ังแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ระยะน้ีเป็นช่วงว่างของฤดูมรสุม
จะมีลมจากทิศตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้มีอากาศร้อนอบอ้าวทั่วไป เดือนมนี าคมเป็นเดือนที่มีอากาศ
ร้อนทีส่ ดุ

ฤดูฝน เริ่มต้ังแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตลุ าคม จะมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม
ประเทศไทยและร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้เป็นระยะ ๆ อีกด้วย จึงทำให้มีฝนตกมากตลอดฤดูฝน
เดือนกรกฎาคมเปน็ เดอื นทม่ี ฝี นตกมากท่ีสุด

ฤดูหนาว เริ่มต้ังแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
จะมีลมเย็นและแห้งจากทิศตะวันออกเฉยี งเหนือพัดผา่ น ทำให้มอี ากาศเยน็ ท่ัวไป แต่จังหวัดกระบ่ีอยู่ใกลท้ ะเล
อุณหภูมิจะลดลงเพยี งเล็กน้อย อากาศจงึ ไมห่ นาวเย็นมากนัก และตามชายฝ่ังมฝี นตกทว่ั ไป

ลักษณะอากาศทั่วไป
เนื่องจากจังหวัดกระบ่ี เป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้ทะเล อุณหภูมิเฉล่ียตลอดปีมีค่าคงท่ีไม่เปล่ียนแปลง
มากนัก และมีฝนตกชุกในฤดูฝน เพราะอยู่ทางด้านรับลม จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัด
ผ่านมหาสมุทรอินเดียอย่างเต็มท่ี ส่วนฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัด เพราะอยู่ไกลจากอิทธิพลของอากาศหนาว
พอสมควรและบางคร้ังอาจมีฝนตกได้ เน่ืองจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือท่ีพัดผ่านอา่ วไทยพาเอาฝนมาตก
แต่มปี ริมาณน้อยกวา่ จงั หวัดที่อยู่ทางดา้ นตะวันออกของภาคใต้
เน่ืองจากจังหวัดกระบ่ีอยู่ทางด้านฝ่ังตะวันตกของภาคใต้ซึ่งรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้อย่างเต็มท่ี
ในฤดูฝนจึงทำให้มีฝนตกมากในฤดูฝน ส่วนในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกน้อย เพราะถูกทิวเขา
ทางด้านตะวันออกของภาคใต้ปิดกั้นทางลมไว้ ปรมิ าณฝนเฉลี่ยตลอดปี ประมาณ 2,142.3 มิลลิเมตร ฝนตก
ประมาณ 147 วัน เดือนท่ีมีฝนตกมากท่ีสุดคือเดือนกรกฎาคม มีฝนเฉลี่ย 437.9 มิลลิเมตร ฝนตกประมาณ
21 วัน ฝนสงู สุดใน 24 ชว่ั โมง เคยตรวจได้ 167.8 มลิ ลิเมตร เมอื่ วนั ท่ี 8 ตลุ าคม 2527

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 4

การคมนาคม

ทางรถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๔ ผ่านจังหวัดเพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร
– ระนอง – พังงา – กระบี่ รวมระยะทางประมาณ ๙๔๖ กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔
ถึงจังหวัดชุมพรต่อด้วยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข๔๑ผ่านอำเภอหลังสวนจังหวัดชุมพร เข้าอำเภอ ไชยา
อำเภอเวียงสระจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากน้ันใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๓๕ ผ่านอำเภออ่าวลึก และใช้ทาง
หลวงหมายเลข ๔ อีกครั้งเข้าสู่จังหวัดกระบ่ีรวมระยะทาง๘๑๔ กิโลเมตรถ้าเดินทางจากภูเก็ต ใช้ทางหลวง
แผ่นดินหมายเลข ๔๐๒ ต่อด้วยทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข ๔ ผ่านตำบล โคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอทับปุด
จงั หวดั พังงา เขา้ อำเภออา่ วลกึ จังหวดั กระบีร่ วมระยะทางประมาณ ๑๘๕ กโิ ลเมตร
ทางนำ้
จังหวัดกระบี่ มีท่าเรือขนส่งสินค้า/ท่าเทียบเรือการท่องเท่ียว รวมจำนวน ๒๒ แห่งท่าเรือน้ำลึก
๔ แหง่ แบง่ เป็น ท่าเทียบเรือเพื่อการขนสง่ สนิ ค้า ๓ แห่ง ไดแ้ ก่
๑. ท่าเทยี บเรอื ขนส่งสินคา้ นำ้ ลกึ กระบี่ ปากคลองจหิ ลาด ตำบลไสไทย อ.เมอื ง
๒. ท่าเรอื ขนสง่ สินค้าบริษัทเจียรวานิชย์ ตำบลหนองทะเล อ.เมอื ง
๓. ท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าบริษัทเซาเทิร์นพอร์ท จำกัด ตำบลหนองทะเล อ.เมือง และมีท่าเทียบเรือ
เพ่อื การท่องเทยี่ ว 1 แหง่ ได้แก่ ทา่ เทยี บเรือโดยสารทอ่ งเท่ียวปากคลองจหิ ลาด ตำบลไสไทย อำเภอเมือง
ทางอากาศ
จังหวัดกระบี่ มีสนามบินนานาชาติ ๑ แห่ง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดกระบี่ สังกัดกรมท่า
อากาศยาน กระทรวงคมนาคม ตั้งอยู่ในเขต อำเภอเหนือคลอง ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออก
เป็นระยะทางประมาณ ๑๓ กิโลเมตร ท่าอากาศยานกระบี่ มีบทบาทสำคัญท่ีสามารถรองรับกิจการการขนส่ง
ทางอากาศของจังหวัดกระบี่ เพื่อให้เส้นทางสู่จังหวัดกระบี่ มีความสะดวกสบายและเป็นการส่งเสริม
การพฒั นาการท่องเทย่ี วของจงั หวัดกระบ่ีอกี ด้วย

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 5

1.5) ข้อมูลการปกครอง

จงั หวัดกระบ่ี มีเขตการปกครองส่วนภูมิภาคแบง่ ออกเปน็ ๘อำเภอ ๕๓ ตำบล ๓๘๙ หมู่บ้าน 1 องค์การบริหาร
สว่ นจังหวดั ๑ เทศบาลเมอื ง 12 เทศบาลตำบล และ 48 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบล ดงั ตารางที่ 1

ตาราง 1 แสดงพนื้ ที่ จำแนกตามเขตการปกครองรายอําเภอ

อำเภอ พืน้ ที่ (ตร.กม.) หา่ งจากจังหวัด ตำบล หมู่บ้าน การปกครองสว่ นท้องถน่ิ อบต.
(กม.) อบจ. ทม. ทต.
เมอื งกระบ่ี 1 ๑1 7
อ่าวลึก 648,552 - ๑๐ ๕๙ ๙
ปลายพระยา - -๒ ๔
๗๗๒,๙๘๙ ๔๗ ๙ ๕๒
- -๑
๔๓๓,๓๖๗ ๗๕ ๔ ๓๕

คลองท่อม ๑,๐๔๒,๕๓๑ ๔๒ ๗ ๖๘ - - 4 5

เกาะลนั ตา ๓๓๙,๘๔๓ ๑๐๙ ๕ ๓๖ - - 1 ๕
ลำทับ ๓๒๐,๗๐๘ ๖๗ ๔ ๒๘ - - ๑ ๔

เหนอื คลอง ๓๖,๒๐๐ ๑๗ ๘ ๕๗ - - ๑ ๘

เขาพนม ๗๘๘,๕๒๒ ๓๙ ๖ ๕๔ - - ๑ ๖

รวม ๔,382,712 - ๕๓ ๓๘๙ 1 ๑ 12 48

ทม่ี า : ท่ีทำการปกครองจงั หวัดกระบี่ ณ เดือน ธนั วาคม 2563

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 6

1.6) ข้อมูลด้านประชากร

(1) ข้อมลู ประชากรจงั หวัดกระบ่ี

จังหวัดกระบี่ มีจำนวนประชากรท้ังส้ิน 477,770 คนเป็นชาย 237,242 คนเป็นหญงิ 240,528 ส่วนใหญ่
เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 50.33 ของประชากรท้ังหมด และเพศชาย คดิ เปน็ ร้อยละ 49.67 ของประชากร
ทั้งหมด

จำนวนประชากรแบ่งตามช่วงวัย วัยเด็ก อายุระหว่าง (0-14 ปี) มีจำนวนท้ังสิ้น 105,768 คน
เป็นเพศชาย 54,357 คน เพศหญิง 51,411 คน คิดเป็นร้อยละ 22.14 ของจำนวนประชากรทั้งหมด วัยแรงงาน
อายุระหวา่ ง (15-59 ปี) มีจำนวนท้ังสน้ิ 311,951 คน เป็นเพศชาย 155,495 คน เพศหญิง 156,456 คน
คิดเป็นร้อยละ 65.30 ของจำนวนประชากรท้ังหมดวัยผู้สูงอายุ (อายุต้ังแต่ 60 ปี) ขึ้นไปมีจำนวนทั้งส้ิน
60,051 คน เป็นเพศชาย 27,390 คน เพศหญิง 32,661 คน คิดเป็นร้อยละ 12.56 ของจำนวนประชากร
ทั้งหมด ดงั ตาราง 2

ตาราง 2 จำนวนประชากร จำแนกวยั เดก็ วยั แรงงาน และวัยผสู้ ูงอายุ

ช่วงวยั ชาย หญงิ รวม คิดเป็นร้อยละ

วัยเดก็ (0-14 ปี) 54,357 51,411 105,768 22.14

วยั แรงงาน (15-59 ป)ี 155,495 156,456 311,951 65.30

วยั ผสู้ ูงอายุ (60 ปขี น้ึ ไป) 27,390 32,661 60,051 12.56

รวม 237,242 240,528 477,770 100

ท่มี า :ทท่ี ำการปกครองจงั หวดั กระบ่ี ณ วนั ที่ 8 กมุ ภาพนั ธ์ 2564

จำนวนประชากรแฝงทั้งหมด 60,764 คน แบ่งเป็นประชากรแฝงกลางวัน 6,303 คน และประชากร
แฝงกลางคืน 54,461 คน

จำนวนประชากรแฝง จังหวดั กระบี่ ประจำปี 2561 และ 2562

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 7

อำเภอที่มีจำนวนประชากรมากท่ีสุด คือ อำเภอเมืองกระบ่ี 123,729 คน จำนวนครัวเรือน 62,552 หลัง
รองลงมาคืออำเภอคลองท่อม 77,950 คน จำนวนครัวเรือน 27,316 หลัง อำเภอเหนือคลอง 63,893 คน
จำนวนครัวเรือน 22,082 หลงั อำเภออ่าวลึก 56,607 คน จำนวนครัวเรือน 20,129 หลัง อำเภอเขาพนม
55,818 คน จำนวนครัวเรือน 20,150 หลัง อำเภอปลายพระยา 38,712 คน จำนวนครัวเรือน 13,239 หลัง
อำเภอเกาะลันตา 35,506 คน จำนวนครัวเรอื น 14,527 หลัง และอำเภอลำทับ 24,524 คน จำนวนครัวเรือน
9,515 หลัง ตามลำดับ ดงั แผนภมู ิ 1

ทม่ี า : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

2) ขอ้ มลู ประชากรกลุ่มเฉพาะ (ชาตพิ ันธุ์)

ชาวอูรักลาโว้ยมีการต้ังถิ่นฐานกระจายไปยังพ้ืนท่ีต่างๆ ท้ังบนฝั่งตามชายหาดและบนเกาะกลางทะเล

จากการสำรวจเมื่อปี 2560 พบว่ามีชุมชนชาวอูรักลาโว้ยทั้งส้ิน 10 ชุมชน 359 ครัวเรือนและประชากร

1,761 คน ดังตารางที่ 3

ตาราง 3 จำนวนครวั เรือนและประชากรชาวอรู ักลาโวย้ จำแนกตามชมุ ชน

ลำดบั ชุมชนอูรักลาโว้ย ครวั เรือน ประชากร

1 เกาะกลาโหม 10 34
2 เกาะจำ 48 308
3 ชาวเลแหลมตง 47 182
4 ติงไหร 6 33
5 มูตู 23 103
6 ศาลาดา่ น (ชมุ ชนโตะ๊ บาหลวิ ) 34 179

7 ลังกาฮู้ 85 350
8 หวั แหลม 22 Na
9 บา้ นในไร่ 34 476
10 บา้ นคลองดาว 50 296
359 1,761
รวม

ทีม่ า : มลู นิธิชนเผา่ พน้ื เมอื งเพื่อการศึกษา นครินทร์ ดำรงภคสกุล

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 8

ชุมชนชาวอรู กั ลาโวย้ ทอี่ าศยั อยู่ ณ อำเภอเกาะลันตา จงั หวดั กระบี่ จำนวน 5 ชุมชน ดงั น้ี

ตาราง 4 จำนวนประชากรอูรักลาโว้ยบนเกาะลันตา จำนวนบ้านครวั เรือน
ลำดับ ชือ่ หมู่บา้ นหลกั ชมุ ชนอูรกั ลาโว้ย ตำบล

ชมุ ชน อูรักลาโวย้ รอ้ ยละ

ท้งั หมด

1 ศาลาดา่ น ม.1 บ้านในไร่ ศาลาด่าน 843 34 4.03

2 ศาลาด่าน ม.1 บ้านโต๊ะบาหลิว ศาลาดา่ น 843 34 4.03

3 โละ๊ บาหรา ม.3 บ้านคลองดาว ศาลาด่าน 1,455 50 3.44

4 หัวแหลม ม.1 บา้ นหวั แหลม เกาะลันตา 353 22 6.23

ใหญ่

5 สงั กาอู้ ม.7 บ้านสงั กาอู้ เกาะลันตา 180 85 47.22

ใหญ่

รวม 3,674 225 6.12

ท่ีมา : มลู นธิ ชิ นเผ่าพ้นื เมอื งเพ่ือการศึกษา นครนิ ทร์ ดำรงภคสกลุ

ชมุ ชนชาวอูรกั ลาโวย้ ทอ่ี าศยั อยู่ ณ เกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จำนวน 4 ชุมชน ดงั น้ี

ตาราง 5 จำนวนประชากรอรู ักลาโว้ยบนเกาะศรีบอยา

ลำดบั ชอื่ หม่บู ้านหลัก ชุมชนอรู ักลา ตำบล จำนวนบ้านครวั เรือน

โว้ย ทั้งหมด อูรักลาโวย้ ร้อยละ

1 บา้ นเกาะปมู .2 กลาโหม เกาะศรีบอยา 363 10 2.75

2 บ้านเกาะจำ ม.3 เกาะจำ เกาะศรีบอยา 414 48 11.59

3 บา้ นติงไหร ม.5 เกาะมูตู เกาะศรีบอยา 305 23 7.54

4 บา้ นตงิ ไหร ม.5 ตงิ ไหร เกาะศรีบอยา 305 6 1.97

รวม 1,387 87 6.27

ทม่ี า : มูลนิธชิ นเผ่าพ้ืนเมอื งเพอื่ การศึกษา นครนิ ทร์ ดำรงภคสกุล

ชุมชนชาวอรู กั ลาโวย้ ท่ีอาศัยอยู่ ณ เกาะพพี ี อำเภอเมืองกระบ่ี จำนวน 1 ชุมชน คอื บา้ นแหลมตง

ตาราง 6 จำนวนประชากรอรู ักลาโว้ยบนเกาะพีพี จำนวนบา้ นครวั เรือน
ชื่อหมู่บา้ นหลกั ชมุ ชนอูรัก ตำบล
ลาโว้ย ทง้ั หมด อรู ักลาโวย้ ร้อยละ
320 47 14.69
1 บา้ นแหลมตง ม.8 แหลมตง อา่ วนาง

รวม 320 47 14.69

ทมี่ า : มูลนิธชิ นเผ่าพน้ื เมืองเพอ่ื การศกึ ษา นครินทร์ ดำรงภคสกุล

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 9

1.7) ข้อมูลด้านเศรษฐกิจของจังหวัด

รายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดกระบ่ี ปี 2563 และแนวโน้ม ปี 2564“เศรษฐกิจ
จังหวัดกระบ่ี ปี 2563 คาดว่ามีแนวโน้มหดตัวร้อยละ -40.8 เม่ือเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เป็นผล
จากการแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 ซง่ึ สง่ ผลกระทบในทุกภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคบริการทีเ่ กี่ยวเน่ืองกับ
ธุรกิจการท่องเท่ียว ผลจากมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ เพื่อป้องกัน การแพร่ระบาด
ของโรค COVID-19 สง่ ผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอการเดินทางเข้ามาในจังหวัดขณะท่ีนักท่องเที่ยวไทยมี
สัญญาณปรับตัวดีขึ้นตอนปลายปี เป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองและมาตรการก ระตุ้นการ
ท่องเท่ียวภายในประเทศของภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตามประชาชนยังคงระมัดระวังและชะลอการเดินทาง
เนื่องจากยังคงกังวลต่อการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้ภาคบริการในปี 2563 ยังคงหดตัวสูง
การบริโภคภาคเอกชนหดตัวตามกำลังซื้อของภาคครัวเรือนที่ลดลง โดยเฉพาะกำลังซ้ือในกลุ่มภาคบริการ
การลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากผู้ประกอบการยังไม่มีแผนการลงทุนเพ่ิม เน่ืองจากต้องการรักษาสภาพคล่อง
หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สำหรับการจ้างงานยังคงหดตัวตามการจ้างงาน
ในภาคบรกิ าร เป็นสำคญั สำหรับเศรษฐกิจใน ปี 2564 คาดว่ายงั คงหดตัวอยู่ท่ีร้อยละ 10.2 โดยมีปัจจยั เส่ียง
จากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 รอบ 2 ในหลายประเทศ อาจจะมีมาตรการห้ามเดินทางเข้าออก
ระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบในทกุ ภาคธรุ กจิ โดยเฉพาะธุรกจิ การท่องเที่ยว”

เศรษฐกิจจังหวัดกระบใ่ี นปี 2563

ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจังหวัดกระบี่ ปี 2563 สำนักงานคลังจังหวดั กระบ่ี
คาดว่าหดตัวร้อยละ -40.8 (โดยมีช่วงคาดการณ์ท่ีร้อยละ (-42.8)-(-38.9)) เมอ่ื เทียบกับปีก่อน โดยเป็นการ
หดตวั จาก

ดา้ นอปุ ทาน

มแี นวโน้มหดตัวร้อยละ-43.2 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ (-45.4)-(-41.0)) สะท้อนจาก
ภาคบริการ คาดว่าหดตัวร้อยละ-48.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ(-50.9)-(-46.1))ตามจำนวน
นักท่องเท่ียวต่างชาติท่ีหดตัวสูง จากมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศเพ่ือป้องกันการแพร่
ระบาดของโรคCOVID-19 ภาคอุตสาหกรรม คาดวา่ หดตัวรอ้ ยละ-1.7 (โดยมีช่วงคาดการณ์ท่ีรอ้ ยละ(-1.8)-(-1.6))
สะท้อนจากจำนวนโรงงานในจังหวัดและทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรมที่ลดลง โดยเฉพาะอุตสาหกรรม
ไม้ยางพาราแปรรูป ซึ่งมีจีนเป็นคู่ค้าสำคัญ ภาคเกษตร คาดว่าขยายตัวรอ้ ยละ 3.1 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อย
ละ 2.9 - 3.3) เป็นผลจากผลิตปาล์มนำ้ มนั มีแนวโน้มปรับตวั เพ่ิมข้นึ ตามเน้ือท่ีเพาะปลูกที่เพิ่มข้นึ

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 10

ด้านอปุ สงค์

มีแนวโน้มหดตัวร้อยละ -8.9 (โดยมีช่วงคาดการณ์ท่ีร้อยละ (-9.3)-(-8.4)) สะท้อนจากการ
บริโภคภาคเอกชน คาดว่ามีแนวโน้มหดตัวร้อยละ-18.8 (โดยมีช่วงคาดการณ์ท่ีร้อยละ(-19.7)-(-17.8))
โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้กำลังซ้ือภาคครัวเรือนลดลง ตลอดจนทำให้ความ
เช่ือม่ันในการจับจ่ายใช้สอยลดลง สะท้อนได้จากการหดตัวของภาษีมูลค่าเพ่ิมที่จัดเก็บได้ จำนวนรถยนต์
น่ังส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์จดทะเบยี นใหม่ สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวติ ประจำวัน หดตวั เลก็ นอ้ ย
สว่ นหนงึ่ เป็นผลจากภาครัฐมีมาตรการจ่ายเงนิ เยยี วยาให้กบั ผ้ทู ไ่ี ด้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาด
ของโรค COVID-19 ท้งั กล่มุ เกษตรกร แรงงานในและนอกระบบประกันสงั คม

การลงทุนภาคเอกชน

คาดว่าจะหดตัวร้อยละ-2.1 (โดยมีช่วงคาดการณ์ท่ีร้อยละ(-2.2)-(-2.0)) เป็นผลจากภาวะ
เศรษฐกิจหดตัวส่งผลให้ภาคเอกชนชะลอการลงทุน สะท้อนจากการหดตัวของพ้ืนท่ีอนุญาตก่อสร้างรถยนต์
เพ่อื การพาณิชยแ์ ละสินเชือ่ เพือ่ การลงทุนรวม

การใชจ้ ่ายภาครฐั

คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.1 (โดยมีช่วงคาดการณ์ท่ีร้อยละ 2.0 - 2.2) ตามการเบิกจ่าย
รายจา่ ยลงทุนและรายจา่ ยประจำ

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกจิ ภายในจงั หวดั

อัตราเงินเฟ้อทว่ั ไปในปี 2563 อยู่ท่รี ้อยละ-1.0 (โดยมชี ่วงคาดการณ์ทร่ี อ้ ยละ (-1.1)- 1.0))
ปรับตัวลดลงจากปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีแนวโน้ม ปรับตัวลดลงตามความต้องการใช้ลดลงจาก
ภาวะเศรษฐกิจโลกท่ีหดตัว ด้านการจ้างงาน คาดว่าจะมีผมู้ ีงานทำจำนวน 149,661 คน ลดลงร้อยละ-30.4
(โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ (-31.9) -(29.0)) ตามการจ้างงานในภาคบรกิ ารโดยเฉพาะการจา้ งงานในธรุ กิจ
ท่องเที่ยวและธุรกิจที่เก่ียวเนื่องเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้
ผูป้ ระกอบการบางแหง่ ตอ้ งปิดกจิ การชวั่ คราว และต้องเลกิ จา้ งพนกั งานบางสว่ น

สมมตฐิ านหลกั ในการประมาณการเศรษฐกจิ จงั หวัดกระบี่

1.ด้านอุปทาน ในปี 2563คาดว่าหดตัวร้อยละ-43.2(โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ
(-45.4)-(-41.0) ต่ำกว่าท่ีคาดการณ์ไว้ ณ เดอื นมถิ ุนายน 2563 ที่คาดว่าจะหดตัวร้อยละ-11.2) เป็นผลจาก
ภาคบริการหดตัว ร้อยละ -48.5 ภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ-1.7 และภาคเกษตรขยายตัวร้อยละ3.1
โดยมรี ายละเอียด ดงั นี้

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 11

1.1 ผลผลิตยางพารา ในปี 2563 คาดว่าจะหดตัวร้อยละ-0.2(โดยมีช่วงคาดการณ์
ท่ีร้อยละ(-0.2)-(-0.2)) ต่ำกว่าท่ีคาดการณ์ ณ เดือนมิถุนายน 2563 ท่ีคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ1.4)
เน่ืองจากสภาพอากาศไม่เอ้ืออำนวยต่อการผลิต โดยช่วงต้นปีเกิดภาวะร้อนจัดและฝนตกชุกหนาแน่นในช่วง
ปลายปซี ่ึงเป็นอุปสรรคต่อการกรีดยาง รวมท้ังการแพรร่ ะบาดของโรคใบรว่ งในยางพารา ส่งผลใหผ้ ลผลิตออกสู่
ตลาดลดลง

แผนภมู ิ 2 แสดงผลผลิตยางพารา

ทมี่ า:
กลุ่มงานบรหิ าร
การคลัง
และเศรษฐกิจ
สำนกั งานคลังจงั หวดั
กระบ่ี

1.2 ผลผลติ ปาลม์ นำ้ มนั ในปี 2563 คาดวา่ จะขยายตวั ร้อยละ 4.0 (โดยมีช่วงคาดการณ์
ทรี่ ้อยละ 3.8-4.2 สูงกว่าทีค่ าดการณ์ ณ เดือนมิถุนายน 2563 ทคี่ าดวา่ จะขยายตัวร้อยละ 2.3) เนอ่ื งจาก
เนือ้ ทใ่ี หผ้ ลผลิตปรบั ตัวเพ่มิ ขึ้น

แผนภมู ิ 3 แสดงผลผลติ ปาลม์ นำ้ มัน

ท่ีมา:กลุม่ งานบรหิ ารการคลงั และเศรษฐกิจสำนักงานคลงั จังหวัดกระบี่ หน้า 12

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564

1.3 จำนวนโรงงานอตุ สาหกรรม ในปี 2563 คาดว่ามโี รงงานรวมท้งั สิ้นจำนวน 326 โรง
(โดยมชี ่วงคาดการณ์ที่ 325-327 โรงต่ำกวา่ ท่ีคาดการณ์ ณ เดือนมิถุนายน 2563 ท่ีคาดวา่ จะมีจำนวนโรงงาน
ท้ังส้ิน 332โรง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแพร่ระบาดของโรค COVID-19ส่งผลให้ผู้ประกอบการ
บางแหง่ ตอ้ งปิดกิจการและชะลอการลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไมย้ างพาราแปรรูป ซ่ึงมีจีนเป็นคู่ค้าสำคัญ

แผนภมู ิ 4 แสดงจำนวนโรงงานอุตสาหกรรม

ท่มี า:กล่มุ งานบรหิ ารการคลังและเศรษฐกิจสำนักงานคลังจังหวดั กระบี่

จำนวนนักท่องเที่ยวผ่านตรวจคนเข้าเมือง ในปี 2563 คาดว่าจะหดตัวร้อยละ-62.9
(โดยมีช่วงคาดการณ์ท่ีร้อยละ(-65.8)-(-59.5) ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ณ เดือนมิถุนายน 2563 ที่คาดว่าจะ
หดตัวร้อยละ-26.3)เป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค (COVID-19) ส่งผลให้จำนวน
นกั ท่องเที่ยวต่างชาตลิ ดลง เนือ่ งจากมมี าตรการปิดเส้นทางเข้าออกระหว่างประเทศเพ่อื ป้องกนั การแพร่ระบาด
ของโรค COVID-19

แผนภมู ิ 5 จำนวนนักทอ่ งเท่ยี วผา่ นดา่ นตรวจคนเขา้ เมือง

ทม่ี า:กลุ่มงานบริหารการคลงั และเศรษฐกิจสำนักงานคลังจงั หวัดกระบี่ หนา้ 13

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564

ยอดขายท่ีผู้ประกอบการแจ้งเสียภาษีในปี 2563 คาดว่าจะหดตัวร้อยละ-27.4(โดยมีช่วง
คาดการณ์ที่ร้อยละ(-28.7)-(-26.0)) ต่ำกว่าท่ีคาดการณ์ ณ เดือนมิถุนายน 2563 ท่ีคาดว่าจะหดตัวร้อยละ
-1.4)ตามกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ลดลงเป็นผลจากรายได้นอกภาคเกษตรลดลง และประชาชนมีควา ม
ระมัดระวังในการใช้จ่าย แม้ว่าภาครัฐมีมาตรการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรค COVID-19

แผนภูมิ 6 แสดงยอดขายที่ผ้ปู ระกอบการแจ้งเสียภาษี

ทมี่ า:กลุม่ งานบรหิ ารการคลังและเศรษฐกจิ สำนกั งานคลังจงั หวดั กระบี่

1.8) ข้อมูลด้านสังคมและวัฒนธรรม

ลกั ษณะทางสังคม

ด้านการศกึ ษาจัดบริการการศกึ ษา ๒ รูปแบบ คือ
รูปแบบท่ี ๑ การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาท่ีกำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษาหลักสูตร
ระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั ผลและประเมินผล ซ่ึงเปน็ เงื่อนไขของการสำเรจ็ การศึกษาที่แน่นอน
รูปแบบที่ ๒ การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความ
สนใจศักยภาพ ความพร้อมและโอกาสโดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อมส่ือหรือแหล่ง
ความรู้อื่นๆจำนวนโรงเรียนในเขตความรับผิดชอบของสำนักงานเขตพ้ืนที่ฯ จำนวน ๒๑๖ โรงเรียน โดยแยก
โรงเรียนในสังกดั ของเอกชน จำนวน ๔๒ โรงเรียน และเป็นโรงเรยี นขยายโอกาส ๔๒ โรงเรยี น
ด้านศาสนาประชากรจังหวัดกระบี่ นับถือศาสนาพุทธ ๖๑.๖๓ % ศาสนาอิสลาม ๓๘.๐๓ %
ศาสนาคริสต์ ๐.๒๔ % ศาสนาอื่นๆ ๐.๑๐ % โดยมีวัด ๘๑ แห่ง ที่พักสงฆ์ ๓๒ แห่ง มัสยิด ๒๐๘ แห่ง โบสถ์
คริสตจกั ร ๘ แห่ง ศูนยอ์ บรมจรยิ ธรรมฯ ๑๑๖ แหง่ และศนู ยพ์ ระพุทธศาสนาฯ ๖ แหง่
ระดับความสุขเฉลี่ยของคนกระบี่คนในครัวเรือนของจังหวัดกระบี่ มีระดับความสุขเฉลี่ย
ท่ี ๘.๐๗ คะแนน จากคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน โดยอำเภอปลายพระยา ประชาชนมรี ะดับความสุขเฉล่ียสงู ที่สุด
๘.๔๑ คะแนน รองลงมาคืออำเภอเมืองกระบี่ และอำเภออ่าวลึก ส่วนอำเภอเขาพนมประชาชนมีระดับ
ความสขุ เฉลี่ยน้อยท่ีสุด

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 14

ด้านศิลปะและวัฒนธรรมประเพณี

๑) การละเลน่ พืน้ บ้าน
1.1 ลิเกป่า เป็นการแสดงพ้ืนบ้านท่ีดัดแปลงมาจากลิเกสิบสองภาษา เริ่มต้นจะเล่น

เร่ืองราวของแขกแดงว่ามาจากเมืองลักกะตา (กัตกัลป์ตา) มาค้าขายบนฝ่ังทะเลตะวันตกแล้วมามีภรรยา
เป็นคนพน้ื เมืองชื่อ “ยายี” หรือ “ยาหยี” และพากลับบา้ นเมือง จากน้ันจะแสดงเรอื่ งอื่นต่อไป ลเิ กป่าเป็นการ
แสดงทป่ี ระสานวฒั นธรรมหลากหลายเขา้ ด้วยกนั อาทิ ดนตรจี ะใช้รำมะนา ทับ โหม่ง กลอง ฉงิ่ บทกลอน จะมี
การประสมทำนองมโนราห์กับเพลงบุรันยาวา ศิลปินลิเกป่าในจังหวัดกระบ่ีมีหลายคณะ เพราะนิยมเล่นกันมา
ช้านาน และสันนษิ ฐานวา่ น่าจะแพร่หลายครั้งแรกในพ้ืนท่ีนี้ ลเิ กป่าคณะที่มีชอ่ื และได้รับรางวัลผู้มผี ลงานดีเด่น
ทางวัฒนธรรม คอื คณะนายตรึก ปลอดฤทธิ์

1.2 หนังตะลุง เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านใช้หนังสลักเป็นรูปภาพขนาดเล็ก คีบด้วยไม้
ตับอันเดียว เชดิ ภายในโรงให้แสงไฟส่องผา่ นตัวหนงั สรา้ งเงาให้ปรากฏบนจอผ้าขาวหนา้ โรงใช้ป่ี กลองและฆ้อง
บรรเลงเพลงประกอบ ผ้เู ชดิ เปน็ ผูพ้ ากย์ ในจังหวดั กระบ่ี มศี ลิ ปินหนังตะลุงหลายคณะ

1.3 มโนราห์ หรือ“โนรา”ท่ีคนใต้เรียกชื่อกล่าวขานกัน แรกเร่ิมได้เกิดขึ้นในสมัยอยุธยา
ได้รับอิทธิพลจากอินเดียโบราณมีเคร่ืองดนตรีประกับคือโหม่งฉ่ิงทับกลองปี่มีทั้งการร่ายรำบทร้องประกอบ
ดนตรีบทเจรจา และบางทีก็มีการแสดงเร่ือง เป็นศิลปะการแสดงท่ีถ่ายทอดมาจากรุ่นบรรพชนสู่รุ่นลูก
รุ่นหลาน จนสืบกนั มาจนถึงปัจจุบันน้ี

1.4 รองเง็งและเพลงตันหยง ได้รับอิทธิพลจากการแสดงของชาวมาลายู ซ่ึงดัดแปลง
มาจากการแสดงของโปรตุเกสอีกทอดหน่ึง เดิมเพลงรองเง็งนิยมเล่นกันในบ้านขุนนาง ภายหลังชาวบ้านนำมา
เล่นและพฒั นาดดั แปลงมาเปน็ เนื้อรอ้ งภาษาไทยเรียกวา่ เพลงตันหยง

๒) งานประเพณีท่ีสำคัญในทอ้ งถ่นิ
2.1 ประเพณีลอยเรือชาวเล ชาวเลกลุ่มอูลักลาโวยอาศัยอยู่ในจังหวัดกระบ่ี บริเวณ

อำเภอเกาะลันตา อำเภอเมือง ท่ีเกาะพีพี และอำเภอเหนือคลองบ้านเกาะจำ โดยประเพณีลอยเรือชาวเล
ในจังหวัดกระบี่ จัดขึ้นปีละ ๒ ครั้ง คือ วันเพ็ญเดือน ๖ และวันเพ็ญเดือน ๑๑ ของทุกปี โดยชาวเลท่ีอาศัยอยู่
ในพ้ืนท่ีต่างๆ จะมาร่วมทำพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์กัน ณ ชายหาดในชุมชนบ้านโต๊ะบาหลิว และชุมชน
บา้ นหัวแหลม อำเภอเกาะลันตา

2.2 ประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีบุญของชาวพุทธในภาคใต้ ช่วงระยะเวลา
การประกอบพิธีสารทเดือนสิบมีข้ึนในวันแรม ๑ ค่ำถึงแรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ แต่วันท่ีนิยมทำบุญคือวันแรม
๑๓-๑๕ ค่ำ ประเพณีสารทเดือนสิบเป็นความเช่ือของพุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราช ที่เช่ือว่าบรรพบุรุษ
อันได้แก่ ปู่ย่า ตายายและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว หากทำความช่ัวจะตกนรกกลายเป็นเปรต ต้องทนทุกข์
ทรมานในอเวจี ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศส่วนกุศลให้แต่ละปีมายังชีพ ดังน้ันในวันแรม ๑ ค่ำ เดือนสิบ
คนบาปท้ังหลายที่เรียกว่าเปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลกมนุษย์ เพ่ือมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพ่ีน้อง
และจะกลับไปนรกในวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ ในโอกาสนี้เองลูกหลานและผู้ยังมีชีวติ อยู่จึงนำอาหารไปทำบุญ
ทีว่ ดั เพอ่ื อุทศิ สว่ นกศุ ลให้แก่ผทู้ ่ีล่วงลับไปแล้ว เปน็ การแสดงความกตัญญกู ตเวที

2.3 ประเพณีถือศีลกินเจเป็นประเพณีที่สำคัญประเพณีหน่ึงในจังหวัดกระบี่ ท่ีพ่ีน้อง
ประชาชนโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีน จัดขึ้น ณ ศาลเจ้าในพ้ืนที่ ๘ อำเภอ ประมาณ ๗๐ แห่ง โดยในแต่ละ
ศาลเจ้าจะประกอบพิธีกรรมและจัดกิจกรรมข้ึน ต้ังแต่วันข้ึน ๑ ค่ำ ถึง ๙ ค่ำ เดือน ๙ ของจีน (ตรงกับเดือน
๑๑ ของไทย) ช่วงเดือนกนั ยายน – ตุลาคม ของทุกปี โดยจะมกี ารจดั กจิ กรรมประเพณขี ึ้น ดงั น้ี

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 15

-บำเพ็ญบุญ ถือศีล กินเจ บริโภคแต่อาหารผักและผลไม้ ละเว้นการกระทำบาปท้ังปวง
ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทำใจให้บริสุทธิ์ งดการเที่ยวเตร่ ไม่เสพด่ืมของมึนเมา ผู้ศรัทธาท่ีกินเจจะสวมใส่เส้ือผ้าสีขาว
สวดมนต์ทำสมาธิภาวนา ขอพรใหต้ นเองและครอบครัว

-ทำการสะเดาะเคราะห์ปัดเป่าความช่ัวร้าย โรคภัยไข้เจ็บให้ออกไปจากผู้ถือศีลกินเจ
บางศาลเจ้าก็จะมีการแสดงอภินหิ ารของผู้ลงเจ้าเข้าทรงตามความเชือ่ ศรัทธา–ผ้ศู รัทธาท่ีรว่ มกจิ กรรมจะรว่ มกัน
บริจาคทรัพย์สำหรับเป็นค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายในพิธีร่วมแรงร่วมใจกันอย่างสมัครสมานสามัคคี ย้ิมแย้มแจ่มใส
อาสามาจัดทำอาหารในโรงเจกันอย่างมีความสุข

2.4 งานเมาลิดกลางจังหวัดกระบี่ ถือเป็นงานสำคัญและยิ่งใหญ่ที่พ่ีน้องชาวไทยมุสลิม
จัดขึ้นเพ่ือเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของพระศาสดา นาบีมูฮำหมัด (ซ.ล) ตรงกับวันข้ึน ๑๒ ค่ำ เดือน ๓
(ฮ.ศ.ปฏิทนิ อาหรบั ) จังหวดั กระบ่ี จัดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๑ มีพีน่ ้องชาวไทยมสุ ลมิ ทั่วภาคใต้ และชาว
มุสลิมประเทศเพื่อนบ้านเดินทางมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก และได้จัดงานต่อเนื่องทุกปีจนถึงปัจจุบัน
ทำให้งานเมาลดิ กลางกลายเป็นงานประเพณปี ระจำปีของจังหวดั กระบ่ี

2.5 เทศกาลกระบี่เบิกฟ้าอันดามัน เป็นงานเทศกาลเปิดฤดูการท่องเท่ียวของจังหวัด
กระบ่ีโดยจัดข้ึนทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน จัดข้ึนในคร้ังแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ และจัดสืบเน่ืองมา จนถึง
ปัจจุบัน ในงานจะจัดให้มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม เทศกาลอาหารทะเล การจัดแสดงด้านการให้บริการ
ของผปู้ ระกอบการด้านการท่องเที่ยวทกุ สาขา และได้รับความนิยมจากนักทอ่ งเทยี่ วเป็นจำนวนมาก

2.6 เทศกาลลานตาลันตา จัดข้ึนเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเท่ียวเกาะลันตา
ที่เน้นการแสดงทางวัฒนธรรมท่ีเป็นวิถีชีวิต และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท่ีหลากหลายผสมผสานระหว่าง
วฒั นธรรมชาวไทยเชอ้ื สายจีน ชาวไทยมสุ ลมิ ชาวไทยพุทธ และชาวไทยใหม่ (ชาวเลอลู ักลาโว้ย)

แหลง่ ท่องเท่ยี วในมติ ศิ าสนาและวัฒนธรรมทม่ี ีความสำคัญและโดดเดน่ ในจงั หวดั
๑.วัดแก้วโกรวาราม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกระบ่ี ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบ่ี
เป็นวัดท่ีมีโรงเรียนปริยัติธรรมสามัญ และเป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดแก้วโกรวาราม มีพระ
อุโบสถต้ังอยู่บนเนินเขามองดูแล้วสวยงาม ฝาผนังด้านในอุโบสถวัดแก้วโกรวาราม มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
รอบด้าน ประกอบไปด้วยภาพสำคัญ ๆ ดังน้ี พระแมธ่ รณีบีบมวยผม, พระศาสดาประสูติพระโพธสิ ัตว์ ประทับ
เสวยรมย์อยู่บนสวรรค์ช้ันดุสิต ก่อนเสด็จลงมาเป็นพระพุทธเจ้าภาพ มุมกว้างด้านในพระอุโบสถจิตรกรรม
ฝาผนังเหนือจากกรอบหน้าต่างขึ้นไป เป็นเทพพนมหันหน้าไปทางพระพุทธรูป เบื้องขวาของพระพุทธรูป
มีอาสนสำหรับสงฆ์ ภายในกว้างขวาง ด้านหน้าอุโบสถมีเสมาอยู่บนฐานสีขาวเฉพาะใบเสมาทาด้วยสีทอง
จุดเด่นของอุโบสถอยทู่ ี่เสา เสาทุกต้นของอุโบสถและเสานางแนบด้านข้างทง้ั ๒ ขา้ ง ทดี่ ูใหญ่กว่าปกติเมอ่ื เทยี บ
กบั ขนาดของอุโบสถจนแปลกตา บันไดนาค ไม่ไดส้ ร้างให้นาคยาวตลอดบันไดทั้งหมด แต่แบ่งออกเปน็ ช่วงๆ ๓ ช่วง
๒.วัดถ้ำเสือ มีลกั ษณะ เป็นสวนป่า ภายในหุบเขาแวดลอ้ มไปดว้ ยต้นไมใ้ หญอ่ ายุนับร้อยปี
และเน่ืองจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน จึงมีถ้ำเล็ก ถ้ำน้อยอยู่มากมาย เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว
ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระฯลฯ สามารถเดินทางเข้าชมได้โดยการข้ึนและลงบันไดบริเวณพระตำหนักเจ้าแม่กวนอิม
ถ้าบางแห่งท่ีตั้งอยู่ใกล้บริเวณวัดยังสามารถใช้เป็นศูนย์กลางการนั่งฌานของพระภิกษุและเหล่าอุบาสก
อุบาสิกาได้อีกด้วย ภายในบริเวณวัดทัศนียภาพร่มร่ืน แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ อายุนับร้อย นับพันปี
เนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน บริเวณน้ีนอกจากเป็นสถานที่วิปัสสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ
ถึงสองสมัย คือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบวัตถุโบราณหลายอย่าง
เช่น เครื่องมือหินเศษภาชนะดินเผาพระพิมพ์ดิบ บริเวณพ้ืนที่ราบด้านหน้าเป็นที่ต้ังของอุโบสถ พระธาตุเจดีย์
ระฆังใหญ่ หอประชุมรูปป้ันพระโพธิสัตว์กวนอิม จุดเด่นของวัด พระธาตุเจดีย์ยอดเขาแก้ว ตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว
มคี วามสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ ๖๐๐ เมตร สามารถขึน้ ไปสักการะได้ โดยขน้ึ บันได ๑,๒๐๐ ข้นั

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 16

๓.วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) ตั้งอยู่บ้านบางโทง หมู่ท่ี ๓ ตำบลนาเหนือ อำเภอ
อ่าวลึก จังหวัดกระบ่ี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ ๙๕ ไร่ เป็นพื้นท่ีราบ แวดล้อมด้วยสวนยางและ
สวนปาล์มน้ำมันของประชาชน วัดมหาธาตุวชิรมงคล (บางโทง) สร้างเม่ือประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๓ และได้
พัฒนาต่อเน่ืองเรื่อยมา จนมีฐานะเป็นวัดที่ม่ันคงและได้รับการพระราชทานวิสุงคามสีมา เม่ือวันที่ ๑๓
กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๖ เคยรุ่งเรืองในด้านการศึกษาการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แก่พระภิกษุสามเณร
อุบาสกอุบาสิกาในช้ันนักธรรม และธรรมศึกษาวัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) ได้รับการพัฒนาอีกคร้ัง
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕ หลังจากที่ พระวิสิฐพัฒนวิธาน (พิศาลปุรินฺทโก) ได้เดินทางมาพำนักอยู่ที่วัดแห่งน้ี เมื่อวันที่
๒๕ เดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ พระพรหมวรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม วัดยานนาวา ได้เดินทางมาเย่ียม
วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) เพื่อการจัดสร้างพุทธสถานและพระมหาธาตุเจดีย์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จ
พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร รชั กาลท่ี ๑๐

๔.พพิ ธิ ภัณฑส์ ถานคลองท่อม สถานท่ีตั้งบริเวณวดั คลองท่อม หมู่ท่ี ๒ ตำบลคลองท่อมใต้
อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เปิดให้บริการเข้าชมตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๓๐ น. และปิดให้บริการในวันพุธ
ของทุกสัปดาห์ เดิมชาวบ้านเรียกพิพิธภัณฑ์พระครูอาทร หรือพิพิธภัณฑ์วัดคลองท่อม พระครูอาทรสังวรกิจ
(สวาท กนตสวโร) เจ้าอาวาสวัดคลองท่อมในขณะนั้น ซ่ึงเป็นผู้ท่ีได้สะสม เก็บรวบรวมโบราณวัตถุท่ีชาวบ้าน
ได้ขุดพบจากบริเวณพ้ืนท่ีบริเวณควนลูกปัด ชุมชนคลองท่อม ปัจจุบันเป็นแหล่งเรียนรู้ จัดแสดงลูกปัด
เครื่องประดับโบราณ วัตถุโบราณเครื่องมือของใช้ ที่ค้นพบในพื้นท่ีอำเภอคลองท่อม และในพื้นที่จังหวัดกระบี่
โดยเฉพาะลูกปัดหน้าคนสุริยะเทพ ลูกปัดแก้ว ลูกปัดนาๆชนิด ซึ่งเชื่อกันว่าคลองท่อม เป็นแหล่งผลิตลูกปัด
และเครือ่ งประดับในสมัยโบราณ

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 17

1.9) ข้อมูลด้านแรงงานจังหวัดกระบี่

จงั หวัดกระบ่ี มีประชากรท้ังสิ้น จำนวน 477,770 คน เป็นผู้ที่มีอายุ ๑๕ ปี ขึ้นไปจำนวน 372,002 คน
คิดเป็นร้อยละ 77.90 (ชาย 182,885 คน,หญิง189,117 คน) จำแนกเป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน จำนวน
311,951 คน คิดเป็นร้อยละ 65.30 ของประชากรทั้งหมด และร้อยละ 73.37 ของผู้มีอายุ ๑๕ ปี ขึ้นไป
เป็นผู้มีงานทำ 210,638 คน คิดเป็นร้อยละ 44.08 ของประชากรทั้งหมด (ชาย 118,352 คน,หญิง
92,284 คน) ผู้ว่างงาน 7,824 คน คิดเป็นร้อยละ 3.71 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน (ชาย 4,538 คน,หญิง
3,286 คน) ส่วนผู้ซ่ึงไม่อยู่ในกำลังแรงงาน จำนวน 79,281 คน คิดเป็นร้อยละ 16.59 ของประชากร
ท้งั หมด พบวา่ ทำงานบา้ น จำนวน 34,514 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 7.22 เรียนหนงั สอื จำนวน 17,889 คน คิด
เปน็ ร้อยละ 3.74 และอนื่ ๆ จำนวน 26,877 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.62 ของประชากรทั้งหมด

แผนภมู ิ 7 โครงสร้างประชากรจังหวัดกระบี่ ปี ๒๕๖3

ท่มี า : สำนักงานแรงงานจังหวดั กระบี่ หนา้ 18
รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564

อตั ราการจา้ งงาน
เป็นตัวชี้วัดท่ีแสดงให้เห็นภาวการณ์จ้างงานในตลาดแรงงานของจังหวัดกระบี่ ว่ามีสัดส่วนมากน้อย
เพียงใด สำหรับอัตราการจ้างงานในภาคเกษตรของจังหวัดกระบ่ี ซึ่งคำนวณจากผู้มีงานทำในภาคเกษตร ในปี
๒๕๖3 พบว่ามีอัตราร้อยละ 47.61 เพ่ิมข้ึนจากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 1 ปี ๒๕๖3) ท่ีมีอัตราร้อยละ
45.46 อาจเน่ืองจากสภาพอากาศทีเ่ ปลีย่ นแปลง การเขา้ สู่ช่วงของฤดูกาลเกษตร

แผนภูมิ 8 อัตราการจ้างงานจังหวัดกระบ่ี

แผนภูมิ 9 ผู้มงี านทำจังหวดั กระบ่ี จำแนกตามประเภทอุตสาหกรรมนอกภาคเกษตรกรรม ๕ อันดับแรก
ปี ๒๕๖3

ทม่ี า : สำนักงานสถิติจงั หวัดกระบ่ี หน้า 19

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564

เม่อื พิจารณาผู้มีงานทำตามอาชีพไตรมาส 2 ปี ๒๕๖3 พบวา่ อาชพี ทมี่ ีผทู้ ำงานมากท่ีสุด ๕ อนั ดับแรก
คือ ๑) ผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตรและการประมงจำนวน 76,533คน (ร้อยละ35.76)
2) อาชีพข้ันพ้ืนฐานต่าง ๆ ในด้านการขายและการให้บริการ จำนวน 44,804 คน (ร้อยละ20.94)
๓) พนักงานบริการและพนักงานในร้านค้าและตลาด จำนวน 42,408 คน (ร้อยละ 19.82) ๔) ผู้ปฏิบัติงาน
ด้านความสามารถทางฝีมือและธุรกิจอื่นๆที่เก่ียวข้อง ๑4,614คน (ร้อยละ 6.83) และ ๕) เสมียน 9,463
คน (ร้อยละ 4.42) ตามลำดับ

แผนภมู ิ 10 ผมู้ ีงานทำจงั หวดั กระบ่ี จำแนกตามอาชพี ปี ๒๕๖3

ทมี่ า สำนกั งานสถติ จิ ังหวัดกระบี่

หากศึกษาถึงระดับการศึกษาของผู้มีงานทำพบว่า ผู้มีงานทำส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับประถมศึกษา
จำนวน 56,625คน (รอ้ ยละ 26.46) รองลงมาเป็นระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น 41,989 คน (ร้อยละ 19.62)
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 40,780 คน (ร้อยละ 19.06) ระดับมหาวิทยาลัย 39,556 คน (ร้อยละ18.48)
ระดับต่ำกว่าประถมศึกษา 33,348 คน (ร้อยละ 15.58) ไม่มีการศึกษา 1,594 คน (ร้อยละ0..74) และไม่ทราบ
119 คน (รอ้ ยละ ๐.06) ตามลำดับ

แผนภูมิ 11 ผ้มู งี านทำจังหวดั กระบ่ี จำแนกตามระดับการศึกษา ๒๕๖3

ทีม่ า สำนกั งานสถติ ิ หน้า 20

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564

ในด้านสถานภาพการทำงานของผู้มีงานทำพบว่า ส่วนใหญ่ เป็นลูกจ้างเอกชนจำนวน 95,756คน
(ร้อยละ 44.21) รองลงมา คือ ทำงานส่วนตัว จำนวน 59,150 คน (ร้อยละ 27.31) ช่วยธุรกิจครัวเรือน
จำนวน ๒6,398 คน (ร้อยละ12.19) ลูกจ้างรัฐบาล จำนวน ๑8,836 คน (ร้อยละ 8.70)และนายจ้าง
จำนวน ๑6,๔๔2 คน (ร้อยละ 7.59) ตามลำดบั

แผนภมู ิ 12 ผมู้ งี านทำจังหวดั กระบี่ จำแนกตามสถานภาพการทำงาน ปี ๒๕๖3

ที่มา สำนกั งานสถิติจังหวัดกระบี่

สำหรับแรงงานนอกระบบจังหวัดกระบี่ ปี ๒๕๖๒ จากผลการศึกษาของสำนักงานสถิติจังหวัด พบว่า
ปัจจุบันผู้มีงานทำอยู่ในแรงงานนอกระบบมีจำนวน ๑๒๗,๐๖๖ คน โดยแรงงานนอกระบบเหล่านี้จะทำงาน
ภาคเกษตรเป็นส่วนใหญ่กล่าวคือ มีจำนวน ๗๐,๒๕๓ คน หรือคิดเป็นร้อยละ ๕๕.๒๙ จากการจำแนก
ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยลำดับรองลงมา คือ จะทำงานภาคการค้าและบริการจำนวน ๔๖,๘๑๘ คน หรือ
รอ้ ยละ ๓๖.๘๔ และ ทำงานภาคการผลติ จำนวน ๙,๙๙๕ คน หรอื รอ้ ยละ ๗.๘๗ ตามลำดบั

แผนภมู ิ 13 ผมู้ ีงานทำท่อี ยู่ในแรงงานนอกระบบจงั หวัดกระบ่ี จำแนกตามกิจกรรมทางเศรษฐกจิ
ปี 2563

ที่มา สำนักงานสถิติจังหวัดกระบี่ หน้า 21
รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564

ปัญหาด้านแรงงานที่สำคัญ

โรคโควิด 19 (COVID-19) คือโรคติดต่อซ่ึงเกิดจากการระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มีการ
ระบาดในเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ในเดือนธันวาคมปี 2562 (ค.ศ.2019) ต่อมา
เริ่มระบาดและลุกลามอย่างรวดเร็วไปอีกหลายเมือง และเมื่อวันท่ี 11 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศ
ให้การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นการระบาดใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบแก่หลายประเทศ
ท่ัวโลก การติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) อาการส่วนใหญ่ที่พบมาก คือ ไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจ
หอบเหน่ือย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ เช้ือสามารถติดต่อจากคนสู่คน ผ่านทางการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย
และแพร่กระจายผ่านละอองเสมหะทางการไอ จาม ของผู้ท่ีมีเช้ือ และอาการที่พบน้อยกว่า แต่อาจมีผล
ต่อผู้ป่วยบางราย คือ ปวดเม่ือย คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ท้องเสีย ล้ินไม่รับรส จมูกไม่ได้กล่ินหรือผื่นขึ้น
ตามผิวหนัง อาการเหล่านี้มักจะไม่รุนแรงและค่อย ๆ เริ่มทีละน้อย บางรายติดเช้ือแต่มีอาการไม่รุนแรง
สภาวการณ์ด้านแรงงานจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (COVID-19) ส่งผลกระทบให้แรงงานถูกเลิกจา้ ง
ท้ังด้านแรงงานภาคการท่องเท่ียวซึ่งได้รับผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเท่ียวต่างชาติและการท่องเที่ยว
ในประเทศ แรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าตั้งแต่ก่อนโรคโควิด 19 (COVID
-19) ระบาดและต่อเน่ืองมาถึงปัจจุบันจากการลดลงของอุปสงคท์ ั้งในและต่างประเทศ แรงงานจากการจ้างงาน
ในภาคบริการอื่นที่ไม่ใช่การท่องเท่ียว ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด เช่น การปิดสถานที่
ตา่ ง ๆ เพ่ือยบั ยัง้ การแพร่ระบาดท่ีมคี นแออัดแนวทางการใช้ SocialDistancing และLock Down ซงึ่ ทำให้หลายธุรกิจ
ในสาขาบริการถูกขอให้หยุดกจิ การชั่วคราวรวมไปถงึ แรงงานนอกระบบ ซึ่งจะไดร้ ับผลกระทบอย่างรุนแรง เน่ืองจาก
ขาดรายได้ท่ีม่ันคงและไม่ได้รับการค้มุ ครองทางสงั คมใด ๆ

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 22

สว่ นที่ 2 สถานการณก์ ารค้ามนุษย์
จงั หวัดกระบ่ี

2.1 สถานะการค้ามนุษย์จังหวัดกระบ่ี

จังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดท่ีมีกลุ่มแรงงานต่างชาติ ที่หล่ังไหลเข้ามาเพิ่มมากข้ึนเรื่อยๆ เน่ืองจาก
ความต้องการของตลาดแรงงาน ประกอบกับจังหวัดกระบ่ี มีการทำเกษตรกรรมทำสวนปาล์มน้ำมัน
และยางพารา โรงงาน และมีสถานที่ท่องเท่ียวต่างๆ มากมาย เป็นแหล่งเศรษฐกิจซ่ึงสามารถสร้างรายได้ให้กับ
จังหวัด รวมทั้งปัจจุบันได้มีการพัฒนาจังหวัด อาทิ การคมนาคมการท่องเท่ียวเทคโนโลยีการสื่อสารต่างๆ
เพ่ือรองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทำให้สังคมมีการแข่งขันในด้านการดำเนินชีวิต จากการร่วมบูรณาการ
ตรวจสอบของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องภายในจังหวัด ผลการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ไม่เข้าขา่ ยการค้า
มนุษย์ แต่มีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่อาศัย
ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเปรียบเทียบสถิติที่น่าจับตามองคืออาจก่อให้เกิดการเข้าไม่ถึง
การบริการของรัฐ เช่น บริการด้านการศึกษาสาธารณสุข ด้านสวัสดิการ เป็นต้นซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด
ช่องว่างของรายได้ และก่อให้เกิดความเหล่ือมล้ำทางสังคมมากข้ึน ผลท่ีตามมาก็คือการเข้าสู่ขบวนการ
ค้ามนษุ ย์ได้

คำนยิ ามสถานะของการคา้ มนษุ ย์ มดี ังนี้

เป็นจังหวัดต้นทาง หมายถึง จังหวัดต้นทางท้ังในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่มีประชาชน
ในพ้นื ทีถ่ ูกกระบวนการนำพา ไปแสวงประโยชน์ และตกเปน็ ผเู้ สียหายจากการค้ามนุษย์

เป็นจังหวัดทางผ่าน หมายถึง จังหวัดทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ที่ถูกใช้เป็นเส้นทางผ่าน
ทถี่ กู กระบวนการนำพาไปแสวงประโยชนจ์ ากจังหวัดใกลเ้ คยี งไปยงั จงั หวดั อื่นๆ หรือประเทศอื่น

เป็นจังหวดั ปลายทาง หมายถึง เป็นจังหวัดท้ังในประเทศไทยและประเทศเพ่ือนบ้านที่มีการนำพาคน
จากจังหวัดอ่ืนๆ หรือประเทศอ่ืนเข้ามาพักและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ทั้งในลักษณะแอบแฝง ในสถาน
บรกิ ารและสถานประกอบการ

จงั หวดั กระบี่มี 2 สถานะ คอื ทางผา่ นและปลายทาง

สถานะทางผา่ น คอื มกี ลมุ่ แรงงานต่างด้าวผ่านทางเพอ่ื ไปจังหวัดอื่น
สถานะปลายทาง คือ กลุ่มแรงงานที่เข้ามารับจ้างต่างๆ เช่น ก่อสร้าง ทำสวนยางพารา ทำสวนปาล์ม
แรงงานภาคประมง และ สถานประกอบการในแหลง่ ท่องเที่ยว

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 23

เกณฑ์การใหร้ ะดบั สถานการณ์การคา้ มนุษย์

ผลจากการจัดระดับสถานการณ์การค้ามนุษย์จังหวัด ของประเทศไทย ประจำปี 2563 ซ่ึงกำหนด
ช่วงคะแนนเป็น 4 ระดับ จังหวัดกระบ่ี จัดอยู่ในพ้ืนท่ีสีเหลือง ซ่ึงเป็นพ้ืนท่ีที่เกิดการกระทำการค้ามนุษย์น้อย
เน่ืองจากเป็นจังหวัดทมี่ ีสถานะทางผา่ นและปลายทาง โดยจังหวัดกระบี่เป็นพ้ืนท่ีส่งเสริมเศรษฐกิจ การเกษตร
ประมงทางทะเล มีการเจริญเติบโตด้านอุตสาหกรรม เป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีสถานบริการเป็นจำนวนมาก
จึงมีการเคลือ่ นยา้ ยของแรงงานเข้ามาในพนื้ ทีแ่ ละไปยังจังหวัดใกล้เคียงหรอื ประเทศเพื่อนบา้ น

สถานการณ์ปัญหาการค้ามนุษย์ในจังหวัดกระบี่ เกิดการกระทำการค้ามนุษย์ จำนวน 5 คดี ผู้ต้องหา
6 คน และผเู้ สียหาย 5 คน ซง่ึ เป็นคดที ่ีเกิดขน้ึ ในปี 2562 เนือ่ งจากมผี ู้เสยี หายในพ้ืนท่ี ประกอบกบั เป็นแหล่ง
ท่องเท่ียว มีสถานบริการจำนวนมาก มีการขยายจำนวนโรงแรม สถานบริการ เรือประมง เพิ่มมากข้ึน
นอกจากนี้ยังมีสถิติคดีฐานความผิดบังคับค้าประเวณีเกิดขึ้นในพื้นท่ี จึงมีแนวโน้ มเกิดสถานการณ์
การเคล่ือนย้ายของแรงงานเข้ามาในพ้ืนท่ี และสถานการณ์ความเส่ียงต่อเด็กและเยาวชนในพ้ืนที่เพ่ิมข้ึนด้วย
จึงควรมีการประชาสัมพันธ์บทลงโทษในการซื้อบริการทางเพศในเด็ก เยาวชน ตามสื่อต่างๆ ตรวจสอบการใช้
สถานที่พักอาศัย อาคารพาณิชย์ ที่อาจมีการให้บริการทางเพศแบบแอบแฝง และตรวจสอบสถานบริการ
สถานประกอบการอย่างต่อเนอื่ ง สม่ำเสมอ

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 24

ผลการจัดระดับสถานการณ์ค้ามนษุ ย์ ปี 2563

อย่างไรก็ตาม จังหวัดกระบี่ ยังคงเป็นจังหวัดที่จะมองข้ามปัญหาของการค้ามนุษย์ไม่ได้ แม้จะพบ
ปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นท่ีน้อย จังหวัดกระบ่ี ก็ยังคงต้องเฝ้าระวังปัญหาการค้ามนุษย์ เพราะอาจจะมีกลุ่ม
แรงงานท่ีถูกล่อลวง ถูกหลอก ถูกบังคับใช้แรงงาน นอกจากนี้จังหวัดกระบี่ อาจเป็นท่ีพัก หรือทางผ่าน
ของกระบวนการคา้ มนุษยไ์ ด้ ดังนั้นทกุ ภาคส่วนในจังหวดั จึงให้ความรว่ มมือกนั ในการเฝ้าระวังและการร่วมมือ
กันดูแลและปอ้ งกนั ปัญหาการค้ามนุษย์ อย่างตอ่ เนือ่ ง

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 25

2.2 เส้นทางการค้ามนุษย์จังหวัดกระบ่ี

จังหวัดกระบี่ มีเส้นทางการค้ามนุษย์ท่ีทับซ้อนกับเส้นทางของการลักลอบเข้า-ออกเมือง และทำงาน
เป็นเครือข่าย มีการรับ-ส่ง หญิงและเด็กเป็นทอดๆ ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ท่ีเป็นหญิงและเด็กต่างชาติ
ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นท่ีชายแดนหรือจังหวัดใกล้เคียง โดยถูกชักจูงจากนายหน้าจัดหางานหรือคน
รู้จักใกล้ชิด ส่งต่อให้ผู้รับจ้างนำพาข้ามแดนและส่งต่อให้นายหน้า เพื่อส่งผู้เสียหายไปยังท่ีต่างๆต่อไป ในการ
เดินทางไปต่างประเทศ อาจใช้เสน้ ทางบนอากาศหรือทางรถยนต์โดยใช้หนังสอื เดนิ ทางจริงของตน หรือหนังสือ
เดินทางของผู้อื่นที่มีการตรวจลงตราในลักษณะติดตามคู่สมรสหรือการท่องเที่ยว หรือ ใช้วิธีการผ่านหลาย
ประเทศท่ีไม่ต้องขอการตรวจลงตรา (visa/shorepass) และอนุญาตให้คนต่างด้าวบางประเภทอยู่ในประเทศ
น้ันๆได้ ในระยะเวลาส้ันๆ จากนั้นจะพำนักในประเทศปลายทางเกินกำหนด อย่างไรก็ตามจากการติดตาม
ข้อมูล และข่าวสารเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ พบว่า มีเส้นทางการค้ามนุษย์ในหลายพ้ืนที่ อาทิ จังหวัดเชียงราย
เชียงใหม่ แมฮ่ อ่ งสอน ตาก มกุ ดาหาร สระแก้ว กาญจนบรุ ี ระนอง สงขลา เปน็ ตน้

จุดเร่ิมต้นก่อนการเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ เกิดขึ้นจากการที่ผู้นำพาได้กระทำการติดต่อผู้เสียหาย
จากการค้ามนุษย์ ในสถานที่ต่างๆกัน ซ่ึงอาจเกิดข้ึนทั้งท่ีบ้านเกิดของผู้เสียหาย และท่ีอ่ืนๆในประเทศต้นทาง
หรอื ในประเทศปลายทาง อยา่ งประเทศไทย ไดแ้ ก่

1.บ้านเกดิ ของผูเ้ สียหาย
2.ศูนย์กลางในชมุ ชนบ้านเกดิ
3.เมอื งชายแดนในประเทศต้นทาง
4.จงั หวดั ชายแดนในประเทศไทย
5.ศูนยก์ ลางการเดินทางในประเทศไทย
6.สถานทีท่ ำงานเดมิ
7.บนพาหนะระหว่างเดินทาง
8.ผู้เสยี หายตดิ ตอ่ กบั นายหน้าด้วยตวั เอง

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 26

2.3 สถิติท่ีเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในจังหวัดกระบ่ี

ตาราง 7 แสดงจำนวนคดีทเี่ ก่ียวข้องกบั การค้ามนษุ ย์

จังหวดั ปี หน่วยงานท่ี เลขคดีอาญา วันทีร่ ้อง จำนวน จำนวน ศาลมคี ำ
รับผิดชอบ ที่ ทกุ ข์/ ผูต้ ้องหา ผเู้ สียหาย พพิ ากษา

กลา่ วโทษ (คน) (คน)

กระบ่ี 2561 - - - 00 0

2562 สภ.ปลายพระยา 123/2562 24 เม.ย. 62 1 1 ยงั ไม่มผี ล

130/2562 1 พ.ค.62 2 1 มีผล

199/2562 23 เม.ย.62 1 1 ยังไมม่ ีผล

สภ.เมืองกระบ่ี 1722/2562 5 พ.ย. 62 1 1 มีผล

1735/2562 7 พ.ย. 62 1 1 ยงั ไมม่ ีผล

2563 - - - 00 0

ท่ีมา: ขอ้ มลู จากระบบ E-AHT ณ วนั ที่ 19/02/64

จากตารางท่ี 7ในปี 2561 ไม่มีคดีความผิดท่ีเก่ียวกับการค้ามนุษย์ ปี 2562 มีความผิดที่เกี่ยวข้อง

กับการค้ามนุษย์ จำนวน 5 คดี อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.ปลายประยา และ สภ.เมืองกระบ่ี ซ่ึงทั้ง 5 คดี

อยั การมคี ำสั่งฟ้องผู้ตอ้ งหา คดอี ย่รู ะหว่างศาลมคี ำพิพากษา

ตาราง 8 แสดงอายุ และรูปแบบการกระทำความผดิ คดีค้ามนุษย์
ปีทีร่ ้องทกุ ข์กลา่ วโทษ 2562

จำนวนคดี จำนวนผูก้ ระทำผิด จำนวนผเู้ สียหาย

ผู้ใหญ่ 5 6 5

เดก็ 0 0 0

ไม่ทราบผ้กู ระทำผดิ 0 0 0

รปู แบบการแสวงหาประโยชน์ 5 6 5
จากการค้าประเวณี

รวม 5 6 5

ท่ีมา : ข้อมลู จากระบบ E-AHT ณ วันท่ี 19/02/64

จากตารางที่ 8 จะเห็นได้ว่ากลุ่มอายุของผู้กระทำผิดจะอยู่ในกลุ่มผู้ใหญ่ทั้ง 5 คดี และทุกคดีจะมี
รูปแบบการแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบของการค้าประเวณี

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 27

2.4 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการค้ามนุษย์ของจังหวัดกระบ่ี

การค้ามนุษย์ เป็นหน่ึงในปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่มีผลกระทบต่อความม่ันคงของประเทศ
และเป็นปรากฏการณ์สำคัญท่ีมีสาเหตุเก่ียวพันกับปัญหาเศรษฐกิจ สังคม โดยเฉพาะความเจริญทางด้าน
เศรษฐกิจของประเทศไทย ซ่ึงมีความเจริญกว่ากลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อนั ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว
พม่า ส่งผลให้แรงงานต่างด้าวจากกลุ่มประเทศเพ่ือนบ้านเหล่านี้ต่างหลั่งไหลเข้ามาหางานทำในประเทศไทย
ทำให้ขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งแฝงตัวมากับแรงงานต่างด้าวดังกล่าว กระทำการกดขี่ บังคับ ล่อลวง โดยเฉพาะ
แรงงานต่างด้าวท่ีเป็นหญิงและเด็ก ซ่ึงถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการตกเป็นเหย่ือของการค้ามนุษย์และการละเมิด
สทิ ธมิ นษุ ยชนอย่างรนุ แรง

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการค้ามนุษย์ของจังหวัด คือ ความจำเป็นของการใช้แรงงานภายในจังหวัด
อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายของรัฐเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน การขยายตัวของ
ภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนการเปิดประเทศเขา้ สู่ระบบเศรษฐกิจโลก ทำให้จังหวัดมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
และเกิดความต้องการแรงงานราคาถูกเพิ่มมากข้นึ ในขณะท่ีอตั ราการแข่งขนั กับตลาดโลกสูงข้ึน การลดต้นทุน
ในการผลิต การจ้างแรงงานราคาถูก จึงเป็นทางเลือกของผู้ประกอบการ ในขณะท่ีแรงงานไทยมีการศึกษา
สูงข้ึนและมีค่านยิ มท่ีไม่ทำงาน บางประเภททเี่ ส่ียงอนั ตราย งานหนัก งานสกปรก หรอื งานทตี่ อ้ งใชค้ วามอดทน
สงู แต่ได้คา่ จ้าง จึงเป็นปัจจัยดึงดดู สำคัญ ให้มีการเคลอื่ นย้ายผู้คนจากประเทศเพ่ือนบ้านเขา้ มาภายในประเทศ
และเข้ามาภายในจังหวัด ซึ่งเก่ียวโยงไปถึงการถูกหลอกลวงบังคับ ขู่เข็ญ เอารัดเอาเปรยี บ จากขบวนการค้ามนุษย์
โดยเฉพาะการจ้างงาน

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 28

2.5 สถานท่ีและกลุ่มเส่ียงต่อการค้ามนุษย์

ตาราง 9 จำนวนโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม เรอื ประมง สถานบริการ จังหวดั กระบ่ี
พ.ศ.2559-2563

ประเภทสถานประกอบการ จำนวน

โรงแรม 854 แหง่
โรงงานอุตสาหกรรม 532 แหง่
สถานบรกิ าร 9 แหง่
รวม 1,395 แห่ง

เรอื ประมง 116 ลำ

ที่มา:สำนักงานสถติ ิจงั หวดั กระบ่ี

จากตารางท่ี 9 จำนวนโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม เรือประมง สถานบริการ จังหวัดกระบ่ี
ในปี พ.ศ. 2559-2563 พบว่า มีโรงแรม จำนวน 854 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 532 แห่ง
เรือประมง จำนวน 116 ลำ และสถานบริการ จำนวน 9 แห่ง รวมโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม และสถาน
บริการ ทั้งส้นิ 1,395 แห่ง และเรือประมง จำนวน 116 ลำ

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 29

การบรู ณาการตรวจรว่ มเรอื ประมงและแรงงานประมง ปี 2563

วัน เดือนปี จำนวน จำนวนเรือ แรงงาน แรงงาน รวม ผลการตรวจ
ครั้ง ไทย
- ต่างด้าว แรงงาน
ตลุ าคม - - -
พฤศจิกายน 1 - - --
ธันวาคม 1 - -
มกราคม - - - - - ไม่พบผูก้ ระทำความผิด
กมุ ภาพันธ์ - 6 -
มนี าคม 1 - 80 - - ไมพ่ บผูก้ ระทำความผิด
เมษายน - 5 -
พฤษภาคม 1 6 113 --
มถิ ุนายน 1 5 80
กรกฎาคม 1 6 122 --
สงิ หาคม 1 - 107
กันยายน - 28 - 13 93 ไมพ่ บผกู้ ระทำความผดิ
502
7 --

23 138 ไมพ่ บผู้กระทำความผดิ

13 93 ไม่พบผู้กระทำความผดิ

14 135 ไม่พบผู้กระทำความผิด

34 141 ไม่พบผู้กระทำความผดิ

--

97 599

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 30

สว่ นท่ี 3 การป้องกันและปราบปรามการคา้
มนษุ ย์ของจังหวดั กระบี่

3.1 นโยบายและยุทธศาสตร์ชาติ

ก ร ะ ท ร ว ง ต่ า ง ป ร ะ เท ศ ส ห รั ฐ อ เม ริ ก า ได้ เผ ย แ พ ร่ ร า ย งา น ก า ร ค้ า ม นุ ษ ย์ ห รื อ
(TraffickginPersonsreport) ป ระจำปี 2563(TIPReport2020)โดยจั ดระดั บ ป ระเท ศต่ าง ๆ ท่ั วโลก
รวม 187 ประเทศ ท้ังน้ีได้จัดระดับประเทศไทยอยู่ในระดับ 2 (Tier2) ต่อเน่ืองเป็นปีที่ 3 เช่นเดียวกับปี 2561
แ ล ะ 2562 เนื่ อ ง จ า ก รั ฐ บ า ล ไท ย ยั ง ค ง เพิ่ ม ค ว า ม พ ย า ย า ม อ ย่ า ง ส ำ คั ญ ใน ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไข ปั ญ ห า
การค้ามนุษยโ์ ดยรวมต่อเนอ่ื ง รายงานช้ีว่ารัฐบาลได้มีการเพ่ิมศกั ยภาพให้แก่เจ้าหนา้ ที่ในการบงั คบั ใช้กฎหมาย
ทเ่ี ก่ียวข้องกบั การค้ามนุษย์ โดยบรู ณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน มีการ
จัดทำคู่มือสำหรับใช้เป็นแนวทางการบริหารจัดการในคดีค้ามนุษย์ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเพื่อเพิ่มขีด
ความสามารถในการสืบสวน ปราบปราม จับกุมดำเนินคดี และการพิพากษาลงโทษผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์
ทั้งด้านแรงงานและเพศด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม มีการประสานและสนับสนุนการทำงาน
รว่ มกันด้วยการก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือเด็กท่ีถูกลว่ งละเมิด (ศูนย์ CAC) แห่งท่ี 4 และแห่งท่ี 5 เพิ่มเติม ในจังหวัด
อุบลราชธานี และจังหวัดกาญจนบุรี จากเดิมท่ีมีอยู่ 3 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต และได้
ออกแบบศูนย์สัมภาษณ์เพื่อคัดแยกผู้เสียหายชาวต่างชาติในคดีค้ามนุษย์ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้
รูปแบบห้องสัมภาษณ์/คัดแยกผู้เสียหายในลักษณะคล้ายคลึงกับศูนย์ CACสำหรับรองรับการสัมภาษณ์/
คัดแยกผู้เสียหาย ที่มีจำนวน ครั้งละ 20 คน การจัดให้มีการคุ้มครองพยานและช่วยเหลือพยานในด้านต่างๆ
เช่นการเปลี่ยนช่ือ-นามสกุลของพยาน การพาไปพบนักจิตวิทยาเพื่อให้พยานผ่อนคลายความวิตกกังวล
การประสานให้พยานเข้ารับการตรวจรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ การรับยารักษาโรคประจำตัวและการฝากครรภ์/
คลอดบตุ ร เปน็ ตน้

เม่ือวันท่ี 16 ธันวาคม 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งท่ี 4/2563 การประชุม
คณะกรรมการประสาน กำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) คร้ังท่ี 3/2563
ต่อเน่ืองกัน ณ สำนักงานสภาความม่ันคงแห่งชาติ ท่ีประชุมเห็นชอบหลักการร่างรายงานผลการดำเนินงาน
ป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ของประเทศไทยประจำปี 2563 ฉบับภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ซ่ึงเน้น
นำเสนอความก้าวหน้า และผลการดำเนินงาน 3 ดา้ น สำคญั ดังนี้

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 31

1. ด้านดำเนินคดีและบงั คับใชก้ ฎหมาย
นำเสนอสถิติการดำเนินคดีค้ามนุษย์ ความคืบหน้าคดีสำคัญและการดำเนินคดี

กบั เจา้ หน้าทีร่ ฐั ทเี่ กี่ยวข้องกับการค้ามนษุ ย์

2. ด้านคมุ้ ครองช่วยเหลือ
การเตรยี มการรองรบั การดูแลกลมุ่ ผู้เสียหายทมี่ ีความหลากหลายทางเพศ และการพัฒนา

แนวทางการใช้ระยะเวลาฟ้ืนฟูและไตร่ตรอง เพื่อให้บุคคลที่อาจเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้มีระยะเวลา
ทีเ่ หมาะสมในการทบทวนเร่อื งราว ก่อนท่จี ะเขา้ สู่กระบวนการคุ้มครองช่วยเหลือและดำเนนิ คดี

3. ด้านปอ้ งกนั
การปรับปรงุ กฎหมายทีเ่ กย่ี วขอ้ งเพ่ือประโยชนใ์ นการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์

การกำหนดมาตรการเพอ่ื ป้องกนั การค้ามนษุ ย์ ในกลุม่ แรงงานไทยท่ไี ปทำงานต่างประเทศ การคุ้มครองแรงงาน
ต่างด้าวให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายและการเพ่ิมประสิทธิภาพการตรวจแรงงานกลุ่ม เสี่ยงและ
ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิแรงงานอย่างเข้มงวดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไข
ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างย่ังยืน และเพื่อขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดส้ินไปจากประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของ
รัฐบาลและยกระดับประเทศไทยสู่ Tier1 ในปี 2564

3.2 นโยบายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์

ปัจจุบันปัญหาการค้ามนุษย์ มีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น เช่ือมโยงกับอาชญากรรม
ข้ามชาติ ซ่ึงส่งผลกระทบต่อบทบาทหน้าท่ีของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง
ของมนุษย์ ท้ังในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งผู้ปฏิบัติงานจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ปัญหา
การค้ามนุษย์ และปรับแนวทางการทำงานเพ่ือแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที อีกท้ังต้องปฏิบัติงานให้ถูกต้อง
ตามกฎหมายใหม่ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์ ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ จึงได้กำหนดจัดประชุมเพื่อมอบ
นโยบายขบั เคลื่อนการดำเนินงานปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ ประจำปี 2563 เพอ่ื ชี้แจงและทำความ
เข้าใจเกี่ยวกับนโยบาย กฎหมาย และแนวทางการดำเนินงานใหม่ๆที่สำคัญของรัฐบาล รวมทั้งเปิดโอกาส
ให้ผู้ปฏิบัติงานต่อต้านการค้ามนุษย์ท้ังในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้พบปะหารือ และแลกเปล่ียนข้อมูล
ท่ีเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานร่วมกันต่อไปสำหรับนโยบายการ
ขับเคลอื่ นการดำเนินงานปอ้ งกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์ ประจำปี 2563 ของกระทรวงการพัฒนาสงั คม
และความมน่ั คงของมนุษย์ประกอบดว้ ย

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 32

1. ด้านนโยบายและการนำไปสู่การปฏบิ ตั ิ

นำนโยบายและกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่มีอยู่แล้วไป
ปฏิบัติในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะคดีค้ามนุษย์ท่ีมีความซับซ้อน ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคง
ของมนุษย์จังหวัด ในฐานะเป็นหน่วยงานประสานงานหลัก (FocalPoint) โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน
ทเี่ กย่ี วข้องในจงั หวดั ช่วยกนั ขับเคล่อื นงานด้านการคา้ มนุษย์ และแกไ้ ขปัญหาการคา้ มนุษยใ์ นระดับจังหวัด

2. ดา้ นการป้องกัน

การดำเนินงานเน้น 2 เร่อื งหลัก ไดแ้ ก่
2.1) การอบรมให้ความรู้หรือการเพิ่มศักยภาพแก่กลุ่มเป้าหมายได้แก่ กลุ่มเด็กและ
เยาวชน อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายภาคประชาสังคม
ประธานชุมชน ครู เพอื่ ปอ้ งกนั กลมุ่ เสี่ยงไม่ใหต้ กเข้าสู่ขบวนการคา้ มนษุ ย์
2.2)การรณรงค์และประชาสัมพันธ์ โดยใช้เคร่ืองมือในการส่ือสารกับกลุ่มเป้าหมาย
อย่างเหมาะสม โดยพิจารณาเร่ืองเพศ วัย และเชื้อชาติ จะทำให้สามารถป้องกันบุคคลกลุ่มนี้ไม่ให้ตกเข้าสู่
ขบวนการค้ามนุษย์ได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังพิจารณาเพ่ิมมาตรการเชิงป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์
ในจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดท่ีมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพ่ือนบ้าน และจังหวัดที่เป็นเมืองแหล่งท่องเท่ียว
เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาการค้ามนุษย์ท้ังในเรื่องเพศและการนำคนมาขอทาน ตลอดจนเพิ่มการ
ประชาสัมพันธ์ในเรื่องช่องทางการขอรับความช่วยเหลือ เพ่ือสร้างการรับรู้และสร้างความตระหนักถึงภัยของ
การคา้ มนุษย์และสรา้ งการมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสหรอื เหตุการณ์ค้ามนุษยใ์ นพ้ืนที่

3. ด้านการค้มุ ครองชว่ ยเหลอื

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลักในการ
ช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยยึดถือปฏิบัติตามหลักมาตรฐานสากล คือ การคุ้มครอง
ช่วยเหลือโดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างด้าว ด้วยความเท่าเทียม และขอให้ยึดหลักการ
ทำงานในพืน้ ท่ี ดงั นี้

3.1) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเป็นหัวหน้าทีม
One Home ในการบูรณาการหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในการช่วยเหลือผู้เสยี หายจากการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ต้นทาง
จนถึงปลายทาง เพื่อให้การดำเนินงานมปี ระสิทธภิ าพสูงสุด

3.2) ในการคัดแยกผู้เสียหาย ตำรวจ/ทีมปฏิบัติการต้องจัดเตรียมสถานที่คัดแยก
เป็นสัดส่วน ในกรณีท่ีมีปฏิบัติการใหญ่ๆสำนักงานพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด ควรเป็น
หัวหน้าทีม บริหารจัดการสถานการณ์การช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายและขอให้หน่วยงานอื่นๆ ช่วยสนับสนุน
ภารกจิ ทงั้ นข้ี อใหพ้ ึงระวังขนั้ ตอนการปฏิบตั ใิ ห้ถกู ตอ้ ง รัดกุม และรอบดา้ น

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 33

3.3) สำหรับหน่วยงานที่มีหน้าท่ีให้การคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
พิจารณาเรื่องการดูแลด้านสภาพจิตใจของผู้เสียหาย ความเป็นอิสระของผู้เสียหาย เช่น การใช้โทรศัพท์ และการ
ให้บริการล่าม ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายท่ีสำคัญ คือ การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย
แบบย่ังยืน เพ่ือให้พ่ึงพาตนเองได้ และไม่กลับมาเป็นผู้เสียหายซ้ำอีก ท้ังน้ี ให้กำหนดแนวทางท่ีเหมาะสมและ
สามารถปฏิบัติได้โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เสียหายเป็นสำคัญ และให้เจ้าหน้าที่พัฒนาตนเองให้เท่าทันกับ
สถานการณ์และรูปแบบการค้ามนุษย์ท่ีเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งกฎหมายกลไกและเคร่ืองมือใหม่ๆ ในการปฏิบัติงาน
เพราะทุกคนเป็นกลไกที่จะทำให้การดำเนินงานบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย สำหรับการดำเนินงานต่างๆ
ท่ีไม่สามารถแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ได้โดยเพียงลำพัง จำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย
(Partnership) ในพ้ืนท่ีทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมท้ังองค์การระหว่างประเทศ
ที่ทำงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ตลอดจนสภาเด็กและเยาวชน และประชาชนทั่วไป เพ่ือช่วยกันเสริมพลัง
และขจดั การคา้ มนุษย์ ให้หมดสน้ิ ไปจากประเทศไทยอยา่ งย่งั ยืนต่อไป

นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและ
ปราบปรามการคา้ มนุษย์ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2560 – 2564

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมละความม่ันคงของมนุษย์ (พม.)
เสนอ โดยเห็นชอบนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2)
พ.ศ.2560 – 2564 โดยมีสาระสำคญั ของประเด็นยทุ ธศาสตร์ดงั นี้

1.ด้านพัฒนากลไกเชิงนโยบายและการขับเคลื่อน ได้แก่ ส่งเสริมกลไกทุกระดับ

สร้างความรว่ มมือในระดับพ้นื ท่ี ส่งเสรมิ บทบาทศูนยป์ ฏิบตั ิการปอ้ งกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัด

2.ด้านดำเนินคดี ได้แก่ สร้างความปลอดภัยในสังคม ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เจ้าหน้าทีข่ องรัฐทีเ่ ข้าไปมีสว่ นเกีย่ วขอ้ งพัฒนาศกั ยภาพเจา้ หนา้ ท่ี

3.ด้านคุ้มครองช่วยเหลือ ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกผู้เสียหาย พัฒนาคู่มือ

การดำเนินงานปรับปรุงมาตรฐานสถานคุ้มครอง พัฒนาศกั ยภาพเจ้าหนา้ ท/ี่ องค์กรส่งเสริมหน่วยงานแบบครบวงจร

4.ด้านป้องกัน ได้แก่ ลดปัจจัยเสี่ยง สร้างความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายสร้างเครือข่ายในการ

เฝ้าระวัง พฒั นาระบบจัดการแรงงานขา้ มชาติ

5.ด้านพัฒนาความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ สร้างความร่วมมือระหว่างภาคี

เครือข่ายทั้งภายในและต่างประเทศ ปรับแก้ไขกฎระเบียบ ขยายความร่วมมือระดับภูมิภาคและนานาชาติ
ประชาสัมพนั ธแ์ ละขยายผลการดำเนนิ งาน

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 34

3.3 นโยบายระดับจังหวัด

การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระดับจังหวัดในพ้ืนท่ีจังหวัดกระบ่ี
ในปี 2563 ไม่พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แต่เพื่อเป็นการป้องปราม เฝ้าระวัง ป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ให้หมดไป ตามนโยบายของรัฐบาลท่ีแสดงความมุ่งมั่นในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์
ให้หมดส้ินไปจากแผ่นดินไทย ซึ่งในระดับจงั หวดั ดำเนินงานโดยสำนกั งานพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์
จงั หวดั และภาคีเครือข่ายทกุ ภาคสว่ นท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

จังหวัดกระบี่ได้กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตราการในการป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ประจำปี 2563 ตามประเด็นยุทธศาสตร์ 5 ด้าน (5Ps) ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
และบริบท ในพื้นท่ี ดังนี้

1. ดา้ นการพัฒนากลไกเชงิ นโยบายและการขบั เคลอ่ื น (policy)
1.1 เสริมสร้างคณะทำงานเพ่ือกำกับดูแลการดำเนินงานในพื้นท่ี รวมทั้งแลกเปล่ียน
ความคิดเห็นข้อเสนอแนะในการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ติดตามสถานการณ์
การคา้ มนุษย์ของจงั หวดั และการรายงานผล
1.2 มีแผนปฏิบัตกิ ารป้องกันและปราบปรามการคา้ มนษุ ย์จังหวดั ประจำปี

2. ดา้ นการดำเนินคดี(prosecution)
2.1 เสริมสร้างศักยภาพและสมรรถนะในการดำเนินคดีแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงาน
ในกระบวนการยุตธิ รรมที่เก่ียวข้องในการดำเนนิ คดีคา้ มนุษย์
2.2 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในการให้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการ
ดำเนินคดี
2.3 เร่งรดั ดำเนินคดกี ับผู้กระทำผดิ ฐานคา้ มนุษย์

3. ด้านการคุ้มครองช่วยเหลือ (protection)
ส่งเสริมให้การดำเนินงานตามมาตรฐานคุ้มครองสวัสดิภาพและพัฒนาคู่มือในการ
ปฏบิ ตั ิงานดา้ นการชว่ ยเหลอื คุ้มครองและส่งกลบั และการพัฒนาศกั ยภาพของผู้ให้บริการเพ่อื เพิ่มประสิทธิภาพ
การทำงาน

4. ดา้ นการป้องกัน
รณรงค์ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้มีการอบรมให้ความรู้แก่กลุ่ม เครือข่ายเฝ้าระวัง
ป้องกันปญั หาค้ามนุษย์ กลุ่มเส่ียง เจ้าของสถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงาน และการ
ส่งเสรมิ กลไกชุมชมใหเ้ ข้มแขง็ ในการเฝา้ ระวังปัญหาการค้ามนุษย์

5. ดา้ นการพฒั นาความร่วมมือกับภาคีเครอื ขา่ ย (partnership)
การเสริมสร้างและขยายความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายในทุกระดับและทุกพื้นท่ี
การบูรณาการตรวจปราบปรามเพ่ือป้องกันการค้ามนุษย์ และการบูรณาการการปฏิบัติงานคุ้มครองช่วยเหลือ
ผเู้ สียหายจากการค้ามนุษยแ์ ละกลุ่มเสย่ี ง ในรูปแบบทีมสหวิชาชพี

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 35

3.4 ผลการดำเนินงานของจังหวัด

1) สำนักงานพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษยจ์ งั หวดั กระบ่ี

1.1) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
จังหวัดกระบี่ คร้ังที่ 1/2563 จำนวน 1 คร้ัง เพื่อรวบรวมจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปราม
การคา้ มนษุ ย์ของหน่วยงานท่ีเกีย่ วข้อง อาสาสมคั รพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนษุ ย์ รวมถึงภาคีเครอื ขา่ ย
ในพืน้ ทีจ่ งั หวดั เพ่ือการดำเนนิ งานด้านการคา้ มนษุ ย์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563

1.2) จัดประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
จงั หวัดกระบ่ี คร้งั ท่ี 1/2563 จำนวน 1 ครั้ง เพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์จังหวัด
ประจำปี 2563 โดยจะได้นำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ไปดำเนินการขับเคล่ือนงาน
ดา้ นการค้ามนุษย์ในจังหวดั โดยการบรู ณาการร่วมกบั หน่วยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง ต่อไป

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 36

1.3) บรู ณาการตรวจสถานประกอบการรว่ มกบั สำนักงานแรงงานและหน่วยงานทเี่ ก่ยี วข้อง

1.4) บูรณาการตรวจคุ้มครองแรงงานประมง ในทะเลอ่าวไทย ร่วมกับศูนย์ป้องกันและ
ปราบปรามประมงทะเลกระบี่ และหน่วยงานทีเ่ กย่ี วขอ้ ง

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 37

2) สำนกั งานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจงั หวัดกระบี่

2.1) ตรวจสถานประกอบกิจการที่เสี่ยงต่อการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับแรงงานขัดหนี้และ
การคา้ มนุษย์ด้านแรงงานจำนวน 20 แห่ง แรงงานทั้งหมด 1,330 คนงบประมาณท้ังสิ้น (21,536.-บาท)

2.2) บูรณาการตรวจคุ้มครองแรงงานในเรือประมงทะเลในพ้ืนที่ 22จังหวัดติดทะเลจำนวน
49 ครงั้ แรงงานทง้ั หมด 458 คน งบประมาณท้งั สิน้ (147,120.-บาท)

2.3) ประชุมคณะทำงาน ศูนย์บริหารจัดการแรงงานประมงจังหวัด จำนวน 1 ครั้งงบประมาณ
ท้งั ส้ิน (3,000.-บาท)

2.4) บูรณาการตรวจสถานประกอบกิจการแปรรูปสัตว์น้ำในพื้นท่ี 22จังหวัดติดทะเลจำนวน3
แหง่ แรงงานทง้ั หมด 125 คน

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 38

3) สำนักงานจัดหางานจังหวดั กระบี่

3.1) โครงการเครือข่ายชุมชนร่วมรณรงค์ป้องกันการหลอกลวง และลักลอบไปทำงาน
ต่างประเทศ จำนวน 164 คน งบประมาณทัง้ สนิ้ (6,000.-บาท)

3.2) โครงการเผยแพร่ความรู้เพ่ือป้องกันการหลอกลวงคนหางาน ให้แก่ประชาชนทั่วไป
และผูท้ ่ีสนใจไปทำงานตา่ งประเทศ จำนวน 5,860 คน งบประมาณท้ังสิ้น (14,900) บาท

3.3) โครงการศูนย์ประสานแรงงานประมง 1.แรงงานต่างด้าวท่ีได้รับอนุญาตทำงานในกิจการ
ประมงทะเลจำนวน 83 คน 2.แรงงานต่างด้าว นายจ้าง/สถานประกอบการ หรือประชาชนทว่ั ไปท่เี ข้ารับการ
ประชุมอบรม จำนวน 54 คน 3.แรงงานต่างด้าว นายจ้าง/สถานประกอบการหรือประชาชนทั่วไปที่เขา้ รับบริการ
คำปรกึ ษา แนะนำ หรือเอกสารเผยแพร่ ประชาสมั พนั ธจ์ ำนวน 1,305 คน งบประมาณท้งั สน้ิ (1,128,900) บาท

3.4) โครงการจัดทำทะเบียนคนต่างด้าวท่ีย่ืนขอใบอนุญาตทำงานคนต่างด้าวท่ีได้รับอนุญาต
ทำงาน และจดั ทำทะเบียน จำนวน 2,788 คน งบประมาณท้ังสน้ิ (30,000) บาท

ภาพการจดั โครงการเครือข่ายชุมชนร่วมรณรงค์ป้องกันการหลอกลวงและลักลอบ
ไปทำงานต่างประเทศ ประจำปี ๒๕๖๓

คร้งั ที่ ๑ ในวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ หอ้ งประชมุ นาฬาคีริง
โรงพยาบาลปลายพระยาตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จงั หวดั กระบี่

เจ้าหน้าทส่ี ำนกั งานจดั หางานจังหวดั กระบี่ บรรยายหัวข้อ “บทบาทภารกิจสำนักงานจัดหางาน
การเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกวิธีการป้องกนั การหลอกลวงคนหางานไปทำงานตา่ งประเทศ

การเตรยี มความพร้อมก่อนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 39

ครงั้ ที่ ๒ ในวนั ท่ี ๓๐ มกราคม ๒๕๖๓ ณ หอ้ งประชมุ ชัยพฤกษ์
วทิ ยาลัยเทคนิคกระบ่ีตำบลไสไทยอำเภอเมอื ง จังหวัดกระบี่

เจา้ หน้าทส่ี ำนกั งานจัดหางานจงั หวดั กระบี่ บรรยายหัวข้อ “บทบาทภารกิจสำนักงานจัดหางาน
การเดนิ ทางไปทำงานตา่ งประเทศอย่างถูกวธิ กี ารปอ้ งกนั การหลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศ

การเตรียมความพร้อมก่อนการเดนิ ทางไปทำงานต่างประเทศ

รายงานสถานการณก์ ารค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 40

ครัง้ ที่ ๓ ในวันที่ ๑7 สงิ หาคม ๒๕๖๓ ณ ศาลาอเนกประสงค์ ตำบลอ่าวลกึ น้อย
อำเภออา่ วลกึ จังหวดั กระบ่ี

เจา้ หนา้ ทสี่ ำนักงานจดั หางานจังหวัดกระบ่ี บรรยายหวั ขอ้ “บทบาทภารกิจสำนักงานจัดหางาน
การเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกวิธีการป้องกันการหลอกลวงคนหางานไปทำงานตา่ งประเทศ

การเตรยี มความพร้อมกอ่ นการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 41

4) สำนกั งานตรวจคนเขา้ เมอื งจงั หวัดกระบ่ี

มาตรการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกระบี่ตรวจสอบสถานบริการ
คาราโอเกะและสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในพ้ืนที่ ด้านการ
สบื สวน สอบสวน ปราบปรามการกระทำความผดิ เก่ยี วกับการค้ามนุษย์

รายงานสถานการณ์การคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 42

5) สำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั กระบี่

เผา้ ระวงั สถานการณ์ พฤติกรรมนักเรยี นและนักศึกษาและสอดส่องดแู ลแหล่งม่วั สมุ ภายในจังหวัด
กระบี่ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลวันปีใหม่วันสงกรานต์วันวาเลนไทน์วันลอยกระทงฯลฯ
ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่ือดูแล ส่งเสริม สนับสนุนการตรวจเฝ้าระวัง งบประมาณท้ังส้ิน (30,000.-
บาท)

ภาพกจิ กรรมการตรวจตดิ ตามและเฝา้ ระวังความประพฤตินกั เรยี นและนกั ศึกษา

ตรวจติดตาม เฝา้ ระวังพฤติกรรมนกั เรียนเทศกาล
วาเลนไทน์

ตรวจติดตาม เฝ้าระวังพฤติกรรมนักเรยี นเทศกาล
ลอยกระทง

ตรวจตดิ ตาม “เรอ่ื งรอ้ งเรียนร้องทกุ ข์กรณีพบเด็กถูกทอดทิ้ง” หน้า 43
รว่ มกับหนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวข้อง

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564

6) ศนู ยป์ อ้ งกนั และปราบปรามประมงทะเลกระบี่

บูรณาการตรวจร่วมเรือประมงและการจัดการด้านแรงงานประมงในพื้นที่จังหวัดกระบ่ี จำนวน
7 คร้ัง ตรวจสอบเรือประมง จำนวน 43 ลำแรงงานจำนวน 1,160 คน แยกเป็นแรงงานไทยจำนวน 945 คน
แรงงานต่างชาติ จำนวน 215 คน ไมพ่ บการกระทำความผดิ งบประมาณทัง้ สนิ้ (237,000.-บาท)

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หนา้ 44

7) บา้ นพักเด็กและครอบครวั จงั หวดั กระบ่ี

8.1) การจัดสวัสดิการใหก้ ับผ้รู ับบริการ(เหย่ือจากการค้ามนุษย์) มเี ด็กท่ีเป็นเหย่ือ 1 ราย เข้ารับ
การคุ้มครองสวัสดิภาพเม่ือวันท่ี 5 พ.ย.62 และออกจากการสงเคราะห์ 7 ธ.ค.63 งบประมาณท้ังส้ิน
(1,824.-บาท)

8.2) ประชาสัมพนั ธ์การชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบปัญหาแก่เดก็ และเยาวชน และประชาชนทัว่ ไป

รายงานสถานการณก์ ารคา้ มนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 45

8) สำนักงานแรงงานจงั หวัดกระบ่ี

สำนักงานแรงงานจังหวัดกระบ่ีได้ดำเนินการขับเคล่ือน แ ผ น ป ฏิบัติก าร ป้อ งกัน ก าร บังคับ ใช้
แรงงานหรือบริการและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีวัตถุประสงค์
เพ่ือให้การดำเนินการการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน มีทิศทางการจัดการเท่าทันสถานการณ์และมี
ประสิทธิภาพ ตอบสนอง ต่อวาระแห่งชาติของรัฐบาล โดยบูรณาการภารกิจของหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในการ
ป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน และสร้างเครือข่ายการทำงานการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในระดับ
พืน้ ท่ี รว่ มบูรณาการการปอ้ งกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานในระดบั พ้ืนที่กับหน่วยงานในสงั กดั กระทรวงแรงงาน
หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน รวมถึงเครือขา่ ยภาคประชาสังคม เพื่อให้ภารกิจการปอ้ งกันการมนุษย์ดา้ น
แรงงานมีการดำเนินการครบถ้วนในทุกดา้ น ตามแผนปฏิบัติการป้องกันการบังคับใช้แรงงานหรือบริการและ
การค้ามนุษย์ด้านแรงงานจังหวัด ๕ ยุทธศาสตร์ โดยมีผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกัน
การบังคบั ใช้แรงงานหรือบริการและการค้ามนุษยด์ ้านแรงงานจังหวดั ประจำปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ดังน้ี

ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 1 การพฒั นากลไกเชิงนโยบายและการขบั เคลอ่ื นการทำงาน
ประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานจังหวัด (ศปคร.จว.) เป้าหมาย

11 ครงั้
(1) จัดแผนปฏิบัติการป้องกันการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน

จังหวัดกระบ่ี ประจำปี พ.ศ. 2563 และจัดทำแผนตรวจบูรณาการสถานประกอบกิจการกลุ่มเส่ียงฯและเสนอ
แผนปฏิบัติการป้องกันการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการค้ามนุษย์ด้านแรงงานจังหวัดกระบ่ี ประจำปี
พ.ศ. 2563 แผนตรวจบูรณาการสถานประกอบกิจการกลุม่ เสยี่ งฯจำนวน 2 แผน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100

(2) ประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานจังหวัดกระบ่ี ขับเคล่ือน กำกับ
ดูแล และติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบตั กิ ารฯจำนวน 11 คร้ัง คิดเป็นร้อยละ 100

(3) จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ารับการอบรมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
พ.ศ. 2551 และทแ่ี ก้ไขเพมิ่ เติม จำนวน 1 คร้งั คิดเป็นร้อยละ 100

ส่งผลให้มีทิศทางในการขับเคลื่อนการป้องกันการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการ
ค้ามนุษย์ด้านแรงงานจังหวัดกระบี่ อย่างเป็นระบบ มีการกำหนดทิศทาง พิจารณากลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นกลุ่มเส่ียง
และติดตามผลการปฏิบัติงานเปน็ ไปอย่างตอ่ เน่ือง บุคลากรและเจา้ หนา้ ที่ได้รบั การสง่ เสริมความรู้ และปฏิบัตไิ ด้
ถูกตอ้ งพระราชบัญญัตปิ ้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และทแ่ี กไ้ ขเพ่ิมเติม

ยุทธศาสตรท์ ่ี 2 คุ้มครอง แก้ไขปัญหา และช่วยเหลือ

ช่วยเหลือ คุ้มครอง เยียวยา และติดตามสิทธิประโยชน์ให้กับผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงาน

หรอื บริการ และการคา้ มนษุ ยด์ า้ นแรงงาน จังหวัดกระบีไ่ มพ่ บปัญหาการค้ามนุษยด์ า้ นแรงาน

ยทุ ธศาสตร์ท่ี 3 การบังคบั ใชก้ ฎหมายอยา่ งมีประสทิ ธิภาพและและประสิทธิผล

บังคับใช้กฎหมายตามพ.ร.ก. แก้ไขเพ่ิมเติมพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.

2551 พ.ศ.2562
1) บูรณาการดำเนินงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ในการตรวจสอบ จับกุม สถานบริการ หรือ

สถานประกอบการ โดยเน้นการตรวจตามการข่าวท่ีได้รับจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จำนวน 6 คร้ัง คิดเป็น
รอ้ ยละ 100

รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2564 หน้า 46


Click to View FlipBook Version